^
^
ด้วยความคิดถึงพี่นารทแฟนคลับพี่ต่าย นึกว่าลืมกันไปแล้ว
jannie ยิ่งอ่านแล้วยิ่งอยากไปแอ่วเหนือสุดๆ ต้องมีงบประมาณเท่าไรคะเนี่ย....>>>ถ้าตามที่อ่านนี่กินกันน้อยมากๆค่ะ เพราะงั้นค่าอาหารน้อยมาก จะหนักค่าเช่ารถกับค่าน้ำมันรถซึ่งตอนนั้นยังถูกกว่าตอนนี้มากๆ ตอนที่ไปเฉลี่ยแล้วไม่เกินคนละประมาณ5พันค่ะ แต่ถ้ากินดีกว่านี้นอนดีกว่านี้ก็อาจเพิ่มอีกไม่มาก เมื่อเทียบกับความสนุกที่เราจะได้จากการเที่ยว
ต้องลองดูค่ะ แต่ตอนนี้ร้อนน่าดูเนอะ
ช่วงนี้อากาศร้อนมาก
ดูแลสุขภาพกันหน่อยนะคะ ด้วยความห่วงใยจากพี่ต่ายและโอมค่ะ
***************************************
#13.1 ไปปาย (ต่อ)
เส้นทางจากเชียงใหม่ไปปายเต็มไปด้วยความสนุกสนาน กิฟขับรถอย่างมั่นใจทั้งที่เป็นเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย จนเรามาใกล้ปายเข้าไปทุกที เสียงโทรศัพท์ของพี่ต่ายก็ดังขึ้น
“สวัสดีครับ ...อือ..อ้อว่าไง”ผมยื่นหน้าเข้าไปด้านหน้าทันทีครับ อ้อไหน??ว่ะ พี่ต่ายดูไม่สนใจผมกับกิฟที่หูผึ่งฟังด้วยทั้งสองคน เพราะไม่ได้แอบฟังครับ แต่ปิดเพลงให้เงียบแล้วตั้งใจฟังกันเป็นอย่างดี เปิดเผยเจตนารมณ์ว่าอยากรู้มากมาย
“ก็บอกให้เค้าเข้ามาหลังพี่กลับซิ”พี่ต่ายพูดไปหน้านิ่วไป
“เอ๊ยไม่ได้ๆ ต้องพี่อยู่เท่านั้น อยู่กันแต่พวกเราได้ไง อย่าไปยอมนะ” เริ่มแนวบู๊ครับ
ผมพอรู้แล้ว เลยหันไปบอกกิฟ “สงสัยออดิทจะเข้าก่อนนัด”
กิฟทำหน้าเหวอ “อะไรคือออดิทพี่”
ผมเลยต้องอธิบายให้กิฟฟังว่าเป็นพวกผมในอดีตที่คอยเข้าไปตรวจสอบว่าเค้าทำบัญชีกันถูกหรือไม่ ช่วงนี้ก็จะทยอยกันเข้าไปตรวจตามบริษัทต่างๆ แต่พี่ต่ายคงอยากให้มาช่วงที่พี่ต่ายอยู่นะครับ กิฟพยักหน้าเข้าใจ แล้วเราก็ฟังกันต่อ
“บอกส้มไปเลย ถ้าอยากเข้าก่อนให้โทรมาคุยกับพี่ ยังไงพี่ก็ต้องกลับไปดูอีกทีก่อนให้เค้าเข้ามาได้”
“เรื่องของเค้า...ว่าจะเข้าที่อื่นไม่ได้ แต่นัดเราเมื่อไหร่ก็ต้องตามนั้น เราก็มีตารางของเราเหมือนกัน “ผมมองดูพี่ต่ายไปก็คิดถึงความหลัง พี่ต่ายดูน่ารักเหมือนตอนที่ผมทำงานด้วยเลย มั่นใจ แล้วก็มีจุดยืนตลอดเวลาที่ต้องตัดสินใจอะไร พวกออดิทคงไม่กล้าสู้หรอก ฮ่าๆๆ
พี่ต่ายวางหูไปแล้วก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมซิแอบอยากรู้ “ที่ทำงานเหรอพี่ต่าย เค้ารู้ไม๊พี่เที่ยวอยู่” พี่ต่ายพยักหน้า “เค้าก็รู้กันหมดแหล่ะ แต่พี่แพลนงานแบ่งงานไว้แล้ว ที่จริงเสร็จแล้วนะ พอกลับไปก็ตรวจรอบสองอีกที สรุปได้เลย” ผมก็เดาแล้วว่าต้องแบบนั้น ถ้าไม่ไกล้เสร็จพี่ต่ายไม่ทิ้งมาแน่ๆ ผิดกับผม ไม่อยากประจานตัวเอง งานก็ไม่เสร็จแต่ถ้ามีโอกาสเที่ยวก็ขอเสนอหน้าก่อนเลย แล้วค่อยไปเผางานเอาใกล้ๆ เอิกซ์ซซซ
เราขับรถไปจนใกล้จะถึงปายแล้วครับแต่15กิโลที่ปายนี่ผ่านไม่รู้กี่โค้งนะครับ นานกว่าถนนปกติทางตรงๆแน่นอน เรามาถึงจุดตรวจของทหารเนื่องจากแถวนี้ใกล้ชายแดนจึงต้องมีทหารมาช่วยตรวจความเรียบร้อย เพราะมีข่าวขนยาเสพติดทางภาคเหนือกันอยู่บ่อยๆ ทหารโบกมือให้เราหยุดรถแล้วชะโงกหน้าดูด้านหน้าด้านหลัง แล้วโบกมือให้ไปได้ แต่กิฟไม่ไปครับผมก็สงสัย ทหารก็คงสงสัย เลยเข้ามาซักถาม “ไปไหนกันเหรอครับ” ทหารคนนี้หน้าตาดี..ตาใสแจ๋วเลยครับ พอเข้าใจแล้วว่าสงสัยกิฟจะมองเพลินไปหน่อย
“ผมจะไปเที่ยวปายครับ”กิฟตอบเสียงห้าวไปพร้อมกับส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจไปให้ น้องทหารคนนั้นยิ้มอายๆให้กิฟ แต่ผมนั่งด้านหลังข้างกิฟพอดีเห็นจะๆเลยครับ ผมว่าเดี๋ยวนี้เซนส์ของผมกับเรื่องแบบนี้มันดีขึ้นจริงๆครับ ไม่รู้ว่ามันไปพัฒนาตอนไหน หรือว่าตั้งแต่มาคบกับพี่ต่ายก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆน้องทหารนั่นเขินใส่กิฟแน่นอนครับ ผมนึกว่ากิฟจะไม่ยอมไปไหนแล้วจอดไม่ขยับอยู่ครู่ จนพี่ต่ายต้องบอกว่า “ไปได้แล้วกิฟ”
พอรถเราเคลื่อนตัวไปได้เท่านั้นกิฟก็พูดขึ้นมาทันที “โอพระเจ้า....ทำไมทหารแถวนี้หน้าตาดีอย่างนี้ กิฟไม่ไปแล้วนะพี่..ปาย กิฟจะอยู่นี่แหล่ะพวกพี่ไปกันเองนะ” ดูน้องทำครับเห็นรั้วของชาติแล้วอยากไปทดแทนบุญคุณซะงั้น จะทิ้งพวกผมไปเลย ฮ่าๆๆ
“นี่...แต่พี่สงสัยเมื่อกี้พี่ว่าเค้าโบกแล้วนะทำไมกิฟไม่ไป ไปบอกเค้าทำไมว่าเราจะไปปาย”ผมก็ฮาน้องนะครับแต่ก็อยากรู้
“ก็พี่เค้าถามว่าไปไหนกันครับ กิฟก็เลยบอกว่าไปเที่ยวปายกันครับ แอร๊ยยยเค้ามองหน้ากิฟแล้วยิ้มอายๆนะพี่โอม...น่ารักอ่ะ”กิฟเพ้อไปแล้วครับ แต่ผมก็เห็นตามที่กิฟเห็นจริงๆน่ะแหล่ะ
ผมกับกิฟเมาท์กันสนุกสนาน “อือพี่ก็เห็น แต่น่ารักนะ ตาใสเชียว” พี่ต่ายหันมามองหน้าผมทันทีแล้วส่ายหัว ยิ้มๆแบบปลงตก แต่ผมก็ไม่สนใจครับกำลังสนุกอยู่
“เนอะพี่โอม...ใช่มะพี่เค้ายิ้มอายๆ น่ารักอ่ะ ขากลับจะเจอไม๊เนี่ยพี่ ทำไงดีจะได้เจอ กิฟรู้แล้วขากลับซื้อของมาฝากดีกว่า แล้วมาจอดบอกว่าผมซื้อมาฝากพี่ครับ” กิฟฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ทำเอาผมพลอยยิ้มตามไปด้วย นึกถึงสมัยก่อนตอนที่ไปเจอสาวสวยๆก็ความรู้สึกแบบเดียวกันเลย วิพากษ์วิจารณ์กับเพื่อนๆอย่างเฮฮาแต่ตอนนี้อารมณ์นั้นของผมหายไปไหนหมดไม่รู้ไม่เคยมองใครอีกเลย เห็นทุกคนเป็นเรื่องธรรมดาไปหมด
“พี่ว่ากิฟเอาของมาให้ แล้วใส่เบอร์โทรที่อยู่ให้ด้วยเลยดีกว่า นะ ฮ่าๆๆ”ผมก็เสนอไปสนุกๆน่ะครับ
“ใช่ๆจริงๆด้วยพี่โอมทำไมเพิ่งบอกผม เชี่ยวนี่หว่า แล้วขากลับมาผมจะเจอไม๊เนี่ย เสียดายอ่า...ชื่ออะไรก็ไม่รู้เนอะ”
“น่านซิ โอมเชี่ยวจังเคยทำแบบนี้เหรอ ถึงรู้วิธี”พี่ต่ายถามแทรกขึ้นมา ผมก็นึกว่าไม่ฟังซะอีกเห็นเงียบๆที่แท้ก็แอบฟังนี่หว่า ผมพูดตอบด้วยความภูมิใจ “ไม่เคย....แต่ฉลาด..อยู่ดีๆก็แปล๊ปเข้ามาในหัว ว่าน่าจะดีใช่ไม๊กิฟ“ ผมไปเขย่าไหล่กิฟหาพักพวกกิฟก็พยักหน้าแล้วหัวเราะไปกับผมด้วย
“ก็ถ้ากิฟว่าดีก็ทำไป แต่โอมอย่าทำก็แล้วกัน”
แหง่ะ....พี่ต่ายพูดซะหมดอารมณ์เลยกำลังขำๆกันอยู่ น่าจะรู้ว่าเราพูดเล่นๆกัน กิฟก็พูดขำๆไปแบบนั้นให้ไปจีบเค้าก็คงไม่กล้า (เอ๊ะหรือจะกล้า??)
กิฟตอบขึ้นมาว่า “หูยย..กิฟก็ไม่กล้าหรอกพี่ คุยกันสนุกๆเฉยๆ ไม่มี๊ไม่มี เนอะพี่โอมเนอะ” ผมว่าผมเห็นพี่ต่ายเหลือบตามาดุผมหน่อยแล้วพูดว่า “งั้นก็แล้วไป”แล้วก็หันหน้ากลับไปที่ถนนต่ออีกครั้ง ผมเกือบซวยไปแล้วซิ แหะๆเล่นจนได้เรื่อง
เส้นทางที่เป็นตัว S ตัวU ตัว C มีหมดครับทำเอาลำไส้ผมจัดระเบียบใหม่ไปแล้วแน่นอน ยังดีที่ไม่มีใครเมารถนะครับ เลยขับได้รวดเดียวยาวเลยไม่เสียเวลาแวะอาเจียนกัน เราขับผ่านอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังไปก่อนเพราะกิฟแนะนำให้แวะขากลับดีกว่า “ที่จริงกิฟเคยมาเที่ยวแล้วนะพี่...มาดูทะเลหมอกตอนเช้าๆมากางเต้นท์แถวๆนี้แหล่ะ แต่เราไปบ่ายๆก็คงเห็นวิวไปอีกแบบ พรุ่งนี้ค่อยแวะแล้วกันนะครับ” ผมสองคนไม่มีความเห็นครับตามใจไกด์ไป
ผมดูหลักกิโลอีกไม่นานก็ใกล้จะถึงปายแล้ว กิฟเปิดหน้าต่างปิดแอร์ประหยัดน้ำมัน ช่วยลดโลกร้อน และสุดท้ายได้สูดอากาศบริสุทธ์ครับ แต่กิฟทำจมูกฟุดฟิด “พี่ต่ายได้กลิ่นเหม็นไหม้ไม๊ มาจากรถเราไม๊” พี่ต่ายส่ายหน้า “ได้กลิ่นแต่พี่ว่าไม่ใช่รถเรา แล้วก็ภาวนาอย่าให้ใช่”
“กิฟว่ากลิ่นเหมือนผ้าเบรคไหม้”
พี่ต่ายทำจมูกฟุดฟิดพยายามดมกลิ่น“เหรอแล้ว...กิฟเหยียบเบรครึเปล่าล่ะ”
กิฟตอบว่า “ไม่เลยพี่...รถคันหน้าแน่ๆ เดี๋ยวเราทิ้งช่วงแล้วพิสูจน์กลิ่นกันดีกว่า ปิคอัฟคันหน้าอ่ะเหยียบเบรคตลอดเลย”
“นี่กิฟก็เหยียบเบรคเท่าที่จำเป็นจริงๆนะ ไม่ได้เหยียบตลอดเลย” สองพี่น้องก็พิสูจน์กันไปครับ ขับรถที่ทางโค้งมากๆขึ้นเขาลงห้วยแบบนี้ถ้าเหยียบเบรคตลอดทุกครั้งที่เข้าโค้ง กลับไปผมคงต้องขายตัวใช้หนี้ค่าซ่อมรถแน่ๆ
เราไปถึงปายก็เย็นแล้วครับ พอเข้าเขตปายผมก็หยิบเอาแผนที่มาดูว่าที่พักเราอยู่ที่ไหน
“พี่ต่ายจองบ้านยังครับ คืนนี้เรานอนที่ไหนหรือว่าต้องโทรไปถามน้องอ้อ พี่คม น้องกิฟ เชอรรี่น้องวาย หรือน้องลำไยให้ช่วยหาเบอร์โทรให้อีก”
พี่ต่ายหัวเราะก๊ากเลยครับ ผมก็พูดไปได้ไม่รู้อารมณ์ไหนกัน
“พี่จองบ้านแล้วครับ เป็นที่เดียวจริงๆที่จองแล้ว ให้น้องอ...เอ่อ..น้องที่ทำงานจองไว้ให้ เดี๋ยวก่อนนะชื่ออะไรนะ...อ่อ..วิลล่าเดอะปาย”
“ดีแล้วพี่ต่าย ผมขี้เกียจขับรถวนหา ที่นี่ผมไม่รู้ทางด้วย แล้วนี่ไปไงล่ะพี่”
เราเข้าสู่อ.ปายก็เป็นเวลาเย็นแล้วครับเกือบ5โมงเย็น พระอาทิตย์เริ่มทอแสงอ่อนลง อากาศเย็นลงเรื่อยๆแต่ยังไม่ถึงกับหนาว เราเองก็อ่อนแรงลงไปกับการเดินทางเหมือนกัน เราผ่านร้านกาแฟชื่อดังที่ททท.ใช้ภาพเป็นแผนโปรโมทปาย “Coffee In Love” และใช้เป็นสถานที่ถ่านทำหนังด้วย แต่...เราก็ยังไม่แวะครับ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ร้านกาแฟแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่สูงมองเห็นวิวเนินเขาด้านล่างเป็นฉากหลัง ถ้านั่งดื่มกาแฟตอนเช้าๆคงได้บรรยากาศดีครับ
พี่ต่ายกับกิฟปรึกษากันเรื่องที่ตั้งของที่พักเรา วนๆเวียนๆอยู่พักนึงเราก็พบว่าหาไม่ยากเลยครับอยู่ไม่ไกลจากถนนคนเดินเท่าไหร่เลย ขับวนไปวนมาแป๊ปเดียวก็เจอ กิฟขับรถเข้าไปในลานจอดขณะที่พี่ต่ายไปติดต่อบ้านพัก ผมมองไปรอบๆมีบ้านพักอยู่จำนวนมากพอสมควรครับ ทุกหลังเป็นหลังคามุงจากแต่แบบก็เรียบง่ายทันสมัย บ้านถูกสร้างขึ้นมาแบบโปร่งๆไปด้วยประตูหน้าต่างเป็นกระจกโดยรอบ แต่มีผ้าม่านซึ่งเป็นผ้าฝ้ายทอมือแบบเหนือ ปลูกต้นไม้อยู่ด้านหน้าบ้านพอสมควร ตัวบ้านสร้างล้อมรอบที่ว่างตรงกลางที่ใช้เป็นที่จอดรถ
พี่ต่ายเดินมากับผู้ชายร่างหนาซึ่งผมเดาว่าน่าจะเป็นเจ้าของที่นี่ “นี่ครับบ้าน B2ที่จอง” ชายหนุ่มเดินนำเราเข้าไปด้านในสุดเป็นบ้านหลังใหญ่กว่าด้านนอก อยู่มุมในพอดี ตัวเรือนยกพื้นสูง มีระเบียงนอกชานกว้างน่าดู พอชายหนุ่มคนนั้นจากไป กิฟก็รีบเข้าบ้านทันที “บ้านน่ารักจังเลยพี่โอม มีอินเตอร์เน็ต จอพลาสมา หูยยย น้ำอุ่นอีก ตู้เย็น ห้องน้ำในตัวอีก เริดจริงๆ คืนเท่าไหร่นะพี่ต่าย” ผมนึกว่ากิฟจะไม่หยุดพูดให้คนอื่นพูดบ้าง หึหึ
ในห้องนอน
“หนึ่งพันบาท นอนได้สี่คน ใช้ได้ไม๊โอม”พี่ต่ายหันมาถามผม
ผมเลยบอกว่า “เยี่ยมเลยพี่ น่าอยู่จัง” ภายในห้องนอนมีเตียงคู่สองเตียง มีมุ้งแขวนอยู่ด้านบน ผมมองประตูหน้าต่างกระจกโดยรอบ ไม่มีมุ้งลวดแสดงว่าอาจจะมียุงเหมือนกันถึงมีมุ้งแขวนไว้
พี่ต่ายชี้ไปที่มุ้งแล้วยิ้มให้ผม ผมอดเขินไม่ได้แต่แต่อมยิ้มแล้วเดินหนีพี่ต่าย เจอมุ้งเข้าไปทีไรผมแพ้พี่ต่ายทุกที กิฟง่วนกับการเปิดคอมพิวเตอร์ต่อเน็ต ไม่รู้ว่าติดเวปอะไรกัน พอเข้าปุ๊ปเห็นรีบคลิกทันที “ดีจังเลยนะพี่วันไหนไม่ได้เล่นเน็ตเหมือนจะขาดใจ เออแต่กิฟเอาคอมมาด้วยนี่ ไปเอามาดีกว่า” ว่าแล้วกิฟก็วิ่งไปเอาคอมที่รถ
กิฟเข้าเวปอะไรก็ไม่รู้
พี่ต่ายหอมแก้มผมทันทีที่กิฟลับตาไป แล้วพูดว่า “ที่พักที่นี่ดีนะ เงียบสงบดีด้วย ถ้ามากันสองคนนะรับรองว่าไม่ให้โอมไปไหนเลย” ผมได้แต่ทำตาโตแล้วหัวเราะ “งั้นผมก็ต้องพากิฟมาด้วย จะได้ออกไปเที่ยว เสียใจนะพี่ต่าย คืนนี้ไม่มีรายการสำหรับผู้ใหญ่นะครับขอบอก” ผมทำแก้มป่องยิ้มอย่าลำพองใจ
“ก็นี่ไงล่ะเหตุผลที่พี่ต้องทำสกอร์ล่วงหน้า บรรยากาศแบบนี้มีโอมอยู่ข้างๆพี่จะทนไหวได้ไงกัน”ผมได้ส่ายหัวกับพี่ต่าย เดี๋ยวนี้หวานเกินไปแล้ว ไม่กล้าไปเช็คเลือดเลยกลัวเปอร์เซ็นต์น้ำตาลในเลือดพุ่ง
พอกิฟกลับมาก็เล่นคอมเสียเพลินลืมทุกสิ่งทุกอย่างหมด ผมเลยเดินสำรวจห้องพักไปพลางๆ พอเดินออกไปที่ระเบียงยังเห็นกระสอบทรายที่ทำเป็นแนวกั้นน้ำ “พี่ว่าพี่ดูรูปมันริมน้ำนะ แต่ไหงไม่มีน้ำเลยเนี่ย “พี่ต่ายมองแล้วก็พึมพำเบาๆ
“ผมว่าหน้าหนาวน้ำมันแห้งน่ะพี่ ถ้ามีน้ำจะสวยกว่านี้มากเลยนะ” ตอนนี้ภาพภายนอกที่เราเห็นเลยมีแต่ต้นไม้แห้งๆ พื้นดินแล้งๆ สรุปว่าอยู่ในห้องแล้วกันวิวไม่ต้อง “พี่ต่ายช่วยกิฟหน่อยพิมพ์ภาษาไทยไม่ได้น่ะพี่”
พี่ต่ายผละจากผมไปช่วยกิฟ ผมเลยเดินสำรวจห้องน้ำต่อ ห้องน้ำกั้นด้วยไม้ไผ่สานมันบางมากเลยครับ กว้างมากครับกว้างพอๆกับห้องนอนทีเดียว มีชักโครกและน้ำอุ่นพร้อม แต่พื้นห้องน้ำทำเป็นไม้ระแนงตีห่างๆให้น้ำลอดลงไปยังด้านล่างได้จนเห็นต้นหญ้าที่อยู่
“พี่ต่าย ผมกลัวคนมาแอบดูเวลาอาบน้ำ พี่ต่ายมาดูนี่ซิ”ผมไปลากพี่ต่ายให้มาดูด้วยกัน แล้วชี้ให้พี่ต่ายดู
*********************************************************
พรุ่งนี้ไปเชงเม้งร้อนแย่แน่ๆเลย แล้วเจอกันค่ะขอให้ร้อนแบบมีความสุขทุกๆคนนะคะ