#Re2love •17
พุฒิมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนรักที่เครียดเขม็งแล้วนึกเห็นใจ ก่อนหน้านี้โฬมได้รับโทรศัพท์จากทนายความว่าบิดาประสบอุบัติเหตุ ท่าทางที่เจ้าตัวตกใจจนมือไม้สั่นนั่นทำให้พุฒิต้องร้องขอติดตามมาที่โรงพยาบาลด้วย ถึงภายนอกโฬมจะทำเข้มแข็งเพียงใดแต่พุฒิรู้ดีว่าคนรักกำลังกลัว
พ่อลูกหนึ่งเอื้อมมือไปสอดประสานฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งของโฬม ร่างสูงชะงักกึกหันกลับมามองพุฒิแล้วกระชับมือเข้าหากันให้แน่นขึ้น ถึงฝ่ามือหนาชุ่มไปด้วยเหงื่อแต่พุฒิไม่นึกรังเกียจ ตรงกันข้ามเขากลับเต็มใจที่จะกุมมันให้แน่นขึ้น
โถงหน้าโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยนักข่าวนั่นทำให้พุฒินึกแปลกใจ จังหวะที่โฬมเดินผ่านเหมือนมีใครบางคนจำเจ้านั่นได้ นักข่าวเหล่านั้นจึงสะกิดกันให้ดู นั่นแหละเขาจึงจำได้ว่าพ่อของโฬมเป็นคนมีชื่อเสียง ดังนั้นข่าวประสบอุบัติเหตุนี้จึงมีผู้คนให้ความสนใจไม่น้อย
พุฒิเผลอขยับมือถอยออกจากโฬม แวบหนึ่งเขารู้สึกกลัว ท่ามกลางผู้คนมากมาย เขาไม่อยากให้โฬมดูไม่ดีในสายตาคนอื่น จะเป็นอย่างไรหากผู้ชายสองคนจับมือถือแขนกันในที่สาธารณะแบบนี้ โฬมคงพอรู้ทันความคิดเขาถึงได้กระชับฝ่ามือให้แน่นขึ้นกว่าเดิมอีก
“โฬม”
“ไม่เป็นไร”
“แต่..”
“ผมไม่เป็นไร”
ไม่นานทั้งคู่ก็หลุดพ้นจากกลุ่มนักข่าวเพราะคนของบิดาโฬมมาช่วยเอาไว้ พุฒิมองไปรอบกายเห็นคนของบิดาโฬมรายล้อมตัวมากมาย นั่นทำให้เขารู้สึกว่าตระหนักว่าโฬมไม่ใช่แค่ ‘โฬม’ ของเขาคนเดียวอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นโฬมเป็นคนที่มีครอบครัวและครอบครัวที่ว่านั่นก็มั่งคั่งและยิ่งใหญ่
แวบหนึ่ง...เขาเห็นระยะห่างระหว่างกัน
พุฒินิ่งไปจนแรงกระชับตรงฝ่ามือฉุดสติให้กลับมา ภาพตรงหน้าเขาคือหญิงสูงวัยกำลังร่ำไห้โดยมีเด็กหนุ่มสองคนที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายกับโฬมกำลังปลอบขวัญ อีกฝั่งมีหญิงวัยสาวที่เนื้อตัวมีรอยฟกช้ำเล็กน้อยกำลังหน้ายุ่ง สายตาคู่นั่นหลุกหลิกจนน่าแปลกใจ พุฒิยังไม่ทันสังเกตอะไรมากกว่านี้ คนรักก็ฉุดมือให้เข้าไปหาหญิงสูงวัยก่อน
“น้าวาด”
“คุณโฬม”
คุณวาสนาโผเข้ากอดหลานรัก
“คุณอดุลย์”
“ไม่เป็นไรครับน้าวาด พ่อถึงมือหมอแล้ว”
หญิงสูงวัยพยักหน้ารับอย่างจำใจ สีหน้าอมทุกข์นั่นทำเอาพุฒิเห็นใจไม่น้อย เขาเคยได้ยินโฬมพูดถึงน้าวาดที่เจ้าตัวเคารพรักอยู่บ่อยๆ นั่นรวมถึงน้องชายต่างมารดาอีกสองคนนี่ด้วย แต่สำหรับผู้หญิงหน้าสวยคนนั้น ไม่ต้องบอกก็พอรู้ว่าคือภรรยาใหม่ของบิดาโฬมที่เจ้าตัวเคยเปรยๆ ถึง
บรรยากาศชวนอึดอัดนั่นบ่งบอกว่าทั้งโฬมและครอบครัวน้าวาดไม่ได้ญาติดีกับผู้หญิงคนนั้นนักหรอก ขณะที่ทุกคนกำลังทำหน้าเคร่งเครียดเธอคนนั้นกลับนั่งเม้มปากกดโทรศัพท์ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างด้วยซ้ำ มีบางจังหวะที่เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมาแล้วเจอกับสายตาโฬม หญิงสาวก็ทำท่าผงะถอยหลังราวกับคนมีชนัก
สถานการณ์มันดูแปลกๆ ชอบกล
จนกระทั่งนายแพทย์วัยกลางคนเดินออกมาบอกทุกคนหน้าห้องผ่าตัดว่าคนไข้พ้นขีดอันตราย แต่อาการยังทรงตัวต้องดูอาการห้องไอซียู นั่นแหละสีหน้าเคร่งเครียดของแต่ละคนถึงคลายกังวลได้
“กลับบ้านไปพักเถอะครับน้าวาด อยู่ตรงนี้เราก็ช่วยอะไรพ่อไม่ได้หรอกครับ อีกอย่างคุณหมอก็ยังไม่อนุญาตให้เยี่ยม”
โฬมตรงเข้าไปประคองคุณวาสนา ดังนั้นคนที่เหลือจึงขยับตัว พุฒิสังเกตว่าหญิงสาวหนึ่งเดียวที่นั่งกดมือถือทำหน้าหวาดระแวงน่าสงสัยตอนที่ทุกคนเดินผ่านเธอไป
.
.
“หุ้นบริษัทร่วงเพราะข่าวที่คุณอดุลย์ประสบอุบัติเหตุ กรรมการบริหารหลายคนมีความกังวลเลยอยากให้มีการประชุมด่วนเรื่องหาคนมารักษาการตำแหน่งประธานบริษัทครับ”
ทนายจักรเปิดปากพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบหลังจากที่พาคุณวาสนามาส่งถึงบ้านแล้ว ติณณ์พามารดาขึ้นไปพักผ่อน พอลับหลังหญิงสูงวัยก็ดูเหมือนทนายจักรจะอดรนทนไม่ไหวพลั่งพรูเรื่องที่เก็บงำเอาไว้ออกมา
พุฒิสบตากับโฬมแวบหนึ่งเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่สมควรรับฟังเรื่องภายในครอบครัวของอีกฝ่าย พ่อลูกหนึ่งจึงตัดสินใจขยับลุกออกไปจากวงสนทนา
“ท่าจะไม่ดีครับคุณโฬมเพราะเสียงส่วนใหญ่เสนอชื่อคุณพ่อคุณดุสิตาซึ่งมีความอาวุโสซ้ำตัวลูกสาวยังเป็นภรรยาของคุณอดุลย์”
“เข้าล็อกเลยสิ”
โฬมแค่นยิ้ม ขณะที่ตรีขยับตัวเพื่อตั้งใจฟัง
“แต่คุณโฬมเป็นทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายซ้ำยังมีหุ้นรองลงมาจากคุณอดุลย์นะครับ”
“แค่ฟังก็เหนื่อยแล้ว”
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจ
“แต่เรายังมีหนทางนะครับ”
“ยังไงเหรอครับ”
ตรีถามอย่างกังวล
“เราจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากคุณบุศรินทร์”
“เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับพี่บุศ”
โฬมมุ่นหัวคิ้ว
“คุณบุศมีหุ้นบริษัทอยู่ ถึงแม้จะไม่มากแต่ถ้าดึงเธอมาสนับสนุนคุณโฬมได้ อำนาจต่อรองจะอยู่ในมือเรานะครับ เพราะเธอมีเสียงสนับสนุนจากกรรมการบริหารอยู่ไม่น้อย”
แค่ได้ยินเขาก็รับรู้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแล้ว
โฬมยิ้มเครียด
★ ☆★ ☆★ ☆
พุฒินั่งเหม่อมือหมุนดินสอในมืออยู่นานร่วมสิบนาที เบื้องหน้าเขาคือกระดาษเอสี่ที่ถูกเขียนและขีดฆ่าจนอ่านไม่ออกเต็มกระดาษ พ่อลูกหนึ่งขยับแว่นสายตายาวที่สวมใส่อยู่ออกแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจ อากาศข้างนอกวันนี้ขมุกขมัวเหมือนสถานการณ์ในตอนนี้
ปลายนิ้วเรียวหยิบกาแฟซองมาเทใส่แก้วแล้วกดน้ำร้อนใส่ พุฒใช้ช้อนคนกาแฟไปพลางๆ ขณะเดียวกันเขาก็เงี่ยหูฟังข่าวจากโทรทัศน์ที่เปิดไว้เป็นเพื่อน
‘พระเอกชื่อดังเปิดใจว่าไม่มองหญิง ซ้ำยังแอบซุ่มคบแฟนหนุ่มนอกวงการ’เรียกได้ว่าแค่เปิดประเด็นจั่วหัวก็สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งวงการ ไม่นานข่าวนั่นก็ถูกพูดถึงปากต่อปากกลายเป็นไฟลามทุ่งที่ไปทางไหนก็มีคนพูดถึง ทั้งๆ ที่ข่าวเพิ่งหลุดออกมาเมื่อเช้านี้เอง ตอนนี้สื่อโซเชียลพร้อมใจเล่นประเด็นนี้กันทั้งหมด
จริงๆ แล้วพุฒิไม่ได้เป็นแฟนคลับดาราหรอก แต่เมื่อเช้าเขาได้รับโทรศัพท์จากผู้กำกับละครที่ตัวเองเขียนบทโทรทัศน์ให้อยู่ว่าพระเอกหนุ่มที่ถูกวางตัวให้ได้รับบทบาทนำเรื่องนี้มีข่าวฉาวซะแล้ว พุฒินึกเห็นใจพระเอกคนดังกล่าวที่ถูกขุดคุ้ยประวัติตีแผ่จนไม่มีอะไรที่เป็นความลับอีกต่อไป
กระแสสังคมตอนนี้มีทั้งทางบวกและทางลบ บางส่วนแสดงความยินดีและให้การยอมรับ ขณะที่อีกส่วนขุดคุ้ยชีวิตส่วนตัวราวกับเป็นทะเบียนราษฎร์ นั่นรวมถึงคนใกล้ตัวทุกคนเองก็โดนวิพากษ์วิจารณ์ไปด้วย ข่าวชีวิตส่วนตัวกลายเป็นข่าวที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ไม่นานหลังจากนั้นมีการสาวไส้ประวัติแฟนหนุ่มนอกวงการจากพวกแอนตี้แฟนที่รับไม่ได้ที่ดาราที่ตนชื่นชอบมีรสนิยมทางเพศแบบนี้ กระแสสังคมตอนนี้รุนแรงมากถึงขนาดที่ว่าหากมีใครออกมาเสนอความคิดเห็นในทำนองตรงกันข้าม ก็เหมือนเรือที่ขวางกลางกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ไม่นานก็พร้อมจะอับปางลง
นั่นทำให้พุฒิรู้สึกกลัว
กลัวจนคิดใส่เรื่องของตัวเอง พุฒิกลัวว่าการเป็นตัวของตัวเองจะทำให้คนอื่นเกลียด กลัวคนรอบข้างจะเดือดร้อน และกลัวว่าจะทำให้คนรักต้องพลอยเสียหายไปด้วย
จะมีคู่รักเพศเดียวกันในสังคมกี่คู่ ที่คนทั่วไปให้การยอมรับอย่างจริงใจ?
พ่อลูกหนึ่งหลับตานิ่งอยู่นานจนรู้สึกได้ว่ากาแฟในแก้วเกือบจะหายร้อนแล้ว เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วมองเลยไปยังออฟฟิศบ้านข้างๆ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาโฬมแวบไปแวบมาไม่ค่อยจะได้ค้างที่นี่สักเท่าไหร่ พุฒิรู้และเข้าใจดีว่าตอนนี้คนรักมีภาระหนักหนาที่ต้องแบกรับเอาไว้
โฬมกำลังเหนื่อยและเครียด เขารู้ดีเพราะฟังจากน้ำเสียงและสีหน้าตอนที่วีดีโอคอลหากันในทุกๆ วัน เวลาที่คนรักมีปัญหาพุฒิอยากจะยืนเคียงข้างกัน แม้โฬมจะเต็มใจที่จะยืนในตำแหน่งนั้น แต่เขาอดที่จะก้มมองตัวเองไม่ได้ว่าตำแหน่งข้างๆ โฬมควรเป็นคนที่ยืนอยู่ในแสงสว่างได้อย่างไม่อายใคร ซึ่งมันตรงข้ามกับพ่อลูกติดเช่นเขา
คนเราจะรู้สึกไม่มั่นคงและหวั่นไหวเมื่อคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ นั่นคือนิสัยเสียที่พุฒิแก้ไม่หายเพราะเขาชอบคิดแบบนั้นจนเคยชินเสียแล้ว
“บ้าเอ๊ย”
พุฒิสบถเพราะเหม่อจนเผลอปัดแก้วกาแฟหกใส่กระดาษที่เขียนงานไว้
ให้มันได้อย่างนี้สิ!
พ่อลูกหนึ่งทึ้งศีรษะตัวเองแรงๆ เพื่อเรียกสติ สุดท้ายหลังจากทำความสะอาดคราบกาแฟเสร็จพุฒิเลยเดินไปล้างหน้าล้างตาซะหน่อย พอดีกับที่โทรศัพท์มีสายเรียกเข้า แค่เห็นรายชื่อที่โทรเข้ามาอารมณ์ขุ่นมัวพลันก็สงบลง
‘โฬม’
ชื่อเดียวที่มีความรู้สึกหนักอึ้งในใจบางเบาลง
.
.
วันนี้โฬมดูแปลกตาไปกว่าปกติเพราะเจ้านั่นอยู่ในชุดสูทเนื้อดี ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ทรงผมที่เคยยาวเกือบถึงบ่าแล้วมัดรวบดูเซอร์ๆ ถูกหั่นทิ้งกลายเป็นทรงอันเดอร์คัทแบบเปิดท้ายทอยขาว แต่ถึงจะเปลี่ยนทรงผม เจ้านั่นก็ยังดูดีตัวจับยากเช่นเดิม
“ผมคิดค่ามองนะพี่”
โฬมแกล้งหยอกเพราะเห็นพุฒิมองเขาตาปริบๆ คนถูกแซวเลยค้อนให้
“ก็เห็นแปลกตาไป”
“จะพูดว่าผมหล่อก็ได้นะครับ”
“ไม่คิดเข้าข้างตัวเองไปหน่อยรึไง”
“ไม่ครับ ผมพูดความจริง”
พุฒิเบะปาก ขณะที่โฬมยักไหล่ก่อนจะถอดสูทแล้วโยนไปหลังรถ ไม่นานเนคไทก็ตามไปติดๆ ท่าทางชายหนุ่มจะอึดอัดในชุดที่ใส่อยู่จริงๆ ถึงได้ปลดกระดุมเสื้อสามเม็ดแรกออกซ้ำยังพับเสื้อเชิ้ตที่ใส่อยู่ขึ้นถึงศอก ความเป็นตัวของตัวเองนั่นลบภาพลักษณ์นักธุรกิจเมื่อครู่ให้หายวับไปกับตา ท่าทางแบบนั้นทำให้พุฒิมองเพลินกว่าจะรู้ตัวว่าถูกจับสังเกตก็ตอนที่ร่างสูงชะโงกหน้ามาใกล้กัน
“อ๊ะ”
พุฒิกุมจมูกหน้าตื่น เพราะโฬมงับจมูกเขาเบาๆ ความรู้สึกร้อนวูบวาบที่อีกฝ่ายทิ้งไว้นั่นทำเอาเขาทำอะไรไม่ถูก
“ไปกันเถอะครับ ขืนช้ากว่านี้แทนที่จะได้ไปรับพิกเล็ตที่โรงเรียน ผมอาจต้องแวะโรงแรมก่อน”
“เจ้าบ้า”
พุฒิแกล้งเตะตัดขาอีกฝ่ายแล้ววิ่งหนีขึ้นรถทันที โฬมเซไปเล็กน้อยแต่นอกจากขาจะไม่โกรธแล้วร่างสูงยังหัวเราะเฉย
“ฮึย!”
คนสูงวัยกว่าทำเสียงงึมงำในลำคอตอนที่มานั่งในตัวรถเรียบร้อยแล้ว ถึงจะรู้ว่าถูกคนรักรุ่นน้องแกล้งหยอกเรื่องพาเข้าโรงแรม แต่มันก็ทำให้เขาหูร้อนหน้าร้อนไม่ได้
“คาดเข็มขัดด้วยสิครับ”
“อ๊ะ”
บอกไม่พอยังอุตส่าห์เอี้ยวตัวเข้ามาจับสายเข็ดขัดไปเสียบเข้ากับตัวล็อกเสียงดังคลิก พุฒิทำอะไรไม่ถูกตอนที่ริมฝีปากหน้าเฉียดผ่านแก้มเขาอย่างตั้งใจตอนที่โฬมถอยกลับที่นั่งตัวเอง พ่อลูกหนึ่งนั่งหน้าแดงก่ำกำมือแน่น
“พี่ไม่สบายเหรอครับหน้าแดงเชียว”
โฬมกดยิ้มมุมปากคล้ายจะล้อเลียน
“เงียบไปเลย”
พุฒิแยกเขี้ยวใส่
“ดุขนาดนี้ผมกลัวแล้วครับ”
“ให้มันจริงเถอะ”
โฬมยิ้มน้อยๆ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปเปิดวิทยุคลอเบาๆ จังหวะนั้นพุฒิถึงได้สังเกตเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนรัก ท่าทางเจ้าตัวดูจะเหนื่อยอ่อนไม่น้อยจนเขานึกห่วง
“โฬม”
“ครับ”
“ไหวมั้ย เดี๋ยวพี่รับลูกเองก็ได้นะ ท่าทางเราดูเหนื่อยๆ”
“ผมไม่เป็นไรครับรับปากพิกเล็ตไว้แล้วว่าวันนี้จะไปรับแก”
“แต่ว่า..”
โฬมคว้ามือที่ลูบใบหน้าเขามากุมเอาไว้
“พี่ห่วงผมเหรอ”
“อื้มห่วง ห่วงมากเลย”
พุฒิสารภาพออกมา แม้จะดีใจที่วันนี้คนตัวโตว่างมาหาซ้ำยังเป็นธุระพาเขาไปรับเจ้าหมูอีก ทั้งๆ ที่สัปดาหี่ผ่านมาโฬมดูจะวุ่นวายไม่น้อย เขาไม่อยากเห็นแก่ตัวให้เจ้านี่ต้องเหนื่อยไปมากกว่านี้
“ผมไหวครับ”
“...”
“ผมยอมรับว่าอาทิตย์โคตรเหนื่อย ก็ลุงจักรน่ะสิครับหางานให้ผมสารพัด เฮ้อ การนั่งหลังขดหลังแข็งในออฟฟิศนั่นไม่ใช่เหรอสนุกเลยให้ตายเถอะ คิดถึงงานถ่ายภาพชะมัด”
ท่าทางบ่นประปอดประแปดเหมือนเด็กน้อยของโฬมทำให้พุฒิเผลอขำออกมา
“ยิ้มได้แล้ว”
โฬมคลึงขอบปากพุฒิเบาๆ
“พี่รู้ว่าโฬมเหนื่อย แต่พี่ช่วยอะไรเราไม่ได้เลย”
“ใครว่าล่ะ”
พ่อลูกหนึ่งถอนหายใจ
“ไม่ต้องช่วยอะไรผมหรอก” โฬมโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย “แค่เป็นกำลังใจให้ผมก็พอ”
“แค่นี้พอจริงๆ เหรอโฬม”
“พอครับ”
โฬมกุมมือพ่อลูกหนึ่งแล้วบีบเบาๆ
“แค่พี่ช่วยอยู่ใกล้ๆ ผม เป็นกำลังใจให้ผม อย่าทิ้งผมไปไหนก็พอ”
“ทำไมมักน้อยจัง”
“จริงๆ ผมคาดหวังมากเกินนั้นเยอะ แต่อย่าให้พูดเลย”
โฬมกระซิบข้างหู “ผมกลัวพี่จะหัวใจวายไปซะก่อน”
“ฮื่อ”
พุฒินั่งนิ่งยอมให้อีกฝ่ายรวบตัวไปกอด เขาซบใบหน้าที่ซอกคอของคนรักอยู่นาน
แค่ได้กอดกัน แค่นั้นก็เหมือนจะมีแรงแล้ว
★ ☆★ ☆★ ☆
“ฮือ เราชอบ”
“เราก็ชอบ”
พิกเล็ตยิ้มตาหยี ใบหน้ากลมป้อมฉีกยิ้มกว้าง เจ้าหมูยิ้มจนตาหยีตอนที่ม้ากระดกฝั่งที่ตัวเองนั่งอยู่ขยับขึ้นลงไปมา
“สนุกอ่ะ”
พิกเล็ตลองปล่อยมือที่จับด้านหน้าที่นั่งแล้วชูมือขึ้นหมายจะคว้าอากาศ
“สูงจัง”
“พิกเล็ตครับคุณพ่อมารับแล้วจ๊ะ”
จังหวะที่ม้ากระดกฝั่งเจ้าหมูแตะพื้น พอดีกับที่ครูเคทมาเอ่ยเรียก เด็กน้อยตาโตอารามดีใจรีบผุดลุกจากเก้าอี้ น้ำหนักจึงถ่ายไปอีกฝั่งทำให้ม้านั่งฝั่งไตตั้นที่อยู่ไกลจากพื้นร่วงหล่นลงพื้นทันที
“โอ๊ะ”
“ไตตั้น”
ครูเคทยกมือทาบอกตกใจรีบรุดไปดูเด็กน้อยนอนหงายหลังแผ่กับพื้นท่าทางมึนงง
“เราขอโทษ ไตตั้นเจ็บมั้ย”
พิกเล็ตหน้าเสีย
“เราไม่เป็นไร”
“สงสัยหนูต้องลดน้ำหนักได้แล้วนะจ๊ะพิกเล็ต” ครูเคทเอ่ยเย้าหลังจากเช็คร่างกายเด็กน้อยแล้วไม่มีบาดแผลใดๆ นอกจากรอยเปื้อนโคลนที่ก้นเท่านั้น
“ไตตั้นชอบพิกเล็ตกลมๆ ฮะ อุ่นดี”
“ไตตั้นชอบเหรอ”
พิกเล็ตทำตาโต
“เราชอบ”
ครูเคททำหน้าเหวอตอนที่เด็กทั้งสองคู่สวมกอดกัน ครูสาวยิ่งทำหน้าไม่ถูกเลยยิ่งตอนที่ผู้ปกครองเจ้าพิกเล็ตโผล่มาเห็นพอดี
“สงสัยว่าพี่ต้องไว้หนวดแล้วมั้งครับพี่พุฒิ”
โฬมเอ่ยแซวตอนที่นั่งยองๆ อ้าแขนรับเจ้าหมูที่วิ่งดีใจเข้ามาในอ้อมกอด พุฒิทำหน้าปุเลี่ยนๆ ทำอะไรไม่ถูก
“บ๊ายบาย เรากลับก่อนนะไตตั้น”
พิกเล็ตยิ้มตาหยีโบกมือล่ำลาเพื่อนรัก ก่อนจะฉุดมือบิดาและอาโฬมออกเดิน
พุฒิลูบศีรษะลูกชายอย่างมันเขี้ยวก่อนจะปล่อยให้เจ้าตัวแสบพาตัวเองมายืนตรงกลางระหว่างเขากับโฬมและยึดมือเขาทั้งคู่ก่อนจะออกเดิน
“อาโฬมฮะ”
“ว่าไงครับ”
“ทำไมวันนี้ถึงมารับหนูล่ะฮะ”
โฬมยิ้มมุมปาก
“อาอยากกินไอศกรีมครับ ไม่รู้ว่าเด็กน้อยแถมนี้อยากกินด้วยมั้ย?”
“หนูอยาก”
เด็กน้อยตอบรับทันทีโดยไม่คิดเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ใหญ่ทั้งสอง เจ้าหมูตาเป็นประกายทันทีที่ได้ยินเรื่องของกิน
“เจ้าหมูเอ๊ย”
หลังฝ่ารถติดมาเกือบชั่วโมง ซ้ำยังต้องทนฟังเสียงท้องร้องของเจ้าตัวแสบอยู่นานสองนานจนโฬมนึกสงสารไม่นาน ชายหนุ่มก็พาทุกคนมาถึงร้านอาหารจนได้
“ว้าว สวยจังฮะ”
เด็กน้อยทำหน้าตื่นเต้นตอนวิ่งลงจากรถมาเจอบรรยากาศร้าน โฬมยิ้มขำก่อนจูงมือกลมป้อมให้ออกเดิน โดยมีพุฒิเดินตามหลังมาติดๆ
พอถึงโต๊ะโฬมสั่งอาหารสี่ห้าอย่างซึ่งมีรสชาติกลางๆ ทุกเมนูที่สั่งนั่นโฬมสั่งรายการที่สังเกตว่าเด็กน้อยจ้องจนน้ำลายหก
“ค่อยๆ กินครับ”
เด็กน้อยยิ้มตาหยีกระพุ้งแก้มเต็มไปด้วยอาหาร ปากเคี้ยวตุ้ยๆ ท่าทางถูกอกถูกใจเป็นที่สุด โฬมเท้าคางมองภาพนั้นแล้วรู้สึกอิ่มเอมในใจบอกไม่ถูก แววตาและท่าทางที่โฬมแสดงออกนั่นไม่พ้นไปจากการสังเกตของพุฒิ ความรักจากแววตาที่โฬมแสดงออกมาต่อพิกเล็ตนั่นไม่ใช่เรื่องปรุงแต่งหรอก พุฒิสัมผัสได้ว่าชายหนุ่มรักพิกเล็ตจริงๆ
แค่คนรักไม่รังเกียจที่เขามีลูกติดก็มากพอแล้ว แต่นี่ชายหนุ่มกลับให้เขามากกว่านั้น
โฬมให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับเขามากจริงๆ
พุฒิตื้นตันจนน้ำตาคลอ
“พี่พุฒิ”
พ่อลูกหนึ่งสะดุ้งตอนที่ปลายนิ้วเรียวยายเกลี่ยขอบตาเขาเบาๆ โฬมทำหน้าตกใจ
“พี่เป็นอะไรครับ”
พุฒิจับมือโฬมมากุมไว้
“เปล่า” คนสูงวัยกว่ายิ้มกว้าง “พี่ไม่เป็นอะไร ก็แค่..”
“ครับ?”
“แค่ดีใจมากๆ ที่พี่มีโฬม”
ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งใจ
อุ่นใจทุกครั้งที่เรามีกันและกัน
“อ่า หนูก็ดีใจที่มีอาโฬมฮะ”
เจ้าหมูละทุกลางปล้องขึ้นมา ใบหน้ากลมป้อมยิ้มไร้เดียงสามองคนโน้นทีคนนี้ที มือกลมป้อมจิ้มไปที่ทอดมันกุ้งชิ้นสุดท้ายในจาน
“ชิ้นสุดท้ายแฟนหล่อ”
พิกเล็ตชูทอดมันกุ้งขึ้นสุดแขนเล่นเอาผู้ใหญ่ทั้งคู่ขำพรืด
.
.
“อู๊ยยย”
พิกเล็ตยืนบิดตัวไปมา
“หนูปวดฉี่ฮะ”
“เดี๋ยวอาพาไปครับ”
หลังจากชำระค่าอาหารแล้วบังเอิญว่าพุฒิเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนจึงยืนทักทายกันอยู่นานสองนาน โฬมสังเกตเห็นเด็กน้อยยืนหน้าบิดหน้าเบี้ยว สุดท้ายเจ้าหมูออกปากว่าปวดเบานั่นแหละ โฬมจึงอาสาพาไปทันที
ไม่รู้ว่าบังเอิญเกินไปรึเปล่าที่ห้องน้ำชายคนเข้าแถวต่อคิวเยอะจนล้นออกมาด้านนอก ในขณะที่ห้องน้ำหญิงแทบจะไม่มีคน ทำไมมันกลับตาลปัดจนน่าแปลกใจนัก สอบถามจากคนตรงหน้าเลยรู้แล้วห้องน้ำทั้งหมดสามห้องใช้ได้ห้องเดียวเพราะอีกสองห้องที่เหลือดันเสียพร้อมๆ กัน
เจ้าหมูยืนบิดซ้ายบิดขวาจนน่าเห็นใจ โฬมเลยตัดสินใจอุ้มเจ้าหมูไปยังห้องน้ำผู้หญิง ร่างสูงเคาะประตูด้านหน้าแล้วถามเสียงดังๆ
“ขอโทษนะครับพอดีห้องน้ำผู้ชายเสียใช้ได้ห้องเดียว บังเอิญว่าลูกชายผมเขาปวดท้อง ขออนุญาตเข้าห้องน้ำได้มั้ยครับ”
พอพูดจบมีหญิงสาวคนหนึ่งโผล่หน้าออกมาแล้วขยับเชิญชวนโฬมเข้าไปห้องน้ำด้านในทันที
“บรื้อ”
เจ้าหมูตัวสั่นตอนที่ฉี่จนหมดพุงแล้วเรียกรอยยิ้มจากคนตัวโต หลังเสร็จแล้วพอเด็กน้อยมาล้างไม้ล้างมือก่อนจะบอกให้เด็กน้อยยกมือไหว้ขอบคุณบรรดาสาวๆ ที่ยืนรอคิวอยู่ตรงหน้า
“ขอบคุณฮะ”
พิกเล็ตประกบมือไหว้ไม่พอยังย่อตัวท่าทางน่าขบขัน
“ลูกชายเหรอคะ”
โฬมอดยิ้มลูบศีรษะเด็กน้อยที่เบียดตัวกอดขาเขาแน่น ท่าทางเหมือนหวงเขาทำให้โฬมต้องรวบตัวเจ้าหมูแนบกับอก
“ครับลูกชาย”
“น่ารักจังค่ะ”
สาวๆ มารุมจับแก้ม เจ้าหมูเลยกอดคอเขาแน่นทันที
“พ่อโฬม”
หือ?
ชายหนุ่มหันขวับมองริมฝีปากจิ้มลิ้มเรียกขานเขาอย่างตะลึง
เมื่อกี้พูดเจ้าหมูเรียกเขาว่าอะไรนะ!
“พิกเล็ตเมื่อกี้หนูว่าไงนะ”
“พ่อโฬมฮะ หนูอยากกลับแล้ว”
ท่าทางเจ้าหมูออดอ้อนเขาน่ารักน่าชังจนโฬมกดจูบที่ขมับน้อยๆ แล้วเอ่ยขอตัวกับสาวๆ ลับหลังโฬมเจ้าหมูยกมือส่งจูบสาวๆ ท่าทางดูตลกไม่น้อย
“อะไรกันล่ะนั่น กอดกันเป็นลูกลิงเชียว”
พุฒิทำหน้าประหลาดใจตอนที่เห็นโฬมกระเตงเจ้าหมูมาแต่ไกล
“ลูกชายผมเขาขี้อ้อนน่ะครับ”
ลูกชาย?
พุฒิทำหน้างง ขณะที่โฬมขยิบตาให้เจ้าหมูในอ้อมแขน ใบหน้ากลมป้อมยิ้มจนตาหยีแล้วซบใบหน้าถูไถกับอกชายหนุ่มอย่างออดอ้อน
น่ารักเหมือนคนพ่อไม่มีผิด
โฬมจ้องใบหน้าพุฒิแล้วกดยิ้มมุมปากจนพุฒิหน้าร้อนวูบวาบ
แล้วอย่างนี้เขาจะไปไหนไหว ก็ทำให้เขารักทั้งพ่อทั้งลูกขนาดนี้
★ ☆★ ☆★ ☆
สูดดมความรักกับให้เต็มปอด ก่อนที่จะ...
หวีดในทวิตติด #Re2love ด้วยนะคะ