#Re2love •26
[END]
ป้องเมียงมองจากเคาน์เตอร์ เมื่อเห็นคนคู่หนึ่งยืนคุยกันอยู่หน้าสตูดิโอฝั่งตรงข้ามกับร้านขนม แม้จะบอกตัวเองให้สงบใจ แต่สุดท้ายสายตาเขาก็ยังวนเวียนไปที่มัน เด็กหนุ่มชงกาแฟด้วยอาการเหม่อลอย แล้วถอนหายใจออกมาอีกเฮือกใหญ่
อีกฟากหนึ่งใครบางคนที่รู้ตัวว่าถูกจับจ้องเผลอยิ้มมุมปาก
“กาย”
“ครับ”
“คุยกับพี่แต่ไม่มองหน้าพี่เลยนะ”
เด็กหนุ่มหัวเราะน้อยๆ แววตาที่เต็มไปด้วยความสดใสนั่นทำให้พุฒิเผลอยิ้มตาม ไม่มีเค้าของเด็กหนุ่มในสภาพสิ้นหวังวันนั้นให้เห็น
“พี่ไม่รู้ว่ากายเจอเรื่องอะไรมาบ้าง แต่ตอนนี้พี่ดีใจที่เห็นเรายิ้มได้”
“ขอบคุณครับ”
กายมองจ้องพุฒิตรงๆ ผู้ชายสูงโปร่งที่มีร่างกายไม่หนาไม่บ้าง ท่าทางทำอะไรก็เชื่องช้า ซ้ำยังเป็นพ่อลูกติดที่มีบางมุมเหมือนลูกชายตัวเองไม่มีผิด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ออกมา เมื่อแรกเจอยอมรับว่าอบอุ่นและถูกชะตากับคนสูงวัยนี่ และยิ่งรู้จักยิ่งทำให้รู้สึกโหยหาความอบอุ่นที่อีกฝ่ายมีให้ นั่นอาจจะเป็นเพราะเขาเห็นภาพซ้อนใครคนหนึ่งจากตัวพี่พุฒิ
เขาว่ากันว่าทุกคนมีสเป็คคนที่ชอบในใจ ดังนั้นมันจึงไม่แปลกหากเราจะให้ความสนใจกับคนใหม่ๆ ที่มีคล้ายคลึงกับคนเดิมที่ยังติดอยู่ในใจ
สำหรับพี่พุฒิแล้ว...มันไม่ใช่ความรักหรอก แต่มันคือความสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ชิด
และความใกล้ชิดมันก็ทำให้รู้สึกโหยหาอ้อมกอดนี้
“พี่พุฒิ..”
กายเม้มปาก
“ผมขอโทษนะครับเรื่องวันนั้น”
“วันนั้น อ๋อ”
วันที่เจ้านี่โวยวายจนไร้สติสินะ พุฒิทำหน้าครุ่นคิดแล้วร้องออกมา ท่าทางสำนึกผิดนั่นเรียกความเอ็นดูจากคนสูงวัยจนเอื้อมมือไปลูบศีรษะ
“คิดมากไปได้”
“พี่พุฒิ ผมจะบอกอะไรพี่สักอย่างนะ”
“หา”
พุฒิทำหน้าเหรอหรา
“พี่อย่าใจดีกับคนอื่นพร่ำเพรื่อแบบนี้นะครับ เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก”
พ่อลูกหนึ่งรีบหดมือกลับแทบไม่ทัน เจ้าตัวหัวเราะแหะๆ แล้วเกาหัวเกาหูตัวเองวุ่นวาย อาการประหลาดนั่นกายถึงกับขำออกมา
“พี่นี่เด็กชะมัด”
“เราก็ผู้ใหญ่ตายล่ะ เจ้าบ้านี่”
พุฒิย่นจมูก
“ผมขออะไรพี่สักอย่างได้ป่ะ”
“อะไรวะ”
“ผมขอกอดพี่สักทีได้มั้ย”
พุฒิตาเหลือก ก่อนจะมองซ้ายมองขวาทำตาหลุกหลิก เขามองเพื่อเช็คดูว่ามีใครบางคนแอบมุมอยู่แถวนี้รึเปล่า ยิ่งขึ้หึงขนาดนั้น
“ให้แค่กอดเหรอ”
กายเย้าเล่นตอนที่พุฒิอ้าแขนกว้างรองรับไอ้เด็กโข่งตรงหน้า
“เดี๋ยวเถอะ”
พุฒิเขกหัวมันไปที
“ขอบคุณนะพี่” กายพึมพำ “ขอบคุณที่พี่ไม่รังเกียจ”
พุฒิถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วตบบ่ามันเบาๆ
“เจ้าบ้าเอ๊ย โตซะทีนะเรา โตแล้วก็อย่าเที่ยวไปทำให้ใครเสียใจเข้าล่ะ”
“ผมรู้ครับ”
“รู้แล้วก็ปล่อยได้แล้ว ไม่เห็นเหรอว่าเขาทำหน้าน้อยใจอยู่”
พุฒิพยักพเยิดไปที่เคาน์เตอร์เพื่อบอกให้มันรู้กลายๆ เจ้านั่นหัวเราะร่วนแล้วผละจากเขาทันที และจังหวะนั้นพุฒิถึงกับตาเหลือกเมื่อเห็นโฬมยืนหน้าถมึงทึงอยู่ด้านหลัง
“เอ่อ”
“ขอคุยด้วยหน่อยสิ”
โฬมพูดเสียงเรียบมองเจ้ากายไม่วางตา พุฒิทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นทั้งคู่เดินไปทางหลังร้าน อยากจะก้าวตามไปอยู่หรอก แค่คนรักทำตาดุใส่ขนาดนั้นใครจะกล้า
“เฮ้อ”
พ่อลูกหนึ่งเกาหัวแกรกๆ
โฬมเดินนำเด็กหนุ่มมาแถวหลงร้านและเหลือบตามองมันที่ยืนกอดอกพิงพนักเก้าอี้ท่าทางยียวนไม่น้อย
“ผมรู้ว่าอาโฬมไม่ค่อยชอบขี้หน้าผม”
เจ้านั่นเปิดปาก โฬมเลยยักไหล่เป็นเชิงยอมรับ
“ผมเองก็ไม่ชอบขี้หน้าอาโฬมเหมือนกัน”
ตาประสานตา
กายพ่นลมหายใจตอนที่ได้มองสำรวจคนตรงหน้าในระยะใกล้ หากไม่อคติจนเกินไป เขาเห็นผู้ชายที่เพียบพร้อมทุกอย่างอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่แค่ฐานะ แต่ความเป็นผู้นำทุกอย่างฉายชัดจนยากที่ปฏิเสธ ไม่แปลกหรอกหากมารดาจะรักปักใจมาเนิ่นนานขนาดนี้
“ผมขอโทษหากผมเคยเป็นสาเหตุทำให้พี่พุฒิกับอาโฬมต้องทะเลาะกัน”
“อื้อ”
ฝ่ายนั้นรับคำ
“แต่ผมไม่เสียใจหรอกที่ทำไปลงไปแบบนั้น”
สายตาของโฬมเรืองรองขึ้นมา
“ผมไม่ชอบอา เพราะคิดอยู่เสมอว่าเพราะอา แม่เลยไม่ค่อยสนใจผมเท่าไหร่ ซ้ำใครๆ ก็ยังรักอาอีก โอเคผมยอมรับว่าอิจฉาอา”
กายยักไหล่
“อิจฉาฉัน?”
โฬมทำหน้าประหลาดใจ
“แต่ยังไงก็ตาม ผมอยากขอบคุณอานะ เพราะถ้าไม่มีอา ผมคงไม่รู้ว่าแม่รักผมขนาดไหน”
‘กายไม่เกิดมาลบล้างความผิดพลาดของใคร ชีวิตเป็นของลูก ใช้ชีวิตแบบที่ลูกอยากเป็นเถอะ’แม่พูดคำนี้กับเขาตอนที่ฟื้นขึ้นมา เขาไม่รู้หรอกว่าแม่ไปพูดอะไรกับคุณตา แต่ผลลัพธ์นั่นทำให้กายได้ทำในสิ่งที่อยากทำและเป็นในสิ่งที่เป็นตัวตนของตัวเอง
ส่วนหนึ่งเพราะคงตรงหน้า แม่พูดแค่ว่าเพราะอาโฬมถึงทำให้แม่ตาสว่าง แม่บอกว่าแม่เห็นอะไรได้ชัดเจนมากขึ้นเพราะผู้ชายคนนี้
“ขอบคุณงั้นเหรอ”
โฬมทำหน้าไม่เข้าใจ
“ก็ตามนั้น”
กายโคลงศีรษะก่อนจะเตรียมผละออกแต่คนด้านหลังรั้งเอาไว้ก่อน
“ฉันไม่ค่อยชอบมานายมายุ่มย่ามกับพุฒิ”
“ตาลุงขี้หวง”
กายพึมพำ
“คิดว่าใกล้ขนาดนี้ฉันจะไม่ได้ยินรึไง”
กายยกมือยอมแพ้
“ครับๆ ผมสัญญาว่าจะวุ่นวายกับพี่พุฒิอีก”
“นายควรพูดว่าจะไม่เข้าใกล้พุฒิเกินสามเมตรมากกว่า”
“เอาจริงดิลุง”
“ฉันอายุน้อยกว่าแม่น้อยเยอะ”
กายเบะปาก
“ก็ได้ๆ”
โฬมทำเสียงขู่รอดไรฟัน เอาจริงมันไม่ได้น่ากลัวหรอก แต่กายขี้เกียจมาทะเลาะกับคนรุ่นพ่อเลยได้แต่ยักไหล่
“ตามนั้น”
“ขี้หวงมาก ระวังโดนพี่พุฒิทิ้งเพราะรำคาญเอาหรอก”
“นายเป็นแค่คนอื่น ส่วนฉันคือคนรัก”
“ผมไม่ใช่คนอื่น ผมคือน้องรักของพี่พุฒิ”
“ก็แค่น้องร่วมโลก ส่วนฉันคือคนร่วมเตียง”
บลั๊ฟแบบนี้ก็ได้เหรอวะ!
กายเบ้ปากมองตามอีกฝ่ายไปอย่างหมั่นไส้
.
.
วันนี้ร้านขนมหวานบ้านคุณพรรณีปิดเร็ว ซ้ำพี่พุฒิยังอนุญาตให้เขากลับก่อนเวลาเพราะเห็นว่าช่วงนี้ใกล้เข้าฤดูสอบอีกครั้งแล้ว ป้องเดินทอดน่องไปตามถนน อีกไม่ถึงห้าร้อยเมตรก็จะถึงถนนใหญ่ บ่ายแก่ๆ วันนี้อากาศดีมากเพราะไม่มีแดดเนื่องจากเมื่อเช้านี้มีฝนลงมาปรอยๆ เด็กหนุ่มเดินมองรอบๆ แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะบางสิ่งบางอย่างที่อึดอัดอยู่ในใจ
เสียงเครื่องยนต์สองล้อบดถนนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ นั่นทำให้เขาขยับไปเดินชิดขอบทาง แต่ดูเหมือนรถคันนั้นจะชะลอตัวและไม่นานก็ขับมาตีคู่กับเขา ป้องมุ่นหัวคิ้วก่อนจะทำตาโตเมื่อเห็นเจ้าของรถคันดังกล่าว
“กูบอกให้รอกลับพร้อมกันไม่ใช่เหรอ แล้วมึงรีบกลับก่อนทำไมวะ”
ป้องเม้มปากแน่น เมื่อรถมันจอดสนิทอยู่ข้างๆ
“ก็เห็นมึงมีธุระกับพี่พุฒิ กูเลย...”
“หึง?”
กายพูดยิ้มๆ
“จะบ้าเหรอ”
“อ้าว ก็เล่นออกมาไม่รอ ท่าทางมึงงอนตุ๊บป่องๆ ขนาดนี้ด้วย”
“กูไม่ได้สาวขนาดนั้น”
“แต่มึงงอนกู”
“กูเปล่า”
“ไหนมองตากูดิ”
กายดันปลายคางมันขึ้น
“อะไรเล่า”
ป้องพยายามผลักมือมันออก
“จะพูดครั้งสุดท้ายนะ”
“อะ อะไร”
“กุกับพี่พุฒิไม่มีอะไร ตอนนี้กูไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้วด้วย”
ป้องอ้าปากพะงาบๆ
“แล้วไง บอกกูทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
“ป้อง...กูไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องอดีตของกูกับมึง กูไม่อยากรู้ว่าเราเลิกกันทำไม กูไม่อยากจำเรื่องที่ผ่าน กูเลยอยากถามว่ามึงพร้อมจะลืมมันไปพร้อมๆ กับกูมั้ย”
“...”
ป้องเม้มปากแน่น
“ว่าไง”
“อื้อ”
“ไหนลองนับเลขพร้อมกูดิ”
นับเลขอะไรวะ ป้องทำหน้างงไม่เข้าใจ แต่ก็บ้าจี้ทำตามมัน
“หนึ่ง/หนึ่ง”
ไอ้กายยิ้มที่เขานับหนึ่งพร้อมมัน
“มึงอยากลองนับหนึ่งกับกูอีกครั้งมั้ย”ป้องยืนอึ้ง เพราะเข้าใจความหมายการนับเลขของมัน มันไม่ใช่แค่การนับเลขธรรมดาแต่มันคือการเริ่มต้นไปพร้อมๆ กันต่างหาก
“กูไม่รู้หรอกนะว่าเราจะนับเลขพร้อมกับไปถึงไหน จะสิบ จะร้อยหรือพันก็ไม่รู้ วันหนึ่งกูหรือมึงอาจหมดแรงนับ แต่วันนี้กูอยากนับเลขกับมึง แล้วมึงล่ะ...”
“กูนับถึงสิบแล้ว”
ป้องพูดอายๆ
“ไอ้สัตว์ มึงนี่ไวไฟ”
กายเย้ามันก่อนจะยื่นหมวกสวมหัวให้มัน เสียงคลิกของตัวล๊อกเข้าล็อกแล้วดังขึ้น กายมองสำรวจมันอีกอย่างก่อนจะดึงมือมันให้ซ้อนท้ายคาวาซากิของเขา
“พร้อมยัง?”
“อื้อ”
“ทางข้างหน้ามันอาจขรุขระหน่อยนะ มึงกอดกูไว้แล้วกัน กูไม่ปล่อยมือมึงหรอก”“กูก็เหมือนกัน”
“อะไรเหมือน”
“ไม่ปล่อยมือเหมือนกัน”
กายยิ้มกว้างตอนที่มันกอดเอวแล้วซบใบหน้าที่แผ่นหลังเขา
★ ☆★ ☆★ ☆
พุฒิทำหน้าไม่ถูกตอนที่เดินตามแรงจูงของโฬมไปตามทางเดินของโรงพยาบาล ต่างจากเจ้าหมูที่ดูตื่นตาตื่นใจกว่าใคร ขณะที่คนเป็นพ่อเหงื่อแตกซ่กๆ เพราะรู้ดีว่าจุดหมายที่คนรักกำลังพาไปหา นี่ต้องเผชิญหน้ากับใคร
“มือเย็นไปหมดแล้วครับ”
โฬมแซวคนรัก แล้วรวมมือไปบีบเบาๆ ให้กำลังใจ
“กลัวเหรอครับ?”
“ถ้าพ่อโฬมไม่เห็นด้วย...”
“ชู่ว”
โฬมแตะริมฝีปากเขาเป็นเชิงห้ามพูด
“ผมอยู่ตรงนี้ทั้งคนกลัวอะไรล่ะครับ ถ้าพ่อไม่ยอม ผมก็หนีตามพี่เลย เรื่องอะไรจะปล่อยไป พี่ได้ผมแล้วนะ จะทิ้งกันง่ายๆ รึไง”
“เจ้าบ้านี่ หน้าสิ่วหน้าขวานแท้ๆ”
โฬมหัวเราะร่วนแล้วเปิดประตูห้องๆ หนึ่งเข้าไป
“โอ๊ะ คุณปู่”
พิกเล็ตทำตาโตตอนที่เห็นคุณปู่นั่งอยู่บนเตียง และใครต่อใครอีกมากมาย แต่เด็กน้อยเกรงสายตาใครที่ไหน พอเห็นคนคุ้นเคยถึงได้วิ่งปรู๊ดไปที่เตียงอย่างว่องไว
“พิกเล็ต”
อดุลย์หัวเราะน้อยๆ ลูบกระหม่อมบางนั่นอย่างเอ็นดู เจ้าหนูนี่ก็ช่างกระไรให้จับอย่างไม่เขินอาย
“สวัสดีฮะคุณปู่”
“ว่าไงลูก หนูมากับใครกันล่ะนี่”
พิกเล็ตยังไม่ทันได้ตอบคำถามพอดีโฬมจูงมือใครบางคนเข้ามา พุฒิทำหน้าอิหลักอิเหลื่อพยายามดึงมือจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย แต่โฬมกลับทำเฉยไม่สนใจแววตาสนใจใคร่รู้ของคนในห้อง
“พิกเล็ตมากับผมและพี่พุฒิครับ”
อดุลย์รีบไหว้พุฒิแล้วหรี่ตามองคนที่เจ้าลูกชายจับมือถือเขาแขน
“ใครกันล่ะนั่น”
“พ่อของพิกเล็ตและเป็นแฟนผมด้วยครับ”
เกิดจังหวะเดตแอร์กันทั้งห้อง
คุณวาสนาเป็นคนที่ได้สติก่อนใครเพื่อน หญิงชราจึงส่งสายตาให้บรรดาลูกๆ ออกไปด้านนอกแล้วหันมากวักมือเรียกเจ้าหมูที่ตามคนแปลกไปหน้าไปอย่างง่ายดายเพียงแค่โดนชวนไปกินขนม
ในห้องตอนนี้เหลือแค่โฬม พุฒิและคนป่วยที่ทำสีหน้าตกใจไม่หาย
“นะ นี่แก”
“ผมมาบอกให้พ่อรับทราบเฉยๆ ครับ ไม่ได้มาขออนุญาตจากพ่อ เพราะพวกเขาคือครอบครัวของผม อยากสร้างครอบครัวด้วยตัวผมเอง”
“เจ้าโฬมนี่แกพูดอะไรออกมารู้มั้ย”
“ผมทราบดีครับ”
“ฉันไม่รู้มาก่อนว่าแกมีรสนิยมแบบนี้”
พุฒิก้มหน้านิ่งจิกมือตัวเอง
“ผมไม่ได้รักเขา เพราะเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ผมรักเขาที่ตัวตนของเขา”
“แล้วถ้าฉันไม่ยอมให้คบกันล่ะ”
อดุลย์พูดเสียงเรียบ
“บอกตรงๆ นะแกกับพ่อม่ายลูกติด ดูยังไงก็ไม่น่าไปกันรอด”
“ผมบอกไม่ได้หรอกครับว่าเราจะไปกันรอดมั้ย แต่อย่างที่บอก ผมอยากสร้างครอบครัวกับเขา”
พุฒิแทบลืมหายใจเพราะทุกอย่างเงียบมาก เขาเกร็งตัวจนรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านมาจากมือของคนรักที่กุมกันไว้
เสียงถอนหายใจของอดุลย์ดังขึ้นในความเงียบ
ชายชรามองภาพตรงหน้าแล้วถึงกับพูดไม่ออก หากเป็นแต่ก่อนคงค้านหัวชนฝา แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้ถึงได้แต่ปลงตก ไม่อยากจะยอมรับหรอก แต่คำๆ นั้นของลูกทำให้ชายชรานิ่งคิด
‘สร้างครอบครัว’หากเป็นคำพูดที่ออกมากจากปากผู้ชาย นั่นก็แสดงว่าเขาคงพร้อมแล้วกับอนาคตที่ต้องสร้างเอง
โฬมโตมากแล้ว เจ้านั่นไม่ใช่เด็กน้อยที่คนเป็นพ่อจะบีบบังคับเอาอย่างใจได้อย่างแต่ก่อน
“เจ้าโฬมมันเอาแต่ใจนะ เราจะรับมือกับมันไหวเหรอ”
พุฒิทำหน้าเหรอหราตอนที่คุณอดุลย์ชวนเขาคุยเฉย
“เอ่อ”
“มันหัวดื้ออย่าบอกใครเชียว เราต้องคอยปรามๆ มันบ้างนะ ไอ้นี่มันได้เลือดบ้าจากฉันเยอะ”
“คะ ครับ”
“ถึงมันจะแข็งกระด้างไปบ้าง แต่เชื่อเถอะว่ามันรักษาคำพูด ถ้ามันเอ่ยปากว่าอยากสร้างครอบครัว ฉันรับรองว่ามันจะสร้างครอบครัวของมันให้มั่นคงแข็งแรงได้ไม่ยากหรอก”
“พ่อ..”
โฬมครางเสียงแผ่ว
“เอาเถอะ อย่างน้อยแกก็มีหลานให้ฉันแล้วนี่”
อดุลย์พูดขำๆ
“ว่างๆ พาพิกเล็ตมานอนบ้านปู่บ้างสิ คนแก่มันเหงานะ ถ้ามีเด็กมาวิ่งเล่นในบ้านคงจะครึกครื้นน่าดู”
“ครับพ่อ”
โฬมยิ้มขำตอนที่พุฒิทำหน้าตื้นตันคล้ายจะร้องไห้ อดุลย์ถอนหายใจก่อนจะเลื่อนมือไปลูบศีรษะพ่อลูกหนึ่งอย่างแผ่วเบา
“ฝากเจ้าโฬมมันด้วยนะ”
.
.
“พี่ใจหายใจคว่ำหมดเจ้าบ้านี่”
พุฒิแยกเขี้ยวใส่คนรักตอนี่ได้มีโอกาสอยู่ตามลำพังกันสองคน
“หน้าพี่ตลกชะมัด”
พุฒิถองใส่สีข้างอีกฝ่ายแรงๆ
“เดี๋ยวเถอะ คืนนี้ผมจะทบต้นทบดอกคืน”
พุฒิรับตะครุบปากอีกฝ่ายไว้ก่อนจะหันซ้ายหัวขวา กลัวว่าลูกจะได้ยินยิ่งช่วงนี้พิกเล็ตชอบถามอะไรแปลกๆ อยู่
“เดี๋ยวเถอะ”
โฬมยิ้มขำกดจูบที่ฝ่ามืออีกฝ่ายทันที พุฒิค้อนประหลับประเหลือกชวนขำ โฬมเลยตวัดอีกฝ่ายมากอดรัดอย่างมันเขี้ยว
“พ่อจ๋ากับพ่อโฬมทำอะไรกันฮะ”
พุฒิตาเหลือผวาออกจากอ้อมกอดคนรักทันที เด็กน้อยมุ่นหัวคิ้วข้องใจ
“พ่อจ๋ากลัวผีครับพ่อโฬมเลยต้องกอดปลอบ”
พิกเล็ตพยักหน้ารับหงึกหงัก
“สงสัยเมื่อคืนพ่อจ๋าโดนผีหลอกฮะ เตียงสั่นทั้งคืนเลย”
เด็กน้อยพูดออกไปอย่างไร้เดียงสาแต่เล่นเอาผู้ใหญ่อย่างพุฒิอ้าปากพะงาบๆ
“เมื่อคืนพ่อโฬมก็กอดปลอบพ่อจ๋าใช่มั้ยฮะ หนูจำได้
“คล้ายๆ แบบนี้เลย แต่พ่อโฬมอยู่ด้านบน”
ตายห่า!
พุฒิตาเท่าไข่ห่านหันมองไปคนรักที่ยิ้มเฉย นึกโมโหคนรัก ทั้งๆ ที่เขาห้ามปรามไม่ให้ยุ่งย่ามกันตอนที่อยู่บ้าน เพราะลูกนอนด้วย นี่แหละเป็นสาเหตุให้โฬมทุ้มไม่อั้นในการทำห้องนอนแยกให้เจ้าหมู
“พ่อจ๋าโดนผีหลอก”
พิกเล็ตหัวเราะคิกคักไปตามประสา พุฒิอายจนหน้าแดงเลยรีบไปรวบตัวลูกน้อยมากอดแล้วชวนคุยเรื่องอื่น
“พ่อจ๋าไม่ต้องกลัวน้า คืนนี้หนูจะจับผีที่มาหลอกพ่อจ๋าเอง”
พุฒิหัวเราะแห้งๆ แล้วกดจูบแก้มกลม
ผีมีจริงที่ไหนเล่า ถ้าจะมีคงมีแต่ผีผ้าห่มของคนแถวนี้แหละ
“ไม่ต้องหรอกลูก เดี๋ยวคืนนี้พ่อจะสำเร็จโทษผีเอง”
พุฒิแยกเขี้ยวใส่ตัวต้นเหตุ
พิกเล็ตเกาหัวแกรกๆ ไม่เข้าใจ เรื่องผีๆ ไม่เห็นสนุกเลย สู้ของกินก็ไม่ได้
“พ่อจ๋าหนูหิวไอติมจังเลยฮะ”
เด็กแก้มกลมทำหน้าปะเหลาะ
“เอาสิครับ หนูจะอยากกี่ลูก พ่อโฬมตามใจเลยแต่มีข้อแม้นะครับ”
โฬมกระซิบข้างหู
“ข้อแม้อะไรฮะ”
“คืนนี้ไปนอนห้องคุณย่าก่อนนะลูก คืนนี้พ่อโฬมจะช่วยพ่อจ๋าสำเร็จโทษผีคืนนี้”
พุฒิอ้าปากพะงาบๆ เนื้อตัวร้อนวูบวาบ ยิ่งเห็นแววตาคนรักจ้องมองเขาแล้วเลียริมฝีปากแบบนี้ พ่อลูกหนึ่ง ถึงกับเดินตุปัดตุเป๋ เจ้าเจ้าหมูพอได้ยินเรื่องของกินก็พยักหน้ารับรัวๆ ไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของบิดาตัวเองเลยด้วยซ้ำ โฬมยิ้มขำมองคนขี้เขินที่เดินเบลอๆ ไปจนชนถังขยะ
โฬมได้บทเรียนจากบิดาที่สร้างครอบครัวไม่แข็งแรง วันหนึ่งที่เขาพร้อมที่จะสร้างครอบครัว เขาถึงอยากสร้างมันให้แข็งแรงด้วยตัวเขาเอง โดยมี ‘พุฒิ’ กับ ‘พิกเล็ต’ เป็นคนที่มาเติมเต็มครอบครัวเขาให้สมบูรณ์ โฬมยิ้มมุมปากนึกถึงเรื่องราวระหว่างเขากับคนรัก
เราคบกันครั้งแรกเมื่อเกือบยี่สิบไปก่อน
เราเลิกรากันครั้งแรกเพราะกลัวความไม่แน่นอน
เรากลับมาคบกันอีกครั้งเพราะเวลาไม่สามารถทำให้เราลืมเลือนกันไปได้
ถึงแม้จะเลิกรากันเป็นครั้งที่สอง แต่ความรักก็ทำให้เราจับมือผ่านพ้นมันไปได้
ไม่ว่าเราจะเลิกรากันไปอีกกี่ครั้ง แต่ถ้าคิดว่าความรักนั้นยังหอมหวานตราตรึงอยู่ในใจ การเริ่มต้นด้วยกันใหม่ ก็ยังเป็นไปได้อยู่เสมอ- END -
ฮือ ในที่สุดก็เดินทางมาถึงตอนสุดท้าย คงคิดถึงนุ้งพิกเล็ตไปอีกนานเลย
ยังไงเราก็ขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกกำลังใจที่มีให้กันนะคะ ฝากผลงานของเราเรื่องอื่นๆ ด้วยเด้อ ❤
#Re2love มีแพลนตีพิมพ์กับสนพ.เอเวอร์วาย
หนังสือคงออกราวๆ พ.ย. ปีนี้นะคะ สำหรับตอนพิเศษในเล่มคงมีราวๆ 5 ตอน
เป็น Special ของคู่ #โฬมพุฒิ #กายป้อง และ คู่ที่ทุกคนขอกันมาเยอะ คือคู่ #ไตตั้นพิกเล็ต (ตอนโต) อิอิ
ปล. เรามีการเพิ่มเติมเนื้อหา บทที่ 6-7 นะคะ (ไม่ได้ตัดหรือปรับอะไร แต่เขียนเนื้อหาเพิ่มเข้าไปแทน
เพราะอยากใส่เหตุผลที่โฬมใจอ่อนกับพี่พุฒิให้เห็นภาพมากขึ้น
สำหรับในเล้าไม่สามารถเพิ่มได้เนื้อจากกระทู้ติดลิมิตตัวอักษร ยังไงไปตามอ่านได้ที่เด็กดีนะคะ)
รัก❤
Karnsaii