[เรื่องสั้นตอนเดียวจบ]อวยปีใหม่(ลอยระทวย) 3/1/2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ]อวยปีใหม่(ลอยระทวย) 3/1/2018  (อ่าน 6815 ครั้ง)

ออฟไลน์ sakutaka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

ลอยระทวย


'เกลียดคนขี้เสือกชะมัด'

ไอ้ตัวเด่นของคณะแพทย์มันด่าแสกหน้าผม

แต่พอมาในวันลอยกระทง...ผมกลับต้องมาเดทกับคนที่บอกผมว่า 'เกลียด'





อวยปีใหม่

“แล้มแต่งงานกับกูนะ”

คิดว่ามันจะตอบรับผมมั้ย กับความคลุมเครือที่มีให้มาเกือบสองเดือน...โอเค

“กูเปลี่ยนใจแล้ว ทำมึงท้องแล้วค่อยแต่งดีกว่า มึงจะได้ปฏิเสธกูไม่ลง”




Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-01-2018 15:13:03 โดย sakutaka »

ออฟไลน์ sakutaka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ลอยระทวย

รักในวันลอยกระทง ที่ทำให้ผมระทวย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



   “มึง”

   “...”

   “มึงน่ะ”

   “เรียกกู”

   “ใช่...ไปเดินงานกับกู”

   “ฮะ?”

   บนโลกนี้มีคนอยู่เจ็ดพันกว่าล้านคน ทุกคนมีเป็นล้านใจ มึงก็ไม่ใช่ใครก็แค่คนหนึ่ง.....ใช่..คนๆหนึ่งที่กูรู้จัก...แต่ที่แน่ๆ...มึงก็น่าจะจำกูได้!!

   “มาเรียกกูได้ไงวะ” ประโยคนี้ผมหันมาพูดกับตัวเอง แต่แม่งเสือกได้ยิน

   “เห็นยืนหน้าโง่ๆอยู่เลยเรียก” หน้ากูนี่บอกไอคิวขนาดนั้นเลย ผมยกมือแตะหนังหน้าตัวเองเบาๆไม่ทันไรมือใหญ่ก็คว้าเข้าที่แขน

   “เฮ้ย!!มึงทำไรวะ”

   “กูบอกว่าไปเดินเที่ยวในงานกับกูไง” มันไม่รอคำตอบครับ มันลากผมเดินท่อมๆเข้าลานกว้างซึ่งเป็นสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทงประจำปีของมหาวิทยาลัยในทันที ถามกูก่อนมั้ยว่ากูอยากไปรึเปล่า ให้กูตอบก่อนได้มั้ยว่ากูอยากไปกับคนที่เคยตะโกนใส่หน้ากูว่า ‘เกลียด’ รึเปล่า
 


   พูดถึงลอยกระทงทุกคนนึกถึงอะไร กระทง พลุ นางนพมาศ ซุ้มเกมส์ ร้านขายอาหาร เด็กเก็บกระทง หรือเป็นวันมงคลแห่งการเสียซิง หลากหลายครับคำตอบ แต่ที่แน่ๆพอถึงวันนี้ทีไรเพื่อนผมมันมักจะคิดถึงการจูงมือมาเดทกับแฟนคนรัก จุดไฟเย็นสร้างโมเมนต์โรแมนติกเบาๆ แล้วตามด้วยการไปเฝ้าอธิษฐานขอกับแม่น้ำคงคา ว่าขอให้ชาติหน้าฉันท์ใดได้เกิดมาครองรักกันตลอดไป

   ถุย น้ำเน่าสิ้นดี

   ผมที่มีอารมณ์แอนตี้กับวันพวกนี้ถึงกับดีใจตอนที่เพื่อนผมมันโดนตัวเด่นประจำคณะแพทย์หักอกใส่แบบไม่ไว้หน้าแล้วเซย์โนให้กับเทศกาลนี้กันล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อสามสัปดาห์ก่อน....

   แต่แล้วดวงซวยก็มาตกที่กูซึ่งไม่รู้ว่ามันผีเข้าอะไรถึงได้มาบังคับบีบคอให้มางานนี้กับมันอีก...

   นาฬิกาข้อมือบ่งบอกเวลาปาเข้าไปสามทุ่ม ยังไม่เห็นวี่แววว่านางจะโผล่มา ได้ข่าวว่านัดสองทุ่มเลทมาชั่วโมงนึงเนี่ยนะ....โคตรรักษาเวลาเลยว่ะ เพื่อนหอม คนอย่างไอ้แล้มกับเพื่อนแล้วทุ่มเทให้ได้แต่สุดท้ายถ้าโดนทรยศผมก็พร้อมจะประชดกลับทันที โดยไม่รอช้าผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหามัน

   [ตู๊ดตู๊ดตู๊ด]

   “สวัสดีครับคุณตู๊ด ฝากบอกยัยตูดหมึกข้างๆด้วยนะว่าผมจะกลับแล้ว ถ้าขืนมึงยังไม่รับโทรศัพท์กูเนี่ย!!” เชี่ยเอ๊ย กูโกรธ โดนชวนโดนเทในเวลาเดียวกันทูอินวันอย่างนี้นายแล้มจิไม่ทนอีกต่อไป นิ้วไล่จิ้มเข้าไปในแอพเขียวพอเข้าหน้าเพื่อนตัวดีได้ก็พิมพ์ข้อความลาตายแล้วบ๊ายบายกลับบ้าน แต่พอส่งไปเท่านั้นแหละไม่ทันถึงห้าวินาทีมือถือก็สั่นครืดคราดขึ้นมาอย่างกับเจ้าเข้า

   “ฮะ...ฮัลโหล”

   [แล้ม!! แกห้ามกลับเด็ดขาดนะ!!] ขี้หูแทบหลุด เสียงของยัยหอมตะโกนแหวเข้ามาสั่งห้าม

   “มึงช่วยดูด้วยว่านี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว มึงนัดกูสองทุ่มแต่เสือกยังไม่มาเนี่ยนะ ไม่ให้กูกลับ แล้วให้กูมาลอยกะทงกับผีหรือไง” พึ่งจบฮาโลวีนไปหมาดๆด้วย งานนั้นกูคงอินมากกว่างานนี้ เพราะได้ดูหนังผีหนังสยองขวัญข้ามคืนกันมันส์จนตาค้าง แต่พอมางานที่มันมีจุดพลุปังๆกับประกวดนางนพมาศอะไรแบบนี้กูไม่อิน ดูคนที่เดินมาตรงนู้นดิจับมือนัวเนียซื้อกระทงกันกระหนุงกระหนิง ส่วนตรงโน้นก็มุ้งมิ้งจุดไฟเย็นกิ๊วก๊าวกันอย่างกับกำลังทำมิวสิควิดีโอเพลงรัก แต่กูโสดครับ เข้าใจป่ะกูโสด กูเลยไม่อินโว้ย

   [เดี๋ยวก็ถึงแล้ว รอแป๊บ แป๊บเดี๋ยวนะ เดี๋ยวส่งคนไปอยู่เป็นเพื่อนก่อนละกัน]

   “เฮ้ยเดี๋ยว!!”

   จะตะโกนบอกว่าไม่ต้องการเพื่อน แต่กูต้องการแฟนก็ไม่ทันแล้ว นางวางหูอย่างไว ผมได้แต่ถอนหายใจแบบปลงๆ ยืนจนขาแข็งไข่แข็งไปหมดและตอนนี้กูก็เริ่มจะปวดฉี่แล้วด้วย เหลือบซ้ายแลขวาเห็นห้องน้ำอยู่ไหวๆแต่คิวแม่งคนต่อยาวไปไกลถึงหน้าปากซอย นี่พวกมึงต่อแถวขี้หรือรอกินคริสปี้ครีมกันแน่วะกูชักสงสัยขืนให้รอต่อไปคงทนไม่ได้ หรือจะปล่อยลงคูคลองแถวนี้สร้างบรรยากาศเหลืองอร่ามประจำปีให้สุขีสโมสรดี คิดแล้วผมก็หันไปมองที่ท่าน้ำ...

   เช้ดดดดด ยาวกว่าแถวเข้าส้วมอีก!!

   จะมาทำไมกันเยอะแยะวะไอ้คนพวกนี้ ผมยืนบิดตูดปวดฉี่ไปมาหาทางออกไม่ได้แต่สุดท้ายก็มีเสียงทุ้มๆดังขึ้นมาทักจนให้ผมต้องหันกลับไปมอง

   “มึง”

   “...”

   “มึงน่ะ” เสียงมาจากมุมมืดเงาไม้บัง จนผมต้องยืนยันด้วยการชี้หน้าตัวเอง

   “เรียกกู”

   “ใช่...ไปเดินงานกับกู”

   “ฮะ?”

   ผมคงทำหน้าโง่มากมันเลยยอมเผยกายออกมาจากเงามะม่วง แค่นั้นแหละกูพูดไม่ออกเลยครัช อย่าคิดนะว่ากูจะบรรยายความหล่อของมันให้พวกมึงฟัง ฝันไปเหอะ!!

   คนตัวสูงหน้าตาหล่อเหลาเดินสองมือล้วงกระเป๋าเข้ามาประชิด มันใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นดูชิลไปอีกแบบทั้งๆที่ปกติผมจะเห็นมันในชุดนักศึกษาแบบสุภาพเดินล่องลอยไปมาในมหา’ลัย ใบหน้าติดไปทางไร้อารมณ์ตามปกติของมันมองลงต่ำมาที่ผม

   ผมยังไม่ได้บอกใช่มั้ยครับว่ามันชื่ออะไร ไอ้หล่อน้อยกว่าผมข้างหน้ามีชื่อเสียงเรียงนามว่าวูฟ สัตว์กินเนื้อที่มีนิสัยดุร้ายซึ่งอาศัยอยู่ในดงป่าไผ่...ใช่เหรอวะ พอเถอะก่อนที่ผมทำเกรดวิชาชีววิทยาผมเสื่อมเสีย เด็กชายวูฟตัวเด่นตัวดีประจำคณะแพทยศาสตร์ คนที่ทำให้เพื่อนผมเป็นคนอกหักป้ายแดงหมาดๆ โผล่หัวมายืนตรงหน้า เมื่อกี้ได้ข่าวว่ามันพึ่งชวนกูที่เป็นตัวตั้งตัวตีในแผนตามล่าตัวเด็กแพทย์มาทำผัวให้เพื่อนหอมเดินเที่ยวงานลอยกระทงกันมันเนี่ยนะ ผมหูฝาดไปเปล่าวะ





   และนี่เป็นเหตุให้ผมต้องมาเดินงานลอยกระทงกับมัน

   “สายไหมมั้ย” มันถาม

   “ไม่เอา”

   “ไฟเย็นล่ะ”

   “มึงอยากเล่นก็เล่นไปดิ”

   “ไข่ปลาหมึกทอด”

   “กูอิ่มแล้ว”

   “แล้วมึงอยากทำอะไร” ก่อนจะถามว่าอยากทำอะไร มึงช่วยบอกได้มั้ยว่าลากกูมาทำไมวะ กูไม่เข้าใจอยู่เนี่ยยยยย

   “กูอยากกลับบ้าน”

   “อยากกลับบ้านแล้วมางานลอยกระทงทำไม”

   “ใช่ว่ากูอยากมาเปล่าวะ ก็เพราะมึงนั่นแหละที่ทำเพื่อนกู...” กลืนคำว่าเพี้ยนลงคอ มันกำลังจ้องหน้าผมแบบโคตรสังเกตสังกามึงจะเอาไปแทงหวยงวดหน้าหรือไง “ถามจริงเหอะนี่มึงจำกูไม่ได้เหรอ” คนที่เดินไปหามึงแล้วหลอกล่อให้มึงเดินตามมาถึงคณะวิทยาฯเพื่อมาโดนเพื่อนกูสารภาพรักไง มึงจำไม่ได้จริงอ่ะ

   “ไปเหอะ กูอยากลอยกระทงแล้ว”

   “ก็เรื่องของมึงดิสัด” ฟังกูบ้าง

   “ลอยคนเดียวมันไม่ใช่เปล่าวะ”

   “แล้วทำไมมึงไม่ลากเพื่อนมาด้วย”


   “เพื่อนมันไปกับแฟน”

   “งั้นมึงก็ไปกับแฟนมึงดิ”

   “ก็กำลังทำอยู่เนี่ย”

   “...” ฮะ?

   “กำลังมาหาแฟนในงานนี้”

   โหยยย ไอ้เหี้ยทีเพื่อนกูเสนอตัวมึงไม่เอา แถมมาด่าตีแสกหน้ากูด้วยคำว่าเกลียดคนขี้เสือกอีก แล้วมึงจะลากคนที่มึงเกลียดมาเป็นกอขอคอในการหาผู้หญิงทำซากอะไรครับคุณวูฟ พอเห็นท่าทีอย่างนี้เลยอยากทำให้จบๆผมจึงเริ่มชี้โบ้ชี้เบ้ไปทางผู้หญิงที่อยู่ตามละแวกนั้น

   “เฮ้ยๆมึงคนนั้นก็สวยนะ ได้มาควงเป็นแฟนก็น่าอวดไม่หยอก”

   “นมใหญ่ไปกูไม่ชอบ” เชี่ยมีแบ่งขนาดด้วย เห็นทั่วไปมีแต่เล็กๆไม่ ใหญ่ๆขยำ

   “แล้วคนนั้นอ่ะมึง โหยยยขาวโคตร ขาวอย่างนั้นขาวลามไปถึงแก้มก้นเลยมั้งนั่น”

   “ขาวเกินไปกูดูแล้วแสบตา” ใส่แว่นกันแดดดิสัด ว่าแต่เดี๋ยวนี้เขาฮิตเทรนผิวแทนกันใช่มั้ยวะ

   “เฮ้ย คนนั้นๆเด็ดว่ะ ตาโต แก้มอมชมพู ริมฝีปากก็ชมพู หัวนมคงชมพูด้วยเลยมั้ง”

   “คนหรือพิงค์แพนเตอร์วะนั่น”

   “ฮ่วย มึงจะเอายังไงวะ คนนี้ก็ไม่ใช่ คนนั้นก็ไม่เอา ไหนว่าจะมาหาแฟนไม่เห็นจะเริ่มมองใครซักคน”

   “ก็มองอยู่นี่ไง” มองใครวะตรงหน้ามันก็มีแต่ผม “กูชอบคนนมเล็ก ผิวไม่ขาวไม่ดำจนเกินไป ตาก็ไม่ต้องโตแก้มกับปากก็ไม่ต้องสีชมพูขอแค่จับแล้วเนียนๆอยู่เป็นใช้ได้ ส่วนหัวนมกูยังไม่รู้ว่าของมึงสีชมพูรึเปล่า”

   “...”

   “เปิดให้กูดูหน่อยดิ”

   “สัด!!” ยกมือขึ้นกุมนมปกป้องสุดชีวิต กูเสียวโว้ย

   “ไปลอยกระทงได้แล้ว” ว่าจบมันก็จับข้อมือที่ยังจับนมขาดมันเนยของผมไว้อยู่ลากไปซื้อกระทงริมทางเดิน



   คนเยอะชะมัด แค่เห็นกูสยองจนไม่อยากจะก้าวเข้าไปแล้ว แต่ไอ้หมอวูฟมันทำหน้าเบิกบานราวกับเด็กเห็นของเล่น ผมคงไม่พ้นที่จะต้องเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปที่ท่าน้ำกับมัน

   “จับมือกูไว้แน่นๆนะ เดี๋ยวหลง”

   “ใช่เด็กเปล่าวะ ทำไมกูต้องจับด้วย”

   “เหอะน่า” จากที่ตอนแรกจับเหมือนเชคแฮนด์มันทำร้ายผมด้วยการเปลี่ยนมาประสานห้านิ้วทันที แนบแน่นเสียจนไม่มีอากาศหายใจ เหงื่อกูแม่งไหลออกมาจากร่องนิ้วผสมกับของมันจนกลายเป็นทฤษฎีสีชมพูแล้วมั้งเนี่ย

   “จับเหี้ยอะไรนี่ มึงจะมาหาเมียจริงรึเปล่า กูเริ่มสงสัยแล้วนะ” สภาพนี้มันดักเก้งกวางให้เข้าหาชัดๆอ่ะมึง

   “โปรดอย่าปล่อยมือฉันได้มั้ย ยืนยันให้มั่นใจ เธออยู่ตรงนี้ได้มั้ย...” ร้องเพลงแล้วเมินคือเส้นทางเดินของเด็กแพทย์คนคูลๆ อย่างเชี่ยวูฟ ถึงมึงจะคูลแต่มือกูตอนนี้แม่งร้อนเหลือเกิน

   กว่าจะหลุดเข้ามาถึงริมน้ำได้เล่นเอาเหงื่อไหลไคลย้อยเป็นแถบๆไหนจะต้องคอยหลบไม่ให้ไฟเทียนจากกระทงไปโดนชาวบ้านชาวช่องเขาอีก สาบานเลยว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะมาลอยกระทง

   ผมกับมันเริ่มนั่งยองตัวลงที่ริมท่าไม้ ผมยกกระทงขึ้นมาไหว้อธิษฐานแต่เสียงทุ้มกลับตะโกนห้ามไว้ก่อน

   “ใส่เงินด้วย คำอธิษฐานจะได้ศักดิ์สิทธิ์” กะผีอ่ะดิ สุดท้ายก็ไปลงที่เด็กเก็บกระทงอยู่ดี แต่ผมก็ยอมทำตามด้วยการล้วงเหรียญบาทมาโปรยลงไปในกระทงใบตองที่ถืออยู่แล้วเหลือบมองไอ้คนที่แนะนำให้เสียทรัพย์ว่ามันงัดออกมาเท่าไร

   เหยดเข้ แบงค์พัน!!

   มาแล้วครับสายตานับสิบของเด็กเก็บกระทงที่มันยืนเกาะขอบเวทีโป๊ะโน้นโป๊ะรายล้อม เป็นประกายสัด สงสัยคงได้เกิดศึกษาแย่งกระทงไอ้วูฟกันก็คราวนี้ ผมกะจะห้ามแต่ปากมันขยับตามไม่ทันเพราะพอไอ้วูฟมันเสียบลงกระทงอธิษฐานเสร็จแม่งก็ทำท่าเหมือนจะเขวี้ยงลงน้ำ มือผมเลยรีบตวัดตามไปใช้ดัชนีกับนิ้วกลางหนีบป้าบเข้าให้คว้าแบงค์เทาไว้ได้ทัน

   “ทำเหี้ยอะไรวะ” หูยดูมันด่า กะให้กลับไปเกิดใหม่ชาติหน้าไม่ถูกเลยป่ะ

   “มึงต่างหากใส่ลงไปทำไมตั้งพันวะ เสียดายสัด ตังค์ก็ยังหาเองไม่ได้เสือกใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายอีก” ถ้าจะทิ้งให้เด็กเก็บกระทงสู้ส่งให้กูเอาไปใช้เป็นทุนการศึกษาดีกว่าโว้ย

   “แต่กูพึ่งอธิษฐานไป”

   “อธิษฐานว่าอะไรเดี๋ยวกูโยนเศษเหรียญลงไปใช้คืนให้ก็ได้”

   “อธิษฐานให้เมียในอนาคตกูมาเก็บเงินในกระทงนี้ไป”

   “...!!” มึงใช้อะไรคิดวะสัด ดูหน้าเด็กเก็บกระทงแต่ละตัวซะก่อน เกรียนเกร่อแถมดูเหมือนยังไม่จบมัธยม มึงจะพรากผู้เยาว์เอาเด็กผู้ชายมากระทำชำเราด้วยแรงอธิษฐานแบงค์พันของมึงรึไงไอ้เชี่ยวูฟ

   “อย่างนี้มึงก็เป็นเมียกูในอนาคตดิ”

   เหี้ยยยยยยยยยย กูไม่เอา

   “เอาคืนไปเลยมึง” ผมรีบส่งเงินคืนมัน แต่ทันใดนั้นกลับโดนเสียงตะโกนให้ช่วยดังเข้ามาแทรก

   “ช่วยด้วยเด็กจมน้ำ!!”

   เฮ้ยยยยย เชี่ยแล้วตรงไหน แม่น้ำลำคลองตอนกลางคืนมืดสุดๆจนผมเห็นแค่พุ่มน้ำที่ถูกตีจนสาดกระเซ็นกองหนึ่งแบบไม่ชัด

   ตูม!!

   เหมือนเสียงบางอย่างตกลงน้ำ พอหันไปอีกทีคนข้างๆผมมันก็กระโจนทยานลงไปในลำคลองซะแล้ว ร่างสูงจ้วงอย่างไวไปยังกอน้ำที่แตกกระเซ็น พาดแขนเข้ากับร่างเล็กๆที่ตีเปาะแปะตะกุยน้ำอย่างทุรนทุรายเพื่อเอาชีวิตรอด แล้วเกี่ยวคอลากกลับมาพร้อมกันด้วยความทุลักทุเล เด็กคนนี้ดิ้นหนักมากจนเหมือนจะพาอีกร่างให้จมลงไปด้วย ดีไม่ดีถ้าเป็นผมคงไม่รอดเผลอๆคงตุ๊ยท้องเข้าซักหมัดสองหมัดแล้วค่อยพาเข้ากลับฝั่ง แต่ไอ้วูฟมันมีพลังเยอะเลยกลับมาได้แบบไม่ต้องมีคนบาดเจ็บล้มตายเพิ่มเติม

   มือใหญ่ช้อนรักแร้ยกเด็กขึ้นจากน้ำส่วนคนข้างบนก็รีบยื่นมือไปรับอย่างไวพลางกล่าวขอบคุณปนเสียงสะอื้นไห้ไม่หยุดปาก ผมเดาว่าสองคนนั้นคงเป็นพ่อกับแม่ของเด็ก ส่วนคนจำนวนมากที่ยืนรายล้อมอยู่รอบๆต่างเริ่มตบมือกับคนละแปะสองแปะรวมไปรวมมาจนเกิดเป็นเสียงปรบมือที่ดังก้องไปทั่วบริเวณราวกับสรรเสริญนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ที่ชนะศึกในบางระจัน...นายแพทย์วูฟ คนดีของสังคัง ส่วนผมเนี่ยดิได้แต่นั่งแผละอึ้งๆอยู่ริมท่าไม้ มองลงไปยังคนที่เพิ่งกลายเป็นฮีโร่สำหรับทุกคนตาไม่กระพริบ

   “เป็นไรนั่งนิ่งเชียว อึ้งในความเท่ของกูเหรอ”

   “เปล่ากูตกใจ” ผมใจหายจริงนะตอนที่มันโดดลงไปด้านล่าง เพราะกลัวว่าน้ำจะลึกแล้วพอเจอเด็กดิ้นหนักๆจนเหมือนจะเอาไม่อยู่ผมก็กลัวว่ามันจะโดนแรงเล็กๆนั้นดึงจนจมหายไป ใจหาย คิดได้ผมก็คว้ากระทงของผมที่ยังไม่ได้ลอยโยนลงไปในน้ำเฉียดหน้ามันไปนิดเดียว

   “เชี่ย!!ทำไรของมึงเนี่ยเกือบโดนหน้าแล้วรู้มั้ย”

   “กระทงใบนั้นกูอธิษฐานให้มึงขึ้นฝั่งมาปลอดภัย”

   “...”

   “รีบขึ้นมาได้แล้ว”

   “กูขึ้นไม่ได้”

   “ทำไมวะลีลาสัด เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”

   “กูตกหลุมรัก”

   “...” รอยยิ้มกับหน้าตาเพ้อๆของมึงนี่คืออะไรวะไอ้เชี่ยวูฟ ทำไมกูเห็นแล้วรู้สึกวูบวาบขึ้นมาทันที

   “จะขึ้นไม่ขึ้น”

   “เชี่ย!!ตะคริวกินขากู”

   “เวรเอ๊ยย​!!”

   ตูม!!

   ผมโดดลงไปช่วยมันแบบไม่คิด เสือกจมน้ำไปอีกคนแล้วกูจะทำยังไง กูต้องรับผิดชอบมั้ยที่ไปเก็บแบงค์พันของมึง ถ้าต้องตายแล้วไปเกิดใหม่กูต้องกลายเมียในอนาคตมึงใช่มั้ยกูไม่เอาหรอกเว้ย ผมว่ายไปถึงตัวมันแล้วคว้าร่างสูงไว้ไอ้วูฟมันทำหน้าตกใจก่อนกอดตัวผมไว้แน่น

   “มึงประคองตัวไหวรึเปล่า”

   “ไหวดิ มีมึงอยู่ทั้งคน ได้กอดมึงอย่างนี้กูประคองชีวิตไปได้อีกหลายร้อยปีเลยว่ะ”

   “สัด มึงโกหกกู!!” ไอ้เชี่ยทำกูเป็นห่วงตะคริวแม่งไม่ได้กินเล้ยยย แถมรัดตัวผมซะแน่นเอาหน้าซุกซอกคอจนกูเสียว สร้างเสียงกรี๊ดกร๊าดให้ดังมาจากรอบข้าง

   หา? เสียงกรี๊ดกร๊าด

   กองเชียร์ริมท่ามามุงดูกูกับมันกอดโชว์เต็มไปหมดเลยครับ เชี่ยมึงปล่อยกู!!

   กว่าจะขึ้นมาจากน้ำได้ก็แทบตายเพราะมันแกล้งผมไม่ยอมปล่อยซักที ผมรีบเดินตูดบิดสะบัดเสื้อด้วยความหงุดหงิดออกมา งานนี้กูต้องกลับบ้านไปรักษาหน้าเอากาวตราช้างทาปิดเพราะมันร้าวจนไม่รู้จะติดอยู่รึเปล่าเลย

   “แล้ม เชี่ยแล้ม” หืมมันเรียกชื่อกู อ้าวเฮ้ย...ไม่เหมือนที่กูคิดไว้นี่หว่า ผมหยุดเท้าหมุนตัวหันไปมองหน้ามัน

   “นี่มึงรู้จักกู มึงจำกูได้ใช่ป่ะ” ผมชี้หน้ามันอย่างเค้นหาความจริง

   “ก็จำได้ดิ แล้มคนขี้เสือก”

   “แล้วทำไมมึงไม่บอกวะ จะมาอิดๆออดๆเบี่ยงประเด็นทำไม อยากแกล้งกูใช่มั้ย ก็มึงเกลียดกูนี่”

   “ใช่กูเกลียดมึง”

   “...” ออกจากปากตัวเองคำพูดนี้ดูแสนจะธรรมดา แต่พอหลุดออกมาจากริมฝีปากคนตรงหน้าทำไมมันโคตรเสียดแทงจิตใจ เพราะหน้ามันไร้อารมณ์ใช่มั้ย หรือเพราะมันปากเสียด่าเจ็บมาแต่ไหนแต่ไหน หรือเพราะว่าผมผูกพันกับมันมากเกินไป...เพราะมันเป็นคนที่ผมช่วยยัยหอมมองหา คอยสังเกต ช่วยเหลือเพื่อนให้ตามจีบตลอดเวลา จนเหมือนว่าการตามติดชีวิตมันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผมไปเสียแล้ว

   ผมรู้ว่ามันชอบสั่งข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาวไม่สุก ชอบดื่มน้ำชานมไข่มุกหลังมื้ออาหาร ชอบเดินไปชมรมถ่ายภาพหลังเลิกเรียน ชอบที่จะชิลอ่านหนังสือคนเดียวใต้ต้นไม้ ชอบที่จะนอนหลับเป็นตายที่ใต้สโลปห้อง แล้วชอบที่จะลืมเสื้อกาวน์ไว้ตรงโต๊ะม้าหินตัวประจำอยู่เสมอๆ จนทำให้ผมต้องคอยวิ่งขึ้นไปฝากไว้กับเพื่อนมันที่หน้าแล็บตอนที่ไอ้วูฟมันไปเข้าห้องน้ำ

   กูมาถึงจุดๆนี้ได้ไงวะ...จุดที่มีมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ตามติดมันยิ่งกว่าเหาฉลาม...

   “กูเกลียดมึงมากกกกก” ไอ้สัด ย้ำเพื่อ!!

   “แล้วมึงมาชวนคนที่มึงเกลียดมาเที่ยวด้วยทำไมวะ” แม่งกูจะวิ่งกลับบ้านในสภาพเปียกมะลอกมะแลกอยู่แล้วถ้ามึงไม่เรียกชื่อกูไว้ซะก่อน

   “เกลียดที่มึงโง่อยู่อย่างนี้ไง”

   “ด่ากูโง่ตั้งแต่เจอหน้ากัน แล้วมาด่าย้ำอีกทีเนี่ยนะ ไอคิวกูลดลงไปจนจะไม่ถึงร้อยอยู่แล้วนะเว้ย”

   “ไอคิวเรื่องความรักของมึงคงติดลบเลยมั้ง ถึงไม่รู้สักทีว่ากูคิดยังไง”

   “...” ฮะ?

   “เสือกช่วยเพื่อนมาจีบกู”

   “...”

   “หลอกกูให้เดินตามคนที่ชอบไปต้อยๆแล้วสุดท้ายต้องมาฟังคำสารภาพรักจากปากของคนอื่นที่ไม่ใช่มันเนี่ยนะ”

   “...” ตามคนที่ชอบ? สารภาพรักจากคนอื่นที่ไม่ใช่มัน?

   “เจ็บสัดเลยว่ะ เกลียดโคตร” ต่อให้เรื่องราวมันงุนงงสับสนขนาดไหนผมก็ยังไล่ตามคำพูดของมันทัน ในวันนั้นคนที่บอกให้มันเดินตามมาก็คือผม เพื่อจะพาไปหายัยหอมที่ยืนรอพร้อมสารภาพรัก ผมทิ้งมันไว้ให้อยู่กับยัยหอมสองคนแล้วรีบกลับบ้านไปทันที โดยไม่คิดที่จะตั้งใจฟังคำตอบรับการสารภาพรักครั้งนั้นของมันเลย พอโดนมันพูดย้ำหนักๆว่าเกลียดผมก็เริ่มจะสับสนแล้วว่ามันรู้สึกยังไง

   “สรุปมึงจะชอบหรือเกลียดกูกันแน่วะ!! ไอ้เชี่ยวู...อื้อ” ไม่อยากตอบจนต้องเอาริมฝีปากมาประกบเลยเหรอไอ้เชี่ย!! อ้าวเฮ้ยมัน...จูบผมอยู่!!!

   ริมฝีปากนิ่มแสนนิ่มของมันทำเอาผมสติหลุด ตอนแรกผมพยายามถอยแต่มือใหญ่ๆก็ดันท้ายทอยไว้ไม่ให้ออกห่าง แขนอีกข้างโอบรัดเอวจนจากที่คิดว่ามีแค่ริมฝีปากที่เบียดชิดแต่แผ่นอกและช่วงล่างกลับแนบสนิทอย่างไม่น้อยหน้าแทบไม่เหลือช่องว่างใดใด วูฟมันเปลี่ยนองศาเอนศีรษะได้รูปไปด้านข้างแลบลิ้นเลียกลีบปากบนล่างของผมอย่างหยอกเย้าทำเอาถึงกับต้องหลับตาปี๋เพื่อหนีความอายจากสายตาคมๆที่จ้องตรงมาประสานไม่ขาด

   “แล้ม อ้าปากหน่อย”

   “กูจะอ้า...!!” ริมฝีปากกดหนักๆลงมาอีกครั้ง คำว่า ‘เพื่อ’ โดนลิ้นร้อนๆดันให้กลืนหายไปในลำคอ ไอ้วูฟเริ่มชิมไปทั่วโพรงปากกวาดความหอมหวานพลางหยอกเย้าพัวพันของผมไปมาราวกับเกี้ยวพาราสี ก่อนลัดเลาะไปตามแนวฟันทำสัญลักษณ์ว่าเป็นของมันจนหมดทุกทาง

   ร้อนชะมัด ผมกลั้นหายใจสุดชีวิตปล่อยหยาดน้ำในโพรงปากที่ผสมกันไหลรินจนถึงปลายคาง

   “อือ..วูฟ...กู” จะตาย...หายใจไม่ออก

   ผมผลักอกมันเบาๆ เป็นสัญญาณ ดูเหมือนว่าร่างสูงก็พอจะรู้ตัวเลยถอนปลายลิ้นที่หยอกเย้าความนุ่มนิ่มออกมาไล้เลียหยาดน้ำใต้คางผมแทน

   “จูบมึง...หวานชะมัดเลย” หน้ามันแดงก่ำแถมหอบหายใจแรงไม่แพ้ผม

   “ปล่อยกูได้แล้ว” หัวใจ...แม่งเต้นแรงจนจะหลุดออกมาข้างนอก ท่าทางที่ตัวติดกันขนาดนี้ของผมกับมันช่างล่อแหลมจนเริ่มไม่ไว้ใจร่างกายตัวเอง

   “กูยังไม่อยากปล่อยเลย” มันก้มลงมาจ้องหน้าแบบอ้อนๆ เฮ้ยใครเสือกเอารักใสใสหัวใจสิบดวงมาใส่ในเครื่องเล่นวิดีโอกูวะ

   “แต่กูอยากให้มึงปล่อย” ผมดันมัน “ปล่อยดิวะเลิกกอดกูซักที” แต่ยิ่งขยับก็ยิ่งเหมือนทำให้มันใส่แรงรัดหนักเข้าไปอีก ผมดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ชั่วครู่หน้าหล่อๆของไอ้วูฟก็ยื่นเข้ามาใกล้จนผมตกใจตัวแข็งทื่อเพราะนึกว่าจะมีต่อก๊อกสอง แต่เปล่าเลยมันกลับจ้องนิ่งๆ จนผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองเริ่มเห่อร้อนขึ้นมาอีกครั้ง

   “มึงรู้สึกแล้วใช่มั้ย” มือใหญ่คว้าหมับเข้าบั้นท้ายของผมใช้แรงดันเข้าหาตัวมันอย่างกะทันหัน

   ชิท!!!!

   “เชี่ยทำไรกู!!”

   “จริงด้วย”

   “หา?”

   “ของมึงโดนขากูอยู่” ประโยคนี้มันกระซิบที่ข้างหูผมด้วยเสียงกระเส่า เหี้ยยยยยยกูจะไม่เอากับมึงตรงนี้เด็ดขาด พอเลยมึงปล่อยกู!!

   ผลั่ก!!

   ไม่รอให้มันกระทำชำเราได้ผมเป็นเมียตามที่อธิษฐานไว้หรอก ผมผลักมันจนหงายหลังไปนั่งกองบนพื้นหญ้า

   “กูปวดฉี่โว้ย!!” ว่าจบสะบัดบ็อบแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งหนีมันออกมา

   “ไปฉี่ที่ห้องกูก็ได้”

   “ฉี่กับควายอ่ะดิ!!” กลัวมันจะไม่จบที่ห้องน้ำ แต่มันจะคลานไปต่อห้องนอนเนี่ยดิ

   ภาพที่ผมเดินออกมาโดยมีไอ้วูฟวิ่งไล่ตาม โคตรเหมือนนิทานเรื่องลูกแกะกับหมาป่า แต่ใครจะรู้ว่าคนที่วางแผนส่งไอ้วูฟมาก็คือยัยหอมจอมซนคนที่โดนอนาคตสามีผมมันหักอกนั่นเอง




   ‘วูฟ เราชอบนายน่ะ ถ้ายังไม่มีใครเป็นแฟนเราได้มั้ย’

   ‘ไอ้หน้าจืดนั่นมันเพื่อนเธอเหรอ’

   ‘...’

   ‘ไอ้คนที่เรียกเรามา’

   ‘อ๋อ แล้มเหรอ ใช่เพื่อนเราเอง’

   ‘เชี่ยเอ๊ย!!’

   ‘วูฟเป็นอะไร’

   ‘เธอชื่ออะไรนะ’

   ‘เราชื่อหอม’

   ‘หอม...เราขอโทษนะ แต่เรามีคนที่ชอบอยู่แล้ว’

   ‘...’

   ‘ขอบคุณนะสำหรับความรู้สึกดีดี แต่เราไม่อยาก...’

   ‘วูฟชอบแล้มเหรอ’

   ‘!!!’

   ‘ไม่ต้องทำหน้าตกใจไปหรอก แค่เห็นสีหน้าเมื่อกี้ก็รู้แล้วว่าโกรธที่แล้มเรียกมาหาเรา’

   ‘ขอโทษจริงๆนะ’

   ‘จะว่าเสียใจก็เสียใจอยู่นะ แต่ตอนที่จีบนายเราแทบจะไม่ต้องกระตือรือร้นพยายามทำอะไรเลย เพราะอยู่ดีดีข้อมูลก็มาหาเราเอง แล้มเป็นเพื่อนที่ดีนะ พอขออะไรก็จะทำให้ทุกอย่าง แม้แต่เรื่องที่ขอให้สืบว่าวูฟชอบกินอะไร มีงานอดิเรกแบบไหน คบใครอยู่รึเปล่า พอตัวเองไม่ได้พยายามขนาดนั้นมันเลยไม่เจ็บมากน่ะ’

   ‘หอม...เราขอบคุณเธอจริงๆนะที่ไม่โกรธเรา เพราะเรารักมันไปแล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่มันเอาเสื้อกาวน์มาให้เราที่แล็บแล้วน่ะ ถึงแม้มันจะแค่...ทำตามที่เธอขอร้องก็เถอะ’

   ‘หืม?’ หญิงสาวทำหน้าฉงน

   ‘ทำไมเหรอ’

   ‘เราให้แล้มสืบเรื่องวูฟ แต่เราไม่เคยบอกให้แล้มเอาเสื้อกาวน์ไปให้เลยนะ’ แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวส่งผลให้ร่างสูงเผยรอยยิ้มออกมาที่มุมปากอย่างห้ามอาการไม่อยู่

   ‘เพราะมันน่ารักอย่างนี้แหละเราถึงได้ชอบมัน’

   ‘ถ้างั้นเดี๋ยวเราช่วยเองนะ’

   ‘...’

   ‘เราจะช่วยให้วูฟสมหวังเอง’




   ‘เกลียดคนขี้เสือกชะมัด’

   ผมอดไม่ได้ที่จะตะโกนใส่คนที่ผมชอบ คนที่ชอบมาเสือกจับคู่ให้คนอื่นสมหวัง ทั้งๆที่ผมชอบมันแท้ๆ...

   แต่เพราะประโยคนั้นแหละที่ทำให้มันจำผมได้ไม่ลืมและในที่สุดผมกับมันก็ได้มาเป็นแฟนกันในที่สุด...

   ณ วันลอยกระทง ปี2017



จบ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อารมณ์มันพาไป
ความจริงอยากแต่งให้ระทวยกว่านี้แต่ชั่วโมงบินฉากวิ๊วว๊าวยังต่ำอยู่
กลัวคนอ่านปาคอมใส่55

มามันทั้งสงกรานต์แล้ว ครั้งนี้ก็ลอยกระทง จะบิลด์อารมณ์เรื่อยๆนะคะ
รักคนอ่านค่ะ

ฝากเรื่องสั้นอีกเรื่องไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ

[เรื่องสั้น]สงกรานต์เมษาผ้าขาวม้ายกสยาม (จบในตอน)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59452.0

เรื่องยาว(ยังไม่จบ)
{Will you be my family?(น้องครับพี่ขอนับญาติได้มั้ย?)}
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61187.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2017 22:48:46 โดย sakutaka »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น่ารักอ่ะ...อยากอ่านต่ออิีก    o13

ออฟไลน์ Lalaleega

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักกก   :hao3:

ออฟไลน์ benceii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หูยยยย น่ารักกกกกกกก แล้มโดนหมาป่ากิน

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
จบแบบนี้มั่ยดั้ยยยยยยยยน้าาาาาาา  :hao5: 555555555555

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
โหยยยยยยน่ารัก ลอยกระทงทีน้ำในสระหลายเป็นน้ำเชื่อมเลยนะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
น่ารักกกก /////

ออฟไลน์ Egonoki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แต่งดีแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้แต่งต่อไปเรื่อยๆนะ

ออฟไลน์ Yellow sky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขอตอนพิเศษหน่อยได้ไหมค้าาาา ชอบมากๆเลยค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ JoobbieChu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านสนุกมาก แล้มโดนจีบไม่รู้ตัวโคตรน่ารักเลย มุดหมอแต่ละอย่างนี่ตามไม่ทันจริงๆ หมอรุกหนักด้วย ยังไม่ทันขอเป็นแฟนก็รุกจูบซะแล้ว ใจร้อนจริงๆ

ออฟไลน์ lalun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ชอบมุกแบงค์พันมาก5555
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ คุณบี๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่ารักมากเลยค่าาาา :impress2:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
หวานๆ น่ารัก ชอบมากครับ

ออฟไลน์ sakutaka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
อวยปีใหม่

ไม่ว่าปีนี้หรือปีไหน กูก็อยากจะอวยพรปีใหม่กับมึงต่อไปในทุกๆปี

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



   “แล้ม”

   “ฮือออ”

   “แล้ม”

   “วูฟ...มึง...เบามือกับกูหน่อย”

   “อีกนิดกูจะไม่ทนแล้วนะ”

   พรึ่บ!! สายตาหวานเบิกโพลงมองกรอกเป็นวงกลมก่อนมาสบเข้ากับผมแล้วจ้องนิ่ง

   “ไอ้วูฟ”

   “มึงตื่นแล้วสินะ”

   “...”

   “เลิกสีกูซักทีเถอะ...ท่อนล่างกูจะตื่นตามมึงไปด้วยแล้ว”

   “อะ...ไอ้บ้าวูฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ” ผมแม่งอยากจะเก็บฟ.ฟันของมันมาเป็นภาคแสดงแล้วแปลงตัวมันเป็นกรรมเสียจริง แต่ก่อนที่ผมจะฟันมันจริงๆขอปิดปากมันให้หยุดใช้ฟ.ฟันจนหมดโลกก่อนนะ

   “อื้ออ” ร่างพึ่งตื่นย่อมไร้เรี่ยวแรง ด้วยกำลังแขนและตัวตอนนี้จะลากมันออนท็อป คว่ำหน้า ตะแคงข้าง หรือตีลังกาผมทำได้หมด แต่ผมเลือกที่จะไม่ทำแล้วหันมาจัดจุมพิตร้อนๆ เสิร์ฟอีกฝ่ายให้นอนระทวย หลงใหลไปตามความหวานละมุนแทน

   แต่ความดื้อดึงของไอ้แล้มไม่มีที่สิ้นสุด มันพยายามเม้มปากตัวเองแน่น สองมือกำผ้าห่มจนยับยู่ยี่ หลับตาปี๋ไม่มองหน้าผม ส่วนคนที่ต้องการป้อล้อร่างตรงหน้ามีหรือจะยอมแพ้ให้กับการกระทำเพียงแค่นี้ ขาที่ยังว่างอยู่พับงอขึ้นสัมผัสส่วนเร้าอารมณ์จนอีกคนหลุดเสียงครางออกมา

   “อ๊ะ...ไอ้วูฟ...ไอ้เชี่ย...มึงเอาขามึง...”

   “มึงฝันเห็นอะไร”

   “ฮะ?”

   “เมื่อกี้มึงฝันเห็นอะไร” นั่นไง...สายตาหลุกหลิกกูฟันธงได้เลยว่าคำต่อไปแม่งโกหกชัวร์

   “ห้า แปด เก้า”

   “ฮะ?” จากที่แยกประสาทช่วงล่างกับบนได้ เล่นเอาผมต้องหยุดชะงัก

   “มึงรู้ว่ากูฝันเห็นเลขเด็ดใช่มั้ย เลยจะมาเค้นคอกู ไอ้เชี่ยวูฟ” แถเก่งสะบัดจะเป็นใครไม่ได้ ก็ไอ้แล้มนี่แหละครับ

   “อ๋อ...เลขเด็ดเหรอ ทีหลังมึงไม่จำเป็นต้องบอกกูก็ได้นะ เดี๋ยวกูจะขัดของมึงให้เห็นเลขเอง”

   “เชี่ย มึงปล่อยกู อ๊ะ...ฮือออออ”




   จบเรื่องเร่าร้อนกึ่งบังคับของผมกับไอ้แล้มไว้ก่อน แล้วมาคุยกันดีกว่า วันนี้วันที่สามสิบเอ็ดธันวาคม แค่กลั้นหายใจให้ผ่านไปอีกหนึ่งวันก็จะปีใหม่แล้ว เริ่มตั้งเป้าหมายให้กับชีวิตในปีหน้าฟ้าใหม่รึยังครับ คิดว่าหลายคนคงตั้งเป้าไว้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น การเงิน การเรียน การทำงาน สุขภาพ หรือความรัก ส่วนของผมน่ะเหรออย่างน้อยหนึ่งในนั้นถ้าเป็นเรื่องความรัก ก็จะต้องมีเรื่องการยัดเยียดความเป็นเมียให้ไอ้แล้ม...ซึ่งมันช่าง...

   ...ไม่ง่ายเอาเสียเลย...

   ผ่านมาเกือบสองเดือนหลังจากที่ผมสารภาพรักกับอีกฝ่ายในวันลอยกระทง ตัวผมยังไม่ได้รับคำตอบตกลงใดใดจากไอ้แล้ม แต่เสือกได้รับความเห็นใจโดยการมาค้างที่ห้องผมทุกครั้งที่มันต้องทำรายงานจนดึก หรือการที่ยอมกลับบ้านด้วยกันทุกวัน ออกไปทานข้าวด้วยกันบ่อยๆ จนกลายเป็นความเคยชินระหว่างผมกับมัน

   แต่อย่าถามถึงความสัมพันธ์ของผมกับเด็กสหเวชฯอย่างไอ้แล้มนะครับ เพราะขนาดผมที่เคยบอกทุกคนไปแล้วว่าได้เป็นแฟนกับมัน มาจนถึงวันนี้ผมยังจำกัดนิยามความรักของพวกเราไม่ออกเลย เพราะแล้มมันปากแข็งมากถึงมากที่สุดพอๆกับเจ้าหนูมันที่ชอบแข็งโด่ทุกวันเวลามานอนข้างผม

   “พี่วูฟ พี่วูฟคะ” ผมหันไปหาเสียงหวานๆ ข้างหลังที่ตะโกนเรียกชื่อระหว่างเดินลงมาใต้ตึกคณะ น้องแพรวดาวแพทย์ปีหนึ่งเพื่อนสนิทน้องมนหลานรหัสผม ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกตอนรับน้องมา ดูเหมือนเธอจะติดผมเป็นพิเศษยังไงก็ไม่รู้

   “พี่วูฟมาแถวนี้ได้ไงคะ”

   “เดินมาครับ” เธอดูหน้าเจื่อนไป อ้าวผมพูดอะไรผิดเหรอ

   “เออ แพรวหมายถึงมาทำธุระหรือว่า...”

   “อ๋อ พี่เอารายงานมาส่งอาจารย์น่ะ งั้นพี่ไปนะ”

   “เดี๋ยวสิคะ!!” แขนซ้ายถูกคว้าเข้าอย่างจังจนผมต้องหันไปมองเธอใหม่อีกรอบ

   “แพรวมีอะไรกับพี่รึเปล่า”

   “พี่วูฟมีธุระต่อที่ไหนรึเปล่าคะ”

   “ไม่มีนี่”

   “แล้วทำไมรีบร้อนจังเลย”

   “พี่แค่อยากกลับหอ ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่ขอตัวนะ”

   “เดี๋ยวสิพี่วูฟ ใครว่าไม่มีล่ะคะ คนที่มีน่ะไม่ใช่แพรว แต่เป็นยัยมนต่างหาก”

   “ยัยมน?”

   “เมื่อไรพี่วูฟจะเลี้ยงสายซักทีล่ะคะ ยัยมนบ่นว่าอยากคุยกับลุงรหัสจะแย่อยู่แล้ว แต่ไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็นเลย ไหนๆวันนี้ถ้าพี่วูฟไม่มีธุระที่ไหน พี่วูฟไปหาอะไรกินกับพวกแพรวนะคะ แพรวนัดยัยมนไว้ที่นี่พอดี”

   “เออ...” เคยมีช่วงเวลาไหนที่คำว่าเลี้ยงสายมันค้ำคอบ้างมั้ยครับ แต่ผมดันเป็นคนของประชาชนงานสังคมเลยไม่ค่อยออก เบื่อการไปไหนมาไหนแล้วมีแต่คนตามให้วุ่นวาย

   “น่านะ พี่วูฟไปเถอะนะ ร้านที่พวกแพรวจะไปกันเป็นร้านเปิดใหม่ใครๆเขาก็ว่าแซลมอนโส๊ดสด” ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ทันทีที่ได้ยินคำชวน เออะ...มีใครเคยบอกมั้ยว่าอย่าเอาแซลมอนมาล่อพี่

   “ไว้คราวหน้าละกัน พี่สะดวกเมื่อไรจะติดต่อไป”

   “ไหนพี่วูฟบอกไม่มีธุระยังไงล่ะคะ”

   “เออ...” ผมแม่งไม่น่าปากไวบอกออกไปเลยจริงๆ “คือพี่...”

   “แม่มันรออยู่ที่คอนโดน่ะ” เสียงคุ้นหูดังขึ้นขัดบทสนทนาระหว่างเราทั้งสอง ผมเงยคอมองผ่านน้องแพรวไปบรรจบกับคนที่อยู่ในประมวลความคิดของผมจนถึงเมื่อครู่

   “ไอ้แล้ม”

   “มึงจะกลับไปกินกับข้าวฝีมือคุณน้า หรือมึงจะไปล่าแซลมอนกับน้องแพรว...มึงเลือก” น้ำเสียงมันไม่โหดเท่าความหมายในประโยค ขนาดเป็นแค่ว่าที่เมียนะครับ แล้วคิดดูถ้าขึ้นแท่นเป็นเมียจะขนาดไหน แต่ไม่เป็นไรผมชอบให้เมียหึง ยิ่งหึงมากๆยิ่งดี เพราะการแสดงความรักของไอ้แล้มมันนานๆจะมาทีอย่างดาวหางฮัลเลย์ ผมแม่งแทบจะต้องจดบันทึกเอาไว้เวลาเจออะไรพิเศษหรือแปลกใหม่ระหว่างผมกับมันเลย

   “ก็ต้องกลับไปกินข้าวกับแม่ดิวะ”  ไอ้แล้มมันสายเชือดนิ่มๆ ครับ ทันทีที่ได้รับคำตอบจากผมมันก็เลื่อนสายตาไปมองน้องแพรวพลางจ้องนิ่งๆ

   “อ้าว สรุปแม่พี่วูฟมาหาที่คอนโดเหรอ ทำไมไม่บอกแพรวแต่แรกอ่ะ เลยชวนเก้อเลย ถ้างั้นไว้โอกาสหน้าละกันนะคะ แพรวขอตัวก่อนนะ” ดาวคณะบอกลาแล้วเดินจากไปอีกทาง ผมหันไปมองหน้าไอ้แล้ม มันยกไหล่สองข้างขึ้นแล้วแบมือใส่ผมเหมือนกับว่าช่วยไม่ได้มึงเลือกเอง จนผมอดยิ้มขำไม่ได้

   “กูว่าไม่ใช่แม่หรอกมั้ง เมียมากกว่า”

   “แม่มึงต่างหากล่ะ”

   “ทำไมมึงชอบทำให้กูหลงรักมากขึ้นเรื่อยๆวะ”

   “กูทำอะไร กูเปล่าซะหน่อย” แหนะ มีเขิน

   “มึงรู้ว่ากูไม่ชอบกินแซลมอน”

   “...”

   “มึงถึงมาช่วยกู”

   “...”

   “มึงใส่ใจกู”

   “...”

   “กูโคตรดีใจเลยว่ะ”

   “...”

   “มันเหมือนมึงไม่ได้โหยหาอยากเอาใจกูในสิ่งที่กูชอบอย่างเดียว แต่มึงพร้อมที่จะเลี่ยงในสิ่งที่กูไม่ชอบ พร้อมที่จะรับรู้ทั้งสุขและทุกข์ไปกับกู”

   “...”

   “ขอบใจนะแล้มที่แคร์กูหลายๆเรื่อง”

   “เชี่ยวูฟมึงจะทำอะไรวะ” อ้าว ผมเผลอเดินเข้าไปประชิดตัวแล้วกุมมือสองข้างมันไว้ตั้งแต่เมื่อไร เอาวะไหนๆก็ไหนๆแล้ว

   “แล้มแต่งงานกับกูนะ”

   “ฝัน”

   “ที่เป็นจริง”

   “เพ้อเจ้อแล้วมึง”

   “กูเปลี่ยนใจแล้ว ทำมึงท้องแล้วค่อยแต่งดีกว่า มึงจะได้ปฏิเสธกูไม่ลง”

   “สัด”

   “ขอจูบทีดิ”

   “เชี่ยกลางที่สาธารณะมึงพูดมาได้”

   “ถ้าอยู่ในห้องจะยอมใช่ป่ะ”

   “ไปผสมพันธุ์กับแซลมอนไป ไอ้ทะลึ่ง”

   “กูไม่ใช่หมี”

   “แล้วใครว่ามึงเป็นหมีวะ”

   “แต่กูเป็นผัวมึง”

   “...!!”

   “ยอมยัง”

   “ยอมบ้านมึงดิ” บ้านมึงก็บ้านกูล่ะวะ ดูทรงอีกไม่นานเดี๋ยวก็ได้เป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว กูรู้ กูเรียนมา





   คนจริงสองพันสิบเจ็ดต้องยกให้ไอ้แล้มครับ พอก้าวเข้าห้องเท่านั้นแหละผมก็รับรู้ความจริงว่ามารดามาหาจริง แถมยังยกตะหลิวควงฉวัดเฉวียนตามสไตล์คุณนายก้นครัวแสดงฝีมือทำอาหาร ให้ไอ้แล้มมันตบมือดีใจอย่างกับเด็กเห็นโชว์โลมากระโดดลอดห่วงในสวนซาฟารีอยู่

   “กูไม่อยากเป็นคนขี้โกหกว่ะ เลยแอบโทรเรียกคุณน้ามา” มีแอบไปแลกบงแลกเบอร์กันตอนไหน ทำไมลูกชายอย่างกูถึงไม่รู้ “แล้วกูก็อยากกินต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนฝีมือแม่มึงด้วย”

   “เพราะแล้มโทรไปอ้อนหรอกนะ แม่ถึงยอมมา ไม่เหมือนแกหรอกตาวูฟ สี่ซ้าห้าปีถึงจะโทรไปหา แถมพอทำอาหารให้ทานก็กินอย่างกันแมวดม” แม่ผมเปรยขึ้นมาทั้งที่ง่วนกับการปรุงรสในหม้อน้ำแกงอยู่ ผมเหลือบไปมองหน้าคนโชว์เหนือราวกับชนะในการเป็นลูกรักอันดับหนึ่งแล้วก็อดขำไม่ได้

   “ตะกละ” หน้ามันสะดุดทันทีที่ผมกัด

   “อาหารฝีมือแม่มึงอร่อยต่างหากเล่า กูไม่ได้ตะกละ” หึ...น่ารักชะมัด มาเป็นลูกสะใภ้บ้านกูดิ รับรองมึงได้กินทุกวัน แต่กูขอกินมึงก่อนละกันนะ ผมก้มตัวลงไปจุ๊บที่ริมฝีปากอีกฝ่ายเบาๆอย่างอดใจไม่ไหว

   “เชี่ยวูฟทำอะไรของมึงวะ!!” แทบพุ่งมาประกบปากผมตอบเลยครับ แต่ไม่ใช่ปากนุ่มๆของมันนะเป็นมือสองข้างที่ตะปบเข้าปากผมอย่างจัง เสียงมันเบาลงราวกับกระซิบ จากนั้นผมแทบจะหยิบมือมันออกทันที

   “ก็จูบมึง”

   “มันใช่เวลามั้ย!!”

   “มึงทำให้กูอยากจูบทำไมล่ะ”

   “ถ้าคุณน้าเห็นจะทำยังไง”

   เคร้ง!!

   ฉิบหายแล้ว ผมได้ยินเสียงแล้มมันอุทานแบบนั้นก่อนหันไปเจอแม่บังเกิดเกล้าของตนเองยืนมองมาทางนี้ตาค้าง หลังจากปล่อยตะหลิวในมือทิ้งดิ่งกลางอากาศไปจูบพื้นอยู่นานหลายนาที

   “นี่พวกเราสองคน...ทำอะไรกันน่ะ” มือไอ้แล้มที่ผมกุมอยู่จู่ๆก็สั่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดก่อนมันจะผละออกจากตัวผม

   “คะ...คุณน้าครับ เมื่อกี้วูฟมันก็แค่ล้อเล่นเอง อย่าไปสนใจเลยนะครับ ผมกับมันไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้นจริงๆ” แอบเจ็บนะครับ แต่หน้าไอ้แล้มที่ซีดเผือดยิ่งกว่าผ้าสีถูกแช่ลงไฮเตอร์ซักผ้าขาวทำให้ผมไม่กล้าพูดอะไรออกไป หรือว่าความสัมพันธ์ของพวกเราจะไม่ได้รับการยอมรับจากพ่อแม่ซะแล้ววะ ผมเหลือบไปเห็นร่างโปร่งที่ยืนกัดริมฝีปากจนน้ำตาเริ่มซึมออกมาแล้วอดสงสารไม่ได้

   “ห้ามมาเรียกแม่ว่าน้านะ!!” ได้เรื่องแล้วไง ถึงบทแม่กูจะดราม่าใครก็ห้ามไม่อยู่ ผมเลยรีบเดินอ้อมเคานเตอร์ไปเก็บตะหลิวขึ้นมาแล้วสวมกอดที่เอวของร่างอวบอัดเบาๆ

   “โธ่แม่...ไม่เอาน่า ไม่ใส่อารมณ์สิครับ ค่อยๆคุยกันนะ แม่ดูไอ้แล้มสิมันเครียดไปหมดแล้ว”  อีกนิดกูว่าแล้มมันได้ปล่อยน้ำตาร่วงลงมาเป็นสายแน่ ปกติแม่ผมไม่เป็นคนจริงจังขนาดนี้นะ เว้นเสียแต่ว่า...

   “ก็แม่ไม่อยากให้แล้มเรียกว่าน้าหนิ แม่อยากให้แล้มเรียกว่าแม่มากกว่าน่ะ!!”

   “!!!” นั่นไง ทำเอาว่าที่เมียกูใจหายเลยมั้ย ผมหันไปสบตาไอ้แล้มที่มองมาอย่างเด๋อด๋าราวกับจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้วได้แต่ถอนหายใจเบาๆ

   “แล้ม...กูลืมบอกมึงไปว่ะ...แม่กูจบนิเทศศาสตร์ เอกการแสดง”

   “บอกกูชาติหน้าเลยมั้ยนั่น!!”






   “อิ่มชะมัด”

   “...”

   หลังจากส่งแม่ผมขึ้นแท็กซี่แล้วเดินมาตามทางกลับหอ บรรยากาศรอบตัวระหว่างผมกับแล้มจู่ๆก็ดูน่าอึดอัดขึ้นมา ปกติมันก็ไม่ได้เป็นคนพูดมากอะไร แต่ครั้งนี้มันดันเงียบไปจนผิดสังเกต อย่าบอกนะว่ามึงยังโกรธกูเรื่องเมื่อกี้อยู่น่ะ

   “กับข้าวแม่กูไม่อร่อยหรือไง”

   “เปล่านี่”

   “หรือกระดูกหมูติดคอ?”

   “กระดูกหมูอ่อนรึเปล่าวะ”

   “งั้นกระดูกหมีติดคอ”

   “มึงยังอยากแดกแซลมอนอยู่ใช่มั้ย”

   “ไม่เอาหรอก เดี๋ยวคนแถวนี้หึง”

   “หึงเหี้ยอะไร” แหนะ มีมองค้อน กูพูดแทงใจดำก็บอกมาเหอะ พูดมา

   “ไอ้แล้ม...ถ้ามึงยอมกินกู รับรองกูไม่ทำให้มึงติดคอหรอก แต่กูจะทำให้มึงสำลักความรักเลย”

   “ก่อนกูจะสำลัก กูขออ้วกก่อนได้มั้ย”

   “มึงอ้วกมาเหอะ เดี๋ยวกูเก็บให้ กูอยากเป็นสามีที่ดี”

   “เชี่ยวูฟ” มันอมยิ้มแล้ว อย่างนี้ผมค่อยโล่งใจหน่อย

   “มึงบอกกูได้มั้ย มึงคิดอะไรอยู่”

   “...” เงียบอีก กูอยากให้มึงเงียบอย่างนี้บ้างจัง...ตอนที่กูจะจับกดมึงอ่ะน่ะ

   “มีอะไรไม่พอใจกูอยากให้มึงเล่า” เพราะกูจะต้องอยู่กับมึงไปอีกนาน กูไม่อยากให้กลายเป็นปัญหาครอบครัวตามมาในภายหลัง

   “แม่มึงรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไรวะ”

   “เมื่อหกเดือนก่อนตอนที่กูเริ่มคลั่งมึงมั้ง” ไม่รู้ก็บ้าแล้ว กูเล่นเปิดมือถือให้แม่ดูทุกวันแล้วเฝ้าแต่ถามว่าคนนี้หน้าตาดีมั้ย น่ารักมั้ย ต่อให้คนไม่คิดอะไรมันก็ต้องตั้งแง่ว่ามีลับลมคมในอะไรกับบ้างล่ะวะ

   “ทำไมแม่มึงไม่รังเกียจอะไรเลยวะ ไม่โกรธบ้างเลยเหรอที่กูมายุ่งกับมึง”

   “อันนี้กูเลือกเองมั้ยล่ะ ที่สำคัญไม่ใช่มึงที่มายุ่งกับกู แต่กูเป็นคนเลือกที่จะไล่ตามมึงเองนะแล้ม”

   “ก็ใช่ แต่ถ้าคิดถึงเรื่องทางสังคมแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับรึเปล่าวะว่าลูกชายกำลังคบกับ...เออ..ผู้ชายด้วยกัน”

   “ไม่ว่าลูกอยากจะเป็นอะไร ให้ทำตามใจต้องการ แต่ขออย่างเดียวให้สัญญาว่าจะเป็นคนดี แม่กูบอกไว้อย่างนี้ว่ะ”

   “...”

   “...”

   “ไม่น่าให้แม่มึงกลับเลย น่าจะอยู่เคาท์ดาวน์ด้วยกัน”

   “รักแม่กูแล้วดิ”

   “รักนานแล้ว”


   “อย่าลืมรักลูกชายด้วยนะ”

   “เกลียดว่ะ”

   “เกลียดแบบที่กูเกลียดมึงเปล่าวะ”

   “เออเกลียด เกลียดมากเลยเว้ย”





[พาร์ตของแล้ม]


   “นั่นมัน...คนที่หมอวูฟอยู่ด้วยตอนงานลอยกระทงหนิ”

   “เฮ้ย...จริงด้วยอ่ะแก คนเดียวกับในรูปที่เขาปล่อยออกมาเลย ที่แอบยืนกอดจูบกันกับหมอวูฟใช่มั้ย” แก้วโอวัลตินเย็นในมือแทบแพ้แรงโน้มถ่วงไปกระแทกกับพื้น ณ ร้านสะดวกซื้อที่เชี่ยวูฟมันตื้อว่าอยากจะแวะเข้าก่อนกลับ ผมค่อยๆเหลือบไปมองสองสาวที่นินทาในระยะเผาขนอย่างช้าๆ จนสบตาเข้ากับอีกฝ่ายอย่างจัง เชี่ย...แล้วทำไมต้องเป็นกูที่หลบตาด้วยวะ

   “เออ...ขอโทษนะคะ” ผมสะดุ้งเฮือก ไม่คาดคิดมาก่อนว่าสองคนนี้จะเข้ามาทัก

   “คะ..ครับ”

   “ไม่ทราบว่าใช่คนในรูปถ่ายนี้รึเปล่าคะ”

   “!!!” แม้จะมืดไปนิด แต่ก็เห็นหน้าตาและคนกระทำชัดเจน มันเป็นฉากจูบร้อนๆกลางลาน ณ วันงานลอยกระทงที่ไอ้วูฟมันมอบให้ผมหลังจากตกน้ำป๋อมแป๋ม

   “เป็นแฟนกับหมอวูฟเหรอคะ”

   “ปะ..เปล่าครับ” ผมพลั้งปากพูดออกไปอย่างลืมตัว อีกใจก็กลัวอีกฝ่ายจะเสียหายเพราะผม

   “หรือว่าแค่สนิทกันกับหมอวูฟเฉยๆ”

   “อะ...เออ ประมาณนั้นครับ”

   “กรี๊ดดด หมอวูฟยังไม่มีแฟนจริงๆด้วยอ่ะแก” คนข้างๆตีแขนเพื่อนแบบไม่ออมมือ...เล็งไอ้วูฟไว้สินะ

   “ถ้าอย่างนั้นช่วยแนะนำเพื่อนเรากับหมอวูฟให้หน่อยได้มั้ยคะ เพื่อนเราน่ะชอบหมอวูฟมากเลย แต่รายนั้นหาตัวจับยากมากไม่ค่อยเผยตัวต่อหน้าสาธารณะชนซักเท่าไร ถ้ายังไงช่วยเพื่อนเราหน่อยนะ ถือว่าเราขอร้อง” เห็นกูเป็นบริษัทคิวปิดสื่อรักหรือไงถึงมาขอให้จับคู่กันซึ่งๆหน้าอย่างนี้เนี่ย ผมยืนคิดทบทวนอยู่พักใหญ่ก่อนเงยหน้าตอบสองสาวไปตามตรง

   “ขอโทษครับ เรื่องนี้ผมช่วยไม่ได้จริงๆ”

   “อ้าว...ทำไมล่ะ ไหนว่าสนิทกันไง”

   “เพราะผม...ก็ชอบไอ้วูฟมันเหมือนกัน”


[จบพาร์ตของแล้ม]





   ผมว่าอาการแล้มมันแปลกๆวะ ตั้งแต่เดินออกจากร้านสะดวกซื้อเมื่อซักครู่นี้แล้ว มันเดินล่องลอยออกมาราวกับวิญญาณยังไม่เข้าร่าง ทั้งที่คิดว่าเคลียร์กับมันชัดเจนแล้วนะ ผมเลยยื่นกระเป๋าสตางค์ที่ยืมมาจากเจ้าตัวไปสะกิด

   “อ่ะ...เดี๋ยวถึงห้องแล้วกูใช้คืนนะ” เดินลงมาส่งแม่แล้วกะว่าจะแวะซื้อของกลางทาง แต่ดันลืมเอาเงินลงมาซะได้เลยต้องยืมเงินว่าที่เมียไปก่อน ส่วนไอ้แล้มพอได้กระเป๋าตังค์คืนก็ไม่สนใจอะไรเปิดกระเป๋าตังค์ดูก่อนเลย ถ้าให้มาใช้กระเป๋าเดียวกันมีหวังผมได้เป็นพ่อบ้านใจกล้าของแท้

   “เชี่ยวูฟแบงค์ที่อยู่ตรงนี้มันหายไปไหนวะ” เอาแล้วไง

   “เมื่อกี้กูเอาไปจ่ายค่าของที่ร้านสะดวกซื้อไง”

   “...”

   “เป็นไรไอ้แล้ม” กูใช้เกินงบมึงเหรอวะ บอกแล้วไงว่ากลับห้องแล้วเดี๋ยวใช้คืน

   “อ๋อเปล่า รีบกลับเหอะ กูง่วงแล้ว” มันเดินนำออกไปโดยไม่รอผม ผิดสังเกตโคตรๆ เกิดอะไรขึ้นวะ ผมรีบไล่หลังจนตามมาทันขนาบข้าง เจ้าตัวเดินก้มหน้าน้อยๆ มาตลอดทางจนผมแทบมองไม่เห็นเลยต้องก้มตัวแล้วขยับเข้าไปใกล้จนอีกฝ่ายตกใจ

   “เชี่ยมึง!!ทำไรวะ”

   “ไอ้แล้ม...มึง...ร้องไห้ทำไมวะ”

   “ฮะ?” อย่าบอกนะว่ามันไม่รู้ตัว อีกฝ่ายยกมือขึ้นแตะหน้าเป็นการใหญ่ พอสัมผัสได้ถึงความชื้นมันก็ยอมจำนนกับคำถามผม

   “กูทำตัวน่าทุเรศต่อหน้าตัวเด่นคณะแพทย์อย่างมึงอีกแล้ว”

   “ต่อหน้าแฟน ทำตัวทุเรศขนาดไหนก็ทำไปเถอะ ทำไมมึงชอบเอาตัวเองมาเปรียบกับกูจังวะ รู้ทั้งรู้ว่าเปรียบไม่ได้ กูเท่กว่ามึง หล่อกว่ามึงตั้งหลายเท่า”

   “สัดวูฟ จะเหยียบกูให้จมดินเลยมั้ยวันนี้”

   “แต่มึงน่ารักกว่ากูล้านเท่า” แยกไม่ถูกเลยทีเดียวว่าหน้าที่แดงขึ้นเป็นผลจากการร้องไห้หรือเขินกันแน่

   “ชมว่าน่ารักกูไม่ดีใจซักนิด”

   “แล้วมึงเศร้าเรื่องอะไร”

   “มึงอาจจะหาว่ากูงี่เง่า”

   “ไอ้ตัวงี่เง่า”

   “...!!”


   “ด่าแล้ว มึงจะได้เล่าซักที”

   “เวรวูฟ” มันด่าเสร็จแล้วรีบจ้ำเท่าตีตัวออกห่างอย่างไวราวกับงอน

   “เฮ้ย เดี๋ยวดิไอ้แล้ม” ผมรีบจับแขนมันไว้อย่างว่องจนมันหันมามองผมอีกรอบแล้วตะโกนใส่

   “แบงค์พันที่มึงใช้ไปเป็นของมึงที่กูได้ในวันลอยกระทงไงล่ะเว่ย”

   “!!!”

   “กูก็แค่...เสียดาย”

   “กลัวไม่ได้เป็นเมียกูในอนาคต?”

   “เชี่ยวูฟ มึงหัดจริงจังอะไรกับเขาบ้างดิ”

   “กับเรื่องมึงกูจริงจังเสมอ...”

   “...!!”

   “แล้ม...มึงเคยเห็นคนตอนอธิษฐานอะไรรึเปล่า เขาแค่จุดธูปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บริจาคตังค์แล้วของพวกนั้นมันก็หายไป มันทำให้รู้ว่าแต่ละอย่างมันไม่มีอะไรเป็นตัวเป็นตนเลย สำคัญมันอยู่ที่ใจของพวกเราต่างหาก”

   “...”

   “แล้ม กูได้ยินสิ่งที่มึงพูดในร้านนะ”

   “พูด...กูพูดอะไร”

   “ที่มึงพูดกับสาวสวยสองคนที่ยื่นมือถือมาให้มึงดูน่ะ”

   “!!!”

   “ใจมึงให้กูมาแล้วมึงยอมรับเถอะ สิ่งของไม่ได้สำคัญอะไรเลย แล้วตัวกูตอนนี้ก็ชอบมึง รักมึงมากๆ จนเมื่อกี้อยากจะพุ่งไปประกาศตัวด้วยซ้ำว่าเป็นแฟนมึง แต่ก็กลัวมึงจะไม่พอใจเลยเงียบไป มึงไม่ต้องสนใจแบงค์พันที่หายไปหรอก เพราะกูเอาไปต่อยอดในสิ่งที่จะทำให้มึงเป็นเมียกูแล้ว”

   “ต่อยอด? มึงเอาไปใส่ตู้ทำบุญแล้วเหรอ”

   “เปล่า กูเอาไปซื้อถุงยางมา”

   “สัดวูฟ ไอ้โรคจิต!!”

   ทำไมผมชอบให้ว่าที่เมียด่าวะ สงสัยดูท่าว่าจะโรคจิตอย่างที่มันพูดจริง





   “ไอ้วูฟ ปล่อยกู!!”

   พอถึงห้องผมก็เลิกเก๊ก แล้วใส่สโตรกพุ่งเข้าหาไอ้แล้มไม่ยัง จนมันใจหายใจคว่ำสติสตังไปไกล

   “กูจะอ่อนโยน”

   “กูไม่เชื่อมึงหรอก!!เห็นกี่เรื่องกี่เรื่องมันก็ขึ้นต้นด้วยประโยคนี้แล้วก็ไม่เห็นจะอ่อนโยนซักที” แล้มมึงไปอ่านนิยายเรื่องอะไรมาวะ

   “มึงเชื่อกูเหอะ ถ้ามึงเจ็บมึงบอก”

   “มึงจะหยุดให้กูเหรอ”

   “เปล่า กูจะย้ำซ้ำๆจนมึงเจ็บและชินไปเอง”

   “เชี่ยวูฟ...อื้ออออ” เอาล่ะ ได้เวลาผสมน้ำลายกันแล้วครับ บอกตามตรงต่อให้ผมจูบไอ้แล้มมาแล้วกี่ครั้งมันก็ไม่เคยพอ เห็นตัวมันสูงสูสีไม่แพ้ผมอย่างนี้แล้วแต่ริมฝีปากมันหวานอย่าบอกใคร ครั้งแรกที่ได้สัมผัสในวันลอยกระทงผมแม่งแทบอยากจะรวบหัวรวบห่างมันเอาตรงนั้นเลย แต่ก็พยายามห้ามใจกอปรกับแรงดิ้นสุดชีวิตของมันผมเลยไม่ได้ทำตามใจหวัง กลับกันกับวันนี้กูสาบานเลยว่าจะเอามึงมาเป็นภรรยาให้จงได้!!

   ช่วงเวลาเกือบสองเดือนที่ผ่านมาผมฝึกปรือให้มันชินกับจูบผม จนมันสามารถหายใจทางจมูกและจูบแลกลิ้นกันได้นานกว่าปกติ ความดื้อดึงของมันเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้คนเกลียดความพ่ายแพ้อย่างผมพยายามสุดชีวิตที่จะเล้าโลมให้อีกฝ่ายมีอารมณ์คล้อยตาม ผมดันแล้มไปชิดกำแพงแล้วรีบตามไปประทับริมฝีปากดันลิ้นเข้าไปพัวพันเกี่ยวกระหวัด ร่างสูงโปร่งพยายามเบี่ยงองศาหลบความอ่อนนุ่มที่ผมประเคนเข้าไปให้ ถ้าเสกให้ลิ้นหายไปได้ไอ้แล้มคงทำไปนานแล้ว สบโอกาสที่มันเคลิ้มหนักถอนลิ้นออกแล้วกัดไปเบาๆที่ริมฝีปากอย่างหมั่นเขี้ยว

   “โอ๊ย!!” อ้าวกูกัดแรงไปเหรอ “ขามึงอย่าดันมาแรงนักได้มั้ย”

   หืม?

   ผมก้มลงไปมองช่วงล่าง โอ้โหแฮะ...ร่างกายผมมันแยกประสาทได้จริงๆ ขณะที่ด้านบนขยันป้อล้อโลมเลียกระตุ้น ด้านล่างก็ขยับเสียดสีส่วนที่เริ่มเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์และดุนดันเนื้อผ้าออกมา

   “เข่ากูแข็ง...มึงเจ็บใช่มั้ย”

   “มะ...มึงจะทำอะไรน่ะ” ในเมื่อเจ็บกูก็จะจัดของที่อ่อนนุ่มให้แทน ผมย่อตัวลงแต่ยังไม่วายรวบข้อมือของแล้มไว้ข้างหลังกันคนดิ้น เรียกได้ว่าเป็นโชคดีเพราะวันนี้เจ้าตัวใส่เสื้อผ้าชิลสุดๆ แม้กระทั่งกางเกงยังเป็นยางยืด เลยไม่ต้องเสียเวลาใช้ปากกัดปลดหัวกระดุมออกจากรังแล้วลากซิบในสภาวะมือเดียวแบบนี้

   แค่ลาก ทุกอย่างก็ถูกกระชากลงไปกองกับพื้น ยกเว้นแต่อาภรณ์ชิ้นน้อยของมันที่ยังคงปกป้องแล้มตัวน้อยตัวนิดนั้นไว้อยู่

   “มึงอย่า...อื้อ” จัดไปสิครับอย่าให้เสีย องศานี้ยังหมิ่นเหม่เกรงว่าว่าที่ภรรยาจะไม่สุขสมอารมณ์หมายตามที่คาด ผมเลยขบด้วยริมฝีปากเบาๆผ่านเนื้อผ้าชิ้นน้อยให้ส่วนด้านในได้ผงาดออกมามากขึ้น “ฮะ..วูฟ กูไม่ไหวแล้ว กูจะไม่เอากับมึงตรงนี้นะ”

   “งั้นไปทีเตียงกัน”

   “ที่เตียงกูก็ไม่เอา!!”

   “มึงนี่เรื่องมากเรื่องสถานที่จัง คราวนี้ทำที่นี่ไปก่อน ไว้คราวหน้ากูจะพามึงขึ้นดอยไปทำในที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเป็นสิบเท่าเลย”

   “ที่ไหนกูก็ไม่ทำทั้งนั้นแหละ มึงปล่อยกู” ในเมื่อมึงดื้อขนาดนี้...ผมก็ปล่อยมือมันจริงๆครับ แล้วผุดตัวลุกขึ้นยืนเสมอกันก่อนเอาหน้าผากแนบกับเหม่งอีกฝ่าย

   “แล้ม...กูรักมึงนะ”

   “!!!”

   “รักมึงมากๆ ยิ่งได้มาอยู่ใกล้กับมึงกูยิ่งรักขึ้นเรื่อยๆ นิสัยของมึงมักมีแรงดึงดูดตัวกูเสมอ มึงห่วงใยดูแลใส่ใจกูในทุกๆเรื่อง จนบางครั้งกูก็อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้จริงๆว่ะ ว่ามึงก็รักกูเหมือนกัน กับหลายๆคนกูมีความมั่นใจว่ากูหล่อ หน้าตาดี มีแต่คนอยากเข้าหา แต่กับมึงกูแทบไม่กล้าคิด เพราะกูยังไม่ได้ฟังจากปากมึงโดยตรง กูโคตรไม่แน่ใจเลยว่ะ กูกลัวที่จะเสียมึงไป ความคิดกูอาจจะเด็ก แต่กูคิดจริงๆว่าถ้าทำให้มึงเป็นของกูได้ ใจมึงก็จะต้องเป็นของกูด้วย กูขอโทษนะที่เร่งรัดมึงมากเกินไป กูขอโทษจริงๆ”

   “เชี่ยวูฟ...”

   “...” ทำไมจู่ๆกูก็ดราม่าวะ แต่มันเป็นความรู้สึกจากใจผมจริงๆ

   มือบางยกขึ้นมาแตะคางของผมลูบไล้ข้างแก้มอย่างเบามือ ก่อนรั้งขึ้นสบกับดวงตาแววใส

   “วูฟ...กูขอโทษที่แสดงท่าทีไม่ชัดเจน...แต่กูอยากให้มึงรู้เอาไว้ ถึงกูจะไม่พูดอะไร แต่กู...ก็รัก...มึงเหมือนกัน” ริมฝีปากบางแนบจุมพิตลงมา มันทั้งหนักแน่นแนบสนิทเหมือนความรู้สึกของอีกฝ่ายที่พยายามจะถ่ายทอดมาให้ผม เป็นครั้งแรกที่แล้มเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ผมทั้งดีใจและตื่นเต้นจนตัวแทบลอย ถึงแม้เป็นจูบที่ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรแต่มันโคตรตราตรึงในใจผม จนอดเสียดายที่อีกฝ่ายถอนหน้าออกไปไม่ได้ “ปีหน้ากูก็อยากเคาท์ดาวน์กับมึงเหมือนปีนี้ มึงให้สิทธิ์นั้นกูได้มั้ย” เสียงไอ้แล้มโคตรแหบพร่ามีสเน่ห์ มันไม่ยอมสบตาผมทิ้งไว้แต่แววเขินอายฉายชัดเต็มใบหู

   “กูให้มึงมาตั้งแต่แรกแล้ว”

   “ขอบคุณนะ...ที่เข้ามาทักกูในวันนั้น”

   ห้า

   เสียงตะโกนนับถอยหลังดังลอดหน้าต่างเข้ามาจากลานจัดงานบริเวณใกล้ๆ

   “เพราะเป็นมึงหรอกนะกูถึงได้ทัก จำไว้ด้วย”

   สี่

   “หึ...กูควรดีใจใช่มั้ย ที่หมอวูฟคนดังคณะแพทย์มาชอบกู”

   สาม

   “มึงเตรียมภูมิใจได้เลยที่กำลังจะมีสามีดีขนาดนี้”

   สอง

   “หลงตัวเองชะมัด”

   หนึ่ง

   “หลงเมียต่างหาก”


   ปัง!! แสงพลุเป็นประกายวาบสาดสะท้อนเข้ามาในห้อง แต่ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเราทั้งคู่จากคนตรงหน้าไปได้เลย


   “สุขสันต์วันปีใหม่ เป็นลูกรักแม่กูตลอดไปนะ ไอ้แล้ม”

   “อื้อ แถมต้มแซ่บกระดูกหมูให้กูตลอดชีพด้วยนะ เชี่ยวูฟ!!”



จบ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ วันที่วูฟตัวเด่นคณะแพทย์กับแล้มที่เพิ่งมาเฉลยตอนนี้ว่าเป็นเด็กสหเวชฯได้ออกมาโลดแล่นเป็นหนึ่งในตัวละครเรื่องสั้นอีกครั้ง

สาธุให้กับพลังแรงใจของคอมเมนต์ที่ว่าน่ารัก(รวมทั้งการร้องขอว่าอยากอ่านต่อ)กับการชอบตั้งอีเวนท์ของไรท์ในการแต่งนิยายวันสำคัญ

ขอบคุณทุกคนมากๆเลยค่ะ ที่ยอมอ่าน อยากจะเดินทางสายนี้ต่อไปเรื่อยๆ
ถึงแม้ภาษาจะยังไม่ราบรื่นเรียบหูหรูหราซักเท่าไร แต่ก็อยากจะฝึกฝนพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ

ชอบความฟินและจบปิ๊งในตัวเอง55

สวัสดีปีใหม่2018 ขอให้ทุกคนมีความสุขสมหวังและเป็นปีที่ดีจากนี้และตลอดไปนะคะ

ขอบคุณค่ะ





CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อื้อหืมมมมมมม กว่าจะได้เค้า5555555555

ออฟไลน์ คุณบี๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
บอกรักกันจริงจังชัดเจนแล้ว  :katai2-1: เชียร์พี่วูฟหนักมาก  :katai3:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
วูฟเป็นคนตลก 555 สวัสดีปีใหม่เช่นกันนะจ๊ะ  :mc3: :mc3: :mc3:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ต้องมีฉากเสียตีวในวันวาเลนไทน์นะ เอาจริงๆ!  :impress2: สวัสดีปีใหม่ค่า รอตอนต่อไปนะ อิอิ  :hao7:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด