ธีความสามารถเยอะมากค่ะ เหมือนที่เคยกล่าวถึงในพาร์ทของจอมว่าเป็นนักเรียนดีเด่น ทำกิจกรรมสารพัดอย่าง แต่คนรอบตัวอาจจะสุดกว่านิด เช่นพี่ทัตเรียนเก่งกว่าหน่อย ทศหล่อกว่าหน่อย อะไรแบบนี้ เลยชอบนึกว่าตัวเองธรรมดา ทั้งที่รวมข้อดีไว้เยอะมากแล้ว 5555 ส่วนจอมไม่กลัวธีเลยยยยยย แค่เกรงใจ จริงๆ นะ
016
เกือบ 5 โมงเย็น เมื่อกลับมาถึงบ้านผมค่อยโล่ง ขนาดแค่ช่วยทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ยังรู้สึกเหนื่อยอยู่บ้าง ไม่ต้องพูดถึงคณะทำงานที่งอมกลับมาทุกคน พวกจอมตกลงกันว่าจะกลับเข้าที่พักมาจัดการอุปกรณ์และพักผ่อนสักหน่อย ค่อยออกไปหาอะไรกินตอนหัวค่ำพร้อมเก็บภาพบรรยากาศในตัวเมืองตอนกลางคืนไปด้วย
จอมที่ทนร้อนมาทั้งวันรีบพุ่งไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัว ออกมานอนแผ่หลาตากแอร์บนเตียงอย่างหมดท่า ทำเอาผมรู้สึกขำ
“หมดแรงแล้วเหรอ เพิ่งวันแรกเองนะ”
“ขอกูพักแป๊บ ต่อได้อีกหลายยกแน่นอน” มันพูดจาสองแง่สองง่ามใส่
“วนเข้าใต้สะดือตลอดอ่ะ”
ผมกลอกตามองบน กระเถิบตัวขึ้นเตียงอีกฝั่ง จัดหมอนหนุนหลังนั่งเอนกายเหยียดพักขาบ้าง แต่สักพักก็รู้สึกหนักเพราะมีใครบ้างคนไถตัวมานอนหนุนตัก
ดูจอมที่หลับตา ทำท่าหมดแรง ผมเลยยื่นมือไปนวดคลึงที่ขมับให้ เห็นหัวคิ้วเข้มผ่อนคลายออกคล้ายว่าสบาย จึงขยับมือนวดไปยังบริเวณต้นคอและบ่าที่แข็งตึง หวังช่วยคลายความเมื่อยล้า บีบไล่ขึ้นลงช้าๆ ซ้ำไปมา
มือข้างหนึ่งคว้ากุมมือผมเอาไว้หลวมๆ ดึงไปจรดจูบด้วยท่าทีรักใคร่จนผมทั้งใจเต้นทั้งเขินอาย รู้สึกหวานล้ำในอกอย่างบอกไม่ถูก ความชิดใกล้ระหว่างเราเพิ่มขึ้นจนสนิทใจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ หากเมื่อสามสี่เดือนก่อนมีใครมาบอกผมว่าจะได้ลงเอยแบบนี้กับจอม ไม่ว่าจะพูดอย่างไรผมคงไม่มีทางเชื่อแน่ๆ
“จะหลับเหรอ นอนดีๆ ก่อนสิ” ผมช้อนคออีกฝ่ายให้หนุนหมอน กลัวถ้าต้องเปลี่ยนท่ามันจะสะดุ้งตื่นทีหลัง
“นอนด้วยกัน” จอมปรือตามอง
“เดี๋ยวมา นอนก่อนเถอะ”
“ไปไหน” มันยังไม่ยอมง่ายๆ
“น้าปานเรียกไปเอากับข้าว จะทำไว้ให้กินกลางวันพรุ่งนี้ไง”
อีกฝ่ายทำปากยื่นไม่พอใจ แต่ก็ยอมปล่อยมือ ผมลุกออกจากห้อง ปิดประตูอย่างเบาเสียง ลงไปสวมรองเท้าแตะที่ชั้นล่าง เมื่อบ่ายน้าปานส่งไลน์มาบอกว่าทอดปลาทูไว้หลายตัว ถึงบ้านแล้วให้แวะเอาด้วย ผมจึงตั้งใจจะเดินไปหา
ทว่าเพิ่งออกประตูหลังบ้านก็เจอฝ้ายที่ยกจานปลาทูใบใหญ่มาให้พอดี มีฝูงเจ้านิลเดินตามส่งเสียงงี้ดง้าดกระโดดเกาะแกะอยากกินจนเจ้าของต้องส่งเสียงปรามพลางชูจานขึ้นสูงอย่างทุลักทุเล ผมเลยรีบไปรับมาถือไว้
“ขอบคุณมากเลยฝ้าย อุตส่าห์เอามาส่ง” ผมวางจานใบใหญ่บนเคาท์เตอร์ครัว เห็นปลาทูทอดตัวอ้วนเนื้อละเอียดเงาเป็นมันขนาดกำลังกินตั้งสิบกว่าตัว แค่ดูก็รู้ว่าต้องอร่อยแน่นอน
“ไม่เป็นไรจ้ะ ฝ้ายเห็นรถตู้มาจอดพอดีเลยบอกแม่ว่าจะมาส่งให้ นี่แม่ว่าคืนนี้มีน้ำเงี้ยวนะ พาเพื่อนมากินอีกก็ได้”
“คืนนี้พวกเพื่อนพี่จะต้องออกไปเก็บภาพในเมืองอ่ะสิ เดี๋ยวแวะกินกันเอง ไม่ต้องห่วงหรอก”
ผมล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดแล้วเริ่มแกะเนื้อปลา คัดก้างออกอย่างละเอียด เตรียมทำเสบียงสำหรับกลางวันพรุ่งนี้
“งั้นเก็บไว้กินตอนเช้ามั้ยจ๊ะ เดี๋ยวให้น้ากิตยกมาไว้หม้อนึง พี่ธีก็รู้ว่าแม่เขาทำเยอะ ไว้เลี้ยงคนงานด้วย”
ฝ้ายล้างมือแล้วมาช่วยผมอีกแรง น้าชัยพ่อของฝ้ายเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ที่แกทำบ้านเสียใหญ่โตก็เพราะเผื่อรับแขกและให้ลูกน้องมาพัก น้าปานจึงมักทำกับข้าวมื้อใหญ่เลี้ยงคนอยู่บ่อยครั้ง
“งั้นก็ขอบคุณมาก ไม่ได้น้าปานนี่แย่เลย”
“ชมฝ้ายด้วยสิ โธ่” เธอหัวเราะกระเซ้า “แล้วนี่พี่ธีแกะเนื้อปลาจะทำอะไรเหรอ”
“พรุ่งนี้ว่าจะทำข้าวบ่ายให้พวกนี้กินกัน เห็นเขาทำงานง่วนทั้งวันไม่มีเวลาแวะกินที่ไหน ดีที่ตอนเช้าพี่เกิดอยากกินหมูทอดยายคำ เลยให้น้ากิตซื้อมาสำรองไว้ กลายเป็นช่วยชีวิตเลย”
“ข้าวบ่ายเหรอ ฝ้ายก็อยากกิน ขอกินก่อนได้มั้ยอ่ะ” ฝ้ายทำตาโต
ผมหัวเราะ แต่ก็หยิบข้าวเหนียวที่เหลือจากมื้อกลางวันออกมาห่อหนึ่ง ข้าวยังนิ่มดี อุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟแค่แป๊บเดียวก็ใช้ได้ จากนั้นจัดแจงทาน้ำมันหมูที่มือ บีบนวดข้าวแผ่เป็นแผ่น ทาน้ำมันหมูและเกลือสมุทรป่นหยาบบางๆ บี้เนื้อปลาทูทอดที่แกะแล้วลงไปเป็นไส้ ห่อข้าวเหนียวหุ้มแค่พอแน่น แบ่งให้ทั้งญาติผู้น้องและตัวเองคนละปั้น
“อื้อหือ ลำขนาดดดด อิๆ” ฝ้ายถือกินอย่างอร่อย “เฮ้อ กึ๊ดเติงแม่อุ้ยเนอะอ้ายเนอะ”
ผมกินข้าวบ่ายในมือ ลูกหลานที่นี่เคยคุ้นกับรสชาตินี้ดีเพราะคุณยายของผมเคยทำให้กินมาแล้วทุกคน ผมก็คิดถึงท่านแต่ตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้ว
“ไม่เอา ไม่พูดละ แกะปลาต่อดีกว่า” ฝ้ายกินเสร็จแล้วรีบล้างมือ ปลุกปลอบตัวเองให้สดชื่น
“แกะดีๆ ระวังก้างเล็กนะ กินข้าวบ่ายถ้ามีก้างนี่ติดคอแย่เลย” ผมก็เปลี่ยนเรื่องเช่นกัน ไม่อยากเศร้าตอนนี้
“จ้ะ จัดให้” สองมือเล็กแกะคัดก้างออกอย่างชำนาญ ถึงอย่างไรก็ต้องช่วยน้าปานทำกับข้าวบ่อยๆ เหมือนกัน
ร่วมแรงกันไม่นานนักปลาทูทอดสดใหม่ทั้งหมดก็ถูกแกะแยกเนื้อเอาลงกล่องเสร็จเรียบร้อย ผมเก็บหัวปลาที่แกะเนื้อออกแล้วแยกไว้ต่างหาก จะไปทอดซ้ำให้กรอบ กินเล่นหรือเป็นกับแกล้มอร่อยนักแล
“มีแค่นี้น้อยไปมั้ยจ๊ะ เอาผักสดด้วยมั้ยพี่ธี”
“จริงๆ กะทอดชะอมไข่กับทำน้ำพริกกะปิแล้วก็น้ำพริกหนุ่มไปแกล้มด้วย ผักสดอีกสักหน่อย แต่บางคนลิ้นฝรั่ง ไม่รู้กินชะอมได้มั้ย สงสัยพี่ต้องทอดมะเขือชุบไข่แทน”
“ก็ดีนะพี่ น่าอร่อย” ฝ้ายเว้นจังหวะพักหนึ่ง “เออ พี่ธี เพื่อนพี่เขาจะไปถ่ายอะไรเหรอคืนนี้”
“เห็นว่าจะถ่ายร้านรวงบรรยากาศในเมืองทั่วไป ร้านอาหารอะไรพวกนี้ พี่ก็ไม่ค่อยรู้อ่ะ ทำไมเหรอ” เก็บปลาเข้าตู้เย็นแล้ว ผมเลยหันไปกวาดเศษก้างทิ้งลงถัง ก่อนล้างมือสองรอบเพื่อให้กลิ่นคาวปลาที่ติดแน่นจางลง
“ฝ้ายกวนอะไรหน่อยสิ” ดวงตากลมโตหลุกหลิกอย่างมีความในใจ “ขอฝ้ายตามพวกพี่ไปด้วยได้มั้ยอ่ะ”
“หา?” ผมประหลาดใจ “ไปทำไม คนเขาไปทำงาน”
“รู้ ไม่กวนหรอกจ้ะ แค่ตามไปด้วยเอง ให้นำทางอะไรก็ได้นะ”
ผมมองท่าออเซาะแล้วชักสงสัย ท่าทางจะมีอะไรที่น้องสาวคนนี้งุบงิบปิดบังไว้แน่ๆ
“บอกมาก่อนว่าทำไมไม่งั้นไม่ให้ไป”
“พี่ธีอ่า…” ฝ้ายละล้าละลัง
“อย่าบอกนะว่าแอบชอบใครเลยจะตามไป” ในกลุ่มก็ไม่ค่อยจะโสดกันเสียด้วย
“โห ม่ายช่ายยยย ก็เมื่อคืนอ่ะ ฝ้ายไปโม้ให้เพื่อนฟังไง ว่าเพื่อนพี่ธีหล่อมากกกก หล่อกว่าดาราเกาหลีที่พวกมันชอบอีก เถียงกันไปเถียงกันมามันเลยท้าจะให้ฝ้ายพาไปดักแอบดูอ่ะ ถ้าบอกว่าไม่ได้มันต้องหาว่าฝ้ายขี้จุ๊แน่เลย”
ใบหน้าจิ้มลิ้มช้อนมองตาละห้อย ทั้งรู้สึกผิดทั้งขอร้อง
ผมพอจะเข้าใจ เด็กวัยรุ่นอย่างฝ้ายบางทีก็ต้องการรักษาหน้าในเรื่องไร้สาระเหล่านี้ เชื่อว่าหลายคนก็คงเคยเป็น
“พี่โกรธนะเนี่ย” ผมขมวดคิ้วว่า แสร้งทำฉุนเฉียว “ทีพี่ชายหล่อๆ อย่างพี่ไม่เห็นจะพาเพื่อนมาดูหน้าบ้างเลย ปัดโถ้ะ”
ฝ้ายค่อยยิ้มออก หัวเราะเกาะแขนประจบ
“ทำไมจะไม่เคย แต่รูปพี่ธีหาง่ายนี่ แค่เข้าไลน์ครอบครัวก็แชร์ไปอวดได้ละ นี่ฝ้ายอวดหมดแหละ พี่ทัต พี่ทศ พี่ธาม อย่าให้นับเลยว่าสาวๆ อยากมาเป็นพี่สะใภ้ฝ้ายกี่คน”
“หึๆ เอาเถอะ เดี๋ยวคืนนี้พี่จะไปกันเองก่อนเพราะพี่ไม่รู้ว่าเขาจะยุ่งกันแค่ไหน ถ้าเห็นว่าพอมีจังหวะให้เจอได้พรุ่งนี้พี่จะขอพาฝ้ายไปด้วย แต่ไม่รับปากนะ”
“เย้ พี่ธีน่ารักที่สุดเลยยย เดี๋ยวฝ้ายไปเอามะเขือกับผักสดมาให้นะจ๊ะ” ว่าแล้วก็วิ่งปรู๊ดกลับบ้านไปเตรียมของติดสินบนเสร็จสรรพ
ผมส่ายหน้าเอ็นดู คำขอร้องไม่ได้มากมายอะไร คงไม่มีปัญหาหรอกมั้ง…
***
TBC