#omegaverse #Alpha Omega สุดที่รักของปีศาจ ตอนพิเศษ บทที่4 {หน้า9} {4/4/61}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #omegaverse #Alpha Omega สุดที่รักของปีศาจ ตอนพิเศษ บทที่4 {หน้า9} {4/4/61}  (อ่าน 44564 ครั้ง)

ออฟไลน์ เฉื่อย

  • UNCOMMON AS NORMAL.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ไม่อยากให้มีฉากNCแบบข่มขืนเลย

ออฟไลน์ เฉื่อย

  • UNCOMMON AS NORMAL.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ชอบดีทริชดีทริชเท๊เท่

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ปฐมนิเทศไม่ใช่ประถมนิเทศจ้า :hao5: ติดตามน้า

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
มารออ่่าน :o8: :o8:

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
มาติดตามด้วยคนค่าา

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
สนุกอยากอ่านตอนต่อไปละ

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่8

ผ่านมาเดือนแล้วสำหรับการทำงานในวันหยุด ช่วงเวลาที่ผ่านมาดีทริชไม่ได้มาฝึกงานกับคาร์ลแบบขอไปทีเพราะงั้นจึงอัดความรู้เข้าไปจนแน่น นอกจากนั้นการที่โนเอลหายหัวไปเลยมันทำให้เขาสบายใจขึ้นมากแม้จะรู้อยู่แก่ใจยังไงเจ้าผมเงินนั่นก็ต้องโผล่หัวมาซักวัน

ดีทริชได้เรียนรู้วิธีการทำบัญชีหรือแม้กระทั่งวิธีจัดการข้อมูลรวมไปถึงโปรแกรมพื้นทางต่างๆ ในคอมพิวเตอร์ ก่อนหน้านั้นถึงจะพอใช้งานได้อยู่บ้างแต่ไม่ได้รู้ลึกขนาดปัจจุบันที่เป็นตอนนี้

มีหลายครั้งที่คาร์ลได้รับเป็นตัวแทนโนเอลให้เป็นประธานองค์ประชุม ดีทริชติดตามคนคนนี้ไปจดบันทึกการประชุมหลายครั้ง นานๆ เข้าก็คุ้นชินกับการทำงานในฐานะผู้ช่วยเลขาเขาคิดว่าคาร์ลคงไม่ใช่แค่เลขาส่วนตัวธรรมดาแต่อาจเป็นมือขวาของโนเอลก็เป็นได้

วันนี้ก็เหมือนทุกวันดีทริชออกเดินทางไปยังโรงงานด้วยรถที่โนเอลส่งมารับ ตาแก่ขี้เมาเองก็ขึ้นรถมาด้วยกันเวลาอยู่ที่บ้านเขาพยายามอดกลั้นไม่แสดงให้แม่รู้เรื่องที่ถูกขาย แต่เมื่อไม่มีแม่อยู่จึงตั้งใจเสียดสีไอ้คนเลวระบายความโกรธที่มี

“ไม่รู้จะมาทำไม ยังไงก็ไม่ได้ทำงานอะไรซักนิด ไปเมาหยำเปอยู่บ้านจะได้ประโยชน์กว่าหรือเปล่า”

ตาแก่ทำสายตาล่อแล่กก่อนจะหลุดปากพูดในสิ่งที่ชวนสงสัยออกมา

“จะได้ยังไงเกิดล่อร่ารู้ข้าก็ลำบากสิ” ตาแก่หน้าเสียคงสำนึกว่าหลุดปากพูดในสิ่งที่ไม่ตั้งใจพูดออกมา

กลัวแม่ด้วยอย่างนั้นหรือ? มาคิดดูให้ดีแล้วมันก็แปลกพ่อเป็นคนที่ไม่เอาอ่าวถึงจะขี้เหล้าแต่ไม่เคยทำร้ายร่างกายแม่ซักครั้ง มีแต่แม่เองนั่นแหละที่ประเคนทุกอย่างให้พ่อแล้วก็เขาเป็นคนช่างสังเกตุตั้งแต่จำความได้แม่ไม่เคยทำรักกับพ่อให้เขาเห็นเลยซักครั้ง

อาจจะทำลับหลังหรือเปล่านะ แต่เขาไม่รู้สึกเลยว่าพ่อกับแม่มีความสัมพันธ์แนบแน่นแบบสามีภรรยาสังเกตุให้ดีจะเหมือนเพื่อนร่วมบ้านกันมากกว่าแล้วนี่ยิ่งมาแสดงอาการกลัวด้วยน่าสงสัยมาก

“เฮ้ย...ที่ข้ากลัวไม่ใช่เรื่องอะไรนะ ถึงลอร่าจะรู้ว่าข้าบังคับขายแกมาทำงาน แต่แกก็ได้อยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของโรงงานที่มีอลองโซเป็นเจ้าของอนาคตมีแต่จะสดใสมีแต่ได้กับได้ ไอ้หนูเอ็งต้องขอบคุณข้านะ”

ดีทริชแค่นหัวเราะ ตาแก่นี้ไม่รู้จริงๆ หรือแสร้งทำเป็นไม่รู้กันแน่ ขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกับไอ้คนไร้ค่าถึงจะหาเรื่องไปเขาก็หนีพ้นจากอุ้งมือของโนเอลไม่ได้อยู่ดี

หลายวันมานี้คาร์ลพาเขาไปยังสถานประกอบการของธุรกิจปล่อยกู้ เขาได้เห็นวิธีการทวงหนี้แบบถึงลูกถึงคนหลายต่อหลายครั้งรวมไปถึงกระบวนการค้นหาลูกหนี้ที่รวดเร็วชี้ให้เห็นชัดว่าอลองโซมีอิทธิพลมากแค่ไหน ยิ่งมั่นใจได้ว่าถ้าเขาหนีจะเกิดอะไรขึ้น

จากนั้นดีทริชไม่ได้พูดอะไรกับตาแก่อีกเลยจนไปถึงโรงงานเมื่อพบหน้าคาร์ลอีกฝ่ายก็พาเขาไปขึ้นรถอีกคัน

“เราจะไม่ทำงานหรือครับคาร์ล” ดีทริชถาม

“วันนี้พักการเรียนรู้หนึ่งวันครับ ผมมีหน้าที่จัดการกับรูปลักษณ์ของคุณก่อนนำตัวไปส่งให้นายท่าน”

จัดการรูปลักษณ์ไม่นะ

ดีทริชหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด ทำไมต้องจัดการเรื่องพวกนี้การทำให้ดูดีเพื่อให้โนเอลพอใจมันหมายถึงอีกฝ่ายจะพาเขาขึ้นเตียงหรือเปล่า

“คุณจะกังวลทำไม คุณเป็นของนายท่าน จะถูกเก็บเกี่ยวเมื่อไหร่ก็เป็นสิทธิของนายท่าน แต่วันนี้นายท่านอาจจะแค่อยากพาคุณไปไหนมาไหนด้วย คุณควรกังวลว่าจะทำอย่างไรไม่ให้นายท่านขายหน้า เพราะถ้านายท่านอารมณ์เสียขึ้นมามันจะส่งผลกับตัวคุณนั่นแหละ”

ดีทริชเม้มปากเข้าหากันเป็นคำปลอบหรือเปล่าเขาเองก็ไม่แน่ใจ แต่เหมือนตอกย้ำมากกว่าว่าเขาเป็นสมบัติของโนเอล เกลียดๆ การที่ไม่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้ เกลียดการที่ต้องตกเป็นของคนอื่นโดยไม่เต็มใจ

ดีทริชรู้สึกกดดันที่ต้องถูกควบคุมทุกย่างก้าวรวมไปถึงเรื่องการตรวจเพศที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นาน เขาไม่อยากยอมรับเรื่องที่ถูกซื้อมาเป็นนางบำเรอ ยิ่งถ้าเกิดเขาเป็นโอเมก้าการถูกบังคับให้จับคู่มันจะทำให้ไม่มีโอกาสได้สมหวังกับคนที่ตัวเองรักอย่างแท้จริง

ถึงจะเดาความคิดโนเอลไม่ออกแต่ฝ่ายนั้นยืนยันชัดเจนว่าต้องการอะไรจากเขา ก็บอกอยู่ว่าต้องการนางบำเรอไม่ใช่ว่ารักชอบเขาหรืออะไรที่โรแมนติก

 บ้าเอ๊ย!! เกลียดตัวเองขึ้นมาอีกแล้ว ดีทริชกำหมัดแน่น

คิดอะไรบ้าๆ ทำไมถึงอยากจะให้โนเอลมีความรู้สึกแบบนั้นกับตัวเองได้นะ เขานี่มันช่างสมกับเป็นเด็กจริงๆ คนอย่างโนเอลหากจะรักใครซักคนคงเลือกเฟ้นเอาสิ่งที่ดีที่สุด แค่เด็กในสลัมคงเป็นได้เพียงหนึ่งในเมียเก็บเท่านั้นเอง

ดีทริชถูกพาเข้าร้านทำผมร้านสปาและร้านเสื้อผ้าถูกขัดสีฉวีวรรณจนแม้แต่ตัวเองยังตะลึงที่ได้เห็นรูปโฉมหลังทำทุกอย่างตามที่คาร์ลเห็นว่าดีจนครบ

“ใช้ได้ เท่านี้คุณก็สามารถไปยืนเคียงข้างนายท่านได้แล้ว” คาร์ลยิ้มจนตาหยีท่าทางจะพึงพอใจในผลลับมาก

“ผมจะพาคุณไปหานายท่านที่ห้องรับรองของงานเลี้ยง ผมจะสอนอะไรคุณซักอย่าง พูดให้น้อยที่สุดมันจะดีต่อตัวคุณเอง”

ถึงไม่บอกเขาก็เข้าใจดี อีกอย่างกับฝูงคนที่ไม่รู้จักเขาจะไปพูดกับใครได้ล่ะ ดีทริชถูกพาไปยังห้องรับรองของโรงแรมชั้นนำที่นั้นโนเอลรออยู่

ทันทีที่พบหน้ากันโนเอลจ้องมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า เล่นเอาเกิดอาการประหม่าแต่แค่แวบเดียวเท่านั้นดีทริชประสานสายตากลับอย่างท้าทาย

“จุดเด่นทางนิสัยของนายคือความดื้นรั้นจริงๆ นั่นแหละ ตอนแรกที่โผล่เข้ามาด้วยรูปลักษณ์แบบนี้กับอาการประหม่ามันทำฉันนึกว่าได้เห็นนางฟ้าผู้ไร้เดียงสา แต่วินาทีถัดมากลับเปลี่ยนเป็นเจ้าคนหยิ่งยะโสคนเดิมในสลัมไปเสียได้”

ด่าเขาอย่างนั้นหรือ ดีทริชตีหน้านิ่งไม่รู้สึกเจ็บซักนิดแต่แค่สงสัยว่าในสายตาของโนเอลเขาดูเป็นนางฟ้าเลยเชียว ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นประเภทปากหวานหรืออาจจะแค่ปะเหลาะเอาใจไปอย่างนั้นเอง

“มานี่สิ” โนเอลเรียกอาจเป็นเพราะความทะนงแบบโง่ๆ ทำให้เขาไม่ยอมทำตามง่ายๆ อีกฝ่ายยกยิ้มมุมปาก

“จะเดินมาหาดีๆ หรือจะให้แม่ที่รออยู่ตกที่นั่งลำบาก...การกระทำดื้อแพ่งของนายทุกอย่างจะส่งผลต่อคนที่นายรัก แล้วก็ฉันยังใจดีไม่ไปยุ่งกับเวลาส่วนตัวของนายที่บ้านและโรงเรียนใช่ไหม แก็งลูกผู้ดีขี้ขโมยของนายยังไม่ถูกยุบ...อ้อ...เพื่อนแอบคบของนายที่มีข่าวว่าคบเป็นแฟนกับนายอยู่ เอฟเว่น รูคใช่ไหม เรื่องน่ารักๆ แบบนี้บางทีก็ทำให้ฉันนึกอยากจะเข้าไปมีเอี่ยวด้วยเหมือนกัน”

ดีทริชทำหน้าเหมือนถูกทำร้าย โนเอลยิ้มละไมเขาชอบสีหน้าแบบนี้ของอีกฝ่ายการได้จัดการพังความยะโสกับอัตตาจนหมอนี่เปลือยเปล่าเร้าอารมณ์เขาอย่างยิ่ง นี่แค่ขู่นะเขายังใจดีที่ไม่รุกคืบจริงตามที่พูด

เพราะว่านึกอยากจะถนอมเจ้าสัตว์ป่าตัวจ้อยเอาไว้ในบางอารมณ์ หนึ่งเดือนที่แล้วมาโนเอลสำรวจความรู้สึกของตนเองเป็นระยะสั้นๆ จนถึงตอนนี้โนเอลไม่ปฏิเสธหรือหลอกตัวเองซักนิดในเรื่องที่อยากจะเห็นหน้าดีทริชทุกครั้งที่มีโอกาส

เวลาที่ไม่เห็นหน้ากันยังไม่เท่าไหร่แต่ทันทีที่ได้พบกันอีกก็เกิดแรงดึงดูดอย่างมหาศาลถ้าหมอนี่ไม่ใช่โอเมก้าก็ไม่รู้จะอธิบายเจ้าแรงผลักดันนี่ยังไง เหมือนไม่ใช่ตัวเองเลย โนเอลให้เหตุผลว่าเพราะเป็นคู่แห่งพรหมลิขิตด้วยแล้วก็อีกนิดหนึ่งมันเกิดจากรสนิยมแปลกประหลาดของเขานั่นเอง

 ใช่ว่าจะไม่เคยเจอคนประเภทดีทริชแต่เห็นแล้วนึกอยากได้อย่างไม่มีสาเหตุเพราะต้องรสนิยมหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็แค่อยากให้มาเป็นของตัวเองนี่คือสิ่งผลักดันที่อยู่เหนือแรงดึงดูดของความเป็นอัลฟ่าที่มีต่อโอเมก้า

“มานี่เดี๋ยวนี่” ดีทริชเดินเข้ามาหาตามสั่ง โนเอลฉุดอีกฝ่ายให้นั่งลงมาบนตัก

“ตัวแข็งทื่อเชียว”

ใช่สิก็กลัวนี่ ดีทริชตั้งใจจ้องตาเพื่อค้นหาตัณหาที่ไม่รู้จะลุกโชติขึ้นมาเมื่อไหร่ ถึงจะไม่สามารถขัดขืนได้ก็ตามแต่การได้เตรียมใจก่อนมันดีกว่ากันมาก

“นายตัวหอมเป็นกลิ่นแบบที่ฉันชอบ” โนเอลใช้นิ้วมือคลึงริมฝีปากของดีทริชอย่างเบามือ จะถูกจูบเด็กชายมั่นใจว่าอย่างนั้น

“อย่ากัดเชียวล่ะ” โนเอลกระซิบ

“เพราะว่านายจะลงโทษให้ฉันเจ็บกว่าถ้าทำนายเจ็บใช่ไหม” ดีทริชต่อปากต่อคำ ที่ทำแบบนี้เพื่อคลายความกดดันที่มีออกไป โนเอลหัวเราะในลำคอแล้วประกบจูบลงมา

“อื้อ...” เกลียดการที่ต้องยอมรับในชะตากรรม แต่ความจริงก็คือความจริง นึกถึงชะตากรรมหลังจากนี้น้ำตาก็หลั่งรินออกมา

“ร้องไห้ซะแล้ว” โนเอลผละจูบแล้วใช้ปลายลิ้นซับน้ำตาแทนผ้าเช็ดหน้า ความอ่อนโยนนี่ทำเอาดีทริชตัวสั่น สับสนงุนงงไปหมดแค่นางบำเรอคนหนึ่งต้องดีด้วยขนาดนี้เชียว

“นายดีกับนางบำเรอของนายแบบนี้ทุกคนเลยหรือ”

“ไม่รู้สิ นายเป็นคนแรกที่ฉันจะเชื้อเชิญให้มาอยู่ข้างกายคงเทียบไม่ได้กับพวกที่เรียกมาตามอารมณ์ละมั้ง”

ดีทริชมองโนเอลด้วยสายตาไม่เชื่อถือ หมอนี่พูดเหมือนกับว่าเขาสำคัญ เข้าใจว่าเพราะยังไม่ได้เขาซักครั้งหากลองขึ้นเตียงดูแล้วอาจจะเบื่อในพริบตา คิดอีกทีก็เป็นการพนันที่น่าลองถ้าเกิดนอนด้วยแล้วเบื่อง่ายๆ เขาจะเป็นอิสระ

ไม่สิ นั่นมันในกรณีที่เขาไม่ใช่โอเมก้า หากตรวจเพศแล้วพบว่าเป็นโอเมก้าไม่มีอัลฟ่าตัวไหนทนต่ออาการฮีทได้ ยังไงอาจจะถูกกัดประทับความเป็นคู่ถึงตอนนั้นแม้โนเอลจะเบื่อหน่าย เขาก็ไม่สามารถไปรักหรือผูกพันกับใครได้อีก

“คิดอะไรอยู่ หัวคิ้วขมวดเข้าหากันแล้วนะ” โนเอลใช้นิ้วมือคลึงที่ตรงหว่างคิ้วของดีทริชไปมา เด็กชายสะดุ้งตัวเบาๆ

“ไปกันเถอะ พวกแขกในงานรอฉันอยู่” โนเอลนำดีทริชลงจากตักแล้วพาไปยังห้องจัดงาน

แขกเหรื่อในงานล้วนแล้วแต่เป็นพวกปีศ่าจและอัลฟ่าทั้งนั้น เกือบทุกคนในงานเดินเข้ามาทักทายโนเอล ระหว่างที่พูดคุยกันเรื่องธุรกิจบางคนก็หันมามองดีทริชอย่างสนใจใคร่รู้แต่บางคนก็ทำเป็นไม่สนใจ

หลังจากอยู่ในงานได้ระยะหนึ่งโนเอลก็พาเขาไปที่ห้องรับรองแขกเพื่อไปพบคนคนหนึ่ง

“โอ้...ในที่สุดก็มาได้ซักทีนะโนเอล” ชายแปลกหน้าคนนั้นเข้ามากอดทักทายโนเอลอย่างแนบแน่น

“แล้วผู้ติดตามที่พาเฉิดฉายไปตลอดงานนี่คือใคร”

“นี่คือโอเมก้าของฉัน” โนเอลตอบ

“โอ้ หนุ่มน้อยยินดีที่ได้รู้จักฉันชื่อรอย” รอยยื่นมือมาให้ดีทริชจับ เขาลังเลแต่อีกฝ่ายคว้ามือไปจับเสียแน่น

“อืมน่าสนใจ พื้นเพครอบครัวน่าสนใจ”

ดีทริชงงไปหมดจนเมื่อโนเอลเฉลยข้อสงสัย

“รอยเป็นแวมไพร์ที่มีความสามารถในการอ่านความทรงจำจากการสัมผัส” ดีทริชรีบชักมือกลับทันที รอยหัวเราะเสียงต่ำ

“แม่ของหนุ่มน้อยเป็นคนที่น่าสนใจมาก ฉันอยากจะไปเยี่ยมเยียนเสียแล้วสิ”

ดีทริชระแวงอย่างหนัก ทำไมต้องอยากไปพบแม่ด้วยคงไม่ใช่ตกหลุมรักแม่ผ่านทางภาพความทรงจำของเขาหรอกนะ

“เสียดายจริงๆ อยากจะอ่านความทรงจำหนุ่มน้อยเพิ่มอีกหน่อย ถ้าโนเอลจะกรุณา”

“แย่ตรงที่ฉันไม่ชอบให้ใครมารู้จักของๆ ฉันดีมากกว่าตัวฉันนี่สิ” ดีทริชโล่งใจขึ้นมาทันทีเป็นครั้งแรกที่รู้สึกดีกับโนเอล

“ฉันเห็นภาพปานบนร่างกายของหนุ่มน้อยอย่างเลือนราง ถ้ายังไงช่วยบอกให้หนุ่มน้อยถอดเสื้อผ้าให้ตรวจได้หรือเปล่า ถ้าจะโนเอลจะกรุณา”

บ้าชัดๆ ดีทริชหันไปมองดูโนเอล

“บ้าหรือเปล่า นายกำลังขอดูเรือนร่างของสมบัติของฉันนะ ล้อกันเล่นสินะ”

“ฉันจะแลกด้วยโรงงานสร้างโฮมุนคิวลัสของฉันโนเอลจะว่ายังไง”

โนเอลนิ่งคิดก่อนจะหันไปจดจ้องดีทริชที่กัดริมฝีปากตนเองจนบวมช้ำ อันที่จริงโรงงานนั่นน่าสนใจและเย้ายวนมาก แค่สั่งให้ดีทริชเปลื้องผ้าตรวจดูปานเท่านั้นเอง แต่เพราะแววตาสิ้นหวังของดีทริชนั่นแหละที่ก่อกวนจิตใจเขา

“นายจะให้อะไรฉันเป็นการตอบแทนดีทริช”

ดีทริชหลุบตาลงต่ำ เขาจะมีอะไรแลกกับโรงงานของรอยได้ก็เขามันแค่เด็กในสลัมที่ถูกซื้อมาเป็นนางบำเรอ อยากร้องไห้แต่จะไม่ยอมแสดงความอ่อนแอให้น่าสมเพชอีก ทันทีที่จิตใจสงบลงเขาก็ใช้สายตาคมประสานเข้ากับดวงตาของโนเอล

ช่างมันจะถูกสั่งให้เปลื้องผ้าก็ช่างมัน ยังไงก็ขัดขืนไม่ได้ยอมรับชะตากรรมดีกว่าร้องไห้ฟูมฟายแบบนั้นมันน่าอาย

“ว่าไง ดูเหมือนว่าหนุ่มน้อยจะยอมรับชะตาแล้วนะเหลือแต่โนเอลเป็นคนเลือก”

ดีทริชไม่เหลือแววความหวาดกลัวอีกต่อไป โนเอลนึกพอใจต่อปฏิกิริยาโต้ตอบของดีทริช

“จูบฉันสิ...แล้วฉันจะไม่สั่งนายให้เปลื้องผ้าให้ใครดู”

ดีทริชคว้าเอาความหวังนั่นไว้ทันที เด็กชายประทับจูบลงไปด้วยความต้องการของตัวเอง โนเอลกอดรัดร่างของเขาเอาไว้แน่นขาข้างหนึ่งสอดเข้ามาตรงหว่างขาในขณะที่มือทั้งสองข้างนวดคลึงก้นของเขาปลุกเร้าอารมณ์

“อึก...”

ดีทริชตั้งอกตั้งใจจูบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะกลัวโนเอลจะกลับคำเปลี่ยนใจให้เขาเปลื้องผ้าให้รอยดูแลกกับโรงงานโฮมุนคิวลัส ถึงก่อนหน้านั้นจะเตรียมใจแล้วแต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ใครมาสำรวจตรวจตราร่างกายตนเอง

หลังจากถอนจูบดีทริชหอบหายใจแรงเผลอเอนตัวซบอกของโนเอล ช่างร้อนแรงนักไม่คิดว่าตนเองจะจูบใครได้ดุเดือดถึงขนาดนี้

“หนุ่มน้อยช่างมีเสน่ห์” รอยหัวเราะในลำคอ “แล้วก็ประทับใจจริงๆ ฉันไม่เคยเห็นโนเอลใจดีกับคู่ขาขนาดนี้มาก่อน” รอยลุกขึ้นจากโซฟา

“หนุ่มน้อยถ้าเขาจริงจังกับเธอก็คงจะดี แต่ถ้าเขาแค่เล่นๆ เธอคงจะช้ำใจ ขอเตือนนะเธอไม่ควรถลำลึกกับใครง่ายๆ ว่าแต่เธอยังไม่ได้ตรวจเพศที่สองสินะ..น่าสนใจๆ  อ้อ...ลืมไป...ฉันเป็นคนดื้อดึงอะไรก็ตามที่ฉันสงสัยฉันจะหาวิธีไขข้อเท็จจริงให้จงได้ โนเอลเรื่องความร่วมมือของเราฉันจะดำเนินการเต็มที่ ที่มาวันนี้ก็แค่อยากชวนดื่มเล็กๆ น้อยๆ แต่เห็นว่าคงจะขัดจังหวะดีๆ เพราะอย่างนั้นฉันคิดว่าฉันไปดีกว่า”

หลังจากรอยออกไปจากห้อง โนเอลก็จัดการดันตัวให้ดีทริชนอนลงไปบนโซฟา เด็กชายดิ้นรนขัดขืนด้วยความตกใจแต่ไม่สามารถสู้เรี่ยวแรงของคนอายุมากกว่าได้ซักนิด

“จะอยู่นิ่งๆ ให้ฉันเปลื้องผ้านายเพื่อดูปานที่รอยว่า หรือจะให้ฉันบังคับฉีกเสื้อผ้านายอย่างป่าเถื่อน จริงสิสถานการณ์แบบนั้นคงจะเร้าอารมณ์ฉันน่าดู ไม่รับประกันนะว่านายจะถูกฉันกอดเดี๋ยวนี้เลยหรือเปล่า”

“อยากทำอะไรก็ตามใจสิ ฉันขัดขืนได้ได้ด้วยหรือไง” ดีทริชสะบัดหน้าหนีไปอีกทางปล่อยให้โนเอลทำตามใจชอบ แค่ดูเฉยๆ ย่อมดีกว่าถูกข่มขืน

“อ๊ะ...ไม่ต้องถอดข้างล่างนะ ปานมันอยู่ตรงหน้าอก”

บ้าเอ๊ย!! ดีทริชสบถด่าในใจ คนบ้าที่ไหนเขาเปลื้องผ้าจากชิ้นล่างก่อนกันวะ

“เข้าใจล่ะ” โนเอลยิ้มกริ่ม “แต่ฉันอยากจะถอดท่อนล่างก่อน ไม่ได้หรือไง”

“ตามใจนายสิ” ดีทริชถลึงตาใส่ โนเอลจัดการรูดซิปกางเกงอีกฝ่ายอย่างเชื่องช้าจนคนถูกกระทำชักหงุดหงิด

“ฉันจะถอดเอง” โนเอลเอียงคอมองปั้นหน้าใสซื่อจนน่าโมโห

“นั่นสิให้นายถอดเองก็ดีเหมือนกัน ถอดท่อนล่างก่อนนะ”

 โนเอลปล่อยดีทริชให้เป็นอิสระ ตั้งใจจะดื่มดำกับความอับอายหรือแววตาท้าทายซักอย่างก็ได้ แต่ดีทริชกลับไม่ทำทั้งสองอย่างดูตั้งอกตั้งใจถอดเสื้อผ้าด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง

“ไง เห็นแล้วสินะ ปานของฉัน” โนเอลขยับเข้ามายืนตรงหน้าก่อนจะใช้มือไล้ลงมาบริเวณปานรูปดอกกุหลาบ

“ฉันชอบมันนะ มันสวยเข้ากับนายดี” กล่าวจบโนเอลก็รวบดีทริชเข้าไปกอด

“นายสัญญาแล้วว่าจะแค่ดูปานอย่างเดียว จะผิดคำสัญญาหรือไง”

“ฉันสัญญาด้วยหรือเมื่อไหร่กัน”

โนเอลยิ้มเยาะ เขาไม่ใช่สุภาพบุรุษที่จะอดทนต่อความต้องการอยากทำรักก็จะทำมันก็แค่นั้น ทั้งอย่างนั้นสายตาตัดพ้อตำหนิติเตียนของดีทริชมันชวนให้จั๊กจี้ในอก ตัดสินใจบดขยี้ริมฝีปากอีกฝ่ายด้วยจูบทันที

“อึก...อย่า...” เปลี่ยนมุมประกบจูบนับครั้งไม่ถ้วน มือไม้เองก็อยู่ไม่สุขลูบคลึงไปทั่วอย่างถือดี

“นายมีอารมณ์นะ” จงใจชี้ให้เห็นความจริง ดีทริชหน้าแดงก่ำเพราะเครื่องเพศตั้งชันขึ้นมา

“ช่วยตัวเองให้ฉันดูหน่อย”

“ไม่...”

“เลือกเอาว่าจะทำตามที่สั่งหรือจะให้ฉันขืนใจ” แน่นอนว่าดีทริชเลือกอย่างแรกมันยังดีกว่าถูกขืนใจไม่ใช่หรือไง



คุยท้ายเรื่อง



อ่านจบตอนนี้คงมีหลายคนอยากได้nc ก็...ฮ่าๆๆๆๆ มีฉากอย่างนั้นเป็นน้ำจิ้มอีกแหละ



แต่ยังไม่ได้สอดใส่ เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับจังหวะด้วยน้า ขออภัยที่อาจต้องผิดหวังสำหรับบางคน



ร้องเพลงรอกันไปก่อนนะคะ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เกือบจะชมโนเอลล่ะ แต่อ่านตอนท้ายก็แบบ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ncเอาแค่หอมปากหอมคอพอนะ :mew1:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
คุกๆๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
หือออออ เรื่องปานก็น่าสงสัย แต่เรื่องแม่น่าสงสัยกว่าอีก

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่9

ถึงดีทริชจะช่วยตัวเองด้วยท่าทางเงอะงะและประหม่าแต่มันช่างเร้าอารมณ์โนเอลเสียเหลือเกิน ทีแรกตั้งใจว่าขอทำแค่นั่งมองเฉยๆ ทั้งอย่างนั้นในที่สุดเขาก็จัดการงัดเอาความใหญ่โตที่พองขยายออกมาเพื่อระบายความต้องการที่พุ่งขึ้นสูง

ดีทริชเบิกตากว้างเมื่อเห็นความเป็นชายของเขา โนเอลยิ้มเยาะเข้าใจว่าคงตื่นตระหนกเพราะขนาดตอนนี้ก็ไม่ธรรมดาเสียด้วย

“หยุดทำไมทำต่อไปสิ ฉันกำลังสนุกเลย” ดีทริชขบริมฝีปากล่างโนเอลรู้ดีว่าหมอนี่รู้สึกยังไง อีกฝ่ายก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองดูเขาอีกพยายามอย่างมากตั้งใจที่จะจัดการกับของๆ ตัวเอง

“อุ...” ดีทริชตั้งใจกลั้นเสียง โนเอลไม่ได้ขุ่นเคืองเขากำลังเพลินกับการมองดูและช่วยตัวเองไปพร้อมกัน

“เงยหน้าขึ้นมาเดี๋ยวนี้ดีทริช มองดูฉันไม่อย่างนั้นทางนี้จะเข้าไปใกล้ๆ”

ดีทริชกัดฟันกรอดไม่นึกอยากให้โนเอลเข้ามาใกล้ๆ ยิ่งเวลาอย่างนี้ที่ต่างคนต่างปรนเปรอตัวเองหากเผลอแตะเนื้อต้องตัวกันอาจเลยเถิดไปจนจบบนเตียง ถึงเขาขัดขืนก็คงสู้อะไรโนเอลไม่ได้แล้วก็คงไม่มีโอกาสได้สู้ด้วยเพราะอย่างไรอิทธิพลที่อีกฝ่ายมีสามารถทำเรื่องเลวๆ กับเขาและคนที่เขารักได้

ไม่ยุติธรรมเลย คนที่พยายามเพื่อที่จะไปอยู่ข้างบนอย่างเขากลับถูกถีบลงมาที่ด้านล่างจนต่ำกว่าเดิม เป็นนางบำเรอไม่มีอิสระ เขายังไม่เคยมีความรักด้วยซ้ำแต่กลับต้องมารองรับกามารมณ์ของพวกมาเฟีย ไม่มีความรักปะปนอยู่ในความสัมพันธ์นี้มีแค่ความใคร่กับความอยากเป็นแรงผลักดัน

แล้วเขาจะเรียกร้องอะไร โนเอลไม่จำเป็นต้องสนใความรู้สึกของใครหรือแม้แต่ของเขาหมอนี่อยากได้อะไรก็จะคว้าเอาไปเป็นของตัวเองเขาเองก็แค่ของอีกชิ้นหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจ

ระยะหลังนี้รู้สึกไข้ขึ้นอยู่บ่อยครั้งบางครั้งร่างกายขาดเรี่ยวแรงไปบ้าง ดีทริชกังวลกับอาการป่วยไร้เหตุผลอีกไม่กี่วันจะใกล้วันตรวจเพศรองประจำปีซึ่งมันจะชี้ชะตากรรมของเขา

 เบต้าหรือโอเมก้า

เขาภาวนาให้ฝันร้ายไม่มีวันกลายเป็นจริง หมู่นี้ดีทริชฝันร้ายในฝันเขากลายเป็นโอเมก้าเป็นหนึ่งในนางบำเรอของโนเอล ถูกย่ำยีจนตั้งท้องและถูกเขี่ยทิ้งให้กลับไปอยู่ในสลัมการที่ท้องตั้งแต่อายุยังน้อยสร้างความลำบากให้กับเขากับแม่   

แต่ทั้งอย่างนั้นในฝันก็ยังคงมีความสุขความรู้สึกที่ได้เลี้ยงลูกที่ตนให้กำเนิดไปพร้อมกับคนเป็นแม่มันอบอุ่น ถึงอย่างไรก็ยังเศร้ามากอยู่ดีนอกจากไม่สามารถส่งเสียลูกน้อยไปยังที่สูงได้ ตัวเขาเองก็หมดหนทางสานสัมพันธ์กับคนที่น่าจะชอบพอในอนาคต เพราะว่าถูกกัดที่คอถูกบังคับให้เป็นคู่แล้วเขี่ยทิ้ง

 เขาไม่อยากเป็นโอเมก้า แล้วก็เพราะถูกยึดเอาทุกอย่างไปแม้กระทั่งการตัดสินใจดีทริชจึงปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะมีความรักหรือสานสัมพันธ์กับคนที่ตัวเองรักซักครั้งแค่ได้ลองซักครั้งในชีวิต

ขอแค่ได้รักใครจริงๆ และเขารักตอบซักครั้งก็พอแล้ว แต่มันคงจะเป็นไปไม่ได้ เกลียดชะตาชีวิตแบบนี้จริงๆ เพราะโนเอลนั่นแหละ

การที่อยู่ๆ ดีทริชก็ส่งสายตาดุร้ายมายิ่งทำให้โนเอลรื่นรมย์กว่าเดิม แต่แค่แวบเดียวเท่านั้นแหละคงเพราะใกล้ถึงจุดแล้วอีกฝ่ายกลับไปจดจ่อกับเรื่องของตัวเอง

“อ๊ะ” เสียงครางสั้นๆ ของดีทริชฟังดูน่ารัก ฝ่ายนั้นถึงจุดนั่งหอบหมดแรงในขณะที่โนเอลยังต้องการเวลาอีกหน่อย

“เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองฉันหรือว่าจะเข้ามาใกล้ๆ ตรงนี้ดีเลือกเอา”

ดีทริชถลึงตามองจิกที่ความเป็นชายของเขาราวกับจะกัดขย้ำ โนเอลหัวเราะในลำคอจงใจเลียริมฝีปากแสดงให้รู้ว่ามีอารมณ์กับการถูกจ้องมองแบบนี้

“โรคจิต”

 โนเอลไม่ได้สนใจคำต่อว่า ช่วงสุดท้ายของความหฤหรรษ์เขาเร่งขยับมือ เสียงจึ๊กๆ ลามกหยาบโลนดังไปทั่วห้องดีทริชก่นด่าในความสัปดนลามกของชายตรงหน้า

“อ้า...” เสียงครางของโนเอลฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ เจ้าตัวไม่ได้ส่งเสียงดังจนน่ารำคาญแต่เป็นเสียงแผ่วๆ ทุ่มต่ำ

ดีทริชไม่รู้จะนำไปเปรียบเทียบกับใครเพราะไม่เคยทำเรื่องลามกอย่างนี้ร่วมกับคนอื่นแต่เริ่มจะเกลียดตัวเองที่คิดว่าโนเอลมีเสน่ห์สมชายและยังมีในสิ่งที่เขาปรารถนาที่จะมีอีกด้วย

จบลงจนได้ในที่สุดอีกฝ่ายก็เลิกทำเรื่องลามกเสียที โนเอลรูดซิปแต่งกายตัวเองดังนั้นดีทริชจึงทำตามบ้าง

“จริงๆ ฉันยังไม่พอหรอกนะ แต่พอศึกษาเรื่องการเจริญวัยของโอเมก้ามาบ้าง ถ้าเกิดว่าฉันข่มขืนนายในช่วงก่อนวัยเจริญพันธ์มันคงจะไม่ดีกับร่างกายนาย การเจริญเติบโตอาจจะรวนไปหมดส่งผลเสียไม่มากก็น้อย นายโชคดีนะที่ฉันเป็นคนเอาใจใส่”

“ฉันไม่ใช่โอเมก้า” ดีทริชเถียงเสียงแข็งถึงแม้ในใจลึกๆ จะเริ่มมีความเอนเอียงและหวาดกลัว

“อะไรทำให้มั่นใจขนาดนั้น”

ดีทริชนิ่งงันไม่รู้จะตอบออกไปอย่างไรดี เพราะเขาไม่มีเหตุผลมีแต่ความเชื่อส่วนตัวแค่นั้นเอง

“ดีทริช” โนเอลขยับเข้ามาใกล้เชยคางของเขาขึ้น

“ฉันอาจจะให้สัญญาอะไรไม่ได้ว่าความสัมพันธ์ที่ฉันเป็นคนเริ่มต้นมันจะยืนยาวแค่ไหน แต่ถ้ามันจบลงหรือต้องจบลงมันจะไม่ทำให้นายขาดทุนเพราะฉันรู้สึกกับนายต่างไปจากคนอื่นๆ”

ดีทริชงุนงงกับคำพูดเขาใช้เวลาประมวลผลพักหนึ่ง

“นายพูดเหมือนกับนายพึงพอใจฉันมากกว่าคนอื่นๆ คงไม่ใช่ว่าชอบฉันหรอกใช่ไหม” ดีทริชรู้สึกว่าภายในใจมีบางอย่างแปลกไปนิดหน่อยแค่นิดเดียวเท่านั้น

“เวลาสำหรับเรายังอีกยาวนานไม่ใช่หรือ เราจะได้เรียนรู้กันอีกนานน่าสนุกใข่ไหม”

“แต่มันไม่เท่าเทียมกันและฉันไม่ได้เต็มใจ ฉันถูกนายนายบังคับแล้วฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะชอบคนที่ข่มขู่ตัวเองได้”

“โลกนี้มีอะไรเท่าเทียมด้วยหรือไง ยังไม่เข้าใจความเป็นไปของการมีชีวิตอีกหรือดีทริชฉันคิดว่านายเป็นเด็กที่ฉลาดกว่าเด็กในวัยเดียวกันนะ”

หลังจากนั้นดีทริชก็ถูกส่งตัวกลับ เขาเหม่อลอยจนแม่จับสังเกตได้

“ดีทริชเป็นอะไรไปลูก”

“เปล่าฮะแม่ ผมแค่เรียนรู้งานได้ไม่ดีพอเท่านั้นเอง”

ตาแก่ขี้เมาสะดุ้ง คงกลัวว่าความลับของตัวเองจะถูกแม่รู้

“เอ่อแนะ ไอ้หนูเอ็งเอาเงินไปซื้อขนมสิมาๆ ข้าจะหยิบให้”

ดีทริชปลายมองด้วยหางตา เงินนั่นมันได้มาจากการขายเขาเพราะอย่างนั้นมันเป็นของเขาแต่แรกจึงเดินไปรับมาแล้วยื่นส่งให้แม่

“แม่เก็บไว้นะฮะ เงินของผมก็คือของแม่” แม่ยิ้มแล้วกอดจูบเขาหลายครั้ง

“ดีทริชเก็บไว้เถอะลูก แม่มีเงินพอแล้ว” แม่จัดการคืนเงินมาให้เขา

 เรื่องที่ไม่สบายใจตอนนี้นอกจากเรื่องของโนเอลยังมีการตรวจเพศที่สองที่จะมีขึ้นในโรงเรียนพรุ่งนี้ ระยะหลังมานี้ไข้ขึ้นบ่อยๆ ดีทริชเคยอ่านเจอว่าเด็กโอเมก้าที่เข้าสู่ช่วงเจริญพันธ์จะมีอาการไข้ขึ้นเป็นระยะๆ

บางทีอาจจะแค่เป็นหวัดธรรมดา ดีทริชพยายามปลอบใจตัวเอง แค่เป็นหวัดเพราะต้องเรียนหนักทำงานหนัก ใครๆ ก็มีอาการนี้กันทั้งนั้น

เขากำลังกลัว กลัวจนไม่กล้าปรึกษากับใครแม้กระทั่งแม่ ถ้าเกิดว่าเขาท้องลูกของโนเอลแม่จะรู้สึกยังไงกันนะ ตกใจ ดีใจ หรือเสียใจ นี่เขาเป็นอะไรไปแล้วทำไมถึงต้องคิดแต่เรื่องแย่ๆ แบบนี้ด้วยนะ

ควรจะคิดแต่เรื่องดีๆ สิ

ดีทริชรีบเข้านอนกว่าจะหลับตาลงได้เวลาก็ล่วงเลยผ่านเที่ยงคืนไปแล้ว ในฝันคืนนั้นเขาได้หลงรักผู้ชายที่ไม่มีใบหน้าดีทริชตัดสินใจสารภาพรักกับคนๆ นั้นก่อนที่จะถูกโนเอลย่ำยีและถูกทำให้เป็นคู่

เป็นฝันที่น่าเศร้าชะมัด น่าเศร้าเกินไปจริงๆ



คุยท้ายเรื่อง



มีหลายคนติงเรื่องการละเมิดเด็ก แต่ที่เขียนลงไปตอนนี้มันเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยในการดำเนินเรื่อง

ของพล๊อตที่วางเอาไว้ไม่มากก็น้อยค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะเราพยายามเกลาบทเผื่อไม่ให้เขาได้กันเร็วไปอยู่

แต่ทีแรกก็คิดว่าไม่ให้ได้กันเร็วอยู่แล้ว เห็นหลายคนเป็นห่วงเราเลยคิดว่าถ้าพอแก้ได้ก็จะแก้เนื้อหาเรื่องnc

ถ้าเราสามารถพอนะคะ

แล้วก็เราต้องไปอบรมบริษัท4วัน ถ้ามีเวลาว่างเราจะรีบแต่งนะคะ ถ้าครบตอนอาจจะลงเร็วแต่ถ้าไม่ถึงสี่หน้า

เราอาจจะลงอีกทีไม่27ก็28นะคะ รอกันหน่อยน้า

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
วู้รอตั้ง4-5วัน รีบๆกลับมาแต่งต่อนะจ๊ะ :katai3:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
เครียดไปกับดีทริชด้วยแล้วเนี่ย

ปล. สู้ๆค่ะ รอได้จ้าาา

ออฟไลน์ owlseason

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมากกกกกก เอาใจช่วยดีทริซสุดๆ แม่ของดีทริซต้องมีผมอะไรแน่ๆ เลยอะ
ปานนั่นอีก
จะเกี่ยวกับตำนานที่เกริ่นมาก่อนมั้ยนะ
ตื่นเต้นจังค่ะๆ

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่10

ที่คฤหาสน์หรูหราของตระกูลรูค เอฟเว่นนั่งรับประทานอาหารเช้ากับพ่อแม่ของเขาบรรยากาศระหว่างครอบครัวยังคงเคร่งเครียดและมีแบบแผนตายตัวเหมือนทุกๆ วัน

“วันนี้ที่โรงเรียนจะมีคนของกระทรวงมาตรวจเพศที่สองสินะเอฟเว่น”

“ครับท่านพ่อ”

“ฉันเคยเล่าให้แกฟังหลายครั้งแล้วใช่ไหมว่าคนตระกูลรูคของเราล้วนแล้วแต่เป็นอัลฟ่ากันทั้งนั้น ฉันหวังว่าแกจะไม่แตกต่างจากคนในตระกูลแม้ว่านิสัยใจคอจะไม่มีอะไรเหมือนฉันเลยก็ตาม”

“โถ่คุณคะเอฟเว่นยังไงก็ต้องเป็นอัลฟ่าแน่นอนอยู่แล้ว เขามีเชื้อสายของตระกูลรูคไม่ทางเป็นอย่างอื่นไปได้หรอกค่ะ”

พ่อถอนหายใจแล้วใช้สายตาคมจ้องมองมาที่เขา เอฟเว่นหลุบตาลงต่ำ

“อย่าเอาแต่ก้มหน้าหลบตา เพราะแกทำอย่างนี้ไงถึงไม่มีใครเชื่อว่าแกเป็นลูกของฉัน”

“เงยหน้าขึ้นมาสิจ๊ะเอฟเว่นพ่อกับแม่อยากเห็นหน้าลูกนะจ๊ะ”

“ครับ” เอฟเว่นค่อยๆ เงยหน้าขึ้น พ่อยังคงมีสีหน้าเย็นชาเหมือนทุกที แต่แม่ที่ใจดีเสมอต้นเสมอปลายยิ้มหวานมาให้

“รีบทานอาหารซะ เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายกันพอดี” พ่อออกคำสั่งเอฟเว่นตั้งหน้าตั้งตาทานอาหาร

หลังจากทานอาหารเสร็จพ่อออกไปที่กระทรวงเหมือนทุกวันส่วนเอฟเว่นไปยังรถที่คนขับรออยู่

“ลูกรัก”

“ฮะ” แม่เดินเข้ามาหาแล้วกอดเขาเอาไว้แน่น

“ไม่ต้องกลัวการตรวจเพศนะ ถึงลูกจะไม่ใช่อัลฟ่า แม่ก็ยังรักลูกอยู่ดีนะจ๊ะ”

“แต่ว่าท่านพ่อเขา...”

“คนคนนั้นเขาเย็นชาแค่เฉพาะภายนอกเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะดื้อดึงแต่งงานกับแม่ที่เป็นโอเมก้าไร้ชาติตระกูลหรือจ๊ะ”

“ท่านแม่ว่าพ่อจะโกรธไหมถ้าผมกลายเป็นโอเมก้า”

“โกรธแค่ภายนอกเท่านั้นแหละจะ จริงๆ มันก็เรื่องที่ถ้าลูกไม่ได้เป็นอัลฟ่าก็อาจจะต้องนำเด็กจากตระกูลรองมาเป็นผู้นำตระกูลต่อไป พ่อเขาก็อยากจะให้ลูกเป็นผู้นำตระกูลมันแค่นั้นเอง”

“ถ้าอย่างนั้นถ้าผมเป็นโอเมก้าพ่อคงจะผิดหวัง”

“ไม่เลยจะ พ่อไม่ได้พูดอย่างนั้นเวลาที่อยู่กับแม่เลย คนคนนั้นแค่ว่าถ้าเกิดลูกเป็นโอเมก้าขึ้นมาชีวิตข้างหน้าคงยุ่งยากเล็กน้อย แต่ยังไงตระกูลรูคของเราจะคอยดูแลลูกเสมอนะ”

ถ้าท่านพ่อมาพูดด้วยตัวเองจะดีกว่านี้มาก ปกติท่านพ่อก็เย็นชาเข้มงวดกับเขามากพออยู่แล้วถ้าเกิดกลายเป็นโอเมก้าคงจะ...

ไม่อยากคิดเลย แต่พอเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของแม่ก็คลายความกังวลไป อย่างน้อยท่านแม่ก็อยู่เคียงข้างเขาและไม่ทิ้งไปไหน ดังนั้นเอฟเว่นจึงฉีกยิ้มสดใสเหมือนทุกครั้ง

“แม่จะไม่เสียใจใช่ไหมฮะถ้าผมเป็นโอเมก้า”

“แน่นอนจะที่รัก แม่รักลูกนะ” แม่หอมแก้มซ้ายขวาของเขาฟอดใหญ่จากนั้นเอฟเว่นเดินทางไปโรงเรียน

เมื่อไปถึงโรงเรียนสิ่งแรกที่ทำคือไปยังตู้เก็บของส่วนตัว เอฟเว่นเอาสมุดวาดภาพที่มาเรี่ยนพึ่งนำมาใส่ไว้ออกมา ระยะหลังมานี้พวกเขาแลกบันทึกประจำวันกันเขียนโต้ตอบสิ่งที่คิดแทนการพูดคุยด้วยตรงๆ

               <ผมเข้าใจเรื่องที่เธอกังวลเกี่ยวกับการตรวจเพศ แต่ว่าถึงเธอจะเป็นโอเมก้าผมก็จะยังเป็นเพื่อนเธอตลอดไป เป็นโอเมก้าไม่ใช่ว่าไม่ดี เพราะสำหรับปีศาจอย่างพวกผมพวกโอเมก้าคือเจ้าสาวคนสำคัญที่จะมาให้กำเนิดทายาท ถ้าเธอเป็นโอเมก้าหมายความว่าเธอจะเป็นสิ่งมีค่าที่สุดสำหรับผม>

               เอฟเว่นอ่านข้อความในสมุดบันทึกแล้วต้องตีความหลายครั้ง พอเข้าใจสิ่งที่จะสื่อเขาก็หน้าแดงแปร๊ด

               แบบนี้มันเหมือนกับว่ามาเรี่ยนจีบเขาแล้วอีกฝ่ายจะดีใจถ้าเขาเป็นโอเมก้าหรือยังไง เขาเข้าใจผิดไปเองหรือเปล่านะ น่าอายชะมัดที่คิดอะไรเข้าข้างตัวเองแบบนี้

               <พรุ่งนี้ขอให้เธอโชคดีในการตรวจเพศที่สองนะ จากคนที่หวังดีกับเธอเสมอ>

               ชุ่มชื่นหัวใจเหลือเกิน มาเรี่ยนเป็นเหมือนน้ำหวานหล่อเลี้ยงหัวใจของเอฟเว่นยิ่งได้พูดคุยกันยิ่งชอบมากขึ้นไปทุกที มาเรี่ยนไม่ต่างไปจากที่คิดเขาช่างอ่อนหวานและน่ารักเกินจะห้ามใจ

               กริ่งเข้าเรียนดังขึ้นเอฟเว่นวิ่งไปที่ห้องเรียนทันทีที่พบหน้าเพื่อนสนิทอีกฝ่ายหดหู่อย่างเห็นได้ชัดไม่เหมือนดีทริชคนเดิมเลยซักนิด

               “ทริชเป็นอะไรไป” ดีทริชสะดุ้ง แปลกประหลาดเหลือเชื่อดีทริชที่มักจะตื่นตัวตลอดเวลาเหม่อลอย

               “เปล่าๆ นะ” ดีทริชยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติซักนิด เจ้าเองก็รู้ดีว่าเอฟเว่นมองมาด้วยสายตาเป็นห่วง

               “ฉันไม่เป็นอะไรน่าเอฟเว่น แค่มีเรื่องทะเลาะกับพ่อที่บ้าน”

               “อย่าบอกนะว่าพ่อขี้เมาคนนั้นเริ่มอาละวาดทำร้ายนายกับคุณน้าแล้ว” ดีทริชถอนหายใจ เขาไม่อยากเล่าว่ากังวลเรื่องอะไร โกหกก็เหมือนไม่เนียนอีกแย่ชะมัด

               “นายไม่ต้องใส่ใจหรอก เรื่องมันเล็กน้อยมาก”

               เล็กน้อยที่ไหนกัน ใบหน้าเคร่งเครียดของดีทริชบอกชัดว่าไม่สบายใจมากแถมขอบตาคล้ำชัดเจนคงอดนอน อยากจะซักไซ้ให้มากกว่านี้ แต่ถ้ากดดันกันมากเกินไปดีทริชอาจจะต่อต้านและซ่อนความลับลึกกว่าเดิม เอฟเว่นตัดสินใจจะรอคอยให้เพื่อนสนิทพูดออกมาเอง

               “เอาล่ะทุกคนเช้านี้จนถึงบ่ายเราจะเริ่มทยอยตรวจเพศที่สองกันตามลำดับ เอาล่ะเรียงแถวแล้วตามครูมา”

               พวกเพื่อนๆ ในห้องตื่นเต้นกันน่าดู แต่บางคนก็กังวลจนเห็นชัด เวลานี้อาการของดีทริชดูจะหนักขึ้น หรือว่าจะกังวลเรื่องเพศรองของตัวเอง เอฟเว่นเข้าไปจับมือเพื่อนสนิทบีบเบาๆ เป็นการปลอบโยน

               “ว้าวคู่รักปลอบโยนกันและกันหรือไง พวกนายอย่าประเจิดประเจ้อนักเลย”

 เอฟเว่นหันไปยิ้มแฮะๆ ให้เพื่อนที่แซวมา ตอนนี้ทั้งห้องพากันหยอกล้อพวกเขา กังวลว่าดีทริชจะโกรธแต่กลับนิ่งเฉยด้วยอาการเหม่อนิดๆ และหน้าซีด

               ร้ายแรงขนาดนั้นเลยดีทริชไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน

               “ทริชถ้าฉันเป็นโอเมก้านายจะยังคบฉันเป็นเพื่อนอยู่ไหม” ดีทริชสะดุ้งอีกแล้ว เอฟเว่นสงสารเพื่อนสนิทจับใจ

               “เพศรองของนายจะเป็นแบบไหนเราก็คือเพื่อนกัน” ดีทริชตอบ

               “ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ”

               ดีทริชพึ่งรู้ตัวว่าเอฟเว่นเป็นห่วงเขามากแค่ไหน แต่ไม่สามารถปัดความกังวลทิ้งไปได้ซักที เขากลัวมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความมั่นใจที่เคยมีมันหายไปหมด

               “คนต่อไป”

“ ฉันเข้าไปก่อนนะทริช”

“อะ..อืม...”

น่าสงสารดีทริชตื่นเหมือนกระต่ายตัวจ้อย เอฟเว่นกังวลจนต้องหันมามองเพื่อนสนิทเป็นระยะๆ เมื่อไปถึงจุดตรวจหมอเจาะเลือดและนำน้ำลายของเขาไป เนื่องจากเทคโนโลยีบนจูปิเตอร์รุดหน้าไปไกลมากการตรวจที่เมื่อก่อนใช้เวลาเป็นสัปดาห์ตอนนี้แค่สามวันเท่านั้นเอง

หลังจากเก็บตัวอย่างเสร็จเอฟเว่นมองหาดีทริชพบว่าเพื่อนสนิทยืนเหม่อพิงกำแพงเพียงลำพัง เขารีบเดินเข้าไปหา

“เป็นยังไงบ้างทริช”

“ก็ดี”

“วันนี้เราเลิกเรียนเร็วก่อนที่รถจะมารับเราแวะไปเดินเล่นกันก่อนได้ไหม”

ตามจริงเขาต้องใช้เวลาเขียนสมุดบันทึกแลกกับมาเรี่ยนก่อน แต่เอฟเว่นเลือกดีทริชทั้งอย่างนั้นยังไม่ลืมเขียนคำอธิบายขอโทษมาเรี่ยนที่ไม่ได้ทิ้งข้อความอะไรไว้เลย

“ทริชชอบไอ้นี่ไหม” เอฟเว่นชี้ไอศกรีมถ้วยยักษ์ที่อยู่ในเมนูของคาเฟ่ จริงๆ เขาอยากจะสั่งมาคนละอย่างให้เพื่อนต่างหากแต่ดีทริชไม่ค่อยยอมให้เขาเลี้ยงหรือรับอะไรจากเขา ดังนั้นจึงทำได้แค่ทานจากจานเดียวกัน

“คือว่าฉันอยากทานน่ะ แต่คงทานไม่หมดทริชช่วยหน่อยได้ไหม” พยายามปั้นหน้าประจบเอาใจอย่างน่ารัก คิดว่าถ้าพามาทานของอร่อยดีทริชจะรู้สึกดีขึ้น แล้วก็ร้านคาเฟ่ชื่อดังอย่างฟีโอเร่ใครๆ ก็อยากมาทานที่นี่ทั้งนั้น

“ช่วยไม่ได้นะ” ดีทริชยิ้มเป็นครั้งแรกของวัน ในที่สุดก็ยิ้มจนได้นับว่าความพยายามได้ผล

แต่เอฟเว่นไม่รู้หรอกว่าดีทริชเข้าใจการกระทำของเขาดีทั้งหมด มันชัดเจนด้วยตัวเอง

ถ้าเกิดว่ายังปั้นหน้ากังวลอยู่อีกเอฟเว่นคงพยายามปลอบขวัญไม่เลิก เขาไม่ควรแสดงอาการกลัดกลุ้มต่อหน้าเพื่อนสนิทไม่อย่างนั้นเจ้านี่จะไม่สบายใจไปด้วย เพราะงั้นดีทริชจึงกลับมาสดใสแถมอาจจะมากกว่าปกติด้วยซ้ำ

“ว้าวน่าทานจัง” ไอศกรีมถ้วยใหญ่ถูกนำมาวางตรงหน้า ท่าทางน่ารักน่าชังของเอฟเว่นทำให้เขาผ่อนคลายลงมากทีเดียว

“นายนี่เหมือนเด็กๆ เลยดูสิเปื้อนปากแล้ว”

ระหว่างที่ทานขนมดีทริชก็ใช้มือเกลี่ยเศษครีมจากมุมปากเอฟเว่นก่อนจะเอาเข้าปาก เพราะพวกเขาสนิทกันมากเลยทำแบบนี้เป็นปกติธรรมชาติต่างคนต่างไม่ได้รังเกียจ

“ขอบคุณน้า” เอฟเว่นยิ้มแฉ่ง จังหวะนั้นบริกรก็นำขนมจำนวนมากมาวางลงบนโต๊ะของพวกเขา ขนมน่ากินทั้งนั้นทำเอาละลานตา

“เอ่อ...พวกผมไม่ได้สั่งนะฮะ” เอฟเว่นคุยกับบริกร

“นี่เป็นของที่เพื่อนของคุณดีทริชสั่งมาให้นะครับ โปรดรับข้อความจากท่านผู้นั้นไปด้วยครับ”

เอฟเว่นมองดูดีทริชรับกระดาษข้อความไป แวบหนึ่งเห็นเพื่อนสนิทหน้าขึงตึงก่อนจะกลับมายิ้มเหมือนเดิม

“เพื่อนคนไหนหรือ” ดีทริชไม่ตอบแต่อ่านข้อความเงียบๆ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวเอฟเว่นเข้าใจดีว่าไม่ควรก้าวก่ายให้มาก

<ท่าทางน่าอร่อยจริงนะ นึกไม่ถึงว่านายจะยิ้มให้เจ้ากระต่ายนั่นได้น่ารักถึงขนาดนี้ ฉันเป็นคนขี้หวงแต่ก็เข้าใจได้ว่าเด็กอย่างนายคงจะชอบขนมมาก เพราะอย่างนั้นทานให้อร่อยก็แล้วกัน>

ดีทริชหันไปมองรอบๆ และพบกับรถคันหรูที่ติดฟิล์มกระจกจนดำมืด โนเอลไม่ผิดแน่จะเป็นใครได้อีก บังเอิญหรือ หรือว่าแอบจับตาดูเขากันแน่

“รถคันนั้นเป็นของเพื่อนทริชอย่างนั้นหรือ” ดีทริชคลี่ยิ้มให้คนถาม

“อื้อ เรารู้จักกันตอนไปทำงานพิเศษ”

“อะไรกันฉันงอนนะ ที่เก็บเพื่อนคนนั้นทริชยังรับของตั้งมากมาย แล้วกับฉันล่ะ ถ้ารับขนมจากเพื่อนคนนั้นได้มากขนาดนี้ ครั้งต่อไปต้องทำให้เท่าเทียมกันนะ ฉันเองก็มีของที่อยากจะให้ทริชตั้งมากมาย”

เอฟเว่นพองลมในแก้มอย่างแสนงอน ดีทริชยิ้มเจื่อนสงสัยว่าจะปฏิเสธของจากเพื่อนคนนี้ไม่ได้อีกแล้ว

“เข้าใจแล้ว เจ้าชายอยากจะประทานอะไรมาให้กระผมก็นำมาได้เลยขอรับ”

“ค่อยยังชั่วหน่อย”

“นี่...เรารีบทานกันเถอะ เดี๋ยวจะได้เวลาที่รถของบ้านนายมารับซะก่อน”

เอฟเว่นตื่นตัวทันที ขนมมากมายขนาดนี้เป็นสวรรค์ชัดๆ แต่ต้องทำเวลาดังนั้นจึงสวาปามแบบสูบโดยไม่อายใครเลยทีเดียว ถึงดีทริชจะหัวเราะขบขันล้อเลียนเขาก็ไม่ได้อายซักนิด ก็มันอร่อยนี่นา



คุยท้ายเรื่อง

จริงเมื่อวานแต่งได้สองตอนเลยล่ะฮูเร่ แต่จะเก็บไว้ลงพรุ่งนี้ เพราะกลัวว่าจะหายไปนาน

ตอนนี้พยายามผูกปมใหม่ๆ เข้าหากัน ยากเลยแหละกลัวออกมาไม่ดีด้วย ถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหน

ชี้แนะได้นะคะ แต่อย่าวิจารย์แรงมากนะ คือเราเป็นคนขี้ใจน้อย ฮ่าๆๆๆๆ

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาชี้แนะแสดงความคิดเห็นนะคะ เราจะพยายามนำไปปรับใช้

แต่ถ้าส่งผลกระทบกับพลอตเรื่องมาก เราจะขอเดินทางไปตามแนวทางของเรานะ

รักนักอ่านทุกท่าน แสดงความเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ

ออฟไลน์ owlseason

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คุณคนเขียนไม่ต้องกังวลเลยน้าาา แต่งดีมากๆ เลยค่ะ
นี่เค้าลุ้นตามเด็กๆ ไปด้วยแล้วเนี่ย
 :ling3: :ling3:
แต่เดาว่าต้องเป็นโอเมก้าทั้งคู่แน่ๆ เลย
 :katai4:

ออฟไลน์ allegiant1994

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ชอบเรืองนี้มากเลยคะ
ลุ้นแทน

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เริ่มจะเครียดแทนดีทริชแล้วเนี่ย :ling2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ เฉื่อย

  • UNCOMMON AS NORMAL.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
มาเรี่ยนกับเอฟเว่นจะน่าอิจฉากันเกินไปแล้วนะคะ ชิชิ

แอบเครียดแทนทริชแล้ว555555555

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่11

โนเอลจงใจแวะมาดูดีทริชท่าทางน่ารักน่าชังขณะทานขนมทำให้เขาเพลิดเพลินไม่น้อยทีเดียวจนนึกอยากจะกอดจูบฟอนฟัดให้หายหมั่นเขี้ยวตามที่ใจต้องการ

 ก่อนหน้านั้นหลายชั่วโมงเขาเดินทางไปเยือนคฤหาสน์ตระกูลฟิโอเร่เพื่อเข้าพบผู้เฒ่าคาร์ม่าผู้นำเผ่าพันธ์อสูรกลายร่างทั้งยังเป็นผู้นำตระกูลฟีโอเร่รวมถึงเป็นบิดาของเขาอีกด้วย

“ท่านคาร์ม่ารออยู่ด้านในขอรับท่านโนเอล”

โนเอลถูกนำไปยังห้องรับแขกของคฤหาสน์ อาทิตย์หนึ่งเขาจะมาเยี่ยมเยียนที่นี่ครั้งหรือสองครั้งการที่ไม่มาที่นี่บ่อยนักเพราะรำคาญที่จะต้องปะทะกับแม็กซิมพี่ชายซึ่งเกิดจากภรรยาคนแรกของพ่อ

กับแม็กซิมเหมือนเป็นคลื่นใต้น้ำที่ปั่นป่วนเป็นระยะๆ ฝ่ายนั้นเกรงว่าพ่อจะยกตำแหน่งผู้นำซึ่งถือครองอยู่ในปัจจุบันให้แก่เขา หลายต่อหลายครั้งที่เดียวที่มั่นใจว่าฝ่ายนั้นส่งนักฆ่ามาลอบสังหารถึงแม็กซิมจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ตาม

“โอ้...ในที่สุดก็มาได้เสียทีนะโนเอลพ่อรอเจ้ามาเยี่ยมตั้งนานแล้วนะ” คาร์ม่ากอดโนเอลแนบแน่น

“ว่าไงเจ้าหนูมีเรื่องจะปรึกษาอะไรพ่อหรือไง”

ท่านพ่อยังฉลาดเหมือนเดิม โนเอลยื่นรูปให้คาร์ม่าดู

“ท่านพ่อคิดยังไงกับรูปใบนี้”

คาร์ม่ามีสีหน้าขรึมแวบหนึ่งก่อนจะยิ้มกว้าง ผู้เป็นพ่อหยิบบรั่นดีราคาแพงจากตู้เก็บจัดการเทแล้วยื่นให้โนเอลอย่างไม่หวงแหนซักนิด

“เจ้าเจอคนที่มีสิ่งนี้อยู่หรือไง ทางที่ดีอย่ายุ่งเรื่องนี้จะดีกว่า”

               ดูเหมือนว่าพ่อจะไม่อยากเล่าในสิ่งที่เขาอยากทราบ ช่วยไม่ได้โนเอลไม่ใช่คนดื้อรั้นไม่รู้กาละเทสะเข้าใจว่าคงต้องเริ่มสืบเอาจากที่อื่น

“ไว้ผมจะมาเยี่ยมใหม่นะครับท่านพ่อ วันนี้ขอบคุณมากจริงๆ”

โนเอลลุกขึ้นยืนเต็มความสูงตั้งใจจะเดินออกจากห้อง แต่ถูกเรียกไว้เสียก่อน

“โนเอล พ่อเองก็แก่แล้วจะให้ลุกขึ้นมาจัดการอะไรคงต้องคิดถึงลูกหลานให้มาก ไม่ได้มุทะลุดุดันมากเท่าแต่ก่อน” กล่าวจบคาร์ม่าก็หยิบเอาหนังสือออกมาจากช่องลับแล้วยื่นให้โนเอล “เอาไปศึกษานะ เจ้าชอบอ่านหนังสือไม่ใช่หรือ”

โนเอลไม่ได้พูดอะไรอีกเขารับของมาแล้วบ่ายหน้าออกจากห้องไปตามทางเดิน ปริศนาที่ท่านพ่อไม่ยอมเล่าอาจจะอยู่ในหนังสือเล่มนี้ละมั้ง ความลับของปานบนร่างกายดีทริชที่รอยสนใจนักหนาเขาต้องรู้ให้ได้

พอเป็นเรื่องของดีทริชเขาจะเกิดความกระหายใคร่รู้มากกว่าปกติ การที่ต้องมาตกหลุมเสน่ห์ของเด็กที่อายุน้อยกว่าแถมมาจากสลัมคิดแล้วก็น่าขำจริงๆ แถมตนเองยังไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องเสียหายที่ตรงไหนก็แค่ชอบถูกใจแถมเชื่อว่าเป็นโอเมก้าคู่พรหมลิขิตของตัวเองอย่างแน่นอน

ถ้าไม่อย่างนั้นจะอธิบายแรงดึงดูดที่ทำให้เขาอยากจะเข้าไปใกล้ชิดดีทริชตลอดเวลาได้อย่างไร 

 “ไงโนเอล” เสียงเรียกทำให้หยุดคิดเรื่องของดีทริช โนเอลพบว่าเจ้าของเสียงคือแม็กซิม

“มาป้วนเปี้ยนถามนั่นขอนี่จากท่านพ่ออยู่เรื่อยนะเจ้าลูกเมียน้อย”

“ท่านพี่รู้หรือครับว่าผมมาขออะไร” แม็กซิมฉีกยิ้มกว้าง ในบ้านหลังนี้พวกแม่บ้านเป็นสายให้เขาไม่น้อย ดังนั้นเรื่องที่โนเอลคุยกับท่านพ่อเขารู้หมดแล้วแต่แสร้งทำเป็นไม่รู้

“คงมาขอให้สนับสนุนธุรกิจอะไรอีกล่ะสิ น้ำหน้าอย่างแกถ้าไม่พึ่งใบบุญตระกูลฟีโอเร่จะมีปัญญาทำอะไรได้”

“ท่านพี่คงไม่ได้แอบฟังเรื่องที่ผมพูดกับท่านพ่อใช่หรือเปล่า” โนเอลมั่นใจว่าในบ้านต้องมีสายของแม็กซิม แต่ถึงแอบฟังก็คงรู้อะไรไม่มาก

“กลับรังหนูของแกไปเถอะน่าโนเอลอย่ามาวุ่นวายกับฉันจะดีกว่า”

แม็กซิมหัวเราะ เรื่องที่มันแอบพูดกับพ่อคงเป็นเรื่องของคนซักคนแน่ๆ แต่ท่านพ่อก็ปฏิเสธจะให้ข้อมูลมัน เอาจริงๆ การที่โนเอลเคลื่อนไหวแสดงว่าไอ้คนปริศนานั่นต้องคนสำคัญ เขาจะลากมันออกมายืนตรงหน้าแค่คนคนหนึ่งค้นหามันจะยากอะไร

แค่สังเกตการณ์กระทำของโนเอลมันก็พอ ระยะนี้ไอ้หมอนี่มันลงทุนไปกับสลัมที่ซาเล็มอย่างไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ เขาจะส่งคนไปสืบที่สลัมนั่น ไม่สิสืบดูจากพวกหน้าใหม่รอบๆ ตัวมันด้วยดีกว่า อะไรก็แล้วแต่ที่ได้มาถ้ามันจะใช้เล่นงานไอ้โนเอลให้ลำบากได้มีหรือแม็กซิมจะพลาด

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะท่านพี่”

แม็กซิมปล่อยให้โนเอลจากไป หลังจากโนเอลขึ้นรถเขาก็เปิดหนังสืออ่านดู คิดว่าต้องมีข้อมูลอะไรซักอย่างที่เป็นประโยชน์แล้วจริงเสียด้วย

“ปานรูปกุหลาบกับรัชทายาทที่หายสาบสูญ พลังวิเศษที่แสดงถึงขีดจำกัดทางสายเลือด”

 โนเอลพูดกับตัวเองขณะมองดูดีทริชทานขนมกับเอฟเว่นรูค ถ้าเกิดว่าข้อสันนิษฐานที่ได้มาจากการอ่านหนังสือในมือเป็นความจริง ดีทริชจะเป็นทั้งตัวอันตรายและหมากที่เป็นประโยชน์ในเวลาเดียวกัน แต่โนเอลเลือกจะไม่สนใจข้อเท็จจริงอันนั้น

ดีทริชเป็นสมบัติของเขาแล้วและต่อให้ข้อสันนิษฐานเป็นจริงเขาก็ไม่มีความรู้สึกอยากใช้ประโยชน์จากฐานะอันคลุมเครือของดีทริชซักนิด แต่คนอื่นอาจไม่คิดอย่างนั้นทั้งรอยทั้งแม็กซิมหากรู้เรื่องปานคงจะไม่ดีแน่นอน

แม็กซิมเองก็เคลื่อนไหวแล้วคงเอะใจอะไรบางอย่างถึงเริ่มส่งคนออกค้นหาตามเส้นทางการใช้ชีวิตของเขา ส่วนรอยโนเอลคิดหนักว่าควรจะจัดการอย่างไรดี รอยเป็นคู่ค้าที่ดีเก็บความลับเก่งแต่หมอนี่เป็นแวมไพร์ที่มีปริศนามากเกินไป

โผล่หน้ามาอย่างกะทันหันในฐานะนักธุรกิจชาวปีศาจที่สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง เหยียบย่ำผู้คนมากมายจนกลายเป็นคนมีหน้ามีตาอย่างตอนนี้ ที่สำคัญเจ้านั่นรู้ความลับของราชวงศ์ได้อย่างไรนอกจากสายสืบของตัวเองเขาคงต้องขอร้องให้ท่านพ่อช่วยอีกแรง

หลังจากตัดสินใจได้โนเอลก้าวลงจากรถสาวเท้าไปยืนอยู่เบื้องหน้าดีทริชและเอฟเว่น  หนุ่มน้อยทั้งสองคนน่าจะทานขนมเสร็จแล้ว ทันที่ที่เห็นเขาแต่ละคนแสดงสีหน้าแตกต่างกันไป

โนเอลสนใจแค่ปฏิกิริยาของดีทริชใบหน้าบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัดมันช่างชวนให้นึกอยากขย้ำด้วยปากให้เต็มคำ ยังคงคิดอะไรก็แสดงออกทางสีหน้าชัดเจนเหมือนเดิม

“เออ...คุณเป็นใครหรือครับ” เอฟเว่น รูคถาม โนเอลหันไปยิ้มและพูดคุยอย่างเป็นกันเอง

“ฉันเป็นเพื่อนและเจ้านายของดีทริช เธอคงเป็นเอฟเว่น รูค ดีทริชพูดถึงเธอให้ฉันฟังบ่อย” ดีทริชเบ้ปาก แกเองต่างหากที่ตามสืบซอกซอนไปทั่วฉันไม่ได้เล่าซักหน่อย

“เอ...คุณใช่เพื่อนที่ซื้อขนมมาให้เรากินเมื่อกี้นี้หรือเปล่าครับ” โนเอลยิ้มแทนคำตอบ

“ขนมอร่อยมากขอบคุณมากนะครับผมกับดีทริชชอบมันมาก เนอะดีทริช” เอฟเว่นหันไปพยักเพยิดกับดีทริช คนถูกถามแสร้งยิ้มเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตุ

“ถ้าพวกเธอชอบก็ดี แต่ว่าที่ฉันมาที่นี่เพราะมีเรื่องงานจะคุยกับดีทริช”

“เอ๊ะ...เอ่อ...ถ้างั้นฉันกลับก่อนแล้วกันนะดีทริช” เอฟเว่นทำท่าจะลุกขึ้น

“ฉันเตรียมรถให้พาเธอไปส่งที่โรงเรียนแล้ว”

“จะดีหรือครับ” เอฟเว่นลังเลมองดูดีทริช

“ถ้าเธอจะกรุณาอย่าปฏิเสธความหวังดีของฉันเลย”

“ก็ได้ครับ” เอฟเว่นตอบตกลงเพราะรอยยิ้มเป็นกันเองของโนเอล เด็กชายรู้สึกว่าคนคนนี้น่าจะเป็นคนดี

“พาคุณรูคไปส่งให้ดี” โนเอลออกคำสั่งกับพวกชุดดำที่เป็นลูกน้อง เอฟเว่นเดินตามคนพวกนั้นไปยังรถที่รออยู่

“ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่” ดีทริชถลึงตาใส่โนเอล จริงๆ เริ่มจะกลัวการคุกคามสู่ชีวิตประจำวันของอีกฝ่าย ทำแบบนี้เท่ากับประกาศจะริดรอนอิสระของเขามากขึ้นชัดๆ

“ตามฉันไปที่รถ” ดีทริชเม้มปากเข้าหากัน อึดใจหนึ่งอยากเดินหนีไปให้พ้น แต่ไม่คิดว่าจะพ้นจากเงื้อมือของโนเอลจึงทำตามที่สั่ง

“หน้าบึ้งเชียวนะ” โนเอลหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของคนที่ขึ้นมานั่งบนรถ

“นายคิดว่าคนที่ถูกขายมาจะมีอิสรภาพได้มากแค่ไหน”

 ดีทริชกัดริมฝีปากอีกแล้ว หมอนี่ทำแบบนี้ทุกครั้งที่เข้าตาจน พอคิดว่าริมฝีปากน่ารักๆ นั้นอาจจะบวมช้ำโนเอลก็นึกเสียดาย จึงขยับตัวใช้ปลายนิ้วคลึงไปที่บริเวณนั้นจนอีกฝ่ายหยุดการทำร้ายตัวเอง เจ้าของดวงตาสีเขียวจ้องมองมาด้วยความสงสัย

ใช่สิ ดีทริชสงสัย อีกฝ่ายไม่ต้องการให้เขากัดริมฝีปาก ทำไม? เป็นห่วงกลัวเขาเจ็บอย่างนั้นหรือ คนอย่างโนเอลจะมาเป็นห่วงนางบำเรออย่างเขานะหรือ แปลกประหลาด

               “อ่านซะ” โนเอลยื่นส่งเอกสารมาให้ ดีทริชอ่านเอกสารทั้งที่ยังสงสัยในความอ่อนโยนของโนเอลไม่เลิก แต่พออ่านเอกสารไปได้ซักพักก็เริ่มระแวงเพิ่มขึ้น

               “นายอยากให้ฉันไปเข้าค่ายตั้งแค้มป์กับพวกบริษัทเอกชน นายอยากจะเป็นพ่อแม่ของฉันอย่างนั้นหรือ” ไอ้การสนับสนุนกิจกรรมมันเป็นเรื่องของพ่อแม่ชัดๆ คนอย่างโนเอลทำอะไรต้องมีแผนการซักอย่าง

               “ก็แค่บังหน้าเท่านั้น ช่วงระหว่างปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้นไปเรียนชั้นที่สูงกว่าฉันจะให้นายไปอยู่กับฉันที่คฤหาสน์ส่วนตัว”

               ใบหน้าที่คล้ายกับคนถูกทำร้ายของดีทริชยังน่าสนใจเหมือนเดิม โนเอลอมยิ้มน้อยๆ กล่าวสิ่งที่คิดเสียงเนิบนาบ

               “ฉันก็แค่อยากจะเห็นนายให้บ่อยขึ้นเท่าที่ต้องการ ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวซักหน่อย”

               ดีทริชเปลี่ยนจากกัดริมฝีปากเป็นจิกเล็บเข้าที่แขน ไม่น่ากลัวที่ไหนหากเขายอมไปที่นั้นคงไม่แคล้วกลายเป็นนางบำเรอในห้องหับ โนเอลคงคิดเก็บเกี่ยวเขาแล้วจริงๆ

               “ดีทริช” โนเอลขยับกายเข้ามาใกล้ อีกฝ่ายคว้ามือที่ทำร้ายตัวเองไปนวดคลึง

               “ฉันไม่ชอบเท่าไหร่ที่นายทำร้ายตัวเอง แต่ก็คิดอีกทีคงเป็นเพราะนายรู้สึกกดดันที่ฉันรุกคืบเข้าหาสินะ”

               ใช่ ดีทริชตอบในใจในขณะหลบตาโนเอล เวลานี้เขารู้สึกหดหู่จนไม่อยากสนทนากับใครทั้งนั้นแล้ว

               “ถ้าฉันให้สัญญาว่าช่วงระยะสั้นๆ ที่นายจะมาอยู่ที่คฤหาสน์ของฉัน ฉันจะไม่ร่วมรักกับนาย นายจะว่ายังไง”

               ดีทริชหันไปมองโนเอล ไม่อยากจะเชื่อเขาหูฝาดไปหรือไงนะ

               “นายนี่แสดงออกทางสีหน้าชัดเจนดีนะ”

               “นายจะให้คำสาบานไหมว่าจะทำตามที่พูด” ไม่สิคนประเภทนี้คำสาบานไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว ดีทริชยกหัวแม่มือขึ้นมากัด ดูแล้วช่างน่าสงสารในสายตาโนเอล

               “นายเกลียดฉันขนาดนั้นเลยหรือ” โนเอลรวบดีทริชเข้าไปไว้ในอ้อมกอด ดีทริชตัวแข็งทื่อแต่ยังสามารถโต้เถียงกับอีกฝ่ายได้

               “นายจะชอบคนที่คิดจะบังคับข่มขืนตัวเองไหมล่ะ”

               “นั่นสิน่าจะไม่ชอบ แต่ถ้าสามารถทำประโยชน์ได้ฉันจะหาทางให้ตัวเองได้ประโยชน์มากที่สุด...นายเป็นระเภทยะโสคงคิดไม่ออกละมั้ง”

               “ฉันควรจะทอดกายประจบนายเพื่อให้ได้ทรัพย์สินเงินทองอย่างนั้นหรือ” โนเอลนิ่งคิด ดีทริชมองสบตามา

               “ฉันไม่ค่อยชอบแบบนั้น คิดว่านายไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ถ้านายทำมันคงจะน่าเอ็นดูดีเหมือนกัน นายกล้าทอดกายให้ฉันออดอ้อนเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ไหมละ” โนเอลกระซิบข้างหู ดีทริชนิ่งคิดอย่างมีนัยยะ

               “ถ้าเกิดว่านายจะไม่ไปมีคนอื่นอีกมันก็น่าคุ้ม...” ดีทริชกัดริมฝีปาก เขาพูดอะไรออกไปนี่ มันเหมือนจะบอกอีกฝ่ายว่าเขาต้องการเป็นตัวจริงเท่านั้นชอบกล

               “ฉันชอบความโลภของนายนะที่รัก เพราะฉะนั้นช่วงเวลาที่ไปอยู่คฤหาสน์ของฉันเรามาลองศึกษาซึ่งกันและกัน ฉันจะไม่แตะต้องนายไปมากกว่าจูบหรือกอดรัด ส่วนนายลองเล่นสนุกทำให้ฉันหลงรักหมดหัวใจท้าทายดีไหมล่ะ”

               “เอาจริงหรือ”

               “นายมีโอกาสได้ลองแล้วนะ ช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะหมดโอกาสนั้น”

               “นายกำลังเล่นสนุก หมดช่วงเวลานั้นนายก็ยังจะบังขับขืนใจฉันอยู่ดี”

               “ดีทริชที่รักกับคนที่รักฉันจะปฏิบัติตัวด้วยเป็นอย่างดี แล้วนายจะได้รู้”

               “นายครับ เรามาถึงที่แล้ว” คนขับรถแจ้งให้ทราบโนเอลปล่อยให้ดีทริชเป็นอิสระ

               “เอ่าเอกสารไปให้แม่ลงนามซะ อย่าให้ผิดพลาดคงไม่อยากให้แม่ที่รักเดือดร้อนสินะ”

               ดีทริชใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยมองดูโนเอล ไม่ค่อยเข้าใจจุดประสงค์ที่อีกฝ่ายหว่านล้อม แต่คิดได้อย่างเดียวว่าขัดขืนไม่ได้ เด็กชายก้าวลงจากรถทั้งที่ความคิดสับสนปนเปไปหมด



คุยท้ายเรื่อง

ตอนต่อไปจะพยายามหาเวลาว่างแต่งน้า ช่วงนี้้เริ่มอบรมแล้วฮ่าฮ่า มึนๆ งงๆ กับเนื้อหาการทำงานที่เพิ่มขึ้น

สำหรับนิยายเรื่องนี้ถ้าทุกคนชอบก็ช่วยแสดงความคิดเห็นกันบ้างนะ จะดีใจมั่กๆๆๆๆ


ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1087
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
อยากให้ดีทริชพ้นวัยประถมเร็วๆ
จะได้ไม่รู้สึกถึงความเสียง
ถูกกินก่อนวัย

ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เหมือนจะเริ่มเฉลยปมละ :pig4:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่12

               ในที่สุดวันแห่งชะตากรรมก็มาถึงผลตรวจเพศที่ได้รับมาช่างทำร้ายจิตใจดีทริชเสียเหลือเกิน วินาทีที่ได้รู้ว่าเพศที่สองของตัวเองคือโอเมก้าก็ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างจะหยุดนิ่งลง

               “ดีทริชๆ” เสียงเอฟเว่นลอยเข้าหูมาแต่รู้สึกเหมือนอยู่ที่ไกลๆ

               “ฮ่าฮ่า นายเป็นโอเมก้าหรือวะดีทริช” เสียงหัวเยาะเย้ยหยันของไรอันทำให้ดีทริชกลับมามีสติ เจ้าตัวใช้สายตาเยียบเย็นจ้องมองอีกฝ่าย

               “อะไร เจ้าโอเมก้าอ่อนแอมองอย่างนี้เดี๋ยวสวยหรอก” ไรอันยิ้มเยาะไม่ได้กลัวสายตาของดีทริชเลยซักนิด ก็ไอ้หมอนี่มันแค่โอเมก้าในสลัม

               “อะไรมองอย่างนั้น วุ้ยกลัวนะนี่ มองแบบนี้ทอดสะพานหรือไงหะ พวกโอเมก้าแม่มจ้องจะจับผู้ชายด้วยวิธีเดียวกันนี้สินะ แหมได้ข่าวว่าพวกโอเมก้าชอบล่อลวงเพศอื่นด้วยฟีโรโมนจะว่าไปคนนิสัยอย่างนายก็เหมาะแล้วที่จะเป็นโอเมก้าที่มีวิถีชีวิตเหมือนโสเภนีนะดีทริช”

               “หยุดพูดซักทีนะไรอันไม่งั้นฉันจะฟ้องครู”

เอฟเว่นที่โกรธแทนเพื่อนสนิทตะคอกเสียงดัง ทว่าโดยไม่ไม่ใครคาดคิดดีทริชพุ่งเข้าใส่ไรอันเล่นงานด้วยกำปั้นอย่างหนักหน่วงหมัดแล้วหมัดเล่าจนคนถูกชกกล้มกลิ้ง

               “แกไอ้ดีทริช”

ถึงจะผวาไรอันยังปากกล้า ไม่ทันคาดคำดีทริชกระโดดขึ้นคร่อมรัวหมัดลงมาอีกแม้อาจารย์จะตามมาห้ามแต่ไรอันก็น่วมไปทั้งตัวชนิดที่เรียกได้ว่าเกิดมาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน

               

                                                          ...............



“ครูไม่เข้าใจเลยดีทริชทำไมนักเรียนดีเด่นอย่างเธอถึงกลายเป็นคนที่เริ่มทะเลาะวิวาทไปได้”

               อาจารย์ใหญ่ถามไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ แต่ลูกศิษย์คนนี้ไม่มีคำแก้ตัวทำเพียงยอมรับความผิดทั้งหมดซึ่งถ้าตามกฎโรงเรียนจะต้องถูกลงโทษอย่างหนักถ้าเกิดว่าเอฟเว่นรูคไม่รวบรวมเพื่อนในห้องมาช่วยคงไม่จบแค่การตักเตือน

               “ครูเข้าใจว่าเธอถูกล้อเรื่องเพศที่สอง แต่ครูคิดว่าคนที่ฉลาดอย่างเธอจะควบคุมตัวเองได้มากกว่านี้ ไม่ต้องบอกเธอคงเข้าใจว่าครูรู้สึกผิดหวัง”

               ดีทริชเม้มมปากเข้าหากันแน่นอารมณ์ชั่ววูบทำให้อาจารย์ใหญ่ที่ดีต่อเขามาตลอดผิดหวัง รู้ว่าผิดแต่วินาทีที่ได้ออกหมัดเข้าใส่ไรอันมันเหมือนได้ระบายความอัดอั้นที่มีมาทุกเรื่องไม่ใช่ความผิดเขาซักนิดเป็นเจ้านั่นที่แส่หาเรื่องเองต่างหาก

               แต่ก็นั่นแหละขืนยังดื้อแพ่งอีกอาจารย์ใหญ่คงจะติดภาพลักษณ์แย่ๆ ของเขา ดีทริชพยายามอย่างมากที่จะปั้นหน้าให้ดูรู้สึกผิดในเมื่อแม่ของไรอันกับเจ้าตัวไปแล้วความทะนงไม่มีประโยชน์อีกต่อไป

               “ผมเสียใจฮะครูใหญ่”

อาจารย์ใหญ่ถอนหายใจ เขาเอ็นดูเด็กคนนี้มาแต่ไหนแต่ไรทั้งเรื่องเรียนเรื่องความประพฤติแถมเดี๋ยวนี้ผู้บริจาครายใหญ่ยังเสนอตัวช่วยดูแลทุนการศึกษาของดีทริชเห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้มีอนาคตที่สดใส ความผิดพลาดเดียวคือการปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลเท่านั้น

“อย่าทำแบบนี้อีก ครูช่วยเธอได้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ”

 อาจารย์โกหก เพราะผู้บริจาคขาใหญ่ตอนนี้คอยปกป้องดีทริชอยู่ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรอกนะแต่เพื่ออนาคตของดีทริชจะปล่อยให้การถูกให้ท้ายมาทำให้เด็กดีๆ นิสัยแย่ลงไม่ได้ ถึงแม้จะลงโทษไม่ได้มากยังไงก็ต้องลงโทษ

“เอาเป็นว่าครูจะให้เธอทำรายงานเรื่องการอยู่ร่วมในสังคมของโอเมก้า ส่งให้ครูก่อนปิดเทอมใหญ่นะ”

“ฮะ...ครูใหญ่” ยังไม่ทันขาดคำดีแม่ของดีทริชก็โผล่พรวดเข้ามา ล่อร่าหายใจหอบหนัก ดีทริชรอแม่ของตนอยู่นานแล้ว

“ขอโทษๆ นะคะครูใหญ่ที่ดิฉันมาช้า”

“ไม่ช้าหรอกครับ เรามาคุยกันเรื่องดีทริชจะดีกว่า”

หลังจากอาจารย์ใหญ่แจ้งเรื่องทะเลาะวิวาทให้แม่ฟังจนจบเขาก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านทันที แม่ไม่พูดเลยซักคำเกี่ยวกับการที่เขาชกไรอัน

               “แม่ไม่โกรธผมหรือ” แม่ยิ้มแล้วกอดเขาแน่น

               “ขอแค่ลูกปลอดภัยแม่ก็สบายใจแล้ว แต่คราวหน้าลูกต้องอดกลั้นกว่านี้นะ”

               “ฮะ” แม่ลูบหัวดีทริชอย่างอ่อนโยน แต่จู่ๆ ก็ไอโขลกๆ แม่เอามือปิดปากแวบหนึ่งเหมือนเขาเห็นเลือดบนฝ่ามือของแม่

               “แม่ขอตัวซักครู่นะทริช” แม่วิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ และอยู่ในนั้นนานทีเดียว

               “แม่ๆ เป็นอะไรหรือเปล่าฮะ” ดีทริชชักกังวลอย่างบอกไม่ถูก แม่ป่วยหนักหรือเปล่าเลือดเมื่อกี้เขาตาฝาดใช่ไหม ถ้าเกิดว่าแม่ตายไปเขาจะอยู่ยังไง คิดถึงตรงนี้น้ำตาก็ไหลออกมา

               “แม่ๆ ฮะออกมาเถอะ”

ดีทริชร้องไห้สะอึกสะอื้น ทั้งเรื่องของโนเอลและเรื่องที่เป็นโอเมก้าถัดมายังมีอาการของแม่อีก เขาไม่เคยเห็นแม่แสดงอาการป่วยมาก่อนนี่เป็นครั้งแรก อาจจะตาฝาดเข้าใจผิดไปก็ได้แต่เวลานี้เขาคิดออกได้แค่เรื่องแย่ๆ

               “ดีทริชแม่ไม่เป็นไรหรอก แค่หน้ามืดนิดหน่อยเท่านั้น” แม่ออกมาจากห้องน้ำจนได้ ดีทริชปาดน้ำตา   

               “จริงๆ นะฮะ” แม่ยิ้มหวาน เวลานี้แม่ดูปกติทุกอย่างไม่เหมือนคนป่วย

               “ดีทริชไม่ต้องห่วงนะ แม่แข็งแรงดีออกจะตาย”   



                                                 ............................



หลังจากที่ลูกน้อยนอนหลับไปลอร่าเฝ้ามองใบหน้ายามหลับของดีทริชแล้วยิ้มกับตัวเอง ตั้งแต่รับเป็นแม่เลี้ยงดูขึ้นมาจนเติบใหญ่ลูกคนนี้ไม่เคยทำให้เธอต้องผิดหวัง

               ใบหน้าที่แสนงดงามน่ารักราวชนชั้นสูงหากมองให้ดีๆ จะรู้ว่ารับเอาส่วนที่ยอดเยี่ยมจากพ่อและแม่มาจนหมด ลูกคนนี้เหมือนเทวดาในความคิดของเธอและเธอก็มีความสุขที่ได้รับโอกาสของความเป็นแม่มาตลอดหลายปี

ทีแรกการที่รับเอาลูกน้อยมาเป็นภาระนั่นเพราะบุญคุณท่วมหัวที่พ่อแม่ของดีทริชมีต่อตนเอง ทั้งอย่างนั้นหลายปีมานี้เธอรักลูกคนนี้ด้วยใจการกระทำทุกอย่างที่ผ่านมามุ่งหวังให้ลูกน้อยอยู่อย่างเป็นสุข

               ทั้งเรื่องที่พามาอยู่ในสลัมหรือแม้แต่ทำสัญญาจ้างไอ้คนไร้ประโยชน์อย่างดีน ไอแวนให้สมอ้างเป็นคู่แต่งงานและพ่อของลูก ถ้ามันจะหลบซ่อนจากเงื้อมือของไอ้ตัวปลอมที่อยู่ในพระราชวังได้เธอก็ยินดี

               ทว่าตอนนี้เธอเริ่มจะกลัวเหลือเกินเวลาของเธออาจจะเหลือไม่มากพิษร้ายซึ่งได้รับจากการหลบหนีมาพร้อมดีทริชนอกจากจะรักษาไม่หายยังรุนแรงขึ้นอีกด้วย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธออาศัยหาส่วนผสมด้วยตัวเองมาปรุงยาบรรเทาอาการ

               แต่มันเริ่มจะไม่ได้ผลและเธอก็ไม่ต้องการที่จะไปโรงพยาบาลเพราะถ้าหมอตรวจอาการปริศนานี่จะต้องถูกลงบันทึกมันจะกลายเป็นเบาะแสให้เจ้าตัวปลอมตามเธอมาจนเจอดีทริช

               “แม่ไม่รู้ว่าจะปกป้องลูกไปได้นานเท่าไหร่ แต่แม่จะทำให้ถึงที่สุด ลูกไม่ต้องกังวลนะ”

               ลอร่าใช่ว่าจะไม่มีความหวังที่โรงงานโฮมุนคิวลัสใกล้ๆ นี่ได้ข่าวว่ามีส่วนผสมที่จะนำมาปรุงยารักษาเธอได้ เธอจะปลอมตัวแอบเข้าไปขโมยส่วนผสม เธอมั่นใจในความสามารถชั้นเยี่ยมของการเป็นองครักษ์ชั้นหนึ่งย่อมเป็นงานง่ายๆ เธอพร้อมเสี่ยงเพื่อที่จะได้อยู่ดูแลดีทริชจนกว่าจะถึงเวลานั้นซึ่งเธอเองก็ไม่แน่ใจว่ามันควรจะเป็นเมื่อไหร่



คุยท้ายเรื่อง

ตอนนี้มาสั้นเวลาเขียนมีแค่นี้จริงๆฮา ตั้งใจว่าจบตอนนี้จะพักซักสามสี่วันนั่งบิ้วอารมณ์

ไม่ได้ตันนะแต่ขี้เกียจ ฮา แต่จะพยายามแตะๆ พิมๆ ถ้าคครบตอนน่าจะเอามาลงนะ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เนื้อเรื่องน่าติดตามมาก ๆ จ้า สู้ ๆ น้าา

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โอ้ยยย ลุ้นมากกก
ในที่สุดเรื่องของคุณแม่ก็เริ่มเผยปมมาแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด