“เดี๋ยว…”
เปล่งเสียงห้ามไม่เต็มปากเพราะกำลังงุนงง ตกลงร่างเล็กเป็นเด็กผู้ชายที่สวมใส่เสื้อผ้าผู้หญิงหรอกเหรอ คนประจักษ์แจ้งยืนนิ่งอึ้งไปเพราะได้เห็นอวัยวะเพศเช่นเดียวกับที่ตัวเองมี ต่างกันก็แค่ที่เรื่องของขนาดเท่านั้น “เธอ…”
หรัญญ์อึกอัก นึกไม่ออกว่าตัวเองอยากจะพูดอะไรต่อ ยิ่งพอสองขาขาวก้าวข้ามชุดที่หล่นลงแทบเท้าและเดินตัวเปล่าเข้ามาหาโดยมีแสงจันทร์ฉายไฟตามมาติด ๆ ก็อดจินตนาการในเชิงอกุศลด้วยไม่ได้ ยอมรับว่าเป็นผู้ชายชอบของสวย ๆ งาม ๆ และเคยร่วมหลับนอนกับคนอายุน้อยกว่ามาบ้างหลังโดนเมียทิ้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกคนล้วนเป็นแม่พันธุ์ที่มีเต้านม
แต่เดิมไม่ได้มีรสนิยมชายรักชาย ไม่ได้พิสมัยเพศเดียวกัน
นั่นคงเพราะยังไม่เคยได้พบเจอกับความงดงามที่แท้จริง ยิ่งได้กลิ่นหอมจาง ๆ โชยมาอาการไม่ต่างจากคนมึนเมา หูอือตาลายคล้ายจะมีอาการประสาทหลอนร่วมด้วย เจอความสวยของเห็ดป่าก็อยากจะลองเด็ดมากินโดยไม่ชะล้าใจว่ามีพิษหรือเปล่า หรัญญ์ไม่แน่ใจนักว่ามันคือกลิ่นขนมปังหรือดอกไม้ แต่ที่พูดได้เต็มปากเลยคือตนกำลังมีอารมณ์กับเด็กคราวลูก
ร่างเล็กที่สูงพ้นช่วงไหล่แค่นิดเดียวยกมือลูบไล้สัดส่วนอย่างสำรวจ ถือวิสาสะตรวจความแน่นของกล้ามหน้าท้องด้วยการเอาฝ่ามือทาบ จับต้องร่างกายตรงหน้าด้วยความสนอกสนใจราวกับว่าหรัญญ์เป็นสิ่งแปลกใหม่ที่เพิ่งค้นพบ ลองเอาหูแนบอกหนาเพื่อฟังเสียงจังหวะหัวใจเต้นแล้วเอนตัวซบ โน้มตัวสวมกอดตอนที่คนอายุมากกว่าสองรอบไม่ตำหนิอะไร
ทุกการกระทำแสนอันตรายอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอด มือกร้านยังแนบอยู่ที่ตะเข็บกางเกงนอนในยามที่เด็กน้อยคลอเคลียพวงแก้มกับอกซ้ายเพื่อแสวงหาไออุ่น ทั้งที่เลยช่วงวัยว้าวุ่นมาหลายปีดีดัก แต่ก็ยังไม่วายหวั่นไหวกะอีแค่เพราะแก้วตาใสแจ๋วช้อนมอง
หรัญญ์ตัดสินใจยกมือแตะหัวไหล่มนแล้วดันคนตัวเล็กกว่าออกห่าง ตั้งใจจะถามถึงชื่อเสียงเรียงนามและอยากรู้ว่าทำไมถึงกล้าเปลือยกายต่อหน้าคนไม่รู้จักมักจี่แบบนี้ แต่อีกใจกลับบอกว่าให้ช่างพิธีรีตองวุ่นวายไปซะ อุตส่าห์เจอของดีกลางป่า ถ้าปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไปก็ไม่สมควรเรียกตัวเองว่าราชสีห์
ช่างความถูกต้องแล้วลองพินิจพิจารณา
สุดท้ายแรงตัณหาก็ชนะคำว่าศีลธรรมด้วยคะแนนที่ขาดลอย
เรื่องราวลงเอยที่ชายอายุมากปล่อยให้เด็กที่เพิ่งเคยเจอหน้าย่างกายเข้ามาในความคิด
ค่อย ๆ ยอมรับจิตใจที่วิปลาสของตัวเอง เริ่มเข้าอกเข้าใจพวกกามวิตถารที่ชอบมีเซ็กซ์กับเด็กรุ่นราวคราวหลานมากขึ้นตามลำดับ ต่อให้บำเพ็ญเพียรภาวนามานานดั่งเช่นพระสงฆ์องค์เจ้า ก็ไม่มีอะไรรับรองว่าจะไม่ตบะแตกเพราะเรื่องคาวโลกีย์เข้าสักวัน
ก่อนจิตใจของหนุ่มใหญ่จะถูกความไวไฟของคนอายุน้อยกว่าเล่นงาน มัวแต่ยืนชั่งใจจนเปิดโอกาสให้เด็กแก่แดดแก่ลมลูบใบหน้าคมสันพลางเขย่งปลายเท้าจนความสูงเพิ่มขึ้นหลายเซนฯ เพื่อสัมผัสความหนาที่ห้อยย้อยลงมาอย่างเป็นใจ
ริมฝีปากที่อวบเอื้อความสะดวกให้กับเด็กน้อยจนพลอยได้งับกลีบปากล่าง กระต่ายขาสั้นดันอยากกินแอปเปิลที่อยู่สูงเพราะเชื่อว่าเป็นลูกที่หวานที่สุดจึงเหยียดขาสุดความยาว แต่นานเข้าเป้าหมายก็ยิ่งเคลื่อนออกห่าง หารู้ไม่ว่ากำลังถูกผู้ใหญ่กลั่นแกล้ง ทีแรกยอมอ่อนข้อให้แต่แล้วก็เงยใบหน้าขึ้นทีละนิดจนร่างเล็กหมดสิทธิ์ไล่ตาม ต้องหดตัวกลับอย่างเก่าและยืนก้มหน้ามองปลายเท้าด้วยความเศร้าสร้อย
สำหรับหรัญญ์แล้วมีเด็กเข้ามาในชีวิตให้เอ็นดูไม่บ่อยนัก ยิ่งถ้าเป็นเด็กที่ทำให้เกิดความปรารถนาอันแรงกล้ายิ่งยังไม่เคยมี นัยน์ตาดำด้านหลุบมองสองมือเล็กที่กำชายเสื้อตนไว้เงียบ ๆ ระหว่างรับรู้ได้ถึงการบีบตัวของแก่นกาย
อวัยวะเพศเกิดการขยับขยาย ดุนดันกางเกงชั้นในราวกับมีใครกำลังเติมลมให้กับลูกโป่งแฟนซี ความหน่วงถ่วงสมองให้จดจ่อแต่กับเรื่องใต้สะดื้อจนผลีผลามทำเรื่องต้องห้าม
บังคับให้ร่างเล็กเชิดคางด้วยการสอดสองมือเข้ากุมแก้มเนียนแล้วบดเบียดกลีบปากกับอวัยวะอย่างเดียวกันจนมันผิดรูปผิดร่าง การจูบอย่างลึกซึ้งนำพาเกลียวลิ้นมาพบกันครึ่งทาง เพื่อนใหม่ทำความรู้จักกันและพัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นคนรู้ใจภายในเวลาไม่กี่วินาทีถัดมา สนิทสนมจนกล้าที่จะกระทำการจาบจวงอย่างหื่นกระหาย
ความมืดไม่ได้ช่วยอำพรางท่าทางตะกละตะกลามของผู้ใหญ่ในขณะที่เด็กน้อยเองก็พยายามจูบตอบอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ความสว่างพอทำให้เห็นผิวที่ซับสีจาง รู้จักอายแต่ก็ไม่ได้ขัดขืน ยืดคอสุดความยาวเพื่อถ่ายทอดบทเรียนที่เคยถูกสอนจากในคราวก่อน ๆ อย่างไม่ประสา
แต่แล้วความรุนแรงที่ถาโถมเข้าใส่ก็ทำร่างเล็กเกินจะต้านทานไหว ห่อไหล่หายใจหอบ จากสมยอมเริ่มบ่ายเบี่ยง เอียงหน้าหลบอย่างเอาแต่ใจ แสดงนิสัยแบบ ‘เด็กพิเศษ’ ที่ใครเห็นคงไม่ชอบนัก แต่สำหรับนักล่าไม่ว่าเหยื่อจะมาในรูปแบบไหนก็รู้วิธีจัดการอย่างแยบยล
หรัญญ์หิวโหยจนหน้ามืดตาลาย ไฟราคะโชติช่วงชัชวาลถึงเอาน้ำมาราดก็ยากจะดับ จมูกโด่งซุกไซ้กรอบหน้าไล่ลงต่ำถึงลำคอระหง ป้ายน้ำลายสกปรกบนผิวละเอียด ซ้ำยังชักชวนเด็กทำเรื่องน่าเกลียด อย่างการให้จับความเป็นชายที่ซ่อนเร้นอยู่ใต้ร่มผ้า
ยามที่ฝ่ามือเล็กสัมผัสของลับ ฝ่ามือกร้านเองก็ลูบคลำตามความนวลเนียนไปพลาง ๆ อย่างหลงใหล ช่วงแขนยาวกลายเป็นไม้เลื้อยพันรอบเอวคอด โอบกอดแล้วยกร่างเล็กขึ้นมายืนบนเท้าด้วยท่อนแขนเดียวอย่างง่ายดาย
ทำลายระยะห่าง ล่นระยะทางแสนไกลให้ใกล้แค่คืบ
หรัญญ์ยอมให้ร่างเล็กนวดคลึงของสงวนแลกกับการลวนลามที่อุกอาจ เสียงหอบหายใจเริ่มดังชัดขึ้นระหว่างขยำผิวกายลื่นเล่น ฝ่ามือเค้นก้นงอนราวกับมันเป็นก้อนดินน้ำมัน การล่วงเกินแสนหนักหน่วงนำมาซึ่งเสียงเล็กเสียงน้อย ทยอยครวญครางเป็นระยะ จนผู้ใหญ่ได้รู้ว่าเด็กชายมีกล่องเสียงที่ไพเราะแค่ไหน เกิดติดใจอยากได้ยินเสียงที่ดังกว่าเดิมจึงเพิ่มแรงบด ทำผิวหมดจดเป็นรอยปื้น
กลางดึกมีเสียงของหนักตกลงบนพื้นดินถึงสองครั้ง
เสียงแรกเป็นของร่างเล็กที่ล้มลงนอนหงาย อ้าขาไม่อายฟ้าอายดิน
ส่วนอีกเสียงที่ได้ยินเป็นของหนุ่มใหญ่ที่ทรุดกายลงกว้างหว่างขาขาวโพลน
มือกร้านรีบถอดอาภรณ์ท่อนล่างเพื่อปลดปล่อยเจ้าโลกให้เป็นอิสระจากความอึดอัดก่อนจะพบว่าขนาดของตัวเองนั้นกำลังจะกลายเป็นปัญหาในอนาคตอันใกล้ คิดเผื่อไปถึงตอนทำรัก เห็นแววตาใสซื่อของร่างเล็กที่กำลังนอนมองมาแล้วก็เกิดความละอาย
เหมือนจะได้สติกลับคืนมาแต่ว่ามันบางเบายิ่งกว่าเปลวไฟบนก้านไม้ขีดเสียอีก
ยิ่งถ้าไม่รีบถอยห่างออกจากสิ่งเร้า กิเลสตัณหาก็พร้อมจะเข้ายึดครองร่างทุกเมื่อและเพื่อรักษาความสดใสของเด็กคนหนึ่งไว้ หรัญญ์เกิดคิดกลับตัวกลับใจก่อนจะได้ไปนอนเล่นในคุกข้อหาพรากผู้เยาว์และปล่อยให้ร่างเล็กที่เข้าใจอะไรได้ช้านอนคอยเก้อ
เด็กชายหยัดกายลุกขึ้นมานั่งทับขาทั้งใบหน้าฉงน ยกนิ้วแตะหว่างคิ้วที่ยับย่นแผ่วเบา แล้วไล่ปลายนิ้วกับสันจมูกโด่งลงผ่านปาก จนถึงคางเรื่อยมายังกลางหว่างอก
ก่อนมือหนึ่งจะฉกฉวยอวัยวะสืบพันธุ์ของคนอื่นอย่างไม่มีอาการแตกตื่นใด ๆ แค่นั่งมองมือตัวเองขยับสาวตามความยาวด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น จนมีน้ำกระเซ็นโดนหลังมือเล็กน้อยก็หัวเราะชอบใจ ยกมือมาเช็ดเหงื่อบนใบหน้า ปัดปอยผมที่เกะกะตาออกและมองหน้าหรัญญ์เหมือนจะขออนุญาต
มือหนึ่งเลิกชายเสื้อยืดรัดรูปขึ้นก่อนจะยื่นปลายลิ้นแตะกับตุ่มไตสีเข้ม ห่อลิ้นยามลิ้มรสชาติความเค็มปะแล่ม ๆ ร่างเล็กแย้มยิ้มหยอดย้อยระหว่างแทะเล็มความมนกลมทีละนิดทีละหน่อยแล้วค่อยลองดูดเล่นจนเกิดเป็นความเพลิดเพลิน
เด็กน้อยสนุกสนาน โดยหารู้ไม่ว่ากำลังทำให้ชายอีกคนเป็นทุกข์จากความสุขของการถูกปรนเปรอ ต้องอดทดอดกลั้นกับความต้องการที่ตีตื้นขึ้นมา ความปรารถนามันเหมือนกรดไหลย้อน มันทำเอาแสบร้อนไปทั้งทรวง
“อยากให้ฉันทำแบบนี้ใช่ไหม…” จู่ ๆ เสียงทุ้มต่ำก็เอ่ยถามถึงความสมัครใจและถือวิสาสะสัมผัสหน้าอกบาง ทั้งยังออกแรงบีบเนินนมแตกพานและลอบสังเกตอาการที่ชะงักไปราวกับโดนไฟช็อต หรัญญ์เพิ่มน้ำหนักมือเพื่อกระตุ้นให้ร่างเล็กที่เอาแต่ก้มหน้าพูดด้วย
“ตกลงชอบแบบนี้หรือเปล่า”
แต่เด็กน้อยทำแค่พยักหน้าแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ผงกหัวน้อย ๆ แทนการตอบว่าชอบ
“หล่อ…”
คำแรกที่เสียงหวานเลือกเปล่งออกมาพานทำให้คนได้ยินประหลาดใจและหลุดหัวเราะ
“เหตุผลแค่เพราะฉันหล่อหรอกเหรอ”
“หล่อ” ร่างเล็กย้ำคำเดิมอีกรอบเมื่อเข้าใจว่าคนฟังกำลังชอบใจ
มองรอยยิ้มกว้างด้วยนัยน์ตาสุกสกาวและยกมือขึ้นกุมใบหน้าสมสัดส่วนราวกับต้องมนตร์สะกด เลือกจรดริมฝีปากกับปลายคางก่อนถอยออกมานั่งหน้าแดงก่ำ เขินอายคล้ายคนกำลังมีความรักและยอมเอนตัวลงนอนราบอีกครั้งขณะมีเงาดำขนาดใหญ่พาดผ่านร่างกาย
“ฉันมีดีกว่าหล่อนะรู้ไหม”
แล้วชายที่เคยกลัวต้องโทษก็ตัดสินใจฝ่าฝืนกฎหมาย หรัญญ์ถอดเสื้อยืดทันทีที่อยากจะแสดงให้ร่างเล็กเห็นว่าตัวเองไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องหน้าตา ลีลารักก็ไม่เป็นสองรองใคร
สายตาเจ้าเล่ห์ไล่มองร่างผุดผ่องที่หมองไปเล็กน้อยเพราะเศษดินสกปรก แล้วก้มลงจูบแถวกกหูขาว แทนที่จะเลือกจู่โจมอย่างรวดเร็วเช่นในคราวแรกกลับให้เวลาร่างเล็กได้คุ้นเคยกับความรู้สึกแปลกใหม่ แค่ลดริมฝีปากลงงับตามผิวกาย พ่นลมหายใจเย็นชืดใส่อย่างตั้งใจจนร่างเล็กเริ่มนอนหลังไม่ติดพื้น เผลอแอ่นหน้าอกขึ้นทุกครั้งที่รู้สึกใจหายวาบ
หรัญญ์จูบละทาง ตั้งแต่กลางหว่างอกลงต่ำสู่บริเวณท้องน้อยที่ยุบตามจังหวะการหายใจที่ผิดปกติ ถึงจะมีประสบการณ์บนโลกมนุษย์ไม่เท่ากับอีกคนและบ่อยครั้งสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ร่างเล็กก็พอรู้อยู่บ้างว่าต้องทำอย่างไรความทรมานพวกนี้ถึงจะอันตรธานหายไป
ยามที่ของสงวนถูกโพรงปากร้อนชื้นครอบครอง ดวงตาหยาดเยิ้มนอนมองผืนฟ้าที่วันนี้ไม่มีดาวสักดวงด้วยใจที่เต้นระส่ำ กำมือไว้กับอกขณะที่รู้สึกเหมือนมีนกนับพันตัวบินว่อนในท้อง
หรัญญ์ลอบมองสีหน้าเคลิบเคลิ้มจากหว่างขาแคบ ระหว่างช่วยรีดน้ำออกจากความบวมเป่งก็รับรู้ได้ถึงน้ำหนักมือบนศีรษะ เด็กน้อยคล้อยตามการเล้าโลมจนได้และนอนบิดเร้าไปมา เผยอปากและมีเสียงครางแวว ๆ ลอดมาตามกลีบปากที่แยกจากกัน
แต่เผลอแป๊บเดียวช่องว่างก็ถูกอุด ลิ้นใหญ่ดุนปากที่บวมเจ่อจนเปื่อยยุ่ย ตอนที่ลมพัดผุยผงของเศษดินให้ปลิวว่อน สองกายล่อนจ้อนกอดกันไว้เพื่อผ่านความเลอะเทอะไปด้วยกัน
“อ๊ะ…”
นิ้วที่ไม่ประสงค์ออกนามรุกล้ำเขตหวงห้ามอย่างค่อยเป็นค่อยไป
สอดใส่นิ้วแรกแล้วแหวกซอกหลืบให้กับนิ้วที่สองและสามตามลำดับจนเป็นเหตุให้ร่างเล็กผวา ทำท่าจะดิ้นแต่ติดที่ว่าผู้ใหญ่มีวิธีจัดการ หรัญญ์เอ่ยคำขอโทษอย่างอ่อนโยนและคำสั้น ๆ ก็มีอิทธิพลพอจะทำให้คนหวาดกลัวตกอยู่ในโอวาท
ที่ต่อต้านก็เพราะไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน ไม่เคยมาถึงขั้นตอนนี้เลยสักครั้ง
เพิ่งจะได้รู้จักกับความปวดร้าวไปทั้งโคนขาเป็นหนแรก เด็กน้อยรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกแยกส่วนเป็นสอง ส่วนผู้ใหญ่ค้นพบว่าภายในช่องทางสีหวานไม่มีพื้นที่ว่างให้ดุ้นยักษ์พอดิ้นรนและโดนผนังอุ่นร้อนรุมตอดอย่างบ้าคลั่ง สิ่งแปลกปลอมถูกความหนาแน่นห้อมล้อมจนต้องชะงักไว้กลางทาง พักยกเช็ดหน้าให้กับคนนอนน้ำตาไหล “ชู่ว…”
“เจ็บ” ร่างเล็กฟ้องทั้งน้ำตาแล้วโน้มคอหรัญญ์มากอด
“งั้นเราพอแค่นี้กันดีไหม” ชายผู้พ่ายแพ้ให้แก่น้ำตารีบถามและสัมผัสได้ว่าอีกคนกลิ้งคางไปมากับบ่าจนไม่รู้คำตอบแน่ชัดว่าตกลงเลือกอะไร “นี่ ขอฉันมองหน้าหน่อย”
วงแขนเล็กยอมปล่อยคนที่กอดให้เป็นอิสระ “ตกลงทำหรือไม่ทำ” หรัญญ์เปลี่ยนคำถามใหม่ ลดความซับซ้อนลงให้มากที่สุดเพื่อตัวคนตอบเอง เพราะใช่ว่าจับความเป็นเด็กพิเศษของอีกคนไม่ได้ เด็กชายผู้พิกลพิการทางสติปัญญากำลังจะทำให้ชายสติดีเป็นบ้าในที่สุด
จะให้หยุดหรือทำอะไรต่อก็ไม่เลือกพูดออกมาสักคำ หรัญญ์จึงตัดสินใจลงมือทำอะไรโดยพลการ ดันแก่นกายฝ่าความคับแคบอีกครั้งท่ามกลางเสียงโอดครวญแผ่วเบา ร่างเล็กกรีดร้องคลอไปกับการเขยื้อนเข้าออกอย่างเนิบนาบ จิกเล็บมือกับหน้าดิน จิกเล็บตีนกับหญ้าขณะที่ความใหญ่โตถดถอยออกเพียงช่วงสั้น ๆ แล้วดันกลับเข้ามาใหม่รวดเดียว
ร่างเล็กนอนถ่างขาอยู่กึ่งกลางระหว่างความเสียวซ่านกับความทรมานจับใจ
น้ำตาไหลรินหยดแล้วหยดเล่าจนทำให้หรัญญ์รู้สึกว่ากำลังเข้าข่ายขืนใจไปทุกขณะ แต่จะว่าเห็นแก่ตัวก็ได้ หลังจากทำให้เด็กคนหนึ่งมีมลทินก็ยังพูดอะไรสิ้นคิดอย่างพวกชอบเอาเปรียบออกมา เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างใบหูเล็กว่าอดทดเอาหน่อย ช่วงแรกอาจจะเจ็บปวดรวดร้าวแล้วเดี๋ยวอาการจะทุเลาลงในไม่ช้า
ริมฝีปากหนาพรมจูบซับตามหน้าผากที่เริ่มมีเหงื่อซึมประปราย ส่วนหนึ่งก็เผื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ซึ่งมันก็ได้ผลลัพธ์ดีเกินคาด เด็กน้อยหลงกลอุบายของปีศาจแฝงฝันจนหยาดน้ำตาค่อย ๆ เหือดแห้ง ระหว่างหลับตาแลกเปลี่ยนรสชาติ พรหมจรรย์ก็ถูกคร่าอย่างไม่ปรานี
พอลองขยับบ่อย ๆ อะไรต่อมิอะไรก็เริ่มลงล็อก เกิดสภาพคล่องเอื้อต่อการเคลื่อนไหวเข้าออกจนสามารถเพิ่มความเร็วได้ แก่นกายทลายทำนบความฝืนเคืองจนสิ้นซาก ซ้ำยังกระทบกระทั่งกับผนังอ่อนนุ่มอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วงขึ้นในทุก ๆ วินาทีที่สติถูกมีดบั่นทอน
ภาพร่างอ้อนแอ้นนอนตัวแดงไปด้วยแรงอารมณ์ทำคนมองแทบคลั่งและยากจะยั้งใจไม่ให้กระทำรุนแรง ท่อนแขนหนารีบช้อนใต้ข้อพับขาที่แหวกออกแล้วล็อกมือเหนือสะโพกผาย บังคับให้ร่างเล็กเขยื้อนกายเข้ามารับแรงกระแทกอย่างพอเหมาะพอเจาะและเพราะว่ามีความอดทนต่ำกว่า ไม่แปลกที่เด็กจะรีบปลดปล่อย แผ่นหลังเปื้อนดินกระตุกลอยขึ้นจากพื้นพอดีกับมีมือหนึ่งยื่นมาขยำเต้านม จมูกโด่งลดลงดมกลิ่นสาบสางและอ้าปากงับเนินนูนเต็มคำ
หรัญญ์ฉุดร่างเล็กขึ้นมานั่งบนหน้าขาแล้วละเลงลิ้นกับตุ่มไตที่แอ่นให้ดูดอย่างลืมตัว ช่วงแขนสั้นโอบรอบหัวผู้ใหญ่ขณะปล่อยร่างกายไปตามกลไกที่ถูกวางระบบไว้จนไม่ต่างอะไรกับโสเภณีผู้ร่านรัก ยังไร้เดียงสาเช่นเก่า เพิ่มเติมด้วยเสน่ห์อันแพรวพราวที่เกิดขึ้นรวดเร็วราวกับเสกได้
ดอกไม้บานสะพรั่งเพราะได้ทั้งดินได้ทั้งน้ำรินรดอยู่ตลอดเวลา
น้ำแรกแตกคาช่องทางลับนำพาความฉ่ำเยิ้มมาสู่ซอกขา
หรัญญ์ถอนแก่นกายออกในไม่กี่วินาทีถัดมาแล้วช่วยร่างเล็กจัดแจงท่วงท่าใหม่ ๆ กลับไปเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ขึ้นขย่มกันในฤดูผสมพันธุ์ มือกร้านช่วยปัดเศษดินตามผิวกายละเอียดออกให้แบบขอไปทีเพราะไม่มีเวลามากนัก จิตใจกำลังฮึกเหิมเกินกว่าจะมานั่งทำอะไรอย่างประณีต ก่อนอวัยวะเพศที่จ่อประชิดหว่างขาขาวจะมุดหายเข้ากลีบเมฆ
เร่งเครื่องไม่นานน้ำมันก็หล่อเลี้ยงไปทั่วยานพาหนะ ทั้งที่รู้เรื่องกฎหมายการจราจรดีแต่กลับขับขี่ด้วยความเร็วเกินกว่ากำหนด เหมือนรถที่เบรกแตกลงทางลาดชั้น รีบจับต้นขาเล็กไว้มั่น รั้งให้หยัดอยู่กับที่เดิมเมื่อแรงกระแทกกระทั้นเริ่มทำให้ร่างเล็กกระเถิบห่างออกไป
เด็กน้อยยันหน้าผากไว้กับต้นไม้ตอนร่างกายสั่นสะเทือนเกินควบคุม ฝ่ามือเล็กบุ๋มไปกับดินบ่งบอกว่าการร่วมประเวณีเริ่มกินเวลาเข้าไปเรื่อย ๆ จนเมื่อยไปทั้งแขน
หมาบ้านแหงนคอหอนเสียงดังลั่นป่าทั้งที่ไม่ใช่คืนวันพระจันทร์เพ็ญ ยิ่งใกล้เสร็จสมอารมณ์หมายเท่าไหร่ยิ่งได้ยินคำพูดไม่เป็นภาษายากจะถอดความ เสียงคำรามทุ้มต่ำในลำคอผสานกับเสียงหวานที่ขับขานเป็นบทเพลงไพเราะ นัยน์ตาเยิ้มเงยมองใบไม้เหนือหัวด้วยความสงสัยว่ามันขยับอยู่ใช่หรือเปล่าหรือเป็นร่างกายตัวเองที่ถูกเขย่าจนเห็นอะไรเคลื่อนไหวไปเสียหมด
น้ำสองหลั่งรดบนแก้มก้นซ้ายแล้วไหลลงแนวดิ่งทิ้งตัวอย่างเชื่องช้า ส่วนคนคึกคะนองสองยกเข้าไปแล้วก็ยังใจสู้ ผู้ใหญ่มักมากขอต่อรอบสุดท้าย ไม่รอให้ร่างเล็กได้พักหายใจหายคอ แต่ก็ยังพอมีความเมตตานึกถึงใจเด็กที่เล็กเกินกว่าจะจินตนาการภาพท่าทางสัปดนเองออก
นัยน์ตาสีบรั่นดีมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของชายที่พรากความบริสุทธิ์ไปในขณะถูกจัดให้ยกแขนโอบรอบต้นไม้ ก่อนสองริมฝีปากที่อยู่ใกล้กันเป็นไม่ได้ เหมือนน้ำมันกับไฟจะแนบสนิทเป็นเนื้อเดียว หรัญญ์ยันฝ่ามือหนึ่งกับต้นไม้ตอนเล่นน้ำลายเป็นเด็ก ยอมให้ลิ้นเล็กเลียปากระหว่างดันเจ้าโลกเข้าในหว่างก้นและการเดินทางสุดรัญจวนใจก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
ความต้องการไม่ได้เกิดแล้วดับไปเหมือนร่างกายมนุษย์
จะหยุดได้ก็ต่อเมื่อไม่ต้องการ
ร่างเล็กหันกลับไปซบหน้ากับต้นไม้พลางโอบกอดมันไว้แน่นแทนหมอนข้างระหว่างหลับตาลงเพื่อที่จะฝันถึงวันหนึ่งในฤดูร้อน นอนแก้ผ้าริมทะเลสาบ วิ่งลงไปเล่นน้ำแล้วกลับขึ้นบกที่โสโครกไปด้วยเรื่องราวอันโสมม ก่อนความสุขนั้นจะทำให้ละเมอเผลอร้องระงมขึ้นมา
หรัญญ์เองก็หลับตาดื่มด่ำกับบรรยากาศแสนหวาน ฟาดมือกับก้นงอนเป็นครั้งคราวขณะเคลื่อนสะโพกสอบ เสือกแก่นกายเข้าออกไม่ออมแรงจนผิวบริเวณรอบช่องแคบแดงระเรื่อเจือความบอบช้ำอย่างหนัก
เสียงลมหายใจกระชั้นชิดดังถี่ขึ้นจนแม้แต่ตัวเองยังได้ยินเสียงของตัวเองชัดเจน
เสียงกัดฟันกรอดเด่นชัดอยู่ในโสตประสาท
ขนาดเสียงเหงื่อหยดลงบนดินยังดังกังวานอย่างไม่น่าเชื่อ
แล้วเมื่อค่อย ๆ ลืมตาท้องฟ้าก็ถูกบดบังด้วยเพดานไม้ ตอนนั้นเองที่หนุ่มใหญ่หายเคลิบเคลิ้มกับความสุขแล้วลุกพรวดพราดขึ้นมานั่งอย่างตกใจ รีบควานมือหาอีกร่างที่เมื่อคืนจำได้ว่าอุ้มมานอนตรงนี้ พอดีกับที่มีเสียงเคาะประตูห้องจากด้านนอกเบา ๆ แต่เจ้าของนัยน์ตาดำด้านทำเพียงนั่งมองความว่างเปล่าพลางเสยผมเผ้าที่ยุ่งอย่างลวก ๆ
แล้วก็มีเศษดินร่วงกร้าวลงมาจากฝ่ามือใหญ่
ถ้าหากไม่มีเศษดินติดตามตัวกับเสื้อผ้ามาก็คงจะนึกว่าเรื่องทุกอย่างเป็นเพียงความฝันของคนช่างเพ้อ คราบดินที่แห้งกรังเต็มสองฝ่าเท้าช่วยยืนยันได้อีกแรงว่าเหตุการณ์ทั้งหมดในป่านั้นเป็นความจริง ลองเอามือทาบกับผ้าปูที่นอนก็ยังสัมผัสได้ถึงไอร้อนของอีกคน
‘ตื่นได้แล้วไอ้เสือ’
หรัญญ์กลับคืนสู่ปัจจุบันได้เพราะสหายพยายามเรียกจนคอแห้ง
“ฉันตื่นแล้ว ขออาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวตามลงไป”
ตะโกนกลับเพื่อทำให้เพื่อนหายเป็นกังวล รอจนเสียงเดินเงียบไปถึงได้ลุกจากเตียง หรัญญ์เดินถอดเสื้อเข้ามาในห้องน้ำและหันหลังกลับเพื่อเหลือบมองรอยข่วนสดใหม่ผ่านเงาในกระจก มันเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ร่างเล็กฝากไว้ในยกถัดมาและดูท่าคงต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะจาง แต่ถ้าให้เลือกระหว่างตื่นมาเจอร่องรอยที่เกิดจากการร่วมรักกับมีอีกคนนอนอยู่ข้าง ๆ หนุ่มใหญ่ที่เพิ่งเดินตัวเปียกออกมาสวมชุดใหม่ขอเลือกอย่างหลัง
หรัญญ์ก้าวลงบันไดวนมายังด้านล่างอย่างรีบร้อน แต่ดันเจอเพื่อนกวักมือเรียกจากในห้องทานอาหารเสียก่อน ความตั้งใจที่จะออกไปตามหาร่างเล็กจึงต้องมีอันพับเก็บใส่กระเป๋า
ช่วงขายาวเปลี่ยนทิศทาง ย่างเข้าใกล้โต๊ะทานข้าวทุกขณะ แต่ว่ากว่าจะไปถึงก็ต้องผ่านตู้โชว์ของมากมาย ทั้งที่เมื่อวานเดินผ่านไปแล้วตั้งหลายรอบ เพิ่งจะมาสะดุดตากับกรอบรูปบานเล็กอันหนึ่งที่วางอยู่กึ่งกลางระหว่างภาพทิวทัศน์
หรัญญ์เดินถอยหลังกลับมาที่ตู้กระจกแล้วถือวิสาสะเปิดตู้เพื่อหยิบกรอบรูปบานนั้นมาดูใกล้ ๆ และได้เห็นใบหน้าแสนคุ้นตาในรูปแบบของกระดาษ เด็กชายทำสีหน้าเรียบเฉยขณะในมือกำก้านดอกไม้ไว้ ราวกับตากล้องตามเดินถ่ายแล้วอาศัยจังหวะหันกลับมามอง ภาพจึงออกมาแนวกำลังเผลอ
“ดูอะไรอยู่วะ” กวินทร์เข้ามาได้จังหวะ นั่งรอกินข้าวจนแสบท้องและเมื่อเพื่อนยังไม่มีท่าจะเดินไปหาสักทีจึงลองเดินมาดู เหมือนรู้ว่าคนยืนนิ่งไปกำลังต้องการใครสักคนที่พอจะอธิบายและสามารถให้คำตอบกับเรื่องนี้ได้
“นี่รูปใคร”
หรัญญ์ถามแล้วมองตามมือที่ฉวยกรอบรูปไปดู พอเห็นหัวแม่โป้งของกวินทร์ลูบใบหน้าเล็กผ่านแผ่นกระจกบาง ๆ ด้วยความทะนุถนอมแล้วยิ่งสงสัย ผิดกลับเพื่อนที่มีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด แววตานั้นแสดงออกถึงความห่วงหาอาลัย ก่อนจะอ้าปากเฉลยทั้งชื่อและความจริงที่แสนน่าใจหายให้ฟัง น็อกผู้ชายร่างยักษ์ให้ยืนมึนงงคล้ายโดนชกไปหลายหมัด
“
มะลิน่ะ” หัวแม่โป้งยังคงลูบอยู่อย่างนั้น “
หลานชาย เสียไปเมื่อสองปีก่อน”
---------------------------------------
ชอบไม่ชอบเม้นบอกกันได้นะคะ
แล้วก็สามารถติดตามข่าวสารได้ที่เพจเลยค่ะ --->
9crimes - นายคราม FANPAGE