++ Love me Love my cat ++ บทที่22 ที่ใดในโลก (ตอนจบ) [23-12-19] *P.5
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ++ Love me Love my cat ++ บทที่22 ที่ใดในโลก (ตอนจบ) [23-12-19] *P.5  (อ่าน 32602 ครั้ง)

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มีหอมทงหอมท้อง เขินเด้ออออ :-[
ขอบคุณเกมที่ทำให้ดินได้ประกาศจองพู่กันอย่างเป็นสาธารณะ หนีไม่พ้นเเล้วลูกเอ้ย :laugh:

ออฟไลน์ skykick

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0


คือดี^^ มีความอบอุ่น   :3123:

ละลายและระทวยไวๆนะพู่กัน  :hao3:


ออฟไลน์ fairy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ fairy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ patompong888

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0


ชอบหมี กินได้ทุกอย่างจริงๆ!!      o22
   
เสียงตดยังเพราะกว่าเสียงร้องเพลง เสียงคงจะห่วยสุดๆ หมีเอ้ย...   :laugh:

ออฟไลน์ MA_LEE

  • เป็ดหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 
ขอบคุณทุกคนมากค่ะ ที่เอ็นดูเด็กๆ ^^

             :pig4:

ออฟไลน์ MA_LEE

  • เป็ดหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
บทที่8 ยอมรับความจริงซะ!!


       หลังจากกลับมาจากไปเที่ยวบ้านไอ้ดินตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว ชีวิตยังคงดำเนินตามปกติจะมีที่แปลกๆไปคือ

ไอ้ดินมักจะเข้ามาทำให้หัวใจปั่นป่วนอยู่เสมอๆ วันนี้ก็เช่นกัน..

เย็นวันอาทิตย์หลังจากกลับมาจากบ้านใหญ่ กำลังจะเลี้ยวรถเข้าบ้าน ก็เจอรถไอ้ดินจอดขวางอยู่หน้าบ้านเลยต้องจอดรถต่อจาก

รถมันแล้วลงมาดูว่าไอ้เจ้าของรถมันอยู่ไหน ไปส่องดูที่รถก็ไม่ยักจะเห็นมัน ไปไหนของมันวะ แล้วแทนที่มันจะจอดรถตรงข้างรั้ว

เสือกมาจอดขวางประตูรั้วบ้านอีก อ่านหนังสือไม่ออกรึไงป้ายก็แขวนอยู่ตรงรั้วว่าอย่าจอดขวางหน้าบ้าน  น่าโมโหจริง!!

เอ๊ะ หรือว่าไม่ใช่รถมันลองสำรวจรถดีๆ ก็ใช่นี่หว่า รถมันก็ยี่ห้อนี้ สีนี้ ป้ายทะเบียนโคราช แล้วมันไปไหน?!!


ไม่อยากเสียเวลาคิดเอาของไปเก็บในบ้านก่อนดีกว่า วันนี้แม่ทำบราวนี่ กับชีสเค้กให้ นี่แหละคือเหตุผลที่กลับบ้านใหญ่

เห็นแก่กินจริงๆเลยผม สงสัยติดนิสัยมาจากไอ้หมี!!

เดินเข้ามาถึงประตูบ้านก็ได้ยินเสียงงุ้งงิ้งๆอยู่ข้างหลังบ้าน  ใครวะ?!! หรือว่าขโมย!!

รีบวางของทั้งหมดลง แล้วหยิบไม้กวาดที่วางอยู่ใกล้ๆแล้วย่องไปหลังบ้าน แม่จะฟ้าดให้หลังหักเลยค่อยดูไอ้โจรชั่วบังอาจมา

ขโมยของบ้านกู ..ค่อยๆย่อง ย่อง ย่อง และสิ่งที่เห็นคือ ไอ้ดินนอนคว่ำตรงเก้าอี้ไม้ตัวยาวให้แมวนวดหลังให้อย่างสบายใจ

 ฟู่..ถอนหายใจโล่งอกนึกว่าจะเจอกับขโมยจริงๆซะแล้ว!!

“ตรงนั้นแหละๆพี่ปี  เด็กดีเดี๋ยวกินขนมกันเนาะ” ไอ้ดินตอนนี้นอนคว่ำมีจำปีนวดให้ตรงกลางหลัง


จำปีเป็นแมวที่ชอบนวดเห็นเรานอนไม่ได้เลยเจ้าเหมียวจะกระโดขึ้นมานวดให้ทันที ส่วนจำปาก็นอนหันหน้าเอาจมูกเตะกับจมูก

ไอ้ดิน ส่วนชบานอนหงายท้องสบายใจอยู่ตรงหว่างขาของไอ้ดิน

ไม่น่าเชื่อว่าบุคคลหน้านิ่งอย่างไอ้ดินจะมีมุมมุ้งมิ้งแบบนี้ ถ้าแฟนคลับมันได้เห็นภาพนี้คงระทวยกันเป็นแถบๆ

ว่าแล้วก็หยิบมือถือมาแอบถ่ายรูปมันไว้ดีกว่า

‘แชะ’ เสียงชัตเตอร์ ทำให้ไอ้ดินรู้ตัว มันหันมาทำหน้าตกใจ รีบลุกขึ้นนั่ง


“แม่มาแล้ว ไปหาแม่กัน” มันพูดพร้อมกับเดินมาทางผม ตามด้วยลูกสมุนทั้ง3ตัว


“ใครแม่ มึงพูดให้มันดีๆ”


“ก็มึงไงเป็นแม่แมว แถมยังใจร้ายปล่อยให้พ่อแมวกับลูกแมวรออย่างเหงาหงอยตั้งนาน” มันพูดพร้อมกับช้อนตามองผม นี่มึงชัก

จะมุ้งมิ้งเกินไปละ ไม่เข้ากับหนังหน้าและสารร่างมึงเลย!!


“หุบปากมึงเลย พูดจาไร้สาระ แล้วนี่เข้ามาบ้านกูได้ยังไง แถมยังจอดรถขวางประตูรั้วอีก”ผมร่ายยาวเป็นชุดใส่มัน


“ก็ถ้าจอดไกลเดี๋ยวมึงไม่รู้ว่ากูมา แล้วกูก็ปีนรั้วเข้ามา คิดว่ามึงคงอนุญาต มาอยู่เป็นเพื่อนเด็กๆด้วยไง” มันพูดเสียงอ่อนเหมือน

เด็กที่กำลังโดนดุและพยายามแก้ตัว  แปลก..วันนี้มันจะเอาโหมดนี้เข้าสู้ใช่มะ?!!

ได้หัวใจกูแข็งแรงพอไม่หวั่นไหวกับโหมดงุ้งงิ้งมุ้งมิ้งของมึงหรอก??!!


“เออๆ คราวหลังก็โทรบอกกูก่อน มาปีนเข้าบ้านแบบนี้คนอื่นเห็นแล้วเค้าเข้าใจผิดคิดว่ามึงเป็นขโมยโทรแจ้งตำรวจ

ขึ้นมาจะทำไง” ผมบ่นมันอีกครั้ง อย่าให้กูได้บ่นนะ กูบ่นทีนึงมึงได้หูชาแน่ๆ


“ขอโทษ” มันพูดเสียงอ่อน พร้อมกับทำหน้าหงอย  ..อย่านะใจ อย่าไปหลงใจอ่อนกับหน้าเสแสร้งแกล้งทำของมันเด็ดขาด!!


“แล้วมึงมาทำไม”


“มาหา อยากเจอ คิดถึง” มันพูดพร้อมกับสบตาผมนิ่ง


“คิดถึงเด็กๆเหรอ”


“ป่าว คิดถึงมึง” มันพูดพร้อมกับโน้มหน้าเข้ามาใกล้  โอ้ย..ใกล้ไปแล้ว ใกล้จนได้กลิ่นลมหายใจ


.. กลิ่นเปปเปอร์มินต์?  ไม่ได้การหัวใจผมกำลังจะพัง!! รีบผลักอกมันออกอย่างว่อง


“คิดถึงอะไร วันศุกร์ก็เพิ่งเจอกัน” เมื่อวันศุกร์มันก็เพิ่งแวะมาหาชบาที่บ้าน มาซะดึกบอกว่าออกมาเซเว่นเลยแวะมาหาพร้อมกับ

สารพัดนมและขนมปังหลากหลายยี่ห้อที่มีขายในเซเว่นมันเหมามาหมด


“แต่เมื่อวานไม่ได้เจอไง ความจริงไม่ได้เจอแค่ชั่วโมงเดียวก็คิดถึงแล้ว” มันพูดพร้อมกับโน้มหน้าเข้ามาอีกครั้ง


ผมที่ยังถือไม้กวาดไว้ในมือเลยเอาปลายด้ามไม้กวาดดันอกมันเอาไว้ ไม่ให้มันเข้ามาใกล้มากกว่านี้


“...” ได้แต่มองบน อะไรจะเวอร์วังขนาดนั้น กูยังไม่ใช่แฟนมึงสักหน่อยจะคิดถึงอะไรกันนักกันหนา


“แล้วมึงล่ะ คิดถึงกันบ้างรึยัง!!” มันถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมกับรอยยิ้มละมุน


“...”  บึ้ม.. ได้ยินเสียงอะไรมั้ย หัวใจแข็งแรงแค่ไหน ก็ต้านทานไม่อยู่  มาโหมดนี้กูยอม!!


“พอเลยไอ้ดินอย่าเข้ามาใกล้กูมาก เดี๋ยวกูฟาดด้วยไม้กวาด” ผมทำท่าจะเอาไม้กวาดฟาดมัน ไอ้ดินเลยยอมผละออก


“เขินรุนแรงเหมือนกันนะเราเนี่ย” ยัง..ยังจะพูดอีกไม่ได้กลัวที่กูขู่เลยใช่มั้ยเนี่ย!!


“หยุดพูดแล้วไปขยับรถให้กูได้ละ จะได้เอารถมาจอดในบ้านสักที”


“โอเค รับทราบครับ” มันพูดพร้อมกับทำท่าตะเบ๊ะแบบทหาร แล้วก็รีบวิ่งไปย้ายรถให้ทันที  แปลก..วันนี้มันมาแปลกจริงๆ

หรือที่จริงแล้วมันเป็นไบโพลาร์วะ!!

หลังจากย้ายรถมาจอดในบ้านเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลากินเค้กสักที


“กินด้วยรึป่าว” ผมถามไอ้ดินขณะที่แบ่งเค้กใส่จาน


“กิน” มันตอบสั้นๆ ด้วยใบหน้านิ่ง..เปลี่ยนโหมดแล้วสินะ  กูต้องตามอารมณ์มึงให้ทันใช่มะ?


“มาแบ่งใส่จานเองละกันนะ” พูดเสร็จผมก็ถือจานเค้กที่มีบราวนี่กับชีสเค้กอยู่อย่างละชิ้นมาว่างบนโต๊ะหน้าโซฟา

กินไปดูรายการวิเคราะห์บอลก่อนบอลเตะไปพลางๆ วันนี้บอลพรีเมียร์ลีกคู่แรกเตะเร็วหน่อยหกโมงครึ่ง

แต่คู่สำคัญที่คืนนี้ห้ามพลาดคือคู่ดาร์บี้แมตช์ระหว่างแมนยูที่เตะกับทีมเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญอย่างแมนซิตี้

แมตซ์นี้มีความสะเด่าฮาร์ดคอร์ไม่ต่างกับแมตช์แดงเดือดที่ปีศาจแดงแข่งกับเป็ดแดง

ออกตัวแรงขนาดนี้ไม่บอกก็รู้ว่าผมคือแฟนเรดอาร์มี่หรือแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดตัวจริงเสียงจริง ผ่ามพ้าม!!


“อร่อยมั้ย?” อยู่ๆไอ้ดินก็ถามขึ้น ก็นึกว่ามันลุกไปเอาเค้กในครัวแต่มันยังนั่งอยู่ที่เดิม


“เค้กแม่กูอร่อยอยู่แล้ว” ผมพูดพร้อมกับตักชีสเค้กคำโตใส่ปาก


“ไหนชิมหน่อย” พูดปุ๊บมันก็แย่งช้อนในมือผมตักเค้กใส่ปากมันเฉยเลย!!


“...”


“อร่อยจริงๆด้วย ทำขายได้สบายเลยนะเนี่ย” มันพูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก


“อะไรมาแย่งกูกินเพื่อ?”


“ก็เมื่อกี้มึงชวนกูกิน”


“กูหมายถึงให้มึงกินชิ้นใหม่ ไม่ใช่ชิ้นเดียวกับกู” ทำไมกูต้องมาเสียเวลาแปลไทยเป็นไทยด้วยวะ!!


“ไม่เอากูจะแย่งมึงกิน” มันตอบหน้าตาย แล้วยังหน้าด้านตักบราวนี่คำโตใส่ปากมันอีก


“เป็นหมารึไง ชอบแย่งของกิน”


“อื่อ เป็นหมานี่กำลังแย่งกินเค้กของหมาอยู่” เอิม..เหมือนโดนหลอกด่าว่าเป็นหมา


“อ่ะ กินเข้าไปพูดมากจัง” แล้วไอ้หมามันก็ตักเค้กมายัดใส่ปากผม

กลายเป็นว่าไอ้ดินยึดช้อนไปครองมันเลยตักเค้กเข้าปากมันคำนึงสลับกับป้อนผมคำนึง กินสลับกันแบบนี้จนเค้กทั้ง2ชิ้นในจาน

หมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว  น่าแปลกแทนที่ผมจะลุกไปหยิบเค้กชิ้นใหม่มากินก็ได้

แต่ผมกับเต็มใจยอมให้ไอ้ดินมันป้อนสลับกันกินทีละคำกับมันแบบนี้  และก็คิดอีกว่าผมน่าจะหยิบเค้กใส่จานมาให้มากกว่านี้จะ

ได้ยืดเวลาออกไปอีกหน่อย!!  นี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่วะ?!! แม่ต้องใส่ส่วนผสมอะไรผิดลงไปในเค้กแน่ๆ ลูกชายแม่กินเข้าไปถึง

ขั้นเคลิ้มกับการกระทำของคนที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆได้ขนาดนี้!!


“แย่งหมากินอร่อยจัง” หมดกันกูไม่น่าหลงเคลิ้มไปกับมึงเล้ยยย!!!


“มึงสิหมา เอาจานไปล้างด้วยนะไอ้หมาโทษฐานที่บังอาจมาแย่งเค้กกูกิน”


“แน่นอน มันเป็นหน้าที่พ่อบ้านอย่างกูอยู่แล้ว ส่วนแม่บ้านอย่างมึงนั่งดูทีวีให้สบายใจนะจ๊ะ เดี๋ยวจะเอาชาพีชเย็นๆมาเสริฟให้จ๊ะ”


“...” แม่คงใส่ส่วนผสมอะไรผิดลงไปในเค้กจริงๆนั้นแหละ ไอ้ดินแม่งเพี้ยนไปละ!!

แล้วไอ้หมาที่กลายร่างเป็นพ่อบ้านก็เอาชามาเสริฟหลังจากที่มันล้างจานแค่ใบเดียวเสร็จ


“นี่จ๊ะ” มันพูดพร้อมกับวางแก้วชาพีชลงบนโต๊ะ มันถือมาแค่แก้วเดียว อย่าบอกนะว่าจะแย่งกูกินอีก

ไม่มีทางหรอก ผมรีบยกชาพีชขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว ไอ้สัดเย็นขึ้นหัวแม่งดื่มไวไปหน่อย


“หึๆ” ไอ้ดินหัวเราะในลำคอ ก่อนจะพูดต่อว่า


“หมาไม่กินชา ไม่ต้องรีบกินขนาดนั้นก็ได้”


“ตกลงมึงยอมรับว่ามึงเป็นหมาแล้วสินะ!!”


“เป็นอะไรก็ได้ที่มึงอยากให้เป็น รวมถึงเป็นแฟนมึงด้วยเมื่อไหร่มึงจะอยากให้เป็นสักที?”


“ไม่รู้!!...เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น!!!” ผมโพล่งตอบออกไปเสียงดัง แต่ประโยคหลังตอบด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว


“...” ไอ้ดินไม่ได้พูดอะไร แต่กับยิ้มกว้างกับคำพูดของผม


“เมื่อไหร่มึงจะกลับหอสักที” ผมถามเพราะมันชักจะอยู่นานเกินไปละ หัวใจผมก็เริ่มแกว่งมากขึ้นทุกที


“ยังไม่กลับรอดูบอล เดี๋ยวพวกไอ้หมีจะตามมาดูบอลด้วย” มันตอบหน้าตาย


“ฮะ..ทำไมกูไม่รู้เรื่อง” ตกลงนี่ใช่บ้านกูรึป่าววะ?!!


“...” มันแค่ยักไหล่ไม่ตอบ


“เฮ้อ เอาที่มึงสบายใจละกัน” ผมพูดเสร็จไอ้ดิน ก็โน้มหน้าเข้ามาทำท่าจะจูบผม


“ทำอะไรของมึง” ผมพูดพร้อมกับใช้ฝ่ามือดันปากมันให้ออกห่าง แต่ก่อนที่มันจะผละตัวออกมันก็จุ๊บที่ฝ่ามือผมเต็มๆ  แมร่ง!!!


“จูบไง ก็มึงบอกเองว่าเอาที่สบายใจละกัน!!”


“...” หมดคำจะอู้ บะฮ้าปันต๋าย บะวอก บะจ้าดง่าว ฟังภาษาคนบ่าฮู้เรื่อง!!!!!!


“อะๆ ไม่แกล้งละ ดูทำหน้าเข้าสิ หน้าย่นหมดละเป็นหมาพันธุ์ชาเป่ยรึไง” ไหนบอกไม่แกล้งแล้วไง

มาหลอกด่าว่ากูเป็นหมาอีกละ  เถียงมันไม่เคยชนะสักที โมโห!! หมาก็หมาวะ งับแขนแม่ง!!!


“โอ้ย เจ็บนะเนี่ย เป็นหมาจริงๆด้วย” ไอ้ดินพูดพร้อมกับกลั้นขำ


“...”


“ดูดิ เป็นรอยเลย” แล้วมันก็โชว์รอยเขี้ยวบนแขนให้ผมดู  สมน้ำหน้า!!


“ฮัลโหลเพื่อนฟูง ได้เสียกันรึยังจ๊ะ เพื่อนมาขัดจังหวะอะไรรึป่าวเอ่ย” ไอ้หมี เอ่ยปากแซวตั้งแต่เดินเข้าประตูมา วันนี้มันใส่ชุด

แมนยูทีมเย้าฤดูกาล2017-2018มาซะเต็มยศ เหลือแค่รองเท้าสตั๊ดมึงก็ลงสนามได้เลย มันขาดแค่รองเท้าจริงๆนะ

แม่งมันใส่ถุงเท้ากับสนับแข้งมาพร้อม!!


“เป็นอะไรไอ้พู่ ทำหน้าอย่างกับหมาขี้หักใน” หมาอีกละ เดี๋ยวกูก็กัดซะเลยนิ แฮ่!!


“ซื้ออะไรมากินบ้าง เอาไปเทใส่จานมากินดิ๊” เห็นไอ้หมีมันถือของกินมาพะลุงพะลัง เลยใช้ให้มันไปเทใส่จานไม่อยากเถียงกับ

มันแค่ไอ้ดินคนเดียวก็ปวดหัวมากพอละ


“โว๊ะ โมโหหิวก็ไม่บอก ไอ้ดินมาช่วยกูหน่อยดิ” แล้วไอ้หมีก็เรียกไอ้ดินให้ไปช่วยในครัว


“มาละๆ ตำบักหุ่งแซ่บๆ” นี่คืออะไรปาร์ตี้อาหารอีสานเรอะ มีทั้งส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ซุปหน่อไม้

ลาบเป็ด ก้อยเนื้อ ต้มแซ่บ อื่อหื้อ เห็นแล้วก็น้ำลายแตก  กำลังจะจกข้าวเหนียวในถุงก็โดนเบรกด้วยไอ้ดินซะก่อน


“เดี๋ยวก่อน  ล้างมือรึยัง” ไอ้ดินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ


“ไม่เป็นไรหรอกน่า วันนี้วันอาทิตย์เชื้อโรคไม่ทำงาน” ผมพูดไม่แคร์ ตั้งหน้าตั้งตาจะกินต่อ


“พู่กัน!!” ไอ้ดินทำเสียงดุ พร้อมกับทำหน้านิ่ง ที่นิ่งมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า


“เออๆ ล้างก็ล้าง” แล้วผมก็ลุกไปล้างมือ ทำไมกูต้องกลัวสายตากับน้ำเสียงของมันด้วยวะ!!


“ของมึงจานนี้ ตำไทยใส่พริก2เม็ด เผ็ดระดับอนุบาล” ไอ้หมีเลื่อนจานตำไทยที่สีสันดูจืดชืดมาทางผม ทำไมมันดูกระจอกจังวะ


“แต่กูอยากกินตำปูปลาร้าอ่ะ” อยากกินปลาร้า มันดูแซ่บนัวมากกก


“จานนี้มันเผ็ดระดับ10กะโหลก ถ้าคิดว่าแดกได้ก็แดกเลย” มึงสบประมาทกูมากไปแล้วไอ้หมี ลิ้นกูมันพัฒนามากขึ้นละเว้ย 

ว่าแล้วก็กินโชว์มันสักหน่อย ตักส้มตำปูปลาร้ามาคำโตเข้าปากยังไม่ทันได้กลืน

   อื่อหือ เผ็ดฉิบหายวายป่วง!!


 “มึงไม่สั่งตำพริกไปเลยวะ ไอ้สัดโคตรเผ็ด” ผมรีบรับน้ำที่ไอ้ดินยื่นมาให้ ดื่มจนหมดแก้ว


“เป็นไงละมึง อวดเก่งดีนัก” แล้วไอ้หมีก็หัวเราะกับการพยายามกินเผ็ดของผม ทุกครั้งที่มันกินเผ็ดผมมักจะขอกินด้วย

เพราะรู้สึกว่ามันเป็นรสชาติของผู้ใหญ่ แต่ลิ้นผมมันก็ระดับอนุบาลจริงๆนั้นแหละ นี่ยังถือว่าพัฒนามามากแล้วนะที่กินส้มตำใส่

พริก2เม็ดได้ เมื่อก่อนต้องสั่งว่าเอาพริกติดครก อ่อนจริงๆเลยกู!!


“กินไม่ได้ก็อย่ากินสิ ดูสิหน้าแดงหมดละ” ไอ้ดินพูดพร้อมกับใช้ทิชชู่ซับเหงื่อที่ปลายจมูกให้ผม

ไม่รู้ว่าผมเริ่มชินกับการดูแลของมันรึป่าวถึงไม่ได้ขัดเขินหรือปฏิเสธกับการกระทำของมัน

โดยลืมไปว่าไอ้หมีกำลังจ้องมองเราสองคนอยู่ด้วยใบหน้ากลั้นยิ้ม..


“ไอ้ปูนไม่มาเหรอ” ปกติมันจะมาเป็นคู่หูดูโอ้กับไอ้หมีอยู่แล้ว


“เดี๋ยวมันตามมา กินข้าวกับที่บ้านก่อน”


“แล้วไอ้นพกับไอ้สมใจล่ะ” ผมถามหาเพื่อนอีก2คนที่ช่วงหลังมานี้ เรามักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน6คน


“ไอ้ห่า2ตันั่นมันไม่มา มันป๊อด!!”


“ทำไมวะ” ผมถามด้วยความสงสัย


“เด็กเป็ดอย่างมันไม่กล้ามาหรอก ตอนนี้ไปเป็นกองแช่งอยู่ร้านเหล้าแถวหน้ามอกับเพื่อนแก๊งเป็ดแดงของมันนู้น” ไอ้หมีพูด

พร้อมกับจกก้อยเนื้อเข้าปาก มึงเป็นผีดิบรึป่าววะ ของดิบของคาวชอบจังนะมึง


จะว่าไปไม่ว่าแมนยูจะแข่งกับทีมอะไรทีมนั้นจะมีกองเชียร์เพิ่มขึ้นชั่วคราวซึ่งมาจากบรรดาแฟนคลับลิเวอร์พูลเสมอๆ!!


“แล้วมึงไม่ไปกับไอ้พวกสมใจเหรอ” ผมหันไปถามไอ้ดินบ้าง


“ไปทำไม กูเชียร์แมนยู..เห็นมั้ยว่าเราใจตรงกัน เป็นแฟนกูได้ยัง” มันพูดหน้านิ่ง พร้อมกับฉีกไก่ย่างใส่จานให้ผม

มึงขอกูเป็นแฟนง่ายๆเหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศแบบนี้ก็ได้เหรอ?!!


“แค่กๆ ไอ้บ้า งั้นกูคงได้เป็นแฟนกับคนที่เชียร์แมนยูทุกคนเลยละสิ” กูใจตรงกับคนเกือบค่อนโลก!!


“เออ..อย่าเพิ่งจีบกันออกหน้าออกตาขนดนั้นครับ เกรงใจกูด้วย แล้วไก่ย่างก็ไม่ต้องฉีกให้มันเยอะขนาดนั้นก็ได้นะไอ้ดิน

มันจะแดกไม่ทันอยู่ละเหลือไว้ให้กูแดกบ้าง จะดูแลเอาใจใส่มากกันเกินไปละ 

กูล่ะเหม็นความรักจริงจริ๊ง!!” ไอ้หมีบ่นยืดยาวแต่ปากยังเคี้ยวไม่หยุด  พูดไปด้วยแดกไปด้วยน้ำลายกระเด็นลงจานไหนไม่รู้เป็น

จานไหน นี่กูต้องแดกส้มตำผสมกับน้ำลายมึงไปด้วย อร่อยนัวฉิบหาย!!



ปาร์ตี้อาหารอีสานจบลงพร้อมกับเสียงเป่านกหวีดหมดครึ่งแรกของบอลคู่แรกที่เตะในวันนี้

เอฟเวอร์ตันเจ้าบ้านนำเวสแฮมอยู่1-0


“คู่นี้มึงเชียร์ใครวะ หมี” ผมหันไปถามไอ้หมีที่กำลังนั่งกินเค้กล้างปากอยู่ นี่แค่กินล้างปากนะปาไป5ชิ้นละ

ถ้ากินจริงจังอย่านับเป็นชิ้นหรือปอนด์เลยนับเป็นกิโลง่ายกว่า!!


“กลางๆวะ ไม่รู้จะเชียร์ใครดี ยังไงก็มีเด็กเก่าแมนยูทั้งคู่ ทั้งรูนีย์ ทั้งชิชาริโต้ ให้เสมอละกันแบ่งกันคนละแต้ม”


“แสดงว่ามึงไม่ได้แทงบอลคู่นี้ไว้สินะ ถึงได้ตอบแบบนี้” ผมหรี่ตาถามมันอย่างจับผิด


“รู้ดีนะมึงอ่ะ วันนี้กูเต็งแมนยูทีมเดียวเว้ย กูมั่นใจตัวทีเด็ดอย่างพอล ป็อกบา กับน้องหมากของกู มาแน่ๆวันนี้” ไอ้หมีพูดพร้อมกับ

ทำหน้ามั่นใจ ขอให้มาแน่ๆอยากมึงว่าเหอะ แพ้มาโดนแฟนบอลบางทีมรอซ้ำเติมเละแน่ๆ!!

บอลเริ่มครึ่งหลังได้ไม่นาน ไอ้ปูนก็มาถึง พร้อมกับเบียร์หนึ่งลัง ไม่บอกก็รู้ว่าใครบงการให้มันซื้อมา


“เอามาค่าเบียร์หกร้อย” วางลังเบียร์ปั๊บไอ้ปูนก็กระดิกนิ้วรัวๆทวงค่าเบียร์กับไอ้หมีทันที


“หารกันดิวะมึงไม่แดกไง อ่ะเอาไปห้าร้อย อีกร้อยนึงมึงจ่ายละกัน”


“โด่ ไม่ป๋าเลยมึงอ่ะ”


“เดี๋ยวรอคืนนี้แมนยูชนะ ป๋าให้อีกห้าร้อยเลย แต่เดี๋ยวนะมึงลืมซื้อน้ำแข็งมาใช่มั้ยไอ้ปูน ให้แดกเบียร์อุ่นป๋าไม่โอเคอ่ะ”


“มึงก็ออกไปซื้อเองดิ กูขี้ข้ามึงรึไง เบียร์กูก็ซื้อมาให้แดกละ”


“เดี๋ยวกูไปซื้อให้เอง น้ำยาล้างจานบ้านมึงหมดนะไอ้พู่” ไอ้ดินพูดหลังจากมันให้อาหารเจ้าเหมียวทั้ง3ตัวเสร็จ

แล้วมันก็หันมาบอกผม


“ยังไม่ต้องล้างก็ได้แช่ไว้อย่างนั้นแหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจัดการเอง”


“ไม่ได้ กูไม่ชอบมันเหม็น สกปรก” เออเอากะมันสิ ผมลืมบอกอีกอย่างว่าไอ้ดินเป็นคนสะอาด เห็นอะไรเลอะหรือหยดลงพื้นหรือ

ที่โต๊ะนิดหน่อยไอ้ดินจะรีบเช็ดทันที!!


“เออๆตามใจมึง งั้นเดี๋ยวกูไปซื้อเอง”


“ไปด้วยกัน!!” มันพูดพร้อมบังคับผมด้วยสายตา ว่ากูต้องไปกับมึง!!


“เออๆ เอาแค่น้ำแข็งใช่มะ” ผมหันไปถามไอ้หมีอีกที


“ขนมขบเคี้ยวด้วยก็ดี เหงาปาก”


“...” เหงาปากพ่อง..ตอนที่มึงพูดปากมึงยังไม่หยุดเคี้ยวเลย!!


 “เอามอไซค์ไปนะ เซเว่นตรงปากซอยนี่เอง” ผมหันไปบอกไอ้ดินที่เดินตามหลังมา


“...”


“ขึ้นมาดิ ยืนบื้ออยู่ได้ หรือมึงจะขี่?”


“ไม่อ่ะ กูจะรอขี่แค่มึง!!” สายตาตอนมึงพูดหื่นฉิบหาย


“...” พูดไม่ออกเลยกู กูเริ่มกลัวมึงขึ้นมาละนะ!!


ผมค่อยๆขี่เจ้าสโกมาดิสีขาวแดง ด้วยความเกร็ง จะไม่ให้เกร็งได้ไงละ ก็ไอ้ดินเล่นกอดเอวผมแน่นซะขนาดนี้ตัวก็โตเท่าควาย

คนที่เห็นผมกับมันตอนนี้คงคิดว่ามันเป็นภาพที่แปลกพิลึก!!


“เดี๋ยวๆ ไม่ต้องกอดขนาดนั้นก็ได้มั้ง ไม่ตกง่ายๆหรอก”


“ว่าไงนะ ไม่ได้ยิน ” 


ผมกำลังจะหันหน้าไปบอกมัน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ไอ้ดินยื่นหน้ามาพอดี

โป๊ะเชะ..ปากเราชนกันพอดิบพอดี!!  นี่มันพล็อตละครน้ำเน่าหลังข่าวชัดๆ

ผมรีบเลี้ยวรถจอดข้างทางทันที ขื่นขับต่อรถล้มแน่ๆ ขาเขออ่อนไปหมด!!


“อะไร อยากจูบกับกูก็ไม่บอก” ไอ้ดินพูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก แถมยังกอดเอวผมไม่ยอมปล่อยอีก


“...” ตั้งสติๆพู่กัน  ผมไม่พูดอะไรตั้งใจขับรถต่อพร้อมกับแกะมือไอ้ดิน แกะยังไงมันก็ไม่ยอมปล่อย

ทำตัวเหมือนกับเป็นลูกหมีโคอาลาที่เกาะหลังแม่มันไม่ยอมปล่อย  แต่หนังหน้ามันไม่เหมาะกับหมีโคอาลา อย่างมันต้องหมี

ควาย!!

ยิ่งขี่เร็วมันก็ยิ่งกอดแน่น ผมเลยต้องค่อยๆคลานอย่างกับเต่า!!


และแล้วก็มาถึงเซเว่นอิเลฟเว่นโดยสวัสดิภาพ ด้วยสภาพที่หัวใจเกือบจะวาย!! โดยใช้เวลาเดินทางเกือบ20นาที

ซึ่งปกติแว๊นมาแปปเดียวอย่างช้าไม่เกิน7นาที!!


“น้องดิน!!”   อยู่ๆก็มีผู้หญิงคนนึงมาทักไอ้ดิน หันไปมองเท่านั้นแหละ อื่อหือ..นมหรือส้มโอวะ ใหญ่กว่าหัวกูอีก!!

 แล้วนั่นกางเกงขาสั้นหรือกางเกงใน ก้มทีนึงเห็นไปถึงง่ามดาก แม่เจ้าโว้ย!! อะไรจะแท็กซี่ขนาดนั้น!!


“หวัดดีครับพี่แปม” ผมเห็นไอ้ดินยกมือไหว้ เลยไหว้ตามมัน แต่ตาพี่แกไม่ได้มองมาที่ผมเลยมองแต่ไอ้ดินด้วยสายตาหวานเยิ้ม

  กูไม่ใช่อากาศธาตุนะ!!


“พอดีเลย ช่วยพี่เลือกหลอดไฟหน่อยสิพอดีโคมไฟอ่านหนังสือพี่มันหลอดขาด น้องดินช่วยดูให้หน่อยสิว่าพี่ต้องซื้อหลอดแบบ

ไหน พี่ซื้อไม่เป็นอ่ะ ”  ขอเบ๊ะปากกับความตอแหลของพี่แกได้มะ เห็นๆอยู่ว่าเมื่อกี้ตอนนางเห็นได้ดินนางรีบหยิบหลอดไฟที่อยู่

ในตะกร้ากลับเอาไปวางที่เดิม!!  แล้วยืนคุยเฉยๆไม่ได้ใช่มะ ทำไมต้องคล้องแขนไอ้ดินด้วย นมก็ถูแขนไอ้ดินไปสิ!!

..แล้วทำไมกูต้องหงุดหงิดด้วยวะ!!   


“กูไปรอที่รถนะ” ผมบอกมันเสียงห้วน ..หึ กูซื้อของเสร็จแล้วมึงยังอยู่ที่เดิมเลือกไม่ได้สักทีกะอีแค่หลอดไฟ

จะเลือกอะไรกันนักกันหนา!! 


“ป่ะ กลับกัน” ไอ้ดินเดินหน้านิ่งมาหาผมที่รถ


“ไม่ไปซ่อมโคมไฟให้พี่เค้าที่ห้องเลยละ” อารมณ์เหวี่ยงมากบอกเลอ!!


“...” ไอ้ดินไม่พูดอะไร แต่กับยิ้มกว้าง


“ยิ้มอะไร”  กูไม่ตลก


“รู้ป่ะว่า มึงกำลังหึง!!”


“...”  หึง  หึง...ไม่จริ๊ง!!!!


“หึงบ้าอะไรของมึง”


“พี่แปมเป็นพี่ที่คณะ เค้าแค่ขอให้ช่วยเลือกหลอดไฟ ไม่ได้มีอะไร”


“บอกทำไม” มึงจะเลือกกันกี่หลอดก็ไม่ต้องมาอธิบายให้กูฟัง


“ก็เดี๋ยวมึงเข้าใจผิด”


“เพ้อเจ้อ กูไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น”


“มึงนั้นแหละ คิดเพ้อเจ้อไปเรื่อย ดูดิโมโหจนหน้าแดงหมดละเนี่ย” แล้วมันก็เอื้อมมือมาจับแก้มผมเบาๆ เกลียดสีหน้าและน้ำ

เสียงของมันจริงๆ!! ทำไมต้องทำเหมือนกับว่าแคร์กูด้วยวะ!!


“ขึ้นรถ จะกลับมั้ย?”

ขึ้นรถปุ๊บก็สเต็ปเดิม เกาะกูแน่อย่างกะตีนตุ๊กแก แต่รอบนี้ไม่กอดอย่างเดียว เอาคางมาเกยบนบ่าผมด้วย!!


“กูชอบกลิ่นตัวมึงจัง มันหอมเหมือนผลไม้อะไรสักอย่างแต่กูนึกไม่ออกว่ามันคือผลไม้อะไร” ไม่พูดเปล่า มันสูดลมหายใจข้างๆ

แก้มผม   ไอ้สัด!!ขนลุกเลยกู


“กลิ่นตะขบมั้ง” ผมตอบกวนตีนมัน


“เหรอ ตะขบหอมขนาดนี้เลยเหรอ ไหนขอดมพิสูจน์อีกทีสิ” แล้วมันก็โน้มหน้ามาหอมแก้มผมฟ้อดใหญ่


“ไอ้ดินนน!!” ผมโวยเสียงดังลั่น  ไอ้นี้กูขับรถอยู่หรอกนะ ไม่งั้นมึงเจอกูตบกะบาลแน่


“หอมดีเนอะ ตะขบลูกนี้” มันพูดด้วยน้ำเสียงระรื่น ถึงไม่เห็นหน้าของมันเดาได้เลยว่ามันกำลังยิ้มแน่ๆ!!

..ไม่น่าตอบกวนตีนมันเลย!!


ถึงบ้านสักที..เหนื่อย!! นี่กูขี่มอไซค์ไปเซเว่นที่ปากซอยหรือไปแข่งโมโตครอสมาวะ!!


“มึงไปเซเว่นสาขาสุไหงโกลกมาเหรอวะ นานสัดๆ” ไอ้หมีที่นอนเหยียดยาวบนโซฟา บ่นแบบไม่ใส่ใจนัก

หมั่นไส้ มึงไม่รู้หรอกว่าเมื่อกี้กูเจอกับอะไรมาบ้าง เอาถุงน้ำแข็งไปว่างบนหน้ามันแม่ง!!




  มีต่อด้านล่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2018 14:03:17 โดย MA_LEE »

ออฟไลน์ MA_LEE

  • เป็ดหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

“โวะ ไอ้พู่ไอ้สัด เย็น แล้วเป็นห่าไรหน้าบูดอย่างกะตูดลิง”


“...” ไม่พูดไม่อยากคุยกะใครทั้งนั้น หงุดหงิด!! ว่าแล้วก็เดินไปเข้าห้อง อาบน้ำสงบสติอารมณ์สักหน่อยดีกว่า


เสียงไอ้หมีก็ตะโกนตามหลังมา “ไม่ดูบอลรึไงไอ้พู่ เดี๋ยวบอลเตะแล้วนะเว้ย”

อีกตั้งครึ่งชั่วโมงจะรีบไรนักหนา ..อาบน้ำไปทบทวนตัวเองไปว่าเมื่อกี้ทำไมผมต้องหงุดหงิดไอ้ดินมันด้วยความจริงมันก็ไม่ได้ทำ

ผิดอะไรเลย ‘หึง’ งั้นเหรอ? ทำไม? และเพราะอะไร??  แล้วที่มันแต๊ะอั๋งบ่อยๆอีก

ชินแล้วเหรอ? ทำไมไม่เคยโกรธมันจริงจังสักที!!  ช่างเหอะ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว อาบน้ำให้สดชื่นแล้วไปดูบอลอย่างสบายใจดี

กว่า..


“ไอ้สัดดิน กับพี่แปมนี่ยังไงวะ” ไอ้หมีที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาลุกพรวดขึ้นมาถามไอ้ดิน เมื่อเห็นอะไรบางอย่างในมือถือ


“อะไร?”


“ก็พี่เค้าแท็กมึงในเฟสบุ๊ค เอาไปดู” มันพูดพร้อมกับยื่นมือถือให้ไอ้ดิน


“ไม่มีไรแค่บังเอิญเจอในเซเว่น พี่เค้าเลยให้ช่วยเลือกหลอดไฟให้”


“แค่นั้น?”


“อืม” ไอ้ดินตอบหน้านิ่ง


“แต่ดูพี่เค้าโคตรอยากได้มึงอ่ะ ไม่จัดให้พี่แกหน่อยเหรอว่ะ ดูไฟคู่หน้าของพี่แกสิโคตรสะบึ้มอ่ะ”


“ไม่อ่ะ มึงก็อย่าแซะกูมาก คนแถวนี้กำลังโมโหหึงอยู่”


“มึงหึงเหรอไอ้พู่ มิน่าละหน้าบูดอย่างกะตูดลิง กูจะบอกอะไรให้นะ พี่สาวนมตู๊มเซ็กซี่ขยี้ใจอย่างพี่แปมมันสเปคกูเว้ย

ไอ้ดินไม่ชอบหรอกมันชอบแบบอกแบนๆเรียบๆเหมือนไม้กระดานแบบนี้เว้ย” ไม่พูดเปล่ามันพูดพร้อมกับจิ้มมาที่หน้าอกแบนๆ

ของผม รีบปัดมือมันออกอย่างเร็วรี่ ไอ้ห่ามึงจิ้มหัวนมกู!!


“หึงพ่องมึงดิ กูไม่ได้หึงโว้ย!!”


“จ๊ะ ไม่หึงก็ไม่หึง แต่ว่างานพี่เค้าดีจริงๆนะมึง เห็นแล้วอยากจะซุกหน้าลงไปดอมดมเหลือเกิน” ไอ้หมีพูดด้วยหน้าตาอันหื่น

กระหาย


“งานดีจริงๆด้วยว่ะ มึงว่าของจริงของปลอมวะ” ไอ้ปูนที่กำลังจ้องนมของพี่แปมที่เหมือนกับตูดเด็กแบบตาไม่กระพริบมันหันมา

ถามผม พร้อมกับยื่นมือถือให้ผมดู    ไอ้นี่ก็หื่นจริง เดี๋ยวกูจะฟ้องแฟนมึง!!


“ไม่รู้ เรื่องแบบนี้ก็ถามไอ้หมีสิ” กูไม่รู้อะไรทั้งนั้น รู้อย่างเดียวคือตอนนี้กูหงุดหงิด!!

เมื่อก่อนอาจจะอินกับเรื่องนมตู๊มๆของสาวๆ แต่ตอนนี้กูบอกเลยกูไม่อิน!!!

มันเป็นรูปเซลฟี่ของรุ่นพี่ไอ้ดินที่ถ่ายมุมสูงเห็นร่องดูมๆชัดเจนอย่างกับภาพ3มิติ โดยมีไอ้ดินเป็นฉากหลังที่กำลังตั้งใจเลือก

หลอดไฟอยู่ รูปไม่เท่าไหร่แต่แฮชแท็กของพี่แกพร้อมกับแท็กไอ้ดินด้วยนี่สิ

 #เลือกหลอดไฟให้แล้วมาเปลี่ยนหลอดไฟให้ที่ห้องด้วยสิ รออยู่ค่ะ


หึ..ยอดไลค์ก็บานตะไท ข้อความแสดงความคิดเห็นก็เด้งขึ้นมาไม่หยุด กูอยากจะกดเขาไปอ่านเหลือเกินแต่ต้องฟอร์มไว้ก่อน

ไว้คืนนี้แหละกูจะแอบอ่าน!!

ว่าจะไม่กินเบียร์กับพวกไอ้หมี แต่สุดท้ายก็ต้องกินเพราะตอนนี้อารมณ์เกรี้ยวกราดเหลือเกิน แถมทีมโปรดอย่างแมนยูเสือกโดน

นำอีกต่างหาก  แมร่ง!!


“รินเบียร์ให้กูดิ๊ ไอ้ปูนทำหน้าที่บกพร่องนะมึง” ผมที่เริ่มมึนๆหันไปสั่งไอ้ปูน


“ไอ้สัด กูลุ้นบอลอยู่มะ” ไอ้ปูนตอบแบบไม่ละสายตาจากทีวี


“กินเยอะไปแล้วนะพู่กัน” ไอ้ดินหันมาเอ็ดผมเบาๆ


“ทำไม กูจะกินนี่บ้านกู ถ้าเมากูก็นอนตรงโซฟามันนี่แหละ”


ไอ้ดินได้แต่สายหน้ากับคำพูดของผม แต่สายตามันดูอ่อนโยนยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก


“ลากไปอย่างนั้นแหละดี  ไปๆ ส่งๆ นั้นแหละ  ยิง!! ” ไอ้หมีที่ตอนนี้ลุ่นตัวโก่ง รวมถึงพวกเราทุกคน


“เฮ่!!!!” 


“เป็นไงล่ะทีเด็ดกู ป๊อกบาาา” ไอ้หมีที่พูดอย่างสะใจสุดๆ แล้วแมนยูก็ตีเสมอจนได้ สกอร์ตอนนี้เสมอกันอยู่1-1

แต่เหลือเวลาไม่ถึง10นาทีก็จะหมดเวลา  ตอนนี้พวกเราทุกคนลุ้นแทบจะไม่หายใจ ปวดเยี่ยว ปวดขี้ก็ยังต้องอั้นไว้ก่อน


เกมส์ในสนามตอนนี้ก็ดุเดือดเลือดพล่าน สมกับเป็นดาร์บี้แมตซ์คู่ปรับร่วมเมือง

เวลาดำเนินมาถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ คิดว่าผลน่าจะจบลงที่เสมอกัน

ปลอบใจตัวเองว่าเสมอก็ยังดีว่าแพ้วะ แต่ใครจะไปคิดว่านาทีที่90+2 เหลืออีกแค่1นาทีก็จะหมดเวลา แมนยูได้ลูกเตะมุม

และเป็นกองหลังอย่างคริส สมอลลิ่งโหม่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย จากที่โดนนำก่อนสุดท้ายแมนยูก็โกงความตายพลิกกลับมาชนะ

คู่ปรับร่วมเมืองได้!!

วินาทีที่แมนยูขึ้นนำพวกเราเฮดีใจกันดังลั่น  มันเป็นโมเม้นต์ที่เกิดขึ้นเร็วมากผมเผลอกอดไอ้ดินด้วยความดีใจ

รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เราสบตากัน ด้วยความเขินที่ผมเป็นฝ่ายกอดมันก่อน เลยเนียนหันไปดีใจกับไอ้หมีและไอ้ปูนที่ตอนนี้ดีใจและ

สะใจจนสติหลุดไปแล้ว!!


จากนั้นเราก็ฉลองให้กับชัยชนะในศึกครั้งนี้ ผลก็คือ กูเมาเละครับ!!



“พู่  พู่กันเจ็ดโมงแล้ว ตื่น” เสียงใคร? แล้วจะสะกิดอะไรกันนักกันหนา


“อื่อ ปวดหัว” ผมตอบทั้งที่ไม่ลืมตา ใครเอาค้อนมาทุบที่หัวกูว่ะปวดหัวโคตรๆ


“เดี๋ยวไปเรียนสายนะ ตื่นเร็ว” ผมค่อยๆลืมตาอย่างอยากเย็น สิ่งที่เข้ามาในม่านสายตาคือใบหน้าของไอ้ดินที่ห่างกับหน้าผมแค่

คืบ รีบดันตัวมันให้ออกห่าง ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ว่าแต่มานอนที่เตียงได้ไงวะ จำอะไรไม่ได้เลยแฮะ

ภาพตัดไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ และถ้าจำไม่ผิดเมื่อคืนผมไม่ได้ใส่ชุดนี้นี่หว่า หรือว่า...


“ไอ้ดิน มึงทำอะไรกู เมื่อคืนกูไม่ได้ใส่ชุดนี้”  ผมรีบโววายใส่มัน


“รู้ตัวรึป่าวว่าเมื่อคืนมึงเมามาก คออ่อนแล้วยังไม่เจียม อ้วกแตกไปทั่วบ้านเหนื่อยกูอีกที่ต้องคอยเก็บอ้วกมึง

เสื้อผ้ามึงก็เลอะอ้วกมึงไงลำบากกูเปลี่ยนให้มึงอีก” นี่มึงกำลังบ่น หรือกำลังแร๊พ หยุดหายใจก่อนก็ได้นะหรือมึงหายใจทาง

เหงือก!!


“...” ถึงกับพูดไม่ออก  นี่คงเป็นครั้งแรกที่ไอ้ดินมันบ่นยืดยาวขนาดนี้ กูขอบันทึกลงกินเนสส์บุ๊คได้มะ!!


“ยังจะนั่งอมขี้ฟันอีก ไปอาบน้ำได้แล้วมีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ”


“บ่นๆ มึงเป็นแม่กูรึไง”


“ยังจะเถียงอีก จับจูบเลยดีมั้ย!!”


“จูบดิ จูบทั้งขี้ฟันกูนี่แหละ กล้ามั้ยละ” เพราะคิดว่าคนสะอาดอย่างมันคงไม่กล้าเลยกล้าท้าพร้อมกับทำปากจู๋ให้มันจูบ

 ด้วยความไวแสงไอ้ดินรีบประกบปากจูบผมทันที มันบดปากของมันลงมาอยากหนักหน่วงเหมือนจะบอกว่านี่คือการลงโทษ

ที่ผมอวดดีกับมัน


“อื่ออออออ” ได้แต่ส่งเสียงในลำคอ พร้อมกับทุบบ่ามันรัวๆ  กูหายใจไม่ทัน ไอ้ห่า!!


เมื่อมันยอมปล่อยปาก ผมรีบตักตวงอากาศเข้าปอดทันที กูกำลังจะตาย?!!


“จะไปอาบน้ำได้รึยัง  หรือต้องให้กูทำมากกว่านี้” มันพูดพร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์

เชื่อละว่ามึงคนจริง แล้วจะรออะไรละคร้าฟ เด้งตัวลุกจากเตียงไปห้องน้ำอย่างเร็วรี่ด้วยหัวใจที่เต้นรัว!!

          ฮือ..ใจกู


“เอ้า ทำไมมึงยังไม่กลับ ไม่มีเรียนรึไง” อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ออกจากห้องนอนก็เห็นไอ้ดินกำลังง่วนอยู่ในครัว


“มากินแซนวิช กับกาแฟดำก่อน เดี๋ยวกูจะไปส่งมึงที่คณะ” ได้ยินที่กูถามมั้ย?


“...”


“กูมีเรียนบ่าย”


“แล้วทำไมต้องไปส่ง กูไปเองได้”


“มึงเป็นดอกไม้ของกูที่กูต้องดูแล อย่าลืม”


“เหอะ มึงก็คิดเองเออเอง กูไปตกลงกับมึงตอนไหน”


“รีบกิน เดี๋ยวสาย”  เปลี่ยนเรื่องไวเหลือเกิน


       ...สุดท้ายผมก็จำยอม ให้ไอ้ดินมาส่งที่คณะ 


“เมื่อคืนไอ้หมีกับไอ้ปูนกลับยังไง”


“ก็ขับรถกลับ พวกมันไม่ได้เมาเหมือนมึง” เกลียดสายตาตำหนิของมันจริงๆ มึงด่ากูมาตรงๆเลยดีกว่า!!


“แล้วทำไมมึงไม่กลับหอมึงล่ะ”


“หมามันอ้วกเมาไม่รู้เรื่อง เลยต้องอยู่ดูแล”  เออกูเมาเพราะหงุดหงิดมึงนั่นแหละ!!


“แล้วมึงนอนตรงไหน โซฟา?”


“เปล่า นอนบนเตียงกอดมึงทั้งคืน”


“...!!!” อึ้งแดก


“ตอนมึงเมานี่ก็ดีเหมือนกันนะ กูทำไรมึงก็ไม่ขัดขืนเลย”


“...!!!” อึ้งแดกครั้งที่2


“ตอนมึงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กูมึงปิดไฟรึป่าว” ถามมันอย่างกล้าๆกลัวๆ ขอละอย่าให้เป็นอย่างที่คิดไว้เลย


“ถามโง่ๆ ปิดไฟก็มองไม่เห็นสิ ตัวมึงอย่างขาว พู่กันน้อยของมึงก็น่ารักน่าชัง กูอดใจแทบไม่ไหว!!”


“เชี่ย!! หมายความว่าไง” พอมาคิดๆดูแล้ว เมื่อคืนผมใส่กางเกงใน แต่ตอนเช้ากางเกงในหายไปไหน?? ถึงว่าทำไมมันโล่งๆ


“ก็มึงอ้วกเลอะทั้งเสื้อทั้งกางเกง กูก็เลยเปลี่ยนให้ เห็นมึงนุ่งกางเกงในนอนแล้วอึดอัด เลยถอดให้ นุ่งแต่กางเกงบอลน่าจะสบาย

กว่า”


“มึงนี่แมร่ง!! มึงเป็นหรรมกูรึไงถึงรู้ว่ามันอึดอัดอ่ะ” กูไม่รู้จะด่ามึงยังไงละเนี่ย ทำไมกูรู้สึกเหมือนเสียซิงให้มันยังไงก็ไม่รู้

ให้ตายเหอะ!!


“ไม่ต้องเขินๆ อีกหน่อยก็ชิน” ยัง ยังไม่สำนึกอีก


“หรือมึงกลัวจะเสียเปรียบ เดี๋ยวเย็นนี้กูถอดกางเกงให้มึงดูแผ่นดินน้อยของกูมะ” ไอ้ห่าพูดมาได้หน้าระรื่น


“ไอ้สัด ไอ้หน้าด้าน เย็นนี้ก็ไม่ต้องมาหากู กูขออยู่อย่างสงบสักวันเหอะ!!!” กูขอสงบจิตสงบใจสักวันเหอะ!!


 “เดี๋ยวตอนเย็นมารับนะ” ไอ้ดินพูดเมื่อรถมันมาจอดอยู่ที่หน้าคณะผม


“ไม่ต้อง!! จะกลับกับไอ้หมี” ไม่รอให้มันตอบ รีบลงจากรถ ปิดประตูแรงๆใส่แมร่ง!!


หงุดหงิดฉิบหาย กล้าดียังไงมาถอดกางเกงในกู  สาบานเลยกูจะไม่เมาง่าวๆแบบนี้อีกแล้ว!!

มาถึงห้องเรียนด้วยเวลาอันฉิวเฉียด ไอ้พวกหมอ’หมา’มาถึงก่อนแล้วพวกมันไม่ได้พูดอะไรเพราะได้เวลาเรียนแล้ว

แต่พวกมันมองผมด้วยสายตามีเลศนัย

อย่างที่ผมเคยบอกเวลาเรียนพวกเราจะตั้งใจเรียนไม่คุยอะไรไร้สาระในคาบเรียน แต่หลังจากเรียนเสร็จนะเหรอ..


“เมาเละเลยนะมึง รู้ตัวรึป่าวว่าทำอะไรลงไปบ้าง” ไอ้หมีพูดก่อนเป็นคนแรกหลังจากเดินออกห้องเรียน คงอั้ดอั้นมากสินะมึงอั้น

มาตั้ง3ชั่วโมง!! 


“ทำไรวะ?!!” ผมถามอย่างสงสัย ดูจากสายตามันเริ่มใจไม่ดีละกู!!


“ไอ้ดินไม่ได้บอกมึงเหรอ?”


“ไม่ต้องบอกมันให้มันไปถามไอ้ดินเอาเอง” ไอ้ปูนกระซิบอกไอ้หมี พร้อมกับทำหน้าระรื่นที่ได้แกล้งผม


“เห้ย ไรวะ บอกกูมาเร็วๆ” ไอ้เพื่อนเวรมึงอยากเห็นกูอกแตกตายรึไง!!


“ฮ่าๆๆ ไม่บอกเว้ย”


“พวกมึงบอกกูมาเตอะ  เดี๋ยวกูเลี้ยงข้าว” ต้องเอาเรื่องกินล่อไอ้หมีเข้าไว้


“พวกกูไม่ได้เห็นแก่กิน ใช่มั้ยไอ้หมี” ไอ้ปูนที่ตอบอย่างมั่นใจ


“ชาบู หน้ามอ ”


“สัดหมี มึงแม่งเห็นแก่กินจริงๆ” ไอ้ปูนได้แต่ส่ายหน้าระอา กับการเห็นแก่กินของไอ้หมี


“หรือมึงไม่กิน”


“แหะๆ กิน”


“ตงลงชาบูนะไอ้พู่”


“เออ”


“อ่ะเอาไปดู เล่าเฉยๆจะไม่เห็นภาพ ดูเองเลยละกัน”


“....!!!” บ๊ะ นั่นใช่กูจริงๆเหรอ ใครก็ได้บอกทีว่ามันไม่จริง  ไอ้หมียื่นมือของมันมาให้ผมดูรูปที่มันถ่ายเอาไว้เมื่อคืน

 มันคือรูปผมที่ขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักไอ้ดินพร้อมกับใช้แขนโอบคอมันเอาไว้

ส่วนอีกรูป คือรูปที่ผมกับไอ้ดินนั่งในท่าเดิม แต่..แต่ผมกับมันกำลังจูบกัน  ไม่จริ๊งงงง!!! ฝันแน่ๆ

ผมได้แต่มองหน้าเพื่อนทั้งสองคนสลับกับมองรูปตัวเองในมือถือ  ฮืออออ ทำไมกูเมาแล้วเรื้อนได้ขนาดเน๊!!

แล้วทำไมกูจำอะไรไม่ได้เลยวะ!!  บอกได้คำเดียวว่า อาย!! ดีที่ไอ้ดินมันไม่พูดอะไรไม่งั้นทำตัวไม่ถูกแน่ๆ!!


“ไม่คิดว่ามึงจะหึงไอ้ดินได้ขนาดนี้” แล้วไอ้ปูนก็เริ่มเปิดประเด็นอีกครั้ง


“…??” กูหึงไรอิ๊กกก!!


“ตอนมึงเมา มึงโวยวายแต่เรื่องพี่แปมที่ให้ท่าไอ้ดิน” ไอ้ปูนพูดพร้อมกับทำหน้ากลั้นขำ


“แถมยังไปขึ้นค่อมไอ้ดิน แล้วให้ไอ้ดินจับอกแบนๆของมึงอีก ฮ่าๆๆ” ไอ้หมีระเบิดเสียงหัวเราะ


“...!!” ไม่จริงอ่ะ พวกมึงกำลังตอแหลกูใช่มะ


“จริงๆกูถ่ายคลิปไว้นะ แต่ไอ้ดินขอให้กูลบ เพื่อนกูก็สุภาพบุรุษเกิ๊น” ไอ้หมีทำหน้าเสียดาย ดีแล้วล่ะที่กูไม่ได้ดู

แค่ภาพนิ่งกูก็สมเพชตัวเองมากพอละ ถ้าเป็นภาพเคลื่อนไหวกูคงได้เอาปี๊บมาคลุมหัว!!


“ละ..แล้วที่กูกับมันจูบกัน กะ..กูจูบมันก่อนเหรอวะ” ผมถามอย่างกล้าๆกลัวๆ


“มันจูบมึง มันบอกเป็นวิธีที่จะทำให้มึงหยุดสะอึก” จำได้ใช่มั้ยครับ ถ้าผมเมาผมจะสะอึก


“แล้วมึงก็เสือกหยุดสะอึกจริงๆ ฮ่าๆๆ” คราวนี้เป็นไอ้ปูนที่ระเบิดเสียงเราะที่อั้นมานาน


“มึงตกหลุมที่ไอ้ดินมันขุดไว้แล้วล่ะ หลุมลึกซะด้วยสิ ไอ้พู่เอ๋ย!!” ไอ้หมีตบไหล่ผมปุๆ


“ยอมรับความจริงได้แล้วว่ามึงก็มีใจให้มัน จะปีนขึ้นมาจากหลุมก็คงยากแล้วล่ะ ไม่สิ..มึงไม่มีทางปีนขึ้นมาได้หรอก มึงไม่รอด

แน่ไอ้พู่เตรียมตัวมีผัวเป็นเดือนเกษตรได้เลย!!”



   ..ยอมรับความจริงงั้นเหรอ? ความจริงอะไร? แล้วถ้าผมชอบมันขึ้นมาจริงๆผมต้องทำยังไง?!!



                   ...ใครก็ได้ช่วยบอกผมที!!!!




    *TBC*




..........................................................................................


สวัสดีค่ะ หายไป2อาทิตย์ เนื่องด้วยติดธุระมากมายก่ายกอง   

ช่วยบอกน้องพู่กันเค้าหน่อยนะคะว่าควรจะทำยังไงดี เมื่อรู้ตัวว่าตกหลุมที่แผ่นดินขุดไว้เข้าเต็มๆ^^





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2018 14:05:22 โดย MA_LEE »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

น่ารัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตกลงไปแล้วก็ไม่ต้องขึ้นมาให้เหนื่อยค่ะน้องพู่ :z1:

ออฟไลน์ skykick

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0


 :impress2:  ตกแล้วตกเลยไม่ต้องขึ้นมาหรอกน้องพู่ ยังไงก็มีพ่อบ้านอย่างแผ่นดินคอยดูแล  :-[


ออฟไลน์ fairy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ patompong888

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

   
            เริ่มรู้ใจตัวเองแล้วสินะ..พู่กัน   :katai2-1:

ออฟไลน์ MA_LEE

  • เป็ดหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
บทที่ 9 จริงๆแล้วผมก็ชอบเค้า?!!


พาร์ตของแผ่นดิน

     
     ผมอึ้งถึงอึ้งมากที่สุด ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น เมื่อคืนพู่กันกินเบียร์จนเมาเละ เค้าว่ากันว่าคนเมามักจะพูดความจริง?!

งั้นสิ่งที่พู่กันพูดและแสดงออกเมื่อคืนมันก็เป็นเรื่องจริงสินะ เค้าหึงผมจริงๆ!!

 ..งั้นแปลว่าเค้ามีใจให้ผม?!! 

        และนี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น..

“ไอ้ดิน!!” อยู่ๆพู่กันก็ตะโกนเรียกผมซะเสียงดังแล้วก็ขึ้นมานั่งค่อมบนตักผมเฉยเลย!!


“ทำไมเมิงไม่ปายเปลี่ยนหลอดไฟให้พี่เค้าที่ห้องวะ    อึก”  พู่กันโอบรอบคอผมพร้อมกับสะอึกไปด้วย

 
“...” หึงจริงๆด้วยสินะ


“เค้ารอให้เมิงไปเสียบหลอดไฟห้าย รีบไปเซ่   อึก”


“...” ไปทำไม รอเสียบของคนที่นั่งสะอึกอยู่บนตักเนี่ย!! จะว่าไปท่านั่งตอนนนี้ก็เหมาะเจาะพอดีนะ!!


“อึก..นมตู๊มๆ ม่ายชอบงาย” หน้าตาเวลาที่พูดก็หวานเยิ้มเชียว อยากจะจับจูบแรงๆสักที มันเขี้ยว!!


“...” ไม่ชอบ ชอบนมของคนที่นั่งคร่อมอยู่บนตักตอนนี้ต่างหาก


“พี่เค้ายั่วเมิงขนาดนั้น เมิงม่ายสนเหรอ แล้วถ้ากูยั่วเมิงบ้างล่ะ สนป่ะ” พูดพร้อมกับช้อนตามองผมด้วยสายตายั่วยวน สนสิ..สนจน

จะทนไม่ไหวอยู่แล้วเนี่ย ถ้าไอ้เพื่อนสองตัวนี้ไม่อยู่โดนจับปล้ำแน่ๆ  ฮึม..


“อกแบนๆแบบกูเมิงชอบจริงเหรอ อ่ะกูให้จาบ   อึก” ไม่พูดเปล่าพู่กันจับมือผมให้ไปทาบหน้าอกของตัวเอง..โคตรพีคอ่ะ!!   


“...!!” อึ้ง..นี่จะยั่วกันจริงๆใช่มะ  เห็นใจกันบ้างเหอะ แผ่นดินน้อยมันปวดหนึบไปหมดแล้วเนี่ย!!


“ดอกไม้ทำไมน่ารักแบบนี้ ฮึ” ผมพูดพร้อมกับลูบแก้มเจ้าตัวเบาๆ


“อึก” เมาทีไรสะอึกทุกทีสินะ  ให้ตาย ทำไมดอกไม้ของผมถึงน่ารักได้ขนาดนี้นะ..


“จูบนะ  จะได้หายสะอึก” เจ้าตัวไม่พูดอะไรแต่เอียงหน้าให้น้อยๆ ผมประกบจูบริมฝีปากนั้นทันทีอย่างแผ่วเบา..มันเป็นรสจูบที่

หวานปนความขมของเบียร์ให้ความรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด จูบไม่นานก็ผละออก เพราะไอ้เพื่อนสองตัวมันกำลังจ้องอยู่ด้วย

สายตากรุ้มกริ่ม พร้อมกับถ่ายคลิปไปด้วย

       ..ส้นตีนจริงๆไอ้สัดหมี!!


“...” พู่กันมองผมด้วยแววตาฉ่ำปรือ มันน่าโดนมากกว่าจับจูบนะ ฮึม..


“...”


“เห็นมั้ยหยุดละ” ผมยิ้มพร้อมกับแตะริมฝีปากบางนั้นเบาๆ


“....”


 “ไอ้ดิน   อื่อ  กูจาอ้วก” แล้วเจ้าตัวก็รีบวิ่งปิดปากไปยังห้องน้ำ ..แต่ไม่ทันซะแล้ว


“อ้วกกกกกก”  อ้วกพุ่งอย่างกับเขื่อนแตกกระจายเต็มหน้าห้องน้ำ  พวกผมต่างก็วิ่งมาหาด้วยความเป็นห่วง


“ไอ้พู่ เป็นไงบ้างวะ” ไอ้หมีที่ค่อยๆพยุงพู่กันที่นั่งจุมปุ๊กให้ลุกขึ้น จากนั้นผมกับไอ้หมีก็ช่วยกันพาร่างของพู่กันมายังห้องนอน


“พวกมึงกลับเหอะ ดึกแล้ว” ผมพูดหลังจากไอ้ปูน กับไอ้หมีเดินออกมาจากห้องนอนของพู่กัน


“แล้วอ้วกพวกนี้ล่ะ” ไอ้ปูนทำหน้าคิดหนักที่จะต้องจัดการกับกองอ้วกพวกนี้


“กูจัดการเอง พวกมึงมีเรียนเช้ากันนิ กลับเหอะ”


“ตามใจมึง งั้นกูฝากดูแลเพื่อนกูด้วยนะ”


“ไอ้หมี กูขอไรอย่างดิ ลบคลิปที่มึงถ่ายเมื่อกี้ได้มั้ยวะ กูไม่อยากให้พู่เค้าลำบากใจวะ”


“เออๆเดี๋ยวลบให้ ห่วงใยกันดีเหลือเกิน ยังไงก็ยินดีกับมึงด้วยนะ ” แล้วไอ้หมีก็เดินมาตบบ่าผม


“...?”


“มึงจีบไอ้พู่ติดแล้วหละ เหลือแค่ว่ามันจะยอมรับความจริงเมื่อไหร่


      ..นั่นน่ะสินะ ต้องทำยังไงเค้าถึงจะรู้ใจตัวเองสักที?!!


หลังจากที่เพื่อนทั้งสองคนกลับ ผมก็หันมาจัดการกับคนเมาที่ตอนนี้นอนสลบไสลอยู่บนเตียง


“พู่  ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเร็ว”


“....” ไม่มีสัญญาณตอบรับ


“งั้นเปลี่ยนให้นะ”  ไม่ตอบถือว่าอนุญาตแล้ว ผมจึงค่อยๆถอดเสื้อและกางเกงที่เลอะอ้วกออกเบาๆ ตอนนี้ร่างกายของพู่กัน

เปลือยเปล่าเหลือแค่กางเกงในสีขาวเพียงตัวเดียว  ใจผมเต้นแรงเมื่อเห็นร่างกายขาวเนียนของพู่กัน  จากนั้นผมก็ค่อยๆเช็ดตัว

ให้พู่กันอย่างเบามือ ..ทุกครั้งที่สัมผัสโดนผิวขาวๆของพู่กันใจผมก็จะเต้นรัวทุกครั้งพร้อมกับอาการตื่นตัวของแผ่นดินน้อยของ

ผม!!


“ใจเย็นๆ ลูกพ่อ” ให้ตาย ได้แต่ห้ามใจตัวเองไม่คิดว่าร่างกายผมจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบรุนแรงได้ขนาดนี้

ขณะที่กำลังเช็ดไปตามแผงหน้าอกสวยนั้นก็อดใจไม่ไหวที่จะมองอย่างสำรวจ ทำไมยอดอกถึงได้สีสวยขนาดนี้นะ

แล้วผมก็อดใจไม่ไหวเผลอใช้มือไปสัมผัสลูบไล้เบาๆตรงยอดอกสีชมพูระเรื่อของพู่กัน


 “อื่อออ” พู่กันที่นอนหลับใหลอยู่ร้องครางออกมาเบาๆ  เสียงครางของพู่กันเกือบจะทำให้สติผมขาดกระเจิง!!

ไม่ได้ๆ อดกลั้นไว้  เค้าเมาต้องรอให้เค้าเต็มใจก่อนสิ!! นี่ผมต้องต่อสู้กับด้านมืดของตัวเองอย่างยากเย็น

เมื่อมองต่ำลงไปเรื่อยๆก็เห็นกางเกงในมีรอยเลอะคาบอ้วกที่คงซึมลงไปตอนอ้วกเลอะกางเกง


“เอาไงดีวะ!!” ได้แต่ถามตัวเองว่าจะเปลี่ยนกางเกงในให้พู่กัน หรือจะปล่อยไว้แบบนั้น..มันก็ต้องเปลี่ยนสิทิ้งไว้แบบนั้นก็สกปรก

แย่ แล้วใจผมจะต้านทานไหวมั้ยเนี่ยแค่เห็นหน้าอกกับร่างขาวๆก็แทบอดใจไม่ไหว นี่ต้องเห็นพู่กันน้อยเลยนะ!! ใครจะไปอดใจ

ไหววะ  แล้วผมก็ต้องต่อสู้กับความคิดตัวเองอีกครั้ง..


“เอาวะ!!” แล้วผมก็กลั้นใจถอดกางเกงในของพู่กันออก แล้วรีบสวมกางเกงขาสั้นตัวใหม่ให้กับคนที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่ตอนนี้  นี่ถ้า

ผมจับปล้ำขึ้นมาจริงๆก็คงไม่รู้สึกตัวสินะ!!


“ฟู่” ได้แต่เป่าปากโล่งอก สุดท้ายก็ต้านทานด้านมืดของตัวเองได้สำเร็จ นี่ถ้าผมเมาพู่กันเสร็จผมไปแล้วแน่ๆ บอกเลย!!

จัดการกับเจ้าของอ้วกเสร็จ ก็ต้องมาจัดการเก็บอ้วกต่อ แต่แปลกผมไม่ได้รังเกียจแต่กับเต็มใจที่จะทำ..

แบบนี้สินะที่เรียกว่า ความรัก!!

ทำความสะอาดทุกอย่างเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง..เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย

“ไหนดูสิ สภาพคนเมาเป็นบ้าง” พู่กันยังคงหลับใหลไม่ได้สติ   ดี!!เป็นแบบนี้จะนอนกอดให้หนำใจไปเลย

เมาแบบนี่บ่อยๆก็ดีเหมือนกันนะ จะกอดจะหอมตรงไหนก็ไม่มีขัดขืนเลย แต่ต้องเมาตอนที่ผมอยู่ด้วยนะ

แล้วต้องเป็นผมคนเดียวที่ได้สัมผัสด้วย หวง!!


“พู่  พู่กันเจ็ดโมงแล้ว ตื่น” ผมสะกิดพู่กันเบาๆให้ตื่น ปลุกอยู่นานกว่าพู่กันจะรู้สึกตัว


“อื่อ ปวดหัว” พู่กันตอบทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา  แฮงค์จนปวดหัวสินะตอนนี้


“เดี๋ยวไปเรียนสายนะ ตื่นเร็ว” ผมยื่นหน้าไปกระซิบใกล้ๆ เป็นจังหวะที่พู่กันลืมตาตื่นพอดี

เจ้าตัวรีบดันตัวผมให้ออกห่างด้วยความตกใจ ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่งพร้อมกับทำหน้างงมองหน้าผมสลับกับก้มมองชุด

ที่ตัวเองใส่อยู่...


“ไอ้ดิน มึงทำอะไรกู เมื่อคืนกูไม่ได้ใส่ชุดนี้”  เจ้าตัวรีบโวยวายใส่ผม


“รู้ตัวรึป่าวว่าเมื่อคืนมึงเมามาก คออ่อนแล้วยังไม่เจียม อ้วกแตกไปทั่วบ้านเหนื่อยกูอีกที่ต้องคอยเก็บอ้วกมึง เสื้อผ้ามึงก็เลอะ

อ้วกมึงไงลำบากกูเปลี่ยนให้มึงอีก” จริงๆผมก็แกล้งบ่นไปแบบนั้นแหละ อยากจะรู้ว่าพู่กันจะมีปฏิกิริยายังไง


“...” ปรากฏว่าอึ้งครับอ้าปากค้างถึงกับพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าอึ้งเพราะรู้ว่าเมาแล้วอ้วก หรืออึ้งเพราะผมบ่นได้ยืดยาวแบบนี้กันแน่!!


“ยังจะนั่งอมขี้ฟันอีก ไปอาบน้ำได้แล้วมีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ” ดูๆ ยังนั่งทำหน้าอึ้งไม่หาย จับจูบให้อึ้งอีกรอบดีมั้ยเนี่ย!!


“บ่นๆ มึงเป็นแม่กูรึไง” พอได้สติก็รีบโวยวายเลยนะ


“ยังจะเถียงอีก จับจูบเลยดีมั้ย!!”


“จูบดิ จูบทั้งขี้ฟันกูนี่แหละ กล้ามั้ยละ” โอ้โห..มีท้าซะด้วย รออะไรละคร้าบ รีบจับจูบทันที

ผมบดปากลงไปอย่างหนักหน่วงแต่ไม่ได้ล่วงเกินอะไรไปมากกว่านั้น เดี๋ยวดอกไม้จะตกใจไปมากกว่านี้


“อื่ออออออ” ดอกไม้ได้แต่ส่งเสียงในลำคอ พร้อมกับทุบบ่าผมรัวๆ  เหมือนจะประท้วงว่าหายใจไม่ทัน

พอผมปล่อยปาก ดอกไม้ก็หอบหายใจอย่างถี่รัวพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ  ..น่าเอ็นดู


“จะไปอาบน้ำได้รึยัง  หรือต้องให้กูทำมากกว่านี้” ต้องขู่ด้วยวิธีนี้ถึงจะได้ผล  พู่กันรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที


ระหว่างที่รอพู่กันอาบน้ำก็ทำแซนวิชกับชงกาแฟรอไว้ให้


“เอ้า ทำไมมึงยังไม่กลับ ไม่มีเรียนรึไง” พู่กันเดินออกจากห้องพร้อมกับกลิ่นกายที่หอมกรุ่น ให้ตายผมชอบกลิ่นนี้จริงๆ!!


“มากินแซนวิช กับกาแฟดำก่อน เดี๋ยวกูจะไปส่งมึงที่คณะ”


“...”  พู่กันได้แต่ทำหน้างง


“กูมีเรียนบ่าย”


“แล้วทำไมต้องไปส่ง กูไปเองได้”


“มึงเป็นดอกไม้ของกูที่กูต้องดูแล อย่าลืม”


“เหอะ มึงก็คิดเองเออเอง กูไปตกลงกับมึงตอนไหน”


“รีบกิน เดี๋ยวสาย”  ตอนนี้ยังไม่ตกลง แต่เดี๋ยวรออีกไม่นานหรอกหนีไม่รอดแน่ๆ หึๆ


        ...สุดท้ายพู่กันก็ยอมมานั่งเป็นดอกไม้หน้ารถ ให้ผมไปส่งที่คณะ..


“เมื่อคืนไอ้หมีกับไอ้ปูนกลับยังไง” ที่นั่งเงียบมานานคงระลึกอยู่สินะว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง


“ก็ขับรถกลับ พวกมันไม่ได้เมาเหมือนมึง” ผมแกล้งทำสายตาตำหนิใส่


“แล้วทำไมมึงไม่กลับหอมึงล่ะ” ถามกลับด้วยอารมณ์เหวี่ยง  หน้าตอนเหวี่ยงก็น่ารักดีเหมือนกันนะ..


“หมามันอ้วกเมาไม่รู้เรื่อง เลยต้องอยู่ดูแล” 


“แล้วมึงนอนตรงไหน โซฟา?”


“เปล่า นอนบนเตียงกอดมึงทั้งคืน”  หอมด้วยจูบด้วย อันนี้ไม่กล้าบอก!!


“...!!!”  ท่านี้มาอีกละ อ้าปากค้าง


“ตอนมึงเมานี่ก็ดีเหมือนกันนะ กูทำไรมึงก็ไม่ขัดขืนเลย” ผมพูดแหย่ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์


“...!!!”  ดูทำหน้าเข้า ตกใจตาโตเท่าไข่ห่าน  ดอกไม้นะดอกไม้..


“ตอนมึงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กูมึงปิดไฟรึป่าว” หึ เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วสินะ


“ถามโง่ๆ ปิดไฟก็มองไม่เห็นสิ ตัวมึงอย่างขาว พู่กันน้อยของมึงก็น่ารักน่าชัง กูอดใจแทบไม่ไหว!!” อันนี้พูดเรื่องจริง

เกือบโดนจับปล้ำแล้วมั้ยล่ะ หึๆ


“เชี่ย!! หมายความว่าไง” ดอกไม้ของเราโมโหแล้ว!!


“ก็มึงอ้วกเลอะทั้งเสื้อทั้งกางเกง กูก็เลยเปลี่ยนให้ เห็นมึงนุ่งกางเกงในนอนแล้วอึดอัดเลยถอดให้ นุ่งแต่กางเกงบอลน่าจะสบาย

กว่า” ผมตอบตามความจริง ก็มันน่าอึดอัดใครเค้านุ่งกางเกงในนอนกันล่ะ!! แค่ถอดกางเกงในให้ก็วัดใจมากพอแล้ว

อย่าให้ต้องใส่เข้าไปอีกรอบเลยไม่งั้นไม่รอด..ดอกไม้นั้นแหละที่จะไม่รอด!!


“มึงนี่แมร่ง!! มึงเป็นหรรมกูรึไงถึงรู้ว่ามันอึดอัดอ่ะ” ผมได้แต่กลั้นขำกับคำพูดของพู่กัน ไม่ได้เป็นหรรมแต่อยากเป็นเจ้าของหรรม

ต่างหาก!!


“ไม่ต้องเขินๆ อีกหน่อยก็ชิน”


“หรือมึงกลัวจะเสียเปรียบ เดี๋ยวเย็นนี้กูถอดกางเกงให้มึงดูแผ่นดินน้อยของกูมะ” อันนี้ก็พูดเรื่องจริงอีกเต็มใจถอดให้เลย ถ้าเค้า

บอกให้ถอดตอนนี้ผมก็จะถอดเอ้า!!


“ไอ้สัด ไอ้หน้าด้าน เย็นนี้ก็ไม่ต้องมาหากู กูขออยู่อย่างสงบสักวันเหอะ!!!”


 “เดี๋ยวตอนเย็นมารับนะ” ผมพูดเมื่อมาถึงที่หน้าคณะแล้ว


“ไม่ต้อง!! จะกลับกับไอ้หมี” โอ๊ะ มีปิดประตูใส่ แถมยังเดินหน้าบึ้งไปเรียนอีก ผมได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกับขำ

       
              ..ให้มันได้แบบนี้สิดอกไม้ของผม!!


 จบพาร์ตของแผ่นดิน



       คำว่ายอมรับความจริงของไอ้หมีมันยังก้องอยู่ในหัว  ผมมีใจให้กับไอ้ดินจริงๆเหรอวะ?!!

คาบบ่ายผมแทบจะไม่มีสมาธิในการเรียน มัวแต่คิดเรื่องนี้ซ้ำๆ เครียดยิ่งกว่าตอนเรียนซะอีก แล้วนี่ก็ใกล้สอบแล้วด้วย เรียนไม่รู้

เรื่องแบบนี้เละแน่ๆเลยกู


“พวกมึงลงไปรอกูใต้ตึกนะ กูขอไปขี้ก่อนแม่งอั้นมาเกือบชั่วโมงละ” ไอ้หมีพูดขณะที่พวกเรากำลังเดินออกจากห้องเรียน  ถึงว่า

ช่วงท้ายคาบกูเหม็นอะไร มึงตดให้กูดมตลอด!!


“กูไปด้วย ปวดเยี่ยว” ไอ้ปูนพูดพร้อมกับทำท่าบิดตัวไปมา


“เออ งั้นกูรอใต้ตึกนะ”

เดินลงมานั่งรอไอ้เพื่อนหมอ’หมา’ที่ใต้คณะ  ก็ได้ยินเพื่อนผู้หญิงที่นั่งโต๊ะใกล้ๆพูดขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องเบาๆ

“แกๆ ใช่ดินเดือนคณะเกษตรรึป่าวอ่ะ” ผมหันไปมองตามสาวๆ ก็ใช่อ่ะดิไอ้ดินไงจะใครล่ะ!! มาทำไมวะกูบอกกลับกับไอ้หมีไง

แม่งไม่เคยฟังที่กูพูดเล้ย!!


“ใช่ๆ หล่ออ่ะแก”


“เค้ามาทำไมวะแก แฟนเค้าเป็นเด็กสัตแพทย์เหรอ” ไอ้พวกผู้หญิงพวกนี้ก็ตื่นเต้นเหลือเกิน


“เค้ามีแฟนแล้วเหรอ ฮือ..ไม่นะ”


อย่า อย่าเดินมาหากูนะมึง ไม่งั้นทุกสายตาจับจ้องมาที่กูแน่ เออ..ให้มันได้แบบนี้สิ ไอ้ดินเดินตรงดิ่งมายังผมพร้อมกับรอยยิ้ม

น้อยๆของมันแล้วก็นั่งแหมะลงข้างผมๆ...ครับ!!ตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผม เป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

และบางสายตาก็เต็มไปด้วยความอาฆาต!! 


“มาทำไม” แม่งโมโห เพราะมึงทำให้กูไม่มีสมาธิในการเรียน แถมยังต้องมาเจอสายตาจับผิดอีก


“บอกแล้วไงว่าจะมารับ”


“บอกแล้วไงว่าจะกลับกับไอ้หมี”


“บอกตอนไหน”


“กวนตีนละไอ้ดิน”


“ไปสิกลับกัน” นี่ได้ฟังที่กูพูดบ้างมั้ยเนี่ย เหมือนคุยกันคนละภาษา กูละหน่ายจริงๆ!!


“นี่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องใช่มะ..” กำลังจะด่ามันต่อ แต่เพื่อนผู้หญิงชั้นปีเดียวกับผมที่ชื่อน้ำหวานก็เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน


“เออ ขอโทษนะ ใช่ดินรึป่าวคะ” น้ำหวานสาวหมวยร่างท้วมพูดด้วยท่าทางเขินอาย


“ครับ”


“พู่รู้จักกับดินด้วยเหรอ” แล้วน้ำหวานก็หันมาถามผมด้วยความไม่มั่นใจว่าคนอย่างผมจะรู้จักกับไอ้ดิน..ทำไมคนอย่างผมจะรู้จัก

มันไม่ได้วะ มันวิเศษวิโสมาจากไหน ชิ!!หมั่นไส้  แล้วสายตาระยิบระยับของผู้หญิงพวกนี้อีกคืออาไร?!!


“รู้จักผ่านๆอ่ะ ไม่ได้สนิทอะไรมากมายหรอก” มันต่างหากที่เข้ามาตีสนิทกับกู  รู้แล้วเธอจะอึ้ง!!


“...”ไอ้ดินได้แต่หันมามองหน้าผมนิ่ง


“คืองี้ เราจะขอถ่ายรูปดินเอาไปลงเพจที่เราเป็นแอดมินอ่ะ ได้รึป่าว”


“ไม่ได้ครับ” ไอ้ดินตอบหน้านิ่ง


“...”น้ำหวานถึงกับหน้าถอดสี


“ให้เค้าถ่ายๆไปเหอะน่า เล่นตัว”


“ให้ถ่ายไม่ได้ครับ เดี๋ยวคนแถวนี้จะโมโหหึง”  ใครวะ?!!


“อ้าวไอ้ดิน มาไงวะ” ไอ้หมีที่โผ่หัวมาจากส้วมพูดทักขึ้น


“มารับดอกไม้กลับ” ไอ้หมีได้แต่ทำหน้าเหม็นเบื่อ กับคำตอบของไอ้ดิน


“ว่าแต่น้ำหวานรู้จักไอ้ดินด้วยเหรอ” ไอ้ปูนถาม คาดว่าน่าจะเนื่องด้วยความเสือกล้วนๆ


“เปล่าหรอก เรามาขอถ่ายรูปดินเอาไปลงเพจ แต่ดินไม่ยอมให้ถ่าย” น้ำหวานพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง


“ขอผิดคนแล้วล่ะ ถ้าจะถ่ายรูปไอ้ดินต้องขอไอ้พู่มันถึงจะถูก” ไอ้หมีพูดซะเสียงดัง ไอ้ห่านี่เอะอะก็มาลงที่กู ..เวรตะไลจริงๆ


“ทำไมต้องขอกูด้วยละ เกี่ยวไรกับกู”


“เอ้า ก็มันเป็นผัวมึง!!” ผมรีบเอามือปิดปากไอ้หมี ไอ้สัด พูดซะเสียงดังคนจากที่มองอยู่แล้ว ยิ่งมองกันมากขึ้นไปอีก


“....” น้ำหวานได้แต่ทำหน้าอึ้งแดก


“ตบปากมึงเดี๋ยวนี้ไอ้หมี พูดจาเพ้อเจ้อ”


“กูไม่ตบกูพูดความจริง ถึงตอนนี้จะยังไม่ใช่ แต่อนาคตใช่แน่นอน ใช่มั้ยเพื่อน”แล้วมันก็หันไปถามไอ้ดินที่นั่งทำหน้านิ่ง


“อือ ไม่รอดหรอก!!” ไอ้สัด มึงไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ตอบ!!


“เออ ตกลงเราถ่ายได้มั้ย” น้ำหวานพูกแทรกขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัวๆพร้อมกับหน้ามึนงง


“ถ่ายก็ได้ครับแต่ต้องเป็นรูปคู่ของผมกับพู่กัน”  อ้าว ไหงงั้นอ่ะ!!


“จริงเหรอ ได้สิๆ จริงๆเราตั้งใจจะขอถ่ายรูปพู่ไปลงเพจอยู่แล้วล่ะ ได้รูปคู่แบบนี้ก็ยิ่งดีสิ” แล้วน้ำหวานก็ยิ้มร่าหน้าบานเป็นกระด้ง


“พู่ยิ้มหน่อย” น้ำหวานที่ตอนนี้กลายเป็นช่างภาพสั่งให้ผมยิ้ม ก็กูไม่เต็มใจอ่ะ!! แล้วดูไอ้ดินจะใกล้ชิดอะไรนักหนามือน่ะก็ไม่ต้อง

โอบกูขนาดนี้ก็ได้นะ  เมื่อกี้หน้ามึงยังนิ่งอยู่เลย แล้วดูตอนนี้ฉีกยิ้มไปถึงรูหู!!  ผมเลยต้องฝืนยิ้มอย่างแกนๆ..

 
“เราขอถ่ายรูปเดี่ยวของพู่ ได้ป่ะ”


“เอาสิ” รูปเดี่ยวผมเต็มใจครับ แต่รูปคู่กับไอ้ดินไม่โอเค บอกเลอ!!


“ปูนด้วย เราขอถ่ายรูปปูนด้วยนะ”


“เราด้วยเหรอ เอาสิๆ” ไอ้ปูนที่ดีใจจนออกนอกหน้า เก็บอาการหน่อยเพื่อน!!


“ไม่ถ่ายรูปเราบ้างเหรอ น้ำหวาน” แล้วไอ้หมีก็เสนอหน้าเข้าไปบังกล้องที่น้ำหวานกำลังจะถ่าย


“ของหมีต้องอีกเพจนึง เดี๋ยวเราจะบอกให้เค้ามาถ่ายให้นะ เรารู้จักแอดมินเพจนั้นพอดี”


“เพจไรเหรอ” ไอ้หมีถามด้วยความตื่นเต้น


“เพจสมาคมนิยมหมี”


“คือรั้ย?”


“ก็เพจเกย์ที่หุ่นหมีๆ แบบหมีนี่ไง” ผมกับไอ้ปูนต่างก็หัวเราะพรืด  ฮ่าๆ เกย์หุ่นหมี..


“น้ำหวาน เราผู้ชายแมนทั้งแท่งคร้าบ พิสูจน์มะ” ไอ้หมีพูดพร้อมทำสายตาหื่น กับเพื่อนกับฝูงก็ไม่เว้นนะมึง


“นี่แหน่ะ พิสูจน์ห่าไรละ ทะลึงนะมึงอ่ะ” ไอ้ปูนตบหัวไอ้หมีฉาดใหญ่ ไอ้หมีได้แต่ลูบหัวตัวเองป้อยๆ


“เราขอบคุณทุกคนมากนะที่ให้เราถ่ายรูป แล้วก็ขออนุญาตเอารูปไปลงเพจด้วยนะ”


“ว่าแต่มันคือเพจไรเหรอ” ไอ้ปูนถามเนื่องด้วยความเสือกอีกครั้ง


“เพจ น.ศ.(ช)แซ่บ!!” อื่อหื่อ แค่ชื่อก็น้ำลายแตก


“เพจ น.ศ.ขายส้มตำเหรอ” ที่ถามเพราะไม่รู้จริงๆนะ ไม่ได้ง่าว!!


“ไม่ใช่สิ แซ่บหมายถึงหน้าตาดี น่ากินอะไรประมาณนี้อ่ะ”  เพิ่งจะรู้ว่าหน้าตัวเองก็แซ่บ!!!


“ป่ะ กลับกัน” ไอ้ดินที่เงียบมานานก็พูดขึ้นหลังจากน้ำหวานเดินกลับไปที่โต๊ะพร้อมกับสาวๆที่กรูเข้ามาหาน้ำหวานเพื่อมาขอดูรูป

ที่ถ่ายพร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าด ไม่บอกก็รู้ว่ากำลังกรี๊ดรูปใคร!!


“บอกแล้วไงว่ากลับกับไอ้หมี”


“กูกับไอ้ปูนไม่ว่าง ใช่มั้ยมึง” ไอ้หมีพูดพร้อมกับหันไปพยักพเยิดกับไอ้ปูน


“ใช่!!ไม่ว่าง กูจะไปเป็นเพื่อนไอ้หมี มันจะไปตรวจภายใน!!”


“ฮะ!! ตรวจภายในผู้หญิงเค้าตรวจกันไม่ใช่เหรอวะ” แถ อะไรของมึงเนี่ย ไอ้ห่าหมีแม่งมีมดลูก!!


“หมายถึงตรวจท้องน่ะ มันขี้บ่อยไงเลยจะไปตรวจว่าลำไส้มีปัญหารึป่าว ใช่มั้ยไอ้หมี”


“ใช่ กูจะให้หมอเค้าต่อไส้ให้ยาวขึ้น จะได้ไม่ขี้บ่อยวันละ88รอบแบบนี้ไง” ไอ้หมีตอบหน้าตาย ไอ้สัดต่อไส้พ่อง!!


“กูไปด้วยดิ”


“ไม่ได้!!” ประสานเสียงเพื่อ!!


“ไหนมึงบอกจะพาชบาไปซีดวัคซีนไง นี่ไงก็ไปกับไอ้ดินดิ” ไอ้ปูนเริ่มเสนอความคิดทันที


“ชาบูไม่แดกแล้วเหรอ?” เอาเรื่องกินมาล่อมันอีกครั้ง


“แดกๆทุ่มนึงเจอกันที่ร้าน พวกกูไปก่อนนะ ป่ะไอ้ปูน” พูดเสร็จไอ้เพื่อน2ตัวก็รีบวิ่งหน้าตั้งออกไปจากตึกทันที

เพื่อนชั่ว เทกูตลอดด!!


“จะพาชบาไปฉีดวัคซีน ทำไมไม่เห็นบอกกู” ไอ้ดินถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง ทำไมรู้สึกว่าน้ำเสียงมันดูผิดหวังยังไงชอบกล


“กูพาไปเองได้ ไม่อยากลำบากมึงไง”


“กูได้พูดรึยังว่ามันลำบาก มึงลืมไปรึป่าวว่าชบาเป็นแมวของเรา!!”


“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ใครพาไปก็เหมือนกันนั้นแหละ”


“ไม่เหมือน!! เพราะนี่เป็นเรื่องของเรา เข้าใจมั้ย” ไอ้ดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น


“ทำไมมึงต้องโมโหด้วยวะ” ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าของไอ้ดิน ทำให้ผมวูบโหวงในใจแปลกๆรู้สึกว่าตัวเองผิด


..แล้วมันก็เดินหนีผมเฉยเลย!! อ้าวเฮ้ยยยย


“ไอ้ดินรอก่อน” ผมรีบวิ่งตาม คว้าแขนมันเอาไว้


“...”


“เป็นห่าไรเนี่ย”


“...”


“มึงโกรธกูเหรอ”


“...” มันไม่ตอบ ได้แต่ถอนหายใจแรงๆ พร้อมกับทำสีหน้าผิดหวัง


“กูขอโทษ” ผมขอโทษมันทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมทำผิดอะไร!! ผมแคร์มัน?!


“...” มันมองผมด้วยแววตาที่อ่อนลง แต่ก็ยังไม่ยอมพูดอะไร


“โอเค มึงคงไม่พร้อมที่จะคุยกับกูตอนนี้ งั้นกูกลับล่ะ” แมร่ง กูก็น้อยใจเป็นเหมือนกันนะกูว่าเรื่องนี้กูไม่ผิด แต่กูก็ยังขอโทษมึง

มึงเสือกไม่คุยกับกูอีก  ตามใจแม่งละกัน!!

แม่งแล้วกูจะกลับยังไงวะเนี่ย ขึ้นรถแดงกลับแล้วกันผมเดินออกมาเรื่อยๆซึ่งไกลพอสมควร จู่ๆก็มีคนวิ่งมากอดผมจากด้านหลัง

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร..


“ขอโทษ” ไอ้ดินกอดผมจากด้านหลัง พร้อมกับพูดเสียงอ่อนที่มาคู่กับเสียงหอบหายใจ..มันวิ่งตามผมมา!!


“...” ทำไมรู้สึกว่าขอบตามันร้อนผ่าวแบบนี้วะ


“กูแค่น้อยใจ กูนึกว่าเรื่องชบาจะเป็นเรื่องของเราชะอีก”


“...”


“ขอโทษที่โมโหใส่ ป่ะกลับบ้านกัน” ไอ้ดินพูดพร้อมกับหมุนตัวผมให้หันหน้าไปทางมัน เป็นจังหวะเดียวกับที่น้ำตาผมหยดแหมะ

ลงพอดี


“...” ไอ้ดินทำหน้าอึ้งที่ได้เห็นน้ำตาผม


“ขอโทษ” มันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับปาดน้ำตาให้ผมเบาๆเท่านั้นแหละ น้ำตาผมไหลอย่างกับเขื่อนแตก นานแค่ไหน

แล้วที่ไม่มีคนแคร์ความรู้สึกแล้วก็อ่อนโยนกับผมแบบนี้ ความรู้สึกแบบนี้มันเป็นสิ่งที่ผมโหยหามาตลอดเพราะที่ผ่านมาเจอแต่

ความผิดหวังและเสียใจ


  ต่อด้านล่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2018 14:17:33 โดย MA_LEE »

ออฟไลน์ MA_LEE

  • เป็ดหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
“มึงนี่แมร่ง” ผมได้แต่ทุบอกมันแรงๆ


“ดอกไม้ทำไมขี้แยแบบนี้ล่ะ” มันดึงผมเข้าไปกอดพร้อมกับโยกตัวปลอบเบาๆ ดีนะที่ตรงนี้่ค่อนข้างลับตาคนไม่งั้นได้อายแน่ๆ


“ปล่อยกูเลย กูจะกลับบ้าน” ผมพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้อยู่ในอ้อมกอดของไอ้ดิน


“ไปสิ กลับบ้านกัน” แล้วมันก็จับมือผมให้เดินไปด้วยกัน ความรู้สึกในตอนนี้มันเต็มตื้นไปหมด อธิบายไม่ถูก

แล้วคำว่าผมมีใจให้ไอ้ดินก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง ผมควรทำยังไงต่อไปดี?!! สับสนจังวะ..


หลังจากขึ้นรถแล้วไอ้ดินก็จับมือผมไว้อีกครั้ง..


“มึงควรขับรถสองมือนะ ขับมือเดียวมันอันตราย” ผมพูดแต่ก็ยังยอมให้มันจับมือไว้อยู่ดี


“ไม่เอาเดี๋ยวดอกไม้ร้องไห้”


“ตลก ใครเค้าร้องไห้กะอิแค่มึงไม่จับมือ ปล่อย”


“แล้วร้องไห้เพราะอะไรล่ะ” มันถามด้วยสายตารู้ทันว่าผมร้องไห้เพราะอะไร


“ไม่ได้ร้อง แค่เหงื่อไหล” งานนี้แถอย่างเดียวครับ ใครจะไปยอมรับละว่าดีใจที่มันแคร์ผม!!


“เหงื่อไหลออกตาได้ด้วย ไหนดูดิเหงือออกเยอะจนตาบวมหมดแล้วเนี่ย” แล้วมันก็โน้มหน้าเข้ามาใกล้ กลิ่นนี้อีกแล้ว..กลิ่นเปป

เปอร์มินต์!! แล้วมันก็จ้องมาที่ริมฝีปากผมรีบเม้มริมฝีปากทันทีมันยิ้มที่มุมปากก่อนที่จะจุ๊บหน้าผากผมแรงๆทีนึงแล้วผละออก


“อื่อ” ผมได้แต่ทำเสียงประท้วงในลำคอ


“ว่าแต่จะพาชบาไปหาหมอที่ไหนดี” เปลี่ยนเรื่องไวเหลือเกิน..หน้ากูยังไม่หายร้อนเลย ใครปิดแอร์วะ!!


“ไปคลินิกรุ่นพี่อยู่ใกล้ๆแถวนี้แหละ”


“โอเค งั้นไปรับชบาก่อนเนาะ”


ใช้เวลาขับรถไม่นานก็มาถึงบ้านผม  เวสป้าคันเก่าสีขาวของไอ้พี่น้ำจอดอยู่หน้าบ้าน วันนี้กลับบ้าน?


“สวัสดีครับพี่น้ำ” ไอ้ดินไหว้พี่น้ำที่นั่งซดมาม่าคัพอยู่ที่โซฟา


“หวัดดีน้องเขย!!”


“น้องเขยเชี่ยไร!!” ผมรีบโวย


“ก็มันเป็นน้องเขยกูไม่เกี่ยวกับมึง”


“ก็กูน้องมึง ถ้ามันเป็นน้องเขยมึงมันก็ต้องเป็นผัวกูสิ” รู้สึกเหมือนเผลอพูดอะไรออกไป


“ร้อนตัวนะมึง น้องกูก็มีหลายคนมะน้องที่คณะกูเยอะเยอะไม่ได้หมายถึงน้องในไส้อย่างมึง”


“แล้วมันเป็นใครล่ะ!!” หัวร้อนเลยกู


“ม่ายบอก” มันพูดพร้อมส่ายหน้ากวนตีน


“เออ เรื่องของมึง ไปอุ้มชบามาสินั่งบื้ออยู่ได้”ผมหันไปแหวใส่ไอ้ดินที่นั่งอมยิ้มอยู่


“จะพามันไปไหน” ไอ้พี่น้ำถามขึ้นหลังจากซดน้ำจากถ้วยมาม่าจนหมด ไอ้นี่ก็แดกหมดจนหยดสุดท้ายมึงเป็นญาติไอ้หมีแน่ๆ

จะว่าไปไอ้พี่น้ำมันก็แดกทุกอย่างไม่ต่างจากไอ้หมี อย่าถามว่ามันไม่กินอะไรบ้าง มันบอกว่ามันกินได้ทุกอย่างเพราะพื้นเพมัน

เป็นคนตะกละ!! กูมีพี่เป็นชูชก!!


“ฉีดวัคซีน”


“ไอ้ตัวขาวล่ะ ไม่ฉีดเหรอ”


“ยังไม่ครบกำหนด แล้วมึงช่วยเรียกชื่อให้มันดีๆหน่อย เรียกตัวขาวตัวดำอยู่ได้” ผมละเบื่อกับมันจริงๆ ไอ้นี่ชอบเรียกอะไรตามที่

ตามันเห็น แม้จะมีชื่อให้เรียกก็ตาม!!

ไอ้ดินเดินออกมาจากหลังบ้านพร้อมกับกล่องใส่แมวที่มีชบานั่งอยู่ข้างใน


“ขากลับแวะซื้อข้าวมาให้กินด้วยดิ”


“แล้วที่มึงแดกเมื่อกี้ละ?!”


“รองท้อง”


“ทุ่มนึงจะไปกินชาบูกับพวกไอ้หมีไปด้วยกันมั้ยล่ะ”


“น้องปูนไปมั้ย”


“ไป”


“เออ งั้นกูไปด้วย” ทำไมต้องถามหาไอ้ปูนตลอดด้วยวะ?


‘ธันวาสัตวแพทย์’ คือคลินิกรักษาสัตว์ของพี่มุ้ย ทวดรหัสของผม ตอนผมอยู่ปี่1ที่มุ้ยอยู่ปี6 สายรหัสผมมักจะนัดเจอกันเสมอๆ

สายรหัสเราเลยสนิทกัน


“พี่หมอหวัดดีครับ”


“อ้าวพู่หวัดดี ไม่เจอกันนานเลยสบายดีมั้ย”


“สบายดีครับพี่หมอ แหม่แต่เราก็เพิ่งเจอกันเมื่อต้นเดือนนี่เอง ยังไม่นานสักหน่อย”


“สำหรับพี่แค่วันเดียวก็นานแล้ว” พี่หมอขยี้หัวผมเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มที่อบอุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของพี่มุ้ยอดีตเดือนมหา

ลัยเมื่อหกปีที่แล้ว..


พอหันไปทางไอ้ดินก็รู้สึกถึงรังสีอำมหิตบางอย่าง..ทำไมกูรู้สึกขนลุกจังวะ!!

“มากับเพื่อนเหรอ หรือว่า...”


“เพื่อนครับ!!” ผมรีบตอบก่อนที่แกจะพูดประโยคที่ไม่น่าฟังออกมา


“หวัดดีครับพี่ชื่อมุ้ยเป็นทวดรหัสของพู่ ยินดีที่ได้รู้จัก” แล้วพี่หมอก็หันไปแนะนำตัวกับบุคคลหน้านิ่งที่ตอนนี้ยืนนิ่งเป็นยักษ์วัด

แจ้ง!!


“สวัสดีครับ ผมชื่อดิน” ไอ้ดินยกมือไหว้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย


“ครับน้องดินว่าแต่วันนี้พาเจ้าเหมียวน้อยมาทำอะไรเอ่ย”


“ฉีดวัคซีนครับ”


“ไหนดูสิ ชื่อไรเอ่ยเจ้าเหมียว”


“ชบาครับ”


“ใช่แมวที่พู่เล่าให้พี่ฟังรึป่าว” แล้วพี่หมอก็หันมาถามผม


“ตัวนี้แหละพี่หมอ”


“อ่อ งั้นดินกับพู่ก็เป็นเจ้าของร่วมกันอย่างที่ปูนบอกละสิ”


“ไอ้ปูนเหรอพี่?”


“อาทิตย์ที่แล้วปูนพาพี่เบิ้มมาฉีดวัคซีนน่ะ เลยเล่าเรื่องของพู่ให้พี่ฟังนิดหน่อย” พี่เบิ้มคือหมาพันธุ์บลูมาสทีฟฟ์ของไอ้ปูนที่ตัว

บิ๊กเบิ้มสมชื่อ


“...” เหอะ นิดหน่อยจริงเหรอ ตอนนี้พี่หมอคงรู้พอๆกับที่ไอ้ปูนมันรู้นั้นแหละ ไอ้เพื่อนปากมาก!!


“งั้นทำประวัติก่อนละกันเนาะ ใช้ชื่อใครดี”


“ชื่อมึงละกัน” ไอ้ดินหันมาบอกผม ผมยักไหล่ไม่มีปัญหาชื่อใครก็ได้ทั้งนั้น หลังจากกรอกประวัติ ชั่งน้ำหนักชบาเสร็จก็ถึงเวลาที่

เจ้าเหมียวตัวน้อยของเราจะต้องโดนเข็ม!!


“ช่วยจับชบาให้พี่หน่อยนะ”


“มึงจับสิ”


“มึงไม่จับละฝึกไว้ เผื่อวันไหนมึงได้มาคนเดียวไง”


“ไม่อ่ะ” ไอ้ดินบอกด้วยสีที่หน้าที่เกร็ง อย่าบอกนะว่า..


“มึงกลัวเข็มเหรอ!!”


“ป่าวสักหน่อย แค่ไม่ชอบ” ไอ้ห่าแล้วใครเค้าชอบเข็มกันว่ะ ใครจะไปคิดว่าผู้ชายแมนแอนด์แฮนซั่มอย่างมันจะมุมที่กลัวอะไร

แบบนี้..


“อ่อนจริงๆเลยมึงอ่ะ” ผมพูดอย่างล้อๆ กูเจอจุดอ่อนของมึงล้าววว!!


“กูไปรอข้างนอกนะ”พูดจบมันก็รีบหมุนตัวออกไปรอข้างนอกทันที ผมกับพี่หมอได้แต่ขำกับอาการกลัวเข็มของไอ้ดิน


“น้องเค้าดูเป็นคนดีนะ” อยู่ๆพี่หมอก็พูดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนให้ชบาเสร็จ


“...?!” ไอ้ปูนมึงเล่าอะไรให้พี่หมอฟังบ้างเนี่ย!!


“เค้าดูหึงเรามากนะ สีหน้าที่เค้าเห็นพี่จับหัวเราเมื่อกี้ ดูก็รู้ว่าเค้าหวงและไม่พอใจ”


“ไม่มีไรหรอกพี่ หน้ามันก็นิ่งแบบนี้แหละ”


“ลองเปิดใจดู พี่ว่าเค้าเหมาะกับเรานะพู่” พี่หมอขยี้หัวผมเบาๆเป็นจังหวะที่ไอ้ดินเดินเข้ามาพอดี หน้าของไอ้ดินในตอนนี้บึงตึง

ขึ้นมาทันที ดูก็รู้ว่ากำลังไม่พอใจ


“เห็นมั้ยดูหน้าของดินสิ ปากคว่ำหมดละ” พี่หมอกระซิบบอกผมอย่างล้อๆ


“เรียบร้อยแล้วครับ พี่ฉีดวัคซีนรวมให้แล้วนะครับ ส่วนนี่ก็ใบนัดกับรายละเอียดของวัคซีนที่ฉีดไป” พี่หมอยื่นใบนัดกับเอกสารการ

ทำวัคซีนสำหรับแมวให้ไอ้ดิน


“ขอบคุณครับ” ไอ้ดินตอบด้วยใบหน้านิ่งเหมือนเคย

ก่อนออกจากคลินิกไม่รู้ว่าพี่หมอกระซิบอะไรกับไอ้ดิน ตอนนี้มันถึงได้ยิ้มหน้าระรื่นต่างจากเมื่อกี้ที่ทำหน้าบึ้งอย่างกับไปกิน

รังแตนที่ไหนมา!!


“พี่หมอบอกอะไรมึง” ผมถามมันทันทีหลังจากขึ้นรถ


“ไม่มีอะไร”


“โกหก แล้วมึงยิ้มอะไรเมื่อกี้ยังทำหน้าบูดใส่กูอยู่เลย”


“ก็เมื่อกี้คนมันหวง!! ทำไมล่ะ”


“หวงเพื่อ?!”


“เหมือนมึงหวงกูกับพี่แปมไง”


“ไม่เคยอ่ะ มั่ว!!” ผมรีบตอบมันทันควัน


“แต่ตอนนี้ไม่หวงละ พี่หมอเค้าเป็นคนดีจังเนาะ”


“อะไรของมึง?” กูตามอารมณ์มึงไม่ทันจริงๆ


       ..ว่าแต่พี่หมอบอกอะไรกับมันวะ?!!


“ฮัลโหล” ยังไม่ทันจะถึงบ้านไอ้พี่น้ำก็โทรมาหา


“ไอ่พู่ จะถึงบ้านยังวะกูอยู่ร้านชาบูกับไอ้หมีกับน้องปูนแล้วนะ มึงตามมาได้เลย”


“กำลังจะถึง แล้วไหนพวกมันนัดทุ่มนึงไงวะ”


“กูบอกให้มาก่อนเองแหละ กูหิว  แค่นี้นะน้องกุ้งรอกูอยู่” พูดจบมันก็ตัดสายทันที น้องกุ้งไหนของมันวะเจอเด็กอีกแล้วละสิ!!


“มึงไปกินชาบูด้วยกันมั้ย” ลืมไปว่ายังไม่ได้ชวนมัน


“ไปสิ มึงจะทิ้งกูให้กินข้าวคนเดียวได้ไงล่ะ”


“ไม่ได้ทิ้ง กูถึงได้ชวนมึงนี่ไง!!” เขินเลยกู..นี่กูพูดอารายออกปายยย!!


“...” ไอ้ดินได้แต่หันมามองหน้าผมเหมือนกับไม่เชื่อว่าผมจะพูดประโยคที่เหมือนว่าแคร์มันออกไป แล้วหน้านิ่งของมันก็เปลี่ยน

เป็นยิ้มกว้างทันที   วันนี้มึงชักจะยิ้มมากเกินไปแล้วนะ..

พาเจ้าเหมียวน้อยกลับบ้านเรียบร้อยแล้วผมกับไอ้ดินก็ตรงดิ่งไปร้านชาบูหน้ามอทันทีด้วยความหิว..แมร่งกูจะฟาดเรียบให้หมด

วันนี้กูจะกินแข่งกับไอ้หมี!!


“ไอ้พู่ทางนี้ๆ” ไอ้ปูนที่โบกมือหย่อยๆเมื่อเห็นผม

อื่อหือ..หัวกุ้งกับเปลือกกุ้งกองเป็นภูเขา กูรู้ละว่าน้องกุ้งไหน ไอ้พี่น้ำมันตัวแดกกุ้งครับบุฟเฟ่ต์ร้านไหนที่มีกุ้งไอ้ห่านี่จะฝาดเรียบ

กูละสงสารเจ้าของร้านจริงๆ!!นี่ยิ่งดูโอ้กับไอ้หมีตัวแดกเนื้อ บอกได้คำเดียวครับว่า เจ้ง!!


“มาๆเจ้ามือของมื้อนี้ เชิญนั่งครับ” ไอ้ห่าหมีพูดประจบสอพลอ


“ทำไมมึงถึงได้เลี้ยงพวกนี้วะ ใจดีอะไรของมึง” ไอ้พี่น้ำหันมาถามผมพร้อมกับยัดกุ้งสามตัวใส่ปาก   
     
      กูขอให้กุ้งติดคอมึง!!

“มันเป็นข้อแลกเปลี่ยนพี่” ไอ้หมีพูดแทรกขึ้น ผมได้แต่มองหน้ามันด้วยสายตาห้ามปรามว่ามึงอย่าพูดนะกูไม่อยากให้ไอ้พี่น้ำมัน

เห็นรูปบ้านั้น เดี๋ยวมันจะหาว่ากูแรด!!


“ข้อแลกเปลี่ยนไรวะ?” มึงจะอยากรู้ไรนักหนา มึงติดความขี้เผือกของไอ้ปูนที่นั่งข้างมึงมาแน่ๆ


“เดี๋ยวผมส่งไลน์ให้พี่ดู” ไอ้หมีพูดพร้อมกับยักคิ้วให้ผม เพื่อนชั่ว!!


“อ่ะนี่ กินเยอะๆ” แล้วไอ้ดินก็ตักหมูและสารพัดผักที่สุกแล้วมาใส่จานผม พร้อมกับคีบผักบุ้งที่ติดมาออกให้..ซึ้งเลยกู!!

    กูแพ้ผักบุ้งไม่พอยังต้องมาแพ้ใจมึงอีก!!  ฮือ..

ด้วยความใส่ใจในโหมดพ่อบ้านของไอ้ดิน ผมแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย มีหน้าที่คีบหมูเข้าปากอย่างเดียวที่เหลือมันจัดการให้

หมดเลย พร้อมกับใส่ใจรายละเอียดว่าผมกินอะไรบ้างไม่กินอะไรบ้างด้วยการดูแลที่ออกหน้าออกตาทำให้หมีและเผือกบางตัว

หมั่นไส้


“ไอ้พู่ มึงเป็นง่อยรึไง” ไอ้หมีทำหน้าหมั่นไส้


“อิจฉาโว้ย” ไอ้ปูนก็ทำเป็นตะโกนข้ามหัวผม


“น้องปูนชอบแบบนี้เหรอ งั้นเดี๋ยวพี่ตักให้นะ” แล้วไอ้พี่น้ำก็ตักหมูหมากาไก่ทุกอย่างที่อยู่ในหม้อใส่จานให้ไอ้ปูน พร้อมกับแกะ

กุ้งให้เป็นออฟชั่นเสริม กูน้องมึงแท้ๆมึงไม่เคยแกะกุ้งแม้แต่ตัวเดียวให้กูแดกเลย!!


“ผมพี่หลุดหมดแล้ว” เนื่องด้วยการสวาปามอย่างเมามันของไอ้พี่น้ำทำให้ผมที่มัดไว้หลุดลุ่ยปรกหน้าปรกตาไปหมด

ไอ้ปูนที่คงทนเห็นไม่ไหวเลยทักขึ้น


“มัดให้พี่หน่อยสิ มือพี่เลอะ” ไอ้พี่น้ำหันไปบอกไอ้ปูนที่นั่งข้างกันพร้อมกับหันหลังให้มันมัดผมให้ ไอ้ปูนมัดผมให้ไอ้พี่น้ำด้วย

ความเงอะงะปนเขิน?!! ใช่!!มันเขิน เพราะหน้ามันแดง!! ส่วนไอ้พี่น้ำก็ยิ้มแป้นแล้น  หน้าตบจริงๆเชียว ผมกับไอ้หมีหันไปมอง

หน้ากันด้วยสายตาที่อ่านออกว่า ’คู่นี้แม่งแปลกๆ!!’


“ฮ่าๆๆ” แล้วไอ้พี่น้ำก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งหลังจากมันก้มดูมือถือของตัวเอง


“...”


“ยินดีด้วยน้องเขย มาๆชนแก้ว” แล้วมันก็ชนแก้วกับไอ้ดินที่ทำหน้างงว่าพี่มึงดีใจห่าไร ส่วนไอ้ชนแก้วที่ว่าก็ไม่ใช่เหล้านะชนโค้ก

ครับ  ถุยย!!


“อย่าทำหน้างงๆ” ไม่พูดเปล่าไอ้พี่น้ำมันชูมือถือของมันที่เปิดรูปผมนั่งคร่อมตักไอ้ดินโชว์หราให้ผมและไอ้ดินดู  กูจะบ้าตาย!!

มึงจะประจานกูเพื่อ?!! กำลังจะลุกออกจากโต๊ะไปหาของหวานกินเพื่อหนีความอายก็มีเสียงผู้หญิงที่ผมคิดว่าผมคุ้นเคยกับเสียงนี้

มาก่อนทักขึ้น


“พู่”


“ไข่มุก” ผมได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ เสียงหัวเราะของทุกคนที่หยอกล้อกันเมื่อครู่หยุดลงโดยทันทีทุกคนสีหน้าเป็นกังวลแทนผม

ยกเว้นไอ้ดินที่ไม่รู้จักว่าเธอเป็นใคร..


“ดีใจจังที่เจอ มุกโทรหาพู่แต่พู่ไม่รับสายมุกเลย”


“มุกมีอะไรกับพู่รึป่าว”


“ต้องมีอะไรด้วยเหรอถึงจะโทรหาพู่ได้” เธอทำน้ำเสียงน้อยใจ


“...”


“มุกเลิกกับพี่พีแล้วนะ” แล้วไง?!


“ถ้าพู่ยังไม่มีใครเรากลับมาคุยกันเหมือนเดิมได้มั้ย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอน


“ไม่ได้หรอก” อยู่ๆไอ้หมีก็โพล่งขึ้น


“ไอ้พู่มันมีคนที่ชอบแล้วล่ะ ใช่มั้ยมึง” แล้วมันก็โยนมาทางผม ไอ่ห่าหมี!!


“ขอโทษนะมุก พู่ว่าเรื่องของเรามันจบตั้งแต่วันที่มุกเลือกพี่พีแล้วล่ะ”เค้าไม่ได้ฟังที่ผมพูดเลย แถมยังถามต่อด้วยสีหน้าไม่พอใจ


“จริงเหรอที่พู่มีคนที่ชอบแล้วน่ะ”


“...”


“พู่ตอบมุกมาสิ” มุกเริ่มขึ้นเสียง


“อืม พู่มีคนที่ชอบแล้ว” ผมตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง แล้วผมก็เหลือบตาไปมองไอ้ดิน มันมองผมนิ่งด้วยสายตาที่คาดหวังกับคำ

ตอบของผม


“มันเป็นใคร!!” แล้วมุกก็เริ่มโวยวาย


“นี่ ถ้าจะโวยวายก็กลับไปเหอะ อย่าลืมว่าเธอเป็นคนทิ้งน้องฉันไปแล้วเธอจะกลับมาหามันอีกทำไม” ไอ้พี่น้ำพี่นั่งนิ่งอยู่นานพูด

ด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง แต่เห็นแล้วน่ากลัวชะมัด!!


“อ่อ อีกอย่างถ้าจะมาขอคืนนี้กับไอ้พู่ บอกไว้เลยนะว่าพี่ชายมันไม่ยินดี” มันพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่เยือกเย็น


แล้วไข่มุกก็ออกจากร้านไปด้วยความไม่พอใจ...


“รักมึงจังพี่ชาย ขอบคุณนะที่ช่วยพูดให้กู” ผมเข้าไปกอดไอ้พี่น้ำอย่างออดอ้อน


“กูไม่ได้ช่วยมึง กูช่วยน้องเขยกูเว้ย”


“ใครน้องเขยมึง”


“แถวๆนี้แหละ” ผมเหลือบตามองไอ้ดินอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทำไมรู้สึกหัวใจมันเต้นแปลกๆ หน้าก็ร้อนไปหมด ผมรู้ความหมายของไอ้

พี่น้ำว่ามันหมายถึงใคร แล้วคนที่ผมชอบก็มีตัวตนจริงๆไม่ได้แค่ตอบส่งๆไป

สุดท้ายผมก็ต้องยอมรับว่าผมชอบไอ้ดินเข้าแล้วจริงๆ ให้ตายสิเขินเว้ย แทบจะไม่กล้ามองหน้ามันเลยทำตัวไม่ถูกวุ้ยย!!


หลังจากอิ่มหมีพีมันจนพุงแทบแตกก็แยกย้ายกันกลับ ตั้งใจว่าจะกลับกับไอ้พี่น้ำเพราะยังไงก็บ้านเดียวกัน

แต่มันดันบอกว่าวันนี้จะนอนบ้านใหญ่ ทำให้ผมต้องกลับกับไอ้ดินเหมือนเดิม


“มึงช่วยแวะเซเว่นที่จะถึงข้างหน้านี้หน่อยนะ” ผมบอกไอ้ดินขณะที่เราออกจากร้านชาบูมาได้ไม่ไกลนัก


“จะซื้อไร ยังไม่อิ่มอีกเหรอ”


“กูจะซื้อขนมปัง เอาไว้กินพรุ่งนี้เช้า”


“รอในรถนะ” ไอ้ดินบอกผมหลังจากที่ถึงเซเว่น


“เอาไรป่ะ” ผมถามมันอย่างใจดี


“ถุงยาง!!” มันตอบหน้านิ่ง


“เฮ้ย ไอ้สัดมึงเอาไปใช้กับใคร” ด้วยความตกใจเลยเผลอถามออกไป


“กับมึง” มันหันมาตอบด้วยสายตากรุ้มกริ่ม


“เชี่ย!!” รีบลงจากรถทันที สัด!!แล้วใจกูจะเต้นแรงทำไมเนี่ย..


หลังจากซื้อของเสร็จรถไอ้ดินก็ออกตัวอีกครั้ง ขับมาไม่นานรถไอ้ดินก็ขับแซงมอไซค์คันนึง ซึ่งมันคือเวสป้าคันเก่าของไอ้พี่น้ำ

โดยมีไอ้ปูนซ้อนท้าย แต่ประเด็นคือทั้งสองคนหัวเราะกันอย่างมีความสุขซึ่งมันดูเหมือนคู่รัก เฮ้ย..คู่รักเหรอ?!!!


“มึงเห็นมั้ยเมื่อกี้” ผมหันไปถามไอ้ดินด้วยใบหน้าที่อึ้ง


“อืม อย่าไปยุ่งกับเค้าเลย” ไอ้ดินตอบเสียงเรียบโดยไม่หันมามองหน้าผม


“ได้ไงนั้นพี่กูกับเพื่อนกูนะ กูก็ต้องมีสิทธิรู้สิ”


“ถึงเวลาเดี๋ยวเราก็รู้เองแหละ” ไอ้ดินตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ทุกข์ร้อน แต่กูนี่สิอยากเผือกเต็มแก่คืนนี้ต้องโทรไปเม้าส์กับไอ้หมีสัก

หน่อย ไอ้ห่านี่ต้องรู้อะไรมากกว่ากูแน่ๆ

       
             ...กูว่าแล้วคู่นี้มันแปลกๆ!!!


จากนั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเพราะผมมัวแต่คิดเรื่องไอ้พี่น้ำกับไอ้ปูนจนตอนนี้รถไอ้ดินมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านผม


“เข้าไปในบ้านรึป่าว” ปกติมันจะเข้าไปเล่นกับเจ้าเหมียวก่อนแล้วค่อยกลับ


“คนที่มึงชอบคือใคร?!” อยู่ๆมันก็ถามขึ้น นึกว่ามึงลืมไปแล้วนะเนี่ย!!


“…” ไอ้ห่าถามแบบนี้กูจะตอบไงวะ แม้แต่หน้ามึงกูยังไม่กล้ามอง


“ชอบใคร?” แล้วมันก็โน้มหน้าเข้ามาใกล้ พร้อมกับจับหน้าผมให้หันไปสบตาของมัน แววตาของมันตอนนี้ดูจริงจัง


“มะ ไม่ได้ชอบใครกูตอบส่งๆไปงั้นแหละ” ผมตอบโดยไม่สบตาของมัน


“จริงเหรอ”


“...” ตอนนี้หน้าเราใกล้กันมาก มากจนริมฝีปากเราแทบจะชนกัน ผมเริ่มรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง


“ดอกไม้!! ชอบกันบ้างรึยัง” อยู่ๆก็เปลี่ยนคำถาม พร้อมกับน้ำเสียงที่อ่อนโยน


“...” มันเรียกผมว่าดอกไม้ทีไร ใจผมก็จะเต้นแรงทุกครั้ง ..หัวใจกูจะวาย!!


“ยังไม่ต้องตอบก็ได้ แต่ก็พอจะรู้คำตอบแล้วล่ะ หน้าแดงซะขนาดนี้” นี่หน้ากูแดงขนาดนั้นเลยเหรอมืดขนาดนี้มึงยังดูออก!!


“กูจะเข้าบ้านแล้ว” ผมดันตัวมันออกด้วยหัวใจที่สั่นระรัว


“ขอจูบก่อนเข้าบ้านได้ป่ะ”


“ทะ..ทำไมต้องจูบด้วยละ!!”


“นะ ดอกไม้” ทำไมต้องทำเสียงอ้อนขนาดเน้!! เรียกดอกไม้อีกแล้ว ระทวยเลยกู แล้วผมก็เสือกหลับตายอมให้มันจูบอีกต่างหาก

แค่รู้ใจตัวเองว่าชอบมันผมถึงขั้นใจง่ายยอมให้มันจูบเลยเรอะ!!  ใจหนอใจ..

หลับตาลงแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักทีผมก็ค่อยๆลืมตา เลยเห็นไอ้ดินยิ้มสว่างจ้าอยู่ตรงหน้า!!


“น่ารักจัง” มันพูดด้วยใบหน้ายิ้มละมุนแล้วมันก็ค่อยๆประทับริมฝีปากลงมาอย่างแผ่วเบา

       ไอ้บ้า!!มึงหลอกให้กูลืมตา ฮือ..


     ไอ้ดินค่อยๆจูบผมอย่างแผ่วเบาอ้อยอิ่งด้วยความอ่อนโยน รสสัมผัสจากริมฝีปากของไอ้ดินทำให้ผมเผลอรับรสจูบนี้อย่าง

ลืมตัว จังหวะที่ผมเผยอปากเพื่อจะหายใจไอ้ดินก็ฉวยโอกาสสอดปลายลิ้นเข้ามาในโพรงปากของผม

เรียวลิ้นอุ่นรุกล้ำเร่งเร้าแปรเปลี่ยนเป็นรสจูบที่เร้าร้อนในทันที จูบของไอ้ดินทำให้ผมแทบหลอมละลายสติของผมขาดกระเจิง

สมองตอนนี้ก็ขาวโพลนไปหมด ลมหายใจของเราหอบกระชั้นเรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดอย่างดูดดื่มทำให้ผมสั่นสะท้านไปทั้งตัว!! 

ไอ้ดินค่อยๆผละจูบออกด้วยความอดกลั้น ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบพล่า


“เข้าบ้านได้แล้วดอกไม้ ก่อนที่กูจะอดใจไม่ไหว” สิ้นเสียงของไอ้ดินสติของผมก็เริ่มกลับมา ผมพอจะรู้ความหมายของมันว่า

หมายถึงอะไร สถานการณ์ตอนนี้มันช่างล่อแหลม ผมค่อยๆพยุงร่างตัวเองด้วยแรงที่เหลืออันน้อยนิดลงจากรถของไอ้ดินให้เร็ว

ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะผมก็ไม่ไว้ใจตัวเองเหมือนกัน!!!


..เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น นี่คือครั้งแรกที่ผมจูบตอบกลับไอ้ดิน ที่ผ่านมาเป็นมันฝ่ายเดียวที่ฉวยโอกาสจูบผม

แต่เดี๋ยวนะ..เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ทำไมถึงใจง่ายยอมจูบกับมันล่ะ?!!

แต่ก็ไม่อยากปฏิเสธความรู้สึกเมื่อกี้เลยว่า..มันดีชะมัด!!!




 *TBC*


..................................................................................................



  สวัสดีค่ะ  บทนี้มาซะดึกไม่ยอมหลับยอมนอน^^

  ในที่สุดพู่กันก็ยอมรับใจตัวเองสักที เหลือแค่สารภาพมันออกมา..ว่าแต่เมื่อไหร่ละ?!! รออีกนิดโนะ^^

  ส่วนไอ้พี่สีน้ำกับน้องปูนนี่ก็แปลกๆ..เอ๊ะยังไง!!

  บทนี้มีตัวละครเยอะนิดนึง ไม่งงกันเนาะ

  พูดยาวไปละ..ยังไงก็ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ^^ จุ๊ฟ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2018 14:26:41 โดย MA_LEE »

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
 :mew1:น่ารักกก

ออฟไลน์ skykick

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0


 
      เขินจุง  :-[  :L2:



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ patompong888

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

   
             น่ารัก    :3123:   :m3:


ออฟไลน์ fairy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ MA_LEE

  • เป็ดหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 

บทที่10 คำพูดง่ายๆ

      
          วันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นมากมาย แต่เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันมีบางจุดที่สะกิดให้ผมรู้ใจตัวเอง ว่าผมรู้สึกยังไงกับไอ้ดิน

แต่ปัญหาคือผมควรบอกมันยังไงดีว่าผมก็ชอบมันเหมือนกัน  บอกมันตรงๆเลยดีมั้ย?!! หรือรอให้มันถามอีกครั้งแล้วค่อยสารภาพ

ออกไป ว่าแต่เมื่อไหร่ที่มันจะถามอีกครั้งล่ะ!! โอ้ย..คิดจนหัวจะแตก ทำไมมึงมีอิทธิพลกับชีวิตกูจังวะ!! มึงเป็นเจ้ากรรมนายเวร

ของกูแน่ๆ!!  นั่นไง แค่คิดมึงก็โทรมาวุ่นวายกูทันที


“ว่าไง” ผมรับสายจากไอ้ดินด้วยน้ำเสียงหน่ายๆ


“ถึงหอแล้วนะ”


“บอกเพื่อ?!!”


“ก็อยากให้รู้ เพราะมึงสำคัญไง”


“...” พูดแบบนี้ แล้วกูจะตอบยังไงล่ะ!!


“อาบน้ำยัง”


“ยังอ่ะ ขี้เกียจ”


“...”


“เออ..มึง กูมึงเรื่องจะบอก....” บอกมันออกไปตอนนี้ดีมั้ยวะ!!


“ว่า?”


“เออ..ไม่มีไร กูไปอาบน้ำก่อนนะ วางล่ะ” ให้ตาย!! เอาเข้าจริงๆก็ไม่กล้า


“เดี๋ยว.. ฝันดีนะพู่กัน”


“...” ผมไม่พูดอะไรรอให้มันวางสายก่อน


“...” แต่เหมือนว่ามันก็รอให้ผมวางก่อนเหมือนกัน


“วางดิ” ผมบอกมัน


“บอกฝันดีก่อนสิ กูรอมึงบอกอยู่”


“เอ่อ...ฝันดีนะ”


“ครับ” แล้วมันก็วางสาย แค่ ‘ครับ’ คำเดียวทำไมใจกูเต้นแรงได้ขนาดนี้วะ..
 

      วันนี้คือวันศุกร์ที่16 เป็นวันหวยออก นั้นหมายความว่าวันนี้เราจะมาลุ้นหวยกัน แฮ่!! ไม่ใช่สิ

วันนี้จะมีดนตรีสดที่ร้านโต๊ะกลมต่างหากละครับ โดยวงที่จะเล่นวันนี้คือวงของไอ้พี่น้ำวงขาประจำของร้านไอ้พี่มด

เหตุผลที่ได้เล่นบ่อยไม่ใช่ร้องเพราะอะไรนักหนานะ แต่เพราะค่าจ้างถูกพวกมันไม่รับเงินสดขอแค่เมาเดียวก็พอ!!

อ่อ..ลืมบอกชื่อวงของมันครับ วงของไอ้พี่น้ำชื่อวง ‘จิปาถะ’  ครับตามนั้น จิปาถะร้องได้ทุกงานทั้งงานราช งานหลวง งานบวช

งานแต่ง งานแซยิดอากง อาม่า รับหมดฮะ!!


“มึง พี่ต่อมันแขนหักไม่ใช่เหรอวะ หายแล้วเหรอ”ผมถามไอ้พี่น้ำตอนนี้เรานั่งกินขนมปังรองท้องก่อนไปเรียน ส่วนไอ้พี่น้ำเมื่อคืน

มานอนที่บ้านเล็ก จะว่านอนก็ไม่เชิงเพราะตอนนี้มันยังไม่ได้นอน มันบอกว่าเห็นนิมิตรห่าเหวอะไรของมันก็ไม่รู้เลยลุกขึ้นมาวาด

รูปตั้งแต่ตี1จนถึงตอนนี้ ศิลปินขนานแท้เลยพี่กู!!


“ยังไม่หาย” พี่ต่อที่ผมถามถึงคือมือกีต้าร์วงไอ้พี่น้ำที่ตอนนี้แขนหักใส่เฝือกอยู่


“ใครมาเล่นแทนวะ”


“น้องเขยกู!!”


“ใครละน้องเขยมึงอ่ะ” ไม่อยากจะถามเพราะกลัวคำตอบของมัน จริงๆก็เขินนั้นแหละ  แต่อยากรู้ไงว่าใครจะมาเล่นกีต้าร์แทนเผื่อ

คำตอบจะไม่ใช่อย่างที่ผมคิดเพราะไอ้พี่น้ำก็ไม่เคยบอกตรงๆสักทีว่าน้องเขยของมันคือใคร!!


“ไอ้ดินไง!! แม่งเล่นกีต้าร์อย่างเทพ” มันเล่นเก่งเหรอ?! นึกว่าพอเล่นได้ซะอีก


“มึงรู้ได้ไง” จะว่าไปไอ้สองตัวนี้มันไปรู้จักมักจี่กันตอนไหนวะ ผมก็ยังงงอยู่


“ไอ้หมีแนะนำให้ เมื่อวานก็นัดซ้อมกันแล้วรอบนึงฝีมือไม่ธรรมดา เห็นว่าเคยมีวงตอนมัธยม”


“...”


“ไปมั้ยละเย็นนี้ ไปเชียร์ผัวมึงหน่อย”


“ตบปากเลยไอ้พี่เวร” ผมปาขนมปังใส่มันทันที มันก็ไม่สะทกสะท้านหยิบขนมปังที่หล่นพื้นแล้วมาใส่ปากเฉยเลย..ลืมไปว่ากูมีพี่

เป็นชูชก!!


“ไม่ไปก็ตามใจนะ สาวเยอะนะเว้ย” ไอ้ความหมายของมันไม่ได้หมายถึงให้ผมไปดูสาวนะ แต่หมายถึงให้ผมไปเฝ้าไอ้ดินเพราะ

สาวเข้าหามันแน่นอน!! แล้วไงใครแคร์?!!ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ..ฮือ เอาตรงๆกูแคร์!! 


      ..และแล้วสองทุ่มผมก็มานั่งหน้าสลอนอยู่ที่โต๊ะหน้าเวทีอีกต่างหาก ไอ้พี่น้ำมันเป็นคนจองโต๊ะนี้ครับอย่าเข้าใจผิด

ส่วนไอ้ปูนกับไอ้หมีกำลังตามมา ส่วนผมแว๊นมากับไอ้พี่น้ำด้วยเวสป้าสีขาวคันเก่าคู่ใจของมัน ส่วนไอ้ดินนะเหรอ มีเรียนถึงเย็น

แล้วก็เงียบหายไปเลย?!! ปกติมันจะมาหาที่บ้านบ้าง ไลน์มาถามบ้างแต่วันนี้เงียบตั้งแต่ตอนเที่ยงบอกแค่ว่ามีเรียนบ่ายแค่นั้น

ซึ่งผมก็ไม่เคยเป็นฝ่ายทักมันก่อนอยู่แล้ว

ไม่นานไอ้คนในความคิดก็โผล่หัวมาพร้อมกับสะพายกระเป๋ากีต้าร์ไว้ข้างหลัง..จะว่าไปก็ดูเท่ดี!!

ไอ้ดินมักจะแต่งตัวง่ายๆ ตั้งแต่รู้จักกับมันมาผมเห็นมันใส่เสื้อแค่สองสี คือเสื้อยืดสีขาวและสีดำซึ่งเป็นสีล้วนไม่มีลายใดๆ บางทีก็

จะมีแจ็คเก็ตยีนส์สีซีดคลุมทับบ้าง มันน่าจะมีกางเกงยีนส์ตัวโปรดอยู่แค่สองตัว เพราะผมเห็นมันใส่บ่อยคือกางเกงยีนส์สีดำและ

กางเกงยีนส์สีซีดขาดเข่าดูให้ลุดเชอร์ไปอีกแบบ ซึ่งวันนี้มันใส่กางเกงยีนส์สีซีดตัวนี้มากับเสื้อยืดสีขาวลล้วนเจ้าเก่าเจ้าเดิมของ

มัน อยากจะรู้เหมือนกันว่าตู้เสื้อผ้าของมันจะมีเสื้อเกินสองสีมั้ย!!


“มายังไง” มันถามเมื่อมาถึงโต๊ะ


“มากับพี่น้ำ”


“โทษทีที่ไม่ได้ไปรับ ปวดหัวนิดหน่อยกลับถึงห้องก็นอนยาวเลยเพิ่งตื่นก็เลยรีบมา” ถึงว่าสีหน้ามันดูเพลียๆ


“กูไปไหนมาไหนเองได้น่า ไม่ต้องลำบากมึง”


“...”


“กินยายัง” ผมถามมันเสียงเบา ตาก็เซมองไปทางอื่น มันเขินนี่หว่า


“อะไรนะ”กูรู้ว่ามึงได้ยิน สายตามันยิ้มอย่างดีใจจนออกนอกหน้าที่ผมถามมัน


“กูถามว่ากินยารึยัง” ผมตะโกนถามมันอีกครั้ง


“กินแล้ว แค่มึงห่วงกูแค่นี้ก็หายเป็นปลิดทิ้งแล้วล่ะ” ไอ้ห่า กูไม่ใช่ยารักษาโรคนะ!!


“เวอร์..ใครห่วงมึง กูห่วงวงพี่กูจะล่มต่างหากล่ะ”


“ขอบคุณนะดอกไม้” ได้ฟังที่กูพูดมั้ยเนี่ย ให้ตาย..ยังไงก็ไม่ชินกับคำเรียกของมันสักที มันจั๊กจี้หัวใจแปลกๆ!!


“หวัดดีครับพี่น้ำ พี่ต้า” แล้วไอ้หัวหน้าวงกับมือกลองก็ลงมาจากเซฟเฮาส์ข้างบนร้าน


“ไงไอ้ดิน ไหวมั้ยมึง” พี่ต้ามือกลองทักขึ้น


“ไหวพี่ นี่ก็ดีขึ้นแล้ว”


“พี่ต้าหวัดดีพี่”


“สวยขึ้นนะไอ้พู่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”


“โธ่พี่ ผมผู้ชายครับจะสวยได้ไงล่ะ”


“หน้ามึงสวยกว่าหน้าเมียกูอีก เมียกูโคตรอิจฉาเง้าหน้ามึงอ่ะ เมื่อวานเห็นดูเพจแซ่บๆอะไรสักอย่างนี่แหละอิจฉาเร่าๆ”

       
           ..จะว่าไปก็ยังไม่ได้ดูเพจของน้ำหวานเลยนี่หว่า ขอเข้าไปดูสักหน่อยละกัน..

     
      ภาพที่ผมกับไอ้ดินถ่ายด้วยกันเป็นภาพที่ไอ้ดินนั่งกอดคอผมยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมส่วนผมจะเรียกว่ายิ้มก็คงไม่ใช่

น่าจะแสยะยิ้มมากกว่า!! แคปชั่นใต้รูปคือ

หนุ่มหน้าเท่กับหนุ่มหน้าสวย(เค้าบอกว่ารู้จักกันแค่ผ่านๆ ไม่สนิทกันจ๊ะ) #แผ่นดินเกษตรศาสตร์ปี2 #พู่กันสัตว

แพทยศาสตร์ปี2


คนมากดไลค์กันบานตะไท ส่วนคอมเม้นก็ยาวเป็นหางว่าว เหอะ..ไม่มีใครชมว่ากูหล่อสักคน!!

นู๋’ นา  คู่นี้แปลกๆ มีซัมติงแน่ๆ

      หน้ากากนกยูง ใช่ๆ ดินมาหาพู่กันด้วยนะ รูปนี้ถ่ายที่ตึกคณะสัตวแพทย์

เหมียว หง่าว  เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ T_T

Kae kai  ตาร้อนเลยค่ะ

มนุดY  เค้าดูเหมาะกันจัง อยากให้เป็นแฟนกันจริงๆ^^

ผู้สาวนักดนตรี  ขอยอมแพ้เง้าหน้าของพู่กันค่ะ สวยกว่ากูอีก..ฮือ

 ‘ผู้สาวนักดนตรี’ผมรู้จักครับ พี่แนนนี่ผู้สาวพี่ต้าจะใครล่ะ!!

Nu kukkai  ครั้งก่อนดินก็ลงรูปคู่กับคนนี้นะ หอมท้องกันด้วย ว่าแต่เค้าเป็นใครฉันอิจฉาเค้า!!

        Wan amaii  พู่กัน เพื่อนเราเองเด็กสัตวแพทย์ ตัวจริงหน้าเป๊ะมาก ยอมค่ะ

ผู้สาวขาเลาะ ดินอย่างเท่อ่ะ อยากได้!!

หมอFun พู่กันน่ารัก เค้ามีแฟนยังครับ

        ข้าคือศิลปินผู้ยิ่งหย่าย ยังไม่มีแต่กำลังจะมีครับ!!

ส่วนไอ้ ‘ข้าคือศิลปินผู้ยิ่งหย่าย’ จะใครซะอีกล่ะดูจากชื่อของมัน พี่ชายสุดที่เลิฟของผมเองครับ

มึงเสือกไปตอบเค้าทามมายยย!!

..และอีกบลาๆๆ แม่งไม่อยากอ่านละ อ่านแล้วไม่มีอะไรจรรโลงใจกูเลย!!


“ป่ะไปเตรียมตัวไอ้ดิน เดี๋ยวขึ้นเล่นละ” ไอ้พี่น้ำหันมาบอกไอ้ดิน ส่วนไอ้พี่ต้าเดินนำไปก่อนละ


“ครับพี่”

“นั่งคนเดียวได้ใช่มั้ย” แล้วมันก็หันมาถามผมด้วยสีหน้ากังวล


“ถามแปลก ก็ต้องได้สิกูไม่ใช่เด็กๆนะ ”


“...”


“เดี๋ยวไอ้หมีก็มา” ผมพูดให้มันหายกังวล แคร์มันอีกแล้วสิให้ตาย!!


“กูมีเพลงนึงตั้งใจจะร้องให้มึงฟัง รอฟังนะดอกไม้!!” มันขยี้หัวผมเบาๆแล้วก็เดินไปที่เวที


“...” ตึกๆ ใจผมเต้นแรงอีกแล้ว!!


..เดี๋ยวนะ เสียงกรี๊ดกร๊าดนี่คือไร ศิลปินเกาหลีมาเรอะ?!


“กรี๊ด ดินหล่ออ่ะอยากจะกรี๊ดดังๆ ” แค่นี้ยังดังไม่พอเรอะ! หูกูจะแตก ผู้หญิงที่นั้งโต๊ะใกล้ผมคุยกันซะเสียงดัง พร้อมกับเสียง

ของอีกหลายๆโต๊ะ


“ดินเล่นกีต้าร์เป็นด้วยเหรอ เท่คูณสองไปอีกอ่ะแก”

ได้แต่เบ๊ะปากมองบน แค่เล่นกีต้าร์เป็นจะอะไรกันนักกันหนา!!


 “ไงจ๊ะที่รัก” ที่รักพ่อง!! ไอ้หมีกับไอ้ปูนพึ่งจะโผล่หัวมา ปล่อยกูนั่งหน้าสลอนอยู่คนเดียวตั้งนาน


“ไมมาช้าวะ”


“ไอ้ห่าหมีนั่นแหละ มารับกูช้า”


“ก็พี่ส้มไม่ยอมให้กูกลับจัดซะหลายยก น้ำกูจะหมดตัวละเนี่ย!!” มันพูดพร้อมกับยกขวดเกลือแร่สปอนเซอร์ขึ้นดื่มอั๊กๆ   ครับ!!

ตามนั้น เรื่องในมุ้งของมึงกูไม่ขอออกความเห็น..


“ไอ้นพ กับไอ้สมใจล่ะ?” ผมถามไอ้หมีรู้สึกว่าช่วงนี้สมาชิกในทีมหายไป


“ไอ้สมใจติดหญิง ส่วนไอ้นพก็ติดเกมส์”


“มันไม่มาดูเพื่อนมันเล่นดนตรีเหรอวะ?” ไอ้ปูนหันไปถามไอ้หมีบ้าง


“มันบอกมันเคยเห็นละ!” ครับ!!ตามนั้น จบแยกย้าย..



“สวัสดีครับพวกเรา วงจิปาถะครับ พบกับพวกเราได้ในบางงวด!!ของวันหวยออกที่ร้านโต๊ะกลมครับ” และแล้วก็ถึงเวลาของวง

จิปาถะ


“กรี๊ดดดด แผ่นดินมาได้ไง” แล้วก็มีเสียงผู้หญิงตะโกนถามอย่างตื่นเต้น


“วันนี้เรามีมือกีต้าร์รับเชิญเนื่องจากต่อมือกีต้าร์ของเราแขนหัก  น้องแผ่นดินครับ” ไอ้ดินพยักหน้าน้อยๆพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากเป็นการทักทาย คิดว่าเท่เหรอ ..เออ เท่!! กูยอม!


“กรี๊ดดดดดด” ครับ!!


“มาเล่นประจำแทนพี่ต่อเลยได้รึป่าว..กรี๊ดด” ครับบบ!!!


“ส่วนผมสีน้ำร้องนำ และต้ามือคาฮองเจ้าเก่าเจ้าเดิมครับ”

ไอ้พี่น้ำแนะนำตัวพร้อมกับเสียงกรี๊ดของสาวๆอินดี้แฟนคลับของมัน


“เพลงแรก มอบให้สำหรับคนที่กำลังมีความรักหรือกำลังตกหลุมรักใครสักคน และมือกีต้าร์ของเราก็อยากมอบเพลงนี้ให้กับใคร

คนนึง โปรดฟังมันอย่างตั้งใจนะ..น้องกู” แล้วไอ้พี่น้ำก็หันมาทางผมเหมือนจะบอกว่าเพลงนี้ไอ้ดินมันต้องการที่จะสื่อถึงผม

พอผมหันไปทางไอ้ดินมันก็สบตาผมนิ่งอย่างสื่อความหมาย..
 
     
      เสียงกีต้าร์จากไอ้ดินเริ่มบรรเลงขึ้นตามทำนองของเพลงที่ไพเราะ เป็นทำนองที่ฟังแล้วคุ้นหูพร้อมกับเสียงร้องของไอ้พี่น้ำ

ที่ผมฟังแล้วรู้สึกว่าอินเนอร์มันมาเต็ม!!  มันคือเพลง..รักแรกพบ ของTattoo Colourครับ


“มีจริงหรือ รักแรกพบเพียงสบตาแค่หนึ่งครั้ง
แค่แรกเห็นเดินผ่านมาไม่พูดจา
ไม่ทักไม่ทาย ไม่รู้ว่าใคร เหตุใดจึงรักกัน”


ทำไมผมถึงเป็นรักแรกพบของมันล่ะ?! จริงเหรอวะ?!


“ไม่มีทาง เรื่องเพ้อฝันความผูกพันอย่างง่ายดาย
รักแรกพบมีอยู่จริงในนิยาย
หนังสือนิทาน เพลงรักแสนหวาน กับความฝัน”


นั้นนะสิเรื่องพวกนี้มันมีแต่ในนิยายป่ะวะ ขนาดผมยังไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เลย แต่แปลกไอ้ดินไม่ใช่รักแรกพบของผม แต่มันค่อยๆซึมเข้ามาทำให้หัวใจผมค่อยๆอุ่นอย่างน่าประหลาด!!



“แต่วันหนึ่งฉันผ่านมาพบเธอตรงนั้น
ดวงใจ เป็นเดือดเป็นร้อนช่างทรมาน
ราวกับโดนมนตร์แม่มดสะกดพลัน
นาทีนั้น ฉันรักเธอทันใด”


จริงเหรอวะ?! จำได้ตอนเจอกันครั้งแรกที่ไปรับชบาเหมือนมันจะไม่ชอบขี้หน้าผมด้วยซ้ำ!!


“รักแรกพบแท้จริงเป็นอย่างไร
เพราะเธอใช่หรือไม่ เปิดใจใครที่ฉันเป็น
จากวันนั้น หัวใจรู้สึกเอง ชัดเจนว่าทุกสิ่ง
เกิดขึ้นจริงใช่ฝันไป ได้พบจึงเข้าใจ มีอยู่จริง

มีเหตุผล กว่าจะรักใครสักคนไม่ง่ายดาย
เรื่องลึกซึ้งความอ่อนบางของหัวใจ
ว่าเขาเป็นใคร มาถึงเมื่อไร
ไม่มีทางจะเข้าใจมันได้เลย

แต่วันหนึ่งฉันผ่านมาพบเธอตรงนั้น
ดวงใจ เป็นเดือดเป็นร้อนช่างทรมาน
ราวกับโดนมนตร์แม่มดสะกดพลัน
นาทีนั้น ฉันรักเธอทันใด”


ด้วยความหมายของเพลงทำให้ผมไม่สามารถละสายตาออกจากไอ้ดินได้เลย ซึ่งมันก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมเป็นพักๆด้วยสายตาที่จริงใจ


"รักแรกพบแท้จริงเป็นอย่างไร
เพราะเธอใช่หรือไม่ เปิดใจใครที่ฉันเป็น
จากวันนั้น หัวใจรู้สึกเอง ชัดเจนว่าทุกสิ่ง
เกิดขึ้นจริงใช่ฝันไป ได้พบจึงเข้าใจ มีอยู่จริง”

“สุดท้ายก็เข้าใจ มีอยู่จริง”


ท่อนสุดท้ายไอ้ดินร้องตามเบาๆ พร้อมกับสบตาของผมนิ่ง เหมือนจะสื่อให้รู้ว่ามันคิดแบบนั้นกับผมจริงๆ.

หัวใจผมตอนนี้มันพองโตอย่างน่าประหลาด แต่มันก็ปนด้วยความสงสัยว่าผมเป็นรักแรกพบของมันจริงเหรอ?!!

จบเพลงเสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดของสาวๆก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงซุบซิบของผู้หญิงในหลายๆโต๊ะแต่ที่ได้ยินชัดเจนก็โต๊ะข้าง

หลังผมนี่แหละ


“ดินเค้าหมายถึงใครอ่ะแก ฉันแน่เลย!!”.


“มโนจ๊ะ”


“ก็เค้ามองมาทางนี้อ่ะ”


“ดูโต๊ะข้างหน้าเราก่อน คนที่ลงรูปคู่กันกับดินในเพจ ’น.ศ.(ชาย)แซ่บ’ไง คนเดียวกับที่ดินเคยโพสลงเฟสครั้งก่อนมีหอมทงหอม

ท้องกันมุ้งมิ้งเชียว แกไม่เห็นเหรอ” หมายถึงกูใช่มะ!!


“ใช่คนที่หน้าสวยๆป่ะ ฮือฉันยอม”  เออนี่ซุบซิบกันหรือตะโกนคุยกัน กูได้ยินทุกคำพูด!!


“มึงคิดยังไงกับไอ้ดิน” จู่ๆไอ้หมีก็ถามขึ้น


“เรื่องอะไรล่ะ”


“กูรู้ว่ามึงเข้าใจในสิ่งที่กูถาม” มันพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง


“กูไม่รู้ว่ะ กูสับสน มันผู้ชายกูก็ผู้ชายนะเว้ย มันยังมีความรู้สึกแปลกๆอยู่” ว่าแล้วก็ยกเบียร์ขึ้นจิบสักหน่อยจะได้หายสับสน!!


“ตกลงมึงกลัว”


“ตอนที่ไอ้ดินอยู่กับมึง มึงรู้สึกยังไง” ไอ้ปูนยื่นหน้ามาถามพร้อมกับดึงแก้วเบียร์ในมือผมออก


“...” ทำไมต้องเค้นกูขนาดนี้ด้วยยยย


“ทำไมมึงต้องหลอกตัวเองด้วยวะ กูรู้ว่ามึงรู้สึกดีที่มีไอ้ดินอยู่ข้างๆ หรือมึงจะปฎิเสธว่าที่กูพูดมันไม่จริง?!”


“...” เออกูรู้สึกดี!!


“หลอกใครก็หลอกได้นะไอ้พู่ แต่มึงหลอกความรู้สึกตัวเองไม่ได้หรอก ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองหน่อยสิ” ไอ้ปูนพูดด้วยสีหน้า

จริงจัง ทำไมวันนี้ทุกคนมาโหมดจริงจังกันหมดวะ ..อยากให้กูได้กับไอ้ดินกันขนาดนั้นเลยเหรอ!!


“แต่..” กำลังจะอธิบาย ไอ้หมียกมือขึ้นห้ามก่อนจะพูดในสิ่งที่ผมกังวลอยู่ออกมา


“กูรู้ว่ามึงกังวลเรื่องอะไร  เรื่องเพศน่ะตัดออกไปได้เลย รักก็คือรัก จะเพศไหนก็ใช่คำนี้เหมือนกัน เข้าใจป่ะ!!” พูดจบมันก็ยก

เบียร์ขึ้นดื่มหมดแก้ว วางแก้วกระแทกกับโต๊ะด้วยความหงุดหงิด กูผิดอาร้ายย!!


“แล้วไอ้เพลงที่ใดในโลกที่มึงฟังมันทุกวันน่ะ เลิกฟังได้แล้วกูว่ามึงเจอคนนั้นแล้วล่ะ ขนาดมันอยู่บนเวทีมันยังไม่สนใจห่าไรเลย

มันมองมาที่มึงคนเดียว!!” ผมสบตากับไอ้ดินอีกครั้งเมื่อผมเงยหน้าขึ้นไปมองที่เวที มันคือคนนั้นที่กูตามหาจริงๆเหรอวะ!!


“ถ้ามึงคิดว่ามันไม่จริงใจกูรับประกันได้เลยว่ามันโคตรจะจริงใจกับมึง อย่างที่กูเคยบอกเพื่อนกูมันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนแต่กับ

มึงมันโคตรจะทุ่มเททุกเรื่อง” ไอ้หมีพูดพร้อมกับตบอกตัวเองด้วยความมั่นใจ


“เปิดใจแล้วก็ยอมรับความจริงซะ” ไอ้ปูนพูดพร้อมกับชูกำปั้นขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจผม


“...” ความจริงกูก็รอให้มันถามว่ากูชอบมันรึป่าวอีกรอบอยู่ไง จะให้กูบอกมันก่อนว่าชอบได้ไงละ อุตส่าห์ฟอร์มมาตั้งนาน!!

มัวแต่คุยกัน จนไม่ได้ฟังไอ้พี่น้ำมันร้องเพลงสักเท่าไหร่ แต่รู้สึกว่ามันจะร้องแต่เพลงรักเกือบทุกเพลง!!


“ครับ แล้วก็มาถึงเพลงสุดท้ายของวันนี้แล้วนะครับ เพลงสุดท้ายนี้มือกีต้าร์ของเราจะเป็นคนร้องครับ”


“กรี๊ดดดดด” หูกูจะแตก!!

ไอ้ดินค่อยๆจัดขาตั้งไมค์ให้พอดีกับมันที่ตอนนี้มันนั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงสูง ก่อนจะพูดว่า..


“เพลงนี้คือสิ่งที่ผมอยากบอกให้คนๆนึงได้รู้ ตั้งใจฟังนะดอกไม้!!”


“กรี๊ดดดดดดดด” หูกูดับละครับ!!


“ดอกไม้ อะไรคือดอกไม้ อ๊าย ฉันเขิน” อดไม่ได้ที่จะหันไปดูโต๊ะข้างหลัง ตอนนี้ระทวยกันเป็นแทบๆ


คำพูดง่ายๆ ของพี่นพ พรชำนิครับ” ไอ้ดินยิ้มน้อยๆแต่ก็ดูเขินๆ   ไม่เคยเห็นมุมนี้ของมันเลยแฮะ!!


“ตั้งแต่วันแรกเลยที่เราได้รู้จักกัน จนถึงวันนี้
หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของเราก็เปลี่ยนไป
ทุกครั้งที่เราได้พบกัน ได้เจอกัน ได้พูดคุยกัน
มันทำให้ผมรู้สึกประทับใจและอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกันครับ
ผมก็ไม่รู้นะครับว่าผมรู้สึกอย่างงี้อยู่คนเดียวรึเปล่า
แต่มันก็นานกว่าผมจะเข้าใจและรู้ในใจของผมเอง
และวันนี้ ผมมีอะไรจะบอกคุณครับ ฟังนะครับ”


จริงๆแล้วผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของค่ายเพลงเบเกอรี่มิวสิค ผมร้องตามได้แทบทุกเพลงไม่คิดว่าไอ้ดินก็รู้จักเพลงนี้เหมือนกัน

ผมตั้งใจฟังท่อนนี้อย่างตั้งใจซึ่งมันเป็นท่อนพูดครับไม่ใช่ท่อนร้อง จะว่าอะไรมั้ยถ้าผมจะบอกว่าผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน

ตั้งแต่เจอไอ้ดินชีวิตผมก็เปลี่ยนไปจริงๆครับมันเป็นความรู้สึกดีที่เริ่มก่อตัวขึ้น มันแคร์ผมและผมก็แคร์มัน และผมจะอุ่นใจทุกครั้ง

ที่มันยิ้มให้กับผมและอยู่ใกล้ๆผม

ผมรู้ความรู้สึกของมันแล้ว เหลือเพียงแต่ผมที่ต้องเป็นฝ่ายบอกความรู้สึกของผมให้มันได้รับรู้ ว่าผมก็รู้สึกไม่ต่างจากมัน!!


“อยากมีคำพูดง่ายๆ อยากกระซิบเธอใกล้ๆ บอกความหมายในหัวใจของฉัน
ลึกๆ ข้างในนั้น เฝ้ารอคอยด้วยความหวัง ว่าเธอนั้นคงมีใจรู้สึกเหมือนกัน
คำพูดเพียงสั้นๆ อาจจะฟังดูง่ายๆ แต่ความหมายนั้นมากมาย...กว่านั้น
จากใจฉัน...ว่าฉันรักเธอ”


ใจผมเต้นแรง กับการบอกรักผ่านบทเพลงของไอ้ดิน หน้าผมร้อนไปหมดจนไม่กล้าสบตาของไอ้ดินที่มองมาอย่างลึกซึ้ง

แต่ถึงมันจะเป็นคำพูดง่ายๆแต่จะให้พูดออกมามันไม่ง่ายเลย!! แต่เอาวะ..ผมรู้ว่ามันคงจะอึดอัดใจน่าดูกับการอยากรู้คำตอบของ

ผมว่าคิดยังไงกับมัน ถึงเวลาที่ผมควรจะใจกล้าพูดมันออกไปได้แล้ว..


“ฉันก็รู้ว่า...ตัวฉันนั้นรู้สึกเช่นไร
อยากจะขอให้เธอ ได้โปรด...ฟัง ความในใจ...ของฉันนี้”


“อยากมีคำพูดง่ายๆ อยากกระซิบเธอใกล้ๆ บอกความหมายในหัวใจของฉัน
ลึกๆ ข้างในนั้น เฝ้ารอคอยด้วยความหวัง ว่าเธอนั้นคงมีใจรู้สึกเหมือนกัน
คำพูดเพียงสั้นๆ อาจจะฟังดูง่ายๆ แต่ความหมายนั้นมากมาย...กว่านั้น
จากใจฉัน...ว่าฉันรักเธอ

แล้ว...ในวันนี้ ขอให้เธอ...ได้โปรดรับฟังฉันอีกสักครั้ง
คำพูดที่ดังออกจากหัวใจ คงไม่มีคำๆ ไหน แทนคำ...นี้
นอกจาก...

..I found you...ฉันพบแล้วคนที่ใช่”


น้ำเสียงที่ไพเราะของไอ้ดินยิ่งทำให้ผมเข้าใจในความรู้สึกของมันชัดเจน..และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเพลงนี้จบลง!!


กูรักมึง..พู่กัน” บึ๊มมมมมมมมมมมมมมม ตายเลยกู!! ใครจะคิดว่ามันจะพูดออกมาโต้งๆแบบนี้


กูควรทำไงดีวะ ทุกสายตามหันมามองที่กูหมด เอาไงดี..วิ่งสิครับรออะไร!! ไว้เดี๋ยวกูค่อยบอกมึงทีหลังแล้วกันนะ

ตอนนี้กูขอสวมวิญญาณยูเซน โบลต์วิ่ง100เมตรออกจากร้านให้เร็วที่สุดก่อน แม่งอยู่ต่อได้ไงละ..เขินนะเว้ย..ตัวกูจะแตก!!


“อ้าว ไอ้พู่จะไปไหนวะ”เสียงไอ้หมีตะโกนไล่หลังมา กูไม่สนครับ วิ่งหน้าตั้งอย่างเดียวครับ อาย..มาบอกรักต่อหน้าสาธารณชน

แบบนี้ได้ไง!!


“จะไปไหน” วิ่งออกมาได้50เมตร ไอ้ดินก็วิ่งตามผมมาแล้วคว้าแขนผมเอาไว้


“กลับบ้าน” ไม่กล้าสบตามันครับ เขินโคตรๆ


“หน้าแดงจังเหนื่อยเหรอ” มันถามด้วยสีหน้าล้อๆ


“ก็วิ่งออกมาไง เหนื่อยสิ”


“แล้ววิ่งออกมาทำไม”


“...”


“หือ..ดอกไม้วิ่งออกมาทำไม คนเค้ากำลังสารภาพรัก หนีออกมาแบบนี้ก็เสียหน้าแย่สิ” มันพูดพร้อมกับขยับหน้าเข้ามาใกล้


“กะ ก็..มันเขินเว้ย”


“รักนะดอกไม้” มันพูดพร้อมกับจับมือผมด้วยน้ำเสียงที่จริงจังแต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยน


“...” ได้แต่ก้มหน้างุดๆไม่กล้าสบตา


“รักกันบ้างรึยัง?!”


“...”


“ว่าไงครับ” ยิ่งผมไม่ตอบมันก็ยิ่งโน้มหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

เอาวะ ในเมื่อรอมันถามนี่มันก็ถามแล้วผมก็ควรจะตอบมันสักที ควรจะซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองอย่างที่ไอ้ปูนบอก!!


“อืม” ผมเงยหน้าตอบมัน


“อืม หมายความว่าไง”


“ก็ชอบไง”


“แค่ชอบเองเหรอ” หน้าของไอ้ดินตอนนี้ยิ้มแก้มแทบแตก!!


เออ รัก กูรักมึง พอใจรึยัง” ผมตะโกนบอกมันออกไป เฮ้อ..โล่งอกพูดออกมาแล้ว!!


“ก็แค่นี้แหละ” พูดจบมันก็ดึงตัวผมเข้าไปกอด พร้อมกับจุ๊บหน้าผากผมเบาๆ

แล้วผมก็กอดมันตอบเหมือนกันรู้สึกซึ้งใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน


“เป็นแฟนกันแล้วนะดอกๆไม้” ไอ้ดินกระซิบบอกกับผม แต่ผมได้ยินมันชัดเจน


“เป็นตอนไหน” ผมแอบยิ้มในอ้อมกอดของมัน


“อ้าว คนรักกันก็ต้องเป็นแฟนกันสิ ไม่รู้แหละ เราเป็นแฟนกันแล้ว” น้ำเสียงมันดูมีความสุขจัง..


“เอาแต่ใจ”


“เอาอย่างอื่นด้วย”


“ทะลึ่ง”


“หมายถึงเอาใจ มึงนั้นแหละทะลึ่ง”


“ไอ้บ้า”


“ป่ะ กลับกัน”


“ไม่เข้าไปข้างในแล้วเหรอ” ผมถามกลับอย่างสงสัย


“ไม่อายแล้วเหรอ แต่กูอายอ่ะ” ไอ้ห่า มาอายอะไรเอาป่านนี้


“มึงเพิ่งจะมารู้ตัวอะไรตอนนี้ ตอนร้องเพลงกับตอนบอกรักกันโต้งๆบนเวทีน่ะไม่รู้จักอาย”


“ตกลงจะกลับมั้ย” มันพูดด้วยสีหน้าเขินๆ


“กลับ” แมร่งหน้ากูก็บางนะ ไม่กล้ากลับเข้าไปหรอก ดีนะเพลงที่มันร้องเป็นเพลงสุดท้ายพอดี ไม่งั้นวงพี่กูได้ล่มกลางคันแน่ๆ

เพราะผมเชื่อว่ายังไงมันก็จะต้องวิ่งตามผมมาแบบนี้อยู่ดี!!

แล้วเราก็เดินจับมือกันไปที่รถของไอ้ดินด้วยหัวใจที่พองโต ..จะว่าไปตัวมันร้อนนะ ไหนบอกแค่ปวดหัวนี่มึงเป็นไข้นี่หว่า!!



 ต่อด้านล่างค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2018 14:35:12 โดย MA_LEE »

ออฟไลน์ MA_LEE

  • เป็ดหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
“ดิน”


“หืม”


“ไม่สบายใช่มั้ย” ผมถามไอ้ดินขณะที่เราอยู่บนรถของมันแล้ว


“นิดหน่อยน่ะ กินยาไปแล้วตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้นละ”


“อย่าโกหก ตัวมึงร้อน” ผมจ้องมันด้วยสายตาค้าดคั้น


“อื่อ ปวดหัวโคตรๆเลย อยากนอนพักแล้ว” มันถอนหายใจแล้วตอบออกมาอย่างเชื่องช้า


“ให้กูขับรถให้มั้ย” ดูจากสีหน้ามันแล้วดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไข้คงจะเริ่มขึ้นแล้วล่ะ


“ไม่เป็นไรกูไหว”


“อย่าดื้อ ลงรถแล้วมานั่งตรงนี้”


“ทำไมแฟนผมดุจัง” แฟนเหรอ!! ไม่ชินกับคำนี้แฮะ..ฮือ หน้าแดง


ถึงมันจะบ่นแต่สุดท้ายมันก็ยอมให้ผมขับรถให้


“นอนไปเลยนะแล้วไม่ต้องพูดมาก ถึงแล้วจะปลุก”


“คร้าบแฟน” พูดจบมันก็เอนเบาะลงไปนอน เวลาป่วยแล้วพูดง่ายดีแฮะ!!


..ไม่น่าเชื่อว่าผมจะมีแฟนอีกครั้ง แถมยังเป็นผู้ชาย!!ที่ป๊อปปูล่าในหมู่สาวๆอีกด้วย ผมจะโดนแฟนคลับมันตามตบมั้ยเนี้ย!!


“ไอ้ดิน..ดิน”


“อื่อ”


“ถึงแล้วลุกเร็วจะได้ไปนอนต่อที่ห้อง”

แล้วคนป่วยที่ว่านอนสอนง่ายก็ลงจากรถอย่างสลึมสลือ ผมพาคนป่วยมาส่งถึงห้อง จะว่าไปนี่คือครั้งแรกที่ผมมาที่ห้องของไอ้ดิน

ห้องมันสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยตามนิสัยรักสะอาดของมัน เห็นแล้วก็อายห้องตัวเองที่ไม่มีความเป็นระเบียบเอาซะเลย!!


“ยาอยู่ไหน กินยาอีกรอบนะ” ผมถามไอ้ดินขณะที่มันกำลังล้มตัวลงนอน


“อยู่บนหัวเตียง”


“ไม่สบายแล้วทำไมไม่บอกกัน จริงๆวันนี้ไม่ควรไปเล่นดนตรีด้วยซ้ำ” ผมพูดขณะไปกดน้ำจากกาน้ำร้อนที่อยู่ตรงเค้าเตอร์ครัวเล็กๆ


“รับปากพี่น้ำไปแล้วไง อีกอย่างก็เตี๊ยมกับพี่น้ำไว้แล้วด้วย”


“มึงนี่น๊า เอ้าลุกมากินยาก่อน” แล้วมันก็ลุกมากินยาอย่างว่าง่าย


“ขอบคุณนะดอกไม้” มันเอามือมาจับแก้มผมเบาๆ สัมผัสจากฝ่ามือของไอ้ดินทำให้ผมรู้สึกถึงไอร้อนที่มาจากพิษไข้


“ตัวมึงร้อนจังวะ เช็ดตัวนะ”


“ตามใจครับ” มันพูดก่อนจะค่อยๆล้มตัวลงนอน


“มีผ้าขนหนูผื่นเล็กๆมั้ย”


“อยู่ในตู้เสื้อผ้าชั้นล่าง”


จัดการหาอุปกรณ์สำหรับเช็ดตัวให้คนป่วยเสร็จผมก็มานั่งลงตรงขอบเตียงพร้อมกับปลุกไอ้ดิน


“ไอ้ดิน เช็ดตัวก่อน”  ผมค่อยๆเริ่มเช็ดที่หน้ามันเบาๆ


“พู่กัน”


“ว่าไง”


“จะกลับยังไง” ห่วงตัวเองก่อนมั้ยก่อนที่จะห่วงกูเนี่ย เสียงพูดแทบจะไม่มีอยู่ละ!!


“เดินกลับ”


“ได้ไงล่ะ เอารถกูกลับก็ได้นะ”


“ไม่อ่ะ บ้านกูแค่นี้เอง”


“ไม่เอา งั้นคืนนี้นอนนี่นะ”


“...!!”


“ตอนดึกกูไข้ขึ้นจะทำไงล่ะ เป็นแฟนกันก็ต้องเป็นห่วงเป็นใยกันสิ” มันพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน


“ก็เพราะห่วงนี่ไงถึงได้นั่งเช็ดตัวให้อยู่เนี่ย” ผมพูดขณะที่ค่อยๆเช็ดลำคอให้ไอ้ดินอย่างช้าๆ


“นอนนี่นะ” เอาแต่ใจจริงๆเล้ย


“เออๆ แล้วอย่าคิดทำอะไรพิเรนท์ๆล่ะ” ที่ยอมตกลงก็เพราะเป็นห่วงมันจริงๆนั้นแหละ


“ผมป่วยจะทำอะไรได้ล่ะคร้าบ” ผมมองหน้าคนป่วยอย่างไม่ไว้ใจ


“ถอดเสื้อนะ จะได้เช็ดสะดวกๆ” แล้วมันก็ชูแขนขึ้น ทำท่าให้ผมถอดเสื้อให้  อื้อหือ ทำไมหุ่นมันดีแบบนี้วะ ซิคแพคกับกล้าม

เนื้อที่เป็นมัดสวยนี่คือไรถึงจะไม่ได้เด่นชัดแต่มันก็ดูดีจนน่าอิจฉา  โอ๊ยใจ..เช็ดไปมือก็สั่นไป!!


“ถอดกางเกงด้วยก็ได้นะ อยากดูแผ่นดินน้อยมั้ยจะได้ถอดกางเกงในให้ จะได้หายกันที่ตอนนั้นกูเห็นพู่กันน้อยของมึงไง!!”


“ไอ้บ้า!! นี่ถ้าตัวมึงไม่ร้อนกูคงคิดว่ามึงแกล้งป่วยแน่ๆ”


“...”


“เออ ถอดกางเกงด้วยก็ได้มึงใส่กางเกงยีนส์น่าจะอึดอัด แต่ไม่ต้องกอดกางเกงในนะเหลือแค่บ๊อกเซอร์ก็พอ” ผมค่อยๆถอดกาง

เกงยีนส์สีซีดของไอ้ดินออก ละ..และสิ่งที่ปรากฏสู่สายตา..แม่เจ้าโว้ยนี่มันไม่ใช่เจ้าโลกแล้ว มันเป็นเจ้าจักรวาลชัดๆ!!

ไอ้ดินใส่กางเกงในขาสั้นสีเทาซึ่งไอ้กางเกงในแบบเนี่ยมันยิ่งรัดเป้ามองเห็นเป็นรูปเป็นร่างชัดเจน

อู้ฟู่แทบจะชนเบ้าหน้ากูอยู่ละ!!


“...!!” พูดไม่ออกได้แต่อึ้งกับเจ้าจักรวาลของมัน


“กูไม่ได้ใส่บ๊อกเซอร์”


“...!!” มึงมาบอกอะไรตอนเน้!!


“เออๆ เดี๋ยวเอากางเกงขาสั้นให้” หมุนตัวมาที่ตู้เสื้อผ้าของมันทันที อยู่ไหนวะกางเกงขาสั้น ไอ้สัดแล้วกูจะลนลานเพื่อ!!


“อ่ะ ใส่เองกูจะไปเปลี่ยนน้ำมาเช็ดตัวมึงอีกรอบ” ผมโยนกางเกงฟุตบอลสีดำของทีมแมนยูให้มัน พร้อมกับถือถ้วยใบใหญ่ไปที่

ห้องน้ำ พึ่งจะสังเกตว่าห้องน้ำไอ้ดินมันโคตรโล่ง อุปกรณ์อาบน้ำมีแค่สบู่เหลวขวดเดียวพร้อมกับยาสีฟันกับแปลงฟันและมีดโกน

หนวดหนึ่งด้ามตรงชั้นวางหน้ากระจกตรงอ่างล้างหน้า ไร้ซึ่งแชมพู โฟมล้างหน้า ครีมโกนหนวด อย่าบอกนะว่ามันใช่สบู่เหลว

ให้เป็นแบบ3in1 แล้วทำไมหนังหน้ามันดีจังวะ!!


“นอนได้แล้ว” ผมพูดหลังจากเช็ดตัวให้มันเสร็จเรียบร้อย แต่กว่าจะเรียบร้อยหัวใจของผมก็เกือบจะวายเช็ดช่วงล่างให้มันนี่ไม่

ง่ายเลย!!


“นอนไม่หลับแล้ว มีแฟนมาลูบๆคลำๆตัวให้แบบนี้ตื่นหมดเลย!!” เออกูรู้ ขนาดใส่กางเกงแล้วกูยังเห็นเจ้าจักรวาลของมึงมันโด่

อยู่เลย!!


“ทะลึ่ง เช็ดตัวพูดให้มันดีๆ”


“มึงก็มานอนได้แล้ว” มันตบที่นอนข้างๆมันเบาๆ


“ยังอ่ะ กูจะกลับบ้านไปอาบน้ำก่อน แล้วค่อยกลับมาเฝ้าไข้มึง”


“ทำไมไม่อาบที่นี่ล่ะ?” มันถามด้วยความสงสัย


“กูจะเอาเสื้อที่ไหนเปลี่ยน อีกอย่างกูจะอาบได้ไงล่ะห้องน้ำมึงไม่มีห่าไรเลย มีแค่สบู่เหลวขวดเดียว กูจะเอาไรล้างหน้ากับสระ

ผม!!”


“ก็สู่เหลวไง ดีนะสูตรนี้ใช้แล้วผมนุ่มดี” ตอบได้หน้าตายมาก!!


“ไม่อยากจะเชื่อว่าคนสะอาดอย่างมึงจะใช้แค่สบู่เหลวขวดเดียว”


“ใช้ดีออก ไม่ยุ่งยาก”


“มึงไม่เอาแปรงฟันด้วยเลยล่ะ”


“ลองแล้วมันขม ไม่โอเค”


“...!!” มึงกวนตีนกูป่ะเนี่ย


“เสื้อผ้าก็ค้นเอาได้เลยตามสบาย ตรงลิ้นชักตู้เสื้อผ้ามีแปรงฟัน โฟมล้างหน้ากับแชมพูอยู่นะ เอาไปใช้ได้เลย มึงใช้ยี่ห้ออะไร

คราวหลังจะซื้อเตรียมไว้ให้ เผื่อวันไหนมึงมาค้างที่นี่”


“ไม่ต้องอ่ะ!!” ใครจะมาค้างที่นี่ล่ะ แม่งไม่ปลอดภัยสุดๆ วันนี้ที่กูยอมเพราะมึงป่วยต่างหากล่ะ!!


“งั้นกูไปค้างบ้านมึงก็ได้ ดีมะ!!”


“ไม่ดี..มึงนอนที่ห้องมึงนั้นแหละดีแล้ว”


“เวลามึงหิวตอนอ่านหนังสือตอนดึกๆ กูก็จะทำกับข้าวให้กินไง ไม่ดีเหรอ”


“พูดมากจังวะ ดีขึ้นแล้วใช่มะกูจะได้กลับไปนอนบ้าน”


“ปวดหัวอยู่เลย ตัวก็ยังไม่หายร้อนไม่เชื่อมาจับดูสิ” เปลี่ยนน้ำเสียงทันทีเลยนะมึงเมื่อกี้ยังระรื่นอยู่เลย!!


“นอน!!” พูดเสร็จผมก็ไปอาบน้ำทันที ยิ่งยืนอยู่ที่เดิมมันก็ยิ่งชวนคุย ไม่รู้ว่ากลายเป็นคนพูดมากตั้งแต่เมื่อไหร่ ไอ้ดินคนหน้านิ่ง

เงียบขรึมหายสาปสูญไปไหนแล้วก็ไม่รู้!!

     ผมอาบน้ำเสร็จก็มาหาเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าของได้ดิน เสื้อที่พอจะใส่ได้ก็เป็นพวกเสื้อบอล การที่ได้ค้นตู้เสื้อผ้าของไอ้ดินทำให้

รู้ว่านอกจากเสื้อยืดสีขาวและสีดำยังมีเสื้อแบบอื่นและสีอื่นบ้างประปราย แต่เสื้อยืดสีขาวล้วนกับสีดำล้วนเยอะสุดน่าจะเกือบๆยี่สิบตัว!!

ไอ้ดินตอนนี้นอนหลับแล้วสงสัยยาคงออกฤทธิ์ ผมค่อยๆใช้หลังมือแตะที่หน้าผากมันเบาๆเพื่อดูว่าไข้มันลดรึยัง ความร้อนลดลง

กว่าตอนแรกนิดนึง ตอนดึกคงได้ลุกมาเช็ดตัวให้อีกรอบว่าแล้วก็ตั้งปลุกในมือถือ หลังจากนั้นก็ไลน์บอกทั้งไอ้พี่น้ำ และไอ้เพื่อน

หมอ‘หมา’ทั้งสองตัว ว่าผมอยู่ไหนและเพราะอะไร พวกมันก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ

ปิดไฟในห้องแล้วก็ค่อยๆซุกตัวลงนอนข้างๆมัน แสงไฟจากข้างนอกสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ถึงจะเป็แสงสลัวๆแต่ก็ทำให้มองเห็นใบหน้ายามหลับใหลของมันชัดเจน

ขนาดหน้าตอนที่มันหลับยังดูเท่อ่ะ จมูกโด่งรับกับใบหน้าที่เรียวคม ขนตาของมันก็ยาวดีเหมือนกันแฮะ ปากก็เป็นกระจับสวย

ผิวหน้าก็ดีถึงจะไม่ได้ขาวแต่มันก็ดูใสแบบสุขภาพดี ไม่น่าเชื่อว่ามันจะใช้แค่สบู่เหลวล้างหน้า!!


ไอร้อนจากร่างกายของไอ้ดิน..ทำให้ผมสงสารคนป่วยขึ้นมาจับใจ ป่วยแท้ๆยังฝืนสังขารไปร้องเพลงเพื่อจะสารภารรัก!!

น่าขำ..แต่ทั้งหมดมันก็ทำเพื่อผม ซึ้งจังวะว่าแล้วผมก็กอดมันไว้อย่างหลวมๆ

เหมือนคนป่วยจะรู้สึกตัว เพราะมันก็กอดผมเช่นเดียวกัน


“ขอบคุณนะพู่กัน ที่เปิดใจให้คนอย่างกู” หืม..แกล้งหลับเหรอ?!


“มึงบอกว่ากูเป็นรักแรกพบ จริงเหรอวะ” อดไม่ได้ที่จะถามออกไป


“จริง!! ที่จริงแล้วกูเคยเจอมึงมาก่อนที่มึงจะมาหาชบา”


“...”


“วันนั้นกูบังเอิญจอดรถที่หน้าบ้านมึงพอดี แล้วก็เห็นมึงกำลังเล่นกับจำปี จำปา ตั้งแต่นั้นมากูก็มองหามึงตลอดเวลาที่กูขับรถผ่าน

บ้านมึง บางวันถึงขั้นจอดรถที่หน้าบ้านมึงเผื่อจะเห็นมึง แต่แปลกตั้งแต่วันแรกที่เจอมึงกูก็ไม่เห็นมึงอีกเลย จนสุดท้ายมาเจอมึงที่

หอตัวเองกูแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าจะได้เจอมึงอีกครั้งแถมยังมาเป็นเจ้าของชบาอีกด้วย มันคงเป็นโชคชะตาที่ทำให้กูได้เจอ

มึงอีกครั้ง!!”


“...”


“กูชอบมึงตั้งแต่แรกเห็น กูหลงรักในรอยยิ้มของมึง และยิ่งรู้จักกูยิ่งชอบมึงมากขึ้นไปอีก จากชอบมันก็เปลี่ยนเป็นรัก กูอยากดูแล

มึง อยากอยู่กับมึง อยากผ่านทุกช่วงเวลาไปด้วยกัน กูรักมึงจริงๆนะพู่กัน” ไม่น่าเชื่อว่ามันเคยเจอผมมาก่อน โชคตางั้นเหรอ!!

ก็คงจะใช่ ถ้างั้นชบาคงเป็นโชคชะตาที่นำพาให้เรามาเจอกัน!! ซึ้งอีกล่ะ..เวลานี้ผมควรบอกรักมันกลับไปใช่มะ..


“ขอบคุณนะที่รักกู กูก็รักมึงเหมือนกันแผ่นดิน” เราต่างฝ่ายต่างยิ้มให้กัน


“อยากจูบจัง แต่กลัวมึงจะติดไข้ไปด้วย”


“...” ถ้าจะพูดขนาดนี้จูบกูเลยเหอะ!! ตอนที่มึงพูดปากก็แทบจะชนกันอยู่ละ!!


“ดอกไม้”


“หืม” ผมเงยหน้าขึ้นสบตาของมัน มันใช้จังหวะนี้จูบลงมาที่ริมฝีปากของผมอย่างอ่อนโยน

ครั้งนี้ผมยอมรับจูบของไอ้ดินอย่างเต็มใจเพราะมันเป็นจูบที่ชัดเจนในความรู้สึกที่สุดว่าผมก็รักมัน เพราะจูบครั้งก่อนมันเต็มไป

ด้วยความสับสนมึนงง.. ไอ้ดินจูบผมอย่างเชื่องช้าเหมือนจะค่อยๆซึมซับความรู้สึกนี้เอาไว้ให้นานๆ ลมหายใจของเราเริ่มกระชั้น

ขึ้น ริมฝีปากก็เริ่มบดเบียดกันอย่างเร่าร้อน ปลายลิ้นของไอ้ดินสอดเข้ามาในโพรงปากของผม เรียวลิ้นของเราดูดดึงควาน

หาความหวานซึ่งกันและกัน มือของไอ้ดินข้างนึงประคองใบหน้าผมไว้ส่วนอีกข้างนึงก็เข้ามาในเสื้อลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของ

ผม หลังจากผละริมฝีปากออกไอ้ดินก็พรหมจูบไปทั่วใบหน้าผมและขบเม้มที่ติ่งหูผมเบาๆทำให้ขนผมลุกชันไปทั้งตัว

จากนั้นมันก็ซุกไซร้ริมฝีปากลงมาที่ลำคอของผมลิ้นเรียวลากวนไปทั่วทั้งลำคอ ไอ้ดินเลิกเสื้อผมขึ้น

ก่อนจะลากเรียวลิ้นมาที่หน้าอกของผม ทำให้ร่างผมสั่นสะท้าน


“อ๊ะ” ผมเผลอร้องออกมา อย่างลืมตัวเมื่อเรียวลิ้นแฉะของไอ้ดินมาหยุดตรงที่ยอดอกของผม


“ไอ้ดิน ดิน หยุดก่อน” ผมพูดพร้อมกับใช้มือดันตัวมันออกแม้เรี่ยวแรงของผมจะเหลือเพียงน้อยนิดก็ตาม


“ดอกไม้ ทำไมน่ารักแบบนี้”ไอ้ดินพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบพล่าและสายตาที่ฉ่ำปรือ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพิษไข้หรือเพราะอารมณ์ตอนนี้ของมันกันแน่!!


“มันเร็วไป ยัง..ยังไม่ใช่ตอนนี้”จู่ๆผมก็รู้สึกกลัวจนตัวสั่น น้ำตาก็รื้นขึ้นมา ไอ้ดินหยุดทันทีที่เห็นน้ำตาของผม!!


“ดอกไม้ขอโทษ กูใจร้อนเอง ไม่ทำแล้วๆ” ไอ้ดินค่อยจูบซับน้ำตาที่ค่อยๆไหลออกมาให้ผมอย่างแผ่วเบา


“กูกลัว ฮือ” สุดท้ายผมก็ร้องไห้..น่าอายชะมัด!!


“โอเคๆ ไม่ต้องกลัวไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว นอนกันเนาะ” ไอ้ดินกอดแล้วลูบหลังผมเบาๆ


“ฮือ..กูจะกลับบ้าน”


“ได้ไงละ เดี๋ยวกูไข้ขึ้นทำไงล่ะ”


“ไม่ขึ้นแล้วละมั้ง มึงมีแรงปล้ำกูได้ขนาดนนี้”


“โธ่ ดอกไม้ขอโทษนะ ก็ตัวมึงหอมอ่ะแถมยังบอกรักกูอีก กูเลยอดใจไม่ไหว”


“ต่อไปกูจะไม่บอกรักมึงอีกแล้ว!!” ไม่ปลอดภัยสุดๆ!! ฮือ..


“โอ๋ๆ หยุดร้องได้แล้วครับ” สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าคนป่วยต้องกล่อมผมให้นอนหลับ!!

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังทำหน้าที่แฟนที่ดี ด้วยการลุกมาเช็ดตัวให้มันอีกรอบตอนกลางดึก แล้วก็นอนกอดกันด้วยหัวใจที่เป็นสุข

การมีแฟนมันดีแบบนี้นี่เอง..ไม่สิ การมีแฟนเป็นไอ้ดินมันดีแบบนี้นี่เอง!!


     


        สีน้ำ (ผมขอพูดอะไรนิ๊ดนึง)


       มีคนบอกว่าผมเป็นผู้ชายห่ามๆ ปากหมา บางทีก็พูดตรงเกินไป และบางทีก็พูดไม่รู้เรื่องติสแตกเกินไป!!

เหรอว่ะ?!! ผมว่าตัวผมออกจะเพอร์เฟ็ก รูปก็หล่อพ่อก็รวย(นิดๆ) วาดรูปก็เก่ง ร้องเพลงก็เพราะ เอาใจก็เก่ง เอากันก็เก่ง!!

แต่สุดท้ายแฟนแต่ละคนที่เคยคบมาก็ทิ้งผมโดยการไปมีชู้!!กับคนที่เอาใจเก่งกว่า และเอาเก่งกว่า!!!

บางทีผมก็สูญเสียการเป็นตัวของตัวเอง ต้องสร้างภาพว่าผมเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้พอผมเหนื่อยก็เลยเป็นตัวตัวของเอง

เธอพวกนั้นกลับยอมรับไม่ได้ พวกเธอต่างบอกว่าผมติสแตกเกินไป!!

แต่ตอนนี้มีอยู่คนนึงที่ผมอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่ต้องสร้างภาพไม่ต้องแสแสร้ง อาจเพราะเรารู้จักกันมานานจนรู้นิสัยของกันและ

กัน ถามว่าตอนนี้ผมกับเค้าสถานะคืออะไร น่าจะเป็นคนพิเศษของกันและกัน

เรายังไม่ได้บอกความสัมพันธ์ของเราให้ใครรู้ แต่จริงๆเราก็ยังไม่มีอะไรลึกซึ้งมากสุดคือหอมแก้มครับ

เป็นไงล่ะผมก็สุภาพบุรุษนะคร้าบบบ!! เพราะคนพิเศษของผมคนนี้ทั้งน่ารักและน่าทะนุถนอม ผมอยากจะค่อยๆเป็นค่อยๆไปใน

ความสัมพันธ์นี้และนี่คือครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าความรักนี้มันช่างสวยงาม!!


      ..ฮะ คุณถามว่าคนพิเศษของผมเป็นใครน่ะเหรอ ...ก็น้องปูนของผมยังไงละคร้าบ!!..




 *TBC*



……………………………………………………….............................


สวัสดีค่ะทุกๆคน บทนี้แอบมาเลทสมองกลวงมากเลยช่วงนี้ T_T กราบขออภัยคนอ่านที่น่ารักทุกๆคนของมาลีด้วยนะค่ะ^^

และแล้ว..เค้าก็เป็นแฟนกันล้าววว!!  เป็นแฟนกันวันแรกแผ่นดินก็เกือบจะจับพู่กันทำเมียซะแล้วหื่นจริงๆเชียว!! #ดินคน

หื่น2018 #ดินผู้อดกลั้น2018


เค้าเขียนฉากNC ไม่ได้เรื่องเลย ถ้าอ่านกันแล้วมันขัดๆต้องขอโทษด้วยน๊า พยายามสุดๆแล้ว
  :mew6:

**บทหน้าจะเป็นบทเต็มของพี่สีน้ำและน้องปูนเด้อจ้า**



ปล.ขอขอบคุณเพลง คำพูดง่ายๆ ของพี่นภ พรชำนิ และเพลง รักแรกพบ ของวงtattoo colour มา ณ.ที่นี้ด้วยนะค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=GL3K2RJFrd0

https://www.youtube.com/watch?v=rc7KnQAh_1I

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2018 15:18:07 โดย MA_LEE »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ patompong888

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 

    cute!!     :-[   :pig4:

ออฟไลน์ skykick

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

เป็นแฟนกันสักที   :mew1:   :katai2-1:

ออฟไลน์ fairy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ MA_LEE

  • เป็ดหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
บทที่11 สีน้ำกับปูนใส


 
พาร์ตของสีน้ำ

      ร้านโต๊ะกลมชั้นบน หรือเซฟเฮ้าส์ของพวกเด็กจิตรกรรมผมมักจะขลุกตัวอยู่ที่นี่ นอนที่นี่บ่อยกว่าบ้านตัวเองซะอีก
และที่นี่ยังเป็นที่สุมหัวของพวกเราชาวแก๊ง’ปฏิบัติการตีเนียน’จริงๆผมไม่ออกแรงทำอะไรหรอกแต่ผมอยู่เบื้องหลังแผนการพวกนี้ต่างหาก!! ทำไมผมถึงยอมช่วยให้ไอ้ดินมันจีบไอ้พู่น้องชายของผมนะเหรอ เพราะมันเป็นเนื้อคู่กันไง!!เซ้นต์ผมมันบอก ผมรู้ทุกเรื่องแหละครับยกเว้นเรื่องตัวเอง!! 

ความจริงแล้วคือไอ้หมีมันพาไอ้ดินมาหาผมถึงถิ่น ด้วยความใจกล้าบวกกับความจริงใจผมเลยยอมช่วยมัน คนจริงแบบนี้แหละที่มันเหมาะกับน้องผมถึงมันจะเป็นผู้ชายเหมือนกันก็เหอะ ความจริงแล้วหน้าอย่างไอ้พู่มันไม่เหมาะกับผู้หญิงหรอก มันเหมาะกับพวกตัวทึกอย่างไอ้ดินนี่แหละ อีกอย่างไอ้ดินมันหล่อผมจึงยอมให้จีบน้องผม ข้อนี้แหละสำคัญสุด!!! 
และที่เซฟเฮ้าส์แห่งนี้ยังเป็นที่นัดพบของผมกับน้องปูน ถ้าจะให้เริ่มเท้าความว่าผมกับน้องปูนไปสะกิดกันได้ยังผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ มันน่าจะมาจากเหตุการณ์เมื่อเกือบสามอาทิตย์ก่อนที่ผมบังเอิญไปเจอน้องปูนนั่งหง่อยๆกินไอติมอยู่หน้าเซเว่นแถวหอของน้องปูน

“น้องปูนมานั่งทำอะไรตรงนี้”

“อ้าว พี่น้ำหวัดดีครับ” น้องพูดพร้อมกับใช้หลังมือปาดน้ำตาลวกๆ เอ้า!!ร้องไห้เฉยเลย แล้วไม่ได้อายสายตาหลายคู่ที่มองมาด้วยความเสือก!!

“ทำไมถึงร้องไห้ละ ใครทำอะไรเราบอกพี่สิ” น่าแปลกผมเห็นน้ำตาของน้องแล้วในใจมันวูบโหวงแปลกๆ มันทั้งน่าเอ็นดูและน่าสงสาร

“ผม..ผมเลิกกับแป้งแล้วครับ แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วเพราะผมเตรียมใจไว้แล้ว” ไม่เป็นไรแต่น้ำตาไหลไม่หยุด แถมยังตักไอติมเข้าปากไม่ยอมหยุดอีกต่างหาก..เด็กน้อเด็ก

“ป่ะ มากับพี่” ผมยื่นมือให้น้อง น้องมองหน้าผมอย่างงงๆแต่ก็ยอมส่งมือมาให้ผม แล้วผมก็พาน้องไปที่เวสป้ารุ่นป้าคันเก๋าของผม

“ไปไหนครับ?”

“เดี๋ยวจะพาไปหาที่ร้องไห้ ร้องหน้าเซเว่นมันคงไม่เท่เท่าไหร่” การเสียน้ำตาสำหรับผมบางครั้งมันก็เป็นเรื่องเท่นะผมว่า ดีกว่าเสียใจแทบตายแล้วกลั้นเอาเพราะคิดเพียงแค่ว่าคนร้องไห้คือคนที่แพ้ เปล่าเลยอย่างน้อยคนที่ร้องไห้ก็คือคนที่ยอมรับความจริง!!

“ถ้าอยากร้องก็ร้องออกมาเถอะ เอาออกมาให้หมดจะได้ไม่หลงเหลือน้ำตาของความเสียใจนี้อีก” ผมพูดหลังจากที่พาน้องมาถึงสถานที่ที่จะให้น้องร้องไห้ คนอย่างผมจะไปที่ไหนได้ล่ะ เซฟเฮ้าส์ร้านโต๊ะกลมยังไงล่ะครับ ร้องไห้ต่อหน้างานศิลปะพวกนี้แหละเท่จะตาย!!

“พี่น้ำ..ฮือ” เท่านั้นแหละครับปล่อยโห่ออกมาทันทีเหมือนจะอั้นมานานตลอดทาง ผมไม่พูดอะไรนั่งวาดรูปที่ทำค้างไว้ไปเรื่อยๆ ปล่อยให้คนร้องไห้ร้องออกมาให้สาสมใจ โชคดีที่ตอนนี้มีแค่เราสองคน

เสียงสะอื่นค่อยเบาๆลง จนเงียบสนิทเหลือเพียงเสียงสูดน้ำมูกเป็นพักๆ หน้าตาของคนขี้แยตอนนี้ ตาบวมและขอบตาแดงก่ำ รวมถึงจมูกก็แดงเหมือนลูกเชอรี่ เหมือนเด็กน้อยแต่ก็น่ารักในสายตาผมอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน!!


“ยังไง ดีขึ้นยัง”

“ขอโทษนะพี่น้ำ ที่มาเสียเวลาฟังปูนร้องไห้ตั้งนาน” น้องมักจะแทนตัวเองด้วยชื่อเวลาที่รู้สึกผิด ..ผมว่ามันน่ารักดี!!

“ไม่เป็นไร ว่าแต่อยากเล่าให้พี่ฟังมั้ย”

“ผมเพิ่งจะโทรบอกเลิกกับแป้ง”

“น้องปูนเป็นคนบอกเลิก? ทำไมละ?”

“แป้งมีคนอื่น ผมเลยชิงบอกเลิกก่อนจะได้ไม่รู้สึกเสียใจมากกว่าโดนบอกเลิกเอง” โธ่ เด็กน้อย แบบไหนมันก็เสียใจอยู่ดีนั้นแหละ!!

“ทำไมเราถึงรู้ล่ะ?”

“แฟนใหม่ของแป้งเค้ามาบอกผมเองครับ เพราะเราเป็นเพื่อนกันตอนมัธยมเหมือนกันเค้าไม่อยากให้มันคาราคาชังเลยสารภาพกับผมตรงๆ”

“...”

“แต่ที่น่าเสียใจที่สุดคือ สองคนนี้เค้าเริ่มคบกันตั้งแต่ก่อนจะจบม.6แล้วเลือกไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นด้วยกัน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแป้งไม่บอกเลิกผมตั้งแต่ตอนนั้น ปล่อยให้ผมโง่มาได้ตั้ง2ปี ” แล้วน้องก็หัวเราะเยาะตัวเองด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ เหมือนน้ำตาจะเริ่มไหลอีกรอบ

“พวกไอ้พู่รู้เรื่องนี้รึยัง”

“ยังครับ ผมไม่อยากบอกเดี๋ยวพวกนั้นจะเครียดตามไปด้วย ไว้ผมหายดีแล้วค่อยบอก” ทำไมรักเพื่อนขนาดนี้นะ บางทีระบายให้เพื่อนฟังบ้างก็ได้

“งั้นถ้ามีอะไรหรืออยากระบายก็มาลงกับพี่ได้นะ พี่เป็นคอห่านที่ดีนะจะบอกให้”

“ฮ่าๆ ขอชักโครกได้ป่ะคอห่านมันนั่งไม่สะดวก” แล้วน้องก็หลุดหัวเราะออกมา ดีจัง..ยิ้มออกสักที

“ได้หมดแล้วแต่น้องปูนจะให้เป็น เอาเป็นว่าพี่เป็นส้วมให้ละกันอยากระบายอะไรก็เชิญครับ”

“ขอบคุณครับ พี่น้ำใจดีแบบนี้เสมอไอ้พู่โชคดีจังที่มีพี่ชายแบบพี่น้ำ” เหอะๆ อยากหัวเราะ กับไอ้พู่กูไม่เคยอ่อนโยนกับมันแบบนี้ครับ มันโตมาด้วยลำแข้งและคำด่าของผมนี่แหละ ทำผิดอย่าโอ๋ครับต้องด่าอย่างเดียวถึงจะจำ อย่ามาเป็นน้องชายพี่เลยน้องปูน!!

“หกโมงแล้ว หิวรึยัง”

“ยังไม่หิวครับ อยากกินอะไรหวานๆมากกว่า คิดถึงเค้กของแม่ดาจัง” แม่ดาคือแม่ของผมเองครับ เคยได้ยินไอ้พู่มันพูดเหมือนกันว่าเวลาที่น้องปูนเครียดจะชอบกินอะไรที่หวานๆแก้เครียด  เอาน้ำตาลปี๊บให้น้องกินดีมั้ยวะ!!

“พรุ่งนี้ไปบ้านพี่กัน อยากกินเค้กไรสั่งได้เลย”

“เกรงใจแม่ดาจัง”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก แม่พี่ยังถามหาอยู่เลยว่าช่วงนี้ปูนไม่ค่อยไปกินเค้กบ้าน งั้นบราวนี่ละกันเนอะพี่จะได้บอกแม่ไว้”  ผมจำได้ว่าน้องชอบกินบราวนี่

“ก็ได้ครับ แต่ตอนนี้พี่น้ำไปกินไอติมเป็นเพื่อนปูนหน่อยได้มั้ยครับ” หลุดเรียกชื่อตัวเองอีกละ รู้สึกผิดอีกละสิ

“เมื่อกี้ก็กินไปแล้วหนิ พี่ต้องวาดรูปต่อด้วยสิ” อดที่จะแกล้งแหย่ไม่ได้ อยากเห็นหน้ามุ่ยของน้อง มันน่ารักดี!!

“งั้นผมไปคนเดียวก็ได้ครับแต่ช่วยพาผมไปส่งที่เดิมได้มั้ยครับรถผมจอดอยู่ที่นั่น” หน้าหงอยเลยแฮะ แต่ก็น่ารัก

“ฮ่าๆ พี่ล้อเล่น ไปสิเดี๋ยวพี่เลี้ยง” แล้วเด็กน้อยก็ยิ้มดีใจที่จะได้กินไอติม

“สั่งเต็มที่เลยนะน้องปูนกินเท่าที่น้องอยากกิน กินให้มันลืมเศร้าไปเลย!!” ผมบอกน้องเมื่อเรามาถึงร้านไอติมใกล้กับมหา'ลัย

“ครับ”

“รับอะไรดีคะ” พนักงานสาวสวยน่ารักยื่นเมนูให้เราสองคน

“ผมขอเอริ์ทธเควกครับ”

“รับไอศกรีมรสอะไรดีค่ะ ทั้งหมดได้แปดสกู๊ปค่ะ” ไอติมแปดลูกเลยเหรอ จะกินหมดมั้ยเนี่ย

“พี่น้ำกินกับปูนมั้ย ปูนให้พี่น้ำเลือกไอติมก่อนเลย”

“พี่ขอวนิลาละกัน” ขออะไรเบสิคๆก่อนละกัน ไอติมจะหลากรสไปไหน กูเลือกไม่ถูก ของหวานไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ถ้าเป็นของคาวล่ะกูสู้ตาย

“สองลูกพอมั้ยครับ” น้องเงยหน้าจากเมนูขึ้นมาถามผม ผมเลยพยักหน้าเป็นคำตอบ

“งั้นเอาวนิลาสองสกู๊ป ที่เหลือขอเป็นรัมลูกเกดหมดเลยครับ”

“ทางร้านมีเมนูใหม่แนะนำ เป็นบิงชูสนใจรับมั้ยคะ” พนักงานสาวสวยพูดพร้อมกับยื่นเมนูแนะนำมาให้ อยากจะถามว่าเห็นผมมากันเป็นฝูงเหรอครับ นี่มาแค่สองคนแล้วก็สั่งไปแล้วตั้งแปดลูก ถึงผมจะสายแดกแต่ของหวานผมมีกระเพราะจำกัด!!

“ครับ งั้นขอบิงซูชาเขียวถั่วแดงละกันครับ” อ้าวเฮ้ย สั่งเฉยเลย!!

“รับเป็นถ้วยใหญ่หรือถ้วยปกติคะ” ยังจะถามอี๊ก!! มากันสองคนครับ

“ถ้วยปกติครับ” ค่อยยังชั่วนึกว่าจะสั่งถ้วยใหญ่ซะแล้ว

“ทำไมไม่สั่งไอติมรสอื่นล่ะ” ถ้าเป็นไอ้พู่ได้ไอติมแปดลูกมันคงสั่งแปดรส!!

“ผมชอบไอติมรสรัม ไม่รู้ทำไมเหมือนกันชอบทั้งกลิ่นทั้งรส มันอร่อยดี ในเซเว่นไม่มีขายได้มากินที่ร้านทั้งทีขอกินให้จุใจเลยละกัน”น้องพูดด้วยรอยยิ้มอย่างดีใจ เหมือนเด็กๆที่ได้ของเล่นถูกใจ

ผมกินไปได้นิดเดียวก็อิ่มครับ นั่งมองเด็กน้อยกินเพลินกว่า เวลาที่น้องกินดูมีความสุขเหมือนลืมความคิดทุกสิ่งอย่างแล้วจดจ่ออยู่แค่ของหวานตรงหน้าแล้วก็กินมันอย่างมีความสุข..และไม่น่าเชื่อว่าไอติมทั้งหมดกับบิงซูหายวับไปกับตาลงไปอยู่ในท้องของน้องปูนเรียบร้อยแล้ว

“ตัวเล็กนิดเดียว ทำไมกินเก่งแบบนี้หึ” ผมพูดอย่างเอ็นดูก่อนจะใช้มือเช็ดที่มุมปากของน้องที่เลอะไอติมออกให้ พร้อมกับดูดนิ้วตัวเอง..อื่อหวานดีแฮะ

“...”

“เป็นอะไรทำไมตัวแข็งทื่อแบบนี้ล่ะ หนาว?” คงจะหนาวนั้นแหละ ซัดไอติมไปซะขนาดนั้น แอร์ในร้านก็เย็นอีกต่างหาก ผมเลยถอดแจ็คเก็ตยีนส์ตัวโปรดของผมให้น้องใส่

“ขะ ขอบคุณครับ” น้องรับเสื้อของผมไปใส่..และถ้าตาไม่ฝาดน้องหน้าแดง!! เวลาหนาวหน้าเราแดงรึป่าววะ?!


       หลังจากวันที่พาน้องไปกินไอติมผมก็พาน้องไปบ้านผมหมายถึงบ้านใหญ่นะครับไม่ใช่บ้านที่ไอ้พู่อยู่ เพื่อไปกินเค้กฝีมือแม่ผม ทั้งคนทำเค้กกับคนกินเค้กต่างก็ดีใจใหญ่ที่ได้เจอกัน ปูนค่อนข้างที่จะสนิทกับที่บ้านผมเพราะน้องสนิทกับไอ้พู่เมื่อก่อนน้องจะมานอนที่บ้านใหญ่บ่อยๆ

หลังจากนั้นถ้าแม่ผมทำเค้ก ผมก็มักจะเอาไปให้น้องปูนเสมอๆเราได้เจอกันบ่อยขึ้น คุยกันบ่อยขึ้น บางที่ก็พาน้องมากินเค้กที่เซฟเฮ้าส์ร้านพี่มด ความรู้สึกบางอย่างมันก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว!!


“กูนึกว่ามึงลืมทางกลับบ้านใหญ่แล้วซะอีก” ผมทักไอ้พู่ที่มันเพิ่งจะลงจากรถ วันนี้วันอาทิตย์ครับผมอยู่บ้านทั้งวันไม่ได้ออกไปไหน

“ใครจะลืมกูก็มาเกือบทุกอาทิตย์ เนอะแม่เน๊อะ” ว่าแล้วมันก็ออเซาะไปกอดแม่ที่เดินออกมาจากครัว

“อะไรกันพี่น้องคู่นี้ เจอหน้ากันก็ทะเลาะกัน” แม่บ่นไม่จริงจังนัก

“ไอ้พี่น้ำนั้นแหละแม่ เห็นหน้าหนูก็หาเรื่องก่อนเลย” หนูห่าไรตัวเท่าควาย!! ไอ้พู่จะเรียกแทนตัวเองว่าหนูเวลาคุยกะแม่ครับ  มันสายมุ้งมิ้งมาตั้งแต่เด็กแล้วครับอาจจะเพราะเป็นลูกคนเล็กเลยชอบอ้อน ไม่เหมือนผมสายห่ามแมนๆคุยกันครัช!!
 
“พอเลยทั้งคู่ ค้างบ้านใหญ่มั้ยลูกวันนี้" แล้วแม่ก็หันไปถามไอ้พู่

“ไม่ครับแม่ แวะมาเอาเค้กเฉยๆ เย็นๆกลับครับ”

“มึงเห็นบ้านเป็นร้านเค้กรึไง”

“หุบปาก”

“เอาอีกละ สองคนนี้พอเลยๆ  มาลูกมาชิมชีสเค้กแม่ทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืนละ ตอนนี้กำลังอบบราวนี่ให้พี่น้ำอยู่ รอเอาไปด้วยนะ”

“มึงเนี่ยนะอยากกินบราวนี่” แล้วมันก็หันมาถามผมด้วยความสงสัยไอ้นี่มันรู้ว่าขนมไม่ใช่ทางของผม

“เออ ทำไมวะกูก็แดกทุกอย่าง” ความจริงจะเอาไปให้น้องปูนต่างหากละแต่ไม่มีข้ออ้างที่จะไปเจอ

 คิดถึงไม่ได้เจอตั้งสองวัน!!

“กูรู้ว่ามึงแดกทุกอย่าง แต่ขนมมึงแดกไม่น่าเกินสองชิ้น เสียเวลาให้แม่ทำเปล่าๆ เมนมารึไง?!”

“เออ เมนกูมาไปซื้อผ้าอนามัยมาให้กูหน่อยดิ๊ ขอแบบมีปีกด้วยนะ กูอยากบินได้!!”

“ไอ้ห่า ไปยืมของแม่นู้นไป๊!!”

“แม่เมนหมดแล้ว ตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงวัยทองด่ากูทุกทีที่กลับบ้าน มึงไม่นอนบ้านใหญ่มึงไม่รู้หรอก”

“แม่พี่น้ำมันว่าแม่ เป็นผู้หญิงวัยทอง” ไอ้น้องชั่ว!!


“มึงคืนนี้ไปดูบอลที่ไหน” มันหมายถึงบอลคู่ระหว่างแมนยู-แมนซิตี้ พวกเราเชียร์แมนยูกันทั้งบ้านครับ ตั้งแต่ปู่ยันเหลน!!

“ร้านไอ้พี่มดมั้ง”

“ไม่มาดูที่บ้านเล็กกับกูอ่ะ”

“ไม่อ่ะขี้เกียจไปดูบอลเสร็จจะได้วาดรูปต่อเลย” ความจริงมีแผนว่าจะเอาเค้กไปให้น้องปูนแล้วชวนน้องไปดูบอลด้วยกันที่ร้านไอ้พี่มด..แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องมีนัดรึยัง

“มึง น้องปูนไปดูบอลที่บ้านเล็กกับมึงป่ะ”

“ไม่รู้มัน กูยังไม่ได้ชวนใคร ทำไม?”

“เปล่า”

“...” มันไม่พูดอะไรแต่สายตามันโคตรเต็มไปด้วยความสงสัย
จริงๆก็อยากเล่าเรื่องที่น้องปูนเลิกกับแฟนให้ไอ้พู่ฟังนะ แต่เจ้าตัวเค้ายังไม่พร้อมให้บอกเลยต้องอั้นไว้ก่อน


หลังจากที่ไอ้พู่กลับบ้านเล็กผมก็รีบโทรหาน้องปูน เพราะกลัวว่ามันจะนัดน้องปูนตัดหน้าไปซะก่อน

“น้องปูนอยู่หอรึป่าว”

“ตอนนี้อยู่บ้านครับกำลังจะกลับหอ”

“งั้นถึงหอแล้วบอกพี่นะ เดี๋ยวเอาเค้กไปให้วันนี้มีชีสเค้กกับบราวนี่”

“ดีใจจัง เดี๋ยวผมรีบกลับครับ”น้องตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงดีใจ

“เดี๋ยว น้องปูนไปดูบอลที่ไหนวันนี้”

“บ้านเล็กครับ ไอ้หมีเพิ่งโทรมาชวนเมื่อกี้” ไอ้หมีมึงตัดหน้ากู!!

“งั้นเหรอ ถ้างั้นถึงหอแล้วบอกพี่ด้วยนะ”

หลังจากนั้น20นาทีน้องปูนก็ไลน์มาบอกว่าถึงหอแล้ว  ผมเลยรีบแว๊นออกจากบ้านใหญ่ทันที


“ขอบคุณมากนะครับพี่น้ำ ดีจังปูนกำลังอยากกินอยู่พอดีเลย” ปูน!! ดีใจสินะถึงหลุดเรียกชื่อตัวเอง

“ไม่เป็นไรครับพี่เต็มใจ”

“พี่น้ำไปดูบอลบ้านเล็กด้วยกันมั้ยครับ”

“พี่นัดกับพี่มดไว้แล้วน่ะ ให้พี่ไปส่งที่บ้านเล็กมั้ย?” เสียดาย ไอ้หมีแม่งตัดหน้ากู แต่ช่างเหอะได้เจอแค่ดีก็ดีแล้ว

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมต้องไปซื้อเบียร์ให้ไอ้หมีมัน”

“โอเค งั้นไว้เจอกันนะ” ผมพูดพร้อมกับขยี้หัวน้องเบาๆ แล้วเหมือนน้องจะดูอึ้งๆไป!!


       หลังจากบอลจบก็นั่งกินเหล้าฉลองชัยที่แมนยูชนะกับพวกพี่มด ตอนแรกตั้งใจจะขึ้นไปวาดรูปต่อ แต่เปลี่ยนใจแดกเหล้าดีกว่า

“มึงช่วยกูคิดหน่อย วันหวยออกงวดนี้เอาใครมาร้องเพลงที่ร้านกูดีวะ”

“วงผมไง” ผมมีวงครับชื่อ ‘วงจิปาถะ’ ก็จิปาถะสมชื่อนั่นแหละรับทุกงาน

“มึงดูสภาพไอ้ต่อมันก่อนใส่เฝือกซะขนาดนี้ หรือจะให้มันใช้ตีนดีด” ไอ้ต่อคือมือกีต้าร์วงผม เมาแล้วรถล้มแขนหักตอนนี้ใส่เฝือกอยู่ แต่ก็ไม่ได้สำนึกห่าอะไรตอนนี้ก็กำลังนั่งซดเหล้าอยู่แถมยังขับรถมาด้วยมือข้างเดียวอีกต่างหาก!!

“ผมหาคนมาเล่นแทนไอ้ต่อได้พี่ เทพกว่าไอ้ต่ออีก”

“ใครวะ!?” ไอ้ต่อกับพี่มดพูดขึ้นพร้อมกัน

“น้องเขยผม!!”

“ไอ้ดินนะเหรอ ไอ้พู่ยอมเป็นเมียมันแล้วเหรอวะ” พี่มดถามอย่างตื่นเต้น

“ยังพี่ แต่ไม่รอดหรอก” จะว่าไปผมก็พาไอ้ดินมานอกรอบกัน2คนที่ร้านโต๊ะกลมหลายครั้งแล้วเหมือนกัน จึงสนิทกับพี่มดและเพื่อนของผม

“ว่าแต่มันเล่นกีต้าร์เป็นเหรอวะ”

“ฝีมือไม่ธรรมดา ไอ้หมีบอกมาแบบนี้”

"ถ้างั้นวงมึงก็มาเล่นละกัน ตามนี้นะ”

“โอเคพี่”


ที่บ้านเล็กจะเป็นไงกันบ้างน๊อ คงจะดีใจและสะใจกันน่าดูที่แมนยูชนะ กำลังคิดในใจเสียงแจ้งเตือนข้อความจากไลน์ก็ยังขึ้น

Poon’Poon  แมนยูชนะ เย้ๆ  สติกเกอร์หมีดีใจ

  เด็กน้อยคงจะดีใจมาก ถึงขั้นทักผมมาก่อน

WaterColor สติกเกอร์ควายสะใจ  กลับหอรึยังเอ่ย

Poon’Poon อีกสักพักคงกลับ เริ่มมึนๆแล้ว มีเรื่องไอ้พู่จะเม้าเยอะเลย

WaterColor พรุ่งนี้ตอนเย็นเดี๋ยวพี่ไปหา เม้ากันๆ

Poon’Poon สติกเกอร์หมีโอเค

แล้วก็จบบทสนทนาระหว่างผมกับน้อง แต่ในใจรู้สึกลิงโลดอย่างน่าประหลาด


.....................................
อ่านต่อหน้า3ค่ะ
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2018 22:12:05 โดย MA_LEE »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด