ตอนที่ 7 : เล่นซ่อนหา“เบื่อไหม” เสียงถามไถ่อ่อนโยน เหมียวส้มเบียดหน้าเข้ากับขาของพฤกษ์ เขาไม่เบื่อหรอก จะเบื่อได้ยังไงในเมื่อเขาไม่เคยอยู่บ้านตอนกลางวัน
“อย่าเพิ่งอ้อน เดี๋ยวเห็นของที่ซื้อมาให้จะดีใจกว่านี้” พฤกษ์อุ้มเหมียวส้มขึ้นด้วยมือข้างเดียว เขาเดินเข้าไปในครัว วางมันลงบนโต๊ะอาหารพร้อมกับถุงที่ถืออยู่ในมือ
“ปลานึ่งเจ้านี้รับประกันความสดใหม่ ฉันบอกเขาไม่ให้ใส่ซีอิ้วมา” พฤกษ์เทปลานึ่งจากในกล่องใส่จาน เขามักให้เหมียวส้มขึ้นมากินข้าวบนโต๊ะด้วย เหมียวส้มเป็นแมวฉลาด นอกจากมันจะกินเรียบร้อยไม่หกเลอะเทอะแล้ว มันยังไม่วุ่นวายกับอาหารของเขา ไม่เดินเพ่นพ่านไปมาบนโต๊ะ มันจะนั่งกินอาหารของมันไป เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะที่ดีเสมอ
“เมี้ยว” เหมียวส้มร้องดีใจ ทำไมจะไม่ดีใจเล่า เขาเกลียดการต้องฝืนกินอาหารเม็ดโชว์ให้พฤกษ์ดูจะแย่แล้ว บางวันเท่านั้นหรอกถึงจะได้กินอกไก่ต้มให้พอได้เปลี่ยนรสชาติบ้าง
“เบื่ออาหารเม็ดล่ะสิ” พฤกษ์ลูบขนนิ่มของเหมียวส้ม “เอาเถอะไว้ฉันจะหาเวลาทำอาหารให้กินบ่อยขึ้น จะได้ไม่ซ้ำซากจำจาก”
“เมี้ยว” เหมียวส้มเงยหน้าขึ้นเลียมือเขาคล้ายต้องการขอบคุณ
“เฮ้อ ทำแบบนี้ฉันก็เบี้ยวไม่ได้ใช่ไหม” พฤกษ์แกล้งถอนใจออกมาดังๆ เหมียวส้มส่ายหัวไปมา มันกลัวอดกินอาหารจนลืมไปว่ายังอยู่ในร่างแมว
“เหมียวเป็นอะไร” พฤกษ์ดึงเหมียวส้มเข้ามาใกล้ๆ จับศีรษะมันไว้ไม่ให้สะบัด เขาใช้มือลูบไปทั่วหน้า กลัวว่าจะมีเห็บหมัดฝังตัวอยู่ใต้ขนนุ่ม
“ไม่มี?” พฤกษ์ขมวดคิ้ว เขาก้มหน้าลงไปมอง เหมียวส้มใจเต้นตึกตักมองใบหน้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ โอ๊ยแบบนี้มันเหมือนคนกำลังจะจูบกันนี่นา
“ก็ไม่เห็นมีอะไร” พฤกษ์ผละหน้าออก เหมียวส้มถึงกับทำหน้าเซ็ง จุ๊บลงมาสักนิดก็ไม่ได้ นี่แมวนะแมว จูบได้
“อย่าทำหน้าแบบนั้น” เหมียวส้มสะดุ้งมองพฤกษ์ตาโต รู้ด้วยเหรอว่าเขาคิดอะไรอยู่
“ยังกินไม่ได้ต้องทำให้มันเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อน” พฤกษ์ฉีกปลาออกเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้เหมียวส้มทานง่ายขึ้น เขายิ้มขำเมื่อเห็นมันทำท่าเหมือนถูกขัดใจ ไม่ได้ดั่งใจ ดูไอ้ตัวเล็กมันทำ มันเชิดหน้าขึ้นสูงมองไปทางอื่นแต่หางตาแอบเหล่มองเขาอยู่เห็นๆ
“อย่าเพิ่งงอนน่าเสร็จแล้ว” พฤกษ์เลื่อนจานไปวางตรงหน้าเหมียว มันทำเมินไม่สนใจ แต่พอเขาเริ่มจัดการอาหารของตัวเอง ไอ้ตัวเล็กก็เริ่มกินบ้าง
“เหมียวส้มใช้ลิ้นตวัดเนื้อปลาที่พฤกษ์ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ เข้าปาก ทำไมรสชาติมันแปลกๆ มีรสหวานติดที่ปลายลิ้น เหมียวส้มเอียงคอมองเนื้อปลาสีขาวในจาน ไม่มีอะไรหรอกมั้งมันอาจผ่านการปรุงรสมา อาหารตามร้านก็แบบนี้ ไม่น่าจะนึ่งปลามาจืดๆ โดยไม่ทำอะไร
เหมียวส้มไม่เอะใจเลยสักนิด มันกินจนหมด ใช้ลิ้นเลียเนื้อปลาชิ้นสุดท้ายเข้าปากอย่งมีความสุข ถ้าได้แบบนี้ทุกมื้อก็ดีสิ จะได้ไม่ต้องแอบออกจากห้องนอนมาหาอะไรกินตอนดึกๆ
✪✥✤✣✦✧✣✤✥✪
ร้อน! ทำไมถึงรู้สึกร้อนแบบนี้ เนื้อตัวเริ่มสั่นน้อยๆ หัวใจดวงนิดเดียวเริ่มทำงานหนัก เหมียวส้มผงกหัวขึ้น มันรู้สึกไม่สบายตัวเอาเสียเลย
“เหมียว” พฤกษ์ละสายตาจากจอโทรทัศน์หันมาให้ความสนใจเหมียวส้ม มันผงกหัวขึ้นจากตักของเขา ลุกขึ้นนั่งท่าทางกระสับกระส่าย
“เหมียวเป็นอะไร”
เหมียวส้มกระโดดลงจากเตียง มันวิ่งผ่านประตูห้องที่เขาเปิดแง้มไว้ให้เผื่อมันหิวหรืออยากทำธุระตอนดึก พฤกษ์ขมวดคิ้ว พฤติกรรมของเหมียวดูแปลกแต่เมื่อคิดได้ว่ามันอาจรีบไปทำธุระส่วนตัวของมัน เขาจึงเปลี่ยนใจไม่ตามไปดู หันกลับไปสนใจหน้าจอสี่เหลี่ยมแทน
เหมียวส้มยืนสี่ขาหันรีหันขวางอยู่กลางห้องครัว มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ ตัวของเขาสั่นเทิ้มขึ้นเรื่อยๆ ความร้อนพุ่งขึ้นสูง เขาควบคุมร่างกายไม่ได้ มันกำลังจะเปลี่ยนร่าง!!
กวีตัดสินใจวิ่งเข้าไปในห้องน้ำชั้นล่างติดกับห้องรับแขก เขาใช้ขาหลังดันประตูปิด ก่อนล้มลงนอนแนบกับพื้น กวีพยายามฝืนใช้สมาธิเข้าควบคุมแต่ร่างกายไม่ตอบสนองคำสั่ง สุดท้ายก็พ่ายแพ้ มือของเขาเริ่มยืดออก แขนขา ค่อยๆ กลับคืนสู่ร่างคน
กวีขยับตัวขึ้นนั่งพิงผนังของห้องน้ำหลังจากทุกอย่างสงบลง เขาเหนื่อยกับการพยายามต่อสู้กับร่างกายของตัวเอง มันเกิดอะไรขึ้น! ทำไมเขาถึงควบคุมร่างกายไม่ได้ กวีพยายามนึก เขาผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนักตั้งแต่เด็ก เรื่องแบบนี้แทบไม่เคยเกิด มีเพียงครั้งสองครั้งที่เขากินอาหารบางอย่างที่ไม่รู้ตัวว่าแพ้ เช่นเหล้าบางชนิดทำให้กลายร่างเป็นแมว โชคดีที่เกิดขึ้นที่บ้านจึงไม่ต้องกังวลอะไร
เหล้า!! กวีตาเหลือก เขาดื่มเหล้าได้เกือบทุกชนิด เว้นเฉพาะเหล้าหวานที่มีผลกับร่างกายเขาอย่างหนัก อย่าบอกว่าปลานึ่งที่พฤกษ์ซื้อมาจากร้านซากุ เขาก็ดันไม่ได้มองถุงเสียด้วย กวีเดาว่าน่าจะใช่เพราะเป็นร้านที่บริษัทชอบไปกันประจำและเป็นเมนูที่เห็นชอบสั่งกัน บ้าชะมัดนั่นมันปลานึ่งหมักเหล้าหวาน เอามาให้แมวกินได้ยังไงพี่พฤกษ์ กวีแทบจะตีอกชกหัว ยังดีที่เขากินตอนอยู่ในร่างแมวปริมาณที่ได้รับจึงไม่มากนัก เมื่อเปลี่ยนร่างเป็นคนแล้วน่าจะใช้เวลาไม่นานก็หมดฤทธิ์
กวีลุกขึ้นยืน คิดจะล้างหน้าล้างตา ลูบเนื้อตัวเพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกาย เผื่อจะช่วยให้หายเร็วขึ้น
“เฮ้ย!” เขาผงะถอยหลัง เมื่อเห็นหน้าตัวเองในกระจก รีบยกมือขึ้นจับบนศีรษะ ไอ้บ้าเอ้ยหูเขายังอยู่ กวีรีบหันไปมองด้านหลังด้วยสัญชาติญาณ ใช่อย่างที่เขาคิด หางของเขาสะบัดไปมา การเปลี่ยนร่างไม่สมบูรณ์
เป็นไปได้ว่าเหล้าหวานมีปริมาณน้อยและเขาพยายามต้านทานมันไว้ ผลที่ได้จึงเป็นอย่างที่เห็น กวีหลับตาลงพยายามตั้งสมาธิเพื่อเปลี่ยนร่าง ตอนนี้เขายังไม่สามารถกลับเป็นแมวได้ แต่แค่เปลี่ยนเป็นคนให้สมบูรณ์น่าจะพอทำได้
กวีลืมตาหลับตาอยู่หลายครั้งแต่ไม่เป็นผล หูกับหางของเขายังอยู่ครบทั้งคู่ ตายแน่ๆ งานนี้เขาต้องตายแน่ๆ เห็นทีต้องขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำแบบนี้จนกว่าเหล้าหวานจะหมดฤทธิ์
“เหมียว” เสียงเรียกของพฤกษ์ทำให้กวีตาโต เขานั่งชันขาซบหน้ากับเข่าอยู่บนโถชักโครก ซวยแล้ว! พฤกษ์ลงมาตามหาเขา
กวีรีบลุกขึ้นยืน หันรีหันขวางด้วยความตกใจ ห้องน้ำแขกไม่มีมุมไหนให้เขาซ่อนได้เลย จะล็อคประตูก็ไม่ได้พฤกษ์จะยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่
กวีตัดสินใจไปยืนแอบอยู่หลังประตู พยายามเบียดตัวชิดกำแพง ใจเต้นตึกตัก หวังว่าพฤกษ์จะแค่เปิดแง้มแล้วโผล่หน้าเข้ามาดูเท่านั้น
“เหมียว” เสียงเรียกใกล้เข้ามาทุกที กวียกมือขึ้นกุมหูทั้งสองข้างเอาไว้ เบียดหลังเข้ากับผนังซ่อนหางให้มิดชิด คิดแบบจนตรอกว่าถ้าพฤกษ์เปิดเข้ามาเจอเขาค่อยหาวิธีอธิบาย ดีกว่าให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนโดยสมบูรณ์
เสียงเรียกผ่านประตูไป พฤกษ์กำลังเดินเข้าไปในห้องครัวแน่ๆ บ้านหลังนี้จัดแบบพื้นที่เปิดโล่ง มีเพียงตู้หนังสือความสูงระดับครึ่งตัวกั้นระหว่างห้องรับแขกกับพื้นที่ด้านหลัง กวีใจเต้นแรง เสี่ยงดีไหม!
ทันทีที่เขาได้ยินเสียงเปิดประตูหลังบ้าน กวีตัดสินใจวิ่งออกมาจากห้องน้ำ เลี้ยวขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนชั้นบน เขาออกจากบ้านไม่ได้เพราะไม่มีทั้งเงินและโทรศัพท์
“เหมียวอยู่ไหน ออกมาเร็ว” เสียงของพฤกษ์ทำให้รู้ว่าเจ้าตัวขึ้นมาข้างบนแล้ว กวีแอบอยู่ในห้องแต่งตัว หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความกลัว
“หายไปไหนนะ” น้ำเสียงของพฤกษ์มีร่องรอยความกังวลอยู่เต็มเปี่ยม
“หรือจะหลุดออกไปอย่างวันนั้น จะหลุดไปได้ยังไง” ในหัวของกวีเริ่มคิดหาทางออก เขาจะให้พฤกษ์คิดว่าเขาหลุดออกไปอีกไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพฤกษ์จะเริ่มสงสัยและหาคำตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้น กวีกัดริมฝีปากแน่น คิดสิคิด
“เมี้ยววว”
“หือ?” พฤกษ์หันซ้ายหันขวา เสียงมาจากทางไหน
“เมี้ยวว”
“โธ่เอ๊ยขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เรานี่มันจอมซนจริงๆ” พฤกษ์เลื่อนบานกระจกที่กั้นห้องแต่งตัวกับห้องนอนเข้าไป “อ้าว!” มีเสียงลอดออกมาแต่กลับไม่เห็นเหมียวส้มแม้แต่เงา พฤกษ์ยืนงงอยู่ชั่วครู่ ก่อนสายตาจะเห็นบางอย่างไหวๆ
“เด็กเกเรขึ้นไปทำอะไรบนนั้น” พฤกษ์เงยหน้าขึ้นมองชั้นบนของตู้ ที่ซึ่งเขาใช้เก็บเครื่องนอน ผ้าห่มขยับทำให้รู้ว่าเหมียวซนซุกตัวอยู่ข้างใน เมื่อครู่เขาเห็นหางแกว่งไปมาทางหางตาแต่พอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นแค่ปลายหางที่ผลุบหายเข้าไปในผ้าห่ม
“ลงมาเร็ว”
“....”
“นับหนึ่งถึงสาม ลงมาเดี๋ยวนี้เจ้าตัวดี”
“....”
“หนึ่ง” ตึกตึก
“....”
“สอง” ตึกตึก
“....”
“สาม”
Rrrrr
หือ? พฤกษ์ชะงักมือทีเตรียมจะเลื่อนบันไดหันไปมองทางห้องนอน เขาตัดสินใจเดินกลับไปรับโทรศัพท์ก่อน ปล่อยเหมียวส้มไว้กับกองผ้าห่ม
“ว่าไงวี...ไม่เป็นไรไม่กวนพี่ยังไม่นอน คุยได้”
พู่ กวีพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาไม่ได้ซ่อนอยู่ในผ้าห่ม แต่อยู่หลังผ้าห่มต่างหาก ดีที่ตู้ลึกพอ เขาจึงดันผ้าห่มไปข้างหน้าได้ สาเหตุที่เขาขึ้นมาซ่อนข้างบนนี้เพราะกวีซุกโทรศัพท์และกระเป๋าเงินเอาไว้ด้านในสุด เขารีบส่งข้อความไปหากรรวีให้ช่วยโทรหาพฤกษ์ให้ด่วนๆ
โอ๊ย ลุ้นแทบตายนึกว่าพี่วีจะไม่เห็นข้อความเสียแล้ว เขาโทรไปไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าพฤกษ์จะขึ้นมาบนห้องเมื่อไหร่ นี่เป็นการตัดสินใจที่บ้าระห่ำมาก คิดขึ้นมาแล้วกวีว่าเขาโง่มากที่ใช้วิธีนี้ ถ้าพี่วีโทรมาไม่ทันจะเป็นยังไง เขาไม่น่าร้องเมี้ยวออกไปเลย พี่พฤกษ์นะพี่พฤกษ์ ช่างไม่เอะใจเลยว่าไม่ใช่เสียงร้องของแมว แถมหางที่เห็นก็ใหญ่กว่าตั้งเยอะ กวีหัวเราะออกมาได้เมื่อนึกถึง
เขาขอให้พี่ชายคุยกับพฤกษ์อย่างน้อยสามสิบนาที คิดว่าเวลาแค่นั้นคงเพียงพอให้เขากลับคืนร่างได้ กวีต้องยอมเสียงเพราะกรรวีไม่เคยคุยโทรศัพท์กับพฤกษ์นาน เรียกว่าคุยกันแต่ละครั้งไม่ถึงสิบนาที เขาไม่อยากให้ดูแตกต่างเกินไป
กวีพยายามตั้งสมาธิเรื่อยๆ เพื่อกลับสู่ร่างแมว สามครั้งผ่านไปไม่เป็นผล เขาเริ่มกังวลหรือมันจะไม่คืนกลับร่างง่ายๆ ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างเขาอยู่ในร่างแมว กวีจึงไม่รู้ว่าเวลาจะต่างกับที่เคยเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน
กี่นาทีแล้ว กวีปิดโทรศัพท์ตั้งแต่ส่งข้อความหาพี่ชายเรียบร้อย ข้าวของอื่นๆ ของเขาอยู่ที่ออฟฟิศทั้งหมด กวีพยายามพกพาของส่วนตัวมาด้วยให้น้อยที่สุด ส่วนเสื้อผ้าเขาใส่ถุงซ่อนไว้ชั้นล่างของตู้ในห้องเก็บของใต้บันได ที่ๆ มั่นใจว่าพฤกษ์จะไม่เปิดเข้าไปเจอ
“เหมียว” กวีสะดุ้งโหยง บ้าเอ๊ย ครบสามสิบนาทีแล้วเหรอ ตายแน่! กวีหลับตาแน่น พยายามตั้งสมาธิทั้งที่ใจกระเจิดกระเจิง ยิ่งได้ยินเสียงพฤกษ์ดึงบันไดที่ทำติดกับรางเลื่อนไว้เพื่อให้ขึ้นไปเก็บของชั้นบนได้ง่ายๆ เข้ามาใกล้ เขายิ่งรู้สึกถึงความซวยที่กำลังจะมาถึง
“เมี้ยวว”
“ไงเรา เล่นจนพอใจหรือยัง” พฤกษ์อุ้มเหมียวส้มออกจากกองผ้าห่ม ดูความซนของมัน มุดจนไปติดอยู่ซอกตู้
“ที่ไม่ลงมาเพราะหาทางออกไม่เจอใช่ไหม น่าปล่อยทิ้งไว้บนนั้นจริงๆ จะได้เข็ด วันหลังจะได้หายซ่า”
“เมี้ยว”
“ไม่ต้องมาทำตาอ้อน” พฤกษ์อุ้มเหมียวส้มขึ้นสูงพาเดินออกจากห้องแต่งตัว
“เมี้ยว” ลิ้นเล็กๆ เลียเข้าที่บนแก้ม
“หึ อย่าหวังเลย คราวนี้ไม่หายโกรธง่ายๆ แน่”
“เมี้ยว” คราวนี้เหมียวส้มเปลี่ยนเป้าหมาย
“อีกที” พฤกษ์อุ้มเหมียวส้มขึ้นสูงอีกนิด เหมียวส้มผงกหัวขึ้นแลบลิ้นเล็กสีชมพูแตะลงบนริมฝีปากของพฤกษ์ มันตวัดเบาๆ ให้ความสากของลิ้นสัมผัสกับริมฝีปากหนา
“จูบเก่งนี่เรา” เสียงหัวเราะของพฤกษ์ทำให้เหมียวส้มตาวาว พฤกษ์ชอบจูบของเขางั้นหรือ เขาไม่เคยจูบกับใครหรอกแต่รับรองว่าศึกษามาอย่างดี
“ที่นี้ก็อยู่นิ่งๆ ห้ามซน” พฤกษ์วางเหมียวส้มลงบนเตียง มันนอนลงอย่างรู้งาน ขดตัวเป็นวงกลมมองเขาตาแป๋ว
“ทำเป็นเรียบร้อยอย่าหวังว่าฉันจะหลงกลแกอีก”
“เมี้ยว”
“หึๆ เถียงเหรอ โดนแน่ ทำผิดแล้วไม่ยอมรับ” พฤกษ์ใช้มือจับพุงของเหมียวส้ม มันเด้งตัวขึ้นมา สองขาปัดป้องมือเขา
“แง้วว” เหมียวส้มพยายามดิ้นหนี แต่พฤกษ์ไม่ปล่อยง่ายๆ เขาเปลี่ยนมาใช้จมูกฟัดมันแทน เหมียวส้มดิ้นใหญ่ สองขาหน้าแตะอยู่บนหน้าผากของเขา พยายามปัดป้องไม่ให้ก้มลงไปได้
จุ๊บ พฤกษ์จูบพุงนุ่มๆ ของเหมียวส้มแทน เลิกแกล้งฟัดเมื่อเห็นว่าเจ้าเหมียวเริ่มหอบ เขาจับหน้ามันไว้ด้วยสองมือ เจ้าเหมียวส้มนอนหงายกางสี่ขา
“ขโมยจูบซะเลย” พฤกษ์แตะปากลงบนปากเหมียวส้ม กลิ่นตัวเหมียวหอมอ่อนๆ จะว่าเป็นกลิ่นแชมพูที่เขาอาบให้ก็ไม่น่าจะใช่ คล้ายกลิ่นแป้งเด็กผสมกลิ่นดอกไม้อ่อนๆ มันทำให้เขาอดหอมไปที่หน้าผากอีกครั้งไม่ได้
“ทีนี้ทำตัวดีๆ ฉันจะได้ดูหนังเรื่องนี้ให้จบ” พฤกษ์กดรีโมทเล่นดีวีดีที่เขาเปิดค้างเอาไว้ เหมียวส้มยื่นคางมาวางพาดบนตัก มันเอียงหัวซบหน้าขาของเขาหลับตาพริ้ม สิ้นฤทธิ์
✪✥✤✣✦✧✣✤✥✪
กวีมองพฤกษ์ที่หลับสนิทอยู่บนเตียง เขาก้มหน้าลงไปมองใกล้ๆ ตาเรียวยาว จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนาแต่ได้รูป กวีมองนิ่งก่อนก้มหน้าลงไปช้าๆ ริมฝีปากแตะลงไปเพียงแผ่วเบาแล้วรีบถอยออก
หึๆ แบบนี้ต่างหากล่ะ เขาถึงเรียกว่าขโมยจูบ
✪✣✤✥✦✧✣✤TBC✥✦✧✣✤✥✦✧✪
** ตอนหน้าพาร์ทคนจิมางุ้งงิ้งกันบ้าง
** พี่วีน่าสงสารเนอะ 555 พี่วีจิมีคู่ไหม? เผื่อใครสงสัย อันนี้คนเขียนคิดอยู่แต่ ณ ปัจจุบันคือไม่มีนะคะ
**สปอย>>
...
...
...
...ใครเสียดายอยากให้พฤกษ์เห็นกวีเวอร์ชันมีหูมีหาง ไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวมีให้อ่านแน่นอน ><
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin