ตอนที่ 6
ในความแตกหัก
ใบหน้าหวานมองอีกคนที่โอบล้อมร่างกายของเขาด้วยสายตาที่ดูไม่ออก แม้เขาไม่เข้าใจว่าอีกคนจะทำมันไปเพื่ออะไร ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย เขาไม่รู้ ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น แต่กลับแปลก ที่แม้อีกคนจะรุนแรงต่อเขามากขนาดไหน เขากลับไม่คิดจะโกรธเลย
ความรักมันดีนะ มันทำให้เราสุขได้ เพียงเรานั่งมองเขา ทำให้เราทุกข์ได้ เพราะคิดว่าเขารักกับคนอื่นอยู่…การแอบรักมันก็ได้แค่นี้แล
มือเล็กสัมผัสใบหน้าคมเบาๆ เขารู้ว่าอีกคนหลับลึก ดังนั้น ต่อให้เขากวนใจอีกคนยังไง เขาก็ไม่ตื่นมาหรอก
เขาลูบมันเบาๆ อย่างอ่อนโยน ลูบจากเสี้ยวหน้าผากลงมาที่แก้มจวบจนถึงปลายคาง สัมผัสจมูกที่โด่งรับใบหน้าหล่ออย่างดี สัมผัสริมฝีปากบางที่สูบบุหรี่เมื่อยามทุกข์ใจ ริมฝีปากที่เขาได้รับมันเมื่อคืน…แม้ไม่ใช่ด้วยรักก็ตาม
ร่างเล็กโอบกอดอีกคนเอาไว้แนบกาย กลัวจะเสียมันไปสักวันถ้าเขานั้นรับรู้ความจริง หลับตาพร่ำบอกตัวเองว่า…เขาจะไม่บอกอีกคนเป็นอันขาด ว่าเขานั้นรู้สึกเช่นไร…
“…ถ้าวันนึง กูทำในสิ่งที่มึงรับไม่ได้ มึง…จะโกรธกูมากมั้ยวะ ?”ร่างเล็กถามอย่างไม่แน่ใจ
“หึหึ โกรธสิ แต่เชื่อใจกูเถอะ ไม่ว่าจะยังไง กูก็ตัดเพื่อนกับมึงไม่ได้หรอก”เกือบจะยิ้มอย่างดีใจ แต่กลับเด่นชัดในใจชัดเจนกับคำว่าเพื่อนนี่มันก็จุกอกดีเหมือนกัน
ร่างเล็กพยักหน้าเบาๆ แล้วนอนดูดาวเคียงคู่อีกคน จนกระทั่งหลับใหลไปในที่สุด จนลำบากคนตัวสูงต้องอุ้มร่างเล็กอย่างเบาๆ เพราะกลัวอีกคนจะตื่น มองหน้าร่างเล็กในอ้อมกอดที่น่ารัก ไม่ว่าจะลืมตาหรือหลับตาลง เพียงแต่ใบหน้าตอนนี้ไร้พิษสงก็เท่านั้นเอง แต่ไม่ว่ายังไง ร่างเล็กก็น่ารักสำหรับเขาอยู่ดี…จนไม่คิดว่า วันนึงเราจะจากกัน
ความสัมพันธ์ของคนเรานั้นมันเป็นอะไรที่เปราะบาง และต้องรักษามันให้ดี ไม่เช่นนั้น มันจะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก
“…อืม”ร่างเล็กครางเบาๆ เมื่อเผลอหลับไปอีกจนได้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน พอนอนซุกอกกว้าง ความอบอุ่นก็แผ่ซ่านไปทั้งร่างกาย เหมือนได้รับการปกป้องตลอดเวลาทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเลย มันรู้สึก…ดี บอกไม่ถูกเหมือนกัน
พอนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ก็เงยหน้าหวังจะมองอีกคนที่คาดว่าหลับอยู่ แต่ไฉนไม่เป็นเช่นนั้น เพราะอีกคนก็นอนมองหน้าเขาด้วยสายตาอ่านไม่ออกเช่นเดียวกัน
ดวงตาเข้มมองร่างเล็กด้วยสายตาที่เริ่มจะเปลี่ยนไปในทุกที จนเขาสัมผัสความรู้สึกของตัวเองได้ เมื่อไหร่กันที่เขานั้นรู้สึกมากเกินไปขนาดนี้ เขาเองก็เริ่มไม่แน่ใจทุกทีแล้ว
ส่วนร่างเล็กก็มองหน้าอีกคนนิดหน่อย จากนั้นก็เบือนหน้าหนีไปอีกทาง พอมองหน้าอีกคนแล้วใจมันก็วูบไหวหน่อยๆ ไม่ได้เขิน แต่มัน…ไม่รู้สิ ทำตัวไม่ถูกมั้ง ก็เมื่อคืนเรา…จูบ
แม้จะไม่หอมหวานเหมือนดั่งคนรัก แต่มันก็มากพอให้เขารู้สึกว่า มันก็ดีเหมือนกัน
ร่างสูงมองร่างเล็กอย่างเสียใจ เขาคงทำให้ความไว้ใจของร่างเล็กพังทลายไปหมดแล้วสินะ แม้แต่หน้าของเขา อีกคนยังไม่มองเลย
“…ขอโทษนะ”ร่างเล็กหันกลับมามองทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนั้น
“ช่างมันเถอะ ไม่ได้โกรธอะไรขนาดนั้น”ร่างเล็กพูด แปลกนะ ที่ตอนแรกก็ทำท่าจะงอน แต่พอมาเห็นสายตาที่สำนึกและรู้สึกผิดแล้วมัน…ใจไม่ดียังไงก็ไม่รู้
“แต่…ถามอะไรหน่อยได้มั้ย ?”ร่างเล็กพูด
“ว่ามาสิ”
“เมื่อคืน…ทำไมถึงทำแบบนั้น”
“…”
“ไปโกรธอะไรมาหรอ แล้วมาลงที่กู”
“…”อีกคนก็ยังเงียบ ร่างเล็กจึงว่าต่อ
“ทะเลาะกับแฟนมาหรอ ?”พูดเองก็เจ็บเอง บ้าชะมัด
“…”อีกคนไม่ตอบ เขาจึงถือว่านั่นเขาได้คำตอบมาแล้ว แม้ว่าคำตอบจริงๆ มันจะเป็นไปทิศทางที่ตรงกันข้ามกันเสียด้วยซ้ำ
“อ่า เข้าใจและ ทีหลังก็สงบสติให้มากกว่านี้หน่อย อย่าทะเลาะกัน พูดกันดีๆ นะ รักเค้าให้มากๆ เหมือนที่เค้า…รักมึง”คำสุดท้าย ไม่รู้ว่าร่างเล็กจะบอกเองหรือจะพูดให้ร่างสูงคิดได้กันแน่ หากแต่ว่า แววตาใสที่หวังดีจริงๆ แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่อย่างน้อยๆ เขาก็ยังอยากให้อีกคนมีความสุข แววตาเสียใจหน่อยๆ จนร่างสูงใจกระตุก
“มันไม่ใช่…”ร่างสูงอ้าปากจะอธิบาย เขาไม่อยากให้ร่างเล็กเข้าใจแบบนี้ อยากให้ร่างเล็กรับรู้ว่าจริงๆ แล้ว ที่เขาโกรธไม่ใช่เพราะหวาน มันเป็นเพราะอีกคนไปกินข้าวกับชายอื่นต่างหาก แต่เขาก็ไม่สามารถทำมันได้ เพราะอีกคนขัดขึ้นมาก่อน
“กูหิวแล้ว ไปหาไรกินก่อนนะ มึงกลับไปเคลียร์กับแฟนมึงเถอะ”ร่างเล็กกำลังพยุงตัวขึ้น ไม่ใช่หิวหรอก มันอิ่มมากกว่า อิ่มจนจุกเลยแหละ
“…”ห้องเงียบลงถนัดตา เมื่อร่างเล็กล้มตัวลงนอนอีกครา จากฝีมือของร่างสูงที่จับแขนร่างเล็ก จนคนตัวบางขาดการควบคุม ล้มลงนอนข้างอีกครั้ง จนสายตาที่ห่างกันไม่ถึงคืบวูบไหวไปทันที
ตึกตัก ตึกตัก
เสียงหัวใจของร่างเล็กสั่นไหว ยิ่งร่างเล็กจะพยายามไม่ตื่นเต้นมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทวีคูณดังขึ้นเท่านั้น
บ้าเอ้ย !!!
และดูเหมือนร่างสูงจะสัมผัสมันได้ จึงหัวเราะหึหึชอบใจทันที ร่างเล็กจึงมุ่ยหน้าลง แล้วดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดทันที แม้จะรู้ก็เถอะว่าถ้าอีกคนไม่ปล่อย เขาก็คงไม่ได้ออกไปจากตรงนี้หรอก
“หัวใจเต้นดังเลยเนาะ ตกใจเหรอ ?”ร่างสูงถามพร้อมลอบยิ้ม ร่างเล็กเบะปากใส่ร่างสูงทันที
“ไม่ใช่ซะหน่อย”แน่ล่ะ ก็มันไม่ใช่เพราะตกใจ ตื่นเต้นต่างหาก
“หึ แต่อย่าเพิ่งไปเลยได้มั้ย ?”
“ทำไม”ร่างเล็กขมวดคิ้วไม่เข้าใจ อีกคนต้องการอะไรกันแน่
“แค่อยากให้อยู่”อีกคนพูดเบาๆ โทนเสียงเลยทำให้คนฟังใจอ่อนยวบลงทันที
“แล้วแต่”อีกคนพูดแล้วหยุดเคลื่อนไหว ยอมให้อีกคนกอดโดยดี แม้อ้อมกอดจะรัดแน่นจนเกือบหายใจไม่ออก แต่กลับไม่อึดอัดเลย
“อือ”อีกคนพูด สุดท้ายกว่าจะออกมาจากเตียงได้ ก็ปาเวลาไปเกือบบ่ายโมงเสียแล้ว
นอนนานจริงๆ ร่างเล็กส่ายหน้าไม่น่าเชื่อ เกิดมาไม่เคยนอนนานขนาดนั้นมาก่อนเลย
“เป็นไร”ร่างสูงพูดถามอย่างเป็นห่วง ที่เพื่อนตัวเล็กจู่ก็เหมือนจะล้มพับไปเสียดื้อๆ ทั้งที่เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย
“ปล่าวหรอก แค่มึนๆ น่ะ สงสัยนอนนานไปหน่อย”อีกคนโกหก เขาแน่ใจแล้วว่าเขาไม่สบาย เพียงแต่ไม่อยากให้อีกคนเป็นห่วงกว่าเดิม คนที่เขาควรสนใจคือแฟนของเขา ไม่ใช่เขาสักหน่อย
เขาอยู่ตรงนี้คนเดียวได้ สบายมาก
“อ๋อ งั้นมานั่งก่อน อ่า ช้าๆ นะ”อีกคนค่อยๆ พยุงร่างเล็กมานั่งบนโซฟาตัวใหญ่ หยิบถ้วยข้าวต้มที่เพิ่งทำเสร็จเมื่อครู่มาวางบนหน้าตักแล้วยกช้อนขึ้นเป่าเบาๆ จ่อปากร่างเล็กทันที
“ทำไรเนี่ย”ร่างเล็กถามอย่างขำๆ ไม่คิดว่าอีกคนจะมีโมเมนท์แบบนี้ด้วยจนส่ายหน้าตลกๆ แต่กับอีกคนกลับหูแดงหน่อยๆ เพราะคนเดียวที่จะได้เห็นมันก็มีแต่คนตัวเล็กคนนี้แหละ เพราะทำไม่เคยทำแบบนี้ให้ใคร…แม้แต่แฟน
“เหอะน่า”หูที่ขึ้นสีน้อยๆ มันทำให้คนตรงหน้าดูน่ารักขึ้นมากโข จนคนตัวเล็กเลิกแกล้งแล้วงับข้าวต้มเข้าปากทันที
มีความสุขจัง
“…คำสุดท้ายแล้ว”
“สุดท้ายมากี่คำแล้วล่ะ หลายรอบจนจะหมดแล้วนะนั่นน่ะ”ร่างเล็กมุ่ยหน้าไม่ชอบใจ
“หน่า กินเยอะๆ จะได้โตไวๆ นะหนู”
“ใครหนูกัน เราผู้ชายนะเฟ้ย !”ร่างเล็กสวนกลับอย่างไม่คิดอะไร
“หึ แต่ก็โดนผู้ชายด้วยกันจูบมาแล้วหนิ”
“ไอ้…///”ร่างเล็กหน้าขึ้นสีน้อยๆ จากคำพูดนั้น เถียงไม่ออกทันที
“หึ ยอมแพ้เถอะเจ้าหนู รอให้ย่อยแล้วไปแต่งตัวนะ เดี๋ยวพาไปเที่ยว”
“เที่ยวหรอ ?”ตาเล็กเป็นประกายทันทีกับคำพูดนั่น
“อือ รับรองว่าต้องชอบแน่ๆ”ร่างสูงพูดอย่างหมายมาด
“อยากไปแล้วอะ ที่ไหนหรอ ?”
“อย่ามาเนียน ไม่บอกหรอก นั่งดูทีวีรอไปพลางๆ แล้วกันนะ ไปล้างจานแปป”ร่างเล็กพยักหน้าอย่างว่าง่าย เปิดช่องโปรดที่ดูบ่อยมากที่สุด
ช่องการ์ตูน
อ้ะ อย่ามามองแบบนั้นนะ เขาชอบการ์ตูนมันทำให้สมองเกิดจินตนาการเชียวนะ อย่ามาว่าไร้สาระน้า ~~ พอดูไปไม่นานนึกได้ก็เดินหายไปในห้องนอนเพื่อหยิบบางอย่างออกมาแล้วยืนกินอยู่
“…ยาอะไร”ร่างสูงถามร่างเล็ก จนอีกคนสะดุ้งเกือบสำลักน้ำ เพราะอีกคนมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง แต่ที่กลัวกว่านั้น คือกลัวว่าอีกคนจะรู้บางอย่างต่างหาก
“อ่ะ…อ๋อ คือ มันเป็นยาแก้ปวดหัวน่ะ เรากินตอนมึนๆ ยาประจำตัวไง”ร่างเล็กฉีกยิ้มจริงใจไปให้จนกลบความสงสัยร่างสูงได้นิดหน่อย จนอีกคนก็เปลี่ยนเรื่องอีกตามเคย
“ไปเที่ยวกันเลยมั้ย ?”
“จะไปทั้งชุดนี้ ?”ทำไมล่ะ เสื้อกล้ามบางๆ สีขาวหนึ่งตัวสวมทับด้วยเสื้อโค้ทสีชมพู กับกางเกงขาสั้นตัวโปรดนี่นะ ทำไมจะไปไม่ได้กัน ?
“ไม่ต้องมองแบบนั้น ไปเปลี่ยนชุด”
“ง่า ไม่ไปเปลี่ยนได้ป่ะ ?”ร่างเล็กอ้อน
“ไม่ต้องอ้อน ไปหาเสื้อสีดำใส่ กางเกงก็หาให้มันยาวๆ นะ อย่าให้เลยกว่าเข่า เข้าใจ๊ ?”
“ง่า”ร่างเล็กโอดครวญ
“ไม่งั้นไม่พาไป”พอพูดแบบนั้นคนที่โวยวายก็วิ่งปรู๊ดเข้าห้องนอนไปเปลี่ยนเสื้อใหม่ทั้งชุด พร้อมเดินหน้ามุ่ยออกมาจากห้องทันที
“หึหึ น่ารักมาก ไปกันเถอะ”ร่างสูงกอดคออีกคนให้เดินไปด้วยกัน ตอนนี้เริ่มจะแน่ใจกับความรู้สึกตัวเองขึ้นมาอีกนิดและ ไม่นานหรอก…ถ้าเขาแน่ใจเมื่อไหร่ เขาไม่ยอมปล่อยอีกคนไปไหนแน่
“อื้ม”ร่างเล็กพยักหน้าหงึกหงักแล้วทำหน้าตาตื่นเต้น
“ว้าววว สวนสัตว์ งือออ น่ารักจังเลยเจ้ากระต่ายน้อย”ร่างเล็กที่เผลอหลับไปกลางทาง เมื่อตื่นมาก็เบิกตากว้างร้องไปวิ่งไปทั่วทั้งสวนสัตว์ จนคนอื่นๆ พากันชายตามอง ไม่ได้ดุหรือว่า แต่กลับเอ็นดูคนตรงหน้ามากกว่า
“นี่ดูสิ มันยิ้มให้เราด้วย”ร่างเล็กบอกพร้อมชูเจ้าสองขาขึ้นมาให้ดู มันก็น่ารักอยู่นะ แต่สู้คนที่ถือไม่ได้เลยสักนิด อา นี่เขาเข้าขั้นแล้วสินะ แต่ขอแน่ใจอีกหน่อยดีกว่า
“เออ เหมือนกันเลยนะ”
“น่ารักหรอ ?”
“เหอะ ฟัน”พูดจบคนที่ไม่ยอมก็ทำตาขวางใส่ทันที แล้วไม่สนใจอีกคนอีกต่อไป ก้มลงไปเล่นกันเจ้าสัตว์ขนปุกปุยทันที ทิ้งให้อีกคนมองหน้าร่างเล็กอย่างระอาใจ
“งือออ อิ่มจัง”ร่างเล็กลูบพุงบางนั้นน้อยๆ บ่งบอกว่าเจ้าตัวนั้นอิ่มมากขนาดไหน ไม่ลืมก้มลงตักคำสุดท้ายเข้าปากตบท้ายอีก
จ้ะ อิ่มจ้ะ ที่ตักเข้าปากอีกเป็นกองทัพนั่นอิ่ม ? ร่างสูงคิดในใจ ไม่อยากให้อีกคนงอนละ เดี๋ยวไม่คุยอีกละซวยเลย ง้อลำบากมาก กว่าจะยอมคุย แต่พอชวนมากินไอติมเท่านั้นแหละ
ก็เป็นอย่างที่เห็น
ไอติมที่พูดมีหลายถ้วยตรงหน้าที่ซ้อนกันอยู่เรียงรายภายในโต๊ะนี้ แน่นอนว่ามันเป็นของเจ้าตัวเล็กไปเกือบหมด ผมกินไปถ้วยนึงด้วยเลยไม่นับ
“หึ พอแล้วแหละ งั้นเรากลับกันเถอะ”ร่างเล็กพยักหน้ายิ้มแย้ม แล้วเดินออกมาจากร้านพร้อมกัน
“…อาร์ท ! มากับมิกซ์หรอคะ”ร่างบางที่แต่งชุดน่ารักเข้ากับเจ้าตัวเป็นอย่างดี เปิดประตูร้านเข้ามา ทำให้ผมแกะมือที่จับอยู่ออกทันที แม้ร่างสูงจะมองด้วยสายตาที่ไม่พอใจก็ตาม
“มีอะไร”
“แหม มาเที่ยวกัน ไม่ชวนหวานเลยนะ คิดถึงจังเลย”สาวเจ้าเดินเข้ามาควงแขนอีกคนในด้านที่ผมนั้นยืนอยู่ ทำให้ผมนั้นกระเด็นออกมาตรงนั้นนิดหน่อย
ราวกับว่าเป็นส่วนเกิน แม้ความจริงจะเป็นอย่างนั้นก็ตามเถอะ
“อือ แล้วไง”ร่างสูงตอบเรียบๆ มองคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนอย่างไม่พอใจ ที่มากระแทกคนของเขาไปอยู่ไกลขนาดนั้น จนอีกคนหน้าเสียทันที
“ก็ไม่หรอกค่ะ แต่เดี๋ยวหวานต้องไปซื้อของกับเพื่อน อาร์ทไปด้วยกันนะ”สาวเจ้าช้อนตามองอย่างมีหวัง
“แล้วมิกซ์…”ร่างสูงทำท่าจะเอ่ยค้านเพราะไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
“เดี๋ยวเรากลับเองได้ ไม่ต้องห่วงหรอก”ร่างเล็กฝืนยิ้ม แล้วเดินออกไปจากร้านเลยทันที
“นี่ไงคะ เค้าไปแล้ว อาร์ทอยู่กับหวานนะ”เธอยิ้มหวานเอาใจจนอีกคนพยักหน้าเบาๆ อย่างเสียไม่ได้ แม้สายตาจะสอดส่องมองคนที่เดินออกไปจนหายลับตาแล้วก็ตาม
“เรามันแค่ตัวแทนเท่านั้นแหละ”ร่างบางพูดคนเดียวท่ามกลางหยาดฝนที่ตกโปรยปราย
“…อึก”ร่างเล็กจับที่หน้าอกซ้ายที่เจ็บผิดปกติ เดินไปเรื่อยๆ อย่างจนใจจะทำอะไร แม้เป็นได้แค่ตัวสำรอง เขากลับมีสุขได้ในเวลาเหล่านั้น
“เป็นไงบ้างครับ”ร่างเล็กถามอาการจากคุณหมอตรงหน้า
“ก็อาการทรงตัวนะครับ แต่ก็ถือว่าดีกว่าเดิมเยอะแล้ว อย่าลืมทำตามที่หมอสั่งนะครับ แล้วมาพบหมอใหม่”ร่างเล็กพยักหน้าเข้าใจ พร้อมรับยาแล้วกลับห้องมา คิดว่าจะมีอีกคนมานั่งรอ แต่กลับไม่มี
นี่เขาหวังอะไรอยู่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“อ้าว มาทำ…”คำพูดถูกกลืนหายไปในลำคอ เมื่อคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่เพื่อนของเขา แต่กลับเป็น…
“…หวาน”คำพูดที่เปล่งออกมานั้นช่างยากลำบากนัก เมื่อคนตรงหน้าไม่ยิ้มเหมือนทุกที หากแต่สายตาก็แปลกไปเช่นกัน แววตาอ่านไม่ออก ไม่เหมือนหวานคนเดิม
“ไม่คิดจะชวนเข้าห้องหน่อยหรอ ?”เธอถาม
“อ่ะ อ๋อ เชิญสิ”ร่างเล็กปรายมือเข้าข้างในแล้วเดินตามมา
ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ มือเรียวลูบผ่านรูปถ่ายใบต่างๆ ภายในห้องร่างเล็กอย่างเฉยชาจนร่างเล็กต้องเอ่ยขึ้นก่อน
“เอ่อ หวานมาทำ…”แต่เธอก็ปรายตามามองจนร่างเล็กหยุด เพราะสายตาเธอตอนนี้นั้น…น่ากลัว
เขาไม่คิดว่าคนที่สวยที่สุด จะน่ากลัวที่สุดเช่นกัน
“อย่ามองกันแบบนั้นสิ ฉันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นสักหน่อย…”เธอพูดพร้อมยิ้มเล็กๆ จนเขาจะโล่งใจได้บ้าง แต่ก็กลับไม่ต่างจากเดิมเมื่อประโยคถัดมากล่าวต่อ
“ถ้าฉันไม่โกรธ”เธอตวัดสายตามามองจนร่างเล็กเกือบสะดุ้ง
“งะ งั้นหรอ”
“ใช่ และฉันก็ไม่โกรธใครง่ายๆ ด้วยนะ คนที่สามารถทำแบบนั้นได้นี่ ต้องชั่วมากเลยนะ”เธอบอก ทั้งที่สายตากำลังจดจ่อกับรูปๆ หนึ่งอย่างตั้งใจ
“รูปนี้นี่ ถ่ายนานยัง”ร่างเล็กหันไปมองแล้วบอกไป
“ก็ไม่นานนะ เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเอง”ร่างเล็กตอบอย่างไม่คิดอะไร
“งั้นหรอ งั้นความรู้สึกนายคงจะเพิ่งมาเปลี่ยนสินะ…”คนสวยพูดเบาๆ จนร่างเล็กจับใจความไม่ได้จึงเอ่ยปากถาม
“เมื่อกี้ว่าอะไรหรอ ?”ร่างเล็กถามอย่างไม่รู้
“ปล่าวหรอก แค่จะบอกว่ามันสวยดีนะ”
“อ้อ อืม”ร่างเล็กจบบทสนทนาเพราะไม่รู้จะต่อว่าอะไรดี
“ดื่มหน่อยมั้ย ?”เธอถามพร้อมวางแก้วแชมเปญบนโต๊ะ พร้อมเอ่ยชวน
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ”เขาเอ่ยปฏิเสธอย่างสุภาพ
“รังเกียจเราหรอ ?”เธอพูดพร้อมมองด้วยสายตาเศร้า
“ปะ ปล่าวนะ เราจะไปรังเกียจแฟนเพื่อนได้ยังไง”
“ก็…แค่กินด้วยกัน มิกซ์ยังไม่อยากเลยนี่นา แล้วแบบนี้จะไม่ให้เราคิดแบบนั้นได้ยังไง”
“เอ่อ งั้นเรากินก็ได้”เขาบอกอย่างจนใจ
“อ่ะ”ร่างเล็กนั่งจิบไปเรื่อยๆ พร้อมฟังคุณเค้าเล่าเรื่องของตัวเองไปเรื่อยๆ จนระยะเวลาผ่านไป…ผ่านไป จนรู้ตัวอีกที ร่างเล็กก็ไร้สติไปเสียแล้ว
“นายทำตัวเองนะ…มิกซ์”เธอบอกคำสุดท้ายก่อนร่างเล็กจะจำอะไรไม่ได้อีกเลย…
ฝากด้วยค่าาา สามารถคอมเมนท์ให้กำลังใจนักเขียนได้น้าาา รออยู่เด้อออ สวัสดีค่ะ
