‘Our love is twin’( สองแสน – สิบสาม )
“โห่ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โหยยยยย”
“ฮิ้วววววว”
“ใครมีมะกูด”
“มาแลกมะนาว”
“ใครมีลูกสาว”
“มาแลกลูกเขย”
“เอาวะเอาเหวย ลูกเขยกลองยาว ตะลาลา”
“ไอ้พวกเชี้ย!!” ก้มลงถอดรองเท้าโยนเข้าไปกลางวง พวกมันวิ่งหลบกันคนละมุม คนอื่นที่ไม่รู้เรื่องก็พากันหัวเราะงอหงาย มีเพียงผมนี่แหละที่หน้าหงิก ส่วนไอ้แสนหรอนั่งหน้ามึนไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“แหมๆ ไม่เห็นต้องเขินเลยนะจ๊ะน้องสอง” ไอ้เชี้ยเก่งปากหมามากๆจนอยากจะลุกไปเตะปาก แต่ทำไม่ได้เลยนั่งฮึดฮัดหน้าร้อนด้วยความอายและโมโห
“พวกกูอุส่าเตรียมการมาอย่างดีเลยนะมึง ถ้ามีต้นกล้วยหน่อยนี่กูแห่แล้ว”
“กวนตีนแล้วสัดบีม พวกมึงแม่ง..เดี๋ยวคนอื่นเขาก็...” ผมค่อนข้างกังวล เมื่อเช้ากว่าจะกล้าบอกพวกมันได้ว่าตัวเองกับแสนรู้สึกยังไงก็ยากแล้ว
“เพื่อนมันคิดว่ากูแซวเรื่องพี่น้องทะเลาะกันเป็นเด็กๆแล้วก็มาดีกัน”
“อย่าคิดมากน่าสอง พวกนั้นไม่รู้หรอก ไม่ได้คิดอะไรถึงเรื่องแบบนี้ด้วยซ้ำ” มิ้นท์พูดให้ผมสบายใจ แต่มันกังวลนี่ครับ..
“และอันที่จริง พวกกูก็รู้มาซักพักแล้ว” พวกมันพากันหัวเราะที่เห็นผมทำหน้าเหวอ นี่..พวกมันรู้มาตลอดหรอ แล้ว..ผมมาเครียดอะไรวะเนี่ย!!
“พวกกูรู้จากวันที่มึงตีกับเด็กรัฐศาสตร์แล้ว แต่พวกกูไม่พูดเพราะกลัวมึงจะอึดอัด รอแค่มึงมาบอกนั่นละ” ทุกคนพยักหน้ารับคำของบีม ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ จะว่าโล่งอกก็ใช่ แต่ว่า..
“รู้ได้ไง?” ผมโคตรสงสัยเลย
“แค่มองตามัน กูเห็นแล้วสงสัย กูก็เลยถาม พอได้คำตอบกูก็กลายเป็นสายของมัน” โอ้โห กูถึงว่า บางทีแม่งเล่นโทรศัพท์ทำไรซักอย่าง ส่วนไอ้แสนบางทีก็ดูรู้มาก รู้เยอะผิดปกติ
“ขอบคุณวะ..ที่พวกมึงรับได้” ส่วนเรื่องเอาเพื่อนกูเป็นสายนี่สงสัยต้องเคลียร์กันยาว!!
“เพื่อนกันน่ะ” มัดพูดขึ้นพร้อมกับยิ้ม ผมอดไม่ได้คว้าคอมันมาขยี้หัวหนักๆด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ว่าแต่ วันนี้พวกกูไปฉลองเรือนหอพวกมึงได้ปะ”
“กูไปไม่ได้นะเก่ง” มิ้นท์แทรกขึ้นมา เออ..ไม่ดีด้วย ผู้หญิงคนเดียวจะไปคอนโดที่มีแต่ผู้ชาย
“ฉลองมื้อเที่ยงที่ม.ก่อนไง แล้วเดี๋ยวเหล่าชายหนุ่มอย่างพวกกูไปฉลองต่อที่เรือนหอพวกมัน” อยากกระโดดเตะปากมันก็ตรงคำที่มันใช้นี่ละ.. อุส่ามองข้ามรอบแรกยังจะย้ำ ไอ้สาดดดดดดดดด
“กูพาเด็กไปได้ปะ?” ไอ้บีมพูดขึ้นเรียกสีหน้าฉงนให้กับพวกผม บีมมีเด็ก? วอท วอท ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ! สีหน้าผมคงแสดงความเสือกออกมาเต็มที่ละมั้ง คนข้างๆมันตบท้ายทอยเอาซะหน้าเกือบทิ่ม
“เชี้ยแสน!”
“หึหึ” พอมันได้แกล้ง มันก็มีความสุขครับ วางมือบนหัวผมแล้วลูบเบาๆ นี่เขาเรียกตบหัวแล้วลูบหลังปะวะ แต่ช่างแม่งก่อน สนใจเรื่องบีมก่อน
“เด็กที่ไหนวะ?” มิ้นท์ขมวดคิ้วมองหน้าบีมแบบเขม็งเลย จนผมอดเสียวสันหลังไม่ได้ ก็นะ... สายตาของไอ้มิ้นท์ถ้าผมมองไม่ผิด. มันสะท้อนไอ้บีมเสมอ
“ก็เพิ่งคุยๆกัน”
“อย่ามา! เพิ่งปี้กันก็บอก” ไอ้เก่งคว้าก้อนยางลบปาหัวไอ้บีมก่อนจะหัวเราะลั่น
“เชี้ยเก่ง ใช้คำโคตรน่าเกลียด มึงดูหน้าไอ้มัดดิ” หน้าไอ้มัดตอนนี้แหยๆไงไม่รู้บอกไม่ถูกทั้งหน้ามันยังแดงเห่อเป็นลูกตำลึง โอ้ย โคตรน่ารัก
“โทษทีๆ กูลืมไปว่ามีเยาวชน”
“มึงก็เยาวชน ไอ้ฟัค!” อดไม่ได้เอื้อมมือไปตบหัวแม่งซักที จนหน้ามันเกือบทิ่มโต๊ะหินอ่อน
“มือหรือตีนวะแม่ง แสน! มึงดูเมียมึงนะ”
“...ดูอยู่ มองอยู่ตลอด”
“เหยดดดดดด พี่แสนมาเหนือ ปรบมือสิพวกรอเชี้ยอะไร” ไอ้เก่งลุกขึ้นยืนปรบมือเสียงดังไม่แคร์สายตาผู้ใด และไอ้เชี้ยบีมก็ลุกขึ้นทำตามมองผมกับไอ้แสนด้วยสายตาหน้าถีบที่สุด
“กูว่าไม่มองอย่างเดียว คงจะแดกด้วย ฮ่าๆๆ”
เกลียดพวกมึง ไอ้เพื่อนเชี้ยยย
“มึงก็ไปแกล้งมัน หน้ามันแดงจนไหม้แล้ว” ผมคว้าเอายางลบที่ไอ้เก่งปาใส่ไอ้บีมเมื่อกี้ แล้วโยนใส่ปากไอ้แสนที่พูดเชี้ยไรไม่รู้เรื่อง ใครหน้าแดง! แล้วเสียงตุบตับเชี้ยอะไรเนี่ยดังอยู่ได้! ฮึ้ยยย
“มัด..มึงดูพวกมันดิ”
“ฮ่าๆ เขินหรอ” เชี้ยมัด มึงก็เอากับเขาด้วยหรอเนี่ย ยิ่งหันไปมองหน้ามึน ถลึงตาใส่จะให้มันกลัวมั่งกลับได้แต่เสียงหัวเราะในคอ
ฝากไว้ก่อนเหอะ! วันพระไม่ได้มีหนเดียวโว้ยยย
“ตกลงตามนี้นะ ตอนเที่ยงไปโรงอาหาร ตอนสองทุ่มกูขอไปที่ห้องพวกมึงนะ” ผมขมวดคิ้ว แปลกๆนะปกติไอ้เก่งไม่ค่อนคะยั้นคะยอขอไปตั้งวงที่ห้องใครเท่าไหร่ หรือมันมีอะไรวะ?
“มึงว่าไง” ผมกระทุ้งศอกใส่ถามไอ้บ้าใบ้นี่ มันก็พยักหน้ารับเป็นอันตกลง ไอ้เก่งกับไอ้บีมเฮขึ้นทันที
“สองทุ่มนะ กูพาเด็กไปนะ เดี๋ยวโทรไปนัดแปป” ไอ้บีมพูดเสร็จก็ลุกออกไปโทรศัพท์ ส่วนไอ้มัดปฏิเสธ กลัวเมาแล้วตัวเองจะ ทำอะไรบ้าๆ ผิดจากที่เคย... กูว่าปกติมึงก็บ้านะมัด
พอนัดกันเรียบร้อยก็ถึงเวลาเข้าเรียนพอดี ตลอดทั้งชั่วโมงผมเห็นไอ้เก่งเล่นแต่โทรศัพท์ ไม่น่าจะคุยกับไอ้แส เพราะตอนนี้ไอ้แสนก็กำลังส่ง สติ๊กเกอร์กวนตีน มาให้ผมไม่หยุด ดีว่าปิดเสียงไม่งั้นอาจารย์ไล่ห้องล้วเนี่ย !
เวลามักผ่านไปราวกับละคร ตอนนี้ทุ่มครึ่ง ผมกำลังเตรียมตัว เหล้าพวกมันบอกจะเอามาเอง ส่วนผมกับแสนมีหน้าที่เตรียมกับแกล้ม ไอ้แสนมันฉลาดครับ ซื้อกลับมาตั้งแต่สามโมงเย็น พอเพื่อนใกล้ถึงก๊เอาไปเข้าไมโครเวฟ อย่าหวังว่ามันจะทำ ผมยังได้กินแค่ตอนป่วยเท่านั้น
ไอ้แสนเป็นคนลงไปรับเพื่อนด้านล่างเพราะพวกมันไม่มีคีย์การ์ด ผมเลยนั่งดูทีวีที่โซฟารอ ดีเหมือนกันที่เพื่อนพากันมาแบบนี้ กลัวจะเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อวานอีก วันนี้จะมอมเหล้าให้มันหลับไปเลย ผมคิดอะไรไปเพลินๆจนกระทั่งพวกมันเข้ามาในห้อง
“ห้องสวยวะ” ผมยักคิ้วใส่ไอ้บีมกับคำชมนั่นก่อนจะยิ้มให้คนที่มันพามาด้วย นี่สินะเด็กไอ้บีม โคตรน่ารัก แต่ผมแปลกใจกว่าเดิมก็ตรงที่ว่า..
“มึงให้กูมาทำไม!”
“ก็บ่นอยากแดกเหล้านักไม่ใช่หรือไง ร้องจะออกทุกวัน นี่ไงพามาแล้วไง”
“วันนี้กูไม่ได้อยากแดก!”
“มึงอย่ากวนโมโหกูมากนักนะซาย”
ไอ้เก่ง กับ ซาย? มีอะไรเกิดขึ้นที่ผมยังไม่รู้ปะวะ ผมหันมองหน้าไอ้บีม ไอ้ห่านี่ก็ยักไหล่เชิงว่าไม่รู้เหมือนกัน พอมองไอ้แสน มันเลิกคิ้วก่อนจะเดินเข้ามาหอมหน้าผากผมแบบไม่สนใจผู้ใด
“เหี้ย!”
“กูละเซงพวกมึงจริงๆเลย นี่ตาล เรียนบริหาร ม.เรานี่ละ ตาลนี่ไอ้สอง ส่วนแฝดมันนั่นแสน”
“ตามสบายนะตาล อยากได้อะไรเพิ่มบอกไอ้บีมแล้วกันนะ” ผมยิ้มให้ตาลก่อนจะหันไปมองไอ้เก่งกับซายที่นั่งหน้ายับพอๆกันอยู่
“ทำไมมาด้วยกัน”
“ก็...” เป็นซายที่อึกอักหันมองหน้าไอ้เก่งที มองหน้าผมที คำถามที่ถามก็ไม่ได้ยากอะไรนี่หว่า
“มันเป็นเมียกู”
“ห๊ะ!!” เสียงผมกับไอ้บีมผสานกันด้วยความตกใจ ขนาดไอ้แสนยังชะงัก
“ใครเมียมึง!!” ซายมันหันไปโวยใส่ไอ้เก่ง หน้าเน่อแดงเถือก
“อยากให้พูด?”
“ไอ้... อย่าไปฟังมันสอง ปะ ไปนั่งกินเหล้าด้วยกันดีกว่า” ผมมองหน้าไอ้เก่งแบบต้องการคำตอบ แต่มันหันไปคุยกับไอ้บีมแทน ไอ้แสนเดินมาใกล้ตามองแขนผมที่ถูกซายจับนิดหน่อยก่อนพูดข้างหู
“ไปรับโต้งแปปนึง” ตอนแรกก็สงสัยว่าไม่เห็นต้องมาพูดใกล้ๆเลย แต่บรรลุตอนที่แม่งพูดจบปั๊บ หอมแก้มผมต่ออีก ไอ้ชอบฉวยโอกาส ไอ้...กล่ำเอ้ย!! จะด่าแม่งก็กระตุกยิ้มเดินหนีไปแล้ว
“นั่งข้างกูแล้วกัน” ซายจังผมนั่งข้างๆโดยไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง อันที่จริงยังไม่หายสงสัยเลยนะ ว่าแม่งไปเป็นผัวเมียกันตอนไหน
“ตกลง..”
“อย่าถาม” ยังไม่ทันจะพูดซายก็สวนขึ้นมาก่อน หน้ามันแดงเถือกมองมาแบบขวางๆ ทำผมหลุดหัวเราะ น่ารักและตลกในเวลาเดียวกัน ยิ่งเห็นผมหัวเราะมันยิ่งหน้าแดงกว่าเดิม
“หัวเราะเหี้ยอะไร!”
“โทษๆ ฮ่าๆ” คือผมนึกภาพไม่ออกน่ะครับ ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะเป็นฝ่าย..เอ่อ..โดนน่ะ และที่สำคัญคือคนที่ทำได้คือไอ้เก่ง! ไอ้เก่งน่ะ ไอ้เก่งที่แม่งเกรียนบรรลัย!
“ไม่คุยกับมึงแล้วแม่ง!” มันหันหน้าหนีไปยกซดเหล้าแบบไม่รอใครเลยครับ ผมเลยหันมาหาแฟนไอ้บีมแทน
“ตาลไปเจอกับไอ้นี่ที่ไหนน่ะ”
“ในม.นั่นละ ตอนแรกบีมจีบเพื่อนตาล แต่เพื่อนตาลมันเป็นเลสเบี้ยน ตาลสงสาร เห็นหน้าหงอยๆเหมือนลูกหมาเลยเก็บมาเลี้ยง” พูดจบตาลก็หัวเราะ ผมเลยหัวเราะตาม
“ตาล! บีมไม่ใช่หมา”
“เหมือนเลยละ ฮ่าๆ” แล้วพวกเขาก็หันไปงุ้งงิ้งๆกันสองคนครับ โดยรวมผมว่าตาลโอเคเลยนะ แต่จะดีพอสำหรับบีมหรือเปล่า คงต้องให้เจ้าตัวเขาตัดสินเอาเองละนะ
“มึงนั่งดีๆสิเก่ง!”
“ก็อย่าขยับหนีดิ”
“มึงก็อย่าเบียดสิ!”
“กูอยากนั่งชิดกับเมียผิดตรงไหน” ซายมันฮึดฮัดอยู่แปปนึงก็เฉย เหมือนโวยวายไปอย่างนั้น ส่วนไอ้เก่งก็ยักคิ้วให้เมื่อเห็นว่าผมมอง น่าหมั่นไส้ฉิบหาย! ไอ้แสนไปนานเกินไปละสัดดด
กริ๊ก เสียงประตูปลดล็อคดังขึ้น แม่งตายยาก! ไอ้โต้งเดินยิ้มเข้ามาเลยไม่วายส่งสายตาล้อเลียนมาให้ผมอีก แสดงว่าแม่งรู้แล้วแหงๆ!
“ไงวะโต้ง”
“ไม่ไงอะ” มันยิ้มกวนตีนก่อนจะนั่งลงข้างๆผม แก้วผมก็แย่งไปแดก ไอ้เชี้ย..
“กวนตีนละสัด ฮ่าๆ”
“นี่ใครวะ แฟนพวกมึงหรอ”
“ตาลนี่โต้ง เพื่อนสมัยหัวเกรียนของไอ้แสนกับสองมัน ส่วนนี่ตาล เด็กกูเอง”
เพี๊ยะ!
“ตาลเป็นเด็กหรอ?”
“โอะ ไม่ใช่ครับๆ แฟนครับแฟน” ฮ่าๆ ไอ้บีมโคตรกลัวเมียอะ ผมหัวเราะไม่นานไอ้แสนก็เดินมาเอาเขี่ยไอ้โต้ง
“เขยิบไป”
“ไม่ กูจะนั่งตรงนี้” ไอ้โต้งหันไปยักคิ้วกวนตีนใส่ไอ้แสนแถมขยับมาเบียดผมกว่าเดิมอีก จะขยับออกก็กลัวจะไปเบียดไอ้แซนมัน เลยต้องนั่งนิ่งๆ
“โต้ง”
“เก่งมึงส่งเหล้ามาๆ”
“สัด” พวกผมฮาก้ากทันที นานๆทีไอ้แสนมันจะด่าใครซักคน แถมหน้าหล่อๆตอนนี้เริ่มยุ่งแล้วด้วย ฮ่าๆ โคตรน่ารัก
“อะๆ เขยิบให้ก็ได้” ไอ้โต้งยอมขยับพอให้ไอ้แสนได้นั่ง ก่อนจะมองไปที่ซาย
“ไอ้นี่ใครวะ?”
“เมียกู” โต้งเลิกคิ้วแปลกใจ มองหน้าไอ้เก่งที ซายที
“ทุกคนมีเมีย มีคู่หมด แล้วนี่กูมาทำอะไรวะสาดดด” มันบ่นแต่ก็ยกแก้วเหล้าขึ้นแดก ฮ่าๆ น่าสงสารจนผมอดไม่ได้ที่จะแกล้ง
“มึงมีแสนไง เนี่ย”
“.......... อี๋!” ไอ้โต้งทำท่าขนลุก ส่วนไอ้สองขยับห่างทันที ฮ่าๆ แม่งจี้อะ ลองนึกภาพตามแล้วรับไม่ได้จริงๆ
วงเหล้าดำเนินไปเรื่อยๆ สติผมก็ใกล้หลุดลอยเต็มที่ บีมกับตาลขอกลับก่อนเพราะต้องพาตาลไปส่งบ้าน พวกผมก็ไม่แน่ใจหรอกว่ามันจะถึงบ้านตาลหรือบ้านมันกันแน่ พวกเราก็โห่แซวไป เลยได้นิ้วกลางไอ้บีมมาแทน พอหันไปมองไอ้เก่งกับซาย ตอนแรกก็ตีกันเรื่องนั่งเบียด ตอนนี้ไอ้ซายลุกไปนั่งตักไอ้เก่งเรียบร้อย เมาตาปรือ ปล่อยให้ไอ้เก่งหอมแก้มหอมคอไปตั้งหลายที หมั่นไส้โว้ยยย
“พอแล้วมั้งวะ” ไอ้โต้งมองสภาพสองตัวนั่นก่อนมามองผม ตอนนี้ก็เริ่มนั่งไม่ตรงแล้ว
“อืม เดี๋ยวกูเก็บเอง มึงจะเข้าไปนอนในห้องกับกูหรือโซฟา” เสียงไอ้แสนมันถามผมหรี่ตามองหน้าไอ้โต้งแล้วชี้ที่โซฟา
“เมิงนอนเน่เลย ห้องน้านของกู!” น้ำเสียงที่พูดออกไปติดยานคางโดยที่ผมไม่รู้สึกตัว รู้แต่ว่าห้ามใครไปนอนในห้องตัวเองเด็ดขาด
“สัด หวงจริงนะ เออ กูนอนนี่ได้” ผมยิ้มทันทีที่มันตอบรับง่ายๆ ยกแก้วขึ้นดื่มอีก
“เก่ง ซาย ห้องนั้นมีที่นอน มีหมอนอยู่แต่ไม่มีเตียงนะ” แสนคงหมายถึงอีกห้อง แต่พวกแม่งจะไปนอนกันแล้วหรอวะ ไม่เอาดิ
“เฮ้ยย อยู่ด้วยกานก่อนเด้ จารีบปายนอนกานทามมาย กูยางม่ายมาวเลย” ผมคว้าแขนคว้าขาใครบ้างไม่รู้ตอนนี้ แต่แม่งจะหนีผมกันอะ
“สองปล่อยซายยย” อ้าว ขาไอ้ซายหรอ ไม่เอาอะไม่ปล่อยเดี๋ยวแม่งหนี
“ไอ้สอง ปล่อยเมียกูก่อน”
“ม่ายอาว จาหนีกูปายหนายกาน ห้ามเย่อกานน้าพวกเมิง เดี๋ยวเตียงกูขาดด แดกเหล้ากาน โต้ง เมิง ชน โชนน” ผมชี้หน้าบอกพวกแม่งก่อนจะหันมาหาไอ้โต้ง โลกแม่งเริ่มหมุนปลกๆ หรือกูหันหัวไวไปวะ จะอ๊วก
“พอแล้วสอง” เสียงใครมันงุ้งงิ้งวะ จากินอะ ผมจับหน้าไอ้แสนไว้แล้วต้องขมวดคิ้ว เห็นไม่ชัดอะ! ยื่นหน้าเข้าไปหน่อย
“เหนตาเมิงแล้ว”
“ฮ่าๆ กูสงสารมึงวะแสน” ใครแม่งพูดอะไรนักหนาวะ รำคาญจัง แล้วมันจะเอาหน้าหนีผมไปไหน จะมองอะ จะมอง!
“จิ๊ กูพามันนอนก่อน มึงอะนอนได้แน่นะ”
“เออน่า ไปเหอะ กูไม่อยากดูหนังสด”
“หึ”
อยู่ดีๆก็รู้สึกเหมือนตัวเองลอยได้ ต้องบิน กระพือปีก พั่บๆ ฮ่าๆๆ
“โคตรเพี้ยน ไม่ให้กินแล้วคราวหลัง” เสียงดุแบบเคยๆทำให้ผมยิ้ม มุดหน้าเข้าซอกคอ แม้จะถึงที่นอนแล้วแต่ผมก็ยังกอดเขาไว้แน่น ชอบ ชอบแสน
“ยั่วหรอ”
“ครายยั่ว จูบหน่อยยย” ผมรั้งคออีกคนลงมาทั้งยังทำปากจู๋บานใส่อีก จวบๆสิ จวบบ
“อย่ามาโวยทีหลังแล้วกัน”
ยินดีด้วยสองแสน สติการยับยั้งชั่งใจของแสนสอง ขาดลงแล้ว
( จบสองแสน - สิบสาม )
ไม่ได้ลงแล้วไม่สบายใจ แม้จะง่วงนิดๆ ไม่ได้ทวนคำเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้มาตามดูให้นะจ๊ะ
คืนนี้หลับฝันดี ค้างกันต่อไป
5555555555 
ดาวเสาร์