ตอนที่ 7 หวังว่าจะ...
“นอนได้แล้วน่ะ”
“อืม”
“ห่มผ้าหน่อยน่ะ”
“อืม....”
.“ฝันดีน่ะ”
“อืม....”
ประโยคเดิมๆที่ไอ้บูมกับผมจะพูดกันก่อนนอน
ผมจะตอบมันเฉพาะคำว่า....อืม
ซึ่งนั้นแปลว่าตกลง หรือไม่ก็ โอเค
การที่มันบอกผมว่าฝันดี หรือห่มผ้าให้ มันก็ทำเป็นประจำ
ใช่.....มันทำแบบนี้เหมือนเป็นกิจวัตรก่อนนอนของมัน
และนี้ก็.....คืนที่ห้าแล้ว ที่มันทำแบบนี้กับผม
เมื่อก่อนไอ้บูมมันจะบอกคำว่าฝันดี ที่ประตูหน้าบ้าน
จนมาถึงตอนนี้มันก็เข้ามาบอกคำว่า...ฝันดี...ถึงในห้องนอน
ผมเองไม่ได้รู้สึกอึดหรือรู้สึกรำคาญเลย กับสิ่งที่มันทำให้
เพราะตลอดเวลาที่มันอยู่กับผม
มันทำให้ผมพูดได้อย่างเต็มปากว่า....มีความสุข
หากถามมันเกิดขึ้นเมื่อไร.....อันนี้ผมตอบไม่ได้จริงๆ
ไม่ใช่เพราะผมไม่ยากบอก แต่เพราะผมไม่รู้
ทุกวัน ทุกเวลา หายใจเข้า หายใจออก
ผมก็เจอแต่หน้ามัน
แล้วการที่เราจะมานั่งนับวันว่าเราสนิทกันเมื่อไร
ผมว่ามันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมคาดไว้
วันนี้.....เราต้องคุยด้วยกัน เมื่อความเป็นจริง....บางวันมันก็ไม่ใช่
วันนี้.....เราต้องไปเที่ยวด้วยกัน เมื่อความเป็นจริง....บางผมก็เบื่อ
วันนี้.....เราจะต้องสนิท เมื่อความเป็นจริง....บางวันผมก็เซ็งที่จะเจอหน้ามัน
ก็เพราะผมไม่ได้...ลิขิตหรือเจตนา....ให้มันเกิดขึ้น
และทุกสิ่งล้วนแต่เกิดขึ้นด้วย...ตัวมันเอง
และอันนี้มันคงจะเป็นเหตุผลได้...ถึงจะไม่ดีเท่าไรก็เถอะ
“กลับบ้านก่อนน่ะ”
“อืม”
ไอ้บูมหันมายิ้มให้ผมและเดินออกจากห้องไป
ร้อยยิ้มที่หากเป็นเมื่อก่อนผมคงจะอายจนหน้าแดง
หรือไม่ก็ตัวสั่นจนทำตัวไม่ถูก นั้นคงเพราะผมยังไม่ชิน
แต่ตอนนี้ ผมเริ่มชินกับร้อยยิ้ม
หรือปรับตัวเข้ากับนิสัยไอ้บูมได้แล้ว
และไอ้อาการตื่นเต้นมันก็ยังมีอยู่บ้าง และมันก็ยังไม่ชินสักที
ก็จะให้ผมชินได้ไง!.......
เพราะทุกครั้งที่ไอ้บูมมันโดนเนื้อตัว
มันทำให้ผมรู้สึกเหมือน...ไฟช๊อต
ผมเองไม่ใช่ไม่ยากเข้าใกล้มัน
แต่ผมคงต้องการเวลาหน่อย
ทุกวันนี้...
ผมก็พยายามที่จะให้ไอ้บูมมันแตะผมได้
และอนาคต.....(คิดแล้วเขิน)
ผมกับมันคงจะแตะกันได้ มากขึ้นจนอาการนี้หายไป
กริ่งงงงงง........
เสียงอันไพเราะดังได้ขัดเวลากูจริงๆ
ผมยังนึกถึงอนาคตของผมกับบูมยังไม่เต็มที่
แล้วนี้ก็ห้าทุ่มแล้ว ไอ้ตัวเงินตัวทองที่ไหนมันโทรมาหาว่ะ
“โหลบูม โทรมายังไม่นอนเหรอ”
......ผมรักตัวเงินตัวทองตัวนี้จัง
“ยังอ่ะ เรายากได้ยินเสียงต่าย เลยโทรหา”
..... กูจะละลาย
“อ่ะน่ะ แล้วนี้ทำไรอยู่ ทำไมยังไม่นอน”
.......บูมน่ะบูม เล่นซะเราเสียงสั่น
“ก็จะอาบน้ำอ่ะ”
“อาบน้ำตอนนี้ไม่หนาวเหรอ”
.......กูยากช่วยอาบ
“ก็หนาวอ่ะ แต่ถ้าต่ายช่วยอาบ คงอุ่นกว่าเยอะ”
“เหอะๆ ทะลึ่งแหละบูม”
“เราพูดเล่นน่ะ ฮ่าๆ”
......แต่กูคิดจริงน่ะโว้ย
ตูดๆ.............
ผมดูที่หน้าจอมือถือก็ไม่เห็นมีสายซ้อน
เพราะปกติเวลามีสายซ้อนมันจะดังแบบนี้ทุกที
แต่ช่างหอะ คุยกับบูมต่อดีกว่า
“พรุ่งนี้ไปซื้อข้าวต้มกันอีกเปล่า”
ผมถามบูม
เพราะทุกวันตอนเช้าบูมจะมาปลุกผม
แล้วไปซื้อของกินกันที่ตลาด
“.........”
อ่าว....บูมเงียบซะงั้น
“บูม....ไปเปล่า”
“........”
บูมเป็นอะไรเปล่า....เงียบอีกแล้ว
“บูม....ไปเปล่า”
ผมเพิ่มเสียงอีกนิด และมันก็ได้ผล
“อ่ะ....อะ...อะไรน่ะ” อ่าวไม่ได้ฟังกูอยู่เหรอ
“ไปตลาดกันเปล่าพรุ่งนี้”
“อ่อ....ไป.....ไปดิ”
ตูดๆ.............
เสียงเดิมอีกแหละ....
ผมมองดูหน้าจอมือถือ มันก็ไม่มีสายซ้อนเหมือนเดิม
สงสัยเป็นเสียงมือถือบูมแน่เลย....
“บูม โทรศัพท์นายมีสายซ้อนเปล่า”
“อ่ะ..อ่อ...อ้อ...ใช่ๆ มีคนโทรมา”
“อ่าว...ทำไมไม่รับล่ะ”
“อ่ะ...อ่อ....ก็ยากคุยกับต่ายอ่ะ”
“อ่ะน่ะ” กูเขินอีกแล้วน่ะโว้ย
ตูดๆ.............
รอบที่สามแล้วที่มือถือบูมมีสายซ้อน
แต่เห็นบูมยากคุยกับผม
ผมเลยไม่ได้สนใจ...
และพอเวลาผ่านไปสักพัก
เสียงสายซ้อนก็ดังขึ้นอีก ผมก็ไม่ได้สนใจ
และบูมเองก็เหมือนจะทำเป็นไม่สนใจกับเสียงนั้นซะ
ผมได้รู้อะไรเกี่ยวกับตัวบูมเยอะขึ้น
เพราะผมจะเป็นฝ่ายถามบูมมากกว่าบูมจะถามผม
และบ้างครั้งบูมก็เสียงเงียบไป
จนตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าบูมเงียบทำไม
แต่ช่างเหอะ....
เพราะน้ำเสียงบูมที่คุยกับผม ยังมีเสียงหัวเราะอยู่
และนั้นมันก็แสดงว่าบูมมีความสุข ที่ได้คุยกับผม
ตูดๆ.............................
จนตอนนี้ผมรู้สึกว่าสายซ้อนมันดังบ่อยขึ้น
ดังบ่อยจนผมผิดสังเกต
เพราะปกติ หากเราโทรหาใคร
แล้วปลายไม่รับประมาณ 3 สาย
นั้นก็แสดงว่าเขาไม่ว่าง
แต่ที่เขาคนนั้นโทรหาบูมซ้ำๆหลายสาย
ผมว่าเขาจะต้องมีธุระอะไรสำคัญอย่างแน่นอน
“บูม....เราว่านายไปรับสายเหอะ สงสัยเขาคงมีธุระสำคัญแหละ”
“อืม....ไม่เป็นไรหรอก”
“ไม่ป็นไรได้ไง ไปรับเถอะ แสดงว่าเขาต้องมีธุระแน่ๆเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก”
“บูม....รับเหอะ อย่างน้อยจะได้รู้ ว่าเขาโทรมาทำไม”
“ไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรซิ”
“แล้วเขาจะโทรหาบูมทำไม หากเขาๆไม่มีธุระ เรา....วะ....ว่า”
“ไม่รับก็ไม่รับซิ บ่นมาก แค่นี้น่ะ.....รำคาญว่ะ”
ประโยคนี้ผมคงจะชินกับมัน เมื่อตอนที่เจอบูมครั้งแรก
แต่ตอนนี้....มันไม่ใช้
ผมไม่รู้ว่าบูมหงุดหงิด หรือตะคอกใส่ผมทำไม
ผมเองก็แค่หวังดี เพราะ หวังดีจริงๆ
แล้วนี้มันกลับเป็นว่า ผมเป็นตัวน่ารำคาญ....เหรอ
หรือว่าผมเป็นแบบนั้นจริงๆ
งั้นแสดงว่าผมต้องขอโทษบูมใช่เปล่า
แต่หากผมโทรหาบูม ผมว่าเขาต้องด่ากลับมาแน่ๆ
เพราะเขาอารมณ์ร้อนอยู่ แล้วแบบนี้ผมจะทำยังไงล่ะ
สงสัยคงต้องรอถึงตอนเช้า
ตอนที่บูมอารมรณ์เย็นแล้วนั้นแหละ
สรุป....คืนนี้ผมคงต้องนอนหลับ
ทั้งที่ในใจยังมีคำถามมากมาย
แล้วคำถามในนั้น 100%
มีคำตอบคำว่า....บูม อยู่ทุกข้อ
“ฝันดีน่ะบูม”
ไม่นานผมคงหลับ
และไม่นานมันคงเช้า
และไม่นานผมกับบูมคงจะคุยกันเหมือนเดิม
และไม่นาน.....ผมหวังว่าจะเป็นแบบนั้น
.
.
.
--------------------------------------------------------------------------------------------------อะโชะ !
^
^
^
^
^
^........ จิ้มค่ะ เรายังไม่ได้ทั้งบวกและลบตอนนี้นะค่ะ เพราะเท่าที่ดูเนี้ย มันสั้นจนประเมินไรไม่ได้เลยอ่ะค่ะ
......... เนื้อเรื่องมันยืดไปเป่าค่ะ แค่ตอนจะถอดไม่ถอดเนี้ยยังมีแต่ความในใจ ไม่มีไรให้ตื่นเต้นเลย ถามยาวกว่านี้หน้าจะทำให้ได้เรื่องมากกว่านี้รึเป่า ลองพิจารณาดูนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ fighting!!!!!!!~
>>>คิดเหมือนกันน่ะครับ (ฮ่าๆๆๆ)
พอดีว่านิยายผมมันเป็นแนวเก็บหวานแล้วอมทุกข์
ผมจะกำหนดขีดความสัมพันธ์ของต่ายกับบูม
คือแค่ 10 วัน
หลังจากนั้นจะไม่ได้ยือยื้อมาก
ไงก็ลองดูตอนนี้น่ะครับ
ขอบคุณมากๆครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
:กอด1:ขอบคุณทุกคนมากน่ะครับที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ ทั้งคนที่สนิทและคนที่พึ่งรู้จักกัน
พอดีผมไปสอบ มศว.ครับ เลยไม่ได้เข้าเน็ตเลย(มันเกี่ยวกันไงว่ะ)
ก็พอดีผมอยู่สงขลา แล้วไอ้ที่ผมไปคือ กรุงเทพ.
ไม่ใช่ว่าร้านเน็ตหาไม่ได้หรอกครับ แต่เพราะเวลาที่จะเล่น แถบหาไม่ได้
แต่ไปกรุงเทพ ครั้งนี้ ได้อะไรกลับมาบ้านเยอะมากครับ ทั้งประการณ์(เหมือนบ้านนอกเข้ากรุงเลยกู)
ผมไป กรุงเทพครั้งแรก และคิดว่า....แม่งวุ่นวายชิบ
และผมก็ไปพักแถวม.หอการค้าครับ หากใครพักแถวนั้น คงน่าจะเจอกัน
ไอ้ที่พูดมายังไม่หมด ไว้ค่อยเล่าต่อ
แต่ที่จะมาบอกคือขอบคุณทุกคนนั้นแหละครับ บ้างคนก็เป็นห่วง
บ้างคนก็เม้นในกระทู้ตั้ง 3 ครั้ง (อันดีดีใจที่มีคนรออ่าน)
แล้วคนที่กดบวก(เรื่องนี้ไม่ได้เครียดแล้วครับ เพราะผมดูที่คนเข้าอ่านกับคนเม้นมากกว่า คะแนนที่เราได้รับมา)
ปล.ขอให้ทุกคนโชคดีน่ะครับ ไม่แน่ผมอาจจะได้ไปอยู่ กรุงเทพ แล้วได้เจอกับใครหลายๆคน
สำหรับคนที่อยู่สงขลา....ก็ยากเจอเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆๆๆ