*-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86  (อ่าน 633167 ครั้ง)

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ทางนู้นเข้าใจด้วยนะคะ :ling1:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :z1: หมอแมนเริ่มเปิดใจแล้วววววว :hao6:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
หวานกันจริงๆคู่นี้ 

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
สนุกมาก ๆ ตามอ่านสองวันรวด

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
ผ่านไปหนึ่ง แล้วด่านพ่อแม่เพลิงจะเป็นไงละเนี่ยรออ่านต่อค้าบ

ออฟไลน์ PAtxxkMxxn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ใจนี่เต้นตู้มๆๆๆๆๆๆ ลุ้นมาก ไหนจะต้องไปรบปรบมือที่โน่นอีก สู้ๆนะทั้งสามคน

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
สนุกจัง รอติดตามตอนต่อไปน้าา

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
มารอหมอแมนครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รอสองคนนี้อยู่นะ :mew2:

ออฟไลน์ Enps.s

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มารอหมอแมนกับหมอเพลิงครับ :z2: :z2: :z2: :z2:  :impress2:

ออฟไลน์ TeuyHom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
หมอเพลิงน่ารักจริงๆเลย อ่านไปเขินไป ทะเล้นใช่เล่นเลยนะหมอเพลิง
หมอแมนก็รีบๆใจอ่อน อย่ากังวลไปเลย มีหมอเพลิงอยู่ทั้งคน  :o8: :-[
รีบมาต่อไว้ๆ นะคร๊าบบบ

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
อยู่ไหนน้อตอนใหม่หาไม่เจอ

ออฟไลน์ vermilion

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอย ลุ้น

ขอบคุณไรท์มากฮะ สนุกมาก

ออฟไลน์ Pithchayoot

  • พิชญ์ชยุตม์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
นีีคุณปู่คงเซอร์ไพรส์ ได้หลานมาอุ้มอ่า

ออฟไลน์ Sugar_stack

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
    • Page FB Sugar_stack
เพื่อนแนะนำให้อ่าน พอตามมาต้องบอกว่าดีสมกับที่เพื่อนบอกจริง ชอบทุกอย่าง พล็อต ภาษา คาแร็คเตอร์ การบรรยาย และmood&toneของเรื่อง แบบว่ากรี๊ดมาก ยิ่งตอนเค้าหวานกันนี่โอ้โหหหหหหหห ยิ้มแก้มแทบระเบิด เป็นรักซึมลึกที่ทำคนอ่านอินและลุ้นตามสุดๆ ตัวเอกมีสติทั้งคู่ แบบว่าอยากจะปรบมือชื่นชมรัวๆ ที่สำคัญการแทรกความรู้ทางการแพทย์ก็ดีมาก ไม่มากหรือน้อยไป คนแต่งเก่งมากๆเลยค่ะ

พึ่งตามมาทันออนแอร์ ก็เลยเมนท์ความรู้สึกที่ผ่านมา26ตอนไว้ก่อน อยากบอกว่าชอบมากๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ และสู้ๆ จะรออ่านอยู่ตรงนี้ทุกวันเลย แล้วจะเมนท์ตอนต่อตอนให้เรื่อยๆนะคะ อยากให้รู้ว่ามีคนเชียร์เสมอ ^^

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อยากอ่านต่อแล้วววว  :ling1: :ling1: :ling1: :call: :call:

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Internal Love

ตอนที่ 27

It’s just you and me, with the world beneath our feet.

 



 

 

 

 

            “แวะปั้มข้างหน้าหน่อยได้มั้ย  ปวดฉี่”  เมืองแมนหันไปพูดอ่อยๆกับคนขับ  “จะได้พักสายตาด้วยไง  ขับรถมาตั้งหลายชั่วโมงไม่เหนื่อยเหรอ”

            เพลิงกัลป์เหลือบมองอย่างรู้ทัน

            “ใครให้นั่งดูดน้ำลำไยคนเดียวล่ะฮึ  คุณแม่อุตส่าห์ทำมาเผื่อ  เผลอนิดเดียวหมดขวด”  ชายหนุ่มเข่นเขี้ยว  “ดูซิ  ขนาดเนื้อยังไม่เหลือให้เรากิน”

            “มันกินเพลินน่ะ”  เมืองแมนแก้ตัว  “เดี๋ยวแวะซื้อเอาก็ได้  มีขายเยอะแยะ”

            “ไม่ต้องแล้ว  รีบๆไปเข้าห้องน้ำแล้วก็กลับมานะ  เราต้องทำเวลากันหน่อย  ไม่งั้นจะไปถึงที่นู่นมืด  พายุทำท่าจะเข้าเสียด้วย”  เพลิงกัลป์ร่ายยาว  “บอกแล้วให้รีบกลับตั้งแต่เช้าไม่เชื่อ  มัวแต่นู่นนี่...”

            “อย่าบ่นได้มั้ยเล่า  บ่นเป็นคุณลุงแก่ๆไปได้  คนมันต้องจากบ้านจากแม่มาก็ต้องร่ำลากันนานหน่อยสิ”  เมืองแมนเถียง  “ตัวเองก็รอกินข้าวเที่ยงฝีมือแม่เหมือนกันนั่นแหละ  ทำมาพูด”

            เพลิงกัลป์โดนย้อนเข้าให้บ้างเลยไม่พูดอะไรอีก  นั่งเคาะพวงมาลัยรอให้อีกคนไปเข้าห้องน้ำจนเสร็จ  จากนั้นชายหนุ่มก็เร่งทำเวลามากขึ้นจนมาถึงโรงพยาบาลเวลาพลบค่ำพอดี  บรรยากาศข้างนอกยังคึกคักสมกับเป็นโรงพยาบาลของจังหวัด  มีคนเข้าออกมากมายในแต่ละวัน

            ตรงข้ามกับด้านในที่เป็นส่วนของที่พักบุคลากรที่สงบเงียบ  อาจเป็นเพราะเพิ่งกลับมาจากเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยแสงสี  เมืองแมนเลยรู้สึกว่าแฟลตแพทย์วันนี้ดูอึมครึมเงียบเชียบกว่าทุกวัน

            “รีบไปอาบน้ำ นอนได้แล้ว  เดินทางมาเหนื่อยๆ”  เพลิงกัลป์พูด  ช่วยยกกระเป๋าเข้ามาไว้ในห้องนอนของเขา  “มีอะไรก็โทรมานะ  กูจะรีบไปอยู่เวรอีอาร์(ห้องฉุกเฉิน)ก่อน”  เพราะว่าลาไปกรุงเทพฯหลายวัน  พอกลับมาพวกเขาก็เลยต้องมาอยู่เวรชดเชยแทน  แน่นอนว่าแน่นขนัดจนแทบไม่มีเวลานอนพัก  โดยเฉพาะของเพลิงกัลป์ที่อาสาอยู่เวรแทนเมืองแมนด้วยแล้ว

            “ไม่นอนพักหน่อยเหรอ  อีกตั้งครึ่งชั่วโมง”  เมืองแมนท้วง  “งีบได้หน่อยนึง”

            “ไม่เอาล่ะ  อาบน้ำก็พอสดชื่นแล้ว”  เพลิงกัลป์หายเข้าไปอาบน้ำครู่หนึ่งก็กลับมาด้วยใบหน้าที่สดชื่นขึ้นเล็กน้อย  “นั่งทำอะไรอยู่  ทานข้าวแล้วก็รีบนอนนะรู้มั้ย”

            “กินแล้วนอนก็กรดไหลย้อนกันพอดีสิ”  เมืองแมนพูดแกมหัวเราะ  ขยับเข้าไปยืนใกล้ร่างสูงใหญ่  รีรออยู่ครู่หนึ่งจนอีกคนฉงน

            “มีอะไรหรือเปล่า?”

            “คือ...ไปอยู่เวรเถอะ”  เจ้าตัวอึกอักแล้วก็พูดรัวเร็ว  หน้าแดงจัดจนคนมองชักไม่อยากจะออกจากห้อง  เพลิงกัลป์ก้าวเข้าไปจนชิดแล้วสวมกอดเมืองแมนทั้งตัว  ฝังจมูกลงที่แก้มทั้งสองข้าง

            “ค่อยมีกำลังใจหน่อย”  เสียงห้าวพึมพำอยู่ข้างหู  คนถูกหอมเขินจนไม่รู้จะเอามือไปไว้ที่ไหน  ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนนั้น  “ขอจูบทีได้มั้ย”

            “ไม่ได้”  เมืองแมนก้มหน้าตอบเสียงเขียว  “พอแล้ว  จะสายแล้วเนี่ย”

            “เสียดายจัง  ไว้ค่อยกลับมาต่อเนอะ”  เพลิงกัลป์กอดเขาแน่นๆอีกทีก่อนจะปล่อย  ร่างสูงใหญ่ออกไปจากห้องแล้ว  ทิ้งให้อีกคนมองตามด้วยความรู้สึกที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจว่าโล่งอกหรือว่าเสียดายกันแน่

            .............................................................................................

            “แมน  กลับมาแล้วเหรอ  เราเห็นรูปรับปริญญาในเฟสบุ๊คของแมนแล้ว  รูปดีมากเลย”  หวานทักเขาทันทีที่เห็นหน้า  เมืองแมนยิ้มกว้าง  อดรู้สึกภูมิใจนิดๆไม่ได้

            “ขอบคุณนะ  เพลิงเป็นคนถ่ายน่ะ”  ...ให้เครดิตคนถ่ายเสียหน่อย  “ยังมีอีกหลายรูป  ไว้ค่อยทยอยลง”

            “ดีจัง  เราล่ะอยากมีแฟนถ่ายรูปเก่งๆบ้าง”  หวานพูดยิ้มๆ  แต่ทำเอาคนฟังชะงักกึก

            “ไม่หรอก”  เมืองแมนพึมพำ  ยังนึกหาคำพูดไม่ทัน   ตกใจก็ตกใจแต่พอจะปฏิเสธ  ใบหน้าคมเข้มก็ลอยมาพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น  เขาเลยบอกปัดไม่ออก  “คือ...เพลิงมัน..”

            “เห้ย  เรื่องธรรมดา  ทำไมต้องทำหน้าเหมือนเห็นผีด้วยล่ะ”  หวานหัวเราะ  “เราก็กะเอาไว้แล้วเชียวว่าพวกเธอจะต้องมีอะไรแน่ๆ  สรุปคือ...คบกันจริงๆสินะ”

            เมืองแมนลอบถอนหายใจอย่างอึดอัด

            “มันยังไม่ชัวร์น่ะ  หวานอย่าเพิ่งพูดไปนะ  เดี๋ยวแฟนคลับเพลิงมาแหกอกเราตายเลย”   เขาพูด  มองหญิงสาวอย่างขอร้อง   “เรายังไม่ได้...เอ่อ....เปิดเผย”

            “อาจจะยากหน่อยนะ  เพราะเพลิงไม่ได้ปิดเลยนะแมน”  หวานยิ้มกว้างราวกับล้อเลียน  “วันก่อนเพลิงพูดกลางอีอาร์ว่าแมนเป็นคนพิเศษของเค้านะ  นี่แมนยังไม่รู้ล่ะสิ  ถ้ากลัวแฟนคลับเพลิงตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วล่ะ  เหลือแค่ขึ้นสเตตัสในเฟสแล้วมั้งที่เพลิงยังไม่ได้ทำ”

            เมืองแมนตกใจไม่น้อย  นี่ถ้าหวานไม่มาบอกเขาก็คงไม่รู้  มิน่าล่ะหลายวันที่ผ่านมาบรรดาพยาบาลและคนอื่นๆในโรงพยาบาลต่างลอบชำเลืองมองเขาด้วยแววพิกล  ตอนแรกก็นึกว่าสงสัยเรื่องหน้าท้องที่กลมนูนขึ้นทุกทีหรือเปล่า  ที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้เอง  เพลิงกัลป์นะเพลิงกัลป์....ทำอะไรทำไมไม่บอกกันบ้าง  กลับแฟลตมาทีก็เอาแต่....

            “แมน....คิดอะไร  แน่ะ  หน้าแดงเชียว”  หวานจิ้มแก้มเขาแรงๆ  “มีอะไรก็ไม่ยอมบอกเพื่อนกันบ้าง  หรือว่ากลัวตุ๊กตา”

            “กลัวสิ”  แมนยอมรับ  “เราก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้”

            “เราว่าแมนเหมาะกับเพลิงมากกว่าตุ๊กตาอีกนะ  เชื่อไหมว่าโย่งกับเราเห็นตั้งแต่ตอนที่ไปเที่ยวดอยด้วยกัน  เพลิงเวลาอยู่กับแมนแล้วน่ารักมากเลย  เหมือนเป็นคนละคน”  หวานพูด  “แถมอาสามาอยู่เวรแทนกันอีก  เออ...เราก็ว่าจะถามตั้งแต่วันนั้นแล้ว  แมนไม่สบายยังไม่หายอีกเหรอ  เพลิงถึงต้องอยู่เวรแทนให้  หรือว่ารายนั้นอยากอยู่แทนแฟนเฉยๆ”

            “ก็...ยังไม่ค่อยหายดีเท่าไหร่  เพลิงก็เลยอยู่แทนไปก่อนน่ะ”  เมืองแมนขยับตัว  “ไว้คุยกันใหม่นะหวาน  เราต้องรีบไปที่วอร์ดแล้ว”  เขาอ้าง  รีบเดินหนีอีกฝ่ายมาโดยเร็ว  รู้ดีว่ามีสายตาสงสัยใคร่รู้ของฝ่ายนั้นมองตามมาตลอดทาง  หวานคงกำลังสงสัยเรื่องบางอย่างอยู่

            ขออย่าให้เป็นเรื่องที่เขากลัวที่สุดด้วยเถิด   ชายหนุ่มยังนึกไม่ออกเลยว่าตัวเองจะรับมือยังไงถ้าเรื่องที่เขาตั้งครรภ์แพร่ออกไป

            ตอนเย็นเพลิงกัลป์พาเขาไปทานข้าวก่อนจะกลับมาอยู่เวรวอร์ดต่อ  ใบหน้าคมเข้มเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด  ใต้ตาดำคล้ำ  หนวดเคราก็รกครึ้มแบบคนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง  เมืองแมนพิศดูใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกแน่นอยู่ในอก  ทั้งสงสารและเห็นใจจนไม่อยากจะคุยเรื่องอื่นให้ฝ่ายนั้นกลุ้มใจเพิ่มขึ้นอีก

            “จะไปแล้วเหรอ”  เขาพึมพำ  เห็นอีกฝ่ายลุกไปล้างมือในห้องน้ำก็เลยเดินตามเข้าไปด้วย  เพลิงกัลป์หันกลับมามอง  ตอบเสียงอ่อนๆที่ระยะหลังเจ้าตัวใช้พูดกับเขาบ่อยๆ

            “ต้องไปแล้ว  มีเคสรับใหม่เพิ่ม”  ชายหนุ่มพูด  ส่งยิ้มให้เขา  “เป็นอะไรไป  ทำไมวันนี้กินข้าวน้อยกว่าทุกที  หรือว่าก๋วยจั๊บร้านนี้ไม่ถูกปาก”

            “เปล่า  ก๋วยจั๊บอร่อยดี...แต่ว่า..”  เมืองแมนมือขึ้นประคองใบหน้าของอีกฝ่ายเอาไว้  เพลิงกัลป์นิ่งไปอย่างไม่คาดคิด  ตาสบตา  “เหนื่อยแย่เลย อยู่เวรต่อกันตั้งหลายวัน  หน้าโทรมชักจะเหมือนมหาโจรแล้วนะรู้เปล่า”  เขาพูดยิ้มๆ  “อยู่เฉยๆ  เดี๋ยวโกนหนวดให้”

            “..................”  เมืองแมนดันตัวอีกฝ่ายให้นั่งลงบนฝาชักโครก  จากนั้นก็จัดการบีบครีมโกนหนวดป้ายที่สองข้างแก้มและคางเขียว  ลงมือโกนให้อย่างเบามือ

            เพลิงกัลป์โอบรอบเอวของเขาเอาไว้  เงยหน้าให้เขาโกนหนวดให้จนเสร็จแล้วก็ยังไม่ยอมปล่อยวงแขนออก  ชายหนุ่มแนบหน้าผากลงกับหน้าท้องที่มีเสื้อยืดตัวหลวมคลุม

            “ไม่อยากไปอยู่เวรแล้วสิ  ทำไงดี”  ความรู้สึกที่ส่งออกมาจากดวงตาคมเข้มคู่นั้นทำเอาเมืองแมนหน้าร้อนซู่  ทำท่าจะขยับออกห่าง   เพลิงกัลป์เหลือบตาขึ้นมองเขาแล้วยิ้ม  “ยังโกนไม่หมดเลย  จะรีบไปไหน”

            “หมดจนไม่รู้จะหมดยังไงแล้ว”  เมืองแมนลูบที่ข้างแก้มสากระคายนั้นเบาๆ  “รีบไปเร็วๆ  อย่าให้คนไข้รอ”

            “อีกยี่สิบปีลูกเราจะเอนท์หมอหรือเปล่านะ”  คนเป็นพ่อพึมพำ   คนฟังหัวเราะ

            “คิดไกลมาก”  เมืองแมนลากเสียง

            “ตั้งแต่รู้ว่ามีลูก  ก็ต้องคิดไกลๆทั้งนั้นแหละ  จะคลอดที่ไหน  จะเลี้ยงยังไง  ใช้เงินเท่าไหร่  บ้านรถ...งาน  โรงเรียน  เฮ้อ”

            “คิดเยอะระวังหัวเถิกนะ”  เมืองแมนเสยผมหยักศกของอีกฝ่ายขึ้น  “ค่อยๆเป็นค่อยๆไป เดี๋ยวก็หาทางได้เองแหละ คิดใกล้ๆก่อนก็ได้”

            “โอเค  ถ้าคิดใกล้ๆก่อนก็...แต่งงานกันมั้ย?”  เพลิงกัลป์พูดหน้าตาเฉย  ขณะที่คนฟังอึ้ง  หัวใจเต้นแรงอย่างไม่ทันรู้ตัว  อีกฝ่ายพูดเหมือนพูดเล่นก็จริงทว่าแววตาคู่นั้นบอกเมืองแมนว่าไม่ใช่แค่พูดออกไปพล่อยๆแน่

            “จะบ้าเหรอ  ยิ่งไปกันใหญ่แล้ว”  เขาหาเสียงตัวเองจนเจอ  รีบพูดเร็วปรื๋อ  “พูดอะไรเลอะเทอะ”  ชายหนุ่มดันศีรษะอีกฝ่ายออกจากท้องของตัวเอง   “เมื่อกี้คุณพยาบาลโทรตามไม่ใช่เหรอ”

            “หึๆ”  เพลิงกัลป์หัวเราะเบาๆ  ยอมปล่อยเขาจากวงแขน  ชายหนุ่มล้างหน้าจนเสร็จก็ออกมาจากห้องน้ำ  สบตาคนที่ยืนรื้อตู้เย็นแก้เก้ออยู่นิดหนึ่ง  “เมื่อกี้...พูดจริงๆนะ  ลองคิดดูหน่อยแล้วกัน”

            ....คิดอะไรเล่า...เมืองแมนย่นจมูกตามหลังคนที่ออกจากห้องไปแล้ว  เพิ่งเป็นแฟนกันไม่ถึงสองอาทิตย์  ใจคอจะกระโดดไปถึงขึ้นแต่งงานเลยเหรอ

            ถึงจะคิดอย่างนั้น  แต่อารมณ์น้อยใจแบบไม่มีสาเหตุที่มักเป็นเวลาอยู่คนเดียวก็หายไปเหมือนปลิดทิ้ง  เมืองแมนใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือเตรียมตัวเพื่อลูกน้อยทั้งหลายแหล่ที่ทั้งเขาและเพลิงกัลป์ขนซื้อกันมาเต็มห้อง  ตอนกลางคืนชายหนุ่มก็นั่งฟังเพลงไปด้วย  พูดกับลูกไปด้วย   ตอนแรกก็อาจจะรู้สึกแปลกๆไม่คุ้นชินหน่อย  พอมาพักหลังเขาก็สามารถคุยกับลูกได้อย่างไม่ขัดเขิน  ถึงจะไม่รู้ว่าลูกรู้เรื่องด้วยหรือเปล่าก็ตาม

            “...ข้อความสุดท้ายที่ ลินี พุทธัสเสรี พยาบาลวัย 28 ปีเขียนทิ้งไว้ให้สามีก่อนที่เธอจะสิ้นลมด้วยโรคไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัสนิปาห์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาในเมืองโคชิโคด รัฐเกรละ ทางภาคใต้ของอินเดีย ความว่า  ‘I think I am almost on my way. I may not be able to see you again. Sorry, Take care of our children, Lots of love.’  เธอจากไปโดยทิ้งลูกชายวัย 2 และ 5 ขวบไว้เบื้องหลัง....  โห  เศร้าจังเลยลูก”  เมืองแมนอุทาน  ยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเอง  รู้สึกเศร้าปนสงสารจนน้ำตาซึม  ชายหนุ่มยกมือขึ้นป้ายน้ำตาที่หางตา

            ขนาดเขายังไม่ทันคลอดลูกออกมาก็ยังรู้สึกทั้งรักทั้งผูกพันต่อสิ่งมีชีวิตน้อยๆในท้องมากขนาดนี้  แล้วนี่เธอเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่  ไหนจะสามีที่รักอีก  เป็นเพราะหน้าที่แท้ๆถึงได้ติดโรคมาจากผู้ป่วยที่ดูแล  ผลของการทำงานหนัก  เสียสละตัวเองเพื่อดูแลคนอื่นเป็นเช่นนี้เองหรือ...

            ชายหนุ่มรีบหาหนังสือเรื่องอื่นที่บันเทิงใจมากขึ้นมาอ่าน  เขารู้สึกว่าวันนี้ลูกในท้องดิ้นน้อยกว่าทุกคืน  ไม่รู้จะเป็นเพราะเขาอ่านเรื่องเครียดเกินไปหรือเปล่า

            “ไม่ชอบเรื่องเครียด  ไม่เอาวิชาการใช่ไหมครับ”  ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ  เปลี่ยนไปอ่านหนังสือการ์ตูนเบาสมองแทนจนเริ่มง่วงถึงได้ลุกไปปิดไฟเข้านอน

            เช้าวันถัดมา  สิ่งแรกที่เมืองแมนรู้สึกได้คือลูกดิ้นน้อยลงกว่าทุกวัน  ชายหนุ่มไปทำงานตอนเช้าด้วยความกังวลใจคอยแต่จะสังเกตการเคลื่อนไหวภายในท้องของตนจนไม่มีสมาธิกับการตรวจคนไข้  สุดท้ายเขาก็เลยขอกลับมาพักในห้องพักแพทย์ก่อน  เมืองแมนกินนมเข้าไปอีกกล่องหนึ่งด้วยหวังว่าลูกจะดิ้นแรงขึ้นหลังจากได้รับสารอาหารเต็มที่

            “เป็นอะไรไปครับ  ง่วงนอนหรอลูก...ทำไมวันนี้ขี้เซาจัง”  ชายหนุ่มลูบท้องของตัวเองเบาๆอย่างกลัดกลุ้ม  สุดท้ายก็เลยทนไม่ไหวต้องโทรหาเพลิงกัลป์ที่กำลังหัวหมุนอยู่อีกวอร์ดหนึ่ง

            “ว่าไงนะ  ลูกไม่ดิ้นเหรอ”  ฝ่ายนั้นตกใจกว่าเขาอีก  “มึงอยู่ไหนแล้ว  เดี๋ยวไปหา”   เมืองแมนได้ยินเสียงคุณพยาบาลกำลังพูดอะไรแว่วๆอยู่ที่ปลายสาย  ฟังดูกำลังวุ่นวาย  “ผมมีธุระครับ  ไว้ก่อนได้มั้ย  ผมต้องไปดูเมืองแมน...พี่ไปตามหมอคนอื่นมาก่อนได้มั้ยครับ...”  เกิดการเถียงกันระหว่างเพลิงกัลป์กับพยาบาลจนเมืองแมนต้องรีบห้ามผ่านโทรศัพท์

            “เพลิง  ใจเย็นๆก่อน  ยังไม่มีอะไร  ลูกดิ้นอยู่แต่ว่าดิ้นน้อยลงเฉยๆ  มึงไม่ต้องมาหา  รีบไปจัดการคนไข้ที่วอร์ดเถอะ  เดี๋ยวจัดการเอง  จะไปหาอาจารย์ให้ช่วยดูให้”  เขากรอกเสียงลงไป  ยืนยันหนักแน่นไปอีกสามรอบว่าไม่เป็นไร  ฝ่ายนั้นถึงได้ยอมกลับไปทำงานก่อน

            เมืองแมนถอนหายใจเฮือก  เดินออกจากวอร์ดตรงไปที่แผนกสูตินรีเวช  เขายังนึกไม่ออกว่าจะให้อาจารย์ท่านไหนช่วยดูให้ดี  ในเมื่อคนที่ไว้ใจอย่างอาจารย์คริสก็ดันป่วยเสียแล้ว  ครั้นจะบอกอาจารย์คนอื่นก็กลัวว่าความลับจะแตก  แต่จะปล่อยเอาไว้แบบนี้  เขาก็ทนไม่ได้

            “อ้าว  ไอ้แมนมาทำอะไร  เห็นด้อมๆมองๆ”   โย่งที่กำลังตรวจคนไข้นอกอยู่หันมาเห็นเขาเข้า

            “อาจารย์คริสอยู่มั้ย”  เมืองแมนถามออกไปทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่อยู่

            “อยู่ๆ  วันนี้อาจารย์กลับมาทำงานวันแรก”  คำตอบของเพื่อนทำเอาเมืองแมนตาโต  ยิ้มออกมาอย่างดีใจ

            “จริงเหรอ  อาจารย์กลับมาแล้วเหรอโย่ง  อยู่ไหนๆ”

“เดี๋ยวพาไป  ว่าแต่ตกลงเรื่องของมึงกับเพลิงนี่ยังไง  กูเพิ่งรู้ข่าว  โคตรพลิกล็อคเลยว่ะ  ยายตุ๊กตาคงหงายเงิบ  เห็นพี่พยาบาลว่าอารมณ์เสียมาหลายวันแล้ว”

“เออน่ะ  ไว้เล่าให้ฟัง  ส่วนเรื่องตุ๊กตา...”  แมนออกจะกลุ้มใจอยู่เหมือนกัน

“ระวังโดดดักตบเป็นใช้ได้”  โย่งพูดแกมหัวเราะ  พาเพื่อนเข้าไปทางด้านหลังแผนกตรวจ  ตรงไปยังห้องตรวจสุดท้ายที่เป็นห้องของอาจารย์คริส  เคาะประตูเป็นสัญญาณนิดหน่อยก็ได้ยินเสียงอนุญาตจากด้านในให้เข้าไปได้

            ผู้ชายในชุดกาวน์ยาวคนนั้นผอมซูบไปไม่น้อย  แต่ใบหน้าหล่อเหลาก็ดูสดใสกว่าเมื่อครั้งที่เมืองแมนเจอที่ห้องพักผู้ป่วยมาก  คนตรงหน้าลุกขึ้นเดินมาหาเขาทันทีด้วยท่าทางเป็นปกติ

            “อาจารย์....ผมดีใจจังครับ”

            “พี่ก็ดีใจ”  อาจารย์ตอบยิ้มๆ  “เข้ามาก่อนสิ”   โย่งขอตัวไปตรวจคนไข้ต่อก่อน  ทิ้งให้เพื่อนอยู่กับอาจารย์   “พี่เพิ่งกลับมาทำงานวันแรก  รู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่เลยนะ”

            “อาจารย์ แปลว่ายาได้ผล”

            “ยาจิตเวชก็ส่วนหนึ่ง  แต่พี่ว่าสิ่งที่ช่วยพี่จริงๆคือนี่”   สูตินรีแพทย์หนุ่มล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบขวดเล็กๆบรรจุน้ำใสออกมา  มันเป็นขวดน้ำมนต์ที่เมืองแมนแบ่งไปให้อีกฝ่ายก่อนที่จะไปกรุงเทพฯ  “น้ำมนต์ของเธอใช่มั้ย  คุณพยาบาลบอกว่าเธอเอามาให้พี่”

            “ใช่ครับอาจารย์”  เมืองแมนแปลกใจมาก  “มันได้ผลหรอครับ”

            “มากๆเลยแหละ  หลังจากวันนั้นพี่ก็เริ่มนอนหลับสนิท  ไม่ฝันเห็นอะไรแย่ๆอีกเลย”  อาจารย์คริสบอก  “เธอเอาน้ำมนต์มาจากไหนเหรอ  ของดีจริงๆ  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะ  ถึงจะเรียนวิทยาศาสตร์มาตลอดชีวิตแต่พอมาเจอคราวนี้นี่พี่เชื่อจริงๆเลยว่าของพวกนี้มีจริง”

            “ได้มาจากเจ้าอาวาสที่วัดครับ”  เขาบอกชื่อวัด  “ไว้ผมจะพาอาจารย์ไปกราบท่าน”

            “ดีเหมือนกัน  ถ้าไม่ได้น้ำมนต์ขวดนี้ก็ไม่รู้ป่านนี้พี่จะตายไปหรือยัง  อาจจะกระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้วมั้ง”  ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ  “ขอบใจแมนมากนะที่ช่วยพี่”

            “ผมแค่อยากให้อาจารย์หายเร็วๆน่ะครับ  มีทางไหนช่วยได้ก็ช่วยเต็มที่”  เมืองแมนพูด  กลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ   มือเย็นเฉียบ  “อาจารย์ครับ  ผมมีเรื่องรบกวนหน่อย  คือลูกผมแทบไม่ดิ้นเลยครับ  ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”

            “จริงเหรอ”  อาจารย์มีสีหน้าตกใจ  “ขึ้นไปนอนบนเตียง  เดี๋ยวพี่ดูให้”

            เมืองแมนขึ้นไปนอนบนเตียงตรวจ  เปิดหน้าท้องให้อาจารย์สูติฯตรวจดู  อาจารย์อัลตราซาวน์ให้เขา  สีหน้าของพี่คริสแฝงความกังวลเอาไว้จางๆ

            “หัวใจก็เต้นดีอยู่นะแมน  นี่ไงดูสิ”  พี่คริสหมุนหน้าจอมาให้เขาดู  “หัวใจเต้นดีเลย  แต่ไม่รู้ทำไมไม่ค่อยขยับตัว  ปกติดิ้นเก่งมั้ย”

            “เก่งมากครับ”  แมนตอบเต็มปากเต็มคำ  “ยิ่งหลังกินข้าวนี่แทบจะเต้นเลย  พอมาตอนเช้าไม่รู้ทำไม  ดิ้นไม่ถึงสิบที  ผมนับมาตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ถึงสิบ”

            “เรามีไข้ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า  บางทีมันก็ทำให้ลูกซึมๆลงได้นะ”

            “ไม่มีนะครับ  ผมสบายดี  กินดีปกติ  ปัสสาวะอุจจาระก็ปกติดีทุกอย่าง  เมื่อคืนนอนหลับดีมากเลยด้วยซ้ำ   ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร....มันจะอันตรายมั้ยครับอาจารย์”

            อาจารย์คริสซักถามเขาอีกหลายคำถามก็ยังหาสาเหตุไม่ได้  สุดท้ายก็เลยให้เมืองแมนเจาะเลือดและเก็บปัสสาวะมาส่งตรวจเพิ่มเติมเอาไว้  อาจารย์อยากให้เขานอนดูอาการก่อน  ไม่อยากให้กลับไปอยู่ที่แฟลตคนเดียว

            “เพลิงอยู่เวรต่อคืนนี้ด้วยใช่มั้ยล่ะ  เดี๋ยวเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะไม่มีคนพามานะแมน”  อาจารย์คริสเกลี้ยกล่อม  สุดท้ายเมืองแมนก็ได้นอนห้องพิเศษในคืนนั้น

            เพลิงกัลป์กระหืดกระหอบมาที่ห้องพักผู้ป่วยในตอนเย็นหลังเลิกงาน  สีหน้ากระวนกระวายตรงดิ่งมาหาเมืองแมนที่เตียง  ถามรัวเร็วแทบไม่ได้สังเกตเห็นอาจารย์คริสที่อยู่ในห้องพักด้วย

            “เป็นยังไงบ้าง  ลูกเป็นอะไร  ดิ้นหรือยัง  ตกใจแทบแย่  ทำงานไม่รู้เรื่องเลย”

            “เดี๋ยวก่อน  ใจเย็นๆ  ซาวน์ดูแล้วหัวใจยังเต้นดีอยู่  แค่หลับเยอะเฉยๆ”  เมืองแมนปลอบ  จับมืออีกฝ่ายเอาไว้แน่น...ความจริงแล้วเขาก็กำลังพูดเพื่อปลอบใจตัวเองอยู่เช่นกัน   ได้เห็นหน้าเพลิงกัลป์ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาก  “พี่คริสดูให้แล้ว  ไม่ต้องห่วง”

            เพลิงกัลป์เพิ่งนึกขึ้นได้  หันไปทักทายอาจารย์อย่างสุภาพ  ถามอาการของเมืองแมนอีกหลายอย่าง  ทั้งสองคนนั่งฟังอาจารย์อธิบายอาการอีกครู่ใหญ่

            “พี่ก็เคยเจอเหมือนกันที่เด็กจะหลับๆหน่อย  ลองดูไปก่อน  เพราะหัวใจก็ยังเต้นดีอยู่  ผลเลือดผลปัสสาวะก็ออกมาดี”

            “แล้วเขาจะกลับมาดิ้นดีอีกเมื่อไหร่ครับ”  เพลิงกัลป์ถาม

            อาจารย์ยิ้มปลอบใจ

            “ก็คงเร็วๆนี้นั่นแหละ  ไม่ต้องกังวลไปหรอก  ยิ่งพ่อแม่กังวลลูกก็จะยิ่งเครียดนะ”

            อาจารย์กลับออกไปจากห้องแล้ว  เพลิงกัลป์ลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียงคนป่วย  ซักถามอาการอีกรอบก่อนจะแนบศีรษะลงกับหน้าท้องกลมนูนนั้น

            “ลูกพ่อ  เป็นอะไรไปครับคนดี  ง่วงนอนเหรอ  ทำไมไม่ตื่นเลย”  ชายหนุ่มกระซิบเสียงเบา  รู้สึกหน่วงไปหมดทั้งใจ  เมื่อบ่ายที่ผ่านมาเขารู้สึกว่าตัวเองเข้าถึงขีดจำกัด  เขาพร้อมจะระเบิดอารมณ์ออกมาทุกขณะตอนที่กำลังตรวจคนไข้  เพราะความเป็นห่วงคนสองคนที่อยู่ตรงหน้านี่เอง  “ตื่นได้แล้วนะครับ  นอนขี้เซาเหมือนใครเนี่ย  แดดแยงตาก็ยังนอนก้นโด่ง”  เขาฝืนหัวเราะออกมา  พูดเหมือนเป็นเรื่องตลกไป  เพราะกลัวคนเป็นแม่จะยิ่งเครียด

            “ใครนอนก้นโด่ง  ไม่ใช่ซะหน่อย”  เมืองแมนร้อนตัว  “แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง”

            “กินแล้ว”  เพลิงกัลป์โกหก  ไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด  “ตัวเล็กของพ่ออยากกินอะไรหรือเปล่าลูก  พ่อจะไปหามาให้”  เสียดายที่ลูกยังพูดไม่ได้  ไม่อย่างนั้นต่อให้บุกน้ำลุยไฟเข้าป่า  เขาก็จะไปหามาให้ถ้ารู้ว่าลูกอยากกิน  ....ก่อนหน้านี้เพลิงกัลป์เคยเบ้ปากเวลาได้ยินพ่อแม่คนอื่นพูดแบบนี้  ทว่าตอนนี้เขายอมรับว่ามันเป็นความจริงล้วนๆ  เขาพร้อมจะทุ่มเทให้ทุกอย่าง

            “ลูกยิ่งอิ่มจะยิ่งหลับไปกันใหญ่หรือเปล่า”  เมืองแมนพูดขำๆ  “กินอิ่มนอนหลับดีเชียว”  เขาขยับตัวด้วยความเมื่อยขบ   น้ำหนักที่หน้าท้องทำให้เขาเริ่มจะรู้สึกปวดหลังและต้นขาเวลาอยู่ท่าใดท่าหนึ่งนานๆ  “แล้วต้องอยู่เวนคืนนี้อีกใช่มั้ย”

            “ขอแลกเวรกับแพทไปแล้ว”  เพลิงกัลป์บอก  “ไปอยู่วันมะรืนแทน”

            “วันมะรืน”  เมืองแมนทวนคำ  ย่นคิ้ว  “เหมือนจะมีอีเว้นท์นะ  อะไรนะนึกไม่ออก”

            “เลี้ยงต้อนรับอาจารย์ใหม่ใช่ไหม”  อีกฝ่ายเฉลยให้  “อาจารย์ออโถ(ศัลยกรรมกระดูก) คนใหม่จะมาแล้ว   แต่มึงนอนอยู่นี่กูก็ไม่มีอารมณ์จะไปกินเลี้ยงกับใครหรอก”    คนพูดถอนหายใจยาว  “ลูกพ่อเป็นอะไรก็ไม่รู้  เอาแต่นอนทั้งวัน”

            “ไม่มีอะไรหรอกน่า  อย่าคิดมากเลย”   กลายเป็นเมืองแมนที่เป็นฝ่ายปลอบใจบ้าง  “มึงก็ไปพักเถอะเพลิง  ทำงานติดต่อกันมาหลายวันแล้ว   เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

            “เป็นห่วงหรอ?”  แวววิบวับเริ่มปรากฏในดวงตาคนถาม  เมืองแมนสบตาคู่นั้นแล้วก็เบือนหลบ

            “อืม...ไม่น่าถาม”

            “แค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้ว”  มือใหญ่เลื่อนมากุมมือของเมืองแมนเอาไว้กระชับแน่น  “ไม่ต้องห่วง  ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก  สบายมาก  ยังไงก็เหนื่อยน้อยกว่ามึงอุ้มท้องแน่ๆ”

            “.................”

            เพลิงกัลป์ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกแต่กลับจรดริมฝีปากลงบนหน้าท้องของเขาแทน...สัมผัสแผ่วเบานั้นทำเอาหัวใจเมืองแมนวูบไหว  มือต่อมือยังกระชับกันแน่นไม่ปล่อย  ดวงตาคมเหลือบขึ้นสบตากลมโตนิ่งนาน

            เมืองแมนยังรู้สึกถึงความอบอุ่นนั้นแม้อีกคนจะผละออกมาแล้วก็ตาม

            ........................................................................................


ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk










            “เย็นนี้คุณหมอคริสจะไปงานเลี้ยงต้อนรับอาจารย์ใหม่หรือเปล่าคะ”  พี่กุลถามขึ้นยิ้มๆตอนที่นายแพทย์หนุ่มขึ้นมาเซ็นเอกสารที่ห้องธุรการ  คริสชะงักไปเล็กน้อยแทบสังเกตไม่เห็น  รอยยิ้มบนใบหน้าจางลงนิดหนึ่งขณะเงยหน้าขึ้นตอบอีกฝ่าย

            “ไปไม่ได้ครับ  ผมอยู่เวรวันนี้พอดี”

            “อ้าวเหรอคะ  เสียดายจัง  แล้วได้เจอกันหรือยังคะ  พี่กุลจำได้ว่าสมัยก่อนที่คุณหมอมาใช้ทุนที่นี่ก็สนิทกันกับคุณหมอปราการดี”

            “เค้ามาวันนี้หรอครับ”  คริสถามเรียบๆ

            “ค่ะ  พี่กุลโทรไปถามแล้วบอกว่าจะถึงที่นี่ประมาณบ่ายสามโมง  ย้ายของอะไรเข้าหอเสร็จแล้วก็ค่อยไปทานข้าวเลี้ยงต้อนรับกันต่อ”  หญิงสาวตอบ  จัดการเอกสารตรงหน้าอย่างว่องไว

            “เดี๋ยวก็คงได้เจอกันมั้งครับ”  คริสพูด  แล้วเดินแยกออกมาจากห้องนั้น

            ชายหนุ่มเดินกลับไปที่แผนกสูตินรีเวชต่อ  ลงมือตรวจคนไข้ในช่วงบ่ายอย่างใจลอยกว่าปกติ  เขาสั่งยาให้คนไข้ผิดไปสองครั้งจนห้องยาต้องโทรมาแก้  ขอโทษขอโพยคุณเภสัชเสร็จคุณหมอหนุ่มก็ขอตัวออกมาพักดื่มกาแฟ   พอจิตใจสงบก็กลับไปตรวจคนไข้ใหม่

            ตอนเย็นเขาตั้งใจจะแวะไปเยี่ยมอาการของเมืองแมนที่แฟลต   เขาอนุญาตให้เมืองแมนออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อเช้านี้เอง  หลังจากที่ทารกในครรภ์กลับมาคึกคักแจ่มใสเหมือนเดิมอีกครั้ง  แต่ยังไม่ยอมให้เจ้าตัวกลับไปทำงานที่วอร์ด  ชายหนุ่มเดินตามทางไปเรื่อยๆตรงไปยังอาคารที่พักสำหรับแพทย์ใช้ทุนที่สร้างมาหลายสิบปีแล้ว

            ตัวเขาเองก็เคยอยู่ที่หอพักแห่งนี้ก่อนที่จะไปเรียนต่อ  เหตุการณ์ทั้งหลายเกิดขึ้นที่นี่  เนิ่นนานคล้ายจะถูกลืมเลือนไปสิ้นทว่ามันยังคงอยู่  อย่างน้อยก็ในความทรงจำของเขา

            ก้าวขึ้นแฟลตไปหยุดที่หน้าห้องของเมืองแมนกับเพลิงกัลป์  แฟลตเงียบมากเป็นเพราะทุกคนคงไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับนายแพทย์คนใหม่กันหมด  เห็นเงาวอบแวบที่หน้าต่างของห้องก็ส่งเสียงเรียก

            “เมืองแมน  พี่คริสเองนะ  พี่มาเยี่ยม”

            ห้องเงียบ  ไม่มีเสียงใครตอบกลับมาทั้งที่เขาเพิ่งเห็นเงาผ่านหน้าต่างไป  ชายหนุ่มยกมือขึ้นเคาะประตูเรียก  รออยู่หลายนาทีกว่าเจ้าของห้องจะออกมาเปิดประตู  หน้าตารุ่นน้องงัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่น

            “อาจารย์หรอครับ  ขอโทษทีพอดีผมนอนอยู่เลยไม่ได้ยิน”

            “ไม่เป็นไร  พี่แวะมาเยี่ยมเราเฉยๆ  ลูกเป็นยังไงบ้าง”  เขาถาม  เดินตามหลังเจ้าของห้องเข้าไปด้านใน  เพลิงกัลป์ไม่อยู่คงกำลังยุ่งอยู่บนวอร์ด  “ทานอะไรหรือยัง”

            “ลูกดิ้นดีแล้วครับ”  เมืองแมนยิ้มกว้าง  ท่าทางดีใจ  “สงสัยง่วงไปหน่อยมั้ง  ผมกำลังสงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะยาลดน้ำมูกที่กินก่อนนอนวันก่อนโน้น  ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ากินไป  เลยทำให้ลูกหลับล่ะมั้งครับ”

            “ก็เป็นได้”  อาจารย์พูด  “แต่ก็ไม่ค่อยเกิดขึ้นหรอกนะ  ยาอะไรไหนเอามาให้ดูหน่อยสิ”         

            เมืองแมนรีบกลับเข้าไปในห้องนอน  เดินหยิบซองยาแก้หวัดคัดจมูกที่วางเอาไว้ตรงหัวเตียง  จังหวะที่จะหมุนตัวกลับข้อศอกของเขาดันไปเฉี่ยวโดนขวดน้ำมนต์ใบเล็กที่วางอยู่ใกล้ๆเข้า

            เพล้ง!

            ขวดแก้วใสตกลงไปที่พื้นแตกกระจาย  ของเหลวด้านในไหลออกมาชุ่มเท้าของเมืองแมนไปหมด  เมืองแมนใจหายวาบ  คคนข้างนอกรีบเดินมาดูอย่างตกใจ

            “เป็นอะไรหรือเปล่าแมน  อะไรแตก”

            “อ๋อ  ไม่มีอะไรหรอกครับ  พอดีผมซุ่มซ่ามปัดขวดน้ำมนต์แตก”  เมืองแมนพูด  ทำท่าจะก้มลงเก็บเศษแก้ว

            “ไม่ต้อง  ถอยไปนั่งที่เตียงเถอะ  เดี๋ยวพี่เก็บให้เอง  มาก้มๆเงยๆเดี๋ยวปวดท้องขึ้นมาหรอก”  อาจารย์คริสดุ  ขยับเข้ามาช่วยเก็บทำความสะอาดให้อย่างคล่องแคล่ว  “ถังขยะอยู่ไหน พี่จะเอาไปทิ้งให้”

            เมืองแมนนั่งมองเศษน้ำมนต์อย่างเสียดาย  อดใจหายไม่ได้  ไม่รู้ว่าเสียน้ำมนต์ขวดนี้ไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่

            “น้ำมนต์นี้เหมือนที่เธอแบ่งให้พี่หรือเปล่า”

            “ใช่ครับ”

            “งั้นเดี๋ยวพี่จะเอาของเธอมาคืนให้  แต่มันอยู่ที่ห้องพักแพทย์”  อาจารย์คริสพูด  “จะได้ไว้บูชา”

            “แล้วอาจารย์จะไม่เป็นอะไรหรอครับ”  เมืองแมนท้วง

            “ไม่หรอกมั้ง  ไว้เดี๋ยวพี่ไปขอกับเจ้าอาวาสท่านก็ได้”  อาจารย์คริสตอบ   เดินกลับออกไปนอกห้องนอนโดยมีเจ้าของห้องเดินตามมาด้วย

            ผักกองหนึ่งกับมีดทำครัวยังวางค้างอยู่บนโต๊ะกินข้าว   จานชามวางระเกะระกะอยู่เต็ม

            “ผมกำลังทำสลัดอยู่ครับ  อาจารย์สนใจมั้ยครับ”  เมืองแมนยกชามสลัดหน้าตาน่ากินพอใช้ให้ดู  “เห็นหน้าตาแบบนี้แต่อร่อยนะครับ”

            “เธอกินเถอะ  พี่แวะมาเยี่ยมเฉยๆ  เดี๋ยวจะต้องไปดูที่ห้องคลอดแล้ว”

            “อาจารย์อยู่เวรวันนี้หรอครับ”

            “ใช่”  คิ้วเข้มเลิกขึ้น  “มีอะไรหรือเปล่า”

            เมืองแมนอึกอัก  ไม่รู้เป็นเพราะเพลิงกัลป์ไม่อยู่  หรือเพราะขวดน้ำมนต์ที่แตกไปเลยทำให้เขารู้สึกใจคอไม่ดีแปลกๆ

            “ผม..มีนัดกับอาจารย์เดือนหน้านี่ครับ”  เขาพูดไปเรื่องอื่น

            “ใช่  มาเจาะเลือดด้วยนะ”  อาจารย์กำชับ  “เรื่องน้ำมนต์เดี๋ยวพี่เอามาให้  อย่าลืมเตือนนะ  หรือว่าจะเอาคืนนี้เลยมั้ย  อยู่คนเดียวกลัวหรือเปล่า”

            “ไม่เป็นไรครับอาจารย์  อาจารย์อยู่เวรจะเป็นการรบกวนเปล่าๆ  ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ครับ”

            “ได้  งั้นเดี๋ยวพี่ต้องไปก่อน  ห้องคลอดโทรตามตัวแล้ว”  เสียงโทรศัพท์มือถือของอาจารย์ดังเป็นเพลงฮิตสมัยก่อน  เมืองแมนยกมือไหว้

            อาจารย์คริสเดินออกมาจากห้องพักของอินเทิร์นหนึ่ง  ปากก็พูดตอบคุณพยาบาลประจำห้องคลอดที่กำลังเล่าอาการของคนไข้ไปด้วย

            “ได้ครับ  ผมกำลังไป  ช่วยเตรียมอุปกรณ์เอาไว้ด้วยนะครับ  พอไปถึงแล้วผมจะได้.....”  เสียงของชายหนุ่มขาดหายไปในลำคอ

            ผู้ชายคนหนึ่งเดินรีบร้อนขึ้นบันไดมาประจันหน้าเขาโดยไม่ทันตั้งตัว

            ..................................................................................

            เมืองแมนรู้สึกตระครั่นตระครอชอบกลตั้งแต่เข้าห้องน้ำ   เขาโทษว่าคงจะเป็นเพราะความวิตกจริตไปเองเลยทำให้ระแวงคิดมาก  เลยพาลกังวลตลอดเวลา  บวกกับสายฝนที่จู่ๆก็เทลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยด้วยแล้ว ยิ่งทำให้บรรยากาศรอบตัวดูหนักทึบผิดปกติ

            จัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จเรียบร้อย  เขาก็กลับมานั่งๆนอนๆอยู่ในห้องนอนของตน  แอร์เปิดเอาไว้เย็นเฉียบจนรู้สึกหนาวต้องไปเพิ่มอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศขึ้นอีก  กระนั้นก็ยังรู้สึกหนาวๆร้อนๆเหมือนจะจับไข้อยู่ดี

            ชายหนุ่มเลยกินยาพาราฯลดไข้ไป   สวดมนต์เสร็จก็ตั้งใจว่าจะรีบเข้านอนแต่หัวค่ำ  ห่มผ้าห่มหนาจรดคอ  ความเย็นก็คล้ายจะห้อมล้อมอยู่รอบตัวไม่หายไปไหน  เขากลั้นใจข่มตาหลับลง

            มีเสียงประตูเปิดและปิดพร้อมกับเสียงฝีเท้าคล้ายจะมีคนเข้ามาในห้อง  เมืองแมนนอนหลับตานิ่งข่มใจ  กลิ่นหอมคุ้นจมูกของดอกไม้ชนิดหนึ่งหอมตลบอบอวลไปทั่วห้องราวกับมีลมหอบพัดเอากลิ่นจากต้นสูงใหญ่ข้างนอกแฟลตเข้ามาข้างใน

            มือของชายหนุ่มเย็นเฉียบ  หัวใจเต้นรัวจนกลัวว่าจะหยุดเต้นเอาในไม่ช้านี้

            ความเย็นเยียบคลืบคลานเข้ามาพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เวียนวนอยู่รอบเตียงราวกับเจ้าของฝีเท้ากำลังตกอยู่ในห้วงความคิดหนัก  เมืองแมนนึกบทสวดมนต์ทุกบทที่นึกออกขึ้นมาพร่ำสวดในใจ  เนื้อตัวหนักอึ้งไม่สามารถยกแขนขึ้นมาพนมมือได้

            อย่าว่าแต่แขนเลย  แค่เปลือกตาเขายังเปิดไม่ได้

            เสียงฝีเท้าวนเวียนเข้าออกในห้องและนอกห้องอยู่พักใหญ่  ฝักบัวในห้องน้ำถูกเปิดปิดครั้งแล้วครั้งเล่า  สุดท้ายแสงไฟในห้องก็ดับพรึบลงพร้อมกับเสียงฟ้าฝ่าดังสนั่นหวั่นไหว  เมืองแมนกลัวขึ้นมาจับใจ

            ไฟดับหมดแล้ว  แม้แต่แอร์ก็หยุดทำงานทว่าไอเย็นในห้องยังไม่จางหายไปไหน

            ทั้งๆที่หลับตาอยู่นั้น  เขากลับมองเห็นห้องนอนของตัวเองปรากฏขึ้นแก่สายตา  จริงๆมันก็ไม่เชิงเป็นห้องของเขาเสียทีเดียว  เพียงแต่ลักษณะคล้ายอยู่มาก   สีที่กำแพงห้องยังใหม่เอี่ยมเหมือนเพิ่งทาเสร็จไปหมาดๆ  พัดลมติดเพดานข้างบนส่งเสียงหึ่งๆตลอดเวลา

            กองหนังสือบนโต๊ะทำให้เขาเดาได้ว่าเจ้าของห้องอาจจะเป็นแพทย์เช่นเดียวกับเขา  เสื้อกาวน์สั้นแขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า  มีชื่อปักที่อกเสื้อว่า  ‘เกวลิน  ปัญญาเลิศ’

          ...นี่คือห้องของหมอหลินงั้นรึ...  เมืองแมนขนลุกเกรียว  เขาอยากออกไปจากที่นี่เต็มที

            รีบเดินไปที่ประตู  ดึงเปิดออก  ก็พบว่าห้องนี้เป็นห้องที่อยู่ชั้นสาม  ห้องเดิมกับที่เขาเคยอยู่กับเพลิงกัลป์เมื่อแรกมาถึงนั่นเอง  บรรยากาศภายนอกหอแตกต่างจากสมัยของเขามาก  หอพักเจ้าหน้าที่อีกแห่งก็อยู่ไกลกันแทบจะมองไม่เห็นหลังคา   ถ้าจะมีอะไรที่เหมือนเดิมก็คงจะเป็นต้นปีบต้นใหญ่ที่ยืนต้นอยู่ที่ข้างนอกกระมัง

            เมืองแมนได้ยินเสียงฝีเท้าตรงบันได

            ผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งขึ้นบันไดเร็วๆมายังชั้นสาม  เธอผมยาวประบ่า  ใบหน้าแบบเรียบๆนั้นมีน้ำตาเปรอะอยู่เต็มไปหมด  เธอกำลังร้องไห้อย่างหนัก  หญิงสาวไขประตูห้องที่เมืองแมนเพิ่งเปิดออกมาเมื่อครู่  พรวดพราดเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูดังปัง

            เมืองแมนขยับจะตามเธอเข้าไป  ทว่ากลับมีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งขึ้นบันไดมาเสียก่อน  เขาเป็นคนเดียวกับคนที่เพิ่งกลับออกไปจากห้องเมืองแมนไม่มีผิด

            “หลิน  ออกมาคุยกันก่อน  คริสขอโทษ  หลิน...อย่าทำอะไรโง่ๆนะ”  อาจารย์คริสในรูปของหมอจบใหม่ทุบประตูเสียงดัง  “มันไม่ใช่อย่างที่หลินคิดนะ  ไม่ใช่เลย  ออกมาคุยกันก่อน”

            “จะไปไหนก็ไป”  เสียงหญิงสาวกรีดร้องดังมาจากข้างในห้อง  “แล้วก็จำเอาไว้ว่าทำหมดนี้มันเกิดเพราะคริสคนเดียวนั่นแหละ  ทั้งหมดนี่ก็เพราะคริส  เสียแรงหลินรักคริสมากทำไมถึงทำแบบนี้กับหลิน  ชีวิตหลินพังก็เพราะคริส”  เธอร้องไห้โฮ

            “หลิน  คริสไม่ได้ตั้งใจ  มันเป็นความผิดพลาด....มันเกิดขึ้นแล้วให้ทำยังไง”  แววตาเจ็บปวดปรากฎขึ้นในดวงตาของชายหนุ่ม   “คริสขอโทษ  ออกมาคุยกันดีๆเถอะ”

            “ไม่”  เธอตวาด  “หลินอยากอยู่คนเดียว  ไปให้พ้น”

            “หลิน”

            เขาเห็นอาจารย์คริสเดินคอตกกลับไปออกไปจากแฟลต  เสียงร้องไห้ของหญิงสาวด้านในหยุดไปแล้ว  จากนั้นภาพก็พร่าเบลอ  ชายหนุ่มพบว่าตัวกลับมาอยู่ในห้องพักของหญิงสาวอีกครั้ง

            มีเสียงโก่งคออาเจียนดังมาจากในห้องน้ำ  เมืองแมนเดินเข้าไปดู  เห็นเจ้าของห้องกำลังอาเจียนอยู่ที่ชักโครก  เธออาเจียนออกมาจนหมดแรง  ใบหน้าซีดขาวแทบไร้สีเลือด   

            ร่างบางระหงพยุงตัวลุกขึ้น  เดินโซซัดโซเซเข้าไปในห้องนอนของตน  ทำท่าจะล้มตัวลงนอนแต่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเสียก่อน

            “พี่หลิน  เปิดเดี๋ยวนี้นะ  ป๋าให้มาตามกลับบ้าน”  เสียงใครอีกคนข้างนอกดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะประตูรัวๆแบบไม่เกรงใจ  “พี่หลินออกมาเร็วๆ  ป๋าสั่งนะได้ยินมั้ย”

            คนบนเตียงลุกขึ้นยืนอย่างเหนื่อยอ่อน  เดินไปเปิดประตูห้อง  เด็กสาวคนหนึ่งยืนหน้าบึ้งอยู่ที่ประตู  ท่าทางหงุดหงิดเต็มทน

            “พี่หลิน  เรียกตั้งนานทำไมไม่มาเปิดสักที  เก็บของเอาไว้แล้วใช่มั้ย  ป๋าให้ไปค้างที่บ้านอาทิตย์นึง”

            “แล้วงานฉันล่ะ”  เธอแย้งเสียงเบา

            “ก็ลาไป  ไม่ก็ลาออกไปเลย  แค่นี้คนเขาก็ลือกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”  เด็กสาวกระแทกเสียง  “พี่จะกลับหรือไม่กลับ  แม่กับป๋ารออยู่ข้างล่าง”

            สีหน้าแววตาของหญิงสาวเจ้าของห้องดูปฏิเสธเต็มที่  ทว่าคำพูดที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบนั้นกลับตรงข้าม

            “กระเป๋าพี่อยู่ในห้อง  เธอไปก่อนเลย  เดี๋ยวจะตามลงไป”

            ..............................................................................................

            มาอัพแล้วคร่า

            อาทิตย์อันเหน็ดเหนื่อย  แงๆ  ยังดีนะที่มีนิยายเป็นให้เขียนเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ5555

            เรื่องมันชักจะใกล้แล้ว

            เจอกันตอนหน้านะคะ

            ใครชอบเรื่องนี้อย่าลืมเม้นท์โหวตนะคะ  ขอบคุณมากๆที่อ่านกัน  ดีใจจจจจจ  รู้สึกประสบความสำเร็จ55  ปลื้มม

            ทวิต #แฟนหมอแมน

            ปล.คืนนี้พี่จะหลับลงมั้ย  แงงงงง  ล้องห้ายยย หลอนนอ่ะ

           

             

           

           

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
มันยังไงกันหมอหลินท้องกับใครแน่ หมอคริสจริงรึเปล่า

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ maicy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-0
พี่คริสมีซัมติงกับหมอปราการหรือเปล่า. เพลิงดูแลแมนดีมากๆ ใกล้ละรอลุ้นใครฆ่าหมอหลิน
ปล.รักษาสุขภาพค่ะ :L2:

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1


 :katai4:  :katai4:  :katai4:  :katai4:  :katai4:  :katai4:

กำลังลุ้นระทึกเลย…



ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :hao5:


 
เครียดดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เกิดอะไรขึ้น?

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ลุ้นตลอดๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หมอหลิน หมอคริส หมอปราการ เกี่ยวข้องกันอย่างไงหน่า  :hao4:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เรื่องหมอหลินเริ่มคลี่คลายแล้วสินะ สงสารเพลิงพอรู้ว่าเป็นพ่อคน ก็ทุ่มแททุกอย่างเพี่อลูกและคนที่ตนเองรัก
อ่านแล้วปลื้มคู่นี้มาก ๆ
เอ๊ะ.. ว่าแต่จำได้ว่าโย่งจะแก้ผ้าวิ่งรอบโรงพยาบาลหรือเปล่านะเมื่อตอนที่แล้ว ยังไม่แน่ใจ แต่ถ้าจริงแล้ว
เราจะไปแอบอยู่ตรงมุมไหนสักแห่ง ที่มองได้ชัดๆ 5555
 :z2: :z2: :z2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด