Fall in you #ฟอลอินยู [End] ♥ แจ้งข่าวรูปเล่ม ♥ หน้า 12 [up 12/10/2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Fall in you #ฟอลอินยู [End] ♥ แจ้งข่าวรูปเล่ม ♥ หน้า 12 [up 12/10/2018]  (อ่าน 130497 ครั้ง)

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ขอบคุณสำหรับนิยายที่มีความหมายต่อการใช้ชีวิตในการให้กำลังใจ อ่านแล้วรู้สึกมีพลัง
อ่านแล้วรู้สึกว่ารักแท้ยังมีอยู่จริงๆ อบอุ่นมากๆ 

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
จบแล้ว อ่านแล้วรู้สึกดี เหมือนค่อยๆเห็นโลกสีหม่นๆค่อยๆสดใสขึ้น จนมันเป็นสีฟ้าที่สวยและสว่างไสว

ตอนแรกอ่านก็นึกกลัวว่าจะมีดราม่าหนักๆ แต่กบับมีความหวานละมุนอยู่ในทุกๆตอน

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
 :pig4:

ออฟไลน์ iamtsubame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ชอบมาก ไม่อยากให้จบเลย :o8:
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ nuch-p

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 o13ผู้เขียนเก่งมากกกกกก
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆคะ

ออฟไลน์ Chomin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
♥ Fall in you Special: And we ♥

สายลมเอื่อยๆพัดรอบกาย ยามที่เรือข้ามฟาก กำลังลอยล่องอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา อันเป็นบรรยากาศที่ผมคุ้นเคยทุกๆวันศุกร์ เพราะเนื่องจากเป็นวันที่ผมจะต้องไปเป็นล่ามภาษามือให้กับทางสถานีโทรทัศน์ ซึ่งผมจะไม่ขับรถของพี่เนย์ไปด้วย เพราะกว่าผมจะเลิกงานก็ประมาณทุ่มนึงแล้ว ผมเลยตัดสินใจพักสมองด้วยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า เพื่อที่จะได้มาร่องเรือข้ามฟาก โดยปล่อยให้กระไอเย็นจากสายลมในยามค่ำคืน พัดพาเอาความเหนื่อยล้าจากการทำงานให้หมดไป เพราะการเป็นล่ามภาษามือจะต้องใช้ทั้งสมองและสายตาพร้อมๆกัน ซึ่งผมจะเลือกใช้วิธีผ่อนคลายแบบนี้ แค่วันที่ผมจะต้องทำช่วงข่าวภาคค่ำเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็มเท่านั้น ส่วนวันพุธผมก็ยังต้องขับรถไปที่มหาวิทยาลัยเหมือนอย่างเคย เพราะวันนั้นผมจะต้องทำช่วงข่าวภาคเที่ยง แล้วก็ต้องรีบบึ่งรถกลับมาสอนตอนช่วงคาบบ่าย
ซึ่งการทำงานกับสถานีโทรทัศน์ เราจะต้องไปเตรียมตัวก่อนเวลาออกอากาศประมาณหนึ่งชั่วโมง เพื่ออ่านสคริปต์และพูดคุยกับนักข่าวว่าวันนี้จะมีการเล่าข่าวอะไรบ้าง  มันเลยทำให้สมองของผมล้าอย่างบอกไม่ถูก เพราะลำพังแค่สิบห้านาทีก็เริ่มจะเบลอแล้ว อีกอย่างการทำงานล่ามภาษามือในโทรทัศน์ จะมีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันทุกเดือน ดังนั้นเดือนหน้า ผมก็อาจจะไม่ได้ทำวันพุธและศุกร์เหมือนเดือนนี้ เผลอๆโชคร้ายหน่อยก็อาจจะซวยเจอวันเสาร์อาทิตย์
แต่ถึงอย่างนั้นล่ามในโทรทัศน์ ก็ยังเป็นอาชีพที่ใครต่อใครต่างก็หมายตา เพราะรายได้ดี อีกทั้งเรายังสามารถรับงานนอกในช่วงวันหยุดได้อีกด้วย

ดังนั้นช่วงเวลาที่ผมไม่ได้ทำงานล่ามในโทรทัศน์ ผมจึงรับงานล่ามภาษามือที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ที่มีการเปิดสอนภาษามือ เพียงแต่ไม่ใช่สาขาที่ได้รับความนิยมมากเท่ากับมหาวิทยาลัยที่ผมจบมา โดยการทำงานของผมจะขึ้นอยู่กับตารางเรียน เช่นวันนี้มีคาบเช้า พรุ่งนี้มีคาบบ่าย
ซึ่งอาชีพนี้ ตามปกติแล้ว เราจะสามารถทำงานได้เต็มที่แค่วันละสามชั่วโมงเท่านั้น เพราะไม่อย่างนั้น สมองของเราจะล้ามากจนเกินไป ส่วนเงินเดือนก็ถือว่าได้น้อยมาก เมื่อเทียบกับการเป็นล่ามภาษามือในโทรทัศน์ ส่วนคุณนักจิตวิทยาเขาก็จะสะดวกสบายหน่อย เพราะเนื่องจากสถานที่ทำงานกับคอนโดก็อยู่ใกล้กัน จนสามารถเดินไปทำงานก็ยังได้ ส่วนขามาคลินิก พี่เขาก็อาศัยรถคุณหมอจิตเวชคนสนิท จึงทำให้การเดินทางของอีกฝ่ายสะดวกสบายจนน่าอิจฉา
ดังนั้นรถคันที่เจ้าตัวเขาใช้เป็นประจำ ก็เลยตกเป็นของผมไปโดยปริยาย

อีกทั้งกว่าคลินิกจะปิดก็ประมาณสี่ทุ่ม ผมจึงถือโอกาสหาคาเฟ่ใกล้ๆ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในการนั่งคอยอีกฝ่าย เพื่อที่เราจะได้ทานมื้อเย็นพร้อมกัน ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะเป็นฝ่ายหาซื้อ แล้วก็เอากลับไปนั่งกินที่คอนโด เพราะว่าร้านแถวๆคอนโดที่เราอยู่ จะปิดเร็วมาก โชคดีที่ผมแวะกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำจนคุ้นเคยกันดี ซ้ำยังคุ้นเคยกับเจ้าของคาเฟ่ที่อยู่ใกล้กับร้านขายก๋วยเตี๋ยว ในวันศุกร์ที่ผมจำเป็นต้องเลิกงานดึกกว่าทุกที เธอจึงเป็นธุระในการรับฝากมื้อเย็น ที่มันค่อนไปทางดึกมาก โดยที่ผมจะฝากเงินเอาไว้ที่เธอทุกๆวันพฤหัส

“บลูเลม่อนเหมือนเดิมครับพี่ตา” ผมเดินเข้ามายังคาเฟ่อันอบอุ่น ที่ผสมผสานกลิ่นอายของการตกแต่งในสไตล์ลอฟต์ได้อย่างลงตัว
“ได้เลยจ้า แล้ววันนี้ทำงานเป็นไงมั่ง?” พี่สาวผู้เป็นเจ้าของร้าน เริ่มสอบถามอย่างเป็นกันเอง

“ก็เหมือนเดิมครับ ล้าๆ แต่ก็สนุกดี” ผมตอบพลางยกยิ้ม เพราะพี่สาวคนนี้ เป็นคนเดียวที่จำผมได้ ว่าผมคือล่ามภาษามือที่กำลังทำหน้าที่แปลความให้กับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินสามารถรับรู้ข่าวสารต่างๆของบ้านเมืองได้เทียบเท่ากับคนทั่วไป ซึ่งสาเหตุที่เธอช่างสังเกตขนาดนั้น ก็เพราะว่าลูกชายของเธอเป็นผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ประเภทหูหนวกแต่กำเนิด อีกทั้งสามีของเธอก็ยังรู้ภาษามือด้วย
ดังนั้นตรงช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ไม่ค่อยจะมีคนสนใจ จึงตกอยู่ในความสนใจของครอบครัวนี้

กระทั่งชำระค่าเครื่องดื่ม พร้อมกับรับก๋วยเตี๋ยวต้มยำ อันเป็นมื้อเย็นในวันนี้แล้ว เครื่องดื่มที่ผมสั่ง ก็เสร็จเรียบร้อยพอดี ผมจึงเดินออกไปตรงโซนเอาท์ดอร์ของร้าน เพื่อนั่งลงยังมุมประจำของตัวเอง ที่สามารถมองเห็นบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในยามค่ำคืนได้เหมือนทุกครั้ง คล้ายกับว่า พี่สาวเจ้าของร้าน เขา ใช้อำนาจมืดในการจับจองที่นั่งให้ผมเลย
เพราะไม่ว่าจะมาที่ร้านนี้ กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ผมก็ยังสามารถหานั่งที่มุมๆนี้ ได้ตลอดเวลา

จะว่าไป ปีนี้ก็ก้าวเข้าสู่ปีที่สองแล้ว ที่ผมสามารถเดินเคียงข้างไปกับนักจิตวิทยาอย่างพี่เนย์ได้ ซึ่งอุปสรรคของเรา ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องปากท้องนี่แหละ เพราะว่าค่าคอนโดก็ถือว่าแพงพอสมควร แต่โชคดีที่ผมได้งานเป็นล่ามภาษามือ ที่สถานีโทรทัศน์เมื่อต้นปีนี้ เงินเดือนของผมในส่วนนี้ จึงพอจะช่วยแบ่งเบาอะไรได้อีกเยอะ เราก็เลยไม่ค่อยลำบากมากเท่าแต่ก่อน
ยิ่งพี่กันต์ที่เคยเป็นพี่เลี้ยงให้กับพี่เนย์ ตอนช่วงที่พี่เขาเพิ่งได้งานใหม่ๆ ก็เพิ่งมาลาออกไป เมื่อช่วงต้นปี พี่เนย์จึงต้องรับบทหนักมากขึ้น แต่ดูเหมือนเจ้าตัวเขาก็แลแฮปปี้ดี ผมก็เลยเบาใจ ส่วนเจ้าเขี้ยวกุด ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีต่อกี่ปี มันก็ยังคงเป็นลูกรักของพี่เนย์เหมือนอย่างเคย ส่วนแชมเปญของผม มันเสียไปตั้งแต่ตอนที่ผมเรียนอยู่ชั้นปีที่ห้า เพราะมันแก่มากแล้ว

 “ผมกลับก่อนนะครับ” ประมาณสามทุ่มครึ่ง ผมก็เดินไปร่ำลาพี่เจ้าของร้านตามปกติ ก่อนจะเดินไปยังเส้นทางที่มุ่งตรงไปสู่คลินิกจิตเวชของคุณหมอเจษฏา หรือพี่แป๊ะที่พี่เนย์เขาชอบพูดถึงอยู่บ่อยๆ ซึ่งกว่าผมจะเดินไปถึงที่หมาย ก็ประมาณสี่ทุ่มตรงพอดี แต่พอไปถึงก็ใช่ว่าจะกลับได้เลย เพราะว่าพี่เนย์เขาชอบช่วยพี่แป๊ะปิดร้าน จึงทำให้เวลาเลิกงานช้าลงนิดหน่อย แต่ผมก็ยังมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงที่หมายให้ตรงเวลา เพราะว่าพี่เขาจะได้ไม่ต้องคอยนาน ส่วนผมจะเป็นฝ่ายรอหรือไม่ อันนั้นผมไม่ซีเรียสอยู่แล้ว
เพราะถ้าคิดมาก ผมคงไม่ทนกินขนมจุกจิก เพื่อรอมากินมื้อเย็นที่มันค่อนไปทางดึกขนาดนี้หรอก

“ทำไมวันนี้ปิดเร็วนักล่ะครับ?” ผมยกมือไหว้พี่หมอแป๊ะ แล้วเราก็แยกย้ายกัน จากนั้นผมจึงถือโอกาสหันไปสอบถามคนข้างๆสักหน่อย เพราะทุกที คลินิกไม่เคยปิดตรงเวลาขนาดนี้
“ลูกค้าหมดพอดีน่ะ”

“พี่กินอะไรรองท้องไปบ้างหรือยังครับ?” ผมถามขณะที่เรากำลังก้าวเดินด้วยจังหวะเดียวกัน บนถนนเส้นเดียวกัน ภาพวิวเดียวกัน ตามที่สมัยเรียน ผมเคยวาดฝันให้เวลานี้มันมาถึงโดยเร็ว
“กูกินมาบ้างแล้ว ขนมปังน่ะแหละ แล้วมึงล่ะ?”

“ผมก็กินมาบ้างแล้วเหมือนกันครับ แต่มื้อดึกวันนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำเหมือนเดิมนะ” ผมตอบพลางชูถุงก๋วยเตี๋ยวให้อีกฝ่ายดู ซึ่งพี่เขาก็ทำเพียงแค่พยักหน้ารับเพียงเบาๆ เพราะอีกฝ่ายเข้าใจในข้อจำกัดของผมดี ว่าวันศุกร์แบบนี้ กว่าผมจะเลิกงานมันก็ดึกมากแล้ว จึงไม่สามารถเลือกกินได้ตามใจปาก

“เหนื่อยมั้ย?” พี่เนย์ย้อนถาม ขณะที่เราเริ่มเดินเข้าใกล้ตัวคอนโดมากขึ้นทุกที
“มากกกกก แต่ก็สนุกดีครับ” ผมลากเสียงยานคาง พลางหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะต่อประโยคให้จบ เพราะถึงแม้งานนี้มันจะเหนื่อยล้าสมอง มากไปสักหน่อย
แต่ผมก็ชอบงานที่ผมกำลังทำ แล้วก็มีความสุขไปกับมัน มากกว่าที่คิด

“ก็ดีแล้ว” พี่เนย์กล่าว พลางเอื้อมมือมากอบกุมฝ่ามือของผม ที่กำลังถือถุงก๋วยเตี๋ยวต้มยำเพียงเบาๆ ขณะที่รอบกายของเราต่างก็เงียบเชียบ จึงไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาแอบมองหรือให้ความสนใจมากมายนัก
กระทั่งมาถึงคอนโด พวกเราก็อุ่นก๋วยเตี๋ยวมานั่งกินด้วยความหิวโหย จากนั้นผมก็รับหน้าที่ไปล้างจานเหมือนปกติ แต่ยังล้างไม่ทันเสร็จ คนเมืองกรุงเขาก็ตรงเข้ามากอดเอว พร้อมกับฝังใบหน้าเอาไว้ตรงลาดไหล่เข้าเสียก่อน

“เป็นอะไรครับ? จะเติมพลังให้ผมหายเหนื่อยเหรอ?” ผมถามพลางขยับตัวหยิบจานไปคว่ำไว้ตรงที่คว่ำจาน ก่อนจะเช็ดมือให้แห้ง
“อืม แล้วมึงหายเหนื่อยหรือยังล่ะ?” อีกฝ่ายตอบรับ พลางถามกลับ ผมจึงได้แต่แอบอมยิ้มจนปวดแก้ม

“ครับ” ผมตอบรับเพียงเบาๆ โดยไม่อาจขยับไปไหนได้อีก เพราะคนตัวโตเข้าล็อคตัวผมไว้ ด้วยอ้อมแขนอันแข็งแรง
“อาบน้ำกัน” อีกฝ่ายชักชวนด้วยน้ำเสียงติดกระซิบ

“แค่อาบอย่างเดียวนะครับ ห้ามคิดอย่างอื่น” ผมรีบพูดดักคอไว้ก่อน เพราะวันไหนที่ผมต้องทำงานหน้าที่ล่ามภาษามือในโทรทัศน์ วันนั้นผมจะเหนื่อยมากเป็นพิเศษ แถมยังอยากจะนอนเร็วๆ ด้วย เพราะลำพังแค่รอกินมื้อดึกพร้อมกัน ผมก็ต้องใช้ความพยายามในขั้นสูงมากๆ แล้ว ถ้าจะให้มาตามใจอีกฝ่ายในเรื่องแบบนั้นเหมือนตอนช่วงแรกๆอีก ก็เห็นทีจะไม่ไหว
เพราะคราวนั้น เล่นเอาผมหมดเรี่ยวแรงแบบสุดๆ แถมวันรุ่งขึ้นก็ยังต้องรีบตื่นไปเข้าสอนอีก

“รู้แล้วน่า เออ วันนี้กูได้ดูมึงตอนช่วงข่าวภาคค่ำด้วย” พี่เนย์ตอบด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก คล้ายกับอีกฝ่ายเขาเก้อเขิน ที่ผมพูดดักคออย่างรู้ใจ พลางเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น ขณะที่ผมก็เดินเข้ามารื้อเสื้อผ้าทั้งของตัวเองและของอีกฝ่าย เพื่อเอาไว้ใส่หลังจากที่เราอาบน้ำเสร็จ

“แล้วเป็นไงครับ ผมเก่งไหม?” ผมย้อนถามอีกฝ่าย แม้จะรู้ดี ว่าคำตอบที่ได้รับมันจะออกมาในรูปแบบไหน
“สำหรับกู มึงเก่งที่สุด” ผมหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อคำตอบที่ได้ มันก็ไม่ต่างไปจากที่คิดมากนัก เพราะถ้าอะไรที่มันเกี่ยวข้องกับความฝันของผม พี่เนย์จะไม่เคยแกล้งเอามาพูดเล่นๆ
เพราะพี่เขารู้ว่า กว่าที่ผมจะมายืนจนถึงจุดนี้ได้ มันยากเย็นมากแค่ไหน
ดังนั้นคำชื่นชม ย่อมเป็นน้ำหล่อเลี้ยงที่ดี ที่จะทำให้ผมสู้ต่อไป แม้ว่างานที่ตัวเองใฝ่ฝัน มันจะเหนื่อยล้ามากก็ตาม

“สำหรับผม พี่เนย์ก็เก่งที่สุด” ผมพาดเสื้อผ้าของเราไว้ตรงราวเหล็กใกล้ๆกับบริเวณที่พี่เนย์แขวนผ้าเช็ดตัว จากนั้นผมก็เป็นฝ่ายโอบกอดพี่เขาจากทางด้านหลัง พร้อมกับกล่าวชมอีกฝ่ายให้ได้ชื่นใจอย่างเท่าเทียมกัน
“กูว่าวันนี้มึงไม่ต้องรีบเข้านอนแล้วล่ะมั้ง” ชายหนุ่มตรงหน้ารีบหมุนตัวกลับมา พร้อมกับออกปากบอกในเชิงสองแง่สองง่าม จนผมได้แต่ยกมือขึ้นตีไหล่คนเจ้าเล่ห์ ที่กำลังทำสายตาแพรวพราวไม่หยุดหย่อน

“พี่เนย์ ผมง่วงแล้ว” ผมลากเสียงอ่อนเรียกอีกฝ่าย พลางปัดป้องตัวเองเป็นพัลวัน ขณะที่ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกลับดูสนุกสนานกับการจับผมเปลื้องผ้าเสียเหลือเกิน
“กูรู้หรอกน่า แต่อยากแกล้งมึง มีปัญหามั้ย?” อีกฝ่ายผละตัวออกจากผม ก่อนจะหันไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองทีละเม็ดจนกระทั่งเม็ดสุดท้าย เจ้าตัวเขาถึงได้ถอดเสื้อตัวดังกล่าวออก แล้วก็เอาไปหมกไว้ตรงซอกที่มันพอจะยัดเสื้อผ้าที่ใส่แล้วเข้าไปได้ ผมจึงได้แต่ส่ายหน้าให้กับความขี้แกล้งของใครบางคน ที่นับวันจะยิ่งมีมากขึ้นทุกที

“เออ พรุ่งนี้มึงจะกลับไปเยี่ยมแม่ หรือว่าจะพักก่อน แล้วค่อยไปวันอาทิตย์?” พี่เนย์ถาม ขณะที่เราสองคนกำลังเปลือยเปล่า และตั้งหน้าตั้งตาฟอกสบู่ให้ทั่วตัว
“ถ้าพี่เนย์ไม่เหนื่อย ผมยังไงก็ได้ครับ” ผมตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะเสาร์อาทิตย์ อีกฝ่ายก็ยังคงต้องไปทำงานที่คลินิกจนถึงเที่ยง บ่ายถึงได้มีเวลาส่วนตัวกับเขาบ้าง ซึ่งเราตกลงกันไว้ว่า ทุกวันเสาร์หรืออาทิตย์ เราจะแวะไปหาพ่อกับแม่ของเราหนึ่งวัน โดยสลับอาทิตย์กัน เช่นว่าอาทิตย์ที่แล้วไปหาพ่อกับแม่ของพี่เนย์มาแล้ว อาทิตย์นี้ก็ต้องไปหาพ่อกับแม่ของผมบ้าง

“งั้นไปพรุ่งนี้เหมือนเดิมน่ะแหละ วันอาทิตย์บ่ายจะได้พักยาว” พี่เนย์เสนอ พลางเอื้อมไปหยิบฝักบัวมาจ่อที่ตัวเอง เพื่อล้างคราบสบู่ออกให้หมด จากนั้นก็หันมาล้างตัวให้ผมบ้าง
“ครับ เดี๋ยวยังไงช่วงเช้า ผมจะโทรบอกแม่ไว้” ผมตอบพลางเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวให้กับอีกฝ่าย ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวอีกผืนมาห่อตัวเองไว้ พร้อมกับต่างคนต่างแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วจึงเดินออกจากห้องน้ำ ขณะที่พี่เนย์ก็เป็นฝ่ายหอบเสื้อผ้าที่ใส่แล้วโยนลงตระกร้า ส่วนผมหลังจากที่ตากผ้าเช็ดตัวเอาไว้ที่ราวไม้ตรงหน้าห้องน้ำได้ ผมก็รีบทิ้งตัวลงนอนกางแขนกางขาบนเตียงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหลับตาซึมซับกลิ่นไอของที่นอน ที่มันตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นกายของเราจนเต็มไปหมด

“คิดถึงเตียงขนาดนั้นเลยเหรอวะ?” พี่เนย์ถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ จากนั้นเจ้าตัวก็เดินกลับมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงข้างๆกัน ผมจึงพลิกตัวไปกอดอีกฝ่ายตรงบริเวณช่วงคอ โดยวางฝ่ามือเอาไว้ตรงหมอนใบนุ่ม ขณะที่ใบหน้าก็ซุกเข้าหาซอกคออันหอมกรุ่นของอีกฝ่าย ที่ไม่ว่าจะแอบสัมผัสสักกี่ครั้ง มันก็เป็นกลิ่นกายที่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ และหลับฝันดีได้ง่ายๆ
“อื้อ” ผมหลับตาพลางตอบในลำคอด้วยน้ำเสียงติดจะงัวเงียเต็มทน

“งั้นก็นอนซะ ฝันดี”
“ฝันดีเหมือนกันครับ” ผมพูดจนแทบจะฟังไม่รู้เรื่องขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็เข้าสู่ห้วงแห่งนิทราไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบ แต่ความรู้สึกสุดท้ายก็คือ อีกฝ่ายเขาหันมาจุมพิตตรงบริเวณหน้าผากของผมเบาๆ ประมาณหนึ่งทีละมั้ง
หรืออาจจะมากกว่านั้นก็ไม่รู้สิ เพราะตอนนั้นผมง่วงจนเบลอไปหมด

วันหยุดแบบนี้ หลังจากโทรบอกแม่แล้ว ว่าช่วงบ่ายเราจะไปหา ผมก็ถือโอกาสซักผ้าตากผ้าตรงระเบียงห้องจนเสร็จสรรพ จากนั้นก็มาเปิดเครื่องทำความชื้นให้กับเจ้าเขี้ยวกุดอีกสักที เนื่องจากพี่เนย์เขาจัดการกับเจ้าลูกชายไปตั้งแต่ตอนเก้าโมงครึ่งแล้ว พอตกเที่ยงผมเลยแถมให้เจ้าเขี้ยวกุดมันสักหน่อย เพราะว่าเจ้านี่มันชอบอยู่ในบรรยากาศชื้นๆ ส่วนอาหารของเจ้าลูกชาย เห็นว่าพี่เนย์จะไปซื้อให้หลังจากเลิกงานที่คลินิกในวันพรุ่งนี้

“สรุปเจ้าตุ๊กตานี่ มันช่วยให้แกหายเหงาได้จริงดิ?” ผมถามเจ้าเขี้ยวกุด พร้อมกับหยิบตุ๊กตาที่ผมซื้อให้พี่เนย์เป็นของขวัญในวันรับปริญญาขึ้นมาชูตรงหน้าเจ้าลูกรักของผู้เป็นเจ้าของตุ๊กตาตัวจริง พลางหัวเราะกับตัวเองเบาๆ เพราะต่อให้ถามไป ก็คงจะไม่ได้คำตอบ
“มึงอาบน้ำยัง กินเสร็จจะได้ไปกันเลย” ผมเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกา ก็พบว่ามันเที่ยงครึ่งแล้ว พี่เนย์เขาถึงได้กลับมาที่ห้อง พร้อมกับหอบหิ้วมื้อเที่ยงของเราเข้ามาด้วย

“ยังเลยครับ” ผมเดินมายืนพิงโซฟาตรงโซนรับแขก ขณะที่ในมือก็ยังถือผ้าขี้ริ้วอยู่ เพราะขนาดผมกลั้นใจตื่นนอนก่อนคนที่จะต้องไปทำงานแล้ว แต่ผมก็ยังไม่เคยทำงานบ้านเสร็จ ก่อนที่พี่เขาจะเลิกงานเลยสักครั้ง
“งั้นก็มากินก่อน ไว้พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ” พี่เขาเสนอ พลางเดินเข้าไปในครัว เพื่อเอาชามมาใส่ก๋วยจั๊บญวนเจ้าประจำ ส่วนผมก็รีบเดินกลับเข้าไปในห้องนอน เพื่อไปซักผ้าขี้ริ้วในห้องน้ำ ก่อนจะเอาออกมาตากตรงริมระเบียงห้อง แล้วถึงค่อยมาร่วมวงทานมื้อเที่ยงกับนักจิตวิทยาผู้หิวโซ

หลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จ ผมก็ต้องรีบไปอาบน้ำ ส่วนพี่เนย์ก็เป็นคนเคลียร์โต๊ะกับล้างจาน จากนั้นถึงได้ฤกษ์ออกเดินทางไปยังจังหวัดชลบุรี ซึ่งใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงนิดๆก็ถึงแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้พี่เนย์ไม่ค่อยจะขับรถแบบตีนผีสักเท่าไหร่ มีแต่ผมนี่แหละ ที่ชอบขับแบบนั้น เพราะด้วยหน้าที่การงานมันบังคับ เช่นว่าวันนี้ผมมีทำข่าวภาคเที่ยง แล้วตอนบ่ายมีสอน ผมก็ต้องรีบเหยียบคันเร่ง เพื่อที่จะมาให้ถึงมหาลัยได้ทันเวลา
กระทั่งมาถึงบ้าน พี่เนย์ก็อยู่คุยกับคุณแม่ของผมสักพัก ส่วนคุณพ่อออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว ผมก็เลยไล่ให้พี่เขาขึ้นไปนอนบนห้อง เพราะกว่าเราจะกลับถึงคอนโด ก็น่าจะดึกมากแล้ว แถมวันนี้พี่เขายังต้องทำงานตั้งแต่เช้า ส่วนช่วงบ่ายก็ยังต้องมาพาผม มาหาแม่อีก ผมก็เลยอดจะเห็นใจนักจิตวิทยาผู้แสนใจดีคนนี้ไม่ได้

“วันนี้ทำปูนึ่งเหรอครับ พี่เนย์ลาภปากแน่ๆ” หลังจากพี่เนย์ขึ้นไปบนชั้นสอง ผมก็เดินตามแม่เข้ามาในครัว ก่อนจะมายืนเมียงมองแม่กำลังเตรียมทำมื้อเย็น
“แม่ว่าคงไม่ใช่แค่พี่เนย์หรอกมั้งที่ลาภปากน่ะ เพราะคนแถวนี้แม่จำได้แม่นเลยนะ ว่าชอบกินปูนึ่ง กับน้ำจิ้มซี้ฟู๊ดของแม่มากแค่ไหน” ผมนั่งหัวเราะอยู่บนโต๊ะตรงมุมห้องครัว ที่แม่มักจะเอาไว้นั่งเด็ดพริก หั่นโน่นหั่นนี่ไปเรื่อยๆ เพราะในห้องครัวของบ้านเรา แม่มักจะเปิดหน้าต่างระบายอากาศเอาไว้ เลยทำให้ไม่ร้อนอบอ้าว แล้วยิ่งถ้าหากช่วงนั้น ต้นไม้ที่ปลูกมันเริ่มจะออกดอก กลิ่นหอมต่างๆเหล่านั้น ก็จะลอยลมเข้ามารวมตัวกันอยู่ในห้องครัวเหมือนกับตอนนี้

“อ้อ มะลิออกดอกแล้วนะรัน ถ้าเราจะเก็บไปไว้ที่คอนโดก็หาอะไรไปใส่เอาเลย”
“ครับ งั้นเดี๋ยวผมมานะ” ผมขอตัวพลางเดินออกจากห้องครัว และมุ่งตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง เพื่อไปหยิบโหลแก้วที่แม่ให้ไว้ตั้งแต่คราวก่อน ที่ผมเอาใส่ดอกมะลิกลับคอนโด จากนั้นก็ใช้โหลนี้แหละทำเป็นอ่างลอยน้ำดอกมะลิหอมๆ กระทั่งมันเริ่มจะเน่า ผมก็เอาโหลแก้วกลับมาไว้ที่บ้านเหมือนเดิม

“ทำอะไร?” พี่เนย์ถาม หลังจากที่ผมรื้อข้าวของจนเสียงดังรบกวนเวลานอนของอีกฝ่าย แม้ว่าผมจะพยายามระมัดระวังจนเต็มที่แล้วก็ตาม
“จะเอาโหลไปเก็บดอกมะลิกลับคอนโดครับ” ผมตอบพลางยกโหลแก้วให้คนตาปรือเขาดู

“อืม” กระทั่งพี่เขาพยักหน้า และตอบงืมงำในลำคอ ผมถึงได้โอกาสแทรกตัวออกจากห้อง และมุ่งตรงไปยังสวนหลังบ้าน ที่แม่ปลูกไม้หอมเอาไว้จนเต็มไปหมด และเวลานี้ ไม้หอมเหล่านั้น ต่างก็ส่งกลิ่นทักทายการมาเยือนของผม ราวกับอยากจะพากันชวนให้ผมย้อนระลึกไปถึงวันวาน ที่เคยมานอนดูฝนดาวตกกับพี่เนย์ ผู้ที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่บนห้อง ที่มีผ้าม่านสีขาวปลิวไสวอยู่ตรงด้านหลัง เพราะห้องของผม เป็นมุมที่สามารถมองเห็นสวนหลังบ้านได้ชัดเจนที่สุด ดังนั้นเวลาที่แม่หรือพ่ออยู่บ้าน ทั้งคู่มักจะเข้ามาเปิดหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศภายในห้อง เลยทำให้ทุกครั้ง เวลาที่ผมกลับมาที่นี่ จะไม่เคยได้กลิ่นอับอันไม่พึงประสงค์เลยสักนิด แถมเวลาที่แม่มีดอกไม้ใหม่ๆ ที่สามารถเอามาทำดอกไม้แห้งประดับบ้านได้ แม่ก็จะไม่ลืมเอามาประดับไว้ในห้องของผมด้วย
ยิ่งตอนช่วงที่ผมกับพี่เนย์รับปริญญานะ แม่จะมีดอกไม้แห้งเอาไว้ตกแต่งบ้านจนเยอะแยะเต็มไปหมด ท่านก็เลยต้องแบ่งให้เราสองคนเอาไปตกแต่งที่คอนโดบ้าง ตอนนี้ตรงมุมรับแขก แล้วก็ตรงมุมห้องน้ำ และห้องครัวของเรา ก็ยังมีดอกไม้แห้งจากแม่ และดอกไม้แห้งที่ผมเป็นคนเลือกให้ไอ้หมอกกับไอ้คิน เพื่อเอามามอบให้กับพี่เนย์ วางตั้งอยู่ในแจกัน ที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้ากระสอบ และผูกด้วยริบบิ้นสีขาว ซึ่งเป็นฝีมือการตกแต่งของคุณแม่เหมือนอย่างเคย

“แม่ไล่ให้ขึ้นมานอนรอพ่อเลิกงานก่อนครับ” ประมาณห้าโมงเย็น แม่ก็ไล่ให้ผมขึ้นมานอนบนห้อง เพราะกว่าพ่อจะกลับถึงบ้านก็ประมาณทุ่มนิดๆ และทันทีที่ผมทิ้งตัวลงนอน พร้อมกับยื้อแย่งผ้าห่มจากคนที่กำลังหลับใหล อีกฝ่ายก็รู้สึกตัวตื่นจนได้ ผมจึงต้องตอบคำถาม พร้อมกับเอาตัวเองเข้ามาซุกอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ขณะที่พี่เนย์เขาก็หันมากอดผมโดยอัตโนมัติ
จากนั้นเราก็เข้าสู่ห้วงแห่งนิทราไปด้วยกัน

“เนย์รัน ตื่นได้แล้วลูก พ่อเขากลับมาแล้วนะ ไปกินข้าวกัน”
“อื้ออออ แม่” ผมงัวเงียพลางลากเสียงยานคาง คล้ายกับคนไม่อยากตื่น แต่จริงๆแล้ว ผมแค่อยากจะอ้อนแม่เฉยๆ ก็เลยทำเป็นงอแงไปอย่างนั้น เพราะปกติ ผมไม่ค่อยจะมีโอกาสได้ทำแบบนี้มากนัก อาจเพราะปมในอดีตมันทำให้ผมไม่ค่อยกล้าจะทำอะไรแบบนี้ด้วย และอย่างมากสุดที่ผมเคยทำ ก็แค่กอดเอวพ่อกับแม่ ตอนที่ผมประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาแล้วก็เท่านั้น
จะมีก็แต่ตอนนอน ที่มันเป็นโอกาสอันดี เพราะแม่ต้องขึ้นมาปลุกผมนี่แหละ ผมเลยชอบทำเนียนออดอ้อนคนเป็นแม่ จนพี่เนย์ชอบเอาเรื่องนี้ไปล้ออยู่บ่อยๆ
เพราะจนถึงตอนนี้ ผมก็ยังเขินๆ และไม่ค่อยกล้าจะแสดงออกแบบนี้กับพ่อและแม่ของตัวเองนัก

“ลูกคนนี้ ลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาเลย ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงปลุกยากปลุกเย็นนักนะ” แม่บ่นไม่หยุด แต่ก็ยังแฝงไปด้วยน้ำเสียงเอ็นดูปนขำขัน กับท่าทางที่หาดูได้ยากจากผม เพราะขนาดพี่เนย์ ผมยังไม่เคยอ้อนมากขนาดนี้มาก่อน
“หึ” ผมรีบกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง ทันทีที่ได้ยินเสียงหัวเราะของพี่เนย์ จากนั้นก็รีบเดินเข้าห้องน้ำ เพื่อไปล้างหน้าและบ้วนปากอย่างรวดเร็ว
ขณะที่โสตประสาททางการได้ยิน ก็แอบจับใจความที่พี่เนย์พูดคุยกับแม่ได้ว่า

“จริงๆ เมื่อกี้รันเขากำลังอ้อนแม่อยู่นะครับ”
“หืม ? พูดเป็นเล่นน่า” น้ำเสียงของแม่ฟังดูตื่นเต้น จนผมต้องหลุดขำออกมาจนได้

“จริงๆครับ เพราะน้องอ้อนใครไม่ค่อยเป็น ผมเลยดูเขาออก” พี่เนย์รีบพูดสนับสนุนความคิดของตัวเองอย่างรวดเร็ว ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด เพราะครั้งล่าสุดที่ผมเคยอ้อนพี่เนย์ ก็น่าจะเป็นช่วงที่ผมกำลังเรียนมหาลัย
แล้วพอต้องมาทำอะไรแบบนี้กับแม่ มันก็เลยดูไม่เป็นธรรมชาติ อย่างที่เห็น

“งั้นแม่จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก็แล้วกัน ส่วนเนย์ก็ช่วยเร่งน้องให้รีบลงไปกินข้าวด้วยนะ พ่อเขาน่าจะหิวโซแล้วล่ะ”
“ได้ครับ”

“ส่วนมึงก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ว่ากูทำความลับของมึงแตกด้วยนะ” หลังจากเสียงปิดประตูห้องเงียบลงไป พี่เนย์ก็เดินมายืนพิงตรงขอบประตูห้องน้ำ ขณะที่ผมก็ได้แต่ยืนมองกระจกที่มันสะท้อนใบหน้าของตัวเองแน่นิ่ง
“ถ้าไม่โอเคแล้วผมจะทำอะไรได้ครับ?” ผมย้อนถาม โดยไม่ได้คิดจะโกรธเคืองอะไร
“ก็นั่นน่ะสิ” นักจิตวิทยาคนเก่งเขาตอบพลางยักไหล่ จากนั้นก็เบียดตัวผมให้ออกห่างจากอ่างล้างหน้า เพื่อที่ตัวเองจะได้ใช้งานมันบ้าง ขณะที่ผมก็ต้องเปลี่ยนมายืนมองอีกฝ่าย ที่กำลังเอามือรองน้ำจากก๊อก ก่อนจะเอาหน้าเข้าไปใกล้ เพื่อไม่ให้หยดน้ำมันกระจายลงพื้นมากนัก
“ป่ะ ไปกินข้าว” พี่เนย์ดีดน้ำใส่หน้าผม ก่อนจะดึงข้อมือแบบกึ่งลากกึ่งจูงให้เดินออกจากห้อง เพื่อลงไปสมทบกับพ่อและแม่ที่กำลังนั่งรออยู่บนโต๊ะอาหาร ที่มีปูนึ่งพร้อมด้วยน้ำจิ้มซีฟู๊ดแสนอร่อยรอคอยอยู่
และผมก็คาดว่า มื้อนี้พวกเรา คงจะต้องเจริญอาหารมากแน่ๆ


-----------------------------------------
สวัสดีทุกคนค่ะ พอดีช่วงนี้กำลังปั่นตอนพิเศษสำหรับในเล่มอยู่ค่ะ แต่ว่าผลการพิจารณายังไม่ออกนะคะ คาดว่าปลายเดือนนี้ก็น่าจะทราบผลแล้ว เราก็เลยปั่นไปเรื่อยๆ ก่อน คร่าวๆ เราวางพล็อตเอาไว้ประมาณ 18 ตอน แต่ดูท่าทางเราน่าจะเขียนร่นลงเรื่อยๆ จนตอนนี้ 13 ตอนก็น่าจะจบ 555 เป็นแนวจิตวิทยา สอบสวนค่ะ แต่แนวนี้เราไม่เคยเขียนมาก่อนเลยในชีวิตนี้ ส่วนโปรเจคเรื่องต่อไป ทีแรกเรากะจะเขียนแนวทะเลทราย นักโบราณคดี หรือไม่ก็ย้อนยุคอียิปต์โบราณไปเลย แต่พอมาเขียนแนวจิตวิทยาสอบสวน เราก็รู้สึกว่ามันสนุกดี ถ้าเกิดมีโอกาสได้ออกรูปเล่ม แล้วทุกคนรู้สึกว่าแนวนี้มันโอเค เราก็ว่าจะใช้เป็นธีมเรื่องของโปรเจคต่อไปค่ะ
ทีนี้เราก็เลยเอาตอนสั้นๆ มาให้อ่านกันค่ะ จะได้รู้เรื่องราวของพี่เนย์และน้องรัน โดยนับจากวันที่น้องเรียนจบ และทำงานมาได้ 2 ปีแล้ว เป็นวัยทำงานที่ก้าวไปอีกขั้นค่ะ อย่างที่บอกว่าตอนพิเศษนี้ จะเน้นจิตวิทยา สอบสวน ก็เลยทำให้งานด้านน้องรันจะไม่ได้กล่าวถึงแบบลงลึกมากนัก แต่ก็ยังมีภาษามือให้ได้ลองทำตามอยู่บ้างค่ะ แต่สำหรับตอนพิเศษที่เอามาลงนี้ จะเป็นแค่ฉากหวานๆ เรียบๆ ของทั้งสองคนเฉยๆ 5555
ปล. ตอนพิเศษนอกรอบนี้ จะมาในธีมเพลง And we ของคยูฮยอนในอัลบั้ม 3 ค่ะ เป็นเพลงที่ลึกซึ้งและอบอุ่นมากๆ อารมณ์ของเพลงจะสื่อถึงคนสองคนที่ได้สัญญาบางอย่างต่อกันไว้ แล้วจากนั้นโลกของเค้าก็เริ่มเปลี่ยนไป ทุกย่างก้าว ที่ได้ก้าวเดิน มันทำให้รู้สึกเหมือนกับโลกมันยิ่งใหญ่ แต่พอได้นั่งนิ่งฟังลมหายใจของอีกฝ่าย ก็จะรู้สึกสบายใจ เหมือนกับการเดินทางบนโลกที่กว้างใหญ่ได้สิ้นสุดลงแล้ว มันก็เลยสอดคล้องกับคำสัญญาของน้องรันและพี่เนย์ที่เคยให้กันไว้ในตอนจบว่าแค่เพียงเราได้อยู่ข้างๆกัน มันก็จะไม่มีอะไรน่ากลัว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2018 20:46:50 โดย Chomin »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ยิ้มไม่ยอมหุบเลยค่ะ ยามเห็นความสำเร็จของรัน หลังจากที่เฝ้าติดตามและเห็นถึงความพยายามของน้องมาตลอด ปลื้ม~~~~ ใจจริงๆ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เรียบง่าย แต่อบอุ่นอบอวลไปด้วยความรัก :mew1:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :m3: เป็นเรื่องที่เนื้อเรื่องไม่หวือหวา..แต่ก็ไม่น่าเบื่อ..อ่านได้ลื่นไหลจนจบ  :L1:

เนื้อหาทางวิชาการแน่นมาก..เป๊ะมาก..ชอบที่สุด  o13

พ่อเนย์ แม่รัน หนูเขี้ยวกุด..น่ารักจริง ๆ  :m1: :m1: :m1:

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
สนุกมากเลยค่ะ
เพิ่งเคยได้อ่านอะไรแบบนี้ครั้งแรก
เป็นการเปิดประสบการณ์ผ่านตัวอักษรจริงๆ
ไม่เคยรู้เลยว่ามีระดับของการหูตึงด้วย
ความรู้ไม่เพียงพอนี่สร้างความเข้าใจผิดได้ง่ายจริงๆ
ชอบสำนวนในเรื่องมากๆเลย
ทำให้เข้าใจนักจิตบำบัดมากขึ้น
ทุกคำพูดทุกการสื่อสารที่แสดงออกมา
สามารถกลายเป็นลักษณะของคนได้หมด
ชอบที่สุดของคนเขียนคือการอ้างอิงแหล่งที่มาตลอด
หาได้ยากที่มีการอ้างอิงเนื้อความที่เอามาเขียนแบบนี้
ขอชื่นชมคนเขียนที่ใส่ใจทุกอย่างของเนื้อเรื่องเลย
ชอบมากจริงๆค่ะ จะรอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Naamtaan22

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สวัสดีค่ะเรามาอ่านเรื่องนี้เพราะชื่อเรื่องค่ะ เป็นอีกคนที่ชอบเพลงนี้ แล้วตอนนี้ก็ตกหลุมรักเรื่องนี้ด้วยค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้กลับมาเยอะมากๆเลยทำให้มุมมองต่อบุคคลอื่นทีเราไม่ชอบหน้าเปลี่ยนไปด้วยเลยค่ะขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆอ่านแล้วอบอุ่นใจแบบนี้สามารถทำให้เราฮีลลิ่งตัวเองได้ง่ายขึ้นขอบคุณจริงๆค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :katai2-1: :katai2-1:


คิดถึงเขี้ยวกุด

ออฟไลน์ pamhicc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ดีใจที่รันทำสำเร็จจนได้ น้องต้องเข้มแข็งจริงๆ
พี่เนย์ถึงจะไม่โรแมนติกแต่ก็เป็นคนอบอุ่นที่คิดถึงรันตลอด
ขอบคุณค่าา  :pig4:

ออฟไลน์ Chomin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
แจ้งข่าวการตีพิมพ์

สวัสดีคนอ่านทุกคนนะคะ ตอนนี้นิยายเรื่อง Fall in you จะได้ตีพิมพ์กับทาง Hermit books นะคะ ยังไงก็หยอดกระปุกรอกันก่อนเนอะ เพราะตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานค่ะ คร่าวๆ จากที่ได้คุยกับทางสำนักพิมพ์ เขาแจ้งว่าเรื่องนี้จะมี 2 เล่มค่ะ เพราะถ้าเล่มเดียวจะหนาเกินไปมาก  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากทราบรายละเอียดที่แน่นอนแล้ว เราจะรีบมาแจ้งให้กับทุกคนทราบอีกครั้งค่ะ

ส่วนเรื่องรายละเอียดของตอนพิเศษที่ไม่มีลงในเว็บ จะเป็นตอนเต็มๆ ของคอนเซ็ป And we ที่จะเน้นหนักไปทางด้านจิตวิทยาสืบสวน แต่ก็ยังคงความอบอุ่นเอาไว้เหมือนเดิมแน่นอนค่ะ เราแต่งไปประมาณ 15 ตอนค่ะ ยังไงฝากรอติดตามกันด้วยนะคะ

----------------------------------------------------------------

เรามีเปิดเรื่องใหม่ไว้ ชื่อเรื่องในป่าสนค่ะ เป็นเรื่องของญาติพี่ตี๋บาสเพื่อนพี่เนย์ค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65693.0

ออฟไลน์ ม่านหมอก ณ ปลายฝัน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ประทับใจในทุกๆตัวอักษรที่คุณนักเขียนถ่ายทอดออกมาเลยค่ะ

เราเพิ่งมาอ่านก็จริง

แต่เราสัมผัสได้ถึงพลังด้านบวกอันมหาศาลของคุณ

และสัมผัสความอบอุ่นได้จากพี่เนย์กับน้องรันค่ะ

เป็นกำลังใจให้

และรอคอยนิยายเรื่องใหม่นะคะ

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :L1: บอกได้คำเดียวว่า  ชอบ  สุดเลยค่ะ  ขอบคุณนักเขียนมากเลยค่ะ เรื่องมันมีมากกว่าแค่ความรักค่ะ
 มีทั้งปมปัญหา อุปสรรค ปรัชญา ข้อคิด คำคม วิธีคิด การเผชิญน่ากับปัญหา การก้าวผ่านอดีต  มันสุดๆมากเลยค่ะ กับพล๊อตแบบนี้ เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ สนุกจริงๆค่ะ  :mew1: :3123:

ออฟไลน์ heyguy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
น่ารักมากๆเลยค่ะ อบอุ่นในหัวใจจ

ออฟไลน์ Chomin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
♥ Fall in you ♥

สวัสดีค่ะทุกคน พอดีวันนี้พี่ บ.ก. ส่งร่างปก fall in you มาให้เราดูค่ะ และมันก็สวยมากๆ  ถูกใจเรามากจริงๆ ถึงแม้ว่าจะยังลงสีไม่เสร็จ แต่ความอบอุ่น และความเหงา มันก็สามารถสื่อออกมาได้ดีมาก เราเลยขอพี่ บ.ก. เอามาลงให้ทุกคนดูก่อน

อยากจะบอกว่าเราภูมิใจนำเสนอภาพปกมากจริงๆ ค่ะ เรื่องนี้มีทั้งหมด 2 เล่ม แต่เราเอามาให้ดูเล่มเดียวก่อนเนอะ คอนเซ็ปของปกจะตรงกับภาพวาดที่น้องรันมอบให้พี่เนย์เป็นของขวัญในวันรับปริญญาค่ะ สาเหตุที่เลือกภาพที่น้องวาดเป็นปกก็เพราะว่า ภาพนี้มันสามารถบอกอะไรหลายๆ อย่าง ว่ากว่าที่น้องรันจะเป็นน้องรันได้ในวันนี้ น้องต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมายแค่ไหน ซึ่งอุปสรรคก็เปรียบได้กับหูฉลามที่ว่ายวนอยู่ในท้องทะเล และท้องฟ้าที่มืดมนจนเกือบจะไร้แสงดาวก็หมายถึงจิตใจของน้องรัน ส่วนเล่มที่สองก็จะเป็นภาพที่สดใสขึ้น และอุปสรรคก็ค่อยๆ ถูกทำลายลงทีละอย่าง ความหมายลึกซึ้งมากกก 55555

ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ตอนนี้ยังไม่ทราบกำหนดการว่ารูปเล่มจะพร้อมเมื่อไหร่  แต่รับรองว่าภาพประกอบจะต้องถูกใจทุกคนมากแน่ๆ ค่ะ >.<


ออฟไลน์ erng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เป็นนิยายที่น่ารักมากจริงๆค่ะ ชอบความสัมพันธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไปนี้
ชอบความรู้สึกของทั้ง 2 คน มันให้อารมณ์แบบคู่ชีวิตที่หันไปมองกี่ครั้งก็เจอ ไม่ได้ประคบประหงมมาก แต่เป็นการดูแล ใส่ใจ
อ่านแล้วรู้สึกดี สบายใจ
ขอบคุณมากนะค่ะ ^^

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นิยายดี ความรู้แน่น  o13 :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ joko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณมากนะคะ สำหรับเรื่องราวน่ารัก ความรู้หลายๆอย่างเกี่ยวการพูด การได้ยินและภาษามือ และกำลังใจที่แต่ละคนได้มีให้กัน อ่านแล้วทำให้เกิดกำลังใจที่ดีเลยค่ะ

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
เข้ามาเพราะชื่อเพลง แต่ไม่ใช่เพลงเดียวกะคนแต่ง แต่ชื่อคล้ายกัน
เป็นนิยายอีกเรื่องที่ดีมาก ผู้ที่บกพร่องทางร่างกาย ไม่ว่าส่วนไหน ล้วนมีปัญหาเรื่องการล้อเลียนทั้งสิ้น ต่อให้ใจแข็งผ่านประสบการณ์มาโชกโชนแค่ไหนก็มาเฟลตรงการล้อจุดอ่อนนี่แหละ

ออฟไลน์ Chomin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
สวัสดีคนอ่านทุกท่านเลยค่ะ เรามาแจ้งข่าวเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ของนิยายเรื่อง Fall in you ค่ะ
ยังไงเราฝากรับพี่เนย์และน้องรันไปดูแลด้วยนะคะ

สำหรับในรูปเล่ม เรามีการปรับแก้บางส่วน ที่มีคนทักมาเกี่ยวกับเรื่องคำพูดของพี่เนย์ ในเชิงบังคับให้น้องรันพูด ว่าจริงๆ แล้วบริบทนั้นๆ มันคือการหยอกล้อ ไม่ใช่ข่มขู่อย่างที่เข้าใจค่ะ ตรงส่วนนี้ เราเขียนเพิ่มแบบตรงประเด็นไปเลย จะได้เข้าใจตรงกันทั้งผู้เขียนและผู้รับสารเนอะ

และในส่วนของตอนพิเศษสำหรับรวมเล่ม เราเขียนไปทั้งหมด 15 ตอน จำนวน 100 กว่าหน้า เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการค้นหาความจริงว่าใครคือผู้ทำร้ายเด็กชายผู้บกพร่องทางการได้ยิน ซึ่งพี่เนย์และน้องรัน ต้องมาร่วมงานกันในจุดนี้ค่ะ

ตอนนี้เรามีเพจ facebook แล้วนะคะ สามารถติดตามการอัพเดตข่าวสารได้ที่เพจ
https://m.facebook.com/Chomin.writer/

เรื่อง  Fall in you 

ผู้เเต่ง Chomin

ในเล่ม ที่คั่น โปสการ์ด

ของแถมพิมพ์ครั้งที่ 1 : การ์ตูนแก๊ก 12 หน้า

ราคาหนังสือ 2 เล่มจบ :  640 บาท    Boxset  :  840 บาท 

ราคาพิเศษหน้างาน / หน้าร้าน That’s Y / เว็บ Hermit  : หนังสือ 2  เล่มจบ :  576 บาท    Boxset  :  750บาท 

วันที่จำหน่ายทั้งหน้างานและหน้าร้าน เว็บร้าน That’s Y : ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2561

รอบไปรษณีย์ที่เว็บ www.hermitbookshop.com :จะแจ้งกำหนดภายหลัง




วันที่ 20 ต.ค. เราจะไปแจกลายเซ็นที่บูธ Hermit (N40)

เวลา : 13.30-15.00 น.
ผลงาน : เรื่องยาว Fall in you / เรื่องสั้นแลกซื้อ บันทึกรักนักเดินทาง

 เราเอาของที่ระลึกไปแจกด้วยนะคะ เป็นมินิการ์ดจิบิ ที่วาดจากฉากในตอนพิเศษของรูปเล่มจ้า ใครว่างก็ไปเจอกันนะคะ



ออฟไลน์ AngPao1932

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ดีเทลละเอียด เนื้อหาดี ไม่มีตัวร้าย ไม่มีดราม่าหนักหน่วง ถึงจะไม่สดใสถึงขั้นฟิลกู๊ดแต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี สอนให้เลือกที่จะคิดบวก ชอบบบบบบบ :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
เป็นนิยายที่ดีจริงๆ​ ให้อะไรหลายๆอย่าง​ ขอบคุณมากค่า

ออฟไลน์ Bear Company

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0

ออฟไลน์ sira_nann

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
 :กอด1: :L2: :mew1:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด