*-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86  (อ่าน 633922 ครั้ง)

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
รอค่าาาา คิดถึงเพลิงแมนแล้วค่ะ :katai2-1:

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
มารอๆ  :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ Pithchayoot

  • พิชญ์ชยุตม์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
หมอปราการนีีคือกุญแจสำคัญของเรื่องป่ะฮะ 


ลุ้นๆๆๆ

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
งื้อออ มามั้ยน้อ :katai5:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :really2: รอ ร๊อ รอ ... :katai5:  :katai5:

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Internal Love

ตอนที่ 28

Some just want everything,

But everything means nothing, If I ain't got you.

 

 

 

 

 

 

            “ป๋าปล่อยหลินไปเถอะ  ป๋าขังหลินเอาไว้แบบนี้ไม่ได้นะ  ป๋า....กี้  พี่รู้ว่าเธออยู่ข้างนอกห้อง  ช่วยพี่ด้วยกี้  พี่อยู่ที่นี่ไม่ได้จริงๆ”  หญิงสาวยกมือขึ้นทุบประตูแรงๆพลางทรุดลงไปนั่งที่พื้น  น้ำตาไหลอาบแก้มสะอื้นจนตัวโยน  “กี้  ...ป๋า  มันไม่ใช่อย่างนั้นจริงๆ”

            “จะบอกว่าไม่ได้ท้องหรือยังไง  หลิน  ป๋าผิดหวังในตัวของหลินมาก  อายชาวบ้านเขาจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว  เลี้ยงลูกยังไงให้ท้องป่องได้  อุตส่าห์เรียนสูงจบมาเป็นหมอแต่เรื่องง่ายๆอย่างรักนวลสงวนตัวกลับทำไม่ได้  โบราณเขาบอกว่ามีลูกสาวก็เหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน  ไม่นึกเลยจริงๆ”  เสียงบิดาดังอยู่หน้าประตู

            “ป๋าฟังหลินก่อน  หลินไม่ได้ท้องไม่มีพ่อ...”

            “จนเดี๋ยวนี้ยังจะพูดแบบนี้อีก  อ้ายผู้ชายคนนั้นมันก็พูดอยู่ว่ามันไม่ยอมรับลูกในท้อง  แค่นี้ป๋าก็อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีแล้ว  มันยังบอกอีกนะว่าถ้าจะยัดเยียดลูกให้มันเป็นพ่อ  มันก็จะรับเลี้ยงเพราะเห็นแก่มนุษยธรรม  ไอ้หมอนั่นมันหยามขนาดนี้แล้ว  ยังจะหวังอีกเหรอ”

            “ให้หลินออกไปคุยกับเค้าอีกครั้ง  นะป๋า  ให้หลินได้คุยกับเค้าอีกที”

            “ไม่ต้องแล้ว  อยู่ข้างในนั้นแหละ”  บิดาตวาดเสียงลั่น  “สงบสติอารมณ์ในห้องไป  คิดได้เมื่อไหร่ก็ค่อยออกมา  อย่าออกมาฟูมฟายแบบเมื่อกี้อีก  ป๋าไม่ชอบ”

            “ป๋า  เดี๋ยวก่อนสิ  อย่าเพิ่งไปค่ะ  ป๋า”  หญิงสาวร้องไห้จนหมดแรง  ผู้ชายคนที่เธอรักกลับผลักไสเธออย่างไม่ไยดี  แม้เธอจะตั้งท้องลูกของเขาอยู่ก็ตาม

            เกวลินใช้เวลานอนนิ่งๆอยู่บนเตียงอย่างนั้นทั้งวันทั้งคืน  เธอเอาแต่นอนมองเพดาน  ไม่พูดไม่จากับใคร  ยอมกินก็ต่อเมื่อโดนบังคับเท่านั้น  แม่เลี้ยงไม่เคยเข้ามาดูเธอเพราะถือว่าไม่ใช่ธุระ  มีแค่น้องสาวคนละแม่อย่างกิรณาที่คอยเอาอาหารมาให้บ้าง  แต่ก็ทำอย่างเสียไม่ได้

            ผ่านไปเกือบอาทิตย์คนเป็นพ่อก็ยอมใจอ่อนให้เธอออกจากห้องนั้น  น้ำตาของบิดาที่เห็นลูกผอมซูบโทรมยิ่งทำให้ความทุกข์ในใจของคนเป็นลูกทับทวีขึ้นอีก  ทว่าเกวลินก็ไม่ได้แสดงออกให้เห็น

            “คิดได้แล้วใช่มั้ย”  บิดาถามเสียงอ่อนลง เบือนหน้าไปทางอื่นที่ไม่ใช่ใบหน้าของบุตรสาว  “นั่งลงก่อน  กี้ไปหาอะไรอุ่นๆมาให้พี่เขากินหน่อย”

            เกวลินทรุดลงไปนั่งพับเพียบที่พื้น  ครรภ์สาวทำให้แทบมองไม่เห็นความผิดปกติ

            “ทำไมไม่ขึ้นมานั่งข้างบน”

            “ลูกขอโทษ”  หญิงสาวก้มลงกราบแทบเท้าของบิดา  ขอบตาร้อนผ่าวทว่าฝืนกลั้นเอาไว้ไม่ให้น้ำตาไหลออกมา  “ที่ผ่านมาลูกเป็นคนผิดเอง  ขาดสติ  ขาดความยับยั้งชั่งใจเลยทำให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียต่อครอบครัวขึ้น”  เธอกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก “ลูกได้คิดทบทวนดีแล้ว  มองไม่เห็นทางอื่นนอกจากคงต้องเก็บลูกคนนี้เอาไว้”

            “บ้าหรือเปล่า”  พ่อของเธอหันขวับมามอง  “พ่อมันก็ไม่มี  แต่งงานก็ไม่ได้แต่ง  แล้วยังจะ....ยังจะ...”  บิดาหน้าแดงก่ำ  “รู้หรือเปล่าว่าเลี้ยงลูกคนนึงมันลำบากยากเข็ญขนาดไหน  แล้วนี่ยังจะทู่ซี้อีกเรอะ”

            เธอก้มหน้าลง

            “รู้ค่ะ  แต่ว่า...เขาก็เกิดมาแล้ว   เป็นลูกของหนู  หลานของป๋า”

            “กูไม่มีหลาน”  ชายวัยกลางคนตวาดแล้วก็เสียงอ่อนลง  “หลิน...ป๋าเคยขอร้องหลินแค่ครั้งเดียวคือเป็นหมอให้ป๋าชื่นใจเท่านั้น  ครั้งนี้ป๋าขออีกครั้งได้หรือเปล่า  อนาคตของหลินยังอีกไกล  จะมาทิ้งไปเพราะเลือดก้อนเดียวที่ไม่ได้เกิดจากความรักของทั้งสองฝ่ายงั้นหรือ  หลินไม่สงสารลูกที่จะเกิดมาหรอว่าเขาจะต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่เกิด”

            “แต่เขาก็มีแม่  มีป๋า  มีอา....”

            “จะนับญาติยังไงก็นับเถอะจ้ะแม่หลิน  แต่อย่านำฉันไปนับด้วยเลยนะขอที  เรื่องฉาวๆแบบนี้ฉันไม่ถนัด  ไม่ค่อยอยากเกี่ยวข้องด้วยหรอกจ้ะ”  เสียงแม่เลี้ยงนำมาก่อนตัวเสียอีก  หญิงวัยกลางคนที่ยังดูสวยพริ้มเพราไม่น้อยเดินนวยนาดเข้ามาในห้อง  “เป็นอย่างไรบ้างล่ะ  ออกจากห้องแล้วเหรอ”

            “คุณอย่าเพิ่งเข้ามาเลย  ผมคุยกับลูกเอง”  ป๋าขัดขึ้นเสียงแข็งกว่าทุกครั้ง

            “คุณล่ะก็ใจอ่อนทุกที  จนเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ยอมทำอะไรเด็ดขาด  นี่เรามีลูกสาวสองคนนะคะเผื่อจะลืม  คนพี่ฉาวขนาดนี้  คนน้องก็เลยพลอยโดนมองในแง่ลบไปด้วย  ฉันล่ะสงสารเจ้ากี้จริงๆ  ไปไหนก็มีแค่คนถามเรื่องพี่สาว”

            “เดี๋ยวผมค่อยจัดการเรื่องกี้  คุณออกไปก่อน”

            แม่เลี้ยงของเธอยิ้มมุมปาก  ยอมเดินออกไปจากห้อง

            “กลับมาเรื่องของเรา  ยังไงป๋าก็ไม่ยอมให้อุ้มท้องต่อหรอก  จะทำยังไงก็ได้  เป็นหมอก็ต้องรู้วิธีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ   จะปล่อยเอาไว้ให้ขายขี้หน้าเขาทำไม”  ลูกสาวอ้าปากจะเถียง  คนเป็นพ่อเลยตัดบท  “ไม่มีแต่  ไม่งั้นก็ไม่ต้องกลับมาเจอหน้ากันอีก  ตัดขาดกันแค่นี้”

            หญิงสาวเดินออกมาจากห้องนอนของพ่อ  ประจันหน้าเข้ากับน้องสาวที่ยืนพิงราวบันไดอยู่  เด็กสาวมองหน้าเธอแล้วยิ้มมุมปากคล้ายคลึงกับมารดาของตน

            “มีอะไรหรือเปล่า”

            “จะเปิดเทอมแล้ว  ป๋ากับแม่ยังไม่ได้ให้ค่าเทอมมาเลย  ครูบอกถ้าไม่มีไปจ่ายพรุ่งนี้จะไม่ให้เรียน”  กิรณาพูดห้วนๆ  “พี่ส่งเงินให้ป๋ากับแม่หรือยังเดือนนี้”

            “ยัง  พี่ยังไม่ได้ไปทำงานเลย”  เธอตอบแผ่วเบา

            “งั้นมีอยู่เท่าไหร่  เอามาให้ก่อนก็ได้  แล้วค่อยมาให้เพิ่ม”  เด็กสาวแบมือยื่นมาตรงหน้า  ดูจะไม่สังเกตเลยด้วยซ้ำว่าพี่สาวเริ่มหน้าซีดลงทุกที  “เร็วๆสิพี่หลิน”

            “เดี๋ยวก่อน..”  หญิงสาวก้มลงเปิดกระเป๋าของตัวเองเพื่อนับธนบัตรออกมา  อาจเป็นเพราะก้มหน้าอยู่หรือไม่ก็เพราะความเหนื่อยเพลียไม่มีแรงเลยทำให้เกิดหน้ามืด  ภาพขั้นบันไดตรงหน้าเป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอเห็นพร้อมกับเสียงหวีดร้องของผู้หญิง

            ความเจ็บแปลบปลาบไปทั่วทั้งตัวจู่โจมทำเอาหลินขยับตัวแทบไม่ไหว  เธอเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างยากลำบาก  แสงไฟเพดานกระทบเข้าตาเป็นอันดับแรกพร้อมกับเสียงพูดคุยของคนรอบตัว  หลินทบทวนเหตุการณ์อยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนโซฟาภายในห้องรับแขกชั้นล่างที่บ้านนั่นเอง

            “ฟื้นแล้วหรือ  ทำตกอกตกใจกันหมด  ไปยืนทำไมแถวบันได  ดูซิเป็นลมเป็นแล้งตกลงมาตั้งกี่ขั้น”  มารดาเลี้ยงพูดขึ้น  “ดีนะไม่หัวร้างข้างแตกให้เดือดร้อนหนักขึ้นไปอีก”

            “เด็กมันก็เจ็บจะแย่แล้ว  เลิกพูดเสียทีเถอะน่ะคุณ  จะไปโรงพยาบาลไหม ป๋าจะเรียกรถไป”

            “วุ้ย  ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะกะอีแค่ตกบันได  อย่างมากก็แท้งลูก  ดีเสียอีกจะได้ไม่ต้องมานั่งเถียงกันว่าจะทำยังไงต่อ”  หญิงวัยกลางคนยังพูดแทรกมาอีก

            บิดาขมวดคิ้ว

            “หลินไหวไหม  ถ้าไม่ไหวป๋าจะเรียกรถ”

            “ไหวค่ะ  ไม่ได้เป็นอะไรมาก”  หญิงสาวตอบ  ปวดร้าวไปหมดทั้งเชิงกราน  “หลินจะกลับไปเอาของที่หอก่อนแล้วจะกลับมาบ้าน”

            “ของอะไร  ให้น้องไปเอาก็ได้”

            “เจ้ากี้ต้องไปเรียนกวดเพิ่มวันนี้ค่ะ  คงไม่มีเวลาไปเอาของพี่สาวหรอก”  แม่เลี้ยงขัดเนิบๆ  “แต่ถ้าไปไม่ไหวจริงๆเดี๋ยวฉันไปเอาให้ก็ได้”

            “ไม่เป็นไรค่ะ  หลินไปไหว  แค่ของไม่กี่อย่าง  จะได้ทำเรื่องลาที่โรงพยาบาลด้วย”

            “แค่ลาเองเหรอ  ลาออกไปเลยดีกว่ามั้ง”

            “คุณหยุดพูดทีเถอะ”  บิดาหันไปบอกฝ่ายนั้น  “แต่ป๋าเห็นด้วยกับแม่เขาว่าควรลาออกไปเลย  ลูกคนเดียวป๋าเลี้ยงได้”

            “อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะมันกระดากปาก  ใครเลี้ยงใครกันแน่  บ้านนี้ก็บ้านฉัน  มาก็มาแต่ตัว”

            “คุณวลีพร!”

            เธอยักไหล่ยอมหยุดพูด

            “ลาออกแล้วก็กลับมาอยู่ที่บ้าน  ส่วนเรื่องนั้น”  พ่อกวาดตามองที่กลางท้องของบุตรสาว  “เดี๋ยวพ่อจะไปติดต่อเพื่อนที่อยู่ทางใต้ดู  คนละจังหวัดคงไม่มีเรื่องครหากันอีก”

            บิดาพูดมาอีกหลายคำแต่หลินแทบไม่ได้ยินแล้ว  เธอกลับออกมาจากบ้านหลังนั้นด้วยความเจ็บปวดทั้งทางกายและทางใจ  ความรู้สึกที่เหมือนคนไร้ค่า  ไม่มีความหมายอะไรกับใครค่อยๆไหลรินเข้ามาในเนื้อหัวใจราวกับน้ำซึมบ่อทราย  หรือไม่บางทีมันก็อาจจะมีอยู่นานแล้วเพียงแต่เธอไม่ได้สังเกตเห็นมาก่อน

            ขับรถกลับมาถึงแฟลตแพทย์ได้อย่างไรเธอก็จำไม่ได้  ทุกก้าวที่เดินขึ้นบันไดเหมือนเดินอยู่บนหินกรวดร้อนๆบาดเท้า  ความปวดหนึบร้าวจากท้องน้อยลงไปที่สะโพกและขาทั้งสองข้างราวกับช่วงเอวจะหลุดออกจากกัน  เธอกัดฟันฝืนพยุงตัวเกาะราวบันได้เดินต่อขึ้นไปจนถึงชั้นสาม

            ผู้ชายคนหนึ่งยืนพิงประตูห้องของเธอราวกับรออยู่ก่อนแล้ว...

            ...................................................................................

            “แมน   ตื่นหรือยังเมืองแมน  ทำไมนอนขี้เซาขนาดนี้  แปดโมงกว่าแล้วนะ”  เสียงคนตะโกนพร้อมกับทุบประตูดังๆทำให้เมืองแมนสะดุ้งเฮือก  ความรู้สึกเหมือนเพิ่งผุดขึ้นจากน้ำแล้วเจอเข้ากับอากาศที่บริสุทธิ์  เสื้อของเขาเปียกชุ่มจนถึงที่นอน  หัวใจยังเต้นแรงอยู่กับสิ่งที่ได้พบเมื่อครู่นี้

            “ตื่นแล้วๆ  เข้ามาสิ”

            “เข้าไม่ได้  ประตูล็อค”  คนข้างนอกตอบกลับมา  เมืองแมนขมวดคิ้ว  เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเผลอล็อคประตูหรือเปล่า  ชายหนุ่มลุกจากเตียงเดินไปเปิดประตูห้อง

            คนตรงหน้าก้มลงสวมกอดเขาเอาไว้ทั้งตัว  กระซิบข้างหู

            “ตกใจหมดนึกว่าเป็นอะไร  เรียกตั้งนาน  เกือบพังประตูเข้าไปแล้วนะ”

            เมืองแมนยกมือขึ้นลูบหลังไหล่กว้างนั้นเบาๆ  ดูจากสภาพที่เห็นแวบเดียวก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้นอนมาทั้งคืน

            “นอนเพลินไปหน่อย  ไม่มีอะไรหรอก”  เขาเลือกจะเก็บเรื่องน่าจนลุกเมื่อคืนเอาไว้ก่อน เพราะยังไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องพลอยตกใจจนไม่ได้นอนพักไปด้วย  “ไปอาบน้ำก่อนสิ  จะได้มานอน”

            “นอนอะไรเล่า  จะต้องไปออกตรวจโอพีดีต่อ(ตรวจคนไข้นอก)”  เพลิงกัลป์พูด  ฝังจมูกลงกับซอกคอก่อนจะขมวดคิ้ว  “เมื่อคืนนอนไม่เปิดแอร์หรอ  ทำไมเหงื่อแตกเยอะจัง”

            “ตัวเหม็นเหรอ”  เมืองแมนเงยหน้าขึ้นถาม  อีกฝ่ายก้มลงงับใบหูเขาเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว

            “แบบนี้ต้องดมพิสูจน์ทั้งตัว”  พูดจบก็แกล้งฝังทั้งปากทั้งจมูกไปทั้วทั้งใบหน้าและซอกคอของคนในอ้อมแขน  เมืองแมนหัวเราะดิ้นขลุกขลัก  พยายามหนีอย่างไม่จริงจังนัก  ความรู้สึกหน่วงหนักในใจที่ติดมาจากเมื่อคืนจางหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่

            กว่าเพลิงกัลป์จะไปอาบน้ำแต่งตัวได้  เมืองแมนก็หัวเราะจนเหนื่อยเพราะความจักจี้  เขาเปิดตู้เย็นลงมือทำแซนวิชแบบง่ายๆ ใส่จานเอาไว้กะว่าจะให้อีกคนทานเป็นอาหารเช้า  เหลือบไปเห็นเสื้อกาวน์สั้นที่ฝ่ายนั้นถอดพาดเอาไว้ตรงเก้าอี้ก็เลยเดินไปหยิบมาสะบัดออก  เหรียญกับเศษกระดาษใบเล็กๆร่วงลงมาที่พื้น  ชายหนุ่มก้มลงเก็บพลางจุ๊ปาก  เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของเพลิงกัลป์

            “เป็นเด็กไปได้  ทำไมไม่เก็บให้เรียบร้อย”  เขาวางเหรียญพวกนั้นเอาไว้บนโต๊ะข้างๆกับกุญแจรถ  สายตามองไปเห็นกองเสื้อในตะกร้ามุมห้องที่วางสุมเอาไว้  เขาถอนหายใจเฮือก  เดินไปอุ้มเสื้อผ้าพวกนั้นออกมารวมกันเตรียมส่งซักรีด  ค้นได้ธนบัตรกับเศษเหรียญติดอยู่ในกระเป๋าอีกนิดหน่อย

            “ทำอะไรอยู่”  รูมเมทคาดผ้าเช็ดตัวผืนเดียวตามสไตล์ออกมายืนเช็ดผมหน้าห้องน้ำ  มือก็คว้าแซนวิชในจานเข้าปากเคี้ยวไปด้วย

            “ส่งเสื้อซักน่ะสิ  ทำไมหมกเอาไว้เป็นกองๆแบบนั้นล่ะ  ของข้างในก็ไม่เคลียร์ออก  ดูดินี่ล้วงได้ออกมาเป็นกำมือเลย”  เมืองแมนส่งเหรียญในมือให้ดู

            เพลิงกัลป์คว้ามืออีกข้างของเขาเอาไว้แล้วไปจับที่กลางตัว

            “ลองล้วงนี่ดีกว่า  เต็มกอบเต็มกำเหมือนกัน”

            เมืองแมนหน้าแดง  ชักมือออก  พูดเสียงห้วนแบบไม่มองหน้า

            “คิดแต่เรื่องแบบนี้  ไปแต่งตัวได้แล้ว  ใจคอจะแก้ผ้าไปทำงานหรือไง”

            “ถ้าทำกับเมืองแมนก็ว่าจะแก้นะ”

            “ยังจะเล่นอีก”   เมืองแมนเริ่มเสียงเขียว  อีกฝ่ายเลยยอมถอยกลับเข้าไปในห้องของตัวเองโดยดี

          เช้าวันนั้นเขากับเพลิงกัลป์มาทำงานพร้อมกัน  สายตาของคนในโรงพยาบาลที่มองมาทำเอาเมืองแมนประหม่าไม่น้อย  เขาขยับออกห่างจากคนข้างๆโดยไม่รู้ตัว  ทว่ามือใหญ่กลับคว้ามือของเขามากุมเอาไว้แล้วบีบเบาๆ

            “เป็นอะไรไป”

            “ปล่อยน่า  เดี๋ยวคนเห็น”  เมืองแมนกระซิบตอบ

            “เห็นก็ช่างประไร  ดีออกเขาจะได้รู้ๆกันไปเลย  ไม่ต้องมานั่งซุบซิบกัน”  อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยท่าทางไม่เดือดร้อน

            “นี่เวลาทำงาน  อย่ามาทำรุ่มร่าม”

            “จับมือเรียกว่ารุ่มร่ามหรอ”

            “..........”  กำลังจะกระแทกเสียงว่าใช่น่ะสิ  อีกฝ่ายก็ชิงก้มลงมาหอมแก้มเขาเร็วๆเสียก่อน  เมืองแมนเบิกตากว้าง  รีบมองรอบตัวลอกแลก  ครั้นพอไม่เห็นใครก็ค่อยถอนหายใจยาว  แอบหยิกเอวของคนข้างตัวไปแรงๆจนเพลิงกัลป์สะดุ้ง

            “นิดหน่อย  กำลังใจก่อนทำงาน”

            “เมื่อกี้ก่อนออกจากห้องก็ทีนึงแล้วไง”  คนพูดหน้าร้อนผ่าว  ก้มหน้าพูดกับปลายเท้าตัวเอง

            “มันพอทีไหนเล่า  ไม่เชื่อถามลูกดูสิ  หอมแม่แล้วยังไม่ได้หอมลูกเลย”

            “อย่าเชียวนะ”  เมืองแมนรีบห้าม  “ใครมาเห็นเข้าโดนด่าตาย”

            “ตายเป็นตาย”  เพลิงกัลป์พึมพำ  อาศัยทีเผลอเลิกเสื้อของเมืองแมนออกแล้วก้มไปแตะริมฝีปากเข้าที่หน้าท้องกลมนูนนั้น  เมืองแมนตาเหลือกรีบดันศีรษะอีกคนออก  พูดเสียงดัง

            “บ้าแล้ว  ทำอะไรเนี่ย เดี๋ยวคนเห็นก็แย่หรอก”

            “คนที่ไหน  แถวนี้ไม่มีใครเดินผ่านหรอก”  คนผิดยิ้มกว้างอย่างสบายอารมณ์  กวาดตามองบริเวณมุมตึกที่ปลอดคน  “ปลอดภัยหายห่วงครับ  แหม...ไม่ได้สะเพร่าหรอกน่า  ระวังตัวจนประสาทจะกินแล้ว  กว่าเจ้าตัวเล็กจะคลอดออกมาผมพ่อคงหงอกไปหลายเส้น”  ชายหนุ่มพูดพลางถอนหายใจยาว  รอยยิ้มจางลง  “เมืองแมน  กูไปคุยกับอาจารย์คมศักดิ์แล้วนะเรื่องจะขอลาหยุด   อาจารย์แนะนำว่าให้ไปคุยกับผอ.เลย”

            “กูไม่อยากหยุดเลย”  เมืองแมนพึมพำ  รู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีทางเลี่ยง

            “แต่กูอยาก” เพลิงกัลป์พูด  “ทำงานทุกวันเหนื่อยขนาดนี้จะไปมีเวลาพักผ่อนดูแลลูกได้ยังไง  ไม่ต้องห่วงเรื่องใช้ทุนหรอก  เงินเราก็มีเอามาแลกกับสุขภาพของลูกกับของมึงมันไม่คุ้มกัน  ส่วนกูก็ฝืนทำงานต่อไม่ไหวแล้ว  ไม่มีกะจิตกะใจจะทำ  เอาแต่เป็นห่วงมึง”

            เมืองแมนหลบตาคมเข้มคู่นั้น

            “เดี๋ยวบ่ายนี้กูว่าจะขอเข้าพบผอ.  นัดกับคุณเลขาฯเอาไว้แล้วน่าจะได้พบอยู่  มึงไปเจอที่ห้องผอ.เลยได้ไหม”

            “ก็ได้”  เมืองแมนพยักหน้า  “ยังไงมันก็ไม่มีทางอื่นแล้วนี่นะ”

            วันนั้นเมืองแมนตั้งใจทำงานเต็มที่  ความรู้สึกว่าจะไม่ได้ดูแลรักษาคนไข้  ไม่ได้ทำงานต้องกลับไปนั่งๆนอนๆอยู่บ้านเฉยๆทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย  สังหรณ์คล้ายกับว่าชาตินี้เขาจะไม่ได้ตรวจคนไข้อีกแล้วงั้นแหละ

            บางทีเขาก็คิดมากเกินไป....เอาไว้คลอดแล้วค่อยกลับมาทำงานต่อก็ยังไม่สาย  ถึงอย่างไรอาชีพแพทย์ก็เป็นอาชีพที่เขาอยากทำไปจนแก่

            “หล่อมาก  หล่อจนอยากจะเห็นหน้าสมัยหนุ่มๆ”  เสียงคุณพยาบาลซุบซิบดังขึ้นด้านหลัง  เมืองแมนขมวดคิ้ว  ใจประหวัดไปถึงหน้าของใครอีกคนที่เป็นรูมเมททันที

            “แหม  นี่ยังไม่หนุ่มอีกเหรอจ้ะ  รุ่นเดียวกับหมอคริสไม่ใช่เหรอ”

            “ฉันหมายถึงหนุ่มน้อยแบบเพิ่งจบมาใหม่ๆน่ะ  นี่มีรอยตีนกาเสียแล้วสิ  ถึงจะยังหล่ออยู่ก็เหอะ”

            “เขาเรียกรอยประสบการณ์ย่ะ  ฉันว่าผู้ชายวัยนี้สิกำลังดูดีมีเสน่ห์  เฮ้อ  คนอะไร  นี่ถ้าอายุเท่าหมอเพลิงฉันก็ว่าหมอเพลิงแพ้ราบนะ”

            “เกินไปๆ  เขาหล่อกันคนล่ะแบบ  อย่างหมอเพลิงเนี่ยเขาหล่อคมๆเข้มๆดูแบดบอยหน่อยๆ  แต่คุณหมอปราการเขาหล่อแบบคุณชายกลาง”  คุณพยาบาลทอดเสียง  ทำเอาคนแอบฟังชักอยากเห็นหน้าคนที่ถูกกล่าวถึงเสียแล้วสิ

            “เธอพูดก็จริง  แต่แหมไปเทียบกับคุณชายกลางเนี่ยเขารู้อายุเลยนะยะ  ต้องเทียบกับ...เอ่อ...คุณชายจุฑาเทพสิ  เนี่ยเข้ากลุ่มกับหมอคริสพอดีเลย”

            เมืองแมนไม่ได้อยู่นั่งฟังต่อ  ถึงเวลาที่เขาจะต้องไปพบกับเพลิงกัลป์แล้ว  ชายหนุ่มรีบลุกเดินออกมาจากวอร์ดตรงไปยังตึกอำนวยการที่อยู่ด้านหน้าสุดของโรงพยาบาล  วางหน้าเฉยแม้จะรู้สึกตื่นเต้นปนกังวลจนมือเย็นเฉียบ  รู้สึกได้ถึงความเคลื่อนไหวน้อยๆในท้องขณะที่กำลังเดิน

            “ไม่ต้องกังวลนะครับลูก”  เขายกมือขึ้นลูบท้องตัวเองเบาๆ  ชายหนุ่มเข้าไปในลิฟต์กดชั้นสาม



ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk





            ลิฟต์จอดที่ชั้นสอง  อาจารย์คมศักดิ์ก้าวเข้ามาพอดี มองมาที่เขายิ้มๆ

            “ว่าไงเมืองแมน  มาพบท่านผอ.หรอ ....ได้ยินคุณเลขาฯพูดแว่วๆน่ะ”  อาจารย์ขยายความเมื่อเห็นเขาขมวดคิ้ว  สายตาคมกริบเหมือนน้ำบ่อลึกเปลี่ยนไปมองยังหน้าท้องของเขา  “แข็งแรงดีนะ”

            “ครับอาจารย์”  เขาตอบสั้นๆ

            “ดีแล้วล่ะ”  อาจารย์พูดเนิบๆ  ลิฟต์มาจอดที่ชั้นสาม  เขาก้าวออกไป  ได้ยินเสียงอาจารย์เรียกเขาเอาไว้  “เมืองแมน....คุยกับผอ.เสร็จแล้วแวะมาที่ห้องพักของผมหน่อยนะ  มีของจะให้”

            เมืองแมนไม่ทันตอบ  ประตูลิฟต์ก็ปิดลงเสียก่อน

            เขาลืมเรื่องอาจารย์คมศักดิ์ไปสนิทเมื่อเห็นหน้าเพลิงกัลป์ที่นั่งอยู่หน้าห้องรับรอง  สีหน้าของฝ่ายนั้นแฝงความกังวลไม่น้อยแม้จะพยายามปิดเอาไว้มากแค่ไหนก็ตาม  เมืองแมนก็ดูออกอยู่ดี

            “มาแล้วหรือ  ท่านผอ.ยังไม่เสร็จจากประชุมน่ะ  เลยต้องนั่งรอก่อน”  เพลิงกัลป์พูด  ตบมือลงบนที่ว่างข้างตัว  “มานั่งนี่ก่อนสิ”

            “ต้องรออีกนานมั้ย” เมืองแมนถาม  ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ

            “คงไม่นานหรอกมั้ง  ....โอเคหรือเปล่า  ทำไมหน้าซีด”  ชายหนุ่มเสยผมหน้าม้าที่ปรกหน้าเขาออกให้พ้นตา  “กังวลมากเหรอ  ไม่มีอะไรหรอก  แค่เข้าไปเล่าให้ท่านฟังเฉยๆว่าจะขอหยุดพัก”

            “บอกแค่เหตุผลเรื่องสุขภาพจะพอเหรอ”  เมืองแมนย่นคิ้ว  “ยังไงท่านก็ต้องคาดคั้นให้พูดความจริงอยู่ดี”

            “บอกไปก็ได้ว่าทนอยู่ไม่ไหวแล้ว  อยากลาออก”  เพลิงกัลป์ตอบง่ายๆ  “บอกว่าจะแต่งงานก็ได้”

            “ซีเรียสนะ”  เมืองแมนหน้างอ  “กูไม่ได้อยากลาออก  แค่อยากหยุดแบบลาคลอดเฉยๆ  ไมได้หรือไง”

            “เราคุยกันไปแล้วไม่ใช่เหรอเมืองแมน  คลอดออกมามึงจะไม่เลี้ยงลูกเองเหรอ”

            “เลี้ยงเอง”  เมืองแมนพูดออกไปทันควัน

            “ก็ใช่ไง  เลี้ยงเองแล้วจะกลับไปทำงานยังไงเล่า  ก็อยู่เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก  เรื่องเงินไม่ต้องห่วงกูหาเลี้ยงลูกเมียได้”  เพลิงกัลป์พูดหนักแน่น  “หรือมึงกลัวว่ากูจะพาไปอดตาย”

            “ไม่ใช่อย่างนั้น”  พออีกฝ่ายเสียงแข็ง  เสียงของเมืองแมนก็เริ่มอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว  “แต่แบบ...กูรักอาชีพนี้  อยากเป็นหมอต่อ  ไม่อยากเป็นอยู่บ้านเลี้ยงลูกเฉยๆ”

            “ก็เดี๋ยวค่อยว่ากัน  อีกหน่อยก็คงมีหนทางเองนั่นล่ะ  ยังไงหมอในประเทศไทยก็ยังขาดแคลนอยู่ดี  ถ้าอีกหน่อยอยากกลับมาทำงานจริงๆค่อยหาลู่ทางอีกที”   ชายหนุ่มสรุป  “แต่ตอนนี้คงต้องทำเรื่องขอหยุดการใช้ทุนไปก่อน  ถ้าผอ.ไม่ยอมก็คงต้องยื่นลาออก”

            เมืองแมนใจหาย  อีกฝ่ายเอื้อมมือมาลูบที่หลังมือของเขาเบาๆ

            “ไม่ต้องกลัว  ถ้าต้องลาออกจริงๆกูจะออกด้วย”

            “แล้วจะเอาที่ไหนกินล่ะ”  เมืองแมนตกใจ

            “โธ่”  คนพูดหัวเราะจนเห็นเขี้ยวเล็กๆมุมปาก  “เป็นหมอไม่อดตายหรอก  กูจะพาไปเชียงใหม่  ที่นั่นมีลู่ทางอีกเยอะ  ไม่ต้องห่วงนะ”  ถึงปากจะบอกว่าไม่ต้องห่วงแต่แววตาคมกลับฉายแววกังวลนิดๆ  เมืองแมนถอนหายใจยาว  เป็นฝ่ายพลิกมือกลับไปกุมมืออีกฝ่ายแทน

            “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”

            “สู้ไปด้วยกันนะ”  เพลิงกัลป์พูดสั้นๆ  ยกหลังมือเขาขึ้นมาจูบเบาๆ

            เลขาฯหน้าห้องเข้ามาบอกว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลพร้อมให้เข้าพบแล้ว  พวกเขาสบตากันอีกทีเรียกกำลังใจก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพร้อมกัน  ใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงในการต่อรองกับผอ.  ถึงจะถูกบีบให้บอกเหตุผลที่แท้จริงอย่างไร  ทั้งคู่ก็ยังยืนยันเรื่องปัญหาสุขภาพกับความไม่สบายใจในการทำงานอยู่ดี

            “ผมจะให้คุณหยุดชั่วคราวได้ แต่ต้องบอกกำหนดระยะเวลามา  ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ได้หรอก  ต้องเห็นใจกันด้วยนะว่าตำแหน่งราชการมันว่างเว้นไม่ได้  ไม่อย่างนั้นคนที่ทำงานจริงก็จะเหนื่อยเพราะคนน้อยกว่าจำนวนตัวเลขในกระดาษ”

            “ผมจะขอย้ายไปใช้ทุนที่เชียงใหม่ครับ  ขอเวลาหนึ่งปีแล้วจะกลับมาทำงานใช้ทุนต่อ”  เพลิงกัลป์พูด

            “ความจริงอินเทิร์นหนึ่งยังย้ายโรงพยาบาลไม่ได้หรอกนะ”

            “แต่ผมต้องไปดูแลพ่อ  พ่อผมป่วยกระเสาะกระแสะ  อยู่โน่นก็ไม่มีคนที่ไว้ใจได้ดูแล  อีกอย่างเมืองแมนก็ไม่สบายด้วย  ไปพักที่นู่นน่าจะอาการดีขึ้น”  เพลิงกัลป์พูดเป็นฉากๆ ไขว้นิ้วอยู่ใต้โต๊ะ  นึกขอโทษพ่อกับผอ.อยู่ในใจ

            “อันนั้นผมก็เห็นใจ  พวกคุณคงเป็นเพื่อนรักกันมาก่อนกระมัง”

            “ครับ”  เมืองแมนพูด ไม่ได้ขยายความต่อว่าใช่หรือไม่

            “ถ้างั้นผมจะลองคุยกับทางสาธารณสุขจังหวัดดู  จะได้หรือเปล่าก็บอกไม่ได้หรอกนะสำหรับคุณหมอเพลิงกัลป์  ส่วนของคุณหมอเมืองแมนที่ลาไม่มีกำหนด  คงต้องเป็นลาออกแทน  ซึ่งจะเป็นการลาออกกลางคันก่อนที่จะใช้ทุนครบ  ต้องเสียเงินใช้ทุนหักลบตามจำนวนเดือนที่ใช้ทุนไป  ก็ยังหลายแสน  รู้อยู่แล้วใช่มั้ย”

            “ทราบแล้วครับ”

            “ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องตามนั้น  ไว้เดี๋ยวจะให้คุณกุลแจ้งไปอีกทีหนึ่งว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง  ยังไงผมก็ต้องบอกว่าผมเสียดายที่คนหนุ่มๆอย่างพวกคุณจะออกนอกระบบไป  แต่ก็นะ...ระบบตอนนี้เป็นอย่างไรก็รู้ๆกันอยู่”  ชายวัยกลางคนถอยหายใจยาว  “อีกหน่อยจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้  ผมล่ะไม่อยากเดา”

            “ขอบคุณมากนะครับอาจารย์

            “มีอะไรก็ติดต่อมาได้  ผมจะช่วยเท่าที่ทำได้”  ผอ.บอกทิ้งท้าย

            เมืองแมนกับเพลิงกัลป์กลับออกมาจากห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกที่ปลอดโปร่งขึ้น  เพลิงกัลป์ยิ้มออกแล้วขณะที่เมืองแมนยังรู้สึกโหวงๆในใจอยู่บ้าง  การลาออกก่อนที่จะจบอินเทิร์นหนึ่งก็แปลว่าเขาจะไม่ได้ใบแพทย์เพิ่มพูนทักษะซึ่งจะมีผลต่อการเรียนต่อในอนาคต

            ชีวิตแพทย์ใช้ทุนของเขา  ไม่นึกเลยว่าจะสั้นเพียงแค่ห้าเดือนกว่าๆเช่นนี้

            “ไม่เป็นไรน่า  ยิ้มหน่อยสิ  ทำหน้าแบบนี้เพลิงไม่มีกำลังใจทำงานเลยนะ”  คนตัวใหญ่พูดเสียงเบา  มองหน้าเขา  “เย็นนี้อยากกินอะไร  คิดเมนูเอาไว้หรือยัง”

            เมืองแมนส่ายหน้า

            “แวะกินน้ำปั่นร้านประจำก่อนดีมั้ย  ค่อยกลับวอร์ดกัน”  เพลิงกัลป์เสนอมาอีก

            เมืองแมนพยักหน้าเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องพลอยหนักใจไปด้วย

            ยืนรอลิฟต์กัน  ลิฟต์เหมือนจะไปค้างที่ชั้นหกไม่ยอมลงมาเสียที  เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าของเพลิงกัลป์ดังขึ้น  ชายหนุ่มรีบกดรับ  ปรากฏว่าเป็นพยาบาลที่วอร์ดโทรมารายงานเคสคนไข้หนัก

            “ครับ  ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ ....”  เพลิงกัลป์พูด  หันไปบอกเมืองแมนสั้นๆ  “คนไข้ arrest(หัวใจหยุดเต้น) ที่วอร์ด  เดี๋ยวกูกลับไปดูก่อนนะแมน  ไว้เจอกันตอนเย็น”

            “ไปเถอะๆ”

            ฝ่ายนั้นเปลี่ยนเป็นวิ่งลงบันไดข้างๆแทนลิฟต์ที่ยังไม่มาเสียที  เมืองแมนจับราวบันไดเอาไว้โบกมือให้อีกฝ่ายถึงจะรู้ว่าฝ่ายนั้นไม่ได้หันมามองก็ตาม  มองส่งด้วยสายตาจนร่างสูงลับหายไปแล้ว  นายแพทย์หนุ่มก็ถอนหายใจเฮือก  ขยับจะหมุนตัวกลับไปรอลิฟต์ต่อ

            “มาทำอะไรตรงนี้หรือ เมืองแมน”  เสียงใสราวกับแก้วดังขึ้นจากด้านบน  เขาเงยหน้าขึ้นเจอร่างโปร่งระหงของตุ๊กตาเดินลงบันไดมาจากชั้นบน  เธอมองหน้าเขายิ้มๆตรงข้ามกับแววตาที่เย็นชา

            “มาธุระนิดหน่อยน่ะ”  เขาตอบสั้นๆ

            “อ้อ....ธุระเกี่ยวกับเพลิงหรือเปล่า”

            เมืองแมนยักไหล่  ไม่ตอบ

            “แสร้งทำเป็นเหมือนเพื่อนร่วมห้อง  ที่แท้ก็....เก็บเอาไว้กินเอง  ทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไงเหรอเมืองแมน  หรือว่าเป็นนิสัยของเธออยู่แล้ว”  หญิงสาวขยับเข้ามาใกล้เขามากขึ้น  เมืองแมนเหลือบมองขั้นบนไดที่อยู่ด้านหลังแล้วยึดราวบันไดเอาไว้แน่น

            “จะเก็บไว้เองหรือว่าอะไรมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอนี่”  เขาพูดเนิบๆ  “ช่วยถอยออกไปด้วย”  ขยับเลี่ยงตัวหลบทว่าอีกฝ่ายกลับยึดไหล่ของเขาเอาไว้  จิกเล็บลงมาแน่นจนเมืองแมนนิ่วหน้า 

            “ทำไมจะไม่ใช่  ในเมื่อฉันมาก่อนเธอ  หนอยแน่ะทำเป็นตีหน้าซื่อ  ทำเหมือนไม่ชอบหน้ากัน  ลับหลังก็ลอบกินกันไปกี่ครั้งแล้วล่ะ  น่ารังเกียจที่สุด”

            “คนที่น่ารังเกียจคือคนที่ไม่ยอมรับความจริงตะหาก  ถอยไปได้แล้วตุ๊กตา  ฉันไม่อยากใช้กำลังกับผู้หญิง”

            “แหม  ทำตัวแมนเหลือเกินนะ  ความจริงแกมันก็แค่ผู้ชายใจตุ๊ดก็แค่นั้นแหละ  ไม่รู้เพลิงไปหน้ามืดตามัวอะไร  ฉันไม่ถอย  จะทำไม  จะต่อยหรือไง  อ้อลืมไป  ต้องตบสินะถึงจะถูกหรือว่าจะข่วนดี”  หญิงสาวลอยหน้าลอยตาพูด  เมืองแมนโกรธจนมือสั่น  แต่ก็สู้ข่มใจเอาไว้เพราะไม่อยากได้ชื่อว่าทำร้ายผู้หญิง

            “ผมไม่อยากคุยกับคุณ  ขอตัวก่อน”  ชายหนุ่มปัดมือที่ยึดไหล่ของเขาออกแล้วเบี่ยงตัวจะเดินหนี  ยังไม่ทันเดินพ้น  อีกฝ่ายก็เอื้อมมือมาดึงเสื้อของเขาทางด้านหลังแล้วดึงอย่างแรงจนเมืองแมนเสียหลัก

            “เดี๋ยวสิ  อย่าเพิ่งไป  เรายังคุยกันไม่จบ....ว้าย!”

            แผ่นหลังของเมืองแมนสัมผัสกับอากาศที่ว่างเปล่า  ชายหนุ่มรู้สึกเสียววาบที่ท้องน้อยเหมือนเวลารถขึ้นลงสะพานสูงๆ  ทว่าคราวนี้มันต่างกันออกไปตรงที่ตัวเขากำลังลอยละลิ่วลงมาจากบันไดขึ้นบนสุด  มองเห็นสีหน้าตกใจของตุ๊กตาและเสียงกรีดร้องของเธอติดตาก่อนที่ทั้งตัวจะกระแทกเข้ากับขั้นบันไดเต็มแรง   แรงส่งและน้ำหนักตัวทำให้เขาลื่นไถลกลิ้งลงมาอีกสองสามขั้นจนมากองที่ชานพัก  รู้สึกชาไปทั่วร่างตามด้วยความเจ็บปวดระบมไปหมดทั้งตัวพร้อมๆกัน

            เขาทั้งเจ็บทั้งจุกจนลุกไม่ขึ้น  ชายหนุ่มร้องไม่ออกสักคำ  หญิงสาวรีบวิ่งตามลงมานั่งยองๆข้างเขา  ปากก็พูดโวยวายอย่างตกใจ 

            หน้าท้องของเขาบีบตัวอย่างแรงจนเมืองแมนต้องงอตัวลง  ชายหนุ่มใช้มือของที่ไม่เจ็บกุมท้องของตัวเองเอาไว้แน่น  ใจหายวาบเพราะนึกได้ถึงตัวเล็กในท้องจนแทบจะลืมความเจ็บปวดของตัวเองไปหมด

            “ลูก...ลูกผม  ช่วยลูกผมด้วย”

            “แมนเพ้ออะไร  ลูกอะไร  โอ๊ย  ตายแล้ว  เจ็บตรงไหนบ้าง  แขนหักแน่ๆ  อย่าเพิ่งขยับตัวนะ  ตุ๊กตาจะโทรตามคนมาช่วย”  หญิงสาวพูดเร็วปรื๋อ  มือก็กดโทรออกวุ่นวายไปหมด

            เวลาผ่านไปเกือบสิบนาทีกว่าจะมีทีมมาช่วยเขา  เมืองแมนเพ่งสมาธิอยู่ที่สิ่งมีชีวิตน้อยๆในท้องของเขา  นึกภาวนาขอให้ลูกปลอดภัย  แต่ว่าลูกก็ไม่ดิ้นอีกเลยแม้ว่าจะพยายามภาวนาแค่ไหน  เขาแทบไม่สนใจแขนขาของตัวเองว่ามันจะผิดรูปอย่างไรบ้าง

            “ตามหมอคริส  ตามพี่คริสมาด่วนนะ  บอกเพลิงกัลป์ด้วย”  เมืองแมนเริ่มร้องไห้บีบแขนของตุ๊กตาเอาไว้แน่น  “ตามเพลิงกัลป์มา”

            “ดะ  ดะ  ได้”  หญิงสาวน้ำตาไหลอาบหน้า  ยิ่งเห็นเพื่อนกระดูกแขนทิ่มออกมานอกเนื้อก็ยิ่งตกใจและรู้สึกผิด  หญิงสาวโทรหาเพลิงกัลป์ไม่ติดเลยเดินแกมวิ่งไปหาที่วอร์ด

            เพลิงกัลป์หน้าซีดเผือดไร้สีเลือดตอนที่ได้ยินข่าว  ชายหนุ่มตะโกนลั่นวอร์ดจนคนไข้คนอื่นพลอยตกอกตกใจไปด้วย

            “เป็นฝีมือเธอใช่มั้ยตุ๊กตา  ใช่หรือเปล่า”  ชายหนุ่มตะคอก  มือใหญ่คว้าคอเสื้อของหญิงสาวกระชากอย่างแรงจนเธอตัวปลิว   ดวงตาของเพลิงกัลป์วาวโรจน์ราวกับมีกองเพลิงกำลังลุกโชน

            “มะ..มันเป็นอุบัติเหตุ”  ตุ๊กตาร้องไห้ออกมา  “ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

            “หมอเพลิงใจเย็นๆค่ะ  มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันนะคะ”  คุณพยาบาลรีบเข้ามาห้ามทัพ  เพลิงกัลป์ปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ  กัดฟันจนกรามนูนขึ้นสัน  แววตาของชายหนุ่มน่ากลัวคนมองขนลุกซู่

            “ถ้าเมืองแมนเป็นอะไรไป  คงไม่ต้องบอกว่าคุณจะเป็นยังไง”

            พูดจบแล้วชายหนุ่มก็รีบวิ่งไปที่ห้องฉุกเฉินทันที  หัวใจโลดไปก่อนตัวเสียนานแล้ว  ทั้งตกใจเป็นห่วงแค้นเคืองสารพัด  นอกจากนั้นยังมีอีกความรู้สึกหนึ่งที่ชายหนุ่มไม่เคยรู้สึกมาก่อน

            เขายอมรับว่าตอนนี้  เขากำลังกลัวจับใจ

            ...กลัวว่าจะเสียลูกไป...

            สองเท้าก้าวเข้ามาในห้องฉุกเฉิน  ชายหนุ่มตรงเข้าไปที่เตียงในสุดที่กั้นม่านเอาไว้  มีเพื่อนอินเทิร์นและอาจารย์กำลังมุงกันอยู่ด้านนอก   โย่งหันมาเห็นเขาเข้าก็รีบกวักมือเรียก

            “ไอ้เพลิงมาพอดี  เข้าไปดูสิ  อาจารย์คริสกำลังอัลตราซาวน์อยู่พอดี”

            คนฟังชะงัก  ใจหายวาบ

            “อาจารย์ไม่ยอมให้ใครเข้าไปเลย”  หวานพูดขึ้นบ้าง  มองหน้าเขาอย่างมีนัย  “เธอรีบเข้าไปในม่านเถอะ”

            เพลิงกัลป์ไม่ได้พูดอะไรอีก  เขารีบผลุบเข้าไปในม่านที่กั้นเอาไว้ระหว่างคนเจ็บกับโลกภายนอก  เมืองแมนหันมามองเขาทันที  น้ำตาคลออยู่ในหน่วยตากลมโตคู่นั้นทำเอาเขาใจหาย  เห็นอีกฝ่ายมีไม้ดามแขนเอาไว้พันผ้าพันแผลแน่นหนาก็ยิ่งใจแป้ว  ไหนจะบาดแผลถลอกฟกช้ำตามตัวอีก

            “เพลิงกัลป์มาแล้ว”  อาจารย์คริสทักเรียบๆ  “รู้ข่าวแล้วใช่มั้ยว่าเมืองแมนตกลงมาจากบันไดสูงมาก”

            “ครับอาจารย์”  ชายหนุ่มรับคำเสียงเบา  มองอาจารย์บีบเจลลงบนหน้าท้องของเมืองแมน  พอมองเห็นรอยช้ำเป็นแนวยาวที่พาดอยู่บนหน้าท้องก็ยิ่งใจเสีย  เมืองแมนไม่สบตาเขาอีกเลยทว่ากลับมีน้ำตาไหลออกมาจากหางตาเงียบๆเป็นทาง

            อาจารย์คริสวางหัวตรวจลงบนหน้าท้องขยับไปมา  สายตาก็เพ่งมองที่หน้าจอ  เพลิงกัลป์ขยับเข้าไปยืนอยู่ด้านหลังเพื่อจะได้เห็นภาพจากจอบ้าง

            ความเงียบเกิดขึ้น  ราวกับผู้คนรอบตัวสลายหายไปในอากาศ  เพลิงกัลป์จ้องมองไปที่หน้าจอนิ่งไม่ขยับ  ลมหายใจคล้ายจะขาดหายไป

            “เป็นยังไงบ้าง...ลูกของเรา”  เมืองแมนถามปนเสียงสะอื้นฮัก

            เขารู้คำตอบก่อนที่อีกฝ่ายจะอ้าปากพูดเสียอีก

            ความโทมนัสปรากฏขึ้นในแววตาคมเข้มทว่าปราศจากน้ำตาสักหยด   คนเป็นพ่อเม้มปากแน่น  เงียบไปนานราวกับหาเสียงของตัวเองไม่พบ   มือกำราวเหล็กเย็นเฉียบปลายเตียงเอาไว้   มองเพ่งไปยังภาพขาวดำในหน้าจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า  ค้นหาบางสิ่งที่เขารู้ว่าไม่มีอีกต่อไป

            อาจารย์คริสลุกเดินออกไปเงียบๆ

            “เพลิง...ลูกล่ะ”

            นัยน์ตาของเพลิงกัลป์แดงก่ำเห็นเส้นเลือดตอนที่เงยหน้าขึ้นสบตาเขา

            “ลูก...หัวใจไม่เต้นแล้ว”

            ...

           

            มาอัพแล้วค่า 

            รู้สึกดีใจที่มีคนอ่านเพิ่มมากขึ้นนะคะ  หลังจบตอนนี้แล้วจะเลิกอ่านกันหรือเปล่านะ5555555  บอกเลยว่าอย่าทิ้งเค้าเลยน้า แงๆ  อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดนะคะ

            ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ โหวต รีวิว ที่เพื่อนๆมีให้กันมาตลอดนะคะ  ปลื้มใจมากๆ

            ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ

            #แฟนหมอแมน





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-06-2018 01:25:50 โดย ็Hollyk »

ออฟไลน์ minnien

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :o12: :o12: ไม่เอาแบบนี้นะะะะะะะ ใจร้ายยยย ฮือออออออออ

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ไม่นะ!!!!  :katai1: :katai1: :katai1: ผีหมอหลินช่วยด้วย   มาแบบใจเคว้งงงมากเลยย

หลังจากนี้ลุ้นเพลิงกับแมนอีก เพลิงจะอยู่ข้างๆมั้ย เพลิงจะทิ้งมั้ย เพลิงจะดูแลมั้ย โอ๊ยยยยย รีบมาต่ออีก 2 ตอนนะคะ รับผิดใจเราด้วยยย ไม่ไหวแล้วว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-06-2018 10:15:42 โดย Ti0590 »

ออฟไลน์ วาย ร้าย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากฉีกนังตุ๊กตาออกเป็นชิ้นๆ  :katai1:
โอ๊ยยยยยย ทำไมมันเจ็บปวด นี่เรารักน้องมากเลยนะ ฮืออออออ โธ่ลูก หมอหลินจะช่วยอะไรได้ไหมคะ รู้สึกเหมือนน้องคือลูกหมอหลินที่ควรจะได้เกิด
ยังไงก็ติดตามนะคะ ถึงตอนแรกจะไม่กล้าอ่านเพราะเห็นคนอื่นรีวิวว่ามีผีเนี้ยแหล่ะ กลัววว TT
พออ่านแล้วหยุดไม่ได้จริงๆง่ะ ติดงอมแงม
สู้ๆนะคุณคนเขียนนนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ไม่จริงโอ้ยยยม่ายยยตน :ling1: :ling3:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เละแน่ นังตุ๊กตา  :pigangry2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แล้วคืนนี่ฉันจัหลับลงได้อย่างไร

ขอร้องเถอะคนเขียนอย่าให้ต้องสูญเสียเด็กไปเลย จะหมอหลินหรืออะฟรก็ให้มาช่วยเถอะ ทำให้รักแล้วมาทำร้ายกันแบบนี้ไม่ได้นะ

ออฟไลน์ bearjunjun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ kingkongkaew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ฮือออออ พูดไม่ออกเลย เหมือนเสียหลานไป

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
โอ้ยยยยยยยยยพีคมากกกกกกก      เเมนจะเจ็บขนาดไหนกระดูกทิ่มแขนออกมาเลย แล้วลูกอีกเจ็บสุดๆไปเลย   พูดไรไม่ออกเลยนอกจากร้องโอ้ยยยยย   ยาวมาก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สงสารหมอ  :mew6: :mew2:

ออฟไลน์ pktherabbit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
กว่าจะเป็นรักแท้ย่อมต้องมีบาดแผลกันมั่ง

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
โอ้ยเจ็บปวดไม่นะ สงสารแมนสงสารเพลิง รออ่านต่อค้าบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รอมาตลอด ดีใจไรท์มา  :mew1: :mew1: :mew1:

มันอะไรกันนักหนา ตื๊อไม่เลิก นังตุ๊กตาผี    :m31:
 :angry2:  จะระรานก็ไปลงกับผู้ชายสิ นังบ้า  :fire:
มาวุ่นวายอะไรกับแมน เป็นเรื่องจนได้   o22
อ้างมาก่อนแล้วไง เขาเอาก็ไม่บอกเลิกแล้ว   :hao3:

นังกี้ก็เลว เหอะ....  :m16:
 :angry2:ไม่ชอบหมอหลินทำไมยังไถเงินพี่ค่าเทอม  แปลกๆ

อย่างนี้เป็นอันว่าเรื่องลาออก ย้าย ก็จบไปสินะ
แมนก็นอนรักษาตัว แต่เศร้าเสียใจแน่เรื่องเสียลูก
เหมือนเป็นอุบัติเหตุนะ  แต่ใช่เหรอ.........  o22 :serius2:
แต่มันจบเหมือนเรื่องหมอหลินที่ตกบันได แท้งลูกนี่ละ

เพลิง  แมน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Pithchayoot

  • พิชญ์ชยุตม์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
อืมมม หน่วงจังเลย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 o22 o22 ขอล่ะ อย่าแท้งเลยนะ เราเป็นคนข้างบ้านเรายังเสียใจเลยอ่ะ ฮรือออออออ

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ละ หมอหลินช่วยด้วยสิ อย่าให้ตัวเล็กจากไปเลยนะ ขอปาฏิหารย์ด้วยเถอะ

ออฟไลน์ fahdekkom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
จะร้องไห้ กรีดดดดด ทำไมเป็นแบบนี้ ㅠ ㅠ

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
เราไม่อยากเสียเด็กไปอ่ะ ช่วยให้เขากลับคืนมาหน่อยได้ไหม หมอหลินช่วยด้วย
 :hao7:

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ฮือออออ ไม่ๆๆๆๆๆ นี่นั่งร้องไห้กลางแถวหน้าเสาธง เพื่อนปลอบจนไม่รู้จะปลอบยังไงแล้ว :sad4: :o12:

ออฟไลน์ maicy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-0
ไ่ม่นะ...ขอให้มีปาฏิหาริย์ด้วยเถอะ. สงสารแมนกับเพลิงมากๆ เจ็บตัวไม่พอเสียลูกอีก เราก็รอเด็กน้อยพร้อมกับเพลิงไม่เอาแบบนี้นะ. อ่านตอนนี้ร้องไห้เลย :o12:
ปล.รักษาสุขภาพนะคะ  :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด