ตอนที่ 41 ...ก็เท่านั้น
ผมนอนหลับบนโซฟาทั้งน้ำตา คืนนั้นผมหลับไปโดยไม่รู้ตัว แล้วตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนหกโมงเช้า
เช้านี้ผมรู้สึกตัวเองสดใส แต่เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน จากท้องฟ้าสดใสก็เปลี่ยนเป็นมืดครึม
ผมสะบัดหัว รู้สึกเหมือนใครเอาหินมาไว้ในหัว มันหนักๆ ขนาดนั่งยั่งเอียงเลยครับ
พอร่างกายเริ่มปรับสภาพได้ ผมเดินไปปิดวิทยุที่เปิดมาทั้งคืน แล้วเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำ
ถุงผ้าไอ้เบสยังวางอยู่เหมือนเดิม ผมคิดว่าหากมันไม่มาเอา ผมจะฝากบูมไปคืนมันเอง
ผมเข้าไปอาบน้ำได้ไม่ถึงห้านาที ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเคาะประตูหลังห้อง
ตอนแรกคิดว่าหูฝาด แต่พอได้ยินครั้งที่สอง
เลยต้องออกจากห้องน้ำในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียว
เพื่อไปแงมดูที่หน้าต่าง
ผู้ชายตัวขาวเสื้อผ้าคุ้นๆ นั่งเอาหน้าซุกเข่าอยู่.....
เห้ยย ผมร้องด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าเป็นไอ้เบส
“มานั่งตั้งแต่เมื่อไร”ผมไม่ได้ไปเปิดประตู แต่ยืนคุยกับมันทางหน้าต่างที่มีหลวดเหล็กกันอยู่
“เมื่อคืน”ไอ้เบสตอบเสียงเหนื่อย มันเกาะลูกกรง ดูหน้าตามันน่าสงสารมากครับ
“มาทำอะไร ทำไมไม่กลับบ้าน”ผมถอยห่างจากหน้าต่าง
“มาหาเมิง แล้วเมิงไปนอนไหนมา ทำไมไม่เห็นอยู่ในห้อง เรียกอยู่ตั้งนาน...”
“ไปนอนไหนก็เรื่องของเรา แล้วทำไมต้องมานั่งที่หลังห้องเราด้วย”ผมหงุดหงิด
“แล้วทำไมเมื่อวานเมิงไม่รอฟังกูก่อนล่ะ”
“ไม่จำเป็น”
“จำเป็นดิ เพราะเมิง.......”
“เพราะเราจะได้กลับไปเป็นคนโง่เหมือนเดิม....ใช่มั้ย”ผมพูดแทรกไอ้เบสทันควัน
“เมิงมาเปิดประตูให้กู แล้วกูจะอธิบายให้ฟัง”ไอ้เบสออกคำสั่ง
“อีนัทบอกเราขนาดนั้น เราว่าไม่ต้องอธิบายอะไรแล้วล่ะ”ผมไม่ฟังที่มันสั่งและกำหมัดแน่น อยากต่อยหน้ามันจริงๆ
“แล้วทำไมเมิงไม่ฟังกูอธิบายก่อนล่ะ”ไอ้เบสเหมือนจะขอร้อง
“เราไม่อยากฟัง เราเจ็บกับนายมามากแล้วเบส เราว่า.......พอแค่นี้เหอะ”
ผมกำหมัดแน่นมากขึ้น แล้วน้ำตาที่ไม่สามารถบังคับได้ ก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองลอยอยู่ในอากาศ น้ำตาที่เย็นชื้น และข้างในตัวที่รู้สึกเย็นวาบ
มันทำให้ผมเจ็บอย่างบอกไม่ถูก เมื่อสายตาของผม มองคนที่อยู่ตรงหน้า
คนที่ผมกำลังเสียมันไป หรือบ้างครั้งผมอาจจะเสียมันไปตั้งนานแล้ว....
“โว้ย.........ทำไมไม่ฟังเลยว่ะ”ไอ้เบสพูดจบก็ต่อยกำแพงไปหนึ่งที ผมเห็นแล้วก็อดเจ็บแทนไม่ได้
“เมิง......จะเลิกใช่มั้ย”ไอ้เบสถามผมเสียงสั่น
ผมมองหน้ามัน มันเองก็มองผมเหมือนกำลังรอคำตอบอยู่ ผมเองคิดว่ามันก็น่าจะหยุดสักที
เพราะหากผมขืนไปมากกว่านี้ ผมเองที่เป็นฝ่ายจะต้องเจ็บ
“ใช่”ผมพูดน้ำเสียงสั่นไม่น้อย
“โอเค งั้นเอาเสื้อผ้าเรามา”
ผมไม่เข้าใจว่าไอ้เบสคิดอะไรของมัน ตอนแรกมันหงุดหงิด แต่นี้มันกลับรู้สึกเฉยชา
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เอาเสื้อผ้ากูมา”
ไอ้เบสย้ำเสียงดัง ผมเลยต้องเดินไปยิบเสื้อผ้าที่วางอยู่ ด้วยความสับสน
จากนั้นก็เดินไปเปิดประตู แล้วยื่นให้มัน
“กูไม่เลิก เพราะเมิงเป็นเมียกูแล้ว”ไอ้เบสยิ้มที่มุมปาก แล้วผลักประตูจนเปิดออกกว้าง
ผมไม่ทันตั้งตัว ก็โดนไอ้เบสรวบไม้รวบมือ จากนั้นก็ลากขึ้นเตียง
ผมที่เริ่มรับรู้ว่าตัวเองโง่ที่หลงเชื่อแผนไอ้เบสมัน ก็สายไปแล้ว
มันกดตัวผม โดยใช้ตัวมันทับ เพื่อไม่ให้ผมดิ้นไปไหน
“ปล่อย........”ผมรีบดันมันออก แต่ไม่มีผล
“แต่กูเป็นผัวเมิงแล้วน่ะ”ไอ้เบสทำสีหน้าไม่พอใจ
“เป็นก็หาใหม่ได้”ผมพูดเยาะเย้ย และพยายามดันให้มันออกจากตัว ทั้งที่รู้ว่ายากก็เถอะ
“ใคร...ไอ้ซันใช่มั้ย”ไอ้เบสสีหน้าโมโห เดือดขึ้นมาทันที
“ก็ไม่แน่ เพราะพี่ซัน...อุ๊บ....เอ๋า...อ่อย....”
ไอ้เบสบดเบียดริมฝีปากลงบนปากผม และพยายามดันลิ้นให้เข้าไปในปากผม แต่ผมขัดขืน
มันใช้มือซ้ายรวบมือทั้งสองของผม ส่วนมือขวาก็พยายามลูบไล้เข้าไปในผ้าเช็ดตัวที่ผมนุ่งอยู่
ผมพยายามเบี่ยงตัวหลบ แต่ก็โดนมันปลุกอารมณ์จนกระเจิดกระเจิงไปไหนต่อไหน แล้วในที่สุด
มันก็เอาลิ้นเข้ามาในปากผมจนสำเร็จ ไอ้เบสเริ่มปล่อยมือ แล้วเลื่อนปากมาดูดไซร้ที่คอผม
จนผมต้องแกร่งตัว แล้วเผลอร้อง ซืด....... ออกมา มันคงได้ใจ เพราะจากนั้นปลายลิ้นของมัน
ก็ไปตวัดอยู่บนหัวนมผม ซึ่งผมต้องบิดตัวด้วยความเสียว แต่ก็โดนมันใช้มือ จับตัวให้อยู่นิ่ง
ผ้าขนหนูโดนปลดออกอย่างง่ายดาย ไอ้เบสถอดกางเกงออก จนเหลือแต่กางเกงใน
มันเอาส่วนที่แข็งขื่นมาเบียดกับ ส่วนล่างที่กำลังแข็งอยู่ของผม จนผมรู้สึกเสียวเพิ่มขึ้นไปอีก
“ไม่มีใครทำให้เมิงเสียวเท่ากูแล้ว งั้นอย่าเลิกเลยน่ะ”ไอ้เบสยิ้มกวน
คำพูดของมันทำให้ผมได้สติ แล้วรีบผลักมันออกจนผมสามารถลุกขึ้นมานั่งได้อีกครั้ง
ผมรีบคว้าผ้าที่กองอยู่ที่พื้นขึ้นมาปิดส่วนล่างที่ยังไม่อ่อนตัว
“ได้เสื้อผ้าแล้ว ก็กลับไปดิ”ผมบอกเสียงสั่น ในใจก็กังวลว่ามันจะกระโจนเข้ามาอีก
“แต่กูยังไม่ได้เมิงเลย”ไอ้เบสยิ้ม
“เอาเราอีกทำไม ในเมื่ออีนัทอยู่แล้ว”ผมเปลี่ยนเป็นหงุดหงิด
“ก็เมิงเมียกู ทำไมกูต้องไปเอาคนอื่นด้วย”
“ก็เราไม่สนุกไง นายไปเอาคนที่คิดว่ามีอะไรแล้วสนุก ไม่ดีกว่าเหรอ”
“เมิงพูดไรเนี่ย”ไอ้เบสทำสีหน้าสงสัย
“ก็นายบอกเราไม่ใช่เหรอ ว่ามีอะไรกันเพื่อสนุก”
ผมโกรธไอ้เบสมาก แต่สายตาที่มันมองผมเหมือนกำลังคิดอะไรบ้างอย่าง
แต่เพียงครู่เดียว มันก็ยิ้ม เหมือนคิดอะไรอย่างออก
“วันที่เมิงถามกูว่า ทำไมกูถึงมีอะไรกับคนอื่น แล้วกูตอบว่าเพราะสนุก
เพราะคำตอบนี้ใช่มั้ย เมิงถึงคิดมาก”ไอ้เบสขยับมาใกล้ผม แต่ผมถอยหนี
“แล้วเมิงเลยคิดว่ากูมีอะไรกับเมิง ก็เพื่อสนุกด้วย”มันพูดต่อ แล้วขยับมาใกล้ผม
“ที่กูบอกเมิงตอนอยู่สนามกีฬา มันไม่ได้ทำให้เมิงเชื่อใจกูเลยใช่มั้ย”
ผมขยับจนชิดฝาผนัง ไอ้เบสเองก็ขยับมาเรื่อยๆจนชิดตัวผม ผมเลยลุกขึ้นยืน
แต่ก็ต้องกลับลงไปนั่งบนตักไอ้เบสแทน ผมพยายามแกะแขนไอ้เบสที่กอดเอวผมอยู่
แต่มันแน่นจนผมต้องยอมแพ้
“เบส...นายทำกับเราเจ็บไว้มาก แล้วจู่ๆ...วันหนึ่งนายก็มาบอกว่าขาดเราไม่ได้
นายเห็นเราเป็นอะไร...นายคิดว่าเราไม่รู้สึกเหรอ นายคิดว่าเราไม่เจ็บกว่าเดิม...หรือไง”
ผมพยายามไม่ให้น้ำตาไหลในเวลานี้ ไม่อยากอ่อนแอให้ใครเห็น อย่างน้อยก้ต่อหน้าไอ้เบส
แขนไอ้เบสที่กอดผมแน่ ค่อยๆคลายออก จนผมเป็นอิสระ
“เราว่านายไปสนุกกับชีวิตของนายให้เต็มที่ แล้วอย่างเอาเราไปเกี่ยวอีกเลย...เราของร้อง”
สายตาที่ผมมองไอ้เบสไม่ใช่เกลียดชัง...ไม่ใช่หงุดหงิด...ไม่ใช่โมโห
แต่มันเป็นสายตาที่ของร้อง และแสดงถึงความเหนื่อยล้า
ไอ้เบสดูจะอึ่งไปเหมือนกัน มันไม่ได้มีทีท่าว่าจะยิ้ม หรือพูดกวนๆ
แต่มันเงียบไปเลย มันมองหน้าผมนิ่งเหมือนคิดหนัก
“เมิงต้องการอย่างนี้.....ใช่มั้ย”ไอ้เบสน้ำเสียงสั่น
ผมสูบลมหายใจลึกและคิดว่ามันคือสิ่งที่ผมต้องการ ในเวลานี้
“ใช่ พอแค่นี้เหอะ”
TBC*