พิมพ์หน้านี้ - เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Chiffon_cake ที่ 21-11-2017 16:04:00

หัวข้อ: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 21-11-2017 16:04:00
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม















เขาหมุนรอบความรัก

By : Chiffon_cake

ภาคต่อเรื่อง รักร้ายของผู้ชายคูลๆ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56908.0)








คำเตือน
บุคคลและสถานที่ในนิยายเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผู้เขียนสมมติขึ้นและไม่มีอยู่จริง
ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน




สารบัญ

บทนำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3740762;topicseen#msg3740762)
ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3742897;topicseen#msg3742897)
ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3754744;topicseen#msg3754744)
ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3771818;topicseen#msg3771818)
ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3781830;topicseen#msg3781830)
ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3781832;topicseen#msg3781832)
ตอนที่ ุ6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3781833;topicseen#msg3781833)
ตอนที่ ุ7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3784936;topicseen#msg3784936)
ตอนพิเศษ : บันทึกของบูบู้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3784938;topicseen#msg3784938)
ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3784939;topicseen#msg3784939)
ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3791888;topicseen#msg3791888)
ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3791890;topicseen#msg3791890)
ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3791891;topicseen#msg3791891)
ตอนที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3797074#msg3797074)
ตอนที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3797083#msg3797083)
ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3797094#msg3797094)
ตอนพิเศษ พาร์ตของเรย์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3797096#msg3797096)
ตอนที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3797102#msg3797102)
ตอนที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3797105#msg3797105)
ตอนที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3797110#msg3797110)
ตอนที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3797116#msg3797116)
ตอนที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3797119#msg3797119)
ตอนที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3797123#msg3797123)
ตอนที่ 21 บทส่งท้าย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63901.msg3797130#msg3797130)




หัวข้อ: Re: เธอหมุนรอบความรัก '★
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 21-11-2017 16:08:51



ผมไม่ปล่อยให้ความรักตามหาผมหรอกครับ
ผมนี่แหละจะตามหามันเอง



บทนำ



   มีรุ่นน้องอยู่คนหนึ่งที่ติดอยู่ในความคิดผมมานานมากกว่าหนึ่งเดือนแล้ว

   เคยได้ยินมั้ยว่ามีมนุษย์บนโลกใบนี้มีไอดีไลน์ราคาตัวละสามพัน

   ผมคิดว่าแม่งโคตรโม้ มันจะมีได้ยังไงกัน ถ้าไอ้บ้านั่นมันเป็นดาราซุปเปอร์สตาร์ก็ว่าไปอย่าง แต่หลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้ ความสงสัยมันก็เกาะกินสมองของผม จนกลายเป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจ

   ตอนนี้ผมก็อยากรู้เต็มแก่แล้วว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือว่าโกหก

   คนอย่างผมถ้าอยากรู้อะไรต้องได้รู้ครับ

   และที่อยู่เบื้องหน้าของผมตอนนี้ก็คือห้องเรียนชั้นม. 5/1 เป็นห้องเรียนที่จัดได้ว่าหรูมากเมื่อเทียบกับห้องเรียนสายวิทย์ธรรมดาอย่างม. 6/2 ของผม

   ไหนดูซิว่าจะไอดีไลน์ของไอ้เด็กนั่นจะราคาตัวละสามพันจริงหรือเปล่า วันนี้สิ่งที่ติดอยู่ในใจผมจะได้ถูกไขให้กระจ่างชัดสักที

   มีเด็กม. 5/1 เดินออกมาจากห้องพอดี ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ และก็จ้องหน้ามันเขม็ง อีกฝ่ายส่งสายตาหวาดๆ มาให้ผมเหมือนกับที่รุ่นน้องทุกคนในโรงเรียนนี้ทำ

   “พี่ดินมีอะไรครับ”

   “ไอ้สตาร์มันอยู่ห้องนี้ใช่ป่ะ”

   มันชักสีหน้าใส่ผม ผมรู้สึกได้ในทันทีว่ามีอะไรแปลกๆ ไป จู่ๆ ไอ้เด็กนี่มันก็กล้าเผชิญหน้ากับผมขึ้นมาซะอย่างนั้น

   “ทำไมครับ”

   “กูว่าจะมาขอไอดีไลน์มันหน่อย”

   ผมทำเพราะความสงสัย ไม่ใช่เพราะผมอยากได้ไอดีไลน์อะไรนี่หรอกนะ ‘ไอ้สตาร์’ นั่นถึงแม้ว่ามันจะหน้าตาน่ารักและก็โด่งดังมากก็จริง แต่มันไม่ใช่สเปกผมเลย

   “ตัวละสามพันครับพี่ดิน”

   หา...แม่งจริงอย่างที่คนเขาลือกัน!

   “มึงบ้าป่ะ” ผมโวย “ของแบบนี้ใครเขาขายกันวะ”

   “ห้องผมขายครับ ใครที่อยากได้ไอดีไลน์ของสตาร์ต้องจ่ายเงิน”

   “มีใครจ่ายมั้ย”

   “ยังไม่มีครับ”

   “ก็ใช่ไง ใครจะไปโง่เสียเงินให้พวกมึง”

   “แล้วพี่มายืนโง่ขอไอดีไลน์สตาร์ทำไมล่ะครับ”

   คำพูดของไอ้เด็กนั่นทำเอาผมเริ่มอารมณ์ขึ้น ผมขยับเข้าไปหาพร้อมๆ กับจับคอเสื้อนักเรียนข่มขู่

   “มึงคิดว่ามึงจะพูดอะไรกับกูก็ได้งั้นเหรอ”

   “เอ่อ...คือว่าไอดีไลน์ของสตาร์มี 20 ตัว ทั้งหมด 60000 บาทครับ”

   บ้าไปแล้ววววววววววววววววววว ใครมันจะซื้อของมึง! แล้วไอดีห่าไอดีเหวนั่นทำไมต้องมีตั้ง 20 ตัววะ เยอะไปป่ะสัด

   “นี่มึงจริงจังหรือมึงแกล้งกูเล่นๆ”

   “ผมจริงจังครับพี่”

   “เพราะแพงขนาดนี้ไงถึงไม่มีคนซื้อ”

   “นั่นแหละครับที่พวกผมต้องการ”

   ผมปล่อยคอเสื้ออีกฝ่าย “หมายความว่าไง”

   “สตาร์คือสมบัติของห้องครับ ถ้าไม่ดีจริงก็อย่าหวังว่าจะได้ไป” มีเรื่องแบบนี้อยู่ในโรงเรียนผมด้วยเหรอวะเนี่ย “ถึงแม้ว่าคนนั้นจะเป็นพี่ดินคนเพอร์เฟ็กต์ อยู่ในสภานักเรียน เป็นหัวหน้าสารวัตรนักเรียน และก็เป็นหัวหน้ากองร้อยตอนเรียนรด. ถึงยังไงห้องเราก็จะไม่ให้ง่ายๆ”

   “...”

   “ตกลงพี่จะซื้อไอดีไลน์ของสตาร์มั้ยครับ”

   “กูไม่ซื้อโว้ย กูไม่ได้โง่!”

   “...”

   “ถ้ากูอยากได้จริงๆ กูไปขอเองก็ได้ กูไม่จำเป็นต้องจ่าย”

   มันมองหน้าผมอย่างประเมิน ที่กวนตีนกว่านั้นก็คือมันมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าคล้ายกับดูถูกอยู่เนืองๆ

   อดทนไว้ดิน นี่รุ่นน้องม.5 ไม่ใช่ศัตรูจากโรงเรียนคู่อริ

   “ผมคิดว่าสตาร์ไม่น่าจะให้พี่ เพราะสตาร์เพิ่งอกหักจากสิก คงยังไม่พร้อมที่จะมีใคร”

   “ทำไมมึงถึงคิดว่ามันจะไม่ให้กู” ผมรู้สึกเหมือนถูกสบประมาทเล็กๆ

   “ผมเพิ่งบอกไปไงว่าสตาร์คงยังไม่พร้อมมีใคร” มันเชิดหน้าใส่ผม “หรือไม่ก็พี่ลองผมขอดู ผมว่ายังไงเพื่อนผมมันก็ไม่ให้พี่”

   “นี่มึงท้ากูเหรอ”

   “จะคิดอย่างนั้นก็ได้ครับ”

   “มึงไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่ากูจะไม่ได้ไลน์มัน”

   “พี่ก็ไปลองขอดูสิ ยังไงมันก็ไม่ให้”

   ไอ้เราเองก็ชอบเวลาใครมาท้าทายซะด้วย ถูกท้าทีไรก็มักจะตอบตกลงทุกทีไป

   แค่ไลน์ไอ้เด็กนั่นมันจะไปยากอะไรตรงไหนวะ

   ผมยิ้มมุมปากใส่เพื่อนไอ้สตาร์ ก่อนที่จะพูดทิ้งท้ายกับมันเอาไว้

   “มึงคอยดู”

   “...”

   “ต่อไปนี้เด็กห้องม. 5/1 คงจะได้เห็นหน้ากูจนเบื่อเลยล่ะ”

   “...”

   “โดยเฉพาะเด็กที่ชื่อว่าสตาร์นั่น”










TBC*




ดินกับสตาร์มาแล้ววววววววว
เด็กน้อยไลน์ที่แท้ทรูค่ะ ต้องเข้าใจโทนเรื่องนิดนึงน้า
ตัวละครเป็นแค่เด็กมัธยมห้าวๆ 555
หวังว่าจะติดตามกันนะคะ <3
หัวข้อ: Re: เธอหมุนรอบความรัก '★ Up : บทนำ P. 1 21/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 21-11-2017 16:49:14
มาสักทีเน้อออ รอครับทีนี้
หัวข้อ: Re: เธอหมุนรอบความรัก '★ Up : บทนำ P. 1 21/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: Mazaaki ที่ 21-11-2017 16:53:27
มารอตอนต่อไปเลยจร้า
หัวข้อ: Re: เธอหมุนรอบความรัก '★ Up : บทนำ P. 1 21/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-11-2017 16:59:53
ขึ้นอิรโทรมาคุ้นๆแฮะ เรืรองไอดีไลน์ 3 พันบาท และแล้วก็โป้ะเชะ น้องสตาร์คนงามจริงๆด้วย
หัวข้อ: Re: เธอหมุนรอบความรัก '★ Up : บทนำ P. 1 21/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 21-11-2017 18:22:59
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

รออ่านสตาร์กับพี่ดินค่ะ
หัวข้อ: Re: เธอหมุนรอบความรัก '★ Up : บทนำ P. 1 21/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 21-11-2017 18:43:07
ในที่สุดพี่ดินกับสตาร์ก็มาแล้ววววว :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: เธอหมุนรอบความรัก '★ Up : บทนำ P. 1 21/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 21-11-2017 21:52:00
พี่ดินกะสตาร์มาล้าววว :katai2-1:
รอออ :katai5:
หัวข้อ: Re: เธอหมุนรอบความรัก '★ Up : บทนำ P. 1 21/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 21-11-2017 22:42:10
ว้าย ขอเข้ามาตามเรื่องพี่ดินด้วยคนนะคะ ชอบฮี
หัวข้อ: Re: เธอหมุนรอบความรัก '★ Up : บทนำ P. 1 21/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: kredkaew26 ที่ 22-11-2017 01:15:37
 o18 อ่ะ มาปักหมุดรอ ^^  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: เธอหมุนรอบความรัก '★ Up : บทนำ P. 1 21/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-11-2017 01:45:15
จะได้อ่านแล้ว หลานดิน หลานสตาร์  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เธอหมุนรอบความรัก '★ Up : บทนำ P. 1 21/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: Musicbox ที่ 22-11-2017 11:09:16
มารออ่านเช่นกันครับ ☺️☺️☺️ รอเรื่องนี้มานาน
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : บทนำ P. 1 21/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 25-11-2017 14:46:03





ตอนที่ 1





   “เอ่อ...” เด็กหน้าตาดีทำท่าทางแปลกๆ ใส่ผม

   “ยืนนิ่งทำไม ทักแล้วก็รีบเดินไปดิ” เด็กหน้าตาดีอีกคนที่อยู่ข้างๆ เขาพูดเสียงดัง

   “คือกูยังไม่ได้ทักเลย หวัดดีครับพี่ดิน”

   “อืม หวัดดี” ผมรับไหว้ ‘ฟืน’ ตอนที่เขาอยู่หน้าโรงเรียน วันนี้เขามาเรียนกับแฟนของเขาซึ่งเป็นเพื่อนเขามาก่อน มันชื่อว่า ‘ฟิสิกส์’ หรือ ‘สิก’ หลังจากที่สิกมันยกเลิกการไปเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกา สองคนนี้ก็ตัวติดกันเหมือนกับที่เคยเป็น แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปก็คือไม่มีใครไปแทรกกลางระหว่างคนทั้งคู่อีกแล้ว

   ผมเคยเข้าไปแทรกครับ และมันก็ไร้ประโยชน์ ทั้งสองรักกันมากจนกลายเป็นแรงดึงดูดเข้าหากันอย่างเหนียวแน่น ใครเข้าไปใกล้แม่งก็ถูกผลักออกมาหมดแหละ

   ผมชอบฟืนน้อยลงไปมากแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ชินเวลาที่เจอสองคนนี้อยู่ด้วยกันสักเท่าไหร่ มันสะอึกหน่อยๆ น่ะครับแต่ไม่ใช่อาการที่น่ากังวลอะไร

   สงสัยผมคงอิจฉามั้ง...อยากมีบ้างประมาณนั้น

   ไอ้เด็กสิกพยายามดันร่างของฟืนให้รีบเดินผ่านผมไป ผมทำหน้าท้าทายมันเล็กน้อยขณะที่มันทำหน้าเบื่อผม ผมไม่ได้ไม่ชอบมันนะครับ เพียงแต่ผมทั้งหมั่นไส้และก็อิจฉาที่มันได้ใจของฟืนไป สำหรับผมฟืนน่ารักมากในแบบที่มองไม่เบื่อ ไอ้สิกก็คงคิดเหมือนผม มันถึงหวงฟืนอย่างออกนอกหน้าแบบนี้นี่ไง

   “มองตามตาละห้อยเลยนะมึง” ‘ไอ้โชค’ เพื่อนของผมท้วง “อะไรที่จบๆ ไปแล้วก็ให้มันจบไปเถอะ เป็นไปไม่ได้ก็คือเป็นไปไม่ได้”

   “กูรู้น่า”

   เราสองคนเป็นอดีตสารวัตรนักเรียน มันเคยเป็นรอง ผมเคยเป็นหัวหน้า หน้าที่ของสารวัตรนักเรียนคือเป็นผู้ช่วยอาจารย์ฝ่ายปกครอง ดูแลให้นักเรียนอยู่ในกฎระเบียบ และยังรวมไปถึงคอยช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนอีกด้วย ที่จริงผมกับไอ้โชคไม่ต้องมายืนทำหน้าสลอนอยู่ตรงนี้ก็ได้เพราะหมดหน้าที่แล้ว เพียงแต่วันนี้รุ่นน้องสารวัตรนักเรียนมันขอน่ะครับเพราะมันไม่ว่าง ผมกับโชคก็เลยมา

   ผมกับไอ้โชคมายืนเป็นเวรหน้าประตู 1 ในวันนี้

   “ได้ข่าวมาว่าเมื่อวานมึงบุกเดี่ยวไปถามไลน์ของน้องสตาร์เหรอวะ”

   ผมถลึงตาใส่ไอ้ชินที่ทำหน้าล้อเลียนผม ไม่คิดว่าข่าวมันจะไปไวขนาดนี้ แปลว่าไอ้เด็กที่ผมคุยด้วยคงจะกระจายข่าวนี้ต่อไปเรื่อยๆ สินะ!

   ไอ้โชคนี่แหละครับที่เป็นคนบอกผมว่าไอดีไลน์ของสตาร์ตัวละสามพันอ่ะ

   “แล้วเป็นไง ราคาสูงสมกับที่กูพูดมั้ย”

   “เออ” ผมตอบเสียงแข็ง “กูว่าหน้าตามันไม่เหมาะกับราคาไอดีไลน์ของมันเลย”

   “แล้วมึงไปขอกับเพื่อนน้องมันทำไมล่ะ”

   “ก็กูอยากรู้ว่าจริงมั้ย”

   “ถุย ไอ้สัด ถ้ามึงไม่สนน้องมึงคงเลิกสนใจเรื่องนี้ไปแล้ว” โชคพูดอย่างรู้ดี “กูบอกมึงว่าไลน์น้องสตาร์ราคาแพงตั้งแต่เดือนที่แล้ว เรื่องนี้ยังไม่หายไปจากหัวมึง ก็แปลว่ามึงสนน้องมันไม่มากก็น้อยนั่นแหละ”

   “อย่ามามั่วได้เปล่าวะ”

   “อกหักจากฟืนก็ขอมาเยียวยากับน้องสตาร์เลยเหรอจ๊ะ” ไอ้โชคพูดยิ้มๆ   

   “ไม่ใช่!”

   “โวะ ปากแข็งเข้าไป”

   “...”

   “เฮ้ย นั่น น้องดาวมาแล้ว!” โชคกระตือรือร้นพลางชี้มือไปที่รถตู้สีดำที่เพิ่งจอดเทียบหน้าประตูโรงเรียน มาอีหรอบนี้ดูก็รู้ว่าเป็นลูกผู้ดีมีเงิน

   “น้องดาว?” เด็กโรงเรียนชายล้วนมีคนชื่อนี้ด้วยเหรอวะ

   “ก็สตาร์ยังไงล่ะ”

   “ทำไมมึงไปเรียกมันแบบนั้น”

   “ก็หน้าน้องมันสวยสมกับคำว่าน้องดาว” โชคพูดไปด้วยมองดูภาพไอ้สตาร์เดินลงมาจากรถตู้ไปด้วย ดวงตาของมันใกล้จะเป็นรูปหัวใจอยู่แล้ว “มึงดูสิ ขาวก็ขาว น่ารักก็น่ารัก สวยก็สวย เกิดมากูไม่เคยเห็นเด็กผู้ชายคนไหนสวยแบบนี้เลยว่ะ มึงว่าป่ะดิน”

   “กูว่าฟืนสวยกว่า”

   ไอ้โชคหน้าบึ้ง “น้องฟืนของมึงก็ดี แต่ผัวมันเฝ้าเช้าเฝ้าเย็นอยู่นั่นมึงจะกล้าปลื้มน้องมันอีกเหรอ”

   “กูจีบมาแล้ว และก็อกหักมาแล้ว” ผมพูดเหมือนผมภูมิใจกับมันมาก

   “นี่คือสิ่งที่มึงควรโม้ให้เพื่อนฟังเหรอวะ”

   สายตาของผมมอง ‘น้องดาว’ ของไอ้โชค มันสะพายกระเป๋าเข้ามาในโรงเรียน ใบหน้าของมันดูง่วงงุนมากจนเหมือนเดินหลับ มือของมันยกมือไหว้คุณครูรัวๆ และก็ไหว้ยาวมาจนถึงผมกับไอ้โชค

   ดวงตาของสตาร์หันมามองผม หลังจากนั้นมันก็หันหน้าหนีและก็เดินจากไป

   สายตาของมันกวนตีนมากกกกกก ผมขอบอก

   “มันกวนตีน” ผมทำท่าจะเข้าไปอบรมสั่งสอนไอ้สตาร์ แต่ไอ้โชคคว้าผมเอาไว้

   “กวนตีนห่าอะไร น้องมันง่วง”

   “มันกวนตีนจริงๆ” คนที่ผมยอมให้ต่อกรด้วยเห็นทีจะมีแต่ไอ้สิก เพราะมันเป็นคนที่ผมมองว่ามีความคล้ายผมอยู่ในตัวค่อนข้างสูงอีกทั้งยังเป็นคนที่ฟืนชอบ สำหรับรุ่นน้องคนอื่นๆ นั้นอย่าแม้แต่ที่จะคิด

   “มึงอยากคุยกับน้องมันใช่มั้ยล่ะ”

   ไอ้โชคร้อง แต่ผมไม่ทันได้ฟัง และในที่สุดผมก็ไปยืนขวางหน้าสตาร์จนได้ สตาร์ถอนหายใจเมื่อเห็นสีหน้าผม

   “มีอะไรหรือเปล่าครับ” เหล็กจัดฟันสีฟ้าดูเข้ากับมันดีจริงๆ

   “มึงกวนตีนกูเหรอ มึงมองกูแบบนั้นทำไม”

   “ผมมองยังไง” มันหาว

   “ก็มองแบบ...เหมือนกูเป็นขี้อ่ะ”

   “พี่ไม่ใช่ขี้สักหน่อย”

   “สายตามึงทำกูรู้สึกอย่างนั้น”

   “อย่าไร้สาระได้ป่ะครับ” สตาร์ทำหน้าเหมือนผมเป็นขี้อีกรอบก่อนที่จะเดินหนี ผมต้องขวางมันไว้อีกรอบ “ผมมีเรียนก่อนเข้าแถว ขอทางได้มั้ย”

   มันเป็นเด็กห้องคิงที่บางครั้งก็ไม่ได้ลงมาเข้าแถวเพราะต้องเรียนเพิ่ม บางครั้งก็ต้องไปเรียนจนกว่าจะเข้าแถว ผมรู้ดีเพราะม.6 ห้องคิงห้องข้างๆ ผมก็เป็นแบบนั้น (ไม่รู้ควรจะเรียกว่าห้องคิงหรือห้องเตรียมสอบหมอดี)

   “พี่จะมาพูดเรื่องเมื่อวานหรือเปล่าครับ” สตาร์พูดเสียงเรียบ

   “เรื่องเมื่อวาน?”

   “เพื่อนผมเล่าว่าพี่มาขอไลน์ผม”

   ผมรู้สึกหน้าชายิ่งกว่าตอนที่ไอ้สิกมาบอกว่ามันกับฟืนรักกันอีกครับ ครั้งนี้มีความอับอายรวมเข้ามาด้วย

   “พี่จะเอาไปทำไม หรือเพราะอยากให้ผมเลี้ยงข้าว”

   ผมเคยช่วยมันไว้เมื่อเดือนก่อนๆ ตอนที่มันตกน้ำพร้อมกันกับฟืน สิกช่วยฟืนไว้ ส่วนผมเป็นคนช่วยสตาร์ มันบอกว่าอยากเลี้ยงข้าวผมเพื่อเป็นการตอบแทนแต่ผมไม่ยอมเอง เพราะสตาร์มันพูดว่าอยากขอบคุณผมตอนที่มันจริงใจร้อยเปอร์เซ็นต์

   ‘ผมจะเลี้ยงข้าวพี่เป็นการตอบแทนที่ช่วยผมก็แล้วกัน’

   ตอนมันขอเลี้ยงในครั้งนั้นแม่งไม่เห็นมีความจริงใจเลย ใครจะไปยอม

   “เรื่องของกูก็แล้วกัน” ผมตอบส่งๆ

   “เพื่อนผมบอกว่าพี่จะมาตื๊อจนกว่าจะได้” เมื่อไหร่ปากเล็กๆ นั่นจะหยุดพูดสักที ผมรู้สึกเสียหมายังไงก็ไม่รู้ เหมือนมันถือไพ่เหนือกว่าผมน่ะครับ และคนอย่างผมไม่ชอบความรู้สึกนี้เอามากๆ “และเพื่อนมันก็ยังบอกอีกว่าอย่าให้ผมยอมง่ายๆ”

   “เพื่อนมันเป็นพ่อมึงหรือไง ทำไมต้องฟัง”

   “ทุกคนก็ต้องฟังคำเตือนเพื่อนกันทั้งนั้น อีกอย่างหนึ่งเพื่อนบอกว่าพี่เป็นตัวอันตราย อย่าเข้าใกล้ให้มาก”

   “...”

   “ผมขอตัวนะครับ”

   ผมมองตามหลังไอ้เด็กปากดีด้วยใบหน้าหงุดหงิด สตาร์มันเปลี่ยนไปจากเดือนก่อนๆ ไม่มากก็น้อยอาจเป็นเพราะมันอกหักจากสิก สำหรับผมความน่ารักของมันลดลงเพราะการที่มันชอบต่อปากต่อคำกับผมนี่แหละ

   แม่ง อยากท้าทายอำนาจกูนักใช่มั้ย

   ผมจะไม่มีวันยอมให้มันปากเก่งกับผมอีก









   พักกลางวัน

   ช่วงนี้ม.6 หลายคนเตรียมตัวที่จะสอบหรือไม่ก็ยื่นคะแนนเข้าโควตารับตรงอยู่ครับ จึงมีหลายคนที่แอบโดดเรียนไปอ่านหนังสืออยู่บ้านบ้าง (เพราะอ่านไม่ทัน) ผมทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะตำแหน่งที่พ่วงติดท้ายชื่อของผมมีเยอะเกินไป (หัวหน้ากองร้อยตอนเรียนรด. อดีตหัวหน้าสารวัตรนักเรียน และก็เป็นอดีตคนในสภานักเรียน) ผมต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะมีบางตำแหน่งที่ผมหมดหน้าที่ไปแล้วก็ตามที

   ตอนลงมากินข้าวที่โรงอาหารจึงมีแค่ผมกับโชคสองคนเท่านั้น ปกติกลุ่มผมแม่งมีเกือบสิบคนอ่ะ

   โรงอาหารมีแต่เด็กม. 4 กับม. 5 พวกเด็กเล็กๆ กินข้าวกันไปหมดแล้วครับ โรงเรียนเรามีเด็กค่อนข้างเยอะจะปล่อยให้ลงมาทานอาหารพร้อมกันไม่ได้เพราะจะไม่มีที่นั่งกัน ทางโรงเรียนเลยแบ่งให้พวกเด็กประถมและม.ต้นกินกันก่อน หลังจากนั้นจะเป็นคิวของม.ปลาย

   ไม่ว่าผมจะเดินไปไหน ผมก็มีคนไหว้ทำความเคารพผมแทบทุกครั้งไป เป็นเพราะผมทำกิจกรรมเยอะอีกทั้งรุ่นน้องมันยังเกรงใจผมด้วยนั่นแหละ วันนี้ผมได้รับไหว้เยอะเป็นพิเศษเพราะมีรองสารวัตรนักเรียนอย่างไอ้โชคเดินมาด้วย

   ได้ยินเสียงซุบซิบๆ จากพวกเด็กๆ ว่าเราสองคนคือ ‘โหดแพ็คคู่’

   โหดบ้าโหดบออะไร ออกจะแบ๊วเหอะ

   “เหี้ย ไม่มีที่นั่งเลยว่ะ” โชคพึมพำเมื่อมองไปทั่วโรงอาหาร “มึงใช้สายตาพิฆาตขู่รุ่นน้องให้แม่งลุกหนีดิ๊”

   ผมกำลังจะทำแบบนั้น แต่มีมือๆ หนึ่งกำลังโบกไม้โบกมือเรียกผม และมีอีกมือที่กำลังห้ามมือนั้น

   ฟืนกับสิก

   ผมกลืนน้ำลาย หันไปมองไอ้โชคอย่างตัดสินใจ มันยักไหล่เป็นเชิงบอกว่าแล้วแต่ผม ผมก็เลยเดินไปหาสิกกับฟืนอย่างไม่มีทางเลือก บนโต๊ะมีเพื่อนของพวกมันอีกสองคนด้วยแต่ผมจำชื่อไม่ได้

   “เรียกมาทำไม” สิกเอ็ดแฟนมัน

   “ก็พี่เขาไม่มีที่นั่ง เราจะลุกแล้วก็แบ่งๆ พี่เขาไปดิ” ฟืนเถียง

   “แบ่งคนอื่นได้ แต่แบ่งคนนี้ไม่ได้”

   “กูมานั่งแล้ว” ผมยักคิ้วใส่ไอ้สิก หมั่นไส้ในความหวงโอเว่อร์โอวังของมัน “มึงมีปัญหาอะไรอีกมั้ย”

   สิกหน้าบึ้งตึง มันหยิบจานของมันกับจานของฟืนขึ้นมาก่อนที่จะเดินไปเก็บ ถึงมึงจะหงุดหงิดแต่มึงก็ช่วยเก็บจานให้เขาอยู่เนอะ

   โถ ไอ้พ่อบ้าน

   “เมื่อวานพี่ไปขอไลน์สตาร์ถึงห้องเลยเหรอ” ฟืนถามผมอย่างตื่นเต้น

   ความรู้สึกของผมกระอักกระอ่วนนิดๆ อย่างไม่ถูก คนที่ผมเคยชอบมาถามเรื่องผมไปขอไลน์คนอื่นนี่มันแปลกๆ อยู่ไม่ใช่เหรอครับ

   ใครแม่งกระจายข่าววะ อย่าให้กูรู้นะ เดี๋ยวเตะไส้แตก

   “ก็...เออ” ผมยอมรับ ปิดบังไปก็เท่านั้นเพราะเขารู้กันทั่วแล้วมั้ง

   “พี่ชอบสตาร์เหรอครับ”

   ถึงมึงจะน่ารักสำหรับกู แต่มึงก็ไม่มีสิทธิ์ถามทุกเรื่องนะเว้ยฟืน เพราะกูไม่รู้จะตอบยังไงเลยเนี่ย

   “ผมมีไอดีไลน์เขานะ พี่อยากได้มั้ย”

   หา ไอดีไลน์ราคาหกหมื่นบาทนั่นน่ะนะ!

   “ไม่เอา” ผมโบกมือปฏิเสธ

   “มันอยากไปขอเอง” ไอ้โชคเสริม “ตอนนี้ในหัวมันมีแต่เรื่องขอไลน์น้องสตาร์”

   ฟืนยิ้มให้ผมอย่างล้อเลียนนิดหน่อย ในขณะที่ผมนั้นรู้สึกเหงื่อแตกไปหมด

   อากาศในนี้มันร้อนๆ ยังไงไม่รู้

   “ถ้าอยากได้ก็ต้องไปขอ แต่ถ้าเขาไม่ให้ก็ต้องไปตื๊อ” ไอ้สิกที่ซื้อน้ำเปล่ากลับมาแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ฟืน มันซื้อมาเผื่อแต่เมียมัน ไม่ซื้อมาเผื่อคนอื่นเลย ไอ้เด็กเชี่ย

   “พี่เขาก็ต้องอยากได้สิ ถึงไปขอที่ห้องน่ะ” ฟืนพึมพำ

   ผมชักจะสับสนแล้วว่าผมอยากได้จริงๆ หรือเปล่า เพราะเรื่องอยากได้กับเรื่องเอาชนะการท้าทายมันผสมปนเปกันจนชักจะมึน

   “ลองถามใจตัวเองดูว่าอยากได้จริงๆ หรือเปล่า”

   ผมมองไอ้สิกพลางเลิกคิ้ว คำพูดของมันสะกิดอะไรหลายอย่างในใจผม

   อย่างที่ผมบอก มันเป็นรุ่นน้องเพียงคนเดียวที่ผมยอมให้ต่อกรด้วย

   “ถ้ากูอยากได้จริงๆ พวกมึงจะช่วยกูป่ะล่ะ” ผมถามไปรอบๆ โต๊ะ ทุกคนมีสีหน้าในทางเดียวกันนั่นก็คือทำตาโตกันใหญ่

   “ช่วยสิ!” ฟืนพูด

   “เมียช่วย ผมก็ต้องช่วย” ไอ้สิกเสริม

   “กูดันหลังมึงตลอดอยู่แล้วหัวหน้า” ไอ้โชคกล่าว

   “ผมช่วย ผมช่วย” เพื่อนสิกกับเพื่อนฟืนร้องลั่น ผมมารู้ทีหลังว่าสองคนนี้ชื่อ ‘อ๊อฟ’ กับ ‘ตัง’

   คำถามนั้นผมไม่ได้คาดหวังในคำตอบด้วยซ้ำ แต่ผมก็อดซึ้งใจไม่ได้จริงๆ ครับ











   หน้าห้องม. 5/1

   ออดเลิกโรงเรียนดังไปแล้วแต่เด็กห้องนี้มันก็ยังเรียนอยู่ ระหว่างที่ผมกำลังรอผมก็ทำการเปิดดูข้อมูลสมัครโควตารับตรงไปด้วย (ใช้เวลาให้มันคุ้ม) ไม่นานเกินเฝ้ารอเด็กห้องนี้ก็พากันเดินออกมา

   พอพวกมันเห็นผม พวกมันก็ชะงักและหันไปบอกพวกที่ยังอยู่ในห้องว่า “อย่าให้สตาร์เดินออกมา!”

   เป็นอีกครั้งที่ผมต้องคิดในใจว่า ‘นี่เพื่อนหรือพ่อ’

   ไอ้สตาร์ไม่เดินออกมาอย่างที่เพื่อนมันพูด ผมจ้องหน้าเด็กห้องนี้เขม็งจนพวกมันรู้สึกหวั่นเกรง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเห็นพวกมันเตรียมพร้อมที่จะไฟต์กับผม

   “พวกผมคุยกันแล้ว” ไอ้คนที่บอกผมว่าไอดีไลน์ของสตาร์ตัวละสามพันเป็นคนพูด มันชื่อว่า ‘บูบู้’ ครับ ตอนที่ผมรู้ชื่อมันผมถึงกับต้องถามคนที่บอกผมอีกทีว่ามันชื่อนี้จริงๆ หรือเปล่า “ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันหมดว่าต้องเห็นความพยายามของพี่ก่อนถึงจะยอมให้ไลน์ของสตาร์”

   กูไปถามฟืนก็จบแล้วมั้ยวะ แต่เพราะศักดิ์ศรีและอะไรหลายๆ อย่างมันค้ำคออยู่ผมก็เลยคิดว่าไม่ควรทำแบบนั้น

   ตอบรับคำท้าไปแล้ว ก็ต้องลงมือให้ถึงที่สุดสิ   

   “อีกอย่างสตาร์ก็เห็นด้วยกับพวกเราครับ”

   มุมปากผมกระตุกนิดหน่อยเมื่อได้ยินคำนั้น

   “พี่เป็นคนหล่อ” ไอ้บู้พูด ส่วนเพื่อนร่วมห้องนั้นพยักหน้าอย่างแข็งขืน “รวย เรียนเก่ง เพอร์เฟ็กต์ ทำกิจกรรมไปทั่วจนพวกผมเองก็จำไม่ได้ว่าพี่ทำอะไรบ้าง คุณสมบัติพี่ผ่านทุกอย่าง เว้นอยู่ข้อเดียว”

   แม่งต้องจริงจังกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ

   นี่ไม่ใช่เพื่อนแล้วล่ะครับ แต่คือพ่อของสตาร์ และมันก็มีพ่อหลายสิบคนเลย ให้ตายเถอะ

   “พวกเราไม่รู้ว่าพี่ชอบสตาร์จริง หรือพี่หาคนมาแทนที่ฟืน”

   คำพูดของมันเหมือนมีธนูหลายดอกปักเข้าตรงกลางใจของผม ผมอึ้งไม่น้อยจนตัวแข็งไปหมด

   “ถ้าพี่อยากได้จริงๆ พี่ต้องพยายามให้พวกเราดูก่อน”

   “...”

   “วันนี้ช่วยทำความสะอาดห้องแทนเวรประจำวันทีนะครับ”

   บู้พูดจบมันก็เดินนำหน้าพรรคพวกของมันทั้งหมดไป ทิ้งให้ผมอ้าปากพะงาบๆ ชี้หน้าด่าคนพวกนั้น แต่ด่าไปก็ไร้ประโยชน์ รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเบี้ยล่างของไอ้เด็กห้องนี้ก็วันนี้

   นี่กูกำลังทำบ้าอะไรอยู่ ทำไมกูไม่เอาเวลาไปจริงจังกับการสมัครเรียนต่อวะเนี่ย

   สตาร์โผล่มาทีหลังสุด เพื่อนทุกคนของมันปล่อยมันให้อยู่กับผม มันมองผมอย่างเหนื่อยหน่ายหัวใจ ก่อนที่จะพูดว่า “ทำไมไม่อยู่เฉยๆ ทำไมต้องหาเรื่องเข้าตัวด้วย”

   ผมเดินชนไหล่มันเข้าไปในห้องพร้อมกับพูดเสียงแข็ง “อย่าพูดมาก ไม้กวาดอยู่ไหน”

   จริงๆ ห้องม. 5/1 เป็นห้องที่สะอาดมากอยู่ก่อนแล้ว ผมไม่ได้ทำความสะอาดอะไรมากนอกจากกวาดห้อง เทขยะในถัง และก็เก็บเก้าอี้ สิ่งที่ผมเซอร์ไพรส์มากที่สุดก็คือสตาร์เป็นคนทำทั้งหมดนั่นช่วยผม ในห้องมีแต่ผมกับมันสองคน

   “พี่หมดมาดขาโหดประจำโรงเรียนเลยรู้ป่ะ” มันพูดไปด้วยยกเก้าอี้ไปด้วย “ผมไม่รู้ว่าพี่ไปท้าทายกับเพื่อนมันทำไม พี่ก็น่าจะรู้อยู่ว่าเพื่อนผมมันก็เป็นแบบนี้ ชอบหวงผมแบบไร้สาระ”

   กูไม่รู้มาก่อนเว้ย กูเพิ่งมารู้เนี่ย!

   “แล้วทำไมมึงต้องทำตามที่พวกมันขอ มึงก็เอามาไอดีไลน์ให้กูดิจะได้จบๆ ไป” ผมสวนแบบไม่คิดอะไร

   “ก็เพื่อนมันพากันขอร้อง แทบจะคุกเข่าขอผมอยู่แล้วว่าห้ามให้ไอดีไลน์พี่ดินก่อนเด็ดขาด”

   “เรื่องจริงเหรอ”

   “จริงสิครับ”

   เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินอะไรแบบนี้นี่แหละ นักเรียนม. 5/1 รุ่นนี้ช่างเป็นอะไรที่มีสีสันแบบแปลกๆ

   “ผมไม่คิดว่าพี่จะอยากได้จริงจังขนาดนี้”

   “มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี โดนท้ามาก็ต้องเอาชนะคำท้าสิวะ”

   “เอาชนะด้วยการทำความสะอาดห้องให้คนท้าเนี่ยนะ” สตาร์มองผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย “กลับลำเรือยังทันนะครับพี่ เพื่อนผมมันอาจจะแกล้งพี่ไปอย่างนั้น พี่ไม่จำเป็นต้องจริงจังกับคำพูดของพวกมัน”

   “...”

   “ผมสงสาร ผมไม่ชอบเห็นคนหล่อคนเท่อย่างพี่ต้องมายอมเด็กอย่างพวกผมอ่ะ”

   คำชมตรงๆ ของมันทำเอาผมถึงกับทำไม้กวาดอยู่ในมือลงไปกองกับพื้น ผมมองหน้าไอ้สตาร์ที่กำลังมองผมด้วยนัยน์ตากลมโตของมัน คำพูดเมื่อกี้ของมันเต็มไปด้วยความจริงใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน

   ถ้าไอ้โชคเป็นผมตอนนี้มันคงละลายตายห่าไปแล้ว นี่สินะความรู้สึกของการที่โดนคนน่ารักมากๆ เอ่ยปากชมเราน่ะ

   เออ ผมยอมรับก็ได้ครับว่ามันหน้าตาน่ารักมากกกกกก ยิ่งเห็นมันช่วยผมโดยที่ไม่มีคนอื่นยอมมาช่วยเลยผมก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความน่ารักของมันจริงๆ

   แต่ผมจะไม่แสดงออกเหมือนที่มันเพิ่งชมผมเมื่อตะกี้หรอกนะ

   “ถ้าวันไหนกูทนไม่ไหว กูก็จะล้มเลิกไปเองนั่นแหละ” ผมพูดเพื่อให้มันสบายใจ แม้ลึกๆ ในใจของผมจะบอกกับตัวเองว่า ‘ถ้ากูยังไม่ได้ ยังไงกูก็ไม่ยอมแพ้’

   ผมก็เป็นคนแบบนี้แหละ

   “สัญญาแล้วนะครับ” สตาร์ถามย้ำ “พูดจริงๆ นะ ผมลองมองดูแล้ว ผมไม่ชอบเห็นพี่หมดมาดเลย”

   “เออ กูรับผิดชอบเองได้น่า”

   มันมองผมอย่างอ่อนใจ ก่อนจะเดินไปที่มุมห้องและก็เขียนอะไรบางอย่างไม่รู้ สักพักหนึ่งมันก็โพสต์อิทสีเหลืองที่มีลายมือตัวกลมๆ น่ารักๆ มาให้

   ไอดีไลน์ตัวที่ 1
   T
   ถ้าพี่ไม่ไหวพี่ต้องเลิก พี่สัญญาแล้วนะ


   ผมมองสตาร์อย่างตกตะลึง สีหน้าของมันจริงจังกับสิ่งที่มันเขียนมาก แต่ใจผมเนี่ยดิ มันสั่นแปลกๆ ว่ะ อาจเป็นเพราะไม่เคยมีใครแคร์ผมแบบนี้และทำกับผมแบบนี้มาก่อนก็ได้มั้ง

   มันกร๊าวใจมากกกกกกกกกกกกก

   ไอ้สิกได้ทำแบบนี้กับฟืนบ้างหรือเปล่าวะ สงสัยจริงๆ

   เพิ่งได้มาแค่ตัวแรก เหลืออีกตั้งสิบเก้าตัว ก่อนจะถึงวันนั้น ผมจะโดนเด็กม.5/1 มันแกล้งยังไงบ้างวะ

   “ไม่ต้องห่วง หนทางอีกยาวไกล แต่ผมจะช่วยพี่ ผมจะอยู่ข้างๆ พี่เอง”

   คำพูดของสตาร์ทำเอาผมอุ่นใจไปได้เยอะ บางทีคนอย่างมันก็เหมาะกับคำว่า ‘น้องดาว’ อย่างที่ไอ้โชคบอก

   สัดโชค กูขอเรียกสตาร์ว่าน้องดาวบ้างจะได้มั้ยวะ











TBC*







เด็กมันน่ารักใช่มั้ยล่ะพ่อออออออ...
เรื่องสิกฟืนเป็นโน้ตการ์ด
เรื่องดินสตาร์เป็นโพสต์อิทไอดีไลน์ 555
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-11-2017 15:12:03
 :man1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: rinsai25 ที่ 25-11-2017 15:40:25
 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 25-11-2017 17:00:12
พี่ดินสู้ๆ 555
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 25-11-2017 22:12:16
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-11-2017 22:47:13
อ่านแล้ว อยากเป็นเพื่อนกับหลาน ๆ ห้อง 5/1 จังเลย อิจฉาโคตร ๆ  o9
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: pangning ที่ 25-11-2017 23:23:30
อ้ากกกกกกกกก มาแร้ววววมาแร้วว รอมานานนน ^0^
ชอบมาก อัพเร็วๆน้าาาาาาา ลอยคอ รอคอย รีบกดบวกแทบมะทัน  :-[  5555
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 25-11-2017 23:32:47
พี่ดินสู้เค้านะ กำลัวใจดีเหลือเกิน ขอบคุณค่ะ :-[
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: jpeemka ที่ 26-11-2017 01:06:04
สตาร์น่ารัก แถมยังขี้ใจอ่อนอีกอ่ะ ระวังจะใจอ่อนจนเผลอใจให้พี่ดินเด้อ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: kredkaew26 ที่ 26-11-2017 02:11:34
ว้าย ว้าย ว้าย มาแล้ววววว ^^ เค้ารอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ  อ้าวไม่ใช่แระ 555 รอต่อไป มาอีกเร็วๆ นะ จุ๊บส์ ๆ :mew1:  :mew1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 26-11-2017 13:16:29
มันกร๊าวววววใจมาก55555

รอตอนต่อไปค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 26-11-2017 22:56:48
พี่ดินสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวแม่ ที่ 27-11-2017 23:06:52
ยินดีต้อนรับเรื่องใหม่จ้ะ

เป็นกำลังใจให้ มาอัพบ่อยๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 09-12-2017 02:19:24
โอ้ยยย วงวารพี่ดินเขานะคะ เบี้ยล่างสุดไรสุด55555
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 09-12-2017 13:00:46
ลุ้นๆ  ครับ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: kobyp_lu ที่ 09-12-2017 13:40:44
น่ารักกกกกก สตาร์ดูใจดีอ่ะ   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: Basberry ที่ 09-12-2017 17:47:58
อยากให้มีต่อไปนะครับ อย่าหาย อย่าเงียบ รอนะครับ เชียร์ พี่ดิน น้องสตาร์  :z3: :z3: :z3: :z3: อ่านแล้วละมุนดี น่ารัก
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: kredkaew26 ที่ 09-12-2017 18:56:03
ชักจะนานไปแล้วเน้อออออออออออ  เค้ารออยู่นะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ  T T   :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:   :ling1: :ling1: :ling1:  :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 10-12-2017 02:43:57
เดาไม่ออกเลยว่านี่ชอบน้องไปแล้วรึยัง
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: Mazaaki ที่ 11-12-2017 08:11:41
เอาใจช่วยนะจ๊ะพี่ดิน
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 1 P. 1 25/11/17
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 16-12-2017 15:04:13





ตอนที่ 2






   กรุ๊ปไลน์ ‘สตาร์ FC’

   Din : ได้มาตัวหนึ่งแล้ว
   FUEN : ดีใจด้วยครับ!
   AOF : ฉลองเลยพี่
   TANG : ผมไม่ขออะไรมาก เลี้ยงชานมไข่มุกผมก็พอ
   CHOK : แหล่มๆๆ
   PHYSICS : แค่ตัวเดียว ทำมาเป็นคุย


   ผมเบะปากใส่จอหลังจากที่อ่านข้อความของไอ้สิกจบ ตอนนี้ผมกำลังอ่านข้อความในไลน์กรุ๊ปที่ไอ้ตัง เพื่อนฟืนเป็นคนสร้างขึ้นมา (ชื่อกรุ๊ปแม่งอย่างกับทีมฟุตบอล) มันใช้เวลาไม่นานก็สามารถดึงสมาชิกที่คุยกันเมื่อตอนกลางวันมาได้ครบ เพิ่งรู้ว่าไอ้โชคเองก็พอจะรู้จักเด็กกลุ่มนี้มาบ้างเพราะเคยเตะบอลด้วยกันเป็นครั้งคราว

   โชคมันบอกว่าแทนที่มันจะรู้จักกับเด็กกลุ่มนี้ มันควรจะรู้จักกับสตาร์มากกว่าเพราะมันปลื้มน้องเขามาก ผมก็เลยบอกมันไปว่า

   ‘ถึงมึงจะอยากรู้จัก แต่ไอ้พวกม. 5/1 ก็ไม่ยอมให้มึงรู้จักง่ายๆ อยู่ดี’

   ทันทีที่ผมพิมพ์ข้อความทำนองนี้ ฟืนก็กระหน่ำไลน์มายกใหญ่เรื่องที่ห้องม. 5/1 หวงสตาร์จนเกินเยียวยา ไอ้สิกเองก็เหมือนกัน มันบอกว่าตอนที่สตาร์เข้ามาจีบมันไอ้พวกนี้ก็จ้องมองคอยจะเอาเรื่องตลอด ไม่รู้ว่ามันเป็นห่วงเพื่อนหรือมันเป็นบ้า

   แสดงว่าผมไม่ได้โดนคนเดียวแฮะ ทุกคนที่เข้ามาหาสตาร์โดนกันหมดเลย

   คำว่าสมบัติห้องของพวกมันสำคัญอะไรขนาดนั้นกันหนอ

   ผมวางโทรศัพท์ลงจากนั้นก็หยิบโพสต์อิทที่มีลายมือของสตาร์มาจ้องมองดูอีกครั้ง มันเป็นคนที่มีลายมือเล็กๆ กลมๆ คล้ายผู้หญิงและน่าอ่านมากๆ ตอนนี้โพสต์อิทแม่งเริ่มยับเพราะผมเป็นคนไม่ค่อยผ่อนแรง เมื่อเห็นดังนั้นผมก็ลุกขึ้นมาจากเตียงเพื่อที่จะไปหาหนังสือมาสักเล่ม เปิดหน้าหนังสือ แล้วก็วางโพสต์อิทแปะเอาไว้ จากนั้นก็ปิดหนังสือ ป้องกันไม่ให้แม่งยับมากไปกว่านี้

   เดี๋ยว นี่กูทำอะไรอยู่ มันก็แค่โพสต์อิทของเด็กคนหนึ่งป่ะวะ กูจะอะไรนักหนาเนี่ย

   ผมปล่อยมันไว้อย่างนั้นและก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่คิดถึงใบหน้าขาวๆ กับเหล็กจัดสีฟ้าของใครบางคน

   ตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผมได้คุยกับสตาร์เรื่องไอดีไลน์ ใบหน้าของมันก็แวบๆ เข้ามาในหัวของผมอยู่เรื่อย

   และวันนี้มันชัดเจนมากขึ้นกว่าทุกๆ วัน










   โรงเรียน

   เมื่อคืนกว่าผมจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่ง ผมเขียนตารางการสมัครพร้อมๆ กับตารางสอบออกมาแทบจะทุกมหา’ลัยที่ผมอยากเข้า พ่อกับแม่บอกผมว่าอนุญาตให้ผมเรียนเฉพาะในกทม.หรือไม่ก็รอบๆ กทม.เท่านั้น ต่างจังหวัดไม่อนุญาต เพราะงั้นแต่ละมอที่ผมเล็งเอาไว้จึงมีแต่การแข็งขันอย่างแท้จริง

   กูจะได้เรียนวิศวฯ สมดังใจปรารถนามั้ยวะ เฮ้อออออ

   “เป็นไรพี่”

   ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงคนทัก คนๆ นั้นก็คือเจ้าของโพสต์อิทที่ถูกหนังสือของผมทับให้แบนราบ!

   “มึง” ผมกระพริบตาก้มหน้ามองดูเด็กน้อยที่ตัวสูงเท่าคางของผมเอง วันนี้มันมาโรงเรียนพร้อมผมแฮะ ผมกำลังเดินเข้าไปในโรงเรียนครับแล้วบังเอิญเจอมันพอดี

   “ทำหน้าเหมือนมีเรื่องกังวล”

   “ไม่มีไร” ผมเลิกคิ้ว ก่อนที่จะแกล้งแหย่ “เสือกหรือไง”

   “โห โหดว่ะ ถามแค่นี้เอง”

   ผมแหย่แรงไปเหรอเนี่ย เฮ้ย ถึงแม้ว่าไอ้เด็กข้างหน้ามันจะไม่ได้ทำท่าคิดมากอะไรกับคำพูดผม แต่ผมกลับรู้สึกผิดไปหมดแล้ว
ใช้เวลาไตร่ตรองประมาณ 5 วินาทีถ้วน ผมคิดว่าผมคงผิดจริงนั่นแหละครับ ผมรีบเดินไปขวางหน้าสตาร์เอาไว้

   “โทษที กูหงุดหงิดนิดหน่อยอ่ะ” น้ำเสียงผมไม่ได้ง้องอน เพียงแต่เป็นประโยคบอกเล่าอย่างรักษามาดพี่ดินหัวหน้ากองร้อยเอาไว้

   “อืม”

   “ไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าเรื่องอะไร”

   “ก็เดี๋ยวหาว่าเสือกอีกอ่ะ”

   มันรู้จักต่อปากต่อคำโว้ย ไอ้สตาร์ไม่ได้สนใจอะไรผมอีก ตั้งท่าจะเดินผ่านผมไปยังห้องเรียนของมัน

   “เดี๋ยวก่อน” ผมรั้งมันเอาไว้

   สตาร์หันมาพร้อมๆ กับทำหน้าสงสัยว่าผมมีอะไร

   “เรื่องนั้น...”

   “หืม?”

   “ก็เรื่องนั้นยังไงเล่า” ทำไมต้องทำเป็นไม่รู้ด้วยวะ ผมรู้สึกอายนิดหน่อยนะที่ต้องมาพูดอะไรแบบนี้

   “เรื่องไหนครับพี่”

   “ไอดีไลน์ไง”

   “...”

   “เมื่อวานกูได้มาตัวหนึ่งแล้ว วันนี้กูอยากได้อีกตัว”

   สตาร์มองผมก่อนที่มันจะถอนหายใจ “นึกว่าลืมไปแล้ว”

   “ลืมก็บ้า กูโดนท้ามานะ”

   “เพื่อนมันบอกผมว่าให้หาอะไรให้พี่ทำ ถ้าผมพอใจแล้วค่อยให้ไอดีตัวต่อไป”

   แม่ง ฟังแล้วโคตรเสียศักดิ์ศรี แต่เมื่อได้มองดูอีกฝ่ายที่มีใบหน้าขาวจิ้มลิ้มน่ารักเกินทน ผมคิดว่ามีอะไรบางอย่างในตัวผมบอกให้ผมอดทนต่อไป

   “แต่ตอนนี้ผมยังคิดไม่ออกเลย” รู้สึกอยากล้มหงายเงิบหลังจากที่ได้ยิน

   “มึงกวนตีนกูป่ะเนี่ย”

   “ผมยังคิดไม่ออกจริงๆ ครับ”

   “เออ จะไปไหนก็ไป”

   “ครับ”

   สตาร์ทำหน้ารับรู้แล้วเดินจากไป ปล่อยให้ผมมองมันพร้อมกับคิ้วที่ขมวดจนเป็นปม รู้สึกขัดหูขัดตาไปหมดกับการที่มันไม่ได้แสดงท่าทีสนใจเรื่องนี้เลย

   ผิดกับผม...

    เพราะเรื่องนี้มันกลายเป็นเป้าหมายหลักพอๆ กับเรื่องที่ผมต้องเข้าวิศวฯ ให้ได้

    ช่วยไม่ได้นี่หว่า ใครใช้ให้มึงมาอยู่ในหัวของกูตลอดเวลาแบบนี้ด้วยล่ะ









   “สวัสดีครับพี่ดิน”

   “พี่ดิน หวัดดีครับ”

   “พี่ดิน หวัดดีพี่”

   เสียงที่กำลังดังอยู่คือความเคยชินของผม ผมกับไอ้โชคกำลังเดินเปลี่ยนคาบเรียนไปเรียนวิชาศิลปะ ตลอดทางที่เดินไปตึกศิลปะจะมีนักเรียนรุ่นน้องยกมือไหว้เป็นระยะๆ เป็นบารมีที่ผมสั่งสมมาตั้งแต่ผมเรียนอยู่ม. 3 ผมเป็นเด็กกิจกรรมตั้งแต่ตอนนั้นและก็ทำมาเรื่อยๆ เพราะคิดว่าตัวเองทำได้ดีน่ะครับ

   “เฮ้ย นั่น ห้องน้องดาวนี่หว่า” ไอ้โชคชี้มือไปที่พวกเด็กม. 5 ที่กำลังปั้นงานศิลปะกันอยู่

   ผมกระพริบตาขณะมองเด็กที่มีออร่าที่สุดในนั้น “แล้วยังไง”

   “มึงไปตื๊อขอไอดีตัวที่สองดิ”

   “ไม่มีอารมณ์”

   “ไม่มีอารมณ์หรือมึงเสียใจที่น้องทำเป็นไม่ใส่ใจเมื่อเช้าวะ”

   ผมไม่น่าเล่าทุกอย่างให้มันฟังเลยว่ะ

   “เกิดอะไรขึ้นกับไอ้ดินคนที่อยากทำอะไรก็ทำวะ ตั้งแต่มึงคิดเรื่องน้องสตาร์นะ ความเป็นตัวมึงก็มีแต่จะลดลงไป”

   “ยังไง”

   “อย่างเช่นตอนมึงชอบน้องฟืน มึงเดินเข้าไปบอกน้องว่ามึงชอบน้อง ต่อหน้าผัวของน้อง”

   ไอ้โชคมันก็พูดความจริงเกินไปป่ะวะ มึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ก็ได้เว้ยยย

   “พอมาเป็นน้องสตาร์ มึงดูไม่ชัดเจนไปเลย ไม่รู้มึงชอบมึงสนใจน้องจริงๆ หรือว่ามึงกำลังสนใจเรื่องที่มึงถูกท้า ขนาดกูเป็นเพื่อนมึงกูยังงงๆ เลยเนี่ยว่าตัวมึงคนเดิมหายไปไหน”

   “มึงนี่ก็เว่อร์” ผมด่ามัน “กูก็ต้องสนใจเรื่องที่กูถูกท้าสิ ถ้ากูสนใจน้องมันจริงๆ กูคงยอมรับกับมึงไปแล้ว”

   ไอ้โชคเลิกคิ้ว ในขณะที่ผมนั้นเริ่มอึกอัก มันเป็นเพื่อนไม่กี่คนที่ผมสามารถแสดงตัวตนออกไปได้โดยไม่ต้องปิดบังอะไร แต่ข้อเสียก็คือแม่งรู้ไส้รู้พุงของผมทุกอย่าง

   ผมสนใจแค่คำท้า ผมไม่ได้สนใจไอ้เด็กนั่น

   เสียงหัวเราะสดใสท่ามกลางเพื่อนๆ ที่เป็นยิ่งกว่าพ่อของมันทำเอาความคิดผมสะดุด รอยยิ้มของสตาร์ที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่องคล้ายกับไม่เคยอกหักมาก่อนนั่นมันทำให้ผมลังเล

   โว้ย เกิดอะไรขึ้นกับกูวะ

   ผมไม่ได้สนใจมัน

   จริงๆ นะ...

   “พี่ดินมาเว้ย”

   “พี่ดินๆ”

   ไอ้เด็กพวกนั้นที่กำลังปั้นดินเหนียวกันอย่างสนุกสนานหันมามองผมกับไอ้โชคกันหมดทุกคน ขอย้ำ ทุกคน มีกี่สิบคนก็มองมาหมดอ่ะ ผมผงะเล็กๆ ขณะที่ไอ้โชคนั้นโคตรที่จะตกใจ มันแสร้งทำเป็นเดินหนี ทำให้ผมต้องตกเป็นเป้าสายตาคนเดียว

   ไอ้สตาร์มองมาแล้ว มันกระพริบตาโตๆ ของมันตั้งหลายทีระหว่างที่มองผม

   ไม่มีทางเลือกแฮะ ผมจำเป็นต้องเดินเข้าไปหามันอย่าง (ทำเป็น) กล้าหาญท่ามกลางสายตาเพื่อนขี้หวงของมันทุกคน

   “มึงคิดออกยัง” ผมถามโต้งๆ

   สตาร์อ้าปากค้าง มองไปที่เพื่อนมันหลายคนอย่างหวาดๆ

   “เร็ว” ผมเร่งเร้า

   “ก็เอ่อ...”

   “ตอนกลางวันไอ้สตาร์มันอยากได้คนเลี้ยงข้าวครับพี่” ไอ้บู้ตอบแทน ใครหลายคนทำเสียงเห็นด้วย ในขณะที่สตาร์โวยวาย

   “ไม่เอา”

   “มึงต้องไปแดกข้าวกับกู” ผมพูดตัดปัญหา แล้วก็เดินหนีไป

   “คือว่า...”

   ผมไม่สนใจคำร้องของสตาร์ รู้สึกใจเต้นตุบๆ แปลกๆ คล้ายกับตอนที่ใจกล้าบ้าบิ่นไปส่งขนมให้ฟืนเมื่อไม่กี่เดือนก่อนยังไงยังงั้น

   ตอนนั้นผมชอบฟืน

   แต่ตอนนี้ผมชอบไอ้เด็กสตาร์นี่เหรอวะ

   บ้าน่า ไม่มีทาง
   








   พักกลางวัน

   แม้กระทั่งตอนนี้ผมก็ยังสะกดจิตตัวเองอยู่ว่าผมไม่ได้สนใจไอ้สตาร์ ถึงหัวผมจะคิดอย่างนั้นแต่เท้าผมพาผมมายังหน้าห้องม. 5/1 ซะงั้น ตอนนี้เป็นเวลา 12.15 น. แปลว่าคุณครูที่กำลังสอนอยู่ปล่อยเลตเป็นเวลา 15 นาทีแล้วครับ จากที่ผมเงี่ยหูฟังดู คุณครูยังพูดเนื้อหาที่เข้มข้นอยู่เลย

   แล้วจะปล่อยตอนไหนล่ะวะเนี่ย

   ผมรออีก 10 นาทีในที่สุดพวกเด็กห้องหนึ่งก็กรูกันออกมา พวกมันมองหน้าผมเหมือนรู้อยู่แล้วว่าผมจะมาเลยไม่คิดขัดขวางอะไร ผมมองอยู่นานก็ไม่เห็นไอ้สตาร์สักที จนผมตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องนั้นเอง

   สตาร์อยู่คนเดียวในห้อง ในมือของเขากำลังปั่นงานอะไรบางอย่างอยู่ด้วยความเร็วขั้นเทพ

   “ไม่แดกข้าวเหรอ”

   มันเงยหน้าขึ้นมาแวบหนึ่งก่อนที่จะก้มลงไปใหม่

   “ผมลืมทำงานวิชานี้ครับ” สีหน้าอีกฝ่ายดูเป็นกังวล ซ้ายมือของมันคืองานของเพื่อน ส่วนขวามือของมันคืองานของมัน มันกำลัง Copy และก็ Paste โดยใช้ลายมือของตัวเอง หรือพูดง่ายๆ ก็คือลอก

   ผมมองมันอย่างเอ็นดู ใบหน้าของมันดูทั้งรีบทั้งกังวล

   “ส่งเมื่อไหร่”

   “ตอนบ่ายโมง”

   ผมชักเริ่มเครียดแทนมันขึ้นมา “อีกไม่กี่นาทีนี้แล้วอ่ะดิ” ลองเอื้อมมือไปจับชีทของเพื่อนมันดู “เช้ด อีกตั้งหลายหน้า”

   “ผมลอกทัน ถ้าพี่ไม่ชวนผมคุย”

   ไอ้เด็กนี่...ผมอ้าปากพะงาบๆ เตรียมที่จะด่าแต่เมื่อเห็นความตั้งใจของมันคำด่าของผมก็ถูกกลืนลงไปในคอ มันทั้งรีบและก็เครียดแถมเวลายังจำกัดอีกต่างหาก ผมไม่ควรจะรบกวนอะไรมันทั้งสิ้น

   แล้วแบบนี้ก็แปลว่ามันจะไม่ได้กินข้าวกลางวันน่ะสิ

   ผมปล่อยให้มันลอกงานของมันไปแบบนั้นก่อนที่จะออกจากห้องแล้วหายไปสักพัก กลับเข้ามาอีกทีพร้อมแซนวิช นมสดกล่องหนึ่ง และก็ขนมปีโป้ห้าอัน

   ผมวางทั้งหมดนั่นลงตรงหน้าของสตาร์ มันมองพร้อมๆ กับทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อใส่ผม

   “มึงคงไม่ได้ออกไปแดกข้าวแน่ๆ”

   “...”

   “ลอกงานต่อไปเถอะ เดี๋ยวไม่เสร็จ”

   สตาร์กระพริบตาปริบๆ ใส่ผมจากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาลอกงานต่อ

   ทำไมผมรู้สึกหัวใจพองโตแปลกๆ วะ ทั้งๆ ที่ผมเป็นคนให้ ไม่ใช่คนรับ

   “แล้วพี่แดกข้าวหรือยังครับ” ดูมันใช้คำ ตกลงมึงจะสุภาพหรือจะหยาบ

   “ยัง” ผมรอมากินพร้อมมัน

   “อ้าว พี่ก็ออกไปแดกสิครับ”

   “มึงทำงานไปเหอะ ไม่ต้องเป็นห่วงกูหรอก”

   สตาร์ทำสีหน้าลำบากใจ แต่มันก็ไม่มีเวลามาต่อปากต่อคำกับผม มันทำงานด้วยความไวแสงของมันต่อไปในขณะที่ผมก็คอยแอบลอบมองมันไปเรื่อยๆ

   ริมฝีปากบางเป็นรูปกระจับสีแดง ดวงตากลมโตภายใต้ขนตายาวเป็นแพ ดวงหน้าขาวที่ขาวสม่ำเสมอเหมือนๆ กับผิวทั่วร่างกาย ผมสีดำขลับดูนุ่มละมุนน่าสัมผัส

   น้องดาวจัดว่าเด็ดเมื่อได้มองใกล้ๆ

   อืมมม...

   “เสร็จแล้ว!” สตาร์ร้องลั่นแล้วลุกขึ้นยืน “เดี๋ยวผมรีบเอางานไปส่งก่อนนะ”

   “เออๆ” ผมรับคำอย่างมึนๆ เพราะถูกขัดจังหวะการมองของสวยๆ งามๆ

   ก่อนจะออกจากห้องมันยังหันมาบอกผมอีกว่า “ขอบคุณสำหรับอาหารกลางวันนะครับ”

   “เอ่อ...อืม”







   
   บางทีคำถามที่ผมสงสัยในใจ ผมอาจจะได้คำตอบเร็วๆ นี้

   “เตะบอลป่ะเชี่ยดิน” เพื่อนในห้องคนหนึ่งถามผม

   “เอาดิ สัดโชค มึงเตะป่ะ”

   “เตะได้จนกว่าแม่จะมารับ”

   “เออๆ”

    บอกได้เลยว่าตอนนี้ผมกับเพื่อนในห้องสนิทกันมากจนไปไหนมาไหนด้วยกันแทบจะยกห้อง อย่าเพิ่งตกใจกันนะครับ พวกผมไม่ได้เดินกันไปเป็นกลุ่มๆ สามสิบสี่สิบคน แต่เพราะมีคนมาโรงเรียนน้อยมากต่างหาก พวกผมก็เลยไปไหนมาไหนด้วยกันแทบจะทุกคนน่ะ

   มันเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตมัธยมก็จริง แต่พวกเราก็ดันมีหน้าที่ที่จะต้องหาที่เรียนเพื่อก้าวเข้าสู่ชีวิตมหา’ลัย และนั่นก็อาจจะทำให้เราหลงลืมช่วงเวลาที่มีค่าอย่างช่วงนี้ไป ทิ้งเวลาที่จะได้อยู่กับเพื่อนและมีเหลืออยู่น้อยนิดไปทุ่มเทกับการอ่านหนังสือสอบตรงแทน คิดไปคิดมาก็น่าเสียดายอยู่นะครับ เพื่อนก็สำคัญ แต่อนาคตก็สำคัญอ่ะ

   เห็นผมมาโรงเรียนทุกวันแบบนี้ผมก็อ่านหนังสือทุกวันเหมือนกันนะครับ ช่วงเวลาที่ผมว่างผมก็อ่านหนังสือตลอด แต่ถ้าวันไหนมีอารมณ์อยากผ่อนคลาย ผมก็เลือกที่จะเตะบอลกับเพื่อนกับฝูงที่พอจะเหลืออยู่นี่แหละ

   ระหว่างที่กำลังเตะบอลจนเหงื่อไหลไคลย้อยอยู่นั่นเอง คนตัวเล็กๆ คนหนึ่งก็มายืนอยู่ริมสนามบอล บอลที่ผมควรเลี้ยงส่งต่อไปให้ไอ้โชคก็พลันชะงักเพราะร่างกายผมไม่วิ่งต่อ

   สตาร์ที่สะพายกระเป๋าเป้กำลังยืนมองผมอยู่ ท่าทางรีบๆ

   “พี่เตะอีกนานมั้ย”

   ผมเตะบอลทิ้งไปทางอื่น “กูเลิกเตะแล้ว”

   “เชี่ยดิน โดนหัวกู!”

   ผมไม่สนใจเสียงโวยวายของไอ้โชค ขณะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าสตาร์

   “มีอะไร”

   สตาร์วางโพสต์อิทใส่ในมือผม ทันทีที่มันทำแบบนั้นก็ทำให้ผมนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

   ไอดีไลน์!

   “ทำไมไม่ทวง รู้ทั้งรู้อยู่ว่าตัวเองทำไปเพื่ออะไร” สตาร์พูดอย่างเร่งรีบแล้ววิ่งจากไป ทิ้งให้ผมถือโพสต์อิทด้วยสีหน้างุนงง ผมไม่ได้งงกับการกระทำของสตาร์ แต่งงว่าทำไมตัวเองถึงลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท

   ที่ผมไม่ทวงไอดีไลน์จากสตาร์ อาจเป็นเพราะสิ่งที่ผมทำให้มัน ผมไม่ได้หวังอะไรเลยมั้ง

   ถ้างั้นก็แปลว่า...
   
   ไอดีไลน์ตัวที่ 2
   W
   ขอบคุณสำหรับอาหารกลางวันครับ แต่ทำไมต้องเป็นปีโป้?


   ...ผมชอบไอ้เด็กนั่นเข้าแล้วใช่มั้ย?

   เพราะผมลืมเรื่องคำท้าไปเลย






TBC*



เด็กๆ ใสจังเลยลูกกกกกก งือ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: -~iK@iZ_KunG~- ที่ 16-12-2017 16:08:33
น้องดาวของพี่ดิน อิอิ
ได้มา 2 ตัวแล้ว สู้ๆ นะพี่ดิน
อีก 18 ตัวเอง ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-12-2017 16:22:19
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 16-12-2017 17:04:37
เชียร์พี่ดิน
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 16-12-2017 17:13:11
งุ้ยยย อยากอ่านอีก :ling1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 16-12-2017 18:38:08
น้องดาวน่ารักกก
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: lolli_candy99 ที่ 16-12-2017 19:21:46
นุ้งงงงงงดาวววววววววววว น่ารักมากลูกกกกก ใจบางงง :hao7:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-12-2017 20:15:00
สู้ ๆ หลานดิน อีก 18 ตัวเอง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: kredkaew26 ที่ 16-12-2017 21:00:18
อ่าาาาาา หลังจากที่รอทุกเมื่อเชื่อวัน ในที่สุดก็มาาาาาาาาาาาาาา  อ้าาาาาพี่ดินรักน้องดาวไปแล้วชิมิ ^^  :hao3: :hao3: :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 17-12-2017 00:07:31
พี่ดินเริ่มแล้ว สู้ๆนะคะอีกแค่18ตัวเอง  :pig4:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 17-12-2017 00:46:15
พี่ดินสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-12-2017 01:34:59
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 18-12-2017 08:38:04
ความมุ้งมิ้งของเด็กมัธยมนี่มันดีจริงๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: kobyp_lu ที่ 21-12-2017 13:54:03
น่ารัก  ความรักวัยเด็กน่ารักสมวัยจริงๆ 555555555 สู้ๆนะพี่ดิน  o13
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 2 P. 2 16/12/17
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 15-01-2018 01:08:48





ตอนที่ 3





กรุ๊ปไลน์ ‘สตาร์ FC’

Din : พวกมึงคิดว่าที่กูทำอยู่เนี่ยกูทำไปเพราะอะไรวะ?
FUEN : พี่ชอบสตาร์ไง
AOF : พี่อาจจะว่างเกินไปหรือเปล่าครับ
TANG : พี่ไม่รู้แล้วผมจะรู้ได้ไงอ่ะ
CHOK : มึงชอบน้องเขาไงสัด
PHYSICS : ไม่รู้หรือไม่อยากยอมรับ?






คำตอบเชี่ยสิกแม่งทำผมของขึ้นทุกทีสิน่า แต่ก็ขึ้นนิดหน่อยครับไม่ถึงขนาดอยากบึ้มโทรศัพท์

วันนี้ผมมาโรงเรียนแต่เช้าตามเคย แต่มันผิดปกติก็ตรงที่คอผมดันชอบหันกลับไปมองหน้าโรงเรียนด้วยความอยากรู้ว่ามีรถหรูๆ ที่ผมเคยเห็นมาส่งใครบางคนมั้ย ไม่ว่าผมจะเดินวนไปวนมาแถวหน้าโรงเรียนให้รุ่นน้องไหว้นานแค่ไหน ไอ้รถหรูคันนั้นก็ไม่ยอมขับมาจอดสักที

หรือวันนี้มันจะมาสาย

หรือวันนี้มันจะไม่สบาย

“พี่ดิน” ฟืนไหว้ผมพร้อมเอ่ยคำทักทาย “ทำอะไรอยู่พี่ ทำไมทำท่าแปลกๆ อ่ะ”

การปรากฏตัวของน้องมักจะมาพร้อมกับแฟนของน้องเสมอ วันนี้ก็เหมือนกัน ไอ้สิกชอบมองผมเหมือนมันเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผม และยิ่งฟืนทักผมทีไร ไอ้สิกก็มีความรุนแรงทางสายตาแบบทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ

ผมไม่สนใจไอ้สิก แต่หันมาหาฟืนแทน

“รอเพื่อนอยู่น่ะ”

“รอเพื่อนหรือรอสตาร์” พูดจบฟืนก็ยิ้มตาหยี รอยยิ้มนั้นทำเอาไอ้สิกต้องจับตัวฟืนให้ไปหลบข้างหลังมัน

ไอ้ขี้หวงเอ๊ยยยยย

“ม.6 มีห้องคิงป่ะพี่” ไอ้สิกถามเสียงเรียบ

“มีดิ”

“แล้วพี่รู้มั้ยว่าห้องคิงบางวันก็มีเรียนตอนก่อนเข้าแถวด้วย”

ผมกระพริบตา จากนั้นผมก็ถึงบางอ้อ กูลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย!

“ไม่รู้เรื่องเล้ย แย่ๆ” สิกส่ายหน้า

“มึงว่าไงนะ” ผมชักโมโห นี่ผมปล่อยให้มันกวนประสาทผมเกินไปหรือเปล่าวะครับ ผมขยับเข้าไปใกล้ไอ้สิกคล้ายกับจะเอาเรื่อง แต่ฟืนเข้ามาขวางไว้ซะก่อน

“มึงเลิกกวนตีนพี่เขาสักที”

“กูไม่ได้กวนนะ กูพูดความจริง” เสียงที่ไอ้สิกใช้กับฟืนช่างแตกต่างจากตอนใช้กับผมมากจริงๆ

“มึงกวน กูเห็นอยู่”

“แต่ว่า...”

“ขอโทษพี่เขา”

“บ้าป่ะเนี่ย”

“อย่างน้อยพี่เขาก็เป็นรุ่นพี่เรานะเว้ย”

“เอ่อ...” ผมเอ่ยแทรกคู่รักตรงหน้าที่เริ่มจะทะเลาะกันเพราะผม “ไม่เป็นไรหรอกฟืน ไอ้สิกมันก็เป็นแบบนี้ สันดานมันแก้กันไม่ได้ง่ายๆ หรอก”

“โห ไอ้พี่ดิน พูดงี้ต่อยผมเลยดีกว่า” สิกทำท่าจะพุ่งเข้ามาใส่ผม แต่ฟืนใช้มือตัวเองดันหน้าแฟนให้ออกห่าง

“ผมพามันไปกินข้าวเช้าก่อนดีกว่าครับ สงสัยจะโมโหหิวอ่ะ”

“เออ รีบพามันไปเลย”

ฟืนทำสีหน้าขอโทษขอโพยขณะดันหลังแฟนขี้หึงของตัวเองให้เดินไปข้างหน้า ผมส่ายหน้าให้เด็กทั้งสองเบาๆ ก่อนจะหันไปมองดูตึกของพวกห้องคิงที่เรียนรวมกันตั้งแต่ ม.4 – ม.6

อย่างน้อยก็ได้รู้แล้วว่าตอนนี้สตาร์อยู่ไหน...









ก่อนเข้าแถว

“มึงเป็นเหี้ยไรของมึง”

ผมหันไปมองไอ้โชคที่เป็นคนถามด้วยแววตางุนงง “อะไรวะ”

“มึงเหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวกอ่ะ ลุกลี้ลุกลนผิดปกติ” ไอ้โชคตั้งข้อสังเกต “และอีกอย่างหนึ่งนะ กูเห็นมึงมองไปที่ตึกห้องคิงโคตรบ่อย มีห่าอะไรป่ะเนี่ย”

ทำไมเพื่อนมันต้องรู้ทันด้วยวะ

“ยังไม่ได้เจอน้องดาวเหรอ”

ในเมื่อเพื่อนมันรู้ขนาดนี้แล้วก็ยอมรับกับมันไปเลยแล้วกัน “เออ”

“ยากตรงไหน มึงก็เดินไปหาดิ”

“น้องมันเรียนอยู่”

“ก็เดินไปส่องหน้าห้องไง เอามั้ย เดี๋ยวกูพาไป”

“เชี่ยโชค” ผมร้องลั่นทั้งๆ ที่เดินตามไอ้โชคที่ลากผมไปแล้ว “ถ้าน้องมันเห็นล่ะ”

“เห็นก็ดีดิ”

“...”

“น้องมันจะได้รู้ว่ามึงชอบ”

“กูไม่...” ให้ตาย แม้แต่จะเถียงว่าผมไม่ได้ชอบมันก็ยังเถียงไม่ออก ราวกับว่าตอนนี้ผมกำลังสับสนในตัวเองจนไม่สามารถยอมรับมันออกมาได้ตรงๆ

ไอ้โชคลากผมมาถึงหน้าตึกห้องคิงแล้ว แต่สิ่งที่เซอร์ไพรส์ตามมาหลังจากนั้นก็คือประตูห้อง ม.5/1 เปิดออกพอดี จากนั้นก็มีเด็กในห้องกรูกันออกมาคล้ายกับรีบเร่งไปให้ทันเข้าแถว

แล้วผมกับไอ้โชคมาทำเหี้ยอะไรกันตรงนี้เนี่ย

ระหว่างที่กำลังสับสนว่าจะเอาไงต่อ สายตาของผมก็ไปเห็นสตาร์พอดี มันกำลังยืนคุยกับเด็ก ม.6 ห้องคิงด้วยสีหน้ายิ้มๆ ท่าทางสนิทสนม

“เอ่อ...” ไอ้โชคมองภาพนั้นสลับกับมองผม “เชี่ยดินใจเย็นๆ นะ”

ผมไม่ได้ยินเสียงห้ามของไอ้โชคด้วยซ้ำ เท้าของผมพาผมมาหยุดยืนอยู่ตรงกลางระหว่างสตาร์กับไอ้เด็ก ม.6 คนนั้นเป็นที่เรียบร้อย เมื่อมันหันมาผมก็รู้ทันทีว่ามันเป็นใคร มันชื่อ ‘อาร์ต’ ครับ

ไอ้อาร์ตมองผมก่อนที่จะผงะ ผมใช้สายตาข่มขู่ให้มันไปไกลๆ ดูเหมือนมันจะคุยธุระกับสตาร์เสร็จแล้วมันจึงเดินหนีไป

“พี่ดินมีไรป่ะครับ” สตาร์เงยหน้าถามผม

นั่นสิ กูมีอะไรวะ อะไรสั่งให้กูมายืนตรงนี้ทั้งๆ ที่กูไม่ได้มีธุระอะไรด้วย

“คือ เอ่อ...” ผมต้องเอ๋อต่อหน้าไอ้เด็กคนนี้อีกนานแค่ไหน

“ไม่รีบไปเข้าแถวเหรอ”

“เรื่องนั้นน่ะ”

“ไอดีไลน์?”

“เออ”

“คือ...” สตาร์มองข้างหลังผมที่มีเด็กนักเรียนรีบวิ่งไปเข้าแถว ดูน้องมันรีบๆ แต่ก็ยังอยากให้คำตอบกับผม “จริงๆ แล้ว เรื่องนี้พวกบู้คิดกันเอง ผมไม่ได้คิดนะ มันบอกให้ผมมาบอกพี่ แต่ถ้าพี่ไม่อยากทำก็ไม่เป็นไร เพราะมันลำบากนิดหน่อย”

“เรื่องอะไรว่ามาดิ”

“ไปส่งผมเรียนพิเศษ”

ก็นึกว่าจะเรื่องอะไร “ไม่ลำบากหรอก มึงเรียนที่สยามใช่มั้ย”

“ครับ”

“เออ งั้นตอนเย็นเจอกันที่หน้าห้องมึงนะ”

“ผมเรียนเสร็จบ่ายสามนะครับวันนี้”

ตอนนั้นผมยังเตะบอลในวิชาพละอยู่มั้ง เอาไงดีวะ แต่ปากผมไปไวกว่าความคิด

“เออ บ่ายสามก็บ่ายสาม”

สตาร์มองผมอย่างทึ่งๆ ก่อนที่จะรีบวิ่งจากไป ไอ้โชคเดินเข้ามาสมทบกับผมพร้อมกับตบบ่า

“ทำไมบรรยากาศตอนน้องคุยกับไอ้อาร์ตกับตอนที่น้องคุยกับมึงถึงได้ต่างกันวะ”

“มึงหมายความว่ายังไง”

“สตาร์ไม่เห็นยิ้มตาหยีเหมือนตอนที่อยู่กับไอ้อาร์ตอ่ะ”

ผมจิ๊ปากใส่ไอ้โชค มันขยับตัวอย่างหวาดๆ เล็กน้อย ขณะที่ผมนั้นเริ่มรู้สึกว่ามีลูกไฟลูกเล็กๆ แผดเผาหัวใจของผม

รอยยิ้มตาหยีงั้นเหรอวะ...

โด่ มันจะไปยากอะไร แค่ไปจี้เอวไอ้สตาร์ให้ได้มันก็ยิ้มจนตาหยีแล้วป่ะวะ










ผมนั่งคิดเรื่องยิ้มตาหยีมาสักพักแล้ว ไม่ว่าจะผ่านคาบที่หนึ่ง คาบที่สอง และก็คาบที่สาม ผมก็ยังคิดวนๆ อยู่แบบนั้น

มันไม่ได้ง่ายแค่จี้เอวเลยเว้ยสัดดิน!

ต้องเท้าความก่อนว่าผมรู้จักไอ้เชี่ยอาร์ตแบบห่างๆ มันเรียนที่นี่มาตั้งแต่ ม.ต้น จึงเป็นคนเก่าคนแก่ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี อาร์ตเป็นคนหน้าตาดี ถึงแม้จะไม่ได้มีหน้าตาระดับท็อปแบบไอ้สิก น้องฟืน หรือสตาร์ แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้มันดูหล่อขึ้นมาก นั่นก็คือมันโคตรรวย!

ผมที่คลุกคลีอยู่กับข้อมูลนักเรียนโรงเรียนนี้มานานย่อมรู้ดีว่าใครรวยที่สุด ที่ต้องรู้ก็เพราะโรงเรียนผมเป็นโรงเรียนเก่าแก่ อีกทั้งยังมีธุรกิจหลากหลายครอบครัวที่เกื้อหนุนจุนเจือกันรุ่นต่อรุ่น ผมเคยเป็นสารวัตรนักเรียนเรื่องพวกนี้ไม่รู้ก็ไม่ได้ครับ เดี๋ยวจะไม่รู้ว่าบ้านนี้ไม่ถูกกับบ้านนี้ ทำไมลูกเขาชอบมีเรื่องกันบ่อยๆ โน่นนี่นั่น

คนที่รวยที่สุดในโรงเรียนผมชื่อว่า ‘ไอ้เนม’ อยู่ห้อง ม.5/3 เป็นเพื่อนของสิกกับฟืน ส่วนคนที่รวยรองมาก็คือไอ้เชี่ยอาร์ตนี่แหละ ความรวยทำให้มันดูหล่อเหนือกว่าพวกหน้าตาท็อปๆ นอกจากจะหล่อรวยแล้ว มันก็ยังเรียนเก่งอีกต่างหาก จึงไม่แปลกที่จะเห็นว่าคนที่มันควงแต่ละคนนั้นมีแต่แต่ท็อปของโรงเรียนทั้งนั้น

และถ้าสตาร์จะโดนมันควงก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดแปลกอะไร...เพราะอาร์ตมันเป็นเกย์

กึก

ดินสอไม้ในมือของผมหัก

“เชี่ยดิน” ไอ้โชคที่นั่งอยู่ข้างๆ อ้าปากค้าง “เป็นบ้าเหรอ อยู่ดีๆ ก็ทำลายดินสอ”

“วันนี้กูจะทำให้สตาร์ยิ้มจนตาหยีให้ได้!”

มันเลิกคิ้วมองผม ไอ้โชคเหลือบไปดูคุณครูที่กำลังสอนอยู่จากนั้นก็ขยับหน้าเข้ามาใกล้ “มึงยังไม่ลืมเรื่องนี้อีกเหรอ กูก็พูดไปอย่างนั้นเอง”

“กูคิดไปคิดมาแล้วมันรบกวนกูว่ะ”

“นี่มึงชอบน้องมันจริงๆ แล้วใช่มั้ยนี่”

“...”

“ไม่ใช่แค่ชอบแล้วมั้ง หลงใหลใช่ป่ะสัด”

“บ้าป่ะวะ”

“สัดดิน มึงกลายเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย ตอนมึงชอบน้องฟืนมึงยอมรับกับกูตรงๆ นะ ไอ้คนตรงๆ คนนั้นหายไปไหนซะแล้วล่ะ”

“คือ...” ผมขยับตัวไปมาอย่างไม่รู้จะอธิบายยังไง “กูก็ยังสงสัยในตัวเองอยู่”

“มึงยังจะสงสัยอะไรอีก” ไอ้โชคชักหมดความอดทน

“...”

“ตั้งแต่มึงถามเรื่องสตาร์กับกูวันนั้นนะ มึงก็เอาแต่พูดเรื่องไอดีไลน์ของมันว่าสามพันจริงหรือเปล่า หน้าอย่างนั้นทำไมถึงมีไอดีไลน์ตัวละสามพัน มีคนเคยได้ไอดีไลน์น้องมันมั้ย โน่น นี่ และนั่น กูว่ามึงชอบน้องมันแล้วล่ะ มึงสนใจน้องมันมากด้วย แต่มึงไม่ยอมรับ”

“...”

“หนีใจตัวเองไปก็เหนื่อยเปล่าป่ะวะ กูว่ามึงยอมรับไปเลย ชีวิตง่ายกว่าเยอะ ไหนมึงเคยบอกว่าชีวิตนี้มันสั้นไง ชอบใครก็รีบไปบอกไม่ใช่เหรอ กูชอบมึงตอนนั้นมากกว่าตอนนี้นะ”

มันเทศนาซะจนผมขนลุก และยิ่งขนลุกหนักเข้าไปใหญ่เมื่อมันบอกว่ามันชอบผมตอนนั้นมากกว่า

คิดไรกับกูป่ะเพื่อน ไม่กลัวฟ้าผ่าเหรอ...

“อย่าเข้าใจผิดนะ กูปลื้มน้องสตาร์ก็จริงแต่กูชอบผู้หญิงเว้ย” ไอ้โชคขยับตัวออกห่างผม

“กูเคยอกหักจากน้องฟืน ตอนนั้นกูจีบน้องด้วยวิธีการห่ามๆ บอกไปตรงๆ แล้วมึงดูสิว่ามันลงท้ายยังไง”

“มันไม่เหมือนกันป่ะวะ” ไอ้โชคชักจะใส่อารมณ์มากขึ้น “ฟืนมันเกิดมาเพื่อได้กับเพื่อนตัวเองเว้ย มึงชอบน้องแต่น้องมีไอ้สิกอยู่แล้ว เพราะงั้นมึงจีบยังไงมึงก็นก แต่นี่คือสตาร์ ผู้โสดสนิทและก็เพิ่งอกหัก ยังไม่มีใครตีตราจองเอาไว้ ถ้ามึงกลัวว่ามึงจะเจ็บ กูก็เข้าใจนะ แต่กูอยากให้มึงลองนึกภาพตอนที่น้องสตาร์โดนไอ้หมาอาร์ตคาบไปแดก ถึงตอนนั้นมึงจะเจ็บมากกว่าตอนนี้หรือเปล่า ลองถามใจตัวเองดูนะครับผม”

แม่ง...แทงใจผมมากซะจนใจผมเป็นแผลเลือดกระฉูด

เมื่อตะกี้แค่ผมนึกภาพ ดินสอไม้ในมือผมก็หักแล้วอ่ะ เพราะงั้นคงไม่ต้องถามถึงความเจ็บหรอกมั้ง ผมคงจะมีมากกว่าความเจ็บอีกนั่นก็คือ...ความปรารถนาที่จะจับไอ้สองคนนั่นแยกออกจากกันซะ!

โชคดีที่ผมมีไอ้โชคเตือนสติ

พี่ดินคนที่เคยสับสนคนนั้นหายไปแล้ว

ผมคงตกหลุมที่น้องสตาร์มันขุดเอาไว้ซะแล้วล่ะครับ










บ่ายสาม

ผมโดดเรียนไปครึ่งคาบด้วยการบอกคุณครูวิชาพละว่าแม่มารับ (ใช้บุพการีอ้างไปอีกกู) ตอนนี้ผมมารอหน้าห้องของสตาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวผมยังใส่ชุดพละอยู่เลย แต่รับรองได้ว่าไม่เหม็นเหงื่อครับ

ใช้เวลาไม่นานเด็กห้องนี้ก็เลิกเรียน ทุกอย่างดำเนินไปในแบบเดิมๆ นั่นก็คือพวกเพื่อนของสตาร์ออกมาก่อน พวกนั้นหันมามองผมกันแทบจะทุกคนด้วยสายตาเรียบๆ แกมเบื่อหน่ายนิดหน่อย และสตาร์ก็มักจะเป็นคนสุดท้ายที่ออกมาเสมอ

มันตกใจที่เห็นผมยืนอยู่หน้าห้อง

“มาจริงแฮะ” มันเอามือกุมอก “จริงจังไปป่ะครับพี่”

“อืม จริงจัง” ผมจะเริ่มเป็นตัวผมจริงๆ แล้วนะครับ “จะไปไงอ่ะ แท็กซี่หรือว่ารถไฟฟ้า”

“เฮ้อ” สตาร์ถอนหายใจแล้วเดินเข้ามาใกล้ผม ใกล้มากจนหัวของมันจะโดนตัวผมอยู่แล้ว ผมกระพริบตาปริบๆ มองดูคนตัวเล็กกว่าตรงหน้าพร้อมกลืนน้ำลาย “ผมบอกเพื่อนแล้วแต่เพื่อนไม่ฟัง พี่จะยกเลิกไม่ไปส่งผมก็ได้นะครับ”

“มึงหมายความว่ายังไง”

“วันนี้พ่อจะมารับ พ่อบอกจะขับรถผ่านแถวโรงเรียนพอดีก็เลยจะมารับผมไปส่งที่สยาม”

เอ่อ...พ่อเลยเหรอวะ ผมถึงกับอ้าปากค้างกันเลยทีเดียว

“เพื่อนบอกถ้าพี่กล้านั่งรถไปกับผม พี่ก็สมควรที่จะได้ไอดีไลน์อีกตัวของผม”

เชี่ยบู้ มึงเป็นคนคิดใช่มั้ย วันหลังมึงห้ามมาเดินแถวซอยบ้านกู ไม่งั้นมึงโดน!

ผมมองใบหน้าของสตาร์ที่ดูเกรงอกเกรงใจผม ก่อนจะทอดถอนใจ

“เอาไงก็เอา”

สตาร์ดูทึ่งมาก “โห พี่ทุ่มทุนว่ะ หลายเรื่องแล้วนะเนี่ย”

“ก็กูจริงจังไง”

“ขอบคุณนะพี่”

“มึงก็อย่าลืมทำตามที่บอกอ่ะ”

“ผมเคยบอกว่าอะไรเหรอ” สตาร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคล้ายกับจะโทรออกหาพ่อ

ไอดีไลน์นั่นเริ่มมีความหมายลดลงไปถนัดตาเมื่อผมนึกอะไรบางอย่างได้

“มึงบอกว่าจะอยู่เคียงข้างกูจนกว่าวันที่กูได้ไลน์มึงครบไง” นี่ต่างหากที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมด

สตาร์ที่แนบโทรศัพท์ใกล้หูพูดกับผม “แล้วตอนนี้ผมกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ”

กร๊าวใจพี่มากน้องดาว...ถ้าน้องทำตามสัญญา อยู่ข้างๆ พี่ไปเรื่อยๆ พี่เชื่อว่าพี่มีโอกาสทำคะแนนเพื่อเอาหัวใจของน้องแล้วล่ะ
จริงของไอ้โชค การยอมรับหัวใจตัวเองมันเหนื่อยน้อยกว่าการหนีหัวใจตัวเองจริงๆ

จะเจ็บเหมือนเดิมซ้ำๆ ก็ช่างหัวมันแล้วตอนนี้...ชอบก็คือชอบ หนีใจตัวเองไปก็มีแต่จะเสียเวลาเปล่าๆ

เอาเวลาไปคอยแอบมองสตาร์ดีกว่า










บนรถ

กูมาทำอะไรที่นี่วะ ไอ้รถตู้หรูคันนั้นนั่นแหละครับคือพาหนะที่ผมโดยสารอยู่ในตอนนี้ ข้างหน้าของผมคือที่นั่งสองที่ที่มีที่หนึ่งถูกจับจอง คนที่นั่งอยู่ตรงนั้นคือพ่อของสตาร์ จริงๆ แล้วที่ข้างๆ พ่อสตาร์ว่างแต่สตาร์มันไม่นั่ง มันมานั่งข้างหลังเป็นเพื่อนผมแทน และดูเหมือนพ่อมันจะไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไรในเรื่องนี้ด้วย

ตลอดทางพ่อสตาร์เอาแต่คุยโทรศัพท์ขณะที่ผมเกร็งฉี่แทบราด ไม่รู้ทำไมผมถึงตัวสั่นนักหนาทั้งๆ ที่ผมคิดว่าตัวเองเป็นเด็กที่เข้าหาผู้ใหญ่ได้เก่ง

หรืออาจเป็นเพราะคนคนนี้คือพ่อของสตาร์วะ

“ชื่ออะไรนะ เมื่อตะกี้พ่อมัวแต่คุยโทรศัพท์” พ่อเริ่มชวนคุยหลังจากที่วางสายแล้ว

“เขาชื่อพี่ดินครับพ่อ เป็นรุ่นพี่ ม.6” สตาร์ตอบแทน

“หน้าตาหล่อดีนี่”

หลังจากที่ได้ยิน อาการเกร็งของผมก็หายไปประมาณสามเปอร์เซ็นต์จากเต็มร้อย อย่างน้อยเรื่องหน้าตากูก็ผ่านล่ะวะ

“ขอบคุณครับ”

“รู้จักกับสตาร์นานหรือยัง”

ผมมองหน้าสตาร์ที่กำลังเริ่มขำผม ทำไมเหรอ ผมตลกตรงไหนอ่ะ มีอะไรที่น่าหัวเราะเหรอวะ

“เมื่อไม่นานมานี้ครับ แต่ผมก็เคยเห็นน้องเขาที่โรงเรียน สตาร์เป็นคนเด่นมาก”

“งั้นเหรอ”

“...”

“แล้วคบกันนานหรือยัง”

คำพูดของพ่อทำเอาสตาร์ร้องลั่นรถ “พ่อ! ยังไม่ได้คบ!”

“ก็เห็นพามาให้พ่อดู”

“พี่เขาอาสาจะไปส่งต่างหาก”

“จริงอ่ะ” พ่อของสตาร์ถึงขั้นหันกลับมาจนผมต้องขยับตัว ทำให้มือของผมไปโดนมือของสตาร์ที่วางอยู่บนเบาะพอดี “คบกันในวัยนี้ก็น่ารักดีนะ”

ในที่สุดพ่อก็หันหน้าไป ผมถอนหายใจโล่งอก ขณะที่สตาร์นั้นเริ่มขำจนตาหยี ยิ่งมองหน้าผมมันก็ยิ่งขำ

เฮ้ย ตาหยีแล้ว นี่ไง! ไอ้โชค มึงมาดู! น้องมันยิ้มตาหยีกับกูแล้วโว้ยยย!

เสียดายที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายไม่ทัน

“ขำไรนักหนา” ผมทำปากขมุบขมิบด่ากลบเกลื่อนความเก้อกระดากของตัวเองที่ชอบรอยยิ้มนั้นของสตาร์

“ผมไม่เคยเห็นพี่ดินในมุมนี้มาก่อน”

“มุมอะไร”

“ก็มุมที่ดูหวาดๆ กลัวๆ อ่ะ ปกติเห็นชอบทำหน้าโหดๆ อยู่เรื่อยไม่ใช่เหรอ”

“มึงก็เลยขำเหรอ”

“ใช่ครับ”

“บ้าป่ะ”

สตาร์หัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะขยับมือของตัวเองกลับไปวางบนตัก ผมเองก็เก็บมือของตัวเองเหมือนกัน เมื่อตะกี้ผมแอบแต๊ะอั๋งนิ้วมันไปนิดหนึ่ง

ทำไมแค่นี้กูก็รู้สึกฟินแล้ววะ...









สยาม

“ขอบคุณนะครับพ่อ”

“ขอบคุณนะครับ”

สตาร์กับผมบอกลาพ่อที่มาส่งถึงหน้าสยามกิตติ์ที่เป็นที่เรียนพิเศษของสตาร์ พ่อของมันสั่งคนรถขับรถจากไปแล้ว ตอนนี้จึงมีแค่ผมกับไอ้เด็ก ม.5/1 คนนี้

“หายใจสะดวกขึ้นบ้างป่ะพี่” สตาร์ถามยิ้มๆ

“เออ ขึ้นชื่อว่าพ่อก็น่ากลัวหมดอ่ะ โดยเฉพาะพ่อมึง” หากชอบลูกชายใครสักคน...แล้วพ่อคนนั้นขี้หวงล่ะก็ แม่งโคตรน่ากลัวเลย ผมขอบอก

“พ่อผมใจดีนะ”

“ถามจริง พ่อมึงเคยถามอะไรทำนองนี้กับคนอื่นบ้างมั้ย”

“...”

“ไม่สิ มึงเคยพาใครมาหาพ่อมึงแบบที่มึงกับกูทำหรือเปล่า” นี่ต่างหากคือสิ่งที่ผมควรถาม สตาร์มันเป็นเด็กไม่หยิ่ง แม้จะมีแต่เพื่อนๆ ห้องมันรุมล้อม แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่ได้ไปปฏิสัมพันธ์กับหนุ่มๆ คนไหน

“เคยครับ พี่อาร์ตเคยขอติดรถไปครั้งหนึ่ง”

ไอ้เชี่ยอาร์ตอีกแล้วเหรอ นี่กูหนีมึงมาจากโรงเรียนชื่อมึงก็ยังตามกูมาถึงนี่เลยเหรอ

“มึงกับไอ้อาร์ตนี่ยังไง” ถามด้วยอาการคิ้วกระตุก

“พี่เขาเป็นพี่รหัสของผม ก็เลยสนิทกัน”

“พี่รหัสอะไรของมึง” มีเรื่องแปลกๆ ในโรงเรียนที่กูไม่รู้อีกแล้ว

“ห้องคิงมีพี่รหัสน้องรหัสครับ ใช้เลขที่ประจำห้องนั่นแหละ ผมเลขที่สิบ พี่อาร์ตก็เลขที่สิบ”

“ก็เลยสนิทกันว่างั้น”

“ประมาณนั้น”

ผมรู้สึกขุ่นเคืองเล็กๆ จนหน้าบึ้งตึง รู้สึกเสียดายที่ตอนอยู่ในตำแหน่งสภานักเรียน ผมไม่ยอมล้มเลิกระบบพี่รหัส (เอาจริงๆ ถึงจะไม่มีเรื่องสตาร์ผมก็ไปเสือกกับชีวิตของพวกห้องคิงไม่ได้อยู่แล้ว)

“แล้วอย่างกูเนี่ย มึงจะเรียกกูว่าอะไร”

“ก็เรียกว่าพี่ดินไง พี่ถามอะไรของพี่” มันมองเหมือนผมโง่

“อย่างไอ้อาร์ตก็เป็นพี่รหัสของมึง แล้วกูอ่ะเป็นพี่อะไรของมึง”

“ก็เป็นรุ่นพี่” สตาร์เริ่มขมวดคิ้ว “พี่อยากได้ตำแหน่งอะไรของพี่วะ มันจะมีอะไรนอกเหนือจากรุ่นพี่อีกอ่ะ”

“มึงก็คิดดิ”

อีกฝ่ายเริ่มเกาหัว นี่ผมตั้งโจทย์ยากเกินไปเหรอ

“เรื่องเยอะจริงๆ” สตาร์ดึงโพสต์อิตออกมาเขียน จากนั้นก็ส่งมาให้ผม

ไอดีไลน์ตัวที่ 3
I
พี่คือพี่ดินคนเท่ของผมครับ


“พอใจยัง” สตาร์เลิกคิ้ว ขณะที่ผมอ่านสิ่งที่อยู่ในมือด้วยความอึ้ง

พี่ดินคนเท่...พี่ดินคนเท่...

ไอ้เหี้ย ดีใจมาก ถ้ากรี๊ดได้คงกรี๊ดไปแล้ว แต่นี่กรี๊ดไม่ได้ไง...เพราะผมเป็นคนเท่อยู่

“เออ พอใจ”

“...”

“ส่วนมึงก็คือน้องดาวของพี่ดินนะ รู้มั้ย”

“หา”

เรื่องอะไรจะอยู่ให้เด็กมันเห็นหน้าแดงๆ ของผมล่ะ ต้องรีบชิ่งก่อนที่น้องมันจะรู้ตัวว่าผมพูดอะไร

ท่าทางผมคงชอบเด็กคนนี้เข้าแล้วจริงๆ นั่นแหละครับ








TBC*



เด็กน้อยเอ๊ยยย 555
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 3 P. 2 15/01/18
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 15-01-2018 01:51:38
มีความมุ้งมิ้งสูงมาก  :hao7:
ตัลลั้กก จีบแบบใสๆ เขินๆ มาก 5555
พี่ดินยอมรับว่าชอบล้าว คึคึ
คุณพ่อดูท่าจะไฟเขียวให้ดินนะเนี่ย 55
รอตอนหน้าค่า
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 3 P. 2 15/01/18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-01-2018 02:10:55
น้องดาวของพี่ดิน  เขินแฮะ  อีพี่ดินจะกล้าพูดต่อหน้าเพื่อนๆ ตัวเอง กับเพื่อน ๆ ของสตาร์หรือป่าวนะ  :-[
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 3 P. 2 15/01/18
เริ่มหัวข้อโดย: Bffubbru ที่ 15-01-2018 06:10:56
น้องดาวว งื้มมมม น่ารักกก
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 3 P. 2 15/01/18
เริ่มหัวข้อโดย: kredkaew26 ที่ 15-01-2018 12:57:10
อ้ากกกกกกกกกกก "น้องดาวของพี่ดิน"  เขินนนนนนนนนนนวุ้ย  ^^   :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 3 P. 2 15/01/18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-01-2018 13:08:55
น้องดาวววว
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 3 P. 2 15/01/18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-01-2018 13:40:25
แหม  :hao3: น้องดาวของพี่ดิน
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 3 P. 2 15/01/18
เริ่มหัวข้อโดย: cookie12ck ที่ 15-01-2018 13:42:30
อร้ายยยยยยยยย :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: เขินแทนน้องดาว คริคริ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 3 P. 2 15/01/18
เริ่มหัวข้อโดย: Lemonlife ที่ 19-01-2018 22:18:54
 :m25:กระอักเลือด เฮือกกกกกก
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 3 P. 2 15/01/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 01-02-2018 14:53:08





ตอนที่ 4





ผมเคยคิดเอาไว้ในใจว่าผมต้องการความรักในรูปแบบอย่างนั้นอย่างนี้ วาดฝันในสิ่งที่ผมปรารถนาและคิดว่ามันสวยงาม แต่พอความรักเกิดขึ้นจริงๆ มันไม่สามารถควบคุมได้ รักก็คือรัก ไม่มีรูปแบบตายตัว ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการและอาจจะไม่ได้สวยงามเหมือนนิยายชวนฝัน แต่กลับมีความสุขเป็นบ้า

กรุ๊ปไลน์ ‘สตาร์ FC’

Din : สตาร์ของกู ใครยุ่งพ่องตาย
FUEN : โหดมาก 555
AOF : พ่องตาย แต่ผมไม่ตายใช่เปล่าครับ #วิ่ง
TANG : โคตรเท่ โคตรได้ใจ
CHOK : กูกล่อมสำเร็จแล้วสินะ
PHYSICS : ฟืนของผม ใครยุ่งพ่องก็ตายเหมือนกัน


ผมเริ่มจะชินกับไอ้สิกแล้วล่ะครับ มึงหวงไปเหอะ หวงไปเลย ไม่มีใครยุ่งกับของๆ มึงแล้วล่ะ ผมส่ายหน้าใส่โทรศัพท์เบาๆ ก่อนที่จะเปิดเว็บไซต์สมัครสอบรับตรงที่เว็บไซต์มหา’ลัยแห่งหนึ่ง

วันนี้ผมกับไอ้โชคนัดกันว่าจะไม่ไปโรงเรียน

ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากทำตัวเป็นนักเรียนตัวอย่างนะครับ แต่เพื่อนในห้องมันไม่มีใครไปเลย อีกทั้งพวกคุณครูที่สอนผมวันนี้ก็พร้อมใจยกเลิกคลาสเรียนกันหมด เพราะงานก็สั่งไว้แล้ว เนื้อหาที่จะสอนก็เริ่มใกล้จะหมดแล้ว เอาเป็นว่าวันนี้รู้กันหมดทั้งคุณครู ทั้งนักเรียน ม.6/2 ว่าไม่มีใครไปโรงเรียน ผมก็เลยมีเวลามาสมัครสอบรับตรงอยู่นี่ไง

แม้จะเป็นการสมัครมหา’ลัยที่ไม่ใช่มหา’ลัยในฝั แต่เมื่อมีโอกาสก็อยากเพิ่มทางเลือกให้ตัวเองดูครับ ผมกำลังกรอกข้อมูลส่วนตัวอย่างเพลิดเพลินตลอดเช้า จนตอนนี้เวลาก็ปาเข้าไปเกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว ใจของผมก็ลอยไปหาคนที่อยู่โรงเรียน

สตาร์จะเป็นไงบ้าง จะเรียนเป็นไง จะลืมทำการบ้านส่งมั้ย

ทั้งหมดทั้งมวลนั่นผมไม่สามารถรับรู้ได้เพราะผมไม่มีไลน์ของน้อง เมื่อไม่มีไลน์เบอร์จึงไม่ต้องพูดถึง ไอ้เชี่ยบู้คงป้องกันเรื่องนี้เอาไว้เป็นอย่างดีว่าถ้าผมมีเบอร์สตาร์ ผมก็ต้องมีไลน์ของน้องโดยอัตโนมัติ ซึ่งเด็กห้องฉลาดๆ อย่างมันคงไม่ยอมหรอก

ผมจึงได้แค่นั่งห่อเหี่ยว นึกถึงรอยยิ้มตาหยีของสตาร์ที่ทำเอาผมเพ้อมาถึงวันนี้

คิดไปคิดมา ถึงจะไม่มีไลน์ แต่โลกใบนี้ก็ยังมีเฟซบุ๊กอยู่นะครับ!

ผมรีบเข้าเฟซบุ๊กทันที ทั้งๆ ที่ไม่ได้เล่นมานานหลายเดือน แต่หลังจากที่พยายามเสิร์ชชื่อของสตาร์อย่างหนักหน่วงทั้งชื่อจริงและก็ชื่อเล่น ความจริงที่แสนโหดร้ายก็ได้คืบคลานเข้ามาหาผม

สตาร์ไม่เล่นเฟซบุ๊กว่ะ...

โอ้โห นี่มึงเป็นเด็กยุค 201X จริงๆ ป่ะเนี่ย

ผมที่สมัครสอบเสร็จแล้วแทนที่จะฟิน กลับต้องมานั่งเซ็งเพราะไม่สามารถติดต่อสตาร์ได้ แต่แล้วอะไรบางอย่างก็แวบเข้ามาในหัวผม

ถึงสตาร์จะไม่มีเฟซบุ๊ก แต่โลกนี้ก็ยังมีไอจีนี่หว่า!

เด็กรุ่นผมคงไม่มีใครไม่เล่นไอจีแล้วมั้ง (หรือถ้ามีก็เป็นส่วนน้อยแหละ) ไอจีสตาร์หาง่ายมากโคตรๆ แค่เข้าไอจีเด็ก ม.5 สักคนและก็กดดูคนที่มันติดตาม ไม่นานก็จะเจอชื่อของสตาร์ ผมกดฟอลโลว์ไปอย่างไม่ต้องคิด จากนั้นก็ไล่ดูรูปที่สตาร์เคยอัพเอาไว้
นี่มันอะไรกันวะ

ภาพวิว หมา แมว และก็หนังสือ

มีรูปสตาร์อยู่รูปเดียวนั่นก็คือรูปโพรไฟล์เล็กกระจิ๋วหลิว แถมยังเป็นรูปมันยืนมองเหม่ออยู่ริมทะเลไกลๆ อีก ทำไมคนหน้าตาสวยๆ ถึงไม่ชอบถ่ายรูปตัวเองลงไอจีวะ คนส่องแม่งโคตรเซ็ง

ใครรู้ตัวว่าจะโดนส่อง รบกวนอัพอะไรที่ทำให้คนส่องได้ชื่นใจหน่อยนะครับ

ผมกดไลค์รูปล่าสุดที่สตาร์โพสต์ไว้เมื่อห้าวันที่แล้ว เป็นรูปสยามยามค่ำคืนในแบบอาร์ตๆ นั่นแหละ ใช้เวลาไม่นานนักสตาร์ก็ฟอลโลว์ผมกลับ

เขาแอบเล่นโทรศัพท์ในเวลาเรียนด้วย!

ใจผมสั่นอยากทักไปทาง Direct message ของอินสตาแกรมมาก แต่ไม่เอาดีกว่า แค่น้องมันฟอลกลับก็เป็นเรื่องดีของผมในวันนี้แล้ว ผมไม่จำเป็นต้องโกงพวกไอ้บู้ ชอบเพื่อนเขาก็ต้องเคารพเขาครับ เรื่องนี้ผมคิดเอาเอง

ผมวางโทรศัพท์ลงก่อนจะเริ่มอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ

แต่ก็...








สยาม เวลา 16.32 น.

ผมโผล่มาที่สยามตอนเย็นจนได้ แหะๆ #ยิ้มแห้ง สาเหตุมาจากไอ้เชี่ยโชคมันอัพไอจีสตอรี่ที่มีคำบรรยายว่า ‘สยามทัก’ ซึ่งแปลว่าใครอยู่สยามก็ช่วยทักมันหน่อย หรือไม่ก็ใครจะมาสยามก็จงโปรดรับรู้ว่ามันอยู่ที่นี่แล้ว ผมที่เผลอกดเข้าไปที่สตอรี่ของมันถูกมันบังคับให้มาหาที่สยาม มันบอกว่าอ่านหนังสือมาทั้งวันแล้วโคตรเครียด อยากหาไรแดก อยากผ่อนคลาย ผมที่รู้สึกเหมือนมันก็เลยออกมาที่นี่ มาเปิดหูเปิดตา พักผ่อนกายาและจิตใจ

แต่ความจริงคือ...ผมรู้ว่าวันนี้สตาร์จะมาเรียนพิเศษแถวนี้น่ะครับ เผื่อดวงดีได้เจอน้องอะไรประมาณนั้น

“กูว่ากูเลือกวิธีจีบสตาร์ผิดว่ะ” ผมระบายกับไอ้โชคที่กำลังกินสเต็กอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างหิวโหย “กูต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ไอดีไลน์น้อง แล้วเป็นไงทีนี้ ไอดีไลน์ก็ไม่มี เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่มี มีแต่ไอจี!”

“อย่างน้อยมึงก็มีอะไรไว้คอยส่องนะ”

“มันอัพแต่รูปหมารูปแมว แถมรูปล่าสุดที่อัพคือห้าวันที่แล้ว”

“น้องมันก็เป็นคนแบบนี้แหละ ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปตัวเองเท่าไหร่ ชอบถ่ายให้คนอื่น”

“...”

“กูเคยเห็นน้องถ่ายให้ไอ้สิกหนหนึ่ง รูปนั้นลงเพจเด็กไทยคิวต์บอยเลยนะเว้ย”

ผมรู้สึกขุ่นมัวเล็กๆ หลังจากที่ได้ยิน ไอ้การที่มีรูปลงเพจน่ะผมโดนโคตรบ่อยจนไม่รู้สึกอะไร แต่เรื่องที่ผมฟังแล้วของขึ้นก็คือสตาร์เคยถ่ายรูปให้ไอ้สิกเนี่ยแหละ

ทำไมกูไม่มีโมเมนต์นั้นบ้างวะ

“มึงไม่ต้องมาทำหน้าโมโห ตอนนั้นมึงก็วนๆ เวียนๆ อยู่แต่กับน้องฟืน”

“ไม่รู้ กูโมโหไปแล้ว”

“...”

“กูมีมิชชั่นใหม่อีกแล้วใช่มั้ย วันก่อนต้องทำทุกอย่างเพื่อให้น้องยิ้มจนตาหยี วันนี้กูก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้น้องถ่ายรูปกู”

“คือเรื่องนี้กูไม่ได้ท้าอะไรมึงเลยเว้ย มึงต้องการของมึงเอง”

“ก็นั่นแหละ” ผมไม่เถียงแม่งสักคำ “แล้วจะทำไงให้มันมาถ่ายรูปกูล่ะ กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันอยู่ไหน มันเรียนพิเศษอยู่หรือเปล่ากูยังไม่รู้เลย ถ้าเป็นไปได้นะ กูอยากให้น้องมันเดินผ่านร้านนี้ เดี๋ยวนี้ ถ้าเจอกูจะวิ่งใส่เกียร์หมาเข้าไปหาเลย”

“ไอ้เหี้ย!” ไอ้โชคร้องลั่นดังมาก “มึงดู!”

มันชี้นิ้วไปที่ข้างนอกร้าน เด็กนักเรียนคนหนึ่งกำลังเดินผ่านร้านสเต็กนี้ไปอย่างหน้าตาเฉย มันกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่

เป็นผมผมก็ตกใจว่ะ ก็นั่นมันสตาร์ คนที่ผมอยากให้เดินผ่านร้านนี้ และมันก็เดินผ่านร้านนี้จริงๆ

“วิ่งเลยไอ้เหี้ยดิน วิ่ง ไม่วิ่งพ่อมึงเป็นแมว มึงพูดแล้ว!”

ตัวผมพุ่งไปก่อนที่ไอ้โชคมันจะพูดซะอีก ใช้เวลาไม่นานผมก็มาขวางหน้าสตาร์เอาไว้แล้ว สตาร์ไม่ทันได้เงยหน้ามอง หัวของมันก็เลยชนเข้ากับอกผมเต็มๆ

แม่ง โคตรเอ๋อ

“ขอโทษครับ” พอมันเงยหน้าขึ้นมา มันก็ทำหน้าโล่งอก “ตกใจหมด คิดว่าไปชนคนอื่น”

“ทำไม ชนคนอื่นแล้วมันน่ากลัวมากกว่าชนกูงั้นเหรอ” ผมพยายามเก็บอาการหอบของตัวเองเอาไว้ เดี๋ยวแม่งจะรู้ว่าผมรีบมาหามันแค่ไหน

“ตอนแรกผมก็กลัวพี่นะ แต่ตอนนี้ผมไม่กลัวพี่แล้ว เพราะงั้นชนพี่ดีกว่าชนคนอื่นแน่นอน”

เอาวะ ไม่กลัวก็ดีกว่าเกลียดละกัน อย่างน้อยน้องมันก็ไม่ได้เกลียดผมล่ะ

“วันนี้ไม่ได้ไปโรงเรียนเหรอครับ” สตาร์มองดูสภาพผม “แต่งตัวซะหล่อเลย”

ใจกูมาเลย มันชมผมด้วยเว้ยยย นี่ขนาดหยิบเสื้อผ้ามาใส่แบบรีบๆ นะ

“หยุดอ่านหนังสืออยู่บ้านน่ะ ไอ้โชคชวนออกมาก็เลยมา”

“แล้วไหนล่ะครับพี่โชค”

เออว่ะ ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย “มันไปหาสาวแล้ว”

“อ๋อ” สตาร์หันมาดูโทรศัพท์ในมืออีกครั้ง ผมเห็นมันรีบกดออกจากอะไรบางอย่างคล้ายไอจี

“ส่องไอจีกูเหรอ” ผมจำรูปสามรูปล่าสุดของตัวเองได้อยู่นะ เมื่อตะกี้เห็นแวบๆ ในโทรศัพท์ของสตาร์

“ผมส่องของคนอื่น”

ผมไม่กล้ามั่นใจว่าสิ่งที่มันส่องอยู่คือไอจีของผมเอง ฉะนั้นผมจึงไม่เซ้าซี้มัน

“แล้วจะไปไหน”

“รอเรียนตอนห้าโมงเย็นครับ”

ตอนนี้ก็ใกล้จะห้าโมงเย็นแล้ว “เรียนไหน เดี๋ยวไปส่ง”

“พี่ ไม่เป็นไร”

“บอกมาว่าเรียนไหน เร็วๆ” ผมแกล้งขู่

“สยามกิตติ์”

มันยังคงกลัวคำขู่ของผมอยู่หน่อยๆ งั้นผมก็ขอใช้ให้เป็นประโยชน์ก็แล้วกัน ผมบุ้ยใบ้ให้สตาร์เดินนำหน้า จากนั้นผมก็เดินตามหลัง รู้สึกใจพองโตแบบแปลกๆ อาจเป็นเพราะวันนี้ผมคิดถึงมันมาทั้งวันแล้ว และในที่สุดผมก็ได้เห็นหน้ามันด้วย

โคตรโชคดีอ่ะ

“ตอนมึงเดิน มึงอย่าเดินไปด้วยและก็เล่นโทรศัพท์ไปด้วยดิ” ผมพูด “เดี๋ยวมึงก็ไปชนคนนั้นคนนี้เหมือนที่ชนกูหรอก”

“ผมชนประจำเลย”

“คนที่โดนมึงชนเขาไม่ว่ามึงเหรอ”

“เขาไม่ว่าครับ”

“...”

“แต่เขาขอเบอร์”

มันพูดไปเรื่อยๆ เหมือนเรื่องนี้เป็นความจริงที่ไม่มีวันตาย เดินชนคนอื่นแต่คนอื่นดันมาขอเบอร์เนี่ยนะ ถ้าไม่สวยจริงๆ ก็คงจะไม่โดนแบบที่มันโดน

กูยอม...

“เขาขอเอาไปทำอะไร”

“ไม่รู้ ขอเพื่อจะได้ถามถึงสุขภาพหัวของผมมั้งครับพี่” คนน่ารักก็กวนประสาทเป็นแฮะ สตาร์พูดด้วยตายิ้มๆ อย่างมีเสน่ห์

“แล้วมึงได้ให้ป่ะ”

“บ้า” สตาร์หัวเราะ “ผมให้สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ถ้าเพื่อนรู้เดี๋ยวมันด่าตายห่า”

“กูถามอะไรอีกอย่าง” ผมได้โอกาสทั้งทีก็เลยขอซักไซ้หน่อยแล้วกัน “ทำไมพวกแม่งถึงหวงมึงขนาดนั้นวะ หวงมึงกันทุกคนเลยด้วย พวกมันไม่ได้เป็นบ้าใช่ป่ะ”

“ฮ่าๆๆ มันก็ปกติแหละพี่ อาจเป็นเพราะพ่อแม่ชอบเลี้ยงขนมพวกมันบ่อยมั้ง พวกมันก็เลยคิดว่าการดูแลผมให้ดีที่สุดเป็นการตอบแทนพ่อแม่ผม”

“เหรอวะ” ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลย “มึงเคยได้ยินคำว่าสมบัติห้องมั้ย”

“ไม่เคยเลยพี่”

แสดงว่าพวกเชี่ยบู้แม่งตอแหลกับสตาร์แน่ๆ เอาเป็นว่ายังไงผมก็ไม่มีวันเข้าใจว่าทำไมพวกเด็ก ม.5/1 ต้องหวงสตาร์ เรื่องจริงก็คือมันหวงมากนั่นแหละ

ผมคอยลอบมองสตาร์จากใบหน้าทางด้านข้าง รู้สึกเหมือนเป็นแฟนมันทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็น ได้เดินไปส่งมันเรียนพิเศษแบบนี้เป็นอะไรที่ดีกับใจอย่างแท้จริง ถ้าผมมีอำนาจ ผมอยากให้ทางเชื่อมบีทีเอสตรงสยามสแควร์วันนี้ยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด ไม่อยากให้ถึงสยามกิตติ์ไวๆ เลย

“เออนี่” ผมชวนมันคุยอีก “ได้ข่าวว่ามึงถ่ายรูปสวย”

“ผมเหรอ” สตาร์หัวเราะ “เปล่าสักหน่อย”

“กูได้ยินมาอย่างนั้นจริงๆ”

“คนที่ผมถ่ายให้หล่อทุกคนมั้งครับ เขาก็เลยคิดว่าผมถ่ายสวยอ่ะ”

“ตอนนี้มึงมีกล้องป่ะ ไม่ดิ ถ่ายโทรศัพท์ดีกว่า ช่วยถ่ายให้กูหน่อย” ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้มัน

“เดี๋ยวๆ อะไรของพี่” สตาร์ดูงงมาก แต่ก็รับโทรศัพท์ของผมไปกดเข้ากล้อง “ตรงนี้เลยเหรอ”

ตรงนี้ที่มันว่าคือบริเวณด้านหน้าสยามสแควร์วัน “เออ”

สตาร์จ้องผมแป๊บหนึ่ง ก่อนที่จะขยับไปในมุมที่มันคิดว่าแสงดีที่สุด ผมหันไปตาม แทบไม่ต้องขยับตัวเลยตอนที่มันกดถ่าย

“ได้แล้ว” สตาร์คงจะขำๆ นิดหน่อยมั้ง “โห ไม่ต้องจัดเหี้ยไรมากพี่ก็หล่อว่ะ”

ชมอีกแล้ว...ชมกูอีกแล้ว ชมแล้วช่วยชอบกูด้วยครับ รับผิดชอบหน่อย

“เดี๋ยวกูอัพเลย”

“ไม่ต้องแท็กผมนะ”

“ทำไมกูจะแท็กไม่ได้” ผมเลิกคิ้ว “ก็มึงเป็นคนถ่าย”

“เดี๋ยวก็มีคนมาถามมากอีกอ่ะ”

สตาร์ถอนหายใจพร้อมกับเดินนำหน้าผมไป ผมหน้าบึ้งตึงนิดหน่อยแต่ก็เข้าใจมัน แค่ผมบุกไปขอไลน์มันถึงห้องก็เป็นข่าวดังไปทั่วโรงเรียนแล้ว มันคงไม่อยากโดนคนถามเรื่องผมมากล่ะมั้งครับ

ผมอัพรูปนั้นอย่างรวดเร็วพร้อมแคปชั่นสิ้นคิดที่สุดในโลกแต่แม่งโดนใจผมสุดๆ

‘คนสวยถ่ายให้โว้ย’

อีกไม่นานพวกเพื่อนแม่งก็จะมาถล่มเมนต์ว่าใครคือคนสวย กระเทยหรือเปล่า มึงมีกิ๊กแล้วเหรอ แล้วน้องคนนั่นล่ะ บลาๆๆ ตามประสาพวกว่างและก็ชอบแกล้งคนอื่น ยิ่งคิดผมก็ยิ่งเข้าใจว่าทำไมสตาร์ถึงบอกว่าไม่ต้องแท็กมัน เพราะถ้าแท็กนะ ไอ้พวกเพื่อนเหี้ยของผมคงแกล้งหนักมากกว่าที่ผมเพิ่งกล่าวไปแน่ๆ

“เฮ้ย” สตาร์ชะงักกึก ผมเดินชนไหล่มันอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“มีไร” ผมถาม

แววตาของสตาร์ดูอึ้งๆ เมื่อมองเห็นภาพตรงหน้า ผมมองตามไป ภาพที่เห็นก็คือเด็กนักเรียนกลุ่มใหญ่และมาจากโรงเรียนที่คุ้นตาผมเป็นอย่างดี

โรงเรียนคู่อริ

ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือคนที่เดินนำหน้าคือคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้าที่สุดในโลกหล้านี้แล้ว มันชื่อว่า ‘ไอ้เรย์’ เป็นคนที่ใครหลายคนลงความเห็นว่าเป็นผมในเวอร์ชั่นแบด มันแต่งตัวผิดระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า อีกทั้งทั่วร่างของมันก็มีเครื่องประดับระยิบระยับเต็มไปหมด ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่เพราะการแต่งตัวมันหรอกครับ แต่มันชอบเข้าข้างเด็กนักเรียนโรงเรียนมันเวลาที่พวกมันมาหาเรื่องเด็กนักเรียนโรงเรียนผม

ผมกับมันเขม่นกันมากขึ้นทุกครั้งที่ใครในโรงเรียนมีเรื่องกัน ผมไม่เจอมันมานานมากแล้วเพราะช่วงนี้เหตุการณ์ระหว่างสองโรงเรียนค่อนข้างสงบ ทว่าการมาเจอมันที่สยามเป็นอะไรที่ผมเองก็ตกใจอยู่เหมือนกัน

มันยิ้ม แต่มันไม่ได้ยิ้มให้ผม มันยิ้มให้สตาร์

“ทำไมไม่รับสายพี่เลย” มันเดินเข้ามาแล้วแตะแขนสตาร์อย่างสนิทสนม

เดี๋ยวๆ กูของขึ้นเลย อะไรของมึงวะ!

ผมรีบดึงแขนสตาร์ให้มาหลบหลังผม จากนั้นก็จ้องหน้าไอ้เรย์เขม็ง

“ถอยไปเชี่ยดิน กูไม่อยากมีเรื่องกับมึงวันนี้” เรย์ชักสีหน้า

“นี่มันรุ่นน้องโรงเรียนกู”

“แล้วไง มันเป็นเด็กกู”

มันเป็นเด็กกู...

เด็กกู...

เด็ก...

คำพูดไอ้เรย์ทำเอาผมรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ เด็กไอ้เรย์คือสตาร์เนี่ยนะ ตัวท็อปของโรงเรียนคือเด็กไอ้เชี่ยเรย์ คู่อริตลอดกาลของผมเนี่ยนะ บ้าป่ะ ผมไม่มีวันเชื่ออย่างเด็ดขาด

สตาร์ใช้แผ่นหลังของผมรองเพื่อที่เขาจะเขียนอะไรบางอย่างอย่างรวดเร็ว ผมเดาว่าคงเป็นโพสต์อิตนั่นแหละ แต่ผมต้องสนใจไอ้เรย์ที่อยู่ตรงหน้านี้ก่อน

“กูไม่ได้คุยกับเด็กกูมานานมากแล้ว เพราะงั้นมึงถอยไป” ไอ้เรย์ผลักผมด้วยพละกำลังมหาศาลของมัน สตาร์ตัวเล็กลงไปเลยตอนที่มันพยายามหลบใบหน้าไอ้เรย์ที่ยื่นเข้าไปใกล้ “พี่ทักไปก็ไม่ตอบ ไม่น่ารักเลยนะ รู้มั้ยว่าพี่คิดถึง”

เสียงหัวเราะของเพื่อนๆ เรย์ยิ่งทำให้สตาร์ทำหน้าเหมือนใกล้จะร้องไห้

นี่มันชักจะยังไงๆ แล้ว ผมกำหมัดแน่น พร้อมมีเรื่องทุกเมื่อ ถึงแม้ว่าที่ตรงนี้จะมีคนเดินไปเดินมาเยอะก็ตาม

“ขอโทษครับ” สตาร์หงอยจนผมเจ็บที่หัวใจ

“ใกล้จะไปเรียนพิเศษแล้วสิใช่มั้ย งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง” ไอ้เรย์หันไปบอกพรรคพวกให้แยกย้าย ซึ่งทุกคนก็ทำตามที่มันพูดอย่างง่ายดาย “สยามกิตติ์ใช่ป่ะ ไปกันเถอะ”

แม่งรู้อีกว่าสตาร์มีเรียนที่ไหน

ผมรู้สึกเหมือนเป็นหมาถูกทิ้งเลย...สตาร์มองผมอย่างลำบากใจแต่ก็ขยับตัวไปตามมือที่ไอ้เรย์มันดึงแขน

การยอมง่ายๆ มันไม่ใช่ผม ถึงแม้ว่าจะงง แต่ผมก็ไม่มีวันเป็นหมาให้ไอ้เชี่ยเรย์มันเหยียบหน้าแน่ๆ

“น้องมันมากับกู” ผมพูด ไปยืนขวางหน้าทั้งสองเอาไว้

เรย์มองผมอย่างรำคาญ “กูบอกแล้วใช่มั้ยว่ากูไม่อยากมีเรื่องกับมึงวันนี้”

“มึงมีเรื่องแน่ ถ้ามึงไม่ปล่อยมันอ่ะ”

ผมพูดจริงแน่ๆ ไอ้เรย์มองผมอย่างเกลียดขี้หน้าขั้นสุด มันหันไปหาสตาร์เพื่อขอความเห็น

“สตาร์จะไปกับใคร พี่หรือมัน เลือกดีๆ นะครับ”

เจ็บใจฉิบหาย สตาร์ทำสีหน้าลำบากใจทั้งๆ ที่มันไม่ใช่คำถามที่ยากเลย ไอ้เรย์มันตัวอันตราย คนทั้งโรงเรียนผมรู้ดีว่ามันคือคนที่ควรเดินหนีเมื่อเห็นหน้า แต่สตาร์กลับไม่สามารถตอบได้ว่าคนที่เขาควรไปด้วยก็คือผม ไม่ใช่เรย์

นี่มันแปลกๆ แล้วว่ะ

“ขอโทษนะครับพี่ดิน” สตาร์มีสีหน้ารู้สึกผิด ส่วนไอ้เรย์มันยิ้มเหมือนฟินจนขึ้นสวรรค์ไปแล้ว

“ได้ยินแล้วนะ เลิกขวางทางได้แล้ว” มันเตะเท้าผมอย่างแรง ผมต้องงอขาเพราะเจ็บจี๊ดไปหมด ทั้งสองคนเดินนำหน้าไปแล้ว แต่สตาร์ทิ้งอะไรบางอย่างไว้ให้ผม มันหล่นลงตรงหน้าผมที่กำลังยืนด้วยท่าแปลกๆ อยู่พอดี

กระดาษโพสต์อิตที่เป็นสัญญาใจของผมกับสตาร์

ไอดีไลน์ตัวที่ 4
N
พี่ดินช่วยผมด้วยครับ 


ผมเข้าใจแจ่มแจ้งในทันที สตาร์ไม่ได้เต็มใจจะไปกับไอ้เรย์ แต่สองคนนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังบางอย่างที่ผมต้องรู้ให้ได้

เคยได้ข่าวมาเหมือนกันว่าเรย์มันชอบเด็กในโรงเรียนผม ชอบมากถึงขนาดจีบอย่างจริงจังแบบไม่ใช้อำนาจมืดที่มันมี

ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเด็กโรงเรียนผมคนนั้นเป็นใคร...

ทำไมต้องคนนี้วะไอ้เหี้ยเอ๊ยยยยยยยยยย








TBC*







หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 3 P. 2 15/01/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 01-02-2018 14:53:55


ตอนที่ 5





กรุ๊ปไลน์ ‘สตาร์ของดิน ใครยุ่งพ่องตาย’

Din : ใครรู้เรื่องสตาร์กับไอ้เรย์ทักมา
FUEN : เรย์ไหน? เฮ้ย เรย์ที่โหดๆ ป่ะพี่ ทำไมเขามายุ่งกับสตาร์ล่ะ เฮ้ยๆๆ
AOF : แค่ได้ยินชื่อก็ขนลุกแล้ว บรื๋อ
TANG : ผมเคยเห็นว่าเขาเคยมาหาสตาร์แวบๆ แต่มาไม่กี่ครั้งมั้ง สงสัยกลัวเด็กโรงเรียนเราตื้บ
CHOK : เหี้ย เกิดไรขึ้นวะ
PHYSICS : ผมไม่รู้
PHYSICS : ฟืนมึงตอบไลน์กรุ๊ปได้ แต่ไม่ตอบไลน์กูคือไรวะ





ตอนผมอ่านจบผมวางโทรศัพท์ลงอย่างหงุดหงิด กรุ๊ปไลน์ (ผมแอบเปลี่ยนชื่อกรุ๊ปเอง) ที่บอกว่าจะช่วยแต่ไม่ได้ช่วยเหี้ยอะไรผมเลย เมื่อคืนผมคิดเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนนอนแทบไม่หลับ ไม่มีใครสามารถให้คำตอบผมได้ถ้าผมไม่ถามเรื่องนี้กับสตาร์ตรงๆ งั้นสินะ

ผมมาที่ห้อง ม.5/1 แต่เช้า วันนี้ผมทำหน้าโหดมากจนไม่มีใครกล้าเข้ามาพูดจายียวนผมแม้กระทั่งผู้นำอย่างไอ้เชี่ยบู้ มันมองผมอย่างหวาดๆ ตอนที่มันมาถึง ผมยืนกอดอกคุมเชิงยืนพิงโต๊ะครูอยู่ มองหน้าหาเรื่องเด็กห้องนี้แม่งทุกคนถ้าคนคนนั้นไม่ใช่สตาร์
ในที่สุดสตาร์ก็มา น้องมันชะงักค้างทันทีที่เห็นหน้าผม

“ใครไม่ใช่สตาร์ออกไปให้หมด” ผมทำเสียงวางอำนาจ คนที่กลัวผมต่างก็แข่งกันวิ่งออกจากห้อง บางคนที่ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ก็เดินอย่างช้าๆ คอยหันกลับมามองราวกับต้องการเผือก โดยเฉพาะไอ้เชี่ยบู้ “เชี่ยบู้มึงรีบออกไป” มันสะดุ้งเพราะสีหน้าผมจริงจังมาก แล้วมันก็วิ่งออกไปจากห้อง

“พี่ดินมีไร” สตาร์ตกใจมาก ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปที่ไอ้บู้

“ไม่ต้องไปมองคนอื่น รู้มั้ยว่ามึงทำตัวมีปัญหากับกูนะ”

“ผมทำอะไร” อีกฝ่ายใกล้จะร้องไห้แล้ว เดี๋ยวก่อนนะ นี่ผมน่ากลัวเกินไปเหรอ

“หวะ วางกระเป๋าลงก่อน” น้ำเสียงของผมซอฟต์ลงไปเพราะไม่อยากให้สตาร์กลัว มันเดินไปวางกระเป๋าที่โต๊ะตัวเองช้าๆ จากนั้นก็หันมามองผม

“กูมีเรื่องจะถาม”

“...”

“คือว่า...”

โทรศัพท์ของผมดังขัดจังหวะขึ้นซะก่อน คนที่โทรมาหาคือ ‘ไอ้ธนัช’ เพื่อนในกลุ่มของผม มึงโทรมาทำซากอะไรตอนนี้วะ

“แป๊บ” ผมบอกสตาร์ก่อนที่จะกดรับสาย “มีเชี่ยไรธนัช”

[ดิน มึงได้สมัครโควตามอ C มั้ยวะ]

มอ C คือมอที่ผมกดสมัครเมื่อวาน “เออ ทำไมวะ”

[หมดเขตจ่ายตังค์ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนะเว้ย มึงจ่ายยังวะ]

ช็อกแป๊บ “ยังว่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้ว”

[จะแปดโมงแล้ว]

“เชี่ย กูสมัครไปตอนสิบเอ็ดโมงกว่ามั้ง”

[ถ้างั้นมึงก็ควรจะรีบแล้วเพื่อน]

“ห่าน กูไม่ได้พริ้นต์เหี้ยไรออกมาเลย”

[มึงเคยมีห้องสภาไว้นอนเล่นหรือไงวะ มึงก็ไปพริ้นต์ห้องนั้นดิ]

“เออๆๆ”

[รีบเลย วันนี้วันจ่ายตังค์วันสุดท้าย]

เวรกรรมจริงๆ ผมกดวางสายพร้อมกับทำสีหน้ากลัดกลุ้ม สตาร์มองผมอย่างฉงนสงสัยว่าผมเครียดกะทันหันทำไม

ทำไมต้องมีเรื่องน่าหงุดหงิดประดังประเดเข้ามาพร้อมกันด้วยวะ

“เอาไว้เดี๋ยวค่อยคุยกัน” ผมบอกปัดๆ อุตส่าห์มารอแต่เช้าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรด้วยเลยนี่มันช่างน่าเสียดาย ผมเดินออกไปนอกห้อง ตรงนั้นมีเด็กห้องสตาร์อยู่เต็มไปหมด พวกมันตัวแข็งทื่อทันทีที่ผมเดินออกไป

“พี่ดิน ตกลงพี่มีเรื่องอะไร” สตาร์วิ่งตามมา ผมดีใจนะที่เห็นมันกระตือรือร้นอยากรู้เรื่องของผม

“กูจะรีบไปจ่ายตังค์ค่าสมัครสอบ”

“ไปรถผมมั้ย พี่สมัยคงยังออกไปได้ไม่ไกล”

ผมอึ้งไปเล็กน้อย “แต่ว่า...”

“เดี๋ยวผมโทรให้” สตาร์หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้ว ผมกระพริบตามองอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจดึงแขนมันให้เดินไปกับผม ดึงต่อหน้าพวกห้องหนึ่งเลยนี่แหละ

ไม่มีใครเข้ามาขวาง มีแต่มองด้วยสายตางุนงงก็เท่านั้น ดีแล้วล่ะ ตอนนี้กูรีบ พวกมึงอย่าเพิ่งทำตัวเป็นพ่อสตาร์เชียว ส่วนสตาร์ไม่ได้ขัดขืนผม มันโอนอ่อนตามแรงผมโดยง่าย ระหว่างที่มันกำลังคุยโทรศัพท์ ใจของผมก็เต้นแรงไปหมด

มันจริงจังมากทั้งๆ ที่เป็นเรื่องของผม คนที่มันยังไม่มีใจให้

แต่แค่นี้แม่งก็ได้ใจผมแล้ว...

“พี่สมัยครับออกไปไกลจากโรงเรียนสตาร์มากหรือยังครับ พอดีสตาร์มีเรื่องด่วนมากอยากใช้รถ ครับ รบกวนกลับมารับสตาร์ได้มั้ย รับตรงไหนเหรอ” สตาร์เอียงหน้ามาถามผม ผมทำปากบอกไป “ตรงรั้วแถวๆ ประตูสามครับ ครับ รถติดเหรอครับ ไม่เป็นไรครับ แล้วเจอกันนะครับ ห้ามบอกพ่อนะ”

เสียงสตาร์หวานมากเมื่อมันแทนตัวเองว่าสตาร์กับผู้ใหญ่ ถ้ามีวันหนึ่งที่มันแทนตัวเองแบบนั้นกับผมบ้างคงจะดีไม่น้อย...ผมคงหลงมันมากจนกู่ไม่กลับ

“ตกลงได้มั้ย” ผมที่ทั้งรีบทั้งใจเต้นแรงเอ่ยถาม

“ได้ๆ”

“...”

“พี่จะพาผมปีนรั้วออกไปเหรอ”

“คงต้องเป็นอย่างนั้น ประตูโรงเรียนใกล้ปิดแล้ว มึงคิดว่าจะเดินหล่อๆ ออกไปข้างนอกได้เลยหรือไง”

“ครับ”

“มึงแน่ใจนะว่าจะโดดเรียนออกไปกับกูอ่ะ”

“พี่จะไปกับพี่สมัยคนเดียวเหรอ พี่สมัยเป็นคนรถบ้านผมนะ”

ผมไม่เถียงก็ได้ เพราะมีสตาร์ไปด้วยคือเรื่องดีมากสำหรับผม ระหว่างนี้มีนักเรียนเป็นจำนวนมากที่เริ่มเดินไปเข้าแถว แต่ผมกับสตาร์เดินไปในทางตรงกันข้าม ซึ่งนั่นก็คือห้องสภานักเรียน อดีตที่สิงสถิตของผม

ในห้องไม่มีคนอยู่เลย ผมรีบเดินไปยังคอมพิวเตอร์ตัวที่เคยใช้ฟืนทำงานให้ สตาร์เดินเข้ามาด้วยท่าทางขัดๆ เขินๆ มันเดินมาอยู่ข้างๆ ขณะที่ผมพยายามเปิดคอมให้ได้

“หวังว่าจะใช้รหัสเดิม” ผมพึมพำ

“รหัสคืออะไรครับ”

“เบอร์แฟนเก่ากู”

ผมตอบสั้นๆ ใช้เบอร์แฟนเก่าปลดล็อกเข้าไปในคอมของห้องสภาซึ่งก็เข้าไปได้ แสดงว่าไม่มีใครมาเปลี่ยน

“คอมโรงเรียนแต่ใช้รหัสเป็นเบอร์แฟนเก่าตัวเองเนี่ยนะ”

“อืม ก็กูใช้รหัสนี้มาตั้งนานแล้วอ่ะ” ผมพูดไปเข้าอินเตอร์เน็ตไป ผมเล่นคอมเป็นตั้งแต่เด็กก็จริง แต่เริ่มใช้รหัสสมัครนั่นสมัครนี่ก็ตอน ม.3 ตอนมีแฟนคนแรกผมก็เรียนชั้นประมาณนั้นนั่นแหละ

“แล้วคนในสภาคนอื่นๆ เขาก็รู้เบอร์แฟนเก่าพี่งี้เหรอ”

“เออดิ”

“ไม่มีใครโทรไปจีบเขาเหรอ”

“เขาเปลี่ยนเบอร์นานแล้ว”

ผมพูด ล็อกอินเข้าไปในเว็บไซต์มอ C เพื่อเข้าไปพริ้นต์ใบจ่ายเงิน สตาร์ยืนนิ่งๆ อยู่ใกล้ๆ โต๊ะคอม ระหว่างนั้นนั่นเองครูบูลด็อกซึ่งเป็นครูฝ่ายปกครองสุดโหดที่เป็นที่รู้จักดีของนักเรียนกำลังจะเดินผ่านมา ผมรีบคว้าตัวสตาร์ให้ลงมาหลบหลังโต๊ะคอม ขณะที่ผมเองก็ต้องหลบเหมือนกัน

สตาร์ทำตาโตจ้องผม ผมเองก็จ้องสตาร์ เราสองคนอยู่ใกล้กันมากระหว่างที่เรากำลังรอให้ครูบูลด็อกเดินผ่านไป

ตัวเด็กคนนี้มันหอมขนาดนี้เลยเหรอวะ

“พี่สนิทกับครูไม่ใช่เหรอ” สตาร์ถามแก้เก้อ บรรยากาศระหว่างเรามันทั้งลุ้นทั้ง...น่าใจสั่น เราอยู่ในห้องสภามืดๆ เงียบๆ กันแค่สองคนเท่านั้น อีกทั้งยังนั่งซ่อนกันอยู่ใต้โต๊ะ แม่งใกล้กันฉิบหาย

“ไม่ได้เป็นสารวัตรแล้ว ไม่สนิทแล้ว” ผมเองก็ตอบอย่างเก้อๆ เหมือนกัน

“แปลว่า...”

“ถ้าโดนจับได้ก็โดนลงโทษ มึงก็รู้ว่าครูเขาโหด ไม่ละเว้นใครหรอก”

สตาร์พ่นลม พยายามจะยืดคอขึ้นไปดู แต่ผมจับตัวมันเอาไว้ ไม่ต้องยืดตัวผมก็เห็น ตอนนี้ครูยังวนๆ เวียนๆ อยู่หน้าห้องสภาอยู่เลย

ลมหายใจของสตาร์กระทบกับอกตรงส่วนที่พ้นกระดุมคอเสื้อของผม หัวใจของผมเต้นแรงอีกครั้งหนึ่ง ผมพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้จ้องเขม็งไปที่อีกฝ่าย เพราะกลัวจะอดใจไม่ไหว

ผมกลัวตัวเองปล้ำน้อง

คนบ้าอะไรยิ่งมองใกล้ๆ ก็ยิ่งขาว ขาวจนคนที่มองรู้สึกหมอง หน้ามันใสไร้สิว มีปากแดงฉ่ำ แถมตัวยังเล็กอีกต่างหาก นี่ถ้าจับพับเก็บกลับบ้านได้ผมทำไปแล้วนะเนี่ย แต่ทำไม่ได้ไง...ลูกเขามีพ่อมีแม่

แล้วเมื่อไหร่ครูบูลด็อกจะเดินไปที่อื่นสักทีล่ะครับ

“ทนแป๊บหนึ่ง” ผมพูดขณะกลืนน้ำลาย ไม่รู้บอกตัวเองหรือบอกสตาร์

สตาร์พยักหน้า มือของมันเอื้อมมาแตะหน้าผากผม

“แอร์ห้องนี้เย็น แต่ทำไมเหงื่อพี่ออกอ่ะ”

มันใสมากจนมันไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ อยากจะสิ้นให้ดิ้นตาย เมื่อแตะเสร็จมันก็เช็ดเหงื่อนั้นบนเสื้อนักเรียนของผม สัมผัสของมันทำเอาผมลืมความกวนตีนในจุดนี้ไป นิ้วเล็กๆ นุ่มนิ่มนั่นแตะหน้าผากของผมด้วย รู้สึกอิจฉาหน้าผากตัวเองมากเลยแฮะ

แต่หน้าผากผมมันก็คือผมป่ะวะ ผมควรอิจฉาตัวเองดิ

สติผมหลุดลอยไปไหนหมดไม่รู้ อาจเป็นเพราะผมอยู่ใกล้คนที่มีเสน่ห์เหลือล้นอย่างสตาร์ก็เป็นได้

อยากลองใช้นิ้วแตะตรงอื่นดูมั้ย กูอนุญาตนะ

“เหงื่อมึงก็ออกนะ” ผมเนียนแตะบ้าง เหงื่อมันไม่ออกหรอกครับ ผมตอแหล

“เหรอ” ไอ้เด็กนั่นมันก็เสือกเชื่อ ยอมให้ผมแตะใหญ่เลย

ช่วงคืนกำไรให้แก่กูสินะ ผมแอบดีดหน้าผากมันเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้ม สตาร์คลำหัวป้อย คงจะงงว่าตกลงว่ามันมีเหงื่อหรือผมทำร้ายหน้าผากมันกันแน่

กูไม่ได้ทำร้ายเว้ย กูแต๊ะอั๋ง...








รั้วโรงเรียน

ผมมองซ้ายมองขวาเป็นสิบๆ รอบเพื่อดูว่าทางสะดวกหรือไม่ สตาร์มีท่าทางกล้าๆ กลัวๆ กับรั้วสูงตรงหน้า ท่าทางเหมือนไม่เคยโดดเรียนมาทั้งชีวิต ผิดกับผมที่ถึงแม้ว่าจะมีตำแหน่งต่างๆ ในโรงเรียนมากมาย แต่กลับเคยโดดอยู่บ่อยครั้ง (อย่าไปบอกพวกน้องๆ ที่ปลื้มผมล่ะ)

“ปีนขึ้นไปเลยเดี๋ยวนี้”

“แต่ว่า...”

“แต่ว่าอะไร”

“ขาผมไม่ถึง”

ลืมไปว่ามันเตี้ย ผมส่ายหน้าเบาๆ ก่อนที่จับตัวมันอุ้มขึ้น

“เกาะรั้วไว้เลย”

ไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องฟินอะไรทั้งนั้นครับ รู้แต่ว่าตัวของสตาร์เบาหวิวเหมาะกับการหิ้วกลับไปนอนที่บ้าน ผมกำลังอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน สิ่งที่ผมสัมผัสได้มีเพียงสิ่งเดียวคือร่างสตาร์แม่งอ่อนปวกเปียกมาก ถ้าผมตั้งใจหักตัวมัน ตัวมันก็คงหักแน่ๆ
สตาร์ลงไปแล้ว ผมใช้เวลาปีนไม่ถึงนาทีผมก็กระโดดลงมาอีกฝั่งอย่างง่ายดาย

“โห ภาพพี่ดินนักเรียนตัวอย่างหายไปเลย” สตาร์รำพึง

“เออน่า” ผมตัดบท “ไหนล่ะพี่สมัย”

“สวัสดีครับ”

ผมหันไปตามเสียงพูด

เฮ้ยยยยยยยย นี่คือพี่สมัยเหรอ ทำไมหล่องี้!

เขาเหมือนคนอายุยี่สิบปลายๆ แต่ก็ยังหล่อ พี่เขาหล่อคมเข้มสไตล์ชายไทยน่ะครับ ที่สำคัญคือสูงมาก สูงกว่าผมอีก

“โทษทีครับพี่สมัยที่ช้า” สตาร์พูดอย่างสนิทสนม “ไปกันเลยมั้ยครับ”

ทำไมกูเคืองวะ...ทั้งๆ ที่เขาเป็นเจ้านายกับคนรถกันแท้ๆ

“คุณหนูอยากไปไหนครับ”

สตาร์หันมาถามผม ผมเลยบอกไปว่าไปธนาคาร TTT ที่มีสาขาอยู่ใกล้ที่สุด พี่สมัยบอกว่าต้องขับไปอีกสามแยกไฟแดงถึงจะถึงซึ่งมันก็ไกลมาก เดินไปไม่ได้แน่ๆ เขาเปิดประตูให้สตาร์ขึ้นรถ ผมตามขึ้นไปนั่งอย่างเกร็งๆ

สตาร์นั่งแทนที่พ่อของตัวเองเมื่อไม่กี่วันก่อน ผมนั่งข้างๆ เขา รู้สึกว่ารถของบ้านสตาร์กว้างกว่าเดิมทั้งๆ ที่มันก็รถคันเดิม

ผมลอบมองคนที่นั่งข้างๆ สลับกับมองพี่สมัย จากนั้นผมก็จ้องหน้าสตาร์ด้วยแววตาขุ่นๆ

“มีไรป่ะพี่”

“นี่คือคนรถบ้านมึงเหรอ” ผมถามเสียงแข็ง

“ครับ”

“ทำงานมานานยัง”

สตาร์นิ่งคิด “สามปีแล้วมั้ง”

“หา”

ถ้างั้นก็แปลว่าเห็นสตาร์ตั้งแต่มันอยู่ ม.ต้นอ่ะดิ ไอ้ความหึงที่ไม่ควรมีมันไหลบ่าเข้าสู่ตัวผม อาจเป็นเพราะพี่สมัยหล่อเกินไปหรือไม่ก็สตาร์มันน่าหวงเกินไป

ไม่รู้ล่ะ ผมหึงมั่วไปหมดนั่นแหละ

เข้าใจความรู้สึกไอ้สิกก็วันนี้...ที่ผ่านมากูขอโทษละกัน กูจะพยายามเดินห่างๆ ฟืนเข้าไว้

“เมื่อเช้าพี่ดินมีอะไรจะพูดกับผมเหรอ”

ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าควรถามเรื่องนี้ต่อหน้าพี่สมัยหรือเปล่า เพราะไม่แน่ว่าพี่สมัยอาจจะเอาเรื่องที่ผมคุยบนรถไปบอกพ่อสตาร์ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นปัญหาขึ้นมาได้

ผมเลือกที่จะส่ายหน้า

“มึงตอบเรื่องพี่สมัยมาก่อน” ผมกระซิบ

“พี่เขาทำไมครับ”

“เขาสนิทกับมึงมากมั้ย”

“ก็มากนะครับ ขับรถให้ผมตลอด”

ผมกลัวตัวเองของขึ้นมาก ข่มมันไว้ดิน ข่มไว้ ทำไมช่วงนี้มึงของขึ้นง่ายจังว้า

“เหมือนเป็นคนขับรถประจำตัวผมอ่ะ” สตาร์เล่าต่อ

“บ้านมึงมีคนขับรถกี่คนเนี่ย”

“พี่อยากรู้ไปทำไม”

“ตอบมาเหอะ”

สตาร์ทำหน้าหวาดๆ ผม อาจเป็นเพราะผมแกล้งทำสีหน้าโหดล่ะมั้ง “สี่ห้าคนนี้แหละครับ พี่สมัย ลุงสมคิด พี่บุญส่ง พี่เฉลิม ลุงตู่”

“ทุกคนหน้าเหมือนพี่สมัยมั้ย”

“ลุงสมคิดกับลุงตู่นี่ไม่เหมือนพี่สมัยแน่ๆ” สตาร์มองผมเหมือนผมโง่เสียเต็มประดา “พี่บุญส่งกับพี่เฉลิมย้ายมาจากบริษัทเดียวกันกับพี่สมัยครับ ไม่รู้ว่าหน้าคล้ายกันมั้ย แต่สูงๆ เหมือนกัน หุ่นเหมือนกัน”

บริษัทอะไรจะมีคนขับรถหล่อปานนี้ว้า

“วันหลังมึงก็บอกให้ลุงสมคิดกับลุงตู่มาขับรถให้มึงดิ”

“ทำไมอ่ะ”

“เออน่า”

“ไม่รู้จะบอกได้หรือเปล่านะครับ ลุงสองคนเป็นคนขับรถของพ่อ”

ผมเกาหัวที่มีแต่ผมเกรียนๆ ของตัวเอง รู้สึกจะเป็นประสาทตายยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งมองดูพี่สมัยที่กำลังขับรถแบบไม่รู้สึกรู้สา ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองใกล้บ้าเข้าไปทุกที

ทั้งหึงทั้งหวงไปหมดแล้ว แม้จะรู้ว่าตัวเองยังไม่มีสิทธิ์ก็เถอะ

“กูสั่งมึงไม่ได้ใช่มั้ย” ผมทำเสียงเข้ม

“ก็ เอ่อ...” สตาร์กระพริบตาปริบๆ “เปลี่ยนคนขับรถเป็นเรื่องยากจริงๆ ครับ”

“เคยนั่งรถไฟฟ้ามาโรงเรียนเองมั้ย”

“น้อยครั้งมาก”

“วันหลังเดี๋ยวกูไปรับ”

“หา”

“ถ้ากูรู้จักบ้านมึงแล้วนะ”

ผมไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมอ่ะ รู้แค่ว่าจะปล่อยให้พี่สมัยอยู่ใกล้สตาร์มากกว่านี้อีกไม่ได้ ผมรู้แค่นั้นจริงๆ

ผมมองไปที่พี่สมัยอย่างเอาเรื่อง เขามองผมทางกระจกหลังก่อนที่จะส่ายหน้าเบาๆ ไม่รู้ว่ารู้หรือเปล่าว่าผมคิดอะไรกับคุณหนูของเขา ถ้ารู้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องมายุ่ง

สตาร์ต้องชอบคนที่แก่กว่าแค่นิดนึงสิโว้ยยยยยยยยยยย แก่กว่าแค่หนึ่งปีไรงี้ ไม่ใช่หลายๆ ปีดิ








“วันนี้มึงไม่ต้องให้ไอดีไลน์อะไรกูหรอก กูควรให้มึงมากกว่า” ผมพูดกับสตาร์เมื่อผมจัดการโอนเงินให้มหา’ลัยเรียบร้อยแล้ว “มึงช่วยกูซะขนาดนี้ ขอบใจมึงมากนะ”

สตาร์ยิ้มมุมปาก “ที่ผมช่วยไม่ใช่เพราะผมอยากได้ไลน์พี่นะ”

มึงฆ่ากูด้วยคำพูดใช่มั้ยไอ้เด็กแสบ “ฟวย”

“พี่ไม่ต้องให้อะไรผมหรอก ตอนนี้ผมหิวมาก ก่อนเข้าไปเรียนเราไปหาอะไรกินได้มั้ยครับ”

“เด็กห้องคิงไม่อยากกลับโรงเรียนงั้นเหรอ”

“โดดๆ บ้างก็ได้ นักเรียนตัวอย่างอย่างพี่ยังโดดเลย”

สงสัยจะหิวจริง มันเอามือกุมท้องด้วย ผมส่ายหน้าเบาๆ ก่อนที่จะดันหลังมันไปที่ร้านแมคโดนัลด์ซึ่งอยู่แถวๆ นั้น

“มึงนั่งตรงนี้เดี๋ยวกูไปสั่งให้”

“เดี๋ยว รู้เหรอว่าผมอยากกินไร”

“มาแมคโดนัลด์ก็ต้องแดกเฟรนช์ฟรายด์สิ”

“ผมอยากกินบิ๊กแมคด้วย”

“ได้ เดี๋ยวจะไปซื้อให้”

จริงๆ แล้วผมไม่รู้หรอกว่าน้องมันชอบบิ๊กแมค พอมันพูดก็ดีเหมือนกันจะได้สั่งถูก ผมฝากหลักฐานการจ่ายเงินไว้กับสตาร์ แล้วค่อยตรงไปยังหน้าเคาน์เตอร์เพื่อสั่งอาหาร

ไม่รู้ตัวว่าสตาร์กำลังมองหลักฐานในมือด้วยสายตาภาคภูมิใจ มันแอบติดโพสต์อิตไว้กับกระดาษหลักฐานเอาไว้และผมเพิ่งมาเห็นทีหลัง

ไอดีไลน์ตัวที่ 5
K
ขอให้สอบติดนะครับ










“พี่สมัยขอบคุณมากนะครับที่มารับ”

“ถ้าเป็นคำสั่งผมยินดีทำตามทุกอย่างครับ”

ผมมองดูสตาร์ร่ำลาพี่สมัยด้วยสายตาขุ่นมัว มันเป็นสายตาที่ผมรู้ว่ามันเสียมารยาทแต่ผมก็ควบคุมตัวเองไม่ได้จริง ผมไหว้พี่สมัยประหลกๆ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเมื่อเห็นสตาร์เดินกลับมาหา

ตอแหลได้อีกกู...

“ขอบคุณสำหรับคำอวยพรในโพสต์อิตนะ”

“ต้องติดนะ ผมอุตส่าห์โดดเรียนพาไปจ่ายตังค์เลยนะเนี่ย” สตาร์ยิ้มโชว์เหล็กจัดฟัน

ผมรู้สึกชอบสตาร์มากขึ้นกว่าเดิมอีกครับ มันช่วยผมแก้ปัญหาในวันนี้แถมยังอยู่เคียงข้างผมอีกต่างหาก ปลื้มฉิบหาย

เราสองคนกำลังอยู่ระหว่างทางเข้าไปในโรงเรียน ผมพาสตาร์มายังประตูลับที่ติดกับทางขนขยะของโรงเรียน สตาร์ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอะไร เราสองคนเข้าไปได้โดยสวัสดิภาพ

“พี่ดินรักแฟนเก่ามากมั้ย” สตาร์ถาม

“ทำไมจู่ๆ ถึงได้ถาม”

“ถ้าทุกพาสเวิร์ดของพี่ดินจะเป็นเบอร์ของแฟนเก่าหมดทุกอัน เวลาพี่ดินพิมพ์เบอร์เขา พี่ดินคิดถึงเขามั้ย”

“ก็ไม่คิดถึงแล้วนะ เรียกว่านึกถึงมากกว่า”

“...”

“ถามแบบนี้หมายความว่าไง” ผมมองคนข้างๆ ด้วยนัยน์ตาล้อเลียน “สงสัยล่ะสิว่ากูลืมเขาแล้วหรือยัง”

“ถ้าสงสัยจะตอบมั้ยล่ะ”

เจ้าเล่ห์แฮะ ผมยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะพูด

“กูจีบคนใหม่อยู่ แปลว่ากูคงลืมคนเก่าไปแล้วล่ะ”

คำพูดผมสื่อความหมายมากๆ สตาร์กระพริบตาก่อนจะมองไปทางอื่น พวงแก้มของมันมีสีแดงซ่าน ผมควรจะมีเวลาปลื้มปริ่มกับอาการเขินของสตาร์มากกว่านี้ แต่ฟ้าช่างไม่เห็นอกเห็นใจผม

ผมได้ยินเสียงนกหวีดของครูบูลด็อก แล้วสตาร์ก็ดันหลังผมให้วิ่งหนีไป

“จะอยู่รับหน้าทำไม ก็หนีไปด้วยกันสิ”

“อดีตสารวัตรนักเรียนโดดเรียนคงไม่เท่เท่าไหร่ ให้เด็กห้องคิงจัดการเถอะครับ ครูปล่อยผมแน่”

“สตาร์”

“ไปเร็วพี่ดิน!”

มันต้องเป็นผมไม่ใช่เหรอที่ปกป้องมันอ่ะ ผมทำท่าวิ่งไปแต่ก็ไปได้ไม่ไกลนักเพราะเป็นห่วงสตาร์ ครูบูลด็อกจับคนตัวเล็กไว้ได้ทัน ผมไม่ได้ยินว่ามันแก้ตัวกับครูยังไง แต่ใช้เวลาไม่นานครูก็ปล่อยมันไป

เฮ้ย คำพูดของมันใช้ได้นี่หว่า

สตาร์เดินผ่านผมไปและก็แอบขยิบตาให้ผม การกระทำนั้นของมันเป็นอาวุธร้ายกาจอย่างเหลือเชื่อ ใจของผมเต้นแรงเพราะวิงค์นั้นของมันจนผมรู้สึกขยับมือไม้ไม่ถูก

สตาร์ขุดหลุมให้ลึกลงไปเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะให้ผมซึ่งตกลงไปแล้วไม่มีวันหาทางขึ้นมาได้อีก

วันนี้น้องดาวช่างกร๊าวใจพี่จริงๆ!

กรุ๊ปไลน์ ‘สตาร์ของดิน ใครยุ่งพ่องตาย’

Din : คนขับรถบ้านสตาร์แม่งโคตรหล่อ กูเซ็ง
FUEN : ก็ปกติป่ะพี่
AOF : จริงดิ
TANG : บ้านสตาร์คัดหน้าตาคนเข้าทำงานเหรอ
CHOK : หวงก็บอก อย่ามาทำเป็นซงเป็นเซ็ง
PHYSICS : กลัวสู้เขาไม่ได้อ่ะเด๊.
..
Din : คนขับรถไม่จีบคุณหนูของบ้านหรอก
Din : ใช่มั้ยวะ
Din : เฮ้ย ทำไมไม่มีใครตอบกูล่ะ
Din : กูเครียดนะเว้ยยย
Din : พวกมึงตอบกูหน่อยดิ๊









TBC*







หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 3 P. 2 15/01/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 01-02-2018 14:54:18

ตอนที่ 6






วันนี้ผมมีเรียน ร.ด.

ปกติแล้วผมจะชอบเวลาที่ผมมีเรียน ร.ด.มาก อาจเป็นเพราะผมชอบใช้พละกำลังและก็ชอบเห็นรุ่นน้องอยู่ในระเบียบทหารก็เป็นได้ เพียงแต่ว่าวันนี้ผมกลับรู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ บทเรียนที่ครูฝึกถ่ายทอดให้มันเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาของผม เพราะอะไรน่ะเหรอ

ก็เพราะสตาร์ไม่ได้เรียน ร.ด. ไงล่ะ

ตลอดเสาร์อาทิตย์และก็วันจันทร์ที่ผ่านมา ใจผมจะขาดเลยแหละผมสาบานได้ ผมไม่สามารถติดต่อสตาร์ได้เลย ทำได้แค่ส่องอินสตาแกรมของมัน (ซึ่งไม่เห็นอัพอะไรเพิ่มเลย) วันจันทร์ผมก็ไม่เห็นมันตลอดทั้งวัน ได้ข่าวมาว่าห้องคิงเริ่มเข้าสู่บรรยากาศการติวสอบไฟนอลอย่างจริงจัง (พวก ม.6 ห้อง 1 มันโม้ให้ฟัง แต่ไม่ใช่ไอ้อาร์ตนะครับ) การที่ได้ยินว่ากำลังจะมีสอบไฟนอล มันทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าหลังสอบไฟนอลปุ๊บ ผมก็ต้องเตรียมสอบอีกอย่างปั๊บเพื่อเอาคะแนนส่วนนี้ไปยื่นเข้ามอ C ที่ผมสมัครไว้

ฤดูกาลการสอบใกล้มาถึง แต่ฤดูกาลแห่งความคิดถึงมันมาอยู่กับผมตั้งนานแล้ว

แม่ง โคตรคิดถึงเลย

ผมเป็นหัวหน้ากองร้อยและก็เป็นหัวหน้าหมู่ 1 หมู่ของผมอยู่ติดกับพวกหมู่ 11 ที่เป็นหมู่ของพวก ม.5/1 เพื่อนของสตาร์ ตอนนี้ครูฝึกกำลังให้พวกเรานั่งอยู่ในร่ม ไม่รู้จะให้ทำอะไรต่อ แต่ไม่มีใครโอดครวญใดๆ ในเรื่องนี้ครับ ได้นั่งนิ่งๆ ในร่มนี่มันคือสวรรค์สูงสุดของการเรียน ร.ด. แล้ว

“พี่ดิน” เชี่ยบู้หัวหน้าหมู่ 11 ของ ม.5 เข้ามาคุยกับผม

“มีห่าไรบู้”

“พี่จริงจังกับสตาร์เพื่อนผมแล้วใช่ป่ะ”

“...”

“พี่ลืมฟืนแล้วใช่มั้ย”

“...”

“ผมเห็นพี่ไปกับสตาร์โคตรบ่อยเลย ตกลงยังไงแล้วอ่ะพี่”

ผมมองไอ้เชี่ยบู้อย่างไม่สบอารมณ์ อยากด่าว่าเสือก แต่เกรงใจสายตาของพวกเพื่อนสตาร์คนอื่นๆ ที่กำลังมองมาเหลือเกิน
อยากได้เขา ก็ต้องทำดีกับเพื่อนเขาไว้หน่อยใช่มั้ยครับ

“กูได้มาห้าตัวและกูก็อยากได้สิบห้าตัวที่เหลือด้วย มึงคิดว่ากูจริงจังพอมั้ยล่ะ” ผมพูดตรงๆ ตามสไตล์ “จริงๆ กูก็ไม่อยากได้ไอดีไลน์ห่าไรนี่ละ”

“แล้วพี่อยากได้อะไร”

“ใจมัน”

“เหยดโด้ โคตรคูล” ไอ้บู้ร้อง คนอื่นๆ ก็ร้องตามเป็นทำนองนี้

“มันได้แย็บๆ อะไรกับพวกมึงป่ะ แบบบ่นเรื่องกูอ่ะ” ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว หลอกถามแม่งเลยก็แล้วกัน

ไอ้บู้ถอนหายใจ “ไม่เลย ผมเสียใจด้วยนะ”

เดี๋ยวนะไอ้สัด มึงบอกว่าเสียใจแต่ทำไมหน้ามึงไม่เห็นเสียใจด้วยเลยวะ

“นี่มึงกวนตีนกูใช่ป่ะ”

“ไม่ได้กวนตีนพี่ มันไม่ได้พูดอะไรจริงๆ”

“ถ้างั้นมึงบอกกูมาเรื่องมันกับไอ้สัดเรย์”

ไอ้บู้อ้าปากค้าง มองสบตาเพื่อนห้องหนึ่งของมัน สีหน้าของมันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

“ตกลงยังไง”

“คือว่า...” ไอ้บู้เกาหัวที่ไม่ค่อยจะมีผมของมัน “ไอ้พี่เรย์มันก็ชอบสตาร์แหละ ก็มาตามจีบอ่ะ”

“แล้วทำไมสตาร์ต้องขอความช่วยเหลือจากกูวะ”

“...”

“คนตามจีบมัน มันไม่ชอบมันก็แค่ปฏิเสธ ทำไมต้องให้กูช่วย”

อีกฝ่ายถอนหายใจก่อนจะปั้นสีหน้าโหดใส่ผม “แทนที่พี่จะถามว่าทำไม พี่ทำไปเลยดีกว่า พี่ชอบเพื่อนผมไม่ใช่เหรอ มันขอความช่วยเหลือพี่ก็ต้องช่วยมันดิ”

กวนตีนฉิบหาย ผมไม่รู้จะด่าไอ้นี่ว่าไงอีกแล้ว

“กูช่วยอยู่แล้ว แต่กูก็อยากรู้เรื่อง”

“เดี๋ยวพี่ก็รู้เอง” ไอ้บู้ตัดบท “เดี๋ยวสตาร์มันคงจะเล่าให้พี่ฟังเอง ไม่มีอะไรมากหรอกพี่แต่มันก็น่าสงสาร”

“มึงหวงเพื่อนมึงฉิบหาย แต่ทำไมมึงดูไม่หวงเพื่อนมึงกับไอ้เรย์เลย” ผมด่าหลังจากที่เก็บกดเอาไว้มานาน เพราะคิดไปคิดมา มีแต่คนบอกผมว่าเรย์ตามจีบสตาร์นานแล้ว พวกเด็กห้องหนึ่งมันหวงสตาร์มากเลยไม่ใช่เหรอวะ ทำไมกับไอ้เรย์ดูไม่ค่อยหวงเลยล่ะ

“...”

“ไม่ทำหน้าที่เลยไอ้เหี้ยเอ๊ย” ขอด่าอีกหน่อยเหอะ ถ้าจะหวงเพื่อนกับคนอื่นก็หวงให้มันหมด ยกเว้นกูคนเดียว!

“ก็พวกผมกลัวไอ้พี่เรย์ พี่ดินสู้แม่งไหวก็สู้ไปดิ”

“ฟวย” ผมทำท่าจะเคาะกบาลไอ้บู้เพื่อสั่งสอน แต่ไอ้โชคที่นั่งอยู่ข้างหลังแม่งห้ามไว้

“ถ้ามันเอาไปฟ้องสตาร์ คะแนนมึงติดลบเลยนะ” โชคพูด

“มึงเป็นเด็กขี้ฟ้องมั้ย” ผมถามบู้

“ไม่ครับพี่”

“...”

“แต่ผมชอบเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้เพื่อนผมฟัง และสตาร์ก็เป็นเพื่อนรักของผมซะด้วยสิ”

อยากจะเอาตีนยันหน้ามันจริงๆ ชาติที่แล้วเชี่ยบู้มันต้องเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผมแหงๆ เลย มันกวนตีนผมได้ทุกอย่าง แต่ผมกลับทำไรมันไม่ได้เลยเพราะมันเป็นเพื่อนของสตาร์

ไอ้บู้มองไปที่ครูฝึกที่ยังคงไม่เดินมาเร็วๆ นี้ มันหยิบโทรศัพท์ของมันออกมาก่อนที่จะเข้ากล้องถ่ายรูป

“ทำห่าอะไร”

“ถ่ายรูปไงพี่”

“ถ่ายทำไม”

“จะลงไอจี” บู้ตอบ “สตาร์มันว่าง พี่ไม่อยากให้สตาร์มันเห็นพี่ในไอจีผมเหรอ”

คำว่าสตาร์ทำเอาผมใจอ่อนไปหมด ปกติผมไม่ค่อยชอบถ่ายรูปวันที่เรียน ร.ด. นะครับ เพราะสภาพผมจะทั้งผิวคล้ำทั้งสกปรก แต่ไอ้บู้มันใช้คำว่าสตาร์เข้ามาช่วย ผมก็เลยต้องยื่นหน้าเข้าไปในเฟรมอย่างช่วยไม่ได้

บู้มันถ่ายให้เห็นหมด ทั้งเพื่อนและก็ผม เมื่อได้รูปแล้วไอ้บู้ก็จัดการอัพอย่างรวดเร็ว

“แคปชั่นว่าไรดี”

“...”

“เอาเป็น ‘หล่อกว่าพี่ดินก็กูนี่แหละ’ ดีมั้ย”

“ไม่เอาดิวะ”

“ถ้างั้นเอาแบบนี้ดีมั้ย” บู้มันพิมพ์แล้วก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ผมดู

‘มีคนคิดถึงมึงอ่ะ @starstaryu’

“เอาจริงเหรอ” ผมมองไอ้บู้เจือรอยยิ้ม

“จะกลัวอะไรเล่า” มันกดอัพเรียบร้อยแล้ว

“มึงแน่ใจนะว่าสตาร์มันจะเล่นไอจี”

“มันก็เล่นอยู่ทุกวันแค่มันไม่อัพรูป พี่ก็เล่นทุกวันไม่ใช่เหรอ”

“เออๆ เอาไงก็เอา”

รูปถูกอัพไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าคนที่ผมคิดถึงคนนั้นจะรับรู้ในสิ่งที่ผมส่งไปให้ ผมหวังว่าอย่างนั้นนะครับ










17.01 น.

ถึงบ้านแล้วโว้ยยยยยย

ไอ้เหี้ย เหนื่อยมาก เหนื่อยฉิบหาย ที่ครูฝึกให้พวกผมอยู่ในร่มก็เพราะมาจัดหนักเอาตอนท้ายนี่ไง สภาพผมตอนนี้เหมือนเพิ่งกลับจากสงครามทั้งๆ ที่ไม่ได้บาดเจ็บอะไรทั้งสิ้น อยากรู้จริงๆ ว่า ร.ด. โรงเรียนอื่นเรียนหนักเหมือนโรงเรียนผมมั้ย ทำไมบางที่ถึงไม่ต้องไปลุยโคลน แล้วทำไมโรงเรียนผมต้องโดน

บ่นไปก็เท่านั้นในเมื่อผมเรียนมาเป็นปีที่ 3 แล้ว ระหว่างที่ผมกำลังถอดรองเท้าอยู่หน้าบ้านนั่นเอง ฟืนก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างๆ
ตกใจหมดเลย

“เชี่ย” ผมร้อง เอามือกุมอกอย่างหมดมาด ข้างๆ ฟืนคือไอ้สิกที่กำลังหน้าบึ้ง(ตามเคย) และคนที่อยู่ข้างหลังไอ้สิกเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์โคตรๆ สำหรับผม

เพราะคนคนนั้นก็คือสตาร์

เด็ก ม.5 สามคนมาทำอะไรบ้านผมวะ โดยเฉพาะสตาร์ แม่งควรเป็นคนที่มาบ้านผมคนสุดท้ายของโลกด้วยซ้ำในตอนนี้

ไอ้ห่า อะเมซิ่งมาก...แต่ก็ดีใจว่ะ

“มาทำไรบ้านกูวะ” ผมหันไปทางสิกกับฟืน “แล้วมึงสองคนไม่ไปเรียน ร.ด.หรือไง”

“ฟืนโดด ผมก็เลยโดด” สิกตอบ พวกมึงสองคนนี่เป็นอะไรที่สร้างความเจริญให้กับชาติบ้านเมืองดีแท้ 

“แล้วมึงล่ะ?” ผมตั้งใจหันมาถามสตาร์ สตาร์กำลังจะอ้าปากตอบแต่สิกตอบแทน

“สตาร์มันเหงา ฟืนก็เลยชวนมาเล่นที่บ้าน ทีนี้ที่บ้านฟืนไฟดับ น้ำไม่ไหล แม่ฟืนก็เลยไล่ให้มาอยู่บ้านพี่ดินก่อน”

“เฮ้ย มาอยู่กันหมดแบบนี้ขออนุญาตแม่กูยัง” ผมแกล้งโวยวายไปงั้น

“ไม่ต้องขอก็มาได้” สิกตอบแทนทุกคน “ยังไงแม่พี่ก็เอ็นดูไอ้ฟืนอยู่แล้ว เอ็นดูจนจะให้เป็นลูกสะใภ้เลยไม่ใช่หรือไง”

น้ำเสียงของสิกมีแววประชดประชันยังไงชอบกล เดี๋ยวก่อนนะ พวกมึงดราม่าอะไรเกี่ยวกับกูป่ะเนี่ย กูไม่ได้ยุ่งกับฟืนนานแล้วนะ
กูยุ่งกับคนหน้าตาน่ารักๆ ที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกมึงสองคนต่างหากล่ะเฟ้ย

สตาร์ดูไม่ค่อยกล้ามองผมเท่าไหร่ เหมือนมันกำลังเขินผมยังไงยังงั้น ผมพอจะเข้าใจนะว่าทำไมมันเป็นแบบนี้

ก็เพราะรูปที่ไอ้เชี่ยบู้อัพลงไอจีนั่นยังไงล่ะ

“เห็นไอจีเชี่ยบู้แล้วใช่ป่ะ” ผมลองถามดู สตาร์พยักหน้าเบาๆ “ก็ตามนั้นแหละ”

พูดเสร็จผมก็รีบเดินเข้าบ้านไปเลย ผมไม่ทันสังเกตหรอกว่าสตาร์ทำหน้ายังไง แต่ที่แน่ๆ ผมเขินไปแล้ว และอาจจะกำลังเขินมากกว่าสตาร์ด้วย

โอ๊ยยยยยย ผมคงชอบมันเข้าไปมากแล้วจริงๆ








หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ผมก็คอยแอบดูเด็ก ม.5 ที่นั่งอยู่สวนหน้าบ้านทั้งสามคน ผมยังไม่เดินออกไป ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองต้องมายืนเตรียมตัวเตรียมใจทั้งๆ ที่เป็นบ้านตัวเองแท้ๆ สตาร์ดูเข้ากับคู่สิกฟืนได้เป็นอย่างดี ไม่เหลือเยื่อใยที่เคยพันผูกว่าสามคนนี้เคยผ่านเรื่องวุ่นวายกันมายังไง

ไอ้สิกก็คือไอ้สิก แม่งมองแต่ฟืนไม่สนคนอื่น

ฟืนก็คือฟืน ชวนสตาร์คุยไปเรื่อยเพราะกลัวสตาร์อึดอัด

และสตาร์ก็คือสตาร์ ยิ้มหวานทำท่าน่ารักไปเรื่อยตามสไตล์

พวกแม่งมานั่งด้วยกัน 3 คนก็เป็นภาพที่น่ามองดี จะเรียกได้ว่าสามคนนี้เป็นตัวท็อปของเด็ก ม.5 โรงเรียนผมก็ได้ครับ

ผมกำลังจะเดินออกไปหาพวกมัน แต่แล้วก็มีอะไรบางอย่างที่ผมสะดุด เสียงออดที่ดังขึ้นที่ประตูหน้าบ้านทำให้ผมต้องเดินผ่านสามคนนั้นเพื่อที่จะไปเปิด

คนที่มาเป็นแขกอีกคนของบ้านผมก็คือคนที่ผมไม่ได้เห็นหน้ามานานแล้ว คนที่เป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ซึ่งเป็นพาสเวิร์ดของผมทุกอัน

‘หยก’

“ดิน” หยกที่สวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากมายืนทำหน้าเศร้าที่หน้าบ้านผม “ว่างคุยกับหยกหรือเปล่า”

ผมสตันไปหลายวินาทีมาก เรื่องเลวร้ายที่หยกเคยทำไว้กับผมไหลบ่าเข้ามาสู่ใจผมทั้งหมด ความเจ็บปวดที่หยกทำไว้กับผมมันหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่ผมจะมองหน้าเธอโดยที่ไม่รู้สึกอะไร

เธอคือแฟนคนแรกของผม และเธอก็เป็นคนที่ผมเคยให้ใจไปมากจนสูญเสียความเป็นตัวเอง พี่ดินที่น้องๆ ปลื้มหนักปลื้มหนาคนนั้นมีจุดอ่อนก็คือแฟนคนแรก และคนคนนั้นก็คือผู้หญิงคนนี้นี่แหละ

เธอกลับมาทำไมวะ ทั้งๆ ที่ออกไปจากชีวิตผมตั้งนานแล้ว

“จะคุยอะไรเหรอ”

“หยกจะมาขอโอกาส”

“...”

“กลับมาหาหยกได้มั้ย หยกคิดถึงดินนะ”

ไปเอามาจากไหนวะ ผมอ้าปากค้างไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอ แต่แล้วเสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งก็ดังแว่วมาขัดจังหวะผมซะก่อน

“สิก ฟืน กูกลับบ้านก่อนนะ”









[ไปบ้านเชี่ยดินมาใช่มั้ย]

“พี่เรย์รู้ได้ไง”

[สายพี่เยอะ ไม่ต้องคิดเรื่องนั้นหรอก]

“...”

[บอกแล้วใช่มั้ยว่าไอ้ดินมันเป็นเสือ มันก็แค่หาใครสักคนมาแทนที่คนที่มันเคยรักมาก]

“...”

[เด็กที่ชื่อฟืนก็เคยโดน]

“ผมคิดว่า...”

[เชื่อพี่]

“...”

[ดินมันก็แค่มายุ่งกับสตาร์เพราะต้องการใครสักคน มันไม่ได้ชอบสตาร์จริงๆ]

“...”

[มันไม่ได้ชอบสตาร์แบบที่พี่ชอบ]








บ้านผม เวลา 19.32 น.

แม่งเอ๊ย กูรู้สึกอยากเมาครั้งแรกในรอบหลายๆ เดือน

หยกกลับบ้านไปแล้ว แต่สิกกับฟืนมันยังอยู่ ผมนี่แหละบังคับให้ไอ้เด็กสองตัวนี้อยู่กับผมที่บ้าน เพราะถ้าผมอยู่คนเดียวผมคงคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ออกแน่ๆ

เพราะมันสองคนอยู่ในเหตุการณ์ ผมก็เลยเล่าทุกเรื่องเกี่ยวกับหยกให้พวกมันฟัง ทั้งสองคนจำได้ว่าผมกับหยกเคยเป็นคู่ที่ใครๆ ในโรงเรียนต่างก็อิจฉา หยกเป็นเหมือนดาวที่อยู่เกินเอื้อมของใครหลายคน แต่ผมสามารถเอื้อมถึงโดยที่ผมเป็นคนเข้าไปจีบก่อน จากนั้นหยกก็เล่นด้วย

ไอ้สิกมันบอกว่าตอนที่ผมจีบฟืน ผมจีบเหมือนผมไม่มีหยกในใจแล้ว ก็ใช่ไงล่ะ กูจะไปจีบฟืนทั้งๆ ที่กูมีคนในใจได้ไง แม่งบ้าป่ะวะ
 
“ถึงจะเป็นงั้นแต่สตาร์ก็เข้าใจผิดไปแล้ว” ไอ้สิกตอบผม “พี่นั่นแหละ หลายใจ”

“สิกมึง...” ผมทำท่าจะถีบมัน

“สตาร์คงช็อกอ่ะพี่ พี่ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่เขาจะเข้าใจผิด” ฟืนค่อยๆ พูด “เรื่องผมสตาร์คงไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว แต่เรื่องพี่หยก ผมว่ามันแปลกๆ อ่ะ”

“...”

“เพราะก่อนพี่ดินกลับมา สตาร์ก็ถามถึงพี่หยกกับพวกผมด้วย ตอนที่สตาร์ถาม ผมก็เลยนึกขึ้นได้ว่าพี่ดินเคยมีแฟน”

“พี่มันจีบจนมึงลืมนึกถึงเรื่องนั้นไปเลยใช่มั้ย” เชี่ยสิกกัดฟัน ไอ้สัดนี่ก็พร้อมจะหึงได้ทุกสถานการณ์จริงๆ มันหันมาหาผมพร้อมๆ กับพูดอย่างเบื่อหน่ายว่า “รีบๆ จีบสตาร์ให้ติดเลย จะได้เลิกยุ่งกับฟืนของผมสักที”

กูไม่ได้ยุ่งนานแล้วมั้ยสัด ผมเลิกสนใจไอ้สิกก่อนที่จะคิดมากในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องสตาร์และก็เรื่องหยก

ผมไม่เคยเห็นหยกในสภาพที่ย่ำแย่ขนาดนั้นมาก่อน

“วันก่อนสตาร์ก็ถามถึงแฟนเก่ากูว่ะ” ผมนึกไปถึงวันที่สตาร์พาผมออกไปจ่ายตังค์ค่าสมัครสอบ “เรื่องนี้คงติดอยู่ในใจมันน่าดูเลยใช่มั้ยวะ”

“คงงั้นแหละ” สิกเอามือลูบคาง “เหมือนมันกังวลมากเลย”

“เฮ้ย กูไม่ได้ติดต่อหยกมานานมากแล้วนะ เขาเพิ่งมาหากูวันนี้เนี่ย”

“สตาร์มันไปโดนใครเป่าหูอะไรมาเปล่า”

“ใครจะเป่าหูมันเรื่องกูวะ กูเคยมีศัตรูด้วยเหรอ”

สิกกับฟืนเลิกคิ้ว คล้ายกับต้องการให้ผมทบทวนคำถามของตัวเองใหม่ก่อนจะถาม

คนอย่างผมมีศัตรูอยู่มหาศาลล้านแปดเพราะต้องคอยเคลียร์กับคนที่มาหาเรื่องเด็กในโรงเรียน ถึงจะเป็นงั้นแต่ดูเหมือนจะมีอยู่คนหนึ่งที่น่าจะเป็นคนเป่าหูเรื่องของผมให้สตาร์ฟัง

ไอ้เชี่ยเรย์ไง จะใครซะอีก!

“สตาร์ฝากให้” ฟืนยื่นโพสต์อิตมาให้ผม “ผมกับสิกกลับก่อนนะ”

“เออ กลับไปได้ละ” ผมโบกมือไล่ สลัดความคิดหนักๆ ในหัวออกไป ก่อนที่จะก้มหน้าอ่านโพสต์อิตอย่างตั้งใจ

ไอดีไลน์ตัวที่ 6
L
มีคนคิดถึงพี่เหมือนกัน


เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

สตาร์ต้องเขียนก่อนที่มันจะได้ยินสิ่งที่ผมคุยกับหยกแน่ๆ เลย

น้องมันชัดเจนกับผมขนาดนี้ แล้วผมเพิ่งทำอะไรลงไปวะเนี่ย

งานเข้ามึงแล้วล่ะไอ้เชี่ยดิน...







TBC*




รู้สึกเบาสมองกว่าพี่ๆ มหา'ลัยเยอะ
คนอ่านคิดเหมือนเค้ามั้ย 555
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-02-2018 16:32:51
 :heaven ปลื้มใจมาหลายตอน
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 01-02-2018 20:06:32
ชอบมาก  ติดตาม  น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 01-02-2018 21:09:00
อ่าาาา ขอบคุณมากกกก 3 ตอนรวด 555 กำลังรอหนังสือวางขายอยู่เลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 01-02-2018 23:19:35
งานเข้าพี่ดินแล้ว สู้ต่อไปนะพี่ หาทางทำให้สตาร์เชื่อใจให้ได้นะ ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-02-2018 01:07:59
ปลื้มมากกับ 3 ตอนรวด น้องดาวจะเข้าใจพี่ดินผิดหรือเปล่านะ และมีความสงสัยในตัวนายเรย์มากกกกกกกกกกกกกกกกกก  :hao4:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: cookie12ck ที่ 02-02-2018 01:10:46
คือดีมากกกกก มาทีเดียว3ตอนรวด ปลื้มๆ :katai2-1: หายไปนานแบบนี่ก็ทำให้คนอ่านหายคิดถึงล่ะ อยากข้ามไปตอนหน้าเลย

พี่เรย์นี่มันยังไง คือมีความอยากรู้อยากเห็นค่ะ มาเฉลยให้ด้วยนะค้าาาาาา :hao7:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 02-02-2018 07:19:57
งานเข้าพี่ดินซะแล้ว สู้ๆเด้อ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 02-02-2018 14:10:58
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 02-02-2018 17:29:36
โอ๊ยยย น่ารักกกก สตาร์อย่าเข้าใจผิดลูก พี่ดินคนจริงจังอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: 30267 ที่ 03-02-2018 10:10:00
ดินไปอธิบายให้น้องเข้าใจด่วน ๆ เลย
 ก่อนโดนเรย์คาบไป / รอจ้าา
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 03-02-2018 11:09:18
ตามพี่ดินน้องดาวมา~
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 03-02-2018 11:20:32
พี่ดินจัดการพี่เรย์เลย
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 03-02-2018 13:24:29
อยากอ่านอีกกกกก
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: kobyp_lu ที่ 04-02-2018 16:25:36
เอาแล้วไง  น้องเข้าใจผิดแล้ว  รีบไปง้อเลยนะดิน  สตาร์อย่าไปเชื่อคนอื่นมากดิลูกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 06-02-2018 17:22:27
 o13
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 06-02-2018 20:08:16





ตอนที่ 7






ผมเดินสวนกับสตาร์ในเช้าวันถัดมา สิ่งที่สตาร์ทำก็คือเดินก้มหน้างุดและก็ไม่ยอมสบตากับผม ผมกำลังจะเดินไปคุยกับมันแล้ว แต่ดันเหลือบไปเห็นหยกซะก่อน

หยกเอาจริงเหรอวะ นี่เธอมารอผมที่หน้าโรงเรียนเลยเหรอ ผมนึกว่าเธอแค่สิ้นสติและก็ต้องการล้อผมเล่นก็เลยกลับมาขอโอกาสจากผม แต่การกระทำของเธอวันนี้ทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่าเธอเอาจริง

มันสายไปแล้วไม่ใช่หรือไง

เวลานี้มีเด็กนักเรียนเข้าออกประตูหน้าอยู่เยอะแยะมากมาย การที่เธอมารอผมอยู่ในสายตาของใครหลายคน และวันนี้เรื่องนี้ก็คงเป็นที่โจษจันไปทั่วแน่นอน

"หยก" ผมรำพึงพร้อมเดินไปหา "ทำไมไม่ไปโรงเรียน มาทำอะไรที่นี่" ถึงจะเป็นแฟนเก่า แต่เธอก็เป็นผู้หญิง ยังไงก็น่าเป็นห่วงครับ

"มาหาดินไง" เธอพูดเจือรอยยิ้ม "เมื่อวานดินยังไม่ให้คำตอบหยกเลย"

"ตอนนี้โรงเรียนดินกำลังจะเข้าแถวแล้ว นี่ไม่ใช่เวลามาคุยกันเรื่องนี้นะ"

"ดินก็รู้ว่าหยกเป็นคนใจร้อน หยกอยากรู้อะไรหยกต้องได้รู้"

ผมกำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง แต่หางตาของผมดันเหลือบไปเห็นสตาร์กับไอ้เชี่ยอาร์ตเดินผ่านผมกับหยกไป และก็กำลังจะข้ามถนนไปอีกฝั่ง

หัวกูร้อนเลย

"ดิน"

"..."

"ดินคะ"

"หยกกลับไปโรงเรียนตัวเองซะ เรื่องที่หยกสงสัยดินสัญญาว่าจะพูดกับหยกให้รู้เรื่องแน่นอน"

"แต่ว่า..."

"ไม่ใช่ตอนนี้หยก ขอตัวนะ" ผมเดินหนีหยกไปเพื่อที่จะไปเกาะติดไอ้อาร์ตกับสตาร์ มือผมกำลังจะคว้าแขนของสตาร์ไว้ได้แล้ว แต่ไอ้อาร์ตดันผลักไหล่ของสตาร์ให้ก้าวข้ามถนนไป

แล้วผมก็คว้าแขนน้องไว้ไม่ทัน...









คาบศึกษาด้วยตัวเอง เวลา 09.42 น.

"T W I N K L หกตัวแล้ว" ผมหน้านิ่วคิ้วขมวด เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเตรียมสอบฟิสิกส์ที่ฝึกทำโจทย์ไปเกือบหมดทั้งเล่มแล้ว

"..."

"ตัวต่อไปน่าจะเป็นอะไรวะ"

"..."

"โว้ยยยยยย ตัวอะไรกันแน่ A B C D E หรือ G!"

"มึงเป็นบ้าไรเชี่ยดิน"

"..."

"น้องสตาร์ไม่รักเหรอ"

แม่งจี้ใจดำเป็นบ้า ผมกำลังรำพึงรำพันถึงไอดีไลน์ที่ผมได้มาจากสตาร์อยู่เพราะผมเริ่มอยากติดต่อมันได้แล้ว ไอ้เชี่ยโชคผู้ว่างงานมากมายก็ได้ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้เพื่อพูดจากวนตีนผม

"เมื่อเช้านี่ยังไง ได้ข่าวว่ามีหญิงตามมาง้อ"

นั่นยังไงล่ะ ผมบอกคุณแล้วใช่มั้ยว่ายังไงเรื่องนี้ต้องเป็นที่พูดกันไปทั่ว

"ข่าวไวดีนี่สัด"

"ข่าวพี่ดินคนดัง ยังไงก็ไว" ไอ้โชคหัวเราะหึหึ "ที่เด็ดไปกว่านั้นคือมีคนมาบอกกูว่าสตาร์ก็อยู่แถวนั้น"

"เออ" ผมยอมรับ "เพราะงี้กูถึงต้องมานั่งเพ้อหาไอดีไลน์เป็นบ้าเป็นบออยู่นี่ไง น้องมันดูหลบๆ กูยังไงชอบกล กูว่าเป็นเพราะหยกแน่" ผมอดที่จะปวดหัวเล็กๆ ไม่ได้

"เพราะตัวมึงเองด้วยครับ"

"อะไรของมึง"

"มึงก็ไปสร้างความมั่นใจให้น้องดิวะ มึงรู้ใช่มั้ยว่าตัวเองเป็นคนดัง คงมีคนพูดถึงมึงแบบเสียๆ หายๆ และเรื่องพวกนั้นก็คงจะไปเข้าหูสตาร์แน่ๆ น้องมันเพิ่งเจ็บมา มันคงยังไม่กล้ามั่นใจในตัวมึง มึงต้องทำให้น้องมั่นใจ"

ผมมองไอ้โชคอย่างอึ้งๆ "มึงไปนอนใต้เตียงสตาร์มาเหรอวะ ทำไมรู้ดีจังไอ้ห่า"

"มึงจะเชื่อกูมั้ยก็แล้วแต่นะ เด็กอย่างสตาร์ดูออกง่ายจะตาย"

"กูว่าน้องมันไม่ได้ดูง่ายหรอกว่ะ มึงอ่ะเก่ง" ผมชมมันจากใจจริง เพราะมันพูดให้ผมได้คิดหลายต่อหลายครั้งแล้ว"ขอบใจนะที่มึงเตือนสติกู"

"เขินว่ะสัด" เชี่ยโชคต่อยผมที่ต้นแขนอย่างแรง นี่มึงเขินเหรอ เขินแล้วทำร้ายคนอื่นเนี่ยนะ "ทีนี้มึงจะทำไง"

"ก็คงต้องไปง้อถึงห้องแหละมั้ง"

"ง้อไงวะ"

"ก็พูดไปตรงๆ แหละ พี่ไม่คิดไรกับหยกแล้ว พี่จริงจังกับสตาร์นะ ประมาณนี้"

"เชื่อป่ะ พอไปถึงจริงๆ มึงไม่กล้าพูดหรอก มึงเขิน"

ผมกระพริบตา "ไม่จริงมั้ง"

"มึงเขิน เชื่อกูดิ" ไอ้โชคหัวเราะ "จะมีใครกล้าสบตาสตาร์นานเกินสิบวิมั้ย ถ้าไม่ใช่พ่อแม่เค้า"

"กูนี่ไง" ผมพูดอย่างเชื่อมั่น

"ถุย"

"เฮ้ย อย่ามาดูถูกกูนะ"

"มึงจะรับคำท้ากูเหรอ"

ผมไม่กล้ารับคำท้าของมันหรอกครับ จริงอย่างที่ไอ้โชคพูดนั่นแหละ ไม่มีใครกล้าสบตาสตาร์เกินสิบวินาทีหรอก ส่วนใหญ่มักจะแพ้และก็มองไปทางอื่นทั้งนั้นแหละ

แต่ก่อนที่พบจะไปสบตาน้อง ผมควรคิดก่อนว่าทำยังไงถึงจะทำให้เรื่องของผมกับสตาร์ดีขึ้น

"โดดเรียนป่ะ" ผมชวนไอ้โชค

"คาบนี้ไม่มีครูสอนอยู่แล้ว ไปไหนก็ไปกัน"

ผมยักคิ้วให้ไอ้โชค จากนั้นเราสองคนก็พากันเดินออกจากห้อง เพื่อที่จะไปยังตึกของพวกห้องคิง









ตึกห้องคิง

ผมเลือกฤกษ์งามยามดีได้ดีมากกกกกกกก เพราะทันทีที่มาถึงหน้าห้อง ม.5/1 และเปิดประตูส่องเข้าไปข้างใน ผลปรากฎว่าไม่มีเด็กนักเรียนห้องนี้อยู่กันเลยสักคน

ให้ตายเถอะ!

จากสภาพห้องที่มีชุดนักเรียนวางระเกะระกะไปทั่วแบบนี้ ทำให้รู้ได้เลยว่าคนเหล่านี้ไปไหน คาบนี้พวกมันเรียนวิชาพละครับ
เสียเที่ยวเลยว่ะ อุตส่าห์เดินมาตั้งไกล

"แม่งเอ๊ย" ผมสบถ

"โต๊ะไหนโต๊ะของสตาร์วะ" ไอ้โชคทำจมูกฟุดฟิดและก็มองหา มึงนี่ก็นะ ทำท่าอย่างกับเป็นหมา

ผมเดินไปนั่งให้มันดูเป็นขวัญตา นั่งทับที่ของสตาร์เลยนั่นแหละครับ

"โอ้โห" ไอ้โชคร้อง "มึงดูการพับชุดนักเรียนของน้องเขาซะก่อน"

โต๊ะของสตาร์ถือว่าเป็นระเบียบกว่าโต๊ะของทุกคนในห้อง อีกทั้งชุดนักเรียนยังถูกพับเก็บเป็นอย่างดีจนผมต้องทึ่ง แต่แล้วผมก็รู้สึกทะแม่งๆ ขึ้นมา

"ทำไมกูกับมึงต้องทำเหมือนเป็นโรคจิตตามติดน้องดาววะ"

"นั่นดิ"

พอนึกขึ้นได้เราสองคนก็ออกมาจากห้อง ม.5/1 ทันที จากนั้นไอ้โชคมันก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ผมก็เลยตามมันเข้าไป ห้องน้ำของตึกนี้ค่อนข้างเงียบเพราะตึกนี้มีห้องเรียนอยู่แค่สามห้อง และมีอีกอย่างหนึ่งที่เด็กในโรงเรียนรู้กันก็คือห้องน้ำที่นี่ครูบูลด็อกฝ่ายปกครองไม่ค่อยมาตรวจเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นทันทีที่ผมก้าวเข้าไป กลิ่นบุหรี่จางๆ ก็ลอยคลุ้งเข้ามาในจมูกของผมทันที

มันเป็นมุมมืดของช่วงเวลาวัยรุ่นที่ผมเชื่อว่าหลายๆ โรงเรียนจะต้องมี ผมไม่สูบบุหรี่ก็จริงแต่ไอ้โชคมันมีบ้างเป็นครั้งเป็นคราวไปครับ ครั้งนี้ดูเหมือนมันจะอยากสูบเพราะดึงบุหรี่หนึ่งมวนออกมาจากซองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เยาวชนไม่ควรลอกเลียนแบบ)

จุดเริ่มต้นการสูบบุหรี่ของไอ้โชคมาจากการที่มันอยากประชดพ่อมันซึ่งชอบสูบบุหรี่ สูบเช้าสูบเย็น สูบไปสูบมากลายเป็นว่ามันเองก็ติดซะอย่างนั้น ผมก็คอยบอกคอยเตือนมันว่ามันไม่ดี แต่ไอ้โชคมันก็บอกอยู่ว่ามันสูบไม่ถี่ อาทิตย์ละสองมวนเองมั้ง

ผมปล่อยให้ไอ้โชคจัดการบุหรี่ในมือของมันไป ในขณะที่ผมนั้นส่องกระจกมองดูเงาของตัวเอง

"เอาป่ะเชี่ยดิน" ไอ้โชคมันยื่นมาให้

"ไหนมึงลองมาให้กูถือดิ๊" ผมพูดเล่นๆ

"สาด ไม่สูบแต่อยากทำเท่"

"กูอยากรู้ว่ามันเหมาะกับกูหรือเปล่า"

"ไม่เหมาะหรอก มึงอ่ะเทวดา แต่กูอ่ะเทวดาใกล้ตกสวรรค์" ไอ้โชคหัวเราะก่อนที่จะส่งมาให้ผม จากนั้นผมก็ถือมันไว้ ทำท่าเหมือนจะสูบแต่ก็ไม่สูบ

แม่ง เมื่อมองจากในกระจกแล้ว มันไม่เหมาะกับผมจริงๆ ว่ะ

"สตาร์ กูรอตรงนี้นะ"

"เออๆ"

เสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดออก คนที่เข้ามาในห้องน้ำก็คือสตาร์ ผมกับไอ้โชคถึงกับสตัน ขณะที่สตาร์เองสตันกว่าพวกผมมาก สายตาของมันเลื่อนไปมองบุหรี่ที่อยู่ในมือผม

มันทำหน้าช็อกมากก่อนที่จะปิดประตูห้องน้ำทันที

ผมตกใจจนบุหรี่แทบจะหล่นลงมาจากนิ้วมือ รีบส่งบุหรี่เจ้าปัญหานั่นให้ไอ้โชค หัวใจของผมเต้นแรงแปลกๆ จนทำให้ผมคิดได้ว่าตัวเองก็ตกใจไม่แพ้สตาร์

มันนึกว่าผมสูบบุหรี่ไปแล้ว

"เอ่อ เชี่ยดิน กูขอโทษ" ไอ้โชคดูมึนๆ ไปเลย "น้องแม่งดูช็อกไปเลยว่ะ"

"เออ"

"เด็กโลกสวยคงตกใจมากล่ะมั้ง"

ทำไมกูไม่คิดอย่างนั้นวะโชค สตาร์มันก็อยู่ในแวดวงเด็กผู้ชายที่น่าจะมีเรื่องแบบนี้อยู่ไม่มากก็น้อย มันคงจะเคยเห็นอะไรแบบนี้มามากแล้วนั่นแหละ ความคิดของผมก็คือมันมีอะไรที่มากกว่านั้น ไม่ใช่แค่คำว่าโลกสวย ไม่ใช่แค่คำว่าเห็นผมสูบบุหรี่แล้วช็อก

จากที่ปวดหัวเล็กๆ ตอนนี้กลายเป็นว่าผมปวดหัวมากแล้วล่ะครับ

มันจะโกรธผมเรื่องนี้เพิ่มขึ้นจากเรื่องเดิมมั้ย...










เลิกเรียน

ยังไงผมก็ต้องคุยกับสตาร์ให้ได้ ผมเบื่อที่จะต้องมานั่งเดาใจมันแล้วว่ามันโกรธผมหรือเปล่า อย่าลืมนะครับว่าคติประจำใจของผมก็คือชีวิตนี้มันสั้น ชอบใครก็บอกให้เขารู้ เกลียดใครก็บอกให้เขารู้ สงสัยอะไรก็ถาม และถ้ามีคนงอนก็ต้องไปง้อ!

ผมมาถึงห้อง ม.5/1 และก็ยืนรออย่างอดทน ห้องนี้เรียนเลิกเลตอีกตามเคย แม่งจะขยันไปไหนวะเนี่ย ช่วยหยุดขยันสักวันหนึ่งได้หรือเปล่า งานกำลังเข้าผมอยู่นะ

รออยู่นานในที่สุดพวกมันก็เลิกเรียน ผมยืนรอจนคนสุดท้ายออกมาจากห้องก็ยังไม่เห็นเงาของสตาร์ ผมคว้าคอเสื้อไอ้เชี่ยบู้ที่กำลังจะเดินผ่านไป ท่าทางของผมหงุดหงิดมากจนคนที่อยู่รอบข้างไม่กล้าเข้าใกล้

"สตาร์ไปไหน"

"มันกลับไปแล้วอ่ะพี่" ตอนนี้ไอ้บู้ดูกลัวผมมาก

"กลับไปแล้ว? กลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่"

"ตอนบ่ายครับ ที่บ้านมันมีงานอะไรก็ไม่รู้"

ผมปล่อยมันด้วยความเซ็ง ไอ้บู้พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ถึงเมื่อก่อนมันจะกวนตีนผมเรื่องสตาร์ แต่ไม่ว่าจะยังไงมันก็กลัวผมมากอยู่ดี

"พี่ทำไรมันเนี่ย รู้เปล่าว่าวันนี้จิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย"

"กู..."

"เมื่อเช้าก็มีหญิงมาหา ตอนสายก็สูบบุหรี่ให้มันเห็นอีก" ไอ้บู้ส่ายหน้าใส่ผม "รู้หรือเปล่าครับว่าสตาร์มันเกลียดบุหรี่มาก คุณลุงที่มันสนิทด้วยเสียชีวิตเพราะบุหรี่ มันก็เลยเกลียดโคตรๆ"

"..."

"พี่พลาดแล้วล่ะครับ"

"กูไม่ได้สูบ เพื่อนกูสูบ" ผมโวย

"แล้วเรื่องหญิงล่ะครับ"

"ทำไมกูต้องมาแก้ตัวกับมึงวะ"

"ถ้าพี่ไม่แก้ตัวกับผม ผมไม่บอกพี่นะว่าบ้านสตาร์อยู่ไหน"

"เอ่อ..." ผมถึงกับชะงัก "ใจคอจะให้กูบุกไปถึงบ้านเลยเหรอ"

"พี่จะไปป่ะล่ะ พี่ชอบเพื่อนผมจริงหรือเปล่ามันดูกันที่ตรงนี้แหละ" ไอ้บู้ทำหน้าจริงจัง "สตาร์มันใจลอยตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้คิดมากห่าอะไรอยู่ ผมว่าน่าจะเกี่ยวกับหญิงของพี่นั่นแหละ และก็อีกอย่างหนึ่งนะ ตั้งแต่มันเห็นพี่สูบบุหรี่มันก็ถึงกับซึมกะทือไปเลย ซึมจนโทรไปหาที่บ้านว่ามันเปลี่ยนใจจะไปไหนด้วยนี่แหละ"

โอ๊ย กูปวดหัว บทจะงานเข้าทำไมมันต้องประเดประดังเข้ามาเหมือนผมเป็นคนว่างงานมากๆ ยังไงยังงั้น นี่ผมเป็นเด็ก ม.6 ที่กำลังจะสอบนะ ขอความสบายใจสักหน่อยไม่ได้เหรอวะ

"มันจะไปไหน"

"ไปเที่ยวมั้งครับ บ้านมันไปนอกบ่อย"

"..."

"ตกลงพี่จะเอายังไง"

"บอกที่อยู่บ้านมันมา"

"..."

"เดี๋ยวกูไปเคลียร์เอง"







บ้านสตาร์

วันนี้ผมรู้สึกเหนื่อยไปหมด ยิ่งมาถึงบ้านของสตาร์แล้วผมก็ยิ่งเหนื่อยหนักมากขึ้นกว่าเดิม นี่บ้านหรือวังวะ แม่งโคตรใหญ่ ผมรู้แหละว่าสตาร์เป็นคนรวยที่ติดอันดับหนึ่งในห้าของโรงเรียน แต่ไม่คิดว่าหนึ่งในห้านั้นจะรวยมากขนาดนี้มาก่อน

คร้านจะนึกสภาพบ้านไอ้เนม ม.5 เพื่อนสิกกับฟืนซึ่งเป็นคนที่รวยที่สุดเลยว่ะ ได้ข่าวมาว่าแม่งชอบจัดบ้านเป็นร้านปิ้งย่างด้วย ถ้าบ้านสตาร์เป็นวัง บ้านไอ้เนมก็คงจะใหญ่เป็นปราสาทเลยมั้ง

ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าบ้านแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อ ไอ้บู้มันแค่บอกที่อยู่บ้านของสตาร์มาให้ แต่มันก็ไม่บอกให้ผมทำอะไรหรือทำยังไง

จะให้ผมยืนเท่อยู่ตรงนี้ไปตลอดทั้งคืนเหรอวะ

เอาไงดี ผมเกาหัวแกรกๆ อย่างไม่รู้จะทำยังไง เบอร์สตาร์ก็ไม่มี ไอดีไลน์ก็ยิ่งแล้วใหญ่ ผมยืนอยู่ตรงนั้นนานสองนานจนรถคันใหญ่คันหนึ่งมาจอดหน้าบ้าน

มีคนมาช่วยชีวิตผมแล้ว และคนคนนั้นก็คือพ่อของสตาร์

"ดินเหรอ" พ่อสตาร์จำผมได้ด้วย "มาหาสตาร์ใช่มั้ย ขึ้นรถมากับพ่อสิ"

เหยดดดดด ในที่สุดก็ได้เข้าไปแล้วโว้ย แถมได้เข้าไปแบบหรูๆ ด้วย ผมไหว้พ่อและก็เปิดประตูเข้าไปนั่ง พ่อสตาร์ใจดีมาก ท่านยิ้มรับและก็พาผมเข้าไปในบ้านด้วยท่าทีที่ไม่ถือตัวสักนิด

ตอนนี้ใจผมเริ่มเต้นไม่เป็นส่ำแล้ว สตาร์อยู่ในบ้านและผมก็คงจะได้คุยกับเขาในไม่ช้า พอเอาเข้าจริงๆ แล้วตื่นเต้นเป็นบ้า ผมกลัวจะสติแตกต่อหน้ามันจังเลยว่ะ

บ้านสตาร์ก็เหมือนบ้านคนรวยคนอื่นๆ มีคนมาต้อนรับพ่อของมันเยอะมาก ทุกคนดูตกใจไม่น้อยที่เห็นผม แต่เมื่อพ่ออธิบายว่าผมเป็นเพื่อนของสตาร์ ทุกคนก็เลยร้องอ๋อและก็ต้อนรับขับสู้ผมเป็นอย่างดี

"บู้มันบอกว่าสตาร์กลับจากโรงเรียนตอนบ่าย น้องบอกว่าที่บ้านมีงาน งานอะไรเหรอครับ"

"น่าจะเตรียมตัวไปฮ่องกงคืนนี้มั้ง" พ่อพูด "รออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวให้คนไปเรียกลงมาให้"

พ่อไม่ยอมให้ผมไปหาสตาร์ที่ห้องสินะ ผมพยักหน้าและนั่งลงที่โซฟารับแขกกลางบ้าน มองซ้ายมองขวาดูคนในบ้านทำงานบ้านกันไป แต่เห็นแล้วก็คันมือจึงเดินเข้าไปช่วยจับนั่นจับนี่ให้ ไม่ว่าจะเป็นช่วยปัดฝุ่นที่อยู่บนชั้นสูงๆ หรือช่วยเขายกของ มีแต่คนร้องโอดโอยเกรงอกเกรงใจผม แต่ผมบอกว่าไม่เป็นไร

ช่วยเพลินจนลืมเวลา ผมหันมาดูอีกทีก็เห็นสตาร์ยืนรออยู่ ใบหน้าของมันเฉยเมยมาก จากนั้นคนในบ้านสตาร์ก็ทยอยหายไปจากบริเวณที่เราสองคนยืนอยู่จนเหลือแค่ผมกับมันตามลำพัง

"เอ่อ..." ผมอึ้ง ความกล้าที่เตรียมมาทั้งหมดอันตรธานหายไปเป็นที่เรียบร้อย ดวงตากลมๆ คู่นั้นแม่งโคตรทรงพลังอ่ะ

"พี่ดินมาเอานี่ใช่มั้ยครับ" สตาร์ส่งโพสต์อิตมาให้แล้วถอยตัวกลับไป "ผมไปนะครับ"

เฮ้ย เย็นชาเว่อร์ๆ เลยว่ะ ผมรีบรั้งเอาไว้ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ "อย่าเพิ่งไปดิ"

"ผมจะรีบไปเตรียมตัว"

"จะไปฮ่องกงเหรอ"

"ครับ"

"ตอนแรกบอกจะไม่ไปไม่ใช่เหรอ"

สตาร์มองเหมือนผมเสือกกับชีวิตมันมาก "มันมีชื่อผมเอาไว้แต่แรกอยู่แล้วไง"

"ก็บอกไปสิว่าไม่ไป เปลี่ยนใจเร็วเข้า"

"อะไรของพี่"

"เอางี้ มึงใจเย็นๆ แล้วก็ตั้งใจมองหน้ากูได้ป่ะ กูมีเรื่องจะพูดกับมึง"

"ผมก็มองอยู่"

"มึงมองไม่ถึงสองวินาทีเลย"

"..."

"กูหล่อไม่ถึงระดับที่มึงจะมองเลยเหรอ" อ้อนได้ก็อ้อนครับตอนนี้ ผมแคร์มันฉิบหาย ผมอยากให้ใบหน้าบึ้งตึงนั่นหายไปจากสตาร์เร็วๆ

"บ้าป่ะพี่" สตาร์มีสีหน้าหงุดหงิด "ผมอ่านหนังสือค้างไว้อยู่ ขอตัว"

หมับ

เมื่อเช้าผมคว้าแขนมันไม่ทัน แต่ตอนนี้ผมคว้าทัน มองซ้ายมองขวาเผื่อเอาไว้แล้วล่ะครับ ไม่มีใครอยู่แถวนี้สักคน เพราะงั้นผมถึงได้กล้าไง

"ถามพี่มา"

สรรพนามผมเปลี่ยนไปโดยที่สตาร์เองก็สังเกตได้

"..."

"พี่อยู่ให้สตาร์ถามแล้ว มีอะไรถามพี่มา อย่าคิดไปเอง"

"..."

"ถ้าสตาร์ไม่ถาม งั้นพี่จะตอบเองล่ะนะ"

สตาร์กระพริบตาใส่ผม พยายามแกะมือของผมออกจากแขนน้อยๆ ของมัน

"พี่ไม่ได้สูบบุหรี่ ที่สตาร์เห็นเป็นของไอ้โชคมัน พี่แค่เอามาถือไว้" ผมขยับใบหน้าเข้าไปใกล้พร้อมกับเป่าลมหายใจของตัวเองให้อีกฝ่ายได้รู้สึก น้องก้มหน้างุดใบหน้าค่อยๆ แดงซ่านขึ้นมาทันที "ไม่มีกลิ่นบุหรี่ เห็นมั้ย"

ใจผมสั่นมาก แต่ผมต้องเก็บอาการ

"พี่ดิน" สตาร์ผลักผมออกไป "นี่บ้านผมนะ"

"..."

"ผมไม่ได้โกรธเรื่องนี้ขนาดนั้น ผมก็แค่อึ้งนิดหน่อย"

"ส่วนหยก ไม่รู้ทำไมถึงกลับมา พี่จบเรื่องเขาไปนานแล้ว จบก่อนหน้าที่พี่จะชอบฟืนอีก"

"..."

"พี่ไม่ได้จะคืนดีกับเขานะ"

หมดเรื่องที่ผมต้องเคลียร์แล้วใช่มั้ยครับ อ้อ ไม่สิ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งนี่หว่า ผมต้องรีบพูดทุกอย่างให้เคลียร์

"อีกอย่างพี่มาที่นี่ไม่ได้จะมาเอาไอดีไลน์ด้วย"

"..."

"พี่มาง้อเราอ่ะ"

ตอนนี้หน้าสตาร์แดงเป็นลูกตำลึงแล้วครับ น้องพยายามแกะมือผมและก็พยายามถอยใบหน้าให้ห่างจากผม ผมปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระในที่สุด แม้ใจจะไม่อยากทำอย่างนั้นเลยก็ตาม

"มีอะไรอีกป่ะ ถามพี่มาเลย"

"ไม่มีแล้วครับ"

"ดี"

"ผมก็แค่..." สตาร์ทำหน้าไม่ถูก มันเริ่มพูดไม่ออกจนผมต้องเป็นฝ่ายพูดแทน

"ไปฮ่องกงกี่วัน"

"กลับวันอาทิตย์ครับ"

วันนี้เป็นวันพุธ โห ไปนานสี่ถึงห้าวันเลยนี่หว่า แต่ถึงสตาร์จะไปหรือไม่ไปก็ใช่ว่าจะได้ใกล้ชิดผมเพิ่มขึ้น ผมไม่มีอะไรที่สามารถติดต่อสตาร์ได้เลยนอกจากส่องไอจีที่มีแต่หมาและก็แมวของน้อง

"อัพรูปให้ดูบ้างละกัน" ผมพูดลอยๆ

สตาร์ดูทึ่งมากจนผิดสังเกต เห็นสายตาของน้องมองไปที่โพสต์อิตโคตรบ่อยผมก็เลยยกมันขึ้นมาอ่านทั้งๆ ที่มันก็อยู่ในมือมานานแล้ว

พออ่านจบผมก็ทึ่งเหมือนกัน

ก็แม่งใจตรงกันเลยนี่หว่า!

ไอดีไลน์ตัวที่ 7
E
อัพไอจีบ่อยๆ นะครับ







กรุ๊ปไลน์ 'สตาร์ของดิน ใครยุ่งพ่องตาย'

Din : คนเราจะไปฮ่องกงเพื่ออะไร

FUEN : ซื้อของมั้งครับ ผ้าใบเขาเยอะ

AOF : ทำไมพี่ดินดูเพ้อๆ

TANG : ไม่มีสตาร์ให้คุยด้วยไงมึง พี่ดินเขาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ไลน์ของสตาร์อยู่ นี่มึงลืมเหรออ๊อฟ

CHOK : เกาะขอบล้อเครื่องบินตามไปดิสัด

PHYSICS : ฟืนมึงอย่านอนดึกดิวะ
PHYSICS : ส่วนพี่ดินมีคนฝากมาบอกว่านอนได้แล้ว
PHYSICS : ทำไมไม่มาบอกเอง ทำไมต้องให้ผมเป็นคนส่งสารให้
PHYSICS : เบื่อ รีบแลกไลน์กันได้แล้ว

AOF : เพ้อเจ้อไรมึง

TANG : เมียมันนอนไปแล้วไง

CHOK : พวกมันสองคนได้กันแล้วเหรอวะ ทำไมต้องเป็นเมียอ่ะ?

FUEN : แยกๆๆ

Din : ไม่มีใครให้สาระกูได้สักคน
Din : เชี่ยสิก ฝากมึงบอกคนที่บอกกูด้วย
Din : ขอให้เขาฝันดีเหมือนกัน

PHYSICS : รำคาญว่ะ
PHYSICS : แต่บอกให้แล้วครับ
PHYSICS : ฟืน รับสายด้วย อยากได้ยินเสียง คิดถึง

AOF : ตอนกลางวันแม่งก็ตัวติดกันจนจะได้เสียกันอยู่ละ ยังจะคิดถึงกันอีกเหรอ

Din : อิจฉาสัด
Din : แล้วพวกมึงกรุณาดูชื่อกรุ๊ปไลน์ด้วย นี่กรุ๊ปของดินกับสตาร์โว้ย อวดผัวอวดเมียกันอยู่ได้!







TBC*









หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 06-02-2018 20:08:51

ตอนพิเศษ
บันทึกของบูบู้









สวัสดีครับผมชื่อบูบู้

ผมเป็นหัวหน้าห้อง ม.5/1 และเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของสตาร์ ผมรู้จักกับมันตอนที่มันเข้าเรียน ม.4 วันแรก วันนั้นมันค่อนข้างโดดเด่นทีเดียวแหละเพราะคนส่วนใหญ่ที่มาเรียนห้องนี้เป็นเด็กเก่าของโรงเรียนทั้งนั้น มันเป็นเด็กใหม่และที่สำคัญหน้าตาของมันยังน่ารักเว่อร์ๆ แต่ถึงอย่างนั้นหน้าตาของมันก็ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ผมกับเพื่อนหวงมันมากหรอกครับ

พวกเรามีอะไรมากกว่านั้น

ใครหลายคนอาจจะมองว่าเด็กห้องคิงต้องเรียบร้อย เตรียมตัวเรียนแพทยฯ เรียนทันตฯ เรียนวิศวฯ แต่ใครเล่าจะรู้ว่าพวกเราต่างก็มีมุมมืด เป็นเรื่องที่ไม่น่าชื่นชม ไม่สมกับคำว่าเด็กห้องคิง แต่เชื่อผมเถอะชีวิตวัยรุ่นถ้าอยู่ในกรอบมากเกินไปมันก็ไม่สนุกสิครับ คนเรามีชีวิตในวัยนี้หลายครั้งที่ไหนกันล่ะ

ห้องผมทำมาทุกอย่างแหละ ทั้งกิน เที่ยว โดดเรียน สูบบุหรี่ และก็ลามไปจนถึงพนันบอล ไอ้พนันบอลนี่แหละคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่าง

ตอนนั้นสตาร์ยังไม่ได้ถูกผมกับเพื่อนหวงเข้าไส้หรอกครับ มันก็เป็นเพื่อนทั่วไปของพวกเรานี่แหละ ติดจะแตกต่างไปสักหน่อยก็ตรงที่ว่าก็มีใครหลายคนมาตามแจกขนมจีบให้มันเป็นว่าเล่น มันก็เอ๋อ ไม่รู้เรื่องรู้ราว ยอมให้เขาจีบไปเรื่อย เขาขอไลน์ขอเบอร์มันก็ให้หมดไม่มีสกรีนอะไรทั้งนั้นว่าควรให้หรือไม่ มีหลายครั้งที่ผมต้องไปห้าม ไปคุมมัน หรือไม่ก็กันเอาไว้ ทำไปทำมา...ผมกลายเป็นเพื่อนสนิทมันเฉยเลย

สเน่ห์ของเพื่อนผมอาจจะไปถูกตาต้องใจใครหลายคน แต่ผมไม่คิดเลยว่าจะดันไปโดนใจใครบางคนเข้า คนที่มันไม่ควรไปยุ่งด้วยอย่างยิ่ง เขาคือตัวอันตรายสำหรับเด็กโรงเรียนเราทุกคน ถ้าเขาฆ่าได้เขาก็ฆ่า ใครตายเขาก็ช่างมันอ่ะครับ (พอดีแม่ผมดูเดอะเฟซน่ะผมเลยจำๆ มา)

คนคนนั้นก็คือพี่เรย์

โชคไม่ดีที่ 'ไอ้ตือ' เพื่อนในห้องคนหนึ่งติดหนี้คนของไอ้เรย์เพราะมันเอาไปพนันบอล มันวางเงินไปซะเยอะจนเกินตัวและเด็กมัธยมอย่างมันคงไม่สามารถหาเงินไปคืนได้ง่ายๆ แน่ถ้าไม่ขอพ่อแม่ แต่ใครเล่าจะกล้าขอ ในเมื่อครอบครัวและสังคมมองเด็กห้องผมเป็นเด็กที่เรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ไปแล้ว และไอ้ตือก็ไม่อยากให้ภาพนั้นต้องถูกลบไป

ตอนนั้นมันเครียดมาก พวกไอ้พี่เรย์ก็คอยตามมาเอาเรื่องอยู่เนืองๆ ผมกับเพื่อนก็ชักจะเป็นห่วงไอ้ตือ พยายามช่วยกันคิดหาทางรวบรวมเงินเท่าที่มีไปคืนให้ แต่ไอ้ตือมันไม่ยอม มันบอกหนี้ของมันเดี๋ยวมันจัดการเอง ใช้เวลาอยู่นานมากมันก็จัดการไม่ได้ครับ จนในที่สุดไอ้พี่เรย์ก็เหลืออด ยกพวกมาหาไอ้ตือถึงที่โรงเรียน

ไม่มีใครรู้เรื่องราวเหล่านี้ ไม่มีใครสังเกต เพราะเราทุกคนช่วยกันปิด คุณครูที่จะเข้ามาสอนงงมากว่าเด็กห้องหนึ่งหายไปไหนกันทั้งห้อง ผมใช้ความฉลาดแกมโกงของตัวเองไปบอกครูเอาไว้ว่าพรุ่งนี้มีซ้อมสอบโควตารับตรงของมหา'ลัยแห่งหนึ่งซึ่งทางโรงเรียนกวดวิชาจัดขึ้น คุณครูที่กำลังจะสอนก็เลยเข้าใจแม้จะติดใจนิดหน่อยแต่ก็ดูปลงๆ ใครเล่าจะรู้ว่าผมกับเพื่อนเอาเวลาตรงนั้นไปช่วยไอ้ตือ

ไอ้พี่เรย์พาคนมาเยอะมาก มากจนผมกับเพื่อนคิดว่าชื่อเสียงที่เราสั่งสมมาทั้งหมดต้องพังพินาศจนย่อยยับเพราะฝ่ามือฝ่าตีนของคนพวกนี้ แต่แล้วนางฟ้าก็ลงมาโปรดพวกผมครับ นางฟ้าคนนั้นชื่อว่าสตาร์ มันตามมาทีหลังเพราะไม่มีใครบอกมันว่าพวกเราพร้อมใจกันมาช่วยไอ้ตือไม่ให้ถูกรุมทำร้าย

พี่เรย์ตามจีบสตาร์มานานมากแล้ว ชอบมาตั้งแต่เดินสวนกันที่สยาม ชอบก่อนตั้งแต่ที่ไอ้ตือจะเป็นหนี้พี่เขาอีก แต่สตาร์มันก็งงๆ นั่นแหละก็เลยไม่ได้ตกลงปลงใจอะไรไป พอพี่เรย์รู้ว่าสตาร์อยู่ห้องเดียวกันกับไอ้ตือเท่านั้นแหละครับ หนี้ของไอ้ตือก็ถูกเสกหายไป...

แต่ต้องแลกกับการที่สตาร์จะต้องตัวติดกับไอ้พี่เรย์เป็นข้อแลกเปลี่ยน

สตาร์เป็นคนขอเอง มันคงรู้แหละว่าสเน่ห์ของมันใช้ได้กับไอ้พี่เรย์อยู่ พวกผมอึ้งมากเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าคนคนนี้มันอันตรายแค่ไหน แต่สตาร์ก็ยังยืนกรานว่าจะยอมทำตามที่พี่เรย์ต้องการทุกอย่างเพื่อแลกกับการที่เขาจะต้องปล่อยไอ้ตือกับเพื่อนๆ ไป

การกระทำของสตาร์แม่งเสียสละมาก หลังจากวันนั้นสตาร์ต้องไปเที่ยวไปเดตกับไอ้พี่เรย์แทบทุกวันอ่ะ มันไม่ได้แสดงท่าทีว่ามีใจให้ไอ้พี่เรย์เลย อีกฝ่ายก็ไม่ได้โง่ แต่ก็พยายามตื๊อพยายามจีบอยู่นั่น หลังๆ ได้ข่าวว่าไปมีเรื่องกับขาใหญ่เข้าก็เลยห่างจากสตาร์ไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคอยโทรตามเพื่อนผมอยู่เรื่อยๆ จนมันเริ่มเป็นโรคจิต หวาดระแวงทุกครั้งที่โทรศัพท์ดัง

เพราะการเสียสละของมันทำให้ผมกับเพื่อนรู้สึกซาบซึ้ง พวกเราปกป้องสตาร์จากหัวใจของตัวเองแบบไม่มีเงื่อนไข ถ้าไม่มีมันในวันนั้นนอกจากพวกเราจะต้องเจ็บตัวแล้ว ชื่อเสียงที่สั่งสมมาก็คงต้องพังไปหมด ครูจะตำหนิและครอบครัวก็จะผิดหวัง สตาร์ช่วยปกป้องผมกับเพื่อนเอาไว้จนเราทุกคนต้องหันมามองมันในมุมใหม่ มุมที่ลึกซึ้งกว่าเดิม

และพบว่ามันไม่ได้น่ารักแค่รูปร่างหน้าตา แต่จิตใจของมันก็ยังน่ารักอีกด้วย

ตอนที่ไอ้พี่เรย์ห่างๆ จากสตาร์ไป มันก็เริ่มเปิดเผยกับเพื่อนๆ ในห้องว่ามันแอบชอบฟิสิกส์ ไอ้หน้าหล่อห้องสามอยู่ ผมกับเพื่อนก็ไม่ค่อยอึ้งเท่าไหร่หรอก คนในโรงเรียนคงมีคนแอบชอบไอ้สิกอยู่มหาศาลล้านแปด เพียงแต่ไม่มีใครกล้ายุ่งกล้าจีบเพราะชีวิตไอ้สิกมีแต่เพื่อนมันที่ชื่อว่าฟืน ผมก็เลยลองยุๆ ให้มันไปจีบดู มันก็ทำตามอยู่ครับ ทำจนสนิทกับทั้งสิกและก็ฟืนอ่ะ

ส่วนใหญ่ไอ้เรื่องพรรค์นี้ผมกับเพื่อนก็ไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่หรอก เพราะคนนี้คือคนที่สตาร์ยอมรับว่าชอบมาก พวกผมก็เลยปล่อยให้จีบตามแต่ใจมัน แอบมองดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ จนวันหนึ่งสตาร์ก็ซึมกะทือคล้ายกับวิญญาณออกจากร่าง

สตาร์บอกว่าคนที่สิกชอบมาตลอดก็คือฟืน คนที่ฟืนชอบมาตลอดก็คือสิก มันเข้าไปแทรกกลางระหว่างคนสองคน ทำให้เพื่อนนิสัยดีๆ ทั้งสองคนมีปัญหาก็เพราะมัน

ไม่อยากจะบอกเลยว่าตอนนั้นผมกับเพื่อนคนอื่นๆ ทุกข์ใจมาก สตาร์เหมือนคนไร้วิญญาณจริงๆ ครับ ทั้งใจลอย ทั้งไม่กินน้ำไม่กินข้าว ไม่ว่าพวกผมจะพยายามหลอกล่อด้วยของโปรดของแพงมากมายแค่ไหน สตาร์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะสดใสขึ้นเลย มันเป็นอย่างนั้นอยู่หนึ่งเดือนเต็มๆ และผมก็จำคำพูดอะไรบางอย่างที่มันเคยพูดกับผมได้

'กูว่าความรักหมุนรอบตัวเราว่ะ มันอยู่รอบตัวเรานี่แหละ เพียงแต่เราไม่รู้และเราก็ไม่ได้สังเกต'

'...'

'แม้กระทั่งคนอื่นชอบกันกูยังไม่ได้สังเกตเลย'

'...'

'ทำไมวะมึง ทำไมกูไม่รู้ว่าสองคนนั้นแม่งชอบกัน ทำไมกูถึงได้โง่แบบนี้ล่ะ'

ผมไม่รู้จะปลอบมันยังไง ได้แต่ช่วยเท่าที่ช่วยได้ แต่ผ่านไปนานๆ เข้าผมกับเพื่อนก็ชักจะทนไม่ไหว สตาร์แม่งคือความสดใสของห้องเราและก็ควรจะเป็นอย่างนั้นต่อไป

หลังจากที่แอบคุยกันลับหลังสตาร์หลายครั้งหลายหน เสิร์ชดูงานวิจัยหลายชิ้นว่าทำยังไงถึงจะหายจากอาการอกหักได้เร็วที่สุด และวิธีที่พวกเราชาว ม.5/1 เลือกนั่นก็คือ

มองหาใครสักคนให้สตาร์

ถ้าความรักมันหมุนรอบตัวมึง แต่มึงไม่รู้และไม่ได้สังเกต พวกกูที่เป็นเพื่อนมึงนี่แหละจะทำให้มึงเห็นเอง แค่หาใครสักคนที่ดีพอมาหมุนรอบตัวมึง จากนั้นความรักก็จะตามมาเองนั่นแหละ

บอกเลยว่าจริงจังยิ่งกว่าการสอบครั้งไหนๆ ไอ้ตือเป็นคนรวบรวมข้อมูลคนที่พอจะใช้ได้ทุกคนในโรงเรียนมาให้ ต้องเลือกคนในโรงเรียนเพราะว่ายิ่งอยู่ใกล้ชิด ความรักก็จะยิ่งเติบโตขึ้นมาได้ไว เลือกไปเลือกมา พวกผมก็สะดุดกับชื่อของพี่ดิน






ดิน ภูดิน เลิศธัญกร

ม.6/2 สายวิทย์-คณิต

หัวหน้ากองร้อยรักษาดินแดน หัวหน้าสารวัตรนักเรียน หนึ่งในทีมของสภานักเรียน

สูง 179 เซนติเมตร น้ำหนัก 65 กิโลกรัม

คณะที่อยากเข้าเรียน วิศวกรรมศาสตร์ (โอกาสติดคณะนี้ 98.54% เพราะเห็นว่าอ่านหนังสือสอบทุกวัน)

เหตุผลที่ควรเลือกพี่ดิน : 1. หล่อ รวย เพอร์เฟ็กต์ไปทุกสิ่งอย่าง 2. นิสัยดี น่าจะดูแลเพื่อนเราได้ 3. เคยช่วยสตาร์จากอุบัติเหตุที่น้ำตกเอราวัณ 4. เพิ่งอกหักมาเหมือนกัน






พี่ดินคะแนนนำลิ่ว ทิ้งห่างคู่แข่งคนอื่นมาก (มีพี่อาร์ต พี่รหัสไอ้สตาร์และก็มีไอ้เนมห้องสามด้วยนะ) ถึงแม้ว่าพี่ดินจะไม่รวยสูสีกับคนที่เหลือแต่ก็ถือว่ามีฐานะดีใช้ได้เหมือนกัน ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คนที่จะมาคู่กับสตาร์เรื่องฐานะไม่ค่อยสำคัญหรอกครับ สำคัญตรงที่ว่าจะดูแลสตาร์ได้มั้ย เพราะสตาร์ยังมีพันธะกับไอ้พี่เรย์ที่จะต้องไปจัดการอีก

ยิ่งคิดก็ยิ่งเห็นว่าไม่มีใครเหมาะกับสตาร์มากไปกว่าพี่ดินอีกแล้ว ใครจะไปจัดการไอ้พี่เรย์ได้ถ้าไม่ใช่พี่ดิน

ในวันที่ผมจะไปฟันธงกับเพื่อนๆ ว่าควรจับคู่พี่ดินกับสตาร์ จู่ๆ พี่เขาก็มาถึงหน้าห้องผมพร้อมๆ กับถามเรื่องไอดีไลน์ของสมบัติห้อง เป็นอะไรที่ผมทั้งอึ้งทั้งตกตะลึง นี่หมายความว่าพี่ดินเองก็สนใจเพื่อนผมอยู่เหมือนกันใช่มั้ยนี่

ผมถึงกับเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมในคาบโฮมรูมเลยครับ

ผลสรุปก็คือพวกเรายอมให้พี่ดินผ่าน คนคนนี้คือว่าที่แฟนสตาร์ คนที่จะมาช่วยให้สตาร์หายจากอาการโศกเศร้าและก็รู้สึกผิด คนที่จะมาคอยปกป้องหากสตาร์มีปัญหาในทุกเรื่อง แต่ผมกับเพื่อนจะทำให้สองคนนี้คู่กันได้ยังไงถ้าไม่มีสถานการณ์พาไป

ไอ้ตือผู้ที่เป็นห่วงสตาร์มากที่สุดเสนอไอเดียขึ้นมา โดยที่ผมต้องแสร้งไปท้าทายพี่ดินให้ทำภารกิจเพื่อที่จะได้ไอดีไลน์ทีละตัว ตอนแรกเพื่อนแย้งกันเกือบทั้งห้อง แต่พอมีคนหนึ่งบอกว่าพี่ดินเป็นพวกไม่ยอมใครง่ายๆ ยิ่งโดนท้าก็จะยิ่งทำตาม ผมก็เลยลองดูทันที

ใครจะไปรู้ว่าพี่มันจะทำตามเกมของผม แถมตอนนี้ยังหลงเพื่อนผมจนมาหาที่ห้องเป็นสิบๆ ครั้งแบบนี้!

สตาร์เองก็ใช่ย่อย จากที่เศร้าๆ กลายเป็นเริ่มยิ้มออก ผมกับเพื่อนสังเกตมันอยู่เรื่อยๆ มันเริ่มอารมณ์ดีมากขึ้น คุยกับคนอื่นมากขึ้น ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้มันจะเคยขอร้องไม่ให้ผมแกล้งพี่ดิน เพราะมันไม่อยากเห็นพี่ดินต้องมาทำอะไรติงต๊องแบบที่พวกผมต้องการ แต่นานวันเข้ากลับกลายเป็นมันที่ชอบเสียเอง ดีไม่ดีผมเห็นมันนั่งหยิบโพสต์อิตมาเขียนบ้าเขียนบออะไรอยู่ไม่รู้ ไอ้ตือบอกว่าสิ่งนี้มันส่งให้พี่ดินสม่ำเสมออย่างกับจดหมายสื่อรักแน่ะ

เออ บทจะอินเลิฟมันก็อินเลิฟนั่นแหละ บทมันจะเครียดมันก็เครียดมากจนคนอื่นปรับอารมณ์ตามแทบไม่ทัน

เหตุเกิดเมื่อวานนี้เองครับ ไอ้สตาร์ดูเศร้าตั้งแต่เช้า ถามคำตอบคำ ดูสติหลุดล่องลอยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผมกับเพื่อนใช้เวลาสืบไม่นานก็รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เมื่อเช้านี้แฟนเก่าพี่ดินมาหาที่โรงเรียนแต่เช้า แถมยังมีคนบอกอีกว่าสองคนนี้อาจจะคืนดีกัน (ว่าแต่คนที่บอกรู้ได้ยังไงวะ) เห็นมันซึมแบบนี้ก็รู้เลยว่าความรักของมันในครั้งนี้คงจะเป็นอะไรที่มันคาดหวังน่าดู แม้จะอยู่ในช่วงระยะเริ่มต้นก็ตามทีเถอะ แต่ใครเล่าจะอยากผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า

โชคดีที่พี่ดินไม่ปล่อยไว้นาน ยิ่งมีคนอย่างผมคอยพูดจาใส่ไฟลงไปด้วยแล้ว พี่ดินยิ่งไม่อยู่นิ่งๆ ได้ข่าวมาว่าพี่ดินบุกไปถึงบ้านของสตาร์เลยทีเดียว คิดดูสิครับ บ้านที่น้อยคนนักจะกล้าเข้าไปแม้กระทั่งพวกห้องเดียวกัน เพราะอะไรน่ะเหรอครับ เพราะบ้านนี้มีคนขับรถพ่วงตำแหน่งเป็นบอดี้การ์ดด้วยน่ะสิ ได้ข่าวว่าทั้งหล่อมากและก็ทั้งเก่งมาก

ไอ้สตาร์ไลน์มาบอกผมว่าทุกอย่างโอเคขึ้นแล้ว พี่ดินพูดจาชัดเจนดีจนน่าขนลุกขนพอง มันบอกว่าพ่อมันเป็นคนพาพี่ดินเข้าไปในบ้านเลย ถูกใจยิ่งกว่าตอนรู้จักพี่อาร์ตอีก แสดงว่าคนนี้พ่อมันก็ชอบ

ส่วนตอนนี้เพื่อนผมอยู่ฮ่องกงเรียบร้อยแล้ว ที่มันต้องไปเพราะพ่อมันมีคุยธุรกิจและแม่มันก็ไม่มีเพื่อน มันก็เลยต้องไปด้วย ขอลาสองวันแน่ะครับ กลับมาอีกทีก็วันอาทิตย์เลย

มันติดต่อพี่ดินไม่ได้ พี่ดินเองก็ติดต่อมันไม่ได้ ให้ทายว่าใครใจจะขาดก่อนกัน!

วันนี้ไอ้สตาร์อัพไอจีในรอบแปดสิบห้าล้านปี (รูปล่าสุดของมันคือรูปแมวป่วยที่บ้านเมื่อสิบเก้าวันที่แล้ว) มันน่าประหลาดใจตรงที่ว่าปกติมันไม่อัพรูปหนังหน้ามันครับ แต่ครั้งนี้อัพเฉยเลย แถมรูปที่อัพเป็นวิวตึกรามบ้านช่องของฮ่องกง และมันก็กำลังทานอาหารอะไรอยู่ก็ไม่รู้บนร้านที่อยู่สูงๆ ท่าทางแพงน่าดู อาจจะจานละพันบาทแหละผมว่า

'รูปนี้แม่ถ่าย : )'

แคปชั่นมึงช่างเด็กน้อยจริงๆ ทำไม่มึงไม่ครีเอตกว่านี้หน่อยวะเพื่อน เช่น 'อยู่ฮ่องกงแต่ก็อยากอยู่ในห้องหัวใจของเธอ' อะไรแบบนี้น่ะ ผมรีบกดไลค์และก็เข้าไปถากถางเหมือนที่ชอบทำประจำกับเพื่อนคนอื่นๆ

แต่ก่อนคอมเมนต์ผมจะขึ้น ก็มีใครบางคนชิงเมนต์ก่อนหน้าผมไปแล้ว

dinphoodin น่ารัก

โอ้โห เขาจีบกันออกสื่อครับพี่น้อง ไอ้สตาร์มันจะตอบมั้ย มาลุ้นกันครับผม

แต่หลังจากที่ผมทั้งไปเรียนที่โรงเรียน ไปเรียนพิเศษ พาสาวไปกินไอติม และก็กลับมาถึงบ้าน ไอ้สตาร์ก็ยังไม่ตอบคอมเมนต์พี่ดินเลย ผมนี่ก็บ้านั่งกดรีเฟรชอยู่นั่น เสียเวลาชีวิตฉิบหาย หรือผมควรเอาเวลานี้ไปทำการบ้านอ่านหนังสือดีครับ น่าจะมีสาระมากกว่าใช่ป่ะ

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ปากผมมันอยากแซวอ่ะ เพื่อนผมหลายคนก็บ่นอยากแซวเหมือนกันแต่กลัวตีนพี่ดินกัน พวกมันจึงบอกให้ผมเป็นทัพหน้าเข้าไปแซว เผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้นและก็เร็วขึ้น

เออ เอาไงก็เอา ถ้าต้องเป็นคนรองรับฝ่าตีนพี่ดินจริงๆ ก็ช่วยกูด้วยละกัน

ผมเข้าไปคอมเมนต์อีกครั้งเพื่อสุมไฟรักให้สองคนนี้ คอมเมนต์ที่สองของผมเป็นคนที่สี่สิบเจ็ดที่เข้ามาเมนต์ครับ นานๆ ทีไอ้สตาร์จะอัพรูปหน้าตัวเอง รูปนี้มันก็เลยฮอตขึ้นมา

bigboo @starsatayu มีคนบอกมึงน่ารักอ่ะ

ไม่นานนักแจ้งเตือนไอจีของผมก็ดังขึ้น ผมนึกว่าสตาร์จะเข้ามาตอบ แต่เป็นพี่ดินครับที่มาตอบ

เสียวสันหลังวาบเลยขอบอก!

dinphoodin @bigboo ยุ่งไรวะ

นั่นยังไงล่ะ กูว่าแล้ว กูว่าแล้วววววว ผมรีบไปโอดครวญกับเพื่อนในกรุ๊ปทันทีว่าผมต้องโดนพี่ดินจัดการแน่ๆ พวกมันก็รักผมเหลือเกิน บอกกันใหญ่ว่าเรื่องนี้พวกแม่งไม่เกี่ยว ไอ้เพื่อนเหี้ยเอ๊ยยย

และสตาร์ก็เข้ามาช่วยชีวิตผม

starsatayu @dinphoodin @bigboo อย่าว่าเพื่อนผมดิ

พี่ดินคงไม่ฆ่าผมแล้วล่ะครับ เขาต้องฟังคำพูดคนที่เขาชอบดิ ผมถอนหายใจโล่งอก จากนั้นคอมเมนต์จากพี่ดินก็มาอีก

dinphoodin @starsatayu @bigboo ทำไมยังไม่นอน?
starsatayu @dinphoodin @bigboo กำลังจะนอนครับ
dinphoodin @starsatayu @bigboo รีบนอนได้แล้ว


เดี๋ยวๆ ถ้าจะคุยกันทำไมไม่เอาชื่อไอจีผมออกวะ แคร์สื่อกันใช่มั้ยเนี่ย ถ้าคุยกันสองคนมันจะดูน่าสงสัยอะไรอย่างงี้หรือเปล่า ผมไม่กล้าโวยวายซะด้วยเพราะกลัวตีนพี่ดิน เพราะงั้นผมก็เลยเงียบๆ ไว้ดีกว่า

ดูไม่ออกแฮะว่าใครใจจะขาดก่อนกัน ไอ้สตาร์อัพรูปปุ๊บ พี่ดินมาเมนต์ปั๊บอย่างงี้ ผมว่าพอๆ กันนั่นแหละวะ

บรรยากาศของการจีบกันใหม่ๆ นี่ช่างดีจริงๆ

สองคนนั้นเงียบไปแล้ว สมควรแก่เวลาที่ผมจะหยิบหนังสือออกมาอ่านสักที แต่อ่านได้ไม่กี่ย่อหน้าผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอีกแล้ว คราวนี้เป็นคราวของพี่ดินที่จะอัพรูปบ้าง

แคปชั่นแม่งเจ๋งกว่าสตาร์เยอะเลยครับ ที่สำคัญรูปแม่งยังหล่อโคตรทั้งๆ ที่แค่เซลฟี่ก่อนนอนอ่ะ เฮ้ย ถ้าไม่ใช่พี่ดินก็ไม่มีใครทำได้แล้วนะ

'ดาว ฝากกล่อมเธอเมื่อยามหลับใหล'

ผมอดที่จะเข้าไปเมนต์แซวไม่ได้ว่ะ (ยังไม่เข็ดอีก) และความเร็วของผมก็พ่ายแพ้ให้กับคนอีกคนหนึ่ง เหตการณ์มันซ้ำกันอย่างกับเดจาวูแน่ะ

starsatayu เสี่ยว
bigboo หล่อฉิบหายเลยพี่


ไม่ถึงสองนาทีพี่ดินก็ตอบ แถมยังข้ามหน้าข้ามตาผมด้วย

dinphoodin @starsatayu เพลงของ 60 miles ไง ป.ล. ไหนบอกว่าจะนอน
starsatayu @dinphoodin กำลังจะนอนจริงๆ แล้วครับ


พี่ดิน แล้วคอมเมนต์ผมล่ะพี่ พี่ไม่ตอบเหรอ

ผมคิดอย่างขำๆ ก่อนที่จะลอบอมยิ้ม ในที่สุดสตาร์เพื่อนผมมันก็กลับมายิ้มได้สักที และผมเชื่อว่าพี่ดินคงจะไม่พรากรอยยิ้มไปจากมันง่ายๆ แน่ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น พี่ดินก็พี่ดินเถอะ ผมกับเพื่อนห้องหนึ่งนี่แหละจะฆ่าพี่เขาเอง

ถ้าภารกิจของพี่ดินคือทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ไอดีไลน์ของสตาร์ ภารกิจของพวกผมก็คือการทำทุกวิถีทางเพื่อให้สตาร์หายเจ็บปวดหลังจากที่อกหักมาจากฟิสิกส์ ถึงแม้ว่าอนาคตเพื่อนผมจะมีอุปสรรค จะเจ็บปวดกับพี่ดิน แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ ผมกับคนอื่นๆ ก็จะไม่มีวันทิ้งมันไปไหน

นี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่างครับ

ผมกับเพื่อนนี่แหละที่เป็นคนส่งพี่ดินให้ไปหมุนรอบตัวของสตาร์

แล้วความรักก็คงจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

ไม่สิ มันอาจจะเกิดขึ้นแล้วก็เป็นได้








TBC*






หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 4-6 P. 2 01/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 06-02-2018 20:09:21





ตอนที่ 8







หลังจากนั้นก็ถึงช่วงเวลาปิดเทอม

เรื่องของผมกับสตาร์เหมือนกดไปถูกปุ่ม Pause เอาไว้ หลังจากที่สตาร์กลับมาจากฮ่องกง เราทั้งสองก็ต่างคนต่างยุ่ง สตาร์เรียนหนักมากทั้งยังต้องเตรียมสอบปลายภาคด้วย ส่วนผมก็มีเตรียมสอบหลายอย่างทั้งสอบปลายภาคและก็สอบโควตามอ C ที่สมัครไว้ก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้นผมจำใจต้องยกสตาร์ขึ้นหิ้งไปก่อนแล้วหันมาจริงจังกับอนาคตของตัวเอง ซึ่งก็ทำได้ยากมากครับ มีอยู่หลายครั้งที่ผมสมาธิแตก กดโทรศัพท์เข้าไปเช็กดูไอจีของสตาร์อยู่เรื่อย

สตาร์เองก็เหมือนจะแกล้งผม เขาคงรู้ว่าผมเช็กบ่อยมั้งถึงไม่อัพอะไรอีกเลยแม้กระทั่งสตอรี่ ตั้งแต่อัพรูปที่ฮ่องกงคราวนั้นไอจีสตาร์ก็เหมือนจะร้างไปอีกรอบ นี่เป็นวิถีของเด็กห้องคิงใช่มั้ยครับ เล่นโซเชียลน้อยๆ อ่านหนังสือมากๆ งี้ แต่พอเข้าไปดูไอจีเชี่ยบู้ที่อัพนั่นอัพนี่มั่วไปหมด ผมก็คิดได้ว่าไม่ควรเหมารวมทุกคนว่ะ

ในที่สุดผมก็พาชีวิตตัวเองผ่านช่วงสอบปลายภาคของ ม.6 เทอมหนึ่งสักที ณ ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องทำก็คือทุ่มเทเวลาให้กับการอ่านหนังสือเตรียมสอบโควตา ผมอยู่บ้านจนพ่อกับแม่เบื่อขี้หน้า บางครั้งผมก็อ่านหนังสือหนักจนเซ็งก็ออกไปเดินเล่นที่สยามบ้างไรบ้าง วันนี้ก็เช่นกัน

ผมอยากบังเอิญเจอสตาร์อีกครั้งเหมือนกับวันนั้น

ถ้าจะจีบใครไม่ต้องใช้วิธีแบบผมนะครับ ขอไอดีไลน์ไปเลยง่ายกว่า แบบนี้ทั้งติดต่อไม่ได้ ทั้งต้องลุ้นให้มันมีความบังเอิญเกิดขึ้นอีก ซึ่งผมรู้ว่าโอกาสที่จะเกิดมันยากมากกกก แต่ผมก็ยังอยากจะลุ้นให้มันเกิดอยู่ดี

ผมคิดถึง...จนจะแย่อยู่แล้วครับ

วันนี้คนที่มาเดินเล่นเป็นเพื่อนผมคือไอ้โชคเจ้าเก่า 'ไอ้ไผ่' ที่ยังพยายามตามหาสไปรท์เป็นของตัวเอง (มันโสดและชอบบ่นว่าชอบผู้หญิงแบบสไปรท์) และก็ไอ้อ๊อฟ เพื่อนของสิกกับฟืนที่ไม่รู้หลุดมาเดินกับพวกผมได้ยังไง

ไอ้โชคบอกว่าเห็นเด็กมันอยู่สยามพอดีก็เลยชวนให้มาด้วยกัน พวกเราก็จอยกันง่ายอยู่แล้วไม่ว่าจะรุ่นเดียวกันหรือคนละรุ่นก็เลยไม่มีใครอึดอัด ผมกับเพื่อนให้คำสัญญากันและกันว่าจะไม่มีใครพูดเรื่องสอบอะไรทั้งนั้นจนกว่าจะพ้นเย็นวันนี้ เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งเครียดน่ะครับ

ได้ข่าวว่ามีคนทยอยติดโควตากันไปแล้ว ฟังแล้วก็ยิ่งกดดัน นี่ถ้าเวลาผ่านไปเรื่อยๆ แล้วยังไม่มีที่เรียนกันอยู่อีก ผมคิดว่าต้องมีเครียดจนนอนไม่หลับกันไปข้าง

"สตาร์มันอยากเรียนไรนะ" หลังจากที่เลือกร้านกินข้าวกันเสร็จ ผมก็ยิงคำถามไปที่ไอ้อ๊อฟทันที

"ทันตฯ ครับพี่"

"มึงรู้ได้ไง"

"จำไม่ได้ว่าใครถามกันแน่ระหว่างเชี่ยสิกกับเชี่ยฟืนนี่แหละ ผมอยู่แถวนั้นพอดีผมก็เลยจำได้"

เริ่มเห็นประโยชน์ของการที่มีไอ้อ๊อฟมาร่วมวงด้วยแล้วล่ะครับ ไอ้ไผ่ เพื่อนในกลุ่มของผมมันมองมาที่ผมด้วยสายตาอึ้งนิดหน่อย

"ตกลงที่เขาลือๆ กันมาก็จริงอ่ะดิ มึงจีบน้องสตาร์อยู่ใช่มั้ย"

"เออ" ผมยอมรับตรงๆ

"เหยดเข้"

"ข่าวไอ้ดินมีเรื่องไรบ้างที่ไม่จริงวะ" ไอ้โชคหัวเราะ

"แล้วหยกล่ะ ที่เขาตามมาง้อมึงวันนั้น ตกลงมึงไม่เอาเขาแล้วเหรอวะ"

มึงควรพูดจาให้เกียรติเพศแม่ด้วยไผ่ เพราะงี้ไงมึงถึงยังไม่มีสไปรท์เป็นของตัวเอง

"กูงงมาก" ผมพูด "อยู่ดีๆ เขาก็กลับมา ทุกวันนี้เขาก็ยังไลน์มาทักกูอยู่ว่าตกลงกูจะเอายังไง กูก็บอกไปแล้วว่ากูเลิกแล้ว จบแล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมว่ะ"

หยกไลน์มาไม่หยุดจริงๆ ครับ ทั้งๆ ที่ผมก็บอกทางไลน์ไปแล้วว่าผมจริงจังกับคนที่กำลังจีบอยู่ แต่ดูเหมือนผู้หญิงเขาจะไม่ยอมง่ายๆ ทั้งๆ ที่หายไปนานมากแท้ๆ แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ถึงกลับมาได้ ผมเองก็งงเหมือนกัน

ผมเคยบอกว่าจะคุยกับหยกทีหลังก็จริง แต่เมื่อเคยมีเหตุการณ์ที่สตาร์เห็นผมอยู่กับหยกเพียงแค่ชั่วขณะ เขาถึงกับบินหนีผมไปฮ่องกงเลย และถ้าน้องมันมาเจอผมนั่งเคลียร์กับหยกเป็นเวลานานสองนาน ผมเลยกลัวน้องแม่งจะบินหนีผมไปดูแสงเหนือและก็ไม่กลับมาอีกเลยครับ (คิดไปเองแบบเว่อร์ๆ ไว้ก่อน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่) เพราะงั้นป้องกันเอาไว้ก่อนด้วยการบอกปัดหยกทางไลน์ดีกว่า
ทว่าดูเหมือนมันจะไม่ได้ผลเอาซะเลย เพราะเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหยกก็เพิ่งทักมา

"มึงไม่ต้องคิดให้มันยากเลยเพื่อน" ไอ้กูรูด้านความรักอย่างไอ้โชคขอทำหน้าที่อีกครั้ง "เพราะเขาเห็นว่ามึงจริงจังกับคนนี้มากไง เขาถึงยิ่งอยากกลับมาหามึง เหมือนมาคิดได้ทีหลัง"

"สมัยฟืนกูก็จริงจังนะ" ผมพูดลอยๆ

"มึงจริงจังแต่ดูยังไงมึงก็นกไง เขาก็เลยยังไม่กลับมา"

"เดี๋ยว นี่มึงว่ากูป่ะเนี่ย"

"หน้าอย่างพี่ดินยังนกเลยเนอะ" ไอ้อ๊อฟเคาะตะเกียบเล่นๆ ผมชูกำปั้นใส่มันเป็นเชิงขู่ "ผมกับเพื่อนก็คุยกันอยู่ ใจพี่ดินน่ะเป็นของสตาร์แน่นอนอยู่แล้ว แต่ที่จะทำให้รักกันยากขึ้นคืออดีตของพี่ดินนี่แหละ"

"ยังไงนะ"

"นอกจากพี่หยกแล้ว ยังมีใครที่เป็นอดีตของพี่ดินอีกป่ะครับ เท่าที่จำได้ ผมว่าเยอะเลยนะ"

ผมกระพริบตาปริบๆ มองดูทั้งสามคนพากันวิเคราะห์อย่างจริงจังราวกับพวกมันกำลังเล่นหุ้น

"มันคบกับหยกนาน แต่ระหว่างนั้นมันก็มีกิ๊กเยอะมากมหาศาลล้านแปด" ไอ้ไผ่

"มันไม่เอาเขา แต่ผู้หญิงพวกนั้นอยากได้มันไง ช่วงนั้นหยกปวดหัวน่าดู" ไอ้โชค

"พี่ดินเป็นเสือเหรอครับนี่" ไอ้อ๊อฟ

"เดี๋ยวๆๆ มันก็แค่อดีตป่ะวะ ตอนนั้นกูก็ยังเด็ก กูปฏิเสธใครไม่ค่อยเป็นหรอก" ผมงึมๆ งำๆ "ถ้าคนที่เข้ามามีแต่สวยๆ พวกมึงจะอดใจไหวมั้ยล่ะ"

"นั่นไง" ไอ้อ๊อฟตบเข่าดังฉาด "วิถีคนหล่อจริงๆ ไม่ใช่พี่ดินนี่ทำไม่ได้นะ"

"จะยังไงก็ช่าง มันเป็นแค่อดีตแล้วเว้ย"

"..."

"ตอนนี้กูชอบสตาร์มาก มีอะไรหลายๆ อย่างในตัวมันบอกกูว่ามันคือคนที่ใช่สำหรับกูว่ะ"

"นี่มึงกะคบคนนี้จนถึงตอนแต่งงานเลยเหรอ" ไอ้โชคดูทึ่งๆ

"ถ้าใช่จริงกูก็พร้อมจะหยุด"

"แม่เจ้า" ไอ้ไผ่ตกตะลึง "นี่คือคำพูดของเด็กอายุสิบแปดเหรอ กูขอซูฮกเลย"

ผมพูดความจริงอ่ะ แต่ไม่เห็นมีใครเชื่อถือผมเลยสักคน แม้กระทั่งไอ้โชคที่เป็นเพื่อนสนิทผม นี่ผมชักจะคิดมากแล้วนะว่าผมคงดูไม่น่าเชื่อจริงๆ ขนาดเพื่อนผมยังไม่เชื่อผมเลย นับประสาอะไรกับสตาร์ล่ะ แต่เอาเถอะ เวลานี้ผมควรโฟกัสกับอาหารตรงหน้าที่เพิ่งมาเสิร์ฟก่อน เรื่องสตาร์เก็บไว้กังวลทีหลัง

เสือดินนั้นมันก็แค่อดีต ตอนนี้ผมพร้อมที่จะเป็นแมวตัวผู้ที่แสนจงรักภักดีของใครสักคนแล้วล่ะครับ










เคยมั้ยครับเวลาเจอใครในสยามโดยบังเอิญแต่เขามักจะไม่ใช่คนที่เราหวัง

ผมกำลังเผชิญกับเหตุการณ์นั้นอยู่ เดินเล่นกับเพื่อนๆ อยู่ดีๆ ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ จะถูกหยกกับสาวๆ โรงเรียนเดียวกันเดินเข้ามาทัก!
ไอ้พวกที่มากับผมก็ตาวาวกันใหญ่เพราะของขาวมาเสิร์ฟให้เป็นอาหารตาถึงที่ แต่ผมเนี่ยดิถึงกับตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ผมไม่เคยคิดว่าจะมาเจอหยกที่นี่ หยกทำเหมือนคำปฏิเสธของผมไม่มีผลใดๆ กับเธอเลยสักนิด ยังทำเหมือนเรายังเป็นเพื่อนกัน ไม่สิ ดูจากแขนที่เธอมาควงผมแล้ว ผมคิดว่าเธอกำลังทำเหมือนสมัยที่เราเป็นแฟนกันเด๊ะ

"ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมาเจอดินที่นี่ คิดว่ากำลังอ่านหนังสืออยู่บ้านซะอีก" หยกยิ้มแป้น ในขณะที่ผมนั้นได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ กลับคืนไป

"ก็มันเครียดอ่ะ เลยออกมาผ่อนคลายบ้าง" ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากไอ้สามคนที่เหลือ พวกมันส่ายหน้าดิกคล้ายกับเป็นโรคภูมิคุ้มกันสตรีต่ำ ไม่ค่อยได้ออกไปเจอผู้หญิงโดยเฉพาะผู้หญิงสวยๆ ก็เลยทำตัวไม่ค่อยจะถูก แต่อย่าไปวางใจคนพวกนี้ครับ แม่งก็เสือกันทั้งนั้น ไอ้โชคก็เสือคนหนึ่ง ไอ้ไผ่นี่ก็ใช่ย่อยเลย

พวกมึงช่วยกูบ้างดิวะสาดดดด

"กำลังจะไปไหนกันคะ พวกเรากำลังจะไปดูหนังพอดีเลย ไปด้วยกันเปล่า"

"เอ่อ...คือ...พวกเรากำลังจะพาน้องไปซื้อรองเท้าน่ะ" ผมคว้าไหล่ไอ้อ๊อฟมา "มันรีบๆ ด้วย ถ้ายังไงเดี๋ยวไปก่อนนะ"

"งั้นก็ไปด้วยกันสิคะ หยกก็อยากไปดูรองเท้าเหมือนกัน จะไปร้าน X กันใช่มั้ย รู้นะ" หยกหันไปหาเพื่อนๆ ของเธอ "พวกแกไปกันเลย เดี๋ยวฉันไปกับดิน"

เฮ้ย ถามผมหรือยัง

"คือว่า..." ผมพยายามหาข้ออ้าง แต่สาวๆ เพื่อนของหยกโบกมือลาและเดินหนีเธอไปเป็นที่เรียบร้อย ปล่อยให้หยกยืนอยู่กับชายวัยรุ่นทั้ง 4 คนอย่างพวกผมโดยไม่ห่วงสวัสดิภาพของเพื่อนใดๆ ทั้งสิ้น

ถ้างั้นแบบนี้ก็แปลได้อย่างเดียวครับ นั่นคือหยกต้องไปกับผมอย่างไม่มีเงื่อนไข

"เอาไง" ไอ้โชคดูตกตะลึง "ไปร้าน X ใช่ป่ะ"

ทุกคนงุนงงกับโปรแกรมที่กะทันหันโคตรๆ อันนี้ ผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่ไอ้โชคจะเป็นคนเดินนำทุกคนไปที่ร้านขายรองเท้าที่วัยรุ่นสยามหลายคนชอบไป

"ดินดูเซอร์ไพรส์ที่เจอหยกเนอะ"

"มาก" ผมรับคำ "หยกไม่ได้เตรียมสอบอะไรเหรอ"

"หยกคิดว่าจะเรียนมอเอกชนใกล้บ้านน่ะ"

"สบายเลยสิ"

"ก็ไม่สบายเท่าไหร่หรอก ยังไงก็ต้องยื่นคะแนน"

"อ๋อ เหรอ"

"แล้วดินล่ะ ยังอยากเรียนวิศวฯ เหมือนเดิมป่ะ"

"ยังจำได้เหรอ"

"ได้สิ ดินอยากเรียนคณะนี้มาตั้งแต่ ม.ต้นไม่ใช่เหรอ อยากเรียนตามพี่ชายของดิน พี่ภูพานไง"

ความจริงอีกข้อหนึ่งที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับตัวผมคือผมมีพี่ชายครับ เป็นฝาแฝดด้วย ชื่อ 'ภูพิงค์' กับ 'ภูพาน' พวกมันแก่กว่าผม 3 ปี สองคนนี้ไม่ได้มีผลกับชีวิตผมเท่าไหร่ผมก็เลยไม่ได้กล่าวถึงตั้งแต่ต้น ตอนนี้ภูพิงค์ไปเรียนถ่ายรูปที่ฝรั่งเศส ส่วนภูพานไปเรียนวิศวฯ อยู่อเมริกา ไม่ได้กลับบ้านมานานมากแล้วครับ

การที่สองคนนี้ไปเรียนอยู่ไกลบ้านมากๆ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พ่อกับแม่ประกาศิตให้ผมต้องเรียนอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น ที่สำคัญต้องอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย

"จริงๆ ก็ไม่ได้อยากเรียนตามไอ้พานหรอก แต่เราชอบจริงๆ น่ะ" ผมพูดจากใจ

"หยกเอาใจช่วยนะ ได้สมัครมอ C อยู่ใช่ป่ะ"

"สมัครๆ"

"ใกล้แล้วสิเนอะ สู้ๆ นะ"

ไม่ได้คุยกันตั้งนาน แต่พอได้คุยกันอีกครั้งก็ยังคุยกันได้ลื่นแบบนี้เลยเหรอ รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันแฮะ ผมไม่ได้ติดต่อกับหยกมานานมากแล้วอย่างที่บอก จู่ๆ เธอก็กลับเข้ามาในชีวิตผมคล้ายกับว่ารอคอยจังหวะมานานแล้ว แต่ไม่ว่าผมจะคุยกับเธอได้ไหลลื่นมากมายแค่ไหน ผมก็ชอบสตาร์ไปแล้ว

ผมเป็นคนรักใครรักจริงซะด้วยสิ








ร้าน X

แม่ง วันนี้มีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นกับผมอีกแล้ว และเป็นเรื่องบังเอิญที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นเหมือนกัน

สตาร์ที่ผมไม่ได้เห็นหน้ามานานกำลังลองรองเท้าอยู่ในร้าน X เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นคือคนที่มาเป็นเพื่อนมันดันเป็นคนที่ผมไม่อยากให้มาด้วยที่สุด

ไอ้เรย์

ตัวผมแข็งทื่อ มือของผมกำหมัดโดยอัตโนมัติ ไอ้โชคที่รู้ใจผมดีรีบเข้ามาคว้าตัวผมเอาไว้ มันกลัวว่าผมจะไปดึงสองคนนั้นแยกออกจากกัน

"เชี่ยดิน มึงใจเย็น"

"กูไม่เย็นแล้ว"

"มันอาจจะไม่มีอะไร น้องมันมาซื้อรองเท้า"

"มาซื้อกับกูก็ได้นี่ ทำไมต้องมากับไอ้ห่านั่นด้วยวะ"

"มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมไม่เดินเข้าไปในร้านล่ะ" หยกดูงงๆ ว่าทำไมพวกผมถึงพากันยืนอยู่หน้าร้านกันหมด

ผมฟึดฟัด พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้มากที่สุด แต่ยิ่งมองเข้าไปในร้าน ผมก็ยิ่งสัมผัสได้ว่าตัวเองฟิวส์ใกล้จะขาดเต็มที ไอ้เรย์มันดูแลสตาร์ดีมาก ดูแลอย่างกับเจ้าหญิง หยิบรองเท้าคู่นั้นคู่นี้มาลองใส่ให้อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย

นั่นสตาร์โว้ย ไม่ใช่ซินเดอเรลล่า

"เอาไงดีพี่" ไอ้อ๊อฟกระซิบกับผม "นั่นพี่เรย์เลยนะ สี่คนไม่น่าไหว"

นี่มึงกะจะรุมไอ้เรย์เลยหรือไง "สำหรับไอ้เรย์แค่กูคนเดียวก็พอแล้ว"

"พี่จะทำยังไง จะเข้าไปเลยมั้ย"

"ไม่รู้ว่ะ"

ผมยังไม่มีสิทธิ์หวงหรือหึงสตาร์ เพราะงั้นผมถึงทำตัวไม่ถูก ผมรู้ว่าตัวเองกำลังอารมณ์เสีย แต่ถ้าผมเข้าไปขัดขวางสองคนนั่น สตาร์ก็คงจะคิดว่าผมเป็นคนที่ไร้เหตุผล งี่เง่า อะไรเทือกๆ นั้น

"ดิน คู่นี้เป็นไงคะ" หยกผู้ไม่รู้เรื่องอะไรเลยหยิบรองเท้าผ้าใบสีชมพูเขย่าอยู่อีกฟากกระจกกั้น เธอเข้าไปในร้านตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมกับคนอื่นๆ งงมาก และที่งงไปกว่าพวกผมก็คือคนที่กำลังลองรองเท้าอยู่

สตาร์เห็นผมแล้ว มันดูตกอกตกใจไม่น้อย ในขณะที่ไอ้เรย์เลิกคิ้วมองผมอย่างเอาเรื่อง ราวกับผมเป็นตัวขัดขวางช่วงเวลาสวีทวิดวิ้วของมัน

กูไม่ได้มาขวางโว้ย

แต่กูมาทำลาย...

"รองเท้าจะสวยมั้ยก็ต้องเข้ามาดูใกล้ๆ ดิ" ผมเดินเข้าไปในร้าน จากนั้นก็พูดกับหยกด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานมากขึ้น
 
ไอ้โชคทำท่านวดขมับ จากนั้นก็พึมพำๆ เข้าหูผมว่า "วอร์แน่ๆ ไอ้เหี้ยเอ๊ย"

ในเมื่อผมทำอะไรไม่ได้ก็วอร์แม่งเลยแล้วกัน

คนอื่นๆ พากันยืนรออยู่หน้าร้าน ผมเข้าไปกับหยกแค่สองคน ในร้านคนที่เป็นลูกค้าอยู่มีผม หยก สตาร์ และก็ไอ้เรย์ จู่ๆ ร้านก็ไม่มีลูกค้าคนอื่นราวกับจงใจให้ผมก่อสงครามชัดๆ

สงครามที่ไม่ว่าผมจะมีพกอาวุธมามากมายแค่ไหน ผมก็แพ้

"บังเอิญเนอะ" ไอ้เรย์ทำหน้าไม่สบอารมณ์

"พี่เรย์ว่าคู่นี้เป็นไงครับ" สตาร์ขยับเท้าไปมาด้วยท่าทางน่ารักๆ

ผมกำหมัดแน่นอีกแล้ว

"สีชมพูหรือว่าสีฟ้าดีคะดิน" หยกผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ถามความเห็นผม

"สวยๆ แบบหยกเหมาะกับสีชมพูที่สุดแล้ว" ผมยิ้ม

"สีขาวหรือสีดำดีครับพี่เรย์" สตาร์ถามเรย์เสียงดัง

"สตาร์ชอบสีไหนล่ะ ถ้าชอบทั้งคู่ก็ซื้อสองคู่ไปเลย เดี๋ยวพี่จ่ายเอง"

ทำไมมึงต้องทำตัวป๋าวะเรย์ มึงรวยเพราะมึงไปไถตังค์รุ่นน้องโรงเรียนกูอ่ะดิ ฟายยยยยย

"งั้นหยกลองสีชมพูนะ"

"สีขาว" ผมพูดกับเธออย่างไร้สติ

"หา" หยกทำหน้าไม่เข้าใจ "ที่หยกถือมีแต่สีฟ้ากับสีชมพูนะคะ"

เฮ้ย นี่ผมเพิ่งปล่อยไก่ไปเหรอวะ คำว่าสีขาวลอยเข้าหูสตาร์แน่ๆ เพราะร้านมันก็ไม่ได้ใหญ่มากมายอะไร

"พี่เรย์"

"..."

"ผมซื้อสีขาวนะครับ เดี๋ยวผมจ่ายเอง"

สตาร์กำลังเดินไปจ่ายเงินค่ารองเท้า ในขณะที่ผมทิ้งตัวนั่งลงแทนที่มันด้วยท่าทางเครียดๆ หยกนั่งลงข้างผม กำลังลองรองเท้าสีชมพูอยู่ เธอลองไปด้วยและก็พูดไปด้วย

"ไหนดินบอกน้องจะมาร้านรองเท้าไง ทำไมน้องไม่เข้ามาล่ะ"

ผมได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ ให้เธอ ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะแก้ตัวอะไรทั้งนั้น ตอนนี้ไอ้โชค ไอ้ไผ่ และก็ไอ้อ๊อฟทุกคนต่างก็ยืนลุ้นอยู่หน้าร้าน ทำท่าเหมือนกลัวผมจะเผาร้านเขายังไงยังงั้น ไม่มีใครสนใจเรื่องที่เคยโกหกหยกเอาไว้เลยสักคนครับ

สายตาของผมมองไปยังไอ้เรย์ที่ยื่นมือไปช่วยสตาร์ถือของ ผมนึกไปถึงตอนที่สตาร์ส่งโพสต์อิทมาขอความช่วยเหลือ การกระทำของมันในตอนนี้ช่างย้อนแย้งกับข้อความนั้น มันไม่ได้มีท่าทีลำบากใจที่จะได้อยู่กับไอ้เรย์ ตรงกันข้ามมันกลับมีความสุขดีด้วยซ้ำ
บางทีที่ผ่านมาผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ว่ามันเองก็แอบมีใจให้ผมไม่มากก็น้อย ยิ่งเราสองคนแทบไม่ได้คุยกันเป็นเวลานานมากแบบนี้ ผมว่าไอ้เรย์มันคงชิงทำคะแนนไปจนได้ใจสตาร์ไปแล้วล่ะมั้ง

จากที่สตาร์เกลียดกลายเป็นสตาร์รักอะไรแบบนั้น

ส่วนผมก็เปลี่ยนจากคนจีบกลายเป็นคนที่มันไม่รู้จัก

แค่ไม่ได้คุยกันเลย สตาร์กลายเป็นคนแบบนี้ไปแล้วเหรอวะ #สามวันจากสตาร์เป็นอื่น

"ถ้าน้องไม่เข้ามาเลือกหยกจะออกไปแล้วนะ หยกเกรงใจคนที่มายืนรอน่ะ" หยกพูด

"โอเคครับ"

หยกเดินสวนกับสตาร์และก็เรย์ สองคนนั้นมองมายังผม จากนั้นก็เดินจากไป ไร้ซึ่งคำทักทายใดๆ

มันจะเป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ เหรอวะ








กว่าจะสลัดหยกได้ เรียกได้ว่าผมกับคนอื่นเหนื่อยโคตรๆ

หยกคือสายช็อปที่แท้จริงครับ ไม่เอารองเท้าร้าน X เธอก็ไปดูรองเท้าร้านอื่น ผมเกรงใจพวกที่มากับผมมาก แต่พวกมันดันลงความเห็นกันว่าอยู่เป็นเพื่อนผมนี่แหละน่าจะดีที่สุด ถึงพวกมันจะรู้อยู่แก่ใจว่าหยกอยากอยู่กับผมสองคนก็ตามทีเถอะ

ไอ้โชคบอกว่าถ่านเก่ายังร้อน ไม่หมดเชื้อไฟง่ายๆ ผมก็เลยด่ามันไปหลายคำ มันจึงตอบกลับผมมาว่าถ่านเก่าที่ยังร้อนน่ะไม่ใช่ผมแต่เป็นหยกต่างหาก

หยกไม่ได้มาเล่นๆ แน่ หยกมาเพื่อที่จะทวงผมคืนชัดๆ

หลังจากที่แยกกับหยก ผมก็แยกกับไอ้อ๊อฟและไอ้ไผ่ ไอ้โชคยังตัวติดกับผมเพราะมันติดรถผมมาที่สยามด้วย เราสองคนเมื่อได้อยู่ด้วยกันตามลำพังก็ชอบชวนกันไปต่อนั่นไปต่อนี่ วันนี้ก็เช่นกัน ไอ้โชคบอกว่าอาจจะลากผมไปที่บาร์เพื่อนพ่อแห่งหนึ่งสักหน่อย

อารมณ์ผมในตอนนี้ดิ่งขั้นสุด ผมตอบรับคำชวนของมันอย่างไม่ลังเล

ระหว่างที่ผมกับโชคกำลังเดินกลับไปที่รถ ผมก็ทันเห็นเงาของสตาร์อยู่แวบๆ มันแยกกับเรย์แล้วเหรอวะ

"เดี๋ยวกูมา" ผมบอกเพื่อน

"เออ กูสั่งยำอยู่แถวๆ นี้นะ"

"อืมๆ"

สั่งยำที่ว่าก็คือสูบบุหรี่นั่นแหละครับ บางครั้งมันก็ใช้คำว่าสูบยา แต่จะพูดว่าสูบยาก็ตรงไป กลัวคุณครูจะได้ยิน ก็เลยใช้คำว่าสั่งยำจนกลายเป็นความเคยชิน ผมพยักหน้าจากนั้นก็รีบเดินไปหาสตาร์ที่น่าจะกำลังเดินไปที่รถของตัวเองอยู่ รถที่คนขับรถหล่อเหมือนนายแบบ

"สตาร์" ผมเรียก คนถูกเรียกหันมา เมื่อเห็นว่าเป็นผมมันก็ตั้งท่าจะเดินหนี "เฮ้ย คุยกันก่อนดิ"

"ผมรีบครับ"

"พี่ก็รีบ"

"พี่จะไปไหน"

"พี่อยากคุยกับเราให้รู้เรื่อง"

"..."

"ตกลงกับไอ้เรย์นี่มันยังไง ชอบหรือเกลียดมัน เลือกมาสักอย่าง" ผมเริ่มเสียงดังด้วยความโมโห

"เฉยๆ ได้มั้ยครับ" สตาร์ตอบส่งๆ

"ไม่ได้"

"งั้นผมชอบ"

"..."

"ผมชอบพี่เรย์"

ผมอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง

"รู้แล้วใช่มั้ย ผมไปแล้วนะ"

หมับ

ผมรีบคว้ามือของสตาร์เอาไว้พร้อมกับบีบแน่น

"ผมเจ็บ" สตาร์ทำหน้าแหย แล้วผมก็ผมได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามาหา ก็คนขับรถของสตาร์นั่นแหละ พี่สมัยทำท่าจะเข้ามาดึงตัวผมออกจากคุณหนูของเขา "พี่สมัยไม่ต้องครับ"

คนถูกกระทำอย่างสตาร์ปฏิเสธคนที่เข้ามาช่วยเหลือ ผมรู้สึกผิดจนต้องปล่อยมือ เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองออกแรงมากไปจนมือของสตาร์แดงก่ำ

"ตกลงเรื่องของเราสองคนคืออะไรวะ" ผมโวยวาย "พี่งงไปหมดแล้ว บอกพี่มาดิ"

"มันเคยมีอะไรด้วยเหรอครับ"

"สตาร์เป็นอะไร ทำไมต้องแปลกๆ ไปด้วยล่ะ"

"พี่แหละแปลก ทำไมต้องควงหญิง"

"พี่มากับเพื่อน ไม่เห็นเพื่อนพี่เหรอ"

"ไม่เห็น"

"ตาถั่วแล้ว"

"ใช่ ผมตาถั่ว ตาถั่วที่คิดว่าพี่จะกลายเป็นความสุขของผม ตาถั่วที่คิดว่าพี่คือคนที่จะทำให้ผมกลับมายิ้มได้อีกครั้ง"

"..."

"พี่แม่งก็ไม่ต่างอะไรจากพวกผู้ชายที่หักอกผมหรอก"

ผมตกตะลึงเกินกว่าจะคว้ามือของสตาร์ไว้ได้ทัน พี่สมัยรีบเข้ามาดูแลสตาร์อย่างรวดเร็วพร้อมกับถลึงตามองผม ผมหงุดหงิดไปหมดจนเตะเสาแถวนั้นอย่างไม่แยแสว่าเสาจะแข็งแค่ไหน ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วทั้งขา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เท่าความเจ็บปวดที่อยู่ในใจของผม

คำว่า 'ผมชอบพี่เรย์' ลอยอยู่ในหัวผมซ้ำๆ อยู่แบบนั้น มันทำให้เท้าของผมหยุดชะงักอยู่กับที่ ทั้งร่างไม่มีปฏิกิริยาใดๆ มีเพียงแต่สายตาของผมที่มองไปยังแผ่นหลังเล็กของสตาร์ซึ่งห่างออกไปทุกทีๆ

หรือเรื่องของเราสองคนจะไม่เคยมีอะไรจริงๆ อย่างที่สตาร์พูด








[พาร์ตของโชค]

แคปชั่นใต้รูปอินสตาแกรม Chok_luck

'รอเก็บศพไอ้ดิน'

ณ ร้านบาร์สุราลัย

สวัสดีครับผมโชคเอง เป็นเพื่อนของไอ้ดิน พระเอกของเรื่องนี้ และตอนนี้มันก็กำลังกรึ่มๆ ใกล้จะเมาเข้าไปทุกที พวกเรากำลังอยู่ที่ร้านบาร์สุราลัยซึ่งเจ้าของรู้จักกับพ่อผม เจ้าของร้านเป็นรุ่นน้องโรงเรียนของพ่อที่ค่อนข้างสนิทกัน ผมก็เลยให้พ่อโทรไปขอให้เด็กที่อายุยังไม่ถึง 20 อย่างพวกผมได้ดื่มแอลกอฮอล์กันในวันนี้

พ่อบอกว่ากว่า 'คุณเกล้า' เจ้าของร้านจะยอมเรียกได้ว่าขอแทบตาย คุณเกล้าไม่สนับสนุนให้เยาวชนดื่มตั้งแต่อายุยังน้อย แต่พ่อของผมกระซิบบอกว่าจริงๆ แล้วคุณเกล้าเขากลัวว่าลูกชายที่อายุอานามใกล้เคียงกันกับผมจะมาเห็น และก็จะโวยเมื่อเห็นว่าคุณเกล้าให้ผมดื่มได้ แต่ทำไมให้ลูกชายดื่มไม่ได้ เดี๋ยวจะดราม่าไปอีก

สรุปคือห่วงลูก ไม่ได้ห่วงเด็กอย่างผม

ประเด็นนั้นช่างมันก่อนเถอะครับ ตอนนี้ไอ้ดินกำลังคอพับอยู่หน้าบาร์ที่มีบาร์เทนเดอร์สวมเสื้อเป็นตัวเลข 7 กับ 9 อีกไม่นานเพื่อนผมมันก็คงจะกลายเป็นศพ และผมนี่แหละที่จะเป็นคนคอยเก็บศพมัน ดีนะที่พ่อบอกกับคุณเกล้าเอาไว้ว่าถ้าเด็กสองคนนี้เมาพับทั้งคู่ รบกวนเด็กที่ร้านไปส่งให้หน่อย คุณเกล้าก็ใจดี๊ดี รับคำอย่างว่องไวเลยทีเดียว

ไอ้ดินมันกำลังมีเรื่องเครียด ผมเข้าใจดี ตอนที่มันแยกไประหว่างที่ผมสั่งยำ ผมรู้ว่ามันเห็นน้องดาวเลยปล่อยให้มันคุยกับน้องดาวตามลำพังอย่างเต็มที่ ใครเล่าจะรู้ว่าตอนที่กลับมาหาผม มันจะกลายเป็นหมาบ้าที่เตะนั่นเตะนี่ไปเรื่อยซะแล้ว

คู่มันถือว่าเป็นอะไรที่ต้องใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจสูงมากครับ มันสองคนติดต่อกันได้แค่ทางไอจีซึ่งก็คงได้แต่ไลค์กันไปไลค์กันมา ต่างคนต่างไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหนหรืออยู่กับใคร ไอ้ดินมันบ่นคิดถึงน้องอย่างนั้นอย่างนี้ พอมันมาเจอว่าน้องอยู่กับคนที่มันไม่ชอบ มันก็เลยโมโห ส่วนฝั่งของสตาร์ ผมเดาว่าคงผูกใจไว้กับไอ้ดินไปแล้ว ไม่คิดว่าไอ้ดินจะมาควงผู้หญิงให้เห็น

พอสองคนมาเจอกัน ทุกอย่างก็เลยระเบิดออก กลายเป็นสงครามที่แท้จริง

เชี่ยดินแม่งขี้ประชดครับ สมัยมันคบกับหยก ตอนที่หยกมีกิ๊ก มันก็มีเป็นสองเท่า คนอย่างมันก็แบบนี้แหละ ยิ่งคนไหนมันให้ความรู้สึกไปมาก มันก็ยิ่งโมโหง่ายมาก ตอนนี้น้องสตาร์ก็เลยโดนมันประชดใส่เต็มๆ แล้วเป็นไงทีนี้...เละเทะแม่งทั้งคู่

ผมไม่รู้หรอกว่าฝั่งสตาร์จะเป็นไง แต่ที่แน่ๆ ผมรู้ดีว่าเพื่อนผมแม่งกำลังแย่ เอาแต่ยกเอาๆ แบบไม่แคร์ว่าจะตอบคำถามพ่อกับแม่ที่บ้านยังไง

เรื่องนี้ต้องคุยกับพรรคพวกสักหน่อยแล้ว

ว่าแต่ใครมาเปลี่ยนชื่อกรุ๊ปไลน์อีกล่ะวะ อ๋อ ไอ้ดินเจ้าเก่านั่นเอง

กรุ๊ปไลน์ 'คิดถึงสตาร์'

CHOK : ดินมันเมาแล้ว

FUEN : สตาร์เองก็แย่ครับ

AOF : เฮ้ย ทำไมมึงรู้

FUEN : เนี่ย กูคุยไลน์กับมันอยู่

TANG : ผมนี่สวดมนต์เลย

PHYSICS : ทุกคนใจเย็น
PHYSICS : กูส่งโลเกชั่นร้านไปให้สตาร์แล้ว


ข้อความจากไลน์ไอ้น้องสิกแม่งพีคทุกข้อความสิน่า ผมอ้าปากค้างอย่างทึ่งๆ สตาร์จะมาที่นี่เหรอวะ เมื่อคิดได้ผมก็ฝากไอ้ดินไว้กับพี่ๆ บาร์เทนเดอร์ก่อนที่จะเดินไปยังหน้าร้านเพื่อคุยกับซีเคียวริตี้ที่มีเบอร์ติดเป็นเลขสิบกว่าๆ

ร้านนี้แม่งให้พนักงานใบ้หวยว่ะ

สตาร์ลงมาจากรถตอนที่ผมกำลังคุยอยู่พอดี สีหน้าของสตาร์ทั้งตกใจและก็หนักใจ

"พี่ดินอยู่ไหนครับ"

"อยู่ข้างใน" ผมเสียงสั่นเล็กน้อย ปกติเคยคุยกับน้องดาวใกล้ขนาดนี้ที่ไหน "สตาร์มาทำไม จะมารับมันไปเหรอ เข้าไปในร้านก่อนมั้ย"

"เปล่าครับ ผมแค่..." มือของอีกฝ่ายกำอะไรบางอย่างแน่น จากนั้นก็ส่งมาให้ผม "เอาไอ้นี่มาให้พี่ดิน"

โพสต์อิตเนี่ยนะ ผมเกาหัวแกรกๆ อย่างงงๆ นึกสงสัยว่าสตาร์นั่งรถมาตั้งไกลเพื่อส่งโพสต์อิตแค่ใบเดียวทำไม แต่เมื่อคิดๆ ดูไอ้โพสต์อิตที่ว่านี่คงเป็นสัญญาใจของไอ้ดินกับสตาร์แน่ๆ เลย เพราะเห็นไอ้ดินมันมองสิ่งนี้ตลอดเช้าสายบ่ายเย็น

"อืม เดี๋ยวพี่เอาไปให้นะ"

"..."

"มาแค่นี้เหรอ"

"ครับ"

"เพื่อนพี่มันเป็นคนที่ชอบใครแล้วก็จะชอบจริงๆ นะ"

"ครับ"

"..."

"ผมไปนะ"

ผมถอนหายใจ มองดูสตาร์ขึ้นรถกลับไป รู้สึกหนักใจยังไงก็ไม่รู้ชอบกล

แต่พอได้เห็นข้อความในโพสต์อิตผมก็ถึงกับหลุดยิ้มออกมา

ไอดีไลน์ตัวที่ 8
L
ผมขอโทษครับพี่ดิน ผมใช้อารมณ์มากไปหน่อย
เริ่มกันใหม่ได้มั้ย...


ถ้ากูเอากระดาษใบนี้ไปเผาไอ้ดินจะฆ่ากูมั้ยวะเนี่ย

ไม่รู้แหละ กูอิจฉาคนมีคู่โว้ยยยย

[จบพาร์ตของโชค]







TBC*




ดราม่าเด็กๆ เจ็บๆ คันๆ ><
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 06-02-2018 21:22:47
เด็กๆไม่ประชดกันค่ะลูกกก กลับมาดีกันเร็ววว
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 06-02-2018 22:24:11
เนี่ยๆ ใจร้อนทั้งคู่ ....  :a5:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: kredkaew26 ที่ 06-02-2018 22:36:48
โอ้ยยยยยยยยย คืออะไรกันคะ จะประชดกันเพื่ออออออออออ   อีพี่ดิน น้องดาวมาง้อแล้ว รีบเงยหน้ามาเคลียร์เลยนะ  ฮื่มม!
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 06-02-2018 23:24:42
สนุก  น่ารัก  ชอบมาก
จบแล้ว  พิมพ์พร้อมกัน2เล่มเลยนะ
สิกส์  ฟืน  กับสตาร์  ดิน  รอซื้อจ้า
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: cookie12ck ที่ 06-02-2018 23:26:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-02-2018 00:00:35
ที่เคืองกันเพราะหยกกับเรย์ใช่ป่ะ  งั้นบูบู้ช่วยรวมพล 5/1 จับยัยหยกไป Ft. กับตาเรย์เลยไป จะได้หมดปัญหา  :hao3:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-02-2018 00:20:13
อย่าประชดกันเลย ดีกันเถอะ มีไรก็พูดกันดีๆนะ

คิดถึงคุณเกล้า กันต์แล้วก็น้องกุนซือจังเลย
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 07-02-2018 00:48:15
สตาร์น่าโมโหกว่ามั้ยอ่ะตัวเองมีช่องทางมีเพื่อนที่ติดต่อดินได้ทุกทางแล้วยังทำตัวแบบนี้อ่ะ
แล้วดินมีใครให้ถามให้ได้แก้ตัวบ้างมั้ยอ่ะมีแค่ตามไอจีน้องกับกรุ๊ปไลน์ให้รู้ว่าน้องทำอะไรแค่นั้นอ่ะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-02-2018 01:44:20
วัยรุ่นเลือดทันพล่านนะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 07-02-2018 02:05:01
โอ้ยย อย่าทำโพสอิทหายนะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-02-2018 09:25:06
ดีกันเร็วนะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 07-02-2018 10:35:12
โอ๊ยยยยน่ารักอ่ะ เด็กๆใจเย็นๆนะ ค่อยคุยกัน
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: TOR.SOR.7 ที่ 07-02-2018 23:34:53
คิดถึงกุนซือ เด็กอ้วน โตแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 10-02-2018 14:11:46
มาอ่านรวดยาวๆ หน่วงในอกพี่เหลือเกินลูกเอ๊ย T^T
ชื่อไลน์สตาร์ต้อง Twinkle little star แน่ แต่นี่มี 17 ตัว อีก 3 คือตัวไรไม่รู้ 5555
ทำไมชะนีต้องโผล่มาา เรย์อยู่เบื้องหลังมั้ยนี่  :z6:
รีบๆ คืนดีกันนะ ชอบตอนคู่นี้หวานกันมาก เด็กๆ ช่างกร๊าวใจ :-[
โผล่ร้านบาร์ฯ ให้คิดถึงหน่อยๆ ด้วย กุณซืออออ 5555
รอตอนหน้าค่า มาต่อไวๆ นะคะพี่เค้ก ><
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 14-02-2018 09:09:33
พี่ดินน้องดาวน่ารักมากเลยอ่า :sad4:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: knxiiviii ที่ 14-02-2018 20:22:20
ถ้าเอาไปเผาจริง ก่อนโชคจะโดนพี่ดิน ก็โดนนักอ่านนี่แหละรุมก่อน ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 18-02-2018 18:06:59




ตอนที่ 9






เริ่มกันใหม่ได้มั้ย...

เริ่มกันใหม่ได้มั้ย...

เริ่มกันใหม่ได้มั้ย...


ผมกำลังถูกง้อใช่มั้ยครับ ผมคิดว่าผมถูกง้อแน่ๆ ถึงวันนั้นภาพในหัวผมแม่งโคตรตัดก็ตามที เวลาหลังสามทุ่มในวันนั้นผมจำอะไรแทบไม่ได้เลยครับ ไอ้โชคบอกผมเมาอย่างหมา แต่ก็เป็นหมาที่ดี ไม่อาละวาด ไม่โวยวาย เอาแต่เงียบและก็พร้อมจะหลับ ซึ่งผมมองว่ามันเป็นเรื่องดีนะ อย่างน้อยก็ไม่ได้ลำบากเพื่อนแล้วกัน

ที่เขียนว่า 'เริ่มกันใหม่ได้มั้ย' ของสตาร์ไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง หลังจากวันนั้นที่เจอกันผมก็ถูกแม่สั่งให้เก็บตัวอยู่ในบ้าน ใกล้สอบแล้วต้องเอาจริงเอาจังสักหน่อย ซึ่งผมเองก็ทำตามสิ่งที่แม่ขอเป็นอย่างดี วันๆ เอาแต่อ่านหนังสือ แต่ในใจก็ยังนึกสงสัยว่าสตาร์จะง้อผมจริงหรือเปล่า ถ้าง้อผมทำไมมาแต่ข้อความในกระดาษล่ะ ทำไมไม่เอาตัวมาด้วย

สุดท้ายแล้วผมกับน้องมันจะมีอะไรบ้างที่ชัดเจน ไม่เห็นจะมีอะไรสักอย่างเลย

"เฮ้ออออออออ" ขอถอนหายใจแป๊บ

อีกไม่กี่วันจะเป็นวันเปิดเทอมสอง แต่ตัวผมตอนนี้อยู่ในสนามสอบของมอ C ที่สามารถบอกได้เลยว่าเป็นมหา'ลัยที่เด็ก ม.6 สมัครสอบตรงเยอะที่สุดในประเทศแล้ว ดูจากสถานที่สอบที่เป็นฮอลขนาดใหญ่ รวมไปถึงนักเรียนหลายพันหลายหมื่นคนที่กำลังทยอยเข้ามา

ผมยืนอยู่มุมหนึ่งกับไอ้ธนัช เราสองคนเป็นเด็กห้องสองที่มาสอบที่นี่เพียง 2 คน เพื่อนส่วนใหญ่ไม่ได้มีเป้าหมายจะเรียนที่นี่ มีแค่ผมกับไอ้ธนัชเลยโคตรไม่ชินกับการที่จะต้องมายืนอยู่กันแค่นี้ เพราะปกติแล้วเวลาออกนอกสถานที่กลุ่มผมจะเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดเสมอ

บอกเลยว่าแม่งโคตรเขินนนนนนนนนนน

"มากับมึงแล้วกูดับ" ไอ้ธนัชบ่น มันขยับขาขวาอยู่เรื่อยๆ คล้ายๆ กับคนตื่นเต้น "มีแต่คนมองมึง"

"กูยังไม่เห็นว่ามีใครมองกูเลย"

"แต่กูเห็นไง"

"..."

"สอบครั้งนี้มึงจริงจังมากป่ะวะ พ่อกูบอกถ้าเข้าไม่ได้พ่อจะเอาตาย พ่อเคยเรียนที่นี่ อยากให้กูมาเป็นรุ่นน้อง"

"โห กดดันสัด" ผมทำหน้าสงสารเพื่อน "กูน่ะเหรอ ถ้าได้ก็ดี" ใจผมนึกไปถึงคนที่โดดเรียนแล้วพาไปจ่ายตังค์ค่าสมัครสอบ...

"มึงได้อยู่แล้วเชี่ยดิน มึงเก่ง"

"ยังไม่ได้สอบเลย อย่าเพิ่งมั่นใจในตัวกูดิ"

ผมกับไอ้ธนัชคุยอะไรกันต่ออีกนิดหน่อย จนกระทั่งเสียงรอบข้างเงียบลง เคยสังเกตมั้ยครับเวลาที่คนซึ่งอยู่ในที่เดียวกันพุ่งความสนใจไปยังผู้ที่มาใหม่ เขาจะพากันเงียบหมดราวกับนัดกัน

คนที่เพิ่งเดินเข้ามาคือผมในเวอร์ชั่นแบด ไอ้เรย์ ผู้ซึ่งตอนนี้ผมเกลียดขี้หน้ามากที่สุดในสามโลก

ธนัชสะกิดเสื้อนักเรียนผมทันที

"อย่ามีเรื่องเชียว ห้ามไปสบตามัน มันมากันเยอะกว่า"

ไอ้เรย์กับเพื่อนยกขบวนกันมาสอบจริงๆ ด้วย นี่มึงขนกันมาทั้งห้องเลยหรือไงวะ แต่จะมากันกี่คนผมก็ไม่กลัว ถ้ามันมาหาเรื่อง ผมก็พร้อมจะเอาเรื่องไปเสิร์ฟให้มันถึงที่

มันจ้องผมเขม็ง ขณะที่ผมเองก็จ้องมันเหมือนกัน

"กูได้ข่าวมาว่ามันจะเอาน้องสตาร์ให้ได้เลยว่ะ" ธนัชพึมพำ "มึงก็ยุ่งกับน้องอยู่ไม่ใช่เหรอ กูคิดว่าหลังสอบเสร็จมึงรีบกลับบ้านเลยจะดีกว่านะ"

"นัช กูไม่กลัวหรอกเว้ย"

"กูรู้ว่ามึงไม่กลัว แต่มึงมีสองตีน ยังไงก็สู้สิบตีนไม่ได้ มึงไม่ใช่กัปตันอเมริกา"

"..."

"หรือจะให้กูโทรไปบอกไอ้เชี่ยโชคหาพวกมาเตรียมๆ ไว้ก่อน"

"ไม่มีเรื่องหรอก" ผมพูดให้ธนัชสบายใจ "มึงโฟกัสกับการสอบเหอะ ไม่ต้องห่วงกู"

"แน่นะ"

"แน่สิวะ"

"อืมๆๆ"

อีกไม่ถึงสิบนาทีเด็ก ม.6 ที่มาสอบต้องเข้าไปในห้องสอบแล้ว ไอ้เรย์กับผองเพื่อนปักหลักยืนอยู่ในที่ที่ไม่ไกลจากผม ดูเหมือนพวกมันเองก็คิดเหมือนกันคือถ้าจะมีเรื่องก็ไม่ใช่เวลานี้แน่นอน ยังไงก็เป็นเด็ก ม.6 เหมือนกัน ขอเข้าไปสอบก่อน สอบเสร็จค่อยว่ากันอีกที

ที่แน่ๆ ผมไม่หนีแน่ ผมบอกแล้ว ถ้ามันอยากมีเรื่อง ผมก็อยากมีเรื่อง หมั่นไส้มานานแล้ว ขอตั๊นหน้าสักทีเถอะ

ระหว่างที่ผมกำลังนึกฉากบู๊ระหว่างผมกับไอ้เรย์อยู่ในใจนั่นเอง เสียงรอบข้างของผมก็เงียบลงไปอีกครั้ง มีผู้มาใหม่อีกคนหนึ่งที่ดึงดูดสายตาของคนได้ทุกเพศไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง มันคนนั้นตัวขาวมาก ตัวเล็กมาก น่าทะนุถนอม ดูน่ารักตะมุตะมิไปซะหมด

ผมจะร่วมปลาบปลื้มที่ได้เห็นคนหน้าตาดีด้วยอยู่หรอก ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่...

"สตาร์"

กูจะบ้าตายยยยยยยยยยย

"อ้าวพี่เรย์"

สตาร์ที่ไม่ควรมาอยู่แถวนี้เดินเข้าไปหาไอ้เรย์เฉย! ผมกระพริบตามองดูภาพตรงหน้าด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ นี่น่ะเหรอคนที่ง้อผม ทำไมถึงมาหาไอ้เรย์ในวันสอบแทนที่จะมาหาผม

กูช็อก กูอึ้ง กูตะลึงไปหมดแล้วเว้ยยยยย!

"เชี่ยดิน" ธนัชรีบพูด เพราะมันรู้ว่าผมหัวร้อนไวขนาดไหน "มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้นะ"

เหมือนสตาร์หยิบหัวใจของผมที่ตกไปแล้วขึ้นมาจากพื้น จากนั้นก็โยนลงไปอีกครั้งแล้วก็กระทืบซ้ำ

ที่กูหวังมาทั้งหมดแท้จริงแล้วมันไม่มีอะไรเลยเหรอวะ

มันไม่ได้ง้อผม มันก็แค่ขอโทษไปส่งๆ และก็ทำตัวเหมือนเดิม

ผมผิดที่คิดไปเองทุกอย่าง










พักเที่ยง

"ฉิบหายละ"

"..."

"จะแดกข้าวไหนล่ะทีนี้"

ธนัชกับผมที่สอบภาคเช้าเสร็จแล้วมองดูมวลมหาชนที่จับจองพื้นที่ในศูนย์อาหาร บอกเลยว่าหาที่นั่งได้ยากมากและถ้ามัวแต่หาก็คงถึงเวลาสอบภาคบ่ายพอดี ผมไร้ความเห็นใดๆ จึงได้แต่เงียบกับเพื่อน อีกอย่างหนึ่งคือผมไม่สบอารมณ์ตลอดการสอบ หลังสอบเสร็จผมจึงไม่มีอารมณ์ร่วมใดๆ กับเหตุการณ์ที่ผมกำลังเผชิญ แม้ท้องจะหิวมากก็ตามทีเถอะ

"พี่ดิน"

เสียงของต้นเหตุที่ทำให้ผมสอบแทบไม่ได้ดังมาจากด้านหลัง ผมหันขวับกลับไปอย่างรวดเร็ว สตาร์ยังอยู่ที่นี่เหรอวะ

ถึงจะแอบสงสัยแต่ผมก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจน้อง "ธนัช ไปหาที่นั่งกันเถอะว่ะ"

"ไม่มีหรอก" สตาร์รีบพูด "ผมซื้อข้าวมาไว้ให้แล้ว ถ้าพี่ดินกับพี่ธนัชไม่รังเกียจ รบกวนไปทานข้าวที่ผมเตรียมไว้ให้ได้มั้ยครับ"

ธนัชอ้าปากค้าง ใช้มือของมันสะกิดสีข้างของผมใหญ่เลย ผมเองก็ตกใจไม่แพ้กับมัน แต่ผมคีพคูล...

กูไม่รู้ล่ะ กูงอนอยู่

"นะครับ" สตาร์ทำตาน่าสงสาร ใจผมอ่อนยวบไปแล้ว 78% ส่วนไอ้ธนัชน่ะเหรอ มันคงยอมตั้งแต่คำว่าสตาร์ซื้อข้าวมาไว้ให้แล้วมั้ง

"อย่าเสียเวลานะสัดดิน ตอนบ่ายยังต้องสอบอีก" ธนัชกระซิบ

"เออ" ผมยอมในที่สุด

สตาร์ยิ้มก่อนที่จะเดินนำผมกับธนัชไปข้างหน้าทันที

เอาจริงๆ นะคือผมงงมาก สตาร์มาที่สถานที่สอบในตอนเช้าคือเรื่องงงเรื่องที่หนึ่ง เรื่องที่สองก็คือมันซื้อข้าวให้ผมกับเพื่อนด้วย มีใครให้ความงงได้มากกว่านี้บ้าง

ถึงจะสงสัยแต่ผมก็ต้องทำหน้าเคร่งขรึมอย่างคนฟอร์มจัด ผมไม่หายงอนมันเพราะกับข้าวที่มันซื้อไว้รอหรอกนะ ไม่มีทาง

มันอาจจะซื้อเผื่อให้เชี่ยเรย์ด้วยก็ได้ หึ

สตาร์เดินพาผมกับธนัชมายังส่วนสำนักงาน เราสองคนเพื่อนเกลอมองหน้ากันทันที เพราะส่วนนี้มันสำหรับเจ้าหน้าที่ไม่ใช่เหรอวะ แต่สตาร์เดินเข้าไปเหมือนเดินจ่ายตลาดเลย

"พ่อมาดูงานที่นี่น่ะครับ ผมก็เลยติดมาด้วย" สตาร์อธิบาย "ตรงข้ามฮอลล์ที่พวกพี่สอบมีการจัดงานแสดงสินค้าอยู่ ธุรกิจของบ้านผมมาลงด้วย พ่อก็เลยต้องมาดู" บ้านสตาร์ขายเครื่องใช้ในบ้านครับ

"น้องก็เลยมาด้วยงั้นเหรอ" ไอ้ธนัชยักคิ้วใส่ผม

"ครับ"

"ติดมากับพ่อหรือตั้งใจจะมาอยู่แล้ว"

เพื่อนผมแม่งชงเก่งกันทุกคนแหละ ถ้าสตาร์ตัวติดกันกับผม มันคงจะได้สัมผัสเร็วๆ นี้แหละ

"ตั้งใจจะมา เอ้ย มากับพ่อๆ" สตาร์ละล่ำละลัก ผายมือให้ผมกับธนัชนั่งบริเวณที่นั่งรอของสำนักงาน ทั้งส่วนตัวและก็สบายกว่าศูนย์อาหารเยอะ บนโต๊ะมีอาหารกล่องวางกองเป็นตั้ง แต่มันสำหรับสองที่ครับ เพราะมีอย่างละสองกล่องทั้งนั้น

นี่ของผมกับไอ้ธนัชจริงๆ เหรอวะ

"ทานให้อร่อยนะครับ" สตาร์ทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม ผมกับธนัชสบตากัน จากนั้นเพื่อนผมก็พูดว่า

"พี่ไม่เกรงใจละนะ"

"ไม่ต้องเกรงใจครับ ของพี่นั่นแหละ"

"มากับมึงก็ดีอย่างงี้" ธนัชยิ้ม แล้วมันก็ลงมือสวาปามอาหารตรงหน้าคล้ายกับหิวโหยมานาน

ผมนั่งตัวตรง แกะตะเกียบออกจากนั้นก็เริ่มลงมือทาน อาหารที่สตาร์เตรียมมาก็ซื้อจากคนที่มาขายให้เด็กที่สอบนั่นแหละ แต่ท่าทางจะแพงน่าดูเพราะมีแต่ของดีๆ ผมทำหน้านิ่งๆ ขณะที่สตาร์พยายามที่จะมองผม แต่เมื่อผมสบตามัน มันก็มองไปทางอื่น
พวกเราดูแปลกต่อกันมากอย่างเห็นได้ชัด

"ให้กูไปแดกที่อื่นมั้ย" ธนัชสัมผัสได้ถึงบรรยากาศประหลาด

"ไม่ต้อง" ผมพูด

"เถอะนะ กูแดกแบบนี้กูไม่อร่อยจริงๆ ว่ะ" ธนัชลุกขึ้น "โทษทีนะน้อง มีอะไรจะเคลียร์กับเพื่อนพี่ก็เคลียร์เลย พี่ไปหาที่แดกข้าวใหม่แล้ว"

มันไม่สนใจปากที่อ้าพะงาบๆ ของผม เดินหอบข้าวหนีไปเฉย ทิ้งให้ผมอยู่กับสตาร์สองคน และบริเวณนั้นก็ไม่มีคนเดินผ่านมาเลยจริงๆ ครับ มีแค่ผมกับมันเท่านั้น

"พี่ดิน"

ผมทำเป็นไม่สนใจ แต่หูของผมตั้งใจฟังเป็นอย่างดี

"สอบเป็นไงบ้างครับ ทำได้มั้ย"

"..."

"ยังโกรธผมอยู่เหรอ"

"..."

"ผมขอโทษแล้วไงครับ วันนั้นผมพูดแรงไปจริงๆ อ่ะ"

มันไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อยที่ผมกำลังโกรธอ่ะ แต่เป็นเรื่องที่สตาร์มาหาไอ้เรย์แต่เช้าหน้าห้องสอบต่างหาก แม่งเหมือนเอาขี้ปาใส่จมูกผมอ่ะ

"ไม่ได้โกรธเรื่องนั้น" ผมพูดแบบรักษาฟอร์ม

"แล้วโกรธเรื่องอะไร"

"เมื่อเช้า"

"..."

"เมื่อเช้าสตาร์มาหาใคร พี่เห็นนะ"

"หา" สตาร์กระพริบตาโตๆ ของมันด้วยความงง "มาหาพี่ไง"

กูอึ้งแป๊บ มาหาผมเหรอ ไม่ใช่มั้ง

"มาหาพี่แต่ทำไมพี่ถึงไม่ได้คุยกับสตาร์ ทำไมพี่เห็นเราคุยกับไอ้เรย์"

"..."

"ทำไมร้าย เพราะรู้ตัวว่าสวยก็เลยคิดว่าจะทำอะไรกับพี่ก็ได้งั้นเหรอ"

อีกฝ่ายอ้าปากค้าง คงไม่คิดว่าผมจะพูดอะไรตรงๆ แบบนี้ล่ะมั้ง ไม่รู้ล่ะ ผมเก็บอารมณ์โมโหมาตลอดการสอบแล้ว ผมต้องการระบาย

"ผมไม่ได้มาหาพี่เรย์สักหน่อย"

"เปลี่ยนคำพูดใหม่เลย"

"อะไรของพี่"

"แทนตัวเองใหม่"

"บ้าป่ะเนี่ย"

"แทนตัวเองว่าสตาร์" ผมกินไปด้วยพูดไปด้วยอย่างเอาแต่ใจ "ฟังดูน่ารักกว่า"

"แต่..."

"จะง้อพี่ป่ะ" ผมจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ต้องใช้ความกล้ามากมายมหาศาลที่ต้องทำใจแข็งต่อหน้าสตาร์ที่กำลังตื่นตระหนก แม่งเหมือนลูกแมวโดนทิ้งมากๆ "ถ้าง้อต้องทำตามที่พี่บอก"

"เอาแต่ใจว่ะ"

"วันนี้ขอสักวันละกัน"

"..."

"พี่มีสอบด้วยนะ ทำให้พี่สบายใจเร็วๆ สิ"

"โอ๊ย ก็ได้" สตาร์บ่นอุบ "สตาร์ไม่ได้มาหาพี่เรย์ แต่มาหาพี่ดิน"

ใจละลาย...ใจละลายเพราะคำพูดและน้ำเสียง สตาร์แก้ตัวด้วยเสียงกระเง้ากระงอดจนผมใจระทวย

"พี่ดินคงมาเห็นตอนที่สตาร์อยู่กับพี่เรย์พอดี สตาร์เดินตามหาพี่ดินทั่วเลย แต่หายังไงก็หาไม่เจอ พอเจอพี่เรย์ก็เลยเข้าไปทัก เวลาพี่ดินเจอคนรู้จักพี่ดินไม่เข้าไปทักเหรอ"

โอ้โห มาเป็นชุด

"คนรู้จักแน่เหรอ ไม่ใช่คนที่สตาร์ชอบเหรอ เห็นบอกพี่วันนั้นอ่ะ" ผมแซะพร้อมทำหน้าบึ้ง

"ไม่ได้อ่านโพสต์อิตหรือไง" สตาร์ดูเก้อเขิน "ก็บอกแล้วว่าวันนั้นใช้อารมณ์มากไปหน่อยอ่ะ ขอโทษครับ"

ผมเหนื่อยที่จะแกล้งทำเป็นใจแข็งแล้วล่ะครับ ในเมื่อผมหายโกรธมันแล้ว ผมยังจะต้องปั้นหน้าไปเพื่ออะไรอีกล่ะ

"รู้สึกผิดทีหลังสินะ"

"ประมาณนั้น"

"วันนี้ตั้งใจมาหาพี่จริงเหรอ" ผมเริ่มยิ้มเล็กๆ

"ก็...ครับ" สตาร์ไม่ยอมสบตาผม "โควตามอนี้สตาร์เป็นคนพาไปสมัคร วันสอบก็เลยอยากมาให้กำลังใจ"

"โหย น่ารักว่ะ"

"..."

"เป็นแฟนพี่ป่ะ"

"ไม่เอา" สตาร์ปฏิเสธโคตรไว ไวจนผมเสียเซลฟ์ไปเลย "มันเร็วไป"

"ความรู้สึกตัวเองชัดขนาดนี้ยังกล้าปฏิเสธ" ผมกัดฟันพูดอย่างเคืองเล็กๆ

"ความรู้สึกสตาร์ชัด ความรู้สึกพี่ดินก็อาจจะชัด แต่การกระทำพี่ดินยังไม่ชัดเลย"

"พี่น่ะเหรอไม่ชัด ไปตัดแว่นไป๊"

"วันนั้นก็เห็นควงหญิง แถมยังหวานกันมากด้วย"

"..."

"วันก่อนก็มีผู้หญิงมาเมนต์ใต้ไอจีเป็นสิบๆ และพี่ดินก็ไล่ตอบทุกคนด้วย จะให้สตาร์คิดยังไงล่ะ"

ยอมเลยว่ะ...ผมอ้าปากค้างมองดูสตาร์ที่พูดเจื้อยแจ้วโชว์เหล็กจัดฟัน ไม่คิดว่ามันจะพูดกับผมตรงขนาดนี้ ต้อนผมจนมุมขนาดนี้
แต่เชื่อมั้ยครับว่าผมดีใจมาก อย่างน้อยสตาร์เองก็คิดเหมือนผม เพียงแต่ว่าน้องยังไม่มีความมั่นใจมากพอในตัวผม อีกอย่างหนึ่งเรื่องไอ้เรย์ก็ยังคาราคาซัง

มันคงไวเกินไปอย่างที่สตาร์พูดนั่นแหละ

"ยังไงก็ต้องรอจนกว่าจะขอไอดีไลน์ได้ครบถูกป่ะ"

"ก็คงงั้นมั้ง ถ้ายอมง่ายๆ เชี่ยบู้กับเพื่อนฆ่าแน่ๆ"

"รำคาญพวกแม่งจริงๆ"

"รีบกินรีบไปสอบได้แล้ว"

"โอเค" ผมรับคำ รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเงยหน้าขึ้นมามองฝ่ายตรงข้ามที่ส่งยิ้มมาให้ ผมก็ยิ่งรู้สึกมีความสุขมากเข้าไปใหญ่ "ตอนเย็นจะรอพี่ป่ะ"

"พ่อจะกลับไปเคลียร์งานที่บ้านน่ะ สตาร์คงอยู่รอถึงเวลานั้นไม่ได้หรอก เว้นเสียแต่ว่า..."

"เว้นแต่อะไรเหรอ"

"โทรบอกพี่สมัยมารับ"

"ไม่ต้อง กลับไปเลยไป" ผมออกคำสั่ง "วันนั้นพี่สมัยคงหมายหัวพี่ไว้แล้ว"

"ก็แหงดิ พี่ดินทำสตาร์เจ็บนี่"

รู้สึกผิดเลยว่ะ "ขอโทษนะ พี่เป็นคนมือหนักอ่ะ" ผมใช้ซ้อมจิ้มผักในกล่องขึ้นมาจากนั้นก็ป้อนเข้าปากสตาร์ "พี่ง้อนะ"

"ง้อง่ายไปป่ะ" สตาร์ขำ ก่อนจะอ้าปากรับ "สตาร์ลงทุนมาหาพี่ดินถึงสถานที่สอบเลยนะ"

"แล้วจะให้พี่ทำไง ให้พี่ตามไปถึงบ้านเลยมั้ยล่ะ"

"..."

"วันนี้เลยเป็นไง"

"บ้า พอเลย จะอ่านหนังสือ"

สตาร์หยิบโพสต์อิตจากกระเป๋ากางเกงส่งมาให้ผม

ไอดีไลน์ตัวที่ 9
I
เป็นกำลังใจให้นะ


"เพิ่งตัวที่ 9 เอง อีกตั้ง 11 ตัว" ผมชอบข้อความนั้นมากแต่ก็โอดครวญอยู่ดี

"สู้สิ" สตาร์ยักคิ้วให้ผมพร้อมส่งรอยยิ้ม "พี่ชอบสตาร์จริงหรือไม่จริงมันดูกันที่ตรงนี้แหละ"

โอยยยย อ่อยหนักขนาดนี้ ผมอยากลากไปปล้ำในห้องน้ำเลยว่ะ ถ้าไม่ติดว่าพ่อเขาอยู่ใกล้ๆ นี่ล่ะก็นะ

"ระหว่างที่พี่สู้และก็ระหว่างที่พี่ทำให้การกระทำของพี่ชัดเจน พี่มีอะไรจะขอ"

"ครับ"

"อยู่ห่างๆ จากไอ้เรย์ซะ"

"..."

"ไปไกลๆ ได้ยิ่งดี"

"..."

"เพราะพี่จะเป็นบ้าตายทุกครั้งที่สตาร์อยู่ใกล้มัน"

"เอ่อ..."

"นี่พี่พูดจริงๆ นะ"

"สตาร์รู้ครับ"

"..."

"จะพยายามก็แล้วกัน"

นัยน์ตาของสตาร์ปรากฏความไม่แน่ใจอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ผมก็เลือกที่จะมองข้ามมันไปก่อน

วันนี้มีเรื่องดีมามากพอแล้ว ผมไม่อยากให้มีเรื่องไม่ดีมาขัดความสุขของผม

ชีวิตมันสั้น...เราควรเลือกความสุขมากกว่าความทุกข์ดิ จริงมั้ยครับ

กรุ๊ปไลน์ 'คิดถึงสตาร์'
Din : สตาร์มาหากูที่สนามสอบโว้ยยยยยย #อวด
FUEN : ใกล้แต่งแล้วดิ
AOF : มิน่า ชวนแม่งเล่นเกมก็ไม่ตอบ
TANG : กูว่างอยู่ทำไมมึงไม่ชวนกูล่ะอ๊อฟ
CHOK : ทำข้อสอบได้ป่ะวะ หรือมัวแต่คิดถึงน้องดาวจนไม่เป็นอันสอบ
PHYSICS : ฟืนอยู่ในห้องนอนผมตอนนี้ผมยังไม่อวดเลย
Din : ไม่อวดพ่องดิ ฟาย
Din : อย่าให้ถึงทีของกูบ้าง






TBC*




หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 18-02-2018 18:07:35

ตอนที่ 10







วันเปิดเทอมสอง

แม่งเอ๊ย กูนึกว่ากูจะได้เห็นเพื่อนเต็มห้อง ที่ไหนได้มากันแค่ครึ่งห้องเอง

ผมอัพรูปในไอจีด้วยการเซลฟี่กับเพื่อนๆ ที่มาโรงเรียน พร้อมกับแคปชั่นฝากไปถึงพวกห้อง 6/2 ทุกคนว่า

'มาเรียนกันบ้าง ไอ้พวกนักกีฬาโดดร่ม'

ที่ต้องพูดอย่างนั้นเพราะแม่งชอบโดดเรียนกัน โดดจนเกินมาตรฐานที่ควรโดด ใช้เวลาไม่นานไอ้พวกที่ไม่มาโรงเรียนก็มาถล่มผมกันใหญ่ ที่เด็ดที่สุดก็คือสตาร์มากดไลค์ให้ผมด้วยครับ

ตอนนี้มันน่าจะกำลังเรียนอยู่ มีการแอบเล่นโทรศัพท์ในห้องเรียนด้วยแฮะ

ผมแอบลอบยิ้มเพราะเห็นชื่อไอจีของสตาร์ เมื่อเห็นสายตาที่มองมาของไอ้โชค ผมก็หุบยิ้มลงฉับ

"อินเลิฟเนอะ น่าหมั่นไส้จัง"

"เรื่องของกูน่า" ผมวางโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้นมาจดโจทย์เคมีบนกระดานต่อ คุณครูเห็นจำนวนนักเรียนแล้วท้อครับ ก็เลยสอนแค่สิบนาที จากนั้นก็เขียนโจทย์บนกระดานให้พวกเราทำแล้วเดินออกจากห้องไปเลย

"ในเมื่อใจตรงกันแล้วทำไมไม่คบกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยล่ะวะ"

"น้องมันยังไม่มั่นใจในตัวกู"

"แล้วมึงล่ะมั่นใจในตัวน้องมั้ย"

"กูมั่นใจ แต่คนที่กูไม่มั่นใจก็คือคนที่มายุ่งกับมัน"

"..."

"คนอย่างไอ้เรย์"

"มึงว่ามั้ยว่าช่วงนี้ไอ้เรย์มันเงียบเรื่องแกล้งเด็กโรงเรียนเรา" ไอ้โชคพูดอย่างจริงจัง "ไม่มีใครวิ่งมาฟ้องมึงกับกูเลยว่าโดนพวกไอ้เรย์หาเรื่อง ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนทั้งกูทั้งมึงต้องออกไปจัดการบ่อยยิ่งกว่าอะไรอีกอ่ะ"

"ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่ไม่มีเรื่อง อีกอย่างมึงกับกูก็อยู่ ม.6 แล้ว คงต้องหันมาสนใจเรื่องของตัวเองกันบ้างแล้ว"

"ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ยังไงมันก็แปลกว่ะ" ไอ้โชคดูติดใจกับเรื่องนี้มาก

"คนบ้าอะไรวะ อยากให้มีเรื่อง"

แม้ผมจะพูดแบบนั้น แต่นัยน์ตาที่ขาดความมั่นใจของสตาร์ตอนที่ผมบอกให้มันเลิกยุ่งกับไอ้เรย์ก็ไม่เคยหลุดออกจากหัวผม ถึงตอนนั้นผมจะบอกว่าขอโฟกัสในเรื่องที่ผมมีความสุขมากกว่า พอเอาเข้าจริงๆ ผมกลับไม่สามารถลบมันออกไปจากใจของผมได้เลย มันรบกวนผมมากจนทุกครั้งที่ผมนึกถึงเรื่องนี้ ผมต้องถอนหายใจออกมาอย่างคุมตัวเองไม่ได้

ผมมั่นใจในตัวสตาร์ แต่ผมไม่มั่นใจในตัวไอ้เรย์ มันเป็นคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่ว่าจะเสียอะไรไปมากมายแค่ไหนมันก็ยอม
ผมกลัวว่าสตาร์จะเป็นสิ่งนั้นของมัน

"กูเพิ่งคิดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับมึงกับสตาร์ได้" ไอ้โชคเปลี่ยนประเด็น

"อะไรของมึง"

"กูว่ามึงทั้งคู่เป็นพวกรักแรงหึงแรงว่ะ" มันพูดอย่างคนที่คิดเรื่องนี้มาดีแล้ว

"หืออออ"

"อย่างมึงกูไม่สงสัยหรอก ยังไงมึงก็หึงก็หวงน้อง น้องมันน่ารักน่าทะนุถนอมบวกกับมึงเป็นคนที่หัวร้อนง่ายด้วย ยังไงมึงก็หึงแรงชัวร์"

อืม ผมไม่มีอะไรจะเถียงมันสักคำ คิดดูสิครับ แค่คนขับรถบ้านสตาร์ผมก็หึงแล้วอ่ะ

ผมมองไปที่ไอ้โชค รู้สึกอยากได้ยินในส่วนของสตาร์มากกว่าว่าจะเป็นคนที่หึงแรงได้ยังไง ฟังแล้วมันคงจั๊กจี้หัวใจดี คงจะรู้สึกดีพิลึก ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ทฤษฎีที่ออกมาจากปากกูรูด้านความเลิฟอย่างไอ้โชคก็ตาม

"แล้วสตาร์ล่ะ ดูเป็นคนหึงแรงได้ยังไง"

"ไม่รู้ว่ะ"

"อ้าว" ผมร้อง "มึงให้ความหวังกูและก็ตัดฉับภายในเวลาไม่ถึงนาทีเนี่ยนะ"

"ฮ่าๆๆ กูแค่พูดไปตามสิ่งที่กูคิดอ่ะ มึงสองคนให้ความรู้สึกต่ออีกฝ่ายมากไปแล้วทั้งๆ ที่ไม่ค่อยได้คุยกัน อาจเป็นเพราะไม่ได้คุยกันเลยนี่แหละ ถึงมีความรู้สึกมากมายต่อกันไง"

"..."

"มึงเคยได้ยินป่ะ สมัยปู่ย่าตายายเราอ่ะ เขารักกันมากเพราะเขาติดต่อกันยาก เวลาได้จดหมายแต่ละทีดีใจได้เป็นเดือนๆ เขาไม่ได้มีไลน์ไว้ทักและก็อ่านได้ภายในเวลาไม่กี่วิแบบสมัยนี้ กรณีของมึงอาจจะเทียบไม่ได้ แต่ก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ"

"..."

"น้องสตาร์คงชอบมึงมาก อาจเปลี่ยนมาจากความนึกถึงจนคิดถึงมากๆ ก็ได้ และถ้ามึงทำให้เขาไม่ไว้ใจไม่เชื่อใจล่ะก็ น้องแม่งคงเอามึงตายอ่ะ อาจจะไม่ใช่ด้วยวิธีกระทืบ แต่มันคงงอนฉิบหายอะไรประมาณนั้นเลย"

จริงเหรอวะ...ทำไมฟังแล้วรู้สึกดีแทนที่จะกลัว

"น้องแม่งหึงกูจริงป่ะเนี่ย"

"ลองพิสูจน์ดูดิวะ"

"จะพิสูจน์ยังไงอ่ะ"

"จะรู้กับพวกมึงมั้ยเล่า" ไอ้โชคพูดส่งๆ จากนั้นก็หยิบหนังสือการ์ตูนขึ้นมาอ่าน

ผมมองเทพด้านความรักด้วยสายตากระหยิ่มยิ้มย่อง ถ้าจะพิสูจน์อย่างน้อยก็ควรจะมีเวลาอยู่ด้วยกันก่อน เพราะงั้นผมจะไปหาน้องที่ห้องตอนเที่ยงนี้เลยก็แล้วกัน







พักกลางวัน

วันนี้ผมทานข้าวเสร็จไวก็เลยขึ้นมานั่งเล่นบนห้องก่อน เพราะคิดเอาเองว่าห้องสตาร์คงยังไม่เลิกเรียนแน่ๆ ทว่าระหว่างที่รอเวลาเหมาะๆ กลับมีสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับผมและก็เด็กห้องผมเป็นอย่างมากก็คือมีผู้มาเยือนซึ่งกำลังยืนอยู่หน้าประตูห้องในตอนนี้

แม่ง โคตรพ่อโคตรแม่เซอร์ไพรส์!

สตาร์ที่ผมเพ้อถึงนั่นเองครับพี่น้อง

อย่าว่าแต่เพื่อนที่อึ้งเลย ผมเองก็อึ้ง กำลังจะไปหามันอยู่แล้วเชียวแต่มันมาหาผมก่อน ผมต้องรีบลุกจากที่นั่งเพื่อเดินไปรับที่หน้าห้องเลยทีเดียวเพราะผมกลัวว่าพวกเพื่อนแม่งจะจับสตาร์พับเก็บและก็ยัดลงกระเป๋ามาก

"มาได้ไง" ผมพูดอย่างดีใจปนตกใจ ผลักสตาร์ออกไปให้ห่างจากสายตาของเพื่อนที่มองจ้องเขม็ง "อันตรายนะ แถวนี้มีแต่เสือมีแต่สิงโต แมวอย่างสตาร์ไม่ควรมาเดิน"

เสือกับสิงโตคือไอ้พวกเพื่อนห้องสองผมนี่แหละครับ

"สตาร์ไม่ใช่แมวนะ"

"..."

"มีแต่พี่ดินที่ชอบไปหาสตาร์ที่ห้อง คราวนี้สตาร์อยากเป็นฝ่ายมาหาบ้าง"

เริ่มเห็นข้อดีของการไม่มีไอดีไลน์แล้วล่ะครับ ในเมื่อติดต่อกันไม่ได้ก็มาให้เห็นหน้ากันเลยนี่แหละ คำพูดของไอ้โชคลอยไปลอยมาอยู่ในหัวของผมเลยครับ ติดต่อกันได้ยากอาจทำให้เกิดความรู้สึกที่มากจนล้น

หรือสตาร์กำลังพิสูจน์ทฤษฎีของท่านเทพโชคอยู่

แม่ง กร๊าวใจพี่อีกแล้วนะ ผมเอาแขนพิงขอบประตู ทำหน้าเจ้าชู้ใส่อีกฝ่าย

"แค่นี้พี่ก็หลงจะแย่อยู่แล้ว อย่ามาทำให้พี่หลงเพิ่มได้ป่ะ"

"กูจะอ้วกกกกก" ไอ้โชคที่มายืนใกล้ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ร้องลั่นห้อง "เชี่ยดินจีบได้เสี่ยวสัดๆ พวกมึงอย่าไปฟังนะ ถ้าอ้วกแล้วมันจะเสียดายข้าวกลางวันว่ะ"

นั่นปากมึงเรอะ!

"อย่าสนใจเลย" ผมพูดกับสตาร์ "เอาไง พี่ไม่อยากพาเราเข้าไปในห้องเลย เพื่อนแม่งชั่ว"

"ไม่เป็นไรครับ"

สตาร์กล้าว่ะ ผมนับถือใจน้องมาก พอพามันเดินเข้ามาในห้องที่มีแต่คนมองเขม็งไปที่จุดจุดเดียวนั่นก็คือผู้ที่มาใหม่ คนตัวเล็กมองซ้ายมองขวาอย่างตื่นตาตื่นใจ คล้ายกับไม่เคยชินกับห้องเรียนสุดแสนธรรมดาที่ไม่หรูหราเหมือนห้องคิง

"โต๊ะไหนโต๊ะพี่ดินเหรอ"

"เรากำลังนั่งอยู่อ่ะ" ผมตอบ ตอนนี้ผมนั่งที่ไอ้โชคอยู่

"มีคนเขียนโต๊ะด่าพี่ด้วย"

สตาร์ชี้ไปที่ตัวพยัญชนะย่อของคำสามคำที่ว่า 'คิด วิเคราะห์ แยกแยะ' ลอยเด่นอยู่เหนือคำด่าใดๆ ทั้งหมด

"โต๊ะนี้วนกันใช้ มันไม่ได้ด่าพี่หรอก"

"เขาด่าพี่ชัดๆ"

"จะให้เขาด่าพี่ให้ได้เลยใช่ป่ะ"

"อืม"

"เขานี่ใคร"

"สตาร์นี่แหละ"

"โห พลังแกร่งกล้าขึ้นมากนะเรา"

สตาร์หัวเราะ ผมที่เขินๆ อยู่จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น แขนทั้งสองของผมพาดมั่วๆ บนพนักเก้าอี้แต่มองกลายๆ ก็เหมือนผมแสดงความเป็นเจ้าของต่อคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ นั่นแหละ ในเมื่อทั้งตัวผมก็หันไปทางมัน แขนผมก็พาดอ้อมตัวมันเอาไว้

เพื่อนผมส่วนใหญ่ก็มองมากันหมดแต่ไม่กล้าแซว เชื่อเถอะครับว่าพอสตาร์กลับห้องตัวเองไปเท่านั้นแหละ คำถามหลายๆ คำถามจะถูกยิงมาใส่ผมราวกับปืนกล โรงเรียนชายล้วนก็งี้ ใครมีแฟนก็พร้อมล้อเลียนหมด ไม่ว่าแฟนจะเป็นเพศไหนก็ตาม

นี่สินะคือโอกาสที่ฟ้าประทานให้ผมได้พิสูจน์ว่าการรักแรงหึงแรงของสตาร์มีอยู่จริงหรือเปล่า

"วันนี้เป็นไงมั่ง" ผมชวนคุย แต่มือเล่นโทรศัพท์ไปด้วย

"ก็ดีครับ เหมือนทุกวัน เรียนหนักตามเคย"

"..."

"สนใจแต่โทรศัพท์เนอะ"

"เฮ้ย เปล่าสักหน่อย" มันไม่รู้หรือไงว่าผมเล่นแก้เขิน เลื่อนรูปในไอจีไปเรื่อยแต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าดูรูปใครไปแล้วบ้าง สตาร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จากนั้นก็ทำหน้ายู่

น่ารักว่ะ

"ไอจีผู้หญิงนี่"

มาแล้วไงดอกแรก...เฮ้ย หึงเหรอวะเนี่ย หึงแล้วเหรอ หึงจริงเหรอ!

"เอ่อ..." จะพูดยังไงดี ผมฟอลโลว์ไอจีคนประมาณ 300 คน เพื่อนกับรุ่นน้องในโรงเรียนประมาณ 200 คน ที่เหลือก็คือผู้หญิงกับดาราทั้งนั้น "หึงรึไง"

"เปล่าสักหน่อย แค่อยากรู้ว่าพี่ดินฟอลใครเอาไว้บ้าง"

"คนนี้ไง 'ดาวฐา' น่ารักนะ"

สตาร์ทำหน้านิ่งไปแล้ว เดี๋ยวก่อนนะ นี่มันหึงผมจริงดิ อย่ามาทำให้ผมดีใจเล่นๆ นะ

ช่วยรักแรงหึงแรงใส่พี่ทีว่ะ พี่ชอบบบบบบบบ

"เดี๋ยวๆ ดูจอก่อนดิ ก่อนที่จะทำหน้าบึ้งน่ะ" ผมหัวเราะแล้วส่งโทรศัพท์ไปให้ ผมกดไปที่ปุ่มเสิร์ชในไอจี แอ็กเคาต์ของสตาร์ปรากฏเป็นชื่อแรกที่ผมส่องบ่อยที่สุด "นี่ไง ดาวฐา คนนี้น่ารักมาก ส่องบ่อยที่สุดแล้ว"

แอ็กเคาต์เสิร์ชบ่อยที่สุด 5 อันดับแม่งไม่มีทางโกหกแน่ๆ ครับ สตาร์มองมาจากนั้นก็ยิ้มมุมปาก

"ทำดีๆ แต่ดาวฐานี่คืออะไรวะ"

"สตาร์ไง บางครั้งพี่ก็เรียกสตาร์ว่าดาวในใจ"

"ดูสาวไปเลยอ่ะครับ" มันดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่ก็ไม่ติดใจมากมายอะไร

"..."

"สิกติดอันดับด้วยเหรอ"

"ก็เอ่อ...คงติดมาจากสมัยที่พี่จีบฟืนน่ะ พี่ชอบเข้าไปส่องของไอ้สิกบ่อยๆ"

"ทำไมไม่ไปส่องของฟืน"

"ฟืนไม่อัพรูปตัวเอง แต่สิกชอบอัพรูปมัน"

มันเป็นเรื่องจริงที่ใครๆ ในโรงเรียนก็รู้ครับ ช่วงที่ไอ้สิกยังไม่ได้คบกับฟืนแม่งชอบอัพรูปฟืนเหมือนแกล้งอัพรูปเพื่อน แต่พอคบกันปุ๊บรูปของฟืนมาเต็มพร้อมกับแคปชั่นหวานหยดย้อย สาวๆ คงจะงงว่าตกลงพวกเธอฟอลโลว์ใครกันแน่ระหว่างสิกกับฟืน

"พอพูดถึงเรื่องนี้..." สตาร์เสียงแผ่วลง "นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่พี่ดินยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่เลย"

อะไรยังไม่ชัดอีกนะ "ยังไงเหรอ"

"เรื่องฟืน"

"..."

"พี่ดินลืมมันแล้วแน่เหรอ"

ดอกที่สองมาแล้วครับ มาในแบบดราม่ากันเลยทีเดียว

แม่งต้องไปกราบท่านเทพโชค กูรูด้านความเลิฟซะแล้ว

"ถามตัวเองก่อนเหอะ ลืมไอ้สิกได้แล้วหรือยัง" ผมสวนทันควัน เพราะดันนึกไปถึงอดีตที่ผ่านมาของเราสองคน

"ผมลืมแล้ว เพื่อนผมสองคนมันรักกันมาก ผมไม่อยากไปเป็นปัญหาของพวกมันอีกแล้ว"

"พี่ก็เหมือนกัน"

"..."

"จริงๆ อาจจะเริ่มลืมตั้งแต่วันที่สตาร์บอกราคาไอดีไลน์ให้พี่ฟังแล้วล่ะมั้ง" ผมพูด "เพราะตั้งแต่วันนั้น เสียงของสตาร์ก็ก้องอยู่ในหูพี่ เรื่องราคาไอดีนั่นคงเป็นแค่ข้ออ้างที่ทำให้พี่อยากเข้าหา จริงๆ แล้วพี่คงติดใจคนบางคนตั้งแต่วันนั้นแล้วนั่นแหละ"

ถ้าสตาร์จะรักแรงหึงแรง ผมก็คงไม่ต่างอะไรจากน้องเลยแม้แต่นิดเดียว

สตาร์กลืนน้ำลาย พยายามมองสบตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจของผม

"ถ้าเราสองคนยังไม่มั่นใจในตัวกันและกัน ทำไมเราไม่มาลองทำให้อีกฝ่ายมั่นใจดูล่ะ"

"..."

"อย่างที่สตาร์บอกกับพี่ในโพสต์อิต เรามาเริ่มกันใหม่ดีมั้ย"

สตาร์ดูเคอะเขินมาก มองไปทางนั้นทางนี้ไปทั่วก่อนที่จะพึมพำอะไรบางอย่างออกมา

"ก็เอาดิ"

"พูดเองแล้วนะ" ผมทำเสียงล้อเลียน "ถ้าทำให้พี่หึงมากๆ เข้าล่ะก็ พี่ต่อยแน่"

"โหย น่ากลัวว่ะ มีทำร้ายร่างกายด้วย"

"ไม่ได้ทำร้ายสตาร์หรอก"

"..."

"ทำร้ายไอ้เหี้ยที่มายุ่ง"

"ใครจะมายุ่งกับผม"

"กล้าพูด ก็รู้อยู่ว่ามีไอ้เหี้ยตัวหนึ่งมายุ่งด้วย"

"เรื่องนั้นคือว่า..."

"เอาเป็นว่าพี่เชื่อใจสตาร์ เพราะสตาร์บอกพี่แล้วว่าเราจะเริ่มใหม่ด้วยกัน" ผมส่งยิ้ม "ไหนลองทำให้สมกับที่พี่เชื่อใจหน่อย"

"พี่เองก็เหมือนกัน"

"..."

"เรื่องผู้หญิงน่ะเพลาๆ ลงบ้าง คนที่มาเมนต์ไอจีน่ะ ไม่รู้จะเยอะไปไหน"

"ก็แค่เมนต์ ไม่มีอะไรสักหน่อย"

"ก็อย่าไปตอบนักสิ"

"ไม่ชอบให้ตอบเหรอ"

"ใช่"

ดอกที่สาม มาในแบบชัดเจนแจ่มแจ้งแดงแจ๋

กูกราบมึงอ่ะโชค กูกราบบบบบบบบบ

"งั้นเลิกตอบ จะตอบแต่ของเพื่อน ตกลงมั้ย" คนขี้หึงต้องเข้าใจคนขี้หึงถูกมั้ยครับ

"จะคอยดูละกัน"

นี่มันไม่ได้ต่างอะไรจากการเป็นแฟนกันเลย เพียงแต่ผมต้องรอให้อีกฝ่ายมั่นใจในตัวของผมก่อน ซึ่งมันต้องมีวันนั้นแน่ๆ ผมดีใจที่น้องเริ่มแสดงออกกับผมมากขึ้น นี่มันชัดจนไม่ต้องเสียเวลาตั้งคำถามแล้วมั้ง

คนอย่างพี่ดินคนนี้อยากได้อะไรก็ต้องได้อยู่แล้ว

อยากมีแฟนชื่อสตาร์ก็ต้องได้!









เลิกเรียน

ผมมาถึงหน้าห้อง ม.5/1 เด็กห้องนี้มันชินกับหน้าผมแล้วครับ พวกมันไหว้และก็เดินผ่านเลยไป ผมไม่รอสตาร์อยู่ที่ห้องอีกแล้ว ผมเดินเข้าไปในห้องเลย สตาร์กำลังทำงานอะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่เพื่อนของมันวิ่งไปทั่วห้องเหมือนเด็กนักเรียนทั่วไป

ไอ้บู้เข้ามาขวางทางผมเอาไว้

"เรื่องไอดีไลน์มาถึงครึ่งทางแล้วใช่มั้ยพี่"

"อืม มึงหลีกไปดิ๊"

"ตอนนี้เพื่อนผมให้ใจพี่ไปแล้ว พี่ห้ามทำให้มันเสียใจเชียวนะ"

"กูรู้แล้วน่า หลีกไป"

"สัญญาลูกผู้ชายกับผม"

"เออ! หลีกได้แล้วโว้ย!" ผมใช้พลังหนักมากในการผลักไอ้บู้ออกไป จากนั้นก็เดินไปหาสตาร์ที่เหมือนจะไม่รู้ตัวว่าผมมาหาแล้ว
"พี่มารับ" ผมพูด "มีเรียนพิเศษใช่ป่ะวันนี้"

"ยังไม่เปิดคอร์สครับ" สตาร์เงยหน้าขึ้นมาตอบ ดูเหมือนมันจะเครียดกับการบ้านตรงหน้ามากกว่าการตื่นเต้นเรื่องที่ผมมา

"เฮ้ย งั้นก็ไปเดตกันได้อ่ะดิ"

"คงไปไม่ได้ครับ"

ผมสะอึกเล็กน้อย "ทำไมอ่ะ"

"มีนัดแล้ว"

"กับใคร"

"พี่เรย์"

ผมอ้าปากค้าง "พี่ฟังอะไรผิดไปหรือเปล่า"

"ไม่ผิดครับ สตาร์มีนัดกับพี่เรย์จริงๆ"

"ทำไมต้องไปกับมัน รู้ไม่ใช่เหรอว่าพี่ไม่ชอบ" ผมเสียงดังลั่นห้องจนเด็กในห้องถึงกับชะงัก หยุดกิจกรรมทุกสิ่งทุกอย่างแล้วมองจ้องเขม็งมาที่ผม "เราสัญญากันไม่พ้นวันเลย สตาร์ก็ทำผิดสัญญาแล้ว แม่งคืออะไรวะ"

"สตาร์ไม่ได้ผิดสัญญา กับพี่เรย์ไม่มีอะไรจริงๆ"

"ปฏิเสธแม่งไม่ได้เหรอ"

"ไม่ได้"

"ทำไมอ่ะ"

"มันเป็นเรื่องซับซ้อน" สตาร์ตอบ "ขอโทษนะครับพี่ดิน เดี๋ยวสตาร์ชดเชยให้วันหลัง"

การกระทำของสตาร์ทำให้ผมรู้สึกช็อกมาก เหมือนผมอารมณ์ดีมาทั้งวันแล้วจู่ๆ ก็โดนเบรกกะทันหัน คล้ายกับรถที่ขับมาจากแถวพุทธมณฑลจะถึงพารากอนอยู่แล้ว แต่โดนเบรกให้หยุดที่สยามเซนเตอร์ซะก่อนอ่ะ

"ไม่รับคำขอโทษ ไม่เข้าใจ และก็จะไม่ยอมอะไรทั้งนั้น"

"พี่ดิน" สตาร์ดูตกอกตกใจมาก ผมก็เป็นแบบนี้แหละ เป็นมาตั้งนานแล้วด้วย "เชื่อใจผมสิ มันไม่มีอะไร"

"ไม่รู้ล่ะ ไม่ยอม"

"แต่ว่า..."

"ถ้าสตาร์จะไปกับมัน พี่ก็จะไปด้วย"

"เฮ้ย บ้าเหรอ ได้มีเรื่องกันที่สยามแน่"

"แล้วยังไง ก็มันมายุ่งกับคนของพี่อ่ะ"

"พี่ดิน!"

ตอนนี้ในห้องมีเพียงแต่เสียงแอร์ ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะขยับเขยื้อนไปไหน สายตาของสตาร์ทั้งตกใจและก็สับสน มันไม่ได้โกรธผม แต่มันคงงงว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงมากกว่า

ไอ้เหี้ยเรย์นั่นมันสำคัญอะไรนักหนา ทำไมต้องไปอยู่กับมัน ทำไมต้องแจ้นไปหามัน

แล้วผมล่ะ ผมสำคัญกับน้องมันบ้างป่ะ การกระทำของมันแม่งเหมือนเห็นคำสัญญาเป็นเพียงแค่ลมผ่านหู

สตาร์มองไปที่เพื่อนๆ อย่างลังเลโดยเฉพาะไอ้บู้ ทำไมต้องมองไปหาคนอื่นด้วยวะ นี่มันเรื่องของผมกับมันสองคนชัดๆ

"เอาเป็นว่าพี่ดินเชื่อใจผมได้มั้ยครับ มันไม่มีอะไรก็คือไม่มีอะไรจริงๆ"

"ถ้าไม่มีอะไรก็ปล่อยให้พี่ไปด้วยสิ"

"แต่ว่า..."

"ตามนั้น" ผมทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามสตาร์ "พี่จะรอตรงนี้"

สตาร์พูดไม่ออก มันมองไปที่เพื่อนอย่างจนปัญญา ส่วนผมลอยหน้าลอยตาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น สตาร์หยิบโพสต์อิตออกมาจากกล่องดินสอจากนั้นก็ก้มหน้าเขียนอย่างรวดเร็ว

"ถ้าพี่ปล่อยให้ผมไป พี่เอานี่ไปเลย"

ผมคว้าหมับตอนที่สตาร์ไม่ทันตั้งตัว "พี่ได้มาแล้ว เพราะงั้นพี่ไม่จำเป็นต้องปล่อยสตาร์ไป"

"ดื้อว่ะ" สตาร์ร้องลั่น

"ลองมาเป็นคนหวงดูบ้างป่ะล่ะ!"


ไอดีไลน์ตัวที่ 10
T
เชื่อใจผมนะครับ






กรุ๊ปไลน์ 'คิดถึงสตาร์'

Din : สิก มึงเชื่อใจฟืนป่ะ
FUEN : ถามอะไรเนี่ยยยยย
AOF : มาคุว่ะ
TANG : ทีมพี่ดินครับ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทีมพี่ดินครับ
CHOK : #รักแรงหึงแรง เห็นมั้ยกูบอกมึงแล้ววววว
PHYSICS : เชื่อใจฟืน แต่ไม่เชื่อใจไอ้พวกที่คอยมารุมมาตอมอยู่ใกล้ๆ เพื่อนในกลุ่มก็ไม่ชอบ
Din : เออ ก็เหมือนกูอ่ะ
FUEN : งงไปหมด...
AOF : กูไม่เคยคิดจะแดกเพื่อนกูหรือคนที่เพื่อนกูชอบหรอกนะครับ
TANG : ร้อนตัวเหรอสัดอ๊อฟ มึงชอบชมฟืนให้กูฟังบ่อยๆ ไม่ใช่เหรอ
PHYSICS : เชี่ยอ๊อฟ น้องกูอีกคน ฟืนก็อีกคนเหรอวะ สัดนี่!
Din : เคลียร์กันเองนะครับ
PHYSICS : ฟวยอ๊อฟมึงตอบแชทส่วนตัวเดี๋ยวนี้เลย!
FUEN : เฮ้ออออออ








TBC*







หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 7 - 8 P. 3 06/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 18-02-2018 18:07:51

ตอนที่ 11







สยาม

"ไอ้เหี้ยนี่มายังไง" ไอ้เรย์ที่นั่งรอสตาร์อยู่ที่สยามสแควร์วันถึงกับร้องออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ ผมยักคิ้วใส่มันอย่างท้าทาย ขณะที่สตาร์นั้นทำท่าปวดหัวปวดประสาท

"ยังไงพี่ดินเขาก็จะมาครับ ผมห้ามไว้ไม่ได้"

"ทำไมวะ กูมาแล้วมันทำไม"

ไอ้เรย์เข้ามาผลักไหล่ผม มันพร้อมที่จะมีเรื่องทุกเมื่อ "กูปล่อยมึงไปหลายครั้งเพราะสตาร์ขอร้อง มึงคิดว่าครั้งนี้กูจะปล่อยมึงไปป่ะ"

ผมมองไปที่คนตัวเล็กที่สุดอย่างเอาเรื่อง "ไปขอร้องมันทำไม ถ้ามันจะมีเรื่องพี่ก็พร้อมจะมีเรื่อง"

"จัดตรงนี้เลยมั้ยล่ะ" ไอ้เรย์พุ่งเข้ามา ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน

"เอาดิ"

"พอก่อนครับ" สตาร์เข้ามาแทรกกลางระหว่างผมกับไอ้เรย์ "ถ้าจะมีเรื่อง ผมกลับนะ"

ผมกับไอ้เรย์ชะงัก จากนั้นก็แยกออกจากกันอย่างช่วยไม่ได้

"เห็นมั้ยว่ามันอันตราย มันพร้อมจะเตะจะต่อยตลอดนั่นแหละ" ผมพูดอย่างหงุดหงิด

"แต่กูก็ไม่ได้ต่อยสตาร์ไง กูจะต่อยมึง"

"มึงก็เข้ามาดิ"

"พอ!" สตาร์ร้องเสียงดังมากจนทำให้คนที่เดินอยู่แถวนั้นหันกลับมามอง "ผมไม่มีแรงพอจะสู้พี่ทั้งสองคนหรอกนะ ผมรู้ว่าพวกพี่ไม่ชอบขี้หน้ากัน แต่อย่ามีเรื่องกันได้มั้ยครับ ผมห้ามไม่ไหวจริงๆ"

เรย์ทำหน้าหงุดหงิดงุ่นง่าน ส่วนผมน่ะเหรอ...ผมหงุดหงิดตั้งแต่นั่งแท็กซี่มากับสตาร์แล้วล่ะ ในใจของผมร้อนรนลุกเป็นไฟ
สตาร์ทำเหมือนว่าการที่มันมากับเรย์คือสิ่งที่มันต้องทำจำพวกการล้างหน้าแปรงฟันทุกวัน ไม่ข้องเกี่ยวกับสัญญาที่มันกับผมเคยให้กันและกันไว้ อยากจะบอกเหลือเกินว่ามันโคตรย้อนแย้งกับสัญญานั่นเลยว่ะ มีอย่างที่ไหนบอกให้ผมเชื่อใจ แต่ตัวเองกลับไปกับผู้ชายคนอื่นเนี่ยนะ

แม้ใจจะหงุดหงิดอยากลากสตาร์กลับบ้านผมแล้วไปนั่งเคลียร์ในห้อง แต่ก็เกรงใจเกินกว่าจะทำแบบนั้น บางทีระหว่างสตาร์กับเรย์อาจจะมีเรื่องตื้นลึกหนาบางที่ผมไม่รู้ ตอนนี้ที่รู้ก็คือผมหึงมากหึงมายหึงฉิบหาย และนี่ก็คือความจริงที่ผมจะไม่ปฏิเสธตัวเองอีกต่อไป

สตาร์ไม่อยากให้มีเรื่องผมก็จะไม่มี แต่ถ้าไอ้เรย์มาหาเรื่องก่อน ก็อย่างที่บอกเลย ยังไงผมก็ไม่มีวันยอมให้มันแน่ๆ

"โอเคนะครับ" สตาร์ถามย้ำพลางมองผมกับเรย์สลับกัน ผมมองไปทางอื่นขณะที่ไอ้เรย์พยักหน้า

"ก็ได้" มันพูด "ถึงจะมีไอ้เหี้ยนี่มาด้วย แต่พี่ก็จะไม่มีวันเปลี่ยนโปรแกรมของเราในวันนี้หรอกนะ"

"ตามใจพี่เรย์เลยครับ" สตาร์พูดง่ายๆ คำพูดของมันทำเอาผมอ้าปากค้าง อยากจะตีอกชกหัวตัวเองมาก

ไอ้เรย์เดินนำไปแล้ว ผมได้ทีจึงคว้าข้อมือของสตาร์เอาไว้ พยายามผ่อนแรงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นคนมือหนัก

"เรามีเรื่องต้องคุยกันหลังจากนี้"

"ผมรู้ครับ" สตาร์เอ่ย "ตอนนี้ผมแค่อยากให้พี่ดินเชื่อใจผม"

"รู้ใช่มั้ยว่ามันยาก พี่ก็อยากจะเชื่อใจสตาร์มากพอๆ กับที่พี่หึงสตาร์นั่นแหละ"

สตาร์มองผมด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย ท่าทางคำพูดของผมจะประทับใจน้องไม่น้อย

เป็นไงล่ะ เจอพี่ดินคนจริง 201X เข้าไป

"ผมก็อยากให้พี่หึงผม พอๆ กับที่ผมไม่อยากให้พี่ไม่เชื่อใจ"

บร๊ะ...น้องสตาร์ก็คนจริง 201X ว่ะ

"เฮ้ย แบบนี้มันเห็นแก่ได้นี่" ผมแกล้งพูดดู

"ใครๆ ก็อยากให้คนที่ตัวเองชอบหึงทั้งนั้นแหละครับ"

"สตาร์ มาได้หรือยัง!" เสียงไอ้เรย์ดังขึ้นแทรกคำพูดรัวเร็วของสตาร์ คนตรงหน้าผมเดินไปหาไอ้เรย์เป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ผมพยายามทำความเข้าใจกับคำพูดของสตาร์เมื่อครู่อยู่

เดี๋ยวก่อนนะ

.

.

.

น้องมันเพิ่งบอกว่าชอบผมนี่!

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยย

ความร้อนรุ่มในใจของผมเริ่มคลายลง ใจผมอ่อนยวบไปหมดแค่คำว่าชอบคำเดียวของสตาร์ ถึงเราสองคนจะเคยพูดกันในทำนองนั้นมาแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครพูดออกมาตรงๆ เลย พอได้ยินจากปากของสตาร์วันนี้มันเหมือนเป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าน้องคิดกับผมแบบนั้นจริงๆ

เหลือเพียงแต่การกระทำที่ต้องช่วยให้ผมมั่นใจในตัวน้องก็เท่านั้น

สตาร์เอ๋ยยย อย่าทำให้พี่ดินคนนี้ผิดหวังเชียวนะ

เพราะถ้าผิดหวังขึ้นมาล่ะก็...คงจะทำใจยากมากกว่าตอนที่เคยอกหักจากฟืนแน่ๆ

ผมรู้ตัวดี...ว่าผมชอบสตาร์มากกว่าที่ผมเคยชอบฟืน








ร้านอาหารญี่ปุ่น

ไอ้เรย์ปรับตัวปรับใจเป็นที่เรียบร้อย มันคงทำใจได้แล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางแกะผมให้ออกไปจากสตาร์ได้ มันก็เลยทำเหมือนผมไม่มีตัวตน เมื่อลอบสังเกตมันที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแบบเงียบๆ ก็เห็นภาพมันคอยดูแลเทกแคร์สตาร์ที่นั่งอยู่ข้างผมเหมือนกับว่ามันชอบสตาร์จริงๆ ไม่ใช่การกลั่นแกล้งเด็กข้ามโรงเรียนหรือเพื่อกักตัวเด็กคนนั้นให้อยู่ใกล้ตัวอะไรประมาณนั้น

คำถามอยู่ที่ว่าทำไมสตาร์ถึงยอมง่ายๆ แบบนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าไอ้เรย์มันตัวอันตราย ไม่น่าคบ และจัดว่าเป็นบุคคลที่ควรเดินให้ห่างๆ
มันต้องมีอะไรในกอไผ่นี้แน่ๆ

"สตาร์เอาอะไรอีกป่ะ"

"พอแล้วครับ เต็มโต๊ะแล้ว"

ยิ่งเห็นแม่งก็ยิ่งรู้สึกอยากคว่ำโต๊ะยังไงไม่รู้ ปกติผมไม่เคยเห็นไอ้เรย์มันเทกแคร์คนอื่นแบบนี้หรอก อีกทั้งยังไม่เคยคิดว่ามันจะทำอย่างนี้เป็นด้วย เพราะเท่าที่ผมรู้จักมันมา มันเป็นวัยรุ่นที่โคตรทำตัวเหี้ย พอได้มาเห็นว่ามันดูแลเทกแคร์คนอื่นแบบนี้ก็มีหนึ่งคำถามเกิดขึ้นในใจผม

ทำไมต้องเป็นสตาร์ของกูด้วย...

ไอ้เรย์ ไอ้เหี้ยยยย

"มึงไม่ถามกูบ้างล่ะ" ผมกล่าวลอยๆ

"มึงมีตัวตนด้วยเหรอ"

"จะเอาใช่ป่ะ" ผมทุบโต๊ะเสียงดัง หมั่นไส้แม่งมานานแล้ว จะให้ต่อยมันตอนนี้ก็ยังได้

"มาดิ"

"อะแฮ่มๆ" สตาร์แกล้งกระแอม "ลองจินตนาการว่าพี่ทั้งสองคนไม่ใช่ศัตรูกันและก็มานั่งกินข้าวกันเฉยๆ ได้มั้ยครับ"

ใครจะไปทำได้ ไอ้เรื่องเป็นศัตรูเพราะไม่ชอบขี้หน้ากันน่ะมันตกเป็นประเด็นรองไปแล้ว ประเด็นหลักก็คือผมกับมันชอบคนเดียวกันนี่แหละ!

ผมกับไอ้เรย์คิดไปในทางเดียวกัน แต่ไม่มีใครบอกสตาร์ในเรื่องนี้ ผมกับมันตัดสินใจเงียบเพื่อตัดปัญหา พยายามซ่อนระเบิดที่อยู่ภายในใจให้มิดชิดมากที่สุด เพราะถ้าระเบิดออกมาล่ะก็คนที่จะโกรธก็คือสตาร์

ผมเองก็ต้องปรับตัวปรับใจเหมือนกับที่ไอ้เรย์มันทำใช่มั้ย

ตลอดการทานอาหาร บอกตามตรงว่านอกจากผมจะโมโหหึงมั่วไปหมดแล้ว ผมยังต้องเก็บความรู้สึกน้อยใจเบาๆ ไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดอีกด้วย สตาร์บอกให้ผมเชื่อใจ แต่เมื่อผมมาอยู่ท่ามกลางระหว่างคนสองคนที่สนิทกันในระดับหนึ่ง มีการหัวร่อต่อกระซิก แซว และล้อเลียนกันในประเด็นที่ผมไม่รู้ ไอ้ความเชื่อใจของผมมันก็สั่นไปหมด ผมพยายามควบคุมตัวเองแล้วครับ แต่แม่งทำไม่ได้ว่ะ การที่คนที่เราชอบพูดคุยกับคนอื่น หัวเราะกับคนอื่นต่อหน้าเราในเรื่องที่เราไม่รู้ไม่เห็นด้วยเนี่ย...ใครมันจะไปทนไหว

ผมลุกขึ้นยืน ขัดจังหวะสองคนนั้นที่มันหัวเราะกันอยู่ ไอ้เรย์หยิบน้ำขึ้นมาดื่ม ส่วนสตาร์มองผมอย่างตกใจเล็กน้อย

"พี่ไปเข้าห้องน้ำ"

ผมไม่รอให้ใครตอบรับ เดินออกจากร้านไปเข้าห้องน้ำด้วยอารมณ์หงุดหงิดสุดๆ ตอนที่เดินออกมานั่นเองผมสวนกับคนคู่หนึ่งที่ตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ ให้ทายครับว่าผมเจอใคร

สิกกับฟืน

"พี่ดิน" ฟืนรีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมไหว้ผมทันที ไอ้สิกพยายามห้ามฟืนแล้วแต่มันห้ามไม่ได้ สมน้ำหน้ามึง

"ไง" ผมทักส่งๆ ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะยิ้มรับใครทั้งนั้น ถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนที่ผมชอบมากก็ตาม

"เป็นไรพี่ หน้าเหมือนแดกรังแตน" นี่คือคำทักทายของไอ้สิก

"ยุ่ง"

"มีปัญหากับสตาร์มาแหง" ฟืนซุบซิบกับไอ้สิก "มีอะไรให้เราช่วยป่ะครับ"

"ไม่ต้องไปอาสาเลย" สิกทำทุกอย่างได้เพื่อที่จะให้แฟนมันอยู่ห่างจากผม แต่แฟนมันไม่เคยให้ความร่วมมือเลย

"มี" ผมพูดขัดกับไอ้สิกพลางยักคิ้วนิดๆ ให้คนขี้หึง "สิก กูยืมแฟนมึงหน่อยได้ป่ะ กะจะไปยั่วให้ใครบางคนหึงว่ะ"

"ไม่ได้" ไอ้สิกตอบทันควัน "จะบ้าหรือไง แฟนนะเว้ยไม่ใช่เงิน"

"แปลว่ากูยืมตังค์มึงได้งั้นสิ"

"จะเอาเท่าไหร่ล่ะ" มันทำท่าจะล้วงกระเป๋าตังค์ออกมาทันที

"ไอ้บ้า กูล้อเล่น"

"..."

"แม่ง หวงอะไรขนาดนั้น"

"แฟนทั้งคนนะเว้ย มันไม่ใช่สิ่งที่หาเมื่อไหร่ก็หาได้นะครับ โดยเฉพาะคนที่เกิดมาเพื่อเราอย่างนี้"

คือมึงจะบอกรักแฟนมึงแบบอ้อมๆ จะอวดว่ามีแฟน หรือจะสั่งสอนกูกันแน่วะสิก...

"กูรู้อยู่แล้วล่ะว่ามึงไม่ให้" ผมแค่ลองถามไปอย่างนั้นเอง "กูไปนะ"

"เฮ้ย" ไอ้สิกร้อง "เดี๋ยวดิพี่ สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไหนเล่าดิ๊"

ผมทำหน้าเซ็งก่อนที่จะเล่าเรื่องสตาร์กับเรย์ให้พวกมันสองคนฟังอย่างย่อๆ คู่รักตรงหน้าผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะมองหน้ากัน

"แปลกๆ อยู่นะ สตาร์คงมีเหตุผลอะไรสักอย่างแหละ" ฟืนพูด เขาเป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอครับ บางครั้งก็ดีเกินเหตุจนไอ้สิกปวดหัว แต่ผมเชื่อว่าเชี่ยสิกคงเต็มใจที่จะปวดหัวนั่นแหละ

"สตาร์กับพี่เรย์อยู่ในร้านใช่ป่ะ"

"เออ"

"คราวนี้ผมจะช่วยพี่ก็แล้วกัน ถึงแม้ว่าผมจะไม่อยากให้พี่มาขัดการเดตของผมกับฟืนก็เหอะ"

มึงพูดแบบนี้มึงไม่ต้องช่วยก็ได้นะ ผมทำหน้าบึ้งใส่มันจนไอ้สิกต้องรีบพูดเพราะกลัวผมจะเปลี่ยนใจ

"ตามผมมาละกัน"

"จะไปไหนวะ"

"หาไอติมกิน"

ผมกำลังจะอ้าปากโวยวายว่าผมไม่มีอารมณ์กินไอศกรีมตอนนี้ แต่ชาติหน้ามั้งสิกมันถึงจะฟัง ฟืนรีบกวักมือให้ผมเดินตามอย่างรู้ใจแฟนตัวเอง

ไม่มีทางเลือก...ผมจำเป็นต้องไปกินไอศกรีมที่เย็นจัดทั้งๆ ที่ใจผมนั้นยังร้อนรุ่ม







ร้านไอศกรีม

มันใช่เวลาที่จะมานั่งกินไอศกรีมที่ไหนกันเนี่ย ผมมองคู่รักตรงหน้าด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย คนที่อยากกินตั้งแต่แรกไม่ใช่ไอ้สิกครับแต่เป็นฟืน มันชวนกันมาก่อนหน้าที่จะมาเจอผมแล้ว ผมจำได้ว่าผมดูออกเรื่องที่ฟืนเป็นคนชอบกินของหวาน ตอนนี้ทุกอย่างก็ได้พิสูจน์ให้ผมเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่ามันคือเรื่องจริง

ไอศกรีมที่สั่งมามีแต่ฟืนกินคนเดียว ไอ้สิกกับผมไม่มีใครแตะเลยสักคำ

"ทำไมกูต้องมานั่งตรงนี้" ผมพูดอย่างหงุดหงิด

"พี่บอกสองคนนั้นว่าพี่จะมาเข้าห้องน้ำใช่ป่ะ"

"เออ"

"พี่หายไปนาน เดี๋ยวคนที่แคร์พี่ก็จะเริ่มร้อนใจเองว่าพี่หายไปไหน"

ผมเลิกคิ้ว มองดูฟืนที่พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับคำพูดของสิก "สิกมันก็งี้ ทฤษฎีแน่นตลอด ผมโดนมาเยอะ"

"มันจีบมึงด้วยอะไรแบบนี้เหรอ"

"ตอนแรกมันช่วยผมจีบคนอื่น จากนั้นผมก็เอาวิธีที่มันบอกผมไปบอกคนอื่นให้มาจีบมัน"

"โอ้ย พูดให้กูงงทำไมเนี่ย"

"ก็ถือว่าใช้ได้นะครับ แม้จะปวดหัวไปสักหน่อยแต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าสมหวังดี"

"คนอื่นก็ผิดหวังไปใช่ป่ะ" ผมแซวเล่นๆ

ฟืนยิ้มแห้งๆ ส่วนไอ้สิกก็พูดขึ้นมาอย่างไร้ความปราณีว่า "ใช่"

เออ กูก็ไม่ได้ยุ่งอะไรด้วยแล้วนี่ไง...ให้ตายสิพับผ่า

"แล้วกูจะรู้ได้ไงว่าสตาร์ร้อนใจวะ มันติดต่อกูไม่ได้อย่าลืมสิ"

ฟืนกินไปด้วย เขย่าโทรศัพท์ไปด้วย จากนั้นก็บอกให้ผมไปเซลฟี่คู่กับมันโดยที่ไอ้สิกกำลังจะอ้าปากร้องห้าม

"มึงไม่ต้องห้าม" ฟืนพูดกับแฟนตัวเอง "ในรูปมีกูกับพี่ดินน่าจะได้ผลมากกว่า กูจะส่งไปให้สตาร์ดู"

"ร้ายนะมึง" สิกกำแก้วน้ำดื่มแน่น

"ไม่ร้ายไม่น่าจะเอามึงอยู่หรอกว่ะสิก"

ช่วยไปจีบกันตรงโน้นได้มั้ยครับ "มึงจะส่งไปบอกสตาร์ว่าอะไรวะ" ผมถาม

"ผมบอกว่าถ้าสลัดพี่เรย์ไม่หลุด อย่าหวังว่าจะได้พี่ดินคืน"

"เอาเรื่องแฮะ" ผมพึมพำ "สิกมึงโอเคเหรอ"

"ไม่โอเคไม่ได้หรอก" มันตอบเซ็งๆ "ดูหน้าฟืนดิ แม่งพร้อมจะทำตามแผนที่ตัวเองคิดแล้ว"

"งั้นกูขอถามมึงก่อน...มึงอนุญาตหรือเปล่า"

แทนที่สิกจะตอบผม มันกลับหันไปมองแฟนมันแทน "คืนนี้ขอกูจูบมาราธอนสามสิบวิพร้อมลูบตรงนั้นผ่านก.ก.น.ด้วย"

กูอึ้งแดกกกกกกกกก

คนที่อึ้งมากกว่าผมเห็นจะเป็นฟืน มันหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศลูกไหนๆ บนโลก

"ได้"

คำตอบไอ้นี่ก็ทำกูอึ้งแดกไปอีกรอบ

ตอนนี้ไอ้สิกดูถูกอกถูกใจกับแผนของฟืนเกินกว่าจะหึงอะไรใดๆ แล้ว ผมทอดถอนใจมองดูฟืนกินไอติมสลับกับมองดูไอ้สิกที่เล่นโทรศัพท์ ท่าทางของพวกมันสองคนดูชิลๆ กันมาก มองเผินๆ เหมือนคนเป็นเพื่อนกันและไม่มีอะไรในกอไผ่ ถ้าไม่ใช่เด็กโรงเรียนผมก็ดูไม่ออกหรอกว่าพวกแม่งคบกัน

อยากมีอะไรแบบนี้กับสตาร์บ้างจังครับ

"สตาร์ถามว่าพี่ไม่มาเอากระเป๋าเหรอ" ฟืนอ่านให้ฟัง ตอนนี้สตาร์ตอบแชตของฟืนอยู่

"เห็นมั้ย มันไม่ใส่ใจกูหรอก มันไม่ร้อนใจอะไร มันมีความสุขอยู่กับไอ้สัดเรย์"

"ใจเย็นดิ มันก็แค่ถามป่ะพี่"

"กูไม่เอาอะไรทั้งนั้นนั่นแหละ" ผมโวยวาย

"ได้ เดี๋ยวบอกมันให้"

"..."

"มันจะมามั้ยเนี่ย"

"ถ้ามันไม่มา ก็แปลว่ามันไม่แคร์เลย" ไอ้สิกพูดอย่างจริงจัง

คำพูดของมันทำเอาผมเครียดจนอยากจะยกถ้วยไอติมไปฟาดหน้ามันจริงๆ แต่แม่งเป็นความจริงว่ะ ถ้ามันแคร์สักนิดยังไงมันก็ต้องมา

แม่งเอ๊ยยยย แล้วสตาร์มันจะแคร์ผมมั้ยอ่ะ

หรือถ้ามันแคร์ มันก็ควรจะแคร์ตั้งแต่ที่ผมให้มันเลือกไปเดตระหว่างเรย์กับผมแล้วไม่ใช่เหรอ








18.04 น.

"พี่ดินคงต้องรอแถวๆ นี้แล้วแหละ ผมบอกสตาร์ไปแล้วว่าพี่ดินอยู่นี่ ถ้ามันจะมาก็ให้มันมาหาพี่ตรงนี้" ฟืนพูด "ผมกับสิกต้องกลับแล้วครับ แม่มันโทรมาตามอ่ะ"

"ตามทำไมก็ไม่รู้"

"ก็มึงชอบมานอนบ้านกูไงล่ะ"

"งั้นวันนี้มึงมานอนบ้านกูได้ป่ะ"

"แม่กูคงจะให้อยู่หรอก"

"แล้วสัญญาที่ให้ไว้..."

เรื่องลูบไอ้นั่นผ่านก.ก.น.สินะ...พอดีผมจำสัญญาเรื่องแรกไม่ได้น่ะ

"ไปทำที่บ้านมึงได้"

ให้ตายเถอะซาร่า...เป็นอีกครั้งที่ผมอยากจะตะโกนใส่หน้าพวกแม่งว่า 'พวกมึงช่วยไปรักกันตรงโน้นนนนนน'

"เออ โชคดีนะ" ผมโบกมือให้ทั้งสองคน

"พี่ก็โชคดีเหมือนกัน" ไอ้สิกพูด จากนั้นก็โอบไหล่ไอ้ฟืนและก็เดินจากไปพร้อมกัน

ไปเถิดทั้งคู่ ไปสู่ประตูสวรรค์...

ผมมองภาพรุ่นน้องทั้งสองเดินห่างออกไปอยู่สักพักแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น ที่ที่ผมอยู่ตรงนี้คือบริเวณโซนของกินของพารากอน ฟืนบอกว่าให้ผมรอสตาร์ตรงนี้ ถ้าสตาร์จะมาก็คงอีกไม่ช้านี้ ผมถอนหายใจเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ พยายามพาใจตัวเองให้จมจ่อมไปกับโซเชียลในมือ

PHYSICS : ไปดูสตอรี่ไอจีของฟืนเร็วๆ ครับ
PHYSICS : ผมบอกให้ฟืนทำเอง
PHYSICS : ผมคูลป่ะ นี่ผมใช้แฟนตัวเองเพื่อช่วยพี่เลยนะเนี่ย


สิกทักไลน์ผมมาว่าแบบนี้ ผมก็เลยเข้าไปดู

ผมอึ้งมากที่ฟืนอัพสตอรี่ในไอจีโดยที่มีผมอยู่ในนั้น ผมรู้ว่ามันถ่ายแต่ไม่คิดว่ามันจะอัพลง

[อร่อยมั้ย]

[อร่อยห่าไรล่ะ กูไม่ได้แดกกับมึง]

[ยิ้มหน่อยดิ]

ในสตอรี่ของฟืนเหมือนผมมากับมันแค่สองคน ฟืนทำได้เนียนมากด้วยการถ่ายแบบไม่ติดอะไรใดๆ ของไอ้สิกเลย ถ้าสตาร์มาเห็นก็คงร้อนใจบ้างแหละ (ถ้ามันแคร์ผมบ้างอ่ะนะ)

หนักกว่านั้นคือฟืนไม่ได้อัพแค่อันเดียว แม่งมาอีกสอง

[สบายใจขึ้นยังครับพี่]

[ถามอะไรดูหน้ากูด้วย]

สตอรี่อันสุดท้ายคือฟืนถ่ายรูปผมทีเผลอ จากนั้นก็เติมอักษรเข้าไปในภาพว่า 'คนขี้งอน' พร้อมวาดเส้นเป็นรูปหัวใจ

โอ้โห มึงปั่นมากอ่ะ แบบนี้ไม่ใช่แค่สตาร์จะเข้าใจผิดแล้ว ทุกคนที่เข้ามาดูสตอรี่มึงเข้าใจผิดกันหมดอย่างแน่นอน

ฟืนทักไลน์มาหาผมหลังจากนั้นไม่นาน

FUEN : สตาร์เห็นสตอรี่ทุกอันแล้วครับพี่
FUEN : ผมลบแล้วนะ เดี๋ยวเชี่ยสิกมันจะหึง แม่งเอาแน่เอานอนไม่ได้หรอก
FUEN : สงครามระหว่างพี่กับสตาร์บังเกิดแน่นอน!
FUEN : โชคดีครับ


"มีความสุขมากป่ะ" ผมเงยหน้าขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงของใครคนหนึ่ง คนคนนั้นก็คือสตาร์ มันส่งกระเป๋าเป้ของผมมาให้พร้อมๆ กับทำหน้าตึงใส่ ข้างกายของสตาร์ไม่มีเรย์อีกต่อไปแล้ว

แบบนี้แสดงว่าที่เหนื่อยกันมาทั้งหมดคือได้ผลใช่มั้ยครับ

ผมแสร้งทำหน้าตึงไปเหมือนกัน "ก็ดีกว่าเป็นก้างของใครบางคนป่ะ"

สตาร์ขมวดคิ้วจนเป็นปม ดูเหมือนจะโกรธแต่ก็ยังดูน่ารักมากอยู่ดี คล้ายกับเด็กถูกแย่งของเล่น

"ทำไมเป็นคนแบบนี้"

"พี่เป็นคนยังไง"

"บอกแล้วไงว่าเรื่องของสตาร์กับพี่เรย์มันไม่มีอะไร"

"ถ้าจะพูดให้เชื่อ พี่จะตอบว่าพี่เชื่อก็ได้ แต่การที่จะให้ไปนั่งอยู่ตรงนั้น มองดูสตาร์กับไอ้เหี้ยนั่นมีความสุขกัน ถ้าพี่บอกว่าพี่ไม่รู้สึกอะไรเลยพี่ก็คงโกหกว่ะ"

"พี่ดินไม่เชื่อด้วยซ้ำ"

"ก็เล่ามาดิ อย่าทำให้พี่เป็นคนโง่ได้ป่ะ"

"..."

"เราสองคนเคยโง่กันมาแล้วเรื่องสิกกับฟืน เราเข้าไปแทรกกลางระหว่างคนสองคนนั่น สุดท้ายเราก็ไม่สามารถทำอะไรความรักของพวกมันได้ พี่เจ็บ พี่ผิดหวัง พี่ไม่อยากเจออะไรแบบนั้นอีก"

"..."

"พี่อยากสมหวังแล้ว เข้าใจมั้ย"

สตาร์อ้าปากค้าง มันดูตกตะลึงมาก ใบหน้าของมันซีดเผือดไปหมดและริมฝีปากก็สั่นระริก

เฮ้ย อย่าร้องไห้กลางห้างเชียวนะ อย่าเชียวนะ

นัยน์ตาของสตาร์คลอไปด้วยน้ำตา ถ้ากระพริบตาเบาๆ ครั้งหนึ่งผมคิดว่ามันคงจะไหลออกมาเลยแหละครับ

งานเข้าแล้วมั้ยล่ะกู

"เราสองคนก็เหมือนกันอ่ะ" สตาร์ทำปากเบ้ไปด้วยหยิบโพสต์อิตออกมาด้วย "สตาร์ไม่คิดว่าเราจะเหมือนกันขนาดนี้ กลัวความผิดหวังเหมือนกันแบบนี้" มันโอดครวญไปเขียนไป เป็นท่าทางที่น่ารักดี

"..."

"ถ้ายังอยู่ตรงนี้ สตาร์ร้องไห้แน่ ไว้ค่อยคุยกันวันหลังนะครับพี่ดิน"

"..."

"สตาร์จะตอบทุกคำถามที่พี่ดินสงสัย"

ผมรับโพสต์อิตมาด้วยความงุนงนปนอึ้ง จากนั้นก็มองดูสตาร์เดินจากไป ท่าทางสตาร์เหมือนคนร้องไห้จริงๆ และที่ต้องรีบหนีผมไปแบบนั้นอาจเป็นเพราะไม่อยากให้ผมเห็นน้ำตาของมัน

ไอดีไลน์ตัวที่ 11
T
ผมจะไปง้อพี่ดินที่บ้านเอง









กรุ๊ปไลน์ 'คิดถึงสตาร์'

Din : ถึงไอ้สิก ช่วยรีวิวตอนที่ฟืนมาบ้านมึงครั้งแรกให้กูฟังที
FUEN : พี่ดินถามอะไรอีกแล้วเนี่ย
AOF : #ปูเสื่อรอ
TANG : สิก มึงก็บอกไปดิว่าหมดถุงยางไปหนึ่งแผงยาวๆ
FUEN : ฟวยตัง พ่องตาย
CHOK : สตาร์จะไปบ้านมึงเหรอ เฮ้ยยย เกินคาดว่ะ
CHOK : น้องแม่งคงชอบมึงมากๆๆๆ จริงๆ ว่ะดิน
PHYSICS : มันจะมีอาร้าย ตอนนั้นผมยังอยู่มอต้นอยู่เลย
PHYSICS : ยากที่สุดก็คือหักห้ามใจตัวเอง ผมบอกได้แค่นี้แหละ
FUEN : หักห้ามใจอะไรของมึง
PHYSICS : ก็กูเกือบจะจูบมึงหลายรอบแล้ว มึงไม่รู้ไง
AOF : ประกาศถึงสมาชิกกรุ๊ปคิดถึงสตาร์ ฟืนอายมากจนโยนโทรศัพท์ทิ้งไปแล้ว...
TANG : รู้ได้ไงวะ หรือว่า...เชี่ยสิก ไอ้อ๊อฟอยู่บ้านไอ้ฟืนว้อยยยย!
TANG : หึงดิวะสัด หึงดิ!
PHYSICS : ฟืนมันอยู่บ้านกู อยู่ข้างๆ กูเนี่ย มั่วจริงๆ สัด
Din : อืม
Din : จูบเหรอวะ
Din : เข้าท่านี่





TBC*
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 18-02-2018 19:40:30
น้องงงงง ถ้าบอกก่อนหน้านี้ก็เคลียร์ไปแล้ววว
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: jajah_s.amp ที่ 18-02-2018 20:54:10
รอดูน้องดาวง้อพี่ดิน~
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: kredkaew26 ที่ 18-02-2018 21:07:17
อ้าาาาาาาาาาาาาาาาา กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
หวานอ่ะ ^^   :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-02-2018 22:20:32
 o13
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: cookie12ck ที่ 18-02-2018 23:57:04
โอ้ยยยยย ใสๆน่ารัก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-02-2018 01:32:21
ตอนหน้า สตาร์สารภาพมาซะดี ๆ เกี่ยวกับเรื่องของเรย์ อยากรู้ อยากเผือก  :m21:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 19-02-2018 01:57:06
น้องดาวจะบุกบ้านพี่ดินแล้ววว :z1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 19-02-2018 09:14:24
ตอนฟืนไปบ้านสิกมันไม่มีอาร้ายยย แต่สตาร์ไปบ้านพี่ดินนี่  :hao6:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 19-02-2018 21:43:12
ควรจะบอกพี่ดินได้แล้วหนูดาว
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 20-02-2018 00:09:37
รีบๆบอกพี่ดินได้แล้วนะน้องดาว พี่เค้าจะได้ช่วย
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 20-02-2018 10:08:26
สตาร์จะไปหาที่บ้านแหละ


ฟินสุดเลยจ้าา
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 20-02-2018 10:18:58
ทำไมตัดตรงเนนนนน้ :ling1:
ตอนสวีทในห้องนี่คือเขินมาก อิพี่ดินแม่งเสี่ยว 55555
หวังว่าตอนหน้าสตาร์จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังน่ะนะ พร้อมฉากสวีท กร๊าก :hao6:
มาต่อไวๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-02-2018 13:45:01
คู่นี้เขารักแรงหึงแรงจริงๆ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-02-2018 19:57:42
อ่านรวบยอดมายาวๆ เลยค่ะ

ดินเอ้ย ทำไมพลาดแบบนี้ล่ะ
เสือจะเป็นแมวก็ยังสยบไม่ลง
ห้ามใจตัวเองก็ไม่ทัน เข้าสู่วังวนของ twinkle ซะแล้ว

สตาร์น่ารัก เป็นคนดี และน่าสงสารไปพร้อมกัน
น้องเปิดใจให้ดินมากเลย และชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

รอสตาร์มาง้อดินที่บ้านค่ะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: มาดามพีพี ที่ 20-02-2018 23:08:23
อยากกอดหนูสตาร์ตั้งแต่อ่านรักร้ายๆ #สิกฟืน แล้วอ่ะ พอมาเป็นเรื่องของน้องจริง...โอ๊ยยยย...จะน่ารักไปไหนลู้กกกก!!
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 24-02-2018 22:18:27
รอนะคะ :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 27-02-2018 18:36:55





ตอนที่ 12






T W I N K L E L I T T

ไอดีไลน์ของสตาร์ต้องเป็นคำว่าทวิงเกิ้ลลิตเติ้ลสตาร์แหงเลย ผมที่นอนแอ้งแม้งอยู่ที่บ้านว่างจัดและก็ยังมีเรื่องคาใจที่ต้องเคลียร์กับสตาร์ ก็เลยเสิร์ชชื่อไอดีสตาร์ตามที่ผมคาดเดา (ขอโกงนิดนึง)

แต่ไม่ใช่ว่ะ มันเป็นไอดีของใครก็ไม่รู้

อยากจะโหวกเหวกโวยวายว่าทำไมต้องใช้ไอดีที่ยาวปานสะพานพระรามแปดแบบนี้วะ กลัวคนแอดไปหาหรือไง ทำไมต้องทำให้เรื่องยุ่งยากแบบนี้

แล้วที่บอกว่าจะมาง้อที่บ้าน จะมาวันไหนกันแน่ล่ะวะ!

ผมคาดเดาไปเองว่าน่าจะเป็นคืนเมื่อวาน วันเดียวกับที่ผมกับสตาร์ไปหาไอ้เรย์ที่สยาม แต่ผิดคาดแฮะ ไม่ใช่เมื่อวาน ผมก็เลยตั้งความหวังเอาไว้ว่าน่าจะเป็นวันนี้ ทุกอย่างเหมาะเจาะลงตัวพอดีเด๊ะ เพราะเป็นวันที่เพื่อนห้องสองของผมประกาศกร้าวผ่านกรุ๊ปไลน์ของห้องว่า

'ใครไปโรงเรียน กูแบน!'

เนื่องจากอาทิตย์นี้จะมีการสอบตรงเข้ามหา'ลัยแห่งหนึ่งครับ เป็นมหา'ลัยฮอตฮิตที่เพื่อนผมส่วนใหญ่อยากจะเข้า ก็เลยนัดกันโดดยกห้อง ผมไม่ได้สมัครมหา'ลัยนี้ แต่ผมก็ไม่อยากโดนเพื่อนแบน (จริงๆ ก็ขี้เกียจด้วย) ก็เลยไม่ไปโรงเรียน ไม่รู้สตาร์จะสงสัยหรือเปล่าว่าผมหายไปไหน

ในเมื่อมันบอกว่าจะมาง้อผมถึงที่บ้าน ผมก็รออยู่บ้าน ให้มันมาง้อผมอยู่นี่ไง

"ดิน" แม่ที่วันนี้อยู่บ้านเอ่ยทักผมซึ่งกำลังนอนอยู่บนโซฟา "พี่พิงค์กลับมาแล้วนะรู้ยัง"

ไอ้พิงค์มาแล้วเหรอ ผมไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ครับเพราะอย่างเคยบอก พี่ชายฝาแฝดแม่งไม่ค่อยมีผลกับชีวิตผมเท่าไหร่ สนิทกันก็จริงแต่ก็ไม่ได้แคร์อะไรกันขนาดนั้น

เอ่อ ก็ได้ครับ ผมสารภาพก็ได้ว่าผมโกรธพวกมัน มีอย่างที่ไหนไปเรียนนอกกันหมด แถมยังไปเรียนคนละที่ ที่สำคัญยังปล่อยให้ผมอยู่กับพ่อแม่ที่เมืองไทย อีกทั้งยังทำให้ผมโดนพ่อแม่บังคับให้เรียนที่ไทยอีก โคตรตัดตัวเลือกผมอ่ะ

สรุปคือผมงอนมันสองคนนั่นแหละ

ไอ้พานไปเรียนวิศวะ ส่วนไอ้พิงค์ไปเรียนถ่ายรูป คนหลังมันจะติสต์ๆ หน่อย ยุ่งด้วยไม่ค่อยได้เท่าไหร่ครับ เดี๋ยวมันจะเตะไข่เอา ถ้าจะถามว่ามันว่ามันติสต์มากขนาดไหนก็ดูตอนที่มันกลับมาไทยสิครับ ไม่ยอมบอกพ่อกับแม่ให้ไปรับเลย

ที่แน่ๆ ไม่ยอมบอกผมด้วย

ไอ้พี่เหี้ยยยยย

"ตื่นเต้นจังเลย" ผมพูดอย่างเฉยเมย

"จะไปโกรธพี่เขาทำไมล่ะ พี่เขาไปเรียนนะ"

"ไม่โกรธแล้ว"

"ถ้างั้นก็ไปทักทายพี่เขาหน่อย"

"ไม่เอาครับ เดี๋ยวมันลงมามันก็ทักดินเอง" ผมพูด ฟอร์มของผมสำหรับพี่น้องสูงเท่าเพดาน ขอบอกไว้ ณ ตรงนี้เลย

"แล้วเป็นไงบ้าง แม่ยังไม่มีโอกาสได้ถามเลย"

"เรื่องไหนครับ" รู้สึกระแวงเล็กน้อย กลัวแม่รู้ว่ามีความรัก

"ก็เรื่องที่ไปสอบมอ C ไง"

"..."

"เป็นไงบ้าง คิดว่าจะมีโอกาสติดมั้ย"

"ผมคิดว่าสมัครที่อื่นเผื่อไว้ดีกว่า อีกอย่างหนึ่งพ่อก็อยากให้เข้ามอ A มากกว่าไม่ใช่เหรอครับ"

"ใช่ พ่อเขาเป็นศิษย์เก่า แต่แม่ก็อยากให้สมัครมอ D ด้วย อย่าลืมนะว่าแม่จบมอ D มา"

"เอาเป็นว่าผมจะสมัครทุกที่ให้พ่อกับแม่เลยก็แล้วกัน"

"นี่แม่ไปคุยโวกับบ้านน้องฟืนมาแล้วนะว่าลูกชายแม่ต้องติดมอ C แน่ๆ"

"แม่จะไปคุยทำไมเล่า" ผมร้อง

"ยังไงลูกแม่ก็ติด แม่มั่นใจ"

แม่ไม่รู้หรอกวันนั้นการสอบในภาคเช้าของผมเละไม่มีชิ้นดี เพราะผมมัวแต่โมโหเรื่องที่สตาร์อยู่กับเรย์ จะว่าไปมันก็ไม่ดีเลยนะครับที่ผมมีความรักตอนผมอยู่ ม.6 เนี่ย แต่ทำไงได้ล่ะ เวลาคนที่ใช่มา มันไม่เลือกหรอกครับว่าจะเป็นตอนไหนเวลาไหน แล้วมันก็ขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะตัดสินใจคว้าเขาเอาไว้หรือไม่

แน่นอนว่าคนนี้โดนใจมาก และผมไม่อยากปล่อยมันไป

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว แม่กลับไปดูแลสปา ร้านที่เป็นกิจการของแม่ ส่วนพ่อผมทำอีกธุรกิจหนึ่งครับเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทั้งคู่ยุ่งมากแต่ก็ยังพยายามหาเวลามาอยู่กับผม

ในที่สุดไอ้พิงค์ได้ฤกษ์เสด็จลงมาจากห้องนอนสักที

"ไง" มันทักผม ดูหล่อขึ้นมากจากเมื่อปีก่อน ผมนึกว่ามันจะไว้หนวดไว้เครา ที่ไหนได้ใบหน้าของมันเกลี้ยงเกลาแถมทรงผมก็ยังดูดีมากอีกต่างหาก อะไรกัน พี่ผมไม่ใช่ศิลปินสายเซอร์ๆ เหรอวะ "ได้ข่าวว่างอนกู"

"ไม่ได้งอน" ผมโวย "ข้าวอยู่ในครัว แม่ฝากบอก"

"มาแดกด้วยกันดิ"

"ไม่แดก แดกไม่ลง"

"นั่นไง งอนกูอยู่ชัดๆ"

"ไม่ได้งอนโว้ย แต่มีเรื่องให้คิดอยู่ต่างหาก"

"เรื่องผู้หญิงเหรอ มึงเลิกกับหยกแล้วไม่ใช่หรือไง"

คิดดูครับว่าหยกเคยมีอิทธิพลกับผมขนาดไหน พี่ผมยังรู้จักอ่ะ

"ไม่ใช่หยก"

"..."

"ไม่ใช่ผู้หญิงด้วย"

คำพูดของผมทำเอาพิงค์มันสตัน จากนั้นก็เดินมาหาผมด้วยใบหน้าตื่นตกใจก่อนจะยิ้มแป้น 

"เด็ดว่ะน้องกู"

"ของมันแน่"

มันเป็นคนเปิดกว้าง ถึงแม้จะทำตัวเข้าใจยากไปสักหน่อย แต่ข้อดีของมันก็คือมันเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์เลือกว่าตัวเองจะใช้ชีวิตแบบไหน

"ว่างๆ เอามาอวดหน่อย กูอยากรู้ว่าจะหล่อกว่ามึงมั้ย"

"ใครจะหล่อสู้กูได้"

"กูนี่ไง"

"พี่ดินครับ" เสียงตื่นๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นแทรกระหว่างผมกับพิงค์ ผมรีบลุกขึ้นนั่งมองดูสตาร์ที่อยู่ในชุดนักเรียนด้วยความตกตะลึง นอกจากมันจะโดดเรียนมาหาผมในเวลากลางวันแสกๆ แล้ว มันยังเข้ามาในบ้านผมได้ง่ายๆ เฉยเลย

ใครเปิดประตูให้เนี่ย

"หืมมม" ไอ้พิงค์เอียงคอเป็นเชิงถามผม ผมทำปากขมุบขมิบไร้เสียงบอกพี่ชายตัวเองว่า 'คนนี้แหละๆ'

"เข้ามาได้ยังไง" ผมถามสตาร์

"คุณแม่พี่ดินเปิดให้ครับ พอดีสวนกันน่ะ"

"นี่ภูพิงค์นะ พี่ชายของพี่"

"เอ่อ หวัดดีครับ" สตาร์ยกมือไหว้ ไอ้พิงค์มองสตาร์เหมือนมองปู ไปรยา นัยน์ตาเป็นประกายฉิบหาย

"แฟนมึงเหรอ" พิงค์ถามผมอย่างไม่เกรงใจผู้มาใหม่

"ใช่" ผมตอบ "รู้แล้วก็ไปได้แล้ว อย่ามากวน"

"ไปไหนล่ะ นี่บ้านกู"

"นี่บ้านกูเหมือนกันอ่ะ เอาของกินขึ้นไปกินในห้องนอนไป๊"

"มึงสองคนก็ขึ้นไปบนห้องนอนมึงสิ กูจะแดกข้าวแถวนี้"

ผมอ้าปากพะงาบๆ ขณะที่สตาร์หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก เดี๋ยวก่อนนะ เพิ่งจะจับสัญญาณอะไรบางอย่างได้ว่าพี่ผมมันกำลังช่วยผมอยู่นี่หว่า ดูจากสายตาที่เต็มไปด้วยความนัยของพิงค์แล้ว มันกำลังเปิดโอกาสให้ผมชัดๆ

สตาร์ดูวางตัวไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ ผมควรจะแก้สถานการณ์นี้ยังไงดี ไอ้พิงค์เดินไปหยิบของกินมานั่งกินที่โซฟาเรียบร้อยแล้ว (ในครัวก็มีโต๊ะกินข้าวไม่ใช่หรือไง) เหมือนมันกำลังพยายามให้ผมพาสตาร์ขึ้นห้องนอนให้ได้

"คงต้องไปคุยกันข้างบนแล้วล่ะ" ผมรำพึง

น้องจะยอมมั้ยวะ ผมคิดในใจอย่างลุ้นๆ ที่แน่ๆ ผมไม่ได้จะทำอะไรมันหรอกครับ เดี๋ยวไก่ตื่นหมด

แต่ไอ้นั่นของผม...มันก็เริ่มจะมีความรู้สึกนิดๆ

"ก็ได้ครับ"

นั่นยังไงล่ะ! ผมชูมือดีใจลับหลังสตาร์กับพี่ชายตัวเอง ก่อนจะเดินนำสตาร์ไปยังห้องนอนของผมที่อยู่บนชั้นสอง

ไอ้พิงค์ไลน์มาบอกผมระหว่างที่กำลังเดินขึ้นบันได

PING : ขอโทษที่ทิ้งมึงไปนอก ไอ้น้อง
PING : เมื่อกี้ถือซะว่ากูไถ่โทษละกัน


ผมยิ้มก่อนจะกดตอบ

Din : กูหายโกรธนานแล้วสัด กูแค่ไม่พูด
Din : ขอบคุณนะ


ผมภาวนาในใจ...ขอให้ตัวเองไม่ใจร้อน เผลอทำอะไรบางอย่างกับน้อง...








"ห้องพี่ดินกว้างว่ะ" สตาร์มองดูห้องผมอย่างตื่นตาตื่นใจ ผมรู้สึกเก้อเขิน แต่ก็พยายามเก็บอาการนั้นเอาไว้ "โอ้โห" มันตกตะลึงกับกองหนังสือเรียนบนโต๊ะของผมมาก "นี่อ่านทุกวันจริงป่ะเนี่ย"

"ก็จริงน่ะสิ เห็นพี่เป็นคนขี้เกียจเหรอ"

"ประมาณนั้นแหละ"

"เฮ้ย" ไอ้นี่แม่งกวนประสาทแล้ว

"ล้อเล่น"

ผมปล่อยให้สตาร์สำรวจห้องผมตามใจชอบ ก่อนจะลงมือปิดประตู รู้สึกทั่วร่างกายวูบไหวไปหมด อาจเป็นเพราะผมตื่นเต้นที่สตาร์อยู่ในห้องนอนตัวเองก็เป็นได้

เอ๊ะ หรือมันจะมีอะไรมากกว่านั้นวะ

ไอ้นั่นของผมมันเริ่มส่งสัญญาณเมื่อผมตั้งคำถามให้ตัวเอง ครับ ผมยังเป็นเด็กหนุ่มที่ฮอร์โมนแม่งโคตรจะพลุ่งพล่าน การที่มีเด็กผู้ชายซึ่งผมมีความรู้สึกพิเศษด้วยมาอยู่ในที่ลับหูลับตากันสองต่อสอง ผมเชื่อว่าผมต้องมีความรู้สึกตรงนั้นแน่นอนอยู่แล้ว

สัดดิน มึงอย่าเชียวนะ น้องมันยังเด็กโว้ยยย!

อึดอัดจนต้องระบายออกมาด้วยการกลืนน้ำลายซ้ำแล้วซ้ำอีก

"นี่คือมาง้อพี่ใช่ป่ะ" ผมทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาพาดเข่า มองดูสตาร์ที่เดินเหินไปทั่วห้อง นึกสวดมนต์ได้ใจว่าอย่าให้น้องเห็นความผิดปกติของผม คือตอนนี้เหงื่อเริ่มจะตกแล้วครับ
 
สตาร์แม่งก็เหมือนสตาร์คนเดิม แต่ผมนี่แหละที่ไม่เหมือนเดิม จริงๆ แล้วสตาร์ไม่ควรมาอยู่ในห้องผมเวลานี้เลย

บรรยากาศแม่งโคตรเป็นใจ ไม่มีใครรบกวน มีเตียง มีแอร์เย็นฉ่ำ...

เย็นไว้ดินน้อย มึงเย็นไว้

"ไหนล่ะ ไม่เห็นง้อเลย" ผมถามเพื่อกดอารมณ์ตัวเอง

"พี่อยากรู้อะไรก็ถามมาสิครับ" สตาร์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรหันมาตอบ

"คนง้อก็ควรจะรู้สิว่ามาง้อเรื่องอะไร"

"โอเค ยอมแพ้ก็ได้" สตาร์ยืนนิ่งๆ มองผมอย่างรู้สึกผิด

"มานั่งนี่" ผมตบลงที่ว่างข้างตัวเอง อีกฝ่ายเดินมานั่งอย่างว่าง่าย ไม่คิดว่าน้องมันจะมาง่ายขนาดนี้ นี่มันไม่กลัวว่าผมจะทำอะไรมันเลยหรือไงวะ ถ้ามันยอมล่ะก็...ผมนี่จบทุกอย่างได้เลยนะ

เดี๋ยว ผมคิดอกุศลอะไรอยู่ ดินมึงช่วยเอาใจมาโฟกัสกับบทสนทนาด้วยสาดดด

"สิ่งที่ผมอยากจะพูดก็คือเรื่องพี่เรย์ผมมีเหตุผล มันเป็นข้อตกลงเมื่อนานมาแล้วว่าผมจะต้องอยู่กับเขา อยู่ให้เขาจีบไปเรื่อยๆ เพราะเพื่อนในห้องหนึ่งของผมติดหนี้พี่เขา"

"ห้องหนึ่งเนี่ยนะ เพื่อนสตาร์นั่นน่ะนะ" ผมร้องเสียงหลง หน้าตาแต่ละคนเหมือนเรียนหมอกันตั้งแต่มัธยมอ่ะ ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องหนี้สินไม่ใช่เหรอ

ผมลืมเรื่องของส่วนนั้นของผมไปชั่วครู่

"ไม่น่าเชื่อใช่ป่ะ"

"แล้วทำไมต้องเป็นสตาร์วะ" ผมโวยวาย ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ "เพราะไอ้เรย์มันชอบสตาร์งั้นสิ"

"ก็ประมาณนั้นแหละครับ" คนข้างๆ ผมยักไหล่ "จริงๆ แล้วสตาร์ก็ยังไม่แน่ใจว่าพี่เรย์ชอบสตาร์จริงเปล่า"

น้องมันควรแน่ใจได้แล้วล่ะ ตอนอยู่กัน 3 คนเชี่ยเรย์มันเกือบจะแดกหัวผมอยู่แล้ว ยังไงมันก็ชอบคนคนนี้ของผมจริงๆ แน่
ผมกำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว

"ติดหนี้เท่าไหร่" กัดฟันถามอย่างนึกแค้น

"น่าจะหลายแสน"

"แล้วทำไมไม่มีใครจ่ายให้เพื่อน สตาร์ก็น่าจะจ่ายได้ไม่ใช่เหรอ"

สตาร์มองผมเหมือนผมพูดอะไรบางอย่างที่โง่มาก ไม่รู้สิวะ ผมก็พูดตามอารมณ์ของผมอ่ะ "เงินหลายแสนหายไปจากบัญชี พี่ดินคิดว่าพ่อกับแม่ผมจะสงสัยมั้ยครับ อีกอย่างหนึ่งไอ้ตือมันก็ไม่อยากยืมเงินเพื่อน ช่วงนี้มันก็พยายามรวบรวมเงินและก็พูดกับทางครอบครัวอยู่"

"ใช้ความพยายามนานเกินไปแล้วมั้ง"

"ยังไงตอนนี้ผมก็ต้องดึงเรื่องพี่เรย์ให้ยืดออกไปให้ได้ จนกว่าตือจะหาเงินมาได้ครบ"

"นี่สตาร์กำลังใช้ตัวเองแทนเงินอยู่รู้ตัวใช่มั้ย"

"สตาร์รู้ แต่ไอ้ตือมันก็เป็นเพื่อนอ่ะ จะให้ทำไง"

"..."

"มันไม่มีทางไหนที่จะช่วยเพื่อนได้อีกแล้ว"

ตอนนี้ผมเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋แล้วว่าทำไมไอ้พวกเด็กห้องหนึ่งถึงหวงสตาร์มาก เพราะสตาร์ทำเพื่อเพื่อนโดยเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง มิน่าล่ะไอ้บู้มันถึงออกตัวว่าหวงนักหวงหนา

ให้ตายสิวะ ผมเซ็งตรงห้องรวยๆ อย่างห้องคิงแม่งทำได้แค่นี้ ทั้งๆ ที่ควรจะทำอะไรได้มากกว่านี้แท้ๆ

"อีกอย่างหนึ่งพี่เรย์ก็คงไม่ทำอะไรสตาร์แน่ๆ พี่เขาก็ดูเป็นคนดีคนหนึ่งนะครับ"

อันนี้ขอเถียงหน่อยเถอะ "เพราะมันชอบสตาร์มันถึงทำตัวเป็นคนดีไง เนื้อแท้มันจริงๆ มันร้ายมาก รู้มั้ยว่าปีก่อนเด็กโรงเรียนเราต้องซวยเพราะมันเยอะมากแค่ไหน"

"ก็พอจะรู้อยู่ครับ แต่พี่เรย์ก็พยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นอยู่"

"..."

"หลังๆ ไม่ค่อยมีใครวิ่งไปฟ้องพี่ดินเรื่องที่ถูกหาเรื่องเลยใช่มั้ยครับ ผมนี่แหละเป็นคนขอร้องพี่เรย์เอง"

"นี่เรากำลังจะบอกพี่ว่า..."

"ผมอาจจะช่วยให้พวกโรงเรียนพี่เรย์เลิกหาเรื่องเด็กโรงเรียนเราก็ได้ครับ"

เดี๋ยวสิ...

"จริงๆ แล้วสตาร์ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้นะ" ผมพูดอย่างเป็นกังวล ทำไมเด็กตัวเล็กๆ คนนี้ต้องลงทุนทำอะไรขนาดนั้น "ไอ้เรย์มันไม่ทำอะไรสตาร์และมันก็ไม่ทำอะไรเด็กโรงเรียนเราก็จริง แต่เพื่อนๆ ของมันล่ะ มีแต่ตัวอันตรายๆ ทั้งนั้นเลยนะ"

"พี่เรย์ก็พยายามช่วยเท่าที่ช่วยได้อยู่ครับ เขาสัญญากับสตาร์เอาไว้ว่าจะทำตัวดีขึ้น"

"..."

"ทำเพื่อสตาร์น่ะ"

หัวของผมเริ่มรู้สึกร้อนรุ่ม อะไรคือการที่ผมจะต้องมานั่งฟังคนที่ผมชอบเล่าถึงสรรพคุณเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีสถานะเป็นศัตรูของผมด้วย ผมชักจะไม่เข้าใจซะแล้ว

"แบบนี้ก็ต้องมีสักวันที่สตาร์ใจอ่อนให้มันอ่ะดิ มันทำทุกอย่างเพื่อสตาร์ขนาดนี้"

"สตาร์แค่อยากให้โอกาสคนคนหนึ่งได้กลับตัวกลับใจน่ะครับ อีกอย่างหนึ่งพี่เรย์ก็อยู่ ม.6 แล้วด้วย สตาร์เป็นคนเกลี้ยกล่อมให้พี่เรย์ไปสอบโควตามอ C เอง ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยคิดจะไปสอบด้วยซ้ำ"

ผมเริ่มหน้าบึ้งตึงขึ้นเรื่อยๆ ทำไมฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ วะ เหมือนคนที่สตาร์สนิทด้วยมากกว่าคือไอ้เรย์ ไม่ใช่ผม สองคนนี้ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมากกว่าผมงั้นเหรอ

ความโกรธของผมแล่นไปสู่ฝ่ามือที่เริ่มกำแน่น มองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่เข้าใจ

"พี่ดิน" สตาร์ทำตัวไม่ถูก "ถ้าสตาร์อยู่ใกล้พี่เรย์ พี่เรย์จะนิสัยดีขึ้นนะครับ"

"ช่างหัวมันสิ!" ผมร้อง "บ้าป่ะเนี่ย ทำไมต้องไปยุ่งกับมันขนาดนั้น ปล่อยมันไปซะ!"

"พี่ดินครับ"

"ใครรับได้ก็บ้าแล้ว"

สตาร์ตกใจจนก้มหน้าก้มตา ผมหายใจฟึดฟัด อารมณ์โมโหยังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

"บอกแล้วไงว่าให้เชื่อใจ" สตาร์พึมพำ

"พี่เชื่อใจ แต่มันก็หึง แค่นั้น"

"แต่ว่า..."

"เอางี้" ผมเชยใบหน้าสตาร์ให้เงยขึ้น จากนั้นก็ประทับริมฝีปากของตัวเองลงไป

ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก ทว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้วเวลากลับเชื่องช้าลงไปถนัดตา ผมส่งสัมผัสอ่อนหวานให้คนตัวเล็กที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมาจากจิตใจ มันเป็นสัมผัสที่หวานมากสำหรับผม และผมไม่เคยรู้สึกว่าต้องทะนุถนอมใครขนาดนี้มาก่อน

ผมผละริมฝีปากออก มองดูใบหน้าของสตาร์ที่แดงแจ๋ยิ่งกว่าตอนอยู่ข้างล่างบ้านซะอีก

จริงๆ อยากทำมากกว่านั้นเยอะแต่มันไม่ได้...ผมได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนเก็บโทสะตัวเองเอาไว้ไม่ให้ระบายออกมาด้วยการปล้ำเด็กคนนี้ตอนนี้

"ถ้าจะไปกับมัน สตาร์ต้องมาจูบพี่ก่อนทุกครั้ง" ตอนนี้ผมคงทำได้แค่นี้จริงๆ

"บะ บ้าป่ะ"

"ตามนั้น" ผมทำเป็นลอยหน้าลอยตา แต่หัวใจกลับเต้นแรงแทบบ้าเมื่อสายตาไปเจอะเข้ากับริมฝีปากแดงที่เผยอนิดๆ ของฝ่ายตรงข้าม

เมื่อตะกี้ผมจูบสตาร์จริงๆ ด้วยแฮะ

คนในกรุ๊ปไลน์แม่งจะต้องไชโยโห่ฮิ้ว

"แต่ว่าพี่ดิน..."

"ไม่มีแต่"

"..."

"อยากให้พี่เชื่อใจ ก็ต้องทำให้พี่เชื่อใจก่อน"

"..."

"คนชอบกันต้องจูบกันบ่อยๆ นะ จำไว้" ผมกลืนน้ำลายก่อนพูด

"แบบนี้มันเห็นแก่ได้นี่หว่า" สตาร์ทุบไหล่ผม ผมไม่ได้สะเทือนอะไรกับกำปั้นเล็กๆ นั่นเลย ในใจรู้สึกอยากรวบสองมือนั่นเอาไว้แล้วทำอะไรต่อมิอะไรต่อไป

ได้แต่ย้ำกับตัวเองเป็นครั้งที่ล้านว่า...เย็นไว้ดินน้อย มึงเย็นไว้

"..."

"จะให้บอกอีกกี่ครั้งว่ามันไม่มีอะไร"

"พูดไปเหอะ ยังไงพี่ก็ไม่เปลี่ยนความคิดว่ะ"

"..."

"จะไม่จูบก็ได้นะ แต่กอดแทนได้" แขนยาวๆ ของผมโอบรอบไปที่เอวของสตาร์ แต่อีกฝ่ายดีดตัวออกไปจากผมอย่างรวดเร็วไปนั่งอยู่อีกฝั่ง

โธ่ เวรกรรม...

"คนที่อันตรายกว่าพี่เรย์ก็คือพี่ดินนี่แหละ สตาร์ไม่น่ามาเลย" มันหยิบกระเป๋าเป้เตรียมกลับ เห็นมั้ยครับว่าเด็กมันเหมือนไก่ตื่น เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ

"โอเคๆ ไม่แต๊ะอั๋งแล้วก็ได้ ยอมแพ้แล้ว" ผมยกมือขึ้นทั้งสองข้างเพื่อโชว์ว่าผมจะไม่ทำอะไรมันอีกแล้ว

สตาร์มองผมอย่างไม่ไว้ใจ จากนั้นก็นั่งลงที่เดิม

มันไม่รู้หรอกว่าผมต้องหักห้ามใจตัวเองมากแค่ไหน

"สตาร์นี่ก็บ้า"

"..."

"รู้ว่าจะโดนทำอะไรก็ยังยอมมา"

มันรู้เว้ย แล้วมันจะทำท่าตกใจทำไมกัน ผมหัวเราะก๊าก ลูบหัวอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู "ก็เพราะเราชอบพี่เหมือนกันไง"

"ใช่" สตาร์ทำหน้าเหนื่อยใจ "นี่คิดแทบตายเลยนะว่าจะง้อพี่ดินยังไง"

"ไม่เห็นยาก แค่พูดกับพี่ตรงๆ ก็โอเคแล้ว" ผมเอ่ย "แต่เอาจริงๆ นะ พี่ว่าสตาร์ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้าไปใกล้ไอ้เรย์มันขนาดนั้น มันอายุเท่าไหร่แล้ว น่าจะคิดเองได้แล้วว่าอะไรดีหรือไม่ดี"

"..."

"หรือว่าสตาร์ชอบอยู่ใกล้มัน" ผมหรี่ตามองอีกฝ่าย

"จากที่กลัวๆ เกรงๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเฉยๆ ไปแล้ว ที่สตาร์ยอมไปเจอ ก็เพราะกลัวพี่เรย์จะเอาเรื่องไอ้ตือเข้าสักวันด้วยนั่นแหละ ก็เลยต้องกันเอาไว้ก่อน"

"นี่รักเพื่อนมากเลยใช่ป่ะ" ผมแซวอย่างประชดประชัน

"ใครไม่รักเพื่อนบ้าง"

"สรุปก็คือถ้าจะไปเจอไอ้เรย์ ต้องมาจูบพี่ก่อนนะ"

"ประเด็นนี้ยังไม่ตกไปอีกเหรอวะ" สตาร์โวย

"พี่ถึงจะเชื่อไงว่าสตาร์มีใจให้พี่จริงๆ"

สตาร์หรี่ตามองผมอย่างหมั่นไส้ ผมถือวิสาสะดึงตัวของอีกฝ่ายโน้มเข้ามาใกล้คล้ายกับนอนตักผมกลายๆ

"ทีตัวเองล่ะ ไม่มีอะไรจะพูดเลยเหรอ"

"หืม" ผมส่งเสียงอย่างสงสัย

"ก็ที่ไปกับฟืนสองคน"

"..."

"ไหนบอกลืมแล้วไง ทำไมโคตรสวีต แล้วยังไปกันแค่สองคนอีก"

ผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้ "ตอนนั้นไอ้สิกก็อยู่ด้วย"

สตาร์เงยหน้ามองผมด้วยสายตามีคำถาม "หา"

"สตาร์ลองนึกดูดีๆ ซิว่าคนอย่างสิกมันจะปล่อยให้ฟืนมาอยู่กับพี่สองคนได้ไง มันสองคนตัวติดกันจะตาย ยังไงมันก็ต้องมาด้วยกันอยู่แล้วป่ะ"

"นี่อย่าบอกนะว่า..."

"พวกมันช่วยกันคิด คงอยากให้พี่เรียกร้องความสนใจจากใครบางคน" ผมมองตาอีกฝ่ายที่พยายามหลบตาผม

"แล้วได้ผลมั้ย" สตาร์ถาม

"ไม่ได้ผลนะ"

"..."

"แต่ตามมาหาพี่ที่บ้านเลย" สตาร์ต่อยคางผมอย่างหมั่นไส้ จากนั้นก็ปล่อยให้ผมกอดกลายๆ อย่างตามใจ "เหลือเชื่อเนอะ คนที่ไม่มีไอดีไลน์ ไม่ค่อยได้คุยกันจะมีใจให้กันขนาดนี้ได้"

"คิดไปเอง"

"หรือไม่จริง"

"ก็จริงนั่นแหละ"

"เมื่อไหร่จะใจอ่อนให้พี่มาหมดทุกตัวล่ะ"

"ใจร่มๆ ดิ" สตาร์ยื่นโพสต์อิตใส่ปากให้ผมคาบ "เรื่องพี่หยกก็ยังไม่ได้เคลียร์ไม่ใช่เหรอ"

ผมกระพริบตาปริบๆ มองใบหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตามึนงง มันยังคิดมากเรื่องหยกอยู่เหรอเนี่ย สตาร์ทำหน้าหงอยไปเล็กน้อย ขณะที่ผมคลี่โพสต์อิตออกอ่าน

ไอดีไลน์ตัวที่ 12
L
มาง้อแล้ว คนขี้หึงเอ๊ยยยยยยยย


เฮ้ยชอบว่ะ

เพราะมันคือความจริง ผมคือคนขี้หึงที่สุดในโลกกกกกกกก แต่ไม่แน่อาจจะแพ้ไอ้สิกนิดนึง ไอ้นั่นแม่งหึงเข้าขั้นโรคจิต

"คนที่พูดถึงแฟนเก่าพี่ไม่ใช่คนขี้หึงเลยเนอะ" ผมยิ้มมุมปาก

สตาร์มองผมอย่างนึกหมั่นไส้ "ไม่เคยเถียงสักหน่อยว่าไม่ใช่คนขี้หึงอ่ะ"






กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของพี่ดิน'

Din : จงอภิปรายกันมาว่าทำไมสตาร์ถึงยังคิดมากเรื่องหยกอยู่ได้?
FUEN : หืมมมมม
AOF : คงเป็นเพราะพี่ดินเคยคบด้วยมานานมั้ง
TANG : วันนี้พี่ดินไม่มา แต่พี่หยกมาหาพี่ดินที่โรงเรียนนะ
Din : จริงดิ
TANG : ผมกับอ๊อฟช่วยส่งพี่เขาขึ้นแท็กซี่เนี่ย
Din : ขอบใจนะเว้ย
CHOK : มึงมันไม่น่าไว้ใจไง ไอ้เสือออออ
PHYSICS : พี่อาจจะคิดว่าตัวเองชัดเจนมากพอแล้ว
PHYSICS : แต่ลองชัดเจนกว่านี้ดูซิ
PHYSICS : เบื่อจริงพวกทำอะไรไม่ชัดเจนเนี่ย
FUEN : แต่ก่อนมึงชัดมากเนอะ...
PHYSICS : ชัดดิ แต่มึงโง่ คิดว่ากูทำไปเพราะมึงเป็นเพื่อนเฉยๆ ไง
Din : สิกอย่าร้องไห้
PHYSICS : ยุ่งไรวะพี่
AOF : มันด่าว่าพี่เสือกอ่ะ
Din : กูรู้แล้ว!
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 27-02-2018 18:46:41





ตอนพิเศษ
บันทึกพิเศษของสตาร์

ผมชื่อสตาร์ และเขาคนนั้นชื่อว่าพี่ดิน

สารภาพตามตรงว่าผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมารู้สึกอะไรกับคนอย่างพี่ดินนี่เลย เขาเป็นรุ่นพี่ที่เพอร์เฟ็กต์จนเกินไป ถึงแม้ว่าพอได้ไปสัมผัสใกล้ๆ แล้วพี่ดินเขาจะไม่เพอร์เฟ็กต์อะไรขนาดนั้นก็ตาม แต่ผมก็ไม่คิดไม่ฝันอยู่ดีว่าพี่เขาจะได้เข้ามาอยู่ในชีวิตผม มาอยู่ใกล้จนผมรู้สึกหวั่นไหวไปหมดแบบนี้

ทั้งๆ ที่เขาไม่มีไอดีไลน์ของผม...ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้มีโอกาสติดต่อผมทุกวัน แต่เขากลับทำให้ผมใจสั่นอย่างที่ตัวผมเองก็ควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่

ไอ้เชี่ยบู้มักจะเอ่ยแซวผมเล่นๆ ว่า 'ที่มึงรู้สึกแบบนี้ อาจเป็นเพราะพี่ดินมาถูกจังหวะพอดีหรือเปล่า' จังหวะที่ไอ้บู้หมายถึงก็คือพี่ดินเข้ามาในช่วงหลังจากที่ผมอกหักจากสิก พี่ดินก็อกหักมาจากฟืนเหมือนกัน เมื่อคนอกหักมาเจอกัน อาจจะเกิดความหวั่นไหวขึ้นเพียงเพราะต้องการใครสักคนมาเติมเต็มส่วนที่ขาด ไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริง

แต่กับพี่ดินมันไม่ใช่อย่างนั้นว่ะ

ผมหวั่นไหวตั้งแต่ที่พี่เขาบุกมาขอไลน์ผมที่ห้องแล้ว ประทับใจตั้งแต่ที่ไอ้บู้บอกว่าพี่ดินทำท่าไม่เชื่อว่าไอดีไลน์ของผมตัวละสามพัน ไอ้บู้แม่งก็เว่อร์ พูดออกไปได้ยังไงวะว่าราคาไอดีไลน์ผมสูงขนาดนั้น ใครเขาจะไปเชื่อ แต่พี่ดินเชื่อครับ แถมยังคิดจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมาด้วย ผมงงมากว่าทำไมถึงอยากได้ขนาดนั้น ไอ้บู้มันก็บอกว่าพี่ดินไม่ชอบให้ใครมาท้า คงจะทำตามคำท้าให้ได้อะไรประมาณนั้น

ยอมรับตามตรงว่าผมผิดหวังนิดหน่อย แต่เมื่อเจอกับพี่ดินตอนเย็นวันนั้น ความผิดหวังของผมก็มลายหายไป ผมประทับใจพี่ดินจากความรู้สึกของตัวเองจริงๆ เขาจริงจังกับการทำเพื่อให้ได้ไอดีไลน์ของผมทั้งๆ ที่เขาสามารถเขย่าคอเสื้อผม บีบบังคับให้ผมยอมบอกก็ยังได้เพื่อจะได้ชนะคำท้า แต่พี่ดินไม่ทำแบบนั้นครับ ยอมเป็นเบี้ยล่างให้เด็กกระโปกกระโหลกกะลาอย่างพวกผมจนผมถึงกับต้องเก็บเรื่องนี้มาคิดเพื่อให้ตัวเองใจเต้นแรงแน่ะ

ยิ่งได้อยู่ใกล้ชิด ผมก็ยิ่งเห็นความพยายาม ความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของพี่ดิน แต่เหนือไปกว่านั้นผมแพ้อะไรบางอย่างในตัวของเขา และเป็นสิ่งที่พี่ดินแสดงออกมาให้ผมเห็นได้อย่างเต็มเปี่ยม

ความจริงใจร้อยเปอร์เซ็นต์

พี่ดินช่างเป็นผู้ชายที่เต็มไปด้วยความจริงใจ ถ้าเขาเกลียด เขาก็จะบอกว่าเขาเกลียดอย่างไม่ลังเล และถ้าเขาชอบ เขาก็จะบอกว่าเขาชอบอย่างไม่ลังเลเหมือนกัน ผมอาจจะไม่เคยถูกพี่ดินสารภาพความรู้สึกกับผมตรงๆ แต่ก็มีหลายครั้งที่ผมเดาพี่ดินออก

บางทีอาจจะไม่ได้พูดมันออกมา แต่การกระทำของเขาก็ค่อนข้างชัดเจนว่าเขาคิดอะไรกับผม

ผมเพียงแต่ต้องการความมั่นใจมากกว่านี้ อาจเป็นเพราะผมเพิ่งอกหักมาจากสิกในแบบที่น่าจะกลายเป็นปมในชีวิตของผมเลยก็ได้ จะไม่ให้ผมคิดแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ ตอนนั้นผมทั้งโง่และก็เซ่อที่เข้าไปจีบสิกแบบนั้น นี่ผมไม่เคยสังเกตเลยหรือไงว่าสิกมันชอบฟืนมากแค่ไหน

อาจจะเรียกได้ว่าตอนนั้นความรักมันบังตาก็ได้ ผมคิดเข้าข้างตัวเองล่ะมั้งว่าสิกมันคงไม่ได้ชอบฟืนในแง่นั้น เพราะงั้นถึงมันจะไม่ได้ชอบผมตั้งแต่แรก แต่อย่างน้อยผมก็ยังมีโอกาส ใครเล่าจะรู้ว่าแค่คำว่าโอกาสเพียงสองพยางค์มันก็ยังดูมากไปสำหรับผม

สิกไม่เคยเปิดรับใครเลย มันรักเดียวใจเดียวมาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าผมจะทำยังไง จะพยายามมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วสิกก็ไม่มีวันชอบผม ถึงอย่างนั้นเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ทำให้มันกลายเป็นปมในชีวิตของผมหรอกครับ

ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่ว่าผมทำร้ายเพื่อน ทำให้เพื่อนที่รักกันสมหวังช้าลง มันกลายเป็นความผิดพลาดที่ผมไม่มีวันให้อภัยตัวเอง ถึงแม้ว่าผมจะเจ็บปวดเพราะผมเป็นฝ่ายอกหัก แต่ความเจ็บปวดนั้นกลับเทียบไม่ได้เลยกับความรู้สึกผิดที่อยู่ผิดที่ผิดทาง เป็นคนเซ่อๆ เด๋อๆ ด๋าๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีอยู่ในนิยายที่มีสิกฟืนเป็นพระนายก็ได้

เพราะฉะนั้นสำหรับเรื่องของพี่ดิน ผมไม่อยากอยู่ผิดที่ผิดทางอีกแล้ว ผมอยากให้ที่ข้างๆ พี่ดินคือที่ของผม

มันทั้งกลัวทั้งหวาดระแวงไปหมดครับ กลัวว่าผมจะกลายเป็นใครก็ไม่รู้ที่ไปแทรกกลางระหว่างพี่ดินกับคนรักเก่าของเขา ถึงผมจะบอกไปแล้วข้างต้นว่าพี่ดินเป็นคนที่มีความจริงใจอยู่เต็มร้อย อันนั้นผมเชื่อสนิทใจ แต่อย่างที่บอกแหละ คนที่เคยผิดพลาดมาก่อนย่อมไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นมันเกิดขึ้นซ้ำอีก เพราะในความเจ็บปวดของผมจะมีคนที่เจ็บกว่าผม นั่นก็คือคนสองคนที่ผมพลั้งมือทำร้ายไปโดยไม่ตั้งใจ

พี่ดินจะทำให้ผมมั่นใจในตัวพี่เขาได้จริงๆ ได้ใช่มั้ย

และยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เรื่องระหว่างผมกับพี่ดินยังเป็นไปไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องของพี่เรย์

ผมคงเห็นแก่ตัวเกินไปถ้าจะบอกว่าผมอยากให้พี่ดินชัดเจน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังมีปัญหาติดตัวอยู่ ผมไม่สามารถตอบตกลงคบกับพี่ดินได้เพราะติดอยู่ที่คนคนนี้ อาจจะมองว่าผมเฉยๆ เมื่อได้อยู่ใกล้พี่เรย์ แต่มีบางครั้งที่ผมเองก็คิดหนักเหมือนกันว่าจะบอกพี่เรย์ยังไง

ถ้าผมบอกว่าผมชอบพี่ดินก็กลัวว่าพี่เรย์จะไปจัดการกับไอ้ตือที่ยังติดหนี้พี่เรย์อยู่หลายแสน ตอนนี้คนคนนี้ใจเย็นลงไปมากแล้วเพราะคำพูดของผมมีอิทธิพลกับเขาพอตัว ผมรู้แหละว่าสิ่งที่ผมทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง ผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขาก็ยังจะไปอยู่ใกล้พี่เขาอยู่ได้ ก็อย่างที่บอกแหละครับ ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะว่ารักเพื่อนจริงๆ

ฉะนั้นเรื่องของผมกับพี่ดินมันยังคงเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้ว่าผมเองจะเริ่มใจร้อน เริ่มเข้าหาพี่ดินอย่างไม่เกรงกลัวหรืออับอายอะไร ถึงจะรู้ว่ายังไม่สมหวังไปทั้งหมดเสียทีเดียว แต่อย่างน้อยผมก็อยากอยู่ใกล้ๆ พี่ดิน

มันจะต้องมีวันนั้น วันที่ผมสามารถคบกับพี่ดินได้โดยที่ไม่มีอุปสรรคใดๆ มาขัดขวาง พี่ดินจะต้องเคลียร์ให้ชัดเรื่องพี่หยก (และก็เรื่องฟืนด้วย...ก็ใครใช้ให้อัพสตอรี่เหมือนไปกันสองคนอ่ะ...ผมนี่หึงเป็นบ้าเลย) ส่วนก็ผมก็ต้องเคลียร์เรื่องพี่เรย์เช่นกัน ผมจำวันก่อนที่สิกกับฟืนจะคบกันได้ สองคนนั้นยังมาเคลียร์กับทั้งผมและก็ทั้งพี่ดินในวันเดียวกัน ผมจำได้ขึ้นใจเลยแหละ ถึงแม้ว่าจะเป็นความทรงจำที่ผมค่อนข้างโทษตัวเอง แต่มันก็สามารถนำมาปรับใช้กับตัวเองได้

หลังจากวันนั้นไอ้สิกกับฟืนก็รักกันดีมากจนใครๆ ต่างก็อิจฉา มันทำให้ผมคิดได้ว่าก่อนที่คนเราจะคบกันได้ยาวแม่งต้องเคลียร์ปัญหาที่คาราคาซังให้หมดซะก่อน

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อพี่ดิน

ผมจะต้องหาทางเคลียร์เรื่องพี่เรย์ให้ได้

เคยคิดว่ามาตลอดว่าความรักอยู่รอบตัวผม ไม่ว่าจะเป็นรักจากพ่อแม่ หรือรักจากเพื่อนห้องหนึ่ง (ที่บางครั้งพวกมันก็เหมือนจะรักผมเกินไป) แม้จะขาดความรักในแบบคนรักแต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น

สวรรค์ยังเห็นใจที่ส่งพี่ดินลงมาอยู่ใกล้ๆ ผม อยู่รอบๆ ตัวผม

พี่ดินไม่ได้หมุนรอบตัวผมหรอกครับ

แต่พี่ดินหมุนรอบความรักของผมต่างหาก






TBC*

หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 27-02-2018 18:58:23




ตอนที่ 13




กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของพี่ดิน'

Din : ถามไอ้พวกที่มีความรักหน่อย มึงแสดงความรักกับคนที่มึงรักยังไง
FUEN : ก็แค่อยู่กับมันอ่ะ
AOF : แซวบ่อยๆ มั้งพี่ (เหมือนที่กูชอบแซวน้องมึงไงสิก คริคริ)
TANG : เหมือนที่ไอ้สิกทำกับไอ้ฟืน
CHOK : อย่ามาทำเป็นไม่รู้ ตอแหลโคตรๆ
PHYSICS : ฟวยอ๊อฟ วันนี้มึงตายแน่
PHYSICS : อยู่กับกูห่าไรฟืน เมื่อคืนนอนกันคนละบ้าน กูเซ็งฉิบหาย
FUEN : มึงช่วยดูชื่อกรุ๊ปไลน์ และก็เกรงใจพี่ดินเขาหน่อย
Din : น่ารักจังครับฟืน
PHYSICS : น่ารักพ่องดิพี่


"ไอ้ห่าราก" ผมหัวเราะลั่นหลังจากที่อ่านข้อความของไอ้สิกที่มันตอบเมื่อคืน เด็กสองสามคนที่ยกมือไหว้ผมคงจะสงสัยว่าผมอารมณ์ดีอะไรนักหนาแต่เช้า แน่ล่ะ ผมต้องอารมณ์ดีสิ เมื่อไม่กี่วันก่อนผมได้จูบใครล่ะครับ คริคริ (เลียนแบบไอ้อ๊อฟ)

วันนี้ผมมาโรงเรียนโคตรเช้า เรียกได้ว่ามาช่วยลุงยามเปิดประตูโรงเรียนเลยก็ว่าได้ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาหกโมงเช้าดีเลยครับ ทั้งโรงเรียนเกือบจะเรียกได้ว่าว่างเปล่า มีเพียงผมกับเด็กสองสามคนเมื่อตะกี้นี้เท่านั้นที่มาโรงเรียนในเวลานี้

ลองพินิจพิเคราะห์ดูผมเคยพูดอะไรบางอย่างกับสตาร์ไปนี่หว่า ตอนที่ผมได้นั่งบนรถมันแล้วมีคนรถหน้าตาหล่อๆ มารับ...
เดี๋ยวก่อนนะ ผมบอกสตาร์ว่าผมจะไปรับมันที่บ้านนี่หว่า

เมื่อคิดได้แล้วตัวของผมก็หันกลับทันที รีบพุ่งไปหน้าโรงเรียนเพื่อไปเรียกแท็กซี่ เวลานี้คนน้อยน่าจะไปถึงบ้านสตาร์ได้ทันก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาจากบ้าน เรียกได้ว่าผมจะไปเซอร์ไพรส์ประมาณนั้นเลย

รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ ว่ะครับ อยากรู้ว่ามันจะทำหน้ายังไงตอนที่รู้ว่าผมมารับถึงหน้าบ้าน ถ้ามันไม่ประหลาดใจมากก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยผมก็จะได้ทำตามคำพูดที่ผมเคยพูดเอาไว้

ก็ใครใช้ให้บ้านมีคนรถหล่อล่ะวะ!









บ้านสตาร์

ผมมาที่บ้านนี้อีกครั้งหนึ่งแล้ว แต่ผมก็ยังตะลึงในความใหญ่โตโอ่อ่าของมัน แล้วก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ผมไปยืนเอ๋อ ทำอะไรไม่ถูก แม้แต่กดออดก็ยังไม่กล้า อาจเป็นเพราะผมเกิดป๊อดขึ้นมากะทันหันก็เป็นได้

เฮ้ย เป็นพี่ดินของน้องๆ ทั้งทีอยู่ๆ จะมาป๊อดแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย ผมพูดปลุกใจตัวเอง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเอื้อมมือไปกดออด

หลังจากกดไปแล้วประตูรั้วก็เปิดออกพอดี ดูเหมือนจะมีรถคันหนึ่งออกมาจากข้างในบ้าน ผมจำได้แม่นเลย มันคือไอ้รถตู้คันที่มักจะขับไปส่งสตาร์ที่โรงเรียนนั่นแหละ

ผมผู้ไร้ซึ่งสติก็เดินไปขวางหน้ารถเลยครับ...

คนขับหน้าหล่อเหยียบเบรกดังเอี๊ยด เจ้านายบนรถคงจะงงน่าดูว่ามีเด็กบ้าที่ไหนมายืนขวางหน้ารถ...ผมไม่รู้ ผมทำไปแล้ว!

ใช้เวลาไม่นานประตูอัตโนมัติของรถตู้ก็เปิดออก คนที่ออกมาจากรถคือสตาร์ ใบหน้าของมันตื่นตระหนกเอามากๆ แทนที่มันจะดีใจที่ผมมา

อย่างน้อยกูก็มาทันเวลาล่ะวะ

สตาร์คุยอะไรกับคนบนรถไม่รู้ จากนั้นก็รับกระเป๋าเป้ที่คนบนรถส่งมาให้ แล้วมันก็ปิดประตูรถ ผมปล่อยให้รถเคลื่อนที่ผ่านผมไป คิดไปเองว่าผู้ที่อยู่ด้านในคงจะเป็นพ่อหรือไม่ก็แม่ ผมไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ด้วย

สตาร์มองผมด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจ "เมื่อกี้รถเกือบชนพี่แล้วนะรู้มั้ย"

"ไม่รู้ อยู่ดีๆ ก็เดินไปขวางเฉย สงสัยพี่กลัวสตาร์ไม่เห็น"

"บ้าบิ่นเกินไปแล้ว"

"ก็อยากมารับอ่ะ จะได้ไปโรงเรียนพร้อมๆ กัน"

"ใครบอกว่าผมจะไปกับพี่" สตาร์เลิกคิ้ว

"โอ้โห ลงมาจากรถตัวเองพร้อมกระเป๋าขนาดนี้ คงไม่อยากไปกับพี่เลยเนอะ" ผมพูดยิ้มๆ

"เอาเถอะ" สตาร์ยิ้มเล็กๆ "ไปกันเลยมั้ยครับ อีกนิดก็จะสายแล้วนะ"

"ไปกัน"

จริงๆ แล้วผมไม่ต้องถามคนในกรุ๊ปให้ยุ่งยากด้วยซ้ำว่าเวลาเรารักใคร เราควรจะแสดงออกยังไง มันเป็นไปเองตามธรรมชาติ ทำตามความต้องการและตามความรู้สึกของตัวเอง

ผมชอบสตาร์ ผมอยากอยู่ข้างๆ สตาร์ตลอดเวลาก็เท่านั้น

แล้วก็อยู่ข้างๆ โดยที่ไม่มีคนรถหล่อๆ อยู่ด้วยนั่นแหละครับ...









พวกเรามาถึงโรงเรียนในเวลาเกือบแปดโมง มันค่อนข้างฉุกละหุกนิดหน่อยเพราะต้องรีบวิ่งเข้าไปในโรงเรียนก่อนเข้าแถว ถ้าไปถึงหลังเข้าแถวโดนสารวัตรนักเรียนจับไปลงโทษแน่ๆ สตาร์ดูตื่นตระหนกมาก สงสัยไม่เคยถูกลงโทษมาก่อน ผมมองมันอย่างชั่งใจ ก่อนที่จะถามอะไรแบบไม่คาดหวังคำตอบ

"โดดเรียนกันป่ะ"

"หา" สตาร์ชะงักไปเลย

"ชวนเฉยๆ ไม่ต้องโดดก็ได้"

"โดดครับ"

"เฮ้ย" ผมอ้าปากค้าง "ถ้าโดดคือต้องรีบหันหลังแล้ววิ่งหนีไปตอนนี้เลยนะ"

"โอเค"

ผมอึ้งมากแต่ก็รีบดึงสติกลับมาคว้าข้อมือของสตาร์ จากนั้นพวกเราก็วิ่งสวนทางไปกับพวกนักเรียนที่วิ่งตาตื่นเข้าไปในโรงเรียน
ผมจะขอบอกไว้ ณ ตรงนี้เลยว่า ถ้าจะจีบใครสักคนรีบขอไลน์เขาเลยนะครับ อย่าใช้วิธีแบบผมเด็ดขาด มันติดต่อไม่ได้เลย ผมคิดถึงโคตรๆ จนใจจะผมขาด เพราะงั้นเอาไว้รู้สึกผิดทีหลังก็แล้วกันที่รับลูกชาวบ้านเขามาแล้วชวนโดดเรียน ขอมีความสุขกับอะไรเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ก่อนละกัน

สตาร์เองก็คงจะเห็นด้วยกับผมมั้ง...แล้วผมก็เปลี่ยนจากจับข้อมือ มาเป็นจับมือแทน...











เราสองคนพากันมาหาอะไรกินที่แมคโดนัลด์ที่เดิมอีกครั้ง เพราะอะไรน่ะเหรอ...ก็มันเป็นสถานที่เดียวที่เปิดไวและแอร์ก็เย็นนี่ครับ ผมเดินไปสั่งบิ๊กแมคให้ตัวเอง และก็ไม่ลืมที่จะสั่งเฟรนช์ฟรายมาเพิ่มให้สตาร์ด้วย มันบอกว่าเมื่อเช้าทานข้าวเช้ามาเยอะแล้ว ขอทานอะไรที่มันเบาๆ บ้าง

เบามากกก เฟรนช์ฟรายเบามากเหลือเกิน...

แต่ปล่อยให้มันกินไปเถอะครับ เพราะสตาร์กินไปก็ไม่อ้วน ไม่รู้กินเสร็จแล้วขี้ต่อเลยเป็นประจำหรือเปล่า ทำไมรู้สึกว่ามันตัวเล็กๆ ตลอดเวลา

วันนี้สตาร์น่ารักผิดปกติ มันมองผมเหมือนผมเป็นฮีโร่ของมันด้วยสายตาชื่นชม พอเห็นสายตาแบบนั้นผมก็ยิ่งทำตัวเป็นสุภาพบุรุษหนักๆ คอยหยิบนั่นหยิบนี่ให้ตลอดโดยที่สตาร์ไม่ต้องลุกไปไหนเลย ถ้าคนภายนอกเดินผ่านมามองพวกผมตอนนี้ก็คงคิดได้อย่างเดียวนั่นแหละครับว่าเด็กสองคนนี้แม่งต้องเป็นแฟนกันแน่นอน

คิดไปเถอะครับ คิดกันไปเลย เพราะอีกเดี๋ยวมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แล้วล่ะ

"มอที่เพิ่งสอบไปประกาศผลเมื่อไหร่เหรอพี่ดิน"

"น่าจะอีกสองอาทิตย์มั้ง"

"ติดแน่ใช่ป่ะ"

"แน่สิ วันนั้นใครเอาข้าวกลางวันมาให้พี่ล่ะ ยังไงก็ติด" ผมยิ้ม สตาร์ก็ยิ้มตาม

"แล้วถ้าติดจะเรียนต่อที่นี่เลยป่ะ"

"คงต้องรอดูอีกที จริงๆ พ่อพี่อยากให้เข้ามอ A อ่ะ พ่อพี่จบมาจากที่นั่น"

สตาร์สะดุ้งเล็กน้อย

"แต่แม่พี่อยากให้พี่เข้ามอ B เพราะแม่จบมา ตลกดีเนอะ" เอ๊ะ หรือแม่พูดว่ามอ C จะมออะไรก็ช่างเหอะ

"..."

"ทำไมสะดุ้งตอนพี่พูดชื่อมอ A ล่ะ อยากเข้าเหรอ"

"ช่าย" สตาร์ยอมรับ "ความฝันเลย"

"อืม"

ผมทำเสียงรับรู้ ทำเหมือนจะปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปแต่ฝังมันเอาไว้ในหัวใจของผม เรื่องสตาร์ผมไม่ได้มองใกล้ๆ ครับ แต่มองไกลไปถึงอนาคตเลย ผมไม่คิดจะคบกับน้องสั้นๆ อยู่แล้วเพราะความรู้สึกของผมตอนนี้มันเอ่อล้นขึ้นทุกที

ผมอยากคบกับมันนานๆ และถ้าจะเป็นอย่างนั้นเรียนอยู่มหา'ลัยเดียวกันมันก็น่าจะดีกว่า จริงมั้ยครับ

"เคยนึกภาพตัวเองตอนเรียนมหา'ลัยป่ะ" ผมชวนคนตรงหน้าคุย

"ตอนนี้คิดอยู่อย่างเดียวว่าจะติดคณะที่มีสิ่งที่อยากเรียนมั้ย"

เด็กเรียนนี่มันเด็กเรียนจริงๆ เคยคิดอะไรอย่างอื่นนอกจากเรื่องเรียนบ้างมั้ยเนี่ย

"สมมติว่าติดแล้วงี้ นึกภาพตัวเองไว้แล้วหรือยังว่าจะเป็นยังไง"

"ก็คง...มีรถขับ" สตาร์ทำท่านึก "มันคงแปลกๆ ที่เข้ามหา'ลัยแล้วแต่ก็ยังมีคนรถไปส่ง เรื่องนี้พ่อก็เริ่มพูดไว้แล้วครับ"

"พูดว่า?"

"จะซื้อรถให้"

อืม ยอมใจคนรวยติดท็อปไฟฟ์ของโรงเรียนจริงจริ๊ง

"แต่จริงๆ แล้วสตาร์ขี้เกียจมาก ขนาดเรียนขับรถยังขี้เกียจเลย"

"ก็หาคนมาขับให้ดิ"

"มีคนรถอยู่แล้วจะหาทำไม"

"ไหนบอกว่ามีคนรถมาส่งตอนเรียนมหา'ลัยมันแปลกๆ ไง"

"..."

"นี่ไม่นึกถึงพี่บ้างเลยเหรอ พี่กำลังชงให้เรากับตัวพี่เองอยู่นะ มองกันบ้างดิวะ"

สตาร์หลุดหัวเราะ "อ้าวเหรอ พี่ดินอยากขับรถให้สตาร์นั่งเหรอครับ"

"เสาร์นี้ให้ไปรับป่ะล่ะ มีเรียนพิเศษใช่ป่ะ"

"เฮ้ยยยยยย" สตาร์ร้อง "วันนี้ก็มารับแล้วนะ มันลำบาก บ้านสตาร์ไม่ใช่ใกล้ๆ เลย"

"ไกลแต่ก็ไปไม่ยากอ่ะ"

"มีใบขับขี่แล้วเหรอ"

"มีดิ เพิ่งได้มาสี่เดือน" พอดีผมเกิดไวน่ะครับ ผมอายุสิบแปดก่อนเพื่อนในชั้นมากกว่าครึ่ง เรื่องนี้คนอื่นๆ รู้กันดี

สตาร์มองผมอย่างทึ่งๆ "หน้าตาดี มีรถขับ มิน่า ความฮอตถึงไม่เคยลดลงเลย"

"พี่น่ะนะฮอต เลิกฮอตไปแล้วมั้ง"

"ยังไง"

"ก็มัวแต่มาตามตูดเด็ก ม.5 อยู่ต้อยๆ แบบนี้ ใครเขาจะมาชอบพี่" ผมพูดเหมือนเป็นเรื่องของลม ฟ้า อากาศ

"อืม" สตาร์พยักหน้าแล้วยิ้ม ใบหน้าดูสุขใจอย่างปิดไม่มิด

"พึงพอใจมากเลยสินะ"

"ทำให้เสือกลายเป็นแมวได้ มันน่าภูมิใจมากเลยนะครับ"

ผมมองไปที่สตาร์ด้วยสายตาตกตะลึง คำพูดของมันสะกิดไปที่หัวใจของผม ผมเคยคิดกับตัวเองว่าอยากเป็นแมวเพื่อสตาร์ และตอนนี้สตาร์ก็รับรู้แล้วว่าเสือดินคนนั้นมันไม่มีอีกต่อไป

คนที่สามารถเปลี่ยนตัวเองจากเสือเป็นแมวก็ภูมิใจในตัวเองเหมือนกัน มันน่ายกย่องมากไม่ใช่เหรอครับหากเราหยุดสิ่งที่เราเคยทำเป็นประจำเพื่อใครคนหนึ่งได้

ผมกระหยิ่มยิ้มย่องกับตัวเอง พลางหยิบเฟรนช์ฟรายเข้าปาก ระหว่างนั้นมีคนโทรเข้ามาพอดี ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของผมสักคนหนึ่ง แต่เปล่าเลยครับ คนคนกลับเป็นหยก เราแลกเบอร์กันตอนที่เราบังเอิญเจอกันที่สยาม

สตาร์หันมาเห็นพอดี ใบหน้าสตาร์ถึงกับตึงไปเลยทีเดียว

มาอีกแล้วสินะ คนรักแรงหึงแรง

...กูงานเข้าแน่ๆ รู้สึกได้เลย

"ไม่รับเหรอครับ" สตาร์ยืดตัวขึ้น มองผมด้วยสายตาที่น่ากลัวเพิ่มขึ้นอีกสิบระดับ

"จะให้พี่รับเหรอ" ผมหงอลงไปเลย ทั้งๆ ที่เราเพิ่งคุยกันเรื่องนี้ แต่การที่หยกโทรเข้ามาเวลานี้ก็ทำให้แมวอย่างผมไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย

"ก็เขาโทรมาหาพี่ พี่ก็ต้องรับสิ"

"ไม่รับหรอก"

"..."

"ปกติเวลานี้พี่ต้องเรียนนี่"

"งั้นผมรับให้นะ"

"อืม คุยให้ด้วย"

สตาร์อ้าปากค้าง "บ้า แค่จะรับให้"

"จะรับทำไมเล่า"

"ก็เขาโทรมา"

"ไม่รับโว้ย ไม่อยากรับ"

"..."

"อยากคุยกับคนที่อยู่ตรงหน้า ไม่ได้อยากคุยกับคนในโทรศัพท์ จะให้พี่รับทำไมวะ"

สตาร์กระพริบตาปริบๆ อาการหัวร้อนลดลงมาอย่างรวดเร็ว ท่าทางเหมือนกำลังอึ้งในการกระทำของผม

"กะจะแกล้งสักหน่อย" มันพูดเสียงอ่อย

"แกล้งบ้าอะไร ไม่ต้องรับสายให้ ไม่ต้องมาประชด"

"นี่โมโหป่ะเนี่ย"

"ไม่ กลัวสตาร์คิดมากมากกว่า"

สตาร์วางมือตัวเองให้ห่างจากโทรศัพท์ของผม ปล่อยให้หยกโทรเข้ามาอยู่แบบนั้น

"ถ้าเขามีเรื่องด่วนล่ะ เพราะเขารู้ว่าพี่ดินเรียนอยู่แต่เขาก็ยังโทรมา"

"สตาร์"

"..."

"อยากให้รับจริงๆ เหรอ"

เสียงของผมซีเรียสขึ้นจนสตาร์เลิกตั้งคำถามอีกต่อไป "ไม่อยาก"

"ไม่อยากก็เลิกพูดเรื่องนี้แล้วมาพูดเรื่องของเราต่อ ไหนบอกภูมิใจที่ทำให้เสือกลายเป็นแมวได้ ทำไมต้องให้พี่กลับไปเป็นเสืออีก พี่งงนะเว้ย"

"โอเค ไม่ประชดอีกแล้ว ไม่ถามแล้ว"

"พอแล้วนะ"

สตาร์ทอดถอนใจพลางมองหน้าผม "สตาร์เป็นคนแบบนี้แหละพี่ดิน บางครั้งหวงมากก็ประชดมาก"

คำว่าหวงในประโยคของน้องทำผมใจชื้น "ไม่ได้ต่างอะไรกันมากหรอก"

"จะทนสตาร์ไหวมั้ย"

"อย่าใช้คำว่าทนเลย ใช้คำว่าปรับเข้าหาดีกว่า ถ้ารักจริง ยังไงก็พร้อมที่จะปรับเข้าหาอยู่แล้ว พี่เชื่อว่าอย่างนั้น"

"..."

"บังเอิญพี่รักจริงซะด้วยสิ"

พวงแก้มของสตาร์เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่ออย่างรวดเร็ว มันแดงมากจนเหมือนลูกมะเขือเทศ ผมหัวเราะที่เห็นน้องทำท่าทางอย่างนั้น สตาร์หยิบโพสต์อิตออกมาจากกล่องดินสอแล้วเริ่มเขียน

"ยอมใจคุณภูดินเขาจริงๆ" สตาร์พึมพำ "เป็นแมวแล้วก็ยังมีนิสัยของเสือเหลืออยู่"

"ยังไงอ่ะ" ผมรับโพสต์อิตที่สตาร์ส่งมาให้ก่อนเอียงหน้าถาม

"ก็พูดจาเสี่ยวแดกอ่ะ"

"ไม่ใช่เสี่ยวแดกเหอะ พี่เป็นคนจริงจังไม่อ้อมค้อม"

"..."

"แล้วพี่ก็จริงใจร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยนะ"

สตาร์หลุดขำพรืด ผมเองก็หลุดขำเหมือนกัน มันคงจะนึกไปถึงวันที่เราคุยกันเป็นครั้งแรกเมื่อหลายเดือนก่อน วันที่ผมเริ่มให้ความสนใจสตาร์เพราะราคาไอดีไลน์

สิ่งที่อยู่บนโพสต์อิตยิ่งทำให้ผมสนใจมันหนักมากขึ้นไปอีก

โอย จะทำให้หลงไปถึงไหนวะ

ไอดีไลน์ตัวที่ 13
E
ถ้ารักจริง ก็ต้องพร้อมที่จะปรับเข้าหา
สตาร์พร้อมแล้วครับ









โรงเรียน

ผมมาส่งสตาร์ที่หน้าห้อง น้องดูอารมณ์ดีขึ้นมากและก็ไม่พูดถึงเรื่องหยกอีก ผมรู้สึกคลายใจไปบ้างเพราะกลัวน้องคิดมากอยู่เหมือนกัน ปกติหยกจะคุยกับผมทางไลน์ แต่จู่ๆ ก็โทรมาหาผมเฉยเลย ไม่รู้ว่าหยกมีอะไรแต่ผมจะไม่โทรกลับแน่นอน

จบแล้วก็คือจบสิครับ เขากลับมาในวันที่สายไป สายไปมากๆ ด้วย ใครจะไปอยู่รอวะ

"เฮ้ย" สตาร์ร้องลั่น มองผ่านกระจกตรงประตูห้องด้วยใบหน้าตื่นๆ

"อะไร"

"สอบ! เพื่อนกำลังสอบอยู่!"

"เวร เวรแล้ว"

ผมพาสตาร์โดดเรียนในวันที่น้องมีสอบในห้อง ฉิบหายแล้วมั้ยล่ะกู ไอ้ดิน มึงนี่แม่ง!

"เอาไง" ผมร้อนใจแทนสตาร์แล้ว รู้ดีว่าน้องมันให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนมาก ถึงแม้ว่าจะโดดเรียนในวันนี้ก็เถอะ มันคงจะคิดมาแล้วนั่นแหละว่าสามารถโดดได้ไม่มีปัญหา แต่นี่มีสอบเลยนะครับ ใบหน้าสตาร์ซีดเผือดไปแล้ว คงกำลังช็อกน่าดู

กูโคตรรู้สึกผิดเลยไอ้เหี้ยเอ๊ยยยยยยย

"ครูอะไรที่คุมสอบอยู่อ่ะ"

"วิชานี้ของครูสุพิชชาครับ"

ตายห่า ทำไมต้องคนนี้ ทำไมไม่เป็นคนอื่น...

ครูสุพิชชาคือครูที่หัวโบราณที่สุดในโรงเรียนแล้วเพราะอาวุโสที่สุด (ไม่แน่ใจว่าเกษียณอายุปีหน้าหรือเปล่า) ปกติโรงเรียนชายล้วนนักเรียนจะกล้าแซวครูในคาบเพื่อความสนุกสนาน แต่สำหรับคนนี้ไม่ค่อยมีใครกล้าแซวเท่าไหร่ เพราะแซวทีไรครูท่านก็ไม่เคยเข้าใจมุกพวกผมเลย อีกทั้งยังโดนด่ากลับมาอีกต่างหาก ท่านจึงเป็นครูที่ถือว่าโหดและก็ปากจัดมากเลยทีเดียว

"พี่จะเข้าไปคุยให้" ผมพูดในที่สุด

"ไม่ได้หรอก แบบนั้นยิ่งจะทำให้ครูโกรธ"

"สอบครั้งนี้สำคัญมากป่ะ"

"ดูจากการแยกโต๊ะสอบน่าจะเก็บคะแนนท้ายบทอ่ะ"

"..."

"ไม่น่าจะหารด้วย"

ไม่หารแปลว่าเป็นคะแนนดิบๆ เลยอ่ะดิ สมมติคะแนนเต็ม 30 แล้วสอบได้ 20 ก็คือเป็น 20 คะแนนที่จะปรากฏอยู่ใน 100 คะแนน มีผลต่อเกรดตอนปลายภาคเรียน

"ทำไงดี" สตาร์ทำหน้ากังวลมาก ผมเครียดหนักเพราะผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องไม่ได้สอบครั้งนี้ ตอนนั้นเองคุณครูสุพิชชาก็เดินออกมาจากห้องด้วยใบหน้าเรียบเฉย

ให้ตายเถอะ สีหน้าแบบนี้แหละที่น่ากลัวที่สุดแล้ว

"ศตายุ ครูที่ปรึกษาเธอมาบอกครูว่าเห็นเธอโดดเรียนไปกับรุ่นพี่ ม.6 ที่แมคโดนัลด์ มันคือเรื่องจริงใช่มั้ย"

สตาร์ไม่กล้าโกหก เพราะผมยังอยู่แถวนี้ โกหกไปก็เท่านั้น

"เธอทำตัวดีมาตลอด แต่ทำไมต้องมาเสียเพราะนายภูดินด้วย นายคนนี้มีดีอะไร"

"ครูครับ ผมเป็นคนพาน้องไปเอง น้องไม่ผิดครับ ให้น้องสอบเถอะนะครับครู" ผมโอดครวญพร้อมยกมือไหว้

"นี่ก็ใกล้จะหมดเวลาแล้ว ศตายุ เธอหมดสิทธิ์แล้ว ครูเสียใจด้วย"

"ครูครับ!" ผมร้อง ขณะที่สตาร์เหมือนจะเข่าอ่อนไปแล้ว

"ส่วนเธอ นายภูดิน เวลานี้เธอควรเอาใจใส่กับการสมัครเรียนต่อ ไม่ใช่ชวนรุ่นน้องโดดเรียน มีน้องหลายคนต้องการเป็นแบบเธอ เธอต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆ ไม่ใช่พาน้องออกนอกลู่นอกทางแบบนี้"

"ครูจะลงโทษผมยังไงก็ได้ครับ ผมผิดเอง ผมเป็นคนลากศตายุออกไปเอง ครูให้เขาสอบเถอะครับ"

"ยังไงก็ต้องได้รับบทเรียน" ครูสุพิชชาปิดประตู ผมอ้าปากค้างพร้อมกับไปเกาะกระจกดูภายในห้อง ไอ้พวกเด็กห้องหนึ่งมันกำลังยกไม้ยกมือบอกให้ครูปล่อยสตาร์เข้าห้องสอบ แต่ครูไม่ยอมเลยครับ เคาะไม้เรียวพร้อมตั้งท่าเทศนาให้เด็กห้องหนึ่งมันสงบปากสงบคำ

ผมมองไปที่สตาร์ที่นั่งรอเข้าห้องเรียนอยู่ตรงระเบียงหน้าห้อง

"พี่ขอโทษ พี่ผิดเอง พี่ชวนสตาร์ออกไปเอง"

"ไม่ใช่ความผิดพี่หรอก สตาร์เองก็อยากไป"

แม่ง ผมซึ้งใจ แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาซึ้งใจนี่หว่า...

"ไม่มีเพื่อนคนไหนโทรมาตามเลยเหรอวะ" ผมโวยวาย มึงรักเพื่อนกันมากไม่ใช่เหรอไอ้เด็กห้องนี้อ่ะ ทำไมไม่บอกเพื่อนมึงเลยว่าครูเขาจะสอบวะไอ้ห่า

"เพื่อนโทรมาตามครับ เยอะเลย"

"..."

"แต่สตาร์ไม่ได้รับ สตาร์อยากใช้เวลาอยู่กับพี่ดินที่อยู่ตรงหน้าแบบไม่ต้องสนใจโทรศัพท์อ่ะ"

เฮ้ย จริงด้วย ตอนที่อยู่กับผมสตาร์ไม่ได้สนใจโทรศัพท์ของมันเลย ไม่ได้หยิบออกมากดดูด้วยซ้ำ ผิดกับผมที่ไม่ได้สนใจจะเล่นก็จริงอยู่ แต่ผมวางมันไว้บนโต๊ะ

ยังไงผมก็เป็นคนผิด เรื่องนี้ผมต้องรับผิดชอบ สตาร์เห็นเรื่องเรียนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะงั้นมันก็เป็นเรื่องสำคัญของผมด้วยเหมือนกัน
นี่ก็คงจะเป็นวิธีการแสดงความรักอีกอย่างหนึ่ง









[ มีต่อนะคะ ]






หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 27-02-2018 18:58:52






พักกลางวัน

"มึงลากกูมาห้องพักครูทำไมเนี่ย"

"เออน่า มาเป็นเพื่อนกูหน่อย"

"แป๊บ ยัดเสื้อเข้าไปในกางเกงก่อน"

ไอ้โชครีบทำตัวให้เรียบร้อยเมื่อรู้ว่าจะเข้าไปในห้องพักครูหมวดสังคมซึ่งเป็นหมวดที่เคร่งระเบียบที่สุดในโรงเรียนแล้ว หัวหน้าหมวดไม่ใช่ใครอื่นครับ คุณครูสุพิชชา คนที่เป็นเป้าหมายของผมในตอนนี้นี่แหละ

"ที่มึงหายไปมึงไม่ได้ไปทำอะไรเหี้ยๆ ใส่ครูหมวดนี้ใช่มั้ยวะ กูชักกลัวแล้ว" ไอ้โชคมองผมอย่างหวาดระแวง

"เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง"

ผมเข้าไปในห้องพักครูแล้ว ในห้องมีครูสุพิชชาอยู่แค่คนเดียว เหมาะเจาะพอดีเลยแฮะ

"เธออีกแล้วเหรอ" ครูทำหน้าเบื่อผม "ครูรู้ว่าเธอจะมาพูดเรื่องอะไร ยังไงครูก็ไม่เปลี่ยนใจ"

"ครูครับ เรื่องนี้ศตายุไม่ผิดจริงๆ นะครับ มันเป็นความผิดของผมเอง ครูไปบอกครูวิภาวรรณที่เป็นครูสอนสังคมผมตอนนี้ให้หักคะแนนผมเลยครับ เห็นแก่คุณความดีที่ผมทำให้โรงเรียนนี้มาเยอะเถอะนะครับครู ให้น้องมันสอบเถอะ มันเป็นความผิดของผมเอง" ผมคุกเข่าและยกมือไหว้

ไอ้โชคต้องคุกเข่าตามและก็ยกมือไหว้ตาม ท่าทางของมันงงมากแต่ก็ยอมทำตามอยู่ดี ที่ผมเอามันมาด้วยเพราะตอน ม.ต้น มันค่อนข้างสนิทกับครูสุพิชชาน่ะครับ ผมคิดว่าเผื่อมันจะช่วยได้น่ะ

"ดูเธอเดือดร้อนมากกว่านายศตายุอีกนะ" ครูเลิกคิ้ว

"ก็ใช่ไงครับ ผมเป็นคนหลอกล่อน้องออกไปเอง"

ไอ้โชคหันมาหาผมคอแทบหัก "มึงใช้คำห่าอะไรของมึงเนี่ย" มันกระซิบ

"อะไรนะ ภูดิน เธอหลอกล่อนายศตายุอย่างนั้นเหรอ"

ฉิบหายละกู...ทำไมกูไม่คิดให้ดีก่อนพูดวะเนี่ย ครูเริ่มมองผมด้วยสายตาไม่พอใจแล้ว

"เธอหมายความว่ายังไง เธอหลอกอะไรน้องไปฮะ นายภูดิน!" ครูสุพิชชาร้องเสียงดังแล้วยืนขึ้น

ไปกันใหญ่แน่นอน ผมส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปที่ไอ้โชค

"ครูครับ ไอ้ดินมันก็พูดไปมั่วๆ ไม่ได้คิด มันไม่ได้หลอกล่อน้องไปครับครู"

"โชคทวี เธอไม่ต้องพูด ครูพูดกับนายภูดินอยู่"

ไอ้โชคหันมาหาผมพร้อมกับทำหน้าบอกว่า 'กูไม่มีประโยชน์อะไรแล้วเพื่อน ขอให้มึงโชคดีละกัน'

"ผมใช้คำพูดผิดครับ ผมไม่ได้หลอกล่อ"

"พักนี้ครูได้ยินข่าวมาว่าพวกรุ่นพี่อย่างพวกเธอนี่แหละ อาศัยความเป็นผู้ใหญ่มาหลอกล่อรุ่นน้องเพื่อหวังจะไถเงิน หรือไม่ก็บังคับกดขี่ข่มเหง นายภูดิน เธอข่มเหงนายศตายุใช่มั้ย บอกครูมา!"

ครูสุพิชชาทั้งจริงจังและก็ซีเรียส ขณะที่ผมนั้นรู้สึกอยากจะเอาตีนก่ายหน้าผากมากๆ สิ่งที่ครูคิดมันไม่ได้อยู่ในเศษเสี้ยวของความจริงเลย แต่ผมจะบอกไปโต้งๆ ไม่ได้ว่าผมกับสตาร์ชอบกัน ถ้าบอกไปแบบนั้นเห็นทีพูดถึงบ่ายสามครูเขาก็คงไม่เข้าใจ คงต้องตอบคำถามกันยาวยืดไปอีกว่า...

'รักในวัยเรียนมันเหมาะสมแล้วเหรอ'

'พวกเธอรักเพศเดียวกันเนี่ยคิดดีแล้วใช่มั้ย'

'เอาเวลาไปใส่ใจกับเรื่องเรียนดีกว่า'

โน่น นี่ นั่น

"ครูครับ ผมภูดินนะครับ ผมทำอะไรให้โรงเรียนให้รุ่นน้องมาแล้วบ้าง ผมไม่ทำในสิ่งที่ผมเคยปราบคนอื่นมาตลอดหลายปีหรอกครับครู"

ครูชะงัก เพราะคำพูดของผมดูมีน้ำหนัก

"ผมผิดเองที่ชวนน้องออกไป มันเป็นความผิดของผม ผมยอมรับว่าผมบังคับน้องนิดหน่อย แล้วน้องมันก็ไปเพราะมันกลัวผมครับ ฉะนั้นผมอยากให้ครูปล่อยให้น้องสอบแล้วหันมาลงโทษผมแทนครับครู"

"ให้ตาย ครูปวดหัวเหลือเกิน" ครูสุพิชชาทิ้งตัวนั่งแล้วควานหายาดมบนโต๊ะ ผมอาสาหยิบให้ครู ครูรับมันไปอย่างไม่ค่อยอยากจะรับจากมือผมเท่าไหร่ "นายศตายุนี่ช่างเป็นที่รักของหลายคนจริงๆ ใครๆ ก็อยากปกป้องทั้งนั้นเลย"

"ยังไงครับครู"

"ก็เจ้าพวกห้องหนึ่งน่ะสิ มันพากันรวมหัวบอกครูว่าถ้าไม่ให้ศตายุสอบ พวกมันจะไม่ยอมส่งกระดาษข้อสอบ โอ๊ย ครูล่ะอยากจะแกล้งหักคะแนนเด็กพวกนั้นทั้งห้อง แต่เห็นนักเรียนรักกันดีมันก็อุ่นใจ"

"..."

"เอาเป็นว่าครูจะขอเก็บไปคิดก่อน ระหว่างนี้เธอกับนายโชคทวีช่วยออกไปซื้อส้มตำที่โรงอาหารมาให้ครูทานทีซิ ครูยังไม่ได้ทานอาหารกลางวันเลย"

"ได้เลยครับครู" ผมรีบลุกขึ้น ฉุดไอ้โชคให้ลุกขึ้นมาด้วย "ครูจะเอาข้าวเหนียวไก่ย่างด้วยเลยมั้ยครับ"

"ถ้ามีก็เอามาให้หมด ครูหิว" ครูเตรียมควักตังค์

"ผมเลี้ยงเองครับครู"

"จะบ้าเหรอนายภูดิน กับข้าวครู ครูจ่ายเอง"

ผมรับเงินมา จากนั้นก็รีบออกไปซื้อกับข้าวให้ครูกับไอ้โชค

นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องปวดหัวที่จะตามมาอีกหลายระลอก







กลับไปห้องพักครูรอบที่หนึ่ง

"ครูครับ วันนี้ร้านนั้นเขาไม่ทำส้มตำน่ะครับ เขาลืมหยิบปลาร้ามาจากบ้าน"

"ตายล่ะ ครูอยากกินส้มตำมากซะด้วย ไม่เป็นไร งั้นครูเปลี่ยนเป็นอาหารตามสั่งก็แล้วกัน ไปบอกเขาว่าครูอยากกินผัดเผ็ดหมูป่า ปลาราดพริก และก็น้ำพริกกะปิ"







กลับไปห้องพักครูรอบที่สอง (เหงื่อเริ่มออก)

"ที่ครูสั่งผมมันไม่มีสักอย่างเลยครับ"

"นี่ครูเริ่มโมโหหิวแล้วนะ ไปหาข้าวมันไก่มาให้ครูละกัน!"









กลับไปห้องพักครูรอบที่สาม (หอบเสียงดัง)

"แฮ่ก ครูครับ ข้าวมันไก่ขายจานสุดท้ายไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว"

"ถ้าอย่างนั้นก็ข้าวขาหมู"

เยส! ผมตีมือกันกับไอ้โชคแล้วส่งกล่องข้าวข้าหมูไปให้ครู "ทานให้อร่อยนะครับ"

ผมกับไอ้โชคนั่งพักเหนื่อยกันอยู่ที่หน้าโต๊ะครูสุพิชชานั่นแหละ ทำตัวหน้ามึนไม่ยอมลุกไปไหนเพราะแอร์ในห้องมันเย็น พักไปได้สักครู่ก็นึกอะไรออกขึ้นมา

"ครูครับ แล้วครูจะให้ศตายุสอบมั้ยครับ"

"เสร็จแล้วครับครู" สตาร์เลื่อนประตูกระจกออกมาจากห้องห้องหนึ่ง มันมองมาที่ผมอย่างขำๆ ก่อนจะพูดติดตลกว่า "พี่ดินมาทำไรเนี่ย"

ไอ้โชคกับผมมองสบตากัน แบบนี้ก็แปลว่า...

"ดีมาก ทำข้อสอบไม่เกินเวลา" ครูสุพิชชารับข้อสอบมาจากสตาร์ จากนั้นก็เริ่มแกะข้าวขาหมู

"ครู" ผมทำเสียงอ่อย "ครูแกล้งผมเหรอ" แบบนี้แปลว่าสตาร์มานั่งสอบอยู่ตั้งนานแล้วใช่มั้ย

"ไม่ได้แกล้งสักหน่อย"

"ครูปล่อยให้สตาร์ทำข้อสอบอยู่ แต่ครูก็ทำเหมือนจะไม่ให้มันสอบอ่ะ"

"ครูว่าตลกดีตอนที่เธอทำหน้าโอดครวญเหมือนจะร้องไห้น่ะ ปกติพี่ดินของน้องๆ ทำหน้าแบบนี้บ่อยซะที่ไหน จริงมั้ยจ๊ะศตายุ"
 
"ครับ" สตาร์ขำเบาๆ น้องมันคงได้ยินเสียงผมอ้อนวอนครูแบบแทบจะเกาะขาครูเลยใช่มั้ย

"สตาร์ไม่เห็นพี่ตอนพี่คุกเข่าเหรอ" ทำไมไม่ส่งสัญญาณอะไรให้เลยวะ

"ตอนนั้นทำข้อสอบอยู่"

ผมแกล้งเบะปากนิดๆ ใส่ครูพร้อมยกมือไหว้ลา ไม่รู้สึกเจ็บใจอะไรแต่กลับดีใจมากที่สตาร์ได้สอบ เราสามคนออกมาจากห้องพักครู ทันทีที่พ้นมาไอ้โชคก็ดึงเสื้อออกมานอกกางเกงทันที

ผมเองก็เหมือนกัน

สตาร์คนเดียวที่ยังอยู่ในระเบียบมองผมแล้วยิ้ม "กลัวสตาร์ไม่ได้สอบล่ะสิ"

"ใช่ไง เป็นห่วงด้วย เห็นทำหน้าเหมือนจะตาย"

"ตายสิ ตั้งยี่สิบคะแนนดิบอ่ะ"

"แล้วครูเขาหักอะไรป่ะ"

"ห้าคะแนน โทษฐานสอบช้า"

"หูย เสียดายแทน"

"แต่ไม่เป็นไร ที่เพิ่งสอบไปก็น่าจะเต็มอยู่"

พ่อคนเก่งของพี่ ผมมองซ้ายมองขวา ไอ้โชคหายไปไหนไม่รู้ราวกับมันล่องหนได้ สงสัยคงอยากปล่อยให้ผมอยู่กับน้องสองคน

"ขอบคุณนะครับพี่ดินที่มาช่วยขอร้องครูให้ ทั้งๆ ที่เพื่อนผมทำสำเร็จไปแล้ว ฮ่าๆๆ"

"โอ้ย น่าอับอายขายขี้หน้า" ผมปิดหน้าปิดตา

"อายอะไรล่ะ น่ารักออก" สตาร์ยิ้ม "เป็นแมวที่แมนโคตรๆ เลยครับ"

"ถ้าพี่เป็นแมว สตาร์จะเป็นอะไรดี"

"ไม่น่าจะเรียกว่าเหยื่อเนอะ เพราะพี่ดินก็ไม่ใช่เสือแล้ว"

"เป็นปลาทู"

"ปลาทูเนี่ยนะ"

"ใช่"

"น่ารักตรงไหน"

"น่ารักก็แล้วกัน พี่อยากกินอยู่ทุกวัน"

"หา"

"อยากกินจริงๆ นะ" ผมก้มหน้าลงไปกระซิบ "ปากแมวตัวนี้คิดถึงปากปลาทูจังเลยครับ"

สตาร์ถองสีข้างผม จากนั้นก็รีบจ้ำอ้าวเดินหนีผมไปอย่างรวดเร็ว มันคงกำลังเขินผมอยู่นั่นแหละ

เห็นอย่างนี้ผมก็เขินอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ไม่แสดงออกเพราะผมคือพี่ดิน และแถวนี้ก็มีรุ่นน้องอยู่เยอะมาก ทุกคนล้วนแล้วแต่ยกมือไหว้ผม ผมก็เลยไม่กล้าแสดงออกว่าเขินเท่าไหร่ ต้องเก๊กท่าเอาไว้

แต่ถึงจะพยายามเก๊กแค่ไหนก็หลุดอยู่ดี เพราะต้องตามตูดสตาร์ต้อยๆ

คนมองดูคงจะรู้สึกตลกกันไม่มากก็น้อย

การวิ่งตามและเดิมตามก็คือการแสดงความรักอีกอย่างหนึ่งครับ






TBC*


หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 27-02-2018 19:07:37




ตอนที่ 14





หลังจากนั้นอีกหลายวันในเวลาหลังเลิกเรียน

ผมที่กำลังตีปิงปองในห้องกับเพื่อนอยู่ (ใช้โต๊ะหกตัวเอามาเรียงกันเป็นโต๊ะปิงปอง) ไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าหน้าห้อง 6/2 ของผมมีแขกผู้ทรงเกียรติยืนอยู่ เพราะตอนนี้ผมกำลังเป็นผู้เข้าแข่งขันแล้วก็เอาชนะเพื่อนไปแล้วทั้งสิ้นห้าคน ฉะนั้นเวลานี้เลยจริงจังกับการตีปิงปองมากเพราะต้องการชัยชนะติดๆ กัน ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเลย

"ดิน"

"ไงล่ะมึง ไงล่ะ!"

"เชี่ยดิน"

"ปิงปองพิฆาต มึงตายแน่ ลูกนี้ต้องโดนไข่มึงเว้ยธนัช!"

"ไอ้เหี้ยดิน!!!!!"

เสียงไอ้โชคดังลั่นห้องจนผมเผลอหันไปมอง ธนัชมันก็เลยได้โอกาสตีมาสุดแรง กลายเป็นผมเสียแต้มให้มันในลูกนั้น ไอ้โชคกำลังยืนอยู่ข้างๆ สตาร์ที่ยืนกระพริบตามองผมอยู่

ผมนี่วางไม้ปิงปองเลยครับ

"เชี่ยดิน มึงมาแข่งต่อเดี๋ยวนี้เลย ไอ้แชมป์ห้าสมัย!"

"กูยอมแพ้แล้ว" ผมบอกกับเพื่อน พวกมันดูอึ้งๆ ที่ผมยอมแพ้ง่ายๆ ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ผมกะเป็นแชมป์ประจำห้อง ทำไงได้ล่ะ สตาร์มาหาผมนี่ น้องย่อมสำคัญกว่าทุกอย่างอยู่แล้ว

ผมเดินไปแทรกกลางระหว่างสตาร์กับไอ้โชคทันที รู้สึกได้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับน้องแบบนี้มาหลายวันแล้วเพราะต่างคนต่างก็ยุ่ง แล้วเหตุผลก็เป็นเรื่องเดิมๆ นั่นแหละครับนั่นก็คือเรื่องเรียน

ผมอ่านหนังสือสอบ ส่วนสตาร์เองก็ยุ่งอยู่แต่กับการเรียนพิเศษ มีวันที่ผมไปเรียน ร.ด.ที่เราสองคนไม่ได้เจอหน้ากัน นอกนั้นก็คือเจอกันทุกวันแต่ไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนใหญ่จะเดินสวนกันและก็ถามว่าเป็นไงบ้างแค่นั้น พอได้มาเห็นหน้าวันนี้ก็รู้สึกอิ่มเอมในหัวใจ คาดว่าน้องน่าจะมีอะไรพูดกับผมเยอะอยู่ ไม่รีบเดินหนีไปเหมือนคนธุระรัดตัวแบบเมื่อหลายวันก่อนๆ อีกแล้ว

รู้สึกดีใจฉิบหาย แต่ผมต้องรีบดันไอ้โชคให้หลบไปพ้นทางก่อน

"น้องสตาร์ มาหาเพื่อนพี่ต้องเสียตังค์น้า" เพื่อนผมเริ่มปล่อยให้หมาในปากทำงานทันที พวกมันเลิกสนใจการแข่งขันชิงแชมป์ปิงปองระดับห้องแล้วครับ มันหันมาสนใจผมกับสตาร์กันหมด "เพราะเพื่อนพี่กว่าจะได้ไลน์น้องก็ต้องเสียตั้งหลายบาทเลย จริงมั้ยเชี่ยดิน"

"กูไม่ได้เสียตังค์เว้ย กูขอไปเรื่อยๆ เอา" ผมพยายามดันหลังสตาร์ให้ออกไปจากประตู แต่เพื่อนก็ดันมาขวางทางเอาไว้ เพื่อนห้องผมยั้วเยี้ยเต็มไปหมดเลยตอนนี้ ทั้งในห้องและก็นอกห้อง

พวกมึงไม่พากันกลับบ้านกลับช่องเหรอวะแสด

"ชอบเพื่อนพี่เหรอน้อง"
"ไม่ชอบพี่บ้างเหรอ"
"ไอ้ดินมันเป็นเสือนะคร้าบ"
"คิดจะคบมันต้องคิดดีๆ ก่อน โทรมาถามพี่ได้ที่เบอร์ศูนย์แปดเก้า..."

"ฟวย ไปให้พ้นทางกูเลยทุกคน" ผมโอบไหล่สตาร์แล้วเดินหนี พวกมันร้องแซวไล่หลังมา ผมโดนบ่อยจนชินแล้ว แต่สตาร์ดูเหมือนจะตื่นๆ ไปสักหน่อย

"วันหลังให้พี่ไปหาที่ห้องดีกว่า" ผมพูดหลังจากที่เราสองคนอยู่บริเวณที่ไม่มีใครเดินผ่านแล้ว "มีอะไรเหรอ"

สตาร์ดูตื่นเต้นปนกังวล มันมีเรื่องจริงๆ ด้วย เกิดอะไรขึ้นวะ นี่ใจผมแป้วไปก่อนแล้วนะเนี่ย

"ตรงนี้ไม่ดีมั้งพี่"

"ทำไมเหรอ ไม่มีใครผ่านแล้วนะ"

"ไม่ดีจริงๆ ครับ"

"แล้วสตาร์อยากไปไหนล่ะ"

สตาร์มองไปที่ห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ สลับกับมองผม จากนั้นสตาร์ก็หลับหูหลับตาดึงมือไปเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อเห็นว่าไม่มีคนอยู่ข้างในก็ปิดประตู

เฮ้ย แบบนี้ผมคิดลึกนะ

สตาร์คิดถึงผมหนักไปแน่ๆ นี่มันกำลังจะทำอะไร

ผมต้องกลืนน้ำลายระงับอาการตื่นเต้นของตัวเองเอาไว้ ที่จริงผมตื่นเต้นตั้งแต่อยู่ในที่ลับหูลับตาคนสองต่อสองแล้วล่ะ สตาร์เดินเข้ามาใกล้ผมช้าๆ ขณะที่ผมก็ก้าวถอยหลังช้าๆ เช่นกัน

มันกลับกันนี่ ผมต้องเป็นฝ่ายเข้าหาสตาร์ก่อนไม่ใช่เหรอวะ

"พี่ดิน"

"..."

"ถ้าไม่ก้มหน้าสตาร์จูบไม่ถึงนะ"

เหยดเข้

ผมกระพริบตาปริบๆ รู้สึกอยากแคะขี้หูตัวเองแล้วฟังใหม่ อาจเป็นเพราะผมก้มหน้าลงไปใกล้เพื่อฟังใหม่มั้ง สตาร์เลยพุ่งเข้ามาหาผมด้วยท่าทีเงอะๆ งะๆ

ครั้งนี้มันเป็นคนเริ่มก่อน ตอนแรกก็จับทางไม่ค่อยได้ ผมต้องช่วยมันด้วยการประคองศีรษะเพื่อให้ริมฝีปากของเราทั้งคู่สัมผัสกันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ส่วนอีกมือหนึ่งผมรั้งเอวของอีกฝ่ายให้เข้ามาแนบชิดสนิทกับตัวผม ครั้งที่แล้วมันอาจจะกะทันหันมากเกินไป แต่ครั้งนี้ผมอยากให้สตาร์ได้เรียนรู้อะไรที่มันลึกซึ้งกว่านั้น

พวกเราต้องเข้าใกล้คำว่าดูดดื่ม...

ปลายลิ้นของผมเกี่ยวกระหวัดเข้ากับปลายลิ้นของอีกฝ่ายราวกับต้องการสูบพลังชีวิต ราวกับลมหายใจของสตาร์คือสิ่งเดียวที่ผมต้องการในเวลานี้ คนตัวเล็กรับสัมผัสของผมจนตัวเอน ถูกผมกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนเสื้อนักเรียนของเราทั้งคู่ยับยู่ยี่ไปหมด เมื่อเริ่มรับไม่ไหวอีกต่อไป น้องก็ทุบผมที่ไหล่หลายๆ ครั้งเพราะหายใจไม่ทัน 

หลังจากที่เราทั้งคู่ผละออกจากกัน ผมหน้าแดงก่ำ สตาร์เองก็เช่นกัน ริมฝีปากของสตาร์บวมเจ่อเล็กน้อย สภาพนั้นของมันทำเอาผมต้องเลียริมฝีปากตัวเองเพราะอยากสัมผัสริมฝีปากอีกฝ่ายอีกครั้ง

"พี่ตกใจนะ" ผมพูดเก้อๆ เกาศีรษะของตัวเอง "คิดถึงพี่เหรอ"

"คิดถึงครับ"

"..."

"แต่เรื่องนี้...พี่ดินเป็นคนขอเอาไว้"

ผมขมวดคิ้ว มองดูสตาร์ที่เหมือนกำลังรวบรวมความกล้า

"เรื่องอะไร"

"ถ้าสตาร์จะไปหาพี่เรย์ สตาร์ต้องมาจูบพี่ก่อน"

เฮ้ย ไอ้เหี้ยเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย

รู้สึกเหมือนเรือกำลังแล่น แต่แล้วจู่ๆ ก็ชนภูเขาน้ำแข็งแล้วพลิกคว่ำ

"สตาร์มาจูบพี่แล้วนะ"

"..."

"ไปก่อนนะ"

เหมือนผมถูกรางวัลล็อตเตอรี่แล้วมีคนขโมยรางวัลผมไปต่อหน้าต่อตา สตาร์หันมองผมอย่างหนักใจอีกครั้งก่อนที่จะเปิดประตูห้องน้ำออกไป

ผมมองตามอย่างงงๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก แม้กระทั่งขณะที่เราทั้งคู่จูบกัน อันที่จริงตอนที่ผมพูดว่าหากสตาร์จะไปหาไอ้เรย์ก็ต้องมาจูบผมก่อน ผมพูดเพราะความคะนองปากและไม่คิดว่าสตาร์จะทำจริงๆ แต่เมื่อมันทำจริง ความดีใจที่ผมได้สัมผัสปากของมันกลับลดน้อยลงไปอย่างรวดเร็วเมื่อมันฟาดหน้าผมด้วยคำพูดที่ว่าจะไปหาไอ้เรย์

แบบนี้จูบอีกร้อยทีก็ไม่ยอมให้ไปหรอกว่ะ

ผมรีบกลับเข้ามาในห้อง เพื่อนจัดโต๊ะให้เรียงกันเป็นเหมือนเดิมแล้วก็เริ่มทยอยกลับบ้านกันแล้ว

"เห็นสตาร์มั้ย" ผมร้องถามทุกคนอย่างไม่เลือกหน้า

"มึงเป็นคนลากน้องออกไปอ่ะ พวกกูจะไปเห็นได้ไง" ไอ้ไผ่ตอบ

เรื่องไอ้เรย์นี่เร็วจริงๆ เลยนะ ผมรีบคว้าเป้ของตัวเอง บอกลาเพื่อนๆ แล้วรีบวิ่งลงบันไดทันที เผื่อผมจะตามสตาร์ได้ทัน

ขาสั้นๆ ของสตาร์จะหนีผมไปได้สักกี่น้ำ ในที่สุดผมก็ตามทัน ดูเหมือนสตาร์กำลังรีบมาก คล้ายกับต้องการจะพุ่งไปที่ไหนสักแห่ง รีบกว่าตอนที่จู่โจมผมในห้องน้ำตะกี้อีก

แม้จะหงุดหงิดและโมโห แต่ผมก็เชื่อใจสตาร์อย่างที่ผมกับเขาเคยได้คุยกันหลายต่อหลายครั้ง ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ผมก็ไม่สามารถปล่อยให้สตาร์ไปตามลำพังได้อยู่ดี ขึ้นชื่อว่าไอ้เรย์อะไรก็อันตรายทั้งนั้นนั่นแหละ

มันจะไปไหนกันแน่วะ...








โรงพยาบาล V

สตาร์มาทำอะไรที่นี่ ผมตามมันมาตั้งแต่ออกจากโรงเรียนจนมาถึงที่นี่ เราทั้งคู่ยังอยู่ในชุดนักเรียนและดูเหมือนสตาร์จะไม่ได้แคร์เรื่องนั้นเลย ผมหยุดชะงักตอนที่สตาร์เดินไปถามพยาบาลเพื่อตามหาใครคนหนึ่ง หลังจากนั้นก็เดินตามสตาร์ไปอีกครั้งเมื่อมันออกเดิน

สตาร์พาผมขึ้นไปยังห้องพักผู้ป่วยพิเศษ หยุดยืนที่หน้าห้องหนึ่งสักครู่ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ผมรอให้สตาร์เข้าไปในห้อง แล้วค่อยพาตัวเองไปอ่านชื่อของผู้ป่วยที่อยู่หน้าห้องด้วยความสงสัย

นายรชต ขจรเฉลิม อายุ 18 ปี

สิ่งแรกที่แวบเข้ามาในหัวของผมคือ 'ไอ้เหี้ยนี่ใครหว่า'

พอผมมองเข้าไปข้างในผ่านกระจกผมก็ถึงบางอ้อ สตาร์บอกจะมาหาไอ้เรย์และคนในห้องก็คือไอ้เรย์นั่นแหละครับ เหมือนมันโดนเล่นมาไม่น้อยเพราะน่วมไปทั้งตัว ขาถูกดามเอาไว้ด้วยเหล็ก มีสายระโยงระยางห้อยเต็มไปหมด

ผมตกใจเล็กน้อย แต่ที่ตกใจกว่าก็คือในห้องไม่มีใครเลยนอกจากสตาร์กับไอ้เรย์ที่นอนอยู่บนเตียง

สารภาพตามตรงคือหัวใจผมวูบลงไปอยู่ที่ข้อเท้า อย่างที่ผมบอกก่อนหน้านี้ เหมือนผมถูกล็อตเตอรี่แล้วมีคนขโมยรางวัลผมไปซะงั้น คนขโมยไม่ใช่ใครที่ไหน มันคือคนเดียวกันกับคนที่ขโมยหัวใจผมไป

คนคนนั้นก็คือสตาร์

น้องรีบมาขนาดนี้ แปลว่าห่วงไอ้เรย์มากเลยสินะ

ผมทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ยาวหน้าห้องด้วยความรู้สึกมึนๆ ตึงๆ ใจหนึ่งอยากจะเดินหนีแล้วก็เก็บไปคิดทบทวนเองคนเดียว แต่ร่างกายไม่ยอมพาผมไปไหน มันสั่งให้ผมหยุดรอที่นี่ รอให้สตาร์ออกมา ให้มันมาบอกผมว่าผมกับมันยังเหมือนเดิมและผมคิดมากไป

ไม่รู้สิครับ มาเจอจังๆ แบบนี้มันก็ต้องคิดมากอยู่แล้ว ผมไม่มีทางห้ามความคิดในแง่ลบของตัวเองได้แน่ๆ สตาร์บอกกับผมเสมอว่ามันกับไอ้เรย์ไม่มีอะไร แต่ผมก็อดหวั่นๆ ในใจไม่ได้อยู่ดี เหมือนที่สตาร์เคยบอกเอาไว้นั่นแหละว่ากลัวผมไม่เคลียร์เรื่องหยก

แล้วมันล่ะ เมื่อไหร่จะเคลียร์เรื่องไอ้เรย์สักทีวะ

ยิ่งเวลาผ่านไปนานก็ยิ่งรู้สึกร้อนรุ่ม ผมกลัวว่าพอเข้าไปในห้องแล้วผมจะต้องเจอกับฉากที่หยกเคยทำกับผมเอาไว้ ก่อนเลิกกันผมไปหาหยกที่บ้านเพื่อจะเอาของขวัญวันเกิดไปให้ แต่ภาพที่ผมเห็นก็คือหยกกำลังอยู่กับรุ่นพี่นักศึกษามหา'ลัยแล้วก็กำลังพลอดรักกันแบบไม่แคร์สิ่งใดบนโลก

มันเป็นภาพฝังใจผม กว่าจะทำใจเรื่องนั้นได้ใช้เวลาเกือบปีและผมก็ได้มาเจอกับฟืนพอดี ผมกลัวว่าตัวเองจะได้เห็นภาพนั้นอีกครั้ง แล้วถ้าสตาร์ทำแบบที่หยกเคยทำล่ะก็ ผมว่าเวลาทำใจของผมครั้งนี้คงไม่ใช่แค่เกือบปีแล้วล่ะ

อาจจะหลายปีเลยทีเดียว...

แม่ง ผมทนไม่ไหวแล้วว่ะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดดิ

ถ้าสตาร์จะเป็นแบบหยกผมก็ขอเจอแล้วจบเลย อย่ายื้อ อย่าประวิงเวลา อย่าอะไรทั้งนั้น ชีวิตมันสั้น เวลาเป็นสิ่งมีค่า

ผมก็พูดไปงั้น จริงๆ แล้วผมคิดว่าสตาร์อยู่ในห้องนั้นนานเกินไปแล้วต่างหาก

ผมเปิดประตูพรวดเข้าไปอย่างไม่แคร์ว่าคนที่อยู่ในห้องจะทำอะไรกันอยู่ ภาพที่ผมเห็นคือสตาร์นั่งอยู่ข้างเตียง มือหนึ่งเล่นโทรศัพท์ ส่วนไอ้เรย์หลับอยู่บนเตียงเฉยๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในแบบที่ผมกลัวเลยสักนิด

การมโนในแง่ลบของผมจบลงในตอนนั้น

"พี่ดิน" สตาร์ร้องเมื่อเห็นผม มันรีบลุกขึ้นมาหาพร้อมทำหน้าตกใจอย่างยิ่งใหญ่ "มาได้ไง"

"ถ้าจะบอกว่าพี่ไม่โมโห พี่ก็คงโกหก"

สตาร์ผลักผมให้ไปยืนอยู่ที่หน้าห้องน้ำ บริเวณที่คนบนเตียงผู้ป่วยจะมองไม่เห็น

"ทำไมมาหามัน พ่อแม่มันไม่มีใครมาดูบ้างเหรอ"

สตาร์ส่ายหน้า "ไม่มีหรอกครับ"

"แล้วเพื่อนๆ มันล่ะ"

"ไม่มีใครรู้ว่าพี่เรย์เจ็บ"

"แล้วทำไมสตาร์ต้องรู้ สตาร์เป็นเมียมันเหรอ สตาร์กำลังจะเป็นเมียพี่ไม่ใช่หรือไง"

เสียงของผมดังขึ้นเรื่อยๆ จนอีกฝ่ายต้องพยายามปรามผม

"พี่ดิน มันไม่มีอะไร"

"ก็รู้ แต่พี่ไม่ชอบให้เรามาอยู่ใกล้ๆ มัน"

"..."

"ถ้าสตาร์อยู่ พี่ก็จะอยู่ด้วย"

"ถ้าพี่เรย์ตื่นแล้วมาเจอพี่ดิน ได้มีเรื่องกันพอดี"

"แล้วไง ถ้ามันลุกไหวก็ให้มันมาตีกับพี่เลย" ผมร้องอย่างเหลืออด "แบบนี้จูบอีกร้อยครั้งก็ไม่ยอมหรอก พี่บอกเลย"

"งั้นก็โกหกดิ" สตาร์ทำหน้ามุ่ย "ที่บอกว่าจูบแล้วจะยอมให้มาหาพี่เรย์ได้"

"พี่โง่เองที่พูดไปแบบนั้น พี่ไม่คิดว่าพี่จะหวงขนาดนี้"

"..."

"ใจพี่ใกล้จะขาด ตัวพี่ก็ใกล้จะเป็นบ้า โอ้ย ทำไมต้องทำให้พี่รู้สึกแบบนี้ด้วยวะ"

"โอเค พี่ดิน" สตาร์จับไหล่ทั้งสองข้างของผม "พี่ดินอยู่ได้ แต่พี่ดินสัญญากับสตาร์ก่อนว่าอย่าเสียงดัง พี่เรย์ต้องการพักผ่อน"

"ห่วงมันมากหรือไงวะ" ผมหน้ามุ่ยบ้าง "ถ้าพี่เป็นแบบนี้บ้าง ระหว่างพี่กับมัน...เราห่วงใครมากกว่ากัน" หรือนี่จะเป็นประเด็นหลักที่ผมกำลังโมโหอยู่

น้อยใจได้เด็กน้อยมากจริงๆ กู...

"ไม่น่าถามเลยนะ" สตาร์ขมวดคิ้ว "ตอนนี้พี่เรย์ไม่มีใครเลย เรามีน้ำใจเราก็ต้องช่วยเหลือถูกมั้ยครับ พี่ดินช่วยคนอื่นมาเยอะก็น่าจะรู้นี่"

"ดีมากไปจนมีคนหึงเป็นบ้าเป็นบอแบบนี้ พี่ว่าเราเหี้ยบ้างก็ได้นะ"

สตาร์มองเหมือนผมพูดอะไรที่แปลกประหลาด ก็มันจริงอ่ะ เรื่องความรักใครๆ ก็อยากเห็นแก่ตัวไม่ใช่เหรอ มันพาผมเดินมาหาเรย์อีกครั้ง บอกให้ผมนั่งตรงโซฟา ส่วนมันจะไปนั่งข้างๆ เตียง

ไม่เอาแบบนี้ดิวะ

"มานั่งนี่" ผมพูดเสียงเบา แม้จะไม่ชอบไอ้เรย์แต่เห็นมันอาการหนักก็ไม่อยากจะรบกวนมัน

สตาร์ทำสีหน้าอ่อนใจ ก่อนจะยอมมานั่งข้างๆ ผมอย่างที่ผมปรารถนา ผมกระหยิ่มยิ้มย่อง เอื้อมมือไปจับมือของสตาร์เอาไว้อย่างหน้าด้านๆ

"พี่ดิน" สตาร์เขย่ามือ ผมไม่ยอมปล่อยง่ายๆ "ดื้อจริง"

"อยากทำอะไรก็ทำไปดิ พี่ก็จะทำในแบบของพี่อย่างนี้"

"ยอมแล้ว ยอมเลย"

ผมยิ้มเล็กๆ ส่วนสตาร์ส่ายหน้า เราทั้งสองคนจ้องมองไปที่เตียงซึ่งมีเรย์หลับอยู่ จากนั้นความเงียบก็ครอบงำพวกเรา มีเพียงเสียงแอร์ของโรงพยาบาลเท่านั้นที่กำลังดังอยู่

ไออุ่นจากมือของสตาร์ทำผมตื่นเต้นเล็กน้อย ผมมองไปที่ใบหน้าด้านข้างของคนตัวเล็ก ไล่ตั้งแต่ปลายจมูกลงไปจนถึงริมฝีปากที่ผมเพิ่งได้สัมผัสเมื่อไม่นานมานี้ สตาร์เป็นคนปลายจมูกรั้นรับกับริมฝีปากบางอันเล็กกระจิ๋วหลิว พอมาอยู่รวมกันแล้วมองจนละสายตาไม่ได้

เพราะงี้มั้งผมถึงได้หวงมากขนาดนี้

"พี่ดินไม่ได้ไอดีไลน์มากี่วันแล้วเนี่ย"

"ไม่รู้สิ เหมือนตัวล่าสุดได้มาชาติที่แล้ว ก็เราต่างคนต่างยุ่งนี่"

"เอางี้ ถ้าพี่ดินปล่อยมือ สตาร์ให้ไอดีไลน์เลย"

"งั้นไม่ปล่อย"

"อ้าว"

"ไอดีไลน์พี่ไม่เอาก็ได้ พี่อยากอยู่ใกล้สตาร์แบบนี้"

ผมพูดความจริงจากใจ ไอดีไลน์มันจะไปสำคัญอะไรเท่าการได้สัมผัสกันและกันวะ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากเรื่องของผมกับสตาร์ ถ้าคิดถึงมากก็ไม่ต้องแชท แต่พาตัวเองไปหาเลยครับ ง่ายๆ แค่นี้

"ยอมเลย"

สตาร์ยอมผมอีกแล้ว ยอมจริงป่ะวะ "ยอมแน่เหรอ"

"ก็ยอมหลายครั้งแล้วนะวันนี้"

"งั้นก็ยอมเป็นแฟนพี่เร็วๆ ดิ"

"ไม่"

โห่ โดนปฏิเสธอีกละ สตาร์หยิบโพสต์อิขึ้นมา มองดูมือขวาที่กำลังถูกผมจับอยู่

"สตาร์จะเขียนยังไง"

ผมปล่อยมือ แต่เอาขายาวๆ ของผมไปพาดบนต้นขาขาวๆ ของสตาร์แทน

"คำว่าความเกรงใจล่ะพี่ดิน"

"พี่ไม่เคยมีอยู่แล้ว"

อีกฝ่ายดูเหนื่อยกับผม แต่ติดจะขำๆ มากกว่า สตาร์มองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วก่อนจะลงมือเขียน จากนั้นก็ส่งมาให้

ไอดีไลน์ตัวที่ 14
S
หึงให้มันน้อยลงมาหน่อย


ผมอ่านจบก็เก็บเข้ากระเป๋าเสื้อ แล้วค่อยคว้ามือนิ่มมาจับไว้เหมือนเดิม "ไม่มีวันซะล่ะ"

"พี่หยกเลิกโทรมาหรือยัง" สตาร์ถามเสียงเย็น หือ นี่มันกำลังจะประกาศสงครามกับผมเหรอ พยายามจะบอกผมว่าฝั่งผมก็ไม่เบางั้นใช่มั้ย

"ตั้งแต่วันนั้นก็ยังไม่โทรมาอีกเลย"

"แน่นะ"

"แน่สิ" ผมใช้มือข้างที่ว่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาให้สตาร์ดู พร้อมกดประวัติการโทรเข้าโทรออก ส่วนใหญ่มีแต่เบอร์พ่อแม่ เบอร์ไอ้พิงค์ที่ชอบสั่งให้ซื้อของกินกลับบ้านไปให้ เบอร์ไอ้โชค เบอร์ไอ้ธนัช และก็เบอร์ไอ้ไผ่ ชีวิตผมมีอยู่แค่นี้จริงๆ

"นี่คือโทรศัพท์ของพี่ดินคนฮอตของน้องๆ จริงๆ เหรอวะเนี่ย" นัยน์ตาของสตาร์เป็นประกาย

"พี่ไม่มีสาวโทรมา แต่พี่โทรหาสาวได้นะ"

เท้าของสตาร์เตะเข้าที่หน้าแข้งผมเบาๆ รีแอ็กชั่นแรงว่ะ นี่แค่พูดเล่นนะเนี่ย

"ฮ่าๆๆ"

"..."

"หึงให้มันน้อยลงมาหน่อยนะน้อง"

สตาร์มองผมอย่างหมั่นไส้ ผมหัวเราะอย่างสุขใจที่แหย่คนข้างๆ ได้ แม้สถานที่ที่เราอยู่มันค่อนข้างเป็นที่ที่ไม่เหมาะเท่าไหร่ก็เถอะ
ยังไม่รู้เลยครับว่าจะรับมือกับไอ้เรย์ตอนตื่นยังไง 





TBC*



หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 27-02-2018 19:11:24


ตอนพิเศษ
พาร์ตของเรย์




เสียงหัวเราะงุ้งๆ งิ้งๆ ทำเอาผมต้องลืมตาตื่นขึ้นมา ภาพที่ผมเห็นเป็นภาพที่สร้างรอยแผลให้ผมอีกหนึ่งรอย ทั้งๆ ที่ผมมีแผลไปทั่วทั้งตัวอยู่แล้ว

นั่นคือภาพของคนที่ผมชอบกับคนที่เขาชอบอยู่ด้วยกัน

แม่ง พามาควงเย้ยกันทั้งๆ ที่กูเจ็บเจียนตายอยู่เนี่ยนะ

"หึงให้มันน้อยลงมาหน่อยนะน้อง" เสียงของไอ้ดินพูดกับอีกฝ่ายเป็นเสียงหวานที่ผมไม่เคยได้ยินจากปากคนอย่างมัน มันคือคนที่ใครหลายคนมักจะบอกว่าเป็นผมในเวอร์ชั่นเทวดา ดูดีดูเนี้ยบไปหมดทุกกระเบียดนิ้วแม้หน้าตาของมันจะไม่ค่อยเหมาะกับกฎระเบียบสักเท่าไหร่ก็ตาม

จากนั้นพวกมันก็เงียบ ไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าผมลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว ผมเห็นทั้งสองจับมือกันด้วย ไอ้ดินมันดึงมือสตาร์ไปไว้ตรงหน้าขาของมันเลย ดูก็รู้ว่าคนนี้มันหวงและก็จริงจังมาก ผิดกับคำพูดของผมที่เคยเป่าหูสตาร์แบบหลอกๆ ว่าดินมันทำเป็นจริงจังกับคนที่มาทีหลังหยกทุกคน ตอนแรกสตาร์ก็เชื่อดีอยู่หรอก แต่หลังๆ ดูเหมือนเขาจะไม่เชื่ออีกต่อไป

เหมือนเขาเลือกที่จะเชื่อหัวใจตัวเอง แทนที่จะเชื่อคำพูดของคนอื่น

ผมมองดูใบหน้าของคนที่ผมหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ผมชอบสตาร์ตอนอยู่ ม.5 เทอมสอง ตอนนั้นสตาร์อยู่ ม.4 ผมเดินสวนกับสตาร์ในสยาม ติดใจในความวิ้งที่เด็กผู้ชายน้อยคนนักจะทำให้ผมต้องหันกลับไปมองจนคอแทบหักได้ หลังจากสืบเรื่องของเขาอยู่ไม่นานก็รู้ว่าชื่อสตาร์ เป็นเพื่อนกับไอ้ตือที่เข้ามาติดเงินผมกับเพื่อนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน

แบบนี้ก็เข้าทางผมเลยสิ

ผมใช้อำนาจมืดหลอกล่อให้สตาร์เข้ามาติดกับผม ยอมอยู่ใกล้ๆ ผมแบบที่ผมต้องบังคับ ต้องใช้วิธีนี้เพราะรู้ว่าคนอย่างสตาร์ที่ขาวสะอาดคงไม่ยอมมายุ่งกับคนที่มีสีดำแบบผม ยิ่งได้อยู่ใกล้ๆ ผมก็ยิ่งหลงใหลในตัวของสตาร์ เพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้นี่เองว่าคนแบดอย่างผมชอบคนดี เพราะงั้นผมจึงต้องปรับปรุงตัว

ผมบอกให้เด็กโรงเรียนผมทุกคนเลิกยุ่งกับเด็กโรงเรียนสตาร์ บอกก่อนที่สตาร์จะมาขอร้องอีกครับ และผมก็พยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นมาก จากที่ไม่เคยคิดจะสมัครสอบเข้ามหา'ลัยของรัฐบาล ก็ต้องสมัครเพราะสตาร์บอกให้ทำ ไปโรงเรียนบ่อยมากขึ้นทั้งๆ ที่ปกติมักจะไปมั่วสุมอยู่ร้านเกม และผมก็กลับบ้านมากขึ้นทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าที่บ้านไม่มีคนอยู่

ทั้งหมดที่ผมทำเป็นเพราะสตาร์ คนที่มีความรักจะเข้าใจผมว่าทำไมถึงอยากปรับปรุงตัวเราเองให้ดี ที่เราทำเพราะเราอยากให้คนที่เรารักภูมิใจ

ถึงแม้ว่าคนคนนั้นเขาจะไม่รักเราก็ตาม

ผมห่างกับสตาร์สักพักเพราะผมมีเรื่องกับรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว มันเป็นเรื่องภายในที่คาราคาซังและคงจะยืดไปอีกนาน ผมกลัวว่าพี่คนนี้มันจะรู้ว่าผมชอบสตาร์แล้วจะหาเรื่องไปยุ่งกับน้องมัน ไอ้พี่ห่านี่มันทำได้ทุกอย่างนั่นแหละถ้าผมเจ็บปวด ผมต้องห่างจากคนที่ผมชอบเพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน ใครจะรู้ว่ากลับไปอีกทีหนึ่ง สตาร์ก็มีใจให้ไอ้เชี่ยดิน คนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับผมมานาน

ตอนนั้นผมเจ็บจนเมาไปหลายวัน เมื่อวานก็เช่นกัน ผมเมาและก็ขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน อุบัติเหตุเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลคือกระดูกขาของผมหัก ไม่ค่อยมีใครรู้เท่าไหร่ว่าผมรถล้มมา ส่วนใหญ่ก็คงจะคิดกันไปนั่นแหละว่าผมโดนอริซ้อม ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขความเข้าใจผิดในข้อนั้น เพราะคนที่ผมแคร์จริงๆ มีแค่สตาร์

ผมโทรหาสตาร์ คนสุดท้ายที่ผมนึกถึงก่อนสลบ คนแรกที่ผมนึกถึงเมื่อตื่น

สตาร์มาหาผมอย่างรวดเร็วเท่าที่จะทำได้ ผมซึ้งใจมากๆ มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนได้รับกำลังใจครั้งใหญ่ แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเขาจะพาไอ้เชี่ยดินมาด้วย คนที่กำลังหัวร่อต่อกระซิกกับเขาและกำลังทำให้เขามีความสุขจากใจจริงๆ ในเวลานี้

หรือเขาจะไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของผมตั้งแต่แรกวะ

ผมต้องไม่ยอมเชี่ยดินง่ายๆ สิ ผมคือมันในเวอร์ชั่นแบดนะ คนแบดก็ต้องชนะสิวะ

"อะแฮ่ม" ผมแกล้งกระแอม ทั้งคู่มองหน้าผมก่อนที่ใครคนหนึ่งในนั้นจะเดินเข้ามาใกล้ ไม่ใช่ใครที่ไหน นางฟ้าของผมเองครับ

"พี่ดิน เป็นไงบ้าง" จะไม่ให้ผมพูดว่านางฟ้าได้ไง ทั้งๆ ที่ทุกคนก็รู้กันดีว่าผมอันตรายจะตายห่า แต่สตาร์ก็ไม่เคยรังเกียจ ตอนนี้ที่สตาร์ทำมันมากเกินกว่าการทำเพื่อไอ้ตือไปแล้วครับ สตาร์เป็นคนดีจริงๆ "เจ็บตรงไหนมั้ย ให้ผมเรียกพยาบาลให้มั้ยครับ"

"ไม่เจ็บๆ" ผมพูด กายเจ็บขนาดนี้ แต่ที่ใจยังเจ็บกว่าตั้งเยอะ หัวใจแม่งเป็นอวัยวะที่สำคัญจริงๆ ผมก็เพิ่งรู้วันนี้นี่แหละ

"อยากเจ็บเพิ่มป่ะ" ไอ้เชี่ยดินเอ่ยลอยๆ อยู่ข้างหลังสตาร์ จนทำให้คนตัวเล็กหันไปมองมันตาเขียว

ทำอย่างกับแฟนกันเลย...

หรือกูไม่ควรตื่นขึ้นมา กูควรนอนต่อไปดีมั้ยวะ

"ไม่มีแรงเถียงกับมึงว่ะ" ผมหันไปทางอื่น

"มึงเจ็บทำไมมึงไม่บอกพ่อแม่ ทำไมมึงต้องมาบอกเมียคนอื่น"

เชี่ยดินแม่งจะเอาเรื่องผมจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย ผมทำหน้ากวนประสาทใส่มันก่อนจะพูดกับสตาร์

"สตาร์ พี่อยากกินนมเปรี้ยว"

"กินได้ด้วยเหรอครับ"

"ช่าย ไอ้สัดดินก็อยากกิน"

"กูไม่อยากกิน"

ฟวยนี่ มึงช่วยสบตากูก่อนตอบด้วย กูจะให้น้องออกไปเพื่อที่กูจะได้คุยกับมึงไงสัด

"งั้นเดี๋ยวผมไปซื้อมาให้นะครับ" นางฟ้าของผมเดินออกไปแล้ว ไอ้ดินทำท่าจะเดินตามไปแต่ผมรั้งตัวมันไว้ก่อน

"มึงโง่หรือมึงโง่ ไม่รู้เหรอว่ากูมีเรื่องพูดกับมึง" ผมด่ามันทันทีที่สตาร์พ้นประตูห้องไป ไอ้ดินพาร่างสูงๆ ของมันมายืนข้างเตียงผมพร้อมกับทำหน้าบึ้ง

"กูจะคุยกับมึงทำไม เสียเวลาชีวิตกู"

"ถ้ากูจะคุยเรื่องสตาร์ล่ะ"

"มึงพูดไม่เข้าหูกู มึงได้เจ็บเพิ่มแน่" ไอ้ดินชี้หน้าขู่

"กูเจ็บมาเยอะแล้ว เจ็บอีกนิดหน่อยจะเป็นไรไป" ผมขยับตัวเล็กน้อย ทำท่าจะลุกขึ้นมาเป็นท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ไอ้ดินเงอะๆ งะๆ ไม่รู้ว่าต้องปรับเตียงปรับหมอนตรงไหน ปากบอกหาเรื่องผมแต่พอมันคิดจะช่วยก็พึ่งพาได้อยู่นะครับ ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรเลย

"ได้ยัง" มันถามเสียงแข็ง ผมโบกมือส่งๆ ให้มันเมื่อผมอยู่ในท่าที่โอเคแล้ว "มีห่าอะไรรีบพูด"

"กูชอบสตาร์" ผมพูดตรงๆ ไอ้ดินกำหมัดแน่น พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่เข้ามากระชากคอเสื้อผม "แต่กูรู้ สตาร์ชอบมึง"

หมัดของมันคลายลงอย่างเห็นได้ชัด "แล้ว?"

"มึงเหมาะสมกับน้องมันทุกอย่าง มึงเป็นคนดี มึงทำให้น้องมีความสุข แต่กูมีเรื่องจะขอมึง"

"ขออะไรวะ"

"โอกาส"

"..."

"โอกาสที่กูจะได้ทำในสิ่งที่กูต้องทำ"

"มึงจะทำอะไร"

"สารภาพรักไง"

คิ้วไอ้ดินขมวดจนเป็นปม เป็นหน้าที่ตลกดีครับ เหมือนมันทั้งโมโหทั้งกำลังใช้ความคิด ผมในเวอร์ชั่นเทวดาในสายตาของคนอื่นเป็นอะไรแบบนี้จริงๆ เหรอเนี่ย แม่งโคตรตลกอ่ะ

"ทำไม มึงกลัวน้องตอบรับรักกูเหรอ"

"พ่องดิ"

"แล้วทำไมดูไม่มั่นใจขนาดนั้นล่ะวะ"

"กูกลัวมึงเรียกคะแนนความสงสารเป็นท่าไม้ตาย"

"คนอย่างเรย์ไม่ต้องให้ใครมาสงสารหรอก"

"ให้มันจริงอย่างที่มึงพูดก็แล้วกัน"

"..."

"กูจะให้โอกาสมึงก็ได้ แล้วหลังจากวันนั้นมึงต้องปล่อยสตาร์ไป"

"..."

"ตกลงมั้ยวะเรย์"

ใจของผมกระตุก ประโยคที่ว่าผมต้องปล่อยสตาร์ไปเป็นคำพูดที่ดาเมจผมรุนแรงมาก เหมือนผมจะไม่ได้เจอสตาร์อีกยังไงยังงั้นเพราะหลังจากนั้นสตาร์ก็คงคบกับไอ้ดินไปแล้ว

คนเราแม่งจะเจอคนที่ใช่ได้สักกี่ครั้งกี่หนกันวะ ผมไม่อยากปล่อยน้องไปอ่ะ

...แต่น้องมันไม่มีใจให้ผมไง!

"เออ กูตกลง"

"สัญญาลูกผู้ชายนะ" ไอ้ดินชี้หน้าผมอีกรอบ

"เอออออออ"

มันมีสีหน้าอุ่นใจมากขึ้น ผมถอนหายใจแล้วมองไปทางอื่น พยายามสกัดกั้นความเจ็บปวดของตัวเองเอาไว้

"แล้วหนี้ไอ้ตือนี่ยังไง"

"มันใช้นานแล้ว แต่กูขู่ไม่ให้มันบอกสตาร์ กูกลัวกูจะไม่ได้อยู่ใกล้เขา"

"เลว"

"เลวเหมือนมึงอ่ะ"

"..."

"ถ้ามึงเป็นกูมึงจะทำแบบที่กูทำมั้ย"

ไอ้ดินเถียงไม่ออก มันเดินห่างไปจากผม "...กูไปหาสตาร์ก่อน กลัวบุรุษพยาบาลมาฉุดไป"

"อืม"

"อย่าใช้เวลานานนักนะ"

"กูรู้แล้ว"

"มึงยื้อ มึงรั้ง สุดท้ายคนที่เจ็บปวดก็คือตัวมึงเอง...ยังไงมึงก็เจ็บเหมือนเดิม"

"ไอ้คนที่จะสมหวังมันก็พูดได้ทุกอย่างแหละ"

ดินชูนิ้วกลางมาให้ผม จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป

ผมอยู่ในห้องคนเดียว เรียบเรียงความคิดจนผมปวดหัว นี่ผมกำลังนับถอยหลังให้ตัวเองค่อยๆ ถอยหลังแล้วตกลงไปสู่หลุมดำกว้างใหญ่อยู่ใช่มั้ย

หลุมที่สตาร์ขุดเอาไว้ให้ เพียงแต่มันไม่ใช่หลุมรักก็เท่านั้น

มันคือหลุมแห่งความเจ็บปวด








TBC*


หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 27-02-2018 19:19:07


ตอนที่ 15




กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของพี่ดิน'

Din : พวกมึงห่างกับคนที่มึงรักได้มากที่สุดกี่วัน
FUEN : วันเดียวมั้งพี่
AOF : มากสุดผมให้สามวันอ่ะ
TANG : ผมไม่รู้ ผมโสดครับ
CHOK : เพ้อตลอด เพ้อแล้วมาลงกับพวกกูตลอด
PHYSICS : สองนาที







คนเหล่านั้นให้คำตอบมากมายกับผม แต่ผมให้คำตอบตัวเองไม่ได้เลย

อิจฉาทุกอย่างบนโลกใบนี้ที่ได้อยู่ใกล้สตาร์ อิจฉาหมอน อิจฉาเตียง อิจฉาหน้าต่าง อิจฉาผ้าม่าน อิจฉาคนรถที่บ้าน อิจฉาไปหมดทุกอย่างแล้วโว้ย!

วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมอยู่บ้านเซ็งๆ นอนอ่านหนังสือเรียนเพื่อเตรียมสอบเข้ามอ A และมอ B ตามความปรารถนาของพ่อแม่และก็กำลังจะเป็นของตัวเอง ถึงแม่จะไม่อยากให้ผมเข้ามอ C เท่าไหร่แต่แม่ก็ถามผมทั้งวี่ทั้งวันว่าเมื่อไหร่มอ C จะประกาศผล ผมก็ตอบไปทุกครั้งว่าอีกไม่กี่วันนี้แล้วครับแม่

ยอมรับว่าผมเอาตัวเองไปใส่ใจกับเรื่องสตาร์มากกว่า แต่ผมก็อ่านหนังสือเรียนอยู่ทุกวันจนเป็นกิจวัตรแล้วนะ ผมคิดว่าต้องมีสักที่ในสักมหา'ลัยที่เป็นของผมดิ ผมมีความเชื่อและมีพี่ตูนเป็นไอดอล

"เหงาเหรอ" ไอ้พิงค์ที่วันๆ กินกับนอนอยู่แต่บ้านเดินผ่านมาแซว ผมชูนิ้วกลางใส่พี่แล้วเอาหนังสือที่อ่านอยู่ปิดหน้า "แฟนไม่มาหาหรือไง"

"มันยุ่ง มีเรื่องต้องเคลียร์แต่ไม่รู้ว่าเคลียร์หรือยัง"

"ทิ้งไปนานๆ เดี๋ยวใจเขาก็ไม่อยู่กับมึง วัยรุ่นสมัยนี้เบื่อง่ายหน่ายเร็ว คบห้าวันเลิกก็มี"

"เคยเจอมากับตัวเองอ่ะดิ"

"ใช่ แต่กูเป็นคนบอกเลิกเขานะ"

เหี้ยจริงๆ แม่งทำผู้หญิงร้องไห้ไปกี่คนแล้ววะเนี่ย ผมหันไปมองไอ้พิงค์ที่นั่งอยู่อีกโซฟาหนึ่ง มันกำลังหยิบรีโมตกดเปิดทีวี

"เคยอยู่ในช่วงคุยๆ กับใครสักคนแล้วไม่ได้ติดต่อกันเลยป่ะ" ผมถาม อยากให้มันทำหน้าที่พี่ชายบ้างน่ะครับ

"บ้าเหรอ นี่ชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย"

"นั่นสินะ"

"..."

"โอ๊ย ใจกูจะขาดแล้วเนี่ย" ผมดิ้นบนโซฟา ทำท่าเหมือนจะตายเสียให้ได้ ไอ้พิงค์มันไม่ได้สงสารผมเลยครับ โยนหมอนมาซ้ำเติมผมอีกต่างหาก

"อะไรกันภูดิน ลูกมีความรักเหรอ" แม่ที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นร้องใส่ผม "ไม่ได้นะลูก อยู่ ม.6 แล้วไม่ต้องมีความรักหรอก รอมีตอนอยู่มหา'ลัยโน่น"

"ไม่ได้มีครับแม่ ไม่ได้มี" ผมพูดให้แม่สบายใจ

"อย่าไปเชื่อมันแม่ มันมี"

"ไอ้เหี้ยพิงค์!"

"มีได้ แต่ต้องไม่ใช่ตอนอยู่ ม.6 ได้ยินที่แม่พูดใช่มั้ยดิน" แม่พูดอย่างไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่ หลังจากนั้นก็เดินออกจากห้องนั่งเล่น
ผมตาเขียวใส่ไอ้พิงค์ "งานเข้ากูเลยเห็นมั้ย"

"อยู่ ม.6 ไม่ต้องมีความรักหรอก เข้าใจมั้ย ฮ่าๆๆ"

"หุบปากไปเลย"

"แม่เขาหวังอยากให้มึงได้มอ A มอ B ไง"

"เออ กูจะสอบเข้าให้ได้"

"ให้มันจริงก็แล้วกัน" ไอ้พิงค์หันมามองผมพร้อมยิ้มเผล่ "มึงโกรธกูมั้ยเนี่ย กูล้อเล่นเรื่องที่ฟ้องแม่นะ"

"กูรู้น่า ถ้าติดสักที่ แม่ก็ตามใจเหมือนเดิมนั่นแหละ"

"มอ C จะประกาศแล้วใช่ป่ะวะ"

"อืม"

พี่ผมมันก็ลุ้นไปกับผมด้วย มันบอกว่าไม่อยากให้ไปเรียนนอกเหมือนมันกับไอ้พานเพราะไม่มีใครดูแลพ่อกับแม่ (ทำไมมึงไม่มาดูแลเองวะ) อีกอย่างที่ต่างประเทศมันค่อนข้างกดดัน ไม่เหมือนบ้านเรา คนอย่างผมเหมาะกับการเรียนในที่ชิลๆ มากกว่า เพราะผมมีความเป็นตัวของตัวเองสูง

ดูมันวิเคราะห์...จะอะไรก็แล้วแต่เถอะ ตอนนี้ผมกำลังคิดหนักเรื่องสตาร์อยู่

ไม่รู้ว่าเคลียร์กับไอ้เรย์ไปถึงไหนแล้ว

เห็นทีผมจะต้องเข้ากรุ๊ปอีกรอบ

กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของพี่ดิน'

Din : ใครก็ได้ไลน์ไปถามสตาร์ซิว่าตอนนี้อยู่ไหน
FUEN : แป๊บนะครับ
PHYSICS : ตลอดอ่ะ ใช้เมียคนอื่นตลอด
Din : เออน่า กูจะได้มีเมียเป็นของตัวเองแล้วไม่มากวนเมียมึงไง
FUEN : เมียบ้าบออะไรกัน
FUEN : อยู่โรงพยาบาล V อ่ะพี่ดิน มีอะไรหรือเปล่า


สตาร์มันอยู่กับเรย์ตอนนี้เหรอ

ก็ต้องมีสักวันนั่นแหละที่พวกมันสองคนได้คุยกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แปลว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอย่างแน่นอน ผมจะไม่คิดมากอะไรเลยถ้าสตาร์จะไปหาเรย์แค่วันสองวัน แต่นี่เล่นไปแม่งทุกวัน ไปตั้งแต่วันที่เรย์มันบอกผมแล้วว่ามันขอโอกาสสารภาพรัก

หรือตอนนี้พวกแม่งคบกันไปแล้ววะ

การที่คนเราติดต่อคนที่ผูกใจกับเราไม่ได้เนี่ย มันสามารถคิดไปต่างๆ นานาได้เลยนะครับ เพราะอีกฝ่ายไม่บอกเราสักอย่าง ไม่รู้ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ ผมไม่สามารถหยุดความคิดของตัวเองได้เลย ตอนนี้แม่งฟุ้งซ่านไปหมดแล้วอ่ะ

ผมมาทีหลังเรย์ เรย์ใกล้ชิดกับสตาร์นานกว่าผม แล้วตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างผมก็ไม่สามารถบอกได้ คิดไปคิดมาก็ยิ่งรู้สึกแย่ รู้สึกแพ้ไปหมดเพราะต้องอยู่ห่างจากคนที่ผมชอบ แต่ไอ้เชี่ยเรย์มันกลับได้อยู่ใกล้ๆ

เฮ้ออออออออออออ

ทำไมต้องเป็นสตาร์ที่ต้องคอยไปดูแลมันวะ ลูกน้องไอ้เรย์ก็เยอะไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่เรียกมาล่ะ!

"แม่" ผมร้องเรียกเมื่อแม่เดินผ่านมาอีกครั้ง

"อะไรเหรอ"

"ดินขอขับรถออกไปข้างนอกนะ"

"ให้พี่พิงค์พาไปสิ" แม่พูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังก็รู้ว่าขัดไม่ได้

"พิงค์นั่งเฉยๆ นะแม่ พิงค์เกี่ยวไรเนี่ย"

"น้องเพิ่งได้ใบขับขี่มาไม่นาน ยังไงก็ยังขับไม่คล่อง"

"บ้าดิแม่ แม่ก็เคยนั่งรถที่ดินขับให้ไม่ใช่เหรอ"

"ไม่รู้ล่ะ พิงค์ พาน้องไป"

"อะไรว้า" ไอ้พิงค์บ่นแต่ก็ลุกอยู่ดี คำสั่งของแม่ผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ของบ้านมีหรือที่ใครจะกล้าขัด พ่อผมยังไม่กล้าขัดเลยเหอะ

ผมกับพิงค์เดินขึ้นไปเปลี่ยนชุดที่ห้องของตัวเองพร้อมกัน ก่อนจะแยกกันไปคนละทางไอ้พิงค์ได้หันมาถามผมว่าผมอยากไปที่ไหน

"ไปตามเมีย"

"ไอ้นี่ แม่ก็เพิ่งบอกอยู่หยกๆ ว่าอย่าเพิ่งมีความรัก" มันแซวยิ้มๆ

"กูแยกแยะได้ เชื่อกูดิ"

"เออๆ รอแป๊บ แต่เดี๋ยว กูถามก่อน"

ผมหันหน้ากลับมาหาพี่ชายตัวเอง "อะไร"

"วันนี้มึงจะแต่งตัวไง กะหล่อมากมั้ย"

"ก็เสื้อยืดกางเกงยีนส์อ่ะ"

"เออ แค่นั้นนะ ห้ามเพิ่มเติมอะไรนะ"

"อะไรของมึงเนี่ย"

"กูจะแต่งตาม จะได้หล่อพอๆ กัน ไม่ใช่หล่อเกินหน้าเกินตากัน"

ผมกลอกตา ไม่คิดจะสนใจอะไรใดๆ พี่ชายของตัวเองอีก







[ พาร์ตของสตาร์ ]

ป่านนี้พี่ดินจะคิดอะไรอยู่บ้างนะ

ผมรู้สึกกระวนกระวายไม่น้อยขณะที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลพี่เรย์ซึ่งทำติดๆ กันเป็นวันที่ห้าแล้ว จริงๆ ก็พอจะรู้อยู่ว่าพี่เรย์อยู่ในครอบครัวที่งานยุ่งกันทั้งพ่อทั้งแม่ ไม่มีเวลามาดูแลเอาใจใส่ แต่นี่มันไม่ใช่หน้าที่ของผมไม่ใช่เหรอเลยชักจะรู้สึกแปลกๆ แล้วว่าพี่เรย์กำลังประวิงเวลาอะไรบางอย่างอยู่หรือเปล่า แต่เมื่อเห็นอาการเจ็บปวดของเขา ผมก็ไม่กล้าถามอะไรออกไปตรงๆ

ตอนนี้ผมหนักใจอยู่เรื่องเดียวก็คือกลัวพี่ดินฟิวส์ขาด ผมเริ่มรู้แล้วว่าพี่เขาเป็นคนยังไง เพราะผมก็เป็นคนแบบนั้นเหมือนกัน แค่เห็นพี่หยกเข้ามาไลค์รูปในไอจีพี่ดินใจผมก็ร้อนเป็นไฟแล้ว เพียงแต่ผมไม่ได้บอกพี่ดินเท่านั้น กลัวเขาหาว่าผมงี่เง่า

เมื่อคืนพี่หยกก็ยังมาไลค์รูปพี่ดินอยู่ (เป็นรูปที่ถ่ายตรงใต้ถุนตึกเรียน หล่อฉิบหายผมขอบอก) นอกจากจะไลค์แล้ว พี่หยกยังมาเมนต์อีกว่าหล่อ เพราะงั้นขึ้นชื่อว่าแฟนเก่า ใครๆ ก็ต้องระแวงถูกป่ะครับ ถึงแม้ว่าพี่ดินจะบอกผมว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกแน่ๆ ก็ตามที
ผมมองดูพี่เรย์ที่กำลังหลับระหว่างคิดอะไรเรื่อยเปื่อย อีกไม่นานผมก็ต้องไปเรียนพิเศษแล้ว เวลานั้นต้องมีใครสักคนที่เป็นเพื่อนพี่เรย์มาช่วยดู และผมก็จะได้ออกไปเรียนสักที

โทรศัพท์ของผมสั่นเป็นข้อความไลน์จากฟืน

FUEN : มึงอยู่ไหน พี่ดินตามหา

ใจผมรู้สึกชุ่มชื้นขึ้นมาทันที อย่างน้อยพี่เขาก็คิดถึงผมอยู่

STAR : โรง'บาล V ว่ะ พี่ดินมีอะไรป่ะวะ

FUEN : ไม่รู้ ถามแล้วก็ไม่ตอบ


ผมขมวดคิ้ว วิเคราะห์กับฟืนอีกนิดหน่อยว่าพี่ดินคิดอะไรอยู่ ฟืนให้คำตอบผมไม่ได้ แต่ทันทีที่ผมบอกฟืนว่าผมอยู่เฝ้าไข้พี่เรย์ ฟืนก็ถึงกับบางอ้อ

FUEN : มึงตายแน่

STAR : ทำไมแช่งกูวะ

FUEN : กูดูๆ แล้ว คิดว่าพี่ดินกับสิกก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่
FUEN : ถ้าเป็นสิก มันเอาพี่เรย์ตายแน่

STAR : แต่พี่ดินก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้วนะ

FUEN : เหรอวะ
FUEN : แต่ยังไงก็ตายอ่ะ เชื่อกูดิ


ผมชักเครียดขึ้นมาแล้วสิ ช่วงนี้พี่ดินปล่อยให้ผมอยู่กับพี่เรย์ก็จริงแต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่ได้คิดอะไร พี่ดินต้องคิดแน่ๆ และนั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พี่ดินต้องถามว่าผมอยู่ที่ไหน

"สตาร์ มีอะไรหรือเปล่า" พี่เรย์ลุกขึ้นทำท่าจะนั่ง ผมรีบเข้าไปช่วยอย่างรู้ดีว่าควรทำยังไง

"เปล่าครับ"

"ทะเลาะกับเชี่ยดินเหรอ"

"ทะเลาะอะไรครับ ติดต่อยังไม่ได้เลยเนี่ย"

"หา" พี่เรย์เลิกคิ้ว "ทำไมล่ะ"

"ผมกับพี่ดินไม่มีไลน์กันน่ะครับ เบอร์ก็ไม่มี"

พี่เรย์ดูประหลาดใจมาก ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง คนป่วยจ้องมองดูผมด้วยนัยน์ตาสั่นระริก เป็นสายตาที่ผมไม่ค่อยเห็นในดวงตาของพี่เรย์เท่าไหร่

"...สตาร์ อึดอัดบ้างป่ะเวลาที่อยู่กับพี่"

"พี่เรย์ถามอะไรเนี่ย ใช่เวลามั้ย"

"ตอบพี่มา"

"จะเอาความจริงเลยเหรอครับ"

"อืม บอกมาให้หมด"

"ตอนแรกผมกลัวพี่เรย์มาก เพราะตั้งแต่เข้ามาในโรงเรียนนี้ ทุกคนก็คอยบอกคอยเตือนว่าอย่าไปยุ่งกับคนที่ชื่อเรย์เด็ดขาด ผมก็เลยจำมาตลอด ไม่กล้ายุ่งกับพี่เรย์หรือเด็กโรงเรียนพี่เลย แต่ใครจะรู้ว่าจู่ๆ ..."

"จู่ๆ พี่ก็ได้มาอยู่ใกล้ๆ สตาร์ใช่ป่ะ มันน่าจะเรียกว่าพรหมลิขิตมั้ยนะ"

ผมยิ้มแหยๆ จุดเริ่มต้นระหว่างผมกับพี่ดินไม่ใช่สิ่งที่สวยงาม ห่างไกลจากคำว่าพรหมลิขิตตั้งเยอะ

"แต่ว่าตอนนี้ผมไม่ได้กลัวพี่เรย์มากแล้วนะครับ พี่ก็เป็นพี่ที่นิสัยดีคนหนึ่งที่ผมอยากให้ประสบความสำเร็จ มีชีวิตดีๆ ยิ่งๆ ขึ้นไป เพราะคนอย่างพี่เรย์ยังไปต่อได้มากกว่านี้ ถ้าลด ละ เลิกเรื่องไม่ดีอ่ะ"

"ขอบคุณมากนะที่หวังดีกับพี่"

"ครับ"

"พี่คิดว่าสตาร์ไม่ต้องมาดูแลพี่อีกแล้วล่ะ"

ผมมองหน้าพี่เรย์ด้วยแววตางุนงง ปกติพี่เรย์จะชอบให้ผมมาอยู่ดูแลที่นี่มาก เกิดอะไรขึ้นวะ

"พี่ว่ามันคงหมดเวลาของพี่แล้ว"

"เฮ้ย" ผมร้องเสียงหลงพลางลุกขึ้นยืน "พี่เรย์กำลังจะตายเหรอครับ ไม่นะ!"

อีกฝ่ายคงคิดว่าผมเล่นมุกมั้ง "จะบ้าเหรอ"

"อ้าว พูดเหมือนจะไปไหนไกล"

"พี่ไม่ได้ไปไหนหรอก แต่สตาร์ต่างหากที่ต้องไปจากพี่"

"..."

"พี่ชอบสตาร์มานานแล้ว สตาร์รู้ใช่มั้ย"

ผมกระพริบตา รู้สึกเก้อเขินแปลกๆ แต่ความอึดอัดมันมีมากกว่า เรื่องนี้เพื่อนผมมันคอยพูดกรอกหูอยู่ตลอดเพื่อให้ผมระมัดระวังตัวก็เลยพอจะรู้ๆ อยู่บ้าง

"พี่ดีใจที่ได้อยู่ใกล้ๆ สตาร์ แม้ว่าจะเป็นการบังคับก็ตาม เพราะพี่รู้ว่าคนอย่างสตาร์ยังไงก็ไม่มีวันมาอยู่ใกล้พี่ ถ้าพี่ไม่บีบ จริงมั้ย"

ผมเถียงไม่ออก ตอนนี้ผมคงทำได้แค่เป็นผู้ฟังอย่างเดียว

"ที่ผ่านมาพี่มีความสุขมาก แม้กระทั่งตอนนี้พี่ก็มีความสุข แต่มันถึงเวลาแล้วที่สตาร์จะต้องไป"

"พี่เรย์"

"พี่รู้ว่าสตาร์ชอบใครอยู่ และตอนนี้มันก็คงรอสตาร์จนใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว"

"..."

"แต่ก่อนไปพี่มีไรจะขอ"

"ครับ" ผมยังอึ้งอยู่ ยังคงงุนงงว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่

"สตาร์เคยใกล้พี่ที่สุดแค่นี้ พี่อยากใกล้กว่านี้"

"เอ่อ"

"ขยับเข้ามาใกล้ๆ พี่ทีสิ และพี่จะไม่ขออะไรอีกเลย"

"พี่เรย์ คือว่า..."

"เถอะนะ"

ผมถูกพี่เรย์ดึงเข้าไปใกล้ มันผิดกับตอนที่ผมอยู่ใกล้พี่ดินอย่างลิบลับ ผมจำได้ว่าตอนที่ผมขอจูบพี่ดินในห้องน้ำ ผมรู้สึกตื่นเต้นและก็ใจสั่นมากกว่านี้ แต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความอึดอัด ทำหน้าทำตัวไม่ถูก และพี่เรย์ก็รู้เรื่องนี้อยู่แก่ใจ

ผมกำลังจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้วเหรอ มันง่ายเกินไปหรือเปล่า

ตอนนี้ใบหน้าของผมกับพี่เรย์อยู่ใกล้กันมาก มากจนผมต้องหลบสายตาของเขาไปมองอย่างอื่น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเห็นแค่ใบหน้าของพี่เรย์อยู่ดี

เราอยู่ใกล้กันนานเกินไปแล้ว

"แม่ง ชั่วเอ๊ย!" เสียงหนึ่งดังขัดจังหวะ จู่ๆ ผมก็ถูกกระชากลงไปนั่งบนโซฟา หลังจากนั้นก็มีคนไปกระชากคอเสื้อพี่เรย์เอาไว้
พี่ดิน!

"แม่งฉวยโอกาสเหรอวะ กูไม่น่าปล่อยมึงเลย ฟายเอ๊ย"

"พี่ดิน ใจเย็นๆ" ทำไมต้องมาถูกจังหวะด้วยวะ ผมพยายามห้ามพี่ดินแต่ตอนนี้พี่เขาโกรธจนไร้สติไปแล้ว

"มึงก็คือมึง กูนึกว่ามึงจะดีขึ้น แต่เปล่าเลย สันดานมึงก็ยังเหมือนเดิม"

"สันดานกูเป็นยังไง"

"ชั่วไง!"

"ไอ้เหี้ยดิน!" พี่เรย์กระชากคอเสื้อพี่ดินกลับ

โอย ผมต้องเรียกพยาบาลมั้ยวะ

"ตอนกูไม่อยู่มึงจะทำอะไรน้อง"

"กูไม่ได้จะทำอะไร"

"แล้วมึงดึงน้องเข้าไปใกล้ทำไม มึงจะดูไฝบนหน้าน้องเหรอ"

"กูแค่อยากอยู่ใกล้ๆ"

"กูให้มึงอยู่ใกล้หลายวันแล้ว กูทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว พอแล้ว!"

"พี่ดิน พอเถอะ" ผมแกะมือพี่ดินออกจากคอเสื้อพี่เรย์ "ทำร้ายคนป่วยมันไม่ใช่สุภาพบุรุษนะครับ ลองคิดดีๆ สิ"

"ปกป้องมันทำไม"

อ้าว ทำไมคิดเป็นงั้นไปได้วะ "ไม่ใช่สักหน่อย"

"ก็มึงมันบ้าไง ไม่ฟังห่าไรเลย" พี่เรย์ร้อง "เมื่อตะกี้หัวสตาร์เกือบชนผนังเพราะความบ้าของมึง ถ้าน้องหัวแตกมึงจะทำยังไง!"

ผมไม่คิดว่าพี่เรย์จะโมโหขนาดนี้ เสียงของเขาดังลั่นไปหมด พี่ดินหันมามองผมด้วยสายตาที่ผมไม่อาจคาดเดาได้

ครั้งนี้พี่ดินโกรธจริงๆ ว่ะ ผมสัมผัสได้เลย

"ระหว่างที่พี่ไม่อยู่ ทำอะไรกับมันไปแล้วบ้าง คุยอะไรกันบ้าง มีความสุขกันมากใช่มั้ย" พี่ดินเสียงสั่น "ทำไมพี่ต้องรู้สึกน้อยใจเรื่องที่พี่สนิทกับสตาร์น้อยกว่าไอ้เรย์"

มันเป็นความจริงที่เราสองคนเลี่ยงไม่ได้ ความรักของผมกับเขาถูกปูมาในทางที่ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันและก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันเลย พี่ดินอาจจะคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ได้

"สตาร์ไปเที่ยวกับพี่กี่ครั้ง แล้วไปเที่ยวกับมันมากี่ครั้ง"

"พี่ดิน ฟังผมก่อน"

"พี่พยายามใจเย็นแล้วนะ แต่ครั้งนี้พี่ควบคุมตัวเองไม่ได้ พี่รู้สึกโมโห โกรธจนอยากจะกระชากสตาร์กลับบ้านไปกับพี่ตอนนี้"

"คือมันไม่มีอะไร"

"พี่รู้ว่าพี่มาทีหลังมัน แต่ถ้าสตาร์รู้สึกกับพี่จริงๆ ทำไมพี่ถึงยังรู้สึกว่าพี่แพ้มันล่ะ"

เฮ้ย...นี่เขากำลังจะบอกว่าผมไม่ค่อยแสดงออกอย่างนั้นเหรอ คำพูดนี้ทำผมรู้สึกหน้าชาไปเลย

"สตาร์ทำเท่าที่จะทำได้แล้วนะ"

"พี่ผิดเองที่ปล่อยให้สตาร์อยู่กับมัน ผิดที่ปล่อยทั้งๆ ที่รู้ว่าพี่ไม่มีทางทนไหว"

"พี่ดินมีน้ำใจไง พี่เรย์ก็ต้องการคนมาดูแล"

"ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่พี่ก็ยังรู้สึกว่าพี่แพ้มันอยู่ดี"

"..."

"สตาร์ พี่น้อยใจมากนะ"

"..."

"ทำให้พี่หายจากความรู้สึกนี้ได้มั้ย พี่ทนไม่ไหวแล้วว่ะ"

"โอ๊ย!" พี่เรย์ร้อง เขาจับขาที่กำลังถูกดามอยู่ อาจเป็นพราะมันเคลื่อน

"พี่ดิน ขอทางหน่อย" ผมร้อง

"หา"

"ต้องเรียกพยาบาล" ผมกดกริ่งเรียกพยาบาลแล้วดูพี่เรย์อย่างร้อนใจ "เป็นอะไรมากมั้ยครับพี่ ผมเรียกพยาบาลแล้วนะ อดทนหน่อยนะ"

"สตาร์..." เสียงพี่ดินรำพึงดังมาจากข้างหลังผม

"เจ็บตรงไหนครับ" ผมยังคงง่วนอยู่กับการดูอาการพี่เรย์

พยาบาลเข้ามาในห้องพอดี เมื่อเห็นอาการคนไข้เธอก็รีบออกไปตามหมอ ผมถอยให้ห่างจากเตียง หันไปมองหาพี่ดินอีกครั้ง
พี่ดินไม่อยู่แล้ว...

[ จบพาร์ตของสตาร์ ]







"หายไปไหนมาวะ มีคนมาตามหามึงนะ"

"กลับบ้านเหอะ"

"เฮ้ย เลือด!"

"กลับบ้าน"

"กลับพ่อง มึงอ่ะต้องเดินหันหลังกลับไปทำแผล!"

"ไม่ทำ เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก"

"น้องบ้าเอ๊ย มึงจะมาติสต์แบบกูไม่ได้นะ กูคิดค่าลิขสิทธิ์!"

"โอ้ย เชี่ยพิงค์ อย่าลากกู!"

"เอานี่ไป แฟนมึงเขาฝากมาให้"

"แฟนคนอื่นต่างหาก โอ้ย! ตีหัวกูทำไม"

"อย่าตัดสินเขาเพียงเพราะเขาทำผิดแค่เหตุการณ์เดียว ไอ้สัด"

"..."

"ทะเลาะกันแล้วเอามือชกกำแพง มึงคิดว่ามึงเท่มากงั้นสิ?"

"..."

"น้องกู โตขึ้นแล้วสินะ"


ไอดีไลน์ตัวที่ 15
T
อย่าเพิ่งจากไปไหน อยู่ให้ง้อหน่อยนะครับ
ป.ล. ผมหมายถึงใจของพี่ดินด้วยนะ






TBC*


หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 27-02-2018 19:27:14


ตอนที่ 16



กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของคนอื่น'

FUEN : อ้าวววววว เปลี่ยนชื่อกรุ๊ปทำไม?
AOF : ดราม่าเหรออออออ
TANG : เชี่ยฟืน มึงไปสืบจากฝั่งสตาร์มาเดี๋ยวนี้เลย ขออนุญาตเสือกนะครับพี่ดิน #ตะเบ๊ะ
CHOK : ดราม่าหาพระแสงของ้าวของพ่อมึงเหรอครับ ไปคุยกันดีๆ ไป!
PHYSICS : ประชดแล้วได้อะไรหนอ
PHYSICS : เสียเวลาเปล่าๆ
PHYSICS : ฟืน ฝั่งสตาร์ว่าไงบ้างวะ
FUEN : เงียบกริบ...






เจ็บมือเหี้ยๆ

ผมไม่น่าทำเท่เอามือตัวเองไปชกกำแพงเลยว่ะ ตอนนั้นผมทั้งหงุดหงิดทั้งอารมณ์เสีย ต้องการหาที่ระบายอย่างด่วน มองไปมองมาเห็นกำแพงมันสะอาดและก็ดูเรียบๆ ดี ผมก็เลยชกแม่งเลย

สุดท้ายคือมือผมเจ็บ ต้องทำแผลที่โรงพยาบาล ได้ยามาถุงหนึ่งพร้อมผ้าก๊อซและอุปกรณ์ทำแผลบลาๆๆ ไอ้พิงค์บ่นฉิบหายเพราะมันเป็นคนจ่ายค่ารักษาให้ผม มันบอกว่ารีบไปคุยกันซะ ท่าทางของสตาร์กังวลมาก คล้ายกับกลัวว่าจะเสียผมไป ไอ้พิงค์มันพูดขนาดนั้นเลย

ผมบอกได้คำเดียวว่า...เชอะ

ขออนุญาตโกรธหน่อยเถอะ ผมเก็บมานานแล้วว่ะ เรื่องไอ้เรย์นี่จำเป็นจะต้องเทิดทูนบูชามันขนาดนั้นมั้ย ผมรู้ว่ามันเจ็บอยู่ แต่การที่ห่วงแต่มันโดยไม่สนใจผมเลยนี่บอกเลยว่าโกรธมาก น่าจะเป็นเรื่องที่เป็นจุดอ่อนผมมากที่สุดแล้วล่ะ ถ้าแฟนทำกับผมแบบนี้คือผมงอนฉิบหาย พูดเลย

คนเรามันจะต้องมีเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่สะกิดหัวใจได้ง่ายมากครับ ยกตัวอย่างเช่นไม่ชอบให้แฟนคุยกับเพื่อนเพศตรงข้าม ไม่ชอบให้แฟนไปดื่มโดยที่เราไม่ไปด้วย ไม่ชอบให้แฟนไปยุ่งกับแฟนเก่า โน่นนี่นั่น มันต้องมีสักเรื่องสิที่ถ้าแฟนทำแล้วเราจะโกรธมากอ่ะ
ผมขอยกเรื่องนี้ให้เป็นที่หนึ่งของผมเลย ห่วงคนอื่นต่อหน้าต่อตาผม ทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุ

งอนครับ บอกเลยว่างอน งอนจริงๆ งอนแบบงอนมาก งอนแบบงอนเหี้ยๆ แต่ก็รอให้มันมาง้ออยู่ เมื่อไหร่มันจะมาล่ะ หรือมันอาจจะไม่มาแล้วเพราะต้องดูแลพี่เรย์ของมันอยู่ก็เป็นได้

ยิ่งคิดก็ยิ่งงอนหนักมากขึ้นไปกว่าเดิม

"จริงๆ เลยน้า ดินเนี่ย" แม่บ่นผมเป็นครั้งที่แปดของวัน วันต่อมาผมไม่ไปโรงเรียนเลยครับ ถือโอกาสโดดอย่างไม่สนใจคำพูดใครหน้าไหนทั้งนั้น "กำแพงก็อยู่ของมันดีๆ ไปชกมันทำไม"

ไอ้พิงค์หลุดหัวเราะ ส่วนพ่อส่ายหน้าเบาๆ วันนี้ทุกคนเห็นว่าผมโดดเรียน ทุกคนก็เลยโดดงานตาม เป็นครอบครัวที่อะเมซิ่งมากๆ

"เล่าให้แม่น้องฟืนฟัง แม่เขาขำใหญ่เลยรู้มั้ย"

"แม่นี่ก็ไปเม้าท์กับคนข้างบ้านบ่อยจัง" ผมท้วง

"ก็เขาเป็นเพื่อนฉันไงยะ" แม่ร้อง

เถียงแม่ไปก็เท่านั้น ผมทำหน้าบึ้งนอนอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับเมื่อวาน พลางคิดว่าสาเหตุส่วนหนึ่งที่คนในบ้านอยู่กันพร้อมหน้าน่าจะเนื่องมาจากแผลที่มือผมนี่แหละ เขาคงพากันเป็นห่วง พิงค์กับผมไม่มีใครเล่าให้พ่อแม่ฟังสักคนว่าผมชกกำแพงทำไม พวกท่านก็เลยเป็นห่วงล่ะมั้ง

และแน่นอน คำถามที่เป็นคำถามสามัญประจำบ้านของเด็ก ม.6 ทุกคนก็คือคำถามที่เกี่ยวกับเรื่องเรียนต่อ พ่อของผมถามถึงผลสอบมอ C อีกคนหนึ่งแล้ว ทุกคนในบ้านลุ้นไปกับผมหมดเลยว่าจะติดวิศวฯ มอ C หรือเปล่า เพิ่งเคยโดนรุมใส่ใจเป็นครั้งแรกก็คราวนี้ แต่เชื่อป่ะว่าผมไม่มีอารมณ์ตอบเลย ผมเซ็งเรื่องสตาร์อยู่และก็จะเป็นอย่างนั้นไปตลอดทั้งวัน

ผมหนีคนในบ้านขึ้นมานอนในห้องตัวเอง นึกไปถึงครั้งแรกที่สตาร์มาที่นี่ ผมจูบกับมันตรงนี้ แม้ผมจะงอนมันอยู่แต่ความทรงจำนี้ก็ยังทำให้ผมยิ้มออกอยู่ดี

งอนกับคิดถึงแม่งเป็นความรู้สึกที่ใกล้เคียงกันเหรอวะ

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ หยิบโทรศัพท์กดเข้าไปที่อินสตาแกรมเพราะเป็นแอปพลิเคชันเดียวที่ผมสามารถดูความเป็นไปของสตาร์ได้ รูปภาพล่าสุดของสตาร์ก็คือภาพที่อยู่ฮ่องกงนั่นแหละครับ เป็นเด็กที่เล่นไอจีทุกวันก็จริง แต่ไม่ชอบอัพรูปเอาเสียเลย

ดั่งมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับผม จู่ๆ สตาร์ก็อัพรูปเฉยเมื่อหนึ่งนาทีที่แล้ว นี่ผมตาฝาดไปหรือเปล่าวะ

มันจะสื่ออะไรถึงผมบ้างมั้ย นี่ผมกำลังงอนมันอย่างยิ่งใหญ่อยู่นะ

เป็นภาพของเพื่อนห้องหนึ่งของมัน ส่วนแคปชั่นนั้นเป็นอะไรที่ห่างไกลจากผมมากเลยทีเดียว

'HBD เพื่อนบอล มีความสุขมากๆ นะเว้ย รักมึงนะ'

โธ่เอ๊ย! วันเกิดเพื่อนหรอกเหรอ ผมกดไลค์อย่างกระแทกกระทั้นจากนั้นก็วางโทรศัพท์ลงบนเตียงตามเดิม ผมสะดุ้งโหยงเพราะอยู่ดีๆ โทรศัพท์ก็ดังซะงั้น

หยกโทรมาอีกแล้ว

ผมถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะรับสาย

"ฮัลโหล"

[ดิน หยกเองนะคะ]

"ครับ ทราบแล้ว"

[ทำไมไม่รับสายหยกเลย หยกโทรหาตั้งหลายรอบ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ]

"หยก หยกต้องการอะไร หยกก็รู้ว่ายังไงเราสองคนก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว"

[...]

"ถ้าดินไม่มีคนใหม่ หยกก็คงไม่ได้กลับมาสนใจดินเหมือนอย่างที่ทำอยู่ใช่ป่ะ"

[ใจเย็นๆ ก่อนสิ หยกโทรมาดีๆ นะ]

[…] ปลายสายเริ่มทำเสียงโอดครวญคล้ายใกล้จะสะอื้นไห้ ผมที่หงุดหงิดอยู่เริ่มใจอ่อนลงมานิดหน่อย อย่างน้อยเธอก็เป็นคนที่ผมเคยรักในช่วงขณะหนึ่ง ผมควรแคร์ความรู้สึกของเธอบ้าง

[หยกเหมือนจะได้คำตอบที่ถามมาตลอดแล้วล่ะ ขอโทษนะ]

"กับคนใหม่ก็อย่าทำกับเขาแบบที่ทำกับดินนะ"

[คนไหนล่ะ ยังไม่มีเลยเนี่ย]

"หยกเป็นคนสวย ยังไงก็ต้องมีอยู่แล้วล่ะ"

[...]

"แล้วนี่ทำอะไรอยู่"

เสียงประตูห้องของผมถูกเปิดออก คนที่ยื่นหน้าเข้ามาก่อนคือไอ้พิงค์ แต่คนที่ตามมาทีหลังนั้นยิ่งใหญ่กว่าพี่ผมเยอะ

สตาร์ว่ะ! มาในชุดนักเรียนเลยครับ

ผมอ้าปากค้าง พลางฟังคำพูดของหยกที่อยู่ปลายสายด้วย

[อยู่ที่โรงเรียน ไม่ค่อยมีเพื่อนมาก็เลยโทรมาหาดิน ดินล่ะคะ ทำอะไรอยู่]

"..."

[ยังไงก็จะได้คุยกันเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว หยกขอคุยกับดินดีๆ ได้มั้ย เอาจริงๆ นะที่ผ่านมาหยกรู้สึกแย่มากเลย หยกเพิ่งรู้ตัวว่าหยกทำกับดินไว้ไม่ดี หยกอยากให้ดินให้อภัย]

"ได้สิ" สายตาของผมมองดูสตาร์ที่นั่งลงข้างเตียงของผม โบกมือไล่ไอ้พิงค์ออกไป เพราะแม่งทำหน้าเหมือนโคตรอยากรู้อยากเห็นอ่ะ "เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว"

ผมแกล้งสตาร์ ไม่ยอมวางสายจากหยกง่ายๆ

[อันนี้หยกขอถามจากใจหยกเลยนะ อย่าโกรธหยกนะ]

"ถามว่า"

[ดินเปลี่ยนไปเป็นเกย์จริงๆ เหรอ]

"เอ่อ..." กูควรจะตอบว่าไงดีนะ

[เพื่อนหยกมาถามใหญ่เลยว่ามันเป็นเรื่องจริงมั้ย พวกมันบอกว่าเดี๋ยวนี้ดินสนใจแต่รุ่นน้องในโรงเรียน รุ่นน้อง ม.5 น่ะ บางครั้งก็ควงคนตัวสูงๆ ผอมๆ บางครั้งก็ควงคนตัวเล็กๆ]

"ก็คงจะจริงแหละมั้ง" น่าจะเป็นฟืนกับสตาร์ตามลำดับ

สตาร์ก้มหน้าก้มตา ใช้เท้าเขี่ยพรมในห้องของผมเหมือนคนไม่มีอะไรทำ ผมยังนั่งรักษาระยะห่างอยู่ ถ้าผมไม่พูด ในห้องก็คงจะมีแต่ความเงียบ

[เอ่อ...หยกช็อกนะเนี่ย]

"ถ้าไม่ได้ข่าว ก็คงจะไม่กลับมาหาดินใช่ป่ะ"

สตาร์ชะงัก เหมือนมันรู้ว่าผมกำลังคุยกับใครอยู่

[เฮ้อออออ เสียดายดินอ่ะ]

"ไม่ทันแล้ว"

[แล้วคนไหนตัวจริงของดินล่ะ]

"ให้ทาย"

[อืม คนสูงๆ ผอมๆ มั้ง เดาจากแฟนเก่าของดินอย่างหยก ฮ่าๆๆ]

"ผิด คนนั้นมันมีแฟนอยู่แล้ว"

[...]

ผมมองไปที่สตาร์ "คนตัวเล็กๆ ต่างหาก"

[รักมากป่ะ]

สตาร์มองหน้าผม สีหน้าเหมือนเต็มไปด้วยความสงสัย ผมจ้องตามันระหว่างที่ผมพูด คล้ายกับสิ่งที่ผมกำลังจะพูดนั้นไม่ได้พูดกับหยก แต่พูดกับคนตรงหน้า

"รักมาก"

สตาร์หันหน้าหนีผมทันที แก้มเริ่มเป็นสีแดงก่ำ ผมหลุดหัวเราะออกมานิดหน่อย ก่อนจะบอกลาหยกที่อยู่ในสาย

"ไว้ค่อยคุยกันนะหยก ยังไงดินก็ยังเป็นเพื่อนหยกอยู่ มีอะไรก็มาปรึกษาได้เรื่อยๆ นะ"

[ขอบใจมากนะดิน]

"..."

[ถ้าหยกย้อนเวลากลับไปได้ หยกจะไม่นอกใจดินเลย]

"..."

[โชคดีนะ]

หยกวางสายไปแล้ว ตอนนี้คงจะเหลือแต่ผมกับสตาร์ที่ต้องคุยกันต่อ ผมปั้นหน้าบึ้งทันทีหลังจากที่กดวางสาย ทำเป็นเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยทั้งๆ ที่สติตอนนั้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตอนนี้กดแอพฯ อะไรอยู่ผมยังไม่รู้เลยครับ

"พี่ดิน" สตาร์กล่าวเสียงอ่อย

"..." ผมไม่รู้ ผมไม่ตอบ ผมงอนอยู่

"เจ็บมือมั้ยครับ"

"..." สตาร์ห่วงสวัสดิภาพของผมเหรอ

"สตาร์ขอโทษนะ"

"..."

"ขอโทษจริงๆ"

"ขอโทษเรื่องอะไร" นั่นไงล่ะ ผมจะใจแข็งกับสตาร์ได้สักกี่น้ำกัน "รู้เหรอว่าตัวเองทำผิดอะไร"

"ผิดทุกอย่างนั่นแหละ" สตาร์ทำหน้าเศร้า

"..." ตายๆๆ ฟอร์มผมหลุดไปหมดแล้วครับ แค่เห็นหน้าก็ใจอ่อนไปแล้ว ยิ่งเจอคำพูดที่ยอมรับความผิดของตัวเองขนาดนี้ ผมนี่ไม่กล้างอนต่อเลยว่ะ

"พี่ดินจะให้สตาร์ทำอะไรสตาร์ยินดีทุกอย่างเลย วันนี้สตาร์จะเป็นของพี่"

เดี๋ยววว! พูดอย่างอื่นก็ได้ทำไมต้องพูดแบบนี้ ยิ่งอยู่ในห้องกันสองต่อสองด้วย ถ้าสมยอมล่ะก็...ผมไม่รับรองว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้หรือเปล่า

เอาเข้าจริงผมก็ไม่กล้าหรอกครับ คนอยู่กันเต็มบ้าน แถมตอนนี้ยังเป็นเวลากลางวันแสกๆ อีกต่างหาก

"เฮ้อ" ผมถอนหายใจออกมาแทนคำตอบ "เห็นพ่อแม่พี่หรือยัง"

"ตอนที่ขึ้นมาพี่ชายพี่ดินเป็นคนพาขึ้นมาครับ"

"ถ้างั้นต้องลงไปกันได้แล้วล่ะ เดี๋ยวเรื่องจะใหญ่" ผมต้องป้องกันเอาไว้ก่อน ตอนนี้ผมอยู่ในสถานะที่เสี่ยงต่อการโดนด่ามากที่สุดเพราะเป็นเด็ก ม.6 ทำอะไรผิดแปลกไปก็โดนบ่นไปหมดนั่นแหละ ไม่เชื่อก็คอยดูสิ

"พี่ดินหายโกรธแล้วเหรอ"

"คงงั้นมั้ง"

"..."

"เห็นสตาร์แคร์พี่บ้างพี่ก็โอเคแล้ว"

"ทำไมจะไม่แคร์ล่ะ"

"เมื่อวานสตาร์ห่วงไอ้เรย์แบบไม่เห็นหัวพี่เลย"

"พี่ดิน" สตาร์ร้อง "คนมันกำลังจะตายนะครับ"

"ก็ตอนนั้นพี่ยังเคลียร์อยู่กับสตาร์อ่ะ แล้วสตาร์ก็ไปช่วยไอ้เรย์เฉย มันแบบ..."

"..."

"โว้ย ไม่รู้! พี่คงคิดว่าสตาร์เห็นไอ้เรย์สำคัญกว่า"

สตาร์ทอดถอนใจแต่ก็ยังยิ้มอยู่ "ตอนนั้นมันค่อนข้างกะทันหันไง ถ้าสตาร์ไม่ไปดูพี่เรย์ พี่ดินจะวิ่งเข้าไปดูเหรอ ถามจริง"

ผมก็คงยืนงงว่าควรจะทำตัวยังไงล่ะมั้ง สตาร์ที่ดูแลไอ้เรย์มาหลายวันคงจะเริ่มจับจุดถูกว่าควรทำยังไง

เอ๊ะ หรือผมทำตัวงี่เง่าไปวะ ผมนิ่งคิดไปถึงการกระทำของตัวเอง ผมถูกความโมโหเข้าครอบงำเหตุผลไปนี่หว่า ตอนนั้นรู้แค่ว่าผมทั้งโกรธทั้งเฟลที่สตาร์สนใจคนอื่นมากกว่าอ่ะ ไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนั้น

เวลาคนเรามีความรัก มันต้องทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ใช่มั้ยครับ

"แม่ง พี่อาจจะเหี้ยเอง" ผมเกาหัวแกรกๆ "พี่เองก็ผิดด้วย"

"เอาเป็นว่าเข้าใจกันก็พอเนอะ" สตาร์ยิ้มตาหยี โชว์เหล็กจัดฟันตามเคย

"แล้วมันเป็นไงบ้าง"

"ดีขึ้นแล้วครับ ตอนนี้พ่อแม่ก็ว่างมาดูแล้วด้วย"

"..."

"สตาร์คงไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับพี่เรย์อีกแล้วล่ะ อยากบอกให้พี่ดินสบายใจ"

ไอ้เรย์มันเคลียร์เรื่องสตาร์แล้วเหรอ สตาร์ยังอยู่กับผมตอนนี้ นั่นก็แสดงว่าไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากที่เราเคยคุยกัน

ผมมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย สตาร์เป็นคนที่หน้าตาดีเกินเอื้อมอย่างกับดวงดาวบนฟ้าตามชื่อ แต่มันก็ยอมให้ผม ยอมมาง้อทั้งๆ ที่ผมเองก็ทำตัวงี่เง่า น้องไม่ได้โกรธที่ผมไร้เหตุผลเลย ตรงกันข้ามมันกลับเข้าใจซะงั้น

คำพูดไอ้โชคลอยเข้ามาในหัวของผมเลยครับ คำว่า 'รักแรงหึงแรง' อ่ะ

รักแรงแปลว่ารักมาก ถ้ารักกันมากถึงจะโกรธกันมากแค่ไหนก็ย่อมให้อภัยและพร้อมปรับเข้าหากันเสมอ

เหตุการณ์ครั้งนี้ผมได้เรียนรู้แล้ว

"ขอกอดทีได้ป่ะ" ผมอ้าแขนออกกว้างๆ วันนี้ขอทำตัวเป็นเสี่ยกอดเด็กนักเรียนหน่อยเหอะ

สตาร์อ้าแขนกอดผมตอบอย่างว่าง่าย กลิ่นของมันนี่หอมเป็นบ้า หอมไปทุกกระเบียดนิ้ว ผมแอบดมผมของสตาร์ไปนิดหน่อยอย่างกับคนโรคจิต มันหอมมากกกกกกจนอยากขึ้นสวรรค์ไปเลย

"ไปโรงเรียนมาป่ะเนี่ย ทำไมเหมือนเพิ่งอาบน้ำมา"

"ไปมาดิ"

"แล้วนี่คือออกมาจากโรงเรียนกลางคันงั้นเหรอ"

"ใช่ ใช้ทางที่พี่ดินเคยพาออกไป"

กูทำอะไรลงไปกับเด็กห้องคิงเนี่ย ช่างเหอะ ตอนนี้ผมขอมีความสุขก่อน ระหว่างที่กำลังจะดมผมสตาร์อีกรอบ เสียงประตูเปิดก็ดังขึ้นอีกครั้ง

ผมผละออกจากสตาร์แทบไม่ทัน ดีนะที่มันเองก็ไหวตัวทัน กระเด้งตัวไปนั่งห่างจากผมตั้งไกล

"อ้าว มีเพื่อนมาเหรอ" แม่ผมนี่เอง "หนูคนนั้นนี่ ชื่ออะไรนะจ๊ะ สตาร์ป่ะ"

"ครับ สวัสดีครับแม่" สตาร์ไหว้ด้วยท่าทางขัดๆ เขินๆ ใบหน้ายังไม่หายแดงก่ำ

"จ้า" แม่รับไหว้แล้วหันมาทางผม "แม่กำลังจะไปซื้อข้าวเย็นมา อยากกินอะไร"

"ดินจะไปกินข้างนอกครับ"

"มือหายแล้วเหรอ"

"ไม่เป็นอะไรมากแล้ว"

"เอางั้นเหรอ ตามใจนะ"

"..."

"แต่ห้ามขับรถ!"

ผมมองมือตัวเองที่ถูกพันแผลเอาไว้ มันไม่ได้ใส่เฝือก ยังไงผมก็ขับไหว ผมไม่ได้สัญญากับแม่เอาไว้ ปล่อยให้แม่คิดไปเองว่าผมจะทำตาม

แม่ผมออกจากห้องไปแล้ว ผมทำสีหน้าโล่งอก สตาร์เองก็เหมือนกัน

"ไม่เบาเหมือนกันนะเรา ขึ้นมาหาเสือที่ห้องได้ขนาดนี้ถือว่าไม่ธรรมดา" ผมแซวยิ้มๆ ลุกขึ้นไปประตูเพราะผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้า
 
"ไหนบอกว่าเป็นแมวแล้ว" สตาร์ดูของที่โต๊ะข้างเตียงผม ก่อนจะร้อง "เฮ้ยยยยยยย"

"อะไร" ผมที่เพิ่งถอดเสื้อเสร็จหันมามองน้องอย่างตกใจ "จิ้งจกเหรอ!"

"ไม่ใช่"

"ตกใจอย่างกับเห็นจิ้งจก"

"ถอดเสื้อทำไม" สตาร์หาอะไรไม่รู้มาปิดหน้า แม่งโคตรใสอ่ะ

ผมลองไปนั่งยองๆ ตรงหน้าสตาร์ที่นั่งอยู่บนเตียง สตาร์เขินจริงอะไรจริงครับ เอียงตัวหนีผมตลอด อะไรกัน นี่ผมแค่ถอดเสื้อเอง
 
"หนีพี่ทำไม ชอบพี่ไม่ใช่เหรอ" ผมทำเสียงกรุ้มกริ่ม สตาร์ใช้หนังสือที่ปิดหน้าอยู่ฟาดผมอย่างแรงที่หน้าผากทันที "โอ๊ย! จะฆ่ากันเหรอ

"ไปไกลๆ เลย"

"อ้าว"

"จะเปลี่ยนชุดไม่ใช่เหรอ"

"เขินทำไมเล่า ตลกนะ ฮ่าๆๆ" ผมลุกขึ้น หันหลังกลับเพราะสตาร์จะได้เลิกนั่งตัวบิดสักที "เพื่อนในห้องไม่ค่อยมีใครถอดเสื้อให้ดูเหรอ" ผมชวนคุยไปด้วยเลือกเสื้อไปด้วย

"ก็เยอะอ่ะ แต่ไม่เคยเขินกับใครแบบนี้"

"พี่หุ่นดีอ่ะดิ" ผมขอภูมิใจนิดหนึ่ง

"ไม่"

อ้าว แล้วจะเขินทำไมวะ ผมหรี่ตาทำหน้าขู่สตาร์ แต่อีกฝ่ายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

ฝากไว้ก่อน ปากดีแบบนี้โดนสำเร็จโทษแน่ๆ







"พี่ดิน แม่พี่บอกห้ามขับรถไม่ใช่เหรอ"

"ห้ามพี่ไม่ได้หรอก"

"ขับไหวมั้ย"

"ไหวดิ ไม่ต้องเป็นห่วง"

"สตาร์ไม่ได้ห่วงพี่ สตาร์กลัวตัวเองจะตาย"

"กวนตีนละครับ"

กว่าจะมาถึงสยามก็เล่นเอาเถียงกันไปหลายตลบ แต่ส่วนใหญ่บรรยากาศของเราสองคนดีขึ้นมาก เหมือนเราเข้าใจกันมากขึ้นไปอีก และก็คงจะไม่มีอะไรมาแทรกตรงกลางระหว่างเราสองคนอีกแล้วมั้งครับ ผมหวังว่านะ

"จะกินไรวันนี้ พี่เลี้ยงเอง"

"สตาร์เป็นคนมาง้อนะ เดี๋ยวสตาร์เลี้ยง" คนตัวเล็กโชว์ความป๋า

"เฮ้ย พี่บอกก่อน พี่ต้องได้เลี้ยง"

"สตาร์เลี้ยงเอง"

"แม่งเจออีกละ" เสียงของสิกดังขึ้นมาแทรกระหว่างผมกับสตาร์ เราทั้งหมดเจอกันที่ทางเชื่อมระหว่างบีทีเอสกับพารากอนครับ ไอ้สิกมากับฟืนซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว ฟืนมองผมกับสตาร์สลับกันด้วยความตื่นเต้น

"สองคนนี้มาด้วยกันเหรอ" ฟืนเอ่ย

"พี่ดินเหมือนคนเลี้ยงต้อยเด็กนักเรียนเลยว่ะ" คำพูดนี้เป็นของเชี่ยสิกแน่นอน

ผมพยายามถีบไอ้สิก แต่สตาร์ห้ามไว้ซะก่อน "มาทำอะไร" คนข้างๆ ผมถามสิกกับฟืน ท่าทางเขินๆ ยังไงก็ไม่รู้

"ก็มาเรียนพิเศษตามปกติอ่ะ วันนี้มึงไม่มีเรียนเหรอ" สิกถาม

"กูโดด"

"หา" สิกกับฟืนอ้าปากค้าง "เด็กอย่างมึงเนี่ยนะ โดด"

"พี่ดินทำไรสตาร์" ฟืนโวยวาย "พาเขาเสียหมดเลย รู้ตัวบ้างมั้ย"

"เฮ้ย กูไม่ได้ทำอะไร" ผมพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้มันดีขึ้น นี่กูกำลังจะแพ้เด็ก ม.5 เหรอ

"พี่ดินไม่ได้ทำอะไร กูเนี่ยโดดเอง" สตาร์ยิ้มขำ

สิกกับฟืนมองผมเหมือนผมไปทำผิดอะไรนักหนา ก่อนที่ผมจะได้แก้ตัว เสียงผู้หญิงก็ดังขึ้นมาแทรกระหว่างบทสนทนาของเราทั้งหมด

"ดินคะ"

หยก...หยกเนี่ยนะ ผมอ้าปากค้าง มองหยกสลับกับมองสตาร์ ทำไมจู่ๆ ถึงมาเจอกันที่นี่วะ โอ๊ย กูเกลียดความบังเอิญที่สยามจังเลย
หยกมองคนที่ยืนอยู่กับผมด้วยสายตาเกรงอกเกรงใจ ผมไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี ผมพูดเคลียร์ในโทรศัพท์หมดแล้วไม่ชาเหรอ

"ดินเห็นเพื่อนหยกที่ยืนอยู่ตรงนั้นมั้ยคะ" หยกชี้มือไปที่แก๊งสาวๆ โรงเรียนหยกที่เด็กโรงเรียนผมเห็นเป็นต้องน้ำลายสอกันหมด "เป็นเพื่อนแก๊งที่หยกไม่ชอบ พวกนั้นคิดว่าดินกับหยกเลิกกันแล้ว และหยกจะเสียหน้าไม่ได้"

"หา"

"หยกขอควงดินไปกินบิงซูสักแป๊บได้มั้ย นะๆๆ ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายจริงๆ แล้ว หยกไม่อยากเสียหน้าอ่ะ"

สตาร์ สิก และก็ฟืน ทั้งสามคนมองผมด้วยสายตาอึ้งๆ กันหมด คนที่มองไปทางอื่นก่อนคือสตาร์ ท่าทางของมันเหมือนพยายามสะกัดกั้นอารมณ์โกรธเอาไว้

ที่เธอบอกว่าเป็นครั้งสุดท้าย มันจะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ ใช่มั้ย

"นานมากมั้ย" ผมถามหยกอย่างใจอ่อน

"สักครึ่งชั่วโมง" หยกหันไปหาสตาร์ "นะคะ พี่ขอร้องนะ"

สตาร์ทำหน้าไม่ถูก แต่มันหันไปหาสิกกับฟืนเป็นที่เรียบร้อย

"วันนี้กูไม่โดดดีกว่าว่ะ" สตาร์หยิบโพสต์อิตขึ้นมาจากนั้นก็ใช้หลังฟืนเป็นที่รองสำหรับเขียน

ท่าทางงานจะเข้าผมอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย สิกกับฟืนยืนลังเลอยู่เล็กน้อย แต่แล้วพวกมันก็พยักหน้าเข้าใจในความปรารถนาของสตาร์ ผมยืนมองน้องด้วยสายตาละห้อย จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้อยากให้สถานการณ์มันออกมาในรูปแบบนี้นะ

"รออีกครึ่งชั่วโมงได้มั้ย" ผมถามสตาร์ก่อนที่มันจะเดินจากไป

สตาร์ไม่ตอบเพียงแต่ยัดโพสต์อิตใส่มือผม

ไอดีไลน์ตัวที่ 16
A
คราวนี้พี่ดินต้องง้อผมแล้วล่ะ


งานเข้าผมจริงๆ

นี่เราดีกันยังไม่ถึงวันเลยนะ ให้ตายสิวะ







TBC*
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 27-02-2018 19:34:53







ตอนที่ 17






กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของกูคนเดียว'

Din : กูกับหยกไม่มีอะไรนะเว้ย
Din : สิกฟืน สตาร์อยู่ไหนแล้ววะ
FUEN : กลับบ้านไปแล้วมั้งครับ
AOF : ดราม่าอีกแล้วครับท่าน
TANG : เกิดอะไรขึ้นอีกแล้วเนี่ย
CHOK : ไปง้อดิสาด
Din : ง้อยังไงเล่า
CHOK : ไอจีก็มี โพสต์บอกรักไปเลยดิฟาย
PHYSICS : เอาเบอร์ไปเลยป่ะ โทรคุยกันเลยจะได้จบๆ
Din : มันไม่ได้โว้ย
PHYSICS : งั้นก็คงหายยากอ่ะ
Din : ใครมีเบอร์เชี่ยบู้ ม.5/1 ตอนนี้ กูให้ห้าร้อยเลย
PHYSICS : 089-94903XX ไม่ต้องให้ตังค์หรอก เมียผมรวย







กลางดึกคืนนั้นผมโทรหาเชี่ยบู้หลายสายมาก แต่มันไม่รับ แม่งเอ๊ยยย!

หลังจากที่แยกกับหยกผมก็พยายามไปดักรอสตาร์แต่ไม่เจอเลย แม้กระทั่งสิกกับฟืนผมก็ไม่เจอ สตาร์คงจะงอนผมจริงๆ และผมก็ขอยอมรับผิดทุกกรณี แต่ผมขอบอกไว้ ณ ตรงนี้เลยว่าเรื่องของผมกับหยกนั้นมันจบไปแล้วจริงๆ ครับ การที่เราทั้งคู่ไปกินบิงซูกับเพื่อนๆ ของหยก มันก็แค่ของหวานมื้อเดียวเท่านั้น หยกแทบจะไหว้ขอบคุณผมด้วยซ้ำ ท่าทางเพื่อนกลุ่มนั้นจะเป็นเพื่อนที่ค่อนข้างแข่งขันกันมากพอดูเลย

เธอบอกให้ผมโชคดี แต่จะโชคดีจริงมั้ยยังไม่รู้เลย เพราะผมติดต่อสตาร์ไม่ได้ เพื่อนรักของสตาร์ก็ยังไม่ยอมรับสายผม ไม่รู้ว่าสตาร์กระจายความงอนของมันไปหาเพื่อนหรือเปล่า นี่ผมชักเครียดแล้วนะเนี่ย

รอให้ถึงวันไปโรงเรียนพรุ่งนี้ไม่ไหวหรอกนะ

หลังจากที่ล้างแผลเสร็จแล้ว แม่ก็เทศนาผมไปอีกหลายบทเรื่องเรียนต่อ พ่อเองก็นั่งอยู่ด้วย แต่พ่อไม่ค่อยพูดหรอกครับ ปล่อยให้แม่คุมเกมทั้งหมด ทุกอย่างดำเนินไปโดยมีไอ้พิงค์คอยแหย่คอยแกล้งผมอยู่เรื่อย จนแม่รำคาญ ไล่เราทั้งคู่ขึ้นมาห้องนอน

ผมพยายามติดต่อสตาร์ตั้งแต่สองทุ่ม จนกระทั่งตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มครึ่งแล้ว สตาร์ก็ไม่ยอมติดต่อผมเลย ไม่ว่าจะเป็นทางสิก ทางฟืน หรือทางไอ้บู้ มันเอาแต่เงียบจนผมชักจะกลัวว่าการที่มันงอนครั้งนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระหว่างผมกับมันขึ้นมา

อยากบุกไปที่บ้าน แต่ทำไม่ได้ พ่อกับแม่อยู่บ้านครบแบบนี้ ถ้าขืนออกไปมีหวังเละเป็นโจ๊กแน่ๆ

นี่ผมต้องรอถึงวันพรุ่งนี้จริงๆ เหรอ

ผมถ่ายรูปหน้าเศร้าตัวเองลงในไอจีด้วยอาการเซ็งสุดกู่ แคปชั่นใต้รูปมาจากความรู้สึกจริงๆ จากหัวใจของผม

'Sorry'

ไม่ถึงนาทีครับ ทั้งเพื่อนทั้งรุ่นน้องแม่งแห่แหนกันมาเหมือนกับไอจีผมมีงานเซลล์เทกระจาด ผมจะขอคัดมาแต่เจ้าของไอจีที่ทุกท่านรู้จักก็แล้วกันนะครับ

Chok_luck กูไม่ให้อภัย
Physicscoolcool หงอยเลย 5555
Fuenfire สู้ๆ ครับ
Tang ไอ้นั่นมันก็ยังไม่นอนนะ ยังมาเมนต์ให้ผมอยู่เลย


เสียงในใจของผมร่ำร้องตะโกนบอกให้ผมโกงด้วยการ Direct message ไปหาทางไอจี แต่สตาร์เป็นคนที่มีฟอลโลเวอร์ค่อนข้างเยอะ มันจะเห็นข้อความของผมมั้ย

'น้องดาว พี่ขอโทษ'

ไม่รู้ล่ะ ผมกดส่งไปแล้ว ถ้าเรียกว่าน้องดาวแสดงว่าผมพยายามที่จะหวานที่สุดในโลกแล้วนะ สตาร์ยังไม่อ่านข้อความลับของผมเลยครับ เวลาผ่านไปแล้วผ่านไปอีก ในที่สุดผมก็ยอมแพ้ กดส่งข้อความไปอีกครั้งหนึ่งก่อนนอน

'อยู่ให้พี่ง้อก่อนนะ ตัวสตาร์ แล้วก็ใจของสตาร์ด้วย'








โรงเรียน

"เชี่ยบู้ มึงอยากตายเรอะ!" ทันทีที่ผมมาถึงห้อง ม.5/1 ผมก็ร้องด่าหัวหน้าห้องนี้ก่อนเป็นอันดับแรก (หลังๆ เพิ่งรู้ว่ามันเป็นหัวหน้าห้องด้วย) เด็กที่มาถึงโรงเรียนแล้วมองผมเหมือนผมเป็นตัวประหลาด แต่ผมไม่แคร์ใครทั้งสิ้น โชคดีที่ไอ้บู้มาแล้ว มันนั่งทำหน้าหวาดๆ อยู่มุมหนึ่ง

สตาร์ยังไม่มาโรงเรียนครับ

"อะไรครับพี่"

"กูโทรไปทำไมไม่รับสายเมื่อคืน"

"เบอร์พี่เหรอ"

"..."

"ผมไม่รับสายเบอร์แปลก"

"ฟาย" ผมส่งสายตาไล่เด็กที่นั่งอยู่ข้างๆ ไอ้บู้ออกไปก่อนจะทิ้งตัวนั่ง "กูมีเรื่องจะพูดกับมึง"

"เรื่องที่ทิ้งเพื่อนผมไปกับผู้หญิงน่ะเหรอ"

โอ้โห มึงไม่เอามีดมาแทงกูเลยล่ะ...

ผมหน้าเจื่อนลงไปนิดหนึ่ง "มึงรู้เหรอวะ"

"รู้ดิ ก็ผมนี่แหละที่เป็นคนฟังไอ้สตาร์มันโทรมาคร่ำครวญกับผมเมื่อคืน"

พรึ่บ! สายตาของไอ้พวกห้องหนึ่งมองผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อทันที กลับมาอีกครั้งแล้วสินะบรรยากาศแบบนี้ บรรยากาศที่พวกมันไม่ยอมให้ผมอยู่ใกล้สตาร์อีกต่อไป

กูผิด กูขอโทษ กูมาง้อแล้วนี่ไง

"แล้ว...มันว่าไงบ้าง"

"ว่าไงน่ะเหรอ ก็โกรธมากอ่ะดิพี่"

"หา"

"เมื่อวานมันไปง้อพี่ด้วยเรื่องที่คล้ายๆ กันเลยนะ เรื่องที่สนใจคนอื่นมากกว่าเนี่ย"

กูจุกเลย...

"พี่ไม่ชอบ แต่พี่ทำงั้นกับเพื่อนผมทำไมครับ ไม่เข้าใจพี่เลยจริงๆ"

"ก็ผู้หญิงเขาขอ"

"เขาขอแล้วต้องทำตามทุกอย่างเหรอ"

"ก็เขาบอกว่าเป็นครั้งสุดท้ายนี่หว่า เดี๋ยว ทำไมกูต้องมาแก้ตัวกับมึงอีกครั้งล่ะวะ"

"แก้ตัวกับผมก่อนดีแล้ว ผมจะได้ช่วยดูว่าพี่รู้สึกผิดมากพอหรือเปล่า ถ้าพี่คิดงั้นจริงๆ ผมจะได้ไฟเขียวให้ง้อเพื่อนผม"

ยอมใจเด็กห้องนี้ เออ มึงรักเพื่อนมึงจริงๆ กูกราบบบบบบบ

"แล้วกูต้องทำยังไงวะ" ยอมแม่งไปก่อนละกัน

"พี่เหลือไอดีไลน์ของสตาร์อีกกี่ตัว"

"สี่"

"หลังๆ มันให้พี่ง่ายมาก เดินไปให้เฉยๆ ก็มี ผมได้ข่าว"

"ก็มันชอบกูอ่ะ" ผมยักไหล่

"มั่นหน้า"

"แล้วมันจริงมั้ย" ผมกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย

"จริงครับ ขอโทษครับพี่" ไอ้บู้ยกมือไหว้ประหลกๆ "สตาร์มันเป็นคนใจอ่อนจะตาย มาตื๊อมันหน่อยเดี๋ยวมันก็หาย"

"..."

"ทำเหมือนตอนที่พี่มาขอไลน์สตาร์ช่วงแรกๆ ก็ดีครับ เอาให้หมดมาดพี่ดินคนหล่อไปเลย เพื่อนผมจะได้รู้ว่าพี่ไม่ได้แคร์เรื่องนั้น แต่แคร์มันมากกว่า"

"เอางั้นเหรอ อืมๆ" ผมหันไปหาเด็กห้องหนึ่งทุกคน "พวกมึงก็เลิกมองมาที่กูแบบนั้นได้แล้ว ไอ้พวกโรคจิตเอ๊ย!"

พวกมันสะดุ้ง จากนั้นก็กลับไปทำกิจกรรมตามปกติ

วันนี้ผมต้องใช้เวลาทั้งวันหมดไปกับการง้อสตาร์จริงๆ ครับ

เริ่มจากเมื่อเช้าตอนเข้าแถว ผมกับเพื่อนห้องสองที่ยังพอจะมาโรงเรียนอยู่บุกไปแถวของเด็ก ม.5/1 เลยครับ สตาร์กับเพื่อนตกใจกันใหญ่ นึกว่าผมจะมาหาเรื่อง

เปล่าเว้ย มาง้อเนี่ย!

ผลก็คือสตาร์ได้แต่ซ่อนอยู่ข้างหลังตัวไอ้บู้ ไม่ยอมสบตาผม จะเดินเข้าไปใกล้ก็ขยับตัวหนี เหมือนเด็กตัวเล็กๆ เวลาเขินผู้ใหญ่อ่ะ ผมพยายามทุกวิถีทางแล้ว แต่สตาร์ไม่ยอมคุยกับผมสักที เอาแต่เบียดไอ้บู้จนผมใกล้จะเอาเท้าถีบไอ้บู้อยู่แล้ว โทษฐานอยู่ให้สตาร์สิงนานเกินไป แต่กลัวว่าถ้าทำจะโดนเพิ่มอีกกระทงก็เลยได้แต่จ๋อย เดินกลับห้องตัวเองและก็ไปเข้าแถวด้วยท่าทางเซ็งๆ
 
ครั้งนี้โกรธจริงใช่มั้ยเนี่ย

"ตายแน่มึง ไอ้ดิน มึงอกหักแล้ว น้องไม่ชอบมึงแล้ว" ไอ้โชคหัวเราะอย่างสะใจตอนที่เข้าแถวอยู่

"ตกลงมึงจะช่วยชงหรือช่วยให้ฉิบหาย เลือกมาสักอย่าง!" ผมชักโมโห

"ก็น้องมันโกรธมึงมากอ่ะ ไม่ยอมมองหน้ามึงเลยตอนนี้"

ผมเก็บเอาคำพูดไอ้โชคมาคิดตลอดเช้า คิดหนักจนความรู้ที่คุณครูถ่ายทอดให้เข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาของผม ผมเซลฟี่กับไอ้โชคอัพรูปไอจี เพียงเพื่อต้องการอยากส่งแคปชั่นใต้รูปบอกให้สตาร์รับรู้อะไรบางอย่าง

ทำไงได้ ผมกับมันก็มีแค่ไอจีที่สื่อถึงกันได้อ่ะ

'โชคบอกว่าพี่จะอกหัก ช่วยมาแก้คำพูดไอ้โชคทีครับ น้องคนนั้นอ่ะ'

อยู่ในยุคที่กูต้องมาง้อคนผ่านไอจีแล้วเหรอวะ ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากทึ้งหัว สตาร์เข้ามากดไลค์ครับ (รูปเมื่อคืนก็กดไลค์นะ) แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามมา นอกจากการกดไลค์ด้วยนิ้วเล็กๆ ของมัน

เฮ้อ อย่างน้อยมันก็เห็นล่ะวะ

ตอนพักกลางวันเป็นตอนที่ผมคิดว่าไม่ว่าจะยังไงผมก็ต้องทำให้สตาร์หายโกรธให้ได้ ทันทีที่ผมกินข้าวเสร็จก็เดินบุกเดี่ยวไปยังโต๊ะที่พวกเด็ก ม.5/1 นั่งอยู่ ปรากฏว่าทุกคนพร้อมใจกันปล่อยให้สตาร์นั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียว ทิ้งให้ผมได้ง้อสตาร์สะดวกหน่อย

เข้าทางผมแล้ว อยู่กันสองคนแบบนี้จะได้คุยกันสะดวก

มื้อเที่ยงวันนี้คือก๋วยเตี๋ยว สตาร์ใช้ตะเกียบคีบเส้น ใบหน้าบ่งบอกอารมณ์ว่ากำลังขุ่นเคืองอะไรบางอย่าง ซึ่งนั่นก็คือผมเองนี่แหละครับ

"สตาร์ พี่มาง้อแล้ว"

"..."

"อยากให้พี่ทำอะไร อยากให้พี่เป็นอะไร พี่จะเป็นทุกอย่างเลย"

"..."

"พี่เป็นแฟนให้สตาร์ก็ได้นะ"

คนถูกง้อทำหน้าบึ้งหนักกว่าเดิม นี่ผมต้องคุกเข่ากลางโรงอาหารเลยป่ะเนี่ย มันถึงจะหายโกรธผมอ่ะ

เฮ้ย เป็นความคิดที่ดี

"พี่ผิดจริงๆ พี่คิดน้อยไป แต่พี่ก็มีเหตุผลของพี่ที่อยากอธิบายให้ฟังจริงๆ นะ"

"..."

"พี่คุกเข่าได้นะถ้าสตาร์ต้องการ"

สตาร์รีบยกสองมือห้ามผม แต่ยังไม่ยอมพูดอะไร

"พูดบ้างสิ"

"สตาร์ก็แค่..."

"..."

"น้อยใจ"

"..."

"พี่ดินทำในสิ่งที่พี่ดินงอนสตาร์อ่ะ มันแปลกๆ มากเลยรู้ป่ะ"

ผมรู้ ผมผิดจริงๆ นั่นแหละ ระหว่างที่ผมกำลังอ้าปากพะงาบๆ จะแก้ตัวกับสตาร์ ใครบางคนก็มาสะกิดหลังผม ผมปัดมือนั้นออกไปอย่างไม่คิดจะสนใจ

"ภูดิน"

เฮ้ย เสียงนี้นี่มัน...

ผมหันขวับไปดูทันที ภาพที่เห็นทำให้ผมรู้สึกอยากจะบ้าตายเสียให้ได้

"แม่"

ใบหน้าแม่เหมือนกำลังพยายามเก็บอารมณ์โมโห แต่ผมกำลังงงว่าแม่มาโผล่ที่โรงอาหารโรงเรียนได้ไงในเวลากลางวันแบบนี้ แม่ตวัดสายตาไปมองสตาร์ที่ยกมือไหว้แม่อย่างหวั่นๆ

"มากับแม่ แม่มีเรื่องจะคุยด้วย"


"แม่ เกิดอะไรขึ้น" ผมลุกขึ้นยืน ถามแม่ด้วยสายตาสงสัยเป็นที่สุด ที่บ้านมีเรื่องอะไรหรือเปล่าวะเนี่ย การที่ผู้ปกครองของใครสักคนมาหาที่โรงเรียนมันต้องเป็นเรื่องใหญ่มากๆ แน่ครับ ทุกคนในโรงเรียนรู้กันดี

"ไปคุยกันที่อื่น"

ใจของผมรู้สึกวูบไหวไปหมด ผมมองสตาร์ที่กำลังมองผมอยู่เหมือนกัน

เกิดอะไรขึ้นกันแน่







แม่พาผมมายังทางเดินที่เวลานี้ไม่ค่อยมีนักเรียนเดินผ่านกันนัก ใจผมตอนนี้ลุ้นมากว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ยิ่งเห็นท่าทางของแม่ที่เหมือนข่มอารมณ์โกรธ ผมก็ยิ่งรู้สึกกังวลไปหมด

"แม่"

"ดินไม่ติดมอ C นะ"

ผม...ช็อก

ไอ้เหี้ย ผมช็อกจริงๆ นะ

"อะ...อะไรนะแม่"

"ดินไม่ติดมอ C มอที่ทุกคนรู้ว่ายังไงดินก็ต้องติด"

เหมือนมีคนเอาน้ำเย็นเฉียบมาสาดผม ใบหน้าของผมชา ตัวชา และมือก็ชา ผมช็อกมากจริงๆ จนไม่รู้ว่าจะบรรยายความรู้สึกนี้ยังไงดี

อันที่จริงก็พอรู้ตัวแหละว่าจะไม่ติด แต่พอได้ยินผลที่แน่ชัดแบบนี้มันก็รู้สึกสะเทือนใจแปลกๆ เหมือนกัน

"แม่จะไม่พูดว่าลูกของแม่ไม่เก่ง เพราะลูกแม่เก่งที่สุดอันนี้แม่รู้ดี และแม่ก็ภูมิใจมากด้วย แต่ตอนนี้ดินโฟกัสผิดจุด ดินรู้ตัวบ้างมั้ย"

"..."

"การที่ดินจะมีความรัก แม่ไม่ห่วง แม่ไม่ยุ่ง เพราะแม่รู้ว่าดินคิดเองเป็นว่าใครดีพอสำหรับดิน แต่ตอนนี้ดินก็เห็นแล้วใช่มั้ยว่าผลมันเป็นยังไง"

"..."

"แม่ว่าดินต้องพักเรื่องน้องคนนั้นเอาไว้ก่อน"

ผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูก มันตันไปหมดทั้งสิ่งที่ผมเพิ่งได้รับรู้และคำพูดที่แม่เพิ่งจะพูดออกมา

"ดินยังมีโอกาสกลับตัวใหม่นะ มอ B กับมอ A ก็ยังไม่เปิดรับสมัคร"

"..."

"ถ้าโควตาไม่ได้ แอดมิชชั่นก็ยังมี แม่รู้ว่าดินทำได้"

"เพราะเรื่องนี้ แม่ถึงขนาดต้องมาที่โรงเรียนดินเลยเหรอ"

"แม่ขอโทษถ้าทำให้ดินอายเรื่องนี้ แม่ร้อนใจจริงๆ...และแม่ก็อยากมาพิสูจน์ด้วยตาตัวเองด้วย" แม่กลืนน้ำลาย

"พิสูจน์อะไรครับ"

"พิสูจน์ว่าลูกแม่กำลังจริงจังผิดเรื่องหรือเปล่าน่ะสิ"

"เรื่องสอบดินก็จริงจัง"

"แต่ดินก็ยังไม่ติด"

"เอาไว้คุยกันที่บ้านนะครับ" ผมตัดบทแม่แล้วเดินหันหลัง

"เก็บเรื่องนี้ไปคิดดีๆ นะดิน"








สนามหญ้าใกล้ตึก ม.6

'ประกาศผลการสอบโควตารับตรงมหาวิทยาลัย C
นายภูดิน อัศวพลกุล
ไม่ผ่านการคัดเลือก'


ผมเลื่อนดูประกาศในเว็บด้วยความขมขื่น ไม่ผ่านจริงๆ ด้วย แม่ผมไม่ได้โกหกเลยสักนิด นี่เป็นมหา'ลัยแรกที่ผมสมัครและปรากฏว่าสอบไม่ติด ความผิดหวังครั้งแรกนี้ค่อนข้างทำร้ายผมมากเลยทีเดียว เพราะอะไรน่ะเหรอ

สตาร์เป็นคนพาผมไปจ่ายตังค์ แถมสตาร์เป็นคนเอาข้าวกลางวันมาให้ด้วย แต่ผมก็สอบไม่ติด

ผมจะบอกน้องยังไง

ตอนบ่ายผมโดดเรียนครับ ใครจะว่าอะไรก็ช่างตอนนี้ผมไม่สนใจแล้ว ผมรู้สึกอยากอยู่เงียบๆ และก็คิดอะไรในหัวของตัวเอง จำได้ว่าที่นี่ฟืนก็เคยมานั่งด้วย มันเป็นที่ประจำของผมตอนที่ผมโดดเรียน แต่คราวนี้คนที่ผมอยากให้มาอยู่ด้วยไม่ใช่ฟืนแต่เป็นสตาร์
ผมอยากให้สตาร์อยู่แถวนี้จังเลยว่ะ

"พี่ดิน" ผมตกใจที่จู่ๆ คนที่ผมปรารถนาก็มาอยู่ใกล้ๆ ผมจริงๆ ผมมองไปที่สตาร์อย่างทึ่งๆ ไม่คิดว่ามันจะเดินจากตึกตัวเองมาถึงตรงนี้ เรียกได้ว่าไกลมากเลยแหละครับ

"สตาร์ พี่กำลังแย่" ผมพูดออกมาอย่างไม่ปิดบัง

"สตาร์รู้ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรก็เลยมาดู" สตาร์ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ "เกิดอะไรขึ้นครับ"

ผมสบตาน้องได้ไม่นานก็แพ้ ละสายตาไปทางอื่นเอง

"...เอาอย่างงี้ดีกว่า สตาร์หายโกรธพี่เรื่องหยกหรือยัง"

อีกฝ่ายทอดถอนใจ "พี่ดินบอกว่าพี่ดินมีเหตุผล"

"พี่ยอมเขาทำตามที่เขาขอเพราะเขาบอกพี่ว่าเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งมันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ พี่ขอโทษจริงๆ นะ"

สตาร์ยิ้มเบาๆ ส่งมาให้ "เห็นพี่ดินพยายามง้อ ทั้งในไอจีและก็ตอนเช้าตอนกลางวัน สตาร์ก็โอเคแล้ว"

"..."

"ว่าแต่เกิดอะไรขึ้น ทำไมแม่พี่ดินถึงมาที่โรงเรียน มีอะไรหรือเปล่า"

เป็นคำถามที่ผมไม่รู้จะตอบน้องยังไงดี

"พี่ต้องทำให้สตาร์ผิดหวังแน่ๆ ถ้าสตาร์ได้ยิน"

"หืม? ไปกับสาวที่ไหนต่อหน้าแม่มางั้นเหรอ"

"บ้า ไม่ใช่" คิดได้ไงกัน

"..."

"พี่สอบไม่ติดมอ C ว่ะ"

ผมมองสีหน้าของสตาร์ ใบหน้าขาวฉายแววช็อกเล็กน้อย แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

"ก็นึกว่าเรื่องอะไร"

"ไม่ผิดหวังในตัวพี่เหรอ"

"ผิดหวังทำไม สอบไม่ติดมันก็เหมือนสอบตกนั่นแหละ โอกาสแก้ตัวมีเยอะแยะ"

ผมอึ้งมาก ไม่คิดว่าสตาร์จะคิดแบบนี้ มันคือคนที่ทำหน้าเศร้าแทบตายตอนที่ไม่ได้สอบคะแนนดิบวิชาครูสุพิชชานะ

"สตาร์เป็นคนพาพี่ไปจ่ายตังค์ ไปหาพี่ที่สนามสอบอีกต่างหาก"

"พี่ดิน เรื่องแค่นั้นสตาร์ทำให้พี่ดินอีกกี่ครั้งกี่หนก็ได้ มันไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียวนะ"

สตาร์พูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา แต่ใจผมพองโตมากหลังจากที่ได้ยิน ความกังวล ความผิดหวังของผมเริ่มถูกลมพัดพาหายไปเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของสตาร์

ผมซึ้งใจว่ะ

"อยากกอดนะ แต่ไม่ได้" ผมหัวเราะแห้งๆ เพราะที่นี่คือโรงเรียนแล้วคนก็เดินผ่านไปผ่านมาเยอะแยะไปหมด

"แม่พี่ดินมาแค่เรื่องนี้เหรอ"

คำถามนี้แหละที่พีคที่สุดแล้ว ผมจะพูดยังไงดีถ้าหากว่าแม่ผมต้องการให้เราสองคนห่างๆ กัน เพราะผมทำไม่ได้และก็ไม่ได้อยากให้สตาร์อยู่ห่างผมด้วย

ผมเลือกที่จะไม่พูดดีกว่า ผมดื้ออยู่แล้ว และผมจะแสดงให้แม่เห็นว่าการที่ผมมีสตาร์ ชีวิตผมจะดีขึ้นกว่าเดิม การสอบมอ C ไม่ติดมันเป็นเพียงแค่ก้าวแรกสั้นๆ ผมยังมีอีกตั้งหลายก้าวให้เดิน

ผมอยากให้สตาร์ร่วมเดินไปกับผม

"ว่าไงครับ"

นัยน์ตาของผมจ้องมองไปที่ดวงตาของสตาร์ที่เปล่งประกายระยิบระยับเสมอ ผมแบมือขอโพสต์อิตจากสตาร์เพราะเห็นว่ามีกระดาษสีเหลืองอยู่ตรงกระเป๋าเสื้อของอีกฝ่าย

"คราวนี้พี่อยากเขียนเอง" พอจะรู้อยู่แล้วว่าไอดีไลน์ตัวต่อไปคืออะไร

ผมหยิบปากกาของตัวเองมาจากกระเป๋ากางเกง

ไอดีไลน์ตัวที่ 17
R
อยู่เคียงข้างกันนะ


ผมยื่นให้อีกฝ่ายอ่าน สตาร์ยิ้มแฉ่งส่งให้ผมและก็พยักหน้า ผมเก็บโพสต์อิตใบนั้นไว้กับตัวเอง จะจำไว้ว่าผมมีกำลังใจเล็กๆ คอยสนับสนุนผมอยู่เสมอ

กำลังใจจากน้องดาวของผมนั่นแหละ






TBC*

หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 27-02-2018 19:41:27





ตอนที่ 18





ผ่านไปหลายสัปดาห์ ชีวิตผมเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

ผมอยู่ใกล้กับสตาร์มากขึ้นจนเป็นภาพที่ชินตาของเด็กในโรงเรียน พวกมันคงคิดกันไปหมดแล้วล่ะว่าผมกับสตาร์คบกัน ซึ่งผมก็ไม่อยากเถียงในเรื่องนั้นเพราะอีกไม่นานเราสองคนก็คบกันอยู่ดี เราปล่อยให้เรื่องไอดีไลน์เป็นประเด็นรอง ประเด็นหลักก็คือได้อยู่ใกล้ๆ กันเท่านั้นพอ

บางวันสตาร์ก็มาหาผมที่ห้อง แต่ส่วนใหญ่ผมจะไปหาสตาร์ที่ห้องของน้องมากกว่า สตาร์เริ่มซีเรียสกับการเรียนมากขึ้น ขณะที่ผมเองก็เริ่มคิดหนักมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกันเพราะกลัวว่าตัวเองจะผิดหวังเหมือนตอนสอบมอ C อีก

ความเครียดของผมส่งผลมาถึงพ่อแม่ ผมเพิ่งรู้ว่าพวกท่านคาดหวังในตัวผมมาก กลายเป็นว่าผมอยู่บ้านแล้วจะเครียด แต่พออยู่โรงเรียนผมกลับสนุกมากกว่าเพราะเพื่อนผมที่เตรียมหาที่เรียนต่อเหมือนกัน ไม่เห็นมีใครคาดหวังกับผมเหมือนที่พ่อแม่กำลังทำอยู่เลย

บรรยากาศที่บ้านเริ่มติดลบด้านความสุขลงมาเรื่อยๆ

ผมคิดว่าแม่ตามสืบจากสายของแม่ (ที่ทุกวันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าใคร) แม่คงอยากรู้ว่าผมห่างจากสตาร์บ้างหรือยัง การที่ผมทำในสิ่งตรงกันข้ามกับที่แม่ต้องการมันยิ่งทำให้แม่รู้สึกหัวร้อนมากขึ้นทุกที ผมกับแม่คุยกันน้อยลง พ่อผมก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่พูดเรื่องนี้ ครอบครัวของเราจึงมีแต่ไอ้พิงค์ที่พูดอยู่คนเดียว ทั้งๆ ที่มันเป็นสายติสต์ ชอบฟังคนอื่นพูดมากกว่ามาตลอด

แม่จริงจังกับอนาคตของผม พอๆ กับที่ผมจริงจังกับเรื่องของสตาร์

วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมนัดกับสตาร์ไว้ที่เอ็มควอเทียร์ครับ (ให้ฟืนเป็นคนไลน์ไปบอกให้) ผมบอกมันว่าวันนี้อยากจะเลี้ยงข้าวชดเชยวันที่ผมต้องไปกินบิงซูกับหยก เนื่องจากสตาร์ไม่มีเรียนพิเศษพอดี วันนี้น้องก็เลยมาหาผมได้

ใจจริงผมอยากจะไปรับสตาร์ที่บ้าน แต่เพราะผมกับคนในครอบครัวยังตึงๆ ใส่กันอยู่ ผมจะเอารถมาใช้สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ครับ ฉะนั้นผมจึงต้องอาศัยนั่งรถไฟฟ้าไปก่อน

ผมมาถึงเอ็มควอเทียร์ได้หลายนาทีแล้ว อีกไม่นานสตาร์ก็คงจะมาแหละมั้ง ผมบอกฟืนให้ไปบอกสตาร์ผ่านไลน์ว่าวันนี้ผมจะใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ สตาร์น่าจะหาผมเจอได้ไว

ไม่นานนักสตาร์ก็เดินมา น้องสะกิดที่หลังผมก่อนจะแจกยิ้มสดใสมาให้ ฟันเหล็กของสตาร์สะท้อนแสงแดดมากครับ

"มาแล้วเหรอ" ผมยิ้ม

"ไปกินกันเลยป่ะ สตาร์หิวมากเลย"

"โอเค"

ท่าทางน้องจะหิวจริงๆ ผมปล่อยให้น้องเดินนำผมไปขณะที่ผมเดินตาม นี่เป็นสิ่งที่ผมทำเป็นประจำจนเคยชิน ปล่อยให้สตาร์ได้พาผมไปในที่ที่น้องอยากไป ส่วนผมเดินตามหลัง คอยระวังโน่นนี่นั่นให้

ความจริงเรื่องหนึ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับสตาร์คือมันเดินไม่ค่อยมองดูทาง ถึงจะเดินอยู่ข้างหน้าก็จริงแต่ก็ชนนั่นชนนี่อยู่เรื่อย บ่อยครั้งที่สุดก็คือเดินชนเสาที่โรงเรียนจนจะสนิทกับเสาแล้วมั้ง มันบอกผมว่าอยู่กับผมทีไรมักจะใจลอยมาหาผมตลอด ทั้งๆ ที่ผมอยู่ข้างหลังก็เหมือนไม่ค่อยมีสติอยู่ดี ครั้งนี้ก็เหมือนกัน

"เดินดีๆ หน่อย" ผมแกล้งเอ็ด เมื่อตะกี้สตาร์เกือบสะดุดบันไดเลื่อนจนหัวทิ่ม

"สงสัยหิวจนตาลาย"

"เดี๋ยวก็ได้กินแล้ว"

"พี่ดิน"

"ว่าไง"

"จริงๆ แล้วสตาร์มีเรื่องจะพูดด้วยแหละ"

"เรื่องอะไรเหรอ" ผมถามอย่างอยากรู้

"เอาไว้ค่อยคุยกันตอนกินละกันนะ"

"อืมๆ"

มันจะมีอะไรที่หนักหนาสาหัสมั้ยครับ ผมชักคิดมากแล้วนะเนี่ย แต่พอเห็นหน้าของสตาร์ที่ไม่ได้เครียดอะไรผมก็เลยเบาใจ อาจจะเป็นเรื่องเม้าท์ธรรมดาก็ได้ ช่วงนี้ชีวิตผมมีแต่เรื่องให้คิด ผมก็เลยชักจะติดนิสัยกังวลไปก่อน ขออย่าให้เรื่องของสตาร์เป็นเรื่องใหญ่มากก็แล้วกัน เพราะไม่อย่างนั้นเด็กม.6 อย่างผมคงจะเครียดจนไม่เป็นอันทำอะไรแน่ๆ







ร้านที่สตาร์พามาเป็นร้านค่อนข้างหรู แขกที่มาทานมีแต่พวกผู้ใหญ่ สตาร์บอกว่าที่ชอบร้านนี้เป็นเพราะพ่อกับแม่พามาบ่อย แต่หลังๆ พวกท่านไม่ค่อยมีเวลา วันนี้เกิดอยากกินขึ้นมาก็เลยขอกินร้านนี้ ผมที่มักฝากท้องไว้แถวสยามก็เลยตามใจน้อง อยากกินอะไรก็ได้เลยแล้วแต่น้อง

หลังจากสั่งอาหารเสร็จความเงียบก็เข้าปกคลุมเราสองคน ผมจ้องหน้าน้อง น้องจ้องหน้าผม จากนั้นสตาร์ก็ยิ้ม

"ไหน มีอะไรจะพูดกับพี่" ผมชิงถามไปก่อน

"พี่ดิน พี่ดินรู้ป่ะว่าสตาร์ชอบพี่มากขนาดไหน"

โอ้โห เป็นการเปิดประเด็นที่เล่นใหญ่มากจนผมตั้งรับไม่ทัน

"เอ่อ..."

"รู้หน่อยเหอะ นะๆ"

"โอเค พี่รู้ละกัน" ผมหัวเราะเบาๆ จริงๆ แล้วผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูกต่างหาก

"ถ้าสตาร์ได้คบกับพี่ สตาร์ก็ไม่อยากทำตัวเป็นเด็กไร้เหตุผล สตาร์อยากเป็นคนที่เข้าใจพี่ดินในทุกๆ เรื่อง ช่วยพี่ดินแก้ปัญหาเวลาที่พี่ดินมีปัญหา อย่างตอนที่พี่ดินไปจ่ายเงินค่าสมัครสอบไม่ทันแล้วสตาร์ได้ช่วย สตาร์ดีใจมากนะ"

ความกังวลของผมผสมปนเปไปกับความตื้นตันใจที่สตาร์เปิดเผยเรื่องนี้ให้ผมฟัง

"เพราะฉะนั้นเวลาพี่ดินมีอะไรไม่สบายใจพี่ดินบอกสตาร์มาได้ทุกเรื่อง"

"..."

"เล่ามา ตอนนี้กำลังมีปัญหาอะไรอยู่"

น้องดูผมออก ผมทึ่งก็เพราะตลอดเวลาที่อยู่กับสตาร์ ผมมักจะไม่แสดงอาการเครียดให้เห็น แต่ชอบที่จะส่งยิ้มให้ทั้งๆ ที่ในใจของผมเต็มไปด้วยความวิตก ผมไม่อยากให้สตาร์รู้สึกไม่สบายใจไปกับผมด้วย และปัญหาเรื่องนี้มันค่อนข้างใหญ่ ผมกลัวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นระหว่าเรา

นั่นคือสิ่งที่ผมกลัวที่สุดเลยล่ะ

"เรื่องมอ C หรือเปล่า" สตาร์เลิกคิ้ว "พี่ดิน พี่ดินไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ นะ"

"มันก็แค่ส่วนหนึ่ง" ผมไม่รู้ว่าผมจะปิดบังน้องได้นานแค่ไหน

"แล้วส่วนใหญ่มันคือเรื่องอะไรล่ะครับ"

ผมถอนหายใจ ก่อนจะนั่งห่อตัวลงมา คล้ายกับคนที่แบกรับทุกอย่างไว้จนเหนื่อยล้า

"เรื่องสตาร์"

"หา" สตาร์ร้องลั่น "กังวัลเรื่องสตาร์ทำไม ก็บอกไปแล้วนี่ว่าสตาร์ชอบพี่ดินจะตาย เรื่องพี่เรย์สตาร์ก็ไม่ได้ยุ่งแล้ว เรื่องผู้ชายที่จะเข้ามาพวกไอ้บู้ก็ช่วยๆ กันออกไปให้หมดแล้ว พี่ดินคิดมากเรื่องสตาร์ทำไม สตาร์ทำอะไร..."

มาเป็นชุด ผมต้องเอาแก้วที่มีหลอดยัดปากน้องเอาไว้ก่อนที่มันจะพูดไปมากกว่านี้

"ไม่ใช่เรื่องพวกนั้นเลย"

"แล้วมันคือเรื่องอะไรล่ะครับ"

"..."

"พี่ดิน ถ้าเราอยากจะคบกันจริงๆ มีปัญหาอะไรเราก็ต้องช่วยกันแก้สิ อย่าปิดบังกันอีกเลย"

"แม่พี่อยากให้เราสองคนเลิกเจอกันอ่ะ" ผมหลุบตาต่ำแล้วพูดอย่างรัวเร็ว

อีกฝ่ายไร้ซึ่งการตอบรับใดๆ จนผมต้องเงยหน้าขึ้นมาดูอีกครั้ง หน้าของสตาร์ตอนนี้เต็มไปด้วยความช็อก ทั้งนัยน์ตาและก็ริมฝีปากสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้

"พี่ไม่น่าพูดเลยว่ะ"

"จริงเหรอ" สตาร์หน้าซีดเผือด "แม่พี่ไม่ชอบสตาร์เหรอ"

"ไม่ใช่อย่างนั้นเลย แต่เขากลัวว่าพี่จะยุ่งแต่กับสตาร์จนลืมเรื่องเรียนไปเลยต่างหาก"

เคยมีสถานการณ์แบบนี้กันบ้างมั้ยครับ สถานการณ์ที่ว่ายิ่งพูดก็ยิ่งแย่ ไม่ว่าผมจะพูดยังไง สตาร์ก็คิดในแง่ร้ายไปแล้ว มันควรจะเป็นความลับต่อไป...แต่ผมกลับทำให้น้องเสียความรู้สึกเพราะสิ่งที่ผมพูด

"จำได้แล้ว" สตาร์ไม่สนใจแม้กระทั่งอาหารที่มาเสิร์ฟหรือความหิวของตัวเอง

"จำอะไรได้"

"วันที่พี่ดินสอบมอ C สตาร์ทำพี่ดินเสียสมาธิ"

มันก็จริงส่วนหนึ่ง แต่มันเป็นเพราะผมต่างหากที่ควบคุมตัวเองไม่ได้เอง

"ไม่ใช่ความผิดของสตาร์เลยนะ"

"เพราะงี้แม่พี่ถึงไม่ชอบสตาร์ใช่ป่ะ"

"..."

"ทำไงดี"

สตาร์กังวลจนทำหน้าเหยเกไปหมด ผมเกาหัวแกรกๆ ไม่รู้จะแก้สถานการณ์ยังไงดี

"เราจะคบกันได้ยังไงถ้าแม่พี่ไม่ชอบสตาร์อ่ะ" สตาร์คอตก หวาดหวั่นจนผมรู้สึกได้เลยว่านี่คือความกลัวที่อยู่ลึกที่สุดภายในหัวใจ
 
"แม่พี่ไม่ได้ไม่ชอบสตาร์นะ แต่แม่พี่ไม่ชอบที่เห็นพี่ตัวติดกับสตาร์ต่างหาก มันคงยังไม่ถึงเวลา"

มือที่จับส้อมของอีกฝ่ายสั่นระริกพอๆ กับตัวของมันในตอนนี้

"เราจะเลิกเจอกันเหรอครับ"

"มันต้องไม่ใช่แบบนั้นดิ"

"แล้วต้องทำยังไง"

"..."

"สตาร์ก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงพี่ดินนะ"

"สตาร์ไม่ได้ถ่วงพี่ แต่สตาร์คือกำลังใจสำคัญของพี่"

"แต่แม่พี่ก็ไม่ชอบไง"

ความรู้สึกของแม่ผมเป็นสิ่งที่สตาร์แคร์มากจริงๆ ครับ ผมมองออกเลย

"นี่คิดไปถึงตอนเป็นสะใภ้เลยป่ะ ถึงได้เครียดขนาดนี้" ผมแกล้งพูดติดตลก สตาร์หลุดหัวเราะออกมาหน่อยๆ

"กับคนนี้สตาร์จริงจังมากไง"

"คนไหนน้า"

"กวนตีนละ" สตาร์โยนทิชชูมาใส่ผม จากนั้นก็ถอนหายใจ "แล้วจะทำยังไงกันดี"

"พี่ต้องพิสูจน์ให้แม่เห็นว่าพี่มีสตาร์แล้วพี่ชีวิตดีขึ้น ไม่ใช่แย่ลง"

"แม่พี่คงมองสตาร์ในแง่ลบไปแล้วมั้ง"

"ทำให้เปลี่ยนจากลบเป็นบวกสิ" ผมบอกอีกฝ่ายอย่างเชื่อมั่น

"ทำยังไง"

"สตาร์น่ารักจะตาย ไปอ้อนแป๊บเดียว เดี๋ยวแม่ก็ใจอ่อน อยากได้มาเป็นลูกแล้ว"

"ให้สตาร์ไปอ้อนเนี่ยนะ ไม่เอา" สตาร์เริ่มสนใจของกิน พอเห็นว่าความคิดของผมไม่เข้าท่า "ยังไงแม่พี่ก็ไม่ชอบ"

"นี่คิดมากจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย"

"ใช่ดิ กลัวไปหมดแล้ว"

"งั้นไปเจอเย็นนี้เลยมั้ยล่ะ"

"เฮ้ย! บ้าเหรอ"

"ถ้ากลัวอะไรแล้วหลบตลอดจะไปหายกลัวได้ยังไง พุ่งเข้าไปหาเลยสิ"

"พี่ดิน สตาร์ไม่ใช่พี่ดินนะเว้ย"

"พี่คุมหลังให้เอง"

"กลัวไปแล้วมันจะยิ่งแย่อ่ะ"

"..."

"ขอเวลาสตาร์หน่อยนะ"

ผมพยักหน้าเข้าอกเข้าใจ ความเร็วในการทานอาหารของสตาร์คือช้ามาก ท่าทางจะคิดไม่ตก ส่วนผมนั้นไม่รู้จะทำยังไงให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น จึงได้แต่คอยดูแลเอาใจด้วยการตักนั่นตักนี่ให้

ความกังวลของผมคลายลงไปนิดหน่อยที่ได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจของตัวเองออกมา แต่ผมกลัวว่ามันจะไปอยู่กับสตาร์จนหมดแทน ซึ่งผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลย

เราทั้งคู่ต้องมีทางออกสิครับ








ระหว่างทางกลับบ้านเรานั่งแท็กซี่คันเดียวกัน

อยู่ดีๆ ฝนก็สาดเทลงมาอย่างบ้าคลั่ง เราติดกันอยู่บนถนนนานมากแต่ไม่มีใครมีท่าทีเร่งรีบเลยสักคน ผมกับสตาร์เราเงียบกันทั้งคู่ ไม่มีใครเล่นโทรศัพท์ แต่หันออกไปนอกกระจกรถกันหมด เหมือนต่างฝ่ายต่างก็ตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง

มือของเราสัมผัสกัน เป็นเพียงอย่างเดียวที่ทำให้รู้ว่าผมกับสตาร์ไม่ได้ห่างกันไปไหน

น้องกำลังคิดหนัก ผมก็เหมือนกัน ตอนนี้ความกลัวของผมกับน้องมันกำลังจะกลายเป็นสิ่งเดียวกัน นั่นก็คือกลัวว่าเราจะไม่มีวันได้อยู่เคียงข้างกันเหมือนเดิม

ผมไม่ยอมให้มีวันนั้นหรอกนะ

อีกสองแยกไฟแดงข้างหน้าคือซอยบ้านผม ตอนแรกผมตั้งใจจะไปส่งสตาร์ที่บ้านก่อน แต่อีกชาติเศษแน่ๆ กว่ารถจะขยับ ผมก็เลยลองเอ่ยปากชวนสตาร์กลับไปที่บ้านผมดู พอฝนหยุดตกแล้วผมจะขับรถไปส่งสตาร์ที่บ้านอีกที

"แม่พี่ดินอยู่บ้านมั้ย" สตาร์ถามอย่างหวาดๆ

"ไม่อยู่บ้านก็อยู่สปาอ่ะ"

"จะดีเหรอ"

"บอกแล้วไงว่าพี่คุมหลังให้อยู่"

"..."

"จะไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นทั้งนั้น ถ้าพี่ไม่ยอม"

สตาร์ทอดถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพยักหน้า ผมจึงบอกให้พี่คนขับแท็กซี่เลี้ยวไปส่งพวกเราที่บ้านผมแทน พี่เขาโอเคมากเพราะเขาบอกว่าถ้าไปถึงบ้านสตาร์ สี่ทุ่มก็ไม่รู้จะไปถึงหรือเปล่า

ใช้เวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านผมในที่สุด

ในบ้านค่อนข้างเงียบแต่ไฟเปิดสว่างจ้าไปหมด ผมพาสตาร์เข้าไปในบ้านอย่างไม่มีการหลบซ่อนอะไรทั้งนั้น คนแรกที่เราทั้งคู่เห็นก็คือไอ้พิงค์ มันกำลังถ่ายรูปฟิกเกอร์เล่นอยู่ในห้องรับแขก สตาร์ยกมือไหว้อย่างเขินๆ ส่วนผมก็แค่พยักหน้าให้พี่ผมเท่านั้น

"พ่อกับแม่ล่ะ"

"อยู่กันหมดเลย" พิงค์มองไปที่สตาร์อย่างเป็นกังวล "มึงแน่ใจแล้วนะ พาเขามาบ้านเนี่ย" ประโยคนี้มันพูดให้ผมได้ยินแค่คนเดียว "แค่นี้ก็ตึงกันจะตายห่าอยู่แล้ว กลัวมึงกับแม่ทะเลาะกันต่อหน้าเขาว่ะ"

"ทะเลาะก็ทะเลาะสิ ก็คนนี้คือคนของกูอ่ะ"

"โว้ย มึงดื้อได้กูเต็มๆ ป่ะเนี่ย" พิงค์โบกมือไล่ให้ผมขึ้นไปบนบ้าน "พาไปนั่งบนบ้านไป กูไม่อยากได้ยินมึงกับแม่ทะเลาะกันจริงๆ ว่ะ"

"อืม"

ยังไม่ทันที่ผมจะได้เดินไป แม่ก็เดินเข้ามาเสียก่อน การชะงักของแม่นั้นทำให้ใจผมหล่นไปที่ตาตุ่ม ถึงจะบอกว่าไม่เคยกลัวการทะเลาะกับแม่ แต่ผมก็เกรงใจท่านมากอยู่ดี

ผมอยากให้ท่านชอบสตาร์เหมือนที่ผมชอบ

"สะ สวัสดีครับ" สตาร์ไหว้มือสั่นจนเห็นได้ชัด

แม่ผมยิ้มเล็กน้อยจากนั้นก็รับไหว้ ท่านดูอึดอัดแบบแปลกๆ ผมอยู่กับแม่มาตั้งแต่เกิดผมย่อมรู้ดี

"น้องจะมาอยู่บ้านจนกว่าฝนจะหยุดนะ" ผมบอกแม่อย่างห่างเหิน

"อืม หาอะไรมาให้น้องทานด้วยล่ะ"

แม่ผมเดินออกไปแล้ว สตาร์กับผมพ่นลมออกมาพร้อมกัน

"คงไม่ได้ขึ้นห้องกันแล้วล่ะ อยู่กันตรงนี้นี่แหละ" ไอ้พิงค์เก็บกล้องกับฟิกเกอร์แล้ว "กูไม่กวนนะ จะขึ้นไปข้างบนละกัน"

"พี่จะอยู่ข้างล่างก็ได้นะครับ นี่บ้านพี่" สตาร์พูดอย่างเกรงใจ

พิงค์โบกมืออย่างไม่ซีเรียส สตาร์นั่งลงบนโซฟา ดูตัวเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเข้ามาในบ้านผม ผมเดินเข้าไปหาอะไรมาให้สตาร์กิน ต้องทำทุกอย่างให้มันสบายใจให้ได้ในตอนนี้ครับ

ผมวางของกินเสร็จแม่ผมก็เดินเข้ามาอีกรอบ

"ดิน ขึ้นไปอยู่บนห้องก่อน"

"หา"

"แม่มีเรื่องจะคุยกับน้องสตาร์นิดหน่อย"

สตาร์อ้าปากค้าง ทำหน้าหวาดหวั่นสุดชีวิต ส่วนผมไม่ยอมครับ

"คุยต่อหน้าดินสิ"

"ไม่ แม่อยากคุยกับสตาร์แค่สองคน"

"แม่คิดจะทำอะไร"

"ถ้าดินอยากคบกับน้องต่อ ดินต้องฟังแม่"

ผมพูดไม่ออก สตาร์มองผมกับแม่ผมสลับกัน จากนั้นก็เอ่ยปากออกมาว่า "ไม่เป็นไรครับพี่ดิน"

"แต่..."

"แม่มีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ"

ผมมองคนทั้งสองที่ผมรักอย่างหนักใจ แม่ส่งสายตาไล่ผมอย่างเห็นได้ชัด ส่วนสตาร์เองก็ทำเหมือนพร้อมที่จะคุยกับแม่แล้ว ผมกลัวไปหมดเลยว่ะ นี่ผมคิดถูกคิดผิดที่พาน้องมันมาวะ

"ดินไม่ต้องแอบฟังด้วยนะ" แม่กำชับ ผมทอดถอนใจ มองสตาร์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะขึ้นไปบนบ้าน

หวังว่าจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง ไม่ใช่มีแต่จะแย่ลง...








ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมเปิดประตูห้องนอนตัวเอง นึกว่าคนที่มาเคาะเป็นสตาร์ ผลปรากฏว่าเป็นแม่ของผมเอง

"สตาร์ล่ะ"

"กลับไปแล้ว"

ผมทำสีหน้าหงุดหงิดทันที "กลับได้ยังไง"

"คนรถบ้านเขามารับ"

"แม่คุยอะไรไปบ้าง"

"พูดในสิ่งที่คนเป็นแม่ทุกคนจะต้องพูด"

"..."

"สตาร์ฝากนี่มาให้"

สิ่งที่แม่ยัดใส่ในมือผมคือกระดาษโพสต์อิตที่ถูกพับเอาไว้ ผมไม่ได้รับโพสต์อิตจากสตาร์หลายวันแล้ว ผมเป็นคนขอไว้เองเพราะอยากใกล้ชิดสตาร์จากใจจริงๆ ไม่ใช่เพราะอยากได้ไอดีไลน์ ชีวิตผมปรับสภาพได้แล้วกับการที่ไม่ต้องติดต่อกับสตาร์ เพราะงั้นผมจึงไม่ขอรับโพสต์อิตจากน้อง แต่มาครั้งนี้เป็นการได้โพสต์อิตจากน้องที่ทำผมใจแป้ว รู้สึกเศร้าใจอย่างน่าประหลาด

ไอดีไลน์ตัวที่ 18
0
เพื่อตัวพี่ดินเองนะครับ เลิกยุ่งกับสตาร์สักพักเถอะ








TBC*




หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 27-02-2018 19:47:49



ตอนที่ 19







วันนั้นผมทะเลาะกับแม่ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้

บ้านทั้งบ้านเต็มไปด้วยความอึดอัด พิงค์กับพ่อไม่ยอมโผล่ออกมาจากห้องเพราะรับไม่ได้ที่ผมกับแม่ทะเลาะกัน ผมโมโหแม่ที่ทำให้น้องต้องเลือกแบบนี้ แม่ก็เอาแต่อ้างว่าทำเพื่อผมๆ ทำเพื่อผมตรงไหนกัน ทำไมผมถึงเจ็บปวดแบบนี้ล่ะ ถ้าแม่ทำเพื่อผมจริงผมต้องมีความสุขสิ

ที่เจ็บไปกว่านั้นคือสตาร์เมินผมอย่างสิ้นเชิง เมินจนเหมือนผมไม่มีตัวตนบนโลก อยู่ดีๆ ก็ตัดสายสัมพันธ์กันแบบดื้อๆ โดยที่ไม่คุยอะไรกันทั้งนั้น แบบนี้ผมรู้สึกแย่มากเลยนะ

นอกจากจะหนีผมทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้แล้ว มันยังหาลูกทีมมาร่วมด้วยยิ่งทำให้งานของผมหนักมากขึ้นไปอีก ก็จะใครที่ไหนซะอีกล่ะครับ พวกเพื่อนห้อง ม.5/1 นั่นแหละ คงเป็นเพื่อนประเภทที่เพื่อนว่าไงก็ว่าตาม ไม่ถามผมสักคำเลยว่าเรื่องราวเป็นมายังไง แกนนำหลักคือไอ้เชี่ยบู้ครับ เมื่อสตาร์ไม่อยากเจอผม ห้อง ม.5/1 ก็ไม่เปิดประตูต้อนรับอีกต่อไป

ทางไลน์ก็เหมือนกัน ฝากใครไปถามสตาร์ก็ไม่ยอมง่ายๆ ผมระบายลงกรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของกูคนเดียว' จนคนในกรุ๊ปแม่งต้องปิดแจ้งเตือนกันไปหมดแล้วมั้ง ก็ผมมองว่าผมไม่ได้รับความยุติธรรมอ่ะ อย่างน้อยๆ ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ ไม่ใช่ว่าจะให้โพสต์อิตแผ่นเดียวแล้วทุกอย่างก็จบ

มีหลายครั้งที่ผมเคยบอกว่าใจจะขาด ตอนนี้ใจผมขาดจริงๆ แล้วล่ะครับ

"เชี่ยดิน" ไอ้โชคเอ่ยขึ้นในวันหนึ่งที่มันทนรับสภาพผมไม่ไหว "กูว่าปล่อยไว้แบบนี้แม่งมีแต่จะแย่ลงว่ะ มึงต้องไปคุยกับน้อง"

"คุยห่าไรล่ะ น้องมันอยากคุยกับกูที่ไหน"

"มึงทำทุกวิถีทางหรือยัง"

"เออ" ผมร้อง "กูไปเฝ้าหน้าห้องเท่าที่กูจะไปได้แม่งก็ไม่ยอมออกมา พวกเพื่อนเหี้ยของมันก็ล็อกประตูไม่ให้กูเข้า ไปรอมันที่บ้านก็โดนคนที่บ้านมันไล่" ผมไปมาจริงๆ ครับ แต่ไปแค่ครั้งเดียวเพราะกลัวตีนพี่สมัยกับพี่บุญส่ง ท่าทางจะแจกตีนให้ผมจริงๆ อ่ะถ้าขืนยังรั้นอยู่ต่อ ไม่ใช่อะไร ผมไม่อยากให้คนที่บ้านสตาร์ไม่ชอบผม

ก็อย่างที่สตาร์เคยพูด...กับคนนี้ผมจริงจัง แม้แต่คนในครอบครัวของอีกฝ่ายก็ต้องเอาใจใส่

"ไปหาถึงบ้านมาเลยเหรอว่ะ"

"เออดิ"

"..."

"กูโกรธแม่ฉิบหาย"

"เขาหวังดีกับมึงอ่ะ"

"กูอ่านหนังสือทุกวันจริงๆ นะ" ถึงแม้ว่าหลังๆ ผมจะมัวแต่คิดมากเรื่องสตาร์ก็เถอะ

"ผู้ใหญ่บางคนเขาก็ไม่เห็นความพยายามของเราตอนนี้ไง เขารอดูผลอย่างเดียว"

ผมถอนหายใจ "จริงของมึง"

"ก็นั่นแหละ"

"กูจะจบแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย กูไม่รู้เลยที่น้องบอกว่าเลิกยุ่งกับน้องสักพักคืออะไร ไอ้สักพักที่ว่าอ่ะนานมากมั้ย แล้วน้องมันจะยังชอบกูหรือเปล่า จะรอให้ไอดีไลน์กูอีกสองตัวมั้ย จะ..."

"เชี่ยดิน มึงตั้งสติ" ไอ้โชคถึงกับใช้มือทั้งสองข้างมันนวดขมับของผม "มึงลองคิดดูดีๆ ว่าคนที่มึงชอบจริงๆ เป็นคนยังไง โมเมนต์สุดท้ายที่มึงอยู่กับเขา เขาพูดอะไรกับมึงบ้าง เขามองมึงแบบไหน มองด้วยสายตายังไง กูว่าแค่นี้มึงก็น่าจะรู้คำตอบแล้วป่ะวะ"

ไอ้โชคปล่อยมือ ทิ้งให้ผมจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเอง โมเมนต์ล่าสุดที่ผมอยู่กับสตาร์ก็คือที่ร้านอาหาร สตาร์บอกว่ามันชอบผมและก็จริงจังกับผมมาก อยากช่วยผมแก้ปัญหาทุกครั้งที่ผมมีปัญหา และถ้าทำได้มันก็จะมีความสุขมาก สายตาที่มันมองผม กับรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้มที่น้อยคนนักมักจะได้จากมัน...

เหี้ย น้องมันรักผมนี่หว่า

"มันรักกู"

"เออ! ถ้างั้นก็แปลว่าที่น้องมันทำแบบนี้เพราะมันรักมึงมากไง อยากให้มึงมีอนาคต"

"แต่อยู่ดีๆ ก็มาตัดกันเลยมันก็เกินไปป่ะวะ"

ไอ้โชคพ่นลม มองดูนาฬิกาที่ตอนนี้เวลาน่าจะไปถึงคาบไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้

"อะไรวะ" ผมมองอย่างหวาดระแวง

"พี่ดินจะทวงคืนบัลลังก์"

"อะไรของมึง" ผมงงมาก

"ก็ยกพวกไปบุกแม่งเลยไง!"

จริงด้วย...ผมลืมบรรยากาศที่ผมคุ้นเคยไปได้ยังไงวะเนี่ย

ด้วยพลังแห่งหมาหมู่ ผมเชื่อว่ายังไงน้องก็ต้องคุยกับผม









หน้าห้อง ม.5/1

เชี่ยโชคแม่งเอาจริง มันคงจะคิดถึงช่วงเวลาที่ผมกับมันได้ยกพวกไปช่วยรุ่นน้องตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ผมมีความรัก ผมก็ห่างจากเรื่องทำนองนั้นมามากแล้ว ไอ้โชคเองก็เหมือนกันนั่นแหละ เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันเป็นอะไรที่สุดจะทน อย่างน้อยก็น่าจะได้คุยกันสักหนึ่งครั้งก็ยังดี

ผมพาเพื่อน ม.6 มาทั้งหมดเกือบยี่สิบคน ถ้าไม่ได้คุยก็พังห้องแม่งเลย มีปัญหาเดี๋ยวพ่อไอ้โชคจ่าย

"ครูสอนอยู่ว่ะ" ธนัชส่องเข้าไปในห้อง "เอาไงวะดิน"

"ครูอะไร"

"สุพิชชา"

"ตายๆๆ" ผมกับไอ้โชคบ่นพร้อมกัน จากนั้นผมก็รวบรวมความกล้าแล้วเขยิบตัวเข้าไปแทรกธนัช "เดี๋ยวกูเข้าไปพูดเอง"

"ไม่รอให้ครูสอนเสร็จก่อนเหรอวะ"

"มึงก็รู้ว่าเจ๊แกชอบเลต" ผมร้อง ผมเคาะประตูสองสามที จากนั้นก็เดินเข้าไปเลย

ทุกคนในห้องกระพริบตาปริบๆ มองผมอย่างงงงันโดยเฉพาะสตาร์ ส่วนครูสุพิชชาทำหน้าเบื่อโลกขึ้นมาทันทีที่เห็นผม

"นายภูดิน เธอต้องการอะไรจากเด็กห้องนี้อีกมิทราบ"

"ครูครับ ถ้าครูทะเลาะกับแฟนแล้วแฟนไม่ยอมคุยด้วย ครูจะทำยังไงให้แฟนครูคุยด้วยครับ"

"เชร้ดดดดด"
"แฟนว่ะๆๆ"
"เชี่ยดินพูดคำว่าแฟน"
"พี่ดินพูดว่าแฟนว่ะมึง"
"สัดดินคนจริง!"

เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นไปหมดทั้งในห้องและก็นอกห้อง

"นี่ใช่เวลาที่เธอจะมาถามคำถามแบบนี้กับครูมั้ย ครูกำลังสอนอยู่นะ"

"ความรักนี่ห้ามรอนะครับครู เดี๋ยวมันจะสายเกินไป" ยางอายของผมคงละลายหายไปหมดแล้ว

"อะไรของเธอนายภูดิน"

"แฟนผมอยู่ห้องนี้ครับ ผมอยากคุยกับเขา"

"นายศตายุน่ะเหรอ"

เฮ้ยยยย ครูรู้ว่ะ

"ฮิ้ววววววววววววววววววว"

เสียงแซวดังระงมไปหมดจนสตาร์ต้องฟุบหน้าลงกับโต๊ะ

"ครับ" ผมพูดพร้อมส่งยิ้ม

ครูสุพิชชาเริ่มทนไม่ไหวกับเสียงแซวที่ดังขึ้นเรื่อยๆ "เอาล่ะๆ" ท่านเคาะโต๊ะพร้อมหรี่ตามองไปทั่วห้องเรียน "อย่าลืมทำการบ้านมาส่ง หัวหน้าห้องรวบรวมส่งที่โต๊ะครูภายในวันศุกร์" ครูเริ่มเก็บข้าวเก็บของแล้วหันมามองผม "ถ้าขืนเธอมากวนใจครูแบบนี้อีกนะ..."

"ครูจะรักผมมากขึ้นใช่มั้ยครับ"

"ไม่มีทาง!" ผมช่วยครูยกของและก็ส่งครูออกนอกห้อง

"เฮ้ย พวกมึง ไปส่งครูหน่อยคนหนึ่ง" มีคนมารับช่วงต่อผมทันที จากนั้นผมก็เดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางที่ไอ้โชคมันบอกว่าผมคือคนที่อยู่บนบัลลังก์ (แม่งคิดไปเองทั้งนั้น) ไอ้พวกเด็กห้องหนึ่งมองผมอย่างหวาดระแวง แต่ท่าทางของพวกมันคือป้องกันสตาร์สุดชีวิต "พวกมึงได้ยินกันแล้วใช่มั้ย สตาร์อ่ะแฟนกู"

"ฮิ้วววววววววววววววววววว"

เสียงแซวดังมาจากเพื่อนผมข้างนอกห้อง มันดังพอที่จะข่มขวัญไอ้เด็กพวกนี้ให้กลัวจนคอหด

"ถ้าพวกมึงไม่ปล่อยให้แฟนเขาคุยกัน เพื่อนกูเอาพวกมึงตายแน่"

ทุกคนมองอย่างขอความช่วยเหลือไปที่สตาร์กับไอ้บู้ ไอ้บู้หันไปถามเพื่อนมันด้วยสายตาตื่นๆ ผมอ่านปากมันออก มันบอกว่าถ้าโดนพี่ ม.6 รุมโดยเฉพาะกลุ่มพี่ดินจะเป็นอะไรที่น่าอับอายแก่วงตระกูลมาก เพราะไม่มีทางสู้ได้

จู่ๆ สตาร์ก็ลุกขึ้นยืนจนผมกับคนอื่นๆ สะดุ้งเล็กน้อย

"พี่ดินจะคุยอะไร สตาร์ไม่มีอะไรจะคุยแล้ว"

"นี่จะพูดกันต่อหน้าคนพวกนี้ใช่ป่ะ" ผมไม่มีวันยอมแพ้หรอกนะ "ถ้าสตาร์จะเอางั้นพี่ก็โอเค"

"..."

"พี่คิดถึง"


"..."
"หายไปหลายวันแบบนี้พี่ใจขาดแล้ว ฟังดีๆ ไม่ใช่จะขาด แต่มันขาดไปแล้ว ทำไมทำกับพี่แบบนี้วะ"

สตาร์หน้าแดงก่ำ เริ่มปั้นสีหน้าไม่ถูกเมื่อเจอคำพูดที่จริงใจร้อยเปอร์เซ็นต์ของผม มันมองไปที่เพื่อนอย่างเก้อเขิน ขณะที่คนอื่นๆ มองผมกับมันสลับกันอย่างสนอกสนใจ ไอ้โชคเปิดประตูห้อง ให้เพื่อนที่มารออยู่หน้าห้องได้โผล่เข้ามาฟังด้วย

เพื่อนสตาร์เริ่มเชียร์ให้มันพูด ส่วนเพื่อนผมก็แซวกันมั่วไปหมดฟังไม่เป็นภาษา

"ที่ทำแบบนี้เพราะแม่พี่ขอใช่ป่ะ"

"แม่พี่ไม่ได้ขอ สตาร์ขอห่างออกมาเอง"

คงไม่มีเพื่อนคนไหนของสตาร์เคยชินกับคำพูดแทนตัวเองสุดมิ้งมิ้งของสตาร์เป็นแน่ บางคนถึงกับหลุดขำออกมาเลย สตาร์มองไปที่คนเหล่านั้นจากนั้นก็พูดกับบู้สองสามคำ ได้ยินเสียงพวกเด็กห้องหนึ่งโวยวายกันใหญ่ จากนั้นก็พากันเดินออกไปจากห้องกันหมด เพื่อนผมก็โดนลากออกไปหมดเหมือนกัน

สวยสั่งได้จริงๆ ว่ะ

เหลือเพียงแต่กระจกที่ประตูอันเล็กให้คอยส่องเพื่อตอบสนองต่อต่อมเผือก สตาร์เดินเข้ามาใกล้ผม จากนั้นก็ถอนหายใจยาวเหยียด

"พี่ดิน พี่ดินต้องไปจริงจังกับอนาคตของพี่นะ"

"อันนี้พี่รู้ แต่ที่พี่ไม่เข้าใจเลยก็คือสตาร์คิดได้ไงว่าแค่โพสต์อิตอันเดียวจะทำให้พี่เข้าใจทุกอย่างได้"

"ไม่รู้ ตอนนั้นสตาร์ก็สับสน"

"..."

"ถ้าสตาร์รักพี่จริงๆ ต้องปล่อยให้พี่ไปจริงจังกับเรื่องเรียนต่อ แม่พี่พูดถูก ไม่ว่าสตาร์จะดีหรือร้ายกับพี่ มันก็ส่งผลต่อตัวพี่หมด เพราะพี่มัวแต่อยู่กับสตาร์ เอาแต่คิดแต่เรื่องสตาร์"

"เรื่องนั้นมัน..."

"มันจริงใช่มั้ย"

ผมพ่นลม "ก็จริงอ่ะ แต่..."

"แค่นี้สตาร์ก็ดีใจแล้ว"

"เฮ้ย จะห่างกันไปแบบนี้จริงๆ เหรอ"

"มันต้องเป็นแบบนั้น"

"ค่อยๆ ห่างกันไม่ได้เหรอ อย่าตัดกันแบบนี้ดิ" ผมพยายามต่อรอง

"พี่ดิน สตาร์ชอบพี่"

"..."

"ไม่สิ สตาร์รักพี่ รักพี่จริงๆ"

"..." ใจผมเต้นตึกตักหลังจากที่ได้ยิน คำพูดนั้นเป็นคำพูดที่เปล่งเสียงออกมาแผ่วเบามาก และพวกที่คอยแอบฟังอยู่ข้างนอกคงไม่มีวันได้ยินแน่ๆ

"เพราะงั้น...มันถึงจำเป็นที่จะต้องทำแบบนี้"

นัยน์ตาของสตาร์บ่งบอกความเศร้า ผมเองก็เริ่มเศร้าขึ้นมาบ้างแล้ว

"จะปีใหม่แล้วนะ" ผมพูด "พี่อยากเคาต์ดาวน์กับสตาร์"

"สตาร์ก็อยากเคาต์ดาวน์กับพี่ดิน"

"แล้วเมื่อไหร่เราถึงจะกลับมาคุยกันได้"

"ตอนที่พี่ดินมีที่เรียนแล้วมั้งครับ"

"เฮ้ย" ผมร้องเสียงหลง "นั่นมันนานมากเลยนะ ดีไม่ดีอาจจะถึงตอนแอดมิชชั่น"

"สตาร์รอไหว"

"..."

"สตาร์หวังดีกับพี่ จริงใจกับพี่ร้อยเปอร์เซ็นต์" สตาร์ยิ้มเศร้า "ยังไงก็ไม่มีใครใหม่แน่นอน"

"เรื่องนั้นพี่ไม่กังวลหรอก ที่พี่ซีเรียสคือพี่จะคิดถึงมากเนี่ยสิ"

"พี่ดินมีไอจีสตาร์นะ"

"ไอจีอะไรอัพแต่รูปหมารูปแมวรูปวันเกิดเพื่อนอ่ะ!"

"จะอัพรูปตัวเองบ้างแล้ว สัญญา"

"ไม่เอาดิ" ผมกระทืบเท้าเป็นเด็กๆ "ไม่เอา พี่ไม่ต้องการแบบนี้"

"มีที่เรียนเร็วๆ สิครับ"

"..."

"เพื่อตัวพี่เองนะ"

ผมเดินไปเดินมาทั่วห้องอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน ไอ้พวกที่อยู่หน้าประตูห้องลุ้นกันใหญ่เหมือนคิดว่าจะมีฉากจูบอะไรให้เห็น พวกมึงจะบ้าเหรอ กูรู้สึกเคืองจนจะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย

"นี่คือสิ่งที่เด็ก ม.6 จะต้องเจอใช่ป่ะ"

"อะไร"

"แฟนขอห่างด้วยเนี่ย"

"แฟนที่ไหน ใครแฟนพี่" สตาร์บ่ายเบี่ยง

"ปฏิเสธไปก็เปลืองน้ำลายเปล่าๆ น่า"

"นี่พี่ขอสตาร์คบแล้วเหรอ"

"กำลังขออยู่นี่ไงตอนนี้"

"หา ง่ายๆ อย่างนี้เลยเหรอ"

"ก็ใช่ไง"

"..."

"ใครบอกให้พี่ต้องห่างไปล่ะ ถ้าจะห่างขอห่างแบบมีสถานะดีกว่า"

"เราจะเป็นแฟนกันทั้งที่ไม่มีไลน์ ไม่มีเบอร์โทรศัพท์กันเลยนะ"

"เราชอบกันตั้งแต่เรายังติดต่อกันไม่ได้อีก เรื่องแค่นี้มันจะเป็นไรไปล่ะ" ผมพูดเหมือนเด็กเอาแต่ใจก่อนจะมองสตาร์แบบลุ้นๆ "ว่าไง"

"พี่ดิน" สตาร์อดยิ้มออกมาไม่ได้ "นี่พี่ดินขอคบกับสตาร์จริงๆ เหรอ"

"ก็เออดิ ว่าไงล่ะ รีบตอบมา"

"..." สตาร์ไม่ได้ตอบแต่ก้มหน้าเขียนบางอย่างใส่โพสต์อิตก่อนส่งมาให้ คราวนี้ส่งให้สองใบถ้วนเลย

"เฮ้ย"

"อ่านอันนี้ก่อน"

"แล้วอีกอันล่ะ" นี่ถ้าผมเอามาเรียงกัน ผมได้ไลน์สตาร์เลยนะครับ! รู้สึกตื่นเต้นมากกับการได้ไอดีไลน์ของคนคนหนึ่ง

"เก็บไว้อ่านตอนที่พี่ดินมีที่เรียนแล้ว"

แม่เจ้า...แบบนี้เรียกว่าร้ายกาจแบบสุดๆ เลยนี่หว่า นี่มันคือการเตะตัดขากันชัดๆ แปลว่าถ้าผมไม่มีที่เรียน ผมก็จะยังติดต่อสตาร์ไม่ได้ ทำไมเป็นคนช่างวางแผนแบบนี้

อยากลาออกจากการเป็นเด็ก ม.6 เดี๋ยวนี้เลย

"อย่าเพิ่งทำหน้าแบบนั้น อ่านอันนี้ก่อน"

ผมก้มหน้าก้มตาอ่านด้วยหน้าตาที่บูดบึ้ง

ไอดีไลน์ตัวที่ 19
1
ครับ สตาร์จะเป็นแฟนพี่


แทนที่จะดราม่าผมกลับใจชื้นขึ้นมาเฉย รู้สึกเหมือนใจที่ห่อเหี่ยวของผมมีน้ำมาหล่อเลี้ยง

ถ้ามีสถานะแบบนี้ ถึงจะห่างกันไปผมก็อุ่นใจ!

ผมขยี้ผมสตาร์แก้เขิน คนที่ส่องดูอยู่ตรงกระจกห้องมองอย่างลุ้นๆ ว่าสตาร์เขียนอะไรลงไปกันแน่ ทำไมผมดูดีใจขนาดนี้


"แฟนพี่เหรอ สตาร์น่ะเหรอ"

"ก็พี่ขอใครคบเล่า"

ผมมองแฟนหมาดๆ ของตัวเองแล้วยิ้มแฉ่ง ก่อนจะถอนใจยาว "คงจะมีแต่ไอจีที่เป็นสื่อระหว่างเรา"

"ถ้าพี่ทนไม่ไหวก็เอาไอดีไลน์มาเรียงกันและก็แอดมาก็ได้"

"..."

"แต่สตาร์จะผิดหวังในตัวพี่มากเท่านั้นเอง"

"..."

"สตาร์เองก็ไม่มีความสุขหรอก แต่นี่คือสิ่งที่แฟนเด็ก ม.6 จะต้องเจอครับ"

ผมมองนัยน์ตาของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกซึ้งไปถึงขั้วหัวใจ ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าผมโชคดีมากใช่มั้ยที่มีแฟนที่เข้าใจและปล่อยให้ผมได้ไปทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเด็กวัยมัธยม

"จะต้องปล่อยให้เขาได้ไปทำตามความฝัน ระหว่างนี้ก็ห้ามสร้างเรื่องปวดหัวให้เขา คอยเป็นกำลังใจให้เขาอยู่ห่างๆ ทำให้เขาไว้ใจ ทำให้เขารู้ว่าไม่ว่าผลสุดท้ายมันจะเป็นยังไง เราก็จะอยู่ตรงนี้ไม่จากไปไหน"

"..."

"ผมคิดว่าแฟนเด็ก ม.6 ควรเป็นอะไรแบบนี้นะ"

ตอนนี้อยากกอดสตาร์มาก แต่ทำไม่ได้เพราะมีสายตาหลายสิบคู่กำลังจ้องอยู่

"เชื่อใจสตาร์นะ" สตาร์ยิ้มให้ผมอย่างหวานซึ้งที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา

"ไม่สิ" ผมพูดสวนกลับไปพร้อมรอยยิ้มเช่นกัน "สตาร์ต่างหากที่ต้องเชื่อใจพี่"

"..."

"พี่จะรีบมีที่เรียนไวๆ และเราสองคนก็จะได้ใกล้กันอย่างที่เราหวัง"

"..."

"รอพี่ก่อนนะ"

"รออยู่แล้ว รออยู่ที่เดิมนั่นแหละ"






กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของกูคนเดียว'

Din : กูขอฝากสตาร์ไว้ให้พวกมึงดูกันทุกคนเลย
Din : ใครรู้ตัวว่าอยู่ ม.5 ยิ่งต้องดู กูจะไปทำหน้าที่เพื่อชาติ!
CHOK : กูอยู่ ม.6 กูรอด ป.ล. เพื่อตัวมึงเองหรือเปล่า สัดดิน
FUEN : ทำไมพี่ไม่ดูเอง 555
AOF : ของน่ารักแบบนี้ต้องดูเองนะครับ ไม่งั้นไอ้คนที่มาดูมันจะงาบ
Din : สัดอ๊อฟ เห็นตีนกูมั้ย
AOF : โหดอ่ะ ไม่เล่นด้วยก็ได้
AOF : สตาร์มีพวกห้องหนึ่งมันดูให้อยู่แล้วนี่
TANG : ช่าย แค่ห้องหนึ่งก็เอาอยู่ เชื่อผม
PHYSICS : ขอบาย
PHYSICS : แค่ดูฟืนคนเดียวผมก็เหนื่อยแล้ว





TBC*
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 27-02-2018 19:54:47





ตอนที่ 20






เคยได้ยินมั้ยครับว่าความคิดถึงมันฆ่าคนได้ ผมกำลังประสบเคราะห์กรรมอันนั้นอยู่

ใจกูจะขาดแล้วสัดเอ๊ยยยยยย

dinphoodin น้องคนนั้นอ่ะ พี่คิดถึงโว้ยยยยยยย

starsatayu คิดถึงเหมือนกัน : )


สัปดาห์แรกที่ห่างกันเป็นสัปดาห์เป็นช่วงก่อนหน้าปีใหม่แค่สัปดาห์เดียว

ช่วงแรกเป็นอะไรที่ผ่านไปได้อย่างเชื่องช้าสุดๆ ผมต้องหาอะไรมาทำก่อนที่ตัวเองจะเป็นบ้า อ่านหนังสืออย่างบ้าคลั่งจนแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน อ่านจนเพื่อนหาว่าผมหมกมุ่น อ่านจนแม่ที่เคยเป็นห่วงว่าผมจะสอบไม่ติดถึงกับบอกให้ผมพักผ่อนเสียบ้าง มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ครับ

ผมสวนทางกับสตาร์ที่โรงเรียนบ้าง เราสองคนได้แต่ส่งยิ้มให้กันแต่ไม่ได้คุยกัน เวลาเข้าแถวสตาร์มองมาที่ผมบ่อยมาก ผมเองก็มองไปบ่อยเหมือนกัน มองจนไอ้โชคสะกิดแล้วสะกิดอีก ส่วนไอ้บู้ก็สะกิดสตาร์เหมือนกัน เป็นอยู่อย่างนั้นทุกวัน

บางวันไม่ได้ไปโรงเรียน (เปิดการ์ดเด็ก ม.6 ตามเคย) ผมก็แก้คิดถึงด้วยการดูไอจีสตาร์ซ้ำๆ (จำวันที่ที่โพสต์รูปหมารูปแมวได้หมดแล้ว) หรือไม่ก็เข้าไปดูตามเพจคิวต์บอยเผื่อจะมีแอดมินคนไหนใจดีเอารูปสตาร์ของผมไปลงบ้าง ปรากฏว่าผมไม่เห็นรูปสตาร์ครับแต่เห็นรูปตัวเอง พอไล่อ่านคอมเมนต์ดูเท่านั้นแหละ ผมปิดหนีแทบไม่ทัน ทำไมป้าๆ สมัยนี้ถึงได้หื่นกามกันนักนะ

หลังจากนั้นก็จะเป็นวันหยุดยาวปีใหม่แล้ว บ้านผมไม่มีแพลนจะไปเที่ยวที่ไหนทั้งนั้นเพราะเห็นว่าผมต้องอ่านหนังสือ ส่วนบ้านของสตาร์...ผมไม่รู้หรอกครับ ก็ได้แต่ลุ้นให้มันอัพไอจีให้ผมได้ดูบ้าง นั่นคือความหวังเดียวของผมจริงๆ





starsatayu Happy new year! รอฉลองกับพี่นะครับ

dinphoodin สวัสดีปีใหม่นะ : )


มันเป็นช่วงปีใหม่ที่เหงาแปลกๆ แต่ผมก็สมควรได้รับความเหงานั้น เวลาในการเตรียมตัวสอบของผมน้อยลงไปมากเมื่อนับนิ้วมือดูดีๆ ตอนนี้ผมเริ่มกระจายใบสมัครไปทั่ว ที่แน่ๆ มีทั้งมอ A และมอ B ซึ่งเป้าหมายของผมอยู่ที่มอ A ครับ มันเป็นความฝันของพ่อผมและก็เป็นความฝันของสตาร์ด้วย

ตอนนี้ความฝันของมันก็คือความฝันของผมไปแล้ว ผมไม่ขอห่างจากน้องอีกแล้วแม้จะรู้ว่าปีหน้าจะเรียนคนละที่ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ขอเข้ามอ A ไปก่อนรอสตาร์เข้าตามมา ใครจะหาว่าผมสนใจเรื่องรักมากกว่าเรียน ใช้รักนำทางชีวิตอะไรก็ว่ากันไปเถอะ ผมรู้แต่ว่าถ้าได้เรียนมอ A จริงบ้านผมปิดซอยฉลองแน่ ก็มันเดินเข้าง่ายๆ ซะที่ไหนกันล่ะครับ การแข่งขันสูงลิบชนิดที่ว่าเพื่อนผมหลายคนถอดใจไม่สมัครกันเลยทีเดียว

เมื่อรู้ว่าเป้าหมายคืออะไรแล้ว เราก็ทำได้แค่พุ่งไปหามันเท่านั้น

ยอมรับว่าตอนนี้จิตใจผมอ่อนแอ ขาดความชุ่มชื่นเอามากๆ ผมทำได้แค่อ่านหนังสือไปเรื่อยๆ แก้คิดถึงเท่านั้น แม้จะมีเจอกันบ้างที่โรงเรียน เดินสวนกันที่โรงอาหาร มันก็ยังไม่พอกับใจที่คิดถึงน้องมากๆ ของผมอยู่ดี

เมื่อไหร่จะมีที่เรียน

เมื่อไหร่จะผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไป

เมื่อไหร่ผมกับสตาร์จะได้คู่กันจริงๆ สักที






dinphoodin นับถอยหลัง ม.6 อีกไม่นานแล้วสิ ป.ล. เรื่องของเราก็อีกไม่นานแล้วสิ : )

starsatayu รอไม่ไหวแล้ว : )


ชักจะชอบอีโมตัวนี้แล้วสิ : ) พอผมชอบพิมพ์อีโมนี้ สตาร์ก็ชอบตามผม กลายเป็นว่าผมทึกทักเอาเองว่าอะไรก็ตามที่มีอีโมอันนี้ย่อมหมายถึงผมทุกอัน ไอจีสตาร์เริ่มมีรูปของเจ้าตัวมากขึ้น พอๆ กับคอมเมนต์แซวที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ข่าวของผมกับสตาร์คงกระจายไปทั่วทุกหัวระแหง รุ่นน้องรุ่นพี่รุ่นไหนๆ ต่างก็เข้ามาเชียร์มาแซวกันเป็นว่าเล่น ผมกับสตาร์ก็ไม่ตอบโต้ ปล่อยเขาแซวกันไปเพราะมันคือความจริง จะว่าไปผมก็ได้ยิ้มและหัวเราะจากการอ่านคอมเมนต์กวนบาทาของคนพวกนี้นี่แหละ

บรรยากาศของผมกับแม่ดีขึ้นมาก ราวกับว่าเราไม่เคยทะเลาะกันเลย จะว่าไปแม่เองก็รู้สึกผิดที่จับผมแยกกับสตาร์ดื้อๆ แต่แม่ก็คอยย้ำกับผมเสมอว่าถ้ามีที่เรียนแล้วแม่จะไฟเขียวและจะไม่ยุ่งอะไรด้วยอีก แม่เป็นคนทำตามคำพูดครับ ผมอยากจะใช้โอกาสนี้ขอแม่ซื้อรถใหม่ให้จริงเชียว แต่ก็กลัวแม่จะเขกกบาลผมกลับมาแทน แหม ก็ผมอยากมีพาหนะใช้ไปหาสตาร์ที่โรงเรียนนี่หว่า มีรถมันง่ายกว่าเยอะเลยว่างั้นมั้ย

ผ่านไปหลายสัปดาห์ ผมชักจะมองเห็นข้อดีที่เราสองคนเลือกที่จะอยู่ห่างกัน เพราะมันทำให้ผมได้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนได้อย่างเต็มที่ เพื่อนที่บางคนผมเห็นมาตั้งแต่สมัยประถม บางคนที่เรียนห้องเดียวกับผมมาตั้งแต่ ม.1 กลายเป็นว่าผมได้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนหลายคนจนรู้สึกว่าแม่งโคตรจะคุ้มค่ากับชีวิตวัยมัธยม

หรือสตาร์อยากจะปล่อยให้ผมเก็บความทรงจำตรงนี้ไปด้วยวะ








dinphoodin จบไปกูต้องคิดถึงพวกมึงมากแน่ๆ เลย #ดึงดราม่าแป๊บ

starsatayu โอ๋ๆ อย่าดราม่าดิ


เวลาผ่านไป เผลอแป๊บเดียวนี่ก็จะเป็นเวลาสุดท้ายของชีวิตการเรียนมัธยมของผมแล้ว ผมยื่นคะแนนโควตาของมอ A และมอ B ไปเมื่อสัปดาห์ก่อนจึงใช้เวลาช่วงนี้หมดไปกับการพักผ่อนสมอง ถ้าไม่ติดก็เจอกันอีกทีตอนแอดมิชชั่นเลยละกัน

วันนี้ผมนั่งมองดูรุ่นน้องเล่นบาสอยู่ที่สนามบาสบนอัฒจรรย์ด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย คิดอะไรเรื่อยเปื่อยถึงช่วงเวลาท้ายๆ ที่ผมจะได้ใช้ในโรงเรียนนี้ มันมีครบทุกรสชาติเลยแฮะ สุข เศร้า เหงา และก็เซ็ง ที่แน่ๆ ผมได้สัมผัสกับคนที่ผมให้ความรักอย่างจริงจังถึงสองครั้ง

ครั้งแรกก็คือฟืนซึ่งมีแฟนเป็นคนที่กำลังชู้ตบาสอยู่กลางสนาม ตอนชอบฟืน ผมชอบเพราะรู้สึกชอบ ไม่ได้คิดอยากจะได้มาไว้ครอบครอง เพราะเหมือนใจผมรู้อยู่แล้วว่าตัวเองน่าจะผิดหวัง ไอ้สิกมันแสดงความเป็นเจ้าของกับฟืนตั้งแต่มันสองคนเป็นเพื่อนกันแล้ว เพราะงั้นขืนแข่งไปผมก็คงจะแพ้ เรื่องฟืนก็เลยเป็นความทรงจำที่นึกถึงทีไรก็อยากจะหลุดขำออกมาเสียให้ได้ ไม่ได้ขำตัวเองนะครับ แต่ขำไอ้สิก มันคงหึงน่าดูถ้ารู้ว่าผมคิดถึงเรื่องของฟืนอยู่

ส่วนครั้งที่สองก็คือสตาร์ เป็นครั้งที่อยู่ในปัจจุบันและก็น่าจะอยู่ในอนาคตด้วย ผมเจอสตาร์ตอนที่อกหักจากฟืน เป็นอะไรที่ผมค่อนข้างมึนและก็สับสนในตอนแรก แต่สุดท้ายผมก็แพ้ให้กับความน่ารักของสตาร์ รอยยิ้มฟันเหล็กที่ชวนละลาย รวมไปถึงนิสัยการพูดคุยที่ผมนึกถึงทีไรก็อยากจะฟังวนไปสักร้อยรอบ ผมชอบเวลาที่น้องพูดว่าชอบผม มันเป็นคำที่เจ้าตัวพูดอย่างจริงจังและแฝงไปด้วยความจริงใจ

จะว่าไปก็อยากจะฟังอีกสักครั้งจัง

"ยังไม่กลับเหรอพี่ดิน" ฟืนที่หอบเป้มาสองใบทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ผม ดูก็รู้ว่าเป้อีกใบเป็นของไอ้สิก

"ยัง แล้วทำไมมึงยังไม่กลับ" ตอนผมชอบฟืน ผมพูดกับฟืนเพราะมากเลยครับ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ฟืนก็ต้องกลับมาเจอกับพี่ดินเวอร์ชั่นหยาบคายตามเดิม

"ก็ไอ้เหี้ยนั่นอ่ะดิอยากออกกำลัง" ฟืนหันไปหาสิกที่กำลังโชว์ฟอร์มโดดเด่นอยู่กลางสนาม สิกหันมาหาฟืนบ่อยมาก ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นฟืนมานั่งกับผม ขืนเป็นงี้อีกสักพักมันก็คงจะเลิกเล่นและก็วิ่งตามมานั่งด้วยแน่ คอยดูสิ ผมให้เวลาไม่ถึงห้านาที
ไม่สิ สามนาทีก็พอ

"มันอยากออก มึงไม่อยากออก มึงก็กลับดิ"

"ไม่ได้น่ะสิครับพี่ วันนี้ต้องไปนอนบ้านมัน พ่อแม่มันไม่อยู่"

โห ได้ข่าวว่าเป็นคู่ที่สลับบ้านกันนอนและก็นอนด้วยกัน สงสัยจะเป็นเรื่องจริงแฮะ

"พี่ไม่ได้คุยกับสตาร์เลยเหรอ"

"อืม" ผมตอบทันควันพร้อมถอนใจ

"ทำได้ไงอ่ะ" ฟืนดูทึ่งมาก "ห่างจากสิกทีไร ผมทนไม่ไหวทุกที"

นี่คือช่วงเวลาของการอวดแฟนเหรอวะ...

"ก็ไม่รู้ มันเป็นสไตล์ของคู่กู"

"นั่งด้วยหน่อย" ไอ้สิกโผล่มาแทรกกลาง บอกเลยว่าไม่ถึงสามนาทีด้วยซ้ำ สองก็ไม่ถึง!

"ไม่เล่นแล้วเหรอ"

"ไม่เล่นแล้ว กลัวมึงเบื่อ"

ถุย พูดเอาใจเมียชัดๆ ผมใช้เท้าเขี่ยเท้าไอ้สิกด้วยท่าทางหาเรื่อง ไอ้สิกทำหน้าบูดใส่ผมพร้อมกับดื่มน้ำที่ฟืนเตรียมมาไว้ให้ แม่ง นี่มันคู่ในอุดมคติชัดๆ เลยนี่หว่า คนหนึ่งก็กลัวคนรอจะเบื่อ ส่วนคนรอก็แก้เบื่อด้วยการเดินไปหาน้ำมาเตรียมไว้ให้

กูยอมเลย

อย่าให้กูมีบ้างนะ

"แฟนไปไหนอ่ะพี่" ไอ้สิกเริ่มกวนประสาทผม

"ไม่รู้ อาจจะกลับไปแล้ว อาจจะเรียนอยู่ หรือไม่ก็อยู่ที่ไหนสักที่"

"ให้ถามให้เปล่า" มันยักคิ้ว

"ไม่"

"ผมก็ถามให้ได้นะ" ฟืนเขย่าโทรศัพท์

โว้ย กวนผมทั้งคู่เลย ผมมองไปทางอื่นอย่างขุ่นเคือง ใจมันอยากรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้สตาร์ทำอะไรอยู่ คนมันคุยผ่านแคปชั่นในไอจีมานานนะครับ!

"ไม่เป็นไร" ผมทำใจแข็งปฏิเสธไป

"เอาเลยฟืน ถ่ายเลย"

"เอางั้นเหรอ"

"เออ เดี๋ยวกูเดินลงไปข้างล่างให้"

สองคนนั้นคุยกันในสิ่งที่ผมไม่เข้าใจ ไม่นานนักผมก็ถึงบางอ้อ ฟืนมันกดถ่ายวิดีโอจะอัพสตอรี่ในไอจีอีกแล้ว

"พี่ดินทำไรอยู่พี่ ทำไมหงอยจัง"

"ถ่ายห่าไร" ผมหน้าบึ้งใส่โทรศัพท์ฟืนก่อนจะปัดมือมันเบาๆ

"หงุดหงิดอะไรขนาดนั้น" เสียงเหล่านี้เข้ากล้องไปแน่ๆ ฟืนกดอัพทันทีแบบไม่ดู จากนั้นก็กดเปิดกล้องหน้า ถ่ายสตอรี่อันถัดไป

"มึงจะทำอะไรเนี่ยยย" ผมร้องลั่น

"ยิ้มหน่อยสิครับ" ฟืนยิ้มใส่กล้อง เอียงมาทางผมเพื่อจะถ่ายผมด้วย

"ไม่เอาเว้ยยย"

ฟืนกดอัพ สิกเดินขึ้นมานั่งที่เดิมเหมือนต้องการพักเหนื่อยอีกหน่อย เดี๋ยวก่อน มึงสองคนทำอะไรลงไปเมื่อกี้

"พี่ดินไม่คุ้นเหรอ ผมเคยทำแบบนี้ตอนที่พี่เรย์กับสตาร์ไปกินอาหารญี่ปุ่นด้วยกันไง" ฟืนอธิบาย

ผมชักจะเข้าใจทุกอย่างแล้ว สิกเดินหลบไปแล้วให้ฟืนอัพสตอรี่เหมือนกับว่ามีผมอยู่กับมันแค่สองคน

"ช่วงนี้สตาร์เล่นไอจีบ่อย เดี๋ยวก็คงเห็น" ฟืนส่งยิ้มให้ผมก่อนจะหันไปหาสิก "หายเหนื่อยยัง"

"อืม" สิกเก็บกระเป๋าแล้วโบกมือลาผม "ไปนะพี่"

"ไปนะครับ"

ผมตกใจมาก ร้องเรียกตามทั้งสองคนเอาไว้ไม่ทัน

"ของขวัญวันเรียนจบจากผมกับฟืน" สิกส่งยิ้มให้ผมเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นมันก็โอบไหล่ของฟืนและก็วิ่งจากผมไปไกล ท่าทางอารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง

แผนของมึงจะใช้ได้ผลเหรอวะ ถ้าตอนนี้สตาร์นอนตีพุงอยู่บ้านล่ะ

ถึงจะเป็นอย่างนั้น...แต่ผมก็ยังรอ







"แฮ่กๆๆ"

"..."

"ไอ้พี่ดิน"

"..."

"พี่ดินว้อยยย!"

หูฟังของผมถูกกระชากออก คนลงมือก็คือสตาร์นั่นเอง เหงื่อของมันท่วมตัวไปหมด ท่าทางจะรีบมาที่นี่เอามากๆ

แผนของสิกกับฟืนอันนี้ได้ผลอีกแล้ว

คำว่า 'รักแรงหึงแรง' ของไอ้โชคลอยขึ้นมาในหัวของผมอีกครั้ง น่าจะเป็นความจริงเกี่ยวกับสตาร์ที่ปฏิเสธไม่ได้แล้วครับว่าสตาร์เป็นคนแบบนี้จริงๆ

...ก็เหมือนผมนั่นแหละ

"ร้าย ไหนล่ะฟืน" สตาร์ถามเสียงเข้ม มองซ้ายมองขวาเพื่อจะมองหาฟืน

"ไม่อยู่หรอก" ผมกลั้นขำ ดึงแขนสตาร์ให้นั่งลงข้างๆ "มันอยากให้เราสองคนคุยกัน หลังจากที่ไม่ได้คุยมานานมากแล้ว"

สตาร์เปลี่ยนสีหน้าแทบจะในทันที จากนั้นก็ทำปากเบ้

"เป็นอะไร" ผมตกใจ คิดว่าอีกฝ่ายจะน้ำตาไหล

"จะตายแล้ว"

"..."

"คิดถึง"

ผมดึงสตาร์เข้ามาโอบไว้หลวมๆ ทันที จากนั้นก็ปล่อยอย่างรวดเร็ว ตรงนี้สื่อเยอะครับต้องแคร์นิดนึง

"เหมือนกัน" ผมพูดความจริงจากหัวใจ

"เป็นไงบ้าง สบายดีใช่มั้ย"

"สบายดีสิ แต่แย่หน่อยที่ใจ มันต้องการใครสักคนมาดูแล"

สตาร์มองผมอย่างไร้อารมณ์แบบแกล้งๆ "อ้วกได้มั้ย"

"ก็มันจริงนี่"

"..."

"แล้วนี่เมื่อกี้อยู่ไหน"

"กำลังตรวจข้อสอบอยู่ในห้อง พอเห็นสตอรี่ก็เลยฝากเพื่อนตรวจและก็วิ่งมาที่นี่ ไอ้ฟืนนะไอ้ฟืน แสบฉิบหาย"

"ทำไมถึงไม่คิดว่าสิกจะอยู่ใกล้ๆ บ้างล่ะ" ผมหัวเราะลั่น

"ไม่รู้ ตอนหึงมันไม่มีเหตุมีผลอะไรทั้งนั้น มันก็แค่รู้สึกหึงอ่ะ"

โอเค กูเถียงไม่ได้เลยเพราะกูเป็นบ่อย...

"อีกไม่นานแล้วนะ" ผมพูดให้สตาร์ได้มีความหวัง

"อีกไม่นานเรื่องอะไร"

"ที่พี่จะจบ ม.6 มั้ง ให้ตายสิวะ"

"อ้าว ฮ่าๆๆ มันมีอีกไม่นานตั้งหลายเรื่องนี่"

"พี่ก็ต้องหมายถึงเรื่องของเราสิ"

"จะมีที่เรียนแล้วเหรอ!" ท่าทีของสตาร์ดูกระตือรือร้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เหมือนมันก็รออยู่เหมือนกัน ดีไม่ดีอาจรอมากกว่าผมอีก
 
"เชื่อใจพี่มั้ยล่ะ" ผมพูดพร้อมรอยยิ้ม

"เชื่อดิ"

"..."

"รีบมีที่เรียนได้แล้ว ใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว"

ผมเอานิ้วก้อยของตัวเองไปแตะกับนิ้วก้อยของสตาร์ที่วางอยู่

"ครับ"

"..."

"เชื่อใจพี่นะ"

สตาร์ยิ้มให้ผมอย่างหวานซึ้ง "ว่าแต่เก่งมากนะที่ไม่โกงดูไอดีตัวที่ยี่สิบแล้วก็แอดมาอ่ะ"

"พี่จะโกงทำไมเล่า แต่ถามไรหน่อยดิ ทำไมต้องมีไอดีไลน์ตั้งยี่สิบตัววะ เยอะฉิบหาย" ขอบ่นหน่อยเถอะครับ มีโอกาสทั้งที

"จริงๆ แล้วเคยตั้งสั้นๆ แล้วมีคนแอดเข้ามาเยอะมากจนเครื่องเหมือนจะระเบิด ไอ้บู้ก็เลยให้เปลี่ยนใหม่ เป็นไอดีที่ยาวๆ ไปเลย คนอยากแอดจะได้ขี้เกียจเดา"

"คนอยากได้จริงๆ ยาวแค่ไหนมันก็ไม่ขี้เกียจแอดหาหรอก เชี่ยบู้ใช้ตรรกะอะไรคิด"

"แต่มันก็ทำให้สตาร์ได้เห็นอะไรหลายอย่างในตัวพี่ดินนะ พี่ดินลองคิดดูสิ" สตาร์พูดอย่างจริงจัง "ตั้งแต่ไอดีตัวแรกจนถึงไอดีตัวนี้ เราผ่านอะไรกันมาบ้าง มันมีความทรงจำเต็มไปหมดเลยนะ"

ผมเถียงไม่ได้อีกตามเคยเพราะมันคือความจริง พอลองมองย้อนกลับไปผมเห็นแต่ข้อดีไม่เห็นข้อเสียของการที่สตาร์มีไอดีไลน์ที่ยาวเหยียด มันทำให้ผมได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับสตาร์ ได้เห็นอะไรหลายอย่างในตัวมันที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา และก็อะไรหลายอย่างที่เข้ากับผม

"อีกแค่ตัวเดียวเท่านั้นเนอะ" ผมยิ้มกริ่ม

"ช่าย"

"แอดหาวันแรกพี่จะทักทั้งคืนเลยคอยดู"

"อยากตอบจังเลยครับ"

"แหม เล่นตัวบ้างเหอะ" ผมยีผมคนข้างๆ อย่างหมั่นไส้

"เล่นตัวแล้วได้อะไรล่ะ ในเมื่อรู้สึกเหมือนกัน"

ผมว่าสตาร์นี่ไม่ธรรมดาแล้วว่ะ ถ้าน้องมันคิดเหมือนกันล่ะก็อย่าใช้คำว่าแสดงออกดีกว่าครับ ใช้คำว่าอ่อยไปเลย ถึงแม้ว่าน้องมันจะแสดงออกในแบบตรงๆ ก็ตาม แต่ผมก็มองว่ามันเป็นการอ่อยอยู่ดีอ่ะ เพราะมันพูดแบบนี้ทีไร ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกทีไป

จับลากเข้าห้องน้ำดีมั้ยเนี่ย...ห้องน้ำตรงนั้นว่างอยู่ป่ะวะ

"อยากจูบอ่ะ" ผมกระทืบเท้าอย่างเซ็งๆ

"เหมือนกัน"

โว้ยยย นี่ก็เรียกว่าอ่อยนะเนี่ย! ผมจะทำอย่างไรกับคนตรงหน้าดี นึกอยากให้ตรงสนามบาสคนหายไปหมดขึ้นมาเลย ผมจะได้จูบสตาร์อย่างที่ใจปรารถนาสักที

"พี่จะอดทนไว้"

"เดี๋ยวสตาร์ต้องกลับไปที่ห้องแล้วนะ ไปเอากระเป๋า"

"จะไปไหนต่อ"

"เรียนพิเศษครับ คอร์สนี้ใกล้ปิดคอร์สแล้ว"

"ดูแลตัวเองนะ" ผมมองตามอย่างอาลัยอาวรณ์

"พี่ดินจะไปส่งก็ได้นะ"

"จริงดิ" ผมร้องลั่นอย่างดีใจ

"ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วนี่เนอะ"

ผมหยิบเป้ตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ยืนตัวตรงพร้อมที่จะเดินตามสตาร์ไปในทุกที่ สตาร์หัวเราะถูกใจก่อนจะเดินนำหน้าไป นึกถึงวันเก่าๆ เลยครับแบบนี้ นี่ดีใจจนอยากจะเต้นไปทั่วเลยนะขอบอก ก็ผมไม่ได้ทำแบบนี้มานานมากแล้วอ่ะ

หมับ

ผมคว้าตัวสตาร์เอาไว้ก่อนที่มันจะเดินชนเสา อีกฝ่ายหัวเราะลั่นเมื่อเห็นว่าผมยังทำในสิ่งเดิมๆ ไม่นานนักก็มาถึงตึกห้องคิงที่เงียบฉี่เพราะเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ยังอยู่ในห้อง พวกห้องคิงก็เป็นอย่างนี้แหละครับ ไม่เข้มข้น ไม่เลิกเรียน ยิ่งช่วงใกล้สอบนี่ถ้าเอาถุงนอนมานอนที่ห้องได้ พวกมันคงทำไปแล้ว

"ตั้งใจเรียนนะ" ผมโบกมือลาเมื่อถึงหน้าห้องหนึ่งของสตาร์ ทำหน้าเซ็งอย่างอดไม่ได้

"เดี๋ยวสิพี่ดิน"สตาร์มีสีหน้าแดงก่ำจนผมงง

"อะไร"

"ต้องให้สตาร์เริ่มอีกแล้วเหรอ"

ผมเข้าใจในทันที สิ่งที่น้องหมายถึงก็คือจูบนั่นเอง แม้คราวนี้จะไม่นานเท่าวันที่อยู่ในห้องน้ำแถวห้องเรียนผม แต่มันก็หวานจับจิตจับใจซะจนผมไม่อยากลืม

ให้ตายเถอะ...น้องดาวแม่งก็ยังกร๊าวหัวใจพี่ได้เสมอ







"ฮัลโหล ว่าไงแม่"

[ดิน! มอ A ประกาศผลแล้วนะ!]

"หา เร็วไปป่ะ"

[กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด]

"...ปะ เป็นไงบ้างแม่ เป็นไงบ้าง!"

[จะเอาอะไร รถใช่มั้ย ได้ เดี๋ยวแม่จะคุยกับพ่อเอง!]

"เฮ้ยยยยยย"

[เปิดดูเองเลยลูก แม่กับพ่อดีใจมากเลยนะ ขอบคุณลูกมากเลยที่ตั้งใจ!]

"เฮ้ยยยยยยยยยย"

[กลับไปหาน้องสตาร์ได้แล้ว!]









TBC*
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 9 - 11 P. 4 18/02/18
เริ่มหัวข้อโดย: Chiffon_cake ที่ 27-02-2018 20:03:16





ตอนที่ 21
บทส่งท้าย





ผมอดกลั้นที่จะไม่บอกความจริงสตาร์เอาไว้ก่อน เพราะอีกแค่สองวันก็จะถึงวันที่โรงเรียนจัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศให้เด็ก ม.6 พอดี
มันเป็นวันที่ผมรู้สึกใจหายมากที่สุดในชีวิตมัธยมของผมแล้ว ผมเอาเสื้อนักเรียนมาให้เพื่อนเขียนเสื้อด้วย วันนั้นทั้งวันผมหมดไปกับการเดินเหินไปทั่วเพื่อที่จะให้เพื่อนทั้งในห้องและก็ต่างห้องเขียนเสื้อให้

ตอนบ่ายโรงเรียนผมมีกิจกรรมอำลาพี่ ม.6 ครับ จะให้รุ่นน้องยืนเป็นสองแถวและก็ปล่อยให้มอบดอกไม้แก่รุ่นพี่ ม.6 ที่จะเดินตรงกลางระหว่างแถวของรุ่นน้อง ทุกปีจะมีคู่รักที่หลบซ่อนอยู่ในหลืบหรือคู่รักที่เปิดเผยแก่สาธารณชนเล่นใหญ่กัน แต่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะเล่นใหญ่อะไรทั้งนั้น ผมทนไม่ไหวแล้ว มีเวลาเตรียมการแค่สองวัน ขอแค่สตาร์ยิ้มออกเป็นพอ

ความตื่นเต้นของผมผสมปนเปไปกับความเศร้าที่จะได้จากเพื่อนฝูง

ไอ้โชคตามผมไปเรียนมอ A แถมยังเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์เหมือนผมอีกต่างหาก รู้สึกเบื่อหน้าแม่งฉิบหายแต่ความดีใจมันมีมากกว่า ฮ่าๆๆ แบบนี้ก็แสดงว่าผมสามารถตามไปเพ้อถึงสตาร์ใส่หูมันได้แม้กระทั่งตอนที่นั่งเรียนอยู่ในมหา'ลัย แม่งโชคดีเป็นบ้า ไอ้โชคมันบอกว่าจะเลือกสาขาที่ต่างจากผมเพื่อที่จะหนีผม เชื่อสิ มันหนีผมไปไม่พ้นหรอก

มีอีกหลายคนที่ประสบความสำเร็จแตกต่างกันออกไป ธนัชเพื่อนผมติดตั้งแต่โควตามอ C ไปแล้วครับ ส่วนไอ้ไผ่มันรอผลมอ B อยู่ซึ่งอีกไม่นานก็คงจะประกาศ นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายคนที่สร้างความดีใจให้กับคนทั้งรุ่น ทยอยติดกันไปเรื่อยๆ หลายคนก็ติดมอ A เหมือนกันกับผมอ่ะ

ใช้เวลาทั้งวันไปกับการร่ำลาเพื่อน ในที่สุดตอนบ่ายก็มาถึง วันนี้จะเป็นวันที่ผมจะได้หลุดจากวงโคจรของเด็ก ม.6 อย่างเป็นทางการ ซึ่งบอกได้เลยว่าใจหายเหี้ยๆ นอกจากจะไม่ได้เจอเพื่อนคนเดิม ไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนมาที่โรงเรียนแล้ว ผมยังจะต้องเรียนคนละที่กับสตาร์...

สะเทือนใจกว่านี้ไม่มีอีกแล้วล่ะ

ตอนเดินแถวบอกเลยว่าน้ำตามันใกล้จะไหล แต่จะร้องไห้ไม่ได้เพราะผมคือพี่ดินของน้องๆ ผมได้กุหลาบสีแดงมาเยอะ ได้พวงมาลัยดอกดาวเรืองที่เหมือนจะไปหาเสียง ได้กล่องของขวัญ ได้โน่นนี่นั่นจากรุ่นน้องมาเยอะมาก ส่วนใหญ่เพราะผมเคยช่วยพวกมันให้หลุดพ้นจากตีนของไอ้เรย์ทั้งนั้น นอกจากจะซึ้งกับเพื่อนแล้ว ผมยังต้องมาซึ้งกับรุ่นน้องอีกเหรอเนี่ย

ที่เด็ดไปกว่ารุ่นน้องทั้งหมดก็คือรุ่นน้อง ม.5 ห้องหนึ่งครับ ตอนผมเดินไปถึงพวกมันวิ่งมาล้อมหน้าล้อมหลัง จากนั้นก็ปล่อยให้สตาร์กับผมอยู่ตรงกลาง สตาร์ส่งกล่องของขวัญมาให้ ยิ้มให้ผมอย่างเขินๆ และก็เดินออกจากวงล้อมไปโดยที่ผมยังไม่มีโอกาสได้พูดอะไรกับมันเลย

พวกสิก ฟืน ไอ้อ๊อฟ และก็ไอ้ตังรวมเงินกันทำกรอบรูปให้ผม เป็นภาพที่ผมเป็นหัวหน้ากองร้อยตอนเรียน ร.ด. ทั้งสี่เซ็นให้ผมบนกรอบพร้อมคำอวยพรแบบกวนตีนๆ ตามสไตล์ ผมบอกขอบใจพวกมันไปหลายยก แม้จะเพิ่งมาสนิทกันตอนที่ผมอยู่ ม.6 ก็ตามแต่ผมก็อยากสนิทกับพวกมันต่อไปจึงไม่ลืมที่จะทำปากขมุบขมิบบอกคนเหล่านั้นว่า 'เจอกันในไลน์นะ'

ในที่สุดพิธีการก็จบ ผมกับไอ้โชคเดินกลับรถที่วันนี้ผมเป็นคนเอามา มันกับผมแบ่งกันเสร็จสรรพว่าของของใครวางอยู่ตรงไหน ไอ้โชคติดรถผมมาโรงเรียนครับวันนี้ เพราะมันไปเป็นเพื่อนผมเอาของแต่เช้า

ของที่ว่านั่นก็คือ...ช่อดอกไม้

ผมคิดอะไรไม่ออกแล้วล่ะ อีกอย่างหนึ่งของสวยๆ งามๆ มันก็น่าจะคู่กับอะไรสวยๆ งามๆ สิ ผมหยิบช่อดอกไม้ช่อเบ้อเริ่มออกมาจากในรถพร้อมกับเสียบกระดาษที่พับเป็นรูปหัวใจเอาไว้ จากนั้นก็เดินตามหาสตาร์ไปทั่วกับไอ้โชค บรรยากาศในโรงเรียนยังเป็นบรรยากาศของการอำลาพี่ ม.6 แต่ผมไม่รู้ว่าสตาร์ไปไหน

"เด็กห้องหนึ่งอยู่ไหน สตาร์ก็อยู่นั่นนั่นแหละ"

ผมใช้สูตรนี้จากปากของไอ้โชค ในที่สุดก็เจอ พวกมันกำลังยืนอำลาพวกพี่ห้องคิงของมันอยู่ ผมแอบเห็นไอ้อาร์ตมาคุยกับสตาร์ด้วย เดี๋ยวเหอะมึง

"เฮ้ยมึง พี่ดินมา"
"พี่ดินมาเว้ย"
"สตาร์ พี่ดินมา"

ไม่ต้องเสียเวลาขอทางให้ยากเลยครับ เพราะเด็กพวกนั้นมันแหวกทางให้ผมเอง ทุกคนอ้าปากหวอกันใหญ่เมื่อเห็นช่อดอกไม้ในมือผม จากนั้นก็พากันยืนล้อมรอบเป็นวงกว้าง ทำเหมือนตอนที่ไอ้สิกมันจะขอฟืนเป็นแฟนเมื่อหลายเดือนก่อนที่สนามบินอ่ะ

เดี๋ยวนะพวกมึง กูไม่ได้จะเล่นใหญ่ กูแค่มาพูดกับสตาร์เฉยๆ!

คนที่ผมจะพูดด้วยทำสีหน้าไม่ถูกไปแล้ว สตาร์หน้าแดงพลางมองผมอย่างตื่นเต้น รอยยิ้มบนใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนหวานปนเขินอายจนผมเองก็เริ่มจะอายบ้างแล้วเหมือนกัน

"ตรงๆ เลยละกันนะ" ผมยื่นช่อดอกไม้ไปให้ "ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้พี่"

"..."

"กลับมาอยู่เคียงข้างพี่ได้แล้ว

"เฮ!!!!!!" เสียงคนรอบข้างทั้งปรบมือทั้งเฮ เรียกให้คนมามุงกันเยอะมาก

กูอายนะเว้ย พวกบ้า

"ขอบคุณครับ" สตาร์มองดูช่อดอกไม้ ท่าทางจะชอบไม่เบา เมื่อเห็นกระดาษเอสี่รูปหัวใจ สตาร์ก็ได้แต่ทำหน้าฉงน "อะไรเหรอ"

"แกะเลย"

"เหรอ ถ้างั้นฝากหน่อย" ผมรับช่อดอกไม้มาถือไว้ มองดูสตาร์แกะกระดาษรูปหัวใจด้วยสายตาลุ้นระทึก เมื่อแกะเสร็จสตาร์กวาดตาอ่านแป๊บเดียวก็ร้องจ๊ากจนกระดาษหลุดไปจากมือ

ทุกคนงงมากว่าสตาร์ตกใจอะไร แต่สตาร์ไม่ตอบใครทั้งสั้น มันวิ่งเข้ามาเขย่าไหล่ผมอย่างตื่นเต้น

"พี่ดิน จริงเหรอเนี่ย จริงใช่มั้ย!"

ดวงตาของสตาร์เต็มไปด้วยน้ำตาคลอหน่วย เฮ้ย น้องมันดีใจกว่าผมอีกอ่ะ

"จริงครับ"

"เฮ้ย!!!" สตาร์ใกล้จะร้องไห้แล้ว ไอ้บู้ผู้รักเพื่อนเสมอเห็นท่าไม่ดีก็เลยหยิบกระดาษที่หล่นบนพื้นไปดู

ประกาศผลการสอบโควตารับตรงมหาวิทยาลัย A
ขอแสดงความยินดี
นายภูดิน อัศวพลกุล
ผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์


"เหยดเข้! พี่ดินติดวิศวฯ มอ A!"

"เฮ!!!!!!"

เสียงเฮดังมากขึ้นกว่าเดิม ผมต้องบอกขอบคุณคนเหล่านั้นเพราะทุกคนล้วนแล้วแต่ยินดีกับผม ก่อนจะรีบเข้าไปดูอาการสตาร์ ไม่รู้ว่าใกล้จะเป็นลมแล้วหรือยัง

"สตาร์ โอเคมั้ย" ผมถาม อีกฝ่ายซ่อนหน้าไว้ใต้สองมือ ไอ้บู้เริ่มบอกให้คนอื่นกระจายไป ทุกคนก็ทำตามในสิ่งที่มันบอก

"ดีใจฉิบหาย"

"ฮ่าๆๆ"

"ดีใจกว่าสอบติดเองอีก"

"..."

"มอ A ด้วยนะ"

"..."

"จะไม่ต้องอยู่ห่างพี่ดินแล้ว"

"ห่างเหมือนเดิมแหละ ก็เรียนกันคนละที่นี่" ผมพูดติดตลก ในที่สุดสตาร์ก็เงยหน้าขึ้นมาให้ผมเห็นสักที

"ไม่รู้ จะห่างยังไงก็ไม่ได้ห่างแบบนั้นอีกแล้ว"

"..."

"ไม่เอาอีกแล้วนะ"

"ฮ่าๆๆ ครับๆ" ผมรับปาก "ไปหาไรกินกันเถอะ ไอ้โชคไปด้วยนะ" วันนี้ตลอดทั้งบ่ายไม่มีการเรียนการสอนแล้วครับ สตาร์ไปกับผมได้อย่างสบายใจหายห่วง

"ได้ครับ"

พวกเราโบกมือลาทุกคน จากนั้นก็เดินไปที่รถของผม








"ภูมิใจกับแฟนตัวเองป่ะ"

"โคตร!" สตาร์ชูนิ้วโป้งให้ "อยากได้อะไรเป็นรางวัลมั้ย"

มีแฟนเด็กแต่เป็นสายเปย์นี่มันน่าดีใจมั้ยครับ "แค่ของที่สตาร์ให้วันนี้พี่ก็โอเคแล้ว มันคืออะไรอ่ะ"

"แหะ มันคือบันทึกประจำวันของสตาร์ตั้งแต่ที่เราห่างกัน"

"เฮ้ย" ผมมองอีกฝ่ายอย่างทึ่งๆ "เขียนถึงพี่เหรอ มันตั้งหลายเดือนเลยนะ"

"ไม่รู้ ก็มันคิดถึงอ่ะ เลยต้องหาที่ระบาย"

"ของขวัญแค่นี้ก็พอนะ ดีใจมากเลยเนี่ย" ผมเอามือกุมอกเพราะดีใจจริงๆ

ไอ้โชครออยู่ที่รถแล้ว มันทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผมอย่างดีด้วยการวิ่งมาเอาช่อดอกไม้ไปเก็บไว้ให้

"มันไม่เหมือนกันอ่ะ ของขวัญปัจฉิมก็อย่างหนึ่ง ของขวัญสอบได้ก็อีกอย่างหนึ่ง"

"ของขวัญสำหรับพี่เหรอ แค่นี้ก็พอแล้วจริงๆ" ผมหยิบโพสต์อิตที่เก็บไว้ที่อกเสื้อขึ้นมาเขย่าให้สตาร์ดู

"โอ้โห" สตาร์มองอย่างตื่นตาตื่นใจ

"ยังไม่เคยเปิดดูเลย"

"ฮ่าๆๆ เปิดดูสิครับ"

ผมเปิดออกอ่าน จากนั้นก็ยิ้มอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าในนั้นเป็นคำว่าอะไร

ไอดีไลน์ตัวที่ 20
9
สตาร์รักพี่ดินนะครับ


"โห ใจพี่มาเลยว่ะ"

"เท่ป่ะ" สตาร์ยักคิ้ว ผมโอบไหล่อีกฝ่ายไว้ก่อนจะกระซิบข้างหู

"พี่ก็รักสตาร์นะ"

"..."

"ขอแอดไลน์ไปหานะครับ"







กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของกูคนเดียว'

STAR : กรุ๊ปนี้คืออะไร?
Din : เชี่ยยย ใครดึงเข้า
FUEN : ฮ่าๆๆ ไงมึง หวัดดี
AOF : ว่าไงน้องดาว
TANG : น้องดาวหวัดดีฮะ
CHOK : กูคือบิดาผู้ก่อตั้งคำว่าน้องดาว กูขอทวงเครดิต
PHYSICS : ฟืน เล่นแต่โทรศัพท์ สนใจกูหน่อย
STAR : มันมีมานานหรือยังกรุ๊ปนี้ 555
CHOK : ตั้งแต่ไอ้ดินมันขอไอดีไลน์น้องตัวแรกครับ
STAR : งั้นผมก็ถูกนินทาเยอะเลยสิ
AOF : ทุกวันอ่ะ
STAR : เฮ้ย พี่ดิน ทำไมทำงี้
Din : ก็มันต้องการที่ระบายอ่ะ
Din : ถ้าไม่มีพวกนี้เราก็ไม่ได้รักกันนะ รีบขอบคุณพวกมันเร็ว
AOF : ขอบคุณไรเล่า ขอเอ็มเค
TANG : ฟูจิ
FUEN : ปิ้งย่างบ้านไอ้เนม
AOF : เชี่ยฟืน ปิ้งย่างบ้านเนมมันของฟรีอยู่แล้ว
PHYSICS : ฟืน กูบอกให้มึงสนใจกูบ้างไง อย่าสนแต่โทรศัพท์
FUEN : ฟาย มึงก็เล่นโทรศัพท์อยู่ป๊ะ
PHYSICS : นอนหันหลังให้กูทำไม
AOF : เออ ศุกร์หน้าไอ้เนมนัดแดกที่บ้านมันอีกแล้วว่ะ
CHOK : ม.6 ไปได้มั้ย
AOF : มาเลยครับพี่ มาเลย
TANG : สิกมึงอย่าลีลา เร็วๆ ห้อง 1202 รีบเข้าเกม กูเปิดรออยู่
FUEN : นั่นไง เชี่ยสิก เล่นแต่เกม
STAR : สรุปแล้วกรุ๊ปนี้มันคือกรุ๊ปอะไรก็ไม่รู้...
Din : ในกรุ๊ปนี้พี่มีสาระที่สุดแล้ว
CHOK : ถุย อยากแคปตอนมึงคร่ำครวญให้น้องมันดูจริงๆ
Din : ไอ้สัด อย่า!







Din : นอนได้แล้ว

STAR : ยังไม่ง่วงเลย ขอคุยต่ออีกแป๊บ

Din : นี่คุยกันมาทั้งวันตั้งแต่ได้ไอดีกันแล้วนะ

STAR : คุยอีกไม่ได้เหรอออออ

Din : ได้สิ
Din : แต่ได้อีกไม่นานนะ เด็กมัธยมต้องรีบนอนแล้ว

STAR : ยังไม่รายงานตัวทำมาเป็นคุย

Din : ขอโม้หน่อยเหอะ
Din : พี่รออยู่มอ A นะ ไม่ติดไม่ได้แล้วนะ

STAR : ความกดดันมาอยู่ที่สตาร์แทนแล้วสินะ
STAR : ถ้างั้นพี่ดินเป็นแฟนเด็ก ม.6 พี่ดินต้องเข้าใจนะ

Din : เดี๋ยว

STAR : ถ้าต้องห่างกัน อาจจะ...

Din : ไม่ห่างแล้วโว้ยยยยย
Din : ถ้าจะอ่านหนังสือจะไปเฝ้าเช้าเฝ้าเย็นเลย คอยดู

STAR : จริงใจร้อยเปอร์เซ็นต์ป่ะ

Din : กับคนนี้ไม่เคยไม่จริงใจอ่ะ

STAR : เชื่อๆๆ
STAR : จะติดมั้ยวะ T_T

Din : ติดดิ
Din : พี่เชื่อใจสตาร์นะ

STAR : ใจมาเลย
STAR : ติดแน่ๆ ครับ : )











จบบริบูรณ์








talk : ขอทอล์กสักนิดสักหน่อยก่อนจากนะคะ
สารภาพว่าเขียนเรื่องของคู่พี่ดินกับน้องดาวจบหลังคู่ของสิกกับฟืนเลย
แต่พวกนางโดนดอง...โดนดองหนักมาก ดองข้ามปี
คนเขียนเป็นฝ่ายดองเอง ไม่ยอมส่งให้บ.ก.เองค่ะ ฮืออออออ

อารมณ์ในเรื่องค่อนข้างต่อเนื่องจากตอนพี่เขียนสิกกับฟืนมาก
มันคือเรื่องราวของคนอกหักมาเจอกัน
ทั้งคู่มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน เพียงแต่ว่ามีการติดต่อยากมาเป็นอุปสรรค

โดยรวมแล้วเรื่องนี้ใช้เวลาเขียนไม่นานเหมือนสิกกับฟืนค่ะ
แต่ขอบอกเลยว่าคนเขียนรักและผูกพันกับเซ็ตนี้มากๆ

อยากให้คนอ่านรู้สึกเหมือนกันน้าา

ถ้าอ่านแล้วรู้สึกยังไงก็เมนต์บอกได้นะคะ

ป.ล. เรื่องนี้วางขายเป็นหนังสือแล้ว
ติดตามได้ในแฟนเพจ Chiffon_cake's room เลยยย

สถานีต่อไป...พบกันได้ที่เรื่อง 'เล่นของเตี้ย' จ้า
ขอแอบกระซิบบอกว่าส่งต้นฉบับแล้วด้วย 5555555

หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: maplub_oyaya ที่ 27-02-2018 22:42:05
สตาร์น่ารักก :mew1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Lava_chocolate ที่ 27-02-2018 23:19:14
ชอบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 27-02-2018 23:52:46
ตอนจบ  ดูเร่งๆไปนะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 28-02-2018 01:05:24
น่ารักมากกกก ขอบคุณที่แต่งให้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 28-02-2018 02:20:05
น่ารักมากค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

เข้ามาคลิกรอ ... ทุกวัน
ตอนเห็นหนังสือเป็นเล่ม ๆ ในเฟซ
ยังแอบคิดว่า เอ๊ะ หรือคุณนักเขียนจะเทเรื่องนี้ซะแล้ว
แต่ ... ยังเชื่อมั่นในตัวคุณ เลยรอเรื่อยมา

สมหวังแล้ว ... ย้ำอีกครั้ง ขอบคุณมากนะคะ
ถ้ามีโอกาสกลับประเทศไทย จะไปอุดหนุนค่ะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 28-02-2018 02:48:56
ลืมบอกค่ะ ... ถึงแม้หนังสือจะพิมพ์เป็นเล่มออกมาแล้ว
แต่เผื่อไว้สำหรับ (ถ้ามี) ฉบับ Reprint นะคะ
ขอเฉพาะที่เด่น ๆ นะคะ นั่นคือ

ตอน 2 มีคำที่ ... อ่านแล้ว อืมมมม ไม่น่าใช่ ดังนี้ค่ะ
เพราะงั้นแต่ละมอที่ผมเล็งเอาไว้จึงมีแต่ การแข็งขัน อย่างแท้จริง
ในบริบทนี้ การแข็งขัน –น่าจะ— การแข่งขัน รึเปล่าคะ

ตอนที่ 16
ท่าทางของมันเหมือนพยายามสะกัดกั้นอารมณ์โกรธเอาไว้
"สกัด" นะคะ

ตอนที่ 17 (ถ้าจำตอนไม่ผิดนะคะ)
อัฒจันทร์ = ที่นั่งดูกีฬา สะกดแบบนี้ค่ะ "อัฒจันทร์" นะคะ
ไม่ใช่ อัฒจรรย์

ส่วนคำว่า – กระพริบ – ไม่มีค่ะ
จะต้องสะกดว่า กะพริบ เสมอนะคะ
ในเรื่องนี้ มีทั้งหมด 21 คำที่สะกด กระพริบ ค่ะ

ที่สะกดผิดอีกบ้าง ก็ตอนของบู้ --สเน่ห์ --- ต้องเขียน เสน่ห์ แบบนี้นะคะ
แล้วก็ตอนของสตาร์ คำว่า กระเทย ต้องเป็น กะเทย ไม่มี ร เรือนะคะ

ส่วนตอนของเรย์ --
"พี่ดิน เป็นไงบ้าง" จะไม่ให้ผมพูดว่านางฟ้าได้ไง ทั้งๆ ที่ทุกคนก็รู้กันดีว่าผมอันตรายจะตายห่า
น่าจะเป็น  "พี่เรย์ เป็นไงบ้าง" นะคะ

ที่เหลือ ก็มีพิมพ์ตกบ้าง เช่น ฝัน .. ตัว น หายไป หรือคำว่า เพราะ ที่สระเอหายไป
หรือ เหล็กจัดฟัน คำว่า ฟัน หายไป
ส่วนคำอื่น ๆ เช่นคำทับศัพท์ หรือคำที่เดาว่าเขียนเพื่อเลียนเสียง
อ่านแล้วก็ไม่อะไรมากค่ะ

-- ถ้าหากไม่พอใจที่ท้วงมา ขอโทษด้วยนะคะ
แค่เมื่อเจอเรื่องดี ๆ ก็อยากให้ทุกคำสวยงามอย่างถูกต้องที่สุด
เท่านั้นเองค่ะ

   
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-02-2018 02:55:31
ถึงตาพี่ดินต้องรอน้องดาวบ้างแล้ว คงรอไม่นานหรอก และก็จบจนได้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Princesse ที่ 28-02-2018 09:11:27
เหมือนใจจะไม่จบแค่นี้อยากให้มีต่อ อยากรู้ว่าน้องดาวจะกร๊าวใจแค่ไหนตอนอยู่มหาลัย  :mew2:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-02-2018 16:49:17
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 28-02-2018 22:00:57
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 28-02-2018 22:25:16
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆค่ะ
แต่เรย์นี่จะไม่มีคู่เลยหรอคะ? สงสารนางงงงงงง :mew4:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 28-02-2018 23:44:18
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆจ้า  ถ้าจะให้ดีมากต้องมีตอนพิเศษมาฝากคนอ่านบ้างนะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: เมียงู ที่ 01-03-2018 02:00:37
น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-03-2018 09:14:15
น่ารัก วัยรุ่นเบาๆ

ดินคือเพ้อมากจริงๆ ค่ะ อาการหนักไม่ปกตินะ พ่อเทพบุตรของน้อง
พอได้ชอบแล้ว คือ ไปเลย หลงหนักไปเลย ยังไม่ได้เป็นแฟน
ก็มีอาการหวง หึง ล่วงหน้าไปไกล แต่น่ารักดีนะ และที่บ้านจริงจังแต่ชิลดี

สตาร์น่ารักมาก พ่อน้องคือไม่ห้าม คืองานดีจริงๆ
สตาร์เป็นคนดี มีน้ำใจ แบบไม่ต้องร้องขอ
และเรื่องอ้อน เรื่องอ้อย ขอให้ได้ทำ ตั้งใจหมดแหละ
ไม่ทำให้อยากแล้วจากไปด้วยนะ ยินยอมมาก

โชคคือเพื่อนที่ดี ชงด้วย ห้ามด้วย ไม่ทีมเพื่อนจนเวอร์
ทีมน้องดาวช่วยได้มาก ทั้งป่วน ทั้งรั่ว และลุ้นไปด้วย

เพื่อนสตาร์ตลกดี ต้องแคร์กันมาก ถึงทำให้กันได้ขนาดนี้

สตาร์คนจริง น้องชัดเจนแต่แรก

มีพิงค์ต่อไหมคะ มีความอยากอ่าน

ขอบคุณมากนะคะ เป็นกำลังใจให้ต่อไปจ้า
และตามไปอ่านเล่นของเตี้ยตอนต่อจ้า
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 01-03-2018 13:32:31
เยยย้ น่ารักมากๆ เลยเรื่องนี้ ><
จะไปอุดหนุนเล่มค่าา อยากให้มีตอนพิเศษเป็นตอนที่พวกนี้เข้ามหาลัยแล้วจัง จะมีมั้ยนะ 555
ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-03-2018 17:55:38
ตามมาตั้งแต่สิก-ฟืนแล้ว ต่อเนื่องกับดิน-สตาร์ ชอบมากกกก~ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: imseries ที่ 01-03-2018 19:01:07
โอ้ยยยน่ารัก :ling1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: imseries ที่ 01-03-2018 20:01:26
พี่ดินสู้ๆ :z2:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: imseries ที่ 01-03-2018 21:24:19
สู้กันยาวๆๆนะจ๊ะพี่ดิน
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-03-2018 01:23:15
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 03-03-2018 02:29:27
ชอบมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TheGraosiao ที่ 08-03-2018 12:08:09
ขอบคุณนะคะ

 :3123:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 12-03-2018 23:56:21
น่ารัก o13
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 13-03-2018 10:51:16
 :pig4: ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 14-03-2018 00:04:49
หาคู่ให้พี่เรย์ด้วย....น่ารักนะเด็ก ๆ วัยใส
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 16-03-2018 04:32:24
ใสๆ ชอบกรุ๊ปไลน์ ตบมุกกันได้ฮามาก  :m4:  ว่าแต่สิกได้ลูบ...ตามที่ตกลงกันไว้หรือยังจ๊ะ 555
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 21-03-2018 06:36:39
สนุกมาก ชอบความคิดคนเดียวของพี่ดินอ่ะตลก

ชอบที่ทั้งน้องดาวแล้วก็พี่ดิน มั่นคงในความรู้สึก มันดีมากก

และที่กร๊าวใจมากคือ สิกค่ะ เอ็งจะติดฟืนอะไรขนาดนั้น

ก็รักมากอ่ะเนอะ ,, ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 25-04-2018 23:12:21
น่ารักโว๊ยยยย

เป็นคำนิยามที่เหมาะกับสตาร์ที่สุดเลยค่ะ

หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 28-04-2018 01:23:35
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ
สตาร์น่ารักมากกกกก
แต่พี่ดินน่ารักกว่าในความคิดเราา
ทำไมชัดเจนขนาดนี้
ตามจีบน้องขนาดนี้ คือรักจริงหวังแต่งมากๆ
นิสัยเหมือนกันทั้งคู่เลยด้วยย ลงตัวมากๆๆ
อยู่ด้วยกันแล้วแบบบฟินนน
เวลาหวานก้หวานมากๆๆๆๆ
แต่ก้เสี่ยงตีกันด้วยเพราะนิสัยเหมือนกันเกิ๊นน
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Naamtaan22 ที่ 18-05-2018 23:37:30
น่ารักมากเลย ขอบคุณค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 01-06-2018 22:10:38
น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Parapoyfaii ที่ 04-12-2018 03:32:48
จบแล้วนอนได้55555
พี่ดินน้องดาววว น่ารักไปหมด ไม่ไหว
ชอบในความมั่นคงของ2คนเลย
สตาร์คือน่ารักแต่ไม่ได้ดูงี่เงาอ่ะ ชอบนายเอกแบบนี้
โตไปต้องเป็นควีนนนน55555
ขอบคุณคนเขียนนะคะสำหรับนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 04-12-2018 17:41:18
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 14:06:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 06-12-2020 19:35:58
คือแบบว่า น่ารักทุกคนเลยครับ    เรย์เป็นน่าสงสารที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: เกี๊ยวกงจื่อ ที่ 11-12-2020 14:42:38
น่ารักมากเลยครับบ ^_^
หัวข้อ: Re: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 04-10-2021 15:20:01
 :pig4: :pig4: น่ารักที่สุดเลยค่ะไม่ทราบว่าหลังจากเรื่องของสตาร์กับพี่ดินเเล้วมีคู่ของเรย์ไหมคะ