ตอนที่ 9
[พาร์ตของลูดี้]
หลังจากที่ผมไปแอบได้ยินเรื่องที่วูฟคุยกับลูกน้อง...อันที่จริงไม่ใช่แอบได้ยิน ผมไปแอบฟังมาต่างหาก เฮ้อ...ผมรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์จะไปคัดค้านอะไรเขา ถ้าเขาอยากจะใช้ยากับผม...ก็คงต้องยอมให้ใช้ ผมไม่มีสิทธิ์อะไรมากมายขนาดนั้นนี่ อาจจะดูว่าผมคิดมากเรื่องฐานะของตัวเอง ใช่ครับ...ผมคิดมาก เป็นใคร ใครก็คิดแหละ ยิ่งผมอยู่ในชนชั้นล่างสุดที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาคนต่างก็พากันดูถูก และตราหน้าว่าเป็นทาส...ความคิดนี้ต่อให้พยายามจะลบออกไปจากใจ แต่ความรู้สึกมันก็ยังทำให้ผมรู้สึกนึกถึงอยู่ดี แม้วูฟจะไม่เคยพูดว่าผมเป็นโอเมก้า ไม่ได้แบ่งชั้นทางคำพูด แต่ผมก็รู้ตัวเองดี...
“ลูดี้ นายหลับแล้วเหรอ...” เสียงเข้มทำให้ผมที่คลุมโปงอยู่ในผ้าห่มแอบสะดุ้ง ก็กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นี่ ผมไม่ได้ตอบแต่แรงยุบตัวของเตียง ผมเลยเริ่มแอบเกร็ง ก่อนผ้าห่มหนาของผมจะถูกเลิกขึ้นด้วยฝีมือของเขา
พรึบ... “ฉันรู้ว่านายยังไม่หลับ ทำไมหน้าของนายแดงได้! ฉันบอกว่าให้อาบน้ำแป๊ปเดียวไม่ใช่รึไง” เขาขึ้นเสียงนิดหน่อย ผมมองแวบหนึ่ง และทำในสิ่งที่เขามองงง ส่วนผมก็อึ้งตัวเองเหมือนกัน ผมดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเหมือนเดิม
ผมเมินเขา...เป็นความคิดที่ไม่สมควรปฏิบัติกับเขาแบบนั้นเลย ลูดี้...กำลังทำอะไรอยู่เนี่ย
“นี่! นายกล้าเมินฉันเหรอ เป็นอะไรขึ้นมา รู้สึกไม่สบายงั้นเหรอ”
“เปล่าครับ ผมง่วง” ผมโกหกคำโต...ผมไม่ได้ง่วง แต่ไม่อยากมองหน้าวูฟก็เท่านั้น มองหน้าเขาทีไรเหมือนถูกย้ำตลอดว่า จะต้องมีทายาทให้เขา ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะท้อง...
“ถ้าง่วงก็ลุกไปกินข้าวก่อน ค่อยมาหลับต่อ” เขาเอาของกินมาล่อ ผมไม่ได้หิวขนาดนั้นซะหน่อย แต่ท้องของผมมันก็ร้องออกมา...แฮะ หิว
“ไม่หิวจริง ๆ ครับ”
“ข้าวต้มหมูอร่อย ๆ ที่นายชอบ...” เขาเริ่มไล่เมนูที่ผมชอบจริง ๆ ก็ตอนนั้นที่กินเข้าไปมันอร่อยมาก!
“........”
“มีของหวานแถมให้ด้วย นี่ฉันอุตส่าห์ให้คนเตรียมมาไว้ให้เชียวนะ ลุกขึ้น” ตอนแรกเสียงเขาก็ทุ้มดีอยู่ หลัง ๆ เริ่มใช้คำขู่ผม ผมที่นอนตะแคงข้างอยู่ก็แอบกลืนน้ำลาย
“........” ผมยังคงไม่ตอบ และความอดทนของผมก็ขาดลง! ตรงประโยคสุดท้าย
“ขนมน่ะ เป็นขนมไทยด้วยนะ...”
“กินก็ได้ครับ...” แพ้ทางขนมไทยไปซะแล้ว เขายกยิ้มนิด ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้ใบหน้าคมดูหล่อใจดีมากกว่าเดิมอีก ชอบให้เขายิ้มเยอะ ๆ กว่านี้จัง
“หึ ก็ลุกขึ้นมา” เขาไม่พูดเฉย ๆ เขาฉุดแขนของผมให้ลุกขึ้นนั่งและเดินนำไปห้องรับแขกด้านนอก ผมกินข้าวเงียบ ๆ โดยที่วูฟเองก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาเหมือนกัน เหมือนต่างคนต่างกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง...
จบท้ายคืนนี้ผมก็กินข้าวต้มจนหมดพร้อมกับขนมไทยที่แสนอร่อยอีก 1 จานเต็ม ถ้ามีอีกจาน ผมว่าผมก็กินไหวนะครับ ฮ่า ๆ มีความหิวนิด ๆ (นี่นิดแล้วใช่ไหม) ผมเข้านอนเลยด้วยความเหนื่อย เมื่อยตัวไปหมด วูฟเองก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรผม ผมจำได้ว่าตัวเองหลับไปก่อนร่างสูงที่เดินหายเข้าไปอาบน้ำ...
รุ่งเช้า
บรรยากาศวันนี้ระหว่างผมกับวูฟค่อนข้างอึมครึม จะว่าแบบนั้นก็ได้...เพราะตั้งแต่เช้าแล้ว เรายังไม่พูดกันเลยครับ วูฟอาจจะปกติเพราะเขาก็ไม่ค่อยพูดกับผมอยู่แล้ว คงเป็นผมเองที่ผิดปกติ...ผมไม่ยอมพูดอะไรกับเขา อาจจะเป็นเรื่องเมื่อวานที่ผมได้ยินมา เลยทำให้ผมรู้สึกงอน...น้อยใจ หรือโกรธกันแน่ ผมว่าผมอาจจะแค่น้อยใจก็ได้ (น้อยใจทั้งที่เขาไม่รู้และไม่มีสิทธิ์น้อยใจเนี่ยนะ ลูดี้...) วูฟออกไปงานประชุมของกรุ๊ปตระกูลกับพ่อของเขาแหละครับ เขาทำท่าเหมือนจะพูดอะไรกับผมก่อนไป แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“คุณลูดี้คะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ ทำไมดูเหม่อ ๆ” ป้านมถามผมขึ้น ในขณะที่เรากำลังจัดเอาดอกไม้มาจัดแจกันอยู่ ผมมาเล่นกับป้าน่ะครับ จริง ๆ ตอนแรกวูฟสั่งให้ผมอยู่แค่ในห้อง ผมว่ามันอุดอู้มากถ้าอยู่แบบนั้น ก็เลยออกมาเล่นข้างนอก
“เปล่าครับ ผมกำลังมองแจกันว่าจะหาดอกไม้อะไรมาเพิ่มดี...” ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องดอกไม้สักนิด เรื่องที่ผมคิดอยู่คือเรื่องของวูฟต่างหาก...
“ป้าว่าไม่ใช่แบบนั้นหรอกใช่ไหม เห็นคุณลูดี้กับนายน้อยไม่ค่อยพูดกันเลย คิดว่าทะเลาะอะไรกันซะอีก” ผมที่เช็ดแจกันอยู่ก็ชะงัก ขนาดคนอื่นยังดูออกเลย... บ้า เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกันซะหน่อยนี่
“ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันหรอกครับ เมื่อเช้าเขาก็ไปทำงานตามปกติ”
“ค่ะ ถ้าไม่ทะเลาะก็ดีแล้ว บอกตรง ๆ นะคะ ป้าว่านายน้อยก็คงไม่ได้สังเกตตัวเองเหมือนกัน แต่ในฐานะที่ป้าเลี้ยงนายน้อยมาตั้งแต่เล็ก ๆ ป้ารู้ว่า นายน้อยสดใสขึ้นมาก เมื่ออยู่ใกล้คุณลูดี้” ผมเลิกคิ้ว
“ครับ?”
“คุณลูดี้เองก็คงจะไม่เคยสังเกตใช่ไหมคะ ว่านายน้อยอ่อนโยนกับคุณมาก...ทั้ง ๆ ที่อัลฟาในความคิดของคุณลูดี้อาจจะโหดร้าย...แต่พอมาเจออัลฟาของตระกูลเฮอร์คิวแล้ว เปลี่ยนความคิดไหมคะ” ป้านมถามยิ้ม ๆ ผมยิ้มตอบ ก็จริงครับ วูฟทำให้ผมเริ่มเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเรื่องอัลฟา ที่ชอบกดขี่ข่มเหง...แต่สัญชาตญาณที่แฝงอยู่ในตัวแต่ละคน มันก็ไว้ใจกันไม่ได้หรอก แต่ถ้าเป็นเรื่องความน่าเชื่อใจ ผมยอมรับว่าเริ่มเชื่อใจวูฟไปแล้วระดับหนึ่ง...หรืออาจจะมากกว่านั้น
ผมไม่ได้ตอบคำถามของป้า เพียงแต่ส่งรอยยิ้มให้ก็เท่านั้น
“ป้าครับ ผมอยากได้ดอกกุหลาบมาประดับแจกัน พอจะมีแถวนี้ไหมครับ?” ผมถามขึ้น ส่วนป้าก็กำลังเด็ดใบไม้สีสวยเพื่อประดับแจกัน เห็นว่าแจกันพวกนี้จะถูกนำไปวางไว้ตามทางเดินของบ้านใหญ่ มันจะได้ดูสดใส
“มีนะคะ เดี๋ยวป้าให้คนไปเก็บให้” ป้านมบอก ผมก็เลยรีบส่ายหน้า
“ผมไปเก็บเองดีกว่าครับ อยากไปเลือกเอง”
“ไม่ได้นะคะ มันลำบากคุณลูดี้” แต่ผมก็ยืนกรานที่จะไปเก็บเอง จนป้านมยอมใจอ่อนเพราะผมบอกว่าจะไปเก็บดอกไม้มาจัดแจกันไว้ในห้องนอนวูฟด้วย
ผมเดินออกมาตามทางเดินบ้านใหญ่ของตระกูลเฮอร์คิว มองเลยไปอีกทางก็เป็นบ้านของวูฟที่เชื่อมติดกัน ร่างสูงเป็นคนที่ชอบอะไรเงียบ ๆ สุด ๆ ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงไปอยู่คนเดียวทางนั้น ทางบ้านใหญ่ก็มีพวกโอเมก้าหลายคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ แบบว่าบ้านใหญ่ของตระกูลเฮอร์คิวจะมีพวกท่านทูตที่ปลูกบ้านหลังเล็กถัดไปอีก (แต่โซนบ้านของวูฟจะถูกกันไว้อีกทาง ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ และก็เป็นเขตหวงห้ามของวูฟด้วยครับ)
ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินเข้าไปในสวน ก็เหมือนได้ยินเสียงรถขับเข้ามาทางประตูบ้านใหญ่ เอ๋...พวกเขากลับมาจากที่ทำงานกันแล้วเหรอ แต่ผมยังไม่ทันจะเดินไปดู เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นหนึ่งในโอเมก้าของท่านทูต ที่นั่งกันอยู่ตรงศาลาในสวนก็ทักผมขึ้น
“เดินมาทำอะไรแถวนี้คะ คุณลูดี้...” แม้จะใช้คำว่าคุณ แต่น้ำเสียงของเธอไม่ได้เต็มใจจะใช้คำสุภาพกับผมเลยด้วยซ้ำ...ผมเลือกที่จะไม่ตอบก็แล้วกันครับ ไม่อยากมีเรื่อง แต่เธอก็ยังไม่หยุดพูด แถมประโยคที่เธอพูดมันก็ทำให้ผมชะงัก
“แหม ๆ ไม่คิดจะตอบบ้างเลยเหรอ...หยิ่งเนอะ นี่ไม่รู้ตัวอีกเหรอว่ากำลังจะโดนเขี่ยทิ้ง”
“ต้องการจะพูดอะไรครับ” ผมหันกลับไปถามอย่างใจเย็น...กำมือไว้รวบรวมสติ เธอยิ้มและหันไปหัวเราะคิกคักกับเพื่อนของเธอ
“ก็ฉันบังเอิญไปได้ยินมาน่ะสิ ว่าตระกูลมาวินส่งลูกสาวคนสวยของเขามาให้ทำความรู้จักกับวูฟ สงสัยคงจะอยากให้จับคู่เพิ่มล่ะมั้ง...” ผมได้ฟังก็ใจหล่นวูบ ทั้ง ๆ ที่ไม่น่าจะมาคิดมาก แต่ผมกลับคิด...
“เห็นคู่ของวูฟไม่มีท่าทีจะให้ทายาทสักที คงต้องหาว่าที่ภรรยาคนใหม่ให้กับนายน้อยทายาทผู้นำอัลฟาแล้วล่ะมั้ง”
“หืม งั้นคู่หมั้นคนปัจจุบันล่ะแก!” เพื่อนอีกคนพูดสบทบ ดูก็รู้ว่าจงใจพูดโดนผมเต็ม ๆ
“อาจจะโดนถอนตำแหน่งรึเปล่าก็ไม่รู้น๊า...” พอผมฟังมาถึงจุดนี้ก็รู้ว่า ไม่ควรจะมาเสียเวลาฟังพวกเธอพูดกันหรอกครับ เพราะผมได้ยินคำยืนยันจากปากของร่างสูงที่เคยบอกไว้ว่า...ผมจะไม่โดนปลด ผมอยู่ในฐานะคู่แห่งโชคชะตา แต่สิ่งที่ผมกังวลจริง ๆ คือ...ถ้าผมไม่ท้อง เขาก็ต้องไปหาคนอื่นมาแทนงั้นเหรอ เขาต้องไปทำเรื่องเหมือนที่ทำกับผมกับคนอื่นงั้นเหรอ พอคิดแบบนั้นขึ้นมา หัวใจก็เหมือนถูกบีบไร้เรี่ยวแรง
“ขอบคุณที่บอกนะครับ” ผมยิ้มก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง ผมเหลือบไปมองตรงประตูรั้วใหญ่ก็เห็นผู้หญิงที่เดินลงมาจากรถ พร้อมกับเกาะแขนของวูฟ...ผมชะงัก ใบหน้าของวูฟนิ่งเฉยแต่ก็ไม่ได้ปัดมือของผู้หญิงออก พวกผู้ใหญ่ของสองตระกูลที่ลงมาจากรถเหมือนกัน ทำให้ผมเริ่มรู้ว่า เรื่องที่พวกเธอพูดมามันคือเรื่องจริง...
ทำไมผมรู้สึกเจ็บมาก...ผมไม่อยากให้ใครแตะต้องเขา
“เจ็บใช่ไหมคะ ถ้าเจ็บ...ทำไมคุณไม่หนีไปล่ะ” เสียงของผู้หญิงคนเมื่อกี้ดังขึ้นอีกครั้งข้างหลังผม เธอต้องการอะไรจากผมกันแน่...
“ทำไมคุณต้องมาบอกเรื่องพวกนี้กับผมด้วย?”
“เฮ้อ ฉันก็แค่บอกในฐานะที่เป็นโอเมก้าเหมือนกัน มันทรมานไงคะ...ฉันก็เลยอยากให้คุณหลุดจากตระกูลนี้ไป ฉันมีทางหนีนะคะ อยากหนีไหม” เธอเสนอ ผมก็เลยส่ายหน้าก่อนจะโดนเธอลากไปด้วย
“ผมไม่หนีครับ...ปล่อยผมด้วย” ผมบอก เธอพาผมเดินมาตรงสวนกุหลาบสีแดงสวยที่ผมจะมาเก็บ เธอชี้มือไปที่พุ่มไม้ ถ้ามองดี ๆ ก็ไม่มีใครสังเกตเห็น มันมีประตูเล็ก ๆ อยู่ตรงนั้นด้วย ตัวของผมลอดออกไปสบาย ๆ ระหว่างที่ผมดูประตูก็ไม่ทันเห็นว่าเธอแอบฉีดน้ำหอมใส่ด้านหลังของผมโดยที่ผมไม่รู้ตัว
“ตรงนั้นค่ะ ถ้าคุณอยากจะหนีโดยที่ไม่ให้ใครรู้ ก็หนีออกไปได้เลยนะคะ ฉันก็แค่หวังดีกับคุณก็เท่านั้น” เธอยกยิ้มเล็ก ๆ ให้ผม และเดินจากไป ทิ้งให้ผมมองประตูเล็กตรงหน้าอยู่คนเดียว...ผมไม่หนีหรอกครับ หนีไปก็ไม่มีประโยชน์ เว้นซะแต่ผมจะทนไม่ได้จริง ๆ
ผมละสายตาจากประตูเปลี่ยนไปสนใจดอกกุหลาบสีแดงสดตรงหน้าแทน กลิ่นของมันหอมฟุ้งไปทั่ว กำลังบานเลย ผมมองดูรอบ ๆ ว่าดอกไหนสวยบ้าง ก็เลยเผลอเดินเข้าไปใกล้ ๆ กับบริเวณประตูลับ (ขอใช้ชื่อนี้ก็แล้วกัน ก็มันดูเป็นประตูลับ ๆ) ผมกำลังจะก้มไปหยิบดอกกุหลาบก็ต้องสะดุ้งกับแรงกระชาก...จนมือของผมที่จับก้านกุหลาบอยู่โดนบาด
ฉึก...เลือดไหลออกมาทันที แม้จะไม่ลึก...แต่มันปวด
“อ๊ะ!!...คุณวูฟ” ผมตาโตเมื่อคนที่ดึงแขนของผมไปคือ เขา... นัยน์ตาคมเหมือนกำลังโกรธอะไรมาอย่างนั้นแหละ แรงบีบแขนของผมแรงขึ้นจนผมร้องออกมา “โอ๊ย คุณวูฟปล่อยผม ผมเจ็บ”
“ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันอยู่ไหน!!” คำถามที่ถูกเอ่ยออกมาทำให้ผมงงมาก ผู้ชายอะไรของเขา?
“ผู้ชายอะไรของคุณครับ? อ๊ะ ผมเจ็บนะ!!” ผมบีบแขนของผมแรงขึ้นก่อนผมจะเบิกตากว้างเมื่อเขากระชากกระดุมเสื้อด้านหลังของผมออก พร้อมกับพยายามจะถอด ผมดิ้น
“กลิ่นนี้มันไม่ใช่กลิ่นของนาย!!...” หา? เขาพูดบ้าอะไร
“หยุดนะครับ! กลิ่นอะไรของคุณ คุณจะทำอะไร....” ผมผลักเขาออกเต็มแรงพลางเอาเสื้อของตัวเองที่หลุดออกจากไหล่มาใส่ไว้ดี ๆ วูฟจะเข้ามากระชากอีก ผมก็ถอยออก แต่ก็ไม่ทันมือหนาที่รั้งเอวผมเข้าไปประชิดเขาเต็มแรง
“ก็กลิ่นน้ำหอมของผู้ชายที่ติดตัวนายไง!! คิดว่าฉันไม่ได้กลิ่นรึไง”
“คุณเข้าใจผิดแล้วครับ กลิ่นกุหลาบรึเปล่า ผมจะไปมีกลิ่นน้ำหอมผู้ชายติดตัวได้ยังไง ผมไม่ได้ฉีด....” ผมชะงักเมื่อตัวเองเริ่มได้กลิ่นน้ำหอมที่ลอยออกมา...ทำไมมันมีกลิ่นได้ล่ะ วูฟมองผมแล้วหัวเราะเยาะในลำคอ พร้อมกับพูดคำที่ทำให้ผมหมดความอดทนอย่างง่ายดาย
“หึ แอบลักลอบมาหาผู้ชาย ทำไม? มีแค่ฉันมันไม่พอรึไง” วูฟพูดออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจแต่ก็หลุดปากออกมาแล้วด้วยความโกรธ
เพี๊ยะ!!! ผมยกมือฟาดที่หน้าของร่างสูงเต็มแรงของตัวเอง อาจจะไม่แรงสำหรับเขา แต่ก็ทำให้เขาหันหน้าไปตามแรงตบของผม
“คุณกำลังดูถูกผมอยู่! ผมไม่ได้ทำอะไรสักนิด”
“นี่นาย!!! กล้าตบฉันเหรอ” ผมสะดุ้งกับเสียงคำรามตรงหน้า เขาดูโกรธมาก...หน้าแดงมากด้วย เป็นรอยตบผมเลย ผมมองเขาที่จ้องผมราวกับจะงับหัวผมอย่างงั้นแหละ
“มานี่เลย! ลูดี้” เขาลากแขนของผมให้เดินตาม ผมสะบัดออก
“ผมไม่ไปครับ ผมจะไปจัดแจกันต่อ”
“ไม่ต้องไปจัดมันแล้ว!! ฉันบอกให้อยู่แต่ในห้อง ใครใช้ให้นายลงมาข้างล่าง!! อยากลงมาหาใครมากนักรึไง” ผมขมวดคิ้ว นี่เขาไปฟังอะไรจากใครมาไม่ทราบ!! หนึ่งคำก็บอกผมมีคนอื่น สองคำก็บอกผมมีคนอื่น!!
“ก็ผมบอกคุณแล้วไง ว่าผมไม่ได้มาหาใคร คุณเคยเห็นผมพูดกับคนอื่นในบ้านของคุณรึไง!! คุณก็รู้ว่าผมเป็นโอเมก้า ไม่มีใครพูดกับผมสักคน” แขนของผมที่โดนลากไปให้เดินตามเขาก็ถูกปล่อย วูฟหันมามองเหมือนคิดแวบหนึ่ง
“แต่กลิ่นที่ไม่ใช่กลิ่นนาย นายจะอธิบายว่ายังไง?” ผมก็ไม่รู้ว่ากลิ่นนี่มันมาจากไหน
“ใครบอกคุณครับว่าผมอยู่นี่?” ผมไม่ได้ตอบคำถามเขา แต่กลับถามแทน
“ฉันไปหาป้านม ถามว่านายอยู่ไหน” ผมคิด กลิ่นนี้ตอนแรกมันไม่มีนี่...มันเพิ่งจะมีตอนที่...ผู้หญิงคนนั้นชี้ทางออกให้ผมดู ผมคิดอยู่ก็ร้องเสียงหลงเมื่อร่างสูงหงุดหงิดขึ้นมาอีก จับผมพาดบ่า
“เหวอ คุณวูฟ!! ปล่อยผมลง” ผมดิ้นไปมาแต่ก็โดนเสียงเข้มดุอีกรอบ
“หยุดพูด!!”
“ผมไม่หยุด!! ก็คุณกำลังเข้าใจผมผิด เชื่อผมสิว่ามันไม่มีอะไรอย่างที่คุณคิด ผมไม่ได้ไปหาผู้ชายคนอื่น” ผมอธิบาย แม้จะงงว่าตัวเองจะมาอธิบายทำไม...ก็ผมไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด
วูฟก็ฟัง...แต่ผมไม่รู้ว่าเขาเข้าใจไหมในสิ่งที่ผมพูด ผมพูดความจริงนะ...
เขาพาผมเดินเข้ามาในบ้านใหญ่และตรงไปทางบ้านของเขา เหล่าบรรดาสาวใช้ไม่กล้าที่จะสบตาคม ๆ ของวูฟเลยสักคน ก็เล่นแผ่รังสีความโมโหคุกกรุ่นขนาดนั้นนี่...แถมผมยังไปตบหน้าเขาอีก ฮือ...ลูดี้เอ๊ย ทำอะไรลงไปเนี่ย
ตุบ เขาโยนผมลงเตียงนุ่ม ๆ ผมกลิ้งขลุกขลักไปบนเตียง ดีหน่อยที่มันนุ่ม...ยังไม่ทันจะเอ่ยปากอะไรเขาก็ใช้มือกั้นผมที่กำลังจะลุกไว้
“คุณจะทำอะไรครับ” ผมดันเขาที่ดึงเสื้อของผมออกอีกแล้ว
“จะทำ” หา...อะไรนะ “
นายเป็นของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้” เสียงเย็นเฉียบทำให้ผมกลัวขึ้นมา ถึงจะไม่ใช่ตอนฮีทขึ้น แต่วูฟก็ขึ้นชื่อว่าเป็นอัลฟา...เขากำลังโกรธที่ผมตบด้วย แถมยังอารมณ์ไม่ดีสุด ๆ
ผมไม่อยากเจ็บตัว
“ไม่ครับ ผมไม่อยาก...อ๊ะ!!” ผมดันเขาออกไปเท่าไหร่ก็โดนคว้าท้ายทอย และโดนจูบกดหนัก ๆ จากร่างสูงทันที จูบที่บดขยี้ริมฝีปากของผมให้อ่อนยวบ แรงที่เคยต้านมันก็มาละลายเอาดื้อ ๆ ซะตรงนี้
“อื้อออ...ปล่อยครับ ผมไม่อยาก...อ๊ะ ผมเจ็บ” ผมผลักเขาออกพร้อมกับมองเลือดที่ไหลออกจากมุมปากของเขา...ผมเผลอกัดปากเขา วูฟมองนิ่งเหมือนเขาพยายามจะข่มอารมณ์หงุดหงิดของตัวเอง
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมเผลอพูดออกไปอย่างประชด อาจเพราะอารมณ์ของเราสองคนตอนนี้มันไม่คงที่...
“ถ้าคุณอยากมาก ก็ไปหาคนอื่นสิครับ” ประโยคน้อยใจจากผมถูกเอ่ยออกไป
เพียงเพราะอยากได้ยินชัด ๆ ว่าผมคือคนเดียวที่เขาต้องการ ... นี่ผมกำลังคิดอะไรเป็นตุเป็นตะไปได้
วูฟตวัดสายตาคมกริบมามองผม
“นายว่าอะไรนะ?...อยากให้ฉันไปทำกับคนอื่นมากงั้นเหรอ!!! หึ นายเองก็อยากจะไปหาคนอื่นงั้นสิ?” น้ำเสียงประชดกลับทำให้ผมเริ่มคิดว่า เรื่องมันเริ่มแย่ลง
“ผมจะไปทำกับคนอื่นได้ยังไงครับ ในเมื่อคุณก็รู้ว่าโอเมก้ามีคนที่สามารถผูกพันธะได้เพียง 1 คน!!”
“ฉันก็เห็นคนอื่นมีหลายคนได้นี่...ดูความต้องการโอเมก้ามันจะมีมาก อยากได้บ่อย ๆ ฉันก็จะสนองให้นี่ไง” วูฟยังคงพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แต่มันทำให้คนฟังอย่างผมรู้สึกเจ็บแปล๊บ...น้ำเสียงที่เขาใช้มันช่างเหมือนตอนที่ผมโดนดูถูก ดูเจ้าตัวเองก็คงไม่รู้ตัว แต่สำหรับความรู้สึกของผมมันเปราะบาง...
วูฟชะงักนิดหน่อยเมื่อสบตากับผมที่มองเขาด้วยแววตาเจ็บปวด
“ผมว่าบางที ผมอาจจะไม่เหมาะกับการอยู่ในตระกูลเฮอร์คิวก็ได้...เพราะผมมันอ่อนแอ” ผมพูดก่อนจะก้าวลงจากเตียง แต่เขาก็ดึงแขนของผมไว้
“นายจะไปไหน ฉันไม่ได้อนุญาต!”
“ปลดผมที”
“ห๊ะ...”
“ช่วยปลดผมออกจากตำแหน่งคู่ของคุณที ผมไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ที่ตระกูลเฮอร์คิว....” ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน ผมเห็นเขาทำตาโตนิดหน่อย
“นายจะบ้ารึไง!! ก็บอกไปแล้วว่าฉันปลดนายออกไม่ได้ นายเป็นคู่แห่งโชคชะตาของฉัน!” ผมเชื่อเรื่องคู่แห่งโชคชะตามากครับ...และก็ดีใจด้วยที่ได้เจอเขา แต่การที่ผมยังอยู่ข้างเขาแบบนี้ ผมก็ยิ่งรับรู้ว่า ผมเริ่มเจ็บ เริ่มอึดอัด...
บางทีผมอยากลองห่าง ออกไปอยู่คนเดียวเหมือนเดิม ออกไปมีอิสระ ไปไหนมาไหนคนเดียวได้... แต่ก่อนผมก็อยู่ได้ ทำไมตอนนี้ผมจะอยู่ไม่ได้ล่ะ
“ถ้าผมมีทายาทให้คุณไม่ได้ คุณก็ต้องไปทำกับคนอื่นอยู่ดีใช่ไหมครับ” ผมถามออกไป วูฟชะงัก...เขาทำสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย ผมไม่รู้ว่าในที่ประชุมของตระกูลใหญ่เขาไปเจออะไรมาบ้าง...มันคงหนักพอสมควร แต่สิ่งที่ผมอยากได้ยินชัด ๆ ตอนนี้คือคำตอบของคำถามที่ผมถามไป
“..........”
“ว่ายังไงครับ”
“ใช่ ถ้านายไม่ท้อง ก็คงมีคนพยายามหาคนมาให้ตระกูลฉันเลือก”
“ดีจังนะครับ คุณเนี่ย...เป็นทายาทแถมยังมีความแข็งแกร่งเรื่องภูมิต้านทานอีก” ผมเค้นหัวเราะเบา ๆ
“แต่มันก็คงไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก พ่อกับแม่ของฉันคงไม่ยอมให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแน่นอน” เขาบอกออกมาอีก ผมไม่ได้ฟังหรอกครับ เพราะหัวสมองเริ่มเบลอ...
ผมจะก้าวลงจากเตียงอีกครั้ง วูฟก็เลิกคิ้วงงดึงแขนของผมไว้ไม่ยอมปล่อยเหมือนเดิม
“นายกำลังจะไปไหน” ไปจากคุณไงครับ...ผมไม่ได้ตอบออกไป
“............”
“ฉันถามว่านายจะไปไหน!!” ดุอีกแล้ว ผมหันไปมองเขาที่มองผมอยู่...แววตาคม ๆ ของเขา เห็นทีไรหวั่นไหวจังครับ ผมเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองพ่ายแพ้ให้กับความรู้สึกใกล้ชิดที่อยู่ใกล้เขาไปซะแล้ว
“ผมขอถามอีกหนึ่งคำถาม ก่อนที่ผมจะออกจากบ้านนี้” ผมพูดก็สะดุ้งกับเสียงเข้ม
“ว่าอะไรนะ!! ใครให้นายออกจากบ้าน อย่างี่เง่าได้ไหมลูดี้...ฉันเชื่อแล้วก็ได้ว่านายไม่ได้ไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น” เขายอมรับออกมา ผมไม่ได้สนใจเรื่องที่เขากล่าวหาว่าผมไปอยู่กับผู้ชายเลยสักนิด ที่สนตอนนี้คือ...ความรู้สึกมากกว่า
“ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมาสักพัก คุณรู้สึกยังไงกับผมเหรอครับ”
“...........” เขานิ่งไปทันที ผมพยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจ เพื่อรอเขาตอบคำถามของผม วูฟเงียบอยู่นานก่อนจะพูดขึ้น
“มันไม่ใช่คำถามที่ควรจะมาถามฉันซะหน่อย” ...นั่นสินะครับ ไม่ใช่คำถามที่ควรจะมาถามคู่แห่งโชคชะตาของตัวเองนี่นา ตอบแบบนี้มันเจ็บยิ่งกว่าคำว่าไม่รักซะอีก
“ขอบคุณที่ตอบนะครับ” ผมยิ้มบาง ๆ
“นายเป็นอะไรไปอีก ฉันก็ตอบแล้วไง ยังจะไปไหนอีก!”
“ออกจากที่นี่ไงครับ” ผมสะบัดมือของเขาออกอย่างใจกล้า พอแล้วครับ...ผมไม่อยากยุ่งกับเขาแล้ว ไม่อยากทำให้ใจของตัวเองต้องทรมานจากนี้...
เพราะผมรู้สึกตัวแล้วว่า...
ผมหลงรักเขาซะแล้ว
“ดูเหมือนนายจะอยากออกไปจากที่นี่จังเลยนะ! เอาสิ ถ้าอยากไปนักก็ไป!!” วูฟเผลอพูดด้วยอารมณ์ออกมา ผมได้ฟังก็ยิ่งทำให้ผมไม่ต้องมาลังเลอะไรอีก
“ครับ ขอบคุณที่คุณอนุญาต ผมไปก่อนนะครับ” ผมลุกขึ้นเดินออกไปโดยที่ร่างสูงไม่ได้หันมามองผมสักนิด ผมถอดปลอกคอสีแดงที่ตัวเองใส่อยู่วางทิ้งไว้ตรงโต๊ะโดยที่วูฟไม่รู้ด้วยซ้ำ ผมเดินออกไปจากห้องและเลือกที่จะออกช่องทางลับ เพราะขืนออกทางหลักของบ้าน ผมก็คงไม่ได้ออกไปแน่ ผมลอดออกมาจากช่องประตูเล็ก แล้วหันหลังไปมองบ้านหลังใหญ่ที่ผมเพิ่งออกมา...
ดีแล้วนิครับ ที่ผมออกมาได้ ผมจะได้ใช้ชีวิตอิสระไง...แต่ไม่รู้ทำไม หัวใจของผมถึงเจ็บปวดแบบนี้ น้ำตาที่เริ่มไหลออกมา เป็นเครื่องยืนยันว่า ผมรักเขาไปแล้ว...
“ฮึก...ฮือออ...เราจะอ่อนแอไม่ได้นะลูดี้” ผมพยายามปาดน้ำตาทิ้ง แล้วเดินตรงไปที่ถนนใหญ่ บ้าจริง...ผมลืมเอาพวกยาที่วูฟเคยซื้อให้มาด้วย อย่างน้อยก็น่าจะมียาติดตัวไว้กินสำหรับเดือนหน้าบ้าง ผมมองถนนตรงหน้าอย่างไม่รู้จุดหมาย ผมเดินออกมาจากบ้านของวูฟได้นิดเดียวเอง ผมก็รู้สึกเหนื่อย...ทำไมเหนื่อยง่ายจัง ผมจะไปอยู่ที่ไหนดีนะ บ้านก็น่าจะกลับไม่ได้แล้ว...ระหว่างที่คิดอยู่ผมก็ต้องชะงักหยุดเดินเมื่อได้กลิ่นของปลาย่างที่แม่ค้าย่างอยู่ตามข้างทาง
กลิ่นเหม็นฉุนมาก...จนผมรู้สึกจะอาเจียน
“อึก...อุบ” ผมเอามือปิดปากด้วยความรู้สึกเวียนหัวสุด ๆ ผมเป็นอะไร...ผมพยายามยืนให้อยู่และไปนั่งพักอยู่ตรงม้านั่งข้างถนน ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยผมหรอกครับ...เพราะพวกเขารู้ว่าผมเป็นโอเมก้า แถมคนส่วนมากไม่ค่อยสนใจกันอยู่แล้ว...เป็นโลกที่อยู่ลำบากเนอะ
ผมเวียนหัวจังเลย ได้กลิ่นอาหารลอยมาก็เหม็นฉุนไปหมด...ผมไม่สบายเหรอ จะมาไม่สบายอะไรตอนนี้ ลูดี้...ผมยังหนีไม่ไกลจากบ้านของเขาเลยสักนิด...ไหนบอกว่าจะหนีเขายังไงล่ะ....
“ใครอยู่ข้างนอกบ้าง! เอาเครื่องติดตามออกไปตามหาลูดี้ กลับมา” เสียงเข้มตะโกนเรียกลูกน้อง
“นายน้อยครับ คุณลูดี้ถอดปลอกคอออกแล้วล่ะครับ...”
“โถ่วเว้ย!! เอากุญแจรถมา! ฉันจะออกไปหาเขาเอง ใครใช้ให้นายหนีไปจริง ๆ ฉันไม่ได้พูดไล่นายจริง ๆ ซะหน่อย”
...
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^
ไรท์จะไปเอาไม้เรียวมาฟาดวูฟเเล้วค่ะ555555