...ผลประโยชน์ทับซ้อน...ตอน เมา (30 พ.ย. 2563) หน้า 42
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ผลประโยชน์ทับซ้อน...ตอน เมา (30 พ.ย. 2563) หน้า 42  (อ่าน 460629 ครั้ง)

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
กรี๊ดดดดดด ความอ่อยนี้

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เคยคิดทันปกฉัตรด้วยเหรอนายเจ๋ง แต่ยังไงก็ยินดีด้วยนะ

ออฟไลน์ Naamtaan22

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ดีใจด้วยนะเฮียเจ๋ง :mew1:

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
FIN ไวมาก ๆ เลยเฮียสมหวังซะที นึกว่าจะอดซะแล้ว

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
วิชาอ่อยนี้ ปกได้แต่ใดมา... :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ไม่เห็นขึ้นวันนึกว่าไม่ซะละอาทิตย์นี้ สองมาเปิดดูเอ้าาา ลงแล้ว

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ดีงามต่อใจ  :mew1:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ตลกนุ้งปกอ่อย 5555555
เฮียหน้ามืดตามัวมาก จับกดลูกเดียว  :hao7: แต่แอบอยากตีเฮียจริงเชียว -_-
รอตอนหน้าค่า

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ออเจ้า..เหตุใดวันที่ตรงชื่อเรื่องไม่เปลี่ยน นึกว่าติดธุระอันใดเสียอีก
ขออภัยกะลังอินกะบุพเพสันนิวาส  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ชอบเรื่องนี้มาก อ่านไปด้วยใจระทึกกับน้องปก เป็นคนเงียบๆ แต่มีเรื่องให้เราลุ้นตลอดเวลา เอาใจช่วยน้องด้วย
พ่อแม่อาม่าเปิดทางหมด แฟนก็รักก็หลง ใครจะน่าอืจฉาเท่าน้องปกตอนนี้ ขำเฮียหื่น อยากได้แฟน โอ้ย ตลก
ยั่ว ยั่วแน่ๆ 55555คิดถูกค่ะพี่ ชอบเฮียเจ๋งทุกประโยค ขอแค่น้องยิ้มก็มีความสุขละ
ชอบที่แม่สอนน้อง ปกฉัตร คือปกครองทั้งตัวแลหัวใจ โอว มั่นใจว่าปกทำได้แน่นอน

ขอบคุณค่ะ รอตอนพิเศษค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
น้องปกอ่อยแบบเงียบๆ และเฮียเจ๋งก็กินเรียบ :hao3:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ยินดีด้วยค่ะเฮีย...

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
หลังสอบ!!! วันพฤหัส!!!! :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ความหนักแน่นของเฮียคือของขวัญตอบแทนความพยายามของปก
คนบ้าอะไรตอบโจทย์ ฟลูออบชั่นขนาดนี้น เป็นยันหมาดุ 555555

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
ผลประโยชน์ทับซ้อน
By: Dezair
…………………
ตอนพิเศษ ช้างเท้าหน้า


   ใครๆก็ว่า คนที่ชี้นิ้วสั่งอันเป็นคุณลักษณะของ ‘ช้างเท้าหน้า’ ต้องเป็นผู้ชายโผงผาง ปากร้าย อารมณ์ร้อนและหน้าหงิกอยู่เสมอแบบเจตน์ ในขณะที่ปกฉัตรนั้นทั้งเงียบ ทั้งไม่มีปากมีเสียง ดูแล้วอะไรก็ได้ อะไรก็ดี เจตน์ว่ายังไงก็ไม่มีขัดใจเลยสักนิด


   ยกตัวอย่างง่ายๆเช่นช่วงนี้


   กีฬาภายในมหาวิทยาลัยเป็นกีฬาที่แข่งกันระหว่างคณะ มีทั้งแบบทีม แบบเดี่ยว แบบชายล้วน หญิงล้วน และทีมผสม แน่นอนว่าคณะที่ช่วงชิงความเป็นใหญ่ย่อมเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์ที่มีนิสิตจำนวนมาก ในขณะที่คณะรัฐศาสตร์...คณะเล็กๆ ทรัพยากรน้อยๆนั้นไม่ต้องพูดถึง เอาเป็นแค่เจียดนิสิตลงครบทุกประเภทกีฬาก็หืดขึ้นคอแล้ว


แถม...ยังมีนิสิตต่างคณะบางคนใช้ความมีอำนาจบาตรใหญ่ห้ามนิสิตคนหนึ่งของคณะรัฐศาสตร์ลงแข่งทุกประเภทกีฬาอีกต่างหาก


   ‘เปียกเหงื่อ เปียกน้ำ ใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น กางเกงขากว้าง กูไม่ให้เล่น’


   เจตน์ออกปากตรงไปตรงมากลางโถงตึกเรียนคณะรัฐศาสตร์ชนิดที่ปกฉัตรไม่ต้องขอลงแข่งกีฬาใดอีก แต่...เห็นแก่ความขาดแคลนปริมาณนักกีฬาชาย พ่อหนุ่มบัญชีเลยยอมผ่อนปรนให้หนึ่งอย่าง


   ‘กูยอมให้เล่นเปตองอย่างเดียว’


   สรุป เลยไม่ลงกีฬาสักอย่าง ถือว่าตัดปัญหาไป


   แต่...ถึงจะไม่ได้ลงกีฬาสักอย่าง วันนี้ปกฉัตรก็มาถึงสนามฟุตบอลของคณะตนเองตั้งแต่สี่โมงตรง


เหล่านิสิตชายหญิงเริ่มมายืนรอดูแมทช์เล็กๆระหว่างเจ้าบ้านอย่างรัฐศาสตร์และผู้มาเยือนอย่างคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีแล้ว ปกฉัตรยืนพูดคุยกับรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะตัวเองได้ไม่ถึง 5 นาที ดิษกรก็เดินเลียบๆเคียงๆจากฝั่งบัญชีมาหา


“ปก เฮียให้มาตาม” หนุ่มร่างยักษ์จากคณะคู่แข่งในวันนี้พยายามทำตัวเล็กลีบด้วยความเกรงใจเจ้าถิ่น แต่คนที่ไม่เกรงใจใครเลยคือเจตน์


ร่างสูงใหญ่ยืนจังก้า ตาเรียวจ้องจิกมาจากอีกฝั่งของสนามฟุตบอล ออกคำสั่งทางสายตาให้ปกฉัตรย้ายฝั่งไปอยู่กับบัญชีเดี๋ยวนี้!


คนถูกตามตัวถอนหายใจเบา พยักหน้ากับเพื่อนรักแล้วหันไปลาคนที่กำลังคุยกันอยู่ ก่อนจะยอมเดินไปยังอีกฝั่งของสนาม แล้วพอไปหยุดอยู่ตรงหน้าหนึ่งในนักกีฬาฟุตบอลจากคณะบัญชีที่ชื่อเจตน์ คำถามแรกที่แสนห้วนก็ดังขึ้นทันที


“มึงเชียร์ใคร”


รอบข้างมีแต่เพื่อนของเจตน์ทั้งนั้น และทุกคนก็รู้ว่าปกฉัตรกับเจตน์คบหากันแบบไหน พอมาตั้งคำถามแบบนี้ เสียงโห่เลยดังเกลียว


   “แหม ไอ้เชี่ยเจ๋ง คำถามมึงเหมือนจะเปิดกว้างนะ แต่เสียงมึงจิกซะเหลือช้อยส์เดียว” ธนทัตแซ็ว แม้จะมาจากคณะเศรษฐศาสตร์ที่ไม่มีส่วนได้เสียใดๆกับฟุตบอลแมทช์นี้ แต่ก็มาเพื่อเชียร์เพื่อนสนิทโดยเฉพาะ


“นั่นสิ มึงปล่อยให้น้องได้เลือกคณะตัวเองบ้างเถอะ” การุณจากคณะสัตวแพทยศาสตร์นี่ก็มาเชียร์เพื่อนเช่นกัน


   “เออ แค่นี้น้องมันก็ถูกมึงบังคับให้มาสิงที่บัญชีมากกว่าคณะมันเองอีก” และสุดท้ายอิสระจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่ออกตัวว่าไม่ได้มาเชียร์เพื่อน แต่มาสอดส่องแทคติกเก็บไปบอกทีมวิศวะฯที่มีกำหนดจะแข่งกับทีมบัญชีสัปดาห์หน้า


   “แล้วถ้ากูจะให้มันเชียร์กูนี่ผิดตรงไหน”


นั่นไง...มาเจอฝีปากของเจตน์ยิ่งทำเอาคนฟังเก้อหนักกว่า ปกฉัตรทำหน้าไม่ถูก ยิ่งถูกตาเรียวๆจ้องเอาเป็นเอาตายให้เขาตอบท่ามกลางสายตาเพื่อนๆของเจตน์ ก็ยิ่งพูดไม่ออก


   “ว่าไง กูจะลงไปเล่นแล้ว”


พอโดนย้ำ คนถูกบังคับเลยต้องยอมตามใจเอ่ยปากสั้นๆ


   “ตั้งใจเล่นแล้วกัน” 


แล้วคนพูดก็เดินหนีไปนั่งที่เก้าอี้ม้านั่งยาวข้างสนาม ในขณะที่เสียงแซ็วเจตน์ดังตามหลังมาอีกชุดใหญ่ๆ


   “เชี่ยเจ๋ง! ทำหน้าจริงจังในการเล่นด้วยครับ มึงยิ้มปากจะฉีกถึงหูแล้ววววว...”

.....................................

   คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีขึ้นนำ 1 ประตูต่อ 0 


คนยิงไม่ใช่ใครที่ไหน ศูนย์หน้าของคณะอย่างเจตน์นั่นเอง เสียงตะโกนเชียร์คนยิงประตูที่ดังที่สุดเห็นจะเป็นดิษกรที่อยู่ในฐานะตัวสำรอง ในขณะที่เจ้าของคณะตัวจริงอย่างปกฉัตรนั่งดูเงียบๆ


ใจหนึ่งก็อยากให้รัฐศาสตร์ได้แต้มบ้าง อย่างน้อยเสมอก็ยังดี แต่อีกใจก็ไม่อาจละสายตาไปจากร่างสูงใหญ่ที่วิ่งอยู่ในสนามได้เลย


   “ไม่น่าเชื่อ มึงมาดูบอลด้วย” เสียงหนึ่งดังปลุกสติให้ปกฉัตรต้องละสายตาไปมอง คนทักคือเพื่อนร่วมคณะร่วมภาควิชาที่เรียนคลาสเดียวกันบ่อยๆชื่อภาณุ


   “ก็...คณะเราแข่งทั้งที”


   “แข่งแบบไม่หวังผลน่ะสิ นี่บัญชีนำไปกี่ลูกแล้ว” ภาณุเดินเข้ามายืนข้างๆปกฉัตรที่นั่งอยู่แล้วชวนคุย


   “1-0”


   “มึงว่ามีโอกาสเสมอมั้ย พี่แกรนด์ รปศ. กับพี่กต ไออาร์เล่นบอลเก่งนะเว้ย ที่ใส่เสื้อเบอร์ 7 กับ 4 น่ะ แต่ที่เหลือนี่อย่าให้พูด เล่นเพราะใจรัก แต่ไร้ฝีมือล้วนๆ”


ปกฉัตรหัวเราะเบาๆกับคำพูดของเพื่อนร่วมคณะที่ชวนคุย แต่อึดใจต่อมาก็ต้องสะดุ้งโหยงกันทั้งคู่เพราะอยู่ดีๆ ลูกบอลก็พุ่งข้ามหัวเพื่อนของเขาไปนิดเดียวชนิดว่าเส้นยาแดงผ่าแปด ปกฉัตรรีบหันกลับไปมองในสนาม สบตากับเจตน์ที่มองมา ก่อนที่เสียงโวยวายของสมาชิกทีมคณะบัญชีจะดังขึ้น


   “ไอ้เชี่ยเจ๋ง! มึงเตะออกนอกสนามทำไมวะ พวกกูอยู่นี่!”


   “พอดีตีนกระตุก” 


เกมในสนามดำเนินต่อไปแล้ว แต่คราวนี้ดิษกรย้ายมายืนขวางกลางระหว่างปกฉัตรและเพื่อนชายจากคณะรัฐศาสตร์ ก่อนจะหันไปอธิบายสั้นๆให้คนเกือบโดนบอลเตะอัดหัวได้เข้าใจ


   “กูไม่อยากเห็นหมีตกมันตอนนี้ ขอคั่นกลางก็แล้วกันนะ”


   ไม่ต้องชี้เป้าว่าใครคือ ‘หมีตกมัน’ ที่ว่า เพราะเจ้าของเดียวกับ ‘ลูกบอลตีนกระตุก’ เมื่อครู่นี้เอง!

.......................................

   การแข่งขันฟุตบอลจบลงที่สกอร์ 3-1 คณะไหนชนะขาดไม่ต้องบอก เพราะหลังจากการเตะลูกออกนอกสนามครั้งนั้น ก็ดูเหมือนศูนย์หน้าที่ชื่อเจตน์จะยิ่งบุกหนักหน่วง ยิ่งเพิ่มอีก 1 แถมจ่ายให้เพื่อนยิ่งอีก 1


   “อาทิตย์หน้าเจอกับวิศวะฯ เอาให้ได้แบบนี้นะเฮีย!” ดิษกรพูดกับรุ่นพี่ร่วมคณะที่กำลังยกขวดน้ำขึ้นดื่ม


   “มึงดูด้วย วิศวะฯมีเด็กกี่พันคน แล้วบัญชีมีเด็กกี่ร้อยคน พวกแม่งเกณฑ์แต่นักกีฬามหา’ลัยมาเล่น เอาแค่ให้มันชนะไม่เกิน 2 ลูกก็พอเหอะ” เจตน์ตอบแล้วโยนขวดน้ำให้ปกฉัตรที่นั่งอยู่ตรงหน้าไปถือไว้ ก่อนที่จะถอดเสื้อบอลที่แฉะชื้นไปด้วยเหงื่อออก ทำเอาคนที่ระดับสายตาพอดีกับช่วงเอวหนาแข็งแรงถึงกับชะงัก


ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกวาดมองขึ้นไปถึงแผ่นอกล่ำ แล้วลงมายังหน้าท้องทีมีซิกแพ็คจางๆ และไรขนอ่อนที่หายลงไปใต้ขอบกางเกงบอล ปกฉัตรเม้มปากแน่นพยายามเบี่ยงสายหนีไปมองทางอื่น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบกลับมาสำรวจแผ่นอกเปล่าเปลือยของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง


   เจตน์เห็นสายตาที่จับจ้องร่างกายเขาแล้วก็กระตุกยิ้มก้มลงกระซิบใกล้ๆคนที่ยังสำรวจร่างกายเขาอย่างไม่รู้ตัว


   “มึงอย่ามองกูแบบนั้น เดี๋ยวจากที่ว่ากูจะปล่อยให้นอนตอนเที่ยงคืน มึงจะไม่ได้นอนจนเช้า”


คำพูดนั้นปลุกสติให้ปกฉัตรผงะถอยห่าง เหลือบดวงตาตื่นๆขึ้นมองสบกับดวงตาเจ้าเล่ห์ของร่างสูงแล้วก็ต้องรีบหันหน้าหนี เจตน์ก็เลยแกล้งเอาเสื้อบอลชื้นๆของตัวเองโยนใส่ศีรษะคนที่หลบสายตาเขา ได้ผล...เพราะปกฉัตรดึงเสื้อออกแล้วหันมาดุ


   “เหม็นเหงื่อ”


   “เดี๋ยวมึงจะได้เจอยิ่งกว่าเหงื่อ” ร่างสูงชี้หน้า ปกฉัตรเลยได้แต่เงียบเพราะยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าตัว ปล่อยให้เจตน์เช็ดเนื้อเช็ดตัวแล้วหยิบเสื้อตัวใหม่มาสวมแทนตัวเดิม


   “เฮียเจ๋งเอาไง เฮียไทจะเลี้ยง ไปกินกันเปล่า” ดิษกรที่ผลุบหายไปตกลงนัดแนะกับเพื่อนสนิทของเจตน์ หันกลับมาถาม คนทั้งคู่หันมองหน้ากันเหมือนจะถามความเห็นด้วยสายตา ก่อนที่ร่างสูงจะเป็นคนตอบ


   “ไป” เมื่อคำตอบของเจตน์เป็น ‘ไป’ คำตอบของปกฉัตรก็ย่อมเป็นอย่างอื่นไม่ได้


ก็บอกแล้ว...ช้างเท้าหน้าน่ะ ‘เจตน์ บัญชี’ อยู่แล้ว!

.................................

   ร้านอาหารที่พวกเขาแวะมาทานอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนัก มื้อนี้มีธนทัตจากคณะเศรษฐศาสตร์ออกตัวเป็นป๋าเลี้ยง อันเนื่องมาจากการพนันขันต่อเมื่อแมทช์ก่อนหน้านี้ ที่เจตน์พาคณะบัญชีทุบประตูคณะเศรษฐศาสตร์ไปได้ 2-0 คนแพ้เลยต้องเลี้ยงข้าวเพื่อนรักเป็นการตอบแทน ซึ่งพอมีคนออกตัวว่าจะเลี้ยงโทษฐานแพ้พนัน ผองเพื่อนที่คุ้นเคยกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมเลยเฮโลกันมาถล่มธนทัตเต็มที่


   เสียงพูดคุยดังโล้งเล้งตามประสาโต๊ะของชายหนุ่มวัยคึกคะนอง ดิษกรซึ่งนอกจากจะเป็นคนอัธยาศัยดีแล้วยังรู้จักสนิทสนมกับคนทั้งโต๊ะ เลยอาศัยความทะเล้นทโมนคุยเรื่องตลกโปกฮาอย่างครื้นเครง ปกฉัตรเองถึงแม้จะเป็นคนเงียบๆ ไม่ช่างพูดช่างคุย แต่ก็อดหัวเราะตามมุกทะลึ่งตึงตังไม่ได้


   “จะไปห้องน้ำนะ”


กินกันได้พักใหญ่ ปกฉัตรก็หันไปบอกดิษกรที่กำลังหัวเราะอยู่กับเรื่องเล่า เพื่อนร่างยักษ์พยักหน้าหงึกหงักไม่ได้สนใจเท่าไร ทว่าพอร่างโปร่งลุกขึ้น เจตน์ก็หันไปถามทันที


   “ไปไหน” คำถามไม่ดังเพราะเสียงหัวเราะและเสียงแย่งกันพูดของคนอื่นๆดังกว่า


   “ห้องน้ำ” คำตอบของปกฉัตรทำเอาร่างสูงมองไปรอบๆร้าน แต่ไม่เห็นป้ายบอกทางไปห้องน้ำ เขาก็เลยลุกตาม


   “ไปด้วย” แล้วทั้งคู่ก็เดินหายออกไปด้วยกัน ทำเอาเรื่องที่คนทั้งโต๊ะกำลังคุยกันถึงกับหยุดกะทันหัน ทุกสายตามองตามแต่คนที่เพิ่งออกจากโต๊ะไป


   “ไอ้เจ๋งตามต้อยๆเลยเว้ย พ่อช้างเท้าหน้า” ธนทัตเปรยอย่างชอกช้ำ ไหนใครๆก็ว่าเจตน์เป็นช้างเท้าหน้า แต่ภาพที่เห็นนี่มันเท้าหลังชัดๆ!


   “เฮ้ย เรื่องสัตว์ให้ถามกู โหวงเฮ้งไอ้เจ๋งนี่ช้างเท้าหน้าชัวร์! มึงเห็นมันเตะบอลเปล่าล่ะ โชว์สกิลเท้าหน้า ตีนกระตุกเตะบอลเฉี่ยวหัวคนที่มาคุยกับน้องปกเฉ้ย!” อนาคตสัตวแพทย์หนุ่มอย่างการุนพยายามกอบกู้ศักดิ์ศรีเพื่อนสนิทอย่างเต็มที่


   “เชี่ยการุน ที่ตีนไอ้เจ๋งกระตุกเพราะมันหึงเว้ย!” อิสระหันมาขยี้มุกเพื่อน


   “แต่พักหลังมานี่ ไอ้เจ๋งก็สมควรตามหึงจริงๆแหละ น้องปกนั่งคนเดียวทีไร ฟีโรโมนฟุ้งทุกที”


   “โฮ เฮียไท พูดซะหื่น นั่นเมียเฮียเจ๋งนะ”


   “เออ สถานะนี้น่ากลัว กลัวแม่งตีนหน้ากระตุกอีก” เสียงหัวเราะดังครืนทั้งวง ก่อนที่หัวข้อจะถูกเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นแทนเมื่อทั้งเจตน์และปกฉัตรเดินกลับมา โดยที่คนทั้งคู่ไม่มีโอกาสได้รู้แม้แต่นิดเดียว ว่าเมื่อกี้ถูกนินทาเผาขนไปกี่ร้อยเส้นแล้ว

................................

   อิ่มหนำสำราญกับมื้อเย็นที่ธนทัตจ่ายทุกบาททุกสตางค์ การแยกย้ายก็มาถึง


   “มึงกลับยังไง” ปกฉัตรหันมาถามเพื่อนรักร่างหนาที่เดินออกจากร้านพร้อมกัน


   “เอารถกลับ กูกินไปแก้วเดียวเอง มึงไปด้วยกันสิ” คนถูกชวนนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าไปมา


   “กู...ต้องไปคอนโดเฮียมึง” ดิษกรทำตาโตจ้องเพื่อนสนิทอย่างอยากรู้อยากเห็น แต่พอดีมีโทรศัพท์เข้ามา ปกฉัตรเลยเดินหลบไปรับ สายตาของของเขาเลยมาตกกับเจตน์แทน


“วันนี้ไอ้ปกไปคอนโดเฮียเหรอ”


   “อือ”


   “เพื่อนผมมันก็มีบ้านมีช่องอยู่นะเฮีย ปล่อยมันกลับบ้านมันบ้าง”


เจตน์แสยะยิ้มหัวเราะหึแล้วเหลือบตามองไปที่ร่างโปร่งที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล


   “ช่วงนี้กูแข่งบอล”


   “เฮียแข่งบอลแล้วเกี่ยวอะไรกับไอ้ปกล่ะ”


   “ก็...กูยิงได้เท่าไร กูเอาจำนวนลูกคูณ 3 น่ะสิ” แล้วเขาก็หัวเราะชอบใจ ดิษกรถึงกับอ้าปากค้าง ไม่ต้องให้รุ่นพี่ร่วมคณะพูดให้ครบทั้งประโยค ก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่าเจตน์เอาจำนวนลูกคูณด้วย 3 แล้วเอาผลลัพธ์ไปทำอะไรต่อ


   “เดี๋ยวนะ...เมื่อสามวันก่อนคณะเราชนะเศรษฐศาสตร์ใช่มั้ย”


   “อือ 2-0” นักบอลคณะตำแหน่งศูนย์หน้าตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ


   “แล้วเฮียยิงไปกี่ลูก” มาถึงตรงนี้หนุ่มตี๋ตาเรียวยิ้มร้ายหนักกว่าเดิม


   “2”


   “แล้ววันนี้...คณะเราก็ชนะรัฐศาสตร์อีก?”


   “เออ 3-1”


   “แล้ว...เฮียยิงไป...”


   “2”


   “เช็ดดดดดดดด!...2 คูณ 3 กับ 2 คูณ 3...” สูตรคูณง่ายๆ แต่หาคำตอบยากขึ้นมาทันที เจตน์หัวเราะร้าย


   “ไม่ต้องห่วง กูเป็นคนใจดีให้แบ่งจ่ายได้ แค่คิดดอกเบี้ยเพิ่มไปวันละ 1 ครั้งเท่านั้นเอง นัดที่เจอกับเศรษฐศาสตร์ เพื่อนมึงเหลืออีก 2 ยังจ่ายไม่หมด นับดอกของวันนี้อีก 1 กลายเป็น 3 แล้วนัดนี้กูยิงได้อีก 2 ก็เป็น 6 อืม...3 บวก 6 ก็...” ดิษกรอ้าปากค้างพูดไม่ออก เหลือบไปมองเพื่อนรักที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่แล้วก็เพิ่งเข้าใจว่าทำไมอากาศร้นตับแลบ แต่ปกฉัตรแต่งตัวมิดชิดนัก!


   2 หนุ่มจากคณะบัญชีไม่ได้พูดอะไรกันอีก เพราะคนที่เดินหลบไปคุยโทรศัพท์เดินกลับมาพอดี


   “ใครโทร.มา” เจตน์หันไปถาม


   “ไอ้ชาร์ป พรุ่งนี้มันจะเอาหนังสือไปคืนที่ห้องสมุด ให้ไปยืมต่อจากมัน จะได้ใช้ทำเปเปอร์อาจารย์พุธ” ปกฉัตรตอบ แม้จะไม่ใช่คำตอบยาวๆ แต่ก็ทำเอาเพื่อนรักอย่างดิษกรที่สนิทสนมรู้จักนิสัยคนเงียบๆถึงกับมองตาไม่กะพริบ และนั่นทำเอาปกฉัตรต้องหันมามอง


   “มีอะไร ดิษ”


   “มึงบอกเฮียเจ๋งทุกอย่างเลยเหรอ” ไม่ใช่อะไร แต่ดิษกรไม่คิดว่าปกฉัตรจะพูดทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องถูกถาม ร่างสูงหันมามองรุ่นน้องร่วมคณะ


   “ก็ลองมันไม่บอก กูก็ต้องถามอยู่ดี ใครโทร.มา โทร.มาทำไม ดึกๆดื่นๆไม่รู้จักเวล่ำเวลา ที่บ้านไม่มีนาฬิการึไง” ประโยคหลังๆนั่นเป็นความปากเสียล้วนๆ ปกฉัตรชินแล้ว และเพราะชินเลยออกปากเล่าก่อนที่จะถูกถาม


   ดิษกรทำปากจุ๊ย์ๆอย่างคาดไม่ถึง เขามองเจตน์และปกฉัตรคุยกันไม่กี่คำ ร่างโปร่งก็หันมาลา หนุ่มบัญชีร่างยักษ์ได้แต่มองตามปกฉัตรที่เดินตามเจตน์ไปที่รถต้อยๆ แล้วหันไปทางเพื่อนๆของเจตน์ที่มองตามกันตาไม่กะพริบ


   “เฮียเจ๋งนี่ช้างเท้าหน้าแน่ใช่มั้ย”


   “เหมือนๆว่าจะเป็นงั้นว่ะ”


   “แต่น้องปกนี่ชัดๆเลย ช้างเท้าหลังชัวร์ๆ ตามใจไอ้เจ๋งฉิบหาย”


   “แต่ทำไมผมรู้สึกว่าเพื่อนผมไม่น่าจะเป็นเท้าหลังที่ดีเลยวะ เฮีย”


   ดิษกรคิดว่าตัวเองรู้จักเพื่อนสนิทดีพอ ปกฉัตรอาจจะดูไม่มีปากมีเสียง แต่...คนไม่มีปากเสียงแบบนี้สิ เป็นควาญช้างกันมานักต่อนักแล้ว!

.........................................

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
ปกฉัตรมาค้างคอนโดของเจตน์หลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ร่างสูงแข่งกีฬา เขาก็แทบไม่ได้กลับไปนอนที่บ้าน นอกจากข้อตกลงที่เขาจะ ‘ให้’ ตามคะแนนที่เจตน์ทำประตูได้แล้ว หลังเล่นกีฬาเสร็จแบบนี้ อีกฝ่ายยัง ‘ต้องการ’ มากกว่าทุกทีด้วย


   ดูเหมือนเขาจะเสียเปรียบอยู่เรื่อย แต่...ถ้ามันเป็นความพอใจของปกฉัตรเช่นกัน ก็ควรจะเรียกว่าได้เปรียบมากกว่าเสียเปรียบไม่ใช่หรือ


   อ้อมแขนร้อนกอดรัดทันทีที่ประตูห้องปิดลง ริมฝีปากจู่โจมลงกับติ่งหู แม้จะใส่เสื้อปิดคอ แต่เจตน์ก็ยังรั้งคอเสื้อออกแล้วลากริมฝีปากและจมูกลงมาดูดดึงผิวเนื้ออ่อน


   “พี่...อ๊ะ...อย่าเพิ่ง...” ได้ยินเสียงอู้อี้ตอบกลับมา ขณะที่ร่างของเขาถูกกดแนบให้รับรู้ความต้องการของคนที่ซ้อนกอดจากด้านหลัง


   “อื้อ...พี่ อาบน้ำก่อน...” เสียงอู้อี้ตอบกลับมาอีก มือหนาสอดล้วงเข้ามาในเสื้อแล้ว


   “พี่...เหม็นเหงื่อนะ...” คราวนี้มือหยุดชะงัก สัมผัสร้อนที่ต้นคอผละจากไป พร้อมกับที่อ้อมกอดจากด้านหลังคลายตัวอ่างรวดเร็ว ปกฉัตรไม่ทันหันไปมอง คนถูกขัดใจก็ผุนผันเดินตึงตังหนีขึ้นชั้นบนไปแล้ว


   ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองตามแล้วส่ายศีรษะ รอยยิ้มจางเผยที่ริมฝีปาก ปกฉัตรไม่ได้เดินตามขึ้นไปในทันที เพราะของแบบนี้...ทิ้งระยะสักหน่อย ให้โหยหากันมากกว่านี้อีกนิด แล้ว...ความต้องการของเจตน์ทั้งหมดจะตกเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว

................................

   เสียงน้ำจากฝักบัวด้านในห้องน้ำเงียบไปแล้ว ปกฉัตรเปิดประตูเข้าไปช้าๆ เขาเห็นร่างสูงใหญ่กำลังสระผมอยู่ใต้ฝักบัวที่ถูกปิดน้ำเอาไว้


   ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจับจ้องแผ่นหลังกว้างที่มีกล้ามเนื้อสมส่วนของคนรัก ผิวขาวเหลืองแบบลูกหลานคนจีนทำให้เห็นร่องรอยที่ปกฉัตรทิ้งเอาไว้บนแผ่นหลัง


   ไม่รู้ว่าเจ็บบ้างรึเปล่า เวลาโดนน้ำแล้วแสบบ้างไหม แต่...เวลาถูกกอด เวลาถูกทำให้อึดอัดคับแน่น เวลาถูกปลุกปั่นอารมณ์ให้ลุกไหม้ มันก็ยั้งใจไม่ได้...ที่จะกอดร่างของพี่ให้แน่นขึ้น อดไม่ได้ที่จะฝากฝังรอยเล็บเอาไว้กับแผ่นหลัง ยามใดที่พี่ถอดเสื้อ ก็อยากให้มีตาสักร้อยคู่มาเห็นว่าผู้ชายคนนี้ถูกจับจองแล้ว มีเจ้าของแล้ว


   และเจ้าของก็คือปกฉัตรคนนี้


   มือขาวเอื้อมไปแตะแผ่นหลังเบาๆ ปลายนิ้วลูบรอยเล็บที่เขาฝากเอาไว้


   ...จงใจ ตั้งใจ เพราะช่วงนี้พี่เตะบอล...


   ...คนขี้ร้อนอย่างพี่ เตะบอลเสร็จก็ต้องถอดเสื้อ ต่อให้จะมีสายตาไม่ถึงร้อยคู่ทันเห็นรอยพวกนี้ แต่อย่างน้อยก็ต้องมีสักคน ต้องมีสักคนที่จะเอาไปเล่าต่อ บอกกันปากต่อปากว่าพี่เป็นของใคร...


   “ผม...อาบน้ำให้นะ” ปกฉัตรเอ่ยเบาๆ ไม่มีเสียงตอบจากคนที่กำลังสระผม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย ร่างโปร่งกดสบู่เหลวอาบน้ำใส่มือ แล้วถูลงบนแผ่นหลังกว้างเบาๆ ลูบไล้จากไหล่ซ้ายไปขวา ก่อนจะไล้ลงตามแนวกระดูกสันหลังไปจนถึงบั้นเอว เพียงเท่านั้นคนที่ยืนหันหลังให้เขาถูสบู่ก็หมุนตัวหันมาประจันหน้ากัน


   เจตน์ตัวเปล่าทั้งเปียกน้ำและหลังเต็มไปด้วยสบู่ ในขณะที่บนศีรษะก็ยังมีฟองแชมพูเต็มผม


   ปกฉัตรยังสวมเสื้อผ้าครบชุด และแทบจะไม่เปียกเลย


   “นี่มึงตั้งใจเข้ามาอาบให้กูรึเปล่า” คนอารมณ์ไม่ดีเพราะถูกขัดใจไม่ให้กอดออกปากอย่างหงุดหงิด ทว่าร่างโปร่งกลับยิ้มน้อยๆ


   “ตั้งใจสิ” ไม่พูดอย่างเดียว แต่มือขาวยื่นไปกดสบู่มาอีก จากนั้นก็ค่อยๆถูลงบนแผ่นอกหนา อย่าว่าแต่แผ่นหลังของร่างสูงจะมีรอยเล็บของเขาเลย แผ่นอกก็มีรอยประปรายเช่นกัน


   ผู้ชายคนนี้เป็นของเขา ไม่ใช่แค่แผ่นหลังหรือหน้าอก แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวทั้งหัวใจ เป็นของเขาแต่เพียงคนเดียว


   “วันนี้เหนื่อยไหม” ปกฉัตรถามเบาๆ ฝ่ามือลูบสบู่แล้วนวดเบาๆไปด้วย


   “กูเตะบอล ไม่ได้นั่งเฉยๆ จะได้ไม่เหนื่อย” แต่คนยังหงุดหงิดก็ยังเป็นคนหงุดหงิดวันยังค่ำ ยิ่งปกฉัตรมาอาบน้ำให้ทั้งๆที่เสื้อผ้าครบชุดแบบนี้ยิ่งน่าน้อยใจเข้าไปใหญ่


   อยากกอดก็ไม่ให้กอด แถมยังบ่นว่าเหม็นเหงื่ออีก แล้วไหนจะมาอาบน้ำให้แบบเสื้อผ้าครบชุด ดูไม่ไม่ตั้งใจจะ ‘อาบด้วยกัน’ เลยสักนิด


   “พี่เตะบอลเก่งมากเลยนะ” เจอชมเข้าไปหนึ่งประโยค คนกำลังหงุดหงิดก็ถึงกับชะงัก ก้มลงมองคนที่ยังถูสบู่ไปตามแขนเขา


   “มึงเชียร์กูรึเปล่า” คราวนี้ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมาสบ ที่มุมปากยกขึ้นน้อยๆเป็นรอยยิ้มที่ถ้าไม่สังเกตก็คงไม่เห็น


   “คณะผมแข่งกับพี่นะ” 


เหมือนจะบอกกลายๆว่าไม่อยากทรยศคณะตัวเองเลย


   “แล้วมึงเชียร์กูมั้ย” เจตน์ถามย้ำ แต่อีกฝ่ายเหมือนดึงเวลา หันไปปลดฝักบัวลงมาจากเสาแล้วเปิดน้ำมาล้างสบู่บนร่างกายของคนรักให้


   “ปก...” ร่างสูงเรียกซ้ำตามประสาคนใจร้อน ปกฉัตรยิ้มจาง


   “หลับตาก่อนแล้วก้มลงมาด้วย จะล้างแชมพูให้” เจตน์ไม่อยากทำตาม แต่พอมืออีกฝ่ายดึงแขนเขาเบาๆ ก็ก้มตัวลงให้แต่โดยดี เขาปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวชะล้างฟองแชมพูออกไปได้ไม่เกิน 3 นาทีก็เงยหน้าขึ้น เอามือเสยผมลวกๆ


   “มึงยังไม่ตอบกูเลย สรุปว่าเชียร์กูรึเปล่า” ร่างโปร่งหัวเราะเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนพราวระยับ ขยับตัวเข้าใกล้ร่างที่เปียกปอนของคนรัก


   “ผม...ก็เชียร์พี่อยู่คนเดียว แล้วก็เชียร์มาตลอดด้วย อ๊ะ!...”


สิ้นประโยคนั้น ร่างโปร่งก็ถูกคว้าเข้าไปกอด ฝักบัวในมือขาวตกลงแกว่งไปมา สะบัดน้ำสาดกระเซ็นไปทั้ง ทว่า...ไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากคนทั้งคู่ที่ตกอยู่ในห้วงแห่งอารมณ์รักได้เลย

..........................

 สัปดาห์ถัดมาคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีโคจรมาเจอกับคณะที่ไม่มีใครอยากจะพบปะในกีฬาทุกชนิด...คณะวิศวกรรมศาสตร์ที่มีปริมาณนิสิตชายมากที่สุดในมหาวิทยาลัย ถึงแม้ฝ่ายบัญชีจะมีกองหน้าอย่างเจตน์ แต่สุดท้ายก็แพ้วิศวะฯไป 4-1


“ไอ้เชี่ยอิส! มึงไปบอกพี่มึงเลยนะ! ถ้าจะเกณฑ์มาทั้งทีมฟุตบอลมหา’ลัย ทีหลังคณะมึงรอรับเหรียญทองอย่างเดียว ไม่ต้องแข่งกับใคร!” เกมจบอารมณ์ไม่จบ เพราะเจตน์ฝากความปรารถนาดีไปกับอิสระเพื่อนสนิทซึ่งอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์


“เพื่อนเจ๋งแพ้แล้วอย่าพาลคณะกูสิครับ” อิสระรีบเถียงช่วยคณะตัวเอง


แน่นอนว่าระหว่างที่วิศวะฯกับบัญชีฯแข่งกันอยู่ เสียงเชียร์คณะวิศวะฯที่ดังที่สุดก็มาจากปากเขานี่แหละ ส่วนเสียงเชียร์คณะบัญชีฯที่เบาที่สุดเป็นของใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ร่างสูงโปร่งจากคณะรัฐศาสตร์ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับเกมนี้แต่ถูกบังคับให้มานั่งดู


ปกฉัตรนั่งดูเงียบๆ ถึงแม้ว่าดิษกรที่นั่งข้างๆจะส่งเสียงดังแค่ไหน แต่คนเงียบๆก็ทำเพียงมองตามร่างสูงใหญ่ที่วิ่งขึ้นวิ่งลงอยู่ในสนาม และเวลานี้คนที่มีพลังเหลือเฝืออยู่ในสนามก็มายืนอยู่ตรงหน้าเขา ถอดเสื้อที่ชื้นเหงื่อออกมาเช็ดเนื้อตัวในขณะที่ปากก็คุยกับเพื่อนสนิท จนกระทั่งเสียงเล็กๆดังขึ้น


“พี่เจ๋งคะ” เสียงผู้หญิงทำเอาทั้งกลุ่มเงียบกริบแล้วหันขวับไปมองทันที หญิงสาวร่างผอมบางหน้าตาสวยหวานเจ้าของเสียงส่งยิ้มบางเบามาให้


“อ้าว ส้ม” ดิษกรรีบเสนอหน้าเข้าไปชวนคุยตามประสาหนุ่มๆที่อยากจะมีเรื่องพูดคุยกับสาวๆร่วมคณะ


เพื่อนร่วมรุ่นส่งยิ้มให้คนทักทีหนึ่ง ก่อนจะเหลือบตาหวานๆมามองเจตน์อย่างเขินๆ แล้วยื่นขวดน้ำเกลือแร่เย็นเจี๊ยบให้


“ส้มเรียนคณะเดียวกับพี่ค่ะ วันนี้เลยมาเชียร์ แล้วก็...เอาน้ำมาให้ด้วยค่ะ” คราวนี้สายตาทุกคู่ของเพื่อนทุกคนรวมทั้งดิษกรและรุ่นน้องอย่างปกฉัตรพร้อมใจกันมองมาที่เจตน์


“ขอบใจนะ แต่พี่มีแล้ว” แล้วหนุ่มรุ่นพี่ก็ชี้ไปที่ปกฉัตรซึ่งนั่งมือเปล่า ไม่มีน้ำสักขวดนอกจากกระเป๋าเป้ที่วางอยู่ข้างกาย


“แต่...นี่น้ำเย็นนะคะ” หญิงสาวรุ่นน้องพยายามเสนอน้ำเย็นจัดในมือให้ ทว่าเจตน์กลับส่ายหน้า


“มีแล้ว” หล่อนนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มจางแต่นัยน์ตาเศร้าให้


“พี่เจ๋ง...รับหน่อยได้มั้ยคะ”


“ถ้าให้รับ จะเอาไปให้คนอื่นนะ”


เจตน์ตอบ จงใจไม่ให้ความหวังแต่ก็ยังรักษาน้ำใจอีกฝ่าย แม้วิธีนี้จะเป็นการรักษาน้ำใจที่แห้งแล้งมากก็ตามที หญิงสาวไม่ตอบอะไรนอกจากพยักหน้า เจตน์เลยรับขวดน้ำมาแล้วส่งต่อให้ดิษกร


“อ้อ...เรียกเฮียว่าเฮียเจ๋งนะ ไม่ชอบให้คนอื่นเรียกพี่” เขาหันมาบอกกับสาวรุ่นน้อง


“เหรอคะ เอ่อ...ส้ม...เคยได้ยิน...” หล่อนเหลือบไปมองปกฉัตร จำได้ว่าเคยได้ยินอีกฝ่ายเรียกเจตน์ว่าพี่


หนุ่มตี๋ตาเรียวมองตามสายตาหญิงสาวไปที่คนรักของเขา ก่อนจะพูดเรียบๆ


“เฮียให้ไอ้ปกเรียกว่าพี่ได้คนเดียว” เป็นอันเข้าใจแจ่มแจ้งในทุกความข้องใจ คนเพียงคนเดียวที่มีอภิสิทธิ์เหนือใครคือปกฉัตร


“ค...ค่ะ งั้นส้มไปก่อน แล้วไว้เจอกันนะคะ...เฮียเจ๋ง ดิษ” แล้วหล่อนก็รีบหมุนตัวเดินกลับไปหาเพื่อนๆ พอพ้นหลังสาวน้อย คราวนี้ทั้งกลุ่มเงียบกริบไม่มีใครกล้าพูดอะไร ต่างส่งสายตาพากันมองไปที่ปกฉัตรที่นั่งเงียบๆอยู่ข้างๆกระเป๋าเป้


“น้ำกูล่ะ” และคนที่ส่งเสียงขึ้นมาก่อนก็คือเจตน์ แถมแบมือตรงหน้าร่างโปร่งบาง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบขึ้นมอง ก่อนจะเบือนไปยังขวดเกลือแร่ในมือดิษกร


“ก็นั่นไง” น้ำเสียงเรียบๆ เหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่เจ้าตัวกลับไม่มีรอยยิ้มแม้แต่นิดเดียว


“กูบอกว่าจะเอาน้ำกู” เจตน์ย้ำคำเดิม


“ก็ที่คนเมื่อกี้เขาให้ไง จะเอาอย่างอื่นทำไม”


“น้ำ-กู” พอถูกย้ำเสียงแข็งอีกครั้ง ปกฉัตรเลยต้องยอมเปิดกระเป๋าเป้ของตัวเองหยิบน้ำเปล่าที่ซื้อเอาไว้จนหายเย็นออกมาส่งให้ เจตน์รับไปเปิดขวดดื่มไปครึ่งหนึ่ง แล้วส่งคืนแต่ขวด ยังถือฝาเอาไว้


“พี่เอาฝามาสิ”


“ตั้งแต่มานี่ มึงกินน้ำบ้างรึยัง” ปกฉัตรส่ายหน้าแทนคำตอบ


“งั้นก็กินให้หมด จะได้ไม่ต้องถือกลับ” เจตน์สั่ง แล้วยืนเฉยเหมือนจะรอให้ปกฉัตรดื่มน้ำอีกครึ่งขวดให้หมด ร่างโปร่งยอมยกขวดกระดก แต่กินได้ไม่มากก็ส่งคืน


“ไม่กินแล้วเหรอ” พอปกฉัตรส่ายหน้าอีกครั้ง ร่างสูงถึงยอมกระดกน้ำที่เหลือเข้าปาก ก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้ข้างกายคนรักขึ้นมาสะพายไหล่แล้วหันกลับไปบอกเพื่อนๆคนอื่น


“พวกกูกลับก่อนละกัน” แล้วหันไปพยักหน้าให้ปกฉัตรลุกตามไป ร่างโปร่งลาดิษกรและเพื่อนสนิทของเจตน์แล้วถึงได้ก้าวเท้าเดินตามร่างสูงๆที่สะพายเป้เดินนำ แต่เดินนำได้ไม่กี่อึดใจสุดท้ายก็หยุดรอให้ปกฉัตรก้าวเท้าเดินทัน คนทั้งคู่เดินเคียงกันไปก่อนจะหายลับไปทางลานจอดรถ


เมื่อนั้นเสียงของเพื่อนและรุ่นน้องของเจตน์ก็ดังขึ้นอย่างเซ็งแซ่


“ไหนใครบอกว่าเพื่อนกูช้างเท้าหน้า หน้ามือเป็นหลังตีนสิไม่ว่า เกรงใจน้องปกขนาดนี้ ใครก็ได้จ้างไอ้เจ๋งไปเล่นเป็นพระเอกที!”

.......................................

   เจตน์เหลือบตามองคนที่นั่งข้างกันในรถยนต์ที่ขับออกมาจากคณะ แสงไฟเพียงเล็กน้อยจากภายนอกรถทำให้เขามองคนรักไม่ชัดนัก แต่ที่รู้ๆคือหัวใจของเขาไม่สงบเอาเสียเลย


   ปกฉัตรจะคิดมากเรื่องรุ่นน้องร่วมคณะที่เอาน้ำมาให้รึเปล่า ปกฉัตรจะไม่พอใจมั่งมั้ย ปกฉัตรคนเงียบๆ ที่ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยแสดงออกอะไร แต่...ปกฉัตรคนนี้ คือคนที่เจตน์ห่วงใยความรู้สึกที่สุด


   รถยนต์เลี้ยวซ้ายเข้าสู่อาณาเขตของคอนโดหรูใจกลางเมือง คนนั่งหน้าข้างคนขับก็ยังคงทำทุกอย่างอย่าเงียบๆ รอรถจอดสนิท ปลดเข็มขัดนิรภัย เปิดประตูลงจากรถ เดินไปเปิดกระโปรงหลังหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเอง แล้วก็เดินตามเจตน์ไปที่ลิฟต์อย่างเงียบๆ


   เป็นเจตน์ที่ทั้งกังวล ทั้งเป็นห่วง แต่...จะทำอย่างไรดีให้ปกฉัตรหันมาสนใจกัน


   “ปก...” เขาเรียกแล้วคว้าแขนคนรักเอาไว้ทันทีที่เข้ามาในห้องและปิดประตูลงแล้ว ดวงตาสีน้ำตาลจางที่เหลือบมองทำเอาร่างสูงตัดสินใจดึงอีกฝ่ายเข้ามากอด ปกฉัตรชะงักไปนิด แต่ก็ยอมอยู่ในอ้อมกอดอย่างเงียบๆ


   ตอนแรกตั้งใจจะง้อปกฉัตร แต่พอได้กอดคนรักเอาไว้ในอ้อมแขนในวันที่ทำเต็มความสามารถแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ สิ่งที่อยากพูดก็เปลี่ยนไป


   “วันนี้กูแพ้...” เจตน์เอ่ย คนที่อยู่นิ่งในอ้อมกอดของเขาเริ่มขยับ มืออุ่นๆลูบแผ่นหลังของเขาเบาๆ


   “ไม่เป็นไร พี่เก่งมากแล้ว” ต่อให้ไม่มองหน้า ต่อให้ได้ยินแค่เสียง แต่ไม่รู้มีอะไรอยู่ในน้ำเสียงของปกฉัตร เพราะมันทำให้ผู้ชายคนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองกลายร่างเป็นเด็กผู้ชายตัวน้อยๆที่แข่งกีฬาสีโรงเรียนแพ้ และอยากได้คำปลอบใจ


   “แต่มึงอุตส่าห์มาดู...”


   “ไม่เห็นต้องชนะทุกครั้งที่ผมมาดูเลย” คนที่ยืนกอดเจตน์ ยังคงลูบหลังลูบไหล่ของเขาไปมาเหมือนปลอบประโลม


   “กูอยากให้มึงดีใจ...”


   ปกฉัตรขยับตัวออกจากอ้อมกอดเล็กน้อย รอยยิ้มจางที่มอบให้คนแพ้ในวันนี้ทั้งอ่อนโยนและอ่อนหวาน


   “แค่ผมได้ดูพี่เล่น ผมก็ดีใจแล้ว”


   “จริงนะ” ร่างโปร่งยังคงยิ้มจางๆส่งให้หนุ่มคนรักตัวใหญ่ เป็นรอยยิ้มที่เติมเต็มในวันที่พ่ายแพ้และผิดหวัง แม้วันนี้จะไม่ใช่วันของเขา แต่เจตน์ก็ยังรู้สึกดีที่อย่างน้อย วันที่ผลการแข่งขันไม่เป็นดั่งใจ ก็ยังมีใครบางคนอยู่ใกล้ๆ และเป็นแหล่งพลังงานสำหรับวันต่อๆไป


   ชายหนุ่มขยับใบหน้าเข้าใกล้ อยากเติมพลังงานด้วยจูบที่แสนคุ้นเคย แต่ปกฉัตรกลับเอี้ยวตัวหลบพร้อมรอยยิ้มรู้ทัน


   “ไปอาบน้ำเลย”


   “ขอกูจูบก่อนไม่ได้เหรอ” แน่นอนว่าคำตอบคือการส่ายหน้า แต่เพราะอยู่ในอ้อมกอดของเจตน์ ปกฉัตรเลยทำได้เพียงเบี่ยงตัวหลบซ้ายทีขวาที ขยับหนีไปไกลกว่านี้ไม่ได้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้น...เจตน์ก็ยังหาทางจู่โจมจูบไม่ได้เสียที


   “ผมยังมีเรื่องสงสัยอยู่นะ”


   “เรื่องอะไร”


   “ส้มคือใคร” เป็นคำถามที่ไม่ต้องใช้เสียงเข้มเพื่อกดดันอะไรเลย แค่คำถามสั้นๆก็ทำเอาหนุ่มรุ่นพี่คณะบัญชีชะงักไป


   ...ใช่ เรื่องนี้แหละที่อยากเคลียร์...


   ...แต่พอกอดมันได้ก็ลืมเรื่องที่อยากเคลียร์ไปหมด...


   “รุ่นน้องที่คณะ รุ่นน้องอย่างเดียวจริงๆ กูไม่ได้คิดอะไรกับเขา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามาดู” ถามคำถามเดียว แต่คำยืนยันมายาวเหยียด


   เพราะตลอดเวลาที่แข่งฟุตบอล เจตน์มักจะมองมาที่ข้างสนามบ่อยๆ...ข้างสนามที่ว่าก็คือข้างสนามที่ปกฉัตรนั่งอยู่ พวกเขาสบตากันนับครั้งไม่ถ้วนจนแม้แต่ดิษกรยังล้อเลียน แล้วเจตน์จะมีเวลาไปสนใจคนที่มาเชียร์คนอื่นได้ยังไง


   “แต่เขาตั้งใจมาเชียร์พี่นะ เอาน้ำมาให้ด้วย” ปกฉัตรพูด ดวงตาสีน้ำตาลจางจับจ้องใบหน้าของคนรักราวกับกำลังหาคำตอบของอะไรบางอย่าง ต่อให้จะมั่นใจในความรัก ต่อให้เจตน์จะทำให้เชื่อมั่น แต่ปกฉัตรก็ยังทิ้งนิสัยวัดใจคนอื่นไม่ได้เสียที


   แต่...วัดใจใครก็ไม่สู้วัดใจเจตน์ ผู้ชายที่ทั้งจริงจัง ทั้งมั่นคงและแน่นอน


   “กูไม่ได้อยากกินน้ำเขา กูอยากกินน้ำมึง” สายตาจากดวงตาเรียวทำเอาหัวใจของปกฉัตรเต้นถี่จนได้แต่เบี่ยงสายตาไปทางอื่น และนั่นดูจะกลายเป็นโอกาสให้เจตน์จู่โจมฉกริมฝีปากเข้าไปจูบเอาอย่างที่ต้องการ


   “อื้อ!” เสียงประท้วงดังขึ้นเล็กน้อย แต่สุดท้ายปกฉัตรก็จูบตอบอีกฝ่ายแต่โดยดี จูบของเจตน์นั้นอ้อยอิ่งเหมือนจะทั้งง้องอนและอ้อนวอน


   “เตะบอลมันเหนื่อย แต่พอมองข้ามสนามแล้วเห็นมึงทีไร กูมีแรงวิ่งทุกที”


   ปกฉัตรยิ้มจาง


   “ผมก็นั่งข้างสนามมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ม.ปลาย...”


   “กู...ก็มองตั้งแต่ม.ปลายเหมือนกัน...”


   ดวงตาเรียวทอดสบดวงตาสีน้ำตาลจางที่ชะงักค้างอย่างคาดไม่ถึง แต่...สิ่งที่คาดถึงคือเจตน์เป็นมนุษย์ผู้ขายที่ไม่โรแมนติกมากๆคนหนึ่งบนโลกใบนี้


   “มองว่ามึงเป็นแฟนไอ้ดิษ”


   ปกฉัตรหัวเราะจนตัวโยน แต่เจตน์หน้ามุ่ย รู้โดยไม่ต้องมีใครบอกว่าเสียงหัวเราะนี้เยาะเย้ยเขาชัดๆ


   “ก็มึงมานั่งรอไอ้ดิษ แล้วก็มีแต่คนพูดว่ามึงกับไอ้ดิษเป็นแฟนกัน กูก็เลย...” พูดแล้วก็เจ็บใจ หากไม่มีข่าวลือพวกนั้น เขาอาจจะมองปกฉัตรแบบอื่นที่ไม่ใช่คนรักของรุ่นน้องที่สนิท แล้วบางที...ความสัมพันธ์ของพวกเขาอาจจะ...เกิดขึ้นไวกว่านี้ก็ได้


   ร่างโปร่งต้องพยายามกระแอมไอเพื่อลดเสียงหัวเราะของตัวเองลง มือยังลูบหลังเจตน์ขึ้นลงเพื่อปลอบ ไม่รู้ว่าปลอบเรื่องแพ้ฟุตบอลแมทช์นี้ หรือปลอบเพราะอีกฝ่ายเคยเข้าใจเขาและดิษกรผิด


   “จากนี้ ผมจะไปนั่งรอพี่ ดีไหม”


   “ไม่ใช่แค่นั่งรอ แต่ต้องเชียร์กูด้วย”


   “รู้แล้ว พี่ไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้มากินข้าว” ปกฉัตรไล่หนุ่มนักฟุตบอลตัวเหนียวเหนอะที่ยังกอดเขาไม่ปล่อย แน่นอนว่าเจตน์ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ แต่ร่างโปร่งก็มีวิธีที่จะให้อีกฝ่ายยอมปล่อยเขาได้ง่ายๆเช่นกัน


   “ผมหิวแล้วนะ” สั้นๆได้ใจความ เจตน์ก็ยอมปล่อยคนรักออกจากอ้อมกอดแต่โดยดี แต่พอร่างสูงจะหมุนตัวเดินขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำ ปกฉัตรกลับดึงแขนเอาไว้แล้วพูดเบาๆ


   “กินข้าวเสร็จแล้ว ถ้า...พี่เมื่อยตรงไหน เดี๋ยวผมนวดให้” จบประโยคนั้น คนที่ทำตัวเหมือนไม่อยากจะอาบน้ำในตอนแรกก็เหาะขึ้นชั้นบนไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้ปกฉัตรมองตามพร้อมด้วยรอยยิ้มน้อยๆ


   แล้วนับจากนั้น หากเมื่อไรก็ตามที่เจตน์ลงแข่งฟุตบอล ที่ข้างสนามจะต้องมีปกฉัตรมานั่งอยู่เสมอ ใครๆก็ว่าคนมานั่งดูอย่างเงียบๆคงถูกบังคับให้มาพร้อมด้วยน้ำเปล่าหนึ่งขวดในกระเป๋าเป้ข้างตัว


   ภาพลักษณ์ช้างเท้าหน้าของเจตน์ยังคงเป็นที่กล่าวขานของคนที่พบเห็น เรื่องหนึ่งที่เป็นข่าวลือหนาหูมากขึ้นทุกทีคือ ‘ช้างเท้าหน้าตัวนี้’ งดรับของสมนาคุณใดๆจากคนที่มาเชียร์ข้างสนามทั้งสิ้น แต่...สิ่งที่มาพร้อมกับข่าวลือนี้คือเสียงอื้ออึงจากผองเพื่อนคนสนิทของเจตน์ที่ดิสเครดิตภาพลักษณ์ ‘ช้างเท้าหน้า’ จนยับเยิน


   “ไม่แดกน้ำอื่นนอกจากน้ำของน้องปก ไอ้เจ๋งแม่งช้างเท้าหน้าจริงๆ เกรงใจเท้าหลังสัดๆเลย!”


FIN

สวัสดีค่ะ

(คาดว่า)ตอนนี้น่าจะเป็นตอนพิเศษสุดท้ายสำหรับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะเดี๋ยวบัวจะรีไรท์เรื่องนี้ใหม่ อยากให้มันกระชับกว่านี้ อยากเพิ่มชีวิตของปก อยากเพิ่มเรื่องของเฮีย อยากไปหมดทุกอย่าง ฮ่าฮ่า

ขอบคุณคนอ่าน คนคอมเม้นท์ และทุกๆกำลังใจที่มีให้กับเรื่องนี้มาโดยตลอด ขอบคุณที่รักและเอ็นดูเฮียเจ๋งและน้องปก ทั้งๆที่เฮียเป็นผู้ชายที่ปากไม่น่ารักเอาซะเลย ส่วนน้องปกก็เป็นนายเอกที่ชอบวางแผนตลอดเวลา แต่ก็ยังได้รับความเอ็นดูจากทุกๆคน ขอบคุณมากๆค่ะ

หลังจากนี้ ยังไม่แน่ใจว่าเรื่องใหม่จะมาเมื่อไร เพราะช่วงนี้บัวยุ่งมากๆ แต่ถ้ามีตอนพิเศษ จะเอามาลงแน่นอนค่ะ ยังไงก็ฝากเรื่องหน้าเอาไว้ด้วยเลยแล้วกันนะคะ ฮ่าฮ่า

เจอกันใหม่เมื่อมีตอนพิเศษ/เรื่องใหม่

ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2018 21:11:14 โดย Dezair »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เฮียเจ๋งเป็นช้างท้าวหน้า ที่เกรงใจน้องปกสุดๆ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
 :pig4:  ชอบเฮียเจตต์ ลูกชายตระกูลนี้เขามีเอกลักษณ์จริงๆ

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
พ่อช้างเท้าหน้า 555 หมดกันเฮียเจ๋ง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :laugh: ยิ่งใหญ่กว่าช้างเท้าหน้าก็คือควาญช้างอย่างปกฉัตรนี้แหละ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
น่ารักดีคู่นี้ แต่ปกจะเหนื่อยหน่อยนะ
 :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ IamLonelygirl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เฮียยยเข้าสมาคมมกลัวเมียนะเนี่ยยย
ฮาาาาาาา

ทำไมมมยั่งไรขนาดนี้
อ่านไปเขินไปปป

ปกร้ายยยยยยยย
เวลาอ่าาความคิดปกละเขินง่ะ ฮือ

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
รักกกกก ใช้ความความนิ่งสยบความเคลื่อนไหวของแท้เลยยยยยย อิเฮียยยยยย ทั้งรักทั้งหลงน้องขนาดดดด ชอบที่สุดคือการให้เกียรติน้อง ชอบที่ไม่มีมาดใดๆใส่กัน บอกรักโดยไม่ต้องง้างปาก รักๆๆๆๆๆ


ขอบคุณนะคะ ถึงแม้ตอนแรกๆจะอ่านไปตะโกนในใจไปตอนอ่าน55555 ตอนหลังๆมาก็มาเขินกับการกระทำที่ซื่อตรงและโรแมนติกแบบคนเกรี้ยวกราด ตอนพิเศษที่ทวีความหวานมีแต่รอยยิ้ม ขอบคุณที่สร้างพวกเขามาเพื่อให้เราตกหลุมรัก ขอบคุณที่สร้างรอยยิ้มก่อนนอนให้เรา รัก :heaven :heaven

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
เฮียเจ๋งน่ารักจริงๆ รักแฟนและติดแฟนมาก ขี้หึงมากด้วย
ปกมีความแซ่บ ฝากรอยเล็บไว้ให้ ปกขี้ยั่ว เฮียก็รมขึ้นตลอด เป็รไรที่เข้ากัน
เกรงใจเมียเจริญทุกคนค่ะพี่

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ korner

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่ารักกกกก ปกมางียบๆแต่แผนเพียบนะจ๊ะ 5555

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เอ็นดูเฮียเจ๋งตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้ายนี้จริงๆ อย่างเฮียจะทำอะไรน้องปกได้ ดีแต่เกรี้ยวกราดไปวันๆนั่นแหละ ต่อให้โกรธน้องแค่ไหนแค่ปกทำเสียงอ้อนใส่เฮียก็เหลวแล้ว

ขอบคุณคุณบัวสำหรับนิยายสนุกๆ รออุดหนุนเล่มนะคะ

ออฟไลน์ italy18

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
"ไอ้เจ๋งแม่งช้างเท้าหน้าจริงๆ เกรงใจเท้าหลังสัดๆเลย!” เป็นประโยคที่บอกสถานะได้ดีจริง ๆ   :katai2-1:

ออฟไลน์ tweetpuen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด