ตอน คนใจอ่อน
"กินข้าวบ้างสิเป้....มึงกินอีกแล้วนะกุ้งแห้งน่ะ...ข้าวไม่กินอีกแล้วใช่มั้ย"
ปลาทองตาโตสุดจะทน เมื่อเหลือบไปมองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กำลังใช้ช้อนตักกุ้งแห้งในถุงเข้าปากอย่างเอาเป็นเอาตาย
ใบหน้าคมก้มหน้าลง เมื่อโดนเอ็ด ก่อนจะค่อย ๆ วางถุงกุ้งแห้งเอาไว้ และเดินไปซื้อข้าวมานั่งกินเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไรต่อ
อยากรู้จริง ๆ ทำไมมันต้องกินด้วย ชอบกินเหรอ หรือว่ายังไง ไม่เข้าใจ ทำไมมันถึงได้บ้าอย่างนี้วะ อยากจะบ้าจริง ๆ เลย
ไอ้เป้ตาหยี ตักก้มหน้าก้มตาตักข้าวใส่ปาก และเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับปลาทองตาโต เป็นระยะ ระยะ
"เมื่อคืนนี้กู............เจอสาวในสเป็คด้วยนะ" จู่ ๆ คนที่นั่งเยื้องออกไปก็เอ่ยบอก ไม่ได้บอกว่าไปทำอะไรมาบ้าง
แต่ช้อนในมือของไอ้เป้ถึงกับร่วงหล่น พร้อมกับที่ร่างสูง นั่งนิ่ง หัวใจหล่นวูบลงไปถึงตาตุ่ม ใบหน้าขาวซีด
ไป...นกมัน...ไป...กับผู้หญิงใช่มั้ย...
ช้อนที่ร่วงหล่นถูกหยิบขึ้นอีกครั้ง ฝ่ามือแกร่งสั่นจนระงับไม่อยู่จนต้องปล่อยช้อนให้วางนิ่งอยู่อย่างนั้นเหมือนเดิม
ก้มมองจานข้าว เหมือนไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
จริงสินะ เมื่อก่อนก็เคยทำอย่างนี้เหมือนกัน ถ้านกมันจะทำบ้าง ก็ไม่เห็นแปลกเลย
ถึงจะมากกว่านี้ก็ต้องทนให้ได้ ถ้าอยากจะคบกันต่อไป ถ้าไม่อยากให้นกโกรธก็ต้องทำใจยอมรับให้ได้
แต่ใจมันปวด.....เจ็บแปลบ.....เอาน่ะ ไม่ตาย ยังไงก็คงไม่ถึงกับตายหรอก ดีกว่าปล่อยให้นกมันห่างออกไปเรื่อย ๆ
"เหรอ....งั้นเหรอ......แล้ว..ดีมั้ย....คนนั้นดีกับนกมั้ย...." ไอ้เป้กลั้นใจพูดออกไป เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายลำบากใจ
ถ้าทำท่าทางหงุดหงิดโมโหใส่ นกมันอาจจะยิ่งโกรธก็ได้ ต้องอดทน ต้องอดทนเอาไว้นะ
"ก็งั้น ๆ ธรรมดา....เรื่อย ๆ " ปลาทองตาโตเอ่ยบอกทำท่าเหมือนไม่สนใจ แต่ลอบสังเกตท่าทางของอีกฝ่ายที่ดูเงียบลงอย่างเห็นได้ชัด
อดสงสารไม่ได้ ไม่เคยเห็นมันทำหน้าเศร้าอย่างนั้น แต่แค่นี้มันก็ยังน้อยไป ถ้ารักกันจริง ก็ต้องทนให้ได้สิ...แบบเดียวกับที่มันทำไง
ถ้าทนไม่ได้ อย่ามาพูดว่ารักกันเลย
"เหรอ...งั้นเหรอ.....ดีจังเลยนะ........ใช่....ดี....ดีเนอะนกเนอะ...ดีจริง ๆ ด้วยแหละนะ"
น้ำเสียงสั่นเครือ ของคนที่นั่งเยื้องออกไป ยิ่งทำให้ปลาทองตาโตเพิ่มความสงสารขึ้นไปอีก
อย่ามาร้องไห้ต่อหน้านะเว้ย เดี๋ยวกูก็ใจอ่อนกันพอดี ทีมึงทำกับกูล่ะ กูขอเอาคืนมั่งไม่ได้หรือไงกันล่ะวะ
"เออสิ...ดี..." เสียงตอบกลับมายิ่งเป็นการเร่งความรู้สึกของไอ้เป้ขึ้นไปอีก หนังสือสองสามเล่มที่วางไว้ถูกหยิบขึ้นมา
และไอ้เป้ก็ลุกขึ้นยืน เตรียมเดินออกจากโรงอาหาร
"ไปก่อนนะ" ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย คิดจะพูดก็พูดขึ้นมาลอย ๆ ร่างสูงนั้นยังพยายามฝืนยิ้มทั้งที่น้ำตาจะหยดอยู่แล้ว จ้องมองใบหน้าของคนที่นั่งนิ่ง ๆ อยู่
ก่อนจะก้าวเดินออกจากโรงอาหาร เงยหน้าขึ้น เพื่อให้น้ำตาไหลคืน และยกปลายนิ้วขึ้นเกลี่ยหยดน้ำที่มันกำลังจะรินไหล
ทนได้.........ทนได้.........ทนได้
เมื่อก่อนก็เคยทำอย่างนี้กับนกไว้.......มันคงจะร้องไห้เหมือนกัน แบบนี้แหละดีแล้ว จะได้สาสมกัน ต้องทนได้สิ
ต้องทนให้ได้........ช่วยไม่ได้นี่นะ รักนกมันไปแล้ว อะไรที่มันไม่ชอบจะไม่ทำอีก จะไม่ทำให้นกเสียใจอีก
ถ้าไม่ทำให้นกเสียใจ ก็คือต้องยอมเสียใจเอง........เหมือนที่นกมันเคยรู้สึก....ทนให้ได้ ต้องทนได้สิ นกมันยังทนเลย
แค่นี้มันน้อยไป ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
ร่างสูงปลอบใจตัวเองตลอดเวลา ทุกก้าวที่เดิน มีแต่การปลอบใจตัวเองให้เข้มแข็ง กลัวเดินไม่ไหว กลัวจะทรุดลงนั่งแล้วร้องไห้
แต่ไม่เป็นไร ต้องทนได้ ต้องทนให้ได้ ถึงแม้จะพร่ำบอกตัวเองอย่างนั้น แต่สุดท้าย ก็ต้องไปนั่งอยู่บนสนามหญ้าข้างสระบัว
ที่ ๆ เคยไปทุกวัน ทรุดกายลง ชันเข่าขึ้นมา และซบหน้าลงกับหัวเข่า
ไม่อยากให้ใครรู้ว่ากำลังร้องไห้ หยดน้ำหลั่งริน หยดเป็นสาย แต่ไม่มีเสียงสะอื้น เพราะกำลังกลั้นมันเอาไว้
น้ำตามากมาย หล่นลงเหมือนสายน้ำ.......หยดลงมาเหมือนกับว่าหยุดเอาไว้ไม่ได้
"ไอ้เป้...ทำอะไร" เสียง ....... เสียง ........ ของนก.... นกมันมานั่งอยู่ข้าง ๆ แล้ว.....ถ้ามันรู้ว่าร้องไห้คงจะโกรธ
"ง่วง...แค่ง่วงเฉย ๆ ไม่มีอะไร"
คำตอบกลับทำให้ปลาทองตาโตสงสารจับใจ.......เห็น ๆ ว่าร้องไห้ แต่มันดันบอกว่า ง่วงนอน......
สงสารมันจังเลย....
"เหรอ...ทุกทีเห็นหนุนตัก...วันนี้มึงไม่หนุนตักกูเหรอ"
ไม่มีคำตอบ มีแต่เพียงการส่ายหน้า และใบหน้าของเป้ก็ยังซบอยู่ที่หัวเข่า จนนกต้องพยายามดึงให้หันมาคุยกัน
เป็นนาน กว่าเป้จะยอมเงยหน้าขึ้น และหรุบสายตาลงต่ำ ไม่กล้าสบตา กับคนที่นั่งเงียบอยู่ตรงหน้า
"เป็นอะไร......ล้างหน้ามาเหรอวะ....หน้าเปียกเลย...อ่ะ...กูมีผ้าเช็ดหน้า...เดี๋ยวกูเช็ดให้ก็ได้..มึงจะหาใครใจดีได้อย่างกูอีกไม่มีหรอกจะบอกให้
แล้วไม่ต้องมาคิดนะว่าจะมาทำอะไรเหี้ย ๆ กับกู...เดี๋ยวยังไงคืนนี้กูก็จะไปกับสาว มึงคอยดูก็แล้วกัน"
คำพูดของนกยิ่งเสียดหัวใจของไอ้เป้...แต่ก็ทำได้แค่นิ่งเอาไว้ และยอมให้ผ้าเช็ดหน้าสีหม่นผืนเล็ก ซับหยดน้ำตาให้
"ไปจริง ๆ เหรอ...จะไปจริง ๆ หรือไง" เป้เอ่ยถาม และน้ำตาก็หยดลงมาอีก
ลืมตัว ลืมอีกแล้ว ลืมไปว่านกมันจะโกรธ ลืมไปจริง ๆ ไม่น่าหลุดปากพูดออกไปเลย ไม่น่าเลยจริง ๆ
"จะไม่ให้ไปหรือไง...ขอร้องสิ...แล้วอาจจะไม่ไปก็ได้...บางทีอาจจะไม่ไปก็ได้ถ้าขอร้องกัน"
ไม่ได้อยากไปเลย แต่เพราะว่า อยากให้อีกฝ่ายหัดรู้จักขอร้องบ้าง แทนการบังคับ อาจจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
อยากเปลี่ยนนิสัยชอบบังคับของไอ้เป้ให้ได้ แต่ก็จะทำได้เท่าที่ทำได้เท่านั้น ไม่คิดจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งหมดหรอก
"ขอร้องได้เหรอ......เป้ไม่ขอร้องหรอก....เป้ให้นกไป....ไปสิ...ถ้านกมีความสุข....ตอนนี้อะไรที่นกมีความสุข...เป้ก็จะมีความสุขไปด้วย
จริง ๆ นะ...อะไรที่ทำให้นกมีความสุขได้.......ไม่ว่าจะเป็นอะไร...ก็จะไม่ขัดขวาง.....เลย......นะก็..เป้รักนกนี่นะ....ถ้านกมีความสุข เป้ต้องดีใจสิ ก็รัก...นี่นะ ใช่มั้ยล่ะ..เนอะ"
ทั้งที่การพูดอย่างนั้น ก็เท่ากับทำร้ายตัวเอง แต่ไอ้เป้ก็ยังพูด น้ำตามาอีกแล้ว........ไม่เคยร้องไห้หรือไงวะ
ทำไมน้ำตามันเยอะอย่างนี้วะเนี่ย......โธ่เอ้ย
ภาพของคนที่เปลี่ยนไปเหมือนไม่ใช่คนเดียวกัน ทำให้นกใจอ่อนยวบลงทันที โธ่ไอ้เป้......ทำแบบนี้แล้วใครที่ไหนจะใจร้ายลงคอวะ
แม่ง......ถ้ามันบังคับหรือตะคอก...ก็คงจะไปซะหรอก.......นี่ดันทำหน้าตาน่าสงสารขนาดนี้......กูคงจะกล้าไปหรอกนะ
"ไม่ไปดีกว่า......เซ็ง ๆ ..เออเสื้อกูอยู่ที่บ้านมึงนี่...เดี๋ยวเย็นนี้กูแวะไปเอาเสื้อคืนดีกว่า...หรือมึงจะมีปัญหา"
แค่นี้ แค่บอกว่าไม่ไป ก็ทำให้ไอ้เป้ ยิ้มออกมาได้ทั้งน้ำตา ไม่ไป........วันนี้นกไม่ไป แถมยังจะไปเที่ยวที่บ้านด้วย
ดีจังเลย......มีความหวังขึ้นมาอีกนิดแล้ว ดีจังเลย ดีแล้วที่เป็นแบบนี้ ดีแล้วจริง ๆ
TBC...