TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)  (อ่าน 51646 ครั้ง)

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด


2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม


6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)


18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************


บทนำ


ในความเหมือนนั้น ย่อมมีความแตกต่าง

 

 

ความรัก ลุ่มหลง ชิงชัง แววตาไม่สามารถหลอกหัวใจ

 

 

เพื่อน้องชาย ตามคำสัญญา ผมจะทำ...ทุกอย่าง



*****************************************************************************************



          PS. นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรท์เท่านั้น โปรดใช้จักรยานในการอ่าน หุหุ
 
          PS. เป็นแนวฟีลลิ่ง ที่ค่อนข้างซับซ้อน หนักไปทางดราม่า ความรุนแรง NC 20+
 
          PS. กดถูกใจหรือคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์บ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ

     
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2018 17:30:21 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 1 ฝาแฝดที่ไม่อาจแยกออก


          ว่ากันว่าคนบางคนนั้น ก็เกิดมาพร้อมพรสวรรค์หลายด้าน บางคนเกิดมาหน้าตาดีพร้อม แต่ฐานะกลับยากจนข้นแค้นซะอย่างนั้น บางคนฐานะรวยล้นฟ้า แต่หน้าตากลับไม่เอาอ่าวก็มีถมไป แล้วตัวผมนั้นเป็นยังไงน่ะเหรอ

          ผมชื่อธิชา ธีระดิษฐ์สกุล เพิ่งขึ้นมหา'ลัยชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ และตอนนี้รอบๆ ตัวผมนั้นมีแต่เสียงเอะอะดังสนั่น เพราะอยู่ในช่วงการรับน้องของมหา'ลัย ผมเบื่อออ ผมอยากออกไปจากตรงนี้ ไปในที่ที่เงียบสงบ ผมเกลียดการพบเจอ พูดคุย ผมไม่อยากรู้จักใคร หรืออาจจะไม่อยากทำอะไรเลยก็ได้

          ผิดกับน้องชายฝาแฝดของผม ธัชชา คณะเดียวกัน เอกเดียวกัน แต่หมอนั่นแค่เพียงวันเดียวก็มีเพื่อนมากมาย เป็นที่รักของทุกคนที่พบเจอ หมอนั่นมักยิ้มแย้ม สดใสดั่งพระอาทิตย์ ผมมองหมอนั่นที่กำลังคุยกับเพื่อนใหม่อย่างสดใสร่าเริง

          " น้องธิชา เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายบอกพี่ได้เลยนะ " รุ่นพี่ปีสองเดินเข้ามาหาผมที่นั่งหงอยอยู่คนเดียวด้วยความเป็นห่วง

          " ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมดูแลพี่ธิชเอง " อยู่ดีๆ ธัชน้องชายผม ก็วิ่งเข้ามาและนั่งลงกอดคอผมเอาไว้ 

          " น่ารักจังเลย ดูแลพี่ชายซะด้วย นี่ถ้าไม่มีป้ายชื่อ พี่บอกตรงๆ เลยนะ พี่แยกเราสองคนไม่ออกหรอก " รุ่นพี่ปีสองยังคงคุยกับธัชอย่างเอ็นดู

          " ฮ่ะๆๆ ขนาดคุณพ่อคุณแม่ยังแยกเราไม่ออกเลยฮะ " ธัชพูดและส่งยิ้มสดใสโปรยไปทั่ว

          ใช่แล้วครับ ขนาดผู้มีพระคุณยังแยกไม่ออก แล้วใครจะแยกออกล่ะ แต่ก็โทษพวกเขาไม่ได้หรอกครับ พวกเขาไม่ค่อยอยู่บ้าน ทำงานอยู่ต่างประเทศกันหมด แล้วพวกเราก็เหมือนกันจริงๆ เนื้อตัวพวกเราไม่มีตำหนิใดๆ ไม่มีรอยอะไรทั้งนั้น ส่วนสูง น้ำหนักยังเท่ากันอีก เหลือเชื่อจริงไหมล่ะ

          ' คู่แฝดนั่นหน้าตาดีสุดๆ เลยเนอะ '

          ' เหมือนกันอย่างกับโคลนนิ่งแน่ะ ' 

          ' เป็นดาราหรือเปล่า '

          ' คนชื่อธัชชานั่น น่าจะคุยง่ายกว่านะ '

          ' เข้าไปคุยสิ '

          เป็นบทสนทนาที่ผมฟังจนเบื่อ น้อยคนที่จะอยากรู้จักผม เพราะหน้าตาอมทุกข์ ไร้ไมตรีของผมนั่นแหละ ใครเห็นก็ไม่กล้าทักหรอก แต่ก็ดี ไม่อยากยุ่งด้วยอยู่แล้ว

          ผมรอจังหวะและแยกตัวออกห่างจากกลุ่มคนเหล่านั้น นั่งลงที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ใส่หูฟังอันใหญ่ของผม และนอนหลับตาปล่อยให้เสียงเพลงเป็นตัวขับกล่อมให้จิตใจสงบลง

          " แค่กๆ " แต่ผมที่นอนหลับตาผ่อนคลายอยู่ดีๆ นั้น กลับต้องลุกขึ้นอย่างกระทันหัน เพราะควันบุหรี่ที่ตลบอบอวนไปหมด ผมไอและสำลักควัน ผมไม่ชอบมันเอาซะเลย

          ผมขมวดคิ้วมุ่น อยากจะต่อยไอ้คนไม่รู้จักมารยาทซะจริงๆ ตรงนี้น่ะไม่ใช่ที่สูบบุหรี่สักหน่อย

          " ไม่มีมารยาทเลยนะนาย " ผมพูดออกไปพร้อมใช้มือโบกไปมาในอากาศ เพื่อไล่ควันออกไปจากตัว ถึงขนาดนี้ ผมยังมองไม่เห็นตัวคนสูบเลย คิดว่าเยอะไหมล่ะ

          " คนที่ไม่มีมารยาท คงเป็นเธอมากกว่า " หมอกควันเริ่มจางลงแล้ว จนทำให้ผมลุกขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังได้ถนัด

          ชายหนุ่มที่น่าจะเป็นรุ่นพี่ของผม ตัวสูง ขายาวสุดๆ แต่งตัวเรียบร้อย เสื้อเชิ๊ตขาว ผูกเนคไทสีดำแบบหลวมๆ  หน้าตาแบบว่าอย่างกับหลุดมาจากปกนิตยสารนายแบบ แต่ก็ช่างเถอะ ผมไม่สนอยู่แล้ว ต่อให้หล่อปานเทพบุตรก็ตาม 

          " พ่นควันใส่คนอื่นยังจะมีหน้ามาพูดอีก " ผมยังคงพูดแบบหัวเสียต่อไป 

          " คนอื่นที่กำลังนอนอู้ โดดกิจกรรมมหา'ลัยน่ะเหรอ " เหอะ ยุ่งจริงๆ

          " นายก็อู้เหมือนกันนั่นแหละ " น่าจะเป็นรุ่นพี่ที่มาทำกิจกรรมกับน้องๆ สักคณะหนึ่งละมั้ง

          " ไปซะ " ผมไม่รอให้ไอ้บ้านี่ไล่อีกครั้ง ผมลุกขึ้น และเดินหนีออกมาแบบบึ้งตึงสุดๆ คนอะไรนิสัยแย่ชะมัด ผมตัดสินใจหนีกลับคอนโดเลยดีกว่า ไม่อยู่แล้วที่แบบนี้

          ผมกลับมา นอนฟังเพลงและปลูกสวนดอกไม้เล็กๆ ที่ระเบียงคอนโดของผม อยู่กับน้องชายแค่สองคน แบ่งกันคนละห้อง ไม่ก้าวก่ายกันและกัน เพราะถึงพวกเราจะหน้าตาเหมือนกันสักแค่ไหน แต่รสนิยม นิสัย ไลฟ์สไตล์กลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ถ้าไม่รู้จักพวกเราจริงๆ ยังไงก็แยกไม่ออกแน่นอน

          " พี่ธิช " อยู่ดีๆ ธัชก็วิ่งมากอดผมอย่างแรงจนผมตกใจเผลอทำฝักบัวรดน้ำตกกระจาย

          " พี่ไปไหนมา ทำไมถึงทิ้งผม " ผมมองหน้าน้องชายที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ผมแบบจริงจัง

          " รู้สึกไม่ค่อยดีเลยกลับมาก่อน " ผมเลี่ยงที่จะตอบคำถามมากมายเลยพูดส่งๆ ไปงั้น

          " เป็นอะไร ไปหาหมอไหม " ธัชเขย่าผมจนหัวสั่นหัวคลอนไปหมด

          " ไม่เป็นไร หายแล้ว " ผมพูดบอกน้อง

          " งั้นก็ดีแล้ว ผมมีข่าวดีมาบอก " ธัชทำหน้ายิ้มแป้นใส่ผมแบบเห็นฟันครบทุกซี่

          " ผมเป็นตัวแทนคณะประกวดเดือนมหา'ลัยด้วยล่ะ " ผมมองหน้าน้องชายที่ดูตื่นเต้นซะเหลือเกิน 

          " ก็ดีแล้วนิ " ผมพูดพลางหันไปรดน้ำต้นไม้ต่อ แต่ธัชยังคงจับแขนผมเอาไว้แน่นเหมือนยังมีอะไรคาใจ

          " แต่ว่าพรุ่งนี้จะมีสัมภาษณ์อ่ะ ผมไม่มั่นใจเลย ผมกลัวตอบไม่ถูก " ผมชะงักนิ่งค้าง แบบนี้เองสินะ เหมือนที่ผ่านๆมา

          ผมได้ทำสิ่งที่ผิดมาเสมอ แต่ก็เพื่อตัวของน้องชาย ไม่มีใครรู้นอกจากเราสองคน 

          " พี่ธิชต้องช่วยธัชนะ นะครับ "  ธัชพูดและเริ่มเขย่าตัวผมอีกแล้ว

          " อืม " ผมตอบเสียงแผ่วเบา 

          " จริงๆ นะ " ผมมองมือน้องชายที่กำลังบีบแขนผมอยู่

          " พี่จะไม่ทิ้งธัชอีกแล้วใช่ไหม " อยู่ดีๆ น้ำเสียงของธัชก็เริ่มเปลี่ยนไป

          " ห้ามทิ้งธัชอีกนะ สัญญากันไว้แล้วนี่! " ผมมองหน้าน้องชายที่สีีหน้าเปลี่ยนไปและเสียงดังขึ้น

          " พูดสิว่าจะไม่ทิ้งธัชอีก!! " ธัชเปลี่ยนสีหน้าเป็นโกรธเกรี้ยว เขย่าตัวผมและบีบแขนผมเต็มแรง

          " ขอโทษ พี่ขอโทษนะธัช " ผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บที่แขน แต่ก็ส่งยิ้มกลับไปให้น้องชายเหมือนเช่นเคย ดังเช่นที่เป็นมา


ทุกอย่างพี่จะทำเพื่อนายเอง ตามคำสัญญาของเราสองคน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2018 17:32:30 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ฝาแฝด
คนพี่ ธิชา นิ่งๆ ชอบสันโดษ ไม่ร่าเริง เป็นมิตร
คนน้อง ธัชชา ร่าเริง เป็นมิตร ชอบพูดคุย

แต่ไปๆมาๆ คนน้องกลับไม่กล้าพูดคุยตอนถูกเลือกให้เป็นเดือน
มาให้พี่พูดคุยแทน งี้ธิชาก็ต้องเป็นธัชชาสินะ
ไม่น่าจะมีคนรู้ แต่คนที่รู้ก็น่าจะเป็นรุ่นพี่ที่เจอธิชา หนีไปนอนใต้ต้นไม้ใช่มั้ย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ฝาแฝดดดดดด เราชอบความฝาแฝดดด
ฮือออ จับธิชกับธัชมาน้วย---

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 2 ฝาแฝดที่ตรงกันข้าม


          พวกเราแม้จะเหมือนกันมากสักแค่ไหน แต่สิ่งที่ผิดพลาดที่สุดก็คงจะเป็น ธัชที่มีอัธยาศัยดี มีการวางตัวที่เหมาะสม สดใสร่าเริง แต่กลับสมาธิสั้นจนน่าใจหาย ธัชไม่สนเรื่องเรียน รักสนุกไปวันๆ กลัวการผิดพลาด ความคิดความอ่านติดลบไปหมด ทำตัวเหมือนกับทำได้ทุกอย่าง แต่จริงๆ แล้วทำอะไรไม่ได้เลย ตรงกันข้ามกับผมที่ไม่ชอบทำอะไรสักอย่าง แต่ถ้าทำ กลับทำได้ดีในทุกๆ เรื่อง ไม่ใช่ดีธรรมดา แต่ในระดับอัจฉริยะ

          แต่ผมเกลียดการอยู่ในหมู่ฝูงชน ชอบเก็บตัวและรักสันโดษ ไม่เคยมีแฟน ไม่อยากรักใคร ตีตัวออกห่างทุกคนที่เข้ามาใกล้ ไม่ว่าจะประสงค์ดีหรือร้ายก็ตาม ธัชนั้นมีรสนิยมทางเพศที่ไม่ปกติ ธัชชอบและหลงไหลในเพศเดียวกัน แต่นั่นผมไม่ห้ามหรอก เพราะที่ธัชเป็นแบบนั้น ลึกๆ แล้วอาจเป็นเพราะผม แต่ผมนั้นไม่ได้ชอบผู้ชาย ผมรังเกียจและขยะแขยงตัวผู้ทุกตัวที่เข้ามาใกล้ บางทีผู้หญิงก็เช่นเดียวกัน ผมอาจจะแค่รักตัวเอง และรักน้องชายเท่านั้นก็เป็นได้

          ผมยืนอยู่หน้ากระจก ซ้อมยิ้มแย้มอย่างเบื่อหน่าย เฮ้อ มันเป็นสิ่งที่ยากจริงๆ แต่ผมทำได้ ผมทำได้ทุกอย่าง ผมยิ้มให้กับตัวเอง การเป็นธัชนั้นยาก แต่ผมน่ะไร้ที่ติ และมันต้องสำเร็จ 

          " ธัช " ผมมองน้องชาย ส่งสายตาให้รู้ว่าผมต้องการอะไร พวกเราแทบไม่ต้องพูดกัน ก็สามารถเข้าใจกันได้ 

          " คร๊าบบบ เป็นพี่น่ะง่ายจะตาย " ธัชยิ้มแป้น และหุบยิ้มลงอย่างรวดเร็ว ทำสีหน้าบึ้งตึงแลดูไม่เป็นมิตรเลียนแบบผม บางทีเราสองคนก็น่ากลัวเกินไปจริงๆ

          ไม่นานพวกเราก็มาถึงมหา'ลัย โดยมีผมที่เป็นคนขับรถให้ ผมมองน้องอีกครั้งก่อนลงจากรถ พวกเราเตรียมพร้อมกับทุกๆ สิ่งที่จะเผชิญ การสลับตัวกันไม่ใช่เรื่องยาก แต่บางทีก็วุ่นวายชะมัด

          " ธัชชช ไงเพื่อน " ผมที่เพิ่งลงจากรถนั้น ก้ดดนเล่นเข้าให้แล้ว แม่งมันคือใครวะ เอาล่ะยิ้มไว้ก่อน 

          " ไง " ผมก็เนียนๆ ไป จะใครก็ช่างแม่งเถอะ ผมหันไปมองน้องชายที่แอบอมยิ้มขำ และกลับไปทำหน้าตายด้านเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว

          " โว๊ะ ทักถูกด้วยเหรอ ลัคกี้ " อ่าวมันมั่วเหรอเนี่ย เหอะ นึกว่าจะแน่ ผมมองไอ้หน้าตี๋เพื่อนของน้องชายด้วยรอยยิ้มละมุน อยากอ้วกจริงๆ

          " ผมยืมตัวน้องชายพี่แปบนะครับ เดี๋ยวเจอกันที่ห้องเชียร์นะ " ไอ้ตี๋นี่อยู่ดีๆ ก็เข้ามากอดคอผม และหันไปคุยกับน้องชายผม ซึ่งมันคิดว่าเป็นตัวผม งงไหมล่ะ

          ผมมองหน้าน้องชายอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ธัชกลับนิ่งเงียบและไม่พูดอะไร ทำหน้าตาเรียบๆ แหม ทีแบบนี้ละเนียนจริงๆ

          ผมเดินมากับไอ้ห่านี่อย่างไร้ทางขัดขืน แต่เดี๋ยวนะ มันลากผมมาที่นี่ทำไม มันแปลกๆ ที่นี่คือห้องน้ำที่ห่างไกลจากผู้คน ผมใจเต้นระทึก นี่ธัช นายทำอะไรกับไอ้หมอนี่กันแน่

          " ไหนเงิน เอามาอย่างที่บอกใช่ไหม " หะ นี่มึงว่าอะไรนะ ผมมองคนตรงหน้าด้วยใบหน้าที่หุบยิ้มลง

          " ไม่มี " ผมพูดออกไปด้วยสีหน้าที่ไร้รอยยิ้มและมองหน้าหาเรื่องอย่างชัดเจน นี่มันเรื่องอะไรกัน 

          " นี่มึงไม่ใช่ธัชเหรอ " มันมองผมพลางขมวดคิ้วสงสัย แปลว่ามึงเคยไถเงินธัชสินะ

          " กูนี่แหละธัช แต่กูไม่ให้ " ผมพูดออกไปอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด มึงคิดผิดแล้วที่มายุ่งกับกูหรือน้องของกู ผมทำสีหน้าท้าทายมัน และมันก็เดินเข้ามาประชิดตัวผมทันทีอย่างหาเรื่อง

          " ทำไม มึงคิดว่ามึงแน่นักเหรอ มึงจะร้องไห้ไปฟ้องพี่มึงใช่ไหม ไอ้ตุ๊ดนั่นก็เหมือนๆ มึงนั่นแหละ เดี๋ยวกูไปไถจากพี่มึงก็ได้ " ได้เสียสิแบบนั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นกูขอกระทืบมึงก่อนเลยละกัน

          " มีสิ่งเดียวที่มึงจะได้ ก็คือตีนกู " ผมพูดพลางผลักอกมันจนมันเซถอยออกไป แต่มันที่ถูกผมผลักนั้นก็ง้างหมัดขึ้นและพุ่งตัวเข้าหาผมทันที

          ผมหลบหมัดที่มันง้างและส่งออกมาพลางสวนกลับใส่หน้ามันเต็มๆ จนมันลงไปนอนกับพื้น กุมจมูกที่มีแต่เลือดนั่นเอาไว้ นี่แค่ไม่กี่วันที่มาเรียน ธัชก็ถูกรังแกแล้วเหรอเนี่ย เป็นแบบนี้อีกแล้ว และเป็นมาเสมอ บางทีการทำตัวเข้าหาง่ายก็เป็นเรื่องที่อันตรายเหมือนกัน เพราะเราไม่รู้ว่า ใครบ้างที่ดีกับเราจริงๆ หรือหวังอะไรอย่างอื่น

          " ฝากไว้ก่อนเถอะมึง " ไอ้ตี๋วิ่งกุมหน้าและหนีไปอีกทาง เหอะ น่าเบื่อการเป็นตัวเองนี่แหละ ดีที่สุดแล้ว แต่ผมทำไม่ได้หรอก ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข แต่แค่นี้ก็พอที่จะปกป้องธัชไม่ให้ถูกรังแกได้สักพักนั่นแหละ

          ผมดึงเสื้อดูความเรียบร้อยให้แน่ใจ ก่อนจะเดินออกไปยังคณะ ที่ตอนนี้กำลังซ้อมเชียร์กันอยู่ 

          " น้องธัชชามาแล้ว เพื่อนๆ ปรบมือให้ตัวแทนเดือนคณะวิศวกรรมของเราหน่อยเร้วว " ผมที่โผล่เข้ามานั้น ก็ต้องยืนอึ้งอยู่ที่หน้าประตู เพราะว่าพวกวิศวะทั้งหมดนั้น กำลังจ้องมองผมเป็นตาเดียว พร้อมเป่าปาก ปรบมือกันอย่างครื้นเครง เดี๋ยวนะ ยังไม่ทันสัมภาษณ์อะไรเลยนี่ นึกว่าเป็นแค่ตัวแทนเอกก่อนนะเนี่ย

          เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ผมสูดหายใจ เดินยิ้มแย้มเข้าไปยืนข้างหน้าสแตนด์เชียร์กับพวกพี่ๆ ที่กำลังเรียกผมอยู่

          " แค่เห็นหน้าก็ไม่ต้องคัดแล้วเนอะ ไม่มีใครค้านใช่ไหมคะ "  ไม่ใช่ทุกคนจะดูยินดีที่ผมได้เป็นตัวแทน ผมเห็นสายตาของหลายๆ คนที่จ้องมองผมหลากหลายรูปแบบ แต่คณะวิศวะที่ 90% เป็นผู้ชายก็แบบนี้แหละ ผมคงดูข้ามหน้าข้ามตา ไม่ก็น่าหมั่นไส้เกินไป แต่บางคนก็จ้องมองผมแบบน่าขนลุกพิกล ความหื่นกระหายชัดเจนบนใบหน้า พวกแบบนี้ก็เยอะเหมือนกัน ผมเคยโดนตามจีบโดยผู้ชายแท้ๆ ด้วย มันบอกเห็นหน้าผมแล้วอยากลองทำกับผู้ชายดู เหอะ ผมเลยอัดมันให้มันรู้ว่าเขาทำกันยังไง มึงจีบผิดคนแล้วล่ะ

          รุ่นพี่ที่คณะผมก็ใช่ย่อย พวกที่นำเชียร์ส่วนมากจะเป็นพวกสาวสองซะส่วนใหญ่ ขณะที่ผมยืนอยู่ หลายๆ คนก็พยายามลูบคลำผมมากพอดู กรี๊ดกร๊าดวี้ดว๊ายกันใหญ่ ผมนี่ยืนเท้ากระตุกอยากเตะคนเหลือเกิน เย็นไว้ไอ้เสือ

          " คนนี้ฉันจองย่ะหล่อน เดือนมหา'ลัยจะไปไหนเสีย " 

          " เก็บน้ำลายด้วยอิดอก มึงเห็นพี่ชายเขาไหม นั่งส่งสายตาอาฆาตใส่มึงอยู่บนนั้นไง หวงน้องชายน่าดูเลยนะเนี่ย " ผมมองตามมือที่รุ่นพี่ชี้ขึ้นไป และก็เห็นว่าธัชกำลังนั่งอยู่บนนั้น ด้วยใบหน้าเรียบเฉย เนียนดีน้องชายยกนิ้วให้เลย ผมยิ้มและยกมือขึ้นโบกไปมาให้น้อง ซึ่งธัชก็ยิ้มตอบและโบกมือกลับมาให้ผมเช่นกัน

          " ว๊ายยย เขายิ้มให้กันด้วย อยากควบสองเลยได้ไหม 3P อ่ะ เดี้ยนช๊อบชอบ " เหอะๆ แต่ผมไม่ชอบครับ แค่คิดก็สยอง เป็นเอามากนะพวกนี้  ผมยกมือไหว้รุ่นพี่ และเดินขึ้นไปนั่งข้างๆ ธัช

          " ไม่มีสัมภาษณ์อะไรนี่ ผ่านฉลุย " ผมกระซิบกับน้องชายเบาๆ 

          " ครับ งั้นเปลี่ยนป้ายชื่อกัน " เป็นอะไรที่ง่ายมาก ผมก็เบื่อที่จะต้องฉีกยิ้มเหมือนกัน ผมสองคนเลยขอตัวพวกพี่ๆไปเข้าห้องน้ำ และเปลี่ยนป้ายชื่อกันในนั้น

          " ธัช ไอ้หน้าตี๋นั่นมันเรื่องอะไร " ผมถามน้องชายเรื่องไอ้ตี๋ที่มาไถตังนั่น

          " อ๋อ พี่ทำอะไรมันเหรอ " 

          " ซัดมัน " ผมตอบด้วยใบหน้าเรียบๆ

          " ขอบคุณครับ มันเข้ามาพูดดีด้วย แล้วอยู่ดีๆ ก็ขู่เอาเงินซะงั้น คงเห็นผมดูหน่อมแน้มมั้ง " 

          " มีอะไรก็บอกสิ ไม่เอาแบบนี้นะทีหลัง " ผมดุน้องที่ทำหน้ายิ้มทะเล้น

          " ถึงไม่บอกพี่ก็จัดการพวกมันได้อยู่แล้ว " ผมขยี้หัวน้องชายที่กำลังยิ้มตาหยีใส่ 

          " ระวังตัวด้วย " ผมจับไหล่น้องและเดินออกมาจากห้องน้ำ เพื่อกลับไปห้องเชียร์ต่อ

          ควันบุหรี่มันติดเสื้อมาตอนไหนนะ ผมดมกลิ่นเสื้อตัวเอง แต่ช่างมันเถอะ เดี๋ยวกลับไปค่อยจัดการละกัน


สิ่งนี้ อาจเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ผมเลือกจะมองข้าม เป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2018 17:34:37 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ถ้าจะผ่านง่ายขนาดนั้นไม่ต้องสลับตัวก็ได้
แต่ถือซะว่าเปลี่ยนบรรยากาศ(?) 55555
บุหรี่มายังไงงง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2017 12:33:54 โดย FeaRes »

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ mearai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อิพี่บุหรี่มาหาธัชตอนเป็ธิชแน่เลยอ่ะ  ฮืออออออ  อย่ามาชอบธัชนะ ธัชธิชเท่านั้นนนนน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ปริศนาควันบุหรี่ มันมาจากที่ไหนหว่า  :m29: :m29:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 3 ฝาแฝดที่ตกหลุมรัก


          นี่มันอะไรกัน ประชุมเชียร์ ประกวดเดือน แล้วยังต้องเป็นหลีดอีกเนี่ยนะ ผมกำลังยืนส่ายหัวไปมากับรุ่นพี่ที่มาเกาะแข้งเกาะขาขอร้องอ้อนวอนผม ที่มันน่าเซ็งสุดๆ ก็คือ พวกพี่ต้องการผมกับน้องทั้งสองคน บอกว่าจะทำให้การประกวดเชียร์ชนะแน่นอน ถ้ามีแฝดทั้งสองร่วมด้วย ผมที่ทั้งหนีทั้งซ่อนตัว แต่ยังไงรุ่นพี่บิ๊กไซส์ทั้งโขลงก็ยกโขยงมา ผมเกลียดเรื่องแบบนี้สุดๆ แต่ให้ทำไงได้

          " น่า พี่ธิช น่าสนุกออก " ผมมองน้องชายที่ยิ้มแป้นพร้อมเขย่าแขนผมไปมา

          " แต่ตอนประกวดเดือน ก็ต้องเป็นพี่ ที่เป็นคนแสดงความสามารถพิเศษใช่ไหมล่ะ " ผมพูดออกมาเบาๆ กับน้องชายเพราะรู้ทัน

          " ก็ผมทำอะไรไม่เป็นนี่ " ธัชหน้าบู้อย่างขุ่นเคืองใจ

          " พี่สอนก็ได้นะ " ธัชส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ยอม

          " ผมต้องทำเสียเรื่องแน่ๆ ไม่ไหวหรอก " เฮ้อ แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองกำลังโดนน้องชายเอาเปรียบอยู่หรอกนะ ผมอยากช่วยน้อง ผมอยากทำเพื่อธัช ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ผิดก็เถอะ แต่ใครสนกันล่ะ

          เพราะอย่างนั้นผมเลยตอบตกลงกับพวกรุ่นพี่ไป ซึ่งทุกคนต่างดีใจกันเวอร์สุดๆ ทำอย่างกับชนะไปแล้วซะอีก เฮ้อ ผมจะอยู่อย่างสงบสุขบ้างไม่ได้หรือไงนะ

          แล้วที่เซ็งสุดๆ ก็คือวันนี้มีเรียนครับ เป็นวันแรกที่มีคลาส ซึ่งจริงๆ ต้องทำเวิร์คช็อป แต่ตารางบอกว่าให้ไปที่ห้องสโลป ซึ่งเป็นห้องที่มีเก้าอี้เป็นชั้นๆ แบบโรงหนัง ด้านหน้าสุดเป็นโปรเจคเตอร์ฉายทุกสิ่งที่อาจารย์ต้องการให้ดู แต่ห้องใหญ่ๆ แบบนี้ก็ดีแฮะ จะได้แอบหลับได้สะดวกหน่อย

          ผมเดินมากับน้องชายและเลือกนั่งเก้าอี้แถวหลังๆ หน่อย เพื่อหลบสายตาอาจารย์ที่เป้นผู้สอน และที่ผมคิดนั้น ก็คงไม่พ้นลุงแก่ๆ นั่นแหละ สงสัยน่าเบื่อตายชัก แต่ผมที่คิดแบบนั้นก็ต้องเอ๋อแดกทันทีที่เห็นคนที่กำลังเดินเข้ามา มันไม่ใช่แบบที่ผมคิดเลย

          ตอนนี้ ผู้หญิงที่มีอยู่น้อยนิด เก้ง กวาง กระทิง ต่างส่งเสียงกรีดร้องปานโดนน้ำกรดสาด เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า ชิบหายแล้ว ผมรีบหาอะไรบังหน้าไว้ด้วยความไวแสง ดีนะที่ห้องไม่ได้สว่างมาก ไอ้หมอนั่น มันจะจำผมได้ไหมนะ เป็นอาจารย์จริงๆ งั้นเหรอเนี่ย

          " เคียวเซนเซย์ โครตหล่ออ่ะ "

          " เท่สัดๆ ทำไมกูไม่เกิดมาแบบนั้นบ้าง "

          " กรี๊ดเซนเซย์หรือนายแบบวะ หุ่นดีเชี่ย " นั่นเป็นสิ่งที่ผมได้ยินจากเก้งกวางแถวหน้าผม ไอ้หมอนั่น หน้าตาไม่น่าจะแก่พอเป็นอาจารย์ได้เลยแท้ๆ 

          " เงียบ!! " นั่นเป็นประโยคแรกจากเซนเซย์สุดหล่อของพวกมึง ฮ่าๆ แม่งโหดนี่หว่า แต่ก็นะ ดูจากการพูดและการวางตัวแล้ว ไม่ธรรมดาแน่นอน

          " ฉันชื่อมิคามิ เคียวเฮ เป็นอาจารย์สอนประจำคลาสนี้ และขอเตือนไว้อย่าง ไม่ต้องมาสะเอาะพูดภาษาญี่ปุ่นใส่ ฉัน ชัดเจนนะ " เป็นเสียงที่เย็นยะเยือกดุจน้ำแข็งขั้วโลก ดูหน้าแล้วเหมือนไม่อยากสอนไม่อยากคุยด้วยอะไรแบบนั้น แถมพูดไทยชัดสุดๆ อีกด้วย แต่ไอ้ความดุดันของเซนเซย์ไม่ทำให้ไอ้พวกนักศึกษาที่อยากมีผัวจนตัวสั่นหน้าหงอยลงได้ พวกนั้นยังทำหน้าเคลิ้มฝัน นี่พวกมึงมาเรียนหรือมาอ่อยอาจารย์วะ

          " พี่ครับ " ธัชเรียกผมเบาๆ อยู่ข้างๆ 

          " ผมว่าผมกำลังมีความรักล่ะ " ไม่นะ ไม่เอาแบบนี้ ผมที่รู้สึกว่าความซวยอาจมาเยือนก็หน้าเจื่อนลงทันที

          เคียวเซนเซย์ยังคงพูดบรรยายเนื้อหาไปเรื่อยๆ ซึ่งน่าตกใจมากที่ไม่มีคนหลับในชั้นเรียนนี้เลย ทุกคนต่างกำลังตั้งใจมองไปข้างหน้า เหอะๆ นี่สนใจเนื้อหาหรือสนใจเซนเซย์กันแน่วะ

          " ถ้าไม่อยากเรียนก็ออกไป " ผมสะดุ้งและหันห้าไปมาแบบงงๆ  เมื่อกี้มันบอกใครวะ ห๊ะ ไม่จริงน่า ผมเหรอ

          ผมมองสายตาของเซนเซย์ที่มองมายังผมอย่างโกรธเกรี้ยว หนอย หรือว่าหมอนั่นอาจจะจำผมได้หรือเปล่านะ อารมณ์ส่วนตัวล้วนๆ เลยนะเซนเซย์ 

          " เอ่อ ขอโทษครับ พอดีพี่ชายผมรู้สึกไม่ค่อยสบายก็เลย... " ธัชที่เห็นแบบนั้นเลยรีบลุกขึ้นยกมือและโกหกว่าผมไม่สบายให้เซนเซย์ใจเย็นลง 

          " ไม่เป็นไรธัช " ผมดึงน้องให้นั่งลงตามเดิมและลุกขึ้นแทน

          " ขอโทษครับ " ผมก้มหัวลงอย่างนอบน้อม เหอะ จะยอมไปก่อนละกัน ไม่อยากมีปัญหาตั้งแต่แรกๆ


          เวลาเรียนจบลง แต่น้องชายตัวดีของผมมันไม่จบ มันลากผมลงจากชั้นบน ลากลงไปยังเวทีที่เซนเซย์กำลังยืนเก็บของอยู่

          " เอ่อ เซนเซย์ครับ เมื่อกี้ขอโทษแทนพี่ชายด้วยนะครับ พี่ก็แบบนี้แหละครับชอบเหม่ออยู่เรื่อย ฮ่ะๆ " เซนเซย์แทบจะไม่สนใจในสิ่งที่ธัชพูด แต่ก็ยืดตัวขึ้นและจ้องมองมาทางผม พลางทำสีหน้าไม่พอใจเช่นเคย 

          " พูดเองไม่เป็นหรือไง หรือเป็นใบ้ " ไอ้เซนเซย์นี่ หันมาจ้องหน้าผมด้วยสายตาเย็นชา เหอะ ไอ้คนแบบนี้ไม่น่าเสวนาด้วยเลย 

          " ธัชไปเถอะ " ผมดึงแขนน้องให้เดินต่อ แต่ธัชก็ยังคงส่งยิ้มแป้นให้เซนเซย์อย่างเป็นมิตร

          " ผมชื่อธัชชาครับ พี่ชายผมชื่อธิชา เรียกผมธัชเฉยๆ ก็ได้ครับ " ผมละเหลือเชื่อกับการพยายามคุยกับคนแบบนี้ของน้องชายจริงๆ เซนเซย์ไม่พูดอะไรแต่แค่เลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ พอมองดูระยะใกล้แบบนี้ก็สุดยอดจริงๆ แฮะ หล่อแบบหล่อมาดเท่จริงๆ นั่นแหละ ผมกับน้องหน้าตาออกไปทางหล่อแบบน่ารักๆ มากกว่าคนละแนวกันเลย

          " ไปได้แล้ว คาบต่อไปไม่มีเรียนหรือไง " คนพูดด้วยดีๆ ทำเข้มใส่ ไอ้ขี้เก๊กเอ้ย

          เซนเซย์เก็บของและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว แทบจะไม่หันมามองเลยทีเดียว คนแบบนี้มาสอนคนได้ยังไงนะ 

          " พี่ธิชเห็นไหม โครตหล่ออ่ะ " นี่ธัชเอ็งไม่ได้ดูเลยเหรอ ว่ามันไม่น่าคบค้าสมาคมด้วยแค่ไหน เฮ้อ

          ผมกับน้องเดินต่อมาที่หน้าคณะ เพื่อเตรียมตัวเปลี่ยนที่เรียน แต่เมื่อผมกับน้องเดินออกมานั้น ก็เห็นว่าพวกผู้หญิงหลายๆ คน กำลังยืนมองอะไรกันอยู่ ไม่ยอมเดินกันไปไหนสักที ผมที่เห็นแบบนั้น ก็เลยเกิดความสงสัย และพยายามแหวกฝูงชนเข้าไป

          ' เท่ห์มากก '

          ' โสดด้วยนะแก '

          ผมฟังเสียงซุบซิบ และเบะปากทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า ก็คิดว่าจะมีอะไรน่าตื่นเต้นซะอีก ก็แค่อีตาเคียวเซนเซย์นั่นกำลังสวมเสื้อหนัง และคร่อมดูคาติสีดำสุดเท่ห์ พร้อมสวมหมวกกันน็อคแบบปิดทั้งใบ เหอะๆ แล้วนี่แกเป็นอาจารย์จริงๆ งั้นเหรอ ผมมองคนคนนั้นแบบไม่อยากเชื่อสายตา หมั่นไส้สุดๆ ไปเลย คนคนนั้นเริ่มออกตัวและบิดซิ่งหายไปแบบรวดเร็ว พร้อมเสียงกรีดร้องต้อนรับเป็นแถบๆ ไป เหอะ ไอ้สุดยอดขี้เก๊กเอ้ย
         
          " ผมต้องจีบให้ได้เลย คอยดูสิ " ธัชเขย่าแขนผมแบบตาโต ตื่นเต้นซะเหลือเกิน 

          " แล้วแต่เถอะ แต่พี่ไม่เกี่ยวนะ อย่ามางอแงละกัน " ถ้าต้องสลับตัวและไปยืนยิ้มแป้นชื่นชมคนแบบนั้น ผมตายซะดีกว่า พี่ขอโทษนะธัช แต่เรื่องนี้พี่จะไม่ช่วย


แต่ใครจะรู้ละว่า วันคืนที่แสนโหดร้ายกำลังรอผมอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2018 17:36:42 โดย Gloomy Sunday »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 4 ฝาแฝดและการปลดปล่อย


          ผมนอนหลับตาในความมืดด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่แล่นอยู่ทั่วร่าง นี่ผมกำลังฝันร้ายอยู่งั้นเหรอ

          ผมรู้สึก...อึก อย่า มันเจ็บนะ!

          ผมลืมตาและลุกพรวดขึ้นทันที ภายในห้องยังคงมืดและเงียบสงัด แต่ก็มีบางสิ่ง ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างๆ ตัวผม

          " ธัช พี่บอกแล้วไงว่าอย่าทำแบบนี้ " ผมดุน้องที่แอบคลานขึ้นเตียงของผม 

          " ธัชนอนไม่หลับ รู้สึกอยาก... " ผมมองน้องชายด้วยความรู้สึกเหนื่อยหน่าย เด็กนี่น่ะ ชินกับการสัมผัสจากคนอื่น ซึ่งพอไม่มีใคร ธัชก็จะมาหาผมเหมือนทุกที

          และผมนั้นรู้ดีว่า แบบนี้มันผิด แต่ผมก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความต้องการนั้นได้ ผมช่วยน้องปลดปล่อยอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะล่วงเกินกันไปมากกว่านี้ ผมแค่ช่วยน้อง ผมพูดบอกตัวเอง พวกเราจะไม่ทำอะไรกันไปมากกว่านี้แน่นอน

          " ผมขอจูบพี่หน่อยได้ไหม " ผมไม่ได้พูดอะไร แต่ธัชก็ขยับเข้ามาและดึงคอผมเข้าไปประกบริมฝีปากอย่างเนิบนาบ พวกเราจูบกันในความมืด เรียวลิ้นกระหวัดขบเม้มดึงดูดกันไปมา แรงกดของธัชทำให้ผมนอนลงช้าๆ และยังคงแลกลิ้นดูดกลืนริมฝีปากกันไม่ห่าง

          " อ..อ่ะ..อื้ม..อืม " ขณะที่ริมฝีปากของเรายังไม่หลุดออกจากกัน ธัชล้วงมือเข้าไปในกางเกงของตัวเอง และเริ่มขยับมือเพื่อปลดเปลื้องอารมณ์ที่ครุกรุ่น ผมรักน้องชายมาก ผมไม่รู้สึกว่าที่พวกเรากำลังทำอยู่นั้นมันน่ารังเกียจ ผมแค่อยากช่วยน้อง แค่ช่วยน้องเท่านั้น 

          " จับของผมทีสิ แล้วผมจะทำให้พี่เหมือนกัน "

          " ไม่ พี่ไม่อยากทำ " ผมส่ายหน้าปฏิเสธในความมืด 

          " งั้นทำให้ผมนะ " ธัชกระซิบข้างหูของผม และจับมือผมให้สัมผัสกับส่วนแข็งขืนของตัวเอง ธัชเริ่มจูบผมอีกครั้งและจับมือผมให้ขยับขึ้นลงอย่างช้าๆ ที่แก่นกายร้อนนั้น และเร่งจังหวะมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ

          " อึก..อืมม .ฮ่ะ ดีจัง. " ธัชจับมือผมให้เร่งจังหวะขึ้นอีก ขบเม้นใบหูและลำคอของผมอย่างกระสัน ไม่นานธัชก็กระตุกเบาๆ และปล่อยหยาดน้ำสีขาวออกมา พลางหอบหายใจที่ซอกคอของผม 

          " ขอบคุณครับพี่ ผมรักพี่ " ธัชพูดพลางหอมแก้มผมและพยายามจูบซอกคอผมต่อ แต่ผมก็ผลักน้องออกเหมือนเช่นเคย ผมคงปล่อยให้ทำมากกว่านี้ไม่ได้ 

          " ขอโทษครับ แล้วคราบนั่น... "

          " ไม่เป็นไรพี่จะล้างเอง ไปนอนได้แล้ว " 

          " ครับ ฝันดีครับ " ธัชจุฟผมเบาๆ อีกครั้ง และวิ่งกลับห้องไป

          ผมถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนออกและนอนขดตัวใต้ผืนผ้าห่ม ถึงผมจะมั่นใจและทำได้ทุกอย่าง แต่นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมไม่มีความมั่นใจและรู้สึกอยากต่อต้าน ธัชเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง ผมไม่ได้รังเกียจน้อง แต่ผมรู้สึกกลัว เวลาที่เป็นแบบนี้ธัชดูเปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมไม่อยากทำร้ายน้อง ผมรู้ว่าน้องทรมาน และผมต้องช่วยน้อง เพราะทุกอย่างที่ทำให้เป็นแบบนี้ มันคงเป็นเพราะ ตัวผมเองนั่นแหละ


          ตอนนี้ผมกับน้องไม่ต้องเข้าซ้อมเชียร์อีกแล้ว พวกเราแยกตัวมาฝึกซ้อมหลีดมหา'ลัย และธัชซ้อมประกวดเดือน ซึ่งธัชจะบอกความเคลื่อนไหวทุกๆ อย่างทุกๆ การฝึกซ้อมแก่ผม เพราะสิ่งไหนที่ธัชบอกว่าทำไม่ได้ ผมก็จะสลับตัว และทำหน้าที่นั้นแทน

          เสียงเอะอะซุบซิบดังขึ้นอีกแล้ว และแทบไม่ต้องเดาว่าใครมา เหอะ เก๊กเข้าไปเถอะ ผมกำลังมองเซนเซย์หนุ่มที่เดินผ่านมาข้างคณะกับนักศึกษาสาวสวยคนหนึ่ง แฟนหรือเปล่าไม่รู้ แต่ดูหน้าตาของเคียวเซนเซย์นี่ดูอ่อนลง ไม่ได้ขมวดคิ้วมุ่นเหมือนที่เห็นเป็นประจำ 

          " แฟนหรือเปล่าน้า " ธัชชะเง้อคอมองด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย

          " ไม่ใช่หรอกจ้า " รุ่นพี่ที่ได้ยินธัชพูดเลยนั่งลงข้างๆ และมาเม้าท์ให้ฟังนั่นแหละ

          " เคียวเซนเซย์เป็นลูกอธิการบดีที่นี่ จบจากมหา'ลัยโตเกียวเลยนะ ญี่ปุ่นแท้ 100% เลย แต่โตที่ไทย เลยพูดชัดแบบนั้นแหละ และโสดสนิทจ้า ทำไมถึงรู้น่ะเหรอ เพราะทุกคนเขาก็สืบกันหมดแหละ ใครๆ ก็จ้องจะสอยแก แต่แกไม่เล่นด้วยกับใครสักคน โดนด่าหน้าแหกออกมาหมด ฮ่าๆ " ยังไม่ทันถามแต่พี่แกเล่นแฉซะหมดเปลือก เหอะๆ

          " เซนเซย์เค้าอายุเท่าไหร่เหรอครับ " ธัชถามรุ่นพี่ ซึ่งผมก็สงสัยเหมือนกัน หน้าตาไม่น่าจะเกิน 25 แน่ๆ

          " อายุ 27 แล้ว หน้าเด็กใช่ไหมล่ะ นึกว่ารุ่นพี่กันทั้งนั้นแหละ มีแต่พวกปีหนึ่งที่ไม่รู้ เพราะเซนเซย์แกดังจะตายที่นี่ ใครๆ ก็รู้จักทั้งนั้น " พอได้ยินอย่างนั้นไอ้น้องชายตัวดีของผม มันก็เอาอีกแล้ว เฮ้อ

          " หวัดดีครับ เซนเซย์ " อยู่ดีๆ ธัชก็พุ่งหลาวออกไปดักทางเซนเซย์ซะงั้น ทำเอาสาวสวยข้างๆ เซนเซย์​ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ

          " จำผมได้หรือเปล่า ผมธัชครับ " ธัชยังคงยิ้มสดใส ไม่สนใจผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ นั่นเลย พอได้ยินแบบนั้นอีตาเคียวกลับหันหน้ามาทางผมแบบอัตโนมัติ พร้อมๆ กับทำคิ้วขมวดเหมือนที่ชอบทำมาตลอด นี่นายมีปัญหากับผมหรือไงนะ

          " ฝาแฝดเหรอ ไม่เห็นจะเหมือน " เหอะ นายมันจะรู้อะไร ผมที่ได้ยินแบบนั้นเลยลุกขึ้นมาช้าๆ และเดินเข้าไปหาไอ้บ้านั่นอย่างท้าทาย

          " ลองดูกันไหมล่ะครับ ถ้าเซนเซย์ทายพวกเราผิด เซนเซย์ต้องทำทุกอย่างตามที่เราขอ กล้าไหมล่ะ " ผมพูดออกไปอย่างท้าทาย ท่ามกลางผู้คนที่เริ่มมุงพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ

          " น่าสนุก " หมอนั่นแค่ทำสีหน้ายิ้มเยาะเหมือนกับสิ่งที่ผมพูดเป็นเรื่องไร้สาระ

          " 3 ครั้ง ถ้าผิดแม้แต่ครั้งเดียว ก็ถือว่าแพ้ " ผมยังคงพูดต่อไปด้วยแววตาที่บอกว่านายได้แพ้แน่นอน 

          " แล้วถ้าเธอแพ้ล่ะ " เซนเซย์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกแต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

          " ผมกับน้องจะทำตามที่เซนเซย์สั่ง ทุกอย่าง " ผมเน้นคำว่า ทุกอย่าง ให้อีกฝ่ายรู้ว่าพวกเราจะไม่แพ้แน่นอน

          " จะทายตอนไหนก็ได้ ให้ครบ 3 ครั้ง ก่อนการประกวดดาวเดือนจะสิ้นสุดลง " 

          " หึ เตรียมตัวเตรียมใจไว้ละกัน " พอพูดจบเซนเซย์ก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว

          " ได้เสมอที่ต้องการเลย " ผมกับน้องพูดพร้อมกันพลางอมยิ้ม พวกเราเคยเล่นแบบนี้กันมาแล้ว และไม่เคยแพ้ และครั้งนี้ก็จะไม่มีทางแพ้ แน่นอน

          แต่ชั่วพริบตาหนึ่งเหมือนกับว่าผมได้เห็นรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่น่าหวาดหวั่น จากเซนเซย์จอมโหดนั่น


ก่อนที่หมอนั่นจะเดินหันหลังไปโดยไม่หันกลับมามอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2018 17:38:17 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เอาละสิ มีคนแยกฝาแฝดออกจากกันได้  :hao3:
ถ้าแยกไม่ได้คงไม่พูดออกมานะว่า ไม่เห็นจะเหมือนกัน

ดูท่า ธัชชา ชอบเซนเซย์
แต่เซนเซย์ จะชอบใคร คงไม่ใช่ธิชานะ  :z3: :z3: :z3:
เพราะปกติ มีแต่คนกรี๊ดชอบตามเซนเซย์ตลอด
ธิชา เฉยเมย ไม่สนใจ แยแสเซนเซย์เลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พึ่งได้อ่านฝาแฝดที่หน้าเหมือน แต่นิสัยไม่เหมือนก็เรื่องนี้แหละ ชอบ ๆ  :o9:

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ระวังแพ้นะแฝด เซนเซย์ไม่น่าไว้ใจ ดูรอยยิ้มนั้นสิ 555555

ออฟไลน์ mearai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ใช้คำว่า ฉันจะดีกว่าชั้นนะคะ  อ่านละแปลกๆ

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 5 ฝาแฝดที่ถูกกอด


          ช่วงเวลาแห่งกิจกรรมของมหา'ลัยยังคงดำเนินต่อไป ผมซึ่งได้ท้าทายกับเคียวเซนเซย์นั่นไว้ ก็ต้องคอยระแวดระวังตัวมากขึ้น ผมกับธัชคุยกันไว้แล้ว ว่าต่อไปนี้พวกเราจะวางตัวกันแบบไหนเพื่อรับมือกับเซนเซย์ ซึ่งตอนนี้พวกเราตกลงกันว่า ธัชนั้นจะทำตัวปกติ ยิ้มแย้มแจ่มใส และผมนั้นก็จะทำแบบเดียวกันกับน้องนั่นเอง

          ผมทำได้ และคิดว่าทำได้ดี ตอนนี้ไม่มีใครแยกออกว่าพวกเราคือคนไหน ทุกคนต่างคิดว่ามีธัชที่สดใสสองคน ทำเอาทุกคนเรียกพวกผมด้วยทั้งสองชื่อติดกันไปเลยเพื่อความสบายใจ

          " ธิชธัช ยืดแขนขึ้นสูงอีกนิด นั่นล่ะ น่ารักมากก "

          " ธิชเอ่อ ธัชหรือเปล่าน้า ขาก้าวออกมาอีกนิดจ้ะ " รุ่นพี่ชี้จุดให้ธัชด้วยความมึนงงในตัวตนของเราสองคน ผมหันไปยิ้มให้น้องด้วยความพึงพอใจ และน้องก็ยิ้มให้ผมแบบขบขันกลับมาเช่นกัน

          " ธิชา "

          ผมหัวใจสั่นไหว หันมองตามเสียงที่เรียกชื่อผมด้วยเสียงที่ดังก้องเต็มไปด้วยความมั่นใจ สายตาของคนที่เรียกชื่อผมนั้น มองมาทางผมแบบที่ไม่มีความลังเลในแววตาเลยแม้แต่น้อย

          สายตานับสิบมองมาทางผมด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจและตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกนับจากการท้าทายในวันนั้น เป็นครั้งแรกที่เซนเซย์เริ่มต้นทาย และเป็นครั้งแรกซึ่งทายได้ถูกต้องและแม่นยำ

          " ถูกใช่ไหมล่ะ " เซนเซย์พูดเสียงเย็นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผมสบตาเซนเซย์พลางขมวดคิ้วมุ่น แต่ผมก็เปลี่ยนสีหน้ากลับเป็นยิ้มแย้มอย่างรวดเร็วพลางปรบมือให้

          " เก่งมากเลยนะครับ แต่ก็นะ โอกาสก็ตั้งห้าสิบห้าสิบ การจะทายถูกก็ไม่แปลกอะไร "

          " งั้นเหรอ ก็คอยดูไปละกัน " พอพูดเสร็จเคียวเซนเซย์ก็เดินจากไปด้วยความรวดเร็วตามเคย

          นี่มันอะไรกันนะ เป็นไปได้งั้นเหรอที่จะแยกออกแบบนั้น ความมั่นใจนั่นมาจากอะไรกัน แต่ผมไม่ยอมหรอก ต้องทำอะไรสักอย่าง

          " พี่ธิช " ธัชเดินเข้ามาเกาะไหล่ผมข้างๆ

          " ไม่เป็นไร ก็แค่ดวงดีเท่านั้นแหละ " ผมจับมือน้องที่วางอยู่บนบ่าของผมและบีบเบาๆ

          " แบบนี้ผมอดสั่งเซนเซย์แน่เลยง่ะ " ธัชกอดผมจากข้างหลังแล้ววางคางไว้บนไหล่ผมอย่างงอแง

          " พวกเราต้องชนะแน่นอน พี่สัญญา " ผมลูบแก้มน้องเบาๆ และเอาหัวพิงกันอย่างรักใคร่ โดยไม่รู้เลยว่าสายตาของคนรอบข้างนั้นกรี๊ดกร๊าด ฟินจนคลั่งกันแค่ไหน


          เวลาใกล้เข้ามาแล้ว แต่ว่าครั้งที่สองก็ยังไม่เริ่มสักที ตอนนี้ผมกับน้องจึงเปลี่ยนเป็นทำสีหน้าเรียบเฉย และไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทุกคนก็สับสนงงงวยอยู่เช่นเดิม และพวกเราก็ดูน่ากลัวขึ้นด้วยเมื่อไม่ยิ้มแย้ม

          เวลาที่ผ่านมาหลายวัน ทำให้ผมรู้สึกว่าธัชนั้นมีเพื่อนมากมายเหลือเกิน แต่ละคนก็ทักผิดทักถูก และช่วงนี้ธัชหายไปบ่อยๆ ไม่รู้ว่าหายไปไหน แต่ก็ช่างเถอะ เพราะว่าธัชน่ะมีเพื่อนเยอะ ก็เป็นเรื่องปกติ และผมก็ชอบที่ได้มีเวลาส่วนตัวบ้าง

          ผมเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาสักหน่อย แดดที่นี่ค่อนข้างแรงทำเอาผมตัวแดงไปหมด ผมกับน้องนั้นมีผิวที่ขาวมากๆ พอโดนแดดก็จะกลายเป็นสีแดงระเรื่อแบบนี้เป็นเรื่องปกติ

          " คิดถึงจังเลย วันนี้ไม่มาหาพี่เหรอ " ผมตัวแข็งทื่อ เพราะอยู่ดีๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามากอดผมเอาไว้จากด้านหลัง และพยายามหอมแก้มผมด้วยความหื่นกระหาย ผมรีบผลักมันออกอย่างรวดเร็ว ไอ้บ้าเอ้ย อะไรของมันวะ

          " อ้าว ขอโทษที พี่นึกว่าธัช พี่ขอโทษจริงๆ นะ ก็พวกเราน่ะ เหมือนกันจนพี่แยกไม่ออกเลยจริงๆ " ไอ้บ้านี่ยกมือขึ้นพนมพร้อมส่งยิ้มละมุนมาให้ไม่ขาด คำพูดกับหน้าตามึงนี่สวนทางกันชัดๆ

          " ประธานครับ ได้เวลาแล้วนะ "

          " อืม เดี๋ยวรีบตามไป "

          ผมมองผู้ชายอีกคนหนึ่ง ที่อยู่ดีๆ ก็โผล่หน้าเข้ามา และมาเรียกไอ้แว่นนี่ สงสัยจะเป็นเพื่อนกันมั้ง เกลียดขี้หน้าชะมัด ประธานงั้นเหรอ ประธานอะไรกันนะ

          " น้องธิช ยกโทษให้พี่ด้วยนะ " ไอ้บ้านี่ยังคงส่งยิ้มและเดินเข้ามาหาผมเรื่อยๆ

          " เออ ไปซะ " ผมยังคงทำหน้าฉุนอยู่ นึกแล้วว่าต้องมีเรื่องแบบนี้บ้าง เพราะน้องชายตัวดีของผมคงไปอ่อยเหยื่อมาแน่นอน แต่นายคนนี้ก็จัดว่าหน้าตาดีมากทีเดียว แต่แววตาดูมีเลศนัย ใส่แว่น รอยยิ้มดูจอมปลอม แถมยังตัวสูงอีก น่าจะพอๆ กับเซนเซย์นั่น

          ผมกับน้องก็จัดว่าเป็นผู้ชายตัวสูงนะครับ 180 ทั้งคู่ รูปร่างก็ไม่ได้ผอมเพรียว มีกล้ามเนื้อสมส่วน แต่แค่ไม่ได้มีซิกแพคชัดเจน แต่ไอ้เซนเซย์กับไอ้แว่นนั่น น่าจะเกือบ 190 ได้มั้ง กินยีราฟเป็นของว่างหรือไงนะ

          ผมเดินกลับไปที่คณะด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ต้องถามธัชสักหน่อยแล้วว่าตกลงจะเอาคนไหนแน่ ปวดหัวนะเนี่ย ผมเจอธัชที่นั่งอยู่หน้าคณะกับพวกรุ่นพี่ปีสองที่กำลังแจกน้ำให้น้องๆ อยู่

          " ธัช นายมีแฟนแล้วเหรอ " ผมมองน้องพลางขมวดคิ้วมุ่น

          " เปล่านะพี่ พูดเรื่องอะไรน่ะ " ผมปฏิเสธผมด้วยใบหน้างงๆ

          " ก็มีไอ้แว่นคนนึงมากอดพี่อ่ะ " ผมพูดอย่างหัวเสีย

          " ว่าไงนะ " ธัชชักสีหน้าอย่างน่ากลัว

          " ใส่แว่น สูงๆ ขาวๆ ประธานอะไรสักอย่าง " ผมอธิบายให้นึกออกง่ายๆ

          " อ๋ออ พี่โชน พี่เขาเป็นประธานสภานิสิตน่ะ " ห๊ะ ประธานสภาเลยเหรอ เหอะๆ

          " พี่เขากอดพี่เหรอ แล้วไงอีก " ธัชขมวดคิ้วมุ่นแบบไม่พอใจ

          " แค่นั้นแหละ มันบอกว่า นึกว่าพี่เป็นธัช " ผมพูดพลางดึงแก้มน้องไปด้วย

          " ผมไม่ได้เป็นแฟนพี่เขานะ พี่โชนมาจีบธัชเอง "

          " แล้วธัชไม่ชอบเหรอ ก็หล่อดีนี่ แต่น่ากลัวแปลกๆ "

          " ไม่รู้สิครับ พี่โชนก็หล่อ เคียวเซนเซย์ก็หล่อ แต่พี่ธิชหล่อที่สุด " ธัชดึงแก้มผมบ้างพลางยิ้มกว้าง

          " หลายใจนะเราน่ะ " ผมขยี้หัวน้องไปมาอย่างหมั่นเขี้ยว

          " เจอแล้วอยู่นี่กันนี่เอง " ผมสะดุ้งทันที เพราะอยู่ดีๆ ไอ้บ้าแว่นที่กำลังพูดถึงนั่น ก็นั่งลงจ้องมองพวกเราและยิ้มกว้างจนตาหยี

          " น่ารักจัง เล่นกันอีกสิ " ผมหุบยิ้มลงอย่างรวดเร็วพลางจ้องมองหมอนี่อย่างไม่ไว้ใจ

          ' พี่หมอโชนนี่นา '

          ' หล่อเนอะ '

          ' ประธานมาทำอะไรที่นี่เนอะแก '

          เสียงซุบซิบนินทาไม่ขาดสาย หมอนี่ก็ดังน่าดูเลยแฮะ ผมยังคงเลิกคิ้วน้อยๆ ทำหน้าแบบไม่ไว้ใจสุดๆ

          " ฮ่ะๆ เพิ่งเคยเจอฝาแฝดเหมือนกันขนาดนี้เป็นครั้งแรก ปกติถ้าชินแล้วก็จะแยกออกเอง แต่นี่คือแบบว่าเหมือนกันเกินไปไหม แปลกดี พี่ชอบจัง "

          " พี่โชนวันนี้ว่างเหรอครับ เห็นปกติยุ่งจะตายไป " ธัชคุยกับไอ้หมอนี่พลางยิ้มแป้น

          " คิดถึงเด็กน้อยบางคนเลยแวะมา " ไอ้บ้านี่พูดจาชวนอ้วกแท้ๆ

          " แหม ปากหวานอีกละ "

          " เมื่อวานช่วยได้มากเลย ขอบคุณนะธัช " ผมมองสองคนนี้ด้วยความสงสัย

          " อ่อ พอดีเมื่อวานผมไปช่วยพี่โชนที่คณะแพทย์มาครับ ที่หายไปนั่นแหละ " ธัชเกาหัวพลางยิ้มให้ผม เรียนแพทย์งั้นเหรอ ก็ดูเหมาะดีแหละมั้ง

          " คงช่วยกันถึงพริกถึงขิงน่าดูเลยสินะ " ผมพูดออกไปพลางมองหน้าไอ้หมอแว่นอย่างกวนๆ

          " เห็นพี่โชนเค้ายกกองเอกสารท่วมหัวเลยนะ ธัชเลยช่วยเฉยๆ อ่ะ " ธัชพูดพลางเขย่าแขนผมไปมา

          " น้องชายเป็นเด็กดีจังเลยนะ พี่ชายคงภูมิใจแย่ " ผมทำเป็นหูทวนลม ไม่สนใจไอ้หมอนี่ที่ชวนคุยอยู่

          " แล้วเซนเซย์ล่ะ ตกลงว่าไง " ผมกระซิบข้างหูธัช

          " เหมาสองสิครับ " ธัชกระซิบกลับมาพลางหัวเราะ ผมเลยดีดจมูกน้องชายจอมโปรยเสน่ห์หนึ่งทีอย่างหมั่นไส้ ซึ่งไอ้หมอบ้านี่ก็ยังคงนั่งเท้าคาง จ้องมองพวกเราไม่วางตา ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

          " เย็นนี้พี่ขอเลี้ยงข้าวได้ไหม ทั้งสองคนเลย "

          " ไปครับ "

          " หากินเองได้ "

          ผมกับน้องพูดพร้อมกันแต่เนื้อหาต่างกันซะงั้น เดี๋ยวเถอะนะ ไอ้แสบนี่

          " เอาเป็นว่าตกลงนะ " ไอ้หมอแว่นนี่ยิ้มจนตาหยีอีกครั้งพร้อมพูดเองเออเอง เอาเถอะ ดูๆ แล้วก็ไม่ใช่คนไม่ดีหรอกมั้ง ผมคิดและตอบตกลงไป


โดยไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วหมอนี่ เป็นคนยังไงกันแน่​
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2018 17:40:51 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
พี่โชนจะต้องมีอะไรแน่ๆเลย...ป่ะ?!

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
งงงวยกับพฤติกรรมของแฝดน้องจังเลย  :o10: :o10:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เซนเซย์ ทายแฝดถูกครั้งนึงและ

หมอโชน กะควบสองป่ะเนี่ย  o18 o18 o18

ธัช ทำตัวอ่อยนะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 6 ฝาแฝดและพี่หมอจอมหื่น


          ตอนนี้ผมกับน้องชายกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังมหา'ลัย เพราะคำชวนของไอ้หมอแว่น ที่ไม่ทำห่าอะไรเลยนอกจากนั่งจ้องหน้าพวกเราสองคน พลางส่งยิ้มชวนอ้วกอยู่นั่นแหละ 

          " เอ่อ พี่โชนสั่งกับข้าวสิครับ " ธัชทักขึ้นอย่างเป็นมิตร เพราะดูท่าไอ้หมอนี่มันคงจะไม่ทำอะไรนอกจากจ้องพวกผมจริงๆ

          " อ้าว ฮ่าๆ ขอโทษที เพลินไปหน่อย " ไอ้หมอโรคจิตนี่เรียกบริกรและสั่งกับข้าวอย่างกับเลี้ยงช้างทั้งโขลง

          " ขอเบียร์ด้วย 3 ขวด "

          " เอ่อ ผมไม่ดื่มครับ " ผมรีบเบรกไอ้บ้านี่ก่อนมันจะพยายามมอมผมกับน้อง

          " พี่ธิช นิดเดียวเองน่า ไม่เมาหรอก นี่เบียร์นะไม่ใช่เหล้าสักหน่อย " ธัชพูดพลางเกาะแขนผม

          " ไม่ได้ ธัชน่ะตัวดี คออ่อนอย่างกับอะไร พี่บอกห้ามคือห้าม " ผมดุน้องเสียงแข็ง ไอ้ตัวดีถึงกับแก้มป่องไปเลย งอนจริงจังไปแล้ว

          " ถ้าอยากดื่มก็ดื่มไป แต่พี่จะล็อคห้อง " แต่ยังไงผมก็ใจอ่อนอยู่ดี เลยมีข้อแม้นิดหน่อย

          " ถ้าผมไม่ดื่ม ผมนอนด้วยได้ไหม " ธัชถามด้วยสีหน้ามีความหวัง

          " อืม " 

          " เย้ งั้นผมเอาน้ำเปล่าครับพี่โชน " ธัชยิ้มแป้นพลางเอาหัวไถแขนผมไปมาแบบลูกหมาน้อย

          จริงๆ สมัยก่อนเรานอนด้วยกันครับ แต่ผมว่าตอนนี้เราตัวโตกันมากแล้วเลยแยกห้องกัน น้องจะได้นอนสะดวก แต่ธัชก็ยังชอบแอบมานอนกับผม และก็เรื่องอารมณ์อย่างว่าของธัชด้วยนิดหน่อย เพราะหลังๆ เริ่มจะมากขึ้นทุกที แต่ถ้าธัชมีแฟนก็คงจะห่างๆ ผมไปเอง ผมคิดแบบนั้น

          " อะไรกันเนี่ย มีให้นอนไม่ให้นอนด้วยกันด้วย " ไอ้หมอแว่นทำหน้าตาสนใจแบบเต็มแก่เลยทีเดียว

          " ทำไมเหรอครับ พี่โชนอยากนอนกับพวกเราเหรอ " ธัชพูดพลางยิ้มขำ

          " อยากสิ " ไอ้แว่นนี่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง จนผมกับน้องหันไปมองหน้าไอ้บ้านี้แบบตื่นตะลึง

          " ฮ่าๆๆ ล้อเล้นน่า ไม่ใช่เรื่องทำนองนั้น พี่ก็แค่สนใจอยากรู้ว่าหนุ่มน้อยฝาแฝดสองคนอยู่ด้วยกันทำอะไรกันบ้างน้า พี่ชอบอะไรแบบนี้น่ะ อยากเห็นตลอดเวลาเลย " 

          " ยังหื่นกามเหมือนเดิมเลยนะ " เสียงแบบนี้ทำเอาผมนั่งตัวเกร็งแบบอัตโนมัติ ตัวแข็งทื่ออย่างตื่นตกใจ และที่น่าตกใจไปอีกก็คือ ตอนนี้พี่โชนกำลังทำหน้าตาน่ากลัวสุดๆ

          " พี่ว่าพวกเราย้ายร้านดีกว่านะ " พี่โชนทำทีจะลุกขึ้น

          " เอ่อคือ ใจเย็นๆ ก่อนครับ " ธัชจับแขนพี่โชนไว้และดึงให้นั่งลงตามเดิม 

          " ไม่ต้องห่วงวันนี้ฉันไม่ทายหรอก เพราะมันง่ายเกินไป แล้วก็ ระวังตัวให้ดีล่ะ " ผมกำหมัดแน่นอยู่ใต้โต๊ะ ผมไม่ชอบไอ้บ้านี่เอาซะเลย ทำเป็นรู้ดีไปหมด น่าหมั่นไส้ชะมัด และข้างๆ เซนเซย์นี่ก็มีผู้หญิงอยู่ข้างๆ อีกแล้ว ไม่ซ้ำคนเลยแฮะ แต่ทุกคนก็บอกว่าไม่ใช่แฟนอยู่ดี

          เซนเซย์เดินไปแล้ว พร้อมกับสาวสวยนั่น โลกมันกลมซะเหลือเกิน นึกว่าจะทายซะอีก ถ้าจะทายตอนนี้จริงๆ ก็ง่ายๆ มั้งเพราะผมที่ทำหน้าบูดกับธัชที่กำลังยิ้มแป้น ถ้าเป็นหมอนั่นต้องรู้แน่

          " พี่โชนไม่ชอบเซนเซย์เหรอครับ " ธัชถามหมอแว่นที่ตอนนี้กลับมายิ้มน้อยๆ อีกแล้ว

          " หมอนั่นน่าโมโหจะตาย ทำพี่เกือบโดนไล่ออกหลายรอบแล้ว " พี่โชนพูดจริงจังหน้านิ่วคิ้วขมวด

          " แปลว่าพี่ทำเรื่องไม่ดีหลายรอบเหรอครับ " ผมถามออกไปแบบกวนบาทาสุดๆ

          " ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรขนาดนั้นหรอก แต่สำหรับหมอนั่น นิดนึงก็เป็นเรื่องใหญ่แล้ว " 

          " แล้วพี่อยู่ปีอะไรล่ะ " ผมถามด้วยความสงสัย

          " ปี 4 แค่เรียนก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว ต้องทำหน้าที่ประธานอีก พี่คิดว่าคงจะปีสุดท้ายแล้ว ได้เวลาสละตำแหน่งสักที " พี่หมอโชนพูดพลางทำท่าปวดหัว

          " แล้วธิชกับธัชยังไม่มีแฟนใช่ไหม พี่จีบจะได้ไหมน้า ฮ่ะๆ " ไอ้หมอนี่พูดต่อไป แถมพูดเรื่องจีบผู้ชายได้หน้าตาเฉยเลยแฮะ

          " จีบธัชอ่ะไม่เป็นไรหรอกครับ แต่พี่ธิชเขาไม่ชอบผู้ชายฮะ พี่ชายผมโหดมากเลยนะ อย่าเสี่ยงดีกว่า " ธัชพูดพลางยิ้มกวน

          " ก็ถึงว่าในห้องน้ำนั่น พี่เกือบโดนต่อยซะแล้ว " หมอแว่นพูดพลางหัวเราะขำ เหอะ ไม่ขำนะเฟ้ย

          " แล้วธิชชอบคนแบบไหนล่ะ ผู้หญิงเหรอ " เจ๋อไม่เข้าเรื่องจริงๆ

          " ผมรักแค่น้องชายเท่านั้นล่ะ " ผมพูดเรื่องจริงเลยล่ะ แต่ธัชก้มหน้าก้มตาเงียบไปเลยแฮะ ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่านะ

          " อิจฉาจังเลยน้า จะมีใครทำให้ทั้งสองคนแตกกันได้หรือเปล่านะ " ไอ้หมอแว่นพูดพลางทำสีหน้าแปลกๆ

          " ไม่มีวัน " พวกเราพูดพร้อมกัน และยิ้มให้กันเหมือนเช่นเคย

          หลังจากนั้น ไอ้รุ่นพี่จอมหื่นนั่นอาสามาส่งพวกเราและทำท่าจะขอค้างด้วย แต่อย่าหวังเลย อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วไอ้บ้าเอ้ย ผมปฏิเสธเสียงแข็ง ไล่ไอ้แว่นหื่นกลับบ้าน และพาน้องขึ้นมาบนคอนโดของเรา

          ผมอาบน้ำแต่งตัว นอนมองเพดานห้องพลางคิดถึงสิ่งที่ควรทำต่อไป การแสดงอารมณ์แบบหลอกๆ ดูเหมือนจะไม่ได้ผลหรือเปล่านะ เซนเซย์ถึงมองพวกเราออก หรือพวกเรามีจุดสังเกตอื่นอีกที่ผมไม่รู้ คนแบบนี้ไม่เคยเจอเลยจริงๆ นายเป็นใครกันแน่นะ

          ' ก็อกๆ ' 

          เสียงเคาะประตูที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร

          " เข้ามาสิ " ผมเรียกน้องให้เข้ามา ธัชใส่ชุดนอนลายทางสีฟ้าอ่อน กอดหมอนข้างเข้ามาด้วยสีหน้าอมยิ้ม เด็กคนนี้นี่ไม่ยอมโตจริงๆ แฮะ ผมตบเตียงแปะๆ ให้น้องขึ้นมา ธัชก็คลานขึ้นมาแต่โดยดี

          " บอกมาเลยนะ ว่ากับพี่โชนนั่นไปถึงไหนกันแล้ว " ผมนอนคว่ำหน้าจ้องมองหน้าน้องที่นอนทำตาปริบๆ แบบใสซื่อ

          " แค่หอมแก้มฮะ " ธัชทำตาเลิ่กลั่กแบบคนหนีความผิด

          " แน่ใจเหรอ " ผมหรี่ตามองแบบจับผิด

          " กอดอีกนิดนึง " ธัชทำนิ้วนิดนึงจริงจังจนทำผมยิ้มขำ

          " ถ้ายังไม่ได้เป็นแฟนก็อย่าไปยอมนะ ไอ้หมอนั่นพี่ว่าร้าย "

          " พี่หมอไม่ได้ชอบผมจริงๆ สักหน่อย " ธัชบ่นพลางก้มหน้ากับหมอน หืม ผมขมวดคิ้วสงสัย แบบนี้นี่แปลว่าไงนะ

          ผมปิดไฟและนอนลง สักพักธัชก็เลื้อยมากอดผมแน่นจนแทบหายใจไม่ออก

          " อยากนอนกอดพี่ธิชทุกวันเลยน้า " ธัชทำเสียงออดอ้อน

          " อายุก็ 18 แล้วนะ ไม่ใช่ 8 ขวบ ไปนอนกอดแฟนไป๊ " ผมพยายามดันหน้าน้องแบบแกล้งๆ แต่ธัชกลับยิ่งกอดผมแน่นขึ้นไปอีก

          " กลิ่นเหมือนนมเลย ผมชอบจัง " ธัชหอมแก้มผมเบาๆ ในความมืด

          " ทำเป็นพูดไป ก็กลิ่นเหมือนกันนั่นแหละ " ผมหอมแก้มน้องกลับบ้าง แม้แต่กลิ่นพวกเราก็ยังเหมือนกัน ซึ่งมันแปลกมาก และผมก็ชอบมันจัง

          กลางดึกนั้น ผมที่เผลอตื่นขึ้นมาก็ต้องขมวดคิ้วสงสัย เพราะอยู่ดีๆ ธัชหันไปนอนกอดหมอนข้างแทนผมซะงั้น เชอะ อะไรของเขานะเด็กคนนี้ ปกติจะนอนกอดผมไม่ปล่อยแท้ๆ ผมขยับตัวเข้าไปนอนกอดน้องจากข้างหลัง ธัชสะดุ้งตัวน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ไม่สบายหรือเปล่านะ


ผมหอมแก้มน้องอีกครั้งและลูบเบาๆ จนเผลอหลับไปอีกรอบด้วยความง่วง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2018 17:42:51 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
คนเขียนอัพเร็วมาก สุดยอดดดด

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไม่รู้เป็นไร คนแก่ติดใจในพฤติกรรมของแฝดน้องอีกแล้ว 2 ตอนติดเลยอ่ะ :try2:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
ไม่รู้เป็นไร คนแก่ติดใจในพฤติกรรมของแฝดน้องอีกแล้ว 2 ตอนติดเลยอ่ะ :try2:

หึหึหึหึ หัวเราะแบบชั่วร้าย มันมีอะไรซ่อนอยู่กันน้า

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 7 ฝาแฝดและอุบัติเหตุ


          วันงานใกล้เข้ามาแล้ว ผมและน้องซึ่งฝึกซ้อมกันมาอย่างหนัก ก็ทำได้เกือบสมบูรณ์แบบแล้ว ธีมการแสดงของพวกเราจะเป็นแนวคาร์นิวัล สวมหน้ากากคาดตา ชุดประดับตกแต่งด้วยกากเพชรและขนนกมากมาย แต่ที่ผมเกลียดที่สุดคือชุดพวกเรา ทำไมมันช่าง เอ่อ เปิดนั่นเปิดนี่ แทบจะโชว์หัวนมเลยทีเดียว ถ้าใส่เสื้อแบบนี้ถอดออกแล้วเปลือยท่อนบนเลยดีกว่าไหม

          " เริ่ดมากกก ธิชธัชใส่แล้วสาวกรี๊ดแน่นอน " รุ่นพี่ที่ขนตาเหมือนกันสาดคนนึงได้กล่าวไว้ แต่ผมว่าจะไม่ใช่สาวๆ นะที่กรี๊ดน่ะ เฮ้อ ใครออกแบบชุดฟะ อยากเผาบ้านมัน

          " ชุดนี้รุ่นพี่ออกแบบสนองตัณหาตัวเองหรือเปล่าเนี่ย " ไอ้หมอแว่นเดินมาพอดี ผมว่าวันนี้มันพูดเข้าท่ามาก ผมพยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง

          " แหม พูดอะไรอย่างนั้นคะประธาน สองหนุ่มนี่ดาวเด่นของคณะเลยนะคะ จะธรรมดาได้ไง ต้องจัดเต็มค่าา " รุ่นพี่ยังคงพูดจีบปากจีบคอสู้สุดฤทธิ์

          นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วแต่ก็ยังไม่เจอเซนเซย์เลยแฮะ ผมกับน้องตกลงกันว่าจะระวังตัวและจะคอยทำตัวนิ่งๆ กันเสมอ ไม่ออกอาการแบบเป็นตัวของตัวเองมากเกินไป เผื่อหมอนั่นมาจ๊ะเอ๋อีก จะได้ตั้งหลักทัน

          งานแข่งเชียร์จะเริ่มในวันพรุ่งนี้ และการประกวดดาวเดือนจะเริ่มในอีก 3 วันหลังจากนั้น ผมและธัชสลับกันไปซ้อมประกวดดาวเดือนด้วย และแน่นอนว่าในวันประกวด ก็จะเป็นผมที่แสดงความสามารถพิเศษแทนน้อง แต่ผมนั้นก็ยังคิดไม่ออกว่า ผมจะแสดงอะไร แต่ไม่เป็นไรหรอก ผมทำได้อยู่แล้ว ผมมั่นใจ

          ในวันนี้ผมกับพวกรุ่นพี่และหลีดคนอื่นๆ มาซ้อมกันในสถานที่จริงตรงหน้าสแตนด์เชียร์ ซึ่งคณะผมได้จัดซะยิ่งใหญ่เหลือเกิน มีการตั้งเสาประดับตกแต่งเป็นธีมคาร์นิวัลอย่างสวยงามอลังการ เริ่มตื่นเต้นซะแล้วสิ ปกติผมไม่ชอบอะไรแบบนี้ แต่นานๆ ทีได้ทำก็ดีเหมือนกัน

          " เหนื่อยหรือเปล่า " ผมจับไหล่น้องที่ยืนอยู่ข้างเสาที่ตกแต่งพลางซับเหงื่อให้

          " นิดหน่อยครับ ผมไม่ค่อยมั่นใจเลย อาจผิดพลาดก็ได้ " ธัชทำหน้าบูดแบบประหม่าอีกแล้ว 

          " เราสองคนทำได้อยู่แล้ว เชื่อพี่สิ " ผมพูดให้กำลังใจน้อง และธัชก็ยิ้มแป้นทันที

          " ธิชธัชระวัง!! " เสียงตะโกนดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวผม ผมตกใจเงยหน้าขึ้นมองเสาต้นใหญ่ที่ใช้ประดับสถานที่ มันกำลังจะล้มภายในไม่กี่วินาที ธัชดึงตัวผมเข้ามาหาและกอดเอาไว้แน่น แต่ก็ถูกแรงใครบางคนผลักผมกับน้องออกไปเพียงเสี้ยววินาที เสียงกรี๊ดดังสนั่นอยู่รอบๆ ผมล้มลงตัวสั่นเทามองหน้าธัชที่กำลังหลับตาแน่น 

          " ธัชเป็นอะไรไหม! " ผมคลำไปตามตัวน้องแบบลนลานด้วยความกลัว

          " ผมไม่เป็นไรครับ ผมโอเค " ธัชลืมตาขึ้นและจับมือผมไว้

          เสียงกรี๊ดยังคงดังต่อเนื่อง ผมจึงหันหลังไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น ใต้นั้น ใต้เสาหักพังนั่น มีบุคคลคนหนึ่งนอนอยู่  แว่นตาหลุดออกจากใบหน้า ที่หัวมีเลือดไหลออกมา ผมลุกขึ้นและรีบวิ่งไปตรงนั้น พยายามยกเสานั่นขึ้นอย่างทุลักทุเล

          " พี่โชน พี่ครับ " ผมพยายามเรียกชื่อคนคนนั้นและเขย่าตัวเบาๆ พี่โชนลืมตาขึ้นน้อยๆ พลางขมวดคิ้ว แต่ก็ยิ้มออกมาอีกซะได้

          " อูยย หนักเลยแฮะ อย่าเพิ่งขยับตัวพี่ เหมือนแขนจะหัก " 

          " ยังจะมายิ้มอีกนะครับ " ผมเหลือเชื่อจริงๆ กับคนคนนี้ เจ็บขนาดนี้ยังยิ้มอยู่ได้ 

          " ไม่เป็นไรกันใช่ไหม " 

          " ครับผมกับน้องไม่เป็นไร ขอบคุณนะครับ " ผมทำหน้าเครียด ถ้าไม่ได้พี่ป่านนี้ผมกับน้องคนเป็นคนที่นอนอยู่ตรงนี้ ผมยืนมองพี่โชนที่ถูกรถพยาบาลพาขึ้นรถไป และเดินมาหาน้องที่กำลังนั่งทำหน้าหงอยอยู่ 

          " เพราะผมพี่เขาถึง... "

          " มันเป็นอุบัติเหตุธัชอย่าคิดแบบนั้น " ผมมองหน้าน้องที่ยังคงทำหน้าเศร้าอยู่

          " มองหน้าพี่ พี่ไม่เป็นไรหรอก " ผมจับหน้าน้องเอาไว้ให้จ้องเข้าไปในตาของผม

          " ครับ พวกเราไปหาพี่เขากันเถอะ " ผมพยักหน้าตอบรับความคิดนั้น

          ผมกับน้องขับรถไปที่โรงพยาบาล เป็นโรงพยาบาลในมหา'ลัยนั่นแหละ ผมมองคนคนนี้ผิดไป ถึงจะดูเป็นคนไม่น่าไว้ใจ แต่จริงๆ พี่เขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร แค่เป็นคนแสดงออกมากเกินไปเท่านั้น

          " เอ่อ พี่โชน " ผมยืนเอ๋ออยู่ที่ประชาสัมพันธ์ เพราะผมแทบไม่รู้อะไรมากกว่านี้เลย

          " อ่อ ตรงไปทางนั้นเลยค่ะ " หมอนี่เรียนหมอนี่นะ คนที่นี่ต้องรู้จักอยู่แล้วล่ะ

          ผมกับน้องเดินมาที่ห้องผู้ป่วยห้องหนึ่ง เคาะประตูและเปิดเข้าไป ก็เห็นพี่โชนนอนอยู่ และมีเพื่อนๆ ของพี่โชนล้อมรอบอยู่หลายคน สีหน้าพี่โชนดีขึ้น คงไม่เป็นอะไรมากจริงๆ แต่แขนข้างหนึ่งก็เข้าเฝือกไว้ และไม่มีแว่นอยู่บนใบหน้า 

          " เด็กมึงมาแล้วว่ะ "

          " คนไหนของมึงวะ "

          " คนไหนก็เหมือนกันอ่ะ ถ้าให้ดีต้องทั้งสอง " เหอะๆ รู้สึกตีนกระตุกอีกละ เพื่อนพี่นี่กวนซะจริงๆ แต่พี่โชนไม่พูดอะไร เอาแต่ยิ้มหน้าบาน ไอ้หมอนี่โรคจิตจริงๆ สินะ แต่ไม่มีแว่นก็แปลกตาดีเหมือนกัน

          " พี่เป็นยังไงบ้างครับ " ธัชเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ พี่โชนด้วยใบหน้าหมาหงอย

          " พี่ไม่เป็นไร หัวแตกนิดนึงเลยมึนๆ แต่แขนนี่สิ พรุ่งนี้พี่ต้องพูดเปิดงานด้วยนะเนี่ย " ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าตานี่ทำท่าทางอ้อนแปลกๆ แต่ก็นะ ยอมก็ได้ ก็พี่ช่วยพวกเรานี่นะ

          " เดี๋ยวคืนนี้ผมช่วยนะ ผมจะเฝ้าพี่เอง " ธัชพูดขึ้นแบบรู้สึกผิด

          " ไม่ต้องหรอกธัช เดี๋ยวพี่อยู่เอง เรากลับไปก่อนเถอะ เหนื่อยไม่ใช่เหรอ " ผมเดินเข้าไปลูบหัวน้องเบาๆ

          " ไม่เอาพี่ธิชอยู่นี่ธัชก็จะอยู่ " ธัชกอดเอวผมไว้แน่น ไอ้ดื้อเอ้ย

          " ดีจังเลยน้า อยู่ทั้งสองคนเลยนั่นแหละ " ผมกับน้องหันควับมองพี่โชนแบบหรี่ตาลง

          " ฮ่าๆๆ ไอ้โชนแม่งโครตคุ้ม เป็นกูก็โดดเข้าไป " ไอ้เพื่อนผมสีทองของพี่โชนทำท่ากระซิบกับพี่โชนแต่เสียงโครตดัง หนอย กวนชะมัด

          ไม่นาน เพื่อนพี่โชนก็ทยอยออกไปจากห้องทีละคน จนตอนนี้เหลือแค่ผมกับน้อง 

          " จริงๆ พวกเรากลับกันก็ได้น้า พรุ่งนี้ต้องแต่งหน้าแต่งตัวแต่เช้านี่ "

          " ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวค่อยไปตอนเช้าๆ นั่นแหละ "

          " แต่ผมกับน้องขอไปอาบน้ำแล้วเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนก่อนนะครับ เดี๋ยวพวกผมมาใหม่ " ผมจูงน้องออกมาจากห้องและกลับไปที่รถ

          " พี่เขาเป็นคนดีเนอะ " ธัชพูดพลางยิ้มแป้น

          " หลงรักพี่เขาแล้วหรือไง " ผมพูดพลางอมยิ้ม แต่ธัชกลับส่ายหน้าไปมา

          " ผมว่าพี่โชนชอบพี่ธิชมากกว่า " เอ๊ะ ว่าไงนะ

          " และผมก็คิดว่าผมชอบเซนเซย์มากกว่า " ผมมองหน้าน้องแบบเหวอนิดๆ

          " ไอ้บ้านั่นมีอะไรดีนะธัช ก็แค่หล่ออย่างเดียวมั้ง " นายเป็นพวกซาดิสม์หรือไง

          " ไม่เคยมีใครแยกพวกเราออก ผมสนใจน่ะ " จะว่าไปก็ถูก ผมก็สนใจ แต่อาจเป็นความสงสัยมากกว่า หมอนั่นมันน่ากลัวจริงๆ 

          " แล้วไอ้หมอแว่นนั่นชอบพี่เนี่ยนะ จะบ้าหรือไง มันจีบธัชนี่ แล้วพี่แกก็แยกเราไม่ออกนะพี่ว่า " 

          " พี่เค้าแยกเราไม่ออกน่ะจริงครับ แต่พอพี่พูดพี่เค้าจะยิ้มตาหยีทุกที เค้าชอบพี่แหละจริงๆ นะ ผมมองออก "

          " แต่พี่ไม่ชอบผู้ชายนะธัช " ผมยังยืนยันหนักแน่น ไม่ไหวหรอก กับผู้ชายเนี่ย

          " งั้นพี่เกลียดผมเหรอ " ไอ้เด็กน้อยนี่หันมาทำตาละห้อยซะงั้น

          " พี่รักธัช รักแค่ธัชคนเดียว " ผมพูดหนักแน่นและยังคงมองตรงไปที่ถนนด้านหน้า แต่ผมก็ต้องหันไปมองน้องเพราะว่าธัชเงียบไปอีกแล้ว

          " ผมก็รักพี่ครับ ... " ธัชก้มหน้าและพูดเสียงเบา จนผมไม่ได้ยินประโยคหลัง ผมยื่นมือไปขยี้ผมน้องเบาๆ


ในโลกนี้ผมขอแค่มีธัชคนเดียวก็พอ ที่จะอยู่เคียงข้างผมตลอดไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2018 17:44:45 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 8 ฝาแฝดในชุดหลีดแฟนตาซี


          ผมกับน้องกลับมาอาบน้ำและกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้พี่โชนหลับไปแล้ว ผมกับน้องเลยนอนกันที่โซฟา โดยผมนั่งและให้น้องนอนตัก ตอนแรกธัชจะไม่ยอมท่าเดียว ผมเลยบอกว่าสลับกันก็ได้ น้องถึงจะยอม

          ผมมองหน้าน้องที่หลับอยู่ มันตลกดีนะ เหมือนได้ส่องกระจกมองตัวเองยังไงยังงั้น ผมว่าผมก็หล่อสุดๆ เลยนะเนี่ย คิ้ว จมูก ปาก เห็นละหมั่นเขี้ยวจัง ผมบีบจมูกธัชเบาๆ แต่ธัชก็หลับปุ๋ยเลยไม่ตื่นขึ้นมา

          " ขอโทษนะที่ทำให้ลำบาก " ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่โชนที่ลืมตาขึ้นมา ยังไม่หลับงั้นเหรอ

          " ไม่เป็นไรหรอกครับ มีอะไรที่ผมกับน้องทำได้ผมก็อยากจะทำครับ " ผมพูดพลางลูบหัวน้องเบาๆ

          " พี่จะทำอะไรเหรอครับ " ผมถามขึ้นทันทีที่เห็นพี่โชนขยับตัวเหมือนจะลงจากเตียง

          " พี่จะเข้าห้องน้ำหน่อยน่ะ ไม่เป็นไรเรานอนเถอะ " พี่โชนยกมือห้ามผมที่จะลุกขึ้น ผมตัดสินใจค่อยๆ ขยับวางน้องให้นอนลงและลุกขึ้นไปช่วยพยุงพี่โชนที่ข้างเตียง

          " อย่าทำเป็นเก่งหน่อยเลย " ผมพูดพลางให้พี่โชนเกาะผมไว้เพราะพี่เค้าหัวแตกเย็บหลายเข็มฮะ คงยังมึนๆ เดินไม่ตรงหรอก

          " จะเข้าไปด้วยเหรอ " พี่โชนพูดพลางยิ้มแบบกวนๆ ให้ผม

          " ส่งแค่นี้แหละ " ผมพูดพลางผลักพี่โชนเบาๆ ให้เข้าไป หนอย รู้นะว่าคิดอะไร ไอ้บ้านี่

          ผมคิดและเดินกลับมาที่โซฟา แต่ทันทีที่เดินมานั้น ผมก็ต้องสะดุ้งโหยงอย่างตื่นตกใจ เพราะตรงหน้าผมนั้น ธัชกำลังนั่งอยู่นิ่งๆ ในความมืด

          " ให้ตาย ถ้าพี่หัวใจวายไปทำไงเนี่ย " ผมมองน้องชายที่กำลังนั่งอยู่ที่โซฟา และเมื่อเพ่งมองดูดีๆ นั้น ก็พบว่าธัชกำลังสีหน้าน่ากลัวอยู่

          " ฝันร้ายเหรอ " ผมนั่งลงข้างๆ น้องที่ยังคงนิ่งเงียบ ตอนนี้ในห้องนั้นแสงสลัวมาก มองไม่ค่อยชัดเท่าไหร่

          " ทำอะไรเหรอครับ " ธัชค่อยๆ หันมามองผมด้วยใบหน้าเรียบเฉย

          " พี่โชนเขาอยากเข้าห้องน้ำ พี่ก็เลยช่วยน่ะ ธัชเป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า " ผมเอามือทาบหน้าผากน้องแต่ก็ตัวอุ่นปกติไม่มีปัญหา

          " ผมแค่ฝันร้ายฮะ ไม่เป็นไร " ธัชพูดและเริ่มยิ้มให้ผม เฮ้อ โล่งอก เพราะเมื่อกี้ธัชน่ากลัวจริงๆ ผมยิ่งกลัวผีอยู่ด้วย บรึ๋ยย


          จนถึงรุ่งสาง ผมกับน้องรีบออกจากโรงพยาบาล และตรงไปที่คณะเพื่อเตรียมตัวแต่งหน้าทำผม ทั้งๆ ที่การแสดงนั้นเริ่มตอนมืดแท้ๆ แต่ก็ต้องมาสแตนด์บายไว้ ผมรู้สึกเหมือนกับแทบไม่ได้นอนเลย ผมที่แต่งหน้าไปก็คอพับคออ่อนไป ทรมานเหลือเกิน เฮ้อ

          " พี่ธิช " ผมที่กำลังงัวเงียนั้น ก็ลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าคนเรียก 

          " หือ ใครวะ " ผมยกมือขึ้นจะขยี้ตา แต่ก็ถูกตะครุบมือเอาไว้

          " ฮ่าๆ ไม่ได้นะครับ เดี๋ยวหน้าเละหมด อุตส่าห์แต่งซะหล่อเชียว " ผมมองหน้าคนตรงหน้า หือ หน้าคล้ายผมแฮะ อ้าว ก็นี่มันน้องกู ท่าจะบ้า

          " อื้อหือ แต่งขึ้นนะเรา น้องใครเนี่ย หล่อเฟี้ยวจนจำไม่ได้เลย " ผมล็อคแก้มน้องไว้ด้วยมือสองข้างและสำรวจใบหน้าอย่างถี่ถ้วน

          " ฮ่าๆๆ พี่พูดบ้าอะไรเนี่ย ส่องกระจกดูสิ ก็เหมือนกันนั่นล่ะ " ผมที่ได้ยินแบบนั้น ก็หันไปมองกระจกที่ตั้งอยู่ตรงหน้า อื้อหือ คนบ้าอะไรหล่อขนาดนี้ ผมพยักหน้าให้ตัวเองอย่างพึงพอใจ

          " เพิ่งรู้นะว่าพี่หลงตัวเอง " ธัชเกาะไหล่ผมพลางหัวเราะขำ

          " ก็นานๆ ทีจะเห็นอะไรแบบนี้เนอะ แปลกดี " ผมยิ้มและมองเงาสะท้อนของเราสองคนในกระจก พวกเราช่างเหมือนกัน และผมชอบจัง

          ผมกับน้องยังคงใส่เสื้อนักศึกษาแต่ก็แต่งหน้าทำผมแล้ว พวกเราเดินหาข้าวเช้ากินแถวๆ คณะ ทุกย่างก้าวนั้น ทุกคนต่างจับจ้องมองพวกเราสองคนอย่างตกตะลึง เป็นไงล่ะ หล่อละสิ

          " เอ่อ ขอเบอร์หน่อยได้ไหมคะ " เอาแล้วไง สาวน้อยคนหนึ่งเดินเข้ามาแบบกล้าๆ กลัวๆ และยื่นโทรศัพท์มาให้

          " เอ่อ คนไหนล่ะครับ " ธัชพูดพลางส่งยิ้มแป้น

          " คนไหนก็ได้ค่ะ " คนไหนก็ได้งั้นเหรอ เหอะ

          " ขอโทษนะแต่พวกเราไม่ชอบผู้หญิงหรอก " ผมพูดพลางยิ้มน้อยๆ และสาวคนนั้นก็ถึงกับถลึงตาโตมองพวกผมแบบช็อคไปเลย ก็นะ ผมเคืองนี่นา มีด้วยเหรอคนไหนก็ได้ เพราะเห็นว่าเหมือนๆ กันงั้นสิ นิสัยไม่ดี

          " ทำไมพูดแบบนั้นละพี่ เดี๋ยวเขาก็เอาไปลือกันพอดี " ธัชพูดพลางทำหน้าตื่นตกใจ

          " ช่างมันสิ พี่ไม่สนหรอก " 

          " แต่พี่ไม่ชอบผู้ชายนี่นา แล้วทำไมไม่ลองจีบผู้หญิงดูมั่งล่ะครับ " 

          " อยากให้พี่มีแฟนจริงๆ เหรอ " ผมถามพลางมองหน้าน้อง

          " ผมจะไปห้ามพี่ได้ยังไงกันละครับ พี่ก็มีชีวิตของพี่ " ธัชพูดกับผมด้วยรอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่หมองเศร้าเหลือเกิน

          " พี่มีแค่ธัชก็พอแล้ว " ผมพูดเหมือนที่ชอบพูดประจำ และเดินต่อไปข้างหน้า

          " พี่......นะ "

          " เมื่อกี้ว่าไงนะ " ผมหันกลับไปทันทีที่ได้ยินเสียงพูดเบาๆ จากด้านหลัง ตอนนี้นั้น รอบๆ ตัวผมมีเสียงเอะอะจอแจมากเกินไป ผมก็เลยได้ยินที่น้องพูดไม่ถนัดเท่าไหร่

          " ไม่มีอะไรครับ " ผมมองหน้าธัชที่ยิ้มให้ผม แต่เป็นรอยยิ้มที่ผมรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย


          ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาจนใกล้จะเริ่มแล้ว ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว ซึ่งมันก็ดูสวยดีนะ ถ้าไม่ติดที่มันเป็นผ้าแบบใสๆ และถูกประดับด้วยอะไรต่างๆ มากมาย แต่มันก็โชว์เนื้อหนังมากอยู่ดี อึ๋ยย ไม่อยากออกไปเลยอ่ะ รู้งี้เล่นเวทให้มากกว่านี้ดีกว่า อายสุดๆ

          " พี่ธิช ยังไม่เสร็จเหรอครับ " ธัชเรียกผมอยู่ข้างนอก เพราะผมอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านานมาก ก็คนมันอายง่า

          ผมค่อยๆ เปิดประตูออกช้าๆ และพยายามเดินตัวลีบสุดๆ แต่พอเห็นมีแต่ธัชที่ยืนอยู่ก็ค่อยโล่งอกหน่อย

          " อะไรครับ พี่อายเป็นด้วยเหรอ " หนอย ไอ้เด็กปากเสียนี่ ผมต่อยน้องที่ไหล่เบาๆ ด้วยความหมั่นไส้

          " โอ้ยย ต่อยธัชทำไมเนี่ย " ธัช ไอ้สำออยร้องซะลั่น แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะ

          " ธัช นี่มันอะไรอ่ะ " ผมชี้ไปที่หน้าท้องของน้องที่เอ่อ เดี๋ยวนะ ไม่จริง เป็นไปไม่ด๊าย

          " อ่อ ก็ตั้งแต่นอนแยกกันผมก็เวทเทรนนิ่งทุกวันเลยนะ อยากหุ่นดีๆ มั่งอ่ะ " ธัชพูดพลางเบ่งกล้ามโชว์ แล้วที่พี่ปกป้องนายมาตลอดนี่มันอะไรกัน เชอะ ไอ้คนทรยศ 

          " ไม่เอาดีกว่า พี่ไม่เต้นแล้ว " ผมทำท่าจะกลับเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ธัชก็ดึงผมไว้

          " ฮ่าๆ อะไรของพี่เนี่ย มาเลิกตอนนี้ได้ยังไงละครับ แล้วอีกอย่างพี่ก็ไม่ได้ดูแย่สักหน่อย หุ่นก็ดีออก แค่ไม่เห็นกล้ามชัดเท่านั้นเองอ่ะ ผมชอบจะตาย " ใช่ซิ๊ เอ็งมันมีซิกแพคนี่จะพูดอะไรก็ได้

          " ว๊ายย สองหนุ่ม พี่จะเป็นลม หล่อเด็ดอะไรปานนี้ " รุ่นพี่บิ๊กไซส์พากันยกโขยงเข้ามาและส่งสายตาโลมเลียผมกับน้องอย่างเปิดเผย เหอะๆ อยากเตะคนอีกแล้ว

          เสื้อผ้าของเราออกแนวโทนสีดำที่มีขนนกสีดำประดับมากมาย ท่อนบนใสๆ กึ่งเปลือยลำตัว ที่หน้ามีเหมือนหน้ากากคาดตาแต่ก็ไม่ได้ปิดหน้าอะไรมาก ทรงผมก็ตั้งๆ แบบเท่ห์สุดๆ กางเกงนี่ผมชอบที่สุด เพราะมันเป็นสามส่วนที่มีสายระโยงระยางแหวกแนวสุดๆ ไปเลย อย่างกับหลุดมาจากเทพนิยายแฟนตาซี และตลอดทางที่พวกผมเดินออกมานั้น สาวๆ ต่างพากันกรี๊ดจนแทบสลบ อันนี้ปกติครับ แต่ไอ้พวกตัวผู้ที่ผิวปากนี่มันอะไร อยากตายหรือไงฟะ

          " อื้อหือขาวสัด "

          " แว๊บๆ แม่งชมพูว่ะ ทั้งสองคนเลย "

          " อยากมีเมียแฝดโว้ย "  เมียโพ่ง อย่าให้งานจบ กูจะเล่นแม่ง ไอ้พวกปากดีทั้งหลาย ฝากไว้ก่อนเถอะมึง

          ผมยิ้มและมองน้องชายที่หันมายิ้มให้ผมเช่นกัน พวกเราจะผ่านมันไปได้ เหมือนดังที่ผ่านๆ มา


ขอแค่เพียงเรามีกันและกันเท่านั้นก็พอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2018 17:46:42 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เซนเซย์หายไปไหนอ่ะ คิดถึงจังเลย  :o8: :o8:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 9 ฝาแฝดและการทายครั้งที่สอง


          พวกเรามายืนเตรียมพร้อมกันในที่จัดงาน หันหน้าเข้าสแตนด์เชียร์และฟังท่านประธานสภานิสิตกล่าวเปิดงาน ซึ่งสภาพประธานตอนนี้นั้น มีทั้งมีผ้าพันแผลที่หัว และใส่เฝือกที่แขน แต่การพูด การวางตัว ทุกๆ อย่างก็ยังดูดีแฮะ เชื่อเขาเลย

          ผมกวาดสายตาไปทั่วๆ อัฒจันทร์ วันนี้คนเยอะมาก และทุกคนดูตื่นเต้นไปหมด และอัฒจันทร์ด้านบนนั้น ก็มีโซฟาหลายๆ ตัวเพื่อรองรับเหล่าอาจารย์ที่เข้าร่วมชมการแสดง แต่ผมที่ไล่สายตาไปบนอัฒจันทร์นั้น ก็หยุดสายตาทันทีที่มองเห็นคนคนหนึ่ง เป็นคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้าเอาซะเลย ซึ่งวันนี้เซนเซย์ก็ยังคงแต่งตัวเรียบง่าย แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือสูทสีดำที่คลุมไหล่ไว้ด้านนอก ด้านในก็ยังเป็นเสื้อสีขาวไทสีดำ นั่งไขว้ห้างด้วยใบหน้าเรียบเฉย ผมรีบหลบสายตาทันทีที่หมอนั่นมองมา เหมือนจะรู้ว่าผมมองอยู่เลยแฮะ ไอ้บ้านี่มีพลังจิตหรือไง

          หลังการเกล้าเปิดงาน การแสดงแต่ละคณะก็เริ่มต้นขึ้น โดยมีการจับสลากตั้งแต่แรกๆ แล้วว่าคณะไหนจะได้แสดงเป็นลำดับที่เท่าไหร่ ซึ่งคณะวิศวะของผมนั้นโชคดีที่อยู่อันดับท้ายๆ ยิ่งใกล้เวลาก็ยิ่งตื่นเต้นเหลือเกิน เพราะคนนั้นเยอะมากๆ เสียงดนตรีก็ดังกระหึ่มไปหมด ทำเอาธัชหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัดด้วยความประหม่า

          " ธัชทำได้อยู่แล้ว มองหน้าพี่สิ " ผมจับหน้าน้องที่ก้มหน้ามองพื้นขึ้นมา ธัชมักกลัวสิ่งที่ไม่น่ากลัว และชอบวิตกกังวลทุกๆ อย่างเสมอ

          " ถ้าผม... " 

          " ถึงจะผิดพลาด ก็จะไม่มีใครว่าธัช เราพยายามที่สุดแล้วธัช คิดว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้วก็พอ ผลจะเป็นยังไงก็ช่าง "  ผมเอาหน้าผากชนกับน้องไว้และจับมือกันแน่น

          " ครับ " ธัชยิ้มให้ผม เรายิ้มให้กันและกัน

          ในที่สุดก็ถึงการแสดงของคณะวิศวะ ผมจับมือน้องบีบเบาๆ เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะสวมหน้ากากและเดินออกไปเตรียมพร้อมแสดง การแสดงของเราเป็นแบบพร้อมเพียงและแข็งแรง ซึ่งเป็นปกติของการโชว์หลีด และจะประยุกต์อะไรก็ได้ลงไปในการแสดง พวกเราเป็นผู้ชายเพียงสองคนที่อยู่ในทีม และพวกเราทำได้ดี ผมเหลือบมองน้องที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีผิดพลาด

          ไม่นานการแสดงของคณะเราก็จบลง ด้วยเสียงกรี๊ดและเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้อง ผมหอบหายใจมองสแตนด์เชียร์ที่กำลังแปลอักษรต่างๆ และเล่นแสงสีเสียงปิดท้าย ผมว่าพวกเราอาจจะชนะก็ได้ เพราะทั้งชุด ทั้งโชว์ ล้วนเวอร์วังอลังการมากกว่าคณะไหนๆ และพวกเรามั่นใจว่าทำได้ดี และผิดพลาดน้อยที่สุด

          " บอกแล้วว่าถ้าจะทำจริงๆ ธัชทำได้อยู่แล้ว " ผมบอกน้อง ตอนนี้พวกเราเดินออกมาพักที่ห้องพักหลังการแสดงจบลง

          " ขอบคุณครับ " ผมกอดคอน้องอย่างร่าเริง วันนี้ต้องฉลอง หึหึ

          " เขาจะประกาศผลกันแล้ว ไปกันเถอะ " รุ่นพี่มาเรียกพวกผมให้ออกไปเข้าแถวรวมกันอีกครั้งหน้าสแตนด์เชียร์

          พวกเราออกมายืนเข้าแถวหน้าสแตนด์ของตัวเองเพื่อฟังผลการประกวด และแน่นอนคณะเราได้รางวัลชนะเลิศไปอย่างไม่ต้องสงสัย เรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นไปทั้งคณะด้วยความยินดี มีหลายๆ คนเข้ามากอดพวกเราสองคนและกล่าวขอบคุณไม่ขาดสาย เป็นค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ผมกอดน้องและยิ้มอย่างมีความสุข

          ในช่วงเวลาสุดท้าย พวกเราก็ยังเข้าแถวกันเช่นเดิมเพื่อฟังประธานกล่าว แต่เมื่อประธานพูดจบ กลับมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะว่าเซนเซย์นั้น อยู่ดีๆ ก็เดินมาดึงไมโครโฟนออกจากมือของพี่โชนซะงั้น ประธานชักสีหน้าไม่พอใจสุดๆ ใส่เซนเซย์ แต่ก็ต้องยอมเพราะนั่นคืออาจารย์

          เมื่อเซนเซย์ถือไมโครโฟนเอาไว้ และกำลังจะพูดอะไรออกมา แต่อาจารย์กลับต้องหยุดชะงัก เพราะตอนนี้สาวๆ ทั้งมหา'ลัยกำลังแข่งกันกรี๊ดจนคอแทบแหก เหอะๆ เอาเข้าไป เสียงกรี๊ดยังคงดังต่อเนื่อง จนเซนเซย์ถึงกับหน้าบึ้งไปเลย เหอะๆ สมน้ำหน้า

          " จะพอกันได้หรือยัง " เสียงกรี๊ดเงียบลงทันที เพราะพี่แกเริ่มจะด่าเป็นนัยๆ อีกแล้ว

          " ขอบคุณสำหรับความพยายามทั้งหลายที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน จนทำให้เกิดกิจกรรมนี้ขึ้นมา " หมอนี่พูดอะไรแบบนี้ก็เป็นแฮะ

          " ตอนนี้ก็เหลือแค่กิจกรรมสุดท้ายก็คือการประกวดดาวเดือน ซึ่งจะมีขึ้นในอีก 3 วัน หลังจากนั้นขอให้นักศึกษาทุกคนตั้งใจกลับมาทำหน้าที่ของตัวเอง ก็คือการเรียน หวังว่าจะไม่สนุกกันจนลืมหน้าที่ไปซะล่ะ " ทุกคนปรบมือหลังจากเซนเซย์พูดจบ ทุกคนดูปลาบปลื้มกับเสียงที่ดูไม่เป็นมิตรนั่นซะเหลือเกิน น่าหมั่นไส้

          " อ่อ ยังมีอีกอย่างสินะ " อยู่ดีๆ เซนเซย์ก็พูดขึ้นมาอีก ทุกคนที่เหมือนกำลังจะเดินออกไป หรือกำลังจะเก็บของ ตอนนี้ทุกคนหยุดชะงักตั้งใจฟัง

          เซนเซย์กำลังยิ้มน้อยๆ และมองมายังคณะวิศวะ มองมาทางผมกับน้อง นี่อย่าบอกนะว่า

          " คนซ้ายน่ะ ธิชา คนขวาธัชชา ใช่ไหมล่ะ "

          ทุกคนต่างมองมายังผมสองคนแบบตื่นตะลึง เสียงซุบซิบดังเซ็งแซ่ไปทั่ว การท้าทายของผมมันปานปลายไปขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย และที่สำคัญ ไอ้หมอนั่น ทำไมถึงได้...

          พวกผมที่ยืนฟังนั้น ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ และยังใส่แว่นที่ใช้ทำการแสดงอยู่ แล้วทำไมกัน ทำไมมันถึง...ทายถูก

          ผมจ้องมองไปยังด้านบนนั้น มองไปยังเซนเซย์นั่นด้วยแววตาที่แสดงถึงความไม่พอใจ ครางแครงใจที่สุด ผมจับมือน้องไว้แน่น เราสองคนขมวดคิ้วจ้องมองกันแบบไม่เข้าใจ ผมดึงมือน้องเดินออกไปจากสนามโดยไม่ได้พูดอะไร เดินผ่านสายตานับพันที่จ้องมองพวกผมด้วยความสงสัย และเหลือบมองเห็นรอยยิ้มเยาะออกมาจากไอ้บ้าเซนเซย์นั่นก่อนออกไป

          " พี่ธิช " ธัชรั้งตัวเอาไว้ไม่ให้ผมดึงลากไปต่อ

          " กลับกันเถอะ พี่เหนื่อย " ผมก้มหน้ามองพื้น 

          " ไม่เป็นไรหรอกครับ " ธัชพูดพลางจับหน้าผมเงยขึ้น

          " เรายังไม่แพ้สักหน่อย " ผมพูดพลางจ้องตาน้อง

          " ก็นั่นไง แล้วพี่จะเศร้าทำไมละครับ " ผมมองหน้าน้องที่ยิ้มแป้นให้ผม

          " พี่แค่ไม่เข้าใจ พวกเราไม่เหมือนกันงั้นเหรอ "

          " พี่ชอบที่พวกเราเหมือนกันเหรอ " 

          " มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พี่ดีใจที่ได้เกิดมา " ผมยิ้มให้น้องอย่างจริงใจ ธัชก็ยิ้มให้ผมเช่นกัน

          ผมกับน้องกลับมาที่คอนโด เฮ้อ ช่างน่าเบื่อ จริงๆ วันนี้เราควรได้ฉลองกันแท้ๆ แต่พอเซนเซย์เล่นมาทายกลางงานแบบนั้น ผมเลยคิดว่าวันนี้น่าจะเลี่ยงผู้คนไปก่อน ผมควรจะทำยังไงดีนะ ไม่ใช่ว่าผมยึดติดกับการเอาชนะอะไรหรอก แต่หมอนั่นมันน่าหมั่นไส้ ผมไม่อยากจะแพ้คนคนนั้นเลย


ผมจะต้องไม่แพ้ ไม่ว่าจะต้องทำยังไง หรือใช้วิธีไหนก็ตาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2018 17:48:59 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
แววตาหรือเปล่าคะธิช ธิชไม่ชอบอาจารย์แกนี่นา

เรามีญาติเป็นแฝดอยู่ แฝดไม่แท้หรอกแต่หน้าก็เหมือนกันมาก พ่อแม่เขาก็แยกไม่ออก แต่เราอยู่ด้วยมาแต่เด็กเราก็แยกออกนะ แฝดนี่ถ้าจับจุดได้มันก็แยกได้แหละเนอะ..

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 10 ฝาแฝดและจูบอันแสนเศร้า


          พรุ่งนี้เป็นวันที่ผมจะต้องประกวดเดือนแล้ว แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะแสดงอะไรดี พรุ่งนี้เซนเซย์จะต้องทายพวกเราเป็นครั้งสุดท้ายแน่นอน ยิ่งคิดยิ่งกลัว ยิ่งกลัวยิ่งเครียด ผมที่มักมีความมั่นใจอยู่เสมอ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมวิตกจริงๆ

          " พี่อย่าคิดมากน่า ถ้าเซนเซย์ทายถูก ก็แปลว่าเขาเจ๋งจริง แล้วเขาก็คงไม่สั่งให้เราทำอะไรยากๆ หรอกมั้ง " ธัชบอกผมที่นั่งขมวดคิ้วอยู่หน้าจอทีวีพลางกดจอยเกมส์ไปมา

          " พี่ไม่ชอบหมอนั่น ไม่อยากให้มาสั่ง " 

          " พี่ธิชนี่ก็เด็กน้อยเหมือนกันนะ " เชอะ ผมหน้าบู้และวางจอยเกมส์ลง เลิกเล่นดีกว่า

          " ถ้าพวกเราชนะ พี่จะสั่งให้เซนเซย์ทำอะไรเหรอ " นั่นสินะ ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนี้หรอก แต่ต้องเป็นอะไรที่ทำให้หมอนั่นหน้าเสียไปเลย หึหึ
         
          " แล้วธัชล่ะ อยากสั่งอะไร " ธัชทำหน้าครุ่นคิด ขมวดคิ้วมุ่นเชียว

          " ผมอยากเข้าไปอยู่ใกล้ๆ เซนเซย์ ผมอยากรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ผมว่าเขาน่าสนใจดี "

          " ไม่ใช่ว่าเพราะหมอนั่นหล่อหรอกใช่ไหม " ผมเลิกคิ้วขึ้นแบบรู้ทันนะไอ้ดื้อเอ้ย

          " ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย แค่รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ แต่ผมนึกยังไงก็นึกไม่ออก " ผมรีบจับหน้าน้องไว้ให้หันมามองผมตรงๆ

          " ไปอาบน้ำกันเถอะ " ผมไม่อยากให้น้องคิดถึงอดีต ผมไม่ต้องการพูดถึงมัน

          " อาบด้วยกันนะ " ธัชพูดพลางยิ้มแป้น

          " เรื่องสิ " ผมพูดพลางรีบแจ้นเข้าห้องน้ำก่อนที่ไอ้ตัวดีจะไล่มาทัน ผมไม่กล้าอาบกับน้องหรอก อายหุ่นจะตายไป หึ่ย ต้องฟิตบ้างละเรา

          ผมที่อาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำ และธัชก็เข้าไปอาบต่อจากผม ผมเข้ามาในห้อง นั่งอยู่หน้ากระจก พลางจ้องมองใบหน้าของตัวเอง ผมไม่ได้หลงตัวเองหรอกนะ ผมแค่ชอบใบหน้านี้ ใบหน้าพวกเราที่เหมือนกัน

          แต่ผมที่จ้องมองไปในกระจกนั้น อยู่ดีๆ ก็ต้องสะดุ้งตกใจทันทีที่เห็นเงาคนอื่นอยู่ในนั้นด้วย

          " โธ่ธัช ชอบทำแบบนี้อยู่เรื่อย " ผมพูดพลางจับอกตัวเองไว้ ธัชทำให้ผมรู้สึกแบบนี้บ่อยครั้ง ผมรู้สึกแปลกๆ มากขึ้นทุกที

          " ขอโทษครับ พี่ทำอะไรอยู่เหรอ " ธัชเดินเข้ามา และเริ่มขยี้ผมให้แห้ง

          " ค..คือ พี่หาลิปมันอยู่ ไม่รู้เอาไว้ไหน " ผมพูดพลางแกล้งรื้อโต๊ะเครื่องแป้งไปมา เพราะจริงๆ ผมก็ตั้งใจว่าจะทาปากที่แตกๆ ของผมซะหน่อย

          " เดี๋ยวผมเอาของผมมาให้ " ธัชพูดพลางเดินไปที่ห้องตัวเอง และกลับมาอย่างรวดเร็ว

          " ไหน ธัชทาให้นะ " ธัชนั่งลงยองๆ และจรดลิปลงบนริมฝีปากผมเบาๆ 

          " หลับตาสิ " ผมจ้องมองธัชแบบงงๆ ทำไมทาลิปต้องหลับตาด้วยล่ะ แต่ผมก็ว่าง่ายหลับตาลงช้าๆ ตามที่น้องบอก

          แต่ผมที่หลับตานั้น ก็รู้สึกถึงความนุ่มนิ่มของริมฝีปากที่ผสานกันอย่างรวดเร็ว ผมรีบลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ ธัชทำแบบนี้อีกแล้ว น้องดึงคอผมเอาไว้และเริ่มจูบผมหนักหน่วงขึ้น ผมพยายามดันอกน้องเอาไว้แต่ธัชก็ยังไม่ยอมปล่อยให้ริมฝีปากของผมเป็นอิสระอยู่ดี ผมใช้แรงทั้งหมดผลักน้องออกไปเต็มแรง

          ' เพี๊ยะ! ' 

          ไม่นะ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น ผมที่ปัดป้องตัวผมทำให้เผลอตบธัชเข้าอย่างจัง ธัชนั่งลงกับพื้นจับแก้มตัวเองที่โดนตบเอาไว้ จ้องมองผมด้วยสีหน้าที่ผมไม่อยากเห็นที่สุด

          " ผมขอโทษครับ " ธัชพูดด้วยแววตาและน้ำเสียงอันแสนเศร้า และลุกขึ้นเดินหนีไป

          " ธัช พี่ไม่ได้... " ผมเดินตามน้องไป แต่ธัชก็ปิดประตูล็อคห้องอย่างรวดเร็ว

          ผมทำอะไรกันนะ มากกว่านี้พวกเราก็ทำกันมาแล้ว แต่วันนี้ผมกลับทำร้ายธัช ผมเป็นอะไรกันแน่ ผมนั่งลงเงียบๆหน้าห้องธัช มองมือที่สั่นเทาของตัวเอง พวกเราเป็นอะไรกันแน่ เพราะอะไรพวกเราถึงกอดจูบกันเหมือนเป็นเรื่องปกติ พวกเราไม่ควรทำแบบนั้น เพราะพวกเราเป็นพี่น้องกัน

          ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่ผมก็ยังนั่งอยู่อย่างนั้น ผมหลับตาลงพลางคิดทบทวนสิ่งต่างๆ จริงๆ แล้ว ไม่ใช่ธัชหรอกที่ผิดปกติ แต่พวกเราต่างหากที่ผิดปกติ พวกเราควรหยุดเรื่องบ้าๆ นี้สักที ผมจะต้องทำให้พวกเราเป็นพี่น้องกันปกติ เหมือนคนอื่นเขา ผมอยากให้น้องรักคนที่สมควรรัก ได้มีความรักอย่างที่ควรจะเป็น การที่ผมอยู่กับน้องมากเกินไป มันอาจเป็นการทำร้ายน้องก็ได้ ธัชชอบเซนเซย์สินะ งั้นเหรอ งั้นผมก็จะทำให้เซนเซย์รักธัชให้ได้ นั่นคงเป็นทางออกของเราสองคน

          แต่ทำไมกันนะ ผมที่คิดแบบนั้น กลับเจ็บปวดใจเหลือเกิน แท้จริงแล้วผมต้องการอะไรกันแน่ ผมไม่รู้เลย


          ในเช้ารุ่งขึ้น ผมลากขามาที่คณะด้วยหัวใจที่อ่อนล้า ธัชยังไม่ยอมออกจากห้อง ผมไม่เคยตีน้องมาก่อน ธัชคงจะเสียใจและช็อคมาก ผมก็เช่นกัน 

          " หนุ่มน้อย หน้าแบบนั้นจะประกวดได้ไหมลูก อกหักรักคุดปรึกษาแม่ได้นะ " รุ่นพี่บิ๊กไซส์เข้ามามองผมกันใหญ่ เหอๆ อยากทำไรทำเถอะ วันนี้ผมไม่ไหวจริงๆ

          ผมแต่งเนื้อแต่งตัวในตอนบ่าย จัดคิว และซ้อมอะไรกันอีกเล็กน้อย เพราะคืนนี้นั้น คือคืนแห่งการประกวดดาวเดือน และสภาพจิตใจของผมนั้น ไม่พร้อมเลยสักนิด ผมอยากเจอธัช ผมอยากขอโทษน้อง ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลยจริงๆ

          ผมมองผู้คนที่เริ่มเข้ามาในโถงขนาดใหญ่ที่ใช้จัดงาน ตอนนี้ผมอยู่ในชุดนักศึกษาถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่งหน้าแต่งตาอ่อนๆ และยืนอยู่ในห้องรอที่จะต้องขึ้นเวทีเพื่อแสดงความสามารถพิเศษ ไม่ว่าเวลาจะผ่านมาหลายชั่วโมงแค่ไหน แต่จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังไม่เห็นน้องเลย

          " น้องคณะวิศวะได้เวลาแล้วนะ " ผมมองรุ่นพี่ที่กำกับควบคุมน้องๆ เดินเข้ามาเรียกผมให้ออกไปได้แล้ว ผมและคู่หญิงสาวที่ต้องเดินคู่กับผม ต่างเตรียมพร้อม และเดินขึ้นเวทีไป

          ผมที่ขึ้นมาบนเวทีนั้น ก็พบว่าตอนนี้โถงห้องประชุมคราคร่ำไปด้วยฝูงชนมากมายที่กำลังส่งเสียงให้กำลังใจคณะของตัวเอง ผมยังคงมึนๆ อึนๆ และจิตใจย่ำแย่ เดินผิดเดินถูกชนคู่ของตัวเองบ้าง อาการหนักแฮะเรา 

          " ตัวแทนจากคณะวิศกรรมศาตร์ นายธัชชา ธีรดิษฐ์สกุล และนางสาวเกวลิน โสภาโชติรัตน์ ปรบมือเป็นกำลังใจให้หน่อยคร๊าบบ " ผมแทบไม่ได้ยินเสียงพูดหรือเสียงปรบมือใดๆ สายตาเฝ้าแต่มองหาคนที่ผมรักและแคร์ที่สุด อยู่ไหนกันนะ จะไม่มาดูพี่จริงๆ เหรอ

          " เอาละครับต่อไปจะเป็นการแสดงความสามารถพิเศษของน้องๆ ตัวแทนแต่ละคน มาดูซิว่าแต่ละคนจะฝีไม้ลายมือเด็ดขนาดไหน เชิญรับชมได้เลยครับ "

          ผมนั่งอยู่ที่ด้านหลังเวที ฟังเสียงการบรรยายของพิธีกรที่กำลังดังอยู่ การแสดงของผมนั้นเป็นคณะสุดท้าย และคนสุดท้าย ผมแทบไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเลย แต่ผมนั้นรู้ว่าผมจะทำอะไร ถ้าธัชได้ยิน ธัชจะรู้ว่าผมรักธัชมากแค่ไหน ผมนั่งรอเวลาไปเรื่อยๆ จนในที่สุด

          " เอาละครับตัวแทนคนสุดท้ายของเรา เป็นหนุ่มหล่อที่แสนจะตราตรึงใจซะเหลือเกิน แค่เห็นก็ตกหลุมรักซะแล้ว " เสียงพิธีกรไหลผ่านหูของผมไป ผมไม่ได้ยินอะไรเลย แต่ผมก็จะทำให้ดีที่สุด เท่าที่ผมจะทำได้ เพื่อธัช น้องชายเพียงคนเดียวของผม

          ผมนั่งลงช้าๆ ที่เก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ ล้วงสิ่งที่ผมยังคงพกติดตัวไว้เสมอ แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน มันเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยขับกล่อม ให้น้องชายนอนหลับฝันดี แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เป็นช่วงเวลาที่เราสองคนนั้นต้องเผชิญและยากที่จะลืม


          10 ปีก่อน โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น


          " พี่ครับผมหิว " เด็กชายเล็กๆ สองคนนั่งพิงกันอยู่ใต้ซากกองขยะกองใหญ่ มันเป็นที่ที่พอหลบหยาดฝนที่ร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสายได้ เด็กน้อยที่เนื้อตัวสกปรกมอมแมมสองคนนั่งกอดกันกลม หนาวสั่นและหิวโหย ไม่มีใครอยากยุ่งกับพวกเรา ไม่มีใครอยากช่วยพวกเรา พวกเรามีกันแค่สองคน ผมมองหน้าที่ซูบตอบของน้อง พลางลูบเบาๆ ที่แก้มเล็กๆ นั่่น

          " นอนซะนะ ตื่นมาพี่จะหาอะไรมาให้กิน " ผมกอดเด็กตัวเล็กๆ นั่นที่กำลังหนาวสั่น พลางคิดว่าผมจะต้องทำยังไงน้องถึงจะอิ่มท้องได้ ผมควานหาร่มพังๆ ที่วางอยู่ข้างๆ และกางออกให้น้องได้อยู่ใต้นั้น ในส่วนที่ยังพอกันฝนได้อยู่  นั่นอะไรกันนะ ผมเห็นกล่องวัตถุเล็กๆ สีเงิน กำลังส่องแสงอยู่ที่ใต้ซากนั้น ผมเอื้อมมือไปหยิบมันและมองดู เหมือนผมจะเคยเห็นมันมาก่อน มีผู้ชายขี้เมาคนหนึ่งในตรอก ที่ชอบเล่นมันตอนที่กำลังดื่ม มันน่าจะใช้แบบนี้

          ผมจรดริมฝีปากลงที่เครื่องดนตรีนี้และเป่าเบาๆ มีเสียงออกมาเป็นเสียงที่ไพเราะจัง ผมเริ่มเป่าอีกครั้งเบาๆ  พลางก้มลงมองน้องชายที่กำลังขดตัวกลม คิ้วของเด็กน้อยขนับน้อยๆ เมื่อได้ยินเสียง และยิ้มออกมาทั้งๆ ที่นอนหลับไหลอยู่ในห้วงนิทรา 

          " หลับฝันดีนะธัช "

          การบรรเลงจบลง พร้อมกับเสียงปรบมือดังกึกก้องห้องประชุม


และผู้ชายคนนึงกำลังร้องไห้เงียบๆ อยู่ในมุมที่ไม่มีใครมองเห็น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2018 17:51:20 โดย Gloomy Sunday »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด