ปรัชญาช่างกล ยามศึกเรารบ ยามสงบเราซ้อมรักกันเอง
ตอน แล้วเราก็รักกัน 1
ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะวะ
ว่าไอ้หน้ากระเทยแผนกสารพัดช่างมันจะไม่เคย
เห็นทั้งสถาบันเขาก็ลือกันไปทั่วแล้ว
ว่าถ้าเบื่อผู้หญิงให้ไปหาไอ้ สน แผนก สารพัดช่าง
ข่าวเขาก็ว่าไอ้หมอนั่นอ่ะ
เด็ดกว่าผู้หญิง คนที่ได้ลองแล้วต้องติดใจ
เพราะว่ามันยินดี เซอวิส ทุกขั้นตอน
ไอ้ตัวเขาเอง ก็ชักจะเบื่อ ๆ กับผู้หญิงที่เข้าหาเต็มทน
ทั้งให้ท่าทั้งอะไรสารพัดก็เจอมาหมดแล้ว
เสือกจะมาตายน้ำตื้น เพราะไอ้สน ซะได้
นี่ก็เดินหาจนจะทั่วโรงเรียนแล้ว
ไอ้บ้านั่นก็เอาแต่หนี หนี มาตลอดอาทิตย์นี้
ดักหน้าแผนกก็แล้ว ตามหามันตามตารางเรียนก็แล้ว
จนป่านนี้ยังไม่เจอตัวเลย
คิดแล้วอยากจะปล้ำให้หายดื้ออีกสักรอบ
นึกถึงหน้าหวาน ๆ ที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาแล้วร่างกายก็เหมือนจะตื่นตัวได้ตลอดเวลา
ไอ้บ้าเอ้ย ไม่เคยมีใครทำให้แทบคลั่งได้ขนาดนี้เลยนะ
แล้วหนีไปไหนเนี่ย
หนีไปไหน
อยากเห็นหน้าจะแย่แล้วนะ
*****************************
“ไอ้สน....กูโคตรเจ็บใจแทนมึงเลยว่ะ......กูไม่นึกเลยว่าไอ้หมาแผนกเครื่องกลมันจะไปปล่อยข่าวแบบนี้”
ร่างเล็กบางหันไปมองหน้าเพื่อน อย่างหมองเศร้า
เมื่อสองสามเดือนก่อน
ถูกเด็กแผนกเครื่องกลเรียกไปคุยด้วย
แต่ไป ๆ มา ๆ ไอ้หมานั่นกลับลากเข้าโรงฝึก ตอนไม่มีใครอยู่ แถมยังทำท่าหื่นจะปล้ำเขาให้ได้
โชคดีที่เอาไม้ตีหัวมัน แล้วหนีออกมาได้
แต่พอเช้าของอีกวัน
กลับปรากฏข่าวลือแปลก ๆ ว่า เขาไปมีสัมพันธ์สวาท กับ คนทั้งแผนกเครื่องกล
ลือกันไปปากต่อปาก
จนกลายเป็นว่า
เขาจะยอมนอนกับผู้ชายทุกคนที่เข้าหา
ถึงเจ็บใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะยิ่งแก้ตัวเรื่องมันก็ยิ่งไปกันใหญ่
“กูก็ทำอะไรไม่ได้หรอก...ทนจนกว่าจะเรียนจบนั่นแหละ...”
ร่างบางเครียดหนักขึ้นทุกวัน
บางครั้งเดินไปทางไหน
ไอ้พวกต่างแผนก ก็เข้ามาลวนลามบ้าง
บางคนผิวปากล้อเลียน ขอร่วมหลับนอนด้วยอีก
กลายเป็นตัวอะไรสักอย่างไปแล้ว
เพราะหน้าตาท่าทางบอบบางอ้อนแอ้น ที่เขาแสนจะเกลียดตัวเองแบบนี้
ทำให้ไอ้พวกหื่นกระหายแผนกอื่นมันอยากจะลิ้มลองเป็นที่สุด
“แม่ง...อยากจะไปเอาเลือดไอ้หมานั่นออกจริง ๆ ถ้ามึงไม่ห้ามกูไปแล้ว” ร่างแกร่งหนาของชายหนุ่มอีกคน
กำหมัดอย่างแค้นใจ
ไอ้สนมันเป็นคนดี ยิ่งเกิดเรื่องแบบนี้ยิ่งสงสารมัน
ความรู้สึกของเขานอกจากเพื่อนแล้ว
ก็ไม่เคยคิดเป็นอื่น
“ถ้ามึงไปอัดกับมัน...พรุ่งนี้กูก็ไม่รู้จะถูกลือว่าอะไรอีก” ร่างบางถอนหายใจ
ไม่อยากจะให้เพื่อนต้องไปหาเรื่องเจ็บตัว
เพราะตอนนี้ข่าวลือนั่นมันกลายเป็นเรื่องจริงเสียแล้ว
โดยที่เขาไม่มีทางปฏิเสธมันได้
ได้แต่เก็บความทุกข์ระทมใจไว้คนเดียวเงียบ ๆ
ความทุกข์ของ อัษฎา ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องถูกปล่อยข่าวลือ
แต่เป็นเพราะเขาไปพลาดท่าเสียทีให้กับหนุ่มแผนกโยธา คนนั้น
คนที่เขาจะไม่มีทางลืมไปตลอดชีวิต
ร่างบางหมองเศร้าลงทุกวัน
สิ่งที่ทำได้
ก็คือต้องหนีให้ห่างจากคน ๆ นั้นที่ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ ที่คอยตามราวีเขา
เหตุการณ์เย็นวันนั้นเขาไม่มีทางลืมได้เลย
มันกลายเป็นฝันร้ายคอยตามหลอกหลอนทุกครั้งที่หลับตาลง
*********************
“เฮ้ย....นายอ่ะ....ใช่สน..แผนกสารพัดช่างป่าว” ฝ่ามืออุ่นร้อน กระชากแขนบอบบางของคนที่เดินอยู่ให้หันมามองหน้าเขา
เพราะขี้เกียจกลับบ้าน
เลยนั่งสูบบุหรี่ข้างโรงฝึก เย็นป่านนี้แล้วคิดว่าไม่น่ามีใครแล้ว
แต่เหลือบไปเห็น ร่างเล็ก ๆ บาง ๆ ของใครสักคนเดินลิ่วอยู่
นั่นใช่ไอ้สน คนดังแห่งแผนก สารพัดช่าง แน่ ๆ
เบื่อเหมือนกัน ชวนมันมาทำอย่างว่าแก้เบื่อดีกว่า
ท่าจะไม่ปฏิเสธหรอก มันอาจอยากได้บรรยากาศตื่นเต้นบ้างแหละวะ
อยากลองกับผู้ชายดูเหมือนกัน ที่ว่าลีลาเด็ดเนี่ยมันจะสักแค่ไหนกัน
มีคนบอกว่า
ไอ้สนเนี่ย มันชอบแบบรุนแรง
ถ้าอยากได้
ให้ทำตัวหื่น ๆ หน่อย ทักดี ๆ มันไม่ค่อยชอบ
ก็เลยอยากเอาใจมันหน่อยตามข่าวที่เขาว่าไว้
และที่สำคัญถ้ามันแกล้งทำเป็นดิ้นรน ก็ให้ลากได้เลย มันจะชอบเป็นพิเศษ
เขาก็เลยต้องทำตามซะหน่อย
“ใช่แล้วจะทำไม....” ร่างบางสะบัดออก ตั้งท่าจะเดินหนี
ตัวแม่งใหญ่ยังกะตึก
ชกกับมันตัวต่อตัวสงสัยไม่รอด
โดนซ้อมแพ้หลุดลุ่ยแน่แบบนี้
เสือกลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่ลิ้นชักโต๊ะอีก
ซวยจริง ๆ เย็นป่านนี้แล้ว
นึกว่าจะไม่มีใครเหลืออยู่
ดันมาเจอไอ้หน้าหื่นนี่ได้
“อยากนอนด้วยอ่ะ....ไปด้วยกันหน่อยสิ....โรงฝึกไม่มีใครมาใช้หรอกป่านนี้แล้ว..ไปเหอะ”
คำพูดตรง ๆ แบบไร้เหตุผล เป็นคำพูดของชายหนุ่มร่างสูงที่ยังคาบบุหรี่ไว้ในปากคนนี้
เล่นเอา ร่างบางเลือดขึ้นหน้า
ไม่ใช่ไอ้ตัวนะเว้ย
ถึงจะมาพูดแบบนี้ด้วยได้
“ไปบอกพ่อมึงเหอะแบบนี้อ่ะ” มือเล็ก ๆ ปล่อยหมัดขวาตรงเข้าหาร่างสูงกว่านั้นทันที
“เฮ้ยอะไรวะ...ชวนแค่นี้เล่นถึงพ่อเลยเหรอ” ร่างสูงไม่ระบุชื่อ หลบได้ทัน
และชักมีดพกเล็ก ๆ ออกมา
ก่อนจะจ่อที่คอของอีกคน
ลุง ขอ 3 เม้นต์เด้อหลาน...
แล้วมาต่อให้ (แก่ยังไม่พอ ยังชอบต่อรองอีก)