ตอนที่22
“หลังจากนั้นเอิญก็รับสารภาพทุกอย่าง เธอทำลงไปเพราะความหึงหวง”พูดกาจน์ก้มหน้า แม้ขณะเล่าจะไม่มีน้ำตาแต่ผมเชื่อว่าผู้ชายคนนี้ต้องเคยร้องไห้ให้สิ่งที่เคยเกิดขึ้นนับร้อยครั้ง
“พี่พูดออกไปไม่ได้ พี่บอกใครไม่ได้เลยว่าพี่กับพี่ฟ้าแค่คบกันเพราะเกมส์ พี่ฟ้าตายเปล่าส่วนเอิญต้องกลายเป็นฆาตกรที่ฆ่าผิดตัว...”
หากบอกความจริงออกไปเวลานั้นเอิญต้องรู้สึกบาปจนคุ้มคลั่งแน่ๆ ไหนจะครอบครัวของพี่ฟ้า เพื่อนของพี่ฟ้าที่เป็นคนคิดเกมส์นั่นอีก แต่ละคนจะรู้สึกยังไงหากรู้ว่าพี่ฟ้าต้องตายเพราะถูกเข้าใจผิด
ในที่สุดพี่กาจน์ก็ตัดสินใจรับทุกอย่างไว้เพียงลำพัง แบกรับความรู้สึกผิดทั้งหมดเอาไว้กับตัว
ยอมให้ทุกคนเข้าใจว่าคนรักถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของน้องสาว
พี่กาจน์ไม่ได้ร้องไห้ แต่แววตาดูทุกข์ทรมาณ
“พี่ถามว่าเอิญว่าตอนกิตต์มีแฟนทำไมเอิญไม่หวง...เอิญตอบว่าเพราะพี่เป็นพี่ พี่กาจน์ไม่ใช่พี่กิตต์ ตั้งแต่วันนั้นพี่ก็กลัวไปหมด พี่ไม่กล้าคุยกับใครอีกเลยเพราะไม่อยากให้ใครมาตายเพราะพี่อีก พี่ค่อยๆทำใจและเริ่มคุยกับคนอื่นมากขึ้นแต่สุดท้ายพี่ก็ยังไม่กล้าเป็นตัวเอง...”
“...”
นี่คือเหตุผลที่วันนั้นเขาเข้ามาทำความรู้จักกับผมในฐานะของพี่กิตต์สินะ
ผมรั้งพี่กาจน์เข้ามากอด ไหล่กว้างห่อเหี่ยวจนผมรู้สึกสงสารแทบขาดใจ ผมไม่อาจเข้าใจความทุกข์ทั้งหมดที่ฝั่งรากลึกในใจของพี่เขาแต่ผมคิดว่าการกอดเอาไว้แบบนี้สามารถเป็นกำลังใจให้พี่เขาได้
จริงสิ ตอนนี้พวกเราอยู่ในห้องคาราโอเกะนี่นา
“ผมขอแก้ตัวได้มั้ย เมื่อกี้ผมเข้าใจผิดเลยเลือกเพลงแบบนั้น คราวนี้ผมจะร้องเพลงอีกพี่ตามความรู้สึกของผมตอนนี้”ผมส่งยิ้มหวานให้เขา เอื้อมมือไปแตะใบหน้ามัวหมองนั้นก่อนใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล
พี่กาจน์ยิ้มน้อยๆพร้อมพยักหน้า
เมื่อได้รับคำอนุญาตผมจึงเดินไปหยิบเมนูเพลง เปิดหาอยู่สักพักเพราะเพลงค่อนข้างเก่า เมื่อเจอเพลงที่ต้องการแล้วก็กดรหัส หยิบไมค์ขึ้นมาจรดคางด้วยท่าทางประหม่า
ผมร้องเพลงเสียงหลง กลัวว่าจากซึ้งๆจะกลายเป็นตลกสามช่าไปน่ะสิ
“อ่า...ของเปิดเสียงนักร้องด้วยนะครับ”อย่างน้อยก็ขอใช้เสียงพี่ปนัดดากลบหน่อยเถอะ
พี่กาจน์ยิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อย นิดเดียวมากๆแต่ผมก็สังเกตุเห็นเพราะแววตาของเขาตอนมองชื่อเพลงที่โชว์บนจอดูมีประกายมากขึ้น
ดาวกระดาษ
เพลงโคตรเก่า แม่ผมชอบเปิดบ่อยๆตอนผมเด็กๆ แต่ถึงจะเก่ายังไงแต่ความหมายของเพลงก็อัดแน่นไปด้วยความปรารถนาดีจากผู้ร้องสู่ผู้ฟังเสมอ
อยากเก็บดาวทั้งฟ้ามาให้เธอ
ทำให้เธอได้ลืมความเจ็บช้ำ
แต่สิ่งเดียวที่ฉันพอจะทำ
หยิบกระดาษมาพับเป็นรูปดาว
จากสิบเป็นร้อยเป็นพัน
เก็บเอาไว้ให้เธอ ให้เป็นกำลังใจจากฉัน
เก็บใส่ขวดโหลใบใหญ่ อยู่อย่างสวยงาม
อาจจะพอทำให้เธอยิ้มได้
ในที่สุดคนฟังก็ยิ้มออกมาเต็มแก้ม ผมรู้สึกดีใจมากที่เพลงที่ผมเลือกใช้ได้ผล พี่กาจน์ยิ้มแล้ว ผมก็ยิ้มตาม แต่เป็นอันต้องหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อคอมเมนต์เตเตอร์เริ่มวิพากษ์วิจารณ์
“ร้องเหมือนคนจะไปเชียงรายแต่ไปโผล่ยะลา หลงคนละทิศละทางเลย โอ๊ย ฮ่ะๆๆ อย่าตีดิ ร้องเพลงครับร้องเพลง ฮ่ะๆๆ”
พูดแบบนี้แล้วผมจะร้องต่อได้ยังไงไหว เห็นอย่างงี้ผมก็มียางอายเหมือนกันนะ!!!!! ผมวางไมค์ลงด้วยใบหน้าแดงก่ำเป็นลูกตำลึงสุก พี่กาจน์พยามง้อให้ผมร้องต่อแต่ผมไม่เอาแล้ว! ผมอายT///T
แต่ด้วยความใจดีท่อนท้ายๆของเพลงผมจึงหยิบไมค์ขึ้นมาร้องต่อ
ไหนๆก็จะจบแล้ว โชว์กากให้คนฟังยิ้มได้ก็ยังดีวะ
ผมนับหนึ่งถึงสามเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจแก่ตนเองก่อนเอ่ยปากร้องอีกครั้งแบบกล้าๆกลัวๆ พยามไม่หันไปมองพี่กาจน์ที่เอาแต่จ้องมาทางนี้ด้วยรอยยิ้มดีใจและดวงตาเป็นประกาย
อยากทำมาให้เธอ ให้เธอได้อุ่นใจ
ว่ายังมีเพื่อนเธอตรงนี้
อยากทำมาให้เธอ ให้เธอรู้สึกดี
ให้ดาวกระดาษนี้ เป็นเพื่อนเธอ
จบครับ สี่ท่อนสั้นๆจบเพลงพอดี ผมที่ยังไม่หายเขินวางไมค์ลงกับโต๊ะและเสตามองพื้นมองเพดาน มองอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่หน้าของคนข้างๆ แทนที่พี่กาจน์จะพูดขอบคุณผมสักคำ ไม่มี๊ เอาแต่มองแบบนั้นผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่
“ร้องผิดนะครับ”
เพล้ง ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าแตกหนักมาก นอกจากจะร้องเพี้ยวแล้วยังร้องผิดอีก
ก่อนที่ผมจะเอาหัวโขกไมค์เผื่อจะไล่ความทรงจำน่าอับอายออกจากสมองพี่กาจน์ก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ท่อนที่ร้องว่ายังมีเพื่อนเธอตรงนี้น่ะครับ...”คราวนี้ไม่พูดอย่างเดียว มีการรั้งต้นคอของผมเข้าไปใกล้ๆหน้าแล้วกระซิบข้างหูให้ได้ยินชัดๆว่า
“นิทานต้องร้องว่า ยังมีคนรักเธอตรงนี้นะครับ...”
“!!!!!!?”
ห๊ะ อะไรนะ
“มาขนาดนี้แล้วยังคิดว่าเราเป็นเพื่อนกันอีกเหรอครับคนดี”
อย่า อย่า ขอร้อง อย่าก้มหน้าลงมาซุกคอผมแล้วก็พูดจาแบบนี้ไปด้วย พี่จะฆ่าผมเหรอ พี่จะฆ่าผมเหรอครับ ผมล้มลงนอนบนโซฟาเพราะมัวแต่เอียงตัวหนีอีกฝ่ายจนเสียหลักแน่นอนว่าพี่กาจน์ต้องล้มตามลงมาด้วยผมเลยอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม!!
โพสิชั่นแบบนี้มันไม่ดีต่อใจ!!
“ย๊ากก...”ผมร้องประท้องเบาๆพยามดันหน้าคน
แม่เคยสองผมว่าอย่าอยู่ในที่ลับตากับคนไม่น่าไว้ใจสองต่อสอง ผมเชื่อแล้วครับ ผมขอโทษครับแม่ ถ้าผมเชื่อฟังคำสอนของแม่ตั้งแต่แรกผมคงไม่โดนจบกดจนแทบจะจมโซฟาในร้านคาราโอเกะแบบนี้
“พี่กาจน์ จะทำอะไรน่ะ!?”
“จูบฉลองที่ได้คบกับแฟนครับ”
“แฟน!!? ใครเป็นแฟนพี่”ผมร้องแรกแหกกระเชิงตามประสากระต่ายตื่นตูม บอกตรงๆว่าแค่สบตาคนที่อยู่ด้านบนสติผมก็โดนพรากออกไปหมดสิ้นแล้วครับ
“อยากรู้ก็เลิกหลบสิครับ พี่จะจูบ นิทานจะได้รู้ว่าใครคือแฟนพี่”
อั่ก
ผมโดนดาเมจเป็นคำพูด
และการโจมตีต่อมาของเขาเป็นไม้ตายที่ติดคริติคอล
รุนแรงมาก
รุนแรงเหลือเกิน
แค่การจรดริมฝีปากแนบกันแถมด้วยการขมเม้มเบาๆแค่แป๊ปตาเดียวเท่านั้นเลือดในกายของผมก็เดือดจนร้อน หน้าผมคงระเบิดถ้าพี่เขาไม่ใจดียอมลุกออกจากตัวผม
“จะหมดเวลาที่จองไว้แล้วแฮะ หน้าจอมันขึ้นมาถามว่าอยากต่อเวลามั้ยแหนะ นิทานว่าไงครับ...อยากต่อมั้ย!!”
“ไม่เอาแล้ว ผมจะกลับห้อง!!”
“โอ้ ให้ไปต่อกันที่ห้องสินะครับ”
“พี่กาจน์!!!!”
“ฮ่าๆๆๆ”
___________________________
ปรับอารมณ์ตามพี่กาจน์กันให้ทันนะ 5555