พักเที่ยงครับ พอมีเวลามาปั่นต้นฉบับ เลยส่งมาลงอีกตอน ขอบคุณทุกๆ คอมเมนท์เลยนะครับผม
****************
มันร้องไห้จนไม่มีเสียงจะร้อง ตาบวมช้ำไปหมด เสื้อผมตรงไหล่เนี่ย ชุ่มน้ำตามันไปหมดเลยครับ
ผมเลยประคองมันไปล้างหน้าล้างตา แล้วบอกให้อาบน้ำ เดี๋ยวจะได้พักผ่อน
คืนนั้น เป็นคืนแรกนับตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่คอนโดกับมันครับ ที่เรานอนเตียงเดียวกัน เพราะผมก็ปล่อยให้มันนอนร้องไห้คนเดียวไม่ลง
และเพิ่งเกิดเรื่องขนาดนั้นกับมัน ผมก็ไม่มีกะจิตกะใจจะไปอะไรมันแน่ๆ อยู่แล้ว
ได้แต่นอนกอดมันไว้ทั้งคืน
กว่ามันจะหลับ ก็สะอื้นอยู่นาน
ขนาดมันหลับ ยังละเมอร้องไห้เลยครับ
ผมก็เข้าใจนะครับ มันคงทั้งช๊อค ทั้งเสียใจ เพราะจริงๆ ตอนแรกพ่อมันทำท่าจะอาการดีขึ้น แต่อยู่ๆ ก็มาทรุดลงอีก แล้วตอนอยู่ที่ รพ. จนมาถึงวัด มันก็ยังไม่ได้ร้องออกมาเต็มที่ เพราะว่ามันมีอะไรที่ต้องทำตลอด แต่พองานเสร็จ เรามีเวลาคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั่นแหล่ะครับ ความรู้สึกจริงๆ มันก็จะมา
มันกอดผมไว้ ซุกหน้าอยู่กับอกผม แล้วก็หลับไปทั้งน้ำตาแบบนั้น
ผมเองก็ได้แต่ลูบหัวมันเบาๆ สงสารมันมากเลยครับ
เราหลับไปได้ไม่ทันไรก็เช้าครับ เพราะกว่ามันจะหลับลงก็ดึก
ผมปลุกมัน เพราะวันนี้มันมีเรียน แต่ปรากฏว่า มันลืมตาแทบไม่ขึ้นเลยครับ ตาบวม คงเพราะร้องไห้หนักมาก เหมือนจะมีไข้ด้วย ผมเลยถามมันว่าไปเรียนไหวไหม
มันส่ายหน้า บอกว่าปวดหัว (ก็ไม่แปลกล่ะครับร้องไห้จนตัวโยนขนาดนั้น)
ผมก็เลยคิดว่า ลางานอยู่เป็นเพื่อนมันดีกว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเย็นๆ ก็ค่อยไปวัด
แต่ทั้งหมดที่คิดน่ะ ผมยังนอนอยู่กับมันบนเตียงนะครับ เพราะมันยังกอดผมแล้วซุกผมอยู่อย่างนั้นตั้งแต่เมื่อคืน
ผมก็นอนคิดอะไรอยู่ อยู่ๆ มันก็ร้องไห้ออกมาอีก
ผมก็ตะแคงหน้าไปมองมัน
ป่าน ป่านจะร้องไห้เพราะเสียใจเรื่องพ่อ เอก็เข้าใจนะ แต่ป่านก็ต้องเข้มแข็งนะ
ผมปลอบมันไปพลาง ลูบหัวมันเบาๆ ไปพลาง
ตอนนี้ แม่ป่านกับน้องป่าน ก็คงต้องให้ป่านดูแล เข้มแข็งนะ พ่อป่านเขาก็คงมองดูป่านอยู่แหล่ะ อย่าทำให้เขาเป็นห่วงเลย
แล้วเราจะทำยังไง มันสะอื้น
ป่าน ป่านมีเราอีกคนนะ มีอะไรบอกเรา เราสัญญาว่าจะดูแลป่านให้ดีที่สุด
มันเงยหน้าจากที่ซุกหน้าอยู่มามองผมครับ ตาโตๆ ของมันบวมตุ่ย แดง แล้วก็น้ำตาพรากไปหมด
ผมยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้มัน แล้วก็ดันตัวชะโงกหน้าลงไปจูบแก้มมันครับ (เค็มน้ำตาด้วยล่ะ)
ตอนนี้ ป่านอยากร้องไห้ ร้องให้พอเลย ร้องกับเอนี่แหล่ะ แล้ว เราก็ต้องก้าวต่อ ต้องเข็มแข็งต่อ นะป่าน
มันกระเถิบตัวมากอดผมแน่น แล้วก็ร้องไห้ไป พูดเสียงอู้อี้ๆ กับอกผมไป
ขอบคุณนะเอ ที่อยู่กับป่าน ขอบคุณจริงๆ
ผมกอดมันให้มันซุกหน้าอยู่กับอกผมแบบนั้นแหล่ะครับ จนมันหลับไปอีกรอบ
จะบอกว่า เหน็บกินด้วยแหล่ะ แต่ทนได้ครับ
จนสายๆ มันถึงตื่นขึ้นมาอีกที หนนี้ผมก็บอกมันว่า ควรจะตื่นมากินอะไรได้แล้ว เพราะเมื่อวานมันก็ไม่ยอมกินอะไรเท่าไร เดี๋ยวผมจะทำอะไรให้มันกินเอง ส่วนมันน่ะ ไปอาบน้ำ ล้างหน้าล้างตาซะ หน้าตามันดูไม่ได้เลยครับ
ส่วนผมก็ลุกไปล้างหน้าล้างตา แล้วออกไปหาอะไรง่ายๆ ให้มันครับ ก็คงพวกข้าวต้มกึ่งสำเร็จ โจ๊กกึ่งสำเร็จไปก่อน เพราะกินง่ายหน่อย
มันก็ใช้เวลาพักใหญ่ครับ ก่อนจะเดินออกมา อาบน้ำแต่งตัวมาเรียบร้อย แต่ตามันสิครับ บวมมาก ผมก็เลยบอกให้มันกินช้าว (ดุกำชับไปด้วยว่าต้องกินให้หมด เพราะเดี๋ยวต้องไปทำอะไรอีกหลายอย่าง) ส่วนผมก็ไปอาบน้ำบ้าง
วันนั้นก็พามันไปทำเรื่องแจ้งตายที่เขต ติดต่อเรื่องของชำร่วยงาน แม่มันกะว่าสวดเจ็ดวันแล้วเผาครับ แล้วค่อยไปลอยอังคารทีหลัง ทำการ์ด โน่นนี่ ผมเองก็อาสาแม่มันด้วยแหล่ะ ว่าจะให้ทำอะไรก็บอกมาเลย
ช่วงนั้นบางวันป่านมันก็กลับไปนอนที่บ้านครับ เพราะก็ต้องดูแลแม่มันกับน้อง และวันไหนที่มันไปนอนบ้าน ผมก็จะคุยกับมันทางโทรศัพท์จนหลับ
มันก็ยังร้องไห้อยู่บ้างแต่ก็ดีขึ้นกว่าวันแรกๆ ครับ
แต่ทีนี้มันมีอะไรนิดหน่อย ตอนคืนที่พ่อป่านเสียไปได้สามวันครับ วันนั้นเป็นวันที่ป่านกลับไปนอนบ้าน ส่วนผม ก็นอนคอนโดคนเดียว คุยโทรจนป่านมันหลับไปแล้ว ผมก็นอน
แต่จำได้แม่นเลยว่า วันนั้นผมฝันครับ
ฝันว่าไปที่บ้านป่านมันน่ะแหล่ะ แต่ผมไม่เห็นป่านนะ ผมเดินเข้าไปในบ้านมันเหมือนเคย แล้วก็เห็นพ่อมันนั่งทำงานอยู่ที่ห้องทำงานเหมือนทุกทีที่ผมไปบ้านมัน
พ่อมันหันมาเห็นผม
เอ เข้ามานี่ก่อน
ผมก็เด้นเข้าไปในห้องทำงานพ่อมันครับ ยกมือไหว้
เอ พ่อมีเรื่องจะพูดด้วย (คือพ่อแม่ผม กับพ่อแม่ป่านเหมือนกันอย่างครับ ถ้ากับเพื่อนของลูกไม่ว่าจะคนไหน ก็จะแทนตัวเองว่าพ่อ ว่าแม่ไปเลยเหมือนกัน)
ครับ พ่อมีอะไรครับ
ต่อไปนี้ พ่อฝากป่านด้วยนะ ดูแลป่านมันด้วย ดูแลให้ดี เหมือนที่เอเคยสัญญาไว้ พ่อรับคำสัญญาเอแล้วนะ ฝากมันด้วย
แล้วผมก็ลืมตาตื่นชึ้นมาเฉยๆ หลังคำว่า ฝากมันด้วย
หันไปมองนาฬิกา เป็นเวลา ตีห้า (ก่อนเวลาตื่นปกติผม ชั่วโมงนึง)
และผมก็จำได้ทุกคำที่พ่อป่าน (ในฝัน) พูดกับผม และจำได้มาจนถึงทุกวันนี้
แต่ผมก็ไม่รู้นะครับว่า ฝันนั้น เป็นการฝันไปเอง หรือ พ่อป่านมาฝากป่านไว้กับผมจริงๆ แต่ผมเลือกที่จะเชื่อ ว่า พ่อมันฝากมันไว้กับผมแล้ว ...... ก็ดีไม่ใช่หรือครับ
ผมไปช่วยงานพ่อมันทุกวัน และทุกวันก่อนจะกลับผมก็ไปลาพ่อมัน แล้วก็ย้ำบอกว่าไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลมันให้เอง
และทุกวัน ผมก็เจอไอ้ต้นที่มาช่วยงานเหมือนกันด้วย
และมันเองก็ป้วนเปี้ยนอยู่กับป่านตลอดเวลาเหมือนกัน
ผมเองก็ชักจะไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะงานพ่อมันด้วย และเท่าที่รู้มา จากน้องสาวของป่าน ไอ้ต้นกับป่านสนิทกันมาตั้งแต่ประถม มีมาตอนมหาลัยนี่แหล่ะ ที่แยกเรียนกันคนละคณะ (แต่ก็มหาลัยเดียวกันอีก) พ่อแม่ของไอ้ต้น ก็รู้จักสนิทสนมกับดีกับพ่อแม่ป่าน ผมเห็นว่าพ่อแม่ของไอ้ต้นก็มางานอยู่เหมือนกัน (ที่รู้เพราะป่านบอก)
แล้วมันก็ชอบมองผมแปลกๆ เวลาผมคุยกับป่าน หรือวันไหนที่ป่านกลับคอนโดกับผม ไอ้ต้นเนี่ย มันก็ชอบทำสายตาแปลกๆ เวลามองมาทุกที
อยากเข้าไปถามมากครับ
เมิงข้องใจไรกรูวะ
แต่งานพ่อป่าน ผมเลยต้องเก็บโหมดนักเลงตัวเองไว้เสียก่อน ให้เหลือแต่โหมดชายหนุ่มแสนดี (แหว่ะ)
แล้วงานก็มาถึงวันเผาครับ ผมก็ไปช่วยแต่เช้า เพราะมีเลี้ยงเพลด้วย ป่านมันก็วุ่น เตรียมของรับแขก (วันนั้นมันใส่สูทเลยครับ และดูดีมากกกกก ส่วนผมก็แค่เสื้อเชิ๊ตดำ กางเกง แล้วก็ไทด์ดำ เท่านั้นแหล่ะ)
ส่วนไอ้ต้น มันก็มาครับ แต่งตัวเรียบร้อยมาเชียว
ผมก็ช่วยยกน้ำ แจกดอกไม้จันทน์ แจกของชำร่วยอะไรไป จนกระทั่งเสร็จงานครับ เหลือแต่วันรุ่งขึ้นมาเก็บกระดูกแล้วค่อยไปลอยอังคารอีกที
ป่านมันเข้มแข็งขึ้นเยอะแล้วครับ แต่ก็ตอนจะเลื่อนโลงเข้าเมรุ มันก็ร้องไห้อยู่เหมือนกัน ตอนนั้นผมยืนอยู่ด้านล่าง ก็ได้แต่หันไปมองมันครับ
พอเสร็จงาน แม่ป่านก็ถามว่า คืนนี้ป่านจะไปนอนไหน มันก็บอกว่า คงกลับคอนโด พรุ่งนี้มันจะมาวัดแต่เช้า ส่วนแม่ค่อยตามมาก็ได้ แล้วค่อยเอารถเลยไปที่จะไปลอยอังคารทีหลัง
ค่ำนั้น ผมกับมันกลับมาที่คอนโด มันถอดสูทออกพาดกับเก้าอี้แล้วก็ทิ้งตัวลงบนโซฟา
ผมก็เดินไปรินน้ำมาให้มัน ก่อนจะนั่งลงข้างๆ
เอ พรุ่งนี้ไปกับเราด้วยนะ
จะดีเหรอ มีแต่ญาติๆ
ไม่เป็นไรหรอก ป่านบอกแม่แล้วว่าจะให้เอขับรถให้
คือจะบอกตรงๆ นะครับ จากงานพ่อป่านเนี่ย ผมก็แอบรู้สึกว่า มีคนมองผมและป่านอย่างสงสัยอยู่เหมือนกัน แต่เราก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมา แต่ไอ้การที่ผมจะไปลอยอังคารกับญาติๆ มัน เนี่ย ผมก็อดกังวลไม่ได้
ดีแน่เหรอป่าน เราไม่อยากให้มีปัญหานะ
ป่านอยากให้เอไปด้วย พ่อก็คงเหมือนกัน
(ผมเล่าให้ป่านฟังเรื่องความฝันของผมครับ ตั้งแต่วันที่ฝันน่ะแหล่ะ มันร้องไห้อีกหน่อย แต่ก็บอกว่า มันก็เชื่อเหมือนผม ว่าพ่อมันรับรู้แล้ว)
ผมก็เลยตกลง
แล้วอยู่ๆ มันก็ถอนหายใจ แล้วก็ น้ำตาไหลอีก
เร็วจังเนาะ ไม่กี่วันที่ผ่านมา ป่านยังได้คุยกับพ่ออยู่เลย ตอนนี้ ป่านคงไม่ได้คุยกับพ่อแล้ว
ได้คุยดิ พ่อป่านก็อยู่กะป่านตลอดแหล่ะ ถ้าอยากคุย ก็คิดถึงพ่อ แล้วก็คุยกับพ่อที่อยู่ในใจป่านสิ
ผมบอกมัน
เอ
หือ
ขอบตุณนะ
ไม่ต้องขอบคุณแล้ว เอรักป่านนะ ทำไมแค่นี้จะทำให้ไม่ได้
ผมหลุดปากออกไป และมันก็ได้ยิน
เอว่าอะไรนะ
เอ่อ (คือตอนแรกผมตั้งใจว่า พอหมดเรื่องพ่อป่าน แล้วให้มันสบายใจกว่านี้อีกหน่อย ให้เวลาผ่านไปอีกหน่อย ผมถึงจะค่อยบอกว่าผมรักมันแล้วนะ ไม่ใช่แค่ชอบๆ แต่ดันหลุดออกมาแล้ว)
ไม่มีอะไร เราบอกว่า ทำไมแค่นี้จะทำให้ไม่ได้ ผมแถ
เอ แน่ใจแล้วเหรอ ว่า เอรักป่าน
มันดันยิงกระสุนตรงมาทะลุหัวใจผมเลยครับ
ผมเลยหันไปมองหน้ามัน
ถ้าป่านอยากรู้จริงๆ
เอแน่ใจ
แม้ว่าป่านเองยังไม่รู้ว่า ป่านดีพอแล้วไหม แล้วมันจะโอเคไหม เนี่ยเหรอ
อืม
ตอนนี้น่ะ รักก็บอกว่ารัก ไม่ต้องคิดไรหรอกป่าน เหมือนๆ ที่เอพูดเสมอแหล่ะ ให้เวลามันบอกเอง ป่านจะรักตอบเอ หรือยังไม่รักตอนนี้ หรือจะไงก็ได้
ป่านดีพอแล้วจริงๆ น่ะเหรอ มันถามย้ำ
พอ ผมตอบสั้นๆ
มันก็มองหน้าผม ยิ้มทั้งที่น้ำตายังเป็นทางอยู่บนแก้ม
ป่านยังบอกเอตอนนี้ไม่ได้นะ ว่าเราจะเป็นไงต่อไป ขอเวลาให้ป่านแน่ใจตัวเอง แต่ตอนนี้ เอเป็นคนพิเศษที่สุดสำหรับป่านนะ เอรอป่านได้ไหม
ได้ครับผม ผมยิ้ม
(บางคนอ่านก็คงแอบหมั่นไส้ผมนะ เมิงจะพระเอกไปไหนวะ แต่ตอนนั้นมันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ นะครับ กับคนๆ นี้ ทุกสิ่งทุกอย่าง มันมาจากใจผม คิดแล้ว เลือกแล้วเลยจริงๆ)
แล้ว ก็เป็นอีกหน ที่เราจูบกัน
แต่เป็นหนแรก ที่ป่านเป็นคนดึงผมให้เข้าไปหา และจูบผมก่อน
มันจูบผม และผมก็จูบตอบมัน
มันจูบหวานมากจนผมเองก็ชักใจคอไม่ดี
ป่าน ผมถอนปากออก
พอก่อน
มันมองตาผม
ทำไมล่ะ
เดี๋ยวมันจะห้ามไม่อยู่นะ
มันยิ้ม ก่อนจะซบหน้ากับไหล่ผม
ก่อนจะพูดเสียงเบาหวิวจนผมแทบไม่ได้ยิน
ห้ามไม่อยู่ ก็ไม่เป็นไรนี่ ....
*****************