เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]  (อ่าน 141288 ครั้ง)

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่ดินน้องดาวน่ารักมากเลยอ่า :sad4:

ออฟไลน์ knxiiviii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ถ้าเอาไปเผาจริง ก่อนโชคจะโดนพี่ดิน ก็โดนนักอ่านนี่แหละรุมก่อน ฮ่าๆ

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12




ตอนที่ 9






เริ่มกันใหม่ได้มั้ย...

เริ่มกันใหม่ได้มั้ย...

เริ่มกันใหม่ได้มั้ย...


ผมกำลังถูกง้อใช่มั้ยครับ ผมคิดว่าผมถูกง้อแน่ๆ ถึงวันนั้นภาพในหัวผมแม่งโคตรตัดก็ตามที เวลาหลังสามทุ่มในวันนั้นผมจำอะไรแทบไม่ได้เลยครับ ไอ้โชคบอกผมเมาอย่างหมา แต่ก็เป็นหมาที่ดี ไม่อาละวาด ไม่โวยวาย เอาแต่เงียบและก็พร้อมจะหลับ ซึ่งผมมองว่ามันเป็นเรื่องดีนะ อย่างน้อยก็ไม่ได้ลำบากเพื่อนแล้วกัน

ที่เขียนว่า 'เริ่มกันใหม่ได้มั้ย' ของสตาร์ไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง หลังจากวันนั้นที่เจอกันผมก็ถูกแม่สั่งให้เก็บตัวอยู่ในบ้าน ใกล้สอบแล้วต้องเอาจริงเอาจังสักหน่อย ซึ่งผมเองก็ทำตามสิ่งที่แม่ขอเป็นอย่างดี วันๆ เอาแต่อ่านหนังสือ แต่ในใจก็ยังนึกสงสัยว่าสตาร์จะง้อผมจริงหรือเปล่า ถ้าง้อผมทำไมมาแต่ข้อความในกระดาษล่ะ ทำไมไม่เอาตัวมาด้วย

สุดท้ายแล้วผมกับน้องมันจะมีอะไรบ้างที่ชัดเจน ไม่เห็นจะมีอะไรสักอย่างเลย

"เฮ้ออออออออ" ขอถอนหายใจแป๊บ

อีกไม่กี่วันจะเป็นวันเปิดเทอมสอง แต่ตัวผมตอนนี้อยู่ในสนามสอบของมอ C ที่สามารถบอกได้เลยว่าเป็นมหา'ลัยที่เด็ก ม.6 สมัครสอบตรงเยอะที่สุดในประเทศแล้ว ดูจากสถานที่สอบที่เป็นฮอลขนาดใหญ่ รวมไปถึงนักเรียนหลายพันหลายหมื่นคนที่กำลังทยอยเข้ามา

ผมยืนอยู่มุมหนึ่งกับไอ้ธนัช เราสองคนเป็นเด็กห้องสองที่มาสอบที่นี่เพียง 2 คน เพื่อนส่วนใหญ่ไม่ได้มีเป้าหมายจะเรียนที่นี่ มีแค่ผมกับไอ้ธนัชเลยโคตรไม่ชินกับการที่จะต้องมายืนอยู่กันแค่นี้ เพราะปกติแล้วเวลาออกนอกสถานที่กลุ่มผมจะเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดเสมอ

บอกเลยว่าแม่งโคตรเขินนนนนนนนนนน

"มากับมึงแล้วกูดับ" ไอ้ธนัชบ่น มันขยับขาขวาอยู่เรื่อยๆ คล้ายๆ กับคนตื่นเต้น "มีแต่คนมองมึง"

"กูยังไม่เห็นว่ามีใครมองกูเลย"

"แต่กูเห็นไง"

"..."

"สอบครั้งนี้มึงจริงจังมากป่ะวะ พ่อกูบอกถ้าเข้าไม่ได้พ่อจะเอาตาย พ่อเคยเรียนที่นี่ อยากให้กูมาเป็นรุ่นน้อง"

"โห กดดันสัด" ผมทำหน้าสงสารเพื่อน "กูน่ะเหรอ ถ้าได้ก็ดี" ใจผมนึกไปถึงคนที่โดดเรียนแล้วพาไปจ่ายตังค์ค่าสมัครสอบ...

"มึงได้อยู่แล้วเชี่ยดิน มึงเก่ง"

"ยังไม่ได้สอบเลย อย่าเพิ่งมั่นใจในตัวกูดิ"

ผมกับไอ้ธนัชคุยอะไรกันต่ออีกนิดหน่อย จนกระทั่งเสียงรอบข้างเงียบลง เคยสังเกตมั้ยครับเวลาที่คนซึ่งอยู่ในที่เดียวกันพุ่งความสนใจไปยังผู้ที่มาใหม่ เขาจะพากันเงียบหมดราวกับนัดกัน

คนที่เพิ่งเดินเข้ามาคือผมในเวอร์ชั่นแบด ไอ้เรย์ ผู้ซึ่งตอนนี้ผมเกลียดขี้หน้ามากที่สุดในสามโลก

ธนัชสะกิดเสื้อนักเรียนผมทันที

"อย่ามีเรื่องเชียว ห้ามไปสบตามัน มันมากันเยอะกว่า"

ไอ้เรย์กับเพื่อนยกขบวนกันมาสอบจริงๆ ด้วย นี่มึงขนกันมาทั้งห้องเลยหรือไงวะ แต่จะมากันกี่คนผมก็ไม่กลัว ถ้ามันมาหาเรื่อง ผมก็พร้อมจะเอาเรื่องไปเสิร์ฟให้มันถึงที่

มันจ้องผมเขม็ง ขณะที่ผมเองก็จ้องมันเหมือนกัน

"กูได้ข่าวมาว่ามันจะเอาน้องสตาร์ให้ได้เลยว่ะ" ธนัชพึมพำ "มึงก็ยุ่งกับน้องอยู่ไม่ใช่เหรอ กูคิดว่าหลังสอบเสร็จมึงรีบกลับบ้านเลยจะดีกว่านะ"

"นัช กูไม่กลัวหรอกเว้ย"

"กูรู้ว่ามึงไม่กลัว แต่มึงมีสองตีน ยังไงก็สู้สิบตีนไม่ได้ มึงไม่ใช่กัปตันอเมริกา"

"..."

"หรือจะให้กูโทรไปบอกไอ้เชี่ยโชคหาพวกมาเตรียมๆ ไว้ก่อน"

"ไม่มีเรื่องหรอก" ผมพูดให้ธนัชสบายใจ "มึงโฟกัสกับการสอบเหอะ ไม่ต้องห่วงกู"

"แน่นะ"

"แน่สิวะ"

"อืมๆๆ"

อีกไม่ถึงสิบนาทีเด็ก ม.6 ที่มาสอบต้องเข้าไปในห้องสอบแล้ว ไอ้เรย์กับผองเพื่อนปักหลักยืนอยู่ในที่ที่ไม่ไกลจากผม ดูเหมือนพวกมันเองก็คิดเหมือนกันคือถ้าจะมีเรื่องก็ไม่ใช่เวลานี้แน่นอน ยังไงก็เป็นเด็ก ม.6 เหมือนกัน ขอเข้าไปสอบก่อน สอบเสร็จค่อยว่ากันอีกที

ที่แน่ๆ ผมไม่หนีแน่ ผมบอกแล้ว ถ้ามันอยากมีเรื่อง ผมก็อยากมีเรื่อง หมั่นไส้มานานแล้ว ขอตั๊นหน้าสักทีเถอะ

ระหว่างที่ผมกำลังนึกฉากบู๊ระหว่างผมกับไอ้เรย์อยู่ในใจนั่นเอง เสียงรอบข้างของผมก็เงียบลงไปอีกครั้ง มีผู้มาใหม่อีกคนหนึ่งที่ดึงดูดสายตาของคนได้ทุกเพศไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง มันคนนั้นตัวขาวมาก ตัวเล็กมาก น่าทะนุถนอม ดูน่ารักตะมุตะมิไปซะหมด

ผมจะร่วมปลาบปลื้มที่ได้เห็นคนหน้าตาดีด้วยอยู่หรอก ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่...

"สตาร์"

กูจะบ้าตายยยยยยยยยยย

"อ้าวพี่เรย์"

สตาร์ที่ไม่ควรมาอยู่แถวนี้เดินเข้าไปหาไอ้เรย์เฉย! ผมกระพริบตามองดูภาพตรงหน้าด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ นี่น่ะเหรอคนที่ง้อผม ทำไมถึงมาหาไอ้เรย์ในวันสอบแทนที่จะมาหาผม

กูช็อก กูอึ้ง กูตะลึงไปหมดแล้วเว้ยยยยย!

"เชี่ยดิน" ธนัชรีบพูด เพราะมันรู้ว่าผมหัวร้อนไวขนาดไหน "มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้นะ"

เหมือนสตาร์หยิบหัวใจของผมที่ตกไปแล้วขึ้นมาจากพื้น จากนั้นก็โยนลงไปอีกครั้งแล้วก็กระทืบซ้ำ

ที่กูหวังมาทั้งหมดแท้จริงแล้วมันไม่มีอะไรเลยเหรอวะ

มันไม่ได้ง้อผม มันก็แค่ขอโทษไปส่งๆ และก็ทำตัวเหมือนเดิม

ผมผิดที่คิดไปเองทุกอย่าง










พักเที่ยง

"ฉิบหายละ"

"..."

"จะแดกข้าวไหนล่ะทีนี้"

ธนัชกับผมที่สอบภาคเช้าเสร็จแล้วมองดูมวลมหาชนที่จับจองพื้นที่ในศูนย์อาหาร บอกเลยว่าหาที่นั่งได้ยากมากและถ้ามัวแต่หาก็คงถึงเวลาสอบภาคบ่ายพอดี ผมไร้ความเห็นใดๆ จึงได้แต่เงียบกับเพื่อน อีกอย่างหนึ่งคือผมไม่สบอารมณ์ตลอดการสอบ หลังสอบเสร็จผมจึงไม่มีอารมณ์ร่วมใดๆ กับเหตุการณ์ที่ผมกำลังเผชิญ แม้ท้องจะหิวมากก็ตามทีเถอะ

"พี่ดิน"

เสียงของต้นเหตุที่ทำให้ผมสอบแทบไม่ได้ดังมาจากด้านหลัง ผมหันขวับกลับไปอย่างรวดเร็ว สตาร์ยังอยู่ที่นี่เหรอวะ

ถึงจะแอบสงสัยแต่ผมก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจน้อง "ธนัช ไปหาที่นั่งกันเถอะว่ะ"

"ไม่มีหรอก" สตาร์รีบพูด "ผมซื้อข้าวมาไว้ให้แล้ว ถ้าพี่ดินกับพี่ธนัชไม่รังเกียจ รบกวนไปทานข้าวที่ผมเตรียมไว้ให้ได้มั้ยครับ"

ธนัชอ้าปากค้าง ใช้มือของมันสะกิดสีข้างของผมใหญ่เลย ผมเองก็ตกใจไม่แพ้กับมัน แต่ผมคีพคูล...

กูไม่รู้ล่ะ กูงอนอยู่

"นะครับ" สตาร์ทำตาน่าสงสาร ใจผมอ่อนยวบไปแล้ว 78% ส่วนไอ้ธนัชน่ะเหรอ มันคงยอมตั้งแต่คำว่าสตาร์ซื้อข้าวมาไว้ให้แล้วมั้ง

"อย่าเสียเวลานะสัดดิน ตอนบ่ายยังต้องสอบอีก" ธนัชกระซิบ

"เออ" ผมยอมในที่สุด

สตาร์ยิ้มก่อนที่จะเดินนำผมกับธนัชไปข้างหน้าทันที

เอาจริงๆ นะคือผมงงมาก สตาร์มาที่สถานที่สอบในตอนเช้าคือเรื่องงงเรื่องที่หนึ่ง เรื่องที่สองก็คือมันซื้อข้าวให้ผมกับเพื่อนด้วย มีใครให้ความงงได้มากกว่านี้บ้าง

ถึงจะสงสัยแต่ผมก็ต้องทำหน้าเคร่งขรึมอย่างคนฟอร์มจัด ผมไม่หายงอนมันเพราะกับข้าวที่มันซื้อไว้รอหรอกนะ ไม่มีทาง

มันอาจจะซื้อเผื่อให้เชี่ยเรย์ด้วยก็ได้ หึ

สตาร์เดินพาผมกับธนัชมายังส่วนสำนักงาน เราสองคนเพื่อนเกลอมองหน้ากันทันที เพราะส่วนนี้มันสำหรับเจ้าหน้าที่ไม่ใช่เหรอวะ แต่สตาร์เดินเข้าไปเหมือนเดินจ่ายตลาดเลย

"พ่อมาดูงานที่นี่น่ะครับ ผมก็เลยติดมาด้วย" สตาร์อธิบาย "ตรงข้ามฮอลล์ที่พวกพี่สอบมีการจัดงานแสดงสินค้าอยู่ ธุรกิจของบ้านผมมาลงด้วย พ่อก็เลยต้องมาดู" บ้านสตาร์ขายเครื่องใช้ในบ้านครับ

"น้องก็เลยมาด้วยงั้นเหรอ" ไอ้ธนัชยักคิ้วใส่ผม

"ครับ"

"ติดมากับพ่อหรือตั้งใจจะมาอยู่แล้ว"

เพื่อนผมแม่งชงเก่งกันทุกคนแหละ ถ้าสตาร์ตัวติดกันกับผม มันคงจะได้สัมผัสเร็วๆ นี้แหละ

"ตั้งใจจะมา เอ้ย มากับพ่อๆ" สตาร์ละล่ำละลัก ผายมือให้ผมกับธนัชนั่งบริเวณที่นั่งรอของสำนักงาน ทั้งส่วนตัวและก็สบายกว่าศูนย์อาหารเยอะ บนโต๊ะมีอาหารกล่องวางกองเป็นตั้ง แต่มันสำหรับสองที่ครับ เพราะมีอย่างละสองกล่องทั้งนั้น

นี่ของผมกับไอ้ธนัชจริงๆ เหรอวะ

"ทานให้อร่อยนะครับ" สตาร์ทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม ผมกับธนัชสบตากัน จากนั้นเพื่อนผมก็พูดว่า

"พี่ไม่เกรงใจละนะ"

"ไม่ต้องเกรงใจครับ ของพี่นั่นแหละ"

"มากับมึงก็ดีอย่างงี้" ธนัชยิ้ม แล้วมันก็ลงมือสวาปามอาหารตรงหน้าคล้ายกับหิวโหยมานาน

ผมนั่งตัวตรง แกะตะเกียบออกจากนั้นก็เริ่มลงมือทาน อาหารที่สตาร์เตรียมมาก็ซื้อจากคนที่มาขายให้เด็กที่สอบนั่นแหละ แต่ท่าทางจะแพงน่าดูเพราะมีแต่ของดีๆ ผมทำหน้านิ่งๆ ขณะที่สตาร์พยายามที่จะมองผม แต่เมื่อผมสบตามัน มันก็มองไปทางอื่น
พวกเราดูแปลกต่อกันมากอย่างเห็นได้ชัด

"ให้กูไปแดกที่อื่นมั้ย" ธนัชสัมผัสได้ถึงบรรยากาศประหลาด

"ไม่ต้อง" ผมพูด

"เถอะนะ กูแดกแบบนี้กูไม่อร่อยจริงๆ ว่ะ" ธนัชลุกขึ้น "โทษทีนะน้อง มีอะไรจะเคลียร์กับเพื่อนพี่ก็เคลียร์เลย พี่ไปหาที่แดกข้าวใหม่แล้ว"

มันไม่สนใจปากที่อ้าพะงาบๆ ของผม เดินหอบข้าวหนีไปเฉย ทิ้งให้ผมอยู่กับสตาร์สองคน และบริเวณนั้นก็ไม่มีคนเดินผ่านมาเลยจริงๆ ครับ มีแค่ผมกับมันเท่านั้น

"พี่ดิน"

ผมทำเป็นไม่สนใจ แต่หูของผมตั้งใจฟังเป็นอย่างดี

"สอบเป็นไงบ้างครับ ทำได้มั้ย"

"..."

"ยังโกรธผมอยู่เหรอ"

"..."

"ผมขอโทษแล้วไงครับ วันนั้นผมพูดแรงไปจริงๆ อ่ะ"

มันไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อยที่ผมกำลังโกรธอ่ะ แต่เป็นเรื่องที่สตาร์มาหาไอ้เรย์แต่เช้าหน้าห้องสอบต่างหาก แม่งเหมือนเอาขี้ปาใส่จมูกผมอ่ะ

"ไม่ได้โกรธเรื่องนั้น" ผมพูดแบบรักษาฟอร์ม

"แล้วโกรธเรื่องอะไร"

"เมื่อเช้า"

"..."

"เมื่อเช้าสตาร์มาหาใคร พี่เห็นนะ"

"หา" สตาร์กระพริบตาโตๆ ของมันด้วยความงง "มาหาพี่ไง"

กูอึ้งแป๊บ มาหาผมเหรอ ไม่ใช่มั้ง

"มาหาพี่แต่ทำไมพี่ถึงไม่ได้คุยกับสตาร์ ทำไมพี่เห็นเราคุยกับไอ้เรย์"

"..."

"ทำไมร้าย เพราะรู้ตัวว่าสวยก็เลยคิดว่าจะทำอะไรกับพี่ก็ได้งั้นเหรอ"

อีกฝ่ายอ้าปากค้าง คงไม่คิดว่าผมจะพูดอะไรตรงๆ แบบนี้ล่ะมั้ง ไม่รู้ล่ะ ผมเก็บอารมณ์โมโหมาตลอดการสอบแล้ว ผมต้องการระบาย

"ผมไม่ได้มาหาพี่เรย์สักหน่อย"

"เปลี่ยนคำพูดใหม่เลย"

"อะไรของพี่"

"แทนตัวเองใหม่"

"บ้าป่ะเนี่ย"

"แทนตัวเองว่าสตาร์" ผมกินไปด้วยพูดไปด้วยอย่างเอาแต่ใจ "ฟังดูน่ารักกว่า"

"แต่..."

"จะง้อพี่ป่ะ" ผมจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ต้องใช้ความกล้ามากมายมหาศาลที่ต้องทำใจแข็งต่อหน้าสตาร์ที่กำลังตื่นตระหนก แม่งเหมือนลูกแมวโดนทิ้งมากๆ "ถ้าง้อต้องทำตามที่พี่บอก"

"เอาแต่ใจว่ะ"

"วันนี้ขอสักวันละกัน"

"..."

"พี่มีสอบด้วยนะ ทำให้พี่สบายใจเร็วๆ สิ"

"โอ๊ย ก็ได้" สตาร์บ่นอุบ "สตาร์ไม่ได้มาหาพี่เรย์ แต่มาหาพี่ดิน"

ใจละลาย...ใจละลายเพราะคำพูดและน้ำเสียง สตาร์แก้ตัวด้วยเสียงกระเง้ากระงอดจนผมใจระทวย

"พี่ดินคงมาเห็นตอนที่สตาร์อยู่กับพี่เรย์พอดี สตาร์เดินตามหาพี่ดินทั่วเลย แต่หายังไงก็หาไม่เจอ พอเจอพี่เรย์ก็เลยเข้าไปทัก เวลาพี่ดินเจอคนรู้จักพี่ดินไม่เข้าไปทักเหรอ"

โอ้โห มาเป็นชุด

"คนรู้จักแน่เหรอ ไม่ใช่คนที่สตาร์ชอบเหรอ เห็นบอกพี่วันนั้นอ่ะ" ผมแซะพร้อมทำหน้าบึ้ง

"ไม่ได้อ่านโพสต์อิตหรือไง" สตาร์ดูเก้อเขิน "ก็บอกแล้วว่าวันนั้นใช้อารมณ์มากไปหน่อยอ่ะ ขอโทษครับ"

ผมเหนื่อยที่จะแกล้งทำเป็นใจแข็งแล้วล่ะครับ ในเมื่อผมหายโกรธมันแล้ว ผมยังจะต้องปั้นหน้าไปเพื่ออะไรอีกล่ะ

"รู้สึกผิดทีหลังสินะ"

"ประมาณนั้น"

"วันนี้ตั้งใจมาหาพี่จริงเหรอ" ผมเริ่มยิ้มเล็กๆ

"ก็...ครับ" สตาร์ไม่ยอมสบตาผม "โควตามอนี้สตาร์เป็นคนพาไปสมัคร วันสอบก็เลยอยากมาให้กำลังใจ"

"โหย น่ารักว่ะ"

"..."

"เป็นแฟนพี่ป่ะ"

"ไม่เอา" สตาร์ปฏิเสธโคตรไว ไวจนผมเสียเซลฟ์ไปเลย "มันเร็วไป"

"ความรู้สึกตัวเองชัดขนาดนี้ยังกล้าปฏิเสธ" ผมกัดฟันพูดอย่างเคืองเล็กๆ

"ความรู้สึกสตาร์ชัด ความรู้สึกพี่ดินก็อาจจะชัด แต่การกระทำพี่ดินยังไม่ชัดเลย"

"พี่น่ะเหรอไม่ชัด ไปตัดแว่นไป๊"

"วันนั้นก็เห็นควงหญิง แถมยังหวานกันมากด้วย"

"..."

"วันก่อนก็มีผู้หญิงมาเมนต์ใต้ไอจีเป็นสิบๆ และพี่ดินก็ไล่ตอบทุกคนด้วย จะให้สตาร์คิดยังไงล่ะ"

ยอมเลยว่ะ...ผมอ้าปากค้างมองดูสตาร์ที่พูดเจื้อยแจ้วโชว์เหล็กจัดฟัน ไม่คิดว่ามันจะพูดกับผมตรงขนาดนี้ ต้อนผมจนมุมขนาดนี้
แต่เชื่อมั้ยครับว่าผมดีใจมาก อย่างน้อยสตาร์เองก็คิดเหมือนผม เพียงแต่ว่าน้องยังไม่มีความมั่นใจมากพอในตัวผม อีกอย่างหนึ่งเรื่องไอ้เรย์ก็ยังคาราคาซัง

มันคงไวเกินไปอย่างที่สตาร์พูดนั่นแหละ

"ยังไงก็ต้องรอจนกว่าจะขอไอดีไลน์ได้ครบถูกป่ะ"

"ก็คงงั้นมั้ง ถ้ายอมง่ายๆ เชี่ยบู้กับเพื่อนฆ่าแน่ๆ"

"รำคาญพวกแม่งจริงๆ"

"รีบกินรีบไปสอบได้แล้ว"

"โอเค" ผมรับคำ รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเงยหน้าขึ้นมามองฝ่ายตรงข้ามที่ส่งยิ้มมาให้ ผมก็ยิ่งรู้สึกมีความสุขมากเข้าไปใหญ่ "ตอนเย็นจะรอพี่ป่ะ"

"พ่อจะกลับไปเคลียร์งานที่บ้านน่ะ สตาร์คงอยู่รอถึงเวลานั้นไม่ได้หรอก เว้นเสียแต่ว่า..."

"เว้นแต่อะไรเหรอ"

"โทรบอกพี่สมัยมารับ"

"ไม่ต้อง กลับไปเลยไป" ผมออกคำสั่ง "วันนั้นพี่สมัยคงหมายหัวพี่ไว้แล้ว"

"ก็แหงดิ พี่ดินทำสตาร์เจ็บนี่"

รู้สึกผิดเลยว่ะ "ขอโทษนะ พี่เป็นคนมือหนักอ่ะ" ผมใช้ซ้อมจิ้มผักในกล่องขึ้นมาจากนั้นก็ป้อนเข้าปากสตาร์ "พี่ง้อนะ"

"ง้อง่ายไปป่ะ" สตาร์ขำ ก่อนจะอ้าปากรับ "สตาร์ลงทุนมาหาพี่ดินถึงสถานที่สอบเลยนะ"

"แล้วจะให้พี่ทำไง ให้พี่ตามไปถึงบ้านเลยมั้ยล่ะ"

"..."

"วันนี้เลยเป็นไง"

"บ้า พอเลย จะอ่านหนังสือ"

สตาร์หยิบโพสต์อิตจากกระเป๋ากางเกงส่งมาให้ผม

ไอดีไลน์ตัวที่ 9
I
เป็นกำลังใจให้นะ


"เพิ่งตัวที่ 9 เอง อีกตั้ง 11 ตัว" ผมชอบข้อความนั้นมากแต่ก็โอดครวญอยู่ดี

"สู้สิ" สตาร์ยักคิ้วให้ผมพร้อมส่งรอยยิ้ม "พี่ชอบสตาร์จริงหรือไม่จริงมันดูกันที่ตรงนี้แหละ"

โอยยยย อ่อยหนักขนาดนี้ ผมอยากลากไปปล้ำในห้องน้ำเลยว่ะ ถ้าไม่ติดว่าพ่อเขาอยู่ใกล้ๆ นี่ล่ะก็นะ

"ระหว่างที่พี่สู้และก็ระหว่างที่พี่ทำให้การกระทำของพี่ชัดเจน พี่มีอะไรจะขอ"

"ครับ"

"อยู่ห่างๆ จากไอ้เรย์ซะ"

"..."

"ไปไกลๆ ได้ยิ่งดี"

"..."

"เพราะพี่จะเป็นบ้าตายทุกครั้งที่สตาร์อยู่ใกล้มัน"

"เอ่อ..."

"นี่พี่พูดจริงๆ นะ"

"สตาร์รู้ครับ"

"..."

"จะพยายามก็แล้วกัน"

นัยน์ตาของสตาร์ปรากฏความไม่แน่ใจอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ผมก็เลือกที่จะมองข้ามมันไปก่อน

วันนี้มีเรื่องดีมามากพอแล้ว ผมไม่อยากให้มีเรื่องไม่ดีมาขัดความสุขของผม

ชีวิตมันสั้น...เราควรเลือกความสุขมากกว่าความทุกข์ดิ จริงมั้ยครับ

กรุ๊ปไลน์ 'คิดถึงสตาร์'
Din : สตาร์มาหากูที่สนามสอบโว้ยยยยยย #อวด
FUEN : ใกล้แต่งแล้วดิ
AOF : มิน่า ชวนแม่งเล่นเกมก็ไม่ตอบ
TANG : กูว่างอยู่ทำไมมึงไม่ชวนกูล่ะอ๊อฟ
CHOK : ทำข้อสอบได้ป่ะวะ หรือมัวแต่คิดถึงน้องดาวจนไม่เป็นอันสอบ
PHYSICS : ฟืนอยู่ในห้องนอนผมตอนนี้ผมยังไม่อวดเลย
Din : ไม่อวดพ่องดิ ฟาย
Din : อย่าให้ถึงทีของกูบ้าง






TBC*





ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12

ตอนที่ 10







วันเปิดเทอมสอง

แม่งเอ๊ย กูนึกว่ากูจะได้เห็นเพื่อนเต็มห้อง ที่ไหนได้มากันแค่ครึ่งห้องเอง

ผมอัพรูปในไอจีด้วยการเซลฟี่กับเพื่อนๆ ที่มาโรงเรียน พร้อมกับแคปชั่นฝากไปถึงพวกห้อง 6/2 ทุกคนว่า

'มาเรียนกันบ้าง ไอ้พวกนักกีฬาโดดร่ม'

ที่ต้องพูดอย่างนั้นเพราะแม่งชอบโดดเรียนกัน โดดจนเกินมาตรฐานที่ควรโดด ใช้เวลาไม่นานไอ้พวกที่ไม่มาโรงเรียนก็มาถล่มผมกันใหญ่ ที่เด็ดที่สุดก็คือสตาร์มากดไลค์ให้ผมด้วยครับ

ตอนนี้มันน่าจะกำลังเรียนอยู่ มีการแอบเล่นโทรศัพท์ในห้องเรียนด้วยแฮะ

ผมแอบลอบยิ้มเพราะเห็นชื่อไอจีของสตาร์ เมื่อเห็นสายตาที่มองมาของไอ้โชค ผมก็หุบยิ้มลงฉับ

"อินเลิฟเนอะ น่าหมั่นไส้จัง"

"เรื่องของกูน่า" ผมวางโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้นมาจดโจทย์เคมีบนกระดานต่อ คุณครูเห็นจำนวนนักเรียนแล้วท้อครับ ก็เลยสอนแค่สิบนาที จากนั้นก็เขียนโจทย์บนกระดานให้พวกเราทำแล้วเดินออกจากห้องไปเลย

"ในเมื่อใจตรงกันแล้วทำไมไม่คบกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยล่ะวะ"

"น้องมันยังไม่มั่นใจในตัวกู"

"แล้วมึงล่ะมั่นใจในตัวน้องมั้ย"

"กูมั่นใจ แต่คนที่กูไม่มั่นใจก็คือคนที่มายุ่งกับมัน"

"..."

"คนอย่างไอ้เรย์"

"มึงว่ามั้ยว่าช่วงนี้ไอ้เรย์มันเงียบเรื่องแกล้งเด็กโรงเรียนเรา" ไอ้โชคพูดอย่างจริงจัง "ไม่มีใครวิ่งมาฟ้องมึงกับกูเลยว่าโดนพวกไอ้เรย์หาเรื่อง ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนทั้งกูทั้งมึงต้องออกไปจัดการบ่อยยิ่งกว่าอะไรอีกอ่ะ"

"ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่ไม่มีเรื่อง อีกอย่างมึงกับกูก็อยู่ ม.6 แล้ว คงต้องหันมาสนใจเรื่องของตัวเองกันบ้างแล้ว"

"ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ยังไงมันก็แปลกว่ะ" ไอ้โชคดูติดใจกับเรื่องนี้มาก

"คนบ้าอะไรวะ อยากให้มีเรื่อง"

แม้ผมจะพูดแบบนั้น แต่นัยน์ตาที่ขาดความมั่นใจของสตาร์ตอนที่ผมบอกให้มันเลิกยุ่งกับไอ้เรย์ก็ไม่เคยหลุดออกจากหัวผม ถึงตอนนั้นผมจะบอกว่าขอโฟกัสในเรื่องที่ผมมีความสุขมากกว่า พอเอาเข้าจริงๆ ผมกลับไม่สามารถลบมันออกไปจากใจของผมได้เลย มันรบกวนผมมากจนทุกครั้งที่ผมนึกถึงเรื่องนี้ ผมต้องถอนหายใจออกมาอย่างคุมตัวเองไม่ได้

ผมมั่นใจในตัวสตาร์ แต่ผมไม่มั่นใจในตัวไอ้เรย์ มันเป็นคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่ว่าจะเสียอะไรไปมากมายแค่ไหนมันก็ยอม
ผมกลัวว่าสตาร์จะเป็นสิ่งนั้นของมัน

"กูเพิ่งคิดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับมึงกับสตาร์ได้" ไอ้โชคเปลี่ยนประเด็น

"อะไรของมึง"

"กูว่ามึงทั้งคู่เป็นพวกรักแรงหึงแรงว่ะ" มันพูดอย่างคนที่คิดเรื่องนี้มาดีแล้ว

"หืออออ"

"อย่างมึงกูไม่สงสัยหรอก ยังไงมึงก็หึงก็หวงน้อง น้องมันน่ารักน่าทะนุถนอมบวกกับมึงเป็นคนที่หัวร้อนง่ายด้วย ยังไงมึงก็หึงแรงชัวร์"

อืม ผมไม่มีอะไรจะเถียงมันสักคำ คิดดูสิครับ แค่คนขับรถบ้านสตาร์ผมก็หึงแล้วอ่ะ

ผมมองไปที่ไอ้โชค รู้สึกอยากได้ยินในส่วนของสตาร์มากกว่าว่าจะเป็นคนที่หึงแรงได้ยังไง ฟังแล้วมันคงจั๊กจี้หัวใจดี คงจะรู้สึกดีพิลึก ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ทฤษฎีที่ออกมาจากปากกูรูด้านความเลิฟอย่างไอ้โชคก็ตาม

"แล้วสตาร์ล่ะ ดูเป็นคนหึงแรงได้ยังไง"

"ไม่รู้ว่ะ"

"อ้าว" ผมร้อง "มึงให้ความหวังกูและก็ตัดฉับภายในเวลาไม่ถึงนาทีเนี่ยนะ"

"ฮ่าๆๆ กูแค่พูดไปตามสิ่งที่กูคิดอ่ะ มึงสองคนให้ความรู้สึกต่ออีกฝ่ายมากไปแล้วทั้งๆ ที่ไม่ค่อยได้คุยกัน อาจเป็นเพราะไม่ได้คุยกันเลยนี่แหละ ถึงมีความรู้สึกมากมายต่อกันไง"

"..."

"มึงเคยได้ยินป่ะ สมัยปู่ย่าตายายเราอ่ะ เขารักกันมากเพราะเขาติดต่อกันยาก เวลาได้จดหมายแต่ละทีดีใจได้เป็นเดือนๆ เขาไม่ได้มีไลน์ไว้ทักและก็อ่านได้ภายในเวลาไม่กี่วิแบบสมัยนี้ กรณีของมึงอาจจะเทียบไม่ได้ แต่ก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ"

"..."

"น้องสตาร์คงชอบมึงมาก อาจเปลี่ยนมาจากความนึกถึงจนคิดถึงมากๆ ก็ได้ และถ้ามึงทำให้เขาไม่ไว้ใจไม่เชื่อใจล่ะก็ น้องแม่งคงเอามึงตายอ่ะ อาจจะไม่ใช่ด้วยวิธีกระทืบ แต่มันคงงอนฉิบหายอะไรประมาณนั้นเลย"

จริงเหรอวะ...ทำไมฟังแล้วรู้สึกดีแทนที่จะกลัว

"น้องแม่งหึงกูจริงป่ะเนี่ย"

"ลองพิสูจน์ดูดิวะ"

"จะพิสูจน์ยังไงอ่ะ"

"จะรู้กับพวกมึงมั้ยเล่า" ไอ้โชคพูดส่งๆ จากนั้นก็หยิบหนังสือการ์ตูนขึ้นมาอ่าน

ผมมองเทพด้านความรักด้วยสายตากระหยิ่มยิ้มย่อง ถ้าจะพิสูจน์อย่างน้อยก็ควรจะมีเวลาอยู่ด้วยกันก่อน เพราะงั้นผมจะไปหาน้องที่ห้องตอนเที่ยงนี้เลยก็แล้วกัน







พักกลางวัน

วันนี้ผมทานข้าวเสร็จไวก็เลยขึ้นมานั่งเล่นบนห้องก่อน เพราะคิดเอาเองว่าห้องสตาร์คงยังไม่เลิกเรียนแน่ๆ ทว่าระหว่างที่รอเวลาเหมาะๆ กลับมีสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับผมและก็เด็กห้องผมเป็นอย่างมากก็คือมีผู้มาเยือนซึ่งกำลังยืนอยู่หน้าประตูห้องในตอนนี้

แม่ง โคตรพ่อโคตรแม่เซอร์ไพรส์!

สตาร์ที่ผมเพ้อถึงนั่นเองครับพี่น้อง

อย่าว่าแต่เพื่อนที่อึ้งเลย ผมเองก็อึ้ง กำลังจะไปหามันอยู่แล้วเชียวแต่มันมาหาผมก่อน ผมต้องรีบลุกจากที่นั่งเพื่อเดินไปรับที่หน้าห้องเลยทีเดียวเพราะผมกลัวว่าพวกเพื่อนแม่งจะจับสตาร์พับเก็บและก็ยัดลงกระเป๋ามาก

"มาได้ไง" ผมพูดอย่างดีใจปนตกใจ ผลักสตาร์ออกไปให้ห่างจากสายตาของเพื่อนที่มองจ้องเขม็ง "อันตรายนะ แถวนี้มีแต่เสือมีแต่สิงโต แมวอย่างสตาร์ไม่ควรมาเดิน"

เสือกับสิงโตคือไอ้พวกเพื่อนห้องสองผมนี่แหละครับ

"สตาร์ไม่ใช่แมวนะ"

"..."

"มีแต่พี่ดินที่ชอบไปหาสตาร์ที่ห้อง คราวนี้สตาร์อยากเป็นฝ่ายมาหาบ้าง"

เริ่มเห็นข้อดีของการไม่มีไอดีไลน์แล้วล่ะครับ ในเมื่อติดต่อกันไม่ได้ก็มาให้เห็นหน้ากันเลยนี่แหละ คำพูดของไอ้โชคลอยไปลอยมาอยู่ในหัวของผมเลยครับ ติดต่อกันได้ยากอาจทำให้เกิดความรู้สึกที่มากจนล้น

หรือสตาร์กำลังพิสูจน์ทฤษฎีของท่านเทพโชคอยู่

แม่ง กร๊าวใจพี่อีกแล้วนะ ผมเอาแขนพิงขอบประตู ทำหน้าเจ้าชู้ใส่อีกฝ่าย

"แค่นี้พี่ก็หลงจะแย่อยู่แล้ว อย่ามาทำให้พี่หลงเพิ่มได้ป่ะ"

"กูจะอ้วกกกกก" ไอ้โชคที่มายืนใกล้ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ร้องลั่นห้อง "เชี่ยดินจีบได้เสี่ยวสัดๆ พวกมึงอย่าไปฟังนะ ถ้าอ้วกแล้วมันจะเสียดายข้าวกลางวันว่ะ"

นั่นปากมึงเรอะ!

"อย่าสนใจเลย" ผมพูดกับสตาร์ "เอาไง พี่ไม่อยากพาเราเข้าไปในห้องเลย เพื่อนแม่งชั่ว"

"ไม่เป็นไรครับ"

สตาร์กล้าว่ะ ผมนับถือใจน้องมาก พอพามันเดินเข้ามาในห้องที่มีแต่คนมองเขม็งไปที่จุดจุดเดียวนั่นก็คือผู้ที่มาใหม่ คนตัวเล็กมองซ้ายมองขวาอย่างตื่นตาตื่นใจ คล้ายกับไม่เคยชินกับห้องเรียนสุดแสนธรรมดาที่ไม่หรูหราเหมือนห้องคิง

"โต๊ะไหนโต๊ะพี่ดินเหรอ"

"เรากำลังนั่งอยู่อ่ะ" ผมตอบ ตอนนี้ผมนั่งที่ไอ้โชคอยู่

"มีคนเขียนโต๊ะด่าพี่ด้วย"

สตาร์ชี้ไปที่ตัวพยัญชนะย่อของคำสามคำที่ว่า 'คิด วิเคราะห์ แยกแยะ' ลอยเด่นอยู่เหนือคำด่าใดๆ ทั้งหมด

"โต๊ะนี้วนกันใช้ มันไม่ได้ด่าพี่หรอก"

"เขาด่าพี่ชัดๆ"

"จะให้เขาด่าพี่ให้ได้เลยใช่ป่ะ"

"อืม"

"เขานี่ใคร"

"สตาร์นี่แหละ"

"โห พลังแกร่งกล้าขึ้นมากนะเรา"

สตาร์หัวเราะ ผมที่เขินๆ อยู่จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น แขนทั้งสองของผมพาดมั่วๆ บนพนักเก้าอี้แต่มองกลายๆ ก็เหมือนผมแสดงความเป็นเจ้าของต่อคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ นั่นแหละ ในเมื่อทั้งตัวผมก็หันไปทางมัน แขนผมก็พาดอ้อมตัวมันเอาไว้

เพื่อนผมส่วนใหญ่ก็มองมากันหมดแต่ไม่กล้าแซว เชื่อเถอะครับว่าพอสตาร์กลับห้องตัวเองไปเท่านั้นแหละ คำถามหลายๆ คำถามจะถูกยิงมาใส่ผมราวกับปืนกล โรงเรียนชายล้วนก็งี้ ใครมีแฟนก็พร้อมล้อเลียนหมด ไม่ว่าแฟนจะเป็นเพศไหนก็ตาม

นี่สินะคือโอกาสที่ฟ้าประทานให้ผมได้พิสูจน์ว่าการรักแรงหึงแรงของสตาร์มีอยู่จริงหรือเปล่า

"วันนี้เป็นไงมั่ง" ผมชวนคุย แต่มือเล่นโทรศัพท์ไปด้วย

"ก็ดีครับ เหมือนทุกวัน เรียนหนักตามเคย"

"..."

"สนใจแต่โทรศัพท์เนอะ"

"เฮ้ย เปล่าสักหน่อย" มันไม่รู้หรือไงว่าผมเล่นแก้เขิน เลื่อนรูปในไอจีไปเรื่อยแต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าดูรูปใครไปแล้วบ้าง สตาร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จากนั้นก็ทำหน้ายู่

น่ารักว่ะ

"ไอจีผู้หญิงนี่"

มาแล้วไงดอกแรก...เฮ้ย หึงเหรอวะเนี่ย หึงแล้วเหรอ หึงจริงเหรอ!

"เอ่อ..." จะพูดยังไงดี ผมฟอลโลว์ไอจีคนประมาณ 300 คน เพื่อนกับรุ่นน้องในโรงเรียนประมาณ 200 คน ที่เหลือก็คือผู้หญิงกับดาราทั้งนั้น "หึงรึไง"

"เปล่าสักหน่อย แค่อยากรู้ว่าพี่ดินฟอลใครเอาไว้บ้าง"

"คนนี้ไง 'ดาวฐา' น่ารักนะ"

สตาร์ทำหน้านิ่งไปแล้ว เดี๋ยวก่อนนะ นี่มันหึงผมจริงดิ อย่ามาทำให้ผมดีใจเล่นๆ นะ

ช่วยรักแรงหึงแรงใส่พี่ทีว่ะ พี่ชอบบบบบบบบ

"เดี๋ยวๆ ดูจอก่อนดิ ก่อนที่จะทำหน้าบึ้งน่ะ" ผมหัวเราะแล้วส่งโทรศัพท์ไปให้ ผมกดไปที่ปุ่มเสิร์ชในไอจี แอ็กเคาต์ของสตาร์ปรากฏเป็นชื่อแรกที่ผมส่องบ่อยที่สุด "นี่ไง ดาวฐา คนนี้น่ารักมาก ส่องบ่อยที่สุดแล้ว"

แอ็กเคาต์เสิร์ชบ่อยที่สุด 5 อันดับแม่งไม่มีทางโกหกแน่ๆ ครับ สตาร์มองมาจากนั้นก็ยิ้มมุมปาก

"ทำดีๆ แต่ดาวฐานี่คืออะไรวะ"

"สตาร์ไง บางครั้งพี่ก็เรียกสตาร์ว่าดาวในใจ"

"ดูสาวไปเลยอ่ะครับ" มันดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่ก็ไม่ติดใจมากมายอะไร

"..."

"สิกติดอันดับด้วยเหรอ"

"ก็เอ่อ...คงติดมาจากสมัยที่พี่จีบฟืนน่ะ พี่ชอบเข้าไปส่องของไอ้สิกบ่อยๆ"

"ทำไมไม่ไปส่องของฟืน"

"ฟืนไม่อัพรูปตัวเอง แต่สิกชอบอัพรูปมัน"

มันเป็นเรื่องจริงที่ใครๆ ในโรงเรียนก็รู้ครับ ช่วงที่ไอ้สิกยังไม่ได้คบกับฟืนแม่งชอบอัพรูปฟืนเหมือนแกล้งอัพรูปเพื่อน แต่พอคบกันปุ๊บรูปของฟืนมาเต็มพร้อมกับแคปชั่นหวานหยดย้อย สาวๆ คงจะงงว่าตกลงพวกเธอฟอลโลว์ใครกันแน่ระหว่างสิกกับฟืน

"พอพูดถึงเรื่องนี้..." สตาร์เสียงแผ่วลง "นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่พี่ดินยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่เลย"

อะไรยังไม่ชัดอีกนะ "ยังไงเหรอ"

"เรื่องฟืน"

"..."

"พี่ดินลืมมันแล้วแน่เหรอ"

ดอกที่สองมาแล้วครับ มาในแบบดราม่ากันเลยทีเดียว

แม่งต้องไปกราบท่านเทพโชค กูรูด้านความเลิฟซะแล้ว

"ถามตัวเองก่อนเหอะ ลืมไอ้สิกได้แล้วหรือยัง" ผมสวนทันควัน เพราะดันนึกไปถึงอดีตที่ผ่านมาของเราสองคน

"ผมลืมแล้ว เพื่อนผมสองคนมันรักกันมาก ผมไม่อยากไปเป็นปัญหาของพวกมันอีกแล้ว"

"พี่ก็เหมือนกัน"

"..."

"จริงๆ อาจจะเริ่มลืมตั้งแต่วันที่สตาร์บอกราคาไอดีไลน์ให้พี่ฟังแล้วล่ะมั้ง" ผมพูด "เพราะตั้งแต่วันนั้น เสียงของสตาร์ก็ก้องอยู่ในหูพี่ เรื่องราคาไอดีนั่นคงเป็นแค่ข้ออ้างที่ทำให้พี่อยากเข้าหา จริงๆ แล้วพี่คงติดใจคนบางคนตั้งแต่วันนั้นแล้วนั่นแหละ"

ถ้าสตาร์จะรักแรงหึงแรง ผมก็คงไม่ต่างอะไรจากน้องเลยแม้แต่นิดเดียว

สตาร์กลืนน้ำลาย พยายามมองสบตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจของผม

"ถ้าเราสองคนยังไม่มั่นใจในตัวกันและกัน ทำไมเราไม่มาลองทำให้อีกฝ่ายมั่นใจดูล่ะ"

"..."

"อย่างที่สตาร์บอกกับพี่ในโพสต์อิต เรามาเริ่มกันใหม่ดีมั้ย"

สตาร์ดูเคอะเขินมาก มองไปทางนั้นทางนี้ไปทั่วก่อนที่จะพึมพำอะไรบางอย่างออกมา

"ก็เอาดิ"

"พูดเองแล้วนะ" ผมทำเสียงล้อเลียน "ถ้าทำให้พี่หึงมากๆ เข้าล่ะก็ พี่ต่อยแน่"

"โหย น่ากลัวว่ะ มีทำร้ายร่างกายด้วย"

"ไม่ได้ทำร้ายสตาร์หรอก"

"..."

"ทำร้ายไอ้เหี้ยที่มายุ่ง"

"ใครจะมายุ่งกับผม"

"กล้าพูด ก็รู้อยู่ว่ามีไอ้เหี้ยตัวหนึ่งมายุ่งด้วย"

"เรื่องนั้นคือว่า..."

"เอาเป็นว่าพี่เชื่อใจสตาร์ เพราะสตาร์บอกพี่แล้วว่าเราจะเริ่มใหม่ด้วยกัน" ผมส่งยิ้ม "ไหนลองทำให้สมกับที่พี่เชื่อใจหน่อย"

"พี่เองก็เหมือนกัน"

"..."

"เรื่องผู้หญิงน่ะเพลาๆ ลงบ้าง คนที่มาเมนต์ไอจีน่ะ ไม่รู้จะเยอะไปไหน"

"ก็แค่เมนต์ ไม่มีอะไรสักหน่อย"

"ก็อย่าไปตอบนักสิ"

"ไม่ชอบให้ตอบเหรอ"

"ใช่"

ดอกที่สาม มาในแบบชัดเจนแจ่มแจ้งแดงแจ๋

กูกราบมึงอ่ะโชค กูกราบบบบบบบบบ

"งั้นเลิกตอบ จะตอบแต่ของเพื่อน ตกลงมั้ย" คนขี้หึงต้องเข้าใจคนขี้หึงถูกมั้ยครับ

"จะคอยดูละกัน"

นี่มันไม่ได้ต่างอะไรจากการเป็นแฟนกันเลย เพียงแต่ผมต้องรอให้อีกฝ่ายมั่นใจในตัวของผมก่อน ซึ่งมันต้องมีวันนั้นแน่ๆ ผมดีใจที่น้องเริ่มแสดงออกกับผมมากขึ้น นี่มันชัดจนไม่ต้องเสียเวลาตั้งคำถามแล้วมั้ง

คนอย่างพี่ดินคนนี้อยากได้อะไรก็ต้องได้อยู่แล้ว

อยากมีแฟนชื่อสตาร์ก็ต้องได้!









เลิกเรียน

ผมมาถึงหน้าห้อง ม.5/1 เด็กห้องนี้มันชินกับหน้าผมแล้วครับ พวกมันไหว้และก็เดินผ่านเลยไป ผมไม่รอสตาร์อยู่ที่ห้องอีกแล้ว ผมเดินเข้าไปในห้องเลย สตาร์กำลังทำงานอะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่เพื่อนของมันวิ่งไปทั่วห้องเหมือนเด็กนักเรียนทั่วไป

ไอ้บู้เข้ามาขวางทางผมเอาไว้

"เรื่องไอดีไลน์มาถึงครึ่งทางแล้วใช่มั้ยพี่"

"อืม มึงหลีกไปดิ๊"

"ตอนนี้เพื่อนผมให้ใจพี่ไปแล้ว พี่ห้ามทำให้มันเสียใจเชียวนะ"

"กูรู้แล้วน่า หลีกไป"

"สัญญาลูกผู้ชายกับผม"

"เออ! หลีกได้แล้วโว้ย!" ผมใช้พลังหนักมากในการผลักไอ้บู้ออกไป จากนั้นก็เดินไปหาสตาร์ที่เหมือนจะไม่รู้ตัวว่าผมมาหาแล้ว
"พี่มารับ" ผมพูด "มีเรียนพิเศษใช่ป่ะวันนี้"

"ยังไม่เปิดคอร์สครับ" สตาร์เงยหน้าขึ้นมาตอบ ดูเหมือนมันจะเครียดกับการบ้านตรงหน้ามากกว่าการตื่นเต้นเรื่องที่ผมมา

"เฮ้ย งั้นก็ไปเดตกันได้อ่ะดิ"

"คงไปไม่ได้ครับ"

ผมสะอึกเล็กน้อย "ทำไมอ่ะ"

"มีนัดแล้ว"

"กับใคร"

"พี่เรย์"

ผมอ้าปากค้าง "พี่ฟังอะไรผิดไปหรือเปล่า"

"ไม่ผิดครับ สตาร์มีนัดกับพี่เรย์จริงๆ"

"ทำไมต้องไปกับมัน รู้ไม่ใช่เหรอว่าพี่ไม่ชอบ" ผมเสียงดังลั่นห้องจนเด็กในห้องถึงกับชะงัก หยุดกิจกรรมทุกสิ่งทุกอย่างแล้วมองจ้องเขม็งมาที่ผม "เราสัญญากันไม่พ้นวันเลย สตาร์ก็ทำผิดสัญญาแล้ว แม่งคืออะไรวะ"

"สตาร์ไม่ได้ผิดสัญญา กับพี่เรย์ไม่มีอะไรจริงๆ"

"ปฏิเสธแม่งไม่ได้เหรอ"

"ไม่ได้"

"ทำไมอ่ะ"

"มันเป็นเรื่องซับซ้อน" สตาร์ตอบ "ขอโทษนะครับพี่ดิน เดี๋ยวสตาร์ชดเชยให้วันหลัง"

การกระทำของสตาร์ทำให้ผมรู้สึกช็อกมาก เหมือนผมอารมณ์ดีมาทั้งวันแล้วจู่ๆ ก็โดนเบรกกะทันหัน คล้ายกับรถที่ขับมาจากแถวพุทธมณฑลจะถึงพารากอนอยู่แล้ว แต่โดนเบรกให้หยุดที่สยามเซนเตอร์ซะก่อนอ่ะ

"ไม่รับคำขอโทษ ไม่เข้าใจ และก็จะไม่ยอมอะไรทั้งนั้น"

"พี่ดิน" สตาร์ดูตกอกตกใจมาก ผมก็เป็นแบบนี้แหละ เป็นมาตั้งนานแล้วด้วย "เชื่อใจผมสิ มันไม่มีอะไร"

"ไม่รู้ล่ะ ไม่ยอม"

"แต่ว่า..."

"ถ้าสตาร์จะไปกับมัน พี่ก็จะไปด้วย"

"เฮ้ย บ้าเหรอ ได้มีเรื่องกันที่สยามแน่"

"แล้วยังไง ก็มันมายุ่งกับคนของพี่อ่ะ"

"พี่ดิน!"

ตอนนี้ในห้องมีเพียงแต่เสียงแอร์ ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะขยับเขยื้อนไปไหน สายตาของสตาร์ทั้งตกใจและก็สับสน มันไม่ได้โกรธผม แต่มันคงงงว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงมากกว่า

ไอ้เหี้ยเรย์นั่นมันสำคัญอะไรนักหนา ทำไมต้องไปอยู่กับมัน ทำไมต้องแจ้นไปหามัน

แล้วผมล่ะ ผมสำคัญกับน้องมันบ้างป่ะ การกระทำของมันแม่งเหมือนเห็นคำสัญญาเป็นเพียงแค่ลมผ่านหู

สตาร์มองไปที่เพื่อนๆ อย่างลังเลโดยเฉพาะไอ้บู้ ทำไมต้องมองไปหาคนอื่นด้วยวะ นี่มันเรื่องของผมกับมันสองคนชัดๆ

"เอาเป็นว่าพี่ดินเชื่อใจผมได้มั้ยครับ มันไม่มีอะไรก็คือไม่มีอะไรจริงๆ"

"ถ้าไม่มีอะไรก็ปล่อยให้พี่ไปด้วยสิ"

"แต่ว่า..."

"ตามนั้น" ผมทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามสตาร์ "พี่จะรอตรงนี้"

สตาร์พูดไม่ออก มันมองไปที่เพื่อนอย่างจนปัญญา ส่วนผมลอยหน้าลอยตาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น สตาร์หยิบโพสต์อิตออกมาจากกล่องดินสอจากนั้นก็ก้มหน้าเขียนอย่างรวดเร็ว

"ถ้าพี่ปล่อยให้ผมไป พี่เอานี่ไปเลย"

ผมคว้าหมับตอนที่สตาร์ไม่ทันตั้งตัว "พี่ได้มาแล้ว เพราะงั้นพี่ไม่จำเป็นต้องปล่อยสตาร์ไป"

"ดื้อว่ะ" สตาร์ร้องลั่น

"ลองมาเป็นคนหวงดูบ้างป่ะล่ะ!"


ไอดีไลน์ตัวที่ 10
T
เชื่อใจผมนะครับ






กรุ๊ปไลน์ 'คิดถึงสตาร์'

Din : สิก มึงเชื่อใจฟืนป่ะ
FUEN : ถามอะไรเนี่ยยยยย
AOF : มาคุว่ะ
TANG : ทีมพี่ดินครับ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทีมพี่ดินครับ
CHOK : #รักแรงหึงแรง เห็นมั้ยกูบอกมึงแล้ววววว
PHYSICS : เชื่อใจฟืน แต่ไม่เชื่อใจไอ้พวกที่คอยมารุมมาตอมอยู่ใกล้ๆ เพื่อนในกลุ่มก็ไม่ชอบ
Din : เออ ก็เหมือนกูอ่ะ
FUEN : งงไปหมด...
AOF : กูไม่เคยคิดจะแดกเพื่อนกูหรือคนที่เพื่อนกูชอบหรอกนะครับ
TANG : ร้อนตัวเหรอสัดอ๊อฟ มึงชอบชมฟืนให้กูฟังบ่อยๆ ไม่ใช่เหรอ
PHYSICS : เชี่ยอ๊อฟ น้องกูอีกคน ฟืนก็อีกคนเหรอวะ สัดนี่!
Din : เคลียร์กันเองนะครับ
PHYSICS : ฟวยอ๊อฟมึงตอบแชทส่วนตัวเดี๋ยวนี้เลย!
FUEN : เฮ้ออออออ








TBC*








ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12

ตอนที่ 11







สยาม

"ไอ้เหี้ยนี่มายังไง" ไอ้เรย์ที่นั่งรอสตาร์อยู่ที่สยามสแควร์วันถึงกับร้องออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ ผมยักคิ้วใส่มันอย่างท้าทาย ขณะที่สตาร์นั้นทำท่าปวดหัวปวดประสาท

"ยังไงพี่ดินเขาก็จะมาครับ ผมห้ามไว้ไม่ได้"

"ทำไมวะ กูมาแล้วมันทำไม"

ไอ้เรย์เข้ามาผลักไหล่ผม มันพร้อมที่จะมีเรื่องทุกเมื่อ "กูปล่อยมึงไปหลายครั้งเพราะสตาร์ขอร้อง มึงคิดว่าครั้งนี้กูจะปล่อยมึงไปป่ะ"

ผมมองไปที่คนตัวเล็กที่สุดอย่างเอาเรื่อง "ไปขอร้องมันทำไม ถ้ามันจะมีเรื่องพี่ก็พร้อมจะมีเรื่อง"

"จัดตรงนี้เลยมั้ยล่ะ" ไอ้เรย์พุ่งเข้ามา ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน

"เอาดิ"

"พอก่อนครับ" สตาร์เข้ามาแทรกกลางระหว่างผมกับไอ้เรย์ "ถ้าจะมีเรื่อง ผมกลับนะ"

ผมกับไอ้เรย์ชะงัก จากนั้นก็แยกออกจากกันอย่างช่วยไม่ได้

"เห็นมั้ยว่ามันอันตราย มันพร้อมจะเตะจะต่อยตลอดนั่นแหละ" ผมพูดอย่างหงุดหงิด

"แต่กูก็ไม่ได้ต่อยสตาร์ไง กูจะต่อยมึง"

"มึงก็เข้ามาดิ"

"พอ!" สตาร์ร้องเสียงดังมากจนทำให้คนที่เดินอยู่แถวนั้นหันกลับมามอง "ผมไม่มีแรงพอจะสู้พี่ทั้งสองคนหรอกนะ ผมรู้ว่าพวกพี่ไม่ชอบขี้หน้ากัน แต่อย่ามีเรื่องกันได้มั้ยครับ ผมห้ามไม่ไหวจริงๆ"

เรย์ทำหน้าหงุดหงิดงุ่นง่าน ส่วนผมน่ะเหรอ...ผมหงุดหงิดตั้งแต่นั่งแท็กซี่มากับสตาร์แล้วล่ะ ในใจของผมร้อนรนลุกเป็นไฟ
สตาร์ทำเหมือนว่าการที่มันมากับเรย์คือสิ่งที่มันต้องทำจำพวกการล้างหน้าแปรงฟันทุกวัน ไม่ข้องเกี่ยวกับสัญญาที่มันกับผมเคยให้กันและกันไว้ อยากจะบอกเหลือเกินว่ามันโคตรย้อนแย้งกับสัญญานั่นเลยว่ะ มีอย่างที่ไหนบอกให้ผมเชื่อใจ แต่ตัวเองกลับไปกับผู้ชายคนอื่นเนี่ยนะ

แม้ใจจะหงุดหงิดอยากลากสตาร์กลับบ้านผมแล้วไปนั่งเคลียร์ในห้อง แต่ก็เกรงใจเกินกว่าจะทำแบบนั้น บางทีระหว่างสตาร์กับเรย์อาจจะมีเรื่องตื้นลึกหนาบางที่ผมไม่รู้ ตอนนี้ที่รู้ก็คือผมหึงมากหึงมายหึงฉิบหาย และนี่ก็คือความจริงที่ผมจะไม่ปฏิเสธตัวเองอีกต่อไป

สตาร์ไม่อยากให้มีเรื่องผมก็จะไม่มี แต่ถ้าไอ้เรย์มาหาเรื่องก่อน ก็อย่างที่บอกเลย ยังไงผมก็ไม่มีวันยอมให้มันแน่ๆ

"โอเคนะครับ" สตาร์ถามย้ำพลางมองผมกับเรย์สลับกัน ผมมองไปทางอื่นขณะที่ไอ้เรย์พยักหน้า

"ก็ได้" มันพูด "ถึงจะมีไอ้เหี้ยนี่มาด้วย แต่พี่ก็จะไม่มีวันเปลี่ยนโปรแกรมของเราในวันนี้หรอกนะ"

"ตามใจพี่เรย์เลยครับ" สตาร์พูดง่ายๆ คำพูดของมันทำเอาผมอ้าปากค้าง อยากจะตีอกชกหัวตัวเองมาก

ไอ้เรย์เดินนำไปแล้ว ผมได้ทีจึงคว้าข้อมือของสตาร์เอาไว้ พยายามผ่อนแรงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นคนมือหนัก

"เรามีเรื่องต้องคุยกันหลังจากนี้"

"ผมรู้ครับ" สตาร์เอ่ย "ตอนนี้ผมแค่อยากให้พี่ดินเชื่อใจผม"

"รู้ใช่มั้ยว่ามันยาก พี่ก็อยากจะเชื่อใจสตาร์มากพอๆ กับที่พี่หึงสตาร์นั่นแหละ"

สตาร์มองผมด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย ท่าทางคำพูดของผมจะประทับใจน้องไม่น้อย

เป็นไงล่ะ เจอพี่ดินคนจริง 201X เข้าไป

"ผมก็อยากให้พี่หึงผม พอๆ กับที่ผมไม่อยากให้พี่ไม่เชื่อใจ"

บร๊ะ...น้องสตาร์ก็คนจริง 201X ว่ะ

"เฮ้ย แบบนี้มันเห็นแก่ได้นี่" ผมแกล้งพูดดู

"ใครๆ ก็อยากให้คนที่ตัวเองชอบหึงทั้งนั้นแหละครับ"

"สตาร์ มาได้หรือยัง!" เสียงไอ้เรย์ดังขึ้นแทรกคำพูดรัวเร็วของสตาร์ คนตรงหน้าผมเดินไปหาไอ้เรย์เป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ผมพยายามทำความเข้าใจกับคำพูดของสตาร์เมื่อครู่อยู่

เดี๋ยวก่อนนะ

.

.

.

น้องมันเพิ่งบอกว่าชอบผมนี่!

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยย

ความร้อนรุ่มในใจของผมเริ่มคลายลง ใจผมอ่อนยวบไปหมดแค่คำว่าชอบคำเดียวของสตาร์ ถึงเราสองคนจะเคยพูดกันในทำนองนั้นมาแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครพูดออกมาตรงๆ เลย พอได้ยินจากปากของสตาร์วันนี้มันเหมือนเป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าน้องคิดกับผมแบบนั้นจริงๆ

เหลือเพียงแต่การกระทำที่ต้องช่วยให้ผมมั่นใจในตัวน้องก็เท่านั้น

สตาร์เอ๋ยยย อย่าทำให้พี่ดินคนนี้ผิดหวังเชียวนะ

เพราะถ้าผิดหวังขึ้นมาล่ะก็...คงจะทำใจยากมากกว่าตอนที่เคยอกหักจากฟืนแน่ๆ

ผมรู้ตัวดี...ว่าผมชอบสตาร์มากกว่าที่ผมเคยชอบฟืน








ร้านอาหารญี่ปุ่น

ไอ้เรย์ปรับตัวปรับใจเป็นที่เรียบร้อย มันคงทำใจได้แล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางแกะผมให้ออกไปจากสตาร์ได้ มันก็เลยทำเหมือนผมไม่มีตัวตน เมื่อลอบสังเกตมันที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแบบเงียบๆ ก็เห็นภาพมันคอยดูแลเทกแคร์สตาร์ที่นั่งอยู่ข้างผมเหมือนกับว่ามันชอบสตาร์จริงๆ ไม่ใช่การกลั่นแกล้งเด็กข้ามโรงเรียนหรือเพื่อกักตัวเด็กคนนั้นให้อยู่ใกล้ตัวอะไรประมาณนั้น

คำถามอยู่ที่ว่าทำไมสตาร์ถึงยอมง่ายๆ แบบนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าไอ้เรย์มันตัวอันตราย ไม่น่าคบ และจัดว่าเป็นบุคคลที่ควรเดินให้ห่างๆ
มันต้องมีอะไรในกอไผ่นี้แน่ๆ

"สตาร์เอาอะไรอีกป่ะ"

"พอแล้วครับ เต็มโต๊ะแล้ว"

ยิ่งเห็นแม่งก็ยิ่งรู้สึกอยากคว่ำโต๊ะยังไงไม่รู้ ปกติผมไม่เคยเห็นไอ้เรย์มันเทกแคร์คนอื่นแบบนี้หรอก อีกทั้งยังไม่เคยคิดว่ามันจะทำอย่างนี้เป็นด้วย เพราะเท่าที่ผมรู้จักมันมา มันเป็นวัยรุ่นที่โคตรทำตัวเหี้ย พอได้มาเห็นว่ามันดูแลเทกแคร์คนอื่นแบบนี้ก็มีหนึ่งคำถามเกิดขึ้นในใจผม

ทำไมต้องเป็นสตาร์ของกูด้วย...

ไอ้เรย์ ไอ้เหี้ยยยย

"มึงไม่ถามกูบ้างล่ะ" ผมกล่าวลอยๆ

"มึงมีตัวตนด้วยเหรอ"

"จะเอาใช่ป่ะ" ผมทุบโต๊ะเสียงดัง หมั่นไส้แม่งมานานแล้ว จะให้ต่อยมันตอนนี้ก็ยังได้

"มาดิ"

"อะแฮ่มๆ" สตาร์แกล้งกระแอม "ลองจินตนาการว่าพี่ทั้งสองคนไม่ใช่ศัตรูกันและก็มานั่งกินข้าวกันเฉยๆ ได้มั้ยครับ"

ใครจะไปทำได้ ไอ้เรื่องเป็นศัตรูเพราะไม่ชอบขี้หน้ากันน่ะมันตกเป็นประเด็นรองไปแล้ว ประเด็นหลักก็คือผมกับมันชอบคนเดียวกันนี่แหละ!

ผมกับไอ้เรย์คิดไปในทางเดียวกัน แต่ไม่มีใครบอกสตาร์ในเรื่องนี้ ผมกับมันตัดสินใจเงียบเพื่อตัดปัญหา พยายามซ่อนระเบิดที่อยู่ภายในใจให้มิดชิดมากที่สุด เพราะถ้าระเบิดออกมาล่ะก็คนที่จะโกรธก็คือสตาร์

ผมเองก็ต้องปรับตัวปรับใจเหมือนกับที่ไอ้เรย์มันทำใช่มั้ย

ตลอดการทานอาหาร บอกตามตรงว่านอกจากผมจะโมโหหึงมั่วไปหมดแล้ว ผมยังต้องเก็บความรู้สึกน้อยใจเบาๆ ไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดอีกด้วย สตาร์บอกให้ผมเชื่อใจ แต่เมื่อผมมาอยู่ท่ามกลางระหว่างคนสองคนที่สนิทกันในระดับหนึ่ง มีการหัวร่อต่อกระซิก แซว และล้อเลียนกันในประเด็นที่ผมไม่รู้ ไอ้ความเชื่อใจของผมมันก็สั่นไปหมด ผมพยายามควบคุมตัวเองแล้วครับ แต่แม่งทำไม่ได้ว่ะ การที่คนที่เราชอบพูดคุยกับคนอื่น หัวเราะกับคนอื่นต่อหน้าเราในเรื่องที่เราไม่รู้ไม่เห็นด้วยเนี่ย...ใครมันจะไปทนไหว

ผมลุกขึ้นยืน ขัดจังหวะสองคนนั้นที่มันหัวเราะกันอยู่ ไอ้เรย์หยิบน้ำขึ้นมาดื่ม ส่วนสตาร์มองผมอย่างตกใจเล็กน้อย

"พี่ไปเข้าห้องน้ำ"

ผมไม่รอให้ใครตอบรับ เดินออกจากร้านไปเข้าห้องน้ำด้วยอารมณ์หงุดหงิดสุดๆ ตอนที่เดินออกมานั่นเองผมสวนกับคนคู่หนึ่งที่ตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ ให้ทายครับว่าผมเจอใคร

สิกกับฟืน

"พี่ดิน" ฟืนรีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมไหว้ผมทันที ไอ้สิกพยายามห้ามฟืนแล้วแต่มันห้ามไม่ได้ สมน้ำหน้ามึง

"ไง" ผมทักส่งๆ ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะยิ้มรับใครทั้งนั้น ถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนที่ผมชอบมากก็ตาม

"เป็นไรพี่ หน้าเหมือนแดกรังแตน" นี่คือคำทักทายของไอ้สิก

"ยุ่ง"

"มีปัญหากับสตาร์มาแหง" ฟืนซุบซิบกับไอ้สิก "มีอะไรให้เราช่วยป่ะครับ"

"ไม่ต้องไปอาสาเลย" สิกทำทุกอย่างได้เพื่อที่จะให้แฟนมันอยู่ห่างจากผม แต่แฟนมันไม่เคยให้ความร่วมมือเลย

"มี" ผมพูดขัดกับไอ้สิกพลางยักคิ้วนิดๆ ให้คนขี้หึง "สิก กูยืมแฟนมึงหน่อยได้ป่ะ กะจะไปยั่วให้ใครบางคนหึงว่ะ"

"ไม่ได้" ไอ้สิกตอบทันควัน "จะบ้าหรือไง แฟนนะเว้ยไม่ใช่เงิน"

"แปลว่ากูยืมตังค์มึงได้งั้นสิ"

"จะเอาเท่าไหร่ล่ะ" มันทำท่าจะล้วงกระเป๋าตังค์ออกมาทันที

"ไอ้บ้า กูล้อเล่น"

"..."

"แม่ง หวงอะไรขนาดนั้น"

"แฟนทั้งคนนะเว้ย มันไม่ใช่สิ่งที่หาเมื่อไหร่ก็หาได้นะครับ โดยเฉพาะคนที่เกิดมาเพื่อเราอย่างนี้"

คือมึงจะบอกรักแฟนมึงแบบอ้อมๆ จะอวดว่ามีแฟน หรือจะสั่งสอนกูกันแน่วะสิก...

"กูรู้อยู่แล้วล่ะว่ามึงไม่ให้" ผมแค่ลองถามไปอย่างนั้นเอง "กูไปนะ"

"เฮ้ย" ไอ้สิกร้อง "เดี๋ยวดิพี่ สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไหนเล่าดิ๊"

ผมทำหน้าเซ็งก่อนที่จะเล่าเรื่องสตาร์กับเรย์ให้พวกมันสองคนฟังอย่างย่อๆ คู่รักตรงหน้าผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะมองหน้ากัน

"แปลกๆ อยู่นะ สตาร์คงมีเหตุผลอะไรสักอย่างแหละ" ฟืนพูด เขาเป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอครับ บางครั้งก็ดีเกินเหตุจนไอ้สิกปวดหัว แต่ผมเชื่อว่าเชี่ยสิกคงเต็มใจที่จะปวดหัวนั่นแหละ

"สตาร์กับพี่เรย์อยู่ในร้านใช่ป่ะ"

"เออ"

"คราวนี้ผมจะช่วยพี่ก็แล้วกัน ถึงแม้ว่าผมจะไม่อยากให้พี่มาขัดการเดตของผมกับฟืนก็เหอะ"

มึงพูดแบบนี้มึงไม่ต้องช่วยก็ได้นะ ผมทำหน้าบึ้งใส่มันจนไอ้สิกต้องรีบพูดเพราะกลัวผมจะเปลี่ยนใจ

"ตามผมมาละกัน"

"จะไปไหนวะ"

"หาไอติมกิน"

ผมกำลังจะอ้าปากโวยวายว่าผมไม่มีอารมณ์กินไอศกรีมตอนนี้ แต่ชาติหน้ามั้งสิกมันถึงจะฟัง ฟืนรีบกวักมือให้ผมเดินตามอย่างรู้ใจแฟนตัวเอง

ไม่มีทางเลือก...ผมจำเป็นต้องไปกินไอศกรีมที่เย็นจัดทั้งๆ ที่ใจผมนั้นยังร้อนรุ่ม







ร้านไอศกรีม

มันใช่เวลาที่จะมานั่งกินไอศกรีมที่ไหนกันเนี่ย ผมมองคู่รักตรงหน้าด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย คนที่อยากกินตั้งแต่แรกไม่ใช่ไอ้สิกครับแต่เป็นฟืน มันชวนกันมาก่อนหน้าที่จะมาเจอผมแล้ว ผมจำได้ว่าผมดูออกเรื่องที่ฟืนเป็นคนชอบกินของหวาน ตอนนี้ทุกอย่างก็ได้พิสูจน์ให้ผมเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่ามันคือเรื่องจริง

ไอศกรีมที่สั่งมามีแต่ฟืนกินคนเดียว ไอ้สิกกับผมไม่มีใครแตะเลยสักคำ

"ทำไมกูต้องมานั่งตรงนี้" ผมพูดอย่างหงุดหงิด

"พี่บอกสองคนนั้นว่าพี่จะมาเข้าห้องน้ำใช่ป่ะ"

"เออ"

"พี่หายไปนาน เดี๋ยวคนที่แคร์พี่ก็จะเริ่มร้อนใจเองว่าพี่หายไปไหน"

ผมเลิกคิ้ว มองดูฟืนที่พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับคำพูดของสิก "สิกมันก็งี้ ทฤษฎีแน่นตลอด ผมโดนมาเยอะ"

"มันจีบมึงด้วยอะไรแบบนี้เหรอ"

"ตอนแรกมันช่วยผมจีบคนอื่น จากนั้นผมก็เอาวิธีที่มันบอกผมไปบอกคนอื่นให้มาจีบมัน"

"โอ้ย พูดให้กูงงทำไมเนี่ย"

"ก็ถือว่าใช้ได้นะครับ แม้จะปวดหัวไปสักหน่อยแต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าสมหวังดี"

"คนอื่นก็ผิดหวังไปใช่ป่ะ" ผมแซวเล่นๆ

ฟืนยิ้มแห้งๆ ส่วนไอ้สิกก็พูดขึ้นมาอย่างไร้ความปราณีว่า "ใช่"

เออ กูก็ไม่ได้ยุ่งอะไรด้วยแล้วนี่ไง...ให้ตายสิพับผ่า

"แล้วกูจะรู้ได้ไงว่าสตาร์ร้อนใจวะ มันติดต่อกูไม่ได้อย่าลืมสิ"

ฟืนกินไปด้วย เขย่าโทรศัพท์ไปด้วย จากนั้นก็บอกให้ผมไปเซลฟี่คู่กับมันโดยที่ไอ้สิกกำลังจะอ้าปากร้องห้าม

"มึงไม่ต้องห้าม" ฟืนพูดกับแฟนตัวเอง "ในรูปมีกูกับพี่ดินน่าจะได้ผลมากกว่า กูจะส่งไปให้สตาร์ดู"

"ร้ายนะมึง" สิกกำแก้วน้ำดื่มแน่น

"ไม่ร้ายไม่น่าจะเอามึงอยู่หรอกว่ะสิก"

ช่วยไปจีบกันตรงโน้นได้มั้ยครับ "มึงจะส่งไปบอกสตาร์ว่าอะไรวะ" ผมถาม

"ผมบอกว่าถ้าสลัดพี่เรย์ไม่หลุด อย่าหวังว่าจะได้พี่ดินคืน"

"เอาเรื่องแฮะ" ผมพึมพำ "สิกมึงโอเคเหรอ"

"ไม่โอเคไม่ได้หรอก" มันตอบเซ็งๆ "ดูหน้าฟืนดิ แม่งพร้อมจะทำตามแผนที่ตัวเองคิดแล้ว"

"งั้นกูขอถามมึงก่อน...มึงอนุญาตหรือเปล่า"

แทนที่สิกจะตอบผม มันกลับหันไปมองแฟนมันแทน "คืนนี้ขอกูจูบมาราธอนสามสิบวิพร้อมลูบตรงนั้นผ่านก.ก.น.ด้วย"

กูอึ้งแดกกกกกกกกก

คนที่อึ้งมากกว่าผมเห็นจะเป็นฟืน มันหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศลูกไหนๆ บนโลก

"ได้"

คำตอบไอ้นี่ก็ทำกูอึ้งแดกไปอีกรอบ

ตอนนี้ไอ้สิกดูถูกอกถูกใจกับแผนของฟืนเกินกว่าจะหึงอะไรใดๆ แล้ว ผมทอดถอนใจมองดูฟืนกินไอติมสลับกับมองดูไอ้สิกที่เล่นโทรศัพท์ ท่าทางของพวกมันสองคนดูชิลๆ กันมาก มองเผินๆ เหมือนคนเป็นเพื่อนกันและไม่มีอะไรในกอไผ่ ถ้าไม่ใช่เด็กโรงเรียนผมก็ดูไม่ออกหรอกว่าพวกแม่งคบกัน

อยากมีอะไรแบบนี้กับสตาร์บ้างจังครับ

"สตาร์ถามว่าพี่ไม่มาเอากระเป๋าเหรอ" ฟืนอ่านให้ฟัง ตอนนี้สตาร์ตอบแชตของฟืนอยู่

"เห็นมั้ย มันไม่ใส่ใจกูหรอก มันไม่ร้อนใจอะไร มันมีความสุขอยู่กับไอ้สัดเรย์"

"ใจเย็นดิ มันก็แค่ถามป่ะพี่"

"กูไม่เอาอะไรทั้งนั้นนั่นแหละ" ผมโวยวาย

"ได้ เดี๋ยวบอกมันให้"

"..."

"มันจะมามั้ยเนี่ย"

"ถ้ามันไม่มา ก็แปลว่ามันไม่แคร์เลย" ไอ้สิกพูดอย่างจริงจัง

คำพูดของมันทำเอาผมเครียดจนอยากจะยกถ้วยไอติมไปฟาดหน้ามันจริงๆ แต่แม่งเป็นความจริงว่ะ ถ้ามันแคร์สักนิดยังไงมันก็ต้องมา

แม่งเอ๊ยยยย แล้วสตาร์มันจะแคร์ผมมั้ยอ่ะ

หรือถ้ามันแคร์ มันก็ควรจะแคร์ตั้งแต่ที่ผมให้มันเลือกไปเดตระหว่างเรย์กับผมแล้วไม่ใช่เหรอ








18.04 น.

"พี่ดินคงต้องรอแถวๆ นี้แล้วแหละ ผมบอกสตาร์ไปแล้วว่าพี่ดินอยู่นี่ ถ้ามันจะมาก็ให้มันมาหาพี่ตรงนี้" ฟืนพูด "ผมกับสิกต้องกลับแล้วครับ แม่มันโทรมาตามอ่ะ"

"ตามทำไมก็ไม่รู้"

"ก็มึงชอบมานอนบ้านกูไงล่ะ"

"งั้นวันนี้มึงมานอนบ้านกูได้ป่ะ"

"แม่กูคงจะให้อยู่หรอก"

"แล้วสัญญาที่ให้ไว้..."

เรื่องลูบไอ้นั่นผ่านก.ก.น.สินะ...พอดีผมจำสัญญาเรื่องแรกไม่ได้น่ะ

"ไปทำที่บ้านมึงได้"

ให้ตายเถอะซาร่า...เป็นอีกครั้งที่ผมอยากจะตะโกนใส่หน้าพวกแม่งว่า 'พวกมึงช่วยไปรักกันตรงโน้นนนนนน'

"เออ โชคดีนะ" ผมโบกมือให้ทั้งสองคน

"พี่ก็โชคดีเหมือนกัน" ไอ้สิกพูด จากนั้นก็โอบไหล่ไอ้ฟืนและก็เดินจากไปพร้อมกัน

ไปเถิดทั้งคู่ ไปสู่ประตูสวรรค์...

ผมมองภาพรุ่นน้องทั้งสองเดินห่างออกไปอยู่สักพักแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น ที่ที่ผมอยู่ตรงนี้คือบริเวณโซนของกินของพารากอน ฟืนบอกว่าให้ผมรอสตาร์ตรงนี้ ถ้าสตาร์จะมาก็คงอีกไม่ช้านี้ ผมถอนหายใจเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ พยายามพาใจตัวเองให้จมจ่อมไปกับโซเชียลในมือ

PHYSICS : ไปดูสตอรี่ไอจีของฟืนเร็วๆ ครับ
PHYSICS : ผมบอกให้ฟืนทำเอง
PHYSICS : ผมคูลป่ะ นี่ผมใช้แฟนตัวเองเพื่อช่วยพี่เลยนะเนี่ย


สิกทักไลน์ผมมาว่าแบบนี้ ผมก็เลยเข้าไปดู

ผมอึ้งมากที่ฟืนอัพสตอรี่ในไอจีโดยที่มีผมอยู่ในนั้น ผมรู้ว่ามันถ่ายแต่ไม่คิดว่ามันจะอัพลง

[อร่อยมั้ย]

[อร่อยห่าไรล่ะ กูไม่ได้แดกกับมึง]

[ยิ้มหน่อยดิ]

ในสตอรี่ของฟืนเหมือนผมมากับมันแค่สองคน ฟืนทำได้เนียนมากด้วยการถ่ายแบบไม่ติดอะไรใดๆ ของไอ้สิกเลย ถ้าสตาร์มาเห็นก็คงร้อนใจบ้างแหละ (ถ้ามันแคร์ผมบ้างอ่ะนะ)

หนักกว่านั้นคือฟืนไม่ได้อัพแค่อันเดียว แม่งมาอีกสอง

[สบายใจขึ้นยังครับพี่]

[ถามอะไรดูหน้ากูด้วย]

สตอรี่อันสุดท้ายคือฟืนถ่ายรูปผมทีเผลอ จากนั้นก็เติมอักษรเข้าไปในภาพว่า 'คนขี้งอน' พร้อมวาดเส้นเป็นรูปหัวใจ

โอ้โห มึงปั่นมากอ่ะ แบบนี้ไม่ใช่แค่สตาร์จะเข้าใจผิดแล้ว ทุกคนที่เข้ามาดูสตอรี่มึงเข้าใจผิดกันหมดอย่างแน่นอน

ฟืนทักไลน์มาหาผมหลังจากนั้นไม่นาน

FUEN : สตาร์เห็นสตอรี่ทุกอันแล้วครับพี่
FUEN : ผมลบแล้วนะ เดี๋ยวเชี่ยสิกมันจะหึง แม่งเอาแน่เอานอนไม่ได้หรอก
FUEN : สงครามระหว่างพี่กับสตาร์บังเกิดแน่นอน!
FUEN : โชคดีครับ


"มีความสุขมากป่ะ" ผมเงยหน้าขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงของใครคนหนึ่ง คนคนนั้นก็คือสตาร์ มันส่งกระเป๋าเป้ของผมมาให้พร้อมๆ กับทำหน้าตึงใส่ ข้างกายของสตาร์ไม่มีเรย์อีกต่อไปแล้ว

แบบนี้แสดงว่าที่เหนื่อยกันมาทั้งหมดคือได้ผลใช่มั้ยครับ

ผมแสร้งทำหน้าตึงไปเหมือนกัน "ก็ดีกว่าเป็นก้างของใครบางคนป่ะ"

สตาร์ขมวดคิ้วจนเป็นปม ดูเหมือนจะโกรธแต่ก็ยังดูน่ารักมากอยู่ดี คล้ายกับเด็กถูกแย่งของเล่น

"ทำไมเป็นคนแบบนี้"

"พี่เป็นคนยังไง"

"บอกแล้วไงว่าเรื่องของสตาร์กับพี่เรย์มันไม่มีอะไร"

"ถ้าจะพูดให้เชื่อ พี่จะตอบว่าพี่เชื่อก็ได้ แต่การที่จะให้ไปนั่งอยู่ตรงนั้น มองดูสตาร์กับไอ้เหี้ยนั่นมีความสุขกัน ถ้าพี่บอกว่าพี่ไม่รู้สึกอะไรเลยพี่ก็คงโกหกว่ะ"

"พี่ดินไม่เชื่อด้วยซ้ำ"

"ก็เล่ามาดิ อย่าทำให้พี่เป็นคนโง่ได้ป่ะ"

"..."

"เราสองคนเคยโง่กันมาแล้วเรื่องสิกกับฟืน เราเข้าไปแทรกกลางระหว่างคนสองคนนั่น สุดท้ายเราก็ไม่สามารถทำอะไรความรักของพวกมันได้ พี่เจ็บ พี่ผิดหวัง พี่ไม่อยากเจออะไรแบบนั้นอีก"

"..."

"พี่อยากสมหวังแล้ว เข้าใจมั้ย"

สตาร์อ้าปากค้าง มันดูตกตะลึงมาก ใบหน้าของมันซีดเผือดไปหมดและริมฝีปากก็สั่นระริก

เฮ้ย อย่าร้องไห้กลางห้างเชียวนะ อย่าเชียวนะ

นัยน์ตาของสตาร์คลอไปด้วยน้ำตา ถ้ากระพริบตาเบาๆ ครั้งหนึ่งผมคิดว่ามันคงจะไหลออกมาเลยแหละครับ

งานเข้าแล้วมั้ยล่ะกู

"เราสองคนก็เหมือนกันอ่ะ" สตาร์ทำปากเบ้ไปด้วยหยิบโพสต์อิตออกมาด้วย "สตาร์ไม่คิดว่าเราจะเหมือนกันขนาดนี้ กลัวความผิดหวังเหมือนกันแบบนี้" มันโอดครวญไปเขียนไป เป็นท่าทางที่น่ารักดี

"..."

"ถ้ายังอยู่ตรงนี้ สตาร์ร้องไห้แน่ ไว้ค่อยคุยกันวันหลังนะครับพี่ดิน"

"..."

"สตาร์จะตอบทุกคำถามที่พี่ดินสงสัย"

ผมรับโพสต์อิตมาด้วยความงุนงนปนอึ้ง จากนั้นก็มองดูสตาร์เดินจากไป ท่าทางสตาร์เหมือนคนร้องไห้จริงๆ และที่ต้องรีบหนีผมไปแบบนั้นอาจเป็นเพราะไม่อยากให้ผมเห็นน้ำตาของมัน

ไอดีไลน์ตัวที่ 11
T
ผมจะไปง้อพี่ดินที่บ้านเอง









กรุ๊ปไลน์ 'คิดถึงสตาร์'

Din : ถึงไอ้สิก ช่วยรีวิวตอนที่ฟืนมาบ้านมึงครั้งแรกให้กูฟังที
FUEN : พี่ดินถามอะไรอีกแล้วเนี่ย
AOF : #ปูเสื่อรอ
TANG : สิก มึงก็บอกไปดิว่าหมดถุงยางไปหนึ่งแผงยาวๆ
FUEN : ฟวยตัง พ่องตาย
CHOK : สตาร์จะไปบ้านมึงเหรอ เฮ้ยยย เกินคาดว่ะ
CHOK : น้องแม่งคงชอบมึงมากๆๆๆ จริงๆ ว่ะดิน
PHYSICS : มันจะมีอาร้าย ตอนนั้นผมยังอยู่มอต้นอยู่เลย
PHYSICS : ยากที่สุดก็คือหักห้ามใจตัวเอง ผมบอกได้แค่นี้แหละ
FUEN : หักห้ามใจอะไรของมึง
PHYSICS : ก็กูเกือบจะจูบมึงหลายรอบแล้ว มึงไม่รู้ไง
AOF : ประกาศถึงสมาชิกกรุ๊ปคิดถึงสตาร์ ฟืนอายมากจนโยนโทรศัพท์ทิ้งไปแล้ว...
TANG : รู้ได้ไงวะ หรือว่า...เชี่ยสิก ไอ้อ๊อฟอยู่บ้านไอ้ฟืนว้อยยยย!
TANG : หึงดิวะสัด หึงดิ!
PHYSICS : ฟืนมันอยู่บ้านกู อยู่ข้างๆ กูเนี่ย มั่วจริงๆ สัด
Din : อืม
Din : จูบเหรอวะ
Din : เข้าท่านี่





TBC*

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
น้องงงงง ถ้าบอกก่อนหน้านี้ก็เคลียร์ไปแล้ววว

ออฟไลน์ jajah_s.amp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอดูน้องดาวง้อพี่ดิน~

ออฟไลน์ kredkaew26

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อ้าาาาาาาาาาาาาาาาา กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
หวานอ่ะ ^^   :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ cookie12ck

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอ้ยยยยย ใสๆน่ารัก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตอนหน้า สตาร์สารภาพมาซะดี ๆ เกี่ยวกับเรื่องของเรย์ อยากรู้ อยากเผือก  :m21:

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องดาวจะบุกบ้านพี่ดินแล้ววว :z1:

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนฟืนไปบ้านสิกมันไม่มีอาร้ายยย แต่สตาร์ไปบ้านพี่ดินนี่  :hao6:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ควรจะบอกพี่ดินได้แล้วหนูดาว

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
รีบๆบอกพี่ดินได้แล้วนะน้องดาว พี่เค้าจะได้ช่วย

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
สตาร์จะไปหาที่บ้านแหละ


ฟินสุดเลยจ้าา

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ทำไมตัดตรงเนนนนน้ :ling1:
ตอนสวีทในห้องนี่คือเขินมาก อิพี่ดินแม่งเสี่ยว 55555
หวังว่าตอนหน้าสตาร์จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังน่ะนะ พร้อมฉากสวีท กร๊าก :hao6:
มาต่อไวๆ นะคะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
คู่นี้เขารักแรงหึงแรงจริงๆ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อ่านรวบยอดมายาวๆ เลยค่ะ

ดินเอ้ย ทำไมพลาดแบบนี้ล่ะ
เสือจะเป็นแมวก็ยังสยบไม่ลง
ห้ามใจตัวเองก็ไม่ทัน เข้าสู่วังวนของ twinkle ซะแล้ว

สตาร์น่ารัก เป็นคนดี และน่าสงสารไปพร้อมกัน
น้องเปิดใจให้ดินมากเลย และชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

รอสตาร์มาง้อดินที่บ้านค่ะ

ออฟไลน์ มาดามพีพี

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากกอดหนูสตาร์ตั้งแต่อ่านรักร้ายๆ #สิกฟืน แล้วอ่ะ พอมาเป็นเรื่องของน้องจริง...โอ๊ยยยย...จะน่ารักไปไหนลู้กกกก!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอนะคะ :mew3: :mew3: :mew3:

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12





ตอนที่ 12






T W I N K L E L I T T

ไอดีไลน์ของสตาร์ต้องเป็นคำว่าทวิงเกิ้ลลิตเติ้ลสตาร์แหงเลย ผมที่นอนแอ้งแม้งอยู่ที่บ้านว่างจัดและก็ยังมีเรื่องคาใจที่ต้องเคลียร์กับสตาร์ ก็เลยเสิร์ชชื่อไอดีสตาร์ตามที่ผมคาดเดา (ขอโกงนิดนึง)

แต่ไม่ใช่ว่ะ มันเป็นไอดีของใครก็ไม่รู้

อยากจะโหวกเหวกโวยวายว่าทำไมต้องใช้ไอดีที่ยาวปานสะพานพระรามแปดแบบนี้วะ กลัวคนแอดไปหาหรือไง ทำไมต้องทำให้เรื่องยุ่งยากแบบนี้

แล้วที่บอกว่าจะมาง้อที่บ้าน จะมาวันไหนกันแน่ล่ะวะ!

ผมคาดเดาไปเองว่าน่าจะเป็นคืนเมื่อวาน วันเดียวกับที่ผมกับสตาร์ไปหาไอ้เรย์ที่สยาม แต่ผิดคาดแฮะ ไม่ใช่เมื่อวาน ผมก็เลยตั้งความหวังเอาไว้ว่าน่าจะเป็นวันนี้ ทุกอย่างเหมาะเจาะลงตัวพอดีเด๊ะ เพราะเป็นวันที่เพื่อนห้องสองของผมประกาศกร้าวผ่านกรุ๊ปไลน์ของห้องว่า

'ใครไปโรงเรียน กูแบน!'

เนื่องจากอาทิตย์นี้จะมีการสอบตรงเข้ามหา'ลัยแห่งหนึ่งครับ เป็นมหา'ลัยฮอตฮิตที่เพื่อนผมส่วนใหญ่อยากจะเข้า ก็เลยนัดกันโดดยกห้อง ผมไม่ได้สมัครมหา'ลัยนี้ แต่ผมก็ไม่อยากโดนเพื่อนแบน (จริงๆ ก็ขี้เกียจด้วย) ก็เลยไม่ไปโรงเรียน ไม่รู้สตาร์จะสงสัยหรือเปล่าว่าผมหายไปไหน

ในเมื่อมันบอกว่าจะมาง้อผมถึงที่บ้าน ผมก็รออยู่บ้าน ให้มันมาง้อผมอยู่นี่ไง

"ดิน" แม่ที่วันนี้อยู่บ้านเอ่ยทักผมซึ่งกำลังนอนอยู่บนโซฟา "พี่พิงค์กลับมาแล้วนะรู้ยัง"

ไอ้พิงค์มาแล้วเหรอ ผมไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ครับเพราะอย่างเคยบอก พี่ชายฝาแฝดแม่งไม่ค่อยมีผลกับชีวิตผมเท่าไหร่ สนิทกันก็จริงแต่ก็ไม่ได้แคร์อะไรกันขนาดนั้น

เอ่อ ก็ได้ครับ ผมสารภาพก็ได้ว่าผมโกรธพวกมัน มีอย่างที่ไหนไปเรียนนอกกันหมด แถมยังไปเรียนคนละที่ ที่สำคัญยังปล่อยให้ผมอยู่กับพ่อแม่ที่เมืองไทย อีกทั้งยังทำให้ผมโดนพ่อแม่บังคับให้เรียนที่ไทยอีก โคตรตัดตัวเลือกผมอ่ะ

สรุปคือผมงอนมันสองคนนั่นแหละ

ไอ้พานไปเรียนวิศวะ ส่วนไอ้พิงค์ไปเรียนถ่ายรูป คนหลังมันจะติสต์ๆ หน่อย ยุ่งด้วยไม่ค่อยได้เท่าไหร่ครับ เดี๋ยวมันจะเตะไข่เอา ถ้าจะถามว่ามันว่ามันติสต์มากขนาดไหนก็ดูตอนที่มันกลับมาไทยสิครับ ไม่ยอมบอกพ่อกับแม่ให้ไปรับเลย

ที่แน่ๆ ไม่ยอมบอกผมด้วย

ไอ้พี่เหี้ยยยยย

"ตื่นเต้นจังเลย" ผมพูดอย่างเฉยเมย

"จะไปโกรธพี่เขาทำไมล่ะ พี่เขาไปเรียนนะ"

"ไม่โกรธแล้ว"

"ถ้างั้นก็ไปทักทายพี่เขาหน่อย"

"ไม่เอาครับ เดี๋ยวมันลงมามันก็ทักดินเอง" ผมพูด ฟอร์มของผมสำหรับพี่น้องสูงเท่าเพดาน ขอบอกไว้ ณ ตรงนี้เลย

"แล้วเป็นไงบ้าง แม่ยังไม่มีโอกาสได้ถามเลย"

"เรื่องไหนครับ" รู้สึกระแวงเล็กน้อย กลัวแม่รู้ว่ามีความรัก

"ก็เรื่องที่ไปสอบมอ C ไง"

"..."

"เป็นไงบ้าง คิดว่าจะมีโอกาสติดมั้ย"

"ผมคิดว่าสมัครที่อื่นเผื่อไว้ดีกว่า อีกอย่างหนึ่งพ่อก็อยากให้เข้ามอ A มากกว่าไม่ใช่เหรอครับ"

"ใช่ พ่อเขาเป็นศิษย์เก่า แต่แม่ก็อยากให้สมัครมอ D ด้วย อย่าลืมนะว่าแม่จบมอ D มา"

"เอาเป็นว่าผมจะสมัครทุกที่ให้พ่อกับแม่เลยก็แล้วกัน"

"นี่แม่ไปคุยโวกับบ้านน้องฟืนมาแล้วนะว่าลูกชายแม่ต้องติดมอ C แน่ๆ"

"แม่จะไปคุยทำไมเล่า" ผมร้อง

"ยังไงลูกแม่ก็ติด แม่มั่นใจ"

แม่ไม่รู้หรอกวันนั้นการสอบในภาคเช้าของผมเละไม่มีชิ้นดี เพราะผมมัวแต่โมโหเรื่องที่สตาร์อยู่กับเรย์ จะว่าไปมันก็ไม่ดีเลยนะครับที่ผมมีความรักตอนผมอยู่ ม.6 เนี่ย แต่ทำไงได้ล่ะ เวลาคนที่ใช่มา มันไม่เลือกหรอกครับว่าจะเป็นตอนไหนเวลาไหน แล้วมันก็ขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะตัดสินใจคว้าเขาเอาไว้หรือไม่

แน่นอนว่าคนนี้โดนใจมาก และผมไม่อยากปล่อยมันไป

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว แม่กลับไปดูแลสปา ร้านที่เป็นกิจการของแม่ ส่วนพ่อผมทำอีกธุรกิจหนึ่งครับเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทั้งคู่ยุ่งมากแต่ก็ยังพยายามหาเวลามาอยู่กับผม

ในที่สุดไอ้พิงค์ได้ฤกษ์เสด็จลงมาจากห้องนอนสักที

"ไง" มันทักผม ดูหล่อขึ้นมากจากเมื่อปีก่อน ผมนึกว่ามันจะไว้หนวดไว้เครา ที่ไหนได้ใบหน้าของมันเกลี้ยงเกลาแถมทรงผมก็ยังดูดีมากอีกต่างหาก อะไรกัน พี่ผมไม่ใช่ศิลปินสายเซอร์ๆ เหรอวะ "ได้ข่าวว่างอนกู"

"ไม่ได้งอน" ผมโวย "ข้าวอยู่ในครัว แม่ฝากบอก"

"มาแดกด้วยกันดิ"

"ไม่แดก แดกไม่ลง"

"นั่นไง งอนกูอยู่ชัดๆ"

"ไม่ได้งอนโว้ย แต่มีเรื่องให้คิดอยู่ต่างหาก"

"เรื่องผู้หญิงเหรอ มึงเลิกกับหยกแล้วไม่ใช่หรือไง"

คิดดูครับว่าหยกเคยมีอิทธิพลกับผมขนาดไหน พี่ผมยังรู้จักอ่ะ

"ไม่ใช่หยก"

"..."

"ไม่ใช่ผู้หญิงด้วย"

คำพูดของผมทำเอาพิงค์มันสตัน จากนั้นก็เดินมาหาผมด้วยใบหน้าตื่นตกใจก่อนจะยิ้มแป้น 

"เด็ดว่ะน้องกู"

"ของมันแน่"

มันเป็นคนเปิดกว้าง ถึงแม้จะทำตัวเข้าใจยากไปสักหน่อย แต่ข้อดีของมันก็คือมันเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์เลือกว่าตัวเองจะใช้ชีวิตแบบไหน

"ว่างๆ เอามาอวดหน่อย กูอยากรู้ว่าจะหล่อกว่ามึงมั้ย"

"ใครจะหล่อสู้กูได้"

"กูนี่ไง"

"พี่ดินครับ" เสียงตื่นๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นแทรกระหว่างผมกับพิงค์ ผมรีบลุกขึ้นนั่งมองดูสตาร์ที่อยู่ในชุดนักเรียนด้วยความตกตะลึง นอกจากมันจะโดดเรียนมาหาผมในเวลากลางวันแสกๆ แล้ว มันยังเข้ามาในบ้านผมได้ง่ายๆ เฉยเลย

ใครเปิดประตูให้เนี่ย

"หืมมม" ไอ้พิงค์เอียงคอเป็นเชิงถามผม ผมทำปากขมุบขมิบไร้เสียงบอกพี่ชายตัวเองว่า 'คนนี้แหละๆ'

"เข้ามาได้ยังไง" ผมถามสตาร์

"คุณแม่พี่ดินเปิดให้ครับ พอดีสวนกันน่ะ"

"นี่ภูพิงค์นะ พี่ชายของพี่"

"เอ่อ หวัดดีครับ" สตาร์ยกมือไหว้ ไอ้พิงค์มองสตาร์เหมือนมองปู ไปรยา นัยน์ตาเป็นประกายฉิบหาย

"แฟนมึงเหรอ" พิงค์ถามผมอย่างไม่เกรงใจผู้มาใหม่

"ใช่" ผมตอบ "รู้แล้วก็ไปได้แล้ว อย่ามากวน"

"ไปไหนล่ะ นี่บ้านกู"

"นี่บ้านกูเหมือนกันอ่ะ เอาของกินขึ้นไปกินในห้องนอนไป๊"

"มึงสองคนก็ขึ้นไปบนห้องนอนมึงสิ กูจะแดกข้าวแถวนี้"

ผมอ้าปากพะงาบๆ ขณะที่สตาร์หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก เดี๋ยวก่อนนะ เพิ่งจะจับสัญญาณอะไรบางอย่างได้ว่าพี่ผมมันกำลังช่วยผมอยู่นี่หว่า ดูจากสายตาที่เต็มไปด้วยความนัยของพิงค์แล้ว มันกำลังเปิดโอกาสให้ผมชัดๆ

สตาร์ดูวางตัวไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ ผมควรจะแก้สถานการณ์นี้ยังไงดี ไอ้พิงค์เดินไปหยิบของกินมานั่งกินที่โซฟาเรียบร้อยแล้ว (ในครัวก็มีโต๊ะกินข้าวไม่ใช่หรือไง) เหมือนมันกำลังพยายามให้ผมพาสตาร์ขึ้นห้องนอนให้ได้

"คงต้องไปคุยกันข้างบนแล้วล่ะ" ผมรำพึง

น้องจะยอมมั้ยวะ ผมคิดในใจอย่างลุ้นๆ ที่แน่ๆ ผมไม่ได้จะทำอะไรมันหรอกครับ เดี๋ยวไก่ตื่นหมด

แต่ไอ้นั่นของผม...มันก็เริ่มจะมีความรู้สึกนิดๆ

"ก็ได้ครับ"

นั่นยังไงล่ะ! ผมชูมือดีใจลับหลังสตาร์กับพี่ชายตัวเอง ก่อนจะเดินนำสตาร์ไปยังห้องนอนของผมที่อยู่บนชั้นสอง

ไอ้พิงค์ไลน์มาบอกผมระหว่างที่กำลังเดินขึ้นบันได

PING : ขอโทษที่ทิ้งมึงไปนอก ไอ้น้อง
PING : เมื่อกี้ถือซะว่ากูไถ่โทษละกัน


ผมยิ้มก่อนจะกดตอบ

Din : กูหายโกรธนานแล้วสัด กูแค่ไม่พูด
Din : ขอบคุณนะ


ผมภาวนาในใจ...ขอให้ตัวเองไม่ใจร้อน เผลอทำอะไรบางอย่างกับน้อง...








"ห้องพี่ดินกว้างว่ะ" สตาร์มองดูห้องผมอย่างตื่นตาตื่นใจ ผมรู้สึกเก้อเขิน แต่ก็พยายามเก็บอาการนั้นเอาไว้ "โอ้โห" มันตกตะลึงกับกองหนังสือเรียนบนโต๊ะของผมมาก "นี่อ่านทุกวันจริงป่ะเนี่ย"

"ก็จริงน่ะสิ เห็นพี่เป็นคนขี้เกียจเหรอ"

"ประมาณนั้นแหละ"

"เฮ้ย" ไอ้นี่แม่งกวนประสาทแล้ว

"ล้อเล่น"

ผมปล่อยให้สตาร์สำรวจห้องผมตามใจชอบ ก่อนจะลงมือปิดประตู รู้สึกทั่วร่างกายวูบไหวไปหมด อาจเป็นเพราะผมตื่นเต้นที่สตาร์อยู่ในห้องนอนตัวเองก็เป็นได้

เอ๊ะ หรือมันจะมีอะไรมากกว่านั้นวะ

ไอ้นั่นของผมมันเริ่มส่งสัญญาณเมื่อผมตั้งคำถามให้ตัวเอง ครับ ผมยังเป็นเด็กหนุ่มที่ฮอร์โมนแม่งโคตรจะพลุ่งพล่าน การที่มีเด็กผู้ชายซึ่งผมมีความรู้สึกพิเศษด้วยมาอยู่ในที่ลับหูลับตากันสองต่อสอง ผมเชื่อว่าผมต้องมีความรู้สึกตรงนั้นแน่นอนอยู่แล้ว

สัดดิน มึงอย่าเชียวนะ น้องมันยังเด็กโว้ยยย!

อึดอัดจนต้องระบายออกมาด้วยการกลืนน้ำลายซ้ำแล้วซ้ำอีก

"นี่คือมาง้อพี่ใช่ป่ะ" ผมทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาพาดเข่า มองดูสตาร์ที่เดินเหินไปทั่วห้อง นึกสวดมนต์ได้ใจว่าอย่าให้น้องเห็นความผิดปกติของผม คือตอนนี้เหงื่อเริ่มจะตกแล้วครับ
 
สตาร์แม่งก็เหมือนสตาร์คนเดิม แต่ผมนี่แหละที่ไม่เหมือนเดิม จริงๆ แล้วสตาร์ไม่ควรมาอยู่ในห้องผมเวลานี้เลย

บรรยากาศแม่งโคตรเป็นใจ ไม่มีใครรบกวน มีเตียง มีแอร์เย็นฉ่ำ...

เย็นไว้ดินน้อย มึงเย็นไว้

"ไหนล่ะ ไม่เห็นง้อเลย" ผมถามเพื่อกดอารมณ์ตัวเอง

"พี่อยากรู้อะไรก็ถามมาสิครับ" สตาร์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรหันมาตอบ

"คนง้อก็ควรจะรู้สิว่ามาง้อเรื่องอะไร"

"โอเค ยอมแพ้ก็ได้" สตาร์ยืนนิ่งๆ มองผมอย่างรู้สึกผิด

"มานั่งนี่" ผมตบลงที่ว่างข้างตัวเอง อีกฝ่ายเดินมานั่งอย่างว่าง่าย ไม่คิดว่าน้องมันจะมาง่ายขนาดนี้ นี่มันไม่กลัวว่าผมจะทำอะไรมันเลยหรือไงวะ ถ้ามันยอมล่ะก็...ผมนี่จบทุกอย่างได้เลยนะ

เดี๋ยว ผมคิดอกุศลอะไรอยู่ ดินมึงช่วยเอาใจมาโฟกัสกับบทสนทนาด้วยสาดดด

"สิ่งที่ผมอยากจะพูดก็คือเรื่องพี่เรย์ผมมีเหตุผล มันเป็นข้อตกลงเมื่อนานมาแล้วว่าผมจะต้องอยู่กับเขา อยู่ให้เขาจีบไปเรื่อยๆ เพราะเพื่อนในห้องหนึ่งของผมติดหนี้พี่เขา"

"ห้องหนึ่งเนี่ยนะ เพื่อนสตาร์นั่นน่ะนะ" ผมร้องเสียงหลง หน้าตาแต่ละคนเหมือนเรียนหมอกันตั้งแต่มัธยมอ่ะ ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องหนี้สินไม่ใช่เหรอ

ผมลืมเรื่องของส่วนนั้นของผมไปชั่วครู่

"ไม่น่าเชื่อใช่ป่ะ"

"แล้วทำไมต้องเป็นสตาร์วะ" ผมโวยวาย ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ "เพราะไอ้เรย์มันชอบสตาร์งั้นสิ"

"ก็ประมาณนั้นแหละครับ" คนข้างๆ ผมยักไหล่ "จริงๆ แล้วสตาร์ก็ยังไม่แน่ใจว่าพี่เรย์ชอบสตาร์จริงเปล่า"

น้องมันควรแน่ใจได้แล้วล่ะ ตอนอยู่กัน 3 คนเชี่ยเรย์มันเกือบจะแดกหัวผมอยู่แล้ว ยังไงมันก็ชอบคนคนนี้ของผมจริงๆ แน่
ผมกำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว

"ติดหนี้เท่าไหร่" กัดฟันถามอย่างนึกแค้น

"น่าจะหลายแสน"

"แล้วทำไมไม่มีใครจ่ายให้เพื่อน สตาร์ก็น่าจะจ่ายได้ไม่ใช่เหรอ"

สตาร์มองผมเหมือนผมพูดอะไรบางอย่างที่โง่มาก ไม่รู้สิวะ ผมก็พูดตามอารมณ์ของผมอ่ะ "เงินหลายแสนหายไปจากบัญชี พี่ดินคิดว่าพ่อกับแม่ผมจะสงสัยมั้ยครับ อีกอย่างหนึ่งไอ้ตือมันก็ไม่อยากยืมเงินเพื่อน ช่วงนี้มันก็พยายามรวบรวมเงินและก็พูดกับทางครอบครัวอยู่"

"ใช้ความพยายามนานเกินไปแล้วมั้ง"

"ยังไงตอนนี้ผมก็ต้องดึงเรื่องพี่เรย์ให้ยืดออกไปให้ได้ จนกว่าตือจะหาเงินมาได้ครบ"

"นี่สตาร์กำลังใช้ตัวเองแทนเงินอยู่รู้ตัวใช่มั้ย"

"สตาร์รู้ แต่ไอ้ตือมันก็เป็นเพื่อนอ่ะ จะให้ทำไง"

"..."

"มันไม่มีทางไหนที่จะช่วยเพื่อนได้อีกแล้ว"

ตอนนี้ผมเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋แล้วว่าทำไมไอ้พวกเด็กห้องหนึ่งถึงหวงสตาร์มาก เพราะสตาร์ทำเพื่อเพื่อนโดยเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง มิน่าล่ะไอ้บู้มันถึงออกตัวว่าหวงนักหวงหนา

ให้ตายสิวะ ผมเซ็งตรงห้องรวยๆ อย่างห้องคิงแม่งทำได้แค่นี้ ทั้งๆ ที่ควรจะทำอะไรได้มากกว่านี้แท้ๆ

"อีกอย่างหนึ่งพี่เรย์ก็คงไม่ทำอะไรสตาร์แน่ๆ พี่เขาก็ดูเป็นคนดีคนหนึ่งนะครับ"

อันนี้ขอเถียงหน่อยเถอะ "เพราะมันชอบสตาร์มันถึงทำตัวเป็นคนดีไง เนื้อแท้มันจริงๆ มันร้ายมาก รู้มั้ยว่าปีก่อนเด็กโรงเรียนเราต้องซวยเพราะมันเยอะมากแค่ไหน"

"ก็พอจะรู้อยู่ครับ แต่พี่เรย์ก็พยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นอยู่"

"..."

"หลังๆ ไม่ค่อยมีใครวิ่งไปฟ้องพี่ดินเรื่องที่ถูกหาเรื่องเลยใช่มั้ยครับ ผมนี่แหละเป็นคนขอร้องพี่เรย์เอง"

"นี่เรากำลังจะบอกพี่ว่า..."

"ผมอาจจะช่วยให้พวกโรงเรียนพี่เรย์เลิกหาเรื่องเด็กโรงเรียนเราก็ได้ครับ"

เดี๋ยวสิ...

"จริงๆ แล้วสตาร์ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้นะ" ผมพูดอย่างเป็นกังวล ทำไมเด็กตัวเล็กๆ คนนี้ต้องลงทุนทำอะไรขนาดนั้น "ไอ้เรย์มันไม่ทำอะไรสตาร์และมันก็ไม่ทำอะไรเด็กโรงเรียนเราก็จริง แต่เพื่อนๆ ของมันล่ะ มีแต่ตัวอันตรายๆ ทั้งนั้นเลยนะ"

"พี่เรย์ก็พยายามช่วยเท่าที่ช่วยได้อยู่ครับ เขาสัญญากับสตาร์เอาไว้ว่าจะทำตัวดีขึ้น"

"..."

"ทำเพื่อสตาร์น่ะ"

หัวของผมเริ่มรู้สึกร้อนรุ่ม อะไรคือการที่ผมจะต้องมานั่งฟังคนที่ผมชอบเล่าถึงสรรพคุณเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีสถานะเป็นศัตรูของผมด้วย ผมชักจะไม่เข้าใจซะแล้ว

"แบบนี้ก็ต้องมีสักวันที่สตาร์ใจอ่อนให้มันอ่ะดิ มันทำทุกอย่างเพื่อสตาร์ขนาดนี้"

"สตาร์แค่อยากให้โอกาสคนคนหนึ่งได้กลับตัวกลับใจน่ะครับ อีกอย่างหนึ่งพี่เรย์ก็อยู่ ม.6 แล้วด้วย สตาร์เป็นคนเกลี้ยกล่อมให้พี่เรย์ไปสอบโควตามอ C เอง ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยคิดจะไปสอบด้วยซ้ำ"

ผมเริ่มหน้าบึ้งตึงขึ้นเรื่อยๆ ทำไมฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ วะ เหมือนคนที่สตาร์สนิทด้วยมากกว่าคือไอ้เรย์ ไม่ใช่ผม สองคนนี้ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมากกว่าผมงั้นเหรอ

ความโกรธของผมแล่นไปสู่ฝ่ามือที่เริ่มกำแน่น มองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่เข้าใจ

"พี่ดิน" สตาร์ทำตัวไม่ถูก "ถ้าสตาร์อยู่ใกล้พี่เรย์ พี่เรย์จะนิสัยดีขึ้นนะครับ"

"ช่างหัวมันสิ!" ผมร้อง "บ้าป่ะเนี่ย ทำไมต้องไปยุ่งกับมันขนาดนั้น ปล่อยมันไปซะ!"

"พี่ดินครับ"

"ใครรับได้ก็บ้าแล้ว"

สตาร์ตกใจจนก้มหน้าก้มตา ผมหายใจฟึดฟัด อารมณ์โมโหยังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

"บอกแล้วไงว่าให้เชื่อใจ" สตาร์พึมพำ

"พี่เชื่อใจ แต่มันก็หึง แค่นั้น"

"แต่ว่า..."

"เอางี้" ผมเชยใบหน้าสตาร์ให้เงยขึ้น จากนั้นก็ประทับริมฝีปากของตัวเองลงไป

ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก ทว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้วเวลากลับเชื่องช้าลงไปถนัดตา ผมส่งสัมผัสอ่อนหวานให้คนตัวเล็กที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมาจากจิตใจ มันเป็นสัมผัสที่หวานมากสำหรับผม และผมไม่เคยรู้สึกว่าต้องทะนุถนอมใครขนาดนี้มาก่อน

ผมผละริมฝีปากออก มองดูใบหน้าของสตาร์ที่แดงแจ๋ยิ่งกว่าตอนอยู่ข้างล่างบ้านซะอีก

จริงๆ อยากทำมากกว่านั้นเยอะแต่มันไม่ได้...ผมได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนเก็บโทสะตัวเองเอาไว้ไม่ให้ระบายออกมาด้วยการปล้ำเด็กคนนี้ตอนนี้

"ถ้าจะไปกับมัน สตาร์ต้องมาจูบพี่ก่อนทุกครั้ง" ตอนนี้ผมคงทำได้แค่นี้จริงๆ

"บะ บ้าป่ะ"

"ตามนั้น" ผมทำเป็นลอยหน้าลอยตา แต่หัวใจกลับเต้นแรงแทบบ้าเมื่อสายตาไปเจอะเข้ากับริมฝีปากแดงที่เผยอนิดๆ ของฝ่ายตรงข้าม

เมื่อตะกี้ผมจูบสตาร์จริงๆ ด้วยแฮะ

คนในกรุ๊ปไลน์แม่งจะต้องไชโยโห่ฮิ้ว

"แต่ว่าพี่ดิน..."

"ไม่มีแต่"

"..."

"อยากให้พี่เชื่อใจ ก็ต้องทำให้พี่เชื่อใจก่อน"

"..."

"คนชอบกันต้องจูบกันบ่อยๆ นะ จำไว้" ผมกลืนน้ำลายก่อนพูด

"แบบนี้มันเห็นแก่ได้นี่หว่า" สตาร์ทุบไหล่ผม ผมไม่ได้สะเทือนอะไรกับกำปั้นเล็กๆ นั่นเลย ในใจรู้สึกอยากรวบสองมือนั่นเอาไว้แล้วทำอะไรต่อมิอะไรต่อไป

ได้แต่ย้ำกับตัวเองเป็นครั้งที่ล้านว่า...เย็นไว้ดินน้อย มึงเย็นไว้

"..."

"จะให้บอกอีกกี่ครั้งว่ามันไม่มีอะไร"

"พูดไปเหอะ ยังไงพี่ก็ไม่เปลี่ยนความคิดว่ะ"

"..."

"จะไม่จูบก็ได้นะ แต่กอดแทนได้" แขนยาวๆ ของผมโอบรอบไปที่เอวของสตาร์ แต่อีกฝ่ายดีดตัวออกไปจากผมอย่างรวดเร็วไปนั่งอยู่อีกฝั่ง

โธ่ เวรกรรม...

"คนที่อันตรายกว่าพี่เรย์ก็คือพี่ดินนี่แหละ สตาร์ไม่น่ามาเลย" มันหยิบกระเป๋าเป้เตรียมกลับ เห็นมั้ยครับว่าเด็กมันเหมือนไก่ตื่น เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ

"โอเคๆ ไม่แต๊ะอั๋งแล้วก็ได้ ยอมแพ้แล้ว" ผมยกมือขึ้นทั้งสองข้างเพื่อโชว์ว่าผมจะไม่ทำอะไรมันอีกแล้ว

สตาร์มองผมอย่างไม่ไว้ใจ จากนั้นก็นั่งลงที่เดิม

มันไม่รู้หรอกว่าผมต้องหักห้ามใจตัวเองมากแค่ไหน

"สตาร์นี่ก็บ้า"

"..."

"รู้ว่าจะโดนทำอะไรก็ยังยอมมา"

มันรู้เว้ย แล้วมันจะทำท่าตกใจทำไมกัน ผมหัวเราะก๊าก ลูบหัวอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู "ก็เพราะเราชอบพี่เหมือนกันไง"

"ใช่" สตาร์ทำหน้าเหนื่อยใจ "นี่คิดแทบตายเลยนะว่าจะง้อพี่ดินยังไง"

"ไม่เห็นยาก แค่พูดกับพี่ตรงๆ ก็โอเคแล้ว" ผมเอ่ย "แต่เอาจริงๆ นะ พี่ว่าสตาร์ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้าไปใกล้ไอ้เรย์มันขนาดนั้น มันอายุเท่าไหร่แล้ว น่าจะคิดเองได้แล้วว่าอะไรดีหรือไม่ดี"

"..."

"หรือว่าสตาร์ชอบอยู่ใกล้มัน" ผมหรี่ตามองอีกฝ่าย

"จากที่กลัวๆ เกรงๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเฉยๆ ไปแล้ว ที่สตาร์ยอมไปเจอ ก็เพราะกลัวพี่เรย์จะเอาเรื่องไอ้ตือเข้าสักวันด้วยนั่นแหละ ก็เลยต้องกันเอาไว้ก่อน"

"นี่รักเพื่อนมากเลยใช่ป่ะ" ผมแซวอย่างประชดประชัน

"ใครไม่รักเพื่อนบ้าง"

"สรุปก็คือถ้าจะไปเจอไอ้เรย์ ต้องมาจูบพี่ก่อนนะ"

"ประเด็นนี้ยังไม่ตกไปอีกเหรอวะ" สตาร์โวย

"พี่ถึงจะเชื่อไงว่าสตาร์มีใจให้พี่จริงๆ"

สตาร์หรี่ตามองผมอย่างหมั่นไส้ ผมถือวิสาสะดึงตัวของอีกฝ่ายโน้มเข้ามาใกล้คล้ายกับนอนตักผมกลายๆ

"ทีตัวเองล่ะ ไม่มีอะไรจะพูดเลยเหรอ"

"หืม" ผมส่งเสียงอย่างสงสัย

"ก็ที่ไปกับฟืนสองคน"

"..."

"ไหนบอกลืมแล้วไง ทำไมโคตรสวีต แล้วยังไปกันแค่สองคนอีก"

ผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้ "ตอนนั้นไอ้สิกก็อยู่ด้วย"

สตาร์เงยหน้ามองผมด้วยสายตามีคำถาม "หา"

"สตาร์ลองนึกดูดีๆ ซิว่าคนอย่างสิกมันจะปล่อยให้ฟืนมาอยู่กับพี่สองคนได้ไง มันสองคนตัวติดกันจะตาย ยังไงมันก็ต้องมาด้วยกันอยู่แล้วป่ะ"

"นี่อย่าบอกนะว่า..."

"พวกมันช่วยกันคิด คงอยากให้พี่เรียกร้องความสนใจจากใครบางคน" ผมมองตาอีกฝ่ายที่พยายามหลบตาผม

"แล้วได้ผลมั้ย" สตาร์ถาม

"ไม่ได้ผลนะ"

"..."

"แต่ตามมาหาพี่ที่บ้านเลย" สตาร์ต่อยคางผมอย่างหมั่นไส้ จากนั้นก็ปล่อยให้ผมกอดกลายๆ อย่างตามใจ "เหลือเชื่อเนอะ คนที่ไม่มีไอดีไลน์ ไม่ค่อยได้คุยกันจะมีใจให้กันขนาดนี้ได้"

"คิดไปเอง"

"หรือไม่จริง"

"ก็จริงนั่นแหละ"

"เมื่อไหร่จะใจอ่อนให้พี่มาหมดทุกตัวล่ะ"

"ใจร่มๆ ดิ" สตาร์ยื่นโพสต์อิตใส่ปากให้ผมคาบ "เรื่องพี่หยกก็ยังไม่ได้เคลียร์ไม่ใช่เหรอ"

ผมกระพริบตาปริบๆ มองใบหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตามึนงง มันยังคิดมากเรื่องหยกอยู่เหรอเนี่ย สตาร์ทำหน้าหงอยไปเล็กน้อย ขณะที่ผมคลี่โพสต์อิตออกอ่าน

ไอดีไลน์ตัวที่ 12
L
มาง้อแล้ว คนขี้หึงเอ๊ยยยยยยยย


เฮ้ยชอบว่ะ

เพราะมันคือความจริง ผมคือคนขี้หึงที่สุดในโลกกกกกกกก แต่ไม่แน่อาจจะแพ้ไอ้สิกนิดนึง ไอ้นั่นแม่งหึงเข้าขั้นโรคจิต

"คนที่พูดถึงแฟนเก่าพี่ไม่ใช่คนขี้หึงเลยเนอะ" ผมยิ้มมุมปาก

สตาร์มองผมอย่างนึกหมั่นไส้ "ไม่เคยเถียงสักหน่อยว่าไม่ใช่คนขี้หึงอ่ะ"






กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของพี่ดิน'

Din : จงอภิปรายกันมาว่าทำไมสตาร์ถึงยังคิดมากเรื่องหยกอยู่ได้?
FUEN : หืมมมมม
AOF : คงเป็นเพราะพี่ดินเคยคบด้วยมานานมั้ง
TANG : วันนี้พี่ดินไม่มา แต่พี่หยกมาหาพี่ดินที่โรงเรียนนะ
Din : จริงดิ
TANG : ผมกับอ๊อฟช่วยส่งพี่เขาขึ้นแท็กซี่เนี่ย
Din : ขอบใจนะเว้ย
CHOK : มึงมันไม่น่าไว้ใจไง ไอ้เสือออออ
PHYSICS : พี่อาจจะคิดว่าตัวเองชัดเจนมากพอแล้ว
PHYSICS : แต่ลองชัดเจนกว่านี้ดูซิ
PHYSICS : เบื่อจริงพวกทำอะไรไม่ชัดเจนเนี่ย
FUEN : แต่ก่อนมึงชัดมากเนอะ...
PHYSICS : ชัดดิ แต่มึงโง่ คิดว่ากูทำไปเพราะมึงเป็นเพื่อนเฉยๆ ไง
Din : สิกอย่าร้องไห้
PHYSICS : ยุ่งไรวะพี่
AOF : มันด่าว่าพี่เสือกอ่ะ
Din : กูรู้แล้ว!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2018 18:44:01 โดย Chiffon_cake »

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12





ตอนพิเศษ
บันทึกพิเศษของสตาร์

ผมชื่อสตาร์ และเขาคนนั้นชื่อว่าพี่ดิน

สารภาพตามตรงว่าผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมารู้สึกอะไรกับคนอย่างพี่ดินนี่เลย เขาเป็นรุ่นพี่ที่เพอร์เฟ็กต์จนเกินไป ถึงแม้ว่าพอได้ไปสัมผัสใกล้ๆ แล้วพี่ดินเขาจะไม่เพอร์เฟ็กต์อะไรขนาดนั้นก็ตาม แต่ผมก็ไม่คิดไม่ฝันอยู่ดีว่าพี่เขาจะได้เข้ามาอยู่ในชีวิตผม มาอยู่ใกล้จนผมรู้สึกหวั่นไหวไปหมดแบบนี้

ทั้งๆ ที่เขาไม่มีไอดีไลน์ของผม...ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้มีโอกาสติดต่อผมทุกวัน แต่เขากลับทำให้ผมใจสั่นอย่างที่ตัวผมเองก็ควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่

ไอ้เชี่ยบู้มักจะเอ่ยแซวผมเล่นๆ ว่า 'ที่มึงรู้สึกแบบนี้ อาจเป็นเพราะพี่ดินมาถูกจังหวะพอดีหรือเปล่า' จังหวะที่ไอ้บู้หมายถึงก็คือพี่ดินเข้ามาในช่วงหลังจากที่ผมอกหักจากสิก พี่ดินก็อกหักมาจากฟืนเหมือนกัน เมื่อคนอกหักมาเจอกัน อาจจะเกิดความหวั่นไหวขึ้นเพียงเพราะต้องการใครสักคนมาเติมเต็มส่วนที่ขาด ไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริง

แต่กับพี่ดินมันไม่ใช่อย่างนั้นว่ะ

ผมหวั่นไหวตั้งแต่ที่พี่เขาบุกมาขอไลน์ผมที่ห้องแล้ว ประทับใจตั้งแต่ที่ไอ้บู้บอกว่าพี่ดินทำท่าไม่เชื่อว่าไอดีไลน์ของผมตัวละสามพัน ไอ้บู้แม่งก็เว่อร์ พูดออกไปได้ยังไงวะว่าราคาไอดีไลน์ผมสูงขนาดนั้น ใครเขาจะไปเชื่อ แต่พี่ดินเชื่อครับ แถมยังคิดจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมาด้วย ผมงงมากว่าทำไมถึงอยากได้ขนาดนั้น ไอ้บู้มันก็บอกว่าพี่ดินไม่ชอบให้ใครมาท้า คงจะทำตามคำท้าให้ได้อะไรประมาณนั้น

ยอมรับตามตรงว่าผมผิดหวังนิดหน่อย แต่เมื่อเจอกับพี่ดินตอนเย็นวันนั้น ความผิดหวังของผมก็มลายหายไป ผมประทับใจพี่ดินจากความรู้สึกของตัวเองจริงๆ เขาจริงจังกับการทำเพื่อให้ได้ไอดีไลน์ของผมทั้งๆ ที่เขาสามารถเขย่าคอเสื้อผม บีบบังคับให้ผมยอมบอกก็ยังได้เพื่อจะได้ชนะคำท้า แต่พี่ดินไม่ทำแบบนั้นครับ ยอมเป็นเบี้ยล่างให้เด็กกระโปกกระโหลกกะลาอย่างพวกผมจนผมถึงกับต้องเก็บเรื่องนี้มาคิดเพื่อให้ตัวเองใจเต้นแรงแน่ะ

ยิ่งได้อยู่ใกล้ชิด ผมก็ยิ่งเห็นความพยายาม ความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของพี่ดิน แต่เหนือไปกว่านั้นผมแพ้อะไรบางอย่างในตัวของเขา และเป็นสิ่งที่พี่ดินแสดงออกมาให้ผมเห็นได้อย่างเต็มเปี่ยม

ความจริงใจร้อยเปอร์เซ็นต์

พี่ดินช่างเป็นผู้ชายที่เต็มไปด้วยความจริงใจ ถ้าเขาเกลียด เขาก็จะบอกว่าเขาเกลียดอย่างไม่ลังเล และถ้าเขาชอบ เขาก็จะบอกว่าเขาชอบอย่างไม่ลังเลเหมือนกัน ผมอาจจะไม่เคยถูกพี่ดินสารภาพความรู้สึกกับผมตรงๆ แต่ก็มีหลายครั้งที่ผมเดาพี่ดินออก

บางทีอาจจะไม่ได้พูดมันออกมา แต่การกระทำของเขาก็ค่อนข้างชัดเจนว่าเขาคิดอะไรกับผม

ผมเพียงแต่ต้องการความมั่นใจมากกว่านี้ อาจเป็นเพราะผมเพิ่งอกหักมาจากสิกในแบบที่น่าจะกลายเป็นปมในชีวิตของผมเลยก็ได้ จะไม่ให้ผมคิดแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ ตอนนั้นผมทั้งโง่และก็เซ่อที่เข้าไปจีบสิกแบบนั้น นี่ผมไม่เคยสังเกตเลยหรือไงว่าสิกมันชอบฟืนมากแค่ไหน

อาจจะเรียกได้ว่าตอนนั้นความรักมันบังตาก็ได้ ผมคิดเข้าข้างตัวเองล่ะมั้งว่าสิกมันคงไม่ได้ชอบฟืนในแง่นั้น เพราะงั้นถึงมันจะไม่ได้ชอบผมตั้งแต่แรก แต่อย่างน้อยผมก็ยังมีโอกาส ใครเล่าจะรู้ว่าแค่คำว่าโอกาสเพียงสองพยางค์มันก็ยังดูมากไปสำหรับผม

สิกไม่เคยเปิดรับใครเลย มันรักเดียวใจเดียวมาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าผมจะทำยังไง จะพยายามมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วสิกก็ไม่มีวันชอบผม ถึงอย่างนั้นเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ทำให้มันกลายเป็นปมในชีวิตของผมหรอกครับ

ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่ว่าผมทำร้ายเพื่อน ทำให้เพื่อนที่รักกันสมหวังช้าลง มันกลายเป็นความผิดพลาดที่ผมไม่มีวันให้อภัยตัวเอง ถึงแม้ว่าผมจะเจ็บปวดเพราะผมเป็นฝ่ายอกหัก แต่ความเจ็บปวดนั้นกลับเทียบไม่ได้เลยกับความรู้สึกผิดที่อยู่ผิดที่ผิดทาง เป็นคนเซ่อๆ เด๋อๆ ด๋าๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีอยู่ในนิยายที่มีสิกฟืนเป็นพระนายก็ได้

เพราะฉะนั้นสำหรับเรื่องของพี่ดิน ผมไม่อยากอยู่ผิดที่ผิดทางอีกแล้ว ผมอยากให้ที่ข้างๆ พี่ดินคือที่ของผม

มันทั้งกลัวทั้งหวาดระแวงไปหมดครับ กลัวว่าผมจะกลายเป็นใครก็ไม่รู้ที่ไปแทรกกลางระหว่างพี่ดินกับคนรักเก่าของเขา ถึงผมจะบอกไปแล้วข้างต้นว่าพี่ดินเป็นคนที่มีความจริงใจอยู่เต็มร้อย อันนั้นผมเชื่อสนิทใจ แต่อย่างที่บอกแหละ คนที่เคยผิดพลาดมาก่อนย่อมไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นมันเกิดขึ้นซ้ำอีก เพราะในความเจ็บปวดของผมจะมีคนที่เจ็บกว่าผม นั่นก็คือคนสองคนที่ผมพลั้งมือทำร้ายไปโดยไม่ตั้งใจ

พี่ดินจะทำให้ผมมั่นใจในตัวพี่เขาได้จริงๆ ได้ใช่มั้ย

และยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เรื่องระหว่างผมกับพี่ดินยังเป็นไปไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องของพี่เรย์

ผมคงเห็นแก่ตัวเกินไปถ้าจะบอกว่าผมอยากให้พี่ดินชัดเจน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังมีปัญหาติดตัวอยู่ ผมไม่สามารถตอบตกลงคบกับพี่ดินได้เพราะติดอยู่ที่คนคนนี้ อาจจะมองว่าผมเฉยๆ เมื่อได้อยู่ใกล้พี่เรย์ แต่มีบางครั้งที่ผมเองก็คิดหนักเหมือนกันว่าจะบอกพี่เรย์ยังไง

ถ้าผมบอกว่าผมชอบพี่ดินก็กลัวว่าพี่เรย์จะไปจัดการกับไอ้ตือที่ยังติดหนี้พี่เรย์อยู่หลายแสน ตอนนี้คนคนนี้ใจเย็นลงไปมากแล้วเพราะคำพูดของผมมีอิทธิพลกับเขาพอตัว ผมรู้แหละว่าสิ่งที่ผมทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง ผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขาก็ยังจะไปอยู่ใกล้พี่เขาอยู่ได้ ก็อย่างที่บอกแหละครับ ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะว่ารักเพื่อนจริงๆ

ฉะนั้นเรื่องของผมกับพี่ดินมันยังคงเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้ว่าผมเองจะเริ่มใจร้อน เริ่มเข้าหาพี่ดินอย่างไม่เกรงกลัวหรืออับอายอะไร ถึงจะรู้ว่ายังไม่สมหวังไปทั้งหมดเสียทีเดียว แต่อย่างน้อยผมก็อยากอยู่ใกล้ๆ พี่ดิน

มันจะต้องมีวันนั้น วันที่ผมสามารถคบกับพี่ดินได้โดยที่ไม่มีอุปสรรคใดๆ มาขัดขวาง พี่ดินจะต้องเคลียร์ให้ชัดเรื่องพี่หยก (และก็เรื่องฟืนด้วย...ก็ใครใช้ให้อัพสตอรี่เหมือนไปกันสองคนอ่ะ...ผมนี่หึงเป็นบ้าเลย) ส่วนก็ผมก็ต้องเคลียร์เรื่องพี่เรย์เช่นกัน ผมจำวันก่อนที่สิกกับฟืนจะคบกันได้ สองคนนั้นยังมาเคลียร์กับทั้งผมและก็ทั้งพี่ดินในวันเดียวกัน ผมจำได้ขึ้นใจเลยแหละ ถึงแม้ว่าจะเป็นความทรงจำที่ผมค่อนข้างโทษตัวเอง แต่มันก็สามารถนำมาปรับใช้กับตัวเองได้

หลังจากวันนั้นไอ้สิกกับฟืนก็รักกันดีมากจนใครๆ ต่างก็อิจฉา มันทำให้ผมคิดได้ว่าก่อนที่คนเราจะคบกันได้ยาวแม่งต้องเคลียร์ปัญหาที่คาราคาซังให้หมดซะก่อน

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อพี่ดิน

ผมจะต้องหาทางเคลียร์เรื่องพี่เรย์ให้ได้

เคยคิดว่ามาตลอดว่าความรักอยู่รอบตัวผม ไม่ว่าจะเป็นรักจากพ่อแม่ หรือรักจากเพื่อนห้องหนึ่ง (ที่บางครั้งพวกมันก็เหมือนจะรักผมเกินไป) แม้จะขาดความรักในแบบคนรักแต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น

สวรรค์ยังเห็นใจที่ส่งพี่ดินลงมาอยู่ใกล้ๆ ผม อยู่รอบๆ ตัวผม

พี่ดินไม่ได้หมุนรอบตัวผมหรอกครับ

แต่พี่ดินหมุนรอบความรักของผมต่างหาก






TBC*


ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12




ตอนที่ 13




กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของพี่ดิน'

Din : ถามไอ้พวกที่มีความรักหน่อย มึงแสดงความรักกับคนที่มึงรักยังไง
FUEN : ก็แค่อยู่กับมันอ่ะ
AOF : แซวบ่อยๆ มั้งพี่ (เหมือนที่กูชอบแซวน้องมึงไงสิก คริคริ)
TANG : เหมือนที่ไอ้สิกทำกับไอ้ฟืน
CHOK : อย่ามาทำเป็นไม่รู้ ตอแหลโคตรๆ
PHYSICS : ฟวยอ๊อฟ วันนี้มึงตายแน่
PHYSICS : อยู่กับกูห่าไรฟืน เมื่อคืนนอนกันคนละบ้าน กูเซ็งฉิบหาย
FUEN : มึงช่วยดูชื่อกรุ๊ปไลน์ และก็เกรงใจพี่ดินเขาหน่อย
Din : น่ารักจังครับฟืน
PHYSICS : น่ารักพ่องดิพี่


"ไอ้ห่าราก" ผมหัวเราะลั่นหลังจากที่อ่านข้อความของไอ้สิกที่มันตอบเมื่อคืน เด็กสองสามคนที่ยกมือไหว้ผมคงจะสงสัยว่าผมอารมณ์ดีอะไรนักหนาแต่เช้า แน่ล่ะ ผมต้องอารมณ์ดีสิ เมื่อไม่กี่วันก่อนผมได้จูบใครล่ะครับ คริคริ (เลียนแบบไอ้อ๊อฟ)

วันนี้ผมมาโรงเรียนโคตรเช้า เรียกได้ว่ามาช่วยลุงยามเปิดประตูโรงเรียนเลยก็ว่าได้ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาหกโมงเช้าดีเลยครับ ทั้งโรงเรียนเกือบจะเรียกได้ว่าว่างเปล่า มีเพียงผมกับเด็กสองสามคนเมื่อตะกี้นี้เท่านั้นที่มาโรงเรียนในเวลานี้

ลองพินิจพิเคราะห์ดูผมเคยพูดอะไรบางอย่างกับสตาร์ไปนี่หว่า ตอนที่ผมได้นั่งบนรถมันแล้วมีคนรถหน้าตาหล่อๆ มารับ...
เดี๋ยวก่อนนะ ผมบอกสตาร์ว่าผมจะไปรับมันที่บ้านนี่หว่า

เมื่อคิดได้แล้วตัวของผมก็หันกลับทันที รีบพุ่งไปหน้าโรงเรียนเพื่อไปเรียกแท็กซี่ เวลานี้คนน้อยน่าจะไปถึงบ้านสตาร์ได้ทันก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาจากบ้าน เรียกได้ว่าผมจะไปเซอร์ไพรส์ประมาณนั้นเลย

รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ ว่ะครับ อยากรู้ว่ามันจะทำหน้ายังไงตอนที่รู้ว่าผมมารับถึงหน้าบ้าน ถ้ามันไม่ประหลาดใจมากก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยผมก็จะได้ทำตามคำพูดที่ผมเคยพูดเอาไว้

ก็ใครใช้ให้บ้านมีคนรถหล่อล่ะวะ!









บ้านสตาร์

ผมมาที่บ้านนี้อีกครั้งหนึ่งแล้ว แต่ผมก็ยังตะลึงในความใหญ่โตโอ่อ่าของมัน แล้วก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ผมไปยืนเอ๋อ ทำอะไรไม่ถูก แม้แต่กดออดก็ยังไม่กล้า อาจเป็นเพราะผมเกิดป๊อดขึ้นมากะทันหันก็เป็นได้

เฮ้ย เป็นพี่ดินของน้องๆ ทั้งทีอยู่ๆ จะมาป๊อดแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย ผมพูดปลุกใจตัวเอง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเอื้อมมือไปกดออด

หลังจากกดไปแล้วประตูรั้วก็เปิดออกพอดี ดูเหมือนจะมีรถคันหนึ่งออกมาจากข้างในบ้าน ผมจำได้แม่นเลย มันคือไอ้รถตู้คันที่มักจะขับไปส่งสตาร์ที่โรงเรียนนั่นแหละ

ผมผู้ไร้ซึ่งสติก็เดินไปขวางหน้ารถเลยครับ...

คนขับหน้าหล่อเหยียบเบรกดังเอี๊ยด เจ้านายบนรถคงจะงงน่าดูว่ามีเด็กบ้าที่ไหนมายืนขวางหน้ารถ...ผมไม่รู้ ผมทำไปแล้ว!

ใช้เวลาไม่นานประตูอัตโนมัติของรถตู้ก็เปิดออก คนที่ออกมาจากรถคือสตาร์ ใบหน้าของมันตื่นตระหนกเอามากๆ แทนที่มันจะดีใจที่ผมมา

อย่างน้อยกูก็มาทันเวลาล่ะวะ

สตาร์คุยอะไรกับคนบนรถไม่รู้ จากนั้นก็รับกระเป๋าเป้ที่คนบนรถส่งมาให้ แล้วมันก็ปิดประตูรถ ผมปล่อยให้รถเคลื่อนที่ผ่านผมไป คิดไปเองว่าผู้ที่อยู่ด้านในคงจะเป็นพ่อหรือไม่ก็แม่ ผมไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ด้วย

สตาร์มองผมด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจ "เมื่อกี้รถเกือบชนพี่แล้วนะรู้มั้ย"

"ไม่รู้ อยู่ดีๆ ก็เดินไปขวางเฉย สงสัยพี่กลัวสตาร์ไม่เห็น"

"บ้าบิ่นเกินไปแล้ว"

"ก็อยากมารับอ่ะ จะได้ไปโรงเรียนพร้อมๆ กัน"

"ใครบอกว่าผมจะไปกับพี่" สตาร์เลิกคิ้ว

"โอ้โห ลงมาจากรถตัวเองพร้อมกระเป๋าขนาดนี้ คงไม่อยากไปกับพี่เลยเนอะ" ผมพูดยิ้มๆ

"เอาเถอะ" สตาร์ยิ้มเล็กๆ "ไปกันเลยมั้ยครับ อีกนิดก็จะสายแล้วนะ"

"ไปกัน"

จริงๆ แล้วผมไม่ต้องถามคนในกรุ๊ปให้ยุ่งยากด้วยซ้ำว่าเวลาเรารักใคร เราควรจะแสดงออกยังไง มันเป็นไปเองตามธรรมชาติ ทำตามความต้องการและตามความรู้สึกของตัวเอง

ผมชอบสตาร์ ผมอยากอยู่ข้างๆ สตาร์ตลอดเวลาก็เท่านั้น

แล้วก็อยู่ข้างๆ โดยที่ไม่มีคนรถหล่อๆ อยู่ด้วยนั่นแหละครับ...









พวกเรามาถึงโรงเรียนในเวลาเกือบแปดโมง มันค่อนข้างฉุกละหุกนิดหน่อยเพราะต้องรีบวิ่งเข้าไปในโรงเรียนก่อนเข้าแถว ถ้าไปถึงหลังเข้าแถวโดนสารวัตรนักเรียนจับไปลงโทษแน่ๆ สตาร์ดูตื่นตระหนกมาก สงสัยไม่เคยถูกลงโทษมาก่อน ผมมองมันอย่างชั่งใจ ก่อนที่จะถามอะไรแบบไม่คาดหวังคำตอบ

"โดดเรียนกันป่ะ"

"หา" สตาร์ชะงักไปเลย

"ชวนเฉยๆ ไม่ต้องโดดก็ได้"

"โดดครับ"

"เฮ้ย" ผมอ้าปากค้าง "ถ้าโดดคือต้องรีบหันหลังแล้ววิ่งหนีไปตอนนี้เลยนะ"

"โอเค"

ผมอึ้งมากแต่ก็รีบดึงสติกลับมาคว้าข้อมือของสตาร์ จากนั้นพวกเราก็วิ่งสวนทางไปกับพวกนักเรียนที่วิ่งตาตื่นเข้าไปในโรงเรียน
ผมจะขอบอกไว้ ณ ตรงนี้เลยว่า ถ้าจะจีบใครสักคนรีบขอไลน์เขาเลยนะครับ อย่าใช้วิธีแบบผมเด็ดขาด มันติดต่อไม่ได้เลย ผมคิดถึงโคตรๆ จนใจจะผมขาด เพราะงั้นเอาไว้รู้สึกผิดทีหลังก็แล้วกันที่รับลูกชาวบ้านเขามาแล้วชวนโดดเรียน ขอมีความสุขกับอะไรเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ก่อนละกัน

สตาร์เองก็คงจะเห็นด้วยกับผมมั้ง...แล้วผมก็เปลี่ยนจากจับข้อมือ มาเป็นจับมือแทน...











เราสองคนพากันมาหาอะไรกินที่แมคโดนัลด์ที่เดิมอีกครั้ง เพราะอะไรน่ะเหรอ...ก็มันเป็นสถานที่เดียวที่เปิดไวและแอร์ก็เย็นนี่ครับ ผมเดินไปสั่งบิ๊กแมคให้ตัวเอง และก็ไม่ลืมที่จะสั่งเฟรนช์ฟรายมาเพิ่มให้สตาร์ด้วย มันบอกว่าเมื่อเช้าทานข้าวเช้ามาเยอะแล้ว ขอทานอะไรที่มันเบาๆ บ้าง

เบามากกก เฟรนช์ฟรายเบามากเหลือเกิน...

แต่ปล่อยให้มันกินไปเถอะครับ เพราะสตาร์กินไปก็ไม่อ้วน ไม่รู้กินเสร็จแล้วขี้ต่อเลยเป็นประจำหรือเปล่า ทำไมรู้สึกว่ามันตัวเล็กๆ ตลอดเวลา

วันนี้สตาร์น่ารักผิดปกติ มันมองผมเหมือนผมเป็นฮีโร่ของมันด้วยสายตาชื่นชม พอเห็นสายตาแบบนั้นผมก็ยิ่งทำตัวเป็นสุภาพบุรุษหนักๆ คอยหยิบนั่นหยิบนี่ให้ตลอดโดยที่สตาร์ไม่ต้องลุกไปไหนเลย ถ้าคนภายนอกเดินผ่านมามองพวกผมตอนนี้ก็คงคิดได้อย่างเดียวนั่นแหละครับว่าเด็กสองคนนี้แม่งต้องเป็นแฟนกันแน่นอน

คิดไปเถอะครับ คิดกันไปเลย เพราะอีกเดี๋ยวมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แล้วล่ะ

"มอที่เพิ่งสอบไปประกาศผลเมื่อไหร่เหรอพี่ดิน"

"น่าจะอีกสองอาทิตย์มั้ง"

"ติดแน่ใช่ป่ะ"

"แน่สิ วันนั้นใครเอาข้าวกลางวันมาให้พี่ล่ะ ยังไงก็ติด" ผมยิ้ม สตาร์ก็ยิ้มตาม

"แล้วถ้าติดจะเรียนต่อที่นี่เลยป่ะ"

"คงต้องรอดูอีกที จริงๆ พ่อพี่อยากให้เข้ามอ A อ่ะ พ่อพี่จบมาจากที่นั่น"

สตาร์สะดุ้งเล็กน้อย

"แต่แม่พี่อยากให้พี่เข้ามอ B เพราะแม่จบมา ตลกดีเนอะ" เอ๊ะ หรือแม่พูดว่ามอ C จะมออะไรก็ช่างเหอะ

"..."

"ทำไมสะดุ้งตอนพี่พูดชื่อมอ A ล่ะ อยากเข้าเหรอ"

"ช่าย" สตาร์ยอมรับ "ความฝันเลย"

"อืม"

ผมทำเสียงรับรู้ ทำเหมือนจะปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปแต่ฝังมันเอาไว้ในหัวใจของผม เรื่องสตาร์ผมไม่ได้มองใกล้ๆ ครับ แต่มองไกลไปถึงอนาคตเลย ผมไม่คิดจะคบกับน้องสั้นๆ อยู่แล้วเพราะความรู้สึกของผมตอนนี้มันเอ่อล้นขึ้นทุกที

ผมอยากคบกับมันนานๆ และถ้าจะเป็นอย่างนั้นเรียนอยู่มหา'ลัยเดียวกันมันก็น่าจะดีกว่า จริงมั้ยครับ

"เคยนึกภาพตัวเองตอนเรียนมหา'ลัยป่ะ" ผมชวนคนตรงหน้าคุย

"ตอนนี้คิดอยู่อย่างเดียวว่าจะติดคณะที่มีสิ่งที่อยากเรียนมั้ย"

เด็กเรียนนี่มันเด็กเรียนจริงๆ เคยคิดอะไรอย่างอื่นนอกจากเรื่องเรียนบ้างมั้ยเนี่ย

"สมมติว่าติดแล้วงี้ นึกภาพตัวเองไว้แล้วหรือยังว่าจะเป็นยังไง"

"ก็คง...มีรถขับ" สตาร์ทำท่านึก "มันคงแปลกๆ ที่เข้ามหา'ลัยแล้วแต่ก็ยังมีคนรถไปส่ง เรื่องนี้พ่อก็เริ่มพูดไว้แล้วครับ"

"พูดว่า?"

"จะซื้อรถให้"

อืม ยอมใจคนรวยติดท็อปไฟฟ์ของโรงเรียนจริงจริ๊ง

"แต่จริงๆ แล้วสตาร์ขี้เกียจมาก ขนาดเรียนขับรถยังขี้เกียจเลย"

"ก็หาคนมาขับให้ดิ"

"มีคนรถอยู่แล้วจะหาทำไม"

"ไหนบอกว่ามีคนรถมาส่งตอนเรียนมหา'ลัยมันแปลกๆ ไง"

"..."

"นี่ไม่นึกถึงพี่บ้างเลยเหรอ พี่กำลังชงให้เรากับตัวพี่เองอยู่นะ มองกันบ้างดิวะ"

สตาร์หลุดหัวเราะ "อ้าวเหรอ พี่ดินอยากขับรถให้สตาร์นั่งเหรอครับ"

"เสาร์นี้ให้ไปรับป่ะล่ะ มีเรียนพิเศษใช่ป่ะ"

"เฮ้ยยยยยย" สตาร์ร้อง "วันนี้ก็มารับแล้วนะ มันลำบาก บ้านสตาร์ไม่ใช่ใกล้ๆ เลย"

"ไกลแต่ก็ไปไม่ยากอ่ะ"

"มีใบขับขี่แล้วเหรอ"

"มีดิ เพิ่งได้มาสี่เดือน" พอดีผมเกิดไวน่ะครับ ผมอายุสิบแปดก่อนเพื่อนในชั้นมากกว่าครึ่ง เรื่องนี้คนอื่นๆ รู้กันดี

สตาร์มองผมอย่างทึ่งๆ "หน้าตาดี มีรถขับ มิน่า ความฮอตถึงไม่เคยลดลงเลย"

"พี่น่ะนะฮอต เลิกฮอตไปแล้วมั้ง"

"ยังไง"

"ก็มัวแต่มาตามตูดเด็ก ม.5 อยู่ต้อยๆ แบบนี้ ใครเขาจะมาชอบพี่" ผมพูดเหมือนเป็นเรื่องของลม ฟ้า อากาศ

"อืม" สตาร์พยักหน้าแล้วยิ้ม ใบหน้าดูสุขใจอย่างปิดไม่มิด

"พึงพอใจมากเลยสินะ"

"ทำให้เสือกลายเป็นแมวได้ มันน่าภูมิใจมากเลยนะครับ"

ผมมองไปที่สตาร์ด้วยสายตาตกตะลึง คำพูดของมันสะกิดไปที่หัวใจของผม ผมเคยคิดกับตัวเองว่าอยากเป็นแมวเพื่อสตาร์ และตอนนี้สตาร์ก็รับรู้แล้วว่าเสือดินคนนั้นมันไม่มีอีกต่อไป

คนที่สามารถเปลี่ยนตัวเองจากเสือเป็นแมวก็ภูมิใจในตัวเองเหมือนกัน มันน่ายกย่องมากไม่ใช่เหรอครับหากเราหยุดสิ่งที่เราเคยทำเป็นประจำเพื่อใครคนหนึ่งได้

ผมกระหยิ่มยิ้มย่องกับตัวเอง พลางหยิบเฟรนช์ฟรายเข้าปาก ระหว่างนั้นมีคนโทรเข้ามาพอดี ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของผมสักคนหนึ่ง แต่เปล่าเลยครับ คนคนกลับเป็นหยก เราแลกเบอร์กันตอนที่เราบังเอิญเจอกันที่สยาม

สตาร์หันมาเห็นพอดี ใบหน้าสตาร์ถึงกับตึงไปเลยทีเดียว

มาอีกแล้วสินะ คนรักแรงหึงแรง

...กูงานเข้าแน่ๆ รู้สึกได้เลย

"ไม่รับเหรอครับ" สตาร์ยืดตัวขึ้น มองผมด้วยสายตาที่น่ากลัวเพิ่มขึ้นอีกสิบระดับ

"จะให้พี่รับเหรอ" ผมหงอลงไปเลย ทั้งๆ ที่เราเพิ่งคุยกันเรื่องนี้ แต่การที่หยกโทรเข้ามาเวลานี้ก็ทำให้แมวอย่างผมไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย

"ก็เขาโทรมาหาพี่ พี่ก็ต้องรับสิ"

"ไม่รับหรอก"

"..."

"ปกติเวลานี้พี่ต้องเรียนนี่"

"งั้นผมรับให้นะ"

"อืม คุยให้ด้วย"

สตาร์อ้าปากค้าง "บ้า แค่จะรับให้"

"จะรับทำไมเล่า"

"ก็เขาโทรมา"

"ไม่รับโว้ย ไม่อยากรับ"

"..."

"อยากคุยกับคนที่อยู่ตรงหน้า ไม่ได้อยากคุยกับคนในโทรศัพท์ จะให้พี่รับทำไมวะ"

สตาร์กระพริบตาปริบๆ อาการหัวร้อนลดลงมาอย่างรวดเร็ว ท่าทางเหมือนกำลังอึ้งในการกระทำของผม

"กะจะแกล้งสักหน่อย" มันพูดเสียงอ่อย

"แกล้งบ้าอะไร ไม่ต้องรับสายให้ ไม่ต้องมาประชด"

"นี่โมโหป่ะเนี่ย"

"ไม่ กลัวสตาร์คิดมากมากกว่า"

สตาร์วางมือตัวเองให้ห่างจากโทรศัพท์ของผม ปล่อยให้หยกโทรเข้ามาอยู่แบบนั้น

"ถ้าเขามีเรื่องด่วนล่ะ เพราะเขารู้ว่าพี่ดินเรียนอยู่แต่เขาก็ยังโทรมา"

"สตาร์"

"..."

"อยากให้รับจริงๆ เหรอ"

เสียงของผมซีเรียสขึ้นจนสตาร์เลิกตั้งคำถามอีกต่อไป "ไม่อยาก"

"ไม่อยากก็เลิกพูดเรื่องนี้แล้วมาพูดเรื่องของเราต่อ ไหนบอกภูมิใจที่ทำให้เสือกลายเป็นแมวได้ ทำไมต้องให้พี่กลับไปเป็นเสืออีก พี่งงนะเว้ย"

"โอเค ไม่ประชดอีกแล้ว ไม่ถามแล้ว"

"พอแล้วนะ"

สตาร์ทอดถอนใจพลางมองหน้าผม "สตาร์เป็นคนแบบนี้แหละพี่ดิน บางครั้งหวงมากก็ประชดมาก"

คำว่าหวงในประโยคของน้องทำผมใจชื้น "ไม่ได้ต่างอะไรกันมากหรอก"

"จะทนสตาร์ไหวมั้ย"

"อย่าใช้คำว่าทนเลย ใช้คำว่าปรับเข้าหาดีกว่า ถ้ารักจริง ยังไงก็พร้อมที่จะปรับเข้าหาอยู่แล้ว พี่เชื่อว่าอย่างนั้น"

"..."

"บังเอิญพี่รักจริงซะด้วยสิ"

พวงแก้มของสตาร์เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่ออย่างรวดเร็ว มันแดงมากจนเหมือนลูกมะเขือเทศ ผมหัวเราะที่เห็นน้องทำท่าทางอย่างนั้น สตาร์หยิบโพสต์อิตออกมาจากกล่องดินสอแล้วเริ่มเขียน

"ยอมใจคุณภูดินเขาจริงๆ" สตาร์พึมพำ "เป็นแมวแล้วก็ยังมีนิสัยของเสือเหลืออยู่"

"ยังไงอ่ะ" ผมรับโพสต์อิตที่สตาร์ส่งมาให้ก่อนเอียงหน้าถาม

"ก็พูดจาเสี่ยวแดกอ่ะ"

"ไม่ใช่เสี่ยวแดกเหอะ พี่เป็นคนจริงจังไม่อ้อมค้อม"

"..."

"แล้วพี่ก็จริงใจร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยนะ"

สตาร์หลุดขำพรืด ผมเองก็หลุดขำเหมือนกัน มันคงจะนึกไปถึงวันที่เราคุยกันเป็นครั้งแรกเมื่อหลายเดือนก่อน วันที่ผมเริ่มให้ความสนใจสตาร์เพราะราคาไอดีไลน์

สิ่งที่อยู่บนโพสต์อิตยิ่งทำให้ผมสนใจมันหนักมากขึ้นไปอีก

โอย จะทำให้หลงไปถึงไหนวะ

ไอดีไลน์ตัวที่ 13
E
ถ้ารักจริง ก็ต้องพร้อมที่จะปรับเข้าหา
สตาร์พร้อมแล้วครับ









โรงเรียน

ผมมาส่งสตาร์ที่หน้าห้อง น้องดูอารมณ์ดีขึ้นมากและก็ไม่พูดถึงเรื่องหยกอีก ผมรู้สึกคลายใจไปบ้างเพราะกลัวน้องคิดมากอยู่เหมือนกัน ปกติหยกจะคุยกับผมทางไลน์ แต่จู่ๆ ก็โทรมาหาผมเฉยเลย ไม่รู้ว่าหยกมีอะไรแต่ผมจะไม่โทรกลับแน่นอน

จบแล้วก็คือจบสิครับ เขากลับมาในวันที่สายไป สายไปมากๆ ด้วย ใครจะไปอยู่รอวะ

"เฮ้ย" สตาร์ร้องลั่น มองผ่านกระจกตรงประตูห้องด้วยใบหน้าตื่นๆ

"อะไร"

"สอบ! เพื่อนกำลังสอบอยู่!"

"เวร เวรแล้ว"

ผมพาสตาร์โดดเรียนในวันที่น้องมีสอบในห้อง ฉิบหายแล้วมั้ยล่ะกู ไอ้ดิน มึงนี่แม่ง!

"เอาไง" ผมร้อนใจแทนสตาร์แล้ว รู้ดีว่าน้องมันให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนมาก ถึงแม้ว่าจะโดดเรียนในวันนี้ก็เถอะ มันคงจะคิดมาแล้วนั่นแหละว่าสามารถโดดได้ไม่มีปัญหา แต่นี่มีสอบเลยนะครับ ใบหน้าสตาร์ซีดเผือดไปแล้ว คงกำลังช็อกน่าดู

กูโคตรรู้สึกผิดเลยไอ้เหี้ยเอ๊ยยยยยยย

"ครูอะไรที่คุมสอบอยู่อ่ะ"

"วิชานี้ของครูสุพิชชาครับ"

ตายห่า ทำไมต้องคนนี้ ทำไมไม่เป็นคนอื่น...

ครูสุพิชชาคือครูที่หัวโบราณที่สุดในโรงเรียนแล้วเพราะอาวุโสที่สุด (ไม่แน่ใจว่าเกษียณอายุปีหน้าหรือเปล่า) ปกติโรงเรียนชายล้วนนักเรียนจะกล้าแซวครูในคาบเพื่อความสนุกสนาน แต่สำหรับคนนี้ไม่ค่อยมีใครกล้าแซวเท่าไหร่ เพราะแซวทีไรครูท่านก็ไม่เคยเข้าใจมุกพวกผมเลย อีกทั้งยังโดนด่ากลับมาอีกต่างหาก ท่านจึงเป็นครูที่ถือว่าโหดและก็ปากจัดมากเลยทีเดียว

"พี่จะเข้าไปคุยให้" ผมพูดในที่สุด

"ไม่ได้หรอก แบบนั้นยิ่งจะทำให้ครูโกรธ"

"สอบครั้งนี้สำคัญมากป่ะ"

"ดูจากการแยกโต๊ะสอบน่าจะเก็บคะแนนท้ายบทอ่ะ"

"..."

"ไม่น่าจะหารด้วย"

ไม่หารแปลว่าเป็นคะแนนดิบๆ เลยอ่ะดิ สมมติคะแนนเต็ม 30 แล้วสอบได้ 20 ก็คือเป็น 20 คะแนนที่จะปรากฏอยู่ใน 100 คะแนน มีผลต่อเกรดตอนปลายภาคเรียน

"ทำไงดี" สตาร์ทำหน้ากังวลมาก ผมเครียดหนักเพราะผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องไม่ได้สอบครั้งนี้ ตอนนั้นเองคุณครูสุพิชชาก็เดินออกมาจากห้องด้วยใบหน้าเรียบเฉย

ให้ตายเถอะ สีหน้าแบบนี้แหละที่น่ากลัวที่สุดแล้ว

"ศตายุ ครูที่ปรึกษาเธอมาบอกครูว่าเห็นเธอโดดเรียนไปกับรุ่นพี่ ม.6 ที่แมคโดนัลด์ มันคือเรื่องจริงใช่มั้ย"

สตาร์ไม่กล้าโกหก เพราะผมยังอยู่แถวนี้ โกหกไปก็เท่านั้น

"เธอทำตัวดีมาตลอด แต่ทำไมต้องมาเสียเพราะนายภูดินด้วย นายคนนี้มีดีอะไร"

"ครูครับ ผมเป็นคนพาน้องไปเอง น้องไม่ผิดครับ ให้น้องสอบเถอะนะครับครู" ผมโอดครวญพร้อมยกมือไหว้

"นี่ก็ใกล้จะหมดเวลาแล้ว ศตายุ เธอหมดสิทธิ์แล้ว ครูเสียใจด้วย"

"ครูครับ!" ผมร้อง ขณะที่สตาร์เหมือนจะเข่าอ่อนไปแล้ว

"ส่วนเธอ นายภูดิน เวลานี้เธอควรเอาใจใส่กับการสมัครเรียนต่อ ไม่ใช่ชวนรุ่นน้องโดดเรียน มีน้องหลายคนต้องการเป็นแบบเธอ เธอต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆ ไม่ใช่พาน้องออกนอกลู่นอกทางแบบนี้"

"ครูจะลงโทษผมยังไงก็ได้ครับ ผมผิดเอง ผมเป็นคนลากศตายุออกไปเอง ครูให้เขาสอบเถอะครับ"

"ยังไงก็ต้องได้รับบทเรียน" ครูสุพิชชาปิดประตู ผมอ้าปากค้างพร้อมกับไปเกาะกระจกดูภายในห้อง ไอ้พวกเด็กห้องหนึ่งมันกำลังยกไม้ยกมือบอกให้ครูปล่อยสตาร์เข้าห้องสอบ แต่ครูไม่ยอมเลยครับ เคาะไม้เรียวพร้อมตั้งท่าเทศนาให้เด็กห้องหนึ่งมันสงบปากสงบคำ

ผมมองไปที่สตาร์ที่นั่งรอเข้าห้องเรียนอยู่ตรงระเบียงหน้าห้อง

"พี่ขอโทษ พี่ผิดเอง พี่ชวนสตาร์ออกไปเอง"

"ไม่ใช่ความผิดพี่หรอก สตาร์เองก็อยากไป"

แม่ง ผมซึ้งใจ แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาซึ้งใจนี่หว่า...

"ไม่มีเพื่อนคนไหนโทรมาตามเลยเหรอวะ" ผมโวยวาย มึงรักเพื่อนกันมากไม่ใช่เหรอไอ้เด็กห้องนี้อ่ะ ทำไมไม่บอกเพื่อนมึงเลยว่าครูเขาจะสอบวะไอ้ห่า

"เพื่อนโทรมาตามครับ เยอะเลย"

"..."

"แต่สตาร์ไม่ได้รับ สตาร์อยากใช้เวลาอยู่กับพี่ดินที่อยู่ตรงหน้าแบบไม่ต้องสนใจโทรศัพท์อ่ะ"

เฮ้ย จริงด้วย ตอนที่อยู่กับผมสตาร์ไม่ได้สนใจโทรศัพท์ของมันเลย ไม่ได้หยิบออกมากดดูด้วยซ้ำ ผิดกับผมที่ไม่ได้สนใจจะเล่นก็จริงอยู่ แต่ผมวางมันไว้บนโต๊ะ

ยังไงผมก็เป็นคนผิด เรื่องนี้ผมต้องรับผิดชอบ สตาร์เห็นเรื่องเรียนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะงั้นมันก็เป็นเรื่องสำคัญของผมด้วยเหมือนกัน
นี่ก็คงจะเป็นวิธีการแสดงความรักอีกอย่างหนึ่ง









[ มีต่อนะคะ ]







ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12






พักกลางวัน

"มึงลากกูมาห้องพักครูทำไมเนี่ย"

"เออน่า มาเป็นเพื่อนกูหน่อย"

"แป๊บ ยัดเสื้อเข้าไปในกางเกงก่อน"

ไอ้โชครีบทำตัวให้เรียบร้อยเมื่อรู้ว่าจะเข้าไปในห้องพักครูหมวดสังคมซึ่งเป็นหมวดที่เคร่งระเบียบที่สุดในโรงเรียนแล้ว หัวหน้าหมวดไม่ใช่ใครอื่นครับ คุณครูสุพิชชา คนที่เป็นเป้าหมายของผมในตอนนี้นี่แหละ

"ที่มึงหายไปมึงไม่ได้ไปทำอะไรเหี้ยๆ ใส่ครูหมวดนี้ใช่มั้ยวะ กูชักกลัวแล้ว" ไอ้โชคมองผมอย่างหวาดระแวง

"เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง"

ผมเข้าไปในห้องพักครูแล้ว ในห้องมีครูสุพิชชาอยู่แค่คนเดียว เหมาะเจาะพอดีเลยแฮะ

"เธออีกแล้วเหรอ" ครูทำหน้าเบื่อผม "ครูรู้ว่าเธอจะมาพูดเรื่องอะไร ยังไงครูก็ไม่เปลี่ยนใจ"

"ครูครับ เรื่องนี้ศตายุไม่ผิดจริงๆ นะครับ มันเป็นความผิดของผมเอง ครูไปบอกครูวิภาวรรณที่เป็นครูสอนสังคมผมตอนนี้ให้หักคะแนนผมเลยครับ เห็นแก่คุณความดีที่ผมทำให้โรงเรียนนี้มาเยอะเถอะนะครับครู ให้น้องมันสอบเถอะ มันเป็นความผิดของผมเอง" ผมคุกเข่าและยกมือไหว้

ไอ้โชคต้องคุกเข่าตามและก็ยกมือไหว้ตาม ท่าทางของมันงงมากแต่ก็ยอมทำตามอยู่ดี ที่ผมเอามันมาด้วยเพราะตอน ม.ต้น มันค่อนข้างสนิทกับครูสุพิชชาน่ะครับ ผมคิดว่าเผื่อมันจะช่วยได้น่ะ

"ดูเธอเดือดร้อนมากกว่านายศตายุอีกนะ" ครูเลิกคิ้ว

"ก็ใช่ไงครับ ผมเป็นคนหลอกล่อน้องออกไปเอง"

ไอ้โชคหันมาหาผมคอแทบหัก "มึงใช้คำห่าอะไรของมึงเนี่ย" มันกระซิบ

"อะไรนะ ภูดิน เธอหลอกล่อนายศตายุอย่างนั้นเหรอ"

ฉิบหายละกู...ทำไมกูไม่คิดให้ดีก่อนพูดวะเนี่ย ครูเริ่มมองผมด้วยสายตาไม่พอใจแล้ว

"เธอหมายความว่ายังไง เธอหลอกอะไรน้องไปฮะ นายภูดิน!" ครูสุพิชชาร้องเสียงดังแล้วยืนขึ้น

ไปกันใหญ่แน่นอน ผมส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปที่ไอ้โชค

"ครูครับ ไอ้ดินมันก็พูดไปมั่วๆ ไม่ได้คิด มันไม่ได้หลอกล่อน้องไปครับครู"

"โชคทวี เธอไม่ต้องพูด ครูพูดกับนายภูดินอยู่"

ไอ้โชคหันมาหาผมพร้อมกับทำหน้าบอกว่า 'กูไม่มีประโยชน์อะไรแล้วเพื่อน ขอให้มึงโชคดีละกัน'

"ผมใช้คำพูดผิดครับ ผมไม่ได้หลอกล่อ"

"พักนี้ครูได้ยินข่าวมาว่าพวกรุ่นพี่อย่างพวกเธอนี่แหละ อาศัยความเป็นผู้ใหญ่มาหลอกล่อรุ่นน้องเพื่อหวังจะไถเงิน หรือไม่ก็บังคับกดขี่ข่มเหง นายภูดิน เธอข่มเหงนายศตายุใช่มั้ย บอกครูมา!"

ครูสุพิชชาทั้งจริงจังและก็ซีเรียส ขณะที่ผมนั้นรู้สึกอยากจะเอาตีนก่ายหน้าผากมากๆ สิ่งที่ครูคิดมันไม่ได้อยู่ในเศษเสี้ยวของความจริงเลย แต่ผมจะบอกไปโต้งๆ ไม่ได้ว่าผมกับสตาร์ชอบกัน ถ้าบอกไปแบบนั้นเห็นทีพูดถึงบ่ายสามครูเขาก็คงไม่เข้าใจ คงต้องตอบคำถามกันยาวยืดไปอีกว่า...

'รักในวัยเรียนมันเหมาะสมแล้วเหรอ'

'พวกเธอรักเพศเดียวกันเนี่ยคิดดีแล้วใช่มั้ย'

'เอาเวลาไปใส่ใจกับเรื่องเรียนดีกว่า'

โน่น นี่ นั่น

"ครูครับ ผมภูดินนะครับ ผมทำอะไรให้โรงเรียนให้รุ่นน้องมาแล้วบ้าง ผมไม่ทำในสิ่งที่ผมเคยปราบคนอื่นมาตลอดหลายปีหรอกครับครู"

ครูชะงัก เพราะคำพูดของผมดูมีน้ำหนัก

"ผมผิดเองที่ชวนน้องออกไป มันเป็นความผิดของผม ผมยอมรับว่าผมบังคับน้องนิดหน่อย แล้วน้องมันก็ไปเพราะมันกลัวผมครับ ฉะนั้นผมอยากให้ครูปล่อยให้น้องสอบแล้วหันมาลงโทษผมแทนครับครู"

"ให้ตาย ครูปวดหัวเหลือเกิน" ครูสุพิชชาทิ้งตัวนั่งแล้วควานหายาดมบนโต๊ะ ผมอาสาหยิบให้ครู ครูรับมันไปอย่างไม่ค่อยอยากจะรับจากมือผมเท่าไหร่ "นายศตายุนี่ช่างเป็นที่รักของหลายคนจริงๆ ใครๆ ก็อยากปกป้องทั้งนั้นเลย"

"ยังไงครับครู"

"ก็เจ้าพวกห้องหนึ่งน่ะสิ มันพากันรวมหัวบอกครูว่าถ้าไม่ให้ศตายุสอบ พวกมันจะไม่ยอมส่งกระดาษข้อสอบ โอ๊ย ครูล่ะอยากจะแกล้งหักคะแนนเด็กพวกนั้นทั้งห้อง แต่เห็นนักเรียนรักกันดีมันก็อุ่นใจ"

"..."

"เอาเป็นว่าครูจะขอเก็บไปคิดก่อน ระหว่างนี้เธอกับนายโชคทวีช่วยออกไปซื้อส้มตำที่โรงอาหารมาให้ครูทานทีซิ ครูยังไม่ได้ทานอาหารกลางวันเลย"

"ได้เลยครับครู" ผมรีบลุกขึ้น ฉุดไอ้โชคให้ลุกขึ้นมาด้วย "ครูจะเอาข้าวเหนียวไก่ย่างด้วยเลยมั้ยครับ"

"ถ้ามีก็เอามาให้หมด ครูหิว" ครูเตรียมควักตังค์

"ผมเลี้ยงเองครับครู"

"จะบ้าเหรอนายภูดิน กับข้าวครู ครูจ่ายเอง"

ผมรับเงินมา จากนั้นก็รีบออกไปซื้อกับข้าวให้ครูกับไอ้โชค

นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องปวดหัวที่จะตามมาอีกหลายระลอก







กลับไปห้องพักครูรอบที่หนึ่ง

"ครูครับ วันนี้ร้านนั้นเขาไม่ทำส้มตำน่ะครับ เขาลืมหยิบปลาร้ามาจากบ้าน"

"ตายล่ะ ครูอยากกินส้มตำมากซะด้วย ไม่เป็นไร งั้นครูเปลี่ยนเป็นอาหารตามสั่งก็แล้วกัน ไปบอกเขาว่าครูอยากกินผัดเผ็ดหมูป่า ปลาราดพริก และก็น้ำพริกกะปิ"







กลับไปห้องพักครูรอบที่สอง (เหงื่อเริ่มออก)

"ที่ครูสั่งผมมันไม่มีสักอย่างเลยครับ"

"นี่ครูเริ่มโมโหหิวแล้วนะ ไปหาข้าวมันไก่มาให้ครูละกัน!"









กลับไปห้องพักครูรอบที่สาม (หอบเสียงดัง)

"แฮ่ก ครูครับ ข้าวมันไก่ขายจานสุดท้ายไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว"

"ถ้าอย่างนั้นก็ข้าวขาหมู"

เยส! ผมตีมือกันกับไอ้โชคแล้วส่งกล่องข้าวข้าหมูไปให้ครู "ทานให้อร่อยนะครับ"

ผมกับไอ้โชคนั่งพักเหนื่อยกันอยู่ที่หน้าโต๊ะครูสุพิชชานั่นแหละ ทำตัวหน้ามึนไม่ยอมลุกไปไหนเพราะแอร์ในห้องมันเย็น พักไปได้สักครู่ก็นึกอะไรออกขึ้นมา

"ครูครับ แล้วครูจะให้ศตายุสอบมั้ยครับ"

"เสร็จแล้วครับครู" สตาร์เลื่อนประตูกระจกออกมาจากห้องห้องหนึ่ง มันมองมาที่ผมอย่างขำๆ ก่อนจะพูดติดตลกว่า "พี่ดินมาทำไรเนี่ย"

ไอ้โชคกับผมมองสบตากัน แบบนี้ก็แปลว่า...

"ดีมาก ทำข้อสอบไม่เกินเวลา" ครูสุพิชชารับข้อสอบมาจากสตาร์ จากนั้นก็เริ่มแกะข้าวขาหมู

"ครู" ผมทำเสียงอ่อย "ครูแกล้งผมเหรอ" แบบนี้แปลว่าสตาร์มานั่งสอบอยู่ตั้งนานแล้วใช่มั้ย

"ไม่ได้แกล้งสักหน่อย"

"ครูปล่อยให้สตาร์ทำข้อสอบอยู่ แต่ครูก็ทำเหมือนจะไม่ให้มันสอบอ่ะ"

"ครูว่าตลกดีตอนที่เธอทำหน้าโอดครวญเหมือนจะร้องไห้น่ะ ปกติพี่ดินของน้องๆ ทำหน้าแบบนี้บ่อยซะที่ไหน จริงมั้ยจ๊ะศตายุ"
 
"ครับ" สตาร์ขำเบาๆ น้องมันคงได้ยินเสียงผมอ้อนวอนครูแบบแทบจะเกาะขาครูเลยใช่มั้ย

"สตาร์ไม่เห็นพี่ตอนพี่คุกเข่าเหรอ" ทำไมไม่ส่งสัญญาณอะไรให้เลยวะ

"ตอนนั้นทำข้อสอบอยู่"

ผมแกล้งเบะปากนิดๆ ใส่ครูพร้อมยกมือไหว้ลา ไม่รู้สึกเจ็บใจอะไรแต่กลับดีใจมากที่สตาร์ได้สอบ เราสามคนออกมาจากห้องพักครู ทันทีที่พ้นมาไอ้โชคก็ดึงเสื้อออกมานอกกางเกงทันที

ผมเองก็เหมือนกัน

สตาร์คนเดียวที่ยังอยู่ในระเบียบมองผมแล้วยิ้ม "กลัวสตาร์ไม่ได้สอบล่ะสิ"

"ใช่ไง เป็นห่วงด้วย เห็นทำหน้าเหมือนจะตาย"

"ตายสิ ตั้งยี่สิบคะแนนดิบอ่ะ"

"แล้วครูเขาหักอะไรป่ะ"

"ห้าคะแนน โทษฐานสอบช้า"

"หูย เสียดายแทน"

"แต่ไม่เป็นไร ที่เพิ่งสอบไปก็น่าจะเต็มอยู่"

พ่อคนเก่งของพี่ ผมมองซ้ายมองขวา ไอ้โชคหายไปไหนไม่รู้ราวกับมันล่องหนได้ สงสัยคงอยากปล่อยให้ผมอยู่กับน้องสองคน

"ขอบคุณนะครับพี่ดินที่มาช่วยขอร้องครูให้ ทั้งๆ ที่เพื่อนผมทำสำเร็จไปแล้ว ฮ่าๆๆ"

"โอ้ย น่าอับอายขายขี้หน้า" ผมปิดหน้าปิดตา

"อายอะไรล่ะ น่ารักออก" สตาร์ยิ้ม "เป็นแมวที่แมนโคตรๆ เลยครับ"

"ถ้าพี่เป็นแมว สตาร์จะเป็นอะไรดี"

"ไม่น่าจะเรียกว่าเหยื่อเนอะ เพราะพี่ดินก็ไม่ใช่เสือแล้ว"

"เป็นปลาทู"

"ปลาทูเนี่ยนะ"

"ใช่"

"น่ารักตรงไหน"

"น่ารักก็แล้วกัน พี่อยากกินอยู่ทุกวัน"

"หา"

"อยากกินจริงๆ นะ" ผมก้มหน้าลงไปกระซิบ "ปากแมวตัวนี้คิดถึงปากปลาทูจังเลยครับ"

สตาร์ถองสีข้างผม จากนั้นก็รีบจ้ำอ้าวเดินหนีผมไปอย่างรวดเร็ว มันคงกำลังเขินผมอยู่นั่นแหละ

เห็นอย่างนี้ผมก็เขินอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ไม่แสดงออกเพราะผมคือพี่ดิน และแถวนี้ก็มีรุ่นน้องอยู่เยอะมาก ทุกคนล้วนแล้วแต่ยกมือไหว้ผม ผมก็เลยไม่กล้าแสดงออกว่าเขินเท่าไหร่ ต้องเก๊กท่าเอาไว้

แต่ถึงจะพยายามเก๊กแค่ไหนก็หลุดอยู่ดี เพราะต้องตามตูดสตาร์ต้อยๆ

คนมองดูคงจะรู้สึกตลกกันไม่มากก็น้อย

การวิ่งตามและเดิมตามก็คือการแสดงความรักอีกอย่างหนึ่งครับ






TBC*



ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12




ตอนที่ 14





หลังจากนั้นอีกหลายวันในเวลาหลังเลิกเรียน

ผมที่กำลังตีปิงปองในห้องกับเพื่อนอยู่ (ใช้โต๊ะหกตัวเอามาเรียงกันเป็นโต๊ะปิงปอง) ไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าหน้าห้อง 6/2 ของผมมีแขกผู้ทรงเกียรติยืนอยู่ เพราะตอนนี้ผมกำลังเป็นผู้เข้าแข่งขันแล้วก็เอาชนะเพื่อนไปแล้วทั้งสิ้นห้าคน ฉะนั้นเวลานี้เลยจริงจังกับการตีปิงปองมากเพราะต้องการชัยชนะติดๆ กัน ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเลย

"ดิน"

"ไงล่ะมึง ไงล่ะ!"

"เชี่ยดิน"

"ปิงปองพิฆาต มึงตายแน่ ลูกนี้ต้องโดนไข่มึงเว้ยธนัช!"

"ไอ้เหี้ยดิน!!!!!"

เสียงไอ้โชคดังลั่นห้องจนผมเผลอหันไปมอง ธนัชมันก็เลยได้โอกาสตีมาสุดแรง กลายเป็นผมเสียแต้มให้มันในลูกนั้น ไอ้โชคกำลังยืนอยู่ข้างๆ สตาร์ที่ยืนกระพริบตามองผมอยู่

ผมนี่วางไม้ปิงปองเลยครับ

"เชี่ยดิน มึงมาแข่งต่อเดี๋ยวนี้เลย ไอ้แชมป์ห้าสมัย!"

"กูยอมแพ้แล้ว" ผมบอกกับเพื่อน พวกมันดูอึ้งๆ ที่ผมยอมแพ้ง่ายๆ ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ผมกะเป็นแชมป์ประจำห้อง ทำไงได้ล่ะ สตาร์มาหาผมนี่ น้องย่อมสำคัญกว่าทุกอย่างอยู่แล้ว

ผมเดินไปแทรกกลางระหว่างสตาร์กับไอ้โชคทันที รู้สึกได้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับน้องแบบนี้มาหลายวันแล้วเพราะต่างคนต่างก็ยุ่ง แล้วเหตุผลก็เป็นเรื่องเดิมๆ นั่นแหละครับนั่นก็คือเรื่องเรียน

ผมอ่านหนังสือสอบ ส่วนสตาร์เองก็ยุ่งอยู่แต่กับการเรียนพิเศษ มีวันที่ผมไปเรียน ร.ด.ที่เราสองคนไม่ได้เจอหน้ากัน นอกนั้นก็คือเจอกันทุกวันแต่ไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนใหญ่จะเดินสวนกันและก็ถามว่าเป็นไงบ้างแค่นั้น พอได้มาเห็นหน้าวันนี้ก็รู้สึกอิ่มเอมในหัวใจ คาดว่าน้องน่าจะมีอะไรพูดกับผมเยอะอยู่ ไม่รีบเดินหนีไปเหมือนคนธุระรัดตัวแบบเมื่อหลายวันก่อนๆ อีกแล้ว

รู้สึกดีใจฉิบหาย แต่ผมต้องรีบดันไอ้โชคให้หลบไปพ้นทางก่อน

"น้องสตาร์ มาหาเพื่อนพี่ต้องเสียตังค์น้า" เพื่อนผมเริ่มปล่อยให้หมาในปากทำงานทันที พวกมันเลิกสนใจการแข่งขันชิงแชมป์ปิงปองระดับห้องแล้วครับ มันหันมาสนใจผมกับสตาร์กันหมด "เพราะเพื่อนพี่กว่าจะได้ไลน์น้องก็ต้องเสียตั้งหลายบาทเลย จริงมั้ยเชี่ยดิน"

"กูไม่ได้เสียตังค์เว้ย กูขอไปเรื่อยๆ เอา" ผมพยายามดันหลังสตาร์ให้ออกไปจากประตู แต่เพื่อนก็ดันมาขวางทางเอาไว้ เพื่อนห้องผมยั้วเยี้ยเต็มไปหมดเลยตอนนี้ ทั้งในห้องและก็นอกห้อง

พวกมึงไม่พากันกลับบ้านกลับช่องเหรอวะแสด

"ชอบเพื่อนพี่เหรอน้อง"
"ไม่ชอบพี่บ้างเหรอ"
"ไอ้ดินมันเป็นเสือนะคร้าบ"
"คิดจะคบมันต้องคิดดีๆ ก่อน โทรมาถามพี่ได้ที่เบอร์ศูนย์แปดเก้า..."

"ฟวย ไปให้พ้นทางกูเลยทุกคน" ผมโอบไหล่สตาร์แล้วเดินหนี พวกมันร้องแซวไล่หลังมา ผมโดนบ่อยจนชินแล้ว แต่สตาร์ดูเหมือนจะตื่นๆ ไปสักหน่อย

"วันหลังให้พี่ไปหาที่ห้องดีกว่า" ผมพูดหลังจากที่เราสองคนอยู่บริเวณที่ไม่มีใครเดินผ่านแล้ว "มีอะไรเหรอ"

สตาร์ดูตื่นเต้นปนกังวล มันมีเรื่องจริงๆ ด้วย เกิดอะไรขึ้นวะ นี่ใจผมแป้วไปก่อนแล้วนะเนี่ย

"ตรงนี้ไม่ดีมั้งพี่"

"ทำไมเหรอ ไม่มีใครผ่านแล้วนะ"

"ไม่ดีจริงๆ ครับ"

"แล้วสตาร์อยากไปไหนล่ะ"

สตาร์มองไปที่ห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ สลับกับมองผม จากนั้นสตาร์ก็หลับหูหลับตาดึงมือไปเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อเห็นว่าไม่มีคนอยู่ข้างในก็ปิดประตู

เฮ้ย แบบนี้ผมคิดลึกนะ

สตาร์คิดถึงผมหนักไปแน่ๆ นี่มันกำลังจะทำอะไร

ผมต้องกลืนน้ำลายระงับอาการตื่นเต้นของตัวเองเอาไว้ ที่จริงผมตื่นเต้นตั้งแต่อยู่ในที่ลับหูลับตาคนสองต่อสองแล้วล่ะ สตาร์เดินเข้ามาใกล้ผมช้าๆ ขณะที่ผมก็ก้าวถอยหลังช้าๆ เช่นกัน

มันกลับกันนี่ ผมต้องเป็นฝ่ายเข้าหาสตาร์ก่อนไม่ใช่เหรอวะ

"พี่ดิน"

"..."

"ถ้าไม่ก้มหน้าสตาร์จูบไม่ถึงนะ"

เหยดเข้

ผมกระพริบตาปริบๆ รู้สึกอยากแคะขี้หูตัวเองแล้วฟังใหม่ อาจเป็นเพราะผมก้มหน้าลงไปใกล้เพื่อฟังใหม่มั้ง สตาร์เลยพุ่งเข้ามาหาผมด้วยท่าทีเงอะๆ งะๆ

ครั้งนี้มันเป็นคนเริ่มก่อน ตอนแรกก็จับทางไม่ค่อยได้ ผมต้องช่วยมันด้วยการประคองศีรษะเพื่อให้ริมฝีปากของเราทั้งคู่สัมผัสกันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ส่วนอีกมือหนึ่งผมรั้งเอวของอีกฝ่ายให้เข้ามาแนบชิดสนิทกับตัวผม ครั้งที่แล้วมันอาจจะกะทันหันมากเกินไป แต่ครั้งนี้ผมอยากให้สตาร์ได้เรียนรู้อะไรที่มันลึกซึ้งกว่านั้น

พวกเราต้องเข้าใกล้คำว่าดูดดื่ม...

ปลายลิ้นของผมเกี่ยวกระหวัดเข้ากับปลายลิ้นของอีกฝ่ายราวกับต้องการสูบพลังชีวิต ราวกับลมหายใจของสตาร์คือสิ่งเดียวที่ผมต้องการในเวลานี้ คนตัวเล็กรับสัมผัสของผมจนตัวเอน ถูกผมกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนเสื้อนักเรียนของเราทั้งคู่ยับยู่ยี่ไปหมด เมื่อเริ่มรับไม่ไหวอีกต่อไป น้องก็ทุบผมที่ไหล่หลายๆ ครั้งเพราะหายใจไม่ทัน 

หลังจากที่เราทั้งคู่ผละออกจากกัน ผมหน้าแดงก่ำ สตาร์เองก็เช่นกัน ริมฝีปากของสตาร์บวมเจ่อเล็กน้อย สภาพนั้นของมันทำเอาผมต้องเลียริมฝีปากตัวเองเพราะอยากสัมผัสริมฝีปากอีกฝ่ายอีกครั้ง

"พี่ตกใจนะ" ผมพูดเก้อๆ เกาศีรษะของตัวเอง "คิดถึงพี่เหรอ"

"คิดถึงครับ"

"..."

"แต่เรื่องนี้...พี่ดินเป็นคนขอเอาไว้"

ผมขมวดคิ้ว มองดูสตาร์ที่เหมือนกำลังรวบรวมความกล้า

"เรื่องอะไร"

"ถ้าสตาร์จะไปหาพี่เรย์ สตาร์ต้องมาจูบพี่ก่อน"

เฮ้ย ไอ้เหี้ยเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย

รู้สึกเหมือนเรือกำลังแล่น แต่แล้วจู่ๆ ก็ชนภูเขาน้ำแข็งแล้วพลิกคว่ำ

"สตาร์มาจูบพี่แล้วนะ"

"..."

"ไปก่อนนะ"

เหมือนผมถูกรางวัลล็อตเตอรี่แล้วมีคนขโมยรางวัลผมไปต่อหน้าต่อตา สตาร์หันมองผมอย่างหนักใจอีกครั้งก่อนที่จะเปิดประตูห้องน้ำออกไป

ผมมองตามอย่างงงๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก แม้กระทั่งขณะที่เราทั้งคู่จูบกัน อันที่จริงตอนที่ผมพูดว่าหากสตาร์จะไปหาไอ้เรย์ก็ต้องมาจูบผมก่อน ผมพูดเพราะความคะนองปากและไม่คิดว่าสตาร์จะทำจริงๆ แต่เมื่อมันทำจริง ความดีใจที่ผมได้สัมผัสปากของมันกลับลดน้อยลงไปอย่างรวดเร็วเมื่อมันฟาดหน้าผมด้วยคำพูดที่ว่าจะไปหาไอ้เรย์

แบบนี้จูบอีกร้อยทีก็ไม่ยอมให้ไปหรอกว่ะ

ผมรีบกลับเข้ามาในห้อง เพื่อนจัดโต๊ะให้เรียงกันเป็นเหมือนเดิมแล้วก็เริ่มทยอยกลับบ้านกันแล้ว

"เห็นสตาร์มั้ย" ผมร้องถามทุกคนอย่างไม่เลือกหน้า

"มึงเป็นคนลากน้องออกไปอ่ะ พวกกูจะไปเห็นได้ไง" ไอ้ไผ่ตอบ

เรื่องไอ้เรย์นี่เร็วจริงๆ เลยนะ ผมรีบคว้าเป้ของตัวเอง บอกลาเพื่อนๆ แล้วรีบวิ่งลงบันไดทันที เผื่อผมจะตามสตาร์ได้ทัน

ขาสั้นๆ ของสตาร์จะหนีผมไปได้สักกี่น้ำ ในที่สุดผมก็ตามทัน ดูเหมือนสตาร์กำลังรีบมาก คล้ายกับต้องการจะพุ่งไปที่ไหนสักแห่ง รีบกว่าตอนที่จู่โจมผมในห้องน้ำตะกี้อีก

แม้จะหงุดหงิดและโมโห แต่ผมก็เชื่อใจสตาร์อย่างที่ผมกับเขาเคยได้คุยกันหลายต่อหลายครั้ง ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ผมก็ไม่สามารถปล่อยให้สตาร์ไปตามลำพังได้อยู่ดี ขึ้นชื่อว่าไอ้เรย์อะไรก็อันตรายทั้งนั้นนั่นแหละ

มันจะไปไหนกันแน่วะ...








โรงพยาบาล V

สตาร์มาทำอะไรที่นี่ ผมตามมันมาตั้งแต่ออกจากโรงเรียนจนมาถึงที่นี่ เราทั้งคู่ยังอยู่ในชุดนักเรียนและดูเหมือนสตาร์จะไม่ได้แคร์เรื่องนั้นเลย ผมหยุดชะงักตอนที่สตาร์เดินไปถามพยาบาลเพื่อตามหาใครคนหนึ่ง หลังจากนั้นก็เดินตามสตาร์ไปอีกครั้งเมื่อมันออกเดิน

สตาร์พาผมขึ้นไปยังห้องพักผู้ป่วยพิเศษ หยุดยืนที่หน้าห้องหนึ่งสักครู่ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ผมรอให้สตาร์เข้าไปในห้อง แล้วค่อยพาตัวเองไปอ่านชื่อของผู้ป่วยที่อยู่หน้าห้องด้วยความสงสัย

นายรชต ขจรเฉลิม อายุ 18 ปี

สิ่งแรกที่แวบเข้ามาในหัวของผมคือ 'ไอ้เหี้ยนี่ใครหว่า'

พอผมมองเข้าไปข้างในผ่านกระจกผมก็ถึงบางอ้อ สตาร์บอกจะมาหาไอ้เรย์และคนในห้องก็คือไอ้เรย์นั่นแหละครับ เหมือนมันโดนเล่นมาไม่น้อยเพราะน่วมไปทั้งตัว ขาถูกดามเอาไว้ด้วยเหล็ก มีสายระโยงระยางห้อยเต็มไปหมด

ผมตกใจเล็กน้อย แต่ที่ตกใจกว่าก็คือในห้องไม่มีใครเลยนอกจากสตาร์กับไอ้เรย์ที่นอนอยู่บนเตียง

สารภาพตามตรงคือหัวใจผมวูบลงไปอยู่ที่ข้อเท้า อย่างที่ผมบอกก่อนหน้านี้ เหมือนผมถูกล็อตเตอรี่แล้วมีคนขโมยรางวัลผมไปซะงั้น คนขโมยไม่ใช่ใครที่ไหน มันคือคนเดียวกันกับคนที่ขโมยหัวใจผมไป

คนคนนั้นก็คือสตาร์

น้องรีบมาขนาดนี้ แปลว่าห่วงไอ้เรย์มากเลยสินะ

ผมทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ยาวหน้าห้องด้วยความรู้สึกมึนๆ ตึงๆ ใจหนึ่งอยากจะเดินหนีแล้วก็เก็บไปคิดทบทวนเองคนเดียว แต่ร่างกายไม่ยอมพาผมไปไหน มันสั่งให้ผมหยุดรอที่นี่ รอให้สตาร์ออกมา ให้มันมาบอกผมว่าผมกับมันยังเหมือนเดิมและผมคิดมากไป

ไม่รู้สิครับ มาเจอจังๆ แบบนี้มันก็ต้องคิดมากอยู่แล้ว ผมไม่มีทางห้ามความคิดในแง่ลบของตัวเองได้แน่ๆ สตาร์บอกกับผมเสมอว่ามันกับไอ้เรย์ไม่มีอะไร แต่ผมก็อดหวั่นๆ ในใจไม่ได้อยู่ดี เหมือนที่สตาร์เคยบอกเอาไว้นั่นแหละว่ากลัวผมไม่เคลียร์เรื่องหยก

แล้วมันล่ะ เมื่อไหร่จะเคลียร์เรื่องไอ้เรย์สักทีวะ

ยิ่งเวลาผ่านไปนานก็ยิ่งรู้สึกร้อนรุ่ม ผมกลัวว่าพอเข้าไปในห้องแล้วผมจะต้องเจอกับฉากที่หยกเคยทำกับผมเอาไว้ ก่อนเลิกกันผมไปหาหยกที่บ้านเพื่อจะเอาของขวัญวันเกิดไปให้ แต่ภาพที่ผมเห็นก็คือหยกกำลังอยู่กับรุ่นพี่นักศึกษามหา'ลัยแล้วก็กำลังพลอดรักกันแบบไม่แคร์สิ่งใดบนโลก

มันเป็นภาพฝังใจผม กว่าจะทำใจเรื่องนั้นได้ใช้เวลาเกือบปีและผมก็ได้มาเจอกับฟืนพอดี ผมกลัวว่าตัวเองจะได้เห็นภาพนั้นอีกครั้ง แล้วถ้าสตาร์ทำแบบที่หยกเคยทำล่ะก็ ผมว่าเวลาทำใจของผมครั้งนี้คงไม่ใช่แค่เกือบปีแล้วล่ะ

อาจจะหลายปีเลยทีเดียว...

แม่ง ผมทนไม่ไหวแล้วว่ะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดดิ

ถ้าสตาร์จะเป็นแบบหยกผมก็ขอเจอแล้วจบเลย อย่ายื้อ อย่าประวิงเวลา อย่าอะไรทั้งนั้น ชีวิตมันสั้น เวลาเป็นสิ่งมีค่า

ผมก็พูดไปงั้น จริงๆ แล้วผมคิดว่าสตาร์อยู่ในห้องนั้นนานเกินไปแล้วต่างหาก

ผมเปิดประตูพรวดเข้าไปอย่างไม่แคร์ว่าคนที่อยู่ในห้องจะทำอะไรกันอยู่ ภาพที่ผมเห็นคือสตาร์นั่งอยู่ข้างเตียง มือหนึ่งเล่นโทรศัพท์ ส่วนไอ้เรย์หลับอยู่บนเตียงเฉยๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในแบบที่ผมกลัวเลยสักนิด

การมโนในแง่ลบของผมจบลงในตอนนั้น

"พี่ดิน" สตาร์ร้องเมื่อเห็นผม มันรีบลุกขึ้นมาหาพร้อมทำหน้าตกใจอย่างยิ่งใหญ่ "มาได้ไง"

"ถ้าจะบอกว่าพี่ไม่โมโห พี่ก็คงโกหก"

สตาร์ผลักผมให้ไปยืนอยู่ที่หน้าห้องน้ำ บริเวณที่คนบนเตียงผู้ป่วยจะมองไม่เห็น

"ทำไมมาหามัน พ่อแม่มันไม่มีใครมาดูบ้างเหรอ"

สตาร์ส่ายหน้า "ไม่มีหรอกครับ"

"แล้วเพื่อนๆ มันล่ะ"

"ไม่มีใครรู้ว่าพี่เรย์เจ็บ"

"แล้วทำไมสตาร์ต้องรู้ สตาร์เป็นเมียมันเหรอ สตาร์กำลังจะเป็นเมียพี่ไม่ใช่หรือไง"

เสียงของผมดังขึ้นเรื่อยๆ จนอีกฝ่ายต้องพยายามปรามผม

"พี่ดิน มันไม่มีอะไร"

"ก็รู้ แต่พี่ไม่ชอบให้เรามาอยู่ใกล้ๆ มัน"

"..."

"ถ้าสตาร์อยู่ พี่ก็จะอยู่ด้วย"

"ถ้าพี่เรย์ตื่นแล้วมาเจอพี่ดิน ได้มีเรื่องกันพอดี"

"แล้วไง ถ้ามันลุกไหวก็ให้มันมาตีกับพี่เลย" ผมร้องอย่างเหลืออด "แบบนี้จูบอีกร้อยครั้งก็ไม่ยอมหรอก พี่บอกเลย"

"งั้นก็โกหกดิ" สตาร์ทำหน้ามุ่ย "ที่บอกว่าจูบแล้วจะยอมให้มาหาพี่เรย์ได้"

"พี่โง่เองที่พูดไปแบบนั้น พี่ไม่คิดว่าพี่จะหวงขนาดนี้"

"..."

"ใจพี่ใกล้จะขาด ตัวพี่ก็ใกล้จะเป็นบ้า โอ้ย ทำไมต้องทำให้พี่รู้สึกแบบนี้ด้วยวะ"

"โอเค พี่ดิน" สตาร์จับไหล่ทั้งสองข้างของผม "พี่ดินอยู่ได้ แต่พี่ดินสัญญากับสตาร์ก่อนว่าอย่าเสียงดัง พี่เรย์ต้องการพักผ่อน"

"ห่วงมันมากหรือไงวะ" ผมหน้ามุ่ยบ้าง "ถ้าพี่เป็นแบบนี้บ้าง ระหว่างพี่กับมัน...เราห่วงใครมากกว่ากัน" หรือนี่จะเป็นประเด็นหลักที่ผมกำลังโมโหอยู่

น้อยใจได้เด็กน้อยมากจริงๆ กู...

"ไม่น่าถามเลยนะ" สตาร์ขมวดคิ้ว "ตอนนี้พี่เรย์ไม่มีใครเลย เรามีน้ำใจเราก็ต้องช่วยเหลือถูกมั้ยครับ พี่ดินช่วยคนอื่นมาเยอะก็น่าจะรู้นี่"

"ดีมากไปจนมีคนหึงเป็นบ้าเป็นบอแบบนี้ พี่ว่าเราเหี้ยบ้างก็ได้นะ"

สตาร์มองเหมือนผมพูดอะไรที่แปลกประหลาด ก็มันจริงอ่ะ เรื่องความรักใครๆ ก็อยากเห็นแก่ตัวไม่ใช่เหรอ มันพาผมเดินมาหาเรย์อีกครั้ง บอกให้ผมนั่งตรงโซฟา ส่วนมันจะไปนั่งข้างๆ เตียง

ไม่เอาแบบนี้ดิวะ

"มานั่งนี่" ผมพูดเสียงเบา แม้จะไม่ชอบไอ้เรย์แต่เห็นมันอาการหนักก็ไม่อยากจะรบกวนมัน

สตาร์ทำสีหน้าอ่อนใจ ก่อนจะยอมมานั่งข้างๆ ผมอย่างที่ผมปรารถนา ผมกระหยิ่มยิ้มย่อง เอื้อมมือไปจับมือของสตาร์เอาไว้อย่างหน้าด้านๆ

"พี่ดิน" สตาร์เขย่ามือ ผมไม่ยอมปล่อยง่ายๆ "ดื้อจริง"

"อยากทำอะไรก็ทำไปดิ พี่ก็จะทำในแบบของพี่อย่างนี้"

"ยอมแล้ว ยอมเลย"

ผมยิ้มเล็กๆ ส่วนสตาร์ส่ายหน้า เราทั้งสองคนจ้องมองไปที่เตียงซึ่งมีเรย์หลับอยู่ จากนั้นความเงียบก็ครอบงำพวกเรา มีเพียงเสียงแอร์ของโรงพยาบาลเท่านั้นที่กำลังดังอยู่

ไออุ่นจากมือของสตาร์ทำผมตื่นเต้นเล็กน้อย ผมมองไปที่ใบหน้าด้านข้างของคนตัวเล็ก ไล่ตั้งแต่ปลายจมูกลงไปจนถึงริมฝีปากที่ผมเพิ่งได้สัมผัสเมื่อไม่นานมานี้ สตาร์เป็นคนปลายจมูกรั้นรับกับริมฝีปากบางอันเล็กกระจิ๋วหลิว พอมาอยู่รวมกันแล้วมองจนละสายตาไม่ได้

เพราะงี้มั้งผมถึงได้หวงมากขนาดนี้

"พี่ดินไม่ได้ไอดีไลน์มากี่วันแล้วเนี่ย"

"ไม่รู้สิ เหมือนตัวล่าสุดได้มาชาติที่แล้ว ก็เราต่างคนต่างยุ่งนี่"

"เอางี้ ถ้าพี่ดินปล่อยมือ สตาร์ให้ไอดีไลน์เลย"

"งั้นไม่ปล่อย"

"อ้าว"

"ไอดีไลน์พี่ไม่เอาก็ได้ พี่อยากอยู่ใกล้สตาร์แบบนี้"

ผมพูดความจริงจากใจ ไอดีไลน์มันจะไปสำคัญอะไรเท่าการได้สัมผัสกันและกันวะ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากเรื่องของผมกับสตาร์ ถ้าคิดถึงมากก็ไม่ต้องแชท แต่พาตัวเองไปหาเลยครับ ง่ายๆ แค่นี้

"ยอมเลย"

สตาร์ยอมผมอีกแล้ว ยอมจริงป่ะวะ "ยอมแน่เหรอ"

"ก็ยอมหลายครั้งแล้วนะวันนี้"

"งั้นก็ยอมเป็นแฟนพี่เร็วๆ ดิ"

"ไม่"

โห่ โดนปฏิเสธอีกละ สตาร์หยิบโพสต์อิขึ้นมา มองดูมือขวาที่กำลังถูกผมจับอยู่

"สตาร์จะเขียนยังไง"

ผมปล่อยมือ แต่เอาขายาวๆ ของผมไปพาดบนต้นขาขาวๆ ของสตาร์แทน

"คำว่าความเกรงใจล่ะพี่ดิน"

"พี่ไม่เคยมีอยู่แล้ว"

อีกฝ่ายดูเหนื่อยกับผม แต่ติดจะขำๆ มากกว่า สตาร์มองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วก่อนจะลงมือเขียน จากนั้นก็ส่งมาให้

ไอดีไลน์ตัวที่ 14
S
หึงให้มันน้อยลงมาหน่อย


ผมอ่านจบก็เก็บเข้ากระเป๋าเสื้อ แล้วค่อยคว้ามือนิ่มมาจับไว้เหมือนเดิม "ไม่มีวันซะล่ะ"

"พี่หยกเลิกโทรมาหรือยัง" สตาร์ถามเสียงเย็น หือ นี่มันกำลังจะประกาศสงครามกับผมเหรอ พยายามจะบอกผมว่าฝั่งผมก็ไม่เบางั้นใช่มั้ย

"ตั้งแต่วันนั้นก็ยังไม่โทรมาอีกเลย"

"แน่นะ"

"แน่สิ" ผมใช้มือข้างที่ว่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาให้สตาร์ดู พร้อมกดประวัติการโทรเข้าโทรออก ส่วนใหญ่มีแต่เบอร์พ่อแม่ เบอร์ไอ้พิงค์ที่ชอบสั่งให้ซื้อของกินกลับบ้านไปให้ เบอร์ไอ้โชค เบอร์ไอ้ธนัช และก็เบอร์ไอ้ไผ่ ชีวิตผมมีอยู่แค่นี้จริงๆ

"นี่คือโทรศัพท์ของพี่ดินคนฮอตของน้องๆ จริงๆ เหรอวะเนี่ย" นัยน์ตาของสตาร์เป็นประกาย

"พี่ไม่มีสาวโทรมา แต่พี่โทรหาสาวได้นะ"

เท้าของสตาร์เตะเข้าที่หน้าแข้งผมเบาๆ รีแอ็กชั่นแรงว่ะ นี่แค่พูดเล่นนะเนี่ย

"ฮ่าๆๆ"

"..."

"หึงให้มันน้อยลงมาหน่อยนะน้อง"

สตาร์มองผมอย่างหมั่นไส้ ผมหัวเราะอย่างสุขใจที่แหย่คนข้างๆ ได้ แม้สถานที่ที่เราอยู่มันค่อนข้างเป็นที่ที่ไม่เหมาะเท่าไหร่ก็เถอะ
ยังไม่รู้เลยครับว่าจะรับมือกับไอ้เรย์ตอนตื่นยังไง 





TBC*




ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12


ตอนพิเศษ
พาร์ตของเรย์




เสียงหัวเราะงุ้งๆ งิ้งๆ ทำเอาผมต้องลืมตาตื่นขึ้นมา ภาพที่ผมเห็นเป็นภาพที่สร้างรอยแผลให้ผมอีกหนึ่งรอย ทั้งๆ ที่ผมมีแผลไปทั่วทั้งตัวอยู่แล้ว

นั่นคือภาพของคนที่ผมชอบกับคนที่เขาชอบอยู่ด้วยกัน

แม่ง พามาควงเย้ยกันทั้งๆ ที่กูเจ็บเจียนตายอยู่เนี่ยนะ

"หึงให้มันน้อยลงมาหน่อยนะน้อง" เสียงของไอ้ดินพูดกับอีกฝ่ายเป็นเสียงหวานที่ผมไม่เคยได้ยินจากปากคนอย่างมัน มันคือคนที่ใครหลายคนมักจะบอกว่าเป็นผมในเวอร์ชั่นเทวดา ดูดีดูเนี้ยบไปหมดทุกกระเบียดนิ้วแม้หน้าตาของมันจะไม่ค่อยเหมาะกับกฎระเบียบสักเท่าไหร่ก็ตาม

จากนั้นพวกมันก็เงียบ ไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าผมลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว ผมเห็นทั้งสองจับมือกันด้วย ไอ้ดินมันดึงมือสตาร์ไปไว้ตรงหน้าขาของมันเลย ดูก็รู้ว่าคนนี้มันหวงและก็จริงจังมาก ผิดกับคำพูดของผมที่เคยเป่าหูสตาร์แบบหลอกๆ ว่าดินมันทำเป็นจริงจังกับคนที่มาทีหลังหยกทุกคน ตอนแรกสตาร์ก็เชื่อดีอยู่หรอก แต่หลังๆ ดูเหมือนเขาจะไม่เชื่ออีกต่อไป

เหมือนเขาเลือกที่จะเชื่อหัวใจตัวเอง แทนที่จะเชื่อคำพูดของคนอื่น

ผมมองดูใบหน้าของคนที่ผมหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ผมชอบสตาร์ตอนอยู่ ม.5 เทอมสอง ตอนนั้นสตาร์อยู่ ม.4 ผมเดินสวนกับสตาร์ในสยาม ติดใจในความวิ้งที่เด็กผู้ชายน้อยคนนักจะทำให้ผมต้องหันกลับไปมองจนคอแทบหักได้ หลังจากสืบเรื่องของเขาอยู่ไม่นานก็รู้ว่าชื่อสตาร์ เป็นเพื่อนกับไอ้ตือที่เข้ามาติดเงินผมกับเพื่อนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน

แบบนี้ก็เข้าทางผมเลยสิ

ผมใช้อำนาจมืดหลอกล่อให้สตาร์เข้ามาติดกับผม ยอมอยู่ใกล้ๆ ผมแบบที่ผมต้องบังคับ ต้องใช้วิธีนี้เพราะรู้ว่าคนอย่างสตาร์ที่ขาวสะอาดคงไม่ยอมมายุ่งกับคนที่มีสีดำแบบผม ยิ่งได้อยู่ใกล้ๆ ผมก็ยิ่งหลงใหลในตัวของสตาร์ เพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้นี่เองว่าคนแบดอย่างผมชอบคนดี เพราะงั้นผมจึงต้องปรับปรุงตัว

ผมบอกให้เด็กโรงเรียนผมทุกคนเลิกยุ่งกับเด็กโรงเรียนสตาร์ บอกก่อนที่สตาร์จะมาขอร้องอีกครับ และผมก็พยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นมาก จากที่ไม่เคยคิดจะสมัครสอบเข้ามหา'ลัยของรัฐบาล ก็ต้องสมัครเพราะสตาร์บอกให้ทำ ไปโรงเรียนบ่อยมากขึ้นทั้งๆ ที่ปกติมักจะไปมั่วสุมอยู่ร้านเกม และผมก็กลับบ้านมากขึ้นทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าที่บ้านไม่มีคนอยู่

ทั้งหมดที่ผมทำเป็นเพราะสตาร์ คนที่มีความรักจะเข้าใจผมว่าทำไมถึงอยากปรับปรุงตัวเราเองให้ดี ที่เราทำเพราะเราอยากให้คนที่เรารักภูมิใจ

ถึงแม้ว่าคนคนนั้นเขาจะไม่รักเราก็ตาม

ผมห่างกับสตาร์สักพักเพราะผมมีเรื่องกับรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว มันเป็นเรื่องภายในที่คาราคาซังและคงจะยืดไปอีกนาน ผมกลัวว่าพี่คนนี้มันจะรู้ว่าผมชอบสตาร์แล้วจะหาเรื่องไปยุ่งกับน้องมัน ไอ้พี่ห่านี่มันทำได้ทุกอย่างนั่นแหละถ้าผมเจ็บปวด ผมต้องห่างจากคนที่ผมชอบเพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน ใครจะรู้ว่ากลับไปอีกทีหนึ่ง สตาร์ก็มีใจให้ไอ้เชี่ยดิน คนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับผมมานาน

ตอนนั้นผมเจ็บจนเมาไปหลายวัน เมื่อวานก็เช่นกัน ผมเมาและก็ขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน อุบัติเหตุเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลคือกระดูกขาของผมหัก ไม่ค่อยมีใครรู้เท่าไหร่ว่าผมรถล้มมา ส่วนใหญ่ก็คงจะคิดกันไปนั่นแหละว่าผมโดนอริซ้อม ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขความเข้าใจผิดในข้อนั้น เพราะคนที่ผมแคร์จริงๆ มีแค่สตาร์

ผมโทรหาสตาร์ คนสุดท้ายที่ผมนึกถึงก่อนสลบ คนแรกที่ผมนึกถึงเมื่อตื่น

สตาร์มาหาผมอย่างรวดเร็วเท่าที่จะทำได้ ผมซึ้งใจมากๆ มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนได้รับกำลังใจครั้งใหญ่ แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเขาจะพาไอ้เชี่ยดินมาด้วย คนที่กำลังหัวร่อต่อกระซิกกับเขาและกำลังทำให้เขามีความสุขจากใจจริงๆ ในเวลานี้

หรือเขาจะไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของผมตั้งแต่แรกวะ

ผมต้องไม่ยอมเชี่ยดินง่ายๆ สิ ผมคือมันในเวอร์ชั่นแบดนะ คนแบดก็ต้องชนะสิวะ

"อะแฮ่ม" ผมแกล้งกระแอม ทั้งคู่มองหน้าผมก่อนที่ใครคนหนึ่งในนั้นจะเดินเข้ามาใกล้ ไม่ใช่ใครที่ไหน นางฟ้าของผมเองครับ

"พี่ดิน เป็นไงบ้าง" จะไม่ให้ผมพูดว่านางฟ้าได้ไง ทั้งๆ ที่ทุกคนก็รู้กันดีว่าผมอันตรายจะตายห่า แต่สตาร์ก็ไม่เคยรังเกียจ ตอนนี้ที่สตาร์ทำมันมากเกินกว่าการทำเพื่อไอ้ตือไปแล้วครับ สตาร์เป็นคนดีจริงๆ "เจ็บตรงไหนมั้ย ให้ผมเรียกพยาบาลให้มั้ยครับ"

"ไม่เจ็บๆ" ผมพูด กายเจ็บขนาดนี้ แต่ที่ใจยังเจ็บกว่าตั้งเยอะ หัวใจแม่งเป็นอวัยวะที่สำคัญจริงๆ ผมก็เพิ่งรู้วันนี้นี่แหละ

"อยากเจ็บเพิ่มป่ะ" ไอ้เชี่ยดินเอ่ยลอยๆ อยู่ข้างหลังสตาร์ จนทำให้คนตัวเล็กหันไปมองมันตาเขียว

ทำอย่างกับแฟนกันเลย...

หรือกูไม่ควรตื่นขึ้นมา กูควรนอนต่อไปดีมั้ยวะ

"ไม่มีแรงเถียงกับมึงว่ะ" ผมหันไปทางอื่น

"มึงเจ็บทำไมมึงไม่บอกพ่อแม่ ทำไมมึงต้องมาบอกเมียคนอื่น"

เชี่ยดินแม่งจะเอาเรื่องผมจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย ผมทำหน้ากวนประสาทใส่มันก่อนจะพูดกับสตาร์

"สตาร์ พี่อยากกินนมเปรี้ยว"

"กินได้ด้วยเหรอครับ"

"ช่าย ไอ้สัดดินก็อยากกิน"

"กูไม่อยากกิน"

ฟวยนี่ มึงช่วยสบตากูก่อนตอบด้วย กูจะให้น้องออกไปเพื่อที่กูจะได้คุยกับมึงไงสัด

"งั้นเดี๋ยวผมไปซื้อมาให้นะครับ" นางฟ้าของผมเดินออกไปแล้ว ไอ้ดินทำท่าจะเดินตามไปแต่ผมรั้งตัวมันไว้ก่อน

"มึงโง่หรือมึงโง่ ไม่รู้เหรอว่ากูมีเรื่องพูดกับมึง" ผมด่ามันทันทีที่สตาร์พ้นประตูห้องไป ไอ้ดินพาร่างสูงๆ ของมันมายืนข้างเตียงผมพร้อมกับทำหน้าบึ้ง

"กูจะคุยกับมึงทำไม เสียเวลาชีวิตกู"

"ถ้ากูจะคุยเรื่องสตาร์ล่ะ"

"มึงพูดไม่เข้าหูกู มึงได้เจ็บเพิ่มแน่" ไอ้ดินชี้หน้าขู่

"กูเจ็บมาเยอะแล้ว เจ็บอีกนิดหน่อยจะเป็นไรไป" ผมขยับตัวเล็กน้อย ทำท่าจะลุกขึ้นมาเป็นท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ไอ้ดินเงอะๆ งะๆ ไม่รู้ว่าต้องปรับเตียงปรับหมอนตรงไหน ปากบอกหาเรื่องผมแต่พอมันคิดจะช่วยก็พึ่งพาได้อยู่นะครับ ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรเลย

"ได้ยัง" มันถามเสียงแข็ง ผมโบกมือส่งๆ ให้มันเมื่อผมอยู่ในท่าที่โอเคแล้ว "มีห่าอะไรรีบพูด"

"กูชอบสตาร์" ผมพูดตรงๆ ไอ้ดินกำหมัดแน่น พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่เข้ามากระชากคอเสื้อผม "แต่กูรู้ สตาร์ชอบมึง"

หมัดของมันคลายลงอย่างเห็นได้ชัด "แล้ว?"

"มึงเหมาะสมกับน้องมันทุกอย่าง มึงเป็นคนดี มึงทำให้น้องมีความสุข แต่กูมีเรื่องจะขอมึง"

"ขออะไรวะ"

"โอกาส"

"..."

"โอกาสที่กูจะได้ทำในสิ่งที่กูต้องทำ"

"มึงจะทำอะไร"

"สารภาพรักไง"

คิ้วไอ้ดินขมวดจนเป็นปม เป็นหน้าที่ตลกดีครับ เหมือนมันทั้งโมโหทั้งกำลังใช้ความคิด ผมในเวอร์ชั่นเทวดาในสายตาของคนอื่นเป็นอะไรแบบนี้จริงๆ เหรอเนี่ย แม่งโคตรตลกอ่ะ

"ทำไม มึงกลัวน้องตอบรับรักกูเหรอ"

"พ่องดิ"

"แล้วทำไมดูไม่มั่นใจขนาดนั้นล่ะวะ"

"กูกลัวมึงเรียกคะแนนความสงสารเป็นท่าไม้ตาย"

"คนอย่างเรย์ไม่ต้องให้ใครมาสงสารหรอก"

"ให้มันจริงอย่างที่มึงพูดก็แล้วกัน"

"..."

"กูจะให้โอกาสมึงก็ได้ แล้วหลังจากวันนั้นมึงต้องปล่อยสตาร์ไป"

"..."

"ตกลงมั้ยวะเรย์"

ใจของผมกระตุก ประโยคที่ว่าผมต้องปล่อยสตาร์ไปเป็นคำพูดที่ดาเมจผมรุนแรงมาก เหมือนผมจะไม่ได้เจอสตาร์อีกยังไงยังงั้นเพราะหลังจากนั้นสตาร์ก็คงคบกับไอ้ดินไปแล้ว

คนเราแม่งจะเจอคนที่ใช่ได้สักกี่ครั้งกี่หนกันวะ ผมไม่อยากปล่อยน้องไปอ่ะ

...แต่น้องมันไม่มีใจให้ผมไง!

"เออ กูตกลง"

"สัญญาลูกผู้ชายนะ" ไอ้ดินชี้หน้าผมอีกรอบ

"เอออออออ"

มันมีสีหน้าอุ่นใจมากขึ้น ผมถอนหายใจแล้วมองไปทางอื่น พยายามสกัดกั้นความเจ็บปวดของตัวเองเอาไว้

"แล้วหนี้ไอ้ตือนี่ยังไง"

"มันใช้นานแล้ว แต่กูขู่ไม่ให้มันบอกสตาร์ กูกลัวกูจะไม่ได้อยู่ใกล้เขา"

"เลว"

"เลวเหมือนมึงอ่ะ"

"..."

"ถ้ามึงเป็นกูมึงจะทำแบบที่กูทำมั้ย"

ไอ้ดินเถียงไม่ออก มันเดินห่างไปจากผม "...กูไปหาสตาร์ก่อน กลัวบุรุษพยาบาลมาฉุดไป"

"อืม"

"อย่าใช้เวลานานนักนะ"

"กูรู้แล้ว"

"มึงยื้อ มึงรั้ง สุดท้ายคนที่เจ็บปวดก็คือตัวมึงเอง...ยังไงมึงก็เจ็บเหมือนเดิม"

"ไอ้คนที่จะสมหวังมันก็พูดได้ทุกอย่างแหละ"

ดินชูนิ้วกลางมาให้ผม จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป

ผมอยู่ในห้องคนเดียว เรียบเรียงความคิดจนผมปวดหัว นี่ผมกำลังนับถอยหลังให้ตัวเองค่อยๆ ถอยหลังแล้วตกลงไปสู่หลุมดำกว้างใหญ่อยู่ใช่มั้ย

หลุมที่สตาร์ขุดเอาไว้ให้ เพียงแต่มันไม่ใช่หลุมรักก็เท่านั้น

มันคือหลุมแห่งความเจ็บปวด








TBC*



ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12


ตอนที่ 15




กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของพี่ดิน'

Din : พวกมึงห่างกับคนที่มึงรักได้มากที่สุดกี่วัน
FUEN : วันเดียวมั้งพี่
AOF : มากสุดผมให้สามวันอ่ะ
TANG : ผมไม่รู้ ผมโสดครับ
CHOK : เพ้อตลอด เพ้อแล้วมาลงกับพวกกูตลอด
PHYSICS : สองนาที







คนเหล่านั้นให้คำตอบมากมายกับผม แต่ผมให้คำตอบตัวเองไม่ได้เลย

อิจฉาทุกอย่างบนโลกใบนี้ที่ได้อยู่ใกล้สตาร์ อิจฉาหมอน อิจฉาเตียง อิจฉาหน้าต่าง อิจฉาผ้าม่าน อิจฉาคนรถที่บ้าน อิจฉาไปหมดทุกอย่างแล้วโว้ย!

วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมอยู่บ้านเซ็งๆ นอนอ่านหนังสือเรียนเพื่อเตรียมสอบเข้ามอ A และมอ B ตามความปรารถนาของพ่อแม่และก็กำลังจะเป็นของตัวเอง ถึงแม่จะไม่อยากให้ผมเข้ามอ C เท่าไหร่แต่แม่ก็ถามผมทั้งวี่ทั้งวันว่าเมื่อไหร่มอ C จะประกาศผล ผมก็ตอบไปทุกครั้งว่าอีกไม่กี่วันนี้แล้วครับแม่

ยอมรับว่าผมเอาตัวเองไปใส่ใจกับเรื่องสตาร์มากกว่า แต่ผมก็อ่านหนังสือเรียนอยู่ทุกวันจนเป็นกิจวัตรแล้วนะ ผมคิดว่าต้องมีสักที่ในสักมหา'ลัยที่เป็นของผมดิ ผมมีความเชื่อและมีพี่ตูนเป็นไอดอล

"เหงาเหรอ" ไอ้พิงค์ที่วันๆ กินกับนอนอยู่แต่บ้านเดินผ่านมาแซว ผมชูนิ้วกลางใส่พี่แล้วเอาหนังสือที่อ่านอยู่ปิดหน้า "แฟนไม่มาหาหรือไง"

"มันยุ่ง มีเรื่องต้องเคลียร์แต่ไม่รู้ว่าเคลียร์หรือยัง"

"ทิ้งไปนานๆ เดี๋ยวใจเขาก็ไม่อยู่กับมึง วัยรุ่นสมัยนี้เบื่อง่ายหน่ายเร็ว คบห้าวันเลิกก็มี"

"เคยเจอมากับตัวเองอ่ะดิ"

"ใช่ แต่กูเป็นคนบอกเลิกเขานะ"

เหี้ยจริงๆ แม่งทำผู้หญิงร้องไห้ไปกี่คนแล้ววะเนี่ย ผมหันไปมองไอ้พิงค์ที่นั่งอยู่อีกโซฟาหนึ่ง มันกำลังหยิบรีโมตกดเปิดทีวี

"เคยอยู่ในช่วงคุยๆ กับใครสักคนแล้วไม่ได้ติดต่อกันเลยป่ะ" ผมถาม อยากให้มันทำหน้าที่พี่ชายบ้างน่ะครับ

"บ้าเหรอ นี่ชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย"

"นั่นสินะ"

"..."

"โอ๊ย ใจกูจะขาดแล้วเนี่ย" ผมดิ้นบนโซฟา ทำท่าเหมือนจะตายเสียให้ได้ ไอ้พิงค์มันไม่ได้สงสารผมเลยครับ โยนหมอนมาซ้ำเติมผมอีกต่างหาก

"อะไรกันภูดิน ลูกมีความรักเหรอ" แม่ที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นร้องใส่ผม "ไม่ได้นะลูก อยู่ ม.6 แล้วไม่ต้องมีความรักหรอก รอมีตอนอยู่มหา'ลัยโน่น"

"ไม่ได้มีครับแม่ ไม่ได้มี" ผมพูดให้แม่สบายใจ

"อย่าไปเชื่อมันแม่ มันมี"

"ไอ้เหี้ยพิงค์!"

"มีได้ แต่ต้องไม่ใช่ตอนอยู่ ม.6 ได้ยินที่แม่พูดใช่มั้ยดิน" แม่พูดอย่างไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่ หลังจากนั้นก็เดินออกจากห้องนั่งเล่น
ผมตาเขียวใส่ไอ้พิงค์ "งานเข้ากูเลยเห็นมั้ย"

"อยู่ ม.6 ไม่ต้องมีความรักหรอก เข้าใจมั้ย ฮ่าๆๆ"

"หุบปากไปเลย"

"แม่เขาหวังอยากให้มึงได้มอ A มอ B ไง"

"เออ กูจะสอบเข้าให้ได้"

"ให้มันจริงก็แล้วกัน" ไอ้พิงค์หันมามองผมพร้อมยิ้มเผล่ "มึงโกรธกูมั้ยเนี่ย กูล้อเล่นเรื่องที่ฟ้องแม่นะ"

"กูรู้น่า ถ้าติดสักที่ แม่ก็ตามใจเหมือนเดิมนั่นแหละ"

"มอ C จะประกาศแล้วใช่ป่ะวะ"

"อืม"

พี่ผมมันก็ลุ้นไปกับผมด้วย มันบอกว่าไม่อยากให้ไปเรียนนอกเหมือนมันกับไอ้พานเพราะไม่มีใครดูแลพ่อกับแม่ (ทำไมมึงไม่มาดูแลเองวะ) อีกอย่างที่ต่างประเทศมันค่อนข้างกดดัน ไม่เหมือนบ้านเรา คนอย่างผมเหมาะกับการเรียนในที่ชิลๆ มากกว่า เพราะผมมีความเป็นตัวของตัวเองสูง

ดูมันวิเคราะห์...จะอะไรก็แล้วแต่เถอะ ตอนนี้ผมกำลังคิดหนักเรื่องสตาร์อยู่

ไม่รู้ว่าเคลียร์กับไอ้เรย์ไปถึงไหนแล้ว

เห็นทีผมจะต้องเข้ากรุ๊ปอีกรอบ

กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของพี่ดิน'

Din : ใครก็ได้ไลน์ไปถามสตาร์ซิว่าตอนนี้อยู่ไหน
FUEN : แป๊บนะครับ
PHYSICS : ตลอดอ่ะ ใช้เมียคนอื่นตลอด
Din : เออน่า กูจะได้มีเมียเป็นของตัวเองแล้วไม่มากวนเมียมึงไง
FUEN : เมียบ้าบออะไรกัน
FUEN : อยู่โรงพยาบาล V อ่ะพี่ดิน มีอะไรหรือเปล่า


สตาร์มันอยู่กับเรย์ตอนนี้เหรอ

ก็ต้องมีสักวันนั่นแหละที่พวกมันสองคนได้คุยกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แปลว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอย่างแน่นอน ผมจะไม่คิดมากอะไรเลยถ้าสตาร์จะไปหาเรย์แค่วันสองวัน แต่นี่เล่นไปแม่งทุกวัน ไปตั้งแต่วันที่เรย์มันบอกผมแล้วว่ามันขอโอกาสสารภาพรัก

หรือตอนนี้พวกแม่งคบกันไปแล้ววะ

การที่คนเราติดต่อคนที่ผูกใจกับเราไม่ได้เนี่ย มันสามารถคิดไปต่างๆ นานาได้เลยนะครับ เพราะอีกฝ่ายไม่บอกเราสักอย่าง ไม่รู้ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ ผมไม่สามารถหยุดความคิดของตัวเองได้เลย ตอนนี้แม่งฟุ้งซ่านไปหมดแล้วอ่ะ

ผมมาทีหลังเรย์ เรย์ใกล้ชิดกับสตาร์นานกว่าผม แล้วตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างผมก็ไม่สามารถบอกได้ คิดไปคิดมาก็ยิ่งรู้สึกแย่ รู้สึกแพ้ไปหมดเพราะต้องอยู่ห่างจากคนที่ผมชอบ แต่ไอ้เชี่ยเรย์มันกลับได้อยู่ใกล้ๆ

เฮ้ออออออออออออ

ทำไมต้องเป็นสตาร์ที่ต้องคอยไปดูแลมันวะ ลูกน้องไอ้เรย์ก็เยอะไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่เรียกมาล่ะ!

"แม่" ผมร้องเรียกเมื่อแม่เดินผ่านมาอีกครั้ง

"อะไรเหรอ"

"ดินขอขับรถออกไปข้างนอกนะ"

"ให้พี่พิงค์พาไปสิ" แม่พูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังก็รู้ว่าขัดไม่ได้

"พิงค์นั่งเฉยๆ นะแม่ พิงค์เกี่ยวไรเนี่ย"

"น้องเพิ่งได้ใบขับขี่มาไม่นาน ยังไงก็ยังขับไม่คล่อง"

"บ้าดิแม่ แม่ก็เคยนั่งรถที่ดินขับให้ไม่ใช่เหรอ"

"ไม่รู้ล่ะ พิงค์ พาน้องไป"

"อะไรว้า" ไอ้พิงค์บ่นแต่ก็ลุกอยู่ดี คำสั่งของแม่ผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ของบ้านมีหรือที่ใครจะกล้าขัด พ่อผมยังไม่กล้าขัดเลยเหอะ

ผมกับพิงค์เดินขึ้นไปเปลี่ยนชุดที่ห้องของตัวเองพร้อมกัน ก่อนจะแยกกันไปคนละทางไอ้พิงค์ได้หันมาถามผมว่าผมอยากไปที่ไหน

"ไปตามเมีย"

"ไอ้นี่ แม่ก็เพิ่งบอกอยู่หยกๆ ว่าอย่าเพิ่งมีความรัก" มันแซวยิ้มๆ

"กูแยกแยะได้ เชื่อกูดิ"

"เออๆ รอแป๊บ แต่เดี๋ยว กูถามก่อน"

ผมหันหน้ากลับมาหาพี่ชายตัวเอง "อะไร"

"วันนี้มึงจะแต่งตัวไง กะหล่อมากมั้ย"

"ก็เสื้อยืดกางเกงยีนส์อ่ะ"

"เออ แค่นั้นนะ ห้ามเพิ่มเติมอะไรนะ"

"อะไรของมึงเนี่ย"

"กูจะแต่งตาม จะได้หล่อพอๆ กัน ไม่ใช่หล่อเกินหน้าเกินตากัน"

ผมกลอกตา ไม่คิดจะสนใจอะไรใดๆ พี่ชายของตัวเองอีก







[ พาร์ตของสตาร์ ]

ป่านนี้พี่ดินจะคิดอะไรอยู่บ้างนะ

ผมรู้สึกกระวนกระวายไม่น้อยขณะที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลพี่เรย์ซึ่งทำติดๆ กันเป็นวันที่ห้าแล้ว จริงๆ ก็พอจะรู้อยู่ว่าพี่เรย์อยู่ในครอบครัวที่งานยุ่งกันทั้งพ่อทั้งแม่ ไม่มีเวลามาดูแลเอาใจใส่ แต่นี่มันไม่ใช่หน้าที่ของผมไม่ใช่เหรอเลยชักจะรู้สึกแปลกๆ แล้วว่าพี่เรย์กำลังประวิงเวลาอะไรบางอย่างอยู่หรือเปล่า แต่เมื่อเห็นอาการเจ็บปวดของเขา ผมก็ไม่กล้าถามอะไรออกไปตรงๆ

ตอนนี้ผมหนักใจอยู่เรื่องเดียวก็คือกลัวพี่ดินฟิวส์ขาด ผมเริ่มรู้แล้วว่าพี่เขาเป็นคนยังไง เพราะผมก็เป็นคนแบบนั้นเหมือนกัน แค่เห็นพี่หยกเข้ามาไลค์รูปในไอจีพี่ดินใจผมก็ร้อนเป็นไฟแล้ว เพียงแต่ผมไม่ได้บอกพี่ดินเท่านั้น กลัวเขาหาว่าผมงี่เง่า

เมื่อคืนพี่หยกก็ยังมาไลค์รูปพี่ดินอยู่ (เป็นรูปที่ถ่ายตรงใต้ถุนตึกเรียน หล่อฉิบหายผมขอบอก) นอกจากจะไลค์แล้ว พี่หยกยังมาเมนต์อีกว่าหล่อ เพราะงั้นขึ้นชื่อว่าแฟนเก่า ใครๆ ก็ต้องระแวงถูกป่ะครับ ถึงแม้ว่าพี่ดินจะบอกผมว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกแน่ๆ ก็ตามที
ผมมองดูพี่เรย์ที่กำลังหลับระหว่างคิดอะไรเรื่อยเปื่อย อีกไม่นานผมก็ต้องไปเรียนพิเศษแล้ว เวลานั้นต้องมีใครสักคนที่เป็นเพื่อนพี่เรย์มาช่วยดู และผมก็จะได้ออกไปเรียนสักที

โทรศัพท์ของผมสั่นเป็นข้อความไลน์จากฟืน

FUEN : มึงอยู่ไหน พี่ดินตามหา

ใจผมรู้สึกชุ่มชื้นขึ้นมาทันที อย่างน้อยพี่เขาก็คิดถึงผมอยู่

STAR : โรง'บาล V ว่ะ พี่ดินมีอะไรป่ะวะ

FUEN : ไม่รู้ ถามแล้วก็ไม่ตอบ


ผมขมวดคิ้ว วิเคราะห์กับฟืนอีกนิดหน่อยว่าพี่ดินคิดอะไรอยู่ ฟืนให้คำตอบผมไม่ได้ แต่ทันทีที่ผมบอกฟืนว่าผมอยู่เฝ้าไข้พี่เรย์ ฟืนก็ถึงกับบางอ้อ

FUEN : มึงตายแน่

STAR : ทำไมแช่งกูวะ

FUEN : กูดูๆ แล้ว คิดว่าพี่ดินกับสิกก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่
FUEN : ถ้าเป็นสิก มันเอาพี่เรย์ตายแน่

STAR : แต่พี่ดินก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้วนะ

FUEN : เหรอวะ
FUEN : แต่ยังไงก็ตายอ่ะ เชื่อกูดิ


ผมชักเครียดขึ้นมาแล้วสิ ช่วงนี้พี่ดินปล่อยให้ผมอยู่กับพี่เรย์ก็จริงแต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่ได้คิดอะไร พี่ดินต้องคิดแน่ๆ และนั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พี่ดินต้องถามว่าผมอยู่ที่ไหน

"สตาร์ มีอะไรหรือเปล่า" พี่เรย์ลุกขึ้นทำท่าจะนั่ง ผมรีบเข้าไปช่วยอย่างรู้ดีว่าควรทำยังไง

"เปล่าครับ"

"ทะเลาะกับเชี่ยดินเหรอ"

"ทะเลาะอะไรครับ ติดต่อยังไม่ได้เลยเนี่ย"

"หา" พี่เรย์เลิกคิ้ว "ทำไมล่ะ"

"ผมกับพี่ดินไม่มีไลน์กันน่ะครับ เบอร์ก็ไม่มี"

พี่เรย์ดูประหลาดใจมาก ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง คนป่วยจ้องมองดูผมด้วยนัยน์ตาสั่นระริก เป็นสายตาที่ผมไม่ค่อยเห็นในดวงตาของพี่เรย์เท่าไหร่

"...สตาร์ อึดอัดบ้างป่ะเวลาที่อยู่กับพี่"

"พี่เรย์ถามอะไรเนี่ย ใช่เวลามั้ย"

"ตอบพี่มา"

"จะเอาความจริงเลยเหรอครับ"

"อืม บอกมาให้หมด"

"ตอนแรกผมกลัวพี่เรย์มาก เพราะตั้งแต่เข้ามาในโรงเรียนนี้ ทุกคนก็คอยบอกคอยเตือนว่าอย่าไปยุ่งกับคนที่ชื่อเรย์เด็ดขาด ผมก็เลยจำมาตลอด ไม่กล้ายุ่งกับพี่เรย์หรือเด็กโรงเรียนพี่เลย แต่ใครจะรู้ว่าจู่ๆ ..."

"จู่ๆ พี่ก็ได้มาอยู่ใกล้ๆ สตาร์ใช่ป่ะ มันน่าจะเรียกว่าพรหมลิขิตมั้ยนะ"

ผมยิ้มแหยๆ จุดเริ่มต้นระหว่างผมกับพี่ดินไม่ใช่สิ่งที่สวยงาม ห่างไกลจากคำว่าพรหมลิขิตตั้งเยอะ

"แต่ว่าตอนนี้ผมไม่ได้กลัวพี่เรย์มากแล้วนะครับ พี่ก็เป็นพี่ที่นิสัยดีคนหนึ่งที่ผมอยากให้ประสบความสำเร็จ มีชีวิตดีๆ ยิ่งๆ ขึ้นไป เพราะคนอย่างพี่เรย์ยังไปต่อได้มากกว่านี้ ถ้าลด ละ เลิกเรื่องไม่ดีอ่ะ"

"ขอบคุณมากนะที่หวังดีกับพี่"

"ครับ"

"พี่คิดว่าสตาร์ไม่ต้องมาดูแลพี่อีกแล้วล่ะ"

ผมมองหน้าพี่เรย์ด้วยแววตางุนงง ปกติพี่เรย์จะชอบให้ผมมาอยู่ดูแลที่นี่มาก เกิดอะไรขึ้นวะ

"พี่ว่ามันคงหมดเวลาของพี่แล้ว"

"เฮ้ย" ผมร้องเสียงหลงพลางลุกขึ้นยืน "พี่เรย์กำลังจะตายเหรอครับ ไม่นะ!"

อีกฝ่ายคงคิดว่าผมเล่นมุกมั้ง "จะบ้าเหรอ"

"อ้าว พูดเหมือนจะไปไหนไกล"

"พี่ไม่ได้ไปไหนหรอก แต่สตาร์ต่างหากที่ต้องไปจากพี่"

"..."

"พี่ชอบสตาร์มานานแล้ว สตาร์รู้ใช่มั้ย"

ผมกระพริบตา รู้สึกเก้อเขินแปลกๆ แต่ความอึดอัดมันมีมากกว่า เรื่องนี้เพื่อนผมมันคอยพูดกรอกหูอยู่ตลอดเพื่อให้ผมระมัดระวังตัวก็เลยพอจะรู้ๆ อยู่บ้าง

"พี่ดีใจที่ได้อยู่ใกล้ๆ สตาร์ แม้ว่าจะเป็นการบังคับก็ตาม เพราะพี่รู้ว่าคนอย่างสตาร์ยังไงก็ไม่มีวันมาอยู่ใกล้พี่ ถ้าพี่ไม่บีบ จริงมั้ย"

ผมเถียงไม่ออก ตอนนี้ผมคงทำได้แค่เป็นผู้ฟังอย่างเดียว

"ที่ผ่านมาพี่มีความสุขมาก แม้กระทั่งตอนนี้พี่ก็มีความสุข แต่มันถึงเวลาแล้วที่สตาร์จะต้องไป"

"พี่เรย์"

"พี่รู้ว่าสตาร์ชอบใครอยู่ และตอนนี้มันก็คงรอสตาร์จนใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว"

"..."

"แต่ก่อนไปพี่มีไรจะขอ"

"ครับ" ผมยังอึ้งอยู่ ยังคงงุนงงว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่

"สตาร์เคยใกล้พี่ที่สุดแค่นี้ พี่อยากใกล้กว่านี้"

"เอ่อ"

"ขยับเข้ามาใกล้ๆ พี่ทีสิ และพี่จะไม่ขออะไรอีกเลย"

"พี่เรย์ คือว่า..."

"เถอะนะ"

ผมถูกพี่เรย์ดึงเข้าไปใกล้ มันผิดกับตอนที่ผมอยู่ใกล้พี่ดินอย่างลิบลับ ผมจำได้ว่าตอนที่ผมขอจูบพี่ดินในห้องน้ำ ผมรู้สึกตื่นเต้นและก็ใจสั่นมากกว่านี้ แต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความอึดอัด ทำหน้าทำตัวไม่ถูก และพี่เรย์ก็รู้เรื่องนี้อยู่แก่ใจ

ผมกำลังจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้วเหรอ มันง่ายเกินไปหรือเปล่า

ตอนนี้ใบหน้าของผมกับพี่เรย์อยู่ใกล้กันมาก มากจนผมต้องหลบสายตาของเขาไปมองอย่างอื่น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเห็นแค่ใบหน้าของพี่เรย์อยู่ดี

เราอยู่ใกล้กันนานเกินไปแล้ว

"แม่ง ชั่วเอ๊ย!" เสียงหนึ่งดังขัดจังหวะ จู่ๆ ผมก็ถูกกระชากลงไปนั่งบนโซฟา หลังจากนั้นก็มีคนไปกระชากคอเสื้อพี่เรย์เอาไว้
พี่ดิน!

"แม่งฉวยโอกาสเหรอวะ กูไม่น่าปล่อยมึงเลย ฟายเอ๊ย"

"พี่ดิน ใจเย็นๆ" ทำไมต้องมาถูกจังหวะด้วยวะ ผมพยายามห้ามพี่ดินแต่ตอนนี้พี่เขาโกรธจนไร้สติไปแล้ว

"มึงก็คือมึง กูนึกว่ามึงจะดีขึ้น แต่เปล่าเลย สันดานมึงก็ยังเหมือนเดิม"

"สันดานกูเป็นยังไง"

"ชั่วไง!"

"ไอ้เหี้ยดิน!" พี่เรย์กระชากคอเสื้อพี่ดินกลับ

โอย ผมต้องเรียกพยาบาลมั้ยวะ

"ตอนกูไม่อยู่มึงจะทำอะไรน้อง"

"กูไม่ได้จะทำอะไร"

"แล้วมึงดึงน้องเข้าไปใกล้ทำไม มึงจะดูไฝบนหน้าน้องเหรอ"

"กูแค่อยากอยู่ใกล้ๆ"

"กูให้มึงอยู่ใกล้หลายวันแล้ว กูทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว พอแล้ว!"

"พี่ดิน พอเถอะ" ผมแกะมือพี่ดินออกจากคอเสื้อพี่เรย์ "ทำร้ายคนป่วยมันไม่ใช่สุภาพบุรุษนะครับ ลองคิดดีๆ สิ"

"ปกป้องมันทำไม"

อ้าว ทำไมคิดเป็นงั้นไปได้วะ "ไม่ใช่สักหน่อย"

"ก็มึงมันบ้าไง ไม่ฟังห่าไรเลย" พี่เรย์ร้อง "เมื่อตะกี้หัวสตาร์เกือบชนผนังเพราะความบ้าของมึง ถ้าน้องหัวแตกมึงจะทำยังไง!"

ผมไม่คิดว่าพี่เรย์จะโมโหขนาดนี้ เสียงของเขาดังลั่นไปหมด พี่ดินหันมามองผมด้วยสายตาที่ผมไม่อาจคาดเดาได้

ครั้งนี้พี่ดินโกรธจริงๆ ว่ะ ผมสัมผัสได้เลย

"ระหว่างที่พี่ไม่อยู่ ทำอะไรกับมันไปแล้วบ้าง คุยอะไรกันบ้าง มีความสุขกันมากใช่มั้ย" พี่ดินเสียงสั่น "ทำไมพี่ต้องรู้สึกน้อยใจเรื่องที่พี่สนิทกับสตาร์น้อยกว่าไอ้เรย์"

มันเป็นความจริงที่เราสองคนเลี่ยงไม่ได้ ความรักของผมกับเขาถูกปูมาในทางที่ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันและก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันเลย พี่ดินอาจจะคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ได้

"สตาร์ไปเที่ยวกับพี่กี่ครั้ง แล้วไปเที่ยวกับมันมากี่ครั้ง"

"พี่ดิน ฟังผมก่อน"

"พี่พยายามใจเย็นแล้วนะ แต่ครั้งนี้พี่ควบคุมตัวเองไม่ได้ พี่รู้สึกโมโห โกรธจนอยากจะกระชากสตาร์กลับบ้านไปกับพี่ตอนนี้"

"คือมันไม่มีอะไร"

"พี่รู้ว่าพี่มาทีหลังมัน แต่ถ้าสตาร์รู้สึกกับพี่จริงๆ ทำไมพี่ถึงยังรู้สึกว่าพี่แพ้มันล่ะ"

เฮ้ย...นี่เขากำลังจะบอกว่าผมไม่ค่อยแสดงออกอย่างนั้นเหรอ คำพูดนี้ทำผมรู้สึกหน้าชาไปเลย

"สตาร์ทำเท่าที่จะทำได้แล้วนะ"

"พี่ผิดเองที่ปล่อยให้สตาร์อยู่กับมัน ผิดที่ปล่อยทั้งๆ ที่รู้ว่าพี่ไม่มีทางทนไหว"

"พี่ดินมีน้ำใจไง พี่เรย์ก็ต้องการคนมาดูแล"

"ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่พี่ก็ยังรู้สึกว่าพี่แพ้มันอยู่ดี"

"..."

"สตาร์ พี่น้อยใจมากนะ"

"..."

"ทำให้พี่หายจากความรู้สึกนี้ได้มั้ย พี่ทนไม่ไหวแล้วว่ะ"

"โอ๊ย!" พี่เรย์ร้อง เขาจับขาที่กำลังถูกดามอยู่ อาจเป็นพราะมันเคลื่อน

"พี่ดิน ขอทางหน่อย" ผมร้อง

"หา"

"ต้องเรียกพยาบาล" ผมกดกริ่งเรียกพยาบาลแล้วดูพี่เรย์อย่างร้อนใจ "เป็นอะไรมากมั้ยครับพี่ ผมเรียกพยาบาลแล้วนะ อดทนหน่อยนะ"

"สตาร์..." เสียงพี่ดินรำพึงดังมาจากข้างหลังผม

"เจ็บตรงไหนครับ" ผมยังคงง่วนอยู่กับการดูอาการพี่เรย์

พยาบาลเข้ามาในห้องพอดี เมื่อเห็นอาการคนไข้เธอก็รีบออกไปตามหมอ ผมถอยให้ห่างจากเตียง หันไปมองหาพี่ดินอีกครั้ง
พี่ดินไม่อยู่แล้ว...

[ จบพาร์ตของสตาร์ ]







"หายไปไหนมาวะ มีคนมาตามหามึงนะ"

"กลับบ้านเหอะ"

"เฮ้ย เลือด!"

"กลับบ้าน"

"กลับพ่อง มึงอ่ะต้องเดินหันหลังกลับไปทำแผล!"

"ไม่ทำ เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก"

"น้องบ้าเอ๊ย มึงจะมาติสต์แบบกูไม่ได้นะ กูคิดค่าลิขสิทธิ์!"

"โอ้ย เชี่ยพิงค์ อย่าลากกู!"

"เอานี่ไป แฟนมึงเขาฝากมาให้"

"แฟนคนอื่นต่างหาก โอ้ย! ตีหัวกูทำไม"

"อย่าตัดสินเขาเพียงเพราะเขาทำผิดแค่เหตุการณ์เดียว ไอ้สัด"

"..."

"ทะเลาะกันแล้วเอามือชกกำแพง มึงคิดว่ามึงเท่มากงั้นสิ?"

"..."

"น้องกู โตขึ้นแล้วสินะ"


ไอดีไลน์ตัวที่ 15
T
อย่าเพิ่งจากไปไหน อยู่ให้ง้อหน่อยนะครับ
ป.ล. ผมหมายถึงใจของพี่ดินด้วยนะ






TBC*



ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12


ตอนที่ 16



กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของคนอื่น'

FUEN : อ้าวววววว เปลี่ยนชื่อกรุ๊ปทำไม?
AOF : ดราม่าเหรออออออ
TANG : เชี่ยฟืน มึงไปสืบจากฝั่งสตาร์มาเดี๋ยวนี้เลย ขออนุญาตเสือกนะครับพี่ดิน #ตะเบ๊ะ
CHOK : ดราม่าหาพระแสงของ้าวของพ่อมึงเหรอครับ ไปคุยกันดีๆ ไป!
PHYSICS : ประชดแล้วได้อะไรหนอ
PHYSICS : เสียเวลาเปล่าๆ
PHYSICS : ฟืน ฝั่งสตาร์ว่าไงบ้างวะ
FUEN : เงียบกริบ...






เจ็บมือเหี้ยๆ

ผมไม่น่าทำเท่เอามือตัวเองไปชกกำแพงเลยว่ะ ตอนนั้นผมทั้งหงุดหงิดทั้งอารมณ์เสีย ต้องการหาที่ระบายอย่างด่วน มองไปมองมาเห็นกำแพงมันสะอาดและก็ดูเรียบๆ ดี ผมก็เลยชกแม่งเลย

สุดท้ายคือมือผมเจ็บ ต้องทำแผลที่โรงพยาบาล ได้ยามาถุงหนึ่งพร้อมผ้าก๊อซและอุปกรณ์ทำแผลบลาๆๆ ไอ้พิงค์บ่นฉิบหายเพราะมันเป็นคนจ่ายค่ารักษาให้ผม มันบอกว่ารีบไปคุยกันซะ ท่าทางของสตาร์กังวลมาก คล้ายกับกลัวว่าจะเสียผมไป ไอ้พิงค์มันพูดขนาดนั้นเลย

ผมบอกได้คำเดียวว่า...เชอะ

ขออนุญาตโกรธหน่อยเถอะ ผมเก็บมานานแล้วว่ะ เรื่องไอ้เรย์นี่จำเป็นจะต้องเทิดทูนบูชามันขนาดนั้นมั้ย ผมรู้ว่ามันเจ็บอยู่ แต่การที่ห่วงแต่มันโดยไม่สนใจผมเลยนี่บอกเลยว่าโกรธมาก น่าจะเป็นเรื่องที่เป็นจุดอ่อนผมมากที่สุดแล้วล่ะ ถ้าแฟนทำกับผมแบบนี้คือผมงอนฉิบหาย พูดเลย

คนเรามันจะต้องมีเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่สะกิดหัวใจได้ง่ายมากครับ ยกตัวอย่างเช่นไม่ชอบให้แฟนคุยกับเพื่อนเพศตรงข้าม ไม่ชอบให้แฟนไปดื่มโดยที่เราไม่ไปด้วย ไม่ชอบให้แฟนไปยุ่งกับแฟนเก่า โน่นนี่นั่น มันต้องมีสักเรื่องสิที่ถ้าแฟนทำแล้วเราจะโกรธมากอ่ะ
ผมขอยกเรื่องนี้ให้เป็นที่หนึ่งของผมเลย ห่วงคนอื่นต่อหน้าต่อตาผม ทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุ

งอนครับ บอกเลยว่างอน งอนจริงๆ งอนแบบงอนมาก งอนแบบงอนเหี้ยๆ แต่ก็รอให้มันมาง้ออยู่ เมื่อไหร่มันจะมาล่ะ หรือมันอาจจะไม่มาแล้วเพราะต้องดูแลพี่เรย์ของมันอยู่ก็เป็นได้

ยิ่งคิดก็ยิ่งงอนหนักมากขึ้นไปกว่าเดิม

"จริงๆ เลยน้า ดินเนี่ย" แม่บ่นผมเป็นครั้งที่แปดของวัน วันต่อมาผมไม่ไปโรงเรียนเลยครับ ถือโอกาสโดดอย่างไม่สนใจคำพูดใครหน้าไหนทั้งนั้น "กำแพงก็อยู่ของมันดีๆ ไปชกมันทำไม"

ไอ้พิงค์หลุดหัวเราะ ส่วนพ่อส่ายหน้าเบาๆ วันนี้ทุกคนเห็นว่าผมโดดเรียน ทุกคนก็เลยโดดงานตาม เป็นครอบครัวที่อะเมซิ่งมากๆ

"เล่าให้แม่น้องฟืนฟัง แม่เขาขำใหญ่เลยรู้มั้ย"

"แม่นี่ก็ไปเม้าท์กับคนข้างบ้านบ่อยจัง" ผมท้วง

"ก็เขาเป็นเพื่อนฉันไงยะ" แม่ร้อง

เถียงแม่ไปก็เท่านั้น ผมทำหน้าบึ้งนอนอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับเมื่อวาน พลางคิดว่าสาเหตุส่วนหนึ่งที่คนในบ้านอยู่กันพร้อมหน้าน่าจะเนื่องมาจากแผลที่มือผมนี่แหละ เขาคงพากันเป็นห่วง พิงค์กับผมไม่มีใครเล่าให้พ่อแม่ฟังสักคนว่าผมชกกำแพงทำไม พวกท่านก็เลยเป็นห่วงล่ะมั้ง

และแน่นอน คำถามที่เป็นคำถามสามัญประจำบ้านของเด็ก ม.6 ทุกคนก็คือคำถามที่เกี่ยวกับเรื่องเรียนต่อ พ่อของผมถามถึงผลสอบมอ C อีกคนหนึ่งแล้ว ทุกคนในบ้านลุ้นไปกับผมหมดเลยว่าจะติดวิศวฯ มอ C หรือเปล่า เพิ่งเคยโดนรุมใส่ใจเป็นครั้งแรกก็คราวนี้ แต่เชื่อป่ะว่าผมไม่มีอารมณ์ตอบเลย ผมเซ็งเรื่องสตาร์อยู่และก็จะเป็นอย่างนั้นไปตลอดทั้งวัน

ผมหนีคนในบ้านขึ้นมานอนในห้องตัวเอง นึกไปถึงครั้งแรกที่สตาร์มาที่นี่ ผมจูบกับมันตรงนี้ แม้ผมจะงอนมันอยู่แต่ความทรงจำนี้ก็ยังทำให้ผมยิ้มออกอยู่ดี

งอนกับคิดถึงแม่งเป็นความรู้สึกที่ใกล้เคียงกันเหรอวะ

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ หยิบโทรศัพท์กดเข้าไปที่อินสตาแกรมเพราะเป็นแอปพลิเคชันเดียวที่ผมสามารถดูความเป็นไปของสตาร์ได้ รูปภาพล่าสุดของสตาร์ก็คือภาพที่อยู่ฮ่องกงนั่นแหละครับ เป็นเด็กที่เล่นไอจีทุกวันก็จริง แต่ไม่ชอบอัพรูปเอาเสียเลย

ดั่งมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับผม จู่ๆ สตาร์ก็อัพรูปเฉยเมื่อหนึ่งนาทีที่แล้ว นี่ผมตาฝาดไปหรือเปล่าวะ

มันจะสื่ออะไรถึงผมบ้างมั้ย นี่ผมกำลังงอนมันอย่างยิ่งใหญ่อยู่นะ

เป็นภาพของเพื่อนห้องหนึ่งของมัน ส่วนแคปชั่นนั้นเป็นอะไรที่ห่างไกลจากผมมากเลยทีเดียว

'HBD เพื่อนบอล มีความสุขมากๆ นะเว้ย รักมึงนะ'

โธ่เอ๊ย! วันเกิดเพื่อนหรอกเหรอ ผมกดไลค์อย่างกระแทกกระทั้นจากนั้นก็วางโทรศัพท์ลงบนเตียงตามเดิม ผมสะดุ้งโหยงเพราะอยู่ดีๆ โทรศัพท์ก็ดังซะงั้น

หยกโทรมาอีกแล้ว

ผมถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะรับสาย

"ฮัลโหล"

[ดิน หยกเองนะคะ]

"ครับ ทราบแล้ว"

[ทำไมไม่รับสายหยกเลย หยกโทรหาตั้งหลายรอบ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ]

"หยก หยกต้องการอะไร หยกก็รู้ว่ายังไงเราสองคนก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว"

[...]

"ถ้าดินไม่มีคนใหม่ หยกก็คงไม่ได้กลับมาสนใจดินเหมือนอย่างที่ทำอยู่ใช่ป่ะ"

[ใจเย็นๆ ก่อนสิ หยกโทรมาดีๆ นะ]

[…] ปลายสายเริ่มทำเสียงโอดครวญคล้ายใกล้จะสะอื้นไห้ ผมที่หงุดหงิดอยู่เริ่มใจอ่อนลงมานิดหน่อย อย่างน้อยเธอก็เป็นคนที่ผมเคยรักในช่วงขณะหนึ่ง ผมควรแคร์ความรู้สึกของเธอบ้าง

[หยกเหมือนจะได้คำตอบที่ถามมาตลอดแล้วล่ะ ขอโทษนะ]

"กับคนใหม่ก็อย่าทำกับเขาแบบที่ทำกับดินนะ"

[คนไหนล่ะ ยังไม่มีเลยเนี่ย]

"หยกเป็นคนสวย ยังไงก็ต้องมีอยู่แล้วล่ะ"

[...]

"แล้วนี่ทำอะไรอยู่"

เสียงประตูห้องของผมถูกเปิดออก คนที่ยื่นหน้าเข้ามาก่อนคือไอ้พิงค์ แต่คนที่ตามมาทีหลังนั้นยิ่งใหญ่กว่าพี่ผมเยอะ

สตาร์ว่ะ! มาในชุดนักเรียนเลยครับ

ผมอ้าปากค้าง พลางฟังคำพูดของหยกที่อยู่ปลายสายด้วย

[อยู่ที่โรงเรียน ไม่ค่อยมีเพื่อนมาก็เลยโทรมาหาดิน ดินล่ะคะ ทำอะไรอยู่]

"..."

[ยังไงก็จะได้คุยกันเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว หยกขอคุยกับดินดีๆ ได้มั้ย เอาจริงๆ นะที่ผ่านมาหยกรู้สึกแย่มากเลย หยกเพิ่งรู้ตัวว่าหยกทำกับดินไว้ไม่ดี หยกอยากให้ดินให้อภัย]

"ได้สิ" สายตาของผมมองดูสตาร์ที่นั่งลงข้างเตียงของผม โบกมือไล่ไอ้พิงค์ออกไป เพราะแม่งทำหน้าเหมือนโคตรอยากรู้อยากเห็นอ่ะ "เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว"

ผมแกล้งสตาร์ ไม่ยอมวางสายจากหยกง่ายๆ

[อันนี้หยกขอถามจากใจหยกเลยนะ อย่าโกรธหยกนะ]

"ถามว่า"

[ดินเปลี่ยนไปเป็นเกย์จริงๆ เหรอ]

"เอ่อ..." กูควรจะตอบว่าไงดีนะ

[เพื่อนหยกมาถามใหญ่เลยว่ามันเป็นเรื่องจริงมั้ย พวกมันบอกว่าเดี๋ยวนี้ดินสนใจแต่รุ่นน้องในโรงเรียน รุ่นน้อง ม.5 น่ะ บางครั้งก็ควงคนตัวสูงๆ ผอมๆ บางครั้งก็ควงคนตัวเล็กๆ]

"ก็คงจะจริงแหละมั้ง" น่าจะเป็นฟืนกับสตาร์ตามลำดับ

สตาร์ก้มหน้าก้มตา ใช้เท้าเขี่ยพรมในห้องของผมเหมือนคนไม่มีอะไรทำ ผมยังนั่งรักษาระยะห่างอยู่ ถ้าผมไม่พูด ในห้องก็คงจะมีแต่ความเงียบ

[เอ่อ...หยกช็อกนะเนี่ย]

"ถ้าไม่ได้ข่าว ก็คงจะไม่กลับมาหาดินใช่ป่ะ"

สตาร์ชะงัก เหมือนมันรู้ว่าผมกำลังคุยกับใครอยู่

[เฮ้อออออ เสียดายดินอ่ะ]

"ไม่ทันแล้ว"

[แล้วคนไหนตัวจริงของดินล่ะ]

"ให้ทาย"

[อืม คนสูงๆ ผอมๆ มั้ง เดาจากแฟนเก่าของดินอย่างหยก ฮ่าๆๆ]

"ผิด คนนั้นมันมีแฟนอยู่แล้ว"

[...]

ผมมองไปที่สตาร์ "คนตัวเล็กๆ ต่างหาก"

[รักมากป่ะ]

สตาร์มองหน้าผม สีหน้าเหมือนเต็มไปด้วยความสงสัย ผมจ้องตามันระหว่างที่ผมพูด คล้ายกับสิ่งที่ผมกำลังจะพูดนั้นไม่ได้พูดกับหยก แต่พูดกับคนตรงหน้า

"รักมาก"

สตาร์หันหน้าหนีผมทันที แก้มเริ่มเป็นสีแดงก่ำ ผมหลุดหัวเราะออกมานิดหน่อย ก่อนจะบอกลาหยกที่อยู่ในสาย

"ไว้ค่อยคุยกันนะหยก ยังไงดินก็ยังเป็นเพื่อนหยกอยู่ มีอะไรก็มาปรึกษาได้เรื่อยๆ นะ"

[ขอบใจมากนะดิน]

"..."

[ถ้าหยกย้อนเวลากลับไปได้ หยกจะไม่นอกใจดินเลย]

"..."

[โชคดีนะ]

หยกวางสายไปแล้ว ตอนนี้คงจะเหลือแต่ผมกับสตาร์ที่ต้องคุยกันต่อ ผมปั้นหน้าบึ้งทันทีหลังจากที่กดวางสาย ทำเป็นเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยทั้งๆ ที่สติตอนนั้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตอนนี้กดแอพฯ อะไรอยู่ผมยังไม่รู้เลยครับ

"พี่ดิน" สตาร์กล่าวเสียงอ่อย

"..." ผมไม่รู้ ผมไม่ตอบ ผมงอนอยู่

"เจ็บมือมั้ยครับ"

"..." สตาร์ห่วงสวัสดิภาพของผมเหรอ

"สตาร์ขอโทษนะ"

"..."

"ขอโทษจริงๆ"

"ขอโทษเรื่องอะไร" นั่นไงล่ะ ผมจะใจแข็งกับสตาร์ได้สักกี่น้ำกัน "รู้เหรอว่าตัวเองทำผิดอะไร"

"ผิดทุกอย่างนั่นแหละ" สตาร์ทำหน้าเศร้า

"..." ตายๆๆ ฟอร์มผมหลุดไปหมดแล้วครับ แค่เห็นหน้าก็ใจอ่อนไปแล้ว ยิ่งเจอคำพูดที่ยอมรับความผิดของตัวเองขนาดนี้ ผมนี่ไม่กล้างอนต่อเลยว่ะ

"พี่ดินจะให้สตาร์ทำอะไรสตาร์ยินดีทุกอย่างเลย วันนี้สตาร์จะเป็นของพี่"

เดี๋ยววว! พูดอย่างอื่นก็ได้ทำไมต้องพูดแบบนี้ ยิ่งอยู่ในห้องกันสองต่อสองด้วย ถ้าสมยอมล่ะก็...ผมไม่รับรองว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้หรือเปล่า

เอาเข้าจริงผมก็ไม่กล้าหรอกครับ คนอยู่กันเต็มบ้าน แถมตอนนี้ยังเป็นเวลากลางวันแสกๆ อีกต่างหาก

"เฮ้อ" ผมถอนหายใจออกมาแทนคำตอบ "เห็นพ่อแม่พี่หรือยัง"

"ตอนที่ขึ้นมาพี่ชายพี่ดินเป็นคนพาขึ้นมาครับ"

"ถ้างั้นต้องลงไปกันได้แล้วล่ะ เดี๋ยวเรื่องจะใหญ่" ผมต้องป้องกันเอาไว้ก่อน ตอนนี้ผมอยู่ในสถานะที่เสี่ยงต่อการโดนด่ามากที่สุดเพราะเป็นเด็ก ม.6 ทำอะไรผิดแปลกไปก็โดนบ่นไปหมดนั่นแหละ ไม่เชื่อก็คอยดูสิ

"พี่ดินหายโกรธแล้วเหรอ"

"คงงั้นมั้ง"

"..."

"เห็นสตาร์แคร์พี่บ้างพี่ก็โอเคแล้ว"

"ทำไมจะไม่แคร์ล่ะ"

"เมื่อวานสตาร์ห่วงไอ้เรย์แบบไม่เห็นหัวพี่เลย"

"พี่ดิน" สตาร์ร้อง "คนมันกำลังจะตายนะครับ"

"ก็ตอนนั้นพี่ยังเคลียร์อยู่กับสตาร์อ่ะ แล้วสตาร์ก็ไปช่วยไอ้เรย์เฉย มันแบบ..."

"..."

"โว้ย ไม่รู้! พี่คงคิดว่าสตาร์เห็นไอ้เรย์สำคัญกว่า"

สตาร์ทอดถอนใจแต่ก็ยังยิ้มอยู่ "ตอนนั้นมันค่อนข้างกะทันหันไง ถ้าสตาร์ไม่ไปดูพี่เรย์ พี่ดินจะวิ่งเข้าไปดูเหรอ ถามจริง"

ผมก็คงยืนงงว่าควรจะทำตัวยังไงล่ะมั้ง สตาร์ที่ดูแลไอ้เรย์มาหลายวันคงจะเริ่มจับจุดถูกว่าควรทำยังไง

เอ๊ะ หรือผมทำตัวงี่เง่าไปวะ ผมนิ่งคิดไปถึงการกระทำของตัวเอง ผมถูกความโมโหเข้าครอบงำเหตุผลไปนี่หว่า ตอนนั้นรู้แค่ว่าผมทั้งโกรธทั้งเฟลที่สตาร์สนใจคนอื่นมากกว่าอ่ะ ไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนั้น

เวลาคนเรามีความรัก มันต้องทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ใช่มั้ยครับ

"แม่ง พี่อาจจะเหี้ยเอง" ผมเกาหัวแกรกๆ "พี่เองก็ผิดด้วย"

"เอาเป็นว่าเข้าใจกันก็พอเนอะ" สตาร์ยิ้มตาหยี โชว์เหล็กจัดฟันตามเคย

"แล้วมันเป็นไงบ้าง"

"ดีขึ้นแล้วครับ ตอนนี้พ่อแม่ก็ว่างมาดูแล้วด้วย"

"..."

"สตาร์คงไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับพี่เรย์อีกแล้วล่ะ อยากบอกให้พี่ดินสบายใจ"

ไอ้เรย์มันเคลียร์เรื่องสตาร์แล้วเหรอ สตาร์ยังอยู่กับผมตอนนี้ นั่นก็แสดงว่าไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากที่เราเคยคุยกัน

ผมมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย สตาร์เป็นคนที่หน้าตาดีเกินเอื้อมอย่างกับดวงดาวบนฟ้าตามชื่อ แต่มันก็ยอมให้ผม ยอมมาง้อทั้งๆ ที่ผมเองก็ทำตัวงี่เง่า น้องไม่ได้โกรธที่ผมไร้เหตุผลเลย ตรงกันข้ามมันกลับเข้าใจซะงั้น

คำพูดไอ้โชคลอยเข้ามาในหัวของผมเลยครับ คำว่า 'รักแรงหึงแรง' อ่ะ

รักแรงแปลว่ารักมาก ถ้ารักกันมากถึงจะโกรธกันมากแค่ไหนก็ย่อมให้อภัยและพร้อมปรับเข้าหากันเสมอ

เหตุการณ์ครั้งนี้ผมได้เรียนรู้แล้ว

"ขอกอดทีได้ป่ะ" ผมอ้าแขนออกกว้างๆ วันนี้ขอทำตัวเป็นเสี่ยกอดเด็กนักเรียนหน่อยเหอะ

สตาร์อ้าแขนกอดผมตอบอย่างว่าง่าย กลิ่นของมันนี่หอมเป็นบ้า หอมไปทุกกระเบียดนิ้ว ผมแอบดมผมของสตาร์ไปนิดหน่อยอย่างกับคนโรคจิต มันหอมมากกกกกกจนอยากขึ้นสวรรค์ไปเลย

"ไปโรงเรียนมาป่ะเนี่ย ทำไมเหมือนเพิ่งอาบน้ำมา"

"ไปมาดิ"

"แล้วนี่คือออกมาจากโรงเรียนกลางคันงั้นเหรอ"

"ใช่ ใช้ทางที่พี่ดินเคยพาออกไป"

กูทำอะไรลงไปกับเด็กห้องคิงเนี่ย ช่างเหอะ ตอนนี้ผมขอมีความสุขก่อน ระหว่างที่กำลังจะดมผมสตาร์อีกรอบ เสียงประตูเปิดก็ดังขึ้นอีกครั้ง

ผมผละออกจากสตาร์แทบไม่ทัน ดีนะที่มันเองก็ไหวตัวทัน กระเด้งตัวไปนั่งห่างจากผมตั้งไกล

"อ้าว มีเพื่อนมาเหรอ" แม่ผมนี่เอง "หนูคนนั้นนี่ ชื่ออะไรนะจ๊ะ สตาร์ป่ะ"

"ครับ สวัสดีครับแม่" สตาร์ไหว้ด้วยท่าทางขัดๆ เขินๆ ใบหน้ายังไม่หายแดงก่ำ

"จ้า" แม่รับไหว้แล้วหันมาทางผม "แม่กำลังจะไปซื้อข้าวเย็นมา อยากกินอะไร"

"ดินจะไปกินข้างนอกครับ"

"มือหายแล้วเหรอ"

"ไม่เป็นอะไรมากแล้ว"

"เอางั้นเหรอ ตามใจนะ"

"..."

"แต่ห้ามขับรถ!"

ผมมองมือตัวเองที่ถูกพันแผลเอาไว้ มันไม่ได้ใส่เฝือก ยังไงผมก็ขับไหว ผมไม่ได้สัญญากับแม่เอาไว้ ปล่อยให้แม่คิดไปเองว่าผมจะทำตาม

แม่ผมออกจากห้องไปแล้ว ผมทำสีหน้าโล่งอก สตาร์เองก็เหมือนกัน

"ไม่เบาเหมือนกันนะเรา ขึ้นมาหาเสือที่ห้องได้ขนาดนี้ถือว่าไม่ธรรมดา" ผมแซวยิ้มๆ ลุกขึ้นไปประตูเพราะผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้า
 
"ไหนบอกว่าเป็นแมวแล้ว" สตาร์ดูของที่โต๊ะข้างเตียงผม ก่อนจะร้อง "เฮ้ยยยยยยย"

"อะไร" ผมที่เพิ่งถอดเสื้อเสร็จหันมามองน้องอย่างตกใจ "จิ้งจกเหรอ!"

"ไม่ใช่"

"ตกใจอย่างกับเห็นจิ้งจก"

"ถอดเสื้อทำไม" สตาร์หาอะไรไม่รู้มาปิดหน้า แม่งโคตรใสอ่ะ

ผมลองไปนั่งยองๆ ตรงหน้าสตาร์ที่นั่งอยู่บนเตียง สตาร์เขินจริงอะไรจริงครับ เอียงตัวหนีผมตลอด อะไรกัน นี่ผมแค่ถอดเสื้อเอง
 
"หนีพี่ทำไม ชอบพี่ไม่ใช่เหรอ" ผมทำเสียงกรุ้มกริ่ม สตาร์ใช้หนังสือที่ปิดหน้าอยู่ฟาดผมอย่างแรงที่หน้าผากทันที "โอ๊ย! จะฆ่ากันเหรอ

"ไปไกลๆ เลย"

"อ้าว"

"จะเปลี่ยนชุดไม่ใช่เหรอ"

"เขินทำไมเล่า ตลกนะ ฮ่าๆๆ" ผมลุกขึ้น หันหลังกลับเพราะสตาร์จะได้เลิกนั่งตัวบิดสักที "เพื่อนในห้องไม่ค่อยมีใครถอดเสื้อให้ดูเหรอ" ผมชวนคุยไปด้วยเลือกเสื้อไปด้วย

"ก็เยอะอ่ะ แต่ไม่เคยเขินกับใครแบบนี้"

"พี่หุ่นดีอ่ะดิ" ผมขอภูมิใจนิดหนึ่ง

"ไม่"

อ้าว แล้วจะเขินทำไมวะ ผมหรี่ตาทำหน้าขู่สตาร์ แต่อีกฝ่ายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

ฝากไว้ก่อน ปากดีแบบนี้โดนสำเร็จโทษแน่ๆ







"พี่ดิน แม่พี่บอกห้ามขับรถไม่ใช่เหรอ"

"ห้ามพี่ไม่ได้หรอก"

"ขับไหวมั้ย"

"ไหวดิ ไม่ต้องเป็นห่วง"

"สตาร์ไม่ได้ห่วงพี่ สตาร์กลัวตัวเองจะตาย"

"กวนตีนละครับ"

กว่าจะมาถึงสยามก็เล่นเอาเถียงกันไปหลายตลบ แต่ส่วนใหญ่บรรยากาศของเราสองคนดีขึ้นมาก เหมือนเราเข้าใจกันมากขึ้นไปอีก และก็คงจะไม่มีอะไรมาแทรกตรงกลางระหว่างเราสองคนอีกแล้วมั้งครับ ผมหวังว่านะ

"จะกินไรวันนี้ พี่เลี้ยงเอง"

"สตาร์เป็นคนมาง้อนะ เดี๋ยวสตาร์เลี้ยง" คนตัวเล็กโชว์ความป๋า

"เฮ้ย พี่บอกก่อน พี่ต้องได้เลี้ยง"

"สตาร์เลี้ยงเอง"

"แม่งเจออีกละ" เสียงของสิกดังขึ้นมาแทรกระหว่างผมกับสตาร์ เราทั้งหมดเจอกันที่ทางเชื่อมระหว่างบีทีเอสกับพารากอนครับ ไอ้สิกมากับฟืนซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว ฟืนมองผมกับสตาร์สลับกันด้วยความตื่นเต้น

"สองคนนี้มาด้วยกันเหรอ" ฟืนเอ่ย

"พี่ดินเหมือนคนเลี้ยงต้อยเด็กนักเรียนเลยว่ะ" คำพูดนี้เป็นของเชี่ยสิกแน่นอน

ผมพยายามถีบไอ้สิก แต่สตาร์ห้ามไว้ซะก่อน "มาทำอะไร" คนข้างๆ ผมถามสิกกับฟืน ท่าทางเขินๆ ยังไงก็ไม่รู้

"ก็มาเรียนพิเศษตามปกติอ่ะ วันนี้มึงไม่มีเรียนเหรอ" สิกถาม

"กูโดด"

"หา" สิกกับฟืนอ้าปากค้าง "เด็กอย่างมึงเนี่ยนะ โดด"

"พี่ดินทำไรสตาร์" ฟืนโวยวาย "พาเขาเสียหมดเลย รู้ตัวบ้างมั้ย"

"เฮ้ย กูไม่ได้ทำอะไร" ผมพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้มันดีขึ้น นี่กูกำลังจะแพ้เด็ก ม.5 เหรอ

"พี่ดินไม่ได้ทำอะไร กูเนี่ยโดดเอง" สตาร์ยิ้มขำ

สิกกับฟืนมองผมเหมือนผมไปทำผิดอะไรนักหนา ก่อนที่ผมจะได้แก้ตัว เสียงผู้หญิงก็ดังขึ้นมาแทรกระหว่างบทสนทนาของเราทั้งหมด

"ดินคะ"

หยก...หยกเนี่ยนะ ผมอ้าปากค้าง มองหยกสลับกับมองสตาร์ ทำไมจู่ๆ ถึงมาเจอกันที่นี่วะ โอ๊ย กูเกลียดความบังเอิญที่สยามจังเลย
หยกมองคนที่ยืนอยู่กับผมด้วยสายตาเกรงอกเกรงใจ ผมไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี ผมพูดเคลียร์ในโทรศัพท์หมดแล้วไม่ชาเหรอ

"ดินเห็นเพื่อนหยกที่ยืนอยู่ตรงนั้นมั้ยคะ" หยกชี้มือไปที่แก๊งสาวๆ โรงเรียนหยกที่เด็กโรงเรียนผมเห็นเป็นต้องน้ำลายสอกันหมด "เป็นเพื่อนแก๊งที่หยกไม่ชอบ พวกนั้นคิดว่าดินกับหยกเลิกกันแล้ว และหยกจะเสียหน้าไม่ได้"

"หา"

"หยกขอควงดินไปกินบิงซูสักแป๊บได้มั้ย นะๆๆ ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายจริงๆ แล้ว หยกไม่อยากเสียหน้าอ่ะ"

สตาร์ สิก และก็ฟืน ทั้งสามคนมองผมด้วยสายตาอึ้งๆ กันหมด คนที่มองไปทางอื่นก่อนคือสตาร์ ท่าทางของมันเหมือนพยายามสะกัดกั้นอารมณ์โกรธเอาไว้

ที่เธอบอกว่าเป็นครั้งสุดท้าย มันจะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ ใช่มั้ย

"นานมากมั้ย" ผมถามหยกอย่างใจอ่อน

"สักครึ่งชั่วโมง" หยกหันไปหาสตาร์ "นะคะ พี่ขอร้องนะ"

สตาร์ทำหน้าไม่ถูก แต่มันหันไปหาสิกกับฟืนเป็นที่เรียบร้อย

"วันนี้กูไม่โดดดีกว่าว่ะ" สตาร์หยิบโพสต์อิตขึ้นมาจากนั้นก็ใช้หลังฟืนเป็นที่รองสำหรับเขียน

ท่าทางงานจะเข้าผมอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย สิกกับฟืนยืนลังเลอยู่เล็กน้อย แต่แล้วพวกมันก็พยักหน้าเข้าใจในความปรารถนาของสตาร์ ผมยืนมองน้องด้วยสายตาละห้อย จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้อยากให้สถานการณ์มันออกมาในรูปแบบนี้นะ

"รออีกครึ่งชั่วโมงได้มั้ย" ผมถามสตาร์ก่อนที่มันจะเดินจากไป

สตาร์ไม่ตอบเพียงแต่ยัดโพสต์อิตใส่มือผม

ไอดีไลน์ตัวที่ 16
A
คราวนี้พี่ดินต้องง้อผมแล้วล่ะ


งานเข้าผมจริงๆ

นี่เราดีกันยังไม่ถึงวันเลยนะ ให้ตายสิวะ







TBC*

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12







ตอนที่ 17






กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของกูคนเดียว'

Din : กูกับหยกไม่มีอะไรนะเว้ย
Din : สิกฟืน สตาร์อยู่ไหนแล้ววะ
FUEN : กลับบ้านไปแล้วมั้งครับ
AOF : ดราม่าอีกแล้วครับท่าน
TANG : เกิดอะไรขึ้นอีกแล้วเนี่ย
CHOK : ไปง้อดิสาด
Din : ง้อยังไงเล่า
CHOK : ไอจีก็มี โพสต์บอกรักไปเลยดิฟาย
PHYSICS : เอาเบอร์ไปเลยป่ะ โทรคุยกันเลยจะได้จบๆ
Din : มันไม่ได้โว้ย
PHYSICS : งั้นก็คงหายยากอ่ะ
Din : ใครมีเบอร์เชี่ยบู้ ม.5/1 ตอนนี้ กูให้ห้าร้อยเลย
PHYSICS : 089-94903XX ไม่ต้องให้ตังค์หรอก เมียผมรวย







กลางดึกคืนนั้นผมโทรหาเชี่ยบู้หลายสายมาก แต่มันไม่รับ แม่งเอ๊ยยย!

หลังจากที่แยกกับหยกผมก็พยายามไปดักรอสตาร์แต่ไม่เจอเลย แม้กระทั่งสิกกับฟืนผมก็ไม่เจอ สตาร์คงจะงอนผมจริงๆ และผมก็ขอยอมรับผิดทุกกรณี แต่ผมขอบอกไว้ ณ ตรงนี้เลยว่าเรื่องของผมกับหยกนั้นมันจบไปแล้วจริงๆ ครับ การที่เราทั้งคู่ไปกินบิงซูกับเพื่อนๆ ของหยก มันก็แค่ของหวานมื้อเดียวเท่านั้น หยกแทบจะไหว้ขอบคุณผมด้วยซ้ำ ท่าทางเพื่อนกลุ่มนั้นจะเป็นเพื่อนที่ค่อนข้างแข่งขันกันมากพอดูเลย

เธอบอกให้ผมโชคดี แต่จะโชคดีจริงมั้ยยังไม่รู้เลย เพราะผมติดต่อสตาร์ไม่ได้ เพื่อนรักของสตาร์ก็ยังไม่ยอมรับสายผม ไม่รู้ว่าสตาร์กระจายความงอนของมันไปหาเพื่อนหรือเปล่า นี่ผมชักเครียดแล้วนะเนี่ย

รอให้ถึงวันไปโรงเรียนพรุ่งนี้ไม่ไหวหรอกนะ

หลังจากที่ล้างแผลเสร็จแล้ว แม่ก็เทศนาผมไปอีกหลายบทเรื่องเรียนต่อ พ่อเองก็นั่งอยู่ด้วย แต่พ่อไม่ค่อยพูดหรอกครับ ปล่อยให้แม่คุมเกมทั้งหมด ทุกอย่างดำเนินไปโดยมีไอ้พิงค์คอยแหย่คอยแกล้งผมอยู่เรื่อย จนแม่รำคาญ ไล่เราทั้งคู่ขึ้นมาห้องนอน

ผมพยายามติดต่อสตาร์ตั้งแต่สองทุ่ม จนกระทั่งตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มครึ่งแล้ว สตาร์ก็ไม่ยอมติดต่อผมเลย ไม่ว่าจะเป็นทางสิก ทางฟืน หรือทางไอ้บู้ มันเอาแต่เงียบจนผมชักจะกลัวว่าการที่มันงอนครั้งนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระหว่างผมกับมันขึ้นมา

อยากบุกไปที่บ้าน แต่ทำไม่ได้ พ่อกับแม่อยู่บ้านครบแบบนี้ ถ้าขืนออกไปมีหวังเละเป็นโจ๊กแน่ๆ

นี่ผมต้องรอถึงวันพรุ่งนี้จริงๆ เหรอ

ผมถ่ายรูปหน้าเศร้าตัวเองลงในไอจีด้วยอาการเซ็งสุดกู่ แคปชั่นใต้รูปมาจากความรู้สึกจริงๆ จากหัวใจของผม

'Sorry'

ไม่ถึงนาทีครับ ทั้งเพื่อนทั้งรุ่นน้องแม่งแห่แหนกันมาเหมือนกับไอจีผมมีงานเซลล์เทกระจาด ผมจะขอคัดมาแต่เจ้าของไอจีที่ทุกท่านรู้จักก็แล้วกันนะครับ

Chok_luck กูไม่ให้อภัย
Physicscoolcool หงอยเลย 5555
Fuenfire สู้ๆ ครับ
Tang ไอ้นั่นมันก็ยังไม่นอนนะ ยังมาเมนต์ให้ผมอยู่เลย


เสียงในใจของผมร่ำร้องตะโกนบอกให้ผมโกงด้วยการ Direct message ไปหาทางไอจี แต่สตาร์เป็นคนที่มีฟอลโลเวอร์ค่อนข้างเยอะ มันจะเห็นข้อความของผมมั้ย

'น้องดาว พี่ขอโทษ'

ไม่รู้ล่ะ ผมกดส่งไปแล้ว ถ้าเรียกว่าน้องดาวแสดงว่าผมพยายามที่จะหวานที่สุดในโลกแล้วนะ สตาร์ยังไม่อ่านข้อความลับของผมเลยครับ เวลาผ่านไปแล้วผ่านไปอีก ในที่สุดผมก็ยอมแพ้ กดส่งข้อความไปอีกครั้งหนึ่งก่อนนอน

'อยู่ให้พี่ง้อก่อนนะ ตัวสตาร์ แล้วก็ใจของสตาร์ด้วย'








โรงเรียน

"เชี่ยบู้ มึงอยากตายเรอะ!" ทันทีที่ผมมาถึงห้อง ม.5/1 ผมก็ร้องด่าหัวหน้าห้องนี้ก่อนเป็นอันดับแรก (หลังๆ เพิ่งรู้ว่ามันเป็นหัวหน้าห้องด้วย) เด็กที่มาถึงโรงเรียนแล้วมองผมเหมือนผมเป็นตัวประหลาด แต่ผมไม่แคร์ใครทั้งสิ้น โชคดีที่ไอ้บู้มาแล้ว มันนั่งทำหน้าหวาดๆ อยู่มุมหนึ่ง

สตาร์ยังไม่มาโรงเรียนครับ

"อะไรครับพี่"

"กูโทรไปทำไมไม่รับสายเมื่อคืน"

"เบอร์พี่เหรอ"

"..."

"ผมไม่รับสายเบอร์แปลก"

"ฟาย" ผมส่งสายตาไล่เด็กที่นั่งอยู่ข้างๆ ไอ้บู้ออกไปก่อนจะทิ้งตัวนั่ง "กูมีเรื่องจะพูดกับมึง"

"เรื่องที่ทิ้งเพื่อนผมไปกับผู้หญิงน่ะเหรอ"

โอ้โห มึงไม่เอามีดมาแทงกูเลยล่ะ...

ผมหน้าเจื่อนลงไปนิดหนึ่ง "มึงรู้เหรอวะ"

"รู้ดิ ก็ผมนี่แหละที่เป็นคนฟังไอ้สตาร์มันโทรมาคร่ำครวญกับผมเมื่อคืน"

พรึ่บ! สายตาของไอ้พวกห้องหนึ่งมองผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อทันที กลับมาอีกครั้งแล้วสินะบรรยากาศแบบนี้ บรรยากาศที่พวกมันไม่ยอมให้ผมอยู่ใกล้สตาร์อีกต่อไป

กูผิด กูขอโทษ กูมาง้อแล้วนี่ไง

"แล้ว...มันว่าไงบ้าง"

"ว่าไงน่ะเหรอ ก็โกรธมากอ่ะดิพี่"

"หา"

"เมื่อวานมันไปง้อพี่ด้วยเรื่องที่คล้ายๆ กันเลยนะ เรื่องที่สนใจคนอื่นมากกว่าเนี่ย"

กูจุกเลย...

"พี่ไม่ชอบ แต่พี่ทำงั้นกับเพื่อนผมทำไมครับ ไม่เข้าใจพี่เลยจริงๆ"

"ก็ผู้หญิงเขาขอ"

"เขาขอแล้วต้องทำตามทุกอย่างเหรอ"

"ก็เขาบอกว่าเป็นครั้งสุดท้ายนี่หว่า เดี๋ยว ทำไมกูต้องมาแก้ตัวกับมึงอีกครั้งล่ะวะ"

"แก้ตัวกับผมก่อนดีแล้ว ผมจะได้ช่วยดูว่าพี่รู้สึกผิดมากพอหรือเปล่า ถ้าพี่คิดงั้นจริงๆ ผมจะได้ไฟเขียวให้ง้อเพื่อนผม"

ยอมใจเด็กห้องนี้ เออ มึงรักเพื่อนมึงจริงๆ กูกราบบบบบบบ

"แล้วกูต้องทำยังไงวะ" ยอมแม่งไปก่อนละกัน

"พี่เหลือไอดีไลน์ของสตาร์อีกกี่ตัว"

"สี่"

"หลังๆ มันให้พี่ง่ายมาก เดินไปให้เฉยๆ ก็มี ผมได้ข่าว"

"ก็มันชอบกูอ่ะ" ผมยักไหล่

"มั่นหน้า"

"แล้วมันจริงมั้ย" ผมกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย

"จริงครับ ขอโทษครับพี่" ไอ้บู้ยกมือไหว้ประหลกๆ "สตาร์มันเป็นคนใจอ่อนจะตาย มาตื๊อมันหน่อยเดี๋ยวมันก็หาย"

"..."

"ทำเหมือนตอนที่พี่มาขอไลน์สตาร์ช่วงแรกๆ ก็ดีครับ เอาให้หมดมาดพี่ดินคนหล่อไปเลย เพื่อนผมจะได้รู้ว่าพี่ไม่ได้แคร์เรื่องนั้น แต่แคร์มันมากกว่า"

"เอางั้นเหรอ อืมๆ" ผมหันไปหาเด็กห้องหนึ่งทุกคน "พวกมึงก็เลิกมองมาที่กูแบบนั้นได้แล้ว ไอ้พวกโรคจิตเอ๊ย!"

พวกมันสะดุ้ง จากนั้นก็กลับไปทำกิจกรรมตามปกติ

วันนี้ผมต้องใช้เวลาทั้งวันหมดไปกับการง้อสตาร์จริงๆ ครับ

เริ่มจากเมื่อเช้าตอนเข้าแถว ผมกับเพื่อนห้องสองที่ยังพอจะมาโรงเรียนอยู่บุกไปแถวของเด็ก ม.5/1 เลยครับ สตาร์กับเพื่อนตกใจกันใหญ่ นึกว่าผมจะมาหาเรื่อง

เปล่าเว้ย มาง้อเนี่ย!

ผลก็คือสตาร์ได้แต่ซ่อนอยู่ข้างหลังตัวไอ้บู้ ไม่ยอมสบตาผม จะเดินเข้าไปใกล้ก็ขยับตัวหนี เหมือนเด็กตัวเล็กๆ เวลาเขินผู้ใหญ่อ่ะ ผมพยายามทุกวิถีทางแล้ว แต่สตาร์ไม่ยอมคุยกับผมสักที เอาแต่เบียดไอ้บู้จนผมใกล้จะเอาเท้าถีบไอ้บู้อยู่แล้ว โทษฐานอยู่ให้สตาร์สิงนานเกินไป แต่กลัวว่าถ้าทำจะโดนเพิ่มอีกกระทงก็เลยได้แต่จ๋อย เดินกลับห้องตัวเองและก็ไปเข้าแถวด้วยท่าทางเซ็งๆ
 
ครั้งนี้โกรธจริงใช่มั้ยเนี่ย

"ตายแน่มึง ไอ้ดิน มึงอกหักแล้ว น้องไม่ชอบมึงแล้ว" ไอ้โชคหัวเราะอย่างสะใจตอนที่เข้าแถวอยู่

"ตกลงมึงจะช่วยชงหรือช่วยให้ฉิบหาย เลือกมาสักอย่าง!" ผมชักโมโห

"ก็น้องมันโกรธมึงมากอ่ะ ไม่ยอมมองหน้ามึงเลยตอนนี้"

ผมเก็บเอาคำพูดไอ้โชคมาคิดตลอดเช้า คิดหนักจนความรู้ที่คุณครูถ่ายทอดให้เข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาของผม ผมเซลฟี่กับไอ้โชคอัพรูปไอจี เพียงเพื่อต้องการอยากส่งแคปชั่นใต้รูปบอกให้สตาร์รับรู้อะไรบางอย่าง

ทำไงได้ ผมกับมันก็มีแค่ไอจีที่สื่อถึงกันได้อ่ะ

'โชคบอกว่าพี่จะอกหัก ช่วยมาแก้คำพูดไอ้โชคทีครับ น้องคนนั้นอ่ะ'

อยู่ในยุคที่กูต้องมาง้อคนผ่านไอจีแล้วเหรอวะ ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากทึ้งหัว สตาร์เข้ามากดไลค์ครับ (รูปเมื่อคืนก็กดไลค์นะ) แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามมา นอกจากการกดไลค์ด้วยนิ้วเล็กๆ ของมัน

เฮ้อ อย่างน้อยมันก็เห็นล่ะวะ

ตอนพักกลางวันเป็นตอนที่ผมคิดว่าไม่ว่าจะยังไงผมก็ต้องทำให้สตาร์หายโกรธให้ได้ ทันทีที่ผมกินข้าวเสร็จก็เดินบุกเดี่ยวไปยังโต๊ะที่พวกเด็ก ม.5/1 นั่งอยู่ ปรากฏว่าทุกคนพร้อมใจกันปล่อยให้สตาร์นั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียว ทิ้งให้ผมได้ง้อสตาร์สะดวกหน่อย

เข้าทางผมแล้ว อยู่กันสองคนแบบนี้จะได้คุยกันสะดวก

มื้อเที่ยงวันนี้คือก๋วยเตี๋ยว สตาร์ใช้ตะเกียบคีบเส้น ใบหน้าบ่งบอกอารมณ์ว่ากำลังขุ่นเคืองอะไรบางอย่าง ซึ่งนั่นก็คือผมเองนี่แหละครับ

"สตาร์ พี่มาง้อแล้ว"

"..."

"อยากให้พี่ทำอะไร อยากให้พี่เป็นอะไร พี่จะเป็นทุกอย่างเลย"

"..."

"พี่เป็นแฟนให้สตาร์ก็ได้นะ"

คนถูกง้อทำหน้าบึ้งหนักกว่าเดิม นี่ผมต้องคุกเข่ากลางโรงอาหารเลยป่ะเนี่ย มันถึงจะหายโกรธผมอ่ะ

เฮ้ย เป็นความคิดที่ดี

"พี่ผิดจริงๆ พี่คิดน้อยไป แต่พี่ก็มีเหตุผลของพี่ที่อยากอธิบายให้ฟังจริงๆ นะ"

"..."

"พี่คุกเข่าได้นะถ้าสตาร์ต้องการ"

สตาร์รีบยกสองมือห้ามผม แต่ยังไม่ยอมพูดอะไร

"พูดบ้างสิ"

"สตาร์ก็แค่..."

"..."

"น้อยใจ"

"..."

"พี่ดินทำในสิ่งที่พี่ดินงอนสตาร์อ่ะ มันแปลกๆ มากเลยรู้ป่ะ"

ผมรู้ ผมผิดจริงๆ นั่นแหละ ระหว่างที่ผมกำลังอ้าปากพะงาบๆ จะแก้ตัวกับสตาร์ ใครบางคนก็มาสะกิดหลังผม ผมปัดมือนั้นออกไปอย่างไม่คิดจะสนใจ

"ภูดิน"

เฮ้ย เสียงนี้นี่มัน...

ผมหันขวับไปดูทันที ภาพที่เห็นทำให้ผมรู้สึกอยากจะบ้าตายเสียให้ได้

"แม่"

ใบหน้าแม่เหมือนกำลังพยายามเก็บอารมณ์โมโห แต่ผมกำลังงงว่าแม่มาโผล่ที่โรงอาหารโรงเรียนได้ไงในเวลากลางวันแบบนี้ แม่ตวัดสายตาไปมองสตาร์ที่ยกมือไหว้แม่อย่างหวั่นๆ

"มากับแม่ แม่มีเรื่องจะคุยด้วย"


"แม่ เกิดอะไรขึ้น" ผมลุกขึ้นยืน ถามแม่ด้วยสายตาสงสัยเป็นที่สุด ที่บ้านมีเรื่องอะไรหรือเปล่าวะเนี่ย การที่ผู้ปกครองของใครสักคนมาหาที่โรงเรียนมันต้องเป็นเรื่องใหญ่มากๆ แน่ครับ ทุกคนในโรงเรียนรู้กันดี

"ไปคุยกันที่อื่น"

ใจของผมรู้สึกวูบไหวไปหมด ผมมองสตาร์ที่กำลังมองผมอยู่เหมือนกัน

เกิดอะไรขึ้นกันแน่







แม่พาผมมายังทางเดินที่เวลานี้ไม่ค่อยมีนักเรียนเดินผ่านกันนัก ใจผมตอนนี้ลุ้นมากว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ยิ่งเห็นท่าทางของแม่ที่เหมือนข่มอารมณ์โกรธ ผมก็ยิ่งรู้สึกกังวลไปหมด

"แม่"

"ดินไม่ติดมอ C นะ"

ผม...ช็อก

ไอ้เหี้ย ผมช็อกจริงๆ นะ

"อะ...อะไรนะแม่"

"ดินไม่ติดมอ C มอที่ทุกคนรู้ว่ายังไงดินก็ต้องติด"

เหมือนมีคนเอาน้ำเย็นเฉียบมาสาดผม ใบหน้าของผมชา ตัวชา และมือก็ชา ผมช็อกมากจริงๆ จนไม่รู้ว่าจะบรรยายความรู้สึกนี้ยังไงดี

อันที่จริงก็พอรู้ตัวแหละว่าจะไม่ติด แต่พอได้ยินผลที่แน่ชัดแบบนี้มันก็รู้สึกสะเทือนใจแปลกๆ เหมือนกัน

"แม่จะไม่พูดว่าลูกของแม่ไม่เก่ง เพราะลูกแม่เก่งที่สุดอันนี้แม่รู้ดี และแม่ก็ภูมิใจมากด้วย แต่ตอนนี้ดินโฟกัสผิดจุด ดินรู้ตัวบ้างมั้ย"

"..."

"การที่ดินจะมีความรัก แม่ไม่ห่วง แม่ไม่ยุ่ง เพราะแม่รู้ว่าดินคิดเองเป็นว่าใครดีพอสำหรับดิน แต่ตอนนี้ดินก็เห็นแล้วใช่มั้ยว่าผลมันเป็นยังไง"

"..."

"แม่ว่าดินต้องพักเรื่องน้องคนนั้นเอาไว้ก่อน"

ผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูก มันตันไปหมดทั้งสิ่งที่ผมเพิ่งได้รับรู้และคำพูดที่แม่เพิ่งจะพูดออกมา

"ดินยังมีโอกาสกลับตัวใหม่นะ มอ B กับมอ A ก็ยังไม่เปิดรับสมัคร"

"..."

"ถ้าโควตาไม่ได้ แอดมิชชั่นก็ยังมี แม่รู้ว่าดินทำได้"

"เพราะเรื่องนี้ แม่ถึงขนาดต้องมาที่โรงเรียนดินเลยเหรอ"

"แม่ขอโทษถ้าทำให้ดินอายเรื่องนี้ แม่ร้อนใจจริงๆ...และแม่ก็อยากมาพิสูจน์ด้วยตาตัวเองด้วย" แม่กลืนน้ำลาย

"พิสูจน์อะไรครับ"

"พิสูจน์ว่าลูกแม่กำลังจริงจังผิดเรื่องหรือเปล่าน่ะสิ"

"เรื่องสอบดินก็จริงจัง"

"แต่ดินก็ยังไม่ติด"

"เอาไว้คุยกันที่บ้านนะครับ" ผมตัดบทแม่แล้วเดินหันหลัง

"เก็บเรื่องนี้ไปคิดดีๆ นะดิน"








สนามหญ้าใกล้ตึก ม.6

'ประกาศผลการสอบโควตารับตรงมหาวิทยาลัย C
นายภูดิน อัศวพลกุล
ไม่ผ่านการคัดเลือก'


ผมเลื่อนดูประกาศในเว็บด้วยความขมขื่น ไม่ผ่านจริงๆ ด้วย แม่ผมไม่ได้โกหกเลยสักนิด นี่เป็นมหา'ลัยแรกที่ผมสมัครและปรากฏว่าสอบไม่ติด ความผิดหวังครั้งแรกนี้ค่อนข้างทำร้ายผมมากเลยทีเดียว เพราะอะไรน่ะเหรอ

สตาร์เป็นคนพาผมไปจ่ายตังค์ แถมสตาร์เป็นคนเอาข้าวกลางวันมาให้ด้วย แต่ผมก็สอบไม่ติด

ผมจะบอกน้องยังไง

ตอนบ่ายผมโดดเรียนครับ ใครจะว่าอะไรก็ช่างตอนนี้ผมไม่สนใจแล้ว ผมรู้สึกอยากอยู่เงียบๆ และก็คิดอะไรในหัวของตัวเอง จำได้ว่าที่นี่ฟืนก็เคยมานั่งด้วย มันเป็นที่ประจำของผมตอนที่ผมโดดเรียน แต่คราวนี้คนที่ผมอยากให้มาอยู่ด้วยไม่ใช่ฟืนแต่เป็นสตาร์
ผมอยากให้สตาร์อยู่แถวนี้จังเลยว่ะ

"พี่ดิน" ผมตกใจที่จู่ๆ คนที่ผมปรารถนาก็มาอยู่ใกล้ๆ ผมจริงๆ ผมมองไปที่สตาร์อย่างทึ่งๆ ไม่คิดว่ามันจะเดินจากตึกตัวเองมาถึงตรงนี้ เรียกได้ว่าไกลมากเลยแหละครับ

"สตาร์ พี่กำลังแย่" ผมพูดออกมาอย่างไม่ปิดบัง

"สตาร์รู้ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรก็เลยมาดู" สตาร์ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ "เกิดอะไรขึ้นครับ"

ผมสบตาน้องได้ไม่นานก็แพ้ ละสายตาไปทางอื่นเอง

"...เอาอย่างงี้ดีกว่า สตาร์หายโกรธพี่เรื่องหยกหรือยัง"

อีกฝ่ายทอดถอนใจ "พี่ดินบอกว่าพี่ดินมีเหตุผล"

"พี่ยอมเขาทำตามที่เขาขอเพราะเขาบอกพี่ว่าเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งมันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ พี่ขอโทษจริงๆ นะ"

สตาร์ยิ้มเบาๆ ส่งมาให้ "เห็นพี่ดินพยายามง้อ ทั้งในไอจีและก็ตอนเช้าตอนกลางวัน สตาร์ก็โอเคแล้ว"

"..."

"ว่าแต่เกิดอะไรขึ้น ทำไมแม่พี่ดินถึงมาที่โรงเรียน มีอะไรหรือเปล่า"

เป็นคำถามที่ผมไม่รู้จะตอบน้องยังไงดี

"พี่ต้องทำให้สตาร์ผิดหวังแน่ๆ ถ้าสตาร์ได้ยิน"

"หืม? ไปกับสาวที่ไหนต่อหน้าแม่มางั้นเหรอ"

"บ้า ไม่ใช่" คิดได้ไงกัน

"..."

"พี่สอบไม่ติดมอ C ว่ะ"

ผมมองสีหน้าของสตาร์ ใบหน้าขาวฉายแววช็อกเล็กน้อย แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

"ก็นึกว่าเรื่องอะไร"

"ไม่ผิดหวังในตัวพี่เหรอ"

"ผิดหวังทำไม สอบไม่ติดมันก็เหมือนสอบตกนั่นแหละ โอกาสแก้ตัวมีเยอะแยะ"

ผมอึ้งมาก ไม่คิดว่าสตาร์จะคิดแบบนี้ มันคือคนที่ทำหน้าเศร้าแทบตายตอนที่ไม่ได้สอบคะแนนดิบวิชาครูสุพิชชานะ

"สตาร์เป็นคนพาพี่ไปจ่ายตังค์ ไปหาพี่ที่สนามสอบอีกต่างหาก"

"พี่ดิน เรื่องแค่นั้นสตาร์ทำให้พี่ดินอีกกี่ครั้งกี่หนก็ได้ มันไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียวนะ"

สตาร์พูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา แต่ใจผมพองโตมากหลังจากที่ได้ยิน ความกังวล ความผิดหวังของผมเริ่มถูกลมพัดพาหายไปเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของสตาร์

ผมซึ้งใจว่ะ

"อยากกอดนะ แต่ไม่ได้" ผมหัวเราะแห้งๆ เพราะที่นี่คือโรงเรียนแล้วคนก็เดินผ่านไปผ่านมาเยอะแยะไปหมด

"แม่พี่ดินมาแค่เรื่องนี้เหรอ"

คำถามนี้แหละที่พีคที่สุดแล้ว ผมจะพูดยังไงดีถ้าหากว่าแม่ผมต้องการให้เราสองคนห่างๆ กัน เพราะผมทำไม่ได้และก็ไม่ได้อยากให้สตาร์อยู่ห่างผมด้วย

ผมเลือกที่จะไม่พูดดีกว่า ผมดื้ออยู่แล้ว และผมจะแสดงให้แม่เห็นว่าการที่ผมมีสตาร์ ชีวิตผมจะดีขึ้นกว่าเดิม การสอบมอ C ไม่ติดมันเป็นเพียงแค่ก้าวแรกสั้นๆ ผมยังมีอีกตั้งหลายก้าวให้เดิน

ผมอยากให้สตาร์ร่วมเดินไปกับผม

"ว่าไงครับ"

นัยน์ตาของผมจ้องมองไปที่ดวงตาของสตาร์ที่เปล่งประกายระยิบระยับเสมอ ผมแบมือขอโพสต์อิตจากสตาร์เพราะเห็นว่ามีกระดาษสีเหลืองอยู่ตรงกระเป๋าเสื้อของอีกฝ่าย

"คราวนี้พี่อยากเขียนเอง" พอจะรู้อยู่แล้วว่าไอดีไลน์ตัวต่อไปคืออะไร

ผมหยิบปากกาของตัวเองมาจากกระเป๋ากางเกง

ไอดีไลน์ตัวที่ 17
R
อยู่เคียงข้างกันนะ


ผมยื่นให้อีกฝ่ายอ่าน สตาร์ยิ้มแฉ่งส่งให้ผมและก็พยักหน้า ผมเก็บโพสต์อิตใบนั้นไว้กับตัวเอง จะจำไว้ว่าผมมีกำลังใจเล็กๆ คอยสนับสนุนผมอยู่เสมอ

กำลังใจจากน้องดาวของผมนั่นแหละ






TBC*


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด