#omegaverse #Alpha Omega สุดที่รักของปีศาจ ตอนพิเศษ บทที่4 {หน้า9} {4/4/61}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #omegaverse #Alpha Omega สุดที่รักของปีศาจ ตอนพิเศษ บทที่4 {หน้า9} {4/4/61}  (อ่าน 38281 ครั้ง)

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่15

“นายน้อยเอฟเว่นนายท่านเรียกขอรับ”

หลังจากวางสายมาเรี่ยนได้ครู่เดียวเอฟเว่นก็ถูกท่านพ่อเรียกให้ไปพบ เรื่องอะไรกันแน่นะ เขากังวลจนแต่ละย่างก้าวไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย

“มาจนได้นะ”

ทันทีที่ไปถึงท่านพ่อพยักเพยิดไปยังกองแฟ้มปริศนา

“แฟ้มพวกนี้แต่ละอันมีรูปและประวัติของคนที่อยากจะดูตัวกับแก เอฟเว่นหลังจากนี้ฉันจะอนุญาตให้แกสามารถเลือกเฟ้นคนที่ชอบภายใต้ความเหมาะสม จากเหล่าลูกผู้ดีที่ฉันหามา”

เอฟเว่นหน้าซีดเผือด จริงอยู่ว่าเตรียมใจมาบ้างแล้วเรื่องการถูกบังคับ แต่ไม่คิดว่าจะเร็วอย่างนี้

“เอฟเว่น” ท่านพ่อใช้มือตบลงมาบนบ่าของเขาคล้ายกับการปลอบโยน “พ่อทำเพื่อแกนะ การคัดสรรเด็กหนุ่มเหล่านี้ พ่อศึกษานิสัยพวกเขามาเป็นอย่างดี ฐานะ ชาติตระกูลไม่ด้อยกว่าเรา แค่นิสัยขี้ขลาดของแกก็ทำให้พ่อเป็นห่วงมากแล้วแถมยังมาเป็นโอเมก้าอีก พ่อคิดว่ากับเด็กหนุ่มพวกนี้มั่นใจว่าจะไปด้วยกันได้ดี ศึกษาพวกเขาแล้วเลือกออกมาคนหนึ่ง”

“แล้วถ้าเกิดว่า…” เอฟเว่นอยากบอกว่าถ้าเกิดเขาไม่ต้องการจะเลือกหรือมีคนที่ชอบแล้วล่ะ

“เอฟเว่นพ่อเข้าใจความคิดจากสีหน้าแกดี แต่พ่อจะบอกความจริงกับแกนะ บ้านเรากำลังประสบปัญหาการลงทุนหลายครั้งจากมติคนในตระกูลทำให้เราขาดทุน เราไม่มีทางเลือกนอกจากให้แกแต่งงานกับคู่ค้า ถ้าจะให้ดีแกควรเลือกลูกชายนายธนาคารใหญ่คนนี้เพราะเราต้องการที่จะกู้เงินให้ผ่านในการลงทุนครั้งต่อไป” ท่านพ่อหยิบแฟ้มยื่นมาให้เอฟเว่นเปิดดู

“พ่อขอโทษแกนะ ไม่มีทางเลือกมากนักสำหรับโอเมก้าคงเข้าใจนะ”

“ฮะท่านพ่อ”

เอฟเว่นเข้าใจทุกอย่างที่ท่านพ่อกำลังจะสื่อ ยิ่งเกิดมาในตระกูลใหญ่ด้วยแล้วการเสียสละถือเป็นเรื่องปกติ โชคดีที่ตนเองยังไม่ได้สารภาพรักกับมาเรี่ยน ไม่อย่างนั้นคงเป็นเรื่องน่าเศร้าเกินไปกับการที่ต้องแอบคบ ทั้งที่ไม่สามารถมีอนาคตร่วมกันได้

อยากจะร้องไห้จริงๆ

“นายท่านขอรับ ท่านมาเรี่ยนครอสมาขอเข้าพบขอรับ” เอฟเว่นสะท้านร่างเฮือกหนึ่งก่อนจะเก็บอาการ เขาไม่ต้องการให้ท่านพ่อทราบความรู้สึกของตนที่มีต่อมาเรี่ยน

“แกรออยู่ที่นี่ก่อนนะเอฟเว่น” พ่อออกจากห้องไป เอฟเว่นนั่งอยู่ตามลำพังในห้องอย่างหม่นหมอง

“นายน้อยขอรับนายท่านให้มาตาม” เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่นั่งอยู่ในห้องเพียงลำพัง ในที่สุดพ่อบ้านก็มาตามเอฟเว่นตรงไปยังห้องรับแขก ที่นั่นท่านพ่อกับมาเรี่ยนรออยู่

“แกนี่ยังไงเอฟเว่นไม่บอกพ่อเลยว่ารู้จักคบหากับท่านมาเรี่ยน”

“ขอโทษฮะ” เอฟเว่นทำหน้าเจื่อนแต่สีหน้ายิ้มแย้มของท่านพ่อทำให้รู้สึกดีขึ้น

“ท่านมาเรี่ยนมาชวนแกไปเที่ยวนอกบ้าน อย่าทำให้ขายหน้าเชียวล่ะ”

“ฮะ” เอฟเว่นเดินไปหามาเรี่ยนหลังจากกล่าวคำลาท่านพ่อ เอฟเว่นก็ขึ้นไปนั่งบนรถที่มาเรี่ยนนำมา

“ผมชอบท่านพ่อของเธอท่านเป็นคนอัธยาศัยดีมาก”

เอฟเว่นชักสงสัยคนเข้มงวดพูดน้อยไว้ตัวอย่างท่านพ่อนะหรือ

“ท่านพ่อของเธอชวนให้ผมไปเที่ยวเล่นที่บ้านเธอ”

“เอ๊ะ…อืม…” ถึงจะสนิทกันมากกว่านี้แต่ความรักไม่มีทางสมหวัง

“สีหน้าเธอดูไม่ดีนะ”

“คือ…ฉันเป็นห่วงดีทริชน่ะ” กล่าวจบมาเรี่ยนก็จับมือเขากุมเอาไว้ เอฟเว่นมองดูใบหน้าอ่อนโยนของฝ่ายนั้น ถึงจะต้องตัดใจแต่ไม่อยากสูญเสียความเป็นเพื่อน

“ไม่ต้องเป็นห่วงไป ผมคิดว่าดีทริชไม่น่าจะเป็นอะไร”

“อื้อ”

หลังจากนั้นต่างคนก็นั่งเงียบไปจนถึงบ้านของดีทริช ที่หน้าบ้านพบว่าเพื่อนสนิทกำลังกล่าวคำร่ำลาคุณน้าลอร่า

“ทริช” เอฟเว่นดีใจจนรีบเข้าไปกอดดีทริชเสียแน่น คนถูกกอดแปลกใจที่เพื่อนโผล่มาแถมยังพร้อมหน้าด้วยมาเรี่ยนครอส

“…พวกนายอุตส่าห์มาเยี่ยมนะ ขอบใจมาก”

“แล้วนี่ทริชจะไปไหน” เอฟเว่นคลายอ้อมกอด

“ฉันจะไปเข้าค่ายช่วงปิดเทอม”

“อะไรกันทำไมไม่ชวนฉันบ้างละ ฉันเองก็”

“ก็ไม่คิดว่าพ่อนายจะอนุญาตนะสิ” เอฟเว่นยิ้มจืดเจื่อน จริงอย่างที่ดีทริชพูดท่านพ่อคงไม่อนุญาตง่ายๆ

“แล้วก็ขอบใจมาเรี่ยนนะที่อุตส่าห์มาเยี่ยมฉันซาบซึ้งใจพอดูเลยล่ะ” มาเรี่ยนทำแค่ยิ้มรับ

“ฉันต้องไปแล้วนะเอฟเว่น” ดีทริชตบบ่าเอฟเว่น เด็กชายมองเพื่อนเดินไปยังรถคันหรูที่มาจอดรับ

“อื้อ…บ๊ายบาย ไว้เจอกันตอนเปิดเทอมนะทริช”

“ถ้าเป็นไปได้คงได้อยู่ห้องเดียวกันอีกนะ” ดีทริชโบกมือพร้อมส่งยิ้ม เอฟเว่นรู้สึกแปลกๆ เพื่อนของเขาดูร่าเริงผิดวิสัยเหมือนปิดบังอะไร แต่ไม่ทันได้ถามอีกฝ่ายก็เข้าไปอยูในรถเสียก่อน

“หนูเอฟเว่นน้าขอบใจนะที่มาดูทริช เสียใจจริงที่ชวนเข้าไปดื่มชาในบ้านไม่ได้”

เอฟเว่นเข้าใจดี ถ้ามีสามีขี้เมาก็ต้องลำบากที่จะชวนใครไปเยี่ยมบ้านแน่ๆ

“คุณน้ารับของฝากไว้ด้วยนะครับ” เอฟเว่นยื่นของฝากให้ลอร่า

“ขอบใจหนูมากนะ”

“ถ้าอย่างนั้นผมกลับก่อนนะฮะ” เอฟเว่นคอยจนล่อร่าเข้าบ้านไป พอจะหันกลับไปหามาเรี่ยนก็พบว่ามีเด็กตัวเล็กๆวิ่งชนตัวเอง

“น้องสาวเป็นอะไรไหม” เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่แต่งตัวดีไม่เข้ากับแหล่งเสื่อมโทรมเอาเสียเลย

“เอฟเว่นเราไปกันเถอะ”

“แต่…” จะไปได้อย่างไรในเมื่อสาวน้อยตั้งต้นร้องไห้

“จะหาแม่” เอฟเว่นลนลานทำอะไรไม่ถูก

“เดี๋ยวพี่จะช่วยตามหาแม่ให้นะ เนอะมาเรี่ยน” มาเรี่ยนมองดูเด็กหญิงแล้วขมวดคิ้ว

“ถ้าเธอจะช่วยผมก็ไม่ว่า แต่ผมสัญญากับท่านพ่อของเธอว่าจะพาเธอไปส่งก่อนเย็น”

เอฟเว่นนึกขึ้นได้ หากกลับบ้านช้าท่านพ่ออาจจะหมายหัวมาเรี่ยนเอา

“น้องสาวพี่จะพาเธอไปหาตำรวจเขาจะได้ช่วยหาแม่นะ” เอฟเว่นหาวิธีช่วยแต่เด็กน้อยกลับแผดเสียง

“ไม่เอาไม่ไปแอนนี่ไม่ไปหาตำรวจ แอนนี่จะทานขนม” ว่าแล้วก็เริ่มต้นโยเย

“เอ๋..เอ่อ..” เด็กหญิงงอแงหนักขึ้นทุกขณะ เอฟเว่นหันไปขอร้องมาเรี่ยนด้วยสายตา เห็นแววตาเย็นชาของอีกฝ่ายก็รู้สึกไม่สบายใจ

“เอ่อ ถ้ามันเป็นการรบกวนฉันจะบอกให้รถที่บ้านมารับ…”

“เธอนี่น้า ยอมให้ท่านพ่อดุเพื่อช่วยเด็กหญิงเอาแต่ใจที่ไมรู้จัก ผมไม่รู้จะทำยังไงกับเธอดี”

“แค่พาไปทานขนมเอง”

“เข้าใจแล้ว”

ดังนั้นพวกเขาจึงพาเด็กหญิงไปที่ร้านขนมของฟีโอเร่ แอนนี่เป็นเด็กร้ายกาจเอาแต่ใจพอดู แต่เอฟเว่นยังอดทนยิ้มได้ตลอด

“ทำไมถึงเอานี่มาล่ะแอนนี่ไม่เอาอันนี้” ไม่รู้ว่าบริกรนำของมาให้ผิดหรือแอนนี่ลืม แต่สาวน้อยเขวี้ยงของกินใส่จนเสื้อบริกรเปื้อนไอศกรีม

“ขอโทษนะครับ” เอฟเว่นขอโทษแทนแอนนี่ มาเรี่ยนทำเพียงหรี่ตามองดูเหตุการณ์

“แอนนี่ ขอโทษพี่บริกรเขาเดี๋ยวนี้นะ แอนนี่จะเอาแต่ใจกับพี่พี่ก็ไม่ว่าแต่ถ้าเธอทำอย่างนี้กับคนอื่นคุณแม่รู้เข้าจะต้องโกรธและอับอายแน่”

แอนนี่นิ่งคิดหลายนาทีก่อนจะกล่าวขอโทษบริกร เอฟเว่นโล่งใจที่เด็กหญิงว่าง่าย ถ้าดื้อกว่านี้เห็นทีคงต้องลงโทษโดยการงดขนมหยุดเอาใจกันบ้าง

“แอนนี่อยากเจอคุณแม่แล้ว” แอนนี่เริ่มสะอึกสะอื้น เอฟเว่นเหมือนพึ่งนึกขึ้นได้

“จริงสิพี่ลืมไปเลยคุณแม่อาจจะทิ้งข้อความซักอย่างไว้ที่แอนนี่ เอากระเป๋ามาให้พี่ดูที”

แอนนี่ยื่นกระเป๋าสะพายสีหวานมาให้ เอฟเว่นเปิดดูครู่หนึ่งก็พบกระดาษจดเบอร์โทรและข้อความให้โทรกลับเมื่อพบว่าแอนนี่หลงทาง เขารีบยืมโทรศัพท์เคลื่อนที่จากมาเรี่ยนโทรหาแม่เด็กทันที

“เดี๋ยวคุณแม่ก็มารับแล้วนะแอนนี่” เอฟเว่นยิ้มหลังจากคุยกับคุณแม่แอนนี่เสร็จ ไม่นานนักคุณแม่ของเด็กหญิงก็มารับ

“ขอบใจหนูมากนะ เอาอย่างนี้นะน้าจะให้ของตอบแทนหนูอยากได้อะไรบอกน้ามาเลยนะ”

“ไม่ต้องหรอกฮะช่วยกันแค่นี้เอง ผมไม่ได้ทำอะไรแค่ดูแลแอนนี่รอคุณน้ามารับเท่านั้น”

“ขอบคุณนะคะพี่ชาย” แอนนี่จูบปากเขาหลังขอบคุณ เอฟเว่นตกใจนิดหน่อยแต่ไม่ได้ถือสาอะไร

“เอฟเว่นผมว่าน่าจะได้เวลาที่เธอจะต้องกลับบ้านแล้วนะ” มาเรี่ยนเตือนสติ

“อะ…อื้อ…”

“คราวหน้าผมจะติดต่อไปขอเยี่ยมเธออีกนะหวังว่าเธอคงไม่ว่าอะไร”

เขาจะดีใจด้วยซ้ำจะว่าอะไรได้ แค่ช่วงเวลาก่อนที่จะมีคู่หมั้นเท่านั้นเขาอยากอยู่ใกล้ๆ มาเรี่ยนให้บ่อยที่สุด

“แล้วเจอกันนะ” เอฟเว่นกล่าวคำลา

หลังจากส่งเอฟเว่นถึงบ้าน มาเรี่ยนก็เดินทางกลับคฤหาสน์ เมื่อเข้าไปถึงด้านในแอนนี่ตัวน้อยนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก

“กลับมาแล้วเหรอ…” แอนนี้ทักด้วยเสียงระรื่น

“ท่านย่าคงสนุกสินะครับ” เด็กหญิงแอนนี่หัวเราะเสียงใส แล้วร่างกายก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงกลายเป็นหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ

“ย่าสนุกมากเชียวล่ะ แล้วก็ย่าชอบนะเด็กคนนั้น”

มาเรี่ยนถอนหายใจ ความเอาแต่ใจของท่านย่าใครก็จัดการไม่ได้ทั้งนั้น

“คราวหน้าถ้าจะทำแบบนี้อีกช่วยบอกผมล่วงหน้าด้วยนะ”

“จะอนุญาตให้ย่าไปสนุกกับหนุ่มน้อยคนนั้นได้อีกหรือ”

“คราวหน้าเอาแบบเป็นทางการดีไหมครับท่านย่า”

“นั่นสินะ” มาเรี่ยนถอนหายใจ ทำเสียงเจ้าเล่ห์แบบนี้สงสัยวางแผนอะไรอีกแน่ๆ แล้วก็จริงเสียด้วย ท่านย่าต่อสายโทรไปยังบ้านเอฟเว่นและได้พูดคุยกับผู้นำตระกูลรูค

เนื้อหาใจความคือจะไปเยี่ยมเยียนแสดงความขอบคุณที่ได้รับการช่วยเหลือจากเอฟเว่นซึ่งประมุขตระกูลรูคตอบรับอย่างยินดี

“จะไปในสถานะไหนครับท่านย่า”

“แน่นอนว่าต้องแอนนี่ตัวน้อยสิ ย่าสนุกที่จะได้เห็นท่าทางน่ารักน่าชังสมวัยมากกว่าอาการเกร็งเพราะต้องเจอหน้าแขกแก่ๆ แปลกหน้า” แอนนี่ขยิบตาให้มาเรี่ยน

หยุดยั้งอะไรคนแก่เอาแต่ใจไม่ได้แล้วจริงๆ มาเรี่ยนยิ้มกับตัวเอง รู้สึกโล่งใจที่ท่านย่าชอบเอฟเว่นและไปกันได้ดีมากกว่าที่คิด



คุยท้ายเรื่อง



ถูกส่งไปช่วยงานที่รังสิต ที่นั่นใช้คอมไม่ได้ต้องเขียนนิยายทางมือถือแล้วกลับมาอัพนิยายที่บ้าน งานเลิกดึกมาก

เลยต้องอัพนิยายเกือบจะวันใหม่เลยทีเดียว ถ้าเกิดว่ามีคำผิดเยอะอย่าแปลกใจนะคะ

ยังไม่ชินกับการพิมนิยายในมือถือ

ตอนหน้าเนื้อเรื่องจะกลับไปที่ดีทริชแล้ว ฝากติดตามด้วยนะคะ

 ถ้าคิดว่าชอบนิยายเราฝากแสดงความคิดเห็นด้วยน้า อยากรู็ว่าที่พิมไปมันดีไหม

ติชมได้แต่อย่าด่าแรงนะขอบคุณค่า

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ไปลุ้นคู่รักต่อ :katai2-1:

ออฟไลน์ mholic

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาอัพก็ดีใจแล้วค่ะ   :3123:

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คุณย่าคิดลองใจหลานสะใภ้หรอ แต่หนูเอฟเว่นน่ารักเสมอไม่น่ามีปัญหาอะไร

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
จะกลับไปที่ดีทริชละรึยังรู้สึกค้างนิดๆ กับคู่เอฟเว่น รอนะ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ท่านย่านี่แอบเอาเรื่องเหมือนกัน

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ท่านย่าแซ่บบบ

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
โอ้ย กำลังหัวร้อนกับเด็กน้อยแอนนี่ แต่พอรู้เป็นท่านย่าค่อยโล่งใจหน่อย แล้วก็ภาวนาขอให้มาเรี่ยนกับเอฟเฟ่นผ่านไปด้วยดีนะ ให้ได้เป็นคู่หมั้นกัน
     
ส่วนทริชนั้น... เราเอาใจช่วยให้รอดพ้นจากเงื้อมมือท่านโนเอลให้ได้นะ

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่16

รถคันหรูพาผ่านประตูรั้วเข้าสู่ภายใน เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่พาหนะซึ่งเขาโดยสารมาเคลื่อนผ่านป่ารกและอาคารต่างๆ

ภายในพื้นที่หลังประตูรั้วกินอาณาบริเวณกว้างเสียจนดีทริชไม่คิดว่านี่จะเป็นพื้นที่ใช้สอยของครอบครัวเดียว

ต้องร่ำรวยขนาดไหนกันนะถึงจะสามารถมีพื้นที่อันกว้างใหญ่ขนาดนี้ไว้ในครอบครองได้ ดีทริชสัมผัสได้ถึงความต่างทางชนชั้นระหว่างโนเอลกับตนแทบจะในทันที

“ถึงแล้วขอรับท่าน” คนขับรถเตือนให้ลงจากรถ ที่หน้าประตูคฤหาสน์มีคนในชุดเครื่องแบบยืนรออยู่

“นายท่านดีทริชสินะขอรับ เชิญทางนี้ขอรับ” ดีทริชคว้ากระเป๋าจะเดินตาม แต่มีคนมาช่วยถือไปเสียก่อน

“นายท่านให้ท่านดีทริชไปพักผ่อนรอนายท่านในห้องสันทนาการไปก่อนขอรับ หรือว่าท่านดีทริชจะไปรับประทานอาหารว่างก่อนที่จะร่วมรับประทานอาหารกับนายท่านก็ดีนะขอรับ”

“แล้วกระเป๋าของผม” ดีทริชมองตามกระเป๋าที่ถูกนำไป

“เราจะนำไปเก็บเอาไว้ให้ที่ห้องครับ”

“ถ้าอย่างนั้นผมควรจะไปรอในห้องที่ว่าสินะ เข้าใจแล้ว”

“กระผมเป็นหัวหน้าพ่อบ้านชื่อเดเรียสขอรับจะคอยรับใช้ดูแลท่านในเรื่องต่างๆ ตลอดเวลาที่ท่านดีทริชอาศัยอยู่ที่นี่” จากนั้นเดเรียสก็นำเขาไปจนถึงห้องสันทนาการ “อีกเดี๋ยวกระผมจะนำของว่างมาให้นะขอรับ”

ดีทริชถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวภายในห้องที่กว้างเกือบจะเป็นห้องประชุมได้ ภายในถูกแบ่งเป็นห้องเล็กๆ หนึ่งห้องเมื่อเข้าไปดูจะพบว่าเป็นห้องฉายภาพยนต์

ดีทริชกลับออกมาที่ด้านนอก ข้างนอกมีทั้งโต๊ะบิลเลียต เครื่องเล่นต่างๆ รวมไปถึงเปียโนหนึ่งหลัง ดูจากการจัดวางน่าจะมีไว้สำหรับให้เล่นอวดเพื่อนฝูงที่มาเยี่ยม

ดีทริชสามารถเล่นได้อยู่บ้าง แต่ระยะหลังร้างราไปนาน พอได้มาเห็นเปียโนสวยๆ หลังนี่ก็เกิดอยากรื้อฟื้นความจำ   

ดีทริชนั่งลงบนเปียโน มือเรียวเคาะแป้นไล่ตัวโน๊ตเป็นจังหวะก่อนจะเริ่มเล่นเพลงคลาสสิคที่มีชื่อเสียงในจูปิเตอร์

พอได้เล่นก็นึกถึงวันเก่าของตัวเองกับแม่ ดีทริชต้องหยุดเล่นเพราะเปียโนพังไปในปีที่แล้ว จะได้มีโอกาสแสดงฝีมือก็ต่อเมื่ออยู่ที่โรงเรียนเท่านั้น

“นายกำลังเล่นเปียโนของฉันอยู่นะเจ้าคนแปลกหน้า”

ดีทริชหยุดมือหันไปก็พบเด็กผู้หญิงผมสีเงินหน้าตาสวยงามคมคายดูแล้วคล้ายคลึงกับโนเอลห้าหกส่วน

น้องสาวของโนเอลหรือเปล่านะ?

“งั้นก็ขอโทษแล้วกัน” ดีทริชลุกจากเก้าอี้เปียโนแล้วเดินหนี ตั้งใจว่าจะกลับไปหมกตัวในห้อง

“เดี๋ยวนายเป็นแขกของท่านพี่หรือเดี๋ยวสิ” คนถามไล่ตามจะคว้าแขน แต่ทันทีที่แตะตัวมาดีทริชก็เผลอตอบโต้

“อ๊ายยยย!!” เด็กหญิงผมเงินหงายหลังจากแรงสลัดกะทันหันกระโปรงถูกถลกขึ้นมาจนเห็นชั้นใน

“เธอ…” จุดสายตาของดีทริชหยุดอยู่ที่กางเกงในสีหวาน ทว่าความนูนได้มิติบ่งบอกถึงเพศสภาพเจ้าตัวเป็นอย่างดี

“นายเป็นผู้ชายหรือ”

“ไม่นะ…” เด็กชายในชุดกระโปรงฟูฟ่องหวีดร้องก่อนจะรีบลุกขึ้นนั่งและจัดชายกระโปรงให้เขาที่

“เห็นแล้วสินะ” เจ้าตัวมองมาด้วยแววตาเคียดแค้นเนื้อตัวสั่นเทาบอกชัดว่าโกรธจัด

ช่วงชีวิตสิบสองปีที่ผ่านมาของเซซิลคนที่กล้าดูถูกซึ่งๆ หน้ามีไม่กี่คน นั่นเป็นเพราะบารมีของพี่ชายอย่างโนเอล ดังนั้นการที่เขามีเพศที่หนึ่งเป็นชายแต่ใจเป็นหญิงจึงไม่มีใครกล้าเอามาเป็นหัวข้อวิจารย์อย่างโจ่งแจ้ง

แต่ว่าใช่จะไม่มีคนพูดให้ได้ยิน หลายครั้งที่เซซิลคิดว่าตนเองเป็นจุดด่างพล้อยของพี่ชาย ยิ่งหลังจากตรวจเพศที่สองแล้วพบว่าเขาเป็นโอเมก้ายิ่งเป็นเรื่องน่าขายหน้า

ทั้งอย่างนั้นเพราะพี่โนเอลอีกนั่นแหละพวกคนในตระกูลจึงไม่มีใครกล้านินทาหรือตำหนิอีก มันทำให้ระยะหลังเซซิลลืมความเป็นจริงที่ตนเองแปลกประหลาดกว่าคนอื่นไป

การถูกทักเป็นว่าเด็กผู้ชายจากเจ้าคนแปลกหน้าในคฤหาสน์ที่เขาอาศัยอยู่กับท่านพี่ เป็นเหมือนการเตือนสติและตีแสกหน้าจนเซซิลกลับสู่ความเป็นจริง

เขาเป็นเด็กผู้ชายที่มีจิตใจเป็นหญิง คนรอบข้างมองว่าเป็นเรื่องที่น่าสมเพช ในฐานะน้องของโนเอลและลูกชายคนรองผู้สืบทอดอันดับสองของอลองโซเขาเป็นจุดด่างพล้อย

วันนี้ไอ้คนแปลกหน้าแสนหยาบคายล่วงเกินเขาอย่างรุนแรง ความเป็นเพศที่หนึ่งที่เขาพยายามปกปิดลืมมันไปโดยตลอด ถูกรู้เห็นด้วยวิธีน่าอับอายแถมไอ้นี่ยังใช้คำพูดทิ่มแทงให้รู้สึกหดหู่อย่างที่ไม่ได้เป็นมานาน

ชังน้ำหน้ารู้สึกแบบนี้ท่วมท้นจนอย่างจะชกอีกฝ่ายหลายๆ หมัด

“เซซิลไปทำอะไรที่พื้นน่ะ”

“ท่านพี่” ท่านพี่กลับมาจนได้ เซซิลเข้าไปออดอ้อนออเซาะเหมือนทุกครั้งที่เป็นมา

ดีทริชแทบไม่อยากเชื่อสายตา ที่ตรงหน้าโนเอลกำลังยิ้มอ่อนโยนทั้งยังใช้มือลูบหัวคนที่น่าจะเป็นน้องชาย

ประโยคสนทนาระหว่างพี่น้องก็ดูเหมือนการพูดคุยของครอบครัวทั่วๆ ไป แต่พอเป็นโนเอลดีทริชกลับเห็นว่าเป็นเรื่องพิลึกพิกล เจ้าหมอนี่มีมุมมองแบบนี้ด้วยเหมือนกันแฮะ

“ท่านพี่ ท่านพี่ต้องล้างแค้นให้เซซิลนะ” เซซิลชี้นิ้วมาทางดีทริช โนเอลใช้สายตายิ้มได้มองมา ดูเหมือนวาต่อหน้าน้องชายจะแสดงออกถึงความอ่อนโยนตลอดเวลา

“ท่านพี่ต้องลงโทษหมอนี่อย่างสาสมเพื่อน้องนะคะ”

ดีทริชเม้มปาก สงสัยว่าโกรธเกลียดตัวเองเพราะอะไร ใช้สมองคิดอีกซักหน่อยก็ได้ความว่า เพราะเขาเห็นกางเกงในของฝ่ายนั้นหรือเปล่า

“ดีทริชไหนลองเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังทีซิ” โนเอลเปิดโอกาสให้อธิบายแต่เซซิลร้องเสียงแหลม

“จะฟังเจ้านี่อธิบายทำไมละคะท่านพี่” โนเอลเอียงคอมองน้องชายก่อนจะคลี่ยิ้มอ่อนหวาน

“เซซิลดีทริชเป็นโอเมก้าของพี่ พี่ต้องให้ความยุติธรรมกับเขาสิ อีกอย่างความมีเมตตาและให้อภัย มันเป็นคุณสมบัติที่ดีของเลดี้ที่ดีอย่างหนึ่งนะ”

“ที่ท่านพี่พูดมาก็ถูก แต่เอ๊ะ” จู่ๆ เซซิลก็ขยุ้มมือไปที่แขนของโนเอล

“ที่ท่านพี่บอกว่าหมอนี่เป็นโอเมก้าของท่านพี่มันจริงหรือคะ”

โนเอลพยักหน้าแทนคำตอบ

“โถที่แท้แล้วก็พวกนางบำเรอโอเมก้า ท่านพี่เดี๋ยวนี้อนุญาตให้พวกนี้เขามาอยู่ในคฤหาสน์หลักแล้วหรือคะ น้องอึดอัดนะที่ต้องทนอยู่กับคนประเภทนี้”

“ถ้าอย่างนั้นพี่คงต้องขอร้องให้น้องยอมทน เพราะว่าคนคนนี้ไม่เหมือนคนอื่น”

เซซิลงุนงง ไม่เหมือนคนอื่นหรือว่ามีอะไรน่าสนใจกว่านั้น เขาใช้สายตาพินิจพิเคราะห์จ้องดีทริช

สิ่งแรกที่รับรู้ได้คือความสวยที่บาดตากว่าอะไรทั้งหมด เซซิลเกลียดนักพวกที่ใช้ร่างกายล่อลวงพี่ชายเพื่อผลประโยชน์ คนก่อนหน้านั่นยังไม่มีใครถูกพามารกหูรกตาเธอ

แต่เจ้าหมอนี่กลับสามารถ แสดงว่าลูกไม้มารยาต้องแพรวพราวที่สุด จริงสิตอนที่สลัดเธอจนล้ม คงตั้งใจทำให้เธอขายหน้าแน่ๆ

เจ้าโอเมก้าตัวร้าย

“ท่านพี่เซซิลหิวแล้วนะคะ”

“ถ้าอย่างนั้นเราไปทานอาหารกันนะคะ”

“ดีคะน้องหิ้วท้องรอท่านพี่ตั้งนานแล้ว” เซซิลคล้องแขนพี่ชายออกเดินแต่โนเอลยังไม่ขยับหันไปพูดกับดีทริช

“นายคงหิวแล้วสินะ เพราะอย่างนั้นไปทานอาหารค่ำพร้อมกันเลยดีกว่า”

ดีทริชตั้งใจจะปฏิเสธ แต่พอเห็นเซซิลตีหน้ายักษ์ ส่งสายตาเคียดแค้นมาก็ตัดสินใจจะเล่นตลกทำให้น้องชายของโนเอลคับข้องใจเล่น

ก็ไม่รู้ทำไมถึงเกิดความรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ กับน้องชายของโนเอล

“ท่านพี่ใจดีเกินไปแล้วนะคะ” เซซิลกระเง้ากระงอดใส่พี่ชาย

“แต่ถ้าท่านพี่ต้องการน้องก็ไม่ขัดหรอก” ว่าแล้วสองพี่น้องก็ควงแขนเดินนำไป หงุดหงิดกับความอ่อนโยนและรอยยิ้มของโนเอล คนอย่างหมอนี่มีรอยยิ้มที่ขัดกับภาพลักษณ์ปกติแบบนี้ได้เชียวหรือ



คุยท้ายเรื่อง



นึกว่าทำไมใ้เรามาช่วยที่รังสิต มาฝึกงานให้น้องใหม่ค่า อ่อยน้องชวนคุยตลอดแต่งแบบไม่ค่อยมีสมาธิเลย

ถ้าเนื้อเรื่องแปร่งคำผิดเยอะๆ อ่านแล้วประโยคงง ไม่ต้องแปลกใจนะ

เด๋วพรุ่งนี้ถ้ามีเวลาว่างพอแต่งจบตอนจะเอามาลงเวลานี้แหละค่า

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เซซิลช่างมโนจัง

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
สู้ๆนะคะ นู้สึกที่ลงล่าสุดนี้สั้นนี๊ดแต่มาเร็วก็โอเคค่ะ

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เด็กเซซิลนี่.....  :z6: นี่แน่ะ  :beat:

ทำเป็นรังเกียจ  :fire: ปั๊ดเหนี่ยวให้หรอก

เหมือนจะเป็นตัวมารอีกตัวหรือเปล่าเนี่ยทริช ชีวิตวุ่นวายแท้

ออฟไลน์ owlseason

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
นี่ว่าเด็กเชซิลไม่ใช่อุปสรรคของทริซ
อุปสรรคจริงๆ ยังไม่มาแน่เลยยยย
 :ling1: :ling1:
อยากให้ทริซโตเร็วๆ จัง

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่17

ดีทริชนั่งลงบนโต๊ะอาหารอันสวยงามอาหารที่นำมาวางเรียงรายก็หรูหราจนชวนตะลึง

“ไม่เคยกินละสิท่า ถ้าไม่รู้วิธีหยิบจับหรือใช้ช้อนจะแยกไปกินคนเดียวในครัวก็ได้นะ”

เซซิลเยาะหยันมั่นใจว่าดีทริชต้องมาจากบ้านป่าเมือนเถื่อนแน่เดาได้จากปฏิกิริยาตอบโต้ที่ไวเหมือนลิงกัง

ขณะเดียวกันโนเอลมองสบตามาดีทริชยิ้มกว้างจนดูเจิดจ้า เซซิลมองอย่างกังขาในใจค่อนแคะว่าทำเป็นยิ้มอยู่ได้ จนกระทั่งดีทริชแสดงวิธีการกินอันสมบูรณ์แบบให้ดู

เซซิลอ้าปากค้างท่าทางการกินของดีทริชดูเป็นผู้ดีอย่างมาก คิดอีกทีมันก็แน่ล่ะนางบำเรอที่พี่ถูกใจจะไม่รู้มารยาทได้อย่างไร

“เชอะก็ดีกว่าพวกแม่บ้านหน่อยหนึ่งแหละ”

ดีทริชอมยิ้มรู้สึกพึงพอใจนิดๆ ที่เป็นฝ่ายชนะ จริงๆ เรื่องมารยาทบนโต๊ะแม่สอนเขาตั้งแต่ยังเด็กแล้ว เหตุผลคือหากต้องถึงเวลาจะได้ไม่อับอายขายหน้า ระหว่างนั้นก็เผลอสบตาเข้ากับโนเอลอีกครั้งรู้สึกไปเองหรือเปล่านะว่าอีกฝ่ายทำสีหน้าชื่นชมเขาอยู่

“ถึงจะพอรู้มารยาทอยู่บ้างแต่พวกนางบำเรอก็คงไม่มีความรู้มากหรอกเนอะท่านพี่” เซซิลพูดจาฉอเลาะกับโนเอลก่อนจะหันมาตั้งคำถามดีทริช

“ได้เรียนหนังสือหรือเปล่าหะ นายทำประโยชน์อะไรได้บ้าง” เสียงพึมพำเบาๆ ท้ายประโยคแม้กระซิบแต่ตั้งใจให้ดีทริชได้ยิน “พวกนางบำเรอคงทำอะไรไม่เป็นหรอกเนอะ”

ดีทริชโกรธแต่ไม่ยักกะตีหน้าดุดัน เขายิ้มหวานให้โนเอลพลางร้องถามด้วยเสียงที่ฟังดูน่ารักอ่อนหวาน

“โนเอลผมยังต้องไปช่วยงานคาร์ลในฐานะผู้ช่วยเลขาหรือเปล่าครับ”

โนเอลยกยิ้มมุมปากรู้สึกสนุกที่ดีทริชประจบเอาใจ ทำไมจะไม่รู้ว่าเซซิลไม่ชอบดีทริช คงเกิดเรื่องอะไรซักอย่างระหว่างที่เขาไม่เห็น

ไม่มีความคิดที่จะสืบสาวเรื่องนี้เพราะไม่อยากดุด่าน้องชาย แล้วก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกำกับขีดเส้นการกระทำของดีทริช

เรื่องของพวกเด็กๆ หากยังไม่ร้ายแรงเขาจะนั่งดูเฉยๆ ที่จริงเขารื่นรมย์อย่างมากเมื่อดีทริชจงใจใช้คำพูดอ่อนหวานถึงแม้จะแค่เพื่อหาเรื่องเซซิลก็ตาม

“นั่นสินะ ช่วงก่อนหน้านั้นคาร์ลรายงานว่านายทำได้ดีจริงๆ” เซซิลมองโนเอลสลับกับดีทริชอย่างไม่อยากจะเชื่อ คนอย่างท่านพี่มีหรือจะยอมให้นางบำเรอเข้ามาก้าวก่ายในส่วนธุรกิจ เจ้าลิงกังนี่มีอะไรดีนะ

จะว่าไปคำพูดคำจากระเดียดไปทางดัดจริต คิดอีกทีคงใช้มารยายั่วให้ท่านพี่หลงใหล

เลวร้ายมากพี่ชายอยู่ในสถานะการย่ำแย่ที่สุด เพราะไม่เคยหน้ามืดตามัวขนาดนี้มาก่อน ทั้งยอมให้เข้าบ้านใหญ่ทั้งยอมให้ไปวุ่นวายกับงานที่ทำ

ในขณะที่เขาเป็นน้องแท้ๆ ถึงแม้จะขอเรียนรู้งานท่านพี่กลับบอกว่ารอให้โตกว่านี้เสียก่อน ความรู้สึกนี่มันช่าง

เซซิลกัดหัวแม่มือตัวเอง เด็กชายคิดว่านางบำเรอคนนี้เป็นภัยต่อพี่ชายที่เคารพไปโดยสมบูรณ์

“แต่ฉันจะให้นายพักงานไว้ก่อน ช่วงที่มาอยู่ที่นี่ฉันอยากให้นายเรียนเป็นเพื่อนเซซิล”

“อะไรนะท่านพี่” เซซิลใช้เสียงสูงกว่าปกติสีหน้าชัดเจนว่ารังเกียจคำสั่งนี้ของพี่ชาย ส่วนดีทริชนะหรือแสยะยิ้มร้ายๆ เซซิลหันไปมองแล้วสะดุ้งนิดๆ ก่อนจะถลึงตาให้

ไอ้ลิงกังกล้าใช้สายตาแบบนี้จ้องมาที่เขาเชียวหรือ

“เข้าใจแล้วครับโนเอล งั้นผมขอตัวก่อนนะครับผมอิ่มแล้ว”

โนเอลพยักหน้า ดีทริชสงสัยว่าอีกฝ่ายยอมปล่อยตัวเขาไปง่ายๆ ขนาดนี้เชียวหรือ แต่ก็ดีเหมือนกัน

“ผมจะนำท่านดีทริชไปที่ห้องเองขอรับ” หัวหน้าพ่อบ้านเดเรียสเดินนำดีทริชไปยังห้องส่วนตัว เมื่อไปถึงเขาก็ทิ้งตัวลงนอนแล้วหลับทันที

หนัก!! รู้สึกหนักอึ้งเหมือนมีอะไรกดลงมา เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าโนเอลใช้ร่างกายทาบทับบนตัวเขาอย่างแนบแน่น

“ทำอะไรนะ” ดีทริชตื่นตระหนก โนเอลใช้นิ้วจรดฝีปากตัวเองแล้วส่งเสียงดังชู่เป็นการบอกให้เงียบ

“ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ นายสัญญาแล้วนะ”

“ฉันสัญญาแค่ว่าจะไม่ร่วมรักกับนายไม่ได้หมายรวมถึงกอดจูบหรือลูบคลำนี่”

ดีทริชเม้มปากแน่นแล้วสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง คร้านที่จะโต้เถียงด้วยยังไงหมอนี่ก็จะทำตามใจชอบอยู่ดี

โนเอลหัวเราะเสียงต่ำต่อปฏิกิริยาจำยอมที่ไม่ได้มาจากใจจริง ใบหน้าน่ารักบูดเบี้ยวชวนให้นึกอยากจูบ ดังนั้นจึงใช้นิ้วเกี่ยวปลายคางบังคับให้หันมารับจูบ

“อื้อ…” ดีทริชเบิกตาโพลง ตื่นตัวระวังระไวเพราะกลัวว่าจะถูกทำมากกว่าจูบ แล้วก็จริงเสียด้วยมือไม้หยาบอยู่ไม่สุขลูบคลำไปทั่วเนินเนื้อ

“อื้อ…อึก…” ดีทริชพยายามไม่ร้องออกมาในตอนที่โนเอลขบริมฝีปากล่างของเขา ทำตัวเหมือนพวกสัตว์ชอบกัดชอบขบไปทั่ว เพราะหลังจากจูบจนพอใจก็งับลงมาเบาๆ ที่แก้มข้างขวา

“นายผอมมากเกินไป น่าจะกินมากอีกนิดให้แก้มยุ้ยๆ นุ่มๆ กว่านี้”

“นายชอบคนอ้วนหรือไง” ถ้าอย่างนั้นจะกินให้อ้วนฉุเลย คิดในใจและรู้สึกว่าความคิดนี้ดีเหมือนกัน โนเอลหรี่ตามองมา

“ถ้านายอ้วนจนดูไม่ได้ฉันจะลงแส่แห่งความเมตตา จับนายอดข้าวออกกำลังกายแต่ถ้านายดื้อแพ่งไม่ทำอีก เห็นทีคงต้องใช้แม่ของนายมาเป็นตัวประกัน”

ดีทริชกัดริมฝีปาก เกลียดการถูกบังคับ เกลียดที่ไม่สามารถตอบโต้โนเอลได้อย่างใจ

“กัดริมฝีปากอีกแล้วนะ” โนเอลใช้นิ้วนวดคลึงริมฝีปากดีทริชจนอีกฝ่ายต้องเลิกทำร้ายตัวเอง

“ฉันเป็นคนรักษาสัญญานะ แต่ที่ฉันพูดเอาไว้ชัดเจนแต่แรกไม่ใช่หรือ”

โนเอลใช้จมูกคลอเคลียแก้มนิ่มไปพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อของดีทริช

“อึก…” ดีทริชหลับตาแน่นทนดูภาพอนาจารของตัวเองไม่ไหว เพราะอย่างนั้นตอนที่โนเอลแตะลิ้นลงมาบนยอดอกจึงรู้สึกถึงรสสัมผัสอย่างชัดเจน

“อ๊ะ…” ดีทริชลืมตาจนได้ โนเอลยิ้มสมใจ ระหว่างสบตากันก็ลงมือบดบี้ส่วนสีชมพูอย่างสนุกสนาน

“แค่ปลุกเร้านิดหน่อยไม่ผิดสัญญาใช่ไหม” ดีทริชเม้มปากและถลึงตาใส่โนเอล

“อ๊ะ…หยุด…” ถูกดูดและเลียหนักๆ จนต้องใช้มือปิดปาก ดีทริชเสียวซ่านเขาชาหนึบตั้งแต่บริเวณที่ถูกขบกัดไปจนถึงปลายเท้าทีเดียว

“ชอบไหม” ดีทริชไม่ตอบแต่กัดฟันกรอดและใช้สายตาดุดันมองโนเอล

“แสดงว่ายังไม่ถึงใจสินะ” โนเอลยิ้มละไม “ถ้างั้นให้ฉันใช้มือกับข้างล่างด้วยดีไหม”

“มะ…ไม่เอา” คนอย่างโนเอลหรือจะฟังคำค้าน จัดการถอดล้วงควักเครื่องเพศน่ารักๆ ออกมานวดคลึง

“อื้อ…อึก…” สัมผัสของตัวเองเมื่อคราวก่อนเทียบกับครั้งนี้ไม่ติด ถึงแม้ในใจจะต่อต้าน แต่ร่างกายตอบสนองความสุขอย่างเต็มที

“ดูเหมือนนายจะชอบนะ”

“ก็..แค่..ร่างกาย…เท่านั้น..อึก…”

“แค่ร่างกายเท่านั้นสินะ” โนเอลหัวเราะเสียงต่ำก่อนจะจัดการกับเครื่องเพศของดีทริชหนักหน่วงกว่าเดิม

“อึก…” จะถึง…ดีทริชรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นในตอนที่ฝนแห่งราคะพรำลงมาเขาก็หมดแรงนอนหอบ รู้สึกดีจนคิดอะไรไม่ออกเลย

จนเมื่อดวงตาปรือปรอยสังเกตุเห็นความคับแน่นบริเวณเป้ากางเกงของโนเอลก็ขยับตัวกระถดหนีด้วยความหวาดเกรง

โนเอลใช้สายตาที่คาดเดาไม่ได้มองจ้องมา ดีทริชตัวแข็งทื่อ ทว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกฝ่ายหายเข้าไปในห้องน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง

ช่วยตัวเอง? มั่นใจว่าอย่างนั้นเขาได้ยินเสียงครางแผ่วๆ ในห้องน้ำ

อัศจรรย์ใจมากไม่คิดว่าจะได้เห็นคนอย่างโนเอลอดกลั้นจนต้องยอมช่วยตัวเอง

ไม่อยากจะเชื่อว่าจะรักษาสัญญา

ดีทริชใช้มือลูบหน้าตนเองรู้สึกอบอุ่นและโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เป็นความรู้สึกที่ไม่คิดว่าจะเกิดจากโนเอลแต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว

เสียงเปิดประตูทำให้ดีทริชตื่นตัว โนเอลยังอยู่ในสภาพเนี้ยบทุกกระเบียด อีกฝ่ายเดินไปหยิบกล่องบางอย่างที่หัวเตียง ดีทริชเพิ่งสังเกตุเห็น

“ของขวัญจากฉัน” โนเอลเปิดกล่องออก ดีทริชพบว่ามันคือปลอกคอสำหรับโอเมก้า

ดีทริชนิ่งเงียบปล่อยให้อีกฝ่ายจัดการสวมมันลงมาบนคอ ถึงแม้จะอยากต่อต้านก็ตาม

“นี่กุญแจ ฉันอนุญาตให้นายถอดออกแค่ตอนอาบน้ำเท่านั้น”

“ผมต้องขอบคุณไหมครับที่คุณอนุญาต” ดีทริชประชดประชัน โนเอลยิ้มละไมเป็นรอยยิ้มที่ชวนมองมากทีเดียว

“ฉันชอบที่นายพูดเพราะกับฉัน”

โนเอลลุกจากเตียงยืนเต็มความสูง

“พรุ่งนี้เดเรียสจะแจ้งตารางการเรียนและเรื่องต่างๆ ให้นาย ทำตัวให้ดีๆ เวลาที่ฉันไม่อยู่”

โนเอลออกจากห้องไป ดีทริชทิ้งตัวลงนอนมองดูกุญแจที่ใช้ปลดปลอกคอออก

ทั้งที่นึกว่าโนเอลจะเก็บมันเอาไว้เอง แต่กลับนำมันมาให้เขา จู่ๆ มาทำใจดีด้วยแบบนี้ บอกตรงๆ ตั้งตัวไม่ทัน

แถมนึกว่าช่วงที่อยู่คฤหาสน์จะถูกจัดการถึงขั้นเด็ดเพราะแต่ไหนแต่ไรก็คิดว่าโนเอลคงไม่รักษาสัญญา

ถูกกอดจูบลูบคลำอย่างหยาบโลนแบบนี้ใช่ว่าจะชอบแต่ยังดีกว่าถูกข่มขืนมาก ทั้งอย่างนั้นดีทริชก็ไม่ลดความระแวง

การเล้าโลมอย่างหนักหน่วงแบบนี้ถ้าทำบ่อยๆ ครั้งเข้าก็ไม่แน่ซักวันโนเอลอาจจะอยากผิดสัญญาก็ได้ใครจะรู้

รู้สึกเครียดอย่างบอกไม่ถูก แต่ดีทริชคิดว่าจะให้ความอ่อนแอครอบงำตัวเองมากเกินไปไม่ได้ เรื่องที่ตนเองเป็นโอเมก้ายังทำใจยอมรับยังผ่านมาได้

“เราต้องเข้มแข็งขึ้นอีก”

ดีทริชนึกถึงคำพูดของโนเอล ฝ่ายนั้นบอกว่าถ้าเกิดเป็นตัวเองจะหาผลประโยชน์ให้มากที่สุด

หรือว่าเราควรจะคิดแบบนั้นให้ได้กันนะ

ดีทริชเหม่อมองไปข้างหน้า นานทีเดียวกว่าจะตัดสินใจนอนหลับอีกครั้ง



คุยท้ายเรื่อง

วันนี้วันเกิดเราเองค่า พรุ่งนี้เลยว่าจะพักแต่งซักหน่อยแล้วไปเที่ยวได้หยุดทั้งทีเนอะ

แต่หายไปไม่นานน้า เด๋วจะกลับมาแต่งต่อ

ถ้าชอบช่วยแสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
 :hao6:ฟินนิดๆ

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
สุขสันต์วันเกิดนะคะ ^^

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
รำคาญเซซิลอ่ะตอนนี้บอกเลย

แล้วสงสัยคงต้องรำคาญไปอีกนานแน่ๆ จนกว่านางจะดีกับทริช

ป.ล. สุขสันต์วันเกิดนะคะ  :กอด1: มีความสุขมากๆน้า :mew1:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะค๊า

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
พึ่งมาตาม คู่แอฟเว่นนี่แนวใสๆเลยนะ ใสจริงหรือเปล่าาา(?) แหมๆมีการมาจองตัวไว้ตั้งแต่ยังไม่รู้เพศรอง :hao3: ส่วนคู่ดีทรีทนี่ปนโหมดดาร์ก :laugh: แต่เค้าก็แอบสุภาพบุรุษ(?) อยู่หน่อยๆ ติดตามๆ :3123:
ปล.1 งงในตอนแรกว่าราชินีปีศาจขึ้นครอง แต่ดันมีชายา :m28: อย่างงั้นไม่ใช่ราชาปีศาจหรอ หรือยังไง ไม่มีการกล่าวถึงราชา :m28:

ปล.2 แฮปย้อนนะคะ มีความสุขมากๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ owlseason

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สุขสันต์วันเกิดนะคะ เที่ยวให้สนุกน้าาาาา
 :mew3: :mew1:


ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่18

ดีทริชลืมตาตื่นตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่สว่าง เพราะเป็นคนกระฉับกระเฉงจึงรีบอาบน้ำเพิ่มความสดชื่น รู้สึกกระปรี้กระเปร่าสุดๆ แค่ช่วงเวลานี้เท่านั้นที่จะลืมความไม่สบายใจไปได้

หลังจากแต่งตัวเสร็จได้ยินเสียงเคาะประตูสามครั้ง “ใครครับ”

“เดเรียสเองขอรับท่านดีทริช นายท่านโนเอลให้มาเชิญไปรับประทานอาหารเช้า”

นี่พึ่งหกโมงเช้าเองแถมตรงเป๊ะ

“ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ” ดีทริชออกไปนอกห้อง เดเรียสเดินนำพาเขาไปยังห้องอาหาร ที่นั่นโนเอลกับเซซิลนั่งรออยู่แล้ว

“มาแล้วหรือ นั่งลงสิ” โนเอลสั่ง

ดีทริชทำตามเพราะเริ่มหิวแล้วเหมือนกัน ปกติเวลาอยู่ที่บ้านเขาตื่นเช้าอย่างนี้เป็นประจำเพราะต้องช่วยแม่ซักผ้าให้ลูกค้า กิจวัตรประจำวันของเขามักจะรีบกินรีบทำงานเพื่อให้มีเวลาว่างช่วยเหลือแม่มากที่สุดเท่าที่ทำได้

“ตื่นเช้าดีเหมือนกันนี่”

“นายเองต่างหาก ฉันนึกว่าพวกคนมีเงินจะตื่นสายกันมากกว่านี้เสียอีก”

“เสียมารยาท” เซซิลตอบโต้เมื่อรู้สึกไม่พอใจ “นายพูดเหมือนฉันกับท่านพี่เป็นพวกขี้เกียจ แล้วอีกอย่างนายอย่ามาตีเสมอเรียกนายเรียกฉันกับท่านพี่ ต่ำต้อยกว่าก็ควรจะสำนึกบ้างนะ”

ดีทริชยิ้มกว้าง เลือกที่จะไม่สนใจเซซิล โนเอลเองก็เหมือนกันสองคนพูดคุยกันโดยทำเมินเสียงงุ้งงิ้งของบุคคลที่สาม

“ฉันมีงานมีการต้องทำไหนจะต้องไปเรียนให้จบในระดับมหาวิทยาลัยอีก ถึงแม้จะไม่ต้องเข้าเรียนเลยแต่ก็มีหลายเรื่องที่ทำให้ต้องเยี่ยมหน้าไปเข้าคลาสบ้าง”

ดีทริชเผลอทำช้อนหล่นจากมือ มองหน้าคนพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ “นายยังไม่แก่อย่างนั้นหรือ อายุเท่าไหร่กันแน่” จะว่าไปก็คิดอยู่เหมือนกันว่าโนเอลดูอ่อนเยาว์แต่ด้วยนิสัยเจ้าเล่ห์และรัศมีกดดันที่แผ่ออกมาตลอด เลยทำให้คิดไปว่าน่าจะอายุมากแล้วเพราะพวกปีศาจมักมีรูปลักษณ์กับอายุสวนทางกัน

“เสียมารยาทอีกแล้วนะ” เซซิลตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน “ท่านพี่พึ่งจะอายุ17ปีเท่านั้นเอง” ดีทริชนิ่งงันไม่คิดว่าจะอายุเพียงแค่นี้เท่านั้น โนเอลหัวเราะเบาๆ

“นายคิดว่าฉันอายุเท่าไหร่” ในเมื่อท่านพี่ยังใจเย็นอยู่ได้เซซิลเลยต้องเก็บอาการ เด็กชายในชุดกระโปรงฟูฟ่องนั่งลงด้วยท่าทางฮึดฮัด

“ซัก40ถึง50อะไรทำนองนี้” ดีทริชยักไหล่อย่างไม่ยี่หระก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานอาหารตรงหน้าต่อ เซซิลเคี้ยวฟันกรอดๆ ชักไม่ชอบเจ้าลิงกังนี่มากขึ้นไปทุกทีแล้วนะ ท่านพี่เองก็เถอะทำไมถึงไม่โกรธเลย ถูกกล่าวหาว่าแก่ขนาดนั้น

“แสดงว่าฉันดูทรงภูมิและมีอำนาจเกินอายุสินะ” เซซิลเริ่มจะเห็นด้วยเปลี่ยนอารมณ์พยักหน้าเออออกับพี่ชาย

“เจ้าเล่ห์หื่นกามเหมือนลุงโรคจิตด้วยนะ” ดีทริชเสริมส่วนที่ขาดไปให้อีกนิด เซซิลเออออตามน้ำแต่พอคิดตามอย่างละเอียดก็แยกเขี้ยวโวยวายจะเอาเรื่องให้ได้

“ดูสิท่านพี่ ดูความไร้มารยาทของเจ้าหมอนี่” โนเอลยิ้มหวานให้เซซิล

“เซซิลถ้าเราถือสาคนที่ด้อยกว่าไปทุกเรื่อง จะอกแตกตายเปล่าๆ นะ” เซซิลทำท่าไม่เห็นด้วย แต่คิดอีกทีคำว่าด้อยกว่าไปทุกเรื่องโดนใจสุดๆ จึงอารมณ์ดีขึ้นทันที

“นั่นสินะถือสาคนด้อยกว่าน่าอายจะตายไป” เซซิลยิ้ม โนเอลส่ายหน้าไปมาเบาๆ น้องชายของเขายังต้องเรียนรู้สังคมอีกมาก

“แต่...ถ้าเลดี้อย่างน้องไม่ระวัง คนด้อยกว่าที่มีความพยายามก็จะวิ่งนำหน้าน้องไปอย่างรวดเร็ว อย่าลืมข้อนี้ไปเสียล่ะ”

ดีทริชแสยะยิ้มเซซิลหันมาเห็นอีกแล้ว บอกตามตรงรอยยิ้มแบบนี้ชวนผวาเป็นที่สุด เจ้าลิงกังนี่ต้องมาจากองค์กรมืดที่ไหนซักแห่งแน่ๆ รอยยิ้มไม่ต่างจากฆาตกรซักนิด

สำหรับดีทริชแล้วตั้งใจให้เซซิลเห็นรอยยิ้มเหมือนสัตว์นักล่าอย่างนี้ ทีแรกอาจเป็นเพราะสะใจที่ตอบโต้น้องของโนเอลได้ แต่ครั้งที่สองเขาทำเพื่อขู่เนื่องจากคราวก่อนสาวดุ้นคนนี้แสดงสีหน้าหวาดเกรงเสียจนน่ารังแก

หลังจากทานอาหารเสร็จ โนเอลก็ตรงออกจากคฤหาสน์แต่ก่อนจะได้ไปเซซิลพูดจาร่ำลาพี่ชายอย่างอ้อยอิ่ง ทำราวกับอีกฝ่ายไปแล้วไปลับอย่างไรอย่างนั้น

“มองอะไร” เมื่อโนเอลออกไปแล้วเซซิลหันมาทำตาขวางใส่ดีทริช เขาทำแค่ยิ้มบางๆ แต่เซซิลกลับเห็นเป็นรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์

“ยิ้มให้พอก็แล้วกัน ฉันอยากจะรู้ว่าจะยิ้มได้อีกนานแค่ไหน”

แน่ล่ะถ้าต้องมาเรียนแบบที่เธอเรียนทุกอย่าง พวกที่ด้อยกว่าอย่างเจ้าลิงกังนี่ต้องลำบากแน่ เพราะก็ไม่น่าจะได้สัมผัสสิ่งเหล่านี้คิดแล้วก็อารมณ์ดีขึ้นทันตา อยากจะเห็นท่าทางน่าเกลียดๆ ของเจ้านี่เต็มทีแล้ว

“คุณหนูเซซิล ท่านดีทริช อาจารย์สอนพิเศษรออยู่แล้วขอรับ”

“ดีมาก รออยู่นานแล้ว” เซซิลฮึกเหิมกว่าทุกวัน การได้เห็นคนขายขี้หน้าคงสนุกแน่ๆ ทว่ามันดันไม่เป็นอย่างที่คิด

วิชาช่วงเช้าคือการเรียนเปียโน ก็คิดอยู่หรอกว่าเจ้าลิงกังน่าจะทำได้ เพราะเจอกันครั้งแรกหมอนี่เล่นเปียโนอยู่ในห้องสันทนาการ แต่ว่านี่มันดีเกินคาดไปไหม

“เยี่ยมๆ มาก” เมื่อดีทริชเล่นทำนองตามโน๊ตที่ได้รับไป ถูกชี้แนะแค่ไม่กี่ครั้ง ครูสอนดนตรีที่แสนจะเข้มงวดก็เอ่ยชมไม่ขาดปาก แบบนี้มันไม่น่าเชื่อซักนิด

ไม่หรอกวิชาต่อไปคือการขี่ม้า เจ้าลิงกังนี่ต้องไม่เคยขี่ม้าแน่ๆ คนทั่วไปไม่สนใจของพวกนี้กันหรอก มีแต่ชนชั้นสูงเท่านั้นที่จะเรียนกัน เซซิลหมายมั่นจะเยาะเย้ยดีทริชแต่ก็เหมือนจะคาดไม่ถึงอีก

เจ้าลิงกังขี่ม้าได้ บ้านี่มันบ้าชัดๆ แถมในขณะที่เธอยังต้องขี่ม้าแคระไปก่อน เจ้าหมอนี่ดันได้ขี่ม้าจริงวิ่งควบไปทั่วอาณาเขตของตระกูลอลองโซ แต่มันไม่จบแค่นี้หรอกยังมีวิชาป้องกันตัวอีก มั่นใจว่าคนอย่างดีทริชคงรู้จักแค่มวยวัดเท่านั้นแหละ

แล้วก็จริงเสียด้วยหมอนี่ไม่เคยได้เรียนอะไรทำนองนี้มา แล้วมันอะไรวะ!! ทำไมเจ้านี่ถึงเรียนรู้ไวนักจับเธอเหวี่ยงลงไปกองที่พื้น ทั้งที่ก่อนหน้านั้นยังถูกเธอล็อคทุ่มไปมาอยู่เลย

ไม่ยอมแพ้หรอกนี่ถ้าเป็นเรื่องเรียนยังไงเธอก็ต้องชนะอยู่แล้ว ทว่าพวกวิชาทางวิชาการเจ้าลิงกังก็แสดงความสามารถออกมาได้อย่างงดงาม

นี่มันไม่ใช่ลิงกังอย่างที่คิด เซซิลไม่กล้าดูถูกดีทริชอีก แต่เริ่มมองอย่างประเมินเสียใหม่ ความคิดที่ว่าอีกฝ่ายเหมือนลิงกังถูกปัดทิ้งไปจนหมด

               ดีทริชรู้สึกสนุกวันนี้เขาได้ทำกิจกรรมหลายอย่างที่ไม่ได้ทำมานาน อย่างเช่นเล่นเปียโนหรือขี่ม้า ทั้งสองอย่างนี้แม่ของเขาฝึกมาให้ตั้งแต่ยังเด็ก ยกเว้นวิชาการต่อสู้บางชนิดเรื่องชกต่อยแม้เขาจะทำได้ดี แต่ไม่เคยเรียนตามแบบแผนซักครั้ง นี่คือครั้งแรกเลยจึงรู้สึกขอบคุณโนเอลอย่างจริงจัง หากฝ่ายนั้นไม่เจ้ากี้เจ้าการคงไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ฟรีๆ แน่

               หลังจากนั้นยังมีวิชาว่ายน้ำและวาดภาพ ฝีมือวาดภาพของดีทริชไม่ขี้เหร่เพราะมีเอฟเว่นที่เชี่ยวชาญด้านนี้คอยชี้แนะบ่อยครั้ง โดยรวมแล้วเป็นการใช้เวลาทั้งวันจนคุ้มค่า หากเป็นอย่างนี้ไปจนครบกำหนดคงจะดีมากทีเดียว ใครล่ะจะไม่ชอบเรียนรู้เพิ่มประสบการให้ตัวเอง

               “คุณหนูเซซิล ท่านดีทริช นายท่านโนเอลกลับมาแล้วขอรับ นายท่านให้ท่านดีทริชไปรอที่ห้องทำงาน ส่วนคุณหนูนายท่านต้องการพบหน้าตอนนี้เลยขอรับ”

               ดีทริชมองตามเซซิลวิ่งออกไปอย่างกะตือรือร้น ส่วนตัวเองเดินตามเดเรียสไปยังห้องทำงานของโนเอล เขารออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงอีกฝ่ายก็เข้ามาในห้อง

               “รอนานแล้วหรือ”  โนเอลเดินไปนั่งเก้าอี้นวมไม่ห่างไปจากดีทริช

               “นายมีอะไรจะพูดกับฉันงั้นหรือ” ดีทริชก็น่าจะเดาได้ คงอยากถามความคืบหน้าในการเรียนวันนี้ แล้วก็คนหื่นกระหายอย่างโนเอลคงไม่พ้นอยากหาเศษหาเลยกับร่างกายของเขา

               “วันนี้สนุกไหม” ไม่จำเป็นต้องโกหก ดีทริชตอบไปตามตรง

               “ฉันสนุกมาก” โนเอลเคลื่อนกายเข้ามาหาวางมือเท้าคร่อมบนแขนเก้าอี้ปิดกั้นการหลีกหนีของดีทริชที่นั่งอยู่ตรงนั้น

               “ฉันดีใจที่นายสนุก ถ้าอย่างนั้นควรให้สิ่งตอบแทนฉันนะ”

               “จำเป็นต้องให้ด้วยหรือ”

               “นั่นสิ” โนเอลยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าไม่มีอาจถูกพรากความสนุกแล้วแทนที่ด้วยอย่างอื่น”

               ดีทริชเบ้ปาก นึกอยู่ว่าอาจจะมาไม้นี้

               “นายสัญญากับฉันแล้วนะ”

               “ก็บอกแล้วว่านอกจากร่วมรักฉันมีสิทธิ” กล่าวจบโนเอลก็หอมแก้มดีทริช ทีแรกนึกว่าจะจูบปาก แค่หอมแก้มแบบนี้มันจั๊กจี้ยังไงไม่รู้ จากนั้นอีกฝ่ายก็อุ้มเขาขึ้นแล้วจับนั่งตักปล่อยให้ทำตามใจชอบเพราะยังไงก็ขัดขืนไม่ได้อยู่แล้ว

               “นายไม่คิดจะลองล่อลวง ใช้ประโยชน์จากฉันหน่อยหรือ บางทีอาจจะดีกว่าการถูกบังคับก็ได้นะ”

               “หมายถึงให้ยั่วยวนด้วยร่างกายสินะ ทำไมฉันจะต้องเอาตัวเข้าแลกขนาดนั้น”

               “นั่นเพราะว่าเป็นหนทางเดียวที่เลือกได้และนายจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ยังไงล่ะ”

               “อย่างเช่นว่า...”

               “นั่นสินะ” โนเอลใช้หัวแม่มือคลึงริมฝีปากของดีทริช “ต้องบอกว่าแล้วแต่ความโลภของนาย”

               ดีทริชนิ่งคิด หากว่าต้องทุ่มเทร่างกายขนาดนั้นเขาเองก็คาดหวังเอาไว้สูง บอกตามตรงโนเอลไม่มีข้อด้อยตรงไหนซักนิด เพียบพร้อมทั้งหน้าตาฐานะ ถ้าเกิดขัดขืนไม่ได้ไม่มีหนทางเขาก็อยากจะลองวิ่งไปข้างหน้าให้สุดทางเหมือนกัน

               “ถ้านายสาบานว่าจะมีฉันแค่คนเดียว ฉันจะยอมมอบร่างกายของฉันให้นายก็ได้”

               พูดออกไปจนได้ ดีทริชนิ่งงันเพราะจู่ๆ โนเอลก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง หลังจากเงียบลงอีกฝ่ายใช้แววตาที่ราวกับจะยิ้มได้มองมา

               “ใช่ว่าจะไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับฉันมาก่อน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการเรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไม่มีใครที่พูดจากใจจริงซักคน”

               “แต่ฉันพูดจริง” โนเอลยิ้มรอให้ดีทริชพูดต่อ “ถึงแม้ว่าฉํนจะไม่มีโอกาสต่อรอง แต่ได้ลองพูดมันก็ดีเหมือนกัน”

ดีทริชยักไหล่ ก็รู้อยู่แล้วมันเป็นไปไม่ได้ แต่แค่ได้พูดจากใจจริงก็นับว่าคุ้มเหมือนกัน

               “นายเป็นโอเมก้าคนแรกที่ฉันยอมเสียเวลาขนาดนี้” โนเอลนิ่งคิด

 ทีแรกเพราะแรงดึงดูดมหาศาลจากการเป็นคู่ในพรหมลิขิคเขาเชื่ออย่างนั้น แต่ว่าคิดดูแล้วระยะเวลาสั้นๆ ดีทริชทำให้เขาตื่นเต้นได้ตลอด เขาไม่เคยกะตือรื้อร้นที่จะเข้าหาใครมากขนาดนี้มาก่อน

               “คิดๆ ดูแล้วข้อเสนอเมื่อครู่ก็ไม่แย่นัก ถึงแม้จะรู้สึกเสียเปรียบมากก็ตาม”

               “นายไม่มั่นใจสินะว่าจะมีฉันแค่คนเดียวได้”

               “แล้วนายมั่นใจได้ยังไงว่าถ้าสาบานแล้วฉันจะทำตามที่พูด”

               “ไม่มั่นใจอะไรทั้งนั้นแหละ แต่คิดว่าถ้าต่างคนต่างรักกันอย่างมาก การที่จะมีคนอื่นเข้ามาแทรกมันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้”

               “แล้วนายรักฉันหรือยัง” โนเอลกระซิบข้างหู

               “ไม่” ดีทริชตอบได้ในทันที “แต่ ถ้านายสาบานว่าจะรักฉันคนเดียวฉันจะตอบแทนอย่างเท่าเทียม”

               “ก็ต้องดูกันว่านายมีความสามารที่จะให้ฉันรักนายจนไม่อยากมีคนอื่นได้อีกไหม เริ่มจากอะไรดีล่ะ เราสองคนมาลองคบหาเป็นคนรักกันดูดีไหม”

               “คนรักแบบไหน แบบที่ยังไงนายก็จะบังคับกอดจูบลูบคลำอยู่ดีใช่ไหม” โนเอลหัวเราะเสียงต่ำ

               “คนรักเขาก็ทำกันอย่างนั้นไม่ใช่หรือ เพียงแต่ฉันจะให้เกียรตินายมากกว่าเดิม แล้วก็ตามสัญญาเดิมฉันจะไม่ร่วมรักกับนายในช่วงนี้”

               “นายบอกว่าจะให้เกียรติอธิบายเป็นรูปธรรมทีสิ”

               “ตั้งแต่นี้ไปนายจะไม่ใช่โอเมก้านางบำเรอของฉันอีก ทุกคนจะรู้ว่านายเป็นคนรักของฉัน ฉันจะตามใจนาย ให้เกียรตินายเท่าที่ฉันจะทำได้” ดีทริชนิ่งอึ้ง ไม่นึกว่าโนเอลจะกล้าพูดแบบนี้ออกมา

               “แน่ใจนะ” ดีทริชมองหาคำโกหกจากแววตาของโนเอล แต่กลับพบแค่แววตาที่ราวกับจะยิ้มแค่นั้นเอง

               “ที่รักยังไม่รู้อีกหรือว่าฉันคลั่งไคล้นายจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเองแล้วนะ”

               เป็นตามที่พูดจริงๆ ขนาดโนเอลยังตกใจกับความยึดติดของตัวเอง ถึงขนาดที่ว่าเลือกจะเมินเฉยน้องสาวที่เขาแสนเอ็นดูแล้วเอาอกเอาใจดีทริชมากกว่า

               กลิ่นของเซซิลโชยตลบจนรู้สึกได้สำหรับอัลฟ่าที่เป็นปิศาจซึ่งจมูกไวมากเป็นพิเศษอย่างเขาการจะแอบหลบซ่อนไม่ใช่เรื่องเป็นไปได้เลย แม้จะรู้ตัวว่าน้องสาวแอบฟัง ถึงจะมั่นใจว่าการเชิดชูดีทริชจะทำให้น้องไม่พอใจ แต่โนเอลก็ยังเลือกเมินเฉย

เป็นครั้งแรกเลยที่เขาให้ใครอื่นมาเบียดบังความสำคัญของน้องรัก ลืมเลือนแม้กระทั่งความน่าจะเป็นไปได้ของการต่อต้านอย่างหนักจากเซซิลที่ควรจะเกิดขึ้น นั่นก็เพราะเป็นการวางเดิมพันที่โนเอลรู้สึกว่ามันคุ้มที่จะทุ่มทุนลงไป


คุยท้ายเรื่อง

พยายามจะเขียนให้ยาวขึ้นแต่ยังได้เท่านี้เองค่ะ ที่สำคัญกลัวจะน้อยกว่าปกติเพราะนั่งเขียนในมือถือมันจอเล็ก

ถ้าเจอคำผิดประโยคงงให้อภัยเรานะ

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจให้เราบ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ ส่วนเรื่องเนื้อหานิยายที่สงสัย

เราจะค่อยๆ หาวิธีแก้ปมเฉลยไปทีละนิดค่ะ ถ้ามีจุดงงชีแนะได้นะคะ แต่อย่าด่าเราเลย

เราขี้ใจน้อย ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เป็นคนรักกันแล้ววั๊ย :katai3:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
หลงหนักมากกก

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
เป็นกำลังใจให้นะคะสู้ๆ  เราตามอ่านตลอดเลยค่ะ แต่ไม่ได้เม้นขออนุญาตบอกนะคะ จริงๆเข้าใจนะว่าคนเขียนอยากได้คอมเม้นเป็นฟีทแบล็ก   แต่ก็มีหลายตอนเลยที่เราเองก็ไม่ได้เม้นอะไร  เพราะเป็นช่วงติดตามเนื้อเรื่องไปซึ่งแต่ละตอนมันค่อนข้างสั้น เหตุการณ์เลยมีไม่มาก ตอนอ่านอารมณ์มันก็จะเรื่อยๆ ปกติเวลาเม้นก็จะวิารณ์เหตุการณ์ ปม เนื้อเรื่องไรแบบนี้ แต่ด้วยความที่สั้นเลยทำให้เหมือนต้องอ่านไปสักพักแล้วรวมๆเม้นอะค่ะ  เวลาเห็น talk ท้ายตอนแล้วก็อยากจะเม้นมากเลยนะคะแต่เราไม่มีประเด็นเลยค่ะ บางทีอาจจะต้องแบบทิ้งเหตุการณ์น่าสนใจชวนสงสัย นิดๆหน่อยๆในเเต่ละตอนเพื่อที่คนจะได้รู้สึกแบบเห้ยย จะเป็นยังไงต่อนะ อยากรู้ว่ะ ไรแบบนี้ค่ะ  ส่วนตัวเราตามอ่านตลอดเพราะรอปมใหญ่ของเรื่องที่ปูไว้ค่ะ  เพราะอันนั้นน่าสนใจจริงๆ ซึ่งหลายคนอาจจะรอให้แต่งได้หลายๆตอนเเล้วค่อยอ่านก็ได้นะคะ  คอมเม้นเลยอาจจะยังไม่ค่อยมี ตอนนี้อยู่ในช่วงเรื่อยๆอะค่ะ

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
มาไวมากกกกกก ยังไม่ทันอ่านก็ออกตอนใหม่ละ55555

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
รีบมาต่อน้า

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
น้องสาวคงจะไม่เท่าไหร่ใช่ไหม

ออฟไลน์ owlseason

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
แบบนี้ต้องหาคนมาช่วยคุมคุณน้องสาวแล้วสินะ
 :hao7:

ทริซเนี่ยเก่งสุดยอดไปเลย โตขึ้นกว่านี้อีกนิดต้องเนื้อหอมสุดๆ แน่ๆ เลยค่ะ

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่19

               “ฉันตกลง” ทันทีที่ดีทริชตอบตกลงคบหากันเป็นคนรัก โนเอลก็คลี่ยิ้มออกมา

               “แล้วอย่าลืมละว่านายสัญญาจะให้เกียรติฉัน”

               “แน่นอนถึงแม้ว่าจะรู้สึกเสียเปรียบมากก็ตาม”

“และ...ตอนนี้ฉันอยากใช้เวลาส่วนตัวตามลำพังที่ห้องของฉัน” ดีทริชเริ่มทดสอบว่าโนเอลจะตามใจเขาได้มากแค่ไหน

               “ได้สิฉันจะไปส่งนายที่ห้อง” ก็เป็นตามโนเอลพูดอีกฝ่ายมาส่งถึงหน้าห้อง แต่ทันทีที่ดีทริชจับลูกบิดประตูก็คว้าจับมือของเขา เด็กชายหันไปมองหน้าเป็นเชิงถามว่าต้องการอะไร

“ฉันขอจูบได้ไหม”

               “นายบอกว่าจะให้เกียรติฉัน ถึงเป็นคนรักกันก็ต้องให้คนรักยินยอมพร้อมใจสิ” โนเอลยิ้มก่อนดึงมือดีทริชไปแล้วจุมพิตที่หลังมือเบาๆ

“นายทำตัวเหมือนหญิงสูงศักดิ์เลยนะ” โนเอลไม่ปล่อยมือดีทริชง่ายๆ เขาลูบคลึงมันไม่เลิก

               “อีกเดี๋ยวจะเป็นเจ้าหญิงด้วย ปล่อย” โนเอลปล่อยมือง่ายๆ ทีแรกนึกว่าจะดึงดันเอาแต่ใจกว่านี้เสียอีก กลายเป็นว่าดีทริชต้องมองดูแผ่นหลังอีกฝ่ายเดินจากไป

รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่เดาการกระทำของโนเอลผิดไป แต่ดีทริชปัดความคิดนั้นทิ้งรีบกลับเข้าห้องส่วนตัว ภายในห้องมีโทรทัศน์พร้อมเครื่องเสียงชุดใหญ่ เขานึกอยากดูข่าวจึงกดปุ่มบังคับ ทันทีที่เครื่องฉายภาพก็ได้ยินรายงานข่าวที่ชวนให้สนใจ

นักข่าวสาวรายงานข่าวเกี่ยวกับเด็กชายเพศเบต้าถูกอัลฟ่าซึ่งเสพยาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโอเมก้ารุมข่มขืน มีเรื่องบ้าๆ แบบนี้ด้วย ดีทริชเวทนาเหยื่อ แต่แค่จนถึงได้ยินชื่อผู้ถูกกระทำเท่านั้น เมื่อรู้ว่าคนคนนั้นคือไรอันจิตใจก็เยือกเย็นเป็นน้ำแข็ง

ไม่ใช่เรื่องของเขา ดีทริชไม่มีทั้งความเวทนาทั้งสมน้ำหน้า มีความแค้นด้วยกันอยู่ก็จริงแต่ไม่เคยคิดล้างแค้น เขาไม่ได้เป็นพ่อพระที่จะให้อภัยแต่ก็ซักเสี้ยวเดียวก็ไม่มีความสงสาร

 ดีทริชนั่งดูข่าวต่อไปแวบหนึ่งนึกถึงคำพูดของโนเอล ที่ว่าจะจัดการคนที่รังแกเขาให้สาสม

“ไม่น่าแค่บังเอิญเท่านั้น” ทว่าคนที่เป็นข่าวต่อไปดันเป็นแฟรงค์ นักข่าวสาวรายงานว่าจับแก็งค์ลักเล็กขโมยน้อยได้ที่เป็นข่าวใหญ่โตเพราะคนขโมยเป็นลูกคนมีหน้ามีตา

               จะว่าไปคิดแล้วก็ประหลาด ปกตินักข่าวจะปกปิดชื่อเหยื่อถูกทำร้ายและถึงจะเป็นคนผิดถ้าเป็นเยาวชนจะไม่มีทางหลุดชื่อออกมาแน่นอน ถ้าไม่เป็นเพราะถูกกลั่นแกล้ง

               ฝีมือโนเอลหรือ?

               ดีทริชปิดโทรทัศน์ เขาไม่สนใจซักนิดเรื่องที่ถูกกลั้นแกล้งเอายาไปซ่อนนั่นเขาก็ทำพลาดเอง ถ้าจะล้างแค้นมันควรจะเป็นเขาตะบันหน้าไรอันด้วยตนเองมากกว่า โนเอลมาลงมือโดยพละการแบบนี้ นอกจากไม่รู้สึกขอบคุณแล้วยังเฉยชาอีกด้วย จะทำอะไรกันก็แล้วแต่อย่าทำให้เขาเดือดร้อนด้วยก็เป็นพอ

               แต่แค่นิดหน่อยเท่านั้น รู้สึกถึงความจริงจังในการคบหากับโนเอลขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เมื่อครู่ก็ด้วยคนที่มีทุกอย่างเหนือกว่าจะบังคับเอาหรือผิดสัญญาก็ย่อมได้ แต่โนเอลก็ไม่ทำ

               อาจจะเล่นสนุก? อีกไม่นานก็คงเบื่อ แปลกที่เกิดความหงุดหงิดเมื่อคืดถึงตรงนี้ โนเอลเป็นใครคิดจะเข้ามาในชีวิตเขาก็มาบังคับนี่นั่นทุกสิ่งอย่าง แล้วพอเบื่อก็เดินออกไปง่ายๆ อย่างนั้นหรือ อย่าหวังว่าเขาจะเป็นยอมคน แบบนั้น

               “เอ๊ะ...” ดีทริชตกใจกับความคิดแบบนั้นของตัวเอง ถ้าโนเอลหายไปจากชีวิตเขามันควรจะดีสิ

               “บ้าเอ๊ย...เป็นความผิดของหมอนั่นคนเดียว ที่ทำเราเพี้ยนไปหมด” ทิ้งตัวลงนอนพลันนึกถึงเวลาที่โดนโนเอลล่วงเกิน ภาพความร้อนแรงผ่านมาวาบเข้ามาในความทรงจำ ดีทริชกัดริมฝีปาก

               “เลิกคิด เลิกคิดให้หมด อย่าไปคิดถึงหมอนั่น”

 ดีทริชเปิดโทรทัศน์อีกครั้ง นั่งดูข่าวไปเรื่อยแล้วก็พบข่าวที่น่าสนใจบางอย่างเกี่ยวกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นบนถนนใกล้ๆ กับโรงงานโฮมุนคิวลัสแห่งหนึ่ง ข่าวนำภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งเห็นหน้าคนที่ต่อสู้กันเมื่อคืนก่อนจนสร้างความเสียหายเป็นอย่างดี

               คนหนึ่งคือผู้หญิงในชุดดำส่วนอีกคนคือรอย รอยคนที่พยายามจับเขาแก้ผ้าเพื่อขอดูปานบนร่าง ทำไมช่วงนี้ถึงได้มีแต่ข่าวของคนรู้จักนะ

ดีทริชนั่งดูข่าวต่อไปเงียบๆ ก่อนจะขอให้เดเรียสนำอาหารว่างมาส่งถึงห้อง เขาปฏิเสธการทานอาหารค่ำกับโนเอล ไม่นึกอยากกินอะไรมากมายนัก

 

ร่างแบบบางในชุดสีดำลอบผ่านยามเข้าไปถึงหน้าอาคาร แม้ว่าจะปกปิดใบหน้าด้วยผ้าดำแต่ดวงตาคู่สวยทำให้เดาได้ว่าภายใต้ชุดโม่งจะต้องเป็นหญิงงามคนหนึ่ง

เมื่อไปถึงหน้าอาคารคนชุดดำจัดการแสกนรอยนิ้วมือและม่านตาปลอม ความสามารถพิเศษในฐานะอัลฟ่าเผ่าปีศาจของเธออย่างหนึ่งคือการปลอมแปลงร่างกาย เธอสามารถเปลี่ยนร่างเป็นใครก็ได้ที่ตาเห็น ก่อนหน้านั้นล่อร่าต้องใช้ความสามารถสืบค้นเพื่อเข้าใกล้ต้นแบบหลายครั้งกว่าจะลอกเลียนได้หมดจด

หลังจากประตูเปิดล่อร่าลอบเข้าไปในห้องทดลองลับ นักวิจัยทุกคนกลับไปหมดแล้ว ดังนั้นในห้องจึงเหลือร่างทดลองในแท่งแก้วเท่านั้นและเงียบสงัด เริ่มต้นลงมือค้นหาสารสะกัดชนิดพิเศษที่ได้ยินข่าวจากทางโทรทัศน์

โรงงานโฮมุนคิวลัสแห่งนี้นอกจากวิจัยการสร้างร่างมนุษย์เทียมเพื่อนำอวัยวะมาเปลี่ยนทดแทนผู้ซื้อแล้ว ยังวิเคราะห์ต้นพืชและสกัดตัวยาออกมาผสมสร้างยาตัวใหม่ๆ ขายในท้องตลาด

หลังจากฟังข่าวแถลงการของหัวหน้าวิจัยโครงการลอร่าเชื่อมั่นว่าสารสกัดน่าจะใช้ขจัดพิษในร่างตนเองไปได้ ร่างแบบบางค้นหาสิ่งนั้นนานทีเดียวก่อนจะพบตู้แช่เย็นซึ่งถูกเก็บไว้ด้วยระบบสแกน

 ไม่ยากซักนิดเธอเก็บข้อมูลของคนในห้องวิจัยนี่ไว้หมดแล้วและมีความมั่นใจว่าการลอกเลียนของเธอต้องไม่ผิดพลาด ลอร่าเปลี่ยนแปลงแก้วตาของตัวเองในที่สุดเธอก็เปิดตู้เย็นได้สำเร็จ

ภายในตู้ลับพบหลอดยาสีเขียวจำนวนมาก ลอร่านำทั้งหมดมาใส่ในกล่องเก็บความเย็นที่ตัวเองนำมา ขณะที่หมุนตัวกลับก็พบว่ามีชายคนหนึ่งยืนอยู่ รอยสมิธเจ้าของโรงงานผู้มีชื่อเสียงทั้งดีทั้งแย่ในรอบสิบปีมานี้

“แหม ถ้าฉันไม่ลืมของคงไม่กลับมาเห็นหนูสกปรกสินะ” ลอร่าไม่สนใจคนพูดเธอใช้ความสามารถพิเศษวิ่งผ่านร่างรอยไปเหมือนวิญญาณ รอยพยายามคว้าจับแต่ก็พบความว่างเปล่า

 ลอร่าวิ่งโจนทะยานหนีการตามจับของรอย ทุกครั้งที่รอยตามทันจะไม่สามารถคว้าจับร่างของเธอได้ แต่ก็ไม่ลดละตามมาจนถึงสี่แยกที่เงียบสงัด

ดูเหมือนว่าคงจะรำคาญที่จะต้องวิ่งไล่ดังนั้นรอยจึงเรียกบริวารซึ่งเป็นค้างคาวจำนวนมากเข้าโจมตี แล้วลอร่าก็พลาดท่าจนได้ เจ้าค้างคาวหากมันตามทำร้ายร่างของเธอที่วิ่งหนีมันคงจะดีกว่านี้

แต่ค้างคาวจำนวนมหาศาลบินว่อนไปทั่วจนพบร่างจริงของเธอที่หลบอยู่โดยการหายตัวแล้วสร้างภาพลวงตาหลอกล่อรอย เจ้าค้างคาวเมื่อพบตัวล่อร่าพวกมันจิกทึ้งอย่างรุนแรง ดังนั้นเธอจึงควักมีดสั้นออกมาฟาดฟันส่งผลให้ไม่สามารถหายตัวได้อีก

รอยมองดูเธอต่อสู้กับค้างคาว คาดว่าน่าจะเป็นพันธ์พิเศษเพราะการเฉือนมันออกจะทำให้พวกมันงอกตัวเพิ่มขึ้น ลอร่าเดาะลิ้นแล้วเริ่มตนแสดงเพลงดาบที่ฝึกปรือมาเพื่อเป็นองครักษ์โดยเฉพาะ

ลอร่าสร้างคลื่นเสียงเฉพาะแบบที่ค้างคาวเข้าใจด้วยการทำให้มีดสั่นสะเทือนแล้วขว้างออกไปทุกทิศทาง เธอเตรียมจะหนี ต่อสู้กับศัตรูที่งอกได้ตลอดเวลารั้งแต่จะทำให้เสียเปรียบ

คลื่นเสียงทำให้ค้างคาวสับสนพวกมันบินสะเปะสะปะเปิดโอกาสหนี ทว่าอาการกำเริบเสียก่อนลอร่าไอโขลกๆ ออกมาเป็นเลือดสภาพร่างกายที่ปลอมแปลงเปลี่ยนไปกลับเป็นร่างเดิมโดยไม่รู้ตัว

“อ้าวๆ หมดท่าเสียแล้วหรือ” รอยหัวเราะชอบใจ ร่างสูงเดินอย่างช้าๆ ไปหาลอร่า ทว่าเธอยังไม่หมดฤทธิ์หันไปขว้างมีดใส่อีกฝ่าย ไม่รู้ทำไมรอยชะงักไปชั่วครู่มันเปิดโอกาสให้หนีไปจากตรงนั้น

ล่อร่าหายตัววิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเมื่อพบว่าไม่มีใครตามเธอโล่งใจจนลดความระวังลง ไม่จำเป็นต้องวิ่งเต็มแรงอีกต่อไป ดังนั้นจึงชะลอความเร็วลงจนไปถึงบ้านในที่สุด

เมื่อไปถึงบ้านสิ่งที่ทำให้เธอตกใจคือเธอไม่ได้อยู่ในสภาพลอร่า ไอแวน แต่กลายเป็นลิลี่ ทวีค ร่างต้นของเธอที่ไม่ได้ใช้มานาน ลิลี่รีบเปลี่ยนร่างกลับเป็นลอร่าอย่างเดิม

 

รอยไม่ได้ไล่ตามคนร้ายชุดดำไป ใบหน้าของคนร้ายรอยจำได้ดีผู้หญิงคนนี้คือองครักษ์ของชายาลีฟา ผู้ที่หายสาปสูญไปพร้อมกับรัชทายาทตัวน้อย

แถวนี้มีกล้องวงจรปิด ผู้หญิงคนนั้นช่างโง่นัก นอกจากจะปิดบังตัวตนให้พ้นเงื้อมือจากตัวปลอมเอาไว้ไม่ได้ยังเป็นเบาะแสให้เขาตามตัวพบง่ายๆ อีกด้วย

“หึหึ” รอยหัวเราะเสียงต่ำถึงไม่มีวงจรปิดเขาก็ตามหาได้ง่ายๆ เจ้าฝูงค้างคาวตัวโปรดมีเลือดของผู้หญิงคนนั้นติดอยู่จากการโจมตี ตัวอย่างเลือดจะนำไปหาเจ้าตัวเองถึงต้องใช้เวลาซักหน่อยก็ตาม

รอยลูบปลายคาง คิดว่าตัวเองน่าจะหาตัวหล่อนเจอก่อนที่เรื่องคราวนี้จะไปถึงหูเจ้าตัวปลอมในพระราชวัง

 

“อรุณสวัสดิ์” เสียงกระซิบที่ข้างหูทำให้ดีทริชตื่นตัว เด็กชายยันตัวขึ้นมาและพบว่าโนเอลนั่งอยู่ริมเตียงและกำลังส่งยิ้มมาให้

“นาย...” ดีทริชไม่โง่เขาย่อมรู้ตัวเองดีถ้าถูกทำอะไรแม้จะหลับลึก เชื่อว่าตัวเองปลอดภัยแต่อดหรี่ตามองอีกฝ่ายไม่ได้

“นายบอกจะให้เกียรติฉัน การเข้าห้องคนอื่นโดยพละการถือเป็นการล่วงเกินหมิ่นเกียรตินะ”

“ยกเว้นกับคนรักที่ต้องการปลุกสุดที่รักให้ตื่น นายไม่คิดอย่างนั้นหรือ” โนเอลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง การได้มองดีทริชขู่ฟ่อเหมือนแมวถือเป็นเรื่องบันเทิงใจอย่างหนึ่ง

“ไปทานอาหารเช้ากัน” โนเอลยื่นมือมาให้จับ ดีทริชขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วมองดูนาฬิกาในห้องนอน

“อย่างแรกนี่มันตีห้า อย่างที่สองฉันยังไม่ได้อาบน้ำ เพราะงั้นนายออกไปซะ”

 โนเอลยิ้มและยืนอยู่อย่างนั้น จงใจทำบ้าใบ้สินะ เขาไม่มีทางถอดเสื้อผ้าต่อหน้าหมอนี่เด็ดขาด

“จะอยู่นี่ก็ตามใจ” ดีทริชลุกจากเตียงเลือกเสื้อผ้าออกมาพร้อมผ้าขนหนูก่อนเดินเข้าห้องอาบน้ำลงกลอนอย่างแน่นหนา แต่ว่าคิดอีกทีประตูแค่นี้ไม่น่าขวางกั้นอัลฟ่าสายเลือดปีศาจอย่างโนเอลได้

ดีทริชอาบน้ำอย่างหวาดระแวงแต่จนแล้วจนรอดโนเอลก็ไม่เข้ามา สุดท้ายเขาออกจากห้องน้ำโดยไม่มีใครกวน โนเอลนั่งไขว่ห้างประสานมือไว้เหนือหัวเข่า วิธีการนั่งและเดินโดยเหยียดหลังตรงตลอดเวลาดีทริชก็ถูกสอนมาแบบนั้น เพื่อนสนิทอย่างเอฟเว่นก็เหมือนกัน

แต่พึ่งสังเกตุว่าโนเอลที่ทำแบบนั้นเหมือนกัน มองดูแล้วรู้สึกว่าการที่ฝ่ายนั้นเดินเหินนั่งด้วยวิธีนี้มันทำให้ดูสง่างามเพลินตา

“ฉันเขินนะ” โนเอลอมยิ้ม ดีทริชพึ่งรู้สึกตัวว่าจ้องมากเกินไป เขาแก้ประหม่าด้วยการเดินไปแขวนผ้าขนหนูที่ราวตาก ทำเหมือนอีกฝ่ายไม่มีตัวตน

“ฉันชอบนะที่นายมองด้วยสายตาหลงใหลแบบเมื่อกี้”

“นายมันหลงตัวเอง” หลังจากตากผ้าขนหนูเสร็จดีทริชก็หันมายืนกอดอก โนเอลเดินมาที่ตรงหน้ายื่นมือมาให้จับ

“นายไม่ต้องทำกับฉันเหมือนเป็นสุภาพสตรีได้ไหม”

“นี่เป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติกับคนรักของฉัน หากนายไม่ชอบยกเลิกแล้วกลับไปสถานะเดิมก็ได้นะ”

ดีทริชเบ้ปากก่อนจะวางมือลงไป โนเอลนำทางเขาไปราวกับพาสตรีสูงศักดิ์ รสชาติของการถูกพะเน้าพะน้อเป็นแบบนี้นี่เอง

“บรรทัดฐานการปฏิบัติกับคนรักของนายคงไม่มีอย่างอื่นอีกใช่ไหม”

“แล้วนายจะได้รู้” โนเอลคลี่ยิ้ม

พึ่งสังเกตุเหมือนกัน หมอนี่ยิ้มสวยจนละสายตาไม่ได้เลย


คุยท้ายเรื่อง

ช่วงนี้ต้องจัดเวลาดีดีเลย นี่เราพึ่งได้เกมส์civilizationมาโอ้ยอยากบอกว่าติดงอมแงม
               มันเป็นเกมส์ดูดวิญญาณมาก เกี่ยวกับเราการบริหารประเทศตั้งแต่อารยธรรมโบราณ

นี่เล่นญี่ปุ่นจนสร้างหุ่นยนต์ได้แล้ว ตั้งใจจะจบเกมส์แบบชนะด้วยเทคโนโลยี ฮ่าๆๆๆๆ

ติดมากจนไม่ได้แต่งนิยายเลยรู้สึกตัวอีกที หะ ตีหนึ่งครึ่ง โอ๊ยตายแหล่ว

ตอนนี้ก็เรื่อยๆ ตอนหน้าอาจจะเข้าบทสำคัญนิดหนึ่งหรืออาจจะตอนถัดไปไม่เกินนี้ค่า

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ ขอบคุณค่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด