ตอนที่23
สวัสดีครับทุกคน ผมนิทานคนเดิมเพิ่มเติมคือมีแฟนแล้ว วันนี้ผมเดินทางมาคณะด้วยจิตใจสดชื่นใบหน้าแจ่มใส่จนอัทเพื่อนรักต้องทักอย่างอดไม่ได้”ยิ้มแป้นมาเชียว เมื่อวันศุกร์ใครที่ไหนทำหน้าเหมือนปลาขาดน้ำวะ”
ผมแลบลิ้นใส่มันเพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี
“คิดว่าน่ารักนักเหรอทำมาเป็นแลบลิ้นคิกคัก”
ผมทำเมินไม่สนใจเพื่อนของผมจึงไม่ได้แซวอะไรต่อ ความจริงมันน่าจะรู้แล้วล่ะครับว่าผมแฮปปี้เรื่องอะไรเพราะเมื่อวานหลังกินข้าวเช้าเสร็จพี่กาจน์ก็บังคับให้ผมขึ้นสถานะว่ามีแฟนแล้ว พี่เขาก็ขึ้นเหมือนกันนะแต่พวกเราไม่ได้ระบุว่ากำลังคบกับใคร
มีเพื่อนๆหลายคนเข้ามาถามผม นี่ขนาดวันจันทร์แล้วยังมีคนมากดถูกใจโพสต์อยู่เลย แม้แต่พี่เฟิร์นกับพี่กิตต์ยังมา
ในส่วนของพี่กาจน์นั้นผมแทบไม่กล้าเข้าไปส่องเฟสบุ๊คเลยครับ เมื่อวานมือถือพี่กาจน์สั่นตลอด มีทั้งพวกพี่เจโทรมาถาม เอฟซีถล่มเมนชั่น สายเผือกกระหน่ำคอมเมนต์ พี่แกถึงกับต้องล็อคเอาท์ออกจากเฟสพร้อมพูดขำๆว่านี่ขนาดไม่รู้ว่าพี่คบกับใครทุกคนยังแตกตื่นขนาดนี้ ถ้าพวกมันรู้มหาลัยไม่แตกเอาเหรอ
“ไอ้นิทาน ไหนๆชีวิตมึงช่วงนี้ก็อยู่ในช่วงขาขึ้น สอบปลายภาคพวกกูขอใช้ห้องมึงติวสอบได้ป่าววะ”อัทถาม
ผมชะงักไปเล็กน้อยก่อนตอบเสียงเรียบว่า”ไม่ได้”
“โหย ไรว้า ขี้งกอ่ะ”
ผมจะตอบตกลงได้ยังไงล่ะครับในเมื่อตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ที่หอข้างมอแต่ผมอยู่กับพี่กาจน์ ผมอยู่กินกับแฟน!! ถึงพี่กาจน์จะยอมแยกห้องนอนอย่างเสียมิได้ก็เถอะ แต่ขืนปล่อยให้พวกบ้านี่ไปมีหวังโดนเข้าใจผิดว่าได้เสียกันแล้วแน่!!
“นะนิทานนะ”แจนที่นั่งเรียนอยู่ด้านหลังกระซิบขอร้อง
พอผมหันไปก็ป๊ะกับสายตาออดอ้อนของอรเข้าเต็มๆ รีบหันกลับมาไม่ทัน
“ใช่มะ ทุกคนอยากไปติวที่บ้านนิทาน เนอะๆ”ไอ้อัทรีบหาพวก มันหันไปหาแจนและพยักเพยิดหน้าให้ไอ้แก๊ปที่นั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนของมันถัดออกไป
“น้านิทานน้า...”อรกล่าว
“นะมึงน้า...”อัทกล่าว
“นิทานคนดีค้า...”แจนกล่าว
หงึกๆ แก๊ปพยักหน้าแรงจนคอแทบหลุด
แล้วผมคนขี้ใจอ่อนแบบผมจะปฏิเสธได้อีกเหรอ ตอบบบ!! สุดท้ายผมก็ตอบตกลงเพราะสถานการณ์บังคับ คิดว่าให้พวกมันรู้ก็คงไม่เสียหายอะไรเพราะดูทรงแต่ละคนแล้วไม่ใช่พวกปากพร่อย ถึงจะขี้นินทาแต่ก็นินทากันแค่ในกลุ่ม อารมณ์แบบพอแจนลุกออกไปปุ๊ปอรก็จะเผาแจนให้พวกเราฟัง พอแจนกลับมาทุกคนก็เปลี่ยนเรื่อง
มิตรภาพมันก็เท่านี้แหละครับ ใครไม่อยู่มึงนั่นแหละโดน ฮ่ะๆ
เนื่องจากสอบมิดเทอมอัทเป็นคนที่ได้คะแนนดีที่สุดอย่างน่าตกใจมันจึงอาสาติววิชาที่มันได้ท็อปคลาสให้ตอบแทนที่ผมยอมเสียสละสถานที่
“จริงๆเลยน้า ทั้งๆที่คราวก่อนยังติวในห้องสมุดได้เลย...”ผมอดบ่นไม่ได้เพราะวันนี้คือวันที่พวกมันนัดกันไปติวที่ห้องของผม
“คึกๆๆๆๆ”ไอ้อัทกับไอ้แก๊ปประสานเสียงหัวเราะน่าเกลียดพร้อมๆกัน พวกเราสามคนออกมานั่งรอแจนกับอรเก็บของและร่ำลากับเพื่อนสาวคนอื่นๆที่ข้างลานจอดรถของคณะ
“ว่าแต่เมื่อไหร่พี่กาจน์จะมาวะ”แก๊ปถาม
“น่าจะใกล้ถึง...”ผมหยุดตอบกลางคันเพราะสายตาดันไปสะดุดเข้ากับหนุ่มน้อยน่ารักผู้เดินส่งยิ้มมาให้ผมแต่ไกล
คราม?
ผมไม่คิดว่าเจ้านี่จะมาอ่อยผมอีกเพราะผมเพิ่งขึ้นสถานะไปหยกๆซึ่งเจ้าตัวต้องเห็นแน่ๆ แต่คนตัวเล็กกลับโดดผล็อยเข้ามาเกาะแขนของผม หัวทุยๆซุกไซร้ไปมา เส้นผมนุ่มละต้นคอจนผมรู้สึกจั๊กจี๋ ก่อนที่พวกอัทจะสงสัยไปมากกว่านี้ผมก็รีบแนะนำครามให้พวกมันรู้จัก
“นี่คราม น้องคณะพี่เฟิร์น”
“อ้อ น่ารักว่ะ”ขนาดแก๊ปที่ไม่เคยออกตัวว่าชอบผู้ชายยังเอ่ยปากชม ของเขาดีจริงๆครับหนุ่มอักษรคนนี้
คนถูกชมยกยิ้มหวานจ๋อยให้ชายหนุ่มอีกสองคนใจสั่นเล่น โชคดีที่อรกับแจนเดินมาก่อนไม่อย่างนั้นกิ๊กของพวกเธอจะต้องโดนครามตกไปแน่นอน สองสาวผู้มาใหม่มองหน้าครามและแขนที่เกาะผมอยู่ด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์นัก
“กำลังจะไปไหนกันเหรอ ไปด้วยได้ป่าว~”เสียงใสเอ่ยถามจังหวะเดียวกับที่พี่กาจน์เดินเข้ามารวมกลุ่มกับพวกเราพอดี
ทีแรกผมจะตอบปัดไปแต่คุณเจ้าของห้องดันส่งรอยยิ้มเป็นมิตรให้ไอ้ครามก่อนเอ่ยว่า”ได้สิ พวกนิทานจะไปอ่านหนังสือกันที่ห้องพี่น่ะ”
“เย้”
พอมีคนมาเพิ่มที่นั่งในรถก็ไม่พอสิครับ ตอนแรกพวกอัทกะจะนั่งเบียดกันหน่อยที่เบาะหลังแต่พอมีสมาชิใหม่มาแจมด้วยอัทกับแก๊ปเลยต้องเด้งไปขึ้นแท็กซี่ตามมาแทน
ตอนผมบอกทางให้พวกมันกลับไม่มีใครแสดงอาการแปลกใจสักคน
ผมเหลือบตามองแจนกับอรที่นั่งหน้างอผ่านกระจกหลัง ทั้งสองคนแสดงออกว่าไม่ชอบครามอย่างชัดเจนแต่เจ้าตัวคนที่โดนเกลียดกลับไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนใดๆ ดูสิ ขนาดผมมองเพื่อนอยู่มันยังส่งยิ้มมาให้ผ่านกระจกมองหลังเลย อา...แค่ผมกับครามสบตากันผ่านกระจกมองหลังเท่านั้นแหละอรกับแจนก็หันไปจิกตาใส่ครามทันที
อา...
ผมรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ผมมีแฟนแล้วฉะนั้นผมไม่ควรไปยุ่งกับครามอีกแต่คนที่ชวนครามมาด้วยดันเป็นพี่กาจน์น่ะสิ
“อรกับแจนรู้ได้ยังไงว่าเราย้ายหอแล้ว”ผมยอมหาเหาใส่หัวเอ่ยชวนคุยในประเด็นเข้าตัวด้วยความหวังว่าจะทำลายความเงียบในรถลงได้บ้าง
“รู้ตั้งแต่อาทิตย์แรกที่พี่กาจน์มารับมาส่งนิทานที่คณะนู่นแล้ว ก็เลี้ยวรถออกไปฝั่งตรงข้ามกับหอเก่านิทานเลยนี่นะ หึส์ แล้วก็ปิดเงียบไม่ยอมบอกพวกเราจนอัทต้องหลอกขอมาติวด้วยอย่างที่เห็น”อรตอบเสียงแกนๆ เธอคงไม่มีอารมณ์มาแซวเล่นกับผม
“แล้วข่าวลือเป็นไงครับ ยังมีคนเข้าใจว่าพี่เป็นไอ้กิตต์อยู่มั้ย”พี่กาจน์ถามบ้าง ในรถตอนนี้คงมีแค่พี่เขากับครามที่ยังยิ้มได้
“เต็มอ่ะพี่ ตราบเท่าที่พวกพี่สองคนไม่ถ่ายรูปคู่กันลงเฟสโลกก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าพวกพี่มีฝาแฝด”แจนแอบแซะเบาๆ เธอคงเข้าไปส่องเฟสพี่กิตต์แล้วเจอแต่รูปที่เพื่อนแท็กมา ส่วนเฟสพี่กาจน์ก็มีแต่รูปท้องฟ้า ท้องฟ้า แล้วก็ท้องฟ้า
“ทำไมพี่ถึงลงแต่รูปท้องฟ้าล่ะ”คนที่โดนเขม่นใส่อยู่ดีๆก็โพล่งถามขึ้นมา สีหน้าของพี่กาจน์เครียดเขม็งจนผมที่นั่งเบาะข้างๆสัมผัสได้
ไอ้เด็กอักษรปากพล่อย ไม่รู้เหรอว่านี่เป็นประเด็นอ่อนไหว!!
อรกับแจนที่สงสัยเช่นกันรีบเสริม”นั่นสิคะ พี่โพสต์แต่ภาพท้องฟ้าตอนเย็น อย่างน้อยก็ถ่ายตอนกลางคืนน่าจะสวยกว่านะคะ ติดดาวด้วย”
“...”ความนิ่งคือคำตอบที่ดีที่สุดจากคนมีปม
“คำตอบล่ะครับพี่กาจน์”ไม่รู้ไอ้ครามเกิดผีเข้าอะไรขึ้นมา ทั้งๆที่พี่กาจน์เงียงแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากตอบอรกับแจนยังหยุดไปแล้วแต่เด็กอักษรนี่ยังไม่หยุด
“เอ่อ พี่กาจน์เขา...เพราะพี่เขาไม่ได้ถ่ายเพื่อความสวยงามแต่เขาถ่ายเพื่อระลึกถึง แบบว่า คุมโทนไง ฮ่ะๆๆ”ผมตอบแทน คำถามของผมคงถูกใจเจ้าครามมันไม่น้อย ในที่สุดใบหน้าน่ารักก็กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้งราวกับว่าเสียงเหวี่ยงๆเมื่อครู่ผมแค่หูฝาดไป
“มีคนคุมโทนเฟสบุ๊คด้วยเหรอ ไม่เข้าใจคนหล่อเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ”
พี่กาจน์หัวเราะออกเมื่อถูกแจนแซะลอยๆ
“พี่ว่าจะเลิกถ่ายแล้ว ไว้พี่ถ่ายรูปพวกเราลงประเดิมดีมั้ย”
“ไม่!!!”อรแจนและผมรีบปฏิเสธพร้อมกันเสียงดัง ขืนพี่เอาหน้าของพวกเราสามคนแปะลงวอลล์ของตัวเองมีหวังชีวิตนักศึกษาธรรมดาๆของพวกเราก็ป่นปี้ย่อยยับหมดน่ะสิ!! คราวนี้ชาวบ้านต้องสงสัยแน่ๆว่าหนึ่งในสามคนนี้คือแฟนของพี่กาจน์ แค่คิดก็สยองแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น รังเกียจพี่เหรอครับ”ผมมองค้อนพี่เขาไปทีนึงก่อนมองกระจกหลังเพื่อสำรวจรีแอคชั่นของเพื่อนๆ โอเค อรกับแจนปกติดี แต่เจ้าครามไม่ปกติอีกแล้ว ทำหน้าเหมือนคนเจอผีแถมยังจ้องแผ่นหลังของพี่กาจน์จนตาแทบถลน
ผมว่าไอ้นี่ชักยังไงๆละนะ
เมื่อมาถึงคอนโดอรกับแจนก็ตะลึงตาค้างและโดนความไฮโซกดทับจนบี้แบนเหมือนวันแรกของผมไม่มีผิด ยิ่งไอ้อัทกับไอ้แก๊ปตามมาสมทบพวกมันยิ่งแตกตื่นฮือฮาหนักกว่าเดิม ทั้งสี่หน่อเดินออกจากลิฟต์มาแบบเกร็งๆ
“แม่เจ้าโว้ยยย มีบันได้ในห้องด้วย ทะลุขึ้นไปไหนวะ”แก๊ปวิ่งไปดูตรงบันไดที่ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง มองขึ้นไปจะเห็นห้องข้างบนที่ตีผนังด้วยกระจกทำให้แสงลอดผ่านทั้งวัน
“ขึ้นไม่ได้นะ เจ้าของห้องเขาให้พี่ยืมแค่ชั้นนี้”พี่กาจน์ห้ามแบบไม่จริงจังนักเพราะยังไงขั้นบนสุดของบันไดก็มีรั้วเตี้ยๆปิดอยู่ พวกมันคงไม่เสียมารยาทปีนข้ามไปอยู่แล้ว
“เป็นไงครับ ไม่ชอบห้องนี้เหรอ”ผมค่อนข้างแปลกใจที่พี่กาจน์พยามชวนครามคุย
คนถูกชวนคุยยืนอยู่คนเดียวเงียบๆตรงมุมห้อง พยักหน้าด้วยสีหน้าไม่ยี่หระ”ก็รวยดี สมกับหน้าตา”
รู้สึกแย่แฮะ เหมือนพี่กาจน์ถูกมองแค่ภายนอกอย่างเดียวเลย ระหว่างที่ปล่อยเพื่อนๆชื่นชมกับเครื่องเรือนตามอิสระผมก็เดินเข้าไปสมทบกับพี่กาจน์และครามตรงมุมห้อง
“ไม่ใช่แค่หน้าตาดี แต่ใจดีด้วยนะ”ผมชม พี่เขาเป็นคนใจดีจริงๆครับ ดูจากที่พยามแบกรับอะไรหลายๆไว้ด้วยตัวคนเดียว
“แต่ยังไงเราก็ชอบนิทานที่สุดนะ เลิกกับพี่เขาเมื่อไหร่ก็มาหาเราได้เสมอ เราจะวนเวียนอยู่รอบๆตัวนิทานแบบนี้ไม่ไปไหน”
“ฮ่ะๆๆ ทำไมฟังดูน่ากลัวจัง”ผมแกล้งทำท่ากลัวใส่ เด็กอักษรจึงเล่นเป็นปีศาจแล้วมาวิ่งไล่ผม เล่นกันเป็นเด็กอนุบาลเลยครับ
“ฮ่าๆๆ ไหนๆวันนี้คนก็มากันเยอะนิทานมาทำเค้กกับพี่มั้ยครับ”
“ไม่ได้นะ วันนี้ต้องอ่านหนังสือ”ผมรีบห้ามก่อนที่พวกเพื่อนๆผู้หิวโหยจะงอแงอยากกิน ทว่าผมตอบปฏิเสธช้าไป ไอ้อัทกับไอ้แก๊ปรีบปรี่เข้ามาถามทันทีว่า
“เค้กอะไรเหรอ มึงทำเค้กเป็นด้วยเหรอ ศรีภรรยาสัสๆ”
“เป็นสิ อร่อยด้วย”แน่นอนว่าคนที่ตอบรับอย่างหน้าชื่นตาบานไม่ใช่ผมแต่เป็นพี่กาจน์ ผมเบือนหน้าแดงๆหนีไปอีกทางหนึ่งเพราะสายตาของทุกคนมองมายังผมแบบล้อเลียน
“เอาไว้สอบเสร็จค่อยทำ วันนี้ต้องอ่านหนังสือ”
---------------------------------
ช่วงนี้ในทวิตเตอร์มีคนพูดถึงโรคซึมเศร้ากันค่อนข้างเยอะ เลยไปค้นกูเกิลเพิ่มเติม ระหว่างนั้นเองเราก็เอ๊ะขึ้นมาว่าพี่กาจน์เป็นโรคนี้รึป่าว ตอนแต่งไม่ได้คิดถึงอาการนี้เลยเพราะไม่คุ้นด้วยอะไรด้วย มันมีทั้งอาการที่ตรงและอาการที่ไม่ตรง
สรุปสุดท้ายว่าพี่กาจน์ไม่ได้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเพราะนิสัยที่เข้มแข็งเป็นทุนเดิม
แต่!
แต่วิธีที่นิทานปฏิบัติกับพี่กาจน์มันเหมือนวิธีที่เขาบอกว่าควรทำเพื่อเยียวยาคนเป็นโรคซึมเศร้าเลย
-ให้กำลังใจ ความเข้าใจ และอดทน
-พูดคุยและรับฟัง หลีกเลี่ยงคำพูดสวยหรูแต่ไม่เกิดประโยชน์อย่างสู้ๆนะ
-ชวนทำกิจกรรม ไปเดินเล่น แต่ถ้าไม่อยากทำก็อย่าบังคับ
เราเลยคิดว่า เอ้อ ดีแฮะ แบบนี้ต่อให้พี่กาจน์เป็นโรคนี้จริงๆแต่ถ้ามาเจอนิทานก็คงหายอ่ะ เป็นคนที่ฟ้าประทานมาให้ไรงี้ 555