[จบแล้ว]เมื่อผมถูกส่งไปขัดดอก YAOI ประกาศ (26/05/61)#หน้า14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]เมื่อผมถูกส่งไปขัดดอก YAOI ประกาศ (26/05/61)#หน้า14  (อ่าน 69717 ครั้ง)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คนแก่สงสัยว่าหลานอวกาศ สระผมเองปะ หรือเข้าร้านสระผม ถึงได้ไม่รู้ว่าหัวตัวเองมีแผลเป็น  :ruready :ruready

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
เงื่อนงำเยอะจัง

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
อื้มมม เบื้องหลังที่ซับซ้อน
จักวารเพียงคนเดียวที่รู้เรืองทั้งหมด
แต่มันกำลังค่อยๆเปิดเผยสินะ

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 21

กับดัก!

 

เคร้ง  เคร้ง เคร้ง

“เอ่อ…”

“…”

“นี่มันอะไรกันครับ”

เอ่ยถามเสียงเบาพลางมองคนตรงหน้าที่กำลังง่วนอยู่กับการล่ามผม!

อ่านไม่ผิดหรอก  เขากำลังล่ามผมจริงๆ  หลังจากกลับเข้ามาในห้องคุณจักรวาลก็ไล่ให้ผมไปอาบน้ำก่อน  พอออกมาจากห้องน้ำเท่านั้นแหละ  เขาก็ดึงผมขึ้นมาบนเตียงก่อนจะเอาโซ่ล่ามออกคล้องกับปลอกคอตามด้วยเอาปลายไปยึดติดไว้กับเสาเตียงฝั่งที่ผมนอน

เกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ย!

“หมาน้อยที่ไม่จงรักภักดีต่อเจ้านายของตัวเองก็ต้องโดนแบบนี้แหละ”

“หา?”

“ถ้าตอนฉันเข้าไปอาบน้ำหรือว่าหลับแล้วนายเกิดย่องออกไปหาเพื่อนสนิทของนายขึ้นมาฉันจะทำยังไง  ล่ามไว้แบบนี้จะได้ไม่ต้องกังวล”

“ดะ…เดี๋ยวก่อนนะครับ  ทำไมผมต้องย่องออกไปหาไอ้เฟี้ยวด้วยล่ะ”

“จะไปรู้เหรอ  เผื่อนายอาจจะอยากกอดปลอบใจเพื่อนนายอีก”

กอด?

แสดงว่าเห็นสินะ  ตอนที่ไอ้เฟี้ยวดึงผมไปกอดเมื่อตอนเย็นนั่นน่ะ  แต่แค่เพื่อนกอดเพื่อนมันผิดมากถึงขั้นต้องมาล่ามและกักขังอิสรภาพกันขนาดนี้เลยเรอะ!

“ผมไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ  ปล่อยผมเถอะนะ  นะ…”

สองมือยื่นไปจับแขนเขาแล้วเขย่ามันเบาๆ  เผลอทำแก้มป่องพร้อมกะพริบตาปริบๆไปด้วยอย่างลืมตัว

ตายห่าล่ะ  ติดนิสัยพวกน้องๆที่ชอบทำท่าแบบนี้เวลาอ้อนผมมาเสียแล้วสิ

เมื่อรู้สึกตัวว่าได้ทำท่าทาวบ้าๆออกไป  ผมก็รีบปล่อยมือออกจากแขนเขาพร้อมเขยิบถอยหลังไปจนติดหัวเตียง  สายตานิ่งๆที่จ้องมองกลับมาเมื่อกี้มันทำผมประหม่าชะมัดเลย  บ้าจริง!  เสียงหัวใจมันชักจะดังเกินไปแล้วนะ!

พรึ่บ!

“คะ…คะ…คะ…คุณจะทำอะไรครับ”

ถามเสียงสั่นในทันทีที่เขาทิ้งตัวโน้มลงมาคร่อมผมไว้  สองแขนวางอยู่ข้างตัวผมเพื่อปิดกันทางหนีและล็อกผมเอาไว้ในอาณัติ

“ทำปลอกคอ”

“ปะ…ปลอกคอ?  หมายความว่ายังไงครับ  ที่คอผมก็มีแล้วนี่ไง”

ชี้ไปที่คอของตัวเองซึ่งใส่ปลอกคอที่เขาให้ไว้อยู่ตลอดเวลา  คนที่โรงเรียนพากันจ้องปลอกคอผมกันตาแทบจะถลนเชียวล่ะ  แต่ว่าไม่มีใครกล้าเข้ามาถามหรอก  ส่วนไอ้เฟี้ยว…ผมว่ามันไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ

“ไม่ใช่อันนี้”

ตอบหน้านิ่งก่อนจะใช้มอข้างหนึ่งรวบข้อมือผมทั้งสองข้างไปจับไว้แล้วยกขึ้นเหนือหัวผม  ด้วยความตกใจผมร้องเสียงหลงออกมา  พยายามจะบิดข้อมือตัวเองออก  แต่ยิ่งบิด  แรงบีบจากเขาก็ยิ่งมากขึ้น

คิดจะทำอะไรกันแน่ฟะ!  กูกลัวจนฉี่จะราดแล้วนะโว้ยยย

“คะ…คุณ  อื้อ!”

เสียงที่ต้องการจะเปล่งออกมาหายไปเสียดื้อๆ  ร่างกายสะดุ้งเฮือกกับสัมผัสร้อนชื้นที่ใบหู  ผมเกร็งปลายเท้าแน่น  อยากจะดิ้นหากแต่ก็ถูกร่างกายกำยำนี่นั่งทับขาเอาไว้จนไม่สามารถขยับได้เลย  ลิ้นร้อนๆของเขาไล่เลียที่ใบหูไปทีละจุด

หน้าท้องบิดเกร็งจนแทบจะปล่อยเสียงครางออกมา   ผมพยายามอย่างมากที่จะกลั้นเสียงพวกนั้นเอาไว้และเรียกสติตัวเองตลอดเวลาในใจ  มืออีกข้างที่ว่างอยู่ของเขาปลดเอากระดุมเสื้อของผมออกจนหมด  ก่อนจะเลื่อนเข้าไปลูบไล้ผิวกายภายในที่กำลังสั่นเทิ้ม

ทำไมกัน…ทั้งที่คิดว่าตัวเองจะต้องกลัวสัมผัสนี้มากๆ  แต่มันกลับไม่ใช่  ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมกำลังรู้สึกดีกับทุกสิ่งที่เขาทำและภาวนาให้มันมากขึ้นกว่านี้ไปเรื่อยๆ  เกิดอะไรขึ้นกับระบบความคิดของผมกันแน่  กำลังถูกคุกคามทางเพศอยู่แท้ๆ  ทำไมถึงไปรู้สึกอบอุ่นกับสัมผัสของเขาได้เล่า!

“อื้อ…”

สุดท้ายผมก็กลั้นเสียงไหวไม่ไหวเมื่อคุณจักรวาลไล่ริมฝีปากลงต่ำมายังแผงอก  เขาพรมจูบตั้งแต่ไหปลาร้าลงไปเรื่อยๆจนถึงหน้าท้อง  ลมหายใจร้อนระอุที่เป่ารดร่างกายผมตอนนี้ทำให้สมองพล่าเลือนไปหมด

เสียงจูบไปตามจุดต่างๆของร่างกายดังก้อนไปทั่วทั้งห้อง  เขาจูบไล่จากหน้าท้องกลับขึ้นมาอีกครั้งจนถึงซอกคอ  ปลายจมูกซุกไซร้ไปมา  ไม่รู้ว่าเขาปล่อยข้อมือของผมให้เป็นอิสระตั้งแต่เมื่อไห่  ทว่าผมกลับไม่ใช้อิสระในตรงนี้ผลักเขาออกอย่างที่ตั้งใจในตอนแรก  สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆกลายเป็นผมโอบกอดเขาเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าช่วงเวลาแห่งความสุขนี้จะหมดไป

“อ๊ะ…”

ร้องออกมาเบาๆเพราะเจ็บที่ต้นคอเหมือนถูกกัด  บีบไหล่ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของคุณจักรวาลเพื่อระบายความอึดอัดที่เกิดขึ้น

ไม่นานเขาก็ถอนใบหน้าออกมาจากซอกคอ  มือหนาเอื้อมไปจับท้ายทอยผมไว้แล้วดันขึ้นให้เงยหน้าสบตากับเขา  เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นภาพของตัวเองสะท้อนอยู่ในแววตาคู่นี้  เด็กผู้ชายที่นัยน์ตาละห้อยและแก้มระเรื่อคนนั้นคือผมจริงๆน่ะเหรอ?

“คุณ…”

“จูบได้ไหม”

เสียงทุ้มเอ่ยถาม  ใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันมาก  น่าแปลกที่ผมรู้สึกว่าน้ำเสียงที่เขาเปล่งออกมามันช่างเซ็กซี่เหลือเกิน

ผมไม่ตอบเป็นคำพูด  ค่อยๆยื่นหน้าขึ้นไปอีกจนริมฝีปากเราสัมผัสกันเบาๆ  ทันที่มันสัมผัสกัน  แรงกดจากฝ่ามือของเขาที่ท้ายทอยก็แรงขึ้น  ริมฝีปากถูกบดขยี้อย่างเร่าร้อนและรุนแรงจนผมหายใจไม่ทัน  ร่างสูงดันผมจนชิดกำแพง  ขณะที่ผมเลื่อนมือขึ้นมาโอบรอบคอเขาไว้แทน

“อ้าปาก”

เสียงนุ่มทุ้มสั่งอีกครั้ง  ผมอ้าปากเล็กน้อยตามที่เขาบอก  เรียวลิ้นอ่อนนุ่มแทรกผ่านเข้ามาทันที  ร่างกายผวาเฮือก  เหมือนลิ้นของผมถูกดูดเข้าไปในปากของเขา

ไม่ไหวแล้ว…  ผมควบคุมตัวเองไม่ได้เลย

“อ่า…”

เราถอนจูบออกจากกันอย่างอ้อยอิ่ง  สองมืออบอุ่นประคองใบหน้าของผมเอาไว้  มือที่เคยโอบรอคอเขาตกมาอยู่ข้างตัวเพราะไร้เรี่ยวแรง

จะ…จูบเมื่อกี้มัน…

จูบกระชากวิญญาณชัดๆ!

“นายทำให้ฉันต้องอดทนเป็นครั้งที่สองแล้วนะ”

ไม่เข้าใจที่เขาพูด  ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่ความสงสัยจะถูกคลายลงเมื่อต้นขารู้สึกได้ถึงอะไรแข็งๆดันมาโดนเข้า

ผมเลื่อนสายตาไปตรงจุดที่รู้สึก  ก่อนที่ลมร้อนจะแผ่กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย  รีบเสมองไปทางอื่นด้วยหัวใจเต้นรัว

“หึ…ฉันจะอดทนครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ”

ว่าพลางดึงผมเข้าไปกอด  ดันหัวให้ซบลงกับแผงอกอบอุ่น  ไม่เคยคิดเลยว่าการจูบกันเมื่อกี้จะทำให้คุณจักรวาลเกิดอารมณ์ทางเพศจนส่วนนั้นแข็งตัวขึ้นมาได้  เพราะพวกเราต่างก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่  ผมจึงไม่เคยคิดว่าเราจะมีอารมณ์พวกนี้ร่วมกัน  แต่ผมคิดผิด…

คุณจักรวาลในตอนนี้สำหรับผมแล้ว…ดึงดูดให้เข้าหายิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก!

“อย่าให้ฉันเห็นใครสัมผัสนายอีก  เพราะฉันไม่ใช่พวกความอดทนสูงนัก  เข้าใจหรือเปล่า”

“ครับ”

แบบนี้ให้รู้เรื่องที่ถูกไอ้เฟี้ยวจูบไม่ได้เด็ดขาด  แค่กอดยังโดนขนาดนี้เลย  ถ้ารู้ว่าถูกจูบไปแล้วล่ะก็…ไม่อยากจะคิดภาพเลย

โซ่ แส้ กุญแจมือมาครบแหงๆ!

“นายน่ะ  เป็นของฉัน”

“…”

“ของของฉัน  ฉันไม่ยกให้ใครทั้งนั้น  จำไว้ให้ดีล่ะ”

ผมยิ้มกว้าง  ค่อยๆยกแขนขึ้นกอดเขากลับ  ซุกหน้าลงกับอกกว้างมากขึ้น  หัวใจพองโตเหมือนถูกอัดอากาศเข้าไปข้างใน…

ตาแก่ขี้หวงเอ๊ย

 

“ผมเข้าไปจอดในโรงเรียนเลยนะครับ  เพราะบอสกับนายน้อยกำชับมาเด็ดขาดว่าต้องส่งให้ถึงโรงเรียน”

พี่เข้มหันมาบอกด้วยสีหน้าหนักใจเมื่อมาถึงจุดที่เคยส่งผมลงจากรถอย่างทุกที

“ไม่เป็นไรครับ  ผมเข้าใจ”

“ไอ้เจ้าบ้าสองคนนั่นมันกังวลกันขนาดนี้เลยหรือไง”

“เออน่า  เพื่อความปลอดภัย”

ผมตบบ่าเพื่อนคนแรกในชีวิตอย่างไอ้เฟี้ยวเบาๆ  มันเอาแต่บ่นไม่หยุดหลังจากถูกคุณอวกาศบังคับให้มาโรงเรียนพร้อมผม

ตอนแรกพวกเรานัดกันว่าจะคุยเรื่องการหาสถานที่แห่งความทรงจำกันต่อ  แต่คุณอวกาศกลับมาบอกในตอนเช้าว่ามีธุระสำคัญต้องไปทำกะทันหัน  แพลนเลยเปลี่ยนกลายเป็นว่าพวกเราต้องมาโรงเรียนกันตามปกติ  ส่วนคุณอวกาศก็ไปทำธุระ  และคุณจักรวาลจะจัดการลิสต์รายชื่อสถานที่เหล่านั้นเอง  ตอนเย็นคอยเริ่มประชุมกันอีกที

“กูไปเข้าห้องน้ำก่อน  มึงไปรอที่โรงอาหารละกันนะ”

“เออๆ  จะแดกไรอ่ะ  เดี๋ยวกูสั่งไว้ให้”

“มึง”

“ฮะ?”

ร้องเสียงด้วยตกใจเมื่อมันชี้มาที่ผม  ห้ามบอกเด็ดขาดว่าจะแดกกู!  กูขนลุก!

“กูจะบอกว่าแล้วแต่มึง  ทำไมต้องตกใจด้วยวะ”

“อ้อเหรอ  เออๆ  เดี๋ยวกูสั่งให้ละกัน  มึงไปขี้เหอะ”

“แค่ฉี่เฟ้ย!”

โป๊ก!

“โอ๊ย!”

มันเขกหัวผมอีกแล้ว  ไอ้เพื่อนเวร!  ผมง้างเท้าขึ้นหมายจะเตะมันกลับ  แต่ไอ้เฟี้ยวก็กระโดดหลบวิ่งหนีไปทางห้องน้ำได้ก่อน  ฝากไว้ก่อนเหอะมึง!

ผมเดินเข้ามาในโรงอาหารก่อน  ทุกสายตายังคงจับจ้องมาเหมือนเดิม  การจากไปของอาจารย์มารีอาทำให้บรรยากาศในโรงเรียนเปลี่ยนไปมาก  มันหดหู่เสียจนผมอดคิดไม่ได้ว่าไอ้เฟี้ยวมันจะโอเคหรือยัง  ถึงแม้ว่าตั้งแต่เช้ามามันจะทำตัวเป็นปกติก็เถอะ  แต่ในใจลึกๆของมันกำลังคิดอะไร  ผมเองยังดูไม่ออก  อาจเพราะเรายังไม่สนิทกันมากพอก็ได้

“ต่อไปก็ซื้อน้ำ”

วางจานข้าวสองจานลงบนโต๊ะพร้อมกระเป๋านักเรียนก่อนจะเดินไปทางร้านน้ำ  ไอ้เฟี้ยวมันตกส้วมตายหรือเปล่า  ผมยืนต่อแถวรอซื้อข้าวตั้งนานแต่มันก็ยังไม่กลับมาสักที

“น้ำเปล่าสองขวดครับ”

รับน้ำมาพร้อมกับส่งเงินให้ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะ  ถ้ารออีกห้านาทีแล้วมันยังไม่มาผมจะไปตามแล้วนะ  เมื่อเช้าก็ดันลืมแลกเบอร์กันเสียด้วยสิ

“หือ?”

ผมรีบวางขวดน้ำลงบนโต๊ะแล้วหยิบกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆที่วางอยู่ใต้จานข้าวขึ้นมาอ่าน  เมื่อกี้ยังไม่มีเลยนี่หว่า  แสดงว่าเพิ่งจะมีคนเอามาวางสินะ

 

‘มาที่โรงยิมเก่าหลังโรงเรียน  กูมีอะไรจะให้มึงดู  เฟี้ยว’

 

“ไอ้เฟี้ยว?”

ขมวดคิ้วมุ่นทันที  เล่นห่าอะไรของมันกันวะ  ถ้ามาแล้วทำไมไม่เดินไปหาผมแล้วไปพร้อมกันเลยล่ะ  โอ๊ะ!  หรือมันจะหาไม่เจอคิดว่าผมไปที่อื่นเลยเขียนโน้ตทิ้งไว้แทน   แสดงว่าคงเป็นเรื่องสำคัญมากเลยไม่สามารถรอผมได้

ผมวางกระดาษลงที่เดิมแล้วเอาจานทับไว้ก่อนจะวิ่งไปที่โรงยิมเก่าทันที  ไม่ได้หยิบอะไรติดตัวมาเลยสักอย่างเพราะอยากรู้ว่าไอ้เฟี้ยวมันจะให้ผมดูอะไร  ไม่แน่ว่าอาจเจอหลักฐานอะไรเกี่ยวกับการตายของอาจารย์มารีอาก็ได้  ที่หายไปนานคงเพราะมาหาเบาะแสแน่ๆ

“แฮ่ก!  แฮ่ก!”

หอบแฮ่กจนลิ้นห้อย  ผมยืนมองโรงยิมเก่าที่ไม่ได้ใช้งานมานานหลายปีและอยู่ห่างจากตัวตึกของโรงเรียนมาค่อนข้างไกล  ประตูของโรงยิมเปิดแง้มอยู่เล็กน้อย  ไอ้เฟี้ยวคงมาถึงแล้วแน่ๆ

ผมรีบดันประตูให้เปิดกว้างกว่าเดิมแล้วเดินเข้าไป  ข้างในเต็มไปด้วยเบาะเก่าๆและพวกอุปกรณ์กีฬาที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว  มีฝุ่นและหยากไย่เกาะเต็มไปหมด

“ไอ้เฟี้ยว!  กูมาแล้ว  อยู่ไหนวะ”

เงียบ…

“ไอ้เฟี้ยว!  เฮ้ยยย!  อยู่ไหนวะ  มึงจะให้กูดูอะไร  เอามาดิ!”

เงียบ…

ชะ…ชักไม่ดีแล้วสิ  มาคิดอีกทีคนอย่างไอ้เฟี้ยวไม่น่าจะนัดผมมาในที่เปลี่ยวๆแบบนี้หรอก  เพราะตัวมันเองอาจกำลังตกเป็นเป้าของไอ้คุณกวินทร์นั่นและจะโดนเล่นงานเมื่อไหร่ก็ได้  ไม่มีทางที่มันจะเลือดนัดในสถานที่ไม่ใช้งานแบบนี้  เพราะเสี่ยงที่มันอาจจะถูกลอบทำร้ายได้

บัดซบเอ๊ย!  ทำไมไม่คิดให้เร็วกว่านี้วะไอ้ไทม์!

ปัง!

“!!!”

หันหลังกลับไปมองต้นเสียงอย่างรวดเร็ว  ผมวิ่งพรวดไปที่ประตูของโรงยิมที่จู่ๆก็ปิดลง  ไม่ว่าจะพยายามดันให้มันเปิดออกเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล

“ไม่ขยับเลยนี่หว่า  เฮ้ยยย!  มีใครอยู่ไหม  มีคนติดอยู่ข้างใน  เฮ้!”

บ้าชะมัด  ผมน่าจะระวังตัวให้มากกว่านี้  ดันหลงกลกับดักง่ายๆแบบนี้  ฉลาดแต่เรื่องในตำราเรียนจริงๆเลยนะมึง!

“เสียงอะไรวะ”

ผมแนบหูลงกับประตูเมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรสักอย่างถูกเท  ก่อนที่จมูกจะเริ่มได้กลิ่นแปลกๆที่พอจะเดาได้ว่ามันคือกลิ่นอะไร

“นะ…น้ำมัน?”

ระ…หรือว่า…!

จะเผาทั้งเป็นกันเลยเรอะ!!!

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพแล้วจ้า  เริ่มต้นตอนด้วยความหวานล้ำของท่านจักรวาลและน้องไทม์  ไม่รู้ว่าตาแก่ขี้หวงคนนี้ต้องอดทนไปอีกนานแค่ไหน  แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อถึงเวลาที่ไม่ต้องอดทนแล้ว  น้องไทม์ของเราคงได้นอนติดเตียงไปสามวันแน่ๆ 5555+  ต่อไปก็มาตามดูกันว่าใครจะมาช่วยน้องไทม์ได้ทันเวลาบ้าง  ฉลาดแต่เรื่องในตำราจริงๆนั่นแหละนายเอกคนนี้  ยิ่งไปกว่านั้น  ธุระสำคัญที่อวกาศต้องไปทำคืออะไรกันนะ?  ติดตามต่อตอนหน้าจ้า  จุ๊บๆๆๆๆ


ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่เอะใจ..

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
โหดดดดด ไปช่วยน้องเร็ว!!

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :เฮ้อ: คนแก่ละหนักใจ ไมหลานไทม์เซ่ออีกแล้วอ่ะ หลงกลคนเขาไปทั่ว เมื่อไหร่จะทันคนกับเขาเสียทีนะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ใครจะฆ่าไทม์อ่ะ โคตรโหดร้ายเลย o22

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โหดเกินไปแล้ว

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0

ตอนที่ 22

การเจรจา

 

ก๊อกก๊อกก๊อก

“เข้ามา”

ร่างสูงอนุญาต  เขากำลังนั่งไล่สถานที่ต่างๆที่จะลองไปเพื่อค้นหาสิ่งที่มารีอาซ่อนเอาไว้  แม่บ้านคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา

“คุณกวินทร์มาขอพบค่ะ”

ชายหนุ่มวางปากกาลงทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น  ร้อยวันพันปีตั้งแต่โตมา  คนๆนั้นก็ไม่เคยมาเหยียบที่นี่อีกเลย  แล้ววันนี้เขามาทำไมกัน?

“ให้รอที่ห้องรับแขก  เดี๋ยวฉันออกไป  แล้วสั่งคนในบ้านทุกคนให้ไปรวมกันอยู่ตึกเล็ก  ห้ามใครเข้ามาเพ่นพ่านในตึกใหญ่จนกว่าคุณกวินทร์จะกลับไป”

“ค่ะบอส”

เธอรับคำก่อนจะเดินกลับไปทำตามที่เขาสั่งทุกอย่าง  จักรวาลเก็บสมุดที่จดรายชื่อสถานที่ลงในลิ้นชักแล้วล็อกมันอย่างดี   นานแล้วที่เขาไม่ได้เผชิญหน้ากับกวินทร์ตรงๆ  ครั้งล่าสุดก็คงจะเป็น…

มือหนาเลื่อนขึ้นจับที่หัวไหล่ของตัวเองซึ่งมีรอยแผลเป็นจากการถูกกระสุนเฉี่ยวอยู่  เขาจำเหตุการณในวันนั้นได้ไม่เคยลืม  มันคือการประกาศตัวเป็นศัตรูอย่างเปิดเผยครั้งแรกของชายที่ชื่อ…กวินทร์

จักรวาลเดินมาถึงห้องรับแขกที่มีกวินทร์นั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟารออยู่  ทันทีที่ทั้งสองเผชิญหน้ากัน  อีกฝ่ายก็เหยียดยิ้มร่าไม่มีการวางฟอรมในฐานะรองประธานอีกต่อไป

“มาทำไม”

“ไม่เอาน่า  คุณอย่าทำเป็นไม่รู้หน่อยเลยว่าผมมาทำไม”

“…”

“SD การ์ดอยู่ที่ไหนครับ”

“ฉันไม่เข้าใจว่าแกพูดถึงเรื่องอะไร”

“ผมลืมไป  ว่าระหว่างพวกเรามันไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากเข้าหากัน  งั้นผมจะขอพูดตรงๆเลยแล้วกันนะครับ  เอา SD การ์ดที่จะเป็นหลักฐานทำลายพวกผมได้มาหน่อยครับ”

กวินทร์แบมือไปตรงหน้าจักรวาลพร้อมยิ้มหวาน  ทั้งคู่อายุเท่ากันและถูกส่งให้เรียนโรงเรียนเดียวมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ   พวกเขาเคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาตลอดจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อสิบแปดปีก่อนขึ้น  ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป…

“ฉันไม่มีของแบบนั้น”

“อย่าทำแบบนี้สิครับ  คุณน่าจะรู้ดีนะว่าเพราะอะไรผมถึงยังปล่อยให้คุณมีชีวิตรอดเป็นหอกข้างแคร่คอยทิ่มตำผมตลอดเวลาแบบนี้  เรามาเจรจากันดีๆดีกว่านะครับ  ถ้าคุณเอา SD การ์ดมาให้ผมได้  ผมจะคุยกับคุณพ่อขอให้คุณมาเป็นมือขวาของผม  เราจะร่วมมือกันชิงเอาทุกอย่างที่ควรจะเป็นของพ่อผมคืน  และจะมีคนตายเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแค่สองคนเท่านั้นคือไอ้อวกาศกับเด็กคนนั้น  แน่นอนว่าผมจะให้สัญญาเรื่องความปลอดภัยของคุณ  ผมจะไม่ทำร้ายคุณเด็ดขาด  ตกลงไหมล่ะครับ”

“อย่าพูดให้ขำหน่อยเลย  รอบกระสุนที่ไหล่ฉันก็ฝีมือแกไม่ใช่หรือไง”

“นั่นน่ะผมแค่ล้อเล่นเฉยๆเองนะ  เพราะถ้าเอาจริง…มันคงไม่โดนไหล่คุณหรอก  แต่มันจะโดนตรงนี้…”

กวินทร์เขยิบเข้าไปใกล้  ทำมือเป็นรูปปืนแล้วจ่อไปที่หน้าอกข้างซ้ายของจักรวาล

“ปิ้ว!  ทะลุหัวใจคุณไปตั้งแต่สิบปีก่อนแล้วล่ะครับ”

“งั้นแกก็พลาดแล้วล่ะที่ไม่ฆ่าฉันให้ตายตั้งแต่ตอนนั้น”

“…”

“เพราะเท่ากับว่าแกเปิดโอกาสให้ฉันเป็นฝ่ายฆ่าแก”

นัยน์ตาจริงจังที่แสนเย็นยะเยือกจ้องเขม็งไปที่กวินทร์  อีกฝ่ายยกมือสองข้างขึ้นยอมแพ้ก่อนจะแค่นหัวเราะออกมาเล็กน้อย

“โอเคครับๆ  ไม่เจรจาแล้วก็ได้  แต่แหม  แอบเสียใจเหมือนกันนะเนี่ย  คุณกะเล่นผมถึงตายเลยเหรอ”

“ถ้าการฆ่าแกมันจะสามารถหยุดคนชั่วอย่างแกกับพ่อแกได้  ฉันก็จะทำ”

“เฮ้อๆ สรุปว่าการเจรจาครั้งนี้ไม่เป็นผล”

ว่าพลางทิ้งตัวลงนั่งไปบนโซฟาอีกครั้ง  เขายกแขนขวาขึ้นดูนาฬิกาข้อมือก่อนจะแสยะยิ้มร้ายออกมา

“จะได้เวลาแล้วสินะ”

“หมายความว่ายังไง”

ครืด…ครืด…

บทสนทนาถูกขัดด้วยมือถือในกระเป๋ากางเกงของจักรวาลที่สั่นขึ้นมา  กวินทร์ปรายตามองไปยังมือถือเครื่องนั้น  แววตาและรอยยิ้มร้ายกาจบนใบหน้าของเขาทำจักรวาลที่มองดูอยู่รู้สึกกังวลขึ้นมา  เขารีบหยิบมือถือออกมาดู  คนที่โทรเข้ามาคือเฟี้ยว

“แกทำอะไร”

“ลองรับดูสิครับ  เดี๋ยวสายตัดไปก่อนผมไม่รู้นะ”

“ฮัลโหล”

ชายหนุ่มข่มความโกรธจนอยากจะตะบันหน้าอีกฝ่ายเอาไวแล้วกดรับโทรศัพท์

[ไอ้จักรวาล  แย่แล้ว!  ไอ้ไทม์หายไป]

“อะไรนะ!”

[ฉันมาหามันที่โรงอาหารแต่ก็ไม่เจอ  เจอแต่กระเป๋านักเรียนกับมือถือมันตั้งทิ้งไว้บนโต๊ะ  ถามใครก็ไม่มีใครเห็นมันเลย]

“เข้าใจแล้ว  โทรหาอวกาศ  ให้หมอนั่นไปหานายที่โรงเรียน  ฉันจะส่งสถานที่ที่ไทม์อยู่ในตอนนี้ไปให้”

[แกรู้ได้ไงว่ามันอยู่ที่ไหน]

“ฉันจะส่งไปเดี๋ยวนี้  แค่นี้ก่อนแล้วกัน”

จักรวาลกดวางสายแล้วกดเป็นแอพพลิเคชั่นบางอย่างจากในมือถือ  มันแสดงถึงสถานที่อยู่ของใครบางคน  เขากดโหลดข้อมูลที่อยู่ตรงนั้นก่อนจะส่งเป็นข้อความให้ทั้งเฟี้ยวและอวกาศ

“ไม่สนุกเลยแฮะ  คิดไม่ถึงว่าคุณจะติดเครื่องติดตามไว้ที่ตัวเด็กคนนั้นด้วยแบบ…”

ตุ้บ!

“แกคิดจะทำอะไร”

ร่างสูงพุ่งเข้าหากวินทร์ด้วยความเร็ว  มือข้างหนึ่งบีบเข้าที่คอของเขาแล้วดันจนติดกับพนักโซฟา  ใบหน้าเกรี้ยวกราดที่นานๆทีจะได้เห็นของจักรวาลทำให้คนที่ตกเป็นรองอยู่ในตอนนั้นยิ้มร่าอย่างพอใจ

“ถึงผมจะคิดเสมอว่าคุณเป็นเทวดา  แต่ว่านะ…สองมือของคุณไม่สามารถปกป้องคนสองคนได้พร้อมกันหรอก”

“ฉันถามว่าแกคิดจะทำอะไร!!!”

“อั้ก!”

แรงบีบที่คอหนักขึ้นจนกวินทร์เผลอจิกเล็บเข้ากับโซฟาด้วยความเจ็บปวด  แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังแค่นหัวเราะออกมาได้

“นี่เป็นทางเลือกสุดท้ายที่ผมจะเสนอให้คุณ  อวกาศกับกาลเวลา  คุณจะเลือกให้ใครมีชีวิตอยู่ต่อ  ผมเมตตาคุณได้แค่นี้นะ”

“ฉันไม่เลือก”

“…”

“เพราะฉันจะปกป้องเอาไว้ให้ได้  ไม่ใช่แค่สมบัติพวกนี้  แต่รวมถึงสองคนนั้นด้วย”

“แน่ใจเหรอครับ  ว่าจะทำได้”

ครด…ครืด…ครืด…

มือถือของจักรวาลสั่นขึ้นอีกครั้ง  กวินทร์เหยียดยิ้มร้ายอย่างผู้กุมชับอีกครั้ง

“ฮัลโหล  เจอไทม์ไหม”

[จะ…จะว่าเจอก็เจอ  แต่ว่า….]

“แต่ว่าอะไร เกิดอะไรขึ้น!”

[พิกัดที่แกส่งมาว่าเป็นที่อยู่ของไอ้ไทม์ตอนนี้  คือโรงยิมเก่าของโรงเรียนที่ไม่ได้ใช้งานมาหลายปีและรอวันรื้อทิ้ง  แต่ว่าตอนนี้…ที่นี่ถูกไฟ้ไหม้]

“อะไรนะ…”

[บอกฉันสิว่าแกโกหก  ไอ้ไทม์ต้องไม่ได้อยู่ที่นี่  มันจะอยู่ที่นี่ได้ยังไงในเมื่อตอนนี้ไฟมันลามไปทั่วแล้ว!!!]

“แก!!!”

พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!

จักรวาลระดมปล่อยหมัดใส่หน้ากวินทร์ไม่ยั้งจนอีกฝ่ายเลือดกบปาก  สองมือของชายหนุ่มบีบคอเขาไว้แน่น  ความโกรธที่ไม่สามารถดับได้ง่ายๆกำลังเผาผลาญจิตใจเขาให้มอดไหม้…

“ไม่รีบไปตอนนี้มันจะดีเหรอครับ  เด็กคนนั้นสำคัญกับคุณไม่ใช่หรือไง  อีกอย่าง…ต่อให้คุณฆ่าผมตายตรงนี้  ก็ไม่ได้ทำให้ไอ้อวกาศและกาลเวลาปลอดภัยขึ้นเลย”

“…”

“ผมยังมีโจ๊กเกอร์เหลืออยู่นะครับ  ไพ่ตายใบสุดท้ายของผม”

“ภาวนาให้หมาน้อยของฉันปลอดภัยเถอะ   เพราะถ้าเด็กคนนั้นเป็นอะไรไป  ฉันฆ่าแกแน่”

“คุณฆ่าผมไม่ได้หรอก”

ใบหน้าที่เคยยิ้มยั่วโมโหมาตลอดแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง  ทั้งสองต่างก็ต้องตากันไม่ลดละ   บรรยากาศตึงเครียดตลบอบอวลไปทั่วห้อง

“คนเดียวบนโลกนี้ที่ผมไม่เคยคิดจะฆ่าก็คือคุณ  และคนเดียวที่คุณอยากจะฆ่าให้ตายแต่ก็ทำไม่ได้ก็คือผม  เราสองคนต่างรู้เหตุผลดีว่าเพราะอะไร”

“งั้นแกควรได้รู้เอาไว้  บนโลกนี้มีหลายสิ่งที่ทำให้มนุษย์เจ็บปวดได้มากกว่าความตาย”

“…”

“ถ้าหมาน้อยของฉันเป็นอะไรไป  ฉันจะทำให้แกกับพ่อของแกได้ลิ้มรสความเจ็บปวดพวกนั้นเสมือนตายทั้งเป็น  พวกแกจะต้องสูญเสียทุกสิ่ง  ฉันจะทำให้พวกแกพังพินาศจนแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ  และถึงแม้ว่าพวกแกจะอยากตายแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถตายได้  ความตายจะกลายเป็นสิ่งที่แกสองคนพ่อลูกเรียกหาและต้องการมากที่สุด  จำไว้ให้ดี”

จักรวาลพูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นก็รีบวิ่งออกไป  กวินทร์ขยับตัวนั่งและจัดเสื้อผ้าใหม่  เขายกมอขึ้นลูบมุมปากของตัวเองก่อนจะหัวเราะออกมา

“หมัดหนักไม่เปลี่ยนแฮะหมอนั่น”

ว่าพลางหยิบสร้อยคอที่มีจี้เป็นล็อคเก็ตกลมๆออกมาและเปิดดูสิ่งที่อยู่ด้านใน

รูปถ่ายวัยเด็กของเด็กผู้ชายสองคนที่กำลังกอดคอกันและยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

“เมื่อไหร่จะเข้าใจสักทีนะครับ  ว่าสำหรับผมแล้ว  ไม่ว่าใครจะต้องตายเพราะเรื่องพวกนี้ผมก็ไม่สน  เพราะคนเดียวที่ผมไม่อยากให้ตายมีแค่คุณ”

ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาติดต่อหาใครบางคน

“เริ่มแผนต่อไปได้เลย”

 

“แค่กๆ!  แค่กๆ!”

ควันไฟเริ่มทำให้ผมสำลัก  ตอนนี้มองไปทางไหนก็เจอแต่ควันและเปลวไฟเท่านั้น  ไม่มีเสียงจะตะโกนขอความช่วยเหลือใครแล้วด้วยสิ

อ้าปากทีก็กลืนควันเข้าไปจนจะหายใจไม่ออกแล้วเนี่ย

“เอายังไงดี  จะต้องมากลายเป็นไทม์ย่างอยู่ที่นี่เรอะ”

น่าแปลกที่ในเวลาแบบนี้  คนเดียวที่ผมนึกถึงกลับเป็นคุณจักรวาล  ความสัมพันธ์ของพวกเราเริ่มดีขึ้นเมื่อคืนเองนะ  ทำไมต้องมาเกิดเรื่องบ้าๆตอนนี้ด้วย

“คุณจักรวาล  ผมขอโทษ  ผมมั่นโง่เอง  ทั้งโง่ทั้งซื่อบื้อ  โดนหลอกมาย่างสดกับแผนตื้นๆแบบนั้น ทั้งที่คุณก็เตือนให้ผมระวังแล้ว”

ความจริงคือผมไม่คิดต่างหากว่าตัวเองจะตกเป็นเป้า  เพราะผมไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขาเลยนี่นา  เป็นแค่ลูกหนี้ขัดดอกเฉยๆเอง  ทำไมต้องมาโดนหมายหัวไปด้วยจนตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจเลย

“แค่กๆ  แค่กๆ”

ไม่ไหวแฮะ  แสบจมูกไปหมดแล้ว  โรงยิมนี้เก่าและโทรมมากด้วย  ถ้าขืนไฟยังลุกลามต่อไปแบบนี้  อีกไม่นานมันต้องถล่มลงมาแน่เลย

กึกๆ  กึกๆ

เสียงที่ดังขึ้นเหนือหัวเรียกความสนใจจนผมต้องเงยหน้าขึ้นมอง  คานเหล็กจากบนหลังคามันกำลังจะร่วงลงมา

“เย้ย!”

โครม!!!

สะ…เส้นยาแดงผ่าแปด

ผมกระโดดหลบคานเหล็กที่ถล่มลงมาได้อย่างเฉียดฉิว  แต่ควันไฟที่สูดเข้าไปมากมายนั้นเริ่มทำให้ร่างกายอ่อนล้า  นัยน์ตาพล่าเลือนไปทีละนิด  ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงประคองตัวเองให้ยืนไว้  ยังไงผมก็ไม่ยอมตายที่นี่แน่ๆ  ผมยังมีเรื่องอีกมากมายที่จะต้องทำ  ไหนจะที่สัญญากับพวกน้องๆไว้ว่าจะไปรับ  ไหนจะความฝันที่อยากจะเป็นทนายความอีก  ผมยังไม่ได้ทำเรื่องพวกนั้นเลยนะ!

พรึ่บ!

“อ๊ะ! ร้อน!”

ไฟด้านในเริ่มลามไปทั่วจนแทบจะไม่เหลือที่ให้ผมยืน  เพราด้านในมีเบาะรองเก่าๆที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีอยู่เต็มไปหมดจึงทำให้ไฟยิ่งโหมกระหน่ำ

ทำยังไงดี  ผมจะทำยังไงดี  จะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง!

ตึง!  ตึง!  ตึง!

เสียงบางอย่างดังก้องขึ้นภายในโรงยิม  ผมมองไปรอบๆ  ไม่สามารถหาที่มาของเสียงได้ว่าเกิดจากอะไร  ฟังดูเหมือนมีใครกำลังจะพังอะไรสักอย่าง  ให้ตายสิ  ควันไฟพวกนี้ทำผมแสบตาจนเริ่มจะมองอะไรไม่เห็นแล้ว

กึกกึก  กึกกึก

“!!!”

สะ…เสียงแบบนี้อีกแล้ว  หรือว่าคานเหล็กทีเหลือกำลังจะถล่มลงมาอีก!

ผมเงยหน้าขึ้นมอง  แต่อย่างที่บอกว่าควันไฟทำให้ผมแสบตาจนมองเห็นทุกสิ่งไม่ชัด  หนำซ้ำตอนนี้ไม่เหลือพื้นที่ให้ผมหลบไปได้อีกแล้ว

ไม่เอานะ  ผมยังไม่อยากตายสักหน่อย  ผมยังอยากอยู่กับเขา  อยากอยู่กับคุณจักรวาลให้นานกว่านี้  อย่างน้อยก็จนกว่าเรื่องราวร้ายๆพวกนี้จะผ่านไป  ผมอยากจะเป็นกำลังใจให้กับเขา

เขา…ที่คอยปกป้องคนอื่นมาตลอด

ผมแค่อยากจะทำอะไรเพื่อเขาบ้างก็เท่านั้น

กึกกึก!  กึกกึก!

“ไม่ไหวแล้วล่ะครับคุณจักรวาล  ขอโทษที่อยู่เป็นหมาน้อยของคุณต่อไปไม่ได้แล้ว”

กึกกึก!

โครม!!!

ลาก่อน…นะครับ

 

 



บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพแล้วจ้า  เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นท่านจักรวาลตบะแตกขนาดนี้  ช่างเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดเหลือเกิน ศัตรูก็ดูท่าว่าจะมีมันสมองและพละกำลังสูสีกันซะด้วย  แบบนี้งานหินชัดๆ  เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปกันนะ  น้องไทม์จะปลอดภัยหรือเปล่า?  แล้วกวินทร์ล่ะ  เขามีเหตุผลอะไรถึงทำให้เขาไม่อยากฆ่าจักรวาล  และจักรวาลก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้แม้จะอยากฆ่าให้ตายแค่ไหนก็ตาม  มีอะไรผูกมัดพวกเขาสองคนเอาไว้หรือเปล่านะ?


ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
 :katai1:ค้างอีกแล้ว

ออฟไลน์ lek2512

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :serius2: :serius2:ค้างอย่างแรง  คืนนี้จะนอนหลับไหม  อร๊ายยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :call: :call: ขอให้รอด ๆ สาธุ

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
อย่าเป็นไรน้าไทม์
นี่กวิน คิดไรกะจักรวาลรึเปล่าเนี่ย
 :hao4:

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
เฮ้อ เหนื่อยลุ้น หลายปมเหลือเกิน

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 23

เบาะแส

 

‘ลืมตาเถอะ  ลูกรักของแม่  ได้เวลาตื่นแล้วนะคะ…’

 

สะ…เสียงใคร?

 

‘มันยังไม่ถึงเวลาของลูก  กาลเวลา…กลับไปได้แล้ว’

 

ลูก?  หมายถึงผมงั้นเหรอ  คุณเป็นใคร  เสียงใครกันแน่  ไม่ใช่เสียงแม่ผมสักหน่อย  แล้วทำไมถึงเรียกผมว่าลูกล่ะ

 

‘กาลเวลา  ลูกแม่…’

‘ลูกแม่…’

 

“ไอ้ไทม์  ไอ้ไทม์!”

“!!!”

ผมลืมตาโพล่ง  ลมหายใจหอบถี่ราวกับไปแข่งวิ่งมาราธอนมา  เสี้ยววินาทีที่ลืมตาขึ้นมานั้น  เสียงหวานๆที่เรียกชื่อผมยังดังก้องอยู่ในหู

“มึงฟื้นแล้ว เฮ้ย! ไอ้ไทม์ฟื้นแล้ว”

หันไปทางต้นเสียง  ไอ้เฟี้ยวดึงมือผมไปจับไว้  สีหน้าของมันแสดงถึงความดีใจสุดๆก่อนที่คุณอวกาศจะเดินตามมายืนข้างๆมันอีกที

“ไอ้เฟี้ยว  คุณอวกาศ  ที่นี่…”

“โรงพยาบาล  มึงหลับไปสองวันเต็มๆเลยรู้หรือเปล่า  หมอบอกว่ามึงสำลักควันไฟมากเกินไป  โชคดีจริงๆที่รอดตายมาได้  กูนึกว่าจะตายห่าโดยย่างสดไปซะแล้ว”

สำลักควันไฟ…โดนย่างสด?

คำบอกเล่าของไอ้เฟี้ยวทำให้เรื่องราวบางอย่างค่อยๆกลับเข้ามาในความคิด  จริงด้วยสิ ผมหลงกลกับดักบ้าๆของพวกคนเลวจนเกือบโดนย่างสดอยู่ในโรงยิมเก่านี่หว่า  แล้วถ้างั้นทำไม…

“กูรอดมาได้ยังไง?”

นี่แหละที่สงสัย

ไอ้เฟี้ยวไม่ตอบ  มันพยักพเยิดปางฝั่งตรงข้ามของตัวเอง  ผมหันกลับไปมองตามสายตาของไอ้เฟี้ยวก็พบว่าข้างเตียงพักฟื้นของผมมีอีกเตียงหนึ่งตั้งอยู่  และบนเตียงก็…

“คุณจักรวาล!”

หัวใจหล่นวูบไปที่ตาตุ่ม  คุณจักรวาลนอนนิ่งอยู่บนเตียงข้างผม  ที่หัวของเขามีผ้าพันแผลพันเอาไว้  ตามแขนตามขาและลำตัวก็เช่นกัน

“หมายความว่าไงไอ้เฟี้ยว  ทำไมคุณจักรวาลถึงบาดเจ็บ”

“เจ้าบ้านั่น…พอตามมาถึงที่โรงยิมแล้วรู้ว่าไฟมันลามไปทั่วจนไม่มีใครเข้าไปช่วยมึงได้  มันก็บ้าเลือด  พุ่งเข้าไปถีบประตูเล็กๆที่ด้านหลังห้องเก็บของของโรงยิมอีกทีเพื่อจะบุกเข้าไป  ทั้งที่ประตูนั้นเต็มไปด้วยไฟที่ลุกลาม  แต่มันก็ไม่สน  พอเอาน้ำราดตัวจนเปียกได้ก็ฝ่าความร้อนถีบประตูจนพังแล้วก็เข้าไปช่วยมึงออกมานั่นแหละ”

เล่ามาซะเห็นภาพ

แสดงว่าเสียงที่ผมได้ยินเหมือนมีใครกำลังจะพังอะไรเข้ามาในตอนนั้นก็ไม่ได้คิดไปเอง  แต่เป็นคุณจักรวาลที่กำลังเสี่ยงชีวิตเพื่อเข้ามาช่วยผม

“กูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน  เพราะพอจะตามเข้าไปก็มีคานเหล็กถล่มลงมาจนไฟลุกปิดทางออก  ไอ้อวกาศเลยบอกให้กูช่วยกันเอาน้ำมาดับไฟตรงประตูที่หมอนั่นพังเข้าไปให้ได้  เพราะเชื่อว่ามันจะต้องพามึงกลับออกมาทางเดิม  สักพักก็มีเสียงเหมือนมีอะไรถล่มด้านใน  ไม่นานมึงในสภาพสลบเหมือดก็ถูกมันที่เลือดโชกและตามตัวมีร่องรอยของการโดนไฟลวกอุ้มออกมา  พอส่งมึงให้ไอ้อวกาศปุ๊บ  มันก็ล้มลงไปเลย  จนป่านนี้ก็ยังไม่ฟื้น”

ผมยกมือขึ้นคลำไปตามหัวและใบหน้าของตัวเองบ้าง  แต่ปรากฏว่าไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนใดๆ  จำได้ว่าก่อนที่จะหมดสติไป  คานเหล็กด้านบนกำลังจะถล่มลงมาอีก  เท่ากับว่าการที่ผมไม่มีบาดแผลใดๆเลยก็เพราะ…

คุณจักรวาลมาช่วยผมไว้ได้ทัน  เอาตัวเองบังตัวผมไว้และถูกคานเหล็กติดไฟร้อนๆพวกนั้นถล่มทับแทนสินะ…

“ทำไม…”

“ไอ้บ้านั่น…บ้าจริงๆ  ทั้งบ้า  ทั้งโง่”

“เพราะกู   เพราะความโง่ของกูคุณจักรวาลถึงต้องเจ็บตัวแบบนี้  ทั้งหมดเป็นเพราะกู!”

ผมร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง  ความรู้สึกผิดแล่นปราดไปทั่วหัวใจ  ยิ่งเห็นสภาพของเขาที่มีบาดแผลไปทั่วทั้งตัวแบบนี้ผมก็ยิ่งเจ็บ

เจ็บเหมือนใจจะขาดอยู่แล้ว

“อย่าคิดแบบนั้นสิ  พี่จักรวาลต้องคิดอย่างดีแล้วก่อนที่จะเข้าไปช่วยนาย”

“ผมขอโทษนะครับคุณอวกาศ  ที่ทำให้พี่ชายของคุณต้องเป็นแบบนี้”

“ไม่ต้องกังวลหรอกน่า  เจ้าพี่บ้าของฉันหัวแข็งยิ่งกว่าเหล็กพวกนั้นอีก  ที่ยังไม่ฟื้นก็แค่เหนื่อยและพักผ่อนไม่เพียงพอเท่านั้นแหละ  ส่วนแผลที่โดนไฟลวกพวกนั้น  พอแผลแห้งหมั่นทานยาทายาตามที่หมอสั่งก็ไม่มีอะไรแล้ว  โชคดีที่ชุดพวกนั้นเปียกน้ำ  ก็เลยไม่ได้ลวกถึงผิวหนังอะไรมาก  ยังไงก็ไม่เสียโฉมหรอก”

คุณอวกาศร่ายยาวก่อนจะปิดท้ายด้วยการส่งยิ้มให้ผมอย่างใจดี  ถึงอย่างนั้นถ้าจะไม่ให้ผมกังวลก็คงเป็นไปไม่ได้  เพราะเขาต้องบาดเจ็บก็เพื่อช่วยคนโง่อย่างผม

ทำไมต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อลูกหนี้ขัดดอกอย่างผมขนาดนี้ด้วย  กลัวไม่ได้เงินสิบล้านที่ติดไว้งั้นเหรอ?

“ไหนๆนายก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว  ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกนายสองคน”

“เรื่องอะไร?”

ไอ้เฟี้ยวรีบถามทันที

“ก่อนที่พี่จะสลบไป  พี่ส่งสิ่งนี้ให้กับฉัน”

คุณอวกาศหยิบบางอย่างออกมาจากในกระเป๋ากางเกง  มันคือปากกาสีทองหรูดูแพงโคตรๆ  ก่อนที่จะได้อ้าปากถามอะไรต่อ  เขาก็จัดการกดตรงปลายปากกาเสียก่อน  เสียงบทสนทนาดังออกมาจากปากกานั่น!

นะ…นี่มัน…เครื่องอัดเสียง?!

ผมกับไอ้เฟี้ยวมองหน้ากันเพราะเสียงของคนๆหนึ่งในบทสนทนานั้นมันคือเสียงของคุณจักรวาล  และอีกคนก็ดูท่าว่าจะเป็นคุณกวินทร์  พวกเราสามคนนิ่งเงียบฟังสิ่งที่ถูกอัดไว้อย่างตั้งใจ

 

‘มาทำไม’

‘ไม่เอาน่า  คุณอย่าทำเป็นไม่รู้หน่อยเลยว่าผมมาทำไม SD การ์ดอยู่ที่ไหนครับ”

‘ฉันไม่เข้าใจว่าแกพูดถึงเรื่องอะไร’

‘ผมลืมไป  ว่าระหว่างพวกเรามันไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากเข้าหากัน  งั้นผมจะขอพูดตรงๆเลยแล้วกันนะครับ  เอา SD การ์ดที่จะเป็นหลักฐานทำลายพวกผมได้มาหน่อยครับ’

‘ฉันไม่มีของแบบนั้น’

‘อย่าทำแบบนี้สิครับ  คุณน่าจะรู้ดีนะว่าเพราะอะไรผมถึงยังปล่อยให้คุณมีชีวิตรอดเป็นหอกข้างแคร่คอยทิ่มตำผมตลอดเวลาแบบนี้  เรามาเจรจากันดีๆดีกว่านะครับ  ถ้าคุณเอา SD การ์ดมาให้ผมได้  ผมจะ…’

 

กริ๊ก!

คุณอวกาศกดปิดส่วนที่เหลือไม่ยอมให้ฟังต่อ  เขาเก็บมันใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิมก่อนจะยิ้มแป้นใส่

“ปิดทำไมวะ  เมื่อกี้เหมือนมันยังพูดไม่จบไม่ใช่หรือไง”

“ไม่มีอะไรหรอก  ที่เหลือมันก็แค่ทะเลาะกันไปมาน่ะ  สาระสำคัญมีแค่เรื่องที่ฉันให้พวกนายฟังเท่านั้น”

“แน่ใจนะ  ไม่ใช่ว่ามีอะไรมากกว่านั้นแล้วคิดที่จะปกปิดหรือไง”

“ไม่มีๆ  มีแค่นั้นจริงๆ”

ดูเหมือนไอ้เฟี้ยวจะไม่ค่อยเชื่อใจคุณอวกาศ  มันหรี่ตามองเขาอย่างจับผิด  ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์มาจับผิดใครทั้งนั้นแหละ  สิ่งที่ผมคิดมีแค่เรื่องเดียวคืออยากให้คุณจักรวาลฟื้นขึ้นมาไวๆ  เพราะถ้าเขายังไม่ยอมตื่น  ผมก็ไม่สบายใจสักที

“แล้วยังไง  สรุปว่าไอ้สาระสำคัญที่ให้ฟังเนี่ย  มันคืออะไร  ไอ้ SD การ์ดนั่นน่ะเหรอ”

“ใช่  ฉันคิดว่ามันอาจจะเป็นสิ่งที่มาเรียซ่อนเอาไว้”

“แกกำลังจะบอกว่า…พี่มี SD การ์ดที่สามารถเป็นหลักฐานทำลายพวกมันได้เก็บไว้กับตัวและเอาไปซ่อนไว้ในที่ปลอดภัยสินะ”

“ถูกต้อง  ถ้าการที่ไอ้กวินทร์มันลงทุนมาตามหาเองแบบนี้แสดงว่าต้องเป็นหลักฐานที่สำคัญมาก  ถึงขนาดน็อกพวกมันได้ในครั้งเดียวแน่ๆ”

“แบบนี้ก็ต้องรีบหาให้เจอสิครับ  ยิ่งจัดการพวกเขาได้เร็วเท่าไหร่  ทุกคนก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น  จากเหตุการณ์คราวนี้ผมมั่นใจเลยว่าพวกมันทำได้ทุกอย่างไม่เกี่ยงวิธีแน่ๆ”

ผมออกความเห็นไปบ้าง  แม้ในใจจะยังมีคำถามมากมายว่าเล่นงานกูไปแล้วได้เหี้ยอะไรก็เถอะ…

สมบัติติดตัวก็ไม่มี  ชาติตระกูลก็ไม่มี  ถึงฆ่าผมได้ก็คงได้เงินไปไม่ถึงร้อยบาทหรอก  แล้วถ้างั้นพวกมันมีเหตุผลอะไรถึงมาเล่นงานผมกันนะ?

ให้ตายสิ  ยิ่งคิดเรื่องนี้ก็ยิ่งปวดหัว  ไม่เห็นจะเข้าใจเลย!

“แต่นายฟื้นก็ดีแล้ว  ฉันให้คนคอยเฝ้าอยู่หน้าห้องตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง  มีอะไรก็เลี้ยงพวกนั้นได้  ส่วนนาย  ฉันฝากดูแลพี่จักรวาลด้วย  พอดีฉันมีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย  แล้วกะว่าจะแวะไปที่บ้าน  ดูว่าพี่จักรวาลลิสต์รายชื่อสถานที่แห่งความทรงจำพวกนั้นไปถึงไหนแล้ว”

“ได้ครับ  ไม่ต้องเป็นห่วง”

“อย่าฝืนล่ะ  แล้วก็ไม่ต้องโทษตัวเองด้วย”

มือหนายื่นมาลูบหัวผมเบาๆก่อนจะออกจากห้องไป  ไอ้เฟี้ยวมองตามจนเหลียวหลัง  ท่าทางมันจะยังสงสัยไม่เลิกแฮะ

“มึงสงสัยคุณอวกาศใช่ไหม”

“อือ  กูว่าเหมือนมันมีอะไรปิดบัง  ตั้งแต่เรื่องพี่แล้ว  ท่าทางมันจะยังบอกอะไรไม่หมด  ที่สำคัญเลยก็คือ…ไอ้เครื่องอัดเสียงเมื่อกี้  มันต้องมีอะไรต่อจากนั้นแน่ๆ”

“คิดมากน่า  มึงคงไม่คิดว่าคุณอวกาศจะเป็นพวกเดียวกับพวกนั้นแล้วทำร้ายพี่ชายตัวเองหรอกนะ”

“ไม่ใช่เฟ้ย  กูแค่แปลกใจ”

“เรื่อง?”

“มึงไง”

“หา?”

ผมชี้เข้าหาตัวเอง  มันกำลังจะบอกว่าสงสัยคิดว่าผมเป็นคนร้ายวางเพลิงย่างสดตัวเองใช่ไหม!

โป๊ก!

“โอ๊ย!  อะไรวะ  เขกหัวกูอีกแล้ว”

“ดูหน้ามึงก็รู้  กูไม่ได้สงสัยว่ามึงเป็นคนร้ายวางเพลิงย่างสดตัวเอง  แต่กูกำลังสงสัยและแปลกใจว่าทำไมไอ้กวินทร์มันถึงเลือกทำร้ายมึง  จะบอกว่าเพื่อใช้เป็นตัวล่อไอ้จักรวาลงั้นเหรอ?  ถ้าเป็นแบบนั้นเผาไอ้อวกาศไม่ง่ายกว่าหรือไง  แบบนั้นน่าจะทำมันตายทั้งเป็นมากกว่า”

“กูก็สงสัยเรื่องนี้เหมือนกัน  แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก”

“งั้นเดี๋ยวกูมา”

“ไปไหน?”

“สะกดรอยตาม!”

“ตาม?  ตามใครวะ?”

“ตามป้ามึงมั้ง!  ก็ต้องตามไอ้อวกาศสิเว้ย  กูอยากรู้ว่ามันกำลังคิดจะทำอะไรอยู่  มึงอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม”

“อ่อ…ได้ๆ  ไม่เป็นไร”

“งั้นกูไปนะ”

มันจบบทสนทนาอย่างรวดเร็ว  รีบเปิดประตูวิ่งตามคุณอวกาศออกไป  ระหว่างที่ผมยังรักษาตัวอยู่ที่นี่คงต้องอาศัยมันช่วยตามสืบเรื่องพวกนี้ก่อนแล้วล่ะ

ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง  ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้น  แม้จะไม่ได้บาดเจ็บอะไรแต่การหลับไปสองวันเต็มๆก็ทำเอาเบลอไปเหมือนกัน  กว่าจะขยับตัวลงจากเตียงเดินไปหาคุณจักรวาลได้นี่แทบคลานกันเลยทีเดียว

“คุณจักรวาล  ได้ยินเสียงผมไหมครับ”

“…”

“นอนนานเกินไปแล้วนะ  รีบๆตื่นสักทีสิ  ผมมีเรื่องจะถามคุณมากมายเลย”

“…”

“ทำไมล่ะครับ  ทำไมถึงช่วยคนอย่างผม  ทำไมต้องเอาชีวิตที่แสนมีค่าของตัวเองมาเสี่ยงกับคนไร้ค่าอย่างผมด้วย  ทั้งที่ผม…แม้แต่ตัวผมเอง  ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยมองว่าตัวเองมีค่าเลยด้วยซ้ำ  ทั้งที่คิดแบบนั้นมาตลอดชีวิต  แต่ว่า…แต่ว่า…”

“…”

“เพราะคุณ  คุณทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีค่าขึ้นมา  ทำให้ผมอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อสร้างคุณค่าในตัวเองให้มากกว่านี้  ฮึก!  ผมจะ…จะไม่ยอมแพ้อีกแล้วนะครับ  จะไม่ยอมถอดใจและยอมตายง่ายๆอีก  เพราะชีวิตของคุณอยู่ในนี้  ในตัวผม”

ผมเลื่อนมือขึ้นจับที่หัวใจของตัวเอง  ใบหน้าซีดเซียวยังคงหลับสนิทไร้การเคลื่อนไหว  ในเวลาแบบนี้ก็ยังทำได้แค่ร้องไห้เท่านั้น

รีบๆตื่นขึ้นมาเถอะนะครับ  จะได้มาสั่งสอนหมาน้อยไม่เอาไหนตัวนี้ของคุณไงล่ะ…

 

“เจอแล้วล่ะๆๆๆ”

เสียงร้องตะโกนดังลั่นห้องจนผมตกใจสะดุ้งตื่น  เผลอหลับไปตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันหว่า?

“อ้าว  อยู่คนเดียวเหรอไทม์  เฟี้ยวล่ะ?”

คุณอวกาศผู้เป็นเจ้าของเสียงตะโกนนั้นถามพลางมองไปรอบๆ  ผมเผลอหลับไปบนเก้าอี้ข้างเตียงคุณจักรวาลตอนไหนก็ไม่รู้  สงสัยคงร้องไห้จนหลับไปแหงๆ

“อยู่นี่”

คนถูกถามถึงเปิดประตูตามเข้ามา  ท่าทางมันเหมือนคนอดหลับอดนอนมาทั้งคืนเลย  อย่าบอกนะว่าสะกดรอยตามคุณอวกาศทั้งคืนเลยน่ะ

“นายไปไหนมาเหรอ”

“ธุระของฉัน  ว่าแต่แกเหอะ  ได้อะไรบ้าง”

“จริงสิ  ดูเหมือนว่าพี่จะลิสต์รายชื่อสถานที่ต้องไปเสร็จแล้วนะ  นี่ไง”

คุณอวกาศกางกระดาษแผ่นหนึ่งให้ดู  มีรายชื่อสถานที่ต่างๆเขียนไล่ลำดับลงมา  ยะ…เยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

“ต้องใช้เวลากี่วันกว่าจะไปหมดทุกที่ฟะ  ไหนจะต้องหาอีกว่าพี่เอา SD การ์ดพวกนั้นซ่อนไว้ที่ไหนในสถานที่นั้น  ไม่ใช่เวลาเป็นเดือนเลยหรือไง”

“ถึงจะนานแค่ไหนก็ต้องหา   ระหว่างที่พี่จักรวาลยังไม่ฟื้น  ฉันกับเฟี้ยวจะเป็นคนไปตามหาก่อน  ช่วงนี้นายคอยดูแลเขาอย่างใกล้ชิดแล้วกันนะ  อ้อ  งดไปโรงเรียนชั่วคราวด้วย”

“ได้ครับ  พวกคุณสองคนต้องระวังตัวด้วยนะ   ถ้ามีอะไรจะให้ผมช่วยก็ติดต่อมาเลยนะครับ”

“งั้นพวกฉันไปก่อนนะ  แล้วเจอกัน”

“เฮ้ย!  อะไรวะ  จะไปเลยเหรอ!”

“ทุกนาทีตอนนี้มีค่า  ไม่รู้ว่าพวกนั้นมันจะเริ่มเคลื่อนไหวอีกเมื่อไหร่  ถ้าอยากชนะ  เราต้องนำมันก้าวหนึ่งเท่านั้น” 

คุณอวกาศสบตาไอ้เฟี้ยวอย่างจริงจัง  จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมทำให้ผมอดเป็นห่วงพวกเขาไม่ได้เลย  ถ้าเกิดอันตรายอะไรขึ้นในช่วงที่คุณจักรวาลยังไม่ฟื้นล่ะจะทำยังไง?

แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว

“เออๆ  ไปก็ไป  ไว้กูจะโทรหานะ”

“อืม  ดูแลตัวเองกันด้วย”

ทั้งสองคนพยักหน้ารับก่อนตะเดินตรงไปที่ประตู  มาเร็วเคลมเร็วกันฉิบหาย  แต่อย่างว่าล่ะ  ชีวิตของทุกคนแขวนอยู่บนเส้นด้ายที่มองไม่เห็นด้วยกันทั้งนั้น

“ไทม์…”

เสียงทุ้มแต่แหบพร่าดังขึ้น  สองคนที่กำลังจะเปิดประตูออกไปชะงัก  ผมเบิกตากว้าง  หันกลับไปมองต้นเสียงที่คุ้นเคยด้วยความดีใจ

ร่างสูงค่อยๆขยับเปลือกตาขึ้น  ริมฝีปากซีดขยับขึ้นลงเหมือนต้องการจะพูดอะไรต่อ  คุณอวกาศและไอ้เฟี้ยวรีบวิ่งกลับมาล้อมเตียงของคุณจักรวาลไว้

“พี่!  พี่ฟื้นแล้ว!”

“คุณจักรวาลครับ  คุณจักรวาล!”

“ไทม์…”

“ครับ  ผมอยู่นี่”

หัวใจเต้นรัวเมื่อชื่อแรกที่เขาเอ่ยถึงคือผม  ก็รู้อยู่หรอกว่าไม่ใช่เวลาจะมาดีใจหรือว่าเขินอายตอนนี้  แต่ว่า…

เขาเรียกชื่อผมเลยนะ!  เรียกหาผมเป็นคนแรกเลยด้วย!

“ไม่ใช่…”

“หา?”

ท่าทางคุณจักรวาลจะเปล่งเสียงลำบาก อาจเพราะหลับไปสามคืนเต็มๆและยังบาดเจ็บอีก  เสียงเลยคอนข้างแหกผากและคอคงจะแห้งมากๆ  พวกเราต่างลุ้นจนตัวโก่งว่าเขาต้องการจะพูดอะไร

“ไทม์…”

ก็บอกว่าอยู่นี่ไงเล่า!

“แคปซูล”

เอิ่ม… พวกเราสามคนเงยหน้ามองกันทันทีที่มีอีกประโยคตามมาต่อจากชื่อของผม  ไม่สิ  ผมชักไม่มั่นใจแล้วว่าเขาเรียกชื่อผมจริงหรือเปล่า?

“สะ…สถานที่แห่งความทรงจำของพวกเรา”

“…”

“ไทม์แคปซูลไงล่ะ…”

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพแล้วจ้า  เข้าใกล้ความจริงเข้าไปทุกทีแล้ว  ท่าทางการได้หลับไปสามวันเต็มๆจะทำให้คุณจักรวาลนึกอะไรขึ้นมาได้  พวกเขาจะสามารถตามหา SD การ์ดนั้นเจอก่อนพวกของกวินทร์ไหมนะ?  แล้วอวกาศกำลังปิดบังอะไรอยู่กันแน่  เห็นทีคงต้องส่งไม้ต่อให้เฟี้ยวช่วยตามไขความจริงของเรื่องนี้ให้พวกเราแล้วล่ะ

ต่อไปเป็นการตอบคำถามนักอ่านหลายคนมากๆ  ที่หลังจากอ่านตอนที่แล้วจบแล้วต่างก็คิดกันว่ากวินทร์แอบรักจักรวาล 55555+ จนตอนนี้หลายคนเริ่มงุนงงและคิดว่าเป็นรักหลายเส้า  ไม่ใช่นะคะไม่ใช่  ยังคงตามพล็อตเดิมที่วางไว้คือรักสามเส้าเท่านั้น  จะเป็นใครก็คงไม่ต้องบอกเนอะ  ชัดเจนอยู่แล้ว  โฮะๆๆๆ

 


ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ถ้ากวินทร์ไม่ได้หลงรักจักรวาลก็อาจจะเป็นไปได้ว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน แต่โดนแยกกันเลี้ยงคนละที่แล้วจักรวาลไม่รู้

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มีปมให้ต้องแก้เพิ่มอีกแล้ว เยอะจังไอ้ปมเนี่ย  :เฮ้อ:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด