บทที่ 9คุณอุบล อ๋อ ผมบางขุนเทียน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ :
วันนี้สินกำไหว้ครู (หรือเรียกว่าวันปล่อยผี)
ใครมีเตียงว่างหรือรูมเมทไม่อยู่ ระวังให้ดี!
วางบนเตียงให้เต็ม และติดป้ายที่ประตูว่า ‘ห้องนี้ไม่มีเด็กสินกำ’ ผมยืนมองแผ่นกระดาษเอสี่ที่แปะอยู่หน้าทางเข้าหอก็ได้แต่ส่ายหัว เฮ้ออ ใครมันอุตริกุเรื่องนี้ขึ้นมาวะเนี่ย ความจริงก็คือเด็กสินกำอย่างพวกผมไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลยครับ ตอนนี้ในกรุ๊ปรุ่นพร้อมใจกันขำเพราะโคตรตลก แล้วไม่ใช่แค่หอผมหอเดียวนะ หออื่นๆ ก็โดนเหมือนกัน ฮือออ ไม่มีผีอะไรทั้งนั้นโว้ยยยยย
แต่เอาเถอะ นั่นคือสาเหตุในสิ่งที่เราจะทำในวันนี้… อิๆ
“กุ้ง!! มาช่วยพวกกูซิ!” เสียงแหลมเฟี้ยวของมุนินดังมาแต่ไกล มันกับไอ้อู๋ช่วยกันหิ้วถุงสายรุ้งมาอย่างทุลักทุเล
ผมเห็นแล้วก็รีบวิ่งเข้าไปสมทบ “สรุปจะเอาไปไว้ไหน”
“ห้องมึงแล้วกัน” มุนินว่า ไอ้นี่มันเพิ่งกลับมาจากกรุงเทพครับ เพราะโดนที่บ้านเรียกตัวกะทันหันเลยไม่ได้ร่วมกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ในวันนี้ แต่พอเล่าว่าเจออะไรบ้าง มันได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้มันต้องเข้ากรุงด่วน เหอะ โชคดีไปนะมึงอะ
“แบกอะไรมากันครับน้อง” พี่ยามหน้าดุโดดเข้ามาถาม
“อ๋ออออ” มุนินวอกแวก “ชุดลีดอะพี่ พอดีเอาไปลองใส่ซ้อมกันมา”
“ยังไม่ถึงเฟรชชี่เกมเลยนะครับ”
“เอ่อ...” ไอ้อู๋ทำท่าจะช่วย “พวกผมเตรียมพร้อมไว้ก่อนอะครับ”
พี่ยามก็ยังไม่เชื่อ แถมหันมาหาผมอีก “จริงเหรอน้อง?”
เอ๊า ทำไมมันส่งมาที่ผมได้วะเนี่ยยยย “จะ...จริงครับ”
“ไหนมึงลองจัดให้พี่เขาดูสักเซ็ตซิ” อีมุนินโยนขี้อีกแล้ววว ฮือออออ
ผมไม่รู้จะทำยังไงดี คือต้องโชว์ใช่มะ เอาวะ ขนาดนี้แล้วอะ
ผมตั้งการ์ดเตรียมพร้อม “สินกำน่ารัก คึกคักเวลาลงเล่น สินกำใจเย็นๆ เวลาลงเล่นน่ารักๆ”
พอเต้นจบผมก็รวบแขนให้ดูสง่าที่สุด
“ดูท่าต้องซ้อมอีกเยอะเลยเนอะ” พี่ยามพูดเบาๆ
ฮืออออ ผมได้แต่ฝืนยิ้มทั้งๆ ที่สะเทือนใจ
“นั่นไงพี่ เข้าใจพวกผมหรือยังล่ะ” ไอ้อู๋รีบตัดบท “ไปๆ พวกมึง เอาไปเก็บกันเหอะจะได้หลับได้นอน”
แล้วพวกเราก็ช่วยกันแบกถุงสายรุ้งผ่านประตูมาได้อย่างง่ายดาย
“มึงคิดถูกแล้วล่ะที่จะไม่เป็นลีด” มุนินหันมากระซิบ
“ไอ้สัส”
ในที่สุดพวกผมสามคนช่วยกันลากถุงสายรุ้งเข้ามาในห้องได้สำเร็จ ดีนะที่ปราโมทย์ไม่อยู่ ไม่งั้นมีช็อคคาเตียงแน่ๆ เพราะว่า...
“กรี๊ดดดดด” ทันทีที่ประตูห้องปิดลงไอ้ไย่ก็โผล่พรวดออกมาจากถุง ใส่ชุดไทยหน้าขาวแบบจัดเต็มมาก แอบขนลุกเลยนะ “ถึงสักที กูจะเป็นลมตายอยู่แล้ว!!”
“คุณอุบลใจเย็นนะครับ” ผมทำเป็นยกมือไหว้
ขวับ! โว้ยยย ตกใจหมด! จะหันมาถลึงตาทำบ้าอะไรเนี่ยยยยย
“กูแต่งเป็นนุ่นวรนุชต่างหาก พูดไปส่งๆ เดี๋ยวเขามาหามึงไม่รู้ด้วยนะ!”
“ง่า…” ผมบุ้ยปาก ทำเป็นชะโงกไปในถุงแล้วก็ต้องแปลกใจ “มึงเอาลังอะไรมาด้วยวะมุนิน?”
“อิๆ ของดีๆ” มุนินอุ้มกล่องสีน้ำตาลออกมาจากด้านใน
“เบียร์!?” โอ๊ยยย ใจกล้ากันเกินไปมั้งงงง “มึงเอามาทำไมเนี่ย”
“พ่อให้มา” มันว่า “เอาเหอะมึง กว่าจะได้ไปเที่ยวหลังม.ก็ต้องรอรับน้องเสร็จ ไม่รู้อีกนานหรือเปล่า ต้องแอบกินแบบนี้ไปก่อน”
“เออดีเหมือนกัน กูเปรี้ยวปากอยากแดกมานานแล้ว” ไอ้อู๋ลูบกล่องนั้นเหมือนของล้ำค่า
“แล้วนี่พ่อมึงรู้ยังอะว่าเป็นตุ๊ด” ไอ้ไย่ทำท่าจะขำ
“ไม่รู้”
“โห... มึงอดทนได้ยังไงวะ”
“ไม่รู้ว่าเป็นตุ๊ด รู้แค่ว่าเป็นเกย์...”
“...”
“...รุก”
“งั้นเรื่องนี้ค่อยคุยกันเนอะ” ไอ้ไย่กลืนน้ำลาย หน้าซีดเชียว “อย่าลืมว่าวันนี้เรามีภารกิจที่ต้องทำ”
ไอ้ไย่กระโดดออกมาจากถุง แจกจ่ายหน้ากากให้กับพวกผมทั้งสามคน โหย…ทำไมผมได้มนุษย์หมาป่าล่ะ
“กูสวยยัง” ไอ้ไย่สะกิดถาม
ผมจ้องไปที่หน้าขาวๆ เอ่อ… สภาพแบบนี้ จะให้ตอบว่าอะไรอ่า “สะ…สวยมั้งมึง”
“โกหก” ไอ้ไย่แยกเขี้ยว
“เอ๊า...”
“กูยังมองว่าไม่สวยมึงจะมาชมกูสวยได้ยังไง“
“แล้วมึงจะถามหาอะไรเล่า!”
ไอ้ไย่หยิบกระจกขึ้นมาส่อง “เอาเถอะ อย่างน้อยกูก็ได้แต่งหน้าสักที ฮือออ คิดถึงเครื่องสำอางชิบเป๋ง”
แต่แต่งเป็นผีหน้าขาวเนี่ยนะ...
“พร้อมยัง” ไอ้อู๋พูดขณะที่คว้าหน้ากากฮอคกี้มาใส่ มันจะสวมบทเป็นเจสันฆาตกรต่อเนื่องจากหนังดัง มีการถือดาบประจำตัวติดไปด้วยอีกตะหาก
“พร้อม” ฟากมุนินที่ใส่เขี้ยวปลอมและหยอดอุทัยทิพย์เป็นเลือดเรียบร้อยแล้วพยักหน้า
ผมสวมหน้ากากหมาป่าของตัวเองบ้าง “เออ กูก็พร้อมแล้ว”
เราพากันเดินไปตามห้องต่างๆ ไล่ตั้งแต่ชั้นล่างไปชั้นบน สลับกันหลอกผีทีละคนๆ และนับแต้ม ถ้าประตูบานไหนมีข้อความ ‘ห้องนี้ไม่มีเด็กสินกำ’ นั่นแหละคือเป้าหมายของพวกเรา อิๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ไอ้ไย่เป็นคนเคาะประตูเพราะถึงคิวตัวเองอีกครั้ง มันจัดเล็บนางรำให้เข้าที่โดยมีพวกผมแอบดูอยู่ที่หลังเสา
“ใครวะ…
เฮ้ย!!”
“อยู่ตรงนี้เพื่อรอแต่เธออออออ เพราะคำหนึ่งคำว่ารักกกกก ไม่ปล่อยให้ชั้นไปปปปปป” “ไอ้เหี้ยยยยยยยยยย” เสียงร้องโหยหวนพร้อมท่ารำสุดพิสดารของไอ้ไย่ทำเอาคนที่ออกมาเปิดประตูร้องลั่น
“นี่ใช่คุณพระหรือเปล่าคะ…”
“คุณพระพ่อมึงสิ ออกไปปปปปปป” “คิกๆๆ” ไอ้ไย่หัวเราะคิกคักตอนประตูปิดประแทกหน้า โอเค นั่นเท่ากับว่ามันได้คะแนนอีกแล้ว
“โห่ มึงขายดีอีกแล้วอะ” ผมเบ้ปาก แงงง ได้คะแนนน้อยสุดเลย ไม่ยอม
“เหนื่อยเหมือนกันว่ะ” ไอ้ไย่ถอนหายใจ แหมมม ไม่เหนื่อยก็แปลกแล้ว แหกปากเอื้อนเสียงขนาดนั้น นึกว่าลงทุนไปซื้อคอร์สกับครูสลา
“ใครคะแนนนำ?”
“ก็ต้องมึงปะอีไย่” มุนินเท้าเอว “เออ ไหนๆ ก็เจอห้องน้ำแล้ว พักเบรกแป๊บ กูขอแวะฉี่ก่อน”
“เนี่ย ขัดจังหวะหมด เร็วๆ เข้า!!” ไอ้ไย่มองตาขวางตามมุนินเข้าห้องส้วมไป แต่แล้วก็กลับมาเป็นประกายอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงคนอาบน้ำ มันหันมาหาผมพร้อมกับเบิกตาโพลง “มึง…”
“ฮะ?” ผมเอียงคอสงสัย
“รอกูตรงนี้นะ” ไอ้ไย่เดินซอยเท้าไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องอาบน้ำซึ่งกำลังมีคนกำลังใช้บริการ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก โว้ยยย ไอ้ไย่จะทำบ้าอะไรเนี่ย นั่นมันห้องน้ำผู้ชายนะ!!
“ใครวะ!” เสียงจากคนในห้องนั้นตะโกนถาม แต่ไอ้ไย่เอาแต่ปิดปากหัวเราะคิกๆ ไม่ตอบอะไร
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เอาแล้วมึงงง เขาปิดน้ำแล้ววววว ดูเหมือนกำลังจะเปิดประตูด้วยยยยยย
“เล่นเหี้ยอะ…
เฮ้ยยยย”
ไอ้ไย่ที่หันหลังอยู่พลิกตัวไปรำ
“อยู่ตรงนี้เพื่อรอแต่…” อ้าว อยู่ดีๆ มันก็นิ่งไปดื้อๆ ขนาดอีกฝ่ายกระแทกประตูปิดหน้ามันแล้วก็ยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
ปัง!“มึงงงง O_O” ไอ้ไย่กุมอกวิ่งกลับมา แถมยังอ้าปากค้างอย่างกับเจอผีของจริง
“เป็นเหี้ยอะไรก็พูดมาสิ” ไอ้อู๋เท้าเอว
“กู…” ไอ้ดาวมหาลัยทำตาล่อกแล่กแล้วเดินกลับไปหน้าห้องเดิมอีกครั้ง
อะไรของมันวะ…
“เธอ…” คราวนี้ไอ้ไย่ไม่ดัดเสียง “ชื่ออะไร อยู่คณะไหนอะ”
“บอกมาก่อนคนหรือผี!” เสียงนั้นตอบกลับมา
“คนจ้า”
“… กูชื่อหลุยส์ อยู่โยธา”
“เคยนอนกับกุ้งสินกำหรือยัง…”
อ้าว ทำไมชื่อผมถึงไปเอี่ยวด้วยวะ
“ยังโว้ยยยย ไม่ใช่สเป๊ก!”
โห…. สั่น มือไม้สั่นไปหมดด้วยความโกรธ ใจร้ายมาก เสียเซลฟ์ไปหมดแล้วววว
“เหรอ…” ไอ้ไย่หันมาเยาะเย้ย “เราชื่อหยากไย่นะ”
“หยากไย่ไหน… ดาวมหาลัย?”
“อื่อ”
“อ๋อครับ” อ้าวสัส เปลี่ยนมู้ดเร็วนะมึงอะ “สวัสดีครับ”
“ยังไงไว้คุยกันนะคะ”
“...เราฟอลไอจีเธออยู่ เดี๋ยวเราทักไป”
“จ้า”
ดะ...เดี๋ยวนะ!? อะไรของมันกันวะเนี่ย เหตุการณ์เกินขึ้นเร็วมาก งงไปหมดแล้วววววว
“คิกๆ” ไอ้ไย่ยิ้มร่า ทำเป็นถอดๆ ใส่ๆ เล็บด้วยความเขิน
“มึงเห็นอะไรอะ” ผมเอียงคอถาม อยู่ดีๆ เลิกหลอกผีมันต้องมีเหตุผลแน่ๆ
ดาวมหาลัยเอนตัวมากระซิบ “ของดี”
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี “ของดีอะไรวะ?”
“พอๆ มึงไม่ต้องบอกมัน” ไอ้อู๋วิ่งเข้ามาปิดหูผมไว้ โห่ไรอะ อยากรู้เรื่องด้วยนี่หว่า
ไอ้มุนินที่ออกมาจากห้องน้ำพอดีดึงตัวผมออกมา “ถึงตามึงแล้วกุ้ง ถ้ายังไม่ได้คะแนนอีก มึงต้องไปซื้อน้ำแข็ง”
“โหย…” งานเบ๊อีกแล้วเหรอ
เพื่อนๆ ทั้งสามลากผมไปยืนอยู่หน้าห้องริมสุดใกล้กับทางหนีไฟ
“…”
“เอาเลย” แล้วมันก็พากันไปแอบ ทิ้งผมไว้คนเดียว หึ เพื่อนตายจริงๆ เลยพวกมันเนี่ย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ผมเคาะประตู ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา เอาล่ะต้องทำให้เต็มที่ ถึงรู้ตัวว่าแพ้แน่ๆ แต่ต้องแพ้อย่างมีศักดิ์ศรีโว้ยยย
ผมยกมือทำมือเป็นกรงเล็บ หึๆ มึงได้เจอมนุษย์หมาป่าสุดเท่แน่!!
“แฮร่!!!” เดี๋ยวนะ…
ไอ้สัสทัก! มันอยู่ห้องนี้เหรอวะเนี่ย!!
ป้าบ! “โอ๊ยยยย ตีหัวกูทำไมเนี่ยยยยย” มันกล้าตบหัวผมได้ยังไงงงง
“อ้าว คนหรอกเหรอ นึกว่าผี!”
ฮืออออ หมาป่ามึนไปหมดแล้ววว
“เล่นบ้าอะไรฮะ!” เดือนมหาลัยคนล่าสุดพิงกรอบประตู สีหน้าเหนื่อยหน่ายเต็มทน “คิดว่ากูกลัวเหรอไอ้เจี๊ยบ”
อ้าวไรวะ หมดสนุกเลยอะ
“เป็นอะไร หมาน้อยขี้เรื้อน?” มันถาม แล้วก็ดึงหน้ากากผมออกไปใส่เอง ทำเป็นยืนกอดอกโชว์เหนือเสร็จสรรพ
“หมาป่าโว้ยยย” ผมร้องลั่น ฮือออ ไม่กลัวแล้วยังจะมาด่าอีก “มึงรู้ได้ไงว่าเป็นกูอะ”
“สัญชาตญาณ”
“...”
ร้อนฉ่า... เหมือนเอาหน้าไปแนบกระทะ
“ฮ่าๆ” ไอ้ไย่เดินนำเพื่อนๆ ออกมาจากเสา ฮู้ววว มาทันเวลาพอดี “ไปซื้อน้ำแข็งเลยจ้าไอ้กุ้ง”
“เล่นอะไรกันเนี่ยดาว” ไอ้ทักถอดหน้ากากออกมาถาม แถมขำเมื่อเห็นชุดไอ้ไย่อีกตะหาก
“หาอะไรทำแก้เบื่อนิดหน่อยค่ะเดือน เห็นมีข่าวลือว่าสินกำปล่อยผี ก็เลยแต่งเป็นผีมาอาละวาด” โอ๊ยอย่าผลักไหล่เซ่ “ไปๆ รีบไปซื้อได้แล้ว พวกกูอยากแดกเต็มทน”
“จะเอาน้ำแข็งไปทำอะไรกันวะ” ไอ้ทักเลิกคิ้ว
“แดกเบียร์” อู๋เป็นคนตอบ แถมมองผมกับคนถามสลับไปมาอีกตะหาก “มึง… มาแดกด้วยกันมั้ยล่ะ”
เดี๋ยวๆ จะชวนมันทำม้ายยยยยย
แล้วไอ้คนโดนถามยังจะมีหน้าหันมามองผมอีก!!
“ได้ปะ?” “เอ๊า ก็เรื่องของมึงสิ กูไม่ใช่เจ้าของเบียร์นะ” ผมกอดอก “ถามมุนินโน่น”
“ได้เลยค่ะทัก สำหรับทักเอาไปทั้งลังก็ได้” อ่าว...เร็วเชียวนะ แหม่ ผมล่ะเกลียดสายตาอ้อร้อของมันจริงๆ ไหนบอกว่าเป็นรุกไง!!
“งั้นรอแปบ ห้องกูพอจะมีน้ำแข็งอยู่ มันจะได้ไม่ต้องลงไปซื้อ” เด็กพละหันมาแยกเขี้ยวใส่ผม “สงสาร”
“...”
“งั้นมึงก็ตามมาแล้วกัน”
“แดกห้องมันใช่ปะ” ไอ้เดือนชี้มาทางผม
“เออ” ไอ้อู๋พยักหน้าก่อนจะเดินออกไป
ผมทำท่าจะเดินตามแต่…
“เหวออออออ” ไอ้สัสทักใช้นิ้วเกี่ยวคอเสื้อผมไว้เช้ยยย จะคว้าชายสไบไอ้ไย่ก็ไม่ทันแล้วววว คุณอุบล! เอ๊ย พี่นุ่น! ช่วยกุ้งด้วยยยยย
“จะไปไหนฮะ”
“กลับห้อง!”
ไอ้ทักส่ายหน้า “ใจคอมึงจะไม่ช่วยกูขนน้ำแข็งเลยรึไง”
“ปล่อยกูก่อนดิ!” ผมสะบัดตัวหนี โว้ยยย บอกดีๆ ก็สิ้นเรื่อง เกือบหงายท้องเป็นแมลงสาบแล้วมั้ยล่ะ “หลบ!!”
“จะไปไหน” มันเห็นผมจะเดินเข้าไปก็ทำเป็นกางแขนกั้นไว้
“อ้าว กูจะเข้าไปเอาน้ำแข็งไง”
“กูยังไม่ได้เชิญมึงเข้ามาในห้องเลย”
“แหมมมม ทีมึงเข้านอกออกในห้องกูเป็นส้วมสาธารณะกูยังไม่ว่าเลย!” ผมหรี่ตา “หรือซ่อนอะไรไว้หรือเปล่าเอ่ย…”
ไอ้ทักเอนตัวเข้ามาใกล้ “ใช่…”
“…”
“ซ่อนศพ”
มะ...หมอ หมอพรทิพย์อยู่ไหนนนนนน หมออออ
“ศพก็เหี้ยและ” ไอ้ทักผลักหน้าผากผมเบาๆ โอ๊ยย วันนี้มันทำร้ายร่างกายผมสองรอบแล้วนะ “รอตรงนี้แหละ”
แล้วผมก็ได้แต่ยืดหงุดหงิดอยู่หน้าบานประตู
“ไอ้ท้ากกกก”
เสียงไอ้อู๋ยานเป็นนมอุรังอุตัง มองจากบีทีเอสป้ายหน้าก็รู้ว่ามันเมาชัดๆ แถมยังเป็นคนเดียวที่ยังอยู่รอดปลอดภัยอีกตะหาก มุนินกับหยากไย่ที่เป็นตัวตั้งตัวตีของวงสุรานี้อยู่โน่น! นอนกอดกันเป็นคู่รักเข้าเรือนหอวันแรกบนเตียงผมไปแล้วเรียบร้อยยย ฮือออ ไม่ค่อยอยากให้ใครนอนกับน้องลูกเจี๊ยบเลยอะ แต่เห็นสภาพพวกมันแล้วอนาถใจ แล้วไอ้ไย่ไม่คิดจะถอดชุดก่อนรึไงวะ สภาพเหมือนเจ้าสาวเข้าเรือนหอจริงๆ
“ว่าไงมึง” คนโดนเรียกขานรับด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ ไอ้ทักนี่ก็คงกรึ่มๆ ไม่แพ้กันสินะ…
“เพื่อนกูน่ารักมั้ย” โว้ยยย อยู่ดีๆ มันก็ชี้มาที่ผมซะงั้น
แล้วไอ้ทักเสือกพยักหน้าด้วยนะ “น่ารักดิ บอกมันตั้งหลายครั้งแล้ว”
“มึงบอกกูตอนไหน” ผมแยกเขี้ยว แหมมม อย่าทำมาเป็นเนียน
“ไม่ได้พูด แต่ทำให้รู้” มันเอี้ยวตัวมามอง “ซื้อบื้อขนาดนั้นเลยหรือไงมึงอะ”
“…”
ไปต่อไม่ถูก กระดกอีกแก้วแล้วกันเนอะ อึกๆๆๆๆๆๆ
“แล้วมึง...” ประธานรุ่นคนเมายื่นหน้าเข้าไปใกล้ “จะจีบเพื่อนกูเหรอ”
“ไอ้อู๋!” ผมแหกปาก โว้ยยยย จะพูดทำบ้าอะไรเล่า เนี่ยยย เมาทีไรแม่งปากมากทุกที
“หึๆ เพื่อนเราเมากันหนักเลยว่ะกุ้ง” โมทย์ที่กำลังปิดทีวีเตรียมจะนอนส่งเสียง
“เสือกเหี้ยไรด้วยสัสแว่น!”
“อ้าววว” โมทย์เอ๋อไปเลยพอโดนไอ้อู๋ตวาด “ว่าผมทำไมเนี่ย”
“กูหมั่นไส้! เห็นมองกูมานานละนะ มึงมีปัญหาเหี้ยอะไรเหรอ”
“อ้าว กูมองมึงไม่ได้รึไง!”
“โอ๊ยยยใจเย็น เดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกันจริงๆ หรอก” ผมกระโดดไปกอดรั้งเพื่อนตัวเองไว้ “อู๋อย่าก้าวร้าว!”
“เฮอะ!”
“โมทย์เราขอโทษนะ” ผมได้แต่ยิ้ม ไอ้อู๋มันเมาทีไรผมเหนื่อยตลอด
“เราไม่ได้โกรธอะไรกุ้งหรอก” โมทย์ถอดแว่น “แต่ถ้ามันเมาแล้วเป็นอย่างนี้ทีหลังก็อย่าให้มันกินนะ”
“มึง!” ไอ้อู๋ทำเป็นจะลุกอีกครั้ง คราวนี้ผมดึงคอเสื้อมันไว้เลย
“เบาๆ เดี๋ยวยามก็แห่กันขึ้นมาดูหรอก” ไอ้ทักพูดให้คนอื่นฟังหรือบ่นกับตัวเองวะ มันนั่งกอดเข่าทำเป็นเหม่อๆ อย่างกับเด็กต้องการเพื่อนเล่น
ผมจับหน้าไอ้อู๋ให้มามองตัวเอง “มึงกลับห้องไปนอนเหอะ”
“กูกลับไม่ไหว…”
เฮ้ออออ แล้วใครใช้ให้แดกขนาดนี้วะ
“งั้นก็ขึ้นไปนอนเตียงกู ไปๆๆ” ผมประคองมันขึ้นไปสมทบกับอีกสองตัว ฮือออ โชคดีนะเอาเตียงมาติดกัน เหมือนรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าเลย
พอถึงเตียงไอ้อู๋ก็หลับตาพริ้มเลย แถมมีการคว้าไอ้มุนินมานอนกอดอีกตะหาก
แหม… แล้วว่าแต่กูนะ
ผมหันมายิ้มแหยๆ ให้กับรูมเมท “สงสัยคืนนี้เราคงต้องนอนกับโมทย์แล้วล่ะ”
“ได้เลย ไม่เป็นไร”
“ไม่ได้!” อ้าว ไอ้ทักยังไม่สลบไปอีกเรอะ
“มึงก็กลับห้องไปได้แล้วไป๊ กูจะเก็บขยะ!”
“ไม่!” โว้ยยย เอาแต่ใจจังวะ “กูจะอยู่”
มันคิดว่าตัวเองเป็นพี่ช่าหรือไง “ก็ตามใจ งั้นกูนอนแล้วนะ”
“เดี๋ยว…” อยู่ๆ ไอ้ทักก็คว้าข้อเท้าผมไว้! ย้ำว่าข้อเท้า… ถ้ากูล้มหัวฟาดพื้นไปจะทำไงฮะ!!
“ปล่อยน่าทัก กูง่วง”
“อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน”
“กูจะนอน พรุ่งนี้เรียนเช้า”
“…” มันทำหน้าหงอยมาให้ก่อนจะปล่อยเท้าผมให้เป็นอิสระ โอ๊ยยย อย่าทำให้รู้สึกผิดได้มั้ยเล่า
ใจจริงก็อยากนั่งกับมันก่อนนะ แต่มันง่วงเกินจะทนแล้วจริงๆ อะ
ผมตั้งท่าจะเดิน แต่อยู่ดีๆ ก็เหยียบเข้าให้กับน้ำลื่นๆ ซึ่งไม่รู้ว่ามาจากไหน ผมได้แต่เซถลาไปกระแทกเข้ากับไปเตียงไอ้โมทย์เข้าอย่างจัง
“โอ๊ย!” หน้าผมมมมมม
“เฮ้ย!” ไอ้ทักเข้ามาประชิดตัวผมอย่างไว ส่วนทางด้านโมทย์ก็เด้งตัวขึ้นมาดูอาการอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน
เจ็บ… เจ็บชิบเป๋งเลยยยยย เจ็บแบบน้ำตาจะไหล
“เพราะกูเหรอ!? มึงล้มเพราะกูจับมึงไว้ใช่มั้ย!!”
ผมไม่ได้ตอบอะไร เอาแต่ส่ายหน้า แถมยังเอามือกุมจมูกตัวเองด้วย
ไอ้ทัก… มึงอย่าทำหน้ารู้สึกผิดแบบนั้นสิ มึงไม่เกี่ยวววววกูโง่เองงงง ฮืออออ
“ทัก กูเจ็บอะ” ผมพูดอย่างอู้อี้
“มึง...” โมทย์ชี้มาที่ของเหลวบางอย่างที่ไหลเอ่อออกมาจากหว่างนิ้วของผม
“เชี่ย…” ผมรู้สึกว่าไอ้ทักหายเมาเป็นปลิดทิ้งแน่ๆ มันหน้าซีดตอนมองหน้าผม “เลือดออกว่ะมึง”
“จริงอะ...” ผมยกมือขึ้นมาดู หูยยย แดงเถือกเลย
“แล้วมึงจะดูทำห่าอะไรเนี่ย!!”
“อ้าว” ผมย่นคิ้ว “มึงกลัวเลือดเหรอ?”
“...”
ฮ่าๆๆๆ โถโตเป็นควายขนาดนี้แล้วนะ
แจ้บๆๆๆๆ แหวะ เหมือนเลือดจะเข้าปาก
“มึงงงง โอยยย” ไอ้ทักมีอาการคับคล้ายคับคลาจะเป็นล้ม “อย่าอ้าปาก มันเข้าไปหมดแล้ว!”
“...”
“แม่งเอ๊ย! อยู่ๆ มันก็เช็ดเลือดผมด้วยเสื้อกล้ามสีเขียวของมัน
จะทำเครียดทำไมเนี่ยยยยย กูเจ็บนะ ไม่ใช่มึ้งงงงงง
“เจ็บใช่มั้ยฮะ”
“...” พอเห็นหน้าเครียดๆ แบบนั้นผมก็เล่นไม่ออก
[อ่านต่อด้านล่าง]