@@@The Taste of Love...อิ่มรักรสโอชา - มื้อค่ำพร้อมเสิร์ฟแล้วครับ (5/1/64)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@@The Taste of Love...อิ่มรักรสโอชา - มื้อค่ำพร้อมเสิร์ฟแล้วครับ (5/1/64)  (อ่าน 115002 ครั้ง)

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1



---- ตัวแทน? ----


"เจ...เจจ๋า"

เจนยุทธขมวดคิ้วทั้งๆ ที่หลับตา เขาปัดมือที่เขย่าไหล่ของเขาออก เขาง่วงนอนและปวดเมื่อยไปทั้งตัวแล้ว

"เจ...ถ้าไม่ตื่นฉันจะลักหลับแล้วนะ"

ริมฝีปากของปลุกเริ่มซุกซนไปทั่ว เจตาสว่างแล้วลุกขึ้นนั่งอย่างเร็ว

"โอ๊ย!"

เขาร้องลั่นออกมาเพราะความเจ็บปวดที่ช่องทางด้านหลัง น้ำตาเขาหยดเผาะลงมาโดยไม่รู้ตัว ฆาเบียร์ตกใจรีบเข้าประคองตัวเจ

"เจ็บมากเลยเหรอเจ?"

ฆาเบียร์ถามด้วยสีหน้าร้อนรน เจพยักหน้า เขาจะเข้าห้องน้ำยังไงล่ะเนี่ย? ฆาบี้เข้าช่วยประคองเจให้นั่งลงที่ขอบเตียง เจนิ่วหน้าน้อยๆ นอกจากปวดแปลบที่ตรงนั้นแล้ว เขายังร้าวระบมไปทั้งร่าง ทั้งสะโพก ขา แขนนี้ล้วนปวดไปหมด แถมยังมีรอยช้ำและรอยจูบจากคนตัวโตที่เล่นรุนแรงเมื่อคืนกระจายไปทั่วตัวตั้งแต่เรียวขา ไล่ขึ้นมาถึงหน้าท้อง อกและคาดว่าตามลำคอก็คงลายเป็นตุ๊กแกแน่ๆ เขาดูที่ตัวของฆาเบียร์ก็ต้องตกใจที่เห็นรอยจูบเปรอะไปทั้งแผงอกและคอเหมือนกัน เมื่อคืนเขาร้อนแรงขนาดนั้นเชียวเหรอ?

"เจ!"

เสียงฆาเบียร์ร้องอย่างตกใจแล้วชี้ไปที่หว่างขาของเขา เข้าก้มตามลงไปดูก็ต้องตกใจที่เห็นคราบเลือดแห้งติดอยู่เป็นทาง เขาหันไปดูที่เตียงก็เห็นกองเลือดน้อยๆ ตรงตำแหน่งที่เขานอน

"โห เหมือนเป็นเมนส์เลยเนาะ"

เจนยุทธพูดอย่างตกใจแกมทึ่ง แต่คนตัวโตที่เป็นต้นเหตุนั้นน้ำตาร่วงทรุดกายลงนั่งตรงหน้าเขาแล้วกอดเขาไว้แน่น

"ฉันขอโทษ เจ ฉันไม่น่าทำรุนแรงเลย"

"โอ๋ๆๆ"

เจตบไหล่ปลอบคนขี้แย

"แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก ไกลหัวใจ"

เขายกนิ้วขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าแกร่งสมชายนั้น

"แล้ว...คุณมีความสุขไหม ฆาเบียร์?"

คนตัวโตพยักหน้าและยิ้มอายๆ

"สุขมาก สุขที่สุด แล้วเจล่ะ รู้สึกดีบ้างไหม?"

เจนยุทธพยักหน้า ตอนแรกๆ มันก็เจ็บ เจ็บมาก แต่เพราะเจลหล่อลื่นจำนวนมากและความช่ำชองของฆาเบียร์ทำให้ครั้งแรกของเขาเต็มไปด้วยความหฤหรรษ์ แต่ถ้าจะเจ็บก็เพราะคนตัวโตนั่นแหละที่ไม่รู้จักพอเสียที

"แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ลุกไหวไหม? ให้อุ้มไปอาบน้ำไหม?" ฆาเบียร์ถามอย่างเป็นห่วง เจพยายามลุกขึ้นแล้วก็ซวนเซลงนั่งลงที่ขอบเตียงเหมือนเดิม ฆาเบียร์ใจหายวาบ รีบระล่ำระลักถามว่าปวดตรงไหน เป็นอะไรให้ตามหมอไหม สิ่งที่หลุดออกมาจากปากของเจนยุทธคือ

"หิว"



ฆาเบียร์สั่งรูมเซอร์วิสมาให้เจนยุทธนั่งกินข้างเตียง เจกินสปาเก็ตตี้ไปจานหนึ่งก็รู้สึกอิ่มตื้อขึ้นมา เขามองแซนวิชสเต๊กเนื้อออสเตรเลียที่กินไม่ไหวตาละห้อย รู้งี้เขากินแซนวิชก่อนก็ดี

"ตื่นมาเดี๋ยวค่อยกินก็ได้ เจ นอนพักก่อนเถอะ"

ฆาเบียร์บอก ไอ้ตัวเล็กของเขานี่เอาแต่ห่วงกิน

"ห้ามจิ๊กกินก่อนนะ"

เจสำทับก่อนจะซุกกายเข้านอนในผ้าห่มอันแสนอุ่น


ยามบ่ายอันแสนสงบผ่านไปโดยเจนอนหลับอยู่บนเตียง ส่วนฆาเบียร์ก็ลงเล่นน้ำบ้าง แอบออกไปเดินเล่นบนชายหาดบ้าง เปิดคอมดูหนังโดยใส่หูฟังเพื่อที่จะไม่รบกวนคนที่หลับอยู่บ้าง ขึ้นไปนอนบนเตียงกอดคนตัวเล็กที่หลับไม่รู้เรื่องบ้าง เวลาบนหาดสวรรค์นี้ผ่านไปช้าๆ

เจตื่นขึ้นมาเพราะแสงสว่างๆ ที่ลอดเข้ามาจากรอยแยกของผ้าม่านมืดทึบ เขาได้ยินเสียงฆาเบียร์พูดคุยกับคนอื่นที่ด้านนอกตรงริมสระ เขาค่อยๆ ยันกายลุกขึ้น อาการเจ็บปวดยังคงอยู่แต่ก็เบาบางลงบ้างแล้ว เขาลงจากเตียงแล้วก็ต้องขาอ่อนนั่งแปะลงบนเตียงใหม่ เขาพยายามยันกายขึ้นอีกครั้งจนทรงตัวไหวแล้วเดินโซเซไปที่ประตู เขาเปิดม่านออกแล้วก็ต้องตกใจรีบหลบกลับเข้าไปที่หลังม่าน ฆาเบียร์ยืนคุยอยู่กับคริส ส่วนตัวเขานั้นยังนุ่งลมห่มฟ้าอยู่ ฆาบี้ได้ยินเสียงที่ประตูแล้วเห็นเจโผล่หน้าออกมาทางผ้าม่าน เขารีบเดินเข้าไปประคองร่างเพรียวที่ทำท่าทรงตัวไม่ค่อยไหวและพาไปที่เตียง

"จะรีบลุกขึ้นมาทำไม?"

คนตัวโตบ่นพร้อมเดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำตัวใหม่มาให้เจใส่คลุม

"สวัสดีครับ อาปา"

เจนยุทธยกมือไหว้คริสด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

"เป็นไงบ้าง เรา อาการดีขึ้นบ้างไหม? เห็นฆาเบียร์บอกว่าลุกไม่ขึ้น"

เจหันไปทำตาดุใส่ฆาเบียร์ นี่เล่าทุกอย่างให้อาปาฟังด้วยเหรอ? ฆาบี้ยิ้มเขินๆ ทันทีที่เห็นคริสเห็นเจนอนหลับแล้วถามว่าเจเป็นอะไร ฆาเบียร์ก็หลุดปากเล่าหมดทุกอย่าง เขาอยากบอกคริสให้รู้ว่าในที่สุดเขาก็ได้ครอบครองคนที่เขารักคนนี้แล้ว

"งั้น เดี๋ยวอาปาไม่กวนแล้วนะ ตามสบายแล้วกัน เดี๋ยวเย็นนี้อาปาจะไปธุระ ไม่ได้มากินข้าวด้วยนะ"

คริสโบกมือลาเจและฆาเบียร์

"...อ้อ อาปาเอาอัลบั้มรูปวางไว้ให้ที่โต๊ะทำงานแล้ว อย่าลืมซะล่ะ"

ฆาเบียร์เล่าให้เจฟังว่าเขาขอให้คริสเอาอัลบั้มรูปที่เขาเก็บรูปสำคัญๆ ไว้มาให้จากฮ่องกง

"ไว้เราไปกินข้าวอะไรให้เสร็จสรรพแล้วเรามานั่งดูกันนะ"

พอพูดถึงข้าว ท้องน้อยๆ ของเจนยุทธก็ร้องโครกขึ้นมา ฆาเบียร์ยิ้มให้กับความตะกละของเจ พวกเขาพากันแต่งตัวและเรียกบักกี้ขึ้นไปที่ล็อบบี้



รถเช่าพร้อมคนขับที่ริคกี้เช่าไว้ให้พาคนทั้งสองไปยังร้านเสบียงเลซึ่งเจค้นชื่อมาจากรีวิวในอินเตอร์เน็ต...อีกครั้ง ร้านตั้งอยู่บริเวณหาดละไมใกล้ทางเข้าหินตาหินยายอันโด่งดัง ฆาเบียร์เดินกอดไหล่ร่างเพรียวที่่ยังเดินเป๋ๆ เข้าไปนั่งที่ร้านซึ่งคนแน่นจนแออัด ลมทะเลที่พัดโชยทำให้เจนยุทธกายสะท้านขึ้นน้อยๆ

"หนาวเหมือนกันเนาะ" เขาบ่น

ฆาเบียร์ขมวดคิ้ว เขาไม่ได้รู้สึกว่ามันเย็นถึงขนาดนั้น เขาสังเกตดูหน้าของเจซึ่งแดงน้อยๆ แล้วก็อดกังวลไม่ได้

"มา สั่งอาหารดีกว่า"

เจนยุทธเปิดเมนูพร้อมฮัมเพลงในคออย่างมีความสุข

'อืมม์ ยังห่วงกินได้แสดงว่าน่าจะยังไม่เป็นอะไร'

ฆาเบียร์คิดอย่างเบาใจ พนักงานเสิร์ฟเดินมาเตรียมรับรายการ เจน้ำลายไหลเมื่อนึกถึงอาหารใต้แสนอร่อยที่เขาจะได้กิน เขาสาธยายถึงเมนูต่างๆ ที่เคยได้ยินมา ยำหอยเจาะ แกงเหลืองปูทะเล แกงคั่วเห็ดหลุบนั่นนี่นู่นให้ฆาเบียร์ฟัง คืนนี้จะขอกินเผ็ดให้ปากพังไปสักทีเพราะที่เชียงใหม่หากินยากเหลือเกิน

"ไม่ เจ อย่าสั่งอาหารเผ็ด"

ฆาเบียร์นิ่วหน้าและร้องห้ามคนตัวเล็ก

"อ้าว ทำไมอ่ะ? ไม่เป็นไรหรอก ผมกินคนเดียวหมด เดี๋ยวของคุณผมสั่งไม่เผ็ดให้"

ฆาเบียร์ส่ายหน้าแล้วกระซิบที่หูเจเบาๆ เขาไม่รู้ว่าพนักงานจะเข้าใจภาษาอังกฤษไหม แต่เขาก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้ให้ใครได้ยิน เจหน้าซีด

"จริงอ่ะ?"

เจถามด้วยเสียงสลด ฆาเบียร์พยักหน้า ถ้าเจ้าตัวเล็กกินเผ็ด พรุ่งนี้มันต้องได้ร้องจ๊ากลั่นห้องน้ำแน่นอน เจทำหน้าจ๋อยแล้วสั่งอาหารไม่เผ็ดมาอย่างหมึกแดดเดียว ใบเหลียงผัดไข่ กุ้งอบวุ้นเส้น และหมูคั่วเคย ตอนแรกเขาสั่งปูม้านึ่งด้วยแต่พออาหารเกือบครบถึงได้รู้ว่าปูหมดเพราะช่วงนี้เป็นลองวีคเอนด์ คนจึงเยอะแน่นร้าน เจซึ่งหมดอารมณ์ไปแล้วก็ไม่ได้สั่งอะไรเพิ่มอีก

ฆาเบียร์ตักผักชื่อประหลาดผัดไข่มาชิม ตัวผักนั้นให้รสมันๆ แปลกดีแต่จานนี้สำหรับเขามันออกจะติดหวานไปบ้าง

"เจว่าอาหารที่นี่ติดหวานหรือเปล่า?"

"ผมว่ามันจืดไปหมดทุกอย่างเลยมากกว่า แม้กระทั่งไอ้หมูคั่วเคยนี่ด้วย แปลกจริง"

เจบ่นขึ้น ฆาเบียร์ชักกังวล สำหรับเขา อาหารร้านนี้ค่อนข้างติดหวาน ทั้งใบเหลียงผัดไข่ หมึกแดดเดียวและกุ้งอบวุ้นเส้นออกหวานหมด มีหมูคั่วเคยที่เขารู้สึกว่าอร่อย กลิ่นหอมๆ ของเคยทำให้เขากินไปโดยลืมนึกไปว่ามันมีชิ้นที่ติดมันอยู่ด้วย เจนยุทธกินข้าวไปได้ประมาณครึ่งจานก็รวบช้อนส้อม เขารู้สึกกินอะไรก็ไม่อร่อยเสียแล้ว ลมทะเลที่พัดมาก็ทำให้เขาหนาวยะเยือก

"ฆาเบียร์ ผมว่าเรากลับกันดีกว่า ผมรู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว"

เจพูดออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง ฆาเบียร์รีบสั่งคิดเงิน โชคดีที่ตอนคิดเงินไม่ช้าเหมือนตอนลงอาหาร เขาประคองเจนยุทธให้ลุกจากเก้าอี้แล้วก็ต้องใจหาย ตัวของเจร้อนเป็นไฟ เขานึกโทษตัวเองที่ไม่สังเกตให้ดีก่อนหน้านี้ เขาประคองเจที่ทำท่าจะเดินไม่ค่อยไหวแล้วไปที่รถ โชคดีที่คนรถไม่ได้ไปไหนไกลจึงออกรถได้ทันที

]
(ftp://www.picz.in.th/images/2017/09/04/sabianglay.jpg[/img)


"เจ ไปโรงพยาบาลไหม?" เขาถามเจ้าตัวเล็กด้วยความเป็นห่วง

"ไม่เอา ไม่ไป กลับห้องดีกว่า เดี๋ยวนอนแป๊บเดียวก็คงหาย ผมมีพาราติดมาด้วย เดี๋ยวค่อยกินก่อนนอน"

เจนยุทธพูดทั้งๆ ที่หลับตา ตอนนี้เขาปวดหัวแทบจะระเบิดแล้ว ฆาเบียร์บอกคนรถให้รีบกลับโรงแรมโดยด่วน เขายกหูโทรศัพท์ขึ้นโทร

"จอช นี่ฆาบี้นะ ติดต่อนันโด้ให้หน่อยได้ไหม?..."



รถมาส่งทั้งสองถึงที่ล็อบบี้ ที่นั่นคุณสุ บัทเลอร์พร้อมรถบักกี้ก็รอรับเจและฆาเบียร์อยู่แล้ว จอชคงเป็นคนจัดการให้ ฆาเบียร์ประคองเจที่แทบจะเดินไม่ไหวเข้าห้องและพาไปที่เตียง

"พาราอยู่ในกระเป๋าผม"

เจสั่งทั้งที่หลับตา เขาค้นกระเป๋าเมสเซนเจอร์ของเจตามที่บอกแล้วหยิบยามาให้สองเม็ดพร้อมทั้งน้ำ เจกินเข้าไปแล้วหลับตานอนนิ่ง ฆาเบียร์หยิบถังแช่ไวน์ไปใส่น้ำอุ่นในห้องน้ำพร้อมหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาด้วย เขาเปลื้องเสื้อผ้าของเจออกจนเหลือแต่ตัวเปล่าและเอาผ้าชุบน้ำอุ่นบิดให้หมาดและเช็ดไปตามตัวที่ร้อนผ่าวนั้นโดยเฉพาะบริเวณซอกคอ ซอกรักแร้และขาหนีบตามที่ฟังวิธีมาทางโทรศัพท์ เขาทำซ้ำไปซ้ำมาอยู่เกือบ 20 นาที จนรู้สึกว่าร่างกายเจคลายความร้อนลงจึงใส่เสื้อยืดใหม่และกางเกงนอนให้เจ

ฆาเบียร์นั่งเฝ้าข้างเตียงเจนยุทธด้วยความเป็นห่วง ใบหน้าน้อยๆ นั้นยังคงแดงก่ำ ลมหายใจของเจหอบถี่ ถึงอุณหภูมิจะลดลงบ้างแล้วแต่ตัวของเจก็ยังคงร้อนผะผ่าวอยู่ดี เขากำลังจะเช็ดตัวให้เจซ้ำเมื่อมีเสียงกดกริ่งที่หน้าห้อง เขาเดินไปเปิดประตูให้จอชและนันโด้ซึ่งหิ้วกระเป๋าหนังใบใหญ่เข้ามาด้วย เมื่อเข้ามาถึง นันโด้ก็หยิบเอาหูฟังและปรอทวัดไข้และอุปกรณ์อื่นๆ ออกมาจากกระเป๋านั้นและทำการตรวจอาการของเจ ถึงรูปลักษณ์ของนันโด้จะดูน่ากลัวแต่ตอนที่พวกเขาเจอกันสมัยเรียนตอนนั้นนันโด้ก็เรียนเตรียมแพทย์แล้ว ตอนนี้เขาเป็นนายแพทย์ด้านอายุรกรรมฝีมือดีที่ย้ายตามแฟนมาประจำที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของสมุย


"ไข้สูงเลยนะ ไม่แน่ใจว่าเกิดจากการติดเชื้อรุนแรงไหม ต้องรอดูอาการ"

นันโด้บอกหลังจากทำการฉีดยาให้เจแล้ว

"กูขอตรวจอะไรเพิ่มอีกหน่อยได้ไหม?"

นันโด้ซึ่งดูออกจากท่าทางของฆาเบียร์และร่องรอยลายพร้อยบนตัวเจ​ถามอย่างรู้ทัน ฆาเบียร์อึกอักอยู่พักใหญ่แล้วก็ช่วยนันโด้พลิกตัวเจตรวจดูช่องทางด้านหลัง

"แม่งเอ๊ย นี่ถ้าไม่รู้จักกันแล้วมึงส่งเจเข้าโรงพยาบาลไปให้กูตรวจในสภาพนี้นะ กูเรียกตำรวจแน่" นันโด้ด่าฆาเบียร์ลั่น

"มึงทำอิท่าไหนวะ ฉีกซะขนาดนั้น ปกติมึงก็ไม่ใช่คนรุนแรงไม่ใช่เหรอวะ? กูดูๆ ก็ไม่เห็นมีรอยแผลเก่า"
ฆาเบียร์หน้าแดง อ้ำอึ้งอยู่นาน

"ไม่มีหรอกแผลเก่าน่ะ นี่เป็นครั้งแรกของเจ"

นันโด้อ้าปากค้างแล้วตบหลังเพื่อนเก่าแก่ดังป้าบ

"ครั้งแรกมึงก็เล่นเด็กมันซะขนาดนี้เลยเหรอวะ หัดยับยั้งชั่งใจซะมั่ง อายุก็ใช่น้อยแล้ว"

นันโด้บ่นพึมเป็นหมีกินผึ้ง

"หัดบันยะบันยังซะมั่ง ของตัวเองก็ใช่เล็กๆ ทะนุถนอมเด็กมันหน่อย"

จอชที่รู้ดีถึงฤทธิ์เดชของฆาเบียร์บ่นซ้ำ นันโด้ทำตาขวางเมื่อได้ยินแฟนพูดถึงส่วนสงวนของคนอื่น

"แล้ว...อาการเจแย่มากไหม?"

ฆาเบียร์ถามพร้อมกับทรุดลงนั่งบนเตียงและลูบหัวเจนยุทธแผ่วเบาด้วยความสงสาร

"ก็ต้องรอดูอาการ ถ้าคืนนี้ไข้ยังไม่ลดให้รีบโทรบอก กูจะให้รถพยาบาลมารับ อาจมีติดเชื้อในกระแสเลือด"

ฆาเบียร์ใจหายวาบ อาการของเจหนักขนาดนี้เลยเหรอ?

"แต่ถ้าไข้ลด ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่เท่าที่ดูๆ ก็น่าจะยังไม่ร้ายแรงมาก"

ฆาเบียร์ยังถามอีกถึงการฉีกขาดทางช่องทางด้านหลังของเจ แต่นันโด้บอกว่าไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดต้องเย็บ แต่ควรงดใช้งานไปอีกระยะหนึ่ง ฆาเบียร์ได้ยินแบบนั้นก็ค่อยเบาใจลงบ้าง เขาประคองจับมือเพรียวของเจนยุทธที่นอนตัวสั่นเป็นระยะๆ ขึ้นมาจูบและแนบหน้าลงไปกับมือนั้น น้ำตาของเขาหยดหยาดลงบนมือนั้น นันโด้และจอชมองหน้ากัน ตลอดเวลา 4 ปีที่เรียนด้วยกันเขาไม่เคยเห็นฆาเบียร์เป็นแบบนี้เลยสักครั้ง จอชลากเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานมานั่งใกล้ๆ ฆาเบียร์ เขาอยากเผือก เอ๊ย สัมภาษณ์อดีตเซ็กส์เฟรนด์คนนี้เต็มแก่แล้ว


"นายดูแคร์เด็กคนนี้มากเลยนะ ฆาบี้"

ฆาเบียร์พยักหน้า ตาของเขาจับจ้องใบหน้าที่ยังแดงระเรื่ออยู่เล็กน้อยของเจ

"นี่คบหากันมานานหรือยัง?"

จอชเริ่มสัมภาษณ์  ฆาเบียร์ที่กำลังใจลอยก็ตอบไปตามความเป็นจริง

"หกเจ็ดเดือนได้มั้ง แต่ถ้านับเวลาที่เจอหน้ากันจริงๆ ก็ประมาณ 2 เดือน"

จอชขมวดคิ้ว แปลกที่คนอย่างฆาเบียร์ปล่อยคนที่คบหากันให้รอดมือเขาได้นานขนาดนี้

"แต่จะให้พูดตามจริง เราก็ยังไม่ได้ตกลงสถานะของเราให้แน่นอนหรอกนะ" ฆาเบียร์ถอนหายใจ

"ไม่รู้สิ ฉันน่ะ รู้ตัวแน่ๆ ว่าคิดยังไงกับเขา แต่เจเขาเป็น straight มาตลอด แต่มาคบหาฉันเป็นคนแรก ฉันเลยยังไม่อยากกดดันเขาเรื่องความสัมพันธ์ของเรา"

จอชพยักหน้าหงึกหงัก อ้อ มิน่าล่ะฆาเบียร์คงยังไม่กล้ารุกหนักเพราะกลัวไก่จะตื่นซะก่อน


"แล้วพวกมึงเจอกันได้ไงวะ?"

นันโด้ซึ่งนั่งอยู่ที่โซฟาตะโกนถามมา จอชหันไปจุ๊ปากใส่เพราะกลัวเจจะตื่น

"เจเป็นเพื่อนสนิทของนพน่ะ พวกนายจำนพได้ใช่ไหม?"

จอชกับนันโด้มองหน้ากัน ทำไมพวกเขาจะจำคนที่ทำให้ฆาเบียร์แทบคลั่งไปตอนปี 3 ไม่ได้

"เออ กูจำได้ว่ะ พุงขาวๆ เนียนๆ "

นันโด้พูดยิ้มๆ ฆาเบียร์ทำปากขมุบขมิบด่าไอ้เพื่อนเลว จอชจิกตาใส่แฟนตัวดีของเขา

"ฉันมาไทย มาที่กรุงเทพฯ เพื่อมาหานพกะจะมาสานสัมพันธ์ต่อแต่มาเจอว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว"

"...เจเขามากรุงเทพฯ เป็นเพื่อนนพ เราก็เลยได้เจอกัน"

ฆาเบียร์เล่าพลางนึกถึงวันแรกที่เขาได้เจอเจนยุทธ

"ตอนแรกเจน่ะ แสดงทีท่าเป็นศัตรูฉันชัดเจนเลย คงเพราะเรื่องที่ฉันไปทำกับนพไว้แบบนั้น"

นันโด้และจอชที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นอยู่แล้วพยักหน้าว่าจำได้

"ทีนี้ นพชวนฉันไปเที่ยวบ้านเขาที่เชียงใหม่ ฉันก็ว่างๆ อยู่เลยไปด้วย เผื่อจะหาทางเปลี่ยนใจเขาได้"

ฆาเบียร์เล่าข้ามส่วนสำคัญไป

"ตอนแรกฉันก็กะไปนอนโรงแรม แต่นพบอกว่าให้ฉันไปอยู่คอนโดเจ เพราะเขามีห้องว่างอยู่ ฉันก็เลยไปอยู่ที่นั่นเดือนนึง"

"เห็นว่าเขาหน้าตาน่ารัก ก็ตามไปเลยล่ะสิ"

จอชแซวขึ้น ฆาเบียร์หน้าแดง เขาบอกว่าจอชพูดถูก เขาติดใจหน้าตาของเจนยุทธตั้งแต่แรกพบ

"แต่พออยู่กับมันจริงๆ นิสัยมันไม่เหมือนหน้าตาเลย มันทั้งแสบทั้งซ่า ตะกละเป็นที่ 1 ขี้โวยวายด้วย" จอชขมวดคิ้ว

"ฆาเบียร์...ที่นายพูดมาทั้งหมดนี่ มันก็คือนิสัยของนพที่นายเคยรักหัวปักหัวปำไม่ใช่เหรอวะ?"

จอชพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด เขารู้จักเจได้เพียงวันเดียวแต่เขารู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้ทีเดียว เขาไม่อยากให้เจต้องมาเจ็บกับความไม่รู้จักรักของฆาเบียร์เหมือนกับที่เขาเคยเป็น

"นายแน่ใจนะ ว่านายไม่ได้มองเจเป็นตัวแทนของนพ?"

ฆาเบียร์อึ้งไป แล้วก็ถอนหายใจยาว

"ฉันยอมรับ ว่าฉันคิดแบบนั้น..."


ฆาเบียร์หันไปลูบผมดำขลับของเจนยุทธที่พลิกกายนอนหันหลัง ร่างนั้นสั่นน้อยๆ ขึ้นมาอีกแล้ว เขาดึงผ้าห่มที่รุ่ยออกขึ้นคลุมร่างเพรียวนั้นซึ่งในทีหลังดึงผ้าห่มขึ้นไปคลุมโปงและขดตัวเหมือนดักแด้

"...แต่ก็แค่ในช่วงแรกๆ ที่ฉันเริ่มจีบเริ่มหยอดมัน ส่วนหนึ่งก็เพราะอยากเอาชนะด้วย แต่ยิ่งอยู่ด้วยกันหลายวันเข้า ฉันถึงได้รู้ว่าเจก็คือเจ ไม่ใช่ตัวแทนของนพเลย เจก็มีนิสัยส่วนของมันที่ฉันชอบ และยิ่งนานวันเข้า ฉันก็ยิ่งขาดเขาไปไม่ได้"

ฆาเบียร์เล่าเรื่องอาการป่วยของเขาที่ฮ่องกงให้เพื่อนทั้งสองคนฟัง นันโด้ด่าฆาเบียร์ซ้ำอีกรอบเรื่องที่ปล่อยให้อาการลุกลามใหญ่โต และบังคับให้ฆาเบียร์ต้องไปพบแพทย์เป็นประจำ ส่วนจอชนั้นน้ำตาไหลพรากๆ ด้วยความซาบซึ้งไปกับเรื่องราวแสนหวานของฆาเบียร์ แล้วหันไปทุบไหล่นันโด้ที่หาความโรแมนติกแทบไม่เจอ

"อีกอย่าง..."

ฆาเบียร์หน้าแดง ยิ้มด้วยความเขินอาย

"เรื่องเซ็กส์ของเราก็เข้ากันได้สุดๆ ด้วย"

จอชและนันโด้พยักหน้าหงึกหงัก นี่ค่อยสมเป็นฆาเบียร์คนเก่าที่พวกเขารู้จักหน่อย เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ

"หา?!!!"

ทั้งนันโด้ทั้งจอชประสานเสียงกันลั่นห้อง

"ไหนมึงว่านี่เป็นครั้งแรกของเด็กมันไม่ใช่เหรอวะ?" นันโด้ระล่ำระลักถาม

"ใช่ นี่เป็นครั้งแรกที่กูได้ตัวเจ" ฆาเบียร์ตอบยิ้มๆ

"แล้ว...เอ่อ งั้นแปลว่า..." จอชปากสั่นถาม

"ใช่ เจมันจับฉันกดตั้งแต่วันแรกที่เจอกันเลย" ฆาเบียร์หันไปตอบจอช

ฆาเบียร์หัวเราะเมื่อนึกถึงวันแรกที่พวกเขาเจอกัน ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ใบหน้าใสๆ และตากลมโตของมันเข้ามาแทนที่นพในใจของเขา อาจจะตั้งแต่ตอนที่มันยั่วเย้าเขาด้วยสเต๊กบนคลับเลาจ์ชั้น 37 นั้นเลยก็เป็นได้ เขาเล่าเรื่องราวของเขาทั้งสองให้คู่รักที่นั่งอ้าปากค้างอยู่ตรงหน้าฟังอย่างมีความสุข

"กูเชื่อแล้วว่ามึงรักเด็กนี่ว่ะ" นันโด้คราง

"ครั้งแรกกูยังมองว่าเป็นเพราะแอลกอฮอล์...แต่ครั้งต่อๆ มานี่ ถ้าไม่รักจริงเสืออย่างมึงคงไม่ยอมให้เด็กที่ตัวเล็กกว่าตั้งเยอะเอาอะไรมายัดก้นได้หรอก"

นันโด้เดินมาตบไหล่ฆาเบียร์ด้วยความเคารพ

"ใช่ ถ้าเป็นคนอื่นกูคงหาทางจับกดนานแล้ว แต่กับคนๆ นี้ กูทำไม่ลงจริงๆ ว่ะ"

ฆาเบียร์ก้มลงจูบเรือนผมของเจที่ทำท่าหลับสนิทไปแล้ว จอชมองตามด้วยความซาบซึ้งพร้อมหันไปบอกนันโด้ว่าคืนนี้เขาอยากพิสูจน์ความรักของนันโด้ที่มีต่อเขาบ้าง นันโด้โวยลั่นว่าให้ตายเขาก็ไม่ยอมเสียอธิปไตย ฆาเบียร์หัวเราะไปกับคู่รักเพี้ยนๆ คู่นี้ จอชกับนันโด้อยู่คุยกับฆาเบียร์อีกครู่ใหญ่ถึงได้ขอตัวกลับ ก่อนกลับนันโด้ดูอาการและวัดไข้ของเจอีกครั้ง ซึ่งผลออกมาน่าพอใจ ยาที่ฉีดให้ไปทำให้ไข้ลดลงมาพอสมควร อาการหายใจหอบถี่และกระสับกระส่ายก็ดีขึ้นมามาก เขาทิ้งปรอทไว้ให้ฆาเบียร์เพื่อเอาไว้วัดไข้ทุกๆ 6-8 ชั่วโมง

"เดี๋ยวเช็ดตัวอีกครั้งแล้วกัน ไว้กูจะสั่งยาแล้วให้คนเอามาให้"

นันโด้พูดแล้วรีบเดินตามจอชที่ยังงอนจากเรื่องการสลับบทบาทไปอย่างเร็ว ฆาเบียร์ถอนหายใจแล้วปิดประตูห้อง เขาหยิบถังแช่ไวน์และผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไป


เจนยุทธลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ ในห้องนั้นยังมืดอยู่เพราะผ้าม่านที่กรองแสงอย่างดี เขาหยิบมือถือขึ้นมาดู อะไรกัน นี่มันหกโมงเย็นแล้ว เขาชันกายขึ้นนั่งและรู้สึกว่าอาการป่วยของเขาดีขึ้นมาก การหายใจของเขาดีขึ้น ไม่มีปวดหัวแล้ว ความรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ หนักหน้าหนักตาก็หายไป เหลือแต่ยังมึนๆ หัวอยู่บ้าง อาจจะเพราะนอนมากเกิน

"ฆาบี้..."

เขาร้องเรียกหาคนตัวโต เขาไปไหนกันนะ?


เจนยุทธนั่งนึกถึงเหตุการณ์ที่เลือนรางเหมือนอยู่ในความฝัน อ๋อ เขาจำได้ว่าฆาเบียร์มาปลุกเขาให้กินยาแล้วบอกว่าจะต้องออกไปทำธุระกับอาปา แล้วจะกลับมาเย็นๆ เจค่อยๆ ลงจากเตียง เขายังเซน้อยๆ แต่นับว่าดีกว่าเมื่อวานมาก เขาเข้าห้องน้ำและทำธุระด้วยความลำบากเล็กน้อย เขาหน้าแดงเมื่อนึกถึงสิ่งที่เคยคาอยู่ที่ตรงนั้น เมื่อทำธุระเสร็จสรรพ เขาอาบน้ำแปรงฟัน จากนั้นก็แต่งตัวและเดินไปที่โต๊ะทำงานน้อยข้างเตียง ฆาเบียร์เขียนโน้ตทิ้งไว้ให้เขาบอกว่าเขาไปงานเลี้ยงของบริษัทที่บริษัทฮ่องกงของอาปามาร่วมลงทุนไว้ เขาในฐานะรองประธานก็ต้องไปด้วย แต่จะปลีกตัวกลับมาหาเจตอนเย็นๆ

'อย่าลืมกินยาตอน 6 โมงด้วย ฉันเอาวางไว้ให้แล้วที่ข้างเตียง กินน้ำเยอะๆ ด้วย'

เจนยุทธยิ้มละไม เขาจำได้ลางๆ ว่าฆาเบียร์เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เขาประมาณ 2 ครั้ง แล้วยังปลุกเขาขึ้นมากินยาเป็นระยะๆ แล้วอะไรอีกนะ? อ๋อ เขาจำได้ว่ามีคนอื่นในห้องด้วย น่าจะเป็นจอชกับลุงหมีนันโด้ เจหน้าร้อนวาบเมื่อนึกได้ว่าเมื่อคืนนันโด้ได้ขอเขาตรวจช่องทางด้านหลังที่เจ็บระบมของเขา

"ที่แท้ลุงหมีคนนั้นก็เป็นหมอ"

เจพึมพำกับตัวเอง เขานั่งมองอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วก็มีสะดุดตากับอัลบั้มปกหนังสีน้ำตาลเข้มเล่มหนา นี่คงเป็นอัลบั้มที่คริสพูดถึง เขาถือวิสาสะเปิดดู ก็ฆาเบียร์บอกเองว่าจะมานั่งดูด้วยกัน ก็แปลว่าเขาดูได้


หน้าแรกของอัลบั้มเป็นรูปของคนสามคนยืนอยู่หน้าบ้านชั้นเดียวหลังน้อย คนหนึ่งในรูปนั้นคือคริสวัยหนุ่ม ที่กอดคอคริสอยู่ตรงกลางเป็นชายหนุ่มเชื้อสายละตินรูปร่างเพรียวและไม่สูงมากวัยประมาณ 20 ปี ดวงตาที่มีประกายวับวาวคู่นั้นช่างดูคุ้นตา ที่ยืนกุมมือชายหนุ่มคนนั้นเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยรูปร่างสูงโปร่ง ริมฝีปากบางคู่นั้นเหมือนของฆาเบียร์ไม่มีผิดเพี้ยน ร่างนั้นสวมชุดคลุมหน้าท้องที่เริ่มนูนออกมาน้อยๆ

"นี่คงเป็นพ่อแม่ของคุณสินะ ฆาเบียร์"

เจนยุทธนึกเสียใจที่ไม่มีโอกาสได้พบเจอคนทั้งคู่ หน้าต่อๆ ไปเป็นรูปถ่ายของทั้งสองคนบ้าง สามคนบ้างในหลายอิริยาบทรวมทั้งรูปในห้องโรงพยาบาลโดยแม่ของฆาเบียร์อุ้มฆาเบียร์ตัวน้อยไว้โดยมีพ่อทั้งสองยืนยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆ คนในรูปเปลี่ยนไปเป็นมี 4 คน เจดูรูปฆาเบียร์น้อยในวัยอนุบาล วัยประถมอย่างเพลิดเพลิน ตอนเด็กๆ ฆาบี้น่ารักจริงๆ เมื่อเปิดหน้าถัดไป เจก็จ้องมองภาพเด็กหนุ่มหน้าตาดีในวัยมัธยมปลายที่จ้องตาเขาตอบอย่างไม่เกรงกลัว สายตาอันคมวาวของฆาเบียร์ในตอนนี้ไม่เปลี่ยนไปจากตอนเป็นเด็กเลย เขาดูรูปฆาเบียร์ในสนามฟุตบอลและต่อด้วยรูปเขาในชุดรับประกาศนียบัตรชั้น ม. ปลาย แต่เด็กหนุ่มในชุดครุยนั้นช่างมีสายตาแห้งแล้งและใบหน้าที่ซูบซีดเหลือเกิน ภาพชุดต่อไปเป็นภาพในวิทยาลัยอันหนาวเย็น ภาพฆาเบียร์ที่เฮฮาสังสรรค์กับหมู่เพื่อน หนึ่งในนั้นคือร่างอวบที่คุ้นตา

"พี่นพ..." เจอุทานแผ่วเบา

เจนยุทธยกอัลบั้มขึ้นพลิกหน้าต่อไป แล้วก็มีรูปใบหนึ่งปลิวตกลงที่พื้น เขาหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็ต้องตัวชา ภาพใบนั้นมีร่องรอยถูกพับแล้วคลี่ดูบ่อยครั้งจนส่วนรอยพับนั้นเปื่อยไปบ้างแล้ว ภาพนั้นเป็นรูปนพยืนอยู่ที่หน้าตึกสูงประมาณ 10 ชั้นที่ดูเป็นเหมือนหอพัก ด้านหลังของนพนั้นมีร่างสูงร่างหนึ่งยืนโอบเอวและจรดริมฝีปากไว้กับต้นคออันขาวผ่องของนพ แววตาคมวาวที่เหลือบมองกล้องนั้นแสดงอารมณ์รักใคร่ออกมาอย่างเต็มที่ ใบหน้าของนพในรูปนั้นเฉยชา หากริมฝีปากบางนั้นกลับยกยิ้มน้อยๆ โดยไม่รู้ตัว

เจนึกถึงสิ่งที่เขาได้ยินเมื่อคืนออกแล้ว เขาที่งัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะเสียงของนันโด้ได้ยินจอชถามเรื่องเขากับฆาเบียร์ เขาจำได้รางๆ ว่าฆาบี้ตอบว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทของนพ และฆาเบียร์เล่าถึงลักษณะนิสัยของเขา แล้วอะไรอีกนะ? ความทรงจำของเขามันไม่ค่อยปะติดปะต่อนักเพราะฤทธิ์ไข้ แต่ที่เขาจำได้แม่นยำติดหูคือคำถามของจอชที่ว่านั่นคือลักษณะของนพที่ฆาเบียร์รักไม่ใช่หรือ​ และที่จอชถามต่อว่า แน่ใจนะว่าไม่ได้มองเขาเป็นตัวแทนของพี่นพ แล้วฆาเบียร์ตอบว่ายังไงนะ?

"ฉันยอมรับ ว่าฉันคิดแบบนั้น"

เจน้ำตาไหลออกมาเมื่อนึกถึงคำตอบของเสียงทุ้มแหบนั้น คำตอบนั้นมันดังก้องอยู่ในหูของเขา เมื่อคืนนี้หลังจากที่ได้ยินเขาหูอื้อ ตาลายคิดอะไรไม่ออก ได้แต่นอนกลั้นสะอื้นไม่ยอมให้เจ้าตัวได้ยิน เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหูและนอนขดตัวเพื่อไม่ให้ได้ยินคำพูดที่บาดหูใดๆ จากปากฆาเบียร์อีกแล้วจากนั้นเขาก็ผลอยหลับไป

น้ำตาของเจหยดหยาดลงบนรูปที่เปื่อยใกล้ขาดใบนั้น จากน้ำตาที่ค่อยๆ หยดก็กลายเป็นการร้องไห้สะอึกสะอื้น เขาวางรูปนั้นคืนอย่างเบามือไว้บนอัลบั้มนั้น และลุกขึ้นเปิดประตูด้านสระว่ายน้ำเดินออกจากห้องไปอย่างใจลอย



"เจ ฉันกลับมาแล้ว ตื่นหรือยัง?"

ฆาเบียร์ในชุดเป็นทางการเปิดประตูห้องเข้ามา เขาถอดเสื้อนอกและเน็คไทออกโยนไว้ที่ห้องแต่งตัว

"เจ...ทำไมเงียบจัง?"

เขาเปรยขึ้นกับตัวเอง เขาเดินเข้ามาในส่วนห้องนอนแล้วพลันรู้สึกถึงลมร้อนที่พัดเข้ามาทางประตูหลังที่เปิดอ้ากว้างไว้ เขาชะโงกหน้าไปดูที่สระว่ายน้ำ เจก็ไม่อยู่ ดูที่เตียง มือถือก็ยังอยู่ แล้วเจ้าตัวไปไหน? เขาเดินไปดูที่โต๊ะทำงานเผื่อเจจะทิ้งโน้ตอะไรไว้

"เวรแล้ว"

เขาอุทานออกมาดังลั่นเมื่อเห็นรูปที่เปื่อยเกือบขาดใบนั้น บนรูปใบนั้นยังมีคราบน้ำตาที่ยังชื้นอยู่เป็นด่างดวง เขาโผกายออกจากประตูหลังห้องนั้นไป และวิ่งตัดสนามหญ้าลงไปยังชายหาด เขาเห็นเจนยุทธแล้ว ร่างเพรียวนั้นกำลังเดินซวนเซไปตามสะพานเทียบเรือที่ทอดยาวไปในทะเล เขาวิ่งตามไปอย่างสุดกำลัง

----------------------------------------------------------

เจเอ๊ยยยยยยยยย ให้ฆาเบียร์ได้เหนื่อยอีกแล้ว

การเช็ดตัวเพื่อลดไข้ https://goo.gl/H96cTv



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2017 23:18:30 โดย La Vida Sin Tu Amor »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โธ่ งานเข้าแล้วนะฆาเบียร์ คุยที่ไหนไม่คุยดันคุยกันต่อหน้าคนป่วย (ทั้งมึนทั้งง่วง)

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1




---- แทนใจ ----



ฆาเบียร์หยุดพักหอบหายใจบนชายหาด ร่างกายของเขานี่มันไม่ได้ดั่งใจเลยสักนิด อีกนิดเดียวเขาจะถึงสะพานเทียบเรือนั่นแล้ว เขาเดินลุยน้ำที่เริ่มขึ้นสูงไปขึ้นบันไดท่าเทียบเรือนั้น เขาใจหายวาบเมื่อเห็นเจหยุดยืนตรงที่ปลายสะพาน ร่างเพรียวนั้นโน้มลงน้อยๆ

"เจ!!"

เขาตะโกนเรียกลั่น แต่เหมือนลมและคลื่นจะกลบเสียงของเขาไปหมด เขารีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาเจ ไอ้สะพานบ้านี่ก็ยาวตั้ง 150 เมตร หากใจที่ร้อนดั่งไฟของเขาก็ชุ่มชื้นขึ้นเล็กน้อยเมื่อเจทรุดตัวลงนั่งห้อยขาลงที่ปลายสะพานนั้น ฆาเบียร์ลดความเร็วลง เขาไม่อยากทำให้คนตัวเล็กนั้นตกใจ เขาเคลื่อนที่เข้าใกล้ร่างที่ประทับอยู่ในใจเขา อีกเพียงไม่กี่ก้าวเขาก็จะคว้าร่างนั้นมาแนบอกได้


"สวยเนาะ"

เจนยุทธที่นั่งหันหลังให้เขาพูดออกมาเบาๆ เหมือนจะรับรู้ถึงการมาถึงของเขา ฆาเบียร์หดมือที่เตรียมคว้าร่างเพรียวนั้นไว้

"นั่งสิ"

เจตบที่พื้นไม้เบาๆ ฆาเบียร์ทรุดกายลงนั่งเคียงข้างเจที่หันหน้าไปมองท้องฟ้าที่เรืองรองไปด้วยแสงสีทอง คราบน้ำตายังคงปรากฎให้เห็นบนแก้มใสๆ นั้น

"เจ...ฉัน"

"เดี๋ยวก่อนนะ ฆาเบียร์ ขอพระอาทิตย์ตกก่อนนะ"

เจนยุทธหันมายิ้มให้เขา แต่ยิ้มนั้นช่างเศร้าเหลือเกิน

"เจ..." ฆาเบียร์ครางแผ่วๆ

"ผมขอดูความสวยงามนี้ให้เต็มตาเป็นครั้งสุดท้ายก่อน"

น้ำตาที่หยุดไปแล้วของเจรินไหลลงมาอีก สายตาเขามองเหม่อไปยังขอบฟ้าที่เริ่มกลายเป็นสีส้มเหมือนกองเพลิงที่ลุกโชติช่วง ฆาเบียร์ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาดึงไหล่ทั้งสองของเจให้หันกลับมาเผชิญหน้าเขา

"เจ เป็นอะไร ทำไมเจพูดอะไรแบบนี้?"

ตากลมโตที่ชุ่มไปด้วยน้ำตานั้นจ้องมองเขาด้วยแววตัดพ้อจากนั้นก็หลุบตาลง เจนยุทธพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

"เพราะพอพ้นจากวันนี้ หัวใจผมจะไม่เห็นความงามใดๆ ในโลกนี้อีก..."

เจสูดลมหายใจเข้าปอด แล้วหันมาเผชิญหน้ากับเขา

"เพราะพอพ้นวันนี้ไป ผมจะตัดใจและไปให้ไกลจากคุณ!"

ฆาเบียร์ตะลึง นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ เจถึงพูดแบบนั้นออกมา


ทันทีที่พูดจบ เจนยุทธก็ลุกพรวดขึ้น ฆาเบียร์รีบลุกขึ้นตามและฉุดข้อมือบางนั้นไว้ เจพยายามสะบัดออกแต่ฆาเบียร์ก็ชิงรวบร่างบางนั้นมาไว้ในอก

"เดี๋ยว เจ มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน" เจดิ้นขลุกขลัก

"ปล่อยผม ปล่อย!"

"ไม่ ฉันจะไม่มีวันปล่อยนายไปไหนเด็ดขาด เจนยุทธ!"

ฆาเบียร์ตวาดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

"ทำไมล่ะ ฆาเบียร์ ทั้งๆ ที่คุณก็เห็นผมเป็นแค่ตัวแทนพี่นพเท่านั้น ทำไมคุณไม่ปล่อยผมไปซะ?"

เจพูดทั้งน้ำตา ฆาเบียร์ตะลึง เขาคลายวงแขนออก เจทรุดลงไปนั่งสะอื้นไห้กับพื้นสะพานไม้นั้น ฆาเบียร์ทรุดกายลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าของคนตัวเล็กที่ดูจะเข้าใจอะไรผิดใหญ่โตไปแล้ว เขาแตะที่ไหล่ของเจนยุทธเบาๆ

"เจ เมื่อกี้เจพูดว่าอะไร? ใครบอกกันว่าเจเป็นตัวแทนของนพ?"

"คุณเป็นคนพูดไงล่ะ ฆาเบียร์...It was you!"

เจกระชากเสียงดัวยความปวดร้าว แม่งเอ๊ย พูดอยู่กับปากแท้ๆ ยังมาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

"คุณบอกจอชเมื่อคืนว่าคุณคิดว่าผมเป็นแค่ตัวแทนของพี่นพ"

ฆาเบียร์อึ้งไป เขาไม่คิดว่าเจจะตื่นอยู่ในตอนนั้นแถมยังได้ยินไม่ครบความอีกต่างหาก เขาจะปล่อยให้เจระบายออกมาให้หมดก่อนแล้วค่อยอธิบายให้ฟังทีหลัง ในใจเขานึกด่าจอชที่ดันมาถามเรื่องไม่เข้าท่านี้ขึ้น

"แล้วไหนจะรูปถ่ายของคุณกับพี่นพอีก คุณคงพกมันติดตัวไว้ตลอดเวลาเลยสินะ"

เจยิ้มหยันให้กับตัวเอง เขาเปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิลงบนพื้นไม้นั่น ถ้าจะเดินหนีคนตัวโตก็คงตามไปอยู่ดี สู้คุยกันให้มันจบๆ ไปตรงนี้เลยดีกว่า ฆาเบียร์ลงนั่งประจันหน้ากับเจ สายตาคมวาวของเขาจับจ้องหน้าคนตัวเล็กที่ไม่ยอมสบตาเขา


"ผมรู้ตัวอยู่แล้วล่ะ ว่าคุณคงไม่มารู้สึกอะไรกับคนอย่างผมหรอก เราเจอกันได้ไม่นาน แถมความประทับใจแรกก็ไม่ดีอีกต่างหาก"

เจที่สงบสติลงแล้วถอนหายใจยาวนึกถึงวันแรกที่พวกเขาเจอกัน

"ผมก็เคยคิดเข้าข้างตัวเองนะว่าคุณชอบผมจริงๆ แต่พอผมได้ยินที่คุณคุยกับจอช ทุกอย่างมันก็กระจ่าง..."

"ใช่...นิสัยผมคล้ายกับพี่นพ เราถึงเป็นเพื่อนสนิทกันไงล่ะ แต่ตอนนี้ผมชักเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนั้นแล้วเพราะถ้านิสัยพวกนั้นคือสิ่งที่ทำให้คุณชอบผม ก็แปลว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณไม่ได้มองเห็นผมเลยแต่มองเห็นเงาของพี่นพที่คุณรักซ้อนทับผมอยู่ตลอดเวลา"

น้ำเสียงของเจนยุทธทำให้ฆาเบียร์แทบขาดใจ เจพูดในสิ่งที่เขาเคยถามตัวเองอยู่บ่อยครั้งเช่นกันแต่ตอนนี้เขามีคำตอบชัดเจนให้ตัวเองแล้ว เจถอนหายใจยาว ยกมือทั้งสองลูบหน้าตัวเอง พอเห็นรูปใบนั้นสมองเขาก็เบลอไปหมด ใจเขาร้อนเหมือนดั่งไฟเผา เขารีบออกจากห้องมาเพื่อหนีให้พ้นจากความรู้สึกริษยานั้น เขาเดินโต๋เต๋คิดอะไรมาเรื่อยจนถึงสะพานเทียบเรือนี้


"ตอนเห็นรูปนั้น ตอนที่รู้ว่าคุณยังรักพี่นพอยู่ ผมก็ยอมแพ้แล้วล่ะ..."

เจสบตาฆาเบียร์เป็นครั้งแรก แววตาของเขานั้นแห้งแล้ง ประกายสดใสหายไปจากตากลมโตนั้นจนหมด

"ตอนแรกผมคิดนะว่าผมจะทำยังไงดี ทางเลือกของผมคือผมจะทนเป็นคนโง่ต่อไป ทำตัวไม่รู้ไม่ชี้ เป็นตัวแทนของพี่นพให้คุณกกกอดไปจนตลอดชีวิต หรือ..."

เขาหยุดเพื่อกลั้นก้อนสะอื้นที่จุกขึ้นมาที่คอ

"หรือ...ผมจะช่วยคุณให้สมหวัง ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้พี่นพรักคุณ ต่อให้พี่นพมีพี่วัฒน์แล้วก็ไม่เป็นไร พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผมคิดว่าผมทำได้...ถ้าทำแบบนั้นผมก็จะได้ยังมีคุณอยู๋ในชีวิตในฐานะเพื่อน"


"เจ..."

ฆาเบียร์ใจหายวาบ หวังว่าเจจะไม่ทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นนะเขายื่นมือไปจับมือของเจนยุทธ เจก้มลงมองมือของฆาเบียร์แล้วดึงมือออก เขาแค่นยิ้มให้กับตัวเอง

"แต่...เมื่อคิดแบบนั้น ตัวผมเองก็แทบทนไม่ได้..."

"จะให้ผมอยู่เพื่อเป็นตัวแทนของคนอื่น ผมทำไม่ได้ ผมเองก็ยังมีศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่" สายตาของเจกร้าวขึ้น

"แต่จะให้ผมเห็นคุณอยู่กับคนอื่น ทนเห็นคุณกินข้าว หัวเราะ หรือกอดกับคนอื่นผมก็ทนไม่ได้ แม้คนนั้นจะเป็นพี่นพก็ตาม"

เสียงที่เคยแผ่วเบาของเจดังขึ้น​เรื่อยๆ

"เพราะว่าผมรักคุณไงล่ะ ฆาเบียร์ รักคุณ รักจนสุดหัวใจ"

เจตะโกนใส่หน้าฆาบี้อย่างคุมตัวเองไม่ได้และซบหน้าลงกับมือของตัวเอง


ฆาเบียร์นั่งตะลึงนั่งมองเจนยุทธที่แทบจะฟุบกายอยู่กับพื้นไม้ เขาเคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน หลายต่อหลายครั้งที่บรรดาคู่นอนของเขาเกิดจริงจังและฟูมฟายขึ้นมา คำพูดของคนเหล่านั้นก็แทบไม่ต่างกับที่เจพูดวันนี้ ทุกคนยกเอาความรักขึ้นมาอ้างตามด้วยน้ำตา แต่เขาก็สลัดทุกคนทิ้งไปโดยไม่ใยดี ในท่าทีของเจในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากบรรดาชายหนุ่มพวกนั้น

"ฉะนั้น...ทางเลือกเดียวของผมตอนนี้คือตัดใจและไปให้ไกลจากคุณ"

เสียงแผ่วเบาหลุดออกมาจากปากน้อยๆ ที่สั่นระริก

"...วางใจเถอะ ผมจะไม่มาฟูมฟายเรียกร้องให้คุณเก็บผมไว้หรอก ผมรู้ว่าแบบนั้นมันน่ารำคาญและรังแต่จะทำให้รู้สึกแย่ต่อกันไปเปล่าๆ"

เจปาดน้ำตาและเงยหน้ามองฆาเบียร์ด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว

"ทีนี้ เราคงเคลียร์กันแล้ว ผมไปได้หรือยัง? ผมจะรีบไปสนามบิน"

เขาไม่รอคำตอบจากฆาบี้ เขายันกายลุกขึ้น แต่ก็ซวนเซด้วยความอ่อนล้าที่ยังหลงเหลืออยู่ ก่อนที่เขาจะทันล้มไปวงแขนแข็งแกร่งของฆาเบียร์ก็โอบรัดร่างเพรียวบางของเขาไว้แน่น เจพยายามดิ้นรน

"ปล่อยผมเถอะ ฆาเบียร์ ให้ผมไปเถอะ"

เจอ้อนวอน ยิ่งฆาเบียร์ทำแบบนี้เขายิ่งตัดใจได้ยากขึ้น น้ำตาเขาไหลออกมาอีกครั้ง

"ไม่ เจ ฉันจะยังไม่ยอมให้นายไป"

เสียงทุ้มแหบกระซิบเบาๆ ริมฝีปากอุ่นๆ ของฆาเบียร์ที่คลึงเคล้าอยู่ที่บริเวณใบหูของเจนยุทธทำให้ใจที่แน่วแน่ของเขาอ่อนยวบลง

"ไม่จนกว่าฉันจะได้ยินนายพูดคำนั้นอีกครั้ง"

ฆาเบียร์หันร่างเพรียวให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา

"คำไหน ฆาเบียร์? ที่ว่าผมตัดใจไปจากคุณงั้นเหรอ? เอาสิ คุณจะฟังมันอีกกี่ครั้งก็ได้ ผมพอแล้ว ผมจะไปจากคุณ"

เจตะโกนลั่นใส่หน้าคนที่ยืนยิ้มละไมอยู่ตรงหน้า เขาคงมีความสุขมากนักสินะ

"ไม่ใช่ เจ...คำที่นายตะโกนใส่ฉันก่อนหน้านั้น..."

สายตาพริบพรายฉายแววเปี่ยมสุขของคนตัวโตทำให้เจนยุทธใจสั่น

"คำที่เริ่มต้นด้วยตัว L และลงท้ายด้วยตัว E เมื่อกี้ฉันได้ยินมันไม่ถนัด ขอฉันฟังอีกหนได้ไหม?"

เจหน้าแดงก่ำ ฆาเบียร์จะเล่นตลกอะไรกับเขาอีก? ไม่รักเขาแต่จะยังบังคับให้เขาพูดความรู้สึกตัวเองให้ฟังอีกอย่างนั้นเหรอ?

"ได้ ฆาเบียร์ ถ้ามันจะช่วยให้คุณได้เรื่องโจ๊กไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟังอีกเรื่องละก็ ได้ ผมจะให้ตามที่คุณขอ"

เจเค้นเสียงออกมาด้วยความร้าวรานใจ

"I love you, Javier...​อื๊อ"​


ไม่ทันจะพูดจบดี ริมฝีปากร้อนผ่าวของฆาเบียร์ก็ประกบทับริมฝีปากที่เผยอน้อยๆ ของเจนยุทธ ฆาเบียร์จูบ จูบ และจูบจนร่างในอ้อมอกเขาอ่อนระทวยลง ฆาเบียร์กอดร่างเพรียวนั้นไว้แน่น ตอนเขาได้ยินเจฟูมฟายออกมาแทนที่เขาจะรู้สึกรำคาญหรือเบื่อหน่ายเหมือนที่เคยรู้สึกกับคนอื่น เขากลับรู้สึกว่ามันช่างน่ารักน่าใคร่เหลือเกิน ยิ่งพอเจตะโกนบอกรักเขาทั้งน้ำตาเขายิ่งอยากจับเจจูบเสียให้หนำใจ แต่พอเจนยุทธบอกว่าจะไป หัวใจเขามันแทบจะหยุดเต้น ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้คนๆ นี้พ้นอกของเขาไปได้

เจซบหน้าลงกับอกของฆาเบียร์ ลมหายใจของเขาหอบถี่ สมองของเขาว่างเปล่าไปหมด จูบของฆาเบียร์ช่างดื่มด่ำและเต็มไปด้วยความอ่อนหวาน ถ้าเขาไม่ได้ยินสิ่งที่ฆาเบียร์พูดเมื่อคืนเขาคงนึกว่าฆาเบียร์เองก็รักเขาเช่นกัน เขานึกโมโหขึ้นมาอีกเมื่อนึกถึงสิ่งที่ได้ยิน เขาผลักอกกว้างนั้นเพื่อดันตัวออก แต่คนตัวโตไม่ยอมปล่อย

"ฆาเบียร์ ปล่อย คุณได้สิ่งที่ต้องการแล้วนี่"

เขาทุบไปที่อกแข็งแกร่งนั้น ฆาเบียร์ยกมือขึ้นจับมือของคนที่เข้าใจผิดไปหมดทุกอย่างไว้

"ไม่ เจ นายต้องฟังฉันก่อน"

สายตาคมวาวที่ฉายแววเฉียบขาดนั้นสะกดเจให้หยุดนิ่ง ฆาเบียร์ถอนหายใจ

"ใช่ ฉันบอกจอชว่าฉันเคยคิดว่านายเป็นตัวแทนของนพ..." เจขบกรามแน่น

"ฟังก่อนสิ..."

ฆาเบียร์ปรามคนที่ทำท่าจะปิดหูไม่ยอมฟังอะไรอีก

"...และฉันยอมรับว่าช่วงแรกๆ ที่ไปอยู่คอนโดเจ ฉันมีความคิดที่อยากจะได้ตัวเจเพราะอยากจะเอาชนะ"

เจแค่นหัวเราะและเบือนหน้าหนี ตอนนี้ฆาเบียร์ก็ได้เขาสมใจแล้วนี่

"แต่ยิ่งฉันได้ทำความรู้จักตัวตนแท้จริงของเจมากขึ้น ยิ่งได้เปิดใจให้แก่กัน ยิ่งได้เห็นน้ำใจกันและกันแล้ว ฉันยิ่งชอบเจมากขึ้นๆ..."

"...และก่อนจะทันรู้ตัวฉันก็ตกหลุมรักเจจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว"

เจนยุทธหันขวับกลับมามอง คนตัวโตนี่พูดบ้าอะไร คิดจะเล่นตลกอะไรกับเขาอีก เจจ้องลึกเข้าไปในตาคมคู่งามที่จ้องมองตาเขา ในนั้นมีแต่ความจริงใจ เจใจสั่นสะท้าน มันเป็นไปได้จริงๆ หรือ?


"Jay...I love you too. My dearest one"


เจนยุทธแทบจะละลายลงไปกับคำรักนั้น สายตาที่เปี่ยมรักของฆาเบียร์บอกเขาว่านั่นไม่ใช่คำลวง แต่ใจของเขานั้นยังดื้อด้าน จนกระทั่งฆาเบียร์โน้มกายลงจุมพิตเขาอย่างรักใคร่อีกครั้งความสงสัยนั้นจึงมลายหายไปในพริบตา

ตอนแรกฆาเบียร์ตั้งใจพูดคำรักภาษาไทยที่เขาเพียรท่องมาเกือบยี่สิบปี แต่พอมานึกว่านั่นเป็นคำที่เขาเคยเตรียมให้คนอื่นก็คงไม่เหมาะนักจึงใช้ภาษาที่ทั้งเขาและเจเข้าใจดีอย่างภาษาอังกฤษ ตอนแรกเขายังหวั่นๆ ว่าเจจะไม่ยอมเชื่อคำพูดของเขาจนกระทั่งริมฝีปากน้อยๆ นั้นเริ่มจูบเขาตอบเขาถึงสบายใจได้ว่าความรู้สึกของเขาส่งไปถึงใจของเจนยุทธแล้ว


"แล้วที่คุณคุยกับจอชเมื่อคืนนั่นมันอะไรกัน?"

เจที่นอนหนุนแขนล่ำสันของฆาเบียร์อยู่บนพื้นไม้ของสะพานเทียบเรือถามขึ้น ทั้งสองนอนห้อยขาเคียงข้างกันอยู่ที่ปลายสะพาน คลื่นจากทะเลที่เริ่มขึ้นสูงสาดซัดใส่เท้าของพวกเขา ท้องฟ้ามืดลงแล้ว ไฟดวงน้อยๆ บนสะพานติดขึ้น แต่ก็ยังมืดพอที่จะเห็นหมู่ดาวพราวพรายที่อยู่เบื้องบน ฆาเบียร์เล่าถึงบทสนทนาของเขากับจอชเมื่อคืน เจนยุทธหน้าร้อนวาบ นี่เขาฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด ฟังความไม่ครบยังไม่พอยังมโนสารพัดเป็นตุเป็นตะไปเรื่อยเปื่อยอีก เขาอายจนต้องก้มหน้ามุดอยู่กับอกของฆาเบียร์ผู้หัวเราะด้วยความชอบใจ

"ถามจริงๆ เถอะ เจ ที่เจบอกว่าจะหนีฉันไปน่ะ จะหนีฉันไปไหนกัน?" คนตัวโตกระเซ้าเขาใหญ่

"ก็...ก็กลับเชียงใหม่ไง"

เจตะกุกตะกัก ตอนนั้นเขาคิดอะไรไม่ออก รู้แค่ว่าอยากหนีออกไปจากตรงนี้

"เจจ๋า คอนโดเจฉันก็รู้จัก บ้านแม่เจฉันก็รู้จัก เพื่อนๆ เจฉันก็รู้จัก เจหนีฉันไปไม่พ้นหรอกนะ"

สายตาที่ส่งประกายยั่วเย้านั้นทำให้คนตัวเล็กหมั่นไส้ขึ้นมา เขาชกเบาๆ ไปที่อกของคนตัวโตที่ครางอู้แล้วทำท่าเจ็บมาก เจนยุทธใจหายวาบยันกายขึ้นดูแต่ก็ต้องหลับตาพริ้มลงเมื่อคนตัวโตดึงตัวเขาขึ้นไปประกบปากแน่น วันนี้เขาโดนจูบจนปากช้ำไปหมดแล้ว

"ฆาบี้ ผมขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหม?" เจซึ่งนอนซบอกกว้างถามขึ้นเบาๆ

"คุณรู้ตัวนานแค่ไหนแล้ว ว่าคุณรักผม" ฆาเบียร์ถอนหายใจ

"ตั้งแต่ที่ฮ่องกงแล้ว เจ ตอนนั้นเองที่ฉันรู้ตัวว่าฉันอยู่โดยขาดเจไม่ได้ แต่ถ้าจะถามว่าเริ่มรู้สึกพิเศษกับเจเมื่อไหร่ ก็ต้องบอกว่าตั้งแต่วันที่เรากินข้าวต้มที่เจทำด้วยกันนั่นแหละ"

ฆาเบียร์พูดยิ้มๆ เจนิ่วหน้า นั่นมันก็ตั้งแต่วันที่ 2 ที่ฆาเบียร์มาอยู่คอนโดเขาเลยนะ

"แล้วทำไมคุณไม่เคยบอกผมเลยว่าคุณรักผม"

คนที่ก็ไม่ยอมพูดคำรักออกมาเหมือนกันตัดพ้อคนตัวโต ฆาเบียร์ถอนหายใจหนักหน่วง

"ก็เจไม่ได้ชอบผู้ชายจะให้ฉันบอกออกไปได้ยังไง ถึงเราจะมีอะไรกันและเคมีเราเข้ากันได้แต่ฉันไม่แน่ใจว่าเจคิดตรงกันกับฉันหรือแค่ติดใจกับประสบการณ์ใหม่ๆ ฉันไม่อยากจะไปเร่งรัดเจและอยากรอจนเจพร้อมที่จะบอกรักฉันจริงๆ"

เจนยุทธถอนหายใจ ให้มันได้งี้สิ เขากับฆาเบียร์นี่จะเหมือนกันเกินไปหรือเปล่า?

"ผมก็คิดแบบเดียวกัน ผมไม่รู้ว่าที่คุณแสดงออกมาทุกวันนี้เป็นเพราะคุณรู้สึกกับผมจริงๆ หรือแค่ว่าผมเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่คุณเพิ่งเคยได้รับ อีกอย่าง ผมกลัว...ผมกลัวว่าผมจะรู้สึกแบบนี้อยู่เพียงฝ่ายเดียว ถ้าบอกไปแล้วคุณปฏิเสธผม ผมคงตายแน่ๆ" เจคิดในใจว่าอย่างวันนี้ก็เกือบไปแล้ว


"แล้วเรื่องพี่นพ..."

เจนยุทธถามขึ้นเบาๆ ฆาเบียร์ถอนหายใจ เจ้าตัวน้อยนี่ฝังใจกับอดีตของเขาเหลือเกิน เขายันกายขึ้น มองหน้าใสๆ ที่รอคอยคำตอบ

"เจ...เลิกห่วงเรื่องนพได้แล้ว นพคนที่ฉันเคยรักนั้นไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ฉันคนนี้ก็ไม่ใช่คนเดิมเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน เอาเข้าจริงๆ ความรู้สึกที่ฉันมีตอนที่มากรุงเทพฯ มันคือความรู้สึกผิดและความรู้สึกติดค้างจากเมื่อตอนนั้น เข้าใจไหม?"

"อีกอย่าง ฉันก็ไม่อยากไปแย่งของใคร วัฒน์เป็นคนดี เขาน่าจะทำให้นพมีความสุขได้มากกว่าฉันนะ"

ฆาเบียร์พูดยิ้มๆ เจนยุทธพยักหน้าเห็นด้วย


"คุณครับ น้ำขึ้นสูงแล้ว ลงมาได้แล้วครับ"

เสียงคนตะโกนพร้อมลำแสงจากไฟฉายกวัดแกว่งเรียกพวกเขา ทั้งสองรีบลุกขึ้น น้ำขึ้นสูงแล้วจริงๆ พวกเขารีบสาวเท้าเดินไปตามสะพานยาวนั้น รปภ.โรงแรมยืนรอเขาอยู่ตรงกลางสะพาน พวกเขาเดินมาถึงบันไดคอนกรีตน้ำท่วมสองขั้นสุดท้ายไปแล้ว

"เดี๋ยวเดินบนแท่นคอนกรีตตรงนี้ด้วยนะครับ จะได้ไม่ต้องเปียกมาก"

รปภ.บอกด้วยความหวังดี

"ไงก็ต้องเท้าเปียกอยู่ดีสินะ"

เจบ่นเบาๆ แล้วก็ต้องร้องลั่นเมื่อคนตัวโตยกตัวเขาแบกขึ้นบ่าเดินลุยน้ำไปที่หาดทราย เขาปล่อยเจลงเมื่อถึงฝั่ง พวกเขาขอบคุณรปภ.แล้วพากันเดินกลับไปที่ห้องพัก


เมื่อมาถึงห้อง ฆาเบียร์พาเจเดินมาที่โต๊ะทำงานน้อยและให้ลงนั่ง บนโต๊ะนั้นอัลบั้มรูปของเขายังกางอ้าอยู่โดยมีรูปของนพกับฆาเบียร์วางเด่นอยู่บนนั้น ฆาเบียร์หยิบรูปนั้นส่งให้เจ

"ฉันยกให้ เจจะเอาไปเก็บ เอาไปทิ้ง เอาไปทำลายยังไงก็ตามสบายเลย"

เจนยุทธส่งรูปคืนให้ฆาเบียร์ทันที

"คุณเก็บไว้เถอะ ฆาบี้ ยังไงรูปนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำของคุณ อีกอย่าง ในตอนนี้เมื่อเราชัดเจนกับความสัมพันธ์ของเราแล้ว เรื่องนี้จะไม่ใช่ปัญหาของเราอีกต่อไป"

ฆาเบียร์รับรูปนั้นมาใส่ไว้ในหน้าที่ว่างอยู่ของอัลบั้ม จริงอยู่ที่ในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมาเขาเอารูปนี้ออกมาจากที่เก็บและพกติดตัวไว้ตลอด แต่เมื่อเขาได้พบเจและแน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง เขาก็เอารูปนี้มาเสียบทิ้งไว้ในอัลบั้มเพื่อรอเอาไปเก็บไว้ในกล่องเดิมที่มันเคยอยู่มาสิบกว่าปี

ฆาเบียร์เปิดอัลบั้มรูปให้เจดูต่อ หลังจากรูปที่วิทยาลัยก็เป็นรูปฆาเบียร์สมัยทำงานใหม่ๆ เจหัวเราะรูปช่วงที่เขาเข้าโหมดเนิร์ดหนุ่มหัวฟูใส่แว่นตากรอบหนาถ่ายกับพ่อแม่และคริสที่หน้าบริษัท ฆาเบียร์อมยิ้ม

"นี่เป็นรูปสุดท้ายที่ฉันถ่ายกับพ่อและแม่ก่อนเครื่องบินตกไม่กี่วันน่ะ"

รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าเจนยุทธ ฆาเบียร์ลูบหัวคนตัวเล็กที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

"ไม่เป็นไรๆ ฉันโอเค เราดูรูปต่อกันเถอะ"

จากนั้นก็เป็นรูปเขาที่เปลี่ยนไปเป็นหนุ่มเนี้ยบถ่ายกับคริสและเมลิน่าที่ยังสาวพริ้ง พวกเขาเปิดอัลบั้มไปอีกสองสามหน้า

"เอ๊ะ!"

เจนยุทธอุทาน ช่วงท้ายๆ ของอัลบั้มนั้นเต็มไปด้วยรูปของเขาไม่ว่าจะเป็นรูปแรกที่เขากับฆาเบียร์ถ่ายด้วยกันที่กรุงเทพฯ โดยมีนพและวัฒน์ในรูปด้วย รูปเขานอนหลับพริ้มบนอกของฆาเบียร์ รูปที่พวกเขาไปเที่ยวม่อนแจ่มด้วยกัน รูปที่อิ่มแอบถ่ายเขาทั้งคู่ตอนอยู่ที่บ้าน รูปครอบครัวของเขา ฆาเบียร์ปรินท์ใส่กระดาษอัดรูปและนำมาใส่ไว้ในอัลบั้มทั้งหมด

"เราน่ะใจร้อน"  ฆาเบียร์พูดยิ้มๆ

"ถ้าเปิดดูจนครบทั้งอัลบั้มฉันก็คงไม่ต้องเหนื่อยแล้ว"

เจทำหน้าจ๋อย ฆาเบียร์จุ๊บที่แก้มใสๆ นั้นเบาๆ

"แต่อย่างน้อยก็ได้ยินคำว่ารักจากปากเจ ก็ถือว่าคุ้มเหนื่อยแล้ว"

ฆาเบียร์โอบไหล่บางแต่แข็งแรงนั้นและซบหน้าลงไป


"ฆาเบียร์ครับ"

เจนยุทธปิดอัลบั้ม เขาดึงมือคนตัวสูงให้มานั่งประจันหน้ากันบนเตียง ฆาเบียร์คิดว่า อีกแล้ว...เจเข้าโหมด 'We need to talk' อีกแล้ว คราวนี้จะเรื่องไหนอีกล่ะ

"ตอนนี้สรุปว่า คุณรักผมและผมก็รักคุณ" ฆาเบียร์พยักหน้า

"...งั้น มันคงจะไม่เป็นการขอมากเกินไปใช่ไหม ถ้าผมไม่อยากให้ระหว่างเรามันเป็นแค่เรื่องเซ็กส์อีกต่อไป"

ฆาเบียร์แทบอยากกุมขมับ เขาอยากจะบ้าตายกับไอ้ตัวเล็กนี่จริงๆ

"เจ สำหรับฉันมันไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์มานานมากแล้ว ฉันรักเจ จำไม่ได้เหรอ หรือว่าที่ผ่านมาเจคิดกับฉันแค่เรื่องเซ็กส์?"

ฆาเบียร์ย้อนถาม เจหน้าแดงซ่าน

"จะบ้าเหรอ ผมไม่ได้มีรสนิยมเอาอะไรไปทิ่มตูดผู้ชายหรอกนะ คุณเองก็ตัวโตอย่างกับหมี ไม่ได้บอบบางน่ารักน่าใคร่เลยสักนิด ถ้าไม่ได้คิดอะไรด้วยผมก็ทำอะไรไม่ลงหรอก...ส่วนไอ้ครั้งแรกน่ะ ไม่นับ" เจบ่นอุบอิบ

"สำหรับฉัน ที่ปล่อยให้เจทำนั่นทำนี่มาตลอดน่ะ ก็เพราะเจเป็นคนพิเศษสำหรับฉัน เข้าใจไหม? ถ้าคิดแค่เรื่องเซ็กส์ ฉันก็จับเจกดนานแล้ว"

ฆาเบียร์ดึงแก้มใสๆ ของเจอย่างมันเขี้ยว

"งั้น ตอนนี้เราเป็น...เอ่อ...เป็นแฟนกันเหรอ?" เจนยุทธถามซื่อๆ

"แฟน คนรัก คู่ชีวิต เลือกมาเลยว่าเจอยากเป็นอะไร คำเรียกมันไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือความรู้สึกของเราทั้งสองคนต่างหาก"

เจพยักหน้าเห็นด้วย

"...ตราบใดที่ฉันกับเจยังมีความรู้สึกให้กันเหมือนทุกวันนี้ เราไม่ต้องให้คำจำกัดความความสัมพันธ์ของเราหรอก แต่ถ้าเจอยากจะเรียกฉันว่าแฟน ฉันก็ไม่ว่านะ"

ฆาเบียร์ยิ้มกว้างให้คนที่นั่งหน้าแดงอยู่ตรงหน้า

"แฟนที่ไหนล่ะ คุณน่ะเมียผม"

เจพูดอุบอิบ ฆาเบียร์หัวเราะ

"เจจ๋า เจก็เป็นเมียฉันเหมือนกันนะ"

ฆาบี้ส่งสายตากรุ้มกริ่มให้เมียหมาดๆ ของเขาที่ก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย

"Mí​a..." 

ฆาเบียร์พูดว่า 'มิอา' ด้วยเสียงอ่อนหวาน เจนยุทธจุ๊ปาก

"ไม่ๆ ออกเสียงติดกันไปเลย เมีย ไม่ใช่ มิอา" ฆาเบียร์ยิ้มกว้างแล้วดึงคนตัวเล็กให้ล้มลงหนุนตักเขา

"Mí​a​ เป็นคำสรรพนามแปลว่า Mine 'ของฉัน' ในภาษาสเปนไงล่ะ เจ" เจขมวดคิ้ว

"เอ แต่มันเอาไว้ใช้กับผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?...เอ่อ พอดีผมเคยอ่านเจอน่ะ"

เขาเกือบลืมไปว่าฆาบี้ยังไม่รู้เรื่องที่เขาไปเรียนภาษาสเปนมา

"มันจะได้พ้องกับคำว่าเมียไง ใช่ไหมจ๊ะ Mí​a​?"

เจนยุทธหน้าแดง คำนั้นช่างฟังดูอ่อนหวานนัก ทั้งสองนั่งคุย พูดคำหวาน นั่งสัพยอกหยอกล้อกันครู่ใหญ่แล้วถึงชวนกันไปอาบน้ำแช่ตัวให้หายเมื่อยล้าและเข้าสู่นิทรากันอย่างสุขสม


เจนยุทธตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นเพราะได้หลับเต็มอิ่ม เมื่อคืนฆาเบียร์ไม่ได้กวนเขาที่ยังอ่อนเพลียจากอาการไข้ พวกเขาทั้งคู่แค่หลับไปในอ้อมแขนของกันและกันเพียงแค่นั้น เจมองหาฆาเบียร์ที่ข้างกายแต่คนตัวโตก็ไม่อยู่ แต่เขากังวลอยู่ไม่นานร่างกำยำของฆาเบียร์ก็เดินออกมาจากห้องแต่งตัว

"ตื่นแล้วเหรอ เจ?"

ฆาเบียร์เดินมาจุ๊บเบาๆ ที่ปากเจนยุทธแบบไม่ทันให้รู้ตัว

"มอร์นิ่งคิสครับ Vida mí​a​"

​ฆาเบียร์เรียกเขาด้วยคำภาษาสเปนที่เทียบได้กับคำว่า "ที่รัก" หรือแปลตรงตัวได้ว่า "ชีวิตของฉัน"​​​​​ เจหน้าแดง นี่แหละเขาถึงต้องไปแอบเรียนภาษาสเปนมา ชอบหยอดเขาเป็นภาษานี้จริงๆ


"เจ..."

ฆาเบียร์เรียกเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาทรุดตัวลงนั่งบนเตียงเคียงข้างเจ ในมือเขามีกล่องกำมะหยี่สีขาวเก่าคร่ำคร่าใบน้อยใบหนึ่ง

"ตอนนี้เราเป็นของกันแล้วกันโดยสมบูรณ์แล้วนะ"

เจตอบรับเสียงแผ่วเบา

"ฉันอยากให้เจรู้ว่าในตอนนี้ฉันรักเจมาก รักมากกว่าสิ่งใด"

เจนยุทธหัวใจพองโตไปกับสิ่งที่ได้ยิน

"...และเผื่อเจจะยังสงสัยในตัวฉัน ฉันขอบอกให้แน่ชัดไปเลยว่าสำหรับฉันเจไม่ใช่ตัวแทนของใคร"

ประโยคถัดไปของฆาเบียร์ทำให้เจเขินจนแทบจะแทรกไปกับที่นอน

"ถ้าจะเป็นก็เป็นแค่ตัวแทนของอีกครึ่งหนึ่งของหัวใจและวิญญาณฉันนั่นแหละ"

ฆาเบียร์พูดประโยคที่เขาเองไม่เคยคิดจะพูดกับใครในชีวิต คำพวกนี้ที่เขาเคยคิดว่ามีแค่ในเตเลโนเบล่าหรือละครน้ำเน่าแบบละตินอเมริกา แต่มันเหมาะที่สุดแล้วสำหรับบรรยายความรู้สึกของเขาในตอนนี้

ฆาบี้เปิดกล่องกำมะหยี่นั้น ด้านในเป็นต่างหูอัญมณีสีน้ำเงินเข้มเม็ดเดี่ยวที่ฆาเบียร์มักใส่ติดหูโดยเฉพาะเวลาที่ต้องออกงาน เขาหยิบมันออกมาข้างหนึ่ง

"ต่างหูคู่นี้เป็นของดูต่างหน้าแม่ของฉัน มันเป็นคู่ที่แม่รักที่สุด ยายของฉันให้แม่มาตอนวันเกิดครบ 16 ปี..."

ฆาเบียร์ดึงก้านไม้น้อยๆ ที่เจใส่ติดหูข้างซ้ายไว้และแทนที่มันด้วยต่างหูข้างนั้น

"ฉันขอมอบข้างหนึ่งให้กับเจเป็นเครื่องหมายแทนใจของฉัน"

เขาหยิบอีกข้างหนึ่งขึ้นใส่ที่หูขวาของตัวเอง

"ตอนนี้เราก็เป็นครึ่งหนึ่งของกันและกันแล้วนะ เจนยุทธ"

เจโผเข้าอ้อมอกของเมียตัวโตของเขาและพรมจูบไปทั่วใบหน้าและจบลงที่ริมฝีปากบางอันร้อนผ่าวนั้น ฆาเบียร์รับจูบนั้นและจูบตอบอย่างอ่อนโยน เขาโล่งใจที่ในที่สุดพวกเขาทั้งสองก็ชัดเจนในเรื่องความสัมพันธ์เสียที  ทั้งสองแลกเปลี่ยนความรักกันอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่จะมีสิ่งหนึ่งมารบกวน


'โครกกกกกกกกกกกกกก'


เสียงท้องน้อยๆ ของเจนยุทธร้องลั่น เจ้าตัวที่แทบจะไม่ได้กินอะไรเลยในวันที่ผ่านมาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ในขณะที่ฆาเบียร์หัวเราะหนักจนลงไปนอนตัวงอบนเตียง ตั้งแต่อยู่กับเจมาเขาหัวเราะและยิ้มมากขึ้นกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมามาก เขาลุกขึ้นเช็ดน้ำตาที่เกิดจากการหัวเราะแล้วบอกเจ

"งั้น เราไปอาบน้ำอาบท่ากันแล้วค่อยออกไปหาข้าวกินกันนะ"


-----------------------------------------------------


เจมันชอบมโนไปเอง อย่าพึ่งรำคาญนะคะ แต่เรื่องความเวิ่นเว้อในความสัมพันธ์น่าจะเคลียร์จบไปตอนนี้แล้วค่ะ ตอนต่อๆ ไปก็กลับมาหวาน มากินเหมือนเดิมละค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2017 07:57:11 โดย La Vida Sin Tu Amor »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เคลียร์กันแล้ว ดีนะที่เจไม่หนีเตลิดไปเสียก่อน รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1


---- "Mi Paraíso... ----



"ผมมีความสุขจัง ฆาบี้"

เจนยุทธร้องครางออกมาดังๆ ฆาเบียร์ยิ้มละไมมองหน้าคนตัวเล็กที่มีสีหน้าเหมือนล่องลอยไปสู่สวรรค์ พวกเขาไม่ได้อยู่บนเตียงนุ่มหรือส่วนไหนในห้องโรงแรมแต่อยู่ที่ร้านอาหารท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ตรงหน้าทั้งสองมีอาหารอยู่เต็มโต๊ะ เจคีบเนื้อปลาจาระเม็ดสดๆ ลงจุ่มในหม้อลวกจนสุกพอดี เขาคีบจะเอาใส่จานให้ฆาเบียร์แต่คนตัวโตส่ายหัว

"ไม่กินเหรอ? อร่อยนะ ปลานะ กินแล้วไม่อ้วน"

เจบอก เขาชิมไปชิ้นนึงแล้ว ปลาจาระเม็ดที่นี่สดมาก ไม่คาวเลยสักนิด ​คนตัวโตบอกว่าไม่ใช่ไม่กิน แต่เขาอยากให้เจป้อนหน่อย เจนยุทธอึ้งกับคำขอนั้นแต่ก็คีบเนื้อปลาจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดให้นิดหน่อยแล้วป้อนให้ฆาเบียร์ที่อ้าปากรับโดยดี

"อืมม์ เนื้อปลาหวานอร่อยอย่างที่เจพูดจริงด้วย" ฆาเบียร์ยิ้มกว้าง

"ยิ่งมีเจป้อนให้กิน ยิ่งอร่อยไปหมด เจรู้ไหม ช่วงเดือนกว่าที่ผ่านมาฉันกินข้าวไม่อร่อยเลย พอไม่ได้กินกับเจอะไรก็จืดชืดไปหมด"

ฆาเบียร์อ้อนคนรักของเขา เจหน้าแดง เขาเกลียดคนปากหวานจริงๆ แต่เขาก็อดห่วงไม่ได้

"มิน่าล่ะ ผมว่ามารอบนี้คุณดูซูบๆ ไปนะ รักษาสุขภาพด้วย"

เจที่เป็นห่วงอยู่ตลอดว่าฆาเบียร์จะกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนอีกติงขึ้น ฆาเบียร์กุมมือคนตัวเล็กไว้และมองลึกเข้าไปในตาของเจ

"ไม่ต้องห่วง เจ ฉันจะรักษาสุขภาพให้ดีที่สุดเพราะว่าตัวฉันตอนนี้ไม่ได้เป็นแค่ของฉันคนเดียวแล้ว"

เจแทบจะละลายไปกับสายตาหวานเชื่อมนั่น ฆาเบียร์ขยันป้อนคำหวานเขามาตลอดทางตั้งแต่ออกจากโรงแรมมาเหมือนกลัวว่าเขาจะยังไม่มั่นใจในความรู้สึกของฆาเบียร์

"พอๆๆ ผมชักเริ่มเลี่ยนแล้ว กินข้าวกันเถอะ"

เจคีบเนื้อปลาลงจุ่มในหม้อต้มให้ตัวเองอีกชิ้นหนึ่ง เขาตักน้ำซุปใส่ถ้วยแล้วใช้ช้อนตักขึ้นซด

"อืมม์ น้ำซุปอร่อยมากเลย คุณชิมสิ" เขาตักป้อนฆาเบียร์คำหนึ่ง

"อร่อยจริงๆ ด้วย รสชาติกำลังดีและหอมพริกไทยมาก น้ำจิ้มก็อร่อยนะ เจ"

"ดีนะ ที่เราขอให้คุณสุเขาแนะนำร้านให้ ผมว่าร้านนี้รสชาติโอเคเลย อย่างน้อยก็ไม่หวาน ถูกปากผมมากกว่า"

เจที่มาจากเชียงใหม่เข็ดแล้วกับร้านอาหารแนะนำของคนกรุงเทพฯ คนบ้านเขากินอาหารที่รสหวานน้อยกว่าทางกรุงเทพฯ เลยมักจะรู้สึกว่าอาหารร้านแนะนำพวกนั้นไม่ค่อยถูกปาก เขาเคยคุยกับฆาเบียร์เรื่องนี้ พวกเขาได้ข้อสรุปกันว่าสุดท้ายแล้วเรื่องการกินก็เป็นความชอบเฉพาะบุคคลไม่มีคำว่าอร่อยหรือไม่อร่อยตายตัว มีแต่ถูกปากหรือไม่ถูกปาก พวกรีวิวทั้งหลายนั้นเป็นเหมือนไกด์ไลน์ไว้แนะนำร้านอาหารมากกว่า แต่ส่วนกินแล้วจะชอบหรือไม่นั้นคนกินเองคือผู้ตัดสินใจ



"ร้านนี้ชื่ออะไรนะ เจ?"

ฆาเบียร์ถาม เขากำลังจดโน้ตอาหารที่กินในวันนี้ลงในสมุดน้อยๆ ที่พกติดตัวเป็นประจำ

"ครัวชาวบ้าน อยู่หาดละไมนะ"

เจบอก เขาตักอาหารประเภทยำใส่จานให้ฆาเบียร์

"ชิมนี่ก่อน ฆาเบียร์ ยำไข่ปูม้าทอดกรอบ"

ฆาเบียร์ตักชิม อืมม์ รสสัมผัสของไข่ปูมันๆ ที่เอาไปทอดให้กรอบนิดๆ นั้นเข้ากับน้ำยำรสเปรี้ยวและเสริมด้วยเส้นมะม่วงเปรี้ยวๆ เจสั่งให้ลดเผ็ดลงหน่อยเพื่อสวัสดิภาพของตัวเขาเองและฆาเบียร์ เจมองคนตัวโตที่ตักซ้ำอย่างติดใจแล้วแซวว่าให้ระวังคลอเรสเตอรอลจะขึ้น แต่เหมือนฆาเบียร์จะไม่สนใจแล้ว เดี๋ยวเขาค่อยไปคุมเอามื้ออื่นแล้วกัน เจยกส่วนกรรเชียงของปูดำผัดพริกไทยดำขึ้นแทะอย่างเมามัน เด็กดอยอย่างเขาแกะปูไม่เก่ง ถ้าขี้เกียจนักก็ยกขึ้นแทะแล้วคายเปลือกออกทีหลัง ฆาเบียร์หัวเราะท่าทางของเจนยุทธ

"ผมดีใจจังเลยที่ได้กินปูสดๆ หวานๆ ซะที แถวเชียงใหม่หากินยาก ถ้าสดๆ ดีๆ ก็แพงลิบลิ่วไปเลย"

เจโอดครวญ ปูทะเลขนาดใหญ่ที่เชียงใหม่ตามร้านอาหารก็ราคาหลักพันขึ้น ถ้าอยากได้ถูกหน่อยก็ต้องไปซื้อที่ตลาดมาทำเองซึ่งเขาก็ทำไม่เป็น แต่เขาก็บอกฆาเบียร์ว่าที่จริงราคาตามร้านริมทะเลในแหล่งท่องเที่ยวพวกนี้ก็ไม่ใช่ถูก แทบจะเท่าที่เชียงใหม่ด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยของที่ได้มาก็ยังถือว่าสดมากๆ เมื่อเทียบกับแถวบ้านเขา



"อย่างปลาจาระเม็ดหม้อไฟเนี่ย ตัวนึง 450 บาท ผมก็ว่าไม่แพงอ่ะสำหรับปลาที่เนื้อสดหวานขนาดนี้ ขนาดก็กำลังพอดีสำหรับกิน 2 คน จริงๆ ผมอยากกินเต๋าเต้ยนะ แต่ที่ร้านนี้ไม่มี"

เจพูดถึงเต๋าเต้ยที่บางคนเรียกว่าปลาจาระเม็ดน้ำลึก เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันคือปลาอะไรแน่

"วันนั้นที่เสบียงเลผมก็เห็นมีเต๋าเต้ยอยู่แต่ไม่ได้สั่งเพราะกลัวว่าจะกิน 2 คนไม่หมด ตัวมันจะใหญ่หน่อยแล้วก็แพงน่าจะโลประมาณ 1,500 - 1,800 ผมก็จำไม่ได้"

"แต่ที่เชียงใหม่น่ะ แพงกว่านั้นอีก ผมเคยไปกินกับพี่นพสองคนที่ร้านดังที่เชียงใหม่ น่าจะโลประมาณ 1,900 หรือ 2,100 นี่แหละ เรียกว่าทั้งมื้อกินแค่เต๋าเต้ยอย่างเดียวกับอาหารอื่นอีกอย่างหรือสองอย่างพอ"

ฆาเบียร์มองหน้าอย่างรู้ทันว่าถ้าสองคนนั้นรวมทีมกันรับรองไม่มีทางกินแค่นั้นแน่ เจทำไม่รู้ไม่ชี้จิ้มหอยแครงลวกที่สุกกำลังดีเข้าปาก เขาทำหน้าฟิน เขาถามฆาเบียร์ว่าจะกินไหมแต่รายนั้นปฏิเสธ เขาเคยลองกินแล้วไม่ชอบรสชาติที่มีกลิ่นคาวเลือดชัดเจนของมันนัก เขาตักอาหารประเภทต้มกะทิอย่างหนึ่งขึ้นชิม

"เออ นี่อร่อยดีนะ มันคืออะไรเหรอ เจ?"

"อ๋อ จานนี้เมื่อกี้พนักงานเสิร์ฟเขาแนะนำมาน่ะ เรียกว่า 'วายคั่ว' คือปลาหมึกสายตัวเล็กต้มกับกะทิและสมุนไพรอย่างตะไคร้ ผมว่าอร่อยดีนะ เค็มๆ แล้วก็หวานกะทิ"

เจนยุทธมองฆาเบียร์ที่กินเอาๆ อย่างชอบใจ ที่จริงอาหารที่สั่งมาวันนี้มีแต่ของมันๆ แถมไม่มีผักสักนิด แต่เมียตัวโตของเขาเหมือนจะปรับตัวกับสไตล์การกินของเขาได้แล้วและไม่ได้บ่นมากเหมือนเมื่อก่อน ถ้าเทรนอีกหน่อยก็คงเป็นคู่กินที่ดีของเขาได้ แต่ก่อนอื่นต้องทำให้ฆาเบียร์เลิกกินน้อยเหมือนแมวดมแบบตอนนี้ให้ได้ก่อน เจตักอาหารถมเพิ่มไปในจานของฆาบี้และกำชับให้กินเยอะๆ ซึ่งเจ้าตัวได้แต่ทำตาปริบๆ และกินเข้าไปโดยดุษฎี



"ถ้าฉันอ้วนขึ้นมาแล้วอย่าบ่นนะ เจ"

ฆาเบียร์โอดครวญขึ้น เขาอุตส่าห์ระวังเรื่องอาหารการกิน แต่พอกลับมาเจอเจทีไรเขาก็ตบะแตกทุกที

"น่า...แล้วเราค่อยมาออกกำลังกายกันทีหลัง"

เจนยุทธพูดยิ้มๆ และใช้ปลายเท้าไล้หลังเท้าของฆาเบียร์เบาๆ เท่านั้นแหละคนตัวโตก็รีบกินของที่เขาตักให้จนหมด

เจแทะโครงปลาจาระเม็ดที่ต้มมากับน้ำซุปเสียจนสะอาดไม่เหลือเนื้อติดสักนิด เขายกน้ำซุปในถ้วยขึ้นซดจนหมดแล้วระบายลมหายใจออกมาอย่างสุขสม วันนี้เขาอิ่มเอมกับอาหารมื้อนี้จริงๆ ฆาเบียร์เองก็อิ่มหนำเช่นกัน

"นี่ ไว้เรามากันใหม่นะ รอร่างกายผมพร้อมกว่านี้ก่อน ผมจะมาจัดหนักอาหารใต้แบบเผ็ดๆ เลย"

เจทำหน้ามุ่งมั่น วันนี้เขาสั่งแต่ของเผ็ดน้อย แต่เขาเล็งอาหารอื่นไว้แล้ว ร้านนี้ต้องกลับมาซ้ำแน่นอน ฆาเบียร์สั่งคิดเงินซึ่งโดนเจนยุทธแย่งจ่ายอีกตามเคย จากนั้นก็เดินเคียงคู่กันออกไปขึ้นรถกลับโรงแรม

]
(ftp://www.picz.in.th/images/2017/09/04/kruachaoban1.jpg[/img)


"ฆาเบียร์ เราจะอยู่ที่นี่กันอีกกี่วัน?"

เจที่เพิ่งขึ้นจากสระว่ายน้ำถามฆาเบียร์ วันนี้เป็นวันที่ 4 ที่เขามาอยู่ที่นี่แล้ว

"อาปาเหมือนจะจองห้องไว้ 7 คืนนะ ถ้านับคืนแรกที่ฉันเข้าพักก่อนเจแล้ว เราเหลือเวลาที่นี่อีก 3 คืน ทำไมเหรอ?"

เจบอกว่าเขาเริ่มห่วงบ้านแล้วเหมือนกัน แต่ก็มีอีกเหตุผลหนึ่ง

"งั้น...เราก็มีเวลาด้วยกันอีกแค่ 3 คืนเองสินะ"

เจนยุทธทำหน้าสลด ไม่รู้รอบนี้ฆาเบียร์จะไปนานแค่ไหน เขาเดินไปนั่งตักฆาเบียร์ที่เอนนั่งบนเตียงอาบแดดแล้วซบหน้าลงกับอก ฆาเบียร์กอด คนตัวเล็กของเขาไว้แน่น เขาซ่อนยิ้มไว้ จริงๆ แล้วเขามีเซอร์ไพรส์ให้เจอีกอย่าง แต่ตอนนี้เขายังไม่บอกไปหรอก

"ใช่ เจ ฉะนั้นเราต้องใช้เวลาทั้ง 3 คืน 4 วันนี้ให้คุ้มค่านะ"

ฆาเบียร์ยิ้มกรุ้มกริ่ม มือไม้เขาเริ่มอยู่ไม่สุขก่อนที่จะอุ้มเจที่ตัวอ่อนระทวยกลับเข้าห้องไป



เจนยุทธนั่งหน้าแดงก่ำต่อหน้าคริสที่ซักพวกเขายิ้มๆ ว่าทำไมถึงปล่อยให้เขารอเก้อ คริสนัดพวกเขากินน้ำชายามบ่ายซึ่งก็เป็นสิทธิประโยชน์หนึ่งของคลับ อินเตอร์คอนติเนทัล แต่ฆาเบียร์นั้นมัวแต่ยุ่งกับการทำให้เจถึงสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่าจนลืมนัดกับคริสไปเสียสนิท พวกเขามาพบกับคริสเพื่อดื่มค้อกเทลช่วงเย็นและชมพระอาทิตย์ตกแทน

"เอ่อ เรามัวแต่เล่นน้ำเพลินจนลืมเวลาครับ อาปา"

เจตอบ เขาไม่ได้โกหกนะ แค่บอกไม่ครบ หลังจากฆาเบียร์บริการเจนยุทธด้วยมือและปากจนพอใจแล้ว พวกเขาที่ซื้อกางเกงว่ายน้ำใหม่กันมาแล้วก็ลงไปเล่นน้ำที่หาดต่อจนลืมนัดไปเสียสนิท เมื่ออยู่ที่หาด เจมองเมียตัวโตของเขาด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน จริงอยู่ที่ใส่กางเกงเซิร์ฟมันไม่ได้รัดรึงเท่ากับกางเกงว่ายน้ำ แต่เมื่อเปียกมันก็ยังเห็นสัดส่วนบางอย่างชัดเจนอยู่ดี ฆาเบียร์เองก็ขัดใจเสื้อยืดขาวบางที่เจนยุทธใส่ ตอนที่เจโผล่มาจากน้ำโดยที่เสื้อบางๆ นั้นเปียกจนแนบเนื้อเห็นตุ่มไตสีทับทิมรำไรผ่านเนื้อผ้าบางนั้น เขานี้แทบขาดใจ มันเร้าอารมณ์กว่าตอนถอดเสื้อให้เห็นเม็ดทับทิมคู่นั้นชัดๆ เป็นไหนๆ เขาอดไม่ได้ต้องจับเจถอดเสื้อตัวนั้นทิ้งไปก่อนที่จะมีคนอื่นมองคนรักของเขา ทั้งสองเล่นน้ำอยู่พักใหญ่ถึงนึกได้ว่านัดคริสไว้

"อาปาจะกลับพรุ่งนี้แล้วจริงๆ เหรอครับ?" เจทำตาละห้อยถามคริส

"เร็วจัง พวกเรายังไม่ค่อยได้คุยกันเลย"

คริสยิ้มละไมดูลูกชายคนใหม่ของเขาบ่นอุบอิบ

"เราเองเถอะ มีเวลาให้อาปาเหรอ?"

เจและฆาเบียร์หน้าแดง คริสเหลือบมองต่างหูคู่โปรดของคาตาลิน่าบนหูของเจนยุทธและฆาเบียร์​แล้วยิ้มกว้างออกมาโดยไม่รู้ตัว เขารู้ว่าต่างหูคู่นี้สำคัญสำหรับฆาเบียร์แค่ไหน และการที่เขามอบมันให้เจครึ่งหนึ่งนั้นแสดงว่าเขาพร้อมที่จะใช้ชีวิตกับคนๆ นี้ไปตลอดชีวิตแล้ว

"ต่างหูสวยนะ เจ"

คริสกระเซ้าเจที่เขินก้มหน้างุดอยู่กับอก แล้วหันไปพูดกับฆาบี้

"ตกลงว่าเราเลือกแล้วสินะ"


ฆาเบียร์คว้ามือเจมากุมกระชับแน่นและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังกับอาปาของเขา

"ครับ อาปา ต่อไปนี้เจคือคู่ชีวิตของผม แต่จริงๆ น่าจะเรียกว่าเจเป็นฝ่ายเลือกผมมากกว่านะ"


ฆาเบียร์พูดยิ้มๆ แล้วหันไปหอมแก้มแดงๆ ของเจที่นั่งฟังอย่างงงๆ เมื่อสองคนพูดกันเป็นภาษากวางตุ้งที่เขาฟังไม่ออก นี่เขาต้องไปเรียนภาษาใหม่อีกภาษาไหมนะ?



วันที่ 6 ในสมุยของทั้งสองคน พวกเขาใช้เวลาตอนเช้าอ้อยอิ่งกอดจูบลูบไล้ป้อนคำรักให้กันและกัน ก่อนจะขึ้นไปกินอาหารเช้าที่ห้องอาหาร จากนั้นพวกเขาพากันไปส่งคริสและริคกี้ที่สนามบินสมุย คริสทำท่าอาลัยอาวรณ์ลูกชายคนใหม่ของเขามากกว่าฆาเบียร์ที่โอดครวญว่าเขาตกกระป๋องไปเรียบร้อยแล้ว

"อาปาจะกลับสหรัฐฯ เลยเหรอครับ?"

เจถาม เขายืนเช็ดน้ำตาป้อยๆ เพราะไม่รู้จะได้เจอคริสซึ่งไปๆ มาๆ ฮ่องกง แคลิฟอร์เนียอีกทีเมื่อไหร่

"ใช่ ฉันจะอยู่ฮ่องกงอีกคืนหนึ่งแล้วจะกลับบ้าน แต่ไม่แน่นะ เจ เดี๋ยวเราอาจจะเจอกันอีกทีช่วงคริสต์มาสหรือปีใหม่ก็ได้"

คริสทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะโบกมือลาลูกๆ ทั้งสองของเขา เจกับฆาเบียร์กลับไปที่โรงแรมและพากันไปเล่นกิจกรรมทางน้ำที่ทางโรงแรมมีให้ เจหัวเราะร่าเมื่อเขาแกล้งคว่ำเรือคะยัคที่ทั้งเขาและฆาเบียร์พายอยู่ด้วยกัน แต่ก็ต้องหน้าซีดและโดดลงไปตามเมื่อไม่เห็นฆาบี้โผล่ขึ้นมาสักที แต่สุดท้ายเขาก็ถูกคนเจ้าเล่ห์ที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำคว้าตัวไว้

"อื๊อ ฆาเบียร์"

เจนยุทธครางฮือออกมาเมื่อมือไม้ของคนเจ้าเล่ห์ลวนลามเขาอย่างย่ามใจ

"เรือลอยไปนู่นแล้ว"

เขากลั้นใจสะบัดตัวหนีแล้วว่ายไปคว้าเรือคะยัคที่ถูกคลื่นซัดห่างออกไป ช่วงนี้ฆาเบียร์ลวนลามเขาหนักเหลือเกินเหมือนจะชดเชยเวลาที่อยู่ห่างกัน แต่เขาก็ไม่ได้มีทีท่าที่จะขอเป็นฝ่ายรุกเร้าเจอีก

เจยันกายขึ้นนั่งบนเรือและเรียกฆาเบียร์ที่หน้าตูมลอยคออยู่ไม่ห่าง

"ไม่ขึ้น!"

คนตัวโตทำตัวงอนเหมือนเด็กๆ ที่ถูกแย่งของเล่น สุดท้ายเจก็ต้องแกล้งทำเป็นลมแดดฟุบไปฆาเบียร์ถึงได้รีบขึ้นเรือมาดูอาการ

"ฆาเบียร์ครับ"

เจนยุทธที่แกล้งทำเสียงอ่อนระโหยเรียกฆาเบียร์ซึ่งมีสีหน้าร้อนรน

"ผมพายไม่ไหวแล้ว พาผมกลับเข้าฝั่งที"

เจนอนหลับตานิ่งทำตัวอ่อนระทวยปล่อยให้คนตัวโตพายเรือกลับเข้าฝั่ง เมื่อถึงเขาก็รีบกระโดดลงเรือแล้ววิ่งแน่บกลับห้องไปทันทีปล่อยให้คนที่เสียรู้ยืนมองตาปริบๆ ด้วยความเจ็บใจ



"ครับ คุณสุ ได้ครับ โอเค พวกผมขอเวลาเตรียมตัวครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวเจอกัน"

ฆาเบียร์กดวางสายจากคุณสุ บัทเลอร์ของพวกเขา เขาโทรไปถามว่าช่วงบ่ายนี้พอจะมีกิจกรรมอะไรให้พวกเขาทำอีกบ้าง

"เจ คุณสุบอกว่ามีทัวร์สปีดโบ้ทของโรงแรมออกไปดำน้ำแบบสน้อกเกิล ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ฉันบอกแล้วว่าเราสนใจ"

เจรีบลุกขึ้นทันที เขาเปลี่ยนใส่กางเกงเซิร์ฟและเสื้อยืดสีเข้มตามที่ฆาเบียร์บังคับให้ใส่ เขามองฆาเบียร์อย่างหมั่นไส้ ทีเจ้าตัวยังใส่กางเกงเซิร์ฟกับเสื้อเชิร์ตสีขาวบางซึ่งใส่คลุมไว้โดยไม่ติดกระดุมเปิดให้เห็นแผงอกล่ำสันและกล้ามท้องอันงดงาม

"ทีตัวเองล่ะอ่อยได้อ่อยดี" เจบ่นอุบอิบ

"เจจะถอดเสื้อก็ได้นี่"

ฆาเบียร์หัวเราะแล้วทำท่าจะถอดเสื้อยืดของเจออก ซึ่งคนตัวเล็กตะครุบชายเสื้อไว้แล้วทำตาเขียวใส่ เขาจะไปกล้าถอดเสื้อได้ยังไงในเมื่อมีแมงเจ้าชู้ที่ไหนไม่รู้กัดตัวเขาจนเป็นรอยแดงเต็มไปหมดแล้ว

ทั้งคู่ไปพบคุณสุที่ศูนย์กีฬาทางน้ำของโรงแรม คุณสุแจ้งว่าวันนี้จะมีคนจอยทัวร์ด้วยอีก 2 คน ซึ่งพวกเขาก็ไม่ขัด แต่ฆาเบียร์หน้าตูมทันทีที่เห็นคนที่เดินเข้ามา

"ไง หนุ่มๆ จอชมาแล้วจ้าาาาา"

คนที่ทำให้เขาต้องลำบากถึงสองครั้งโผล่หน้ามาจนได้ ร่างสูงเพรียวของจอชใส่กางเกงผ้าป่านขาสั้นสีขาวกับเสื้อลายดอกสีฟ้าแปร๋น ใบหน้าหล่อเหลานั้นยิ้มร่า ที่ตามมาติดๆ ก็คือหมอนันโด้ซึ่งใส่กางเกงเซิร์ฟสีส้มแปร๊ดตัวเดียวตัดกับผิวสีแทนของร่างใหญ่หนานั้น เจนยุทธยิ้มอย่างดีใจที่เห็นทั้งสองคนและเข้าไปทักทายอย่างสนิทสนม โดยเฉพาะจอชที่นั่งเม้ากับเจนยุทธอย่างสนุกสนานตลอดทางที่พวกเขานั่งบนสปีดโบ้ท ที่พวกเขาคุยกันหลักๆ ก็คือเม้าฆาบี้นั่นเอง ฆาเบียร์กับนันโด้ต่างก็นั่งหน้าหงิก ทั้งคู่ต่างหวังว่าจะได้ใช้โอกาสที่มาล่องเรือคราวนี้ทำสวีทกับแฟนของตน แต่กลับโดนทิ้งให้นั่งคุยกันเอง

"เฮ้ จอช ตกลงได้พิสูจน์ความรักกับนันโด้ไหม?"

ฆาเบียร์ตะโกนถามโดยหวังจะตัดบทสนทนาของสองคนนั่นที่กระซิบกระซาบอะไรกันแล้วก็หันมามองตัวเขาขึ้นๆ ลงๆ แล้วหัวเราะคิกคัก

"ทำไมไม่ถามคนที่นั่งข้างๆ นายเองล่ะ ฆาบี้"

จอชตะโกนกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มพราย ฆาเบียร์หันขวับกลับมาถามนันโด้เป็นภาษาสเปนเร็วปรื๋อ นันโด้สบถลั่นพร้อมลุกขึ้นไล่ถีบฆาบี้พัลวันที่เอาความคิดแบบนั้นไปยัดใส่หัวจอช จอชหัวเราะลั่นแล้วหันไปเล่าให้เจนยุทธฟังถึงสิ่งที่เขาขอนันโด้ไว้ในคืนที่เจนอนจับไข้อยู่

"แล้ว ตกลง...?"

เจอดไม่ได้ต้องถามขึ้น เขานึกภาพลุงหมีนันโด้ถูกจอชจัดการไม่ออกเลย จอชหน้าแดงแล้วบอกเจว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่านันโด้รักเขาจริงๆ แต่เขาลองไปแค่ครึ่งทางก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่แนวตัวเองก็เลยหยุดดีกว่า นันโด้ที่ลงนั่งแล้วบ่นออกมาเป็นภาษาสเปนอีกยาวยืด ฆาเบียร์ได้แต่ตบไหล่ให้กำลังใจเพื่อนเก่าของเขา



เรือสปีดโบ้ทพาพวกเขามาถึงจุดดำน้ำแรกซึ่งคือเกาะแตนซึ่งนั่งเรือออกไปประมาณครึ่งชั่วโมง พวกเขาลงดำผุดดำว่ายกันอย่างสนุกสนาน เจนยุทธที่ยังไม่เคยดำน้ำแบบสนอร์เกิลมาก่อนตื่นเต้นกับปะการังที่เห็นแม้จะไม่ได้สวยงามอะไรมากมาย น้ำยังค่อนข้างขุ่นเพราะเป็นเวลาบ่ายแล้วและท้องฟ้าวันนี้ก็ค่อนข้างขุ่นมัว ไกด์ของทางโรงแรมที่พามานั้นผูกเชือกกับตัวเองให้พวกเขาเกาะแผ่นโฟมที่ผูกกับเชือกและนำพวกเขาว่ายลัดเลาะไปตามแนวปะการังที่ส่วนใหญ่เป็นปะการังสมองที่ฟอกขาวไปเสียส่วนใหญ่แล้วแต่ก็ยังพอเห็นบางจุดที่ยังมีสีงดงาม เจตื่นตาตื่นใจกับปลาหลายพันธุ์ที่ว่ายไปว่ายมาและถามคนเรืออย่างตื่นเต้นว่ากินได้ไหม

บริเวณเกาะแตนนี้เป็นอีกจุดที่เรือนิยมพานักท่องเที่ยวมาดำน้ำ ไกด์บ่นให้พวกเขาฟังว่าบางทีคนเรือที่เห็นแก่ได้ก็ไปงมเอาสัตว์น้ำอย่างปลาดาวหรือหอยเม่นขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวดู เขาบอกว่าบางทีมีคนถึงขั้นงัดเอาหอยมือเสือตัวใหญ่ขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวดู ไกด์บอกว่าทุกทีที่เขาและเพื่อนๆ พาคนมาดำน้ำก็ต้องคอยช่วยสอดส่องดูว่าพวกหอยมือเสือในบริเวณนี้ที่เขาจำได้ว่าอยู่ตรงไหนบ้างยังอยู่ครบหรือเปล่าหรือเห็นคนเรือคนไหนที่เอาสัตว์ทะเลขึ้นมาหรือเปล่า พวกเจนยุทธฟังแล้วก็ได้แต่สมเพชในความเห็นแก่ได้ของคนพวกนั้น พวกเขาไม่คิดสักนิดเลยหรือว่าที่พวกเขาทำนั้นเหมือนเป็นการทุบหม้อข้าวของตัวเอง

พวกเขาใช้เวลาดำน้ำที่เกาะแตนเกือบชั่วโมงก่อนที่จะนั่งเรือออกไปอีกพักใหญ่ไปที่เกาะมัดสุม เกาะนี้ไม่ได้มีแนวปะการังแต่มีหาดทรายขาวอันงดงาม บนเกาะมีร้านอาหารน้อยๆ อยู่แต่พวกเขาไม่ได้ใช้บริการเพราะบนเรือมีน้ำเปล่าและน้ำอัดลมเย็นๆ ไว้ให้ในคูลเลอร์อยู่แล้ว

บนเกาะมัดสุม คู่รักทั้งสองคู่ต่างแยกย้ายกันไปใช้เวลากับคู่ของตน จอชกับนันโด้เลือกนอนอาบแดดบนหาดทรายขาว นันโด้รีบเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่คลุมกลางตัวของจอชที่สลัดกางเกงผ้าป่านสีขาวบางออกจนเหลือแต่กางเกงว่ายน้ำสปีโด้ตัวจิ๋วแต่จอชก็ดึงออกอย่างไม่ใยดี นันโด้หน้าหงิก ต่อให้เขารู้ว่าในใจฆาเบียร์มีแต่เจแต่เขาก็ไม่อยากให้จอชโชว์ขาขาวๆ ก้นแน่นๆ ของเขาให้อดีตคู่ขาดู

"แหม ทำหวงไปได้ นันโด้ ดูนู่น คู่นั้นเค้าไม่มาสนเราแล้ว"

จอชบ่นกะปอดกะแปด นันโด้มองตามคู่รักบ๊องๆ คู่นั้นที่ว่ายน้ำออกห่างฝั่งไป จากที่เห็นไกลๆ ร่างทั้งสองแนบชิดกันไม่ห่าง

"สงสัยน้ำทะเลจะหวานหมดแล้วนะ"

จอชเปรยออกมา พร้อมชายตามองคนที่หาความโรแมนติกไม่เจออย่างนันโด้ก่อนที่จะเป็นฝ่ายเบียดกายเข้าหาพร้อมส่งริมฝีปากแสนหวานของเขาถึงปากหนานิ่มของคนรักของเขา



"เจ...อย่าซนสิ"

ฆาเบียร์ห้ามด้วยเสียงแหบพร่า เขาพาเจ้าตัวน้อยขี่หลังว่ายออกมาห่างจากฝั่งพอสมควรแต่ยังอยู่ในระดับที่ยืนได้ แต่เจนั้นมืออยู่ไม่สุขเลย ถ้าไม่เขี่ยไล้ที่ตุ่มไตบนอกเขาก็แกล้งลูบไล้ผ่านส่วนแกนกายใต้ผ้าบางๆ ของกางเกงเซิร์ฟนั้น ริมฝีปากเจนยุทธก็คลอเคลียอยู่แถวต้นคอไม่ก็ติ่งหูของเขา สุดท้ายเขาก็อดไม่ได้ต้องหันหน้าไปรับริมฝีปากร้อนๆ ของเจ แต่เขาปล่อยให้เจทำเพียงแค่นั้นก่อนที่จะกลั้นใจพาเจนยุทธเดินขึ้นฝั่ง เขายังไม่อยากทำอะไรประเจิดประเจ้อให้เพื่อนเก่าทั้งสองเห็น พวกเขากลับขึ้นเรือสปีดโบ้ทที่นันโด้และจอชนั่งรออยู่แล้ว

"ไว้คืนนี้ก่อนนะ คนดีของฉัน"

ฆาเบียร์กระซิบบอกเจที่มีสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก เจนยุทธกระซิบขู่ว่าคืนนี้เขาต้องเจอหนักแน่ ฆาบี้มองสีหน้าเจ้าเล่ห์ของเจอย่างหนักใจ เขาต้องรับมือกับอะไรกันบ้างนะ

ระหว่างทางกลับโรงแรม เรือพาพวกเขาไปวนดูเกาะสี่ เกาะห้าและเกาะใกล้เคียงซึ่งเป็นพวกเกาะที่มีการทำสัมปทานรังนกที่อยู่ตรงข้ามกับหาดตลิ่งงาม พวกเขาฟังไกด์เล่าเรื่องแวดวงการทำรังนกอย่างเพลิดเพลินไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวิธีการขึ้นเก็บรังนก การใช้วิธีสกปรกลอบทำลายถ้ำของอีกฝ่าย เรื่องความเข้มงวดของฝ่ายรักษาความปลอดภัยของเกาะที่พร้อมเล็งปืนขู่นักท่องเที่ยวที่เผลอขี่เจ็ตสกีเข้าใกล้ สุดท้ายคนเรือขับพาพวกเขาที่ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เข้าไปใกล้ถ้ำที่มีการทำสัมปทานรังนกอยู่ ไกด์บอกว่าถ้ามากับเขาก็ไม่ต้องห่วงเพราะคนบนเกาะรู้ดีว่าพวกเขาเป็นเป็นคนของโรงแรม จากนั้นพวกเขาก็พากันกลับเข้าฝั่ง ​


] (ftp://www.picz.in.th/images/2017/09/04/diving.jpg[/img)


"Thanksgiving ปีนี้นายจะทำอะไร ฆาเบียร์?"

พวกเขาทั้งสี่คนนั่งอยู่ที่ห้องอาหาร Flames ของทางโรงแรมซึ่งตั้งอยู่ริมหาด เจนยุทธที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารทะเลและเนื้อย่างที่ทยอยเสิร์ฟมาอย่างไม่หยุดหย่อนเงยหน้ามามองฆาเบียร์ซึ่งทำหน้าเจื่อนๆ ก่อนจะตอบคำถามของจอชที่ถามถึงเทศกาลสำคัญของชาวอเมริกันอย่างเทศกาลขอบคุณพระเจ้าที่กำลังจะมาถึงในสัปดาห์หน้า ฆาเบียร์บอกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษเพราะตั้งแต่พ่อแม่เขาเสียไปเขากับอาปาก็ไม่ได้ฉลองอะไรกันอีก นันโด้แอบดึงเสื้อจอชให้เลิกถามเพราะไม่อยากให้ไปสะกิดแผลใจเรื่องพ่อแม่ของฆาเบียร์ เจนยุทธบีบมือคนรักของตัวเองเบาๆ ฆาเบียร์หัวเราะและบอกว่าสาเหตุที่เขาและคริสไม่ได้ฉลองก็เพราะทั้งคู่ไม่ชอบกินอาหารประจำเทศกาลนี้อย่างไก่งวงอบนั่นเอง

หลังอิ่มหนำสำราญกับอาหารแล้วทั้งสี่คนก็ย้ายไปนั่งดื่มต่อที่บริเวณรอบกองไฟบนชายหาด พวกเขานั่งสนทนาและหัวเราะกันอย่างสนุกสนานจนถึงดึกดื่น ฆาเบียร์และเจนยุทธกอดร่ำลาเพื่อนทั้งสองก่อนที่นันโด้จะลากจอชที่เริ่มเมาแล้วกลับบ้าน

ฆาบี้จับมือเจที่เริ่มเดินเป๋ๆ แล้วกลับห้องซึ่งอยู่ไม่ไกลห้องอาหาร หลังแช่จากุซซี่จนพวกเขาทั้งคู่รู้สึกผ่อนคลายเต็มที่แล้ว ฆาเบียร์ก็เตรียมทำตามสัญญาที่ีให้ไว้กับเจตอนอยู่ที่เกาะมัดสุม

"ไม่เอาอ่ะ ขอนอนก่อนได้ไหมอ่ะ"

เจที่ดูเหนื่อยล้าจากการออกเรือทำท่าอยากนอนเพียงอย่างเดียว เขาปัดป้องมือร้อนๆ ที่เปะป่ายตามร่างกายเขา ฆาบี้ถอนหายใจแล้วจูบราตรีสวัสดิ์คนดีของเขาและกระซิบคำหวานก่อนนอนให้แก่คนที่ดูจะหลับไปแล้วก่อนที่ซุกหน้าไปกับเรือนผมดำสนิทนั้นจนผลอยหลับไปในที่สุด


-----------------------------------------------


จริงๆ อยากตั้งชื่อตอนนี้ว่า "ออกทะเล" เพราะมันคือสิ่งที่คนเขียนกำลังทำค่าาาา มันเริ่มออกทะเลไปเรื่อยๆ แล้วแฮะ เดี๋ยวกำลังจะดึงเรื่องให้กลับมาอยู่กับร่องกับรอยซะที พอจบภาคสมุยแล้วก็อาจจะเว้นว่าง อัพบ้างไม่อัพบ้างไปสักพักนะคะแล้วแต่ว่าในหัวมีอะไรผุดขึ้นมา เรื่องนี้อย่างที่บอก มีพล็อตกว้างๆ ในหัวแล้ว มีแนวทางแล้วว่าจะจบยังไง แต่ระหว่างการเดินทางไปถึงฉากจบเรื่องราวก็จะเดินไปเรื่อยๆ แล้วแต่ว่าจะมีอะไรผุดขึ้นมาในหัวค่ะ หวังว่าคนอ่านจะไม่เบื่อไปเสียก่อนนะคะ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2017 23:23:38 โดย La Vida Sin Tu Amor »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ไม่เบื่อค่ะ อ่านได้เรื่อย ๆ คนเขียนออกทะเลไป เราก็จดชื่อร้านเด็ดไป ฮ่า ๆ

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1
@@@The Taste of Love...อิ่มรักรสโอชา - ...es Tu" [3/9/60]
«ตอบ #97 เมื่อ03-09-2017 06:42:10 »



---- ...es Tu" ----



"อือ"

ฆาเบียร์บิดตัวไปมาอย่างกระสับกระส่าย เขาขยับแขนไม่ได้และรู้สึกเหมือนถูกใครจับมัดตรึงไว้ นี่เขาฝันไปหรือว่าอย่างไร เขาพยายามกระชากแขนแรงๆ แต่ก็รู้สึกถึงแรงยึดที่ข้อมือ เขาพลันสะดุ้งเฮือกขึ้นทั้งตัวเมื่อรู้สึกถึงแรงสะเทือนเบาๆ ที่ส่วนปลายอันแสนไวต่อสัมผัสของส่วนสงวนของเขา แหล่งกำเนิดแรงสะเทือนนั้นถูกย้ายไปเขี่ยไล้สัมผัสตามที่ต่างๆ ที่เป็นจุดบอบบางของเขา สติที่อยู่ในห้วงภวังค์ของฆาเบียร์พลันตื่นขึ้นเต็มที่ เช่นเดียวกับส่วนอื่นของร่างกายด้วย

เขาหันไปมองรอบกาย เขายังนอนอยู่ในห้องโรงแรมหรูที่สมุย ในห้องนั้นมืดมิด คงจะยังไม่เช้าดี แต่แสงสลัวๆ จากห้องน้ำทำให้เขาเห็นสภาพของตัวเองข้อมือทั้งสองของเขาถูกมัดตรึงไว้กับเสาหัวเตียงทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งถูกเน็คไทมัดไว้ อีกข้างถูกกุญแจมือหุ้มนวมที่เป็นของขวัญจากเมลิน่าตรึงไว้ เขาได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากไอ้ตัวแสบของเขา

"เจนยุทธ!"

ฆาบี้ทำเสียงดุๆ เรียกคนตัวเล็ก ไม่มีคำตอบใดจากคนตัวเล็กที่ยืนหัวเราะอยู่ข้างเตียง

"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ เจ"

ฆาเบียร์คำราม เขาทำท่าทางฮึดฮัดไม่พอใจ แต่ที่จริงแล้วใจเขากำลังเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น นี่สินะที่เจขู่ว่าจะจัดหนักเขา



"โอ๊ย"

ฆาบี้ซี๊ดปากขึ้นเบาๆ เมื่ออกกว้างของเขาถูกหวดเบาๆ ด้วยแส้ขี่ม้าอันเรียวเล็กที่เจคงได้มาจากกล่องพิศวงของเมลิน่า

"อะไรๆ บอกให้ผมปล่อย แต่ดูนี่สิ"

เสียงใสๆ ของเจเจือความขบขัน​ เขารู้สึกถึงปลายแส้ที่เป็นแผ่นหนังเล็กๆ เขี่ยไล้อย่างยั่วเย้าที่ตุ่มไตบนหน้าอกที่เริ่มชูชันของเขา ฆาเบียร์ขนลุกทั้งตัว เจลากไล้แส้เรียวนั้นไปตามตัวฆาเบียร์และหวดทิ้งรอยจางๆ ไว้ตามทาง ฆาเบียร์ตัวเกร็งทุกครั้งที่ถูกหวด ไม่ใช่เพราะความเจ็บ แต่เพราะลุ้นอย่างตื่นเต้น เจนยุทธไล้แส้ไปถึงแก่นกายที่ขยายตัวเต็มที่แล้ว เขาใช้ปลายแส้นั้นลากไล้ไปตามความยาวของแท่งลำก่อนจะแตะไปที่รูร่องที่ปลายส่วนสงวนของฆาบี้ น้ำใสๆ เยิ้มติดปลายของแส้ขึ้นมา

"เยิ้มเชียว"

เสียงกลั้วหัวเราะนั้นทำให้ฆาเบียร์รู้ว่าเจกำลังสนุกกับการยั่วเย้าเขา ปลายแส้เรียวถูกส่งมายังริมฝีปากของเขา

"Lick it!"

เสียงใสแต่เฉียบขาดสั่งให้ฆาเบียร์เลียพรีคัมของเขาที่ติดเยิ้มบนปลายแส้ ฆาเบียร์ทำตามอย่างว่าง่าย เขาต้องสะดุ้งขึ้นอีกครั้งเมื่อแส้หวดควับเข้าที่สะโพกของเขา เจนยุทธสั่งให้เขาชันเข่าขึ้นและแบะเข่าออก เขาทำตามและรู้สึกถึงความอุ่นของร่างเจที่เบียดอยู่กับหว่างขาของเขา จากนั้นเขารู้สึกถึงลิ้นร้อนๆ ที่เลียไล้ตามแก่นกาย เจเข้าใจเล่นกับประสาทสัมผัสของเขาจริงๆ การมองเห็นไม่ชัดทำให้เขาจินตนการถึงภาพเจนยุทธกำลังทำนั่นนี่กับเขาซึ่งยิ่งทำให้เขาร้อนเร่าขึ้นกว่าเดิม แรงดูดเบาสลับหนักและลิ้นที่ตวัดไล้ไปพร้อมๆ กันทำให้เขาครางออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ โพรงปากอุ่นๆ ของเจทำให้เขาแทบคลั่งได้ทุกครา จากนั้นเขารู้สึกถึงความอุ่นของเจลแบบร้อนที่ถูกป้ายทาที่ปากทางด้านหลัง จากนั้นได้ยินเสียงครางหึ่งของไวเบรเตอร์


ฆาเบียร์คำรามออกมาดังลั่นห้องเมื่อไวเบรเตอร์รูปทรงประหลาดที่เจเคยหยิบมาดูเมื่อวันนั้นชำแรกเข้าไปในร่องแคบเล็กของเขา ขนาดของมันไม่ใหญ่แต่รูปร่างของมันสร้างความเสียวซ่านอย่างมหาศาล เจปล่อยมันคาไว้ในตัวของเขา แล้วกดเปิดไฟห้อง ภาพที่อยู่เบื้องหน้าเขาทำให้เจแทบหยุดหายใจ เมียตัวโตของเขาดูเย้ายวนเหลือเกิน ภาพฆาเบียร์ที่ถูกมัดตรึงกางแขนทั้งสองข้างอวดกล้ามเนื้อไบเซ็ปอันงดงาม เหงื่อกาฬที่ไหลโทรมกาย ใบหน้าคมสันสมชายที่เหยเกและแดงก่ำด้วยแรงกระหายอยาก ตาที่ฉ่ำเยิ้มและฟันขาวๆ ที่กัดปากบางนั้นน้อยๆ ช่างเร้าอารมณ์เหลือเกิน ฆาเบียร์เหลือบตามองเจ้าตัวดีของเขา เจนยุทธใส่เสื้อเชิร์ตทำงานตัวโคร่งของเขาเพียงตัวเดียว กระดุมเสื้อนั้นปลดลงมาจนถึงลิ้นปี่ทำให้เห็นแผงอกขาวเนียนกับเม็ดทับทิมสีแดงรำไร เขาเลื่อนสายตาลงมาด้านล่างกางเกงในสายเดี่ยวสีดำแบบทีแบ็คที่ดูลามกนั้นคืออะไร? ใบหน้าของเจนั้นแดงก่ำและส่อแววปรารถนาในตัวเขาออกมาอย่างชัดเจน ภาพนั้นทำให้เขาอยากกระชากสิ่งที่พันธนาการเขาออกและจับเจเหวี่ยงลงบนเตียงและทำนั่นทำนี่ให้สมใจ


เจกดรีโมทในมือของเขาทำให้สิ่งที่คาในตัวฆาเบียร์สั่นแรงขึ้น ฆาเบียร์กระตุกร่างขึ้น เขาเกือบจะถึงสวรรค์แล้ว เจทรุดตัวลงนั่งกลางหว่างขาของฆาเบียร์และใช้มือช่วยเกาะกุมส่วนสงวนอันเขม็งเกร็งนั้น เขารูดไล้อีกไม่กี่ครั้งโดยใช้ลิ้นช่วยไล้ที่ส่วนปลาย ฆาเบียร์ก็คำรามและปลดปล่อยออกอย่างแรงมาจนกระเซ็นใส่หน้าและปากน้อยๆ ของเจ ฆาเบียร์หอบหายใจถี่ เขามองลิ้นเรียวๆ ของเจที่เลียไล้น้ำขาวข้นของเขาที่รอบปากของตนเอง เขาผ่านอะไรๆ มาเยอะแต่ก็ไม่เคยรู้สึกถูกปลุกเร้าอารมณ์มากเท่ากับตอนที่อยู่กับเจนยุทธเลย เจรู้ดีว่าต้องทำอะไรจึงจะทำให้เครื่องของเขาติด


เจนยุทธกดรีโมทปิดของเล่นชิ้นน้อยนั้น และค่อยๆ ดึงออกมาช้าๆ ฆาเบียร์ครางออกมาเบาๆ เมื่อรูปทรงประหลาดของๆ ชิ้นนั้นครูดกับภายในช่องทางแคบของเขา เขาหอบหายใจกระเส่าแล้วก็ต้องอุทานออกมาเมื่อเจดันแก่นกายที่แข็งเกร็งเต็มที่ของเขาเข้าแทนที่ ฆาเบียร์สูดปากเมื่อมันชนเข้ากับจุดเสียวของเขา เจดันท่อนขาและสะโพกของฆาเบียร์ขึ้นในท่าที่ฆาเบียร์ใช้กับเขาเมื่อวันก่อน เขายกขาของเมียตัวโตพาดบ่า ฆาเบียร์หน้าแดงซ่านเขาเห็นช่องทางของตนเองกำลังถูกรุกรานอย่างชัดเจน เจมอบรอยยิ้มที่ดูซื่อใสไร้พิษภัยให้เขาพร้อมๆ กับที่เริ่มป้อนความหฤหรรษ์ให้กับคนรักของตนที่ครวญครางอย่างไม่หยุดปาก


เจใช้แขนข้างหนึ่งโอบกอดร่างกำยำของเมียตัวโตไว้พลางเอื้อมอีกมือไปคลายเงื่อนเน็คไทที่ข้อมือของฆาเบียร์ผู้กำลังกระแทกสะโพกลงบนแท่งร้อนของเขาอย่างเมามัน เมื่อมือขวาเป็นอิสระ ฆาเบียร์ตะปบหลังของเจไว้แน่นเพื่อทรงตัว เล็บที่ตัดแต่งไว้อย่างดีของเขาจิกลงที่หลังอันมีกล้ามเนื้อแข็งแรงของเจด้วยความเสียวซ่าน ปากของเขาทั้งขบและดูดที่ไหล่เพรียวนั้นอย่างรุนแรง โดยปกติเขาชอบเซ็กส์ที่นุ่มนวล แต่คืนนี้เจทำให้อารมณ์ของเขาเตลิดเหลือเกิน เจเม้มปากแน่น เขาทั้งเจ็บทั้งเสียว อารมณ์ของเจนยุทธและฆาเบียร์พลุ่งพล่านจนส่งพวกเขาทั้งคู่สู่ฝังฝันพร้อมๆ กัน


เจนยุทธไขกุญแจมือออกให้ฆาเบียร์ซึ่งนอนระทวยอยู่บนเตียงแล้วลงไปนอนซบอกเมียตัวโตของเขา เจยกข้อมือที่ถูกเสียดสีจนแดงก่ำนั้นขึ้นจูบเบาๆ

"เจ็บไหมครับ ที่รักของเจ?"

เขาถามเบาๆ คืนนี้เขาเล่นพิเรนทร์ไปหน่อย คนตัวโตจะโกรธเขาไหมนะ?

"เจ็บ"

ฆาเบียร์ตอบด้วยเสียงขุ่นเล็กๆ แต่ที่เขาเคืองน่ะ ไม่ใช่เคืองเจ้าตัวเล็กที่ทำตาแดงๆ อยู่ตรงหน้าเขานี่หรอกนะ เขาเคืองตัวเองที่เผลอใจเตลิดไปกับความรู้สึกแปลกใหม่นี้

'ห้ามเล่นแบบนี้อีกนะ'


​นี่คือสิ่งที่เขาควรพูดกับเจ แต่คำที่หลุดออกจากปากเขาที่ถูกตาแป๋วๆ ข้างหน้านั้นสะกดไว้คือ

"แต่มันเยี่ยมมากเลยเจ นานๆ เราทำแบบนี้ทีก็ดีนะ"

ฆาเบียร์หมายมั่นปั้นมือว่า คราวหน้าเขาเองจะเป็นฝ่ายจับเจ้าตัวเล็กมัดบ้าง เจยิ้มอย่างน่ารักแล้วขยับกายขึ้นนอนทับร่างกายกำยำของฆาเบียร์ เขาป้อนจูบแสนหวานให้กับคนรักตัวโตของเขา ก่อนที่ฆาเบียร์จะพลิกกายคร่อมคนตัวเล็กกว่าไว้เบื้องล่าง ริมฝีปากเขาซุกซนไปทั่วและค่อยๆ เลื้อยลงต่ำ

"เดี๋ยวก่อน ฆาเบียร์" เจร้องอย่างตกใจ

"ลุงหมีนันโด้ห้าม..."

เจนยุทธเขินเกินที่จะพูดต่อ ฆาเบียร์หัวเราะเบาๆ เขาไม่ได้คิดจะรุกรานเจ้าตัวเล็กอยู่แล้ว เขาเข็ดกับภาพเจที่นอนจับไข้ตัวสั่นและตั้งใจเพียงจะหาเศษหาเลยเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เขายันกายลุกขึ้นช้าๆ และดึงตัวเจนยุทธให้ลุกขึ้นตามและรุนหลังเจ้าตัวน้อยเข้าไปในห้องน้ำ เสียงน้ำดังขึ้น ตามด้วยเสียงโวยวายของเจ เสียงจูบและเสียงหอบหายใจหนักๆ กว่าทั้งคู่จะได้หลับก็คงอีกพักใหญ่



"เจ เจ ตื่นได้แล้ว"

ฆาเบียร์เรียกและจูบแผ่วๆ ลงบนริมปากรูปกระจับสีแดงระเรื่อของเจนยุทธที่นอนน้ำลายยืดหนุนแขนของเขาแต่เจก็ยังไม่ตื่น เขาเขย่าเบาๆ สักพักก่อนที่เจจะสะดุ้งเฮือกแล้วลุกพรวดพราดขึ้น

"กี่โมงแล้ว ฆาบี้?" เจงัวเงียถาม

"จะเที่ยงแล้ว"

เจทำหน้านิ่ว มิน่าล่ะเขาหิวเชียว

"งั้นลุกกันเถอะ เจ เราไปกินข้าวกัน วันนี้อยากกินอะไร?"

เจตอบอย่างไม่ต้องคิดว่าวันนี้เขาอยากไปซ้ำร้านครัวชาวบ้านอีกรอบ พรุ่งนี้ไฟลท์ของเขาออกตอนสิบโมง ต้องออกโรงแรมตั้งแต่เช้าคงไม่มีโอกาสได้กิน ส่วนตอนเย็นเขาอยากนั่งกินสบายๆ ในโรงแรมและใช้เวลากับฆาเบียร์มากกว่า เมื่อนึกถึงวันรุ่งขึ้นที่กำลังจะมาถึง เจก็ต้องน้ำตาร่วงออกมา

"เจ เป็นอะไร?"

ฆาเบียร์ถามอย่างตกใจ

"พรุ่งนี้แล้วสินะ..."

เจนยุทธหน้าจ๋อย เขาไม่อยากจากคนรักของเขาไปเลย ฆาเบียร์รู้สิ่งที่เจละเอาไว้ไม่พูดถึง เขากอดร่างเพรียวของเจไว้แล้วปลอบว่าเดี๋ยวก็ได้เจอกันใหม่ ทั้งคู่เอนนอนป้อนคำหวานและแลกจุมพิตกันครู่ใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว



"เจ มาสมุยนี่ไม่อยากไปเที่ยวไหนแบบที่คนอื่นไปกันมั่งเหรอ?"

เจส่ายหน้า เขาไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวแต่แรกอยู่แล้ว

"แล้วคุณอยากไปเหรอ?"

ฆาเบียร์ส่ายหน้า เขาแค่อยากพักผ่อนสงบๆ กับเจนยุทธของเขาสองคนเท่านั้น

"ผมกับพี่นพเวลาไปเที่ยวไหนกันก็ชอบโดนบ่นว่าไอ้สองคนนี้มันไปแค่เปลี่ยนที่นอนที่กิน แต่นั่นมันก็คือการเที่ยวแบบของพวกผม"

เจบ่นขึ้น ก่อนที่เขาจะบ่นต่ออีกยืดยาวรถก็พาพวกเขาเข้ามาส่งที่ร้านครัวชาวบ้านบนหาดละไม



เจนยุทธพลิกเมนูไปมา เขาอยากกินไปหมดเสียทุกอย่าง

"วันนี้ผมจะสั่งแบบเผ็ดๆ แล้วนะ ฆาเบียร์ ถ้าคุณอยากกินอะไรก็สั่งของตัวเองเลย"

เจผู้แน่ใจว่าร่างกายของตัวเองดีขึ้นแล้วสั่งอาหารเผ็ดมาหลายอย่างโดยมีฆาเบียร์มองตามอย่างเป็นห่วง เขารู้ดีว่าคืนนี้เจ้าตัวเล็กต้องลำบากแน่ แต่ในเมื่ออยากกินเขาก็จะไม่ห้าม


ฆาเบียร์มองอาหารที่ยกมาแต่ละอย่างแล้วหนักใจแทนเจ มีแต่ของเผ็ดๆ ทั้งนั้น มีทั้งยำทั้งแกง พวกเขาประเดิมมื้อนี้ด้วยหอยนางรมสดหวาน ฆาเบียร์เคยกินหอยนางรมสดแบบไทยที่ใส่เครื่องแบบน้ำพริกเผา หอมเจียว กระเทียม ใบกระถินและบีบมะนาวแล้ว เขาว่ามันช่วยชูรสหอยนางรมของไทยซึ่งตัวใหญ่ เนื้อเยอะ รสชาติออกครีมมี่แต่รสเข้มข้นน้อยกว่าหอยที่มาจากแหล่งน้ำที่เย็นกว่าอย่างพวกฟิน เดอ แคลร์ของฝรั่งเศสหรือคุมาโมโต้ของสหรัฐฯ พวกนั้นแค่บีบเลม่อนหรือใส่ซอสมิยอแน็ตหรือซอสน้ำส้มสายชูไวน์แดงกับหอมแดงสับและพริกไทยบดหยาบก็พอแล้ว

"หอยนางรมสุราษฎร์ฯ นี่ถือว่าดังที่สุดในไทยเลยนะ เด่นตรงที่มีขนาดใหญ่"

เจพูดพร้อมยกเนื้อหอยที่ตัวใหญ่ให้ดู มันใหญ่จนเขาต้องกินเนื้อหอยเข้าไปก่อนแล้วเอาเครื่องใส่ช้อนกินตามเข้าไป ฆาเบียร์ทำแบบเดียวกันกับเจแต่เขาเลือกที่จะไม่ใส่กระถินเพราะไม่นิยมกลิ่นที่ฉุนของมัน


"เจ อย่ากินหอยนางรมเยอะล่ะ"

ฆาเบียร์พูดยิ้มๆ เจนยุทธหน้าร้อนวูบ ทำไมเขาจะไม่เข้าใจความหมายของฆาบี้ แค่ทุกวันนี้เรื่องบนเตียงของเขาทั้งคู่ก็ดุเดือดพอแล้วคงไม่จำเป็นต้องใช้หอยนางรมไปกระตุ้นมันอีก พวกเขาจึงหยุดไว้แค่ชุดเดียวคือคนละ 2 ตัว เจหันไปตักอาหารจานถัดไปใส่จานให้ฆาเบียร์ซึ่งมองของหน้าตาไม่คุ้นที่อยู่ในจานอย่างงุนงง

"นี่เป็นอาหารพื้นถิ่นของที่นี่นะ ไอ้ของที่ดูคล้ายแมงกะพรุนนี่คือเห็ดหลุบ เป็นดอกไม้ทะเลชนิดหนึ่งน่ะ"

ที่เจตักให้ฆาเบียร์คือยำเห็ดหลุบ รสชาติกรุบๆ ของเห็ดหลุบทำให้รู้สึกเหมือนกินยำแมงกะพรุนอยู่ สำหรับเขาทั้งคู่ไมไ่ด้คิดว่าจานนี้อร่อยเป็นพิเศษอะไร หากที่พวกเขาชอบมากคือแกงคั่วเห็ดหลุบซึ่งเป็นแกงกะทิ รสชาติพริกแกงของมันเป็นแบบทางใต้และใส่ใบยี่หร่า ทำให้มีรสชาติหอม เข้มข้นและเผ็ดร้อน สำหรับฆาเบียร์ที่กินเผ็ดได้พอสมควรรู้สึกว่าจานนี้ช่วยทำให้เขาเจริญอาหารมาก


"เคยกินอุนิใช่ไหม?"

เจนยุทธถามฆาบี้ ฆาเบียร์ตอบว่าเคยและชอบด้วย เจจึงตักยำอีกจานที่สั่งมาใส่จานของฆาเบียร์

"นี่คือยำหอยเจาะใส่ไข่หอยเม่น แต่ว่าไข่หอยเม่นของไทยรสชาติจะเข้มข้นน้อยกว่าอุนิของญี่ปุ่นนะ"

ฆาเบียร์ตักชิมแล้วก็ติดใจ รสชาติหวานมันและมีกลิ่นหอมทะเลอ่อนๆ ของไข่หอยเม่นกับน้ำยำที่ใส่กะปิลงไปด้วยนั้นเยี่ยมยอดมาก ไหนจะรสเค็มมันของหอยเจาะซึ่งก็คือหอยนางรมขนาดเล็ก บวกกับรสเปรี้ยวจากมะนาวและมะม่วงเปรี้ยวและรสเผ็ดจากพริกทำให้ยำจานนี้มีรสชาติครบ

"หอยเจาะเนี่ย แถวดอยอย่างเชียงใหม่ก็เรียกหอยนางรมแล้ว แต่คนแถวนี้เขาว่ามันจิ๋วเกิน"

เจจิ้มเนื้อหอยขึ้นมาให้ฆาเบียร์ดู เขาติดใจยำจานนี้มากแต่จะสั่งอีกจานคนตัวโตก็คงบ่นก็เลยพับความคิดนั้นไป ฆาเบียรตักน้ำพริกกะปิขึ้นชิม เขาเคยกินน้ำพริกนี้มาแล้วตอนเดินทางมาไทยครั้งก่อนๆ แต่น้ำพริกกะปิของทางใต้นี่รสชาติเผ็ดจัดจ้านกว่าทางกรุงเทพฯ มาก เขากินได้นิดเดียวก็ต้องยอมแพ้


"นี่ แกงเหลืองปูทะเล ผมตักให้นิดเดียวก่อนนะ ผมว่าคุณน่าจะกินไม่ไหว"

เจตักแกงเหลืองที่ใส่หน่อไม้ดองและปูทะเลตัวประมาณ 4 ขีดสับเป็นชิ้นๆ มาด้วย ฆาเบียร์กินเข้าไปคำหนึ่งโดยไม่ได้ระวังแล้วต้องไอแค๊กออกมา เขารีบคว้าน้ำมายกซดทันที รสชาติเผ็ดร้อนของมันเผาไหม้อยู่ในปากเขา เจนยุทธรีบส่งจานผักสดให้ฆาเบียร์กินดับเผ็ด

"โอย ทั้งเผ็ดทั้งร้อน" ฆาเบียร์บ่น

"...แต่ฉันก็ชอบนะ รสชาติมันจัดจ้านมาก ทั้งเผ็ด เปรี้ยว เค็ม"

เขาตักชิมอีกคำ ทีนี้กินพร้อมข้าวซึ่งช่วยทอนความเผ็ดไปมาก แต่เขาไม่แตะหน่อไม้ดองซึ่งเจห้ามเขากินเพราะกลัวจะท้องเสีย เจยกปูขึ้นแทะเหมือนเคย ส่วนฆาเบียร์ค่อยๆ ใช้ช้อนส้อมแกะเอาเนื้อออกมาเป็นชิ้น ปูที่นี่สดหวานดีจริงๆ


"แล้วนี่อะไรน่ะ เจ?

ฆาบี้ชี้ไปที่ก้อนอะไรสักอย่างที่ถูกคลุกเกล็ดขนมปังแล้วนำไปทอด

"ไข่ปลากะพงทอดกระเทียมพริกไทยน่ะ เสียดายเขาไม่น่าคลุกไอ้เจ้าเกล็ดขนมปังนี่มาเลย"

เจนยุทธผู้ไม่ชอบอาหารที่คลุกเกล็ดขนมปังทอดบ่นอุบอิบ ฆาเบียร์จิ้มขึ้นชิมแล้วก็ติดใจจิ้มเข้าปากอีกหลายชิ้นก่อนที่จะนึกได้ว่ามันคงเพิ่มคลอเรสเตอรอลของเขาไปอีกเพียบ แต่ก็...ช่างมันเถอะ

เจมองฆาเบียร์ที่ตักนั่นจิ้มนี่อย่างชื่นใจ ฆาเบียร์กินข้าวไปตั้งจานครึ่ง ส่วนเขาน่ะซัดไปสองจานครึ่งแล้ว พอเห็นฆาเบียร์กินข้าวอร่อยเขาก็ดีใจ เจเองก็ตักนั่นตักนี่กินไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายทุกอย่างก็เกลี้ยง จะเหลือก็แต่แกงเหลืองกับน้ำพริกกะปิอีกนิดหน่อยซึ่งเผ็ดจัดจนพวกเขายอมแพ้ ใจจริงเจอยากสั่งสะตอผัดกะปิมากินด้วยแต่เกรงใจคนตัวโตที่ยังต้องร่วมเตียงกับเขาอีกคืน

]

 (ftp://www.picz.in.th/images/2017/09/04/kruachaoban2.jpg[/img)

พวกเขากลับไปที่โรงแรมและลงไปเดินเล่นที่ชายหาดเพื่อย่อยอาหาร แม้จะแดดร้อนมีคนมาลงเล่นน้ำประปรายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ฆาเบียร์ดูเจที่เผลอมองสาวๆ ฝรั่งในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วอย่างไม่วางตา เขาลอบถอนหายใจ สุดท้ายใจเจก็ยังคงเป็นชายทั้งแท่งอยู่ดีสินะ

"อูย ทั้งขาว ทั้งอึ๋ม"

เจหลุดปากออกมาอย่างลืมตัวแล้วก็รีบตะครุบปากตัวเอง เขารีบหันไปสังเกตอาการเมียตัวโตของเขาและคิดว่าเห็นแววเศร้าในสายตาของฆาบี้แว่บหนึ่ง

"ผมเผลอไปหน่อย ขอโทษครับ"

เจโอบเอวคนรักแล้วซบหน้าลงกับบ่ากว้างนั้น ฆาเบียร์ถอนหายใจ

"เจ...เจไม่เสียใจแน่นะที่เลือกฉัน"

ฆาเบียร์ดึงตัวเจให้ยืนประจันหน้ากับเขา สายตาคมวาวของเขาจ้องลึกเข้าไปในตาของคนรัก

"ผมไม่เสียใจ นี่คือสิ่งที่ผมเลือกแล้ว ผมพร้อมที่จะเดินทางนี้กับคุณ คุณคนเดียวเท่านั้น"

เจนยุทธส่งสายตาอันจริงใจให้กับคนที่ครอบครองหัวใจของเขา

"...แต่บางทีเจอแบบนี้มันก็ว่อกแว่กบ้างแหละตามความเคยชิน แต่แค่ดูเฉยๆ นะ"

เจเกาหัวแล้วหัวเราะแหะๆ ฆาเบียร์พลอยหัวเราะตามท่าทางซื่อๆ ของไอ้ตัวเล็กของเขาไปด้วย เขารู้ว่าคงเปลี่ยนความชอบของเจที่เป็นเพลย์บอยมาตลอดชีวิตได้ยาก บางทีเขาก็เป็นเหมือนกันที่พอเห็นหนุ่มๆ หน้าหวานหรือกล้ามงามๆ ตรงสเป็คแล้วก็มีแอบเหล่บ้าง มันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่ชอบของสวยงาม


"ผมอยากให้คุณรู้ว่าไม่ว่าจะยังไง คุณเท่านั้นที่เป็นเจ้าของหัวใจของผม"

เจนยุทธจับมือของฆาเบียร์ขึ้นมาทาบไว้ที่ตำแหน่งหัวใจที่เต้นแรงของเขา ฆาเบียร์ดึงกายชายหนุ่มที่กำหัวใจของเขาไว้เช่นกันเขามาชิดร่างและจุมพิตแผ่วเบาที่ริมฝีปาก

"เจเท่านั้นที่เป็นเจ้าของหัวใจของฉันเช่นกัน"

เขาจูบเบาๆ ที่หน้าผากเนียนของเจนยุทธและจับมือพากันเดินตามชายหาดต่อไป



ยามบ่ายและค่ำของทั้งคู่หมดไปกับการใช้เวลาด้วยกันสองต่อสอง นอกเหนือจากการออกไปดื่มค้อกเทลชมพระอาทิตย์ตกและกินมื้อเย็นง่ายๆ ในโรงแรมแล้ว ทั้งคู่ใช้เวลาในห้องและสระว่ายน้ำ พวกเขาไม่ได้โรมรันกันอย่างเผ็ดร้อนเหมือนเมื่อคืนแต่อิงแอบแนบกายโอบกอดแลกจุมพิตกันอย่างอ่อนหวาน เจนยุทธตักตวงเวลาอันมีค่าที่มีเหลืออีกคืนเดียวกับฆาเบียร์ไปกับการพร่ำบอกคำรักที่เขาควรพูดมาเนิ่นนานแล้ว ยามดึกพวกเขาร่วมรักกันอย่างนุ่มนวลและอ้อยอิ่งเหมือนไม่อยากให้มันจบลง เจค่อยๆ จูบฝากรอยรักไว้บนแผ่นหลังที่สั่นระริกของฆาเบียร์ก่อนที่จะพาเขาล่องลอยขึ้นสู่วิมาน

"เจ็ดคืนมานี้ผมเหมือนอยู่ในสวรรค์เลย"

เจนยุทธครางออกมา เขาจุ๊บหน้าผากของเมียตัวโตที่นอนซบอยู่ที่อกของเขา

"ยกเว้นตอนเป็นไข้กับที่พูดอะไรบ้าๆ ออกมาบนสะพานนั่นนะ..."

เจหน้าแดงเมื่อนึกถึงความไร้สติของเขาในตอนนั้น

"คุณล่ะ ฆาเบียร์? คิดว่ายังไง?"

"เจจ๋า...สำหรับฉัน การได้อยู่กับเจมันก็เหมือนสวรรค์ทุกวันนั่นแหละ"

ฆาบี้ยิ้มพราย คนตัวเล็กของเขาม้วนต้วนไปด้วยความเขินแล้ว



"Porque mi paraíso es tu"

'เพราะสวรรค์ของฉันนั้นคือเธอ'


นี่คือคำหวานที่ฆาเบียร์มีให้กับเจในคืนนี้



"งั้น เจอกันที่บ้านนะ จะมาวันไหนก็บอก ไฟลท์คุณออกกี่โมงนะ?"

เจพูดกับฆาเบียร์ พวกเขาอยู่ที่สนามบินสมุยบริเวณหน้าเกทของเจ เจจะบินตรงกลับเชียงใหม่ด้วยเครื่องบินของบางกอกแอร์เวย์ส ไฟลท์ 10 โมงตรง

"10 โมง 55 น่ะ บินตรงถึงฮ่องกงเลย"

เจรีบไล่ฆาเบียร์ให้รีบไปที่เกทของตัวเอง ไหนเขายังต้องผ่านตม. อีก ฆาเบียร์บอกว่ายังพอมีเวลา เขาอยู่พูดคุยกับเจนยุทธที่เลาจ์หน้าเกทจนกระทั่งพนักงานประกาศเรียกผู้โดยสารให้ขึ้นเครื่องเขาจึงกอดลากันอีกรอบและลากกระเป๋าเดินไป

ฆาเบียร์รีบสาวเท้าไปที่ประตูทางออก เขาเป็นผู้โดยสารคนท้ายๆ แล้ว พนักงานตรวจบัตรและพาสปอร์ตของเขาและรีบให้เขาขึ้นรถที่จะพาไปยังเครื่องบิน ฆาเบียร์นั่งเหม่อชมวิวทะเลที่อยู่ลิบๆ แล้วคิดในใจว่าเขายังไม่ได้บอกเจนยุทธเลยว่าที่จริงแล้วคริสให้เขาหยุดงานต่ออีก 1 สัปดาห์เพราะมันใกล้ถึงวันขอบคุณพระเจ้าแล้ว ที่สหรัฐฯ คนส่วนมากก็ไม่ทำงานกันอยู่ดี เขาเลยมีเวลาอยู่กับเจเพิ่ม


คนตัวโตของเจเดินขึ้นเข้าไปในเครื่องบินที่จะพาเขาไปสู่จุดหมายปลายทาง เขาเห็นที่นั่งของเขาแล้วและเดินเข้าไปเอากระเป๋าเก็บไว้ที่ล็อคเกอร์เหนือศีรษะที่ห่างจากที่นั่งเขาเล็กน้อย

'มันต้องงอนแน่ๆ'

ฆาบี้ยังคงคิดเรื่องที่ยังไม่ได้บอกเจนยุทธ

เขาเดินไปยังแถวที่เขานั่ง ที่นั่งของเขาเป็นตัวกลางของแถว เขาสะกิดชายหนุ่มที่นั่งติดทางเดินซึ่งก้มหน้าก้มตาฟังเพลงจากหูฟังอยู่

"ขอโทษนะครับ ขอเข้าข้างในหน่อย"

เขายิ้มเผล่ให้ใบหน้าน้อยๆ ที่เงยขึ้นมาแล้วตะลึงมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

"ขอฉันกลับบ้านด้วยคนนะ เจ"


------------------------------------------------


เย้ กลับเชียงใหม่ซะที! สรุปว่าไฟลท์วันนั้นคงดีเลย์เพราะฆาบี้จะทำเซอร์ไพรส์เจข่าาาาา

จบภาคสมุย คนเขียนขอไปปั่นงานประจำแปร๊บนึงนะคะแล้วจะกลับมาเขียนต่อซักปลายสัปดาห์หน้า ในตอนนี้มีแพลนยาวว่าจะพาเที่ยวต่อ ที่แน่ๆ คือกระบี่ที่คนเขียนไปมาและมาเก๊าซึ่งจะไปช่วงปลายตุลา มาเก๊านี่การันตีจะพาไปชิมร้านระดับติดดาวมิเชแลง 1 ร้านค่า รออ่านกันด้วยนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2017 23:27:25 โดย La Vida Sin Tu Amor »

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1
ในที่สุดคนเขียนโลว์เทคก็หาทางเพิ่มรูปลงไปในบอร์ดได้แล้ว ยะฮู้!!! ทีนี้จะได้ลงรูปอาหารและที่พักที่พวกหนุ่มๆ เขาไปกินกันให้คนอ่านดูได้แล้วนะคะ ตอนนี้กำลังทยอยอัพที่โพสต์ๆ ไปแล้ว ใครสนใจไปตามดูรูปจากตอนเก่าๆ ได้นะคะ หวังว่าเว็บฝากไฟล์ที่ฝากไว้เขาจะไม่ใจร้ายทำรูปเราหายน้อ ใครมีปัญหารูปไม่ขึ้นก็บอกด้วยนะคะ ตอนนี้แอบดูรูปแล้วขัดใจเล็กน้อยว่ารูปมันเล็ก พอคลิกที่รูปมันก็เพิ่มขนาดให้นิดหน่อยแต่ก็เล็กอยู่ดี ถ้าใครอ่านจากมือถือหรือแท็บเล็ต คงต้องรบกวนขยายดูนะคะ ช่วงที่แล้วทำรูปเล็กไว้เพราะในธันฯ เขาบังคับไซส์รูป แต่เดี๋ยวต่อไปอาจเซฟเป็น 2 ขนาดเพื่อลงที่นี่ด้วย

ตอนนี้ลงส่วนของหน้าแรกไปก่อน เดี๋ยวบ่ายๆ เย็นๆ อาจจะลงหน้าอื่นๆ ให้เสร็จนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2017 07:38:27 โดย La Vida Sin Tu Amor »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
 :hao5: o13 :katai2-1:
ชอบมากครับ สำนวนน่าอ่านมากครับ

 :L2: :pig4: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1




---- ทะเลาะ ----



ฆาเบียร์สะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนกลางดึกเพราะความหนาว เขาไขว่คว้าไปข้างตัวเพื่อหาความอุ่นจากหมอนข้างใบน้อยของเขาแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า เขาหยิบมือถือมาดู นี่ตีสองกว่าแล้ว เจนยุทธยังคงไม่เข้านอน ฆาเบียร์ลุกขึ้นแล้วหยิบกางเกงนอนที่ไม่ค่อยได้ใส่นอนมาสวม เขาเดินออกไปนอกห้อง เจ้าตัวน้อยของเขายังคงนั่งอยู่ที่เคาเตอร์ครัว เจเสียบหูฟังอันน้อยไว้กับหู หน้าน้อยๆ ที่ใส่แว่นสายตาของมันเคร่งเครียดกับงานที่อยู่ในแล็ปท็อป

"เจ ดึกแล้ว มานอนเถอะ"

ฆาเบียร์พูดพลางหาวน้อยๆ แต่เจยกมือบอกให้เขาเงียบก่อนและเงี่ยหูฟังบทพากย์ในหูอย่างจดจ่อ ฆาเบียร์เดินอ้อมเคาเตอร์ครัวเข้าไปนั่งข้างๆ เจ และดูสิ่งที่เจทำอย่างสนใจ เจเปิดโปรแกรมเวิร์ดไว้ 2 ฝั่งเป็นภาษาไทยฝั่งหนึ่งและภาษาอังกฤษซึ่งเป็นบทของสารคดีที่เจกำลังแปลอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เจพิมพ์คำแปลภาษาไทยลงไปอย่างแคล่วคล่อง เมื่อติดศัพท์คำใดหรือต้องการคำอธิบายเพิ่ม เขาก็จะเปิดหาเอาจากในอินเตอร์เน็ต เมื่อแปลไปได้พักหนึ่งเขาก็จะกดคลิปสารคดีนั้นๆ ขึ้นมาฟังพร้อมกับใส่เวลากำกับลงไป ปากของเขาอ่านตามไปด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าคำที่พิมพ์แปลลงไปจะไม่เกินหรือขาดจากคำภาษาอังกฤษของต้นฉบับไปมากนัก



"ฆาเบียร์ ตื่นเถอะ"

เจเขย่าปลุกคนตัวโตที่ฟุบนอนอยู่ที่เคาเตอร์ครัว ฆาเบียร์งัวเงียตื่นขึ้นมาดูนาฬิกา ตีสามกว่าแล้ว

"เสร็จแล้วเหรอ เจ? เข้านอนกันเถอะ"

เจนยุทธส่ายหัวด้วยท่าทีหงุดหงิดเล็กน้อย

"คุณไปนอนก่อนเถอะ ผมคงอีกสักพัก"

ฆาเบียร์ทำท่าจะพูดอะไรแต่ก็หยุดเมื่อเห็นสีหน้าคร่ำเคร่งของเจ

"อย่าหักโหมล่ะ"

เขาจูบแก้มเจเบาๆ ก่อนจะเดินคอตกเข้าห้องไป เขานอนพลิกไปพลิกมาพักใหญ่ เขาไม่อยากแสดงออกต่อหน้าเจนยุทธ แต่ตอนนี้เขากำลังน้อยใจในตัวเจ ตั้งแต่กลับมาจากสมุยเมื่อ 2 คืนที่แล้ว เจก็เอาแต่นั่งทำงาน พวกเขาออกไปกินข้าวง่ายๆ กันมื้อสองมื้อ ที่เหลือ เจขอนพให้พาเขาออกไปแทน

"รู้งี้กลับฮ่องกงไปซะก็ดี"

ฆาเบียร์รำพึงกับตัวเอง เขารู้สึกว่าตาของเขาร้อนผ่าว น้ำตาเจ้ากรรมไหลออกมาอีกแล้ว ฆาเบียร์กัดกรามคนอย่างเขาทำไมต้องมาร้องไห้เพราะเด็กคนหนึ่งด้วย นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาน้ำตาร่วงเพราะน้อยใจในตัวเจนยุทธ ครั้งแรกก็คือตอนที่เขาได้ยินเจในห้องน้ำกับแม่สาวไม่ทราบชื่อคนนั้น เขาคิดเรื่อยเปื่อยไปจนผลอยหลับไป



ตีห้า...เจนยุทธเดินสะโหลสะเหลเข้าห้องนอนมา เขาปวดตาไปหมดแล้ว เขาเปิดจอมือถือเพื่อให้แสงแก่ห้องที่มืดมิด เขามองดูเมียตัวโตของเขาที่นอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยความสงสารแล้วก็ต้องใจหายเมื่อเห็นคราบน้ำตาบนหางตาของฆาเบียร์ เขาจุมพิตที่หางตาของคนตัวโตเบาๆ

"ขอโทษครับ ที่รัก อีกวันสองวันก็จะเสร็จแล้ว รอหน่อยนะ"

เขากระซิบเบาๆ พร้อมลงนอนกอดกระชับคนตัวโตจากทางด้านหลังและแนบหน้าลงไปกับแผ่นหลังกว้างนั้น เขาไม่อยากปล่อยฆาเบียร์ไว้เดียวดายแบบนี้ แต่งานของเขาช้ากว่าที่ตั้งเป้าไว้เยอะแล้ว ที่จริงเขาเว้นช่วงรับงานไว้ตามกำหนดเดินทางกลับของฆาเบียร์ แต่เพราะไปใช้เวลาที่สมุยเสีย 1 สัปดาห์แถมคนตัวโตยืดเวลาอยู่กับเขาไปอีก 1 สัปดาห์ทำให้มาตรงช่วงกับตอนที่งานเข้าพอดี จะให้แคนเซิลงานเขาก็ทำไม่ได้ ปกติเขาจะทำงานแบบชิลๆ มีเวลาพักบ้าง ทำงานไปเรื่อยๆ แต่พอเป็นแบบนี้เขาเลยว่าจะรีบปั่นเต็มที่ให้เสร็จตั้งแต่สองสามวันแรกแล้วไปให้เวลาฆาเบียร์เต็มที่ช่วงสามสี่วันสุดท้าย แต่เหมือนว่าฆาเบียร์จะชิงน้อยใจไปก่อนแล้ว เขาถอนหายใจ ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกันให้รู้เรื่อง ตอนนี้เขาขอนอนพักชาร์จแบตก่อน



เก้าโมงเช้า...ฆาเบียร์ตื่นมาพร้อมความหนาวเย็นอีกครั้ง ช่วงใกล้รุ่ง เขาที่นอนหลับไม่สนิทนักรู้สึกถึงความอบอุ่นของกายเจที่มาอิงแอบกายเขา แต่ตอนนี้ร่างอุ่นๆ นั้นก็ไม่อยู่อีกครั้ง เขาลุกขึ้นไปดูที่ห้องน้ำ เจก็ไม่อยู่ เขาเดินออกนอกห้อง เจ้าตัวเล็กนั่งทำหน้ายุ่งอยู่หน้าคอมอีกแล้ว ฆาเบียร์ถอนหายใจ เขาช่วยเจทำงานไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็คงมีอะไรที่เขาจะทำให้เจนยุทธได้บ้าง เขาเข้าครัว เปิดตู้เย็นและหยิบเอาของสดออกมา เจตวัดสายตาที่แดงก่ำมองไปที่กายเมียตัวโตที่ง่วนอยู่หน้าเตา เขายิ้มบางๆ ให้กับภาพนั้น แล้วหันกลับมาเร่งทำงานต่อ อีกนิดเดียวจะจบตอนนี้แล้ว เหลืออีกตอนหนึ่งซึ่งน่าจะเสร็จภายในพรุ่งนี้จากนั้นเขาจะว่างให้กับฆาเบียร์เต็มที่แล้ว

ฆาเบียร์ทอดเบค่อนสองเส้นในไมโครเวฟแล้วยกออกมาใส่จานไว้ เขาตีไข่ 2 ฟอง นมนิดหน่อย เกลือและพริกไทยให้เข้ากัน จากนั้นเอากะทะก้นแบนตั้งไฟกลางใส่เนยลงไปนิดนึงรอจนร้อนแต่ไม่ปล่อยให้เนยไหม้แล้วเทส่วนผสมไข่ลงไป เมื่อไข่เริ่มเซ็ตตัวเขาใช้ช้อนไม้ยีไข่ เขากวนมัน ยกขึ้น โปะลงวนไปจนทั่วก้นกะทะแต่ไม่ปล่อยให้มันเละและสุกเกินไป ปล่อยให้มันยังเยิ้มๆ สักหน่อย ยกกะทะลงจากไฟ ทิ้งไว้อีกสัก 10 วินาที คนครั้งสุดท้ายแล้วตักลงใส่จานที่เตรียมไว้ จากนั้นเขาหยิบมะเขือเทศราชินีลูกน้อยมาหั่นใส่ไว้ในจานให้ด้วย เขารินน้ำส้มใส่แก้วและจัดทั้งหมดใส่ถาดไปวางไว้บนเคาเตอร์ครัวใกล้ๆ ตัวเจนยุทธ ตัวเขาหยิบมูสลี่มาเทใส่ถ้วยและราดโยเกิร์ตลงไปกินพร้อมกล้วยที่หั่นเตรียมไว้แล้ว เขายืนกินที่หน้าเตาเพราะไม่อยากไปกวนเจ จากนั้นเอาน้ำล้างกะทะแล้วใส่ไว้ในเครื่องล้างจาน เขาหันกลับไปหาเจเพื่อที่จะเก็บจานชามที่กินเสร็จแล้วแต่ก็ต้องอึ้งไปเมื่อพบว่าเจนยุทธไม่ได้แตะต้องอาหารที่เขาทำให้เลยสักนิด ฆาเบียร์ข่มความน้อยใจที่พลุ่งพล่านขึ้นแล้วกลั้นใจถามไป

"เจ กินก่อนดีกว่าไหม? เดี๋ยวค่อยทำงานต่อ"

เจที่นั่งทำหน้ายุ่งอยู่ไม่ได้ฟังที่ฆาเบียร์พูดเลย เขากำลังง่วนฟังสิ่งที่อยู่ในหูฟัง ฆาบี้อดรนทนไม่ไหวแล้ว เขาเดินไปดึงเอาหูฟังของเจออก เจสะดุ้งและยกมือขึ้นปัดอย่างไม่ตั้งใจ มือนั้นยันเข้าไปที่หน้าของฆาเบียร์ที่กำลังจะกระซิบบอกเจให้กินข้าวเข้าเบาๆ แต่มันก็แรงพอที่จะทำให้สติของฆาเบียร์ขาดผึง



"ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ เจนยุทธ นายเป็นบ้าอะไร?"

ฆาเบียร์ตะคอกลั่น เขาไม่เคยต้องเป็นฝ่ายทำอะไรให้ใครเยอะขนาดนี้มาก่อนแล้วคนตัวเล็กข้างหน้าเขายังทำเหมือนมันไม่มีค่าอะไร เจนยุทธตะลึงไป เขาตกใจตั้งแต่มือของเขาไปปัดโดนหน้าอีกฝ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจแล้ว แต่ทำไมฆาเบียร์ต้องโกรธเขาถึงขนาดนี้ เขาหันไปดูข้างตัว ไข่กวนจานนี้มาวางตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ยิ่งเจทำหน้างงๆ ฆาเบียร์ก็ยิ่งโมโห

"ฉันตั้งใจทำข้าวเช้าให้นายแต่นายไม่สนใจสักนิด"

น้ำตาของเขาเอ่อขึ้นมาอีกแล้ว ฆาบี้ได้แต่พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ เจนยุทธเองก็เริ่มเดือดปุดๆ งานของเขากำลังจะเสร็จอยู่แล้ว แถมเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฆาเบียร์เอาของมาวางไว้ให้เพราะมัวแต่รีบปั่นงานให้เสร็จ ความเครียดผสมกับการอดนอนทำให้เขาทำอะไรไปอย่างไม่คิด เขาหยิบไข่กวนมารีบกินๆ เคี้ยวๆ ลงท้องให้มันจบๆ ไปแล้วยกน้ำส้มดื่มอักๆ ด้วยอารมณ์ประชด

"ผมกินหมดแล้ว พอใจหรือยัง? เลิกยุ่งกับผมได้แล้ว ผมจะทำงานต่อ"

เจยกหูฟังขึ้นเสียบหูใหม่และไม่สนใจฆาเบียร์ที่ยืนหน้าแดงก่ำอยู่ข้างหน้า คนตัวโตที่ไม่ค่อยจะมีคนขัดใจเดินเข้าไปกระชากตัวเจขึ้น วันนี้เขาต้องคุยกับมันให้รู้เรื่อง



"เฮ้ย!"

เจนยุทธอุทานเมื่อหูฟังที่เสียบกับโน้ตบุ้คของเขาดึงเอาโน้ตบุ้คเครื่องบางของเขาลอยหวือเกือบตกจากโต๊ะ ดีที่เขารับไว้ทันและวางมันบนโต๊ะอย่างทะนุถนอม เขาข่มความโกรธที่พลุ่งพล่านขึ้นไม่ไหวแล้วและหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเมียตัวโตที่ยืนหน้าดำหน้าแดงอยู่ข้างหน้า

"เกินไปแล้วนะ ฆาเบียร์ ผมอุตส่าห์นั่งทำงานทั้งคืน คุณล้ำเส้นเกินไปแล้ว"

เขาตบเคาเตอร์เปรี้ยงและขึ้นเสียงใส่คนรักที่วันนี้ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่แล้ว

"งานๆๆ ฉันกลับบ้านมาทั้งที นายไม่คิดจะสนใจฉันมั่งหรือไง?"

ฆาเบียร์ซึ่งโกรธไม่ยิ่งหย่อนกันเอ็ดใส่ ที่สมุยพวกเขาอุตส่าห์ได้บอกรักกันในที่สุด แต่พอกลับมาเชียงใหม่เจนยุทธกลับเปลี่ยนไปทันที เมื่อก่อนต่อให้งานยุ่งแค่ไหน เจก็จะหาเวลาให้เขาได้เสมอ

"คิดว่าฉันรักแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ เจ? เมื่อก่อนนายไม่เห็นเคยต้องทำงานหนักขนาดนี้"

"คุณว่าผมเอาแต่งาน แล้วคุณล่ะ ทำงานจนบ้านช่องไม่กลับ ไหนตอนแรกบอกว่าจะสองสามสัปดาห์กลับทีแล้วนี่อะไร?..." เจนยุทธพักหายใจ

"...แล้วถ้าไม่ทำงานแล้วจะให้ผมรออยู่เฉยๆ เหรอ? เงินมันไม่ได้งอกมาจากต้นไม้นะ ฆาบี้ ผมก็มีของที่อยากได้อยากซื้อบ้าง"

เจกระชากเสียง เขาปวดหัวตุบๆ เพราะการอดนอน ฆาเบียร์แค่นหัวเราะ

"ทำไม อยากได้เงินขนาดนั้นเลยเหรอ? ถ้าอยากได้นัก ฉันจะให้เงินนายเอง นายอยากได้เท่าไหร่ เจ?"



ฆาเบียร์ที่ขาดสติพูดในสิ่งที่คนรักกันไม่ควรพูดออกมาจนได้ เจนยุทธหน้าชา ฆาเบียร์เห็นเขาเป็นอะไร

"เหอะ ฆาเบียร์ ผมไม่ใช่ไอ้ตัวที่คุณเคยควงถึงจะเอาเงินมาฟาดหัวได้ ถึงการงานผมจะไม่มั่นคง แต่ก็เป็นเงินที่ผมหาได้เอง คุณหวังจะให้ผมคอยรับเงินคุณอยู่เฉยๆ รอคุณมาหาแล้วก็คอยอ้าขาให้หรือคอยเสียบคุณให้งั้นเหรอ? ถ้าคุณมองผมเป็นแค่นั้น คุณก็ไม่ต้องใช้คำว่ารักมาผูกมัดผม ก็แค่บอกมาตรงๆ ว่าจะเลี้ยงผมไว้เป็นไอ้หนูของคุณที่คุณใช้คลายเหงา ดีไหม คุณมาร์ติเนซ?"

เจนยุทธที่โกรธจัดไม่รอฟังคำตอบของฆาเบียร์ เขาหยิบแล็ปท็อปพับใส่กระเป๋าแล้วเดินเข้าห้องนอนไป ฆาเบียร์ที่เพิ่งได้สติจากคำพูดของเจอึ้งไปครู่ใหญ่ เขากำลังจะเดินเข้าไปขอโทษเจในห้องนอนแต่เจที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินแบกเป้เดินสวนออกมาพอดี ใบหน้าน่ารักของเจนั้นแข็งกระด้างจนทำให้ฆาเบียร์พูดไม่ออก เจวางของสิ่งหนึ่งไว้ที่เคาเตอร์ครัว แล้วเดินออกประตูห้องไป



ฆาเบียร์ตะลึงมองดูต่างหูของคาตาลิน่าที่เจนยุทธถอดวางคืนให้เขาบนเคาเตอร์ครัวแล้วทรุดกายลงนั่งอย่างหมดแรง การทะเลาะกันครั้งแรกของชีวิตคู่ของเขากับเจมาถึงเร็วและดูจะรุนแรงกว่าที่เขาคิด เขาได้เผลอพูดในสิ่งที่ทำร้ายจิตใจและศักดิ์ศรีของคนรักไป หากตัวเขาเองก็ยังน้อยใจในตัวเจที่ไม่ยอมอธิบายหรือพูดคุยอะไรให้เขาเข้าใจเลย ตอนที่เจออกห้องไปใจเขาสั่งให้คว้าตัวมันมากอดไว้แล้วพร่ำกล่าวคำขอโทษ แต่ตัวเขาที่ไม่เคยงอนง้อใครก่อนก็ทิฐิเกินไปที่จะทำแบบนั้น

ล่วงเข้ายามบ่ายแก่ๆ เจนยุทธก็ยังไม่กลับเข้ามา ฆาเบียร์เริ่มร้อนใจ เขาพยายามโทรหาเจแต่เข้าฝากข้อความตลอด เขายิ่งร้อนใจหนักขึ้นเมื่อเห็นกุญแจรถยนต์ของเจวางอยู่ที่โต๊ะหัวเตียง เขาลงไปดูที่ลานจอดรถ เจทิ้งรถยนต์ไว้แต่ขี่มอเตอร์ไซค์คันเก่าของเขาออกไป ฆาเบียร์ยิ่งเป็นกังวลหนัก เขากลัวไปหมดทุกอย่าง สมองเขาจินตนาการไปถึงเจที่โมโหจนขาดสติขี่มอเตอร์ไซค์ไปประสบอุบัติเหตุต่างๆ นานา มือของเขาเย็นเฉียบ เหงื่อไหลออกโทรมกาย อาการหวาดวิตกของเขากลับมาอีกแล้ว เขาขึ้นลิฟต์กลับไปที่ห้องอย่างกระวนกระวาย ถ้าเจนยุทธเป็นอะไรไปเขาจะทำอย่างไร เขาจะอยู่ได้อย่างไร เขาโทษตัวเองที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป เขารีบแต่งตัว เขาต้องออกไปตามหามัน​ เขาลนลานโทรหานพเผื่อนพจะได้รับข่าวอะไรจากเจบ้าง



"นพ เจโทรหามึงหรือเปล่า"

เขารีบกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ทันทีที่อีกฝ่ายรับสาย

"เออ สวัสดีมึง กูสบายดี ขอบคุณที่ถาม"

เพื่อนตัวอวบของเขาพูดเสียงเนือยๆ กลับมา ฆาเบียร์ที่ใจร้อนแทบจะระเบิดอยู่แล้วรีบถามกลับไปอีกครั้ง ปลายสายหัวเราะหึๆ ก่อนจะกระซิบเสียงเบาๆ

"มึงทะเลาะอะไรกับผัวมึงมาล่ะ มันถึงมากวนกูแต่เช้า รีบๆ มารับมันกลับไปซะที กูเบื่อหน้ามันเต็มทนแล้ว"

ฆาเบียร์ยิ้มออกมาทั้งน้ำตาอย่างกลั้นไม่อยู่ เจนยุทธไม่เป็นไร เขาโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกไปจากอก

"กูจะรีบไปรับมันเดี๋ยวนี้แหละ มึงแชร์โลเคชั่นบ้านมึงมาหน่อย เดี๋ยวกูไปหา"



ฆาเบียร์สตาร์ทรถของเจแล้วขับออกไปที่บ้านของนพตามที่แชร์โลเคชั่นมา เขาขับอย่างระมัดระวัง เขาเคยขับรถคันนี้หลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่ค่อยชินกับการจราจรของเชียงใหม่ เขาขับมาถึงบ้านของนพที่ย้ายออกจากถนนนิมมานฯ มาอยู่ริมแม่น้ำปิงหลายปีแล้ว เขามาบ้านนี้หลายครั้งกับเจแต่ก็ยังจำที่ตั้งแน่นอนของมันไม่ได้ เขากดกริ่งเรียกก่อนที่ประตูบานใหญ่หน้าบ้านจะเปิดออก บ้านของนพมีบริเวณกว้างขวาง มีบ้านหลังใหญ่ที่น้องสาวและน้องชายของนพอยู่และเรือนหลังเล็กชั้นเดียวที่นพแยกมาปลูกเองอีกหลัง เขาเข้าจอดที่หน้าเรือนเล็กนั้นและกดกริ่งประตูอย่างร้อนใจ สายตาเขาเหลือบไปเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของเจที่จอดอยู่หน้าบ้านแล้วก็ต้องใจหายวาบ สภาพของรถเหมือนประสบอุบัติเหตุมา กระจกหายไปข้างหนึ่ง ข้างตัวรถก็มีรอยครูด ประตูบ้านเปิดออก เขาไม่ทักทายนพที่เปิดประตูให้แต่รีบเดินพรวดเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว

"แหม จะไม่ทักกูสักคำเลยเหรอวะ ฆาบี้"

เพื่อนรักของเขาตะโกนตามหลัง เขาไม่สนใจรีบเดินตามหาเจนยุทธในบ้านน้อยหลังนั้น เมื่อไม่เจอเขาเดินกลับมาเขย่าตัวเพื่อนตัวอวบของเขา

"เจล่ะ เจไปไหน? เจเป็นอะไรหรือเปล่า?"

เขาพูดจนเกือบจะเป็นเสียงตะโกนใส่หน้านพซึ่งซ่อนยิ้มอยู่ในหน้า เขาไม่เคยเห็นฆาเบียร์กระวนกระวายขนาดนี้มาก่อน อดีตรูมเมทของเขาคนนี้คงเป็นห่วงน้องน้อยของเขาจริงๆ



"ถ้ากูบอกว่ามันอยู่ไอซียู นอนไม่ได้สติอยู่ล่ะ?"

คนเจ้าแผนการพูดออกมาเนิบๆ ฆาเบียร์รู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงที่กลางใจ ความร้อนใจทำให้เขาลืมดูสีหน้าของนพ เขาทรุดฮวบลงกับพื้น น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว มันต้องไม่ใช่เรื่องจริง เจต้องไม่เป็นอะไร

"กู...กูไม่เชื่อ เจต้องไม่เป็นอะไร เจเป็นอะไรไปไม่ได้ ถ้ามันเป็นอะไรไป กูจะอยู่ยังไง?"

ฆาเบียร์เกาะแขนเพื่อนตัวอวบของเขาที่ประคองเขาขึ้นนั่งบนโซฟา

"ตอนนี้มันอยู่ไหน กูจะไปหามัน"

ฆาเบียร์บีบแขนนพแน่น แต่เพื่อนของเขาบ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบ

"เอาน่ะ ตอนนี้เขายังห้ามเยี่ยม มึงไปหาตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ มึงสงบสติอารมณ์ก่อน เล่ามาว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเดี๋ยวกูจะพาไปหามัน"

ฆาเบียร์สูดลมหายใจเข้าออกตามที่หมอเคยสอนและค่อยๆ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้น

"กูก็งี่เง่าเองที่ไปพูดกับมันแบบนั้น แต่กูก็แค่อยากให้มันสนใจกูบ้าง กูเองก็เหนื่อยทุกครั้งที่ไปทำงาน เวลากลับมาหามันกูก็อยากใช้เวลากับมันให้เต็มที่ แต่มันกลับไม่ใส่ใจกู กูก็เลยน้อยใจ"

ฆาเบียร์ระบายออกมา น้ำตาของเขาเอ่อขึ้นมาอีกแล้ว

"แต่ตอนนี้กูไม่สนแล้ว นพ กูไม่สนอีกแล้วว่ามันจะเมินกู ไม่สนใจกู ทำแต่งานหรือว่าอะไร พวกนั้นมันไม่สำคัญเลย กูขอแค่ให้มันมายืนตรงหน้ากูตอนนี้ ขอแค่อยู่ใกล้ๆ มันก็พอแล้ว กูขอแค่นี้ กูเพิ่งได้บอกรักมันไปแท้ๆ มันจะมาเป็นอะไรไปไม่ได้ กูไม่ยอม กูรักมันนะนพ กูรักมัน"

ฆาเบียร์ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง



"เอ่อ...นพ พี่ว่าพอแล้วดีกว่าไหม?"

เสียงทุ้มเนิบๆ ของวัฒน์ที่เพิ่งมาถึงเมื่อเช้านี้พูดขึ้นเป็นภาษาไทย

"เออ พอก็ได้ พวกมึงไปเคลียร์กันเองแล้วกัน กูไม่ยุ่งละ"

นพพ่นลมหายใจออกปากอย่างขัดใจ​

"คุณฆาเบียร์ มาทางนี้หน่อยครับ"

วัฒน์พูดภาษาอังกฤษช้าๆ ตามประสาคนไม่ค่อยได้ใช้

ฆาเบียร์หันไปมองที่ต้นเสียงแล้วก็ต้องลุกพรวดขึ้น วัฒน์เดินออกมาจากห้องนอนเล็กที่ปิดไว้ ที่ยืนแอบอยู่ด้านหลังคือคนที่เขากำลังเป็นห่วงจนแทบบ้า เขาก้าวเท้าพรวดๆ เข้าไปรวบร่างเพรียวนั้นกอดกระชับไว้แนบอก ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของฆาเบียร์แนบเข้ากับแก้มใสๆ นั้น วัฒน์เดินมาฉุดมือนพให้ออกห่างจากสองคนนั้น



"เจ็บ!"

เจนยุทธครางออกมาอย่างลืมตัวเมื่อฆาเบียร์กดเข้าที่แผลของเขา ฆาบี้ใจหายวาบดันตัวของเจออกแล้วสำรวจรอบตัว ข้อศอกและแขนซ้ายของเจมีรอยถลอกปอกเปิกแต่ก็ได้รับการทำแผลแล้ว เสื้อผ้าด้านซ้ายและหลังของเขามีรอยเสียดสีและขาดเป็นที่ๆ ฆาเบียร์ทำท่าจะทรุดลงอีกครั้งจนเจต้องประคองไปนั่งที่โซฟา ฆาเบียร์พลิกหน้าน้อยๆ ของเจดูซ้ายขวา ดูที่หลังหัว

"ใส่หมวกกันน็อค ไม่เป็นไรหรอก"

เจพูดเรียบๆ มอเตอร์ไซค์เขาตกหลุมและแฉลบเอาตรงถนนกรวดทางเข้าบ้านของนพ เขาไม่ได้เป็นอะไรมากส่วนมือถือเละไปเรียบร้อย ดีที่แล็ปท็อปยังไม่พังแต่รถสตาร์ทไม่ติด ยังดีที่เขาสามารถเข็นรถเข้ามาจนถึงบ้านของนพ ฆาเบียร์ซบหน้าลงบนไหล่ของเจอย่างหมดแรง เขาสะอื้นเบาๆ และพร่ำขอโทษเจในความปากไวของเขา

"ไม่ ฆาเบียร์ ไม่ต้องขอโทษผม"

เจนยุทธดันร่างใหญ่กำยำที่กอดกระชับเขาออก

"ผมเสียอีกที่ต้องขอโทษคุณที่ผมละเลยคุณไป"

เจซึ่งได้ยินทุกอย่างที่ฆาเบียร์พูดรู้สึกเสียใจในความละเลยของตัวเอง เขาเองก็ลืมไปว่าคนตัวโตก็ต้องทำงานเหนื่อยกว่าที่จะได้มาเจอเขา เขาเองควรทำตัวเป็นที่พักใจให้สมกับที่ตัวเองเคยบอกไว้แต่กลับลืมเลือนมันไป เขาใจแทบสลายเมื่อเห็นฆาเบียร์ร้องไห้ปิ่มจะขาดใจตอนที่ได้ยินว่าตัวเขาอาการไม่ดี เขาทนไม่ได้ที่จะเห็นคนๆ นี้เสียใจอีก โดยเฉพาะเมื่อความเสียใจนั้นเกิดขึ้นเพราะตัวของเขาเอง

เจนยุทธจุมพิตแผ่วๆ ที่ริมฝีปากบางอันสั่นระริกของฆาเบียร์ซึ่งจูบเขาตอบอย่างคะนึงหา เจสะท้อนใจเมื่อคิดว่านี่เป็นจูบแรกของพวกเขานับตั้งแต่กลับจากสมุยมา เขามัวแต่ยุ่งกับงานจนลืมที่จะเติมความหวานให้กับชีวิตของพวกเขาไปจนได้ เขากอดรัดร่างเมียตัวโตของเขาไว้แน่นเหมือนกลัวจะหายไป

"ผมสัญญา ฆาเบียร์ ผมจะไม่ปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นระหว่างเราอีก"

"ฉันด้วย เจ ฉันจะไม่ปล่อยให้อารมณ์ทำให้ฉันพูดอะไรที่ทำให้เจเสียใจออกไปอีก"

ทั้งคู่พร่ำขอโทษและกอดจูบกันแสดงความในใจกันอยู่เนิ่นนาน


(ต่อคอมเมนท์ถัดไป คำล้นอีกแล้วค่า)

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1



---- ทะเลาะ ----

(ต่อจากเมนท์บน)




"อะแฮ่ม เคลียร์กันได้แล้วใช่ไหม?"

คนเจ้าแผนการเดินเข้ามาด้านหลังคู่รักเพี้ยนๆ คู่นี้อย่างเงียบๆ ทั้งคู่สะดุ้งและอายจนหน้าแดงก่ำ พวกเขาลืมไปว่าที่นี่เป็นบ้านของนพ

"เห้ย พวกมึงจะรีบถอดกันไปทำไมวะ? นี่บ้านกู ไม่ใช่ม่านรูด วู้!!" นพร้องลั่น

ฆาเบียร์หน้าร้อนวาบก้มติดกระดุมเสื้อของเขาที่ถูกปลดลงมาเกือบถึงเอว ส่วนเจก็รีบใส่เสื้อยืดของเขากลับไป

"นพ นายนี่มันร้ายนักนะ"

ฆาเบียร์คำรามทำท่าจะบีบคอคนที่เขาเคยรัก นพหัวเราะเบาๆ เขาลงนั่งบนเก้าอี้นวมใกล้ๆ วัฒน์เดินตามเข้ามานั่งบนที่เท้าแขนของเก้าอี้

"ถ้าไม่ทำแบบนี้ จะดีกันไหมล่ะ? โดยเฉพาะมึง ไอ้เจ เมื่อกี้โกรธนักโกรธหนาบอกว่าจะเลิกแน่ๆ ตอนนี้ยังคิดเลิกอยู่ไหม?"

เจนยุทธหน้าร้อนวาบ เจอสภาพฆาเบียร์แบบนั้น ใครจะไปเลิกลง เขาใจอ่อนตั้งแต่เห็นน้ำตาที่เอ่อคลอตาสวยๆ คู่นั้นแล้ว ไหนจะคำบอกรักที่ทำให้เขาแทบจะขาดใจลงไปตรงนั้นอีก เขายื่นมือไปกุมมือใหญ่ซึ่งบีบกระชับมือเขากลับมา

"ไม่แล้ว พี่นพ ตราบใดที่ฆาเบียร์ยังบอกว่ารักผม ผมไม่มีทางไปจากเขาแน่"



นพพยักหน้าหงึกหงัก แล้วถอนหายใจ

"อย่าหาว่ากูสอนเลยนะ ทั้งคู่น่ะ การใช้ชีวิตคู่น่ะมันมีทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว และมันเลี่ยงไม่ได้หรอกที่จะต้องมีการพูดจากระทบกระเทียบกันให้ได้ช้ำใจ..."

นพแอบเหลือบมองวัฒน์ผู้ซึ่งโดนเขาโขกสับอยู่เป็นประจำ

"แต่ก่อนที่จะลุกลามใหญ่โต กูอยากให้พวกมึงนึกถึงเวลาที่พวกมึงจวนจะเสียคนๆ นั้นไป อย่างวันนี้ หรืออย่างตอนที่พวกมึงอยู่ที่ฮ่องกงก็ได้ ขอให้คิดถึงความรู้สึกในวันนั้นไว้ซะ แล้วนึกว่าพวกมึงพร้อมไหมที่จะทำในสิ่งที่ทำให้เขาเดินจากไป"

วัฒน์กระแอมน้อยๆ เหมือนเขาจะเป็นคนเดียวที่คอยคิดหรือเปล่านะ นพหันไปค้อนขวับให้

"จำความรู้สึกที่จะเสียคนรักไว้ให้มั่นแล้วแสดงความจริงใจของตัวเองออกมา มีอะไรก็พูดกันตรงๆ พูดกันดีๆ เอาใจใส่กันเข้าไว้ อย่าปล่อยให้เสียไปแล้วถึงจะค่อยมาเสียใจทีหลัง"

คนที่เคยพบความสูญเสียมาก่อนเตือนสติคู่รักที่อยู่ตรงหน้า เจน้ำตาร่วงเมื่อเห็นแววเศร้าในตานพ เขาหันไปกอดฆาเบียร์แน่น เขาจะไม่มีทางปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเป็นอันขาด



"เอ้า ไหน ทีนี้เล่ามาว่าทำไมถึงทะเลาะกันซะใหญ่โตขนาดนี้"

ฆาเบียร์อึกอักก่อนที่จะเล่าเรื่องให้นพซึ่งฟังมาคร่าวๆ จากเจบ้างแล้วฟังโดยละเอียด

"โอ๊ย กูจะบ้าตาย ทะเลาะกันเรื่องไม่ยอมกินข้าวเช้าที่ทำให้? มึงก็ทำงอนเป็นสาวๆ ไปได้ ฆาบี้"

นพกุมขมับ สมกับเป็นเจกับฆาเบียร์จริงๆ แต่เขาก็พอเข้าใจความน้อยใจของฆาเบียร์ เขารู้ว่าเพื่อนหนุ่มใหญ่เชื้อสายละตินของเขาคนนี้มีความทะนงในตัวเองแค่ไหน

"แล้วมึง ไอ้เจ จะรีบปั่นงานไปไหนวะ เด้ดไลน์อีกตั้งหลายวัน"

นพซึ่งเป็นคนคอยป้อนงานแปลให้เจนยุทธถาม ช่วงนี้เจรับงานต่อจากเขาไปเยอะพอสมควร

"...แล้วมึงจะรีบปั๊มตังค์ไปทำอะไรวะ เงินเก็บในบัญชีก็ยังเหลืออีกตั้งเยอะ อยากได้อะไรแพงขนาดนั้นเลยเหรอวะ?"

นพถามอย่างสงสัย เจหน้าแดง เขามีเหตุผลสำหรับเรื่องนี้

"ก็...ผมอยากรีบทำงานให้เสร็จก่อนกำหนดจะได้มีเวลาเต็มๆ วันกับฆาบี้ ผมคิดว่าเราเพิ่งกลับจากสมุย สวีทกันพอแล้วทำงานหนักสักสองสามวันก็คงไม่เป็นไร"

เขาบ่นว่าเขาจะรู้ได้ยังไงว่าเมียตัวโตของเขาต้องการความรักจากเขามากขนาดนี้ ฆาเบียร์หน้าร้อนวูบ เขาขาดความรักจากเจไปไม่ได้แม้แต่วันเดียวจริงๆ ๆ

"...แล้วที่รีบปั๊มตังค์เนี่ย...เอ่อ"   เจนยุทธอึกอัก

"เอ่อ...ก็ผมอยากใช้เงินที่หามาได้ด้วยตัวเองซื้อของให้เมียผมบ้างอ่ะ"

เจหน้าแดงเมื่อพูดมันออกมา เขาไม่อยากใช้เงินที่แม่ให้มาในการซื้อข้าวซื้อของหรือกระทั่งจ่ายค่ากินค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ฆาบี้ เขาอยากพูดได้อย่างสมภาคภูมิว่าเขาปรนเปรอคนรักของเขาด้วยเงินที่เขาหามาได้เอง

"ผมถึงเสียใจมากตอนที่ฆาเบียร์บอกว่าเขาจะให้เงินผม ผมเป็นผัวคุณนะ ฆาบี้ จะให้คุณมาคอยเลี้ยงผมตลอดได้ยังไง I'm not a pimp or a gigolo!"

'ผมไม่ใช่แมงดา'

เจนยุทธที่ยังแอบน้อยใจอยู่หน่อยๆ หันไปพูดใส่หน้าฆาเบียร์ซึ่งนั่งน้ำตาซึมอยู่ ฆาบี้ดึงตัวเจเข้ามากอดและพร่ำบอกว่าเขาไม่ได้อยากได้อะไร ขอแค่เจอยู่กับเขาก็พอ เจก็บ่นอุบอิบว่าบางทีเขาก็อยากหานั่นนี่ให้คนที่เขารักเหมือนกัน ฆาเบียร์ถอนหายใจ

"แต่เจจ๋า บางทีเจไม่ต้องเกรงใจอะไรฉันมากก็ได้ ฉันก็อยากหาอะไรให้เจเหมือนกัน อย่าลืมสิ เจก็เป็น 'มิอา' เหมือนกัน"

คนตัวโตออกเสียงคำว่า 'เมีย' แบบ 'Mí​a​' ที่แปลว่าของฉัน



"เอ๊ะ เดี๋ยวนะ มึงว่าไงนะฆาบี้ กูตกข่าวอะไรไปหรือเปล่า?"

เสียงใสๆ ของนพแทรกขึ้นเมื่อได้ยินประโยคนั้นของฆาเบียร์ เจนยุทธหน้าแดงยกมือตบไหล่ฆาเบียร์ดังป้าบเพื่อแก้เขิน ฆาเบียร์ยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว เขาอยากประกาศให้ทุกคนรู้ว่าในที่สุดเจก็เป็นของเขาโดยสมบูรณ์แล้ว เขารีบหันไปคอนเฟิร์มกับนพว่าเขาได้ยินถูกต้องแล้ว

"กูว่าแล้ว ไอ้เจเอ๊ย ว่ามึงน่ะหนีไม่รอดแน่" นพพูดกลั้วหัวเราะ

"ทีนี้ก็จัดคิวกันดีๆ ล่ะ..."

คู่กรณีทั้งสองหน้าแดง พวกเขายังไม่ได้คิดถึงขั้นนี้

"แล้วมึงอ่ะ ไอ้ฆาบี้ ถนอมๆ น้องกูหน่อย สงสารมันบ้าง โอเค๊?"

นพผู้เคยเจอฤทธิ์ฆาเบียร์มาปรามไอ้อดีตรูมเมทตัวดีผู้พยักหน้ารับคำอย่างแข็งขัน ส่วนเจก็นั่งหน้าแดงเมื่อนึกถึงความหื่นของฆาเบียร์ในคืนนั้น



"พี่นพ เรื่องงานทำไงดี เมื่อกี้ผมส่งตอนที่ทำเมื่อเช้าไปแล้ว แต่ยังเหลืออีกตอนที่ยังทำไม่เสร็จ แต่ตอนนี้แขนผมเป็นแบบนี้คงจะทำไม่ไหว"

เจนยุทธพูดอย่างกังวล เขายังไม่อยากเสียงาน แต่แขนเขาก็เริ่มระบมแล้ว นพบอกว่าไม่เป็นไร ส่วนของเขาใกล้เสร็จแล้วและจะจัดการตอนที่เหลือให้และขู่เจอย่างอารมณ์ดีว่างวดนี้เจโดนเขาตัดตังค์บานแน่ๆ

"ทีนี้ พวกมึงกลับกันไปได้แล้ว กูจะได้ต่อเรื่องที่กูค้างไว้ ส่วนรถมอเตอร์ไซค์มึง ว่างๆ ค่อยมาเอาแล้วกัน"

นพรีบรุนหลังทั้งสองคนออกจากบ้านเขาไป ฆาเบียร์ขึ้นรถไปอย่างงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาถามเจว่านพพูดถึงเรื่องอะไร

"อ๋อ...ผมเปิดเข้าบ้านไปตอนที่พี่นพกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มกับพี่วัฒน์พอดีน่ะ"

เจซึ่งมีกุญแจบ้านนพหัวเราะเมื่อนึกถึงตอนที่เขาพรวดเข้าไปตอนที่ร่างเกือบเปลือยของทั้งคู่กำลังนัวเนียกันบนโซฟา ฆาเบียร์หัวเราะตามแล้วนึกเอาว่ามิน่าล่ะนพถึงจัดยาแรงให้เขาทั้งคู่ ส่วนหนึ่งคงเพราะเป็นการแก้เผ็ดที่เจไปรบกวนเวลาอันมีค่าของนพกับแฟนด้วย

"เจจ๋า..."

ฆาเบียร์เรียกเจนยุทธอย่างอ่อนหวาน เจรับคำ ฆาเบียร์ดึงทิชชู่ที่ห่ออะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า เขาเปิดห่อนั้นออกแล้วหยิบต่างหูของคาตาลิน่าขึ้นมาและใส่กลับคืนที่หูซ้ายของเจ

"อย่าถอดมันอีกนะ เจนยุทธ"

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม เจลูบต่างหูข้างนั้นเบาๆ เขาโน้มคอคนตัวโตมาจุมพิตอย่างอ่อนหวานเป็นการให้คำสัญญาว่าเขาจะไม่ถอดมันออกง่ายๆ อีก ฆาเบียร์รับจูบนั้นไว้ ทั้งคู่อ้อยอิ่งคลอเคลียกันอีกพักใหญ่ก่อนฆาเบียร์จะขับรถพาเจกลับไปยังบ้านของพวกเขา


---------------------------------------------------


หมั่นไส้สองหนุ่มที่สวีทกันเกินที่สมุยเลยหาเรื่องเครียดๆ ให้บ้างค่ะ แต่คู่นี้เครียดกันได้ไม่นานหรอกเนาะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โถนพเอ๊ย

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1
@@@The Taste of Love...อิ่มรักรสโอชา - Jay's Girl [6/9/60]
«ตอบ #103 เมื่อ06-09-2017 07:51:47 »




---- Jay's Girl ----



ระหว่างทางกลับจากบ้านนพ ฆาเบียร์แวะโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อจับเจนยุทธตรวจร่างกายแม้เจ้าตัวจะบอกว่าไม่เป็นอะไร เขาก็ยังไม่วางใจ หลังจากทำแผลอีกรอบและรับยาแล้ว ฆาเบียร์ก็ขับรถพาเจกลับบ้าน

"เจ หิวหรือเปล่าแวะกินอะไรก่อนไหม?"

ฆาเบียร์ที่ตามองถนนถามขึ้น ไม่มีคำตอบจากเจ เขาถามซ้ำอีกทีก็ยังเงียบ ฆาบี้เหลือบไปดู คนรักของเขาหลับไปแล้วด้วยความอ่อนเพลีย ฆาเบียร์ตบจอดข้างถนนและกดเปิดเพลงจากมือถือที่ลิงค์กับวิทยุของรถและลดเสียงลงเบาๆ เพื่อขับกล่อมชายหนุ่มที่กำลังนอนกรนน้อยๆ อย่างสบายใจ และเคลื่อนรถต่อไป

"เจ...เจ ถึงบ้านแล้ว ตื่น"

เจ้าตัวดูจะไม่ยอมตื่นง่ายๆ ฆาเบียร์จึงได้โอกาสหาเศษหาเลยเล็กๆ น้อยๆ เขาหอมแก้มใสๆ นั้นก่อนจะจุ๊บปากน้อยๆ นั้นแผ่วๆ ก่อนจะกดจูบหนักขึ้น เขาลากลิ้นไล้ตามปากก่อนจะแทรกมันเข้าระหว่างริมฝีปาก เขาส่งลิ้นเข้าไปหยอกเย้ากับลิ้นน้อยๆ ของเจนยุทธ และเขารู้ว่าเจตื่นแล้วเมื่อลิ้นน้อยๆ นั้นเริ่มขยับมาพันไล้กับลิ้นเขา เจดูดลิ้นเขาเบาๆ ก่อนจะส่งลิ้นตัวเองกลับมาในปากฆาเบียร์บ้าง ก่อนที่จะดันตัวออกห่างฆาเบียร์พร้อมหอบหายใจถี่



"ฆาเบียร์...ขึ้นห้องกันเถอะ"

เจนยุทธที่หน้าแดงก่ำพูดเสียงแผ่วๆ สัมผัสของฆาเบียร์ได้ปลุกเร้าบางสิ่งของเขาให้ตื่นขึ้น เมียตัวโตของเขาดับเครื่องรถและลงมาเปิดประตูให้เจลง พวกเขาเดินจับมือกันขึ้นลิฟต์ไป ทั้งคู่ต่างกระวนกระวาย วันนี้ทำไมลิฟต์มันถึงช้าแบบนี้ ทันทีที่ประตูห้องปิดลง เจดันร่างใหญ่ของฆาเบียร์ติดประตูและโน้มคอมาจูบอย่างกระหาย ฆาเบียร์เองก็จุมพิตตอบด้วยความร้อนเร่าพอๆ กัน ฆาเบียร์ช้อนสะโพกของเจนยุทธขึ้นและอุ้มร่างเพรียวนั้นซึ่งใช้ขาทั้งสองเกี่ยวรอบเอวของเขา แก่นกายที่แข็งเกร็งขึ้นของทั้งสองบดเบียดกันแนบแน่นผ่านเนื้อผ้า ฆาเบียร์อุ้มคนรักของเขาไปที่โซฟาและวางร่างนั้นลงอย่างทะนุถนอนก่อนจะโน้มกายลงทาบทับ เสื้อผ้าของทั้งสองเริ่มหลุดออกจากกายจนเหลือแต่ตัวเปล่า ร่างร้อนๆ ทั้งสองบดเบียดเสียดสีกัน ทั้งคู่บรรจงประทับจูบลูบไล้อีกฝ่ายให้สมอยาก

"เจ ฉันคิดถึงสัมผัสของเจเหลือเกิน"

ฆาเบียร์ครางออกมาเหมือนละเมอ สองวันที่ถูกหมางเมินทำให้เขาแทบคลั่ง ความรู้สึกที่อยู่ใกล้แต่คว้าไม่ถึงนั้นแย่เสียยิ่งกว่าตอนที่พวกเขาอยู่ห่างกันคนละประเทศเสียอีก เจนยุทธตอบฆาเบียร์ว่าเขาก็คิดถึงสุดที่รักของเขาเช่นกันด้วยจุมพิตและสัมผัสอันเร่าร้อน ฆาเบียร์ครางออกมาเบาๆ เมื่อลิ้นร้อนๆ ของเจเลียไล้ไปตามตุ่มไตสีน้ำตาลอ่อนของเขา มันแข็งเป็นไตสู้ฟันที่ขบเบาๆ และนิ้วร้อนๆ ที่บดขยี้ มือของฆาเบียร์เองก็ลูบไล้ดีดดุนเม็ดทับทิมของคนรัก ท่อนล่างของสองคนเบียดสีกัน เจนยุทธเอื้อมมือของเขาลงไปกอบกุมส่วนสำคัญของทั้งเขาและฆาเบียร์เข้าด้วยกันและรูดไล้ไปพร้อมๆ กัน ฆาเบียร์ขบกรามแน่น มือเรียวของเจทำให้เขาเหมือนลอยอยู่บนวิมาน เขาครางออกมาอย่างลืมตัว เช่นเดียวกับเจซึ่งสูดปากอย่างเสียวซ่าน เขาหยุดมือก่อนที่จะระเบิดออกมา เขาลุกขึ้นนั่งคุกเข่าหันหลังให้ฆาเบียร์พลางแยกขาน้อยๆ มือของเขาจับไว้ตรงที่พักแขนของโซฟา สะโพกของเจนยุทธเชิดขึ้นทำให้เห็นช่องทางสีชมพูเด่นชัดเจน เขาหันหน้าไปหาฆาเบียร์ที่นั่งตะลึงอยู่



"ชักช้าอะไรอยู่ครับ ฆาเบียร์ มาสิ"

ฆาเบียร์ลนลานลุกขึ้นประกบด้านหลังของเจ

"เจ ไหวเหรอ? เดี๋ยวฉันเอาเจลมาก่อน"

ฆาเบียร์ถามเสียงสั่น เจหัวเราะแล้วชี้ที่กางเกงเขา ฆาเบียร์หยิบกระเป๋าตังค์ของเจขึ้นมา ข้างในนั้นมีเจลหล่อลื่นซองจิ๋วอยู่ เขารีบฉีกซองและชะโลมแก่นกายเขาด้วยเจลอุ่นๆ และทำท่าจะชะโลมช่องทางสีชมพูนั้นด้วยเจลที่เหลือ

"เอ๊ เดี๋ยว ไม่ใช่ตรงนั้น!"

เจนยุทธรีบร้องห้ามมา ฆาเบียร์ทำหน้าเว้าวอนแต่คนใจแข็งอย่างเจไม่ยอมเสียอย่าง เขาดันสะโพกถูกับแกนกายฆาเบียร์เบาๆ อย่างยวนยั่ว ฆาเบียร์ไล้แกนกายของเขากับปากทางนั้นอย่างยั่วเย้าก่อนจะสอดมันเข้าที่หว่างขาของเจนยุทธโดยให้แนบไปกับแกนกายแข็งเกร็งของเจ เจหุบขาเข้าทำให้เกิดความแน่นคับ ฆาเบียร์สูดปากเบาๆ เมื่อเขาเริ่มขยับกาย มือของเจนยุทธคอยรองรับแก่นกายของเขาพร้อมๆ กับที่รูดไล้แก่นกายของตน ความรู้สึกนั้นแม้ยังเทียบไม่ได้กับช่องทางแคบเล็กนั้น แต่ก็ถือว่าให้ความเสียวซ่านอย่างสุดแสนแก่เขาเช่นกัน เนื้อร้อนๆ ที่เสียดสีกันนำพาให้ทั้งสองล่องลอยสู่ความหฤหรรษ์ ไม่นานนักฆาเบียร์ก็คำรามลั่นพร้อมปลดปล่อยออกมาเต็มมือของเจ เช่นเดียวกับเจเองซึ่งปลดปล่อยออกมาเช่นกัน เจฟุบหน้าลงไปกับโซฟาและหอบหายใจถี่ เขายกมือขึ้นเลียน้ำรักของพวกเขาทั้งคู่ที่เปรอะมือ ฆาเบียร์มองลิ้นน้อยๆ ที่เลียไล้นิ้วมืออย่างมันเขี้ยว คราวหน้าเขาไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปแน่ๆ

ฆาเบียร์ลุกไปหยิบทิชชู่มาทำความสะอาดความเปรอะเปื้อนที่ตัวเจและบนโซฟา เขาดึงเจที่เกือบจะหลับอยู่บนโซฟานั้นแล้วให้ลุกขึ้นและดันหลังให้เข้าไปนอนในห้องนอน เจทิ้งตัวลงไปบนที่นอนนุ่มๆ แล้วหลับไปอย่างรวดเร็ว ฆาเบียร์กอดร่างอุ่นๆ นั้นไว้แนบอกก่อนจะหลับสนิทไปพร้อมรอยยิ้มบนหน้า



เจเขย่าตัวฆาเบียร์ที่นอนอยู่ข้างๆ เขานอนหลับสนิทมาสามชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ร่างกายเขากำลังเรียกร้องหาอย่างอื่น ฆาบี้ที่งัวเงียตื่นขึ้นก็เจอหน้ายุ่งๆ ของเจนยุทธจ้องเขาอยู่

"มีอะไรเหรอเจ? เป็นอะไร ปวดแผลเหรอ?"

เขาขยับกายลุกขึ้นนั่งและยกแขนซ้ายของเจมาดูด้วยความเป็นห่วง

"หิว..."

เจ้าตัวดีครางอ่อยๆ ออกมา เขายังไม่ได้กินมื้อเย็นเลย ตอนเที่ยงนพให้คนซื้อก๋วยเตี๋ยวมาให้เขา แต่มันแทบไม่พอยาไส้ เขาอยากกินอาหารมื้อใหญ่ๆ เต็มแก่แล้ว ฆาเบียร์ดูเวลาจากนาฬิกาที่หัวเตียงแล้วขมวดคิ้ว

"จะสี่ทุ่มแล้วนะ เจ จะมีอะไรให้กินอีก?"

เจนยุทธลากแขนฆาเบียร์ให้ลุกขึ้นแล้วเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างไว



เจบอกทางให้ฆาเบียร์ซึ่งเป็นคนขับ น้องอัซซูรี่ของเจพาทั้งคู่มายังศาลเจ้าเล็กๆ ที่คูเมืองด้านในตรงข้ามกับโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ ฆาเบียร์จอดรถไว้ข้างทาง เจพาเขาเดินเข้าไปในศาลเจ้า กลิ่นอาหารอันหอมหวนโชยออกมาจากเพิงด้านใน

"ร้านข้าวต้มจันทบูร"

เจอ่านชื่อป้ายร้านให้ฟัง นี่เป็นครั้งแรกที่เจพาฆาเบียร์มาร้านข้าวต้มแบบนี้ ปกติเขามักกินมื้อเย็นจนอิ่ม ไม่ค่อยปล่อยให้หิวดึกแบบนี้ เขาพาฆาเบียร์นั่ง เฮียเจ้าของร้านเข้ามารับออเดอร์พร้อมแนะนำอาหาร ฆาเบียร์บอกเจให้สั่งไปเลยแต่ก็ชักกังวลเมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กสั่งไม่เลิกเสียที

"คุณเอาข้าวต้มหรือข้าวสวย?"

เจหันมาถาม เขาบอกว่าขอเบาๆ อย่างข้าวต้มดีกว่า ฆาเบียร์ซึ่งคลุกคลีกับวัฒนธรรมจีนคุ้นกับการกินข้าวต้มกับเป็นอย่างดี แต่เขาไม่เคยกินข้าวต้มกับอาหารแบบไทยมาก่อน เจหันไปสั่งข้าวต้มให้ฆาเบียร์ 1 ถ้วย ส่วนของเขานั้นสั่งมา 3

"ข้าวต้มมันมีแต่น้ำ ไม่หนักเกินไปหรอก"

เขาหันมาทำหน้าเป็นใส่ฆาเบียร์ที่บ่นว่าเขาสั่งมาเยอะเกินไป เพียงครู่เดียวอาหารก็ทยอยลง เจนยุทธสั่งมาเยอะจริงๆ มีทั้งไฉ่โป๊วผัดไข่ ยำปลาสลิด ไส้พะโล้ทอด เลือดพะโล้ หนำเลี้ยบผัดหมูสับ ผัดผักบุ้งไฟแดงและกุ้ยช่ายขาวผัดเต้าหู้หมูสับ เจอธิบายให้ฆาเบียร์ฟังว่าแต่ละอย่างคืออะไร

"แล้วนี่คืออะไร?"

ฆาเบียร์ชี้อะไรสักอย่างที่ดูเหมือนปลาแห้งทอดกรอบที่ติดกันเป็นวง

"อ๋อ นี่คือปลาวง มันเป็นครีบปลากระเบนพันธุ์เล็กที่เขาเอาไปแปรรูปแล้วเอามาทอดน่ะ อร่อยนะ ของโปรดผมตอนเด็กๆ เลย กินกับข้าวเหนียวก็อร่อย"

ฆาเบียร์หักชิมพร้อมกับข้าวต้มไปนิดหนึ่งแล้วก็ติดใจ เขาเริ่มตักอาหารจานต่างๆ ขึ้นชิมโดยไม่ลืมถ่ายรูปและจดโน้ตไว้เหมือนเคย ถึงเขาจะไม่ค่อยได้โพสต์อะไรมากแล้ว แต่มันก็ติดเป็นนิสัยเสียแล้ว



"อืมม์ อาหารที่กินกับข้าวต้มนี่มักเป็นอาหารรสจัดสินะ"

เขาถามเจที่ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว เจ้าตัวพยักหน้ารับ อาหารที่กินกับข้าวต้มก็มักจะมีรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด ฆาเบียร์คีบยำปลาสลิดกินอย่างติดใจ ไฉ่โป๊วผัดไข่เขาก็ชอบ หนำเลี้ยบผัดหมูออกจะมันไปหน่อย ส่วนผักผักทั้งสองอย่างก็อร่อยดี เขาชิมเลือดพะโล้กับไส้พะโล้ทอดไปนิดหน่อย สำหรับคนวัยเขาควรเลี่ยงอาหารจำพวกเครื่องในได้แล้ว เขากินไปคุยกับเจนยุทธไปอย่างสนุกสนาน อากาศที่เริ่มเย็นนิดๆ ของเดือนพฤศจิกายนทำให้การกินข้าวต้มยามดึกมื้อนี้อร่อยยิ่งขึ้น

"เจ..."

ฆาเบียร์ยิ้มเขินๆ ให้เจ

"สั่งข้าวต้มให้ฉันอีกถ้วยได้ไหม?"

เจยิ้มอย่างดีใจที่ฆาบี้ของเขากินข้าวอร่อย เขารีบสั่งข้าวเพิ่มให้ที่รักของเขาทันที



ทั้งสองจบมื้ออาหารด้วยความอิ่มหนำ ฆาเบียร์รีบแย่งบิลมาจากพนักงานเพื่อจ่ายเอง

"เจ เขาคิดตังค์ผิดหรือเปล่า?"

เขาส่งบิลนั้นให้เจ เขาอ่านไทยไม่ออกแต่ดูจากตัวเลขแล้ว ไม่น่าใช่แน่ๆ อาหาร 8 อย่างมันจะไม่ถึง 500 บาทได้ยังไง?

"อือ ถูกแล้วแหละ กินร้านนี้ก็ราคาประมาณนี้ทุกที"

เจยึดบิลไว้แล้วเนียนหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาจ่ายเสียเอง ฆาเบียร์ได้แต่มองตาปริบๆ

"ผัดผักบุ้งของคุณน่ะ 30 บาทเองนะ ผัดไชโป๊วก็ 49 บาท อย่างอื่นก็ 69 79 ประมาณนั้น แต่อย่าไปสั่งซีฟู้ดร้านนี้เชียว ไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ ที่จริงผมชอบปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลาของร้านนี้ด้วย แต่วันนี้เขาไม่มี"

เจนยุทธร่ายยาว ก่อนจะพาเขาเดินขึ้นรถกลับไปที่ห้อง

]
(ftp://www.picz.in.th/images/2017/09/06/chantaboon-L.jpg[/img)


"อืมม์"

เสียงครางแผ่วเบาดังออกจากปากเจนยุทธที่อ่อนระทวยด้วยรสจูบของฆาเบียร์ เขาทั้งสองยืนอยู่ใต้สายน้ำอุ่นๆ เหมือนม่านน้ำตก ร่างทั้งสองบดเบียดกันแนบแน่น มือลูบไล้ฟองสบู่ให้กันและกัน เจนึกดีใจที่เขาไม่ตัดสินใจบ้าๆ ไปเมื่อเช้านี้ เขาจะทนออกห่างจากอ้อมอกอุ่นๆ นี้ไปได้อย่างไร? เขาซบหน้าลงไปที่อกกว้างของฆาเบียร์

"ผมรักคุณ ฆาเบียร์ มาร์ติเนซ"

เจพูดออกมาเหมือนคำละเมอ

"และฉันก็รักนาย เจนยุทธ"

ริมฝีปากทั้งของทั้งสองประกบติดกันอีกครั้งปล่อยให้ความหมางใจในตอนเช้าไหลไปกับสายน้ำอุ่นๆ นี้



เจตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นหลังจากได้นอนพักผ่อนเต็มอิ่ม คืนที่ผ่านมาเขาสองคนเพียงนอนหลับไปในอ้อมอกของกันและกันหลังพร่ำคำหวานให้กันจนพอใจ เป็นอีกหนึ่งคืนที่พวกเขานอนหลับอย่างสนิทในอ้อมแขนของคนรัก เจนยุทธพลิกตัวตะแคงมองหน้าเมียตัวโตของเขาที่ยังคงหลับใหล ใบหน้าคมสันนั้นยิ้มน้อยๆ เขาไล้นิ้วไปตามแนวกรามที่เด่นชัด ไรหนวดน้อยๆ ของฆาเบียร์ทำให้ใบหน้านั้นดูคมเข้มยิ่งขึ้น เขามองใบหน้านั้นอย่างหลงใหลก่อนจะจรดจูบเบาๆ ที่หน้าผากและลุกขึ้นไปทำกิจวัตรของตน

เจนยุทธเคลื่อนที่ไปมาในครัว เขาออกกำลังกายยามเช้าเสร็จแล้วและกำลังเตรียมอาหารเช้าให้ฆาเบียร์เพื่อเป็นการชดใช้ต่อสิ่งที่เขาทำไปเมื่อวาน เขาเปิดดูเว็บทำอาหารของบีบีซีและได้สูตรแพนเค้กกล้วยกลูเตนฟรีนี้มา เขาบดกล้วยสุกขนาดใหญ่ 1 ลูกในชามผสมจนเละ ใส่ไข่ 2 ฟอง ผงฟูหยิบมือหนึ่งและวนิลาสกัดเล็กน้อย คนให้เข้ากัน เขาทอดแพนเค้กในกะทะเทฟล่อนโดยใส่น้ำมันเพียงน้อยนิด โดยทอดข้างละ 1-2 นาทีจนสุกสวย สูตรนี้ทำได้ 4 แผ่น เขาจัดใส่จานละ 2 แผ่น จานของเขา เขาโปะหน้าด้วยเบค่อนทอดในไมโครเวฟหลายเส้นและราดเมเปิลไซรัปโชกๆ ส่วนของฆาเบียร์ เขาตัดผลไม้สดที่มีในตู้เย็นเป็นลูกเต๋า แล้วกองไว้ข้างๆ แพนเค้ก เขาจัดทั้งสองจานลงในโต๊ะน้อยๆ แบบกินบนเตียงพร้อมมีดส้อม รินน้ำส้มใส่แก้ว 2 ใบและหยิบกรีกโยเกิร์ตแบบถ้วยวางไว้ด้วยเผื่อฆาเบียร์จะอยากกิน เขายกโต๊ะน้อยๆ นั้นเข้าห้องนอนอย่างระมัดระวัง เขาวางมันไว้ข้างเตียงและปลุกคนตัวโตของเขาขึ้นมา



ฆาเบียร์ยิ้มกว้างเมื่อเห็นมื้อเช้าที่เจนยุทธตั้งใจทำให้เขาและยิ่งรู้สึกตื้นตันเมื่อเห็นเจใส่ใจทำให้มันเป็นมื้อเช้าแบบแคลอรี่ต่ำ

"อร่อยไหม เมียจ๋า?"

เจถามเสียงอ่อนหวาน ฆาเบียร์พยักหน้าแล้วเคี้ยวแพนเค้กกล้วยนั้นตุ้ยๆ เขาแอบเหลือบมองจานของเจแล้วยกส้อมจิ้มเบค่อนของเจมาสองชิ้นหน้าตาเฉย เจมองตาปริบๆ แล้วเขาจะทำแพนเค้กแคลอรี่ต่ำมาเพื่ออะไรในเมื่อพ่อเจ้าประคุณกินเบค่อนเข้าไปอยู่ดี ฆาเบียร์ยิ้มกริ่ม ต่อให้เขาระวังอาหารแค่ไหน เบค่อนยังคงเป็นจุดอ่อนของเขาเสมอ



ฆาเบียร์และเจนยุทธใช้เวลาช่วงก่อนเที่ยงที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่างเซ็นทรัล เฟสติวัล พวกเขากำลังเดินเลือกเสื้อผ้าด้วยกันที่แผนกเสื้อผ้าชายในเซ็นทรัล ฆาเบียร์อยากได้เสื้อผ้าลำลองแบบใส่สบายๆ ไว้ที่เชียงใหม่ ที่เมืองชิลแห่งนี้เขาไม่จำเป็นต้องแต่งตัวจัดด้วยเสื้อผ้าที่แสดงฐานะเหมือนที่ฮ่องกงหรือที่สหรัฐฯ ที่เขาต้องคอยรักษาภาพลักษณ์ผู้บริหารของตน อีกอย่างเจนยุทธบอกว่าวันนี้เขาจะเป็นคนจ่ายเงินซื้อของให้คนรักของเขาเอง ฆาเบียร์จึงไม่อยากให้เจต้องสิ้นเปลืองมาก ฆาเบียร์ยืนเคียงข้างเจและคอยถามว่าเสื้อตัวนี้เป็นอย่างไรบ้าง เจเหลือบมองคนตัวโตที่วันนี้ยืนประกบทางด้านซ้ายของเขามาตั้งแต่ลงรถ เขารู้ได้ว่านั่นเพราะฆาเบียร์กลัวคนจะมาเดินกระแทกแขนซ้ายที่เจ็บอยู่ของเขา เขาแอบยื่นมือไปกุมมือใหญ่ของคนที่อยู่เคียงข้างแล้วบีบเบาๆ ฆาเบียร์ยกมือเรียวนั้นขึ้นแตะที่ริมฝีปากโดยไม่ใส่ใจพนักงานที่ยืนหน้าเหวออยู่ข้างหลัง



ทั้งคู่เดินออกจากแผนกเสื้อผ้าชาย เจถือถุงช้อปปิ้งหลายใบ หน้าของเขายิ้มด้วยความเบิกบานที่ได้ซื้อของให้ฆาเบียร์ เขาพาฆาบี้เดินลงมาที่แผนกเครื่องสำอางและแวะที่เคาเตอร์มาร์ค เจคอบแต่ก็ต้องผิดหวังที่รู้ว่า eau de toilette กลิ่นประจำตัวของฆาบี้อย่าง Marc Jacob Men ไม่มีขายแล้ว กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่สะกดเจนยุทธให้เคลิ้มได้ทุกครั้ง เขาไม่เคยได้กลิ่นน้ำหอมใดที่ทำให้ใจเขาเต้นแรงได้แบบนี้มาก่อน ฆาเบียร์บอกว่าไว้เขาฝากคนที่สหรัฐฯ ซื้อให้แทน เขาเองก็ติดใจน้ำหอมกลิ่นนี้และใช้เป็นกลิ่นประจำตัวมาตั้งแต่ปี 2002 ที่มันเริ่มเปิดตัว ส่วนเวลาออกงานเขาใช้น้ำหอม Creed กลิ่น Sublime Vanille ซึ่งอวลกลิ่นวนิลาที่เจติดใจนักหนาบอกว่าได้กลิ่นแล้วอยากกินเขาไปทั้งตัว



"น้องเจ!!"

เจนยุทธสะดุ้งเฮือก เสียงสดใสที่เขาไม่อยากได้ยินที่สุดดังทักเขาจากด้านหลัง เขาค่อยๆ ปั้นยิ้มหันหน้าไปหาหญิงสาวผู้เป็นเพื่อนเรียนกับพี่อิ่มตั้งแต่สมัยป.ตรี

"พี่พลอย สวัสดีครับ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"

เจยกมือไหว้หญิงแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดอวดรูปร่างทรงนาฬิกาทราย พลอยเป็นสาววัยเกือบ 40 ที่ยังดูเหมือนสามสิบต้น ใบหน้าสวยเก๋นั้นแต่งแต้มอย่างพอดีด้วยสีสันราคาแพง เสื้อเชิร์ตขาวที่ปลดกระดุมลงพอเห็นเนินอกรำไรกับกระโปรงทรงดินสอสีดำเอวสูงรัดเปรี๊ยะยาวถึงเข่าและรองเท้าส้นเข็มสูงปรี๊ดทำให้เจกระเดือกน้ำลายฝืดๆ ลงคอ ผมซอยสั้นเกือบสกินเฮ้ดยิ่งทำให้ร่างนั้นดูเซ็กซี่มากขึ้น

ฆาเบียร์หน้าตึงเมื่อร่างนั้นเดินเข้ามาจูบแก้มซ้ายขวาของเจที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

"แหม ไม่ต้องทำพิธีรีตรองไหว้หรอก เราก็คนกันเองนี่ เจจ๋า พี่กลับมาพักใหญ่แล้ว รอบนี้คงอยู่ไทยยาว"

"นี่ไม่ได้เจอเราตั้งนาน คิดถึงจริงๆ นะเนี่ย ก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่เราจะมาหาพี่"

พลอยหยิกแก้มใสๆ ของเจนยุทธอย่างมันเขี้ยว แล้วหันไปมองฆาเบียร์อย่างไม่วางตา รูปลักษณ์ของหนุ่มเชื้อสายละตินคนนี้ทำให้สาวรักสนุกคนนี้สนใจอยู่ไม่น้อย



"เจ แนะนำเพื่อนให้พี่รู้จักหน่อยสิ"

พลอยเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงคนที่เคยผ่านเมืองนอกเมืองนามา เจนยุทธทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ พลอยกับเขามีความสัมพันธ์แบบแฟนเผลอแล้วเจอกันมาหลายปีแล้ว ต่างคนต่างไม่ได้ผูกมัดซึ่งกันและกันและดึงดูดกันแค่เพียงเรื่องเซ็กส์ที่ร้อนแรงเท่านั้น

"ผมฆาเบียร์ มาร์ติเนซครับ เป็น 'เพื่อน' ของเจนยุทธ"

ฆาเบียร์ที่พอจะดูความสัมพันธ์ของทั้งคู่ออกจากความกระอักกระอ่วนของเจเน้นเสียงที่คำว่า "เพื่อน" เป็นพิเศษ เจหน้าซีดเหลือสองนิ้ว

"ฉันชื่อพลอยค่ะ เป็นเพื่อนของเจ...แหม เจ มีเพื่อนน่ารักๆ แบบนี้ไม่เคยแนะนำให้ฉันรู้จักเลยนะ"

เจเหงื่อซึม เคยมีเหมือนกันที่เขาและพลอยมีสัมพันธ์แบบเราสามคนกับเพื่อนหนุ่มหน้าตาดีคนอื่นๆ ของเจ แต่เขาไม่นึกว่าพลอยจะอยากงาบแม้กระทั่งคนที่มีออร่าไม่สนผู้หญิงแผ่ออกมาชัดเจนอย่างฆาเบียร์

'ปีนผิดต้นแล้ว เจ๊พลอยเอ๊ย'

เจคิดอยู่ในใจ แต่ดูเหมือนฆาเบียร์จะดูคุยเล่นกับพลอยอย่างอารมณ์ดี พลอยเริ่มจับมือถือแขนเมียตัวโตของเขา กระทั่งลากนิ้วไปกับแผงอกกว้างนั่น ฆาเบียร์กระซิบกระซาบอะไรกับพลอยจนหล่อนหัวเราะอย่างขบขัน



"เจ งั้นเย็นนี้พาเพื่อนไปกินข้าวกับพี่ิสิ แฟนพี่เค้าจะไปบิน เราจะได้รำลึกความหลังกันหน่อย เราไม่ได้เจอกันจะปีแล้วนะ"

พลอยโปรยยิ้มให้ฆาเบียร์ที่ส่งยิ้มละไมแบบที่เคยยิ้มให้หนุ่มหน้าหวานทั้งหลายกลับคืน เจนยุทธมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกร้อนวูบวาบในอก ทั้งคู่เริ่มหัวเราะต่อกระซิกกันอีกครั้ง เจทนไม่ไหวอีกแล้ว

"พี่พลอย ปล่อยมือฆาเบียร์เถอะ ผมขอ"

เจพูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด หญิงสาวยิ้มบางๆ

"ทำไมเหรอ เจ หึงพี่เหรอ? ก็ไหนบอกว่าเราสองคนไม่ผูกมัดกันไง"

เจอ้าปากค้าง หล่อนพูดอะไรออกมา?

"ผมไม่ได้หึงพี่โว้ย แต่นั่นมันเมีย เอ๊ย แฟนผม พี่อย่ามาเกาะแกะได้ไหม?"

เจกัดฟันกระซิบเป็นภาษาไทยแต่คนตัวโตที่อยู่ข้างๆ แอบยิ้มกริ่มเมื่อได้ยินน้ำเสียงขุ่นเคืองและคำไทยที่คุ้นหูในประโยคนั้น



หญิงสาวอุทานเบาๆ แล้วยกมือปิดปากเพื่อซ่อนยิ้ม ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน จะผิดคาดก็แค่เรื่องบทบาทบนเตียงของทั้งสอง พลอยเห็นท่าทีเปี่ยมรักที่ทั้งคู่แสดงออกให้กันก่อนจะเข้ามาทักทายแล้ว อีกทั้งต่างหูเข้าคู่กันที่ทั้งคู่ใส่ออกจะแสดงให้เห็นชัดเจน เธอเพียงแค่อยากจะล้อเล่นกับชายหนุ่มที่เคยร่วมเตียงกันเท่านั้น

"แหมๆๆ ก็ทำไมไม่บอกพี่ตั้งแต่แรกล่ะ จะได้ไม่ต้องยุ่ง ขี้หวงเหมือนกันนะเราเนี่ย"

พลอยหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี เจนยุทธตาขวางมองคนตัวโตที่ยิ้มละไมอยู่ตรงหน้า นี่เมียเขาแร่ดแม้กระทั่งกับผู้หญิงแล้วเหรอ?

เพื่อนของพลอยที่ยืนเลือกเครื่องสำอางอยู่ใกล้ๆ เดินเข้ามาเรียก พลอยหันไปคุยด้วยแล้วหันกลับมาหาเจ

"งั้นพี่ไปก่อนนะ ขอให้มีความสุขมากๆ นะจ๊ะหนุ่มน้อย แต่ถ้าว่างแล้วแวะมาหาพี่ได้ตลอดนะ"

พลอยหยอดท้ายเป็นภาษาอังกฤษและจูบแก้มเจเบาๆ แล้วหันไปขยิบตาให้ฆาเบียร์ก่อนที่จะเดินไปหาเพื่อน



"ฆาบี้ ผมเจ็บ..."

เจนิ่วหน้า มือใหญ่ๆ ของฆาเบียร์ที่ปากยิ้มละไมกำต้นแขนซ้ายของเขาไว้แน่นอย่างลืมตัว ฆาเบียร์รีบปล่อยมือ ไม่ใช่เขาจะไม่รู้สึกอะไรเลยกับร่างอวบอัดที่แสดงสีท่าสนิทสนมกับเจนยุทธ เขาแค่ไม่อยากทำท่าทางเป็นเมียขี้หึงให้เจได้รำคาญใจ แต่เขาก็ไม่นึกว่าเจจะเป็นคนแสดงออกเสียเอง

"เมียจ๋า อย่างอนเลยนะ"

เจพูดเสียงอ่อนหวานเมื่อพวกเขาขึ้นนั่งบนรถ พอออกจากแผนกเครื่องสำอาง ฆาเบียร์ก็นิ่งเงียบจนพวกเขาเดินมาถึงรถ

"นั่นแฟนเก่านายเหรอ เจ? สวยมากเลยนะ เทสต์ดีนี่"

ฆาเบียร์พูดเบาๆ เขารู้ดีว่าเจสาวเยอะ แต่ก็ไม่เคยรู้ว่าจะมีคนที่มีสัมพันธ์กันระยะยาวแบบนี้ด้วย เขาได้ยินมาจากพลอยว่าเธอรู้จักเจมาตั้งแต่เจเป็นวัยรุ่นแล้ว

"เฮ้ย ไม่ใช่แฟน!" เจนยุทธอุทานลั่น

"เอ่อ พี่พลอยเค้า...เค้า..." เจตัดสินใจเล่าให้ฆาเบียร์ฟัง

"พี่พลอยเขาเป็นคนแรกของผมอ่ะ"



หนุ่มน้อยเจวัย 18 มีสัมพันธ์ครั้งแรกกับพลอยซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนของพี่สาวโดยที่ทั้งคู่เจอกันในผับ หลังจากชนแก้วกันไปชนแก้วกันมาก็จบลงที่หลังรถของพลอย หลังจากนั้นพวกเขาก็เป็นพี่น้องท้องชนกันมาตลอด พลอยสอนแทบทุกอย่างเรื่องเซ็กส์ให้กับเขา
 
"ผมกับเขามีอะไรๆ กันมาตลอดก็จริง แต่เราไม่เคยคบหากันนะ ฆาเบียร์ มีแค่เรื่องทางกายเท่านั้น นานๆ เจอกันทีด้วยเพราะพี่เขาไปต่างประเทศประจำ"

ฆาเบียร์นั่งเงียบแต่ในใจเขานั้นเหมือนถูกไฟเผา เขาพยายามข่มสติอารมณ์ให้คิดว่ามันก็ไม่ต่างกับเขาในสมัยก่อนที่มีสัมพันธ์ไปทั่วและก็ยังมีคนที่มีสัมพันธ์ระยะยาวแบบฌองด้วย แต่กระนั้นเขาก็ยังอดร้อนในอกไม่ได้ เจสังเกตอาการของฆาเบียร์ออก คนตัวโตนี้กำลังหึงเขาอยู่แบบเงียบๆ เจอดอมยิ้มไม่ได้ในท่าทางที่ทำเป็นไม่ใส่ใจในสิ่งที่เขาเล่าของฆาเบียร์

"ที่รักครับ"

เจจับคางคนที่ทำเป็นไม่งอนแล้วจูบเบาๆ ที่แก้ม

"ผมกับพี่พลอยไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ นะ พี่เขามีแฟนที่รักกันมากอยู่แล้ว เขาไม่มาใส่ใจผมหรอก แล้วที่มีอะไรกันน่ะ ครั้งสุดท้ายมันก็ก่อนเจอคุณตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ"

เจจับมือของเมียตัวโตขึ้นจูบ ฆาเบียร์หน้าตึง รู้ทั้งรู้ว่าผู้หญิงเขามีแฟนแล้ว เจก็ยังไปมีอะไรกับเขาอีก

"อีกอย่าง..."

สิ่งที่เจพูดต่อไปทำให้ฆาเบียร์ได้แต่กระพริบตาปริบๆ

"อีกอย่างพี่พลอยเค้าไม่จริงจังกับผู้ชายหรอก ตัวจริงของพี่เขาก็แอร์ฯ สาวคนที่เดินมาเรียกพี่เขานั่นแหละ พวกเขารักกันมากมาหลายปีแล้ว อย่างผมน่ะมีไว้แค่ปลดปล่อยเฉยๆ"

เจพูดยิ้มๆ แฟนสาวที่ใจกว้างเป็นมหาสมุทรของพลอยนั้นเขาก็เคย "รู้จัก" ลึกซึ้งด้วยครั้งหนึ่งเพราะเจ้าตัวอยากตามใจพลอย แต่เขาว่าเขาไม่เล่าให้ฆาเบียร์ฟังจะดีกว่า



"ฉันลืมถุงเสื้อไว้ในรถใบหนึ่ง เดี๋ยวลงไปเอาก่อนนะ" ฆาเบียร์หยิบกุญแจรถและลงลิฟต์ไปที่รถของเจ เขาเปิดประตูหลังออกและหยิบเอาถุงเสื้อ ทันใดนั้นสายตาเขาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาตัวชาไปทั้งตัว ที่รถของเจนยุทธที่พับเบาะลงจนเกือบราบเพื่อให้วางของได้นั้น เขาเห็นบางสิ่งที่เหมือนเส้นผมสั้นๆ สีดำสนิทตกอยู่ ผมพวกนั้นสั้นกว่าผมของเจ มืออันสั่นเทาของฆาเบียร์หยิบบางเส้นที่หงิกงอกว่าเส้นอื่นอย่างชัดเจนขึ้นมา ไหนจะคราบน้ำเหนียวๆ จางๆ บนหลังเบาะนั่นอีก ใจเขาเหมือนถูกมีดกรีด เขาปิดประตูรถดังปังและผลุนผลันขึ้นห้อง

"เจ นี่มันอะไร?"

เขาโยนห่อทิชชู่ลงที่หน้าของเจนยุทธ เจขมวดคิ้วเมื่อเปิดออกแล้วเจอเส้นสีดำสนิทพวกนั้น เขาคิดว่าเขาเก็บกวาดมันเรียบร้อยหมดแล้วเสียอีก เขาถอนหายใจยาว

"ผู้ชายหรือผู้หญิง?"

เสียงอันสั่นเทาของฆาเบียร์ถามขึ้น ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยไฟริษยาในใจ

"A female"

เจถอนหายใจ ในที่สุดเขาก็เลี่ยงวันนี้ไปไม่ได้ เขาลุกขึ้นยืนและหยิบกุญแจรถจากมือของฆาเบียร์และเดินไปที่ประตู

"มาสิ ฆาเบียร์"

เขาหันไปเรียกเมียตัวโตที่ยืนน้ำตาคลอเบ้าอยู่

"ผมจะพาไปเจอสาวคนโปรดของผม"

'I'll take you to meet my favorite girl.'



-------------------------------------------------



กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด อิเจ!!!!

สูตรแพนเค้กกล้วยค่ะ https://www.bbcgoodfood.com/recipes/banana-pancakes



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2017 19:01:21 โดย La Vida Sin Tu Amor »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เพราะความหญิงเยอะ(ในอดีต)ของเจทำเอาฆาเบียร์หึงจนไฟลุกท่วมใจน้ำตาท่วมตาไปแล้ว

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1



---- เสียรู้ ----



ฆาเบียร์นั่งหันหน้าออกนอกหน้าต่าง เขาไม่พูดคุยกับเจนยุทธซึ่งก็นั่งขับรถไปเงียบๆ ฆาเบียร์ไม่เข้าใจตัวเองว่าเขาจะยอมตามเจไปพบกับคนสำคัญของเจทำไม ส่วนหนึ่งอาจเพราะเขาอยากเห็นนักว่าคนที่ทำให้เจออกปากเรียกว่าเป็นคนสำคัญต่อหน้าเขานั้นจะงามเลิศเลอแค่ไหน ใจฆาเบียร์ร้อนรุ่มไปด้วยพิษหึงและยิ่งเหมือนถูกกระชากใจออกมาเมื่อเห็นว่าเจมุ่งหน้าไปทางบ้านแม่ของเขาที่แม่แตง

"นี่เขา...เขาอยู่บ้านนายเหรอ เจ?"

เขาอดไม่ได้จนต้องถามขึ้นในที่สุด เจพยักหน้าเบาๆ

"ใช่ เขาอยู่บ้านผมมาเกือบ 3 ปีแล้ว"

หัวใจฆาเบียร์ตกวูบ ในเมื่อเจมีคนสำคัญอยู่กินด้วยกันที่บ้านมาเกือบสามปีแล้ว เจจะยังมาผูกสัมพันธ์กับเขาทำไม?

"ทำไมตอนนั้นที่ฉันไปที่บ้านเจ เจถึงไม่แนะนำให้ฉันรู้จักเขาซะล่ะ?"

ฆาเบียร์กลั้นก้อนสะอื้นไว้ เขาจะไม่ยอมให้เจนยุทธได้เห็นความอ่อนไหวของเขาอีก

"ช่วงนั้นเขาไปอยู่ที่อื่น คุณเลยไม่เคยเจอเขา"

ใจฆาเบียร์เตลิดไปไกลแล้ว เขาคาดเดาเอาเองว่าช่วงนั้นเจอาจเลิกรากับสาวปริศนาคนนั้นและมาเจอเขาพอดี แต่ตอนนี้เมื่อตัวจริงของเจกลับมาทวงตำแหน่งคืนแล้ว คนที่มาทีหลังอย่างเขาควรจะทำอย่างไร?



เจจอดรถที่หน้าบ้าน เขาลงเปิดประตูให้ฆาเบียร์ซึ่งอิดออดไม่อยากลงรถ แต่ก็ต้องลง เจเดินนำหน้าฆาเบียร์เข้าไปในบ้าน เจนยุทธเรียกหาแม่ของเขา ฟองนวลเดินออกมาด้วยทีท่าแปลกใจที่ลูกชายของเธอแวะมาบ้านพร้อมฆาเบียร์โดยที่ไม่ได้โทรมาบอกก่อน แถมคนตัวโตที่อยู่ด้านหลังเจนยุทธยังทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้

"แม่ครับ Where's my girl?"

ฆาเบียร์ตาร้อนผ่าวเมื่อได้ยินเจถามหาสาวน้อยของเขา ฆาเบียร์มองฟองนวลที่ทำท่างุนงงพูดคุยกับเจเป็นภาษาไทยด้วยความปวดใจ สีหน้าของฟองนวลดูลำบากใจ แม่เจคงรู้เรื่องราวมาตลอดด้วยสินะ ฆาเบียร์มองฟองนวลที่ทำท่าระอาลูกชายของเธอ ก่อนที่เจจะหันมาบอกให้เขาตามมา

ฆาบี้สาวเท้าอันหนักอึ้งตามหลังคนที่เขาคิดว่ารักเขาไป เจเดินนำหน้าเขาไปที่เรือนน้อยของตัวเอง นี่แปลว่าคราวที่แล้วที่เขามาเขานอนทับที่สาวคนนั้นด้วยอย่างนั้นเหรอ? เจกล้าทำอะไรกับเขาในห้องที่นอนร่วมเตียงกับคนสำคัญของตัวเองได้อย่างไร? น้ำตาเม็ดน้อยๆ หยดเผาะจากตาคู่งามนั้น ตาของเขาพร่ามัวไปด้วยน้ำตา แต่ก็ยังเห็นร่างหนึ่งนอนขดอยู่บนเตียงเมื่อเจเปิดประตูห้องออก ร่างนั้นลุกพรวดขึ้นจากเตียงเมื่อได้ยินเสียงเจนยุทธร้องเรียกและโผกายเข้าใส่อ้อมแขนของเจที่อ้ากว้างรอรับ

ฆาเบียร์ยืนตะลึงกัดกรามแน่นด้วยความเจ็บใจ



สาวน้อยคนสำคัญของเจนยุทธคือหมาลาบราดอร์สีดำตัวเบ้อเริ่มเทิ่ม



ฆาเบียร์หันไปถลึงตาจ้องเจที่ยืนหัวเราะจนตัวงออยู่ด้านข้าง เขาเสียรู้ให้ไอ้เด็กบ้านี่อีกแล้ว เขาทั้งเคืองเจที่แกล้งเขาและทั้งฉิวตัวเองที่ไม่ดูดีๆ ว่าเส้นดำๆ ที่เจอในรถเจนั่นคือขนหมาไม่ใช่ผมคน เจนยุทธหัวเราะร่าเล่นกับเจ้าหมาตัวโตที่กระโดดโลดเต้นและร้องงี้ดง้าดด้วยความดีใจ ฆาบี้หันรีหันขวาง เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดี ในที่สุดก็ตัดสินใจหันหลังทำท่าจะเดินออกจากห้องไป เจนยุทธหยุดเล่นกับเจ้าหมาแล้วก้าวพรวดมากอดเอวร่างใหญ่นั้นไว้ ใบหน้าของเขาแนบไปที่หลังฆาเบียร์

"โกรธผมเหรอ?"

เสียงใสๆ ถามขึ้น ฆาเบียร์ไม่ตอบ

"ผมขอโทษที่แกล้งคุณ ฆาบี้"

เจพูดเสียงแผ่วเบา สงสัยฆาเบียร์จะโกรธเขาเข้าจริงๆ คนตัวโตถอนหายใจแล้วแกะมือเจออกจากเอวแล้วหันร่างมาเผชิญหน้ากับคนขี้แกล้งที่ตอนนี้ยืนจ๋อยอยู่ตรงหน้า

"ทำไมเจไม่บอกฉันว่านั่นคือขนหมา?"

เขาตำหนิเจด้วยท่าทีเคร่งขรึมแบบผู้ใหญ่ดุเด็ก เจนยุทธยิ่งตัวลีบเข้าไปใหญ่

"ก็...ก็ทีท่าของคุณในตอนนั้นดูโกรธมาก ผมคิดว่าอธิบายไปก็คงเท่านั้น สู้พามาดูเองเลยน่าจะดีกว่า"

"แล้วคุณก็ไม่คุยกับผมอ่ะ ทำหน้าเครียดเหมือนยักษ์ ผมก็เลยยิ่งไม่กล้า"

เจอธิบายเสียงอ่อยๆ ฆาเบียร์ยืนนิ่งฟัง ก็จริงของมัน ตอนนั้นเขาโมโหจนเลือดขึ้นหน้าจริงๆ ถ้าเจบอกว่าเป็นขนหมาเขาก็คงเถียงอยู่ดีว่าเขาไม่เคยเห็นเจมีหมาสักตัวแล้วจะเป็นขนหมาไปได้อย่างไร

"...อีกอย่าง ผมก็อยากเอาคืนคุณเรื่องที่สมุยด้วยอ่ะ"

เจ้าตัวดีสารภาพความจริงออกมาเสียงอ่อยๆ ฆาเบียร์อดนึกถึงตอนเจนยุทธเข้าใจผิดและมโนไปไกลเรื่องที่เขาคุยกับจอช

'เออ ใช่สิหนอ ความรู้สึกของเราในวันนี้ก็คงไม่ต่างกับเจในวันนั้น'

ฆาเบียร์นึกขึ้นในใจแล้วถอนหายใจ เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าวันนั้นเจปวดใจด้วยความหึงหวงและความเสียใจขนาดไหน เขานึกถึงคำเตือนของนพแล้วตัดสินใจดึงตัวคนตัวเล็กที่ยืนหน้าเหลือสองนิ้วมากอดแนบอก



"ฮื่ออออออ!"

แม่สาวน้อยตัวดำปี๋ของเจนยุทธขู่เขาเสียงดังเมื่อเห็นเขารวบร่างเจ้านายของมันไว้กับอก เจรีบผละออกและหันไปดุหมาของตัวเองและสั่งให้มันนั่ง

"เอ่อ...มันจะไม่กัดฉันใช่ไหม?"

ฆาเบียร์เสียงสั่นเล็กน้อยและเดินไปหลบอยู่หลังเจ เขาไม่เคยเลี้ยงหรือคลุกคลีกับหมาเลยในชีวิตนี้ ยิ่งหมาตัวโตขนาดนี้ปกติเขาจะไม่กล้าเข้าใกล้โดยเด็ดขาด แล้วนี่มันยังมีทีท่าหวงนายของมันอีก เจบอกว่าหมาเขายังไม่เคยกัดใคร ไม่ต้องห่วง แต่ฆาเบียร์ก็กลัวว่ามันอาจจะอยากลองกัดเขาดูเป็นคนแรกก็ได้

"งั้น แนะนำสาวน้อยของนายให้ฉันรู้จักหน่อยสิ มันชื่ออะไรน่ะ?"

ฆาเบียร์ถามขึ้น เจนยุทธทำหูทวนลมแล้วจูงมือเขามานั่งลงที่เตียงและทรุดตัวลงนั่งเคียงข้าง ไอ้เจ้าหมาดำตัวอ้วนกลมตัวนั้นพลันโดดขึ้นเตียงตามมาทันที มันดมๆ ฆาเบียร์อย่างสนใจก่อนที่จะล้มตัวนอนเอาหัวหนุนตักคนตัวโตที่นั่งตัวแข็งไปแล้ว

"จะ...เจ มันนอนหนุนตักฉันเฉยเลย"

เจนยุทธหัวเราะแฟนตัวไม่เล็กที่ทำท่ากลัวสาวน้อยของเขา แต่เขาก็แอบดีใจเพราะปกติสาวน้อยตัวดำปี๋ตัวนี้จะหวงเขามาก ถ้าเขาพาคนแปลกหน้ามามันก็มักจะแสดงอาการข่มขู่ตลอดเวลาแม้แต่กับคนที่มาบ่อยแล้วอย่างนพก็ตาม เขาอยากพาฆาเบียร์มารู้จักกับมันนานแล้วแต่ก็กลัวว่ามันจะแสดงอาการหวงเขาเลยไม่พยายามให้ทั้งสองได้เจอกัน แต่นี่นอกจากจะไม่มีทีท่าหวงนอกจากตอนแรกที่ฆาเบียร์ดึงเขาไปกอดแบบปุบปับ มันยังทำท่าเหมือนจะชอบเมียตัวโตของเขาด้วย

เจจับมือของฆาเบียร์มาลูบหัวเจ้าหมาตัวไม่น้อยของเขาซึ่งฆาเบียร์ทำอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่เมื่อมันไม่ได้ทำท่ารังเกียจแถมยังหันมามองหน้าตอนเขาหยุดมือ ฆาเบียร์ก็เลยได้ทีเล่นใหญ่ เขายิ้มกว้างออกมาเมื่อมันนอนหงายให้เขาเกาพุง



"ฆาบี้ ไม่ต้องไปเอาใจมันมากก็ได้"

เจเตือนคนตัวโตที่ทำท่าเกาๆ นวดๆ ตามตัวสาวน้อยของเขาอย่างเมามัน

"ทำไมเหรอ มันดูจะชอบให้เกาๆ นะ"

ฆาเบียร์หยุดมือตามที่เจบอก

"โอ๊ย"

คนตัวโตอุทานเมื่อโดนอุ้งเท้าสากๆ ของเจ้าลาบราดอร์ดำตบเข้าที่แขน สายตาของมันบอกชัดว่าไม่อยากให้เขาหยุด

"โรซ่า หยุด!"

เจนยุทธตวาดสาวน้อยตัวดำของเขาเบาๆ ฆาบี้ชะงักกึก

"เจเรียกมันว่าอะไรนะ?"

"เอ่อ...โร...โรซ่า"

เจหน้าแดงแป๊ดตอบเบาๆ

"ผมไม่ได้ตั้งใจตั้งชื่อมันให้เหมือนนามสกุลแม่คุณนะ"

เจละล่ำลำลักตอบ เขาเลี้ยงมันมาตั้งแต่ก่อนจะรู้จักฆาบี้อีก ฆาบี้ถึงได้เข้าใจว่าทำไมเจถึงอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ยอมบอกชื่อหมาให้เขารู้ซักที

"คุณไม่ว่าอะไรใช่ไหม?"

ฆาเบียร์หัวเราะและบอกว่าเขาไม่ได้ติดใจเรื่องนั้น เขาแค่สงสัยว่าทำไมเจ้าหมาตัวดำเหมือนถ่านตัวนี้ถึงได้มีชื่อเป็นดอกไม้งามไปได้

"อ๋อออออ" เจยิ้มเขินๆ

"ชื่อมันไม่ใช่ Rosa ที่แปลว่าดอกกุหลาบหรอก แต่เป็นปลากระป๋องตราโรซ่าที่ผมกำลังกินตอนที่พี่อิ่มอุ้มมันเข้าบ้านมาต่างหาก"

เจนยุทธหัวเราะแหะๆ ฆาเบียร์ยิ้ม ช่างเป็นชื่อที่สมกับเจเป็นคนตั้งจริงๆ เจเล่าให้ฟังว่าพี่อิ่มพาโรซ่ามาอยู่เป็นเพื่อนแม่ที่เหงาเพราะหมาตัวเก่าเพิ่งตายไป มันติดทุกคนในบ้านแต่คนที่มันติดที่สุดได้แก่เจนยุทธที่นานๆ กลับบ้านที โดยปกติกลางคืนมันนอนในห้องแม่ของเจ แต่ช่วงกลางวันบางทีมันจะหลบมานอนในเรือนเล็กของเจซึ่งเขาไม่ได้ล็อคไว้และเปลี่ยนประตูเป็นแบบบานสวิงเพื่อที่มันจะได้เปิดเข้าออกได้ตามใจ

"นี่ผมมีฟูกให้มันนอน แต่มันก็ชอบขึ้นไปนอนบนเตียงคงเพราะมีกลิ่นผมอยู่"

เจหันไปดมฟุดฟิดที่ตัวฆาเบียร์

"คุณเองก็คงมีกลิ่นผมติดอยู่ มันถึงได้เข้าหาคุณมั้ง"



"Sawasdee Rosa...Chan chue Javier..."

'สวัสดี โรซ่า ฉันชื่อ ฆาเบียร์'


ฆาบี้หันไปทักทายเจ้าหมาด้วยภาษาไทยสำเนียงฝรั่ง เจทำตาปริบๆ นี่ไปแอบเรียนภาษาไทยมาตั้งแต่เมื่อไหร่?

ฆาเบียร์ก้มลงกอดๆ หอมๆ คุยเล่นกับเจ้าหมาตัวโต เขาเคยอยากเลี้ยงหมามาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กแล้วแต่ด้วยความที่สภาพบ้านไม่เอื้ออำนวยเขาเลยไม่เคยได้เลี้ยงเลย พอโตขึ้นเขาก็ไม่มีเวลาพอที่จะเลี้ยง เขาตื่นเต้นกับเจ้าหมาจนลืมเจไปเสียสนิท โรซ่าลุกขึ้นนั่งกระดิกหางอย่างตื่นเต้นที่มีคนเล่นด้วยแล้วก็โผพรวดเข้าใส่ฆาเบียร์โดยไม่ทันตั้งตัวจนล้มหงายไปบนที่นอน ฆาเบียร์หัวเราะลั่นด้วยความจั๊กจี้เมื่อเจ้าหมาตัวโตเลียหน้าเลียตาเขาใหญ่

"โรซ่า พอแล้ว"

เจแว๊ดขึ้น เจ้าหมาตัวโตหยุดเลียทันควันแล้วโดดลงเตียงไปนอนที่ฟูกของตัวเองซึ่งอยู่ข้างเตียงตามที่เจสั่ง ฆาเบียร์ชันข้อศอกขึ้นดูคนตัวเล็กที่ยืนหน้าง้ำอยู่ข้างเตียงอย่างงงๆ เจนยุทธเคืองอะไร? เจพรวดขึ้นนั่งคร่อมตัวฆาเบียร์ที่เอนนอนบนเตียงแล้วดันร่างคนตัวโตลงติดที่นอนก่อนจะพรมจูบไปตามใบหน้าคมสัน

"มีผมคนเดียวที่จะทำแบบนี้กับคุณได้ ฆาเบียร์"

เจกระซิบข้างหูคนตัวโตก่อนจะขบไล้ที่ใบหูและซอกคอซึ่งกรุ่นกลิ่นน้ำหอมที่เร้าอารมณ์เขาได้ตลอดเวลา ฆาบี้ทำหน้าบอกไม่ถูก นี่เจนยุทธหึงแม้กระทั่งเจ้าโรซ่าเลยเหรอ? ความคิดของเขาปลิวหายไปเมื่อริมฝีปากร้อนๆ ของเจทาบลงบนริมฝีปากของเขา เขายกมือขึ้นโอบแผ่นหลังของเจและปล่อยใจไปกับความหวานของจูบนั้น



ฆาเบียร์ลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ของตน เขาทั้งคู่แค่คลอเคลียกอดจูบกันอยู่พักใหญ่โดยไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น เจนยุทธมองฆาเบียร์ที่ใบหน้าแดงก่ำและผมยุ่งเหยิง คนตัวโตจะรู้ไหมนะว่าเขานั้นเซ็กซี่เหลือเกิน เขามองร่างที่จัดแจงเสื้อผ้าตัวเองอยู่หน้ากระจกอย่างมันเขี้ยว

"หายเคืองผมหรือยังครับ?"

เจกอดและซบหน้าลงกับไหล่ฆาเบียร์ ฆาเบียร์ถอนหายใจ ในครั้งนี้เขาเองก็เป็นฝ่ายใจร้อนเข้าใจผิดไปเองก็เลยไม่รู้จะเคืองต่อไปหาอะไร เขาหอมแก้มเจเบาๆ แทนคำตอบ เจนยุทธจับมือพาคนรักของเขาเดินออกมานอกเรือนหลังเล็กโดยไม่ลืมเรียกสาวน้อยขนมันปลาบของเขาออกมาด้วย พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว อากาศที่บ้านไร่ของเจก็เริ่มเย็นลง เจนยุทธพาฆาเบียร์เดินไปหาแม่ที่เรือนหลังใหญ่ ฆาเบียร์ที่หน้าแดงก่ำยกมือไหว้แม่ของเจอย่างเก้ๆ กังๆ เมื่อกี้เขาเอาแต่น้อยใจเจจนลืมสวัสดีแม่ ฟองนวลรับไหว้แล้วหันไปบ่นเจยืดยาวเป็นภาษาไทย เจทำเป็นเสถามถึงเรื่องอาหารเย็น แล้วก็ต้องจ๋อยเมื่อฟองนวลบอกว่าไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษเพราะไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะมาหากัน

เจนยุทธนั่งแทะกระดูกหมูจากแกงหน่อไม้ กับข้าวของเขาวันนี้มีแกงหน่อไม้ใส่กระดูกหมู ไก่ทอด แคบหมู และน้ำพริกหนุ่มกับผักลวกและไข่ต้ม แม่เขายังให้คนไปตัดผักสลัดสดๆ อย่างคอสกับไอซ์เบิร์กจากแปลงผักมาทำสลัดให้ฆาเบียร์อีกด้วย ฆาเบียร์กินสลัดใส่ไข่ต้มพร้อมกับไก่ทอดชิ้นโตของตัวเองจนหมดแล้วยังมาแอบจิ้มอาหารเมืองของเจกินบ้าง โดยเฉพาะแคบหมูที่เขาเคยบอกว่ามันเหมือน Chicharrón​ ของทางบ้านเขา เขาหน้าแดงเมื่อเจแซวว่าเขาเริ่มกินจุแล้ว ก็อยู่กับเจนยุทธแล้วอะไรๆ ก็ดูอร่อยไปเสียหมด



"อ๊ะ ไม่ได้นะ ฆาเบียร์ ห้ามให้อาหารคนกับโรซ่า"

เจห้ามฆาเบียร์ที่ทำท่าจะยื่นแคบหมูให้เจ้าอ้วนโรซ่าที่นั่งน้ำลายยืดเอาคางเกยตักเขาอยู่

"อาหารคนมีพวกซอสปรุงรส เกลืออะไรสารพัดที่ไม่ดีต่อไตหมาน่ะ..." เจเล่าต่อ

"...อาหารคนหลายอย่างเป็นพิษกับหมา อย่างช็อคโกแลต ผลไม้บางอย่างโดยเฉพาะองุ่น ขนมหวาน อะไรพวกนี้ ห้ามขาดเลย บางอย่างนี่ทำให้ตายได้เลยนะ"

ฆาเบียร์พยายามเมินสายตาเว้าวอนของโรซ่า

"อย่างพวกเศษกระดูกเนี่ย คนเราชอบเอาให้หมาเพราะไปเข้าใจว่าหมาชอบแทะ แต่ที่จริงอันตรายมากโดยเฉพาะกระดูกไก่หรือก้างปลาเพราะว่าเวลามันหักแล้วจะเป็นเศษแหลมๆ ทิ่มกระเพาะหรือลำไส้หมาด้วยนะแถมยังย่อยยากด้วย ส่วนกระดูกหมูชิ้นใหญ่ๆ นี่ยังพอได้อยู่"

ฆาเบียร์พยักหน้าแล้วหันไปบอกโรซ่าว่าเขาไม่มีอะไรให้มันกิน



"...ตอนนี้ผมกำลังจับมันไดเอ็ทด้วย ช่วงที่แล้วมันอ้วนเกินไปเยอะทั้งๆ ที่กินแต่อาหารเม็ด ก็มันเล่นเอาแต่กินแล้วก็นอนก็เลยลองจับเข้าค่ายฝึกไปสามเดือน ผลคือหงอยกันไปหมดทั้งคนทั้งหมา แม่ผมก็คิดถึงมัน มันเองก็โฮมซิค ก็เป็นช่วงที่คุณมาบ้านคราวแล้วๆ นั่นแหละ"

เจพูดยิ้มๆ ฆาเบียร์เลยไม่รู้ว่าบ้านเขาเลี้ยงหมาด้วย ฟูกของโรซ่าที่ปกติปูไว้ให้มันนอนในห้องนอนเขาช่วงที่เขาไม่อยู่ก็ถูกยกเอาไปที่ค่ายฝึกหมาด้วยก็เลยไม่มีร่องรอยว่าบ้านเขามีหมา

"แต่ก็เหมือนจะไม่ค่อยได้ผล มันผอมลงไปได้แป๊บนึง วินัยดีขึ้นมาหน่อย แต่พอกลับมาอยู่บ้านก็เข้าอิหรอบเดิม กินๆ นอนๆ แล้วก็เริ่มอ้วนขึ้นมาอีกละ วันนั้นก่อนที่ผมจะโดนเรียกไปสมุยก็เลยพามันไปหาหมอให้เขาตรวจดูหน่อยว่ามันผิดปกติอะไรไหม สรุป ไม่มีอะไรผิดปกติ อ้วนเพราะกินนอนอย่างเดียว"

เจนยุทธถอนหายใจเฮือกบ่นว่านี่เขาเลี้ยงหมาหรือว่าหมูกันแน่ เขาแอบชำเลืองฆาเบียร์ซึ่งนั่งอมยิ้มเล่นกับโรซ่าอยู่

ฆาบี้ลูบหัวหมาอ้วนเจ้าของขนสีดำขลับที่ทำให้เขาเข้าใจผิด เขาสังเกตเห็นขนหยักศกกลุ่มหนาบริเวณหลังคอของโรซ่า อ๋อ ขนเจ้าปัญหานี่เองที่ทำให้เขาโกรธจนหน้ามืด แล้วก็ดูคราบน้ำลายเหนียวๆ ที่ติดกางเกงเขา อืมม์ นี่คือคราบที่เบาะรถของเจสินะ เขามองหน้าเจนยุทธที่พยายามกลั้นหัวเราะอยู่ หึ...หัวเราะได้หัวเราะไป อย่าให้เขาได้โอกาสบ้างแล้วกัน



แม่ของเจมองดูเจ้าหมาอ้วนตัวโปรดของลูกชายอย่างแปลกใจ ปกติมันไม่ค่อยยอมเป็นมิตรกับคนแปลกหน้าและมักทำท่าหวงเจแม้กับเพื่อนที่มาแล้วหลายรอบ แต่นี่มันกลับเข้าไปคลอเคลียเล่นกับฆาเบียร์ทั้งๆ ที่ฆาเบียร์ไม่ได้ให้อะไรมันกินด้วยซ้ำ เจดูสายตาแม่ออกเขาหัวเราะแล้วบอกแม่เป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ฆาเบียร์เข้าใจด้วย

"เจรักใครโรซ่ามันก็รักด้วยน่ะ แม่"

ฟองนวลนั่งอมยิ้มเมื่อลูกชายเอ่ยคำว่ารักออกมาเต็มปากเต็มคำ ส่วนคนตัวโตน่ะเขินจนเดินหนีไปนั่งที่โซฟานู่นโดยที่มีเจ้าหมาอ้วนเดิมตามไปไม่ห่าง

"สีท่าเจจะตกกระป๋องแล้ว แม่"

(ดูท่าเจจะตกกระป๋องแล้ว แม่)


เจนยุทธหันไปพูดยิ้มๆ กับแม่

"โรซ่ามันท่าจะซอบคนหล่อ จะอี้มาเตื้อหน้ามันท่าจะบ่สนลูกละเน่อ"

(โรซ่ามันคงชอบคนหล่อ มาคราวหน้ามันคงจะไม่สนลูกแล้วนะ)


แม่ของเขาพูดแล้วชวนเจไปนั่งคุยกับฆาเบียร์ต่อที่โซฟา ฟองนวลคุยถามสารทุกข์สุขดิบกับฆาเบียร์โดยมีเจนยุทธช่วยแปลให้ตอนที่ติดขัด เธอเหลือบดูต่างหูที่เจนยุทธใส่คู่กันกับฆาเบียร์แล้วก็ยิ้มออกมา ในที่สุดลูกชายของเธอก็คงตัดสินใจเลือกแล้ว สำหรับฟองนวล เธอไม่มีปัญหากับทางเลือกของเจอยู่แล้ว แค่ขอให้เจที่ทำตัวเสเพลมาตลอดได้รักใครสักคนในที่สุดและคนๆ นั้นก็รักลูกของเธอตอบ นั่นก็เป็นสิ่งที่เยี่ยมที่สุดที่แม่คนหนึ่งจะได้เห็นแล้ว



เจนยุทธอยู่คุยกับแม่พักใหญ่ เขาหยิบกระดาษมาจดสูตรอะไรบางอย่างจากฟองนวลก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในครัวพร้อมกับแม่โดยทิ้งให้ฆาเบียร์เล่นกับเจ้าโรซ่าไปพลางๆ ครู่ใหญ่ทั้งสองคนก็กลับออกมาพร้อมหม้อขนาดใหญ่ 2 ใบและถุงและกล่องใส่อาหารสดอีกหลายอย่าง

"สำหรับปาร์ตี้วันพรุ่งนี้"

เจยิ้มและตอบสั้นๆ เมื่อฆาเบียร์ถามว่าจะเอาของพวกนี้ไปทำอะไร?

"พรุ่งนี้คงต้องตื่นเช้ากันหน่อยนะ มีอะไรต้องเตรียมเยอะเลย"

เจพูดอย่างอารมณ์ดี เขาจะจัดปาร์ตี้เล็กๆ ตามเทศกาลให้กับคนที่อยู่ไกลบ้านอย่างฆาเบียร์

เจและฆาเบียร์อยู่คุยกับแม่และเล่นกับโรซ่าจนกระทั่งพี่จืดกลับบ้านจึงขอตัวกลับ เมื่อถึงห้องเจจัดการเก็บของสดที่ได้มาใส่ตู้เย็น ที่เหลือวางไว้บนเคาเตอร์ครัว



"อืมม์...อา เจจ๋า แรงกว่านี้อีกนิดก็ได้นะ"

ฆาเบียร์ส่งเสียงครางที่ชวนเข้าใจผิดออกมาจากปาก หลังอาบน้ำอาบท่าเสร็จ เขาลงโทษเจนยุทธที่แกล้งเขาวันนี้ด้วยการให้เจนวดตัวให้เขา เจลงน้ำหนักกดเส้นที่เขม็งตึงบนหลังอันเต็มไปด้วยมัดกล้ามของฆาเบียร์ผู้ซี้ดปากออกมาอย่างรู้สึกดี เขาพลันตัวสั่นสะท้านเมื่อปากร้อนๆ ของเจเริ่มจูบคลึงตามแนวสันหลังของเขา

"เจ...นวดอย่างเดียวสิ"

เสียงของฆาเบียร์สั่นระริก แต่นั่นหยุดเจไม่อยู่แล้ว นิ้วของเจนยุทธกดคลึงที่บั้นเอวเปลือยเปล่า ฆาเบียร์สะดุ้งเฮือกด้วยความจั๊กจี้ปนเจ็บ ฝ่ามือร้อนๆ ของเจเริ่มรุกล้ำลงสู่สะโพกหนั่นแน่น มันนวดคลึงอยู่ที่ก้นงามงอน การนวดเปลี่ยนเป็นการคลึงเคล้น ฆาเบียร์ตาลอย มันรู้สึกดีจริงๆ เจนั่งคุกเข่าลงตรงหว่างขาที่แยกน้อยๆ ของฆาบี้ เขาใช้เข่าดันต้นขาให้แยกออกกว้างขึ้น ฆาเบียร์กลั้นใจรอสิ่งที่เขารู้แน่ๆ ว่าจะเกิดขึ้น เจนยุทธใช้มือทั้งสองรั้งเอวของฆาเบียร์จนร่างกำยำนั้นยกสะโพกหนั่นแน่นขึ้นสูงเด่น เจก้มต่ำลงไปเลียไล้ที่ถุงเนื้อทั้งสองของฆาเบียร์ เขาฉกลิ้นตวัดไปมาและดูดอมมันเข้าไป ฆาเบียร์ครางออกมาน้อยๆ มือของเขารูดไล้ส่วนสงวนของตัวเองขณะที่เจเริ่มรุกรานส่วนอื่น เจกดจูบร้อนๆ ไปรอบๆ ปากทางแคบนั้น ก่อนใช้มือแหวกเนื้อออกและส่งลิ้นร้อนๆ เข้าเลียไล้ก่อนจะฉกวูบเข้าที่ร่องเสียวด้านหลังนั้น

เจพยายามนึกถึงความรู้สึกที่ได้ตอนฆาเบียร์ทำแบบเดียวกันให้เขา เขาพยายามเลียนแบบการเคลื่อนไหวของลิ้นฆาบี้ คนตัวโตหลุดปากคำรามออกมาดังลั่น นี่มันดีกว่าทุกครั้ง เจเรียนรู้เร็วเหลือเกิน เจนยุทธรู้สึกถึงการบีบรัดที่ลิ้นของเขา เขาถอนลิ้นออกมา และแทนที่ด้วยนิ้วที่ชะโลมเจลอุ่นๆ ไว้ เขาเคลื่อนไหวในแบบที่ฆาเบียร์ครางออกมาไม่หยุดปาก ฆาบี้หอบกระเส่าอยู่กับหมอน สะโพกของเขาขยับตามจังหวะนิ้วของเจโดยไม่รู้ตัว เขารู้สึกร่านรักเหลือเกินคืนนี้ เจไม่ได้สัมผัสช่องทางของเขามาหลายวันแล้ว นับตั้งแต่ตอนที่พวกเขาเล่นวิตถารเล็กๆ ที่สมุยคืนนั้น ช่องทางสีแดงระเรื่อของฆาเบียร์กระตุกตอดนิ้วเจถี่ยิบ มือของฆาเบียร์ขยับเร็วถี่ เขาจนจะถึงจุดแล้ว แต่เจพลันยื่นมาปัดมือของเขาออกและเกาะกุมส่วนสงวนของเขาไว้แทน เจใช้นิ้วปิดช่องทางระบายของเขาไว้



"เดี๋ยวสิ...รอผมก่อนสิ เมียจ๋า"

เสียงใสๆ กลั้วหัวเราะดังมา นิ้วทั้งสามที่ให้ความสุขเขาถูกถอนออกและแทนที่ด้วยสิ่งที่ใหญ่กว่าที่เขารอคอย เจดันพรวดเข้ามาในครั้งเดียว ฆาเบียร์สะดุ้งเฮือกแล้วสูดปากออกมา มันถูกจุดเต็มๆ เขาดันสะโพกไปด้านหลังด้วยความกระหายอยาก เจหยุดนิ่งปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายกระทำ ฆาเบียร์ชันตัวขึ้น จนหลังเกือบแนบอกของเจ เขาเอื้อมมือไปยึดตัวเจไว้เป็นหลักทรงตัวก่อนจะบดเบียดสะโพกไปในทิศทางต่างๆ เจขบกราม ช่องทางของเมียตัวโตของเขาช่างอุ่นและดูดกลืนแก่นกายของเขาอย่างดีจริงๆ ความแน่นและรัดของมันทำให้เขาอดไม่ได้ต้องโยกกายรับแรงกระแทกนั้น เขาขยับลงนั่งแล้วปล่อยให้ฆาเบียร์กระแทกตัวอย่างเมามันบนตักของเขา มือทั้งสองของเขาเขี่ยดุนไปที่ยอดอกสีน้ำตาลอ่อนที่แข็งเป็นไตนั้น ฆาเบียร์หันหน้ามาบดปากหนักๆ กับเจ เขาแทบทนไม่ไหวแล้ว

"โอย ฆาบี้ครับ มันรัดจริงๆ ผมจะไม่ไหวแล้วนะ"

เจครางกระเส่าที่ข้างหูของฆาเบียร์ เขาเอ่ยคำลามกใส่หูของคนรักซึ่งทำให้ฆาเบียร์ยิ่งร้อนเร่าขึ้น เขาเร่งจังหวะบดเบียดสะโพกแกร่งนั้นลงกับแท่งลำอันจวนจะระเบิดแล้วของเจ ฆาเบียร์เองก็หลุดปากพูดหยาบๆ ออกมา เจหัวเราะพร้อมทำตามที่เขาสั่ง เจนยุทธใช้มือเร่งรูดเร้าแก่นกายให้คนรักปากของเขาดูดเนื้อที่่คอหนานั้น และงับเบาๆ ไปตามไหล่ ฆาเบียร์ครางกระเส่าก่อนที่จะปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาเต็มมือเจ

เจนยุทธดันกายคนรักที่อ่อนระทวยให้กลับลงไปนอนคว่ำหน้า เขาจับเอวของฆาเบียร์และเร่งกระแทกแก่นกายเข้าสู่ช่องทางแน่นนั้นอีกครู่หนึ่งก็ส่งเสียงคำรามลั่นออกมาก่อนจะซบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างนั้น เขานอนหอบหายใจอยู่บนร่างฆาเบียร์ครู่หนึ่งก่อนจะถอนส่วนสงวนออกมาและทิ้งกายลงเคียงข้างร่างกำยำที่นอนคว่ำหน้าอย่างหมดแรง เจจูบแผ่วๆ ไปที่ปากบางของคนรัก



"เก่งขึ้นอีกแล้วนะ เจ"

ฆาเบียร์พูดยิ้มๆ เจยิ้มอย่างภูมิใจแล้วก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อฆาเบียร์พูดต่อ

"...แบบนี้ฉันคงต้องสอนนายอีกบ่อยๆ ซะแล้ว"

เจนยุทธแลบลิ้นให้คนตัวโตที่ทำหน้าหื่นใส่ เขาปัดมือใหญ่ๆ ที่พยายามล่วงล้ำช่องทางด้านหลังของเขา

"ไม่เอานะ ฆาเบียร์ ผมยังไม่ไหวอ่ะ"

เจทำหน้าอ้อนวอนบอกว่าเขายังเจ็บทางนั้นอยู่เลย ฆาเบียร์มองตาใสๆ ที่จ้องเขาอย่างเว้าวอน เขารู้หรอกว่าจริงๆ มันไม่เจ็บแล้ว แต่เขาเองก็ยั่วมันเล่นไปแค่นั้น เขานึกถึงสภาพเจในคืนนั้นแล้วก็ยังสงสารมันจับใจ เขากลัวว่าถ้าได้ทำอีกครั้ง เขาก็จะยั้งไม่อยู่แบบคราวก่อน สุดท้ายแล้วเขาจะรอจนมันพร้อมให้เขาจริงๆ แต่ตอนนี้เขาขอแค่ได้พูดเล่น ได้หยอกล้อมันแบบนี้เขาก็แฮ้ปปี้แล้ว ฆาเบียร์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ให้กับเมียหมาดๆ ของเขาแล้วนิ้วของเขาก็ซุกซนต่อไป เจอุทานลั่นแล้วคอยปัดป้อง สุดท้ายก็โดดลงเตียงหนีเข้าห้องน้ำไป ฆาเบียร์ตามเข้าไป ไฟของทั้งสองติดขึ้นอีกครั้งในห้องน้ำนั้น คืนนี้คงอีกยาวไกลสำหรับคู่รักร้อนๆ คู่นี้



"ฆาเบียร์ครับ"

เจนยุทธกระซิบแผ่วๆ กับฆาเบียร์ผู้ตาปรือเกือบจะหลับอยู่แล้ว เจนอนซบอยู่กับอกกว้างของคนรัก นิ้วของเขาไต่ไปยังที่ตั้งหัวใจของฆาเบียร์ ริมฝีปากนิ่มๆ ของเจจูบตามลงไปที่นั่น

"คุณไม่ต้องห่วงนะว่าผมจะไปมีใครอื่น"

เจกระซิบกับหัวใจของคนขี้หึงที่เต้นอยู่ภายใต้กล้ามเนื้อหนั่นแน่น

"ใจและกายผมต่อแต่นี้มีให้คุณคนเดียวเท่านั้น เข้าใจไหม?"

เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่เหมือนจะหลับไปแล้ว เจถอนหายใจ ฆาเบียร์คงไม่ได้ยินที่เขาพูด แต่เสียงทุ้มแหบที่หลุดรอดออกมาจากปากที่ยิ้มน้อยๆ นั้นทำให้เจยิ้มออกมาได้

"ฉันก็เหมือนกัน เจนยุทธ ทั้งกายและใจของฉันก็จะมีให้นายเพียงผู้เดียวเท่านั้น ฉันขอสัญญา"

เจยกกายขึ้นจุมพิตปากบางๆ ที่เผยอรับจูบของเขา ก่อนจะซุกหน้าลงกับอกกว้าง ฆาเบียร์กอดร่างของคนที่เป็นของเขาโดยสมบูรณ์ไว้แน่นและหลับไปในไม่ช้า


-----------------------------------------------

อิเจมันขี้แกล้ง ฆาบี้คงต้องปวดหัวกับมันอีกหลายรอบแน่ค่ะ



ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เดี๋ยวก็แกล้งกัน เดี๋ยวก็หวานใส่กันอีกละ

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1
@@@The Taste of Love...อิ่มรักรสโอชา - Nostalgia [8/9/60]
«ตอบ #107 เมื่อ08-09-2017 18:56:41 »




---- Nostalgia ----



เจนยุทธตื่นเร็วกว่าปกติ เขามีหลายอย่างที่ต้องทำในวันนี้ เขาจูบปลุกคนรักตัวโตที่นอนหลับอย่างสบายอารมณ์อยู่

"เดี๋ยวผมออกไปซื้อของนะ คุณนอนต่อเถอะ"

เขาบอกฆาเบียร์ที่ทำท่าจะตื่นไปกับเขาด้วย คนตัวโตพยักหน้าตอบรับ เขาเองยังรู้สึกอ่อนเพลียจากเมื่อคืน เจอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร็ว เขาเดินลงไปที่จอดรถ จริงๆ เขาอยากเอามอเตอร์ไซค์ไป แต่ว่ามันก็ดันขี่ไม่ได้ซะแล้ว เขาขับน้องอัซซูรี่ไปยังย่านกาดหลวงและจอดรถไว้ที่ลานจอดรถร้านกาแฟวาวีหลังตลาดดอกไม้ ที่นี่มีพื้นที่กว้างขวางสำหรับจอดรถ ถ้ามาตลาดก็เสีย 20 บาท ถ้ากินกาแฟก็เอาใบเสร็จไปให้แล้วไม่ต้องเสียตังค์ เขาเดินผ่านศาลเจ้าปุงเถ่ากงซึ่งเป็นศาลเจ้าแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งคาดว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2416 เขาเดินเข้าซอยผ่านตลาดต้นลำใยซึ่งตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับตลาดวโรรส เขาแวะซื้อของสดและของแห้งหลายอย่างและฝากไว้ก่อนที่จะเดินข้ามไปที่ตลาดวโรรส เขาเดินตรงไปที่ร้านของป้าลูนซึ่งเป็นอีกหนึ่งร้านเก่าแก่ในตลาด เขาซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นเนืิ้อ และเครื่องก๋วยเตี๋ยวอื่นๆ วันนี้เขาจะจัดปาร์ตี้ก๋วยเตี๋ยวที่บ้าน

เจแวะซื้อหัวไชเท้าหัวโตจากร้านป้าไหมที่มักมีคนมาถ่ายรูปกับร้านแกเพราะป้ายที่เขียนว่า "ร้านป้าไหม" และต่ำลงมามีตัวหนังสือที่เล็กกว่าเขียนว่า "ช่วยตัวเอง" ซึ่งก็คงหมายถึงให้หยิบเองนั่นแหละ แต่คนก็มักจะอดคิดลามกกับคำนี้ไม่ได้ เขาเองเดินผ่านร้านนี้ทีไรก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ทุกที ซื้อของครบแล้วเจก็นึกบางอย่างได้ เขาเดินไปร้านอรวรรณ ขนมไทยใต้บันได โดยไม่ลืมแวะทักทายป้าๆ แม่ค้าตลอดทาง โดยมากก็ถามหาแฟนตัวโตของเขาทั้งนั้น จากร้านอรวรรณ เขาก็เดินเลยไปซื้อกะละแมและขนมท้องถิ่นอีกหลายอย่าง ก่อนที่จะถือถุงจำนวนมากเดินกลับไปที่รถโดยแวะเอาของที่ซื้อไว้ที่ตลาดต้นลำใยด้วย แขนซ้ายของเขามันก็ชักปวดหนึบๆ ขึ้นมาแล้ว เจนยุทธนึกเซ็งว่ารู้งี้เขาชวนฆาเบียร์มาช่วยขนของด้วยก็ดี


เมื่อกลับถึงห้อง เจก็ปลุกฆาเบียร์ที่ยังนอนหลับสบายอยู่ให้ไปอาบน้ำ เขาต้องการลูกมือในวันนี้ เจยกหม้อใบใหญ่ที่ขอยืมมาจากแม่ขึ้นตั้งบนเตา เขาล้างโครงไก่ 1 โครงที่เลาะไขมันออกแล้ว เอาใส่ลงในหม้อ เติมน้ำจนท่วม จากนั้นใส่หัวไชเท้าที่ล้างและหั่นเป็นท่อนๆ ลงไปทั้งหัว ตามด้วยรากผักชีทุบ พริกไทยเม็ดทุบพอแตก กระเทียมบุบและเกลือแกง จริงๆ สูตรนี้ต้องตัดน้ำตาลอีกหน่อยแต่เจว่าแค่หัวไชเท้าก็หวานพอแล้ว เขาแอบโยนกังป๋วยหรือหอยเชลล์แห้งขนาดเล็กแพงระยับที่กัดฟันซื้อมาจากมาเก๊าเมื่อสองสามปีที่แล้วลงไปด้วย 3-4 ตัว เขาเปิดไฟกลางต้มน้ำก๋วยเตี๋ยวและลดไฟลงเมื่อมันเดือดพล่านแล้ว

"ทำอะไรกินน่ะ เจ ทำไมต้องเตรียมกันตั้งแต่เช้าขนาดนี้ด้วย"

คนตัวโตที่เดินหาวออกห้องน้ำมาถาม เจหันไปดูคนตัวโต พ่อเจ้าประคุณใส่แต่กางเกงในตัวเดียวออกมาหน้าตาเฉย เขาหยิบผ้ากันเปื้อนที่มีคล้องฉับเข้าไปที่คอคนตัวโต แล้วชี้ไปที่กล่องพลาสติก 2 กล่องที่เคาเตอร์ครัว ฆาเบียร์เปิดดูแล้วก็ยิ้มเมื่อเห็นขนมวุ้นเป็ดของโปรดของเขาจากร้านอรวรรณ ฆาบี้จิ้มกินอย่างเอร็ดอร่อยไปจนหมดกล่อง เจรีบเบรคไว้ว่าอีกกล่องของเขา ห้ามยุ่ง

เมื่อให้ขนมแล้วก็ถึงเวลาใช้งาน เจให้ฆาบี้มาคอยช้อนฟองในน้ำก๋วยเตี๋ยวทิ้ง​ เขาโขลกกระเทียมจำนวนมากที่ไปขอมาจากบ้านแม่ แบ่งส่วนหนึ่งเอาไว้ผัดหมูสับและไก่ แล้วเอาส่วนมากลงเจียวกับน้ำมันจนหอมแล้วเอาใส่ถ้วยปิดฝาไว้ จากนั้นเขาเริ่มทำเครื่องก๋วยเตี๋ยว อย่างแรกคือหมูสับรวนแบบเดียวกับที่เขาเคยทำใส่ข้าวต้ม เขาหันไปเห็นฆาเบียร์ยิ้มกริ่มถ่ายคลิปเขาไว้อีกแล้ว


"นี่จะช่วยกันไหมเนี่ย?"

เขาทำหน้ายักษ์ใส่กล้อง ฆาเบียร์เอากล้องวางไว้ที่เคาเตอร์แล้วเดินมากอดเขาจากข้างหลัง ริมฝีปากนั้นทำท่าจะซุกซนจนเจนยุทธต้องดุแล้วให้ไปช้อนฟองจากน้ำก๋วยเตี๋ยว ฆาเบียร์หน้าจ๋อยแต่ก็ยิ้มออกมาได้เมื่อเจกระดิกนิ้วเรียกเขาแล้วโน้มคอเขาลงมาจูบเบาๆ เจก็ยังไม่ใจร้ายกับเมียตัวโตคนนี้มากนัก

เครื่องอย่างที่สองที่เจทำคือไก่รวน ซึ่งก็ทำแบบเดียวกับหมูรวนแต่ใช้สันในไก่ที่หมักซีอิ๊วขาวกับแป้งมันไว้แทนหมู เขายังลวกเลือดไก่ก้อนที่ซื้อไว้แล้วหั่นลูกเต๋าไว้ด้วย เขาคุ้ยๆ ในช่องฟรีซก็ได้พวกซีฟู้ดรวมที่ซื้อสำเร็จเป็นถุงไว้จากห้าง เขานำมันมาละลายน้ำแข็งและลวกทิ้งไว้ เขานำเครื่องก๋วยเตี๋ยวทุกอย่างใส่ถ้วยแยกไว้เป็นอย่างๆ นอกจากพวกที่ปรุงเสร็จแล้วก็ยังมีอย่างอื่นเช่นลูกชิ้นปลาเส้นและลูกชิ้นเนื้อซึ่งเขาซื้อของร้านช้างม่อยกาแฟที่มีขายในร้านป้าลูนกาดวโรรสด้วย เจเทเครื่องปรุงอย่างถั่วป่น พริกป่นและน้ำส้มสายชูดองพริกที่เขาขอมาจากบ้านแม่ ลงในถ้วยน้อย เขาหยิบมะนาวหลายลูกจากในตู้เย็นออกมาวางไว้ที่เคาเตอร์ เขาให้ฆาเบียร์ช่วยหั่นผักบุ้งและผักกาดแก้วที่ขอมาจากแม่อีกเช่นกัน พวกผักเขาเอาใส่กะละมังสเตนเลสไว้ เขาชิมน้ำก๋วยเตี๋ยวที่น่าจะได้ที่แล้วและยิ้มออกมาอย่างพอใจ จากนั้นปิดไฟและปิดฝาหม้อทิ้งไว้


เจนยุทธปาดเหงื่อ นี่คงครบทุกอย่างแล้วมั้ง? เขามองผลงานตัวเองอย่างภูมิใจ ฆาเบียร์มองอาหารจำนวนมากที่เจวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบที่เคาเตอร์ครัวอย่างงงๆ

"เจ ทำไมทำไว้ซะเยอะขนาดนี้ กินหมดเหรอ?"

"ฆาเบียร์ ผมบอกแล้วไง เราจะมีปาร์ตี้กัน รับรองว่าหมดแน่นอน ทีนี้ไปแต่งตัวได้แล้ว สักพักเดี๋ยวแขกจะมากันแล้ว"

เจรุนหลังฆาบี้เข้าไปในห้องนอน เขายังต้องอาบน้ำอีกซักรอบเพราะว่าตอนนี้เหงื่อโทรมกายไปหมดแล้ว ฆาเบียร์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขาช้อนใต้สะโพกเจแล้วยกคนตัวเล็กขึ้นพาเดินเข้าไปในห้องน้ำและปิดประตูตามหลัง เสียงเจร้องอุทานลั่น ตามด้วยเสียงหัวเราะของฆาเบียร์ และเสียงน้ำจากฝักบัวด้านบน สงสัยว่าเจคงจะยังไม่ได้ออกห้องน้ำง่ายๆ


"โอ๊ย สายแล้วๆ คุณนะ ทำผมเสียเวลาไปตั้งเยอะ"

เจนยุทธรีบแต่งเนื้อแต่งตัว เขานัดแขกของเขาไว้ตอนเที่ยง นี่ 11 โมงครึ่งแล้วเขาเพิ่งได้แต่งตัว เจบ่นอุบอิบกับคนตัวโตที่ทำหน้าแป้นแล้นใส่เสื้ออยู่ข้างๆ ฆาเบียร์ยิ้มเมื่อเห็นที่รักของเขาบรรจงใส่ต่างหูของแม่เขาที่หูซ้าย ตัวเขาเองก็หยิบอีกข้างหนึ่งมาใส่ ตั้งแต่เขามอบมันให้เจ เขาเองก็ใส่อีกข้างซึ่งเมื่อก่อนจะเอามาใส่แค่นานๆ ทีไว้ตลอดเวลายกเว้นเวลานอนและอาบน้ำ

Rrrrrrrrrr

เจลนลานรับโทรศัพท์ เสียงสดใสของนพดังลอดออกมา

"ไอ้เจ เปิดประตูให้หน่อยโว้ย"

เจถอนหายใจ ไอ้พี่ชายของเขามาก่อนเวลาอีกแล้ว เจเดินไปกดปุ่มเปิดประตูหน้าจากแผงบังคับที่มีจอให้เห็นคนที่รออยู่ด้านล่าง

"กูยืนกดกริ่งห้องมึงอยู่ตั้งนาน ไม่เปิดให้ซักที มัวแต่ทำอะไรอยู่วะ"

นพที่กดกริ่งอยู่พักใหญ่แล้วแต่สองคนที่มัวแต่ง่วนอยู่นั้นไม่ได้ยินบ่นเมื่อเดินเข้ามาในห้องของทั้งเจ เขาและวัฒน์ที่ยืนเงียบอยู่ข้างหลังหอบข้าวของเข้ามาพะรุงพะรัง ฆาเบียร์ช่วยรับมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าวเพราะเคาเตอร์ในครัวเต็มแล้ว


"อื้อ หือ จัดเต็มเลยนี่หว่า เจ"

นพหยิบช้อนมาเตรียมตักไก่รวนกระเทียมแต่โดนเจตีมือให้หยุด

"เดี๋ยวๆ รอคนให้ครบก่อน พี่นพซื้อนั่นมาไหม?"

นพพยักหน้าแล้วหยิบถุงสีส้มของซุเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังแห่งหนึ่งขึ้นมาแล้วหยิบกล่องพลาสติกใส่อาหารหลายกล่องออกมาแล้วแช่มันไว้ในตู้เย็นเช่นเดียวกับกล่องกระดาษสีขาวอีกใบหนึ่ง

"สำหรับมื้อเย็นใช่ไหม เจ? มีงว่ามันจะพอป่าววะ?"

นพถาม เขาว่าที่เขาซื้อมามันยังหน่อยไปหน่อย เจพยักหน้าว่าพอ

"เดี๋ยวเราค่อยหาอะไรเพิ่มทีหลังอ่ะ พี่นพ"

ฆาเบียร์มองหน้าทั้งสองคนที่ไม่ยอมคุยกันในภาษาที่เขาเข้าใจ วัฒน์เรียกให้เขาไปช่วยเอาไวน์ที่นพซื้อมาหลายขวดไปเก็บ

"นพ ทำไมมึงซื้อมาเยอะนัก จะเอาไปถมที่เหรอ?"

ฆาเบียร์ขมวดคิ้วดูไวน์ที่นพซื้อมา นพบอกว่าพวกไวน์ถูกๆ เขาซื้อมาให้เจทำซังเกรียหรือเครื่องดื่มแบบสเปนทำจากไวน์แดงสำหรับมื้อเย็น ส่วนอีกสองขวดที่แพงขึ้นมาหน่อยนั้นซื้อมาฝากทั้งสองคน


เจนยุทธหยิบอ่างพันช์ที่เขาเก็บไว้นานๆ ใช้ทีขึ้นมา เขาเปิดไวน์ที่นพซื้อมา 2 ขวด นพเลือกไวน์สัญชาติสเปนทำจากองุ่น Tempranillo จากแคว้น Rioja มาให้ เจหยิบผลไม้ประจำตู้เย็นอย่างส้มวาเลนเซีย 1 ลูกกับแอปเปิล 2 ลูกออกมา เขาให้ฆาเบียร์ช่วยหั่นผลไม้ซึ่งเขาแทบไม่ต้องบอกว่าทำอย่างไร ฆาบี้หั่นแอปเปิล 1 ลูกเป็นลูกเต๋าพอดีคำส่วนอีกลูกฝานเป็นเสี้ยวบางๆ และฝานส้มทั้งเปลือกออกเป็นแผ่นบางและหั่นออกเป็นสี่ส่วน เขาหยิบมะนาวเหลืองและมะนาวเขียวมาอย่างละลูกมาฝานอีกเช่นกัน

"จะใส่มะนาวด้วยเหรอ ฆาเบียร์?"

เจถามอย่างสงสัย สูตรของเขาไม่ใส่มะนาว ฆาเบียร์พยักหน้าแล้วบอกว่ามะนาวจะช่วยให้รสชาติมันจี๊ดจ๊าดขึ้น เขาบอกให้เจไปนั่งพักแล้วเขาจะเป็นคนทำซังเกรียให้เอง เขาใส่ผลไม้และน้ำตาลประมาณ 8 ช้อนโต๊ะลงไป เขาใช้ช้อนไม้บดผลไม้กับน้ำตาลด้วยกันเบาๆ อยู่พักหนึ่ง เขาหยิบส้มมาเพิ่มอีก 1 ลูกแล้วฝานเป็นแผ่นหนาๆ เขาคั้นน้ำจากส้มที่ฝานหนาๆ นั้นแล้วเอาเปลือกมันใส่ลงไปด้วย​ จากนั้นเติมน้ำส้มจากกล่อง 1 1/2 ถ้วยตวงและบรั่นดี 1 ถ้วยตวงลงไปและบดมันเข้ากับผลไม้อีกครั้ง เขาเทไวน์ทั้งสองขวดลงไปและคนมัน จากนั้นชิมรสดู

"เจ มีอบเชยไหม? แบบเป็นแท่งนะ"

เจนยุทธเดินไปหยิบมาให้ ฆาเบียร์หยิบมาก้านหนึ่ง ทำความสะอาดและหย่อนมันลงไปในอ่างพันช์ เขาหยิบฟิล์มใสมาคลุมปิดปากอ่างพันช์แล้วนำมันแช่ในตู้เย็น

"กว่าจะถึงมื้อเย็นก็น่าจะได้ที่แล้ว"

ฆาเบียร์เช็ดมือแล้วเดินมาหาพวกเจ เจนยุทธจับมือคนตัวโตขึ้นดมกลิ่นส้มหอมๆ ฆาเบียร์ยิ้มกริ่มคนตัวเล็กของเขาบางทีก็ไม่เขินที่จะแสดงทีท่าสนิทสนมออกมา


เจยกนาฬิกาขึ้นดู เกือบเที่ยงแล้ว แขกอีกสองคนของเขาคงใกล้มาแล้ว เจลุกไปติดไฟเตาแล้วเอาหม้อน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวขึ้นตั้งไฟกลางให้เดือดอีกครั้งและลดไฟลงเป็นไฟอ่อน เขาหยิบหม้อใบใหญ่ขึ้นมาอีกใบแล้วเติมน้ำเปล่าลงไปค่อนหม้อและตั้งไฟให้เดือด เขาเอาเส้นก๋วยเตี๋ยวออกมาเตรียมไว้ วันนี้เขามีแค่เส้นใหญ่และเส้นเล็ก เขาหยิบตะกร้อลวกก๋วยเตี๋ยวซึ่งก็ยืมแม่มาอีกเช่นกันออกมาวางไว้เช่นเดียวกับทัพพีตักซุป

เสียงกริ่งประตูดังขึ้น ฆาเบียร์เดินไปกดเปิดประตูให้ สักพักปรินซ์และซันซันเพื่อนสมัยเรียนของเจก็มายืนอยู่หน้าประตูห้อง

"ไง เจ โหย หอมน้ำซุปมากเลยมึง"

ปรินซ์หนุ่มหน้าตาพิมพ์นิยมแนวพระเอกเกาหลีทักขึ้น เจบอกว่าวันนี้ให้คุยกันเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้แฟนตัวโตของเขาเข้าใจด้วย เพื่อนทั้งสองของเขานิ่วหน้าแต่ก็เปลี่ยนไปใช้ภาษาอังกฤษอย่างไม่ขัดข้อง

"อ่ะ ของที่มึงฝากซื้อ"

ซันซัน หนุ่มตี๋แว่นร่างอ้วนเตี้ยส่งถุงพลาสติกให้เจซึ่งเขาแกะเทใส่ถ้วย มันเป็นหมูชิ้นปรุงรส และซี่โครงอ่อนจากร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำเจ้าอร่อยใกล้ๆ บ้านของซันซัน เท่านี้เครื่องก๋วยเตี๋ยวของเขาก็ครบแล้ว

"เออ เกือบลืม"

เจเดินไปหยิบกระปุกน้ำพริกเผาแบบทำต้มยำกับตังฉ่ายออกมาจากตู้เย็น เท่านี้ก็พร้อมแล้ว

"เอ้า ทุกคน ลุยได้"

สมาชิกทุกคนมารวมตัวกันในครัว ปาร์ตี้ก๋วยเตี๋ยวของหนุ่มๆ เริ่มขึ้น


"คุณเอาเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ตะกร้อแล้วลงลวกในหม้อน้ำเปล่านะ"

เจนยุทธสาธิตให้ฆาเบียร์ซึ่งถือกล้องถ่ายอยู่ดู

"จะเอาเส้นเล็กหรือเส้นใหญ่ก็แล้วแต่ ถ้าจะใส่ผักคุณก็ลวกผักด้วย จากนั้นเอากระเทียมเจียวคลุกเส้น แล้วเติมเครื่องตามชอบ จากนั้นเติมน้ำซุป ปรุงรส แค่นี้ก็ได้ก๋วยเตี๋ยวละ"

เจนยุทธทำก๋วยเตี๋ยวของตัวเองซึ่งก็คือเส้นเล็ก ใส่ผักบุ้งนิดหน่อย ใส่เครื่องแทบทุกอย่างโดยไม่ลืมตักหัวไชเท้าในหม้อซุปมาด้วย เขาปรุงรสเป็นแบบต้มยำคือใส่น้ำพริกเผา น้ำมะนาวและถั่วลิสงป่นเยอะๆ เจหยิบลูกชิ้นใส่ลงไปต้มทิ้งไว้ในหม้อซุปเผื่อคนอื่นด้วย ฆาเบียร์ปล่อยให้คนอื่นทำไปก่อนเพื่อที่เขาจะได้ใช้เวลาลองอย่างเต็มที่ เขาลวกเส้นเล็กแบบเดียวกับเจแต่ใส่เส้นน้อยกว่าและใส่กระเทียมเจียวเพียงนิดเดียว สำหรับเครื่อง เขาเลือกไก่รวน หมูชิ้น ลูกชิ้นนิดหน่อย ถ้วยแรกเขาลองเป็นแบบไม่ปรุงรสอะไร

"อร่อยกว่ากินที่ร้านอีกนะ เจ"

ฆาเบียร์พูดยิ้มๆ

"...ไม่รู้ทำไม อะไรที่เจทำมันถึงอร่อยไปซะทุกอย่างเลย"

เขาเอื้อมมือไปจับมือเจขึ้นมาหอม เจนยุทธก้มหน้างุด จะต้องมาหยอดเขาโชว์เพื่อนๆ ทำไมกันนะ

"นี่ น้องปรินซ์ น้องซัน ก๋วยเตี๋ยววันนี้มันหวานๆ พิกลเนาะ เลี่ยนๆๆ"

นพบ่นขึ้นมาดังๆ พร้อมหันไปค้อนคนข้างตัวที่ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว สองหนุ่มเพื่อนเจได้แต่หัวเราะแหะๆ พวกเขายังไม่สนิทกับฆาเบียร์ถึงขนาดจะพูดแซวเล่นได้เหมือนนพ ฆาเบียร์หันมายักคิ้วให้อดีตรูมเมทของเขา แล้วหันไปหอมแก้มเจที่นั่งหน้าแดงก่ำ

"เอ่อ ใครจะเติมก๋วยเตี๋ยวก็เติมเลยนะ ทำไว้เยอะ"

เจรีบลุกจากโต๊ะไปทำก๋วยเตี๋ยวมาอีกถ้วยเพื่อแก้เขิน ฆาเบียร์หัวเราะในท่าทางของแฟนตัวเอง เขากินก๋วยเตี๋ยวส่วนของตัวเองอย่างเอร็ดอร่อย เขาไม่ได้พูดเกินจริงที่ว่ามันอร่อย ส่วนหนึ่งก็เพราะใช้วัตถุดิบที่ดีและใส่ได้เต็มที่ตามใจของตัวเอง


"กินเยอะๆ นะ ฆาบี้"

เจตักลูกชิ้นลวกที่เขาตักใส่ถ้วยมาวางกลางโต๊ะให้ฆาเบียร์อีกหลายลูก ฆาบี้แทบหมดปัญญาจะยัดมันลงท้องไปได้แล้ว เขากินก๋วยเตี๋ยวไปถึง 3 ถ้วย ส่วนเจน่ะ น่าจะไม่ต่ำกว่า 5 ถ้วยแล้ว ถึงจะเป็นถ้วยขนาดเล็ก แล้วใส่เส้นน้อยๆ เน้นผักกับเครื่อง เขาก็ว่ามันเยอะไปอยู่ดี

"เนี่ย ก๋วยเตี๋ยวทำกินเองแบบนี้เป็นรสชาติวัยเด็กของผมเลยนะ สมัยก่อนตอนอยู่กันพร้อมหน้าที่บ้านในเมือง ตอนนั้นแม่ยังไม่ได้ถูกหวย เราก็เป็นครอบครัวธรรมดาๆ มีความสุขตามอัตภาพ แต่ความสุขของผมก็คือตอนกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับทุกคน..."

ฆาเบียร์นั่งฟังเสียงใสๆ ที่เล่าถึงเรื่องอดีตอย่างเปี่ยมสุข

"แต่ก็จะมีพวกมื้อพิเศษที่ผมรอคอย นอกจากไปกินข้าวนอกบ้านที่ร้านประจำอย่างบาบีลอนก็คือก๋วยเตี๋ยวทำเองที่บ้านนี่แหละ"

เจนยุทธนึกถึงวันเก่าๆ ที่แม่จะปลุกทุกคนให้มาช่วยกันเตรียมเครื่องก๋วยเตี๋ยวแต่เช้า ทุกคนจะได้เลือกของโปรดของตัวเองคนละอย่าง สำหรับเขาคือลูกชิ้นของร้านช้างม่อยกาแฟ

"ความสนุกมันคือตอนที่พวกเรามะรุมมะตุ้มแย่งกันลวกก๋วยเตี๋ยว ผมที่เด็กกว่าพี่ๆ เยอะก็สบายหน่อยไม่ต้องลวกเอง แค่รอแย่งตักเครื่องอย่างเดียว"

เจพูดยิ้มๆ ในฐานะน้องน้อยเขาได้สิทธิพิเศษหลายๆ อย่างทีเดียว


"สำหรับฉัน อาหารมื้อพิเศษในวัยเด็กก็คือสตูว์เนื้อแบบปูเอร์โต ริโก้"

ฆาเบียร์พูดยิ้มๆ แล้วถามเจว่าจำได้ไหมที่เขาเคยเล่าว่าแม่ของเขาทำหม้อแรงดันระเบิดจนครัวพัง เจนยุทธหัวเราะแล้วบอกว่าจำได้

"นั่นแหละ หลังจากนั้นไม่นานอาปาคริสก็ช่วยให้แม่ได้แก้ตัว อาปามายืนคุมแม่ทำสตูว์ทุกขั้นตอน พวกเขาไม่ใช้ทางลัดแล้วแต่ยอมเสียเวลาครึ่งวันเพื่อเคี่ยวสตูว์นั้น"

ฆาเบียร์ยิ้มเมื่อนึกถึงวันอันแสนสุข สตูว์เนื้อนั้นเป็นอาหารเพียงอย่างเดียวที่คาตาลิน่าทำสำเร็จแม้จะเป็นฝีมือคริสไปครึ่งหนึ่งก็ตาม หลังจากนั้นสตูว์เนื้อแบบปูร์เอโต ริโก้ก็กลายเป็นอาหารประจำเทศกาลหรืองานฉลองสำหรับครอบครัวเล็กๆ นี้ มันเป็นโอกาสเดียวที่คาตาลิน่าได้รับอนุญาตให้ทำอาหารซึ่งแน่นอนว่าต้องมีคริสหรือบางครั้งก็อันเดรสคอยอยู่ควบคุมด้วย ฆาบี้น้อยจะรอคอยกินสตูว์นั้นเพราะมันเป็นโอกาสเดียวที่เขาจะได้กินอาหารรสมือแม่ที่ไม่ใช่ขนมอบ

"ส่วนของฉัน อาหารในความทรงจำคือสตูว์ลิ้นกับไอติมทอดร้านพิมพรรณ เฮาส์"

นพพูดขึ้น นั่นเป็นมื้อหรูเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้วสำหรับเด็กอายุ 10 ขวบที่ไม่ค่อยได้ออกไปกินข้าวนอกบ้านนัก เขาเคยกินไอติมทอดเป็นครั้งแรกที่ร้านนี้ สัมผัสร้อนและเย็นในคำเดียวของมันยังคงตราตรึงในความทรงจำ

วัฒน์ยิ้มอายๆ แล้วเล่าว่าสำหรับเขามันคือไข่ต้ม บ้านของเขาที่ฐานะไม่ดีไม่ได้มีการฉลองวันเกิดหรือให้ของขวัญลูกเหมือนบ้านอื่นเขา แต่ในมื้อเย็นแม่เขาจะเพิ่มไข่ต้มให้กับเจ้าของวันเกิดเป็นพิเศษ สำหรับฆาเบียร์แล้วนั่นเป็นเรื่องที่น่ารักที่สุดเท่าเขาเคยได้ยินมา ปรินซ์กับซันซันก็แบ่งปันเรื่องอาหารมื้อพิเศษในความทรงจำของพวกเขา ทั้ง 6 คนเสวนาพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ นานา จนของที่เตรียมไว้พร่องไปเกือบหมด รอยยิ้มและเสียงหัวเราะกลายเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารกลางวันอันโอชะมื้อนี้

(ต่อคอมเมนท์ล่าง)

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1
@@@The Taste of Love...อิ่มรักรสโอชา - Nostalgia [8/9/60]
«ตอบ #108 เมื่อ08-09-2017 19:03:27 »



Nostalgia (ต่อ)



ฆาเบียร์มองคนรักของเขาที่คุยกับเพื่อนๆ อยู่อย่างซึ้งใจ เขาเพิ่งนึกออกว่าวันนี้คือวัน Thanksgiving หรือวันขอบคุณพระเจ้า มันเป็นธรรมเนียมที่เล่ากันว่าเริ่มมาจากชาวอาณานิคมที่มาตั้งรกรากในทวีปอเมริกาจัดเลี้ยงเนื่องในโอกาสที่เก็บเกี่ยวพืชผลได้เป็นครั้งแรกและเพื่อแสดงความขอบคุณต่อพระผู้เป็นเจ้าที่ทำให้พวกเขารอดชีวิตผ่านปีแรกอันโหดร้ายในดินแดนใหม่นี้ได้ ว่ากันว่าพวกเขาได้เชิญชาวพื้นเมืองซึ่งเป็นผู้สอนพวกเขาปลูกพืชอาหารหลักอย่างข้าวโพดมาร่วมกินเลี้ยงด้วย ในปัจจุบันวันขอบคุณพระเจ้าถือเป็นวันหยุดยาวที่ชาวอเมริกันต่างเดินทางกลับบ้านไปเฉลิมฉลองกับครอบครัว เจคงอยากให้เขาได้รู้สึกถึงบรรยากาศครึกครื้นของเทศกาลนี้อีกครั้งเพราะเขาและคริสเคยบอกเจว่าพวกเขาไม่ได้เฉลิมฉลองแบบนี้กันมาตั้งแต่อันเดรสและคาตาลิน่าเสียชีวิตไป ฆาเบียร์หวนนึกถึงคำพูดติดปากของแม่ของเขาซึ่งเขาก็เคยใช้พูดกับเจนยุทธ แม่เขามักบอกว่าอาหารน่ะ ที่อร่อยที่สุดก็เพราะมีคนนั่งกินด้วยนี่แหละ

"ขอยืมตัวเจแป๊บนึงนะ"

ฆาเบียร์บอกปรินซ์และซันที่กำลังเม้าแตกกับเจนยุทธอยู่ และจูงมือคนรักของเขาที่ทำหน้างงๆ เข้าไปในห้องนอน เขาปิดประตูและรวบร่างเพรียวนั้นเข้ากับอก

"ขอบใจมากนะ เจ"

ฆาเบียร์พูดสั้นๆ และจ้องมองดวงตากลมโตนั้นซึ่งส่อแววเข้าใจในความรู้สึกของเขาก่อนที่จะมอบจุมพิตอันอ่อนโยนให้กับริมฝีปากที่ยิ้มพรายของเจ

"เดี๋ยวก่อน อย่าพึ่งขอบคุณ ของดีน่ะอยู่ที่มื้อเย็น"

เจนยุทธพูดยิ้มๆ แล้วดึงมือคนตัวโตออกไปที่โต๊ะกินข้าว เวลาล่วงเลยไปถึงบ่ายสองโมงกว่าแล้ว พวกเขาทั้ง 6 คนนั่งคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน ปรินซ์และซันซันที่เริ่มคุ้นเคยกับฆาเบียร์ก็คุยเล่นและแซวแฟนอายุมากกว่าของเพื่อนสนิทของพวกเขาได้อย่างสนิทใจ



ช่วงบ่ายของพวกเขาหมดไปกับการพูดคุย ดูหนัง เล่นเกม นพกับเจเป็นตัวสร้างความบันเทิงให้กับเพื่อนๆ และคนรัก เวลายามบ่ายนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรก็ใกล้เวลามื้อค่ำ ฆาเบียร์ยกอ่างพันช์ออกมาจากตู้เย็น เขาแช่มันไว้เกือบ 6 ชั่วโมงแล้วคิดว่าน่าจะได้ที่เรียบร้อย เขาตักเครื่องดื่มสีทับทิมนั้นใส่แก้วที่มีน้ำแข็งอยู่ เขาใส่ไปประมาณเกินครึ่งแก้วแล้วตักผลไม้ลงไปลอยด้วย จากนั้นเปิดขวดโซดารินทับจนเกือบเต็มแก้ว เขาส่งแก้วแรกให้เจนยุทธซึ่งชมเปาะว่าสูตรของฆาเบียร์อร่อยกว่าของเขา คนอื่นลุกขึ้นมาตักเครื่องดื่มของตัวเอง เจลากนพไปหน้าตู้เย็น หลังจากพิจารณาอาหารเย็นที่มีแล้ว พวกเขาตัดสินใจสั่งพิซซ่าจากร้าน The Duke's มาเพิ่มผ่านบริการจัดส่งอาหารเจ้าดังของเชียงใหม่

เมื่อพิซซ่ามาถึง นพกับเจที่งุบงิบทำอะไรง่วนอยู่ในครัวกันแค่สองคนก็จัดเตรียมโต๊ะกินข้าว เมื่อเรียบร้อยแล้วสองคนก็เรียกทุกคนมาที่โต๊ะ ฆาเบียร์เดินมาถึงโต๊ะแล้วก็ต้องตะลึง เจกับนพแต่งโต๊ะกินข้าวด้วยผ้ากระสอบที่ทำเป็นผ้าปูโต๊ะ บนโต๊ะมีของตกแต่งตามเทศกาลอย่างฟักทองลูกน้อย ฝักข้าวโพดแห้ง และลูกสน มีโหลแก้วใส่เทียนน้อยๆ วางอยู่สามสี่โหล การตกแต่งในวันนี้คล้ายกับการตกแต่งโต๊ะของแม่เขามาก ฆาเบียร์มองหน้านพผู้เคยไปบ้านของเขาในวันขอบคุณพระเจ้าเมื่อเกือบ 20 ปีที่ก่อน เขาชูแก้วซังเกรียในมือขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณซึ่งนพก็ทำแบบเดียวกันคืนมา เจนยุทธยิ้มละไมดูภาพนั้น ในใจเขาตอนนี้ไม่เหลือความสงสัยในมิตรภาพของคนคู่นี้อีกแล้ว



ติ๊ง

เสียงไมโครเวฟดังขึ้น เจเปิดเตาหยิบเอาของที่อุ่นไว้จัดใส่จานเปลและยกไปที่โต๊ะ

"ไก่งวง?"

ฆาเบียร์อุทาน ในจานนั้นมีเนื้อไก่งวงที่แล่มาแล้ววางอยู่พร้อมกับผักเคียงอย่างแครอท ฟักทองและมันฝรั่งอบ อีกจานหนึ่งเป็น stuffing หรือเครื่องที่ใช้ยัดไส้ไก่งวงแต่ในปัจจุบันนี้นิยมปรุงแยกออกมา บนโต๊ะยังมีซอสเกรวี่และซอสแครนเบอรี่ใส่ถ้วยน้อยวางไว้ให้อีกด้วย

"ไก่งวงน่ะ ซื้อแบบปรุงสำเร็จแล้วมาจากริมปิงซุเปอร์มาร์เก็ต เขาทำขายทุกปี เกรวี่กับซอสแครนเบอรี่น่ะเป็นแบบสำเร็จ แต่ stuffing น่ะ พี่นพลงมือทำเองเลยนะ"

เจนยุทธอวดพี่คนดีของตัวเองอย่างภูมิใจ นพทำ stuffing หรือที่สมัยนี้หลายคนเรียกว่า dressing โดยใช้ขนมปังรสออกเปรี้ยวแบบซาวร์โดก์ ใส่เห็ดรวมและเบค่อนซึ่งเจเป็นคนหาสูตรให้จากเว็บของช่องฟู้ด เน็ตเวิร์ค



เจในฐานะเจ้าบ้านตักไก่งวงเสิร์ฟให้ทุกคน ซึ่งก็ได้คนละไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าได้กินตามเทศกาล

"ของคุณเอาไปนิดเดียวพอ ฆาเบียร์ เห็นบอกว่าไม่ชอบกินนี่"

เจนยุทธจำที่ฆาบี้เคยบอกได้ ฆาเบียร์ยิ้มให้กับคนรัก

"ที่ฉันกับอาปาไม่ชอบกินไก่งวงน่ะ มันมีเหตุ..."

ฆาเบียร์เล่าให้ฟังว่าสำหรับพวกเขา ช่วงขอบคุณพระเจ้านั้นถือเป็นวันที่เขากินไม่อร่อยเลย สำหรับครอบครัวน้อยๆ ของเขานั้น คนทำอาหารคืออันเดรสซึ่งทำอาหารเก่งและอร่อยไปเสียทุกอย่างเว้นอย่างเดียวคือ ไก่งวง

"ไก่งวงที่พ่อทำน่ะ ไม่อร่อยเลยสักนิด เนื้อทั้งแห้ง ทั้งจืดชืด พ่อพยายามหลายต่อหลายครั้งก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ พวกเราก็บอกแล้วว่าไม่ต้องทำก็ได้ กินอย่างอื่นแทนก็ไม่เป็นไร แต่พ่อก็ไม่ยอม"

ฆาเบียร์หัวเราะเมื่อนึกถึงความกดดันและท้าทายที่อันเดรสต้องเผชิญทุกปีในวันขอบคุณพระเจ้า พออันเดรสไม่อยู่พวกเขาก็เลยพาลเลิกกินไก่งวงไปโดยปริยาย

ฆาเบียร์ยกส้อมจิ้มเนื้อไก่งวงมาชิม อืมม์ ก็ยังดีกว่าที่พ่อเขาทำ แต่เขาก็ยังคงไม่ชอบอยู่ดี เขาตักเครื่องยัดไส้ที่นพทำมาลองชิมดูแล้วหันไปชมเปาะว่าอร่อย รสออกเปรี้ยวนิดๆ ของขนมปังซาวร์โดก์ เข้ากับเบค่อนและกลิ่นหอมๆ ของเห็ด เจส่งสลัดผักให้คนตัวโตอย่างรู้ใจ ฆาเบียร์กินพิซซ่าไปเพียงชิ้นเดียว ต่อให้อร่อยเขาก็ต้องไม่เพลินเกินไป เขามองนพเพื่อนรักอย่างหนักใจ มันยัดเข้าไปกี่ชิ้นแล้ว แล้วเจน้อยของเขาอีก เขานับได้ 5 ชิ้นแล้วนะ พิซซ่าขนาด 16 นิ้วของร้าน The Duke's พร่องไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งหกคนกินไป คุยไปอย่างสำราญจนอาหารบนโต๊ะหมดเกลี้ยง



"เอ้า มีของหวานด้วยนะ ทุกคน"

เจวางพายฟักทองที่อุ่นร้อนๆ โดยใช้เตาอบลงตรงหน้าทุกคน ตามด้วยไอศกรีมวนิลายี่ห้อแพงที่สุดในท้องตลาด

"เจ...ทำเองเหรอ?"

ฆาเบียร์ถามอย่างทึ่ง เจ้าตัวเล็กของเขาทำขนมเป็นด้วยเหรอ?

"บ้า! จะทำเองได้ไง นู่น พี่นพเค้าซื้อมา"

นพบอกว่าเขาซื้อพายฟักทองมาจากร้านพายสวนจริณ ร้านพายเก่าแก่จากเชียงราย โดยส่วนตัวเขาชอบของร้าน Love at First Bite แต่ว่าเขาสั่งไซส์ใหญ่ไม่ทันเลยไปซื้อจากพายจริณซึ่งอยู่บนถนนนิมมานเหมินท์ ซ. 17 แทน

"อืมม์ ใช้ได้เลยนี่ นพ"

ฆาเบียร์ชมเปาะ ตอนแรกเขาตัดมาชิ้นนิดเดียว แล้วก็ตัดมาเพิ่ม พายอุ่นๆ กับไอศกรีมเย็นๆ เข้ากันได้ดีเหลือเกิน เนื้อฟักทองเนียนๆ นั้นกรุ่นกลิ่นเครื่องเทศอย่างอบเชยและจันทน์เทศ

"ยังอร่อยสู้ที่แม่มึงทำไม่ได้นะ ฆาเบียร์ กูยังจำรสชาติได้อยู่เลย"

นพนึกถึงความหลังตอนที่เขาไปใช้เวลาช่วง Thanksgiving ที่บ้านของอดีตรูมเมท ฆาบี้พยักหน้าบอกว่าเขาก็ว่าขนมที่แม่เขาทำอร่อยที่สุดในโลก เจนยุทธมองภาพทั้งสองที่หัวเราะคุยถึงความหลังกันแล้วรู้สึกคันยิบๆ ที่หัวใจเล็กน้อย แต่ไม่ใช่เพราะความหึงหวงแต่เป็นความรู้สึกเสียดายที่ตนเองไม่มีโอกาสได้พบเจอผู้ให้กำเนิดทั้งสองของคนที่ตนรัก



ฆาเบียร์ตักซังเกรียแก้วสุดท้ายส่งให้เจที่กำลังช่วยนพกวาดเศษอาหารที่เหลือน้อยนิดลงถังขยะ เขามองคนรักของเขาที่หัวเราะต่อกระซิกกับคนที่เคยครองหัวใจเขาด้วยความอิ่มเอมใจ ถ้าจะมีสิ่งใดที่เขาอยากจะบอกขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าในคืนนี้ ก็คงเป็นเรื่องที่พระองค์ได้ส่งเหล่าคนแสนดีทั้งหลายที่อยู่รอบกายเขามาให้ โดยเฉพาะคนที่เปรียบเหมือนอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตและวิญญาณของเขาคนนั้น

ฆาเบียร์ก้าวพรวดเข้าไประหว่างคนทั้งสองและรวบทั้งคู่เข้ามากอด

"ขอบใจทั้งสองคนนะ สำหรับวันแสนวิเศษวันนี้"

เขากระซิบบอกทั้งคู่แล้วหันไปจูบแก้มเจนยุทธเบาๆ

"อืมม์ อย่าเนียนจูบผิดข้างล่ะ พี่วัฒน์ยืนมองตาเขียวอยู่นู่นแล้ว"

เจพูดยิ้มๆ ฆาบี้สะดุ้งแล้วปล่อยนพทันที เขาหันไปมองหาวัฒน์กะจะขอโทษ แต่ก็เห็นวัฒน์นอนหลับเพราะเมาซังเกรียที่กินไปแค่ 2 แก้ว เขาหันกลับไปดูเจ้าตัวเล็กที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ ฆาเบียร์ก็ได้แต่จุ๊ปากและโคลงหัวเบาๆ

นพอยู่คุยกับฆาเบียร์ต่ออีกพักหนึ่งให้หายสร่างเมาและรอให้วัฒน์ตื่น พอดร. หนุ่มใหญ่ตื่นแล้ว นพก็ลาเจนยุทธและฆาเบียร์ก่อนที่จะประคองคนรักที่ยังเดินเป๋ๆ ลงไปที่รถ ฆาเบียร์ปล่อยให้เจไปอยู่กับเพื่อนๆ โดยที่ตัวเองไปนั่งจิบไวน์ Barolo จากอิตาลีที่นพซื้อมาให้ที่เคาเตอร์ครัว เขาเปิดคอมฯ โพสต์ภาพจากกล้องลงเพจของตน เขาโพสต์ภาพอาหารมื้อเย็นวันนี้ ภาพวีฟี่ของทุกคนที่สรวลเสเฮฮากินดื่ม ภาพแอบถ่ายเจที่ง่วนทำอาหารในครัว และจบด้วยภาพด้านหลังของเจซึ่งโน้มคอเขาที่ใส่เพียงกางเกงในและผ้ากันเปื้อนลงมาจุมพิต มันเป็นภาพที่เขาแค็พมาจากคลิปซึ่งเขาตั้งกล้องถ่ายเจตอนทำเครื่องก๋วยเตี๋ยวในตอนเช้า คำบรรยายภาพชุดนี้คือ


"I'm so blessed...Happy Thanksgiving to you all"




----------------------------------------------------------


ตอนนี้ยาวหน่อยนะคะ จะตัดแค่ทำก๋วยเตี๋ยวเสร็จก็สั้นไป ลากยาวให้จบเลยแล้วกัน หารูปไก่งวงที่ซุเปอร์ฯ ริมปิงทำขายไม่เจอ ถ้าหาเจอจะเอามาโพสต์นะคะ ตอนนี้แปะสูตรอาหารก่อน


สูตรน้ำก๋วยเตี๋ยวนะคะ https://goo.gl/YTmfzH

สูตร Sangria อิงจากสูตรนี้และถือวิสาสะเติมมะนาวเองให้เสร็จสรรพ แหะๆ  https://goo.gl/t4peX4

สูตร Stuffing/dressing ไก่งวง ของเชฟดังอย่าง Bobby Flay https://goo.gl/cKWnVK





[/size]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2017 19:15:00 โดย La Vida Sin Tu Amor »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ว้าว ต้องควักสมุดมาจดอีกแล้ว ฮา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: @@@The Taste of Love...อิ่มรักรสโอชา - Nostalgia [8/9/60]
« ตอบ #109 เมื่อ: 08-09-2017 22:06:12 »





ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1


---- Estar Contigo ----



"ไอ้เจ มึง..."

ซันซันสะกิดเพื่อนที่นั่งเล่นเกมแข่งกับปรินซ์อย่างเมามัน

"กูขอดูอะไรหน่อยได้ป่าว?"

ตี๋แว่นถามเพื่อนของตนอย่างเกรงใจ แต่ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาต้องเอ่ยปากขอออกมา

"ดูอะไรวะ?"

เจนยุทธถามและกดหยุดเกมไว้ก่อน ซันซันชี้ไปที่ต่างหูบนหูข้างซ้ายของเขา เจหัวเราะแล้วถอดให้เพื่อนดูอย่างไม่ลังเล หนุ่มตี๋ยกเอาอุปกรณ์ทดสอบขนาดเล็กที่เขามักพกพาติดตัวออกมา เขาวางต่างหูข้างนั้นอย่างทะนุถนอมลงบนถาดเล็กๆ ที่ปูผ้ากำมะหยี่ เจมองเพื่อนหนุ่มลูกร้านเพชรใช้สารพัดอุปกรณ์ทดสอบอัญมณีชิ้นนั้นอย่างเพลิดเพลิน มันทั้งเอาเครื่องทรงคล้ายปากกาจี้ เอาไฟส่อง ทำนั่นนี่สารพัด เหงื่อเม็ดน้อยๆ ไหลซึมออกจากขมับของซันซัน เขาส่งถาดให้เจหยิบต่างหูคืนไปด้วยมือของตัวเอง เจหยิบกลับมาใส่ที่หูซ้ายดังเดิม

"เป็นไงมั่งมึง ตกลงมันเป็นอะไรอ่ะ? ไพลินเหรอ?"

"ไพลินบ้านมึงสิ ไอ้เจ นี่มึงได้ของมานี่ยังไม่รู้อีกเหรอว่าเป็นอะไร?"

เจงงตกลงมันไม่ใช่ไพลินแล้วเป็นอะไรหรือจะเป็นพวกทัวมาลีน เขาไม่ค่อยได้เห็นพลอยสีน้ำเงินบ่อยเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่สนหรอกว่ามันเป็นอะไร คุณค่าทางจิตใจของมันสำคัญกว่ามูลค่าของมันมาก

"เพชรเว้ย ไอ้เจ เพชรแท้ๆ เลยล่ะมึง"

ซันซันปาดเหงื่อ เขาตัดสินใจบอกผลการทดสอบให้เจรู้​

"เพชรมันมีสีนี้ด้วยเหรอวะ?"

เจนยุทธถามงงๆ เขาเคยเห็นอย่างมากก็สีใสๆ แต่น้ำเงินเข้มจัดแบบนี้เขาเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก



"เวรละ แล้วมันแพงไหมอ่ะ แบบนี้กูไม่กล้าใส่ไปไหนมาไหนแล้ว เม็ดถึงแสนไหมอ่ะมึง? สงสัยกูจะได้ถอดเก็บละ"

เจบ่น ฆาเบียร์น่าจะบอกกันก่อนว่าของมันแพง เขาจะได้ไม่ใส่เล่นไปเล่นมา ซันซันถอนหายใจปลงให้กับความไม่รู้ของเพื่อน

"เพชรแฟนซีสีน้ำเงินอ่ะ ถ้าเป็นแบบผ่านกระบวนการฉายรังสีจนเกิดสีก็น่าจะกะรัตซักแปดเก้าหมื่นบาท"

เจค่อยใจชื้นมาหน่อย ไม่ได้แพงเท่าที่เขาคิด

"...แต่ของมึงน่ะ กูค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่แบบผ่านการแต่งสีนะ เป็นเพชรสีธรรมชาติแท้ๆ ไอ้เจ"

"ราคาปัจจุบันของเพชรแฟนซีสีฟ้าหรือสีน้ำเงินน่ะ ยิ่งสีเข้มขนาดนี้นะ กูเคยลองเปิดๆ ดูในเน็ตแล้ว กะรัตละไม่ต่ำกว่า 2-3 แสน นี่ตีถูกไว้ก่อนนะ เม็ดนี้ก็ซักกะรัตกว่า" เจหัวใจตกวูบ

"เชี่ย ไม่ล่อไป 3-4 แสนบาทเหรอวะ? แม่มกูไม่กล้าใส่แล้วว่ะ"

เจทำท่าจะถอดต่างหูข้างนั้นออกเก็บ



"ทำอะไรกัน เด็กๆ"

ฆาเบียร์ซึ่งตอนแรกนั่งยิ้มอยู่ที่เคาเตอร์ดูเจเล่นเกมอย่างเมามันกับเพื่อนเริ่มทำคิ้วขมวดตั้งแต่เห็นเจถอดต่างหูให้เพื่อนดูง่ายๆ แล้ว เขาลุกมาหาทั้งสามเมื่อเห็นเจเริ่มทำท่าไม่อยากใส่ต่างหูที่เขาให้

"เอ่อ ซันขอดูต่างหูของคุณน่ะ"

เจพูดตะกุกตะกัก เขาบอกฆาเบียร์ว่าที่บ้านซันเป็นร้านขายเพชร

"...คุณเอาของแพงมาให้ผมใส่ทำไมอ่ะ อันตั้งหลายแสนบาท"

เจบ่นกับคนตัวโต ฆาเบียร์ขมวดคิ้วหันไปมองซันซันซึ่งยิ้มแหยๆ ซันเปลี่ยนมาพูดเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ฆาเบียร์เข้าใจด้วย

"...เอ่อ เจ กูยังพูดไม่จบ"

"อิอย่างต่ำสองสามแสนที่กูว่าน่ะ กูเช็คราคาในเว็บฝรั่ง...หน่วยมันอ่ะเป็น US Dollar นะ"

เจนยุทธตัวแข็งไปเรียบร้อย

"กะ...กูว่ามึงเอาคืนป๋าแกไปเถอะว่ะ"

ปรินซ์ซึ่งเหงื่อตกตามเพื่อนไปด้วยพูดเสียงสั่น เจมือสั่นทำท่าจะถอดต่างหูคู่นั้นคืนให้ฆาเบียร์ไป แต่ถูกมือใหญ่ๆ จับข้อมือไว้

"ห้ามถอดนะเจ ฉันไม่รับคืน"

ฆาเบียร์พูดเสียงดุๆ เขาถอนหายใจแล้วนั่งลงบนโซฟาข้างๆ เจ



"จริงๆ มันไม่ได้แพงขนาดนั้นหรอก ราคาที่ซันยกมาน่ะมันเป็นเพชรสมัยใหม่ที่คัตติ้งมันเป็นแบบที่ให้ความแวววาวมาก ส่วนต่างหูคู่นี้มันเป็นคัตติ้งแบบโบราณที่มีเหลี่ยมน้อยไม่ได้ดึงความงามเพชรออกมาเต็มที่ ราคาก็จะถูกลงอีกมาก ใช่ไหมครับ ซัน"

ฆาเบียร์ตวัดสายตาดุๆ ไปที่ตัวต้นเหตุ ซันกลืนน้ำลายฝืดๆ ลงคอ เขาเหลือบไปดูต่างหูอีกข้างที่หูของฆาบี้ มันก็จริงตามฆาเบียร์ว่า แต่อิเพชรน้ำดีสีน้ำเงินเข้มตามธรรมชาติที่มีขนาดและความเข้มของสีเท่ากันเป๊ะทั้งสองข้างแถมตัวเพชรซึ่งเป็นเหลี่ยมกุหลาบแบบโบราณยังดูเหมือนของเก่าที่ถูกแกะเอามาจากเครื่องประดับชิ้นอื่นและนำมาทำใหม่โดยเอามาใส่บนตัวเรือนแบบ Edwardian ซึ่งก็มีอายุอย่างต่ำเกือบ 90 ปีแล้วนั้นไม่น่าจะถูกกว่าที่เขาประเมินมากแน่นอน แต่ดูจากสายตาคาดโทษที่ฆาเบียร์ส่งมาแล้วเขาควรหุบปากเงียบไว้ดีกว่า

"แต่...ผมกลัวจะไปทำมันหายหรือพังอ่ะ ฆาเบียร์"

เจนยุทธพูดเสียงอ่อยๆ ถ้าเจ้าตัวบอกไม่แพง ก็ไม่แพงก็ได้ แต่แค่คิดถึงว่ามันเป็นของดูต่างหน้าแม่ของฆาเบียร์เขาก็เกรงใจแล้ว

"มูลค่าของมันเทียบไม่ได้กับสิ่งที่ฉันได้รับจากเจหรอกนะ"

ฆาเบียร์พูดอย่างจริงจัง เจหน้าแดงก่ำ ทำไมคนๆ นี้ไม่รู้จักเขินจักอายมั่งเลยนะ ฆาเบียร์กุมมือคนรักขึ้นมาจรดจูบโดยไม่แคร์สายตาเพื่อนๆ ที่มองมา ฆาเบียร์ทั้งอ้อนวอนทั้งขู่ว่าถ้าเจไม่รับเขาจะเอามันไปโยนทิ้งน้ำ จนสุดท้ายเจต้องยอมเก็บต่างหูข้างนั้นไว้โดยดี ฆาเบียร์หันไปกำชับซันซันกับปรินซ์ไม่ให้บอกใครเรื่องต่างหูของเขาซึ่งทั้งสองคนก็รับคำอย่างหนักแน่น



"เจ เดี๋ยวพวกกูจะไปผับแถวนี้ต่อ มึงจะไปด้วยไหม?" ปรินซ์ที่กำลังใส่รองเท้าหันมาถามเจ เจส่ายหน้าปฏิเสธบอกว่าคืนนี้เขาเพลียแล้วและจะขอพักก่อน

"แต่ไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนนี้กูว่าจะไป ไว้กูจะโทรหาพวกมึงอีกที"
เพื่อนทั้งสองที่พร้อมเที่ยวเสมอของเขาตอบรับและยกมือไหว้ฆาเบียร์เพื่อลากลับ ฆาบี้ที่เริ่มชินกับวัฒนธรรมไทยก็รับไหว้แบบเก้ๆ กังๆ

"เจจะไปเที่ยวจริงๆ เหรอ? ถ้าไม่นับคืนนี้ อีกสองคืนฉันก็จะกลับแล้วนะ"

ฆาเบียร์ทำหน้าเว้าวอน เขาอยากใช้เวลาที่เหลือทุกนาทีกับเจนยุทธอย่างมีค่า

"ก็ไปด้วยกันสิ"

เจพูดยิ้มๆ เขามีเรื่องสนุกๆ รอเล่นกับฆาบี้อยู่

"รับรองคุณต้องชอบแน่"

ฆาเบียร์ใจเต้นเมื่อเห็นแววตาของเจ เขาแทบรอไม่ไหวแล้ว



เจนยุทธเดินสำรวจความเรียบร้อยในห้อง ในที่สุดเขาก็มีเวลาเป็นส่วนตัวกับคนรัก เจเปิดตู้แช่ไวน์เล็กๆ ของเขาและหยิบถุงซิปล็อคออกมาถุงหนึ่ง แล้วส่งให้ฆาเบียร์ซึ่งรับมาอย่างอึ้งๆ ในถุงนั้นมีซิการ์หลายยี่ห้อหลายขนาด

"ช่วยผมสูบหน่อยแล้วกัน ผมซื้อเก็บๆ ไว้ตอนไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้สูบแล้ว เหลือเพียบเลย แต่ผมเก็บไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่ได้ซื้อฮิวมิดอร์ดีๆ มาเก็บมัน สภาพอาจจะแย่หน่อยนะ"

ฆาเบียร์หยิบหลายๆ ตัวมาดมๆ บีบๆ ดูอย่างคนคุ้นเคย เจเลือกซิการ์คิวบามาเสียส่วนใหญ่

"กลิ่นเริ่มจางแล้วนะ ค่อนข้างแห้งไปหน่อยด้วย ตัวนี้ทิ้งได้เลย wrapper แตกแล้ว"

ฆาเบียร์หยิบซิการ์ Romeo y Julieta ไซส์เล็กที่ใบยาที่ห่ออยู่เริ่มแตกแล้วให้เจซึ่งทิ้งมันลงถังขยะอย่างเสียดาย ฆาเบียร์เลือกซิการ์ยี่ห้อใหม่แต่มาแรงอย่าง Cohiba ไซส์โรบุสโต้ เจตอนแรกจะเลือก Partagás ซีรีส์ D ตัวโปรดของเขา แต่ก็เปลี่ยนใจหยิบซิการ์ที่แพงที่สุดในถุงอย่าง Trinidad Short Robusto T Edicion Limitada 2010 มาแทน เขาทำใจแล้วว่าอาจจะต้องทิ้งซิการ์ทั้งถุงนี้ในไม่ช้าก็เลยเลือกตัวที่แพงที่สุดมาสูบก่อนที่จะเสียหายไปมากกว่านี้ ฆาเบียร์หยิบกล่องมินิซิการ์ขนาดเท่าบุหรี่ยี่ห้อ Partagás ติดมือออกมาด้วยก่อนที่เจนยุทธจะปิดถุงซิปแล้วเอาเก็บเข้าไปในตู้แช่ไวน์เหมือนเดิม

เจเปิดตู้ในครัวซึ่งเขาใช้เก็บแอลกอฮอล์สารพัดยี่ห้อที่ตุนๆ ไว้ แล้วหยิบออกมาขวดหนึ่ง ฆาเบียร์ตาลุก เจช่างรอบรู้จริงๆ ซิงเกิลมอลท์อย่าง The Maccallan Fine Oak 21 ปีนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับซิการ์ที่รสชาติค่อนข้างหนักแบบที่พวกเขาเลือก

"จริงๆ ผมว่าตัว 15 หรือ 18 ปีก็น่าจะพอแหละ แต่ซื้อเหล้าทั้งทีก็ต้องเอาที่กินอร่อยในเวลาอื่นด้วยใช่มะ? ขวดนี้ผมได้มาจากสิงคโปร์ ผมชอบดิวตี้ฟรีที่นั่นมากเลย พอไปดูเซ็คชั่นเหล้านะ เขาก็รินจากสารพัดแบบที่มีให้ชิมจนผมเกือบเมาขึ้นเครื่องเลย ชิมๆ แล้วชอบขวดนี้สุดเลยสอยมา "

เจพูดยิ้มๆ เมื่อฆาเบียร์ชมเขา แล้วบอกว่าเรื่องแอลกอฮอล์นี่คือสิ่งที่เขาเรียนรู้มาจากตอนเรียนการโรงแรม เขาส่งอุปกรณ์สูบซิการ์ให้ฆาเบียร์ถือ


"Neat, straight up, or on the rock?"

'เพียว เขย่ากับน้ำแข็งแล้วกรองน้ำแข็งออก หรือใส่น้ำแข็ง?'


เจถามฆาเบียร์ว่าอยากให้เสิร์ฟวิสกี้แบบไหน ฆาเบียร์บอกให้เจเลือกมาเลย เจนยุทธหยิบแก้ววิสกี้สั้นทรงป่องกลางเหมือนดอกทิวลิปมา 2 ใบ และหยิบขวดน้ำเย็นจากตู้เย็นมาอีกขวดและนำฆาเบียร์ออกไปที่ระเบียงห้องซึ่งมีโต๊ะเล็กๆ และเก้าอี้คู่หนึ่ง อากาศยามค่ำคืนของปลายเดือนพฤศจิกายนเริ่มเย็นลงแล้ว เจนยุทธรินวิสกี้ใส่แก้วสูงประมาณ 1 นิ้วให้ตัวเองและรินเหมือนกันส่งให้ฆาเบียร์ซึ่งอมยิ้มอย่างถูกใจ เจรู้ใจเขาและรู้จักศาสตร์ของเหล้าและซิการ์จริงๆ

"จะจุดทีละตัว หรือว่าคนละตัวเลย?"

ฆาเบียร์ถาม เจบอกว่าเขาเคยสูบโคอีบาแล้ว จุดคนละตัวไปเลย ฆาเบียร์หยิบที่ตัดซิการ์มาตัดส่วนก้นซิการ์ที่ตนเลือกและตัดให้เจด้วย ทั้งคู่จุดซิการ์และดื่มด่ำกับรสชาติอันหนักแน่นของมัน ฆาเบียร์ยกเหล้าซิงเกิลมอลท์ขึ้นจิบ มันเข้ากันอย่างดีกับซิการ์ที่เขาเลือก นอกจากเหล้าซิลเกิลมอลท์แล้ว คอนยัคและรัมก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับดื่มพร้อมสูบซิการ์



"ฆาเบียร์..."

เจเรียกคนรักของตนเบาๆ เขาบอกว่าเขายังไม่สบายใจเรื่องต่างหูราคาแพงระยับของฆาเบียร์

"...ผมกังวลจริงๆ นะ"

เจพูดตบท้าย ฆาเบียร์ถอนหายใจ เขาวางซิการ์ในมือลงบนที่เขี่ยบุหรี่และหันหน้าไปหาเจนยุทธ เขาจ้องมองตาเจผู้หวั่นไหวกับแววตาเว้าวอนของคนตัวโต

"เจจ๋า ของพวกนี้มันก็เป็นของนอกกายทั้งนั้น สำหรับฉันค่าของมันไม่ใช่มูลค่าของเพชรเม็ดนั้น แต่มันคือคุณค่าทางจิตใจ มันเป็นต่างหูของแม่ที่ได้รับมาจากยาย ทั้งคู่เคยใส่มันในวันแต่งงาน ฉะนั้นค่าของมันสำหรับฉันคือความรักที่อัดแน่นอยู่ในนี้"



"...ฉันต้องบอกกับเจอีกกี่ครั้งว่าฉันรักเจ ต่างหูข้างนี้ก็แทนความรักของฉัน แทนคำสัญญาที่ว่าฉันพร้อมอยู่กับเจไปจนตลอดชีวิต ถ้าเจเอาคืนฉันก็เหมือนกับเจไม่ต้องการฉันแล้ว"

ฆาเบียร์พูดด้วยเสียงเศร้าสลด เจนยุทธอึ้งไป

"สำหรับฉัน มูลค่าเป็นตัวเงินของต่างหูคู่นี้มันเทียบไม่ได้เลยกับความสุขที่ฉันได้รับจากเจ ฉะนั้น ฉันขอร้อง อย่าได้คิดมาก จงมองมันเป็นสิ่งแทนใจของฉันและช่วยรักษามันไว้เหมือนมันเป็นตัวแทนความรักของเรา อีกอย่างใส่ติดหูตลอดก็ยังดีกว่าถอดไปถอดมาแล้วไปทำหายนะ"

เจนยุทธมองตาคนตัวโตและเผยอยิ้มออกมา เขาโน้มกายไปจุมพิตแผ่วๆ ที่ปากบางๆ ของฆาเบียร์

"ถ้าคุณว่าอย่างนั้น ก็ตามนั้น ผมจะไม่ถอดต่างหูข้างนี้ออกจนกว่าคุณจะหมดรักผมและทวงมันคืน"

เจนยุทธพูดด้วยเสียงหนักแน่น

"ไม่มีทางที่วันนั้นจะเกิดขึ้น เจที่รักของฉัน" ฆาเบียร์ยกมือเรียวนั้นมาจุมพิต



"...แต่ถอดตอนอาบน้ำและนอนก็ดีนะ"

เขาพูดยิ้มๆ ถึงเขาจะบอกว่าไม่สนใจมูลค่าเป็นตัวเงินของมันแต่ตอนที่เอาต่างหูคู่นั้นรวมทั้งทรัพย์สินของพ่อแม่ไปตีมูลค่าเพื่อทำประกันเขาก็อดสะดุ้งกับมูลค่าของมันไม่ได้ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจเพราะสุดท้ายความสำคัญของมันอยู่ที่คุณค่าทางจิตใจของมันมากกว่า สำหรับเขาแล้วสมบัติพัศสถานและความสำเร็จทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ได้มีค่าใดเลยถ้าไม่มีคนคอยชื่นชมมันกับเขา แต่เขาก็คงไม่พูดว่าถ้ามีคนรักแล้วจะให้ไปกัดก้อนเกลือกินที่ไหนก็ได้ นั่นคงเป็นคำพูดของคนโรแมนติกที่ไม่เคยสัมผัสความยากจนและความลำบาก​ เงินทองและความสำเร็จเป็นสิ่งที่ให้ความสุขสบายทางกายแก่คนซึ่งก็ทำให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น มันเติมเต็มอีโก้ของเขาแต่ก็ไม่ใช่ทั้งชีวิต เมื่อไม่มีคนคอยรับรู้ความรู้สึก คอยยินดี คอยปลอบประโลม คอยรับฟัง ความรู้สึกสุขหรือภาคภูมิใจนั้นก็จางหายกลายเป็นความว่างเปล่าในที่สุด เป็นแค่ความสุขชั่วคราวที่ผ่านพ้นไปอย่างไร้ค่า


เมื่อฆาเบียร์เก็บสะสมเงินได้ครบล้านดอลล่าร์แรกด้วยตนเองโดยที่ไม่ใช่เงินมรดกของพ่อแม่  เขาซื้อของหลายอย่างเพื่อปรนเปรอตน เขาปิดคลับดังของเมืองและฉลองอย่างเต็มที่ แต่เมื่อราตรีนั้นจบลง เขายังคงตื่นมาอย่างเดียวดาย ยังคงคนึงหาพ่อแม่ที่จากไป ยังคงนอนหลับไม่เต็มตื่น คนเดียวที่เขาจะแบ่งปันอะไรด้วยได้ในชีวิตก็คืออาปาคริสของเขาแค่นั้น บ้านอันใหญ่โตหรือคอนโดสุดหรูของเขาไม่ได้ช่วยอุดช่องว่างในใจ เมื่อเวลาผ่านไป ตัวเลขในบัญชีธนาคารก็เพิ่มมากขึ้นๆ หากเขาก็ยังรู้สึกว่างเปล่าดังเดิม เขาซื้อนั่นซื้อนี่เหมือนเดิมเพื่อให้ความสุขชั่วคราว เมื่อสองปีที่แล้วเขาซื้อนาฬิกาแพงระยับราคาเฉียดสองแสนเหรียญเพื่อเป็นรางวัลให้ตัวเอง แต่สุดท้ายมันก็ถูกเก็บไว้ในเซฟและนำออกมาใส่ยามไปงานเท่านั้น ยามปกติเขาก็ดูเวลาจากมือถือของตัวเอง ชีวิตเขาเหมือนมองหาบางสิ่งบางอย่างตลอดเวลาแต่ก็ยังหาไม่เจอ



ใจที่กลวงโบ๋และแห้งผากของฆาเบียร์เริ่มชุ่มชื้นขึ้นอีกครั้งเมื่อนพรับแอดเฟซบุ๊คเขาเมื่อเกือบสามปีที่แล้ว เขารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นเมื่อได้พูดคุยกับเพื่อนเก่าของเขาคนนี้ หากความรู้สึกที่ได้จากนพก็ยังต่างจากความรู้สึกที่เขาได้รับจากเจนยุทธในตอนนี้ กับนพในตอนนั้นเขาเหมือนได้เจอเพื่อนเก่า ได้เจอและรู้สึกถึงตัวตนของตัวเองสมัยเรียนป.ตรี ได้รู้สึกเหมือนเป็นเด็กอีกครั้ง แต่กับเจ เขารู้สึกเหมือนได้ชีวิตที่หายไปของตัวเองคืนมา ความสดใสร่าเริงแต่ไม่ไร้เดียงสาของเจทำให้เขายิ้มและหัวเราะได้มากขึ้น ความทันกันในทุกๆ ด้านของพวกเขาทำให้บางครั้งเขาเหมือนกำลังมองดูตัวเองในเวอร์ชั่นที่ไม่ได้บิดเบี้ยวและผ่านการสูญเสียแบบที่เขาเป็นในปัจจุบัน เขาไม่เคยเจอใครที่กระตุ้นเร้าอารมณ์สุขและทุกข์ของเขาในทุกด้านได้เท่าเจนยุทธมาก่อน และที่สำคัญ เจมองเขาและรักเขาที่เนื้อแท้ของเขาจริงๆ เจไม่ได้มองเขาเป็นฆาเบียร์ บาเลนติน มาติเนซ เด ลา โรซ่า สำหรับเจเขาคือฆาบี้ เมียตัวโตที่ต้องคอยดูแล เขาดูออกว่าถึงเจจะเพลิดเพลินกับชีวิตหรูหราที่เขาป้อนให้ยามไปเที่ยว แต่ไม่ว่าจะเป็นที่เชียงใหม่นี้หรือที่ไหนในโลก ไม่ว่าจะกินอาหารในร้านหรูหรือร้านข้างทาง นอนโรงแรมห้าดาวหรือที่ห้องคอนโดของเจห้องนี้ ดวงตาเจยามที่มองเขาก็ส่องประกายเหมือนเดิม​ ตัวเขาเองก็สามารถเป็นตัวของตัวเองโดยที่ไม่ต้องปรุงแต่งใดๆ เมื่ออยู่กับเจนยุทธ



ฆาเบียร์มองคนที่นั่งพ่นควันเป็นวงอยู่ข้างตัวเขาอย่างสุขใจ​ เขาไม่รู้ว่าสำหรับเจนั้นจะรู้สึกอย่างไร แต่สำหรับเขาแล้วเขาแน่ใจว่าเขาจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่นี้เพื่อเจนยุทธและไม่มีวันเปลี่ยนแปรไปตลอดกาล เจหันมามองฆาเบียร์ซึ่งนั่งกึ่งเอนจ้องหน้าเขาอยู่ แววตาเปี่ยมรักที่ส่งมาให้เขานั้นทำให้ใจของเจพองโต เขาจะไม่ยอมแลกคนๆ นี้ที่เป็นเหมือนอีกครึ่งหนึ่งของจิตวิญญาณเขากับสิ่งวิเศษหรือเลิศเลออื่นใดในโลก ​ฆาเบียร์เติมเต็มเขาในทุกๆ ด้านอย่างแท้จริง


เจลุกขึ้นไปนั่งคร่อมตักของคนที่เขารัก เขาสูบเอาควันหนาหนักของซิการ์เข้าไว้ในปากแล้วจรดริมฝีปากลงกับปากบางของฆาเบียร์ซึ่งดูดรับควันอันมีกลิ่นรสอันเข้มข้นซิการ์จากปากของเขาก่อนที่ฆาเบียร์จะพ่นมันออกทางปาก หัวใจของฆาบี้เต้นระรัว เจนยุทธเข้าใจหาวิธียั่วเย้ากับประสาทสัมผัสของเขาจริงๆ เขาดันกายขึ้นนั่งและโอบรัดร่างเพรียวนั้นไว้และลิ้มรสละมุนของซิการ์ตรินิแดดที่ยังหลงเหลือในปากของเจอย่างเนิ่นนาน เจนยุทธดันกายออกและหอบหายใจถี่ เขาส่งซิการ์ที่เกือบจะหมดตัวแล้วให้กับฆาเบียร์สูบคำสุดท้าย และรอรับควันอันหอมหวานจากปากคนรัก


(ต่อคอมเมนท์ถัดไปค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2017 07:40:12 โดย La Vida Sin Tu Amor »

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1


Estar Contigo (ต่อ)



ฆาเบียร์ยกแก้วซิงเกิลมอลท์ขึ้นจิบคำสุดท้าย กลิ่นควันจากถังไม้โอ้คเผาไฟซึ่งใช้หมักบ่มวิสกี้นี้กรุ่นอยู่ในปาก เขาจิบน้ำเย็นเพื่อล้างปากก่อนที่จะดึงร่างของเจที่หายใจหอบทำตัวอ่อนระทวยซบอยู่ที่อกของเขาให้ลุกขึ้น ใบหน้าน้อยๆ ของเจแดงก่ำ คนตัวโตรังแกเขาอีกแล้ว ฆาเบียร์ดึงร่างของเจกลับเข้าไปในห้องนอน เขาเปิดเพลงจากเพลย์ลิสต์ในไอแพดของเจและซิงค์มันกับลำโพงในห้อง เสียงทุ้มนุ่มติดแหบเล็กน้อยของ Álex Ubago​ ดังขึ้น ฆาเบียร์ดึงร่างเจนยุทธมากอดไว้แนบอก



Estar contigo es como tocar el cielo con las manos

Como el sol de un primer día de verano

Como en un cuento, estar contigo...

การอยู่กับนายนั้นเหมือนสัมผัสท้องฟ้าด้วยมือทั้งสอง เหมือนดั่งตะวันในวันแรกของฤดูร้อน เหมือนดั่งเทพนิยาย เมื่อได้อยู่กับนาย




Estar contigo, desvelando uno por uno tus secretos

Descubriendo todo lo que llevas dentro

Lo dejo todo por un momento de estar contigo

การอยู่กับนายนั้นได้เผยความลับทั้งหลายที่นายมี ได้ค้นพบทุกสิ่งที่นายเก็บไว้ภายใน ฉันพร้อมทิ้งทุกสิ่งเพื่อได้อยู่กับนายเพียงครู่หนึ่ง



Yo siento que tu compañía es

El mejor regalo que me dio la vida

La fuerza que me empuja a seguir adelante

De todo lo que tengo es lo más importante

ฉันรู้สึกได้ว่าการมีนายอยู่เคียงข้างเป็นเหมือนของขวัญชิ้นใหญ่ที่ชีวิตฉันให้มา เป็นแรงผลักให้ฉันก้าวไปข้างหน้า เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในบรรดาทุกสิ่งที่ฉันมี




เสียงทุ้มแหบของฆาเบียร์ร้องคลอตามเพลงนั้นเบาๆ พร้อมขยับร่างพาเจเต้นช้าๆ ตามจังหวะเพลงนั้น แก้มของเขาแนบแก้มใสของเจ มือซ้ายเขาประสานแน่นกับมือขวาของเจและมือขวาเขาโอบหลวมๆ ที่เอวเจนยุทธ เขากระซิบแปลความหมายเพลงให้เจฟังแค่บางช่วง แต่คนที่แอบไปเรียนภาษาสเปนและเคยเปิดหาคำศัพท์จากเพลงนี้หน้าแดงก่ำ เพลงนี้ถ่ายทอดความรู้สึกของฆาเบียร์ที่มีต่อเขาได้อย่างสมบูรณ์



Estar contigo es como un sueño

Del que no quiero despertar

Cierro los ojos y no estas

Vivir contigo es mi deseo

Es todo lo que quiero hacer

Porque a tu lado puedo ser

Solo yo mismo (solo yo misma)

Solo yo mismo (solo yo mismo)

การอยู่กับนายนั้นเป็นเหมือนฝันที่ฉันไม่อยากตื่นจากมัน ฉันหลับตาลงแล้วนายก็ไม่อยู่ที่นั่น การใช้ชีวิตกับนายคือสิ่งที่ฉันปรารถนา คือทุกสิ่งที่ฉันอยากทำเพราะเมื่ออยู่ข้างนายฉันสามารถเป็นเพียงตัวฉันได้ (ซ้ำ)




Estar contigo es

Que cada día sea diferente

Siempre hay algo que consigue sorprenderme

Es como un juego que me divierte, estar contigo

การอยู่กับนายทำให้แต่ละวันแตกต่างกันไป มีสิ่งต่างๆ ที่ทำให้ฉันแปลกใจได้ตลอดเวลา เป็นเหมือนเกมที่ให้ความสำราญ เมื่ออยู่กับนาย


Yo siento que tu compañía es

El mejor regalo que me dio la vida

La fuerza que me empuja a seguir adelante

De todo lo que tengo es lo más importante

ฉันรู้สึกได้ว่าการมีนายอยู่เคียงข้างเป็นเหมือนของขวัญชิ้นใหญ่ที่ชีวิตฉันให้มา เป็นแรงผลักให้ฉันก้าวไปข้างหน้า เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในบรรดาทุกสิ่งที่ฉันมี



Para siempre, niño

Para siempre estar contigo

ชั่วกัลปวสาน baby

อยู่กับนายตลอดชั่วกัลปวสาน

(Estar Contigo - Álex Ubago​)



ฆาเบียร์กระซิบสองประโยคสุดท้ายออกมาแผ่วเบา ก่อนจะจรดจูบลงบนริมฝีปากรูปกระจับนั้นตอนท่อนคอรัสสุดท้าย เจจูบตอบยังริมฝีปากบางนั้นอย่างหนักแน่นเพื่อตอบสนองต่อความรู้สึกรักที่เอ่อท่วมท้นในหัวใจของเขา และเพื่อตอบรับความรู้สึกของคนตัวโตที่โอบกอดร่างเขาไว้ เวลาในห้องเหมือนหยุดนิ่งลงชั่วขณะ เจกระซิบเบาๆ ที่หูของฆาเบียร์ซึ่งยิ้มกว้างออกมา เขาช้อนร่างของเจขึ้นและวางลงบนเตียงนุ่มก่อนจะขยับกายลงทาบทับ เสียงเพลงแสนโรแมนติกจากเพลย์ลิสต์ดังขับกล่อมหัวใจที่ตกอยู่ใต้ไฟรักทั้งสอง



ร่างเปลือยทั้งสองกอดรัดโรมรันกันอยู่บนเตียงนุ่ม ฆาเบียร์ขบดูดดุนทับทิมคู่งามบนยอดอกของเจนยุทธจนร่างเพรียวนั้นหลังแทบไม่ติดเตียง ลิ้นร้อนของฆาบี้ช่างร้ายนัก เจเบียดร่างกายท่อนล่างของตนให้แนบกับส่วนสงวนอันแข็งเกร็งของคนรัก เขารู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันเร่าร้อนนั้น มือนุ่มของเจคลึงเคล้นท่อนลำที่กำไม่มิดของฆาเบียร์ คนตัวโตซี้ดปากด้วยความพึงใจในสัมผัสนั้น เขาเองก็ใช้มือช่วยคลายความเขม็งเกร็งของแก่นกายเจ เจนยุทธรู้สึกเหมือนลอยอยู่บนอากาศ วันนี้เขารู้สึกเคลิบเคลิ้มและร้อนรุ่มเหลือเกิน อาจเป็นเพราะซิการ์ที่ไม่ได้สูบมาพักใหญ่และอาจเป็นเพราะความรักและความปรารถนาที่ดวงตาคู่งามคู่นั้นฉายออกมา



"อา ฆาเบียร์..."

เจครางออกมาดั่งละเมอเมื่อนิ้วร้อนๆ ของฆาเบียร์เริ่มนวดคลึงบริเวณช่องทางสีชมพูของเขา วันนี้เขาจะปล่อยให้คนตัวโตเป็นฝ่ายนำ ฆาเบียร์หยิบตัวช่วยที่หัวเตียงมา เขาให้เจนยุทธคร่อมตัวเขาในท่า 69 ถึงเจจะยอมให้เขาสัมผัสช่องทางแคบเล็กนั้นได้ แต่เขาบอกว่าเขาขอสัมผัสเพียงปากและนิ้วเท่านั้น เขายังไม่แน่ใจว่าเจนยุทธจะพร้อมรับความปรารถนาของเขาในคืนนี้ได้ สำหรับฆาเบียร์การได้เป็นฝ่ายให้กระทำให้เจแม้เพียงเล็กน้อยแค่นี้เขาก็พอใจแล้ว

ฆาเบียร์ขบกรามแน่นเมื่อริมฝีปากน้อยๆ ของเจนยุทธครอบลงไปยังแกนกายของเขา เขาเทเจลรสช็อคโกแลตลงที่ปากช่องทางนั้น เจสะดุ้งเฮือกและครางออกมาเบาๆ เมื่อลิ้นร้อนๆ ของฆาเบียร์สัมผัสหนักๆ ที่รอบปากทางแคบเล็ก ฆาเบียร์คลึงเคล้นก้อนเนื้อหนั่นทั่งสองพร้อมๆ กับพรมจูบไปรอบช่องทาง เขากดจูบที่ต้นขาเนียนแต่แข็งแรงของเจ ก่อนจะไล่กลับขึ้นไปที่ช่องทางแคบเล็กและรุกรานด้วยลิ้นอีกครั้ง คราวนี้มันซอกซอนผ่านวงแหวนแคบแน่นที่ปากทางเข้าไป เขารุกล้ำเข้าไปด้านใน เจครางแผ่วเบาในคอและค่อยๆ ดังขึ้น เขาพยายามหดสะโพกหนีแต่ร่างกายเจ้ากรรมดันไม่เชื่อฟังและกลายเป็นเด้งรับการรุกรานของคนตัวโต เจอุทานออกมาเมื่อลิ้นร้อนๆ นั้นถอนออกและมีนิ้วที่ชุ่มเจลสอดใส่เข้ามาแทน เขาหยุดปากและเปลี่ยนเป็นใช้มือให้ฆาเบียร์แทน พร้อมๆ กับขยับสะโพกของตัวรับสัมผัสจากนิ้วร้อนๆ ของฆาเบียร์



"โอย ฆาเบียร์ ตรงนั้นแหละ"

เจสูดปากร้องลั่นเมื่อนิ้วใหญ่ๆ ของคนรักสัมผัสกับต่อมเสียวภายในช่องทางแคบนั้น ฆาเบียร์ย้ำถี่ๆ เข้าไปตรงจุดนั้นอย่างชำนาญ เขาหมุน บิด คว้านนิ้วจนเจนยุทธดิ้นเร่าๆ

"ฆาบี้ครับ เข้ามาเถอะ ผมขอ"

เจร้องหาสิ่งที่ใหญ่กว่าแค่นิ้ว เขาทนไม่ไหวแล้ว ร่างกายของเขามันจำสัมผัสความเสียวสุดยอดเมื่อสัปดาห์ก่อนได้ ฆาเบียร์ขบกรามแน่น เขาตั้งใจจะทะนุถนอมเจไม่ให้เจ็บอีก แต่ภาพเจที่ตาหรี่ปรือ แก้มแดงจัดเรียกร้องหาแก่นกายของเขานั้นทำให้เขาไม่อาจอดทนได้อีก เขาถอนนิ้วออกและลนลานหยิบถุงยางจากข้างเตียงมาใส่ เมื่อหันกลับมาเขาก็ต้องตัวแข็งทื่อ ภาพของเจนยุทธที่นอนโก้งโค้งยกสะโพกขึ้นและใช้นิ้วเรียวย่ำยีช่องทางสีชมพูของตัวเองนั้นช่างยั่วยวนเหลือเกิน เขามองด้วยความเสียวซ่านในหัวใจ เหงื่อเม็ดน้อยๆ ซึมจากขมับของเจ เขาเรียกร้องขอให้ฆาเบียร์รีบๆ จัดการเขา คนตัวโตที่ในหัวขาวโพลนไปแล้วรีบชะโลมเจลจำนวนมากที่แก่นกายและช่องทางสีชมพูที่สั่นระริกนั้น



ฆาบี้ค่อยๆ ดันส่วนสงวนที่แข็งเกร็งเข้าปากทางคับแคบ เจซบหน้าลงกับหมอน ใบหน้าของเขาเหยเก เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่เรียกร้องหาสิ่งนั้นแล้ว ความเจ็บกลับมาอีกครั้ง เขาครางออกมาเพราะความเจ็บแปลบ ฆาเบียร์ใจหายวาบ เขาใช้นิ้วกระตุ้นไล้บริเวณตุ่มไตสีทับทิม ก่อนที่จะค่อยๆ นั่งลงและให้เจนั่งซ้อนอยู่บนตักของเขา เจค่อยๆ กดสะโพกลงบนแก่นกายนั้นจนผ่านไปได้ครึ่งทาง เขาหยุดหอบหายใจก่อนจะตัดสินใจดันพรวดลงไปทีเดียว

"เจ!"

ฆาเบียร์ร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นน้ำตาของเจนยุทธอีกครั้ง หากเจที่ตั้งใจจะมอบกายให้ฆาเบียร์กลั้นใจขยับสะโพก  เขาเอีี้ยวคอไปจุมพิตคนตัวโตที่จูบเขาตอบอย่างดุดัน ฆาเบียร์บดจูบพร้อมส่งลิ้นร้อนเข้ายังโพรงปากของคนที่กำลังพยายามฝืนตัวเองเพื่อเขา สิ่งที่เขาทำได้เพื่อช่วยเจคือทำให้เจลืมความเจ็บปวดที่เบื้องล่าง มือของเขาลูบไล้แกนกายของเจ ลิ้นของเขาพลิกพริ้วโลมไล้กับลิ้นเรียวของคนตัวเล็ก เสียงครวญครางด้วยความเสียวซ่านเริ่มดังออกมาจากลำคอของร่างเพรียวที่พริ้วไหวอยู่บนกายของเขา เขาเริ่มรู้สึกถึงความลื่นไหล



"เจ เดี๋ยวฉันจัดการเอง ไม่ต้องเกร็งนะ"

เขากระซิบกระเส่าที่หูของของเจนยุทธพร้อมจุมพิตไล่ตามซอกคอ ไหล่ หลัง เขาดันร่างเจให้นอนโก้งโค้งยกสะโพกขึ้น และค่อยๆ ขยับแก่นกายแข็งในช่องทางสีชมพู เขาข่มใจตัวเองไม่ให้เพริดไปเหมือนคราวที่แล้ว ฆาเบียร์ค่อยๆ ทำรักกับเจด้วยความเนิบนาบ เขาไม่เร่งรีบแต่ค่อยๆ ตักตวงความหวานอย่างช้าๆ ช่องทางของเจดึงดูดแก่นกายของเขาให้อยากแหวกว่ายอยู่ภายในอย่างไม่รู้จบ เขาอดไม่ได้ที่จะต้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่านจากความบีบรัดโดยประสานกับเสียงอ่อนหวานของเจที่กายบิดเร่าและกำผ้าปูเตียงจนยับย่น ฆาเบียร์ค่อยๆ พลิกกายเจให้นอนหงาย เขาดันเข่าทั้งสองของเจนยุทธให้ชิดอก เขาอยากเห็นใบหน้าแดงก่ำที่เคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัส น้ำตาหยาดน้อยๆ ที่เกิดจากความเสียวไม่ใช่ความเจ็บปวด ฆาเบียร์ทนนิ่มนวลต่อไปไม่ไหวแล้ว เขายกสะโพกเจขึ้นน้อยๆ ก่อนจะเร่งเร้าแก่นกาย มือของเขาประสานแน่นกับมือเรียวของเจ

"ฆาบี้ ผม...ผมไม่ไหวแล้ว ผมรักคุณ รักคุณ ฆาเบียร์"

เจร้องเสียงกระเส่าก่อนจะกระตุกกายขึ้นกอดฆาบี้และพ่นน้ำขาวขุ่นออกมาเต็มหน้าท้อง ฆาเบียร์ขยับสะโพกอีกสามสี่ทีก่อนจะถูกช่องทางที่บีบรัดถี่ยิบนั้นทำให้ต้องพ่นพิษออกมาบ้าง เขาหอบหายใจถี่และฟุบกายลงบนอกของเจนยุทธผู้โอบกอดเขาไว้อย่างแนบแน่น



"ฉันก็รักนาย เจนยุทธ รักที่สุด รักกว่าสิ่งใด"

นี่คือคำกระซิบของฆาเบียร์ก่อนที่ทั้งคู่จะผลอยหลับไปทั้งที่กายยังคงเชื่อมกันอยู่แบบนั้น​



--------------------------------------------

ตอนแรกกะว่าจะให้ฆาเบียร์ได้ลิ้มรสแค่นิดเดียวแต่อารมณ์ของเรื่องมันพาไป สรุปก็...โดนไปอีกรอบนะน้องเจ

เพลงเพราะๆ ของฆาเบียร์ชื่อเพลง Estar Contigo โดย Álex Ubago​​ ค่ะ ชอบเสียงหนุ่มคนนี้จริงๆ เพลงนี้ความหมายตรงกับอิมเมจความรักของฆาเบียร์เป๊ะเลยด้วยค่ะ มาฟังเพลงเพราะๆ กัน มีสองเวอร์ชั่นคือเวอร์ชั่นร้องคนเดียว

Estar Contigo – Alex Ubago (solo version) https://www.youtube.com/watch?v=WphAQAAK5sQ



Estar Contigo – Alex Ubago, Lena, and Jorge (เวอร์ชั่นเพื่อนสาวและเราสองคน ฮ่าๆๆ) https://www.youtube.com/watch?v=Mxpy1CyXr6Q

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1



---- เหมือนเป็นคนอื่น ----



เจสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะความอบอุ่นของสายน้ำโอบล้อมกาย ฆาเบียร์พาเขามาลงแช่น้ำในห้องน้ำน้อยของเขา คนตัวโตเองก็แช่น้ำในอ่างกับเจโดยตระคองกอดเขาเหมือนเป็นตุ๊กตาอันบอบบางที่พร้อมแตกสลายได้ทุกเวลา

"กี่โมงแล้วเนี่ย?" เจหาวออกมา

"เกือบตีสี่แล้ว เมื่อกี้เราหลับกันไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อาบน้ำ ฉันเห็นเจยังหลับสบายเลยไม่ได้ปลุกน่ะ"

คนตัวโตที่อุ้มเจนยุทธมาลงอ่างตอบ

"คุณน่ะ อายุใช่น้อยแล้วนะ อุ้มผมบ่อยๆ ระวังหลังจะเดี้ยงล่ะ"

ฆาเบียร์นิ่วหน้า เขาไม่ได้แก่ขนาดนั้นซักหน่อยแค่ 40 เอง...สมัยนี้คนเขาก็พูดกันว่า 40 is the new 30. คนอายุ 40 สมัยนี้ก็ปิ๊งปั๊งเหมือน 30 สมัยก่อนได้

"หาว่าฉันแก่เนี่ย อยากลองพิสูจน์ดูอีกสักรอบไหมว่าคนแก่คนนี้จะทำให้เจร้องลั่นได้อีกหรือเปล่า"

ฆาเบียร์พูดแล้วงับใบหูของเจนยุทธอย่างมันเขี้ยว เจหน้าร้อนวาบ เขากลัวใจคนแก่คนนี้จริงๆ ขนาดเมื่อกี้เพิ่งทำเขาร้องแทบไม่เป็นภาษามา ตอนนี้ก็ยังมีเรี่ยวแรงเหลือที่จะทำอีกรอบจริงๆ เหรอ? แต่เมื่อนึกถึงคืนนั้นที่สมุยแล้วเจก็ไม่อยากจะท้าพิสูจน์อะไรอีก

"ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง คนดีของผม?"

ฆาบี้ถามคนที่เพิ่งผ่านศึกกับเขามาอย่างเป็นห่วง ภาพเจที่นอนซมเพราะเขาคราวที่แล้วยังติดตา เจหันมาจูบแก้มฆาเบียร์เบาๆ และบอกว่าเขาโอเคอยู่ ความเจ็บปวดในคราวนี้เบาบางกว่าคราวที่แล้วมาก ตอนร่วมรักกับฆาเบียร์จะให้บอกว่าไม่เจ็บเลยก็คงพูดไม่ได้ แต่ความเจ็บแปลบนั้นถูกแทนที่ด้วยความเสียวถึงขีดสุดอย่างรวดเร็ว เมื่อสงครามรักจบลง เขารู้สึกได้ว่าความบอบช้ำในคราวนี้เบาบางกว่าคราวที่แล้วมากเพราะฆาเบียร์ยับยั้งชั่งใจไม่จัดหนักเขาเท่ากับคราวที่แล้ว

"งั้นก็ติดใจฉันแล้วล่ะสิ คราวหน้าและคราวต่อๆ ไปก็ฉันก็เป็นฝ่ายกอดเจได้แล้วใช่ไหม"

ฆาบี้ยิ้มระรื่นเมื่อเจบอกอย่างเขินๆ ว่าคราวนี้เขาเสียวมากกว่าเจ็บ

"ไม่มีทางเด็ดขาด ฆาบี้ ยังไงคุณก็ต้องเป็นเมียผมวันยังค่ำ" คนตัวเล็กประกาศลั่น

"งั้นมาลองดูกันว่าคราวหน้าใครจะเป็นฝ่ายร้องขอก่อน"

ฆาเบียร์ยิ้มอย่างยียวน หากในใจเขารู้ว่ายังไงเขาไม่มีทางเอาชนะเจ้ากระรอกปลอมตัวนี้ได้เลย



"เจจ๋า..."

ฆาเบียร์กระซิบแผ่วเบาที่หูของคนที่นอนบนหมอนใบเดียวกับเขา เขาโอบกระชับร่างเพรียวนั้นไว้แน่น

"อีกสองคืนเราก็ต้องห่างกันอีกแล้ว ฉันไม่อยากจากเจไปเลย"

ฆาเบียร์พูดด้วยเสียงอันแสนเศร้า เจนยุทธก็แทบจะน้ำตาไหลเมื่อนึกถึงคืนวันที่ต้องห่างไกลจากสุดที่รักของเขา เขากระซิบแผ่วเบาว่าเขาคงคิดถึงฆาบี้มากเช่นกัน

"งั้น...ขอฉันอีกรอบนะ"

ความโศกเศร้าของเจหลุดลอยไปพร้อมกับประโยคนี้ เขาสบถภาษาไทยออกมาเบาๆ แล้วเอาศอกกระทุ้งท้องคนตัวโตที่ทำท่าจะซุกอวัยวะบางส่วนที่เริ่มพองตัวน้อยๆ เข้ามาที่บั้นท้ายเขาพร้อมดิ้นหนีออกไปนอนห่างๆ ฆาเบียร์หัวเราะในทีท่าของเจก่อนที่จะตามมาปลุกปล้ำจั๊กจี๋คนตัวเล็กนั้น เขาไม่ได้จะทำอะไรมันจริงๆ หรอก แค่ล้อเล่นเท่านั้น ไม่นานเสียงเอะอะของเจก็หายไปกลายเป็นเสียงจุมพิตแผ่วเบาและไม่นานก็เป็นเสียงกรนน้อยๆ ของสองร่างที่หลับใหลอย่างเป็นสุขในอ้อมแขนของกันและกัน



"หิวแล้วล่ะสิ"

ฆาเบียร์พูดดักคอเจ้าตัวเล็กที่ตื่นขึ้นมานั่งจ้องหน้าเขาเป๋ง เจนยุทธที่กำลังจะขยับปากพูดหุบปากลงอย่างเร็ว ก็นี่จะเที่ยงแล้ว เขาก็ต้องหิวเป็นธรรมดา แถมเมื่อคืนยังเจ็บตัวแบบนั้นก็ต้องเติมพลังกันหน่อย

"จะให้ฉันทำอะไรให้กิน หรือว่าออกไปกินข้างนอก?"

ฆาบี้ถาม เจบอกว่าออกไปกินข้างนอกดีกว่า เมื่อวานเขาทำอาหารจนเหนื่อยแล้ว วันนี้อยากจะง่ายๆ สบายๆ บ้าง ตอนแรกเขาอยากพาฆาเบียร์ไปกินลาบเมือง แต่ถูกทักท้วงว่าไม่น่าจะใช่ความคิดที่ดี เจเหลือบมองผ้าปูที่นอนที่มีรอยเลือดจางๆ แล้วก็ต้องหน้าร้อนวูบ เขาคงต้องเลี่ยงอาหารเผ็ดอีกสักวันสองวัน เขาถอนหายใจ จืดๆ ก็คงไม่แคล้วอาหารจีน อาหารญี่ปุ่นหรืออาหารฝรั่ง

"งั้น กินอาหารจีนแล้วกันนะ"

เจตัดสินใจแบบไม่ยอมให้ฆาเบียร์เถียง เขารีบลุกจะไปอาบน้ำแต่ก็ต้องขมวดคิ้วและทรุดลงนั่งช้าๆ ต่อให้ฆาเบียร์พยายามนุ่มนวลกับเขาแค่ไหนมันก็ยังอดปวดหน่วงๆ ในท้องและบริเวณปากทางไม่ได้เพราะขนาดของพ่อม้าหนุ่มนั่น เขาบ่นกะปอดกะแปดใส่คนตัวโตที่เข้ามาประคองเขาอย่างเป็นห่วง ฆาเบียร์รอจนเจรู้สึกดีขึ้นแล้วถึงค่อยๆ พาคนตัวเล็กเข้าไปอาบน้ำอาบท่า



เจที่นั่งข้างคนขับบอกทางฆาเบียร์ให้ขับรถจากถ. นิมมานเหมินท์ผ่านเข้ากองบิน 41 ผ่านสนามบินและห้างโรบินสันแอร์พอร์ท และตรงไปเรื่อยๆ ตามถนนมหิดลจนมาถึงหมู่บ้านเก่าแก่อย่างเชียงใหม่แลนด์ ฆาเบียร์เลี้ยวรถเข้าไปและขับไปอีกประมาณ 100 เมตรจนถึงร้านอาหารที่ติดป้ายเป็นภาษาอังกฤษที่อ่านได้ว่า Mei Jiang Hong Kong Style

"นี่เดี๋ยวฉันก็จะกลับฮ่องกงแล้ว ยังจะให้ฉันกินอาหารฮ่องกงอีกเหรอ?"

ฆาเบียร์โอดครวญ แต่เจนยุทธทำหูทวนลมเดินเข้าร้านไป เขารู้ว่าฆาเบียร์กลับไปก็คงจะไม่ใส่ใจเรื่องอาหารการกินของตัวเองและกินน้อยเหมือนแมวดมเหมือนเคย ตอนนี้เขาต้องขุนคนตัวโตให้มากที่สุดเท่าที่จะมีโอกาส ฆาเบียร์แอบพิจารณาตัวร้านซึ่งเป็นห้องแถว 2 คูหาซึ่งห้องหนึ่งเป็นครัว อีกห้องเป็นส่วนรับประทานอาหารที่ตกแต่งแบบง่ายๆ มีแค่โต๊ะเก้าอี้ที่ไม่ได้ดูหรูหรา กับติดภาพเล็กๆ น้อยๆ หากมีภาพหนึ่งที่สะดุดตาเขา เจมองตาม

"อ๋อ สมเด็จพระเทพฯ เคยเสด็จที่ร้านนี้ด้วยนะ แต่น่าจะเป็นตอนที่ร้านเขายังไม่ได้ย้ายมาตรงนี้ เชฟเจ้าของร้านนี้เคยเป็นเชฟอยู่โรงแรมห้าดาวสักที่ในกรุงเทพฯ ก่อนที่จะย้ายมาตั้งรกรากที่เชียงใหม่"

เจนยุทธส่งเมนูที่มีภาพอาหารให้เขาดู ซึ่งฆาเบียร์ดูอย่างสนใจ อาหารร้านนี้เป็นแบบฮ่องกงตามชื่อจริงๆ มีทั้งโจ๊ก บะหมี่ เป็ดย่าง หมูแดง และอาหารจีนหลายๆ อย่างที่เขาเคยเห็นชินตาที่ฮ่องกง เจสั่งอาหารมาหลายอย่างตามเคย ใช้เวลาไม่นานนักก่อนที่อาหารเหล่านั้นจะทยอยมาเรียงรายลงตรงหน้าเขาทั้งสอง เจนยุทธคีบกุ้งทอดพริกเกลือตัวใหญ่ใส่จานให้ฆาเบียร์

"กุ้งพริกเกลือร้านนี้ผมว่าอร่อยที่สุดละ"

กุ้งตัวใหญ่ที่ผ่าหลังมาเรียบร้อยถูกนำไปทอดทั้งเปลือกจนกรอบ จากนั้นคลุกเคล้ากับกระเทียม เต้าซี่และพริกที่เจียวจนกรอบ ฆาเบียร์เลาะเปลือกออกก่อนยกกุ้งขึ้นกัดแล้วก็ชมเปาะในความสดของเนื้อกุ้งและรสชาติของมัน ส่วนเจไม่เสียเวลาแกะ เขากินกุ้งตั้งแต่หัวยันหาง เหลือเพียงเศษปลายหางและตากุ้ง อีกสองจานที่เจสั่งมาเป็นอาหารที่พบได้ทั่วไปในร้านอาหารฮ่องกงคือมะเขือยาวอบหมูสับและเป็ดย่าง ทั้งสองอย่างทำออกมาได้อย่างดี เป็ดย่างที่หนังแสนกรอบนั้นทำให้เจนยุทธทำหน้าฟิน



"ร้านนี้ผมกับพี่นพมากินกันบ่อยๆ เพราะอาหารราคาไม่แพงมาก แต่ถ้าอยากได้ที่หรูหราขึ้น ก็ต้องไปที่แยงซีเจียง ถ.นิมมานฯ ซ. 5 เจ้าของเดียวกันแต่เป็นแบบภัตตาคาร อาหารที่นั่นคุณภาพของวัตถุดิบจะดีกว่าและมีอาหารแบบเหลาอย่างเป็ดปักกิ่ง หูฉลาม เป๋าฮื้อ อะไรเทือกนั้น รวมไปถึงซีฟู้ดสดๆ"

"ที่ว่าวัตถุดิบดีกว่าเนี่ย รวมถึงที่ใช้ปรุงด้วย อย่างถ้าสั่งซุปใสอย่างซุปเยื่อไผ่ที่ร้านนี้ ราคาต่อหม้อกินได้ 4 คน 220 บาท แต่ที่ร้านนู้น ไซส์คนเดียวกิน 140 บาทมั้ง? ผมก็ไม่ได้ไปนานแล้ว แต่พอชิมรสนี่รู้เลยว่าของร้านนู้นมันมีรสชาติหอมๆ ของแฮมยูนนานเด่นชัดกว่าที่ร้านนี้"

เจนยุทธยังบอกอีกว่าเมื่อก่อนเขากับนพไปกินติ่มซำที่ร้านนั้นบ่อยด้วย แต่หลังๆ มาไม่ค่อยได้ไปเพราะนพไม่ค่อยว่างตอนกลางวันแล้ว



อาหารจานถัดไปที่เจสั่งคือเต้าหู้กับหมูกรอบอบกะปิที่เสิร์ฟในหม้อดินร้อนๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกะปิในหม้อทำให้เจริญอาหารเป็นอย่างมาก ตัวเต้าหู้รสชาติเฉยๆ ส่วนหมูกรอบนั้นรสชาติดีและไม่เลี่ยน ส่วนหนังของมันซึมซับรสอร่อยของซอสเข้าไปอย่างเต็มที่ เจนั้นแทบจะซดน้ำซอสหมดเกลี้ยงหม้อแล้วกระมิดกระเมี้ยนขอสั่งเส้นใหญ่ผัดเนื้อมาอีกอย่างซึ่งก็เป็นอาหารที่พบได้ในฮ่องกงและมาเก๊า

"หอมกะทะมากเลยนะ เจ"

ฆาเบียร์ชมเมื่อเขาลองชิมเส้นใหญ่ผัดเนื้อที่เจสั่งมา เนื้อที่ใส่มาก็นิ่มอร่อย รสชาติของมันซับซ้อนยิ่งขึ้นเเพราะซอส XO ที่ใส่ลงไป เขาอดไม่ได้ต้องแย่งเจนยุทธกินอีกหลายคำ อยู่กับเจแล้วเขาเจริญอาหารจริงๆ

"ถ้ามากับพี่นพนะ เราสั่งกันห้าหกอย่างตลอด แล้วก็แทบคลานออกร้าน ที่สั่งกันบ่อยๆ ก็มีเต้าหูหม่าผอ ถั่วเคนย่าผัดหมูสับซอส XO มั้ง มันก็เป็นถั่วหน้าตาเหมือนถั่วแขกผัดใส่หมูสับและซอส XO สูตรของทางร้านที่อร่อยมากๆ เนื้อผัดพริกไทยดำก็อร่อย..."

"อีกอย่างที่ผมชอบมากๆ คือหมูสามชั้นอบผักกาดดองแห้ง จริงๆ วันนี้ผมก็อยากสั่งแต่กลัวคุณจะไม่ยอมกินกับผม"

เจพูดยิ้มๆ เขารู้ว่าฆาเบียร์คงไม่อยากกินสามชั้นมันๆ แน่

"แต่สามชั้นของที่นี่เขาทำดีมากจนมันแทบไม่รู้สึกเลี่ยนเลยนะ ผักกาดดองแห้งของเขาก็สุดจะอร่อย ไว้ผมค่อยชวนพี่นพมากิน"

เจตบท้ายมื้ออาหารนี้ด้วยพุดดิ้งมะม่วง เมื่อถึงเวลาคิดเงินซึ่งเจก็แย่งจ่ายตามเคย ฆาเบียร์ก็ต้องทึ่งกับราคาอาหารเพราะกับข้าง 4 อย่างที่มีทั้งเป็ดย่างและกุ้งรวมกับเส้นใหญ่ผัดเนื้อและขนมนี้ก็ประมาณ 1,000 บาท


] (ftp://www.picz.in.th/images/2017/09/11/Meijiang-L.jpg[/img)


"เชียงใหม่มีร้านอาหารจีนเยอะนะ มีสารพัดทั้งแบบฮ่องกง/กวางตุ้ง ยูนนาน แต้จิ๋วหรือแบบเสฉวนก็ยังมี คนไทยกินอาหารจีนเยอะแถมยังผสมผสานเข้าไปจนบางทีก็แยกไม่ออกแล้วว่านี่คืออาหารไทยหรืออาหารจีน"

เจที่นั่งข้างคนขับอย่างฆาเบียร์บรรยายเรื่องอาหารให้คนตัวโตของเขาฟัง

"ที่ผมกินบ่อยๆ ก็ร้านอาหารแต้จิ๋วราคาประหยัดที่อยู่คู่เชียงใหม่มานานอย่างเจี่ยท่งเฮง กับร้านอาหารยูนนานเก่าแก่อย่างร้านมิตรใหม่ ไว้ผมจะพาคุณไปชิมสักวัน"

"แต่ถ้าร้านสไตล์ฮ่องกงน่ะ ในเชียงใหม่มีเด่นๆ แค่สองร้านเท่าที่รู้ ร้านแรกก็เหมยเจียงที่เราเพิ่งกินไป อีกร้านก็ร้าน Hong Kong Lucky ที่อยู่กลางเมืองแถวๆ หน้าอำเภอ กับมีอีกสาขาที่เน้นขายอาหารจานเดียวอยู่บนห้าง Maya"

"สำหรับผมแล้ว ถ้าอาหารพวกกับข้าวกับโจ๊ก ผมยกให้เหมยเจียง แต่ถ้าเรื่องบะหมี่กับพวกของย่าง ร้านฮ่องกงลัคกี้ก็ไม่แพ้กัน ติ่มซำเขายังเป็นแบบตัวใหญ่สไตล์ฮ่องกงด้วย ลูกชิ้นเนื้อของเขานี่รสชาติเหมือนกินที่นั่นไม่มีิผิดเลย แต่ร้านนี้ติดจะแพงไปหน่อยอ่ะ"

เจที่น่าจะอิ่มแล้วทำท่าน้ำลายไหล เขายังนึกถึงรสของไก่ย่างซีอิ๊วที่จิ้มกับต้นหอมและขิงปั่นรสออกเค็ม ฆาเบียร์อดโคลงหัวกับความตะกละของเจ้าตัวเล็กของเขาไม่ได้


] (ftp://www.picz.in.th/images/2017/09/11/HKlucky-L.jpg[/img)


เวลายามบ่ายของเขาสองคนใช้ไปในร้านกาแฟร้านดังในย่านนิมมานเหมินท์ ภาพหนุ่มใหญ่เชื้อสายละตินร่างกำยำกับหนุ่มไทยร่างเพรียวนั่งอิงแอบหยอกล้อต่อกระซิกกันเป็นสิ่งที่ร้านแถวนี้เห็นจนชินตาแล้ว หลายครั้งที่เจไม่ว่างฆาเบียร์ก็จะเดินโต๋เต๋จากคอนโดของเจออกมานั่งร้านกาแฟที่มีให้เลือกมากมายหลายร้านแถวนี้ ร้านประจำของเขาคือร้าน Impresso ตรงข้ามร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นเจ้าอร่อยอย่างเนื้อตุ๋นรสเยี่ยม ร้านดังอย่าง Ristr8to ที่เจ้าของร้านเป็นบาริสต้าดีกรีแชมป์โลกเขาก็ชอบแต่ว่าเขาไม่อยากไปเบียดเสียดแย่งที่นั่งกับนักท่องเที่ยวทั้งไทยจีนฝรั่ง เขาอยากนั่งชิลๆ สบายๆ มากกว่า เขาจะนั่งกินกาแฟดูคนเดินผ่านไปมา หยิบคอมเอางานขึ้นมาทำบ้าง พอเจเสร็จงานก็จะมารับฆาเบียร์ ไม่ก็มานั่งด้วย



"กลับกันดีกว่า ฆาบี้"

เจดูนาฬิกาแล้วชวนฆาเบียร์กลับ เขานัดปรินซ์กับซันซันไว้ที่ผับในคืนนี้ คืนนี้เขาต้องใช้เวลาแต่งตัวอย่างพิถีพิถันหน่อย​ ทั้งคู่กลับมาถึงที่ห้องคอนโดของเจ พวกเขาทำอาหารเย็นกินกันแบบง่ายๆ เพราะยังอิ่มจากมื้อหนักเมื่อกลางวัน เมื่อล้างถ้วยชามเสร็จแล้ว เจซึ่งหน้าเคร่งเครียดลากฆาเบียร์มานั่งประจันหน้ากันที่เคาเตอร์ในครัว เขาถอดต่างหูของคาตาลิน่าส่งคืนให้ฆาเบียร์

"ผมขอคืนมันให้คุณ ฆาเบียร์"

"นายพูดอะไรของนาย เจนยุทธ"

ฆาบี้ที่ยังงงๆ ขมวดคิ้ว เขาไปทำอะไรให้ไอ้ตัวเล็กนี่โกรธอีกแล้วเหรอ? เจถอนหายใจ

"ผมขอเลิกกับคุณ ฆาเบียร์ เราจะกลายเป็นเพียงคนแปลกหน้า..."

เจทอดเสียง ฆาเบียร์หัวใจตกวูบ เขากำลังจะอ้อนวอนเจนยุทธให้อย่าจากเขาไปเมื่อเขาสังเกตเห็นแววตาซุกซนของเจ มันทำให้เขารู้สึกร้อนขึ้นมา ไอ้ตัวเล็กจะเล่นอะไรอีก เจพูดย้ำขึ้นอีกที

"เราจะเป็นเพียงคนแปลกหน้ากัน...ในคืนนี้" เจพูดยิ้มๆ



"นายหมายความว่า...?"

ฆาเบียร์ถามขึ้น แต่เขาพอจะเข้าใจแนวคิดของเจลางๆ แล้ว

"คืนนี้ เราจะไปผับในฐานะคนที่ไม่รู้จักกัน เราจะทำตัวเหมือนสมัยก่อนให้เต็มที่ คุณและผมออกเฟลิร์ทเหมือนอย่างที่เคย แต่จุดประสงค์คือต้องทำให้อีกฝ่ายหลุดแคแร็คเตอร์และแสดงอาการหึงหวงออกมาให้ได้ ใครแพ้ต้องทำตามความต้องการของคนชนะทุกอย่าง โอเคไหม?"

แค่เจอธิบายให้ฟัง ฆาเบียร์ก็ตื่นเต้นจนแทบอยากจับกดมันตรงนี้แล้ว เขามั่นใจว่าเขาชนะแน่ๆ

"แต่อย่างหนึ่งนะ จะไปแร่ดไปอ่อยยังไงก็ได้ แต่ห้ามเอาติดไม้ติดมือกลับมาจริงๆ เข้าใจไหม?"

คนตัวเล็กขี้หึงกำชับคนตัวโต

"แล้ว ถ้าจะหมดคืนแล้วเรายังไม่หลุดกันล่ะ?"

ฆาเบียร์ถาม แต่เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเจต้องแพ้เขาแน่

"เราก็จีบกันเอง เอาไหมล่ะ? มาลองดูว่าใครจะเป็นฝ่ายได้กอด"

เจทำหน้าท้าทายฆาเบียร์ เขาเองก็มั่นใจว่าตัวเองไม่แพ้เช่นกัน

"เราแยกกันอาบน้ำแต่งตัวแล้วกันนะ ฆาบี้ ไว้เจอกันทุ่มครึ่งที่ผับ"

ฆาเบียร์ถอดตุ้มหูของตัวเองออกบ้าง คืนนี้เจไม่รอดมือเขาแน่นอน



เจสำรวจตัวเองในกระจก วันนี้เขาจะไปด้วยลุคน่ารักๆ หน่อย เขาใส่กางเกงยีนส์สกินนี่สีเข้มที่ทำให้ขาดูเรียว เสื้อยืดสีขาวคอกว้างและเสื้อคาดิแกนเนื้อบางตัวยาวมีฮู้ดสีเทาอ่อนที่ดึงแขนเสื้อขึ้นข้อศอก เขาจัดแต่งทรงผมให้เป็นหน้าม้าปกหน้าผากนิดๆ และใส่แว่นสายตาเอียงกรอบดำที่เขาใส่ตอนทำงานกับขับรถ เขามองตัวเองในกระจกอย่างพอใจก่อนจะหยิบตุ้มหูแบบห่วงสีเงินที่ไม่ได้ใส่มานานมาใส่ ถึงจะบอกฆาเบียร์ไปว่าคืนนี้เขาทั้งคู่จะทำตัวเหมือนคนโสด แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าจะต้องใส่อะไรติดหูไว้หน่อยอยู่ดี เขาใส่รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สสลิปออนแล้วตะโกนบอกคนตัวโตว่าเขาจะออกไปแล้ว พ่อเจ้าประคุณของเขายังไม่ออกจากห้องน้ำ เขาอยากเห็นจริงๆ ว่าคืนนี้คนตัวโตจะแต่งตัวจัดเต็มขนาดไหน

"ไง พวกมึง มานานยัง?"

เจนยุทธทักเพื่อนหนุ่มของเขาที่มารออยู่พักใหญ่แล้ว วันนี้เพื่อนๆ เขามายึดครองโต๊ะในห้องเต้นซึ่งเป็นโต๊ะยืน

"อื้อหือ ไอ้เจ จัดเต็มเลยนะมึงวันนี้"

ซันซันทักขึ้น เขาไม่เห็นเจนยุทธแต่งตัวมาเที่ยวแบบเต็มที่แบบนี้นานแล้ว ช่วงที่ผ่านมามันใส่แค่เสื้อยืด เสื้อโปโลหรืออย่างมากก็เสื้อเชิร์ตกับกางเกงยีนส์ สมัยก่อนถ้ามันแต่งตัวจัดเต็มแบบนี้แปลว่ากะมาหิ้วหญิงเต็มที่และก็มักไม่พลาด

"ป๋าของกูไปไหนวะ?"

ปรินซ์ผู้มองฆาเบียร์เป็นไอดอลไปแล้วถามขึ้น

"ป๋าไหน?"

เจนยุทธทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ เขาบอกเพื่อนๆ ว่าคืนนี้เขากะมาสนุกเต็มที่ เพื่อนทั้งสองมองหน้ากันงงๆ วันนี้ไอ้เจมันงอนแฟนมาหรือยังไง?

"อ้าว มานู่นแล้ว"

ปรินซ์สะกิดเจให้มองไปที่ประตู เจมองตามแล้วก็ต้องใจสั่น วันนี้เมียตัวโตของเขาดูแพงไปทั้งตัวและยังดู "ร้าย" อีกด้วย หนุ่มใหญ่วัย 40 ที่ยังรูปร่างฟิตเปรี๊ยะคนนี้ใส่กางเกงยีนส์เอวต่ำที่ถ้าเขายกแขนขึ้นคงทำให้เห็นตัว V อันงดงามและไรขนน้อยๆ ที่นำลงไปสู่ส่วนสงวนที่นูนขึ้นน้อยๆ ใต้กางเกงสกินนี่เอวต่ำสีสนิมซีดๆ ที่มีรอยขาดเล็กน้อยนั้น ท่อนบนเขาใส่เสื้อหนังทรงไบค์เกอร์สีดำแพงระยับยี่ห้อ Saint Laurent แบรนด์เดียวกับกางเกงยีนส์ซึ่งเขาใส่คู่กับเสื้อยืดสีขาวที่รัดแนบแผงอกกว้างนั้น  ไรหนวดเคราที่ขึ้นน้อยๆ เพราะความขี้เกียจโกนอีกทั้งผมสีน้ำตาลเข้มยาวปรกคอที่ถูกรวบขึ้นทำเป็นจุกน้อยๆ ทำให้ใบหน้าที่คมเข้มแบบหนุ่มละตินของฆาบี้ดูเซอร์นิดๆ เจยิ้มมุมปากเมื่อเห็นตุ้มหูรูปหัวกะโหลกที่หูขวาของฆาเบียร์ มันเป็นตุ้มหูของเขาเอง คนตัวโตคงไม่อยากปล่อยให้หูว่างเหมือนกัน

เจนยุทธสบตากับคนตัวโตที่เดินโปรยยิ้มมาตั้งแต่ปากทาง ฆาเบียร์ขยับปากพูดกับเขาแบบไม่มีเสียง


"Game on!"  'เริ่มเกมได้'

--------------------------------------------------

อยากกินเป็ดย่างหนังกรอบบบบบบบบบบบบบบบบบ

อิน้องเจเราหาอะไรมาให้ฆาเบียร์ได้ใจเต้นอีกแล้ว




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2017 23:43:01 โดย La Vida Sin Tu Amor »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1


---- "Hello, Stranger" ----



"พวกมึงอยู่นี่นะ เดี๋ยวกูไปทักไอ้ตั้มมันก่อน"

เจนยุทธพูดถึงน้องรหัสที่ทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ที่ผับแห่งนี้ เขาเดินกระแทกไหล่ร่างกำยำที่เดินเข้ามาทักเพื่อนของเขาอย่างไม่ใยดี คนขี้โกง เล่นแต่งตัวมาแบบนี้ก็กินไปครึ่งนึงแล้ว เจบ่นอุบอิบในใจ เขานึกว่าฆาบี้จะมาลุคเนี้ยบหรูแบบคุณชายเสียอีก ฆาเบียร์ยิ้มมุมปากน้อยๆ เจ้าตัวเล็กของเขาเริ่มเข้าบทบาทแล้ว คืนนี้ต้องสนุกแน่ๆ เขาทักปรินซ์กับซันซันที่รีบถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เขาอธิบายคร่าวๆ ให้กับสองคนที่ได้แต่ยืนอึ้งไป ฆาเบียร์หันหน้าไปทางเจนยุทธ หึ เมียหมาดๆ ของเขากำลังหัวร่อต่อกระซิกอยู่กับบาร์เทนเดอร์หนุ่มหน้าตาดีที่บาร์ เจเหลือบมองมาทางเขาเล็กน้อยก่อนจะเอนตัวข้ามบาร์ไปกระซิบข้างๆ หูบาร์เทนเดอร์คนนั้น เสื้อยาวของเจเลิกขึ้นจนเห็นก้นแน่นๆ ที่เด่นชัดในกางเกงยีนส์สีเข้มอันแสนรัดรึงนั้น ฆาเบียร์แอบกลืนน้ำลาย ไม่ได้เขาต้องไม่ว่อกแว่ก คืนนี้เขาต้องชนะ

เจนยุทธกระซิบที่หูของน้องรหัสคนสนิทที่มีดีกรีเคยเป็นเดือนมหาวิทยาลัย เขาจงใจแตะเนื้อต้องตัวและทำท่าสนิทสนมกับตั้มมากกว่าปกติ

"เตกิล่า 2 ช็อตครับ"

ฆาเบียร์เดินมายืนข้างเจเพื่อสั่งเหล้า เมื่อเหล้าทั้ง 2 ช็อตและจานเกลือกับมะนาวซีกมาถึง เขาส่งแก้วหนึ่งคืนให้กับบาร์เทนเดอร์หนุ่มพร้อมรอยยิ้มกระชากใจ

"ดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยนะครับ"

ฆาเบียร์สังเกตเห็นตุ้มหูเงินที่หูขวาของบาร์เทนเดอร์หนุ่มซึ่งแสดงถึงรสนิยมทางเพศของเขา ฆาเบียร์จงใจพูดเชิญชวนต่อหน้าเจ ตอนแรกตั้มก็บ่ายเบี่ยงแต่ก็ยอมแพ้ต่อสายตาของฆาเบียร์ เจนยุทธยืนกอดอกมองว่าเมียตัวโตของเขาจะมาไม้ไหน ทั้งคู่โรยเกลือที่หลังมือของตัวเอง แล้วฆาเบียร์พลันดึงมือบาร์เทนเดอร์หนุ่มมาจูบเลียที่ซอกระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือที่ตั้มโรยเกลือไว้แล้วโดยช้อนตามองตั้มที่ยืนตัวแข็งไปแล้ว​อย่างยั่วเย้าและส่งมือให้ตั้มเลียเกลือจากมือของเขาบ้าง ก่อนทั้งสองจะยกช็อตเตกีล่าขึ้นซดตามด้วยดูดน้ำจากมะนาวผ่าซีก

"เหล้าวันนี้อร่อยเป็นพิเศษเลยนะครับ"

เสียงทุ้มแหบอีกทั้งรอยยิ้มละไมและสายตาของฆาเบียร์ทำให้บาร์เทนเดอร์หน้าหล่อเคลิ้มไปเรียบร้อย เจเม้มปากแน่น มุกเลี่ยนๆ แบบนี้ฆาเบียร์ก็ยังอุตส่าห์งัดมาใช้ งั้นเขาก็จะไม่ออมมือแล้ว



"ตั้ม พี่ขอน้ำเปล่าแก้วนึง"

เจนยุทธที่ยังนิ่งๆ อยู่ขอน้ำจากน้องรหัสที่ยืนหน้าแดงก่ำก่อนที่จะทำเป็นปัดโดนมือรุ่นน้องจนน้ำหกใส่เสื้อสีขาวบางคอกว้างของตัวเอง เจซ่อนยิ้มเมื่อเห็นฆาเบียร์ทำหน้าตึงเล็กน้อย เสื้อขาวบางที่ชุ่มน้ำของเขาเผยให้เห็นตุ่มไตสีทับทิมรำไร ตั้มรีบหาผ้ามาให้พี่รหัสเช็ดตัว

"เช็ดให้หน่อยสิ"

เจเอนตัวข้ามเคาเตอร์ไปให้รุ่นน้องผู้น่าสงสารเช็ดคราบน้ำที่ติดตามแผงอกแข็งแรงของเขา ตั้มกระเดือกน้ำลายลงคอ วันนี้พี่รหัสของเขาทำตัวแปลกไป ทุกทีมีแต่มาโวยวายคุยดังลั่นขึ้นมึงกูกับเขา แต่วันนี้เขากลับรู้สึกว่าพี่เจช่างดูอ่อนหวาน น่ารักแล้วก็เซ็กซี่เหลือเกิน คอเสื้อกว้างของเจย้วยลงเมื่อโน้มกายทำให้เม็ดทับทิมที่แข็งเป็นไตน้อยๆ ปรากฏเด่นชัดขึ้นอีก ตั้มอดไม่ได้ต้องใช้ผ้าเช็ดไล้เฉียดใกล้มันเบาๆ เจสะดุ้งน้อยๆ ตายล่ะวา หวังว่าไอ้น้องรหัสคงไม่เข้าใจผิดไปไกลนักนะ หากแววตาที่ทอแววปรารถนาของตั้มทำให้เขากลัวเล็กๆ แต่ก่อนที่เขาจะถูกสัมผัสมากขึ้นไปกว่านั้น เสียงของคนตัวโตก็ดังขึ้น

"เอ่อ ผมขอโคโรน่าขวดหนึ่งด้วยครับ"

มือที่กำลังจะแตะต้องผิวกายของเจหดไปพร้อมเสียงถอนหายใจเบาๆ ของเจ้าของมือ ตั้มเปิดขวดเบียร์ ใส่มะนาวซีกไว้ที่ปากขวดและส่งให้กับหนุ่มละตินที่ยืนรออยู่ แล้วก็ต้องหน้าร้อนวาบเมื่อมองสบกับตาสวยๆ ที่ทอประกายร้อนแรงคู่นั้น คืนนี้มันอะไรกันนักหนาวะ? เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกปั่นหัวจากชายทั้งสองที่อยู่ตรงหน้า



เสียงเฮดังขึ้นเมื่อดีเจเปิดเพลงสุดฮิตระดับหลายพันล้านวิวใน Youtube อย่าง 'Despacito' ของ Luis Fonsi และ Daddy Yankee ฆาเบียร์เห็นโอกาสปลีกตัวออกจากที่บาร์ เขาไม่อยากให้เจยั่วเย้าหนุ่มบาร์เทนเดอร์ที่ทำท่าจะเคลิ้มไปกับการหยอกล้อนั้นมากนัก เขาเดินไปบริเวณที่คนยืนเต้นกันอยู่และเริ่มโยกย้ายด้วยท่วงท่าแบบละติโน่แท้ๆ เพลงนี้ที่ชื่อเพลงแปลว่า "ช้าๆ" มีความหมายที่ออกจะส่อไปในทางเพศชัดเจน การเคลื่อนไหวของเขาในตอนนี้ก็ส่อไปในทางนั้น ปากเขาก็ร้องเพลงตามไปเบาๆ เจนยุทธยืนเม้มปากดูคนที่ออกจะเพลินกับการเต้นโดยมีหนุ่มน้อยหน้าหวานคนหนึ่งมาเต้นอยู่ใกล้ๆ ฆาเบียร์อาจไม่ใช่ชาวต่างชาติที่หน้าตาหล่อที่สุดในผับคืนนี้ แต่ด้วยรูปร่างอีกทั้งบุคลิกที่โดดเด่นและความมั่นใจอันเต็มเปี่ยมทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจได้ในไม่ช้า


https://www.youtube.com/watch?v=kJQP7kiw5Fk


"Despacito!..."

ทั้งห้องที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงนั้นร้องตาม ร่างบางๆ หนึ่งหันหลังบดเบียดสะโพกเข้ากับท่อนล่างของฆาเบียร์โดยยกมือขึ้นรั้งคอหนุ่มละตินให้ซุกหน้าลงกับคอตัวเอง เจมองภาพนั้นด้วยใจที่ร้อนเป็นไฟ แต่เขาจะแพ้ไม่ได้ หากจะให้ไปเต้นยั่วผู้ชายเขาก็ทำไม่เป็น หันไปสีสาวๆ เหมือนเดิมดีกว่า เจมองไปรอบๆ แล้วเจอกลุ่มสาวหน้าตาคุ้นๆ ที่เหมือนจะเคยสนุกกันมาก่อนอยู่ใกล้ๆ ตัวฆาเบียร์ที่กำลังเพลินอยู่ เขาเดินไปชนแก้วกับสาวคนหนึ่งและเริ่มเต้นบ้าง สาวคนนั้นบดเบียดร่างกายกับเจ ทั้งสองหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างสนุกสนานจนเพลงจบรอบที่สอง

ฆาเบียร์ที่แม้จะทำท่าสนุกสนานกับหนุ่มตรงหน้า แต่สายตาเขาแอบสอดส่ายหาเจ ใจเขาเต้นโครมครามเมื่อเห็นเจนยุทธโอบเอวสาวน้อยคนนั้นและทำท่าเหมือนจุมพิตที่แก้มขาวๆ นั้น เขาแทบอยากไปกระชากทั้งสองออกจากกัน แต่ก็กลัวเสียเชิง ดีเจก็ดันเปิดเพลงบ้านี่ตั้งสองรอบ เขาผละออกจากหนุ่มน้อยที่โหนคอเขาอยู่แทบจะทันทีที่เพลงจบ ฆาเบียร์สอดส่ายสายตาหาเจ เขาชักไม่ค่อยอยากเล่นเกมนี้แล้ว ในที่สุดก็เห็นเจนยุทธอยู่ที่โต๊ะกับเพื่อนๆ เขารีบเดินกลับไปหา แต่ก็โดนคนนั้นคนนี้ขอชนแก้วตลอดทาง​ เมื่อใกล้ถึงโต๊ะเขาเห็นเจทำหน้าเจื่อนๆ เหมือนจะร้องไห้แล้วเดินหนีจากโต๊ะไปยืนทำหน้าแดงก่ำอยู่ที่บาร์ ฆาเบียร์เดินไปถามปรินซ์กับซันซันที่ทำหน้าเคืองๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งสองรีบเล่าเรื่องราวให้เขาฟังทันที



"แกๆ พี่เจมาแหละ ไม่เห็นพี่เค้ามาตั้งนานแล้วเนาะ"

"โหย ยังน่ารักเหมือนเดิมเลย ดูสิ หน้าเล๊ก เล็ก"

เสียงสาวโต๊ะข้างๆ กระซิบกระซาบกัน เจแอบยิ้ม เขาถือเป็นคนดังพอสมควรสำหรับที่นี่เพราะรูปล้กษณ์และความเป็นสายเปย์ของเขา

"เดี๋ยวฉันเข้าไปชนแก้วด้วยหน่อยดีกว่า เผื่อฟลุ้ค"

สาวหนึ่งพูดขึ้นอย่างมุ่งมั่น แต่ก็พลันมีเสียงคุ้นหูเสียงหนึ่งดังขึ้นขัด

"โอ๊ย แกไม่ต้องไปหรอก อย่าไปเสียเวลากับของห่วยๆ เล้ย"

เจนยุทธ ปรินซ์ ซันซันหันไปมองเจ้าของเสียง เจหน้าซีดทันที

"ไอ้เจ นั่นเด็กที่มึงเคยคั่วด้วยป่าววะ?"

เจพยักหน้า ทำไมเขาจะจำสาวเล็บคมคนนั้นไม่ได้ สาวที่ดูจะเมากรึ่มๆ แล้วคนนั้นสาธยายความพลาดของเขาในคืนนั้นต่อ

"แม่ง ท่าดีทีเหลว กูกำลังจะเสร็จอยู่แล้ว เสือกไม่แข็งขึ้นมาซะอย่างนั้น ทุเรศชะมัด"

เสียงแหลมๆ นั้นหัวเราะเยาะเขาดังลั่น ทำให้ทั้งกลุ่มพลอยหัวเราะไปด้วย แล้วเสียงแม่คุณใช่เบาซะที่ไหน โต๊ะข้างๆ พากันหันมามองเป็นตาเดียว เจทนอายไม่ไหวจนต้องเดินหลบไปยืนหน้าแดงก่ำอยู่ที่บาร์




ฆาเบียร์กำหมัดแน่นเมื่อได้ยินเรื่องราวจากสองหนุ่ม เขาต้องทำอะไรสักอย่าง เขาถอดเสื้อหนังของเขาฝากไว้กับปรินซ์ ภายใต้เสื้อหนังนั้นเป็นเสื้อกล้ามสีขาวที่เผยให้เห็นความงดงามของกล้ามเนื้อแขน ไหล่และแผงอกหนั่นแน่น

สาวน้อยเล็บคมในชุดเดรสสั้นคอลึกที่เปิดให้เห็นหน้าอกหน้าใจหัวเราะต่อกระซิกกับเพื่อนสาวอยู่เมื่อมีหนุ่มละตินหน้าคมร่างใหญ่กล้ามล่ำคนหนึ่งเดินมาขอชนแก้วด้วย หลังจากพูดคุยกันสั้นๆ เธอก็ต้องหน้าแดงก่ำเมื่อตาคู่งามนั้นส่อความหมายชักชวน ไม่นานนักปากร้อนๆ ของร่างสูงก็ประกบลงมาที่ปากของสาวน้อย หนุ่มละตินคนนี้จูบเก่งเหลือเกิน ลิ้นที่ไล้ไปทั่วโพรงปากทำให้เธอตัวอ่อนระทวยลงจนแทบยืนไม่ติด แต่เมื่อเธอกำลังจะยกมือโอบรอบคอคนตัวโตนั้น เขาก็พลันถอนปากออก ขยับตัวออกห่าง แล้วทำท่าเอือมระอา

"So bland!"  'จืดชืด!"

สิ่งต่อไปที่ฆาเบียร์พูดออกมาดังๆ ทำให้สาวน้อยคนนั้นกรีดร้องออกมา

"...มิน่า ผู้ชายเค้าถึงทนเอาต่อไม่ไหว"

ฆาเบียร์ไม่สนใจคำด่าที่สาวเล็บคมคนนั้นพ่นออกมา เขาใช้หลังมือเช็ดปากแรงๆ ให้ลิปสติกถูกๆ ที่ติดอยู่หลุดออก​แล้วเดินลิ่วไปหาเจที่บาร์ที่อยู่ไม่ไกล เมื่อไปถึงตัวคนตัวเล็ก ก่อนที่เขาจะทันพูดอะไรออกไป เจที่เห็นเหตุการณ์โดยตลอดพลันกระชากคอเขามาบดปากอย่างรุนแรง มันเป็นจูบที่เร่าร้อนที่สุดจูบหนึี่งที่เจเคยให้เขา ลิ้นทั้งสองของเขาพันไล้กันอย่างไม่ยอมแพ้อีกฝ่าย มือของเขาโอบกระชับหลังเจแน่น มือของเจลูบไล้หลังคอของเขาและขยุ้มเส้นผมหยักศกของคนตัวโต เขาจูบจนพวกเขาต้องการอากาศหายใจ

"ต้องแบบนี้สิถึงจะเรียกว่าจูบ ไอ้จูบจืดๆ ของเธอไม่ทำให้เขามีอารมณ์ได้หรอก"

ฆาเบียร์ที่หอบหายใจกระเส่าตัวอ่อนระทวยพิงบาร์อยู่พูดใส่หน้าสาวเล็บคมที่เดินตามมาจะด่าเขาต่อ พร้อมพยักเพยิดให้ดูเป้ากางเกงยีนส์สีซีดของเจที่ปรากฎรอยของแท่งลำขึ้นมาเด่นชัดพอๆ กับที่กางเกงของเขา สาวน้อยคนนั้นหน้าแดงก่ำพร้อมกับพ่นคำที่เขาฟังไม่ออกออกมาชุดใหญ่ก่อนจะลากแขนเพื่อนสาวที่เดินตามมาไปทางอื่น



"เจ กลับกันเถอะ"

ฆาเบียร์หันไปบอกคนรัก เขาอยากลากมันขึ้นเตียงเต็มแก่แล้ว แต่เจพลันกระชากแขนเขาเดินลิ่วเข้าไปในห้องน้ำชายและดันประตูห้องน้ำห้องสุดท้ายเปิด เจผลักร่างใหญ่ของฆาเบียร์เข้าไปและล็อคประตูตามหลัง เขาดันคนตัวโตจนหลังติดกำแพงและกดจูบอย่างเร่าร้อน ฆาเบียร์จูบอย่างรุนแรงตอบ เสียงดูดดึงริมฝีปากดังลั่นห้องน้ำเล็กๆ นั้น เจซุกไซร้ซอกคอของฆาเบียร์ นิ้วร้อนๆ ของเขาบดขยี้ที่ตุ่มไตสีน้ำตาลอ่อน

"เจ เดี๋ยวก่อน" ฆาเบียร์ห้ามคนตัวเล็ก

"คุณรู้จักผมด้วยเหรอ?"

เจยังไม่ยอมหลุดแคแร็คเตอร์ ฆาเบียร์ชะงักไป ในเมื่อเจอยากเล่น เขาก็จะเล่นด้วยให้สมใจ เขาเลิกพูดและปล่อยใจไปกับความคิดว่านี่คือเซ็กส์กับคนแปลกหน้าแบบที่เขาเคยทำมาตลอด

"Just a quickie, ok?"

'ขอแบบเร็วๆ นะ โอเค๊?'


เสียงกระเส่าของเจกระซิบที่หูเขา ฆาเบียร์พยักหน้า เขาปลดกระดุมกางเกงและดึงกางเกงลงพ้นสะโพกและปลดปล่อยแท่งลำร้อนของตัวเองออกมา เจนยุทธก็ทำแบบเดียวกัน ทั้งคู่ใช้มือรูดไล้ให้กับอีกฝ่าย ปากของพวกเขาล็อคติดกันแน่น

"เอามาไหม?"

เจถาม ฆาเบียร์หยิบถุงยางของตัวเองออกมาจากกระเป๋าหลังแล้วชูให้ดู เขาฉีกซองและใส่ให้กับตัวเองเพื่อความง่ายในการทำความสะอาด เจก็เอาของตัวเองมาใส่ด้วยและหยิบซองเจลออกมาฉีกและชะโลมแท่งลำของตน เขาจับฆาเบียร์หันหลัง เตะข้อเท้าให้ร่างใหญ่แยกขาออกกว้าง ฆาเบียร์ชันสะโพกขึ้นและบดเบียดมันเข้ากับแก่นกายแกร่งของเจอย่างยั่วเย้า เจชะโลมช่องทางสีแดงก่ำนั้นด้วยเจลที่เหลือ เขาส่งนิ้วเข้าไปสำรวจช่องทางนั้นก่อนที่จะส่งแก่นกายของตนเข้าไปในช่องทางแสนสวยของ "คนแปลกหน้า" คนนี้



"คุณนี่มันน่ากินทั้งตัวเลยจริงๆ"

เจกระซิบเสียงกระเส่าใส่หูคนตัวโตที่กำลังพยายามกลั้นเสียงอยู่อย่างสุดความสามารถ กลิ่นเหงื่อผสมกับกลิ่นน้ำหอมราคาแพงจากซอกคอของฆาเบียร์ทำให้เขาแทบคลั่ง เขากระแทกแก่นกายเข้ายังช่องทางคับแคบ ฆาบี้หลุดคำหยาบโลนที่เขาไม่เคยพูดกับเจนยุทธมาก่อนอีกหลายคำ และเร่งเร้าเจให้จัดการเขาหนักๆ ฆาเบียร์สั่นไปทั้งตัว เขาเกือบลืมความตื่นเต้นของเซ็กส์เร็วๆ แบบนี้ไปแล้ว สมัยก่อนตอนที่เขายังเล่นไปทั่ว โดยมากเขามักพาคนไปเริงรักที่ห้องไม่ก็ไปที่ห้องของอีกฝ่าย แต่เขาก็เคยจับคนอื่นโก้งโค้งในห้องน้ำแบบนี้มาบ้าง หากครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ตื่นเต้นที่สุดครั้งหนึ่งของเขา เจนยุทธประเคนแท่งลำของเขาเข้าในกายฆาเบียร์แบบไม่ยั้ง ฆาเบียร์เองก็ร่อนสะโพกรับทุกดอก มือของเขาก็เร่งรูดไล้ เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องห้องน้ำ ไม่นานร่างของทั้งคู่ก็กระตุกเฮือกและหยุดนิ่ง

เจนยุทธซบหน้าและหายใจหอบบนไหล่ของร่างกำยำ เขาถอนแก่นกายออกมาและถอดถุงยางออกทิ้งถังขยะ อีกฝ่ายก็ทำเช่นกัน

"คุณนี่แซ่บจริงๆ ผมชักติดใจเสียแล้ว"

ฆาเบียร์มองหน้าน้อยๆ นั้นอย่างหมั่นไส้ มันยังเล่นไม่เลิก

"ผมก็ติดใจคุณเหมือนกัน ไว้ว่างๆ เรามาเจอกันอีกนะ"

ในเมื่ออีกฝ่ายยังอยากเล่น เขาก็จะเล่นด้วย

"...แต่น่าเสียดาย อีกสองวันผมก็จะกลับแล้ว แต่ถ้ามีโอกาสได้กลับมาอีกผมก็อยากเจอคุณอีกนะ ขอเบอร์โทรหน่อยได้ไหม?"

ฆาเบียร์พูดหน้าตาเฉย เขาดึงกางเกงขึ้นติดกระดุมแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเมมเบอร์ของเจที่ก็บอกออกมาจริงๆ

"ผมชื่อเจครับ แล้วคุณชื่ออะไร?"

เจส่งยิ้มแบบใสซื่อให้เขาอีกแล้ว เขาอยากจะหยิกปากน้อยๆ นั่นจริงๆ หน้าซื่อๆ ของมันหลอกผู้หญิงมาแล้วกี่คนนะ

"ผมชื่อฆาบี้ ยินดีที่ได้รู้จักครับ เจ"

คนตาสวยส่งสายตาอันร้อนแรงให้กับ"คนแปลกหน้า" ที่อยู่ตรงหน้าและยื่นมือไปสัมผัสมือที่ยื่นมาให้ก่อนจะเปิดประตูออกไป



"เฮ้ย!"

เจอุทานลั่นเมื่อเจอปรินซ์และซันซันยืนหน้าแดงอยู่หน้าประตู ไม่รู้พวกนี้ยืนฟังอยู่นานแค่ไหนแล้ว เขาเอ็ดลั่นแล้วไล่เตะทั้งสองคนออกห้องน้ำไปโดยมีฆาเบียร์เดินยิ้มกริ่มตามหลังไปติดๆ

"ผมขอเลี้ยงเหล้าคุณนะ ฆาเบียร์ คุณจะเอาอะไร?"

เจพูดพลางพ่นควันออกจากมินิซิการ์มวนเท่าบุหรี่ปกติยี่ห้อปาร์ตากาส พวกเขาย้ายออกมานั่งโต๊ะด้านนอกที่สูบบุหรี่ได้ ฆาเบียร์ดึงซิการ์น้อยจากปากเจมาสูบต่อ

"ผมขอแบล็ค รัสเชียนแล้วกัน"

ฆาบี้สั่งค้อกเทลที่มีส่วนผสมของว้อดก้าและคาห์ลัว ปรินซ์และซันซันมองคู่รักบ๊องๆ คู่นี้อย่างเซ็งๆ

"เออ ทีผู้ชายล่ะเปย์ได้เปย์ดี เพื่อนฝูงน่ะไม่เคยเลี้ยงนะ ไอ้เจ"

ซันซันเปรยขึ้นเป็นภาษาอังกฤษให้ฆาเบียร์เข้าใจ เจหันมาด่าเพื่อนเบาๆ เป็นภาษาไทย

"เออ กูเลี้ยงก็ได้ พวกมึงจะเอาอะไรว่ามา"

เจแยกเขี้ยวใส่เพื่อนทั้งสองที่ดี๊ด๊าสั่งอย่างเร็ว



"เดี๋ยวฉันมานะ ไปช่วยเจยกเหล้าก่อน"

ฆาเบียร์พูดกับเพื่อนๆ ของคนรัก เจหายไปสักพักแล้ว เขาว่าจะเดินไปตามสักหน่อย ฆาเบียร์เดินเข้ามาที่ด้านในของผับและเดินตรงไปที่บาร์ ใจเขาเต้นจนแทบหลุดจากอกเมื่อเห็นเจนยุทธยืนยิ้มหัวเราะอยู่กับไอ้บาร์เทนเดอร์หน้าหล่อคนนั้น

เจที่กำลังเม้าแตกกับน้องรหัสหลังจากขอโทษขอโพยและอธิบายเรื่องเมื่อครู่ไปสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกแขนกำยำโอบหมับเข้าที่เอวและมีริมฝีปากร้อนๆ จูบหนักๆ ที่แก้ม

"หายไปนานเลยนะครับ เจ เพื่อนคุณให้ผมมาช่วยยกเหล้า"

เจนยุทธหันไปดูแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ ใบหน้าฆาเบียร์ยิ้มละไม แต่สายตาของเมียตัวโตของเขานั้นซ่อนความหึงหวงที่พลุ่งพล่านขึ้นมาไม่มิด เขาบอกว่าเขากำลังจะกลับโต๊ะ ก่อนจะหันไปขยิบตาให้กับตั้มที่ยืนยิ้มอย่างเซ็งๆ ดูคู่รักเพี้ยนๆ คู่นี้เดินคลอเคลียกันไป เขานึกว่าคืนนี้เขาจะโชคดีแล้วเชียว



ปรินซ์กับซันซันนั่งดูคู่รักที่แอ๊บทำเป็นคนแปลกหน้านั่งจีบกันไปจีบกันมาด้วยความรู้สึกยุบยิบในใจ ปกติพวกเขาก็เห็นไอ้เจมันป้อสาวนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งป้อนคำหวาน บางทีก็กอดจูบลูบไล้กันต่อหน้าต่อตาพวกเขา แต่พวกเขาไม่เคยรู้สึกเขินกับภาพที่เห็นเท่ากับครั้งนี้เลย

ฆาเบียร์หัวเราะกับเรื่องตลกที่เจนยุทธเล่าให้เขาฟัง เขาหยิบมินิซิการ์ของเจขึ้นมาคาบไว้ตัวหนึ่งและก้มลงต่อไฟจากตัวที่เจกำลังสูบอยู่ที่ปากและส่งสายตาหวานเยิ้มให้เจ

"คุณนี่น่ารักจริงๆ นะ เจ รู้ตัวไหม?"

ปลายเท้าของเขาลากไล้ไปตามขาเรียวของเจซึ่งนั่งหน้าแดงก่ำ

"คุณก็คุยสนุกจริงๆ นะ ฆาเบียร์"

เจพูดยิ้มๆ พร้อมยกแก้วเหล้าขึ้นมาชนกับฆาเบียร์ เขายกนาฬิกาขึ้นดู

"ผับจะปิดแล้ว คอนโดผมอยู่ใกล้ๆ เราไปดื่มต่อกันที่นั่นดีไหม?" ฆาเบียร์ตอบรับอย่างยินดี

"พวกกูไปด้วยได้มะ?" ซันซันถามขึ้นอย่างหมั่นไส้

"ไม่ได้!"

เจเผลอตัวแว๊ดขึ้น ซันซันบ่นเพื่อนเลวที่เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนเสียยาวยืด ฆาเบียร์นั่งกลั้นหัวเราะกับภาพที่เห็น เขาไม่มีเพื่อนสนิทๆ ที่จะมาเฮฮาแฮงก์เอาท์กันแบบนี้ อยู่กับเด็กพวกนี้ทำให้เขามีชีวิตชีวามากขึ้น เจกับฆาเบียร์บอกลาเพื่อนทั้งสองก่อนจะจับมือกันเดินกลับห้อง



"ฉันลืมเสื้อน่ะ"

ฆาเบียร์เดินยิ้มกริ่มกลับมาหาสองหนุ่ม เขารับเสื้อหนังแบรนด์ดังราคาแพงระยับคืนจากปรินซ์และก่อนทั้งสองหนุ่มจะทันรู้ตัว ฆาบี้ก็โน้มกายไปกอดและจูบแก้มซ้ายขวาของทั้งคู่ที่นั่งตัวแข็งอยู่

"คืนนี้ฉันสนุกมาก ขอบใจทั้งคู่มากๆ นะ"

ฆาเบียร์ขยิบตาให้สองหนุ่มที่หน้าแดงก่ำ ก่อนจะเดินกลับไปหาเจที่ยืนหน้าง้ำรออยู่

(ต่อคอมเมนท์ล่างค่า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2017 03:50:56 โดย La Vida Sin Tu Amor »

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1


---- "Hello, Stranger" (ต่อ) ----


ทันทีที่ประตูห้องปิดลง เจดันร่างฆาเบียร์ติดประตูห้อง ริมฝีปากของทั้งคู่ก็ประกบกันแน่น มือของเจถอดเลิกกล้ามของฆาเบียร์ขึ้นและขบดุนไปที่เม็ดสีน้ำตาลอ่อนที่แข็งเป็นไต ฆาเบียร์รีบแกะกระดุมกางเกงและสลัดยีนส์ยี่ห้อดังตัวนั้นออกไปอย่างไม่ใยดี เจดึงกางเกงของตัวเองลงแล้วใช้แขนโอบใต้สะโพกของฆาเบียร์และยกขาแข็งแรงนั้นขึ้นข้างหนึ่งก่อนจะค่อยๆ ชำแรกแก่นกายเข้าไปช่องทางที่ยังอ่อนนุ่มอยู่นั้น​ ฆาเบียร์ซี้ดปากเมื่อมันเข้าไปจนสุดและกระแทกกับจุดกระสัน เขาบดกายลงกับแท่งร้อนของเจ เสียงครางด้วยความเสียวของทั้งคู่ดังประสานกัน ฆาเบียร์รัดกายเจไว้แน่ ปากเขาขบเม้มที่ใบหูและซอกคอขาวนั้น เขารู้สึกตื่นเต้นและเร่าร้อนเป็นพิเศษในคืนนี้ ก่อนจะทันรู้ตัวเขาก็ปลดปล่อยออกมาโดยที่ไม่ต้องสัมผัสส่วนสงวนของตัวเองด้วยซ้ำ เจนยุทธเองก็ตามไปติดๆ



"คุณเป็นคนแปลกหน้าคนแรกที่ผมพามาที่ห้องเลยนะ"

เจยกมือไล้ใบหน้าของ "คนแปลกหน้า" ตัวโตที่นอนบนหมอนใบเดียวกับเขาอย่างหลงใหล ฆาเบียร์ยิ้มบางๆ ให้คนที่ยังไม่ยอมเลิกสวมบทบาท

"ส่วนคุณก็เป็นคนแปลกหน้าคนแรกที่ผมนอนร่วมเตียงด้วยถึงเช้านะ"

ฆาเบียร์ไม่ได้พูดถึงแค่คืนที่ผ่านมาแต่หมายถึงครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้พบหน้ากันอีกด้วย เขาจูบเบาๆ ที่ปากรูปกระจับสีชมพู

"เช้าแล้วนะ เจ กลับมาเป็นคนรักของฉันได้หรือยัง?"

ฆาเบียร์อ้อน เจถอนหายใจและจูบฆาเบียร์ด้วยจุมพิตอ่อนหวานที่เขามีให้กับคนรักเท่านั้น ฆาเบียร์ก็จูบตอบด้วยจุมพิตแบบเดียวกัน



ฆาเบียร์ขยับจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ แต่ก็ต้องนิ่วหน้า เขาปวดไปหมดทั้งสะโพก ขาและช่องทางด้านหลัง หลังจากเซ็กส์อย่างเร่าร้อนที่ประตูห้องแล้ว เมื่อคืนพวกเขายังฟัดกันอย่างหนักจากบนโซฟาย้ายไปที่เคาเตอร์ครัวและสุดท้ายมาจบที่บนเตียงก่อนจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เจขยับลุกขึ้นดูอาการของเมียตัวโตอย่างเป็นห่วง เมื่อคืนเขาตื่นเต้นกับประสบการณ์แปลกใหม่จนต้องจัดหนักฆาเบียร์ซึ่งก็ตอบสนองเขาอย่างดุดันไม่แพ้กัน

"คุณเจ็บมากไหม? ผม...เอ่อ ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว"

เจที่หน้าจ๋อยพูดเบาๆ แต่ฆาเบียร์นั้นยิ้มละไม

"เจ็บ แต่สนุกสุดๆ เลย เจจ๋า"

คนตัวโตที่ติดใจกับสิ่งที่เจป้อนให้พูดพร้อมจูบแก้มคนรักเบาๆ และบอกว่าเขาอยากจะหาโอกาสเล่นบทคนแปลกหน้าแบบนี้กับเจนยุทธอีก

"...แต่ห้ามไปจีบคนอื่นแล้วนะ คราวหน้าเจต้องจีบฉันคนเดียวเท่านั้น"

ฆาเบียร์พูดเสียงขึงขัง เมื่อคืนเขาหึงเจจนแทบอยากไปกระชากคอเจออกมาและชกหน้าไอ้บาร์เทนเดอร์หน้าหล่อคนนั้นสักที

"และต่อไปนี้ห้ามเจไปสั่งเครื่องดื่มที่บาร์โดยที่ไม่มีฉันไปด้วยเด็ดขาด"

เจทำหน้างงๆ พอนึกได้ก็หัวเราะก๊ากออกมา คนตัวโตหึงเขากับไอ้น้องตั้มอย่างนั้นเหรอ?

"คุณหึงผมเหรอ ฆาบี้?" เจถามอย่างยั่วเย้า

"ถ้าผมบอกว่าเขาเป็นแฟนเก่าผมสมัยเรียนล่ะ?"

ฆาเบียร์ตีหน้ายักษ์ทันทีพร้อมโวยลั่นว่าไหนเจบอกเขาว่าไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อน เจขำหนักกับภาพที่ได้เห็นแล้วรีบบอกความจริงไปว่าตั้มเป็นแค่น้องรหัสของเขาแค่นั้นเอง พวกเขาสนิทกันแต่เป็นแบบแมนๆ แม้เขาจะรู้ว่าไอ้เจ้าน้องรหัสของเขาเป็นเกย์ก็ตาม ฆาเบียร์พ่นลมหายใจออกจากปากอย่างขัดใจ เขารู้ว่าเจไม่คิดอะไร แต่ไอ้เจ้าน้องรหัสคนนั้นน่ะไม่แน่ เขาดูจากสายตาที่ไอ้บาร์เทนเดอร์หน้าหล่อมองเจเมื่อคืนแล้ว สงสัยต่อไปนี้เขาคงต้องคุมเข้มไอ้ตัวเล็กของเขาเวลาไปเที่ยวและต้องไม่ลืมกำชับปรินซ์กับซันซันให้ช่วยทำหน้าที่เป็นไม้กันหมาตอนเขาไม่อยู่ด้วย



"แล้วคุณเหอะ ไปจูบปากผู้หญิงได้ยังไง"

เจแกล้งทำหน้ายักษ์ใส่คนรักบ้าง ฆาเบียร์ทำหน้าเหม็นเบื่อ

"โอ๊ย เจ เลิกพูดเรื่องนี้ไปเลย ฉันยังเซ็งไม่หาย"

เจขำท่าทางคนตัวโตที่ทำท่าพะอืดพะอม เขาซุกหน้าลงกับอกกว้างนั้นแล้วพูดด้วยเสียงจริงจัง

"ขอบคุณนะครับ ที่รักของผม"

คนรักของเขายอมทำในเรื่องที่ตัวเองไม่เคยคิดจะทำเพื่อปกป้องตัวเขา จะมีอะไรทำให้เขาดีใจได้มากกว่านี้อีก?

"นี่ฉันยอมเสียจูบแรกกับผู้หญิงให้ยัยนั่นเลยนะ เจจะมีรางวัลอะไรให้ฉันบ้าง?" ฆาเบียร์อ้อนคนตัวเล็ก

"งั้นคราวหน้า..."

เจกระซิบแผ่วๆ ที่หูคนตัวโตที่ยิ้มหน้าบานก่อนจะจุมพิตแผ่วๆ ลงที่ปากบางที่ยิ้มกริ่มนั้น ฆาเบียร์ยกกายขึ้นคร่อมร่างเพรียว ไฟรักของทั้งสองติดอีกครั้ง



ทั้งสองตื่นมาอีกทีตอนเกือบบ่าย สิ่งแรกที่เจทำหลังอาบน้ำเสร็จคือหยิบต่างหูของคาตาลิน่ามาใส่คืนไปที่หูซ้าย ฆาเบียร์ก็ทำเช่นกัน จากนั้นพวกเขาหาอะไรกินง่ายๆ แถวคอนโดก่อนที่เจนยุทธจะขนบรรดาหม้อไหตะไหลป้ากที่ยืมแม่มาสำหรับปาร์ตี้ก๋วยเตี๋ยวกลับไปคืนที่บ้านสวนแม่แตงและถือโอกาสพาฆาบี้ไปลาแม่ก่อนกลับไปทำงานอีกด้วย เมื่อพวกเขาลงรถ โรซ่าหมาทรยศก็วิ่งเลยเจที่ตั้งท่าจะกอดมันไปหาฆาเบียร์ มันกระโดดขึ้นตะกุยทำเสียงงี้ดง้าดใส่คนตัวโตที่หัวเราะร่าเล่นกับมันอย่างดีใจ เจบ่นพึมกับฟองนวลที่ยืนหัวเราะอยู่บนชานบ้าน เมื่อเล่นกับฆาเบียร์จนพอใจแล้วเจ้าหมาอ้วนดำถึงเดินมาคลอเคลียกับเจนยุทธ

"เจ ขี่ช้าๆ หน่อย"

ฆาเบียร์ร้องลั่น เขานั่งกอดเอวเจแน่นอยู่บนหลังรถ ATV ที่พี่จืดซื้อไว้ใช้ในไร่ เจนยุทธพาฆาเบียร์มาทัวร์ไร่ของพี่เขาและมาเก็บผักตามที่แม่ของเขาสั่ง ก่อนที่จะแวะกรงไก่เพื่อเก็บไข่ไก่สดๆ กลับไปทำอาหารด้วย ฆาเบียร์มองตามสิ่งที่เจทำอย่างเพลิดเพลิน เมื่อได้ของครบตามแม่สั่งแล้วเจก็พาฆาเบียร์กลับไปที่บ้านใหญ่ จากนั้นเจก็มานั่งพูดคุยหยอกล้อกับฆาเบียร์บนชุดรับแขกที่ชานบ้านโดยมีเจ้าโรซ่านอนเฝ้าอยู่ไม่ห่าง

"อืมม์..."

เจเผลอตัวโน้มคอคนตัวโตมาจุมพิตอย่างดูดดื่ม ฆาเบียร์ขยิบตาให้กับอิ่มที่ยืนหน้าแดงก่ำแอบอยู่หลังเสา เขาเห็นมือของสาววายตัวแม่กดโทรศัพท์ถ่ายภาพน้องชายกับเขารัวๆ อีกไม่นานในเพจของเขาคงมีรูปให้เจ้าตัวเล็กมันได้ร้องจ๊ากอีกแน่ๆ


มื้อเย็นที่บ้านสวนของเจวันนี้เป็นอาหารง่ายๆ แต่อร่อยล้ำเพราะวัตถุดิบล้วนแต่เป็นของสดใหม่จากไร่ตามคอนเส็ปต์ Farm-to-table ที่กำลังโด่งดังในวงการอาหารโลกตอนนี้ วันนี้แม่ของเจทำน้ำพริกปลาแกล้มผักลวก ไข่เจียวหมูสับ ผัดผักอย่างกะหล่ำปลีฉ่าน้ำปลาและผัดถั่วฝักยาวใส่ไข่ซึ่งเป็นของโปรดของเจ ฟองนวลจะซอยถั่วฝักยาวเป็นชิ้นเล็กๆ บางๆ แล้วเอาไปคั่วใส่ไข่ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี อย่างสุดท้ายคือยำจิ๊นไก่ซึ่งก็คือการเอาไก่ต้มจนสุกมาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำเครื่องแกงซึ่งประกอบด้วยกะปิ ดีปลี พริกขี้หนูแห้ง เม็ดผักชีคั่ว เกลือและปลาร้าต้มสุกมาผัดในกะทะแล้วเติมน้ำต้มไก่ ใส่หอมแดงซอยและไก่ฉีกลงไป ต้มให้เดือดและใส่สารพัดสมุนไพรลงไป


"เจ บ่กิ๋นยำจิ๊นไก่แหมน่อยกา?"

'เจไม่กินยำจิ๊นไก่อีกหน่อยเหรอ?'


ฟองนวลถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายแทบไม่แตะอาหารจานโปรดจานนี้ น้ำพริกปลาเจก็แทบไม่แตะเช่นกัน

"วันนี้เจต๊องบ่ค่อยดี ญ้างคัวเผ็ดน่อยดีกว่าครับ"

'วันนี้เจท้องไม่ค่อยดี งดของเผ็ดหน่อยดีกว่าครับ'


เจนยุทธจำต้องตอบแม่เขาไปแบบนั้น ฆาเบียร์แอบมองหน้าที่แดงซ่านของเจ เขาดูจากท่าทางแล้วแม่เจน่าจะสงสัยว่าทำไมเจไม่กินของเผ็ด เขานั่งยิ้มกริ่มจนเจนยุทธอดไม่ได้ต้องหยิกไปที่เอวคนตัวโตจนสะดุ้งโหยงขึ้น ฆาเบียร์นั่นแหละที่เป็นเหตุให้เขากินเผ็ดไม่ได้ ก็บอกแล้วว่าให้รอคราวหน้าแต่พ่อคนใจร้อนคนนี้ก็อ้อนเอารางวัลจากเขาไปจนได้เมื่อเช้านี้ คอยดูเถอะเขาจะไม่ยอมเจ็บตัวไปอีกหลายๆๆๆ เดือนแน่นอน

หลังอาหารพวกเขานั่งคุยกับแม่และพี่อิ่มอีกพักใหญ่ฆาเบียร์กับเจจึงได้ขอตัวลากลับ ฆาเบียร์ยกมือไหว้ฟองนวล

"เดือนหน้าเจอกันครับแม่ ผมจะกลับมาอีกทีช่วงคริสต์มาสแล้วก็อยู่ยาวถึงหลังปีใหม่"

เจเหลือบมองคนตัวโตนิดนึง ฆาเบียร์ยังไม่ได้บอกเขาเรื่องนี้ เมื่อขึ้นรถฆาบี้ก็รีบบอกว่าเจว่าเพิ่งคุยกับอาปาไปเมื่อคืนก่อนและอาปาคริสบอกว่าให้เขามาได้ เจพยักหน้ารับรู้ จากนั้นน้องอัซซูรี่ของเจนยุทธก็พาทั้งคู่กลับเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่



"เจ พวกนี้คืออะไรน่ะ?"

ฆาเบียร์ถามเมื่อเห็นถุงพลาสติกหลายถุงวางกองอยู่บนเตียงที่เขากางกระเป๋าเดินทางไว้

"ของฝากจากเชียงใหม่ไง พวกนี้เป็นขนมจากกาดหลวง มีกะละแม ข้าวซอยตัดแล้วก็ข้าวแต๋น พวกนี้เป็นของแห้งเก็บได้นาน คุณช่วยเอาไปฝากให้เมลิน่า ริคกี้แล้วพวกทีมเลขาฯ คุณให้หน่อย"

เจนยุทธเทของที่อยู่ในถุงออกมาให้ฆาเบียร์ดู ตอนแรกเขาว่าจะเอารถด่วนใส่ไปให้ด้วยแต่กลัวคนทางนู้นเขาจะกินไม่เป็นแล้วจะเสียของเปล่าๆ เลยซื้อเอามากินเล่นเอง ฆาเบียร์หลับตาปี๋เมื่อเห็นหนอนทอดตัวใสๆ เขาร้องลั่นเมื่อเจพยายามจะยัดมันเข้าปากให้เขาชิม จนสุดท้ายเจต้องใช้ลิ้นร้อนๆ ของเขาป้อนให้ฆาเบียร์ถึงยอมเปิดปาก ฆาบี้หลับตากลั้นใจเคี้ยวไปสองสามตัวแล้วก็ติดใจ จากนั้นเจต้องเป็นฝ่ายบ่นที่ฆาเบียร์แย่งกินรถด่วนของเขาจนหมด

"นี่ของอาปา ผมไม่รู้จะซื้ออะไรให้อ่ะ อาปาเค้ามีทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว"

เขาหยิบหนังสือทำมือเล่มหนึ่งขึ้นมา ฆาเบียร์เปิดดูแล้วต้องดึงตัวคนตัวเล็กเข้ามากอดแน่น เจทำอัลบั้มรวมรูปของพวกเขาสามคนให้คริส ในนั้นมีรูปพวกเขากับอาปาทั้งจากที่ฮ่องกงและสมุย รูปเขากับเจที่เชียงใหม่ มีกระทั่งรูปเขาที่นอนหลับสนิทเหมือนเด็กๆ เจปรินท์ภาพทั้งหมดบนกระดาษปรินท์ภาพอย่างดีและนำมาใส่ปกที่หุ้มผ้ายีนส์จากกางเกงตัวเก่าของเขาแล้วเข้าเล่มด้วยเชือก เขาทำปกไว้นานแล้วและแอบๆ ปรินท์ที่เหลือตอนที่ฆาเบียร์หลับหรือเผลอ เจเขียนคำอธิบายลงไปเป็นที่ๆ ด้วยปากกาหมึกติดทน

นี่คือสิ่งที่เจเขียนไว้ที่หน้าแรกของอัลบั้ม​



"ผมรู้ว่าอาปาคงเหงาเวลาฆาบี้ไม่อยู่ ผมเลยทำอัลบั้มนี้ขึ้นมาให้อาปาได้ดูเวลาคิดถึงพวกเรา ผมขอขอบคุณอาปาที่ปล่อยให้ฆาบี้มาใช้เวลาที่ควรจะอยู่ทำงานและอยู่ดูแลอาปาไปกับผม ผมจะไม่ลืมพระคุณของอาปาเลย  ด้วยรัก เจนยุทธ"


สำหรับฆาเบียร์แล้ว จิตใจแบบนี้ของเจนยุทธคือสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขารักเด็กคนนี้จนสุดหัวใจ เขาบอกเจว่าอาปาของเขาคงดีใจมากเมื่อได้รับของสิ่งนี้



ทั้งสองคนใช้ค่ำคืนที่เหลือไปกับการพลอดรัก พวกเขานอนดูหนัง ฟังเพลง พร่ำกระซิบคำหวาน เพียรจูบกอดกันโดยไม่มีเซ็กส์ที่ทั้งคู่ได้รับจนอิ่มเอมไปก่อนหน้านั้นแล้ว คืนนี้สิ่งที่เขาต้องการคือได้นอนหลับอย่างสนิทในอ้อมกอดของกันและกันเป็นคืนสุดท้ายก่อนที่จะห่างกันไปอีกถึงเกือบหนึ่งเดือนเต็มๆ



"ถึงแล้วคุณโทรมาบอกผมด้วยล่ะ"

เจกำชับคนตัวโตของเขา รอบนี้นอกจากกลับฮ่องกงแล้ว ฆาเบียร์ยังต้องกลับสหรัฐฯ เพื่อเคลียร์งานและตรวจสอบระบบก่อนจะถึงช่วงหยุดยาวตอนคริสต์มาสและปีใหม่ ฆาเบียร์รับคำแล้วก้มลงจรดริมฝีปากบนหน้าผากคนรักของเขาเบาๆ เขาหันกายเดินเข้าไปยังส่วนที่พักผู้โดยสารขาออกต่างประเทศแต่ก็ต้องหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงเจนยุทธเรียก เจยกมือขวาขึ้นกำที่ตำแหน่งของหัวใจ จากนั้นยกขึ้นจรดจูบและทำท่าขว้างมันไปให้ฆาเบียร์ซึ่งยิ้มร่ายกมือทำท่ารับไว้ในกำมือขวาแล้วนำมาจรดจูบก่อนแนบกำมือนั้นไปกับหัวใจของตน กำลังใจที่จะกลับไปลุยงานของเขาเต็มเปี่ยมแล้ว ฆาเบียร์หันร่างกำยำแล้วก้าวเดินต่อไปเช่นเดียวกับเจนยุทธที่หันหลังเดินจากมา พวกเขาอาจเหงาและเศร้าบ้างที่ต้องห่างกัน แต่ก็ไม่เสียใจเพราะรู้ว่าไม่ว่าจะห่างกันไกลหรือนานแค่ไหนพวกเขาก็ยังจะคงมีกันและกันอยู่ในใจเสมอ



--------------------------------------------------


ปล่อยฆาเบียร์ไปไถนาหาตังค์ก่อนนะ เจ เดี๋ยวคริสต์มาสก็มาใหม่ ส่วนคนเขียนก็ขอตัวไปปั่นงานช่วงสั้นๆ แล้วจะรีบกลับมานะค้า ก็อาจจะสัปดาห์หน้าเหมือนเดิม

ตอนนี้ยาวหน่อย เขียนเพลินค่ะ รู้สึกว่าฆาเบียร์ชักปากจัดไปทุกทีๆ สงสารอิสาวคนนั้นเหมือนกัน ฮ่าๆๆ แต่นางก็ได้จูบแรกของฆาบี้กับสาวๆ นะ ตอนในผับยังรู้สึกไม่ค่อยแซ่บเท่าไหร่ ขัดใจ ไว้อาจจะหาทางมารีไรท์ใหม่ค่ะ


สูตรน้ำพริกปลาค่ะ มาจากเว็บหอสมุดมช. เหมือนเคย https://goo.gl/kW48az

สูตรยำแต่เป็นอาหารน้ำอย่างยำจิ๊นไก่ค่ะ https://goo.gl/fxtjM5

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2017 04:34:20 โดย La Vida Sin Tu Amor »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
สองหนุ่มนี่เวลาเขาอยู่ด้วยกันตามลำพังนี่แซ่บลืม! (หัวเราะ)
ให้กำลังใจคนเขียนนะคะ

ปล. ทริปฮ่องกงของเจกับฆาเบียร์ทำเอาเราอินจนต้องวางแผนไปเที่ยวตามรอย ฮา

ออฟไลน์ La Vida Sin Tu Amor

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1
สองหนุ่มนี่เวลาเขาอยู่ด้วยกันตามลำพังนี่แซ่บลืม! (หัวเราะ)
ให้กำลังใจคนเขียนนะคะ

ปล. ทริปฮ่องกงของเจกับฆาเบียร์ทำเอาเราอินจนต้องวางแผนไปเที่ยวตามรอย ฮา

ยินดีที่ชอบค่ะ แต่อย่าไปกินตามร้านที่เจมันกินนะคะ พลาดประจำค่ะ
แต่มีคนแนะนำเพจนี้ค่ะ ลองดูไว้หลายๆ ร้านเหมือนกันเผื่อได้ไปอีก

https://www.facebook.com/EatLike852/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2017 23:51:16 โดย La Vida Sin Tu Amor »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด