◈ Happy New Boyfriend! ◈ รายละเอียดการจองหนังสือ : 26/09/2018 p.40
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ รายละเอียดการจองหนังสือ : 26/09/2018 p.40  (อ่าน 272806 ครั้ง)

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 7 : 05/01/2018 p.5
«ตอบ #150 เมื่อ09-01-2018 16:40:26 »

ชอบคู่นี้อ่ะ คือแบบสไตล์ผู้ชายจิงๆอ่ะ
(ถ้าเปนผู้หญิง คงตีกันไปหลายยกละ 55555555)
ติดตามๆๆๆ ใครจะตบะแตกก่อนกัน อิอิ -.,-

ออฟไลน์ yprjb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 7 : 05/01/2018 p.5
«ตอบ #151 เมื่อ09-01-2018 22:26:03 »

รอเลยย ทีมแฟน 55555 พี่หินก็พี่หินเถอะจย้าา :hao6:

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #152 เมื่อ10-01-2018 20:51:19 »

ตอนที่ 8

“กูไปอาบน้ำก่อนนะ”

เอ่ยบอกพร้อมทั้งวางโทรศัพท์ในมือลงแล้วหยัดกายลุกขึ้นยืน ยามที่คนซึ่งกำลังวุ่นอยู่กับการหาอะไรสักอย่างในกระเป๋าบนโซฟาอีกตัวก็พยักหน้ารับ

ดวงตาสวยตวัดหนีจากคนตรงหน้า ริมฝีปากสีสดอ้าเชิดน้อยๆใส่คนที่ยังคงไม่สนใจกัน ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายหลังจากนั่งขี้เกียจอยู่หลายนาที อ้อยอิ่งกับการถูตัวอยู่อย่างนั้นแม้จะเป็นเวลากว่าตีสาม กระทั่งออกจากห้องน้ำแล้วสวมเสื้อเรียบร้อยจึงเดินออกมา

ทว่าภาพที่ได้เห็นทำเอาสองขาหยุดชะงัก ร่างกายสูงใหญ่กำลังออกกำลังกายด้วยการซิทอัพอยู่อีกมุมห้อง ผิวแทนหนั่นแน่นอาบไล้ไปด้วยเหงื่อ กล้ามเนื้อส่วนบนเกร็งจนเห็นแผ่นท้องเป็นลอน ช่วงอกและช่วงแขนดูกระชับเป็นรูปร่าง ลมหายใจทุ้มต่ำพรูออกคล้ายตอนกำลัง...

“มึงอาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ” เสียงนั้นทำให้คนเผลอคิดอะไรไปไกลสะดุ้ง

เสียงที่หอบกระเส่าเนื่องจากการหายใจหอบถี่

“อืม กูได้ยินเหมือนเสียงโทรศัพท์เลยรีบออกมาดู”

เอ่ยตอบเพียงเท่านั้นแล้วก้าวต่อไปยังโต๊ะหน้าโซฟา ชายเสื้อยืดตัวโคร่งสีขาวตัวบางที่ปิดสะโพกบางเพียงหมิ่นเหม่ทำให้คนออกกำลังชะงักค้าง ยามอีกคนโน้มตัวลงไปหยิบโทรศัพท์แล้วชายเสื้อด้านหลังรั้งขึ้นจนเห็นบั้นท้ายเนียนวับๆแวมๆลมหายใจร้อนก็แทบกลายเป็นเปลวเพลิง

“สงสัยหูจะฝาด กูก็รีบจนใส่ได้แค่เสื้อ”

เพียงแค่เสื้อเท่านั้นที่ติดอยู่บนเรือนกายบาง หินรู้ดีเพราะแสงไฟที่สะท้อนให้เห็นเงาข้างในมันบ่งบอกชัดเจนว่าไม่มีอะไรอยู่ในนั้น ขณะที่บั้นท้ายขาวยังคงปรากฏให้เห็นอย่างล่อตาล่อ ก่อนใกล้จะตบะแตกคนที่ตั้งสติได้จึงรีบหันมาออกกำลังกายของตัวเองต่อ

อืม...เขาบอกถ้ามีอารมณ์ให้ออกกำลังกาย 

“แล้วมึงนึกยังไงถึงได้มาออกกำลังกายตอนนี้” แฟนถือโทรศัพท์ไว้ในมือพลางเดินมาหาคนที่นอนซิทอัพอยู่

“ไม่ได้ออกมาสองอาทิตย์แล้วรู้สึกว่าร่างกายมันตื้อๆ เพิ่งมีเวลาเลยจัดสักหน่อย จะได้นอนสบาย”

เสียงทุ่มเอ่ยตอบกระท่อนกระแท่นหากแต่ไม่ใช่ผลจากการออกกำลัง แต่เป็นเพราะใครอีกคน พลางพยายามบังคับสายตาให้มองตรงไปทางอื่น ทว่าเมื่อความพยายามนั้นดูท่าจะไม่ได้ผลจึงตัดใจลุกขึ้น

“ง่วงแล้ว กูไปอาบน้ำก่อน”

หินเดินผ่านร่างบางตรงหน้ามาด้วยท่าทีเรียบนิ่ง กดเก็บความต้องการเอาไว้ภายใต้สีหน้านั้นอย่างได้ผลจนคนมองตามขมวดคิ้วมุ่น

ไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง

ใบหน้าสวยบูดบึ้งด้วยทั้งความหงุดหงิดจากการถูกเมิน ความมั่นใจถูกลดทอน อีกทั้งยังเพราะ...ความต้องการ

แฟนเดินเข้ามาในห้อง ส่วนล่างที่เย็นวาบก็ปล่อยไว้อย่างนั้นก่อนจะกระแทกกายเอนตัวลงบนเตียงพลางเล่นโทรศัพท์ไประหว่างรอให้ความร้อนรุ่มบรรเทา

กระทั่งสิบห้านาทีผ่านไปคนที่เข้าไปอาบน้ำก็เดินออกมาจากห้องน้ำ

“มึง...”

ประโยคที่ตั้งใจเอ่ยถามว่าทำไมอาบน้ำนานถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อเห็นอีกฝ่ายเต็มตา เรือนกายสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเดินออกมาโดยมีชั้นในสีเข้มติดกายเพียงตัวเดียว เส้นผมเปียกชื้นแถวกรอบหน้าดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง

แต่มันกลับน่ามอง

“กูทำผ้าเช็ดตัวตกพื้น เปียกไปหมด”

ทุกจังหวะการก้าวเดินมีสายตาของแฟนจับจ้องตามไม่วางตา หินเดินเอาผ้าเช็ดตัวไปตากแล้วกลับมาเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบกางเกงบอลที่มีติดห้องอีกฝ่ายเอาไว้มาสวมง่ายๆ จากนั้นจึงหมุนตัวตรงมายังเตียงกว้าง

พลันภาพที่หันกลับมาเห็นจะทำให้ลมหายใจติดขัด ร่างบางบนเตียงนอนเล่นโทรศัพท์ด้วยท่าทางวางขาทับกัน ข้างหนึ่งชันขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นส่วนล่างซึ่งยังคงไม่ได้ใส่อะไรปกปิดจากทางด้านข้างเต็มตา

ยิ่งยามขาเรียวขยับเปลี่ยนอีกข้างขึ้นมาซ้อนทับ จึงเกิดจังหวะเพียงน้อยนิดที่เปิดให้เห็นทุกอย่างจนหมดให้คนมองยิ่งไม่อาจทานทน...

แฟนละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์แล้วเงยหน้าขึ้นมองคนที่เดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง สองสายตาสบกันด้วยความรู้สึกลุ่มลึก ราวกับเกิดการต่อสู้ห่ำหั่นระหว่างนั้น ก่อนหินจะค่อยๆทรุดกายนั่งลงบนข้างเตียง ยามที่แฟนวางโทรศัพท์ลง

นิ้วมือแกร่งลากไล้จากปลายเท้าขึ้นมายังขาอ่อน ทิ้งสัมผัสร้อนเร่าดั่งถูกไฟลวกไว้เป็นแนวกระทั่งไฟร้อนนั้นหายเข้าไปในเชื้อเพลิง

มือหนาหยาบสากตามประสาคนเล่นดนตรีไล้เข้ามายังต้นขาขาวด้านในเมื่อเจ้าของตั้งใจขยับออกเปิดทาง ปัดป่ายสัมผัสไปทั่วลงมาถึงส่วนที่หดเกร็ง ริมฝีปากสีสดถูกขบกัดเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ ขณะที่มือนั้นเล่นงานไปทั่วพร้อมกับที่หินโน้มใบหน้าลงมาเลยผ่านข้างหู

“I’m loser…”

เสียงทุ้มกระซิบแผ่วยอมรับความพ่ายแพ้ต่อเกมนี้แต่โดยดี พร้อมทั้งมือที่ขยับกอบกุมส่วนอ่อนไหวให้คนถูกเล่นงานงอตัวด้วยความเสียว เพียงแค่ถูกแตะสัมผัสแค่นั้นคนชนะก็ไม่อาจทนต่อความค่อยเป็นค่อยไปนั้นได้จนเป็นฝ่ายถอยสะโพกห่างแล้วพลิกตัวขึ้นไปนั่งคร่อม ให้หินต้องรีบประคองสะโพกนั้นไว้ด้วยกลัวอีกฝ่ายจะตกเพราะตัวเองนั่งหมิ่นอยู่ขอบเตียง

“งั้นคนแพ้ก็อยู่นิ่งๆไปซะ”

ท่อนเขนเรียวโอบรั้งรอบคอพลางกระซิบแผ่ว อีกทั้งคนพูดยังบดสะโพกเข้าหาจนความร้อนรุ่มภายใต้กางเกงบอลเนื้อบางดุนดันจนปวดหนึบ

ริมฝีปากบางขบเม้มไปตามลำคอ ทิ้งรอยกัดไว้ทั่วราวกับหมาตัวน้อย ยามที่คนถูกสั่งให้นิ่งทำได้เพียงกัดฟันกรอด สัมผัสจากลิ้นเล็กเล่นงานไปตามแผ่นอกจนอยากจะจับคนบนกายกดลงกับเตียงแล้วทำตามใจตัวเอง

จนเมื่อพอใจร่างเล็กก็ผละลงไปหยิบอุปกรณ์ในลิ้นชักแล้วโยนไว้ด้านข้าง จากนั้นจึงคุกเข่าลงหว่างขา แทรกตัวเข้ามาถอดทั้งกางเกงบอลและชั้นในสีเข้มลงไปทางปลายเท้า พลันยกยิ้มยามเห็นบางอย่างชูเด่นทักทาย ก่อนมือจะเอื้อมไปหยิบบางอย่างในกล่อง ฉีกซองด้วยการใช้ปากคาบไว้แล้ววางครอบลงบนส่วนปลาย

วินาทีต่อมาริมฝีปากเล็กก็อ้าขยับ รูดรั้ง สวมใส่สิ่งนั้นให้จนสุด พลางทักทายกลับด้วยการไล้ลิ้นเลียตรงส่วนหัวเบาๆ

“อืม...”

เมื่อเรียบร้อยแฟนก็เอื้อมไปหยิบเจลมาเทลงบนมือ ชโลมใส่ทั้งแก่นกายใหญ่ และช่องทางแคบของตัวเอง จากนั้นจึงขยับลุกขึ้นมานั่งคร่อมตักแกร่งในท่าเดิม โย่งสะโพกขึ้นเล็กน้อย แล้วทิ้งตัวลงมากลืนกินอีกคนอย่างเชื่องช้า ทั้งที่ยังมีเสื้ออยู่ติดกาย

ผลจากการไม่เบิกทางก่อให้เกิดความฝืดเคืองและคับแน่นจนต้องกัดฟัน แต่ความต้องการนั้นมีมากกว่ากระทั่งกดตัวลงได้สุด รอเวลาปรับตัวไม่ถึงสิบวินาทีก็เริ่มต้นขยับอย่างใจร้อน จนหินต้องรีบเอ่ยเตือน

“มึงจะเจ็บ”

“บอกแล้วไงว่าคนแพ้ไม่มีสิทธิ์พูด”

คนบนตัวเอ่ยขึ้นทั้งที่ใบหน้าเบ้บิด คราแรกเกิดความเจ็บและขยับได้ยากลำบากกระทั่งทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง จังหวะเริ่มลื่นไหล มือเล็กที่วางอยู่บนไหล่กว้างบีบแน่นจนผิวเนื้อของอีกฝ่ายขึ้นรอย ทว่าความเสียวซ่านที่ได้รับก็กระตุ้นให้การขยับนั้นรุนแรงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

ส่วนปลายกลมมนสอดลึกให้ทุกจังหวะการเข้าหารุนแรงจนต้องเปล่งเสียง ขณะที่คนถูกเล่นงานคำรามห้าว อยากขยับสะโพกสวนกลับแต่ร่างกายก็ถูกตรึงไว้ด้วยกฎของคนแพ้

เสียงการเสียดสีดังก้อง ร่างบางสะท้อนขึ้นไหวรุนแรงตามจังหวะที่เจ้าตัวเป็นฝ่ายควบคุม ริมฝีปากบางขบกัดระบายความเสียวจนห่อเลือด จนเมื่อทุกอย่างกำลังจะสิ้นสุดแฟนจึงโน้มหน้าลงไปจูบคนใต้ร่าง ขยับสะโพกอีกเพียงไม่กี่ครั้งความต้องการก็ปลดปล่อยออกมารินรดหน้าท้องแกร่ง โดยที่หินยังไปไม่ถึง

กระนั้นแรงตอดรัดถี่รัวก็เล่นงานจนได้แต่เปล่งเสียงไม่แพ้คนปลดปล่อย ยามอีกฝ่ายค่อยๆถอนสะโพกออกแล้วใช้ฝ่ามือดันให้นอนลงบนเตียงความตื่นเต้นรอบใหม่จึงเริ่มต้น

“ขยับขึ้นมาอีก”

แฟนก้มลงมากระซิบและหินก็ทำตามโดยไม่มีข้อแม้จนร่างทั้งร่างเกยอยู่บนเตียง บางอย่างบนหน้าท้องเปรอะไปทั่วเมื่ออีกคนขยับกาย ก่อนคนเป็นฝ่ายคุมเกมจะหมุนตัวหันหน้าไปทางปลายเท้า แตะต้องส่วนที่ยังคงปวดหนึบด้วยมือแผ่วเบา

“กูให้ขยับได้แค่ลิ้น”

สิ้นคำเอ่ยมือเล็กก็ขยับรูดรั้ง พร้อมทั้งชายเสื้อตัวโคร่งที่ถูกรั้งขึ้น จากนั้นลิ้นหนาจึงปาดไล้ไปตามช่องทางสีกุหลาบตรงหน้า ต่างฝ่ายต่างปรนเปรอให้กันจนไฟร้อนของคนที่เพิ่งปลดปล่อยโหมขึ้นมาอีกรอบ

กระทั่งแฟนผละมือห่าง ขยับสะโพกหนีแล้วถอยตัวลงมาจนถึงกลางกาย ครอบครองตัวตนร้อนผ่าวนั้นอีกครั้งจนคนที่นอนมองสะโพกบางกดลงเรื่อยๆขบกรามแน่น

แล้วคนแพ้ก็เป็นฝ่ายทำได้เพียงนอนนิ่งเช่นครั้งแรก ปล่อยให้คนช่างยั่วเล่นกับร่างกายตัวเอง และขยับตัวได้เพียงตามคำสั่งไปกระทั่งถึงรุ่งสาง

--

ดวงตาคมจับจ้องคนที่นอนหมดสภาพอยู่ข้างตัวด้วยรอยยิ้มมุมปาก ยามค่ำคืนเสือสาวแสนยั่วเล่นงานเขาตั้งแต่ตอนเช้ากระทั่งถึงเย็น หากแต่เจ้าตัวกลับเป็นฝ่ายหมดแรง นอนไม่แม้แต่จะกระดิกตัว

ใบหน้าสวยซีดเซียว ผมเผ้าชี้ฟูจนหินต้องเอื้อมมือไปเสยขึ้นให้แผ่วเบา ทอดมองริมฝีปากบางที่เปิดอ้าน้อยๆก่อนจะเลื่อนมือไปเขี่ยเล่น ขนาดนี้เจ้าตัวก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น

บทรักร้อนแรงจากแฟนส่งผลให้สองอาทิตย์ที่ห่างหายอิ่มเอมจนอยากจะเป็นฝ่ายแพ้ให้อีกหลายครา แม้จะทรมานกับการไม่อาจทำอะไรได้ตามความต้องการ แต่ปลายทางก็สุขสมจนเกินกว่าจะบรรยาย

หินขยับเข้าไปให้รางวัลคนเก่งด้วยสัมผัสบนหน้าผากและปากเล็กแนบแน่น จากนั้นจึงผละออกแล้วลุกขึ้นไปหยิบกล้องที่พกมาในกระเป๋า ก่อนจะรัวชัตเตอร์ใส่นายแบบซึ่งหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวจนพอใจ

แม้แต่ตอนนอนเฉยๆความเซ็กซี่ก็พวยพุ่งจนทำให้ภาพออกมาน่าหลงใหล

ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มพอใจเมื่อกำลังเลื่อนดูภาพถ่าย ขยับเข้าไปกดจูบปากเล็กนั้นอีกครั้งแล้วหมุนตัวเอากล้องไปเก็บ ต่อมาจึงก้าวไปทางห้องน้ำ โดยไม่คิดจะปลุกคนเหนื่อยล้าให้ลุกขึ้นมา

กว่าแฟนจะรู้ตัวก็เป็นยามที่ท้องฟ้าด้านนอกปกคลุมไปด้วยความมืด ร่างบางแสนเพลียลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ตั้งสติเรียบเรียงความคิดตัวเองเป็นหลายนาที จึงค่อยๆก้าวลงจากเตียงไปอาบน้ำ แล้วเดินออกมาหาคนที่นั่งดูข่าวอยู่หน้าทีวี

“หิว” บ่นขึ้นทันทีหลังจากที่ทิ้งตัวนั่งลงข้างตัวอีกคน

“จะกินตรงนี้หรือที่โต๊ะอาหาร” หินถามขึ้นอย่างรู้ใจ

“ตรงนี้” ชายหนุ่มพยักหน้ารับจากนั้นจึงลุกขึ้นเดินไปจัดแจงหาข้าวหาปลามาให้แฟน ดูแลเป็นอย่างดี

“ซื้อมาเลี้ยงกูเหรอ”

อาหารมากมายหลายอย่างวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟาจนเต็มพื้นที่ ดวงตาคู่สวยเบิกขึ้นทั้งด้วยความตื่นตาและความหิว พอเอ่ยปากถามออกไปก็ไม่รอฟังคำตอบ จ้วงข้าวเข้าปากอย่างหิวโหย โดยที่หินได้แต่ส่ายหน้า

“ค่อยๆกิน”

“ก็อันอิ๋ว” (ก็มันหิว) คนใช้พลังงานไปจนหมดร่างพูดขึ้นทั้งที่ข้าวยังอยู่ในปาก

“แล้วใครบอกให้ทำขนาดนั้น...คิดถึงกูมากเลยสินะ อดอยากเหมือนกันใช่ไหม”

คิ้วเข้มเลิกขึ้นพลางยกยิ้มใส่คนข้างตัวอย่างเป็นต่อ ก่อนจะได้รับการเบ้ปากใส่เป็นคำตอบ

“ใครกันแน่ที่อดอยาก กี่รอบก็ไม่เห็นว่าจะพอ”

“หึ กูไม่อยากเถียงกับคนปากแข็ง...มึงจะกลับบ้านรึเปล่า”

หินถามไปอีกเรื่อง ขณะที่คนถูกถามกลืนข้าวที่เคี้ยวละเอียดลงคอแล้วเอ่ยตอบ

“คงไม่ พ่อกับแม่ไปเชียงใหม่ น้องกูก็ไปต่างจังหวัดกับเพื่อน”

“งั้นก็ดี...กูหยุดงานสามวัน”

คำบอกเล่านั้นเรียกดวงตาคู่สวยให้เบิกขึ้น อีกทั้งยังถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ

“จริงเหรอ”

“อืม”

“สามวันนี้มาเรียนรู้กันและกันให้มากขึ้น”

ประโยคต่อมาทำให้มือที่กำลังจะตักอาหารเข้าปากหยุดชะงัก แฟนวางช้อนลงบนจานข้าว พักความหิวไว้ชั่วครู่แล้วถามต่อ

“ยังไง”

“ก็แค่อยู่ด้วยกัน แล้วทุกอย่างมันก็จะออกมาเอง”

หินเอ่ยตอบง่ายๆพร้อมทั้งตักข้าวขึ้นไปจ่อให้ถึงปากคนที่ตั้งใจฟังจนเกินเหตุ

“งั้นก็ลองอยู่โดยไม่มีเซ็กส์ ได้รึเปล่า?”

คนถูกป้อนยังไม่อ้าปากรับพลางเอ่ยเงื่อนไขขึ้นจนคนฟังเลิกคิ้ว จากนั้นวินาทีต่อมาหินก็ยกยิ้ม

“เอาสิ”

หมดสิ่งที่อยากจะพูดริมฝีปากบางจึงขยับอ้ารับอาหารที่ถูกส่งให้จนถึงปาก มื้อเย็นที่รวมทั้งมื้อเช้าและมื้อเที่ยงดำเนินไปเรื่อยๆด้วยเรื่องราวที่ผ่านการพูดคุย การหยอกล้อ การกวน กระทั่งความอิ่มคืบคลานเข้ามาหาจนแทบลุกไม่ขึ้น จนต้องเป็นหินที่จัดการเอาซากอาหารนั้นไปเก็บโดยที่แฟนทำได้เพียงบอกว่าจะเป็นฝ่ายล้างจาน

“ห้ามนอน ลุกขึ้นมา เดี๋ยวกรดไหลย้อน”

เสียงทุ้มเอ่ยดุเมื่อเดินกลับมาแล้วพบว่าอีกคนกำลังจะเลื้อยตัวลงนอนบนโซฟา

“ฮื่อ กูอิ่ม”

“ยิ่งอิ่มยิ่งต้องนั่ง”

ใบหน้าสวยเริ่มบูดบึ้งเมื่อถูกขัดใจแต่คนตัวโตก็ไม่ยอมโอนอ่อน ส่งผ่านความกดดันมาทางสายตาจนคนโดนจับจ้องค่อยๆขยับกายขึ้นนั่ง ปากเล็กยู่เข้าหากัน ดวงตาทอความไม่พอใจ

นิสัยเริ่มออกมาแล้ว

“อะไรๆก็ดุ”

“กูแค่บอก ยังไม่ได้ดุเลยสักนิด”

“หน้าแบบนี้ เสียงแบบนี้แหละเขาเรียกว่าดุ” แฟนหันพรึบมาอธิบาย จำได้ว่าเป็นครั้งที่สองแล้วที่คุยกันเรื่องนี้

“งั้นมึงก็ดื้อ ครั้งที่สองแล้วนะที่เป็นแบบนี้”

หินผ่อนความเข้มในแววตาและน้ำเสียงลง ทว่าก็ยังคงท่าทีของการเอ่ยเตือนไว้ให้อีกคนรู้ตัว

คราวนี้คนถูกเตือนกลับนิ่งเงียบ

“บอกกูได้ถ้ากูเผลอดุมึงเกินเหตุ แต่มึงก็ต้องฟังกูบ้าง”

คนอายุมากกว่ายอมเป็นฝ่ายอ่อนลง ด้วยนิสัยแล้วรู้ดีว่าแฟนไม่มีทางลงก่อน แววตาดื้อรั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหากแรงไปเจ้าตัวก็จะแรงกลับ

“อืม”

เสียงรับคำสั้นๆนั้นทำให้หินถอนหายใจ จากนั้นจึงทำในเรื่องที่แทบจะสวนทางกับสถานการณ์ตรงหน้า นั่นคือการดึงคนเอาแต่ใจเข้ามาในอ้อมกอด

“ไม่น่ารักกับกูได้ แต่อย่าติดนิสัยไปไม่น่ารักกับคนอื่น โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว อะไรแก้ได้ก็แก้เข้าใจไหม”

น้ำเสียงที่ใช้เตือนนั้นทอดอ่อน ไร้ซึ่งการดุ แล้วดูท่าว่าการกระทำนี้จะได้ผลเมื่อคนในอ้อมกอดผ่อนกายเข้าหา ซบหน้าลงกับลาดไหล่

“กูจะพยายาม” คำตอบที่หินยกยิ้ม

แฟนไม่ได้เป็นคนดื้อรั้นแบบสุดโต่ง เพียงแต่ต้องรู้วิธีการเข้าหา...หนึ่งการเรียนรู้ที่ได้รู้จักกันไปอีกขั้น

“แบบนี้น่ะน่ารัก” คนถูกชมอมยิ้ม ราวกับเด็กตัวเล็กๆที่ทำดีแล้วถูกผู้ใหญ่ชื่นชม

เมื่อเคลียร์กันเรียบร้อยสถานการณ์ก็กลับเข้าสภาวะสู่ปกติ คนทั้งสองนั่งดูหนังด้วยกันเป็นการย่อยอาหาร ผ่านไปสองชั่วโมงคนซึ่งเมื่อยไปทั้งร่างก็เริ่มทิ้งตัวพิงหัวกับไหล่แกร่ง

“ง่วง”

หินเลิกคิ้วพลางเอนกายให้อีกคนพิงได้สะดวกขึ้น สุดท้ายก็กลายเป็นรั้งคนง่วงเข้ามาในอ้อมกอด หัวเล็กจึงเกยซบอยู่กับอก

“ง่วงก็นอน”

“ยังไม่ได้แปรงฟันเลย” เสียงตอบยานคางกว่าเคยเมื่อความง่วงเริ่มเล่นงานมากขึ้นเรื่อยๆ

“ค่อยตื่นมาแปรง”

“อืม...”

รับคำในลำคอบขณะเปลือกตาที่ราวกับถูกหินถ่วงปรือลงเรื่อยๆจนหลับลงในที่สุด หินยังคงหนังดูหนังต่อจนเมื่อคนในอ้อมกอดหลับสนิทจึงประคองให้นอนราบกับโซฟา ปล่อยอีกฝ่ายให้ได้นอนสักหน่อยค่อยปลุกขึ้นมาแปรงฟัน

“อ้าปาก”

เสียงทุ้มเอ่ยสั่งคนที่นั่งตาปรืออยู่บนอ่างล้างหน้า ก่อนคนถูกสั่งจะอ้าปากขึ้นหลังจากโดนสั่งให้บ้วนน้ำเปล่าไปก่อนหน้า วินาทีต่อมาฟันขาวก็ถูกทำความสะอาดโดยคนตัวโต ส่วนคนง่วงแสนง่วงนั้นมีหน้าที่เพียงยิงฟัน อ้าปาก แล้วก็บ้วนยาสีฟันออกเป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อย

“นี่เมียหรือลูกกูกันแน่”

หินบ่นพร้อมทั้งกระชับผ้าห่มให้คนที่ตัวเองอุ้มมาวางบนเตียง ดวงตาคมจับจ้องอยู่บนใบหน้าซึ่งสวยเกินผู้หญิงที่กำลังหลับพริ้มเหมือนเด็กพลางยกยิ้ม

ถึงจะดื้อแต่ก็มีมุมน่ารักอยู่หลายมุมเหมือนกัน

--

“ตามใจกูจริงเหรอ?”

“อืม”

“งั้นไปร้านอาหารอิตาเลี่ยนนะ”

“อืม”

“ไปสยามนะ”

“ตามใจ”

ร่างบางยิ้มกว้างจนเต็มหน้าเมื่ออาหารนอกบ้านวันนี้เป็นหินที่ยอมตามใจ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาอาหารการกินมักเป็นอาหารง่ายๆที่สามารถทานด้วยกันได้ทั้งสองฝ่าย เมื่อคราวนี้จะได้ทานอะไรตามใจตัวเองบ้างแฟนจึงอดร่าเริงไม่ได้

“งั้นกูไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน”

หินทอดมองคนที่วิ่งดุ๊กดิ๊กลงจากเตียงด้วยความอ่อนใจกับนิสัยที่ยังเป็นเด็ก ก่อนลมหายใจหนักๆจะถูกพรูออกเมื่อถึงคราวตัวเองต้องเป็นฝ่ายทำความเข้าใจในโลกและสังคมของอีกคน

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปทั้งสองก็อยู่ในชุดเตรียมพร้อมออกไปข้างนอก หินยังคงแต่งตัวปกติอย่างที่ตัวเองแต่งโดยมีแจ็กเก็ตและรองเท้าหนังเสริมให้ดูเต็มยศกว่าเคยเล็กน้อย ทว่าคนข้างตัวกลับเต็มเสียยิ่งกว่าเต็ม

“มึงจะไปโซล แฟชั่นวีคเหรอ”

ดวงตาคมกวาดมองร่างบางในชุดกางเกงยีนส์ตัวโคร่งขาดหลุดลุ่ย พร้อมด้วยเสื้อไหมพรมสีแดงตัวใหญ่ยัดใน คาดเข็มขัดตรงเอว ส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าหนังมีส้น อีกทั้งในมือยังมีประเป๋าถือแบรนด์หรูเป็นพร็อบเสริม

แต่งแบบไม่เกรงใจอากาศเมืองไทยเลยสักนิด

“เบาๆเอง”

“นี่เบาแล้ว? ถ้าหนักมึงจะขนาดไหน”

“ช่างเถอะน่า ไปกันยัง”

แฟนเอ่ยเร่ง ดวงตาคู่สวยเป็นประกายเหมือนหมาจะได้ออกไปวิ่งเล่นข้างนอกจนหินได้แต่ส่ายหน้า
สุดท้ายร่างสูงก็ต้องเดินเคียงข้างแฟชั่นนิสต้าตัวยงไปจนกระทั่งถึงห้างหรู และเพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปในนั้นหินก็สัมผัสได้ถึงพลังงานจากสายตาหลายคู่ที่มองมา

คงเพราะประหลาดใจกับการแต่งตัวเหมือนจะไปเดินแฟชั่นของคนข้างตัว

เมื่อเข้าไปนั่งในร้านอาหารสุดหรูคนที่ไม่ค่อยทานอะไรแบบนี้นักก็รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ผิดที่ผิดทาง แต่กระนั่นสิ่งที่หินทำก็ทำให้แฟนแปลกใจไม่น้อย

การคลี่ผ้าเช็ดปากวางลงบนตักเป็นอันดับแรกตั้งแต่ที่นั่งลงโดยไม่ต้องให้เอ่ยบอกนั้นเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติราวกับเคยชิน...

“มึงเคยกินร้านอะไรแบบนี้รึเปล่า” แฟนถามขึ้นระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ

“ไม่เคย”

เมื่ออีกคนยืนยันอย่างนั้นคนถามจึงพยักหน้ารับ พลางคิดกับตัวเองว่ามารยาทบนโต๊ะอาหารคงเป็นสิ่งที่เรียนรู้กันได้ทั่วไป

แต่แล้วคิ้วได้รูปก็ขมวดไปตลอดมื้อเมื่อท่าทางการกินของคนตรงหน้าดูคล่องแคล่วโดยไม่แม้แต่จะหันมาถามว่าอะไรใช้กับอะไร อีกทั้งทักษะนั้นยังถูกต้องตามมารยาทของฝรั่งไปหมดทุกสิ่งอย่าง

แฟนไม่ได้คาดหวังว่าหินจะเป็นอย่างนี้ การจะกินด้วยท่าทีปกติเอาตามสะดวกแบบที่เคยทำก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร

แต่นี่หินกลับ...

“จ้องกูทำไม” คนถูกจ้องไม่วางตาเงยหน้าขึ้นมาถาม

“เปล่า...กูแค่อยากรู้ว่าอาหารถูกปากมึงไหม” แฟนเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจแล้วถามไปอีกเรื่อง

“ก็ดี แต่ส้มตำดีกว่า”

คำตอบที่ไม่เกินไปกว่าที่คิดไว้นักเรียกรอยยิ้มอ่อนใจให้จุดขึ้นบนใบหน้าสวย ก่อนแฟนจะเลิกสังเกตคนตรงหน้าแล้วลงมือทานอาหารของตัวเองอย่างจริงจัง

เมื่อมื้อเที่ยงที่เลยมาจนถึงบ่ายผ่านพ้นไปแฟนก็พาคนตัวโตมาเดินย่อย โดยอันดับแรกเริ่มจากสถานที่ประจำของเหล่าพ่อบ้าน

ร้านเครื่องสำอาง...

“มึงมาซื้ออะไร นี่มันของผู้หญิงไม่ใช่เหรอ” คิ้วเข้มขมวดมุ่นยามหยุดยืนอยู่หน้าร้าน

“ผู้ชายก็ใช้ได้โดยเฉพาะคนที่มีหลัวหื่นแบบมึง”

“เกี่ยวอะไรกัน”

“ก็ไอ้รอยด่างเหมือนแพ้อะไรมากมายตามตัวกูนี่มันต้องใช้อะไรล่ะ ถึงออกมาเดินข้างนอกได้”

คนไม่รู้เรื่องอะไรแบบนี้นักค่อยๆคิดตามจนได้คำตอบว่าการกลบรอยจ้ำแดงคงต้องใช้อะไรสักอย่างในนั้น

“มิน่า บางทีก็รู้สึกเฝื่อนๆลิ้น” หินพึมพำกับตัวเอง

“เพราะงั้นมึงต้องเข้ามาด้วย”

แขนแกร่งถูกรั้งให้ก้าวเข้าไปข้างในโดยมีพนักงานหลายคนมองมาด้วยสายตายิ้มๆ อีกทั้งยังมีเหล่าผู้หญิงซึ่งอยู่ร้านหันมามองจนรู้สึกขัดเขิน

ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งผู้ชายแบบตัวเองต้องมาเดินเข้าร้านอะไรแบบนี้

“ตัวใหม่ต่างจากตัวเก่ายังไงครับ”

“ตัวใหม่จะเน้นเรื่องงานผิวนะคะ คือบางเบาแล้วก็เกลี่ยง่ายกว่าตัวเดิม แต่เรื่องของการปกปิด ทนนานก็จะไม่มากเท่าค่ะ”

แฟนพยักหน้ารับพลางหยิบขวดรองพื้นทั้งสองขึ้นมาดู ขณะที่อีกคนได้แต่กวาดสายตามองไปทั่วอย่างไม่รู้เรื่องว่าคนทั้งสองพูดอะไร หินทำเพียงแค่สำรวจราคาของผลิตภัณฑ์ต่างๆก่อนจะอดขนลุกไม่ได้เมื่อแต่ละชิ้นนั้นราคาหลายพันขึ้น
แพงอะไรขนาดนี้

“โอเค งั้นขอเวลาส่วนตัวเลือกเองแล้วกันนะครับ”

เอ่ยบอกพนักงานไปตรงๆเมื่อแฟนอยากเลือกดูเองมากกว่าจะให้อีกฝ่ายจับจ้องและคอยแนะนำ

“ได้ค่ะ”

เมื่อพนักงานเดินออกไปแขนเรียวที่ปาดรองพื้นไว้ทั้งสองตัวก็ยื่นมาตรงหน้า ก่อนแฟนจะขยายความให้คนมึนงงเข้าใจ

“มึงเป็นคนกินหนิ จะชิมไหมว่าชอบแบบไหนมากกว่า”

คนฟังเลิกคิ้วแล้วมองครีมอะไรสักอย่างบนแขนของแฟนซึ่งถูกป้ายเรียงกันสองแถบนิ่ง วินาทีแรกหินยังคงเฉย ทว่าความสงสัยก็ทำให้โน้มหน้าลงไปใกล้จากนั้นจึงตวัดลิ้นเลีย ชิมรสของแถบแรกเล็กน้อย

“มึงชิมจริงเหรอ!”

เสียงอุทานที่พยายามไม่ให้ดังมากเกินหลุดออกจากปากด้วยความตกใจ ขณะที่คนกินรองพื้นทำหน้าปุเลี่ยน ปลายลิ้นสัมผัสได้ถึงความเฝื่อนและกลิ่นที่ไม่คุ้นเคยนัก

“ไม่เห็นอร่อย”

“มันจะอร่อยได้ยังไงเล่า กูแค่ล้อเล่น”

“กูอยากลองชิม”

“บ้าบอ”

ใบหน้าสวยส่ายไปมาอย่างอ่อนใจพลางหันไปเรียกพนักงานมาหยิบเบอร์ที่ต้องการของทั้งสองแบบ จากนั้นจึงเดินดูอย่างอื่นต่ออีกเล็กน้อย

“อยากได้ เปย์กูหน่อย”

แฟนหันมาอ้อนคนด้านหลังเมื่อเดินมาเจอโทนเนอร์เช็ดหน้าที่ตัวเองใช้อยู่เป็นประจำ โดยความจริงก็ไม่ได้อยากให้อีกคนจ่ายให้ขนาดนั้นเพียงแต่อยากลองอ้อนว่าหินจะว่าอย่างไร

“ก็เอาสิ”

“จริงจัง?”

“หนึ่งชิ้นต่อหนึ่งรอบ...เริ่มหลังจากผ่านสามวันนี้ไป”

ใบหน้าของคนพูดประดับไปด้วยรอยยิ้มมุมปาก ดวงตาทอประกายวาววับ

“มึงพูดจริงรึเปล่า”

“กูไม่เคยพูดเล่น”

“กูจะหยิบห้าชิ้น”

“ถ้ามึงไหวก็เอา”

“แน่ใจนะว่าจ่ายไหว”

“หึ” คำตอบนั้นมีเพียงเสียงหัวเราะในลำคอก่อนมือหนาจะเอื้อมไปหยิบกล่องโทนเนอร์ลงใส่ตะกร้าหกกล่อง

“หกรอบ”

ก็แค่เกือบหมื่นห้า...

“มึงจะเอามาทำไมตั้งหกขวด เอาอย่างอื่นด้วย”

มือบางหยิบของในตะกร้ากลับไปไว้ที่เดิมห้ากล่อง ไม่ได้เอ่ยคัดค้านเรื่องข้อตกลงนั้นแม้แต่น้อยเมื่อยังไงตัวเองก็ไม่ได้มีอะไรจะต้องเสีย

ปกติก็มีอะไรกันอยู่แล้ว เหนื่อยเพิ่มมาหน่อยแลกกับการถูกเปย์...คุ้มจะตายไป

TBC.

มาแล้ววววว มาพร้อมความหื่นด้วย ฮื่อ >///< คือตอนแรกจะให้น้องแฟนแพ้แต่ก็ความอิพี่อ่ะเนอะ พี่หินคือแพ้ทางน้องอยู่แล้ววว
แต่คนชนะลึกๆแล้วก็ไม่ได้ชนะนา อีกนิดเดียวน้องแฟนก็แพ้แล้วค่ะ เป็นคนชนะที่ข้างในก็พ่ายแพ้เหมือนกัน อิอิ

ชอบไม่ชอบยังไงก็ ติชม แนะนำ และเป็นกำลังใจให้ด้วยน้า

แล้วเจอกันตอนหน้าค่าาา


แฟนเพจ : https://www.facebook.com/writerexsoull/
Twitter : https://twitter.com/exsoull_ ฝากติดแท็ก #พี่หินคนห่าม ด้วยนะคะ



ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #153 เมื่อ10-01-2018 21:27:44 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #154 เมื่อ10-01-2018 21:31:18 »

ตอนนี้ก็มีความสุขไปนะคะแฟน หยิบไปหยิบมาได้เป็นสิบก็ขอให้สู้จ้าาาา  :hao7:

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #155 เมื่อ10-01-2018 21:40:03 »

หินเป็นใคร...

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #156 เมื่อ10-01-2018 21:40:57 »

หกชิ้นไปเลยยยยยยย  :hao6:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #157 เมื่อ10-01-2018 21:43:26 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #158 เมื่อ10-01-2018 21:46:59 »

แหม สายเปย์

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #159 เมื่อ10-01-2018 21:52:42 »

 :hao7:  :hao7:  :hao7:ชอบมากกกก ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
« ตอบ #159 เมื่อ: 10-01-2018 21:52:42 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #160 เมื่อ10-01-2018 21:54:24 »

 o13 o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #161 เมื่อ10-01-2018 22:00:06 »

น้องแฟนเป็นคนตลก “มึงเป็นคนกินหนิ จะชิมไหมว่าชอบแบบไหนมากกว่า” อิอิ  o13 o13 o13

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #162 เมื่อ10-01-2018 22:05:19 »

 :hao6: :hao6: :hao6: พี่หินสายเปย์

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #163 เมื่อ10-01-2018 22:07:36 »

พี่หินนนนน ปิดบังอะไรอยู่รึเปล่า....โอ้ย อิจฉาคนมีหลัวแซ่บเด้อ  :hao7:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #164 เมื่อ10-01-2018 22:16:56 »

ตอนที่อ่อยกันไปกันมานี่ใจเราเต้นตึกตักเลย ลุ้นว่าใครจะตบะแตกก่อน ซึ่งผลก็เป็นไปตามที่คาดพี่หินจะทนความยั่วยวนของน้องแฟนได้ยังไงกัน หุหุ

ออฟไลน์ คุณบี๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #165 เมื่อ10-01-2018 22:28:42 »

พี่หินนนนน อิจฉาแฟนสุดๆ  :hao7:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #166 เมื่อ10-01-2018 22:47:44 »

 :pig4:

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #167 เมื่อ10-01-2018 22:58:00 »

พี่หินคุณค่าที่แฟนคู่ควร เป็นคู่น่ารักมากอ่ะะะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ fanhy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #168 เมื่อ10-01-2018 23:21:16 »

ชอบพี่หินมาก น้องแฟนแต่งตัวจัดเต็มมาก เริ่ดๆๆ

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #169 เมื่อ10-01-2018 23:26:00 »

คาดว่าพี่หินเคยอยู่ต่างประเทศมาก่อนแน่ สำเนียงภาษาอังกฤษเป๊ะ ใช้อุปกรณ์บนโต๊ะอาหารได้คล่อง :m26: :m32:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
« ตอบ #169 เมื่อ: 10-01-2018 23:26:00 »





ออฟไลน์ a.amyw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #170 เมื่อ11-01-2018 00:32:59 »

พี่หินเป็นใคร ทำไมเป็นคนที่น่าค้นหาได้ขนาดนี้ ทั้งเรื่องงานทั้งเรื่องครอบครัว หยักรู้ววว รอตอนต่อไปค่าา

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #171 เมื่อ11-01-2018 00:48:02 »

นาน ๆ เจอสายเปย์แบบนี้ มันต้องยกลังไปเลย  :laugh:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #172 เมื่อ11-01-2018 10:08:29 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #173 เมื่อ11-01-2018 12:28:30 »

ตอนนี้เราอิจฉาน้องแฟนมากอะ พี่หินหื่นแต่ไม่ห่ามนะเอ้อ ลึกลับได้อีก ไหนบอกศึกษากันไง

ออฟไลน์ i_Tipz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #174 เมื่อ11-01-2018 15:42:07 »

 o13 o13 o13

ออฟไลน์ JanJanIsHappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #175 เมื่อ12-01-2018 01:20:35 »

จะสมัครเป็นเมียพี่หินต้องไปต่อหางแถวตรงไหนคะ

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 8 : 10/01/2018 p.6
«ตอบ #176 เมื่อ15-01-2018 15:22:53 »

 :o8:

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 9 : 25/01/2018 p.6
«ตอบ #177 เมื่อ25-01-2018 04:31:39 »


ตอนที่ 9

“ได้เสื้อสาม รองเท้าสอง กระเป๋าหนึ่ง...เครื่องสำอางแล้วก็สกินแคร์อีกสิบชิ้น”

ถุงของมากมายตรงหน้าถูกไล่ไปทีละอย่าง ก่อนจะจบลงด้วยถุงเครื่องสำอางและครีมอะไรต่อมิอะไรขนาดใหญ่

แฟนยิ้มร่าเมื่อวันนี้ได้ช็อปปิ้งไปจนสบายตัว และสิ่งที่ทำให้มีความสุขที่สุดคือการที่คนข้างตัวจ่ายค่าเครื่องสำอางและครีมให้แบบไม่ได้ออกเองแม้แต่บาทเดียว

“ฮึบ ขอบคุณนะ”

ร่างบางตะกายขึ้นมาบนโซฟาจากที่นั่งอยู่บนพื้น ขอบคุณด้วยการกระทำโดยการนั่งคร่อมลงบนตัก คล่องแขนไว้กับลำคอแกร่ง ก่อนริมฝีปากบางจะทาบทับลงมาแนบแน่น

“หึ อ้อนกู?” คนถูกขอบคุณเลิกคิ้วถาม

“ขอบคุณที่มึงตามใจ”

“ได้ของแล้วอารมณ์ดีใหญ่นะ”

“ไม่ได้อยากได้ของจากมึง แต่อยากให้มึงตามใจ...กูแอบซื้อนี่ให้ด้วย”

พูดจบก็ปีนกลับไปบนพื้น การขยับตัวที่รั้งขากางเกงขาสั้นให้เปิดวับๆแวมๆทำเอาคนมองถอนหายใจ

บอกไม่ให้ทำอะไรแต่ก็ขยันยั่วเหลือเกิน

ขณะที่แฟนกำลังค้นบางอย่างออกมาจากถุง ต่อมากล่องรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังก็ถูกยื่นมาตรงหน้า

“อะไร?”

“ให้มึง แลกกันกับเครื่องสำอาง”

แฟนไม่ได้อยากได้ของจากหินมากมายขนาดนั้นแต่อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่าอยากให้อีกฝ่ายตามใจเพราะตัวเองเป็นคนเอาแต่ใจ

ฉะนั้นเมื่อคนตัวโตซื้อของให้จึงไม่เอาเปรียบ ถึงแม้จะไม่ได้คืนกลับด้วยเงินแต่ก็คืนกลับด้วยสิ่งของที่มีมูลค้าใกล้เคียง

“แลกทำไม กูซื้อให้ก็คือซื้อให้” หินเอ่ยพูดทั้งยังไม่ยื่นมือออกไปรับ

“กูก็อยากให้มึงบ้างเหมือนกัน รับไปเถอะ”

เมื่อซื้อมาแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเอากลับไปคืนได้มือหนาจึงยื่นไปรับ ก่อนจะเปิดกล่องดู พลันมุมปากก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มถูกใจ

“ชอบไหม”

“อืม”

สนีกเกอร์ลิมิเต็ดอิดิชั่นตัวดังของแบรนด์หรูซึ่งนอนอยู่ในกล่องถูกจับออกมาดูเบอร์รองเท้า เมื่อเห็นว่าเป็นไซซ์ของตัวเองจึงวางใจ จากนั้นก็เก็บเข้าที่เช่นเดิมแล้ววางลง มือหนารั้งเอวบางของคนที่ยืนอยู่เข้าหาตัว เกมกีฬาซึ่งกำลังดุเดือดถูกปล่อยผ่าน

“รู้ไซซ์รองเท้ากูได้ไง”

“เคยแอบดู เผื่อต้องซื้อให้มึง แล้วก็ได้ซื้อให้จริงๆ”

เพราะสังเกตว่าหินเป็นคนชอบรองเท้าสนีกเกอร์ไม่น้อย เห็นจากหลายๆคู่ที่ใส่ ตอนเดินเข้าไปซื้อรองเท้าของตัวเองจึงอดซื้อให้ด้วยไม่ได้

คำตอบที่คนฟังยกยิ้ม มือทั้งสองข้างบนเอวเล็กออกแรงดึงให้แฟนทรุดลงบนตัก โดยที่เจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือโดยง่าย

“ขอบคุณครับ”

คำขอบคุณที่ลงท้ายอย่างสุภาพโดยไร้ซึ่งความกวนเรียกให้จังหวะการเต้นของหัวใจคนฟังถี่ขึ้น สองข้างแก้มพลันเห่อร้อนอย่างไม่เป็นตัวเองจนแฟนเผลอเบือนสายตาหลบ

ท่าทางที่ราวกับว่ากำลังเขิน

“ทำไมต้องพูดเพราะ” เอ่ยออกไปเสียงแผ่ว รู้สึกไม่คุ้นชินกับโหมดนี้ของหินสักเท่าไหร่

“ไม่ชอบเหรอ?”

ดวงตาคู่สวยเลื่อนกลับมามองคนตรงหน้าอีกครั้งแล้วส่ายหน้าตอบ บรรยากาศรอบตัวดูแปลกไปและส่งผลต่อใจจนสัมผัสได้

“แค่ไม่ชิน”

“หึ”

มีเพียงเสียงหัวเราะทุ้มที่หลุดพ้นลำคอ ก่อนหินจะยืดตัวขึ้นมาทาบทับสัมผัสลงบนริมฝีปากเล็กแผ่วเบา

“กูไม่ได้รวย แต่ก็เลี้ยงมึงได้ไม่ลำบาก”

อยู่ดีๆอีกคนก็พูดไปถึงอีกเรื่อง แต่กลับเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อใจได้ยิ่งกว่าเดิม

วันนี้แปลก...ทุกอย่างดูแปลกไปหมดในความรู้สึก

แต่เป็นความแปลกที่ดีต่อใจ

“ถ้าเลี้ยงกูได้ไม่ลำบากก็เรียกว่ารวยแล้ว”

“ก็อย่าใช้เงินเปลืองนัก ถ้าจะให้กูเปย์ทุกอย่างที่มึงซื้อวันนี้กูก็ไม่มีปัญญา”

เพราะอยากเรียนรู้ว่าคนรวยเขาใช้ชีวิตกันอย่างไรจึงปล่อยให้แฟนซื้อของตามอำเภอใจโดยไม่ห้าม ก่อนจะพบว่าความสิ้นเปลืองที่คาดคิดมันมากเกินกว่านั้นหลายเท่า

วันเดียวใช้เงินหมดเป็นแสนๆ

“ไม่ต้องมาเปย์กูหรอกน่า กูเลี้ยงตัวเองได้”

“กูไม่อยากก้าวก่ายชีวิตมึง แต่อะไรไม่จำเป็นก็ลดลงบ้าง เก็บเงินไว้ทำอะไรที่มีประโยชน์”

“ครับพ่อ” คนบนตักรับคำกึ่งประชด

“เดี๋ยวจะโดน”

“โดนอะไร”

คิ้วได้รูปเลิกขึ้นอย่างท้าทาย ใบหน้าสวยของคนที่รู้ความหมายของคำว่าโดนเป็นอย่างดีทอความยั่วเย้า

“สิบรอบ อย่าลืม”

“ไม่ลืมอยู่แล้ว ไม่กลัวด้วย”

“ปากเก่งแบบนี้กูจะเอาให้ร้องจนหมดเสียง”

เอวเล็กถูกบีบด้วยมือใหญ่เป็นการเตือนกลายๆแต่คนลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ ริมฝีปากบางยังคงระบายยิ้ม อีกทั้งยังโน้มหน้าลงมาใกล้จนปลายจมูกแตะกัน

“เตรียมน้ำผึ้งมะนาวรอเลย”

พูดจบก็กลายร่างเป็นแมวตัวน้อย กอดรัดคนตัวโตเอาไว้ยามวางคางเกยลงบนไหล่ ได้ยินเสียงหัวเราะดังคิกคักตามมาจนคนถูกยั่วถอนหายใจอ่อนใจ พลันท่อนแขนแกร่งจะขยับรัดเอวคนตัวเล็กตอบ ความอบอุ่นที่โอบรอบตัวเหมือนจะอุ่นขึ้นกว่าทุกครั้ง

--

“ออกไปไหนมาแต่เช้า”

แฟนซึ่งอยู่ในชุดทำงานเรียบร้อยเอ่ยขึ้นเมื่อคนที่หายไปแต่เช้ากลับเข้าห้องมาอีกครั้งด้วยสภาพที่ร่างกายชุ่มเหงื่อ

เช้าวันจันทร์ซึ่งเป็นวันทำงานที่อีกคนหยุด แต่ถึงอย่างนั้นหินก็ยังตื่นเช้าได้อย่างน่าแปลกใจ

ถ้าเป็นเขาคงนู้น เที่ยงถึงจะตื่น

“ไปวิ่งตรงสวนข้างล่างมา แล้วก็ไปซื้อโจ๊กให้มึง” ถุงในมือถูกยกชูขึ้นให้ดู

“ขยันอะไรขนาดนั้น”

นอกจากจะขยันตื่นเช้าแล้วยังขยันออกกำลังกาย ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาดูเหมือนว่าหินจะเป็นคนชอบออกกำลังกายไม่น้อย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนักเพราะร่างกายซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าต้องผ่านการออกกำลังกายมาอย่างสม่ำเสมอ

อีกทั้งยังเรื่องพละกำลังที่มีมากมายมหาศาล...ไม่เห็นเคยเหน็ดเหนื่อย

“ไปกินข้าวกันเถอะ มึงจะได้รีบออกไปทำงาน”

ใบหน้าสวยพยักหน้ารับพลางเดินตามอีกคนไปยังห้องครัว โดยมีแฟนจัดแจงเอาโจ๊กเทลงถ้วย จากนั้นจึงนำมาเสิร์ฟให้กับคนที่ซื้อมา

“ทำไมมึงต้องกินไข่ต้ม โดฟเหรอ” เอ่ยถามขึ้นเมื่อคนตรงหน้ากำลังแกะเปลือกไข่ต้มที่ซื้อมาพร้อมโจ๊ก

“โดฟอะไร กูกินโปรตีนเพื่อรักษากล้ามเนื้อ”

“ทำไมต้องรักษา”

“ก็ไปออกกำลังกายมาไง เหมือนเวลามึงไปออกกำลังกายแล้วปวดเนื้อปวดตัวก็เป็นเพราะว่ากล้ามเนื้อถูกใช้งาน พอถูกใช้งานมวลกล้ามเนื้อก็หายไป เราก็เลยต้องกินโปรตีนเข้าไปทดแทน ไม่กินไข่ก็นมจืด กล้วย อะไรเทือกนั้น”

คนฟังรับคำในลำคอเมื่อจำได้ว่าเห็นอีกฝ่ายกินอะไรที่พูดๆมาอยู่บ่อยครั้ง

“เฮลตี้เนอะ”

“ใช้งานร่างกายแล้วก็ดูแลมันหน่อย มึงก็เหมือนกัน ออกแต่กำลังกายในร่มมันไม่พอหรอก”

รอยยิ้มเย้าแหย่บนใบหน้าของคนพูดทำให้แฟนถอนหายใจ ก่อนจะเลิกถามอะไรต่อแล้วจัดการกับโจ๊กตรงหน้าของตัวเองไปเงียบๆ

--

“ถ้าเพื่อนไม่ตามจิกก็ไม่รู้จะมาไหมนะคะ”

“หลงหลัวหัวปักหัวปำ ชิ”

ยังไม่ทันจะทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ดีเสียงกระแหนะกะแหนก็ดังขึ้นจนแฟนเหลือบสายตามองบนใส่เพื่อนทั้งสองด้วยความระอา

“ไม่เบื่อที่จะแซะกูบ้างรึไง”

“ไม่ค่ะ/ไม่ค่ะ” บีและนัทตอบออกมาอย่างพร้อมเพรียง

หลังจากเลิกงานแล้วแฟนก็ถูกตามตัวให้ออกมาทานข้าวกับเพื่อนจนต้องโทรไปบอกคนที่ห้องว่าเย็นนี้มีนัด ไม่ได้กลับไปทานข้าวด้วย ก่อนจะออกจากบริษัทแล้วตรงมายังร้านอาหาร

“ขยันนักก็แซะต่อไปเถอะ กูไม่สะทกสะท้าน”

“พวกกูจะแซะจนกว่าจะได้พี่หินมาเป็นของตัวเองนั่นแหละ” สุดท้ายก็ไม่พ้นเรื่องนี้

“พอๆ สรุปว่าเรียกกูมาขนาดนี้มีเรื่องอะไร”

“เออ...”

เมื่อเปลี่ยนเรื่องแล้วประเด็นที่เป็นหัวข้อหลักถูกเอ่ยขึ้น เรื่องของอีกคนก็เลือนไปจากวงสนทนา สรุปแล้ววันนี้ที่แฟนโดนเรียกตัวก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเม้ามอยเรื่องของคนอื่น หรือจะเรียกง่ายๆว่าแค่รวมตัวกันตามประสาเท่านั้น

“อ๊ะ ขอโทษครับ”

คนที่กำลังจะเดินออกจากห้องน้ำรีบเอ่ยขอโทษขอโพย เนื่องจากเพราะมัวแต่สนใจอยู่กับการตอบข้อความในโทรศัพท์ จึงไม่ได้มองทางจนชนเข้ากับคนที่กำลังจะสวนมา

“เรา...แฟนของหินใช่ไหม”

ประโยคเอ่ยทักนั้นเรียกให้คนถูกทักรีบเงยหน้าขึ้นมอง จึงพบว่าคนที่ตัวเองเดินชนคือคนที่เคยเจอกันในห้องน้ำของโรงหนัง
คนที่ตื้อหินให้ไปทำงานด้วย

“สวัสดีครับ”

“มากับหินเหรอ” อีกฝ่ายเอ่ยถาม

“เปล่าครับ มากับเพื่อน”

เมื่อได้ยินคำตอบสีหน้าของคนถามก็ดูผ่อนคลายลง อีกทั้งยังดูเหมือนเป็นคำตอบที่เจ้าตัวคาดหวัง

“งั้นหรือ...ถ้าอย่างนั้นพอมีเวลาจะคุยกับพี่สักหน่อยไหม” 

ดวงตาคู่สวยจับจ้องคนตรงหน้านิ่ง ค้นหาอะไรบางอย่างบนใบหน้าของคนที่มีอายุมากกว่า สุดท้ายจึงยอมตกลงในเมื่อมองเห็นความร้อนรนของความต้องการจะคุยนั้นจริงๆ

“มีอะไรรึเปล่าครับ” แฟนถามขึ้นเมื่อเดินตามอีกคนออกมาจนถึงนอกร้าน

“คราวก่อนยังไม่ได้ทันจะได้แนะนำตัวกันเลย พี่ชื่อต้นนะ”

“แฟนครับ”

“โทษทีที่ต้องรบกวนเวลาของเรา งั้นก็เข้าเรื่องเลยแล้วกัน...คืออย่างที่ได้ยินพี่คุยกับหินในห้องน้ำวันนั้น พี่อยากได้มันมาร่วมงานด้วยจริงๆ”

“แล้วยังไงครับ”

แฟนถามต่ออย่างไม่เข้าใจนัก แต่ความรู้สึกลึกๆก็รู้ดีว่าการถูกเรียกออกมาคุยแบบนี้ต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้ต้องเข้าไปเอี่ยวกับเรื่องนี้

“แฟนรู้ดีอยู่แล้วใช่ไหมว่ามันน่าเสียดายที่หินจะอยู่แค่ตรงนี้ พี่เลยอยากขอร้องให้เราไปพูดกับหินให้หน่อย ถ้าแฟนพูดมันอาจจะมีโอกาสเป็นไปได้”

คำว่าน่าเสียดายสะดุดหูคนฟังได้มากพอๆกับคำว่ารู้ดีอยู่แล้วใช่ไหม

“ผมไม่รู้อะไรไปมากกว่าการที่หินเป็นนักดนตรี”

สีหน้าของอีกฝ่ายฉายชัดถึงความแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด

“หินไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังเลยเหรอ”

คราวนี้กลายเป็นความแปลกใจนั้นสลับมาอยู่ที่แฟน ก่อนใบหน้าเล็กจะส่ายน้อยๆ พลางเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาในอก

มันมีเรื่องอะไรที่เขายังไม่รู้อีกมากงั้นหรือ

“อืม...ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ มันเป็นคนไม่ชอบพูดอะไรอยู่แล้ว” คล้ายว่าอีกฝ่ายจะพึมพำกับตัวเอง

“มันมีอะไรมากกว่าการที่หินเป็นแค่นักดนตรีงั้นเหรอครับ”

“เป็นแค่นักดนตรีเหรอ...เอาเถอะ เจ้าตัวเขาไม่พูดก็แสดงว่าไม่ได้อยากให้รู้ เอาเป็นว่ายังไงพี่ก็ขอร้องให้แฟนช่วยลองคุยๆกับหินเรื่องนี้หน่อยได้ไหม”

คนถูกขอร้องนิ่งงันกับประโยคที่บ่งบอกว่ามีอะไร อีกทั้งการถูกร้องขอยังเป็นสิ่งที่ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว

เรื่องงานของหิน แฟนไม่อยากก้าวก่าย

“พี่ก็รู้จักพี่หินดีไม่ใช่เหรอครับ ถ้าได้ตัดสินใจอะไรไปแล้วเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนมัน ขอโทษที่ผมคงช่วยเรื่องนี้ไม่ได้”

“พี่รู้ แต่ลองดูสักครั้งนะ พี่ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเลยแต่ทำเพราะมัน”

น้ำเสียงและสีหน้ามีความเว้าวอนจนแฟนเกิดความลังเล แต่ถึงอย่างนั้นสุดท้ายก็เอ่ยปฏิเสธไป

“ขอโทษครับ แต่ผมไม่อยากไปยุ่งกับเรื่องงานของพี่หิน ถ้าเจ้าตัวไม่อยากทำนั่นก็หมายความว่าใจเขาไม่อยากทำ...ผมขอตัว”

พูดจบก็หมุนกายกลับเข้ามาในร้านโดยไม่รีรอให้อีกฝ่ายรั้งเอาไว้เพื่อคุยเรื่องนี้ต่อ ขณะที่ในหัวมีคำพูดทุกประโยคนั้นวนเวียนอยู่ไปมา

หินไม่ได้เป็นแค่นักดนตรีธรรมดา

นั่นคือสิ่งที่รับรู้อย่างแน่ชัดในตอนนี้

--

“เป็นอะไร นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด”

หินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จถามคนที่นั่งพิงหลังอยู่บนเตียงขึ้น แต่เหมือนคนที่ตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองจะไม่ได้ยิน กระทั่งร่างสูงทรุดตัวนั่งลงดวงตาคู่สวยจึงเบือนมามองกัน

“...เปล่า”

“ไม่สบายรึเปล่า”

เอ่ยถามพลางวางมือลงบนหน้าผากเล็ก เช็กว่าอุณหภูมิร่างกายแฟนยังคงเป็นปกติดีจึงละมือออก

“กูสบายดี”

“แน่ใจ?”

“อืม” เจ้าตัวยืนยันหากแต่ใบหน้าที่ยังคงแสดงออกราวกับมีอะไรทำให้หินไม่วางใจ

“มีอะไรบอกกกูได้”

เสียงทุ้มทอดอ่อนจนใจคนฟังวูบไหว ท่าทางที่ราวกับเป็นห่วงก่อความรู้สึกอุ่นๆให้ไหลวนอยู่ข้างใน

แฟนระบายยิ้ม สลัดเรื่องเมื่อเย็นทิ้งไปแล้วโน้มหัวซบลงกับอกแกร่ง บางอย่างบอกว่าความเป็นหินตลอดสองเดือนนั้นคือความจริงที่ไม่ได้มีสิ่งใดปกปิด

ถ้าถึงเวลาก็คงได้รู้เรื่องทั้งหมดเอง

“กูแค่คิดถึงเรื่องราวตลอดสองเดือนที่ผ่านมา”

“คิดว่า?”

ท่าทางออดอ้อนมากกว่าปกตินั้นเรียกรอยยิ้มมุกปากให้เกิดขึ้นบนใบหน้าคม หากแต่ในใจคนถูกอ้อนยังคงมีความกังวลเจืออยู่เนื่องจากรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ

วันนี้แฟนเจอเรื่องอะไรมา

“คิดว่ามันจะไปได้นานแค่ไหน” คำตอบนั้นทำให้หินถามต่อ

“แล้วมึงอยากให้ไปได้นานแค่ไหน”

“เรื่อยๆ...ได้ไหม”

ใบหน้าสวยผละออกแล้วเงยขึ้นถาม แม้ดวงตาคู่นี้จะไม่มีแววร้องขอหรือซาบซึ้งอย่างรูปของประโยคแต่ความจริงจังก็เป็นสิ่งที่หินสัมผัสได้

“ถ้ามึงต้องการ” หินตอบกลับด้วยความจริงจังไม่ต่างกัน

“กูหวังว่าอนาคตต่อให้มีเรื่องอะไรมึงและกูก็ยังจะเดินต่อ”

เสียงที่เอ่ยแผ่วเบากว่าทุกครั้ง ในหัวของแฟนยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องที่คนชื่อต้นเข้ามาคุย ด้วยความรู้สึกติดค้างเล็กๆ

ความอยากรู้กับความไม่อยากพูดออกไปมีมากพอกัน จึงเกิดเป็นสิ่งสะกิดใจเหมือนเสี้ยนตำมือ

มันอาจไม่ถึงกับรู้สึกมากมายแต่ก็มีความรู้สึกอยู่ในนั้น

“ก็เดินกันมาขนาดนี้แล้ว” คำตอบนั้นทำให้แฟนหลับตาลงก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้งพลางพยักหน้ารับ

“หวังด้วยว่ากูจะรู้เรื่องทุกๆอย่าง”

บางสิ่งที่ยังไม่รู้ หวังว่าสักวันหนึ่งจะถึงเวลาที่ได้รู้

“มึงหมายถึง?” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยิน

“ก็เผื่อมึงมีกิ๊กกูก็รู้ อะไรแบบนั้นไง”

รอยยิ้มและสีหน้าเปลี่ยนเป็นแฟนคนเดิมที่เคยเป็นจนคนมองยิ้มตาม

“หึ มีที่ไหน แค่มึงก็เหนื่อยจะแย่”

มือหนาวางลงบนหัวเล็กแล้วแรงโยกเบาๆสองสามที โดยที่คนถูกแกล้งก็โยกหัวหลบ

“ให้มันจริงเถอะ”

“มึงก็ลดความขี้อ่อยลงด้วย อ่อยกูได้แต่อย่าคิดไปอ่อยกับคนอื่น”

ใช่ว่าไม่รู้เรื่องผู้ชายเล็กผู้ชายน้อยที่ขยันแอดไลน์มาหาเจ้าตัว แต่เพราะอีกคนไม่ได้มีท่าทีอะไรจึงยังคงนิ่งเฉย
 
“ทำไม หึงเหรอ” คิ้วได้รูปเลิกขึ้นแล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

“แล้วกูไม่มีสิทธิ์รึไง”

“ก็...มีสิ เหมือนที่กูมีสิทธิ์ไง”

หินยกยิ้มให้กับคำตอบนั้น ก่อนใบหน้าคมจะโน้มลงมากดจูบบนริมฝีปากบางแนบแน่นแล้วผละออก

“นอนได้แล้ว”

“อือ”

แฟนรับคำในลำคอ จากนั้นวินาทีต่อมาก็เป็นฝ่ายขยับเข้ามาจูบกลับ เมื่อผละออกร่างเล็กจึงพลิกตัวไปเอนกายลงบนเตียง จัดที่จัดทางให้ตัวเองเรียบร้อย ขณะที่หินได้แต่มองคนขี้ยั่วแล้วส่ายหน้า

ชักจะทำตัวน่ารักขึ้นทุกวัน

--

วันต่อมา

“กูเปิดรับเด็กใหม่แล้ว มาสมัครอยู่หลายวง ยังไงเดี๋ยวมึงมาช่วยดูด้วย”

“อืม” หินรับคำยามกำลังนั่งพักอยู่ในห้องพักนักดนตรีหลังจากขึ้นเล่นเสร็จ

ไม่เพียงแค่การต้องเปลี่ยนงานกะทันหันของเขาแต่เพื่อนในวงก็มีแพลนจะไปทำอย่างอื่นด้วยเช่นกัน ทางร้านจึงต้องหานักดนตรีวงใหม่เข้ามาเล่นแทน

ครืด ครืด

มือซึ่งกำลังเก็บของเข้ากระเป๋าหยุดชะงัก โทรศัพท์บนโต๊ะสั่นครืดคราดเมื่อมีคนโทรเข้า พลันชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอจะทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน

โทรมาทำไมตอนนี้

“ฮัลโหล”

(อึก มึง...)

เสียงอ้อแอ้และการสะอึกจากปลายสายไม่ต้องมีการบอกใดๆก็รู้ได้ในทันทีว่าคนที่ไปงานเลี้ยงคงเมาเข้าให้

“อยู่ไหน กลับถึงห้องหรือยัง”

เอ่ยถามย้ำเพื่อความแน่ใจทั้งที่เสียงจอแจจากรอบด้านที่ได้ยินก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าแฟนยังอยู่ที่งาน

(หึ กลับไม่ไหว มารับหน่อยย)

หินถอนหายใจเมื่อฟังจากน้ำเสียงและรูปประโยคแล้วสภาพคนเมาก็วาบขึ้นมาในหัว

ดื่มไปขนาดไหนกัน

“อยู่ตรงไหน ส่งโลมาให้ไหวรึเปล่า”

(หวาย แค่กดๆเอง)

“งั้นก็ส่งมา เดี๋ยวไปรับ”

(อื้อออ)

“แล้วได้เอารถไปไหม”

(เอามา เอารถมา) งั้นรถของเขาคงต้องจอดเอาไว้นี่

“โอเค ส่งโลมาตอนนี้เลย”

ปลายสายรับคำอืออาก่อนสายจะถูกตัดไป จากนั้นราวๆหนึ่งนาทีโลเคชั่นก็ถูกส่งมาให้

หินเก็บของของตัวเองจนเรียบร้อยจึงเดินลงมาลาเพื่อนและพี่ๆที่นั่งดื่มกันอยู่ข้างล่างแล้วโบกแท็กซี่ไปยังที่หมาย สี่สิบห้านาทีต่อมาก็มาถึงโรงแรมหรูซึ่งคนเมาบอกว่านั่งรออยู่ตรงล็อบบี้

ผู้คนในชุดราตรีและชุดสูทเดินสวนเข้าออกไปมาพอสมควร จนเมื่อมาถึงล็อบบี้ สายตาก็มองเห็นใครบางคนนั่งหน้าแดงก่ำ สภาพคล้ายกับเด็กรอพ่อแม่มารับหลังเลิกเรียน

“มึง”

เสียงเรียกทอดอ่อนพร้อมรอยยิ้มหวาน เมื่ออีกฝ่ายหันมาเห็นขณะที่หินกำลังเดินเข้าไปหา แถมสองแขนเรียวยังชูขึ้นเรียกร้องให้เดินไปใกล้

“กินอะไรขนาดนี้”

บ่นให้เป็นสิ่งแรกเนื่องจากลองมาสภาพนี้ไม่พ้นว่าคงซัดเข้าไปเยอะ น่าจะมากกว่าครั้งที่ไปผับด้วยกันด้วยซ้ำ

“มานี่”

มือบางเอื้อมมาเกี่ยวชายเสื้อจนเข่าขยับเข้าไปชิดกับเข่าเจ้าตัว ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อหัวเล็กก็พิงมาซบลงตรงหน้าท้อง หยุดยั้งทุกคำพูดที่กำลังจะออกจากปากได้รูปให้ชะงัก

เหมือนรู้ว่าจะถูกดุเลยอ้อนใส่ก่อน

“อ้อนอะไร” จากจะกล่าวว่าเลยต้องเปลี่ยนเป็นถาม

“ง่วง” คนเมาตอบอ้อแอ้พลางซุกไซ้ใบหน้าไปมา

“ง่วงก็กลับ”

“อือ ไม่มีแรงเดิน”

“แล้วเดินลงมานี่ได้ไง ใครมาส่ง”

“อีนัทงาย แต่มันกลับไปกับผู้แล้ว”

โล่งใจที่คนมาส่งคือเพื่อนสนิทซึ่งไว้ใจได้ ไม่ใช่คนอื่น ไม่อย่างนั้นแฟนอาจมีสิทธิ์ถูกหิ้วไปกลางทาง

“งั้นตามึงกลับ มางานเลี้ยงอะไรกินให้เมาขนาดนี้ ถ้ากูไม่รับโทรศัพท์จะกลับยังไง แล้วนี่รถอยู่ไหน”

มือหนาดันร่างอีกคนให้ออกห่าง ก่อนจะพยายามรั้งแฟนให้ยืนขึ้นแต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่ให้ความร่วมมือ

“ขี้บ่น ขึ้นหลังหน่อย ไม่เดิน”

เงยหน้าพูดด้วยใบหน้ายุ่งเหยิง ดวงตาคู่สวยฉ่ำเยิ้มจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ หินแต่ได้แต่มองภาพนั้นแล้วถอนหายใจ สุดท้ายจึงทรุดตัวนั่งลงหันหลัง จากนั้นคนเมาก็ค่อยๆขยับเข้ามาเกาะเหมือนลูกลิง

ท่าทางที่คนเดินผ่านไปมาให้ความสนใจไม่น้อย

“สรุปว่ารถอยู่ไหน”

“อยู่ชั้นG ตรงล็อค...อือ จำไม่ได้”

สรุปว่าหินก็ได้พาคนบนหลังเดินหารถอยู่หลายนาที กว่าจะเจอก็เล่นเอาเหงื่อออกจนชุ่มหลัง ส่วนตัวสร้างเรื่องนั้นหลับพริ้มอยู่บนหลังทั้งอย่างนั้น

“ทั้งขี้ยั่วทั้งขี้ดื้อ เด็กอะไรวะ”

ทอดมองคนที่นอนเอนกายอยู่บนเบาะรถด้วยท่าทางสบายด้วยความอ่อนใจ จนอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปบีบปลายจมูกนั้นจนคนหลับส่งเสียงอืออา

“ฤทธิ์เยอะแต่ก็ยังน่ารัก”

“...”

“หึ ได้ยินแค่ในความฝันไปแล้วกัน”

--

“อื้อ ไม่ถอด” คนเมาบนเตียงดิ้นหนี ไม่ยอมให้ถอดกางเกงได้โดยง่าย

หินพรูลมหายใจเข้าออกอย่างเชื่องช้าเพื่อบรรเทาอารมณ์ที่อยากจะหวดก้นเด็กดื้อแรงๆสักที แล้วลองพยายามถอดกางเกงให้แฟนอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายก็ดิ้นหนีเช่นเดิม

ทีตอนไม่เมาไม่เห็นต้องบอกให้ถอดเลยด้วยซ้ำ

“แฟน ถอดดีๆ จะได้เช็ดตัวแล้วนอนสบายๆ”

“อือ”

“ดื้อแบบนี้กูว่าไม่น่ารักแล้ว”

บ่นกับตัวเองเมื่อนึกย้อนไปถึงคำชมก่อนหน้า ทว่ามันยังคงดังพอจะให้คนเมาได้ยิน ดวงตาคู่สวยจึงปรือเปิดขึ้น ให้คนไม่คาดคิดแปลกใจเล็กๆด้วยเพราะนึกว่าอีกคนหลับไปแล้ว

“กูน่ารัก”

ปากเล็กเบะออกเหมือนไม่พอใจกับคำที่ได้ยิน อีกทั้งดวงตาฉ่ำเยิ้มยังทอความขุ่นเคือง

“ไม่น่ารัก” หินตอบกลับทันใด

“...”

คนถูกว่ากัดริมฝีปาก สติที่มึนเบลอทำให้อารมณ์หลายสะเปะสะปะอยู่ในหัว ขณะที่ตอนนี้อารมณ์ไม่พอใจมาเหนือสิ่งอื่นใด

“ถ้าอยากน่ารักก็ยอมให้ถอดเสื้อผ้าดีๆ จะเช็ดไหมตัว อยากนอนสบายรึเปล่า”

มือหนาเอื้อมไปจับขอบกางเกงแล้วรั้งลงได้โดยง่ายเมื่อคราวนี้เจ้าตัวไม่ดิ้นหนีขัดขืน กลายเป็นตอนนี้แฟนอยู่ในสภาพมีเพียงชั้นในสีขาวติดกาย

“มึงถอดแล้ว กูน่ารัก”

หินขมวดคิ้วเมื่อหันไปโยนเสื้อลงจากเตียงแล้วได้ยินแฟนเอ่ยขึ้น

คนเมานี่เอาใจยากชิบ คราวก่อนไม่เห็นเป็นหนักขนาดนี้

“เออ น่ารัก พอใจยัง”

“ไม่พอ”

“จะเอาอะไรอีก”

“น่ารักแล้วต้องรัก”

คำพูดนั้นทำให้หินชะงัก แม้จะรู้ดีว่าคนตรงหน้าพูดด้วยสติที่รางเลือนแต่สิ่งที่ถูกเอ่ยนั้นก็ยังส่งผลต่อความรู้สึกของคนฟัง เกิดเป็นคำถามกับตัวเองในใจ

รักงั้นหรือ

“รักสิ รักกู”

คนเมาเร่งรัดเอาคำตอบด้วยการเอ่ยย้ำ อีกทั้งยังลุกขึ้นมานั่งประจันหน้า

“...”

ถ้าชอบหินสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าชอบอีกฝ่ายเข้าให้ หากแต่คำว่ารักที่ลึกซึ้งและต้องมีอะไรมากกว่านี้ยังไม่อาจหลุดออกจากปาก

“ต้องรัก รักแบบนี้”

แบบนี้ที่ว่าคือการที่ปากเล็กขยับเข้ามาทาบทับ เริ่มต้นการรุกเร้าด้วยการเป็นฝ่ายดูดดึงขบเม้ม ยามที่มือก็ลูบไล้ไปทั่วร่างหนาอย่างสะเปะสะปะ จนคนถูกจู่โจมเข้าใจได้ว่ารักที่ว่าไม่ใช่เรื่องความรู้สึกแต่เป็นรักที่หมายถึงเซ็กส์

อืม ถ้ารักแบบนี้ก็จะจัดให้แบบเต็มที่...เริ่มต้นเก็บเงินค่าเครื่องสำอางตั้งแต่ตอนนี้ทั้งที่ตั้งใจจะปล่อยให้เตรียมตัวเตรียมใจก่อนแท้ๆ

เมื่ออีกคนเป็นฝ่ายเริ่มเขาก็เป็นฝ่ายสนอง และมันก็ไม่ได้ต่างจากที่คิดเอาไว้นักว่าเช้ามาเจ้าตัวจะต้องโวยวายเพราะกลายสภาพเป็นผักเปื่อยตามเคย

“กูเมามึงก็ยังทำเหรอ มึงทำไปกี่รอบทำไมกูถึงไม่มีแรงขนาดนี้! โอ๊ย”

เสียงร้องซึ่งเป็นผลมาจากการปวดหัวเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ดังขึ้น ก่อนมือบางจะกุมหัวตัวเองเอาไว้แล้วปิดเปลือกตาลง

ตัวก็ล้า หัวก็ปวด โอ๊ย

“ใครเป็นคนเริ่ม มึงนึกดีๆ” หินที่นั่งพิงหัวเตียงเล่นเกมอยู่เอ่ยขึ้น

“กูจำไม่ได้ แต่ถ้ากูเริ่มมึงก็ปฏิเสธสิ นี่มึงสานต่อไปกี่รอบ ห๊ะ”

เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นถังขยะตรงข้างเตียงจึงชะโงกหน้าลงไปดู ก่อนซากถุงยางซึ่งทับซ้อนกันมากกว่าสามถุงเท่าที่ประเมินได้จากสายตาจะทำให้แฟนอ้าปาก

“อ้อยเข้าปากช้าง ทำไมกูต้องปฏิเสธ”

โทรศัพท์ในมือถูกวางลง จากนั้นร่างสูงก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่อย่างน่าหมั่นไส้

“ไอ้คนหื่น”

“โอ้โห นึกดีๆครับคุณ เมื่อคืนท่าทางมึงคล้ายกับจะเป็นฝ่ายข่มขืนกู”

“มะ ไม่จริง”

คำพูดน่าอายนั้นทำให้แฟนเอ่ยเถียงกลับทันควันด้วยเสียงสั่นๆ เนื่องจากเริ่มไม่มั่นใจว่าหรือตัวเองจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะสีหน้าและแววตาของหินเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“มึงเมา มึงรู้ใช่ไหมว่าตัวเองเมาจะเป็นยังไง” เจ้าตัวน่าจะรู้ตัวเองดีที่สุด

“...”

คนดื่มไปหนักได้แต่เงียบปากเมื่อรู้ว่าหากเมามาก คนเราสามารถทำทุกอย่างออกมาได้โดยไม่ต้องผ่านการไตร่ตรองจากสมอง

“กูใจดีให้เอาเมื่อคืนไปลบกับสิบรอบนั้นได้...เหลืออีกหก แต่หกรอบนั้นกูจะไม่ทำอะไรนอกจากนอนเฉยๆ เข้าใจ?”

แล้วคนพูดก็หยัดกายที่มีเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียวขึ้นจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ ทิ้งให้คนหมดสภาพนอนนิ่งอยู่บนเตียงอย่างพยายามเรียบเรียงเหตุการณ์เมื่อคืน

แต่สุดท้ายก็จำอะไรไม่ได้นอกจากตอนอีกคนมารับ แล้วภาพก็ตัดมาตอนที่ฟื้นขึ้นมาบนเตียงในห้องของหินตอนนี้เลย

“อย่าลืมโทรไปลางานด้วย โทรศัพท์มึงสั่นจนสายแทบไหม้”

คราวนี้แฟนไม่มีสติจะคิดเรื่องนี้ต่อเมื่อนาฬิกาบนโต๊ะข้างเตียงบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาในยามเที่ยง ยังดีที่วันนี้ไม่มีงานด่วนหรือประชุมสำคัญ ไม่อย่างนั้นคงโดนบ่นจนหูชา

เพราะไอ้หื่นหินคนเดียว!

TBC.

มาแล้ววววว หายไปนานเพราะช่วงนี้ยุ่งๆค่ะ ร่างกายก็แปลกๆเลยกว่าจะต่อติดได้><

ตอนนี้เหมือนไม่ค่อยมีอะไรเลย ฮื่อ แอบมีปมเล็กๆ แล้วเนื้อเรื่องก็ดำเนินไปแบบเรื่อยๆ สัญญาว่าตอนหน้าจะค่อยๆมีอะไรแล้วค่ะ อิอิ

คิดถึงคนห่ามก็คอมเมนต์แล้วก็มาเม้ากันได้ที่แท็ก #พี่หินคนห่าม น้าาา

เจอกันตอนหน้าค่ะ จุ๊บบบบ


แฟนเพจ : https://www.facebook.com/writerexsoull/
Twitter : https://twitter.com/exsoull_ ฝากติดแท็ก #พี่หินคนห่าม ด้วยนะคะ


ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 9 : 25/01/2018 p.6
«ตอบ #178 เมื่อ25-01-2018 05:13:04 »

เราอยากรู้เรื่องราวของพีีหินแล้วอะ

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0
Re: ◈ Happy New Boyfriend! ◈ ตอนที่ 9 : 25/01/2018 p.6
«ตอบ #179 เมื่อ25-01-2018 06:50:49 »

ตอนนี้ยังไม่รักกันอีกเหรอ :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด