"โหย...อะไรมันจะซวยขนาดนี้วะ..." ต้นสนอยากจะเอามือเขกหัวตัวเอง
เมื่อพบว่าลืมกุญแจบ้านไว้ภายในบ้าน
และวันนี้ ทรายน้องสาวของเขาก็พาน้องสาไปบ้านย่าที่ต่างจังหวัด
แล้วจะเข้าบ้านยังไงเนี่ยต้องนอนหน้าบ้านหรือไง
จะให้ทุบกุญแจงัดประตูบ้านก็ไม่คุ้มกันอีก ต้องไปซื้อแม่กุญแจใหม่สิ้นเปลืองกันพอดี
แล้วนี่จะเอาไงดี วันนี้เป็นวันหยุด
ขอแลกกะกับอีกคนหนึ่งเสียด้วย จะไปทำงานที่ร้านสะดวกซื้อทั้งอย่างนี้ดีหรือเปล่าเนี่ย ไม่แลกกะแล้ว
แล้วเมื่อเช้าแทนที่จะเอากระเป๋าตังค์ออกมา ดันหยิบตังค์มาแค่พอค่าข้าว กับค่ารถเมล์
คิดว่าจะซื้อข้าวมากินแล้วก็นอนให้ฉ่ำใจ
หลับให้พอเสียอีก
แต่เมื่อมายืนอยู่หน้าบ้านก็ปรากฎว่าลืมกุญแจบ้านเสียอีก
มันน่าฆ่าตัวตายจริง ๆ แล้วคืนนี้จะไปนอนที่ไหนดีละเนี่ย
"ต้นสน..กินข้าวยัง..." เสียงของภาคีนั่นเอง เวลา หกโมงเย็นต้องโทรมาหาต้นสนเพื่อถามว่ากินข้าวหรือยัง
"โอ้ย...จะกินได้ไงลืมกุญแจบ้านเนี่ย...เข้าบ้านไม่ได้..แล้วคืนนี้จะไปนอนที่ไหนวะเนี่ย.."
แทนที่ต้นสนจะบอกว่าเออเหมือนกับทุกครั้ง
คราวนี้กลับกลายเป็นการบ่นให้ภาคีฟังเสียยืดยาว
"มานอนบ้านพี่ก็ได้...แค่คืนเดียวเอง.." ภาคีตอบกลับอย่างมีน้ำใจ
ต้นสนกับเขาก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลมีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว
"จริงเด่ะ...ไปจริงนะเว้ย..." เหมือนสวรรค์มาโปรด
กำลังคิดว่าถ้าเกิดแบตโทรศัพท์หมดขึ้นมาจะทำยังไง โชคดีที่ภาคีโทรมาไม่อย่างนั้น
ก็ไม่รู้ว่าคืนนี้จะไปนอนที่ไหนดีเหมือนกัน
"ครับ..." ภาคีตอบรับนึกขำกับต้นสนเหมือนกัน ทีเวลานี้คุยกับเขาคล่องเชียวนะ
"เอองั้นเดี๋ยวไป..." ต้นสนกดวางสายไปแล้ว และถือถุงข้าวผัดกระเพราปลาหมึกเดินออกจากบ้านเพื่อมุ่งหน้าไปบ้านของภาคีต่อไป
***************************
ภาคียื่นแก้วน้ำให้กับต้นสน
ที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาเรียบร้อยแล้ว
หลังจากร่างโปร่งบางนั้นตั้งหน้าตั้งตาตักข้าวเข้าปากจนหมดจาน
ไม่ได้สนใจว่าภาคีจะนั่งมองอยู่หรือไม่
คงจะหิวมากเลยนะเนี่ย
ภาคีเดินมายื่นเสื้อผ้าสำหรับผลัดเปลี่ยนหลังอาบน้ำให้กับร่างโปร่งบางที่รับน้ำมาดื่มจนหมด
และลูบท้องของตัวเอง
ก่อนจะเอื้อมรับเสื้อผ้าสำหรับใส่ผลัดเปลี่ยนอาบน้ำ
ภาคีบอกว่าพ่อกับแม่ไปไซด์งานที่สกลนครทำให้เหลือภาคีอยู่บ้านคนเดียว
แต่ต้นสนก็ยังรู้สึกเกรงใจอยู่นั่นเอง
ร่างโปร่งนำจานไปล้างและจัดเก็บให้อย่างเรียบร้อย
ก่อนจะเดินถือผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำต่อไป
แม้จะอยู่กันสองคน แต่ทั้งสองก็ไม่ได้คุยกันแม้แต่คำเดียว
**************************
"อื้อ..." ต้นสนบิดกายไล่ความเมื่อยขบ เวลาเกือบสองทุ่มเป็นเวลาปกติที่จะต้องนอนก่อนไปทำงาน
ทำให้ตอนนี้ต้นสนง่วงอย่างเหลือทน
แต่ก็ไม่กล้าบอกกับภาคีว่าอยากจะนอนแล้ว ไม่อยากจะรบกวนให้มาก
ได้แต่นั่งตาปรือ
ในขณะที่อีกคนกำลังง่วนอยู่กับการเขียนแบบ
แค่เห็นร่างบางในสภาพเสื้อยืดตัวเล็กที่สุดของเขาและกางเกงขาสั้นธรรมดา
แต่ความคิดของภาคีก็เลยเถิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
วันนี้ต้นสนน่ารักเหลือเกิน น่ารักจนแทบทนไม่ไหว
เขาจึงไม่พูดกับต้นสน เอาแต่อยู่อย่างเงียบ ๆ
ทำทีเป็นไม่สนใจร่างโปร่งบางที่นั่งห่างออกไปไม่ไกล
เขากำลังมีความรู้สึกบางอย่างกับต้นสน แต่เรื่องที่เคยทำไว้
ก็ทำให้ไม่กล้าแม้จะมองร่างโปร่งบางนั้นอีกเลย
ได้แต่ดึงความสนใจของตัวเองไปอยู่ที่งานเขียนแบบตรงหน้าให้หมด
*********************************
อ่ะ...โอยหัวจะติดพื้นอยู่แล้วเนี่ย
จะเขียนแบบอะไรนักหนาวะไม่นอนสักที
นี่มันจะเลยห้าทุ่มแล้วนะเนี่ย
ไม่ไหวแล้วโว้ย...ต้นสนแอบเอนศรีษะนอนลง
อย่างไม่นึกถึงความเกรงใจอีกแล้วตอนนี้
ง่วงจะตายแล้ว
นอนดีกว่า
ร่างโปร่งบางใช้แขนหนุนศรีษะและนอนลงบนพื้น
อากาศกำลังเย็นสบายแบบนี้
กินข้าวอิ่มแล้วก็นอนดีกว่า
หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนแล้ว
***********************