(ต่อนะคะ)
สถานที่วิจัยนี้มีพื้นที่กว้างขวางมากถ้าหลงไปคงไม่ได้ตามเจอในชั่วโมงสองชั่วโมง ดีไม่ดีอาจต้องหากันเป็นวันและถ้าเผลออกไปยังเขตชุมชนคงต้องหาเป็นเดือน สำหรับลูก้าอาจยิ่งทวีความยากถ้าเขากลับเป็นไดโนเสาร์แล้วลงน้ำไป
“อ่า...อ่า...”มือทั้งสองข้างของลูก้าพยายามเอื้อมไปทางทะเลอย่างสุดความสามารถ
“ผมรู้ว่าอยากเล่นแต่ว่าตอนนี้ไม่ได้นะ...เรามาเดินกันดีกว่า”ผมวางตัวลูก้าลงแล้วจูงเดินไปตามชายหาด
เพราะอยู่ในเขตร้อนชื้นอากาศเลยค่อนข้างร้อน ยิ่งช่วงกลางวันความร้อนอาจทำให้คนตายได้เลย ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับมาเดินคือตั้งแต่สี่โมงเย็นเป็นต้นไปเหมือนอย่างผมในตอนนี้
“ร้อนไหม”ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายตอบผมก็จัดการเช็ดเหงื่อที่หน้าผากนั่นให้
“อ่า...”ดวงตาสีเงินเงยขึ้นมาเล็กน้อย
“หัวหน้าครับ!”เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกับร่างของธราวุธหรือวุธหนึ่งในผู้ช่วยผมวิ่งตรงเข้ามาหาด้วยใบหน้าซีดเผือก
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ฉลามครีบดำหลุดไปในบ่อหมึกกระดองลายเสือครับ”
“ว่าไงนะ...ทำไมถึงหลุด”
ฉลามครีมดำหลุดไปในบ่อหมึกกระดองลายเสือ?
จริงอยู่ที่บ่อของสัตว์สองชนิดอยู่ติดกันและแต่ละบ่อก็สามารถเปิดถึงกันได้แต่ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่มีไม่น่าจะหลุดไปได้นี่ นอกซะจากมีคนไปกดปุ่มที่แผงควบคุม
“พอดีคุณต่ายเธอทะเลาะกับคุณโจ้จนเผลอทุบเข้าที่ปุ่มเปิดทางเชื่อมฉุกเฉินของบ่อ88กับ89...น่ะครับ”วุธอธิบายถึงสาเหตุด้วยสีหน้าซีดลงเรื่อยๆเมื่อเห็นหน้าผมกำลังหงิกด้วยความไม่พอใจ
สามีภรรยาคู่นั้นอีกแล้วเหรอ
อย่าให้ต้องพูดว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเพราะการทะเลาะกันของสามีภรรยาของฝ่ายเทคโนโลยีและควบคุมระบบ
หัวหน้าของพวกเขาป่านนี้คงหลับอยู่ในห้องน่ะสิ!
“ให้ตายสิ...ผมว่าคงได้เวลาจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจังสักที”ขืนปล่อยต่อไปเราได้สูญเสียสัตว์ทะเลที่เพาะพันธ์ไว้จำนวนมากแน่
“ตอนนี้ผมติดต่อพวกปายแล้วคิดว่าคงไปถึงในอีกไม่กี่นาทีครับ”วุธพูดต่อ
“เข้าใจแล้ว...งั้นผมต้องรีบไปดู...อ๊ะ...”เท้าที่กำลังจะก้าวชะงักเล็กน้อยเมื่อมือเล็กๆที่จับอยู่บีบแน่นขึ้นพร้อมกับออกแรงขืนไม่ให้สามารถก้าวต่อ
“...อ่า”คนที่ดึงผมไว้ไม่ใช่ใครอื่นลูก้านั่นเอง เขามองมายังผมอย่างไม่เข้าใจสถานการณ์นัก
ผมลืมเรื่องของเขาไปสนิทเลย
“วุธ”
“ครับหัวหน้า”
“ฝากดูแลเด็กคนนี้หน่อย เขาชื่อลูก้า...พาไปเดินเล่นเสร็จก็พากลับห้องเลยก็ได้”ผมสั่งผู้ช่วย ยังไงผมก็พาลูก้าไปด้วยไม่ได้ฝากให้สักคนดูแลก็ดีเหมือนกัน
“ห้องไหนครับ?”คำถามของวุธทำเอาผมเลิกคิ้วขึ้น
นั่นสิ...ห้องไหน
ผมพึ่งรู้ว่าลูก้าจะมาอยู่ด้วยก็วันนี้ แน่นอนว่าการที่เขาอยู่ในร่ามนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่คาดการณ์ไว้สักนิด
ก็จริงที่ยังเหลือห้องว่างมากมายในตึกแต่การให้เด็กอยู่ตามลำพังมันจะดีงั้นเหรอ ยิ่งเด็กที่ว่ายังทำแม้แต่การเดินตรงๆไม่ได้
ผมซึ่งได้รับหน้าที่ให้ดูแลก็ควรจะทำอย่างสุดความสามารถสินะ
“พาไปห้องผมก็ได้”สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอื่น
“ได้ครับ...ว่าแต่หัวหน้าไปมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“เขาไม่ใช่ลูกผม!”ผมรีบตะโกนกลับไปด้วยน้ำเสียงเคืองๆ
“อ้าว...ก็...”
“นี่ลูก้า”ผมเลือกที่จะไม่สนใจวุธแล้วนั่งคุกเข้ามองหน้าลูก้าแทน
“...อ่า”ดวงตาสีเงินสบตากับผมพลางเอียงคอเล็กน้อยราวกับจะถาม่ามีอะไร
“รอผมที่นี่ก่อนนะ แล้วเจอกัน”พูดจบก็เอื้อมมือไปขยี้เส้นผมสีฟ้าแซมแดงนั่นก่อนวิ่งออกไป
ถึงจะยังห่วงๆลูก้าว่าจะเข้ากับวุธได้ไหมแต่ตอนนี้มีเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากกว่าซึ่งก็คือการที่ฉลามครีบดำหลุดไปยังบ่อของหมึกกระดองลายเสือได้ชื่อว่าฉลามแน่นอนอยู่แล้วว่ามันเป็นนักล่าแห่งท้องทะเลแม้ว่ามันจะมีขนาดเล็กเพียงแค่60เซนติเมตรก็เพียงพอที่จะเขมือบหมึกกระดองลายเสือที่มีขนาดตัวเพียงไม่กี่เซนติเมตรได้ง่ายๆ
ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นหมึกกระดองลายเสือแต่มันก็ไม่ทั้งพิษหรืออาวุธอะไรเป็นเศษ นั่นจึงทำให้ผมค่อนข้างเป็นกังวลว่าป่านนี้คงได้ถูกกินหมดบ่อแล้วละมั้ง
กว่าจะมาถึงยังบ่อซึ่งเป็นจุดหมายก็ใช้เวลานานพอสมควร จักรยานสีดำจอดบริเวณหน้าบ่อ88ที่มีคนกว่า10คนมุงอยู่รอบๆ แค่มองชุดสีดำแถบแดงแถบนั่นก็รู้ทันทีว่าเป็นฝ่ายภาคสนามที่มีหน้าที่คอยจัดการกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะกันของคนในองค์กรหรือสัตว์น้ำหลุดอย่างตอนนี้ ภายในฝ่ายจะมีทั้งผู้เชี่ยวชาญในการจับสัตว์ทะเลย หน่วยแพทย์สำหรับรักษาเวลาป่วยหรือแม้แต่หน่วยดำน้ำอันเลื่องชื่อ
“ปาย”ผมตะโกนเรียกชายย้อมผมสีน้ำตาลเข้มที่ยืนอยู่ตรงขอบบ่อกำลังมองลงไปด้านล่างอยู่ ชายคนนี้ชื่อปายเป็นหัวหน้าฝ่ายภาคสนาม พวกเราค่อนข้างสนิทกันพอสมควรเพราะเรียนด้วยกันสมัยมัธยมปลาย
“สาม?...มาเร็วนี่”อีกฝ่ายหันมามอง
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง”ผมรีบถามพร้อมกับก้มลงไปมองภายในบ่อ ตอนนี้ด้านใต้มีนักดำน้ำในชุดสีขาวกำลังกางตาข่ายป้องกันหมึกกระดองลายเสือที่ถูกเหล่าฉลามโจมตีโดยมีส่วนหนึ่งว่ายน้ำต้อนฉลามครีบดำให้กลับไปยังบ่อ89
“ก็อย่างที่เห็น...”
“แน่ใจนะว่าจะไม่โดนกิน”ยังไงก็ยังเป็นมนุษย์ไม่มีเกราะป้องกันหรือเขี้ยวแหลมคมเหมือนสัตว์หรอก ลงไปว่ายกับฉลามแบบนั้นค่อนข้างอันตรายไปหน่อยในความคิดผม ยิ่งว่ายกันเป็นกลุ่มแบบนั้นจะสร้างความระแวงให้ฉลามมากกว่าเดิม
“ชุดนั่นฝ่ายวิจัยและพัฒนาพึ่งสร้างขึ้น...ภายในชุดนั่นมีคลื่นความถี่ที่เหนือกว่าพวกฉลามทำให้พวกฉลามไม่กล้าเข้ามาโจมตี”ปายอธิบายต่อ
“เข้าใจล่ะ...”ด้วยเทคโนโลยีในตอนนี้ช่วยให้มนุษย์สามารถต่อกรกับความแข็งแกร่งของสัตว์ได้สินะ
“เสร็จนี่ไปหาอะไรกินกันไหม”คนข้างกายหันมาถาม
“ไม่ล่ะ...พอดีมีธุระ...ติดต่อต่ายให้ปิดทางเชื่อมบ่อเดี๋ยวนี้เลย”ผมตะโกนบอกคนที่อยู่รอบหลังจากที่ตอบปายเสร็จ ไม่กี่วิต่อมาทางเชื่อมระหว่างบ่อก็ถูกปิดลง ทั้งฉลามครีมดำและหมึกกระดองลายเสือต่างก็กลับไปอยู่ในบ่อของตัวเองตามเดิม
“พี่สิงค์ตรวจนับจำนวนสัตว์ของทั้ง2บ่อด้วย”เมื่อเหล่าคนดำน้ำขึ้นมาผมก็สั่งพี่สิงค์ที่มีหน้าที่ตรวจนับจำนวนของสัตว์น้ำทันที พี่สิงค์เองก็เป็นหนึ่งในคนของผมแต่ไม่ใช่ทีมวิจัยแต่เป็นการดูแลสัตว์น้ำพวกนี้
“ครับๆ”พี่สิงค์วิ่งตรงมายังบ่อหมึกกระดองลายเสือทันทีที่ถูกสั่ง
“ให้หน่วยพยาบาลทำแผลฉลามครีบดำด้วย”ผมบอกปายต่อ
“ฮืม?...พวกมันบาดเจ็บเหรอ”
“อืม...ตัวที่อยู่ริมขอบสระด้านซ้ายล่าง2ตัวกับตัวที่กำลังลอยขึ้นมาด้านบนของสระ และตัวที่อยู่ก้นสระอีก3ตัวทางนั้นด้วย”ผมบอกพลางชี้ให้อีกฝ่ายดู
“สายตาดีจังนะ”
“เรื่องปกตินี่”
“ปกติที่ไหน...คนอื่นไม่รู้หรอกว่าพวกมันบาดเจ็บถ้าไม่สังเกตดูดีๆ”
“ผมก็ใช้การสัตเกตเหมือนกัน ไม่ได้เก่งกว่าคนอื่นหรอก”การที่สามารถบอกได้ว่าตัวไหนบาดเจ็บก็ง่ายๆ ฉลามที่บาดเจ็บหรือป่วยมักจะมีพฤติกรรมที่ผิดปกติอย่างการว่ายน้ำในท่าทางที่ต่างจากปกติ
อาการบาดเจ็บคงมาจากการแย่งอาหารหรือก็คือแย่งหมึกกระดองลายเสือเมื่อครู่นั่นแหละ
“เก่งสิ...สมแล้วที่อยู่กับทะเลมาตั้งแต่เกิด”ปายบอกด้วยรอยยิ้ม
“แต่เกิดที่ไหน...ตอนเกิดผมอยู่โรงพยาบาลต่างหาก”ผมแก้ให้
“ก็เหมือนกันแหละ”
“ไม่เหมือนสักหน่อย...โก้เดี๋ยวแยกปลาฉลามที่บาดเจ็บไปขังไว้บ่อข้างๆด้วยนะ พอหน่วยพยาบาลรักษาเสร็จก็ให้พวกมันอยู่นั่นจนกว่าจะหายดี”คนที่ผมบอกอีกคนนี่ชื่อโก้เป็นหนึ่งในนักดำน้ำของปาย
“...หัวหน้า”โก้เงยหน้ามองหัวหน้าอย่างปายเพื่อขอความเห็น
“ทำตามนั้น”
“ครับ”เมื่อปายอนุมัติโก้ก็พยักหน้าก่อนจะรีบไปจัดการตามที่สั่ง
“ทำไมต้องขอนายก่อนด้วย”แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย
ยังไงผมก็เป็นถึงหัวหน้าฝ่ายวิจัยและดูแลสัตว์น้ำเลยนะ
“ก็ลูกน้องผมนี่”
“แต่ผมก็เป็นหัวหน้าเหมือนกันนะ”ผมรีบแย้ง
“นายไม่มีความน่าเคารพมั้ง”
“ตรงไหนกัน”พอผมพูดจบปายก็มองผมตั้งแต่หัวลงถึงปลายเท้าก่อนจะยกยิ้มขึ้น
“ตัวเล็ก...”
“ไม่ได้เล็กสักหน่อย...พวกนายสูงกันเกินไป”ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ต้องมาเถียงเรื่องพวกนี้
จะให้บอกอีกกี่ครั้งว่าสูง175มันไม่เรียกว่าตัวเล็กสักหน่อย
“ก็สูงปกติ”
“ปกติที่ไหนกัน...ทั้งที่เป็นคนไทยเหมือนกันแท้ๆทำไมถึงได้สูงขนาดนั้นกัน ขี้โกงนี่”ผมบ่นเสียงเคือง ความสูงของเหล่าผู้ชายที่นี่ส่วนมากก็175ขึ้น นั่นแปลว่าผมเป็นคนที่เตี้ยที่สุดก็ว่าได้
ทั้งที่การสมัครงานไม่ได้คัดความสูงแต่ทำไมถึงมีแต่คนสูงๆเข้าเท่างานเล่า
“อย่าบ่นน่า...ตอนเด็กกินแต่ปลาไม่กินนมน่ะสิถึงได้ฉลาดขนาดนั้น”
“ก็กินนมนะ”
“อย่าไปคิดมากกับแค่ส่วนสูงเลย”
“คนที่ทำให้คิดคือนายไม่ใช่รึไง”ถ้าไม่เปิดประเด็นผมจะคิดมากแบบนี้ทำไมกันเล่า
หลังจากยืนเถียงกับปายสักพักผมก็กลับมายังที่พัก ในหัวก็คิดว่าลูก้าจะเป็นยังไงถ้าเข้ากับวุธได้ก็ดีไปแต่ถ้าเข้าไม่ได้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ข้อมูลที่มียังน้อยเกินไปที่จะสรุปอุปนิสัยของลูก้า
ต้องใช้เวลานานกว่านี้
“...นั่นมันอะไรน่ะ”คิ้วสีดำของผมขมวดเข้าหากันแน่นเมื่อหันไปมองยังชายหาดแล้วเจอกลุ่มคนสามสี่คนยืนอยู่ ถ้าเป็นปกติผมคงไม่สนเพราะคิดว่าพวกเขาคงมาเดินเล่นหรือรับลมทะเลแต่ภายในกลุ่มคนเหล่านั้นมีวุธคนที่ผมให้ดูแลลูก้าอยู่ด้วยน่ะสิ
นี่อย่าบอกนะว่าทิ้งลูก้าไว้บนห้องแล้วมาเดินเล่นกับเพื่อนๆน่ะ
ผมเดินตรงไปยังชายหาดด้วยใบหน้าตึงๆ ยิ่งเห็นว่าสามสี่คนที่ว่าเป็นเหล่าเพื่อนของวุธก็ยิ่งทำให้ผมอารมณ์เริ่มกรุ่นๆแล้ว ทั้งที่สั่งให้คอยดูแลแต่กลับมายืนเล่นกับเพื่อนแบบนี้มันน่าโดนลงโทษ
“อ่าม...”เสียงหนึ่งที่ดังรอดมาทำเอาขาผมหยุดชะงัก
เสียงนั่นมัน...
“ลูก้า”ผมเรียกเด็กที่อยู่ตรงกลางระหว่างผู้ใหญ่ทั้งห้าคนเบาๆ น่าแปลกที่ลูก้าหันมาตามเสียงทันทีที่ผมเรียก...ดวงตาสีเงินเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยก่อนจะผลักคนที่ขวางอยู่จนเซเกือบล้มแล้ววิ่งตรงมาหาผมด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ
ตุบ
“เฮ้ย...ลูก้า”ผมรีบวิ่งเข้าไปหาลูก้าที่ล้มลงกับพื้นทรายด้วยความเป็นห่วง
แค่เดินยังไม่แข็งยังจะฝืนวิ่งอีก
“อ่าม...อาม...”ใบหน้าเปื้อนทรายเงยหน้าขึ้นพร้อมเอ่ยอะไรบางอย่างออกมาไม่ขาดสาย
“จะบอกอะไรผมเหรอ”ระหว่างที่ถามก็ช่วยอุ้มลูก้าให้ยืนดีๆ เศษทรายที่ติดตามเสื้อผ้าและร่างกายถูกผมค่อยๆปัดออกอย่างเบามือ
“อาม...”
“ฮืม?”
“อาม...สาม...”
กึก
“...ลูก้า?”มือที่ปัดเศษทรายอยู่ถึงกับชะงักเมื่อชื่อของตัวเองหลุดออกมาจากปากของเด็กที่ยังพูดไม่ได้เลยสักคำ
คำที่เด็กส่วนมากจะเริ่มพูดถ้าไม่ใช่พ่อแม่ก็เป็นหม่ำขอของกิน
แต่ลูก้ากลับพูดชื่อผม
“สาม...สาม...”
“อ่า...ใช่ๆ...นั่นชื่อผมเอง...เก่งมากลูก้า”รางวัลที่ให้ลูก้าคือมือที่เอื้อมไปลูบเบาๆยังเส้นผมสีฟ้าแซมแดงนั่น
“เอ่อ...หัวหน้าครับ”
“วุธ?...ผมบอกให้พาไปห้องไม่ใช่เหรอ”ผมถามกับกลุ่มคนที่ทำหน้าสลดเดินมายืนเรียงแถวหน้ากระดานตรงหน้า
“ก็ใช่ครับ...แต่ลูก้าเขาไม่ยอมขยับไปไหนเลย...พอผมจะอุ้มก็หลบตลอดเลยต้องเรียกเพื่อนให้มาช่วยแต่พออุ้มได้ก็โดนกัดอีก...นี่ก็กำลังคิดว่าจะโทรไปหาหัวหน้าอยู่พอดีเลย”วุธอธิบายสถานการณ์ให้ฟัง มือที่ยกขึ้นเกาหัวนั่นมีรอยฟันอย่างเห็นได้ชัดแสดงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริงสินะ
“ไม่ควรกัดรู้ไหม”ผมบอกกับลูก้า ตัวผมเองวันนี้ก็โดนไปไม่รู้กี่รอบแล้วเหมือนกัน
“สาม...”
“พูดได้แค่ชื่อผมเหรอ”น่าแปลกใจจริงๆ
“หัวหน้าครับ”
“อะไรวุธ”
“ผมอยากถามอะไรสักหน่อย”
“ว่ามาสิ”
“ทำไมลูก้าถึงมีแรงขนาดที่พวกเราห้าคนยังเอาไม่อยู่ล่ะครับ”ไม่ใช่แค่วุธที่อยากรู้แต่อีกสี่คนที่เหลือก็ทำหน้าสงสัยไม่ต่างกัน
“เขาเป็นไดโนเสาร์กลายพันธุ์”พูดจบผมก็อุ้มลูก้าขึ้น ฝ่ายถูกอุ้มก็ยกแขนโอบคอผมโดยอัตโนมัติก่อนที่จะซุกหน้าลงมายังคอ
“...ดะ...ไดโนเสาร์กลายพันธุ์”ทั้งห้าคนถึงกับเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา
ถึงจะไม่อธิบายต่อพวกเขาคงเข้าใจทุกอย่างแล้วล่ะ พละกำลังของมนุษย์ไม่มีทางเหนือกว่าไดโนเสาร์กลายพันธุ์ได้หรอก
“งั้นผมขอตัว...”
“เดี๋ยวครับหัวหน้า”เสียงเรียกของวุธทำให้ผมหันกลับไปมองอย่างงงๆ
“มีอะไร”
“ผมอาจคิดไปเอง...แต่ที่เขาไม่ยอมไปกับผมไม่ใช่เพราะหัวหน้าบอกให้เขารออยู่ตรงนั้นเหรอครับ”คำพูดของวุธทำให้ผมนึกย้อนกลับไป...
เป็นอย่างที่วุธว่าผมบอกให้ลูก้ารอที่นี่
แต่เพียงแค่ผมบอกเขาก็ยอมทำตามขนาดนั้นเลยเหรอ
“ลูก้า...”
“...สาม...”เสียงตอบรับเบาๆนั่นเรียกรอยยิ้มของผมตลอดทางกลับไปยังห้องบนชั้นที่14
พอเดินมาถึงเตียงผมก็ค่อยๆวางร่างของลูก้าที่หลับสนิทลงก่อนจะห่มผ้าให้ เครื่องปรับอากาศถูกเปิดในอุณหภูมิพอเหมาะพร้อมกับผมที่เดินไปอาบน้ำในห้องด้านข้าง
เมื่อเดินออกมาลูก้าก็ยังคงหลับสนิทอยู่ตามเดิม
“เหนื่อยเหรอ”ผมถามเบาๆพลางลูบเส้นผมสีแปลกตานั่นไปมา เวลาตอนนี้พึ่งจะ2ทุ่มเท่านั้นเอง
จะพูดว่าสมกับเป็นเด็กก็คงใช่
ก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าการเลี้ยงเด็กคงจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะกับตัวเองแต่ตอนนี้เริ่มคิดว่าน่าจะพอไหวแล้วล่ะ
“ฝันดีลูก้า”
..............................................................................
สวัสดีค่ะ
มาต่อตอนแรกแล้ววว
บอกตรงๆว่าเรื่องชื่อเราคิดค่อนข้างนานว่าจะเอาชื่ออะไรดีนะ
สุดท้ายเราก็เลือกชื่อที่เราชอบที่สุดจากการอ่านการ์ตูน555
แต่งตอนนี้แล้วรู้สึกอยากหาเด็กสักคนมาฟัดๆๆ
มารอลุ้นกันว่าสามจะเลี้ยงเด็กอย่างลูก้าด้วยวิธีไหน ยังไง
ดีใจที่หลายคนยังติดตามอยู่นะคะ
จะแต่งเรื่องนี้ออกมาให้ดีที่สุดค่ะ
สำหรับใครเคะใครเมะนั้นอยากให้รอลุ้นกันเองในตอนต่อๆไปดีกว่ามาเฉลยเนอะ
เข้าสู่มุมให้ความรู้ในเรื่องไดโนเสาร์
วันนี้ขอนำเสนอไดโนเสาร์น้ำหนึ่งในสายพันธ์ในตัวลูก้า

อีลาสโมซอรัส(Elasmosaurus) เป็นสัตว์เลื้อยคลานทะเลตระกูล เพลสิโอซอร์ ประเภทคอยาว โดยมีคอยาวกว่าครึ่งหนึ่งของลำตัวเสียอีกอาศัยอยู่ยุคครีเทเชียส 100-65 ล้านปีก่อน อีลาสโมซอรัส มีลำตัวยาว 14 เมตร (46 ฟุต) และหนักราว 2 ตัน ทำให้มันเป็นมังกรทะเลตัวยาวลำดับ รองจาก ไฮโนซอรัสสัตว์เลื้อยคลานทะเลในตระกูลโมซาร์ซอร์ มีลำตัวที่ใหญ่และ ส่วนขาเป็นครีบ 4 ข้าง ความยาวของมันมากกว่าครึ่งเป็นส่วนคอ ประกอบด้วยกระดูกมากกว่า 70 ซึ่งมีจำนวนกระดูกคอมากกว่าสัตว์ทุกชนิด ส่วนหัวค่อนข้างเล็ก และ ฟันคมกริบ
ที่มา : typeofdino.wordpress.com
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่า
บ๊ายบาย
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪