ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]  (อ่าน 625242 ครั้ง)

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
ดีงามพระรามแปดมากคะ  :hao7:
เอ็ดดูพี่หมอวินมากๆ นางน่ารักน่าดูเอ็น  :hao6:
เอ้ย หลบรองเท้าจากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร
น่าเอ็นดูสุดๆเลยค๊าาาา   :hao5:
พิงค์วินตั้งแต่ต้น ไม่ผิดหวังเลย  :katai2-1:
และก็หวังว่าจะไม่ผิดหวังต่อไป เลิฟๆ  :mew1:

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
หมอเต้มีปม

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เท่ห์​อ่ะ

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
โอ๊ยยย!! อินัองก็อ้อน อิพี่ก็ยอม ตายแล้วววว~~ อิจฉาเป็นที่สุด
เรียกคนมาเก็บหมอเต้ด่วนๆ

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ช่ายยยยย...ฟินก็ฟิน อิจฉาก็อิจฉา

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ช่ายยยยย...ฟินก็ฟิน อิจฉาก็อิจฉา

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
คิดถึงพิงค์จังวันนี้มาไหม

ออฟไลน์ punpunn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เหมืิอนหมอเตชอบพี่วินเลยยย

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
พี่หมอวิน จะได้เรียนรู้ความรู้สึก หึงหวง เป็นครั้งแรกก็จากน้องพิงค์นี่แหละจ้า
อะไร ๆ เริ่มชัดเจนขึ้นแล้วนะ ทั้งคู่เลย  เหลือแต่ตอนยอมรับใจตัวเองเนี่ยแหละ
พี่เต้ ว่าน้องพิงค์แบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ แต่พี่เต้ก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพี่วิน
อยากให้พูดคุยกันให้เคลียร์ ๆ เปิดใจกันไปเลย ดีกว่ามาอึดอัดใส่กันแบบนี้
รอตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณคนเขียนค่ะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ถ้าไม่ต่อจะลงแดงแล้วน่ะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :call: :call:  :call:

เธอรู้หรือเปล่า 

ว่า...ฉันนั้นใกล้ลงแดง

ออฟไลน์ ▲TEACHCHY▼

  • ★ U can call me TEACH ★
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ค่อยเป็นค่อยไป น่ารักละมุนมากเลย
เหมือนเราได้นั่งหวีดโมเม้นคู่จิ้นจริงๆเลย
รอวันทั้งคู่ขยับเข้าไปเบียดกันมากกว่านี้นะคะ ><
พี่วินน่ารักนี่คิดว่าพี่วินเคะอะ555

อึดอัดกับพี่เต้อะ อยากรู้ความจริงเร็วๆ

เขียนดีเขียนสนุกแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ :mew1:

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 26 : ลอยโคม


หลังจากดูการแสดงตีกลองสะบัดชัยเสร็จแล้ว แซนดี้ก็พารวินท์ไปส่งที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ก่อน ส่วนตัวเขาไปดูการแสดงกับพี่นิ้งและตึ๋งต่อ

รวินท์เดินไปหาที่นั่งรอเงียบๆ ใต้ตึกเรียน แล้วกดดูไลฟ์การแสดงย้อนหลังไปพลางๆ

ระหว่างที่นั่งดูอะไรฆ่าเวลาไปเรื่อยเปื่อยก็มีใครบางคนเดินเข้ามาหา “พี่หมอ~”

“อ้าว ซัน ไม่ได้ไปดูขบวนแห่เหรอ”

“ดูสิครับ นี่ผมเพิ่งกลับมาถึงพี่ พวกผมต้องมาเตรียมเก็บของกันก่อน ส่วนไอ้พิงค์มันโดนลากไปสัมภาษณ์กับถ่ายรูปอยู่ วันนี้มันฮ็อตม้ากกก โดนรุมตลอด”

“อ่อ”

“แล้วพี่หมอนั่งทำไรอะ รอไอ้พิงค์เหรอ”

“นั่งเล่น... มานั่งเป็นเพื่อนผมหน่อยดิ”

“โห ไอ้พิงค์มาเห็นเข้ามันไม่หึงแย่เหรอ” ซันพูดเช่นนั้นแต่ก็นั่งลงข้างกัน ก่อนจะหันหน้าไปมองทันตแพทย์หนุ่ม

รวินท์แค่กระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย หากก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

“พี่หมอ ถามจริงเหอะ พี่รำคาญรึเปล่าอะ ถ้ารำคาญก็บอกกันตรงๆ ได้นะ”

“หือ” คนถูกถามหันไปหาคนที่นั่งอยู่ข้างกัน “รำคาญอะไร ถ้ารำคาญผมคงไม่ชวนคุณนั่งด้วยหรอกน่ะ”

“ไม่ใช่เว้ยพี่... คือ...” ซันยกมือขึ้นเกาศีรษะ เขาลังเลอยู่สักหน่อย แล้วจึงเอ่ยขึ้น “ที่พวกผมเอาพี่กับไอ้พิงค์มาโปรโมตคู่กันบ่อยๆ อ่ะ”

“ไม่หรอก สนุกดี”

“สมัยอยู่มหาลัยเคยโดนจับคู่โปรโมตแบบนี้มั้ยอะพี่”

ทันตแพทย์หนุ่มส่ายหน้า “ไม่เคยนะ”

ซันกลอกตาไปมา เม้มปากอีกสองสามที แล้วถามเพื่อความแน่ใจ เพราะบางทีพี่หมออาจจะไม่เก็ตความหมายของคำว่าโปรโมตที่เขาว่า “พี่หมอ... เอ่อ... รู้ใช่มั้ยว่าพวกผู้หญิงเขาจิ้นพี่กับไอ้พิงค์น่ะ”

“อือ ก็นิดหน่อย”

“โวะ! แล้วไม่รำคาญจริงๆ อะเหรอ”

รวินท์ขมวดคิ้ว “จะให้รำคาญอะไรล่ะ”

“ก็แบบ โดนแซ็วไง”

“แซ็วว่า?”

“เป็นแฟนกันไรเงี้ยย~”

ทันตแพทย์หนุ่มนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดเสียงเบา “ไม่หรอก... ถ้าเป็นจริงก็อาจจะดี”

“หือ? อะไรนะครับ พี่พูดเบาจังอ่ะ” ซันเอียงหูเข้าไปฟัง

รวินท์ถอนหายใจเบาๆ “ไม่รำคาญหรอก... ก็ไม่ใช่เรื่องจริงอยู่แล้วนี่”

“อ่อ ถ้างั้น ถ้าเป็นเรื่องจริงโดนแซ็วแล้วจะรำคาญมั้ยอะครับ”

“ก็อาจจะไม่นะ” รวินท์ยิ้มบาง นัยน์ตาฉายแววเศร้า หากกลับทำให้ดูฉ่ำหวานมากขึ้น เขาเท้าแขนข้างหนึ่งลงบนโต๊ะพร้อมกับหันหน้าไปประสานสายตากับเด็กหนุ่ม ท่าทางประกอบกับคำตอบนั่น เป็นผลให้คนที่นั่งด้วยกันเขินเสียอย่างนั้น “เอ้า หน้าแดงทำไม แดงไปถึงหูแล้ว” เขาเอื้อมมือไปแตะใบหูอีกฝ่ายเบาๆ

“สงสัยไม่ชินคนหล่อว่ะพี่” ซันหัวเราะแหะๆ หน้าแดงกว่าเดิมไปอีก เขายกมือขึ้นจับใบหูข้างที่รวินท์สัมผัสเมื่อครู่ รู้สึกร้อนเหมือนมีใครเอาเตารีดมานาบ “แล้ว... ที่มหาลัยพี่ไม่มีคนจิ้นพี่กับใครๆ ในคณะบ้างอ่อ”

ทันตแพทย์หนุ่มหยุดคิดชั่วครู่ ก่อนจะหลุบตาลงต่ำ “อาจจะมีแต่ผมไม่ได้สนใจ” ตอนนั้นเขาสนิทกับไอ้เต้มาก ไปไหนมาไหนด้วยกันตัวติดกันตลอด แต่เพราะพวกเขาต่างคนต่างก็มีแฟนก็เลยไม่มีใครสนใจจะมาจับคู่จิ้นกันล่ะมั้ง

ซันย้ายมือมาเกาปลายจมูก จากนั้นจึงก้มลงมองไลฟ์ในโทรศัพท์มือถือของทันตแพทย์หนุ่ม “อะ สัมภาษณ์ไอ้พิงค์พอดีเลยพี่”

เนื่องจากเสียงรอบๆ ตัวค่อนข้างดัง รวินท์จึงต้องหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบเข้ากับโทรศัพท์ เขาแบ่งข้างหนึ่งให้ซันฟังไปพร้อมกันด้วย
ภาพบนจอโทรศัพท์มือถือเป็นภาพของเด็กหนุ่มกับพิธีกรสาวสองคนบนเวทีในงาน


คำถามในช่วงแรกๆ ก็ถามถึงการตีกลองสะบัดชัย แล้วพอถึงคำถามช่วงท้ายๆ ก็เป็นคำถามพื้นฐานที่พิธีกรมักจะนำมาถามเป็นประจำ ตัวเขาเองก็เคยโดนบ่อยๆ

“น้องพิงค์มีแฟนรึยังเอ่ย สาวๆ อยากรู้กันน่ะค่ะ”

“ยังครับ” เด็กหนุ่มตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“งั้นต้องรีบถามเลยว่าสาวในสเป็กเป็นแบบไหน”

ภูพิงค์หยุดคิดไปสักพัก ก่อนจะตอบแบบกระท่อนกระแท่น “ผมไม่ได้กำหนดเสป็กตัวเองไว้ว่าต้องเป็นแบบไหน แต่ถ้าเจอคนที่ใช่ก็คือใช่แหละครับ”

“เขาว่าถ้าถามเสป็กใครแล้วได้คำตอบมาแบบไม่เจาะจง แปลว่ายังไม่มีคนที่ชอบ จริงมั้ยคะน้องพิงค์”

เด็กหนุ่มชะงักไปอีก เขาทำหน้าเครียด เพราะมีใบหน้าของใครบางคนผุดขึ้นมาในความคิด แล้วจู่ๆ ใบหน้าก็ซับสีเลือดขึ้นมาเสียอย่างนั้น “เอ่อ... ก็ไม่...”

“โอ๊ะ แบบนี้แปลว่ามีแน่เลย!” คราวนี้เสียงกรี๊ดดังทะลุออกหูฟังมาเลยทีเดียว รวินท์กับซันแทบจะดึงหูฟังออกมาไม่ทัน

เด็กหนุ่มไม่รู้จะเอาตัวรอดอย่างไรดี ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ก็เขินฉิบหาย เวลานี้เขาอยากเรียกวิญญาณของรวินท์เข้าร่าง แต่ตอนนี้ทำได้แค่หันมองล่อกแล่กไปมา สุดท้ายก็พูดโพล่งขึ้น “ผมต้องไปก่อนล่ะครับ ปวดฉี่ อั้นไม่ไหวละ” แล้ววิ่งลงเวทีไปเองอย่างรวดเร็ว


ทันตแพทย์หนุ่มกับคนที่นั่งข้างกันหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ยังดีนะที่มันพูดว่าปวดฉี่ ผมว่าจริงๆ มันคงอยากพูดว่าปวดขี้ แต่ยังเกรงใจ” ซันยกมือขึ้นกุมท้อง เขาหัวเราะจนหอบหนักๆ “พี่หมอต้องสอนมันบ้างแล้วแหละ ว่าจะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ยังไง จะปฏิเสธยังไง ช่วงนี้แม่งยิ่งมีสาวๆ แวะเวียนมาหยอดตล๊อด ต่อไปคงถี่ยิบๆ”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องรับมือยังไง แต่เขาอาจจะชอบก็ได้นะ”

“ไม่หรอกพี่” ซันกลอกตาไปมา เขาชำเลืองมองสีหน้าคนข้างกันแล้วกระแอมเบาๆ “คือ... ผมว่าคนอย่างไอ้พิงค์อะ ถ้ามันชอบใครมันจะลงมือจีบเอง”

ทันตแพทย์หนุ่มเลิกคิ้วขึ้น “โห ใครจีบก่อนไม่เอาเหรอ เล่นตัวเหมือนกันแฮะ”

“ไม่รู้ว่ะพี่ เมื่อก่อนไม่เคยเห็นใครจีบมัน มีแต่มันไปจีบเขา”

“อือ” รวินท์พยักหน้า แล้วรอฟังต่ออย่างสนใจ

“ผมเห็นเคยมันตามจีบอยู่คนสองคนแว้บๆ แล้วก็เลิก เพราะเขาไม่เอามัน โหย ตอนนี้คงเสียดายกันน่าดู”

“อืม นั่นสินะ”

“จริงๆ ผมว่ามันมีเสป็กของมันนะ แต่มันไม่กล้าให้สัมฯ หรอก เพราะมันชอบคนผอมๆ ตัวเล็กๆ แต่นมบึ้มๆ เวลาดูหนังโป๊กันนี่ มันเลือกดูแต่เรื่องที่นางเอกนมใหญ่ๆ มันว่าเซ็กซี่ดี” ซันหยุดคิด แล้วพูดต่อ “เรื่องโปรดของมันชื่อ คืนเร่าร้อนที่ออนเซ็น เผื่อพี่หมอสนใจจะหามาดูบ้าง เรื่องนี้เด็ดที่สุด ผมคอนเฟิร์ม”

“อืม ถ้าชอบนมขนาดนั้นก็ควรไปจีบแม่วัวนะ จะได้ใหญ่อลังสมใจ” รวินท์พูดพลางเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงไป จากนั้นก็เอนตัวเท้าแขนทั้งสองข้างลงบนโต๊ะ แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ “ร้อนจังแฮะ”

คนอ่อนวัยกว่าเหลือบมองทันตแพทย์หนุ่ม เขาพยายามจะพูดให้อีกฝ่ายแสดงสีหน้าอาการอะไรออกมาบ้าง แต่ดูพี่หมอจะมีชั่วโมงบินสูงเกิน ไม่หลุดอะไรออกมาให้เขาจับผิดได้เหมือนไอ้พิงค์เล้ย!

“เดี๋ยวผมไปซื้อน้ำให้”

“ไม่ต้องหรอก ผมเกรงใจ”

“ไม่เป็นไรพี่ รอแป๊บ” ซันวิ่งปรู๊ดออกไปทันที

รวินท์ยืดแขนออก  แล้วเอียงใบหน้าซบลงไปบนท่อนแขนของตน

ชอบหน้าอกโตๆ ชอบจีบเองซะด้วย เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย ไม่เข้ากับหน้าตาท่าทางซื่อๆ บื้อๆ เลยแฮะ

แต่ก็ไม่แปลกหรอกที่ผู้ชายทั่วไปจะชอบ เขาเองยังชอบเลย... มีอะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่เขาไม่รู้เลยจริงๆ

“เฮ้อ...”

ซันวิ่งกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับแก้วใส่น้ำเก็กฮวย “นี่คร้าบ”

“ขอบใจนะ”

“ผมต้องไปช่วยงานสโมฯ แล้วแหละพี่ คนกลับมาจากงานกันเยอะแล้ว”

“นั่งอีกแป๊บไม่ได้เหรอ” ทันตแพทย์หนุ่มยื่นมือออกไปคว้าข้อมือเด็กหนุ่มไว้ “เดี๋ยวค่อยไปนะ”

พอคนอ่อนวัยกว่าสบสายตากับคนที่นั่งอยู่ หัวใจก็เต้นผิดจังหวะไปชั่วครู่ เขากะพริบตาปริบๆ ในใจได้แต่ร้องโอ้โห... เขาเข้าใจไอ้พิงค์แล้วว่าทำไมมันถึงได้ตามใจพี่หมอนัก ก็ดูพี่หมอทำตากับทำหน้าเข้าดิ ใครไม่ใจอ่อนง่ายๆ ก็คงแปลกว่ะ เด็กหนุ่มจึงทรุดตัวลงนั่งเช่นเดิม พร้อมกับเบือนหน้าไปอีกทาง

“ดื่มด้วยกันป่ะ”

“ไม่ล่ะครับ” ซันตอบอย่างอ่อนใจ ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆ ก็ถูกอีกฝ่ายจับคางหมับเข้าให้แล้วจับให้หันหน้าไปหา “เย้ย จะทำไรพี่หมอ!”

“คุณทำหน้าแปลกๆ หลบสายตาผมทำไม”

“เง้อออ~ เปล๊า~”

“มีอะไรปิดบังผมแน่ๆ” รวินท์บีบแก้มของเด็กหนุ่มเบาๆ ให้อ้าปากออก

“อี๊อ๋ออะอำอะไออ้ม~” (พี่หมอจะทำอะไรพ้ม~)

“มีฟันคุดเหมือนพิงค์ใช่มั้ย”

“อ้ายอี๊~” (ม่ายมี้~) เด็กหนุ่มร้องลั่น ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงแปร๊ดอีกรอบ ก็เพราะทันตแพทย์หนุ่มโน้มใบหน้าเข้ามาซะใกล้ “อ๋อนอดแอ๊ว!” (ถอนหมดแล้ว!)

“อือ ดีแล้ว แต่ดูเหมือนจะมีฟันผุนะ ไปคณะทันตะกับพิงค์เลย จับเขาไปผ่าฟันคุดด้วย”

โห ให้เขายกช้างขึ้นดอยยังง่ายกว่าอ่ะ!

ขณะที่คุยกันอยู่ก็มีมือของใครบางคนยื่นเข้ามากั้นกลางระหว่างใบหน้าของรวินท์กับปากของซัน ตามมาด้วยน้ำเสียงกึ่งดุ “ไอ้สัสซัน มึงไปทำงานได้แล้ว”

ซันเงยหน้าขึ้นพรวด “อ้าว ไอ้สัสพิงค์ มาแล้วเรอะ” รอดแล้วกู~

ภูพิงค์หันไปทางทันตแพทย์หนุ่ม “ผมจะไปเปลี่ยนเสื้อ พี่ไปด้วยกันหน่อยดิ”

“ไม่อะ ขี้เกียจ คุณเปลี่ยนเองไม่เป็นรึไง”

“มาเหอะน่า” เด็กหนุ่มคว้าแขนอีกฝ่ายแล้วพากึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปทันที

รวินท์หันไปโบกมือให้ซัน “ขอบใจที่นั่งเป็นเพื่อนนะ”

“คะ...ครับ” ซันโบกมือตอบ ก่อนจะยกมือขึ้นเกาศีรษะ กอดอก เอียงคอแล้วขมวดคิ้ว “แบบนี้เขาเรียกว่าหึงได้ป่ะวะ”


เมื่อไปถึงห้องที่ใช้เปลี่ยนเสื้อผ้า นักแสดงส่วนใหญ่เปลี่ยนเสื้อผ้ากันไปหมดแล้วเพราะภูพิงค์กลับมาช้า ภายในห้องจึงมีเพียงแค่เขากับรวินท์เท่านั้น เด็กหนุ่มเดินดุ่มๆ ไปหยิบเสื้อผ้าที่โยนไว้บนเป้ขึ้นมาเปลี่ยน เขาถอดเสื้อออก สวมเสื้อยืดเข้าไปแทน จากนั้นก็ถอดกางเกงออกแบบหน้าด้านๆ แล้วเปลี่ยนใส่กางเกงยีน

“เปลี่ยนเองก็ได้นี่ ไม่น่าเชื่อ”

“ผมก็ใส่เสื้อผ้าเองมาเป็นสิบปีแล้วป่ะวะ”

“ถ้างั้นจะลากผมมาด้วยทำไม”

“ก็ไม่อยากให้พี่อ่อยเพื่อนผมไง”

“ผมอ่อยเมื่อไหร่”

“เมื่อกี้”

“ไม่ได้อ่อยโว้ย” พูดจบก็ยกขาเตะอีกฝ่ายไปหนึ่งที จากนั้นก็ส่งโทรศัพท์มือถือคืนให้เด็กหนุ่มด้วย “แล้วทำไมผมถึงจะอ่อยเพื่อนคุณไม่ได้”

“เพื่อนผมมันไร้เดียงสา ปล่อยมันไปเหอะ สงสารมัน มันตามพี่ไม่ทันหรอก”

แล้วก็ไม่พ้นเรื่องเดิมๆ ภูพิงค์ยังคงมองเขาเป็นคนแย่ๆ เช่นเคย

รวินท์ถอนหายใจหนักๆ วันนี้ไม่มีอารมณ์จะต่อล้อต่อเถียง เขาจึงก้าวขาตรงไปยังบานประตูห้อง

“พี่วิน” คนอ่อนวัยกว่ารั้งข้อมือทันตแพทย์หนุ่มไว้ “ไปไหน”

“ผมไม่ได้จะไปอ่อยเพื่อนคุณหรอกน่ะ”

“เราจะไปลอยโคมกันไม่ใช่รึไง”

รวินท์หันไปสบสายตากับเด็กหนุ่ม “ยังอยากไปกับผมอยู่อีกเหรอ”

“ถ้าอยากไปกับคนอื่น ผมคงไม่ชวนพี่แต่แรกป่ะวะ” ภูพิงค์พ่นลมหายใจออกมาหนักๆ เขานิ่งไปชั่วครู่ แล้วเขย่าแขนทันตแพทย์หนุ่มเบาๆ “ขอโทษ... อากาศมันร้อน เหนื่อยด้วย ผมเลยหงุดหงิดไปหน่อย”

“ถ้าคุณเหนื่อย คุณก็ควรจะกลับไปพัก”

“ผมไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้น” ภูพิงค์แก้ตัว หากอีกฝ่ายยังคงนิ่งขรึม “พี่วินอ่า อย่างอนดิวะ”

“ผมไม่ได้งอน”

“นี่แหละ งอนชัดๆ เมื่อกี้ผมปากเสีย ผมก็ขอโทษแล้วไง” คนอ่อนวัยกว่าดึงอีกฝ่ายเข้าหาตัว “เดี๋ยวพาไปกินข้าวต้มโต้รุ่งก่อนกลับ... นะ”

รวินท์ก้มหน้าหลุบตาลงมองต่ำ วันนี้เขารู้สึกว่าอะไรๆ ไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการเลย มีปัญหาตั้งแต่กับไอ้เต้ ยาวมาถึงพิงค์ เขาอยากจะกลับห้องไปนอนนิ่งๆ แล้วลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แม่งไปซะให้หมด

เด็กหนุ่มค้อมศีรษะลงเล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับคนที่ก้มหน้านิ่ง “ผมขอโทษจริงๆ นะ ให้พี่ต่อยคืนสักทีสองทีก็ได้”

“ไม่ล่ะ ขี้เกียจเจ็บมือ”

คราวนี้คนอ่อนวัยกว่าจึงจับข้อมือของทันตแพทย์หนุ่มยกขึ้นมาตบลงบนแก้มตนเองเบาๆ “นี่แน่ะ ปากเสียนัก” ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนมือจากข้อมือมากุมมืออีกฝ่ายไว้ “ดีกันเนอะ”

“คุณเป็นเด็กอนุบาลรึไงวะ” ถึงจะต่อว่าไปแบบนั้น หากก็ยังปล่อยให้เด็กหนุ่มจับมือตนเองไว้ “เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ไปกันซะทีเหอะ” รวินท์ก้าวขาออกไปอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ถูกมือที่กุมมือเขาอยู่นั้นกระตุกกลับไปอย่างแรง แต่ความซวยยังไม่หยุดแค่นั้น เขาสะดุดข้าวของที่วางระเกะระกะบนพื้นด้วย ทันตแพทย์หนุ่มจึงเซถลาเข้าไปหาเด็กหนุ่ม ก่อนจะพากันล้มลง

ภูพิงค์หงายหลังล้มตึง โดยที่รวินท์ล้มทับลงมาบนตัวเขา

“โอย” เด็กหนุ่มผงกศีรษะขึ้น “เจ็บตรงไหนเปล่าวะพี่”

“ไม่เป็นไร” รวินท์ค่อยๆ ยันตัวขึ้น “คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย”

“สงสัยจะเป็น โอย... ขยับไม่ได้เลยว่ะ” คนอ่อนวัยกว่าพูดพร้อมกับทำเป็นยกมือขึ้นเล็กน้อยอย่างไร้เรี่ยวแรงสุดๆ

รวินท์เบิกตาโพลง เขารีบจับมืออีกฝ่ายไว้ “เจ็บตรงไหน อะไรหักรึเปล่าวะ อยู่นิ่งๆ ก่อนนะ” หากเด็กหนุ่มเอาแต่ทำปากพะงาบๆ เขาจึงก้มลงไปฟัง “เฮ้ย!”

จู่ๆ ภูพิงค์ก็ยกแขนขึ้นโอบกอดทันตแพทย์หนุ่มพร้อมกับดึงลงมาทาบทับตัวเขาไว้

“ไหนว่าเจ็บไง!”

“ก็เจ็บน่ะสิ”

“แล้วจะกอดผมไว้ทำไม!”

“ผมหนาว”

รวินท์ถอนหายใจหนักๆ “มารยาชัดๆ ตกลงไม่ได้เจ็บตรงไหนใช่มะ”

“เจ็บครับ”

“เจ็บอะไร”

“เจ็บตูด” เด็กหนุ่มพลิกตัวเล็กน้อย พร้อมกับคว้ามือของคนบนร่างไปสัมผัสสะโพกตน “โอยยย~”

ทันตแพทย์หนุ่มหยิกก้อนเนื้อสะโพกนั้นอย่างแรง เป็นผลให้คนใต้ร่างสะดุ้งโหยง

“โอ้ยยย~ หมออะไรวะ รังแกคนเจ็บ”

“อื้อหือ... แน่นปั๋งเลยนะเนี่ย”

ภูพิงค์ผงกศีรษะขึ้น แล้วยักคิ้วให้ทันตแพทย์หนุ่มรัวๆ “จริงเหรอ ถ้าพี่ชอบผมจะยอมให้จับอีกทีก็ได้”

“พอแล้วเว้ย” รวินท์หัวเราะพลางขยับตัวออก หากอีกฝ่ายกระชับอ้อมแขนที่โอบกอดเขาไว้แน่น “พิงค์! ปล่อยสิวะ!” พอเขาดิ้นโวยวาย เด็กหนุ่มก็กดศีรษะเขาลงบนแผ่นอก “จะทำอะ...”

“ได้เห็นพี่หัวเราะแล้วค่อยยังชั่ว” 

ทันตแพทย์หนุ่มชะงัก “.....”

“วันนี้พี่ดูอาการไม่ดี หน้าบูดเป็นตูดแบบนี้ผมเป็นห่วงนะเว้ย”

“ผมไม่ได้เป็นอะไร...” รวินท์เกือบจะเคลิ้มไปกับคำปลอบโยนของเด็กหนุ่ม แต่เดี๋ยว... ที่นี่เป็นตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ จะมีใครซ่อนกล้องไว้รึเปล่าวะ! จะหาซีนอะไรไปเรียกแขกอีกหรือเปล่าเนี่ย “ปล่อยผมก่อน”

“ไม่ปล่อย”

“พิงค์! จะกวนประสาทผมไปถึงไหนวะ”

“ผมไม่ได้กวน แต่ผมเป็นห่วงพี่จริงๆ”

“ห่วงก็นั่งคุยกันดีๆ ก็ได้ป่ะวะ”

พอคนอ่อนวัยกว่าคลายอ้อมแขนออก รวินท์ก็ลุกขึ้นนั่งทันที

“นอนทับผมทั้งคืนก็เคยนอนมาแล้ว จะเขินอะไรวะ” เด็กหนุ่มลุกนั่งตาม ก่อนจะยกมือขึ้นขยี้เส้นผมอีกฝ่าย “นั่งพักให้รู้สึกดีขึ้นก่อน แล้วค่อยไปลอยโคมก็ได้”

“ผมไม่ได้เขินเว้ย” รวินท์พึมพำ สายตาสองคู่ประสานกันนิ่ง สักพักทันตแพทย์หนุ่มก็เป็นฝ่ายเสตาหลบไปก่อน “ดีขึ้นแล้ว”

“โกหกอ่ะ”

ภูพิงค์วางมือประกบแก้มอีกฝ่าย พลางดันให้หันมาทางตนอย่างอ่อนโยน “ขอบคุณที่พี่อุตส่าห์ฝ่าฝูงคนเข้ามาเชียร์ผมตามสัญญานะ”

“แฟนคลับของคุณช่วยน่ะสิ”

เด็กหนุ่มหัวเราะ “ผมมีแฟนคลับที่ไหนวะ เห็นมีแต่ของพี่นั่นล่ะ แล้ว... ผมตีกลองเท่ไปเลยใช่เปล่า”

“อือ”

“โห ประหยัดคำฉิบหาย กลัวอะไรที่อมไว้ร่วงเหรอวะ”

“เออ เท่ฉิบหาย เท่มากๆ เท่ที่สุดในสามโลก เท่ไปถึงอีกกาเลคซี่ เท่แบบมองจากทางช้างเผือกยังต้องทึ่งเลย พอใจยัง”

“ยังอ่า”

รวินท์เอามือยันหน้าอีกฝ่ายให้ออกห่าง “กวนประสาทว่ะ” หากคนอ่อนวัยกว่าจับข้อมือเขาไว้ทันควัน จากนั้นก็ดึงให้เขาเซเข้าไปหา “พิงค์! จะทำ...” ทันตแพทย์หนุ่มชะงัก เมื่อใบหน้าของพวกเขาอยู่ห่างกันแค่ปลายนิ้วกั้น

“ผมจะทำยังไงให้พี่วินอารมณ์ดีเหมือนทุกครั้งได้”

“ผมไม่ได้เป็นอะไร”

“งั้นก็ยิ้มให้ผมหน่อยดิ”

“ให้ยิ้มหลายๆ ทีก็ได้” พูดจบทันตแพทย์หนุ่มก็ฉีกยิ้มกว้าง “พอใจยัง”

“ไม่เอาอะ ยิ้มจริงใจหน่อยดิ”

“เรื่องมากฉิบหาย อยู่ดีๆ จะให้ยิ้มจริงจังเหมือนถูกหวย ใครจะไปทำได้วะ”

“บ่นเป็นลุงจริงๆ เลยน้า~ เฮ้อ คุยกับคนวัยทองนี่ ลำบากจังว่ะ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย วัยรุ่นตามใจไม่ทันเล้ย” ภูพิงค์ส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย

“ไอ้เด็กผีนี่! คุณจะกวน...!” รวินท์คว้าคอเสื้ออีกฝ่ายดึงเข้าหาตัว แต่ดันลืมไปว่าพวกเขาอยู่ใกล้กันนิดเดียวจึงไม่ทันได้ออมแรง แค่กระตุกนิดเดียวเท่านั้น ริมฝีปากของทั้งสองก็สัมผัสกัน เล่นเอาทั้งสองคนชะงัก แล้วผละออกจากกันทันที


“เฮ้ย!”


“โห! พี่ดึงผมเข้าไปจูบเฉยเลยอะ”

“แค่โดนนิดเดียว แบบนั้นเขาไม่เรียกว่าจูบป่ะวะ”

ทว่าคนอ่อนวัยกว่าไม่สนใจ เขาพล่ามกวนประสาทต่อไปเรื่อย “ผมก็รู้อะนะว่าวันนี้หล่อ แต่นึกไม่ถึงว่าพี่จะห้ามใจไม่ไหว แบบ...”
รวินท์ยกมือขึ้นปิดปากอีกฝ่าย “ไม่ต้องพูดแล้วเว้ย ไปๆ จะไปลอยโคมก็ไปกันสักที” จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนทันที

“ไปก็ได้” ภูพิงค์ลุกตาม เขาหันไปยกเป้ขึ้นสะพายบ่า หากพอจะออกจากห้องก็ยังยื่นหน้าเข้าไปกวนทันตแพทย์หนุ่มได้อีก “ได้จูบผมรู้สึกเป็นไงมั่งวะ”

“จะให้รู้สึกอะไรวะ แค่โดนปากเท่านั้น”

“โหย เจ็บว่ะ เย็นชาเหลือเกิน เห็นผมเป็นดอกไม้ริมทางเหรอ ไม่คิดจะรับผิดชอบเลยใช่มะ”

ไอ้เด็กเวรเอ๊ย! “เลิกพูดเล่นแบบนี้เหอะว่ะ เดี๋ยวคนอื่นได้ยินก็เข้าใจผิดหมดหรอก”

“พี่แคร์คนอื่นด้วยเหรอ”

“เออ”

“แล้วพี่ไม่แคร์ผมบ้างเหรอ”

รวินท์หยุดกึก ขมวดคิ้วอย่างงุนงง “หมายความว่าไงวะ ถ้าผมไม่แคร์คุณ คงไม่มาดูคุณแสดงป่ะวะ อุตส่าห์ขับรถมาจากลำพูนเลยนะเว้ย”

“อ่อ งั้นก็แปลว่าพี่แคร์ผมมากเลยใช่ป่ะ”

“จะถามไปให้ได้อะไรนักวะ”

“ตอบก่อนดิ แคร์มากป่ะ”

“เออ”

“แคร์มากกว่าคนอื่นด้วยป่ะ”

ทันตแพทย์หนุ่มพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ “เออๆ”

เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง “โอเค งั้นก็ไปกันได้แล้ว”


(มีต่อค่ะ)


ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


สองหนุ่มไปถึงสถานที่ลอยโคมทันเวลาที่ผู้คนเริ่มปล่อยโคมกันพอดี เด็กหนุ่มรีบซื้อโคมมา จากนั้นสองหนุ่มก็ย่อตัวลงนั่งเพื่อจุดโคม ในบริเวณนั้นมีผู้คนหนาแน่น ไม่มีไฟเปิดไว้ หากมีแสงจากเทียนเล็กๆ ละลานตาไปหมด คนที่จะลอยโคมมากันเป็นกลุ่มๆ มีตากล้องเพียบ รอบๆ ตัวพวกเขาก็กำลังวุ่นอยู่กับการจุดไฟในโคมกัน

“จับไว้คนละข้างนะพี่วิน”

“โห ลอยแล้วๆ”

“เดี๋ยวรออีกแป๊บค่อยปล่อย ใจเย็นๆ นะพี่” ภูพิงค์อมยิ้ม “ขอพรกันก่อน แล้วค่อยปล่อยมือพร้อมกันเนอะ”

“โอเค” รวินท์รีบหลับตาลง แล้วขมวดคิ้ว จะว่าไปสิ่งที่อยากขอก็มีเยอะจริงๆ แต่ที่ตอนนี้นึกออกและอยากได้มากที่สุดก็คือ... ถ้าได้มาลอยโคมด้วยกันแบบนี้ทุกปีก็คงดี อยากให้ได้อยู่ใกล้ชิดกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อลืมตาขึ้นก็ประสานสายตากับเด็กหนุ่มซึ่งกำลังจ้องมองมาทางตน “ไม่ขอของตัวเองล่ะ”

“ขอเสร็จแล้ว แต่เห็นพี่ท่าทางเครียด ท่าจะมีเรื่องขอเยอะ ผมว่าปล่อยบอลลูนน่าจะดีกว่า”

“โห ผมขอไปแค่นิดเดียวเว้ย”

“จริงอะ ไม่น่าเชื่อเลยแฮะ แล้วพี่ขออะไรอ่ะ”

ทันตแพทย์หนุ่มเสตาหลบ “ไม่รู้ ลืมไปแล้ว”

“โห ยังไม่แก่เท่าไหร่เลย ขี้หลงขี้ลืมซะแล้ว ผมเป็นใครจำได้มั้ยเนี่ย”

“จำไม่ได้ คุณเป็นใครวะ”

“พี่วินแม่งกวนตีน” เด็กหนุ่มหัวเราะ “แล้ว... ไม่ถามผมบ้างอ่อ”

“เออ ถาม”

“กวนตีนอีกแล้วว่ะ”

รวินท์ส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ “ถามก็ได้ คุณขออะไรล่ะ”

เด็กหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยน นัยน์ตาเชื่อมแสงเมื่อสบประสานกับคนที่ยืนอยู่ด้วยกัน “ขอให้ที่พี่วินขอเป็นจริง”

หัวใจของทันตแพทย์หนุ่มราวกับหยุดเต้นไปชั่วครู่ เขาเสตาหลบ พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วจึงพูดออกไป “จะปล่อยได้ยัง”

“เอานะ หนึ่ง สอง สาม!”

โคมไฟสีขาวนวลค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ปะปนกับโคมไฟอีกนับร้อย เป็นภาพที่สวยงามจนรวินท์แหงนมองอยู่นาน จนกระทั่งโคมของเขากับเด็กหนุ่มลับหายไปจากสายตา

“ลืมถ่ายรูปไปเลยแฮะ มัวแต่ตื่นเต้น”

“ถ่ายของคนอื่นละกัน หรือไม่ก็ไว้ถ่ายปีหน้า”

รวินท์หันขวับไปสบสายตากับคนพูด จากนั้นจึงยิ้มแล้วพยักหน้า “อือ”

“อืออันไหน อันหน้าหรืออันหลัง”

“อือ ก็คือ อือ ไง”

“มาๆ เอามือถือพี่มา ผมถ่ายให้” รูปแรกๆ ภูพิงค์ก็ถ่ายให้ทันตแพทย์หนุ่มโดยมีโคมยี่เป็งลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นแบ็กกราวน์ แล้วไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นดึงอีกฝ่ายเข้ามาเซลฟี่กับตัวเองซะงั้น “เดี๋ยวพี่ส่งรูปให้ผมด้วยนะ”

“ได้ แต่เอามือถือคุณขึ้นมาถ่ายด้วยดิ เผื่อไว้”

“โอเคๆ”

ถ่ายรูปกันไปพักใหญ่ ผู้คนชักจะเดินเข้ามาเบียดกันมากขึ้น เด็กหนุ่มจึงก้าวเข้าไปใช้ไหล่กระแซะ จากนั้นจึงยกแขนขึ้นโอบเอวทันตแพทย์หนุ่มไว้ “ออกไปจากที่นี่กันก่อนเหอะ ทำไมอยู่ๆ คนเยอะจังวะ”

“ตรงนั้นเสียงดังๆ สงสัยจะมีอะไร”

คนอ่อนวัยกว่าปล่อยมือออกจากเอวแล้วจับมือรวินท์ไว้แทน “จับผมไว้แน่นๆ จะได้ไม่โดนคนเบียดหาย”

“ไม่อายเขารึไง จูงกันเป็นพ่อลูกไปได้”

“คนเยอะแบบนี้ ใครจะมาสังเกต” เด็กหนุ่มหันไปตอบ “แล้วอีกอย่าง จูงแบบนี้เขาไม่เรียกพ่อลูกเว้ย เพราะพี่ยังไม่แก่ขนาดนั้น”

ทันตแพทย์หนุ่มอมยิ้มเล็กน้อย ปล่อยให้เด็กหนุ่มจูงเขาเดินไปเรื่อยๆ จนใกล้จะพ้นจากบริเวณลอยโคม

ขณะที่สาวเท้าตามคนอ่อนวัยกว่าอยู่นั้น แวบหนึ่งรวินท์หันไปเห็นใบหน้าคุ้นเคยของใครบางคน เขาหยุดกึก กระตุกเมือเด็กหนุ่มไว้แล้วหันมองไปทางนั้น

“มีอะไรเหรอพี่”

“ผมว่าผมเห็นไอ้เต... อ้าว หายไปไหนแล้ววะ” ทันตแพทย์หนุ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ

“เห็นใครพี่”

“สวัสดีค่า อุ๊ยตาย เจอหนุ่มหล่อสองคนล่ะ”

เสียงทักนั้นทำให้รวินท์รีบสะบัดมือเด็กหนุ่มออก หญิงสาวที่กำลังถือไมโครโฟนเดินตรงเข้ามาทางที่เขากับภูพิงค์ยืนอยู่พร้อมกับตากล้องด้วย เธอใส่ชุดพื้นเมือง นุ่งผ้าซิ่น ผิวขาวจั๊วะ และที่สำคัญ หน้าอกหน้าใจใหญ่ราวกับแตงโม

แต่เขาคิดว่าเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อน...

“มาลอยโคมกันสองคนเหรอคะ”

ขณะที่รวินท์กำลังครุ่นคิด คนอ่อนวัยกว่าชำเลืองมองไปทางเขา ก่อนจะตอบไป

“ครับ เพื่อนผมไม่เคยลอยโคม เลยพามา”

“เอ๊ะ คุ้นๆ คุณใช่คนที่ตีกลองสะบัดชัยของคณะวิศวะรึเปล่านะ”

“อ่า ใช่ครับ”

“ว้าย ไม่น่าเชื่อเลย ได้เจอตัวจริงด้วย” เธอโผเข้ากอดแขนเด็กหนุ่มทันที

ภูพิงค์ชะงัก ก้มลงมองหน้าอกที่เข้ามาเสียดสี จากนั้นก็หน้าแดงแปร๊ด “เอ่อ...”

ท่าทางของคนอ่อนวัยกว่าเป็นผลให้รวินท์ต้องนึกย้อนไปถึงคำพูดของซันและเตชิตทันที

...พิงค์ชอบผู้หญิงเซ็กซี่ หน้าอกใหญ่ๆ ดูท่าจะจริง

เขากับภูพิงค์เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้อยู่แล้ว เขาควรจะท่องไว้ให้ขึ้นใจ อย่าเพลินไปกับการจิ้นของคนอื่นๆ และคิดเป็นจริงเป็นจังอีก

ทันตแพทย์หนุ่มหลุบสายตามองต่ำ ความรู้สึกหน่วงๆ ในอกเช่นนี้ มันเป็นเพราะอะไร เขาก็รู้ตัวดี 

รวินท์เบี่ยงตัวหลบ สาวเท้าฉับๆ ออกจากที่ตรงนั้น ปล่อยให้เด็กหนุ่มถูกจับไปสัมภาษณ์อีกรอบตามลำพัง

เพียงครู่เดียวหลังจากที่เดินออกมา โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น ทว่าพอหยิบขึ้นมาดู เห็นว่าเป็นเตชิตโทรมา หัวใจก็กระตุกวูบ เขาจึงรีบกดตัดสายไป แล้วปิดโทรศัพท์มือถือไปเสีย

“พี่วิน!”

เจ้าของชื่อเรียกเงยหน้าขึ้น “มีอะไร” จากนั้นก็ชะงัก เพราะสีหน้าตกใจของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มหอบเล็กน้อย ดูท่าจะรีบวิ่งตามเขามา

“ทำไมจู่ๆ ก็เดินออกมาวะพี่ ผมตกใจหมดเลย”

“......”

“ไปกันเถอะ ไปหาอะไรกินกันดีกว่า เผื่อพี่จะรู้สึกดีขึ้นนะ”

“ผมไม่ได้เป็นอะไร”

“วันนี้พี่แปลกๆ อะ”

รวินท์ประสานสายตากับเด็กหนุ่ม คำพูดดูเหมือนจะจุกอยู่ในลำคอ เขาพูดอะไรไม่ออกเลย

ภูพิงค์รวบจับมือทันตแพทย์หนุ่มไว้อีกครั้ง พร้อมกับพาเดินออกไป โดยที่พวกเขาไม่ได้พูดอะไรกันอีก จนกระทั่งขี่มอเตอร์ไซค์ไปถึงร้านข้าวต้มนั่นล่ะ เด็กหนุ่มสั่งกับข้าวมากินกับข้าวต้มรัวๆ สั่งเยอะเสียจนคนที่นั่งด้วยกันต้องรีบห้าม

“นี่คุณจะกินยันเช้าเลยรึไง”

“ก็เห็นพี่วินหิว กินเยอะๆ จะได้อารมณ์ดี กินเถอะ เดี๋ยวผมเลี้ยง แค่นี้ผมเลี้ยงไหว”

“ไม่ต้องเว้ย พอแล้ว สั่งแค่นี้พอ”

หลังจากสั่งอาหารไป สองหนุ่มก็นั่งเงียบกันไปอีกครู่หนึ่ง

รวินท์ถอนหายใจหนักๆ ออกมาเป็นระยะๆ

คนอ่อนวัยกว่าชำเลืองมอง ก่อนจะเคลื่อนมือที่อยู่ใต้โต๊ะไปกุมมืออีกฝ่ายไว้ “ถ้าพี่มีเรื่องไม่สบายใจ ผมเป็นผู้รับฟังที่ดีได้นะ”

“.....”

“ผมเป็นห่วงพี่นะ ไม่เคยเห็นพี่เป็นอย่างวันนี้เลยอ่ะ”

ทันตแพทย์หนุ่มเงยหน้าขึ้น “ขอบใจ... แล้วก็ขอโทษที่ทำให้เสียบรรยากาศ”

“ไม่เสียหรอกน่ะ คิดมาก”

เมื่อพนักงานในร้านนำจานชามอาหารมาเสิร์ฟให้จนเต็มโต๊ะ ภูพิงค์จึงบีบมืออีกฝ่ายเบาๆ แล้วชวนให้กินกันก่อน “กินก่อนนะ ร้านนี้ช่วงใกล้สอบพวกผมมากินบ่อยมาก เพราะต้องอ่านหนังสือโต้รุ่ง นี่ๆ ชิมๆ” เด็กหนุ่มพูดพลางตักใส่ชามข้าวต้มให้อีกฝ่ายลอง

รวินท์ตักใส่ปากแล้วยิ้มบาง “อือ อร่อย”

“กินเยอะๆ เลยนะพี่”

เมื่ออิ่มท้องก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นอย่างที่เด็กหนุ่มว่า รวินท์ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เขาชำเลืองมองอีกฝ่ายซึ่งเพิ่งจะกินเสร็จเช่นกัน

“สั่งอีกมั้ยพี่”

“ไม่เอาแล้ว อิ่มท้องจะแตก”

ภูพิงค์ส่ายหน้าไปมา “ขนาดบ่นว่าเยอะฉิบหายยังฟาดเรียบ สมกับเป็นพี่วินจริงๆ ว่ะ”

ภายในร้านข้าวต้มมีโทรทัศน์เปิดทิ้งไว้ให้ลูกค้าดูด้วย สักพักก็มีรายงานข่าวคั่นรายการเข้ามา เสียงของหญิงสาวนักข่าวเรียกให้รวินท์หันขวับไปทางต้นเสียง เธอคือผู้หญิงคนที่มาสัมภาษณ์ภูพิงค์เมื่อครู่ แต่เธอโผล่มารายงานข่าวแค่แป๊บเดียวเท่านั้น

“ไม่เห็นมีที่ถ่ายกับคุณเลยว่ะ”

“พูดแค่สองสามคำเขาคงไม่เอาไปออกทีวีให้เปลืองเวลาหรอกพี่ อีกอย่าง... ผมมัวแต่...”

รวินท์เห็นท่าทางอึกอักของเด็กหนุ่มแล้วหัวร้อน แต่ก็ยังรักษาสีหน้าให้คงเดิม “ทำไม มัวแต่เขินรึไง”

“เขินอะไรวะ ผม...มัวแต่ห่วงพี่นั่นแหละ จู่ๆ ก็เดินหนีไป ผมก็เลยรีบวิ่งตามอะดิ ตกใจหมดเลย”

“...ตกใจทำไม”

“แล้ว... พี่เดินหนีไปทำไมล่ะ”

รวินท์ขมวดคิ้ว แล้วโกหกออกไป “เห็นคนหน้าคุ้นๆ เลยเดินไปดู”

“งั้นเหรอ...” คนอ่อนวัยกว่าทอดถอนใจ “ค่อยยังชั่ว ผมนึกว่าทำอะไรให้พี่โกรธซะอีก”

ทันตแพทย์หนุ่มเม้มปากอยู่ชั่วครู่ คล้ายกำลังชั่งใจ เขาเบือนหน้าหนีก่อนจะพูดขึ้น “จะว่าไป นักข่าวคนนั้น...”

“ทำไมเหรอ”

“ตัวเล็ก สวย อกใหญ่ด้วย แบบที่คุณชอบเลยนี่นะ”

ภูพิงค์สะดุ้งโหยง “เฮ้ย! ไปเอามาจากไหนวะพี่!”

“เพื่อนคุณบอก”

“ไอ้เหี้ยซันเหรอ!”

“ไม่ต้องทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผีก็ได้เว้ย มันก็เรื่องปกติของผู้ชายไม่ใช่รึไง”

เด็กหนุ่มอ้ำอึ้ง เขาถอนหายใจหนักๆ อีกหลายๆ รอบ ก่อนจะพูดเสียงเบา “อือ ก็คงงั้นมั้ง”

คำพูดนั้นทำให้รวินท์ต้องหันหน้ากลับไปหาอีกฝ่าย แล้วสายตาของพวกเขาก็ประสานกัน หากไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก


*TBC*


วรั้ยยยย~ งี้แหละฟามรัก มันก็มีหวานๆ ขมๆ ปะปนกันไปนะพี่หมอน้องพิงค์ อิอิ

ต่างคนต่างก็มีใจให้กันแหละเนอะ แต่มันติดตรงคำว่า พี่น้อง เพื่อนและผู้ชาย น่ะจิ๊

ให้เวลาสองหนุ่มสับสนนิดนึงละกันนะคะ  :impress2:

ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากค่ะ จุ๊ฟฟฟ  :mew1:



ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1095 เมื่อ05-02-2018 14:28:13 »

มาต่ออีกน่ะ  ติดตามอยู่น่ะ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1096 เมื่อ05-02-2018 14:30:35 »

โหยยยพี่วิน นอยด์แหลกราน 

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1097 เมื่อ05-02-2018 14:31:08 »

พี่วิน น้องพิงค์ สับสนกันได้แต่อย่านานน้า
คนอ่านมันใจบ่ดี อยากให้เข้าใจกันเร็วๆจัง :hao5:

ออฟไลน์ อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1098 เมื่อ05-02-2018 14:42:24 »

ขอบคุณที่มาต่อจ้า ยิ่งยาวๆแบบนี้ยิ่งชอบ o13 o13

ปล.แต่เนื้อเรื่องอืดๆนะ ตอน26แล้วยังไปไม่ถึงไหนเลยอะ :o10: :o10:
แต่ยอมรับว่าสนุกค่ะ :a3: :a3:

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1099 เมื่อ05-02-2018 14:47:08 »

น้องพิงค์จูงมือพี่หมอวินข้ามเส้นแบ่งไปให้ได้นะ เหมือนพี่หมอรู้ใจตังเองแล้วด้วย เหลือแต่พิงค์ที่ยังไม่ยอมรับ ถ้านานไปพี่หมอวินนอยด์แน่ๆ แล้วจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ หึหึ :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
« ตอบ #1099 เมื่อ: 05-02-2018 14:47:08 »





ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1100 เมื่อ05-02-2018 14:49:52 »

แอบเขินเบาๆเค้าไปลอยโคมด้วยกันค่ะแม่ :katai2-1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1101 เมื่อ05-02-2018 15:11:11 »

พี่วินรู้ใจตัวเองและยอมรับความรู้สึกที่มีต่อน้องแล้ว เหลือน้องเนี่ยแหละจะยังไง
มีความม่าเบาๆ ทั้งเรื่องหมอเต เรื่องสเป็กสาวที่ภูชอบจนทำให้พี่วินหน่วงในใจ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1102 เมื่อ05-02-2018 15:29:09 »

มันไม่ฟินเลย ถึงจะมีฉากหวานๆ แต่ต่างคนต่างคิดอะ ต้องจับเข่าคุยกันแล้วจ้า  :hao4:
 :L2:  :pig4:  :L2:

ออฟไลน์ ▲TEACHCHY▼

  • ★ U can call me TEACH ★
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1103 เมื่อ05-02-2018 16:00:23 »

 ผ่านช่วงสับสนไปให้ได้นะหนุ่มๆ
เอาใจช่วย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1104 เมื่อ05-02-2018 16:16:59 »

โอ๊ยยยยย พี่วินมีนอยด์

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1105 เมื่อ05-02-2018 16:17:24 »

อยากให้สองคนนี่เปิดใจกันเร็วๆ

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1106 เมื่อ05-02-2018 16:53:57 »

โอ้ยยย ลุ้นเมื่อไหร่จะเข้าใจกันว่ามีใจเหมือนกันนะจ๊ะ555  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Plavann

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1107 เมื่อ05-02-2018 17:30:55 »

โธ่ซัน ปากหาเรื่องมากอ่ะ  :katai1:
แทนที่จะช่วยกลับทำให้เรื่องแย่ลงไปอีก ก็ขอภาวนาให้มีเหตุการณ์พูดเปิดใจกันเร็วๆนะ คนเชียร์อกจะแตกแล้ว

ออฟไลน์ ก้มหน้าก้มตา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1108 เมื่อ05-02-2018 17:31:47 »

 :z2:
หมดเวลาลังเล
จับบอกรักกัน
รักกันไปเลยค่ะ
อิ้วววววววววววว

ลุ้นจนเยี่ยวเล็ดแล้ว

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: ภูสอยเดือน [Chapter 26 : ลอยโคม][050218]
«ตอบ #1109 เมื่อ05-02-2018 17:54:23 »

 :serius2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด