ตอนที่ 15 : ของขวัญวันเกิด“แง่ว แง้ว~”
“หึๆ จะเอายังไงแน่เจ้าเหมียว” พฤกษ์หัวเราะชอบใจ เหมียวส้มนอนหงายโชว์พุงหรา พอเขาลูบเจ้าเหมียวตัวดีจะใช้ขาปัดปกป้อง ปากคอยงับมือเขาไม่ให้จับต้องเนื้อตัวได้ แต่พอเขาหยุดเล่นด้วย เหมียวส้มจะขยับมานั่งใกล้ๆ ใช้สายตาจับจ้องมองเขาจนกว่าจะหันไปมอง พอเขาทำเป็นไม่สนใจเจ้าเหมียวจะแตะขาลงบนแขนของเขา ดึงเบาๆ ให้ไปเล่นด้วยกัน
“ตกลงชอบหรือไม่ชอบกันแน่” พฤกษ์ลูบมือขึ้นลงไปตามพุงของเหมียวส้ม มองเจ้าตัวดีดิ้นพล่าน
“เมี้ยว” เหมียวส้มผงกหัวขึ้นมองเมื่อเขาหยุดมือ พฤกษ์เปลี่ยนเป็นลูบช้าๆ สายตาตกลงมองบางอย่าง
“ลืมไปเลยว่าเราเป็นตัวผู้ อ้อนเก่งเหลือเกิน”
“เมี้ยว” เหมียวส้มหมุนตัวเอาหัวมาซุกไซ้ถูไถกับมือเขา
“เฮ้อ” พฤกษ์ล้มตัวลงนอน อุ้มเหมียวส้มมาวางไว้บนอก ใช้สองมือลูบใต้คางขึ้นไปถึงแก้มแล้ววนลงมาใหม่
“ไม่รู้เป็นไงสิน่า พักนี้ฉันดวงสมพงษ์กับเพศชายจริงๆ ไหนจะแกแล้วยัง...”
“เมี้ยว” เหมียวส้มผงกหัวขึ้นมองเขา พฤกษ์หัวเราะน้อยๆ
“ช่างเถอะ พูดไปแกก็ไม่รู้เรื่อง”
“แง้วว” คราวนี้เหมียวส้มลากเสียงยาว น้ำเสียงของมันเหมือนหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจ
“เป็นแมวดื้อหรือไง รู้ไหมว่าเรามีคู่แฝดเป็นคน เหมือนกันจริงๆ”
“...”
“เออแหะ เพิ่งรู้ว่าแมวงอนเก่งด้วย ดูสิจะงอนได้สักกี่น้ำ”
“แง้วววว” เจ้าเหมียวส้มสิ้นฤทธิ์เมื่อโดนเขาฟัดเข้าให้ พฤกษ์หยุดเมื่อเห็นว่านานหลายนาทีแล้ว เขากลัวเหมียวส้มจะเหนื่อยเกินไป
“เหมียว”
“เมี้ยว” เหมียวส้มขานรับเขาเบาๆ หน้ายังซบอยุ่กับอก
“ความชอบของคนเราจะเปลี่ยนกันได้จริงเหรอ”
“เมี้ยววว”
“หิวล่ะสิ ไป ลงไปก่อน ฉันต้องอาบน้ำแต่งตัวเดี๋ยวไม่ทัน” พฤกษ์อุ้มเหมียวส้มวางลงบนที่นอน วันนี้ที่บริษัทจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้กรรวีและกวี เขาไม่อยากไปสายมากเพราะต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อนเย็น
“เมี้ยว” เหมียวส้มมองพฤกษ์เดินลงจากเตียง โธ่อยากจะเปลี่ยนร่างกลับเป็นคนมันซะเดี๋ยวนี้ กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องเลยนะพี่พฤกษ์ ความชอบอะไร เปลี่ยนมาชอบผู้ชายหรือเปล่า~
✪✥✤✣✦✧✣✤✥✪
“สุขสันต์วันเกิด”
“ขอบคุณครับคุณเอก มาได้ยังไงครับแล้วทราบได้ยังไงว่าวันเกิดของผม” กวียื่นมือไปรับของขวัญกล่องใหญ่จากลูกค้าที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานด้วยความแปลกใจ บิดาของเขาจัดงานวันเกิดเล็กๆ ให้ลูกชายทั้งสองคนที่สวนหน้าบริษัท โดยเรียกบริษัทรับจัดอาหารมาเป็นผู้ดูแลให้ทั้งหมดรวมถึงการจัดตกแต่งสถานที่ด้วย
“กวี ถามลูกค้าแบบนั้นน่าเกลียด”
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรครับคุณเต” เอกราชยกมือห้าม
“โอ๊ะ! ขอโทษครับ ผมมัวแต่แปลกใจไม่คิดว่าคุณเอกจะแวะมา” กวีตาโตเมื่อเผลอถามอะไรเสียมารยาทออกไป
“พี่ชวนคุณเอกมาเอง พอดีวันนี้เอาแบบไปให้ดู”
“ผมชวนคุณเตอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกัน แต่คุณเตบอกว่าต้องรีบกลับมางานเลี้ยงวันเกิดน้องกวี ผมเลยเสนอตัวเองมาด้วย” เอกราชพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ความจริงเขาไม่ได้เสนอตัวแต่เตชิตเป็นคนเอ่ยปากชวนมา
“รบกวนเจ้าของงานหรือเปล่าครับ”
“โอ๊ยไม่เลยครับ ผมดีใจมากกว่าที่คุณเอกมาได้” กวียิ้มกว้าง เอกราชเป็นลูกค้าที่เป็นกันเองกับพวกเขามาก เรียกว่าคุยงานกันเหมือนพี่น้องมากกว่า
“เดี๋ยวเชิญคุณเอกไปนั่งที่โต๊ะดีกว่าครับ คุณกานต์รออยู่” เตชิตเห็นว่ายืนคุยกันนานแล้วจึงเอ่ยปากชวน
“ได้ครับ มีความสุขมากๆ นะกวี” มือใหญ่วางลงบนไหล่ของเขา
“ขอบคุณครับ” กวียิ้มกว้างตามเอกราช ผู้ชายคนนี้เป็นคนมีเสน่ห์ พอยิ้มแล้วทำให้อดยิ้มตามไม่ได้
“ใคร”
“ครับ?” กวีมัวแต่มองตามเอกราชและเตชิตจึงไม่เห็นว่าพฤกษ์มายืนอยู่ด้านหลัง
“พี่พฤกษ์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมไม่ทันเห็น”
“ก็ไม่น่าจะเห็น” กวีขมวดคิ้ว พฤกษ์หมายความว่าอย่างไร
“ผมมัวแต่มองคุณเอกราช พี่เตพาไปหาพ่อที่โต๊ะ” กวีพยายามอธิบายว่าทำไมเขาถึงไม่เห็นว่าพฤกษ์กลับเข้ามาที่บริษัทแล้ว
“พี่เห็นแล้ว ถึงทัก”
“เอ๋?”
“ไม่มีอะไร พี่จะเข้าไปนั่งทำงานในออฟฟิศสักพัก มีอะไรก็ให้คนเข้าไปตาม”
“อ้าว” กวีหน้าเหรอหรา พฤกษ์ทะเลาะกับลูกค้าที่ออกไปพบมาหรือเปล่า ทำไมสีหน้าและน้ำเสียงดูหงุดหงิด หรือเพราะอากาศร้อน
“พี่พฤกษ์” กวีถือแก้วน้ำส้มเย็นเฉียบเข้าไปส่งให้กวีถึงโต๊ะทำงาน “น้ำส้มเย็นๆ ทานก่อนจะได้สดชื่น”
“พี่พฤกษ์” กวีเรียกซ้ำ เมื่อพฤกษ์เงยหน้าจากงานขึ้นมองเขา แต่กลับไม่เอื้อมมือมารับน้ำที่เขาส่งให้ “น้ำส้มครับ”
“เข้ามาทำไม งานวันเกิดเรานะ”
“ก็ผมเห็นพี่พฤกษ์เหนื่อยๆ นี่” กวีเสียงอ่อย ไม่แน่ใจว่ากำลังโดนดุที่ไม่รู้จักหน้าที่หรือเปล่า
“เปล่า พี่ไม่ได้เหนื่อย ออกไปรับแขกเถอะ”
“ก็ผมเป็นห่วง” คนพูดหน้าจ๋อย ก้มหน้าลงมองพื้น โดนดุอีกแล้วสิเรา
“ขอบใจ” มือใหญ่ยื่นมารับแก้วจากมือเขา กวีเงยหน้าขึ้นมอง ใจเต้นแรงเมื่อมือของพฤกษ์จับทับไปบนมือของเขาก่อนเจ้าตัวจะดึงแก้วออกไป
“ออกไปสนุกเถอะ”
“ผมรอพี่พฤกษ์ก่อนก็ได้” กวีดึงเก้าอี้ของโต๊ะข้างๆ มาตั้งหน้าโต๊ะทำงานของพฤกษ์ก่อนนั่งลง
“อย่าเลย”
“พี่พฤกษ์เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมดูเนือยๆ” สีหน้ากับน้ำเสียงเป็นห่วงอย่างจริงใจของกวีทำให้พฤกษ์ถอนใจ เขาวางปากกาลงบนโต๊ะ มองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง
“ไม่รู้”
“หะ! อะไรนะครับ” กวีตาโตเป็นไข่ห่าน
“พี่ไม่รู้”
“ไม่รู้เหรอ”
“ใช่”
“อ่า ไม่รู้ก็ไม่รู้” กวีพยักหน้าแรงๆ เขาเงยหน้าขึ้นมองพฤกษ์ก่อนส่งยิ้มกว้างไปให้ทั้งปากและตา “ไม่เป็นไร หงุดหงิดอะไรมาก็ช่างมันเถอะ เดี๋ยวผมทำอะไรตลกๆ ให้พี่พฤกษ์ดูเอง รับรองว่าหาย”
“หึๆ
“ผมทำได้นะ” กวีรีบลุกขึ้นยืน ไม่รู้หรอกว่าจะทำอะไร เขาเป็นคนตลกที่ไหนกันเล่า
“ไม่ต้อง”
“ไม่เชื่อผมเหรอ”
พฤกษ์มองสีหน้ากระตือรือร้นที่อยากทำให้เขาหายเครียดของกวีด้วยสายตาอ่อนโยนปนขำ ก่อนรอยยิ้มจะค่อยๆ กระจ่างขึ้นบนใบหน้า
“ไม่ต้องจริงๆ”
“ทำไมล่ะ ลองดูก่อนก็ได้ อย่าเพิ่งดูถูกความสามารถผม” คนพูดหน้ามุ่ย ยกมือขึ้นกอดอก
“เปล่าพี่ไม่ได้ดูถูกเรา”
“แล้วทำไม?...”
“พี่หายแล้ว”
“อ้าวววว” คราวนี้เด็กดื้อหน้าเหวอ ตาโต มองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“ออกไปข้างนอกเถอะ”
“ไล่อีกแล้ว ไล่จัง นี่วันเกิดผมนะครับตามใจกันสักนิดไม่ได้เหรอ”
“วันนี้ไม่ใช่วันเกิดเรา” พ่อของเขาเลือกจัดงานวันเกิดให้ในวันศุกร์ เพราะสะดวกต่อพนักงานจะได้กินดื่มกันได้ตามสบาย และยังเป็นวันตรงกลางระหว่างวันเกิดกรรวีกับเขาพอดี
“ตลอด”
“หึๆ ตกลงไม่ออกใช่ไหม”
“ไม่อยากออกนี่” สีหน้าคนพูดเง้างอน “ผมไม่ออกไปไม่ได้เหรอ”
“งั้นก็ตามใจพี่ฝากเฝ้าโต๊ะด้วย จะออกไปกินเลี้ยงข้างนอก”
“พี่พฤกษ์~” กวีวิ่งตามแทบไม่ทัน คนอะไรขายาวชะมัด แต่พฤกษ์ดูสดชื่นขึ้นแล้ว หัวเราะด้วย สีหน้าเหมือนขำเสียเต็มประดา กวียิ้มกว้าง เขาดีใจ พี่พฤกษ์อารมณ์ดีแล้ว
✪✥✤✣✦✧✣✤✥✪
“ไม่ไปต่อกับพวกพี่จริงๆ เหรอ วีก็ไปนะ” เตชิตถามน้องเล็กของบริษัทและยังเป็นเจ้าของงานวันเกิดร่วมอีกคน
“ไม่ดีกว่าครับ ผมง่วงแล้ว” กวีเสียดายแทบขาดใจ แต่เขาเข็ดครั้งที่ผ่านมาจึงไม่กล้าเสี่ยงอีก
“ตามใจ”
“เมื่อกี้น่าจะกลับพร้อมพ่อกับแม่” กรรวียกเบียร์ที่เหลือขึ้นดื่ม แขกที่เชิญมากลับไปกันหมดแล้ว เหลือเพียงพนักงานในบริษัทที่สนิทสนมกัน
“ไม่เป็นไรผมกลับเองได้”
“ไม่ได้เอารถมาไม่ใช่เหรอ” นุ่นถามรุ่นน้องด้วยความเป็นห่วง
“สบายมากพี่นุ่นแท็กซี่เยอะแยะ”
“เดี๋ยวพี่แวะไปส่งเอง”
“เอ๋?” นุ่นทำสีหน้าไม่เชื่อหูตัวเอง หันไปมองพฤกษ์ รุ่นพี่ที่ไม่เคยออกตัวแบบนี้มาก่อน “พี่พฤกษ์จะไปส่งกวีเหรอคะ”
“หรือเราจะไปส่ง”
“เปล่าๆ พี่พฤกษ์ไปส่งเลยค่ะ แหม ถามนิดถามหน่อยไม่ได้”
“ดีเลยครับพี่พฤกษ์ผมฝากด้วย วันนี้ผมมารถคันเดียวกับพ่อ ไม่ได้เอารถมาด้วย”
“อืม พี่เห็นแล้วถึงอาสา”
“โธ่” นุ่นลากเสียงยาว แอบเซ็ง นึกว่าพฤกษ์เริ่มสนใจกวีขึ้นมาบ้าง
“ถ้าอย่างนั้นพี่ไปก่อน จะได้ไปถึงร้านพอๆ กับพวกนาย”
“ครับพี่พฤกษ์” เตชิตเป็นคนตอบ
“พร้อมหรือยัง” พฤกษ์หันไปถามกวี
“พร้อมแล้วครับ” กวีลุกขึ้นยืนตามพฤกษ์ “ขอบคุณทุกคนมากสำหรับของขวัญ ผมจะเก็บอย่างดีเลย”
“จ้า”
✪✥✤✣✦✧✣✤✥✪
“พี่ไมได้ลืม”
“อะไรครับ” กวีหันไปมองหน้าคนขับ จู่ๆ ก็พูดขึ้นมาไม่มีที่มาที่ไป เขาเลยไม่รู้พฤกษ์พูดถึงเรื่องอะไร
“ของขวัญของเรา”
“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ” กวีพยักหน้าเข้าใจ
“พี่บอกว่าพี่ไม่ได้ลืม”
“ครับ ผมได้ยินแล้ว ไม่ได้ลืม” กวีงงที่พฤกษ์ทำเสียงเข้มใส่เขา เป็นอะไรของเขาหว่า
“พี่บอกเราไว้ว่าจะให้เราไปเลือกเอง จำได้ไหม”
“จำได้ครับ”
“อืม
“คิดออกหรือยังว่าอยากได้อะไร” พฤกษ์ถามเขาอีกครั้งเมื่อจอดรถ เพราะระยะทางจากบริษัทถึงบ้านไม่ไกลมากนักจึงใช้เวลาไม่นาน
“คิดแล้วครับ”
“อะไร”
“ไม่อยากได้ครับ แค่นี้ก็ดีกว่าทุกๆ ปีแล้ว”
“ซื้อเถอะ พี่สัญญาแล้วว่าจะให้”
“อืม ถ้าอย่างนั้น...” กวีเอียงคอทำหน้าคิด “ผมขอเป็น...”
“เป็นอะไร อื้อ!!”
“เจ้าเด็กนี่” กวีแลบลิ้นใส่คนหน้าดุ เมื่อครู่เขาจู่โจมเข้าไปจูบริมฝีปากของพฤกษ์ ถึงจะเป็นแค่การแตะปากลงไปก็ตาม
“พี่พฤกษ์อนุญาตให้ขอเองนะ ห้ามดุผม” กวีรีบร้องห้ามเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย
“เรานี่มัน...”
“ก็พี่พฤกษ์ให้ผมเลือกเอง” กวีแกล้งลอยหน้าลอยตา มีความสุขที่ได้จูบพฤกษ์อีกครั้ง
“อ๊ะ!”
ใบหน้าของเขาถูกดึงเข้าไปชิด ก่อนพฤกษ์จะกดริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากร้อนบดเบียดกับริมฝีปากของเขา ดูดดึงเบาๆ จนเนื้อตัวของกวีสั่นสะท้าน
“สุขสันต์วันเกิด” พฤกษ์ถอนริมฝีปากออก มองดวงตาเลื่อนลอยของกวีก่อนยิ้มขำออกมา
!!!
“หึๆ”
“พี่..พี่พฤกษ์..” กวีหน้าแดงซ่าน เขินจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมา
“ตกลงไม่เอาของขวัญจริงๆ ใช่ไหม”
“อื้อ ไม่อยากได้อะไรแล้ว” กวีพูดอุบอิบ โอ๊ยก็เขาเขินนี่นา จูบของพฤกษ์มัน..มัน.. ให้ตายเถอะ มันดีเหลือเกิน
“มีความสุขมากๆ เป็นเด็กดี อย่าเกเร”
“ผมไม่ได้เกเรสักหน่อย”
“น้อยไปสิเรา”
“ก็ได้ ผมจะเกเรให้น้อยลง ถ้ามันทำให้พี่พฤกษ์น่ารักกับผมแบบนี้”
“ฮ่าๆ”
“ผมลงไปแล้วนะ พี่พฤกษ์จะได้รีบไป เดี๋ยวพวกนั้นรอ” กวีเสียดายใจแทบขาด แต่ไม่อยากให้พฤกษ์ไปสาย อีกอย่างเขาเขินมากไม่รู้จะทำตัวอย่างไร
แปลกที่พฤกษ์กลับยังไม่อยากให้กวีลงรถ เขาชะงักกับความคิดของตัวเอง ก่อนกระแอมออกมาเบาๆ
“อืม”
“ขอบคุณครับพี่พฤกษ์ที่มาส่ง แล้วก็...” เด็กดื้อเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มอายๆ ให้เขา “ขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดของผมด้วย”
“หึๆ”
“บายครับ” กวียกมือขึ้นโบก ก่อนเปิดประตูรถแล้วก้าวลงไป
“กวี”
“ครับ?” กวีหันกลับมาตามเสียงเรียก
“ฝันดีนะ”
น้ำเสียงอ่อนโยนของพฤกษ์รวมทั้งสายตาที่มองมา ทำให้กวียิ้มกว้างอย่างมีความสุข
“ขอบคุณครับ คืนนี้ผมต้องฝันดีแน่ๆ”
“ไปเถอะ”
“ครับผม”
พฤกษ์รอจนกวีปิดประตูรถ อีกฝ่ายยังยืนรอส่งเขาไม่ยอมเข้าบ้าน เขาโบกมือให้ก่อนขับรถออกมา หัวใจของเขามันแปลกไป
หวาน พฤกษ์เผลอยกมือขึ้นลูบริมฝีปากของตัวเอง
✪✣✤✥✦✧✣✤TBC✥✦✧✣✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin