ตอนที่ 10
นายน่าสนใจ
ตุ้บ!
“นั่งตรงนี้เลยฮะ”
จับเฮียจ้าวนั่งจุ้มปุ้กลงตรงสะพาน ห้อยขาลงไปในน้ำ รีบวิ่งเข้าไปเอายาสระผมของตัวเองออกมาเพื่อลงมือชำระล้างสิ่งสกปรกทั้งหลายทั้งแหล่บนหัวกบาลนี้ให้หมดไป
ดูท่ายาสระผมกูหมดขวดชัวร์
“เฮียจะถอดเสื้อก่อนไหมอ่ะ จะได้ไม่เปียก”
“อืม”
ร่างสูงถอดเสื้อของตัวเองออก โยนมาคลุมหัวผมพอดี กลิ่นเหงื่อจากเสื้ออันแน่นเต็มสองรูจมูกเพราเสือกสูดลมหายใจเข้าปอดพอดี
ไอ้สัส จะอ้วก!
ผมเอาเสื้อไปห้อยไว้ตรงราวในห้องน้ำแล้วเดินไปหาเฮียจ้าวอีกที ใช้คันตักน้ำจากในคลองขึ้นมาราดหัวคนตัวดำเบาๆทีละขันๆจนเส้นผมเริ่มเปียกชุ่ม ในใจแอบคิดไปว่านี่มันผมคนหรือขนเม่น ทั้งแข็งทั้งสาก
เกิดมาชาติหนึ่งสระผมปีละกี่ครั้งกันวะ
“ถ้าเจ็บก็บอกนะฮะ”
“อือ”
ค่อยๆขยี้เส้นผมเบาๆ เน้นหนักตรงหนังศีรษะเพราะคิดว่าอาจจะมีเห็บมีหมัดอาศัยอยู่ด้วยก็เป็นได้ (ระดับบอสฯอย่างไอ้ดำแค่เหายังน้อยไป ต้องอัพสกิลเป็นเห็บหมัดเท่านั้น!)
“ตรงนี้หน่อยๆ คันยิบๆเลย”
“มันก็เพราะเฮียไม่ยอมสระผมไม่ใช่หรือไง”
“ฉันแค่มีเรื่องงานต้องคิดเลยไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง”
“อ๋อเหรออออ”
กูเชื่อมึงตายล่ะ!
ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะทำให้ผมของเฮียจ้าวนุ่มมือขึ้นมาได้ หมดยาสระผมและพวกครีมนวดบำรุงไปตั้งเยอะ ที่เหลือก็แค่หมักครีมนวดทิ้งเอาไว้สักหน่อย
ระหว่างที่รอให้ครีมนวดซึมเข้าไปถึงรากผมและเฮียจ้าวก็เอาแต่นั่งหลับตามาตลอดตั้งแต่เริ่ม ผมชะเง้อหน้าโน้มลงไปเพื่อสังเกตอีกฝ่าย พอผมเปียกน้ำจนไม่ฟูเป็นสุ่มไก่เหมือนทุกทีแล้วเหลือแค่นวดกับเคราก็ดูดีขึ้นเยอะ
แต่…
จะดูดีกว่านี้ถ้าไม่มีหนวดเคราซานต้านี่!!!
พรึ่บ!
“!!!”
หัวใจร่วงตุ้บไปที่ตุ่ม ตอนกูไม่โน้มหน้าลงมามึงเสือกหลับตา พอกโน้มหน้าลงมายังไม่ทันจะถึงหนึ่งนาทีเลยด้วยซ้ำมึงเสือกลืมตาขึ้น!
“ฉันไม่สนใจไอ้ตัวแสบแบบนายหรอกนะ”
หมับ!
“อ๊ะ เจ็บนะฮะ!”
มือหนาบีบเข้าที่หน้าผมแล้วดันออกให้พ้นทาง
พูดอย่างกับกูสนใจโจรป่าแบบมึงงั้นแหละ! หน้าตาท่าทางแบบนี้ให้ฟรีแถมข้าวสารกูยังไม่เอาเลย!!!
แต่ถ้าแถมตั๋วไปดูบอลโลกก็จะมีขั้นตอนการพิจารณาอีกที…
“เสร็จหรือยังเนี่ย”
“อีกแป๊บเดียวฮะ”
“เบาหัวขึ้นเยอะ”
แหงล่ะ กูเกาจนปลายนิ้วด้านไปหมด ถ้าไม่รู้สึกสบายหัวก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ตั้งแต่เกิดมามีไอ้ไม้พายคนเดียวที่ผมเคยสระผมให้เพราะตอนไปเข้าค่ายสมัยม.ปลายมันเสือกปีนต้นไม้แล้วตกลงมาจนแขนซ้น ความซวยตอนอาบน้ำเลยเป็นผมที่ต้องมานั่งสระผมให้มันทุกวันจนออกค่ายเสร็จ
แน่นอนว่าเส้นผมของไอ้ไม้พายนุ่มกว่าคนตรงหน้าเยอะ
“นี่เฮีย ผมถามอะไรหน่อยสิ”
“อะไร”
“เฮีย…ไม่มีอะไรหรอกฮะ”
ไม่ถามดีกว่า
แค่สงสัยเท่านั้นว่าเฮียจ้าวอาจจะยังลืมผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ ผมคิดว่าบางทีรูปแต่งงานที่เจอในตู้โชว์อาจจะเป็นรูปของเขากับผู้หญิงคนนั้น…
จินตนาการไม่ออกเลยว่าในตอนนั้นคนๆนี้รู้สึกยังไง เจ็บปวดมากหรือเปล่ากับการที่ต้องสูญเสียคนรักให้กับพ่อของตัวเอง
“อยากรู้เรื่องที่คนในตลาดเล่าให้ฟังล่ะสิ”
“เอ่อ…”
จอมเสือกอย่างกูจะบอกว่าไม่อยากแม่งก็คงไม่มีใครเชื่อหรอกเนอะ
ผมเขยิบตัวไปหย่อนขาลงตรงสะพานท่าน้ำเพื่อนั่งข้างๆเฮียจ้าว ลอบมองคนข้างตัวที่ทอดสายตามองยังที่ที่ไกลแสนไกล เกิดมาเคยอกหักแค่ครั้งเดียวคือตอนป.สองเพราะดันไปตกหลุมรักเด็กผู้หญิงที่ผมชอบแกล้งเปิดกระโปรงเธอเพื่อจะล้อลายกางเกงในที่ใส่ในวันนั้น กลายเป็นว่าถูกเธอเกลียดเข้าไส้และอกหักไปตามระเบียบ…
ตั้งแต่นั้นเลยไม่เคยชอบใครอีกเลย โผล่มาอีกทีคือตอนมีอะไรกันกับรุ่นพี่ในชมรมตอนสอบวันสุดท้ายก่อนเรียนจบมัธยมปลายนั่นแหละ เธอมาสารภาพรักและชวนผมไปต่อที่โรงแรม อุตส่าห์คิดว่าคงจะได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาบ้างแต่กลายเป็นว่าโดนฟันแล้วทิ้ง…
เธอแค่ต้องการเปิดซิงผมเท่านั้น ฮือออออ!
“ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่ถ้าเลือกพ่อ ฐานะความเป็นอยู่ในชีวิตจะมั่นคงมากกว่าอยู่กับคนอย่างฉัน มันก็เท่านั้น”
“เฮียจนมากเหรอฮะ”
ถามออกไปตามตรง สมัยนี้ยังมีคนที่คิดแบบนั้นอยู่อีกเหรอ เงินกับความรัก…
จำเป็นต้องเลือกเงินเสมอเลยหรือไงวะ
“จนเหรอ…ก็คงจะจนถ้าเทียบกับเงินของพ่อล่ะนะ”
“แล้วความรักล่ะ”
“…”
“รักของเฮียที่มีให้เธอก็น้อยกว่าพ่อเฮียด้วยหรือเปล่า”
เฮียจ้าวหันมาจ้องผมนิ่งหลังได้ยินคำถามทั้งหมด มีบางอย่างเกี่ยวกับอดีตของเขาที่ผมสงสัย
“นายอยากจะถามอะไรกันแน่”
“ไม่รู้สิฮะ ผมแค่คิดว่าความรู้สึกที่เรียกว่ารัก มันไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นง่ายๆอย่างแค่เจอหน้า มองตากัน แล้วความรู้นั้นก็จะเกิดขึ้น พ่อกับแม่ผมเองก็หนีตามกันมา แม่ชอบเล่าให้ฟังอยู่เสมอว่าก่อนจะตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับพ่อ มีคนดีๆรวยๆมาชอบพอแม่เยอะแยะ แต่แม่ก็ไม่เคยมีความรู้สึกพิเศษกับคนพวกนั้น คนที่โดนใจแม่เต็มๆมีแต่พ่อ ทั้งที่พ่อเป็นเพียงพนักงานบริษัทหาเช้ากินค่ำทั่วไป”
“…”
“พอหนีตามกันมาพ่อกับแม่ก็เริ่มสร้างครอบครัว พ่อเอาเงินเก็บทั้งหมดมาเปิดร้านอาหารให้แม่ส่วนตัวเองก็ไปทำงานนอกบ้าน ช่วยกันเก็บเงินจนเริ่มสร้างตัวได้ก็เลยตัดสินใจมีลูก พ่อกับแม่พากันไปขอขมาผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก่อนที่แม่จะเริ่มตั้งท้องและให้กำเนิดลูกคนแรก พี่สาวคนโตอายุห่างจากผมสิบปี คนรองห่างแปดปี และคนกลางห่างกันหกปี ผมเป็นคนสุดท้อง หลังจากผมเกิดมาไม่นานพ่อก็ล้มป่วยและตายจากไปฮะ”
“เสียใจด้วยนะ”
“อื้ม! หลังจากนั้นพอผมเริ่มโตขึ้น ก็เลยรู้ว่ามีคนมาจีบแม่ผมเยอะขนาดไหน ทั้งที่แม่เป็นแม่หม้ายลูกสี่เลยนะฮะ แต่ผมไม่เคยเห็นแม่จะสนใจหรือเปิดรับใครเขามาเลย แม้ว่าบางคนจะเป็นคนดีจริงๆและดูรักแม่มากจริงก็ตาม เฮียอยากรู้ไหมว่าเพราะอะไร”
ผมหันไปยิ้มให้เฮียจ้าวที่นั่งมองผมนิ่งเพื่อฟังในสิ่งที่กำลังเล่า
“ผมถามแม่ว่าทำไมถึงไม่แต่งงานใหม่ มีคนดีๆมารักมาชอบแม่ไม่ใช่เหรอ ผมไม่โกรธหรอกนะถ้าแม่จะมีคนมาคอยดูแล แต่แม่กลับบอกผมว่า…แม่เชื่อมั่นมาตลอด ว่ามีเพียงความรักของพ่อที่มอบให้แม่เท่านั้นที่มากกว่าใคร ความรักของพ่อคือสิ่งที่ทำให้แม่ยังคงอยู่ต่อไปด้วยรอยยิ้ม สำหรับแม่มีแค่ความรักของพ่อที่เป็นความรักที่ดีที่สุด พ่อไม่เคยเปรียบตัวเองให้ต้อยต่ำหรือว่าไร้ค่ากว่าผู้ชายคนอื่นที่เข้ามาในชีวิตแม่เลย พ่อเชื่อว่าความรักของพ่อที่มีให้แม่ไม่ได้น้อยไปกว่าใคร และมันจะมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น ไปจนกว่าวันสุดท้ายของชีวิตพ่อ”
“…”
“ผมไม่รู้หรอกนะฮะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ผู้หญิงคนนั้นถึงตัดสินใจแบบนี้ แต่ว่า…การที่เฮียเป็นคนกดตัวเองให้ต่ำลงไปเองโดยไม่แม้แต่จะเชื่อมั่นในความรักที่มีให้กับเธอคนนั้น มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้องหรอกนะฮะ"
"…”
“หากรักแล้วต้องจัดให้หนักไปเลย ความรักของเรามากกว่าความรักของใครทั้งหมด ต้องเชื่อแบบนั้นรู้หรือเปล่า”
ปั้กๆ
ยื่นมือทุบไปที่อกแกร่งข้างซ้ายตำแหน่งหัวใจของคนตัวดำ ผมอาจจะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อมากนัก ตั่งจากที่แม่เล่าแล้ว พ่อของผมเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งเลยทีเดียว
ไม่ว่าใครจะเหยียบย่ำความรักของเรายังไง
เราต้องไม่เหยียบย่ำความรักของตัวเอง
นั่นคือสิ่งที่ผมยึดถือมาตลอด หลังจากนี้ถ้าวันหนึ่งผมเจอคนที่ผมรัก รักมากและคิดว่าจะยอมเสียเธอไปไม่ได้เด็ดขาด ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้รักครั้งนี้สมหวัง จะไม่มีวันต้องมานั่งเสียใจแบบที่เฮียจ้าวเป็นเด็ดขาด!
“นายนี่…ดูภายนอกออกจะติงต๊องกวนประสาทแท้ๆเลยนะ แต่บางครั้งก็มีมุมเป็นผู้ใหญ่กับเขาเหมือนกัน”
“นะ…นั่นชมใช่ไหมฮะ”
ไม่เห็นจะดีใจเลยสักนิดเดียวอ่ะ
“อาจจะจริงอย่างนายว่าก็ได้ ถ้าตอนนั้นฉันทำเหมือนอย่างที่พ่อของนายทำ ตอนนี้ฉันคงมีลูกมีครอบครัวกับเธอคนนั้นไปแล้ว”
“เริ่มต้นใหม่ก็ยังไม่สายหรอกฮะ หลังจากนี้ถ้าเจอคนน่ารักๆถูกใจเฮียก็บุกเข้าไปจัดหนักเลย!”
“เอางั้นเลยเหรอ?”
“ใช่ฮะ!”
“งั้นฉันคงต้อง ‘จัดหนัก’ นายสินะ”
ไม่พูดเปล่า ร่างสูงยังหันขวับพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมต้องเอนตัวไปข้างหลังเพื่อเว้นระยะห่าง
“ผะ…ผมหมายถึงคนที่เฮียสนใจเว้ย!”
“ก็นายไง”
“ห๊ะ!!!”
“ฉันรู้สึกว่านายน่าสนใจ ถึงจะไม่ได้เป็นความรู้สึกแบบชู้สาวก็ตาม แต่นาย…ทำให้ฉันสนใจ”
ขอร้องล่ะ!
อย่ามาบอกว่าสนใจกูด้วยหน้าโจรๆแบบนี้เลย ขนลุกไปทั้งตัวแล้วเนี่ยยยย!
“ผมเป็นผู้ชายนะเฮีย อยากถูกฟ้าผ่าหรือไง”
“ฉันแค่บอกว่านายน่าสนใจ ไม่ได้บอกว่านายน่ามีอะไรด้วยสักหน่อย คิดลึกอีกแล้วนะ”
“ถูกผู้ชายด้วยกันมาบอกว่าสนใจแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องปกตินะเฮีย!”
“สำหรับฉันชายชายมันโคตรจะปกติเลย”
ตอบกลับแค่นั้นก็ผละตัวออกไป
หมายความว่าไงฟะ ชีวิตของเขาพัวพันกับเรื่องที่ชายชายมีซัมติงกันแล้วไม่ผิดปกติหรือไง? นอกจากอาชีพวาดการ์ตูนบอยเลิฟกับอดีตอาชีพพระเอกจีวีของไอ้ปิงแล้วยังมีอาชีพอื่นที่เกี่ยวข้องกับชายชายอีกเหรอ…?
อืม…
ไอ้ดำดอทคอมคนนี้ทำงานอะไรกันแน่ฟะ?! (สักวันกูต้องตาม (เ)สืบ(อก)ให้ได้!)
“นั่งเฉยๆสิเฮีย จะยุกยิกๆอะไรนักหนานะ”
บนด้วยความโมโหเมื่อไอ้เฮียเอาแต่ขยับตัวไปมาระหว่างที่ผมกำลังใช้ไดร์เป่าผมมันให้แห้ง วันนี้คงทำได้แค่จับสระผมอย่างเดียว พรุ่งนี้ค่อยเริ่มโกนหนวดโกนเคราแล้วกัน
“มันร้อนนี่หว่า!”
“ทนหน่อยสิฮะ! หลังสระผมต้องทำให้ผมแห้งนะไม่งั้นไอ้ที่สระไปก็ไม่มีความหมายดิ”
“ยุ่งยากจริงวุ้ย”
กูควรเป็นคนพูดคำนั้นมากกว่า
มาที่นี่เพื่อฝึกวาดรูปแต่กลายเป็นว่านอกจากต้องเปลี่ยนแปลงสภาพบ้านแล้วกูยังต้องมาเปลี่ยนแปลงสภาพของเจ้าของบ้านอีก! แบบนี้ชาติไหนถึงจะได้ฝึกวาดรูปกัน…
“เรียบร้อย แห้งแล้วฮะ เดี๋ยวเอาหนังยางมัดเป็นจุกขึ้นมาแล้วกันเพราไม่ได้ออกไปไหนคงไม่ต้องเซ็ตผม”
“เออๆ จะทำไรก็ทำเหอะ ง่วงนอนแล้วเนี่ย”
“รู้แล้วน่า!”
มึงง่วงเป็นคนเดียวหรือไง กูก็ง่วงเว้ย!
ผมหยิบเอาหนังยางมัดข้าวแกงที่อยู่ในครัวมาเตรียมไว้ ค่อยๆหวีผมให้เฮียจ้าวแล้วจับเอาหน้าม้าทั้งหมดขึ้นมารวมกันอยู่เหนือหัวก่อนจะมัดรวมกันจนเป็นพุ่มเหมือนทรงหมาพุดเดิ้ล
อย่างน้อยให้หน้าเกลี้ยงเกลากว่าเดิมสักหน่อยก็ยังดี พอโกนหนวดโกนเคราออกเมื่อไหร่รับประกันโดยสุดหล่อไข่ม้วนว่าแม่งต้องเลิศสแมนแตนเหมือนคนละคนแน่
“เสร็จแล้ว ไหนเฮียลองหันมาหน่อยสิฮะ”
ให้กูได้ชื่นชมกับผลงานด้วยความภาคภูมิ…!
ขวับ…
“!!!”
“…”
“…”
“เป็นไง ดูดีไหม”
“อุ๊บ…”
รีบหันหลังให้ก่อนที่อีกฝ่ายจะสังเกตเห็นอาการกลั้นหัวเราะของผม!
ไม่ไหว ขืนปล่อยไว้แบบนี้กูต้องขำตายแน่ๆ ผู้ชายหน้าโจนไว้หนวดเครารุงรังแต่กลับมัดผมจุกทรงหมาพุดเดิ้ลแบบนั้นมัน…
โคตรพีคเลยไอ้เหี้ย!!!
ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“เอากระจกมาดูหน่อยสิ”
ผมรีบเอากระจกไปซ่อนไว้ด้านหลังทันที ไม่มีทาง! จนกว่าเบ้าหน้ามึงจะเกลี้ยงเกลา ห้ามส่องกระจกเด็ดขาด!
ถ้าไม่อยากเห็นหมีควายในโหมดมุ้งมิ้งด้วยสองตาของตัวเองอ่ะนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพแล้วจ้า น้องไข่ของเราแสบซนอีกแล้วสิ แกล้งเฮียจ้าวแบบนี้ได้ยังไง ถ้าพ่อโจรป่าของเรามาเห็นว่าตัวเองถูกจับมัดจุกจนดูมุ้งมิ้งแบบนั้นมีหวังได้เกิดการลงโทษครั้งใหญ่ น้องไข่ก็ยังคงเป็นน้องไข่แหละเนอะ ถึงจะกวนประสาทบ้าๆบอๆยังไง เมื่อถึงเวลาที่ต้องให้กำลงใจหรือเป็นที่ปรึกษาของใครสักคน ตัวแสบคนนี้ก็มักจะมีคำพูดดีๆมาคอยสอนและชี้แนะเสมอ! สอนซะจนเฮียดำดอทคอมของเราเกิดความ ‘สนใจ’ ถึงขั้นต้องการ ‘จัดหนัก’ เลยทีเดียว 5555+
ตอนหน้าเวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้ว น้องไข่จะได้ฝึกวาดอนาโตมีของเฮียจ้าวล่ะ O.,O
ปล. ไปเจอรูปนี้ในแฮชแท็ก #เฮียจ้าวคนกินไข่ ในทวิตเตอร์มา เหมือนเฮียจ้าวจริงๆ 55555555+