▲เกมเมอร์และน้องเด๋อของเขา▲ #ซอโซ่ล่ามธีร์ (01/09/61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▲เกมเมอร์และน้องเด๋อของเขา▲ #ซอโซ่ล่ามธีร์ (01/09/61)  (อ่าน 224123 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
พี่ธีร์ดูแลดีเกินไปแล้วว้อยยยยย บอกให้ไปเลิกกับแฟนก่อนไง
อย่าพึ่งมายุ่งกับน้องเด๋อนะ :katai4:

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :-[ :impress3: อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยย  ฝากตัวเปนลูกเขยไปแร้ววว ตอนหน้าเช็ดตัวววว

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
 :katai2-1: :hao7: :-[ :impress2:
โอ้ยยเขิลลล  ชอบเรื่องนี้มากกกก น่าร้าก น้องซอโซ่น่าเอ็นดูสุด  พี่ธีร์ก็เจ้าเล่ห์หลงตัวเองอะไรเบอร์นั้น555  ชั้นเล่นเกมไม่เป็น  ไม่รู้จักเกมอะไรทั้งสิ้นเเต่อ่านเเล้วสนุก  รู้เรื่อง
มาต่อเร็วๆนะ รอๆๆ

ออฟไลน์ ตุยชิคชิค

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น้องโซ่ลูกกกกก น่ารักเกินไปแล้วลูก

ออฟไลน์ Honyuchum

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
คิดถึงน้องจนต้องโทรหา
เป็นห่วงจนต้องมาดู
อยากอยู่ใกล้ๆจนต้องค้างกับน้อง
ดูแลเอาใจใส่น้องโซ่จังเลยค่ะ แหมมมม 55555

ออฟไลน์ XXIXII

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไรอ่ะพี่ธีร์คิดไรกับน้องอยู่ใช่มะ

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
เฮ้ออ เฮ้ออ เฮ้อออ
ทำไมน้องโซ่ถึงได้น่ารักสิ้นเปลืองขนาดนี้
พี่ธีร์นี่เครซี่น้องมากนะ
น้องทำอะไรก็มองว่าน่ารักไปหมดอะ5555
ห่วงเขามากเด้อ รู้ตัวบ้างไหมเนี่ยะ
รออ่านต่อไปค่าา

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
เริ่มรู้สึกหวงน้องโซ่ 555 รู้สึกว่าโซ่นี่ซวยมากที่โลกเหวี่ยงให้มาเจอพี่ธีร์
ความจริงไม่มีอะไรหรอก แค่หมั่นไส้พี่ธีร์ คนอะไร~ มีช่องว่างหน่อยไม่ได้เล้ยยย พี่แกเก็บเรียบ

ธีร์ควรเคลียร์ตัวเองให้โล่งก่อนจะมาเจ๊าะแจ๊ะนะ อันนี้แหละที่ที่เป็นปัญหาใหญ่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ r4211361

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ๊ยยย พี่ธีร์หลงน้องกว่าหลงแฟนอีกมั้งเนี้ยยยย

ออฟไลน์ Meercorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องโซ่ทำไมน่าเอ็นดูขนาดนี้ อยากเอามาเลี้ยงมั่งง555555 พี่ธีร์นี่ก็นะ เนียนไปเรื่อย ชอบความคุยกับคุณแม่ของน้อง มีความลูกเขย :hao3:

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
#ซอโซ่ล่ามธีร์
ด่าน 11
พายุฝนในใจของเรา



“โอ๊ย! พี่ธีร์เบา ๆ หน่อยครับ หนังโซ่จะหลุดออกไปกับผ้าขนหนูแล้ว”


“แค่นี้ทำร้อง ใน Call of Duty กัปตันไพรส์โดนไม่รู้กี่ล้านแผลยังวิ่งต่อได้ แล้วนี่อะไร สำออยว่ะน้องเด๋อ” ชายหนุ่มเงยหน้ามองเด็กน้อยที่กำลังอ้าปากหวอ ทำตาโต นั่งห่อไหล่ขณะที่เขากำลังช่วยเช็ดแขนให้อย่างชาวร็อค


“แต่โซ่เป็นคนป่วยนะครับ เอ แต่โซ่ลืมไปว่าพี่ธีร์ก็ไม่ใช่หมอ”


“ทำไม จะบอกว่าพี่ทำห่วยแตกเพราะไม่ได้เรียนหมอมาว่างั้น นี่ขิงแม้กระทั่งอาชีพ?” เขาถลึงตามองหาเรื่อง บีบกรามคนป่วยที่นั่งทำหน้าเด๋ออยู่บนเตียงจนปากจู๋เพราะแรงบีบ


“พี่ธีร์เป็นฆาตกร”


“เออ มีแผนจะลอบฆ่าคนแถวนี้ตอนหลับด้วย” ธีร์ยักคิ้วก่อนจะหันไปชุบผ้าขนหนูกับน้ำ บิดให้หมาด ๆ แล้วยื่นให้น้อง “พี่ไม่เช็ดข้างในให้นะเว้ย”


“โซ่ไม่ได้จะให้พี่ธีร์เช็ดสักหน่อยครับ”


“ห้ามจินตนาการว่าเป็นมือพี่ด้วย” คนป่วยสอดผ้าขนหนูเข้าไปในคอเสื้อ เช็ด ๆ ถู ๆ พร้อมทำหน้าเหมือนว่ากลัวเขาจะล้วงมือเข้าไป “หวงเพื่อ ถ้ามีนมก็ว่าไปอย่าง แฟบก็แฟบ จับโดนก็เสียอารมณ์เปล่า ๆ”


“ก็ใช่ครับ ถ้าพี่ธีร์มีอารมณ์กับผู้ชายด้วยกันคงเป็นเรื่องใหญ่เลยล่ะ เพราะฉะนั้นถือว่าดีแล้วครับ โซ่คือเหยื่อทดสอบใจพี่ธีร์” เขาหรี่ตามองน้องเด๋อที่ชักจะเก่งกล้าขึ้นทุกวัน อัพเวลเหรอ


ธีร์นั่งมองคนป่วยที่กำลังนั่งสั่นหลังจากเช็ดตัวไปได้สักพัก จึงคิดว่าควรส่งเด็กเข้านอนโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวอาการจะหนักขึ้น “หนาวเปล่า?”


“ครับ โซ่อยากอยู่ใต้ผ้าห่มแล้ว”


“รีบเช็ดรีบเปลี่ยนชุด เดี๋ยวพี่ปิดไฟให้จะได้นอนยาว ๆ” ชายหนุ่มเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ก่อนจะพบความอลังการงานสร้างทางด้านศิลปะของน้องเด๋อจากการแขวนเสื้อซึ่งไล่ตามโทนสีอย่างเป็นระเบียบ โหดกว่าแม่บ้านที่ดูแลห้องเขาอยู่อีก


“อยู่กับโซ่แบบนี้พี่ธีร์ไม่เบื่อเหรอ?”


“เฉย ๆ” เขาตอบสั้น ๆ พลางเลื่อนเสื้อผ้าไปจนถึงชุดนอนที่แขวนอยู่ทางด้านซ้ายสุด “ถ้ามีเรื่องให้คุยตลอดก็ไม่เบื่อหรอก ถามทำไม?”


“โซ่เกรงใจน่ะครับ แทนที่พี่ธีร์จะได้เล่นเกมแล้วตัดต่อคลิปลงให้คนดู แต่กลายเป็นว่ามานั่งติดแหงกอยู่ตรงนี้”


“ก็รีบหายไว ๆ ดิพี่จะได้กลับไปเล่น” เขาเลือกชุดนอนลายสก็อตออกมาแล้วยื่นให้ ซึ่งน้องเด๋อก็รับไว้พร้อมโค้งศีรษะเล็กน้อยเป็นการขอบคุณ “ถ้าไม่ไหวก็นอนพักอีกวันแล้วฝากเพื่อนลาซะนะ”


“ลาไม่ได้ครับ พรุ่งนี้มีสอบย่อย”


“อ้าว ยังไง แล้วไม่ต้องอ่านหนังสือหนังหาเหรอ?”


“มันอยู่ในโทรศัพท์หมดเลยครับ เดี๋ยวโซ่ขอนอนอีกสักงีบแล้วจะลุกไปขอรูปจากอาร์มในไลน์” ด้วยความที่มือถือยังคงอยู่ในขั้นตอนการขนส่งกลับมากรุงเทพ น้องเด๋อจึงเจออุปสรรคเล็ก ๆ เข้าเสียแล้ว


“จะไปนั่งอ่านหน้าคอมน่ะนะ เอางี้ดิ เดี๋ยวให้ไอ้อาร์มส่งเข้าโทรศัพท์พี่ แล้วเราก็นอนอ่านจะได้ไม่ต้องลุกไปไหน” ธีร์ยื่นสมาร์ทโฟนให้ แต่อีกฝ่ายกลับมองมาพร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ


“ไม่ได้ครับ นี่มันของส่วนตัวของพี่ธีร์”


“เอ้า ก็ดูแค่รูปที่ส่งเข้าไลน์พี่ดิ ส่วนอื่นห้ามยุ่ง ไม่งั้นปรับห้าหมื่น”


“โห แพงมากเลย”


“โทรศัพท์คนดังก็งี้แหละ นี่ให้ราคาคนรู้จักนะ คนอื่นคิดสิบล้าน” ธีร์ทำมือปัด ๆ เป็นเชิงเร่งให้ใส่เสื้อผ้า น้องเด๋อจึงมุดเข้าไปในผ้าห่มจนเป็นก้อนกลม ๆ เห็นอย่างนั้นก็นึกอยากบ่น แค่อ้าปากบอกให้เขาหันหลังมันยากนักใช่ไหม


“พี่ธีร์อาบน้ำเร็วครับ ถ้าดึกกว่านี้เดี๋ยวเป็นหวัดแล้วจะโทษโซ่” นั่น ดูมัน


“เออ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ ขอยืมชุดนอนด้วย”


“คิดสิบบาท”


“ให้ร้อยนึงเลย รวย”


“ตกลงครับ พี่ธีร์ซื้อโซ่ได้ในราคาหนึ่งร้อยบาท”


ฟังแล้วก็ขี้เกียจตอบโต้กับเด็ก ชายหนุ่มบ่นอุบอิบแบบไม่มีเสียงพลางเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาชุดนอน ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูสีน้ำตาลเข้มเข้าไปในห้องน้ำ จัดการชำระร่างกายจนเสร็จภายในเวลาอันสั้น แล้วเดินกลับมาหยุดอยู่ปลายเตียงทั้งสภาพชุดนอน


น้องเด๋อรีบยกมือขึ้นตะปบปากตัวเองเพื่อไม่ให้หลุดขำออกมา และเขารู้ดีว่าเด็กนั่นกำลังรู้สึกอย่างไรหลังจากเห็นผู้ชายตัวใหญ่เท่าไดโนเสาร์กินพืชสวมชุดนอนไซส์เล็กกว่าตัวเองจนขากางเกงเต่อ แถมยังต้องโหลดเอวลงเล็กน้อยเพราะเป้าตึง


“ทำไมไม่รู้จักซื้อชุดเผื่อโต” 


“ที่จริงพี่ธีร์ใส่ขาสั้นได้นะ มันอยู่ในลิ้นชักตรงนั้นครับเดี๋ยวโซ่ลุกไปหยิบให้” คนป่วยทำท่าจะคลานลงเตียงแต่เขาเอามือดันหน้าผากไว้เสียก่อน


“ไม่ต้อง แบบนี้พี่ก็ใส่ได้ ถึงจะรัดไข่ไปหน่อยแต่พี่ทนไหว”


“โห ไม่ใช่เรื่องต้องทนนะครับพี่ธีร์ มันจะเจ็บนะ”


“พี่ไม่อยากแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ว่ะโซ่ คนที่จะอยู่บนโลกใบนี้ได้ต้องปรับตัวเข้ากับกางเกงฟิต ๆ ให้ได้” พูดจบก็กำเป้าโชว์ ธีร์เห็นว่าน้องเด๋อมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้ามาสบตากัน ส่งสายตาผิดหวังมาอย่างเก็บไม่มิดแล้วถอนหายใจออกเสียง


“พี่ธีร์เหมือนคนป่วยมากกว่าโซ่อีก”


“ไร หลอกด่าเหรอ ก็มันใหญ่จริง ๆ”


“โซ่น่าจะนอนตั้งแต่แรก ไม่น่ามาเห็นอะไรแบบนี้เลย”


“อิจฉาก็บอก” เขายืนแอ่นเป้าใส่คนที่กำลังห่มผ้า ดวงตาคู่นั้นหรี่ลงเหมือนอยากบอกให้รู้ว่า ‘ที่น้ำท่วมไม่ใช่เพราะฝนตก แต่เป็นเพราะโลกนี้มีคนจังไรแบบพี่ธีร์’


คนป่วยพลิกตัวนอนหันข้าง ชายหนุ่มเห็นว่าเด็กคนนั้นเอานิ้วอุดหูเหมือนไม่อยากรับรู้อะไรอีก จึงเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วโน้มตัวลงไปกระซิบ “ถ้ากางกางเป้าแตกก็ขอโทษล่วงหน้าเลยนะ...”


“โซ่หลับแล้วครับ”


“อ่าฮะ ว่าแต่อยากได้ Good night kiss ไหม?”


“คร่อก...”  ธีร์ยิ้มขำ มองคนป่วยที่แกล้งหลับอย่างหน้าตาเฉยก่อนก่อนจะยีผมเบา ๆ จนน้องดึงผ้าห่มคลุมโปง


จำได้ว่าตอนไอ้โฟร์ป่วยหนักจนคลานลงไปกินข้าวไม่ไหว เขาคือพี่ชายสุดใจกล้าที่ลุกไปต้มมาม่าให้ตอนพ่อแม่หลับแล้ว จากตอนแรกจะแค่ห่อเดียว แต่พอคิดว่าคนป่วยอาจจะดีขึ้นถ้าได้รับกำลังใจดี ๆ เขาจึงต้มสามห่อเพื่อกินกับน้อง และการได้เห็นรอยยิ้มน้องชายตอนแย่งลูกชิ้นกันก็เป็นเรื่องดี


หลังจากซื้อรองเท้าให้ก็ไม่ได้ถามอีกเลยว่าใส่บ้างไหม สบายเท้าหรือเปล่า แล้วพ่อกับแม่รู้สึกอย่างไรเมื่อรู้ว่ามันมาจากลูกชายคนนี้ เพราะธีร์กลัวคำตอบที่อาจจะทำร้ายจิตใจมากกว่าได้รอยยิ้ม


 
Thr33: อย่าดื่มเยอะนะ



เขาไลน์หาแฟนสาวในเวลาเกือบเที่ยงคืน ย้ำอีกครั้งแม้จะรู้ดีว่าเธอคงไม่ได้เปิดอ่านเมื่อใช้เวลาอยู่กับแก๊งเพื่อนสาวฮอต ส่วนหนึ่งที่ไม่อยากให้เมาเพราะธีร์ไม่อยากแก้ตัวกับพ่อแม่เธอ ถึงจะไม่ได้ไปด้วยกัน แต่ถ้าวันไหนเบลเมาและเขาต้องไปส่งบ้าน ผู้ใหญ่ฝ่ายนั้นก็จะเหมาว่าผู้ชายไม่มีงานการเป็นหลักเป็นแหล่งคนนี้พาลูกท่านเสียคน


ต่อให้ต้นตอของเรื่องจะมาจากแก๊งเพื่อนสาวสุดแซ่บแต่พ่อแม่เบลก็ไม่เคยมองว่าผิด ขนาดตอนเธอป่วย เขาอยากไปนั่งดูแลแต่กลายเป็นว่าทุกการกระทำต้องอยู่ในสายตาคนเป็นแม่ พอหันไปมองหน้ากันทีไรเป็นต้องส่งสายตาประชดประชัน อีกทั้งยังพูดลอย ๆ กับหลานชายที่บ้านว่า



‘ฟิล์มต้องอ่านหนังสือเยอะ ๆ นะ อย่าเล่นแต่เกม เดี๋ยวโตไปจะไม่มีอนาคตแล้วจะดูแลใครไม่ได้’



พูดจริงจากใจ ผู้ใหญ่บางคนก็แก่เพราะหัวหงอก มีอีกเป็นร้อยล้านวิธีที่จะทำให้เขารู้สึกผิดกับการเล่นเกมได้ แต่แน่นอนว่าต้องไม่ใช่การประชดแดกดัน พอเป็นแบบนั้นแล้วจะอยู่ด้วยกันนาน ๆ ได้อย่างไร หากลูกเขยเข้ากับพ่อตาแม่ยายไม่ได้ชีวิตคู่ก็ฉิบหายไปแล้วครึ่งตัว


หลายครั้งที่ต้องรวบรวมความอดทนไปนั่งกินข้าวกับครอบครัวเบล ท่านเคยบอกว่าถ้าต้องการดูแลลูกสาวคนนี้จริง ๆ ก็ควรกลับบ้านไปดูแลกิจการร้านทอง สร้างฐานะให้มั่นคง แล้วจัดงานแต่งในโรงแรมหรูให้สมกับที่ท่านประคบประหงมเลี้ยงลูกสาวมาอย่างดีตลอดยี่สิบหกปี



ธีร์รักเบล แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่ได้รักพ่อแม่ของเธอว่ะ



RRRrrrr!!


ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัวเพราะเสียงสายเข้า จึงรีบวิ่งไปคว้าโทรศัพท์มือถือซึ่งวางอยู่บนเตียงโดยเร็วที่สุดเพราะกลัวคนป่วยจะตื่น


“ว่าไงเบล?” ธีร์รับสายพลางมองเด็กเด๋อที่หันมาปรือตางัวเงียเพราะเสียงเมื่อครู่ เขารีบส่ายศีรษะเป็นเชิงบอกว่าไม่มีอะไรพร้อมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมไหล่ให้แล้วเดินออกไปคุยนอกระเบียง


( นี่ฝ้ายนะธีร์ อีเบลเมาอะ )


“เราเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอวะว่าอย่ามอมเบล เค้าเมาง่าย”


( เอ้า มันกินเองเปล่า พวกฉันไม่ได้เทให้เลย )


“แล้วตอนนี้อยู่ไหน ที่เดิมเหรอ?”


( เออ ยังไงก็รีบมานะ มันเพ้อใหญ่แล้วอะ ทะเลาะอะไรกันอีกแล้วปะเนี่ย? )


“ทะเลาะเหรอ เปล่านะ” ธีร์ขมวดคิ้วพลางนึกย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ว่าทำอะไรผิดไปหรือไม่ แต่พยายามคิดให้ตายอย่างไรก็ไม่ได้คำตอบ ไม่มีทางที่เบลจะงอนหลังจากที่เขารับปากแล้วว่าจะไปพัทยาด้วยกันหลังจากชนะแมตช์สุดท้ายของสาย เธอดูแฮปปี้ด้วยซ้ำ “เอางี้ฝ้าย เราฝากดูเบลก่อน แล้วจะรีบไปเดี๋ยวนี้”


( เออ รีบมาล่ะ )


ชายหนุ่มวางสายแล้วคว้าเสื้อผ้าชุดเดิมเข้าไปใส่ในห้องน้ำแล้วเดินออกมาหยิบของใช้จำเป็น เขาหยุดมองคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะเอาแผ่นเจลลดไข้อันใหม่ออกมาจากตู้เย็นแล้วเข้าไปติดให้เด็กเด๋อที่ยังหลับไม่ได้สติ


“โซ่ พี่จะออกไปรับพี่เบลนะ ถ้าตื่นแล้วหิวอุ่นโจ๊กกินเลยเดี๋ยวพี่กลับมา แต่พี่ขอเอาโทรศัพท์ไป เราอ่านจากคอมไปก่อนนะ”


“พี่ธีร์จะไปแล้วเหรอครับ...” คนน้องทวนคำพูดของเขาก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ “ระวังตัวด้วยนะครับ... จำทะเบียนแท็กซี่ด้วยนะ...”


หลังจากพูดจบเปลือกตาที่หนักอึ้งก็ปิดลง น้องเด๋อคงง่วงมากถึงได้หลับต่อได้อย่างง่ายดาย ชายหนุ่มวัดอุณหภูมิตรงหน้าผาก แก้ม และลำคอ พอเห็นว่าอาการไม่ได้แย่ลงไปกว่าทีแรกจึงหันออกเตรียมไปรับแฟนสาว แต่เดินได้เพียงก้าวเดียวก็รู้สึกได้ถึงแรงดึงจากชายเสื้อ


มือของคนป่วยที่จับไว้นั้นหละหลวม น้องเด๋อไม่มีสติด้วยซ้ำในนาทีนี้ และเขาค่อนข้างเป็นกังวลที่จะปล่อยอีกฝ่ายไว้ตามลำพังโดยไม่สามารถติดต่อได้เพราะไม่มีโทรศัพท์ ธีร์ลดระดับสายตามองมือน้องที่ยังคงเกาะอยู่อย่างนั้น ก่อนจะค่อย ๆ แกะออกแล้วเอาเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่ม พร้อมคำนวณเวลาว่าถ้าหากไปรับเบลจากผับส่งถึงบ้านแล้ววกมาที่นี่จะต้องใช้เวลากี่ชั่วโมง


“ห้ามป่วยหนักไปกว่านี้เข้าใจไหม เดี๋ยวพี่จะรีบกลับมา”





*



(ต่อด้านล่างจ้า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-01-2018 22:59:52 โดย หน่วยกล้าวาย »

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
*




สมัยเรียนมหา’ลัยธีร์มาเที่ยวกลางคืนแถวทองหล่อค่อนข้างบ่อย แต่พอจบแล้วเขาก็ใช้เวลาอยู่กับเกมและปาร์ตี้หมูกระทะเสียมากกว่า มีบ้างที่กินเหล้า ซึ่งบรรยากาศแออัดในจุดที่มีคนเยอะ ๆ ก็เคยให้ความสนุกได้แค่ตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นช่วงต้น แต่พอเข้าช่วงปลายธีร์กลับรู้สึกชอบบรรยากาศเงียบ ๆ ที่ได้ยินเสียงพูดของคนสนิทมากกว่าเสียงเพลงที่ดังทุ้มอยู่ตลอดเวลา


ชายหนุ่มกดโทรหาแฟนสาวอีกครั้งเมื่อมาถึง และคนที่รับสายยังคงเป็นคนเดิมคือฝ้ายซึ่งเธอกำลังตรงมาทางนี้ หญิงสาวไซส์เอสมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าพลางถอนหายใจ ในมือนั้นถือสมาร์ทโฟนของเบลอยู่ เขาจำได้เพราะเป็นคนซื้อเคสให้เอง


“เบลล่ะ?”


“พวกอีนุ่มลากไปขึ้นรถแล้ว เมาจนอ้วกไปสองสามรอบ”


“ถึงกับอ้วกเลยเหรอ โอเค งั้นพาเราไปหาเบลหน่อย” ธีร์ก้าวไปทางที่อีกคนเดินมา แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อฝ้ายไม่ยอมเดินมาด้วย เธอเลือกยืนกอดอกอยู่ตรงนั้น มองหน้าเขาด้วยสายตาที่ไม่ได้ส่งไปในทางที่ดีสักเท่าไหร่


“ฉันถามจริง ๆ นะธีร์ แกเป็นอะไรกับเกมนักหนาวะ?”


“หะ?” อยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนโดนชก ชายหนุ่มขมวดคิ้วพลางกลอกตาระหว่างเรียกสติ เสี้ยววินาทีหนึ่งเขาถามตนเองว่าหูเพี้ยนไปเองหรือไม่ ทำไมถึงได้ยินเพื่อนสนิทแฟนหาเรื่องตั้งแต่ประโยคแรกที่เจอกัน


“อีเบลแม่งเครียดมากเคยรู้บ้างปะ?”


“เครียด? เรื่องอะไร?”


“ฮะ?” ฝ้ายเลิกคิ้วก่อนจะแค่นหัวเราะ ไม่บ่อยนักที่ธีร์จะได้เผชิญหน้ากับกลุ่มเพื่อนสนิทของเบล แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เขาพอจะนึกออกว่าผู้หญิงกลุ่มนี้ค่อนข้างประสาทแดกอยู่ประมาณหนึ่ง “นี่ไม่เคยรู้ตัวเลยใช่ไหมว่าทำอะไรลงไปบ้าง ตลอดเวลาที่คบกับเพื่อนฉันแกเคยสนใจบ้างปะว่าเบลมันรู้สึกยังไง?”


“เอางี้นะฝ้าย ถ้ามีอะไรในใจกับเราก็พูดมาตรง ๆ เลยดีกว่า เพราะถ้าเราผิด เราจะได้แก้ไขมันซะตั้งแต่ตอนนี้ แต่ถ้าฝ้ายจะตั้งแง่ ประชดเราอ้อมโลกแบบนี้ คุยกันสามปีก็คงไม่ได้คำตอบหรอก” เจตนาเขาคือมารับเบลไปส่งบ้าน ไม่ใช่มายืนให้ผู้หญิงยืนเท้าเอวมองจิกด้วยสายตาแบบนี้


“ฝ้าย อย่า” ธีร์หันไปตามเจ้าของเสียง ก่อนจะพบแฟนสาวที่กำลังเดินมาด้วยสภาพไม่เต็มร้อย หากมองจากสีหน้าก็รู้ว่าเมา เขาจึงคว้าแขนเธอไว้เป็นหลักไม่ให้เธอล้ม “พอเถอะ มึงตกลงกับกูแล้วไง”


“ตกลงอะไร ถ้ามึงไม่พูดวันนี้กูจะเป็นคนพูดเอง”


“ช่างมันเถอะ กูขอล่ะ”


“มึงอย่าโง่ได้ไหมเบล ถ้าไม่พูดวันนี้ พวกกูก็ต้องทนฟังมึงระบายทุกวัน  จะประสาทแดกใส่พวกกูแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเวลาอยู่กับมันตลอดเหรอกูถามหน่อย”


โอเค ตอนนี้ธีร์พอจะจับต้นชนปลายได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น คงไม่วายเป็นเรื่องเบลไประบายให้เพื่อนฟังว่าเขาไม่ใส่ใจ หรืออะไรก็ตามที่ผู้ชายอย่างเขาต้องเป็นคนผิด


“มีอะไรค่อยคุยกันวันหลังแล้วกันฝ้าย เบลจอดรถไว้ไหน เดี๋ยวธีร์ไปส่ง” ชายหนุ่มประคองไหล่แฟนสาวไว้ แต่เธอกลับถูกกระชากออกไปโดยคนเป็นเพื่อนสนิทที่คงเมาประมาณหนึ่ง ถึงได้อารมณ์รุนแรงขนาดนี้


“มาแสดงความห่วงใยอะไรเอาตอนนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำอะไรอยู่ ตอนเพื่อนฉันร้องไห้เพราะเครียดแกเคยรู้บ้างไหมธีร์ มันอยากแต่งงาน มันอยากมีครอบครัว เคยนั่งฟังมันอย่างตั้งใจบ้างไหม หรือจะเอาแต่เล่นเกมอย่างเดียว เออ เชิญตามสบายเหอะ เพื่อนฉันคนเดียวฉันดูแลได้”


“ฝ้าย ฟังนะ” ชายหนุ่มหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อพยายามสงบสติอารมณ์ มันไม่ตลกเลยสักนิดที่จะยืนให้ผู้หญิงด่าในเรื่องที่เธอเองก็ไม่เข้าใจอะไรเลยด้วยซ้ำ แถมยังใส่ไม่ยั้งจนเรียบเรียงคำพูดไม่ได้ “เราจะคิดว่าฝ้ายเมาถึงได้พูดแบบนั้น ตอนนี้ปล่อยมือเบลก่อน เราจะพาเบลกลับบ้าน”


“อีเบล ถ้ามึงไปเราเลิกเป็นเพื่อนกัน”


“ธีร์ใจเย็นก่อนได้ไหม ฟังฝ้ายพูดก่อน”


“ฟังอะไรเบล ฟังเค้าด่าธีร์กับเรื่องที่เราเคยคุยกันมาแล้วล้านครั้งน่ะเหรอ?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม “รอฝ้ายสร่างก่อนดีกว่าไหม จะให้ธีร์ไปนั่งรอตรงไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”


เขาถอนหายใจพลางมองไปทางอื่น ธีร์รู้สึกได้ถึงความร้อนตรงศีรษะ พี่ตั้บเคยบอกว่าไม่ควรต่อล้อต่อเถียงกับคนเมา ซึ่งเขาทำมาตลอดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ตอนนี้ได้อย่างไร


“ก็ลองคิดดูหน่อยไหมว่าถ้าพูดไปแล้วล้านครั้งแต่แฟนยังไม่ดีขึ้น นั่นแสดงว่ามันไม่เวิร์ก”


“นี่ฝ้าย เรื่องแต่งงานเราเคยคุยกับเบลตั้งนานแล้วว่าจะแต่งกันตอนอายุสามสิบ ซึ่งตอนนั้นเราน่าจะมีเงินมากพอที่จะซื้อบ้านสักหลังแล้วก็จ้างแม่บ้านเดือนละเป็นหมื่นมาคอยกวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า ให้เพราะเบลไม่ทำ แล้วเราก็ต้องหาเงินไว้ให้เบลไปเที่ยวอังกฤษ ฝรั่งเศสกับพวกฝ้ายอีก เพราะถ้าแต่งงานกันแล้วคนที่จะรับผิดชอบเรื่องการเงินของเบลร้อยเปอร์เซ็นต์คือตัวเรา ไม่ใช่พ่อแม่ของเบลอีกต่อไป แต่ตอนนี้ธีร์มีอะไร ใช่ฝ้าย ธีร์พอจะมีเงินอยู่บ้าง แต่มันยังไม่มากพอที่จะเลี้ยงคนหลายชีวิต ธีร์ต้องเก็บเงินไปเรื่อย ๆ”


“แล้วมันเป็นความผิดใคร ไม่ใช่เพราะแกเหรอที่ย้ายออกจากบ้านมาทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าถ้าทำร้านทองแทนพ่อแม่ยังไงก็เลี้ยงเบลกับลูกอีกสิบคนได้สบายอะ”


“อ้าว แล้วเราต้องทนอยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบไปตลอดชีวิตเพื่อเลี้ยงเบลกับลูกเหรอวะฝ้าย มันมีอีกตั้งหลายวิธีที่เราจะทำแบบนั้นได้โดยไม่ต้องดูแลร้านทอง” ธีร์ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาอธิบายเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ เขาไม่ได้หันไปมองหน้าแฟนสาวด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าสังเกตจากหางตา ชายหนุ่มคิดว่าเธอกำลังมองอยู่ “ตอนถูกบังคับให้เรียนพิเศษเพราะเกรดแย่ตอนนั้นฝ้ายยังไม่อยากทนเลย แต่ฝ้ายกำลังยัดเยียดเรื่องที่ตัวเองไม่ชอบให้เราเนี่ยนะ ได้เหรอฝ้าย?”


“พอแล้ว ถ้าจะเป็นแบบนี้คงพูดไม่รู้เรื่องหรอก” เบลพยายามหยุดบทสนทนานี้ด้วยการเดินมาแทรกตรงกลาง มือของเธอเย็นเฉียบ และมันส่งมาถึงหัวใจคนที่อดทนอยู่กับเรื่องแบบนี้มาหลายปีได้อย่างง่ายดาย


ทนอยู่กับการถูกพ่อแม่ตัวเองและพ่อแม่เบลกดดันต่อว่าสารพัด ไปจนถึงเพื่อนสนิทเบลที่ธีร์พยายามเข้าใจมาตลอดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิดที่ผู้หญิงจะเล่าทุกเรื่องให้กันฟังจนโกรธแทนเพื่อน แต่แบบนี้มันเกินไปแล้ว


“ฝ้ายยังอยากทำในสิ่งที่ฝ้ายชอบ แต่ทำไมถึงไม่ให้อิสระคนอื่นที่จะทำบ้างล่ะ?”


“...” คนถูกย้อนด้วยความจริงเพ่งมองอย่างไม่ยอมพร้อมกำหมัดแน่น ฝ้ายพูดไม่ออก จึงได้แต่คว้ามือเพื่อนสนิทไว้ให้อยู่ตรงนี้ด้วยกัน


“เราเกิดมาเพื่อตัวเองหรือเพื่อคนอื่น นั่นคือสิ่งที่เราทบทวนตัวเองก่อนจะย้ายออกมา แล้วเพื่อนฝ้ายก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เราทำ”


“ที่เห็นด้วยก็เพราะมันรักแกปะ คิดหน่อยสิธีร์ ผู้หญิงที่ยอมแฟนก็เพราะรักทั้งนั้น”


“แล้วเราไม่รักเบลตรงไหนเหรอฝ้าย?”


“ยังจะถามอีก? สิ่งที่แกเป็นมันเห็นอยู่ชัด ๆ แล้วไหมธีร์ เบลมันเหงาเคยรู้เคยทำความเข้าใจบ้างไหม มีผู้ชายไปคุยกับมันตั้งกี่สิบคน แต่มันไม่เลือก ทั้งที่คนพวกนั้นมีอนาคตกว่าแก”


“จริงเหรอเบล?” คนถูกถามหัวใจเต้นเร็วแรง เมื่อมันย้อนแย้งกับสิ่งที่เคยแสดงออกต่อหน้าแฟนหนุ่มว่าเข้าใจเสมอมา ทั้งที่ความจริงเธอไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น


“เบลเหงา อยากอยู่กับธีร์นาน ๆ บ้าง แต่ทุกวันนี้ธีร์มีแต่เกม เบลก็พยายามทำความเข้าใจแล้วแต่เบลผิดเองที่อดน้อยใจไม่ได้”


“ธีร์ขอโทษ” เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนทันทีที่เห็นน้ำตาของแฟนสาว “เราเคยโทรคุยกันทุกคืน แต่ธีร์รู้ว่าอะไร ๆ มันเริ่มเปลี่ยนแปลงตอนธีร์ไปเรียนเมืองนอกเพราะเวลาไม่ค่อยตรงกัน พอกลับไทยธีร์ก็เอาจริงเอาจังกับงานด้านนี้ แต่ธีร์พยายามแล้ว ทั้งเรื่องโทรหาทุกวัน ไปเที่ยวข้างนอกด้วยกันทุกครั้งที่เบลต้องการ แต่เบลก็หงุดหงิดใส่เวลามีเสียงคีย์บอร์ดเข้าไปในสาย บอกว่ารำคาญมันเสียงดัง จะวางสายไปทำอย่างอื่น แล้วธีร์ควรจะทำยังไงในเมื่อเสียงที่เบลรำคาญมันคืองานที่ทำให้ธีร์มีเงินเลี้ยงตัวเองได้ แล้วก็ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมให้เบลเป็นของขวัญ”


หญิงสาวลดระดับสายตาลง ความรู้สึกมากมายเริ่มถาโถมเข้ามาจนดูเหมือนว่าความเก็บกดเหล่านั้นจะระเบิดอยู่รอมร่อ เธอเข้าใจในสิ่งที่ธีร์พูดแต่ความน้อยใจสะสมมันมีมากกว่า จนความคิดอีกด้านหนึ่งตะโกนมาว่า ‘ถ้าเขารักเธอจริง เขาก็ควรเลือกเธอมากกว่าเกมนั่นไม่ใช่เหรอ?’


“รถก็ไม่มีขับ ไม่อายหรือไงที่ให้เบลไปรับทุกครั้งเวลาไปเที่ยวด้วยกัน หรือเกมที่เล่นมันทำเงินให้น้อยจนซื้อรถไม่ได้?”


“เหมือนฝ้ายไม่มีเรื่องจะด่าแล้วอะ ใจเย็นก่อนไหม รถเรามีแล้วแต่มันจอดโง่ ๆ อยู่บ้าน คือถ้าจะกลับไปเอาก็ต้องเจอหน้าพ่อก่อนซึ่งตอนนี้เรายังไม่พร้อม แล้วการขึ้นแท็กซี่มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร หรือถ้าจะมีก็คงเป็นปัญหาของฝ้ายแล้ว”


“อ้าวธีร์ เราพูดดี ๆ ปะ?”


“เราว่าฝ้ายไปนั่งสงบสติก่อนแล้วค่อยพูดประโยคนั้นกับเราอีกที”


ทั้งคู่สบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนเบลจะกระซิบบอกบางอย่างฝ้ายจึงยอมปล่อยมือออก ทั้งสามคนทนอยู่กับความกระอักกระอ่วนอยู่เพียงอึดใจ ธีร์จึงพาเบลเดินออกจากตรงนั้นไปโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรอีก




*



บรรยากาศในรถช่างเงียบงัน ต่างจากความคิดของทั้งคู่ที่กำลังตะโกนออกมาให้สมกับความอึดอัดมากมายที่อัดแน่นอยู่ข้างใน เบลคาดเข็มขัดฝั่งคนนั่ง หญิงสาวไม่ได้มองหน้าคนข้างตัวด้วยซ้ำเพราะลึก ๆ ก็โกรธธีร์ที่หักหน้ากันด้วยการต่อว่าเพื่อนเธออย่างนั้น ฝ้ายก็แค่หวังดี ธีร์จะไปชวนทะเลาะด้วยทำไมกัน


“ธีร์น่าจะใจเย็นกว่านี้หน่อย ธีร์ก็รู้ว่าฝ้ายเป็นคนยังไง”


“แล้วเบลรู้หรือเปล่าว่าธีร์เป็นคนยังไง” ชายหนุ่มเลือกมองถนนมากกว่าจะหันไปคาดคั้นเอาคำตอบจากปากคนรัก “ช่วยอธิบายให้ธีร์ฟังหน่อยได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก่อนเบลไปเที่ยวเรายังคุยกันดี ๆ อยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”


คนถูกถามไม่ได้ให้คำตอบ เพราะเธอรู้ว่ามันงี่เง่าเกินกว่าจะเล่าให้ฟัง แต่ลึก ๆ ก็อยากพูดมันออกไป เผื่อว่าบรรยากาศที่เป็นอยู่จะดีขึ้นบ้าง “เบลอิจฉาเพื่อน”


“หะ?”


“น้ำฝนกำลังจะแต่งงาน นุ่มก็แต่งไปแล้ว ส่วนฝ้ายก็กำลังดูใจกับแฟนที่อังกฤษ ทุกคนมีอนาคตกันหมดแล้วธีร์ แต่เบลไม่มีอะไรเลย”


“ทั้งที่ฝ้ายก็ยังไม่แต่งงาน แต่อะไรที่ทำให้เบลคิดอย่างนั้น?”


“...”


“โอเค ๆ ธีร์เข้าใจแล้ว ไม่ร้องนะ ธีร์ขอโทษ” ชายหนุ่มเอื้อมมือไปลูบศีรษะปลอบเธอ กับเหตุผลของผู้หญิงที่ผู้ชายอย่างเขาแทบเข้าไม่ถึง “สมัยนี้โซเชียลมันไปไว บางทีถ้าเล่นเฟซบุ๊กกับไอจีน้อยลงเบลอาจจะไม่รู้สึกแบบนั้นแล้วก็ได้ เหมือนเราเห็นคนอื่นลงรูปไปเที่ยวต่างประเทศ เห็นคนอื่นมีชีวิตดี ๆ มันอาจทำให้เราเผลอเอามาเปรียบเทียบกับตัวเองโดยไม่รู้ตัว ซึ่งความจริงมันไม่มีเหตุผลอะไรที่เบลต้องไปอิจฉาคนอื่นเลย เบลทั้งเก่งทั้งสวย มีครอบครัวที่อบอุ่น แล้วก็มีธีร์อยู่แล้วทั้งคนนะ”


“มีธีร์ที่อยากอยู่กับเกมมากกว่าเบลน่ะเหรอ ธีร์ เบลไม่ได้ชวนหาเรื่องนะ แต่เบลคิดอย่างนั้นจริง ๆ”


“เบลลองคิดดี ๆ ธีร์ไม่ได้อยู่กับเกมตลอดเวลานะ เรามีช่วงที่โทรคุยกัน ตอนที่ธีร์ไม่ได้ทำงาน”


“นั่นสินะ ธีร์เรียกการเล่นเกมว่าทำงาน”


“ธีร์มีเงินใช้ทุกวันนี้ก็เพราะมันไงเบล” เขาเว้นจังหวะไปครู่หนึ่งขณะหมุนพวงมาลัยเลี้ยวขวา “เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลาไม่ได้จนกว่าจะแต่งงานกันเบลก็รู้”


เพราะพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ให้ค้างที่บ้านและไม่ให้มาค้างกับเขา ดังนั้นเหตุผลการอยู่ด้วยกันยันเช้าจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นน้อยครั้งตลอดหลายปีที่คบกันมา


“ไม่มีอะไรเปลี่ยนใจธีร์ได้เลยใช่ไหม?” เบลมองคนรักอย่างผิดหวัง เธอเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องพยายามทำความเข้าใจกับเรื่องที่ไม่เข้าใจ “ถ้าคนทั้งประเทศทำงานจากการเล่นเกมได้ ป่านนี้คงไม่มีคนจนหรือเปล่า เด็กที่เรียนไม่จบ ไม่มีอนาคต เป็นลูกจ้างเงินเดือนน้อย ๆ ก็เสียคนเพราะเกมทั้งนั้น”


“เราคุยกันพรุ่งนี้ดีกว่า เดี๋ยวธีร์มาหาตั้งแต่เช้าเลย โอเคไหม?”


“ทำไมไม่คุยตอนนี้ล่ะ เพราะเบลกล้าที่จะพูดมากกว่าทุกครั้งใช่ไหม?”


“ใช่ ธีร์อยากคุยกับเบลตอนที่พูดด้วยเหตุผลมากกว่าจะพูดเพราะมีความกล้า” ชายหนุ่มเคาะปลายนิ้วลงกับพวงมาลัยขณะมองถนน “ธีร์ไม่อยากทะเลาะกับเรื่องเดิม ๆ แล้ว ขอร้องได้ไหม?”


“ได้สิ เพราะเดี๋ยวเบลจะเป็นคนกลับไปจัดการตัวเองเหมือนทุกครั้งเอง ส่วนธีร์ก็เล่นเกมอย่างมีความสุข”


“โอเค ปัญหาของเรื่องนี้อยู่ที่ธีร์เล่นเกม ถ้าธีร์ลบชาแนลทิ้ง เลิกเล่นเกมตลอดชีวิตแล้วกลับไปทำร้านทอง เบลจะมีความสุขใช่ไหม?”


เธอตอบได้ไม่เต็มปาก เพราะลึก ๆ ก็รู้สึกว่ามันน่าเกลียดเกินไปถ้าหากจะพูดอย่างนั้น แต่การสนับสนุนให้เล่นเกมต่อก็ไม่ใช่เรื่องที่อยากหาข้อตกลงกับอีกฝ่าย เบลมองคนที่หันมาสบตากัน เพื่อบอกให้รู้ว่าตอนนี้ผู้ชายคนนี้กำลังผิดหวังและเสียใจมากแค่ไหนที่ต้องทะเลาะเรื่องเดิม ๆ อีกครั้ง


“มันจะทำให้เบลสบายใจเหมือนตอนทุบคีย์บอร์ดทิ้งหรือเปล่า”


ภาพจากเหตุการณ์นั้นย้อนกลับมาให้รู้สึกผิด ในตอนที่ทะเลาะกันจนเธอควบคุมสติไม่ได้จึงเผลอทำลายข้าวของไป ธีร์ไม่ได้เข้ามาห้ามเลยด้วยซ้ำ กลับกันแล้วผู้ชายคนนี้เพียงยืนมองซากปุ่มเล็ก ๆ ที่กระจายอยู่เต็มพื้น ก่อนจะเงยหน้ามองเธอด้วยแววตาในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน


แต่หลังจากได้สติก็รีบขอโทษ เบลรีบเสิร์ชหาข้อมูลคีย์บอร์ดที่แฟนหนุ่มใช้แล้วรีบซื้อมาคืน มันอาจจะเป็นของราคาไม่กี่พัน แต่นั่นก็ทำให้แฟนหนุ่มเงียบหายจากโซเชียลไปหลายวันทั้ง ๆ ที่มีคีย์บอร์ดสำรองอยู่ และตอนที่แกะกล่องของขวัญออก ธีร์ก็ยิ้มบาง ๆ พร้อมบอกว่า


‘ขอบคุณมากนะเบล’


“เบลขอโทษ” คำนี้มันอาจจะไร้ค่าไปแล้วเมื่อต่างฝ่ายต่างใช้มันอย่างพร่ำเพรื่อ ธีร์จอดรถตรงประตูหน้าบ้านเธอพร้อมดับเครื่องลง และเบลรู้สึกดีอยู่ไม่น้อยที่เขายังอยู่ตรงนี้ “เบลแค่มองไม่เห็นอนาคตของอาชีพนี้น่ะ ถึงใครหลายคนจะบอกว่ามันไปได้ดี แต่ในประเทศเรามันยังเบามาก และผู้ใหญ่ก็มองว่าเกมคือปัญหาของเด็ก อีกอย่าง... ธีร์อาจจะฮอตในตอนนี้ มีคนตามเป็นล้าน แต่ถ้าแก่ตัวไปล่ะ... แฟนคลับที่เคยบอกว่ารักธีร์อาจจะไปชอบคนที่เด็กกว่าก็ได้”


“วงการเกมไม่ได้มีแค่นี้หรอกเบล ธีร์สามารถไปทำงานอื่นที่เกี่ยวกับเกมได้ เพราะสิ่งที่ธีร์ต้องการมันไม่ใช่แค่การเป็นนักกีฬา E-Sport แต่มันคือการใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่รักไปจนแก่ ธีร์อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้วงการเกมไปได้ไกลกว่านี้”


“แล้วถ้ามันไม่เข้าท่าล่ะ ชีวิตธีร์จะเป็นเหมือนพี่ตั้บหรือเปล่าที่ต้องเฝ้าร้านเกมไปวัน ๆ แลกกับเงินวันละไม่กี่พัน กินข้าวหน้าคอมจนไม่ดูแลตัวเอง แบบนั้นมีความสุขตรงไหนเหรอ?”


“แล้วการเป็นแบบพี่ตั้บไม่ดียังไง อย่างน้อยมันก็มีเมียที่เข้าใจและพร้อมสนับสนุนทุกอย่าง มีลูกที่กำลังจะเกิด แล้วพ่อมันก็คงสนับสนุนทุกอย่างขอแค่ลูกชอบ ชีวิตมันมีความสุขขนาดนั้นยังต้องสงสัยอะไรอีก?”


“...”


“ความสุขของชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกันนะเบล บางคนอาจจะเป็นการแต่งงานกับใครสักคน แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมดแน่ ๆ บางคนอาจจะอยากอยู่กับหมาสักตัว บางคนเลือกท่องเที่ยวไปกับเพื่อน บางคนแค่กินของอร่อยทุกวัน บางคนเล่นเกม”


“อย่างหลังสุดคือธีร์ใช่ไหม แบบที่ไม่มีเบลก็ได้”


“เบล” ธีร์หันหน้าเข้าหาแฟนสาวอีกครั้ง เขาพยายามไม่โกรธเธอที่กล่าวถึงรุ่นพี่คนสนิทในแง่นั้นโดยไม่เคยทำความเข้าใจอะไรเลย ทุกคนมีต้นทุนต่างกัน สายงานที่แตกต่างกัน และแนวทางการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการดูถูกพี่ตั้บด้วยคำพูดจึงทำร้ายจิตใจเขาเหลือเกิน “เคยลองถามตัวเองหรือเปล่าว่าอยากแต่งงานเพราะอะไร?”


“...”


“เพราะอยากสร้างชีวิตคู่ด้วยกันจริง ๆ หรือแค่ไม่อยากอายเพื่อน... เบลบอกธีร์หน่อยได้ไหม?”


เหมือนถูกมีดกรีดกลางอก หญิงสาวรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูกที่เหตุผลอย่างหลังมันมีมากกว่าจนเธอเองก็ไม่อยากยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง กับสังคมเพื่อนฝูงที่มักจะอวดเรื่องของตัวเองเมื่อนัดเจอกัน แต่เบลกลับทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ อีกทั้งยังโดนเพื่อนพูดจาเหน็บแนมใส่ว่ามีแฟนเป็นคนขี้เกม และเธอจะหมดอนาคต


“ก็ต้องเป็นเพราะเบลอยากมีครอบครัวอยู่แล้ว...”


“เหรอ?”


“ธีร์มองแบบนั้นจะหาว่าเบลโกหกหรือไง?”


“เปล่า เอาเป็นว่าธีร์กลับก่อนดีกว่า พรุ่งนี้เจอกันนะ เดี๋ยวธีร์ซื้อขาหมูเจ้าโปรดมาให้” เขาเปิดประตูรถตั้งท่าจะออกไป แต่ก็ถูกอีกคนตะโกนรั้งไว้เสียก่อน


“ถ้าไปเราเลิกกัน”


“...”


“เบลก็อยากรู้เหมือนกันว่าพอถึงเวลาที่ต้องเลือกแล้ว เบลจะสำคัญกว่าเกมที่ธีร์รักไหม” หญิงสาวน้ำตาคลอ มองแววตาคู่นั้นที่มองมาอย่างเย็นชาราวกับว่าเอือมระอาในสิ่งที่เธอเป็นเต็มทน


“พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”


“ไม่ เบลจะเอาคำตอบเดี๋ยวนี้”


“เบล”


“ให้คำตอบเบลตอนนี้เถอะนะ” เหมือนกับอ้วกที่บังคับไม่ได้ว่าจะกลั้นเอาไว้หรือคายออกมา เบลยังคงแสดงออกในด้านที่เธอรู้ว่าอีกคนจะไม่ชอบ แต่พิษของเหล้าทำให้เธอยั้งตัวเองไว้ไม่ได้


“ตั้งแต่คบกันมาจนถึงวันนี้ตอนที่เราบั่นทอนความรู้สึกกันด้วยการทะเลาะครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะเรื่องเดิม ๆ มันไม่เคยจบสิ้น มีแต่จะหนักขึ้นเรื่อย ๆ กัดกร่อนความรู้สึกจนปวดหัวเหมือนมันไม่มีทางออกแล้ว”


“...”


“เบล”


“...”


“ถ้าการเป็นเกมเมอร์มันไม่ได้ทำให้เบลมองธีร์ต่างจากคนอื่น ถ้าการที่ธีร์เป็นแบบนี้ทำให้เบลต้องร้องไห้เสียใจ งั้นเราพอแค่นี้ดีไหม?”


“...”


“ธีร์เป็นคนเหี้ยเอง เบลจะอัพเฟซบุ๊กด่า หรือจะเล่าให้เพื่อนฟังยังไงก็ได้ ธีร์จะไม่พูดอะไรทั้งนั้น จะยอมให้โทรมาด่าจนกว่าจะพอใจโดยไม่เปลี่ยนเบอร์หนี” ชายหนุ่มสบตากับหญิงสาวที่เขารักได้ไม่ชัดนัก วูบหนึ่งเขารู้สึกว่างเปล่า และอยากนั่งนิ่งไปเฉย ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ควรพูดมันให้จบ “แต่เลิกกันเถอะนะ”


“...”


“เราสองคนเหนื่อยเพราะความพยายามมามากพอแล้ว”



*



เด็กหนุ่มวางโจ๊กลงบนหน้าโต๊ะคอมแล้วรีบเปิดเครื่อง และภาพหน้าจอก็สว่างจ้าเมื่อระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ทำได้รวดเร็วจนไม่ต้องรอ โซ่รีบใส่พาสเวิร์ดเข้าไลน์ มืออีกข้างตักโจ๊กเข้าปากก่อนจะสะดุ้งจากความร้อน เพราะความฝันเมื่อครู่ที่น่ากลัวเกินจนเกินไป เขาจึงไม่อยากเสียเวลาไปกับการเป่าให้มันเย็น



Derya MK12: พี่ธีร์อยู่กับพี่เบลใช่ไหมครับ?
Derya MK12: โซ่ไม่ได้โทรมาเร่งหรืออะไรนะครับ อันที่จริงพี่ธีร์จะไม่มาก็ได้
Derya MK12: แต่เมื่อกี้โซ่ฝันร้ายล่ะครับ มันน่ากลัวมากเลย
Derya MK12: โซ่ฝันว่าพี่ธีร์โดนรถชน มันเหมือนจริงมาก... แบบนั้นไม่ดีเลยครับ
Derya MK12: ถ้าพี่ธีร์ยังไม่หลับแล้วเห็นข้อความนี้ก็ตอบโซ่ทีนะครับ โซ่กังวลมากเลย ส่งแค่สติ๊กเกอร์มาก็ได้
Derya MK12: ส่วนอาการของโซ่ดีขึ้นแล้วนะครับ เพราะยากับของกินที่พี่ธีร์ซื้อให้โซ่ถึงลุกมานั่งอ่านชีทได้ เดี๋ยวพออ่านไปสักพักโซ่จะไปนอนต่อแล้วตื่นไปสอบด้วยสภาพเต็มร้อยครับ
Derya MK12: ตอนนี้แถวสีลมฝนตกแรงมากเลย ถ้าพี่ธีร์ยังอยู่ข้างนอก พยายามอย่าโดนละอองฝนนะครับ แต่ถ้าถึงห้องแล้ว อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว งั้นก็ฝันดีล่วงหน้านะ
Derya MK12: พี่ธีร์ดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ ถ้าป่วยแบบโซ่แล้วจะไม่เท่นะ



นั่งมองบอลลูนคำพูดสีเขียวที่เรียงกันเป็นแถวยาวและเขาปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังรอให้ข้อความเหล่านี้ถูกเปิดอ่าน โซ่ถอนหายใจพลางคาบช้อนเอาไว้อย่างคิดไม่ตก ทำไมถึงเป็นห่วงพี่ธีร์ขนาดนี้ เพราะความฝันที่เหมือนจริงเกินไปหรือไง งมงายเกินไปหรือเปล่านะ...


ทั้งที่ตอนนี้พี่ธีร์คงอยู่กับพี่เบล อาจจะค้างด้วยกันหรืออะไรก็แล้วแต่ เรื่องฝันนั่นคงไม่มีทางเกิดขึ้นจริงแน่ ๆ บางทีโซ่อาจจะเพ้อเจ้อจนเกินไป แต่พี่ธีร์ตอบไลน์หน่อยได้ไหม แค่จุด ๆ เดียวก็ได้ ไม่อย่างนั้นคงพะวงไปจนนอนไม่หลับแน่


เอาไงดี... สวดมนต์ดีไหมนะ... ฝนตกถนนลื่นแบบนี้ชวนให้คิดมากเข้าไปอีก มันอันตรายเกินไปสำหรับคนเดินทางตอนกลางคืน เอาล่ะ... เขาจะรีบกินโจ๊กให้เสร็จแล้วไปสวดมนต์ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองพี่ธีร์


ขอให้อย่าเกิดเรื่องร้าย ๆ กับพี่ชายที่เขารัก 




*



ฝนยังคงตกหนักและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่าย ๆ และถนนเส้นใหญ่ก็ยังมีรถวิ่งผ่านไปมาอยู่ตลอด แม้เวลาจะเริ่มเดินเข้าใกล้รุ่งสางเต็มที แต่ชายหนุ่มตัวสูงที่เปียกปอนไปด้วยน้ำฝนกลับเลือกนั่งเงียบ ๆ ตรงป้ายรถเมล์โดยไม่ขยับตัวไปไหน


ดวงตาคู่นั้นทอดมองออกไปยังเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมายพร้อมคำถามมากมายในหัวที่คงไม่คิดหาคำตอบให้ตัวเอง ทั้งที่ไม่ได้ออกแรงทำอะไรเลยสักนิด แต่หัวใจของเขากลับตะโกนบอกว่ามันเหนื่อยเหลือเกิน  และตอนนี้มันกำลังถูกแทนที่ด้วยความว่างเปล่าแล้ว


ความว่างเปล่าที่พรุ่งนี้จะไม่มีเบลอีก นั่นคือความจริงที่ธีร์กำลังพยายามยอมรับให้ได้


หยดน้ำไหลตามสันกรามไล่ลงไปจนถึงปลายคาง ชายหนุ่มตัวสูงเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนของความเจ็บปวดซึ่งตอนนี้คงมีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้นที่ช่วยเยียวยาได้


‘ควรไปที่ไหน?’ นั่นคือสิ่งที่ถามตนเอง และธีร์ไม่สามารถตอบได้ ดังนั้นการนั่งโง่ ๆ อย่างคนสิ้นคิดอยู่ตรงนี้อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี


เสียงรถขับผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมข้อความมากมายเด้งขึ้นบนจอโทรศัพท์ แต่ชายหนุ่มเลือกถือมันไว้เฉย ๆ มากกว่าจะหงายขึ้นอ่านเพื่ออ่านว่าคนส่งมากำลังรู้สึกอย่างไร


เขาปล่อย... ให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นมาตั้งนานแล้ว






To be continued

เรื่องของความรัก มีด้านของเราและด้านของเขา แต่ละคนมีเหตุผลของตัวเองเนอะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-01-2018 22:46:52 โดย หน่วยกล้าวาย »

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
สงสารพี่ธีร์อ่ะ
ไปหาน้องโซ่นะ

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เปิดตอนมาด้วยเสียงก๊องแก๊งหยอกล้อของคนพี่กับคนน้อง ตามมาด้วยอารมณ์ที่สาดเทของแต่ละคนล้วนๆ เราเข้าใจทั้งธีร์ เบลและฝ้าย เพราะมนุษย์เราต่างคิดถึงตัวเองเป็นหลัก เป็นซีนอารมณ์ที่ดูเก็บกดมานานจนมันปะทุออกมา แต่พี่ธีร์ทำให้ทุกอย่่างดูซอฟต์ลงอย่างไม่น่าเชื่อ เก็บอารมณ์เก่งมากๆ พยายามคุยจากเหตุผลด้วย แต่มันคงไม่ไหวแล้วจริงๆเนอะ ฮือ พี่ธี์กลับไปหาน้องเ็ว น้องเป็นห่วงงง :hao5:

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
พี่ธีร์ เอาใจไปเลย
นับถือใจมาก  :hao5:

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
ชอบซีนอธิบายของธีร์กับเบล์ตอนนี้มากเลยค่ะ
มันดูลงตัว ทุกคนมีเหตุมีผลของตัวเอง
ซึ่งมันไม่มีใครผิดใครถูก
แต่สุดท้ายทางเลือกของแต่ละคนมันคนละทางแค่นั้นเอง  :hao5:

พี่ธีร์ตากฝนต่อไปนะ
เดี๋ยวเราเช็ดตัวดูแลน้องโซ่เอง 555555555555555555 :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
เอาน่ะ ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาเนอะพี่ธีร์ ตัดให้จบตั้งแต่ตอนนี้แหละ
ไม่งั้นก็จะอึดอัดอยู่แบบนี้ อึดอัดกับการที่คนที่เรารักไม่พยายามเข้าใจอะไรเลย

เดินหน้าต่อไปนะ หาคนใหม่ที่พร้อมจะเข้าใจดีกว่า

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
ในที่สุดก็ถึงทางตัน
เราสงสารเบลนะ ผญ.กับเรื่องแต่งงาน
เรื่องความเห็นครอบครัวเรากับแฟน
มันกดดันจริงๆนะคะ
เราค่อนข้างไม่โกรธเบลตอนนี้เลยนะ
สมควรงี่เง่า
แต่ละคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง
ซึ่งเรานึกไม่ออกเลยว่าจุดสมดุลมันอยู่ตรงไหน
จริงๆ เลิกไปก็ดีกับทั้งสองฝ่ายนะ
เบลจะได้เจอคนดีๆมากกว่าพี่ธีร์
เหมาะมากกว่าพี่ธีร์ก็ได้

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
พออ่านมาถึงตอนนี้มีความคิดหนี่งที่ชัดเจนมากคือ น้องโซ่แม่งน่ารักกกกกกกกก เอ๊ะ อันนี้ก็ใช่แต่ที่ว่าคือ เรารู้สึกว่าต่อให้ไม่มีน้องโซ่ผู้น่ารักอิพี่ธีร์กับเบลก็ไปกันไม่รอด เพราะมโนภาพในอนาคตอิพี่ไม่มีเบลอยู่ คือมีอยู่แต่เป็นการมีอยู่ที่อิพี่มันต้องฝืดและพยายามมากอ่ะ ถ้าคนรักกันถึงขั้นว่าอยากหยุดกับเขาคนนี้มันต้องคิดถึงอนาคตที่มีร่วมกันมากกว่านี้ไหมนะ ที่พูดมาว่าแต่ง30แล้วประชดว่าเบลขนาดนั้นก็ค่อนข้างชัดเจน เฮ้อ สงสารเบล ขอให้เธอเจอคนที่ดีที่เหมาะสมกับเธอมากกว่าอิพี่นะ คืออิพี่มันเป็นคนดีแหละ แต่มันเลื่อนลอยไง เข้าใจพ่อแม่เบลนะ ธีร์เป็นคนที่พยายามใช้ชีวิตแบบอุดมคติยึดแค่ตัวเอง ความสุขของตัวเองมันควรสมดุลกับความจริงป่ะ ถ้าในความจริงธีร์แบ่งครึ่งความสุขตัวเองให้เกมเป็นงานอดิเรกแล้วรับผิดชอบร้านทองของครอบครัวหรือเล่นเกมจริงจังแต่ก็ไม่ได้ทิ้งหน้าที่ที่ควรด้วยมันจะดีอ่ะ ดูเป็นคนมีความรับผิดชอบและไม่ทิ้งสิ่งที่รัก แต่นิสัยธีร์คือตรงอย่างเดียวไม่มีเลี้ยวเลยไง เล่นเกมเป็นอาชีพมันก็ไม่ผิดแต่เล่นเอาตัวเองเป็นหลักจะให้แฟนมาเข้าใจเราอย่างเดียวก็เห็นแก่ตัวไปหน่อยมั้ง ไม่รักเลยไม่ใส่ใจหรือรักแต่คิดว่าไม่ทำอะไรเขาก็อยู่ที่เดิม เราคิดว่าผู้หญิงหลายคนน่าจะคิดเหมือนกันว่าเล่นเกมเราไม่ว่าแค่ไม่เล่นจนลืมแฟนก็พอ แต่ธีร์กับเบลความต้องการหลายอย่างโคตรไม่ไปด้วยกัน จบกันตอนนี้ก็ดีแล้วอ่ะ สงสารเบล เราว่าธีร์อาจจะเข้ากับโซ่ได้ดีกว่าเบลไม่ใช่แค่น้องเล่นเกมเหมือนกันแต่ตรงที่โซ่เป็นคิดบวกมากเว่อร์ น้อง(น่าจะ)เกิดและโตในสภาพครอบครัวที่ดีมากแน่อ่ะ น้องมันก็คิดว่าเออพี่ทำแบบนี้มีความสุขนะ พยายามให้พี่ดีกับครอบครัวงี้  แค่ความสุขเราไม่เบียดเบียนใครก็พอ ไม่รู้อ่ะ รู้แต่รักน้องโซ่จังเลย คิดแล้วกังวลกับอนาคตของลูกโซ่ หนูจะไปกับพี่มันไหวใช่ไหมคะ ดูท่าคงต้องสู้กับความหัวแข็งของพี่มันอีกเยอะแน่เลย ฮือ ความอินหลอของชั้นนน5555555555555555

ออฟไลน์ XVIII.88

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
    • XVIII.88
หมดกัน อารมณ์เฮฮาเมื่อข้างต้น
เจอสองชะนีเข้าไป หัวร้อนพร้อมพี่ธีร์เลย :m31:

ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน และหวังจะเปลี่ยนเขาให้ถูกใจตัวเองนี่แย่มาก
ตัวเองมีความสุข คนอื่นจะทุกข์ช่างมันสินะ เห็นแก่ตัวไปแล้ว
ต่อให้มันเป็นความหวังดีก็เถอะ แต่เราจะไปบังคับเขาไม่ได้

คนชอบเกม เขาก็แค่ขอคนที่เข้าใจเขา เข้าใจในที่สิ่งที่เขาชอบ
ถ้ายังไม่ยอมเข้าใจจากใจ เลิกกันไปก็ถูกต้องแล้ว ไม่งั้นก็ทะเลาะเรื่องเดิมตลอด

ทนเจ็บนิดนึงนะพี่ธีร์ เดี๋ยวน้องโซ่จะพาไปพบสิ่งที่น่าสนใจนะ
แต่ตอนนี้พี่หลบให้ห่างถนนก่อน กลัวฝันน้องไปด้วยแล้วเนี่ยยย :hao4:



ออฟไลน์ XXIXII

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สุดท้ายก็ไปกันไม่รอดอยู่ดี หมันไส้เพื่อนเบล อินอะไร
ขนาดนี้ นั่นเรื่องของเค้ามั้ยอ่ะ 55555
น้องโซ่ ลูกกกกกกกก พี่ธีร์ไม่อยู่เดี๋ยวเช็ดตัวให้เองงง

ออฟไลน์ Jirat17b

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ผิดมั้ยอ่ะถ้าท่องคำว่าเลิกกันๆตั้งแต่รู้ว่าเบลเมา แต่สงสารพี่ธีร์ ฮืออออ ใจน้องงงง

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
โฟกัสน้องโซ่ ส่วนเรื่องชะนี no comment  :hao7:

ออฟไลน์ OrangeryLemon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เป็นซีนเลิกกันที่มันจริงมาก

ไม่โกรธและโทษใครเลยไม่ว่าจะเบล ธีร์ และแม้แต่ฝ้าย

ทุกคนมีเหตุผลที่ในที่สุดต้องจบแบบนี้

เราเคยเป็นเหมือนฝ้าย รักเพื่อนมาก เจ็บแค้นแทนเพื่อนไปหมด อยากสาดคำพูดแรงๆใส่แฟนเพื่อน

คนเขียนบรรยายความรู้สึกและบทสนทนาระหว่างกันได้ดีมาก อินสุดๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด