[จบ]➤└ อย่ามาอยู่กับกุ้ง ┐✿ พิเศษ4/4 : 1 ปีแล้วไง 10 ปีก็ยังได้ (15/2/62) [P.35]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบ]➤└ อย่ามาอยู่กับกุ้ง ┐✿ พิเศษ4/4 : 1 ปีแล้วไง 10 ปีก็ยังได้ (15/2/62) [P.35]  (อ่าน 394786 ครั้ง)

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



เพราะพฤติกรรมประหลาดที่ผมเป็น ทำให้ชื่อเสียงของผมโด่งดังไปทั่วมหาวิทยาลัย

การนอนกับคนอื่นไปทั่วที่เขานินทากันเนี่ย
หารู้ไม่ว่ามันคือการนอนจริงๆ โว้ยยยยยย
นอนแบบคร่อกฟี้~ อะ

ผมชอบสัมผัสร่างกายคน รู้สึกดีทุกครั้งที่มือได้ถูไถไปตามเนื้อหนัง
รวมทั้งกอดก่ายเพื่อซึบซาบความอบอุ่นของคนที่นอนอยู่ข้างกาย
แต่โน!! ผมไม่เคยมีเซ็กซ์โว้ยยยย เลิกพูดเสียๆ หายๆ ได้แล้วไอ้พวกบ้า แงงงง

แต่ช่างแม่มมม ขี้เกียจแก้ข่าวมันละ เซ็ง!

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2019 19:11:10 โดย theneoclassic »

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3
สารบัญ



บทนำ
บทที่ 1 : มหาลัยวัยฝัน
บทที่ 2 : อย่ามายุ่งกับกู!
บทที่ 3 : ออกจะงงๆ แต่ก็โอเค!
บทที่ 4 : นี่คุณคือเดือนหรือหมาใน
บทที่ 5 : ไดโนเสาร์/สีเหลือง
บทที่ 6 : ไม่รักก็จะร้าย
บทที่ 7 : คืนตาค้าง
บทที่ 8 : มิตรภาพของเรามันเกินทน
บทที่ 9 : คุณอุบล อ๋อ ผมบางขุนเทียน
บทที่ 10 : ว่าไงจ๊ะเจ้าปลาปั๊กเป้า
บทที่ 11 : ใครวะที่ล้มหน้าสยามวัน
บทที่ 12 : ร่างแตกแหลกสลาย
บทที่ 13 : พี่เทคผมอยู่ไหนนนน
บทที่ 14 : ชะ...ช่วยด้วย อ๊าาาาห์
บทที่ 15 : อย่าละเลยคนสดใส
บทที่ 16 : ทักรี่ซี้แหงแก๋
บทที่ 17 : อย่าทำร้ายไดโนเสาร์
บทที่ 18 : เธอคือพาวเวอร์แบงค์
บทที่ 19 : เราจะวิ่งมาเจอกัน
บทที่ 20 : เก่งมากเลยทักรี่
บทที่ 21 : เรียกเราได้เลยว่านายสะอาด
บทที่ 22 : ใต้เตียงแฟนบอย
บทที่ 23 : วงแตก
บทที่ 24 : เพิ่งเริ่มต้น
บทที่ 25 : ไปละนะ
บทส่งท้าย : ใครเคยนอนกับกุ้งบ้าง?


พิเศษ : ทักรี่เบบี้โซแดมฮอต

พิเศษครบ1ปี : เจน เจนเป็นใครอะ? (1/4)
พิเศษครบ1ปี : เหมือนจริงเหลือเกิน (2/4)
พิเศษครบ1ปี : คุยกันดีๆไม่ได้ใช่มั้ย (3/4)
พิเศษครบ1ปี : 1 ปีแล้วไง 10 ก็ยังได้ (4/4)



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2019 19:44:25 โดย theneoclassic »

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3

แด่เพื่อนรหัส 54 ที่คิดถึง...
              ใครมันเอาเรื่องกูไปบอกครูวะ!



บทนำ

ชื่อกุ้ง บ้านอยู่บางขุนเทียน



ใครเคยนอนกับกุ้งบ้าง?
[กระทู้หนึ่งในกรุ๊ป Facebook เฟรชชี่รหัส 61 มหาวิทยาลัยXX]
   
   ตั้งโดย DewsX
   เนื้อหา :

เรื่องฮอตวันนี้ กุ้งเซนต์เจมส์ฯ คนดัง สอบติดสินกำรอบสอง
ผมเลยจะมาขอถามตรงๆ นะ...ใครเคยนอนกับกุ้งบ้างครับ?
(ยังไม่มีใครลากกุ้งเข้ามาในกรุ๊ปนี้ใช่ปะวะ?)


   เม้นท์แรก
   เคยครับ

   เม้นท์สิบแปด
   ทำไมจะไม่เคย กุ้งคนดัง กุ้งของผมมมม

   เม้นที่ห้าสิบ
   บอกได้แค่ว่าตัวนุ่ม+หอมมากครับ เล่นซะเหนื่อยเลย


   DewsX
   โห...ทำไมเยอะขนาดนี้เนี่ย  คนดังทั้งนั้นเลย...
   คนธรรมดาอย่างผมหมดสิทธิ์ อุตส่าห์คาดหวัง!


   เม้นที่แปดสิบ
   ผมยังไม่เคย แต่ก็เล็งไว้นานแล้วเหมือนกันว่าจะจำขย้ำสักที ...มาเรียนที่เดียวกันแบบนี้คงได้เจอกันหน่อยล่ะสาดดดดด หึๆ
   แต่เค้าจะสนใจผมมั้ยน้อ อยู่คณะที่รุ่นพี่เสี้ยมให้หยิ่งขนาดนั้น


   เม้นที่ร้อยสอง
   เปิดเทอมผมจะไปดักที่หน้าหอ จำคำผมไว้ ผมจะมาเม้นว่า ‘บรรลุแล้วโว้ยยยย’ ในนี้บ้าง!!
   – ไอ้หนุ่มบัญชี


   เม้นที่สามร้อย
   อย่ายุ่ง ของกู


   อ่านต่ออีก 250 คอมเม้นท์....


   

   “เฮ้ยคุณ!!!??” เสียงแสบแก้วหูทะลุเข้าโสตประสาทอย่างไม่เกรงใจว่าอนาคตผมจะหูดับ ทำไมคณะนี้มันต้องมีโซตัสด้วยวะเนี่ย เดี๋ยวจะบอกแม่ให้แจ้งตำรวจซะให้เข็ด

   ผมนั่งก้มหน้าซ่อนความหล่ออยู่นอกแถว เป็นคนเดียวที่โดดเด่นท่ามกลางเพื่อนๆ ซึ่งนั่งกันเรียบร้อยเรียงหน้ากระดานในท่าเข้าระเบียบ ส่วนคนที่มุงผมอยู่อีกข้างก็คือบรรดาพี่ปีสองสุดโหดที่ดุแม่งอย่างกับหมา ดุแบบไม่บันยะบันยัง! ดุเหมือนจะให้ผมน้ำลายฟูมปากชักตายอยู่ตรงนี้!!

อะไรกันวะ แค่ไม่มีท่าแนะนำตัวแค่นี้เองทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ ก็คนอื่นๆ ส่วนมากมันติดรอบแรกโดนเรียกมารับน้องก่อนมันก็ต้องพร้อมแล้วปะ

เอิ่ม…แต่แก้ตัวไปก็ใช่เรื่อง จะบอกว่าไอ้พวกที่ติดรอบสองแบบเดียวกับผมอีกสิบกว่าคนก็ไม่รู้เอาความคิดสร้างสรรค์มาจากไหน ผ่านเข้ารอบเข้าไปนั่งในแถวแล้วเรียบร้อย กลายเป็นว่าเหลือแค่ผมคนเดียวที่ยังเป็นแกะดำเด๋อด๋าอยู่แบบนี้ โธ่วุ้ยยยยย

   “ไอ้สัสกุ้ง! มึงอย่านิ่ง!” คนที่ส่งเสียงกระซิบมุบมิบในปากจนดังออกมานอกแถวคนนี้ชื่ออู๋ มันเป็นเพื่อนสนิทของผมเอง เด็กชายวัยรุ่นหน้าตาดีแต่โคตรลุยคนนี้เคยอยู่โรงเรียนเดียวกับผมตอนมัธยมปลาย และที่สำคัญมันเป็นคนแนะนำให้ผมเข้ามาสอบที่นี่ด้วยหลังจากที่ไปสอบที่อื่นแล้วปิ๋วจนจิตตก ต้องขอบคุณมันเหมือนกันนะที่ติวเข้มผมจนได้มานั่งอยู่ตรงนี้และไม่เป็นบ้าไปซะก่อน

   “เฮ้ยไอ้ประธานรุ่น!” นั่นไง มึงโดนแล้วสัสอู๋!!

 พี่ว้ากหน้าหล่อผู้มีเครางาม (แต่ดุเชี่ยๆ แง๊) กระแทกเท้าเข้ามายืนตรงหน้าไอ้เพื่อนรัก ผมนี่ก้มหน้านับฝุ่นที่พื้นเลยครับ กลัวอะ

“ทำไม!? อยากช่วยเพื่อนเหรอ อยากโชว์สกิลผู้นำหรือไง!”

   “...”

   “เอ๊า!!! ผมถามให้ตอบ!!” พี่เคราแพะก้มลงตะโกนใส่ไอ้อู๋ จนอีกฝ่ายสะดุ้งโหยง ไม่ใช่แค่มันนะ ผมเนี่ยก็สะดุ้งงง ตกใจโว้ยยยย ตะโกนไรนักหนาอ่าเพ่

   “เปล่าครับ!” ไอ้อู๋เงยหน้า ตามองตรงแทบไม่กระพริบ

   “คุณจะนั่งเก้าอี้ลมเองหรือจะให้เพื่อนคุณนั่ง” พี่ว้ากคนเดิมชี้มาตรงนี้ ห่างกับหัวผมแค่นิดเดียว จนต้องถอนหายใจ

   ฟู่วววว บ้าเอ๊ย เล่นเอาเสียววาบ

   “ผมขอนั่งเองครับ” โหไอ้อู๋... มึงนี่ก็มีจิตวิญญาณประธานรุ่นจริงๆ

   “เชิญ!”

   เพื่อนรักเหล่มองผมแปบนึง ก่อนจะลุกขึ้นทำท่าที่ว่า

   ‘เก้าอี้ลม’ เป็นการทำโทษแบบหนึ่ง มันคือการนั่งยองๆ แล้วเหยียดแขนทั้งสองข้างไปข้างหน้า คล้ายๆ กับการนั่งมอเตอร์ไซด์นั่นแหละครับแต่แค่คุณต้องจินตนาการเอาเอง ผมโคตรเกลียดท่านี้เลย ชวนให้เมื่อยชิบเป๋ง

   “ยังไงคุณกุ้ง จะเอาแต่มองเพื่อนเหรอ”

   โอ๊ยยยย อย่ากดดันกันเซ่ ขอคิดก่อน

   “ใจเย็นๆ นะคะน้องกุ้ง ค่อยๆ คิดนะ” พี่หน้าสวยคนหนึ่งแทรกตัวผ่านกลุ่มพี่ว้ากเข้ามานั่งยองๆ ตรงหน้า เธอคือพี่สันใจดีที่ผมปลื้มใจทุกครั้งเมื่อเห็นหน้า ฮือออ นางฟ้าของเค้า

   “ผมคิดไม่ออกอะพี่” ผมกระซิบตอบ

   “ลองคิดว่าอะไรจะแสดงตัวตนของกุ้ง แล้วก็ลองปรับใช้ดูนะ”

   “ผมกลัวโดนด่าอะ”

   “อย่ากลัว ออกไปก่อน ผิดถูกอย่างน้อยก็ได้ทำนะ ถ้าไม่ดียังไงพวกมันก็ต้องปรับแก้ให้อยู่แล้ว ไอ้พวกนี้มันมีเหตุผลมากพอ”

   หูยยยย นี่ถ้าคนอื่นพูดจะไม่เชื่อนะเนี่ย แต่พอพี่อาหมวยสุดสวยคนนี้พูดแล้วเหมือนบัญชาจากสวรรค์ยังไงก็ไม่รู้แฮะ

   “กระซิบอะไรครับพี่สัน ไปนั่งเก้าอี้ลม!!!

   เฮ้ยยยย อย่าทำกับพี่ใจดีของผมอย่างนี้เด่ะ เขามาช่วยผมนะโว้ยยยย

   “ขออนุญาตช่วยพี่ครับ!” เพื่อนๆ ผู้ชายในแถวยกมือกันทุกคน มันคือวิธีอาสาเวลามีผู้หญิงถูกทำโทษ และตอนนี้ วิธีแมนๆ ของพวกมันกำลังกดดันผมแบบสุดๆ

   “เชิญ! เชิญทุกคน!!” พี่ว้ากเครางามจ้องมาที่ผมอีกครั้ง “คุณจะนั่งคิดจนกว่าเพื่อนจะหมดแรงก็ได้นะ”

   โอ๊ยยยย กดดันกันเข้าป๊ายยยย

   เอาวะ เอาเหอะ ...สิ่งที่เป็นผมใช่มั้ย ก็ด้ายยยยย ผมจะลองดู๊!!

   “ขออนุญาตแนะนำตัวครับ!” ผมยกมือข้างขวาขึ้น แขนแนบหูตามระเบียบการรับน้อง

   “เชิญ!”

   ฮือออ ใจเต้นแรงจนจะหลุดออกมาแดดิ้นที่พื้นแล้วเนี่ย

   ผมลุกขึ้นเดินไปยืนหน้าแถว หันมาทางเพื่อนๆ ผู้หญิงที่นั่งอยู่ รวมถึงผู้ชายที่นั่งเก้าอี้ลมอยู่ด้านหลังด้วย

   พวกมึงอย่ามองแบบนั้นสิวะ กูกดดั๊นนนน

   “เอาไง พร้อมมั้ย!”

   “พร้อมครับพี่”

   “เชิญ!”

   เอาละนะ….

   “ผมชื่อนายอิสระ นามสกุลปัจฉิมสหะ ชื่อเล่น กุ้ง....”

   ผมเห็นทุกสายตากำลังจับจ้องมาทางนี้

   “เอ้อเออเอ่อเอ๋ยยยย จะเล่าไปถึงสถาบันครั้งมอปลาย ได้เล่าเรียนศิลป์จีนถึงสามสมัย (มีลูกคอ) จบจากโรงเรียน...”

   “เดี๋ยวๆ” พี่ว้ากคนเดิมเดินเข้ามาใกล้ “ทำอะไรของคุณวะเนี่ย!?”

   “แนะนำตัวไงครับ...” ผมอธิบาย มือไม้ยังค้างอยู่ในท่าลิเกอยู่เลย

   “แล้วมันเป็นคุณตรงไหน...”

   “พะ...พ่อผมชอบกุ้งสุทธิราช ที่เป็นลิเกอะครับ แล้วพี่สันเขาบอกว่าให้ลองพรีเซ้นท์ความเป็นตัวเองก็เลย...” ผมมองไปทางพี่ผู้หญิงคนที่เข้ามาช่วย แต่ตอนนื้ทำหน้าเสียเหมือนเจอผี อ้าวเจ๊ ไม่เวิร์คหรอกเหรอ

   “แล้วคุณชอบมั้ยที่ทำแบบนี้?”

   “ก็อายๆ นิดหน่อยครับ แต่ผมว่าเท่ดี” ผมพยักหน้า

   “เอาดีๆ ให้โอกาสคิด

   “งั้นขอเอื้อนมากกว่านี้ก็ได้ครับ”

   จังหวะนั้นเหมือนเวลาหยุดหมุน ทุกคนมองหน้ากัน เพื่อนผู้หญิงในแถวพยายามกลั้นขำ ส่วนพวกผู้ชายบางคนที่อยู่ข้างหลังตัวสั่นกันหมดแล้วแบบห้ามใจไม่อยู่

   มีอะไรตลกกันวะ พี่กุ้งเค้าเป็นตำนานลิเกไทยเลยนะโว้ย

   “ก้มหน้าหลับตา!!” พี่คนเดิมสั่งดังลั่น และปีหนึ่งทุกคนก็ทำอย่างว่าง่าย คำสั่งนี้เป็นอันรู้กันว่าพวกพี่มีอะไรที่ต้องประชุมกันแน่ๆ โชคดีที่ผมยืนอยู่นอกแถวแบบนี้เลยได้ยินเสียงกระซิบกระซาบชัดเจน

   “ไอ้สัส!” เสียงนั้นแปลกไปไม่มีฟอร์มดุจนผมไม่แน่ใจว่าเป็นพี่คนไหนกันแน่ “น้องเทคมึงแม่งเอ๋อเปล่าวะ เหมือนมึงตอนรับน้องเลยอะ”

   “สัสเอ๊ยพวกมึง กูงงอะ คือกูต้องยังไงวะ ขำก็ขำ จะว่าน่ารักก็เออน่ารัก”

ว๊าววว พี่เทคของผมเป็นผู้ชายเหรอเนี่ยยยย เอ...แต่เสียงไม่คุ้นเลยแฮะ เดายากจัง

“เออ ตอนที่มันบอกว่าเท่ดีแม่งโคตรจริงจังอะ ตล๊กกกก”

   “ชู่ว อย่าเสียงดัง!” น้ำเสียงนี้กำลังกลั้นขำเต็มที่ “เอาไงมึง ให้น้องเทคกูผ่านมะ”

   “ผ่านก็เหี้ยแล้ว สงสารน้อง เดี๋ยวคณะอื่นขำ หรือมึงอยากให้น้องเทคมึงดังขึ้นไปอีก”

   “เอาไง คิดใหม่มั้ยล่ะ?” อันนี้เสียงพี่ผู้หญิงใจดี ผมจำได้ ที่มะกี้ทำหน้าเห็นผีนั่นแหละ

   “เออ ให้พวกพี่สันช่วยคิดให้น้องหน่อย”

   “กูว่าให้มันลองทำอีกที ถ้าไม่เวิร์คก็ค่อยคิดให้มัน”

   การประชุมเพลิงจบลงพร้อมกับเสียงฝีเท้าของรุ่นพี่ที่แตกฮือคล้ายกับว่าชุมนุมเสร็จแล้ว

   โห่...ได้ยินแบบนี้ก็รู้หมดดิว่าพี่เทคผมอยู่แถวนี้ อยากเจอจังเลยอะ ผมชอบนะ เขาซื้อขนมมาให้ผมบ่อยดี อร่อยๆ ทั้งน้านนนน แต่ทำไมเวลาเขียนจดหมายต้องแอ๊บว่าเป็นผู้หญิงด้วย โด่ว! โป๊ะแตกแล้วเฮียยย

   “ลืมตาได้!” กลับมาวางฟอร์มว้ากกันอีกละ “ใช้อะไรคิดครับคุณกุ้ง!!”

   ทำไมพี่ๆ เขาทำหน้าซีเรียสจัง ไม่มีร่องรอยการแอบขำเมื่อกี้เลย แหมมม ไม่ต้องดุกันก็ได้ คุยกันดีๆ เซ่ะ รักษาอิมเมจจัง
 
   “เอาไง! จะให้โอกาสทำอีกที โอเคมั้ย!?”

   “ครับ...” ทำกะผมเลือกได้ที่ไหนกันเล่า

   “เร็ว คิดตรงนี้แหละไม่ต้องเข้าไปนั่งมันแล้ว”

   “เอ๊า...”

   “เอ๊าอะไร?”

   “เอ๊าแบบ…โอ๊ยยยย มันคือการอุทานน่ะครับ คือว่าถ้าผมยืนตรงนี้กลัวคิดไม่ออก”

   แล้วพี่ว้ากคนนั้นก็เดินเข้ามายืนกอดอกประจันหน้าจ้องผมเต็มที่ อะหือออ หน้าตาดีเหมือนกันนะครับ ถึงจะเคราเยอะดูเซอร์ไปหน่อยก็เหอะ

   “จะมองกูหรือจะคิดฮะ!”

   “มันกดดันทั้งสองทางเลยอะพี่...”

   “เร็ว!”

   “ก็ได้ๆ คร้าบบบ...” ไม่เห็นต้องตะโกนเลยนี่

   ผมสูดหายใจรวบรวมความกล้าอีกรอบ ถ้างั้นก็ต้องใช้ไม้ตายแล้วสินะ หึ คราวนี้ถ้าไม่ผ่านให้มันรู้ไป

   ไอ้อู๋ที่กำลังนั่งเก้าอี้ลมจนเหงื่อซ่กทำปากขมุบขมิบให้กำลังใจผมเต็มที่ โอเค...คราวนี้มึงไม่ผิดหวังแน่เพื่อนรัก

   “ผมพร้อมแล้วครับ”

   “เชิญ!” พี่ว้ากสุดโหดถอยออกไป ผมกลับมาประจันหน้ากับทุกคนอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้พวกเขาทำหน้าลุ้นกันหนักกว่าเดิมอีก

   “ผมชื่อนายอิสระ นามสกุลปัจฉิมสะหะ ชื่อเล่นกุ้ง...”

   “....”

   ผมตั้งการ์ดขึ้นมาในท่ากังนัมสไตล์ เตรียมทำท่าแบ๊วเต็มที่

   “น้องกุ้งน่ารัก ใครไม่รักก็บ้าแล้วววววว (ทำเป็นจิ้มแก้ม) จบจากโรงเรียนเซนต์เจมส์... ยอม! ยอมเป็นข้าวมันไก่! (ทำท่าไก่ขัน กะต๊าก กะต๊าก) อยู่เอกการแสดงและกำกับการแสดง”

   ผมแอบเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของพี่ว้ากหน้าโหดเคราแพะคนนั้นอยู่แปบนึง แต่เมื่อผมจ้องไปเขากลับปั้นหน้าโหดซะดื้อๆ มันเลยเดาไม่ได้ว่าพี่เขาโอเคหรือเปล่า

   “พวกพี่ว่าไง” หัวหน้าว้ากหันไปถามรุ่นพี่คนอื่นๆ

   ทุกคนพยักหน้าหงึกๆ พวกพี่ใจดีบางคนแอบมีรอยยิ้มด้วย เฮ้ยยย มีหวัง แปลว่ามีสิทธิ์ผ่านใช่ปะ?

   “เออ ก็ดี” พี่เครางามพยักหน้าส่งๆ แหมมม ชอบก็บอกมาเถอะพี่แพะภูเขา

   “ครับ...”

   “แต่ผมจะถามความเห็นคนอื่นหน่อย คุณเดินตามผมมานี่...”

   ผมขมวดคิ้วทำหน้างงใส่ แต่ก็เดินตามเขาไปแต่โดยดี พี่ว้ากสุดเซอร์คนนี้พาผมไปยังลานคณะวิทยาศาสตร์ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ตรงนั้นมีพี่ปีโตกำลังทำกิจกรรมสร้างสรรค์ให้น้องๆ เต้นรอบกลองอย่างเอาเป็นเอาตาย เห็นแล้วอิจฉาจนอยากจะเข้าไปกลางวงแล้วจัดสักสามสี่เสต็ป เห็นมะเขาไม่เห็นต้องดุใส่กันก็ยังรักกันเลยนี่ โธ่!

   “ไอ้เก่ง!” พี่ว้ากตะโกนเรียกผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งกำลังหันหลังเท้าเอวมองดูน้องๆ คณะตัวเองเต้นอยู่

   “ว่าไงมึง” เสียงไม่เท่าไหร่… พอหันมาเท่านั้นแหละผมนี่แทบสตั๊นเลย คนอะไรมันจะหน้าตาดีขนาดนี้อะ!!!

   แงงง จาอาววว จาอาวววว

   “มึงดูน้องกูแนะนำตัวหน่อย”

   พี่วิทยาคนนั้นเปรยตามองมองผมช้าๆ พร้อมกับรอยยิ้ม “จะให้ดูทำไม น้องเขาดังอยู่แล้วนี่”

   อึ๋ยยยยยเขินนนนน รู้จักกันด้วยเหรอออออ

   เอ๊ะ...ที่ว่าดัง เขาหมายถึงในด้านไหนหว่า

   “กูหมายถึงท่าแนะนำตัว”

   “อ๋อ เอาดิ” พี่สุดหล่อหน้าใสคนนั้นหันไปหยุดน้องๆ ที่กำลังเต้นอย่างบ้าคลั่ง “ปีหนึ่งพักก่อน มาดูสินกำแนะนำตัวกันเร็ว”

   พอได้ยินคำว่าสินกำทุกคนก็ให้ความสนใจทันที พวกเขามองมาทางผมแสดงทีท่าอย่างกับเห็นดารา แหงะ ไม่ต้องมองกันอย่างนั้นก็ได้ครับ รู้ว่าการแนะนำตัวของคณะเรามันเจ๋ง แต่สำหรับผมอาจจะเห่ยก็ได้นะ อย่าคาดหวังเลยเพื่อนๆ

   “พร้อมแล้วเริ่มเลยนะคุณ” พี่ว้ากหันมาบอก “อย่าให้เดือนมหาลัยปีที่แล้วผิดหวังนะ”

   หา…อะไรนะ!? พี่สุดหล่อคนนี้เป็นเดือนมหาลัยเลยเหรอ... มิน่าล่ะ หล่อสวรรค์ปั้นแบบนี้ อยากจะยกนิ้วให้... ยกตัวให้ด้วยก็ได้เอ๊า!

   “สู้ๆ นะครับน้องกุ้ง” พี่เก่งยิ้มหวาน

   โอ๊ยยย ได้ฮ้ากกกกกกับอ้ายยยย เหมือนใจได้ปริญญา

   “ขออนุญาตแนะนำตัวครับ!” ผมยกมือ ก้าวขาเข้าไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ “ผมชื่อนายอิสระ นามสกุลปัจฉิมสะหะ ชื่อเล่นกุ้ง น้องกุ้งน่ารัก ใครไม่รักก็บ้าแล้ว! จบจากโรงเรียนเซนต์เจมส์...ยอม! ยอมเป็นข้าวมันไก่! อยู่เอกการแสดงและกำกับการแสดง...”

   ผมได้ยินเสียง “งื้อออออออ” แบบเก็บอารมณ์มาจากสาวๆ กลุ่มหนึ่ง ผมไม่ได้หันไปมองหรอกเพราะสายตายังจบจ้องไปที่ดวงตาคู่สวยของพี่เก่ง คนอะไรตาหวานชะมัด นี่กะจะให้ผมละลายอยู่ตรงนี้เลยใช่มั้ยเอ่ย

   ยืนยันคำเดิมว่าจาอาววววว จาอาววววว

   “มึงโอเคมั้ย” พี่ว้ากคณะผมเดินเข้ามา

   “ไม่เคก็เหี้ยแล้ว น้องน่ารักขนาดนี้”

   งุ้ยยยยยยย ตัวจะระเบิดเป็นปลาปั๊กกะเป้าแล้วนะถ้าหยอดหรือจิ้มอีกทีอะ

   “งั้น...ท่าแนะนำตัวของคุณ …ผ่าน!

   “เย่สสสส” ถึงจะกำลังปลาบปลื้มกับคนหน้าตาดี แต่พอได้ยินประโยคนั้นจากพี่ว้ากผมถึงกับกระโดดตบมือเลยทีเดียว ฮือออ ในที่สุดก็ผ่านแล้วโว้ยยยยยยย

   “เชิญคุณกลับไปที่แถวด้วย” แล้วพี่แสนโหดก็หันหลังขวับเดินกลับไป โดยไม่ลืมโบกมือลาเพื่อนอย่างพี่เก่งที่ยังไม่หยุดยิ้มให้ผมเลย

   “สู้ๆ นะน้องกุ้ง พี่รู้รับน้องสินกำมันเหนื่อย”

   “เอ่อ...” เอ๊า พี่เก่งชวนคุยแบบนี้ ไปต่อไม่ถูกเลยสิฮะ เอ…แต่เขาไม่มีกฎห้ามคุยกับรุ่นพี่คณะอื่นนี่นา “ขอบคุณนะครับพี่”

   “ดีใจด้วยนะครับที่สอบติด ตั้งใจเรียนนะ”

   “แน่นอนครับพี่...” ผมทำทีจะหันหลัง แต่ไม่รู้ทำไม๊ทำไมอยากมองหน้าเขาชัดๆ อีกครั้ง ของดีๆ แบบนี้ไม่อยากให้หลุดมือไปง่ายๆ อะ

   “พี่เก่งครับ” ผมย่นจมูกด้วยความเขิน

   “ว่าไงเอ่ย?”

   “พี่ เอ่อ...” เอาวะ ฮึบ! “พี่มีแฟนยังอะครับ”

   พี่เก่งเหมือนจะงงๆ กับความกล้าบ้าบิ่น แต่พอตั้งสติได้เขาก็ยิ้มออกมาอย่างน่าเอ็นดู

   “ยังไม่มีครับ”

   “ถ้างั้น...” ผมเดินเข้าไปประชิดตัวเดือนมหาลัยคนล่าสุดจากคณะวิทย์ “ผมขอนอนกับพี่ได้มั้ย”

   “หืม?” พี่เก่งเอียงคอ

   “นะฮะ”

   ถึงจะนิ่งกันอยู่นาน สุดท้ายพี่สุดหล่อคลี่ยิ้มบางๆ ในที่สุด

   “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”

   แว๊กกกกกก ไชโย! ติดกับแล้วหนึ่ง ผมนี่ยิ้มแป้นเพราะความเขินเต็มที่เลย เย่! ชีวิตมหาลัยเริ่มสดใสแล้วโว้ยยยยย

   “คุณกุ้ง!” เราทั้งสองคนสะดุ้งเมื่อมีเสียงตะโกนมาจากอีกฟากของลานกว้าง “จะคุยกับผู้ชายอีกนานมั้ย!! กลับมาที่แถว! สิบ เก้า แปด เจ็ด....”

   แว๊กกกกก ผมรีบโบกมือลาคนตรงหน้าอย่างเสียดายก่อนจะรีบใส่เกียร์วิ่ง

เดี๋ยวคุยกันนะพี่เก่ง ต้องกลับไปลงนรกก่อน

โอ้โห ชีวิตมหาลัยมันสบายๆ ง่ายๆ อย่างกับซื้อของที่ลาซาด้าแบบนี้นี่เอง ตื่นเต้นรอวันเปิดเทอมไม่ไหวแล้ววววว



TBC*

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

แวะมาเปิดเรื่องใหม่ ต้อนรับลมหนาวๆ แบบนี้
ฝากน้องกุ้งไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับบบบบบบ

พูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/thene0classic
หรือ #อย่ามาอยู่กับกุ้ง ก็ได้นะฮัพ แต่ถ้าใครเม้นกับบวกเป็ดให้เนี่ยจะเต้นแบบน้องกุ้งเรยยยยย
ถือเป็นแรงใจต้านภัยหนาวนะคร้าบบบ <3

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3

บทที่ 1

มหาลัยวัยฝัน



   ผมชื่อกุ้ง บ้านอยู่บางขุนเทียน (จะบอกทำไมวะงง) ผมมีนิสัยประหลาดนั่นคือชอบเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ

   อ๋า… อย่ามองอย่างนั้นสิครับ นอนในที่นี้หมายถึงนอนแบบนอนจริงๆ นอนหลับอะ

   ผมเป็นพวกขาดความอบอุ่น อยู่คนเดียวไม่ค่อยจะได้ ผมมักจะรู้สึกดีเวลาอยู่บนเตียงและใช้แขนขากอดก่ายใครสักคนที่รู้สึกดีด้วย ถึงจะฟังดูประหลาด แต่มันคือเรื่องจริง ถ้าไม่เชื่อ ผมขอยกนิ้วสาบานเลยก็ได้ว่าตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ผมยังจิ้น ผมไม่ได้ชอบแบบนั้นสักหน่อย แค่ได้นอนกอดคนที่น่ารักกับเราก็ฟินแล้ว

   แต่ปัญหาอยู่ที่พวกคนที่ผมชอบใช้บริการนี่สิ ไม่รู้ว่ามันไปสร้างเครือข่ายกันอีท่าไหน ทำให้ชื่อเสียงของผมดังกระฉ่อน แถมในทางลบอีกตะหาก ผมคิดว่าบางทีพวกนั้นก็คงกลัวเสียฟอร์ม เลยไม่กล้าพูดกับคนอื่นว่ายังไม่ได้ทำอะไรผม แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ขี้เกียจเกินกว่าที่จะอธิบาย คิดซะว่าช่างมัน ให้พวกเขาพูดไป แค่รู้ตัวเราว่าไม่ได้เป็นแบบนั้นก็พอแล้ว

   “กุ้งทำแบบนี้กับทุกคนเลยเหรอ?” พี่เก่งส่งเสียงขณะที่กำลังสวมเสื้อโดยมีผมนั่งมองอยู่บนเตียง

   “อะไรอะพี่? หมายถึงนอนกอดน่ะเหรอ”

   “อื่อ”

   “ครับ ทุกคนเลย” ผมยิ้มกว้าง

   “ประหลาดคน” พี่เก่งยืนกอดอกพิงกับตู้เสื้อผ้าและทอดมองมา “มีพวกอดใจไม่ไหวบ้างหรือเปล่า”

   “เยอะแยะ แต่ผมไม่เคยเล่นด้วยหรอก”

   “แรดจริงๆ” พี่เก่งพูดหยอกล้อ เอ๊ะ...หรือด่าจริงๆ วะ “แล้วนี่จะไปนครนายกยังไง?”

   “เดี๋ยวเพื่อนสนิทมารับครับ มันมีรถ”

   “ขับไกลๆ แบบนั้นก็ระวังล่ะ ช่วยกันดูทางด้วย”

   “รู้แล้วคร้าบบบบ” ผมพยักหน้า ยิ้มแป้นอีกตะหาก “ขอบคุณมากนะพี่ สำหรับเมื่อคืน”

   “ไม่เป็นไร แต่พี่ขอไม่บอกเรื่องนี้กับใครนะ เดี๋ยวโดนล้อ”

   เอาอีกแหละ เห็นมั้ยละครับทุกคน

   “เอาเถอะพี่ ผมเข้าใจ”

   บอกแล้วว่าผมเหนื่อยจะแก้ข่าว เฮ้อ บอกไปใครมันจะเชื่อ ให้คนอื่นมันรู้ในแบบที่มันต้องการแล้วกัน

   ปัง! ปัง! ปัง!

   “สัสกุ้ง กูมาแล้ววววววว”

   เสียงเคาะประตูดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงดังอันไร้อารยะธรรมของไอ้อู๋

   “เพื่อนผมมารับแล้ว”

   “หึ เอิกเริกสมกับเป็นเด็กสินกำจริงๆ”

   “แฮะๆ”

   “ไปๆ พี่จะกลับแล้วด้วย”

   ผมเดินนำพี่เก่งออกมาจากห้องนอน แล้วก็บอกลากันอยู่หน้าประตูห้องด้วยการกอดกันอีกครั้ง ตัวพี่เก่งหอมดีจัง ผมนอนซุกดอมดมทั้งคืนเลย อึ๋ยยยย

   ผมเปิดประตู แล้วก็ต้องกลั้นขำเมื่อเห็นสีหน้าของไอ้อู๋ตอนเห็นพี่เก่งที่ยืนอยู่ตรงหน้า มันอ้าปากค้างเหมือนเจอสัตว์ประหลาด จนต้องเป็นพี่เดือนมหาลัยที่ช่วยเปลี่ยนสถานการณ์

   “สวัสดีครับน้อง”

   “สะ...สวัสดีครับ” ไอ้อู๋ยกมือไหว้ จากนั้นก็เหลือบมองผม “มึง...”

   “อะไร” ผมอมยิ้มกรุ้มกริ่มให้มันหมั่นไส้เล่นๆ

   “งั้นพี่ไปแล้วนะ เดินทางกันดีๆ นะครับเด็กๆ”

   “ไว้คุยกันครับพี่” ผมโบกมือ จากนั้นพี่เขาก็เดินออกไปยังโถงทางเดิน แม้แขกจะเข้าไปในลิฟต์แล้ว ไอ้อู๋ก็ยังอ้าปากค้างแบบเดิมอยู่เลย

   “แมลงวันจะเข้าไปจู๋จี๋กันในนั้นได้แล้วน่ะ” ผมเอานิ้วแหย่เข้าไปในปากของอีกฝ่าย ก่อนจะสะบัดตัวกลับเข้าห้องโดยมีไอ้เพื่อนสนิทกระฟัดกระเฟียดตามมา

   “ไอ้กุ้ง ทำไมมึงทำแบบนี้!”

   “ทำอะไรเหรอ?” ผมบุ้ยปาก

   “ก็แบบนี้ไง...” มันทำไม้ทำมือ “ไหนมึงบอกว่าเข้ามหาลัยแล้วจะเลิก”

   “ก็พี่เขาน่ารักขนาดนั้น อดใจได้ยังไงเล่า”

   “มึงนี่มันแรดไม่เลิกจริงๆ”

   หืม...ได้ยินคำว่าแรดสองรอบแล้วนะวันนี้

   “เลิกโวยวายสักทีดิ๊ มึงก็รู้นี่ว่ากูไม่ได้ทำอะไรเสียหายสักหน่อย”

   “กูรู้แต่คนอื่นไม่ได้รู้ด้วยนี่วะ! เชื่อเลยว่าแม่งต้องเอาไปบอกเพื่อนๆ ต่อแน่ ทีนี้มึงก็ไม่ต่างอะไรกับตอนมัธยมเลย ไม่คิดจะแก้ข่าวบ้างหรือไง!!”

   “ไม่อะ ขี้เกียจ”

   “ระวังเถอะ ทำแบบนี้เวลามึงอยากมีแฟนจะลำบาก”

   ผมนิ่วหน้าเมื่อได้ยินคำนั้น

   “กูไม่ได้อยากมีแฟนสักหน่อย”

   “มึงคิดว่าจะอยู่คนเดียวแล้วเปลี่ยนคนนอนกอดไปทุกๆ คืนงั้นเหรอ”

   “นั่นแหละชีวิตในฝัน” ผมทิ้งตัวลงบนโซฟา เหยียดแข้งเหยียดขาสบายอุราเต็มที่

   “โอ๊ยกูขี้เกียจเถียงกับมึงแล้ว” ไอ้อู๋สะบัดหัว ผมจ้องใบหน้าของมันก็เพิ่งทำให้รู้ว่าตั้งแต่มันขึ้นมหาลัยแล้วหน้าตาดีขึ้นเป็นกอง ภูมิใจจังที่มีเพื่อนเท่ๆ แต่ถึงยังไงจะให้นอนกอดด้วยก็คงทำไม่ลงหรอก เห็นมาตั้งแต่ตัวเท่าเมี่ยง

“แล้วมึงจัดกระเป๋ายัง รุ่นพี่นัดที่นครนายกบ่ายสามนะ” ไอ้อู๋ทิ้งตัวนั่งข้างๆ

   “ฮะ!” ผมดีดตัวผึ่ง “รุ่นพี่จะตามไปถึงโน่นเลยเหรอ”

   “เขาต้องไปดูแลน้องๆ ไง”

   “มาว้ากอะสิไม่ว่า กูชักเบื่อแล้วนะ เดี๋ยวลาออกแม่งซะเลย” คิดว่าจะต้องโดนตะโกนใส่หน้าก็เริ่มหงุดหงิดแล้วฮะ

   “ก็คงทำตามหน้าที่แหละ กูยังเคยเจอพวกพี่เขาเมาเรื้อนแถวทองหล่อกันอยู่เลย”

   “ไม่พูดเรื่องนี้แล้วอู๋ เห็นมั้ยกูหมดอารมณ์เลยเนี่ย”

   “อย่าทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง รีบหยิบกระเป๋า ไม่งั้นกูทิ้งมึงให้ไปขึ้นรถตู้อนุสาวรีย์แน่”

   “เอออออออ แม่งดุจังวะ”

   ไอ้อู๋นี่เหมือนพ่อคนที่สองไม่มีผิด ฮึ่ยยยยย




รถเลี้ยวเข้าเขตรั้วของมหาวิทยาลัยชื่อดังวิทยาเขตนครนายก ที่ๆ ปีหนึ่งทุกคนจะต้องมาเรียนที่นี่เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม ผมตื่นตาตื่นใจกับทุกๆ อย่าง ได้กลิ่นอิสรภาพทันทีที่ได้ย่างกรายเข้ามา ชีวิตมหาลัยของผมต้องสนุกแน่ มีลางสังบรู๊ววววววว (สังหร)

   อู๋ดับเครื่องเมื่อถึงลานจอดรถใกล้หอพัก ปีหนึ่งทุกคนโดนบังคับให้อยู่หอในหมดทุกคน เราจะถูกคละเคล้านอนกับคณะอื่นๆ เหมือนโดนหมักเป็นหมู ซึ่งพวกผมทั้งสองคนยังไม่รู้ว่าจะได้เจอกับรูมเมทแบบไหน ที่แน่ๆ คือพวกเราไม่ได้นอนห้องเดียวกัน  แต่สัญญากันไว้แล้วนะว่าถ้าเห็นท่าทีไม่ดีก็ย้ายหนีมาอยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องแคร์กฎของมหาลัย เอาความปลอดภัยไว้ก่อนนนน

   “มึงอยู่ชั้นไหนนะ” ไอ้อู๋หันมาถามผมขณะที่พวกเรายืนอยู่หน้าหอสาม ซึ่งอยู่ริมน้ำต้นไม้เยอะสุดแสนจะร่มรื่น

   “ชั้นสาม... มึงชั้นแรกใช่ปะ”

   “เออ งั้นแยกกันตรงนี้ ยังไงรายงานด้วย”

   เราโบกมือให้กัน ผมอุ้มกระเป๋าลากอย่างทุลักทุเลและเหนื่อยหอบอยากจะจะตายอยู่ที่ชั้นสอง พวกเด็กคณะอื่นๆ ที่เห็นผมสะกิดเพื่อนซุบซิบกันตลอดทาง เอาจริงนะ สละเวลานินทามาช่วยหน่อยสิ กล้ามจะปูดอยู่แล้วอะครับคุณ

   แล้วก็ถึงห้อง 319 ห้องที่ผมจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับมันหนึ่งปีเต็ม เดี๋ยวพอเมื่อเปิดประตูเข้าไป ผมจะต้องเจอรูมเมทแน่ๆ งั้นขอพนมมือก่อน... สาธุ…ไม่ขออะไรมาก แค่อย่าเจอคนสกปรกก็พอนะคร้าบบบบ

   “เฮ้ย!” ทันทีที่ผมผลักประตูเข้าไปก็ต้องร้องเมื่อเห็นว่าคนด้านในกระชากลูกบิดประตูพร้อมกันพอดี จนร่างแคระแกรนเกินชายของผมถูกเหวี่ยงอย่างแรง จนหน้าผากโขกเข้าให้กับกล้ามเนื้อที่แข็งแรงอย่างกับหินของคนตรงหน้า
อูยยย จะโนรึเปล่าวะ ผมลูบบริเวณหน้าผากป้อยๆ ขณะที่ชายตามองเขาไปพร้อมกัน

   ไอ้หน้าไดโนเสาร์ผู้สูงโย่งอย่างกับเปรตทำหน้าเหม็นเบื่ออยู่ตรงหน้า โครงหน้าชัดแก้มตอบนั้นไม่มีท่าทีรู้สึกผิดหรือว่าเป็นห่วงใดๆ นอกจากเม้มปากสีชมพูธรรมชาติจนเห็นกรามสวยได้รูปชัดเจน ดวงตาดำสนิทภายใต้เปลือกตาบางๆ นั้นก้มลงจ้องมองเหมือนต้องการสำรวจ

   มันสวมเสื้อกล้ามสีเขียวซึ่งผมรู้มาว่าเป็นสีประจำคณะพละ ยืนจังก้าโชว์ไหล่กว้างแข็งแรง (ที่พิสูจน์แล้วด้วยหน้าผากของผม) ผมนึกประหลาดใจเพราะไม่เคยเห็นใครลำตัวช่วงบนยาวขนาดนี้มาก่อน นี่หรือเปล่าวะต้นแบบของคำว่าขี้เกียจสันหลังยาวอ่ะ

   แต่ไงก็เหอะ รวมๆ แล้วมันก็เรียกได้ว่าหล่อเลยทีเดียว

   แง๊…. จาอาว จาอาว จา...

   “หืม?” เสียงครางในลำคอนั้นขัดความคิดผมซะก่อน เรียกให้ผมสังเกตเห็นว่ามันกำลังเลิกคิ้วขึ้นเหมือนพออกพอใจ

   “เอ่อ...” จะจ้องแบบนั้นทำไมวะน่ะ

   “ไอ้โมทย์! รูมเมทมึงมาแล้ว” ไอ้คนที่ยืนตรงหน้าเอี้ยวตัวไปบอกใครสักคน และจากนั้นก็มีหนุ่มแว่นเดินออกมาจากห้องน้ำ สวมเสื้อกล้ามสีเขียวแบบเดียวกันเปี๊ยบ

   “อ้าว สวัสดีนะครับ” หนุ่มหน้าจืดแว่นโตคนนั้นวิ่งปรี่เข้ามาหาผม “อยู่ห้องนี่ใช่มั้ยเอ่ย”

   “ใช่แล้ว...” แหงะ ไม่เคยคุยกับหนุ่มเนิร์ดมาก่อน ทำตัวไม่ถูกเลย

   “เราชื่อปราโมทย์นะ อยู่คณะพละ”

   ผมพยักหน้า พร้อมกับยิ้มแย้มกลับไปแบบเกร็งๆ คิดว่าถึงเวลาต้องแนะนำตัวบ้าง “เราชื่อ...”

   “กุ้ง”

   ผมหันขวับไปหาไอ้คนที่พูดชื่อ ไอ้ไดโนเสาร์ทำหน้านิ่งๆ จ้องผมเขม็งจนต้องเป็นผมเองที่เขยิบตัวหนี น่ากลัวชะมัด

   “อ้าวไอ้ทัก ทำไมมึงรู้จักเขาอะ”

   “หึ” ไอ้ตัวสูงยักไหล่ “ใครไม่รู้จักกุ้งบ้างวะ”

   “ทำไมกูไม่รู้จักอะ... นายดังเหรอ?” หนุ่มจืดหันมาถามด้วยใบหน้าตื่นเต้นอยากรู้คำตอบ คงคิดว่าตัวเองจะได้นอนกับดาราล่ะมั้ง

   “เปล่า...”

   “ดังสิ” แหนะ สาระแนพูดแทรกอีกแล้ว

   “เอ๊า แล้วทำไมกูไม่รู้จักอะ!” นี่ก็อยากรู้จัง

   “คงไม่ดังในแวดวงมึงมั้ง” คนชื่อทักก้าวขาเข้ามา “แต่สำหรับกู ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว”

   ไม่ได้รู้สึกไปเองแน่ๆ ว่ามันเอนตัวมาทางนี้ ทำบ้าอะไรเนี่ย

   “หลบหน่อย” ไอ้ไดโนเสาร์ส่งเสียง “อย่าขวางประตู”

   ผมเบี่ยงตัวหนีในทันใด นิ้วเรียวๆ ของอีกฝ่ายจับลูกบิดประตูก่อนจะกระชากออก หลังจากมันแทรกตัวออกไปด้านนอกแล้วผมก็หมุนตัวกลับมายิ้มแห้งๆ ให้กับรูมเมทที่ยังทำหน้าสงสัยไม่เลิก

   “กุ้งไม่ได้เป็นดาราใช่ปะ?”

   “จะบ้าเหรอ ไม่ได้เป็น”

   “อ๋อ” โมทย์พยักหน้า “อยู่สินกำล่ะสิ”

   “รู้ได้ไงอะ”

   “ดูสไตล์ก็รู้แล้ว”

   “อ๋อ ส่วนโมทย์เรียนพละเนอะ เสื้อสีสวยเชียว” ผมชี้ไปยังเสื้อกล้ามสีเขียว

   “ใช่แล้ว เมื่อกี้เพื่อนเรามาจากโรงเรียนเดียวกัน ชื่อทัก”

   ชื่อทักแต่ไม่น่าทักทายเลย ให้ตายดิ

   “แล้วอีกสองคนยังไม่มาเหรอ?” ผมมองไปยังสองเตียงที่ยังว่างอยู่ ยังไม่มีกระเป๋าวางเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของแต่อย่างใด

   “นั่นสิเราก็สงสัย คงจะมาเปิดเทอมวันจันทร์เลยล่ะมั้ง” โมทย์ยกนาฬิกาข้อมือมาดู “เราต้องไปแล้วอะเพื่อนๆ เรียกรวม ไว้คุยกันนะ จะไปไหนอย่าลืมล็อคห้องล่ะ”

   “อื่อ”

   “กุ้งไม่ไปรวมตัวกับเพื่อนเหรอ?”

   “ไม่อะขี้เกียจ ว่าจะนอนสักหน่อย”

   “งั้นโชคดี” ปราโมทย์โบกมือแล้วตามเพื่อนออกไป ผมทิ้งตัวลงบนเตียงที่มุมห้องใกล้หน้าต่าง โชคดีที่เตียงไม่แข็งเท่าไหร่ ผมเลยหลับตานอนทั้งๆ ที่ยังไม่ปูเตียงมันซะเลย




RRRRRRRRR

   “หือออ” ผมสะดุ้งตื่นเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงสั่นของโทรศัพท์ใกล้ๆ แขน พอเห็นว่าเป็นชื่อไอ้อู๋ก็รับทันที แม้จะงัวเงียอยู่ก็ตามเถอะ

   “ว่าไง”

   [อยู่ไหน!!]

   “จะตะโกนทำเหี้ยอะไรเนี่ยหูจะระเบิด มึงคิดว่าตัวเองเป็นพี่ว้ากเหรอ!”

   [ไม่ได้คิด แต่ผมเป็นพี่ว้าก!!]

   เดี๋ยวนะ...

   “ขอโทษน้า นี่ใครอะจ๊ะ?”

   [ผมเป็นพี่คุณไง! มาที่อาคารแปดเหลี่ยมภายในสองนาที ไม่อย่างนั้นเพื่อนคุณซวยแน่!]
   ตู๊ดดด ตู๊ดดดด ตู๊ดดดด

   โว้ยยยยยย วางสายไม่ให้โอกาสกูได้ช็อคเลย

ฮือออออ เอาอีกแล้ว งานเข้าอีกแล้ว ทำไมต้องเป็นกูตลอด!

   ผมเด้งตัวลุกจากเตียง รีบล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะวิ่งปรู๊ดลงจากหอเพื่อตรงไปยังอาคารแปดเลี่ยมอันเลื่องชื่อ เป็นสัญลักษณ์สำคัญของวิทยาเขตนี้ พวกคณะต่างๆ จะใช้พื้นที่ว่างๆ ที่มีหลังคาเป็นทรงเหลี่ยมแปดด้านทำกิจกรรมต่างๆ ทุกอย่าง และตอนนี้ที่นั่นก็มีเพื่อนๆ ในคณะของผมกำลังนั่งเข้าแถวในชุดระเบียบนิสิต ต่างกับผมที่เพิ่งวิ่งมาอย่างรีบร้อน ซึ่งยังใส่เสื้อแขนยาวสีเหลืองอ๋อยลายเป็ดน้อยน่ารักตัวเดิมกับตอนมาถึงอยู่เลย อิๆ

   “คุณกุ้ง!” พี่ว้ากเคราแพะเจ้าเดิมตวาดลั่นดังสนั่นไปทั่วพื้นที่โล่งๆ จนพวกคณะอื่นๆ เงียบกริบ ให้ความสนใจน้องเสื้อเหลืองคนนี้เป็นตาเดียว ขอบคุณมากครับ แง้

   “ขอโทษครับ” ผมยกมือไหว้ อายก็อาย กลัวก็กลัว

   “เพิ่งตื่นหรือไง!!”

   “พี่รู้ได้ยังไงอ่า...”

   มีพี่เนียนแฝงตัวอยู่เปล่าวะ หรือว่ามีองค์วะ

   “ก็ดูผมคุณสิ ชี้ฟูฟ่องเหมือนเจอผีขนาดนั้น!”

   เอ๊าแล้วก็ไม่บอกกกกก

   ผมตกใจ ยกมือไม้ขึ้นจัดทรงเป็นพัลวัน

   “แล้วทำไมคุณไม่ใส่ชุดนิสิตเหมือนคนอื่นเขา!”

   “ผมเพิ่งตื่นครับ”

   “แล้วผมจะตรวจชุดระเบียบนิสิตของคุณยังไง”

   “เอ่อ...” ผมอ้ำอึ้งก่อนจะยกมือชิดหู “ขออนุญาตหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าครับ”

   “จะทำอะไร?”

   “ผมถ่ายรูปตอนลองใส่ไว้ จะเปิดให้พี่ดู...”

   สายตาของพี่ว้ากเหมือนไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ผมพูด แต่ก็เหลืออดเกินกว่าจะตะโกนใส่อีกรอบ

   “เออ เชิญ!”

   ผมเปิดรูปนั้นโชว์ให้พี่เขาดู พี่ปีสองคนอื่นๆ เข้ามามุงดูพร้อมกันด้วย ทุกคนพยักหน้าลงความเห็นว่าชุดของผมในรูปนั้นถูกระเบียบ เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่โคร่งไหล่ตก กางเกงขาเต่อขึ้นมาสี่เซนต์ให้เห็นข้อเท้า ส่วนเน็กไทสีประจำมหาวิทยาลัยก็ถูกผูกด้วยความเรียบร้อยตามประสาคนเนี๊ยบๆ

   “ผ่าน... แต่ถ้าคราวหน้าคุณเหลวไหลแบบนี้อีก ผมจะทำโทษคุณ”

   “ขะ...ขอบคุณนะครับ” โอ๊ยยยย ขอบคุณสวรรค์ วันนี้ผมรอดตัวคร้าบบบบ

   “เชิญเข้าไปนั่ง”

   ผมเดินเข้าไปในแถว แทรกตัวไปอยู่ในตำแหน่งผู้ชายคนแรกซึ่งเป็นของคนที่เตี้ยที่สุด โอ๊ะ แต่ผมไม่ได้เตี้ยแบบนั้นนะครับ คือผมอะก็สูงอยู่ดี แต่แม่งมีพวกที่สูงกว่า เช่นไอ้อู๋ที่อยู่แถวหลังผม ผมตัวสูงพอๆ กับผู้หญิงท้ายแถวเลยนะ แบบนี้เรียกว่าตามมาตรฐานนะครับ ไม่น่าเกลียดๆ

   “นั่งเข้าระเบียบ!”

   ทุกคนตบหน้าตักพร้อมกับเหยียดหลังตรง มือทั้งสองจับอยู่ที่หัวเข่า ตามองตรงอยู่ข้างหน้า

   “เอาล่ะ ผมจะบอกว่า พวกผมจะได้ไม่ได้มาหาพวกคุณบ่อยเหมือนที่กรุงเทพแล้ว”

   “เย่สสสสสส”

เวร! เผลอหลุดปาก...

   “แหมคุณกุ้ง! ไม่ต้องดีใจออกนอกหน้าแบบนั้นก็ได้นะ!!”

   “แฮะๆ”

   พี่ว้ากกลับไปอธิบายต่อ

   “แต่ไม่ได้หมายความว่าการรับน้องของพวกคุณจะจบลงแค่นี้ พวกคุณยังมีงานที่ต้องส่งอีก ทั้งชื่อรุ่น ธงรุ่น และของประจำตัวสำหรับคนที่มีตำแหน่ง ตอนนี้มีแค่ดาบของประธานรุ่นคนเดียวที่ผ่าน...”

   ดาบ คือยศหรือตำแหน่งของประธานรุ่น ทุกๆ รุ่นจะต้องมีดาบที่ดีไซน์เองว่ามีความหมายกับรุ่นนั้นๆ ยังไง และด้วยความเก่งกาจของไอ้อู๋ มันจึงเป็นคนเดียวที่มีของประจำตัว ด้วยดาบใบใหญ่ลากพื้นดีไซน์คล้ายดาบของ Mortos ตัวละครใน ROV ด้วยเหตุผลที่พรีเซ้นท์ว่า พวกเราทุกคนในรุ่นติดเกมนี้กันงอมแงม

   บางทีมันก็ง่ายๆ แบบนี้อะ แค่จริงใจพี่ๆ ก็ให้งานผ่านแล้ว พวกเราเองแหละที่คิดยากเกิน

   “แต่พวกผมจะไม่โทรมานัดคุณอีกแล้ว ขอให้คุณนัดกับพี่ประสานงาน และเมื่อพวกคุณพร้อมพวกเราจะมาที่นี่ ขอให้ใช้ชีวิตในมหาลัยให้สนุก อย่าทำผิดกฎเด็ดขาด พวกผมมีสายสืบที่นี่เยอะ อย่าคิดว่าจะรอดไปได้”

   โห่ แปลว่ายังไงก็หนีไม่พ้นสินะ หงอยจังเลยยยย

   “เอาล่ะครับ การตรวจระเบียบจบลงแค่นี้ ไว้เจอกันใหม่”

   “ขอบคุณครับ/ค่ะ...”

   “เดี๋ยว ผมยังไม่ได้สั่งให้พวกคุณลุก!!”

   เอ๊า ก็ไหนพี่บอกไว้เจอกันใหม่อะ

   “คุณรู้มั้ยเด็กสินกำอย่างพวกเราชอบทำอะไร...”

   เดี๋ยวนะ ผมว่าเริ่มมีลางไม่ดีและ...

   “พวกเราชอบทำตัวเด่นไงครับ” พี่เคราแพะยิ้มหวาน น่ากลัวชะมัดยาดเลย

   อย่านะ อย่าพูดคำนั้นออกมานะ...อย่า!!

   ทุกสิ่งทุกอย่างหดหู่มากขึ้น เมื่อพี่ว้ากขาประจำพูดว่า...

   “แนะนำตัวชายสลับหญิงตามความสมัครใจ... เริ่ม!”

   กูว่าแล้วเชียวววววววววว ซื้อหวยป่านนี้กูเป็นเศรษฐีแล้วววว

   “ขออนุญาตแนะนำตัวครับ!”

   แม้ตาของผมจะมองตรงไปข้างหน้า แต่หูผมก็รับรู้ว่าเสียงนั้นเป็นของไอ้อู๋แน่นอน นี่สิประธานรุ่น ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ เย่สสสส

   “เชิญ!”

   ผมรู้สึกได้ว่าไอ้อู๋ลุกขึ้นเพราะทุกคณะที่แฝงตัวอยู่รอบๆ อาคารกำลังจ้องมองมาทางนี้ แถมทำท่าทางตื่นตาตื่นใจกันอีกด้วย ก็คณะพวกผมมันบ้านี่ครับ เวลาทำอะไรคนชอบมองและขำตลอด ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหรือเปล่า ฮืออออ

   เกิดเสียงตึง! ดังสนั่นเมื่อไอ้อู๋ทิ้งดาบลงกับพื้น มันทำเป็นเดินลากดาบพร้อมสวมจิตวิญญานนักรบอย่างสมจริง (ก็มันกับผมเรียนการแสดงนี่ครับ) มันหยุดอยู่ตรงลานกว้างกลางอาคาร ทุกคนโดยรอบมองมันเป็นตาเดียว

   “ผมชื่ออติรุจ นามสกุลสงวนสิทธิ์ ชื่อเล่นอู๋ (ควงดาบ ควับ! ควับ!) ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไงผมจะปกป้องเพื่อนๆ เพราะผมคือประธานรุ่น!!...

   มีเสียงปรบมือดังขึ้นมา ซึ่งเกิดจากผู้ชมที่พอใจ และส่วนมาเป็นสาวๆ คงจะชอบในความเท่ของเพื่อนผมล่ะสิ จีบเลยคร้าบบบ จีบเลย เพื่อนผมโสดมากกก

   “... จบจากโรงเรียนเซนต์เจมส์ ไม่ใช่เจมส์ธรรมดา...ปังๆๆๆ (ยกดาบขึ้นมาเพื่อทำเป็นปืน) เจมส์ บอนด์... อยู่เอกการแสดงและกำกับการแสดง ชื่อพรีเซ้นต์...เฮ้ย!

   เดี๋ยวววววววววไอ้สัสอู๋! เขาให้แค่แนะนำตัวโว้ยยยย โอ๊ยยยย

   ชื่อพรีเซ้นต์คือการแสดงท่าทางตามคำที่เราต้องการนำเสนอ ถ้าให้บอกง่ายๆ มันคือการใบ้คำนั่นแหละครับ แต่ชื่อพรีเซ้นต์นี้สามารถครีเอทได้หลายรูปแบบ และมันจะเป็นภาพจำติดตัวเราไปจนกว่าจะจบมหาลัยพอๆ กับท่าแนะนำตัวเลย

   “เอ่อ...” ไอ้อู๋นิ่งไปเมื่อรู้ว่าตัวเองหลุดปากคำว่าชื่อพรีเซ้นต์ออกไปทั้งๆ ที่พี่ไม่ได้สั่ง

   “ไม่ต้องหยุด คุณทำเพื่อนซวย คนที่ออกมาต่อต้องมีชื่อพรีเซ้นต์ด้วย” พี่ว้ากกอดอกมองมัน

   “ครับ... ชื่อพรีเซ้นต์!” ไอ้อู๋ตะโกนลั่น “ผมน่ะชอบเล่นกีฬา ทั้งเตะบอล (ทำเป็นเลี้ยงลูกบอล) ตีเทนนิส (ยกดาบขึ้นมาทำเป็นไม้) หรือจะเป็นกอล์ฟ (เปลี่ยนดาบมาทำเป็นควงสวิง) ผมก็ตี!...ปุ๊ง! ปังย่า! ...ว๊าววว โฮอินวัน! เล่นกีฬาทั้งวันผมเลยเท่แบบนี้...

   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”

   สาวๆ ในอาคารพร้อมใจกันกรีดร้องเมื่อไอ้คนที่แนะนำตัวอยู่เลิกชายเสื้อเชิ้ตขึ้นมา เผยให้เห็นซิกแพคเป็นลูกๆ นั่นไง...มึงได้คะแนนไปเต็มๆ เกิดแล้ววววไอ้เพื่อนยากเอ๊ยยย

   “ชื่อพรีเซ้นท์... สปอร์ตไลท์!

   แล้วทุกคนก็เฮกันอีกครั้งพร้อมเคล้าไปกับเสียงหัวเราะเมื่อทุกคนเข้าใจสิ่งที่มันสื่อ... ฮ่าๆๆๆ สร้างสรรค์ดีอะ ผมชอบบบบ

   “ผ่าน!” พี่ว้ากตะโกน เป็นอันรู้กันว่าชื่อนี้ถูกอนุมัติแล้ว หน้าที่เดียวของมันคือต้องรักษาไว้ไม่ให้ถูกยึดไป “ผู้หญิงเชิญ!”

   “ขออนุญาตแนะนำตัวค่า!!” เจ้าของเสียงแสบแก้วหูนั้นคือหยากไย่ ดาวคณะนั่นเอง

   “เชิญ!”

   “ดิชั้นชื่อนางสาวภัทราพร นามสกุลอ่อนมาก ชื่อเล่น หยากไย่ ฟึด ฟึด ฟึด (ทำท่าพ่นใยแบบสไปเดอร์แมน) จบจากโรงเรียนXXXX อยู่เอกออกแบบ... (ทิ้งจังหวะทำเป็นมโนสอยด้ายเข้าตูดเข็มอย่างตั้งใจ) ...แฟชั่น!! หนูเป็นดาวคณะศิลปกรรมศาสตร์ค่ะ...

เกิดเสียงหนุ่มๆ โห่ร้องอย่างพอใจ

...อย่าเสียใจไปที่ไทยไม่ได้มง ถ้าไย่ได้เป็นดาวมหาลัย เจอกันแน่ที่จักรวาล...แต่ไม่เอาคำถามโซเชียลมู้ฟเม้นท์นะคะ!

ฮ่าๆๆๆ ปัญญาอ่อนอย่างมันคิดท่าแนะนำตัวแบบนี้ได้ยังไงวะ ถือว่าเก่ง

ชื่อพรีเซ้นต์... (มองท้องฟ้าอย่างร้อนลน) โอ๊ยยยย จะทันมั้ยเนี่ยยย อย่าเพิ่งยิง! จรวดอย่าเพิ่งยิง!! นาซ่าคะดิชั้นยังไม่พร้อม ขอแต่งหน้าก่อนนนน ว๊ายยอย่าเพิ่งนับถอยหลัง (ทำเป็นตบแป้งเขียนคิ้ว) ห้า สี่ โอ๊ยยยรอก่อน สาม สอง... โอเค!!พร้อมไปแล้วค่ะ ไป!! (ทำเป็นพุ่งตัวไปกับจรวด) ชื่อพรีเซ้นต์...กระสวยอวกาศ!!

“เจ๋งโคตรรรรรร” หนุ่มคณะพละที่นั่งจบกลุ่มกันตะโกนออกมาอย่างออกนอกหน้าจนทำให้ผมเสียสมาธิต้องหันไปมอง แต่กลายเป็นว่าผมดันไปปะทะกับสายตากวนๆ ที่จับจ้องมาก่อนแล้ว

นั่นมันไอ้ทัก...ไอ้ไดโนเสาร์ยักษ์นี่หว่า

“คุณกุ้ง!” เป็นอีกครั้งที่เสียงตวาดของพี่ว้ากทำให้ผมสะดุ้ง

“คะ...ครับ”

“มองอะไร! อยากแนะนำตัวเหรอ!!”

“ผะ...ผมยังไม่พร้อมครับ”

“รออะไร!? ให้อายุยี่สิบปีบริบูรณ์?” เสียงนั้นเข้ามาใกล้ “ออกไปแนะนำตัว!”

เอ๊า! ทำไมเป็นแบบนี้อะ ไอ้ทักนะมึง เพราะมึงเลยทีเดียว

“กุ้งสู้ๆ!”

หืม...ใครตะโกนออกมาอะ ไม่ใช่คนในคณะหรือรุ่นพี่แน่ๆ... พวกคณะอื่นเหรอ!?

   เกิดเสียงปรบมืออีกครั้ง คราวนี้มันเกิดขึ้นทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วย ผมทำหน้าเอ๋อๆ เพราะงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยืนงงๆ เกาหัวแกรกๆ อยู่หน้าแถว ท่ามกลางสายตานับร้อยที่ให้ความสนใจอย่างพร้อมเพียง

   เย้ย! นี่ทุกคนจะรู้จักกันทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเลยเหรอ

   “เอ่อ...หวัดดีครับ” ผมโบกมือหยอยๆ ให้กับทุกคนที่มองมาด้วยความร่าเริง

   “กรี๊ดดดดดดด น่ารัก!” เอ๊า สาวๆ ตรงด้านนู้นดิ้นกันซะผมตกใจเชียว

   “อัธยาศัยดีจริ๊ง! คณะคุณเขาแนะนำตัวกันแบบนั้นเหรอ!!”
   เอ๊า ผมแค่ยิ้มแย้มแจ่มใสเองอ่ะ

   ผมกำลังจะเริ่มอยู่แล้วแต่ตาดันไปเห็นไอ้ทักอีกครั้งซะก่อน ข้างๆ กันนั้นมีปราโมทย์รูมเมทสุดเนิร์ดของผมชูนิ้วโป้งสู้ๆ มาให้อีกด้วย

   เอ่อ...ขอหันไปอีกฝั่งดีกว่า เห็นสองคนนั้นแล้วเดี๋ยวเสียสมาธิ

   “ผมชื่อนายอิสระ นามสกุลปัจฉิมสหะ ชื่อเล่นกุ้ง ...น้องกุ้งน่ารัก ใครไม่รักก็บ้าแล้วววว!

   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด”

   “จบจากโรงเรียนเซนต์เจมส์ ....ยอม! ยอมเป็นข้าวมันไก่!

   “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”

   “น่าร้ากกกกก”

   “คิดได้ไงวะ”


   “อยู่เอกการแสดงและกำกับการแสดง ชื่อพรีเซ้นต์...

   ขอให้ผ่านไปด้วยดีด้วยเถอะ สาธุ...

   “เฮ้ยยยยพวกมึง ไปเร็ว ไฟไหม้ ไปเร็ว!! เชื่อกูเหอะ อย่านั่งนิ่งดิวะ ไปๆๆๆ ตามกูมา เร็วตามกูมา!! อาคารจะถล่มแล้ว!! ชื่อพรีเซ้นต์....

   “ชวน หลีกภัย...”

   ฮะ?

   เดี๋ยวนะ ผมยังไม่ทันพูดเลย พี่ว้ากรู้ทันอีกแล้วเหรอ

   ผมมองไปทางพี่ๆ ทุกคนทำหน้างงดูท่าแล้วจะยังไม่ได้ทำอะไรเลย ออกจะตกใจด้วยซ้ำที่ผมโดนขัดแบบนั้น
โอ๊ยยย อะไรวะ เกือบจะดีอยู่แล้วเชียว

   ยังไม่ทันสงสัยได้นาน ผมก็เห็นว่าไอ้ทักคณะพละยืนกอดอกแถมยิ้มมุมปากยืนจ้องผมอยู่

   อย่าบอกนะว่ามัน...

   “...”

   ไอ้คนไหล่กว้างตัวยาวเป็นกิ้งกือผู้มีเครื่องเคราบนใบหน้าที่ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่นั้นเอียงคอมอง ทำยักคิ้วหลิ่วตากวนตีนแบบไม่สำนึกผิดใดๆ ทั้งสิ้น และเมื่อมันเห็นผมนิ่งก็ก้าวขายาวๆ เข้ามาใกล้ เสื้อสีเขียวอันเป็นสัญลักษณ์ของคณะมันทะลุเข้าตา

   ไอ้ทักโน้มตัวลงมาข้างหน้า ทำเป็นจะกระซิบข้างหูจนผมต้องถอยตัวออก แต่ก็ยังได้ยินคำพูดทั้งหมดนั้นอยู่ดี

   “ทายถูกอะ... กูนอนกับมึงมั่งได้เปล่า?”



TBC*

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:


พูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/thene0classic
หรือ #อย่ามาอยู่กับกุ้ง ก็ได้นะฮัพ

ถือเป็นแรงใจต้านภัยหนาวนะคร้าบบบ <3

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
เอ็นดูน้องกุ้งงงงงงงงงงงงงงงง โอ้ยยยยยยย ชอบๆๆๆ
แต่ปิดท้ายแบบนี้คืออะไรกัน ใครๆ ก็อยากนอนกับน้องกุ้งขนาดนี้เลยหรอลูก
อิจฉากุ้งอะ อยากได้ไอ้ทักเด็กพละ อ๊อยยยยย

 :katai4:

ออฟไลน์ 양아치

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ้ย หมั่นไส้ไอทักกก
น้องกุ้งน่ารักมาก
ชอบชื่อพรีเซ้นต์ของดาวคณะ 555 เดายากจริง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
กุ้งน่ารักอ่ะ5555555 ยอมเป็นข้าวมันไก่นี่ก็ตลก แล้วทักนี่ไงคะ สนใจเขาใช่เปล่า

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3

บทที่ 2

อย่ามายุ่งกับกู!


   “เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ” เสียงโห่ร้องของพวกพละก้องกังวานท่ามกลางหัวสมองที่แบล๊งของผม

   มีรุ่นพี่ของพวกนั้นสองสามคนวิ่งออกมาลากตัวไอ้ทักพร้อมกับเขย่าไหล่อย่างดีอกดีใจ

   เอ๊า นี่มันอะไรกันง่ะ

   “อย่าขัดขาน้องผมสิครับ!” พี่ว้ากเคราแพะของพวกเราลุกขึ้นตะโกน อีกฝั่งมีรุ่นพี่ตัวโตออกมารับหน้า

   “ขอโทษนะครับคุณวิน พอดีน้องผมฉลาด”

   ฮะ หมายความว่าพวกรุ่นพี่เสี้ยมไอ้ทักให้ออกมาหักหน้าเหรอ

   อ๋อ…แล้วพี่ว้ากชื่อวินเหรอเนี่ย อิๆ

   “ไงคุณกุ้ง ชื่อโดนดักแล้ว มีชื่อใหม่มั้ย!?”

   ผมส่ายหัว คิดไม่ออกแล้วอะ โด่ววววว ชวนหลีกภัยออกจะล้ำลึก

   หงุดหงิดจังวะ!

   ผมหันไปคาดโทษไอ้ทักตัวดีที่กำลังดีอกดีใจกับกลุ่มเพื่อน ก่อนที่ตัวเองจะฟึดฟัดจะกลับมานั่งในแถว มึงนะมึง ขัดความเฉิดฉายของกู เดี๋ยวมึงเจอดีแน่!

   “คนต่อไป!!” พี่ว้ากของผมก็ยังแหกปากต่อไป




“ไอ้อู๋ ไปซื้อน้ำเป็นเพื่อนหน่อยยยย” ผมสะกิดไหล่ไอ้เพื่อนยากขณะที่มันกำลังสุมหัวอยู่กับเพื่อนๆ ในคณะอยู่

   เจ้าของชื่อละสายตาจากการวางแผนอย่างเกรงอกเกรงใจเพื่อนๆ แต่ทว่าเสียงที่ตอบกลับมาไม่ได้ออกจากปากมัน

   “โอ๊ยยยย ไอ้กุ้ง มึงนี่นะ ไม่คิดจะช่วยพวกกูแล้วยังชวนเพื่อนไปเถรไถลอีก!” เสียงแหลมเป็นไม้เสียบลูกชิ้นของมุนินเพื่อนตุ๊ดจากเอกแฟชั่นนั่นเอง ไอ้นี่มันชอบเคลมว่าตัวเองเป็นรองประธานรุ่น (และเมียของไอ้อู๋) จริงๆ มันชื่อนิลแหละ แต่ท่าแนะนำตัวมันทำเป็นมุนินทร์มุตตาในแรงเงากำลังทะเลากันเหมือนคนเป็นไบโพล่าแล้วตลกมาก เพื่อนๆ เลยเรียกมันอีมุนินจนชินแล้ว

   “เอ๊า ก็กูหิวน้ำอะ…” ผมย่นคิ้ว “ไอ้อู๋ไม่ใช่ผัวมึงนะ ไม่ต้องหวงขนาดนั้นก็ได้!”

   “ไปซื้อเองคนเดียวไม่ได้รึไง!?”

   “กูเหงา!!”

   “อีบ้า สมน้ำหน้าที่โดนทักขัดจนหน้าแหกแบบนั้น คนอย่างมึงอะมันปวกเปียก”

   ผมอ้าปากค้าง อ้าว…ลามมาเรื่องนี้ได้ไง “ไหงงั้นอะ!?”

   “แต่จะว่าไปมึงก็โชคดีนะที่ได้ใกล้ชิดกับทักขนาดนั้น”

   ผมหรี่ตามองเมียเพื่อนด้วยความงง “น่าดีใจตรงไหนวะ”

   “ก็ทักทั้งหล่อ หุ่นดี ดีกรีเดือนมหาลัยแบบนั้นอะ ใครคุยด้วยก็ได้บุญย่ะ!”

   “มึงนี่ก็เพ้อเจ้อ เดือนมหาลงมหาลัยอะไรล่ะ เค้ายึงไม่ถึงเฟรชชี่ไนท์เลยโว้ยย”

   มุนินตบโต๊ะดังลั่น ลุกขึ้นมาชี้หน้าผมอย่างกับว่าผมขโมยหมามันไป

   “มึงไม่รู้อะไรซะแล้ว ทักนี่แหละที่จะเป็นเดือนมหาลัย เคียงคู่กับดาวมหาลัยอย่างอีหยากไย่แน่นอน” พูดจบมันก็ชี้ไปยังดาวคณะที่ยิ้มพิมใจรออยู่ข้างๆ แล้ว

   “แหม มึงพูดไม่เกรงใจไอ้ฟิวส์เลยเนอะ” ผมเหล่ไปทางเดือนคณะตัวองที่แม่งไม่สนใจเหี้ยอะไร มัวแต่ยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนขี้เก๊กของมันแล้วแซวสาวๆ จากคณะอื่นที่เดินผ่านไปมา

   “หล่อแต่โง่แบบนั้นอะนะ? กูเอาเวลาเชียร์ไปทำมาหากินดีกว่า”

   “แล้วมึงแน่ใจเหรอว่าไอ้ทักฉลาด”

   “เค้าสอบเข้าได้คะแนนเป็นที่หนึ่งของคณะพละย่ะ”

   ผมเบะปาก อี๋…ไอ้ไดโนเสาร์นั่นอะนะ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าสัตว์ดึกดำบรรพ์ก็มีสมอง อเมซซิ่งๆ

   แต่เดี๋ยวนะ…

   “แล้วมึงรู้ได้ไงอะ” ผมกอดอกถาม

   “กูเป็นหัวหน้าแฟนคลับทักจ้ะ”

   “เป็นอะไรนะ…” ผมเงี่ยหู เหมือนมะกี้ได้ยินไม่ชัด

   “หัวหน้าแฟนคลับ!”

   “โอ๊ยยย เป็นแฟนคลับไอ้คนหน้าเหมือนทีเร็กซ์แบบนั้นอะนะ เอาเวลาไปตามกรี๊ดพี่เป๊กผลิตเหอะ”

   มุนินทำเป็นเชิด “พี่เป๊กกูก็กรี๊ดจ้ะ อีควาย”

   โว้ย ขี้เกียจต่อปากต่อคำกับอีเมียเพื่อนนี่แล้ว ไปซื้อน้ำคนเดียวก็ได้วะ

   “นี่ถ้ากูเอาเวลาที่คุยกับมึงไปซื้อน้ำ ป่านนี้ได้ย่อยของมาเป็นเยี่ยวหมดแล้ว”

   “รู้ตัวก็ไปซะสิ”

   “ไปคนเดียวได้ใช่ปะ” ไอ้อู๋เงยหน้าขึ้นมามอง

   “เออ เทคแคร์เมียมึงไปเหอะ”

   ผมปลีกตัวออกมาจากเพื่อนๆ ในคณะที่นั่งรวมกลุ่มกันอยู่ในมุมหนึ่งของอาคารแปดเหลี่ยมอเนกประสงค์ ที่นี่นอกจะมีลานกว้างมากๆ ให้ซ่องสุ่มแล้ว ด้านในยังมีร้านสะดวกซื้อให้บริการอีกต่างหาก ซึ่งมีสองร้านตั้งอยู่ตรงข้ามกันอย่างกับต้องการจะแข่งกันเอง

   ผมเลือกเข้าไปยังร้านที่คนน้อยเพราะขี้เกียจเบียด พี่คนขายเป็นสาวร่างท้วมใส่แว่นดูจิตใจดี ทักทายผมตั้งแต่เปิดประตูมาได้ยังไม่ถึงอึดใจเลย

   “น้ำดื่มอยู่ตรงไหนครับ”

   “ด้านในเลยจ้า ตรงเข้าไปใกล้ๆ พวกเครื่องใช้นะ”

   ผมพยักหน้าขอบคุณพี่เจ้าของร้านก่อนจะเดินไปตามทางที่เธอชี้ มีสองสาวที่ยืนเลือกซื้อขนมจ้องหน้าผมตลอดขณะที่ผมเดินผ่านไป หึ อย่าคิดว่าไม่เห็นนะสาวๆ เดี๋ยวกระโดดเข้าไปหอมแก้มซะหรอก อะจึ๋ย!

   เอ…กินอะไรดีน้า

   “หาอะไรอยู่เหรอ”

   “แว๊กกกก”

   ผมตกใจจนตัวกระตุกเพราะจู่ๆ ก็มีคนเข้ามายืนข้างๆ พร้อมกับส่งเสียง เมื่อรวบรวมสติด้วยการลูบหน้าอกปลอบใจตัวเองเสร็จก็เลยหันขวับไปมอง ผมเบ้ปากทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

   “เอ๊า มองทำไม บอกดิหาอะไร เดี๋ยวเลี้ยง” ไอ้ทักยักคิ้ว เหยียดมุมปากข้างหนึ่งจนสุด ถึงไม่ได้สนิท (และไม่อยากจะสนิท) แต่ดูจากท่าทางแล้วเดาได้เลยว่ามันต้องเป็นคนที่นิสัยกวนตีนมากๆ แน่ๆ

   “บ้านกูรวย ซื้อเองได้”

   “อ๋อเหรอ รวยขนาดไหนอะ” ไอ้คนตัวสูงกว่ากอดอก ทำทีเป็นครุ่นคิด ผมกลืนน้ำลายเมื่อเห็นว่ามันเหงื่อท่วมตัว สกปรกชะมัด ไปฟัดกับหมามาเรอะ “ใช่เป็นลูกเจ้าของโรงงานอาหารทะเลแช่แข็งปะ?”

   “มึงรู้ได้ไงอะ เป็นแฟนคลับกูเหรอ?”

   “คนที่เขาปลื้มมึงเขาต้องรู้กันทุกคนแหละ” ไอ้ทักแยกเขี้ยวจนทำให้ผมหน้าแดง

   “แล้วมึง…ปลื้มกูกับเขาด้วยหรือไง”

   “อะไร กูอะนะ?” มันทำหน้าแหยเกเหมือนจะอ้วก “ให้มันน้อยๆ หน่อย กูได้ยินเพื่อนมันคุยกันต่างหาก …อยากรู้จักมันมั้ยล่ะ?”

   โธ่ ผิดหวังเลยอะ ยอมรับนะว่าก็อยากกอดก่ายไอ้นี่เหมือนกัน แต่ขอตอนสะอาดสะอาดกว่านี้นะ

   “ไม่ต้องหวังดีเลย ขอบคุณ” ผมถอนหายใจ “ออกไปไกลๆ ได้มั้ยเนี่ย เหม็นเหงื่อ …เด็กพละนี่มันจริงๆ เล้ยยยย”

   “ทำไม!” ผมอ้าปากข้างเมื่อมันใช้แขนเท้าประตูตู้แช่เย็นทำให้ผมเปิดมันไม่ได้ “เด็กพละมันทำไม พวกเด็กสินกำเขาชอบดูถูกคนอื่นกันเหรอ!”

   “มึงจะเสียงดังทำไมเนี่ยยยย” ผมมองซ้ายมองขวา ทำไม้ทำมือให้มันพูดเบาๆ

   “ก็ตอบกูมาดิ เด็กพละมันทำไม” มันเขยิบเข้ามาใกล้

   “ไม่มีอะไร กูแค่บ่นเฉยๆ”

   ไอ้ทักมองตาขวาง น่ากลัวเชี่ยๆ หน้ามันคมก็จริงนะ แต่ชอบมันตอนกวนตีนมากกว่า ตอนเดือดแบบนี้แม่งโคตรจะขนลุก

   “แล้วไป” มันถอยออกจากระยะอันตราย “เร็ว หยิบมาจะกินอะไรเดี๋ยวเลี้ยง”

   “เลี้ยงกูเพื่อ?”

   “จะได้พูดให้คนอื่นฟังว่ากูได้ซื้อน้ำให้น้องกุ้งคนดัง” มันยิ้มกว้าง

   “จะ…จะบ้าเรอะ!”

   “มึงเชื่อกูหรือไง กูแค่จะปลอบใจที่หักหน้ามึงโว้ย”

   อ้าว แล้วไป…

   ผมถอนหายใจอีกรอบ วันนี้ถอนหายใจจนลมจะหมดปอดแล้วมั้ง อีกเดี๋ยวคงหัวฟาดพื้น

   “แล้วไม่ต้องมาเรียกกูว่าน้องก็ได้นะ มึงกับกูก็เรียนปีเดียวกันปะ”

   “มึงไม่รู้เหรอว่าคนอื่นเขาเรียกมึงน้องกุ้งกันหมดแล้ว ตามท่าแนะนำตัวของมึงนั่นแหละ” มันทำเป็นยกการ์ดพร้อมกับเต้นแบบที่ผมทำตอนแนะนำตัว

   “จริงเหรอ…”

   “เออดิ น้องกุ้งน่ารัก ใครไม่รักก็บ้าแล้วใช่มั้ยล่ะ?” มันล้อ “บอกเลย มึงได้รักหลายเข็มแน่ คนต่อคิวเพียบ”

   หืม รักหลาย…อะไรนะ

   “อายจัง” ผมพูดลอยๆ ทำเป็นลืมๆ สิ่งที่ได้ยินแล้วเอื้อมไปเปิดตู้แช่เย็นเพื่อจะหยิบโค้กซีโร่ออกมา

   “หยิบมาอีกขวด”

   “หะ…หา?”

   “งงบ้าอะไร หยิบมาอีกขวด”

   ผมพยักหน้าหงึกงักแล้วหยิบโค้กซีโร่ออกมาอีกขวด แล้วยื่นให้มันอย่างงงๆ

   “ขอบใจ” มันแยกเขี้ยว จากนั้นก็ใช้นิ้วคีบปากโค้กทั้งสองขวดไปยังเคาท์เตอร์

   อะ…อ้าว มันเอาของผมไปทำไมอ่า

   “พละสวัสดีครับ” ไอ้ทักยกมือไหว้เมื่อวางของให้พี่เจ้าของร้านคิดเงิน

   “เด็กพละเสื้อเขียวนี่น่ารักจัง มือไม้อ่อนทักทายกันทุกคนเลย” เธอยิ้มพร้อมกับหยิบขวดสีดำแดงทั้งสองใส่ถุง

   “แน่นอนอยู่แล้วครับ แต่ผมคงน่ารักไม่เท่าเด็กสินกำหรอก โดยเฉพาะคนนี้” มันชี้มาที่ผม ซึ่งยืนเอ๋ออยู่ข้างๆ มันตอนที่มันกำลังสนทนา

   อยู่ๆ โดนขายเฉ้ยยยย

   “หนูหน้าตาน่ารักจัง ขาวจั๊วหน้าคมอย่างกับหนุ่มฮ่องกงเลย ชื่ออะไรครับ” พี่เจ้าของร้านมองหน้า

   “เอ่อ…กุ้งครับ” ผมบอก หันไปทางไอ้ทักอย่างงงๆ พร้อมกับสงสัยว่ามันจะแนะนำตัวให้ทำไม แต่กลับพบว่ามันกำลังทำเป็นกวนตีนด้วยการล้อท่าแนะนำตัว ‘น้องกุ้งน่ารัก ใครไม่รักก็บ้าแล้ว’ อีกครั้ง

   ไอ้บ้าเอ๊ย

   “พี่ชื่อชมพู่นะจ๊ะ มาร้านพี่บ่อยๆ นะ”

   “ได้เลยครับ” ผมยกมือไหว้

   “เดินตามมาสิน้องกุ้ง จะอยู่ในนี้อีกนานมั้ยฮะ!” ไอ้ทักเอี้ยวตัวมามอง เพิ่งสังเกตว่ามันอยู่ประตูแล้ว ถุงโค้กถูกหิ้วไว้บนบ่า ไว้จริงวุ้ย เดินไปตั้งแต่ตอนไหน

   “พละเรียกแถว!!”

   ยังไม่ทันที่จะเอื้อมมือไปสะกิดเพื่อเอาโค้ก พวกรุ่นพี่คณะพละก็เรียกรวมพลซะก่อน ไอ้ทักรีบวิ่งแจ้นไปเข้าแถวปล่อยให้นิ้วชี้ผมตั้งค้างไว้เหมือนกำลังจะจิ้มไอแพตที่มองไม่เห็น

   เอ๊า

   “ไอ้ทัก! โค้กกู!!” ผมตะโกนดังลั่นไปทั่วอาคาร ไอ้พวกรุ่นพี่เสื้อเขียวที่กำลังปั้นหน้าโหดตกใจไปตามๆ กัน

   ผมเดินดุ่มๆ เข้าไปอย่างไม่เกรงกลัว ไม่ได้นะ วันนี้ผมต้องได้กินโค้กสิ!

   “มีอะไรครับน้อง” รุ่นพี่คณะเสื้อเขียวคนหนึ่งเดินเข้ามาถามไถ่

   “ไอ้ทักมันไม่ให้โค้กผมอะ!”

   “หูยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

   หนุ่มๆ สาวๆ ชาวพละในแถวห่อปากร้องออกมาพร้อมกันเหมือนฝูงผึ้ง ส่วนไอ้ทักตัวดีกลับยิ้มแห้งๆ เหมือนว่ามันเพิ่งนึกขึ้นมาได้

   “อ้าวไอ้ทัก มึงขโมยน้ำเขาไปทำไมวะ!” พวกรุ่นพี่หัวเราะกันอย่างครื้นเครง “เอามาคืนเขา!”

   เจ้าของชื่อเดินออกมาจากแถว มันเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะหยิบโค้กในถุงออกมาให้หนึ่งขวด ทำทีเป็นตลกกลบเกลื่อนด้วยการหัวเราะ แต่ผมนี่สิ จ้องมันตาขวางจนลูกตาจะหลุดออกมาจากเบ้าอยู่แล้ว

   “โทษที กูลืม”

   “เหอะ” ผมเบ้ปาก ตั้งใจจะเดินกลับคณะแต่รุ่นพี่ของมันดึงตัวไว้ซะก่อน

   “น้องพี่ขโมยน้ำจากน้องเหรอครับ?”

   “เปล่าฮะ มันบอกว่าจะเลี้ยงแต่เดินหนีมาเฉย”

   “หูยยยยยยยยยยยยยยยย”

   ร้องอะไรของพวกมันอีกแล้ว เด็กพละพวกนี้ถูกเสี้ยมมายังไงวะเนี่ย

   “เอ๊า แล้วมันซื้อให้น้องทำไมอะ… ไอ้ทัก มึงจีบน้องเขาเหรอ!?” ประโยคหลังรุ่นพี่ตั้งใจถามเด็กของตัวเอง

   “เปล่าครับ! อยากจะขอโทษ!!” มันว่า ตอบเสียงดังฉะฉานด้วยโทนทุ้มต่ำตามอัตลักษณ์ของคณะมัน

   “หูยยยยยยยยยยยยยยยย”

   โอเค คราวนี้กูไม่ทนละ

   “ถ้าหูยอีกทีเราจะเอาโค้กสาดทุกคนเป็นฝนเทียมละนะ” ผมเท้าเอวจ้องไปยังพวกที่นั่ง พวกนั้นเงียบกริบทันที

   “โหดจังครับน้อง” รุ่นพี่คนเดิมทำเป็นยิ้มๆ “อ่ะไอ้ทัก! มึงจะขอโทษเขาก็เอาเลย พูดให้พวกกูได้ยินด้วย!”

   ไอ้ทักยิ้มมุมปากมาให้

   “ขอโทษนะครับ ขอโทษที่หักหน้า ทีหลังผมจะไม่ทำอีกแล้ว!”

   คราวนี้ไม่มีเสียงหูย มีแต่ผมเองที่หน้าร้อนฉ่า มันจะครับจะผมทำไม ขนลุกกกก

   “ไม่เป็นไร!” ผมกระแทกเสียง ตั้งใจจะเดินหนีไปแต่เสียงรุ่นพี่คนนั้นก็ดังมาอีกครั้ง

   “อ้าวไม่พูดอะไรกับน้องพี่บ้างเหรอ!”

   ผมหมุนตัว จ้องหน้าไอ้เสื้อแขนกุดสีเขียวหน้าไดโนเสาร์นั้นแบบตาไม่กระพริบ

   “อย่ามายุ่งกับกู!”




กว่าคณะเราจะแยกย้ายก็เกือบค่ำแล้ว ผมเลยมานั่งคลุกอยู่ในห้องของไอ้อู๋สักพัก พบว่ารูมเมทของมันมีแต่คนนิสัยดี ทั้งหนุ่มเศรษฐศาสตร์ หนุ่มแว่นพูดจาดีจากวิศวะ พี่ชอบเล่นตลกหน้าตายจากคณะเภสัช เพิ่งรู้เหมือนกันว่าคณะนี้ต้องเรียนที่นี่ทุกปี พี่เขาบอกว่าเลือกจะอยู่หอในเพราะสบายใจและมันถูก เพื่อนๆ หนีไปอยู่หอนอกหลังมอกันหมด ทุกคนน่ารัก ไอ้อู๋มันดูท่าทีผมไม่วางตา แต่เสียใจ…ยังไงในห้องนี้ก็ไม่มีใครเข้าตาสักกะคน

   “มึงกูไปนอนละ ง่วง” ผมโบกมือลาทุกคนในห้อง พร้อมกับเดินสะลึมสะลือพาตัวเองขึ้นบันไดไปชั้นสาม

   อาคารหอพักจะถูกคั่นกลางด้วยบันได ก่อนจะมีแยกซ้ายขวาซึ่งจะเป็นห้องพักเรียงรายกันไปตลอดทาง มีระเบียงบนทางหนีไฟที่สุดทางเดินของทั้งสองฝั่งเอาไว้รับลมดูวิวข้างนอกด้วย นับว่าเป็นเรื่องเสียดายที่ไอ้พวกชั้นหนึ่งอย่างห้องไอ้อู๋ไม่มีโอกาสได้เชยชม

   ผมหรี่ตามองเมื่อเห็นเลี้ยวขวาไปแล้วเห็นใครบางคนอยู่ที่สุดทางเดิน รูปร่างสูงยาวอย่างกับเปรตจนตอนแรกนึกว่าเป็นผี แต่พอเดินเข้าไปใกล้กับพบว่าเป็นไอ้ทักที่เพิ่งออกมาจากห้องอาบน้ำรวม ถึงจะใส่เส้อผ้าแล้วแต่น้ำประปายังเป็นเม็ดๆ อยู่บนคอและหน้ามันอยู่เลย ทำไมไม่เช็ดให้แห้งก่อนออกมาวะ ซกมกจริงๆ

   ไอ้ทักยิ้มกว้างแบบกวนๆ ทันทีเมื่อเห็นผม

   แต่สิ่งที่มันกำลังจะทำนี่สิ เล่นเอาผมงงหนัก

   “มึงจะเข้าห้องกูทำไม” ผมร้องเมื่อมันเห็นมันจับลูกบิดประตูห้อง 319

   มันไม่ตอบ แค่ยักไหล่แบบไม่แคร์แทรกตัวเข้าช่องประตูไป

   ผมพุ่งตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว เห็นไอ้ทักโยนของอาบน้ำทุกอย่างไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือ (โอเคผมจะไม่ใช้โต๊ะตัวนี้) จากนั้นก็ถลาตัวกระโดดขึ้นไปบนเตียง ซึ่งมีปราโมทย์รูมเมทหนุ่มจืดกำลังถือจอยเกมจดจ่ออยู่กับหน้าจอทีวีที่น่าจะพกมาเอง เพราะผมจำได้ว่าที่นี่ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าให้

   “อ้าวกุ้ง สวัสดีครับ” รูมเมทเงยหน้ามาทักทาย

   “ลงทุนเอาเกมเพลย์มาเลยเหรอ?” ผมเลิกคิ้วถาม

   “อื่อ เราติดเกม แต่ถ้าเสียงดังบอกได้นะ กุ้งจะนอนเดี๋ยวเราเลิกเล่น”

   “โอ๊ยยย ไม่เป็นไร เราชิลๆ น้องเราที่บ้านเสียงดังกว่าอีก ขนาดอยู่คนละห้องกันอะนะ” ผมตั้งใจจะคุยกับแค่โมทย์เท่านั้น ไม่ได้สนใจคนข้างๆ

   “ไม่เห็นจะชวนกูคุยบ้างเลย”

   นั่นงะ ขาดคำซะที่ไหน

   ผมเอียงคอมองไอ้คนที่พูดอย่างหมั่นไส้

   “นี่กะจะมานอนห้องนี้เลยหรือไง”

   “ไม่นอนร้อกกก” ไอ้ทักลอยหน้าลอยตา “เดี๋ยวคนแถวนี้รำคาญ”

   “รู้ตัวก็ดี” ผมยิ้ม เลิกสนใจคนตรงหน้าและหันไปรื้อข้าวของออกจากกระเป๋าแทน แต่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเตียงของโมทย์มันกว้างขึ้นผิดปกติ “สรุปอีกสองคนไม่มาเหรอโมทย์ ถึงเอาอีกเตียงมาชิดกันแบบนั้น”

   “เออ จะบอกอยู่พอดีว่าเราไปถามฝ่ายอาคารมาแล้ว เหมือนพวกเราเป็นเศษ เราคงได้อยู่กันแค่สองคน”

   “โอ้โหก็ดีอะสิ งั้นเราเอาเตียงมาชิดกันบ้างดีกว่า”

   ผมไม่รอช้าเข้าไปลากเตียงว่างอีกฝั่งหมายว่าจะเอามาชิดแล้วทำเป็นคิงไซส์ แต่ว่า…

   ฮึบ!

   โหยยยย ทำไมมันหนักขนาดนี้อะ

   ฮึ่บบบบบบบบบบบบบบบบบ

   “จะรอดมั้ยวะน่ะ” ไอ้ทักเอ่ยมาลอยๆ พอผมหันไปมองมันยังจ้องเกมฟุตบอลบนหน้าจอมันอยู่เลย นี่มันแอบมองผมตลอดเวลาเลยหรือไงเล่า!

   “มึงจะทำไม”

   “เฮ้อ” ไอ้ทักกดพอสเกมก่อนจะเด้งตัวขึ้นเดินตรงเข้ามาหา ทำเอาโมทย์เอ๋อหนัก คงจะกำลังได้จังหวะจะยิงประตูแน่ๆ

   “หลบ” มันสั่ง ผมรีบย้ายตัวไปอีกทาง

   จากนั้นไอ้ทักก็ลากเตียงเหล็กออกมาด้วยมือข้างเดียว แถมยังช่วยดันเข้ามาชิดให้อีกต่างหาก พอเสร็จเรียบร้อยแล้วมันทำเป็นจ้องหน้าผมนิ่งๆ

   “ขอบคุณสักคำสิ”

   “เออ ขอบใจ!” ผมกอดอก

   “หึ” ไอ้เด็กพละแยกเขี้ยว “จะจัดที่นอนไปทำไมวะ มึงจะได้นอนที่นี่บ้างหรือเปล่าก็ยังไม่รู้”

   “อย่ายุ่งดิ๊”

   “เอ๊า ก็พูดความจริง”

   “คุยอะไรกันเหรอ” โมทย์ส่งเสียง

   “เปล่า” คนตรงหน้าชี้นิ้วบอกเพื่อน “ระวังนะไอ้โมทย์ กูว่าเทอมนี้มึงมีสิทธิ์ได้นอนคนเดียวว่ะ”

   “อ้าวทำไมอะ กุ้งไม่ชอบเราเหรอ” หนุ่มจืดคนเดียวในห้องทำหน้าหงอย โถ่ลูกกกกก

   “จะบ้าเรอะ” ผมโบกมือ “ไอ้นี่มันก็พูดไปเรื่อยแหละ”

   “อ่อ…”

   “กูจะคอยดูแล้วกันนะน้องกุ้ง” ไอ้ทักยังคงกวนไม่เลิก

   “นี่ พูดให้มันดีๆ หน่อย” ผมกระซิบเพราะกลัวรูมเมทจะได้ยิน “กูไม่ได้โหยหาขนาดนั้นนะ ไม่ได้เป็นมาเลเรียโว้ยยย”

   “ฮะ? เป็นอะไรนะ?” ไอ้ทักเหลือกตา

   “ก็…โรคขาดไม่ได้ไงล่ะ”

   พูดผิดตรงไหน…

   “นั่นมันฮิสทีเรียมั้ยครับ” ไอ้ทักย่นคิ้ว คงเห็นผมโง่ซะเต็มประดา

   “เออ นั่นแหละ กูไม่ได้แรดถึงขนาดนั้นสักหน่อย” ผมส่ายหน้ากลับเกลื่อน

   “อ้าว ยอมรับเหรอว่าแรด”

   “ด่าตัวเองก่อนที่มึงจะใช้คำนี้ด่ากูไง” ผมจิ๊ปาก “ถึงตามึงหลบไปได้แล้ว กูจะจัดของ”

   “ต้องให้ช่วยอีกปะ”

   “ไม่ต้อง! ไปเล่นเกมกับเพื่อนมึงโน่น”

   ผมมองตามหลังไอ้คนพูดมากที่กระโดดไปนอนคว่ำบนเตียงอีกครั้ง

   ในเวลาไม่ถึงสิบนาทีเตียงนอนของผมก็ถูกเนรมิตด้วยสีเหลืองไม่ต่างจากเสื้อที่ผมใส่อยู่ตอนนี้ น้องลูกเจี๊ยบจากการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดังเป็นลวดลายที่เห็นแล้วน่ารักน่านอนที่สุด แถมผมเอา ‘ปีเตอร์’ ตุ๊กตาผ้าตัวเท่าคนติดมาด้วย เผื่อเวลาไหนฉุกเฉินอยากกอดคนขึ้นมากลางดึกจะได้มีที่ลงไงล่ะ อิๆๆๆๆ โคตรโรคจิตเลยกู

   เอาล่ะทีนี้ก็อาบน้ำ จัดข้าวของจนเหงื่ออกหมดแล้ว นี่ขนาดแอร์ก็เย็นนะ ไม่ได้ช่วยอะไรเล้ยยย

   “มึงชอบสีเหลืองเหรอ” ไอ้ทักเงยหน้าขึ้นมาจากจอทีวีโดยยังมีจอยอยู่ในมือ ส่วนปราโมทย์คงไม่ไหว เพราะรายนั้นสลบคาเตียงไปแล้ว

   “เออ มีปัญหาอะไรปะ”

   “เปล่า ก็แค่ถามดู …มึงนี่เห็นกูเป็นจอมหาเรื่องหรือไง” มันกดปิดทีวี ลุกขึ้นมาเก็บข้าวของตัวเองที่วางไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือขึ้นมาถือ

   “ก็จริงปะล่ะ มึงชอบแกล้งกูอะ ถึงไม่มีรุ่นพี่เสี้ยมก็เหอะ”

   “จะด่าสันดานกูว่างั้น?” ไอ้ทักเลิกคิ้ว

   “กูยังไม่ได้พูดเลยนะ” ผมยิ้มมุมปาก แต่ก็นึกขึ้นได้ว่ามันจะถามไปทำไม “แล้วมึงจะสนใจทำไมว่ากูชอบสีอะไร”

   “หึ” ไอ้เด็กพละเดินเข้ามาใกล้ กลิ่นหอมอ่อนๆ แบบสปอร์ตๆ จากสบู่เหลวยี่ห้อดังยังติดตัวอยู่เลย “ก็มันไม่มีในประวัติมึงไง”

   “ฮะ?” ผมตาโต “ประวัติอะไรอะ”

   “อย่ารู้เลย” ไอ้ทักเดินไปจับลูกบิดประตู แต่ก็ไม่วายเอี้ยวตัวมามอง “เอาเป็นว่าทีนี้กูจะเป็นคนแรกที่รู้ว่ามึงชอบสีเหลืองแล้วกัน”

   “หา?”

   มันไม่สามารถทำให้ผมหายสงสัยได้ เพราะตัวมันได้อันตรธานไปจากห้องแล้วเรียบร้อย

   อะไรวะ สรุปมันเป็นแฟนคลับผมจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย

   เหอะ แต่อย่าหวังซะให้ยาก คนอย่างมึงอยู่นอกสายตา แคทธารียา อิงลิชมากเลยจะบอกให้ไอ้ทัก

   โถ่ แล้วมาทำเป็นเพื่อนชงเพื่อนชอบ แหมมม ไม่ใช่เด็กประถมกันแล้วนะโว้ย กิ๊วๆ หน้าไม่อายยยย


TBC*

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:


สวัสดีวันเสาร์นะคร้าบบบบบบ
แวะมาทิ้งน้องกุ้งไว้ก่อน ติชมกันได้นะคร้าบบบบบ


พูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/thene0classic
หรือ #อย่ามาอยู่กับกุ้ง ก็ได้นะฮัพ

ถือเป็นแรงใจต้านภัยหนาวนะคร้าบบบ <3

ออฟไลน์ 양아치

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ทักกวนตีน น่ารักมากกกก
ชอบตอนที่ตะโกนขอโทษมากอ่ะ ทำเอาน้องกุ้งเขิน
มีความดีใจที่ตัวเองรู้เรื่องสีที่กุ้งชอบเป็นคนแรก 55555
 :mew1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คนอื่นเข้าใจผิดกันหมดแล้วมั้ง

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
เราชอบโมทย์ 5555 ชอบคนมึนๆ เด๋อๆ

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
ทักกวนตีนอ่าาาาาา
อย่ามาทำเป็นพูดดี ตัวเองก็อยากนอนกับน้องกุ้งเหมือนกันนั่นแหละ ฉันรู้นะ
เชอะ!

 :katai4:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
น้องกุ้งน่ารัก จะรอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ nnoii2538

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตลกมากเลย น้องกุ้งน่ารักกกกก เอ็นดู

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ตัวแม่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
    • เพจตัวแม่
กุ้งน่ารัก คาแรกเตอร์ดี
ทักก็ให้อารมณ์พระเอกนิยายญี่ปุ่นตัวสูงๆ เท่ๆ กวนตีนดีค่ะ

ชอบบทสนทนาระหว่างสองคนนี้
รอเอาใจช่วยความรักของคู่นี้ต่อไป
สู้ๆ เด้อ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Supansahn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กุ้ง  น่ารักกกก  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบบบ สนุกมากกกกกกก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ชื่อเรื่องแหม่งๆนะ อย่ามาอยู่กับกุ้ง
พออ่านแล้วติดเลย กุ้งน่าร้ากกกกกก  :mew1: :mew1: :mew1:

กุ้งที่ใครๆก็รู้จัก
แต่รู้จักไม่หมด รู้แบบเกินเลย
ก็ใครจะบอกล่ะ ว่าไม่มีไร้ แค่นอนจริิง จริ้ง
ก็กลัวเสียหน้า เลยบอกเกินเลยกันทั้งนั้น
แต่กลัวว่าวันนึง จะมีคนกดกุ้งจริงๆน่ะสิ
แล้วกุ้งจะสู้เขาไหวเรอะ  :z3: :z3: :z3:

ทัก กุ้ง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3
บทที่ 3

ออกจะงงๆ แต่ก็โอเค



   ปัง ปัง ปัง ปัง!

   “โอ๊ยยยยยย” ผมร้องออกมาเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ก่อนจะสะลึมสะลือหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงขึ้นมาดูเวลา ไอ้บ้า นี่มันตีห้าครึ่งเองนะโว้ยยยยย

   “ไอ้สัสโมทย์ ออกมาวิ่งเร็ว!”

   ปัง ปัง ปัง ปัง!

   “เคาะอะไรนักหนาวะ!” ผมตัดสินใจตลบผ้าห่มแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู

   “เชี่ยยยยย” ไอ้ทักที่ยกมือค้างไว้สะดุ้งโหยง

   “ตกใจบ้าอะไรของมึง”

   “ทำไมหน้ามึงยับยู่ยี่ขนาดนั้นอะ” มันทำเป็นสำรวจ แล้วจู่ๆ มันก็ยิ้มออกมา การเอียงคอกวนๆ แบบนั้นมันช่างดูคุกคามชะมัดเลย “โอ้โห บุญของกูแท้ๆ ที่เห็นกุ้งคนดังตอนตื่นนอน”

   ผมลูบไล้ใบหน้าเพื่อจะปลุกให้ตัวเองสดชื่น เอ๊ะ หรือเพราะเขินวะ…

   “ก็กูชอบนอนคว่ำ!” ผมทำเป็นสะบัดหัว จะไม่ให้อีกฝ่ายเห็นหน้าชัดๆ อีกแล้ว แม่งงง เดี๋ยวโดนแซวอีก

   “อย่างกับกบ”

   “ฮะ?”

   “หน้ามึงอะ อย่างกับกบ”

   “หน้ากูเหี้ยเหรอ?” ผมหรี่ตา

   “เปล่า หน้ามึงบวม แก้มก็ห้อย อย่างกับกบ”

   “เอ๊าแล้วมันดีหรือไม่ดีก็บอกกูเซ่” ผมอ้าปากหาว “แล้วเป็นบ้าอะไรมาเคาะประตูเวลานี้ฮะ! เสียอารมณ์หมด กูจะตื่นเวลานี้ตอนมีอารมณ์ใส่บาตรเท่านั้นจำไว้!”

   “พวกพละเค้าต้องวิ่งกันทุกเช้าโว้ย”

   “เจริญ แปลว่าทั้งเทอมกูจะต้องตื่นเพราะเสียงเคาะประตูของพวกมึงใช่มั้ย” ฮืออออ อยากจะร้องไห้

   “มาแล้วๆๆๆ” ปราโมทย์วิ่งออกมาจากระเบียง ตัวนี่เหม็นบุหรี่หึ่ง

   “พ่อมาตามแล้วโมทย์ โรงเรียนเลิกแล้ว” ผมหันไปบอกรูมเมท ขณะที่ต้องประคองตัวเองกับกรอบประตูเพราะตาเริ่มจะปิดอีกแล้ว ง่วงงงงงงง

   “ไอ้ทักทำกุ้งตื่นเหรอ เฮ้ยยยย เราขอโทษ” โมทย์หน้าเสีย

   “ไม่เป็นไรๆ ไว้วันไหนทนไม่ได้แล้วจะบอก” ผมโบกมือส่ง

   “งั้นเราจะรีบตื่นก่อนเวลา จะได้ไม่มีเพื่อนมาตามให้ลำบากกุ้งอีก”

   “อือ งั้นก็รบกวนด้วยแล้วกัน”

   รูมเมทหนุ่มจืดของผมหันไปทางเพื่อนตัวเอง

   “มึงรอแปบนะทัก ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” จากนั้นก็แทรกตัวออกไปโดยมีเสียงตะโกนไล่หลัง

   “เร็วๆ นะมึง ช้าแล้วยังขี้แตกอีก” ไอ้ทักหันกลับมาหาผมบ้าง มันกอดอกแล้วพยักเพยิดให้ผมเข้าไปในห้อง มาดแม่งอย่างกะโค้ชทีมชาติ “เข้าไปนอนต่อดิ”

   “มึงก็อย่าขวางสิวะ” ผมพยายามจะปิดประตูแต่ติดที่มันเอาขามาขัดไว้

   “เดี๋ยวกูปิดให้ เผื่อโมทย์มันลืมของ” พูดจบไอ้ทักก็ชูนิ้วชี้ “ไปนอน”

   “เป็นพ่อเหรอมาสั่งอะ”

   ผมส่ายหัว ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงเต็มทนละ เปลืองแคลลอรี่ชะมัด

   ผมหมุนตัวกระโดดขึ้นไปบนเตียงอีกครั้ง แต่ไม่ทันจะได้หลับตาก็ต้องยกตัวขึ้นมามอง เพราะไอ้ทักมันดันเดินตามเข้ามาในห้องด้วย ประตูก็ไม่ปิด กะจะให้ยุงหอบผมไปเป็นอาหารเลยหรือไง

   “ตามมาเพื่อ?”

   “แอร์เย็น” ไอ้เด็กพละล้วงกระเป๋ากางเกงขาสั้น ทำเป็นมองนั่นมองนี่ไปเรื่อย

   “ออกไปได้แล้วววววไอ้ทัก เลิกแกล้งกูสักที กูจะนอนนนน”

   “อะไรอีกละ กูยังไม่ได้ทำอะไรมึงเลย หรืออยากให้แกล้ง?” มันเดินเข้ามายิ้มน่ากลัวๆ อยู่ปลายเตียง ผมสังเกตเห็นว่ามือของมันจับอยู่ที่เหล็ก จัดการเขย่าจนหัวของผมสั่นด๊อกแด๊กไม่เป็นอันนอน

   “โอ๊ยยยย”

   “ไหนๆๆ อยากให้แกล้งไม่ใช่ไง๊!” มันว่า มือยังไม่ยอมหยุด

   “ไอ้ทักโว้ยยยยยย กูตื่นเต็มตาแล้วเนี่ยยย” ผมลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิจ้องมัน ไม่นงไม่นอนแม่มแล้วไอ้สลัด!

   “หึๆ” ไอ้คนแกล้งกลับไม่ได้รู้สึกผิดใดๆ ทั้งสิ้น แถมยังหัวเราะเยาะทำหน้าทำตากวนตีนชวนประทับบาทาสุดๆ อีกตะหาก

   “ไอ้ทักกูมาแล้ว!” เสียงโมทย์ดังขึ้นมาขัดการประกาศสงครามไว้ซะก่อน

   “ไปแล้วนะจ๊ะ” ไอ้คนถูกเรียกโบกไม้โบกมือ แถมตีหน้าเศร้าแบบเฟคๆ ใส่อีกต่างหาก

   “จะไปไหนก็ไปเลย จะบอกเพื่อ!?” ผมหยิบหมอนขึ้นมาทำท่าจะขว้าง แต่…

   “อุ๊ย จะว่าไปผ้าปูที่นอนลายน่ารักดีนะ” ไอ้ทักใช้เข่าเกยขึ้นมาบนเตียง ทำให้ผมได้กลิ่นสปอร์ตๆ ประจำตัวมันเต็มๆ มันมาอยู่ข้างเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ยยยยยย

   “…”

   “ไว้ว่างๆ มานอนด้วยนะกบ” แม้อยู่ๆ จะรู้สึกตึงๆ ในใจตอนที่มันยิ้มแยกเขี้ยวจนตาหยีแบบนี้ แต่พอมันพูดเท่านั้นแหละ สติผมขาดผึง!

   ปั่ก!

   “โอ๊ยยย ดั้งกู!” ไอ้เด็กพละร้องลั่นเมื่อโดนหมอนสีเหลืองฟาดให้ที่หน้าอย่างแรง

   “กูชื่อกุ้งโว้ยยยยยยยยยยย”

   “โห…เล่นแรงว่ะสัส” คนโดนฟาดยังคงจับจมูกโอดโอย

   “เจ็บจริงเหรอวะ…” ผมเริ่มกังวลละ ทำลูกเค้าเสียโฉมจะซวยเอาเด้ออออ แงงงงง

   หมับ!

   “เย้ยยยยย” ผมสะดุ้งเพราะจู่ๆ มันก็ล็อคข้อมือผมไว้

   “ฝากไว้ก่อน ถ้าชอบแบบนี้คราวหน้าจะได้เล่นแรงๆ” อ้าวววววว นี่มันแกล้งเจ็บเหรอ โอ๊ยยยยย เด็กการแสดงยอมแพ้ ไอ้ทักมึงมันเจ้าเล่ห์มากกกก เชื่อไม่ได้เลย!!

   “ไปไหนก็ไปป่ะมึงอะ”

   “หึ” มันปล่อยมือ “นั่นอะไรอะ”

   ผมมองไปตามนิ้วที่มันชี้

   “ลูกชาย” ผมคว้าตุ๊กตาไซส์เท่าคนที่คว่ำหน้าอยู่ขึ้นมากอด “ชื่อปีเตอร์”

   ไอ้ทักหน้าเหวอขณะที่ผมลูบไล้ผมสีทองของตุ๊กตาในอ้อมกอดไปมา

   “มึงนี่มันโรคจิต”

   “งั้นก็อย่ามายุ่งกับกูดิ”

   “ไม่ได้ ใจมันชอบแล้ว ติด…”

   “พูดบ้าอะไร!” ผมทำท่าจะฟาดอีกรอบ มาชงมาชอบ มาต่งมาติดอะไร เพ้อเจ้อ!

   “ไปละนะ”

   “เออออออออออ” ผมทำท่าจะขว้างหมอน ไอ้ทักมันเลยรีบวิ่งแจ้นออกจากห้องไป ปิดประตูซะดังลั่น

   แหม ถ้าอยากจะนอนกับกูมึงช่วยเรียกชื่อกูให้ถูกต้องก่อนเหอะไอ้ทัก!! แถมมาว่าผมโรคจิตอีก มันใช้ได้ซะที่ไหนกันเล่า

   “เนอะลูก” ผมจับแก้มปีเตอร์ที่นอนพาดอยู่ในอ้อมกอด “พ่อไม่ได้โรคจิตหรอกเนอะ”

   ปีเตอร์ยังคงนิ่ง ยิ้มแป้นถึงใบหูอย่างที่เคยเป็นอยู่ทุกวัน

   แน่สิ ก็มันเป็นตุ๊กตานี่หว่า

   “หรือว่าโรคจิตจริงวะ…”




เมื่อวานเรามีเวลาว่างหนึ่งวัน ก่อนที่จะถึงเทศกาลปฐมนิเทศยาวทั้งสัปดาห์และจะจบด้วยเฟรชชี่ไนท์ซึ่งจะจัดในวันอาทิตย์ และสัปดาห์ถัดไปหลังจากนั้นจะถึงการเปิดภาคเรียนแบบจริงๆ จังๆ สักที

   วันนี้เป็นคิวของการทำกิจกรรมตะลุยฐานต่างๆ พวกคณะอื่นๆ สนุกกันมาก แต่สำหรับเด็กสินกำที่รักสวยรักงามแล้ว มันไม่ต่างอะไรกับการทรมานร่างกายเลยครับ น่าเบื่อโคตรๆ แถมจัดกลุ่มแบบคละคณะอีกตะหาก ทำให้ไม่มีเพื่อนให้คุยด้วยเท่าไหร่ เหงาจะตายยยยย

   “ว๊ายยยย อย่าสาดน้ำสิคะ!”

   โอเค…ละเว้นไว้คนนึง มุนินดูท่าจะมีความสุขมากๆ ที่ทำกิจกรรมแบบนี้ พวกรุ่นพี่ผู้ชายที่เฝ้าตามฐานคงจะเป็นสิ่งที่มันโปรดปราณมากเลยทีเดียว ยิ้มซะเคลิ้มเชียว หมั่นไส้!

   “น้องกุ้ง!” เสียงหนึ่งเรียกผมขณะที่กำลังต่อคิวเข้าแถวเพื่อจะเล่นฐานสะพานเชือก ซึ่งต้องข้ามบึงขนาดใหญ่และมันมีสีไม่ได้น่าลงไปว่ายเล่นเลย ให้ตายเหอะ

   “อ้าวพี่เก่ง!” ผมยิ้มร่าเมื่อเห็นว่าคนนั้นคือใคร รุ่นพี่คณะวิทย์ที่เจอตอนอยู่กรุงเทพนี่เอง

   “เป็นไงบ้าง ไม่ติดต่อพี่บ้างเลย”

   “ก็โอเคดีนะพี่”

   เอ… จะตอบไงดีอะ ผมเป็นพวกไม่ค่อยอยากกลับไปคุยกับคนที่เคยนอนด้วยเท่าไหร่อะสิ มันแปลกๆ อะ

   “พวกเพื่อนๆ พี่มันให้ขนมมาให้อะ” พี่เก่งชูถุงขนาดใหญ่ขึ้นมาโชว์ ข้างในมีของกินเล่นเยอะจนถุงเต่งเลยทีเดียว

   “โห… เขาเอามาให้กุ้งกันทำไมอะ”

   “อ้าว” พี่เก่งส่ายหัว “ก็พวกมันปลื้มกุ้งไง”

   “อ่า…” ผมชะโงกเข้าไปในถุงเพื่อจะดูว่ามีขนมอะไรบ้าง จะมีแอลฟี่มั้ยอะ อยากกินช็อกโกแลต

   “รับไปสิ”

   “แล้วในนี้มีของพี่หรือเปล่าครับ” ผมยิ้มหวาน

   “ไม่มีหรอก” พี่เก่งยิ้มกลับมาเหมือนกัน “พี่ไม่อยากเหมือนคนอื่น พี่เหนือกว่าพวกนั้นหลายระดับแล้ว”

   ทันทีที่พี่เก่งพูดจบผมก็ก้มหน้าหงุดเพราะความเขิน อ๋ออยยยยย รู้นะว่าจะหมายถึงอะไร ดีนะเนี่ยที่พูดเบาๆ เดี๋ยวคนอื่นได้ยินหมด

   “งั้นผมฝากไว้กับพี่ก่อนนะ เดี๋ยวผมไปเอา”

   “ถ้างั้นยินดีเลย” พี่เก่งลดถุงนั้นลงข้างตัว “สนุกมั้ยวันนี้”

   “อืม…เหนื่อยอะ ง่วงด้วย อยากจะนอนมากๆ เลย” ผมบอก

   “มานั่งพักตรงนั้นมั้ยล่ะ” พี่เก่งผายมือไปยังพวกอ่อนแอที่เป็นลมทำหน้าโอดโอยอยู่ในเต็นท์พยาบาล

   “ไม่เป็นไรอะพี่ หมดนี่ก็ฐานสุดท้ายและ”

   “เก่งมาก... งั้นพี่ไปดูน้องๆ ก่อนนะ” พี่เก่งโค้งหัวให้ผมทีหนึ่งก่อนจะเดินแยกไป

   “เก่งมากกก” เสียงกระแหนะกระแหนดังอยู่ด้านหลัง ผมเบ้ปากพร้อมกับหันไปเห็นไอ้ทักที่ยืนเท้าเอวทำปากยื่นปากยาวอยู่ด้านหลัง

   มันโผล่มาจากไหนวะเนี่ยยยยย

   “สาระแนนัก” ผมกอดอก

   “แฟนคลับมึงเหรอ?”

   “รู้ดี!”

   “อ้าว ก็เขายิ้มแป้นเวลาคุยกับมึงแบบนั้นอะ ไม่เมาเนื้อก็คือหลงมึงหัวปักหัวปำชัดๆ เอ๊ะ…หรือว่าคนนี้จริงจัง จะคบเป็นแฟนเลยงี้?”

   “จะยังไงมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวมั้ยเล่า!”

   “ทีหลังก็อย่าประเจิดประเจ้อสิ” มันว่า เลิกคิ้วให้ข้างหนึ่ง “อย่าบอกนะ ว่ามึงนอนกับคนนี้แล้ว?”

   โอ๊ยยยย กูล่ะขี้เกียจอธิบาย

   “เออ!” ผมกระแทกเสียงใส่ สะบัดหน้าหนีปล่อยเลยตามเลย

   “โอ้โห เล่นเดือนมหาลัยปีที่แล้วซะด้วย”

   “รู้ดีไปหมด”

   “ก็กูเป็นเดือนคณะ กูเข้ากองประกวดก็ต้องรู้ปะวะ”

   “ถ้างั้นก็เทียบหน้าตัวเองกับหน้าเขาแล้วกัน มึงเตรียมตัวตกรอบแรกได้เลย” ผมพูดขณะที่แถวเริ่มเคลื่อนตัว ตอนนี้ผมก้าวขามาบนสะพานเชือกเรียบร้อย ตอนแรกทำท่าจะสนุกนะ พอเจอไอ้ทักนี่ทำเอาหมดอารมณ์เลยอะ

   “จะว่าไปมึงก็เป็นคนเดียวนะที่คิดว่ากูไม่หล่อ”

   “อี๋ มั่นใจในตัวเองไปปะ” ผมพูดไปด้วยขณะที่ตาก็มองดูเท้าตัวเองไม่ให้ก้าวพลาด “เทียบกับพี่เก่งแล้วอย่างกับเทวดากับหมาใน”

   “มึงว่าพี่เขาเป็นหมาได้ไง ไม่มีกาลเทศะเล้ย”

   “กูด่ามึงต่างหากไอ้โง่”

   “อ้าว ได้!” ผมรู้สึกถึงแรงสั่น “ว่ากูเป็นหมาในใช่มั้ย!”

   “เฮ้ยยย อย่าเขย่า” ผมเอี้ยวคอไปดุ เห็นไอ้ทักมันกำลังแยกเขี้ยวแกล้งผมอยู่

   “ทำไม กลัวตก? เล่นแรงๆ แบบนี้ชอบไม่ใช่เหรอ?”

   “กูไม่อยากตกน้ำ!!!”

   “ว่ายน้ำไม่เป็นล่ะสิ!”

   “กูไม่อยากเปียก!” ผมร้อง หันไปแยกเขี้ยว “หยุดสักทีดิ๊!”

   “ตกเลย! ตกไปเลยไอ้กบ!”

   “กูชื่อ… เหวออออออ” จังหวะนั้นเองที่สะพานเชือกเอนไปทางซ้าย จนหน้าผมเกือบจะจุ่มลงไปในน้ำสีขุ่นนั้นแล้ว

   “ฮ่าๆๆๆ”

   “ไอ้ทัก มึงนี่มัน…” ทนไม่ไหวแล้วนะ!!

   “เฮ้ย!!!”

   ป๊าบบบ!

   ผมยกขาถีบไปที่ท้องคนด้านหลังอย่างแรง ประทับรอยจากรองเท้าไนกี้คู่แพงของผมไว้ให้ชื่นชม

   “เหวออออออ” เวรละ ไม่รู้ว่าขาสั้นเกินไปหรือไง จากที่ตั้งใจแค่จะกำจัดไอ้ทักเท่านั้น สุดท้ายกลายเป็นว่าผมพลาดท่าเสียหลักตกลงไปในน้ำพร้อมๆ กับไอ้เด็กพละปากดี แงงงงง

   ตู้ม!!

   “แค่กๆๆๆ” ผมสำลักแทบตาย แต่ไอ้ทักกลับพ่นน้ำสีขุ่นๆ ออกมาจากปาก ทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นแมวน้ำ

   อี๋ เหม็นโคลนชิบเป๋ง!! สกปรก!!

   “ไอ้ทัก เพราะมึงเลย!” ผมตวาดใส่ไอ้ตัวสูงที่ตกลงมาในบึงพร้อมกัน

   “เอ๊ากูเกี่ยวอะไรอะ มึงเป็นคนถีบกูแล้วล้มลงมาเอง”

   “ดูดิ๊! น้ำสกปรกขนาดเนี้ย!”

   “มึงก็เว่อร์…”

   “น้องกุ้ง! เป็นอะไรหรือเปล่า!?” ไอ้ทักยังไม่ทันได้พูดจบ พี่เก่งที่เห็นเหตุการณ์ตะโกนถามมาจากโคนต้นไม้ที่สะพานเชือกถูกผูกไว้

   “โอเคครับพี่!” ผมตอบกลับรุ่นพี่คณะวิทย์ไป แต่ตายังจ้องไปที่ไอ้ตัวต้นเหตุอย่างคาดโทษ

   “มองขนาดนั้นจะกัดคอกูเลยมั้ยฮะ …อารมณ์เสียทำไม แฟนมึงมาดูอาการแล้วนี่”

   “เลิกกวนตีนกูสักที! ไม่ใช่แฟนโว้ยยยยย!!”

   “เอ๊า สรุปก็แค่เป็นผู้โชคดีอีกคนที่ได้นอนกับมึงเหรอเนี่ย?”

   “ไอ้ทัก!!” ผมอยากจะซัดหน้าหล่อๆ ของมันซะจริงๆ ฮึ่ยยยยย

   “อืม…” มันทำเป็นกอดอกครุ่นคิด แต่การที่มันตัวเปียกและท่อนล่างจมอยู่ในน้ำแบบนี้มันเป็นภาพที่ออกจะขัดๆ กันหน่อยนะครับ “จะว่าไปมึงหาแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยก็ดีนะ จะได้เลิกแรดสักที”

   “มึง!”

   “เฮ้ยยยยย” มันตกใจถอยหลังไปเมื่อเห็นผมพุ่งตัวเข้าไปหา “จะทำบ้าอะไรฮะ!”

   “มึงโดนแน่!”

   “ออกไปไอ้สัสกบ! เดือดอะไรของมึงวะเนี่ยยยยย”

   ไอ้ทักว่ายน้ำหนีออกไปตรงบริเวณน้ำลึก แต่คิดเหรอว่าจะหนีผมได้ หึ นอกจากบ้านอยู่ติดทะเลแล้วกูยังเป็นนักกีฬาว่ายน้ำเก่าด้วยโว้ย มึงได้เจอฉลามกุ้งแน่ แชมป์ประจำเขตเชียวนะสัส!

   ผมจัดท่าฟรีสไตล์สี่คูณร้อยตามมันไปจนทันแล้วจัดการซัดมันเละ เลยเป็นหน้าที่ของพี่ๆ สต๊าฟที่ต้องกระโดดตามลงมาในบึงเพื่อจะช่วยชีวิตพวกเรา แถมยังต้องมาทำหน้าที่ห้ามทัพมวยกลางน้ำอีกด้วย

   สภาพตอนนี้ชุลมุนมาก ไอ้พวกเด็กปีหนึ่งคนอื่นๆ ไม่เป็นอันทำกิจกรรม ต่างมามุงดูเหตุการณ์ตรงหน้าแถมยังส่งเสียงร้องอย่างกับเชียร์มวย

   เป็นไงล่ะ มีมวยทะเลโชว์ด้วย คุ้มฉิบหายได้เป็นเฟรชชี่ปีนี้




“ฮ้าดดดดชิ้ว!” ไอ้ทักจามลั่น ขณะที่ตัวมันกำลังห่มผ้าบรรเทาความหนาวเช่นเดียวกันกับผม ตอนนี้เราทั้งคู่ตัวดำเกรอะกรังเพราะน้ำโคลน ต่างกันตรงที่ไอ้ทักมีถุงน้ำแข็งเล็กๆ ประคบหน้าผากที่ปูดโปน อันเกิดจากหมัดข้างขวาของผม

   หึ สมน้ำหน้า ซ่าดีนัก

   ผมยังคงมองมันตาขวาง มันจึงเลือกที่จะไปนั่งสั่นอยู่ที่อีกฟากของเต็นท์ จังหวะนั้นเองที่พี่หมอซึ่งเป็นรุ่นพี่จากคณะแพทย์ผู้รับผิดชอบจุดปฐมพยาบาลเดินเข้ามา หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาบอกไว้ว่าจะไปหยิบยามาให้ หน้าตาดีเชียวล่ะ…

   “อะน้องกุ้ง เอาไว้ทานดักไข้นะ” พี่หมอยิ้มแย้มแจ่มใส ออร่าความเท่เปล่งประกายออกมาจากสีผิวที่ขาวจัด

   “แล้วผมอะพี่” ไอ้ทักลุกขึ้นมา

   “อ้าว นึกว่ามาด้วยกันพี่เลยให้ไปแบ่งเอง”

   “ไม่ได้มาด้วยกันครับ”

   “งั้นพี่จะจัดมาให้อีกชุด”

   “ไม่เป็นไรพี่” ผมพูดอย่างเหนื่อยหน่าย “เดี๋ยวผมแบ่งให้มันเอง”

   “เหอะ” ไอ้ทักทำหน้าบึ้ง ก่อนจะถอยกลับไปนั่งที่เดิม

   พี่หมอใจดียังคงไม่ไปไหน หันมายิ้มโชว์ฟันขาวแสดงความห่วงใยอย่างต่อเนื่อง

   โอยยยย อย่าดิพี่ ใจสั่นแล้วน้า

   “ไม่เจ็บตรงไหนนะเรา”

   “ไม่เลยครับ” ผมยิ้มหวาน “พี่หมอชื่ออะไรหว่า”

   “พี่ชื่อโน่”

   “อ่า ชื่อเท่ดีนะครับ”

   “แค่กๆ” จู่ๆ ไอ้ทักก็กระแอมไอ ผมกับพี่หมอเลยหันไปมอง แต่พบว่ามันแสร้งทำเป็นมองนกมองไม้มองเพื่อนๆ ที่ทำกิจกรรมกันอยู่แทน

   ยัง… ยังไม่เลิกกวนตีน

   “ขอบคุณครับน้องกุ้ง”

   “โห่ พี่โน่จะไม่ปล่อยให้กุ้งแนะนำตัวเลยเหรอ รู้ชื่อก่อนซะแล้ว”

   “ใครไม่รู้จักเราบ้างฮะ ฮอตขนาดนี้”

   “เดี๋ยวๆ ฮอตอะไรเล่า แค่เด็กปีหนึ่งธรรมดาๆ เองครับ”

   “ไม่ธรรมดาแล้วล่ะมั้ง เพื่อนๆ พี่ทั้งหญิงและชายตามกรี๊ดขนาดนี้”

   ผมเอียงคอ มอบแววตาขบขันให้คู่สนทนา “แล้วพี่กรี๊ดกับเขาหรือเปล่าอะ?”

   พี่โน่อมยิ้ม คล้ายกับว่าเขิน

   “กรี๊ดสิ ก็น่ารักขนาดนี้”

   โอ๊ยยยยย อย่าหยอดกันเยอะเซ่

   แงงงง จาอาววว จาอาวววว

   ผมทำเป็นเอียงอายยิ้มมุมปาก แต่ตาดันไปเห็นไอ้ทักที่ย่นจมูกพร้อมกับเบะปากคล้ายจะอ้วกก็เลยถลึงตาใส่

   โธ่ ไม่มีพรสวรรค์ในการแอ๊วแบบกูอะดิ หวายๆๆๆ

   “เฮ้ยไอ้โน่ น้องโอเคปะ” พี่เก่งเดินเข้ามาสมทบ สายตาที่มองผมนั้นดูเป็นห่วงเป็นใยเหลือเกิน โอ๊ยยยย อยู่ดีๆ ก็ถูกขนาบข้างโดยหนุ่มเท่ตั้งสองคน ใจหวิววววว

   “มึงจะดูถูกความสามารถของกูเกินไปแล้ว” พี่โน่หันไปตบหัวเพื่อน โอ๊ยย เพิ่งจะเคยเห็นหมอคูลๆ ก็วันนี้ ลบภาพคุณลุงดุๆ ชอบขู่ตอนเด็กๆ ไปหมดสิ้นเลย

   ฉีดยาให้กุ้งหน่อยนะคร้าบบบบบบ (กระพริบตาปริบๆ)

   “ไม่เจ็บเนอะ” พี่เก่งคุกเข่าลงข้างๆ

   “ถามเหมือนพี่โน่เลยอะ” ผมยิ้มตอบ “ไม่เป็นอะไรเลยครับ จริงๆ”

   “เดี๋ยวเลิกกิจกรรมแล้วก็กลับห้องล่ะ นอนพักผ่อนเยอะๆ เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นมาปฐมนิเทศกับอธิการฯ แต่เช้า”

   “โอ๊ย ผมนอนเป็นตายแน่ๆ พี่ไม่ต้องเป็นห่วง เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว” ผมบุ้ยปาก

   “เด็กดี... งั้นพี่ไปดูน้องคณะก่อนนะ เดี๋ยวฝากไอ้โน่ดูต่อ”

   “ขอบคุณพี่เก่งมากนะครับ”

   หลังจากพี่เก่งเดินออกไปจากเต็นท์ ผมโดนต่อคิวดูแลโดยพี่โน่ทันที

   “กลับหอคนเดียวได้ใช่มั้ยครับ”

   “ได้ครับ แต่กลับกับพี่ดีกว่า” ผมทำตาแป๋ว

   “โอ้โห...” เกิดเสียงร้องเบาๆ จากไอ้ตัวที่กำลังประคบหน้าผาก หน้ามันแสดงความช็อคเต็มที่ อย่างกับไม่เคยเห็นใครรุกหนักขนาดนี้มาก่อนในชีวิต

   แต่คนที่ผมพูดด้วยอย่างพี่โน่กลับยิ้ม เขาแค่พยักหน้า จากนั้นก็หันไปทางเด็กพละหัวโนที่มุมห้อง

   “ถ้าโอเคแล้วน้องกลับได้เลยนะครับ”

   “เอ่อ...” ไอ้ทักอ้ำอึ้ง มองผมสลับกับพี่หมอไปมา “ผม…”

   “หรือน้องต้องการอะไรอีกหรือเปล่า?”

   “ไม่ใช่ครับ คือ…” ไอ้ทักเหลือบมองผมแล้วก็ถอนหายใจ…

   ถอนหายใจเนี่ยนะ? เป็นบ้าอะไรอีกล่ะ

   “…”

   “ฝากเพื่อนผมด้วยนะครับ” ไอ้ทักพูดนิ่งๆ สีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงออกอะไรมากมาย

   หืม... มันจะฝากผมทำไมวะ ไม่ต้องทำมาเป็นสร้างภาพว่าเป็นห่วงหรอกจ้า รู้ทันหรอกไอ้บ้าเอ๊ย

   “ได้เลย” พี่โน่พยักหน้า ก่อนกลับมายิ้มให้ผมอีกครั้ง “เดี๋ยวพี่ไปคุยกับเพื่อนก่อน เรารอพี่อยู่ตรงนี้นะ”

   “ครับผม”

   หลังจากพี่หมอสุดเท่เดินออกไปแล้ว ไอ้ทักก็ลุกขึ้นมา มันเหล่มองผมทั้งๆ ที่มือยังประคองถุงน้ำแข็ง ผมเอียงคอจ้องมันอย่างตั้งใจกวน แต่ทว่ามันกลับทำเป็นเมินเดินผ่านไปเฉยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แหงะ

   “อ้าว ไม่ร่ำไม่ลาเลยหรือไง”

   ไอ้ทักมองผมด้วยหางตา

   “อืม” คนที่ผมถามกระแทกเสียงกลับมา

   “เอ๊า เป็นบ้าอะไรอีก...”

   ปัง!

   อยู่ๆ ไอ้ทัก คนเด็กพละที่กำยำและยังตัวสูงเป็นเปรตก็เตะเข้าให้ที่ถังขยะจนเสียงดังสนั่น จนมันกระเด็นไปหลายเมตรและทิ้งหลักฐานเป็นขยะมากมายปลิวว่อนไปทั่ว ผมตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าจนต้องหยุดพูดทั้งๆ ที่ยังไม่จบประโยค

   ไอ้ทักหมุนตัวกลับมา ผมชะงักขาตัวเองทันทีเมื่อเห็นแววตานั้น… มันน่ากลัว และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นบนใบหน้าของคนอย่างมันด้วย

   ไอ้ทักเดินปรี่เข้ามาจนผมตกใจ

   “อย่าทำกูนะ” ผมถอยกรูดด้วยความกลัว

   ถ้ามันจะวิ่งเข้ามาเตะคว่ำเหมือนถังขยะที่เห็นตรงหน้า บอกเลยนะ ผมตายครับ ตัวมีอยู่แค่นี้เอง เผลอๆ ขาดสองท่อน เอาไปให้หมอต่อก็ไม่ได้ด้วย แงงง ช่วยผมที

   “เหอะ” ไอ้ทักเสยผมแบบลวกๆ ดูก็รู้ว่าอารมณ์เสีย แต่ที่งงกว่าคือมึงจะเดือดทำไมอะ

   “เกิดอะไรขึ้นวะ ผีเข้าเหรอ”

   “เปล่า”

   “แล้วงอแงอะไรฮะ”

   ไอ้เด็กพละกัดกระพุ้งแก้ม จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาเท้าเอว ดูเผินๆ เหมือนกำลังต่อสู้กับอารมณ์ตัวเองอยู่

   “ขอโทษ” อยู่ๆ ไอ้เด็กพละก็พูดออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

   “ฮะ!?”

   “ไม่ได้ยินหรือไงวะ!” มันทำหน้าดุอีกครั้ง ผมเลยไม่อยากตอบโตแบบกวนๆ อีกแล้ว

   “…”

   “ดูแลตัวเอง”

   “มึง…”

   “ช่างแม่ง ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ ถึงอยากพูดแบบนี้” ไอ้ทักโยนถุงน้ำแข็งทิ้งลงกับพื้น ยกนิ้วโป้งขึ้นมานวดจุดที่บวมเป่งนั้น ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะยุบลงเลย

   “…”

   “ก็เจ็บดี” ไอ้ทักฝืนยิ้ม “ทำให้รู้ว่ากูไม่ควรเสือก”

   “ทักคือกูอะ…”

   มันไม่ฟังผมพูด ก้าวขายาวๆ เดินหนีไปอย่างดื้อๆ และทิ้งผมไว้ตรงนั้น

   อ้าว… แล้วแบบนี้ผมต้องทำยังไงอะ


[อ่านต่อด้านล่าง]

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3



ตลอดเวลาที่ท่านอธิการบดีให้โอวาทต้อนรับนิสิตใหม่ พวกเราคณะสินกำต่างหลับคอพับคออ่อนกันเป็นแถว แต่คณาจารย์ทุกท่านเขาคงจะชินแล้วล่ะ ก็แหมเด็กคณะนี้มันชอบทำตัวแปลกแยกอยู่เรื่อย

   ไม่นานนักหลังจากชั่วโมงแห่งการปฐมนิเทศจบลงไป เวทีก็ถูกส่งต่อให้เป็นหน้าที่ของพี่สภานิสิตจัดกิจกรรมให้น้องๆ ฟื้นตัวกันต่อ ซึ่งกิจกรรมแรกก็คือการเล่นเวฟ แม่ม…โคตรสิ้นคิดเลย

   แต่เอาเถอะ สุดท้ายก็เป็นภาพที่สวยงามจนผมต้องมาอัปสตอรี่ลงไอจีเลยแหละ

   “เอาล่ะค่ะปีหนึ่งทุกท่าน” พี่จะสภาฯ คว้าไมค์มาประกาศ “ก่อนจะถึงเฟรชชี่ไนท์ในสุดสัปดาห์นี้ เราจะพาน้องๆ ดาวเดือนตัวแทนแต่ละคณะมาให้ทุกคนยลโฉมกันก่อนน้าว่าสวยหล่อขนาดไหน”

   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด”

   พอได้ยินคำว่าดาวเดือน ไอ้พวกที่นั่งเซ็งโลกจะเป็นจะตายก่อนหน้านี้โห่ร้องกันเป็นแถวอย่างกับได้โดปเอ็มร้อย เอ๊าที่พวกมึงหลับจนจะล้มพับก่อนหน้านี้คืออะไรวะ

   แต่เอาจริงนะ ผมก็อยากเจอดาวเดือนเหมือนกัน แต่…ไม่ใช่จากคณะตัวเองนะ

   ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวานผมยังไม่เห็นหน้าไอ้ทักเลย ถามไอ้โมทย์ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน จะไปเคาะประตูห้องก็ไม่ใช่เรื่อง ความรู้สึกผิดทุกอย่างแม่งถาโถมเข้ามาได้ยังไงผมก็ยังงงๆ ซึ่งสุดท้ายผมก็ไม่ได้ไปกับพี่โน่ เพราะเปลี่ยนใจกลับมานอนกอดปีเตอร์อยู่ที่เตียงตัวเอง เหงานิดหน่อยแต่ก็โอเคนะ (รันทดชิบเป๋ง)

   ผมชะโงกดูหนุ่มสาวบนเวที แต่ยังไม่พบคนที่ตามหาเลย

   ดาวเดือนถูกส่งไมค์ต่อกันไปเรื่อยๆ และในที่สุดก็ถึงคิวหยากไย่คนสวยที่พอได้ออกสื่อก็เหมือนมีโดนใส่ถ่านเพิ่มเอเนจี้ มีแววความฉลาด สมาร์ท และสวยกว่าปกติมากกกกกกเลยทีเดียว

   “สวัสดีค่ะ หยากไย่ จากเอกออกแบบแฟชั่น ดาวคณะ…”

   “เดี๋ยวค่ะๆ คณะนี้เขาไม่ได้แนะนำตัวแบบนี้กันไม่ใช่เหรอ?”

   “เฮฮฮฮฮฮฮฮฮ!”

   นั่นไง เสี้ยมกันเข้าป้ายยย แล้วคณะอื่นมันจะไม่หมั่นไส้เราได้ยังไงฮะ

   หยากไย่ยิ้มมุมปากแบบผู้ดี “พอดีเราสองคนถูกสั่งห้ามไม่ให้แนะนำตัวจนกว่าจะได้ตำแหน่งค่ะ เขาว่ามันเสียภาพลักษณ์”

   “หูยยยยยยยยย”

   มึงก็มั่นหน้าเกิ๊นนนนนน ไย่เอ๊ย ระวังโดนปาไข่เน่าเด้ออออ

   “ว๊าย แรงอะ งั้นไปที่คนต่อไปเลยเนอะ”

   แล้วก็มาถึงที่…

   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

   เสียงกรี๊ดกระหึ่มนั้นดึงความสนใจผมให้เพ่งไปที่เวทีอย่างตั้งใจอีกครั้ง ผู้ชายในชุดนิสิตถูกระเบียบก้าวขายาวๆ ออกมาข้างหน้า ออร่าเป็นประกายเกินกว่าคนอื่นๆ จนทำให้ใจผมเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ  สังเกตเห็นว่ามันเซ็ตผมและแต่งหน้าจนดูดีกว่าตอนปกติ ทำไมมันไม่ทำแบบนี้บ่อยๆ นะ ดูดีจะตายไป

   และไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมรู้สึกดีใจเหลือเกินที่ได้เห็นมันอีกครั้ง ถึงแม้จริงๆ แล้วจะไม่ได้นานเท่าไหร่ แต่ความรู้สึกของผมไม่ต่างกับร้อยปีเลยอะ เพ้อเจ้ออีกแย้ววววว แง

   “ทักครับ จากคณะพละศึกษา”

   ท่ามกลางเสียงเชียร์ อยู่ๆ ผมก็กระตุกยิ้มออกมา โชคดีไปที่ไอ้อู๋และเพื่อนที่นั่งข้างๆ กำลังจดจ่ออยู่บนเวทีจึงทำให้ไม่มีใครเห็น ฟู่ววว! รอดตัว

   “ตายแล้ว ทำไมหน้าผากช้ำแบบนั้นล่ะคะลูก” พิธีกรชี้ไปยังจุดที่ว่า หากมองจากหน้าจอใหญ่ๆ ที่อยู่ด้านหลังซึ่งกำลังจับภาพอยู่ ก็จะเห็นว่ามันยังคงเป็นรอยสีแดงๆ ปนม่วง “จะหายทันวันประกวดมั้ยเนี่ย?”

   “ผมหวังว่าจะหายทันครับ ผมก็ไม่อยากทำให้เพื่อนๆ ผิดหวัง”

   ความรู้สึกผิดกระแทกเข้าที่ท้องจนจุกสัสๆ ฮือออออ

   “ตายแล้ว ใครกันคะ! อย่าให้เจอนะเดี๋ยวพี่จะตีให้ก้นลายเลย!”

   “หึ ไม่เป็นไรหรอกครับ” ไอ้ทักพ่นลม แปลกมากที่ท่าทางของมันไม่ได้ดูขี้เก๊กเลย กลับเป็นธรรมชาติน่ามองสุดๆ ผู้ชายด้วยกันมันดูออกน่ะ “สมควรโดนแล้ว จริงๆ น่าจะโดนมากกว่านี้ด้วยซ้ำครับ”

   “ต๊ายย …เอาจริงนะ พี่ว่ามันฟังดูโรแมนติกยังไงๆ ก็ไม่รู้อะ” พิธีกรยิ้มเขินๆ

   “แล้วที่ถามว่าใครทำ…” ไอ้ทักหันหน้ามาทางจุดที่นั่งของคณะศิลปกรรม ไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ ว่ามันกำลังสอดส่ายสายตาหาใครบางคน

   ผมย่นคิ้วพร้อมกับกัดกระพุ้งแก้มในจังหวะที่ดวงตาคมๆ คู่นั้นจับจ้องมาทางนี้พอดี ผมยืดตัวขึ้นมองไปที่ใบหน้าคมๆ อันหล่อจัดนั้นอย่างสังเกตท่าที

   จะทำอะไรของมันอีกล่ะ

   ความหงุดหงิดปนความสงสัยทั้งหมดหายไปในทันที เมื่ออยู่ๆ อีกฝ่ายก็ระบายยิ้มออกมา เป็นยิ้มแบบที่ไม่มีการกวนตีน ไม่ใช่ยิ้มที่ลองเชิงและด่าผมทีหลังเป็นการตบหัว ผมเจอพวกนั้นมาหมดแล้ว และครั้งนี้มันไม่เหมือนกับพวกนั้น

   มันทำให้ผมรู้ว่านี่แหละ ยิ้มของไอ้ทัก ยิ้มจริงๆ

   ยิ้มแบบจริงใจ…

   ตัวแทนคณะพละกระชักไมค์ในมือก่อนจะส่งเสียงพูดแทรกทะลุความเงียบ

   “กุ้ง คณะศิลปกรรมศาสตร์ ต่อยผมในบ่อโคลนเมื่อวานนี้ โทษฐานที่ปากหมาครับ”



TBC*


 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:


เค้าว่าคนปากหมามักมีปม
งี้ก็แปลว่า...

อิอิ

ขอบคุณทุกเสียงตอบรับที่ให้น้องกุ้งนะคร้าบบบ
ยังไงก็ฝากบวกเป็น คอมเม้นท์ เป็นกำลังใจได้นะฮ้าฟฟฟ


พูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/thene0classic
หรือ #อย่ามาอยู่กับกุ้ง ก็ได้นะฮัพ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ทัก มีปมไรน้าาาาา
ใช่ปม ทุ่งชอบกั๊ก - ทักชอบกุ้ง หรือเปล่านะ

ทักที่เป็นธรรมชาติ ไม่ปากหมา
ไม่มีทีท่าดูถูก นี่ล่ะน่าสนใจ
ชอบกุ้ง ก็เข้าหากุ้งดีๆ สิ  :hao3:
ทัก กุ้ง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด