ตอนที่ 36 เหอ....พี่ซันครับ
“ใครครับ”
ผมเรียกผู้ชายตัวสูงที่กำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้
บริเวณนี้นอกจากผมกับคนๆนี้แล้ว ผมก็ไม่เห็นใครเลย
“ใครครับ”
ผมเรียกเขาอีกครั้ง เพราะดูเหมือนเขาจะไม่สนใจ
หรือเหมือนกับเขาไม่ได้ยินที่ผมเรียกเลยด้วยซ้ำ
แล้วตอนเย็นบริเวณนี้ มันทำให้ผมรู้สึกเหงาพิลึก
เหมือนไม่มีใครอยู่ ไม่มีใครนอกจากเขาที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้
ส่วนตัวผม กลับเหมือนอากาศที่อยู่รอบๆ ตัวเขาเท่านั้น
ผมเดินเข้าหาคนที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ จนเห็นแผ่นหลังกว้างที่เริ่มคุ้นเคย
และทรงผมกับสีผิวที่ผมคุ้นตา มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนเคยเจอคนคนนี้
มาแล้วครั้งหนึ่ง เพียงแต่ผมจำไม่ได้ว่าเป็นใคร?
ผมเดินไปหยุดด้านหลังเขา โดยที่เจ้าตัวเหมือนไม่รู้ด้วยซ้ำ
ว่ามีคนกำลังมองอยู่ ตัวของเขาเป็นผู้ชาย และกำลังสั่นเทิ้มเหมือนคนไม่สบาย
แต่เมื่อผมตัดสินใจนั่งลงข้างเขา ก็ทันทีรู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังร้องไห้อยู่
น้ำตาที่ไหลลงบนดอกไม้ที่แห้งเหี่ยวบนมือ
มันเหมือนผู้ชายคนนี้กำลังคิดถึงใครสักคน ใครที่ให้ดอกไม้ดอกนี้กับเขา
และใครคนนั้นก็ทำให้เขาเสียใจ...
ผมมองหน้าของเขาที่กำลังก้มหน้าอยู่ และใบหน้าที่ผมเห็น
มันทำให้ความรู้สึกตกใจ และแปลกใจในคราวเดียวกัน
ว่าผู้ชายคนนี้คือ...
.
.
.
ผมสลึมสลือตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในโรงยิม
พี่ซันกับเพื่อนพี่แก พอเห็นผมลุกขึ้นนั่ง ก็เริ่มเดินเข้ามานั่งข้างผม
“เป็นอะไรมากเปล่าครับต่าย”
ผมนั่งปรับตัวเองให้อยู่ในท่าสบาย
แล้วค่อยๆย้อนความคิด ว่าทำไมผมถึงได้มาอยู่ที่นี่
เพราะผมจำได้ว่าตัวเองกำลังไปซื้อน้ำให้ไอ้เบส
แล้วจากนั้น....ผมก็จำไม่ได้เลย
“ค่อยยังชั่วแล้วครับ แล้วผมเป็นอะไรไปครับ”
ผมหันมองหน้าพี่ซัน พี่นิค แล้วเพื่อนๆพี่แก
แต่คนที่ผมกำลังมองหา กลับไม่อยู่
“น้องต่ายเป็นลมไปครับ พี่ไปเจอเข้า เลยพามานอนพักที่นี้”
ผมมองหน้าพี่ซัน แล้วเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น
แล้วเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมก็เป็นหนี้พี่ซันตามเคย
“ขอบคุณครับ”
ผมยกมือไหว้พี่ซัน แล้วพี่แกก็ยิ้มให้ผมเชิงไม่เป็นไร
ส่วนคนอื่นๆก็เริ่มพูดคุยกับผม อย่างปกติ
จนผมรู้สึกดีขึ้นมาก แต่ในขณะนั้น ผมก็ยังไม่หยุดหันมองไอ้เบส
ที่ตอนนี้ไม่รู้มันไปอยู่
“เอ่อ..พี่ครับ เบสไปไหนเหรอครับ”
ผมถามพี่คนที่นั่งใกล้ผมที่สุด รู้สึกจะชื่อพี่ต้า หากจำไม่ผิด
พี่แกดูจะมองไปรอบวง เพื่อหาใครสักคน
“ไอ้ซัน- ไอ้เบสมันไปไหนว่ะ”
“เห็นมันบอกว่าออกไปด้านนอก ไม่รู้เหมือนกันว่าไปไหน”
พี่ซันตอบไอ้พี่ต้า แล้วหันมามองที่ผม
แต่ผมไม่รู้ว่าพี่แกมองทำไม เลยไม่ได้สนใจ
แล้วผมก็กลับมาคิดถึงเรื่องไอ้เบสต่อ
ว่ามันไปไหนของมัน และมันคงไม่คิดจะทิ้งผมไว้ที่นี้หรอกน่ะ
แล้วตอนที่ผมเป็นลม ทำไมมันไม่อยู่กับผม
มันหายไปไหนของมัน ไม่คิดห่วงผมเลยใช่ไหม...
แล้วความรู้สึกหลายๆอย่างกับเหตุผลที่ทำไม และทำไม
มันกลับทำให้ผมรู้สึกน้อยใจในตัวไอ้เบส จนอยากจะร้องไห้
แต่ผมเพียงเก็บเงียบไว้ข้างใน และพยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด
ผมนั่งเงียบ คิดเรื่องไอ้เบสไปต่างๆนานา
จนรู้สึกเหมือนโทรศัพท์มีคนโทรเข้า
เพราะผมตั้งระบบสั่นไว้
แล้วเมื่อดูเบอร์ที่โทรเข้าเป็นไอ้เบส ก็รู้สึกดีใจขึ้นทันที
“มาหากูหลังโรงยิมหน่อย เร็วๆอย่าช้า”
ผมไม่ทันได้พูดอะไร เพราะพอไอ้เบสมันพูดจบ มันก็กดตัดสายไปเลย
ผมได้แต่ทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็ต้องไปหามันนั้นแหละ
หลังจากผมบอกพี่ซันว่าจะไปห้องน้ำ พี่แกก็จะตามมาด้วย
ไม่รู้พี่แกจะห่วงอะไรกันนักหนาน่ะครับ
แต่ผมไม่ได้รู้สึกรำคาญหรอก มันรู้สึกแปลกใจก็เท่านั้นเอง
แล้วพี่แกก็ดูจะเป็นห่วงผมอยู่น่ะครับ
แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้ผมมาคนเดียว
เพราะทนลูกอ้อนของผมไม่ไหว เหะๆ
ผมเดินจนเกือบวิ่งไปหาไอ้เบสที่อยู่ด้านหลังโรงยิม
จนเจอมันนั่งอยู่บนม้านั่งหินอ่อน แล้วบนโต๊ะ ก็มีข้าวกล่องหนึ่ง
น้ำแก้วหนึ่ง กับยาอีกแผงหนึ่ง
ผมไปนั่งตรงข้ามกับมัน แล้วมองกล่องข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะ
แล้วหันไปมองหน้ามันสลับกัน
“มองเฉยๆแล้วมันอิ่มเหรอว่ะ”
ไอ้เบสเห่าเหมือนทุกครั้ง แบบที่มันเคยทำ
แล้วผมก็รู้สึกชินกับน้ำเสียงแบบนี้ของมันแล้วล่ะครับ
“แล้วนายซื้อให้เราเหรอ”
ผมชี้ไปที่ข้าวกล่อง แล้วมองหน้ามันเขินๆ
ไอ้เบสมันทำหน้าเรียบเฉยมากครับ
จนผมไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่กันแน่
“เออ รีบๆกินก่อนกูจะเปลี่ยนใจ”
ผมถึงกับยิ้มออก ที่อย่างน้อยมันก็ยังห่วงผมอยู่
และลึกๆในใจมัน ก็ไม่ได้มองว่าผมไม่สำคัญเลยซะทีเดียว
ผมแกะข้าวกล่องแล้วก้มหน้ากิน พร้อมกับสลับมองหน้าไอ้เบส
ส่วนไอ้เบสมันก็มองหน้าผมดุๆ ตามนิสัยของมันแหละครับ
“นายไม่กินเหรอ”
“ไม่ กูกินมาแล้ว เมิงรีบกินอย่าถามมาก”
ผมก็อดยิ้มไม่ได้อีกนั้นแหละครับ
เลยก้มหน้าไปยิ้มไป แล้วสักพักก็ตกใจกับเสียงท้องร้องของไอ้เบสมัน
โครกกกกกก...
“เหะๆ ไหนว่ากินแล้วไง”
ไอ้เบสดูจะทำตัวไม่ถูกเหมือนกันครับ
เพราะมันไม่คิดว่าเรื่องหน้าอายของมัน จะเกิดขึ้น หึหึ
“อ่ะ..เออ...เมิงรีบๆกินเหอะ กูจะกินไม่กิน มันเรื่องของกู”
ผมได้แต่กลั่นหัวเราะครับ เพราะอย่างน้อยก็เป็นการรักษาน้ำใจมัน
แต่ไอ้เบสมันก็ยังเนียนน่ะครับ ทำเป็นหงุดหงิดใส่ผม เหะๆ
ผมตักข้าวแล้วยื่นช้อนให้มัน แต่ไอ้เบสมันมองหน้าผม
แล้วไม่ยอมกินครับ แถมทำหน้าตาขู่ผมอีก
“กินด้วยกันเหอะ เรากินไม่หมดหรอก”
ไอ้เบสมันก็ไม่ยอมกินอยู่ดีครับ
ผมเลยคิดว่าจะต้องใช้แผนเด็ดกับมัน
ถึงมันจะกิน เหะๆๆ
“เบสครับ กินกับต่ายน่ะครับ ต่ายรู้ว่าเบสหิว กินด้วยกันนะ น่ะครับ”
เหอ...แผนอ้อนไอ้เบสน่าจะใช้ไม่ได้ผลน่ะครับ
เพราะดูจากหน้าตามันแล้ว เหมือนมันไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
แถมยัง...
“เออ...ไหนอ่ะ”
อ่าว...ตอนแรกนึกว่าไม่ได้ผล
แต่ทำไมได้ผลว่ะ หึหึ
ผมก็นั่งกินข้าว กับป้อนข้าวมันสลับกัน
จนข้าวหมด แถมรู้สึกข้าวจะหวานแปลกๆด้วย เหะๆ
พอผมทานน้ำเสร็จ ไอ้เบสก็แกะยาให้ผมสองเม็ด
มันบอกว่าเป็นยาพารา กินกันไว้ เดียวผมไม่สบาย
แล้วมันก็เอามือมาแตะหน้าผมเบาๆเพื่อวัดไข้
แต่ผมว่ายิ่งมันทำแบบนี้ ตัวผมกลับยิ่งร้อนเข้าไปอีก
แถมคืนนี้อาจมีไข้ด้วยก็เป็นได้ เหะๆ
พอเริ่มเที่ยงผมกับมันก็เดินไปรวมกลุ่มกับพวกพี่ซันเพื่อจะกลับบ้าน
ตอนเดินไปกับไอ้เบส ผมรู้สึกว่าตัวเองมีร้อยยิ้มอยู่บนหน้าตลอด
จนมันทำให้รู้สึกอบอุ่น และมีความสุขได้ไม่ยาก เหะๆ
พอเดินไปถึง พี่ซันกับเพื่อนพี่แก ก็มองมาที่ผมกับไอ้เบสแปลกๆ
ไอ้เบสมันก็คงรู้สึกครับ เพราะมันก็หันมองหน้าผมเหมือนกัน
“มองเหี้ยไรพวกเมิงว่ะ”
ไอ้เบสเป็นฝ่ายเห่าใส่พวกพี่ซันกับเพื่อนครับ
ส่วนผมได้แต่ยืนตาแว๋ว
“อ่าว ทำไมไม่พูดว่ะ”
พวกพี่ซันเงียบไป และมันก็ยิ่งเพิ่มความสงสัยให้ผมกับไอ้เบสมากขึ้น
แต่ในที่สุด ผมกับไอ้เบสแทบถอยห่างกันแทบไม่ทัน
เพราะเมื่อพี่ต้ามันชี้นิ้วมาที่ระหว่างผมกับไอ้เบส
นั้นแหละถึงได้รู้ว่าผมกับมันกำลังจับมือกันอยู่
“เห้ย”
ไอ้เบสเป็นฝ่ายปล่อยมือ
ส่วนผมเป็นฝ่ายเดินออกห่างนิดหน่อย
แถมมีเขินให้พวกพี่ซันแกแซวเล่นด้วยครับ เหะๆ
พวกพี่แกแซวผมกับไอ้เบสไม่นาน
ก็ถึงเวลาแยกย้ายกันกลับ ตอนเช้าผมมากับไอ้เบส
แถมอารมณ์ตอนเช้ากับตอนนี้ที่ผมรู้สึกกับไอ้เบส
มันก้ช่างต่างกันลิบลับ
“เบสเมิงพาไอ้นิคมันกลับด้วย”
พี่ซันพูดขึ้นเมื่อตอนนี้เหลือกันอยู่แค่สี่คน
และมันก็เข้าสู่ล็อกเดิม คือแบบเมื่อวาน
แต่วันนี้ผมอยากกลับกับไอ้เบสไม่ใช่พี่ซัน
แล้วไอ้เบสมันก็คงจะรู้ เพราะมันหันมามองหน้าผม
แถมทำสีหน้าของมัน เหมือนไม่พอใจที่พี่ซันแกพูดเท่าไร
“เห้ย ไม่เป็นไรกูจะไปหาไอ้บูมพอดี เมิงไปส่งไอ้นิคเหอะ”
ไอ้เบสมันเอาบูมมาอ้าง
“แต่กูนัดกับต่ายไว้ว่าจะไปส่งน้องเขาวันนี้ เมิงก็ไปส่งไอ้นิคมันก่อน
แล้วค่อยไปบ้านไอ้บูม”
“แต่...”
“ถือว่ากูขอช่วยแล้วกันน่ะเมิง”
พี่ซันแกเล่นพูดดักกันแบบนี้ ผมว่าไอ้เบสคงไม่มีข้ออ้างแล้วล่ะครับ
“อ่ะ..เอ่อก็ได้”
เหอ...สรุปแล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆนั้นแหละครับ
ไอ้เบสมันไปส่งพี่นิค แล้วสายตาที่มันมองผมก็มีแววไม่พอใจ
ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันไม่พอใจเรื่องอะไร
เพราะเมื่อพี่ซันแกขับรถออกจากสนามกลาง
ผมก็ไม่มีโอกาสจะถามไอ้เบสมันเลย
ผมนั่งรถมากับพี่ซันมาเรื่อย แต่ทำไมพอไปถึงทางแยกในเมือง
พี่แกกลับพาผมไปอีกทาง ที่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของผม
“พี่ซันครับ อ่ะ...เอ่อ เราจะไปไหนเหรอครับ”
ผมตัดสินใจถามพี่แก
“พี่จะพาเราไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน”
อืม.......ทำไมไม่มีการบอกกันก่อนล่ะ
แล้วเล่นพาผมมาแบบนี้ หากไอ้เบสมันรู้
ผมตายแน่ๆครับพี่ ฮื่ออออ...
“ผมไม่มีตังคือ่ะครับ เราค่อยมากันวันหลังดีกว่ามั้ยครับ” เหะๆ
“ไม่เป็นไรครับ พี่เลี้ยงเอง”
แป๋ว....แผนล้มซะงั้น
ไม่เป็นไรหาแผนอื่นต่อ สมองระดับผม
เรื่องไร้สาระแบบนี้น่าจะคิดออกอยู่แล้ว
“พอดีผมนัดแม่ไว้ตอนเที่ยงอ่ะครับ”
“เดี๋ยวพี่โทรศัพท์บอกให้เองครับ เดี๋ยวเอาเบอร์ให้ด้วยน่ะครับ”
เอาแล้วไง นี้ขนาดอ้าง แม่แกก็ยังไม่มีท่าทีอะไรเลย
แล้วแบบนี้ แผนอื่นมันจะสำเร้จเหรอครับ
เหอ...สงสัย ต้องแล้วแต่บุญหนุนนำล่ะครับ สาธุ
พี่ซันแกขับรถไปจนถึงตลาดกิมหยง
ที่ใกล้ๆกับคลินิค ที่ผมมาหาหมอสิวอ่ะครับ
ตอนนี้หน้าผมเริ่มใสแล้วน่ะครับ วิ้งๆๆๆๆ
พี่ซันแกหาที่จอดรถอยู่สักพัก ก็หาเจอครับ
ตอนนี้เราสองคนก็กำลังยืนอยู่บนฟุตบาตรถนน
“น้องต่ายอยากกินอะไรครับ”
พี่ซันแกยิ้มหล่อๆให้ผม ตามหน้าตาที่ดูดีของพี่แกนั้นแหละครับ
“เอ่อ...แล้วแต่พี่ซันครับ ผมทานได้หมด เหะๆ”
ก็เขาเลี้ยงเราใช่มั้ยครับ ตามมารยาทมันก็ต้องเป็นแบบนี้
แต่หากเอาจริง ผมอยากกินทุกอย่างเลยอ่ะพี่ หึหึ
“เอางั้นเหรอครับ”
พี่ซันแกถามเพื่อความแน่ใจ ผมก็ได้แต่พยักหน้าหงิก ๆ
“งั้นซื้อกับข้าวไปกินกันบ้านพี่แล้วกัน ตกลงน่ะ”
อึก....พี่แกทำแต่ล่ะอย่าง เล่นเอาผมหายใจไม่ทั่วท้องเลยน่ะครับ
ผมยืนอึ้งอยู่แปปหนึ่ง พี่ซันก็เอามือมาจับมือผม
มือพี่แกนุ่มมากๆอ่ะครับ เหะๆ
แล้วพี่แกก็พาผมไปซื้อกับข้าวประมาณสามสี่ถุง
ตอนแรกพี่แกถามว่าเอานี้ไหม ผมก็ได้แต่ยิ้มให้
แล้วบอกว่าแล้วแต่ครับ พี่แกก็ซื้อไปเรื่อยๆ
จนรู้สึกว่ามันเยอะเกินไป เลยบอกว่าพอแล้วครับ พี่ซัน
ก็ยิ้มให้ผม เหมือนพี่แกกำลังเล่นสนุกอะไรอยู่
ผมยอมรับน่ะครับว่าพี่แกหล่อมาก
แถมกล้ามากด้วย เพราะขนาดคนมองเวลาเราสองคนจูงมือกัน
พี่แกก็ไม่สน แถมยังยิ้มมั่นใจให้ผมอีกด้วย
ผมไม่รู้ว่าตัวเองซื่อหรือว่าไม่เข้าใจอะไรน่ะครับ
เพราะผมไม่ได้ดึงมือออก แถมพี่แกจะพาไปตรงไหนก็ไป
แต่ในใจผมมันไม่มันได้คิดกับพี่ซัน เหมือนที่คิดกับไอ้เบสน่ะครับ
“เราจะเอาอะไรอีกหรือเปล่าครับ”
“ผมว่าแค่นี้ก็พอแล้วล่ะครับ”
กับข้าวกับขนมที่อยู่ในมือพี่แก
ผมคิดว่าวันนี้หากกินหมดคงได้ตายแน่ๆครับ
เพราะมันเยอะจนแทบถือไม่ไหว
ผมจะช่วยพี่แกถือ แต่พี่แกก็ไม่ยอม
แถมมือที่จับมือผมอยู่ ก้ไม่ยอมปล่อยด้วยน่ะครับ
ผมก็ไม่รุ้จะพูดอะไร เลยปล่อยไปตามอารมณ์ของพี่เขา
จนพวกเราออกจากตลาด
แล้วมุ้งหน้าไปบ้านพี่ซัน ซึ่งบ้านพี่แกอยู่ทางเดียวกับผม
แต่ห่างออกไปอีกหน่อย แล้วสองข้างทางก็เต้มไปด้วยหมู่บ้านจัดสรร
ซึ่งดูจากรูปแบบบ้านแล้ว มันก็ระดับคนรวยอ่ะครับ ถึงจะซื้อ
“อ่าว ถึงแล้วครับ”
พี่ซันแกหยุดรถหน้าประตูบ้านจัดสรรหลังหนึ่ง
ในจำนวนหลายสิบหลัง ซึ่งตัวบ้านจะเป็นสองชั้น
มีสนามหญ้าหน้าบ้านแบบที่ผมชอบ แถมมีต้นไม้ขึ้นรอบๆรั้วบ้านพี่แกด้วยน่ะครับ
“น้องต่ายชอบมั้ยครับ”
ระหว่างพี่แกขับรถเข้าบ้าน
พี่เขาก็หันมาถามผม ที่นั่งสำรวจอะไรรอบๆบ้านไปเรื่อย
“ชอบครับ ผมชอบบ้านที่มีต้นไม้เยอะ”
ผมยิ้มให้พี่ซัน แล้วพี่แกก็จอดรถที่โรงรถ
จากนั้นก็เดินไปปิดประตูรั้ว พร้อมกับเดินหิ้วของ
แล้วไปเปิดประตูบ้านที่เป็นไม้สลักสวยงาม
“งั้นก็มาอยู่ที่นี้ดิ”
อึก....เหะๆ พี่แกพูดอะไรแปลกๆอยู่เรื่อยน่ะครับ
“เหะๆ แล้วพี่ซันอยู่กับใครเหรอครับ”
ผมเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะเมื่อเข้ามาในบ้าน
ก็ไม่เห็นเจอ แถมการตกแต่งบ้านก็ดูค่อนข้างหรูหรา
และสะอาดเรียบร้อยอีกด้วย
“อยู่คนเดียวครับ พ่อกับแม่พี่ไปทำงานต่างประเทศกันหมด”
อืม...พวกเหลือกินเหลือใช้
“โห้...ว่าแล้วทำไมบ้านพี่ใหญ่จัง ก็คนรวยนี้เนอะ”
ทำไมกูเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงเลยว่ะ
แถมหน้าตาก็ให้ด้วยน่ะเนี่ย เหะๆ
“บ้านใหญ่อยู่คนเดียวเหงาอ่ะครับ แต่หากต่ายมาอยู่กับพี่ พี่ว่าพี่คงไม่เหงาเท่าไร”
พี่แกมาอารมณ์นี้อีกแล้วครับ แถมคราวนี้ตัวพี่แกก็ขยับมาชิดผมมากกว่าปกติ
ทั้งที่ในปกติ ผมกับพี่แกก็ติดกัน จนแยกไม่ออกแล้วน่ะ
“อ่ะ..เอ่อ คงไม่ได้ครับ เพราะผมอยู่กับแม่”
ผมพยายามขยับตัวออกห่างพี่แก
แล้วทำทีเดินไปที่กับข้าว ที่ว่างอยู่บนโต๊ะ
“ผมเอากับข้าวใส่จานเหอะครับ เริ่มหิวแล้วด้วย”
พี่ซันแกยิ้มแบบมีเล่ห์นัยอ่ะครับ
แถมสงสายตาแปลกๆมาอีก
“อืม งั้นได้ครับ แล้วเดี๋ยวเราค่อยไปนั่งเล่นกันบนห้องนอนพี่ต่อน่ะครับ”
“เหะๆ”
งานนี้กูจะรอดใช่ไหมเนี่ย แล้วตอนนี้ไอ้เบสมันก็น่าจะรออยู่ที่บ้านผมเรียบร้อยแล้วล่ะครับ
แต่กว่าผมจะไปถึงบ้านอันนี้ไม่รู้เมื่อไร เพราะพี่ซันแกจะชวนผมไปคุยต่อบนห้อง
แถมหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั้นคงจะดีน่ะครับ
.
.
.
แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ถึงตอนนั้น ผมจะหาทางออกยังไงว่ะ...
-------------------------------------------------------------------------ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและเม้นเป็นกำลังใจน่ะครับ
ขอบคุณเจ้สองน่ะครับ ผมเองบ้างครั้งก็คิดว่าตัวเองทำผิดเหมือนกัน
ไงก็จะปรับปรุงให้อยู่ในกฏระเบียบของบอร์ดในทุกๆข้อ 
สำหรับใครที่รออ่านก็ขออภัยด้วยน่ะครับที่มาลงช้า
เหตุด้วย ไปสัมนาคณะกรรมการนักเรียนมากครับ
สนุกดีครับไปทะเลตรังมาสวยงามมากๆครับ
และบวกหนึ่งให้ทุกๆคนน่ะครับ 