Pink Loved 6 : เข้าใจ (สุดรัก x นาคิม)
[/size]
จุ๊บ
“เลิฟกลับห้องก่อนนะครับคุณหนู ตีห้าแล้ว”เลิฟเอ่ยขึ้นหลังจากที่เมื่อคืนเขามาปรับความเข้าใจกับพิ้งค์ และก็นอนค้างที่ห้องของพิ้งค์ สำคัญคือเมื่อคืนเขากับพิ้งค์เพิ่มความสัมพันธ์ขึ้นมากเดิม แม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ก็ตาม
“อื้ม แล้วมาปลุกเราอีกทีนะ”พิ้งค์เอ่ยขึ้นด้วยหน้าที่งัวเงีย เลิฟกดจูบที่หน้าผากก่อนจะเอ่ยขึ้น
จุ๊บ
“ครับ จะทานข้าวข้างบนไหมครับ เดี๋ยวผมเตรียมไว้ให้”
“ไม่ดีกว่า เราไปกินกับเลิฟนะเช้านี้ เพราะเฮียๆไม่มีใครอยู่เลย”พิ้งค์เอ่ยขึ้นก่อนจะหลับต่อ
เลิฟเดินออกจากห้องนอนสีชมพู และเดินเข้ามายังห้องตัวเองด้วยหน้าตาที่อารมณ์ดี แต่ยังไม่ทันจะเข้าห้องนอนเสียงของยายลินก็ดังขึ้น
“เลิฟ มาช่วยยายเตรียมของไปวัดหน่อย”เลิฟหันมองยายลิน อยากจะเอ่ยบอกแต่ยายลินทำท่าทางวุ่นๆอย่างไม่สนใจ
“ครับยาย”เลิฟเดินตามยายของตัวเองไปในครัว ไม่มีคำถามหรือคำพูดอะไรเลยระหว่างสองยายหลานจนเตรียมของเสร็จ
“พุดซ้อน แกไปอาบน้ำอาบท่าได้แล้ว เผื่อคุณแบล็คและคุณนิลลงมาจะได้ไปกันเลย”
“คะคุณป้าลิน”พุดซ้อนเอ่ยก่อนจะเดินออกไป ยายลินก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ จนเลิฟเองที่เป็นคนเอ่ยขึ้นเองด้วยความอึดอัด
“ยายไม่ถามเลิฟหรอครับว่าเลิฟไปไหนมา”
“ไม่หล่ะ เพราะยายรู้ว่าเลิฟคิดดีแล้ว ยอมเอาแจกันตีหัวตัวเองขนาดนี้ คงไม่มีอะไรที่จะห้ามความรักของหลานได้ แล้วยายจะพูดอะไรได้หล่ะ”ยายลินเอ่ย เลิฟเงยหน้ามองผู้เป็นยายก่อนน้ำตาจะไหลออกมา
“ยาย เลิฟรักยายครับ”เลิฟเอ่ยขึ้นพร้อมสวมกอดยายตัวเองไว้แน่น
“ยายเชื่อว่าประวัติศาสตร์มันจะไม่ซ้ำรอยอีก”ยายลินเอ่ยพร้อมสวมกอดเลิฟไว้แน่น
ช่วงสายของวันนี้ เลิฟเดินขึ้นมาบนตึก ที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่นอกจากพิ้งค์ที่ยังคงนอนขี้เซาอยู่ในห้อง เลิฟเปิดประตูเข้ามาได้ก็รีบเดินเข้าไปสวมมกอดพิ้งค์ทันที
ฟอดดดดด
“คิดถึงผมไหมครับ”เลิฟเอ่ยขึ้น
“อื้อออ”เสียงงัวเงียน่ารักเอ่ยออกมา เลิฟมานาฬิกาก็ปาเข้าไปแปดโมงแล้วจึงจับพิ้งค์พลิกเข้ามาหาตัวเอง
หมับ
พรึบ
“อ๊ะ...เลิฟจะทำอะไรอ่ะ”พิ้งค์เอยขึ้นอย่างตกใจ
“ก็กำลังจะปลุกคนขี้เซายังไงหล่ะครับ”เลิฟไม่เอ่ยเปล่า เขาดึงพิ้งค์ขึ้นและอุ้มพิ้งค์พาดไหล่ทันที
“เหวออออ เลิฟปล่อยเรานะ เดี๋ยวตก”พิ้งค์เอ่ยและพยายามดิ้นให้หลุด
“อย่าดื้อสิครับ เดี๋ยวผมอาบน้ำให้”เลิฟเอ่ยขึ้น
“เลิฟ ปล่อยเราเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นจะงอนจริงๆด้วย”พิ้งค์เอ่ยออกมา ทุกครั้งที่พูดแบบนี้เลิฟจะทำตามพิ้งค์เสมอ แต่วันนี้เลิฟกลับเป็นคนที่ไม่เชื่อฟังพิ้งค์อีกแล้ว
เพี๊ย!
เสียงมือหนาฟาดเข้าที่ก้นเล็กของพิ้งค์จนคนถูกฟาดกลับหน้าแดงออกมาทันที ไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใดแต่ที่หน้าแดงเพราะความเขินมากกว่า
“เลิฟ ไอ้คนบ้า ปล่อยเราลงเดี๋ยวนี้”พิ้งค์เอ่ยด่าเพราะความเขิน
“ปล่อยแน่ครับ แต่ต้องในห้องน้ำนะ เพราะขืนคุณหนูไม่ยอมอาบน้ำ เราสองคนก็ยังไม่ได้ทานข้าวเช้ากันนะครับ”
“งั้นก็ปล่อยเราก่อนสิ”พิ้งค์เอ่ยขึ้น เลิฟค่อยๆปล่อยร่างของพิ้งค์ลงและยกยิ้มให้กับคนหน้าแดงตรงหน้า
“เราขอเวลาสิบห้านาที แล้วกัน”พิ้งค์เอ่ยขึ้น
เลิฟเดินลงจากชั้นบน พร้อมเดตรียมตั้งโต๊ะอาหารให้กับพิ้งค์และตัวเอง วันนี้ที่บ้านไม่มีใครอยู่ ระหว่างที่เลิฟเตรียมอาหารอยู่นั้นเสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้น
Rrrrrrrrrrrr
(“ไอ้เลิฟ อยู่บ้านป่ะ”)
“อยู่ มึงจะทำไม”
(“ไปดูหนังกัน”)
“มึงก็ไปดิ จะชวนกูทำไมกันว่ะ”
(“ก็กูอยากชวนมึง เพราะมึงคือเพื่อนกู แล้วมึงก็มีพิ้งค์ที่เป็นเพื่อนไอ้ชามง่ะ”)
“ไอ้เวร บอกแต่แรกก็จบม่ะ ว่าให้ชวนคุณหนูไปด้วยเพื่อนจะได้ชวนไอ้ชาม มึงแม่งร้ายนะไอ้พอร์ช”
(“เหอะน่า เอาเป็นว่าเจอกันที่โรงหหนังเดิมตอนบ่ายโมงนะ”)
“ไอ้พอร์ช!”เสียงของเลิฟเอ่ยดังพอจะทำให้คนที่เดินเข้ามาตกใจ
“เสียงดังอะไรกัน” พิ้งค์เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มหวานเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหาร
“ไอ้พอร์ชนะสิครับ มันชวนไปดูหนังวันนี้ คุณหนูไปด้วยกันนะครับ”เลิฟเอ่ยขึ้น
“พอร์ชนึกยังไงถึงชวนเลิฟหล่ะ”
“ก็ถ้าชวนผมไป ผมต้องชวนคุณหนูไป และคุณหนูก็จะได้ชวนชามไปไงครับ”เลิฟเอ่ยขึ้นทำให้พิ้งค์ร้องอ๋อขึ้นมาอย่างเข้าใจ
“อ๋อ...แล้วก็ไม่ชวนเองนะ วางมาดเหลือเกิน”พิ้งค์เอ่ยก่อนจะนั่งทานอาหารตรงหน้า
“คุณหนูครับ”เลิฟเอ่ยขึ้น เพราะตอนนี้เขารู้สึกมีความสุขมาก
“หื้ม ว่าไง”พิ้งค์ที่กำลังนั่งทานพร้อมกำลังนั่งเขี่ยมือถือไปเรื่อยๆ ไม่ได้เขี่ยมือถือตัวเอง แต่เป็นมือถือของเลิฟที่ยกให้พิ้งค์สำรวจมือถือได้ตามสบาย
“เจออะไรบ้างหรือยังครับเนี้ย กินก่อนไหมครับ”เลิฟเอ่ยขึ้นบอก
“ทำไม กลัวเราเจออะไรหรือไง”พิ้งค์เอ่ยขึ้นอย่างงอนๆ เลิฟเอื้อมมือไปจับมือเล็กที่กำลังเขี่ยมือถืออยู่ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“เปล่าครับ คุณหนูมีเวลาทั้งชีวิตที่จะได้ดูมันนะครับ ตอนนี้ทานก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะไปดูหนังไม่นัดไอ้พอร์ชและชาม”เลิฟเอ่ยขึ้นพร้อมยกยิ้ม
“ก็ได้ งั้นตักอันนี้ให้หน่อยสิ”พิ้งค์เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ เลิฟทำตามอย่างว่าง่ายทุกอย่าง ก็เขารักพิ้งค์มาก
ช่วงบ่ายที่หน้าโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งของใจกลางเมืองหลวง ร่างสูงของพอร์ชกำลังยืนมองซ้ายมองขวาหาเพื่อนรักของตัวเอง แต่ไม่น่าจะตื่นเต้นเท่าการที่ได้เจอกับชามอีกครั้งหลังจากวันนั้น วันที่เขารู้ว่าที่จริงแล้วชามคือใครและเขาคือใคร
“พอร์ช”เสียงเอ่ยจากริมฝีปากของชามเบาๆ ก่อนจะทำท่าจะเดินหนีแต่ก็ถูกพิ้งค์รั้งเอาไว้
“จะไปไหนหล่ะชาม”พิ้งค์เอ่ยพร้อมควงแขนชามไว้ เลิฟเองก็ไม่พอใจนัก เพราะยังหวงพิ้งค์กับชามอยู่
“เปล่า ก็กำลังจะโทรตามพิ้งค์ไง”ชามเอ่ยพร้อมยกยิ้มออกมา
เลิฟเดินเข้ามาหาพอร์ชที่ยืนอยู่ด้วยหน้าตางอนๆเล็กน้อย ก็ตอนนี้พิ้งค์กับชามกำลังเดินคุยกันมาด้วยรอยยิ้มที่น่ารักและมีความสุข
“ไอ้พอร์ช มานานยังว่ะ”
“เพิ่งมาเหมือนกัน”พอร์ชเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม สายตามองไปยังเพื่อนทั้งสองที่กำลังเดินเข้ามา
“หวัดดีพิ้งค์ และ…ชาม”พอร์ชเอ่ยทักเพื่อนทั้งสอง สายตากลับมองแค่ชามอย่างเดียว
“หวัดดีพอร์ช วันนี้แต่งตัวหล่อจังเลยนะ”พิ้งค์เอ่ยขึ้นชม
“คุณหนูครับ”เลิฟเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเข้มอย่างลืมตัว
“ไอ้นี่ หึงแม้กระทั่งกูหรอกว่ะ”พอร์ชเอ่ยขึ้นหยอก
“เออ ก็วันนี้มึงแม่งจัดเต็มไปไหนว่ะ ไอ้เสื้อเชิ้ตคอเต่าแสนสุภาพแบบนี้มันไม่ใช่มึงเลยสักนิด”เลิฟเอ่ยขึ้น ก็จริงอย่างที่ว่า เพราะสำหรับพอร์ชแค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์มันคือสไตล์ของเขามากกว่าแบบนี้ แต่ต้องแต่งแบบนี้เพราะเขามีเหตุผลบางอย่าง
“ก็ลองเปลี่ยนบ้าง เผื่อสาวๆจะมอง”พอร์ชเอ่ยขึ้นไปส่งๆแก้เขิน แต่กลับทำให้ชามไม่พอใจขึ้นมาอย่างลืมตัว
“ผู้หญิงเขาไม่มองหรอกนะไอ้ผู้ชายที่แต่งตัวยังกับเกย์แบบนี้”ชามเอ่ยขึ้นทันที
“ถ้าผู้หญิงไม่มองก็ให้เกย์มันมองก็แล้วกัน”พอร์ชเอ่ยขึ้นก่อนจะดึงเลิฟไปที่ตู้ซื้อตั๋ว
ทั้งสี่พากันนั่งดูหนัง แม้จะมาสี่คนแต่กลับมีแค่เลิฟและพิ้งค์ที่ดูจะคุยกันแค่สองคน เพราะถามชามและพอร์ชก็ไม่มีใครยอมตอบอะไร
“สองคนนี้แปลกๆเนอะ”พิ้งค์เอ่ยขึ้น
“อย่าไปสนใจเลยครับ คุณหนูกินป๊อบคอนนะครับ ผมป้อน”เลิฟเอ่ยขึ้นพร้อมหยิบบ๊อปคอร์นมาป้อนใส่ปากพิ้งค์ จนชามที่แอบชำเลืองมองผ่านไปยังพิ้งค์และเลิฟ เพื่อจะมองหาคนตัวสูงข้างๆเลิฟ
“เราว่าเรานั่งผิดที่หรือเปล่านะ”พิ้งค์เอ่ยขึ้นถามเลิฟ เมื่อหันมองพอร์ชเองที่ก็แอบชำเลืองมองชามเช่นกัน
“นั้นสินะครับ หรือเราจะเปลี่ยนที่ให้พอร์ชมานั่งตรงนี่”พิ้งค์เอ่ยบอกเลิฟ ก่อนที่เลิฟจะหันไปบอกเพื่อนรักที่ตอนนี้คอน่าจะยาวหลายเซนแล้ว
“ไอ้พอร์ชมึงไปนั่งตรงคุณหนูไป”
“ทำไมว่ะ”
“คุณหนูบอกกูมา เขากลัวคอมึงจะยาวเป็นกระเหรี่ยงคอยาวหล่ะมั้ง”เลิฟเอ่ยก่อนจะหันมองพิ้งค์และให้พิ้งค์มานั่งแทนที่พอร์ช
ฟุบ
“นาย...มานั่งที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่”ชามเอ่ยขึ้นเบาๆ เมื่อนั่งลงหลังจากยืนเคารพเพลงสรรเสริญเสร็จ
“อื้ม ทำไม นั่งไม่ได้หรอไง”พอร์ชเอ่ยขึ้นกวนๆ
“ก็ไม่ได้ทำไม อยากนั่งก็นั่งสิ”ชามเอ่ยขึ้นก่อนจะหันมองหน้าจอต่อ ไม่ได้สนใจอะไรคนข้างๆเลยแต่ชามเป็นที่ดูหนังได้ไม่นานก็หลับ
ปึก!
“อือออ”เสียงครางในลำคอเบาๆแทบจะไม่ได้ยินถ้าไม่ใช่เจ้าของไหล่ที่เป็นหมอนให้ชามได้อิงตอนนี้ พอร์ชค่อยๆจับหัวของชามให้หนุนถนัด ก่อนจะค่อยๆลูบใบหน้าเล็กนั้นเบาๆโดยที่ชามเองไม่รู้ตัว
“ผู้ชาย แล้วไงว่ะ”พอร์ชเอ่ยขึ้นในใจก่อนจะดูหนังต่อ
จนเวลาหนังจบ ชามก็ถูกพอร์ชปลุก แต่การปลุกของพอร์ชทำให้คนที่กำลังนอนหลับอยู่รู้สึกดี เพราะมือของพอร์ชกำลังลูบที่แก้มของชามเบาๆก่อนจะเอ่ยขึ้น
“แมวน้อย ตื่นได้แล้ว”เสียงเอ่ยกระซิบเบาๆ
“อื่อออ”เสียงครางเบาๆก่อนจะซุกหน้าที่ไหล่ของพอร์ชอีกครั้ง และเมื่อไฟสว่างขึ้น ก็รู้ว่ามือทั้งสองประสานกันไว้แน่นจนพิ้งค์แอบอมยิ้ม
“ว่าแล้วไง สองคนนี้ต้องมีซัมติงกันแน่ๆ”พิ้งค์หันไปบอกเลิฟ ก่อนที่สายตาของเลิฟจะเห็นร่างสูงของใครคนหนึ่งที่กำลังเดินไปกับหญิงสาว
“คุณพิ้งค์ว่าไอ้นั่นคือแฟนเก่าของโมเมไหมครับ”เลิฟเอ่ย พิ้งค์เองก็มองตามก่อนที่เลิฟจะหันไปเรียกเพื่อน
“ไอ้พอร์ช มึงตามกูไปหน่อยดิ”เลิฟเอ่ยขึ้น เหมือนเลิฟต้องการรู้อะไรบางอย่างก่อนจะปล่อยมือของพิ้งค์และเดินตามไปอย่างไว พิ้งค์เองก็ตกใจเล็กน้อยว่าทำไมเลิฟต้องสนใจผู้ชายคนนี้หรือเรื่องราวที่เกี่ยวกับโมเม เลิฟต้องรู้เรื่องทั้งหมดหรือยังไงกัน
“เลิฟ...”พิ้งค์เอ่ยขึ้น
“คุณหนูกับชามไปรอที่ร้านเดิมนะครับ เดี๋ยวผมกับไอ้พอร์ชตามไป”เลิฟเอ่ยพร้อมกับเดินออกไป ทิ้งให้พิ้งค์ไม่เข้าใจอะไรเลย ทั้งที่โกรธก็โกรธแต่ก็ต้องเชื่อใจเลิฟ
“หนูพิ้งค์ เราว่าเราไปรอสองคนนั้นที่ร้านเดินกันก่อนเถอะ เดี๋ยวทั้งสองกลับมาค่อยซักฟอกทีเดียว”ชามเอ่ยขึ้น
“อื้ม...”พิ้งค์พยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับชาม
ทางด้านเลิฟและพอร์ชเดินตามชายหนุ่มที่เลิฟมั่นใจว่าใช่แฟนเก่าของโมเม คนที่มาก่อกวนจนโมเมอยู่แทบไม่ได้ แต่วันนี้ทำไมไอ้หมอนี่มากับผู้หญิงอื่นนะ
เมื่อสัปดาห์ก่อน
(“เลิฟ โมเมเองคะ”)
“โมเม มีอะไรหรอครับ”
(“เลิฟช่วยมาหาโมเมที่ห้องหน่อยได้ไหมคะ พอดีผู้ชายคนนั้นมาก่อกวนโมเมอีกแล้ว”)
“โมเมอย่าออกจากห้องนะครับ และส่งพิกัดห้องมาเดี๋ยวผมไป”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แกรก!
หมับ!
“ฮื่อๆ เลิฟโมเมกลัวจังเลย”
“ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่นี่แล้ว”
“เลิฟอยู่เป็นเพื่อนโมเมหน่อยนะ”
“เอ่อ คือ...”
“นะ นะ โมเมกลัวไอ้บ้านั่นจะกลับมาอีก”
“ครับ”
เลิฟส่งข้อความหาคุณหนูของเขา กังวลว่าคุณหนูเขาต้องโกรธมากแน่ๆ แต่โมเมคือเพื่อนอีกคนที่ได้รับความเดือดร้อน เขาก็ต้องช่วยเพื่อนเหมือนกัน
เลิฟ : ไอ้พอร์ช ถ้าข้อความกูหายมึงรีบมาที่คอนโดxxx และห้อง xx ด้วยนะกูกลัวเอาไม่อยู่
พอร์ช : ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวกูไปที่คอนโดนั้นเดี๋ยวนี้หล่ะ
เวลาผ่านไปเกือบทุ่มกว่า โมเมที่ขอไปอาบน้ำและขอร้องให้เลิฟอยู่เป็นเพื่อน เพราะกลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะย้อนกลับมาอีก
โครม!
“ว๊าย!...”เสียงร้องของหญิงสาวที่ร้องดังมาจากห้องน้ำดังออกมาจนเลิฟตกใจก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำอย่างไม่คิดอะไร แต่ใครจะรู้ว่าในห้องนั้นร่างของหญิงสาวที่ไม่ได้สวมอะไรเลยกำลังคู้อยู่ในอ่างน้ำนั้น
“โมเม...”
“เลิฟ โมเมกลัวคะ เมื่อกี้เขาโทรเข้ามา...ฮื่อๆ”หญิงสาวที่ร่างเปลือยเปล่าร้องให้สะอื้นตัวโยนหลังจากที่โผเข้าสวมกอดเลิฟ
“ไม่มีอะไรหรอกนะ ผมอยู่นี่แล้วเขาไม่มีทางมาทำอะไรคุณได้หรอก”เลิฟเอ่ยขึ้น
//”ไอ้ห่า พระเอกชะมัด”//เสียงของพอร์ชเอ่ยขึ้น เพราะเลิฟไม่ยอมวางสายโทรศัพท์หลังจากที่พอร์ชบอกว่ามาถึงแล้ว
“เลิฟ...”เสียงหวานกระเส่าหู แถมริมฝีปากของหญิงสาวกำลังกดจูบเข้าที่ซอกคอของชายเลิฟ
จุ๊บ
“โมเม...”เสียงเอ่ยขึ้นของเลิฟดูไม่พอใจนัก ก่อนที่จะผละหญิงสาวออก
“โมเมไม่ได้ตั้งใจ แค่ตกใจมากและกลัวมากแค่นั้นเอง”หญิงสาวเอ่ยแก้ตัว
“ไม่เป็นไร งั้นโมเมอาบน้ำและเตรียมเข้านอนเถอะสามทุ่มแล้ว เขาคงไม่มาแล้วหล่ะ”เลิฟเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำและยกสายขึน
“ไอ้พอร์ช กูกำลังลงไป”
(“เอ่อ กูอยู่ที่หน้าคอนโดเป็นชั่วโมงยังไม่เห็นคนมีพิรุธเลยนะมึง กูเลยเข้าไปถามพี่ยามดู เขาบอกว่าโมเมมีผู้ชายขึ้นไปหาไม่ซ้ำหน้า เขาจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร”พอร์ชเอ่ยขึ้น ทำเอาเลิฟยิ่งไม่เข้าใจใหญ่ก่อนจะเดินลงมาจากคอนโด
“มึงว่าโมเมเป็นคนยังไงว่ะ”เลิฟเอ่ยถามเพื่อน
“ไม่รู้เว้ย แต่กูว่าเรื่องนี้มันแปลกๆว่าไหม”พอร์ชเอ่ยขึ้น
“อื้ม แล้วนี่มึงไปไหนมา ทำไมมาหากูไวจังว่ะ”เลิฟเอ่ยขึ้นถามเพื่อน
“กูก็พร้อมรบกับมึงไง ย่ามาสงสัยกูเลยตอนนี้มึงเตรียมตัวง้อคุณหนูของมึงดีกว่า เมื่อกลางวันหน้าแทบพับได้แล้ว”เลิฟถอนหายใจเล็กน้อย เขาเองก็รู้ดีว่าต้องเจอคุณหนูของเขาโกรธแน่ๆ
ที่ร้านอาหารประจำของทั้งสี่คน ตอนนี้พิ้งค์และชามกำลังนั่งมองไปทางประตูทางเข้าร้านด้วยใจจดจ่อ โดยเฉพาะพิ้งค์ ใจจริงเขาทั้งโกรธ ทั้งงอนและหงุดหงิดที่เลิฟสนใจเรื่องของผู้หญิงคนนั้นมากจนต้องตามไป
“ใจเย็นๆสิ ถ้าเลิฟกลับมาเราค่อยถามก็ได้ว่าทำไมต้องตามผู้ชายคนนั้นไป และมันเรื่องอะไรกันแน่ดีกว่านะ”ชามเอ่ยขึ้น
“ชาม เราถามอะไรหน่อยสิ”
“ว่ามาเลย”
“ชาม ยังชอบเราอยู่ไหม”
“อะไรนะ!”
“เราถามชามว่า ชามยังชอบเราอยู่ไหม อยากจะคบกับเราอยู่ไหม”พิ้งค์เอ่ยขึ้นถาม ก็พอดีกับที่เลิฟและพอร์ชเดินเข้ามาพอดี
“ไอ้เลิฟ!”เสียงพอร์ชเอ่ยเรียกเลิฟที่เดินออกจากร้านไป
“หนูพิ้งค์!”พิ้งค์เองก็วิ่งตามไป ทิ้งให้ชามและพอร์ชมองหน้ากันไปมา
“อย่าเพิ่งไป แมวน้อย”พอร์ชเอ่ยขึ้นพร้อมรั้งแขนชามไว้
“ฉันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยนะ”ชามเอ่ยขึ้นก่อนจะนั่งหงออยู่ตอนนี้
“ยังไม่ได้ถาม อย่าร้อนตัว”
“อ้าว ก็นาย...”
“จะถามว่าหิวหรือยัง”พอร์ชเอ่ยถามกลับ
“บ่ายสามโมงแล้วเนี้ย ใครมั้งจะไม่หิว ใช่หุ่นยนต์นะที่ต้องไม่กินอะไรอ่ะ”
“ถามนิดเดียวเอง ตอบซะยาวเลย งั้นสั่งมาเดี๋ยวกินเสร็จไปส่งที่ร้าน”พอร์ชเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งเมนูให้กับคนตัวเล็กข้างๆ
“แล้วเราไม่ตามสองคนนั้นไปหรอ”ชามเอ่ยขึ้น
“ไม่เอา ไม่เผือก”
“ไอ้...”
“เรียกไอ้หรอ”
“เปล่า แค่จะถามว่าไอ้นี่คืออะไรต่างหาก”ชามเอ่ยขึ้นพร้อมชี้นิ้วไปที่เมนู พอร์ชยกยิ้มออกมาก่อนจะสั่งอาหารต่อ ยังไงเขาก็คิดว่าเพื่อนรักของเขาน่าจะปรับความเข้าใจกับพิ้งค์ได้แน่นอน
......................