———— เหมายัน ———— (ปัจฉิมบท) ๑๘.๑๐.๖๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ———— เหมายัน ———— (ปัจฉิมบท) ๑๘.๑๐.๖๐  (อ่าน 89238 ครั้ง)

ออฟไลน์ กระเหี้ยนกระหือรือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3

***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

***************************************************************************************




ต้น ‘มะลิ’ งอกงามท่ามกลางความมืดมิดมาอย่างยาวนาน
ก่อนจะได้พบกับแสงแรกของวันที่ชื่อ ‘หรัญญ์’ ในรอบสิบสามปี



เหมายัน
โดย กระเหี้ยนกระหือรือ (นามปากกาใหม่ 9crimes)


เวลากลางวันช่างยาวนาน แต่ที่รัก เวลากลางคืนนั้นยาวนานยิ่งกว่า




สารบัญ – เหมายัน



ติดตามข่าวสาร

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-07-2018 21:16:06 โดย กระเหี้ยนกระหือรือ »

ออฟไลน์ กระเหี้ยนกระหือรือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: ———— เหมายัน ————
«ตอบ #1 เมื่อ04-09-2017 16:59:08 »








แด่เด็กน้อยพิกลพิการ 
แด่สัตว์เดรัจฉานในคราบผู้ใหญ่









ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: ———— เหมายัน ————
«ตอบ #2 เมื่อ04-09-2017 17:06:29 »

 :pig2:

ออฟไลน์ กระเหี้ยนกระหือรือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: ———— เหมายัน ————
«ตอบ #3 เมื่อ06-09-2017 23:32:15 »


ดั่งเสียงฟ้าฟาดในฤดูวัสสานะ

ราวกับหน้าฝนมาเยือนเร็วกว่าทุกปี เสียงก้องกังวานเสมือนฟ้าพิโรธนั้นทำเอาเหล่าสัตว์กลางคืนตื่นตระหนก บ้างหนีเข้าโพรง บ้างขุดลงดินและปิดบ้านไม่ต้อนรับแขก   

ลมกรรโชกแรงกระพือกลิ่นไหม้จากปลายกระบอกสีดำขลับให้ยิ่งลอยฟุ้งในอากาศ

ขนาดพระจันทร์ยังตกใจเสียงกัมปนาทและรีบหลบฉากเข้าในกลีบเมฆจนเกิดปรากฏการณ์คืนเดือนดับ แม้แต่ดาวประจำเมืองที่เคยเรืองรองต่างก็กรีดร้องด้วยความหวาดกลัวเมื่อเสียงเหนี่ยวไกนัดที่สองดังทั่วทั้งผืนป่า   

น่านฟ้ามืดมนแต่ไม่เท่าจิตใจคนคลั่ง 

สองเท้าเปล่าต่างขนาดย่ำกับหน้าดินอุ้มน้ำจนปรากฏรอยยุบ ประทับตราไว้บนความนุ่มนวลก่อนจะชวนกันเพิ่มความเร็วของฝีเท้าเมื่อบางอย่างเริ่มกระชั้นชิดเข้ามา

ฝ่ายวิ่งนำกระชับมือคนวิ่งตามระหว่างพาวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต ทั้งคู่สับขาผ่านพันธุ์ไม้นานาชนิด แต่ ณ เวลานี้ไม่มีกระจิตกระใจจะแวะชมเชยดั่งเช่นวันก่อน ๆ

มีเพียงสัญชาติญาณของการเอาตัวรอดที่ขับเคลื่อนกายหยาบกับสติที่ใกล้แตกเต็มทน

แต่ถึงจะอยู่ในสภาวะกดดันอย่างหนัก ที่ปรึกษาผู้เคยประสบกับเหตุการณ์บีบคั้นมาบ้างก็พยายามประคับประคองสถานการณ์ให้ตลอดรอดฝั่ง คอยใช้ท่อนแขนแหวกทาง ปัดกิ่งไม้หลบไปด้านข้างจนเกิดช่องว่างให้พอเอาตัวรอด ดันร่างเล็กกว่าไปก่อนแล้วค่อยตัดสินใจหาที่ซ่อนฉับพลัน รีบฉุดข้อมือเล็กให้มาหลบหลังต้นไม้และกกกอดร่างที่สั่นงันงกไว้จนจมอก

ทั้งคู่เหงื่อแตกซก หยดน้ำตกจากขมับ เสื้อผ้าอับชื้นไปด้วยคราบไคลแล้วมันก็ยากจะกำหนดลมหายใจให้กลับมาสม่ำเสมอหลังจากที่เจอไล่ล่าจนต้องวิ่งมาราธอนมาค่อนชั่วโมง

อดัมกับอีฟกำลังตกที่นั่งลำบาก อกสั่นขวัญแขวนเมื่อรับรู้ได้ถึงการมาของพระเจ้าผู้สร้าง แม้จะมีจำนวนคนมากกว่า แต่ลำพังจะไปสู้อะไรกับนักล่าอาวุธครบมือ

ท่ามกลางความเงียบสงัด เท้าหนึ่งจงใจเหยียบลงบนใบไม้แห้งเพื่อหวังแกล้งให้เหยื่อกลัวแทบฉี่ราด ตามด้วยการยิงปืนขึ้นฟ้าอีกหนึ่งนัดจนเกิดเสียงสนั่นหวั่นไหว ไม่เสียดายกระสุนหากมันจะทำให้ใครก็ตามที่มุดหัวอยู่แต่ในรูยอมเปิดเผยตำแหน่งที่ตั้ง

ร่างหนายืนปักหลักอยู่ที่เดิมเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ นัยน์ตาขวางกลอกมองซ้ายมองขวาระหว่างกำด้ามปืนไว้มั่นพร้อมลั่นไกทุกเวลา จนเมื่อตระหนักได้ว่าเป้าหมายอาจจะไม่ได้แฝงตัวอยู่แถวนี้อย่างที่คาดการณ์ไว้จึงหันหลังให้กับต้นไม้ต้นใหญ่ตรงหน้า

เส้นผมบังตาจนไม่ทันเห็นชายกระโปรงยาว 

นายพรานเดินหน้าออกตามล่าราชสีห์กับกระต่ายขาวที่หายไป






ปฐมบท






“ลมอะไรหอบแกมาวะไอ้เสือ”

“แค่เบื่อ ๆ น่ะ”

“เลยถ่อสังขารมาถึงบ้านนอก…?”

“ก็ไม่เชิง ความจริงแกก็รู้เหตุผลที่ฉันมาดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

“บอกตามตรงนะว่าฉันยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น”

“แต่บริษัทจำเป็นต้องมีผู้สืบทอด”

“คนพวกนั้นก็เลยส่งที่ปรึกษาผู้เก่งกาจอย่างแกมาเกลี่ยกล่อมฉันสินะ”

หรัญญ์ลอบถอนหายใจเหนื่อยหน่ายกับความเป็นเด็กไม่รู้จักโตของกวินทร์เพื่อนรักวัยสามสิบกว่าที่ละทิ้งสมบัติพัสถานมากมายของครอบครัวไว้ในเมืองกรุงแล้วมุ่งหน้ามาอาศัยในป่าดงพงไพรโดยให้เหตุผลว่าเบื่อความวุ่นวายและขยะแขยงความหน้าไหว้หลังหลอกของผู้คน

จะไม่มีใครสนใจเลยสักนิดหากชีวิตของคนอีกนับพันไม่ได้กำลังขึ้นอยู่กับผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้าม บริษัทใหญ่ยักษ์จะเดินหน้าลำบากหากขาดผู้นำที่ถูกวางตัวไว้แล้วตั้งแต่ถือกำเนิด

ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองเกิดมาบนกองเงินกองทองและมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ แทนที่จะยอมเห็นแก่ส่วนร่วมมากกว่า กลับกลายเป็นว่าเลือกความสุขส่วนตัว ระหกระเหินเดินทางมาไกลเพื่ออยู่กับต้นไม้ใบหญ้าที่ไม่ได้ให้อะไรมากไปกว่าออกซิเจนบริสุทธิ์และมันก็ไม่ได้ทำให้มนุษย์อีกหลายชีวิตมีกินมีใช้   

“ลูกสาวแกเป็นยังไงบ้างวะ”

“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง”   

“ใจคอแกจะไม่คุยเรื่องอื่นกับฉันเลยหรือไง”

จนปัญญาจะต่อล้อต่อเถียง ทำได้เพียงไหลไปกับบทสนทนาหัวข้อใหม่  “ก็สบายดี”

“เป็นสาวแล้วล่ะสิท่า”

“เด็กสมัยนี้โตไวจะตาย”  เผลอแป๊บเดียวลูกสาววัยสิบห้าปีก็รู้จักแต่งหน้าทาปากสีฉูดฉาดอย่างไม่กลัวว่าจะถูกใครนินทาว่าดูแก่เกินวัย

เด็กในเมืองเติบโตแบบก้าวกระโดดและใช้ชีวิตโลดโผนโจนทะยานในป่าคอนกรีต ทุกสิ่งมีชีวิตที่เกิดใหม่วิวัฒน์ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด แทนที่จะวิ่งหรือขี่ม้าไล่ตามให้ทันเหมือนแต่ก่อน คนเราหันมาผ่อนรถและใช้โหมดขับอัตโนมัติกันหมดแล้ว

หรัญญ์ยกแก้วกาแฟจิบไปพลางระหว่างกวาดสายตามองบริเวณบ้านโดยรอบที่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ อากาศตรงชานระเบียงเย็นสบายจนหนุ่มใหญ่ค่อย ๆ ปล่อยใจไปกับสายลม ทรงผมที่เซตมาอย่างดีขยับเอื่อย ๆ เป็นจังหวะเดียวกับใบไม้ไหว   

“แล้วไม่คิดจะหาเมียใหม่บ้างเหรอวะ” 

“จะมีใครอยากแต่งงานกับพ่อหม้ายบ้างล่ะ”  สถานะใหม่เอี่ยมอ่องได้มาครอบครองเมื่อประมาณสองสามเดือนเศษ เหตุเพราะภรรยาที่อยู่กินด้วยกันมาร่วมนับสิบปีขอหย่า ซึ่งเหตุผลที่ใช้อ้างในคราแรกคือหมดใจ หลังเซ็นใบหย่าให้ถึงได้ยอมรับสารภาพว่ากำลังคบหากับชายอื่น

ชายอีกคนที่ควรจะสะอึกสะอื้นด้วยความเสียใจ จึงทำแค่ยืนไว้อาลัยให้กับความโง่เขลาของตัวเอง มารู้ทีหลังอีกว่าเสียเมียให้กับคนที่เด็กกว่า หนุ่มกว่า สดกว่าแล้วมันน่าเจ็บใจไม่น้อย พลอยทำให้ติดใจสงสัยว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาขณะร่วมรักเธอกำลังนึกถึงใครกันแน่ 

“แต่ในกรณีของแกฉันว่ามีเยอะอยู่นะ” 

คำว่า ‘พ่อหม้าย’ ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ลดลงแต่กลับช่วยส่งเสริมให้ยิ่งเนื้อหอม ความจริงข่าวการหย่าร้างเป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนรอฟังมาตลอด รอว่าเมื่อไหร่ความสัมพันธ์ของคู่รักที่แต่งงานกันตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยจะสั่นคลอนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

งานถ่ายแบบชุกพอ ๆ กับที่ถูกสาวเล็กสาวใหญ่หมายปอง บรรดาตากล้องจีบลงปกนิตยสารธุรกิจ ผู้หญิงหลายคนเข้ามาในชีวิตเพราะอยากเป็นทองแผ่นเดียวกัน

ด้วยความที่หล่อเหลาเอาการระดับงานปั้นฝีมือจิตกรชั้นเอก ตัวสูงใหญ่ไหล่กว้างดั่งมหาสมุทร สุขุมและภูมิฐาน อาชีพการงานก็มั่นคงราวหินผา แทบไม่มีใครสนใจประวัติที่ว่าเคยแต่งงานมาก่อน แค่อยากนอนทอดร่างให้เปล่าเพื่อทดสอบความชำนาญทางการเพศหลังได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างผ่านปากต่อปากว่าเด็ดนักเด็ดหนา 

แถมปัญหาเรื่องลูกติดก็หมดห่วง มีข้อความโชว์หลาในหน้าข่าวสังคมว่าอดีตภรรยาหวงลูกถึงขั้นหอบไปอยู่ด้วย ช่วยลดปัญหาจุกจิกให้กับแม่เลี้ยงในอนาคตไปได้เยอะ 

“มีตาก็หัดใช้มองซะบ้างสิวะ มีแต่ผู้หญิงจ้องจะงาบแกกันทั้งนั้น”

“แต่ฉันไม่สนใจว่ะ”  หรัญญ์ยักไหล่ไม่ยี่ราขณะนั่งไขว่ห้าง ท่าทางทะนงตนขับให้ดูน่าหมั่นไส้ ใครคนอื่นมาเห็นเข้าคงเผลอกลอกตาบนแต่เผอิญว่าอีกคนเป็นถึงสหาย กวินทร์ชินกับนิสัยใจคอเกินกว่าจะเก็บมาถือสา ยักไหล่มาก็ยักไหล่กลับก่อนจะรำพึงรำพันน้ำเสียงเนือย ๆ   

“อยากได้คนไหนก็แค่หิ้วขึ้นห้อง ชีวิตที่ไม่ต้องมีข้อผูกมัดคงมีความสุขกว่าเป็นไหน ๆ สินะ ฉันล่ะอิจฉาแกจริง ๆ”

“ก็หาผู้หญิงดี ๆ สักคนมาอยู่ด้วยกันซะสิ”  คนมีประสบการณ์แนะนำ

ถ้าให้พูดกันตามเนื้อผ้า กวินทร์ก็ไม่จัดว่าหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่เลยสักนิด การันตีด้วยเลขตัวเดียวจากการจัดลำดับทายาทหนุ่มสุดฮอตของนิตยสารชื่อดัง ถ้าตัดความรักสันโดษออกไปนิด เพิ่มความเป็นมิตรเข้ามาสักหน่อย ก็คงจะมีผู้หญิงไม่น้อยอยากเข้าหา ผู้ชายผิวแทนกำลังมาแรงเห็นคนอื่นว่าอย่างนั้น ชาติตระกูลก็เพียบพร้อม มีก็แต่เจ้าตัวนั่นแหละที่ไม่ยอมเปิดใจ

แล้วจะมาโอดครวญหาสวรรค์วิมานอะไรในเมื่อตัวเองกำลังปิดกั้นโอกาสตัวเอง   

“ไหนว่าแกชอบเด็ก หาเมียมาทำลูกให้สักคนตอนนี้ก็ยังไม่สายนะ”   

หรัญญ์เอ่ยระหว่างขยับเปลี่ยนท่านั่ง แล้วหางตาก็เหลือบเห็นใครบางคนที่ด้านล่างกำลังเขย่งปลายเท้าเปล่าเดินบนยอดหญ้าระหว่างกำชายกระโปรงที่ยกขึ้นสูงถึงต้นขาไว้ ก่อนคนที่ดูอ่อนวัยกว่ามากจะยักย้ายร่างกายเชื่องช้าเสมือนดอกหญ้าต้องลม
 
ผมเส้นดุจแพรไหมปลิวไสวยามร่ายรำท่ามกลางขุนเขา 

ความผุดผ่องของผิวพรรณที่โผล่พ้นผ้าขาวทำเอานัยน์ตาดำด้านไม่อาจละสายตา สรีระบอบบางช่างชวนมอง ความพลิ้วไหวของสะโพกตรึงใจเสือป่าผู้กระหายเนื้อสดได้อยู่หมัด จนชั่ววูบหนึ่งเกิดแรงพิศวาสกับคนที่กะขนาดตัวจากสายตาแล้วก็เข้าใจว่ายังเป็นเด็ก

สัตว์ร้ายที่หลับใหลภายในเป้ากางเกงกำลังถูกเขย่าให้ตื่น

เมื่อขาดอย่างนึงไปก็จะได้อีกอย่างนึงมาแทน ความรู้สึกไวนับเป็นพรสวรรค์ที่มีมาตั้งแต่เกิด จากที่เริงระบำจึงเปลี่ยนเป็นเดินกางแขนและเลิกเอาแต่หลับตาแหงนหน้าสู้แสงตะวัน ได้ฤกษ์ลืมตาอวดสีเลนส์พร้อมกับเห็นว่ามีผู้ชายแปลกหน้านั่งมองลงมาจากชานระเบียงชั้นสอง

แถมจดจ้องด้วยสายตายากจะพรรณนา ซับซ้อนกว่าเขาวงกตก็ไม่ปาน

เพราะหรัญญ์อยู่สูงกว่าจึงมองดวงหน้าจิ้มลิ้มได้ถนัดถนี่ กลีบปากสีเชอรี่ชวนให้อยากชิมความเปรี้ยวอมหวาน แล้วความกำหนัดก็ถูกปลุก สัญชาตญาณดิบลุกฮือแค่เพราะมือเล็กถกชายกระโปรงขึ้นสูงกว่าเดิมและเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง ร่างเล็กสร้างจังหวะขึ้นเอง เต้นตามบทเพลงใบ้เพื่อทำการแสดงต้อนรับอาคันตุกะที่มองตามความอ่อนเยาว์ตาไม่กะพริบ

ก่อนจะรีบออกปากถามเพื่อนด้วยความสนใจ

ยอมละสายตาออกชั่วคราว  “เด็กนั่นใคร”

“เด็ก…?”  กวินทร์ย่นหัวคิ้วด้วยความฉงน  “ไหน”  รีบหันใบหน้ามองตามแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า ไม่เห็นจะมีเด็กสักคนอย่างที่เพื่อนสนิทกล่าวถึง  “แกตาฝาดแล้วละมั้ง”

ถึงความว่างเปล่าจะเข้ามาแทนที่ที่ร่างเล็กเคยอยู่ แต่หรัญญ์ก็เชื่อว่าหูตาตัวเองไม่ได้ฝ้าฝางขนาดเห็นอะไรเป็นตุเป็นตะอยู่ตั้งนานสองนาน 

“ฉันเห็นจริง ๆ เด็กผู้หญิงผมสอยสั้นประมาณนี้”

“แต่ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวจำไม่ได้เหรอเพื่อน…?”

ความจริงที่ต่างรู้กันดีทำให้หรัญญ์กลายเป็นผู้ชายที่ชอบฝันกลางวันไปโดยปริยาย ประเด็นเห็นเด็กผู้หญิงปริศนาเป็นอันตกไป แต่ก็ไม่วายถูกเพื่อนล้อว่าสงสัยจะเห็นนางไม้ ให้ระวังตอนกลางคืนจะโดนลวงไปฆ่าในป่า เสียงทุ้มต่ำตอบกลับติดตลกแค่ว่าจะระวังตัวไว้

หลังจากคุยกับสหายอีกไม่กี่ประโยค เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่รู้สึกค้างคาใจก็ขอตัวลงมายังด้านล่าง อ้างว่าอยากเดินเล่นสักหน่อย ทำเป็นยืนมองซ้ายมองขวาแล้วค่อยนั่งยอง ๆ จ้องที่พื้นดินซึ่งปรากฏรอยเท้าของมนุษย์ไม่ผิดแน่

“ไอ้เสือ ฉันโทรบอกให้ป้าแม่บ้านเข้ามาจัดห้องให้แล้วนะ”

เสียงตะโกนจากชั้นสองเรียกให้คนรีบลุกขึ้นยืนหันมองและพยักหน้าเป็นอันรับรู้

ตอนแรกการค้างคืนไม่ได้อยู่ในกำหนดการที่หรัญญ์วางไว้ แต่เมื่อความอยากรู้อยากเห็นเป็นใหญ่กว่าอะไรทั้งหมด ปกติเป็นคนสงสัยอะไรต้องได้คำตอบจึงยอมเสียงานเสียการหนึ่งวัน ค่อยกลับในเช้าถัดไปเพื่อแลกกับการที่อาจจะไม่หรือได้เจอกับเด็กผู้หญิงที่วิ่งหนีไปในตอนเที่ยงวันและฝากไว้เพียงรอยเท้าให้ดูต่างหน้า   

คุณพ่อโทรหาลูกสาวเพื่อเล่าความเป็นไปในหนึ่งวันให้ฟังนิดหน่อยแล้วค่อยบอกฝันดีปิดท้าย หรัญญ์ที่สวมใส่ชุดนอนสหายปิดไฟสีส้มและล้มตัวลงนอนบนเตียงห้าฟุตที่พอเหยียดขายาวก็สุดขอบเตียงพอดี เข้านอนไวแต่เวลาผ่านไปนับชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะง่วง จนเวลาร่วงเลยเข้าสู่วันใหม่ก็ยังตาค้าง คงเพราะแปลกที่แปลกทางตกกลางคืนจึงนอนไม่หลับ

ทำแค่ขยับตัวไปมาจนผ้าเสียดสีกันและเกิดเสียงสวบสาบ พยายามข่มตาขณะหัวหนุนหมอนนอนตะแคง เปลี่ยนท่าเป็นพลิกตัวนอนหงายเอามือก่ายหน้าผาก หลังจากลองนับแกะแล้วไม่ได้ผล คนตาแจ้งจึงนอนฟังเสียงแมลงร้องในยามค่ำคืน แต่ จู่ ๆ ก็ลืมตาขึ้นกะทันหันทันทีที่ได้ยินเสียงย่างก้าวท่ามกลางความเงียบสงัด

สำหรับบ้านไม้ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูจะส่งเสียงดังไปเสียหมด แล้วคนนอนอยู่ในห้องรับรองก็คล้ายจะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องตัวเองและพานคิดไปถึงเด็กหญิงปริศนามากกว่าจะคิดว่าเป็นวิญญาณหรือพวกเหนือธรรมชาติอะไรทำนองนั้น 

หรัญญ์ไม่ใช่คนขวัญอ่อน แต่ก่อนจะเปิดประตูออก หนุ่มใหญ่เสียเวลากับการทำตัวย่องเบาไปไม่น้อย กลัวว่าการบุ่มบ่ามจะทำให้คนอีกด้านของประตูตกใจจนเตลิดหนีไป แต่เมื่อลองเปิดประตูจริง ๆ กลับไม่พบแม้แต่มวลสารใด ๆ ไม่มีแต่เงาดำ 

เกือบเชื่อว่าโดนสิ่งลี้ลับหลอกหลอนเข้าให้อย่างที่เพื่อนกล่าวไว้ ถ้าเผอิญไม่ตาไวเห็นชายกระโปรงลากยาวละไปตามขั้นบันไดวนอย่างรีบร้อนและตอนถึงขั้นบันไดล่างสุด ร่างเล็กกลับหยุดยืนเฉยแล้วเงยหน้ามองชั่วครู่ ส่วนหนุ่มใหญ่ที่ยืนอยู่บนบันไดขั้นสูงสุดกำลังลังเลว่าจะเอาอย่างไร แต่พอเห็นอีกคนออกเดินครั้งใหม่ ใจก็สั่งให้ก้าวเท้าตามสลับกับวิ่งเป็นระยะ

เมื่อก่อนเคยภูมิใจกับช่วงขายาวของตัวเองแต่มาวันนี้กลับวิ่งตามเด็กไม่ทันเสียอย่างนั้น สงสัยเป็นอิทธิฤทธิ์ของนางไม้ที่ชำนาญการเดินป่ากว่าภูตผีตนไหน ปล่อยให้คนไม่สันทัดกับพื้นที่ไล่ตามไม่หยุดหย่อนและกว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าอยู่กลางป่าก็ตอนฝ่าเท้าสัมผัสได้ถึงความชื้นของไอดิน หรัญญ์หยุดชะงักเมื่อแผ่นหลังเล็กกลืนหายไปกับความมืดมิด มีแค่ตัวเองที่ยืนโดดเด่นเป็นสง่า ประหนึ่งเป็นต้นไม้เล็ก ๆ ที่อยู่ท่ามกลางต้นไม้ขนาดสูงใหญ่กว่าหลายเท่า

ชายผู้หลงทางยืนต้านลมหนาวเพียงลำพัง ก่อนแรงลมจะทำให้พวกใบไม้พากันสั่นและโหยหวนราวกับกำลังต้อนรับการมาเยือนของแขกคนสำคัญ พระจันทร์ดันกลุ่มเมฆออกห่างตัวจนแสงสาดไปทั่วอาณาบริเวณและทำให้นัยน์ตาดำด้านเห็นชายกระโปรงยาวโบกสะบัดออกมาจากหลังต้นไม้ต้นหนึ่ง รวมถึงเห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างที่โผล่ออกมามองอย่างระแวดระวัง 

นัยน์ตาสีบรั่นดีมองสำรวจคนแปลกหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า     

“เดี๋ยวก่อนสิ”  จังหวะที่ทำท่าจะเดินเข้าใกล้ ร่างเล็กกลับตระหนกแล้วรีบย้ายไปหลบหลังต้นไม้อีกต้น เป็นผลให้หรัญญ์ชักหงุดหงิด คิดเอาเองว่ากำลังโดนเด็กปั่นหัวเล่น  “นี่ฉันไม่สนุกด้วยนะ”  ประกาศกร้าวเสียงดัง แถมชักสีหน้าดุ ให้รู้กันไปเลยว่าอารมณ์กำลังเดือด   

แล้วมันก็ได้ผล ร่างเล็กยอมเคลื่อนตัวออกจากหลังต้นไม้ แต่ไม่ใช่แค่เดินออกมาธรรมดา ๆ มือเล็กค่อย ๆ ปลดชุดตัวยาวลงจากบ่าแคบ เลิกเล่นซ่อนแอบแล้วเปิดเผยตัวตนจนเห็นทรวดทรงองเอวนาฬิกาทราย     

"เดี๋ยว..."






มีต่อด้านล่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2017 23:05:06 โดย กระเหี้ยนกระหือรือ »

ออฟไลน์ กระเหี้ยนกระหือรือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: ———— เหมายัน ————
«ตอบ #4 เมื่อ06-09-2017 23:36:41 »

“เดี๋ยว…”

เปล่งเสียงห้ามไม่เต็มปากเพราะกำลังงุนงง ตกลงร่างเล็กเป็นเด็กผู้ชายที่สวมใส่เสื้อผ้าผู้หญิงหรอกเหรอ คนประจักษ์แจ้งยืนนิ่งอึ้งไปเพราะได้เห็นอวัยวะเพศเช่นเดียวกับที่ตัวเองมี ต่างกันก็แค่ที่เรื่องของขนาดเท่านั้น  “เธอ…”

หรัญญ์อึกอัก นึกไม่ออกว่าตัวเองอยากจะพูดอะไรต่อ ยิ่งพอสองขาขาวก้าวข้ามชุดที่หล่นลงแทบเท้าและเดินตัวเปล่าเข้ามาหาโดยมีแสงจันทร์ฉายไฟตามมาติด ๆ ก็อดจินตนาการในเชิงอกุศลด้วยไม่ได้ ยอมรับว่าเป็นผู้ชายชอบของสวย ๆ งาม ๆ และเคยร่วมหลับนอนกับคนอายุน้อยกว่ามาบ้างหลังโดนเมียทิ้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกคนล้วนเป็นแม่พันธุ์ที่มีเต้านม

แต่เดิมไม่ได้มีรสนิยมชายรักชาย ไม่ได้พิสมัยเพศเดียวกัน

นั่นคงเพราะยังไม่เคยได้พบเจอกับความงดงามที่แท้จริง ยิ่งได้กลิ่นหอมจาง ๆ โชยมาอาการไม่ต่างจากคนมึนเมา หูอือตาลายคล้ายจะมีอาการประสาทหลอนร่วมด้วย เจอความสวยของเห็ดป่าก็อยากจะลองเด็ดมากินโดยไม่ชะล้าใจว่ามีพิษหรือเปล่า หรัญญ์ไม่แน่ใจนักว่ามันคือกลิ่นขนมปังหรือดอกไม้ แต่ที่พูดได้เต็มปากเลยคือตนกำลังมีอารมณ์กับเด็กคราวลูก

ร่างเล็กที่สูงพ้นช่วงไหล่แค่นิดเดียวยกมือลูบไล้สัดส่วนอย่างสำรวจ ถือวิสาสะตรวจความแน่นของกล้ามหน้าท้องด้วยการเอาฝ่ามือทาบ จับต้องร่างกายตรงหน้าด้วยความสนอกสนใจราวกับว่าหรัญญ์เป็นสิ่งแปลกใหม่ที่เพิ่งค้นพบ ลองเอาหูแนบอกหนาเพื่อฟังเสียงจังหวะหัวใจเต้นแล้วเอนตัวซบ โน้มตัวสวมกอดตอนที่คนอายุมากกว่าสองรอบไม่ตำหนิอะไร

ทุกการกระทำแสนอันตรายอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอด มือกร้านยังแนบอยู่ที่ตะเข็บกางเกงนอนในยามที่เด็กน้อยคลอเคลียพวงแก้มกับอกซ้ายเพื่อแสวงหาไออุ่น ทั้งที่เลยช่วงวัยว้าวุ่นมาหลายปีดีดัก แต่ก็ยังไม่วายหวั่นไหวกะอีแค่เพราะแก้วตาใสแจ๋วช้อนมอง 

หรัญญ์ตัดสินใจยกมือแตะหัวไหล่มนแล้วดันคนตัวเล็กกว่าออกห่าง ตั้งใจจะถามถึงชื่อเสียงเรียงนามและอยากรู้ว่าทำไมถึงกล้าเปลือยกายต่อหน้าคนไม่รู้จักมักจี่แบบนี้ แต่อีกใจกลับบอกว่าให้ช่างพิธีรีตองวุ่นวายไปซะ อุตส่าห์เจอของดีกลางป่า ถ้าปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไปก็ไม่สมควรเรียกตัวเองว่าราชสีห์ 

ช่างความถูกต้องแล้วลองพินิจพิจารณา

สุดท้ายแรงตัณหาก็ชนะคำว่าศีลธรรมด้วยคะแนนที่ขาดลอย   

เรื่องราวลงเอยที่ชายอายุมากปล่อยให้เด็กที่เพิ่งเคยเจอหน้าย่างกายเข้ามาในความคิด

ค่อย ๆ ยอมรับจิตใจที่วิปลาสของตัวเอง เริ่มเข้าอกเข้าใจพวกกามวิตถารที่ชอบมีเซ็กซ์กับเด็กรุ่นราวคราวหลานมากขึ้นตามลำดับ ต่อให้บำเพ็ญเพียรภาวนามานานดั่งเช่นพระสงฆ์องค์เจ้า ก็ไม่มีอะไรรับรองว่าจะไม่ตบะแตกเพราะเรื่องคาวโลกีย์เข้าสักวัน
 
ก่อนจิตใจของหนุ่มใหญ่จะถูกความไวไฟของคนอายุน้อยกว่าเล่นงาน มัวแต่ยืนชั่งใจจนเปิดโอกาสให้เด็กแก่แดดแก่ลมลูบใบหน้าคมสันพลางเขย่งปลายเท้าจนความสูงเพิ่มขึ้นหลายเซนฯ เพื่อสัมผัสความหนาที่ห้อยย้อยลงมาอย่างเป็นใจ 

ริมฝีปากที่อวบเอื้อความสะดวกให้กับเด็กน้อยจนพลอยได้งับกลีบปากล่าง กระต่ายขาสั้นดันอยากกินแอปเปิลที่อยู่สูงเพราะเชื่อว่าเป็นลูกที่หวานที่สุดจึงเหยียดขาสุดความยาว แต่นานเข้าเป้าหมายก็ยิ่งเคลื่อนออกห่าง หารู้ไม่ว่ากำลังถูกผู้ใหญ่กลั่นแกล้ง ทีแรกยอมอ่อนข้อให้แต่แล้วก็เงยใบหน้าขึ้นทีละนิดจนร่างเล็กหมดสิทธิ์ไล่ตาม ต้องหดตัวกลับอย่างเก่าและยืนก้มหน้ามองปลายเท้าด้วยความเศร้าสร้อย

สำหรับหรัญญ์แล้วมีเด็กเข้ามาในชีวิตให้เอ็นดูไม่บ่อยนัก ยิ่งถ้าเป็นเด็กที่ทำให้เกิดความปรารถนาอันแรงกล้ายิ่งยังไม่เคยมี นัยน์ตาดำด้านหลุบมองสองมือเล็กที่กำชายเสื้อตนไว้เงียบ ๆ ระหว่างรับรู้ได้ถึงการบีบตัวของแก่นกาย

อวัยวะเพศเกิดการขยับขยาย ดุนดันกางเกงชั้นในราวกับมีใครกำลังเติมลมให้กับลูกโป่งแฟนซี ความหน่วงถ่วงสมองให้จดจ่อแต่กับเรื่องใต้สะดื้อจนผลีผลามทำเรื่องต้องห้าม

บังคับให้ร่างเล็กเชิดคางด้วยการสอดสองมือเข้ากุมแก้มเนียนแล้วบดเบียดกลีบปากกับอวัยวะอย่างเดียวกันจนมันผิดรูปผิดร่าง การจูบอย่างลึกซึ้งนำพาเกลียวลิ้นมาพบกันครึ่งทาง เพื่อนใหม่ทำความรู้จักกันและพัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นคนรู้ใจภายในเวลาไม่กี่วินาทีถัดมา สนิทสนมจนกล้าที่จะกระทำการจาบจวงอย่างหื่นกระหาย

ความมืดไม่ได้ช่วยอำพรางท่าทางตะกละตะกลามของผู้ใหญ่ในขณะที่เด็กน้อยเองก็พยายามจูบตอบอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ความสว่างพอทำให้เห็นผิวที่ซับสีจาง รู้จักอายแต่ก็ไม่ได้ขัดขืน ยืดคอสุดความยาวเพื่อถ่ายทอดบทเรียนที่เคยถูกสอนจากในคราวก่อน ๆ อย่างไม่ประสา

แต่แล้วความรุนแรงที่ถาโถมเข้าใส่ก็ทำร่างเล็กเกินจะต้านทานไหว ห่อไหล่หายใจหอบ จากสมยอมเริ่มบ่ายเบี่ยง เอียงหน้าหลบอย่างเอาแต่ใจ แสดงนิสัยแบบ ‘เด็กพิเศษ’ ที่ใครเห็นคงไม่ชอบนัก แต่สำหรับนักล่าไม่ว่าเหยื่อจะมาในรูปแบบไหนก็รู้วิธีจัดการอย่างแยบยล   

หรัญญ์หิวโหยจนหน้ามืดตาลาย ไฟราคะโชติช่วงชัชวาลถึงเอาน้ำมาราดก็ยากจะดับ จมูกโด่งซุกไซ้กรอบหน้าไล่ลงต่ำถึงลำคอระหง ป้ายน้ำลายสกปรกบนผิวละเอียด ซ้ำยังชักชวนเด็กทำเรื่องน่าเกลียด อย่างการให้จับความเป็นชายที่ซ่อนเร้นอยู่ใต้ร่มผ้า

ยามที่ฝ่ามือเล็กสัมผัสของลับ ฝ่ามือกร้านเองก็ลูบคลำตามความนวลเนียนไปพลาง ๆ อย่างหลงใหล ช่วงแขนยาวกลายเป็นไม้เลื้อยพันรอบเอวคอด โอบกอดแล้วยกร่างเล็กขึ้นมายืนบนเท้าด้วยท่อนแขนเดียวอย่างง่ายดาย

ทำลายระยะห่าง ล่นระยะทางแสนไกลให้ใกล้แค่คืบ   

หรัญญ์ยอมให้ร่างเล็กนวดคลึงของสงวนแลกกับการลวนลามที่อุกอาจ เสียงหอบหายใจเริ่มดังชัดขึ้นระหว่างขยำผิวกายลื่นเล่น ฝ่ามือเค้นก้นงอนราวกับมันเป็นก้อนดินน้ำมัน การล่วงเกินแสนหนักหน่วงนำมาซึ่งเสียงเล็กเสียงน้อย ทยอยครวญครางเป็นระยะ จนผู้ใหญ่ได้รู้ว่าเด็กชายมีกล่องเสียงที่ไพเราะแค่ไหน เกิดติดใจอยากได้ยินเสียงที่ดังกว่าเดิมจึงเพิ่มแรงบด ทำผิวหมดจดเป็นรอยปื้น     

กลางดึกมีเสียงของหนักตกลงบนพื้นดินถึงสองครั้ง

เสียงแรกเป็นของร่างเล็กที่ล้มลงนอนหงาย อ้าขาไม่อายฟ้าอายดิน

ส่วนอีกเสียงที่ได้ยินเป็นของหนุ่มใหญ่ที่ทรุดกายลงกว้างหว่างขาขาวโพลน

มือกร้านรีบถอดอาภรณ์ท่อนล่างเพื่อปลดปล่อยเจ้าโลกให้เป็นอิสระจากความอึดอัดก่อนจะพบว่าขนาดของตัวเองนั้นกำลังจะกลายเป็นปัญหาในอนาคตอันใกล้ คิดเผื่อไปถึงตอนทำรัก เห็นแววตาใสซื่อของร่างเล็กที่กำลังนอนมองมาแล้วก็เกิดความละอาย

เหมือนจะได้สติกลับคืนมาแต่ว่ามันบางเบายิ่งกว่าเปลวไฟบนก้านไม้ขีดเสียอีก   

ยิ่งถ้าไม่รีบถอยห่างออกจากสิ่งเร้า กิเลสตัณหาก็พร้อมจะเข้ายึดครองร่างทุกเมื่อและเพื่อรักษาความสดใสของเด็กคนหนึ่งไว้ หรัญญ์เกิดคิดกลับตัวกลับใจก่อนจะได้ไปนอนเล่นในคุกข้อหาพรากผู้เยาว์และปล่อยให้ร่างเล็กที่เข้าใจอะไรได้ช้านอนคอยเก้อ

เด็กชายหยัดกายลุกขึ้นมานั่งทับขาทั้งใบหน้าฉงน ยกนิ้วแตะหว่างคิ้วที่ยับย่นแผ่วเบา แล้วไล่ปลายนิ้วกับสันจมูกโด่งลงผ่านปาก จนถึงคางเรื่อยมายังกลางหว่างอก

ก่อนมือหนึ่งจะฉกฉวยอวัยวะสืบพันธุ์ของคนอื่นอย่างไม่มีอาการแตกตื่นใด ๆ แค่นั่งมองมือตัวเองขยับสาวตามความยาวด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น จนมีน้ำกระเซ็นโดนหลังมือเล็กน้อยก็หัวเราะชอบใจ ยกมือมาเช็ดเหงื่อบนใบหน้า ปัดปอยผมที่เกะกะตาออกและมองหน้าหรัญญ์เหมือนจะขออนุญาต   

มือหนึ่งเลิกชายเสื้อยืดรัดรูปขึ้นก่อนจะยื่นปลายลิ้นแตะกับตุ่มไตสีเข้ม ห่อลิ้นยามลิ้มรสชาติความเค็มปะแล่ม ๆ ร่างเล็กแย้มยิ้มหยอดย้อยระหว่างแทะเล็มความมนกลมทีละนิดทีละหน่อยแล้วค่อยลองดูดเล่นจนเกิดเป็นความเพลิดเพลิน

เด็กน้อยสนุกสนาน โดยหารู้ไม่ว่ากำลังทำให้ชายอีกคนเป็นทุกข์จากความสุขของการถูกปรนเปรอ ต้องอดทดอดกลั้นกับความต้องการที่ตีตื้นขึ้นมา ความปรารถนามันเหมือนกรดไหลย้อน มันทำเอาแสบร้อนไปทั้งทรวง 

“อยากให้ฉันทำแบบนี้ใช่ไหม…”  จู่ ๆ เสียงทุ้มต่ำก็เอ่ยถามถึงความสมัครใจและถือวิสาสะสัมผัสหน้าอกบาง ทั้งยังออกแรงบีบเนินนมแตกพานและลอบสังเกตอาการที่ชะงักไปราวกับโดนไฟช็อต หรัญญ์เพิ่มน้ำหนักมือเพื่อกระตุ้นให้ร่างเล็กที่เอาแต่ก้มหน้าพูดด้วย 

“ตกลงชอบแบบนี้หรือเปล่า”

แต่เด็กน้อยทำแค่พยักหน้าแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ผงกหัวน้อย ๆ แทนการตอบว่าชอบ 

“หล่อ…” 

คำแรกที่เสียงหวานเลือกเปล่งออกมาพานทำให้คนได้ยินประหลาดใจและหลุดหัวเราะ 

“เหตุผลแค่เพราะฉันหล่อหรอกเหรอ”

“หล่อ”  ร่างเล็กย้ำคำเดิมอีกรอบเมื่อเข้าใจว่าคนฟังกำลังชอบใจ

มองรอยยิ้มกว้างด้วยนัยน์ตาสุกสกาวและยกมือขึ้นกุมใบหน้าสมสัดส่วนราวกับต้องมนตร์สะกด เลือกจรดริมฝีปากกับปลายคางก่อนถอยออกมานั่งหน้าแดงก่ำ เขินอายคล้ายคนกำลังมีความรักและยอมเอนตัวลงนอนราบอีกครั้งขณะมีเงาดำขนาดใหญ่พาดผ่านร่างกาย

“ฉันมีดีกว่าหล่อนะรู้ไหม” 

แล้วชายที่เคยกลัวต้องโทษก็ตัดสินใจฝ่าฝืนกฎหมาย หรัญญ์ถอดเสื้อยืดทันทีที่อยากจะแสดงให้ร่างเล็กเห็นว่าตัวเองไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องหน้าตา ลีลารักก็ไม่เป็นสองรองใคร

สายตาเจ้าเล่ห์ไล่มองร่างผุดผ่องที่หมองไปเล็กน้อยเพราะเศษดินสกปรก แล้วก้มลงจูบแถวกกหูขาว แทนที่จะเลือกจู่โจมอย่างรวดเร็วเช่นในคราวแรกกลับให้เวลาร่างเล็กได้คุ้นเคยกับความรู้สึกแปลกใหม่ แค่ลดริมฝีปากลงงับตามผิวกาย พ่นลมหายใจเย็นชืดใส่อย่างตั้งใจจนร่างเล็กเริ่มนอนหลังไม่ติดพื้น เผลอแอ่นหน้าอกขึ้นทุกครั้งที่รู้สึกใจหายวาบ 

หรัญญ์จูบละทาง ตั้งแต่กลางหว่างอกลงต่ำสู่บริเวณท้องน้อยที่ยุบตามจังหวะการหายใจที่ผิดปกติ ถึงจะมีประสบการณ์บนโลกมนุษย์ไม่เท่ากับอีกคนและบ่อยครั้งสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ร่างเล็กก็พอรู้อยู่บ้างว่าต้องทำอย่างไรความทรมานพวกนี้ถึงจะอันตรธานหายไป

ยามที่ของสงวนถูกโพรงปากร้อนชื้นครอบครอง ดวงตาหยาดเยิ้มนอนมองผืนฟ้าที่วันนี้ไม่มีดาวสักดวงด้วยใจที่เต้นระส่ำ กำมือไว้กับอกขณะที่รู้สึกเหมือนมีนกนับพันตัวบินว่อนในท้อง

หรัญญ์ลอบมองสีหน้าเคลิบเคลิ้มจากหว่างขาแคบ ระหว่างช่วยรีดน้ำออกจากความบวมเป่งก็รับรู้ได้ถึงน้ำหนักมือบนศีรษะ เด็กน้อยคล้อยตามการเล้าโลมจนได้และนอนบิดเร้าไปมา เผยอปากและมีเสียงครางแวว ๆ ลอดมาตามกลีบปากที่แยกจากกัน
 
แต่เผลอแป๊บเดียวช่องว่างก็ถูกอุด ลิ้นใหญ่ดุนปากที่บวมเจ่อจนเปื่อยยุ่ย ตอนที่ลมพัดผุยผงของเศษดินให้ปลิวว่อน สองกายล่อนจ้อนกอดกันไว้เพื่อผ่านความเลอะเทอะไปด้วยกัน   
 
“อ๊ะ…”

นิ้วที่ไม่ประสงค์ออกนามรุกล้ำเขตหวงห้ามอย่างค่อยเป็นค่อยไป

สอดใส่นิ้วแรกแล้วแหวกซอกหลืบให้กับนิ้วที่สองและสามตามลำดับจนเป็นเหตุให้ร่างเล็กผวา ทำท่าจะดิ้นแต่ติดที่ว่าผู้ใหญ่มีวิธีจัดการ หรัญญ์เอ่ยคำขอโทษอย่างอ่อนโยนและคำสั้น ๆ ก็มีอิทธิพลพอจะทำให้คนหวาดกลัวตกอยู่ในโอวาท

ที่ต่อต้านก็เพราะไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน ไม่เคยมาถึงขั้นตอนนี้เลยสักครั้ง

เพิ่งจะได้รู้จักกับความปวดร้าวไปทั้งโคนขาเป็นหนแรก เด็กน้อยรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกแยกส่วนเป็นสอง ส่วนผู้ใหญ่ค้นพบว่าภายในช่องทางสีหวานไม่มีพื้นที่ว่างให้ดุ้นยักษ์พอดิ้นรนและโดนผนังอุ่นร้อนรุมตอดอย่างบ้าคลั่ง สิ่งแปลกปลอมถูกความหนาแน่นห้อมล้อมจนต้องชะงักไว้กลางทาง พักยกเช็ดหน้าให้กับคนนอนน้ำตาไหล  “ชู่ว…”

“เจ็บ”  ร่างเล็กฟ้องทั้งน้ำตาแล้วโน้มคอหรัญญ์มากอด 

“งั้นเราพอแค่นี้กันดีไหม”  ชายผู้พ่ายแพ้ให้แก่น้ำตารีบถามและสัมผัสได้ว่าอีกคนกลิ้งคางไปมากับบ่าจนไม่รู้คำตอบแน่ชัดว่าตกลงเลือกอะไร  “นี่ ขอฉันมองหน้าหน่อย”

วงแขนเล็กยอมปล่อยคนที่กอดให้เป็นอิสระ  “ตกลงทำหรือไม่ทำ”  หรัญญ์เปลี่ยนคำถามใหม่ ลดความซับซ้อนลงให้มากที่สุดเพื่อตัวคนตอบเอง เพราะใช่ว่าจับความเป็นเด็กพิเศษของอีกคนไม่ได้ เด็กชายผู้พิกลพิการทางสติปัญญากำลังจะทำให้ชายสติดีเป็นบ้าในที่สุด

จะให้หยุดหรือทำอะไรต่อก็ไม่เลือกพูดออกมาสักคำ หรัญญ์จึงตัดสินใจลงมือทำอะไรโดยพลการ ดันแก่นกายฝ่าความคับแคบอีกครั้งท่ามกลางเสียงโอดครวญแผ่วเบา ร่างเล็กกรีดร้องคลอไปกับการเขยื้อนเข้าออกอย่างเนิบนาบ จิกเล็บมือกับหน้าดิน จิกเล็บตีนกับหญ้าขณะที่ความใหญ่โตถดถอยออกเพียงช่วงสั้น ๆ แล้วดันกลับเข้ามาใหม่รวดเดียว

ร่างเล็กนอนถ่างขาอยู่กึ่งกลางระหว่างความเสียวซ่านกับความทรมานจับใจ

น้ำตาไหลรินหยดแล้วหยดเล่าจนทำให้หรัญญ์รู้สึกว่ากำลังเข้าข่ายขืนใจไปทุกขณะ แต่จะว่าเห็นแก่ตัวก็ได้ หลังจากทำให้เด็กคนหนึ่งมีมลทินก็ยังพูดอะไรสิ้นคิดอย่างพวกชอบเอาเปรียบออกมา เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างใบหูเล็กว่าอดทดเอาหน่อย ช่วงแรกอาจจะเจ็บปวดรวดร้าวแล้วเดี๋ยวอาการจะทุเลาลงในไม่ช้า 

ริมฝีปากหนาพรมจูบซับตามหน้าผากที่เริ่มมีเหงื่อซึมประปราย ส่วนหนึ่งก็เผื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ซึ่งมันก็ได้ผลลัพธ์ดีเกินคาด เด็กน้อยหลงกลอุบายของปีศาจแฝงฝันจนหยาดน้ำตาค่อย ๆ เหือดแห้ง ระหว่างหลับตาแลกเปลี่ยนรสชาติ พรหมจรรย์ก็ถูกคร่าอย่างไม่ปรานี

พอลองขยับบ่อย ๆ อะไรต่อมิอะไรก็เริ่มลงล็อก เกิดสภาพคล่องเอื้อต่อการเคลื่อนไหวเข้าออกจนสามารถเพิ่มความเร็วได้ แก่นกายทลายทำนบความฝืนเคืองจนสิ้นซาก ซ้ำยังกระทบกระทั่งกับผนังอ่อนนุ่มอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วงขึ้นในทุก ๆ วินาทีที่สติถูกมีดบั่นทอน

ภาพร่างอ้อนแอ้นนอนตัวแดงไปด้วยแรงอารมณ์ทำคนมองแทบคลั่งและยากจะยั้งใจไม่ให้กระทำรุนแรง ท่อนแขนหนารีบช้อนใต้ข้อพับขาที่แหวกออกแล้วล็อกมือเหนือสะโพกผาย บังคับให้ร่างเล็กเขยื้อนกายเข้ามารับแรงกระแทกอย่างพอเหมาะพอเจาะและเพราะว่ามีความอดทนต่ำกว่า ไม่แปลกที่เด็กจะรีบปลดปล่อย แผ่นหลังเปื้อนดินกระตุกลอยขึ้นจากพื้นพอดีกับมีมือหนึ่งยื่นมาขยำเต้านม จมูกโด่งลดลงดมกลิ่นสาบสางและอ้าปากงับเนินนูนเต็มคำ 

หรัญญ์ฉุดร่างเล็กขึ้นมานั่งบนหน้าขาแล้วละเลงลิ้นกับตุ่มไตที่แอ่นให้ดูดอย่างลืมตัว ช่วงแขนสั้นโอบรอบหัวผู้ใหญ่ขณะปล่อยร่างกายไปตามกลไกที่ถูกวางระบบไว้จนไม่ต่างอะไรกับโสเภณีผู้ร่านรัก ยังไร้เดียงสาเช่นเก่า เพิ่มเติมด้วยเสน่ห์อันแพรวพราวที่เกิดขึ้นรวดเร็วราวกับเสกได้

ดอกไม้บานสะพรั่งเพราะได้ทั้งดินได้ทั้งน้ำรินรดอยู่ตลอดเวลา   

น้ำแรกแตกคาช่องทางลับนำพาความฉ่ำเยิ้มมาสู่ซอกขา     
 
หรัญญ์ถอนแก่นกายออกในไม่กี่วินาทีถัดมาแล้วช่วยร่างเล็กจัดแจงท่วงท่าใหม่ ๆ กลับไปเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ขึ้นขย่มกันในฤดูผสมพันธุ์ มือกร้านช่วยปัดเศษดินตามผิวกายละเอียดออกให้แบบขอไปทีเพราะไม่มีเวลามากนัก จิตใจกำลังฮึกเหิมเกินกว่าจะมานั่งทำอะไรอย่างประณีต ก่อนอวัยวะเพศที่จ่อประชิดหว่างขาขาวจะมุดหายเข้ากลีบเมฆ

เร่งเครื่องไม่นานน้ำมันก็หล่อเลี้ยงไปทั่วยานพาหนะ ทั้งที่รู้เรื่องกฎหมายการจราจรดีแต่กลับขับขี่ด้วยความเร็วเกินกว่ากำหนด เหมือนรถที่เบรกแตกลงทางลาดชั้น รีบจับต้นขาเล็กไว้มั่น รั้งให้หยัดอยู่กับที่เดิมเมื่อแรงกระแทกกระทั้นเริ่มทำให้ร่างเล็กกระเถิบห่างออกไป 

เด็กน้อยยันหน้าผากไว้กับต้นไม้ตอนร่างกายสั่นสะเทือนเกินควบคุม ฝ่ามือเล็กบุ๋มไปกับดินบ่งบอกว่าการร่วมประเวณีเริ่มกินเวลาเข้าไปเรื่อย ๆ จนเมื่อยไปทั้งแขน

หมาบ้านแหงนคอหอนเสียงดังลั่นป่าทั้งที่ไม่ใช่คืนวันพระจันทร์เพ็ญ ยิ่งใกล้เสร็จสมอารมณ์หมายเท่าไหร่ยิ่งได้ยินคำพูดไม่เป็นภาษายากจะถอดความ เสียงคำรามทุ้มต่ำในลำคอผสานกับเสียงหวานที่ขับขานเป็นบทเพลงไพเราะ นัยน์ตาเยิ้มเงยมองใบไม้เหนือหัวด้วยความสงสัยว่ามันขยับอยู่ใช่หรือเปล่าหรือเป็นร่างกายตัวเองที่ถูกเขย่าจนเห็นอะไรเคลื่อนไหวไปเสียหมด

น้ำสองหลั่งรดบนแก้มก้นซ้ายแล้วไหลลงแนวดิ่งทิ้งตัวอย่างเชื่องช้า ส่วนคนคึกคะนองสองยกเข้าไปแล้วก็ยังใจสู้ ผู้ใหญ่มักมากขอต่อรอบสุดท้าย ไม่รอให้ร่างเล็กได้พักหายใจหายคอ แต่ก็ยังพอมีความเมตตานึกถึงใจเด็กที่เล็กเกินกว่าจะจินตนาการภาพท่าทางสัปดนเองออก   
 
นัยน์ตาสีบรั่นดีมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของชายที่พรากความบริสุทธิ์ไปในขณะถูกจัดให้ยกแขนโอบรอบต้นไม้ ก่อนสองริมฝีปากที่อยู่ใกล้กันเป็นไม่ได้ เหมือนน้ำมันกับไฟจะแนบสนิทเป็นเนื้อเดียว หรัญญ์ยันฝ่ามือหนึ่งกับต้นไม้ตอนเล่นน้ำลายเป็นเด็ก ยอมให้ลิ้นเล็กเลียปากระหว่างดันเจ้าโลกเข้าในหว่างก้นและการเดินทางสุดรัญจวนใจก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง 

ความต้องการไม่ได้เกิดแล้วดับไปเหมือนร่างกายมนุษย์

จะหยุดได้ก็ต่อเมื่อไม่ต้องการ

ร่างเล็กหันกลับไปซบหน้ากับต้นไม้พลางโอบกอดมันไว้แน่นแทนหมอนข้างระหว่างหลับตาลงเพื่อที่จะฝันถึงวันหนึ่งในฤดูร้อน นอนแก้ผ้าริมทะเลสาบ วิ่งลงไปเล่นน้ำแล้วกลับขึ้นบกที่โสโครกไปด้วยเรื่องราวอันโสมม ก่อนความสุขนั้นจะทำให้ละเมอเผลอร้องระงมขึ้นมา   

หรัญญ์เองก็หลับตาดื่มด่ำกับบรรยากาศแสนหวาน ฟาดมือกับก้นงอนเป็นครั้งคราวขณะเคลื่อนสะโพกสอบ เสือกแก่นกายเข้าออกไม่ออมแรงจนผิวบริเวณรอบช่องแคบแดงระเรื่อเจือความบอบช้ำอย่างหนัก 

เสียงลมหายใจกระชั้นชิดดังถี่ขึ้นจนแม้แต่ตัวเองยังได้ยินเสียงของตัวเองชัดเจน

เสียงกัดฟันกรอดเด่นชัดอยู่ในโสตประสาท

ขนาดเสียงเหงื่อหยดลงบนดินยังดังกังวานอย่างไม่น่าเชื่อ

แล้วเมื่อค่อย ๆ ลืมตาท้องฟ้าก็ถูกบดบังด้วยเพดานไม้ ตอนนั้นเองที่หนุ่มใหญ่หายเคลิบเคลิ้มกับความสุขแล้วลุกพรวดพราดขึ้นมานั่งอย่างตกใจ รีบควานมือหาอีกร่างที่เมื่อคืนจำได้ว่าอุ้มมานอนตรงนี้ พอดีกับที่มีเสียงเคาะประตูห้องจากด้านนอกเบา ๆ แต่เจ้าของนัยน์ตาดำด้านทำเพียงนั่งมองความว่างเปล่าพลางเสยผมเผ้าที่ยุ่งอย่างลวก ๆ

แล้วก็มีเศษดินร่วงกร้าวลงมาจากฝ่ามือใหญ่

ถ้าหากไม่มีเศษดินติดตามตัวกับเสื้อผ้ามาก็คงจะนึกว่าเรื่องทุกอย่างเป็นเพียงความฝันของคนช่างเพ้อ คราบดินที่แห้งกรังเต็มสองฝ่าเท้าช่วยยืนยันได้อีกแรงว่าเหตุการณ์ทั้งหมดในป่านั้นเป็นความจริง ลองเอามือทาบกับผ้าปูที่นอนก็ยังสัมผัสได้ถึงไอร้อนของอีกคน 

‘ตื่นได้แล้วไอ้เสือ’ 

หรัญญ์กลับคืนสู่ปัจจุบันได้เพราะสหายพยายามเรียกจนคอแห้ง

“ฉันตื่นแล้ว ขออาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวตามลงไป”

ตะโกนกลับเพื่อทำให้เพื่อนหายเป็นกังวล รอจนเสียงเดินเงียบไปถึงได้ลุกจากเตียง หรัญญ์เดินถอดเสื้อเข้ามาในห้องน้ำและหันหลังกลับเพื่อเหลือบมองรอยข่วนสดใหม่ผ่านเงาในกระจก มันเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ร่างเล็กฝากไว้ในยกถัดมาและดูท่าคงต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะจาง แต่ถ้าให้เลือกระหว่างตื่นมาเจอร่องรอยที่เกิดจากการร่วมรักกับมีอีกคนนอนอยู่ข้าง ๆ หนุ่มใหญ่ที่เพิ่งเดินตัวเปียกออกมาสวมชุดใหม่ขอเลือกอย่างหลัง

หรัญญ์ก้าวลงบันไดวนมายังด้านล่างอย่างรีบร้อน แต่ดันเจอเพื่อนกวักมือเรียกจากในห้องทานอาหารเสียก่อน ความตั้งใจที่จะออกไปตามหาร่างเล็กจึงต้องมีอันพับเก็บใส่กระเป๋า

ช่วงขายาวเปลี่ยนทิศทาง ย่างเข้าใกล้โต๊ะทานข้าวทุกขณะ แต่ว่ากว่าจะไปถึงก็ต้องผ่านตู้โชว์ของมากมาย ทั้งที่เมื่อวานเดินผ่านไปแล้วตั้งหลายรอบ เพิ่งจะมาสะดุดตากับกรอบรูปบานเล็กอันหนึ่งที่วางอยู่กึ่งกลางระหว่างภาพทิวทัศน์

หรัญญ์เดินถอยหลังกลับมาที่ตู้กระจกแล้วถือวิสาสะเปิดตู้เพื่อหยิบกรอบรูปบานนั้นมาดูใกล้ ๆ และได้เห็นใบหน้าแสนคุ้นตาในรูปแบบของกระดาษ เด็กชายทำสีหน้าเรียบเฉยขณะในมือกำก้านดอกไม้ไว้ ราวกับตากล้องตามเดินถ่ายแล้วอาศัยจังหวะหันกลับมามอง ภาพจึงออกมาแนวกำลังเผลอ

“ดูอะไรอยู่วะ”  กวินทร์เข้ามาได้จังหวะ นั่งรอกินข้าวจนแสบท้องและเมื่อเพื่อนยังไม่มีท่าจะเดินไปหาสักทีจึงลองเดินมาดู เหมือนรู้ว่าคนยืนนิ่งไปกำลังต้องการใครสักคนที่พอจะอธิบายและสามารถให้คำตอบกับเรื่องนี้ได้

“นี่รูปใคร”

หรัญญ์ถามแล้วมองตามมือที่ฉวยกรอบรูปไปดู พอเห็นหัวแม่โป้งของกวินทร์ลูบใบหน้าเล็กผ่านแผ่นกระจกบาง ๆ ด้วยความทะนุถนอมแล้วยิ่งสงสัย ผิดกลับเพื่อนที่มีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด แววตานั้นแสดงออกถึงความห่วงหาอาลัย ก่อนจะอ้าปากเฉลยทั้งชื่อและความจริงที่แสนน่าใจหายให้ฟัง น็อกผู้ชายร่างยักษ์ให้ยืนมึนงงคล้ายโดนชกไปหลายหมัด   

มะลิน่ะ”  หัวแม่โป้งยังคงลูบอยู่อย่างนั้น  “หลานชาย เสียไปเมื่อสองปีก่อน







---------------------------------------
ชอบไม่ชอบเม้นบอกกันได้นะคะ  :hao5:
แล้วก็สามารถติดตามข่าวสารได้ที่เพจเลยค่ะ ---> 9crimes - นายคราม FANPAGE

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-07-2018 21:17:41 โดย กระเหี้ยนกระหือรือ »

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ตายละค่ะ อะไรยังไงคะ

ออฟไลน์ __puppy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :impress2: เจิมๆๆๆๆๆ ก่อน เดี่ยวอ่านน

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ยังไงกันหนอ

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
At first  :haun4: ... then,   o22  o22  o22 .... so,........
All in all....  o13

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
 :pig4:  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
 :o8: :ling1: :o8: เอาแล้วไง

ออฟไลน์ กระเหี้ยนกระหือรือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3

๐๒




หรัญญ์ถูกคำบอกเล่าของเพื่อนหลอกหลอนตลอดเจ็ดสิบสองชั่วโมงที่ผ่านมา ขนาดอาบน้ำสระผม พรมหัวจนเปียกโชกแต่ประโยคเหล่านั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะไหลไปตามน้ำ พอ ๆ กับที่ภาพของเด็ก ‘มะลิ’ ยังติดตาและได้กลิ่นกายหอมหวนติดอยู่ที่ปลายจมูก ฟุ้งซ่านทั้งยามหลับยามตื่น เด็กตัวเล็ก ๆ มีอำนาจมากพอที่จะยึดพื้นที่ความคิดจนไม่เป็นอันทำอะไร
   
ตัวนั่งประจำที่โต๊ะทำงาน แต่ใจนั้นลอยไปไกลแสนไกล

กาแฟที่เลขาสาวชงมาให้กลายเป็นหมัน มันเย็นชืดเกินกว่าใครจะกล้ากระเดือกลงคอ นิ้วกร้านทำแค่เคาะกับโต๊ะกระจกระหว่างคิดไม่ตกว่าจะจัดการกับความข้องใจที่กลายเป็นส่วนเดียวกับเลือดในร่างกายนี้อย่างไร

สาบานได้ว่าไม่มีเจตนาจะปรักปำสหายว่าพูดปดมดเท็จ แต่เพราะตัวเองก็ไม่ได้แค่เห็นแต่มือยังต้อง ได้สัมผัสเนื้อหนังมังสาของเด็กชายที่ถูกระบุว่าตายไปแล้วเองกับมือ

แล้วเท่าที่รู้มาวิญญาณก็เป็นแค่มวลสาร เบาบางเหมือนอากาศ ถ้าอย่างนั้นจะอธิบายความหนักบนหน้าตักตอนร่างเล็กนั่งทับอย่างไร จะมีอาจารย์คณะไสยศาสตร์คนไหนอธิบายให้เข้าใจได้บ้าง แถมคืนนั้นก็ไม่ได้แตะเหล้าสักหยด จะโทษว่าเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ไม่ได้

พี้ยาจนหลอนยิ่งไม่ใช่ใหญ่และมั่นใจว่าไม่ได้เผลอกินอะไรมั่วซั้วก่อนนอนแน่นอน   

สุดท้ายกำปั้นหนาก็ทุบกับโต๊ะกระจกอย่างแรงเมื่อทนแบกรับความสงสัยอีกต่อไปไม่ไหว พอกันทีกับความกระวนกระวายที่เป็นฝ่ายเผชิญเพียงลำพัง ในเมื่อการนั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา มือใหญ่จึงคว้าข้าวของแค่ที่จำเป็นเสร็จก็ระเห็จออกจากห้องทำงาน ตอนแรกเดินผ่านหน้าโต๊ะเลขาไป ก่อนจะเดินถอยหลังกลับมาใหม่เพื่อเอ่ยถามในเรื่องที่ตัวเองใคร่รู้

“ท่านประธานเข้ามาหรือยัง”

“ประชุมกับฝ่ายจัดซื้ออยู่ค่ะ” 

นัยน์ตาดำด้านหันไปทางตำแหน่งของห้องประชุมหลักซึ่งบุรอบข้างด้วยกระจกใสจนสามารถเห็นใบหน้าของกวินทร์ที่นั่งวางหมาดท่านประธานได้ถนัด หลังจากที่ไปหาวันนั้น เช้าวันมาต่อมาสหายก็ยอมตกลงรับงานผู้บริหารอย่างไม่อิดออด จนหรัญญ์ยังอดแปลกใจไม่ได้

แต่แทนที่จะมามัวสงสัยให้เสียเวลา ถ้าผลลัพธ์เป็นไปตามเป้าหมายก็คือจบกัน

หลายพันชีวิตรอดตายถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของที่ปรึกษาเลยก็ว่าได้เชียวล่ะ     

“ช่วงบ่ายฉันจะไม่เข้ามาแล้ว ถ้าใครถามว่าไปไหนให้บอกว่าไปทำธุระส่วนตัว”
กลัวมีคนมาถามหาจึงวางเส้นเรื่องให้เลขาพูดตามเสร็จสรรพ

คนโดดงานขับยานพาหนะคู่ใจออกจากลานจอดรถของตึกสูงระฟ้า บังคับพวงมาลัยไปตามเส้นทางที่เริ่มร้างตึกรามบ้านช่องทุกขณะ เป็นระยะหลายสิบกิโลกว่าจะถึงที่หมาย

จากถนนเส้นใหญ่กลายเป็นแคบแทบพอดีกับคันรถ ต้นไม้บริเวณสองข้างทางให้ความรู้สึกเหมือนกำลังบีบเข้ามา ป่าเขียวชอุ่มทำให้รู้สึกอึดอัด กลุ่มเมฆไล่ตามหลังมาดูท่าอีกไม่นานไอน้ำคงกลั่นเป็นห่าฝน 

หรัญญ์ขับรถมาตามทางราบที่เลียบไปกับแม่น้ำสายเล็ก ๆ ก่อนจะสังเกตเห็นบางอย่างผ่านกระจกข้าง เหลือบเห็นแผ่นหลังที่ทำเอาใจเต้นแรง ใครบางคนนั่งแกว่งเท้าอยู่ตรงท่าน้ำและมองปราดเดียวก็จำได้แม่นยำ จนตัดสินใจจอดรถมันกลางทางทั้งที่อีกร้อยเมตรกว่า ๆ ก็จะถึงตัวบ้าน หนุ่มใหญ่ทำอะไรรวดเร็วทันใจเหมือนกลับไปเป็นวัยรุ่นใจร้อนอีกครั้ง

พร้อมเข้าสู่ชั่วโมงล่าท้าความจริงอย่างไม่มีความเกรงกลัวใด ๆ ทั้งสิ้น ค่อย ๆ เดินเข้าใกล้เด็กชายที่กำลังปาหินลงน้ำ แต่ยิ่งระวังฝีเท้ามากเท่าไหร่ยิ่งกลายเป็นทำเสียงอึกทึกครึกโครม ดันเหยียบกิ่งไม้แห้งจนมันหักและร่างเล็กก็หันขวับกลับมามองด้วยสีหน้าตกใจ

“ฉันเอง ฉันไง จำได้ไหม”  รีบออกตัวก่อนยืนหน้าสลอนให้มองชัด ๆ 

พูดกระตุ้นความทรงจำหลังจากที่กลับไปไม่ทันล่ำลา หวังว่าจะยังไม่ลืมหน้าชายโฉดที่เคยปล้นสะดมน้ำหวานไปและกลับมาให้ดอกไม้เห็นหน้าอีกทีในสามวันให้หลัง

ร่างเล็กเอียงหน้ามอง ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะพยักหน้าแทนการตอบว่าจำได้ ก่อนใบหน้าจะปรากฏสัญลักษณ์ของความเขินอาย เหมือนมีนักวาดสะบัดสีแดงใส่โหนกแก้มอย่างไรอย่างนั้น เจ้าของนามว่ามะลิรีบหยัดกายลุกขึ้นยืน ตั้งท่าจะเดินไปทางอื่นทั้งที่ยังอมยิ้ม 

“เดี๋ยวสิ จะไปไหนน่ะ”  ปากถามขาก็ขยับตามอัตโนมัติ

หรัญญ์ถอดสูทตัวนอกออกเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าว แล้วรีบเคลื่อนเท้าตามเด็กชายให้ทันและดันพลาดจับมือเล็กที่แกว่งอยู่ข้างลำตัวไปอย่างน่าเสียดาย

แต่หนุ่มใหญ่ก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่าย ๆ แค่อยากสัมผัสให้แน่ใจว่าผิวกายยังตัวอุ่นเฉกเช่นมนุษย์ หาใช่วิญญาณอาฆาตที่ยังไม่ยอมไปผุดไปเกิดเสียที

จด ๆ จ้อง ๆ มองมือที่ลูบไล้ใบไม้ละสองข้างทางตาไม่กะพริบในขณะร่างเล็กยังเดินหน้าต่อไปอย่างไม่รีบร้อน กินลมชมวิวและสูดอากาศบริสุทธิ์จนชุ่มปอด เด็กน้อยกำลังสอนให้ผู้ใหญ่รู้จักใจเย็นเมื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ

ซึ่งหรัญญ์ก็เดินช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

จากปกติที่เดินเร็วเป็นกิจวัตร ต้องเร่งรีบเพราะเดี๋ยวไม่ทันตารางงานที่แน่นขนัดพอ ๆ กับปมเนกไท คนมีภาระต้องรับผิดชอบแทบจะลืมไปแล้วว่าเดินเล่นจริง ๆ จัง ๆ ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อาจเป็นช่วงมัธยมปลายไม่ก็มหาลัยฯ แต่รวม ๆ แล้วมันก็หลายปีที่ขายวิญญาณให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ทำตามสูตรและไม่เคยหลุดกรอบจารีตประเพณี คลุกคลีกับสารเคมีจนผิวหนังชินไปเองและไม่เคยเล็งเห็นความงดงามที่ปราศจากสิ่งปรุงแต่ง

มะลิพาอีกคนเดินตัดผ่านใจกลางป่า ก่อนจะแวะเด็ดบางอย่างออกจากต้น
ผลของมันขนาดเท่าลูกปัด นอกจากจะกินเองยังหันกลับมายื่นให้ผู้ใหญ่

“ให้ฉัน…? มันกินได้เหรอ”  กลัวสิ่งแปลกปลอมแต่ก็ยอมกินเมื่อร่างเล็กเป็นฝ่ายป้อนให้ ฟันคมลองเคี้ยวจนรสชาติแปลกใหม่เคลือบไปบนเกลียวลิ้น  “หวานดีแฮะ”

ร่างเล็กที่ยืนรอดูปฏิกิริยายกยิ้มกว้างพลางพยักเพยิดหน้าเห็นด้วย แล้วค่อยชวนหรัญญ์ออกวิ่ง เรียกว่ากึ่งลากกึ่งจูงดีกว่า ฝ่ายที่ถูกกุมข้อแขนรีบประกบมือกับหลังมือเล็กไว้ขณะก้าวเดินผ่านต้นไม้ที่บดบังทัศนียภาพจนมาพบกับลำธารที่น้ำใสสะอาดขนาดเห็นตัวปลา

มะลิกระโดดลงน้ำที่มีความสูงเท่าเข่าและเดินฝ่ากระแสน้ำอย่างชำนาญในระหว่างที่คนมาด้วยกันรีบถอดรองเท้าหนังออกแล้ววางมันกองไว้กับเสื้อสูทสีดำ ทั้งคู่ข้ามไปยังอีกฝั่งโดยสวัสดิ์ภาพแล้วเดินย้อนไปทางต้นน้ำที่เห็นอยู่ไม่ไกล 

“ไม่ยักรู้ว่าที่แบบนี้ …ด้วย” 

พึมพำไม่ทันขาดตอน เผลอกลืนน้ำลายลงคอเพราะเห็นคนที่วิ่งล่วงหน้าไปก่อนถอดชุดจนเนื้อตัวล่อนจ้อน แสงแดดสะท้อนกับผิวกระเบื้องเคลือบจนเกือบทำคนจ้องตาบอด 

หรัญญ์ตัดสินใจถอดเข็มขัด ถัดมาด้วยการปลดตะขอกางเกงอย่างรีบร้อนระหว่างมองร่างเล็กไม่คลาดสายตา แก้ผ้าแก้ผ่อนตอนบ่ายกว่าอย่างไม่อายเจ้าป่าเจ้าเขาแล้วเดินเท้าเปล่าลุยลงน้ำที่เพิ่มระดับความสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเสมออก

อุณหภูมิที่เย็นของน้ำทำให้สมองโล่งจนคิดอะไรดี ๆ ออก 

นัยน์ตาดำด้านมองเป้าหมายที่ดำผุดดำว่ายแล้วค่อยมุดตัวลงใต้น้ำอย่างเงียบเชียบ 

ตอนนั้นเองที่มะลิหันกลับมากวาดสายตาแล้วเจอเพียงความว่างเปล่า หันหัวไปทางไหนก็ไร้เงาร่างสูงใหญ่จนใบหน้าเริ่มถอดสี ถึงจะมีพัฒนาการหลาย ๆ ด้านช้ากว่าเด็กรุ่นเดียวกันหลายเท่า แต่ก็เข้าใจคำว่าหวาดกลัวอย่างถ่องแท้

นอกจากในท้องแม่ก็ไม่มีที่ไหนแล้วที่ปลอดภัย

แต่ในระหว่างที่กำลังรู้สึกเคว้งคว้าง จู่ ๆ ก็มีพรายหนุ่มรูปงามโผล่พรวดขึ้นมาจากน้ำและพยายามล่อหลอกด้วยความเจ้าเล่ห์ โปรยเสน่ห์อันร้ายกาจผ่านแววตาเจ้าชู้ เสยผมไปด้านหลังขณะอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี แต่ดูเหมือนว่าจะมีแค่คนเล่นพิเรนทร์ที่สนุก

ผิดกับคนถูกแกล้งที่ขวัญหนีดีฟ่อจนน้ำตาคลอเบ้า มะลิตกอยู่ในอาการซึมเศร้าและน้ำตาไหลราวกับสั่งได้ ร่างเล็กอยากหลบไปอยู่คนเดียวไม่ขอข้องเกี่ยวกับคนขี้แกล้งสักพัก แต่ก็ยังช้ากว่าช่วงแขนยาวที่ตวัดรัดเอวคอดในน้ำและรั้งกลับเข้าหาตัวจนหน้าท้องแบนราบเบียดเสียดกับลอนกล้ามจำนวนมาตรฐาน   

“ฉันขอโทษ”  เอ่ยอย่างลนลานพานรู้สึกผิดมหันต์ 

หรัญญ์พยายามโน้มใบหน้าที่เบือนหนีให้หันกลับมา ปลอบประโลมด้วยสัมผัสท่ามกลางการขัดขืนเล็กน้อย ฝ่ามือใหญ่กุมพวงแก้มร้อนฉ่าไว้เพื่อคอยรองรับน้ำตาแห่งความเสียใจ ให้ร่างเล็กยืมมือเป็นที่พักพิงอิงแอบ เอาแก้มซบแล้วหลับตาร้องไห้เงียบ ๆ   

‘หลานชาย เสียไปเมื่อสองปีก่อน’

คำพูดของเพื่อนเตือนความจำได้ถูกเวลา
จังหวะเดียวกับที่หรัญญ์ประจักษ์แล้วว่าร่างเล็กนั้นมีตัวตนจริง ๆ

หยดน้ำที่กลิ้งบนความขาวเนียนถูกเช็ดออกไปด้วยปลายนิ้วโป้ง กร้านนิ้วยาวเกลี่ยผิวหมดจด ขจัดสิ่งที่บดบังสายตาออกไปไม่มีเหลือก็เพื่อจะยลโฉม  “ผีทุกตนจะสวยเหมือนเธอไหม”  ถามด้วยความสงสัยระหว่างมะลิช้อนนัยน์ตาแดงก่ำมองอย่างเว้าวอน  “ถ้าบอกว่าเป็นนางฟ้าฉันยังจะเชื่อมากกว่า”  ละเมอพูดคนเดียวตอนที่นิ้วเกี่ยวกับมุมปากบาง

ร่างเล็กงับปลายหัวแม่โป้งอย่างแผ่วเบา
เอาฟันขูด ใช้ปากรูดตามความยาวราวกับหิว ดูดนิ้วหนุ่มใหญ่เล่นเหมือนเด็กแรกเกิด 

“เธอเป็นใครกันแน่นะ”  เกือบจะหลงไปกับสิ่งยั่วยุ แต่ก่อนสงครามอารมณ์จะอุบัติ ร่างเล็กกลับหยุดมันด้วยการสวมกอดแล้วอ้อนเสียงเครือว่า  “หนาว…”

ทั้งสองคนจับมือกันเดินเข้าฝั่งและเป็นมะลิถูกอุ้มขึ้นบกก่อน
ส่วนหรัญญ์ยังลอยคอในน้ำ กำลังจะปีนขึ้นตามแต่กลับมีเหตุให้ต้องชะงัก หลังจากสบสายตาเข้ากับรอยช้ำบริเวณข้อเท้าขาว เรื่องน่าสงสัยก็เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่ง ก่อนจะเป็นร่างเล็กที่ชักขากลับ ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งหนีทั้งสภาพชีเปลือย

เดือดร้อนให้ผู้ใหญ่ช่างสังเกตต้องรีบขึ้นจากน้ำและตามเก็บชุดให้ทั้งที่ตัวเองก็ยังใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย เสื้อค่อยใส่ระหว่างทาง สวมแต่กางเกงไปก่อน หรัญญ์เดินอาด ๆ จนตามทันและกอดรัดฟัดเหวี่ยงเพียงเพื่อให้มะลิใส่เสื้อผ้าก่อนจะเป็นปอดบวมตายหรือมีไข้ถามหา

ผู้ใหญ่เดินนำบ้างและส่งมือให้ร่างเล็กจับยามต้องข้ามลำธารเพื่อกลับไปทางเก่า สละรองเท้าให้สวม ถึงจะหลวมแต่คนได้ใส่ก็ยังชอบใจ ส่วนตัวเองยอมเดินเท้าเปล่าไปตลอดทาง   

ร่างเล็กขอเสื้อสูทตัวโคล่งไปใส่ สยายเสื้อเป็นปีกแล้วออกวิ่งเป็นวงกลมวนรอบตัวคนอายุมากกว่า เดี๋ยวก็ล้มหรอกบอกไม่ทันขาดคำ เกือบหน้าคะมำดีที่รับตัวไว้ได้และเพื่อตอบแทนแก่ความมีน้ำใจจึงให้เลือกทำได้หนึ่งอย่าง แน่นอนว่าหนุ่มใหญ่ไม่ลังเลที่จูบอย่างมูมมามจัดให้ตามประสงค์ ส่วนการถลกชายกระโปรงขึ้นนั้นเป็นคำบัญชาจากสัญชาตญาณดิบล้วน ๆ






มีต่อด้านล่าง


ออฟไลน์ กระเหี้ยนกระหือรือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ว่ากันว่าช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ พอเจอกับตัวถึงเข้าใจ 

แต่มันก็ไม่ได้เร็วจนถึงขนาดไล่เก็บความอิ่มเอมใจไม่ทัน หรัญญ์เก็บได้กระบุงใหญ่และมีกำลังวังชาแบกข้ามภูเขาได้เป็นลูก ๆ จิตใจกระโดดโลดเต้นเหมือนถูกล็อตตารี่รางวัลที่หนึ่ง รู้สึกเหมือนได้ย้อนวันวานกลับไปในช่วงแตกเนื้อหนุ่ม กระชุ่มกระชวยขึ้นมากหลังจากที่สองสามเดือนก่อนเอาแต่ใช้ชีวิตแบบผ่อนส่งไปวัน ๆ 

ชายผู้ให้คำสัตย์สาบานว่าจะมีเมียเดียวจวบจวนสิ้นอายุขัยยอมรับว่าแอบเข็ดขยาดกับความรักและตั้งใจจะครองโสดไปจนวันตาย เคยเหน็บแหนมอดีตภรรยาว่าหาสามีใหม่ได้เร็วดีนะ แต่กลายเป็นว่าตัวเองก็ไม่ต่างกันและอาจจะหลงเด็กมากกว่า เรียกได้ว่าเข้าขั้นหัวปักหัวปำ

ตามติดยิ่งกว่าเงาตามตัวเพราะกลัวจะซนจนเลือดตกยางออก 

พนักงานบริษัทผันตัวเป็นพี่เลี้ยงเด็ก พาร่างเล็กมาล้างหน้าล้างตาที่ท่าน้ำแถวบ้านและอนุญาตให้เอาขาจุ่มน้ำได้ มะลินั่งแกว่งขาสบายใจเฉิบตอนอีกคนกวักน้ำขึ้นมาลูบตามแขนตามขา ที่มีคราบดินติดตามร่างกายก็เพราะว่าหกคะล้ม ตอนจับกบเพราะรีบวิ่งหนีมันก็น่าสงสารอยู่หรอก แต่ผู้ใหญ่ก็อาศัยช่วงนั้นแอบมองข้างใต้ร่มผ้าจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน   

ดวงตาสุกสกาวเห็นดอกไม้ลอยมากับกระแสน้ำกำลังจะผ่านเลยไปจึงชี้จะเอา หรัญญ์ที่แขนยาวแต่ไม่มากพอให้คว้าจึงหย่อนตัวลงน้ำไวเท่าความคิด เดินลุยทั้งกางเกงเพื่อหยิบสิ่งที่ร่างเล็กปรารถนามาให้ มือน้อยรับดอกไม้ไว้ด้วยความยินดีก่อนจะยกขึ้นดมฟุดฟิด

ได้กลิ่นทีก็ยิ้มกว้าง อ้าปากงับทำท่าจะแทะกลีบสีอ่อนจนหรัญญ์ต้องรีบห้ามว่าไม่ได้ มันไม่ใช่อาหาร โดยหารู้ไม่ว่าเมื่อวานร่างเล็กแอบกินไปแล้วตอนอยู่ตามลำพังและมีวีรกรรมอีกมากมายที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เช่นการทำให้ผู้ชายอีกคนตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

“ชอบเหรอ”  หรัญญ์ที่เห็นว่าไหน ๆ ก็เปียกแล้วเลยยืนในน้ำมันซะเลยเอ่ยปากถามเด็กชายตรงหน้าที่ไม่ได้ยึดแค่ท่าน้ำไว้คนเดียวแต่ยังยึดหัวใจที่เคยแห้งเหี่ยวไว้ได้ซะอยู่หมัด

หางตาเหลือบเห็นอีกดอกลอยอยู่ไม่ไกลจึงเก็บขึ้นมาทัดข้างใบหูขาวและที่ทำไม่ใช่เพื่อพยายามเอาใจ แค่รู้สึกว่าดอกไม้เป็นสัญลักษณ์ของความงดงามที่จับต้องได้และไม่มีอะไรเหมาะกับร่างเล็กกว่านี้อีกแล้วก็เท่านั้น

“สวย”  มะลิยกมือคลำดอกไม้ที่กกหูแล้วชมตัวเองหน้าตาเฉย ตามด้วยการเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวานหันนิ้วชี้เข้าหาคนยืนต้านกระแสน้ำเอื่อย ๆ  “หล่อ”

“ฮ่า ๆ”  เดินทางมาไกลได้หัวเราะแค่สักครั้งสองครั้งก็ยังถือว่าคุ้มกับค่าน้ำมันและถือโอกาสแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ  “ฉันชื่อหรัญญ์”  ช้าไปหน่อยแต่อย่างน้อยก็บอก ไม่อยากให้ร่างเล็กมองว่าไม่จริงใจและแน่นอนว่าในอนาคตจะบอกมากกว่านี้

หวังว่าอีกคนก็จะทำเหมือนกัน อาจต้องใช้เวลาแต่ก็จะรอ 

“ไหนลองเรียกฉันว่าหรัญญ์ซิ”

“หล่อ”

“ไม่ ฉันชื่อหรัญญ์”

“หล่อ”  จีบปากจีบคอตะเบ็งเสียงสู้ 

“หล่อก็หล่อ”  ผู้ใหญ่ยอมแพ้ ดีกว่าต้องวิ่งหายาแก้อักเสบให้เด็กกิน  “เห็นแบบนี้ฉันก็อายเป็นนะ”  หน้าบางเพราะคำชม แต่อมยิ้มเขินไม่ทันไรก็หลุดขำอีกหนเมื่อร่างเล็กเอาดอกไม้ที่เหลือทัดหูคืนและออกปากชมเปราะว่า  “สวย”

พูดกลับไปกลับมาจนหนุ่มใหญ่อยากรู้ว่าจริง ๆ แล้วในสายตาร่างเล็กตัวเองดูเป็นยังไง

“ตกลงฉันสวยหรือหล่อ เลือกมาสักอย่างสิ …มะลิ”

เจ้าของชื่อชะงักไปเผยนัยน์ตาเลิ่กลั่ก หนึ่งในสิ่งที่รู้ก็คือชื่อของตัวเองแต่ร่างเล็กส่ายหน้าปฏิเสธ เหมือนไม่ชอบมันและไม่ต้องการให้อีกคนเอ่ยถึงชื่อนั้นอีกเด็ดขาด มีอาการลนลานและตื่นตระหนกจนหรัญญ์รีบกอดปลอบและกล่าวประโยคเดิมซ้ำ ๆ พูดว่าไม่เป็นไรนับครั้งไม่ถ้วน  “ไม่อยากเลือก”  เสียงหวานพึมพำกับอก ท่าทางซึมลงถนัดตา

“ไม่เป็นไร”  ไม่อยากเลือกก็ไม่ต้องเลือก กะอีแค่สวยหรือหล่อมันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่จะต้องมาบังคับให้ตอบกันอยู่แล้ว ความรู้สึกผิดสะท้านอยู่ในอกซ้ายของชายวัยสามสิบกว่า คนทำให้บรรยากาศกร่อยก็หน้าเดิม ๆ แต่ข้อดีของมันก็คือการเริ่มจับทางได้ว่าควรระวังคำพูด   

สุดท้ายแล้วมะลิอาจปฏิเสธการเลือกในครั้งนี้ได้ แต่ยังไงซะวันหนึ่งที่ต้องเลือกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็จะมาถึงอยู่ดี 
“เอาดอกไม้อีกไหม ให้ฉันทำอะไรไถ่โทษดี” 

มือใหญ่ดันไหล่แคบออกห่างตัว ใช้หัวโขกเบา ๆ เอาหน้าผากดันหน้าผาก เล่นด้วยเพราะอยากให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีกลับมามีชีวิตชีวา อุตส่าห์จุมพิตหน้าผากเสียงดังหวังว่าร่างเล็กจะให้ความสนใจแต่ก็ไม่ จูบตามไรผมก็แล้ว หอมตามแนวขมับลามลงแก้มอย่างไว ๆ กลีบปากหนาแนบกับปลายจมูกมน กดจูบริมฝีปากแดงก่ำแค่ภายนอก รวมถึงคาง ซอกคอ ไห้ปลาร้า หอมหัวไหล่ผ่านผ้าอย่างอ้อยอิ่ง ดูสิว่าจะนั่งนิ่งได้อีกนานแค่ไหน 

ไม่รู้ว่าการบุกรุกร่างกายถูกบัญญัติว่าเป็นการละเล่นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจเป็นเพียงความคิดของชายชอบฉวยโอกาสที่สรรหาเหตุผลมาอ้างเพื่อหักลบกลบความจริงที่ว่าตัวเองฝักใฝ่ในราคะและปรารถนาจะกระทำชำเราเด็กน้อยตั้งแต่อยู่ในป่าแล้วก็เป็นได้ 

แววตาร้ายกาจหลุบมองกำปั้นเล็กที่แสดงออกถึงความเกร็งจัด หรัญญ์นวดจนสองมือนั้นยอมคลายออก มะลินั่งมองการแสดงมายากลชิดติดขอบเวที เหมือนมีไฟเผากายทั้งที่ไม่เห็นแม้แต่เขม่าควัน ชายเบื้องหน้าบันดาลให้มวนท้องทั้งที่ไม่มีไม้กายสิทธิ์

มีเพียงริมฝีปากที่ตามติดผิวกายไปทุกหนทุกแห่ง ประกบปากกับท้องแขนทุกระยะ เคลื่อนมาจูบหน้าท้องแบนราบที่มีชุดเป็นกำบัง ก้มหน้างับตามผ้าที่ปกคลุมขาเล็กทั้งสองข้างอย่างเชื่องช้าและหยุดการกระทำน่าหวาดเสียวไว้ที่หัวเข่าซึ่งปรากฏปื้นแดง ก่อนจะจูบร่องรอยจากการหกล้มแผ่วเบาแต่เข่านั้นแอบกระตุกนิดหน่อยเพราะความเจ็บที่ยังไม่หายไป

ใช้ปลายฟันกัดชายกระโปรงแล้วเลิกขึ้นเหนือหัวเข่าเข้าไปถึงโคนขา ลิ้นร้อนไล่เลียผิวละเอียดย้อนไปย้อนมาจนเด็กน้อยใจคอไม่ดี หายใจถี่ขึ้นทุกขณะ เผยอปากแต่ไม่กว้างมากเท่าขาที่ถูกจับแยกออก ผู้ใหญ่มุดหัวเข้าใต้กระโปรงเพื่อครอบครองพวงสวรรค์ขนาดกะทัดรัดด้วยปาก ทำอะไรประเจิดประเจ้ออย่างไม่กลัวใครจะเดินมาเจอฉากอัศจรรย์เข้า

ระหว่างเล้าโลมก็แอบงัดจรวดตัวเองออกมาขัดให้มันวาว สาวด้วยมือจนแก่นกายแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ที่ถ้าฟาดตามร่างกายคงทำให้สะดุ้งไม่น้อย หนุ่มใหญ่ยอมวางมือจากของกระจุ๋มกระจิ๋ม โผล่หน้าออกจากกระโปรงแล้วยกมือเช็ดริมฝีปากที่เลอะคราบใสๆ

เจ้าของร่างกายกำยำล่ำสันไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่ายืดตัวตรงแล้วตามด้วยการปลดกางเกงลง เป็นร่างเล็กที่กางขาออกอย่างรู้งาน เปิดสัญญาณไฟเขียวด้วยการโกยชายผ้าขึ้นและยอมให้คนยืนในน้ำลำเลียงท่อนไม้ผ่านเส้นทางลับแลได้สะดวก 
 
การล่วงเกินครั้งแรกอาจอ้างได้ว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ครั้งที่สองศาลก็อาจจะยังพอรับฟังเหตุผล แต่ถ้ามีหนที่สามเมื่อไหร่นั่นหมายถึงโทษประหารโดยไม่จำเป็นต้องรอลงอาญา 
 
เพราะการเสพสังวาสกับเด็กอายุต่ำกว่าสิบห้าถือเป็นการกระทำนอกรีดและเป็นเรื่องที่คนในสังคมส่วนใหญ่พยายามปกปิดในขณะคนที่ส่วนน้อยมองว่าผิดมหันต์และหากดึงดันจะแสดงพฤติกรรมลบลู่กฎหมายก็ต้องเตรียมใจถูกตรวนในสักวัน

หรัญญ์ยอมรับโดยดุษฎีหากจะมีการลงโทษ คิดว่าความรู้สึกคงไม่ต่างกันเท่าไหร่เพราะยังไงทุกวันนี้ก็โดนล่ามด้วยโซ่ที่เรียกว่าจริยธรรมจนชิน มีความผิดอีกสักกระทงคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปัญหาหนักอกหนักใจในตอนนี้คือจะควบคุมผีร้ายในใจอย่างไรต่างหาก 

กลายเป็นตัวเองที่ถูกตามใจ แม้จะรุนแรงด้วยแค่ไหนมะลิก็ไม่ปริปากบ่นสักคำ ทำแค่คล้องแขนกับคอแกร่ง ตัวโยนเพราะแรงกระแทกที่แบ่งช่วงเป็นช้าสลับเร็ว สองขาที่ห้อยต่องแต่งยกขึ้นเกี่ยวเอวสอบเป็นลูกลิง เอนตัวพิงตอนนั่งหมิ่นเหม่บนท่าน้ำ ไม่ค่อยถนัดแต่ก็พอทำเนา ก่อนจะตัดสินใจอุ้มเข้าเอวแล้วขยับช่วงล่าง ได้ทดสอบทั้งพละกำลังขาและแขนไปด้วย ท่านี้ช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้ยิ่งแน่นแฟ้น แน่นขนัดจนเด็กน้อยหวีดร้องไม่ขาดปาก

ดอกไม้ร่วงล่นจากใบหู เมื่อยึดผมไม่อยู่ก็ต้องจำจากลา ไหลสะเทินไปกับสายน้ำ

ร่างเล็กมองตามด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ก่อนจะฝังหน้ากับบ่ากว้างด้วยความกระดากอาย หายใจกระท่อนกระแท่นระหว่างอีกคนแหงนหน้าซูดปาก กำลังเข้าสู่ช่วงกลางถ้ารักษาจังหวะสม่ำเสมอไว้ได้อีกไม่นานคงพิชิตเส้นชัย

รางวัลสำหรับผู้ชนะคือน้ำดื่มแก้กระหาย หลังจากได้เสียเป็นผัวเมียกันทั้งยืน หรัญญ์ก็ปล่อยร่างเล็กลงสู่พื้นราบ ให้นอนแผ่กับท่าน้ำแล้วจับสองขาขาวตั้งฉาก เหมือนสุตินารีแพทย์กำลังทำคลอดสอดนิ้วเพื่อวัดระยะห่างของหัวเด็กโดยมีร่างเล็กคอยส่งเสียงครางบอกทางให้กับหมอที่เริ่มคลำมั่วซั่ว แล้วมุดหัวเข้าใต้กระโปรงอีกครั้งและเลียตามโคนขาด้านในเสียงดัง

สร้างความขัดเขินให้กับมะลิที่นอนไม่เป็นสุข แถมยังถูกพลิกร่างเหมือนปลาหมึกย่างบนเตาถ่าน ร่างเล็กนอนคว่ำบนไม้กระดานแล้วค่อย ๆ คลานถอยหลัง หย่อนขาลงน้ำแต่ไม่ถึงกับยืนเหยียบพื้น ทั้งที่น้ำเท่าหัวเข่าแต่จู่ ๆ ก็มีคลื่นยักษ์ซัดเข้าอย่างจังจนกระเทือนทั้งร่าง

เพราะเอวสอบที่เคลื่อนไหวไม่บั้นยะบั้น ร่างเล็กถึงได้ตกอยู่ในสภาพสั่นเป็นเจ้าเข้าและต้องรีบเอามือเท้ากับขอบไม้ จิตใจร้อนรนเหมือนคนที่กำลังตกนรกมกไหม้ อเวจีสีชมพูเปิดประตูต้อนรับทั้งคู่ทุกเวลาและให้ความรู้สึกคล้ายกับว่ากำลังเดินอยู่บนสรวงสวรรค์ 

หรัญญ์ยัดแก่นกายที่หลุดกลับเข้าไปใหม่แล้วดันเข้าข้างในสุดแรง แกล้งเว้นจังหวะ ทำช้าลงระหว่างที่ก้นงอนกระดกรับอัตโนมัติ หน้าขากับแก้มก้นบดเบียดส่อเสียดกันไปมา ขยับเขยื้อนด้วยจังหวะจะโคนที่เริ่มพร้อมเพรียงและส่อสำเนียงถูกอกถูกใจเป็นพัก ๆ
 
เจ้าโลกถูกชักออกจากช่องทางคับแคบอย่างไว ก่อนจะพลิกร่างกายเล็กนอนหงายและให้กระเทิบขึ้นไปนอนดี ๆ มือใหญ่ประคองแก่นกายป้วนเปี้ยนส่วนปลายอยู่แถวทางเข้าสีแดงก่ำและเสียงทุ้มต่ำก็คำรามเสียงดังเมื่อสอดใส่แล้วผนังร้อนต้อนรับด้วยการตอดอย่างแรง

มะลินอนมองสีหน้าทรมานนั้นด้วยความสนอกสนใจ เด็กน้อยรู้จักที่จะชายตามอง แต่ก็ต้องรีบหลับตาเพราะแสงแดดอันเจิดจ้า ใต้ดวงตะวันมนุษย์สมสู่กันเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน

ร่างเล็กเอนตัวรับแรงกระแทกกระทั้นที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเสมือนเป็นโอกาสสุดท้ายในชีวิตแสนสั้น หรัญญ์กดฝ่ามือกับโคนขาขาวในช่วงโค้งสุดท้ายระหว่างเคลื่อนสะโพกไม่ยั้งจนกระทั่งเกิดขีดสุด รับรู้ได้ถึงสิ่งที่พุ่งกระฉูดออกไป แค่อึดใจเดียวความเสียวก็ช็อตไปทั้งร่างจนได้กลิ่นไหม้จากผิว

ต่างฝ่ายต่างหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อจรวดติดล็อกไม่มีสารคัดหลั่งได้กระเด็นออกมาข้างนอกสักหยด ต้องรอจนกว่าอาการดูดจะทุเลา ผู้ใหญ่ใช้เวลานั้นทิ้งตัวราวกับอยู่บนเตียงนอน ล้มทับคนที่อ่อนเพลียพอกัน ทั้งยังรู้สึกอึดอัดด้วย แต่ท่าทางออดอ้อนนอนเกลือกแก้มกับอกแคบไปมาก็พอจะช่วยบรรเทาอาการครั้นเนื้อครั้นตัวไปได้มาก

ร่างเล็กหันมาหัวเราะเพราะรู้สึกจั๊กจี้แทน   

‘คุณหนูมะลิคะ…คุณหนู’ 

เสียงตามสายลมทำให้ฉากที่ควรจะจบด้วยความโรแมนติกกลายเป็นยิ่งกว่าละครแอคชั่น ตอนที่ป้าแม่บ้านค่อย ๆ เดินผ่านท่าน้ำไปทั้งคู่ก็อาศัยใต้ไม้กระดานเป็นที่ซ่อน

มะลิหัวเราะคิกคักที่หญิงอายุห้าสิบตอนปลายจับไม่ได้ไล่ไม่ทันแล้วค่อยหันตัวที่นั่งแช่ในน้ำไปมากกว่าครึ่งกลับมาหาหรัญญ์ที่กอดซ้อนหลังไว้

‘แล้วรถใครมาจอดตรงนี้ล่ะเนี่ย’     
   
ผู้ใหญ่ยักคิ้วหลิ่วตาให้เด็กน้อยที่ลอยคอในน้ำและกำลังเล่นเป่าฟอง

‘คุณหนูคะได้เวลาทานข้าวเย็นแล้วนะ’

แสงตะวันลอดมาตามร่องไม้ตอนที่ฝ่ายอายุเยอะกว่าร่วมเล่นเป่าปาก สร้างฟองได้มหาศาลจนร่างเล็กตื่นตาตื่นใจ เอามือไล่ตะครุบฟองอากาศเป็นพัลวัน แต่ก่อนที่เสียงร้องว้าวจะกลายเป็นปัญหา ราชสีห์ที่วันนี้ยอมลดตัวลงน้ำก็ได้คาบริมฝีปากบางมากินได้ทันท่วงที

ปล่อยให้หญิงร่างท้วมที่หันกลับมามองแล้วพบเพียงความว่างเปล่าเข้าใจว่าตัวเองหูฝาด ป้าแม่บ้านส่งเสียงเรียกคุณหนูต่อไป กลัวจะไปล้มหัวร้างข้างแตกที่ไหนจึงภาวนาให้กลับมาอย่างปลอดภัย ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องจากสัตว์ร้าย …ซึ่งก็สายไปเสียแล้ว










---------------------------------------
✘ ✘ ✘  มาอัพตอน2แล้วค่ะ ชื่อเรื่องอ่านว่า เห-มา-ยัน ไม่ใช่ เหมา-ยันนะ >< หวังว่าจะชอบและติดตามเรื่องราวไปจนจบนะคะ
ตอนนี้ยังไม่มีแท็กในทวิตอย่างเป็นทางการเลยค่ะ ตุ๊กติ๊กกำลังคิดๆอยู่ เหมายันเฉยๆก็มีคนใช้ไปแล้ว ถ้าใครมีความคิดดีๆสามารถเสนอได้นะคะ ◕‿◕。
แล้วก็สามารถติดตามข่าวสารได้ที่เพจเลยค่ะ ---> 9crimes - นายคราม FANPAGE

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-07-2018 21:17:28 โดย กระเหี้ยนกระหือรือ »

ออฟไลน์ Kirimanjaro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๒) ๐๙.๐๙.๖๐
«ตอบ #13 เมื่อ09-09-2017 20:08:45 »

อื้อหืออออออออ

สำนวนสวิงสวายมากกก   ส่วนฉากนั้นก็  ดีสุด ๆ    จนคนอ่านแทบจะอยากกินเด็กตาม 555+

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๒) ๐๙.๐๙.๖๐
«ตอบ #14 เมื่อ09-09-2017 20:24:48 »

มีแม่บ้านมาตามเสียด้วย แต่ทำไมบอกว่าหลานตายแล้ว ตกลงยังไงหนอ

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๒) ๐๙.๐๙.๖๐
«ตอบ #15 เมื่อ10-09-2017 23:05:16 »

คือจะบอกว่าคนเขียนเก่งมากกกก
ใช้คำเปรียบเทียบสำบัดสำนวนได้ดีมากกกกก
แถมยังผูกปมได้ดี น่าติดตามมากๆค่ะ

พี่หรัญญ์กินเด็กขนาดนี้
ระวังไอคุกๆนะพี่ 5565

ว่าแต่หนูมะลินี้สรุปยังงัย ตายไม่ตาย
แล้วถ้าตายจะมาเล่นจ้ำจี้กับพี่หรัญ์ได้งัย
คนอ่านงงมากค่ะ

มาต่อตอนต่อไปเร็วๆนะคะ
อยากอ่านต่อแล้วค่า

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๒) ๐๙.๐๙.๖๐
«ตอบ #16 เมื่อ10-09-2017 23:10:42 »

น่าสนใจมากกกกก
 :mew1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๒) ๐๙.๐๙.๖๐
«ตอบ #17 เมื่อ10-09-2017 23:28:58 »

โหยยยยย เราชอบภาษามากเลยค่ะะะะ อ่านแล้วแบบร้องหูยร้องโหยตลอด ชอบการเปรียบเปรยอ่านแล้วอินเหมือนเราเป็นคนบาปที่รังแกน้องเองเลย สรุปว่าน้องตายแล้ว แล้วแม่บ้านนี่คนหรือผีคะ เอ๊ะ ยังไง ติดตามตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๒) ๐๙.๐๙.๖๐
«ตอบ #18 เมื่อ11-09-2017 00:03:41 »

ติดตามค่ะะะ
สำนวนสลวยเหลือเกินนนนน
ระหว่างนี้จะแจ้งตำรวจไปพลาง ฮือออ คุกๆๆๆๆๆ  :hao7: :hao6:

ออฟไลน์ valenpinkpink

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๒) ๐๙.๐๙.๖๐
«ตอบ #19 เมื่อ11-09-2017 11:27:43 »

รอติดตามนะคะ เนื้อเรื่องน่าสนใจมาก :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ———— เหมายัน ———— (๐๒) ๐๙.๐๙.๖๐
« ตอบ #19 เมื่อ: 11-09-2017 11:27:43 »





ออฟไลน์ mpp

  • malynn
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๒) ๐๙.๐๙.๖๐
«ตอบ #20 เมื่อ12-09-2017 12:43:53 »

เป็นฉากรักดิบเถื่อนแต่อ่านแล้วไม่รู้สึกว่ามันหยาบโลน
สำนวนดีมากเลยค่ะ บรรยายละเอียดแต่ไม่น่าเบื่อชวนง่วงเลยสักนิด
ปมเรื่องที่ค่อยทอดตัวลงมาก็มีเสน่ห์มากเลย วางโครงเรื่องได้ดี

คราวนี้มีแม่บ้านโผล่มาด้วยอีกคน ฟีลจะคล้ายๆ เรือนมยุราหรือเปล่านา
แบบตายไปแล้วแต่ยังมีมิติทับซ้อนที่คล้ายกับว่ายังมีชีวิตอยู่
ฮ่ลลลลล รอติดตามใจจดใจจ่อค่ะ ^^

ออฟไลน์ กระเหี้ยนกระหือรือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๒) ๐๙.๐๙.๖๐
«ตอบ #21 เมื่อ12-09-2017 23:47:39 »


๐๓




เดิมทีอัธยาศัยก็ไม่ได้ดีเด่อะไร แต่หลายวันมานี้ที่ปรึกษาเจ้าของฉายาเสือยิ้มยากกลับยิ้มกว้างผิดหูผิดตา แถมเลิกเย็นชาหันมาพยักหน้ารับเวลามีพนักงานหยุดทำความเคารพ ตลอดทางที่เคยอบอวลไปด้วยไอน้ำแข็งโดนแสงแดดละลายจนลูกน้องรับรู้ได้ถึงไออุ่น แทบจะจัดงานเลี้ยงฉลองที่เจ้านายดูเป็นมนุษย์เหมือนกับคนอื่นเขา   

ช่วงขายาวก้าวผ่านโต๊ะเลขาไม่ทันพ้น หญิงสาวรีบทักว่ามีคนส่งเอกสารมาให้ตั้งแต่เช้า

“เจ้านายคะ มีเอกสารถึงเจ้านายค่ะ”

“ขอบใจมาก”

หรัญญ์ที่รู้ดีว่าข้างในซองสีน้ำตาลเป็นเอกสารอะไรรับมันมาไว้ในมือระหว่างยิ้มน้อย ๆ แล้วค่อยเดินเข้าห้องทำงานอย่างรักษามาด แต่แค่บานประตูปิดไม่ทันไรก็รีบจัดการวางสัมภาระพวกกระเป๋าไว้บนโต๊ะกระจกและยกซองขึ้นมาเปิดผนึก ดึงปึกกระดาษข้างในขึ้นมาดูให้แน่ใจว่าใช่เอกสารเดียวกับที่ต้องการ 

“เดี๋ยวนี้ชอบหายหน้าหายตานะเพื่อน” 

น้ำเสียงคุ้นหูเอ่ยทักตั้งแต่เปิดประตูเข้ามาขณะที่หรัญญ์หลุบตาลงต่ำ มือยัดเอกสารกลับเข้าในซองอย่างใจเย็น กระทำการซ่อนด้วยความสงบ วางมันลงแล้วเอาแฟ้มกลบเกลื่อน ก่อนจะหันหลังกลับมายิ้มแย้มให้กับคนที่เรียกว่าเพื่อนรัก   

“สงสัยต้องหางานให้ที่ปรึกษาทำเพิ่มแล้วล่ะมั้ง”

“ท่านประธานมาหาผมถึงนี้มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“ทำเป็นทางการขึ้นมาเชียวนะ”  ตั้งแต่มารับตำแหน่งสำคัญก็แทบไม่มีเวลาปฏิสัมพันธ์กับสหาย อยู่บริษัทเดียวกันแท้ ๆ แต่จะหาเวลาเจอกันนั้นเป็นเรื่องยาก อยากนั่งจิบน้ำชาด้วยจะแย่ แต่เลขาก็เอาแต่บอกว่าวันนี้ต้องทำอะไร ไปไหน กว่าจะได้พักก็หมดเวลาไปอีกหนึ่งวัน

เกือบอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้กลับบ้าน คิดถึงคนทางนั้นใจแทบขาด 

“ก็ว่าจะมาชวนไปกินข้าวกลางวัน”

“เสียใจ ฉันมีนัดแล้ว”

“กับใครวะ”  กวินทร์ถามอย่างกระตือรือร้น   
 
“ไม่ใช่กงการของท่านประธานครับ”

“อะไรกันวะ แค่นี้ต้องมีความลับกับฉันด้วย”  กวินทร์ตัดพ้อ

ส่วนหรัญญ์แทบอยากจะสวนกลับว่านายเองก็มีความลับกับฉันเหมือนกันนี่ ยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องที่โกหกว่าหลานตายและทำให้หลงเชื่อไปอยู่หลายวันว่าตัวเองลอบมีความสัมพันธ์กับผี แต่ที่ยังสงวนท่าทางก็เพราะยังไม่ต้องการให้เรื่องของตัวเองกับเด็กชายมะลิแดงขึ้นมาก่อนเวลาอันควร จะไม่ยอมชวดรางวัลนักแสดงดีเด่นให้กับมือสมัครเล่นอย่างสหายแน่นอน ละครเรื่องนี้พระเอกจะตีหน้าซื่อ ทำเป็นไขสือต่อไป

“จะว่าไปช่วงนี้แกหน้าตาดูแจ่มใสขึ้นนะ หรือว่าแอบไปชอบลูกสาวบ้านไหนเข้า”

กวินทร์มีทักษะการเดาที่เยี่ยมยอด จนหรัญญ์ยังแอบกลัวใจ   

“ไม่คิดว่าฉันอาจจะกำลังมีความสุขกับการทำงานบ้างเหรอ”

“โกหกขอให้นกเขาไม่ขัน” 

ถ้านกเขาใช้การขึ้นมาไม่ได้จริง ๆ คงแย่ คนโกหกหน้าตายจึงทำแค่แสยะมุมปาก ไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ยอมรับ นั่นยิ่งทำให้คู่สนทนาสงสัยและมั่นใจกับข้อสันนิษฐานของตัวเองมากกว่าเดิมจนนำไปสู่การซักไซ้ไล่เรียงด้วยน้ำเสียงสอดรู้สอดเห็น  “เป็นใคร ฉันรู้จักไหม”

ยิ่งถามลงรายละเอียดมากเท่าไหร่ ยิ่งรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายไม่อยากจะตอบ จนท่านประธานอยากจะใช้อำนาจสั่งให้ลูกจ้างพูดออกมาเดี๋ยวนั้น ติดที่เผด็จการไม่มากพอ ไม่อยากจะชวนทะเลาะตั้งแต่หัววันด้วย ป่วยการจะเซ้าซี้  “ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก แต่ถ้าแต่งงานใหม่อีกรอบคราวนี้ฉันขอเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวนะ”  พูดเสร็จก็ตบบ่าสองสามที อยู่นานกว่านี้ก็ดูจะเป็นการรบกวน เป้าหมายมีแค่การชวนไปทานข้าวด้วยกันแต่ในเมื่ออีกคนมีนัดแล้วก็เข้าใจ

ปิดท้ายว่าไม่ต้องคิดมากแล้วกวินทร์ก็เดินออกจากห้องไป

โดยมีนัยน์ตาดำด้านมองตามไล่หลังอย่างเฉยชา หรัญญ์รอจนกระทั่งไม่เห็นเงาหัวของเจ้านายแล้วค่อยอพยพตัวเองออกจากห้องบ้างทั้งที่มีเอกสารให้อ่านอีกเป็นกอง เข้ามาอย่างช้าออกไปอย่างไว ก้าวเดินผ่านสายตาใครต่อใครรวมถึงสายตาเหยี่ยวของกวินทร์ที่หยุดยืนคุยงานกับลูกน้องหน้าห้องพอดิบพอดี 

ที่ที่คนเมืองจะไปก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล ขับรถจนชินกับระยะทาง คิดว่ามันใกล้เหมือนไปกลับระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ บังคับพวงมาลัยด้วยความไม่ประมาทและระหว่างทางไม่ลืมแวะซื้อเค้กขนมที่เป็นขวัญใจของเด็ก เลือกเองกับมือแล้วถือถุงด้วยความทะนุถนอมกลับมาที่รถ

สี่ล้อผ่านการบดปูนแล้วหยุดบนหน้าดิน หรัญญ์เลือกจะจอดรถห่างจากตัวบ้าน ทำอะไรรัดกุมขึ้นแล้วเดินเท้าเข้ามาอย่างเงียบ ๆ แน่นอนว่าไม่เผลอเหยียบกิ่งไม้อีกแล้ว เรียนรู้การเดินเยี่ยงแมวเก้าชีวิต เปิดแล้วปิดประตูบ้านเข้ามาด้านในที่มืดสนิท ก็เล่นปิดผ้าม่านทุกบานแสงมันจะลอดเข้ามาได้อย่างไร แถมบรรยากาศก็ให้ความรู้สึกแตกต่างจากวันแรกที่มาลิบลับ

มือข้างที่ว่างคลำหาสวิตซ์ไฟ ออกแรงกดเมื่อคิดว่าใช่จนในบริเวณสว่างโล่

หรัญญ์โผล่หน้าไปก่อนตัวเพราะกลัวมีอะไรผิดพลาดจะได้หลบป้าแม่บ้านทัน รายนั้นถึงจะไม่ได้ประจำอยู่ที่บ้านแต่ก็ต้องมาหุงหาอาหารให้กับคุณหนูสามมื้อและมีหน้าที่ถือกุญแจบ้าน ล็อกบานประตูเป็นเวลา

ขายาวสับผ่านตู้กระจกที่มีกรอบรูปมะลิอยู่ในนั้นไป ก้าวขึ้นบันไดสู่ชั้นสอง ไม่รู้หรอกว่าห้องไหนเป็นห้องไหน อาศัยสุ่มเอา แต่ถ้าตัดห้องที่เคยพักกับห้องที่จำได้ลาง ๆ ว่าเป็นของกวินทร์ออกไปก็เดาไม่ยาก ต้องเปิดถูกสักบานแต่กลายเป็นว่าเดินวนมันอยู่รอบชั้น

บ้านไม้กลายเป็นเขาวงกตไปเสียได้ ก่อนจะตัดสินใจก้าวขึ้นบนไดสู่ชั้นสามและพบกับบานประตูเดียวที่ปิดอยู่  “มะลิ…”  ลองเรียกและเมื่อไม่มีเสียงใดขานรับกลับมาจึงถือวิสาสะหมุนลูกบิดและได้ยินเสียงเคลื่อนไหว พอเห็นว่าเป็นใครที่เดินเข้ามาร่างเล็กที่กำลังนอนวาดรูประบายสีอยู่บนพื้นก็รีบลุกขึ้นยืนยิ้มตายี่ ก่อนจะวิ่งปรี่มากอดเอวสอบ 

“ดูสิฉันมีอะไรมาฝาก”  คนถือของพะรุงพะรังเอ่ยแล้วชูถุงร้านขนมชื่อดังขึ้นนิด ๆ 

“เค้ก!”

เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ  “ขอได้ไหม ๆ”  แบมือทั้งสองข้างเพราะอยากถือเอง แล้วหลังจากที่ได้ถือตามปรารถนาก็เดินตัวเกร็งกลับไปกลางห้อง วางกล่องกับพื้นแล้วแกะอย่างรีบร้อน ร่างเล็กใช้นิ้วต่างช้อน จิ้มครีมขาวเอาเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

คนไม่ค่อยชอบน้ำตาลเท่าไหร่ให้เวลาเด็กน้อยได้ละเลียดกับความหวานอย่างเต็มที่ ร่างสูงใหญ่ย่างกรายเข้ามาในห้องใต้หลังคาและเจอปัญหาหัวเกือบชนเพดาน ระหว่างยิ้มให้ร่างเล็กก็ไล่สายตามองสภาพห้องที่ค่อนข้างสะอาดสะอ้าน คงได้รับการกวาดถูเป็นประจำ มือกร้านลูบคลำข้าวของที่ห้องนอนตัวอย่างพึ่งจะมีแล้วหันหน้าไปทางผนังอีกด้านที่มีภาพวาดแปะอยู่มากมาย ลายเส้นยึกยือมาจากฝีมือนักวาดฝึกหัด 

หรัญญ์เดินข้ามสีเทียนที่กลิ้งเกลื่อนเต็มพื้น

“ชอบวาดรูปเหรอเรา”

มองดูทีละภาพก่อนจะสะดุดกับรูป ๆ หนึ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเจ้าโลกของผู้ชายกับอีกภาพที่ดูคับคล้ายคับคลาว่าจะวาดจำลองมาจากห้องที่ตนยืนอยู่ มีมนุษย์กางปลาแขนขาครบ ผมสามเส้นกับอวัยวะเพศใหญ่ที่ผิดสัดส่วน

ภาพพวกนี้ทั้งชวนให้ฉงนและสังเวชใจในเวลาเดียวกัน เคยได้อ่านผ่านตามาบ้างว่าเด็กที่โดนทารุณกรรมมักระบายความเจ็บปวดผ่านภาพวาด ขีดเขียนเพื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น

หรัญญ์ยืนจ้องอยู่เนิ่นนานขณะลองจินตนาการว่าร่างเล็กต้องผ่านอะไรมาบ้าง 

“ใครสอนวาดภาพพวกนี้เหรอ”   

มะลิโคลงหัวไปมา ศิลปะพวกนั้นถูกส่งผ่านมาทางจิตใต้สำนึกที่เปรียบเสมือนกล่องสมบัติ ซึ่งด้านในนั้นบรรจุความลับดำมืดเอาไว้มหาศาล ร่างเล็กบันทึกความทรงจำผ่านการมองเห็น การได้ยิน สัมผัสและลิ้มรส ความโหดร้ายกลายเป็นเพื่อนแท้ตั้งแต่ตัดสายสะดือ   

หรัญญ์เดินมานั่งที่เตียงขนาดสามฟุตแล้วเรียกให้ร่างเล็กขึ้นมานั่งข้าง ๆ ด้วยการตบเตียง ไม่ต้องทำซ้ำสองเด็กน้อยก็ผละออกจากกล่องเค้กมาหย่อนก้นบนพื้นที่ว่าง พยายามใช้มือเช็ดปาก แล้วคนที่กลัวว่าจะเลอะมากกว่าเดิมก็ใช้หลังมือช่วยเช็ดให้อีกที
   
“กวินทร์ …ทำอะไรเธอหรือเปล่า”  เริ่มต้นซักประวัติเหมือนหมอที่ถามอาการว่าวันนี้คนไข้เป็นอะไรมา สอบถามด้วยท่าทีอ่อนโยนทั้งที่อยากรู้เหตุผลใจแทบขาด ทำไมกวินทร์ต้องถึงขั้นปั้นน้ำเป็นตัวมาหลอกกันด้วย  “เธออยู่ที่นี่กับกวินทร์ใช่ไหม” 

“อากวินทร์”  เสียงหวานทวนชื่อบุคคลที่สามซ้ำราวกับจะถามว่าใช่กวินทร์คนเดียวกันไหม

“ใช่ อากวินทร์”

สิ้นคำยืนยันมะลิก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดยาวมาทาบกับตัว 

“เขาซื้อให้เธอเหรอ”

ร่างเล็กพยักหน้างึกงัก  “ทั้งหมดนั่น…?”  หรัญญ์อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นชุดกระโปรงยาวขาวล้วนแขวนเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ในตู้ไม้ขนาดกลางเป็นสิบ ๆ ตัว  “ไม่ยักรู้ว่าหมอนั่นคลั่งสีขาว”

“หมา กวินทร์เป็นหมา”

“หมา…?”

เด็กน้อยทำอะไรปุบปับ เดินเข้ามาเลียหน้าเลียปากผู้ใหญ่  “เดี๋ยวสิ”  ฝ่ายตั้งรับไม่ทันเผลอดันตัวฝ่ายจู่โจมออก มองลึกเข้าไปในแก้วตาสุกใสก่อนจะฉุกคิดอะไรที่ค่อนข้างลามกออก สมองลองชั่งใจถึงความเป็นไปได้ กลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วลองแทนชื่อสหายด้วยสัตว์สี่ขา 

“หมา… ชอบเลียหน้าเธอแบบนี้เหรอ”

มะลิไม่ตอบและเปลี่ยนไปทำท่าคลานรอบห้อง เห่าบ็อกบ็อกบ็อก   

“ฉันไม่เข้าใจ”  ถูกดึงเข้าสู่ช่วงเกมทายคำและจับใจความจากภาษากายไม่ได้สักที

จนเมื่อร่างเล็กให้คำใบ้ว่า  “ขี่”  วลีสั้น ๆ บวกกับท่าคลาน

หรัญญ์จึงเดา  “เขาให้เธอขี่หลัง…? ทำไม” 

ร่างเล็กส่ายหน้าเป็นพัลวัน เลิกคลานแล้วหยัดการขึ้นยืนเต็มตัว  “น่ากลัว”  กิริยาหวาดหวั่นผันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม มะลิเดินมาหาคนนั่งบนเตียงด้วยท่าทางแปลก ๆ

“หมายถึง…”

“ชู่ว”  เอานิ้วแตะริมฝีปากหนาเพื่อให้หยุดส่งเสียงก่อนดัดสำเนียงให้ทุ้มและนุ่มลึก  “เด็กดี อยู่เฉย ๆ”  เอ่ยวาจาเหมือนตัวเองเป็นผู้ใหญ่และใช้มือลูบหัวคนอายุมากกว่าด้วยความเอ็นดู หรัญญ์รู้สึกว่าร่างเล็กกำลังลอกเลียนแบบพฤติกรรมใครสักคนและสวมบทบาทนั้นได้อย่างสมจริง มะลิขึ้นคร่อมคนที่นั่งนิ่งไปแล้วไล้ปลายจมูกกับกรอบหน้าสมสัดส่วน   
 
“เขาทำร้ายเธอหรือเปล่า หมายถึงตีเธอ”  ไม่แน่ใจว่าร่างเล็กรู้ความหมายของคำว่าตีหรือเปล่า แล้วก็ไม่ได้เบาใจลงเลยแม้ว่าดวงหน้าขาวจะส่ายไปมาปฏิเสธว่าไม่เคยถูกตี 

“งั้นฉันขอดูรอยที่ข้อเท้าหน่อย” 

มะลิถอยกรูดไปนั่งยอง ๆ ตรงปลายเตียงแล้วเอากระโปรงคลุมเท้า 

“แค่ดูเท่านั้น”  หรัญญ์พยายามโน้มน้าวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ

จนร่างเล็กพอจะวางใจ ยื่นเท้าให้ดูช้า ๆ

เมื่อพ้นชายกระโปรงถึงได้เห็นว่าข้อเท้ามีทั้งรอยช้ำเก่าและใหม่ ถ้าปล่อยไว้ไม่รักษาดูท่าจะเป็นแผลเป็น  “ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า”
ส่ายหน้าแล้วก็พยักหน้า  “งั้นเดี๋ยวฉันไปหายามาทาให้” 

“อย่าไป” 

“ฉันแค่จะลงไปเอายา”  ปากว่าตาก้มลงมองมือเล็กที่คว้าชายแขนเสื้อตัวเองไว้และกำไม่ปล่อย  “ฉันไม่ได้จะไปไหนสักหน่อย”
“ไปด้วยได้ไหม”  ทั้งแววตาและน้ำเสียงนั้นอ้อนวอนเกินกว่าจะแค่ขอลงไปเอายาด้วย

เหมือนเห็นเด็กน้อยเรียกให้ช่วยจากในดวงตาสีน้ำตาล เด็กคนนั้นมีสีหน้าโศกเศร้า นั่งกอดเข่าอยู่เพียงลำพังท่ามกลางความเวิ้งว้างของหลุมดำ 

หรัญญ์ไม่ได้ตกปากรับคำใด ๆ แค่ให้เด็กน้อยขี่หลังลงไปเอายาด้วยแล้วกลับขึ้นมาช่วยกันทายาที่ข้อเท้า ไม่นานมะลิก็หาววอด แต่แทนที่จะนอนกลางวันบนเตียงตามปกติวันนี้มีเบาะกิตติมศักดิ์มาให้นอนทับ ร่างเล็กหลับปุ๋ยบนตัวหนุ่มใหญ่ที่กำลังนอนมองออกไปนอกหน้าต่างระหว่างใช้ความคิดอย่างหนัก แค่กำลังคิดหาทางออกอย่างสันติวิธี แต่คิดไปคิดมาแล้วการลักพาตัวเด็กคนหนึ่งไปดูจะง่ายกว่าการคุยกับผู้ปกครองที่มีสิทธิ์โดยชอบธรรมนัก






มีต่อด้านล่าง


ออฟไลน์ กระเหี้ยนกระหือรือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๒) ๐๙.๐๙.๖๐
«ตอบ #22 เมื่อ13-09-2017 00:01:02 »

กว่าซองเอกสารสีน้ำตาลจะถูกเปิดออกอีกครั้งก็ย่ำค่ำเข้าไปแล้ว 

เพราะหนุ่มใหญ่มัวแต่ใช้เวลาก่อนหน้านั้นไปกับการอาบน้ำดับความหงุดหงิดที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้มากนอกจากต้องทิ้งเด็กน้อยไว้ในบ้านกลางป่าอีกคืน คนจากมาจำภาพสีหน้าเศร้าหมองได้ติดตา ร่างเล็กไม่แม้แต่จะโบกมือลาในตอนที่เอ่ยว่าแล้วพรุ่งนี้ฉันจะมาหาใหม่     

หรัญญ์คิดว่าพฤติกรรมตัวเองคล้ายคลึงกับเสี่ยบ้ากามที่กลับไปหาอีหนูคนเดิมเพื่อเติมเต็มความกระหาย แต่จุดที่แตกต่างกันคือไม่ได้หวังฟันแล้วก็แยกย้ายกลับบ้าน ยังจำทุกคำที่ลั่นวาจาได้ดี รับปากว่าจะช่วยออกมาจากนักค้าทาสเพียงแต่แค่ยังไม่ใช่วันนี้ก็เท่านั้น

มันดูเป็นคำพูดขายฝันของผู้ชายปากหวานก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นแน่คือการรับผิดชอบต่อสิ่งที่กระทำลงไป คิดถึงการแต่งงานครั้งใหม่กับเด็กผู้ชาย ซึ่งใครมาได้ยินเข้าคงคิดว่าเตรียมการจะประชดเมียเก่าเป็นแน่ แต่เปล่าเลย ก็แค่คนที่เคยถูกกาลเวลาหักหลัง เสียเวลาพิสูจน์ตั้งสิบกว่าปีถึงค่อยได้คำตอบว่าคบสั้นคบนานก็ไม่มีความหมาย คนจะไปก็หมดใจเสียดื้อ ๆ 

อายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันทำให้ตระหนักว่าไม่ควรรออีกต่อไป แต่กำลังคิดให้ออกว่าควรจะให้อะไรเป็นสินสอดในเมื่อคนอย่างกวินทร์มีเงินทองมากพอให้นอนกอดไปจนตายแล้ว ไหนจะเรื่องความสัมพันธ์ของสองอาหลานที่แสนคลุมเครือ ต้องคิดหาทางปรองดองพร้อมกับต้องหาความกระจ่างในเรื่องนี้ไปพร้อม ๆ กัน

ใครจะไปรู้บางทีตนอาจจะตกอยู่ในสถานะมือที่สามแล้วก็เป็นได้

หรัญญ์ใช้มือลูบหน้าลูบตาที่เหนื่อยล้าสะสมจากการเทียวขับรถก่อนจะหยิบกระดาษสีขาวขึ้นมาอ่าน ในหนึ่งหน้าเอสี่อัดแน่นไปด้วยตัวหนังสือขนาดมาตรฐาน บรรยายประวัติตั้งแต่รุ่นคุณทวดของกวินทร์เรียงเป็นพารากราฟ แต่สิ่งที่ทำให้นัยน์ตาดำด้านสนใจหาใช่ยศถาบรรดาศักดิ์หรือความเป็นเลิศทางปัญญาที่ถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรม คำจำกัดความของตระกูลเก่าแก่ที่ว่าเป็นตระกูลต้องสาปทำให้ข้อความยาวเหยียดยิ่งดูน่าสนใจ 

หลังจากที่รุ่นแรกและสองทยอยล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา ลูกหลานก็ต้องประสบกับชะตากรรมประหลาดและขึ้นชื่อเรื่องอายุสั้นจนเป็นที่โจษจันในแวดวงสังคม รุ่นสามจบชีวิตด้วยโรคร้ายเสียส่วนใหญ่ ส่วนรุ่นสี่สิ้นใจเพราะอุบัติเหตุไปซะครึ่ง

กวินทร์มีพี่ชายหนึ่ง พี่สาวสองและน้องชายอีกคนรวมเป็นห้า พี่ชายคนโตประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ พี่สาวคนแรกพบเนื้อร้ายในสมอง น้องชายคนสุดท้องก็เพราะความประมาทในการขับขี่อีกเช่นกัน มีเพียงพี่สาวคนที่สองที่ถูกระบุวันมรณะ แต่สาเหตุการตายไม่ได้รับการกล่าวถึง กวินทร์เป็นทายาทหนึ่งเดียวที่รอดพ้นจากความตายในช่วงยังหนุ่มยังแน่น

แล้วสุสานก็แทบจะเป็นบ้านหลังที่สอง ต้องยืนมองป้ายสลักชื่อคนที่รักครั้งแล้วครั้งเล่า คราวล่าสุดก็เมื่อต้นปี คนเป็นพ่อถูกจารึกว่ามีอายุยืนยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ครอบครัว คนตายช้าพอจะทำให้เรื่องราวคำสาปร้ายซาลง กลายเป็นเพียงคำพูดติดตลกในวงสนทนาไป     

หรัญญ์เองก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมไว้อาลัยที่โยนดอกไม้ลงหลุมของบิดาสหาย จำได้ว่าวันนั้นมีกลุ่มเมฆลอยตัวเหนือพิธีฝังศพ ลมหอบฝุ่นมาแล้วตามด้วยหยดน้ำห่าใหญ่ นอกจากจะไปร่วมงานแล้วยังเป็นคนสุดท้ายที่ยืนตากฝนเคียงข้างกวินทร์ที่ปิดปากเงียบไม่ยอมพูดจากับใครและถือโอกาสร้องไห้ท่ามกลางสายฝนโดยที่แขกเหรื่อคนอื่นไม่ทันสังเกตเห็น

กวินทร์ไม่เคยเล่าความเป็นมาของวงศาคณาญาติให้ฟังเหมือนอย่างที่ตนก็ไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้ามาก่อนแล้วค่อยถูกอุปถัมภ์อีกทอด แน่นอนว่าการเป็นมนุษย์นั้นประกอบขึ้นด้วยหลายด้าน เรามีด้านหน้าที่สวยสดงดงามและอยากให้คนที่พบเห็นจดจำแบบนั้น ต่างจากด้านหลังที่อาจมีบาดแผลฉกรรจ์จากของมีคมหรือเป็นปมด้อยที่อายเกินกว่าจะเอื้อนเอ่ยถึง

เสียงฟ้าผ่าในปัจจุบันดังกึกก้องเหมือนในวันงานที่สุสาน หรัญญ์เงยหน้าจากกระดาษแล้วหันมองไปนอกหน้าต่าง เทพแห่งสายฟ้ากำลังสำแดงอิทธิฤทธิ์จนสะเทือนถึงแผ่นดินเบื้องล่าง ซ้ำยังปัสสาวะรดจนหลาย ๆ พื้นที่ในเมืองกรุงเริ่มทยอยชุ่มฉ่ำ 
 
น่านฟ้าสีดำกำมะหยี่มีรอยแยก

แล้วแสงเดียวกันนั้นก็สาดใส่ห้องใต้หลังคา

เด็กน้อยลุกขึ้นมานั่งแล้วมองประตูที่เปิดกว้าง แสงสว่างทำให้เห็นเงาของอสูรกายร่างสูงใหญ่ที่ค่อย ๆ ย่ำเท้าเข้ามาภายในห้องนอนด้วยสภาพล่อนจ้อน

ร่างเล็กล้มตัวลงนอนตามเดิม เขยิบไปด้านข้างและตะแคงตัวเข้าหาผนัง

ก่อนคนตัวเปล่าเล่าเปลือยจะลงนอนบนที่ว่าง หันด้านข้างแล้วสวมกอดร่างกายเล็ก ๆ ไว้ด้วยความเสน่หา ฝ่ามือกร้านบีบนวดต้นขาขาวนวล เลิกกระโปรงยาวขึ้นถึงอกแล้วลูบคลำทรวดทรงองค์เอวที่แสนคิดถึงหลังจากต้องใช้วิธีนึกอยู่หลายวันขณะที่เจ้าของร่างกายไม่แสดงอาการต่อต้านใด ๆ

ระหว่างที่ใช้ปลายลิ้นไล่เลียหลังใบหูขาว อีกมือก็สาวเจ้าโลกที่ต้องใช้เวลากว่าจะแข็งตัว กว่าจะเลิกหดหัวก็ผ่านไปหลายนาทีเหมือนกัน แล้วปัญหาต่อมาก็คือหลั่งไว แก่นกายถูไถกับร่องก้นกลมกลึงไม่ทันไรก็แหวะน้ำลายเป็นดวง งวงช้างขนาดใหญ่ที่เพิ่งพ่นน้ำไปอ่อนปวกเปียกลงทันตา เหมือนถูกหักหน้ากลางสังเวียนรักแต่ก็ยังแสร้งยิ้มว่าไม่เป็นไร

ลองดูใหม่อีกครั้งหลังจากที่ลองมาเป็นร้อย ๆ รอบ ไม่ยอมหมดหวังง่าย ๆ

เพื่อที่จะทำให้อวัยวะเพศกลับมาผงาดต้องไหว้วานร่างเล็กให้ช่วยเหมือนทุกที

แก่นกายโตเต็มที่ในอุณหภูมิมือที่เหมาะสม แต่ต้องลมหน่อยก็ทำท่าจะโค่น

โอนเอียงจวนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ แค่ถูกับโคนขาเล็กสี่ห้าครั้งก็ปล่อยสารคัดหลั่งปริมาณน้อยมากกว่าผู้ชายปกติทั่วไป ก็จะให้เท่ากันได้อย่างไรในเมื่อถูกวินิจฉัยว่าเป็นพวกหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ไม่ตายก็เหมือนตาย เป็นคำสาปร้ายที่สืบทอดผ่านทางดีเอ็นเอ   










กวินทร์เปิดประตูห้องนอนออกมาเจอป้าแม่บ้านในตอนเช้าพอดี

เจ้าของร่างหนาแวะทักทายหญิงวัยกลางคนและขอค้นผ้าในตะกร้าที่เตรียมจะนำไปซัก หยิบชุดกระโปรงของร่างเล็กที่หลายตัวเลอะดินเลอะโคลนขึ้นมาดูอย่างพินิจพิจารณา พอสมใจอยากแล้วก็ปล่อยป้าแม่บ้านไป เพียงพูดแค่มีงานอะไรก็ไปทำเถอะครับ
   
ก่อนจะหมุนกลับเข้าในห้องแล้วออกมาใหม่พร้อมของฝากจากในเมืองและแน่นอนว่าล้วนเป็นอะไรที่มะลิชอบ อยากจะขุนร่างกายที่ซูบผอมลงไปให้กลับมาดูอิ่มเอิบอีกครั้ง 

“พักนี้เธอออกไปข้างนอกบ่อยเกินไปแล้วนะ” 

ร่างเล็กที่ยืนเกาะขอบหน้าต่างหันกลับมามองข้าวของที่อยู่ในมือแทนที่จะเป็นหน้าคนเปิดประตูเข้ามา  “รู้ไหมว่าข้างนอกมันอันตราย เกิดโดนงูกัดขึ้นมาใครจะช่วย”  คนที่ขับรถฝ่าสายฝนมาตั้งแต่เมื่อคืนวางขนมหลากหลายประเภทไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือ แล้วค่อยเอาที่ชุดที่ซื้อมาให้ใหม่ออกมาจากถุงแบรนด์ชั้นนำ  “ถอดชุดเก่าออกสิ”   

กวินทร์พูดกับร่างเล็กที่ว่าง่ายตลอด

มะลิถอดชุดตามคำสั่ง ก่อนคนที่มีศักดิ์เป็นอาแท้ ๆ จะเดินเข้ามาใกล้เพื่อช่วยสวมชุดใหม่ทางหัว  “หันหลังครับ”  คุณอาช่วยรูดซิปที่ขนานไปกับแก่นกระดูกสันหลังของหลานอย่างเชื่องช้า  “อาซื้อขนมที่เธอชอบมาเยอะแยะเลยนะ”  แล้วค่อยเอาเชือกคาดเอวมามัดเป็นโบขนาดใหญ่และหมุนร่างกายเล็กให้หันกลับหน้ามาเพื่อจะสำรวจความเรียบร้อย

“ไหน ขออาหอมให้ชื่นใจหน่อย”  เด็กน้อยเงยหน้าให้หอมดังฟอดใหญ่  “ไม่เจอกันอาทิตย์เดียว เธอดูสวยขึ้นมากเลยรู้ไหม”  แล้วการสวมใส่ชุดขาวยาวลากดินก็ยังชวนให้เร้าใจเหมือนวันวาน เป็นความสำเร็จเดียวหลังจากที่หมอแนะนำว่าควรหาอะไรกระตุ้นความกำหนัด     

คนเป็นหลานหันหน้าเข้าหาหน้าต่างเมื่อคุณอาเอ่ยปากให้หมุนตัวอีกครั้ง แววตาที่ช่างเลื่อนลอยมองไปไกลแสนไกลขณะวางมือไว้บนกรอบไม้แผ่วเบา เจ้าหญิงบนหอคอยกำลังรออัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยปลดปล่อยจากที่คุมขัง

ขณะที่กวินทร์เข้ากอดทางด้านหลังจนบางอย่างโดนก้นงอน

“มะลิ…”  เอ่ยเสียงกระเส่าระหว่างเอาเป้ากางเกงถูไถกับสะโพกที่โก่งให้เล็กน้อย

ค่อย ๆ เสียดสีขณะยกมือขึ้นลูบหัวเด็กดีที่วันนี้ดูเหี่ยวเฉาพิกล ผิดกับคนหมกมุ่นในกามที่มีอารมณ์ตั้งแต่หัววัน บากบั่นและมานะแม้ว่ารู้อยู่แล้วว่าผลจะเป็นอย่างไร 

‘โกหกขอให้นกเขาไม่ขัน’ 

เพราะโกหกใครต่อใครมาเนิ่นนาน สิ่งที่ควรจะขันเลยตายด้านสนิท   













---------------------------------------
✘ ✘ ✘  มาอัพตอน3แล้วค่ะ ย้ำอีกครั้งว่าชื่อเรื่องอ่านว่า เห-มา-ยัน ไม่ใช่ เหมา-ยันนะ5555555
ขอบคุณสำหรับความเอ็นดูและเม้นด้วยค่ะ รู้สึกมีกำลังใจเพิ่มขึ้นเป็นกองเลย ตุ๊กติ๊กขอฝากเนื้อฝากตัวอีกครั้งนะคะ  ◕‿◕。
แล้วก็สามารถติดตามข่าวสารได้ที่เพจเลยค่ะ ---> 9crimes - นายคราม FANPAGE

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-07-2018 21:18:06 โดย กระเหี้ยนกระหือรือ »

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๓) ๑๓.๐๙.๖๐
«ตอบ #23 เมื่อ13-09-2017 06:23:09 »

อ่านจบแล้วได้แต่ร้องเฮ้ยยยยย
สรุปมะลิไม่ได้ตาย แต่โดนอาล่วงละเมิดทางเพศ
โอ้ยยยยยย สงสารจังเลยค่ะ
น้องตัวแค่นี้ อาฌรคจิตไปอีก
ตัวเองนกเขาไม่ขันเอง จะให้ทำงัย
พี่หรัญญ์รีบช่วยมะลิออกมาเร็วๆ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๓) ๑๓.๐๙.๖๐
«ตอบ #24 เมื่อ13-09-2017 15:39:26 »

ไม่คิดว่าจะมาทางนี้เลยค่ะ โหดร้ายกว่าน้ิงเป็นผีอีก อ่านแล้วแบบแหวะๆ ทำแบบนี้กับเด็กได้ยังไง ฮืออ

ออฟไลน์ wunwanoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๓) ๑๓.๐๙.๖๐
«ตอบ #25 เมื่อ13-09-2017 16:13:26 »

นี่นึกว่ากวินทร์ปกติสุดในเรื่องสักอีก....

ออฟไลน์ valenpinkpink

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๓) ๑๓.๐๙.๖๐
«ตอบ #26 เมื่อ13-09-2017 17:20:12 »

โอ้ยยยยคุณอานี่เอง น้องมะลิลูกกก :m15:

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๓) ๑๓.๐๙.๖๐
«ตอบ #27 เมื่อ13-09-2017 19:28:12 »

เขียนเก่งมากอ่า เราอ่านแล้วทั้งหลอนและเศร้าในเวลาเดียวกันเลย

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๓) ๑๓.๐๙.๖๐
«ตอบ #28 เมื่อ13-09-2017 19:44:35 »

สงสารน้องมะลิ

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ———— เหมายัน ———— (๐๓) ๑๓.๐๙.๖๐
«ตอบ #29 เมื่อ13-09-2017 21:26:09 »

หดหู่มากกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด