บทที่ 9
ตาวเดินตามหลังร่างสูงที่เดินนำหน้าออกจากลิฟต์อย่างอารมณ์ดีผิวปากอย่างสบายใจแถมยังควงกุญแจรถในมือไปมาจนตาวแทบอยากจะเอากล่องเครื่องมือทำฟันในมือปาหัวให้มันรู้แล้วรู้รอด ไม่รู้ว่าตาวคิดผิดคิดถูกกันแน่ที่ตัดสินใจว่าจะมานอนที่นี่กับเมืองในช่วงเวลานั้นตาวรู้แค่ว่าต้องทำทุกอย่างไม่ให้เมืองได้อยู่กับน้องรหัสสองต่อสองแต่พอเผลอพูดว่าจะมานอนที่ห้องเมืองแบบนั้นแล้วตาวก็แทบอยากจะตบปากตัวเอง
ไม่น่าปากไวกว่าความคิดเลย..ให้ตายเถอะ
“ คุณภาคล่ะครับ ” ตาวเอ่ยปากถามเมื่อเดินเข้ามาในห้องแล้วยังเห็นไฟทั้งห้องยังปิดสนิทอยู่ อย่างน้อยมีภาคอยู่ด้วยก็คงดีกว่าอยู่สองคนนั่นคือสิ่งที่ตาวคิด
“ มันไม่อยู่ ” เมืองเอ่ยตอบพร้อมกับวางกุญแจรถไว้บนโต๊ะ
“ กลับดึกเหรอครับ ”
“ คงงั้นมั้ง ”
“ แล้ว... ”
“ กูชื่อเมือง ” เมืองว่าพร้อมกับเดินเข้ามาประชิดตัวตาวพร้อมกับตาวที่ก้าวเท้าถอยหลังไปเรื่อยๆจนแผ่นหลังเล็กๆชนกับผนังห้อง “
อยู่กับกูก็ถามแต่เรื่องกูสิจะถามหาผู้ชายอื่นทำไม ” เมืองว่าพร้อมกับยกมือขึ้นยันกับผนังห้องเอาไว้
“ กะ ก็ ” ตาวหน้าเริกรักทำตัวไม่ถูกเมื่อเจอคนตรงหน้าจ้องมองในระยะประชิดขนาดนี้
“ ก็? ” เมืองทวนคำของตาวพร้อมกับที่เคลื่อนใบหน้าของตนเองเข้าไปใกล้ตาวมากขึ้นเรื่อยๆ ความใกล้กันในระยะที่สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆของกันและกันพร้อมกับเสียงเต้นของหัวใจที่รัวกระหน่ำราวกลับจะทะลุออกจากอกทำให้ตาวหลับตาปี้
“ หมูกระทะ! ”
“ ห๊ะ!! ” เมืองร้องร้องขึ้นเมื่ออยู่ดีๆในจังหวะที่เขากำลังจะขโมยจุมพิตคนตัวเล็กกว่า ตาวก็ร้องตะโกนคำว่าหมูกระทะขึ้นมาซะงั้น
“ กะ กลิ่นหมูกระทะเหม็นชะมัดเลยผมว่าเราไปอาบน้ำกันดีกว่านะครับ ” ตาวว่าพร้อมกับผลักคนตัวสูงกว่าให้พ้นทางแล้วเดินไปทรุดตัวนั่งลงบนโซฟากลางห้องกอดกล่องอุปกรณ์ทำฟันของตัวเองเอาไว้แน่นอย่างใจสั่น
เกือบไปแล้วไหมล่ะตาว...
“ หึหึ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ
เรา งั้นเหรอ ”
“ คุณเมือง! ” ตาวร้องเสียงดุดวงตาจ้องมองคนตัวสูงเหมือนลูกแมวตัวน้อยที่กำลังโดนขัดใจ
“ โอเคๆ ยอมแพ้ละ ” เมืองยกมือขึ้นเหนือศีรษะอย่างยอมแพ้ “ งั้นมึงไปอาบห้องกูละกันเดี๋ยวกูไปอาบห้องไอ้ภาค ” ตาวพยักหน้าก่อนจะเดินผ่านร่างสูงๆของเมืองเข้าไปยังห้องนอนของเจ้าตัว
“ เดี๋ยวครับคุณเมือง ”
“ หืม เปลี่ยนใจเหรอ? จะอาบด้วยกันใช่ป่ะ ได้เลยๆ แก้ผ้ากันเลยปะ ” เมืองว่าพร้อมกับถอดเสื้อช๊อปตัวนอกของตนเองออกอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าฟาสแปดพร้อมกับทำท่าจะถลกเสื้อยืดคอกลมสีดำที่ใส่อยู่อีกตัวของตนเองขึ้น
“ ผมแค่จะบอกว่าผมไม่มีชุดเปลี่ยนยังไงก็ขอยืมชุดของคุณเมืองด้วยละกันนะครับ ”
“ อ่าว กูก็นึกว่าเราจะ... ” ว่าพร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นจิ้มกันอย่างเขินอายจนน่าหมั่นไส้
“ คุณนี่มันจริงๆเลย ” ตาวส่ายหัวให้เมืองอย่างเอือมระอาก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไปปล่อยไว้เพียงเมืองที่ยืนค้างอยู่กลางห้อง
ปกติตาวเป็นคนอาบน้ำไม่นานแต่มักจะเสียเวลากับการแปรงฟันเนื่องจากติดนิสัยของนักศึกษาทันตแพทย์ที่เรื่องฟันต้องมาเป็นอันดับหนึ่งและต้องขอบคุณเมืองด้วยที่ยังมีแปรงสีฟันที่ยังไม่ได้แกะกล่องวางเอาไว้ในห้องน้ำตาวเลยถือวิสาสะแกะออกมาใช้ คนตัวเล็กยิ่งฟันให้กับกระจกบานใหญ่ตรงหน้าหลังจากบ้วนน้ำแล้ว ดวงตาสวยตรวจเช็คความสะอาดของช่องปากก่อนจะยิ้มให้กับตัวเองเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเป็นที่น่าพึงพอใจแล้ว เรียวขาเล็กภายใต้กางเกงนอนลายตารางขายาวสีน้ำตาลอ่อนที่ต้องพับขากางเกงขึ้นมาอีกหลายทบเพราะเจ้าของชุดเป็นคนขายาวเกินชาวบ้านแต่คนใส่ดันขาสั้นไม่พอดีกางเกงก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ สิ่งแรกที่สายตาปะทะเข้าก็คือร่างสูงที่นอนหลังพิงหัวเตียงขาเหยียดยาวภายใต้กางเกงวอร์มตัวเดียว ย้ำว่าตัวเดียว ไร้ซึ่งเสื้อเผยให้เห็นซิกแพคพอดีสวยและผิวสุขภาพดีนั่น
“ ตาว ” คนที่ก่อนหน้านี้ยังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่เงยหน้าขึ้นมามองคนตัวเล็กเมื่อรับรู้ได้ว่าเขาได้เดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว
“ คะ ครับ ” ตาวกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างใจสั่น
“ พอใส่ชุดกูแบบนี้แล้วมึง.... ” เมืองมองสำรวจคนตัวเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้ากางเกงนอนขายาวที่ได้พับชายขากางเกงหลายทบพร้อมกับเสื้อนอนที่ใหญ่กว่าตัวของตาวมากโขจนดูแทบจะกลายเป็นกระโปรงชุดนอน ไหนจะแขนเสื้อที่ยาวเลยมือนั่นอีก “
โคตรน่ารักเลยว่ะ ”
-///-
“ เพ้อเจ้ออะไรของคุณเนี่ย มันดูตลกจะตายแต่เป็นเพราะเสื้อผ้าคุณมีแต่ไซต์ยักษ์ๆแบบนี้หรอกนะผมเลยจำเป็นต้องใส่ ”
“ งั้นไม่ต้องใส่เลยดีป่ะ ” คนเจ้าเล่ห์พูดเสนอ
“ แล้วจะให้ผมใส่อะไรล่ะครับ ”
“ ก็ไม่ต้องใส่ไง กูว่านะถ้าไม่ใส่ต้องโคตรน่ารักมากๆกว่านี้แน่ๆเชื่อดิมึงไม่คิดงั้นเหรอวะ ”
“ หลายครั้งแล้วนะคุณเมือง ” ตาวมองคนที่ทำหน้าตาดี๊ด๊าจนน่าหมั่นไส้ตาเขียวปัด “ แล้วก็นะ ไปหาใส่เสื้อนอนดีๆได้แล้วไป ”
“ อ่าว ” เมืองร้องขึ้น
“ จะเล่นอะไรอีกล่ะ ” ตาวถามอย่างเพลียใจ
“ ก็เห็นมึงโพสต์เฟสว่ากูขี้ร้อนไม่ใช่เหรอตาวตาว ” เมืองยิ้มล้อ
“ ผะ ผมง่วงแล้ว ” ตาวเปลี่ยนเรื่อง
“ ก็มานอนดิใครดึงขามึงไว้เหรอ ”
“ จะให้ผมนอนไหนล่ะก็คุณเมืองจองบนเตียงแล้ว ”
“ ก็นอนบนเตียงกับกูไง ทำไมมึงไม่บริสุทธิ์ใจเหรอ อย่าบอกนะว่ามึงคิดหื่นจะปลุกปล้ำกูกลางดึก เห้ย ” เมืองว่าพร้อมกับทำท่าปกปิดหน้าอกเปลือยเปล่าของตนเอง
“ มีแค่คุณเมืองคนเดียวแหละครับที่คิดบ้าบอแบบนั้น ”
“ งั้นถ้ามึงบริสุทธิ์ใจก็มานอนด้วยกันดิ ”
“ ก็ได้ครับ ” ตาวว่าพร้อมกับเดินไปทรุดตัวนอนลงบนเตียงอีกข้างที่ยังว่างอยู่พยายามดึงผ้าห่มมาพันรอบตัวเองไว้ให้ได้มากที่สุดก่อนจะหลับตาลง
รีบหลับ พอหลับ อีกแปบเดียวก็เช้า...ท่องไว้นะตาว
“ หลับละจริงดิ ” เสียงที่เหมือนถูกกระซิบอยู่ข้างหูทำเอาตาวทำตัวไม่ถูกได้แต่กำผ้าห่มแน่นไม่กล้าลืมตา
“ ....... ”
“ งั้นถ้าหลับแล้วคงไม่ได้ยินสิ่งที่กูจะพูดหรอกมั้งเนอะ ” เมืองว่าพร้อมกับยิ้มขำคนตัวเล็กที่หูแดงเถือกเพราะโดนเขาเป่าลมเบาๆใส่ใบหูเล็ก “
กูแค่จะบอกว่าเวลามึงหวงกูนี่น่ารักดีเนอะกูโคตรชอบเลยว่ะ ”
“ ผมไม่ได้หวงนะ!! ” ตาวที่ลืมตัวเผลอพูดขึ้นพร้อมกับหันหน้ามาปะทะกับใบหน้าของร่างสูงจนชะงัก ใบหน้าของทั้งสองคนห่างกันแค่คืบชนิดที่ปลายจมูกโด่งแทบจะชนกัน
“ อ๋อไม่ได้หวง ” เมืองพยักหน้าหงึกหงัก
“ ใช่ ” ตาวเชิดหน้าตอบ
“ ก็แค่ไม่อยากให้กูแกะกุ้งให้น้องรหัส ”
“ …. ”
“ ก็แค่ไม่อยากให้กูไปส่งน้องรหัส ”
“ ….. ”
“ ก็แค่ไม่อยากให้น้องรหัสได้อยู่กับกูสองต่อสอง ”
“ ….. ”
“ ก็แค่ไม่อยากให้น้องรหัสเอาทิชชู่ของเขาให้กู ”
“ ….. ”
“ ก็แค่ไม่ชอบที่เขาโพสต์ภาพแล้วแท็กกู ”
“ ….. ”
“ ก็แค่.... ”
“ พอได้แล้ว ” ตาวยกมือของตนเองขึ้นปิดปากคนตัวสูงที่เอาแต่พูดแถมสายตาคมๆนั่นยังจ้องมองเขาอย่างรู้ทันอีก โคตรจะเจ้าเล่ห์ชะมัดเลย
“ หวงก็บอกว่าหวงดิ ถ้าเป็นมึงกูยอมให้หวงอยู่แล้ว ” เมืองดึงมือเล็กๆของตาวออกจากปากของตนเองแล้วพูด
“ ผมหวงไม่ได้ ”
“ ทำไมล่ะ ” เมืองขมวดคิ้ว
“ ระ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ”
“ แล้วอยากเป็นไหมล่ะ ”
“ ผม... ” ตาวกัดริมฝีปากของตนเองเขาไม่รู้ว่าควรจะตอบออกไปอย่างไรดีทุกอย่างรอบข้างมันดูกดดัน เขากลัว กลัวโดยที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจว่ากลัวอะไร
“ ตาว ” เมืองเรียกชื่อคนตรงหน้าอีกครั้งเพื่อต้องการคำตอบ
“ ผมไม่รู้ ฮึก ” หยาดน้ำสีใสไหลออกมาจากดวงตากลมโตก่อนจะปล่อยโฮออกมาในที่สุด ความคิดร้อยแปดเริ่มตีเข้ามาในหัวของตาวจนทำให้เขารู้สึกกดดัน มันอึดอัด อึดอัดจนทนไม่ไหวจนต้องระบายมันออกมาด้วยรูปแบบของน้ำตา
“ ตาวไม่เอาไม่ร้อง ” เมืองเบิกตากว้างอย่างตกใจที่อยู่ดีๆคนตัวเล็กก็ร้องไห้ออกมาร่างสูงผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงก่อนจะดึงร่างเล็กๆของตาวให้ลุกขึ้นนั่งด้วยแล้วโอบกอดร่างสั่นเทานั้นเอาไว้จากประสบการณ์และจากเรื่องเล่าต่างๆที่เมืองได้ฟังจากเพื่อนของตาวทำให้เขาเข้าใจว่าตาวคงรู้สึกสับสน วิตกกังวล และกลัว
“ ทำไงดี ฮึก ตาวกลัว ตาวไม่รู้เรื่องพวกนี้ ครอบครัวตาวล่ะ ถะ ถ้าพ่อรู้ ฮึก พ่อต้องโกรธมากแน่ๆ ตาวไม่อยากให้พ่อโกรธ ฮือออ พ่อกับแม่จะเสยใจไหม ฮึก จะผิดหวังในตัวตาวไหม ” ร่างน้อยๆพูดเสียงอู้อี้สะอึกสะอื้น
เวลาสติไม่ครบทีไรเผลอแทนตัวเองด้วยชื่อแบบนี้ทุกทีสินะ...
“ ไม่เป็นไรๆ ” เมืองลูบแผ่นหลังเล็กๆเพื่อปลอบประโลม
“ ตาวเป็นอะไรก็ไม่รู้ใจมันเจ็บเวลาคุณเมืองสนใจคนอื่น ตาวไม่ชอบเวลาคนอื่นชอบคุณเมืองแล้วตาวจะชอบทำนิสัยไม่ดี ฮึก พอใจกับบอยก็เอาแต่บอกว่าถ้าเป็นแบบนี้อีกหน่อยคนอื่นก็จะเอาคุณเมืองไปแล้วใจตาวมันก็เจ็บ ฮึก ตาวเป็นอะไร ฮือ เป็นอะไร อึก ฮือออ ” เมืองยิ้มกว้างกับคำสารภาพแบบไม่รู้ตัวของคนตัวเล็กๆในอ้อมกอดของเขาถ้าเป็นเวลาปกติคงฝันไปเถอะว่าจะได้เจอตาวในโหมดนี้
ว่าแล้วก็อยากเอากล้องมาถ่ายเก็บไว้ชะมัด...
“
มึงชอบกูไง ” เมืองตอบ “
เหมือนที่กูชอบมึง ”
“ ตาวไม่อยากชอบ ฮึก ” ว่าอย่างเอาแต่ใจพร้อมกับสะอื้นจนเมืองต้องกลั้นขำมีที่ไหนชอบแล้วแต่บอกตัวเองไม่อยากชอบก็ได้ด้วยคนเรา
“ การชอบใครสักคนมันไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวนะตาว ” เมืองดึงคนในอ้อมกอดออกมามองหน้ากัน ใบหน้าเล็กๆเหมือนเด็กมัธยมของตาวยังคงเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ริมฝีปากเล็กๆพร้อมจะเบะทันทีหากไปพูดอะไรสะกิดใจเข้าเพียงนิด
“ ตาวกลัว ” ดวงตาที่มองสอดประสานมีแววสับสน
“ ถ้าหมายถึงเรื่องครอบครัวมึง ถ้าถึงวันนั้นกูจะอยู่ข้างมึงกูจะไม่ทิ้งมึงโอเคไหม ”
“ คุณเมือง ” ริมฝีปากแดงๆเม้นเข้าหากัน “ ผมจะเสียใจไหม ”
“ เชื่อใจกูไหม ”
“ ผมไม่รู้ ” ตาวส่ายหัวพร้อมกับสูดน้ำมูกจนเมืองอยากจะบีบจมูกแดงเล็กๆนั่นอย่างเอ็นดู
“ งั้นเอางี้ มองตากูนะ ” เมืองบอก “ แล้วปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามที่ใจมึงรู้สึก ”
ริมฝีปากของเมืองค่อยๆทาบทับลงบนริมฝีปากนุ่มของตาวเมืองไม่ได้พยายามจะรุกล้ำจนตาวตื่นกลัวเพราะเขาเข้าใจดีทุกอย่างยังคงเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับตาว เมืองจูบย้ำๆที่ริมฝีปากอมชมพูธรรมชาตินั้นก่อนจะประทับเอาไว้นิ่ง ตาวมีท่าทีตื่นกลัวในตอนแรกก่อนจะค่อยๆหลับตาลงปล่อยทุกอย่างไปตามที่รู้สึกในแบบที่เมืองบอก ริมฝีปากเล็กเผยอขึ้นน้อยๆตามสัญชาตญาณของร่างกายมันทำให้เมืองรู้ว่าคนตัวเล็กของเขาพร้อมแล้ว ริมฝีปากของเมืองค่อยๆขบเม้มอย่างเชื่องช้าไม่เร่งรีบเขาอยากจะให้ตาวค่อยๆเปิดใจและเรียนรู้ทุกอย่างไปกับเขา อยากให้ตาวสัมผัสได้ถึงใจของเขา อยากให้ตาวรู้สึกได้เท่าที่เขารู้สึก อยากให้เราได้เดินไปพร้อมๆกัน
สาบานเลยว่าตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้....
นอกจากครอบครัวแล้ว
ตาวคือคนที่เขารักมากที่สุด
การจูบกันครั้งนี้มันไม่ได้ให้คำตอบเพียงแค่กับตาว...แต่สำหรับเมืองแล้วเขาก็ได้คำตอบให้กับตัวเองเช่นกัน
เขา....ไม่ได้ชอบตาว
แต่เขา...
รักตาวเข้าแล้วอย่างเต็มเปา********************************************
น้องตาวยังใหม่กับเรื่องความรัก ตามประสาคนไม่เคยมีแฟน ยังไงก้ให้กำลังใจน้องด้วยนะคะ
รัก
พูดถึงติดแท็ก #เมืองตาว #วิศวกาม ได้เด้อเดี๋ยวไปส่อง