ตอนที่ ๓๘
ผ่านไปราวๆ๒๐นาที เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น น้ำหยดเดินเข้าห้องมาพร้อมกับหมู น้ำหยดเดินไปที่หัวเตียง หยิบนาฬิกาปลุกขึ้นมาตั้งเวลา หมูเดินไปนั่งลงที่โต๊ะทำงานอีกตัวหนึ่ง ซึ่งวางไว้ติดๆกันกับโต๊ะทำงานของน้ำหยด แล้วเริ่มกางสมุดงานออกทำงาน พลางชำเลืองมองดูน้ำหยดกับติ๊ก
“จะนอนแล้วเหรอวะ” ติ๊กถามพลางมองดูนาฬิกาที่บอกเวลาสามทุ่มครึ่ง
“เปล่า ตั้งเวลาไว้ก่อน เผื่อเผลอหลับ” พูดพลางเดินไปที่โต๊ะทำงาน ขยับโคมไฟให้แสงส่องไปทางหมูบ้าง แล้วเดินไปหาอะไรในตู้เสื้อผ้า เมื่อเจอแล้วก็เดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ ยื่นของในมือให้หมู
“กินซะ” น้ำหยดพูดพลางรินน้ำจากขวดน้ำบนโต๊ะใส่แก้ว ยื่นให้หมู
หมูมองดูแผงยาสีเขียวๆที่น้ำหยดส่งให้ เห็นเป็นยาแก้ไข้หวัด ก็หันไปมองหน้าน้ำหยดอย่างสงสัย
“กันไว้ เม็ดเดียวก็พอ ตากฝนมาซะโชกขนาดนั้น” น้ำหยดพูดเหมือนไม่ค่อยใส่ใจ แล้วก้มหน้าทำงานต่อ
หมูอมยิ้ม แกะยากิน แล้วทำงานของตัวเองบ้าง
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง น้ำหยดและหมูยังคงทำงานอยู่ ส่วนติ๊กนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงกว้าง เปลี่ยนท่านอนไปหลายท่า แล้วเหมือนจะคิดอะไรได้ อมยิ้มวางหนังสือคว่ำลงบนเตียง
“เออนี่ ... น้ำ” ติ๊กขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้ๆน้ำหยด ทำท่าเหมือนคิดอะไรได้ “เราเปลี่ยนใจแล้วหว่ะ ไม่เอาแล้วนะลูกนายน่ะ”
“ลูกอะไร” น้ำหยดหันหน้ามาถาม หมูได้ยินก็หันมาทำหน้าสงสัยอีกคน
“ก็ที่ขอไว้เฝ้าบ้านเมื่อกี้ไง” ติ๊กเหลือบมองไปทางหมู แล้วทำหน้ากวนๆ “กลัวออกมาแล้วว่าง่ายแบบไอ้หมู คงเฝ้าบ้านไม่ไหวหว่ะ” พูดแล้วก็หัวเราะเสียงดัง
เพี๊ยะ ...
น้ำหยดหน้าแดง เอื้อมมือไปตีหน้าผากติ๊กเสียงดัง ส่วนหมูเองฟังแล้วก็หัวเราะขึ้นมาอีกคนหนี่ง
ติ๊กรู้ว่าหมูคงไม่ชอบเขานัก เพราะดูจากสายตาที่มองเขาในตอนแรก จึงพยายามชวนคุย แรกๆถามคำหมูก็ตอบคำ จนกลายเป็นคุยกันอย่างออกรส โดยที่น้ำหยดหันมาคุยด้วยเป็นพักๆ จนดึกพอสมควรจึงพากันลอคห้อง ปิดไฟ และนอนกันอยู่บนเตียงกว้างในห้องน้ำหยดนั่นเอง
น้ำหยดต้องตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่ทาบทับร่างอยู่ พร้อมกับความรู้สึกเสียวซ่านบริเวณซอกคอ
“อย่า ... ไม่อายเหรอไง เดี๋ยวติ๊กตื่นมาเห็น” น้ำหยดพูดเบาๆ
“ไม่หรอก” เสียงทุ้มห้าวกระซิบบอก พร้อมกับใบหน้าที่เลื่อนมาซอกซอน ขบกันใบหูของน้ำหยดเบาๆ
“พี่” น้ำหยดอุทาน รู้สึกตกใจมากขึ้น เมื่อคิดถึงหมูที่นอนอยู่ข้างๆ และติ๊กกที่นอนอยู่อีกด้านหนึ่งบนเตียง
ริมฝีปากของน้ำหยดถูกประกบจูบอย่างแผ่วเบา แล้วค่อยๆรุนแรงขึ้น มือที่สอดประคองอยู่ที่ท้ายทอย ลูบไล้เบาๆ ริมฝีปากชื้นเลื่อนไปตามซอกคอ มือหนาเลื่อนไปเริ่มปลดกระดุมเสื้อนอนของน้ำหยดออก
“อย่าพี่” น้ำหยดด้วยน้ำเสียงตกใจ แต่ยังแผ่วเบา เพราะกลัวว่าหมูกับติ๊กจะได้ยิน “เพื่อนผมอยู่ด้วย ... อย่า” น้ำหยดพยายามดิ้นรน
“ไม่มีใครหรอก นอกจากเราสองคน” น้ำหยดพยายามเพ่งมองในความมืด มองเห็นเงาตะคุ่มอยู่บนร่างของตัวเอง หันไปมองทั้งสองข้าง ก็พบแต่ความว่างเปล่า ไม่มีร่างของหมูและติ๊กอยู่บนเตียง
ก่อนที่น้ำหยดจะได้พูดหรือคิดจะทำอะไร เสื้อของน้ำหยดก็ถูกกระชากออกอย่างแรง และกางเกงก็ถูกถอดออกด้วยความรวดเร็ว เรือนร่างหนาหนักทาบทับลงมา ประกบจูบลงบนปากอย่างรุนแรง แล้วช่องทางที่ส่วนล่างของร่างกาย ก็ถูกลุกล้ำด้วยความรวดเร็ว จนน้ำหยดถึงกับผวาไปกับความรุนแรง ที่ผิดไปจากทุกครั้ง จากนั้นมือหนาใหญ่ก็ประคองใบหน้าของน้ำหยดไว้ จูบอันดุดันเริ่มผ่อนกำลังลง แต่ยังไม่ผละจากริมฝีปากของน้ำหยด พร้อมๆกับการเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะ ที่ค่อยๆเริ่มต้นอย่างช้าๆ และเริ่มเร่งเร็วขึ้น มือหนาลูบไล้วนไปตามใบหน้าและลำคอของน้ำหยดไม่หยุดยั้ง ริมฝีปากชื้นยังเฝ้าจูบไม่ยอมผละจากริมฝีปากของน้ำหยด การเคลื่อนไหวที่รุนแรง กลับผ่อนช้า แล้วแน่นิ่ง พร้อมกับจูบที่เริ่มหนักหน่งรุนแรงขึ้น จนน้ำหยดแทบสำลักกับความดูดดื่มที่แฝงเร้นอยู่ สักพักคนที่อยู่ด้านบนก็เริ่มขยับร่างกายท่อนล่างอีกครั้ง
น้ำหยดหอบหายใจแรง รู้สึกเหมือนความเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั้งร่าง จากการเคลื่อนไหวของสิ่งที่ลุกล้ำอยู่ในร่างกาย และจากริมฝีปากที่จูบน้ำหยดอย่างดูดดื่ม น้ำหยดเริ่มตวัดแขนโอบกอดร่างที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านบน แล้วลูบไล้ไปบนแผ่นหลังกว้าง
แต่แล้วจู่ๆน้ำหยดรู้สึกเหมือนร่างกายกระตุกอย่างรุนแรง สติดับวูบลงไปทันที