Blue Lyrics 10 : ทำนองรักสีฟ้า (นพเก้า xนาคิน)
นพเก้า พาร์ท
ผมขับรถมาที่บ้านสวนไอ้กูรทันทีหลังจากที่มันเพิ่งโทรมาบอกว่าคุณกรีนมารับน้องบลูไปที่บ้านสวน ผมใจจดจ่ออยู่หลังพวงมาลัย รถจะมาติดอะไรขนาดนี้
“จะติดอะไรนักหนาว่ะ รู้ไหมว่าเมียกูจะเลิกกับกูแล้วเนี้ย”ผมบ่นกับตัวเองเมื่อยังคงติดไฟแดงอยู่ ก่อนที่เสียงมือถือของผมจะดังขึ้น ผมยกมือถือขึ้นมากดรับสายทันที
“ฮัลโหล”
(“อาจารย์ถึงหรือยังคะ”)
“ยังเลย ฟางถึงบ้านหรือยัง”
(“ถึงแล้วคะ อาจารย์จะให้ฟางไปอธิบายกับพี่บลูไหมคะ”)
“ไม่ต้องหรอก”
(“แต่ฟางเป็นต้นเหตุให้พี่บลูเข้าใจอาจารย์ผิดนะคะ”)
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเชื่อว่าบลูเขามีเหตุผล แต่ถ้าเขาไม่ต้องการอาจารย์แล้วมันก็เป็นกรรมของอาจารย์แล้วหล่ะ”
(“อาจารย์อยากให้ฟางช่วยก็รีบบอกนะคะ เพราะอาจารย์ช่วยเรื่องของฟางถึงทำให้เกิดปัญหานี้”)
“อื้ม ถ้าต้องขอความช่วยเหลือยังไงอาจารย์จะโทรหานะ”
ผมวางสายจากฟางเรียบร้อย ตรงเข้าซอยบ้านไอ้กูรทันที ละก็ทันทีเช่นกันที่ผมจอดรถพร้อมเดินตัวปลิวไปในบ้าน
“น้องบลู...”ผมตะโกนเอ่ยเรียกชื่อเขาทันที ก่อนที่คุณกรีนจะเดินออกมา
“คุณเก้าเบาๆครับ”
“คุณกรีน น้องบลูหละครับ”ผมร้อนรนมากอยากเจอและอธิบายให้เขาฟัง
“ร้องไห้จนหลับไปแล้วครับ คุณเก้าไปคุยกับผมหน่อยนะครับ”ผมพยักหน้าก่อนจะเดินตามหลังคุณกรีนไปที่ศาลาริมน้ำ ผมเข้าใจว่าเขาอยากจะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเพราะเขาคือพี่ชายแต่ก็อยากให้เขาเข้าใจแลไว้ใจผมด้วยว่าผมไม่มีทางทำให้น้องชายเขาผิดหวังแน่นอน
“คุณรู้ใช่ไหมว่าผมจะถามอะไร”
“ครับ ผมรู้และผมเองจะไม่แก้ตัวอะไรทั้งนั้น”ผมเอ่ยขึ้นตรงๆ ผมจะแก้ตัวอะไรได้หล่ะ ก็ผมไม่ได้ทำผิดอะไร
“คุณหมายความว่า คุณยอมรับว่าคุณนอกใจน้องชายผม”น้ำเสียงแข็งขึ้นเล็กน้อย
“เปล่าครับ ที่ผมไม่มีอะไรแก้ตัวคือผมไม่ได้นอกใจน้องบลูเลยสักนิด และที่ผมมาที่นี่คือผมจะมาตามเขากลับบ้านของเรา”ผมเอ่ยขึ้น
“แล้วที่น้องผมร้องไห้ออกมา แถมเอาแต่บอกว่ารักจบแล้ว มันคืออะไรครับ”
“คุณกรีนก็น่าจะเคยเข้าใจไอ้กูรผิดบ้างเรื่องของแคท มันก็เหมือนกันหละครับ แต่แค่ฟางไม่ใช่แฟนของผม”ผมเอ่ยบอกคุณกรีนไป เมื่อครั้งหนึ่งแคทแฟนเก่าของไอ้กูรมาขอให้ไอ้กูรช่วยเหลือเรื่องสามีไปมีคนอื่น หลายวันเลยทีเดียวกว่าที่ไอ้กูรกับคุณกรีนจะเข้าใจกันได้
“เจ้าบลูอ่ะ เป็นคนที่กลัวความผิดหวัง กลัวความรักที่จะไม่สมหวังและกลัวว่าคนที่เขารักจะไม่รัก ทำให้กลายเป็นคนขี้กลัว คุณเก้าเข้าใจใช่ไหม”
“ผมเข้าใจครับ และผมเองก็จะเป็นคนที่ทำให้เขาหายกลัวทุกอย่างเอง ผมเคยขอเขาแต่งงาน แต่เพราะความกลัวเขาจึงปฏิเสธข้อนี้ผมไม่คิดอะไรมาก แต่ถ้าให้เขากลัวที่จะไม่รักผมต่อไปนั้นผมรับไม่ได้ครับ ผมรับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ น้องบลูคือทุกอย่างของผม และผมเองก็จะไม่มีทางเสียเขาไปแน่นนอน”ผมเอ่ยออกมาจากใจตัวเอง หนักแน่นพอที่จะพูดออกมาอย่างไม่คิดอะไร
“เป็นทุกอย่างแล้วทำไมมีอะไรไม่เคยบอกกันบ้างหละครับ”น้ำเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นจากด้านหลังของผม ทั้งผมและคุณกรีนหันมองไปยังต้นเสียงนั้น ดวงตาคู่สวยที่ยังคงบวมแดงอยู่จากร่องรอยของน้ำตา
หมับ!
“น้องบลู...”ผมเอ่ยพร้อมวิ่งเข้าไปสวมกอดเขาทันที มือหนาผมกดศีรษะเขาแนบอกและไหล่แน่นอย่างคิดถึงและแสนห่วง
“เจ้าบลู...”
“เฮีย เค้าโอเคครับ เค้าขอคุยกับพี่เก้าตามลำพังหน่อยนะครับ”ผมใจเต้นแรงขึ้น
“อื้ม งั้นเฮียไปเตรียมอาหารเย็นก่อนแล้วกัน”คุณกรีนเอ่ยพร้อมเดินออกไปจนลับหลังไป
ผมรีบจับใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาหันมาจ้องหน้าผม ดวงตาคู่สวยที่ผมหลงใหลตอนนี้ผมทำให้มีน้ำตา ผมเองอยากจะฆ่าตัวเองนักที่ทำให้เขาร้องไห้
“พี่ขอโทษนะ ที่ไม่ได้บอกเรื่องของฟาง พี่กลัวว่าบลูจะรู้สึกกลัวเมื่อเจอปัญหาแบบฟาง พี่กลัวว่าบลูจะรู้สึกแย่ถ้าเจอเรื่องแบบนั้น พี่กลัวว่า...อุ๊ปห์”ผมยังเอ่ยไม่จบเสียงของผมก็หายกลืนเข้าไปในลำคอทันที เพราะริมฝีปากของผมถูกริมฝีปากเล็กกดทับเรียบร้อย แม้จะตกใจเล็กน้อยแต่ผมก็ไม่ยอมให้ริมฝีปากนั้นผละออกง่ายๆ ลิ้นร้อนของผมกำลังสอดเข้าโพรงปากนั้น ยังหวานแสนหวานและละมุน
“อื่ออออ”เสียงครางท้วงในลำคอเปล่งออกมาเมื่อต้องการอากาศหายใจ พร้อมกดจูบที่แก้มซ้ายขวาและหน้าผากก่อนจะผละจูบออกอย่างเสียดาย
จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ
“น้องบลูพร้อมจะฟังพี่หรือยังครับ”ผมเอ่ยขึ้น สองมือประคองใบหน้าของเขาไว้ นิ้วโป้งของผมค่อยๆปากน้ำตาของเขาออก แต่นิ้วเรียวของเขากลับแตะที่ริมฝีปากของผมและส่ายหน้าไปมา
“ไม่ฟังครับ”เขาเอ่ย ผมขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเห็นเขายกยิ้มออกมา
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นครับ ฟางโทรมาเล่าให้ฟังหมดแล้ว”
“เล่าให้ฟังหรอ”ผมย้ำอีกครั้ง
“ครับ ฟางโทรมาหลายครั้งมาก จนบลูคิดว่าที่จริงบลูก็กลัวเกินไป ความจริงสิ่งที่บลูเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่บลูคิดก็ได้ทำให้บลูยอมกดรับสาวของฟางและเธอก็เล่าให้ฟังทั้งหมด”ผมโล่งใจมาก ก็ตอนแรกผมคิดว่าเขาจะไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ยิ่งฟางอธิบายเขาก็ยิ่งจะไม่ฟังแต่ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้แล้วผมก็โล่งใจ
“บลูขอโทษนะครับที่ไม่ฟังพี่เก้าเลย ทั้งๆที่พี่เก้ารักบลูมากแค่ไหน”ผมสวมกอดเขาไว้ยิ่งแน่นกว่าเดิมพร้อมยกยิ้มออกมา
“ถ้าอยากขอโทษ คืนนี้ต้องตามใจพี่นะ”ผมกระซิบบอกที่ใบหูที่ตอนนี้แดงจัด
“พี่เก้าอ่ะ”เขาเอ่ยอย่างน่ารัก บางครั้งเราก็ไม่ต้องอะไรมากความรักจะพาให้เราเข้าใจกันเอง ผมเชื่อว่าความรักและความจริงใจ ความซื่อสัตย์ของผมจะทำให้ผมและเขารักกันตลอดไป
หลังจากที่ผมและน้องบลูเข้าใจกัน ตอนนี้ได้ข่าวว่าฟางเองก็ให้โอกาสแฟนแล้วลองคบกันใหม่อีกครั้ง การดำเนินชีวิตของผมก็ยังคงปกติ
(“พี่เก้า รอบลูแปบนะครับ พอดีว่าหนูพิ้งค์ให้แวะไปรับ”)
“พี่ว่าเจอกันที่บ้านเลยดีไหม จะได้ไม่ต้องวนไปวนมา”
(“เอาอย่างนั้นหรอครับ พี่เก้าจะโกรธไหมอ่าทั้งที่เรานัดกันไว้ก่อน”)
“อย่าคิดมากสิ ก็หนูพิ้งค์กำลังเศร้าเรื่องเลิฟอยู่ พี่ว่าน้องบลูอยู่กับหนูพิ้งค์ไปก่อนเอาไว้เดี๋ยวเจอกันก็ได้ คืนนี้นอนที่บ้านใหญ่ก็ได้”
(“ครับที่รักของบลู เดี่ยวเจอกันนะครับ”)
ผมยกยิ้มกับมือถือก่อนจะเดินไปที่ร้านเพชรที่ผมสั่งแหวนไว้ เพราะผมตั้งใจจะดูแหวนให้น้องบลูในนี้ คือวันเกิดของเขา ผมอยากขอเขาแต่งงานมากแต่ก็รู้คำตอบดี
“สวัสดีครับคุณปลา ผมมารับแหวนครับ”
“เรียบร้อยแล้วคะ เช็คดูก่อนนะคะ”ผมยกยิ้มให้เจ้าขอร้านก่อนจะเปิดกล่องเพื่อดูแหวนข้างใน แหวนคู่ที่เหมือนกันต่างเพียงขนาดเท่านั้น มันมีอักษรภาษอังกฤษอยู่ด้านในว่า N&N ผมยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจกับอหวนนี้ ผมจะขอเขาแต่งงานอีกครั้งในคืนนี้
....
..
ผมยืนมองรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนที่ผมรัก วันเกิดของเขาที่มีเพียงพี่น้องเท่านั้นแต่ก็ทำให้เขาดูมีความสุขมาก
“มายืนทำไมตรงนี้ว่ะ”ผมหันมองไอ้กูรเพื่อรักของผมที่เดินเข้ามา
“กูกำลังทำใจกับคำตอบอยู่ว่ะ รู้ก็รู้ว่าเขาต้องปฏิเสธแต่ก็ก็เสือกจะลอง”ผมเอ่ยออกมา
“มึงว่าแต่คุณบลูกลัวนั่นกลัวนี่ แต่ผมเองเหอะที่ขี้กลัวกว่า”
“ก็มันรู้อยู่แล้วนี่หว่าว่าคำตอบมันคืออะไรอ่ะ”ผมเอ่ยออกมา ก่อนจะหันไปเมื่อคุณกรีนเอ่ยเรียกเพื่อเป่าเค้ก
“คุณกูร คุณเก้า ได้เวลาเป่าเค้กแล้วครับ”
“ไปมึง และก็อย่ากลัว เพราะไม่งั้นมึงจะอดได้เมีย”ไอ้กูรเอ่ยบอกผมก่อนจะพากันเดินไปยังกลางงาน ผมมายืนอยู่ข้างๆเจ้าของวันเกิด รอยยิ้มของทุกคนทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นเยอะ
Happy Birth Day to you.
Happy Birth Day to you.
Happy Birth Day Happy Birth Day Happy Birth Day to Blue.
สิ้นเสียงร้องเพลง ดวงตาสวยของเขาก็หลับตาลงเพื่ออธิฐาน ผมมองทุกคนที่กำลังลุ้นให้ผมยกแหวนขึ้นมา ผมพยักหน้าบอกทุกคนก่อนจะยกกล่องแหวนมาวางกลางเค้กที่อยู่ต่อหน้า ดวงตากลมที่กำลังหลับตาและอธิฐานอยู่นั้นค่อยๆลืมตาขึ้นเพื่อจะเป่าเค้ก แต่ดูเขาตกใจเล็กน้อยเมื่อลืมตาขึ้นและเห็นแหวนอยู่ตรงหน้า
“นี่มันอะไรกันครับ”เขาเอ่ยถามผมและมองไปยังทุกคน ผมดึงแหวนออกมาก่อนจะคุกเข่าตรงหน้าเขาพร้อมเอ่ยขึ้น
“น้องบลู แต่งงานกับพี่นะ พี่จะไม่รอคำตอบของน้องบลูอีกต่อไปแล้ว”ผมเอ่ยพร้อมกับจับมือข้างซ้ายของเขาขึ้นมา สวมแหวนเข้าไปบนนิ้วนางข้างซ้ายของเขาซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรทำให้ผมแอบยิ้มอย่างพอใจเพราะนั้นคือคำตอบของเขา
หมับ!
“พี่เก้า...”น้ำเสียงสะอื้นเล็กน้อยพร้อมสวมกอดผมไว้แน่น ผมเองกระชับกอดเขาแน่นเช่นกันไม่ได้สนใจทุกคนที่กำลังยิ้มอยู่รอบๆเลยตอนนี้
“ฝากดูแลน้องผมด้วยนะครับอาจารย์”เสียงคุณอนาคินเอ่ยขึ้น
“ไม่มีปัญหาครับ คุณอนาคินไว้ใจได้ ผมจะดูแลน้องบลูเป็นอย่างดี”ผมเอ่ยก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่นกดจมูกที่ขมับขาวนั้นเน้นๆ ก่อนที่เสียงหวานของน้องคนเล็กของบ้านจะเอ่ยขึ้น
“หนูพิ้งค์อยากกินเค้กแล้วครับ”พวกเราทุกคนจึงหันมองคนตัวเล็กและพากันหัวเราะออกมา
“เอ่อๆ ลืมเลย งั้นบลูเป่าแล้วนะครับ”เสียงของคนข้างๆผมเอ่ยพร้อมก้มหน้าเป่าเค้กตรงหน้า
งานเลี้ยงวันเกิดได้เสร็จสิ้นลงช่วงห้าทุ่ม ผมกับน้องบลูนอนที่บ้านหลังใหญ่สำหรับคืนนี้ ดูท่าทางเขาจะมีความสุขมากกับคืนนี้
“อ๊ะ...พี่เก้า เบาๆครับ…อ่าห์”ทันทีที่ขึ้นข้างบนผมรีบรวบตัวเข้ามาสวมกอดและกดจูบทันที แม้จะยังไม่เข้าห้องผมก็ไม่สนใจ
สองร่างที่ยังคงไม่ผละออกจากกันแม้จะเข้ามาในห้องนอนแล้ว ผมค่อยๆวางร่างผอมลงบนเตียงแม้ว่าเราทั้งสองจะเชื่อมติดกันด้วยริมฝีปาก ตอนนี้สติของน้องบลูผมว่าน่าจะขาดหายไปแล้ว มือเล็กกดหลังท้ายทอยผมไว้ ผมแอบยกยิ้มในใจ ผมสอดปลายลิ้นร้อนลากวนที่ริมฝีปากอิ่มอย่างลุ่มหลง ใบหน้าขาวเชิดขึ้นเพื่อให้ผมซุกไซร้ลงมาที่ซอกคอขาวอย่างถนัด
“งื้ออออ” เสียงครางเบาๆ เมื่อรู้สึกถูกปลุกอารมณ์ขึ้นมาโดยง่าย ริมฝีปากหนาลากไล้ทั่วใบหน้า ซอกคอ กกหู จนร่างบางอ่อนระทวยไปหมด ผมรีบยกมือขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ของมันอย่างชำนาญ เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกปลดกระดุมออกอย่างรวดเร็ว ร่างบางเผลอแอ่นอกรับริมฝีปากหนาอย่างลืมตัวเมื่อผมกดริมฝีปากลงที่ยอดอกสวยนั้น ลิ้นร้อนของผมวนไปรอบตุ่มไตไปมาจนเผลอใช้ฟันกัดเข้าไปที่ยอดอกนั้น
“อ๊ะ...อ่าห์” ร่างบางสะดุ้งเบาๆพร้อมบิดร่างไปมาอย่างเร้าร้อน ผมไม่ยอมให้มืออีกข้างว่าง กำลังเขี่ยเม็ดตุ่มไตที่เริ่มแข็งขืนขึ้น พร้อมกับกดมันจนร่างบางบิดกายร้องครางออกมา
“อื่อออออ”
“อ่า...ถอดเสื้อให้หน่อยสิ...ที่รักของพี่…”
ผมล้มตัวนอนลงบนที่นอน พลิกร่างของเข้าขึ้นข้างบน ก่อนจะนอนให้เขาปลดเสื้อผ้าให้ผม แต่ดูเหมือนมือบางจะทำงานไม่ทันใจผมเหลือเกิน ผมปลดกระดุมเสื้อตัวเองพร้อมกับถอดกางเกงเขาและกางเกงของเขาให้พ้นทาง เมื่อความต้องการมันพุ่งสูงขึ้น
“อึก…พะ…พี่เก้า...บลูจะไม่ไหวแล้วอ่า...”น้ำเสียงเอ่ยอ้อนจนผมแทบบ้า
เสียงเอ่ยพร้อมเสียงครางของร่างบาง ที่ตอนนี้แทบไม่เหลืออะไรติดกายทั้งผมและเขา ผิวขาวสะอาดแสนลื่นมือ ร่างกายที่ผมหลงรักและหลงใหลช่างสวยงามนัก ผมพลิกกายของเขานอนราบก่อนที่จะจับแก่นกายเล็กนั้นมาครอบครองที่โพรงปากของผมอย่างไม่รีรอ
“อื่ออออ…อย่าครับ…”มือเล็กจับที่ไหล่ผมแน่น ผมไม่ได้สนใจก่อนที่จะใช้ริมฝีปากชัดรูส่วนนั้นไปมา
เพียงแค่รูดรั้งไม่กี่ครั้งร่างบางแอ่นกายให้ผมพร้อมกระตุกเล็กน้อย ก่อนที่น้ำสีข้นจะถูกกลืนกินลงลำคอของผมอย่างไม่นึกรังเกียจ ผมยกยิ้มให้กับคนที่นอนหายใจหอบแฮ่กๆ สายตาฉ่าไปด้วยความรัก
“ตาพี่บ้างนะ ที่รัก”ผมเอ่ยขึ้น ใบหน้าจากที่แดงยังคงแดงขึ้นอีก ผมสบดวงตากลมหวานอย่างร้อนแรง ก่อนจะพลิกร่างบางของเขาให้นอนคว่ำลง แล้วใช้ลิ้นร้อนละเลงลงไปยังช่องทางรักนั้น ยิ่งทำให้เขาบิดเร่าจนกายแดงไปทั้งตัว ผมอยากจะถ่ายคลิปให้เขาดูจังว่าเขาดูเซ็กซี่มากแค่ไหน
“อึก...อ่า...อ่ะ!” เขาร้องเสียงหลง เมื่อผมกำลังจะสอดนิ้วเข้าไปเพื่อเบิกทาง
“โอ๊ยยยย ซี๊ดดด ทำไมมันแน่นชะมัด”ผมครางออกมาอย่างไม่รู้สึกเขิน ช่องทางนั้นบีบรัดนิ้วผมแน่นเพียงแค่เขาเข้าไปนิ้วเดียว ผมกดจูบที่ขมับของเขาอย่างปลอบในเบาๆ เพื่อให้เขาได้ผ่อนคลาย แม้จะมีอะไรกันหลายครั้งแต่ผมก็คิดว่าช่องนี้ของเขายังแน่นและยั่วยวนผมเสมอ เหงื่อผุดพรายเต็มกรอบใบหน้าช่างเซ็กซี่นัก
“น้องบลูจ๋า เวลาพี่อยู่ในตัวน้องบลูช่วยครางชื่อพี่อออกมาหน่อยนะ พี่อยากได้ยินมัน” ไม่พูดเปล่าผมก็ยกสะโพกมนขึ้น พร้อมกับกลางกายที่เตรียมสอดใส่แต่แรกอยู่แล้ว กลางกายที่ค่อยๆสอดเข้าไปตามช่องทาง มันแน่เป็นบ้าเลย ผมกัดฟันแน่นเมื่อช่องทางนั้นกำลังบีบรัดผมจนปวดหนึบไปหมด
“เจ็บมากก็บอกพี่นะที่รัก”ผมเอ่ยขึ้นพร้อมดันหัวป้านของตัวเองเข้าช่องทางหลังเข้าไปช้าๆ
“อ๊ะ อ๊ะ พี่เก้าเข้ามาเลยครับ บลูไม่ไหวแล้วจริงๆ เสียวจะแข่อยู่แล้ว”น้ำเสียงเอยขึ้นเหมือนมีความต้องการมาก สะโพกสวยลอยเด่นจนผมแทบคลั่ง
“พี่กลัวบลูเจ็บจัง...”ผมเอ่ยขึ้น เพราะครั้งนี้ไม่มีอะไรเป็นตัวช่วยเลยสักนิด
“กระแทกเลย บลูไม่ไหวแล้ว อึก อ่ะ!” สิ้นคำอนุญาตผมรีบจัดจังหวะไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ควบจังหวะรักไม่หยุดจนร่างบางสั่นคลอนไปทั่วร่าง
“เรียกชื่อพี่หน่อย...นะที่รักจ๋า”
“อ๊ะ...พี่เก้า อึก อ๊ะ อ๊ะ พี่เก้า บลูไม่ไหวแล้วช่วยกระแทกบลูแรงๆทีเถอะ” เสียงร้องระงม เสียงหวานๆยิ่งทำให้ผมเพิ่มแรงมากขึ้น ก่อนที่ผมจะปลดปล่อยของเหลวขุ่นคาวลงไปในช่องทางพร้อมๆกับที่เขาจะปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง
ร่างบางที่ปลดปล่อยออกมาตอนนี้ตัวอ่อนยวบลงเมื่อปลดปล่อยไปถึงสองครั้ง ร่างบางเหงื่อโชกไปทั้งหมด ผมโอบกอดคนตัวบางไว้ในอ้อมอก ถอนกายแกร่งออกมา จนน้ำขาวขุ่นนั้นไหลออกมาจากช่องเปรอะไปทั้งระหว่างขา มือหนาสอดเข้าไปแล้วควงเอาน้ำคาวออกมา
ฟอดดดด
“เหนื่อยไหม เจ็บหรือเปล่า”ผมเอ่ยถามหลังกดจูบที่ขมับขาวชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“ไม่เลยครับ”เขาเอ่ย ผมจับมือที่มีแหวนยกขึ้นมาเทียบกับแหวนของผม มือทั้งสองที่ถูกยกมาเทียบกัน ผมกระชับอ้อมกอดเขาอีกครั้งก่อนจะเอ่ยขึ้น
“เราจะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน เราจะทำให้ทุกวันของเราคือความสุข พี่รักบลูนะ”
“บลูก็รักพี่เก้าครับ ดูแลบลูตลอดไปนะครับ”
ความรักผม้จะมีกระทบกระทั้งกันบ้างแต่ผมก็เชื่อว่าความรักไม่เคยทำร้ายใคร นอกจาเราเองที่จะใช้ความรักไปในทิศทางไหนก็ตาม
.....The End....
เพล้ง!
ผมที่กำลังนอนสวมกอดอยู่กับภรรยาที่รัก ก็ต้องตกใจเสียงที่ดังขึ้นตอนนี้ เหมือนมีอะไรตกแตกที่ห้องข้างๆ ซึ่งคือห้องของหนูพิ้งค์นั้นเอง
“เสียงอะไรครับพี่เก้า”
“ไม่รู้สิ แต่เสียงมาจากห้องหนูพิ้งค์”ผมเอ่ยก่อนจะลุกไปสวมเสื้อคลุมและเดินออกไป ผมก็พบกับพี่ๆทุกห้องเดินออกมา
“เสียงอะไรครับพี่หมอ”เสียงหวานของน้องบลูเอ่ยถามพี่ชายตัวเอง
“ไม่รู้สิ...”ทุกคนพากันมาอยู่ที่หน้าห้องหนูพิ้งค์ เพียงไม่นานร่างสูงของเลิฟเดินออกมาพร้อมกับเลือดที่อายเต็มไปด้วยเลือด
“เลิฟ!...”เสียงคุณนิลซ้อใหญ่ของบ้านเอ่ยขึ้น คุณหมอรีบวิ่งเข้ามาดูทันทีก่อนที่ร่างของน้องบลูจะวิ่งไปหาหนูพิ้งค์
“หมอพาเลิฟไปทำแผล ส่วนบลูพาหนูพิ้งค์ลงไปที่ห้องโถง เราต้องคุยกัน”เสียงคุณอนาคินพี่ใหญ่ของบ้านเอ่ยขึ้น และทุกคนก็ไปรวมตัวกันที่ห้องโถงทันที ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เท่าที่พอรู้คือเลิฟเข้าไปห้องหนูพิ้งค์ทำไมกันนะ
............