วิมานไม้สน
บทที่ 13
ตอนนี้เป็นเวลาย่ำรุ่ง ดวงอาทิตย์เพิ่งจะโผล่ขึ้นมาจับขอบฟ้า เหนือขึ้นไปยังเป็นแสงเรืองรองตัดกับท้องฟ้าที่ยังมีสีดำ สนฉัตรได้ยินเสียงนกร้องและไก่ขันขณะที่เขายืนอยู่กลางลานดินหน้าโกดังเก็บรถเช่า ไกลออกไปมีแนวขุนเขาให้พอมองเห็นบอกให้รู้ว่านี่คือพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศ สนฉัตรควรจะสดชื่นรื่นเริงในยามอาทิตย์อุทัยหากไม่ใช่ว่ากำลังยืนเผชิญหน้ากับเสี่ยบัญชาในตอนนี้
เสี่ยบัญชาไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขาจ้องมองสนฉัตรไม่วางตาขณะควักกระเป๋าสตางค์ออกจากกางเกงยีนส์สีมอแล้วล้วงธนบัตรปึกหนึ่งส่งให้สาย คนขับรถบรรทุกตาวาวก่อนจะเอื้อมมือรับและหัวเราะร่า
“โอ๊ย ลาภปากไอ้สายจริงโว้ย อย่าลืมนะไอ้สน ดูแลเสี่ยเขาดีๆ ประเคนให้ถึงใจ กูรับรองว่ามึงจะสบาย”
สายยกมือไหว้เสี่ยบัญชาแล้วก็รีบก้าวหนีไปทิ้งไว้เพียงสนฉัตรกับบัญชา สนฉัตรเหลียวหลังแลหน้าไปมาด้วยความหวาดหวั่นราวกับตนเองเป็นเหยื่อรอหมาป่าขย้ำ บัญชาเห็นอาการแล้วจึงได้กล่าวกับสนฉัตรคำแรก
“ตามมาสิ”
เขาหันหลังเดินกลับไปยังโกดังใหญ่ที่มีรถบรรทุกเปล่าจอดอยู่หลายคัน บอกให้รู้ว่าเป็นคนมีฐานะไม่น้อย ด้านในของโกดังมีโต๊ะอยู่ตัวหนึ่งที่เขาใช้สำหรับคุมบัญชีรายรับรายจ่ายและคุมเวลาเช่ารถ บัญชาตะโกนเรียกลูกน้องคนหนึ่งให้มานั่งคุมแทนเพราะเวลานี้คนขับรถบรรทุกจะเริ่มทยอยเดินทางกลับมาถึง จากนั้นเขาก็เดินนำสนฉัตรเข้าไปด้านในประตูกระจกบานหนึ่ง
ด้านในเป็นห้องทำงานติดเครื่องปรับอากาศแต่บัญชายังไม่หยุดแค่นั้น เขาผลักประตูกระจกติดฟิล์มดำหลังโต๊ะทำงานและรอให้สนฉัตรเดินเข้าไปจึงค่อยเดินตาม และหลังจากนั้นบัญชาจึงปิดประตูล็อกจากด้านใน
ทันทีที่เห็นว่าภายในคือห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีเตียงนอนขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง ฝั่งหนึ่งมีประตูห้องน้ำ หน้าเตียงมีชุดโฮมเธียเตอร์อย่างดีตั้งไว้ สนฉัตรก็สั่นเป็นเจ้าเข้า เขาหันไปหาเสี่ยบัญชาและพนมมือแนบอกพลางเอ่ยเสียงปนสะอื้น
“เสี่ย เสี่ยครับ อย่าทำอะไรผมเลย ผมไม่ได้ขายตัวครับ แค่บังเอิญไปเจอไอ้สายกลางทางแล้วมันเก็บผมมา เสี่ยครับ ผมขอร้อง”
บัญชาจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า นายสายรู้ใจเขาดีนักถึงได้หาของถูกใจมาให้ รูปร่างเล็กเพรียวหน้าตาจิ้มลิ้มผิวขาวราวหยวกกล้วย แค่เห็นแวบแรกก็ไม่ลังเลที่จะจ่ายเงินให้นายสายเป็นค่านายหน้า และบัญชาก็ไม่ใช่คนใจบุญที่จะจ่ายเงินแล้วมานั่งมองสินค้าด้วยความสงสารด้วย
“ฉันจ่ายเงินซื้อเธอมาแล้ว” เสี่ยบัญชาพูดน้ำเสียงนิ่งเรียบในขณะที่ดวงตาก็ยังจ้องสนฉัตร “ฉันไม่สนใจที่มาว่าเธอจะมาจากไหน แต่อะไรที่ฉันจ่ายไปจะต้องได้รับผลตอบแทนคุ้มค่า เอาเถอะ ถ้าเธอทำให้ฉันพอใจฉันจะให้รางวัลเธอแน่ แต่ถ้ายังอิดออดเธออาจจะได้ไปนอนในป่าโดยที่ไม่มีใครหาเธอพบตลอดไป”
สนฉัตรร้องไห้โฮ ดูจากฐานะและอิทธิพลของบัญชาแล้วสนฉัตรรู้ว่าบัญชาทำได้จริงๆ อย่างที่ขู่ แต่บัญชาไม่ได้สนใจน้ำตาของสนฉัตรเลยสักนิด
“ไปอาบน้ำ ฉันชอบคนสะอาดสะอ้าน”
ชี้มือไปยังห้องน้ำแต่สนฉัตรก็ยังคงร้องไห้ไม่เลิก บัญชาจึงกระชากแขนเรียวจนตัวปลิวให้ก้าวตามมาในห้องน้ำ สนฉัตรไม่มีเวลาชื่นชมการตกแต่งภายในแม้แต่น้อยว่าของทุกชิ้นภายในห้องลับแห่งนี้มีแต่ของราคาแพงทั้งสิ้นเมื่อบัญชาจับเขาแก้ผ้าจนล่อนจ้อน
“รูปร่างดีมาก ฉันชอบเธอนะ ขอให้ถึงใจฉันอาจจะเลี้ยงเธอไว้นานๆ ก็ได้ ชื่ออะไรนะ สนใช่ไหม”
“เสี่ย อย่าทำผม ผมขอ”
พยายามเป็นครั้งสุดท้ายแต่บัญชาก็ยังไม่เมตตา เขาคว้าฝักบัวขึ้นมาเปิดน้ำเป็นสายแล้วหันไปยังร่างบางที่ยืนเปลือยอยู่ บัญชาจัดการใช้สบู่เหลวถูไถไปทั่วสินค้าชิ้นงามก่อนจะผลักให้สนฉัตรหันหน้าเข้าผนังและสอดนิ้วแข็งเข้าไปในก้นของสนฉัตรโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
“เสี่ย ผมเจ็บ”
สนฉัตรหันกลับมามองด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวแต่บัญชามองว่าคล้ายกับลูกแมวตัวเล็กที่พยายามขู่ฟ่อมากกว่า เขาขยับเข้าชิดและล้วงนิ้วเข้าไปจนสุดความยาวพร้อมกับยิ้มอย่างพึงใจ
“คับแน่นดีมาก เอาล่ะ ข้อแรกผ่าน”
บัญชาดึงนิ้วออกมา เขาใช้น้ำล้างฟองสบู่ออกจากร่างกายของสนฉัตรและส่งผ้าขนหนูให้ผืนหนึ่งก่อนลากสนฉัตรออกมาจากห้องน้ำ และเมื่อก้าวมาหยุดกลางห้องเสี่ยบัญชาก็ถอดเสื้อผ้าของเขาจนไม่เหลืออะไรเช่นกัน เขามองสนฉัตรตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ่งชะล้างคราบดินออกแล้วก็ยิ่งมองเห็นความยั่วยวนทั้งที่อีกฝ่ายก็แค่ยืนสั่นสะท้านเท่านั้น
“เธอไม่มีทางเลือก ชีวิตของเธอคือเงินของฉัน ทางเลือกเดียวที่ทำได้คือทำให้ฉันพอใจ ถ้าเธอไม่โง่เธอต้องเข้าใจคำพูดของฉันและรู้ว่าควรจะทำอะไรในตอนนี้”
สนฉัตรหลับตาลงด้วยความปวดร้าว น้ำตาไหลลงมาเป็นทางกับชีวิตที่ผกผันครั้งแล้วครั้งเล่า และคราวนี้ก็เช่นกันที่ต้องเลือกรักษาชีวิตไว้ทั้งที่หัวใจปวดร้าวเหลือเกิน
ร่างบางขึ้นไปบนเตียงและนอนหงาย สนฉัตรมองเพดานห้องราวกับจะปล่อยให้หัวใจของเขาโผผินไปจากห้องนี้ทั้งที่ร่างกายคล้ายถูกจองจำอีกครั้ง บัญชาตามขึ้นมาบนเตียงพลางคุกเข่าอยู่ปลายเท้า เขามองสนฉัตรราวกับจะกลืนกิน แผ่นอกเนียนเรียบขาวผ่องมียอดอกสีชมพูสองเม็ดประดับอย่างงดงามต่ำลงมาเป็นเอวคอดกิ่วหน้าท้องแบนราบ จุดอ่อนไหวแค่ท่อนเนื้อเล็กอยู่บนพรมบางเบาสีดำอ่อน เขาไม่รู้ว่าสนฉัตรเป็นใครมาจากไหน รู้แต่ตอนนี้บัญชาต้องการเชยชมร่างกายนี้เหลือเกิน
มือหยาบวางลงไปบนแผงอกเรียบ ปลายนิ้วบดขยี้ยอดอกจนมันแข็งเป็นไต ลานโดยรอบออกสีแดงเรื่อจึงได้ยอมเลื่อนมือมายังแอ่งสะดือ บัญชาบีบเค้นสะโพกหนั่นแน่นก่อนจะลากมือมาที่จุดอ่อนไหวและบีบลงไป สนฉัตรถึงกับสะดุ้งเฮือก ชายหนุ่มยอมละสายตาจากเพดานห้องเพื่อสบตากับบัญชาหวังว่าจะร้องขออีกครั้ง แต่ทว่าความกระหายที่ฉายชัดออกมานั้นทำให้สนฉัตรรู้ว่าไม่มีทางที่เขาจะเปลี่ยนใจบัญชาได้
เสี่ยหนุ่มใหญ่ขยับกายขึ้นไปนั่งคร่อมเหนือหน้าอกของสนฉัตร เขาจ่อความเป็นชายที่ปากเล็ก
“ปลุกฉันหน่อย เร็วเข้า”
อีกครั้งที่สนฉัตรเกลียดริมฝีปากตนเองเมื่อมันต้องรองรับสิ่งเหล่านี้ คำขู่ก่อนหน้านี้ของบัญชาทำให้สนฉัตรต้องยอมอ้าปากและรับท่อนเนื้อนั้นเข้ามาภายใน บัญชาดันเอวเข้ามาจนแทบจะสำลักเพื่อให้สนฉัตรได้ปรนเปรอเขาด้วยลิ้นเล็กและกลีบปากนุ่ม
“อา ดีมาก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำให้ผู้ชายใช่ไหม”
บัญชาผ่อนลมหายใจ เขายังไม่อยากแตกคาปากเล็กนี่ รอจนมันขยายตัวเต็มที่จึงได้ดึงออกมาจากปากและเลื่อนตัวลงต่ำมาหยุดระหว่างขาของสนฉัตร ท่อนขาเรียวถูกยกสูงเพื่อเปิดทางให้เห็นรูจีบพับ บัญชาถ่มน้ำลายตนเองใส่มือและถูไถเข้ากับท่อนเนื้อของเขาและดันหัวเข้าไปทันที
“ฮือ ฮือ”
สนฉัตรอดไม่ไหวกับความเป็นเบี้ยล่าง เขาร้องไห้อีกครั้งเมื่อร่างกายกำลังถูกข่มเหงด้วยอำนาจ บัญชาล่วงล้ำเข้ามาเต็มที่พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนา และขับเคลื่อนตนเองไปสู่ความสุขสมแม้ว่าสนฉัตรจะไม่เต็มใจเลยก็ตาม
“ขยับสิ นอนนิ่งอยู่ทำไม”
บัญชาช้อนยกสะโพกของสนฉัตรขึ้นมาและสาวเอวเป็นจังหวะ แม้ว่าจะไม่เต็มใจแต่ร่างกายยามถูกล่วงล้ำก็ยังตอบรับโดยสัญชาตญาณของมนุษย์ สนฉัตรจำเป็นต้องปล่อยให้ความต้องการนำทางอย่างน้อยเพื่อเอาชีวิตรอด
“เสี่ย เสี่ยครับ ตรงนั้น”
เมื่อสนฉัตรเริ่มมีอารมณ์ร่วมบัญชาก็ส่งเสียงออกมาอย่างพอใจที่ทำให้คู่นอนคล้อยตามได้ เขาจับสนฉัตรนอนคว่ำกางขาจากนั้นจึงออกแรงขย่มลงไปจนเตียงสะเทือน
“ให้มันได้อย่างนี้สิ สะใจจริงโว้ย”
สบถออกมาอย่างลืมตัวเมื่อปลดปล่อยออกมาในที่สุด บัญชาดึงกายออกมานอนแผ่เคียงข้างสนฉัตรที่นอนคว่ำฝังหน้าลงบนหมอนพลางหอบหายใจหนัก รอจนต่างก็หายเหนื่อยบัญชาจึงดึงเอวสนฉัตรเข้ามากอด
“เธอนี่มันสุดยอดจริงๆ ลีลาเด็ดจนไม่อยากจะเชื่อ หน้าตาก็ยั่วฉิบ เห็นแล้วเกิดอารมณ์ตลอด เอาเป็นว่าฉันติดใจเข้าแล้ว ถ้ายังไม่มีที่ไปก็อยู่เสียที่นี่แหละ เมียฉันมันก็อยู่แต่ที่บ้านไม่ค่อยได้มาข้องแวะที่นี่หรอก ฉันจะเลี้ยงเธอเอง เอาไหมสน มีที่กินอิ่มท้อง นอนหลับสบายในห้องแอร์ งานของเธอมีแค่บนเตียงให้ฉันสุขสบาย หรืออยากจะไปเสี่ยงตายข้างนอก”
คำพูดกึ่งข่มขู่นั้นทำให้สนฉัตรคิดหนัก หากเขาไม่ยอมทำตามข้อเสนอของเสี่ยบัญชาสนฉัตรก็ยังหาทางออกไม่เจอว่าจะไปทำอะไรที่ไหน ความรู้ก็มีแค่มัธยมต้นแบบพอสอบผ่านจะไปหางานที่ไหนก็คงไม่มีใครรับ จะไปอยู่ไหนก็ไม่รู้จักใครสักคน เสี่ยบัญชาเองก็ไม่ได้มีทีท่าโหดร้ายเท่าใดนักเพียงแค่ยอมกลับมาเป็นนกน้อยอีกครั้ง อาจจะไม่ได้กรงทองอย่างเมื่อก่อนแต่ก็พอมีที่คุ้มหัว
“เสี่ยจะเลี้ยงผมจริงใช่ไหม ไม่หลอก ไม่ทำร้ายผมใช่ไหม”
สนฉัตรถอนสะอื้นพลางเอ่ยถามเสียงอ่อน เสี่ยบัญชาเปิดตู้หัวเตียงดึงเงินปึกหนึ่งออกมาแล้วส่งให้สนฉัตร
“นี่เงินก้อนแรกที่ฉันให้ เก็บไว้ซื้อเสื้อผ้าดีๆ มาใส่ แล้วถ้าเธอทำให้ฉันชอบล่ะก็ ก้อนต่อไปจะมาเรื่อยๆ”
รับเงินมาพลางคิดในสมอง ร่างกายของสนฉัตรก็ไม่ใช่บริสุทธิ์ผุดผ่องที่ไหน เขาเองก็เคยผ่านการเป็นไม้ประดับให้กับทรงเดชมาแล้ว การทำตามใจตนเองด้วยการเลือกหนีไปกับจิรัชก็ไม่ใช่หนทางที่ดีอย่างที่ใจฝัน หากจะต้องใช้ร่างกายนี้เพื่อเอาตัวรอดสนฉัตรจำเป็นต้องทำ
“ถ้าเสี่ยรับปาก ผมยอมก็ได้”
บัญชาหัวเราะลั่น เขาดึงสนฉัตรมาจูบ นึกถูกใจทั้งที่ไม่รู้ประวัติความเป็นมาแต่บัญชาก็ไม่สนใจ เขาสนแค่ว่าร่างกายนี้ทำให้เขาสุขสมอย่างไม่เคยได้พบที่ไหนมาก่อน
“ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มงานของเธอได้แล้ว ทำให้ฉันมีความสุขอีกสักรอบก่อนจะออกไปทำงานต่อสิสน”
ชีวิตที่ไม่มีทางเลือก หรือถ้ามีสนฉัตรก็จำเป็นต้องเลือกทางนี้ ความเจ็บช้ำทั้งหมดถูกโยนไว้เบื้องหลังเมื่อสนฉัตรต้องปลุกใจตนเองก่อนจะขยับขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนเอวของบัญชา เขาจับท่อนเนื้อไว้และกดเอวลงไปจนสุดโคน
หลับตาลงและปล่อยตนเองไปกับจินตนาการ น่าแปลกที่ในความมืดมิดหลังเปลือกตากลับมีภาพของปวิธปรากฏขึ้น ผู้ชายคนนั้นจะรู้หรือไม่ว่าสนฉัตรมีลมหายใจอยู่ที่ไหนสักแห่งที่ห่างไปจากเขาคนนั้น ปวิธจะรู้หรือเปล่าว่าสนฉัตรต้องใช้เขาเพื่อขับเคลื่อนพาคนเบื้องล่างและตนเองไปสู่จุดหมาย
“อา ดีมาก สน เซ็กซี่มาก”
ไม่รู้ว่าบัญชาเอ่ยอะไรอีกแต่สนฉัตรกัดฟันเมื่อร่างกายไต่ระดับไปสู่จุดหมาย สนฉัตรพยายามอย่างหนักที่จะไม่ส่งเสียงให้พ้นออกมาจากไรฟัน
“อึก เปลว อ๊า”
ร่างบางทิ้งกายลงไปกับอกของผู้ชายคนใหม่ทั้งที่ยังโหยหาอดีตที่ผ่านมา
มีต่ออีกนิด.....