The Color of Love : ​Pink Loved ความรักสีชมพู (The End)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Color of Love : ​Pink Loved ความรักสีชมพู (The End)  (อ่าน 27623 ครั้ง)

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #180 เมื่อ10-03-2018 13:30:50 »

Blue Lyrics 3 : จูบ (นพเก้า xนาคิน)
[/size]

นาคิน พาร์ท
เกลียดไอ้คนตรงหน้านักตอนนี้ จะก่อกวนผมไปไหนนะ เกือบสามเดือนแล้วที่ผมได้มีโอกาสได้พบกับไอ้ผู้ชายจอมกวนคนนี้ วันนี้วันศุกร์ครอบครัวเราจะต้องมาทานข้าวพร้อมหน้าตา แม้ว่าเฮียเกร์ยและน้องรอยด์จะอยู่เมืองนอกแต่เราก็มีซ้อใหญ่และคุณซี ตอนนี้ก็มีคุณกูรมาร่วมโต๊ะด้วย ทำให้ครอบครัวเรากลายเป็นครอบครัวใหญ่มาก แต่จะมีแค่อีตาลุงกาฝากนี่หล่ะที่มานั่งเป็นส่วนเกินตอนนี้
“ทานเยอะๆนะครับคุณเก้า”เสียงหวานซ้อใหญ่เอ่ยเชิญ ดูท่าทางบ้านผมจะชอบอีตาลุงนี่มาก เข้ากับใครได้ทุกคน
“ขอบคุณมากนะครับที่เชิญผมทานอาหารเย็นวันนี้ด้วย”น่าไม่อายจริงๆ ตัวเองเสนอตัวมาเองนี่
“ใครเชิญ”ผมเอ่ยขึ้นเบาๆแต่ก็น่าจะดังพอที่เฮียกรีนจะได้ยิน
“พูดอะไรเนี้ย”
“ก็มันจริงนี่ครับ ตัวเองเสนอตัวมาเองอ่ะ”ผมเอ่ยกับเฮียกรีนจนพี่หมอเอ่ยขึ้น
“ไม่น่ารักเลยนะเจ้าบลู ขอโทษคุณเก้าซะ”กลายเป็นเรื่องใหญ่เลยไหมหล่ะ พี่หมอนะพี่หมอพูดซะดังเชียว
“ขอโทษทำไมครับ ก็เสนอตัวมาเองไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบ้านนี้เลยนี่”ผมเอ่ยขึ้นอย่างโมโหเมื่ออีตาลุงทำหน้าตาสลดจนน่าเอ็นดู
“ขอโทษอาจารย์ซะ เฮียไม่เคยสอนให้พูดแบบนี้ไม่ใช่หรอ”เฮียแบล็คเอ่ยดุผมและผมก็ต้องแพ้ให้กับไอ้คนตรงหน้าที่ทำหน้าตาตอแหลใส่ผม
“ขอโทษครับ”ผมเอ่ยก่อนจะยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไรครับ คุณบลูยังเด็กอยู่ผมไม่ถือหรอกครับ”โอ๊ย พระเอกไปไหน ผมจ้องหน้าเขาอย่างโมโห แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่จ้องใบหน้านั้นแต่สายตาที่มองกลับมาทำเอาผมเองที่รู้สึกร้อนวาบไปหมด และผมเองก็แพ้เขาอีกครั้งผมหลบสายตานั้นทันที
เราทั้งหมดยังคงนั่งทานอาหารต่อไปเรื่อยๆ คู่ใครก็คู่มันสินะ ผมคิดเมื่อบรรดาเฮียๆของผมหวานไม่เกรงใจของหวานที่กำลังจะมาขึ้นโต๊ะเลยตอนนี้
“เฮียแบล็ค วันอังคารนี้หนูพิ้งค์ต้องไปทำกิจกรรมกับเพื่อนๆที่คณะ เฮียอนุญาตไหมอ่า”เสียงของหนูพิ้งค์เอ่ยขออนุญาต นี่คือบ้านของผม ครอบครัวของผมเราเคารพเฮียเสมอแม้เราอาจจะมีโลกส่วนตัวบ้างแต่เฮียแบล็คก็ต้องมาก่อนเสมอ
“ไปที่ไหน กี่วัน”เสียงเรียบๆของเฮียเอ่ยถาม
“ไปกระบี่ ไปสามวันครับ”
“แล้วเลิฟไปด้วยไหม”เฮียเอ่ยถามอีกครั้ง เลิฟคือหลานป้าลิน ที่โตมาพร้อมหนูพิ้งค์ เกิดวันเดียว ปีเดียวกัน ทำให้ทั้งสองจะสนิทกันมาก
“ไม่รู้สิ”เสียงหนูพิ้งค์เอ่ยสั้นๆ ก่อนจะนั่งทานอาหารต่อไป ผมเองสังเกตเห็นน้องชายผมเศร้าไป คืนนี้ต้องเข้าไปคุยด้วยสักหน่อย
“หรอ ถ้าเลิฟไม่ไปเฮียไม่ไห้ไปได้ไหม”
“เฮีย เค้ากับเลิฟมันคนละคนกันนะ เลิฟเขาอาจจะอยากมีเวลาของตัวเองบ้างก็ได้ไม่จำเป็นต้องมาตามเค้าหรอก”เสียงหนูพิ้งค์ดังขึ้นเล็กน้อย
“เฮียไม่อยากให้…”ยังไม่ทันที่เฮียแบล็คจะเอ่ยต่อ เสียงนุ่มของคนตรงหน้าผมก็เอ่ยขึ้น
“เอางี้ครับคุณแบล็ค เดี๋ยวผมไปด้วยก็ได้ พอดีว่าคณะของหนูพิ้งค์เองผมก็รู้จักอาจารย์ที่นั่นอยู่บ้าง เดี๋ยวผมช่วยดูแลหนูพิ้งค์ให้ครับ”ผมเงยหน้ามองอีตาลุง อาหล่ะสิผมจะไม่ยอมให้เขามีโอกาสอยู่กับหนูพิ้งค์แน่นอน
“ไม่ได้นะครับ”ผมเอ่ยขึ้นเสียงดัง จนโต๊ะอาหารหันนมองผม
“ทำไมจะไม่ได้หล่ะครับ หรือคุณบลูมีอะไร”ดูหน้าตายียวนกวนผมเหลือเกิน ผมมองหน้าเขาก่อนจะหันมองเฮียแบล็ค
“ก็อาจารย์บอกผมว่าอาจทิตย์นี้จะต้องเข้ามาแนะนำผมตลอดสัปดาห์ไม่ใช่หรอไง และอีกอย่างเรายังไม่ได้ถามเลิฟเลยว่าจะไปหรือไม่ไปนี่ครับ”ผมเอ่ยขึ้น ใบหน้าผมร้อนผ่าวไปหมดเมื่อไอ้คนตรงหน้ามันยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยจนผมนึกกลัว
“ใช่สิครับ เรายังไม่ได้ถามเลิฟเลยนะ และเชิญทุกคนไปที่ห้องนั่งเล่นดีกว่านะ”เสียงซ้อใหญ่เอ่ยขึ้น
“งั้นป้าลินเรียกเลิฟเข้าไปพบผมที่ห้องนั่งเล่นนะครับ”เฮีนแบล็คเอ่ยก่อนจะเอ่ยชวนทุกคนไปที่ห้องนั่งเล่น
“คะคุณท่าน”ป้าลินเอ่ยก่อนจะหลีกทางให้พวกเราเดินออกไป

เรานั่งอยู่ห้องนั่งเล่นไม่นาน เฮียกรีนและคุณกูรก็ขอตัวกลับเพราะพรุ่งนี้เฮียต้องไปถ่ายแบบแต่เช้า ส่วนพี่หมอกับคุณซีก็ขอตัวขึ้นห้อง หนูพิ้งค์ที่ไม่รู้เป็นอะไรเมื่อเลิฟบอกว่าเขาไปด้วยได้ก็ขอตัวขึ้นห้องไปทันที
“ผมว่าผมขอตัวก่อนดีกว่า”อีตาลุงเอ่ยขึ้น
“น่าจะไปตั้งนานแล้ว”ผมเอ่ยขึ้นอย่างลืมตัว จนเฮียแบล็คหันมาดุผม
“เอาไว้คราวหน้ามาทานข้าวด้วยกันอีกนะครับ”ซ้อใหญ่ของผม ดีแสนดีจริงๆ
“ขอบคุณมากเลยนะครับ คุณแบล็คนี่โชคดีนะครับที่มีคุณนิลเป็นภรรยา ทั้งอ่อนหวานและก็ทำอาหารอร่อยด้วย สำคัญเลยน่ารักด้วยสิ”ไอ้ขี้หลีผมคิดในใจ
“ชมเกินไปแล้วครับ”ซ้อใหญ่ผมก็น่ารักจริงอ่ะ ดูเฮียจะยิ้มภูมิใจนักก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ใช่สิ คุณเก้ามากับเจ้าบลูนี่นะ งั้นเจ้าบลูไปส่งอาจารย์ก่อนดีไหม”
“ห๊า…เฮียว่าอะไรนะ”ผมหันไปถามเฮียอย่างตกใจ ผมลืมไปเลยว่าอีตาลุงจอมหน้าด้านเขาโดขึ้นรถผมมาโดยไม่สนใจคำบ่นของผมเลยสักนิด เพื่อที่จะมาทานข้าวที่บ้านผม
“จะตกใจอะไรขนาดนั้น เฮียแค่บอกให้แกไปส่งอาจารย์หน่อย”
“เฮีย นี่มันสี่ทุ่มแล้วนะ จะให้น้องชายสุดที่รักขับรถกลางคืนอีกหรอ”ผมเอ่ยขึ้น
“แล้วจะให้คุณเก้ากลับยังไงหล่ะ”
“อยากมาเองก็กลับเองได้ดิ”ผมเอ่ยขึ้นแต่กลับถูกเฮียทำหน้าดุใส่
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่กลับเองก็ได้”พระเอกอีกแล้ว นี่ผมกลับเป็นคนใจร้ายไปแล้วหรอเนี้ย
“งั้นคืนนี้นอนที่นี่ก็ได้ครับ เดี๋ยวให้คนจัดห้องไห้”
“เฮียยยย”ผมเอ่ยขึ้นอย่างขัดใจ ก็เฮียไม่น่าให้ท้ายอีตาลุงนี้เพื่ออะไร
“อะไร นี่แกดุเฮียหรอ”โอ๊ย นี่คือพี่ชายผมหรือพี่ชายอีตาลุงกันแน่ว่ะ
“เปล่าสักหน่อย ก็ได้เดี๋ยวเค้าไปส่งอาจารย์เอง”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกขึ้นทำหน้างอๆ
“นี่สิถึงจะเป็นเจ้าบลูของเฮีย”
“ครับคุณเฮียของผม งั้นเค้านอนที่คอนโดเลยแล้วกัน”ผมเอ่ยพร้อมลุกขึ้นเดินออกไป
“งั้นผมกลับก่อนนะครับ เอาไว้โอกาสหน้าผมจะมาฝากท้องอีก”น่าไม่อายอีตานี่ ผมหันมาตะโกนเรียกเขาเมื่อเอากุญแจมาเรียบร้อย
“จะกลับไหมครับอาจารย์ เกรงใจเจ้าของบ้านหน่อยสิ”ผมเอ่ยขึ้น เฮียหันมาทำหน้าดุใส่ผมก่อนที่ผมจะรีบเดินออกมาก่อน ไม่งั้นผมต้องโดนสวดยาวแน่ๆ

ด้วยความเร็วไม่มากนัก เมื่อรถกำลังวิ่งไปตามท้องถนน ที่จริงสี่ทุ่มสำหรับผมมันไม่ได้ดึกเลยสักนิด แต่ที่ผมไม่อยากออกมาก็เพราะไอ้คนที่นั่งมองผมตอนนี้ จะมองอะไรนักหนา
“มองถนนสิครับ จะมองอะไรผม”ผมเอ่ยถามเมื่อไฟเขียวขึ้น แต่อีตาลุงก็ยังมองผมอยู่
“ก็น้องบลูน่ามองกว่าถนนนี่”
“ผมยังไม่อยากเป็นอะไรไปหรอกนะ มองถนนโน้นไป”ผมเอ่ยขึ้นอย่างรำคาญ
“หึ เวลาโมโหน่ารักชะมัดเลย”ผมหน้าร้อนวาบทันที อีตาลุงนี่มันปกติไหมว่ะอยากจะพูดอะไรก็พูด
“ปกติไหมเนี้ย ที่ชมผู้ชายน่ารักอ่ะ ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรอไง”ผมเอ่ยถามตรงๆ จนตอนนี้ผมเองก็ยังคิดว่าอีตาลุงนี้คงไม่คิดอะไรกับผมหรอกคงแค่อยากจะกวนผมมากกว่า
“ปกติดิ ก็น้องบลูน่ารักจริงๆนี่”โอ๊ยอยากจะบ้าตาย ผมปวดหัวกับอีตานี่จริงๆเมื่อไหร่จะถึงบ้านเขาสักทีนะ
ระหว่างที่ผมยังคงเภาวนาให้ถึงบ้านของเขาเร็วๆ เสียงฟ้าที่กำลังส่งเสียงคำรามบ่งบอกว่ากำลังจะส่งสายน้ำชุ่มฉ่ำลงมาอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านั้น ใจผมกำลังคิดว่าอย่าตกนะ ถ้าตกเมื่อไหร่ผมลำบากแน่
ครื้นนนนนน
“ฝนกำลังจะตก…”ผมไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดอะไรต่อ ผมจึงรีบสวนขึ้นทันที
“ก็รีบๆเร่งเครื่องดิครับ จะได้ถึงไวๆ”
“น้องบลูรู้อะไรไหม ถนนในเมืองเขาพิกัดแค่หกสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงนะ ขืนพี่ขับเร็วกว่านี้ตำรวจจับพี่แล้วจะว่ายังไงหล่ะ”ผมหันมองคนขับทันทีอย่างขัดใจ
“ก็ไม่ว่าไง เดี๋ยวไปเยี่ยมส่งข้าวผัด โอเลี้ยงด้วย”ผมเอ่ยไปส่งๆ
“โถ่ๆ คนสวยมักใจร้ายจริงๆเลย”โอ๊ยปวดกระบาลกับอีตานี่จริงๆ เขาไม่พูดเปล่าก็ยังคงขับรถแค่ห้าสิบหกสิบอยู่จนผมเองโมโหคว้ามือเขาที่พวงมาลัยเพื่อจะให้หักเข้าข้างทาง
“อ๊ะ…จะทำอะไรอ่ะ”เขาดูตกใจเล็กหน่อย
“ก็เลี้ยวรถเข้าข้างทางดิ เดี๋ยวผมขับเองขืนคุณขับต่อ ฝนตกแน่ๆ”ผมเอ่ยขึ้น
“ไม่ทันแล้วมั้ง น้องบลูมองไปข้างหน้าสิ ฝนลงเม็ดแล้ว”อีตาบ้านี่ทำไมต้องยิ้มได้น่าเกลียดขนาดนี้ว่ะ
“งั้นก็ขับไปสิ”ผมเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิดใจ รอยยิ้มของคนข้างๆมันทำให้ผมกลับขนลุก
ฝนที่กระหน่ำลงอย่างแรงตอนนี้ แทบจะทำให้รถขับไปเร็วมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ผมนั่งทำหน้าบึ้งหันมองไปยังนอกหน้าต่างรถ กระจกที่ด้านนอกเกาะไปด้วยหยดน้ำฝนทำให้ผมกลับคิดถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา
“ตอนนี้คุณจะมองเห็นผมไหม”ผมเอ่ยขึ้นเบาๆจะกระชับอ้อมกอดไว้ด้วยความหนาว
“ห่มหน่อยนะ เดี๋ยวไม่สบาย”ผมตกใจเล็กน้อยเมื่อคนข้างๆยกเสื้อคลุมมาคลุมให้ผมแต่ผมกลับดึงมันออกและยื่นให้เขาคืน
“ไม่ต้องหรอก ผมไม่ได้บอบบางขนาดนั้น และเมื่อไหร่จะถึงบ้านคุณสักทีเนี้ย”ผมเอ่ยขึ้น แต่เขาก็กลับจับเสื้อมาโยนให้ผม
“อีกนิดเดียว และก็ห่มซะ”อยู่ๆเขาก็เสียงแข็งใส่ผม ท่าทางจะวัยทองหล่ะมั้ง
“ไม่ต้องหรอก ผมไม่...”
“ห่ม...บอกให้ห่มก็ห่มไปเถอะ”สั้นๆแต่น้ำเสียงกลับทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ

ผมเงียบปากตลอดทาง อีตาลุงจอมกวนก็เงียบไปเช่นกัน ผมปรายตามองไปยังคนข้างๆเล็กน้อยแต่เห็นเขาคงนิ่งๆ กูทำอะไรผิดว่ะ ผมคิดในใจก่อนจะแกล้งหลับตาเมื่อเห็นเขาหันมามองผมก่อนจะหันไปขับรถต่อ
“ถึงแล้วบอกด้วยแล้วกัน ถ้าจะคลานขนาดนี้”ผมเอ่ยขึ้นทั้งที่ยังหลับตาอยู่ อากาศเย็นๆ เพลงเบาๆ ฝนตกปรอยๆแบบนี้ โอ๊ยบรรยากาศจะชวนเสียตัวไปไหน อุ๊ต๊ะ...ผมคิดถึงเรื่องเสียตัวหรอเนี้ย ไม่นะผมจะคิดแบบนั้นไม่ได้ เพราะผมกำลังคิดถึงกลิ่นหอมๆของเจ้าของเสื้อนี้
นานเท่าไหร่ผมไม่รู้หรอกรู้ได้เพียงว่าผมหลับสบายมากเหมือนได้นอนเต็มอิ่มยังไงไม่รู้ หลังของผมเหมือนอยู่บนที่นอนแสนนุ่มอยู่ตอนนี้
“อื้ออออ”เสียงครางในลำคอของผมเบาๆ เมื่อรู้สึกยุบยิบที่จมูก
“จิ๊...อื้ออออ”ผมยกมือปัดป่ายไปบนจมูกพร้อมพลิกตัวไปสวมกอดหมอนข้าง
หมับ!
อึก...
เฮ้ย...เดี๋ยวนะ ผมไม่เคยมีหมอนข้างนี่ เพียงแค่คิดผมก็รีบลืมตาขึ้น แต่ก็ต้องรีบหลับตาลงทันทีเมื่อแสงที่กำลังสาดส่องเข้ามากระทบดวงตาของผม ยิ่งรู้สึกใจเต้นแรงเมื่อผมพอจะจับใจความอะไรได้ว่าสิ่งที่ผมเห็นเมื่อสักครู่มันไม่ใช่ความฝัน
“เชี่ย...เช้าแล้วหรอว่ะ”ผมสบถเบาๆ ทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ใจก็ยังคงเต้นแรงเรื่อยๆ คำถามมากมายที่มันอยู่ในหัวผมตอนนี้คือ กูมานอนที่นี่ได้ยังไง แล้วเมื่อคืนอีตาลุงทำอะไรกูไปหรือยัง และที่สำคัญกูเป็นอะไรของกูเนี้ยทำไมหน้าร้อนไปหมด
“ใช่ เช้าแล้ว”เสียงเอ่ยข้างหู มันใกล้ไปไหมผมรีบลืมตาและหันไปมองเจ้าของเสียงที่ตอนนี้โน้มใบหน้าลงมา สองแขนกำลังคร่อมผมไว้อยู่
“เฮ้ย! คุณจะทำอะไรอ่ะ”ผมเอ่ยขึ้นพร้อมผลักเขาออกห่างทันที โอ๊ยไปไหนไม่ถูกเลยกู หน้าร้อนไปหมดแล้ว
“ไม่ได้ทำอะไร แต่มาปลุกให้มาทานอาหารเช้าครับ”ไม่พูดเปล่าผมเห็นเขาถือถาดอาหารเช้ามาทางที่เตียงนอน
“คุณจะบ้าหรอไง นี่มันที่นอนนะ”ผมเอ่ยโวยขึ้นทันทีแต่อีตาลุงนี่กลับหัวเราะออกมา
“หึๆๆ แล้วไง ที่นอนก็กินได้ป่ะ”
“คนแก่เอาแต่ใจตัวเองชะมัด”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะก้มมองอาหารเช้าตรงหน้า โอ๊ยอีตาทะลึ่งทำไมทำไส้กรอกและไข่ดาวออกมาแบบนี่เนี้ย
“แล้วไง ไม่ใช่แค่เอาแต่ใจตัวเองนะ เอาใจคนที่ชอบด้วยจะบอกให้”
“แหวะ...จะอ๊วก”
“ทำไมหรอ แค่นอนด้วยกันคืนเดียวท้องแล้วหรอเนี้ย”ผมรีบหันขวับไปมองอีตาลุงทันที
“ท้องอะไร จะบ้าหรอไง...หลีกครับผมจะเข้าห้องน้ำ”ผมเอ่ยขึ้นพยายามใช้มือดันเขาออกแต่เขากลับดันตัวเขาไว้ก่อนจะก้มหน้ากระซิบบอกผม
“จะรีบไปไหนหล่ะ ยังไม่ได้ทานอาหารเช้าเลย”ใบหน้าลุงใกล้กูมากไปแล้วนะ อีกนิดเรียกจูบเลยนะมึง โอ๊ยอยากจะบ้าตาย
“ไปล้างหน้า แปรงฟัน หรือจะให้ผมกินทั้งๆที่ยังไม่ได้แปรงฟันหรอไง”ผมเอ่ยขึ้นทำให้เขายอมปล่อยผมเข้าห้องน้ำไป ไม่รู้ว่าผมทำไมยอมให้อีตาลุงมีอำนาจกับตัวเองขนาดนี้ คือผมกำลังใจเต้นแรงเมื่อเห็นแปรงสีฟันอีกอันถูกบีบยาสีฟันเรียบร้อย
“เพื่อหนูพิ้งค์ เฮียยอม เพราะเฮียไม่ให้หนูพิ้งค์เจอคนแบบนี้แน่นอน”ผมเอ่ยกับตัวเองในกระจกก่อนจะล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อย
ผมเดินออกจากห้องน้ำก็ไม่พบอีตาลุงนั่นแล้ว ที่นอนถูกเก็บเรียบร้อย ผมค่อยๆเปิดประตูห้องเพื่อจะเดินออกไปข้างนอก เขาอยู่บ้านหรอ ผมคิดว่าเขาอยู่คอนโดซะอีก ผมเดินลงมาจากชั้นบน บ้านแม้จะหลังไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่เล็กจนเกินไปผมพยายามสำรวจตั้งแต่บันไดจนถึงห้องรับแขก ไม่เห็นจะมีรูปถ่ายของเขาเลย หรือแม้ของใครเลย มีแต่รูปวาดที่ติดตามฝาผนัง
“อ้าว ลงมาแล้วหรอ มาทานอาหารเช้ากันสิ”
“ผมว่าผมกลับดีกว่า สายแล้วและอีกอย่างผมไม่กินข้าวเช้า”ผมเอ่ยพร้อมมองหากุญแจรถของตัวเอง
“กุญแจรถผมอยู่ไหนครับ”
“ทานข้าวกันเถอะ”โอ๊ย ไม่สนใจที่กูพูดเลยหรอไง ผมถูกฉุดให้เดินไปที่โต๊ะอาหารก่อนจะถูกบังคับให้นั่งลง
“ทานอาหารกันก่อนนะ แล้วจะคืนกุญแจให้”ผมทำหน้าหงิกออกมา ตาแก่นี่เจ้าเล่ห์นักนะ
“คุณมันเจ้าเล่ห์ ยังไงผมไม่ยอมให้คุณจีบหนูพิ้งค์หรอกนะ”
“หรอ ไม่ยอมให้จีบหนูพิ้งค์ งั้นพี่จีบน้องบลูได้นะ”ครั้งที่ร้อยแล้วมั้งไอ้คำว่าจะจีบผมเนี้ย
“ไม่ได้เหมือนกัน คุณนี่ท่าทางจะผิดปกติมากเนอะ ผู้ชายเหมือนๆกันทำไมถึงชอบนักนะ”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะตักอาหารเช้าเข้าปาก
“ความรักไม่มีหรอกที่เรียกว่าผิดปกติ ขึ้นชื่อว่าความรัก ถ้าได้รักแม้จะผิดแปลกแค่ไหน ถ้าได้รักก็ถือว่าไม่แปลก”ผมนิ่งไปทันทีกับคำพูดของเขา ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกถึงความรักแบบนี้หรอกนะ ผมรู้สึกเพราะผมเคยผ่านแบบนี้มาครั้งหนึ่งแต่มันเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ทำให้ผมเจ็บปวดมากจนเข็ดเรื่องความรัก
“เมื่อคืนพี่ได้ยินน้องบลูพูดถึงใครหรอ”อยู่ๆเขาก็ถามผม น้ำเสียงแปลกๆที่ดูมันจริงจังนัก
“ใคร พูดถึงใครหรอ”ผมเอ่ยขึ้นถาม
“ตอนนี้คุณจะมองเห็นผมไหม ประโยคนี้อ่ะที่เมื่อคืนน้องบลูพูดออกมา เขาเป็นใครหรอ”ผมวางช้อนและส้อมลงทันทีก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ผมอิ่มแล้ว และนี่ก็สายมากด้วยผมขอกลับบ้านก่อนนะครับ และขอกุญแจผมด้วย”ผมเอ่ยขึ้นนิ่งๆพร้อมยื่นมือขอกุญแจจากเขา
“เขาคนนั้นเป็นใคร เขาสำคัญกับน้องบลูมากเลยหรอ”น้ำเสียงเหมือนต้องการคำตอบมาก
“เรื่องส่วนตัวครับ ผมคงไม่จำเป็นต้องบอกคนอื่นถูกต้องไหมครับ”ผมเห็นสีหน้าเขาเสียเล็กน้อย หรือผมเองพูดแรงไป สีหน้าแบบนี้ผมเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนหรอก แต่ผมไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องของคนนั้นอีก ผมอยากให้เขาคือความทรงจำของผมมากกว่า
อ่อ...ครับ พี่คือคนอื่นแต่ที่พี่ถามก็เพราะพี่ชอบน้องบลูจริงๆนะ หลายเดือนที่พี่วอแวกับน้องบลู กวนใจน้องบลูเพียงเพราะพี่อยากอยู่ใกล้น้องบลู พี่ชอบน้องบลูจริงๆ”ผมนิ่งอึ้งไปเลย และยิ่งมีมือหนาของเขากุมที่มือผมไว้ ใจผมแทบหยุดเต้น ก่อนที่มันจะหยุดเต้นแล้วจริงๆเมื่อริมฝีปากอุ่นๆของเขากดทับริมฝีปากของผมอย่างไม่ได้ตั้งตัว เอาผมกำมือแน่นเมื่อมือของเขาก็ประสานกับมือผม
“คุณ!...”ผมเอ่ยได้แค่นี้ ก่อนที่เขาจะเอ่ยขอโทษ
“ขอโทษนะ...คือพี่...”ผมผลักเขาออกก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ขอกุญแจรถผมด้วยครับ”ผมเอ่ยขึ้นจ้องมองไปยังใบหน้าของเขา
“อื้ม กุญแจอยู่ที่โต๊ะนั่นหล่ะ”ผมไม่รอให้เขาพูดลจบก็รีบเดินไปหยิบกุญแจที่โต๊ะและเดินออกจากบ้านไปทันที ไม่ได้มองหันหลังกลับไปอีก เพราะผมโกรธหรือเพราะผมกำลังรู้สึกแปลกๆกับริมฝีปากนั้นกันแน่ ริมฝีปากที่เขาเป็นอีกคนที่ได้สัมผัสมัน

จุ๊บ
“ริมฝีปากนี้ เป็นของพี่คนเดียวได้ไหมน้องบลู”
“ได้ครับ ผมจะไม่ยอมให้ใครได้มันไปนอกจากพี่”
“พี่รักบลูนะ”
“บลูก็รักพี่กี้ครับ”

“บลูขอโทษนะครับที่บลูยอมให้อีกคนได้จูบนั้น”
.....................

//รักแรกแยกยาก รักมากยากที่จะแยก//

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #181 เมื่อ10-03-2018 15:13:09 »

จูบกันแล้ว ..

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #182 เมื่อ10-03-2018 19:01:03 »

พี่เก้าลุย อิอิ

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #183 เมื่อ15-03-2018 20:19:33 »

Blue Lyrics 4: คนนั้น (นพเก้า xนาคิน)

นพเก้า พาร์ท
“ไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่นักหรอกว่าในใจของเขามีใครมาก่อน ไม่ได้แคร์เลยสักนิด แต่ที่ผมต้องมานั่งๆนอนๆครุ่นคิดว่าเขามีอะไรในใจอยู่ และคนนั้นคือใครที่ทำให้ในใจเขาไม่กล้าที่จะเปิดรับคนใหม่อีก
“เฮ้ออออ ใครว่ะ”ผมสบถกับตัวเอง นับจากที่เขาออกจากบ้านไป ผมก็มานั่งคิดอยู่ว่าทำไมเขาได้โกรธมากขนาดนั้น
“โอ๊ยยยย คิดไม่ออก”ผมขยี้หัวตัวเองหลายครั้งก่อนจะยกมือถือโทรหาตัวช่วยอย่างไอ้กูรและคุณกรีน ที่จริงผมน่าจะคิดได้ตั้งแต่แรกแล้วที่ต้องโทรหาตัวช่วย
“ไอ้กูรอยู่ไหนว่ะ”
(“เฝ้าเมียถ่ายแบบแถวสาทร มึงมีอะไรว่ะ”)
“เสร็จกกี่โมง กูอยากเจอเมียมึง”
(“ไอ้เพื่อนเลว โทรหากูแล้วบอกว่าเจอเมีกู เดี๋ยวกูถีบผ่านสี่จีหรอก”)
“ไอ้บ้า ไม่ใช่แบบนั้น กูแค่อยากจะถามอะไรคุณกรีนนิดหน่อย”
(“เรื่องอะไร”)
“อย่าเผือก กูจะถามเมียมึง ไม่ใช่มึง”
(“งั้นมึงฝันไปเถอะ ว่าจะกูจะให้มึงเจอเมียกู”)
“เอ้อๆ เรื่องน้องบลู”
(“เรื่องอะไร บอกกูหน่อยสิ”)
“ไม่บอก เอาไว้เจอกันที่ร้านเดิมเราแถวสาทรก็ได้ กูจะไปรอนะ”
(“เออๆ สี่โมงเย็นเจอกันนะ”)
ผมวางสายเพื่อนรักเรียบร้อย ก่อนจะพิมพ์ข้อความส่งให้คนที่ทำผมร้อนรนอยู่ตอนนี้ ผมแคร์เขามากเกินไปไหมแต่ถ้าผมไม่แคร์ใจผมก็วุ่นวายมาก ผมว่าผมหลงรักน้องบลูจริงๆ
นพเก้า : ขอโทษนะที่จูบน้องบลูเมื่อกี้
นพเก้า : น้องบลูพี่ขอโทษนะ พี่จริงใจกับน้องบลูนะ
นพเก้า : ให้โอกาสพี่ได้ขอโทษจริงๆได้ไหม อ่านข้อความพี่หน่อย
ผมส่งข้อความไปหลายข้อความแต่ปลายทางก็ยังไม่ได้อ่านมันสักข้อความ ไม่รู้ว่าผมทำผิดร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรอ แค่จูบเองนะ
“แค่จูบ…”เสียงดังสุดแสนจะดังของไอ้คนที่ทวนคำพูดของผม เมื่อผมเล่าให้ไอ้กูรและคุณกรีนฟัง
“มึงจะเสียงดังทำไมว่ะ คนในร้านมองกันใหญ่แล้ว”ผมเอ็ดมันเบาๆ ก่อนจะหันมองคุณกรีนอย่างขอโทษ
“คุณเก้าจูบเจ้าบลูหรอครับ”เสียเอ่ยขึ้นนิ่มๆ จนผมรู้สึกผิดชะมัด อย่าทำเสียงแบบนั้นเลยผมขอร้องจะด่าก็ด่ามาเลยครับ
“ผมขอโทษนะครับ ผมห้ามใจไม่ได้จริงๆ”ผมเอ่ยขึ้น
“คุณชอบเจ้าบลูหรอครับ”ไม่อยากจะบอกว่าชอบเลย บอกว่ารักเลยดีไหมอ่า
“ไม่รู้หรอกนะครับว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ตอนแรกก็อยากจะป่วนๆเท่านั้น แต่เมื่อได้รู้จักและสัมผัส…”
“อะไรนะครับ…สัมผัสหรอ”
“อ่อ สัมผัสแค่จูบอ่ะครับ ผมว่าผมชอบน้องบลูมาก ผมอยากดูแลเขาคุณกรีนจะว่าอะไรไหม”ผมเอ่ยขึ้นตรงๆอย่างไม่อาย
“ผมจะว่าอะไรได้หล่ะครับ มันเป็นเรื่องของคุณและเจ้าบลู แต่ผมอยากจะบอกอะไรคุณเก้าอย่างนะครับ ว่าเจ้าบลูไม่เคยมีใครนับจากวันนั้น”นับจากวันนั้นหรอ วันไหน กับใคร
“เอ่อ คุณกรีนพอจะเจาะลึกกว่านี้อีกนิดได้ไหมครับ”
“ไอ้นี่ได้คืบจะเอาศอก อยากรู้ก็ไปถามน้องบลูเองสิว่ะ”ไอ้เพื่อนเลวไม่เข้าใจเพื่อนอย่างกูเลยนะ ถ้ากูถามได้กูจะมาถามเมียมึงหรือไง
“อยากจะถามแต่น้องบลูไม่ยอมรับสายผมและไม่ตอบข้อความผมเลยอ่ะ”ผมเอ่ยไปตรงๆ คุณกรีนทำหน้าเหมือนเห็นใจผมก่อนจะยกมือถือขึ้น ผมกับไอ้กูรก็ยังคงงงๆ ก่อนที่จะได้ยินเสียงสนทนาขึ้น
“เจ้าบลูอยู่ไหน”ผมยกยิ้มขึ้นมาทันที ก่อนจะหันไปกระซิบบอกไอ้กูร
“เมียมึงแม่งสุดยอด กูรักเมียมึงว่ะ”ผมเอ่ยอย่างดีใจก่อนที่ไอ้กูจะใช้มือตบที่หัวผม
โป๊ก
“อุ้ย…ไอ้กูรมึงมาตึกูทำไมว่ะ”ผมเอ่ยขึ้นพร้อมจับที่หัวลูบไปมา
“มึงจะมารักเมียกูได้ยังไง ไอ้นี่คนนี้ชีวิตกูเลยนะมึง”อยากจะแหมถึงดาวอังคาร ไอ้ห่ากูมึงจะเวอร์วังอะไรเบอร์นั้น ระหว่างที่ผมกับไอ้กูรยังคงเถียงกันอยู่นั้น คุณกรีนก็เดินเข้ามาพร้อมยื่นอะไรบางอย่างให้ผม
“อ่ะ…คุณเก้าไปถามเจ้าบลูเองนะครับ ถ้าอยากรู้อะไร”ผมมองไปยังกระดาษและก็คีย์การ์ดที่อยู่ในมือของคุณกรีน พอจะเข้าใจแล้วว่าคุณกรีนหมายถึงอะไร ผมคลี่รอยยิ้มออกมากว้างแสนกว้างก่อนจะลึมตัวกดจมูกที่แก้มของคุณกรีนไปหนึ่งที
ฟอดดดด
“ขอบคุณมากนะครับ”ผมเอ่ยพร้อมกับวิ่งออกไปทันที ไม่รอให้ไอ้กูมันวิ่งไล่เตะผมหรอก ตอนนี้หน้ามันคงแดงเพราะโกรธผมมากแน่ๆเลย
“ไอ้เชี่ยเก้า มึงมาหอมเมียกูทำไม และคุณกรีนก็อย่าเคลิ้มกับมันนะครับ”ผมได้ยินเพียงแค่นี้จากเพื่อนรักของผม เพราะนับจากเวลานี้ผมเองไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้นเพราะตอนนี้ผมคิดแค่ว่า ผมอยากจะไปถึงจุดหมายปลายทางจะแย่แล้ว
+++++++++
ลิฟท์กำลังพาตัวผมขึ้นไปชั้นที่สิบสองอย่างใจจดจ่อ ไม่รู้ว่าถ้าเขาเปิดประตูมาแล้วเห็นผมเขาจะทำหน้ายังไง และเขาจะด่าผมไหม แล้วเขาจะไล่ผมหรือเปล่า
“เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน”ผมเอ่ยกับตัวเองก่อนจะค่อยๆแตะการ์ดที่คุณกรีนให้ไว้ ก็พี่ชายเขาอนุญาตแล้วนี่ผมจะกลัวอะไร ผมคิด
แกร๊ก...
ผมเดินเข้าไปในห้องที่ตกแต่งด้วยสีฟ้าอ่อนๆ การตกแต่งห้องของเขาดูมีสไตล์ รูปภาพวาดมีแต่ทะเลผมคิดว่าเขาคงชอบทะเลแน่ๆ ผมค่อยๆเดินเลาะไปยังห้องอีกห้องน่าจะเป็นห้องนอนแน่ๆ และเจ้าของห้องคงอยู่ที่นี่แน่นอน เพราะตั้งแต่ผมเดินเข้ามายังไม่เห็นมีใครเลย ผมใจกล้าที่จะเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนนั้น
“น่ารักชะมัด”ผมอุทานออกมาเมื่อเข้ามาเห็นคนบนเตียง เวลานอนเขาน่ารักมากจริงๆ เมื่อคืนผมเองก็แทบไม่ได้นอนเพราะมัวแต่มองเขาหลับ ผมไม่อยากกวนคนหลับจึงค่อยๆเดินดูรอบๆห้อง และผมเองก็ต้องมาสะดุดกับรูปถ่ายที่วางอยู่ รอยยิ้มหวานตาแทบปิดของเจ้าของห้องที่กำลังสวมกอดผู้ชายอีกคนจากด้านหลัง
“คนนี้หรือเปล่า คือคนนั้นของน้องบลู”ผมเอ่ยออกมาก่อนจะหยิบรูปนั้นเดินออกมานั่งที่ห้องรับแขกนั่งพินิจรูปถ่ายนั้นจนตัวผมเองหลับไป
ผั๊ว...
ปึก ปึก ปึก
“โอ๊ย...โอ๊ย...อะไรเนี้ย”ผมเอ่ยอย่างตกใจเมื่อกำลังหลับสบายกลับมีอะไรมาฟาดเข้าที่ตัวและหน้าผมอย่างรัว แทบไม่ให้ผมได้พูดอะไรเลย
“คุณเข้ามาได้ยังไง ออกไป”ไม่พูดเปล่ารัวหมอนใส่ผมเป็นชุดเลย ผมพยายามพาตัวเองลุกจากโซฟาก่อนจะรวบมือของเขาไว้เพื่อที่จะไม่ต้องมาตีผม แต่กลับเป็นเขาที่เสียหลักล้มลงทับผม
ตุบ
อุก...
จุ๊บ
“จูบที่สองของวัน”ผมคิดในใจ ก่อนที่เขาจะลืมตาโตขึ้นและพยายามดีดตัวออกจากผม แต่ผมมันมือตุ๊กแกพยายามให้ตายก็ไม่หลุดออกไปหรอก ผมจึงรั้งเขาไว้แน่นก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงและใบหน้าจริงจัง
“อย่าดิ้นสิ พี่มีเรื่องอยากคุยด้วย”ผมเอ่ยขึ้น ใบหน้าที่แดงจัดมองผมนิ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ก็ปล่อยก่อนสิ”ผมยกยิ้มเล็กน้อยแต่เขากลับหน้าตึงๆ ผมค่อยๆคลายอ้อมแขนที่โอบกอดเขาไว้ออก และก็จัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยก่อนจะนั่งมองคนอีกโซฟาหนึ่ง
“ทำไมนอนตะวันพลบแบบนี้หล่ะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”ผมเอ่ยอย่างเป็นห่วง
“คุณมาได้ยังไง และเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง”เขาเอ่ยขึ้นใบหน้ายังคงแดงอยู่ ไม่รู้โกรธหรือเขินนะ
“พี่อยากคุยกับน้องบลู พี่อยากขอโทษเรื่องเมื่อเช้า”ผมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เพราะตอนนี้ผมว่าผมกำลังจริงจังกับเขาอยู่
“ไม่ต้องขอโทษหรอก ผมไม่ถือ แต่ผมอยากรู้ว่าคุณเข้ามาได้ยังไงกัน”เขาเอ่ยถามผมอย่างคั้นเอาคำตอบ
“เอ่อ...คุณกรีนให้ไอ้นี่มา”ผมเอ่ยก่อนจะโชว์การ์ดในมือแต่ก็ต้องรีบเอามาซ่อนด้านหลังเพราะร่างโปร่งของเจ้าของห้องกำลังโถมเข้าหาผม และมันก็เป็นอะไรที่ผมชอบเพราะใบหน้าของเขาจ่ออยู่ใบหน้าของผม เรียกว่าชิดสนิทเลยก็ว่าได้ เพราะลมหายใจของเขากำลังรดที่ริมฝีปากของผมอยู่ มือสองข้างของเขาอ้อมมามารอบตัวผมเพื่อจะแย่งเอาการ์ด
“เอามานะ”น้ำเสียงหวานหูเหมือนเด็กโดนขัดใจก่อนที่ผมจะอดใจไม่ไหวกดจมูกที่แก้มของเขา
ฟอดดดดด
“คุณ..!”เขาเอ่ยอย่างตกใจ พร้อมยกมือลูบที่แก้มของตัวเอง ใบหน้าแดงเห่อของเขา น้ำเสียงน่ารักของเขา มือเล็กกว่าของเขาถูกผมรวบไว้ก่อนจะดึงเข้าหาตัวเอง
อึก!
“น้องบลู พี่ขอโทษนะแต่เรื่องเมื่อเช้าพี่พูดจริงๆที่พี่ชอบน้องบลูและอยากดูแลน้องบลู ให้พี่ดูแลน้องบลูได้ไหม แทนผู้ชายในรูปนี้”ผมเอ่ยพร้อมปรายตามองไปยังรูปที่ผมวางไว้ เขาเองก็ตาโตเล็กหน่อยก่อนจะเอ่ยขึ้น
“คุณไม่มีสิทธิ์มาแทนเขา เพราะผมไม่มีทางให้ใครมาแทนเขาได้”อยู่ๆเขาก็เอ่ยขึ้น น้ำเสียงดูเปลี่ยนไปจนผมเองตกใจว่าผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า ผมค่อยๆคลายมือของเขาออกและขยับตัวออกเล็กน้อยพร้อมพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“แล้วพี่จะต้องทำยังไง พี่ถึงจะมาแทนที่เขาได้”ผมเอ่ยออกมาพร้อมกับกระชากเขาเข้ามากดลงไปที่โซฟาพร้อมกดจมูกที่ซอกคอเขาอย่างลืมตัวว่าผมกำลังทำอะไรอยู่อย่างคนขาดสติ ก่อนที่สติผมจะ
“ต่อให้คุณมีอะไรกับผม คุณก็ไม่มีทางที่จะได้แทนที่เขาได้”ผมหยุดทุกอย่างทันทีเมื่อได้สติก่อนจะรีบลุกขึ้นและเอ่ยขึ้น
“ขอบใจมากนะที่พูดตรงๆ พี่เข้าใจแล้วต่อให้พี่วอแวน้องบลูมากแค่ไหน อยากใกล้ชิดมากแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้น้องบลูหันมาสนใจพี่ได้เพราะน้องบลูมีคนนั้นอยู่เสมอ คนที่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่พี่รู้สึกอิจฉาเขาที่ได้อยู่ในใจของน้องบลู พี่ขอโทษนะที่ทำเรื่องบ้าบอกับน้องบลูตั้งหลายครั้ง พี่ขอโทษจริงๆ ”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะวางการ์ดไว้บนโต๊ะ
“ผมฝากขอบคุณคุณกรีนด้วยนะครับ และฝากคืนให้คุณกรีนด้วยนะครับ”ผมเอ่ยเสร็จก็เดินออกไปจากห้องนั้นทันทีโดยไม่ได้หันมามองข้างหลังอีก
ผมขับรถไปตามท้องถนน ตอนนี้น่าจะสักตีสองได้หลังจากที่ผมออกจาคอนโดนั้นและมานั่งดื่มที่ผับ ในหัวผม มันมีเรื่องราวมากมายกับเรื่องที่เกิดหลังจากที่ผมได้พบกับเขา ผมหลงรักเขาอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ
“ก็คนมันรักนี่หว่าจะให้กูทำยังไงว่ะ”ผมเอ่ยขึ้นกับตัวเอง อยากจะบอกเขาว่าผมรักเขาทำให้ผมต้องทำอะไรบ้าบอนี้
+++++++
เกือบสัปดาห์มานี้ผมเองก็ทำงานปกติ สอนปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือผมเองไม่ได้ไปวุ่นวายกับเขาอีก มีบ้างบางครั้งที่ผมแอบมองร่างโปร่งนั้นเสมอหลังเลิกคลาส
“อาจารย์คะ”เสียงหวานเอ่ยขึ้นจากด้านหลังเมื่อผมกำลังยืนมองร่างโปร่งใบหน้านิ่งๆและที่ผมรู้สึกคือดูเศร้าๆไปบ้าง
“อ้าว…ฟาง มีอะไรกับอาจารย์หรือเปล่า”ผมเอ่ยถามพร้อมยกยิ้ม
“ฟางมีเรื่องอยากจะถามอาจารย์คะ”หญิงสาวแสนน่ารักเอ่ยพร้อมกับดึงผมไปนั่ง
“มีอะไรจะถามหรอ อาจารย์ยังไม่ได้สอนปีสองเลยนะ”ผมเอ่ยขึ้น
“เปล่าเรื่องเรียนคะ”
“อ้าว แล้วเรื่องอะไรหล่ะ”
“อาจารย์กับพี่บลูทะเลาะกันหรอคะ”ผมขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะยกยิ้มขึ้น
“อะไรกัน ทะเลาะอะไรอาจารย์ไม่เข้าใจ”ผมเอ่ยขึ้น
“อย่ามาไม่เข้าใจเลยคะ ก็พักนี้หนูเห็นอาจารย์กับพี่บลูไม่ไปกินข้าวด้วยกัน และไม่ตัวติดกันแล้ว แถมพี่บลูก็ดูเงียบๆ และอาจารย์ก็ไม่ค่อยป่วนพี่บลูด้วย นี่ไงคะคือการทะเลาะ”เอาสิ ผมว่าผมกำลังเจอสาวน้อยผู้น่ารักที่กำลังจิ้นผู้ชายสองคน และมีความสุขที่ได้เห็นผู้ชายสองคนรักกัน นี่คือสาววายใช่ไหม
“อะไรกัน อาจารย์ไม่คุยด้วยแล้ว เพราะอาจารย์ไม่มีเรื่องอะไรที่จะทะเลาะกับน้องบลู และไม่มีอะไรจะบอกหนูฟางหรอก ไปเรียนคลาสต่อไปได้แล้วครับ”ผมเอ่ยขึ้นวางที่กลุ่มผมนิ่มของหญองสาวก่อนจะขี้ไปมาอย่างเอ็นดูอย่างน้อยผมก็มีแฟนคลับแล้ว
ผมเดินมาที่ห้องพักอาจารย์เพื่อที่จะเตรียมตัวกลับบ้าน กะว่าจะไปนั่งดื่มก่อนเข้าบ้านสักหน่อยไม่งั้นผมเองคงจะนอนไม่หลับแน่ๆ
“อาจารย์นพเก้าคะ”ผมหันตามเสียงหวานก่อนจะยกยิ้มขึ้น
“อาจารย์แป้ง ยังไม่กลับอีกหรอครับ”
“กำลังจะกลับคะ อาจารย์หล่ะคะ”
“กำลังจะกลับเช่นกันครับ”
“งั้นเดินลงไปพร้อมกันเลยนะคะ”ผมพยักหน้าก่อนจะช่วยเธอถือของลงจากตึก
“หอบหิ้วอะไรกลับไปเยอะแยะครับเนี้ย”ผมเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเธอชอบหอบงานกลับบ้านบ่อยๆ
“งานเตรียมสอนคะ ของนักศึกษาปริญญาโท”
“อ่อ อาจารย์นี่เก่งนะครับ ทั้งน่ารัก ทั้งเก่งแบบนี้อิจฉาแฟนอาจารย์น่าดู”ผมเอ่ยขึ้นหยอกๆ เธอกลับหน้าแดงขึ้นก่อนจะเอ่ย
“แป้งยังไม่มีแฟนคะ”
“จริงดิ ใครช่างปล่อยหญิงสาวผู้เพียบพร้อมอย่างอาจารย์แป้งได้นะ”ผมเอ่ยขึ้นพร้อมหัวเราะออกมา ก่อนจะเดินเข้าลิฟท์ไปพร้อมกันก่อนที่เสียงของบุคคลที่สามเอ่ยเรียก อาจารย์แป้งจึงกดลิฟท์เปิดไว้
“รอด้วยครับ”ผมจ้องมองไปยังคนที่กำลังเข้ามาและเดินมายืนเทียบกับผม โดยมาจารย์แป้งยืนอยู่ข้างหน้าผมอีกที เหงื่อที่แตกพล่านที่เกาะอยู่ค่อยๆไหลออกมา ผมอยากจะซับให้เขานัก ใบหน้าครึ่งเสี้ยวแสนน่ายั่วยวน กลิ่นน้ำหอมที่ผสมผสานกับกลิ่นเหงื่อเล็กน้อยผมพยายามไม่มองเขา
“นาคิม ยังไม่กลับอีกหรอ อาจารย์คิดว่ากลับไปแล้ว”หญิงสาวเอ่ยขึ้นถาม
“ยังครับ ผมลืมของเลยขึ้นมาเอา”เขาเอ่ยขึ้น แต่ผมไม่ได้มองว่าเขามองผมหรือไม่
“อ่อ…”หญิงสาวขานเบาๆ
“อาจารย์หล่ะครับ เพิ่งกลับกันหรอครับ แล้วนี่กลับพร้อมกันหรอครับ”เขาเอ่ยนิ่มๆ ผมไม่ชอบเสียงของเขาเลยมันทำให้ผมใจสั่นและมันทำให้ผมคิดถึงวันนั้น ริมฝีปากนั้น ซอกคอนั้น และคนคนนั้นของเขา
“อาจารย์แป้งไปทานข้าวร้านไหนกันดีครับ”ผมเอ่ยขึ้น ทำเอาหญิงสาวทำหน้างงๆ ก่อนที่ลิฟท์จะเปิดออก
“ผมกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ”อยู่ๆเขาก็รีบพรวดออกไปโดยไม่ได้รอให้ลิฟท์เปิดออกหมด
“สวัสดีคะ ขับรถดีๆนะ”ผมมองตามหลังกว้างสูงโปร่งของเขา ถ้ามองไม่ผิดเขากำลังหน้าแดงหูแดง แต่คงไม่ใช่หึงผมหรอกผมรู้ เขาคงอึดอัดที่ต้องเจอผมมากกว่า ผมคิดแบบนั้น
“อาจารย์คะ พอดีวันนี้แป้งมีธุระคะคงไปทานข้าวด้วยไม่ได้ ต้องขอโทษด้วยนะคะ”ผมยกยิ้มให้เธอ
“ไม่เป็นไรครับ เอาไว้วันหน้าก็ได้ ขับรถดีๆนะครับ”ผมเอ่ยขึ้น ที่จริงก็ไม่ได้อยากไปไหนเลยอยากจะรู้แค่ว่าเขาคิดยังไง รู้สึกยังไงมากกว่า
“น้องบลูคงไม่รู้สึกหรอกใช่ไหม”ผมเอ่ยออกมาก่อนจะขับรถออกไป โดยไม่ได้รู้สึกกว่าผมกำลังถูกสายตาคู่หนึ่งมองอยู่
……………


ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #184 เมื่อ16-03-2018 19:22:43 »

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #185 เมื่อ16-03-2018 22:18:05 »

น้องบูลแน่ๆๆ
ลุ้นต่อ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #186 เมื่อ19-03-2018 14:30:51 »

น่ารัก น่าชัง

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #187 เมื่อ20-03-2018 16:27:06 »

กรีนกับเกรย์ ชื่อจริงใช้ชื่อเดียวกันหรอ อนาคิม

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #188 เมื่อ22-03-2018 19:17:51 »


Blue Lyrics 5 : หงุดหงิด (นพเก้า xนาคิน)

นาคิน พาร์ท
ยิ่งจะเรียนจบยิ่งไม่มีอะไรต้องทำมาก โปรเจคจบผมกับเพื่อนๆก็ทำเรียบร้อยรอพรีเซนต์อย่างเดียว ตอนนี้ทำได้เพียงไปช่วยเฮียที่บริษัทบ้าง นอนอยู่ที่คอนโดบ้าง บ้านบ้างยิ่งน่าเบื่อเข้าไปใหญ่ ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรที่ต้องวุ่นวายเลย
“ว่าไงหนูพิ้งค์”
(“เฮียอยู่ไหนครับ”)
“อยู่คอนโด มีอะไรหรือเปล่า”
(“พอดีอยากจะชวนเฮียมาที่บ้านหน่อยอ่ะ”)
“มีอะไรหรือเปล่า คืนนี้ก็เจอกันที่งานเลี้ยงแล้วนี่ หรือทะเลาะกับเลิฟหล่ะ”
(“เปล่าฮะ พอดีว่าพี่เก้า…”)
“ไอ้บ้า ยังไม่เลิกยุ่งกับหนูพิ้งค์อีกหรอ ไหนบอกว่าชอบเรา ไหนจะจีบอาจารย์แป้งอีก ไอ้เลว…”
ผมรีบวางหูทันที ก็เกือบเดือนแล้วที่ผมไม่ได้ยินชื่อนี้นับจากวันนั้น เขาเองก็ไม่ได้มายุ่งวุ่นวายกับผมอีกเลย แม้แต่ข้อความที่เคยมีก็ไม่มีสักข้อความ
“คุณจะทำอะไรของคุณอีกนะ”ผมสบถกับตัวเองก่อนจะดิ่งรถไปที่บ้านของตัวเอง แต่ท่าทางผมจะช้ากว่าคนที่กำลังคิออยู่ในหัว เพราะรถของเขาจอดอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
ผมรีบเดินเข้าไปในบ้าน แต่ไม่พบใครก่อนจะเดินไปที่ห้องหนูพิ้งค์ ก็ยังไม่พบใครอยู่ดี ผมดิ่งไปที่ห้องครัวก็ยังไม่เห็นใคร ก่อนจะได้ยินเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น
“มองหาใครครับ”ผมหันมองเจ้าของเสียง ร่างสูงที่เกือบสัปดาห์ที่ผมไม่เจอเขา ผมแอบใจเต้นแรงเมื่อเห็นใบหน้าของเขาและรอยยิ้มของเขา
“เปล่า แล้วคุณมาที่นี่ได้ยังไง แล้วมาทำไมไม่ทราบ แล้วทุกคนไปไหนกันหมด”ผมเอ่ยถามเป็นชุด
“เอาทีละคำถามไหมครับ”เขาเอ่ยขึ้นพร้อมยกยิ้มออกมา ผมกวาดสายตามองไปรอบบ้านก่อนจะเจอพี่มะลิ สาวใช้ในบ้าน
“พี่มะลิ ทุกคนไปไหนหมด แล้วนี่ปล่อยคนอื่นเข้ามาในบ้านแบบนี้ได้ยังไงครับ”ผมเอ่ยเป็นเชิงตำหนิเล็กน้อย
“เอ่อ คุณแบล็คกับคุณนิลออกไปเตรียมงานเลี้ยงเย็นนี้คะ ส่วนคุณหมอกับคุณซียังไม่กลับคะ”
“แล้วหนูพิ้งค์หล่ะ”ผมเอ่ยถาม
“คุณพิ้งค์ไปเอาชุดกับน้องเลิฟคะ”ผมพยักหน้าเป็นเชิงรับทราบให้พี่มะลิเดินออกไป ก่อนจะหันมองคนตรงหน้า
“แล้วคุณหล่ะ หายไปตั้งนานแล้วมาทำไมที่บ้านนี้อีกไม่ทราบครับ”ผมเอ่ยอย่างหงุดหงิดอย่างลืมตัว และยิ่งรู้ว่าเขามาที่นี่เพราะหนูพิ้งค์ผมยิ่งรู้สึกหงุดหงิดไปใหญ่
“คุณกรีนวานให้ผมมารับคุณไปงานคืนนี้”ผมหันมองเขาก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ไม่จำเป็น ผมไปเองได้ แล้วเฮียจะวานคุณทำไมในเมื่อคุณเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบ้านหลังนี้”ผมเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ ก็ในเมื่อเขาเองก็ไม่ได้มาที่นี่ตั้งนานแล้วและอีกอย่างเขาเองก็มีอาจารย์แป้งอยู่แล้ว ทำไมต้องมาวุ่นวายด้วย
“ก็แค่คุณกรีนวานผมก็เท่านั้น ชุดคุณผมเอาไว้บนห้องให้แล้ว”ผมตาโตทันที นี่เขาขึ้นไปบนห้องนอนของผมหรอ ครั้งก่อนก็ขึ้นคอนโดผมทีหนึ่งแล้วและนี่ยังจะเข้าห้องนอนส่วนตัวผมอีกหรอเนี้ย งั้นก็เห็นทุกอย่างที่เป็นผมหมดหล่ะสิ
“นี่คุณ ใครให้คุณเข้าห้องโดยไม่ขอเจ้าของห้องก่อน”ผมโวยขึ้น ใบหน้าเขาเองก็ยังคงนิ่งๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมรับรองได้ว่าเขาต้องยียวนกวนประสาทผมแน่ๆ แต่ครั้งนี้เขากลับนิ่งยิ่งทำผมหงุดหงิด
“คุณขึ้นไปแต่งตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะรอคุณตรงนี้”เขาเอ่ยขึ้นนิ่งๆ ก่อนที่เสียงมือถือของเขาจะดังขึ้น ผมมองตามคนที่กำลังคว้ามือถือเดินเลี่ยงออกไป แต่ก็ยังพอได้ยินว่าปลายสายน่าจะเป็นอาจารย์แป้งเพราะเสียงเอ่ยเรียกชื่อดังขึ้นเป็นระยะ
“หึ ก็มีแฟนอยู่แล้วนี่ยังจะมาทำไมบ้านหลังนี้อีก”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินขึ้นห้องไป มันช่างหงุดหงิดนัก
ผมเดินเข้าห้องน้ำอย่างไม่ได้สนใจอะไร ชุดที่วางอยู่บนเตียงนอนผมก็ไม่ได้สนใจนัก เพราะตอนนี้ผมอยากจะทิ้งกายลงในอ่างน้ำ ดวงตากลมของผมที่ซ่อนภายใต้เปลือกตาบาง ผมเองไม่อยากจะคิดถึงเรื่องราววันนั้น แต่ยิ่งห้ามผมกลับคิดถึงมันตลอดเวลา ริมฝีปากนั้นมันทำผมแทบบ้าทุกครั้งที่ผมคิดถึงมัน
“อ่าห์...อื้มมมม”เสียงครางในลำคอของผมเบาๆ เมื่อผมกำลังลูบไล้ไปทั่วร่างกายของตัวเองเมื่อคิดถึงจูบนั้น และมันก็เป็นแบบนี้เสมอเมื่อผมคิดถึงจูบนั้น มือขาวของผมกำลังหยุดที่กลางกายของผม มันกำลังแข็งขืนขึ้น
“อ่า...อ๊ะ อ๊ะ อ่าห์...”ผมครางออกมาค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ ปลายเท้าจิกลงอยู่ที่ก้นอ่างแน่น เมื่อมือกำลังชักรูดขึ้นลงตามความต้องการของตัวเอง มันน่าอายมากที่ผมกำลังคิดถึงใบหน้าผู้ชายคนนั้น และคิดถึงสัมผัสนั้นของเขา ผมถึงจุดหมายในไม่ช้า น้ำสีขาวขุ่นที่ไหลออกมาเสียงของผมค่อยๆเบาลงและหอบขึ้นเล็กน้อย
“แฮ่กๆ...”ผมหลับตาพร้อมพ่นลมจากริมฝีปากออกไปเบาๆก่อนจะตกใจเมื่อได้ยินเสียงดังจากข้างนอก
แกรก!
“อ๊ะ...พี่มะลิหรอครับ”ผมตะโกนออกไป แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบอะไร ผมรีบล้างตัวและสวมเสื้อคลุมเดินออกจากห้องน้ำ มองไปรอบๆห้องตอนนี้ไม่เห็นมีใครก่อนที่จะตกใจอีกครั้งเมื่อประตูห้องของผมก็ถูกเปิดเข้ามาพร้อมร่างสูง ผมรีบกระชับเสื้อคลุมทันทีก่อนจะเอ่ยขึ้น
“คุณขึ้นมาได้ยังไง...”ผมเอ่ยอย่างโมโห
“เห็นคุณขึ้นมานานแล้ว ผมกลัวไม่ทันเลยขึ้นมาเรียก”เขาเอ่ยนิ่งๆ บางทีนิ่งจนผมเองรู้สึกเกลียดเขา
“งานเริ่มตั้งสองทุ่ม และนี่มันก็เพิ่งหกโมงเย็นป่ะ”ผมเอ่ยขึ้น
“หกโมงสี่สิบแล้วต่างหากครับ”โอ๊ย เกลียดกับใบหน้านิ่งๆแบบนี้นัก ทำไมเมื่อก่อนไม่นิ่งแบบนี้บ้างว่ะ
“นั่นหล่ะ”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะหันหลังไปหยิบชุดที่วางอยู่บนที่นอน ก่อนที่ใบหน้ามันจะแดงขึ้นเมื่อผมได้ยินเขาเอ่ยขึ้น
“ผอมไปนะ ทานข้าวบ้างสิ”ผมยืนนิ่งไปเล็กน้อยก่อนที่มือหนาจะจับไหล่ผมให้หันมาหาตัวเอง เขาต้องการอะไรจากตัวผม ผมมองหน้าเขาที่ตอนนี้ปลดเสื้อคลุมของผมออก และผมก็บ้าที่ยอมให้เขาทำแบบนั้น ผมว่าผมต้องการเขา ผมต้องการความวุ่นวาย ผมต้องการความป่วนจากเขา เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกสวมใส่เข้ามา กระดุมทีละเม็ดที่เขาบรรจงติดให้ผมทีละเม็ด ใจผมมันสั่นสะท้านไปหมด
“ใครจะเหมือนคุณหล่ะครับ คงทานข้าวได้เยอะหล่ะสิ มีอาจารย์แป้งทานด้วย คงทานด้วยเกือบทุกวันหล่ะสิ”ผมเอ่ยขึ้น ยิ่งพูดเหมือนยิ่งเอาอะไรตอกที่อกของตัวเอง
“แล้วแต่จะคิดนะ สำหรับฉันเคยคิดยังไงก็ยังเหมือนเดิม”เขาเอ่ยขึ้น ตาลุงจอมโวยวายหายไปไหนนะ เขาเอ่ยแบบนิ่งๆเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ผมจับมือเขาไว้เมื่อถึงกระดุมเม็ดสุดท้ายก่อนจะเอ่ยขึ้น
“พอเถอะครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”ผมเอ่ยขึ้น มือของผมถูกมือหนาจับไว้ก่อนจะย้ายมาที่ปลายคางของผมที่กำลังหลบสายตาของเขาอยู่
“ผมเคยพูดอย่างไง ผมก็จะพูดเหมือนเดิมว่าผมชอบคุณ”เขาเอ่ยขึ้น ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะพูดมันอีกครั้ง แต่จะมีประโยชน์อะไรหล่ะ ในเมื่อเขาก็มีอาจารย์แป้งอยู่แล้วนี่
“อย่าเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัวนักเลยครับ เพราะอาจารย์แป้งไม่ได้ผิดอะไรที่คุณจะหักหลังเธอ”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะเบี่ยงตัวหนีออกและเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“คุณออกไปได้แล้วครับ เดี๋ยวผมจะรีบแต่งตัว”ผมเอ่ยขึ้น โมโหที่เขาเป็นผู้ชายเห็นแก้ตัว หรือผมโมโหที่เขาไม่ปฏิเสธว่าเขากับอาจารย์แป้งไม่ได้เป็นอะไรกัน
“ผมจะไปรอข้างล่างนะ”เขาเอ่ยเสร็จก็เดินออกห้องไป ปล่อยให้ผมเองกลับหงุดหงิดออกมา ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนธรรมดาผมเองจะเป็นคนใจเย็นที่สุดในบรรดาพี่น้อง
“หึ ปากบอกเหมือนเดิมแล้วทำไมไม่ปฏิเสธหล่ะว่าอาจารย์แป้งเป็นแค่เพื่อนอ่ะ”ผมเอ่ยออกมา
++++++++
เกือบทุ่มครึ่งที่เราอยู่บนท้องถนน ต่างไม่มีเสียงใครเอ่ยอะไรทั้งนั้น ผมแอบมองเสี้ยวใบหน้าของเขาที่มันดูนิ่งๆ บางทีนิ่งเสียจนผมเองกลับใจหาย
“ผมไม่รู้นะว่าคุณกำลังคิดอะไรหรือทำอะไร วันหนึ่งคุณมาป่วนผม ป่วนครอบครัวผม และวันหนึ่งคุณก็หายไป และมาวันนี้คุณก็กลับมา คุณกำลังคิดหรือทำอะไรกันแน่”ผมเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์เสีย มันอึดอัดชะมัดที่อยู่ๆเขาก็ป็นแบบนี้
“ก็ดีไม่ใช่หรอครับ ผมจะได้ไม่กวนคุณมาก คุณจะได้ไม่ต้องรำคาญ”เขาเอ่ยขึ้น แหมมาทำให้เรารำคาญจนเป็นนิสัยแล้วยังจะปากดีอีก
“ไม่ใช่ว่าคุณมีแฟนหรอกหรอ ถึงหายหน้าไป”อยู่ๆผมก็เอ่ยขึ้นเป็นเชิงประชด รถที่จอดเทียบลานจอดรถของโรงแรม ตอนนี้ดูเงียบมาก เขาหันมามองผมเมื่อดับเครื่องเรียบร้อย
“แล้วแต่จะคิดครับ ว่าแต่ว่าน้ำเสียงที่เอ่ยออกมาดูเหมือนคุณจะประชดผมนะครับ เหมือนคุณกำลังหึงหวงเลย”ผมรีบกลอกตาไปมาก่อนจะหลบสายตาเขา
“บ้าสิ…พูดอะไรบ้าๆ”ผมเอ่ยขึ้น
“ผมก็แค่พูดเล่นไปอย่างนั้นเองครับ เพราะรู้ดีว่าในใจคุณไม่มีทางที่จะมีใครได้อีกนอกจากผู้ชายคนนั้น”เขาเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินลงรถไป แต่มิวายจะหันมาบอกผม
“ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวทุกคนจะรอ”เขาเอ่ยเสร็จก็เดินออกไป ผมเองก็เดินตามเขาไป
ในงานพี่น้องผมทุกคนมาถึงก่อนแล้ว นี่มันก็สองทุ่มกว่าๆแล้ว ขนาดแต่เฮียเกรย์และรอยด์เท่านั้น งานเลี้ยงเปิดตัวสีตัวใหม่ของบริษัทเรา งานนี้ผมเองก็มีส่วนช่วยในเรื่องเทคนิคของสีด้วย โดยมีเฮียกรีนเป็นนายแบบฟีนาเล่ให้เรา
“ทำไมทำกับเค้าแบบนี้”ผมเอ่ยงอนเฮียแบล็คที่ยอมให้เขาไปรับผมที่บ้าน
“อะไร…”ตั้งแต่เฮียมีเมียนี่ผมว่าเฮียของผมดูกวนๆขึ้นทุกวันแล้วนะ
“เฮียบลูมาแล้วหรอ ช้าจัง”เสียงหวานของน้องชายคนสุดท้องของบ้าน เจ้าตัวแสบของผมอย่างหนูพิ้งค์
“มานี่เลยเจ้าตัวดี ทำไมยอมให้เขาไปรับเฮียหล่ะ”ผมเอ่ยขึ้นพร้อมลากหนูพิ้งค์มาหา
“ก็พี่เก้าเขาขอไว้นี่”
“ขอไว้ คืออะไร”ผมเอ่ยอย่างไม่เข้าใจ
“ก็คุณเก้ามาขอเฮียว่าอยากจะไปรับแก และอยากจะคุยกับแก เฮียไม่รู้ว่าแกกับคุณเก้ามีเรื่องอะไรกัน แต่หลายวันมานี่เขาเองก็มาคุยกับเฮียเรื่องของแก”
“เรื่องของเค้าหรอ”
“อื้ม แต่เฮียไม่อยากยุ่งเพราะเป็นเรื่องของแกกับคุณเก้า”เฮียแบล๊คเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินออกไปเมื่อซ้อเดินมาบอกให้เตรียมตัวขึ้นเวที
“เฮียกินรัยยัง ไปหารัยกินกันเถอะ”เสียงหวานหนูพิ้งค์เอ่ยขึ้น
“ยังไม่หิวอ่ะ”ผมเอ่ยสายตาก็กวาดมองหาร่างสูงของเขา ที่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ไหนแล้ว
“งั้นเค้าไปหาอะไรกินก่อนนะ หิวแล้ว”ผมพยักหน้าแต่ก็ไม่ได้มองน้องชายหรอก สายตาก็กวาดไปทั่วก่อนจะยกมือถือขึ้นมา แต่ลืมไปว่าผมเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ ข้อมูลของเขาผมเองก็ลบไปหมดแล้ว
งานเริ่มไปได้สักพัก ผมเองก็หันมองหาเขา ก่อนจะเดินไปหาเฮียแบล็คที่ตอนนี้กำลังเคลียบริเวณงานอยู่ ส่วนหนูพิ้งค์ขอกลับก่อนแล้ว พี่หมอกับซีก็กลับแล้ว ถ้าผมจะไปหาเฮียกรีนเพื่อให้ไปส่งก็จะกลายเป็นว่าเฮียต้องวนไปวนมา ผมตัดสินใจเดินไปที่ลานจอดรถ จุดจอดรถที่เขาจอดรถไว้เมื่อหัวค่ำ
“หึ…ไอ้คนบ้า”ผมสบถกับตัวเอง เมื่อมาถึงจุดจอดรถแต่ผมกลับไม่เห็นรถเขา เขาทิ้งผมไป เขาไม่ได้ต้องการผมเหมือนที่เขาพูดเลยสักนิด
“นี่หรอว่ะ คนที่บอกว่าเหมือนเดิมอ่ะ”ผมเอ่ยออกมาก่อนจะนั่งย่องๆอยู่ลานจอดรถ สองมือกุมที่หัวตัวเองก่อนจะตัดสินใจที่จะโทรเรียกแท็กซี่ แต่เสียงมือถือผมก็ดังขึ้นปลายสายบอกเบอร์แปลกๆผมจึงกดรับสาย
“สวัสดีครับ”ผมเอ่ยรับสายอย่างไม่รู้สึกอะไรก่อนที่เสียงปลายสายจะทำให้ผมอ้าปากค้างทันที
“คุณอยู่ไหน คุณแบล็คบอกผมว่าคุณจะกลับแล้ว ผมก็...”ผมไม่รอให้เขาเอ่ยอะไรแล้ว เพราะผมเองอยากจะด่าเขาว่าทำไมถึงโทรมาหาผมทั้งๆที่ทิ้งผมไปแล้ว
“แล้วไงครับ ถ้าผมจะกลับแล้วตอนนี้คุณอยู่ไหนหล่ะ”ผมเอ่ยขึ้นถามอย่างหงุดหงิด
“ผมก็รออยู่ที่รถนี่ไงครับ แล้วคุณอยู่ไหน”เขาเอ่ยขึ้น
“อย่ามาตลกนะ ผมถามว่าคุณอยู่ไหน”
“ก็รออยู่ที่เดิมนี่ไงครับ ผมนั่งรออยู่ที่รถ”ผมเริ่มหงุดหงิด
“ผมไม่ตลกนะครับ”ผมเอ่ยเสียงดังขึ้น
“เอางี้ คุณบอกผมหน่อยว่าคุณอยู่ชั้นอะไร”เขาเอ่ยถามผม และผมเองก็เริ่มมองไปยังเสาที่เรียงรายกันอยู่ตอนนี้ ก่อนจะทำหน้าเสียเล็กน้อย
“4B”ผมเอ่ยขึ้น
“เราจอดรถที่ชั้น 4B/1 ครับ”เขาเอ่ยขึ้น ผมลดเสียงเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าผมเองมาชั้นผิด ก่อนที่เสียงรถจะแล่นขึ้นมาจากชั้นล่าง ผมยืนอยู่กลางทางเดินรถพร้อมมองไปยังรถคันสวยนั้น
เอี๊ยดดดดด
“ขึ้นรถครับ”เขาเอ่ยขึ้น ผมพยักหน้าก่อนจะเดินขึ้นรถไป เขาเองก็ไม่ได้ว่าอะไรผมเลยสักนิด ผมเองดีใจมากที่ได้เจอเขา
“ไปส่งผมที่คอนโดเลยนะครับ”เขาไม่พูดอะไร
“กลัวมากไหม เมื่อกี้”อยู่ๆเขาก็เอ่ยถามผม
“กลัวอะไร ไม่ได้กลัวสักหน่อย”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะหันหน้าไปยังนอกหน้าต่างรถ
“หรอ แต่เมื่อกี้ตอนผมวนรถไปรับคุณ ดูหน้าตาคุณดีใจมากเลยนะ”เขาเอ่ยขึ้น
“คุณนี่คิดเองเออเองทุกอย่างเลยนะครับ”ผมเอ่ยทั้งที่ใจกลับเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ครับ ผมคิดเองเออเองทุกอย่างแต่มีบางอย่างที่คิดแล้วมันเออเองไม่ได้...”ผมรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
“พอเถอะครับ ถ้าคุณจะหมายถึงเรื่องของเรา เพราะตอนนี้คุณก็มีอาจารย์แป้งอยู่แล้ว ผมว่าคุณคงไม่ต้องคิดมันแล้วมั้งครับ”ผมเอ่ยขึ้น น้ำเสียงแม้จะดูเรียบๆแต่มันแฝงไปด้วยความรู้สึกว่าผมกำลังน้อยใจ
“เรื่องของเรา มันยังคงเป็นเรื่องของเรา คำว่าเราคือคนสองคน มันหมายถึงคุณกับผมคนอื่นไม่เกี่ยว”เขาเอ่ยขึ้น ผมหันมองเขา ไม่เขาใจเลยสักนิดว่าเขาทำไมต้องทำให้ผมไม่เป็นตัวเองแบบนี้ เขาทำผมเหมือนคนบ้าที่อารมณ์ขึ้นลงเหมือนคนสติแตก
“อื้มมมมม”เสียงครางเบาๆในลำคอของผม เมื่อริมฝีปากของเขากลับประกบที่ริมฝีปากของผมอย่างตั้งตัวไม่ได้ ลิ้นร้อนของเขากลับทำให้ผมตอบสนองเขาอย่างลืมตัว และก็ลืมหัวใจของตัวเองไปด้วยว่าผมกำลังปิดกั้นมันอยู่ เพียงเพราะผมรักพี่กี้มาก แต่เมื่อวันนี้ผมไม่มีเขามากวนใจ ผมกลับไม่มีพี่กี้อยู่ในใจเช่นกัน ผมคิดถึงแต่เขา และก็ต้องการเขา
“ผมยังเหมือนเดิม เหมือนวันแรกที่ผมบอกคุณว่าผมชอบคุณ ผมต้องเจ็บแค่ไหนที่รู้ว่าคุณไม่คิดจะเปิดใจให้ผมเลย ผมพยายามที่จะไม่ยุ่งกับคุณ แต่เชื่อไหมผมทำไม่ได้ ผมทำไม่ได้ที่จะไม่คิดถึงคุณ ไม่มีเวลาไหนที่ไม่คิดถึงคุณเลยสักวินาที แม้จะรู้ว่าคุณเองไม่มีทางคิดถึงผม”เขาเอ่ยขึ้นหลังจากผละจูบ ผมมองไปยังดวงตาของเขาที่มองมาทางผม มีคำถามมากมายที่อยู่ในหัวแต่มันพูดออกมาไม่ได้ เพราะผมไม่อยากจะพูดออกมาแล้ว
“ความรู้สึกนี้คิดว่าคุณเป็นคนเดียวหรือไง”ผมเอ่ยขึ้นเบาๆ ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินไหมแต่ผมกลับดึงใบหน้าเขาเขามากดจูบเสียเอง และผมเองก็เป็นคนยื่นคีย์การ์ดให้เขาเอง พร้อมเชื้อเชิญให้เขาเข้ามาในห้องและนอนบนที่นอนของผม พร้อมร่างกายของผมเพราะหัวใจของผมเขาคงขโมยมันไปนานแล้ว
...............................

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #189 เมื่อ22-03-2018 19:40:11 »

ค้างๆๆๆๆๆๆ ต่อด่วนเลย ยังไงต่อน่ะ อิอิ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
« ตอบ #189 เมื่อ: 22-03-2018 19:40:11 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #190 เมื่อ23-03-2018 13:37:51 »

มอบหัวใจกันแล้ว ..

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #191 เมื่อ26-03-2018 19:50:19 »

Blue Lyrics 6 : ความกลัว  (นพเก้า xนาคิน)

นพเก้า พาร์ท
แม้ว่าเมื่อคืนผมและเขาจะมีอะไรเกินเลยมากกว่าจูบก็ตาม แต่ใจกลับไม่กล้าที่จะแทรกเข้าไปมากกว่าแค่ทำรักกันภายนอก เพราะผมกลัวเขาเจ็บ กลัวเขาไม่ประทับใจและกลัวเขาเพ้อเรียกชื่อใครคนนั้นแทนที่จะเป็นผม
“อื่ออออ”เสียงครางในลำคอของคนที่กำลังซุกตัวอยู่ที่อกของผม
ฟอดดดด
“พี่รักน้องบลูนะครับ”ผมเอ่ยขึ้นหลังจากกดจมูกที่ขมับของเขา ดวงตาที่ซ่อนเปลือกตาบางกำลังพักผ่อนอยู่ตอนนี้ ผมใช้นิ้วเกลี่ยที่แก้มขาวของเขาไปทั่วจนเจ้าเองรู้สึกเหมือนรำคาญนักเมื่อมือขาวปัดป่ายไปทั่ว แต่ผมว่าน่ารักชะมัดเลย
“หึๆ ตื่นได้แล้วครับ”ผมเอ่ยบอกคนที่พยายามกระพริบตาเพื่อปรับกับแสงจากข้างนอกก่อนจะหันมองผมและหลบสายตาทันที ใบหน้าแดงเห่อเมื่อผมเองยกยิ้มให้พร้อมกระชับอ้อมกอดไว้
“เป็นอะไร ทำไมไม่อยากมองหน้าพี่หรอ”ผมเอ่ยขึ้น เพราะตอนนี้เขากลับหลบสายตาผมทันทีที่สบตากัน
“ปะ...เปล่านี่ครับ”เขาเอ่ยอย่างไม่เต็มปาก ผมอดยิ้มกว้างไม่ได้เพราะเขาน่ารักเกินไปแล้ว
“เปล่าแล้วทำไมไม่มองหน้าพี่หล่ะ”ผมเอ่ยถาม
“คือ...ผมแค่รู้สึกผิด”ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาจะรู้สึกผิดเรื่องอะไร
“รู้สึกผิดเรื่องอะไร หื้ม”ผมถามเขาอย่างอ่อนโยน
“ก็เรื่องที่เกิดขึ้นกับเราสองคน เราไม่ได้ทำผิดกับอาจารย์แป้งใช่ไหมครับ”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาลงพร้อมซุกหน้าที่อกของผม
“อาจารย์แป้งเกี่ยวอะไรกับเราด้วยหรอ”ผมถามกลับเขา ผมยกยิ้มก่อนที่จะกดจูบที่ริมฝีปากของเขาหลังจากที่เอาเอ่ยออกมาเพียงคำเดียว
“ก็...”ลิ้นร้อนของผมแทรกเข้าสู่โพรงปากหวานนั้น โดยไม่รีรอให้ลิ้นเล็กของเขาหนีผม น้ำเชื่อมสีใสที่เยิ้มอยู่มุมปากของเราทั้งสอง
“อื่ออออ”เสียงครางท้วงเหมือนต้องการอากาศหายใจ ผมผละริมฝีปากออกแต่ไม่ได้ปล่อยให้ริมฝีปากเขาว่างนานเกิดวินาที ผมงับที่ริมฝีปากล่างของเขาและริมฝีปากบนอย่างห้ามอารมณ์ไม่อยู่ ถ้าผมอยากจะทำมากกว่าจูบและสัมผัสภายนอก
“อื้มมมมม”เสียงครางของผมเองที่ห้ามใจไม่ได้จริงๆ มือหนาของผมกลับสอดเข้าไปใต้ชายเสื้อบางของเขาก่อนจะลูบไล้ไปยังอกแบนราบนั้น แม้จะแบนราบผมก็ชอบนะ หลงใหลเลยก็ว่าได้ เม็ดทับทิมที่แปะอยู่บนอกนั้นยิ่งทำให้ผมอยากจะกัดมันอีกครั้ง
“อ๊าห์...”เสียงครางดังขึ้นสลับกันไปมาของผมและเขา เหมือนเพลงรักจะเริ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากเมื่อคืนผมกับเขาได้ทำกันเมื่อคืนนี้ แต่ผมมันโลภผมอยากทำมากกว่านี้
ร่างขาวบิดกายไปมาเมื่อลากลิ้นมาที่หน้าท้องแบนราบ ก่อนที่มือผมจะซนเพราะสมองมันสั่งผมว่าลองสัมผัสที่ช่องทางนั้นดู และมือผมก็กดเข้าที่ช่องทางนั้นจนตัวเขากระตุกตัว
“อ๊ะ...อย่าครับ”เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ มือขาวจับที่ไหล่ผมแน่นและเป็นเชิงบอกให้ผมหยุดมัน
“พี่ขอโทษนะ”ผมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด ก็เขาเพิ่งบอกผมเมื่อคืนนี้ว่าขอเวลาเขาทำใจสักหน่อย ผมเองที่มันบ้าบอไปเอง
“ผมก็ขอโทษครับ ที่ไม่สามารถให้พี่ได้มากกว่านี้”ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“พี่เข้าใจครับ พี่เองก็ต้องขอโทษด้วยที่ห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ พอดีพี่มีสอนบ่าย”ผมเอ่ยขึ้นบอก ที่จริงถามว่าน้อยใจไหมก็น้อยใจอยู่บ้างที่ผมเปิดใจกับเขาและเขาเองก็เปิดใจกับผมเรื่องของการคบกัน แต่ผมกลับรู้สึกน้อยใจ หรือที่จริงผมกำลังกลัวบางอย่างกันแน่
...
..
เกือบเดือนแล้วที่ผมและน้องบลูตกลงเป็นแฟนกัน แต่มันก็แค่สถานะแฟนที่ผมและเขาอยู่ด้วยกันสองคนเท่านั้น เขาขอร้องให้ผมอย่าเพิ่งบอกใคร รอให้เขารับปริญญาเรียบร้อยก่อน ข้อนี้ผมเองก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก จะรับไม่รับมันไม่เห็นเกี่ยวกับการเปิดตัวว่าเราสองคนเป็นอะไรกันไม่ใช่หรือไง
“ทำไมวันนี้อาจารย์เก้ามากับพี่บลูได้หล่ะคะ”เสียงของฟางเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นผมเดินลงจากรถมาพร้อมกับเขา
“อ่อ พอดีว่าอาจารย์เก้าเป็นอาจารย์โปรเจคของพี่ไง เลยมาด้วยกัน”เขาเอ่ยตัดบททันที
“อ้าว ไม่ใช่อาจารย์วรรษาหรอคะ”หญิงสาวเอ่ยถามย้ำ ผมยืนมองร่างสูงโปร่งข้างๆกำลังแก้ตัวอยู่นานจนผมนึกรำคาญว่าทำไมไม่บอกไปตรงๆหล่ะ หรือกลัวว่าคนอื่นจะมองเขาไม่ดี
“อ่อ พี่เพิ่งเปลี่ยนอ่ะ อาจารย์วรรษาท่าไม่ค่อยว่าง...”ผมส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากจุดสนทนาอย่างรู้สึกหงุดหงิด
“อาจารย์คะ”เสียงหญิงสาวเอ่ยขึ้น ผมไม่ได้หันมองทั้งคู่เลย เดินดิ่งขึ้นตึกไปทันที
“แค่บอกว่าคบกันมันยากตรงไหนว่ะ”ผมสบถกับตัวเองออกมา ดีว่าไม่มีอาจารย์ท่านใดเข้ามาตอนนี้
ติ้ง ติ้ง
น้องบลู : บลูทำอะไรให้พี่โกรธหรอครับ
ผมยกยิ้มออกมาทันที ไอ้ที่โกรธมันก็เสือกหายไปชะงั้นเมื่อได้เห็นข้อความของเขา แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไร อยากให้เขารู้ว่าผมรู้สึกยังไงตอนที่เขาไม่ยอมบอกใครว่าผมเป็นอะไรกับเขา
น้องบลู : พี่เก้าครับ ตอบบลูหน่อยสิ
“เฮ้ออออ ก็เพราะรักนะถึงยอมทุกอย่างแบบนี้”ผมยกยิ้มออกมา หลังจากเอ่ยขึ้นกับตัวเองและกดส่งข้อความออกไป
พี่เก้า : เย็นนี้อยากกินสเต๊กอ่ะ ทำให้กินหน่อยสิ
น้องบลู    : ครับ บลูไปทำเรื่องจบที่คณะเสร็จแล้วจะไปรอที่ห้างข้างๆนะครับ
ผมยกยิ้มออกมาอย่างมีความสุขถ้าตัดเรื่องที่เขาไม่ยอมบอกใครว่าผมกับเขาเป็นอะไรกัน ผมเองยิ่งมีความสุขมากกว่านี้
“พี่อยากรู้ว่าน้องบลูลืมผู้ชายคนนั้นได้จริงๆหรอ”ผมสบถกับตัวเอง มันเป็นสิ่งที่ผมอยากรู้มานานนับตั้งแต่เราสองคนเปิดใจให้กัน และผมเองก็สงสัยเช่นกัน เวลามีอะไรกันผมไม่เคยได้เข้าไปข้างในร่างกายของเขาเลยสักครั้ง ทุกครั้งเขาก็จะบอกผมว่าเขายังไม่พร้อม
หลังจากเลิกสอนช่วงสิบเอ็ดโมงผมก็รีบยกมือถือโทรหาน้องบลูทันที
“อยู่ไหนครับ”
(“อยู่ซูปเปอร์โซนใต้ดินครับ”)
“อิ้ม เดี๋ยวพี่ตามลงไปนะ”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะจับมือถือยัดใส่กระเป๋าและเดินไปชั้นใต้ดิน
ผมเห็นร่างสูงโปร่งตัวค่อนไปทางบางกว่าตัวผมกำลังเข็นรถเข็นอยู่ ผมยกมือขึ้นทันทีที่เราสองคนสบตากันต่างยกยิ้มออกมา ผมยกมือทักเขาและเดินตรงไปยังเขาทันที
“ซื้ออะไรไปบ้างแล้วหล่ะ”ผมเอ่ยถามเขาพร้อมกับจับรถเข็นมาเข็นเอง
“ก็วัตถุดิบทำสเต๊กอ่ะครับ พอดีป้าลินบอกว่าต้องหมักเองจะถึงเครื่องที่สุด”
“อ่อ...”ผมยิ้มออกมา
“พี่เก้าครับ ของใช้ที่บ้านก็หมดแล้ว เราซื้อไปพร้อมๆกันเลยนะครับ”
“ใช่สินะ งั้นน้องบลูจัดการเลยนะ พี่ยกตำแหน่งแม่บ้านให้น้องบลูไปแล้วนี่”ผมเอ่ยขึ้น ดูเขาหน้าจะขึ้นสีเล็กน้อย ผมโน้มใบหน้าลงต่ำอยากจะหอมแก้มเขาสักทีในฐานะที่เขาน่ารักเกินไป น่ารักเสียจนผมอดใจไม่ไหวแล้ว
“พี่เก้าอย่าสิครับ นี่มันห้างนะ”เขาเอ่ยอย่างเขินอาย
“ไม่มีหรอก พี่มองซ้ายขวาแล้ว ขอหอมทีดิ”ผมเอ่ยขึ้น มือบางยกหอมแดงขึ้นมาเป็นเชิงกวนๆ ผมยกยิ้มและชี้นิ้วไปที่หน้าเขาก่อนจะเอ่ยขึ้น
“หึ ร้ายชะมัดเลยนะ อย่าเผลอแล้วกัน”ผมเอ่ยขึ้น
“ไม่มีทางเผลอให้เห็นครับ”เขาลอยหน้าลอยตาทำน่ารักออกมาอีก ผมรวบเอวบางของเขาไว้แต่ยังไม่ทันที่ผมจะทำอะไรต่อจากนี้ เพราะเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นขัดจังหวะ
“อ้าว อาจารย์นพเก้ามาซื้อของหรอคะ”
“อาจารย์แป้ง”ผมเอ่ยออกมา แต่ร่างผมกลับเซตามแรงผลักของคนข้างๆ ผมหันมองเขาทันทีอย่างตกใจ นี่เขากลัวคนรู้ถึงขนาดนี้เลยหรอ เขาเองก็มองผมเช่นกัน สายตาจ้องมองไปยัง
“แล้วนี่มากับนาคินได้ยังไงคะเนี้ย”ผมละสายตาจากเขาก่อนจะหันไปหาอาจารย์แป้ง
“บังเอิญเจอกันครับ อาจารย์แป้งมาซื้อของหรอครับ”ผมหันมองตามเขาทันที บังเอิญหรอ เขาใช้คำนี้เพราะอะไร ผมชักสีหน้าทันทีก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ครับ พอดีเราสองคนบังเอิญเจอกัน แล้วอาจารย์แป้งก็มาซื้อของหรอครับ”แม้ผมเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าแต่สายตาผมก็ยังคงมองไปยังคนข้างๆที่ยังคงหลบตาผมอยู่
“คะ พอดีมาซื้อของใช้คะ”ผมยกยิ้มหวานให้เธอ ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีผมมีธุระ”ผมเอ่ยขึ้น ปรายตามองไปยังคนข้างๆ
“เธอจะกลับกับอาจารย์ไหม”ผมเอ่ยขึ้นถามเขา
“ครับ ผมขอตัวนะครับอาจารย์”เขาเอ่ยพร้อมเดินตามหลังผมมา รถเข็นถูกผมลากมากเข็นเองก่อนจะมาจุดจ่ายเงิน
“หนึ่งพันแปดร้อยบาทคะ”ผมยื่นเงินให้พนักงาน คนข้างๆก็ยังคงนิ่งอยู่ ผมถือของทั้งหมดมาใส่ท้ายรถก่อนจะขึ้นมานั่งบนรถ มือผมกำพวงมาลัยไว้แน่นก่อนที่มือขาวของคนข้างๆผมจะมากุมมันอีกที
“ไม่รู้หรอกว่าเหตุผลของบลูคืออะไร แม้พี่จะพยายามยอมรับสถานะแบบนี้แต่ก็ขอเวลาพี่บ้างก็ดีนะ”ผมเอ่ยขึ้น หน้าผากของผมซบที่พวงมาลัยรถ ก่อนที่หัวกลมจะซบมาที่ไหล่ผมอีกที
“บลูขอโทษครับ บลูมันขี้ขลาดเอง”ผมหันมองคนข้างๆ ก่อนจะดึงเขาเข้ามาสวมกอด
“พี่ไม่รู้หรอกว่าบลูกลัวอะไร หรือเคยเจออะไรกับความรักมาก่อน และพี่เองก็ไม่อยากคิดว่าที่บลูทำแบบนี้เพราะบลูยังรักผู้ชายคนนั้นอยู่ แต่พี่อยากบอกบลูกไว้อย่างนะ พี่รักบลู”ผมเอ่ยขึ้นสายตามองไปยังใบหน้าขาวที่ดวงตาฉ่ำไปด้วยน้ำตาแล้วตอนนี้
“พี่เก้า บลูขอโทษ”เขาเอ่ยขึ้น ผมกระชับกอดเขาแน่นก่อนจะเอ่ยขึ้น
“พี่ไม่รู้ว่าบลูจะให้ความรักพี่เต็มร้อยได้ตอนไหน  แต่แค่นี้พี่ก็โอเคแล้วแม้จะมีบ้างที่พี่เองก็อดคิดไม่ได้ว่าพี่จะมีวันนั้นมั้ย วันที่บลูจะรักพี่หมดหัวใจ”ผมเอ่ยขึ้น
--ห้าเดือน ต่อมา--
ความรักของผม ดูเหมือนมันมีอะไรซับซ้อนอยู่บ้าง แต่ผมเองก็ไม่อยากคิดมันแล้ว จากเดือนเป็นสองเดือนและตอนนี้ผมเองก็กำลังมองไปยังใบหน้าขาว รอยยิ้มหวานของคนที่ผมเรียกว่าลมหายใจของผม
“ไม่ไปถ่ายรูปกับเจ้าบลูหน่อยหรอ”ผมหันไปทางต้นเสียงของคุณกรีนที่เดินมาพร้อมไอ้กูรเพื่อนรักของผม
“ไม่ดีกว่าครับ ให้เขาได้ยิ้มอย่างมีความสุขแบบนี้ดีแล้ว”ผมเอ่ย สายตาก็ยังคงจับจ้องไปยังเขา
“จะครึ่งปีอยู่แล้วนะ มึงยังจะคิดมากอีกหรอเรื่องนั้นอ่ะ”ไอ้กูรเอ่ยถามผม
“คุณเก้าครับ ที่จริงเจ้าบลูรักคุณนะครับ แม้จะไม่กล้าบอกใครต่อใครว่าเขามีคุณ แต่พวกเรารู้ดีว่าเจ้าบลูมันมีความสุขมากแค่ไหนที่มีคุณ”ผมนิ่งไปกับคำพูดของคุณกรีน แต่ก็แค่คุณกรีนพูด ที่จริงผมอยากให้เขาพูดเองมากกว่าว่าเขารักผม และเขาเป็นของผม เป็นของผมแค่คนเดียวไม่ใช่มีใครคนนั้นอีก
ริมสระน้ำบ้านหลังใหญ่ งานเลี้ยงเล็กๆถูกจัดขึ้นมีเพียงบรรดาพี่น้องเท่านั้นที่มาร่วมงาน ผมเองก็ถูกเชิญมาด้วย และผมเองก็ยังคงจำคำของเขาได้ดีว่า เมื่อเขาเรียนจบ เขาจะบอกเรื่องของเราทั้งสองกับพี่น้องของเขา ผมเองกำลังรอช่วงเวลานั้น
“โตแล้วนะ เรียนจบแล้วรับผิดชอบตัวเองได้แล้วนะเรา”
“โธ่ เฮียก็ เค้าก็รับผิดชอบตัวเองอยู่นี่ไงครับ”
“นี่จะเรียนต่อหรือจะทำงานก่อนหล่ะครับ”ไอ้กูรมันเอ่ยถามขึ้น
“ว่าจะไปช่วยเฮียที่บริษัทก่อนนะครับ เรื่องเรียนต่อยังไม่ได้คิดเลย”เขาเอ่ยขึ้น ผมยกยิ้มกับความน่ารักของเขากอ่นที่เสียงหวานของหนูพิ้งค์จะเอ่ยขึ้น
“งั้นเฮียก็หาพี่สะใภ้ให้เค้าก่อนสิ แล้วค่อยคิดจะเรียนต่ออ่ะ”
“ใช่สินะ ตั้งแต่กี้จากไป เจ้าบลูก็ไม่มีใครเลยนี่ ว่าแต่เรามีใครบ้างหรือยัง”เสียงของคุณอนาคินเอ่ยขึ้น ผมใจเต้นแรงทันทีเมื่อเขาส่งสายตามาทางผม ไม่รู้จะทำหน้าตาแบบไหนดี เมื่อถึงเวลาที่ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าผมกับเขาเป็นอะไรกัน
“ไอ้เก้า มือมึงเย็นมากเลยว่ะ”เสียงไอ้กูรกระซิบบอกผม มีแค่คุณกรีนและไอ้กูเท่านั้นที่ผมเล่าเรื่องราวของผมและเขาให้ฟัง
“ตื่นเต้นว่ะ”ผมกระซิบบอกเพื่อนรักก่อนจะยกยิ้มให้กับเขา
“เฮียแบล็คถามก็ตอบไปสิ หรือว่ายังตัดใจจากกี้ไม่ได้”คุณหมอเอ่ยขึ้น ใจผมมันเต้นแรงกกว่าเดิม และมันก็หน่วงหนักกว่าเดิมเมื่อคิดๆดูแล้ว ครอบครัวของเขารู้จักผู้ชายคนนั้น แสดงว่าเขาก็คงเปิดเผยตั้งแต่คบกันหล่ะสิ แต่กับผมเกือบครึ่งปีที่เขาปิดบังครอบครัวเขา ผมยืนที่นี่ในฐานอาจารย์นพเก้า เพื่อนของแฟนคุณกรีนเท่านั้นหรอ
“โธ่ พี่หมอก็ พี่กี้ออกจะแสนดีขนาดนั้น เป็นใครจะลืมได้ลงล่ะ ใช่ป่ะเฮียบลู”เสียงหวานหนูพิ้งค์เอ่ยขึ้น คุณกรีนกับไอ้กูรหันมองผมที่ตอนนี้ใบหน้าจากยิ้มเป็นซีดเผือก มือกำเข้าหากันแน่น เขาหันมองผมที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขาอย่างลังเลใจ
“เอ่อ...คือ...”เขายังคงอ้ำอึ้งอยู่ ผมเริ่มจุกที่อกแล้วตอนนี้ เขาไม่กล้าที่จะบอกทุกคนว่าผมกับเขาเป็นอะไรกัน นี่ผมยอมเขามาเกือบครึ่งปีกับการหลบๆซ่อนๆ กับการที่ได้สัมผัสกันแค่จูบกอด เท่านั้นหรอ ผมไม่รีนอให้เขาเอ่ยต่อผมจึงเอ่ยขึ้นกลางวงสนทนาทันที
“เอ่อ ขอโทษด้วยนะครับ เห็นทีผมจะต้องขอตัวก่อน พอดีผมนึกขึ้นได้ว่ามีธุระอ่ะครับ”ผมไม่รอให้ใครอนุญาต พาร่างของตัวเองดิ่งไปที่รถทันที
“ไอ้เก้า...”ไอ้กูรมันตะโกนเรียกผม แต่ผมไม่ได้สนใจ เพราะผมรู้สึกหูอื้อไปหมด ไม่อยากจะทำอะไรแล้ว
“พี่เก้าครับ”เสียงหวานของเขาที่ผมจำได้ดีเอ่ยเรียกผมเมื่อผมมาถึงที่รถแล้ว แต่ผมไม่ได้เปิดประตูหรือกระจกรถแต่อย่างใด แววตาของเขาที่รู้สึกผิดแต่มันก็แค่ภาพลวงตาที่ผมเห็นเท่านั้น
“ในใจของบลูไม่เคยมีพี่เลยสักครั้ง พี่ไม่มีทางได้หัวใจบลูเลยสักนิด”ผมเอ่ยออกมาก่อนจะขับรถออกจากบ้านหลังใหญ่นั้นไป และก็น่าจะพอแล้วสำหรับความรักที่ผมหวังเพียงข้างเดียวแบบนี้
“ไม่มีทางจะรักพี่ได้ ทำไมถึงให้ความหวังพี่หล่ะ ทำไมใจร้ายกับพี่นัก”
................................................
 "จงอย่ากลัวความรัก"

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #192 เมื่อ27-03-2018 11:36:04 »

สู้ๆ กับ ความรัก ..

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #193 เมื่อ27-03-2018 19:01:20 »

ลุ้นต่อ

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #194 เมื่อ28-03-2018 16:30:23 »

 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #195 เมื่อ29-03-2018 12:14:16 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #196 เมื่อ31-03-2018 20:25:35 »

Blue Lyrics 7 : ผลที่ได้ (นพเก้า xนาคิน)

นาคิน พาร์ท
ผมไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนี้เลยจริงๆ ผมมันพวกขี้ขลาดที่ไม่กล้าเอ่ยออกมาว่าพี่เก้ากับผมเป็นอะไรกัน ไม่กล้าที่จะให้เขาล้ำเส้นเข้ามาถึงขั้นนั้น และไม่กล้าที่จะเอ่ยว่าเขาคือชีวิตของผม ลมหายใจของผม
“มานั่งทำอะไรตรงนี้ หื้ม”ผมหันมองเฮียกรีนที่เดินถือของว่างเข้ามา ผมมาหาเฮียตั้งแต่เช้าหลังจากที่ผมแวะไปหาพี่เก้าบ้าน แต่ผมก็ไม่พบเขา
“เฮีย พี่เก้าต้องโกรธเค้ามากแน่ๆเลย เขาไม่ยอมรับสาย ไม่ยอมอ่านข้อความ ไม่ยอมออกมาพบและหลบหน้าเค้า เกือบสองเดือนแล้วนะ”ผมกังวลทำอะไรไม่ถูกจริงๆ หลังจากวันนั้น
--วันเกิดเหตุ--
“ใช่สินะ ตั้งแต่กี้จากไป เจ้าบลูก็ไม่มีใครเลยนี่ ว่าแต่เรามีใครบ้างหรือยัง”
“เฮียแบล็คถามก็ตอบไปสิ หรือว่ายังตัดใจจากกี้ไม่ได้”
“โธ่ พี่หมอก็ พี่กี้ออกจะแสนดีขนาดนั้น เป็นใครจะลืมได้ลงล่ะ ใช่ป่ะเฮียบลู”
“เอ่อ...คือ...”
“เอ่อ ขอโทษด้วยนะครับ เห็นทีผมจะต้องขอตัวก่อน พอดีผมนึกขึ้นได้ว่ามีธุระอ่ะครับ”
“พี่เก้าครับ”ผมวิ่งตามเขาออกมาแต่สายตาเขาที่มองผมผ่านกระจกรถนั้นมันแฝงไปด้วยความผิดหวัง ใช่ว่าผมไม่อยากจะบอกว่าเขาเป็นคนที่ผมรักมากที่สุดตอนนี้หรอกนะ แต่ผมยังคงอ้ำอึ้งอยู่นั้น เพราะความรู้สึกกลัว ผมกลัวว่าถ้าผมเสียเขาไปเหมือนที่ผมเสียพี่กี้ไปผมจะทำยังไง
“เจ้าบลู…”เสียงพวกพี่ๆผมวิ่งตามเข้ามาสมทบ
“ผมต้องขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับ”พี่กูรเอ่ยขึ้น ผมที่น้ำตากำลังไหลออกมาหันมองพี่ๆทุกคนก่อนจะซบหน้าลงที่อกเฮียกรีน
“ฮึกๆ เขาจะทิ้งบลูไปเหมือนที่พี่กี้ทิ้งบลูไปใช่ไหม”
“ไม่หรอก เฮียว่าคุณเก้าคงกำลังโกรธมากกว่า เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยไปปรับความเข้าใจกับเขานะ”
“สรุปแล้ว เรื่องราวมันเป็นยังไงกัน เจ้าบลูเล่าให้เฮียฟังหน่อย”เฮียแบล็คเอ่ยขึ้น
ผมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พวกพี่น้องผมฟัง สิ่งที่มันน่ากลัวที่สุดคือการจากลา ผมกับพี่กี้เคยรักกันมาก พี่กี้เป็นรุ่นพี่สมัยมัธยม ผมอยู่โรงเรียนประจำพี่กี้ช่วยเหลือผมดีกับผมเสมอต้นเสมอปลายแต่เราไม่กล้าที่จะเปิดเผยให้ใครรู้ เพราะพี่กี้กลัวว่าที่บ้านของเขาจะทราบเรื่อง จนวันหนึ่งผมชวนพี่กี้ไปทานข้าวที่บ้าน และแนะนำให้ลูกจักกับครอบครัวของผม ในฐานะแฟนซึ่งพ่อแม่ผมไม่ได้ว่าอะไร ครอบครัวผมรับได้แต่ใครจะรู้ว่าวันนั้น แขกที่พ่อและแม่ผมเชิญมาทานข้าวด้วยจะเป็นพ่อแม่ของพี่กี้เอง ทำให้เรื่องของเราเปิดเผย และสิ่งที่ผมคาดไม่ถึงคือพี่กี้ฆ่าตัวตาย เพราะโดนที่บ้านและสังคมรอบข้างมองพี่กี้เหมือนเชื้อโรค นี่คือสิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือถ้าผมกับพี่เก้าบอกคบกัน และต่อจากนี้ชีวิตเราจะเป็นยังไง และผมต้องเสียพี่เก้าไปอีกคน
+++
“ฮึกๆ บลูกลัว กลัวว่าเขาจะทิ้งบลูไปเหมือนพี่กี้”ผมซบหน้าที่อกของพี่ชายตัวเอง
“เชื่อเฮียสิ ว่าคุณเก้าไม่มีทางทำแบบกี้แน่นอน กี้มันขี้ขลาดเกินไป”
“เหมือนเค้าตอนนี้ไง ที่มันขี้ขลาด เค้ามันบ้าไงเฮีย น่าจะเชื่อมั่นคนที่รักเรา แต่เฮียดูสิ ดูว่าน้องชายเฮียทำอะไรออกไป พี่เก้าทิ้งบลูไปแล้วทิ้งทั้งๆที่ยังหายใจอยู่ บลูคิดถึงเขาอ่ะเฮีย”ผมเอ่ยขึ้นจากใจ น้ำตาที่เอ่อออกมามันกำลังล้นออก ก่อนที่เสียงของพี่เขยผมจะเอ่ยขัดขึ้น
“คุณบลู ทราบเรื่องหรือยัง”ผมหันมองตามเสียงที่เอ่ยหน้าตาตื่นของพี่กูร
“เรื่องอะไรครับ”ผมเอ่ยขึ้นถามทันที
“เรื่องของไอ้เก้า”ผมใจหล่นวูบทันที ผมกลัวว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นกับผมอีกครั้ง ผมรีบวิ่งไปหาพี่กูรและคั้นเอาคำตอบ
“เรื่องของพี่เก้า เรื่องอะไรหรอครับพี่กูร พี่เก้าเป็นอะไร พี่กูรบอกผมสิครับ”ผมเอ่ยออกจาอย่างใจร้อนจนเฮียบลูเอ่ยขึ้น
“ใจเย็นๆบลู”ผมหันมองพี่ชายตัวเองก่อนจะร้องไห้ออกมา ผมกลัวแล้วจริงๆกลัวว่าผมจะไม่มีเขาอยู่แล้วตอนนี้
“ไอ้เก้าไม่ได้เป็นอะไร แต่ว่า...”พี่กูรลากเสียงค้างไว้จนผมเองกลัวยิ่งกว่าเดิม
“แต่ว่าอะไรครับ”เสียงเฮียกรีนเอ่ยถามบ้าง ซึ่งผมเองก็ยังคงบีบมือตัวเองไปมาอย่างรู้สึกกลัว น้ำตาก็ยังไหลเป็นทาง
“แต่ว่าไอ้เก้ามันกำลังจะแต่งงาน”สิ้นเสียงพี่กูร ผมเองจับจุดไม่ถูกเลยว่าตัวเองต้องโกรธ โมโห หรือเสียใจดี ผมเดินไปนั่งทั้งๆที่เข่าอ่อนแรงหมด
“แต่งงานหรอ...”ผมอุทานออกมาเบาๆพร้อมจับแหวนที่นิ้วของตัวเองไปมา แหวนที่พี่เก้าซื้อให้ผมและก็เป็นแหวนที่พี่เก้าบอกว่าจองผมไว้ก่อน ผมกับพี่เก้ามีแหวนแบบเดียวกันคนละวง มันคือแหวนแทนใจของผมและเขา
“แต่งงานหรอ แต่กับใคร?”เสียงเฮียกรีนเอ่ยขึ้น แต่ผมกลับไม่ไม่ได้ยินเพราะตอนนี้ผมเหมือนกำลังตกลงไปในหลุมดำ
“เห็นไอ้เบียร์มันบอกว่า กับอาจารย์ที่ทำงานด้วยกันอ่านะ แต่ผมก็ไม่แน่ใจหรอกเพราะตอนนี้ผมยังไม่เจอไอ้เก้ามันเลย”พี่กูรเอ่ยออกมา ผมขมวดคิ้วเข้าหากันทั้งน้ำตา อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยอย่างงั้นหรอ
“อาจารย์แป้ง”ผมสบถออกมาเบาๆ ยิ่งคิดได้แบบนั้นใจผมมันก็หน่วงจนเจ็บไปหมด
“บลู...”
“คุณบลู”เสียงพี่ชายและพี่เขยของผมเอ่ยเรียก ผมยังคงนั่งนิ่งอยู่ก่อนที่เอ่ยขึ้น
“เฮีย คืนนี้เค้าขอค้างที่นี่นะครับ”ผมเอ่ยขึ้น
“อื้ม เดี๋ยวเฮียไปเตรียมห้องให้แล้วกัน”ผมพยักหน้าก่อนจะหันไปมองสายน้ำนั้นดังเดิม น้ำตามันยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ผมเจ็บร้าวไปหมดแล้ว
“ไหนพี่บอกว่ารักบลูไงครับ แล้วทำไมพี่ถึงไปแต่งานกับคนอื่นหล่ะครับ”ผมเอ่ยออกมากับรูปที่อยู่ในมือถือ ข้อความที่ผมส่งไป เขาไม่อ่านเลยสักครั้ง
ช่วงค่ำผมนั่งเขี่ยข้าวในจานไปมา กลืนก็กลืนไม่ลง มันหน่วงไปหมด พูดอะไรไม่ออก ทั้งพี่กูรและเฮียกรีนก็ยังคงปลอบผมอยู่เรื่อยๆ
“แค่ไอ้เบียร์มันพูดนะ ไม่รู้จริงหรือเปล่า”พี่กูรเอ่ยขึ้น
“ใช่สิ ถ้าคุณเก้าจะแต่งงานก็ต้องมาบอกเราสิ อย่างน้อยกูรก็เป็นเพื่อนสนิทของคุณเก้า”เฮียบลูเอ่ยออกมา มันก็จริงนะ ผมเองทำไมคิดไม่ได้นะ พรุ่งนี้ผมจะไปหาเขาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง
….
..
ผมขับรถมาที่มหาวิทยาลัย จอดรถในพื้นที่คุ้นเคยและยกยิ้มทันทีที่ผมเห็นรถของเขามาจอดเทียบข้างๆ ผมรู้ว่าเขาเองก็รู้ว่าผมอยู่ในรถ ผมกำลังจะลงจากรถเพื่ออยากไปเคลียกับเขา
“พี่เก้า”ผมเอ่ยเรียกเขา ตั้งใจจะเดินเข้าไปสวมกอดเขาโดยไม่อายใคร แต่เขากลับถอยออกจากผม ขาผมสั่นหน้าร้อนไปหมด
“ทำไมพี่เก้าหนีบลูหล่ะครับ”ผมเอ่ยถามเขา
“บลูไม่กลัวอายคนอื่นหรอ ที่มากอดผู้ชายด้วยกัน”ถามว่าเจ็บไหม บอกเลยว่าเจ็บมากแต่โทษเขาก็ไม่ได้เพราะผมเองที่มันขี้ขลาด แต่นั่นมันเมื่อก่อน สำหรับตอนนี้ผมอยากกอดเขา คิดถึงเขามาก
“ไม่เลย บลูรู้แล้วว่าบลูแคร์พี่เก้า บลูไม่อายใครทั้งนั้นแล้ว”ผมเอ่ยขึ้น น้ำตามันออหน่วยออกมา
“แน่ใจหรอ”เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา ใบหน้าดูเยาะเย้ยไม่เชื่อผม ยิ่งทำให้ผมวูบไปทั่วร่างผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะเอ่ยขึ้น
“แน่ใจสิครับ จะให้ผมทำอะไรผมก็ยอม”ผมเอ่ยขึ้น
“ให้ทำอะไรก็ยอมหรอ ทุกอย่างเลยใช่ไหม”เขาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ครับ ทุกอย่างแล้วแต่พี่เก้าบอก ขอแค่พี่เก้าอย่าหนีบลูอีกก็พอ”ผมเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง ลืมคำถามที่ว่าเขาจะแต่งงานไปเสียสนิท
“งั้นทุ่มตรงไปพบพี่ที่โรงแรมXXX แล้วค่อยคิดว่าจะทำได้ไหม”ผมพยักหน้าก่อนจะมองเขาเดินออกไป

ช่วงทุ่มของวันเดียวกัน ผมขับรถมาตามนัดที่พี่เก้านัดผมไว้ ผมยกมือถือขึ้นมากดหาพี่เก้าเพื่อจะบอกว่ามาถึงแล้ว
“พี่เก้าครับ บลูมาถึงแล้ว โรงแรมXXXใช่ไหมครับ”
(“ใช่ เข้าไปรอพี่ที่ห้องอาหารก่อน เดี๋ยวพี่ตามเข้าไป”)
ผมวางสายเรียบร้อยก็เดินเข้าไปห้องอาหารของโรงแรม เอ่ยบอกบริกรว่าจองไว้ เขาก็พาผมเข้าไปนั่งรอ บรรยากาศดีชะมัดเลย ผมยกยิ้มออกมา ที่จริงผมน่าจะเอ่ยออกไปตรงๆตั้งแต่แรก เพราะยังไงพี่เก้าก็ชัดเจนกับผม
“เรามันโง่เอง ที่กลัวไม่เข้าเรื่อง”ผมเอ่ยออกมาเบาๆก่อนจะตกใจเสียงคุ้นเคยเล็กน้อย
“สั่งอะไรหรือยัง”เขาเอ่ยถามผม ผมหันมองเขาด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะหุบยิ้มทันทีเพราะเขาไม่ได้มาแค่คนเดียว เขาพาอาจารย์แป้งมาด้วย นี่สินะที่เขาอยากจะบอกผมและให้ผมรู้
“หวัดดีจ๊ะนาคิน แหมไม่คิดว่าจะเจอเธอเลยนะ ตอนนี้ทำงานเป็นไงมั้งเห็นเก้าบอกว่าเธอทำงานกับบริษัทที่บ้าน”เก้าหรอ เรียกชื่อกันสนิทขนาดนี้ผมเองไม่น่าต้องเดาอะไรอีกแล้ว แบบนี้ใช่ไหมที่เขากำลังจะบอกผม
“ครับ แล้วอาจารย์กับพี่เก้ามาด้วยกันหรอครับ”ผมเอ่ยขึ้น สายตาองไปยังเขาที่นั่งยกยิ้มมุมปากอยู่
“อ่อ ใช่จ๊ะพอดีมาดูสถานที่จัดงานอ่ะ”ใจผมยิ่งเต้นแรง ผมลืมเรื่องที่เขาจะแต่งงานไปสนิท มือชาหน้าชาไปหมด ผมมองไปยังทั้งสองตรงหน้าน้ำตาเจ้ากรรมมันกำลังจะไหลออกมา แต่ผมต้องพยายามข่มมันไว้ สักพักเสียงมือถือของอาจารย์แป้งดังขึ้น
Rrrrrrrrrrrrr
“ขอตัวแปบนะ”ผมยังคงจองไปยังคนตรงหน้าไม่ได้สนใจว่าอาจารย์แป้งจะออกไปตอนไหน มือผมกำกันไว้แน่นก่อนจะเอ่ยขึ้น
“นี่สินะครับ เรื่องที่พี่จะบอกบลู ขอให้พี่มีความสุขมากๆนะครับ”ผมเอ่ยออกมาอย่างแสนลำบาก เขาเองก็ไม่ได้เอ่ยอะไรยิ่งทำให้ผมเจ็บมาก
“ขอโทษทีนะเก้า พอดีมีธุระด่วนมากอ่ะ ต้องกลับก่อนนะ อาจารย์กลับก่อนนะนาคิน ยังไงอาจารย์เรียนเชิญงานแต่งอาจารย์ด้วยนะ”อาจารย์แป้งเอ่ย ผมตอบกลับไปเบาๆก่อนที่คนตรงหน้าผมจะเอ่ยขึ้น
“งั้นเดี๋ยวไปส่ง”ไม่เอ่ยเปล่า มือหนาดึงกระเป๋าของอาจารย์แป้งไปถือและเดินออกไปทันทีโดยไม่ทันมามองผมนั่งนิ่งเหมือนตัวเองเป็นอากาศ
“นี่หรอสิ่งที่พี่จะบอกบลู นี่หรอสิ่งที่เราต้องการ”ผมเอ่ยออกมากับตัวเอง ผมไม่ได้ลุกไปไหนยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นเกือบสิบนาที ก่อนที่จะเรียกบริกรเพื่อเก็บเงิน
“น้องครับ…”ผมเอ่ยขึ้น แต่ร่างสูงของพี่เก้ากลับปรากฏอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้
“จะสั่งอะไรเพิ่มหรอ ที่มีอยู่ยังไม่ได้กินเลยไม่ใช่หรอไง”ผมอ้าปากค้าง มองไปยังคนข้างหน้า นี่เขาไม่ได้กลับกับอาจารย์แป้งหรอกหรอ
“อ้าปากขนาดนั้น เดี๋ยวแมลงวันก็เข้าไปในปากหรอก”เขาเอ่ยขึ้น ใจผมเต้นแรงกว่าเดิมเมื่อเขานั่งข้างๆผมและยกอาหารของตัวเองมานั่งทานข้างๆผม
“ไม่ได้ไปส่งอาจารย์แป้งหรอครับ”ผมเอ่ยถาม
“ไม่อ่ะ เธอเอารถมา”เขาเอ่ยพร้อมยังตักอาหารทานต่อ
“อ้าว ไม่ได้มาด้วยกันหรอครับ”ผมถามขึ้น
“บลูไปส่งพี่ที่บ้านได้ไหม”เขาเอ่ยขึ้น ผมเม้มริมฝีปากเข้าหากันมองไปยังใบหน้าเสี้ยวหนึ่งของเขา
“ได้ครับ”ผมเอ่ยขึ้น
ผมนั่งมองถนนที่เคยคุ้นเคย ทางกลับบ้านของเขา ในใจมีคำถามมากมายจะถามเขา ทำไมเขาถึงเลือกแต่งงานกับอาจารย์แป้ง ทำไมเขาถึงโกรธผมมากกับความไม่ชัดเจนของผม
“พี่เก้าไม่คิดจะบอกบลูสักนิดหรอครับ เรื่องแต่งงาน”ผมเอ่ยขึ้นเมื่อรถมาจอดเทียบหน้าบ้านของเขา
“แล้วทำไมพี่ต้องบอกบลูด้วยหล่ะ”ผมน้ำตาคลอเบ้าพร้อมจะไหลออกมา
“พี่เก้า โกรธบลูมากหรอครับ ที่บลูมันขี้ขลาดไม่กล้าที่จะเปิดเผยเรื่องของเรา”ผมเอ่ยขึ้นทั้งๆที่น้ำตามันไหลออกมาแล้ว
“พี่ไม่โกรธบลู แต่พี่โกรธตัวเอง โกรธตัวเองที่คิดว่าเรารักกัน”เขาเอ่ยก่อนจะเดินลงจากรถไป ผมหลับตาพร้อมพ่นลมหายใจออกมา
ฟู่วววววว
“บลูรักพี่นะครับ รักมากด้วย”ผมเอ่ยบอกรักเขาในวันที่เขาไม่ได้รักผมแล้ว
“ฮึกๆ…”ผมสะอื้นออกมาเบาๆ ผมคงไม่มีวันได้เข้าไปนั่งในหัวใจเขาอีกแล้ว ผมไม่มีวันที่จะได้กอดเขาและมีเขามากวนหัวใจอีกแล้ว มันก็สมแล้วกับความขี้ขลาดของผมเอง
……………………

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #197 เมื่อ01-04-2018 07:52:41 »

 :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #198 เมื่อ01-04-2018 09:16:06 »

ความจริงเจ้าบ่าวของอาจารย์แป้งไม่ใช่เก้าหรือเปล่า

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #199 เมื่อ01-04-2018 09:41:15 »

มางานของอาจารย์แป้ง ..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
« ตอบ #199 เมื่อ: 01-04-2018 09:41:15 »





ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #200 เมื่อ01-04-2018 10:00:41 »

พี่เก้ามีแผนแน่ๆๆๆ
อย่าปล่อยให้น้องบลูกลับ
ลุ้นนนน

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #201 เมื่อ04-04-2018 19:58:43 »

Blue Lyrics 8 : แกล้ง (นพเก้า xนาคิน)
[/size]

นพเก้า พาร์ท
ติ๊ดๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆ
เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ดังอย่างต่อเนื่อง ผมกระชับอ้อมกอดคนที่ซุกกายเข้าหาผมตอนนี้ แต่ผมเองก็ยังไม่ปิดเสียงรำคาญนั้น จนเสียงงัวเงียคนในอ้อมกอดผมเอ่ยขึ้น
“งื้อออ ปิดเสียงเร็ว” ร่างบางที่อยู่ในอ้อมอกพูดเบาๆอย่างงัวเงีย และยังคงซุกไซร้หาความอบอุ่นต่อไป
“อือ”  ผมหยีตาขึ้นมาดูหน้าจอโทรศัพท์ พบว่าตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเช้า ปิดนาฬิกาปลุกอย่างลวกๆแล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม ก่อนจะกระชับร่างในอ้อมกอดในแน่นขึ้น หลับตานอนต่อ
“งือออ ปล่อยบลูก่อนได้ไหมครับ” เขาเอ่ยขึ้นอย่างน่ารัก ผมกระชับอ้อมกอดพร้อมยกยิ้มออกมา
“ปล่อยบลูนะครับ บลูอยากอาบน้ำ”เขาเอ่ยขึ้นพร้อมเบือนหน้าออก แก้มแดงที่ออกสีระเรื่อของเขาทำให้ผมหลงใหลเขายิ่งกว่าเดิม
เมื่อคืน หลังจากที่ผมเดินลงมาเปิดประตูบ้าน ผมแอบสังเกตเห็นว่าเขากำลังร้องไห้ ผมเองก็ไม่ได้ใจร้ายกับเขาเลยสักนิด ที่แกล้งเขาแบบนั้น ไม่ได้ตั้งใจอยากให้เขามีน้ำตา แต่อย่างที่คุณกรีนบอกผมว่าอย่างน้องบลูต้องทำให้รู้สึกว่าเสียของรักไป ถึงจะกล้าที่เอ่ยหรือทำอะไรออกมา
“พี่ไปอาบด้วยสิ”ผมเอ่ยขึ้น แอบเห็นว่าเขาอมยิ้มใบหน้าแดงจัดอีกครั้ง
“จะบ้าหรอครับ”น้องบลูน่ารักมาก ผมรักเขามากข้อนี้เขาเองก็รู้ดี และผมเองก็มั่นใจว่าเขาเองก็รักผมมากเช่นกัน เพราะเมื่อคืนเขาเอ่ยกับผมหลังจากที่เราทำรักกันเสร็จ ว่าเขารักผม และรักมากด้วย
“อายหรอ อายทำไมกัน เห็นกันมาหมดแล้วนี่”ผมเอ่ยขึ้น
“พอเลยครับ จะพูดให้อายทำไมกัน บลูยังโกรธเรื่องที่พี่เก้าโกหกบลูอยู่เลยนะ”เขาเอ่ยขึ้น พร้อมผละออกจากอกผม แต่ผมก็ยังรั้งเขาเข้ามาสวมกอดอยู่ดี
ฟอดดดด
“ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้พี่จะรู้หรอว่าน้องบลูรักพี่แค่ไหน พี่จะได้เห็นมุมของน้องบลูที่กล้าตะโกนบอกรักพี่หน้าบ้านหรอ”ผมเอ่ยขึ้นดูท่าทางเขาจะเขินมากทีเดียว เมื่อคืนกว่าจะเคลียกันได้ ผมแกล้งเขาจนร้องไห้เสียน้ำตาเป็นปิ๊บหน่ะ แต่มันก็คุ้มกับการแกล้งครั้งนี้ เพราะมันได้มาซึ่งคนที่ผมรักและเขาก็รักผม
“พี่เก้าครับ...”เขาเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบาลงพร้อมซบหน้าที่อกของผม
“หื้ม...เป็นอะไรอีกหล่ะ พี่ขอโทษนะที่แกล้งเราแบบนั้น”ผมเอ่ยขึ้นขอโทษ กลัวว่าเขาจะนอยด์เรื่องที่ผมแกล้งจริงๆ
“เปล่าเรื่องแกล้งครับ”เขาเอ่ยขึ้น ผมกระชับกอดแน่น
“แล้วเรื่องอะไรหรอ ดูท่าทางหนักใจ”ผมเอ่ยขึ้นตามตรง
“พี่เก้าโกรธบลูไหม ที่บลูไม่กล้าจะให้สิ่งนั้นกับพี่ ไม่กล้าให้พี่ทำรักมากกว่านั้น”ผมจับเขามาเผชิญหน้าและมองใบหน้าขาวของเขา ก่อนจะกดจูบที่หน้าผากเขาเบาๆ
จุ๊บ
“อย่าคิดมากสิ เรื่องนั้นมันไม่สำคัญสำหรับพี่เลยสักนิด แค่บลูอยู่ข้างๆพี่ ยอมรับกับทุกคนว่าพี่คือใคร และเราสองคนรักกัน แค่นี้พี่ก็พอใจแล้ว”ผมเอ่ยขึ้น เขายกยิ้มออกมา ผมกดหน้าผากทับหน้าผากเขาพร้อมถูจมูกไปมาที่ปลายจมูกเขา
“พี่รักน้องบลูนะ”ผมเอ่ยขึ้น มือเรียวขาวจับที่ใบหน้าผมไว้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเช่นกัน
“บลูก็รักพี่เก้าครับ”ผมยกยิ้มก่อนที่เขาจะรั้งใบหน้าผมเข้าไปกดจูบ ผมแอบตกใจเล็กน้อยที่ลิ้นร้อนของเขากำลังสอดเข้าสู้โพรงปากของผม ลิ้นเล็กที่จูบยังไงก็ไม่ชำนาญนักแต่ก็ทำให้ผมพอใจ ผมดึงร่างของเขาเข้ามานั่งที่ตักของผมอย่างอัตโนมัติ เสียงครางเบาๆที่หลุดรอดออกมาทำให้ผมเองรู้สึกต้องการนัก
“อ่าห์...”
“ยังไม่ต้องอาบน้ำเนอะ...”ผมเอ่ยขึ้นพร้อมยกยิ้มกับคนบนตัก เรียวแขนโอบรอบคอผมแน่น รอยยิ้มเชื้อเชิญบางอย่างทำให้ผมใจเต้นแรง และก็รู้สึกแปลกๆกับรอยยิ้มนี้
“พี่เก้า บลูรักพี่ครับ”เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกดจูบผมทันที แล้วผมจะรออะไรหล่ะ ผมจับเขานอนราบกับที่นอน แสงตะวันที่สาดแสงเข้ามาในห้อง ยิ่งทำให้ผิวขาวๆของเขา และผมเองก็แอบตกใจครั้งที่สอง เมื่อเขากลับพลิกผมมานอนใต้ร่างแทน
“อ๊ะ...”ผมสบถออกมา สายตามองไปยังคนจอมยั่วที่อยู่ข้างบน เขายกยิ้มหวานออกมา ทำเอาผมใจเต้นระรัว ผมเองก็ยกยิ้มอย่างพอใจเช่นกัน
“จัดการพี่เลยสิ ที่รัก”ผมเอ่ยออกมายั่วๆ ในใจอยากจะให้เช็กส์ครั้งนี้เป็นเซ็กส์ที่ผมได้ครอบครองเขาถึงข้างใน ผมคงจะฟินน่าดู แต่แค่ริมฝีปากนุ่มนิ่มออรัลให้ผมเองก็เสียวจับใจแล้ว จะยังไงก็ได้ถ้าเป็นเขา ผมยอมทั้งนั้น
มือบางของเขาประสานมือเข้ากับมือผม สายตาที่มองมามันเปี่ยมด้วยความรัก ปากอิ่มค่อยๆเลื่อนเข้าไปจูบอีกครั้ง ซึ่งผมเองก็ตอบสนองได้เร็วเสียเหลือเกิน ผมค่อยๆคลายมือตัวเองออกจากฝ่ามือของเขา และโอบกอดเอวบางเอาไว้ ส่วนเขาก็ประคองใบหน้าผมอาไว้ด้วยมือเรียวนั้น ผมชอบวินาทีนี้ชะมัด มันไม่เหมือนเซ็กส์ครั้งก่อนๆเลยสักนิด เราต่างคนต่างจูบกันอยู่อย่างนั้น นานเท่าไรก็จำไม่ได้ แต่รู้ว่าทุกสัมผัสตอนนี้มันทำให้ผมหวังมากกว่านั้น
จุ๊บ จ๊วบ
เสียงจูบกันไปมาของเขาและผมมันไม่ลดลงเลยสักนิด ก่อนที่จะคลายจูบออกจากกัน สบตาเพียงชั่วครู่ เหมือนตอนนี้ทั้งผมและเขากำลังถูกดึงดูดเข้าหากันและกัน ร่างขาวของเขากำลังนั่งคร่อมลงที่หน้าท้องแกร่งของผม มือขาวลากไล้ไปตามลอนกล้ามสวยพรมจูบไปทั่วทั้งตัว
“อ๊าห์...ทำไมเก่งจัง”ผมเอ่ยชม และยิ่งได้รับคำชมเป็นเสียงครางเบาๆทำให้ลิ้นทเล็กวนรอบยอดอกของผมอย่างสนุกลิ้น ก่อนจะลากลิ้นและขยับกายมาหยุดที่กึ่งกลางของผม ยิ่งทำผมใจเต้น
“วิเศษจริงๆ อ่าห์…”ผมเอ่ยออกมา เขาใช้ฝ่ามือจับแกนกายที่ตั้งชันขึ้นก่อนจะใช้ลิ้นตวัดไปทั่วมุมหยักอย่างนึกสนุก
“อ๊า! น้องบลู จะฆ่าพี่ให้ตายหรือไงกัน”ผมเอ่ยออกมาด้วยเสียงกระเส่า สองมือผมขยุ้มที่กลุ่มผมนิ่ม ผมแอ่นกลางกายเข้าออกโพรงปากนุ่มนั้นอย่างใจต้องการ
“อื่อ อื่อ อื่อ…”เสียงครางตามจังหวะเรียวลิ้นร้อนแลบเลียไปทั่วทั้งโคนพร้อมๆกับฟันเรียงสวยที่ครูดกลางกายต้องร้องเสียวของออกมา
“พะ..พอแล้ว พี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว อ่าห์…”ผมเสียวซ่านไปหมด ไม่เคยอยู่สถานการณ์แบบนี้มาก่อน น้องบลูทำผมแทบบ้า เขาจะลงโทษผมด้วยวิธีนี้หรอไง ผมพร้อมจะปลดปล่อยแล้ว
แต่คนที่กำลังสนุกกับกลางกายของผมไม่ได้สนใจอะไรยังคงสนุกอยู่กับการออรัล ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ก่อนจะลืมตัวลุกขึ้นนั่งและยกตัวตัวเขาออกจากกลางกายของผม ขอบมุมปากยังคงช้ำไปด้วยน้ำเชื่อมใสที่เยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะจับเขานั่งและรวบแก่นกายที่ยังคงตั้งชันของเขากับผมไว้ เพื่อทำการชักรูดให้ถึงฝั่งอย่างที่เคยทำ เพราะยังไงผมก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปในร่างกายของเขาแน่
“อ๊ะ…นะ…น้องบลูจะทำอะไรอ่ะ”ผมเอ่ยขึ้นอย่างตกใจเมื่อเขาค่อยยกตัวขึ้น และจับกลางกายของผมจ่อที่ช่องทางหลังของเขา เรื่องนี้และท่านี้ผมไม่ได้คิดไว้เลยว่าจะรับมือยังไงดี เขาโน้มตัวลลงมาก่อนจะกระซิบบอกผม
“บลูยอมแล้วครับ บลูอยากให้พี่เก้าเป็นของบลูจริงๆสักที”โอ๊ย ผมจะบ้าตายรู้งี้ผมแกล้งแบบนี้ตั้งนานแล้ว ผมใจเต้นแรง ปวดหนึบตรงนั้นแทบบ้า ถ้าผมเขาไปแค่ครึ่งทางแล้วผมปลดปล่อยออกมา ผมจะทำยังไงเนี้ย
“ตะ…แต่มันเจ็บนะครับ”ผมเอ่ยขึ้น แม้จะบอกเขาว่าเจ็บแต่ผมก็รั้งสะโพกเขาไว้ กลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ
“เจ็บ ดีกว่าเสียพี่ไปอีก บลูยอมเจ็บดีกว่าครับ”อ๊ากกกก รักเลย รักมากมาย รักแทบจะถวายชีวิตเลย ผมยกยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแสนหื่น
“เสียบลงมาเลยสิครับ ลองคุมเกมดูสินะ ที่รักของพี่”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะปล่อยตัวตามสบายและให้คนบนร่างที่ตอนนี้ใบหน้าแดงจัดจัดการผม
“เอาอย่างนั้นเหรอครับ ทำไม่ดีอย่าว่ากันนะ”เขาเอ่ยขึ้น ไม่ดีพี่ไม่รู้หรอก แต่ที่สำคัญพี่แทบแตกแล้ว แค่ปลายหัวป้านของผมโดนช่องทางนุ่มนั้น ผมก็เสียวจะแย่แล้ว
“ถ้าเจ็บก็เอาออกได้เลยนะ”ผมเอ่ยขึ้น ยิ่งทำให้เขาหน้าแดงจัดอีกครั้ง
“บ้า…”เขาเอ่ยอย่างเขินอายแต่ก็ค่อยๆกดร่างของตัวเองลงบนกลางกายที่ตั้งชูชันอยู่ด้านล่าง ริมฝีปากอิ่มร้องซี๊ดด้วยความเสียว
“อ๊ะ ซี๊ดดด”ผมมองใบหน้าที่บูดเบียวของเขา แม้ว่าผมจะใช้โลชั่นช่วยในการล่อลื่นแต่ผมเชื่อว่าครั้งแรกขอคนเรามันก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดา
“อืม ลองยกตัวและกดลงมาใหม่สิ” ผมเอ่ยบอกเขา เขายกสะโพกขึ้น ผมชะโลมโลชั่นไปอีกรอบก่อนจะจับก้นกลมของเขาค่อยๆกดลงอีกครั้ง ครั้งนี้มันเข้ามาง่ายกว่าเดิม เมื่อโดนปุ่มกระสันก็เผลอร้องออกมาเบาๆ
“อ๊ะ!”เขากระตุกเล็กน้อย ใบหน้าเชิดขึ้นพร้อมกับข่มความเจ็บ แต่ผมกลับชอบ
“ขยับขึ้นลงนะ แล้วจะหายเจ็บครับ”ผมเอ่ยขึ้นบอกเขาเมื่อเขาค่อยๆขยับกายเพื่อบรรเทาความเจ็บและความเสียวซ่าน
“อ๊า...อื่อออ”เสียงครางเบาๆที่กำลังขยับกายขึ้นลงอย่าเก้ๆกังๆ  ผมแอบพอใจกับครั้งแรกของเขาอย่างน้อยผู้ชายคนนั้นคงยังไม่ได้สัมผัสมันแน่นอน ผมมั่นใจ
“อ๊าห์...อย่างนั้นแหละ ลองขย่มแรงๆดูสิ” ผมเอ่ยขึ้นพร้อมประสานฝ่ามือเอาไว้ มองเขาอย่างให้กำลังใจ แม้ว่าผมอยากจะจับเขากดลงจมเตียงและขย่มเขาแทนสักแค่ไหน แต่ผมอยากให้เขาเป็นฮีโร่ของเช็กส์ครั้งแรกของเราสองคน
“อ๊า! อ่ะ เสียวชิบ!” อยู่ๆเขาก็เผลอสบถออกมา แต่ร่างกายก็เริ่มขยับเคลื่อนไปตามจังหวะรักที่เริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งขย่มแรงขึ้นก็ยิ่งเสียว เสียงร้องออกมาอย่างแสนหวานหูและแสนมีเสน่ห์ เขาครางออกมาพร้อมเชิดหน้าขึ้นด้วยความสุขสม แรงขย่มเริ่มจากเบาเป็นแรงขึ้น จนผมเองก็เผลอสวนสะโพกกระแทกขึ้นไปอย่างห้ามไม่อยู่จนเขาร้องออกมาเสียงดัง เวลาไม่นานน้ำขาวอุ่นๆจากกลางกายเล็กของเขาก็ถูกปลดปล่อยเลอะหน้าท้องของผม
“เสร็จแล้วหรอ...”ผมเอ่ยถามเขาที่กำลังหายใจหอบแฮ่กทั้งๆที่ยังคงนั่งทับอยู่บนร่างของผม เวลาเขาถึงจุดหมายปลายทางทำไมเขาถึงได้มีเสน่ห์นัก ผมเองก็อยากจะถึงจุดหมายแล้วเช่นกัน ผมเขาจับเหวี่ยงลงบนเตียงทั้งๆที่ร่างเราเชื่อมอยู่อย่างนั้น ผมจับขาเรียวของเขาถูกพาดขึ้นไหล่
“อ่าห์...วิเศษสุดๆ”ผมเอ่ยออกมา ผมกดจูบที่ซอกคอของเขา เสียงลมหายใจของเขาดังขึ้น พร้อมๆกับของผมประสานกัน ผมขยับกายเขาออกอย่างห้ามใจที่จะทำรุนแรงกับเขาไม่ได้
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”เสียงครางหวานหูตามจังหวะที่ผมกระแทกเข้าออก
“ขอบคุณนะ ที่ให้สิ่งนี้กับพี่...อ๊าห์”ผมดึงกลางกายออกก่อนกดเข้าไปใหม่อีกครั้ง เสียงครางร้องออกมาอย่างสุขสม สองมือที่ใช้เล็บจิกแผ่นหลังของผมเพื่อระบายความเจ็บปวด ผมกระแทกสะโพกเข้าออกตามจังหวะเร่าร้อน ก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักสีขาวเข้าไปในช่องทางนั้น
“อ๊า อ๊า “ผมกดจูบที่ขมับที่ชุ่มเหงื่อของเขา พร้อมฟุบหน้าลงที่ซอกคอขาวของเขา หายใจหอบออกมาทั้งเขาและผม
“ขอบคุณนะ พี่รักบลู”ผมเอ่ยออกมาที่ข้างหูเขา เสียงหายใจหอบเช่นกันพร้อมเสียงที่แหบพร่าเอ่ยออกมาเช่นกัน
“บลูก็รักพี่เก้าครับ เป็นของบลูแล้วนะครับ”ผมอดขำไม่ได้กับคำพูดของเขา ช่างไร้เดียงสาเสียจริง
“ฮ่าๆๆ ครับผมพี่เป็นของน้องบลูแล้ว อย่าทิ้งพี่นะ”ผมเอ่ยแซวกลับ เขาเองก็อายหน้าแดงใบหน้างุดที่อกของผม
“พี่เก้าอ่ะ อย่าแซวกันสิครับ”เขาทุบที่อกผมเบาๆ ผมกระชับอ้อมกอดเขาแน่นกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ขอบคุณนะที่ให้พี่เป็นคนแรก แม้พี่จะเซอร์ไพรส์มากก็ตามแต่พี่ก็ดีใจมากเหมือนกัน”ผมเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง
“พี่กี้คือผู้ชายคนแรกที่บลูรัก แต่เขาไม่ใช่คนแรกที่ได้ทั้งตัวและหัวใจของบลูพร้อมๆกัน พี่เก้าเป็นคนเดียวที่ได้ทั้งสองนี้ไป และพี่เก้าก็จะเป็นคนสุดท้ายที่บลูรักครับ”
ฟอดดดดด
“ขอบคุณนะครับ ที่เลือกพี่และก็มอบสองสิ่งนี้ให้พี่ นับจากนี้พี่จะรักษาสองสิ่งนี้อย่างดีที่สุด ให้สมกับที่บลูให้มา พี่ขอโทษนะที่แกล้งน้องบลูแบบนั้น ที่จริงแล้วพี่เองก็ไม่ได้อยากแกล้งเลยสักนิด แต่...”ผมหยุดไว้แค่นั้น เพราะมือบางปิดริมฝีปากผมไว้
“เรื่องที่ผ่านมาแล้ว ช่างมันเถอะครับ เรามาเริ่มใหม่กันดีกว่า”ผมยกยิ้มออกมา ลูบไปที่ใบหน้าเนียนของเขา ดวงตาที่เหมือนปิดสนิทยามที่เขายิ้ม ผมชอบที่สุด
“เจ็บมากไหม พี่ทำแรงไปหรือเปล่า”ผมเอ่ยขึ้น ใบหน้าเขาแดงฉ่าทันทีก่อนจะก้มหน้าลง
“เจ็บนิดหน่อยครับ แต่บลูไหว”เขาเอ่ยขึ้นแบบนั้น ผมรีบคร่อมร่างเขาทันที เขาเองตกใจเล็กน้อย
“พะ...พี่เก้าจะทำอะไร บลูยังเจ็บอยู่เลยนะครับ”เขาเอ่ยเสียงอ้อนๆออกมา ผมกดจูบที่ริมฝีปากเขา สองมือทีรวบไว้ตอนนี้กลับมาประสานกันอีกครั้ง
จุ๊บ
“ไหนใครบอกว่ายังไหวไง พี่เองก็ยังไหวนะ”ผมเอ่ยพร้อมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ใบหน้าหวานเบี่ยงหนีผมพร้อมรอยยิ้ม
“พี่เก้าอ่ะ น้องบลูหิวแล้วครับ”ผมอดขำกับความเอาตัวรอดของเขาจริงๆ ผมเองก็ไม่คิดจะทำเขาต่อหรอก ทั้งที่ใจอยากจะทำเหลือเกิน ภาพที่เขาร้องครางอย่างสุขสมอยู่บนร่างผมนั้น ทำให้ผมยิ่งอยากจะขย่มเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
“งั้นเดี๋ยวไปอาบน้ำกันเนอะ เดี๋ยวพี่ทำอาหารให้ทาน”ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะรวบร่างเขาเพื่ออุ้ม
หมับ!
“อ๊ะ! พี่เก้าปล่อยบลู ไม่ต้องอุ้มหรอกครับ”เขาเอ่ยสองแขนโอบรอบคอผมแน่น
“ทำไมหรอ พี่อุ้มไม่ได้หรอ หรือกลัว...”ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงงอนๆ เขารีบเอ่ยขึ้นทันที
“เปล่านะครับ แค่บลูตัวหนักอ่ะ”เขาเอ่ยขึ้น ผมยกยิ้มออกมา
“หึ เมื่อกี้น้องบลูทับพี่ แถมขย่มอีกต่างหากพี่ไม่รู้สึกว่าหนักเลย”ผมเอ่ยออกมา ก่อนจะพาเขาเข้าไปอาบน้ำ และจัดการกับน้ำที่อยู่ในตัวเขาออก ยังไงวันนี้เขาและผมคงไปไหนไม่ได้แน่ๆ ต้องเฝ้าบ้านกันแบบนี้หละ และก็จะอยู่แบบนี้ตลอดไป ผมสัญญา
...............................

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #202 เมื่อ05-04-2018 06:56:00 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #203 เมื่อ05-04-2018 19:20:43 »

ในที่สุดก็ได้กันแล้ว บูลนำ อิอิ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #204 เมื่อ06-04-2018 14:08:12 »

 :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #205 เมื่อ06-04-2018 15:01:23 »

เป็นของน้องบลูแล้ว ..

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #206 เมื่อ16-04-2018 12:30:20 »

Blue Lyrics 9 : คนโง่ (นพเก้า xนาคิน)

นาคิม พาร์ท
ผมกลายเป็นคนติดแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆผมมานอนบ้านพี่เก้าอาทิตย์ละสามวัน จนเฮียแบล็ค บอกให้ผมขนเสื้อผ้ามาอยู่ที่บ้านพี่เก้าซะเลย
“แต่งงานกันนะ”เสียงเอ่ยถามผมแบบนี้นับตั้งแต่เราสองคนออกตัวว่าคบกัน
“บลูขอเวลาหน่อยนะครับ อยากช่วยเฮียทำงานก่อน”ผมเอ่ยขึ้น
“พี่อายุก็มากแล้ว พี่อยากมีครอบครัวสักที”เขาเอ่ยขึ้น ผมมองหน้าเขาอย่างเข้าใจก่อนจะสวมกอดเขาจากด้านหลัง
“บลูเข้าใจครับ แต่บลูขอเวลาหน่อยนะครับ พี่เก้ารอบลูได้ไหม”ผมเอ่ยถามเขาพร้อมกระชับอ้อมกอดแน่น จมูกค่อยๆคลอเคลียไปยังซอกคอของเขา
“หึๆ รอได้สินานแค่ไหนพี่ก็รอได้ รอจนแก่พี่ก็รอได้”ผมรู้ว่าเขาเอ่ยประชดเพราะความน้อยใจ ข้อนี้ผมก็รู้แต่ผมกลัวว่าที่เขาอยากแต่งงานกับผมเพราะตอนนี้เขาแค่รักผม ถ้าเขาต้องการมีลูกหละผมจะทำยังไง
“แหม ดูพูดเข้า อย่าน้อยใจนะครับ...จุ๊บ”ผมเอ่ยพร้อมกดจูบ
“ไม่น้อยใจหรอก ถึงน้อยใจจะให้พี่ทำยังไงได้หละ”เขาเอ่ยขึ้นก่อนจะเบี่ยงตัวออกเล็กน้อย ผมยกยิ้มอ่อนๆพร้อมกับนอนมองไปยังเพดานห้องนอนก่อนจะเอ่ยขึ้น
“พี่เก้า การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่นะครับ”ผมเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง เพราะทนกับความงอนของคนแก่แถวนี้ไม่ไหวแล้วสิ
“แล้วไง”
“พี่เก้ารู้ไหมว่าพี่อ่ะ เอาแต่ใจชะมัด”ผมเอ่ยขึ้นพร้อมอมยิ้มออกมา
“พี่เอาแต่ใจตรงไหน พี่แค่อยากแต่งงาน อยากมีครอบครัว พี่อยากมีคนอยู่ด้วยตลอดชีวิต”ผมหันมองไปยังคนที่นอนข้างๆ ก่อนจะลุกขึ้นมองไปยังเขา ผมยกมือลูบไปยังใบหน้าที่หนวดเครากำลังขึ้นเล็กน้อย
“บลูรู้ครับ ไม่ใช่บลูไม่อยากมีครอบครัวนะ บลูอยากเป็นครอบครัวกับพี่ แค่บลูกลัว”ผมเอ่ยขึ้นตามตรง
“กลัวหรอ กลัวอะไร”เขาหันมาถามผมพร้อมสวมกอดผมกลับเมื่อผมเองเป็นฝ่ายเอ่ยน้ำเสียงเบาลง
“ครับ บลูกลัวความกลัวของบลูไม่ใช่การแต่งงานหรือการมีครอบครัว แต่ที่บลูกลัวคือการมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบครับ”ผมเอ่ยขึ้น ตอนนี้กลายว่าผมถูกพี่เก้าคร่อมร่างผมไว้
“กลัวความสมบูรณ์หรอ คืออะไร”เขาโน้มใบหน้าเอ่ยถามผมที่ตอนนี้ความกลัวของผมมันอยู่ที่ความเขินอายมากกว่า
“ครอบครัวสมบูรณ์ ต้องมีพ่อ แม่และลูก บลูมีลูกให้พี่ไม่ได้หรอกนะครับ”ผมเอ่ยขึ้นอย่างเรื่องจริง
“หึ กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง ครั้งที่แล้วก็กลัวเรื่องอาจารย์แป้ง แล้วเป็นไงหละ คิดไปเองทุกอย่าง”ผมซบหน้าลงที่อกของพี่เก้าแก้เขินทันที ก่อนจะเอ่ยเรื่องอื่นแทน
“อาจารย์แป้งย้ายไปอยู่กับสามีที่อเมริกาเลยหรอครับ”ผมเอ่ยถามคนที่มอบอกกว้างให้ผมได้ซบตลอดชีวิต
“อื้ม ถามทำไมหรอ”พี่เก้าเอ่ยถามกลับก่อนจะกดจูบที่ขมับของผม
“เปล่าครับ”ผมเอ่ยออกมาเสียงเบาๆ กลัวเขาจะดุผมที่ยังพูดเรื่องอาจารย์แป้งอยู่
“วันนี้พี่ไม่ได้ไปรับที่ทำงานนะ และคงไม่ได้ไปทานข้าวที่บ้านใหญ่ด้วย น้องบลูนอนที่บ้านใหญ่ได้ไหม”ผมขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะเอ่ยถาม
“ได้ครับ ว่าแต่พี่จะไปไหนหรอครับ”
“พอดีพี่มีธุระอ่ะ เอาไว้พรุ่งนี้พี่ไปรับที่บ้านใหญ่นะ”ผมพยักหน้า ผมไม่ได้เซ้าซี้อะไรเขามาก ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทำงาน แม้จะรู้สึกนอยด์ๆบ้างก็ตาม ก็ทุกครั้งผมกับเขาต้องไปบ้านใหญ่ด้วยกันเสมอ นับตั้งแต่ที่ผมทำตามหัวใจตัวเองมากกว่าความกลัว
ผมนั่งหงุดหงิดทั้งวัน ก็ตลอดวันนี้พี่เก้าไม่โทรหาผม ไม่มีข้อความตอบกลับ แม้ผมจะโทรหาและส่งข้อความหลายข้อความก็ตาม
“จิ๊!...เฮ้อออออ”ผมนั่งถอนหายใจหลายรอบ นั่งมองไปยังด้านนอกห้องทำงาน ก่อนที่เสียงมือถือผมจะดังขึ้น
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrr
ผมรีบคว้ามือถือขึ้นมากดทันที เพราะคิดว่าเป็นสายของคนที่ผมกำลังรออยู่ แต่ผมก็ต้องผิดหวังเพราะคนปลายสายไม่ใช่พี่เก้า
“พี่เก้า...”
(“ไม่ใช่พี่เก้าครับเฮีย หนูพิ้งค์เองครับ”)
“อ่อ หนูพิ้งค์ มีอะไรหรือเปล่า”
(“เฮียมาบ้านกี่โมง มารับหนูพิ้งค์หน่อยสิครับ”)
“แล้วเลิฟหล่ะ”
(“เขาก็ไปกับแฟนเขาสิจะมาอะไรกับคนอย่างหนูพิ้งค์หล่ะ”)
“ทะเลาะอะไรกันอีกหล่ะ”
(“เปล่าทะเลาะนะ เค้ารอที่หน้าคณะนะ”)
“อื้ม...”
ผมวางสายจากหนูพิ้งค์ สงสัยจะทะเลาะกับเลิฟอีกตามเคย ผมถอนหายใจก่อนจะคว้ากุญแจรถออกไป มิอยากจะโทรหาพี่เก้ามมากก็ตามแต่ผมเองก็ไม่อยากกวนเขามาก แต่ผมเองก็อยากรู้ว่าเขามีธุระอะไรถึงมาทานข้าวกับผมไม่ได้และมารับผมไปค้างที่บ้านไม่ได้
“รอนานไหม”ผมเอ่ยขึ้นถามคนที่หน้าหงิกอยู่ตอนนี้
“ไม่ครับ หนูพิ้งค์คิดว่าเฮียจะมากับพี่เก้าซะอีก กะว่าจะให้พาไปกินไอศกรีมหน่อย”ตั้งแต่พี่เก้าคบกับผม พี่เก้าเข้ากับครอบครัวผมได้ดีมาก
“พอดีพี่เก้าติดธุระอ่ะ วันนี้เลยไม่ได้มาทานข้าวที่บ้าน”ผมเอ่ยเสียงเบาลง
“ปาท๋องโก๋อย่างเฮียนี่นะจะแยกกันได้”
“แหม ก็ต้องปล่อยบ้างสิ จะให้เขามาขลุกอยู่กับเราตลอดก็ไม่ไหวหรอกนะ ต้องปล่อยให้เขามีเวลาส่วนตัวมั้งสิ”ผมเอ่ยบอกน้องชายตัวเอง ทั้งๆที่ใจผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยสักนิด
“นั่นสินะ เราจะให้เขาตัวติดเราตลอดเวลาได้ยังไง เขาก็ต้องมีเวลาของเขาบ้าง เวลาที่เขาไม่มีเราแล้วเขามีความสุข”ผมหันมองน้องชายตัวเองที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าเล็กน้อย ผมยกมือจับที่หัวกลมของน้องชายลูบเบาๆ
“ทะเลาะกับเลิฟจริงๆด้วย”ผมเอ่ยขึ้นเมื่อรถยังติดไฟแดงอยู่
“เค้าอาจจะบังคับเลิฟให้มาอยู่กับตัวเค้ามากเกินไป บางทีเลิฟเขาต้องการที่จะไปจากเขาทุกเมื่อก็ได้”ผมยกยิ้มเล็กน้อย บางครั้งผมว่าน้องชายผมก็เริ่มโตแล้วจริงๆ
“ไม่เอาหน่า เลิฟอ่ะห่วงหนูพิ้งค์มากนะรู้ไหม”ผมเอ่ยขึ้นก่อนสายตาผมจะเห็นรถคันคุ้นเคยกำลังขับผ่านไปทางด้านหน้าของผม ทะเบียนนี้และสีนี้ผมจำได้ดี
“เฮีย นั่นรถของพี่เก้าไหมครับ”เสียงเอ่ยของหนูพิ้งค์บอกผม
“คงมาทำธุระอย่างที่บอกหล่ะมั้ง”ผมเอ่ยขึ้นบอกน้องชายตัวเองทั้งที่ใจก็รู้สึกแย่มาก
“แต่ไม่นะ ดูนั่นสิพี่เก้ากำลังเลี้ยวรถไปที่ร้านอาหารใบตองแล้วอ่ะ เราตามไปไหมครับ”ผมไม่ได้ฟังหนูพิ้งค์เท่าไหร่นักหรอก ตอนนี้ใจผมมันเต้นแรง มือเย็นไปหมดก็ผมแค่ชะลอรถมองไปยังรถคันสวยที่จอดอยู่ ร่างของสูงของเขาเดินมาเปิดประตูรถอีกด้าน ผมจอดรถหน้าร้านมองไปยังร่างบางของหญิงสาวที่กำลังเดินลงจากรถ
“ลงรถเลยไหมครับ”เสียงหนูพิ้งค์เอ่ยอย่างเลือดร้อน ผมจับแขนหนูพิ้งค์ไว้เป็นเชิงว่าอย่าเลย
“เรากลับบ้านกันดีกว่า เดี๋ยวเฮียกับซ้อจะรอนาน”ผมเอ่ยบอกน้องชายก่อนจะขับรถออกไป ไม่รู้ว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร เขาทำไปเพราะอะไรและเขาทำกับผมได้ยังไง
ตลอดเวลาที่ผมเปิดใจเพราะความกลัว ผมรักเขามาก เขาเองก็รักผมมาก เราสองคนไม่เคยแยกออกจากันเลยนับจากวันนั้น แต่วันนี้เขาบอกผมว่าเขามีธุระ นี่หรอธุระของเขาคือการมากับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นใครและมากับเขาได้ยังไง
“ทำไมทานน้อยจังเลย”เสียงพี่หมอเอ่ยถามผม เมื่อผมรวบช้อนเข้าหากัน
“วันนี้พี่เก้าไม่มา คุณบลูเลยทานน้อยหล่ะสิ”ผมยกยิ้มให้กับซี แฟนพี่หมอที่เอ่ยแซวผม
“ไม่ใช่แบบนั้นครับพี่ซี คือว่า...”
“หนูพิ้งค์...”ผมรีบเอ่ยยั้งหนูพิ้งค์ไว้ ทำเอาทุกคนที่โต๊ะอาหารหันมามองผมเป็นตาเดียว
“มีอะไรหรือเปล่า”เสียงเฮียกรีนเอ่ยถามผม
“ไม่มีอะไรครับ หนูพิ้งค์อยากสร้างความตื่นเต้นเฉยๆ”หนูพิ้งค์เอ่ยขึ้น ผมยกยิ้มตามก่อนที่ร่างสูงของเลิฟจะเดินเข้ามา ซ้อใหญ่รีบเอ่ยขึ้น
“อ้าวเลิฟ เพิ่งกลับหรอ มาทานข้าวด้วยกันสิ”ผมหันมองหนูพิ้งค์ที่รีบวางช้อนทันทีก่อนจะเอ่ยขึ้น
“เฮีย เค้าปวดหัวจังเค้าขอขึ้นข้างบนก่อนนะครับ”ไม่รอให้เฮียแบล็คเอ่ยอนุญาต
“ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวผมทานกับยายในครัวก็ได้ครับ”เลิฟเอ่ยเสร็จก็เดินเข้าข้างในอย่างเจียมตัว
เรานั่งทานอาหารไม่นาน ผมบอกคนทุกคนว่าปวดหัวก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้อง ส่วนใหญ่ผมเองก็เป็นคนเก็บตัวอยู่แล้ว
“ฟู่วววว เอาไงดีว่ะ รักเขาต้องเชื่อใจเขาไหมว่ะ”ผมเอ่ยกับมือถือตัวเอง ก็อยากจะโทรหาเขานะ แต่ผมกลัวจะเหมือนเคสอาจารย์แป้งอีก
หลังจากผมอาบน้ำเตรียมเข้านอน เสียงมือถือผมก็ยังไม่ดังเลยสักครั้ง ผมบอกตัวเองว่าต้องเชื่อใจ และเชื่อมั่นในตัวเขาให้มากที่สุด ผมหลับตาลงก่อนจะเสียงมือถือจะดังขึ้น
“พะ...” ผมรับสายปลายทางกลับเป็นเสียงเพื่อนของผม
(“ไอ้บลู อยู่ไหนว่ะ”)
“อยู่บ้าน มึงอยู่ไหนโทรมาซะดึกขนาดนี้”
(“กูอยู่กับไอ้เต้ แถวสีลมว่าแต่มึงทำไมอยู่บ้านว่ะ กูคิดว่ามึงมากับอาจารย์เก้าซะอีก”) ผมขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะเอ่ยขึ้น
“มึงว่าอะไรนะ”
(“ก็กูเห็นอาจารย์เก้ามาที่นี่ไง คิดว่ามึงมากับอาจารย์ ธรรมดาตัวติดกันนี่หว่า”)
“อ่อ เปล่า” ในใจอยากรู้ว่าเขาไปทำอะไรที่นั้นนะ ใจผมเต้นแรงไปหมด นี่หรอธุระที่เขาบอก
(“กูไปก่อนนะ ไอ้เต้เรียกแล้ว”)
“อื้ม...อย่าเมามากนะมึง”
(“โอเค...บาย”)
ผมวางสายจากเพื่อนเรียบร้อยก็กดมือถือหาพี่เก้าทันที ทว่าปลายสายกลับปิดมือถือ ยิ่งทำผมร้อนรนกว่าเดิม
“พี่เก้ากำลังทำอะไรอยู่ครับ บอกบลูหน่อยได้ไหม”ผมเอ่ยกับตัวเองก่อนจะหลับตาลง
ตลอดคืนผมแทบนอนไม่หลับ ในใจกังวลและกลัวบางอย่างแต่ก็พยายามข่มตาและข่มใจเอาไว้ ไม่อยากมีปัญหาเพราะความกลัวของตัวเอง
“อื้อออออ”ผมบิดกายเล็กน้อย แสงสว่างที่ส่งเข้ามาบอกว่ามันเช้าแล้ว ผมปวดหัวไปหมดเพราะกว่าจะหลับได้ก็เกือบเช้า
“บลูจะทำยังไงกับความกลัวของตัวเองครับ พี่เก้สช่วยบอกบลูหน่อย”ผมเอ่ยก่อนจะออกจากห้องน้ำ แต่งตัวเพื่อจะออกไปที่บ้านของพี่เก้า อยากจะถามเขาว่าเมื่อคืนไปทำอะไรที่นั้น
“ดูยังไงเลิฟก็รักหนูพิ้งค์”ผมเอ่ยเมื่อเห็นร่างสูงของเลิฟที่แอบอยู่มุมต้นไม้มองไปยังหนูพิ้งค์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่สนาม
...
..
ผมขับรถมาที่บ้านของพี่เก้า บ้านที่จะใช้เป็นเรือนหอของเรา ผมเห็นรถของพี่เก้าจอดอยู่ในบ้าน ในเมื่อเขาก็อยู่บ้านทำไมไม่ไปรับผมเมื่อคืนนี้
//“แหม ก็ต้องปล่อยบ้างสิ จะให้เขามาขลุกอยู่กับเราตลอดก็ไม่ไหวหรอกนะ ต้องปล่อยให้เขามีเวลาส่วนตัวมั้งสิ”//
//“นั่นสินะ เราจะให้เขาตัวติดเราตลอดเวลาได้ยังไง เขาก็ต้องมีเวลาของเขาบ้าง เวลาที่เขาไม่มีเราแล้วเขามีความสุข”//
“นั่นสินะ เขาก็ต้องอยากมีเวลาของเขาสิ”ผมเอ่ยกับตัวเองก่อนจะเอารถเข้าบ้าน ผมจะไม่โกรธเขา ผมจะนอยด์เขาและผมจะเชื่อใจเขา ผมสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน
“พี่เก้า...”
ปึก!
“พี่บลู...”
เคร้ง!
เพล้ง!
เสียงของที่ร่วงหล่นไม่ว่าในมือผมและในมือของคนที่เดินออกมาจากในครัว เสียงดังโครมครามทำให้คนที่อยู่ข้างบนเดินลงมาด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“เสียงอะไรดังโครมครามอ่ะ...”ชุดลำลองและกางเกงขาสั้นสีขาวพร้อมเสียงของคนที่เดินลงมา ผมนิ่งอึ้งไปพร้อมๆกับเขาเองที่นิ่งไปเช่นกัน
“น้องบลู...”
“พี่เก้า...ทำไมทำกับบลูแบบนี้ครับ”ผมเอ่ยออกมาก่อนจะวิ่งออกจากบ้านไป โดยไม่ฟังว่าเขาจะเอ่ยเรียกอะไร และไม่รอให้หญิงสาวคนนั้นจะเอ่ยเรียกผมเพื่ออธิบาย
“พี่บลู...”
“น้องบลู ฟังพี่ก่อน”
หมับ!
พลั่ก!
“อย่ามายุ่งกับผม อย่ามาแตะต้องตัวผม ทำไมพี่ทำกับผมแบบนี้ ผมทำผิดอะไรช่วยบอกผมทีเถอะครับ”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะ พี่อธิบายได้นะ”ผมหันมองใบหน้าของเขาผ่านม่านน้ำตาของผม แม่งเจ็บชะมัด ผมไม่ดีตรงไหน
“มันจบแล้วใช่ไหม นี่หรอสิ่งที่บลูสู้กับความกลัว ผลของการต่อสู้คือสิ่งนี้เองหรอก บลูเคยบอกพี่แล้วใช่ไหมว่าบลูกลัว บลูกลัวความรัก กลัวว่ามันจะทำให้บลูเจ็บ พี่เคยบอกบลู...ฮึกๆ พี่เคยบอกว่าพี่จะทำให้บลูเลิกกลัว”ผมปล่อยเสียงสะอื้นออกมา ก่อนที่ร่างสูงของเขาจะเดินเข้ามาหาผม หนึ่งก้าวเข้ามาของเขาคือหนึ่งก้าวถอยหลังของผม
“อย่าเข้ามานะครับ...”ผมเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา ก่อนจะหันมองไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
“ไม่รู้หรอกนะว่าพี่เก้ากับฟางคบกันตอนไหน ทำอะไรลับหลังกันไปแล้วบ้าง แต่นับจากนี้ไม่ต้องกลัวนะครับ ไม่ต้องทำอะไรลับหลังกันอีกแล้ว โชคดีนะครับ พี่เก้า และน้องฟาง”ผมเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตาก่อนจะขึ้นรถและขับออกไปโดยไม่สนใจทั้งสอง ผมอ่อนแอชะมัด ความกลัวผมหายไปหมดไม่มีเหลือให้กลัวแล้วแต่ผมมีแต่ความเจ็บ เท่านั้น
“ฮื่ออออๆ ฮึกๆ ไอ้เชี่ยยยย”ผมตะโกนออกมาพร้อมจับพวงมาลัยแน่นเมื่อจอดรถได้หลังจากขับออกมาได้สักพัก ความรักมันช่างเลวร้ายนักกับผมคนนี้
“ฮึกๆๆ เฮียอยู่บ้านไหม เค้าไปหานะ”
(“เป็นอะไร ให้เฮียไปรับไหม”)
“ไม่เป็นไรครับ พี่กูรอยู่ไหม”
(“ไม่อยู่”)
“ฮื่อๆๆๆ เฮียเค้าเจ็บ เค้าเจ็บจริงๆ ฮื่อๆๆ”
(“อยู่ที่ไหน เฮียไปรับ”)
“....”
(“ไม่ต้องทำอะไร แชร์โลเคชั่นมาเดี๋ยวเฮียไปหา”)
ผมกดแชร์โลเคชั่นให้พี่ชายตัวเอง ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาอย่างต่อเนื่องเมื่อสายเรียกเข้าในมือถือของผมมันดังต่อเนื่อง พร้อมข้อความที่มันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมกดเสียงและโยนมือถือทิ้งทันทีโดยไม่สนใจอะไร ผมเจ็บเหลือเกิน เจ็บที่ผมแม่งเป็นไอ้โง่ตั้งนาน
...........................

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #207 เมื่อ16-04-2018 16:45:51 »

เข้าใจอะไรผิดหรือป่าว

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #208 เมื่อ16-04-2018 19:12:14 »

ต้องเข้าใจผิดแน่ๆๆ

ออฟไลน์ Papai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: The Color of Love : ​Blue Lyrics ทำนองรักสีฟ้า
«ตอบ #209 เมื่อ18-04-2018 19:44:49 »

 :serius2 :serius2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด