#Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-  (อ่าน 223842 ครั้ง)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พระพายน่ารัก คุณพ่อช่วยเอ็นดูสักนิดนะคะ

ออฟไลน์ maicy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-0
พิธานอบอุ่น ดูแลพะพายดีมากๆเลย คุณพ่อเอ็นดูน้องพะพายด้วยนะคะ เผื่อลูกชายจะยอมมาเจอหน้าบ่อยๆ
ปล.รักษาสุขภาพนะคะ :L2:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
มีหลักที่มั่นคงแบบพิธาน พระพายไม่ต้องกลัว
สู้ๆ น้องพาย ความน่ารักชนะทุกอย่าง!!!

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
น่ารักขนาดนี้ เอาใจใส่ขนาดนี้ ถ้าพ่อจะไม่ยอมก็เกินไปแล้ว

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ตื่นเต้นๆ

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
สู้ๆนะพระพาย คิดว่าคุณพ่อต้องเข้าใจบ้างแหละ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ กาลณัฐ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
 :z3: ค้างงงงงงงงงงงง  :hao5:

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่า  :mc4: ตอนที่ 44 มาแล้วค่ะ มาดูกันว่าคุณพ่อของพิธานเป็นยังไงบ้าง มาอ่านกันเลยค่ะ ถ้าตอนนี้มีคำผิดหรือข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัย ณ ทีนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณทุกๆคอมเมนต์และกำลังใจนะคะ ไว้เจอกันใหม่ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ  :bye2:


+++++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 44 Not wrong.


Sometimes the system goes on the blink
บางครั้งมันก็ต้องมีความผิดพลาด
And the whole thing turns out wrong
และทุกอย่างอาจจะไม่เป็นอย่างที่คาดไว้
You might not make it back and you know
เธออาจจะย้อนเวลากลับไปไม่ได้ และเธอรู้ว่า
That you could be well oh that strong
เธอจะเข้มแข็งขึ้นได้
And I’m not wrong
และฉันไม่ได้คิดผิดหรอก


        ทั้งสองคนเดินเข้าไปในบ้าน ความประหม่าสำหรับพระพายนั้นแน่นอนว่ามีมากจนถึงขั้นรู้สึกเกร็ง ในบ้านหลังนี้ตกแต่งอย่างสวยงามโอ่อ่าแต่ไม่ได้เป็นเหมือนในละครทีวีที่พระพายดู ไม่ได้ตกแต่งสีทองตระการตาแบบลายหลุยส์ที่ดูเกินความเป็นจริง แต่เป็นการตกแต่งที่เป็นแบบร่วมสมัยและดูสะอาดสะอ้าน เมื่อเดินเข้าไปในบ้านเห็นแม่บ้านมีอายุคนหนึ่งและเด็กรับใช้กำลังเช็ดนั่นปัดนี่และสอดส่องความเรียบร้อยอยู่

“คุณพิธาน!!” แม่บ้านเอ่ยทักและรีบเดินเข้ามาหาพิธานทันทีอย่างดีใจที่ได้เห็น

“สบายดีไหมคะ ซูบลงรึเปล่าคะนี่?” เธอมองพิธานไปทั้งตัวราวกับรู้สึกเป็นห่วง

“สบายดี” พิธานบอกเช่นนั้น ใบหน้าไม่ได้บ่งบอกว่ายินดีที่ได้เจอกันกับคนในบ้านเสียเท่าไหร่

“เชิญนั่งก่อนค่ะ” เธอผายมือให้ไปที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งเด็กรับใช้อีกคนก็รีบออกจากไปตรงนั้นทันที

“คุณแม่ล่ะ?” พิธานเอ่ยถามขึ้นในขณะที่เด็กรับใช้อีกคนนำน้ำดื่มมาต้อนรับทั้งสองคน

“คุณพัชชาท่านอยู่ในห้องค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะไปบอกท่านว่าคุณพิธานมาแล้วค่ะ”

“อืม” พิธานพูดเท่านั้น พระพายวางตะกร้าผลไม้ลงบนโต๊ะและพลางมองไปรอบๆ

“บ้านคุณนี่สวยเนอะ”

“ก็เฉยๆ” พิธานว่าเช่นนั้น

“ปกติพ่อคุณอยู่บ้านตลอดเลยเหรอ หรือว่าไปทำงานด้วย”

“ส่วนมากจะอยู่บ้าน สั่งงานผ่านเลขาไป เพราะฉันอยู่ที่ทำงานอยู่แล้ว”

“นี่คุณ...ไม่ได้เจอหน้าพ่อมานานขนาดไหนแล้ว?” พิธานเงียบพลางนึก

“จำไม่ได้แล้วล่ะ”

“เรื่องระหว่างคุณกับพ่อ..มันคงไม่ดีสุดๆเลยใช่ไหม?”

“เดี๋ยวกลับไปจะเล่าให้ฟัง เพราะถ้าเล่าตอนนี้...นายคงจะนึกภาพไม่ออก”

        พิธานและพระพายนั่งลงบนโซฟาที่นุ่มนิ่มเพื่อรอการมาของพัชชาและไม่นานนักพัชชาก็มาถึง แม้จะอยู่แค่ในบ้านแต่การแต่งตัวของเธอไม่ต่างจากการออกไปเที่ยวนอกบ้านเหมือนคราวที่แล้วเลย

“มาแล้วเหรอเด็กๆ” ทักทายด้วยน้ำเสียงสดใสก่อนที่จะนั่งลงตรงโซฟาอีกตัว

“สวัสดีครับ” พระพายยกมือไหว้

“พระพาย สบายดีใช่ไหมจ๊ะ?” พัชชาว่าพลางรับไหว้

“สบายดีครับ”

“แล้วนี่ทานอะไรกันมารึยัง?” พัชชาถาม

“ยังครับ” พิธานเป็นคนตอบ

“ถ้าอย่างนั้นเอาของว่างมารองท้องก่อนดีกว่า” พัชชาหันไปสั่งเด็กรับใช้ให้นำของว่างมาให้ทั้งสองคนเพราะกว่าจะถึงเวลาทานมื้อเย็นก็คงอีกนาน


        พิธานนั่งทานของว่างแบบเงียบๆ ด้านพระพายนั้นพูดคุยกับพัชชาเป็นครั้งคราว ระหว่างนั้นเองก็มีคนๆหนึ่งเดินเข้ามายังวงสนทนา พิธานชะงักทันทีที่เห็นใครคนนั้นเข้ามา พระพายเงยหน้ามองผู้มาใหม่อย่างรู้สึกประหม่า

        ชายร่างสูงดูภูมิฐานยืนอยู่เด่นเป็นสง่า ริ้วรอยนิดๆนั้นบ่งบอกถึงอายุที่ไม่น้อยแต่กระนั้นก็ยังเห็นได้ชัดถึงความหน้าตาดีของคนๆนี้ ตอนหนุ่มๆคงจะหล่อไม่น้อยเลยทีเดียว บวกกับใบหน้าสุขุมแต่สายตานั้นดูเหยียดกลายๆ ทำให้นึกย้อนถึงภาพที่เจอพิธานครั้งแรก ใบหน้าเช่นนี้ ความรู้สึกเช่นนี้..พ่อกับลูกถอดแบบออกมาเลยทีเดียว

“มาแล้วเหรอคะ”

             พัชชายิ้มกว้างพลางตบโซฟาที่ว่างข้างๆ บ่งบอกให้ไปนั่งด้วยกันโดยไม่ได้สนใจสีหน้านั้นเลยแต่ชายคนนี้ก็ทำตามอย่างไม่ลังเล พิธานปรายตามองพื้นราวกับไม่อยากมองคนที่อยู่ตรงหน้า

“พระพาย..นี่คุณพ่อ คุณธนิตคะนี่พระพายค่ะ” พัชชาแนะนำอย่างเป็นทางการ พระพายยกมือไหว้ทันที

“สวัสดีครับ” การยกมือไหว้ของพระพายนั้นทำให้ธนิตหันมาจ้องพระพายทันที เพียงแค่เห็นสายตาที่มองเหมือนจะบาดลึกก็
ทำเอาพระพายหวาดหวั่นไม่น้อยเลยทีเดียว

“พิธาน....” พัชชาเอ่ยเรียกพิธานที่นั่งเงียบจนเหมือนไม่ได้อยู่ตรงนี้

“สวัสดีครับ” พิธานยกมือไหว้พอเป็นพิธี

“สบายดีเหรอ?” ธนิตเอ่ยถาม น้ำเสียงที่ดูมีอำนาจนั้นดูจะเข้ากับหน้าตาเย่อหยิ่งได้พอดิบพอดี

“สบายดีครับ” พิธานตอบ

“นี่เอาผลไม้มาฝากเหรอ?” พัชชาหันมามองตะกร้าผลไม้ที่วางอยู่ตั้งแต่แรก พระพายเข้าใจในทันทีว่าพัชชารอจังหวะพูดถึงเรื่องของฝากอย่างตั้งใจ

“ครับ” พระพายว่าพลางดันตะกร้าผลไม้ให้พัชชา

“น่ากินนะเนี่ย พระพายซื้อมาเหรอ?” พัชชาถาม

“ครับ” พัชชายิ้มก่อนที่จะเรียกให้เด็กรับใช้มารับผลไม้ไปเพื่อที่จะนำมันขึ้นโต๊ะเป็นผลไม้ล้างปากหลังมื้อเย็น

“เดี๋ยวอีกพักใหญ่ถึงจะจัดโต๊ะอาหาร พิธานพาพระพายไปที่ห้องฆ่าเวลาก่อน เดี๋ยวแม่ให้เด็กไปเรียก”


        พัชชาที่จัดการเองทุกอย่างเสร็จสรรพ สมแล้วที่เป็นแม่เพราะเหมือนจะมองทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่ง คงตั้งใจให้พิธานเลี่ยงการปะทะอาจจะเพราะรู้สึกได้ถึงรังสีบางอย่างของสองพ่อลูกและอาจจะช่วยตัวพระพายเองไม่ให้อึดอัดกับบรรยากาศนี้

“ครับ” พิธานว่าก่อนที่จะลุกขึ้น

“เดี๋ยวมานะครับ” พระพายบอกกล่าวผู้ใหญ่ทั้งสอง จากนั้นก็เดินตามพิธานขึ้นไปยังชั้นสอง


        พิธานพามายังห้องที่อยู่มุมสุด เมื่อเปิดเข้าไปก็พบว่าเป็นห้องนอนซึ่งดูจากการตกแต่งด้วยโปสเตอร์ภาพยนตร์ชื่อดัง รูปรถยุโรปต่างๆที่ใส่กรอบรูปเป็นอย่างดี ก็พอจะรู้ได้ทันทีว่าห้องนี้เป็นห้องของใคร

“ห้องคุณเหรอ?” พระพายถามพลางมองไปรอบๆ

“ใช่” พิธานตอบก่อนที่จะทิ้งตัวนอนลงบนเตียง

“นี่ขนาดคุณไม่ได้มานาน ยังสะอาดขนาดนี้เลย คงจะมีคนทำความสะอาดตลอดสินะ”

“คำสั่งคุณแม่น่ะ”

“แปลว่า...ท่านคงรอให้คุณกลับมา” พระพายว่า พิธานไม่พูดอะไรถึงเรื่องนี้แต่กลับเปลี่ยนเรื่องแทน

“เห็นรึยังล่ะ พ่อของฉัน” พิธานถาม

“นี่...ถ้าผมพูดอะไรออกไป สัญญานะว่าจะไม่โกรธ” พระพายจั่วถามก่อน พิธานมองพระพาย

“ฉันพอจะรู้ว่านายจะพูดอะไร” พิธานว่า

“ก็บอกมาก่อนว่าจะไม่โกรธ”

“ได้” พิธานพยักหน้า

“คุณ...เหมือนพ่อคุณมากเลย” พระพายว่า พิธานเงยหน้าพลางถอนหายใจ

“ทายไม่ผิดจริงๆ” พิธานว่า

“แปลว่ามีคนบอกคุณแบบนี้บ่อยใช่ไหม?”

“ตั้งแต่จำความได้ก็ได้ยินมาตลอด”

“ไม่ชอบที่โดนเปรียบแบบนี้ใช่ไหม?”

“ฉันไม่อยากเหมือนคุณพ่อ...คนแบบนั้นไม่อยากเหมือนเลยสักนิด”

“เท่าที่ดู....ท่านก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นนี่” พระพายพูดพลางนึกใบหน้าของธนิต

“แล้วตอนนายเจอฉันครั้งแรก นายคิดยังไงล่ะ?” พิธานถาม

“ผมเกลียดคุณ” พระพายตอบทันทีพร้อมหัวเราะ

“แล้วทำไมกับคุณพ่อนายถึงคิดแบบนั้น?” พิธานขมวดคิ้วอย่างเริ่มไม่พอใจนิดๆ

“นั่นเพราะเป็นภาพจำแรกที่คุณแสดงออกมา แต่ลึกๆแล้วคุณไม่ได้เป็นอย่างตอนแรกที่เจอกัน ผมเลยคิดว่าพ่อคุณอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้” พระพายให้เหตุผลเช่นนั้น

“นายนี่มัน...” พิธานเงียบไปก่อนที่จะดึงให้พระพายนอนลงแล้วกอดพระพายแน่นๆ

“เพราะนายเป็นคนแบบนี้ ฉันถึงเลือกนาย” พิธานว่า พระพายยิ้มออกมาเมื่อได้ยินอย่างนั้น

“อย่ามัวนอนเล่นดีกว่า ผมอยากดูว่าห้องคุณมีของอะไรบ้าง” พระพายว่าและก็ลุกขึ้นเพื่อมองหาของสนุกๆฆ่าเวลาก่อนที่จะไปทานมื้อเย็นกับพ่อและแม่ของพิธาน


        พบข้าวของต่างๆนานาที่ไม่คิดว่าคนอย่างพิธานจะมีมัน เช่นหนังสือการ์ตูนต่างๆ โมเดลรถยนต์ต่างๆและภาพยนตร์เก่าๆอีกมากมาย พระพายนั่งดูพวกมันโดยที่พิธานมีหน้าที่รื้อให้ดู รู้สึกได้รู้จักพิธานมากขึ้นด้วยข้าวของสะสมเหล่านี้ อีกทั้งการดูแลเก็บรักษาของพิธานนั้นเยี่ยมยอดมากบ่งบอกถึงนิสัยเรียบร้อยละเอียดอ่อนของพิธานได้เป็นอย่างดี

“นี่ ผมถามหน่อย จากเมื่อก่อนสะสมของพวกนี้แล้วทำไมจู่ๆถึงกลายมาสะสมของเล่นพวกนั้นได้ล่ะ?” พระพายถามอย่างสงสัย อะไรทำให้พิธานเปลี่ยนความคิดจากการสะสมของเล่นธรรมดาจนกลายมาเป็นของเล่นพิสดารพวกนั้นได้

“เพราะดูหนัง” พิธานตอบสั้นๆ

“คุณไปดูหนังเรื่องอะไรเข้า?” พระพายถามพลางทำตาโต

“มีอยู่ในนี้...” พิธานว่าพลางชี้ไปยังกล่องเก็บภาพยนตร์ที่วางอยู่ตรงหน้าพระพาย

“เรื่องไหน?” พระพายถามทันทีพลางเริ่มค้นหา

“ฉันไม่บอกนายหรอกว่าเรื่องไหน” พิธานว่าพลางมองพระพายที่หน้านิ่วคิ้วขมวดและพลางควานหาว่าภาพยนตร์เรื่องไหนกันที่เปิดโลกทัศน์ให้พิธานชอบของแบบนั้นได้

“ทำไมล่ะ?”

“อยากเก็บไว้เป็นความลับ” พิธานว่า

“ขี้ตืด” พระพายว่าพลางส่ายหน้า


        สรุปพิธานหยิบภาพยนตร์เรื่องอื่นเปิดให้พระพายดูแทน เพื่อรอเวลามื้อเย็นตามที่พัชชาบอกไว้ ผ่านไปกว่าสองชั่วโมงก็จบลงพอดีพร้อมๆกับที่มีคนมาเคาะประตูห้อง

“คุณพิธาน เชิญด้านล่างค่ะ” คำเรียกของเด็กรับใช้บอกเช่นนั้น พิธานจึงเก็บของทั้งหมดเข้าที่

“ลงไปกันเถอะ” พิธานว่า พระพายพยักหน้ารับและคิดอยู่ในใจว่าธนิตจะเป็นกันเองมากกว่านี้หรือไม่ ทั้งสองคนเดินลงมาจากชั้นบน เห็นธนิตนั่งคุยอยู่กับพัชชา เมื่อพัชชาเห็นพิธานและพระพายเดินลงมาก็ยิ้มให้

“มาแล้วเหรอเด็กๆ มานั่งรอก่อน อีกนิดเดียวก็จะตั้งโต๊ะเสร็จแล้ว” พัชชาว่า ทั้งสองคนจึงนั่งลงตามที่พัชชาบอก

“หิวรึยัง?” พัชชาหันมาถามพระพาย

“ไม่เท่าไหร่ครับ” พระพายตอบด้วยรอยยิ้ม


        และไม่นานอย่างที่พัชชาว่า ตอนนี้ตั้งโต๊ะอาหารเย็นเสร็จแล้ว ทั้งหมดจึงเดินไปยังโต๊ะทานอาหาร ซึ่งมีอาหารมากมายหลายอย่างวางอยู่บนโต๊ะ สีสันน่าทานจนพระพายรู้สึกดีขึ้นที่อย่างน้อยก็ดึงความเครียดจากธนิตมามองอาหารเหล่านี้

“เสียดายเพลงขวัญติดงาน ไม่อย่างนั้นคงพร้อมหน้าพร้อมตา” พัชชาว่าพลางตักอาหารให้พิธาน

“ข้ออ้างรึเปล่า?” ธนิตถามขึ้น

“ยุ่งจริงค่ะคุณ ช่วงนี้ร้านนั้นดังมาก งานเลยเยอะขึ้น” พัชชาตอบ บรรยากาศบนโต๊ะนั้นมีพูดคุยเล็กน้อยจากพัชชาและธนิต ด้านพิธานกับพระพายได้แต่นั่งฟังผู้ใหญ่คุยกันเสียมากกว่า

“อาหารอร่อยไหมพระพาย?” พัชชาถาม

“อร่อยมากครับ” ตอบและยิ้มยืนยัน

“ถ้าอย่างนั้นก็ทานเยอะๆนะ” พัชชาว่า


        ใช้เวลาไม่นานนักก็ทานอาหารเสร็จ เด็กรับใช้มายกอาหารทั้งหมดออกจากโต๊ะและนำผลไม้ที่ปอกเปลือกและหั่นเรียบร้อยแล้ว จัดจานวางให้ทุกคน

“พระพาย ช่วงนี้งานยุ่งไหม?” พัชชาถาม ในขณะที่พระพายกำลังจิ้มแอปเปิลอยู่พอดี

“เรื่อยๆครับ” พระพายตอบ ธนิตที่หันมามองหน้าพระพายพูดคุยกับพัชชาก็เอ่ยขึ้นมาบ้าง

“เป็นเพื่อนกันเหรอ?” ธนิตถาม ความกดดันนี้ทำเอาพระพายเริ่มอยู่ไม่สุข เหมือนครั้งแรกตอนที่เจอพิธาน ความรู้สึกกดดันเหล่านี้แทบจะไม่ต่างกันเลยจริงๆ

“แฟนครับ” พิธานตอบและครั้งนี้ก็เลือกที่จะสบสายตาของผู้เป็นพ่ออย่างไม่ยอมหลบใดๆอีก

“แฟน....ผู้ชายน่ะเหรอ?” น้ำเสียงไม่สบอารมณ์ถามขึ้น

“ครับ ผู้ชาย” พิธานตอบชัดถ้อยชัดคำ

“แกยังไม่เลิกนิสัยแบบนี้อีกเหรอ?”

             ธนิตตวัดสายตามองพิธาน ถ้าหากเป็นคนอื่นคงตัวสั่นเพราะความกลัวเป็นแน่ แต่พิธานกลับเฉยเมยและทนรับแรงกดดันของผู้เป็นพ่อได้จนพระพายอดทึ่งไม่ได้ ความเยือกเย็นของพิธานสูสีกับธนิตเลยทีเดียว

“แบบนี้ แบบไหนครับ?” นิ่งเฉยรับแรงกดดันไม่พอ พิธานมีสวนกลับไปด้วยอย่างกล้าหาญ

“แปลกแยก ผิดแผกกว่าชาวบ้าน” ธนิตว่า พลางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเหมือนจะดึงให้ตัวเองเหนือกว่าพิธานมากขึ้น

“คุณพ่อคงอยู่แต่กับตัวเอง เลยมองไม่เห็นชาวบ้านคนอื่นสินะครับ” พิธานว่า ธนิตขบกรามแน่น รู้สึกเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นมาตรงขมับ พัชชาที่นั่งฟังเริ่มจะไม่ไหวจึงแตะหลังมือของธนิตเบาๆ

“คุณคะ อย่าโมโหสิ” พัชชาว่า ความร่าเริงของพัชชาที่มีเมื่อก่อนหน้านี้เริ่มจะจางๆลง เพราะอาจจะรู้สึกได้ว่าสามีกำลังไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

“ยิ่งโตยิ่งปีกกล้าขาแข็ง” ธนิตพูดขึ้นพลางทำให้ตัวเองสงบลง

“ขอบคุณที่ชมครับ” พิธานว่า สายตาของธนิตตวัดมองพิธาน ช่างเป็นสายตาที่น่ากลัวจริงๆ

“หยุดได้แล้วคุณธนิต เด็กๆกลัวแล้ว” พัชชาว่า

“นี่คือสภาพของคนกลัวเหรอ?” ธนิตว่าและหันมามองพัชชา จากนั้นก็หันไปมองพิธาน

“นี่ถ้าไม่กลัวจะขนาดไหน?” ธนิตว่าต่อ พิธานไม่พูดอะไรอีก

“เธอ....ชื่อพระพายสินะ” ธนิตหันมาถามพระพายบ้าง พระพายสะดุ้งตัวเล็กน้อยก่อนตอบ

“ครับ”

“คิดอะไรถึงมาชอบลูกฉันล่ะ?” ธนิตถามขึ้น พระพายเริ่มเลิ่กลักเพราะไม่รู้ว่าคำตอบแบบไหนที่ธนิตต้องการกันแน่

“เอ่อ...” พระพายไม่รู้จะพูดออกไปว่าอย่างไรดี

“น่าจะเงิน” ธนิตกลับถามเองตอบเองเสียได้ สายตาที่แสนจะดูถูกพาดผ่านมองมายังพระพาย มันช่างเจ็บปวดกว่าการด่าแรงๆเสียอีก รู้สึกได้ว่าตอนนี้ตัวเองหน้าชาและหน้าเสียขนาดไหน

“คุณคะ!” พัชชาร้องขึ้นเมื่อรู้สึกได้ว่าสามีใช้คำพูดที่ไม่ถูกต้องกับพระพาย

“คุณแม่ครับ พวกเราจะกลับแล้ว” พิธานบอกเช่นนั้นพลางลุกขึ้นและดึงให้พระพายที่รู้สึกชาไปทั้งตัวลุกตาม

“รับความจริงไม่ได้อย่างเคย หนีสิ เรื่องถนัดของแกนี่” ธนิตว่า พระพายรู้สึกได้ถึงแรงบีบจากมือพิธาน คงจะกำลังอดทนอยู่

“ที่หนีไม่ใช่เพราะยอม แต่ผมไม่อยากบากหน้าไปสู้กับคนเห็นแก่ตัวต่างหาก” พิธานเริ่มโต้ตอบกลับ

“พิธาน!!” ธนิตขึ้นเสียงมากกว่าเดิม ตอนนี้สถานการณ์เริ่มแย่ลงจนพระพายเริ่มกลัวมากขึ้น

“พิธาน พาพระพายขึ้นไปข้างบนก่อน” พัชชาว่า

“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!” ธนิตพูดเสียงดังทุกคนชะงักทันที

“พิธาน...แกอย่าหวังว่าจะได้ทุกสิ่งที่แกต้องการ ฉันไม่ยอมรับเด็กคนนี้ ฉันไม่ยอมรับความรักของพวกแก” ธนิตประกาศเสียงกร้าว

“ผมไม่ต้องการการยอมรับจากคุณพ่อ เข้าใจใหม่เสียด้วย” พิธานว่า

“พิธาน!” ธนิตยิ่งโมโหเลือดขึ้นหน้าเข้าไปอีก

“คุณแม่ ผมจะกลับแล้ว” พิธานว่าแค่นั่นและเดินออกมาพร้อมจูงมือพระพายมาด้วย


             พระพายเหลือบมองพิธาน เห็นได้แค่เพียงเสี้ยวหนึ่งของใบหน้าเท่านั้น จึงไม่รู้ว่าตอนนี้พิธานคิดอะไรอยู่ แต่เมื่อพระพายหันไปข้างหลังพบว่าพัชชาเดินตามออกมาเพราะความเป็นห่วง พระพายได้แต่โค้งตัวลงอย่างขอโทษที่ออกมากะทันหันเช่นนี้ พัชชาพยักหน้าราวกับเข้าใจในสิ่งที่พระพายและพยักเพยิดไปทางพิธานด้วย พระพายเข้าใจไปว่าคงจะให้ฝากดูแลพิธานด้วย

              พิธานขึ้นรถและปิดประตูเสียงดังจนน่ากลัวประตูจะแหลกคามือ พระพายนั่งอย่างเงียบๆไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา พิธานตอนนี้น่ากลัวมาก มากกว่าตอนที่ทะเลาะกันครั้งนั้นเสียอีก รถเคลื่อนตัวออกมาจากบ้านหลังใหญ่อย่างรวดเร็ว พิธานเหยียบคันเร่งให้รถไปข้างหน้าให้เร็วขึ้นจนพระพายเริ่มรู้สึกไม่ดี

“คุณพิธาน...ใจเย็นๆ” พระพายว่าพลางลูบไหล่พิธานอย่างน้อยก็อาจจะช่วยให้พิธานใจเย็นลงกว่านี้

“คุณพิธาน...มันอันตราย” พระพายเตือนอีกครั้ง นั่นทำให้พิธานสงบลง ค่อยๆถอนคันเร่งจนตอนนี้ขับมาอยู่ที่ความเร็วปกติ

“ผมอยู่ตรงนี้นะ” พระพายบอกเช่นนั้น พิธานหันมามองพระพายที่มีรอยยิ้มบางๆให้ ไม่รู้ว่าทำไมพระพายถึงพูดเช่นนั้นออกไป แต่แค่อยากบอกพิธานอย่างนั้นจริงๆว่าเขาไม่ได้ไปไหน เขายังอยู่ตรงนี้

“ขอโทษที่ต้องให้มาเจออะไรแบบนี้” พิธานว่าพลางละมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยรถมาจับมือพระพายไว้

“ช่างมันเถอะ บางทีสิ่งที่เราคิดไว้มันอาจจะมาเป็นอย่างที่เราคิดเสมอไป” พระพายยิ้มให้

“ขอบคุณ” พิธานยิ้มออกมานิด รู้สึกว่าพระพายเข้มแข็งกว่าที่คิดไว้มาก

“ขับรถเถอะ” พระพายบอก พิธานจึงดึงมือกลับมาจับพวงมาลัยรถต่อ


        สรุปการเจอหน้ากันครั้งแรกกับธนิต พ่อของพิธาน จบอย่างไม่งดงามถึงขั้นเรียกได้ว่าเลวร้ายสุดๆเลยทีเดียว พิธานเองก็คงจะอดทนถึงที่สุดแล้วจนในที่สุดก็อดไม่ได้ อีกทั้งไม่รู้ว่าทั้งสองคนมีเรื่องอะไรกันถึงไม่ลงรอยกันเช่นนี้ กลับไปคงต้องถามและพูดคุยกับพิธานให้รู้เรื่องมากกว่านี้


Lyrics: Bad day by Daniel Powter.



ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
นี่ตัวอย่างของพ่อที่หัวโบราณและยึดแต่ตัวเองใหญ่ใช่มั้ย เฮ้อออออออ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
การแสดงออก ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
คุณพ่ออาจจะรักจะห่วงในแบบของเขา
เข้มแข็งให้มากๆ สู้ๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
กดดันไปอีกบ้านนี้
ถ้าคุณพ่อจะเปิดใจสักหน่อย ลูกๆคงกลับบ้านกันทุกสัปดาห์
สะใภ้คนนี้นิสัยน่ารักนะคะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อะไรที่เป็นสาเหตุในพ่อลูกคู่นี้ผิดใจอันนะ  :m28:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พ่อกับแม่ต่างกันคนละเรื่อง
แม่ควรจะปราบพ่อหัวดื้อ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ซักวันคุณพ่อก็คงจะยอมรับได้

ออฟไลน์ punpunn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เดี๋ยวคุณพ่อก็จะชอบพระพายเองงงงง :katai5:

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ จะบอกว่าเมื่อกี้อัพแล้วแต่ไม่ขึ้น ดูเหมือนเล้าจะมีปัญหานิดหน่อย เลยต้องมาอัพใหม่  :katai1:เอาเป็นว่าไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ และก็มีเรื่องแจ้งนิดนึง สัปดาห์หน้างดนิยายนะคะ มีธุระนิดหน่อย ขออภัยด้วยนะคะ :o8: ถ้าหากมีคำผิดหรือข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ที่นี่เลยนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่ให้กันมาตลอด ขอบคุณที่ยังให้ความสนใจนิยายเรื่องนี้ มีอะไรก็บอกกันได้นะคะ ติชมได้ยินดีรับฟังค่ะ ขอให้คนอ่านทุกท่านโชคดี ไว้เจอกันใหม่ค่ะ  :mew1:

+++++++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 45 Rely on me.


You can rely on me
คุณสามารถเชื่อใจผมได้
Yes you can
ใช่ คุณเชื่อได้
You can rely on me
คุณนั้นสามารถเชื่อในตัวผมได้นะ
To understand you
ให้คุณได้เข้าใจ
You can rely on me
ว่าคุณสามารถเชื่อใจผมได้
For anything
สำหรับทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง
You can rely
คุณนั้นเชื่อใจผมได้


        พระพายลืมตาตื่นขึ้นมา ไม่รู้ตอนนี้กี่โมงกี่ยามรู้แค่ว่ามันเป็นวันใหม่แล้ว นี่คือการตื่นขึ้นมาแบบงงๆในอีกหนึ่งวัน พระพายหันไปมองข้างๆพบว่าพิธานยังคงหลับอยู่ จึงใช้โอกาสนี้เอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและหันไปดูนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาสิบโมงแล้ว

        หากนึกย้อนไปเมื่อคืนคือหลังกลับมาจากบ้านของพิธานแล้ว กลับมาถึงก็เกือบค่ำพิธานไม่ได้พูดอะไรอีกเลยแค่หยิบเบียร์และเครื่องดื่มมึนเมาทั้งหลายมานั่งดื่มอย่างเงียบๆ พระพายที่ตั้งใจจะถามแท้ๆว่าพิธานมีเรื่องอะไรกับธนิตผู้เป็นพ่อ แต่ดันนั่งดื่มไปกับพิธานด้วย จำได้ว่าเครื่องดื่มแรงๆที่ไม่ได้ผสมอะไรเลยถูกกระดกเขาปากแบบเพลินๆ อาจจะเพราะรู้สึกโล่งที่ผ่านเรื่องกดดันสุดขีดอย่างการไปพบคนที่บ้านของพิธาน และคิดไปถึงวันข้างหน้าเพราะการคบหาของเขาและพิธานนั้นไม่ได้รับการยอมรับจากธนิต พระพายจึงดื่มให้ตัวเองลืมเรื่องนี้ไปสักชั่วครู่เสียมากมายและสุดท้ายคงเมาจนภาพตัดหรือหลับไปอย่างแน่นอน เพราะตื่นขึ้นมาอีกทีก็คือตอนนี้เวลานี้แล้ว

        รู้สึกปวดหัวแต่ก็ไม่ได้แย่มาก เมื่อก้มมองตัวเองก็พบว่าอยู่ในสภาพชุดนอนเรียบร้อยแล้ว คงไม่พ้นพิธานเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อีกตามเคย ตอนนี้เจ้าตัวยังคงหลับสนิทไม่รู้ว่าวันนี้จะต้องไปทำงานหรือเปล่าแต่ก็ไม่อยากที่จะปลุก เพราะใบหน้าที่กำลังหลับสบายไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังฝันถึงเรื่องอะไรอยู่กันแน่

        พระพายนั่งนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อวาน น้ำเสียง คำพูดของธนิตยังคงติดอยู่ในหัว คำที่บอกว่าจะไม่ยอมรับเขา คำที่บอกว่าไม่ได้ยินดีที่จะเห็นเขาและพิธานรักกัน มันช่างเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก เมื่อคืนการดื่มนั้นทำให้ลืมได้ก็จริง แต่เมื่อกลับมาสู่ความเป็นจริงก็ยังพบว่าความคิดเหล่านี้ไม่ได้หายไปไหนเลย พระพายที่หนักใจขนาดนี้แล้วพิธานไม่ยิ่งหนักใจกว่าเขาอีกหรือ เมื่อคิดได้ก็หันไปมองพิธานที่นอนหลับอยู่ พระพายแตะใบหน้าของพิธานเบาๆ คิดได้แค่สิ่งเดียวคือจะต้องอยู่ข้างๆพิธาน เป็นกำลังใจให้กันและกัน และทำให้พิธานเห็นว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ถึงแม้ธนิตจะไม่ยอมรับก็ตาม

        เมื่อคิดได้อย่างนั้นพระพายก็ลุกขึ้นมา วันนี้เป็นวันหยุดอย่างแท้จริงไม่นับวันลาป่วยการเมืองในเมื่อวาน ระหว่างนี้พระพายมองไปรอบๆห้องเพื่อหาอะไรทำเป็นการแบ่งเบาช่วยเหลือพิธานและนึกได้ว่าวันนี้จะมีคนจากร้านซักรีดมารับเสื้อผ้าไปซัก พระพายจึงจัดการแยกเสื้อผ้าของพิธานและของตัวเองใส่ถุงซักผ้า นำลงไปยังเคาน์เตอร์ต้อนรับด้านล่างเพื่อให้ร้านซักรีดมารับไป

        เมื่อกลับมาถึงห้องก็จัดการโทรสั่งอาหารด้วยไลน์แมน เป็นเมนูโปรดต่างๆของพิธานเพื่ออย่างน้อยหากตื่นมาได้เจออาหารที่ตัวเองชอบจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

        เมื่อคืนพระพายรู้ดีว่าพิธานอยู่ในอารมณ์ไหน โกรธ โมโห และเหมือนจะผิดหวังที่ได้ยินคำๆนั้นจากธนิต ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทั้งสองถึงบาดหมางกันขนาดนี้ เพราะตัวของพิธานเองหรือเพราะตัวของธนิตกันแน่ แต่สิ่งหนึ่งที่พระพายรู้สึกคือเพราะทั้งสองเหมือนกันมากจนเกินไป เหมือนจนต่างคนต่างไม่ยอมและมีทิฐิสูงไม่อ่อนข้อให้ คงเป็นอีกจุดที่ทำให้ไม่ลงรอยกันเท่าไหร่นัก

        พระพายนั่งรออาหารที่สั่งพลางดูทีวีไปด้วย เปิดเสียงเบาๆเพราะไม่อยากรบกวนพิธานที่หลับอยู่ในห้องนอน ระหว่างนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นเพื่อโทรหาเก้า

“เก้า...ตื่นยังวะ?” ปลายสายอย่างเก้ารับแล้วแต่กลับไม่มีเสียงพูด

“เออๆ เพิ่งตื่นนี่แหละ” เก้าบอกเสียงงัวเงียขั้นสุด

“กูกวนมึงรึเปล่าวะ?” พระพายถาม เก้าหัวเราะออกมา

“มึงนี่นะ โทรมาและถามว่ากวนไหม คิดก่อนโทรสิวะ”

“เออๆ ก็กูมีเรื่องนิดหน่อย..เอาจริงๆก็ไม่หน่อยล่ะนะ” พระพายว่า

“เรื่องไรวะ?” เก้าเริ่มตื่นเต็มตาและพร้อมรับฟังเรื่องของพระพายที่กำลังจะเล่า

“คือ...กูไปบ้านคุณพิธานมาว่ะ”

“เดี๋ยวๆ วันก่อนมึงบอกเจอแม่ นี่ไปบ้านแล้วเหรอ?” เก้าจำได้ว่าพระพายส่งข้อความมาบอกว่าเจอแม่ของพิธาน

“เออ ไปแล้วและก็ไปเจอพ่อคุณพิธานด้วย”

“แล้วเป็นไงบ้างวะ?” เก้าเองก็ลุ้นคำตอบของพระพาย

“จบที่พ่อลูกทะเลาะกัน”

“เฮ้ย ขนาดนั้นเลยเหรอวะ”

“ใช่ คุณพิธานจริงๆก็ไม่ถูกกับพ่อเขาซะเท่าไหร่ แต่กูไม่คิดว่าจะขนาดนี้”

“แล้วมึงโดนอะไรบ้างไหมวะ?”

“โดนสิ...หาว่าคบกันเพราะเงินและก็....ไม่ยอมรับเรื่องนี้” พระพายว่า พูดแล้วรู้สึกหน้าชาขึ้นมาทันที

“อ้าว พูดแบบนี้ได้ไงวะ” เก้าอารมณ์ขึ้นทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

“ก็นั่นแหละ กูก็ไม่รู้ว่าทำไมสองคนนั่นถึงเป็นแบบนั้น แต่กูไม่กล้าไปเจออีกแล้วล่ะ” พระพายว่า

“มึงต้องเจออีก เชื่อกูสิ”

“กูต้องทำไงดีวะเก้า” พระพายถามความเห็นเพื่อนสนิท

“เอาจริงๆมึงต้องถามแฟนมึงนะ ว่ามันจะทำยังไงต่อไปในเมื่อพ่อมันไม่ยอมรับการคบกันของพวกมึง”

“เมื่อคืนว่าจะถาม แต่ดูเขาเครียดๆเลยได้แต่นั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนแทน” พระพายว่า

“มึงก็ถามให้รู้เรื่องไปเลย จะได้รู้ว่าต้องรับมือยังไงต่อไป”

“วันนี้ว่าจะถาม ถ้าไม่ถามก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ”

“เอาเถอะมึง อย่าคิดมาก กูว่ายังไงไอ้พิธานมันก็ต้องจัดการได้ คนแบบมันไม่ยอมปล่อยมือจากมึงง่ายๆหรอก”

“ก็หวังไว้อย่างนั้นแหละ แล้วมึงวันนี้จะไปไหนไหม?”

“กูเหรอ ว่าจะไปหามึงนั่นแหละ อีกอย่างไอ้ไคอยากให้ไปหาที่ห้อง เลยไปหามึงซะด้วยเลย” เก้าว่า

“อ้าว ทำไมไม่บอกก่อนวะ กูจะได้ไม่ต้องเล่าทางนี้” พระพายบ่น

“มึงไม่ได้เล่าหมดหรอกกูรู้ เดี๋ยวค่อยเข้าไปคุยต่อ”

“ว่าแต่...นี่ยังไม่ตกลงกันเลยเหรอว่าเป็นอะไรกันกับคุณไค?” พระพายถามอย่างสงสัย

“เอาน่า ปล่อยให้มันเป็นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวกูไปล่ะกัน อีกสักสองสามชั่วโมง”

“ได้ เดี๋ยวเจอกัน” พระพายจึงวางสาย และอาหารที่สั่งไว้ก็มาพอดิบพอดี


        พระพายรับอาหารทั้งหมดมาวางไว้บนโต๊ะ จัดใส่จานให้เรียบร้อยและคิดว่าจะอุ่นอีกทีหากพิธานตื่นสายกว่านี้ เมื่อคิดได้อย่างนั้นจึงเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อดูว่าพิธานตื่นแล้วหรือยัง เห็นพิธานพลิกตัวพอดีแปลว่าเจ้าตัวคงตื่นแล้วแต่ยังอยากนอนแช่อยู่อย่างนั้น

“วันนี้ทำงานรึเปล่า?” พระพายกระซิบถามพลางนั่งลงบนเตียง พิธานไม่ได้ลืมตาขึ้นมาแต่กลับยิ้มนิดๆ

“ไม่ไป ขี้เกียจ” เสียงแหบๆนั้นตอบทันควัน

“เดี๋ยวก็โดนตัดเงินเดือนหรอก” พระพายว่าและจิ้มบนจมูกของพิธาน

“ใครจะกล้าตัด” ว่าพลางลืมตาขึ้นมามองพระพาย

“ลืมไปว่าระดับคุณพิธานเสียอย่าง” พระพายหัวเราะนิดๆ

“ตื่นนานแล้วเหรอ?” พิธานถาม

“พักใหญ่แล้ว สรุปวันนี้จะไม่ไปทำงานจริงๆใช่ไหม?”

“ไม่อยากไป”

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องบอกเลขาคุณ ว่าวันนี้ไม่ไปทำงาน”

“นายโทรบอกได้ไหม?” พิธานว่า

“เลขาคุณนะ จะให้ผมบอกได้ยังไง” พระพายปฏิเสธทันที

“ฉันจะเข้าห้องน้ำ โทรบอกให้ที มือถืออยู่ตรงนั้น” พิธานบอก

“เดี๋ยวๆ ผมไม่รู้รหัส” พระพายร้องเสียดังในขณะที่พิธานเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว

“วันเกิดกับเดือนเกิดของนายนั่นแหละ” พิธานตอบและปิดประตูห้องน้ำไป

“โอ๊ย ตั้งรหัสแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”


             พระพายยิ้มออกมานิดๆ เขาเองยังไม่ตั้งรหัสเปิดเครื่องเลยสักนิดและโทรศัพท์มือถือของพิธานเองพระพายไม่เคยยุ่งย่ามเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้เข้าสู่ความเป็นส่วนตัวที่ลึกเข้าไปอีกของพิธาน

“ว่าแต่เลขาคุณชื่ออะไร?” พระพายเดินไปหน้าประตูห้องน้ำและตะโกนถาม

“ชื่อที่มีเลขานำหน้า” พิธานตอบกลับ

“จะให้บอกยังไงล่ะ บอกว่าคุณไม่อยากไปทำงานเหรอ?” พระพายหนักใจจริงๆที่จะต้องมาทำแบบนี้

“บอกว่าฉันป่วยก็ได้” พิธานบอกเช่นนั้น

“เป็นเด็กเลี้ยงแกะรึไง” พระพายว่าพลางหัวเราะออกมา

“ฉันทำตามเด็กเลี้ยงแกะคนเมื่อวาน” พิธานว่า พระพายยิ่งหัวเราะเข้าไปอีก


        พระพายเปิดเครื่องไล่หาชื่อที่โทรเข้าออกก็พบชื่อที่พิธานบอก พิธานบันทึกชื่อไว้ว่า”เลขาปอ” พระพายมั่นใจว่าจะต้องเป็นเบอร์นี้อย่างแน่นอน

        ก่อนโทรก็ยืนทำใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจโทร ได้ยินเสียงรอสายแต่ไม่ถึงสามวิเท่านั้นปลายสายก็รับสายด้วยความรวดเร็ว

“คุณพิธาน อยู่ไหนครับ?” เสียงนั้นถามทันทีที่รับสาย ทันทีที่ได้ยินก็ชะงักไปครู่หนึ่ง พระพายหลงคิดไปได้ว่า ปอ นั้นเป็นชื่อของผู้หญิง

“เอ่อ...คือ ผมไม่ใช่คุณพิธานครับ” พระพายตอบไป

“ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณคือใคร?” น้ำเสียงขึงขังถามทันที

“คือคุณพิธาน ไม่สบายครับ เลยให้ผมโทรมาบอกว่าวันนี้คงไม่ไปทำงาน”

“ไม่สบายหรือครับ เป็นอะไรมากไหม ไปหาหมอรึยัง?” น้ำเสียงร้อนรนอย่างคนเป็นห่วงถามขึ้น

“ก็...ทานยาแล้วครับ แต่คงไปทำงานไม่ไหว เลยให้ผมบอกคุณครับ”

“คุณคือคนที่อยู่กับคุณพิธานใช่ไหมครับ?”

“ใช่ครับ” พระพายตอบ

“ถ้าต้องการความช่วยเหลือใดๆก็โปรดแจ้งผมด้วยครับ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร?”

“พระพายครับ”

“ฝากดูแลคุณพิธานด้วยครับคุณพระพาย ผมต้องไปจัดการงานต่อ”
 
“ครับ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงครับ”

“ไม่เป็นไรครับ ยังไงก็ติดต่อมาได้ทุกเมื่อครับ” เลขาปอบอกเช่นนั้นก่อนจะวางไป


        พระพายพรูลมหายใจอย่างโล่งอก รู้สึกแย่ทีเดียวเลยที่ทำให้เลขาปอเป็นห่วงถึงขนาดนี้ แต่ผิดคาดจริงๆเพราะพระพายคิดว่าเสมอว่าเลขานุการส่วนใหญ่จะต้องเป็นผู้หญิง อีกทั้งไม่เคยถามไถ่เรื่องการทำงานของพิธานมากนัก เลยไมรู้จักเลขาคนนี้เลย

“คุณน่ะ ทำให้ผมเป็นคนนิสัยไม่ดี” พระพายบ่นทันทีที่เห็นพิธานเดินออกมาจากห้องน้ำ

“หืม?”

“ไม่ต้องมาหืมเลย ผมต้องโกหกไป ทั้งๆที่เลขาคุณเป็นห่วงแทบแย่ขนาดนั้น”

“เขาเป็นคนเล่นใหญ่แบบนั้นแหละ อย่าไปสนเลย” พิธานว่า

“ว่าแต่เขาเป็นผู้ชายเหรอ ผมหลงคิดมาตั้งนานว่าเป็นผู้หญิง” พระพายบอกในขณะที่เดินไปยังโต๊ะทานอาหารและนำอาหารทั้งหมดอุ่นในไมโครเวฟ

“ถามแบบนี้..หึงเหรอ?” พิธานถามพลางเหล่มอง

“หึงอะไร ว่าไปนั่น” พระพายแย้งทันที

“จริงเหรอ?” พิธานถามอีกครั้ง

“จริงๆ” พระพายตอบเสียงสูง พิธานอมยิ้มก่อนที่จะเดินมากอดจากด้านหลัง

“แน่ใจ?” ถามอย่างหยอกล้อ ไม่เคยเห็นพระพายมีท่าทีอย่างนี้มาก่อน

“ไม่ได้หึง” พระพายลากเสียงยาว

“ตั้งแต่คบกันมา ฉันไม่เคยเห็นนายหึงเลย” พิธานว่า

“ไม่ดีเหรอ ที่ผมเชื่อใจคุณขนาดนี้” พระพายเอี้ยวหน้าไปมองคนที่กอดเขาอยู่ข้างหลัง

“มันก็ดีหรอก แต่ผิดหวังนิดๆ”

“คุณนี่จริงๆเลย” พระพายหัวเราะนิดๆก่อนที่จะนำอาหารที่อุ่นทั้งหมดแล้วไปวางบนโต๊ะ และทั้งสองก็เริ่มทานอาหารพร้อมกัน


        ทานอาหารจนเสร็จพระพายก็เก็บล้างทั้งหมด พิธานทำท่าจะช่วยแต่ดันมีเสียงกดออดดังขึ้น พิธานจึงต้องไปเปิดประตูว่าใครมา ได้ยินเสียงพูดคุยกันดังขึ้นพอจะเดาออกว่าใครมา

“แม่ศรีเรือนเหลือเกินเพื่อนกู” เสียงเก้าดังขึ้นพระพายหันไปมองทันที

“ปากเปราะทักทายเลยนะมึง” พระพายว่าพลางหัวเราะ

“ให้ช่วยไหม?” เก้าถาม

“จะเสร็จแล้ว”


        พระพายล้างจานเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงหันมาชกไหล่เก้าทันทีที่โทษฐานแซวเขาเรื่องล้างจานเมื่อครู่นี้ เก้าได้แต่หัวเราะและนั่งลงที่โต๊ะทานอาหาร

“มึงกินอะไรมารึยัง?” พระพายถาม

“กินมานิดหน่อย เมื่อกี้แวะเซเว่นเอา ไอ้ไคมันว่าจะชวนพวกมึงไปกินข้าวกันตอนบ่ายๆ” เก้าว่า

“อ่อ บ่ายๆก็คงหิวกันอีกรอบ” พระพายว่าและทำท่าจะเดินไปยังห้องนั่งเล่นแต่เก้าดึงเอาไว้ก่อน

“คุยตรงนี้แหละมึง ปล่อยให้พวกมันคุยกันไป ส่วนเรามาคุยตรงนี้” เก้าว่า

“สองคนนั่นมีเรื่องคุยกันเหรอ?” พระพายถามอย่างสงสัย

“ไม่รู้เหมือนกันแต่ไอ้ไคมันบอกอยากคุยอะไรสักหน่อยกับแฟนมึง” เก้าบอก

“เรื่องอะไรนะ?” พระพายครุ่นคิด

“มึงอย่าสนใจเลย กูว่าไม่พ้นเรื่องที่บ้านมันนั่นแหละ ว่าแต่ท่าทางพ่อมันเป็นไงบ้างวะ” เก้าถามถึงเรื่องนั้นทันทีที่มีโอกาส

“น่ากลัวมาก เหมือนเห็นคุณพิธานในเวอร์ชั่นแก่เลยมึง” พระพายเล่า

“เหมือนกันขนาดนั้นเลยเหรอวะ?”

“เออ เหมือนจนแบบพิมพ์เดียวกันเป๊ะๆ สายตา ท่าทาง คำพูด แล้วคุณพิธานงัดข้อกับพ่อด้วย กูคิดว่ากูจะตายอยู่ตรงนั้นแล้ว” นึกถึงเมื่อวานก็ยังรู้สึกไม่สู้ดีจนถึงตอนนี้

“เขาพูดอะไรอีกไหมนอกจากว่าเรื่องเงิน” เก้าถามต่อ

“เขา...บอกไม่ยอมรับกู ไม่ยอมรับความรักของเรา” มาถึงตอนนี้พระพายเริ่มนิ่ง

“แล้วมึงจะเอาไงต่อล่ะทีนี้” เก้าถาม ในเมื่อการคบกันเริ่มยากขึ้นกว่าเดิมแล้ว เพื่อนของเขาจะทำอย่างไรต่อไป พระพายเงียบไปก่อนที่จะพูดออกมา

“ตอนนี้กูได้แต่รอดูว่าจะเกิดอะไรต่อจากนี้ แต่เชื่อว่ากูจะผ่านได้ถ้าคุณพิธานอยู่ข้างๆกู” พระพายว่า เก้าได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมานิดๆความคิดของพระพายนั้นเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากขึ้น

“เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวเสียทีนะมึง” เก้าว่า

“จริงเหรอ?” พระพายหัวเราะเมื่อได้ยินอย่างนั้น

“เออ” เก้าว่า


        และทั้งสองก็คุยสัพเพเหระกันต่อไปอีกสักพักจนในที่สุดพิธานก็เดินเข้าตามด้วยใบหน้ายุ่งๆเพราะสงสัยว่าทั้งสองมานั่งคุยอะไรกันตรงนี้

“ทำอะไรกัน?” พิธานถาม

“นั่งคุยกันประสาเพื่อน ไม่ได้รึไงวะ?” เก้าว่า พิธานไม่ได้สนใจจะมองเก้าแต่หันมามองพระพายแทน

“นั่งคุยเฉยๆ” พระพายสำทับอีกรอบ

“ไคเรียก” พิธานหันไปบอกเก้า

“จะไล่กูก็บอกตรงๆสิ” เก้าว่าและลุกออกไปจากโต๊ะทานอาหาร ทั้งสองก็ยังคงเขม่นกันอย่างคงเส้นคงวา

“มีเรื่องอะไร?” พิธานนั่งลงข้างๆพระพายพลางเอ่ยถามขึ้นเมื่อเก้าเดินออกไปแล้ว

“ก็...เรื่องทั่วไป” พระพายตอบ

“ใช่เหรอ?” พิธานผู้ซึ่งรู้ทันทุกอย่างจนยากที่จะปกปิดอะไรได้

“ผมคุยเรื่องพ่อคุณกับเก้า” พระพายบอกความจริงในที่สุด

“นาย..กังวลเรื่องนี้อยู่?” พระพายพยักหน้าเป็นคำตอบ

“นายจะเชื่อใจฉันใช่ไหม?” พิธานถาม

“ผมเชื่อใจคุณ และก็อยากให้คุณเชื่อใจผมด้วยเหมือนกัน”

“ฉันรู้ว่านายจะอยู่ตรงนี้อย่างที่นายเคยบอกไว้” พิธานดึงมือพระพายมากุมไว้

“ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อเรา”


             สายตาของพิธานที่จ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาของพระพาย แววตาที่บ่งบอกว่าสิ่งที่พูดคือความจริงและเป็นคำสัญญา พระพายเม้มริมฝีปากก่อนที่จะกุมใบหน้าของพิธานไว้เบาๆพร้อมสบตาของพิธานที่ส่งมา

“ผม..เชื่อในตัวคุณ ผมเชื่อว่าคุณทำได้ ผมจะไม่ไปไหนจนกว่าคุณจะขอให้ผมไป” พระพายว่า ดวงตาของพิธานสั่นไหวเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“ไม่มีวันนั้นหรอก”


             พิธานยืนยันเช่นนั้นแล้วก้มลงจูบหน้าผากพระพายเบาๆ ก่อนที่จะดึงพระพายมากอดไว้เสียแน่น พระพายยิ้มออกมาเมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นจากร่างกายของพิธาน รู้สึกดีเสมอเวลาที่ได้กอดกันเช่นนี้

“เอ่อ..โทษที” เสียงไคดังขึ้น พระพายผละออกมาด้วยความรวดเร็ว พิธานหันขวับไปยังไคที่ยืนอยู่ผิดที่ผิดเวลา

“ไม่ได้จะขัดจังหวะ...แค่จะถามว่านายเอาหนังเรื่องโปรดฉันไปเก็บที่ไหน” ไคยิ้มกว้าง พิธานหน้าบูดทันควันเมื่อได้ยินอย่างนั้น พระพายหัวเราะออกมาเมื่อเห็นไคทำหน้าตาตลกเพราะรู้ตัวดีว่าทำพิธานหงุดหงิดเสียแล้ว

“ไปหาหนังให้คุณไคดีกว่า”


             พระพายว่าและรีบลุกขึ้นเดินไปยังห้องนั่งเล่น ไคหันไปยิ้มให้พิธานและรีบเดินตามพระพายไป พิธานเดินตามเป็นคนสุดท้ายจึงใช้โอกาสนี้ยกขาเตะน่องไคไปหนึ่งที ไคหัวเราะถูกอกถูกใจที่ทำพิธานหงุดหงิดจนต้องโดนเตะแบบนี้

             ทั้งสี่คนนั่งดูหนังโปรดของไคกันจนถึงเวลาบ่ายและออกไปหาอะไรทานกันข้างนอก เป็นร้านที่ไคอยากทาน จากนั้นก็ไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า ซื้อของกันนิดๆหน่อยๆและเดินดูนั่นนี่ไปเรื่อย

             พิธานที่ดูจะหน้าตาบึ้งตึงไปบ้างเพราะรำคาญเก้าที่เอาแต่ดึงพระพายไปอยู่ด้วยตลอด แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของพระพายพิธานก็ได้แต่ยอมๆไป อีกทั้งอยากให้พระพายได้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนบ้าง เพราะเวลาอยู่กับเพื่อนพระพายจะมีอีกมุมที่พิธานชอบ คือการแหย่เก้าเล่นตามนิสัย ซึ่งเป็นอะไรที่พิธานชอบเสมอเวลาเจ้าตัวมีมุมสนุกสนานเช่นนี้

              เพราะอยากให้พระพายยิ้ม ไม่อยากให้พระพายมีทุกข์ อยากสร้างความสุขให้คนๆนี้เสมอไป จะไม่ยอมให้อะไรมาทำให้พระพายต้องเสียใจ ถึงแม้คนๆนั้นจะเป็นถึงพ่อบังเกิดเกล้า พิธานก็จะไม่มีวันยอมเด็ดขาด อะไรที่พิธานทำได้ก็จะทำขอให้แค่พระพายมีความสุขและอยู่ข้างๆเขาเท่านั้นก็พอ ไม่ขออะไรมากไปกว่านี้จริงๆ..


Lyrics: You can rely on me by Jason Mraz.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อย่าปล่อยมือกันนะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พิธานโตแล้ว หน้าที่การงานก็มั่นคง พ่อก็ไม่ควรมาเคี่ยวเข็ญเรื่องส่วนตัวของลูก

ออฟไลน์ swoooaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ติดตามเรื่อยๆเลย
ก้าวไปข้างหน้านะทั้ง2คู่เลย

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
น้ำตาะไหลตอนพระพายบอกว่าเชื่อพิธาน จะไปก็ต่อเมื่อพิธานบอก ฮือออออ

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เขินนนนน
ทำไมพิธานกลายเป็นผู้ชายละมุน
คนเย็นชา และร้ายกาจคนนั้นหายไปไหน

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พุ่งชนพ่อพิธานไปเลย นั้นล่ะเป้าหมายใหญ่เลย  :กอด1:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ขอให้เรื่องคุณพ่อผ่านไปด้วยดีนะ :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด