...ผลประโยชน์ทับซ้อน...ตอน เมา (30 พ.ย. 2563) หน้า 42
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ผลประโยชน์ทับซ้อน...ตอน เมา (30 พ.ย. 2563) หน้า 42  (อ่าน 507184 ครั้ง)

ออฟไลน์ ShinsHolic

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ๊ายยยยยย อะไรอ่ะเฮียยย ไปนอนบ้านเขาเฉยยยเลยยยย :impress2:

สังหรณ์ใจว่าน้องเจฟฟี่จะเป็นคู่แข็งของ 'พี่' ของปกยังไงไม่รู้ค่ะ.... เห่ะๆ ถ้าจริงตามนี้ บอกเลยงานยากกว่าคอนเนคชั่นของพี่เวฟอีก... สู้จย้า

รอตอนต่อไปนะค้าา สู้ๆค่ะะ

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
เจฟฟรี่คู่ใครหล่ะเนี่ย เดาไม่ออกเลย เฮียข้ามขั้นตลอด 555+
สถานะไปเร็วมาก แต่ทางปฏิบัติเค้าแค่นอนกอดกันเองค่ะท่านผู้ชม หุหุ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ปกเริ่มเปิดใจแล้ว ดีใจกับเฮียเจ๋ง

ออฟไลน์ +pEnGuIn+

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
เข้าใจทั้งปกทั้งพี่เจ๋งเลย
มีไรต้องพูดกันเนอะ ชอบพี่เจ๋งอ่ะ
พูดตรงๆกับน้อง งือออ ตอนกอดกันนี่แบบ..
ฟกดกส่าสดสดกวเกาสก่ดส  :hao6: :hao6:

ส่วนเจฟฟรี่นี่ก็ว่าแปลกๆตั้งแต่ตอนที่แล้วละ
สงสัยตรงที่ปกบอกว่าเจฟฟรี่เงียบไปตั้งแต่ตอนที่
พี่รหัสปรากฎตัว มีชื่อตัวละครหลุดมาคือพี่โซ่กับพี่เวฟ
หุหุ พี่เวฟป่าววววว

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
เขาโทรหาใครเอ่ย ปกใช่ไหม...
เจฟฟรี่... ระวังเจอเจตนี่นะคะ...

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ความแมนความหลัวของพี่เจ๋ง กรี๊ดดดด
นอนกอดกันคือฟินจ้าาา
เจฟฟี่คือไผ จะมาตื๊อใคร ใครก็ได้ยกเว้นเมียพี่เจ๋ง

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ในขณะที่อิโจ๊กกำลังด้อม ๆ มอง ๆ จะจีบพี่โซ่ยังไง น้องชายตัวดีวิ่งแจ้นมานอนบ้าน(ว่าที่)แฟนแล้วฮ้า (ขออภัยที่ต้องพาดพิง)
ส่วนคู่ของเจฟทำไมไม่มีใครสงสัยว่าอาจจะเป็นพี่ฟางก็ได้นะ กร๊ากกกก แต่เราเชียร์พี่เวฟแหละ โผล่มาว้อบแว้บ ๆ สองเรื่องแระ ด้วยบุคลิกอันเกรี้ยวกราดควรจัดให้มีผรัวเป็นตัวเป็นตน

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ถือว่าความคืบหน้าของเฮียแกไวกว่าตัวประกอบบางคนสักอีก 555555555

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
อิพี่เจตน์โวยวายเก่ง

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ฮ่อลลลล เฮียเจ๋งคะว่างๆไปแนะนำอิพี่โจ๊กบ้างนะคะจีบก็ก่อนแต่ดั๊นนนนได้หลังน้อง วงวาร ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้ปรบมือให้เฮียเจ๋งเลยค่ะกับความจริงจังของพี่แกบวกกับความเจ้าเล่ห์ในตอนท้ายนิดๆ ทำน้องปกเขินเลย ชอบเฮียเจ๋งเวอร์นี้จริงๆ ส่วนเจฟฟรี่นี่ไม่รู้ทำไมเราไม่คิดว่าเป็นปกเพราะที่เจฟบอกว่าคงไม่อยากเจอกันแล้วมันไม่น่าจะใช่ปกสิเพราะเจฟกับปกเรียนคลาสเดียวกันนี่ แถมปกยังยืมเลคเชอร์ด้วย เลยกำลังคิดว่าเป็นดิษรึเปล่าแต่แบบ...กับดิษเนี่ยนะ!? งานกล้ามชนกล้ามจะมารึเปล่าน่อ  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
เจฟฟรี่นี่เพื่อนปกนิ แต่คู่ใครล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
น่ารักมากมาย

ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
สงสารดิษ โถววว มีเฮียขี้หึงต้องทำใจ ถึงจะเป็นเพื่อนก็ไม่ได้ เฮียแกหวงของแกเด้ออ  :z1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ไม่น่าใช่เจฟรี่กับปก  :hao5:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
เจฟฟรี่นี่ใครกันนนนนนนนฃ

ออฟไลน์ mox2224

  • :นักเขียนสมัครเล่น:
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
งืออบอุ่นใจกับผู้ชายแบบพี่เจ๋งมากเลย
ส่วนเจฟฟรี่นี่คู่กับใครนะ ดิษเหรอ? พี่อรรณพ หรือพี่ไท55555
เดาไป ไม่ใช่ปกกับเฮียเจ๋งรึเปล่า ก็ตอนที่ติชชี่แนะนำปกก็ปกติดี
ส่วนเฮียเจ๋งเจอแล้วยังหึงที่เจฟฟรี่อยู่กับปกอยู่เลย
อีกอย่างถ้าอีกฝ่ายของเจฟเกลียดนางแล้วก็คงไม่ใช่2คนนี้แน่ๆ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เฮียเจ๋งมันดิบมากกกกกกกก

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
เดาว่าเจฟน่าจะเป็นของดิษนะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอ๊ยยยย ทำน้องนอยด์มาทั้งวัน
แต่เจ๋งนอยด์กว่า เพราะน้องไม่ยอมบอก

ได้คุยกันแล้ว เคลียร์กันแล้วนะ
ปกน่ารักไปอีก ก็พี่รอให้ดึกจะได้มีข้ออ้างไง
พี่ก็เนียนโวยวายไปเหอะ แล้วหาเรื่องกอดน้องไปเหอะ 55555

เจฟฟรี่จะกลับมา มาหาใครคะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ SoSweetCB

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สารภาพว่าอ่านค้างไว้ตอนที่ 6 แล้วก็ลืมเลย จนมาเจอลิงก์อีกครั้งถึงนึกได้ 555555

ออฟไลน์ SoSweetCB

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
แปะเม้นให้ตอนที่ 7
คือแบบ... พี่คะ พี่สับสนแต่ทำให้น้องเจ็บปวดงะ
ต่างคนต่างเข้าใจกันไปคนละอย่าง แง สงสารน้อง
พี่เชื่อน้องหน่อยสิ น้องพูดเองเลยน้า
 :ling1:  :mew6:

ออฟไลน์ SoSweetCB

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โหววววว เจฟฟี่คือใคร ทำไมมีพารืทของตัวเองด้วย 5555
เฮียเจ๋งคนจริง น้องก็คนจริง กอดกันไปเล้ยยย  :-[

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-8
ผลประโยชน์ทับซ้อน
By: Dezair
………………….
ตอนที่ 11


   ภาพคุ้นตาของใครๆในมหาวิทยาลัยช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นภาพหนุ่มปีสองคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีที่มักจะไปไหนมาไหนกับหนุ่มปีหนึ่งคณะรัฐศาสตร์ ข่าวลือและคลิปก่อนหน้านี้ถูกขยายความให้กลายเป็นความจริง ซึ่งสามารถพบเห็นได้ทุกวัน


ตอนเช้า เจตน์มักจะจอดรถที่คณะตนเองแล้วเดินไปส่งปกฉัตรถึงคณะรัฐศาสตร์


ตอนกลางวัน เจตน์และปกฉัตรก็มักจะนั่งทานข้าวด้วยกันที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงอาหารที่คนเนืองแน่น


แม้อากาศกรุงเทพฯจะร้อนจัด แถมสายตาใครๆก็ร้อนผ่าวๆ แต่เจตน์คนจริงดูจะไม่อินังขังขอบเลยสักนิด!


   “พี่ไม่ต้องเดินไปส่งผมที่คณะหรอก” ปกฉัตรออกปากเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้ เขาบอกหลายครั้งแล้วว่าเดินไปเองได้ แต่อีกฝ่ายทำหน้ามึน แล้วก้าวเท้าตีคู่ไปเรื่อย


   “กูเดินออกกำลังกาย” ผู้ชายปากแข็งว่าอย่างนั้น ทำเอาคนข้างกายหัวเราะเบาๆ พอเปิดอกคุยกันแล้ว พอรับรู้ความรู้สึกนึกคิดของกันและกันแล้ว ก็เหมือนอะไรๆจะสดใสไปหมด รวมถึงโลกทั้งใบของคนเหงาที่ชื่อปกฉัตรด้วย


   “หัวเราะอะไรของมึง”


   “เดินไม่ถึง 10 นาที จะเรียกว่าออกกำลังกายได้ไง” คนที่มักทำหน้าเฉยๆย้อนถามแถมรอยยิ้มจาง หนุ่มตาเรียวส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ปรายตามองร่างโปร่งที่เดินอยู่ข้างๆ เห็นอีกฝ่ายยิ้มแย้มหน้าตาสดใสก็สบายใจอย่างประหลาด เพิ่งรู้ก็ตอนนี้ว่าเวลาเห็นคนที่รักมีความสุขแล้วโลกมันน่าอยู่ขึ้นจริงๆ


   “งั้นก็ไม่ต้องเรียกว่าออกกำลังกาย เรียกว่าเดินไปส่งมึงก็แล้วกัน” เป็นผู้ชายทื่อๆ ที่ไม่มีลับลมคมในอะไรมากมาย เป็นผู้ชายปากแข็ง แต่พอให้พูดจริงๆก็โผงผางจนคนฟังคาดไม่ถึง และเพราะคาดไม่ถึง ใบหน้าขาวถึงได้ขึ้นสีเรื่อและต้องเบี่ยงสายตาไปทางอื่นเพราะความรู้สึกอุ่นซ่านในอก


   “มึงเรียนห้องไหนล่ะ” เท้าเหยียบเข้ามาที่โถงตึกเรียน เสียงของเจตน์ก็ดังขึ้น ปกฉัตรเพิ่งจะรู้ตัวว่าเขาเดินมาถึงคณะแล้ว


   “อ่า...ชั้นบนน่ะ พี่กลับคณะได้แล้ว เดี๋ยวเข้าห้องสาย”


   “อือ” เจตน์หันมารับคำ เห็นใบหน้าที่ยังมีสีเรื่อๆ กับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นี้แล้วก็อยากใกล้ชิดมากกว่านี้อีกหน่อย แต่ติดที่อยู่กลางตึกเรียน แถมอยู่ในสถานศึกษา จะทำอะไรก็รู้สึกผิดต่อสถานที่


   ...อยากลากมันเข้ามากอดแน่นๆ อยากจูบขมับมันแรงๆ อยากทำให้มันแน่ใจว่าที่ข้างมันเป็นของผู้ชายคนนี้ คนที่ขอโอกาสให้เชื่อใจความจริงจังอีกสักครั้ง...


   แต่...ทำไม่ได้สักอย่าง นอกจาก...


   มือใหญ่ๆวางปุลงบนศีรษะของปกฉัตรก่อนจะขยี้ผมเส้นเล็กสีน้ำตาลนั่นแรงๆ


   “เจอกันตอนเที่ยง” ดวงตาสองคู่สบกัน ปกฉัตรส่งยิ้มจางให้เจ้าของมือที่ยังวางอยู่บนศีรษะของเขา ไม่ว่าเจตน์จะทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่มันทำให้เขารับรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ตรงนี้ และจะกลับมาเจอกันเมื่อถึงเวลา


   ทว่า...บรรยากาศอุ่นอวลนั้นถูกทำลายโดยเสียงของใครบางคน


   “ปก”


ไม่ใช่แค่ปกฉัตรที่หันมอง แต่เจตน์ก็หันด้วยเช่นกัน


   “อ้าว เจฟ”


หนุ่มลูกครึ่งเพื่อนร่วมคณะ ร่วมภาควิชาเจ้าของชื่อ ‘เจฟ’ ยิ้มตอบ แล้วยืนรออยู่ที่บันไดขึ้นชั้นสองของตึก ทำราวกับว่าหากปกฉัตรไม่ไปด้วยกัน ก็จะไม่ขึ้นเรียน


   เจตน์รู้สึกตะขิดตะขวงจนต้องหันมองคนข้างกาย


   “เพื่อนมึงเหรอ” ถามไปงั้น ทำไมเขาจะจำไม่ได้ว่าเคยเห็นหมอนี่เดินกับปกฉัตร


   “อื้อ เพื่อนในภาคฯ”


   “เรียนห้องเดียวกับมัน?”


   “ครับ” คำตอบนั้นทำเอาเจตน์พ่นลมหายใจแรงๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกมา ปกฉัตรรู้สึกเหมือนใจหายที่อีกฝ่ายไม่พูด ไม่โวยวายแต่เลือกที่จะเดินหนีแบบนี้


   “พี่...”


ร่างสูงหยุดเดิน ยกมือขึ้นข้างหนึ่งแล้วเอี้ยวหน้าไปบอก


   “เจอกันตอนเที่ยง”


   แล้วจากนั้น หนุ่มรุ่นพี่ก็เดินหายลับออกจากตึกคณะรัฐศาสตร์ไป

...........................

   เจตน์หงุดหงิดเรื่องไหนไม่ต้องบอก เจ้าหนุ่มลูกครึ่งยีนส์ฝรั่งเด่นนั่นทำตัวเคืองสายตาด้วยการยืนคอย เป็นการบอกโต้งๆว่ามันเรียนห้องเดียวกับปกฉัตร นิสิตจากต่างคณะแถมต่างชั้นปีอย่างเขาย่อมทำอะไรไม่ได้ นอกจากหมุนตัวเดินจากมา


   ...พอกูยังไม่จีบ ไม่เห็นมีใครจะมาสนใจไอ้ปก พอกูตามรับตามส่ง เสือกมีตัวผู้มายืนรอขึ้นเรียน!! น่าหงุดหงิดฉิบเป๋ง!!...

   
   “อ้าว! เฮีย ไม่ขึ้นเรียนเรอะ” เสียงทักดังขึ้นทำเอาเจตน์ที่กำลังดูดน้ำใบบัวบกสีเขียวเข้มเย็นจัดปรื้ดใหญ่ต้องหันมอง และพอดวงตาเรียวตวัดไปจ้องคนทัก หนุ่มรุ่นน้องตัวใหญ่ยักษ์ก็ถึงกับสูดปาก


   “อู้ยยยย...สายตาอาฆาตละเกิ้น!” ถึงจะสูดปากอย่างสยองกับสายตาของหนุ่มรุ่นพี่ แต่ดิษกรก็ยังก้าวเท้าเข้ามานั่งร่วมโต๊ะใต้ตึกเรียนที่มีลมพัดเย็นสบายด้วย


   สิบโมงแบบนี้ นิสิตส่วนใหญ่ที่มีเรียนก็ขึ้นเรียนกันหมดแล้ว แต่ก็มีไม่น้อยที่นั่งเตร็ดเตร่อยู่ใต้ตึกเรียนตามโต๊ะต่างๆ อย่างเช่นเจตน์เป็นต้น


   “กูรู้สึกว่ามีบางคนจะจีบเพื่อนมึง” เจตน์เปรย คำว่าบางคนที่ว่า ในหัวของเขาปรากฏหน้าไอ้หนุ่มลูกครึ่งขึ้นมาโดยอัตโนมัติ


   “บางคนจะจีบเพื่อนผม?” ดิษกรย้อนถาม แต่พอเจตน์หันมอง หนุ่มรุ่นน้องตัวใหญ่ก็ยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าเขาเสียแบบนั้น


   “เออ! คนนึงก็กูเนี่ยแหละ แต่กูคิดว่ามีคนอื่นด้วย!”


   “อ๋ออออ...มันก็เป็นเรื่องธรรมดานะเฮีย เพื่อนผมน่ะ โปรไฟล์ดี หน้าตาก็ไม่ขี้เหร่ ถ้าจะมีคนอื่นมาจีบนอกจากเฮีย มันก็ไม่แปลกไม่ใช่เหรอ”


   “กูรู้ว่ามันไม่แปลก แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นมีเลยนี่หว่า!”


   “ฮั่นแหน่ะ! รู้ได้ไงว่าก่อนหน้านี้ไม่มีคนมาจีบไอ้ปก”


   “ก็...” ไม่รู้จะอ้างอะไร หนุ่มปีสองทำปากขมุบขมิบ “...ก็กูไม่เห็นจะมีใครพูดถึงเพื่อนมึงด้วยซ้ำ!”


   “ไม่พูดถึงแต่ก็มองกันตาเป็นมันนะครับ! เพื่อนผมน่ะเกรดพรีเมี่ยมจะตาย” เจตน์เบะปาก รู้สึกหมั่นไส้คนเกรดพรีเมี่ยมขึ้นมาทันที


   “แล้วไง มีคนมาจีบเพื่อนผม เฮียก็เลยหึงงั้นสิ?” คนถูกถามเม้มปากเล็กน้อย จะบอกว่าหึงก็ใช่ จะบอกว่าหวั่นใจก็ใช่ เพราะนอกจากจะมีคู่แข่งแล้ว อีกฝ่ายยังเป็นคู่แข่งที่ตรงข้ามกับเขาทุกอย่าง ไอ้ฝรั่งนั่นดูเรียบร้อยแตกต่างจากหนุ่มตี๋ตาชั้นเดียว โผงผาง โวยวาย และขี้หงุดหงิดอย่างเขาโดยสิ้นเชิง


   “มึงเป็นเพื่อนไอ้ปก มึงรู้มั้ยว่าไอ้ปกชอบผู้ชายแบบไหน” ดิษกรกะพริบตาปริบๆ ไม่คิดว่าจะถูกถามตรงเผงแบบนี้


   “อ่า...ผมไม่เคยคิดว่าไอ้ปกชอบผู้ชายนะเฮีย”


   “งั้นมันชอบคนแบบไหน แบบ...แบบสุภาพ หรือแบบ...แบบหยาบค...เอ่อ...” จะพูดว่าหยาบคายก็กระดากใจตัวเอง ถึงแม้เจตน์จะรู้ตัวดีก็เถอะว่าเขาออกจะหยาบคายจริงๆนั่นล่ะ


   “มีใครชอบคนหยาบด้วยเหรอเฮีย” หนุ่มรุ่นพี่ชะงักไปในทันที พูดอีกก็ถูกอีก จะมีใครที่ไหนชอบความหยาบ ในเมื่อความสุภาพมันจรรโลงใจมากกว่า


   หนุ่มตี๋ตาชั้นเดียวเงียบไป คิ้วที่ขมวดมุ่นก็พลอยคลายตัวลง น้ำใบบัวบกที่เมื่อครู่นี้ดูดปรื้ดๆอย่างหงุดหงิดก็กลายเป็นค่อยๆดูดราวกับจะดม


   เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว!


   ดิษกรทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ


   “เฮีย...ถามจริงเหอะ นานแค่ไหนแล้ววะ ที่เฮียคิดว่าผมกับไอ้ปกเป็นแฟนกัน”


   “ก็...ม.6มั้ง” เจตน์ตอบเรียบๆ นึกย้อนกลับไปสมัยยังเรียนมัธยมปลายก็มักจะเห็นปกฉัตรมานั่งรอดิษกรที่ข้างสนามฟุตบอลทุกเย็น ใครไม่คิดว่าเป็นแฟนกับดิษกรก็บ้าแล้ว


   “แล้วเฮียชอบเพื่อนผมตั้งแต่เมื่อไร” คราวนี้ตาเรียวเหลือบมามอง สีหน้าของคนปากแข็งออกจะอิหลักอิเหลื่อนิดหน่อย ภาพของปกฉัตรอัดแน่นอยู่ในความทรงจำของเขาเยอะเหลือเกิน เพราะมองไปที่ข้างสนามทีไรก็เห็นคนตัวผอมกะหร่องนั่งอยู่เพียงลำพังทุกที


   ...ไม่รู้เมื่อไรที่ชอบ แต่...ก็มองมาตลอด...


   “ก็...ไม่รู้ กูรู้แต่ว่าพวกมึงเป็นแฟนกัน”


   “เฮียควรจะได้จีบเพื่อนผมเร็วกว่านี้ ถ้าไม่คิดเองเออเอง”


   “เออๆ! กูรู้! แล้วตอนนี้กูก็รู้แล้วว่าพวกมึงไม่ได้เป็นแฟนกัน แล้วมันเกี่ยวกันยังไงกับที่มีคนอื่นจะมาจีบเพื่อนมึงวะ?!”


   “ถามสิเฮีย เฮียอยากรู้อะไรจากไอ้ปกก็ถาม อยากรู้ว่ามันชอบคนแบบไหนก็ถาม อยากรู้ว่าไอ้คนที่มาจีบคนนั้นกับเฮีย ใครภาษีดีกว่ากันก็ถาม แล้วเนี่ย...เฮียเดินมานั่งเป็นตูดอยู่ที่นี่ ส่วนไอ้ปกอยู่คณะมัน มันจะรู้มั้ยว่าเฮียกำลังเครียดเรื่องอะไร”


   เพราะไม่ชอบถาม เพราะชอบสังเกตด้วยสายตา เพราะคิดว่าปกฉัตรควรจะบอก ก็เลยไม่เคยคิดจะถามเลย


   “แล้วอย่าลืมถามมันด้วยว่าถ้าเฮียหยาบ...เอ่อ...หมายถึง...เป็นแบบนี้ แล้วรู้สึกกับมันแบบนี้ มันจะยังอยากให้เฮียอยู่กับมันมั้ย ไอ้ปกมันเหงาก็จริงนะ แต่ไม่ได้หมายความว่าใครเข้ามาใกล้ แล้วมันต้องคว้าคนนั้นไปอยู่กับมันซะหมด ไม่อย่างนั้นมันไม่มีผมเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวหรอก”


จริงอย่างที่ดิษกรว่า ถึงปกฉัตรจะมีเพื่อนน้อย โลกส่วนตัวสูง แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องให้ใครเข้าไปอยู่ด้วย ถึงจะเหงา เจ้าตัวก็เหงาอย่างเงียบๆเพียงลำพัง ไม่ไขว่คว้าใคร


   เพราะฉะนั้น...คนที่ได้อยู่ใกล้ คือคนที่ปกฉัตรเลือกแล้ว


   หนึ่งคือดิษกร และสองคือเจตน์


   ไม่สิ หนึ่งคือเจตน์ต่างหาก! คนอย่างเจตน์ไม่เคยเป็นสองรองใคร ส่วนดิษกรเป็นเพื่อนเฉยๆ!! 


   “สบายใจแล้วสิเฮีย หน้าตาดูเปี่ยมไปด้วยพลังงานเตรียมด่าคนอื่นเหมือนเดิมแล้ว” หนุ่มรุ่นน้องร่วมคณะหยอก เมื่อเห็นสีหน้าของตี๋ตัวใหญ่ไม่เจี๋ยมเจี๊ยมแบบเมื่อครู่อีกแล้ว ดวงตาเรียวตวัดมอง


   “กูด่ามึงคนแรกเลยดีมั้ย”


   “อู้ยยยย...ดุ” เจตน์ไม่พูดอะไรอีก เขาดูดน้ำใบบัวบกจนหมดแก้ว แล้วลุกขึ้นยืน


   “จะไปแล้วเหรอเฮีย”


   “เออสิ ขึ้นเรียน!”


   “โถ นึกว่าจะโดดเรียนกับน้อง”


   “กูไม่ได้เตรียมตัวโดนรีไทร์อย่างมึง จะโดดทำเชี่ยอะไร!!” ด่าดิษกรไปหนึ่งดอกแล้วเจตน์ก็ชิ่งหนีขึ้นตึกเรียนไปในทันที ทิ้งคนโดดเรียนให้อ้าปากค้าง


   นี่คือการทำบุญโปรดสัตว์ได้บาปที่แท้ทรู!

.................................

   เพราะมัวแต่กังวลว่าเจตน์จะรู้สึกอย่างไร ปกฉัตรเลยไม่ทันรู้ตัวว่าเขาเดินเข้าห้องเรียนโดยมีเจฟฟรี่เดินขนาบข้างมาด้วย และพอเขาทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะว่าง โต๊ะข้างๆก็ถูกจับจองโดยเจฟฟรี่เช่นกัน แต่...ก็เป็นการนั่งเรียนข้างกันเฉยๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งสิบเอ็ดโมงครึ่ง และอาจารย์วางไมโครโฟนลง


   “พูดเร็วไปไหน ปกจดทันมั้ย” ปกฉัตรหันมองเพื่อนข้างกายแล้วยิ้มจาง


   “ทัน”


   “ขอยืมไปซีร็อกหน่อยสิ ไม่ไหว ‘จารย์คนนี้พูดเร็วมาก ไม่เห็นใจลูกครึ่งเลย” ลูกครึ่งหนุ่มว่าอย่างนั้น ทำเอาปกฉัตรหัวเราะ ส่งสมุดเลคเชอร์ของตัวเองให้อีกฝ่าย เจฟฟรี่พลิกสมุดไปมา ก่อนจะถอนหายใจ


   “เยอะขนาดนี้ สงสัยจะซีร็อกหลายหน้า ปกจะไปรอโรงอาหารมั้ย”


ปกฉัตรพลิกนาฬิกาข้อมือดูก็เห็นว่ายังอีกเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าเจตน์จะเลิกเรียน แล้วอีกอย่าง เขาก็นัดกับเจตน์ที่โถงตึกเรียนใกล้ร้านซีร็อกด้วย


   “ไม่เป็นไร ไปรอร้านซีร็อกก็ได้”


   สองหนุ่มปีหนึ่งภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศพากันเดินออกจากห้องเรียนไปยังร้านถ่ายเอกสารในโถงตึก เจฟฟรี่ยื่นสมุดของปกฉัตรให้เจ้าของร้าน แจ้งจำนวนหน้าเรียบร้อย พวกเขาก็ขยับมายืนรอใกล้ๆ


   “ปกจะไปกินข้าวก่อนมั้ย เดี๋ยวเราเอาสมุดไปคืนที่โรงอาหารก็ได้” หนุ่มลูกครึ่งหันมาถาม สายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนเดินลงมาจากชั้นสองแล้ว


   “ไม่เป็นไร นัดพี่ไว้ที่นี่เหมือนกัน”


   “อ้อ...” เจฟฟรี่รับคำ เบือนสายตาหนีจากหญิงสาวร่างป้อมที่เหยียบบันไดขั้นสุดท้าย กลับมาที่เพื่อนร่วมภาควิชา


ใบหน้าขาวอ่อนเยาว์ของปกฉัตรนั้นดูดีก็จริง แต่ไม่ได้ดึงดูดให้เขาเข้าใกล้ในความรู้สึกมากกว่าเพื่อนเลย แต่...สิ่งที่อีกฝ่ายมีต่างหาก ที่ทำให้เขาต้องทำแบบนี้


   “มีอะไรติดผมน่ะ ปก” หนุ่มลูกครึ่งที่สูงกว่าก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วยื่นมือไปแตะที่ข้างขมับของปกฉัตรอย่างถึงเนื้อถึงตัว แล้วทันใดนั้น เสียงตวาดก็ดังลั่น


   “เฮ้ย!!!”


มือที่เอื้อมมาแตะถึงกับชะงักไปในทันที ทั้งปกฉัตรและเจฟฟรี่หันมอง เจ้าของเสียงคือเจตน์ที่ก้าวพรวดๆเข้ามากระชากแขกปกฉัตรให้พ้นออกมาจากเพื่อนร่วมภาควิชาฯ


   “โอ๊ย!” คนถูกกระชากอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยร้อง แต่ดูเหมือนร่างสูงจากต่างคณะจะไม่สนใจเสียงร้องของเขาเลย เพราะกระชากออกมาปุ๊บก็ก้าวเท้าขวางระหว่างปกฉัตรและเจฟฟรี่ทันที


   “เมื่อกี้ทำอะไร?!!”


เจตน์ที่เดินมาถึงคณะรัฐศาสตร์ เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่พอดี และไม่ว่าจะด้วยสายตาแบบคนอคติหรืออะไร ภาพที่เขาเห็นคือไอ้ลูกครึ่งตัวใหญ่นี่กำลังลูบเส้นผมของปกฉัตรอยู่! แถมออร่าสีชมพูลอยละล่องไปหมด!!


   “มีเศษอะไรไม่รู้ติดผมของปก ผมก็เลยหยิบออกให้” ดวงตาเรียวสีดำสนิทตวัดไปมองคนที่เขาเอาไปซ่อนไว้ด้านหลัง กวาดตาดูจนทั่วศีรษะก็ไม่เห็นจะมีเศษอะไรสักนิด!


   “เมื่อกี้มันยังมี สงสัยหายไปแล้วมั้ง” เจฟฟรี่พูดต่อเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว เจตน์พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อไม่ให้หงุดหงิดจนทำทุกอย่างพังพินาศ เขาหันไปหาปกฉัตรที่ยืนเงียบอยู่ด้านหลัง


   “จะไปกินข้าวกันได้รึยัง!” ดิษกรสั่งมาว่ามีอะไรให้ถาม ไม่กระแทกกระทั้น ไม่ประชดประชัน แต่น้ำเสียงก็ยังแข็งอยู่นิดหน่อย


   “เจฟยืมสมุดผมไปซีร็อก...”


ชื่อเจฟฟรี่ทำให้เจตน์ต้องหันกลับไปหาหนุ่มลูกครึ่งอีกครั้ง พอดีกับที่ร้านถ่ายเอกสารเรียกเจฟฟรี่ให้ไปรับสมุดคืน เขาจ่ายเงิน ก่อนจะรับทั้งกระดาษที่ถ่ายสำเนาและสมุดเลคเชอร์ของปกฉัตรมา


   “ขอบใจมากนะปก” แม้ร่างโปร่งจะถูกดันไปอยู่ข้างหลังหนุ่มคณะบัญชี แต่ก็ยังสู้อุตส่าห์ส่งสมุดคืนให้เจ้าของตัวจริงได้อยู่ดี ทว่าแม้ปกฉัตรจะรับสมุดไปแล้ว เจฟฟรี่กลับไม่ปล่อย


   “ปก...มีแฟนรึยัง”


ปกฉัตรชะงัก ในขณะที่เจตน์อ้าปากค้าง


   “เราจีบปกได้มั้ย” 


สิ้นประโยคนั้น ทั้งปกฉัตรทั้งเจตน์ก็พากันตาเหลือก หันขวับมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย เสียงเซ็งแซ่เกิดขึ้นที่หน้าร้านถ่ายเอกสารทันที เพราะนิสิตคณะรัฐศาสตร์มากหน้าหลายตาตรงนี้ล้วนได้ยินการประกาศเจตนารมณ์ของเจฟฟรี่ ปีหนึ่ง ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ


   เจฟฟรี่จะจีบปกฉัตร


ปกฉัตรคนที่มีข่าวลือว่าเป็นแฟนของน้องชายลูกพี่ลูกน้องของเจียระไน ปีสาม ภาควิชาการปกครองนั่นแหละ!!

.......................................

   ไม่รู้ว่าออกมาจากหน้าร้านถ่ายเอกสารที่โถงตึกเรียนได้อย่างไร ไม่รู้ว่ามาอยู่ในรถของเจตน์ได้อย่างไร และไม่รู้ว่าเที่ยงนี้คนขับรถที่ชื่อเจตน์จะพาไปไหน โดยรวมแล้วปกฉัตรไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ดีๆมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง


   “นานรึยัง เรื่องไอ้ลูกครึ่งนั่น!”


แล้วจู่ๆ ตอนที่รถติดไฟแดง เสียงของคนขับก็ดังขึ้น ปกฉัตรหันไปมองด้วยสายตาที่ยังเต็มไปด้วยความตกใจและงุนงง


   “ผม...ผมก็ไม่รู้ เพิ่งรู้พร้อมพี่ก็วันนี้...”


   “แล้วมันไม่ได้แสดงออกเลยรึไง?! ว่ามันจะจีบมึง!”


ร่างโปร่งส่ายหน้า เขามองเจฟฟรี่อย่างเพื่อนร่วมภาควิชา และก็คิดว่าอีกฝ่ายมองเขาเป็นเพื่อนเช่นกัน แต่ทำไม...


   “มึงไม่ได้อ่อยมันใช่มั้ย?!” เพราะคำพูดของดิษกรยังลอยวนอยู่ในหัวว่ามีอะไรให้ถามไปเลย ผู้ชายปากไม่ค่อยดีแบบเจตน์ก็เลยถาม...ตรงๆ


   คนถูกถามอ้าปากค้างตาโต ทุบไหล่คนถามไปทีเป็นการตอบแทนความปากไม่ดี


   “ผมจะไปอ่อยเขาทำไม” แค่อ่อยผู้ชายคนที่นั่งอยู่ข้างๆนี่ก็แทบแย่แล้ว


   “ก็กูเห็นมันเดินตามมึงต้อยๆ...” ปกฉัตรทุบไปอีกที เจตน์ก็เลยไม่พูดต่อ ปล่อยให้คนข้างกายเป็นคนพูดเอง


   “ผมเห็นเขาเป็นเพื่อน”


   “แล้วกูล่ะ”


คราวนี้ปกฉัตรชะงักหันมองคนถามทันที ใบหน้าขาวมีเลือดฝาดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว


   “พ...พี่ก็เป็นพี่ ผมจะมองพี่เป็นเพื่อนได้ยังไง”


 เป็นคำตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ ซึ่งคนฟังควรจะพอใจ เพราะอย่างน้อยก็ไม่อยู่ในระดับเดียวกับเจ้าหนุ่มลูกครึ่งนั่น


   แต่...ถึงไอ้ลูกครึ่งนั่นจะอยู่ในระดับต่ำกว่าเขา ก็ต้องรีบตัดมันออกจากสารบบของคู่แข่ง!


…แม่งเรียนปีเดียวกันด้วยนะ! ภาคฯเดียวกันอีก! รักแท้ของกูจะมาแพ้ความใกล้ชิดของมันไม่ได้นะเว้ย!!...


“ไม่มองกูเป็นเพื่อนก็ดี! แต่กับไอ้เจฟอะไรนั่น มึงต้องเด็ดขาด!”


“ผมรู้แล้ว ก็กำลังคิดอยู่นี่ไงว่าจะพูดยังไงดีที่จะไม่เสียเพื่อนเพราะเรื่องแบบนี้”


เพราะหัวใจมีใครอีกคนจับจองแล้ว คำตอบที่ปกฉัตรจะมีให้เพื่อนลูกครึ่งรายนั้นคือการปฏิเสธ และถ้าเป็นแบบนั้น...ก็คงมองหน้ากันไม่ติด


แต่...ความอาทรในฐานะเพื่อนนั่นออกจะไม่เข้าหูคนขับรถเท่าไร


   “เพื่อนหวังเคลมมึงจะคบทำเชี่ยอะไร?!”


   “มันไม่ได้หวังเคลมหรอก...”


   “ปกป้องมันอีก?!”


   “ผมไม่ได้ปกป้องสักหน่อย ผมแค่คิดว่าเจฟเป็นคนดี เป็นเพื่อนที่ดี ผมไม่อยากให้มองหน้ากันไม่ติดเพราะเรื่องแบบนี้”


   “แล้วมึงจะปฏิเสธมันรึเปล่า?!”


   “ปฏิเสธสิ เพราะอย่างงั้นก็เลยไม่รู้จะพูดยังไงไม่ให้เสียเพื่อน”


   “มึงก็บอกไปเลยว่าไม่เป็น!!” คนใจร้อนอย่างเจตน์ มีแค่ประโยคเดียวที่คิดว่าปกฉัตรควรพูด


   “พูดแบบนั้นไม่ได้หรอก บอกแล้วไงว่าไม่อยากเสียเพื่อน”


   “โว้ย! แล้วมึงจะพูดยังไงวะ?!” คนหวงก้างนัมเบอร์วันที่ตามรับตามส่งมาตลอดชักจะทนไม่ไหว ขนาดไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียวยังทำเสียงจิ๊จะในลำคอเพราะนั่นหมายความว่าเขาต้องหันไปสนใจถนน แทนที่จะได้คุยกับปกฉัตรอย่างจริงจัง


   ...หรือกูตบไฟเลี้ยวลงซ้าย จอดริมฟุตบาธคุยกับไอ้ปกก่อนเลยดีวะ!!...


   “ผมว่า...ผมจะบอกเจฟว่าผมมีแฟนแล้ว”


คำพูดของคนข้างกาย ทำเอาเจตน์ไม่ตบไฟเลี้ยว แต่หักรถลงซ้ายทันควัน เสียงแตรจากรถคันหลังดังยาว จนแม้แต่ตัวคนขับเองยังสะดุ้ง ต้องรีบหันไปผงกศีรษะขอโทษขอโพยรถเจ้าของเสียงแตรที่ขับแซงเขาไป


พอประคับประคองรถหรูจอดที่ริมฟุตบาธ เปิดไฟขอทางเรียบร้อย เจตน์ก็รีบหันมาทางปกฉัตรทันที


“เมื่อกี้มึงว่าไงนะ?!”


“ผม...จะบอกเจฟว่ามีแฟนแล้ว”


“มึงเป็นแฟนกับใคร?!!”


“ก็...ไม่มีหรอก...” ร่างโปร่งพูดแล้วเบี่ยงสายตามองไปทางอื่น ดูเขินอายไม่กล้าสบตากับเจ้าของรถที่จ้องเอาๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพูดต่อเบาๆ “...ยังไม่ถูกขอเป็นแฟนเลยนี่นา”


...ยังไม่ถูกขอเป็นแฟน ยังไม่ถูกขอเป็นแฟน...


...แสดงว่ามันรอกูขออยู่น่ะสิ?!!...


ภายในรถมีแต่เสียงแอร์ดังเบาๆ คนออกตัวว่ายังไม่ถูกขอเป็นแฟนก็ใจแกว่ง กลัวว่าตัวเองจะล้ำเส้นมากเกินไป ในขณะที่คนฟังก็ใจสั่น สูดลมหายใจลึกหลายครั้งเพื่อรวบรวมความกล้า


“แล้ว...ถ้าขอ จะเป็นมั้ย”


เป็นคำถามที่ดังกว่าเสียงแอร์แค่นิดเดียวเท่านั้น ปกติเจตน์ชอบตะโกนโหวกเหวก แต่นานๆทีพูดเบาๆแบบนี้ก็ทำเอาทำเอาปกฉัตรเขินจนได้แต่เม้มปากแน่นๆเพราะกลัวจะเผยรอยยิ้มแห่งความดีใจออกไปให้อีกฝ่ายรับรู้


...ไม่อยากบอกเลยว่าอยากเป็นแฟนพี่จะแย่อยู่แล้ว...


...แต่...จะไม่พูดออกไปตรงๆหรอก แล้วก็ไม่โง่พอที่จะเงียบด้วย...


   “พี่...จะเป็นแฟนผมเพื่อช่วยผมจากเจฟรึเปล่า”


   “กูขอมึงเป็นแฟนเพราะอยากเป็นแฟนกับมึง ส่วนเรื่องช่วยมึงจากไอ้มนุษย์หน้าไหนนั่นมันหน้าที่แฟนอย่างกูอยู่แล้ว”


ปกฉัตรยังเอาแต่ก้มหน้าเงียบ เจตน์ชักหวั่น กลัวว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธ แต่...ดิษกรบอกเขาว่าอยากรู้อะไรต้องถาม เพราะงั้น...ต้องถามอีกครั้ง


   “มึง...อยากเป็นแฟนกับกูรึเปล่า”


   “อื้อ...”


   “เป็นแฟนกูแล้วนะ”


   “อื้อ...”


   “ไม่ให้ไปเป็นแฟนใครแล้วนะ”


   “พี่ก็...อย่าไปเป็นแฟนคนอื่นนะ”


   แล้วจากนั้น รถหรูของเจตน์ก็เปิดไฟเลี้ยวขอกลับเข้าสู่ถนนอีกครั้ง คราวนี้...รถคันนี้ขับดีและแสนสุภาพจนน่าใจหาย!

.....................................

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-8


เจฟฟรี่นั่งอยู่เพียงลำพังที่โต๊ะม้าหินหน้าตึกเรียน เกือบจะบ่ายโมงแล้ว และพวกปีหนึ่งที่มีเรียนรวมคาบบ่ายก็คงจะเริ่มทยอยเข้าห้องเรียนกันแล้ว แต่...นอกจากเขาก็คงมีปกฉัตรอีกคนที่โดดเรียนวันนี้


   ถึงจะรู้สึกผิดต่อเพื่อนร่วมภาควิชา แต่เจฟฟรี่ก็ทำลงไปแล้ว ทำเพื่อ...ให้ใครบางคนเห็น ทำเพื่อให้ใครบางคนสนใจ แต่...เปล่าประโยชน์ ไม่หันมาสนใจกันเลยสักนิดเดียว


   ถุงพลาสติกใสที่ใส่น้ำขวดเย็นเฉียบจนมีไอน้ำเกาะและแซนวิชสำเร็จรูปถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้า ดึงสติของหนุ่มลูกครึ่งให้ออกจากภวังค์ เขาเงยหน้ามองก่อนจะชะงักเพราะคิดไม่ถึงว่าคนที่เข้ามาหาเขาจะเป็นคนที่อยู่ในความทรงจำ


   ทิฆัมพร...หญิงสาวร่างป้อมผมหยิกเหมือนตัวการ์ตูน หล่อนเป็นคนสดใส ร่าเริง กินเก่ง แต่ถึงอย่างนั้นเวลานี้เจ้าตัวกลับทำหน้าเฉยแถมไม่มองเขาด้วย


   “ไม่รู้รึไงว่าปกมีแฟนแล้ว” ปากถามแต่ไม่มองกันสักนิด เจฟฟรี่เจ็บแปลบแต่ความสงสัยทำให้เขาต้องเอ่ยปากถาม


   “แฟน?”


ทิฆัมพรถอนหายใจแรงๆ


   “ก็ผู้ชายที่พาปกออกไปไง เขาลือกันว่าเป็นแฟนปก” 


คราวนี้คนฟังตาเหลือกเพราะคิดไม่ถึง เขาเห็นปกฉัตรเรียกอีกฝ่ายว่าพี่ทุกคำก็นึกว่าเป็นพี่น้องกัน ถึงจะหน้าตาไม่เหมือนกัน แต่ก็คิดเอาเองว่าน่าจะเป็นญาติ เพราะเห็นตามรับส่ง ไม่ทันฉุกใจหรือสนใจข่าวลือสักนิดด้วยซ้ำ


   “เรา...ไม่รู้มาก่อนเลย” เขาครางเบา ได้แต่กะพริบตาปริบๆเพราะรู้สึกเหมือนจะทำให้เพื่อนตกที่นั่งลำบากไปเสียแล้ว


   “เคยรู้อะไรมั่งล่ะ!” หญิงสาวปรายตามองอย่างหงุดหงิด ก่อนจะพ่นลมหายใจอีกทีเหมือนจะบอกว่าช่างมันเถอะ


   “พวกปีหนึ่งมีเรียนรวมบ่ายนี้ไม่ใช่รึไง กินซะแล้วไปเข้าเรียน” หล่อนสั่ง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากโต๊ะ ทว่าเจฟฟรี่ไวกว่า


   “ฟาง!” เจ้าของชื่อหยุดชะงัก แต่ไม่หันกลับมามอง


   “แล้วเราควรจะรู้อะไรอีกบ้าง บอกเราหน่อยได้มั้ย” สายตาของหนุ่มลูกครึ่งที่มองตรงไปยังแผ่นหลังของหญิงสาวร่างเล็กป้อมนั้นสื่อความหมายมากมายที่อัดแน่นอยู่ในอก ความรู้สึกเหล่านี้คือตัวแปรที่ทำให้เขาขวนขวายสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่อีกครั้ง


ขวนขวายเพื่อกลับมาเจอ ขวนขวายเพื่อกลับมาขอโอกาส


   ทิฆัมพรหันกลับมามอง ความร่าเริงดูเหมือนจะไม่หลงเหลืออยู่ในตัวของหล่อนอีกแล้ว


   “คณะนี้ใครเข้าก่อนถือเป็นพี่ ใครเข้าทีหลังถือเป็นน้อง พี่อยู่ปีสอง น้องอยู่ปีหนึ่ง คราวหลังอย่าเรียกฟางเฉยๆ ต้องเรียกพี่ฟาง”


แล้วหล่อนก็หมุนตัวเดินจากไปทันที ทิ้งช่องว่างระหว่างพวกเขาให้ขยายกว้างมากกว่าเดิม


   ไม่ใช่ทิฆัมพรและเจฟฟรี่อีกแล้ว แต่เป็น ‘พี่ฟาง ปี 2’ กับ ‘น้องเจฟ ปี 1’ ต่างหาก

.................................

   เรื่องเจฟฟรี่ ปี 1 ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศประกาศขอจีบปกฉัตร เพื่อนร่วมรุ่นร่วมภาควิชาที่หน้าร้านถ่ายเอกสารเมื่อหลายวันก่อนเป็นที่เล่าขานไปทั่ว แต่ที่ทั่วยิ่งกว่าก็เห็นจะเป็นการที่เจตน์ไม่ใช่แค่ตามรับส่งปกฉัตรถึงคณะเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่ไปส่งถึงห้องเรียน แถมทำความรู้จักกับเพื่อนในภาควิชาและต่างภาควิชาของปกฉัตรให้รับรู้ทั่วกันอีกด้วย


   ‘เฮียชื่อเจ๋ง เป็นแฟนปก ฝากดูปกด้วย เดี๋ยวเลิกเรียน เฮียจะมารับ’


   ต่อให้จะมีสักอีกกี่สิบคนจีบ แต่ผู้ชายที่ออกตัวว่าเป็นเจ้าของหัวใจปกฉัตรก็คือเจตน์คนนี้


   “ช่างเป็นผู้ชายที่ชาตรีมากๆ โอ๊ยยยยย...นี่ถ้าเราไม่ได้มอบใจดวงนี้ให้พี่ซอโซ่แห่งพรหมลิขิตไปแล้วล่ะก็ จะมอบให้เฮียเจ๋งอีกคนนึงเลย!” ติซซี่พร่ำพรรณนาตาลอยค้างเหมือนอยู่ในความฝัน


ตอนได้ยินมาจากเพื่อนคนอื่นๆในภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่าแฟนปกฉัตรมาแสดงตัวถึงห้องเรียน ฝากฝังเพื่อนๆให้ช่วยดูแล ติซซี่ก็กรี๊ดไปรอบนึงแล้ว พอมาเจอกับตัวในคาบเรียนรวมแล้วต้องบอกว่า อย่าแค่กรี๊ดเลย สลบลงกับพื้นก็ไม่มีใครว่า! เพราะ ‘แฟนปก’ งานดีมากกกกกก...


   ...ไม่ใช่แค่หน้าตา ไม่ใช่แค่รูปร่าง แต่คือหัวใจที่แข็งแกร่งดังหมียักษ์!...


   ...เห็นแล้วระทดระทวย! อยากจะถูกชายอื่นตามจีบแล้วมีผู้ชายอย่าง ‘เฮียเจ๋ง’ มาประกาศตัวว่าเป็นแฟนอย่างงี้มั่ง!...


   “เออ แล้วเจฟว่าไง” ว่าแล้วติซซี่ก็ถามถึงเพื่อนร่วมรุ่นอีกคนที่เคยประกาศขอจีบปกฉัตรหน้าร้านถ่ายเอกสาร คาบเรียนรวมวันนี้ก็แอบเห็นแว่บๆว่าเข้าเรียนเหมือนกัน


   “ไม่รู้ เจอกันแต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก”


เพราะเจตน์มาส่งถึงห้องเรียน ตอนมารับก็มาถึงห้อง แถมอย่างที่ติซซี่บอก คือเจตน์ประกาศตัวฝากฝังให้เพื่อนๆช่วยกันเป็นหูเป็นตา เจฟฟรี่เลยถูกกันออกห่างไปโดยปริยาย


   “ก็เฮียคนจริงอ่ะ! กันท่าขนาดนี้ แสดงออกว่าทั้งรัก ทั้งหวง โอ๊ยยยยย...ปก! โชคดีอะไรอย่างงี้ได้เฮียเจ๋งเป็นแฟน!”


ปกฉัตรได้แต่ยิ้มเงียบๆ เขาไม่ได้พูดอะไรกับติซซี่อีกเพราะอาจารย์เข้าห้องแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นร่างโปร่งก็รับรู้ว่ามีใครบางคนมองตรงมาที่เขา


   เจฟฟรี่


   ร่างโปร่งไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมองเขาทำไม แต่สายตาที่มองมา มันเต็มไปด้วยความอึดอัดและลำบากใจ

……………………….

   เจฟฟรี่รู้ตัวว่าเขาทำให้เพื่อนร่วมภาควิชาอย่างปกฉัตรอาจจะตกที่นั่งลำบาก อย่างน้อยๆก็คงต้องเคลียร์เรื่องของเขากับ ‘แฟน’ ที่เป็นรุ่นพี่จากต่างคณะคนนั้น เขาไม่อยากแก้ตัว แต่ก็อยากจะแก้ปัญหาในเรื่องที่เกิดขึ้น ปกฉัตรเป็นเพื่อนที่ดี และเขาก็...รู้สึกผิดที่ทำลงไปโดยคิดไม่รอบคอบแบบนี้


   คาบเรียนเลิกได้ 5 นาทีแล้ว แต่หนุ่มลูกครึ่งยังนั่งรออยู่ในห้อง นิสิตคนอื่นๆทยอยออกจากห้อง บ้างก็จับกลุ่มคุยกัน เขาเห็นปกฉัตรยังถูกติซซี่ประกบแจ จนกระทั่งผู้ชายตาเรียวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ประตูห้องเรียน


   “เฮียเจ๋งมาแล้ว...” เสียงติซซี่ร้องวี้ดว้าย ปกฉัตรลาเพื่อนๆแล้วเดินออกไปกับคนที่มารับ เจฟฟรี่รีบลุกตามออกไปอีกประตูทันที


   “ปก!” เขาร้องเรียก คนสองคนที่เดินนำหน้าก็พากันหันมอง แน่นอน วินาทีแรกที่ทั้งสองคนหันมาเห็นเขา หนุ่มรุ่นพี่จากต่างคณะก็ดึงปกฉัตรไปไว้ข้างหลังทันที


   “จะขอคุยด้วยหน่อย”


   “คุยกับกูเนี่ย! กูเป็นแฟนไอ้ปก!” ทั้งๆที่เสียงของเจตน์เครียด แต่ปกฉัตรกลับกลั้นรอยยิ้มของตนเองไม่ไหว


   “ผมรู้ว่าพี่เป็นแฟนปก ผมคุยกับพี่ด้วยก็ได้ ผมอยากอธิบายเรื่องวันนั้น”


   “ถ้ามึงรู้ว่ากูกับปกเป็นแฟนกัน แล้วมึงจะอธิบายทำเชี่ยอะไร?! สิ่งที่มึงต้องทำคือเลิกมายุ่งกับไอ้ปก! ไม่ใช่มาวิ่งตามขออธิบาย!” เจตน์ผู้ขี้หงุดหงิดและโผงผางไม่เห็นความจำเป็นตรงไหนที่จะต้องมานั่งฟังคำอธิบายคนที่ประกาศตัวโต้งๆว่าจะจีบปกฉัตร แต่สำหรับปกฉัตร...เขายังจำสายตาของเจฟฟรี่ที่มองมาที่เขาได้


   ...เสียใจ ขอโทษ อึดอัด ลำบากใจ...


   ...ไม่ใช่สายตาของคนจะจีบไม่ใช่หรือ...


   “พี่ ใจเย็นก่อน ให้เจฟพูด” หนุ่มตี๋จากคณะบัญชีตวัดสายตามามองคนที่รั้งแขนเขา


   “จะให้มันพูดอะไร?!”


   “ฟังเจฟพูดก่อน” ปกฉัตรย้ำคำเดิม เจตน์เลยได้แต่งุ่นง่านหันหน้าหนีไปทางอื่น แต่...ก็แค่หันหนี เพราะมือโอบไหล่คนรักแน่น


   ร่างโปร่งเหลือบมองคนแสดงความเป็นเจ้าของแล้วทั้งขำทั้งฉุน แต่ถึงอย่างนั้นก็ปล่อยให้แขนใหญ่วางทับไหล่ของเขาต่อไป


   “ขอโทษนะปก เรื่องที่หน้าร้านซีร็อกวันนั้น...”


เจตน์เหลือบตาไปมองคนพูด รู้สึกเคืองหูกับความมีมารยาทของมัน


...ขอโทษอยู่นั่นไม่จบไม่สิ้น ไม่ใช่ขอโทษเสร็จแม่งวนไปขอจีบ ขอเป็นแฟน พ่อจะถีบให้!...


   “ไม่ต้องเกริ่น! เข้าเรื่องเลย! กูมีความอดทนฟังมึงแค่สามประโยค!!”


หนุ่มลูกครึ่งหันมองคนใจร้อน แล้วถอนหายใจเบาๆหันกลับมาทางเพื่อนร่วมคณะร่วมภาควิชาอีกครั้ง


   “ปกรู้ใช่มั้ยว่าเราซิ่วมา...จริงๆแล้วเราเรียนม.ปลายที่เดียวกับฟาง”


   “ฟาง? พี่ฟาง พี่รหัสของเราเหรอ?” ปกฉัตรย้อนถาม คำตอบที่ได้คือการพยักหน้ารับ


   “เรากับฟาง...เคยเป็นแฟนกัน”


   “อ้าว!!” เจตน์ร้องลั่น อารมณ์ขึ้นพรวดพราด


   “นี่มึงเป็นแฟนเก่าพี่รหัสไอ้ปก! แต่จะมาจีบไอ้ปกเนี่ยนะ?!!”


   “พี่…ใจเย็นก่อน” ต้องเป็นปกฉัตรที่ปราม ดึงเสื้ออีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้กระโจนเข้าไปหาเจฟฟรี่


   “ผมไม่ได้จะจีบปก” เจฟฟรี่หันไปบอกคนหน้าตาถมึงทึง ก่อนจะกลับมามองปกฉัตรอีกครั้ง


   “แต่...อยากให้ฟางหันมาสนใจกันบ้าง...”


   “โฮ! ไอ้สัด!!!” เจตน์ด่าลั่น โทษฐานที่ไอ้หนุ่มลูกครึ่งตรงหน้าทำอะไรไม่ตรงไปตรงมา โชคดีที่เขาไม่วู่วามทะเลาะกับปกฉัตรเสียก่อน ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ต้องบานปลายเพียงเพราะไอ้เจฟฟรี่อะไรนี่ต้องการความสนใจจากแฟนเก่า!


   “พี่...ใจเย็นๆ” ปกฉัตรรั้งร่างสูงเอาไว้ แม้เจตน์จะยังฮึดฮัดแต่ก็ควบคุมอารมณ์ได้ดีพอสมควร ร่างโปร่งเลยหันกลับไปมองหนุ่มลูกครึ่งที่คอตกหน้าหงอย


   “แล้วพี่ฟางว่ายังไง”


เจฟฟรี่ส่ายหน้าไปมา หลายวันมานี้เขาพยายามตามหาทิฆัมพร แต่พอเจอทีไร หล่อนก็มักจะอยู่กับเพื่อน หรือที่ร้ายที่สุดคืออยู่กับพี่รหัสปีสี่ที่ชื่ออรรณพ แล้วรายนั้นดุอย่างกับเสือ หากบุ่มบ่ามเข้าไปก็เกรงว่านอกจากทุกอย่างจะพังแล้ว ชีวิตอาจจะหาไม่ด้วย


   “ปกช่วยหน่อยได้มั้ย เราอยากปรับความเข้าใจกับฟาง...”


   “ไม่ต้องไปช่วยมัน!” เจตน์สวนขวับ ปกฉัตรหันมองร่างสูงแล้วก็ไม่รู้จะช่วยพูดยังไง เวลานี้เจตน์กำลังหงุดหงิด เขาก็ไม่อยากไปขวางคนอารมณ์ร้อน ถึงจะอยากบอกแทบตายว่าถ้าไม่เพราะเจฟฟรี่ประกาศว่าจะจีบเขา ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็อาจจะยังอยู่ที่ ‘จีบ’ ไม่ได้ชัดเจนขนาดที่เจตน์มายืนโอบไหล่ประกาศสถานะด้วยซ้ำ


   “เรื่องของมึงกับแฟนเก่า มึงก็ไปเคลียร์กับแฟนเก่าเองสิวะ! ไอ้ปกน่ะแฟนกู! กูไม่ให้แฟนกูไปช่วยใครทั้งนั้น ไอ้สัด!!” โดยเฉพาะช่วยคนที่เคยประกาศว่าจะจีบปกฉัตรมาก่อน ถึงมันจะสารภาพว่าที่พูดไปนั้นก็เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนรักเก่าก็ตาม


   เจตน์ไม่พูดอะไรอีก ลากปกฉัตรให้เดินหนีออกมาทันที ร่างโปร่งมองกลับไปที่เพื่อนร่วมภาควิชาด้วยความเห็นใจ ก่อนจะเหลือบมองคนดึงแขนเขา


   “พี่...” เรียกคำเดียว แต่ตาเรียวตวัดมาจิกเหมือนปกฉัตรเรียกอย่างหยาบคาย


   “ถ้าพี่เป็นเจฟ พี่จะทำไง”


   “ทำเอง! คนที่รู้จักแฟนกูดีที่สุดก็คือกู! ถ้ากูจะง้อแฟนกู ก็ต้องเป็นกูที่ลงมือทำเองสิ!”


   “แต่ถ้าผมเป็นเจฟ ผมอาจจะทำแบบเจฟ...” ปกฉัตรออกปาก ทำเอาร่างสูงหันกลับมามองเต็มสองตา


   “ไอ้ที่ประกาศจีบคนอื่นเพื่อเรียกร้องความสนใจเนี่ยนะ?!”


ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองสบเข้าไปในตาเรียว ครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ เขาก็เคยอยู่นอกสายตา นอกความสนใจของเจตน์ ทำทุกอย่างจนกระทั่งวันนี้...ที่ได้มายืนข้างๆด้วยสถานะที่แตกต่างไปจากเดิม


   “ในเมื่อเราไม่อยู่ในสายตาของเขาเลย ถ้ามีวิธีไหนที่พอจะทำได้เพื่อให้เขาหันมาสนใจกัน...มันก็น่าลองทำทั้งนั้น”


เหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ที่ปกฉัตรพยายามมีตัวตนในสายตาของอีกฝ่ายปรากฏขึ้นมาในห้วงความรู้สึกของร่างโปร่ง


   ตอนที่ทำเป็นชวนคุยขอให้ไปส่งที่ซุ้มคณะในวันเฟิร์สเดท ตอนที่ทำเป็นโยนขวดน้ำไปเกือบโดนเท้าของเจตน์เพื่อให้หันมามองกัน ตอนที่ทำเป็นนั่งโต๊ะใกล้ๆเจตน์ในโรงอาหาร ตอนที่ทำเป็นตามไปคอนโดของเจตน์เป็นเพื่อนดิษกร ทุกๆอย่างที่ทำ...ก็เพื่อให้เจตน์เห็นเขาอยู่ในสายตาทั้งนั้น


   คนฟังนิ่งงัน มองลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่อยู่ตรงหน้า แล้วภาพในความทรงจำก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขาเช่นกัน


   ภาพที่ปกฉัตรยืนอยู่หน้าซุ้มคณะบัญชีในวันเฟิร์สเดท ภาพที่ปกฉัตรเดินมาเก็บขวดน้ำที่ตกมาใกล้เท้าของเขา ภาพของปกฉัตรที่เขาหันไปเห็นว่านั่งอยู่ข้างหลังในโรงอาหาร ภาพของปกฉัตรในคอนโดของเขา


   ถ้าทั้งหมดนั่น...ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ


   ถ้าทั้งหมดนั่น...คือเรื่องของคนคนหนึ่งที่ทำขึ้นมาเพื่อให้เขาหันไปเห็น...


   “ปก...มึงรู้สึกกับกูนานแค่ไหนแล้ว”


 ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกะพริบช้าๆ เมินหนีไปทางอื่น


   “ตั้งแต่...ไปนั่งดูพี่เตะบอล”


เจตน์ชะงักเพราะคิดไม่ถึง ตั้งแต่เมื่อไรที่ปกฉัตรไปนั่งอยู่ข้างสนามฟุตบอล เขาก็จำไม่ได้แน่ชัด แต่ที่จำได้คือพอไปดูหลายครั้งเข้า ก็มีคนพูดมาถึงหูเขาว่าปกฉัตรไปนั่งดูดิษกรเตะฟุตบอล และ...ทั้งสองคนเป็นแฟนกัน


   “ตอนม.ปลายน่ะเหรอ”


   “อืม...”


คนที่รู้สึกก่อน มักเป็นคนที่พ่ายแพ้ และต่อให้ปกฉัตรจะรู้ดีว่าเขาพ่ายแพ้ให้กับเจตน์ แต่ก็ไม่อาจทอดทิ้งความรู้สึกเหล่านี้ไปได้เลย ต่อให้ต้องแพ้ ต่อให้จะไม่มีทางชนะ ความรู้สึกก็ยังสั่งสมรุนแรง มันทับถมจนงอกเงยขึ้นมาเป็นความรู้สึกอื่นที่มากกว่าความชื่นชมธรรมดา


   “...ตอนนั้นผมคิดแค่ว่าผมอยากเป็นอย่างพี่ แข็งแรง มีชีวิตชีวา มีเพื่อนเยอะแยะ แต่…ผมก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร...จากที่ผมแค่มองพี่อย่างเดียว ถึงกลายเป็นอยากให้พี่หันกลับมามองผมบ้าง อาจจะ...ตั้งแต่ตอนที่ตัดสินใจจะเข้ามหาวิทยาลัยนี้ล่ะมั้ง”


   ‘ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย...’


   จู่ๆ เจตน์ก็นึกไปถึงคำพูดของปกฉัตรที่เขาเคยบังเอิญได้ยิน


   “ที่มึงเคยพูดว่าเข้าที่นี่เพราะอยากเจอคนบางคนน่ะ...หมายถึงกูเหรอ”


ใบหน้าอ่อนเยาว์ให้คำตอบด้วยการพยักหน้าน้อยๆ เป็นอีกครั้งที่เจ้าตัวไม่กล้าสบตา สายตาของคนพ่ายแพ้ สายตาของคนที่มีแต่ความรู้สึกอัดแน่นท่วมท้น คงเป็นสายตาที่...น่าอายเกินไป


   เจตน์ได้แต่มองคนที่เอาแต่หลบเลี่ยงสายตาไปจากเขา ปกฉัตรเป็นคนร่างสูงโปร่งแต่ก็ผอมกะหร่อง มองจากคนตัวใหญ่อย่างเขา อีกฝ่ายเหมือนคนแคระแกร็นที่ไม่น่าจะโตไปกว่านี้ได้แล้ว แต่...คนคนนี้กลับแบกรับความรู้สึกมากมายเหล่านั้นแล้วทำทุกอย่างจนมายืนอยู่ตรงหน้าของเขาแบบนี้ได้อย่างไรกัน


   มือใหญ่เอื้อมไปจับมือขาวของปกฉัตรแล้วกระตุกเบาๆให้ออกเดินตามกันไปจนกว่าจะถึงรถ ระหว่างทางมีแต่ความเงียบของพวกเขาสองคน จนกระทั่งเจ้าของมือที่กุมมือของปกฉัตรอยู่เอ่ยขึ้นมาเบาๆ


   “ต่อจากนี้มึงไม่ต้องทำอะไรให้กูเห็นมึงแล้วนะ เพราะกูเห็นมึงแล้ว...”


เป็นคำพูดเบาๆที่ทำเอาปกฉัตรต้องเหลือบมอง ทว่าเจตน์ยังมองตรงไปข้างหน้า


   “แล้วกูก็จะอยู่ข้างๆมึงแบบนี้ ให้มึงเห็นกูด้วยเหมือนกัน”


   ยิ่งกว่าประโยคบอกรัก คือประโยคที่ทำให้ปกฉัตรมั่นใจ


   ผู้ชายคนนี้จะไม่ใช่แค่คนรัก แต่จะเป็นคนที่อยู่เคียงข้าง จะอยู่ให้เห็น จะอยู่ให้รับรู้


   นับแต่นี้ จนกว่า...จนกว่าวันใดสักวันหนึ่งในอนาคตที่ไม่มีใครรู้


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

มีคนทายถูกด้วยว่าเจฟฟรี่กลับมาขอโอกาสจากใคร

แต่ที่ร้ายสุดคือมีคนทายว่าคู่กับพี่เวฟ เดี๋ยวค่ะ เดี๋ยวก่อนนนนน!!! พี่เวฟจะมีคู่ไม่ได้ค่ะ แกต้องอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้โซ่ไปจนกว่าจะเรียนจบ ฮ่าฮ่า

ส่วนเรื่องนี้ที่ชื่อผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะน้องปกของเราเป็นสายใช้ทุกอย่างให้เป็นประโยชน์ค่ะ ขนาดวิกฤตเจฟฟรี่ น้องก็พลิกเป็นโอกาสจนได้เป็นแฟนกับพี่เลยค่ะ ฮ่าฮ่า (ส่วนพี่...พี่น่ารักนะ แต่พี่ตามน้องไม่ทัน กร๊ากกกกก)

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และพื้นที่บอร์ดเช่นเคย

ป.ล.เนื่องจากนกคอนฯ แถมงานเยอะจนหงุดหงิด พรุ่งนี้จะมาลงโจ๊กโซ่ค่ะ บอกเลยยยยยยยยย


ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด