บทที่13 แผ่นดินกับดอกทานตะวัน
กว่าจะสลัดคำว่า ‘มึงไม่รอดแน่’ ที่ไอ้ดินพูดทิ้งไว้ก่อนออกจากห้องก็ใช้เวลาอยู่นานโขกว่าสติและสมาธิจะกลับมาอ่านหนังสือได้ ผมอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ ดูนาฬิกาอีกทีก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ไอ้ดินเพิ่งหายไข้นอนดึกคงไม่ดี คิดได้ดังนั้นจึงเดินออกไปตามให้มันเข้ามานอน
“หิวเหรอ” ไอ้ดินเงยหน้าจากหนังสือเมื่อเห็นผมเปิดประตูห้อง
“ป่าวจะมาตามมึงให้ไปนอน มึงยังไม่หายดี นอนได้แล้ว”
“มึงง่วงแล้วเหรอ” แหนะไม่ตอบ แต่ถามกลับน่าตบจริงๆ
“ยังอ่ะ จะอ่านต่ออีกสักพัก”
“งั้นกูก็ยังไม่นอน จะนอนพร้อมมึง”
“ไอ้ดิน!!”
“โอเคๆ นอนก็ได้คร้าบ”
“ยาก่อนนอนก็อย่าลืมกินล่ะ”
“ครับแม่” ผมรีบค้อนขวับ..คนอุตส่าห์เป็นห่วงตบคว่ำเลยดีมะ
“กูออกไปอ่านข้างนอกนะ เปิดไฟเดี๋ยวมึงนอนไม่หลับ” ผมพูดพร้อมกับหยิบหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงในขณะที่ไอ้ดินกำลังล้มตัวลงนอน
“ไม่เอา กูนอนได้ มึงอ่านในห้องนี่แหละ” ไม่พูดเปล่าไอ้ดินเอื้อมมือมาจับแขนผมไว้พร้อมกับสายตาออดอ้อน ตั้งแต่คบกันไอ้ดินมีความอ้อนเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว มันก็ดีอยู่นะที่มันอ้อนแบบนี้ แต่มันไม่ดีต่อหัวใจผมเท่าไหร่!! มันทำงานหนักเกินไป
ไม่ชินสักทีถึงจะเป็นแฟนกันแล้วก็ตาม!!
สุดท้ายเลยจำยอมนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะข้างเตียงเหมือนเดิม อ่านไปสักพักก็เริ่มรู้สึกไม่มีสมาธิ ก็จะให้มีได้ไงล่ะ ก็ไอ้ดินเล่นนอนจ้องผมด้วยสายตาวาววับอยู่แบบนี้
“จะจ้องกูอีกนานมั้ย”
“หน้าตอนมึงตั้งใจ น่ารักจัง”
“เฮ้อ!! ถ้าไม่เลิกจ้องกูออกไปอ่านข้างนอกนะ”
“โอเคครับๆ ไม่จ้องแล้ว” พูดเสร็จมันก็พลิกตัวหันหลังให้ผม
ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่นานก็ได้ยินเสียงหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ยาออกฤทธิ์ช่วยให้ผมได้อ่านหนังสือสักที..
ผมเข้านอนตอนตีสอง ล้มตัวลงนอนช้าๆข้างไอ้ดินพร้อมกับกอดมันไว้หลวมๆเหมือนคนโดนกอดจะรู้สึกตัวไอ้ดินพลิกตัวกลับมาแล้วกอดผมให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดแทน
“ฝันดี..ดอกไม้” ไอ้ดินกระซิบบอกเบาๆ ก่อนจะจูบที่หน้าผากผมอย่างอ่อนโยนพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น น่าแปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกอึดอัดกลับซุกตัวนอนหลับตาพริ้มในอ้อมกอดที่อบอุ่นของไอ้ดิน..รู้สึกว่าคืนนี้ต้องนอนหลับฝันดี..
เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่สดใส เมื่อคืนผมนอนฝันดีด้วยจริงๆสิ
หยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาดูเวลา เก้าโมง ว่าแต่ไอ้ดินไปไหน?
เดินออกจากห้องนอน ภาพที่เห็นคือไอ้ดินใส่ผ้ากันเปื้อนกำลังง่วนอยู่ที่หน้าเตาโดยมีเจ้าเหมียวสามตัวคลอเคลียอยู่ที่ขา
ผมอดยิ้มกับภาพที่เห็นไม่ได้ นี่สิพ่อบ้านในแบบที่มันอยากเป็น
“ทำอะไรครับคุณพ่อบ้าน” ผมอดไม่ได้ที่จะแซวมัน
“ตื่นแล้วเหรอ มานั่งนี่สิ” ไอ้ดินหันมาบอกผมด้วยรอยยิ้มละมุน ให้ตาย!!ไม่ชินสักที รอยยิ้มของมันมีผลต่อการเต้นของหัวใจผมจริงๆ
“ข้าวต้มกุ้ง กับกาแฟ” เห็นกุ้งสีส้มตัวงอในชามข้าวต้มก็นึกถึงไอ้พี่น้ำ 'ตัวแดกกุ้ง' ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของมันกับไอ้ปูนคืบหน้าไปถึงไหนละ หลังสอบเสร็จต้องจับเข่าคุยกับไอ้ปูนสักหน่อย!!
“มึงไปซื้อกุ้งมาตอนไหนวะ” ผมจำได้ว่าในตู้เย็นไม่มีกุ้ง
“กูไปตลาดมาตอนเช้า” สมกับเป็นพ่อบ้านตัวจริงกระทิงแดง!!
“เดี๋ยวตอนบ่ายกูจะให้พวกไอ้หมีช่วยขนของที่หอกูมาบ้านมึงนะ”
“ไอ้ดิน”
“ว่าไง”
“กูว่ามึงย้ายเข้ามาหลังสอบเสร็จดีมั้ย”
“ทำไม มึงไม่อยากอยู่กับกู?” สีหน้ามันดูผิดหวัง
“ไม่ใช่ คือช่วงสอบกูต้องการสมาธิ”
“...” จะบอกมันยังไงดีวะ ว่าตอนอยู่กับมันผมมักจะเกร็ง และยังตื่นเต้นกับสัมผัสของมันอยู่ ยิ่งอยู่ด้วยกันมันยิ่งชอบฉวยโอกาสกับผมอยู่เรื่อยสมาธิของผมก็ยิ่งเตลิดไปไกล
“คือ..”
“เข้าใจแล้ว” อ้าว แล้วทำไมสีหน้ากับน้ำเสียงมันถึงเรียบเฉยแบบนี้ล่ะ แล้วทำไมกูต้องรู้สึกผิดด้วยวะ!!
“ไอ้ดิน”
“กินก่อนเหอะ เดี๋ยวข้าวจะหายร้อน”
เราต่างนั่งกินข้าวไปเงียบ ไอ้ดินก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรแต่มันทำให้ผมอึดอัด..
“ก็ได้ ตอนบ่ายไปขนของกัน” แล้วผมก็เป็นฝ่ายพูดก่อน ไม่ชอบเห็นสีหน้าเรียบเฉยของมันเลยเห็นแล้วใจไม่ดี
“ไม่เป็นไร รอหลังสอบเสร็จก็ได้กูเข้าใจมึง” เข้าใจแล้วทำไม มึงต้องงอนก็ด้วยวะหน้าจะนิ่งไปไหนนึกว่าเป็นแฟนกันแล้วกูจะไม่ได้เห็นโหมดนี่แล้วซะอีก
“เข้าใจว่าอะไร”
“มึงต้องการสมาธิไม่อยากให้กูรบกวน”
“เฮ้อ กูอยากอยู่กับมึงนะดิน แต่กูกลัว”
“กลัวอะไร”
“กลัว..ช่างเหอะ เอาเป็นว่าถ้ามึงอยากจะย้ายมาวันนี้กูก็ไม่ขัด”
“กลัวอะไรบอกมา คุยกันให้เข้าใจ” สัด มันพูดง่ายซะที่ไหนล่ะกูก็หน้าบางเหมือนกัน
“...”
“พู่กัน”
“กูกลัวมึงจะจับกดกู!! พอใจรึยัง” ในที่สุดผมก็โพล่งออกไป แมร่ง!!
“ฮ่าๆ โธ่ดอกไม่ กูบอกแล้วไงว่าหลังสอบเสร็จ!!”
“จะจูบจะหอมก็ไม่ได้ มันทำให้สมาธิกูหาย กว่าจะเรียกกลับมาได้เสียเวลาอ่านหนังสือกูหมด” ผมก้มหน้างุด อธิบายด้วยเสียงเบา
“ขอโทษ เอาเป็นว่ากูเข้าใจแล้วกูจะไม่รุ่มร่ามกับมึงแต่ให้กูย้ายมาวันนี้เถอะนะ ถ้ากูไม่ได้ย้ายมาวันนี้กูก็คงไม่มีสมาธิอ่านหนังสือเหมือนกัน”
“...” น้ำเสียงจริงจังแต่แววตากับอ่อนโยน ทำให้ผมไม่สามารถปฎิเสธได้เลย
“ตามใจมึง แต่สัญญาแล้วนะว่าจะไม่รุ่มร่ามกับกู”
“สัญญา” แล้วไอ้ดินก็ยื่นนิ้วมาเกี่ยวก้อยสัญญากับผม พร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ..กูจะเชื่อใจมึง
แก้วกาแฟเซรามิคสองใบ ใบนึงเป็นแก้วสีขาวเพ้นท์รูปแมวสีดำ ส่วนอีกใบนึงเป็นแก้วสีดำเพ้นท์รูปแมวสีขาว..แก้วคู่!! กับรองเท้าสลิปเปอร์ใส่ในบ้านสองคู่ คู่นึงสีขาวส่วนอีกคู่สีดำที่สกรีนเป็นรูปหนวดแมว..เกิบคู่!!
งานคู่ก็มา..มาจากไหนล่ะ?ก็มาจากเพื่อนผู้น่ารักน่าตบที่นั่งหน้าสลอนอยู่ในบ้านผมตอนนี้ไง หลังจากที่ไปช่วยขนของจากหอไอ้ดินมาที่บ้านผม ซึ่งของก็มีเยอะมาก(ประชด)ผมกับมันช่วยกันย้ายแค่สองคนก็ได้ ไม่รู้จะเรียกพวกนี้มาเป็นสักขีพยานทำไม
“ของอภินันทนาการจากกูใช้ดีๆนะเว้ย อย่าให้แตกกูซื้อมาแพง” ไอ้สมใจพูดพร้อมกับหยิบแก้วคู่ที่มันซื้อมาดูอย่างภาคภูมิใจ
“ใครซื้อพูดให้มันดีๆมึงออกเงินแค่ร้อยเดียว อีกสี่ร้อยกูออก” ไอ้นพพูดพร้อมกับทำหน้าเอือมใส่ไอ้สมใจ
“เอาน่าๆ เหมือนกันนั้นแหละ กูบอกให้มึงซื้อแก้วพลาสติกมึงก็ไม่ยอมซื้อเอง ถูกก็ถูก ไม่แตกง่ายๆด้วย”
“มันไม่ชิค!!”
“เออ งั้นมึงออกสี่ร้อยก็ถูกแล้วซื้อความชิคของมึงไง” ไอ้สมใจพูดพร้อมกับตบบ่าไอ้นพ สงสารไอ้นพมันจริงๆที่มีเพื่อนอย่างไอ้สมใจ มึนได้มึนดี..เออกูก็เพื่อนมันด้วยนี่หว่า!!
“รองเท้ามึงใส่สีดำนะ ให้ไอ้ดินใส่สีขาว” ไอ้ปูนกำชับบอกผม
“ทำไมกูต้องใส่สีดำ?” ผมถามกลับอย่างสงสัย
"ก็สีดำมันคือตัวแทนของไอ้ดินไง ส่วนมึงก็สีขาว มึงใส่สีดำน่ะถูกแล้ว" ตรรกะไรของมึงว่ะ ไอ้ปูน
“ส่วนนี่ของกู” ไอ้หมีพูดพร้อมกับยัดกล่องอะไรสักอย่างลงมาในกระเป๋ากางเกงของผม ผมเลยล้วงขึ้นมาดู..
ไอ้สัด!! ถุงยาง กลิ่นสตอเบอรรี่ซะด้วย!!
“โทษๆ กูให้ผิดคนมึงได้ใช้ก็จริงแต่มึงไม่ใช่คนใส่” แล้วมันก็คว้ากล่องถุงยางที่อยู่ในมือผมยื่นให้ไอ้ดินแทน ไอ้ดินก็ยื่นมือไปรับหน้าตาเฉย!!
“ทดลองใช้คืนนี้เลยนะมึง” ไอ้สมใจกระชิบกระซาบบอกไอ้ดิน
“ไม่ได้ สัญญาไว้แล้วว่าหลังสอบเสร็จ” ไอ้ดินตอบหน้านิ่ง
“ไอ้ดิน!!” มึงจะป่าวประกาศเพื่อ!!
“กลับได้แล้วพวกมึงอ่ะ” ผมรีบไล่ไอ้พวกนี้กลับทันที ยิ่งอยู่ผมก็ยิ่งเหมือนเป็นเป้านิ่งให้พวกมันได้เทะโลม
“พอพวกกูหมดประโยชน์ก็เฉดหัวทิ้งเลยนะมึง” ไม่ทันที่จะได้เถียงกับไอ้หมีต่อ เสียงไอ้พี่น้ำก็ดังขึ้นมาขัดซะก่อน
“มาแล้วๆ” เสียงไอ้พี่น้ำตะโกนมาแต่ไกล มันเดินเข้ามาพร้อมกับถุงหิ้วพะรุงพะรัง
“ผมช่วยครับ” ไอ้ปูนรีบรับถุงจากไอ้พี่น้ำมาช่วยถือ
“ขอบคุณครับ” รอยยิ้มละมุนนี้คือรัย? หมั่นไส้!!
“คู่นี้แปลกๆ มึงว่ามั้ย” แล้วไอ้หมีหันมากระชิบกับผม จะว่าไปตั้งแต่ไปกินชาบูครั้งก่อนว่าจะคุยเรื่องนี้กับไอ้หมีก็ยังไม่คุยสักที
“มึงว่าไงถ้าสองคนนี้มันจะคบกัน”
“เห้ย!! แล้วแฟนมันที่ญี่ปุ่นล่ะ” ไอ้หมีเริ่มลดเสียงลงทันทีแล้วกระซิบถามผมเสียงเบา
“เลิกกันแล้ว”
“เห้ย!! กูงง แล้วมันกับพี่น้ำอะไรยังไงเมื่อไหร่วะ”
“กูก็งงพอๆกับมึงนั้นแหละ” ผมหยุดคุยเมื่อเห็นทุกคนที่เข้าไปช่วยไอ้พี่น้ำในครัวเดินออกมา
“ไม่ช่วยกันเลยนะมึง กะรอแดกอย่างเดียวรึไง” ไอ้สมใจบ่นไม่จริงจังนักพร้อมกับวางจานส้มตำลงบนโต๊ะ
“เออ ก็กูสายแดกไหนมีไรให้แดกบ้าง” ไอ้หมีรีบปรับอารมณ์อย่างรวดเร็ว แต่สีหน้ามันก็มีความสงสัยอยู่เมื่อมันมองไปที่ไอ้ปูนกับไอ้พี่น้ำ
“มื้อนี้กูเลี้ยงเอง ต้อนรับน้องเขยเข้าบ้าน” ปาร์ตี้อาหารอีสาน อีกแระ..
“นี่ของมึงโดยเฉพาะ ตำไทยใส่พริกสองเม็ด” แล้วไอ้พี่น้ำก็เลื่อนจานส้มตำมาที่ผม..กูควรซึ้งมั้ย?
“ส่วนนี่ของน้องปูน ไก่ย่างเดี๋ยวพี่ฉีกให้นะครับ”
“...” เหมือนทุกคนยกเว้นไอ้ปูนจะอึ้งกับเสียงสองของไอ้พี่น้ำที่คุยกับไอ้ปูน ส่วนไอ้ปูนนะเหรอ..หน้าแดงยิ่งกว่าพริกในจานส้มตำซะอีก!! เหอะ..ออกหน้าออกตาเลยนะมึง
“กินๆ อึ้งแดกอะไรพวกมึง ไม่เคยเห็นคนจีบกันรึไง”
“เห้ย!!” ไอ้หมี ไอ้นพและไอ้สมใจต่างประสานเสียงพร้อมกัน
“อย่าเพิ่งถามอะไร แดกก่อนกูหิว” ไอ้พี่น้ำพูดพร้อมกับตักส้มตำใส่ปากคำโตก่อนจะฉีกไก่ย่างให้ไอ้ปูน
ทุกคนยกเว้นเจ้าของเรื่องกินข้าวด้วยความงงปนสงสัย มีเพียงแต่ไอ้ดินที่แดกได้หน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เพราะสกิลการเผือกของมันติดลบยังไงล่ะ!! ผมควรจะดีใจรึป่าวที่มีแฟนไม่ขี้เผือก..
“ยังไงๆ เล่ามาไอ้ปูน” หลังจากปาร์ตี้อาหารอีสานจบลงไอ้หมีก็ดึงตัวไอ้ปูนมานั่งที่โซฟาเตรียมซักฟอกเต็มที่
“จริงเหรอว่ะที่พี่น้ำจีบมึง” ไอ้สมใจรีบซักทันควัน
“อื่อ”
“เมื่อไหร่ทำไมกูไม่รู้ มึงคิดจะมีความลับกับพวกกูเหรอ” ไอ้หมีโวยวายไม่จริงจังนัก
“ป่าว ไอ้พู่ก็รู้” ไอ้ห่า โยนมาที่กูเฉย
“อ้าว เนียนเลยนะมึงไหนบอก มึงก็งงเหมือนกูไง” ไอ้หมีหันมาโวยวายใส่ผมแทน
“กูก็เพิ่งรู้เมื่อวาน แต่มันไปสปาร์คกันตอนไหนอันนั้นกูก็ไม่รู้” อันที่จริงมันจะสปาร์คกันตอนไหนก็ไม่สำคัญหรอก แค่อย่าปิดบังเราก็พอเมื่อถึงเวลาที่คบกัน
“งั้นเล่ามา”
“ก็ไม่มีอะไร พี่เค้ากำลังจีบกู”
“แล้ว?”
“อีกไม่นานกูก็คงให้คำตอบพี่เค้า”
“คำตอบดีหรอไม่มีวะ”
“คิดว่าดีนะ” ไอ้ปูนเอียงหน้าตอบแบบอายๆ เพราะมันน่ารักแบบนี้ไงไอ้พี่น้ำมึงได้หลงหัวปักหัวปำแน่
ผมเงยหน้าขึ้นสบตาเข้ากับไอ้พี่น้ำพอดี ไม่รู้มันเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้อย่างเดียวว่าตอนนี้มันยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งที่ได้ยินคำตอบของไอ้ปูน
“น้องปูนกลับกันเถอะเดี๋ยวพี่ไปส่ง แวะกินไอติมก่อนแล้วค่อยอ่านหนังสือต่อดีมั้ย?”
“อ้าวพี่ พวกผมล่ะไปด้วยดิ”
“ไม่ได้โว้ย เขาจะสวีทกันสองคนมึงมาเกะกะป่าวๆ”
“ไรว้า ไม่รักน้องเลย” ไม่หมีแสร้งทำหน้าเศร้า
“ไม่รัก กูรักน้องปูนคนเดียว”
“ฮิ้ววววว” เสียงแซวประสานขึ้นทันทีพร้อมกับหน้าแดงๆของไอ้ปูน..หมั่นไส้คนมีความรัก
แล้วไอ้คนในความรักของผมมันหายหัวไปไหนวะ อ่ออยู่นี่เอง ไอ้ดินกำลังล้างจานอยู่ในครัวทำหน้าที่พ่อบ้านได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เดี๋ยวหลังสอบเสร็จผมจะมอบโล่พ่อบ้านดีเด่นให้เป็นรางวัล!!
แล้วช่วงสอบก็มาถึง ผมอ่านหนังสือมามากพอก่อนสอบ ช่วงสอบจึงไม่ต้องอ่านจนหามรุ่งหามค่ำมากนัก แต่ก็เครียดกับมันพอสมควร การที่ไอ้ดินย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันก็ไม่ทำให้สมาธิผมเสียมากเท่าไหร่ เพราะมันก็ไม่ได้รุ่มร่ามกับผมตามที่มันสัญญาไว้ เพราะมันก็ต้องมีสมาธิกับการสอบเช่นกัน
แต่ความรู้สึกยังไม่คุ้นชินสักเท่าไหร่ที่เห็นของใช้หลายอย่างจากที่มีอันเดียวกลายมาเป็นคู่อย่างแปรงสีฟันที่นอนโดดเดี่ยวเดียวดายในห้องน้ำตอนนี้ก็มีคู่มานอนเคียงข้างไม่อ้างว้างอีกต่อไป!! เวลาดื่มกาแฟในตอนเช้าก็จะมีความเขินหน่อยๆเพราะแก้วคู่สกรีนรูปแมวที่เพื่อนผู้น่ารักน่าาตบซื้อให้เป็นของขวัญ มันช่างจั๊กจี้ใจดีแท้เวลาที่ยกแก้วขึ้นมาดื่ม
แต่ความรักที่เรามีให้กันก็ยังเหมือนเดิม ผมก็ยังนอนในอ้อมกอดของมันทุกคืน ไอ้ดินจะตื่นก่อนผมเป็นประจำและเป็นคนปลุกผมเสมอ และทุกๆเช้าจะมีอาหารเช้าเตรียมไว้ มันคือการเอาใจใส่เล็กๆน้อยๆแต่พอมันทำสม่ำเสมอมันก็ทำให้ผมซึ้งใจและสุขใจไม่น้อย..
“พู่ตื่นได้แล้ว” นี่ก็เป็นอีกเช้าหนึ่งที่ไอ้ดินปลุกผม
“อื่อ ขออีก5นาที”
“ไม่ได้เดี๋ยวไม่ทัน”
“...” ไม่สน ขออีก5นาที เมื่อคืนเครียดกว่าจะขมตานอนได้ ไม่ใช่เครียดเพราะเรื่องสอบนะ เครียดเพราะว่าวันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของผม ส่วนไอ้ดินสอบเสร็จตั้งแต่เมื่อวาน สอบเสร็จหมายความว่าไงนะเหรอ เหอะๆ อย่างที่ทุกๆคนรู้กันนั้นแหละครับ เหมือนกำลังนับถอยหลังรอวันโดนเชือดยังไงก็ไม่รู้!!
“ไม่ตื่น จูบนะ”
พรึ่บ รีบลุกด้วยความเร็ว ขู่แบบนี้คิดว่ากลัวเหรอ เออ กูกลัว!!
บนโต๊ะอาหารวันนี้รู้สึกว่าจะจัดเต็มกว่าทุกวันคงเพราะไอ้ดินสอบเสร็จแล้วเลยมีเวลาเตรียมมากกว่าทุกครั้ง
“กินเยอะๆ เดี๋ยวคืนนี้อาจจะได้ใช้แรงเยอะ”
“...” มือที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากถึงกับชะงัก สายตาตอนมันพูดก็กรุ้มกริ่มเหลือเกิน นิ้วจิ้มให้ตาบอดเลยดีมะ!!
“เอ้า รีบๆกินเดี๋ยวก็ไปสอบไม่ทันหรอก”
“กินไม่ลง ไปละแล้วมึงก็ไม่ต้องไปส่งวันนี้กูไปเอง”
“เดี๋ยว” ไอ้ดินรีบคว้าแขนผมเอาไว้ก่อนที่ผมจะลุกออกจากโต๊ะ
“...”
“ขอโทษ กูแค่แซวเล่น กูไม่ทำอะไรมึงหรอกถ้ามึงไม่เต็มใจ กูก็ไม่อยากเห็นคนที่กูรักต้องฝืนใจเหมือนกัน” มันพูดพร้อมกับบีบมือผมเบาๆให้ผมมั่นใจในคำพูดของมัน
“นั่งลงแล้วกินข้าว แล้วเดี๋ยวกูไปส่งนะ” ผมเชื่อในคำพูดของมันเลยยอมนั่งลงกินข้าวแต่โดยดี
“ตั้งใจสอบนะ สอบเสร็จเดี๋ยวกูมารับ” ไอ้ดินบอกก่อนที่ผมจะลงจากรถ
“อืม สอบเสร็จแล้วจะโทรหา”
“สู้ๆ”แล้วมันก็โน้มหน้ามาจุ๊บหน้าผากผมเบาๆ ..มึงก็เป็นอีกกำลังใจนึงที่สำคัญสำหรับกูเหมือนกัน..
ร้านโต๊ะกลม เวลาสามทุ่มคราคร่ำไปด้วยผู้คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่สอบเสร็จแล้ว ที่ออกมาฉลองหลังสอบเสร็จเพื่อปลดปล่อยความเครียด รวมถึงพวกผมที่ตอนนี้กำลังนั่งจิบเบียร์ที่ไม่ได้ดื่มมานานตลอดช่วงสอบ (นานจริงหรา!!)
“พวกมึง ปิดเทอมไปเที่ยวทะเลกันมั้ย” ไอ้สมใจเริ่มเปิดประเด็น ยังไม่ทันที่จะได้ออกความเห็น ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญมานั่งเบียดข้างๆไอ้ดิน
“น้องดิน” พี่แปมพี่สาวคัพอี เจ้าเก่าเจ้าเดิมจะใครล่ะ
แม่เจ้าโว้ย แหกกว่านี้มีอีกมั้ย สายเดี่ยวเสียวหลุดจริงๆ เสื้อสายเดี่ยวที่ผูกเป็นโบว์ที่ไหล่ทั้งสองข้างคอเสื้อก็เหว้าลึกแทบจะถึงสะดือ ถ้ากระตุกให้โบว์บนบ่านั้นหลุดไม่อยากจะคิดภาพเล้ย !!
ตัดภาพมาที่ไอ้หมีที่ตอนนี้มองพี่แปมจนน้ำลายแตกไม่เก็บอาการเลยสักนิด รวมถึงไอ้สมใจกับไอ้นพที่ตอนนี้เลือดกำเดาแทบพุ่ง ส่วนไอ้ปูนก็จองหน้าอกคู่นั้นด้วยความฉงน มึงคงกำลังวิเคราะห์สินะว่าแม่หรือหมอที่เป็นคนใหม่มา..
“หวัดดีครับ พี่แปม” หน้าของไอ้ดินนิ่งไม่แสดงอาการใดๆ ส่วนผมนะเหรอรู้สึกหนังตามันกระตุกๆพิกล!!
“พี่ขอนั่งรอเพื่อนได้มั้ยคะ นัดเพื่อนไว้แต่ยังไม่มากันเลย” สายตาที่มองไอ้ดินแทบจะกลืนกิน ถ้ากินได้ไอ้ดินคงโดนแดกลงท้องไปนานละ
“เชิญครับ นั่งนานๆเลยก็ได้ครับ” ไอ้หมีตอบด้วยสายตาหื่นกระหาย ถ้าเป็นเมื่อก่อนกูคงกระหายตามมึงแต่ตอนนี้บอกเลยว่า ไม่!! แถมยังหงุดหงิดใจอีกต่างหาก
“พี่แปมดื่มเบียร์ด้วยกันก่อนนะครับ” ไอ้สมใจยื่นแก้วเบียร์ให้กับพี่แปมด้วยท่าทางระริกระรี้
“ขอบใจจ๊ะ ว่าแต่น้องอีกสามคนพี่ยังไม่รู้จักเลย พี่ชื่อแปมนะคะเป็นรุ่นพี่ที่คณะของน้องดิน สมใจ และก็นพ” เห็นหัวกูแล้วเหรอจ๊ะ นั่งตั้งนาน ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องคล้องแขนไอ้ดินไว้ด้วย ไอ้นั่นก็นั่งหน้านิ่งมองมาที่ผมเหมือนให้ผมเห็นใจส่วนมือก็พยายามแกะมือที่เกาะแน่นเหมือนกับปิงของพี่แปมออกแต่ก็ไม่ยอมหลุดสักที
“ผมชื่อกู๊ดครับ ส่วนนี่พู่กัน แล้วก็ปูนครับ” ไอ้หมีเริ่มเสนอหน้าแนะนำตัวเองทันที ยังไม่ลืมกันใช่มั้ยครับว่าจริงๆแล้วมันชื่อกู๊ดไม่ได้ชื่อหมี
“น้องพู่กัน คนที่ดินเคยลงรูปในเฟสใช่ป่ะ มีแต่คนเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนกัน ดินของเราก็นี่หน้าตีจริงๆแกล้งเพื่อนแบบนี้ไม่น่ารักเลย” ดินของเรา!? คือไร? แล้วทำไมต้องซบไหล่มันด้วย
สถานการณ์แบบนี้ผมควรทำยังไง ตะโกนออกไปเลยมั้ยว่า ผมนี่แหละแฟนมัน!! แล้วทำไมไอ้ดินไม่ทำอะไรสักอย่างวะ น่าหงุดหงิดจริงๆ
“
ไม่ได้เข้าใจผิดกันหรอกครับ พู่กันเป็นแฟนผมจริงๆ!!” มันต้องอย่างนี้สิ หน้าที่งอง้ำของผมยิ้มออกมาในทันที ไอ้ดินลุกขึ้นยืนแล้วย้ายมานั่งข้างผม พร้อมกับจับมือผมแล้วประสานนิ้วเข้าด้วยกัน
“ฮ่าๆ น้องดินก็ เลิกอำได้แล้ว”
“
ไม่ได้อำครับ ผมเป็นแฟนดิน เราเป็นแฟนกันครับ” ด้วยอารมณ์หวงผมจึงต้องแสดงความเป็นเจ้าของ..ก็มันเป็นสิ่งที่ผมต้องทำนี่นา ไอ้ดินถึงกับยิ้มแก้มปริที่ผมแสดงตัวว่าเป็นแฟนมัน
“พวกมันเป็นแฟนกันจริงๆครับ แล้วตอนนี้ไอ้ดินก็ย้ายมาอยู่บ้านของไอ้พู่แล้วด้วย” ไอ้ปูนที่นั่งนิ่งมานาน ช่วยพูดยืนยันให้อีกคน ครอบครัวเดียวกันมันต้องช่วยกันแบบนี้สิ พี่สะใภ้กู!!
“ใช่ครับ ไอ้ดินตามจีบไอ้พู่ตั้งนานกว่าไอ้พู่จะตอบตกลง พวกผมก็ลุ้นแทบตาย” ไอ้หมีช่วยตอกย้ำความจริงเข้าไปอีก คือไอ้พวกนี้มันก็รู้ว่าผมอึดอัดกับสถานการณ์แบบนี้ จึงช่วยไขข้อกระจ่างให้พี่แปมและเป็นเชิงไล่กลายๆ
“หุ่นสะบึ้มไม่ใช่สเป๊กไอ้ดินมันหรอกพี่..” ไอ้สมใจพูดไม่ทันจบประโยคพี่แปมก็โพล่งขึ้นมาซะก่อน
“พอ!! ฉันรู้แล้ว ผู้ชายกินกันเองเสียของชะมัด!!” พูดจบพี่แปมก็สะบัดตูดออกจากโต๊ะไปอย่างหัวเสีย
“ปล่อยมือได้แล้ว” ผมหันไปบอกไอ้ดิน ตอนนี้มือของเราทั้งคู่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“จับไว้แบบนี้แหละ คนจะได้รู้ว่ากูมีเจ้าของแล้ว” สายตาพราวระยับของไอ้ดินทำให้ใจผมเต้นรัว
เจ้าของงั้นเหรอ! เขินกับคำนี้จัง
“เฮ้ย พวงมึงคุยเรื่องไปเที่ยวทะเลกันต่อเหอะ” ไอ้สมใจพูดเรื่องที่มันค้างไว้ต่อ
“เอาดิ ทะเลที่ไหนดีวะ” ไอ้นพถามด้วยความสนใจ
“เสม็ด ญาติกูมีรีสอร์ทที่นั่น”
“กูไป” ไอ้นพชูมือขึ้นเป็นสัญลักษณ์ว่าไปด้วย
“กูด้วย แล้วมึงละไอ้ดิน ไอ้พู่” ไอ้หมีตอบตกลงพร้อมหันมาถามไอ้ดิน กับผม
“กูแล้วแต่พู่”
“เมียเป็นใหญ่นะมึงอ่ะ”
“ไปก็ไป กูไม่ได้ไปทะเลมานานมากแล้วเหมือนกัน”
“มึงไปมั้ยไอ้ปูน”ผมหันไปถามปูนที่ตอนนี้ทำท่าคิดหนัก
“เออ..กูขอถามพี่น้ำก่อนได้ป่ะ”
“อะไรวะ ไหนมึงบอกยังไม่ได้คบกันไง”
“ก็กูอยากให้พี่เค้าไปด้วย” ไอ้ปูนตอบด้วยท่าทางเขินอาย
“มึงไปเหอะ เชื่อดิว่าไอ้พี่น้ำมันไปด้วยแน่นอนถ้ามันรู้ว่ามึงไป” เชื่อดิว่าไอ้พี่น้ำมันไม่ปล่อยโอกาสที่จะได้สวีทกับไอ้ปูนหลุดลอยไปหรอก
“ตงลงดิว ไปกัน7คนนะ เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง ไปวันไหนยังไงเดี๋ยวกูบอกพวกมึงอีกที เอ้าชนแก้ววว”
ตงลงว่าเรื่องไปเที่ยวทะเลไอ้สมใจจะเป็นจัดการ พวกผมแค่ทำตัวให้พร้อมก็พอ
เสม็ดงั้นเหรอ?! เสม็ดเสร็จทุกราย!!!
เที่ยงคืนกลับถึงบ้าน ถามว่าเมามั้ย นิดนึงพอกรึ่มๆ
“ดอกไม้ หิวรึป่าว”
“ไม่อ่ะ”
“งั้นมึงอาบน้ำก่อนเลย เดี๋ยวกูไปปิดบ้านให้” ไอ้ดินอุ้มชบาขึ้นมาว่างไว้บนบ่า ก่อนจะเดินไปสำรวจความเรียบร้อยของบ้าน
พ่อบ้านทำหน้าที่ได้ดีจริงๆ อย่างที่ผมเคยบอกใครได้มันเป็นแฟนนี่คงโชคดี ตายห่า!!
และผมคือผู้โชคดีคนนั้น..ผมกำลังจะตายห่า!!
“หอมจัง” ไอ้ดินพูดคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอของผม
“ง่วงแล้ว”
“ง่วงก็นอนสิครับ” แล้วมันก็เปลี่ยนตำแหน่งมากระซิบที่ข้างๆหู
“ดิน”
“ว่า”
“มึง..ไม่โกรธกูนะที่กูยังไม่พร้อมน่ะ” เพราะผมแคร์มันผมเลยต้องถาม ผมก็ผู้ชายเหมือนมันจึงรู้ว่าความต้องการของเราก็มีไม่ต่างกัน แต่เพราะผมจะเป็นฝ่ายถูกกระทำ เลยต้องขอเวลาทำใจสักหน่อย..
“ไม่โกรธ กูรอได้และกูเข้าใจความรู้สึกมึง”
“ขอบคุณนะ”
“แต่ขอหนึ่งจูบ มัดจำไว้ก่อนได้มั้ยครับ”
“จูบอย่างเดียวนะ”
“ครับ จูบอย่างเดียว” สิ้นเสียงของไอ้ดิน มันค่อยๆเชยคางผมขึ้น แล้วค่อยๆประกบริมฝีปากลงมามันเป็นจูบที่อ่อนหวานแต่ก็ซาบซ่านอยู่ในที ก่อนจะค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นจูบที่เร่าร้อนดุดันเมื่อปลายลิ้นของไอ้ดินรุกล้ำเข้ามาควานหาความหวานในโพร่งปากของผม ลิ้นของเราตอดรัดปลายลิ้นก็หยอกล้อซึ่งกันและกัน น้ำลายก็ค่อยๆไหลออกมาเปรอะที่มุมปาก เสียงหายใจของเราต่างหอบกระชั้นขึ้น ผมรู้สึกถึงอวัยวะบางอย่างของไอ้ดินที่แข็งตัวขึ้นและกำลังดันอยู่ที่ต้นขาของผม ทำให้ผมผละตัวออกด้วยความตกใจ
“นอนเถอะ” ไอ้ดินพูดด้วยน้ำเสียงแหบพล่า ก่อนที่มันจะลุกหนีหายไปเข้าห้องน้ำ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันเข้าไปทำอะไร
ไม่ใช่ว่ามันจะตื่นตัวแค่คนเดียวเพราะผมก็รู้สึกปวดหนึบตรงที่หว่างขาเหมือนกัน ว่าแล้วผมก็ลุกไปเข้าห้องน้ำอีกห้องที่อยู่นอกห้องนอน เพื่อจัดการกับสิ่งที่กำลังตื่นตัวอยู่ในตอนนี้ให้มันสงบลง
..หรือมันถึงเวลาที่ผมควรจะทำใจได้แล้ว แล้วปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติว่ามั้ย?!
“ดอกไม้ตื่น 10โมงแล้ว”
“อื่อ”
“กับข้าวเย็นหมดแล้ว”
“ไม่หิวกินตอนเที่ยงทีเดียวได้ป่ะ” ผมตอบเสียงอู้อี้ สอบเสร็จแล้วอยากนอนทั้งวันไม่อยากไปไหนเลย
“วันนี้ต้องไปซื้อของเข้าบ้านนะ ตื่นนะครับ”
“ตื่นแล้วๆ” ที่ผมยอมตื่นเพราะปากของไอ้ดินที่อยู่ไม่สุก ซุกไซร้ไปทั่วใบหน้าและลำคอผม ไม่ตื่นก็บ้าแล้วแถมยังตื่นไปทั่วทั้งตัว..ให้ตายสิ!!
“หึๆ”
ยังมีหน้ามาขำอีก มึงชักจะร้ายกาจเกินไปแล้วนะ..
“นี่ถามหน่อย มึงเรียกกูว่าดอกไม้ กูคือดอกอะไรสำหรับมึง” กลัวคำตอบเหลือเกิน อย่าตอบว่าดอกทองนะ ไม่งั้นข้าวผัดไข่ที่กำลังแดกอยู่ตอนนี้ได้ไปอยู่บนหัวมึงแน่!!
“ดอกทานตะวัน”
“มึงจะบอกว่ากูหน้าบานเหมือนดอกทานตะวันเรอะ!!” เจ็บพอๆกับดอกทองเลยนะนั้น
“มึงสดใสเหมือนดอกทานตะวัน โดยเฉพาะเวลาที่มึงยิ้ม” แล้วมันก็เอื่อมมือมาจับแก้มผมเบาๆ แน่ใจนะว่าไม่ได้หลอกด่าว่ากูหน้บาน
“จะบอกว่ามึงก็จะเป็นแสงอาทิตย์ให้กูงั้นสิ แหวะ เลี่ยน”
“ป่าว จริงอยู่ที่ดอกทานตะวันต้องคอยหมุนตามแสงอาทิตย์ แต่สำหรับดอกทานตะวันอย่างมึงชื่อกูมันก็บอกอยู่แล้ว กูเป็นแผ่นดินให้มึงต่างหากล่ะ ถ้าไม่มีดินดอกทานตะวันต้นนี้ก็ไม่สามารถงอกงามแบบนี้ได้ความงอกงามในที่นี้ก็หมายถึงความสุขของมึงไง
แถมแผ่นดินนี้ยังได้อยู่กับดอกทานตะวันต้นนี้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนไม่เหมือนแสงอาทิตย์ที่พอตะวันลับฟ้าก็ไม่ได้เจอกับดอกทานตะวันต้องรอถึงเช้าวันใหม่กว่าจะได้เจอ รวมถึงวันที่ดอกทานตะวันต้นนี้โรยรา แผ่นดินนี้ก็ยังคงอยู่เคียงข้างไปไหน เหมือนกูไงกูก็จะรักมึงแบบนี้ตลอดไป รักนะดอกไม้” คำพูดที่อ่อนโยน และสัมผัสที่อบอุ่นที่ประทับลงมาที่แก้มผมเบาๆ ทำให้ผมตัวลอย
“ซึ้ง..แต่ปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ก็ได้นิ ไม่ต้องใช้ดิน” นี่ผมไม่ได้กวนตีนะ
“ไม่สวยเท่าปลูกบนดินหรอกเชื่อกูสิ มันก็ไม่ต่างกันถ้ามึงไปคบคนอื่นที่ไม่ใช่กูมึงก็ไม่มีความสุขเท่ากับได้คบกับกูหรอก” นั่นนะสินะถ้าตอนนี้ไอ้ดินไม่ได้เข้ามาในชีวิตผม ผมก็ไม่รู้ว่าชีวิตตอนนี้จะมีความสุขเท่าตอนนี้รึป่าว
..ยอมๆแผ่นดินนี่แหละดีที่สุด.. TBC.
.................................................................................................
บทนี้เรื่อยๆมาเรียงๆ
บทหน้าไปเที่ยวเสม็ดกัน จะเสร็จรึป่าวค่อยมาลุ้นกัน^^
ขอบคุณคนอ่านที่น่ารักทุกๆคนที่ติดตามอ่านกันมานะคะ หนึ่งคอมเม้นคือกำลังใจที่ดีที่สุดค่ะ^^