ตอนที่ 8
หลังจากนั้นก็ถึงช่วงเวลาปิดเทอม
เรื่องของผมกับสตาร์เหมือนกดไปถูกปุ่ม Pause เอาไว้ หลังจากที่สตาร์กลับมาจากฮ่องกง เราทั้งสองก็ต่างคนต่างยุ่ง สตาร์เรียนหนักมากทั้งยังต้องเตรียมสอบปลายภาคด้วย ส่วนผมก็มีเตรียมสอบหลายอย่างทั้งสอบปลายภาคและก็สอบโควตามอ C ที่สมัครไว้ก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้นผมจำใจต้องยกสตาร์ขึ้นหิ้งไปก่อนแล้วหันมาจริงจังกับอนาคตของตัวเอง ซึ่งก็ทำได้ยากมากครับ มีอยู่หลายครั้งที่ผมสมาธิแตก กดโทรศัพท์เข้าไปเช็กดูไอจีของสตาร์อยู่เรื่อย
สตาร์เองก็เหมือนจะแกล้งผม เขาคงรู้ว่าผมเช็กบ่อยมั้งถึงไม่อัพอะไรอีกเลยแม้กระทั่งสตอรี่ ตั้งแต่อัพรูปที่ฮ่องกงคราวนั้นไอจีสตาร์ก็เหมือนจะร้างไปอีกรอบ นี่เป็นวิถีของเด็กห้องคิงใช่มั้ยครับ เล่นโซเชียลน้อยๆ อ่านหนังสือมากๆ งี้ แต่พอเข้าไปดูไอจีเชี่ยบู้ที่อัพนั่นอัพนี่มั่วไปหมด ผมก็คิดได้ว่าไม่ควรเหมารวมทุกคนว่ะ
ในที่สุดผมก็พาชีวิตตัวเองผ่านช่วงสอบปลายภาคของ ม.6 เทอมหนึ่งสักที ณ ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องทำก็คือทุ่มเทเวลาให้กับการอ่านหนังสือเตรียมสอบโควตา ผมอยู่บ้านจนพ่อกับแม่เบื่อขี้หน้า บางครั้งผมก็อ่านหนังสือหนักจนเซ็งก็ออกไปเดินเล่นที่สยามบ้างไรบ้าง วันนี้ก็เช่นกัน
ผมอยากบังเอิญเจอสตาร์อีกครั้งเหมือนกับวันนั้น
ถ้าจะจีบใครไม่ต้องใช้วิธีแบบผมนะครับ ขอไอดีไลน์ไปเลยง่ายกว่า แบบนี้ทั้งติดต่อไม่ได้ ทั้งต้องลุ้นให้มันมีความบังเอิญเกิดขึ้นอีก ซึ่งผมรู้ว่าโอกาสที่จะเกิดมันยากมากกกก แต่ผมก็ยังอยากจะลุ้นให้มันเกิดอยู่ดี
ผมคิดถึง...จนจะแย่อยู่แล้วครับ
วันนี้คนที่มาเดินเล่นเป็นเพื่อนผมคือไอ้โชคเจ้าเก่า 'ไอ้ไผ่' ที่ยังพยายามตามหาสไปรท์เป็นของตัวเอง (มันโสดและชอบบ่นว่าชอบผู้หญิงแบบสไปรท์) และก็ไอ้อ๊อฟ เพื่อนของสิกกับฟืนที่ไม่รู้หลุดมาเดินกับพวกผมได้ยังไง
ไอ้โชคบอกว่าเห็นเด็กมันอยู่สยามพอดีก็เลยชวนให้มาด้วยกัน พวกเราก็จอยกันง่ายอยู่แล้วไม่ว่าจะรุ่นเดียวกันหรือคนละรุ่นก็เลยไม่มีใครอึดอัด ผมกับเพื่อนให้คำสัญญากันและกันว่าจะไม่มีใครพูดเรื่องสอบอะไรทั้งนั้นจนกว่าจะพ้นเย็นวันนี้ เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งเครียดน่ะครับ
ได้ข่าวว่ามีคนทยอยติดโควตากันไปแล้ว ฟังแล้วก็ยิ่งกดดัน นี่ถ้าเวลาผ่านไปเรื่อยๆ แล้วยังไม่มีที่เรียนกันอยู่อีก ผมคิดว่าต้องมีเครียดจนนอนไม่หลับกันไปข้าง
"สตาร์มันอยากเรียนไรนะ" หลังจากที่เลือกร้านกินข้าวกันเสร็จ ผมก็ยิงคำถามไปที่ไอ้อ๊อฟทันที
"ทันตฯ ครับพี่"
"มึงรู้ได้ไง"
"จำไม่ได้ว่าใครถามกันแน่ระหว่างเชี่ยสิกกับเชี่ยฟืนนี่แหละ ผมอยู่แถวนั้นพอดีผมก็เลยจำได้"
เริ่มเห็นประโยชน์ของการที่มีไอ้อ๊อฟมาร่วมวงด้วยแล้วล่ะครับ ไอ้ไผ่ เพื่อนในกลุ่มของผมมันมองมาที่ผมด้วยสายตาอึ้งนิดหน่อย
"ตกลงที่เขาลือๆ กันมาก็จริงอ่ะดิ มึงจีบน้องสตาร์อยู่ใช่มั้ย"
"เออ" ผมยอมรับตรงๆ
"เหยดเข้"
"ข่าวไอ้ดินมีเรื่องไรบ้างที่ไม่จริงวะ" ไอ้โชคหัวเราะ
"แล้วหยกล่ะ ที่เขาตามมาง้อมึงวันนั้น ตกลงมึงไม่เอาเขาแล้วเหรอวะ"
มึงควรพูดจาให้เกียรติเพศแม่ด้วยไผ่ เพราะงี้ไงมึงถึงยังไม่มีสไปรท์เป็นของตัวเอง
"กูงงมาก" ผมพูด "อยู่ดีๆ เขาก็กลับมา ทุกวันนี้เขาก็ยังไลน์มาทักกูอยู่ว่าตกลงกูจะเอายังไง กูก็บอกไปแล้วว่ากูเลิกแล้ว จบแล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมว่ะ"
หยกไลน์มาไม่หยุดจริงๆ ครับ ทั้งๆ ที่ผมก็บอกทางไลน์ไปแล้วว่าผมจริงจังกับคนที่กำลังจีบอยู่ แต่ดูเหมือนผู้หญิงเขาจะไม่ยอมง่ายๆ ทั้งๆ ที่หายไปนานมากแท้ๆ แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ถึงกลับมาได้ ผมเองก็งงเหมือนกัน
ผมเคยบอกว่าจะคุยกับหยกทีหลังก็จริง แต่เมื่อเคยมีเหตุการณ์ที่สตาร์เห็นผมอยู่กับหยกเพียงแค่ชั่วขณะ เขาถึงกับบินหนีผมไปฮ่องกงเลย และถ้าน้องมันมาเจอผมนั่งเคลียร์กับหยกเป็นเวลานานสองนาน ผมเลยกลัวน้องแม่งจะบินหนีผมไปดูแสงเหนือและก็ไม่กลับมาอีกเลยครับ (คิดไปเองแบบเว่อร์ๆ ไว้ก่อน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่) เพราะงั้นป้องกันเอาไว้ก่อนด้วยการบอกปัดหยกทางไลน์ดีกว่า
ทว่าดูเหมือนมันจะไม่ได้ผลเอาซะเลย เพราะเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหยกก็เพิ่งทักมา
"มึงไม่ต้องคิดให้มันยากเลยเพื่อน" ไอ้กูรูด้านความรักอย่างไอ้โชคขอทำหน้าที่อีกครั้ง "เพราะเขาเห็นว่ามึงจริงจังกับคนนี้มากไง เขาถึงยิ่งอยากกลับมาหามึง เหมือนมาคิดได้ทีหลัง"
"สมัยฟืนกูก็จริงจังนะ" ผมพูดลอยๆ
"มึงจริงจังแต่ดูยังไงมึงก็นกไง เขาก็เลยยังไม่กลับมา"
"เดี๋ยว นี่มึงว่ากูป่ะเนี่ย"
"หน้าอย่างพี่ดินยังนกเลยเนอะ" ไอ้อ๊อฟเคาะตะเกียบเล่นๆ ผมชูกำปั้นใส่มันเป็นเชิงขู่ "ผมกับเพื่อนก็คุยกันอยู่ ใจพี่ดินน่ะเป็นของสตาร์แน่นอนอยู่แล้ว แต่ที่จะทำให้รักกันยากขึ้นคืออดีตของพี่ดินนี่แหละ"
"ยังไงนะ"
"นอกจากพี่หยกแล้ว ยังมีใครที่เป็นอดีตของพี่ดินอีกป่ะครับ เท่าที่จำได้ ผมว่าเยอะเลยนะ"
ผมกระพริบตาปริบๆ มองดูทั้งสามคนพากันวิเคราะห์อย่างจริงจังราวกับพวกมันกำลังเล่นหุ้น
"มันคบกับหยกนาน แต่ระหว่างนั้นมันก็มีกิ๊กเยอะมากมหาศาลล้านแปด" ไอ้ไผ่
"มันไม่เอาเขา แต่ผู้หญิงพวกนั้นอยากได้มันไง ช่วงนั้นหยกปวดหัวน่าดู" ไอ้โชค
"พี่ดินเป็นเสือเหรอครับนี่" ไอ้อ๊อฟ
"เดี๋ยวๆๆ มันก็แค่อดีตป่ะวะ ตอนนั้นกูก็ยังเด็ก กูปฏิเสธใครไม่ค่อยเป็นหรอก" ผมงึมๆ งำๆ "ถ้าคนที่เข้ามามีแต่สวยๆ พวกมึงจะอดใจไหวมั้ยล่ะ"
"นั่นไง" ไอ้อ๊อฟตบเข่าดังฉาด "วิถีคนหล่อจริงๆ ไม่ใช่พี่ดินนี่ทำไม่ได้นะ"
"จะยังไงก็ช่าง มันเป็นแค่อดีตแล้วเว้ย"
"..."
"ตอนนี้กูชอบสตาร์มาก มีอะไรหลายๆ อย่างในตัวมันบอกกูว่ามันคือคนที่ใช่สำหรับกูว่ะ"
"นี่มึงกะคบคนนี้จนถึงตอนแต่งงานเลยเหรอ" ไอ้โชคดูทึ่งๆ
"ถ้าใช่จริงกูก็พร้อมจะหยุด"
"แม่เจ้า" ไอ้ไผ่ตกตะลึง "นี่คือคำพูดของเด็กอายุสิบแปดเหรอ กูขอซูฮกเลย"
ผมพูดความจริงอ่ะ แต่ไม่เห็นมีใครเชื่อถือผมเลยสักคน แม้กระทั่งไอ้โชคที่เป็นเพื่อนสนิทผม นี่ผมชักจะคิดมากแล้วนะว่าผมคงดูไม่น่าเชื่อจริงๆ ขนาดเพื่อนผมยังไม่เชื่อผมเลย นับประสาอะไรกับสตาร์ล่ะ แต่เอาเถอะ เวลานี้ผมควรโฟกัสกับอาหารตรงหน้าที่เพิ่งมาเสิร์ฟก่อน เรื่องสตาร์เก็บไว้กังวลทีหลัง
เสือดินนั้นมันก็แค่อดีต ตอนนี้ผมพร้อมที่จะเป็นแมวตัวผู้ที่แสนจงรักภักดีของใครสักคนแล้วล่ะครับ
เคยมั้ยครับเวลาเจอใครในสยามโดยบังเอิญแต่เขามักจะไม่ใช่คนที่เราหวัง
ผมกำลังเผชิญกับเหตุการณ์นั้นอยู่ เดินเล่นกับเพื่อนๆ อยู่ดีๆ ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ จะถูกหยกกับสาวๆ โรงเรียนเดียวกันเดินเข้ามาทัก!
ไอ้พวกที่มากับผมก็ตาวาวกันใหญ่เพราะของขาวมาเสิร์ฟให้เป็นอาหารตาถึงที่ แต่ผมเนี่ยดิถึงกับตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ผมไม่เคยคิดว่าจะมาเจอหยกที่นี่ หยกทำเหมือนคำปฏิเสธของผมไม่มีผลใดๆ กับเธอเลยสักนิด ยังทำเหมือนเรายังเป็นเพื่อนกัน ไม่สิ ดูจากแขนที่เธอมาควงผมแล้ว ผมคิดว่าเธอกำลังทำเหมือนสมัยที่เราเป็นแฟนกันเด๊ะ
"ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมาเจอดินที่นี่ คิดว่ากำลังอ่านหนังสืออยู่บ้านซะอีก" หยกยิ้มแป้น ในขณะที่ผมนั้นได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ กลับคืนไป
"ก็มันเครียดอ่ะ เลยออกมาผ่อนคลายบ้าง" ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากไอ้สามคนที่เหลือ พวกมันส่ายหน้าดิกคล้ายกับเป็นโรคภูมิคุ้มกันสตรีต่ำ ไม่ค่อยได้ออกไปเจอผู้หญิงโดยเฉพาะผู้หญิงสวยๆ ก็เลยทำตัวไม่ค่อยจะถูก แต่อย่าไปวางใจคนพวกนี้ครับ แม่งก็เสือกันทั้งนั้น ไอ้โชคก็เสือคนหนึ่ง ไอ้ไผ่นี่ก็ใช่ย่อยเลย
พวกมึงช่วยกูบ้างดิวะสาดดดด
"กำลังจะไปไหนกันคะ พวกเรากำลังจะไปดูหนังพอดีเลย ไปด้วยกันเปล่า"
"เอ่อ...คือ...พวกเรากำลังจะพาน้องไปซื้อรองเท้าน่ะ" ผมคว้าไหล่ไอ้อ๊อฟมา "มันรีบๆ ด้วย ถ้ายังไงเดี๋ยวไปก่อนนะ"
"งั้นก็ไปด้วยกันสิคะ หยกก็อยากไปดูรองเท้าเหมือนกัน จะไปร้าน X กันใช่มั้ย รู้นะ" หยกหันไปหาเพื่อนๆ ของเธอ "พวกแกไปกันเลย เดี๋ยวฉันไปกับดิน"
เฮ้ย ถามผมหรือยัง
"คือว่า..." ผมพยายามหาข้ออ้าง แต่สาวๆ เพื่อนของหยกโบกมือลาและเดินหนีเธอไปเป็นที่เรียบร้อย ปล่อยให้หยกยืนอยู่กับชายวัยรุ่นทั้ง 4 คนอย่างพวกผมโดยไม่ห่วงสวัสดิภาพของเพื่อนใดๆ ทั้งสิ้น
ถ้างั้นแบบนี้ก็แปลได้อย่างเดียวครับ นั่นคือหยกต้องไปกับผมอย่างไม่มีเงื่อนไข
"เอาไง" ไอ้โชคดูตกตะลึง "ไปร้าน X ใช่ป่ะ"
ทุกคนงุนงงกับโปรแกรมที่กะทันหันโคตรๆ อันนี้ ผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่ไอ้โชคจะเป็นคนเดินนำทุกคนไปที่ร้านขายรองเท้าที่วัยรุ่นสยามหลายคนชอบไป
"ดินดูเซอร์ไพรส์ที่เจอหยกเนอะ"
"มาก" ผมรับคำ "หยกไม่ได้เตรียมสอบอะไรเหรอ"
"หยกคิดว่าจะเรียนมอเอกชนใกล้บ้านน่ะ"
"สบายเลยสิ"
"ก็ไม่สบายเท่าไหร่หรอก ยังไงก็ต้องยื่นคะแนน"
"อ๋อ เหรอ"
"แล้วดินล่ะ ยังอยากเรียนวิศวฯ เหมือนเดิมป่ะ"
"ยังจำได้เหรอ"
"ได้สิ ดินอยากเรียนคณะนี้มาตั้งแต่ ม.ต้นไม่ใช่เหรอ อยากเรียนตามพี่ชายของดิน พี่ภูพานไง"
ความจริงอีกข้อหนึ่งที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับตัวผมคือผมมีพี่ชายครับ เป็นฝาแฝดด้วย ชื่อ 'ภูพิงค์' กับ 'ภูพาน' พวกมันแก่กว่าผม 3 ปี สองคนนี้ไม่ได้มีผลกับชีวิตผมเท่าไหร่ผมก็เลยไม่ได้กล่าวถึงตั้งแต่ต้น ตอนนี้ภูพิงค์ไปเรียนถ่ายรูปที่ฝรั่งเศส ส่วนภูพานไปเรียนวิศวฯ อยู่อเมริกา ไม่ได้กลับบ้านมานานมากแล้วครับ
การที่สองคนนี้ไปเรียนอยู่ไกลบ้านมากๆ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พ่อกับแม่ประกาศิตให้ผมต้องเรียนอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น ที่สำคัญต้องอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย
"จริงๆ ก็ไม่ได้อยากเรียนตามไอ้พานหรอก แต่เราชอบจริงๆ น่ะ" ผมพูดจากใจ
"หยกเอาใจช่วยนะ ได้สมัครมอ C อยู่ใช่ป่ะ"
"สมัครๆ"
"ใกล้แล้วสิเนอะ สู้ๆ นะ"
ไม่ได้คุยกันตั้งนาน แต่พอได้คุยกันอีกครั้งก็ยังคุยกันได้ลื่นแบบนี้เลยเหรอ รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันแฮะ ผมไม่ได้ติดต่อกับหยกมานานมากแล้วอย่างที่บอก จู่ๆ เธอก็กลับเข้ามาในชีวิตผมคล้ายกับว่ารอคอยจังหวะมานานแล้ว แต่ไม่ว่าผมจะคุยกับเธอได้ไหลลื่นมากมายแค่ไหน ผมก็ชอบสตาร์ไปแล้ว
ผมเป็นคนรักใครรักจริงซะด้วยสิ
ร้าน X
แม่ง วันนี้มีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นกับผมอีกแล้ว และเป็นเรื่องบังเอิญที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นเหมือนกัน
สตาร์ที่ผมไม่ได้เห็นหน้ามานานกำลังลองรองเท้าอยู่ในร้าน X เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นคือคนที่มาเป็นเพื่อนมันดันเป็นคนที่ผมไม่อยากให้มาด้วยที่สุด
ไอ้เรย์
ตัวผมแข็งทื่อ มือของผมกำหมัดโดยอัตโนมัติ ไอ้โชคที่รู้ใจผมดีรีบเข้ามาคว้าตัวผมเอาไว้ มันกลัวว่าผมจะไปดึงสองคนนั้นแยกออกจากกัน
"เชี่ยดิน มึงใจเย็น"
"กูไม่เย็นแล้ว"
"มันอาจจะไม่มีอะไร น้องมันมาซื้อรองเท้า"
"มาซื้อกับกูก็ได้นี่ ทำไมต้องมากับไอ้ห่านั่นด้วยวะ"
"มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมไม่เดินเข้าไปในร้านล่ะ" หยกดูงงๆ ว่าทำไมพวกผมถึงพากันยืนอยู่หน้าร้านกันหมด
ผมฟึดฟัด พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้มากที่สุด แต่ยิ่งมองเข้าไปในร้าน ผมก็ยิ่งสัมผัสได้ว่าตัวเองฟิวส์ใกล้จะขาดเต็มที ไอ้เรย์มันดูแลสตาร์ดีมาก ดูแลอย่างกับเจ้าหญิง หยิบรองเท้าคู่นั้นคู่นี้มาลองใส่ให้อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย
นั่นสตาร์โว้ย ไม่ใช่ซินเดอเรลล่า
"เอาไงดีพี่" ไอ้อ๊อฟกระซิบกับผม "นั่นพี่เรย์เลยนะ สี่คนไม่น่าไหว"
นี่มึงกะจะรุมไอ้เรย์เลยหรือไง "สำหรับไอ้เรย์แค่กูคนเดียวก็พอแล้ว"
"พี่จะทำยังไง จะเข้าไปเลยมั้ย"
"ไม่รู้ว่ะ"
ผมยังไม่มีสิทธิ์หวงหรือหึงสตาร์ เพราะงั้นผมถึงทำตัวไม่ถูก ผมรู้ว่าตัวเองกำลังอารมณ์เสีย แต่ถ้าผมเข้าไปขัดขวางสองคนนั่น สตาร์ก็คงจะคิดว่าผมเป็นคนที่ไร้เหตุผล งี่เง่า อะไรเทือกๆ นั้น
"ดิน คู่นี้เป็นไงคะ" หยกผู้ไม่รู้เรื่องอะไรเลยหยิบรองเท้าผ้าใบสีชมพูเขย่าอยู่อีกฟากกระจกกั้น เธอเข้าไปในร้านตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมกับคนอื่นๆ งงมาก และที่งงไปกว่าพวกผมก็คือคนที่กำลังลองรองเท้าอยู่
สตาร์เห็นผมแล้ว มันดูตกอกตกใจไม่น้อย ในขณะที่ไอ้เรย์เลิกคิ้วมองผมอย่างเอาเรื่อง ราวกับผมเป็นตัวขัดขวางช่วงเวลาสวีทวิดวิ้วของมัน
กูไม่ได้มาขวางโว้ย
แต่กูมาทำลาย...
"รองเท้าจะสวยมั้ยก็ต้องเข้ามาดูใกล้ๆ ดิ" ผมเดินเข้าไปในร้าน จากนั้นก็พูดกับหยกด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานมากขึ้น
ไอ้โชคทำท่านวดขมับ จากนั้นก็พึมพำๆ เข้าหูผมว่า "วอร์แน่ๆ ไอ้เหี้ยเอ๊ย"
ในเมื่อผมทำอะไรไม่ได้ก็วอร์แม่งเลยแล้วกัน
คนอื่นๆ พากันยืนรออยู่หน้าร้าน ผมเข้าไปกับหยกแค่สองคน ในร้านคนที่เป็นลูกค้าอยู่มีผม หยก สตาร์ และก็ไอ้เรย์ จู่ๆ ร้านก็ไม่มีลูกค้าคนอื่นราวกับจงใจให้ผมก่อสงครามชัดๆ
สงครามที่ไม่ว่าผมจะมีพกอาวุธมามากมายแค่ไหน ผมก็แพ้
"บังเอิญเนอะ" ไอ้เรย์ทำหน้าไม่สบอารมณ์
"พี่เรย์ว่าคู่นี้เป็นไงครับ" สตาร์ขยับเท้าไปมาด้วยท่าทางน่ารักๆ
ผมกำหมัดแน่นอีกแล้ว
"สีชมพูหรือว่าสีฟ้าดีคะดิน" หยกผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ถามความเห็นผม
"สวยๆ แบบหยกเหมาะกับสีชมพูที่สุดแล้ว" ผมยิ้ม
"สีขาวหรือสีดำดีครับพี่เรย์" สตาร์ถามเรย์เสียงดัง
"สตาร์ชอบสีไหนล่ะ ถ้าชอบทั้งคู่ก็ซื้อสองคู่ไปเลย เดี๋ยวพี่จ่ายเอง"
ทำไมมึงต้องทำตัวป๋าวะเรย์ มึงรวยเพราะมึงไปไถตังค์รุ่นน้องโรงเรียนกูอ่ะดิ ฟายยยยยย
"งั้นหยกลองสีชมพูนะ"
"สีขาว" ผมพูดกับเธออย่างไร้สติ
"หา" หยกทำหน้าไม่เข้าใจ "ที่หยกถือมีแต่สีฟ้ากับสีชมพูนะคะ"
เฮ้ย นี่ผมเพิ่งปล่อยไก่ไปเหรอวะ คำว่าสีขาวลอยเข้าหูสตาร์แน่ๆ เพราะร้านมันก็ไม่ได้ใหญ่มากมายอะไร
"พี่เรย์"
"..."
"ผมซื้อสีขาวนะครับ เดี๋ยวผมจ่ายเอง"
สตาร์กำลังเดินไปจ่ายเงินค่ารองเท้า ในขณะที่ผมทิ้งตัวนั่งลงแทนที่มันด้วยท่าทางเครียดๆ หยกนั่งลงข้างผม กำลังลองรองเท้าสีชมพูอยู่ เธอลองไปด้วยและก็พูดไปด้วย
"ไหนดินบอกน้องจะมาร้านรองเท้าไง ทำไมน้องไม่เข้ามาล่ะ"
ผมได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ ให้เธอ ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะแก้ตัวอะไรทั้งนั้น ตอนนี้ไอ้โชค ไอ้ไผ่ และก็ไอ้อ๊อฟทุกคนต่างก็ยืนลุ้นอยู่หน้าร้าน ทำท่าเหมือนกลัวผมจะเผาร้านเขายังไงยังงั้น ไม่มีใครสนใจเรื่องที่เคยโกหกหยกเอาไว้เลยสักคนครับ
สายตาของผมมองไปยังไอ้เรย์ที่ยื่นมือไปช่วยสตาร์ถือของ ผมนึกไปถึงตอนที่สตาร์ส่งโพสต์อิทมาขอความช่วยเหลือ การกระทำของมันในตอนนี้ช่างย้อนแย้งกับข้อความนั้น มันไม่ได้มีท่าทีลำบากใจที่จะได้อยู่กับไอ้เรย์ ตรงกันข้ามมันกลับมีความสุขดีด้วยซ้ำ
บางทีที่ผ่านมาผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ว่ามันเองก็แอบมีใจให้ผมไม่มากก็น้อย ยิ่งเราสองคนแทบไม่ได้คุยกันเป็นเวลานานมากแบบนี้ ผมว่าไอ้เรย์มันคงชิงทำคะแนนไปจนได้ใจสตาร์ไปแล้วล่ะมั้ง
จากที่สตาร์เกลียดกลายเป็นสตาร์รักอะไรแบบนั้น
ส่วนผมก็เปลี่ยนจากคนจีบกลายเป็นคนที่มันไม่รู้จัก
แค่ไม่ได้คุยกันเลย สตาร์กลายเป็นคนแบบนี้ไปแล้วเหรอวะ #สามวันจากสตาร์เป็นอื่น
"ถ้าน้องไม่เข้ามาเลือกหยกจะออกไปแล้วนะ หยกเกรงใจคนที่มายืนรอน่ะ" หยกพูด
"โอเคครับ"
หยกเดินสวนกับสตาร์และก็เรย์ สองคนนั้นมองมายังผม จากนั้นก็เดินจากไป ไร้ซึ่งคำทักทายใดๆ
มันจะเป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ เหรอวะ
กว่าจะสลัดหยกได้ เรียกได้ว่าผมกับคนอื่นเหนื่อยโคตรๆ
หยกคือสายช็อปที่แท้จริงครับ ไม่เอารองเท้าร้าน X เธอก็ไปดูรองเท้าร้านอื่น ผมเกรงใจพวกที่มากับผมมาก แต่พวกมันดันลงความเห็นกันว่าอยู่เป็นเพื่อนผมนี่แหละน่าจะดีที่สุด ถึงพวกมันจะรู้อยู่แก่ใจว่าหยกอยากอยู่กับผมสองคนก็ตามทีเถอะ
ไอ้โชคบอกว่าถ่านเก่ายังร้อน ไม่หมดเชื้อไฟง่ายๆ ผมก็เลยด่ามันไปหลายคำ มันจึงตอบกลับผมมาว่าถ่านเก่าที่ยังร้อนน่ะไม่ใช่ผมแต่เป็นหยกต่างหาก
หยกไม่ได้มาเล่นๆ แน่ หยกมาเพื่อที่จะทวงผมคืนชัดๆ
หลังจากที่แยกกับหยก ผมก็แยกกับไอ้อ๊อฟและไอ้ไผ่ ไอ้โชคยังตัวติดกับผมเพราะมันติดรถผมมาที่สยามด้วย เราสองคนเมื่อได้อยู่ด้วยกันตามลำพังก็ชอบชวนกันไปต่อนั่นไปต่อนี่ วันนี้ก็เช่นกัน ไอ้โชคบอกว่าอาจจะลากผมไปที่บาร์เพื่อนพ่อแห่งหนึ่งสักหน่อย
อารมณ์ผมในตอนนี้ดิ่งขั้นสุด ผมตอบรับคำชวนของมันอย่างไม่ลังเล
ระหว่างที่ผมกับโชคกำลังเดินกลับไปที่รถ ผมก็ทันเห็นเงาของสตาร์อยู่แวบๆ มันแยกกับเรย์แล้วเหรอวะ
"เดี๋ยวกูมา" ผมบอกเพื่อน
"เออ กูสั่งยำอยู่แถวๆ นี้นะ"
"อืมๆ"
สั่งยำที่ว่าก็คือสูบบุหรี่นั่นแหละครับ บางครั้งมันก็ใช้คำว่าสูบยา แต่จะพูดว่าสูบยาก็ตรงไป กลัวคุณครูจะได้ยิน ก็เลยใช้คำว่าสั่งยำจนกลายเป็นความเคยชิน ผมพยักหน้าจากนั้นก็รีบเดินไปหาสตาร์ที่น่าจะกำลังเดินไปที่รถของตัวเองอยู่ รถที่คนขับรถหล่อเหมือนนายแบบ
"สตาร์" ผมเรียก คนถูกเรียกหันมา เมื่อเห็นว่าเป็นผมมันก็ตั้งท่าจะเดินหนี "เฮ้ย คุยกันก่อนดิ"
"ผมรีบครับ"
"พี่ก็รีบ"
"พี่จะไปไหน"
"พี่อยากคุยกับเราให้รู้เรื่อง"
"..."
"ตกลงกับไอ้เรย์นี่มันยังไง ชอบหรือเกลียดมัน เลือกมาสักอย่าง" ผมเริ่มเสียงดังด้วยความโมโห
"เฉยๆ ได้มั้ยครับ" สตาร์ตอบส่งๆ
"ไม่ได้"
"งั้นผมชอบ"
"..."
"ผมชอบพี่เรย์"
ผมอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง
"รู้แล้วใช่มั้ย ผมไปแล้วนะ"
หมับ
ผมรีบคว้ามือของสตาร์เอาไว้พร้อมกับบีบแน่น
"ผมเจ็บ" สตาร์ทำหน้าแหย แล้วผมก็ผมได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามาหา ก็คนขับรถของสตาร์นั่นแหละ พี่สมัยทำท่าจะเข้ามาดึงตัวผมออกจากคุณหนูของเขา "พี่สมัยไม่ต้องครับ"
คนถูกกระทำอย่างสตาร์ปฏิเสธคนที่เข้ามาช่วยเหลือ ผมรู้สึกผิดจนต้องปล่อยมือ เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองออกแรงมากไปจนมือของสตาร์แดงก่ำ
"ตกลงเรื่องของเราสองคนคืออะไรวะ" ผมโวยวาย "พี่งงไปหมดแล้ว บอกพี่มาดิ"
"มันเคยมีอะไรด้วยเหรอครับ"
"สตาร์เป็นอะไร ทำไมต้องแปลกๆ ไปด้วยล่ะ"
"พี่แหละแปลก ทำไมต้องควงหญิง"
"พี่มากับเพื่อน ไม่เห็นเพื่อนพี่เหรอ"
"ไม่เห็น"
"ตาถั่วแล้ว"
"ใช่ ผมตาถั่ว ตาถั่วที่คิดว่าพี่จะกลายเป็นความสุขของผม ตาถั่วที่คิดว่าพี่คือคนที่จะทำให้ผมกลับมายิ้มได้อีกครั้ง"
"..."
"พี่แม่งก็ไม่ต่างอะไรจากพวกผู้ชายที่หักอกผมหรอก"
ผมตกตะลึงเกินกว่าจะคว้ามือของสตาร์ไว้ได้ทัน พี่สมัยรีบเข้ามาดูแลสตาร์อย่างรวดเร็วพร้อมกับถลึงตามองผม ผมหงุดหงิดไปหมดจนเตะเสาแถวนั้นอย่างไม่แยแสว่าเสาจะแข็งแค่ไหน ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วทั้งขา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เท่าความเจ็บปวดที่อยู่ในใจของผม
คำว่า 'ผมชอบพี่เรย์' ลอยอยู่ในหัวผมซ้ำๆ อยู่แบบนั้น มันทำให้เท้าของผมหยุดชะงักอยู่กับที่ ทั้งร่างไม่มีปฏิกิริยาใดๆ มีเพียงแต่สายตาของผมที่มองไปยังแผ่นหลังเล็กของสตาร์ซึ่งห่างออกไปทุกทีๆ
หรือเรื่องของเราสองคนจะไม่เคยมีอะไรจริงๆ อย่างที่สตาร์พูด
[พาร์ตของโชค]
แคปชั่นใต้รูปอินสตาแกรม Chok_luck
'รอเก็บศพไอ้ดิน'ณ ร้านบาร์สุราลัย
สวัสดีครับผมโชคเอง เป็นเพื่อนของไอ้ดิน พระเอกของเรื่องนี้ และตอนนี้มันก็กำลังกรึ่มๆ ใกล้จะเมาเข้าไปทุกที พวกเรากำลังอยู่ที่ร้านบาร์สุราลัยซึ่งเจ้าของรู้จักกับพ่อผม เจ้าของร้านเป็นรุ่นน้องโรงเรียนของพ่อที่ค่อนข้างสนิทกัน ผมก็เลยให้พ่อโทรไปขอให้เด็กที่อายุยังไม่ถึง 20 อย่างพวกผมได้ดื่มแอลกอฮอล์กันในวันนี้
พ่อบอกว่ากว่า 'คุณเกล้า' เจ้าของร้านจะยอมเรียกได้ว่าขอแทบตาย คุณเกล้าไม่สนับสนุนให้เยาวชนดื่มตั้งแต่อายุยังน้อย แต่พ่อของผมกระซิบบอกว่าจริงๆ แล้วคุณเกล้าเขากลัวว่าลูกชายที่อายุอานามใกล้เคียงกันกับผมจะมาเห็น และก็จะโวยเมื่อเห็นว่าคุณเกล้าให้ผมดื่มได้ แต่ทำไมให้ลูกชายดื่มไม่ได้ เดี๋ยวจะดราม่าไปอีก
สรุปคือห่วงลูก ไม่ได้ห่วงเด็กอย่างผม
ประเด็นนั้นช่างมันก่อนเถอะครับ ตอนนี้ไอ้ดินกำลังคอพับอยู่หน้าบาร์ที่มีบาร์เทนเดอร์สวมเสื้อเป็นตัวเลข 7 กับ 9 อีกไม่นานเพื่อนผมมันก็คงจะกลายเป็นศพ และผมนี่แหละที่จะเป็นคนคอยเก็บศพมัน ดีนะที่พ่อบอกกับคุณเกล้าเอาไว้ว่าถ้าเด็กสองคนนี้เมาพับทั้งคู่ รบกวนเด็กที่ร้านไปส่งให้หน่อย คุณเกล้าก็ใจดี๊ดี รับคำอย่างว่องไวเลยทีเดียว
ไอ้ดินมันกำลังมีเรื่องเครียด ผมเข้าใจดี ตอนที่มันแยกไประหว่างที่ผมสั่งยำ ผมรู้ว่ามันเห็นน้องดาวเลยปล่อยให้มันคุยกับน้องดาวตามลำพังอย่างเต็มที่ ใครเล่าจะรู้ว่าตอนที่กลับมาหาผม มันจะกลายเป็นหมาบ้าที่เตะนั่นเตะนี่ไปเรื่อยซะแล้ว
คู่มันถือว่าเป็นอะไรที่ต้องใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจสูงมากครับ มันสองคนติดต่อกันได้แค่ทางไอจีซึ่งก็คงได้แต่ไลค์กันไปไลค์กันมา ต่างคนต่างไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหนหรืออยู่กับใคร ไอ้ดินมันบ่นคิดถึงน้องอย่างนั้นอย่างนี้ พอมันมาเจอว่าน้องอยู่กับคนที่มันไม่ชอบ มันก็เลยโมโห ส่วนฝั่งของสตาร์ ผมเดาว่าคงผูกใจไว้กับไอ้ดินไปแล้ว ไม่คิดว่าไอ้ดินจะมาควงผู้หญิงให้เห็น
พอสองคนมาเจอกัน ทุกอย่างก็เลยระเบิดออก กลายเป็นสงครามที่แท้จริง
เชี่ยดินแม่งขี้ประชดครับ สมัยมันคบกับหยก ตอนที่หยกมีกิ๊ก มันก็มีเป็นสองเท่า คนอย่างมันก็แบบนี้แหละ ยิ่งคนไหนมันให้ความรู้สึกไปมาก มันก็ยิ่งโมโหง่ายมาก ตอนนี้น้องสตาร์ก็เลยโดนมันประชดใส่เต็มๆ แล้วเป็นไงทีนี้...เละเทะแม่งทั้งคู่
ผมไม่รู้หรอกว่าฝั่งสตาร์จะเป็นไง แต่ที่แน่ๆ ผมรู้ดีว่าเพื่อนผมแม่งกำลังแย่ เอาแต่ยกเอาๆ แบบไม่แคร์ว่าจะตอบคำถามพ่อกับแม่ที่บ้านยังไง
เรื่องนี้ต้องคุยกับพรรคพวกสักหน่อยแล้ว
ว่าแต่ใครมาเปลี่ยนชื่อกรุ๊ปไลน์อีกล่ะวะ อ๋อ ไอ้ดินเจ้าเก่านั่นเอง
กรุ๊ปไลน์ 'คิดถึงสตาร์'
CHOK : ดินมันเมาแล้ว
FUEN : สตาร์เองก็แย่ครับ
AOF : เฮ้ย ทำไมมึงรู้
FUEN : เนี่ย กูคุยไลน์กับมันอยู่
TANG : ผมนี่สวดมนต์เลย
PHYSICS : ทุกคนใจเย็น
PHYSICS : กูส่งโลเกชั่นร้านไปให้สตาร์แล้วข้อความจากไลน์ไอ้น้องสิกแม่งพีคทุกข้อความสิน่า ผมอ้าปากค้างอย่างทึ่งๆ สตาร์จะมาที่นี่เหรอวะ เมื่อคิดได้ผมก็ฝากไอ้ดินไว้กับพี่ๆ บาร์เทนเดอร์ก่อนที่จะเดินไปยังหน้าร้านเพื่อคุยกับซีเคียวริตี้ที่มีเบอร์ติดเป็นเลขสิบกว่าๆ
ร้านนี้แม่งให้พนักงานใบ้หวยว่ะ
สตาร์ลงมาจากรถตอนที่ผมกำลังคุยอยู่พอดี สีหน้าของสตาร์ทั้งตกใจและก็หนักใจ
"พี่ดินอยู่ไหนครับ"
"อยู่ข้างใน" ผมเสียงสั่นเล็กน้อย ปกติเคยคุยกับน้องดาวใกล้ขนาดนี้ที่ไหน "สตาร์มาทำไม จะมารับมันไปเหรอ เข้าไปในร้านก่อนมั้ย"
"เปล่าครับ ผมแค่..." มือของอีกฝ่ายกำอะไรบางอย่างแน่น จากนั้นก็ส่งมาให้ผม "เอาไอ้นี่มาให้พี่ดิน"
โพสต์อิตเนี่ยนะ ผมเกาหัวแกรกๆ อย่างงงๆ นึกสงสัยว่าสตาร์นั่งรถมาตั้งไกลเพื่อส่งโพสต์อิตแค่ใบเดียวทำไม แต่เมื่อคิดๆ ดูไอ้โพสต์อิตที่ว่านี่คงเป็นสัญญาใจของไอ้ดินกับสตาร์แน่ๆ เลย เพราะเห็นไอ้ดินมันมองสิ่งนี้ตลอดเช้าสายบ่ายเย็น
"อืม เดี๋ยวพี่เอาไปให้นะ"
"..."
"มาแค่นี้เหรอ"
"ครับ"
"เพื่อนพี่มันเป็นคนที่ชอบใครแล้วก็จะชอบจริงๆ นะ"
"ครับ"
"..."
"ผมไปนะ"
ผมถอนหายใจ มองดูสตาร์ขึ้นรถกลับไป รู้สึกหนักใจยังไงก็ไม่รู้ชอบกล
แต่พอได้เห็นข้อความในโพสต์อิตผมก็ถึงกับหลุดยิ้มออกมา
ไอดีไลน์ตัวที่ 8
L
ผมขอโทษครับพี่ดิน ผมใช้อารมณ์มากไปหน่อย
เริ่มกันใหม่ได้มั้ย...ถ้ากูเอากระดาษใบนี้ไปเผาไอ้ดินจะฆ่ากูมั้ยวะเนี่ย
ไม่รู้แหละ กูอิจฉาคนมีคู่โว้ยยยย
[จบพาร์ตของโชค]
TBC*ดราม่าเด็กๆ เจ็บๆ คันๆ ><